Tag : คอนโดย่านประชาชื่น

5 ผลลัพธ์
ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโด High Rise ของชีวาทัย ในทำเลที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน สำหรับโครงการชีวาทัย Interchange นี้ แต่ก่อนเป็นโครงการคอนโดที่มีชื่อว่า “Cross Point At Taopoon Station” แล้วนำมาพัฒนาต่อ จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น ชีวาทัย Interchange ตามปัจจุบัน การเดินทาง สำหรับเรื่องการเดินทางก็สามารถเลือกได้หลายเส้นทางเลยนะครับ เนื่องจากว่าโครงการตั้งอยู่ตรงแยกเตาปูนพอดี ไม่ว่าจะเป็นทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี วิ่งตรงจากติวานนท์ วงศ์สว่าง มาถึงแยกเตาปูน, ถนนประชาชื่น ตรงมาจากงามวงศ์วาน เรียบคลองประปามาเรื่อยๆ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ก็ได้ ส่วนใครมาจากทางจรัญฯ ข้ามสะพานพระราม 7 มาแล้ววกเข้าถนนประชาราษฏร์ สาย 1 ก่อนมาเลี้ยวซ้ายที่แยกบางโพ เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ได้ก็เหมือนกัน อีกเส้นทางหนึ่งคือถนนสามเสน วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ก่อนมาเลี้ยวขวาที่แยกบางโพ เข้าถนนประชาราษฏร์สาย 2 แผนที่เส้นทางรอบๆ โครงการ เราซูมลงมาดูกันใกล้ๆ อีกหน่อย จะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแยกเตาปูน ติดกับตัวสถานี MRT เตาปูนเลยล่ะครับ การเดินทางครั้งนี้เราใช้ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เราตรงมาตามถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เรื่อยๆ ก่อนจะตรงผ่านแยกวงศ์สว่าง ตรงนี้เป็นแยกวงศ์สว่าง ถ้าเลี้ยวขวาจะไปทางวงศ์สว่าง ผ่านบิ๊กซี ก่อนขึ้นสะพานพระราม 7 ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางประชาชื่น รัชโยธิน เราตรงไปทางบางซื่อ เตาปูน ต่อเลยครับ ตามเส้นทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรีเราจะเห็นแนวรถไฟฟ้า มาตลอดทาง ปลายปีนี้ รถไฟฟ้าสายนี้ก็จะเริ่มเปิดทดลองให้บริการแล้วนะครับ ที่เห็นด้านหน้าจะเป็นแนวรถไฟชานเมืองสายสีแดง เราตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกเตาปูน จะเห็นสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนอยู่ด้านหน้า ถึงแยกเตาปูนแล้วให้ชิดขวาไว้นะครับ เพราะเราต้องเลี้ยวขวาที่แยกนี้ เลี้ยวขวามาแล้วให้รีบชิดซ้ายเลยนะครับ เพราะตัวโครงการจะอยู่ห่างจากแยกเตาปูนแค่นิดเดียว ถึงแล้วล่ะครับ สำนักงานขายจะตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์สาย 2 หน้าไซต์ก่อสร้างโครงการเลย ตอนนี้ตัวโครงการสร้างไปเยอะแล้วนะครับ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกบ้านได้ย้ายเข้าอยู่ได้ภายในสิ้นปีนี้ วิเคราะห์รอบโครงการ เรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ​ ชีวาทัย Interchange ก็มีความสำคัญมากๆ เพราะอยู่ในจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินพอดิบพอดี ชนิดที่เดินออกจากโครงการมาเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนแล้ว หรือถ้าจะบอกว่าบันไดสถานีแทบจะเกยหน้าโครงการเลยก็คงจะไม่เกินไปนัก แต่ก็ใช่ว่าการที่ตัวโครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าจะไม่มีข้อพึงระวังนะครับ เรื่องเสียงดังรบกวนอาจจะมีโอกาสเล็ดลอดมาบ้าง รวมถึงมลภาวะทางอากาศเนื่องจากอยู่ใกล้สี่แยกใหญ่ด้วย ทั้งนี้คนที่อยู่ในห้องสูงๆ หน่อยก็จะห่างไกลปัญหาเหล่านี้ได้มากกว่าห้องล่างๆ ครับ สภาพแวดล้อมในย่านนี้ยังคงความเป็นชุมชนเก่า ค่อนข้างสงบ จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย ยิ่งการมาของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ยิ่งทำให้การเดินทางในอนาคตค่อนข้างสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต ดังนั้นเรื่องอาหารการกินและสาธารณูปโภคต่างๆ ที่แวดล้อมอยู่รอบๆ จึงจัดว่าครบครันมาก เราไปดูกันดีกว่าว่าใกล้ๆ โครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง จากสถานีเตาปูนมาทางถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี นิดเดียวจะมีร้านสะดวกซื้อ และร้านขายอาหาร อยู่หลายร้านเลยครับ ใกล้ๆ กันก็มีตลาดสดให้เลือกซื้อเลือกหา มีทั้งผัก ผลไม้ ของสด ของแห้ง เสื้อผ้า จากถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เราสามารถเดินทะลุตลาดสดมาออกถนนประชาชื่นได้เลยครับ บรรยากาศบนถนนประชาชื่น ถ้าใครไม่ชอบเดินตลาดสด ข้ามมาฝั่งถนนประชาชื่นก็จะมีเทสโก้ โลตัส ไว้คอยบริการ ถ้าเดินมาแล้วขี้เกียจเดินกลับก็มีพี่วินมอไซค์ คอยรับ-ส่ง อยู่หน้าโลตัส สำหรับตัวโครงการ ชีวาทัย Interchange เป็นคอนโด High Rise สูง 26 ชั้น โดยแบ่งชั้น1-5 เป็นพื้นที่จอดรถ และตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปก็จะเป็นพื้นที่พักอาศัย ซึ่ง Facility หลักภายในโครงการจะรวมกันอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานเลย ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย... ทางเข้าโครงการ จากถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ที่ชั้น G จะเป็น Lobby และเป็นที่จอดรถส่วนหนึ่ง ซึ่งที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น G ขึ้นไปถึงชั้น 5 หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G ชั้น 6 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย Facility หลักของโครงการก็จะอยู่ที่ชั้น 6 ทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนส สระว่ายน้ำและฟิตเนสบนชั้น 6 จากชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 ยูนิตต่อชั้น ห้องมุมทั้ง 4 ด้านจะเป็นห้อง 2 ห้องนอน พาชมห้องตัวอย่าง ห้องพักทั้งหมดของโครงการมีทั้งแบบ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ 3 Bedroom ซึ่งแบบ 1 Bedroom ตอนนี้ขายหมดเกลี้ยงแล้วนะครับ สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันในวันนี้ จึงเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ซึ่งมีขนาดห้องตั้งแต่ 51 ตร.ม​. ไปจนถึงขนาด 57 ตร.ม. โดยที่ห้องแบบ 2 Bedroom นี้จะอยู่ในตำแหน่งมุมตึกทั้งหมด ทำให้สามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ แถมห้องที่ทางโครงการขายให้ก็เป็นแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่เรียบร้อย หน้าตาห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง เรามีรูปพร้อมคำบรรยายกันแบบชัดๆ มาฝากครับ โดยที่รูปทั้งหมดถ่ายจากห้องตัวอย่างที่อยู่บนอาคารจริง ไม่ใช่ห้องในสำนักงานขายนะครับ ห้องแรกเรามาดูที่ห้อง Type B2 ขนาด 57.40 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Dining Area ก่อนเลยนะครับ มองตรงเข้าไปข้างในจะเป็น Living Area ส่วน Dining Area วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างของทีวีกับโซฟาจะประมาณนี้นะครับ สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งแบบ L-Shape ได้สบายๆ ฝั่งชั้นวางทีวี โครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีเล็กๆ ไว้ให้ ติดกับ Living Area จะมีระเบียงใหญ่อยู่ด้วย ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงที่ได้จะกว้างประมาณนี้นะครับ อีกด้านจะเป็นจุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ห้องที่เราทำการรีวิวนี้จะอยู่ที่ชั้น 7 มองจากระเบียงออกมาจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน มุมมองย้อนกลับไปทางประตูหน้าห้อง คราวนี้เราเข้าไปดูในครัวกันบ้าง เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการจัดไว้ให้จะได้แบบนี้เลยนะครับ เป็นชุดครัวของ Starmark สังเกตที่ผนังทางโครงการจะติดกระจกให้ด้วยนะครับ เวลามีเศษอาหาร หรือน้ำมันกระเด็นไปโดนผนัง จะได้ทำความสะอาดได้ง่ายๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้จะประกอบด้วยเตาไฟฟ้า 4 หัว ของ Teka พร้อมฮูดดูดควันของ Teka เหมือนกัน ส่วนด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ และจุดวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟของ Teka ที่เป็นทั้งไมโครเวฟและเตาอบเครื่องนี้ก็ได้ด้วยนะครับ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ข้างๆ ไมโครเวฟ แต่เครื่องซักผ้าไม่ได้ให้ด้วยนะครับ ภายในครัวจะมีประตูเล็กๆ สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้ เวลาซักผ้าเสร็จแล้วก็เอาออกมาตากที่ระเบียงได้เลย อีกด้านจะเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ Mogen ทั้งหมดนะครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของเล็กๆ ให้ด้วย กระจกเงาได้ขนาดพอดีตัว กระจกเงาสามารถเปิดได้นะครับ มีตู้เก็บของซ่อนอยู่ด้านหลัง โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box พื้นที่ใน Shower Box กว้างพอสมควร ชุดฝักบัวของ Mogen พร้อม Rain Shower ออกจากห้องน้ำกับห้องครัวมา มองตรงผ่าน Living Area ไปจะเป็นทางเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ที่แยกกันอยู่คนละด้าน เรามาดูห้องนอนทางซ้ายกันก่อน หน้าบานประตูห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะเป็นสีขาว มือจับประตูเป็นลูกบิดแบบที่เห็นเลยนะครับ เมื่อดูจากแปลนห้องแล้ว ขนาดของห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะไม่ต่างกันมากนะครับ ห้องนี้จะใหญ่กว่านิดหน่อย จะเรียกว่าเป็น Master Bedroom ก็ได้ วางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังดีเลยครับ ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป เตียงจะวางอยู่ติดกับหน้าต่าง ด้านบนจะเป็นบานเปิด 3 บาน ส่วนด้านล่างจะเป็นบาน Fix ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควรนะครับ สามารถ Built in เป็นโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะเปลี่ยนเป็นชั้นวางทีวีก็ได้ ใกล้ๆ กันจะเป็นตู้เสื้อผ้า ตรงกลางระหว่างโต๊ะทำงานกับตู้เสื้อผ้ามีหน้าต่างบานเล็กๆ อีก 1 จุด ติดกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำในตัว การจัดวาง Layout ในห้องน้ำ และสุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกันห้องน้ำ ห้องแรกที่เราดูกันมาแล้ว อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box เหมือนเดิมนะครับ แต่ขนาดของห้องนี้จะเล็กกว่าห้องน้ำด้านนอกนิดหน่อย ชุดฝักบัว มาพร้อม Rain Shower เหมือนเดิม เราข้ามมาดูที่ห้องนอนอีกห้องกันบ้าง ห้องนอนห้องนี้ขนาดจะเล็กลงมาอีกนิดหน่อย เตียงใช้ขนาด 5 ฟุตเหมือนกัน หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบานเปิดบานเดียว ปลายเตียงไม่มีที่เหลือพอให้ Built in ชั้นวางทีวีนะครับ อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง วางอยู่ใกล้ๆ กับตู้เสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะคล้ายๆ กับห้อง Master Bedroom นะครับ ห้องตัวอย่างอีกห้องเป็นแบบ 2 ห้องนอนเหมือนกันนะครับ การจะวาง Layout แทบจะไม่ต่างกับห้องเมื่อกี้เลย จะต่างกันแค่ขนาด ห้องนี้นี้ขนาดจะเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยเป็น 59.20 ตารางเมตร อย่างที่บอกนะครับว่าการจัดวาง Layout แทบจะเหมือนกับห้องเมื่อกี้เป๊ะๆ เข้ามาแล้วก็เจอส่วน Dining Area อยู่หน้าห้องก่อนเลยครับ โต๊ะทานอาหารก็วางขนาด 4 ที่นั่งเหมือนกัน ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วน Living Area มองย้อนกลับออกไปหน้าห้อง ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area เหมือนเดิมนะครับ ขนาดของระเบียงก็จะเท่าๆ กัน จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็อยู่ที่ระเบียง เรากลับเข้ามาดูที่ห้องครัวกันต่อ ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นของ Starmark เหมือนกัน ซิ้งค์ล้างจากทรงสี่เหลี่ยมแบบฝัง เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Teka มาพร้อมฮูดดูดควัน ด้านบนเป็นตู้แขวนผนัง มีประตูเล็กๆ ออกไปที่ระเบียงเหมือนเดิมครับ อีกด้านเป็นห้องน้ำ การจัดวาง Layout และสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กับห้อง Type B2 อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen กระจกเงามีตู้อยู่ด้านหลังเหมือนกัน โถสุขภัณฑ์วางอยู่ระหว่างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ากับ Shower Box Shower Box จะอยู่ด้านในสุดเหมือนเดิมนะครับ ขนาดก็จะเท่าๆ กันกับห้อง Type B2 เราออกมาดูที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องกันต่อ เริ่มจากห้องนอนเล็กทางซ้ายมือกันก่อน ห้องนี้วางเตียง 5 ฟุตจะพอดีเลยนะครับ ปลายเตียงไม่มีที่เหลือแล้ว ถ้าอยากดูทีวีในห้องนอน ก็ต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแล้วล่ะครับ โต๊ะเครื่องแป้งจะ Built in ไว้ที่ข้างเตียง ใกล้ๆ กันจะเป็นตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน เราข้ามไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อ ห้องนี้การจัดวาง Layout จะคล้ายๆ กับห้อง Master ของ Type B2 เลยนะครับ แต่ขนาดจะใหญ่กว่านิดหน่อย เตียงที่โครงการจัดไว้ให้เป็นเตียงขนาด 5 ฟุต เตียงจะวางติดกับหน้าต่าง ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านปลายเตียง ใกล้ๆ กับชั้นวางทีวี ส่วนในห้องน้ำก็จะคล้ายๆ กับห้องน้ำด้านนอกนะครับ การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กัน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม โถสุขภัณฑ์อยู่ระหว่างอ่างล้างหน้ากับ Shower Box Shower Box อยู่ด้านในสุด ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower อย่างที่ทราบกันแล้วว่า โครงการ ชีวาทัย Interchange ได้เปรียบมากในเรื่องทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่ติดกับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าเลย ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ถึงจะอยู่ในทำเลเดียวกัน แต่ก็ยังตั้งอยู่ห่างจากตัวสถานีรถไฟฟ้าออกไปอย่างน้อย 300 เมตร จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจโครงการนี้ก่อนรายอื่นๆ ปัจจุบันห้องแบบ 2 Bedroom ยังมีเหลือให้เลือกจับจองอีกพอสมควร ถ้าใครกำลังมองหาห้องพักอาศัยในย่านนี้ แนะนำให้นัดหมายเพื่อเข้าไปชมห้องตัวอย่างในสถานที่จริงกันก่อนครับ เผื่อจะได้ตัดสินใจซื้อในเร็ววัน เพราะคาดว่าในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ ราคาห้องก็คงขยับสูงขึ้นไปอีกแน่ๆ แล้วจะต้องมาเสียดายทีหลัง
ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

โครงการ: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,790,000 บาท บาท/ตารางเมตร 108,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด จุดเด่น คอนโดหรูจากชีวาทัย เดินทางสะดวกใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สถานีเตาปูน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2558 ที่ตั้ง: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-3 -12.5 ไร่ ที่ตั้ง ถนนประชาราษฎ์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.806380,100.529826 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT Interchange สถานีเตาปูน   สถานที่สำคัญใกล้เคียง จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCG) รัฐสภาแห่งใหม่   ลักษณะโครงการ: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 26 – 40.5 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 51.6 – 67.4 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 87 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 26 ชั้น จำนวนห้อง 279 ยูนิต ส่วนกลาง: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 170 รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 50 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกายมุมมอง 360 องศา สวนลอยฟ้า สวนสีเขียวภายในโครงการ กล้อง CCTV ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm   เพิ่มเติม: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-910-5655 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.chewathaiinterchange.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2557
The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,890,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 72,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จุดเด่น คอนโดใหม่จาก Real Asset เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน Interchange สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2560 ที่ตั้ง: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 3 - 84.9 ไร่ ที่ตั้ง ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.805962,100.526333 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีเตาปูน Interchange   สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สถานีเตาปูน MRT สถานีบางซื่อ เทสโก้ โลตัส เตาปูน โรงพยาบาลบางโพ บิ๊กซี   ลักษณะโครงการ: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 33.25 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 56.10 – 61.41 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 36 ชั้น จำนวนห้อง 773 ยูนิต ส่วนกลาง: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 340 คัน (รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50.5%) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 37 บาท (ชำระล่วงหน้า 2 ปี) ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กล้องวงจรปิด Keycard Access   เพิ่มเติม: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 088-044-5551 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.realasset.co.th ข้อมูล ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2557
Supalai Veranda รัชวิภา – ประชาชื่น : รีวิวคอนโด

Supalai Veranda รัชวิภา – ประชาชื่น : รีวิวคอนโด

โครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา – ประชาชื่น ตั้งอยู่บนถนนประชาชื่น ใกล้กับซอยประชาชื่น 18 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงและอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ดังนั้นโอกาสที่จะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายนี้จึงไม่ใช่แค่โครงการในฝันอีกต่อไป ตัวโครงการของนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันดีกว่าครับ การเดินทาง เริ่มจากแยกประชานุกูลมุ่งหน้ามาทางเตาปูนเป็นระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร ก็จะเห็นตัวโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่นอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งเดิมทีที่ดินตรงนี้เคยเป็นอู่รถเมล์เก่ามาก่อน ชื่อว่า อู่ศรีณรงค์ ถ้าหากใครพอจะคุ้นเคยกับทำเลแถบนี้อยู่บ้างก็คงพอจะนึกภาพออก หรือลองถามคนแถวนั้นดูรับรองว่าชี้บอกตำแหน่งได้หมดแน่นอนครับ  สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลักถนนหนทางสะดวกดีทีเดียว ทั้งเส้นทางขึ้นลงทางด่วนบริเวณแยกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ จะเข้าออกเมืองก็สามารถตรงไปเข้าถนนรัชดาภิเษก หรือหันกลับมาอีกทางก็มีถนนพระราม 5 ที่ใช้เป็นเส้นทางหลักๆ ในการเดินทางได้เช่นกัน หรือถ้าต้องการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ จะหาเรียกแท็กซี่ก็ง่าย รอรถเมล์ หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สะดวกเนื่องจากป้ายรถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่หน้าโครงการเลย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์จึงไม่เรื่องยากเลย จะติดก็แค่ปัญหารถติดมากหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน เริ่มเดินทางมากจากแยกพงเพษร วิ่งมาตามทางถนนประชาชื่นเพื่อมุ่งหน้าไปทางประชานุกูล วิ่งมาเรื่อยๆจะเห็นตึกของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อยู่ทางขวา ตึกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อยู่ทางขวาส่วนด้านหน้าจะเป็นแยกประชานุกูล ให้วิ่งตรงผ่านแยกประชานุกูลไปเลยครับ จะผ่านโครงการ ยู ดีไลท์ที่อยู่ทางขวา วิ่งลอดรางรถไฟฟ้า ก็จะเจอโครงการอยู่ทางขวา เลี้ยวเข้าไปเลยครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ในขณะนี้เส้นทางที่สะดวกที่สุดก็คือ การใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีปลายทางบางซื่อ แล้วต่อรถมาที่ตัวโครงการก็สะดวกดีเหมือนกัน ส่วนในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้บริการแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกขึ้นมาก เพราะตัวสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซ่อน ซึ่งอยู่ทางด้านหลังโครงการตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 250 เมตร รวมถึงสถานีรถไฟบางซ่อน (สายสีแดงอ่อน) ก็อยู่ติดๆ กัน แต่ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรเท่านั้น ด้วยระยะทางเท่านี้เรียกว่ากำลังเดินได้สบายๆ ไม่ไกลจนเกินไป แต่ถ้าวันไหนรีบๆ ก็สามารถพึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์ได้ครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ บริเวณรอบๆ ตัวโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่นถือว่าเพียบพร้อมดีทีเดียว ทั้งเรื่องอาหารการกินที่มีให้เลือกหลากหลายและตั้งอยู่ติดหน้าโครงการทั้งซ้ายขวา เช่นร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึงร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเราสามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือถ้าจะขับรถออกมาจากตัวโครงการซักหน่อย บนถนนประชาชื่นช่วงเย็นๆ ก็มีร้านข้าวต้ม ร้านอาหารให้เลือกอีกหลายร้าน แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้ง โลตัส ประชาชื่น น่าจะเป็นตัวเลือกที่ใกล้ที่สุด และก็ยังมีบิ๊กซี วงศ์สว่างที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนแหล่งช็อปปิ้งอื่นๆ ทั้งเซนทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอล เมเจอร์รัชโยธิน สวนจตุจักร และตลาดบองมาเช่ ก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินไป รวมถึงสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น โรงพยาบาล คลินิค โรงเรียน สถานที่ราชการ ก็ถือว่าอยู่ในระแวกใกล้เคียงเช่นกัน สภาพแวดล้อมรอบโครงการถือว่าเปิดโล่งใช้ได้เลย ตึกสูงที่อยู่ใกล้ๆ ที่พอจะมีผลในการบดบังทิศทางแดด ลม และวิว ก็เห็นจะมีแต่ตึกของโครงการ U Delight2 ที่อยู่ทางทิศเหนือเท่านั้น นอกนั้นก็มีแต่บ้านพักอาศัยที่อยู่มาแต่เดิม และอาคารของประชาชื่นคอนโดสูง 5 ชั้นที่อยู่ขนาบข้างทางด้านทิศใต้ แต่ตึกนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ เนื่องจากส่วนของที่พักอาศัยในโครงการศุภาลัย เวอเรนด้าฯ จะเริ่มที่ชั้น 5 ขึ้นไป ห้องที่ถูกบังวิวจึงมีไม่ค่อยมากนัก ด้วยลักษณะของที่ดินที่เป็นแนวยาวลึกเข้าไปด้านใน ทางโครงการจึงออกแบบตัวอาคารให้วางเรียงกันโดยแบ่งเป็น 3 ตึก สูง 29 ชั้น และมีพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมต่อถึงกัน โดยมียูนิตรวมทั้งหมด 1,705 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้าด้านล่างอีก 26 ยูนิต จัดได้ว่าหนาแน่นอยู่เหมือนกัน ตัวอาคารของโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า ไม่ได้มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากนัก รูปทรงอาคารเป็นแบบทั่วๆ ไปธรรมดา ทางเข้าออกโครงการหลักมีทางเดียวคือฝั่งถนนประชาชื่น ส่วนทางด้านหลังโครงการจะมีประตูเล็กสามารถเดินทะลุออกไปยังซอยกรุงเทพ-นนท์ 30 เพื่อเดินต่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ ทางนี้รถออกไม่ได้นะครับ เป็นทางคนเดินอย่างเดียว มาดูที่พื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ซึ่งหลักๆ แล้วจะถูกรวมไว้ที่ชั้น 5 เกือบทั้งหมด เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ยาวถึง 53 เมตร ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย ห้องแอโรบิค ห้องซาวน่า ห้องสันทนาการ ห้องอเนกประสงค์ ห้องประชุม และสวนหย่อมที่จัดไว้ทั้งบริเวณชั้น 5 และบริเวณด้านล่างโครงการ ซึ่งต้องบอกว่าจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะดีทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับขนาดของโครงการแล้ว อาจจะเรียกได้ว่าแค่พอใช้งานได้ครับ เพราะจำนวนลูกบ้านทั้งหมดมีมากกว่า 3,000 คนแน่นอน ถ้าแห่กันลงมาใช้บริการที่ส่วนกลางพร้อมๆ กัน ยังไงก็ไม่พอรองรับได้หรอกครับ อีกเรื่องที่ไม่น่ามองข้ามสำหรับโครงการใหญ่ๆ คือ ลิฟท์โดยสาร ซึ่งแต่ละตึกจัดไว้เพียง 2 ตัวเท่านั้น รวมแล้วก็แค่ 6 ตัวต่อจำนวนห้องกว่า 1,700 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนที่ 285 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ไม่ต้องขยายความก็คงพอจะนึกภาพออกนะครับว่าต้องรอลิฟท์กันนานแค่ไหน ส่วนเรื่องที่จอดรถทางโครงการเคลมไว้ว่ามีจำนวน 56% แน่นอนว่านับรวมแบบจอดซ้อนคันแล้ว ก็นับว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลกับโครงการราคาระดับนี้ พาชมห้องตัวอย่าง ห้องส่วนใหญ่ของโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่น จะเป็นแบบสตูดิโอ และห้องแบบ 1 ห้องนอน ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนก็มีให้เลือกบ้างเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องมุมของอาคาร ส่วนตำแหน่งห้องใครจะเลือกชั้นไหน อาคารไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และความสะดวกส่วนตัวครับ แต่ก่อนอื่นไปดูห้องตัวอย่างกันก่อนดีกว่า เริ่มต้นกันด้วยห้องแบบสตูดิโอ ขนาด 31.5-33 ตร.ม. ซึ่งถือว่าจัดพื้นที่มาให้ใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว เปิดประตูเข้าห้องมาก็เจอส่วนของพื้นที่นั่งเล่น และห้องนอนที่อยู่ติดกันเลย ห้องแบบนี้จะไม่มีการกั้นประตูกระจกแยกส่วนของห้องนอนกับห้องนั่งเล่นให้นะครับ การจัดสรรพื้นที่ก็แล้วแต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้อง ส่วนพื้นที่ถัดไปด้านในเป็นห้องน้ำและห้องครัว โดยห้องครัวจะเป็นแบบครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้เป็นสัดส่วน และอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งพื้นที่ของห้องครัวนั้นถือว่าใหญ่ใช้ได้เลย คนที่ชอบทำครัวด้วยตัวเองน่าจะถูกใจพื้นที่ส่วนนี้ เพราะถ้าต้องทำครัวหนักๆ ก็สามารถเปิดประตูระเบียงให้ช่วยระบายกลิ่นได้ด้วย ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน มีขนาดตั้งแต่ 42.5-45 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในห้องจัดว่ากว้างขวางเลยทีเดียว เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นที่ดูโล่งสบายตาดี การจัดสรรพื้นที่ในห้องทำมาแบบหลวมๆ ด้านหลังชั้นวางทีวีจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งอยู่ในแนวเดียวกันกับห้องครัว แน่นอนว่าพื้นที่ห้องครัวยังคงจัดสรรมาให้กว้างมากพอที่จะทำครัวได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนนี้ พื้นที่ห้องนอนจะดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่อึดอัดเกินไป เพราะประตูห้องเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้แสงสว่างส่องมาถึงห้องนั่งเล่นได้ และช่วยให้บรรยากาศโดยรวมภายในห้องโปร่งมากขึ้นครับ ห้องทั้งหมดขายมาให้แบบ Fully Furnished ซึ่งทางโครงการก็จัดมาให้พอสมควรทั้ง Wallpaper เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ชุดครัวพร้อมตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง ฉากกั้นอาบน้ำ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานราคาห้อง ไม่ได้หรูหรามากมายแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกรดที่ใช้งานได้ ถ้าใครได้มีโอกาสไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่น ก็จะได้เห็นบรรยากาศห้องแบบคร่าวๆ เท่านั้น เพราะทางโครงการไม่ได้กั้นห้องให้มีผนังทึบตามแบบจริง เรื่องตำแหน่งของประตูเข้าห้องเราอาจจะต้องกะระยะกันคร่าวๆ รวมถึงเรื่องบรรยากาศห้องที่อาจจะทึบมากขึ้นเมื่อมีผนังปูนรอบด้าน ในขณะที่ห้องในสำนักงานขายกั้นเป็นผนังกระจกใส เราจึงอาจจะถูกหลอกตาให้รู้สึกว่าห้องโปร่งโล่งสบายตากว่าในความเป็นจริงก็ได้ โมเดลห้องของขนาด 31.5 ตร.ม. เมื่อเข้ามาในห้องก็จะมาเจอส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องแบบสตูดิโอ ห้องนั่งเล่นจะติดกับห้องนอนโดยไม่มีอะไรมากั้น มุมห้องนั่งเล่นมองเข้าไปยังห้องครัว ส่วนของเตียงนอนก็จะมีมุมทีวีอยู่ปลายเตียง เตียงนอนวางในตำแหน่งที่ใก้ลกับโซฟา จากมุมห้องนอนมองออกมาทางด้านหน้าประตูห้อง ส่วนของห้องน้ำ โครงการก็มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ส่วนสุขภัณฑ์ก็ใช้แบบมาตรฐาน ห้องครัวจะไม่มีส่วนของเตาจะมีแค่ซิ้งค์ล้างจาน หน้าตาซิ้งค์ล้างจากของโครงการครับ โมเดลของห้องขนาด 44.0 ตร.ม. จากห้องนั่งเล่นจะมกระจกกั้นห้องระหว่างน้องนั่งเล่นกับห้องนอน ห้องนอนจะมีกระจกบานใหญ่อยู่ในห้องด้วย จากห้องนอนมองออกไปจะเห็นส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ มุมทานข้าวอยู่ใกล้กับส่วนของนั่งเล่น มาถึงงห้องน้ำ เมื่อมองจากห้องนอนเข้าไป ห้องน้ำก็จะมีส่วนแห้งส่วนเปียกแยกชัดเจนครับ ออกจากห้องน้ำก็จะตรงกับส่วนครัวเลยครับ ห้องครัวโครงการก็ให้อุปกรณ์มาตรฐาน ประตูห้องครัวตรงกับห้องน้ำพอดี ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่น ต้องถือว่าค่อนข้างได้เปรียบเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งบริการรถสาธารณะก็ตาม ยิ่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้นี้แล้วด้วย ความเจริญ ความสะดวกสบายต่างๆ ก็จะขยายตัวมาแถบนี้มากขึ้น ศักยภาพด้านการเติบโตในอนาคตจึงมีมาก และแน่นอนว่าคอนโดโครงการอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงก็มีขึ้นมากันเยอะ ทำให้มีตัวเลือกเปรียบเทียบมากตามไปด้วย อีกส่วนที่ควรระวังก็คือจำนวนห้องที่ล้นตลาดของทำเลในแถบนี้ ทำให้การปล่อยขายห้อง หรือการปล่อยห้องเช่าทำได้ยาก ยิ่งในบริเวณรอบๆ ก็ไม่มีแหล่งสำนักงาน หรือศูนย์ราชการใหญ่ๆ ที่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องการหาที่พักอาศัย บางทีการหาคนเช่าก็อาจจะทำได้ไม่ง่ายนัก แต่ถ้ามองในแง่ของการซื้อหาไว้สำหรับอยู่อาศัยเอง ตัวโครงการก็จัดว่าอยู่ในทำเลที่ดี เพราะอย่างที่ทราบดีอยู่แล้วว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่เป็นสถานี Interchange ด้วย คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวจึงเดินทางได้สะดวกมาก อีกทั้งบริเวณใกล้ๆ และใต้โครงการเองก็มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ให้เลือกมากมาย เรื่องปากท้องจึงไม่น่าเป็นห่วง จัดว่าอุดมสมบูรณ์ดีด้วยซ้ำไป นอกเหนือจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการต่อรองกับเซลล์ว่าจะได้ของแถม หรือส่วนลดอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอีกตัวช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นก็ได้ครับ