Tag : คอนโด ยูนิโอ

2 ผลลัพธ์
Unio Ramkhamhaeng–Serithhai (ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย) คอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้นิด้า : รีวิวคอนโด

Unio Ramkhamhaeng–Serithhai (ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย) คอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้นิด้า : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้จะพาทุกท่านไปชมคอนโดมิเนียม Low-Rise 8 ชั้นบนถนนเสรีไทยกับโครงการ Unio Ramkhamhaeng-Serithai  ภายใต้แบรนด์ Helix บริษัทในเครือ Ananda Development ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้งการเดินทางที่สะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบที่ครันบนถนนรามคำแหงและถนนลาดพร้าว ตัวโครงการอยู่ติดริมถนนใหญ่ คุ้มค่าในราคาที่สามารถจับต้องได้       ทำเล UNIO Ramkhamhaeng–Serithhai   ถนนเสรีไทยอยู่ฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก  ตัวถนนมีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตรเชื่อมต่อจากปลายถนนลาดพร้าว ยาวไปต่อจนถึงสี่แยกมีนบุรี ซึ่งถนนเส้นนี้แม้จะเชื่อมต่อจากถนนลาดพร้าว  ที่เห็นได้ชัดเลยคือถนนยังคงเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเป็นหลักยังไม่ค่อยมีอาคารสูงเท่าไรนัก จึงทำให้เงียบสงบไม่วุ่นวาย และยังเป็นถนนคู่ขนานกับถนนรามคำแหงซึ่งเป็นแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครับ             Unio Ramkhamhaeng – Serithhai ตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนเสรีไทยฝั่งขาเข้าใกล้กับสี่แยกนิด้าไม่ไกลจากสถานที่สำคัญไม่น้อยเพียง 1 กิโลเมตร ห่างจากเดอะมอลล์บางกะปิ 4 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายอย่าง Paseo Town, Big C Extra สุขาภิบาล 3, Lotus บางกะปิ, Makro บางกะปิ, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลเวชชานี, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (วิทยาเขตหัวหมาก), สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน     ในเรื่องของการเดินทางด้วยรถยนต์จะใกล้กับ ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตจะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะกำลังจะมีรถไฟฟ้าเกิดขึ้น คือสายสีเหลือง และสายสีส้มซึ่งทั้ง 2 สายนี้มีความสำคัญตรงที่จะวิ่งจากชานเมืองเขาสู่ตัวเมืองและกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปปัจจุบัน โดยจะมีจุด Interchange สำคัญอยู่ที่แยกลำสาลีแต่สถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ สายสีส้ม สถานีคลองบ้านม้าครับ           ภาพรวมโครงการ   UNIO Ramkhamhaeng–Serithhai คอนโดมิเนียม Low-Rise บนพื้นที่ 6-0-51 ไร่ มีด้วยกัน 3 อาคารมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จุดเด่นของโครงการโดยให้คำนิยามกับ 3 คำ (ใกล้ คุ้ม ครบ) โดยเริ่มจากคำว่า "ใกล้" ในที่นี้คือใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา, การเดินทางสะดวก ถัดมากับคำว่า "คุ้ม" คือคุ้มค่าในเรื่องของพื้นที่ห้องที่มีความเป็นสัดส่วน สร้างความเป็นส่วนตัว และสุดท้ายกับคำว่า "ครบ" นอกจากห้องดี ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบแล้ว ภายในโครงการมาพร้อมกับ Facility  ที่ครบครันเพิ่มความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น   เริ่มกันที่ทางเข้าโครงการซึ่งอยู่ติดริมถนนใหญ่ ในส่วนของทางเข้า-ออกเป็นระบบ Key Card Acess และมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด CCTV กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก่อนที่จะพาไปชมห้องตัวอย่างแวะมาดูส่วนกลางของโครงการกันก่อนครับ โดยส่วนกลางจะอยู่ระหว่างกลางระหว่างอาคารพักอาศัยเริ่มจาก Play Ground สนามเด็กเล่นสำหรับหนูๆ ถัดมาเป็น Garden & Jogging Track พื้นที่ออกกำลังกาย Out Door สำหรับคนรักสุขภาพที่อยากสัมผัสบรรยากาศภายนอก มาต่อกันที่ Lotus Pound & Sunket Seat พื้นที่พักผ่อนหรือเป็นมุมโปรดอ่านหนังสือ พูดคุยกับเพื่อนบ้านโดยมีสระบัวล้อมรอบเพิ่มความผ่อนคลาย       ด้านในสุดเป็นส่วนของ Swimming Pool โดยแบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ้ไว้เป็นสัดส่วน มีเตียงสระว่ายน้ำให้ ส่วนอาคารด้านหลังสระว่ายน้ำเป็น Fitness Room สำหรับคนรักสุขภาพ ใต้ถุนอาคารเป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศได้ครับ   เข้ามาภายในอาคารชั้นแรกจะเป็นส่วนของ Common Room ซึ่งเป็น Co-working Space หรือไว้เป็น Lobby ต้อนรับแขก ถัดเข้ามาก่อนขึ้นลิฟต์ด้านข้างจะพบตู้ล็อคเกอร์เก็บจดหมาย         Floor Plan ทางเข้าออกโครงการมีทางเดียวอยู่ติดริมถนนใหญ่ อยู่บนถนนเสรีไทย เมื่อเข้ามาแล้วจะพบอาคาร A ซึ่งปลายปีนี้สามารถพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เข้าอยู่ครับ ถัดมาจะเป็นอาคาร B และฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร C ซึ่งสามารถพร้อมเข้าอยู่ได้เลยครับ ส่วนตรงกลางระหว่างตึกจะเป็นส่วนของ Facility ที่ต่อกันเป็นแนวยาวเริ่มจากสวนและสนามเด็กเล่น ถัดมาเป็นบ่อบัวและพื้นที่นั่งเล่นยาวไปจนสุดจะเป็นสระว่ายน้ำ สุดท้ายคือ Fitness       Floor Plan ของอาคาร A ซ้ายมือสุดในปัจจุบันนี้เป็น sale gallery แต่ในอนาคตจะเป็นร้านสะดวกซื้อและเป็นส่วนของ Common Room ถัดมาชั้นแรกก่อนที่จะขึ้นลิฟต์เป็นส่วนของ Mail Box และห้องซักรีด ด้านนอกเป็นพื้นที่จอดรถ และห้องนิติบุคคลครับ     ในส่วนของ Floor Plan ชั้นที่ 2-8 เป็นส่วนของยูนิตพักอาศัย ซึ่งเริ่มที่ ยูนิต A 1-3 จะอยู่ในทิศใต้และมองเห็นวิวของ Facility ทั้งหมดของโครงการ ยูนิต A 4-9 จะหันออกทางทิศเหนือมุมนี้จะหันออกหน้าโครงการซึ่งเป็นถนนใหญ่ ยูนิต A 10-23 จะอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะได้วิวนอกโครงการ ยูนิต A 24-36 จะอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้จะได้วิวส่วนของ Garden & Jogging Track         ถัดมาเป็น Floor Plan ของอาคาร B และ C ซึ่งอาคาร B จะอยู่ต่อจากอาคาร A ส่วนของอาคาร C จะอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งสองอาคารหันไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือเหมือนกันทั้งสองอาคาร แต่จำนวนยูนิตพักอาศัยของ 2 อาคารต่างกันคืออาคาร B มี 36 ยูนิตต่อชั้น ส่วนอาคาร C มี 28 ยูนิตต่อชั้น ชั้นแรกของ 2 อาคารเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถและมี Lobby, Mail Box, ห้องซักรัดครับ       พาชมห้องตัวอย่าง โครงการ Unio Ramkhamhaeng–Serithhai มียูนิตให้เลือกอยู่ 2 ยูนิต เป็นแบบห้อง Studio ขนาด 22.82 และ 26.40 เริ่มจากห้อง Studio ขนาด 22.82 ซึ่งความจริงแล้วเป็นห้องเปล่าไม่มีประตูกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น สามารถต่อเติมได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยช่วยเพิ่มความเป็นสัดส่วนของห้อง ในส่วนของห้องครัวถึงจะแยกออกมาเป็นครัวเปิดแต่แยกออกมาเป็นสัดส่วนได้ดีสำหรับผู้อาศัยที่ทำครัวหนักสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ครับ และทางโครงการให้เครื่องปรับอากาศและ Built in ครัวให้กับทุกยูนิตครับ ซึ่งห้องตัวอย่างแบบแรกจะมีห้องตัวอย่างกับห้องเปล่ามาให้ชมเปรียบเทียบกันครับ     ในส่วนแรกเข้ามาจากประตูคือ Common Area ในส่วนของ Floor To Ceiling 2.6 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบาย ไฟบนเพดานทางโครงการติดตั้งให้เป็นแบบไฟซาลาเปา ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้คือ Living Room  สามารถวางโซฟาสำหรับ 3 ถึง 4 ที่นั่งและวางชั้นวางทีวีได้อย่างเป็นสัดส่วนลงตัว       ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนซึ่งทางโครงการ Built in ประตูเลื่อนกระจกกั้นห้องให้ดูแบ่งพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน ดูระเบียบ เตียงนอนสามารถวางขนาด Queen Size และยังพอมีพื้นที่เหลือด้านข้างเตียงวาง Side Table ได้ครับ ปลายเตียงยังมีพื้นที่สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง หน้าต่างเป็นแบบก้นหอย ส่วนเครื่องปรบอากาศจะติดติ้งให้ที่ด้านบนหน้าต่างจากแบรนด์ Samsung     ออกมาจากห้องนอนจะเป็นทางเดินเพื่อเขาสู่ห้องครัว ด้านขวามือคือห้องน้ำ ภายในห้องน้ำมีกระจกเงาบานใหญ่และมีผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้เพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น อ่างล่างหน้าเป็นแบบแขวนผนังจากแบรนด์ American Standard ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ และต่อด้วยพื้นที่อาบน้ำโดยทางโครงการทำพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนแห้งและเปียกไว้เป็นสัดส่วน ออกจากห้องน้ำเป็นส่วนของครัวซึ่งเป็นครัวปิดสำหรับใครที่ชอบทำครัวหนักสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ครับ และโครงการ Built in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมกับ อ่างล้างจานแบบฝังเคาน์เตอร์ พื้นที่ว่างด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นซึ่งจะเชื่อมกับระเบียงของห้อง         พื้นที่ระเบียงหลังห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคมีพื้นที่พอสามารถวางราวตากผ้าได้ ราวกันตกเป็นเหล็กสีดำ และทางโครงการวางท่อเพื่อติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้ครับ ด้านบนเป็น Condensing Unit       ถัดมาเป็นส่วนของห้อง Studio ขนาด 26.40 ซึ่งแผนผังภายในห้องมีขนาดเหมือนกับขนาด 22.82 เพียงแต่ได้พื้นที่ใช้สอยใน Common Area และส่วนของห้องนอนมากขึ้น ทำให้ห้องกว้างขวาง โปร่งโล่งสบายมากขึ้น     ในส่วนแรกเมื่อเข้ามาจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างพอสามารถวางโซฟา L Shape และโต๊ะกลางก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินที่กว้างพอครับ       ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนซึ่งทางโครงการ Built in ประตูกระจกบานเลื่อน ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุตก็ยังมีพื้นที่ข้างเตียงสามารถ Built in ชั้นวางของได้ตามแบบที่โครงการทำไว้เป็นตัวอย่าง ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่มากพอที่จะ Built in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ครับ       ออกมาจากห้องนอนเข้าสู่พื้นที่ของห้องครัวซึ่งเป็นครัวเปิด พื้นที่ด้านนี้สามารถกั้นประตูเป็นครัวปิดสำหรับผู้อยู่อาศัยชอบทำอาหารไม่ให้กลิ่นอาหารเข้าห้องได้ครับ ซึ่งทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัวมาพร้อมกับอ่างล่างจานแบบฝังเคาน์เตอร์และยังมีสวิตซ์ไฟที่เคาน์เตอร์ครัวให้ในตัวครับ ทางด้านซ้ายมือของเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำ ซึ่งด้านในสุดของห้องน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำโดยโครงการทำพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนพื้นที่เปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วนฝักบัวอาบน้ำจากเบรนด์ American Standard ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto       และสุดท้ายกับระเบียงหลังห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ราวกันตกเป็นราวเหล็กโปร่งสีดำ มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้ครับ ด้านบนถูกติดตั้งด้วย Condensing Unit         สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งความเป็นส่วนตัว หรือการเดินทางที่สะดวกสบายและในอนาคตอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเหลืองซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างอีกไม่นานเกินรอก็จะได้ใช้บริการกันแล้วครับ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนรามคำแหงและถนนลาดพร้าว กับโครงการ UNIO Ramkhamhaeng–Serithhai คอนโดมิเนียม Low-Rise แต่คุณภาพดีเยี่ยมทั้งยูินิตอยู่อาศัย Facility ภายในโครงการที่ครบครับ ในราคา 1.19 ล้านบาทที่ใครๆ ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้จาก Helix บริษัทในเครือ Ananda Development    
UNIO RAMA2-THAKHAM ทำเลศูนย์กลางย่านพระราม 2 : รีวิวคอนโด

UNIO RAMA2-THAKHAM ทำเลศูนย์กลางย่านพระราม 2 : รีวิวคอนโด

คอนโด UNIO RAMA2-THAKHAM ทำเลศูนย์กลางย่านพระราม 2 "UNIO RAMA2-THAKHAM" คอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีมุมพักผ่อนสวยๆ เงียบสงบ บรรยากาศสไตล์รีสอร์ท แต่ยังคงอยู่ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกแหล่งใหญ่ของย่านพระราม 2 ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ รวมถึงคอนโดมิเนียม เพราะเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว ใกล้ทางด่วนสายสำคัญ และรถประจำทาง สามารถเดินทางเข้าตัวเมืองไม่ไกล มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา และโรงพยาบาล ที่สำคัญยังมีราคาที่สามารถเอื้อมถึง   ทำเลที่ตั้ง ถนนพระราม 2 เป็นถนนสายหลักสายหนึ่งที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานครออกสู่ภาคตะวันตก-ภาคใต้ เริ่มต้นถนนตรงแยกพระราม 2 ต่อจากถนนสุขสวัสดิ์ ตรงผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สิ้นสุดที่แยกวังมะนาว จังหวัดราชบุรี เป็นถนนกว้างถึง 8 เลน วิ่งกันสบายๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ช่วงถนนพระราม 2 ในเขตกรุงเทพฯ โดยจะมีทางด่วนสายสำคัญ 2 สายที่เชื่อมต่อระหว่างในเมืองกับชานเมืองทำให้การเดินทางง่ายขึ้นมาก คือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร มีจุดขึ้น-ลงช่วงต้นถนนพระราม 2 บริเวณรพ.บางปะกอก 9 และถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งใต้ มีจุดขึ้น-ลงประมาณกิโลเมตรที่ 10 จึงถือว่าการเดินทางสะดวกมากสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว สำหรับผู้ที่ใช้รถสาธารณะก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีรถประจำทางหลายสาย ทั้งรถเมล์ รถตู้ รถสองแถว และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ รวมทั้งหมด 17 สถานี ซึ่งสถานีที่ใกล้ถนนพระราม 2 มากที่สุด คือ สถานีดาวคะนอง จะอยู่ระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 12 กับซอยสุขสวัสดิ์ 14 ใกล้กับแยกพระราม 2 เริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 2561 คาดว่าแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้บริการประมาณปี 2566-2567 หากเสร็จเมื่อไหร่ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกยิ่งขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกของถนนพระราม 2 มีอยู่ 2 จุดใหญ่ๆ คือ ช่วงจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรม กับช่วงเซ็นทรัลพระราม 2 ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งในช่วงที่เป็นที่ตั้งของเซ็นทรัลพระราม 2 ถือเป็นศูนย์กลางของสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพราะไม่ใช่มีแค่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2 แต่มีทั้งบิ๊กซี โลตัส โฮมโปร อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลบางมด โรงเรียนสมิทธิพงษ์ โรงเรียนอัสสัมชัญ พระราม 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ฯลฯ   นอกจากนี้ในวันหยุดพักผ่อน เราก็สามารถออกไปหาสถานที่เที่ยวได้ใกล้มากโดยวิ่งเส้นพระราม 2 นี้ได้เลย ทำให้ไม่เหนื่อยเดินทาง เช่น นั่งทานอาหารที่ทะเลบางขุนเทียน เดินตลาดวัดดอนหวาย ตลาดน้ำอัมพวา หรือจะขับรถเลยออกไปเที่ยวสวนผึ้ง, ชะอำ, หัวหิน ก็ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง ระยะทางก็ร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ถนนพระราม 2 จึงเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งด้านการทำงาน และการใช้ชีวิตในวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัวได้อย่างลงตัว   ภาพรวมโครงการ   UNIO RAMA2-THAKHAM คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร ทั้งหมด 728 ยูนิต แบ่งเป็นยูนิตพักอาศัย 726 ห้อง มีห้อง Studio 2 แบบให้เลือก คือ ขนาด 22.50 ตรม. และ 26.06 ตร.ม. กับยูนิตเพื่อการค้า 2 ห้อง มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 6 ไร่ หน้าโครงการหันออกทางทิศตะวันตก ส่วนยูนิตพักอาศัยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ วิวถนนพระราม 2 กับทิศใต้ วิวถนนท่าข้าม ลักษณะที่ดินหน้าแคบ แต่ลึกยาวเข้าไปติดคลองสนามไชย ซึ่งอาคาร A จะเป็นอาคารแรกชิดฝั่งทิศใต้ ส่วนอาคาร B-C วางตัวแนวยาวต่อกันลึกเข้าไปชิดทางฝั่งทิศเหนือ   โครงการตั้งอยู่ในถนนท่าข้าม เข้ามาประมาณ 120 เมตร ซึ่งบริเวณริมถนนพระราม 2 ใกล้กับปากทางเข้าถนนท่าข้ามนั้นมีทั้งโฮมโปร คอมมูนิตี้มอลล์ บิ๊กซี ในระยะที่สามารถเดินไปได้ หรือจะเดินไปเซ็นทรัลพระราม 2 ก็มีระยะทางประมาณ 600 เมตร ลึกเข้าไปในถนนท่าข้ามนี้ก็จะมีทั้งตลาด ร้านอาหาร ที่อยู่อาศัยเดิมของคนในย่านนี้ตลอดเส้นทางทำให้ถนนท่าข้ามมีความคึกคักอยู่ไม่น้อย   ตัวโครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Sea Breeze ด้วยการวางแบบอาคารกับส่วนกลางเปิดโล่งมีเส้นสายคล้ายน้ำทะเล เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ทั้งหมดอย่างเต็มที่ พื้นที่ส่วนกลางถูกวางไว้ระหว่างอาคาร B กับ C ฝั่งทิศใต้ เริ่มจากสวนสีเขียว สนามเด็กเล่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และลานโยคะกลางแจ้ง   เยี่ยมชมโครงการ   ปัจจุบันโครงการ UNIO RAMA2-THAKHAM สร้างเสร็จพร้อมอยู่ โดยผู้ที่ซื้อโครงการไปจะอยู่อาศัยเองกว่า 60% ส่วนมากจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้อยู่แล้วมาซื้อเพิ่มเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือซื้อให้ลูกหลานอยู่ เราลองเข้าไปดูภายในโครงการพร้อมกันเลยค่ะ หน้าโครงการจะมี Sale Gallery ติดกับถนนท่าข้าม เดินมาจากปากซอยไม่ไกลเลยค่ะ ทางเข้า-ออก โครงการมีด้านหน้าทางเดียวค่ะ ใช้ระบบ Key card access ทั้ง 3 อาคารใช้โทนสีเดียวกัน คือ สีน้ำตาลอ่อนตัดกับสีน้ำตาลเข้ม และสีดำ ดูอบอุ่น แต่ยังคงความทันสมัย ที่จอดรถอยู่ใต้อาคารทั้ง 3 อาคาร สามารถจอดได้ 220 คัน ทางเข้าทั้ง 3 อาคาร จะเป็นล็อบบี้แบบเดียวกันนี้ที่มีทั้งเก้าอี้ โซฟา สำหรับรับแขก หรือเป็นมุมอ่านหนังสือก็ได้ค่ะ อยู่ก่อนที่จะเปิดประตูคีย์การ์ดอีกชั้นเป็นโซนเมลบ็อก และโถ่งลิฟท์ เดินเข้ามาทางด้านข้างอาคาร B เราจะเห็นพื้นที่สีเขียวยาวไปจนถึงอาคาร C ด้านในสุด หากใครที่อยู่ห้องทางฝั่งทิศใต้ของอาคาร B-C ก็จะได้วิวส่วนกลางสวยๆไปด้วยค่ะ มีโซนสนามเด็กเล่น ห้องฟิตเนสจะอยู่เชื่อมกับอาคาร B ตรงบล็อกสีส้มที่ยื่นออกมาจากอาคารค่ะ ห้องฟิตเนสจะเป็นกระจกใสรอบด้าน สามารถมองออกไปเป็นวิวส่วนกลางทั้งฝั่งอาคาร B ที่เป็นสนามเด็กเล่น และฝั่งอาคาร C ที่เป็นสระว่ายน้ำ ออกมาจากห้องฟิตเนส แล้วเดินมาตามสวนสีเขียวจะพบกับสระว่ายน้ำข้างอาคาร C สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบฟรีฟอร์ม ความลึก 1.20 เมตร ส่วนสระเด็กลึก 0.65 เมตร ยูนิตในอาคาร C ฝั่งทิศใต้จะได้วิวสวยที่สุดในโครงการเลยค่ะ บรรยากาศตรงนี้ลึกเข้ามาจากถนนใหญ่เล็กน้อย แต่ให้ความเงียบสงบกว่ามาก เดินเข้าไปอีกหน่อยจะมีที่นั่งเล่นริมสระด้วย ให้บรรยากาศสไตล์รีสอร์ทได้ดีจริงๆ ค่ะ ส่วนด้านในสุดของโครงการเป็นลานโยคะกลางแจ้งค่ะ เดินชมรอบๆ โครงการจริงเสร็จแล้ว เรากลับเข้าไปดูห้องตัวอย่างภายใน Sale Gallery ด้านหน้ากันค่ะ ดูจากโมเดลแล้วจะเห็นภาพรวมส่วนกลางของโครงการมากขึ้นค่ะ ซึ่งห้องตัวอย่างจะมีทั้งหมด 2 ห้อง คือ ขนาด 22.50 ตรม. และ 26.06 ตร.ม. เป็นห้อง Studio ทั้ง 2 แบบค่ะ เปิดห้องตัวอย่าง เริ่มจากห้องแรก ขนาด 22.50 ตร.ม. โซนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ขวามือเป็นเคาน์เตอร์วางทีวี ซ้ายมือเป็นโซฟาค่ะ ภายในห้องมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร ใช้ไฟซาลาเปา ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. แต่ห้องที่จะได้จริงเป็นห้องเปล่านะคะ จะมีแค่สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัว กับเครื่องปรับอากาศภายแบรนด์ซัมซุงในห้องนอนให้ 1 ตัว พื้นที่วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง สามารถวางโต๊ะกลางหน้าโซฟาเฉพาะขนาดเล็กได้ พื้นที่วางเคาน์เตอร์ทีวีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับวางทีวีจอแบน หรือทีวีแบบแขวน ซ้ายมือเป็นพื้นที่อีกโซนของห้อง ต่อจากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อด้วยห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีเทา ภายในห้องนอนเราสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังพอมีพื้นที่ทางเดินเล็กๆ รอบเตียงทั้งสองข้าง ข้างเตียงมีกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีดำ ปลายเตียงสามารถ built in ตู้เสื้อผ้าได้ตลอดทั้งแนว หรือจะแบ่งพื้นที่เอาไว้สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้ตามแบบห้องตัวอย่าง ออกจากห้องนอนมาดูโซนด้านขวาของห้องกันบ้างค่ะ เป็นโซนของห้องน้ำทางด้านขวามือหลังเคาน์เตอร์ทีวี และห้องครัว ภายในห้องน้ำทั้งพื้น และผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค แยกส่วนเปียก-แห้ง แต่ไม่มีฉากกั้นมาให้ สิ่งที่เราจะได้มาคือสุขภัณฑ์ COTTO อ่างล้างหน้า American Standard แบบแขวนผนัง และกระจกตรงอ่างล้างหน้าค่ะ สุดท้ายกับโซนห้องครัวค่ะ มีพื้นที่สำหรับ built in ครัว และวางตู้เย็นได้ ขนาดกำลังพอดี ต่อด้วยระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ระเบียงมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ใต้ Condensing Unit ราวระเบียงกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ ห้องตัวอย่างสุดท้ายค่ะ ขนาด 26.06 ตร.ม. เริ่มจากห้องนั่งเล่น ขวามือเป็นพื้นที่วางโซหา ซ้ายมือเป็นพื้นที่วางเคาน์เตอร์ทีวี โดยรวมแล้วแปลนห้องจะเหมือนกันกับห้องแรกค่ะ เพียงแต่จะได้พื้นที่กว้างกว่า โซนห้องนั่งเล่นเราสามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้ ฝั่งเคาน์เตอร์วางทีวีสามารถหาเตาน์เตอร์ขนาดกลางมาวางได้ หรือจะวางเคาน์เตอร์ขนาดเล็ก แล้ว built in ตู้เก็บรองเท้าขนาดเล็กได้ ขวามือเป็นอีกโซนของห้อง ต่อจากห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ของห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ภายในห้องนอนเราสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเล็กขนาดเล็กได้ โดยยังมีพื้นที่ริมหน้าต่างเป็นทางเดิน ปลายเตียงเราสามารถ built in เสื้อผ้าได้ตลอดแนว หรือจะทำตามห้องตัวอย่างที่เห็นคือ built in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ธทำงานไว้ข้างๆ ด้วย โซนด้านซ้ายของห้อง เป็นห้องครัวค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เย็นได้พอดี ต่อด้วยพื้นที่ระเบียงกั้นโดยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ระเบียงมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าเอาไว้ใต้ Condensing Unit พื้นที่เท่ากันกับห้องที่แล้วค่ะ ราวระเบียงกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ สุดท้ายค่ะ เมื่อเราหันหลังให้ระเบียงก็จะพบกับห้องน้ำอยู่หลังเคาน์เตอร์ทีวี มีการแยกส่วนเปียก-แห้ง ได้สุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง และกระจกแค่ส่วนหน้าอ่างล้างหน้าค่ะ   UNIO RAMA2-THAKHAM เป็นคอนโดมิเนียมที่มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัว ส่วนกลางทำออกมาได้สวยตามสไตล์รีสอร์ท ให้บรรยากาศที่ดีในการพักผ่อน สิ่งแวดล้อมรอบข้างไม่แออัด ไม่วุ่นวายจนเกินไป แต่ยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะเป็นคนใช้รถสาธารณะที่สามารถนั่งรถเมล์, รถตู้ ลงป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลพระราม 2 แล้วเดินย้อนกลับไปยังคอนโดก็ยังได้ หรือจะใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางเข้าเมืองด้วยทางพิเศษเฉลิมมหานคร แล้วเชื่อมต่อไปยังทางพิเศษศรีรัชเข้าสู่สาทร-สีลม ด้วยเวลาประมาณไม่เกิน 50 นาที แต่หากจะวิ่งเส้นนอกเมืองก็ไปขึ้นถนนกาญจนาภิเษก โดยให้ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วน   จุดเด่นของโครงการนี้คือทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดของช่วงถนนพระราม 2 ทั้งโฮมโปรที่อยู่ปากทางถนนท่าข้ามเพียง 120 เมตร บิ๊กซีฝั่งเดียวกันกับคอนโดประมาณ 500 เมตร และเซ็นทรัลพระราม 2 อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ก็สามารถเดินจากคอนโดไปได้เพียง 600 เมตร และยังใกล้กับโรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลบางมด รวมถึงสถานศึกษาตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึงมหาวิทยาลัย   "ใกล้ คุ้ม ครบ" คงจะเป็นนิยามของโครงการนี้ได้ดีที่สุด เพราะตอนนี้มีโปรโมชั่น ANANDA HEART SALE ล่าสุดจากอนันดา ผ่อน 555 บ./ด. นาน 2 ปี เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่แล้ว เริ่ม 1.29 ล้าน* โปรโมชั่นนี้สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2560 นี้เท่านั้น