Tag : ‘Life Asoke Hype

4 ผลลัพธ์
Life Asoke Hype แตกต่างอย่าลงตัว รองรับทุกไลฟ์สไตล์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype แตกต่างอย่าลงตัว รองรับทุกไลฟ์สไตล์ : รีวิวคอนโด

ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมแบรนด์ Life จาก AP (THAILAND) มักจะถูกจับตามองอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้นในทำเลไหน จะมีลักษณะพิเศษอะไรออกมาอวดกันอีกบ้าง เพราะที่ผ่านมาทุกตัวนั้นได้รับกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงอยู่ไม่เบาทีเดียวค่ะ ดูได้จากวันเปิด Pre Sale ที่มาต่อคิวยาวเหยียดกันตั้งแต่ไก่โห่กันเลยทีเดียวค่ะ โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Life ตัวใหม่ล่าสุดในทำเลที่เชื่อว่าคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ “Life Asoke Hype” สำหรับตัวนี้จะทำให้เรา Hype แค่ไหนก็ต้องลองดูไปพร้อมๆ กันค่ะ ทำเลศักยภาพสุดฮอต บริเวณสี่แยกพระราม 9 ยังคงเป็นทำเลสุดฮอตที่ใครหลายคนหมายตาเอาไว้สำหรับคอนโดมิเนียมสักยูนิตไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะพักอาศัยเอง เพราะใกล้ที่ทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หรือจะลงทุนปล่อยเช่า เก็งกำไรกันต่อไปทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว จนเรียกได้ว่าใครที่ได้ครอบครองไปตั้งแต่มือแรกก็ยิ้มแก้มปริกันทุกรายค่ะ ที่แห่งนี้จึงยังคงมีความต้องการอยู่เสมอ ทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติที่ต่างก็เข้ามาจับจองอยู่ในพื้นที่นี้อยู่ในทุกโครงการก็ว่าได้ โดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น   ตัวโครงการมีความโดดเด่นอยู่ตรงที่มีทางเข้า-ออกโครงการได้ถึง 2 ทาง ซึ่งเป็นถนนสายหลักทั้งคู่ คือฝั่งถนนจตุรทิศ และฝั่งถนนอโศก-ดินแดง โดยใช้ทางเข้า-ออกเดียวกันกับโครงการ Life Asoke-Rama 9 ถนนทั้งสองมีความสำคัญสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่น้อยค่ะ เพราะถนนจตุรทิศนั้นมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชอยู่พอสมควรเลยค่ะ ไม่ว่าจะออกนอกเมืองจนเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ หรือจะไปทางบางนา-ดาวคะนอง, แจ้งวัฒนะ ก็สะดวกสบาย ส่วนถนนอโศก-ดินแดง ถือเป็นถนนที่คับคั่งด้วย Office Building มากที่สุดย่านหนึ่งในบ้านเรา และยังเป็นเส้นทางที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่าง CBD เดิม กับ NEW CBD อย่างพระราม 9 เอาไว้ด้วยกัน โดยจะผ่านถนนสายสำคัญอย่างพระราม 4-สุขุมวิท-เพชรบุรี ส่วนรถไฟฟ้าที่กลายเป็นหัวใจหลักของการเดินทางในกรุงเทพฯ นั้นอยู่ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร จาก MRT สถานีพระราม 9 และประมาณ 400 เมตร จากแอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีมักกะสัน     บริเวณสี่แยกพระราม 9 ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลทองทั้งในมุมมองของ Developer นักลงทุน และผู้อยู่อาศัยเองก็ตาม เหตุเพราะความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนส่งให้กลายเป็น NEW CBD ในปัจจุบัน ทั้งการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน  MRT มีจุดขึ้น-ลงทางด่วน และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในช่วงกลางวันไปจนถึงช่วงค่ำจึงมีความคึกคักมากทีเดียวค่ะ ซึ่งแต่ละแห่งนั้นมีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูนทาวน์, เอสพลานาด รัชดา, เดอะสตรีท, บิ๊กซี รัชดา, โชว์ดีซี ฯลฯ โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ไปจนถึงตลาดนัดรถไฟรัชดาอันเลื่องชื่อเรื่องแหล่งรวมคนสไตล์ฮิปๆ สถานบันเทิงยามค่ำคืนย่านรัชดา-อาร์ซีเอ ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้ส่งให้พระราม 9 กลายเป็นทำเลที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันจนกลายเป็นเสน่ห์ที่ยังคงไว้เสมอมา           ภาพรวมโครงการ Life Asoke Hype คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 40 ชั้น 1,253 ยูนิต+4 Shop ที่จอดรถ 530 คัน(42%) ขนาดห้อง 25.5-64 ตร.ม. บนพื้นที่ 5-0-10 ไร่ ดีไซน์บนแนวคิดที่จับเอาความแตกต่างระหว่างความหรูหราของชีวิตใจกลางเมืองแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว มาผสมผสานกับการใช้ชีวิตอันโลดแล่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มี Multi Lifestyles ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดความรู้สึกใหม่ของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม สะท้อนตัวตนในสไตล์ Young Urban Professional ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบให้กับชีวิต แต่ยังคงเดินไปตามแนวทางของตัวเอง   เริ่มตั้งแต่การวาง Exterior ให้ดูโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการเลือกใช้โทนสีแดงเข้มขึ้นมาเป็น Gimmick ตกแต่งลงบน Facade สะท้อนตัวตนที่ไม่เหมือนใคร ในมิติที่รู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์จนสะกดทุกสายตาในย่านสี่แยกพระราม 9 อย่างที่ไม่เคยเห็นจากโครงการไหนมาก่อน ซึ่งการผสานความแตกต่างมาหลอมรวมกัน เปรียบเหมือนการหยิบเอาความเป็นทำเล Multi-Culture มาไว้ในที่เดียวกันนี้ ส่งต่อมายังใงาน Interior ที่ใช้วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ในระดับพรีเมี่ยมในรูปแบบ Eclectic Style โดยเป็นงานที่ทาง AP สั่งทำ Custom Made พิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตกแต่ง โคมไฟ โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ หมอนอิง ฯลฯ จนเกิดเป็นงานที่มีความ Unique ไม่เหมือนใคร รวมถึงการสร้างบรรยากาศทั้งภายนอกและภายในโครงการที่จะช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด Supreme Privacy in Supreme Facility   Facility สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเริ่มตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ไปสู่ภายในอาคารที่ชั้น G ชั้น 7 ชั้น 40 และ Roof Top ไม่ว่าชอบใกล้ชิดธรรมชาติ ชอบปาร์ตี้กับคนรู้ใจ ชอบออกกำลังกาย ชอบเปลี่ยนบรรยากาศสถานที่นั่งทำงานหรือห้องประชุม แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีดีเทลเล็กๆ อย่างปลั๊กไฟอยู่ให้ทุกจุดที่นั่ง พร้อมฟรี Wifi และยังใส่ Smart Automation ลงไปเพื่อง่ายต่อการใช้งานยิ่งขึ้นสามารถเข้าถึงได้ทุกคน โดยสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสามารถเข้าใช้อย่างเป็นส่วนตัวผ่าน Application ทั้งหมดรวมแล้วกว่า 5 ไร่   Landscape Design ไม่ใช่แค่เพียงทำให้ดูเป็นธรรมชาติสวยงามเท่านั้น แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วยอย่างเต็มที่ ดังเช่น The Circle Running Garden นี้ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นลู่วิ่ง 2 ระดับ ให้ระยะทางที่มากกว่าการออกแบบ Landscape แบบธรรมดาทั่วไป   Scarlet Foyer โถงต้อนรับขนาดใหญ่ถูกประดับตกแต่งด้วย Premium Material สั่งทำขึ้นมาพิเศษ ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความทันสมัยไม่ตกยุค   Eclectic Lobby ออกแบบให้เกิดความสงบเป็นส่วนตัว โดยมี Private Seat ทำให้ Lobby จะไม่ใช่แค่เพียงทางเดินผ่านเลยไปเท่านั้น แต่สามารถใช้งานได้จริงหลากหลายรูปแบบ   ด้วยฟังก์ชั่นเพดานที่สูงโปร่ง จึงถูกดีไซน์ให้เกิดชั้นลอย Mezzanine เพื่อให้ได้ใช้งานแบบพื้นที่ PrivateCo-Working Space & Meeting Room   Hover Bay สระว่ายน้ำระบบน้ำล้นบริเวณชั้น 7 ยาว 30 เมตร กว้าง 6 เมตร แบ่งโซน Indoor Jacuzzi ด้วยม่านน้ำตก พร้อมที่นั่งใน Leisure Pit ริมสระให้ความรู้สึกสงบ และซุ้มที่นั่งพักผ่อน The Muted Garden ท่ามกลางสวนเขียวไล่ระดับ เพื่อให้พ้นจากสายตาของยูนิตพักอาศัยในชั้นใกล้เคียง   ชั้น 40 และ Roof Top ถูกออกแบบในลักษณะ S-Curve แปลกตากว่าที่เคยเห็น สระว่ายน้ำดีไซน์ L-Shape Sky Pool โดยแยกโซนออกเป็นส่วนของ Active เป็นสระยาว และ Passive ให้ได้นอนเตียงกลางสระชมวิวเมือง   Athletic Sky Atrium หรือฟิตเนสที่มีมาให้ถึง 2 ชั้น พร้อมเครื่องออกกำลังกายอันทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังสามารถพักสายตาด้วยวิวเมืองแบบ Panorama   Top Of Hype ดื่มด่ำบรรยากาศใจกลางเมือง ให้ความหรูหราราวกับเป็น Roof Top บนโรงแรม 5 ดาว   Floor Plan ตัวอาคารมีลักษณะคล้ายรูปตัว S นางยูนิตพักอาศัยแบบ Double Corridor มีบันไดหนีไฟ 3 จุดกระจายอยู่ทั่วอาคาร ลิฟท์โดยสารทั้งหมด 7 ตัว ลิฟท์เซอร์วิชอีก 1 ตัว แยกอยู่ 2 ปีกของอาคาร ฝั่งละ 4 ตัวค่ะ ถือว่าให้มาเยอะมากทีเดียว ทางเข้า-ออกโครงการทางถนนจตุรทิศจะอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทิศที่ได้วิวไฮไลท์ของโครงการค่ะ เพราะจะได้วิวทางมักกะสันไปจนถึงใจกลางเมือง และทิศตะวันตกที่จะได้วิวโล่ง   ทางเข้าโครงการฝั่งทิศตะวันออกมี Shop อยู่ก่อนถึง Drop Off ซึ่งเมื่อเข้าสู่ Lobby ตรงกลางแล้วจะมีประตูแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ก่อนที่จะพบกับลิฟท์และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง             Facility เต็มๆ ทั้งพื้นที่ Roof Top เชื่อมด้วยสะพานกระจกใสแบบที่ไม่เคยเห็นในโครงการไหนมาก่อน   Unit Plan สำหรับ Layout จะมาด้วยแนวคิด Supreme Space Design in Tomorrow’s Functionality จัดวางฟังก์ชั่นอย่างเป็นสัดส่วน ขนาดยูนิตของโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ STUDIO 25.50 ตร.ม. 1 Bedroom 30.00-32.00 ตร.ม. 1 Bedroom Plus 35.00-40.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom 48.50-60.00 ตร.ม. โดยนำเอาเทคนิคการวางยูนิตแบบ Interlock มาใช้กับห้องแบบ 1 Bedroom กับ 1  Bedroom Plus เพื่อให้แต่ละยูนิตมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเพิ่มมากขึ้น และยังมี Layout แบบใหม่จาก AP มาลงโครงการนี้ที่แรกด้วยค่ะ                   เทคนิคการวางยูนิตแบบ Interlock จะได้พื้นที่เพิ่มทุกยูนิต อย่างยูนิตตัวอย่างนี้จะมีห้องที่ได้พื้นที่ครัวปิดเพิ่ม และอีกห้องก็จะได้พื้นที่ห้องนอนเพิ่มไปด้วย        New Layout ล่าสุด เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยรูปแบบ Layout Multifunction Room ในห้องแบบ 1 Bedroom Plus 40.00 ตร.ม. สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทำให้ทุกตารางเมตรสามารถใช้พื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด       จาก MRT พระราม9-Life Asoke Hype ครั้งนี้เราเดินทางด้วย MRT สถานีพระราม 9 ใช้ทางออกที่ 1 ซึ่งจะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์เลยค่ะ แล้วเดินข้ามสี่แยกพระราม 9 ผ่านหน้าโครงการ Rhythm Asoke 1 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปก็จะพบกับโครงการ Life Asoke Hype รวมระยะทางเดินก็ประมาณ 300 เมตร แต่หากใครที่ใช้รถยนต์ก็สามารถเข้าจากทางถนนจตุรทิศ ฝั่งขาออก ก่อนจะถึงถนนอโศก-ดินแดง ได้เลยค่ะ     ขึ้นมาจากรถไฟฟ้าใต้ดินก็จะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์ค่ะ   ฝั่งตรงข้ามเป็นเซ็นทรัลพระราม 9 และอาคารจี ทาวเวอร์     ผ่านหน้าโครงการ Rhythm Asoke 1   Sale Gallery ใช้โทนสีแดงเป็นหลักเช่นเดียวกันกับตัวคอนโดมิเนียมค่ะ   ทางเข้า-ออก ฝั่งถนนจตุรทิศที่มาจากถนนศรีอยุธยา ชิดซ้ายมาเรื่อยๆ ก็จะพบโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ   เดินเข้าไปชมภายใน Sale Gallery กันเลยค่ะ   ชมห้องตัวอย่าง ภายใน Sale Gallery จะถูกถอดแบบออกมาให้คล้าย Lobby ของโครงการจริงเลยค่ะ ทั้งโทนสี เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุที่ใช้ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเป็นกลุ่ม หรือแบบมีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ สะท้อนตัวตนที่ไม่เหมือนใคร           1 Bedroom 32 ตร.ม. เป็นห้องที่มีลักษณะลึก โดยเริ่มจากห้องครัวปิดที่มีพื้นที่มากพอที่จะวางโต๊ะทานข้าวได้ เชื่อมต่อเข้าไปด้วย Living Room และระเบียงห้อง ประตูกระจกทั้งจากระเบียงและห้องครัวทำให้แสงธรรมชาติภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึงทำให้ดูสว่างขึ้นค่ะ ห้องน้ำอยู่ในโซนเดียวกันกับห้องครัว และห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูบานทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว สำหรับอยู่อาศัยกัน 1-2 คนก็ถือว่ากว้างขวางทีเดียวค่ะ   ส่วนแรกเลยเป็นห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ปูพื้นด้วยลามิเนตทั้งหมด   มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง       เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ ผนังด้านในกรุด้วยกระเบื้อง มาพร้อมกับซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันทั้งหมดจากแบรนด์ Franke ส่วนลิ้นชักกับบานตู้จะติดตั้ง Soft Close มาด้วยค่ะ    อีกด้านในโซนห้องครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ     ห้องน้ำใช้แบบสำเร็จรูปค่ะ ผ่านการ QC ยกมาจากโรงงานเลย หากเกิดการซ่อมแซมก็จะทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรบกวนห้องอื่นด้วย โดยสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดจากแบรนด์ Kohler จะได้มาตามนี้เลยค่ะ ยกเว้นแค่ของตกแต่งเท่านั้น     Living Room พื้นที่กว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้โดยยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะด้านข้าง และโต๊ะกลางได้อีก ต่อด้วยระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน   ระเบียงจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่ง มีก๊อกน้ำสำหรับซักล้าง และ Condensing Unit แขวนไว้ด้านบน หันออกนอกอาคาร    เครื่องปรับอากาศเครื่องแรกจะถูกแขวนไว้เหนือโซฟา   หลังเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องนอนค่ะ       ห้องนอนจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมกับตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีกข้างค่ะ ส่วนหน้าต่างจะสามารถเปิดได้แบบบานกระทุ้ง 1 บาน และเครื่องปรับอากาศถูกติดตั้งไว้ปลายเตียง   1 Bedroom Plus 35 ตร.ม. ขนาดห้องขยับขึ้นมาอีกนิดค่ะ แต่มีความโดดเด่นจนเรียกได้ว่าเป็น Type ไฮไลท์ของ Life Asoke Hype เพราะเป็นห้องหน้ากว้างเลยได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญคือความเป็น Multifunction สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ตามการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ห้องทำงาน แม้กระทั่งห้องนอนที่ 2 ก็จัดได้ตามใจเจ้าของห้องเลยค่ะ  โดยพื้นที่แรกกลางห้องตามห้องตัวอย่างจะจัดให้เป็นห้องทานข้าว เชื่อมต่อเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนฟังก์ชั่นทางขวามือจะเป็นครัวปิด และทางซ้ายเป็นห้องน้ำกับห้องนอนค่ะ   ภายในห้องจะปูพื้นด้วยลามิเนต ทางซ้ายมือคือห้องน้ำกับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานทึบ ส่วนตรงกลางจะกั้นห้องเพิ่มด้วยประตูกระจกบานเลื่อน High Ceiling ทำให้ห้องดูโปร่ง แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้มากขึ้น   ระหว่างห้องทานข้าวกับห้องนั่งเล่น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายนะคะ เช่น เปลี่ยนห้องนั่งเล่นมาไว้ที่ส่วนแรก ส่วนห้องด้านหลังปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนที่ 2 ก็ได้นะคะ   หันทางขวามือของห้อง จะพบห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ภายในครัวมีช่องสำหรับวางตู้เย็น และ Built in เคาน์เตอร์ครัวตลอดแนวผนัง ใช้ Top หินสังเคราะห์สีขาว กรุผนังด้านในด้วยกระเบื้อง มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์   ประตูห้องน้ำจะใช้แบบ Double Access เชื่อมต่อระหว่างห้องนอน และกลางห้อง    ห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ฝักบัว ทั้งหมดใช้แบรนด์ Kohler พร้อมติดกระจกเงายาวเต็มผนัง และกั้นส่วนเปียกด้วยกระจกใสประตูบานสวิง   ภานในห้องนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ริมหน้าต่าง โดยมีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงเหลือ และยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามแนวผนังฝั่งห้องน้ำค่ะ         มาถึงส่วนด้านในสุดของห้องค่ะ โดยตามห้องตัวอย่างจะทำให้ห้องนี้เป็น Living Room พื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ ค่ะ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตามการใช้งานได้อย่างหลากหลายด้วยเช่นกัน และต่อด้วยระเบียงห้องพื้นที่กว้างขวางพอจะเป็นระเบียงสำหรับซักล้างหรือพักผ่อนก็ได้   2 Bedroom 48.50 ตร.ม.  มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายแล้วนะคะ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นสำหรับ 2 Bedroom ลักษณะลึก ซึ่งจะแบ่งฟังก์ชั่นเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ค่ะ คือซ้ายมือป็นห้องน้ำและห้องนอน กลางห้องเป็น Living Room กับพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว และฝั่งขวามือเป็นห้องครัวปิด กับห้องนอน โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดพอๆ กันค่ะ แต่จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน         จากโซนแรกของห้องที่วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง หันไปทางขวามือของห้องจะพบกับห้องครัวปิด ที่มีเคาน์เตอร์ครัววางแบบ One Wall Kitchen กรุกระเบื้องผนังด้านในเพื่อให้เช็ดทำความสะอาดง่ายเมื่อเกิดคราบสกปรก วัสดุ Top มีความทนทานเหมาะกับการทำครัวหนัก ซิงค์ล้างจานออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นขณะใช้งาน มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นที่มุมห้อง และวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าใต้เคาน์เตอร์ครัวได้อีกด้วยค่ะ   หันมาที่ฝั่งซ้ายของห้องกันบ้างค่ะ ประตูห้องน้ำแบบ Double Access ระหว่างห้องนอนกับกลางห้อง ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งด้วยกระจกใสประตูบานสวิง โดยส่วนเปียกจะอยู่ด้านในสุด ส่วนแห้งจะใกล้ประตูเพื่อให้ใช้ง่ายได้สะดวกกว่าค่ะ     ห้องนอนแรกนี้จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะหัวเตียงได้อีกด้านหนึ่งค่ะ ส่วนหน้าต่างของห้องจะสามารถเปิดออกแบบบานกระทุ้งได้ 1 บาน จุดเด่นของห้องนอนนี้คือเชื่อมต่อกับห้องน้ำเสมือนเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ ใครที่ชอบเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนเลือกห้องนี้ก็จะเหมาะเลย   โซน Living Room ด้านในสุดของห้องมีพื้นที่สำหรับวางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางกับโต๊ะเล็กข้างโซฟา และยัง Built in เคาน์เตอร์วางทีวีได้ตลอดแนวผนัง เชื่อมต่อด้วยระเบียงห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงเหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้างค่ะ มีก๊อกน้ำติดตั้งมาให้ด้วยเรียบร้อย ส่วน Condensing Unit แขวนไว้หันหน้าออกนอกอาคาร มีกริลปิดเพื่อความสวยงาม และยังช่วยผลักความร้อนออกด้วยค่ะ            สุดท้ายที่ห้องนอนฝั่งขวามือของห้องค่ะ เป็นห้องที่วางเตียง 5 ฟุตไว้กลางห้อง พร้อมมีพื้นที่สำหรับ Built in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ สำหรับห้องนี้มีจุดเด่นตรงที่ได้ Space ข้างหน้าต่างกระจก Full Height มีกระจกเข้ามุม ลึกเข้าไปจากหัวเตียง ทำให้เทควิวด้านนอกได้กว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งได้มากกว่า   Life Asoke Hype เชื่อว่าจะเป็นสีสันใหม่แห่ง NEW CBD ด้วยงานดีไซน์ทั้ง Exterior และ Interior ที่เรียกได้ว่าเป็นงาน Craft ซึ่งกล้าที่จะแตกต่างผสานเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่สไตล์ Hyper Active เพราะชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง เหมือนกับ AP (THAILAND) ที่ไม่เคยหยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ลงไปในที่อยู่อาศัยเสมอ     Online Booking Sold Out ไปแล้วเรียบร้อย พบกัน Pre-Sale 6-7 ต.ค นี้ที่สำนักงานขาย โปรโมชั่นวันงาน รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท On-Top จ่ายค่าจอง + ค่าสัญญา 5% รับส่วนลดราคาหน้าสัญญา 2% (รับสิทธิเมื่อจ่ายในวันงาน)  
‘LIFE อโศก ไฮป์’ คอนโดฯ ใจกลางย่านธุรกิจใหม่แห่งอนาคต ผสานความต่างอย่างลงตัว สะท้อนตัวตนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

‘LIFE อโศก ไฮป์’ คอนโดฯ ใจกลางย่านธุรกิจใหม่แห่งอนาคต ผสานความต่างอย่างลงตัว สะท้อนตัวตนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

จะซื้อคอนโดฯ ทั้งที...หลายคนคงจะมองหาทำเลที่มีศักยภาพทั้งเพื่อการอยู่อาศัยเอง และเพื่อการลงทุนไปในเวลาเดียวกัน ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อก็ต้องเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันส่งเสริมทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ที่สำคัญต้องมีดีไซน์ที่โดนใจ...เอพีพร้อมส่งมอบที่พักอาศัยใจกลางเมืองในราคาที่จับต้องได้แล้วกับโครงการไลฟ์ อโศก ไฮป์ ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นสะดุดตาเสมือนเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กในย่านธุรกิจใหม่แห่งนี้     บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง เปิดตัว ‘ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (LIFE Asoke Hype)’ คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด บนทำเลศักยภาพอโศก-พระราม 9 ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม รองรับทุกการใช้ชีวิตแบบดิจิตอลกับนวัตกรรมล้ำสมัย เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9     ไลฟ์ อโศก ไฮป์ ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมใจกลางย่านธุรกิจแห่งอนาคต เปิดมิติใหม่ของการยกระดับการใช้ชีวิตในคอนโดย่านใจกลางเมืองอย่างแท้จริงที่จะมาต่อยอดโอกาสในการอยู่อาศัย และการลงทุนที่คุ้มค่าในอนาคต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 5 ไร่ บนถนนอโศก-ดินแดง ซึ่งจะเปิดจองรอบแรกผ่านระบบ  AP i-Booking ในวันอังคารที่ 2 ตุลาคมนี้ เวลา 19.00 - 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.89 ล้านบาท (หรือเฉลี่ยเพียง 135,000 บาท/ตร.ม.)     ไลฟ์ อโศก ไฮป์ ภายใต้แนวคิดการดีไซน์ The Supremacy of Both Worlds ที่เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาผสมผสาน เพื่อให้เกิดมิติใหม่ของการพักอาศัยใจกลางเมืองที่ตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์การทำงาน และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพไม่เหมือนใคร โดยเน้นเรื่องการสร้างความแตกต่าง ตั้งแต่การพลิกโจทย์การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง (Privacy in Connected Space) เพื่อให้ตอบเทรนด์การใช้ชีวิตร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างเป็นส่วนตัว การตีความคำว่าการอยู่อาศัยแบบลักชัวรี่รูปแบบใหม่ (SUPREME LUXURY IN ECLECTIC DESIGN) เข้ามาตอบโจทย์ความลุ่มลึก และความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการใช้ชีวิต การพัฒนานวัตกรรมสเปซดีไซน์ภายในยูนิตพักอาศัย และโครงสร้างพื้นฐานในโครงการให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตระยะยาวของลูกค้า (SUPREME SPACE IN TOMORROW’S FUNCTIONALITY) และรองรับการใช้ชีวิตที่มุ่งสนับสนุนความสำเร็จของผู้อาศัยในทุกมิติ ท้ายสุด คือการนำเสนอทำเลที่ดีที่มาพร้อมกับแพ็คเกจราคาขายที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ (SUPREME LOCATION AT SUPREME PRICE) เอพี ไทยแลนด์ กับความใส่ใจในการออกแบบทุกตารางนิ้วภายในโครงการ เพื่อให้ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ เป็นคอนโดมิเนียม ที่ครอบคลุมทุกความต้องการที่หลากหลายของคนในย่านนี้     เริ่มต้นด้วย Scarlet Foyer ส่วนต้อนรับด้านหน้าที่โดดเด่นด้วย Eclectic Lobby ล็อบบี้ด้านในขนาดใหญ่ที่จัดสรรพื้นที่โถงต้อนรับและมุมเพื่อพบปะพูดคุยและมุมสงบไว้ได้อย่างลงตัว ตอบเทรนด์การใช้ชีวิตของ Young Achiever ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ Start Up หรือพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องการปลีกตัวจากความวุ่นวายได้แม้อยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง ต่อมา คือ การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางแนวใหม่ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลาง หากแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว และยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการให้เป็น The Circle Running Garden ลู่วิ่งเล่นระดับ 2 ชั้น พื้นที่ออกกำลังกาย พักผ่อน หรือนั่งทำงานภายนอกที่ยังสามารถเชื่อมต่อ Internet ได้ตลอดเวลา อัพเดททุกความเคลื่อนไหวของสังคมภายนอกได้อย่างไม่ตกเทรนด์ และพื้นที่พักผ่อนสำหรับชื่นชมธรรมชาติภายนอกที่ยังคงความสงบให้ผู้ใช้งานในส่วนต่างๆ ได้สัมผัสถึงความเป็นส่วนตัว       เพิ่มพื้นที่ที่พร้อมสนับสนุนทุกความสำเร็จของผู้อาศัยด้วย Co-working Business Lounge บนชั้น Mezzanine ซึ่งสามารถเปิดพื้นที่ใช้งานแบบส่วนตัวได้ทุกเวลาด้วยระบบ Reservation Service ที่สามารถทำการจองพื้นที่การใช้งานแบบส่วนตัวในพื้นที่ส่วนกลางได้ตามต้องการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มที่รองรับชีวิตดิจิตอลกับนวัตกรรมล้ำสมัย ยกระดับคุณภาพชีวิตไปอีกขั้นด้วยพื้นที่พักผ่อนบนชั้น 7 อย่าง Hover Bay สระว่ายน้ำที่ถูกออกแบบมาให้ยกตัวสูงขึ้นเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพ และความเงียบสงบเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ผู้อยู่อาศัยสามารถนักพักผ่อนชมวิวสระว่ายน้ำโดยปราศจากความวุ่นวายใน The Muted Garden สวนสีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่ถูกจัดวางเสมือนมีอีกหนึ่งโซนส่วนตัวแยกออกจากตัวสระว่ายน้ำอย่างชัดเจน   เหนือกว่าด้วย Eclectic Design ผลงานความร่วมมือระหว่างทีม AP Design Lab และ World Class Color Designer ในการดีไซน์เฉดสีพิเศษเฉพาะโครงการ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของตัวโครงการในย่านอโศก-พระราม 9 ตั้งแต่ชั้น 40 จนถึงชั้น Rooftop ประกอบไปด้วย Duplex Sky Fitness ฟิตเนสลอยฟ้า 2 ชั้น ในห้องกระจกสะกดทุกลมหายใจด้วยขอบฟ้าของเมืองแบบพาโนรามา Top of the Hype พื้นที่พักผ่อนแบบ Sky Lounge ส่วนตัว เชื่อมต่อกับ Lunar Balcony พื้นที่พักผ่อนภายนอกรับบรรยากาศวิวเมืองสุด Exclusive รวมไปถึง The Astro Deck จุดชมวิว และพักผ่อนที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ราวกับจำลองท้องฟ้า และหมู่ดาวมาไว้ตรงหน้า พร้อมผ่อนคลายด้วย L-Shape Sky Pool สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือรูปตัวแอลขนาดใหญ่ และ Mirage Sky Path สะพานพื้นกระจกใสให้ความรู้สึกเหมือนเดินบนท้องฟ้า     เอพีพร้อมรังสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยสำหรับผู้อยู่อาศัย อาทิ ล็อคเกอร์อัจฉริยะ (Smart Pod) จะทำให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถเข้าถึงการใช้งานด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ผู้อยู่อาศัยสามารถรับของได้ในเวลาที่ตนเองสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง รวดเร็ว ง่าย สะดวกสบาย รวมทั้งมั่นใจได้ในความปลอดภัย 100% และยังมี สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในคอนโดมิเนียมเอพี (AP Charging Pod) ที่ทำให้การอยู่อาศัยในคอนโดเอพีสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น   ความพิเศษยิ่งไปกว่านั้นคอนโดมิเนียม ไลฟ์ อโศก ไฮป์ เลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันในการตกแต่ง แต่นำมาผสมผสานกันให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์และลงตัว เช่น การใช้หินอ่อนกับผ้าทอพิเศษและพื้นกระจก มาผสมผสานกันให้เกิดเป็นมิติการอยู่อาศัยแบบใหม่ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบพิเศษเพื่อไลฟ์ อโศก ไฮป์ โดยเฉพาะ     ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (LIFE Asoke Hype) คอนโดฯ ใจกลางย่านธุรกิจแห่งอนาคต โดดเด่นด้วยดีไซน์   ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยสูง 40 ชั้น จำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 1,253 ยูนิต และ 4 ร้านค้า ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1) สตูดิโอ ขนาด 25.50 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 30 – 32.00 ตารางเมตร 3) ห้องชุด 1 ห้องนอน (แบบพิเศษ) ขนาด 35.00-40.00 ตารางเมตร 4) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 48.50 – 64.00 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในชั้น 1 ชั้น 7 ชั้น 40 และชั้น Rooftop โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-0-10 ไร่ ทำเลศักยภาพย่านธุรกิจแห่งอนาคตอโศก-พระราม 9 พรั่งพร้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้ง โรงเรียน อาคารสำนักงาน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคม สะดวกทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งอยู่บนทำเลเชื่อมต่อที่สำคัญและดีที่สุดบริเวณอโศก-พระราม 9 เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทางและสีสันการใช้ชีวิต
Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) เจ้าของโครงการ : เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. พื้นที่โครงการ : 5-0-10 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 40 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,253 ยูนิต ที่จอดรถ : 530  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 25.5 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด  30.5 – 32 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด  35 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 48.5-64 ตร.ม. ราคา : เริ่มต้น 2,890,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า MRT เพียง 300 เมตร ผสานที่สุดของทุกไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตนที่แตกต่างด้วย THE HYPE PRIVATE FACILITY กว่า 5 ไร่ ใจกลางอโศก-พระราม 9  เริ่ม 2.89 ล้านบาท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า MRT พระราม 9, Airport Link มักกะสัน, ทางด่วนพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : ตลาดอยู่เจริญ, The Grand Rama 9,  Fortune Town, อาคารภคินท์,  True Tower    
‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ภายใต้แบรนด์ LIFEยกระดับอสังหาฯ ศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ  ย่านลาดพร้าว และ อโศก – พระราม 9

‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ภายใต้แบรนด์ LIFEยกระดับอสังหาฯ ศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านลาดพร้าว และ อโศก – พระราม 9

เอพี (ไทยแลนด์) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง เดินหน้าเจาะดีมานด์คนเมืองรุ่นใหม่กลุ่ม ‘Young Achiever’ ที่มองหาคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเลชั้นนำใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ “เปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ LIFE - ‘Life Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์)’ และ ‘Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) ที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่พร้อมสนับสนุนสู่ความสำเร็จของคนรุ่นใหม่” พร้อมต่อยอดโอกาสการลงทุนที่คุ้มค่าในอนาคต ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่าระยะยาว ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าประมาณ 5 - 6% พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มที่รองรับชีวิตดิจิตอลกับนวัตกรรมล้ำสมัย ยกระดับคุณภาพอสังหาริมทรัพย์ บนทำเลแห่งศักยภาพย่านลาดพร้าว และ อโศก - พระราม 9 ประเดิมครึ่งปีหลังด้วย Life Ladprao Valley ซึ่งจะเปิดขายรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 - 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 4 - 5 สิงหาคม 2561 ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “บริษัทดำเนินการภายใต้เป้าหมายหลัก คือมุ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง โดยมีพันธกิจสำคัญในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Life ลาดพร้าว Life วิทยุ Life อโศก-พระราม 9 และล่าสุดในไตรมาส 1/2018 Life สุขุมวิท 62 โดยที่ทั้ง 4 โครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ โดยสามารถปิดการขายได้ถึงประมาณ 90%” “ความสำเร็จนี้มาจากการเลือกเฟ้นทำเลที่ดีเยี่ยม ใจกลางเมืองที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ผนวกกับความใส่ใจในการออกแบบเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ใช้สอย การบริหารแพ็คเกจราคาขายที่เหมาะสมตรงกับดีมานด์ที่ลูกค้ามองหา ตลอดจนความมั่นใจในคุณภาพการก่อสร้าง การบำรุงรักษา และบริการหลังการขายของเอพี” นายวิทการ กล่าว “เพื่อรองรับตลาดคอนโดสำหรับลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่กลุ่ม Young Achiever ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอพีจึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัว 2 คอนโดมิเนียม โครงการร่วมทุนระหว่าง เอพี และ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป - MECG) มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพศูนย์กลางธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ แวดล้อมด้วยเครือข่ายคมนาคมในวันนี้และอนาคต ได้แก่ 1) Life Ladprao Valley มูลค่าโครงการประมาณ 6,400 ล้านบาท โดดเด่นด้วยศักยภาพของทำเลแห่งอนาคต แวดล้อมด้วยเครือข่ายคมนาคมที่เป็นศูนย์กลางในการเดินทางเชื่อมต่อ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการปี 2563 และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธิน คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือปล่อยเช่าระยะยาว ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าประมาณ 5 - 6% โดยจะเปิดขายรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 - 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 4 - 5 สิงหาคม 2561 ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท และอีกหนึ่ง โครงการที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ได้แก่ 2) Life Asoke Hype คอนโดมิเนียมบนทำเลศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ สูง 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 มูลค่าโครงการประมาณ 5,700 ล้านบาท” นายวิทการ กล่าวเสริม ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ดีมานด์ต่อตลาดคอนโดระดับกลางถึงไฮเอนด์มีการ-ตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในย่านใจกลางทำเลธุรกิจ เช่น ลาดพร้าว และอโศก – พระราม 9 ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ CBD แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากศักยภาพทำเลทั้งความพร้อมในวันนี้และปัจจัยจากโครงการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ ที่จะเข้ามายกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ CBD เดิมอย่างย่านสีลม สาทร และ สุขุมวิทได้โดยตรง อีกทั้งแวดล้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย และผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อเป็นอย่างมาก โครงการที่จะเข้าสู่ตลาดระดับนี้ต้องสร้างความแตกต่างทั้งภายในยูนิตพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อที่จะชนะใจคนเมืองที่กำลังมองหาคอนโดในทำเลนี้ ที่นับวันจะมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมเซกเมนท์กลางถึงบน ในสองทำเลศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมือง ย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว และย่านเชื่อมต่ออโศก-พระราม 9-รัชดาภิเษกนั้น พบดีมานด์ที่มองหาคอนโดใหม่ติดแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จากการสำรวจข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 19 โครงการ ในราคาพรีเซลเฉลี่ย 158,000 บาทต่อตารางเมตร มียอดขายรวมกว่า 85% และย่านเชื่อมต่ออโศก-พระราม 9-รัชดาภิเษก พบคอนโดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ ราคาพรีเซลเฉลี่ยประมาณ 169,000 บาทต่อตารางเมตร และมียอดขายรวมแล้วกว่า 90% ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ สำหรับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า ระยะยาว (Rental Yeild) ของคอนโดพร้อมอยู่ทั้ง 2 ย่านที่กล่าวมานั้น พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ประมาณ 5 - 6% จึงนับว่าราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ ยังเหมาะสมในการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน “สำหรับเอพี (ไทยแลนด์) เรามุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์การพัฒนาไปสู่ ‘คุณภาพชีวิตที่ดี’ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพ การบริการ การอำนวยความสะดวกสบาย และความปลอดภัย รวมถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอยู่อาศัยเอง หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Life Ladprao Valley ใจกลางห้าแยกลาดพร้าว และ Life Asoke Hype ใจกลางทำเลอโศก – พระราม 9 จึงเป็นโครงการลักชัวรี่คอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในใจกลางทำเลแลนด์มาร์คธุรกิจแห่งอนาคต ศูนย์กลางการคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ที่ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยสิ่งอำนวย-ความสะดวกที่ทันสมัย ช่วยส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และความสำเร็จให้กับผู้อยู่อาศัย พร้อมการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจโดยตรงมาจากรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อตอบดีมานด์คนรุ่นใหม่กลุ่ม Young Achiever อย่างแท้จริง” นายวิทการ กล่าวสรุป Life Ladprao Valley ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ล่าสุดของเอพี ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบ “Live Your Adventurous Spirit” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากไลฟ์สไตล์ของคนเมืองกลุ่ม Young Achiever ที่พร้อมมอบประสบการณ์ อันเป็นที่สุดในทุกมิติของลักชัวรี่คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง สู่การต่อยอดความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยสูง 44 ชั้น จำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 1,140 ห้อง ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1) สตูดิโอ ขนาด 28.80 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 35 - 37 ตารางเมตร 3) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 48.60 – 66.50 ตารางเมตร พร้อม Triple Facilities ในชั้น 6 ชั้น 44 และชั้น Mezzanine โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5.2.33 ไร่ ใจกลางทำเลลาดพร้าว ย่านธุรกิจและศูนย์กลางคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ พรั่งพร้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้ง โรงเรียน อาคารสำนักงาน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคม สะดวกทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งอยู่บนทำเลเชื่อมต่อที่สำคัญและดีที่สุดบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เพียงหนึ่งก้าวจากรถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือเพียง 5 นาทีถึง MRT สถานีพหลโยธิน และใกล้ BTS สถานีหมอชิต และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทางและสีสันการใช้ชีวิต Life Ladprao Valley บนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 2 ไร่ ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานความเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Triple Facilities ประกอบด้วย 1) The Avalon พื้นที่สวนแบบเล่นระดับพร้อมสระว่ายน้ำในพื้นที่ชั้น 6 ที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดแม้อยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง 2) Aqua Valley บน Rooftop ชั้น 44 เพิ่มประสบการณ์ของการออกกำลังกาย ด้วยสระว่ายน้ำพร้อมเครื่องออกกำลังกายภายใต้แนวคิดวารีบำบัด และ 3) Grand Valley Bay บนชั้น Mezzanine โดดเด่นด้วย Crystal Alley สระว่ายน้ำพื้นกระจกใสบนชั้นสูงสุด พร้อมด้วย Elevated Lap Pool ยาว 35 เมตร และ Module Lounge ที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสทิวทัศน์สวนจตุจักรแบบพาโนรามา เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 2561) บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของโครงการทั้งกลุ่มคอนโดมิเนียมและแนวราบได้มากถึง 17,300 ล้านบาท เป็นยอดขายคอนโดมิเนียม 7,370 ล้านบาท และยอดขายสินค้าแนวราบ 9,930 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 52% ของเป้ายอดขายปี 2561 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 33,500 ล้านบาท) โดยมั่นใจว่าจากการเปิดตัว Life Ladprao Valley และ Life Asoke Hype จะสร้าง Talk of The Town และโกยยอดขายลักชัวรี่คอนโดมิเนียมล็อตใหญ่ส่งท้ายปี 2561 ได้อย่างแน่นอน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีสินค้ารับรู้รายได้ (backlog) มูลค่ามากถึง 52,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 9,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 43,000 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) โดยจะทยอยรับรู้ภายในปีนี้มูลค่าประมาณ 10,300 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยการรับรู้ไปจนถึงปี 2565 และทางบริษัทมีคอนโดมิเนียมคงเหลือขายประมาณ 10,800 ล้านบาท “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง”