Tag : รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

2 ผลลัพธ์
[Review] BTS สำโรง-เคหะฯ

[Review] BTS สำโรง-เคหะฯ

รอคอยกันมาพักใหญ่กับการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากสถานีสำโรงยาวไปจนถึงสถานีเคหะฯ จนเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา ก็เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการกันเสียที แถมยังนั่งฟรีตั้ง 4 เดือนด้วยนะ ทีมงาน Reviewyourliving ไม่รอช้า พาไปเดินสำรวจกันทุกสถานีมาฝากกันเลยค่ะ   รถไฟฟ้าสายสีเขียวสุขุมวิท มุ่งหน้าออกนอกใจกลางเมืองไปสุดที่สถานีสำโรงค่ะ ถ้าจะนั่งส่วนต่อขยายนี้ต่อล่ะก็ ต้องลงจากขบวนแล้วเดินไปชานชาลาฝั่งตรงข้ามค่ะ ซึ่งในอนาคตสถานีสำโรงแห่งนี้ก็จะกลายเป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง   บรรยากาศในวันแรกที่เปิดใช้ในช่วงบ่ายๆ ก็มีทั้งวัยทำงาน วัยเรียน และผู้สูงอายุที่มาทดลองนั่งกันอย่างสนุกสนานตั้งแต่สถานีสำโรงกันเลยค่ะ สถานีปู่เจ้า สถานีแรกของส่วนต่อขยายล่าสุด ตัวสถานีอยู่บริเวณซ.สุขุมวิท 115 เลยสามแยกปู่เจ้าสมิงพรายไปนิดหน่อย ข้างสถานีจะมีบิ๊กซีที่อยู่ติดกับ Ideo Sukhumvit 115 ที่ลูกบ้านเข้าอยู่กันตั้งแต่ปีที่แล้ว ถ้าเข้าซ.สุขุมวิท 115 ไปหน่อยก็จะมี Low Rise อย่าง Pause 115 กับ B Loft 115 อยู่ด้วย และล่าสุดกับคอนโดฯ ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ Supalai Veranda Sukhumvit 117 ห่างจากสถานีประมาณ 200 เมตร ฝั่งเดียวกันกับ Ideo Sukhumvit 115 รอบๆ นี้ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมทั้งถ.สุขุมวิทเอง และเข้าไปทางถ.ปู่เจ้าสมิงพราย ค่ะ เช่น Honda Toyota และ Panasonic ที่อยู่ใกล้กับสถานี สถานีเอราวัณ จากสถานีปู่เจ้า รางรถไฟฟ้าจะยกตัวขึ้นผ่านถ.กาญจนาภิเษก ฝั่งซ้ายมือผ่านพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ พอมาถึงตัวสถานีมองไปทางฝั่งขาเข้าก็จะเห็น 2 คอนโดพร้อมอยู่ ซึ่งมีที่ดินอยู่ข้างกันเลยค่ะ The Trust @BTS เอราวัณ กับ Aspire Erawan บันไดสถานีอยู่หน้าโครงการพอดีเลย เป็นสถานีที่สามารถขับรถเข้าถ.กาญจนาภิเษกได้สะดวกที่สุดค่ะ    สถานีโรงเรียนนายเรือ เป็นสถานีที่เราเริ่มจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากบนบีทีเอสแล้วล่ะค่ะ ตัวสถานีอยู่หน้าโรงเรียนนายเรือพอดิบพอดี ตรงชานชาลาฝั่งขาเข้าจึงต้องกั้นทึบสูงขึ้นมาค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามกันก็เป็นพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ถ้าเรามองไปทางสถานีต่อไปก็จะมีคอนโดมิเนียม Knightsbridge Sky River Ocean อยู่ริมถนนฝั่งขาออกค่ะ เป็นคอนโดฯ วิวสวยอีกโครงการหนึ่งเลยทีเดียว   สถานีปากน้ำ อยู่บริเวณหน้าวิทยาลัยสารพัดช่าง สมุทรปราการ ก่อนถึงสามแยกปากน้ำนิดหน่อย อยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหลายแห่งเลยค่ะ เช่น ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ, สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สมุทรปราการ, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ, ศาลจังหวัดสมุทรปราการ, สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ฯลฯ เป็นสถานีที่เริ่มมีผู้คนเยอะขึ้นกว่าสถานีอื่นๆ ที่ผ่านมาค่ะ และสามารถมองเห็นปากอ่าวไทย ซึ่งมีเรือบรรทุกสินค้าให้เห็นกันตลอดวัน สถานีศรีนครินทร์ จากสามแยกปากน้ำ รถไฟฟ้าจะเลี้ยวซ้ายไปตามถนน ผ่าน Samut Prakan Observation Tower & Knowledge Park หรือ อุทยานการเรียนรู้อ่าวไทย จังหวัดสมุทรปราการ ที่เห็นเป็นหอคอยสูงสีขาวคล้ายกับเป็น Lighthouse ปากอ่าวไทย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชมนะคะ ตามแผนจะเปิดให้เข้าชมประมาณปี 2563 และเมื่อผ่านสามแยกการไฟฟ้า ซึ่งตัดกับถนนศรีนครินทร์ก็เป็นเป็นที่ตั้งของสถานีค่ะ   สถานีแพรกษา ตั้งแต่สถานีปู่เจ้าไปจนสุดสาย สถานีแพรกษาถือว่าเป็นสถานีที่มีความคึกคักมากที่สุดค่ะ เพราะรอบๆ สถานีทั้งสองฝั่งมีทั้ง โรบินสัน, บิ๊กซี และโรงเรียนสมุทรปราการ ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางสิ่งอำนวยความสะดวกของปากน้ำก็ว่าได้ค่ะ สถานีอยู่เลยสามแยกที่จะเข้าสู่ถ.แพรกษา ไปเล็กน้อย ซึ่งก็จะมี Notting Hill Sukhumvit - Praksa คอนโดจากออริจิ้นอยู่ริมถนนค่ะ ถ้าเข้าไปลึกกว่านี้ก็มีโครงการแนวราบอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ แต่จะมีโครงการที่กำลังเริ่มก่อสร้าง โดยได้ EIA Approved แล้วนั่นคือ The President Sukhumvit-Samutprakan ใครที่อยู่แถวนี้อยู่แล้วหรือกำลังสนใจ สำหรับโครงการนี้ถือว่าทำเลดีมากๆ เพราะติดกับโรบินสันชนิดที่ว่าเดินไม่กี่ก้าว แถมหน้าโครงการก็มีสถานีแพรกษาอีกต่างหาก ถ้าไม่ติดว่ากว่าจะเข้าไปถึงกลางเมืองต้องผ่านไม่น้อยกว่า 13 สถานี   สถานีสายลวด ถัดมาไม่ไกลกัน ก่อนถึงสามแยกที่ตัดกับถ.สายลวด ก็จะเป็นที่ตั้งของสถานีสายลวดค่ะ ละแวกนี้ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบของผู้อยู่อาศัยดั่งเดิม มีหอพัก อพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็ก-กลาง อยู่บ้างภายในชุมชนเดิม ไม่แปลกที่จะเห็นคนขึ้น-ลงที่สถานีนี้อยู่พอสมควรค่ะ สถานีเคหะฯ สุดท้ายที่สถานีเคหะฯ ค่ะ จะมีความคล้ายกับสถานีหมอชิตตรงที่มีลานจอดรถค่ะ แต่ที่นี่จะเป็นลานจอดรถที่มีหลังคา ตีเส้นสำหรับจอดแบบเข้าซองเอาไว้เรียบร้อย ตอนนี้ยังเปิดให้จอดฟรี 4 เดือนตามรถไฟฟ้าอยู่ค่ะ แต่หลังจากนี้จะมีระบบการเสียเงินค่าที่จอดรถอย่างเป็นระบบ และห่างกันกับสถานีออกไปไม่ไกลก็ยังมีศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าอยู่ด้วยค่ะ   ตั้งแต่เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในสถานีเปิดใหม่มาทั้งหมดนี้ แต่ละสถานีจะต้องรอขบวนละประมาณ 10 นาที ซึ่งก็ถือว่าห่างกันอยู่พอสมควรเลยค่ะ ส่วนบรรยากาศรอบๆ ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นบ้านแนวราบเดิมๆ อยู่ อาจจะด้วยเหตุเพราะบทเรียนจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ Dev หลายเจ้าแห่กันไปสร้างโครงการไว้จนเหลือยูนิตเพียบ แต่สิ่งที่ต้องจับตามองอีกเรื่องคือ ราคาค่าโดยสารจริงหลังจากหมดช่วงฟรี 4 เดือนนี้ไปแล้ว ว่าจะมีชาวสมุทรปราการยังคงเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าต่อไปหรือไม่ เพราะถ้าหากราคาสูงเกินไป หลายคนคงจะต้องกลับมาทบทวนใช้บริการรถสาธารณะเดิมที่ใช้กันเป็นประจำอยู่แล้วก็ได้ ข้อมูล BTS เพิ่มเติม BTS ข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS Update รถไฟฟ้า ปี 2563 เคล็ดลับเลือกคอนโดติดรถไฟฟ้า คอนโดติดรถไฟฟ้า ดีจริงหรือ?  
The Privacy ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

The Privacy ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

The Privacy ติวานนท์ ตั้งอยู่ในซอยติวานนท์ 50 อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต และมีการคาดการณ์ว่าตัวโครงการจะมีระยะห่างจากตัวสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ 300 เมตร และด้วยที่เส้นทางนี้อยู่ในแนวรถไฟฟ้าความเจริญจึงเริ่มขยายตัวมาถึง ทำเลแถบนี้จึงเป็นที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้ย่านชุมชนเดิม ซึ่งมีแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ เพียบพร้อมอยู่แล้ว   การเดินทาง   ปัจจุบันการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมายังโครงการถือว่าสะดวกดีทีเดียว เพราะมีทั้งเส้นทางหลักอย่างถนนติวานนท์ ถนนสามัคคี รวมถึงถนนเส้นอื่นๆ ที่ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงได้ทั้งทางแยกแครายออกถนนงามวงศ์วานซึ่งมีด่านขึ้นลงทางด่วนห่างออกไปไม่ไกล รวมถึงถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนสนามบินน้ำ ที่ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงออกไปทางสะพานพระนั่งเกล้าได้อีกทาง แต่ปัญหารถติดก็ยังคงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ยิ่งตอนนี้ถนนไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งอยู่ใกล้ๆ กำลังก่อสร้าง รถที่เลี่ยงมาใช้ถนนติวานนท์ก็เยอะ พอรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้แล้ว ก็ใช่ว่าจะปัญหารถติดจะหมดไปนะครับ เพราะหลังจากปี 57 ซึ่งตัวโครงการพร้อมเข้าอยู่แล้ว รถไฟฟ้าสายสีชมพูบนเส้นติวานนท์ก็จะเริ่มทำการก่อสร้างกันต่อ ปัญหาการจราจรจึงติดยาวกันไปอีกหลายปี   เริ่มต้นมาจากทางด่วน ลงแจ้งวัฒนะเลยครับ วิ่งไปทางปากเกร็ดนะครับ วิ่งเลนในนะ อย่าขึ้นสะพาน ไม่ใช่ว่าไปไม่ได้แต่จะโดนกล้องถ่ายเอาได้ครับ ผ่านทางเข้า เมืองทองธานีไปครับ ผ่านโรงพยาบาล World Medical Center ผ่านตึกจัสมิน เมื่อเลยตึกจัสมินมาก็จะเห็นสะพานลอย ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด เข้าถนนเลี่ยงเมือง ก็วิ่งตรงยาวเลยครับ พอมาถึงสามแยกให้เลี้ยวขวา ทางซ้ายจะไปซอยสามัคคี เจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายอีกทีครับ ให้ชิดซ้ายเพื่อเข้าซอยติวานนท์ 50 เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วก็ตรงเข้าไปเรื่อยๆเลยครับ ถึงแล้วโครงการ The Privacy ติวานนท์ ยังไม่มีอะไรขึ้นเลยครับ ส่วนการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะ บริเวณปากซอยติวานนท์ 50 ก็มีทั้งรถแท็กซี่ รถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ การเดินทางไปไหนมาไหนจึงไม่ลำบากนัก แค่ต้องเผื่อเวลากันให้ดีๆ หน่อย ส่วนหลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าพร้อมเปิดใช้บริการแล้วการเดินทางคงสะดวกขึ้นมาก ในระยะแรกๆ คงได้พึ่งพารถไฟฟ้าสายสีม่วงกันไปก่อนสำหรับการเดินทางเข้าเมือง พอรถไฟฟ้าสายสีชมพูแล้วเสร็จก็น่าจะสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก ถึงจะต้องเปลี่ยนสายกันหลายต่อหน่อย แต่ก็ยังพอจะกะเวลาเดินทางที่แน่นอนได้   วิเคราะห์ตัวโครงการ   ทำเลที่ตั้งโครงการ The Privacy ติวานนท์ อยู่ในย่านชุมชนเดิมบรรยากาศจึงค่อนข้างพลุกพล่านอยู่พอสมควร แต่ด้วยความที่ตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ และอยู่ห่างจากปากซอยติวานนท์ 50 เข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร บรรยากาศรอบโครงการจึงค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยขึ้นเยอะ ยิ่งบ้านเรือนในซอยนี้ก็เป็นบ้านเดี่ยวเตี้ยๆ ไม่มีตึกสูงอยู่ใกล้ๆ จึงไม่ห่วงเรื่องเสียงรบกวนเลย ถึงจะบอกว่าตัวโครงการอยู่ในย่านชุมชนที่มีบรรยากาศคึกคัก แต่เรื่องอาหารการกิน ร้านค้า ร้านอาหารที่พอจะฝากท้องได้ก็ไม่มีอยู่ในระยะที่เดินสบายๆ เลย บริเวณปากซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านจำพวกฮาร์ตแวร์ อุปกรณ์ก่อสร้าง จานดาวเทียม แบตเตอรี่รถยนต์ ฯลฯ แต่ถ้าขับรถขยับออกไปหน่อยก็จะมีทั้ง ห้างโลตัส ติวานนท์ โลตัสรัตนาธิเบศร์ The Mall งามวงศ์วาน Big C Extra แจ้งวัฒนะ รวมถึง Central แจ้งวัฒนะ และ Central รัตนาธิเบศร์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในรัศมีที่สามารถเดินทางได้ในระยะเวลา 10-15 นาที (ถ้ารถไม่ติด) นอกจากนี้แล้วบริเวณรอบๆ ยังมีสถานที่ราชการใหญ่ๆ โรงพยาบาล อีกหลายแห่ง ถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยเส้นทางอยู่บ้าง หรือทำงานในแถบนี้ คงจะเคยชินกับสภาพแวดล้อมได้ไม่ยาก สำหรับตัวโครงการ The Privacy ติวานนท์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น มีจุดเด่นที่ตัวโครงการมีขนาดค่อนข้างเล็กและมีจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย รวมทั้ง 2 อาคารแล้วก็มีจำนวนแค่ 156 ยูนิต (อาคารละ 78 ยูนิต) ดังนั้นจึงได้เรื่องความเป็นส่วนตัวมากกว่าโครงการใหญ่ๆ แน่นอน ตัวอาคารไม่ได้มีลูกเล่นในการออกแบบเป็นพิเศษ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ชูเรื่องเพดานห้องที่สูง 2.6 เมตรและเรื่องช่องลมที่ช่วยระบายอากาศ ทำให้อากาศภายในอาคารไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ภาพรวมของตัวโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ถึงจะอยู่บนพื้นที่เดียวกันแต่ก็แยกออกจากกันเป็น 2 โครงการ คือ โครงการ A ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าโครงการเป็นอาคารทรงตรงๆ แบบปกติ ส่วนโครงการB จะเป็นอาคารรูปตัว L อยู่ทางด้านใน โดยทั้ง 2 อาคารจะใช้ทางเข้าออกแยกกันอย่างชัดเจน รวมถึงการบริหารงานก็ใช้นิติบุคคลดูแลแยกกันนะครับ เว้นแต่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องฟิตเนส สวนหย่อม และล็อบบี้ที่ยังใช้ร่วมกัน ที่จอดรถจะมีเฉพาะบริเวณใต้อาคารนับรวมจอดซ้อนคันแล้วสามารถจอดได้ทั้งหมด 62 คันเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก ถ้าคิดว่าตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ยังต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถส่วนตัวพอสมควร ส่วนเรื่องลิฟท์โดยสารนั้น แต่ละอาคารมีลิฟท์ให้ 1 ตัว อัตราส่วนที่ 1:78 ห้องถือว่าไม่หนาแน่นมากแต่ลิฟท์ห้ามเสียเด็ดขาด ไม่งั้นได้เดินขึ้นบันไดกันสนุกแน่ Plan ของอาคาร A Plan ของอาคาร B ภาพตัวโมเดลของโครงการ The Privacy ติวานนท์ ครับ อีกมุมนึงของโมเดลโครงการ The Privacy ติวานนท์   พาชมห้องตัวอย่าง   สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ The Privacy ติวานนท์ เรามีโอกาสได้เข้าไปชมห้องที่โครงการ The Privacy งามวงศ์วานแทน เนื่องจากสำนักงานขายได้ย้ายไปตั้งอยู่ที่งามวงศ์วาน ซึ่ง 2 โครงการนี้มีความใกล้เคียงกันทั้งตัวแปลนและ Lay out ห้อง แบบห้องที่มีมากที่สุดก็คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตร.ม. ซึ่งถ้าใครที่เคยมีโอกาสได้ชมห้องตัวอย่างในเครือ The Privacy มาบ้าง ก็คงจะเห็นถึงความใกล้เคียงกันกับโครงการอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ห้องที่นี่จะขายให้แบบ Fully Furnished เลย เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องครัวก่อนเลย ซึ่งเป็นครัวเล็กๆ ขนาดกำลังเหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากเป็นครัวแบบเปิด แน่นอนว่าเคาน์เตอร์ครัว พร้อมซิงค์ล้างจานก็ Built-in มาให้แล้ว ส่วนด้านตรงข้ามกับ Pantry ครัวจะเป็นห้องน้ำ ที่สามารถเปิดประตู้เข้าห้องน้ำได้ทั้งจากทางห้องครัวและห้องนอนครับ ถัดจากบริเวณครัวเข้ามาก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง โดยระยะระหว่างโซฟากับผนังนั้นไม่ได้กว้างมากนัก ดังนั้นแนะนำให้แขวนทีวีติดผนังจะดีกว่ามาก นอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้วยังช่วยเพิ่มระยะการดูทีวีได้ด้วยครับ ติดกันกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียง ซึ่งมีพื้นที่ให้ใช้งานได้เต็มที่ เพราะทางโครงการเลือกที่จะแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน เราจึงได้พื้นที่ใช้สอยบริเวณระเบียงไปเต็มๆ ธรณีประตูระเบียงก็ก่อมาให้สูงมาก ได้ข้อดีเรื่องไม่ต้องห่วงว่าน้ำจากระเบียงจะท่วมเข้าห้องครับ ถัดเข้ามาดูที่ห้องนอนกันบ้างครับ พื้นที่ห้องนอนไม่ได้กว้างมากนัก วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตเข้าไปก็เกือบจะไม่เหลือพื้นที่ปลายเตียงแล้ว แต่กลับกันพื้นที่ห้องที่มีลักษณะลึกเป็นแนวยาวมากกว่า บริเวณหน้าห้องน้ำจึงมีพื้นที่มากพอที่จะวางตู้เสื้อผ้าใหญ่ได้ 2 ตู้ เลยทำให้เหมือนได้พื้นที่แต่งตัวแบบ walk in closet เพิ่มขึ้นมา ส่วนในห้องน้ำก็จัดพื้นที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้เรียบร้อย มี Shower Box ติดตั้งมาให้พร้อมชุดสุขภัณฑ์มาตรฐาน แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้นะครับ อันนี้ต้องไปติดเพิ่มกันเอง อ้อ! อีกอย่างที่ติดตั้งมาให้พร้อมห้องเลยก็คือ Digital Door Lock ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบ Key Card และกดรหัสเข้าห้อง   Plan ห้องขนาด 28.00 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเห็นส่วนครัวอยู่ทางซ้าย มุมครัวจะมีโต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับส่วนครัว ซิ้งค์ล้างจานก็ใช้เป็นแบบมาตรฐาน ถัดจากส่วนครัว ก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ถัดไปก็จะเป็นส่วนของระเบียง จากห้องนั่งเล่นมองออกไปทางประตู มาที่ห้องนอน ในห้องนอนก็จะมีหน้าต่างบานใหญ่ไว้รับแดดอีกด้วย ส่วนของโต๊ะเครื่องแป้ง มองจากด้านในมองออกมาก็จะเห็นว่าส่วนของโต๊ะเครื่องแป้งนั้นจะอยู่อีกมุมนึง ตู้เสื้อผ้านก็จะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ เข้ามาในห้องน้ำกันครับ มีกระจกกั้นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจนครับ ฝักบัวที่โครงการให้มาครับ ชักโครกใช้ของ MOGEN อ่างล้างหน้าใช้แบบมาตรฐาน สวิทส์ไฟก็ใช้แบบธรรมดา Plan ห้องขนาด 33.00 ตร.ม. Plan ห้องขนาด 50.00 ตร.ม. ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดอยู่อาศัยในย่านติวานนท์-แจ้งวัฒนะ โครงการ The Privacy น่าจะเหมาะกับความต้องการ เพราะทั้งทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็ใกล้แหล่งชุมชน อีกทั้งยังได้พึ่งพาใช้งานรถไฟฟ้าสายสีชมพูด้วยในอนาคต การเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกขึ้นมากเลยทีเดียว ส่วนคนที่ใช้รถส่วนตัวอยู่แล้วการเดินทางไปไหนมาไหนก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย นอกจากเรื่องการจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก นอกจากนี้สาธารณูปโภคต่างๆ ก็อยู่แวดล้อมในระยะที่เดินทางถึงได้ไม่ยาก ถึงจะไม่ค่อยมีร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารให้พึ่งพาในระแวกใกล้ๆ แต่ห้างสรรพสินค้าก็มีหลายแห่งให้เลือกไปจับจ่ายใช้สอยได้ เช่นเดียวกันกับ Facilities ส่วนกลางที่มีมาให้ครบถ้วน แต่ก็เป็นแบบแค่พอใช้งานเท่านั้น ถ้าใครไม่ได้ซีเรียสเรื่องส่วนกลางมากก็จัดว่าอยู่ในระดับที่รับได้ครับ ส่วนซื้อหาห้องไว้เพื่อการลงทุน จัดว่าทำเลในย่านนี้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยโครงการรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงที่ใกล้จะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเริ่มสร้างในอนาคตอันใกล้นี้ จึงทำให้ความเจริญด้านต่างๆ ขยายตัวเข้ามามากขึ้น อีกทั้งในระแวกใกล้ๆ ก็มีศูนย์ราชการนนทบุรี และสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลเฉพาะทาง และโรงงานด้วย การปล่อยห้องให้เช่าจึงเป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ไม่ยาก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นผู้เช่าซึ่งทำงานอยู่ระแวกนี้มีจำนวนมากพอสมควร รวมถึงการปล่อยขายห้องให้ผู้ที่สนใจและอยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานก็มีโอกาสทำกำไรได้เช่นกัน