วันนี้เราจะพาไปดูคอนโด High Rise ของชีวาทัย ในทำเลที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน สำหรับโครงการชีวาทัย Interchange นี้ แต่ก่อนเป็นโครงการคอนโดที่มีชื่อว่า “Cross Point At Taopoon Station” แล้วนำมาพัฒนาต่อ จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น ชีวาทัย Interchange ตามปัจจุบัน
การเดินทาง
สำหรับเรื่องการเดินทางก็สามารถเลือกได้หลายเส้นทางเลยนะครับ เนื่องจากว่าโครงการตั้งอยู่ตรงแยกเตาปูนพอดี ไม่ว่าจะเป็นทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี วิ่งตรงจากติวานนท์ วงศ์สว่าง มาถึงแยกเตาปูน, ถนนประชาชื่น ตรงมาจากงามวงศ์วาน เรียบคลองประปามาเรื่อยๆ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ก็ได้ ส่วนใครมาจากทางจรัญฯ ข้ามสะพานพระราม 7 มาแล้ววกเข้าถนนประชาราษฏร์ สาย 1 ก่อนมาเลี้ยวซ้ายที่แยกบางโพ เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ได้ก็เหมือนกัน อีกเส้นทางหนึ่งคือถนนสามเสน วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ก่อนมาเลี้ยวขวาที่แยกบางโพ เข้าถนนประชาราษฏร์สาย 2
แผนที่เส้นทางรอบๆ โครงการ
เราซูมลงมาดูกันใกล้ๆ อีกหน่อย จะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแยกเตาปูน ติดกับตัวสถานี MRT เตาปูนเลยล่ะครับ
การเดินทางครั้งนี้เราใช้ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เราตรงมาตามถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เรื่อยๆ
ก่อนจะตรงผ่านแยกวงศ์สว่าง
ตรงนี้เป็นแยกวงศ์สว่าง ถ้าเลี้ยวขวาจะไปทางวงศ์สว่าง ผ่านบิ๊กซี ก่อนขึ้นสะพานพระราม 7 ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางประชาชื่น รัชโยธิน เราตรงไปทางบางซื่อ เตาปูน ต่อเลยครับ
ตามเส้นทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรีเราจะเห็นแนวรถไฟฟ้า มาตลอดทาง ปลายปีนี้ รถไฟฟ้าสายนี้ก็จะเริ่มเปิดทดลองให้บริการแล้วนะครับ
ที่เห็นด้านหน้าจะเป็นแนวรถไฟชานเมืองสายสีแดง
เราตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกเตาปูน จะเห็นสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนอยู่ด้านหน้า
ถึงแยกเตาปูนแล้วให้ชิดขวาไว้นะครับ เพราะเราต้องเลี้ยวขวาที่แยกนี้
เลี้ยวขวามาแล้วให้รีบชิดซ้ายเลยนะครับ เพราะตัวโครงการจะอยู่ห่างจากแยกเตาปูนแค่นิดเดียว
ถึงแล้วล่ะครับ สำนักงานขายจะตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์สาย 2 หน้าไซต์ก่อสร้างโครงการเลย
ตอนนี้ตัวโครงการสร้างไปเยอะแล้วนะครับ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกบ้านได้ย้ายเข้าอยู่ได้ภายในสิ้นปีนี้
วิเคราะห์รอบโครงการ
เรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ ชีวาทัย Interchange ก็มีความสำคัญมากๆ เพราะอยู่ในจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินพอดิบพอดี ชนิดที่เดินออกจากโครงการมาเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนแล้ว หรือถ้าจะบอกว่าบันไดสถานีแทบจะเกยหน้าโครงการเลยก็คงจะไม่เกินไปนัก แต่ก็ใช่ว่าการที่ตัวโครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าจะไม่มีข้อพึงระวังนะครับ เรื่องเสียงดังรบกวนอาจจะมีโอกาสเล็ดลอดมาบ้าง รวมถึงมลภาวะทางอากาศเนื่องจากอยู่ใกล้สี่แยกใหญ่ด้วย ทั้งนี้คนที่อยู่ในห้องสูงๆ หน่อยก็จะห่างไกลปัญหาเหล่านี้ได้มากกว่าห้องล่างๆ ครับ
สภาพแวดล้อมในย่านนี้ยังคงความเป็นชุมชนเก่า ค่อนข้างสงบ จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย ยิ่งการมาของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ยิ่งทำให้การเดินทางในอนาคตค่อนข้างสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต ดังนั้นเรื่องอาหารการกินและสาธารณูปโภคต่างๆ ที่แวดล้อมอยู่รอบๆ จึงจัดว่าครบครันมาก เราไปดูกันดีกว่าว่าใกล้ๆ โครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง
จากสถานีเตาปูนมาทางถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี นิดเดียวจะมีร้านสะดวกซื้อ และร้านขายอาหาร อยู่หลายร้านเลยครับ
ใกล้ๆ กันก็มีตลาดสดให้เลือกซื้อเลือกหา มีทั้งผัก ผลไม้ ของสด ของแห้ง เสื้อผ้า
จากถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เราสามารถเดินทะลุตลาดสดมาออกถนนประชาชื่นได้เลยครับ
ถ้าใครไม่ชอบเดินตลาดสด ข้ามมาฝั่งถนนประชาชื่นก็จะมีเทสโก้ โลตัส ไว้คอยบริการ
ถ้าเดินมาแล้วขี้เกียจเดินกลับก็มีพี่วินมอไซค์ คอยรับ-ส่ง อยู่หน้าโลตัส
สำหรับตัวโครงการ ชีวาทัย Interchange เป็นคอนโด High Rise สูง 26 ชั้น โดยแบ่งชั้น1-5 เป็นพื้นที่จอดรถ และตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปก็จะเป็นพื้นที่พักอาศัย ซึ่ง Facility หลักภายในโครงการจะรวมกันอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานเลย ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย…
ทางเข้าโครงการ จากถนนประชาราษฎร์ สาย 2
ที่ชั้น G จะเป็น Lobby และเป็นที่จอดรถส่วนหนึ่ง ซึ่งที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น G ขึ้นไปถึงชั้น 5
หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G
ชั้น 6 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย Facility หลักของโครงการก็จะอยู่ที่ชั้น 6 ทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนส
สระว่ายน้ำและฟิตเนสบนชั้น 6
จากชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 ยูนิตต่อชั้น ห้องมุมทั้ง 4 ด้านจะเป็นห้อง 2 ห้องนอน
พาชมห้องตัวอย่าง
ห้องพักทั้งหมดของโครงการมีทั้งแบบ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ 3 Bedroom ซึ่งแบบ 1 Bedroom ตอนนี้ขายหมดเกลี้ยงแล้วนะครับ สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันในวันนี้ จึงเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ซึ่งมีขนาดห้องตั้งแต่ 51 ตร.ม. ไปจนถึงขนาด 57 ตร.ม. โดยที่ห้องแบบ 2 Bedroom นี้จะอยู่ในตำแหน่งมุมตึกทั้งหมด ทำให้สามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ แถมห้องที่ทางโครงการขายให้ก็เป็นแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่เรียบร้อย หน้าตาห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง เรามีรูปพร้อมคำบรรยายกันแบบชัดๆ มาฝากครับ โดยที่รูปทั้งหมดถ่ายจากห้องตัวอย่างที่อยู่บนอาคารจริง ไม่ใช่ห้องในสำนักงานขายนะครับ
ห้องแรกเรามาดูที่ห้อง Type B2 ขนาด 57.40 ตารางเมตร
เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Dining Area ก่อนเลยนะครับ มองตรงเข้าไปข้างในจะเป็น Living Area
ส่วน Dining Area วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างของทีวีกับโซฟาจะประมาณนี้นะครับ
สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งแบบ L-Shape ได้สบายๆ
ฝั่งชั้นวางทีวี โครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีเล็กๆ ไว้ให้
ติดกับ Living Area จะมีระเบียงใหญ่อยู่ด้วย
ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน
พื้นที่ระเบียงที่ได้จะกว้างประมาณนี้นะครับ
อีกด้านจะเป็นจุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์
ห้องที่เราทำการรีวิวนี้จะอยู่ที่ชั้น 7 มองจากระเบียงออกมาจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน
มุมมองย้อนกลับไปทางประตูหน้าห้อง
คราวนี้เราเข้าไปดูในครัวกันบ้าง
เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการจัดไว้ให้จะได้แบบนี้เลยนะครับ เป็นชุดครัวของ Starmark
สังเกตที่ผนังทางโครงการจะติดกระจกให้ด้วยนะครับ เวลามีเศษอาหาร หรือน้ำมันกระเด็นไปโดนผนัง จะได้ทำความสะอาดได้ง่ายๆ
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้จะประกอบด้วยเตาไฟฟ้า 4 หัว ของ Teka
พร้อมฮูดดูดควันของ Teka เหมือนกัน
ส่วนด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ และจุดวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า
ไมโครเวฟของ Teka ที่เป็นทั้งไมโครเวฟและเตาอบเครื่องนี้ก็ได้ด้วยนะครับ
จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ข้างๆ ไมโครเวฟ แต่เครื่องซักผ้าไม่ได้ให้ด้วยนะครับ
ภายในครัวจะมีประตูเล็กๆ สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้
เวลาซักผ้าเสร็จแล้วก็เอาออกมาตากที่ระเบียงได้เลย
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ Mogen ทั้งหมดนะครับ
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม
ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของเล็กๆ ให้ด้วย
กระจกเงาสามารถเปิดได้นะครับ มีตู้เก็บของซ่อนอยู่ด้านหลัง
โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ อ่างล้างหน้า
ด้านในสุดจะเป็น Shower Box
พื้นที่ใน Shower Box กว้างพอสมควร
ชุดฝักบัวของ Mogen พร้อม Rain Shower
ออกจากห้องน้ำกับห้องครัวมา มองตรงผ่าน Living Area ไปจะเป็นทางเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ที่แยกกันอยู่คนละด้าน
เรามาดูห้องนอนทางซ้ายกันก่อน หน้าบานประตูห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะเป็นสีขาว มือจับประตูเป็นลูกบิดแบบที่เห็นเลยนะครับ
เมื่อดูจากแปลนห้องแล้ว ขนาดของห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะไม่ต่างกันมากนะครับ ห้องนี้จะใหญ่กว่านิดหน่อย จะเรียกว่าเป็น Master Bedroom ก็ได้
วางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังดีเลยครับ ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป
เตียงจะวางอยู่ติดกับหน้าต่าง
ด้านบนจะเป็นบานเปิด 3 บาน ส่วนด้านล่างจะเป็นบาน Fix
ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควรนะครับ สามารถ Built in เป็นโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะเปลี่ยนเป็นชั้นวางทีวีก็ได้
ใกล้ๆ กันจะเป็นตู้เสื้อผ้า
ตรงกลางระหว่างโต๊ะทำงานกับตู้เสื้อผ้ามีหน้าต่างบานเล็กๆ อีก 1 จุด
ติดกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำในตัว
การจัดวาง Layout ในห้องน้ำ และสุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกันห้องน้ำ ห้องแรกที่เราดูกันมาแล้ว
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen
โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ อ่างล้างหน้า
ด้านในสุดจะเป็น Shower Box เหมือนเดิมนะครับ แต่ขนาดของห้องนี้จะเล็กกว่าห้องน้ำด้านนอกนิดหน่อย
ชุดฝักบัว มาพร้อม Rain Shower เหมือนเดิม
เราข้ามมาดูที่ห้องนอนอีกห้องกันบ้าง
ห้องนอนห้องนี้ขนาดจะเล็กลงมาอีกนิดหน่อย
เตียงใช้ขนาด 5 ฟุตเหมือนกัน
หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบานเปิดบานเดียว
ปลายเตียงไม่มีที่เหลือพอให้ Built in ชั้นวางทีวีนะครับ อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน
ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง วางอยู่ใกล้ๆ กับตู้เสื้อผ้า
ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะคล้ายๆ กับห้อง Master Bedroom นะครับ
ห้องตัวอย่างอีกห้องเป็นแบบ 2 ห้องนอนเหมือนกันนะครับ การจะวาง Layout แทบจะไม่ต่างกับห้องเมื่อกี้เลย จะต่างกันแค่ขนาด ห้องนี้นี้ขนาดจะเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยเป็น 59.20 ตารางเมตร
อย่างที่บอกนะครับว่าการจัดวาง Layout แทบจะเหมือนกับห้องเมื่อกี้เป๊ะๆ เข้ามาแล้วก็เจอส่วน Dining Area อยู่หน้าห้องก่อนเลยครับ
โต๊ะทานอาหารก็วางขนาด 4 ที่นั่งเหมือนกัน
ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วน Living Area
ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area เหมือนเดิมนะครับ
ขนาดของระเบียงก็จะเท่าๆ กัน
จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็อยู่ที่ระเบียง
เรากลับเข้ามาดูที่ห้องครัวกันต่อ ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นของ Starmark เหมือนกัน
ซิ้งค์ล้างจากทรงสี่เหลี่ยมแบบฝัง
มีประตูเล็กๆ ออกไปที่ระเบียงเหมือนเดิมครับ
อีกด้านเป็นห้องน้ำ การจัดวาง Layout และสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กับห้อง Type B2
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen
กระจกเงามีตู้อยู่ด้านหลังเหมือนกัน
โถสุขภัณฑ์วางอยู่ระหว่างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ากับ Shower Box
Shower Box จะอยู่ด้านในสุดเหมือนเดิมนะครับ ขนาดก็จะเท่าๆ กันกับห้อง Type B2
เราออกมาดูที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องกันต่อ
เริ่มจากห้องนอนเล็กทางซ้ายมือกันก่อน ห้องนี้วางเตียง 5 ฟุตจะพอดีเลยนะครับ
ปลายเตียงไม่มีที่เหลือแล้ว ถ้าอยากดูทีวีในห้องนอน ก็ต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแล้วล่ะครับ
โต๊ะเครื่องแป้งจะ Built in ไว้ที่ข้างเตียง
ใกล้ๆ กันจะเป็นตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน
เราข้ามไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อ
ห้องนี้การจัดวาง Layout จะคล้ายๆ กับห้อง Master ของ Type B2 เลยนะครับ แต่ขนาดจะใหญ่กว่านิดหน่อย
เตียงที่โครงการจัดไว้ให้เป็นเตียงขนาด 5 ฟุต
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านปลายเตียง ใกล้ๆ กับชั้นวางทีวี
ส่วนในห้องน้ำก็จะคล้ายๆ กับห้องน้ำด้านนอกนะครับ
การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กัน
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม
โถสุขภัณฑ์อยู่ระหว่างอ่างล้างหน้ากับ Shower Box
ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower
อย่างที่ทราบกันแล้วว่า โครงการ ชีวาทัย Interchange ได้เปรียบมากในเรื่องทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่ติดกับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าเลย ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ถึงจะอยู่ในทำเลเดียวกัน แต่ก็ยังตั้งอยู่ห่างจากตัวสถานีรถไฟฟ้าออกไปอย่างน้อย 300 เมตร จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจโครงการนี้ก่อนรายอื่นๆ ปัจจุบันห้องแบบ 2 Bedroom ยังมีเหลือให้เลือกจับจองอีกพอสมควร ถ้าใครกำลังมองหาห้องพักอาศัยในย่านนี้ แนะนำให้นัดหมายเพื่อเข้าไปชมห้องตัวอย่างในสถานที่จริงกันก่อนครับ เผื่อจะได้ตัดสินใจซื้อในเร็ววัน เพราะคาดว่าในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ ราคาห้องก็คงขยับสูงขึ้นไปอีกแน่ๆ แล้วจะต้องมาเสียดายทีหลัง