Tag : MRT สถานีแยกติวานนท์

4 ผลลัพธ์
HALLMARK งามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

HALLMARK งามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

สวัสดีทุกท่านครับ ^_^.. รีวิวฉบับนี้เราจะพาแวะไปแถวงามวงศ์วาน ใกล้ๆ กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเยี่ยมชมโครงการ Hallmark งามวงศ์วานคอนโดแบรนด์ Hallmark โครงการแรกจากชีวาทัย ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยก็พร้อมให้ลูกบ้านได้ย้ายเข้าอยู่กันแล้ว รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,390,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ชีวาทัย อินเตอร์เช้นจ์ จำกัด ลักษณะคอนโด    Low Rise  สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวนห้อง     792 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    7 - 0 - 70.5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยดวงมณี ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง นนทบุรี ที่จอดรถ    255 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) การเดินทาง ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยดวงมณี ติดกับกระทรวงสาธารณสุขเลยนะครับ การเดินทางก็มีให้เลือกหลายเส้นทาง ทั้งจากทางถนนงามวงศ์วาน เข้าทางซอยงามวงศ์วาน 2 และซอยหลวงวิเชียรแพทยาคม ผ่านกระทรวงสาธารณสุขมาออกซอยดวงมณี ส่วนทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เข้าทางซอยกรุงเทพ-นนท์ 14 ก่อนมาเข้าซอยดวงมณี แต่ทางนี้ใครที่ไม่คุ้นชินเส้นทางไม่แนะนำนะครับ เพราะต้องเลี้ยวเยอะหน่อย แถมซอยเล็กอีกตั้งหาก ส่วนทางที่สะดวกและง่ายที่สุดคือมาจากทางด่วนศรีรัช ลงที่ถนนงามวงศ์วานแล้ววกกลับวิ่งเลียบทางด่วน ก่อนมาเลี้ยวขวาเข้าซอยดวงมณีก็ถึงโครงการแล้วครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เราเริ่มกันบนทางด่วนศรีรัช ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปทางแจ้งวัฒนะเลยนะครับ เรามาลงที่ถนนงามวงศ์วาน มีป้ายบอกชัดเจน ลงมาแล้วชิดซ้ายไว้เลยนะครับ ลงมาแล้วจะเจอทางให้เลี้ยวซ้าย ตรงนี้เราเลี้ยวซ้ายไปแล้ววกกลับอีกทีเพื่อเข้าถนนเลียบทางด่วน มีป้ายบอกทางไปโครงการอยู่เป็นระยะๆ ไม่หลงแน่นอนครับ พอเราวกกลับเข้าถนนเลียบทางด่วนแล้ว ก็ตรงยาวเลยครับ ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอโรงการ Saijo Denki อยู่ด้านขวามือ แสดงว่าใกล้ถึงซอยดวงมณีแล้วครับ เลยจากโรงงาน Saijo Denki มาเจอสามแยก ให้เราเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยดวงมณี เลี้ยวเข้ามาในซอยดวงมณีแล้วก็ตรงไปอีกนะครับ สังเกตุป้ายบอกทางโครงการให้ตรงไปอีก 500 เมตร ทางเข้า-ออก กระทรวงสาะารณสุข ใครมาจากทางถนนงามวงศ์วานต้องมาทะลุออกทางนี้แหละครับ ตรงมาเรื่อยๆ ก็ถึงโครงการแล้วครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปโลดดดด สีเขียวเตะตาแบบนี้สังเกตุได้ไม่ยากครับ ทางเข้าโครงการ ผ่านป้อมยามหน้าโครงการ ใครมาเยี่ยมชมโครงการก็จอดรถใต้อาคารตรงนี้ได้เลยนะครับ วิเคราะห์รอบโครงการ เรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ Hallmark งามวงศ์วาน อาจจะอยู่ในซอยลึกไปสักหน่อยนะครับ เมื่อมองจากทางถนนงามวงศ์วาน หรือทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่อาจจะสับสนกับการเดินทางอยู่สักหน่อย แต่จะสะดวกและใกล้มากๆ ถ้าใครทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุข สามารถเข้าออกได้ทางประตู 4 และประตู 5 ฝั่งซอยดวงมณี ถ้าใครไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะภายในซอยมีวินมอเตอร์ไซค์และรถสองแถวคอยให้บริการออกไปถึงถนนกรุงเทพ-นนท์ และไปถึงรถไฟฟ้าสถานีแยกติวานนท์กันเลย สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการเป็นชุมชนขนาดเล็กมีหมู่บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ และตึกแถวอยู่รอบๆ โครงการ ส่วนเรื่องของกินของใช้จะมีร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ อยู่ไม่ห่างจากโครงการมากนัก สำหรับตัวโครงการ Hallmark งามวงศ์วาน ตอนนี้ก็สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ ใครสนใจไปดูโครงการตอนนี้ก็จะได้เห็นตำแหน่งห้องจริงๆ กันเลยว่าอยู่ตรงไหน วิวห้องเราเป็นยังไง โดยตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร ล้อมรอบ Facility หลักของโครงการอย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ที่อยู่ตรงกลาง สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby area Exercise room with equipment Swimming Pool Jogging Track Garden and outdoor recreation area Access card control 24-hours security by guard service 24-hours CCTV Master Plan ของโครงการ จะแสดงให้เราเห็นถึงตัวอาคารทั้ง 4 อาคารที่ล้อมรอบ Facility อย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่สีเขียวไว้ตรงกลาง ที่ชั้น 1 จะแบ่งเป็นที่จอดรถใต้อาคาร และรอบๆ อาคาร ทั้ง 4 อาคาร รวมแล้วจอดได้ 255 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันนะครับ และอีกส่วนหนึ่งของชั้น 1 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย ที่จอดรถใต้อาคาร และรอบๆ อาคาร นอกจากห้องพักอาศัยที่อยู่ชั้น 1 แล้ว ยังมีร้านค้าด้วยนะครับ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีร้านอะไรบ้าง เรามาดูที่ฟิตเนสกันก่อนนะครับ ฟิตเนสจะอยู่ด้านหน้าอาคาร A บรรยากาศภายในฟิตเนส เป็นกระจกทั้งอาคาร ทำให้ดูโปร่งโล่ง มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำด้านนอก ภาพกราฟฟิกของสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางโครงการ คราวนี้เรามาดูสระว่ายน้ำของจริงกันบ้าง สระว่ายน้ำจะเป็นแนวยาว มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ อยู่ข้างๆ ฟิตเนส ทางเดินระหว่างอาคาร พาชมห้องตัวอย่าง เนื่องจากตอนนี้โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเปิดให้ลูกบ้านเข้าอยู่กันได้แล้วนะครับ ทำให้เราได้เห็นพื้นที่จริงๆ สถานที่จริง ห้องจริง ของโครงการกันเลย โดยโครงการจะขายแบบ Fully Furnished ซึ่งห้องตัวอย่างที่โครงการเตรียมไว้ให้ชมก็จัดเต็มแบบจุใจกันเลยถึง 4 แบบ ทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ประกอบด้วยห้อง Type A 1 ห้องนอน ขนาด 24-25 ตารางเมตร, Type B 1 ห้องนอน ขนาด 27-28 ตารางเมตร, Type C 31-32 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน Type G ขนาด 48-49 ตารางเมตร แต่เราไม่ได้เก็บภาพห้องตัวอย่างของ Type B มาให้ชมด้วยนะครับ เพราะการจัดวาง Layout จะเหมือนกับ Type A เลย ต่างกันแค่ Type B จะขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย ห้องแรกเรามาเริ่มกันที่ห้อง 1 ห้องนอน Type A ก่อนเลยนะครับ แบบห้อง 1 ห้องนอน Type A ขนาด 24-25 ตารางเมตร เข้ามาในห้องจะเจอ Living Area ด้านหน้าก่อนเลยนะครับ ก่อนที่จะมองตรงไปเจอครัวที่อยู่ด้านใน โซฟาที่โครงการจัดมาให้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มุมมองจากโซฟาไปที่ชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้าม ระยะห่างถือว่ากว้างพอสมควรนะครับ วางทีวีจอใหญ่ได้เลย ถัดจาก Living Area เข้าไปด้านในเป็นครัวแบบเปิด เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะขนาดประมาณนี้นะครับ เหมือนเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารมากกว่า เพราะไม่มีเตาไฟฟ้าให้ด้วย มีซิ้งค์ล้างจานแบบฝังกับพื้นที่เตรียมอาหารนิดหน่อย ด้านล่างเป็นลิ้นชักและตู้เก็บของ ด้านบนเป็นที่วางไมโครเวฟ และตู้เก็บของเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหาร พื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนครัวนะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน คอมเพรสเซอร์แอร์จะวางไว้ที่ด้านนอกระเบียง เราออกจากครัวไปดูที่ด้านนอกกันต่อ มาดูที่ห้องน้ำกันก่อนนะครับ ห้องน้ำจะอยู่ติดกับชั้นวางทีวีที่เราเห็นเมื่อสักครู่ การจัดวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็หน้าตาแบบนี้นะครับ พื้นที่ห้องน้าจะดรอปลงนิดหน่อย ได้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard พื้นที่วางของอาจจะน้อยไปหน่อยนะครับ โถสุขภัณฑ์ของ American Standard หลบอยู่ข้างๆ Shower Box ติดกับโถสุขภัณฑ์ จะเป็น Shower Box ประตูทางเข้าจะเป็นบานสไลด์เข้ามุม รูปร่างหน้าตาของฝักบัวที่ได้ สุดท้ายเราเข้ามาดูกันที่ห้องนอน ห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องน้ำ เหมือนในแปลนนะครับ ขนาดห้องนอนถือว่ากว้างพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้ ห้องเลยดูโล่งขึ้นอีกหน่อย เปิดประตูเข้ามาเกือบถึงขอบเตียงพอดี ด้านปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in เปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกมาติดขอบเตียงพอดี ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ มีบานเลื่อน 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน fix ห้องต่อมาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเหมือนกัน แต่ขนาดห้องจะใหญ่ขึ้นมาอีกเป็น 30.5 ตารางเมตร การจัดวาง Layout ก็จะแตกต่างจาก Type A ด้วยนะครับ แบบห้อง 1 ห้องนอน Type C ขนาด 31-32 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้ว มองเอียงมาทางซ้ายนิดหน่อย จะเป็น Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง โซฟาที่โครงการจัดมาให้จะเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง เหมือนห้อง Type A ชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้าม จะอยู่ติดกับประตูห้อง ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area ห้องนี้ได้วิวสระว่ายน้ำด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามกับ Living Area จะเป็นส่วนครัวแบบเปิด เคาน์เตอร์ครัวก็จะคล้ายๆ กับครัวของห้อง Type A นะครับ เป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ ไว้สำหรับเตรียมอาหาร แต่ชุดครัวของห้องนี้มีช่องวางเครื่องซักผ้าไว้ให้ด้านล่างด้วย ใกล้ๆ กันจะเป็นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน จริงๆ แล้วมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะยาว 4 ที่นั่งได้เลยนะครับ ด้านบนเป็นชั้นลอย และช่องวางไมโครเวฟ ใกล้ๆ กับครัวจะแยกออกเป็น 2 ห้อง คือห้องน้ำและห้องนอน เรามาดูที่ห้องน้ำกันก่อน ห้องน้ำจะเข้าออกได้ 2 ทางนะครับ นอกจากทางครัวแล้ว ยังเข้าทางห้องนอนได้ด้วย ทางเข้าจากห้องนอน สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนๆ กับห้อง Type A นะครับ อ่างล้างหน้าของ American Standard อยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ขนาดของ Shower Box ห้องนี้จะใหญ่กว่าห้อง Type A เราเข้ามาดูในห้องนอนกันต่อ เตียงที่ทางโครงการจัดมาให้เป็นเตียง 5 ฟุต ข้างเตียงด้านที่ติดกับประตูห้องน้ำ จะเป็นตู้เสื้อผ้า ติดกับตู้เสื้อผ้ามีหน้าต่างบานเล็กๆ 1 บาน ข้างเตียงอีกฝั่งเป็นหน้าต่าง แต่จะได้บานเล็กกว่าห้อง Type A หน่อยนะครับ หน้าต่างจะเป็นบานเลื่อน 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน fix สุดท้ายมาดูที่ห้องแบบ 2 ห้องนอน Type G ขนาด 49 ตารางเมตร แบบห้อง Type G ขนาด 48-49 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ก่อนจะมองตรงไปเป็น Dining Area ด้านซ้ายเป็น Living Area และด้านขวาเป็นห้องน้ำ มือจับประตูและที่ล็อค เราเลี้ยวซ้ายมาดู Living Area กันก่อนนะครับ โซฟาที่โครงการให้มาเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง ขนาดของโซฟาเท่ากันผนังเป๊ะเลย ชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้าม จาก Living Area เราตรงเข้ามาดูที่ส่วน Dining Area ที่มีเคาน์เตอร์ครัว พร้อมกับโต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นแนวยาวแบบนี้นะครับ แต่ไม่มีเตาไฟฟ้าให้ ใครอยากได้ไว้ทำอาหารอาจจะต้องติดตั้งเพิ่มกันเอง มีช่องวางเครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง ตู้และลิ้นชักเก็บของด้านล่าง ซิงค์ล้างจานแบบฝัง ด้านบนเป็นตู้แขวนผนัง พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว เป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 3 ที่นั่ง ถัดจากครัวเข้าไปด้านในจะเป็นระเบียงใหญ่ กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 2 บาน พื้นที่ระเบียง จากระเบียงมองเข้าไปเห็นห้องนอน ที่ทำเป็นกระจกเข้ามุมไว้ อีกด้านเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ หันหน้าเข้าระเบียง จากระเบียงเรากลับเข้ามาด้านใน มาดูที่ห้องนอนเล็กกันต่อ ห้องนอนเล็กจะอยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร ในห้องนอนเล็กโครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุต พร้อมโต๊ะทำงานอยู่ข้างเตียง ที่หัวเตียงจะเป็นหน้าต่างบานยาวเท่ากับผนัง หน้าต่างจะเป็นบานเลื่อน 2 บาน และบาน fix อีก 2 บานด้านข้าง พื้นที่ปลายเตียงเหลือนิดหน่อยนะครับ เป็นที่วางตู้เสื้อผ้า เราออกจากห้องนอนเล็กข้ามมาดูห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ขนาดจะใหญ่กว่า 2 ห้องแรกที่เราดูมานิดหน่อย มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์จะอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า มีที่ใส่กระดาษชำระอยู่ข้างๆ ด้านในสุดเป็น Shower Box กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างพอสมควร ที่แขวนผ้าเช็ดตัว จะอยู่หน้า Shower Box ขนาดของ Shower Box ชุดฝักบัวที่ได้ สุดท้ายเราเข้ามาดูที่ห้องนอนใหญ่ ในห้องนอนใหญ่โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ ข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานยาว เข้ามุมไว้ทั้ง 2 ด้าน มองออกไปเห็นระเบียงด้านนอก มีที่เหลือพอให้วางโต๊ะข้างเตียง จะมีบ้านเลื่อนให้ 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน fix ทั้งหมด ข้างเตียงอีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้า และมีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ อยู่ด้วย โดยรวมแล้วตัวโครงการ Hallmark งามวงศ์วาน อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบความเงียบสงบ ไม่วุ่นวายเหมือนคอนโดในเมือง และเหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ โดยเฉพาะข้าราชการหรือบุคคลากรที่ทำงานอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข จะสะดวกมากที่สุด เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กระทรวงสาธารณสุข ส่วนเรื่องการเดินทางถ้าหากใครที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อย เพราะทำเลที่ตั้งโครงการถือว่าอยู่ในซอยลึกพอสมควร แต่ก็ยังมีรถสองแถวและวินมอเตอร์ไซค์ไว้คอยให้บริการอยู่ อีกทั้งปลายปีนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่อยู่ใกล้ๆ อย่างสถานีแยกติวานนท์ก็จะเปิดให้บริการแล้ว อาจจะช่วยให้การเดินทางในอนาคตสะดวกมากขึ้น
รีวิวคอนโด ติวานนท์ “Amber by Eastern Star”

รีวิวคอนโด ติวานนท์ “Amber by Eastern Star”

เคยผ่านมาดูคอนโดแนวรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงถนนกรุงเทพ - นนท์ ก็หลายครั้งแล้ว ซึ่งทำเลในแถบนี้ยังคงมีคอนโดโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เลยจะพาไปดูอีกโครงการใกล้กับรถไฟฟ้า สายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ ถ้าใครได้ผ่านมาบนถนนสายนี้อาจจะพอคุ้นตากับป้ายโครงการ Amber By Eastern Star กันบ้าง การเดินทาง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแยกติวานนท์เพียง 50 เมตรดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ถ้าหากว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในปี 2559 ในอนาคตอันใกล้การเดินทางเข้าออกเมืองก็จะประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น   ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีเส้นทางให้เลี่ยงได้หลายทางเหมือนกัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-นนท์ ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับถนนหลายเส้น เริ่มตั้งแต่ด่านทางด่วนงามวงศ์วานและด่วนประชานุกูล ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางเข้าออกเมืองให้รวดเร็วกว่าเส้นทางปกติ หรือถ้าจะใช้ถนนรัชดาภิเษกก็วิ่งกันได้ยาวๆ ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำก็มีทั้งสะพานพระราม 7 ข้ามมาฝั่งจรัญสนิทวงศ์ได้ รวมถึงสะพานพระราม 5 ก็เป็นอีกเส้นที่เลี่ยงไปออกถนนราชพฤกษ์ได้เช่นกัน รวมถึงถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนนครอินทร์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนประชาชื่น และถนนวิภาวดี ดังนั้นใครที่มีรถส่วนตัวอยู่แล้วก็ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบถ้าเลือกซื้อห้องในทำเลแถบนี้ เพราะยังไงก็มีเส้นทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลาย ติดก็แค่เรื่องการจราจรที่ติดขัดเอาการ ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า หรือตอนเย็น เผลอๆ ติดไม่เว้นวันหยุดอีก จะขับรถไปไหนมาไหนก็ต้องทำใจเผื่อเวลากันมากหน่อย   แต่ถ้าเลือกเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน หรือบริการรถสาธารณะก็สามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว เพราะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย แถมป้ายรถเมล์ก็อยู่หน้าโครงการเลย ไปไหนมาไหนในระยะใกล้ๆ จึงสะดวกมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ถัดออกไปไม่ไกล รวมถึงรถแท็กซี่ก็หาเรียกได้ไม่ยากอีกด้วย เสียแต่ว่าการจราจรบริเวณนี้ค่อนข้างจะติดหนัก ก็ได้แต่ลุ้นว่าถ้ารถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้เมื่อไหร่อะไรๆ ก็จะดีขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย   แผนที่โครงการ คอนโด ติวานนท์ แผนที่รอบๆ โครงการครับ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้ MRT แยกติวานนท์ ประมาณ 50 เมตรนะครับ การเดินทางวันนี้ผมขอเริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกวงศ์สว่างนะครับ ตรงนี้จะเป็นสะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ ให้เบี่ยงออกทางซ้าย เพื่อไปรอเลี้ยวขวาที่แยกวงศ์สว่างนะครับ ตรงนี้คือสี่แยกวงศ์สว่าง ให้เลี้ยวขวาไปทางนนทบุรีนะครับ ถ้าตรงไปจะไปทางสะพานพระราม 7 ถ้าใครขับเลยขึ้นสะพานข้ามแยกนี้ไปต้องไปกลับรถใต้สะพานพระราม 7 เลยนะครับ พอเลี้ยวขวามาแล้วก็จะเจอกับ MRT สถานีวงศ์สว่างเลยนะครับ ให้ขับตรงไปอีก สถานีถัดไปก็จะเป็นสถานีแยกติวานนท์แล้วล่ะครับ ขับตรงมาอีกประมาณ 1.7 กม. ก็จะถึงสถานีแยกติวานนท์แล้วนะครับ แต่สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องตรงไปอีกหน่อยเพื่อกลับรถนะครับ ถึงแล้วครับ สำนักงานขายโครงการ วิเคราะห์ตัวโครงการ คอนโด ติวานนท์ ทำเลที่ตั้งของโครงการ Amber by Eastern Star ตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม ซึ่งมีอาคารพาณิชย์ และร้านค้ารายล้อมอยู่พอสมควร ถึงจะไม่ได้สะดวกครบครันแต่ก็ไม่ถือว่าลำบากเลย เพราะติดๆ กันกับหน้าโครงการมีทั้งร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถัดไปในซอยใกล้ๆ ก็มีร้านอาหารแผงลอยเปิดขายในช่วงกลางวัน เพราะในซอยมีโรงงานอยู่ ตอนกลางวันจนถึงเย็นๆ จึงยังพอหาของกินได้ไม่ยาก เลยไปอีกหน่อยบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ก็มีรถเข็นขายอาหารในช่วงเย็นถึงค่ำอีกหลายร้าน หรือถ้าอยากซื้อขนมนมเนยและข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ติดๆ กับที่ตั้งโครงการก็มีร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ ถึงจะไม่ได้อยู่ในทำเลที่ผู้คนพลุกพล่านมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดหาอะไรไม่ได้เลยนะครับ เพราะในบริเวณรอบๆ มีทั้ง The Mall งามวงศ์วาน, Central รัตนาธิเบศร์, Big C  หรือถ้าจะเลยไปถึง Central ลาดพร้าวก็ถือว่าไปได้ไม่ยากนัก อาหารการกินถ้าเลยมาทางหน้ากระทรวงสาธารณสุขก็จะมีให้ร้านค้าให้เลือกมากมายเข้าขั้นอุดมสมบูรณ์มาก รวมถึงโรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็อยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นบริเวณรอบๆ นี้จึงถือว่าค่อนข้างพร้อมกับการอยู่อาศัยดีทีเดียว   เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าเลย จึงทำให้โครงการนี้เป็นที่น่าสนใจมากพอสมควร อีกทั้งเจ้าของโครงการยังเป็น Developer รายใหญ่ มีความน่าเชื่อถือสูงจึงไว้วางใจได้ว่าจะไม่มีการทิ้งงาน ถ้าใครเคยเห็นโบรชัวร์โครงการ หรือได้เข้าไปดูโมเดลตึกที่สำนักงานขายแล้ว จะเห็นว่า Amber By Eastern Star มีดีไซน์อาคารที่สะดุดตา น่าสนใจมาก ทั้งการเล่นระดับให้ลดหลั่นลงมา และจัดเป็นสวนลอยฟ้าไว้ในหลายๆ ชั้น รวมถึงหน้าตาอาคารที่เหมือนจรวดดูทันสมัยจึงดึงดูดใจผู้ที่พบเห็นได้ไม่ยาก ตัวตึกเป็นอาคาร High Rise สูง 37 ชั้น มียูนิตรวมทั้งหมด 563 ยูนิต โดยพื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ ซึ่งรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันที่ชั้น 5 ส่วนพื้นที่สีเขียวก็มีทั้งสวนลอยฟ้าที่อยู่ตามชั้นต่างๆ ที่ลดหลั่นกันลงมาตามการออกแบบอาคาร แต่ยังไม่รู้เลยนะครับว่า ถ้าทางโครงการเลือกใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบล็อคชั้น ลูกบ้านแต่ละห้องจะสามารถขึ้นไปใช้สวนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งตึกได้หรือไม่ หรือจะขึ้นได้เฉพาะชั้นที่เป็นห้องตัวเอง ส่วนเรื่องที่จอดรถนั้น ทางโครงการจัดพื้นที่ไว้ให้ตั้งแต่ชั้น 1-4 ซึ่งสามารถรองรับรถได้จำนวน 189 คัน (ไม่นับรวมจอดซ้อนคัน) อาจจะเพราะทางโครงการต้องการเน้นกลุ่มคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยติดกับรถไฟฟ้าและใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในการเดินทาง เรื่องที่จอดรถจึงไม่ค่อยเน้นจำนวนเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่มีรถส่วนตัวต้องใช้อยู่เป็นประจำเรื่องที่จอดรถของโครงการดูจะน่าเป็นห่วงว่าจะต้องแย่งกันจอดกับลูกบ้านคนอื่นๆ ถ้าที่จอดรถไม่พอขึ้นมาจริงๆ อันนี้มีปัญหาตามมาแน่ๆ พิจารณากันให้ดีๆ นะครับ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีระบบ CCTV ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ รวมถึง Digital Door Locked ที่มีให้ทุกห้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ ไม่มากไม่น้อยไปจัดว่าแค่เพียงพอต่อการใช้งานขั้นพื้นฐานครับ รูปร่างหน้าตาของอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โมเดลจำลองของโครงการครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้น 5 ครับ สวนลอยฟ้าที่กระจายกันอยู่ตามชั้นต่างๆ สวนสีเขียวด้านหน้าโครงการ เราเปลี่ยนมาดูรอบๆ โครงการกันบ้างนะครับ ฝั่งตรงข้ามจะเห็นสำนักงานขายของโครงการ Bangkok Horizon ของ CMC ตั้งอยู่ด้วยนะครับ ซึ่งโครงการนี้เป็นคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น ความสูงจะพอๆ กับ Amber เลยนะครับ เดินเลยที่ตั้งโครงการมาอีกหน่อย ก็จะมี Family Mart ให้ได้ฝากท้องกันด้วยนะครับ ตั้งอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้านี่เลย ที่ติดกับ Family Mart ก็จะเป็นทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าครับ มีพี่วินไว้ให้บริการด้วยนะครับ เผื่อใครขี้เกียจขับรถไปซื้อของที่บิ๊กซี พาชมห้องตัวอย่าง คอนโด ติวานนท์ Amber By Eastern Star มีห้องให้เลือกด้วยกัน 2 แบบครับ คือ ห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33-37 ตร.ม. และห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่ขนาดพื้นที่ 55-76 ตร.ม. จุดเด่นของห้องที่นี่คือ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร รวมถึงทิศทางของตึกที่วางตัวตามลักษณะที่ดิน ทำให้ห้องส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ และได้วิวมุมสูงที่ค่อนข้างเต็มตาเลยทีเดียว เราไปดูห้องตัวอย่างในสำนักงานขายกันเลยดีกว่า เริ่มด้วยห้อง Type A4 ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ของครัวที่อยู่หลังประตูห้องก่อนเลย Pantry ครัวจะอยู่ทางด้านขวามือ เปิดครัวเปิดเล็กๆ ที่เหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าการทำครัวแบบจริงจัง ไม่อย่างนั้น กลิ่นกับข้าวคงได้กระจายไปทั่วห้อง ถัดจากครัวเข้ามาก็เป็นพื้นที่นั่งเล่น มุมนี้เอาไว้นั่งดูทีวีสบายๆ ในระยะที่กำลังพอดีสำหรับทีวีขนาดไม่เกิน 42 นิ้ว เพราะระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีมีไม่มากนัก ส่วนพื้นที่ติดหน้าต่างที่เป็นส่วนพิเศษหน่อย เนื่องจากเป็นกระจกเข้ามุมทำให้เปิดรับแสงและวิวได้มากขึ้น มุมนี้สามารถวาง Day Bed ซักตัว หรือจะจัดเป็นมุมนั่งทำงานก็ได้อีกเช่นกัน  ส่วนอีกด้านของห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัว พื้นที่ในห้องนอนค่อนข้างแคบนะครับ วางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เหลือที่ปลายเตียงอีกนิดเดียวจนแทบจะเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หน้าห้องน้ำจัดเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้  ส่วนในห้องน้ำก็จัดแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกไว้เรียบร้อยด้วยกระจกเทมเปอร์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปครับ ไม่ได้หรูหราอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ข้อเสียสำคัญของห้อง Type นี้ก็คือ ไม่มีระเบียง!! ในขณะที่ในห้องเตรียมตำแหน่งติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้แล้วที่เคาน์เตอร์ครัว ซึ่งผมยังนึกไม่ออกว่าซักผ้าเสร็จแล้วจะเอาผ้าไปตากที่ไหน   เราไปดูห้อง Type B 2 ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างดีกว่า เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ครัว และห้องนั่งเล่นแทบไม่ต่างกับห้องแบบแรกเลยทีเดียว  แต่ห้อง Type นี้มีระเบียงนะครับ อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นพอดี ถึงพื้นที่ระเบียงจะไม่ได้กว้างมาก แต่ก็พอจะวางเครื่องซักผ้าได้พอดี ซึ่งทางโครงการก็ทำระแนงเหล็กบังตาไว้ให้เรียบร้อย  ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้อยู่เหนือเครื่องซักผ้าได้พอดี ถัดเข้ามาที่โซนด้านในซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องนอน เราจะเจอกับห้องนอนเล็กก่อนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ พื้นที่ของห้องนอนเล็กก็เล็กสมชื่อ ลักษณะห้องออกไปในแนวยาว วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็มีที่ให้ตกแต่งได้อีกนิดหน่อย ในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งห้องนี้ให้เป็นห้องทำงาน และมุมพักผ่อนเพิ่มเติม โดยผนังห้องส่วนหนึ่งเป็นกระจกใส และไม่มีบานประตู จึงให้ความรู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น แต่ของจริงผนังจะเป็นผนังปูนตามปกตินะครับ ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว  พื้นที่ในห้องนอนก็กว้างขึ้นเล็กน้อย แต่ก็แทบจะไม่รู้สึกเท่าไรนัก เพราะมีเหลี่ยมมุมของเสาอาคารที่จำกัดพื้นที่การตกแต่ง พอวางเตียงลงไปแล้ว ปลายเตียงก็เหลือที่ว่างแค่พอให้เดินได้เท่านั้น จะว่างชั้นเก็บของ หรือจะตกแต่งอะไรเพิ่มเติมก็ทำได้ยาก อย่างมากก็ทำได้แค่แขวนทีวีอีกเครื่องเท่านั้น เอาเป็นว่าพื้นที่โดยรวมแค่พอใช้งานได้เท่านั้นนะครับ ถ้ามีสมบัติเยอะเข้าขั้นนักสะสมคงไม่มีที่ให้เก็บของแน่ๆ   จากที่ได้ชมห้องตัวอย่างมาก ต้องบอกว่าการออกแบบภายในยังขาดๆ เกินๆ อยู่ การตกแต่งห้องให้ลงตัวคงทำได้ยากซักหน่อย ที่สำคัญทางโครงการก็ขายห้องมาให้แบบห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตามแบบห้องตัวอย่างแถมมาให้ด้วย จะมีก็แค่ ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้นที่ได้มาพร้อมห้อง ซึ่งวัสดุที่ทางโครงการเลือกมานั้นค่อนข้างธรรมดามากเมื่อเทียบกับห้องในระดับนี้ และภาพความหรูหราที่คาดหวังเอาไว้จากที่ได้เห็นรูปแบบอาคารก็ถูกลดทอนลงไปมากเลยทีเดียว เรามาเริ่มกันที่ Type A แบบ 1 ห้องนอนกันก่อนนะครับ เมื่อเปิดประตุเข้ามาแล้ว จะเจอส่วนของครัวก่อนเลย จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ เหมาะกับการเตรียมอาหารมากกว่าการทำทานเอง เคาน์เตอร์ครัวจะค่อนข้างจะเล็กนะครับ อย่างที่บอกว่าเหมาะสำหรับการเตรียมอาหารมากกว่า เพราะไม่มีเตาไฟฟ้า และฮูดดูดควันให้ด้วย มีช่องวางเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างนะครับ อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านครับ ส่วนถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีไม่มากนะครับ วางทีวีขนาดไม่เกิน 42 นิ้ว กำลังดีครับ มองมุมกลับออกมาหน้าห้องนะครับ เรามาดูที่ห้องนอนกันบ้างนะครับ ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังพอดีนะครับ จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินนิดหน่อย ส่วนทีวีต้องแขวนผนังเหมือนห้องตัวอย่างแทนครับ ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard ส่วนอาบน้ำจะแยกเป็นสัดส่วนมีนะครับ กระจกเทมเปอร์กั้นส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ชุดฝักบัวที่ได้ครับ มาดูแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างนะครับ เปิดเข้ามาก็จะเจอครัวอีกเหมือนกันครับ จะคล้ายๆ กับ Type A แต่จะไม่มีช่องใส่เครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างแล้วนะครับ โต๊ะทานอาหารก็จะมาอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเลย ตู้เย็นจะวางอยู่ติดผนังเดียวกันกับประตูห้องเลยนะครับ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area ส่วน Living Area จะอยู่ติดกับระเบียงเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีจะพอๆ กับห้อง Type A เลยครับ ส่วนของระเบียงจะกว้างประมาณนี้นะครับ ด้านซ้ายของระเบียงจะเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า คอมเพรสเซอร์แอร์จะวางอยู่เหนือเครื่องซักผ้านี่แหละครับ เรามาดูที่ห้องนอนเล็กกันต่อนะครับ ผนังด้านหน้าห้องจะทำเป็นกระจกเข้ามุม มองออกมาก็จะเห็นส่วนครัวที่อยู่หน้าห้อง แต่ห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังปูนปกตินะครับ ดูข้างในแล้วก็เล็กสมชื่อจริงๆ ครับ วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็น่าจะพอแล้วนะครับ จะได้มีที่ว่างให้วางอย่างอื่นด้วย แต่ห้องตัวอย่างที่ตกแต่งให้ดู ออกจะเป็นแนวห้องทำงานมากกว่านะครับ ห้องน้ำด้านนอกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กนะครับ การวางสุขภัณฑ์จะคล้ายๆ กับห้อง Type A เลยครับ เดินเลยเข้ามาดูที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้ใหญ่เหมือนชื่อเท่าไหร่นะครับ วางเตียง 5 ฟุต กำลังเหมาะครับ มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้เดินได้นิดหน่อย ทีวีก็คงต้องแขวนผนังเอานะครับ เพราะไม่มีที่เหลือพอให้วาง Sideboard หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix นะครับ ข้างเตียงจะมีที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้นะครับ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้องนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องน้ำเลยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็จะใช้ของ American Standard เหมือนกับห้อง Type A ครับ ส่วนเปียกก็จะแยกเป็นสัดส่วน มีบานกระจกเทมเปอร์กั้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ความคุ้มค่าน่าลงทุน ของคอนโด ติวานนท์ ถึงแม้ตัวโครงการ Amber By Eastern Star จะมีความน่าสนใจอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเลย แต่ด้วยขนาดห้องเริ่มต้นที่ค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้ราคาห้องสูงตามไปด้วย ซึ่งในแง่ของการลงทุนจึงทำให้ผู้ลงทุนมีต้นทุนสูงกว่าการลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน กว่าจะเกิด Upside Gain ก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะลงทุนห้องเพื่อขายต่อ หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่าคงเหนื่อยหน่อย เพราะการปล่อยห้องเช่า ถ้าเปรียบเทียบกับห้องในโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียงก็ไม่ค่อยจะคุ้มค่าการลงทุนเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมองห้องเอาไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง ห้องของ Amber ก็จะได้เปรียบเรื่องขนาดห้องที่ใหญ่กว่าทำให้อยู่สบายกว่า แถมบรรยากาศของโครงการก็ดูสงบ ร่มรื่นดี รวมถึงอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ใกล้สาธารณูปโภคต่างๆ อีกด้วย คนที่ทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว และกำลังมองหาที่อยู่ใหม่ ที่นี่ก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าเก็บไว้พิจารณานะครับ โครงการคอนโดอื่นๆ ที่น่าสนใจ นิช โมโน ติวานนท์ The Politan Rive ยู ดีไลท์ @ บางซ่อน สเตชั่น
Supalai Vista แยกติวานนท์ : รีวิวคอนโด

Supalai Vista แยกติวานนท์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Supalai Vista แยกติวานนท์ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้นประมาณ 1,700,000 บาท บาท/ตารางเมตร 52,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จุดเด่น ใช้ชีวิตกลางเมืองท่ามกลางธรรมชาติอย่างอิสระ ด้วยการใช้โทนสีเขียวเทาผ่านเส้น โค้งแบบอิสระในการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับสวนพักผ่อนหย่อนใจ ในแบบ Modern Style ให้ความรู้สึกสบาย ไม่แออัด เพราะมีเพียง 1 อาคาร สูง 34 ชั้น บนพื้นที่เปิดโล่งกว่า 66% โดดเด่นเหนือใครด้วยนวัตกรรม Smart Design ที่คำนึง ถึงการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียดไม่ว่าจะ เป็นการกั้นห้องครัวเป็นสัดส่วนเพื่อช่วยให้ระบายกลิ่นควันได้ดีเยี่ยม การออกแบบให้ห้องน้ำ สามารถรับแสงแดดและลมจากภายนอกช่วยให้ไม่อับชื้น และใช้กระจกสีเขียวตัดแสงเพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวห้อง ให้ความสำคัญกับ ระบบ หมุนเวียนอากาศ โดยจัดวางแนวอาคารเป็นผังรูปตัว L เพื่อรับลมตะวันตกเฉียงใต้ และลมตะวันออกเฉียงเหนือ ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2558 ที่ตั้ง: Supalai Vista แยกติวานนท์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3-0-17.7 ไร่ ที่ตั้ง ถนนกรุงเทพ-นนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พิกัดโครงการ ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ส่วนต่อขยาย สถานีแยกติวานนท์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี ตินานนท์ ประมาณ 20 เมตร กระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 750 เมตร ห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ประมาณ 2.5 กม. ห้างสรรพสินค้าโลตัส รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 2.5 กม. ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ประมาณ 3.3 กม. โรงพยาบาลเกษมราฎร์ ประชาชื่น ประมาณ 4.1 กม. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 4.2 กม. ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ประมาณ 4.5 กม.   ลักษณะโครงการ: Supalai Vista แยกติวานนท์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี ขนาด 33.50 – 81.50 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 34 ชั้น จำนวนห้อง ุ646 ยูนิต/ร้านค้า 6 ยูนิต ส่วนกลาง: Supalai Vista แยกติวานนท์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 60% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 32 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) N/A   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ สระเด็ก ขนาด 3.9×3.2 เมตร ซาวน่า Sky Lounge Roof Garden บนชั้น 34   เพิ่มเติม: Supalai Vista แยกติวานนท์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1720 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.supalai.com/ ข้อมูล ณ วันที่
The Tree Elegance Tiwanon : รีวิวคอนโด

The Tree Elegance Tiwanon : รีวิวคอนโด

สวัสดีค้าบบบ..รีวิวฉบับนี้ผมจะพาไปดูโครงการ The Tree Elegance Tiwanon คอนโดใหม่จากพฤกษา บนถนนประชาราษฏร์ ที่ตั้งอยู่บนที่ดินเก่าของโรงหนังนครนนท์รามา โรงหนังเก่าแก่ในย่านนี้ ทำเลในย่านนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้แล้ว การเดินทาง ด้วยการที่ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์ ใกล้กับแยกติวานนท์ มีถนนหลายสายตัดผ่าน ทำให้เรื่องการเดินทางสามารถเลือกได้หลายเส้นทางเลยนะครับ ทั้งถนนติวานนท์ มาจากทางปากเกร็ด ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี จากทางวงศ์สว่าง-บางซื่อ หรือจะข้ามสะพานพระราม 5 มาลงถนนนครอินทร์ หรือจะเป็นถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และถนนพิบูลสงครามก็ใช้ได้เหมือนกัน เส้นทางแรก เราใช้ถนนติวานนท์มาจากทางปากเกร็ด ขับตรงตามถนนติวานนท์มาเรื่อยๆ ผ่านแยกแคราย ก่อนจะผ่านสถานี MRT กระทรวงสาธารณสุข มาเลี้ยวขวาที่แยกติวานนท์ เข้าสู่ถนนประชาราษฏร์ จากแยกติวานนท์มาประมาณ 800 เมตร ก็ถึงโครงการแล้วครับ ขอเริ่มจากบริเวณถนนติวานนท์ ก่อนถึงกระทรวงสาธารณสุขเลยนะครับ เราตรงมาตามถนนติวานนท์เรื่อยๆ จนเริ่มจะเห็นรางรถไฟฟ้าอยู่ด้านบนแล้ว ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นตัวสถานี MRT กระทรวงสาธารณสุข ด้านซ้ายมือจะเห็นทางเข้ากระทรวงสาธารณสุข อยู่ติดกับตัวสถานีเลยครับ ต่อไปข้าราชการที่ทำงานในกระทรวงฯ จะเดินทางกันได้สะดวกมากขึ้น เลยจากกระทรวงสาธารณสุขมานิดเดียว จะเห็นสะพานข้ามแยกติวานนท์ ให้ชิดซ้ายไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ มองไปทางขาวมือจะเห็นบิ๊กซี ติวานนท์แอบอยู่ จากนั้นเราก็มาเลี้ยวขวาที่แยกติวานนท์ เลี้ยวขวามาเราก็เข้าสู่ถนนประชาราษฏร์แล้วล่ะครับ เลยแยกมานิดหน่อยจะเห็นทางเข้าบิ๊กซี บรรยากาศบนถนนประชาราษฏร์เป็นถนน 4 เลน แต่ใช้งานจริงๆ ได้แค่ 2 เลน เพราะจะเห็นว่าเลนซ้ายสุดของทั้ง 2 ฝั่งกลายเป็นที่จอดรถไปเรียบร้อย จากแยกติวานนท์มาประมาณ 800 เมตร ก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ ตั้งอยู่ด้านขวามือ สังเกตเห็นได้ไม่ยากครับ เส้นทางที่ 2 เราใช้ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี มาจากทางบางซื่อ วิ่งตามถนนกรุงเทพ-นนทบุรี มาเรื่อยๆ ผ่านแยกวงศ์สว่าง ผ่านสถานี MRT แยกติวานนท์ จากนั้นตรงผ่านแยกติวานนท์ เข้าถนนประชาราษฏร์ ด้านถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เราเริ่มใกล้ๆ กันเลยนะครับ ที่สถานี MRT แยกติวานนท์ เส้นนี้เดินทางง่ายครับ ตรงอย่างเดียว เลยมาอีกนิดเดียวก็เป็นแยกกติวานนท์ เราตรงผ่านแยกไปก็จะเข้าประชาราษฏร์แล้วครับ อีกหนึ่งเส้นทาง เราใช้ถนนพิบูลสงคราม มาจากถนนนครอินทร์ ข้ามสะพานพระราม 5 ตรงนี้สามารถเลือกไปได้ 2 ทางนะครับ จะตรงไปตามถนนนครอินทร์แล้วค่อยไปเลี้ยวซ้ายที่แยกติวานนท์ก็ได้ หรือจะลงที่ถนนพิบูลสงคราม แล้วค่อยมาเลี้ยวขวาตรงตลาดนนทบุรี เข้าถนนประราษฏร์ก็ได้เหมือนกัน ด้านถนนพิบูลสงครามขอเริ่มจากบริเวณตลาดนนทบุรีเลยนะครับ ตลาดนนทุบรีถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ ของกิน ของใช้ เพียบ!! ขับมาเรื่อยๆ เรามาเลี้ยวขวาที่สามแยก เพื่อเข้าถนนประชาราษฏร์ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางท่าน้ำนนทบุรี จากนั้นตรงยาวไปเลยครับ เลยมาอีกจะมีอีกแยกเป็นแยก อ.ต.ก. ตลาดสด ถนนประชาราษฏร์ตัดกับถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี จากสี่แยก อ.ต.ก. ตลาดสด ไปอีกประมาณ 350 เมตร ก็ถึงโครงการอยู่ด้านซ้ายมือแล้วครับ ส่วนใครที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะปลายปีนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงก็จะเปิดให้บริการแล้ว สถานีที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการอีก 2 สถานีให้เลือก คือสถานีแยกติวานนท์ ห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กม. และสถานีกระทรวงสาธารณสุข ห่างจากโครงการประมาณ 1.4 กม. แม้จะไม่ใช่ระยะทางที่เดินได้สบายๆ แต่ถนนประชาราษฎร์หน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งให้บริการเยอะพอสมควร ทั้งวินอมเตอร์ไซค์ รถสองแถว รถเมถ์สายต่างๆ หรือแม้แต่รถสามล้อถีบ ก็ยังมีให้บริการ หรือถ้าใครสะดวกเดินทาง ทางน้ำ นั่งเรือมาลงท่าน้ำนนทบุรี ต่อรถสองแถวอีกนิดเดียว ก็สะดวกไปอีกแบบนะครับ ถือว่าการเดินทางในย่านนี้ค่อยข้างสะดวกดีทีเดียวนะครับ ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ที่มีถนนให้เลือกหลายสาย และการเดินทางด้วยระบบสาธารณะ ทั้งทางบก และทางน้ำ ยิ่งเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกให้มากขึ้นไปอีก วิเคราะห์รอบโครงการ โครงการ The Tree Elegance ติวานนท์ ตั้งอยู่ติดถนนประชาราษฎร์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่ และอยู่ห่างจากแยกติวานนท์ไม่มากนัก เพราะเดินจากหน้าโครงการออกไปเพียงแค่ 700 เมตร ก็เจอห้าง Big C ติวานนท์แล้ว ที่สำคัญทำเลในย่านนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยที่พักอาศัยที่อยู่กันมานานแล้ว อาคารพาณิชย์ ร้านค้าต่างๆ จึงเรียงรายไปตลอดถนนทั้งสาย เรียกได้ว่าเกือบทุกประเภทกิจการ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชห่วย ร้านขายอะไหล่ยนต์ ร้านแบตเตอรี่ ศูนย์รถยนต์ ฯลฯ ยิ่งถ้าเลยไปทางท่าน้ำนนท์ ก็จะยิ่งพบกับความอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายสำคัญของย่านนี้ เพราะมีทั้งตลาดสด ร้านขายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินนี่มีร้านดังๆ เพียบเลยครับ ได้ข่าวว่าถ้าจะชิมให้ครบคงต้องใช้เวลากันนานเลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการที่จะช็อปปิ้งในห้างใหญ่ๆ ก็ต้องออกไปทางงามวงศ์วาน ไม่ก็ทางรัตนาธิเบศร์ ซึ่งก็มีทั้ง The Mall, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า, Tesco Lotus, เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และ Esplanade รอบๆ โครงการจะเป็นตึกแถวเก่าๆ ส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านขายแบตเตอรี่ และมีร้านขายอาหารบ้างประปราย อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ จะมีเซเว่น และร้านขายอาหาร เท่าที่เห็นมีธนาคารอยู่ 2 เจ้าบนถนนเส้นนี้ คือธนาคารกรุงเทพ อยู่เลยจากโครงการไปทางท่าน้ำนนท์ และธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ก่อนถึงบิ๊กซี บิ๊กซีอยู่ห่างจากโครงการมาประมาณ 700 เมตร มีรถสองแถว รถเมถ์ หลายสายไว้คอยให้บริการ สำหรับใครที่เคยชินกับการอาศัยอยู่ท่ามกลางชุมชน ทำเลของโครงการ The Tree Elegance ติวานนท์ คงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ เพราะนอกจากเรื่องแหล่งอาหารการกินแล้ว บริเวณใกล้ๆ โครงการก็ยังมีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล วัด หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ทำให้องค์ประกอบสำหรับการอยู่อาศัยครบถ้วนสมบูรณ์ดีทีเดียว การเดินทางก็สะดวก และทำได้หลายทางอย่างที่กล่าวไปแล้วในหัวข้อการเดินทางข้างต้น ทีนี้เรามาดูรอบๆ ที่ตั้งโครงการกันบ้างครับ ที่ดินของโครงการมีลักษณะลึกเข้าไปด้านใน ด้านหน้าขนาบข้างด้วยอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น ซ้ายขวาของที่ดินมีอาคารหอพักอยู่ทางด้านตะวันออก ส่วนด้านที่เหลือเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ผลกระทบเรื่องวิวจากห้องพักเท่าไหร่ เพราะห้องพักอาศัยของ The Tree Elegance เริ่มต้นกันตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป เลยพ้นระยะเรื่องถูกตึกข้างๆ บังวิวไปเรียบร้อยครับ และในปัจจุบันพื้นที่ใกล้ๆ โครงการก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีคอนโด High Rise หรือตึกอื่นๆ จะขึ้นมาบังวิว การเลือกตำแหน่งห้องพักจึงตัดกังวลไปได้บ้าง ส่วนใครที่เน้นเรื่องวิวสวย ห้องพักทางทิศตะวันตกซึ่งหันไปทางท่าน้ำนนท์ ถ้าเลือกชั้นสูงๆ หน่อยก็จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ชัดเจน ในขณะที่ทางฝั่งตะวันออกจะเป็น City View ครับ เรื่อง Facility ทางโครงการก็จัดมาให้เต็มที่เลยครับ เริ่มกันตั้งแต่ชั้น 1 ซึ่งนอกจากล็อบบี้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor แล้ว ก็ยังมีห้องประชุม สวนหย่อม รวมถึงที่จอดจักรยานด้วย ส่วนที่ชั้น 8 ก็จะมีสวนขนาดใหญ่ไว้สำหรับพักผ่อน มุมอ่านหนังสือ สนามเด็กเล่น และลานโยคะ ในขณะที่ชั้นที่ 40-42 จะเป็นศูนย์รวม Facility หลักของโครงการ ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือ แบบ Infinity Edge Pool พร้อมสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ใช้พื้นที่มากขึ้น 2 ชั้น นอกจากนี้ยังมี Jogging Track, Pool Room และ Sky Lounge ไว้ชมวิวจากมุมสูงได้อีกด้วย และจากข้อมูลที่ได้มาทำให้เราทราบว่า เดิมทีที่ดินของโครงการเคยเป็นโรงหนังมาก่อน ดังนั้นทางโครงการจึงพยายามคงบรรยากาศของความเป็น Entertainment Center ไว้ด้วยการเพิ่มห้องดูหนัง ห้องคาราโอเกะ และพื้นที่จัดปาร์ตี้ไว้ให้ลูกบ้านได้ใช้สอยกันอย่างเต็มที่ครับ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของที่ระบบรักษาความปลอดภัย ที่เป็นไปตามมาตรฐานทั้ง รปภ. CCTV 24 ชั่วโมง และการเข้าออกอาคารด้วยระบบ Key Card ล็อคชั้น ลิฟท์โดยสารทั้งหมด 5 ตัว และลิฟท์ขนของแยกให้อีก 1 ตัว ในขณะเดียวกันพื้นที่จอดรถก็จัดสรรไว้ให้ตั้งแต่ชั้น 1-7 ซึ่งนับรวมแล้วก็มาถึง 410 คันเลยทีเดียว (ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับโครงการระดับนี้ครับ แบบจำลองโครงการ เป็นอาคารสูง 42 ชั้น Master Plan ของโครงการ ที่ชั้น G จะเป็น Lobby มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor อีกส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถ ทางเข้า-ออกโครงการ ใช้ทางเดียว บรรยากาศ Lobby ที่ชั้น G ด้านข้างโครงการมี Drop off เล็กๆ ไว้จอดรถรับ-ส่ง ให้บรรยากาศเหมือนโรงหนังเก่า ด้านหน้าโครงการยังคงความเป็นโรงหนังเก่า โดยมีพื้นที่เล็กๆ ทำเป็นห้องดูหนัง และห้องคาราโอเกะ ไว้ให้ความบันเทิงกับลูกบ้าน ที่จอดรถจักรยาน ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 8 เลยนะครับ เพราะชั้น 1-7 จะถูกใช้เป็นที่จอดรถทั้งหมด และมีส่วนหนึ่งถูกแบ่งไปทำเป็นสวนสีเขียว เป็นมุมพักผ่อนให้ลูกบ้าน ภาพจากโมเดลจำลองของสวนบนชั้น 8 ตั้งแต่ชั้น 11 ขึ้นเป็นจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ถึงชั้น 40 จะเริ่มมีส่วนหนึ่งเป็น Facility ชั้น 41 จะเป็น Facility เต็มรูปแบบ ทั้งสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก Jogging Track Pool Room และ Duplex Gym ที่กินพื้นที่ขึ้นไปถึงชั้น 42 บรรยากาศภายในฟิตเนส แบบจำลอง Duplex Gym บนชั้น 41-42 สระว่ายน้ำแนวยาวบนชั้น 41 บรรยากาศของ Jogging Track ให้ลูกบ้านได้วิ่งออกกำลังกาย ชั้น 42 จะเป็นชั้นบนสุด จะมีฟิตเนสส่วนหนึ่งที่กินพื้นที่ขึ้นมาจากชั้น 41 และอีกส่วนหนึ่งเป็น Sky Lounge เป็นมุมพักผ่อน รับวิวจากชั้นสูงสุดของโครงการ Sky Lounge บนชั้น 42 พาชมห้องตัวอย่าง สำหรับโครงการ The Tree Elegance ติวานนท์ จะมีความแตกต่างจากแบรนด์ The Tree โครงการอื่นๆ อยู่บ้าง เพราะด้วย Concept การออกแบบที่ต้องการสะท้อนความหรูหรา และความคลาสสิคของย่านนนทบุรี จึงมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของนนทบุรีเข้ามาให้เห็นรูปแบบการตกแต่งอาคารด้วย ในขณะที่ภายในห้องพักก็ยังคงเน้นความเรียบหรู อยู่สบาย แน่นอนว่าเราเก็บภาพบรรยากาศภายในห้องตัวอย่างมาให้ได้ชมกันด้วย ซึ่งทางโครงการก็จัดเตรียมห้องตัวอย่างไว้ให้ชมถึง 3 แบบด้วยกัน โดยเริ่มกันที่ห้องแบบ Studio ขนาด 22-23 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24-29 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 48 ตร.ม. ซึ่งห้องทั้งหมดภายใต้แบรนด์ The Tree จะขายกันมาแบบห้องโล่งๆ มีเพียงวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานเท่านั้นมีให้มาพร้อมห้อง ส่วนอื่นๆ ที่เหลือลูกบ้านจะต้องตกแต่งเพิ่มเติมกันเอาเองครับ แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร เข้ามาในห้องจะเป็นส่วน Living Area ก่อนเลยครับ พื้นที่ในส่วนของ Living Area ได้ขนาดพอเหมาะ ระยะห่างระหว่างทีวี กับโซฟา ไม่แคบจนเกินไป จุดที่วางโซฟา สามารถเลือกวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งกำลังดีครับ ให้เหลือพื้นที่สักหน่อย ถ้าวางโซฟาเต็มพื้นที่จะดูอึดอัดไปหน่อย ถัดจาก Living Area เข้ามาจะเป็นส่วนของห้องนอน วางเตียง 5 ฟุตกำลังดีครับ มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือนิดหน่อย ระหว่างห้องนอนกับ Living Area จะกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบานเลื่อน 2 บาน ด้านปลายเตียงจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง จากห้องนอนมองตรงไปจะเป็นส่วนครัว และห้องน้ำ พื้นที่ส่วนครัวที่ให้มาประมาณนี้นะครับ Built in เคาน์เตอร์ครัวเข้าไปแล้ว ก็เหลือพื้นที่อยู่พอสมควร ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุด ติดกับครัว ระเบียงจะอยู่ติดกับครัว จุดที่วางเครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์ จะอยู่ที่ระเบียงนี่แหละครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะได้ของ American Standard อ่างล้างหน้าทรงสี่แหละ ในส่วนเปียก ห้องจริงจะไม่มีกระจกกั้นให้นะครับ ชุดฝักบัวก็เป็นของ American Standard เหมือนกัน แบบต่อมาเป็นแบบ 1 ห้องนอน เหมือนกันครับ แต่ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยเป็น 27.5 ตารางเมตร ห้อง Type นี้จะจัด Layout เป็นสัดส่วนมากขึ้น ห้องนอนจะแยกออกมาชัดเจน เมื่อเข้ามาให้ห้องแล้วจะเป็นส่วน Living Area ก่อนเหมือนเดิมครับ พื้นที่จะกว้างขวางขึ้นพอสมควร ระยะห่างของทีวีกับโซฟาก็มากขึ้น วางทีวีจอใหญ่สะใจได้เลยครับ สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งแบบ L-Shape ได้สบายๆ จาก Living Area เข้าไปด้านใน จะแบ่งเป็น 2 ห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนอน ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องครัว ห้องครัวจะเป็นแบบปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดของครัวจะใกล้เคียงกับห้อง Type ก่อนหน้านี้เลยนะครับ แต่จุดวางตู้เย็นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว ระเบียงจะอยู่ติดกับครัวเหมือนกันครับ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ขนาดของระเบียงจะได้ประมาณนี้ จุดที่วางเครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์ จะอยู่ที่ระเบียงเหมือนเดิม ออกมาครัวมาดูที่ห้องนอนกันต่อ ห้องนอนจะกว้างขึ้นกว่าเดิมอยู่สักหน่อยนะครับ วางเตียง 5-6 ฟุต ได้ตามใจชอบเลยครับ หน้าต่างในห้องนอนก็จะเหมือนเดิมนะครับ เป็นบานเลื่อน 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fix ปลายเตียงจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า ข้างเตียงอีกด้าน จะมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะเครื่องแป้งอยู่หน้าห้องน้ำ การจัดวางและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็จะเหมือนๆ กันนะครับ สุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48.5 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นโถงยาว มองตรงไปจะเป็น Living Area อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ด้านซ้ายสุดจะเป็นห้องน้ำ อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่ ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องนอนเล็ก อยู่ติดกับครัว เราตรงมาดูที่ Living Area กันก่อน พื้นที่ที่ให้มาค่อนข้างเล็กไปสักหน่อยสำหรับห้อง Type 2 ห้องนอน พื้นที่บังคับให้วางโซฟา 3 ที่นั่ง เพราะถ้ายาวกว่านี้โซฟาจะเลยผนังออกมา ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area พื้นที่ระเบียงจะยาวกว่า Type 1 ห้องนอน คอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่ด้านบน หันหน้าออกนอกระเบียง จาก Living Area มองไปทางขวาจะมีโต๊ะทานอาหารตั้งอยู่หน้าห้อง ก่อนเข้าไปที่ห้องนอนเล็กและห้องครัว ที่อยู่ด้านในสุด พื้นที่ที่ให้มาสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่านได้เลย พื้นที่ครัวที่ให้มาจะมาสามารถเลือก Built in เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ก็ได้ครับ มีหน้าต่างเล็กๆ ให้ด้วย ขยับมาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องครัว วางเตียง 5 ฟุต กำลังดีครับ ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้ ถ้าอยากมีทีวีในห้อง ก็สามารถติดทีวีแบบแขวนได้ครับ ส่วนหน้าต่างก็ได้เหมือนเดิมครับ ข้างเตียงอีกด้านเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า ออกจากห้องนอนเล็กมา เราไปดูห้องน้ำกับห้องนอนใหญ่กันต่อ หน้าห้องน้ำโครงการทำเป็นโต๊ะทำงานไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ภายในห้องน้ำการจัดวางกับสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กับห้อง Type 1 ห้องนอน ส่วนในห้องนอนใหญ่ ขนาดที่ได้ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ วางเตียง 5-6 ฟุต ได้ตามใจชอบ ปลายเตียงต้องใช้ทีวีแบบแหวนผนังแทนนะครับ ไม่มีที่เหลือพอให้ Built in ชั้นวางทีวี อีกด้านจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า ภาพมุมกว้างของห้องนอนใหญ่