ครั้งนี้เราจะพาไปชมโครงการในย่านสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งกันอีกครั้ง แต่ย้อนมาทางซอยลาซาล หรือซอยสุขุมวิท 105 กันบ้าง อีกทำเลที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไม่มากไม่น้อยกับโครงการชื่อ The Excel Bearing ถึงชื่อจะอยู่แบริ่ง แต่อย่าเพิ่งสับสนนะครับ ยังไงก็ตามไปดูรายละเอียดกันก่อนดีกว่า การเดินทาง ถ้าพูดถึงทำเลในย่านนี้ อย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ถือว่าเป็นทางเลือกที่สะดวกมากๆ เนื่องจากเลี่ยงปัญหารถติดได้ดี ถ้าจะเดินทางมายังตัวโครงการสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีแบริ่ง แล้วเลือกลงที่ทางออกหมายเลข 1 เดินย้อนมาทางซอยสุขุมวิท 105 อีกเล็กน้อยครับ แล้วจะเลือกต่อ Shutter Bus ของทางโครงการก็สามารถไปขึ้นได้ที่หน้า 7-11 ซึ่งอยู่ปากซอยได้เลย หรือจะเลือกนั่งรถมอไซค์รับจ้างเข้าไปก็สะดวกดีเหมือนกัน ตัวโครงการตั้งอยู่ที่ซอยลาซาล 11 ซึ่งห่างจากตัวสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 900 เมตร เป็นระยะที่เดินกันเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าชอบเดินและอยากออกกำลังกายกันเล็กๆ ก็เดินได้เพลินๆ ครับ เพราะเส้นทางในซอยมีร้านค้า ร้านอาหารเยอะเลย อาจจะช่วยทำให้ลืมเรื่องระยะทางที่ต้องเดินไปได้ แต่ถ้ากลับบ้านมาดึกๆ ไม่แนะนำให้เดินนะครับ ถนนในซอยเปลี่ยวเลยทีเดียว ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน การเข้าออกเมืองสามารถเลือกใช้เส้นทางด่วนด่านบางนาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้ รวมถึงเส้นทางวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ หรือข้ามสะพานอุตสาหกรรม ก็เป็นที่ทางเลือกที่ไม่เลวเลย นอกจากนี้เส้นทางปกติอย่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ก็ยังเป็นเส้นทางเดิมๆ ที่เราอาจต้องใช้อย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าจะต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสิ่งที่ต้องทำใจเผื่อไว้หน่อยก็คงเป็นเรื่องปัญหารถติดเท่านั้น ที่เหลือก็แค่จะเลือกใช้เส้นทางไหนก็เท่านั้นเองครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะในระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ คงต้องออกมาตั้งต้นกันที่ปากซอยลาซาล 11 เป็นอย่างน้อย แล้วค่อยเลือกต่อรถอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก เท่าที่เห็นก็น่าจะมีแค่รถสองแถว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือรถแท็กซี่เท่านั้น ถ้าจะนั่งรถเมล์ไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ก็ต้องออกมาขึ้นรถที่ปากซอยสุขุมวิท 105 เลยครับ ถนนหนทางแถวนี้มีรถผ่านหลายสาย จึงไม่น่าเป็นห่วงว่าจะต้องรอรถนาน ขอแค่รถไม่ติดอย่างเดียวเชื่อว่าไปไหนต่อไหนได้สบายดีทีเดียว แผนที่โครงการ The Excel Baering ทำเลโครงการ ตั้งอยู่ในซอยลาซาล 11 ถนนสุขุมวิท 105 จากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ขับมาทางบางเรื่อยๆ จนถึงบางนา จะเจอป้ายสมุทรปราการ ให้เบี่ยงออกทางซ้ายเพื่อขึ้นสะพานไปทางสมุทรปราการ เมื่อลงสะพานมาแล้ว จะเจอถนนสุขุมวิทขาออก มุ่งหน้าไปสำโรง ทางซ้ายมือจะเป็น BITEC บางนา ขับตรงไปตามถนนสุขุมวิท ผ่าน BTS สถานีบางนา ด้านซ้ายมือจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อผ่าน BTS บางนามาแล้วก่อนถึง BTS แบริ่งเล็กน้อย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาซาลหรือถนนสุขุมวิท 105 จะสังเกตว่า BTS สถานีแบริ่งอยู่ไม่ไกลจากปากซอยลาซาล เมื่อเข้ามาในซอยแล้ว จะเห็น CenterPoint อยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งติดกันสำนักงานขายของโครงการ CenterPoint Studio ที่ใช้ถ่ายทำรายการ The Voice Thailand เป็นจุดสังเกตอย่างเด่นชัดก่อนถึงสำนักงานขายโครงการ บรรยากาศภายในซอยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตึกแถว แต่ก็จะมีร้านขายอาหารเป็นช่วงๆ มาจนถึงซอยลาซาล 11 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยครับ หน้าปากซอยจะมี 7-11 และร้านขายอาหาร สังเกตุได้ง่ายครับ หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวนะครับ เพราะจากจุดนี้ ไปถึงรถไฟฟ้าก็ไกลอยู่พอสมควร เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาแล้วจะมีป้ายโฆษณาของโครงการติดอยู่ อย่าเข้าใจผิดนะครับตรงนี้ไม่ใช่ที่ตั้งของโครงการ ให้ขับตรงเข้าไปอีก ที่ตั้งโครงการจะอยู่เลยเข้ามาอีกหน่อย ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยแรก ตรงเข้ามาอีกนิดเดียวก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ ตอนที่เราไปโครงการกำลังเริ่มวางรากฐานของอาคาร วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการจริงๆ ตั้งอยู่สุดซอยลาซาล 11 ซึ่งทางโครงการโชว์จุดเด่นไว้ว่ามีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน และได้วิวสนามกอล์ฟสีเขียวสบายตาครับ ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องแลกกับการเข้าซอยไปลึกและไกลจากแหล่งความเจริญบริเวณปากซอยอยู่พอสมควรเลย ถ้าใครเคยผ่านมาทางซอยลาซาลอยู่บ้าง คงจะพอนึกภาพออกว่า บรรยากาศในซอยนี้ค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ปากซอยก็มี 7-11 แล้ว ถัดเข้ามาก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว และตลาดนัดซึ่งอยู่โซนต้นๆ ของซอย ถ้าลึกเข้าไปหน่อยก็ยังมีตลาดสด โรงเรียนอนุบาลไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติ ที่สำคัญบริเวณปากซอยลาซาล 11 ก็ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวแกง ร้านขายอาหารสำเร็จรูป และร้านสะดวกซื้ออีกหลายแบรนด์ อาจจะเพราะบริเวณนี้มีสำนักงานและบริษัทใหญ่ๆ อยู่ด้วย ผู้คนในซอยเลยคึกคักหน่อยครับ แต่ถ้าอยากจะจับจ่ายซื้อข้าวของเครื่องใช้เป็นเรื่องเป็นราวหน่อย ในรัศมีใกล้ๆ ก็ยังมีเซ็นทรัลบางนา, บิ๊กซี, เมกะบางนา ฯลฯ ให้พึ่งพาอาศัยได้ สำหรับตัวโครงการ The Excel เฟสที่เราไปดูนั้นเป็นเฟสที่ 2 นะครับ เฟสแรกอยู่ในซอยเดียวกันนี่แหละ แต่ค่อนมาทางปากซอยมากกว่าหน่อย ส่วนเฟสที่ 2 นี้เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มียูนิตรวมแค่ 60 ยูนิตเท่านั้น จัดว่าเป็นจำนวนที่กำลังพอเหมาะสำหรับคนที่รักความเป็นส่วนตัวมากหน่อย เพราะไม่มีเพื่อนบ้านหนาแน่นให้หงุดหงิดใจ แถมบริเวณรอบๆ ที่ตั้งโครงการก็ยังเป็นที่ดินเปล่า และบ้านเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ ด้านหลังโครงการก็ติดกับสนามกอล์ฟราชนาวีเพียงแค่ถนนในซอยกั้น ถ้าไม่เงียบหรือไม่เหมาะกับการพักผ่อนก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ตัวอาคารออกวางตามแนวที่ดินลึกเข้าไปด้านใน ทำให้จำนวนห้องที่เปิดรับวิวสนามกอล์ฟได้เต็มที่มีจำนวนจำกัด พื้นที่ชั้น 1 จัดสรรเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ สวนหย่อม และห้องฟิตเนสรวมกันอยู่ที่ชั้น 2 และชั้น 3 บางส่วน ตามรูปแบบคอนโด Low Rise ส่วนใหญ่ ตำแหน่งห้องของเฟสนี้ มีบางตำแหน่งที่อาจจะด้อยเรื่องวิวสนามกอล์ฟไปบ้าง เนื่องจากตำแหน่งห้องด้านที่ติดกับสนามกอล์ฟยื่นออกมาเล็กน้อย ทำให้ห้องเล็กซึ่งอยู่ติดกันโดนบังวิวไปเต็มๆ ถึงจะชดเชยมาให้ด้วยวิวสระว่ายน้ำ แต่ว่ายังไงก็ไม่เหมือนกันครับ เอาเป็นว่าถ้าเกิดเข้ามาดูที่โครงการเพราะหวังอยากได้ห้องที่มีวิวสนามกอล์ฟกว้างสีเขียวๆ สบายตาก็ต้องกัดฟันซื้อห้องใหญ่แถมต้องแย่งชิงกันนิดนึงเพราะห้องวิวดีๆ มีน้อยครับ เว้นแต่ว่าจะไม่ซีเรียสเรื่องวิวมากนัก ห้องตำแหน่งอื่นๆ ก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว ยังไงบริเวณรอบๆ ก็เป็นบ้านเดี่ยวอยู่แล้วไม่มีตึกสูงๆ ขึ้นมาบังตาแน่นอน แบบจำลองโครงการครับ เป็นอาคาร Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร สระว่ายน้ำและฟิตเนส จะอยู่ที่ชั้น 2 เริ่มต้นกันที่ชั้น G นะครับ ที่จอดรถทั้งหมดของโครงการจะอยู่ที่ชั้น ซึ่งจะจอดได้ 23 คันในช่องจอด หากรวมจอดซ้อนคันแล้วจะได้ประมาณ 29 คัน ถัดมาที่ชั้น 2 Facility หลักอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส จะอยู่ที่ชั้น 2 ครับ และมีห้องพักอาศัยอยู่อีก 7 ยูนิต ตั้งแต่ชั้น 3-7 รูปแบบแปลนจะเหมือนกันครับ คือจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ชั้นละ 9 ยูนิต ส่วนชั้นสุดท้ายที่ชั้น 8 จะคล้ายๆ กับชั้น 3-7 แต่จำนวนยูนิตจะมีเพียง 8 ยูนิต เนื่องจากมีห้อง Penthouse ขนาด 49 ตารางเมตรอยู่ด้วย พาชมห้องตัวอย่าง ที่สำนักงานขายมีห้องตัวอย่างให้ได้ชมกันหลายแบบ เริ่มกันตั้งแต่ห้อง Type A ซึ่งมีลักษณะแบบ Studio เริ่มต้นที่ขนาด 24 ตร.ม. โดยประมาณ ห้องแบบนี้จะค่อนข้างกระทัดรัด แต่ในขณะเดียวกันการจัดวาง Lay out ภายในห้องก็ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ห้องครัวและห้องน้ำอยู่รวมกันที่ด้านหนึ่ง ถ้าดูในห้องตัวอย่างจะเห็นว่ามีประตูกั้นเรียบร้อยทำให้ได้ครัวแบบปิด ซึ่งจะช่วยป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนขณะทำอาหารได้ดี แต่ห้องที่ขายจริงๆ ไม่มีประตูบานเลื่อนตรงนี้มาให้นะครับ ถ้าอยากได้ก็ต้องติดตั้งเพิ่มกันเอง มุมกินข้าวทางโครงการเลือกตกแต่งในมุมที่ติดกับหน้าต่างในห้องนอนเพื่อเป็นไอเดียให้เห็นภาพแบบคร่าวๆ ครับ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องดูครบถ้วนดีครับ โดยเป็นไปอย่างพออยู่พออาศัยแบบคนเดียวมากกว่า ห้องแบบถัดไปเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้จะมีการแบ่งกั้นพื้นที่ห้องนอนให้ชัดเจนขึ้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน Lay out ของห้องนี้ดูๆ ไปแล้วจะให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับห้องของ LPN อยู่ไม่น้อยเลย ทั้งตำแหน่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ แทบจะถอดแบบกันมาเลยก็ว่าได้ ต่างกันแค่ขนาดพื้นที่ห้องก็เท่านั้นเอง ถ้าใครเคยไปดูห้องของ LPN บ่อยๆ น่าจะจำแบบกันได้อยู่แล้ว พอเห็นห้องนี้เลยไม่น่าแปลกใจถ้าจะรู้สึกคุ้นหูคุ้นตา ห้อง Type D เป็นห้องอีกแบบในลักษณะ 1 ห้องนอน แต่มีการจัดวาง Lay out ห้องที่ต่างออกไป เพราะห้องนี้จะได้หน้ากว้างในพื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. โดยประมาณ พื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัวจะอยู่คนละด้านโดยมีห้องนั่งเล่นเป็นจุดเชื่อมต่อกลางห้อง ห้องแบบนี้จะให้ความรู้สึกว่าห้องมีขนาดกว้างมีพื้นที่ใช้สอยเยอะเลยทีเดียว ตัวห้องนอนถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่พอเปิดกว้างแล้วพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อยาวไปกับห้องนั่งเล่นจนเหมือนกับเป็นห้องเดียวกัน ข้อดีคือทำให้ห้องดูโล่งโปร่งถึงกัน แต่ข้อเสียคือ ตำแหน่งที่วางโซฟาจะบังประตูห้องนอนบางส่วน ในขณะที่ตำแหน่งปลายเตียงนอนไม่สามารถแขวนทีวีได้ ถ้าอยากนอนดูทีวีสบายๆ อาจจะต้องอาศัยเปิดประตูห้องไว้แล้วดูทีวีที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่นไปเลย แต่ก็อีกนั่นแหละครับ ทุกอย่างมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้พอดิบพอดีขนาดนั้น เพราะตำแหน่งที่จะแขวนทีวีได้ก็ดันอยู่ค่อนไปทางขวาติดกับระเบียง รวมถึงประตูห้องนอนก็ไม่ใช่ประตูบานใหญ่สูงจรดเพดาน จากที่คิดว่าในห้องแบบนี้น่าจะออกแบบมาได้ดี มันเลยกลายเป็นดูขาดๆ เกินๆ ไปหมด ถ้าใครได้ไปดูห้องตัวอย่างของโครงการ The Excel แนะนำว่าให้ลองพิจารณากันให้รอบคอบกันนิดนึงนะครับ ลองคุยกับพนักงานขายเยอะๆ หน่อย เพราะถึงตัวห้องจะขายมาให้เป็นห้องเปล่าๆ มีแค่ชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แต่กลับมีวัสดุ หรือ เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่เราเห็นในห้องตัวอย่างกลับไม่มีมาให้พร้อมกับห้อง ยกตัวอย่างชัดๆ เลยก็คือ ประตูเลื่อนของห้องครัว ฉากกั้นอาบน้ำและกระจกเงาบานใหญ่ในห้องน้ำ ทางโครงการแปะสติ๊กเกอร์ไว้ชัดเจนว่าเป็นของตกแต่งไม่มีแถมมาด้วยนะ เล่นเอางงกันไปเลยทีเดียว ถ้าไม่อยากพลาดมีปัญหาของไม่ตรงตามห้องตัวอย่างอย่าลืมสอบถามสเป็คกันให้ถ้วนถี่นะครับ เริ่มกันด้วยห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตร.ม. เมื่อเข้ามาแล้วเราจะเจอกับห้องรับแขกก่อนเลยนะครับ ซึ่งก็จะอยู่ติดกับห้องนอน เนื่องจากโครงการนี้จะขายแบบ Fully Furnished เฟอร์ที่ได้ก็จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอย่าง โซฟา ตู้ เตียง ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจะเป็นของ SB ถัดเข้ามาเป็นห้องนอนจะมีกระจกบานเลื่อน 3 บาน ขอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกบานเลื่อน 3 บาน กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ภายในห้องนอน ด้านซ้ายมือจะมีหน้าต่างบานเลื่อน ส่วนข้างเตียงซ้าย-ขวา มีที่เหลือเล็กน้อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้ครับ ด้านปลายเตียงจะมีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ หรือสามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะอ่านหนังสือหรือทำงานก็ได้เช่นกัน ส่วนตู้เสื้อผ้าก็จะได้แบบนี้ครับ จะอยู่ปลายเตียงติดกับโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนชั้นวางทีวีที่ได้จะมีลักษณะแบบนี้ครับ โดยเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่ได้จะเป็นสีเบจเพื่อให้เข้ากับผนังสีขาวของห้อง มาถึงห้องครัว ครัวที่ได้จะ Built in แบบนี้นะครับ จะมีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง และชั้นลอยเก็บของด้านบน ครัวที่ให้มาจะค่อนข้างแคบเนื่องจากมีพื้นที่จำกัด จึงมีแค่เพียงเค้าเตอร์สำหรับเตรียมอาหาร ไม่มีเตาไฟฟ้าและ Hood ดูดครัวให้ ซิ้งค์ล้างจานจะเป็นแบบฝัง ออกจากห้องครัวมาจะเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดปิด และเป็นจุดวาง Air Compressor สุดท้ายเป็นห้องน้ำ ที่จะอยู่ติดกับห้องครัว โถสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard อ่างล้างหน้าก็เป็นของ American Standard ฉากกั้นห้องอาบน้ำจะเป็นกระจกกั้นอย่างเป็นสัดส่วน ต่อมาเป็นห้อง Studio Type A ขนาด 24.20 ตารางเมตร ห้องนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดแบบห้อง Studio ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจึงถูกใช้งานร่วมกัน โซฟาจะอยู่ด้านซ้ายของเตียง ส่วนด้านขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้า ด้านปลายเตียงจะเป็นชั้นวางทีวีที่มาพร้อมกับชั้นเก็บของด้านข้าง ถัดจากเตียงไปก็จะเป็นโต๊ะอาหารที่ถูกวางไว้ติดกับหน้าต่าง ถัดมาด้านในเป็นห้องครัว ระหว่างห้องนอนกับห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้ แต่ประตูบานเลื่อนตรงนี้ทางโครงการไม่ได้มีให้นะครับ ถ้าอยากได้ก็ต้องติดตั้งเพิ่มกันเอง ชุดครัวที่ให้มาจะมีช่องใส่เครื่องสักผ้าอยู่ด้านล่างด้วย และมีช่องใส่ไมโครเวฟกับชั้นลอยเก็บของอยู่ด้านบน ส่วนซิ้งค์ล้างจานจะเป็นแบบฝัง ด้านขวามือจะเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อน Type นี้ทางโครงการตกแต่งวิวด้านนอกเป็นสนามกอล์ฟ ซึ่งสถานที่จริงจะเป็นสนามกอล์ฟ ราชนาวีที่อยู่ใกล้ๆ โครงการ ส่วนอีกด้านของครัวจะติดกับห้องน้ำ สุขภัณฑ์ทั้งหทดจะใช้ของ American Standard ห้องอาบน้ำจะมีฉากกั้นเป็นกระจก สุดท้ายเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.20 ตารางเมตร เมื่อเข้าแล้วก็จะเจอกับห้องรับแขก โดยที่มีโต๊ะทานอาหารขนาด 2 คน วางอยู่ด้านหน้าประตูด้วย มาดูกันที่ห้องนอนก่อนนะครับ ฝั่งห้องนอนจะมีกระจกบานเลื่อนกั้นไว้อย่างเป็นสัดส่วน เตียงจะถูกวางไว้ติดกับหน้าต่าง เนื่องจากปลายเตียงหันออกไปทางห้องนั่งเล่น และมีฉากเป็นกระจกบานเลื่อน จึงไม่มีที่พอสำหรับวางทีวีหรือจะแขวนทีวีก็ไม่ได้เหมือนกัน ตู้เสื้อผ้า และโตีะเครื่องแป้งจะอยู่ด้านขวาของเตียง ข้ามมาอีกฝั่งกันบ้างนะครับ อีกฝั่งจะเป็นห้องครัวกับห้องน้ำซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอน มีห้องนั่งเล่นกั้นตรงกลาง ทางเข้าจะมีกระจกบานเลื่อนกั้น ทางซ้ายจะเป็นห้องครัว แต่กระจกบานเลื่อนนี้โครงการไม่มีให้นะครับ ต้องติดตั้งเพิ่มเอง ชุดครัวจะคล้ายๆ กับ Type A มีช่องใส่เครื่องซักผ้าด้านล่าง และช่องใส่ไมโครเวฟและชั้นลอยใส่ของด้านบน ด้านในห้องครัวจะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง บานเล็กๆ อยู่ด้วย ส่วนทางขวาจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งสุขภัณฑ์ก็จะใช้ของ American Standard เช่นกันครับ ห้องอาบน้ำก็กั้นด้วยฉากกระจก ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับโครงการ The Excel (เฟส 2) ในซอยลาซาล 11 นี้ต้องบอกว่ามีความสงบและเป็นส่วนตัวสูงมากเหมาะแก่การพักผ่อนอาศัย ใครที่เล็งๆ ที่พักอาศัยในแถบนี้อยู่ก็น่าจะลองเข้าไปดูห้องตัวอย่างกันก่อน เพราะทำเลอยู่ค่อนข้างใกล้รถไฟฟ้าและสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวมถึงบรรยากาศในซอยก็คึกคักเกือบตลอดเวลา เนื่องจากมีทั้งโรงเรียน ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และบริษัท สำนักงานอยู่กันครบถ้วน เรื่องความสะดวกสบายค่อนข้างเพียบพร้อมอยู่ไม่น้อยเลย ในขณะที่การจะลงทุนเพื่อการปล่อยห้องให้เช่าก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง เพราะมีทั้งรถไฟฟ้าสถานีแบริ่งที่ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกมายิ่งขึ้น หรือถ้าใครที่ทำงานอยู่ในย่านนี้อยู่แล้วก็น่าจะเป็นอีกกลุ่มผู้เช่าที่น่าสนใจห้องในทำเลนี้ได้ไม่ยาก