Tag : รีวิวคอนโดติดรถไฟ้า

4 ผลลัพธ์
Knightsbridge Space Rama 9 – ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Space Rama 9 – ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Space Rama 9 (ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9) - คอนโด High Rise สูง 28 ชั้น จาก Origin บนทำเล New CBD พระราม 9 ติดถนนอโศก-ดินแดง เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 เพียง 350 เมตร   รายละเอียดโครงการ เจ้าของโครงการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด คอนโด High Rise สูง 27 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 2-0-47 ไร่ จำนวนห้อง 325 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ที่จอดรถ Auto Parking 52% ที่ตั้งโครงการ ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ฟอร์จูน ทาวน์ เซ็นทรัล พระราม 9 G Tower Super Tower Unilever Show DC Mall Esplanade Cineplex The Street รัชดา รพ.พระราม 9 รพ.ปิยะเวช รพ.กรุงเทพ ร.ร.บางกอก ทวิวิทย์ วิทยาลัยนานาชาติ RIC   ลักษณะห้องและขนาดห้อง แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม.   สิ่งอำนวยความสะดวก Business Lounge Craft Café & Working Space Secret GardenHidden Backyard Garden EV Charger Private Sky Terrace & Garden Sky Sunset Pool Terrace & Garden Sky Infinity Lap Pool Sky Yoga & Zumba Sky Sunrise Onsen (Male & Female) Sky Panoramic Social Fitness Club Dusk & Dawn Sky Terrace Horizon Rooftop Lounge     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-030-0000 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://origin.co.th/knightsbridgespace/ https://goo.gl/zX9aw ORIGIN เปิดจอง Online Booking ครั้งแรก!   โดย ORIGIN จะเปิดจอง Online Booking ครั้งแรก 8 มี.ค. ‘‘3 คอนโด Flagship แบรนด์หรู KnightsBridge SPACE พระราม 9, KnightsBridge SPACE รัชโยธิน’’ และKnightsbridge collage สุขุมวิท 107 สุด Exclusive 100 ยูนิต แรกเท่านั้น!   ลงทะเบียน https://goo.gl/zX9awJ เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท พร้อมเข้าจองออนไลน์ก่อนใคร ในราคาสุดเอ็กคลูซีฟ!
Humble Living @ Fueangfu – คอนโด ฮัมเบิล ลีฟวิ่ง แอด เฟื่องฟู : รีวิวคอนโด

Humble Living @ Fueangfu – คอนโด ฮัมเบิล ลีฟวิ่ง แอด เฟื่องฟู : รีวิวคอนโด

Humble Living @ Fueangfu (ฮัมเบิล ลีฟวิ่ง แอด เฟื่องฟู) - คอนโด Low - Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 141 ยูนิต บนทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เพียง 3 นาที จาก MRT สุทธิสาร     รายละเอียดโครงการ   ราคา เริ่มต้น 1,690,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. ประมาณ 74,000 บาท/ตร.ม. เจ้าของโครงการ บริษัท ทริปเปิ้ล แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด คอนโด Low-Rise 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 1-0-42.9 ไร่ จำนวนห้อง 141 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ ซอยเฟื่องฟู ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. คาดว่าแล้วเสร็จ ปี พ.ศ. 2561   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   สวนลุมไนท์บาร์ซ่า เมืองไทยภัทร The Street รัชดา บิ๊กซี รัชดา เอสพลานาด รัชดา ฟอร์จูนทาวเวอร์ เซ็นทรัล พระราม 9 โรงพยาบาลพระราม 9     ลักษณะห้องและขนาดห้อง   1 Bedroom ขนาด 23.00-25.00 ตร.ม. 2 Bedrooms ขนาด 36.00-59.00 ตร.ม.     สิ่งอำนวยความสะดวก   ฟิตเนส Garden สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มีสระเด็ก ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 091-407-0261-2 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.humblelivingcondo.com/
The President สาทร – ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

The President สาทร – ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

ข้ามฝั่งมาดู คอนโดมิเนียม แถวฝั่งธนบุรีกันบ้างครับ กับโครงการ The President สาทร - ราชพฤกษ์ โครงการใหญ่ติดสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้จะสังเกตุเห็นได้ง่าย เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนตรงแยกถนนเพชรเกษมตัดกับถนนราชพฤกษ์พอดี โครงการนี้มีเจ้าของโครงการเป็น Developer หน้าใหม่ในวงการที่อยู่อาศัยแบบอาคารสูง แต่ด้วยศักยภาพของทำเลที่น่าสนใจมาก และขนาดของโครงการที่กำลังขยายไปถึงเฟสที่ 3 แล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองเลยทีเดียว   การเดินทาง   การเดินทางมายังโครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ สามารถมาได้หลายทาง แต่วิธีที่สะดวกที่สุดคือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีบางหว้า ออกทางออกที่ 4 แล้วข้ามถนนมาอีกนิดหน่อยก็ถึงตัวโครงการแล้ว ระยะห่างจากตัวสถานีถึงหน้าโครงการไม่เกิน 50 เมตรเท่านั้น ส่วนรถไฟฟ้าอีกสายที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างขณะนี้คือรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ซึ่งมีสถานีบางหว้าเป็นจุด Inter Change Station ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้นี้ เรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากหน้าโครงการThe President จึงถือว่าสะดวกมากๆ ทั้งการมุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจอย่างสาทรหรือสยามด้วยรถไฟฟ้า BTS  รวมถึงการเดินทางออกไปยังย่านบางแค-บางซื่อด้วยรถไฟฟ้า MRT ก็สามารถกำหนดระยะเวลาในการเดินทางได้แน่นอนมากขึ้น วิ่งมาจาก สะพานตากสิน มาลงที่แยกบางหว้า แล้วให้เลี้ยวซ้ายเพราะแยกนี้ยังไม่ให้เลี้ยวขวา เมื่อเลี๊ยวซ้ายมาแล้ว ให้เตรียมกลับรถ กลับรถ เมื่อกลับรถแล้ว ก็ให้วิ่งไปแยกบางหว้า ผ่านรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า ผ่านแยกบางหว้า จะเห็นโครงการ The President อยู่ทางขวา ผ่านแยกมาแล้ว ให้เตรียมตัวกลับรถ ทางกลับรถจะเห็นปั้มเชลล์อยู่ทางซ้าย เมื่อกลับรถมาแล้วให้เข้าซ้ายทันที เพราะโครงการอยู่ก่อนถึงแยกบางหว้า วิ่งเลยไปหน่อยจะเป็นทางเข้าโครงการ The President เฟส 2 ทางเข้า The President เฟส 2 นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ก็จัดว่าสะดวกไม่น้อยไปกว่ากันเลย เพราะถนนหน้าโครงการเป็นสี่แยกถนนเพชรเกษมตัดกับถนนราชพฤกษ์ ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักๆ ที่สามารถใช้เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่ายๆ ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการไม่ว่าจะเลือกถนนราชพฤกษ์ข้ามมาฝั่งสาทร หรือจะไปทางถนนเพชรเกษมเข้าวงเวียนใหญ่ก็ได้  จะมีปัญหาหน่อยก็ตรงที่ช่วงเวลาเร่งด่วนปริมาณรถจะหนาแน่นมากๆ เข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว แถมพื้นที่ฝั่งธนบุรีก็ไม่มีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ เลย เส้นทางเลี่ยงรถติดจึงทำได้แค่ใช้เส้นทางลัดเลาะตามซอยเล็กซอยน้อยเท่านั้น ส่วนใครที่หวังจะพึ่งพาบริการรถสาธารณะอย่างรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือแม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ เพื่อเดินทางในระยะใกล้ๆ บริเวณหน้าโครงการก็หาเรียกรถได้ไม่ยากเลย แถมปัจจุบันทางกรุงเทพมหานครยังเปิดให้บริการเดินเรือโดยสารในคลองภาษีเจริญแล้วด้วย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับใครที่ต้องการโดยสารเรือไปยังจุดต่างๆ ตามแนวคลองภาษีเจริญ ที่สำคัญท่าขึ้นเรือก็อยู่บริเวณด้านหลังโครงการพอดีอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยวิธีไหนก็ดูจะสะดวกไปซะทุกทางเลย   วิเคราะห์ตัวโครงการ   โครงการThe President สาทร-ราชพฤกษ์ เปิดตัวไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันจึงเริ่มเปิดขายในเฟสที่ 2 ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งโครงการที่ซึ่งอยู่ตรง 4 แยกพอดี ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก (ถ้ารถไม่ติด) แถมบริเวณรอบๆ ก็เป็นเขตชุมชนเดิมมีคนอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก เรื่องร้านค้า ร้านอาหาร ตัวอาคารและการออกแบบในเฟสที่ 2 ไม่ได้ต่างจากเฟสแรกมากนัก ถ้าใครได้เคยเข้าไปชมโครงการก่อนหน้านี้แล้วก็น่าจะพอนึกภาพตามได้ไม่ยาก สำหรับอาคารในเฟสที่ 2 นี้ เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ส่วนของที่พักอาศัยเริ่มกันตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไป บริเวณชั้น 1-5 จึงเป็นที่จอดรถทั้งหมด ซึ่งนับรวมแล้วจำนวนที่จอดรถก็มีเพียง 30% เท่านั้น ถือว่าจัดมาแบบพอให้มีจำนวนจอดได้ตามมาตรฐาน ตามแบบฉบับโครงการใกล้รถไฟฟ้าที่เน้นจับกลุ่มคนที่ไม่ใช้รถส่วนตัว และต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก พื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ที่ชั้น 6 แต่ดูจากขนาดคร่าวๆ ในแปลนแล้ว ต้องบอกว่าพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับคอนโด High Rise ที่มีจำนวนลูกบ้านเกือบ 600 ห้องแบบนี้ ถึงแม้จะมีสวนหย่อมบนดาดฟ้าเพิ่มขึ้นมาด้วยก็ตาม เวลาที่ต้องใช้งานจริงๆ อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านก็ได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดมาให้ 4 ตัว ซึ่งเฉลี่ยแล้วลิฟต์ 1 : 146 นับว่าหนาแน่นมากเหมือนกันครับ เวลาเช้าๆ อาจต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย อย่างที่บอกว่าอาคารของเฟส 2 ตั้งอยู่ติดๆ กันกับเฟสแรก ห้องพักด้านนี้จึงถูกบังวิวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ในขณะที่ด้านอื่นๆ ยังโชคดีที่ไม่มีอาคารอะไรมาอยู่ในระยะประชิด เพราะส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้นเท่านั้น จะเลือกห้องมุมไหนก็พิจารณาดูแปลน และทิศทางของทั้ง 2 เฟสเปรียบเทียบกันให้ดีๆ ครับ เพราะทางโครงการจะโชว์แปลนแยกกัน บางทีเราเลยลืมไปว่ายังมีตึกของเฟสแรกบังวิวกันอยู่ model โครงการ The President เฟส 1 model โครงการ The President เฟส 2 ด้านข้างของ model โครงการ The President เฟส 2 ด้านหลังโครงการติดกับคลองภาษีเจริญ-ซึ่งมีท่าเรือของกรุงเทพมหานครที่กำลังทดลองให้บริการฟรีอยู่ พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ของ โครงการ The President เฟส 3 ในช่วงทดลองให้บริการ-เรือจะให้บริการแค่ช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้น บริเวณท่าเรือจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย-ค่าบริการตรวจสอบได้ตามป้าย   พาชมห้องตัวอย่าง   สำหรับห้องพักของโครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ ก็มีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 30 ตร.ม. ไปจนถึงขนาด 60 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สุด ห้องทั้งหมดขายกันมาแบบห้องเปล่าๆ จะมีที่มาพร้อมห้องก็แค่ ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศเท่านั้น สำหรับ Lay out ของห้องแบบ 1 ห้องนอน ต้องบอกว่าจัดพื้นที่ใช้สอยมาได้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัวแบบปิดที่วางอยู่ในตำแหน่งติดระเบียง จึงช่วยเรื่องการระบายกลิ่นได้เป็นอย่างดี   สำหรับแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาด 30 ตร.ม. และ 34.5 ตร.ม. จะต่างกันอยู่พอสมควรในเรื่องของฟังก์ชั่นห้อง เพราะห้อง 30 ตร.ม. ใช้กระจกบานเลื่อนกั้นพื้นที่บริเวณห้องนอน ซึ่งช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายตามากขึ้น แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า ห้องแบบนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน และไม่ได้มีแขกมาเยี่ยมห้องบ่อยๆ ครับ ส่วนห้อง 1 ห้องนอนที่ขนาด 34.5 ตร.ม. จะเป็นอีกแบบที่เป็นตัวเปรียบเทียบที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะได้พื้นที่ห้องเพิ่มขึ้นแล้ว การจัดวาง Lay out ห้องที่กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบและติดตั้งประตูบานสวิงแทน จึงทำให้ห้องแบบนี้ดูเป็นสัดส่วนเรียบร้อยมากกว่า ในส่วนของห้องครัวนั้นถือว่าจัดมาได้เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง เพราะมีประตูบานเลื่อนกั้นห้องครัวออกจากพื้นที่นั่งเล่นเรียบร้อย แถมตำแหน่งที่อยู่ติดระเบียงก็ยังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายกลิ่นได้อีกทางด้วย หันกลับมาดูที่ห้องน้ำ ทางโครงการก็จัดเตรียมชุดสุขภัณฑ์ไว้ตามมาตรฐาน มีฉากกั้นอาบน้ำแยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียก โดยรวมแล้วห้องแบบ 1 ห้องนอนออกแบบมาค่อนข้างดีทีเดียวครับ นอกจากนี้ทางโครงการยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่ขนาด 50-60 ตร.ม. เผื่อคนที่ต้องการห้องใหญ่ไว้อยู่อาศัยเป็นครอบครัว แต่ราคาห้องก็โดดขึ้นไปอีกเท่านึงเลยทีเดียว ทำให้คนที่อยากจะได้ห้องใหญ่ต้องคิดหนักกันหน่อย เพราะราคาขนาดนี้อาจจะมีตัวเปรียบเทียบให้เลือกมาก ทั้งในเรื่องของทำเล ขนาด และแบรนด์เจ้าของโครงการ เมื่อเข้าห้องก็จะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่น มองตรงเข้าไปจะเป็นห้องนอน ส่วนของโซฟาจะอยู่ทางซ้าย มุมทานข้าวอยู่หน้าห้องนอน ติดกับมุมนั่งเล่น ถัดมาเป็นห้องนอน ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น จะกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ห้องนอน มองจากห้องนอนออกมา มุมด้านในห้องนอน มาถึงห้องครัว ถ่ายจากระเบียงเข้ามา จะเห็นว่าตู้เย็นจะวางติดกับเคาเตอร์ครัว เคาเตอร์ครัวที่ทางโครงการมีให้ เตากับเครื่องดูดควัน ทางโครงการมีทำการแบ่งพื้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว ห้องนั่งเล่นจะใช้เป็นพื้นไม้ลามิเนต ส่วนพื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้อง เข้ามาดูห้องน้ำจะได้กระจกบานใหญ่ แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง อุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นแบบมาตรฐาน ธรณีประตูระหว่างห้องน้ำกับห้องครัว สวิทซ์ไฟแบบมาตรฐาน มาดูห้องขนาด A2 บ้าง เข้ามาก็เป็นห้องนั่งเล่นเหมือนกัน ถัดจากห้องนั่งเล่น ก็จะเป็นห้องครัว โต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับส่วนห้องนั่งเล่น ทีวีจะอยู่ติดกับประตูทางเข้า โต๊ะทาานข้าวติดกับห้องครัว เคาเตอร์ที่โครงการมีให้ เตากับเครื่องดูควันจะอยู่แยกกับส่วนของซิ้งค์ล้างจาน จากห้องครัวมองออกไปที่ห้องนั่งเล่น มุมห้องนอน มุมเตียงนอน ชั้นวางทีวีปลายเตียง มุมตู้เสื้อผ้า มองจากห้องนอนออกมา ความคุ้มค่าน่าลงทุน โครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการที่มีจุดเด่นดีในด้านของทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่เกาะติดกับสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าทั้ง 2 สาย และตั้งอยู่บริเวณ 4 แยกของถนนสายหลักอย่างราชพฤกษ์และเพชรเกษม การเดินทางไปไหนมาไหนจึงจัดว่าสะดวกมากเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในเรื่องของมลภาวะทางเสียง และฝุ่นละอองที่อาจะเลี่ยงได้ยาก สำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าในงบประมาณไม่เกิน 3 ล้าน โครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ คงได้เปรียบมาก เพราะตัวสถานีอยู่ห่างออกไปเพียง 50 เมตรเท่านั้น ศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งจึงเรียกคะแนนความสนใจได้สูงมากๆ สำหรับด้านการลงทุน โครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ จัดว่ามี Upside Gain สูง ทั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า แหล่งสาธาณูปโภคต่างๆ ที่จัดว่าสะดวกครบครัน การจะขายเพื่อทำกำไรต่อ หรือปล่อยห้องเช่าก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าหมดจากเฟสแรกไปแล้ว มาจนถึงเฟส 2 ที่กำลังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ปริมาณห้องค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีข่าวมาว่าทางโครงการอาจจะสร้างเฟสที่ 3  เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ซึ่งแต่ละอาคารก็มีจำนวนยูนิตไม่ต่ำกว่า 500 ห้อง จำนวนห้องมีโอกาสล้นเกินความต้องการ แถมความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้ก็จะมากตามไปด้วย  นอกจากนี้ตัว Developer ก็เป็นรายใหม่ในวงการที่อยู่อาศัยแบบอาคารสูง เรื่องการจัดการในด้านต่างๆ จึงยังไม่มีข้อมูลเก่าๆ ให้ศึกษามากนัก ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของ Developer ก็ทำให้ต้องคิดกันเยอะขึ้นอีกนิดครับ
Supalai Veranda รัชวิภา – ประชาชื่น : รีวิวคอนโด

Supalai Veranda รัชวิภา – ประชาชื่น : รีวิวคอนโด

โครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา – ประชาชื่น ตั้งอยู่บนถนนประชาชื่น ใกล้กับซอยประชาชื่น 18 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงและอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ดังนั้นโอกาสที่จะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายนี้จึงไม่ใช่แค่โครงการในฝันอีกต่อไป ตัวโครงการของนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันดีกว่าครับ การเดินทาง เริ่มจากแยกประชานุกูลมุ่งหน้ามาทางเตาปูนเป็นระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร ก็จะเห็นตัวโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่นอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งเดิมทีที่ดินตรงนี้เคยเป็นอู่รถเมล์เก่ามาก่อน ชื่อว่า อู่ศรีณรงค์ ถ้าหากใครพอจะคุ้นเคยกับทำเลแถบนี้อยู่บ้างก็คงพอจะนึกภาพออก หรือลองถามคนแถวนั้นดูรับรองว่าชี้บอกตำแหน่งได้หมดแน่นอนครับ  สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลักถนนหนทางสะดวกดีทีเดียว ทั้งเส้นทางขึ้นลงทางด่วนบริเวณแยกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ จะเข้าออกเมืองก็สามารถตรงไปเข้าถนนรัชดาภิเษก หรือหันกลับมาอีกทางก็มีถนนพระราม 5 ที่ใช้เป็นเส้นทางหลักๆ ในการเดินทางได้เช่นกัน หรือถ้าต้องการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ จะหาเรียกแท็กซี่ก็ง่าย รอรถเมล์ หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สะดวกเนื่องจากป้ายรถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่หน้าโครงการเลย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์จึงไม่เรื่องยากเลย จะติดก็แค่ปัญหารถติดมากหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน เริ่มเดินทางมากจากแยกพงเพษร วิ่งมาตามทางถนนประชาชื่นเพื่อมุ่งหน้าไปทางประชานุกูล วิ่งมาเรื่อยๆจะเห็นตึกของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อยู่ทางขวา ตึกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อยู่ทางขวาส่วนด้านหน้าจะเป็นแยกประชานุกูล ให้วิ่งตรงผ่านแยกประชานุกูลไปเลยครับ จะผ่านโครงการ ยู ดีไลท์ที่อยู่ทางขวา วิ่งลอดรางรถไฟฟ้า ก็จะเจอโครงการอยู่ทางขวา เลี้ยวเข้าไปเลยครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ในขณะนี้เส้นทางที่สะดวกที่สุดก็คือ การใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีปลายทางบางซื่อ แล้วต่อรถมาที่ตัวโครงการก็สะดวกดีเหมือนกัน ส่วนในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้บริการแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกขึ้นมาก เพราะตัวสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซ่อน ซึ่งอยู่ทางด้านหลังโครงการตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 250 เมตร รวมถึงสถานีรถไฟบางซ่อน (สายสีแดงอ่อน) ก็อยู่ติดๆ กัน แต่ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรเท่านั้น ด้วยระยะทางเท่านี้เรียกว่ากำลังเดินได้สบายๆ ไม่ไกลจนเกินไป แต่ถ้าวันไหนรีบๆ ก็สามารถพึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์ได้ครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ บริเวณรอบๆ ตัวโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่นถือว่าเพียบพร้อมดีทีเดียว ทั้งเรื่องอาหารการกินที่มีให้เลือกหลากหลายและตั้งอยู่ติดหน้าโครงการทั้งซ้ายขวา เช่นร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึงร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเราสามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือถ้าจะขับรถออกมาจากตัวโครงการซักหน่อย บนถนนประชาชื่นช่วงเย็นๆ ก็มีร้านข้าวต้ม ร้านอาหารให้เลือกอีกหลายร้าน แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้ง โลตัส ประชาชื่น น่าจะเป็นตัวเลือกที่ใกล้ที่สุด และก็ยังมีบิ๊กซี วงศ์สว่างที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนแหล่งช็อปปิ้งอื่นๆ ทั้งเซนทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอล เมเจอร์รัชโยธิน สวนจตุจักร และตลาดบองมาเช่ ก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินไป รวมถึงสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น โรงพยาบาล คลินิค โรงเรียน สถานที่ราชการ ก็ถือว่าอยู่ในระแวกใกล้เคียงเช่นกัน สภาพแวดล้อมรอบโครงการถือว่าเปิดโล่งใช้ได้เลย ตึกสูงที่อยู่ใกล้ๆ ที่พอจะมีผลในการบดบังทิศทางแดด ลม และวิว ก็เห็นจะมีแต่ตึกของโครงการ U Delight2 ที่อยู่ทางทิศเหนือเท่านั้น นอกนั้นก็มีแต่บ้านพักอาศัยที่อยู่มาแต่เดิม และอาคารของประชาชื่นคอนโดสูง 5 ชั้นที่อยู่ขนาบข้างทางด้านทิศใต้ แต่ตึกนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ เนื่องจากส่วนของที่พักอาศัยในโครงการศุภาลัย เวอเรนด้าฯ จะเริ่มที่ชั้น 5 ขึ้นไป ห้องที่ถูกบังวิวจึงมีไม่ค่อยมากนัก ด้วยลักษณะของที่ดินที่เป็นแนวยาวลึกเข้าไปด้านใน ทางโครงการจึงออกแบบตัวอาคารให้วางเรียงกันโดยแบ่งเป็น 3 ตึก สูง 29 ชั้น และมีพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมต่อถึงกัน โดยมียูนิตรวมทั้งหมด 1,705 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้าด้านล่างอีก 26 ยูนิต จัดได้ว่าหนาแน่นอยู่เหมือนกัน ตัวอาคารของโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า ไม่ได้มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากนัก รูปทรงอาคารเป็นแบบทั่วๆ ไปธรรมดา ทางเข้าออกโครงการหลักมีทางเดียวคือฝั่งถนนประชาชื่น ส่วนทางด้านหลังโครงการจะมีประตูเล็กสามารถเดินทะลุออกไปยังซอยกรุงเทพ-นนท์ 30 เพื่อเดินต่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ ทางนี้รถออกไม่ได้นะครับ เป็นทางคนเดินอย่างเดียว มาดูที่พื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ซึ่งหลักๆ แล้วจะถูกรวมไว้ที่ชั้น 5 เกือบทั้งหมด เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ยาวถึง 53 เมตร ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย ห้องแอโรบิค ห้องซาวน่า ห้องสันทนาการ ห้องอเนกประสงค์ ห้องประชุม และสวนหย่อมที่จัดไว้ทั้งบริเวณชั้น 5 และบริเวณด้านล่างโครงการ ซึ่งต้องบอกว่าจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะดีทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับขนาดของโครงการแล้ว อาจจะเรียกได้ว่าแค่พอใช้งานได้ครับ เพราะจำนวนลูกบ้านทั้งหมดมีมากกว่า 3,000 คนแน่นอน ถ้าแห่กันลงมาใช้บริการที่ส่วนกลางพร้อมๆ กัน ยังไงก็ไม่พอรองรับได้หรอกครับ อีกเรื่องที่ไม่น่ามองข้ามสำหรับโครงการใหญ่ๆ คือ ลิฟท์โดยสาร ซึ่งแต่ละตึกจัดไว้เพียง 2 ตัวเท่านั้น รวมแล้วก็แค่ 6 ตัวต่อจำนวนห้องกว่า 1,700 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนที่ 285 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ไม่ต้องขยายความก็คงพอจะนึกภาพออกนะครับว่าต้องรอลิฟท์กันนานแค่ไหน ส่วนเรื่องที่จอดรถทางโครงการเคลมไว้ว่ามีจำนวน 56% แน่นอนว่านับรวมแบบจอดซ้อนคันแล้ว ก็นับว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลกับโครงการราคาระดับนี้ พาชมห้องตัวอย่าง ห้องส่วนใหญ่ของโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่น จะเป็นแบบสตูดิโอ และห้องแบบ 1 ห้องนอน ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนก็มีให้เลือกบ้างเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องมุมของอาคาร ส่วนตำแหน่งห้องใครจะเลือกชั้นไหน อาคารไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และความสะดวกส่วนตัวครับ แต่ก่อนอื่นไปดูห้องตัวอย่างกันก่อนดีกว่า เริ่มต้นกันด้วยห้องแบบสตูดิโอ ขนาด 31.5-33 ตร.ม. ซึ่งถือว่าจัดพื้นที่มาให้ใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว เปิดประตูเข้าห้องมาก็เจอส่วนของพื้นที่นั่งเล่น และห้องนอนที่อยู่ติดกันเลย ห้องแบบนี้จะไม่มีการกั้นประตูกระจกแยกส่วนของห้องนอนกับห้องนั่งเล่นให้นะครับ การจัดสรรพื้นที่ก็แล้วแต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้อง ส่วนพื้นที่ถัดไปด้านในเป็นห้องน้ำและห้องครัว โดยห้องครัวจะเป็นแบบครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้เป็นสัดส่วน และอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งพื้นที่ของห้องครัวนั้นถือว่าใหญ่ใช้ได้เลย คนที่ชอบทำครัวด้วยตัวเองน่าจะถูกใจพื้นที่ส่วนนี้ เพราะถ้าต้องทำครัวหนักๆ ก็สามารถเปิดประตูระเบียงให้ช่วยระบายกลิ่นได้ด้วย ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน มีขนาดตั้งแต่ 42.5-45 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในห้องจัดว่ากว้างขวางเลยทีเดียว เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นที่ดูโล่งสบายตาดี การจัดสรรพื้นที่ในห้องทำมาแบบหลวมๆ ด้านหลังชั้นวางทีวีจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งอยู่ในแนวเดียวกันกับห้องครัว แน่นอนว่าพื้นที่ห้องครัวยังคงจัดสรรมาให้กว้างมากพอที่จะทำครัวได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนนี้ พื้นที่ห้องนอนจะดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่อึดอัดเกินไป เพราะประตูห้องเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้แสงสว่างส่องมาถึงห้องนั่งเล่นได้ และช่วยให้บรรยากาศโดยรวมภายในห้องโปร่งมากขึ้นครับ ห้องทั้งหมดขายมาให้แบบ Fully Furnished ซึ่งทางโครงการก็จัดมาให้พอสมควรทั้ง Wallpaper เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ชุดครัวพร้อมตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง ฉากกั้นอาบน้ำ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามมาตรฐานราคาห้อง ไม่ได้หรูหรามากมายแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกรดที่ใช้งานได้ ถ้าใครได้มีโอกาสไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่น ก็จะได้เห็นบรรยากาศห้องแบบคร่าวๆ เท่านั้น เพราะทางโครงการไม่ได้กั้นห้องให้มีผนังทึบตามแบบจริง เรื่องตำแหน่งของประตูเข้าห้องเราอาจจะต้องกะระยะกันคร่าวๆ รวมถึงเรื่องบรรยากาศห้องที่อาจจะทึบมากขึ้นเมื่อมีผนังปูนรอบด้าน ในขณะที่ห้องในสำนักงานขายกั้นเป็นผนังกระจกใส เราจึงอาจจะถูกหลอกตาให้รู้สึกว่าห้องโปร่งโล่งสบายตากว่าในความเป็นจริงก็ได้ โมเดลห้องของขนาด 31.5 ตร.ม. เมื่อเข้ามาในห้องก็จะมาเจอส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องแบบสตูดิโอ ห้องนั่งเล่นจะติดกับห้องนอนโดยไม่มีอะไรมากั้น มุมห้องนั่งเล่นมองเข้าไปยังห้องครัว ส่วนของเตียงนอนก็จะมีมุมทีวีอยู่ปลายเตียง เตียงนอนวางในตำแหน่งที่ใก้ลกับโซฟา จากมุมห้องนอนมองออกมาทางด้านหน้าประตูห้อง ส่วนของห้องน้ำ โครงการก็มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ส่วนสุขภัณฑ์ก็ใช้แบบมาตรฐาน ห้องครัวจะไม่มีส่วนของเตาจะมีแค่ซิ้งค์ล้างจาน หน้าตาซิ้งค์ล้างจากของโครงการครับ โมเดลของห้องขนาด 44.0 ตร.ม. จากห้องนั่งเล่นจะมกระจกกั้นห้องระหว่างน้องนั่งเล่นกับห้องนอน ห้องนอนจะมีกระจกบานใหญ่อยู่ในห้องด้วย จากห้องนอนมองออกไปจะเห็นส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ มุมทานข้าวอยู่ใกล้กับส่วนของนั่งเล่น มาถึงงห้องน้ำ เมื่อมองจากห้องนอนเข้าไป ห้องน้ำก็จะมีส่วนแห้งส่วนเปียกแยกชัดเจนครับ ออกจากห้องน้ำก็จะตรงกับส่วนครัวเลยครับ ห้องครัวโครงการก็ให้อุปกรณ์มาตรฐาน ประตูห้องครัวตรงกับห้องน้ำพอดี ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัชวิภา-ประชาชื่น ต้องถือว่าค่อนข้างได้เปรียบเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งบริการรถสาธารณะก็ตาม ยิ่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้นี้แล้วด้วย ความเจริญ ความสะดวกสบายต่างๆ ก็จะขยายตัวมาแถบนี้มากขึ้น ศักยภาพด้านการเติบโตในอนาคตจึงมีมาก และแน่นอนว่าคอนโดโครงการอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงก็มีขึ้นมากันเยอะ ทำให้มีตัวเลือกเปรียบเทียบมากตามไปด้วย อีกส่วนที่ควรระวังก็คือจำนวนห้องที่ล้นตลาดของทำเลในแถบนี้ ทำให้การปล่อยขายห้อง หรือการปล่อยห้องเช่าทำได้ยาก ยิ่งในบริเวณรอบๆ ก็ไม่มีแหล่งสำนักงาน หรือศูนย์ราชการใหญ่ๆ ที่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องการหาที่พักอาศัย บางทีการหาคนเช่าก็อาจจะทำได้ไม่ง่ายนัก แต่ถ้ามองในแง่ของการซื้อหาไว้สำหรับอยู่อาศัยเอง ตัวโครงการก็จัดว่าอยู่ในทำเลที่ดี เพราะอย่างที่ทราบดีอยู่แล้วว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่เป็นสถานี Interchange ด้วย คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวจึงเดินทางได้สะดวกมาก อีกทั้งบริเวณใกล้ๆ และใต้โครงการเองก็มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ให้เลือกมากมาย เรื่องปากท้องจึงไม่น่าเป็นห่วง จัดว่าอุดมสมบูรณ์ดีด้วยซ้ำไป นอกเหนือจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการต่อรองกับเซลล์ว่าจะได้ของแถม หรือส่วนลดอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอีกตัวช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นก็ได้ครับ