หากพูดถึง Developer ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือใหญ่แต่ละค่ายจะมีความถนัดในการพัฒนาโครงการหรือทำเลแตกต่างกันออกไป เช่น บางค่ายถนัดพัฒนาโครงการหรูทำเลใจกลางเมือง, บางค่ายถนัดพัฒนาแนวราบ เป็นต้น และเมื่อพูดถึงค่ายที่มีความชำนาญในทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันออกมากที่สุดก็คือ “ออริจิ้น” Developer ชื่อดังมาแรงแซงทุกกระแสในวงการอสังหาริมทรัพย์จนสามารถพุ่งขึ้นติด Top 5 ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนทุกวันนี้ไม่ว่าออริจิ้นจะขยับตัวพัฒนาโครงการไม่ว่าจะรูปแบบไหนทำเลใดก็จะเป็นที่ถูกจับตามองอยู่เสมอ ทำเลโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ แม้จะดูห่างไกลสำหรับบางคนที่ไม่คุ้นชินย่านนี้ แต่หากลองมองถึงรายละเอียดสักหน่อยก็จะพบว่าทำเลนี้น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งระยะหลังมานี้หลายคนคาดการณ์ถึงความเจริญเติบโตของระแวกนี้ว่าน่าจะไปได้สวยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีสาธารณูปโภคสมบูรณ์ไม่แพ้ใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายแห่งในปัจจุบัน เช่น เซ็นทรัลบางนา, เมกะบางนา ฯลฯ รวมถึงโปรเจคยักษ์ใหญ่ในอนาคตอย่าง The Bangkok Mall โครงการมิกซ์ยูสที่จะเป็นทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม สำนักงาน หากเสร็จสมบูรณ์เมื่อไรจะกลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงอันทันสมัยขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเอเชียบนพื้นที่ 100 ไร่ ที่ฝั่งตรงข้ามไบเทคบางนา และ Mega City Bangna อีกหนึ่งโปรเจคที่เป็นการขยายต่อจากเมกะบางนาในปัจจุบัน รวมพื้นที่โครงการทั้งหมดถึง 400 ไร่ ไปจนถึงผลพลอยได้จากโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC: Eastern Economic Corridor) เพราะสามารถใช้เส้นทางโซนนี้ในการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ สู่พื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดของโครงการได้สะดวกสบายใช้เวลาเดินทางไม่มาก แถมราคาที่อยู่อาศัยโซนนี้ก็ยังไม่แรงอีกด้วย ทั้งหมดนี้จะเข้ามาพลิกโฉมโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกนี้ให้กลายเป็นเมืองใหม่ได้ไม่ยาก นอกจากนี้การเลือกคอนโดมิเนียมจะดูแค่ทำเลอย่างเดียวก็คงไม่ได้ ตัวโครงการเองก็สำคัญ เพราะหากเป็นโครงการที่ออกแบบมาสวย ให้ส่วนกลางมาเพียงพอต่อลูกบ้าน การใช้วัสดุที่มีคุณภาพก็จะยิ่งทำให้ดูมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อราคาค่าเช่าโดยเฉพาะในย่านแบริ่งที่มีอัตรา YIELD สูงถึง 7% และราคาขายต่อไปในอนาคต ทั้งหมดนี้แน่นอนว่าเราจะมาพูดถึงคอนโดมิเนียมตัวใหม่ล่าสุดจากออริจิ้น ในทำเลแห่งอนาคตที่ดีในระยะยาว สำหรับคอนโดมิเนียม Knightsbridge ระดับเรือธงจากออริจิ้นในแบรนด์ Collage ได้เคยเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้บนทำเลรามคำแหง ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีด้วยทำเลติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม และการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร กลายเป็นคอนโดที่สวยที่สุดในย่านนั้นก็ว่าได้ ล่าสุดกลับมาอีกครั้งกับ Knightsbridge Collage Sukhumvit 107 ที่ก็จะมาครองแชมป์คอนโดมิเนียมที่สวยที่สุดรวมถึงมีเทคโนโลยีที่อยู่อาศัยอันทันสมัยที่สุดในย่านนั้นอีกเช่นกัน Knightsbridge Collage Sukhumvit 107 คอนโดมิเนียม High Rise 28 ชั้น 304 ยูนิต+1 Shop บนพื้นที่ 1-1-50.8 ไร่ Automatic 42% ตัวโครงการห่างจาก BTS สถานีแบริ่ง 300 เมตร เป็น 1 ใน 3 คอนโดมิเนียมที่เผยโฉมออกมาเป็นลำดับแรกตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยวางคอนเซปการดีไซน์ว่า “Purity” เน้ความเรียบง่าย ใช้โทนสีขาวดูสะอาดตา แฝงด้วยเส้นสาย Dynamic Movement เข้ากับธรรมชาติแต่ดูทันสมัยอยู่เสมอ สถานที่ตั้งของโครงการอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 107 หรือที่เรียกกันติดปากว่าซอยแบริ่งนั้นห่างจาก BTS สถานีแบริ่ง ประมาณ 300 เมตร ซึ่งจากปากซอยสามารถเดินไปขึ้น BTS สายสีเขียว สถานีแบริ่ง ได้ประมาณ 200 เมตร ระหว่างทางมี Street Food ให้ได้เลือกกันหลากหลาย ซึ่งซอยสุขุมวิท 107 นี้สามารถทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 103(ลาซาล) และตรงออกสู่ถนนศรีนครินทร์ได้ เมื่อทะลุไปถึงฝั่งถนนศรีนครินทร์ก็จะอยู่ใกล้กับบิ๊กซี, แม็คโคร, ฟู้ดแลนด์, คอมมูนิตี้มอลล์ Jas Urban รวมถึงโรงพยาบาลศิครินทร์ ในอนาคตถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ผ่านเกือบตลอดเส้นทาง เรียกได้ว่าซอยแบริ่งจะถูกประกบทั้งสองฝั่งด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับสายสีเหลือง หากใช้การเดินโดยรถไฟฟ้าก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเข้าสู่ย่าน CBD อย่างอโศก-ทองหล่อได้เลย โดยจากสถานีแบริ่งห่างออกไปเพียงสถานีเดียวที่สถานีสำโรง อนาคตจะกลายเป็น Interchange กับสายสีเหลือง คาดว่าแล้วเสร็จปี 2564 หรือเพียงสถานีเดียวอีกเช่นกันก็จะถึงสถานีบางนาที่สามารถเดินเข้าสู่ไบเทคบางนาได้เลย แล้วในอนาคตจะมี Light Rail รถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ คาดว่าแล้วเสร็จปี 2566 ส่วนใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถใช้ทางด่วนบูรพาวิถีออกนอกเมืองไปทางบางนา-ชลบุรีตรงถนนบางนาตราด หรือจะเข้าเมืองด้วยทางพิเศษเฉลิมมหานคร และสามารถใช้ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอก มีจุดขึ้น-ลงที่ใกล้ที่สุดบริเวณช้างสามเศียร ทางด่วนทั้งหมดอยู่ในรัศมีไม่เกินประมาณ 4 กิโลเมตรเท่านั้น Facility ของโครงการนี้เป็นหนึ่งไฮไลท์ที่ให้พื้นที่รวมแล้วกว่า 948 ตร.ม. ซึ่งเน้นพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ หรือมุมพักผ่อนสังสรรค์ภายในโครงการ โดยใช้การออกแบบพื้นที่ทั้งภายในซึ่งเป็นห้องโถ่งขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูงเล่นระดับ Double Space&Triple Space เชื่อมต่อถึงกันได้กับพื้นที่ธรรมชาติภายนอกที่ถูกออกแบบมาได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะชั้นบนสุดที่ถูกวางตามแบบฉบับ Integrated Space เชื่อมต่อกันถึง 4 ชั้น เริ่มจากส่วนกลางชั้น Ground มีการจัดพื้นที่สีเชียวตั้งแต่หน้าโครงการก่อนจะเข้ามาถึงตัวอาคารที่มีส่วนล็อบบี้เพดานสูงโปร่ง แยกโซนเป็นสัดส่วนทั้ง Reception, Waiting Room, Library ให้ลูกบ้านได้ใช้พื้นที่ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างเต็มที่ ส่วนชั้น 26-28 เป็นส่วนกลางที่อยู่สูงสุดของอาคาร ไล่มาตั้งแต่ชั้น 26 ที่เป็นสระว่ายน้ำรูปตัว L เปิดมุมมองแบบ City View สวยๆ ได้เกือบ 360 องศา ชั้น 27 เป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ที่มีกระจกสูงรอบด้าน และโซน Co-Working Space ชั้น 28 จุดสูงสุดของอาคารมีพื้นที่ Sky Lounge โดยส่วนกลางทุกชั้นจะมีสวนสีเขียวแบบ Outdoor ซึ่งถูกดีไซน์ให้มองแล้วมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมดสะท้อนถึงความเป็น More Space ที่แตกต่าง Floor Plan โซนห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 8-25 มีจำนวนยูนิต 15-17 ยูนิต/ชั้น ถือว่าไม่มากเท่าไรนัก วางในลักษณะ Double Corridor มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์เซอร์วิช 1 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุดทั้ง 2 ฝั่งของอาคาร ซึ่งห้องทางฝั่งทิศเหนือจะเป็นฝั่งหน้าโครงการได้วิวรถไฟฟ้าที่มุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางเมือง ส่วนทิศใต้จะได้วิวฝั่งชานเมืองออกไปทางจังหวัดสมุทรปราการ ทิศตะวันออกจะเห็นฝั่งถนนศรีนครินทร์ และทิศตะวันตกประมาณชั้น 10 ขึ้นไปจะได้วิวบางกระเจ้า Unite Plan Unite Plan ของโครงการนี้ทางออริจิ้นตั้งใจนำเอาแปลนห้องยอดนิยมมารวมไว้ที่นี่เพื่อตอบสนองความต้องการของ Real Demand ที่มีอยู่ตลอดในย่านนี้ เพราะเป็นทำเลที่มีอัตราการขายสูงกว่า 70% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรมใกล้เคียง เช่น บางนา บางพลี บางปู กลุ่มอาจารย์ บุคลากรในโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง โรงเรียนนานาชาติ st.andrews, โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Patana หรือโรงเรียนไทยซิกข์นานาชาติ เป็นต้น อีกทั้งยังมีกลุ่มคนทำงานออฟฟิศในตัวเมืองที่ต้องการอยู่คอนโดใกล้รถไฟฟ้า แต่เลี่ยงออกมาอยู่รอบนอกไม่ไกลแล้วได้ราคาที่ดีกว่า Type B1 24.40 ตร.ม. Studio ที่มีการกั้นห้องครัวกับห้องน้ำแยกออกจากห้องนอนเพื่อป้องกันกลิ่น และยังมีพื้นที่สำหรับวางโซฟาและมุมโต๊ะทำงานเอาไว้ ข้างเตียงด้วย Type B2 28.80 ตร.ม. 1 Bedroom 1 Bathroom เป็นครัวปิด และมีการออกแบบพื้นที่มาเพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทานอาหารข้างโซฟา และโต๊ะทำงานระหว่างห้องครัวกับห้องน้ำ Type BP1 33.30 ตร.ม. 1 Bedroom 1 Bathroom ห้องนี้เป็นครัวเปิด แต่จะได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้น 1 ห้อง ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว หรือแม้แต่ห้องนอนเล็กก็ยังได้ Type B3 ขนาด 34.80 ตร.ม. 1 Bedroom 1 Bathroom ได้ครัวปิด และมีการออกแบบพื้นที่มาเพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างมีประโยชน์สูงสุดเช่นเดียวกันกับห้อง Type B2 แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า Type C ขนาด 53.60 ตร.ม. 2 Bedroom 2 Bathroom ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการที่จะได้ครัวปิด ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ รวมถึงห้องนอน 2 ห้องที่มีขนาดใกล้เคียงกันอีกด้วย ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้คือการใส่เทคโนโลยีเข้าไปในที่อยู่ศัยอย่าง Automatic Parking, Digital Door Lock และ Home Automation ที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดประตูห้อง ผ้าม่าน เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ผ่านจากสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ซึ่งโครงการในย่านนี้ยังไม่มีใครให้มากเท่านี้ เพราะส่วนมากแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่เทียบเท่ากับโครงการระดับลักชัวรี่ในทำเลใจกลางเมือง แต่สำหรับ Knightsbridge Collage Sukhumvit 107 ที่ให้มามากกว่ากลับได้ราคาเริ่มต้นเพียง 2.29 ล้านบาท 24 มี.ค.นี้ พบกับงาน Pre-Sale Knightsbridge Collage สุขุมวิท 107 คอนโด Hi Rise 28 ชั้น เพียง 300 เมตร จาก BTS แบริ่ง หนึ่งเดียวในย่าน ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ Home Automation และ Automatic Parking พร้อมส่วนกลาง SPACE ที่เชื่อมต่อกันถึง 4 ชั้น พิเศษ เริ่ม 2.29 ล้าน* @Sales Gallery ลงทะเบียน>>> https://goo.gl/xhdm4T รับสิทธิ์ส่วนลด 200,000.-* โอกาสสุดท้าย ที่คุณพลาดไม่ได้ โทร 020 300 000 , 091 774 9082