Tag : MRT สถานีบางซื่อ

3 ผลลัพธ์
The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ จะพาทุกคนไปชมเยี่ยมโครงการ The Stage Taopoon Interchange ในเครือของ Real Asset อีกหนึ่งโครงการที่เกาะติดแนวรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน แถมพ่วงด้วยสายสีม่วงเข้าไปอีก เพราะจุดนี้เป็นสถานีเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายพอดี ทำเลนี้เลยเพิ่มระดับความน่าสนใจขึ้นมาได้อีกเยอะเลยทีเดียว   การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการ The Stage Taopoon Interchange ของเราในครั้งนี้ เริ่มต้นกันจากถนนประชาชื่นครับ มุ่งหน้ามาทางเตาปูนจนสุดถนน ซึ่งจะตัดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 พอดี ตรงนี้เราจะเริ่มเห็นรางรถไฟฟ้ากันแล้ว จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 กันเลย วิ่งตรงข้ามแยกเตาปูนมาอีกหน่อยก็จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือแล้วครับ การเดินทางด้วยรถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ เพราะสามารถเลือกลงทางด่วนรัชดาภิเษก ตรงแยกประชานุกูลแล้ววิ่งมาตามถนนประชาชื่นก็ได้ หรือจะเลือกข้ามสะพานพระราม 7 มาจากฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้เช่นกัน แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็จะเป็นการเดินทางที่พึ่งพาเป็นหลักได้ เพราะช่วยประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้มาก แถมตัวสถานีรถไฟฟ้าก็อยู่ห่างจากหน้าโครงการไปไม่เกิน 400 เมตร เรียกว่ากำลังเดินได้สบายๆ ครับ แต่ถ้าขี้เกียจเดินหน่อย บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าก็มีวินมอเตอร์ไซค์พร้อมให้บริการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเดินทางด้วยรถบริการสาธารณะอื่นๆ ก็ค่อนข้างสะดวกเช่นกัน ทั้งรถเมล์ และรถแท็กซี่ เนื่องจากบริเวณแถบนี้มีทั้งโรงเรียน และโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ รถราจึงมีวิ่งบริการเป็นจำนวนมากอยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนประชาชื่น บริเวณแยกประชานุกูล หน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น นะครับ ให้ตรงผ่านแยกประชานุกูลไปทางบางซื่อเลยครับ โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ ประชาชื่น อีกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โครงการ จากนั้นขับตรงไปตามถนนประชาชื่น ขับมาจนถึงแยกประชาชื่น ก่อนจะถึงแยกจะเห็นโลตัส ประชาชื่น หรือที่คนแถวนี้เรียกว่าโลตัส เตาปูน อยู่ด้านซ้ายมือ ถึงแยกแล้วให้เลี้ยวขวา เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปทางเตาปูน ตามป้าย เลี้ยวขวามานิดหน่อย ก็จะเจอ MRT สถานีเตาปูน Interchange บรรยากาศบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 จะมีคอนโด ขึ้นมาหลายโครงการ ทั้ง Rich Park ที่สร้างเสร็จแล้ว โครงการ ชีวาทัย Interchange และ The Tree Interchange ที่กำลังก่อสร้างอยู่ การเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนการจราจรอาจจะติดขัดสักหน่อยนะครับ จากสถานี MRT เตาปูนมาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงสำนักงานขายโครงการแล้วครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ โครงการ The Stage Taopoon Interchange เป็นคอนโด High Rise ตั้งอยู่บนประชาราษฎร์สาย 2 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนมาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงหน้าทางเข้าโครงการ ถ้าดูตามรูปที่ดินของโครงการแล้ว จะเห็นว่าตัวที่ตั้งโครงการจริงๆ จะอยู่ด้านในถัดจากถนนเข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร ซึ่งเดิมบริเวณนี้เป็นที่ดินของโรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา ถ้าหากใครที่คุ้นเคยกับทำเลแถบนี้อยู่แล้วก็คงจะนึกภาพตามได้ไม่ยากครับ ด้วยความที่ตัวที่ดินอยู่ถัดเข้ามาด้านใน จึงค่อนข้างลดปัญหาเรื่องมลภาวะทางเสียงไปได้พอสมควรเลยนะครับ เพราะถ้าตัวอาคารที่พักอาศัยอยู่ติดถนนใหญ่ และใกล้กับรางรถไฟฟ้ามากกว่านี้ คงหลีกเลี่ยงเรื่องเสียงรบกวนได้ยาก ในขณะที่พื้นที่รอบๆ โครงการยังเป็นที่พักอาศัยทั้งอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีเพื่อนบ้านเป็นตึกสูงของโครงการ The Tree Interchange ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้นที่อยู่ในระยะประชิด ยังดีหน่อยที่ลักษณะของที่ดินโครงการบังคับให้ตัวอาคารที่พักอาศัยหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ เลยหมดปัญหากังวลเรื่องตำแหน่งห้องที่จะถูกตึกข้างๆ บดบังวิวไปได้เยอะเลย อย่างที่บอกไปแล้วว่าพื้นที่โดยรอบยังเป็นบ้านพักอาศัยที่อยู่มาก่อนนานแล้ว สภาพแวดล้อมโดยรอบจึงยังคงความเป็นชุมชนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วก็ตาม อาคารพาณิชย์ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหาร และธนาคารพาณิชย์ ที่ให้ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้ตามสมควร รวมถึงโรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยาที่ยังคงอยู่ทางด้านหลังโครงการ และโรงพยาบาลบางโพที่อยู่ห่างออกไปเพียง 300 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ถัดออกไปทางแยกเตาปูนก็มีตลาดสด และห้างโลตัสเตาปูนที่สามารถเป็นที่พึ่งพาให้จับจ่ายซื้อหาข้าวของที่จำเป็นได้ไม่ยาก ทำเลในย่านนี้จึงถือว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยพอสมควรเลยทีเดียว บรรยากาศ 2 ข้างทางบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง จะมีร้านอาหารอยู่ประปราย อย่างที่เห็นนี่คือร้านข้าวมันไก่ ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ฝั่งตรงข้ามก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายใบ้ ร้านอร่อยที่อยู้ใกล้ๆ คอนโด เดินเลยมาอีกหน่อยก็จะถึงทางขึ้นรถไฟฟ้า ระยะทางจากโครงการถึง MRT ประมาณ 350 เมตร ถ้ารถไฟฟ้าเปิดใช้บริการแล้ว น่าจะเพิ่มความสะดวกสบายให้คนในย่านนี้ขึ้นเยอะเลยครับ สำหรับตัวโครงการเป็นคอนโดอาคารเดี่ยวสูง 36 ชั้น มียูนิตรวมทั้งหมด 773 ยูนิต โดยส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป  ในขณะที่พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1-6 จะถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถรองรับปริมาณรถได้ถึง 447 คันเลยทีเดียว  ถือว่าทางโครงการจัดมาให้เต็มที่มากๆ เมื่อเทียบกับคอนโดแนวรถไฟฟ้าในระดับเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 6-7 มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาด 25 x 8 เมตร พื้นที่พักผ่อน รวมถึงห้องสมุด และ Play Room ด้วย ซึ่งจะอยู่รวมกันกับพื้นที่พักอาศัยบนชั้น 7 นั่นเอง ห้องพักบนชั้นนี้จะสะดวกเวลาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางในการออกกำลังกาย แต่ก็ต้องแลกกับเป็นส่วนตัวที่เสียไปบ้างครับ นอกจากนี้ที่พื้นที่บนดาดฟ้าชั้น 36 ยังมีสวนหย่อม และมุมพักผ่อนไว้ให้รับลมชมวิวได้อีกด้วย แต่จะว่าไปแล้วพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดสรรมาให้นั้น ออกจะกระทัดรัดไปซักหน่อย ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตรวมแล้ว สัดส่วนของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดไว้ให้ 4  ตัว เฉลี่ยออกมาแล้ว ลิฟต์ 1 ตัว ต่อ 194 ยูนิต นับว่าหนาแน่นเอาเรื่องถึงแม้จะมีลิฟต์ขนของแยกมาต่างหากแต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้นะครับ เพราะอย่างไรการใช้งานก็แยกส่วนกันอยู่ดี ถึงเวลาใช้งานจริง ช่วงเช้าๆ ที่ทุกคนรีบจะออกไปทำงานพร้อมๆ กัน คงต้องรอลิฟต์กันนานหน่อย พ้นจากเรื่องส่วนกลางไปแล้ว เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการก็เป็นไปตามมาตรฐานเลยครับ ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการใช้ Key Card ในการเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานที่เราพอจะคาดเดากันได้ไม่ยาก ภาพมุมกว้าง เมื่อมองจากโค้งน้ำเจ้าพระยา แบบจำลองโครงการ จะเห็นระยะทางที่ตัวโครงการร่นจากถนนเข้าไปประมาณ 100 เมตร ทางเข้าโครงการ ชั้น G จะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับ Shop อีก 4 Shop และมีที่จอดรถอีกบางส่วน ส่วนที่จอดรถหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1-6 หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 7 ทั้งสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก Reading Room และ Play Room นอกจาก Facility แล้ว ชั้น 7 ก็จะเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วยนะครับ ห้องสมุดที่ชั้น 7 สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8x25 เมตร พร้อมแยกสระเด็ก แบบจำลองบนชั้น 7 ส่วน Fitness จะอยู่ที่ชั้น 8 เป็นชั้นลอยขึ้นมาจาก Facility ที่ชั้น 7 ชั้น 9 - 36 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยประมาณ 26 ยูนิตต่อชั้น Roof Garden บนชั้นดาดฟ้า พาชมห้องตัวอย่าง แบบห้องหลักๆ ของโครงการ The Stage Taopoon Interchange มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นกันที่ 26 ตร.ม. โดยประมาณ ถึงจะเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ แต่ก็มีการจัดวาง Layout ไว้เป็นสัดส่วน เปิดประตูห้องมาก็จะเจอในส่วนของ Living Area ก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งทางโครงการกั้นประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ไว้ให้เป็นสัดส่วน ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว และห้องน้ำ  แน่นอนว่าในโซนนี้ก็มีประตูกระจกบานเลื่อนแยกไว้ชัดเจนอีกเหมือนกัน แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องครัวก่อนทุกครั้ง ในขณะที่ระเบียงด้านนอกก็มีพื้นที่กระทัดรัด เพียงแค่พอวางเครื่องซักผ้า กับแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ชมกัน จะเป็นห้องขนาด 33.2 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Layout ของห้องนี้จัดมาได้ค่อนข้างน่าสนใจแปลกตา เปิดห้องมาเราจะเจอ Living Area ที่ค่อนข้างกว้างขวางดีทีเดียว พอวางชุดโซฟาไปแล้ว ก็ยังมีที่เหลือสำหรับโต๊ะกินข้าวได้อีกชุด ในห้องตัวอย่างจึงจัดวางโต๊ะกินข้าวไว้ชิดผนังด้านที่ติดกับห้องครัวให้เห็นเป็นไอเดียด้วย การกั้นห้องจะมีลักษณะเป็นผนังทึบ ไม่ใช่ประตูกระจกบานเลื่อนอย่างห้องแบบแรก ซึ่งข้อดีของการกั้นห้องแบบนี้คือ ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ผนังของห้องครัวด้านที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ถูกเจาะช่องติดกระจกบานใสไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเปิดรับแสงจากธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะให้ความรู้สึกขาดๆ เกินๆ ไปบ้างเพราะโดยส่วนตัวไม่ค่อยชินกับการออกแบบลักษณะนี้จริงๆ ครับ พื้นที่ห้องครัวจัดไว้เป็นสัดส่วนดี ทั้งประตูบานเลื่อนที่ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวน และประตูระเบียงที่ติดกับห้องครัวก็ช่วยในเรื่องการระบายกลิ่นได้อีกทาง ในขณะที่พื้นที่ของห้องนอนจะจัดสรรพื้นที่ใช้สอยมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว เปิดประตูบานสวิงเข้าไป เตียงนอนจะอยู่ใกล้หน้าต่างที่เป็นกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่มากๆ อีกด้านเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ และโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำที่ดูแล้วลงตัวดีครับ แบบห้อง Type A 1 ห้องนอน ขนาด 33.20 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ อย่างที่บอกว่า Living Area ที่นี่ค่อนข้างจะกว้างทีเดียว ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอยู่ราวๆ 3 เมตร สามารถตั้งทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ เลยครับ โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ทางโครงการจัดวางไว้ข้างๆ โซฟา ในส่วน Living Area ติดกับผนังครัวที่ทำเป็นช่องกระจกมองเข้าไปเห็นในครัวได้ วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง อาจจะดูเล็กไปหน่อยนะครับ เพราะต้องเผื่อพื้นที่ให้ดต๊ะทานอาหาร ชั้นวางทีวีที่โครงการ Built-in มาให้ดู ดูจากระยะห่างแล้ว คงจะต้องใช้ทีวีจอใหญ่หน่อยครับถึงจะได้อรรถรส เลยเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วนครัว ครัวจะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เคาน์เตอร์ครัวจะหน้าตาแบบนี้นะครับ มีช่องวางไมโครเวฟด้านล่าง แต่จะไม่ได้กระจกติดผนังกันเปื้อนแบบในภาพนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานแบบฝังอยู่ทางขวามือ ทางซ้ายจะเป็นเตาไฟฟ้า ด้านล่างจะเป็นช่องวางไมโครเวฟและตู้เก็บของ ซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ Teka มารพ้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ระเบียงจะอยู่ติดกับครัวเลยนะครับ จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน รางและขอบประตูกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำ ขนาดของระเบียงก็จะกว้างประมาณนี้นะครับ จุดที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ที่ระเบียง คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาข้างใน เราจะไปดูที่ห้องนอนกันต่อ ในห้องตัวอย่างกับแปลนห้องหัวเตียงจะสลับด้านกันนะครับ เข้าห้องนอนมาแล้วประตูจะอยู่ด้านปลายเตียง ไม่ใช่หัวเตียงเหมือนในแปลนห้อง ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังดีเลยนะครับ มีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือให้ทำอย่างอื่นได้อีก ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก แต่จะวางชั้นวางทีวีก็จะดูแคบไป ควรจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่าครับ หน้าต่างในห้องนอนด้านปลายเตียงจะทำกระจกเข้ามุมไว้ด้วย จะมีบานกระทุ้ง 1 บาน ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างเว้นที่ไว้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟสวยๆ ก็โอเคนะครับ ข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่วางอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ติดกับตู้เสื้อผ้า การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าของ MOGEN มีมาเฉพาะตัวอ่างนะครับ ไม่มีเคาน์เตอร์และตู้เก็บของด้านล่างให้ ทำให้แทบจะไม่มีที่วางของเลย โถสุขภัณฑ์ก็ของ MOGEN เหมือนกันครับ มีที่แขวนทิชชู่อยู่ด้านข้าง ส่วน Shower Box จะกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวที่ได้ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ทางโครงการทำห้องตัวอย่างไว้คือ ห้องขนาด 56.1 ตร.ม. ห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวางให้ใช้สอยได้ค่อนข้างเหลือเฟือ เปิดประตูเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่โซนกลางห้องที่จัดสรรเป็นส่วนพักผ่อน และมุมรับประทานอาหาร โถงกลางห้องนี้จะโล่งโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะมีระเบียงอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นนั่นเอง ส่วนห้องนอนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยห้องนอนใหญ่จะใช้พื้นที่ด้านหนึ่งไปเต็มๆ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ พร้อมมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำที่สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ได้อย่างลงตัว ในขณะที่อีกฟากของห้องจะเป็นห้องนอนเล็กขนาดกระทัดรัดกำลังดี อยู่ติดกับห้องน้ำเล็กที่ต้องเดินออกมาเข้าจากทางห้องนั่งเล่น ส่วนห้องครัวก็อยู่ถัดจากห้องน้ำมาทางด้านหน้าห้องครับ แน่นอนว่าห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนเช่นกัน ห้องแบบนี้ค่อนข้างเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก เพราะมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ทำให้ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวเพียงพอ ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางห้องก็กว้างพอที่จะให้สมาชิกทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้อีกด้วย Type B 2 ห้องนอน ขนาด 56.10 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนนะครับ แต่ก่อนจะเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นเรามาดูส่วนที่อยู่ด้านหน้าห้องกันก่อน ด้านซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน ตู้เก็บของที่ทางโครงการ Built-in มาให้ดูอยู่หน้าห้องใกล้กับโต๊ะทานอาหาร ถัดจากโต๊ะทานอาหารเข้าไปข้างในจะเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง ห้องนั่งเล่นจะไม่ใหญ่มากนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีประมาณ 2 เมตร วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง จะพอดีกับผนังห้อง ชั้นวางทีวี Built-in เล็กๆ หรือว่าจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็ได้ครับ พื้นที่ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน คอมเพรสเซอร์แอร์หันหน้าออกนอกระเบียง ฝั่งขวาจะเรียงกัน 3 ห้องนะครับ คือ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเล็ก เริ่มจากครัวก่อน ครัวจะอยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโต๊ะทานอาหารจะเป็นครัวแบบปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ในครัวอาจจะดูอึดอัดไปสักหน่อยนะครับ เพราะไม่ได้อยู่ติดระเบียงเหมือน Type A ตัวท็อปเป็นลามิเนตสีขาว ซิงค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka ฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ด้านล่าง ตู้เก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ด้านล่าง ชั้นลอยเก็บของด้านบน มาต่อที่ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางจะเหมือนกับ Type A Shower Box มาดูที่ห้องนอนเล็กต่อนะครับ ทางโครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตให้ดู ทำให้พื้นที่รอบๆ เตียงเหลืออยู่พอสมควร ปลายเตียงมีเหลือให้เดินได้สบายๆ หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบานฟิกและมีบานกระทุ้ง 1 บาน อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า เราข้ามฝั่งมาดูที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ห้องนอนใหญ่วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยครับ ปลายเตียงมีที่เหลือให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้เลย หน้าต่างด้านหัวเตียงทำเป็นกระจกเข้ามุมให้ด้วยนะครับ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าจะมีอยู่ 2 ฝั่ง หน้าห้องน้ำ ภาพมุมกว้างของห้องนอนใหญ่ มองไปที่ห้องน้ำ การวางสุขภัณฑ์จะคล้ายๆ ห้องน้ำห้องแรกนะครับ แต่ห้องนี้จะได้อ่างล้างหน้าที่มีที่วางของได้เยอะขึ้นหน่อย อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ MOGEN มีที่วางของรอบๆ และใต้อ่าง ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะเหมือนเดิมครับ Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวที่ได้ ห้องทั้งหมดที่ทางโครงการขายมาให้เป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์แถมมาให้ด้วย เว้นแต่ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น นอกจากนี้ห้องจริงที่ได้ฝ้าเพดานก็สูง 2.6 เมตร แตกต่างจากระยะที่เห็นในห้องตัวอย่างนิดหน่อยครับ ใครรักชอบแบบไหนก็เลือกกันได้ตามสะดวก Type A1L 1 ห้องนอน ขนาด 26.3 ตารางเมตร Type A1R 1 ห้องนอน ขนาด 26.3 ตารางเมตร Type A2R 1 ห้องนอน ขนาด 33.2 ตารางเมตร Type B1L1 2 ห้องนอน ขนาด 56.1 ตารางเมตร Type B1L2 2 ห้องนอน ขนาด 56.1 ตารางเมตร Type B2 2 ห้องนอน ขนาด 61.4 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน ทำเลที่ตั้งของโครงการ The Stage Taopoon Interchange อยู่ในย่านที่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะค่อนข้างสงบ ในขณะที่ยังอยู่ในย่านชุมชน ใกล้ตลาดสด โรงพยาบาล และโรงเรียน ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยเกาะแนวรถไฟฟ้า และอยู่ไม่ห่างจากความเจริญมากนัก นอกจากนี้พื้นที่บริเวณนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมี โอกาศเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากห่างออกไปทางด้านเกียกกาย กำลังมีการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการก็เป็นสถานี Interchange ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงไว้ด้วยกัน ทำให้การเดินทางในอนาคตค่อนข้างสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่การซื้อหาห้องเพื่อการลงทุนในย่านนี้ อาจจะต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพราะทำเลในแถบนี้ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ให้เปรียบเทียบอีกมาก จึงอาจจะทำให้การปล่อยเช่าห้องมีคู่แข่งในด้านราคาเป็นจำนวนมาก ผลตอบแทนที่ได้ก็อาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ
THE NICHE MONO รัชวิภา : รีวิวคอนโด

THE NICHE MONO รัชวิภา : รีวิวคอนโด

โครงการ: THE NICHE MONO รัชวิภา (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,950,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 65,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น ตัวโครงการ High Rise อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ไม่ใกล้จากแหล่งธุรกิจใหม่ย่านรัชดาภิเษก ใกล้โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ใกล้สวนรถไฟ สวนจตุจักร เมเจอร์ รัชโยธิน ตลาดบองมาเช่ โครงการเหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือลงทุนระยะยาวเพื่อรอข่าวการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าบริเวณนี้ โครงการมีพื้นที่สีเขียว พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างมาก และไม่มีอาคารสูงใกล้เคียงบดบังวิว จุดด้อย ถึงแม้ตัวโครงการจะได้อานิสงค์จากโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย แต่ทว่าไม่อยู่ในระยะที่จะเดินได้ ผลตอบแทนกรณีซื้อเพื่อปล่อยเช่าอาจไม่คุ้มเท่าที่ควร โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2559 ที่ตั้ง: THE NICHE MONO รัชวิภา (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 6-1-27 ไร่ ที่ตั้ง ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.830895,100.540153 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT บางซื่อ, BTS จตุจักร   สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต รถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อ ตลาดนัดสวนจตุจักร บิ๊กซี วงศ์สว่าง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เซ็นทรัล ลาดพร้าว โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ลักษณะโครงการ: THE NICHE MONO รัชวิภา (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 30 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 53 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 27 ชั้น จำนวนห้อง 840 ยูนิต ส่วนกลาง: THE NICHE MONO รัชวิภา (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 55% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 39 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ Fitness สวนสาธารณะ Lobby Library Mail Box บริการ Shuttle Van รับ – ส่ง สถานี MRT บางซื่อ และ BTS หมอชิต   เพิ่มเติม: THE NICHE MONO รัชวิภา (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1775 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thenichecondo.com ข้อมูล ณ วันที่