Tag : เฟอร์นิเจอร์

10 ผลลัพธ์
You Need = Younique “ยูนีค” เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ

You Need = Younique “ยูนีค” เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ

ในยุคที่คนเมืองมีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อะไรที่ได้ชื่อว่ามีชิ้นเดียวในโลกหรือผลิตมาเพื่อเราโดยเฉพาะถือว่าเจ๋งสุดๆ ไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่ยังรวมถึงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ที่ปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาไปจนถึงขีดความสามารถที่ Customize ได้แบบรายบุคคล และเมื่อ You Need คือ อะไรที่คุณอยากได้ คุณต้องการ Younique “ยูนีค” ทำให้ได้ทุกอย่างจริงๆ ทำให้เกิดกระแสตอบรับที่ดีมาก จึงอยากบอกต่อ ไม่เชื่อมาดูคู่รักดาราที่คบกันมาราธอนยาวนานกว่า 15 ปี อย่าง “ซาร่า เล็กจ์” และ “เอ็ม-สืบสกุล ทวีผล” หรือ “เอ็ม โอไอซี” ที่เพิ่งจะควงแขนเข้าประตูวิวาห์กันเมื่อไม่นานมานี้ โดยทั้งคู่ได้มาแชร์ไอเดียการ Customized Furniture ที่ “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) โดย อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) ที่ปรับพื้นที่ใช้สอยจาก 35 ตร.ม. ให้เพิ่มขึ้นเทียบเท่า 53 ตร.ม. พร้อมสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและออกแบบจนคุณพอใจ ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยในห้องโปรดเต็มพื้นที่ ทั้งแนวราบ แนวดิ่ง ด้วยการยืด ย่อ หด ขยาย ปรับขนาดได้ถึงขั้นมิลลิเมตรเลยทีเดียว แถมยังเลือกสี ขนาด และฟังก์ชันการใช้งานได้ตามใจโดยมีดีไซเนอร์ส่วนตัวช่วยดูแลและให้คำปรึกษาตั้งแต่ก้าวแรกจนเสร็จสิ้นการประกอบติดตั้ง ในงบประมาณที่แสนน่าพอใจอีกด้วย!!   ซาร่า เล็กจ์ ดารานักแสดงสาวเผยด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขว่า “ทุกคนเชื่อไหมว่า โลกของซาร่าและคุณเอ็มช่างเป็นโลกที่แตกต่างกันมากค่ะ ซึ่งซาร่าจะเป็นคนชัดเจน เป็นผู้หญิงที่มีความชอบเฉพาะตัวสูง เช่น อยากได้ห้องแต่งตัวที่มีชั้นใส่ของที่เก็บได้ทุกไอเท็มแฟชั่น ตั้งแต่เครื่องประดับ หมวกใบเก๋ กระเป๋าใบเล็กใบน้อย ไปจนถึงรองเท้า พร้อมอยากเพิ่มความน่าสนใจให้ห้องนอนดูสวยหรู ด้วยการมี Bed Bench ที่ใช้ประโยชน์ได้สารพัดตรงปลายเตียง ส่วนคุณเอ็มจะมีสไตล์ที่ชัดเจน รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีสเปซแค่ไหน มองภาพการใช้ชีวิตแบบ 3 มิติ แล้วตีความออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ แต่ดีตรงที่เราทั้งคู่ ต่างคนก็ต่างรู้ว่า “I know what I need” ถึงแม้ในบางครั้งความชอบของเราทั้งคู่จะมีบ้างที่ชอบไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) เพราะที่นี่มีทุกอย่างที่เราทั้งคู่ต้องการสำหรับการออกแบบและตกแต่งบ้านของเราค่ะ”   ทั้งนี้เพราะ “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเดิมๆ ที่น่าเบื่อจากการสั่งทำเฟอร์นิเจอร์สมัยก่อนหรือที่เรียกกันว่า “บิวท์อิน” ด้วยการนำเทคโนโลยีอัฉจริยะ 4.0 ใหม่ล่าสุด มาใช้ในวงการเฟอร์นิเจอร์ครั้งแรกในไทย ซึ่งฉีกทุกกฏปฏิวัติทุกวงการเฟอร์นิเจอร์ นำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อรองรับตลาดเฟอร์นิเจอร์ปัจจุบัน สร้างสรรค์เป็นงานเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างละเอียดขั้นมิลลิเมตร รายเดียวในไทย เป๊ะที่สุด!! ดีที่สุด!! ช่วยลดขั้นตอน ลดปัญหา ลดค่าใช้จ่าย และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น   และเพราะความต่างคนต่างรู้ว่าต้องการอะไร “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ที่จะทำให้โลกของทั้งซาร่าและสามี กลายเป็นโลกใบเดียวกันที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ด้วยการช่วยดีไซน์เฟอร์นิเจอร์สั่งตัด หรือ Customize Furniture ที่ทั้งคู่ต้องการให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ “วันนี้ รู้สึกดีมากๆ เพราะซาร่าได้เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจสมกับที่ต้องการจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะฟังก์ชันชั้นวางของที่สามารถเลื่อนเก็บได้ ที่จะทำให้ซาร่ามีที่เก็บของได้เยอะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ หมวก หรือกระเป๋า หรือการประหยัดพื้นที่ด้วยการซ่อนที่รีดผ้าให้สามารถพับเก็บไปในตู้เสื้อผ้าได้ และที่คุณเอ็มปลื้มสุดๆ คือโต๊ะแป้งสุดไฮเทคที่กระจก เป็นได้มากกว่ากระจก เพราะผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่เพิ่มฟังก์ชันให้เราถึง 4 ฟังก์ชันการใช้งาน คือ 1. สามารถเปิดไฟที่กระจกโดยรอบได้ 2.ช่วงกลางคืนเลือกเปิดไฟหลังกระจกเพื่อเพิ่มความสะดวกในการมองเห็น 3.ระบบไล่ฝ้าบริเวณกระจก และฟังก์ชันสุดท้าย ยังสามารถเชื่อมต่อระบบ Bluetooth ที่จะสร้างความบันเทิงทำให้สามารถเปิดเพลงจากโทรศัพท์ ที่สำคัญระบบทุกอย่างนี้ เปิดปิดได้ง่ายเพียงแค่สัมผัส! เรียกได้ว่ามัลติฟังก์ชันสุดๆ ไปเลยค่ะ” ดาราสาวมากความสามารถกล่าวปิดท้าย   ส่วนใครอยากรู้ว่าสะดวก รวดเร็ว และเป๊ะแค่ไหนนั้น ตามซาร่าและคุณเอ็มไปดูบริการดีๆ ที่ “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) ได้ที่ • https://www.youtube.com/watch?v=be2MqvrvIaU&t=3s •https://www.facebook.com/224028041561/posts/10158291368251562/   ทั้งหมดนี้ “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) สามารถช่วยให้คุณออกแบบเฟอร์นิเจอร์สั่งตัดได้เอง ทั้งขนาด สี ดีไซน์ วัสดุ ครบสุดทุกความต้องการ ช่วยให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องที่เร็ว ง่าย เป๊ะ ใช่ในแบบที่เป็นตัวคุณ เพราะที่นี่มีบริการดีไซเนอร์ส่วนตัวที่พร้อมช่วยเหลือแนะนำ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เป็นการประกอบติดตั้ง ตลอดจนการออกแบบที่ทำให้ลูกค้าได้เห็นภาพการ ออกแบบห้อง 3 มิติเสมือนจริงได้เลยทันทีที่สรุปแบบ   หลังจากตกลงแบบกันเรียบร้อยก็จะทราบราคาทันที ซึ่งในขั้นตอนนี้ลูกค้าจะรู้ได้เลยว่า เฟอร์นิเจอร์ที่สั่งตัดไปนั้นจะสามารถจัดส่งวันไหน ติดตั้งเสร็จเมื่อไหร่ เรียกว่ารวดเร็วและง่าย แตกต่างจากเดิมจริงๆ ให้คุณอิสระไปกับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในทุกมุมห้องตามสไตล์คุณ เชิญพบกับห้องตัวอย่างมากมาย หลายดีไซน์ของ “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจคุณ (Customized Furniture 4.0) ได้ที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) ทั้ง 8 สาขา ได้แก่ สาขาพระราม 2, บางนา, รังสิต, เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์, เดอะวอล์ค เกษตรนวมินทร์, บางกรวย-ไทรน้อย, พัทยา และสาขาใหม่ล่าสุด ที่สาขาชัยพฤกษ์ พร้อมโปรโมชั่นดีๆ ตั้งแต่วันนี้ – 27 มีนาคม 2562 กับสิทธิพิเศษ ดังนี้   • พิเศษ!! Big Extra Bonus ชำระค่ามัดจำบริการวัดพื้นที่เหลือเพียง 1,000.- (จากปกติ 2,000.-) พร้อมรับฟรี Index Voucher มูลค่า 1,500.- • เมื่อช้อป “ยูนีค” ครบ 180,000 ขึ้นไป รับฟรี 2 ต่อ ต่อที่ 1 รับฟรี บัตรเติมน้ำมัน Esso มูลค่า 2,000.- ต่อที่ 2 รับฟรี แพ็กเกจพรีเมียมกำจัดไรฝุ่น จาก Index Home Service มูลค่า 1,490.- (ภายในใบเสร็จเดียวกัน* จำกัด 40 ท่านแรก*) • ช้อปง่ายสบายกระเป๋า รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน กับบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ   สนใจปรึกษาดีไซน์เนอร์ส่วนตัว Add Line@: @Younique (มี@ด้วยนะ) หรือคลิก http://bit.ly/2OoeBGC Website http://bit.ly/2RYq5hP ติดต่อ Call Center Tel. 0-2417-1111  
“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์”  ประกาศเดินหน้างดใช้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 4, 14 และ 24

“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ประกาศเดินหน้างดใช้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 4, 14 และ 24

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) ในฐานะผู้นำค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และของใช้ในบ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของไทย ประกาศเจตนารมณ์เดินหน้าร่วมเป็นหนึ่งในองค์กรที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมุ่งรณรงค์ “ประกาศงดใช้ถุงพลาสติก” ลดและเลิกการใช้ถุงพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านทุกสาขาของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทั่วประเทศ ในทุกวันที่ 4 ของเดือน พร้อมเตรียมแผนขยายวันเพิ่มเป็น 3 วันต่อเดือน ได้แก่ ทุกวันที่ 4, 14 และ 24 ตั้งแต่มีนาคมศกนี้เป็นต้นไป มั่นใจลูกค้าสมาชิกที่ถือบัตร JOY Card ตอบรับดี!!     นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  เผยว่า “จากความสำเร็จเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันปลอดถุงพลาสติกสากล ที่บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม “ถือถุงผ้าบอกลาโลกร้อน” ขึ้น รวมถึงเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม วันสิ่งแวดล้อมไทยที่ผ่านมา ที่ได้เริ่มรณรงค์ “ประกาศงดใช้ถุงพลาสติก” ลดและเลิกการใช้ถุงพลาสติกอย่างจริงจังในระยะยาว ทำให้ปัจจุบันในแต่ละเดือนได้ลดจำนวนการใช้ถุงพลาสติกลงได้มากถึง 10,000 ใบ ทั้งนี้ ทั้งปีคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถช่วยลดการใช้ถุงพลาติกได้ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 320,000 ใบอย่างแน่นอน”   อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ถือเป็นผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และของใช้ในบ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ ประเภทค้าปลีกรายแรกในไทยที่ประกาศการงดให้ถุงหูหิ้วพลาสติกสำหรับใส่สินค้าพร้อมกัน ทุกสาขา โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และเพื่อรณรงค์ให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกหันมางดใช้ถุงพลาสติกมากขึ้น อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้สร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าสมาชิกที่ถือบัตร JOY Card เมื่อช้อปปิ้งของตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้าน 200 บาทขึ้นไปที่สาขา พร้อมงดรับถุงพลาสติก ทุกวันที่ 4, 14 และ 24 ของทุกเดือนจะได้รับคะแนนเพิ่มจากเดิมอีก 100 คะแนนทันทีเป็นการตอบแทน ขณะที่ลูกค้าที่ไม่รับถุงพลาสติกสามารถนำคะแนนจากบัตรสมาชิก JOY Card ไปแลกเป็นส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย “ที่ผ่านมาลูกค้าตอบรับและร่วมมือไม่รับถุงพลาสติกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดสืบเนื่องจากผลความตื่นตัวที่ทุกประเทศทั่วโลกหันมาใส่ใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั่นเอง” นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กล่าวปิดท้าย      
เติมพลังความสดใสให้กับชีวิตด้วยคอลเล็คชั่นใหม่จากอิเกีย

เติมพลังความสดใสให้กับชีวิตด้วยคอลเล็คชั่นใหม่จากอิเกีย

อิเกีย แนะนำคอลเล็คชั่นใหม่จากหลากหลายดีไซเนอร์ชื่อดัง ที่จะมาช่วยเติมพลังงานให้กับชีวิตประจำวัน พร้อมเริ่มต้นปีใหม่ เปิดรับสิ่งดีๆ ด้วยลวดลายกราฟิกและสีสันที่สดใส ตั้งแต่ปลอกผ้านวม ตู้ โคมไฟ และอุปกรณ์จัดเก็บของใช้ต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการจัดเก็บ แวะมาเพิ่มความสุข เติมไอเดียใหม่ๆ ในการแต่งบ้านด้วยคอลเล็คชั่นใหม่ๆ มากมายจากอิเกีย ที่มีครบทั้งดีไซน์ คุณภาพ ประโยชน์ใช้สอย และราคาที่ย่อมเยา   คอลเล็คชั่น SOMMARASTER/ซอมมารัสเตอร์ อบอุ่นกับลวดลายดอกไม้สดใสสไตล์เรโทร ออกแบบโดย Emma Hagman จาก Studio Kelkka ได้รับแรงบันดาลใจจากงานดีไซน์แบบสวีเดนยุค 1960 นำกลิ่นอายฤดูใบไม้ผลิมาสู่ห้องนอนด้วยชุดปลอกผ้านวมที่ทอจากผ้าฝ้าย 100% จากฝ้ายในแหล่งปลูกอย่างยั่งยืน ผ่านการปลูกอย่างพิถีพิถันและใส่ใจ ปลอกผ้านวม กว้าง 150 x ยาว 200 ซม. + ปลอกหมอน 2 ใบ ราคา 790 บาท   คอลเล็คชั่น NORDMELA/นูร์ดเมียลา ผู้ช่วยที่จะทำให้การจัดเก็บไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ตู้ลิ้นชัก NORDMELA/นูร์ดเมียลา ตอบโจทย์การจัดเก็บได้ทุกห้องในบ้าน สะดวกแก่การเคลื่อนย้าย สามารถปรับใช้ได้ตามต้องการ หรือเพิ่มที่จัดเก็บเสริมจากโซลูชั่นที่มีอยู่แล้วก็ได้ ตู้ลิ้นชักพร้อมตู้แขวนเสื้อผ้า ราคา 8,990 บาท ตู้ 4 ลิ้นชัก แบบแนวนอน สามารถปรับใช้เป็นเก้าอี้นั่งได้ ราคา 7,990 บาท   คอลเล็คชั่น TISKEN/ทิสเก็น เนรมิตห้องน้ำให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุดโดยไม่ต้องเจาะกระเบื้องด้วยอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำที่สามารถดูดติดผนังได้ ตั้งแต่จานรองสบู่และที่ใส่แปรงสีฟัน ที่แขวนม้วนกระดาษ รวมไปถึงที่เสียบฝักบัวและตะกร้า รับน้ำหนักได้มากถึง 3 กิโลกรัม ครบครันทุกฟังก์ชั่นการจัดเก็บในห้องน้ำ ชั้นเข้ามุมแบบดูดติดผนัง ราคา 299 บาท ตะขอแขวนแบบดูดติดผนัง ราคา 139 บาท (2 ชิ้น) ที่วางหัวฝักบัวแบบดูดติดผนัง ราคา 129 บาท   คอลเล็คชั่น YTTERBYN/อึตเตร์บึน เติมความสดใสให้ห้องครัวด้วยบานตู้ลายกราฟิกสไตล์ยุค 1970 ผลงานการออกแบบของ 10-Gruppen กลุ่มนักออกแบบที่ทรงอิทธิพลในสวีเดน เป็นที่รู้จักแพร่หลายด้วยแพทเทิร์นอันสะดุดตา เสริมแต่งห้องครัวให้ไม่จำเจกับชุดบานตู้ที่แต่ละบานมีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ แต่สามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน บานตู้ กว้าง 40 x สูง 60 ซม. ราคา 1,250 บาท บานตู้ กว้าง 60 x สูง 60 ซม. ราคา 1,550 บาท   โคมแขวนเพดาน รุ่น GRIMSÅS/กริมสวส เปลี่ยนผนังห้องเรียบๆ ให้เป็นงานศิลปะ ด้วยการเล่นแสงและเงา มีให้เลือกสองแบบ ได้แก่ ลายฉลุดอกไม้สีขาวและลายฉลุปลาดาวสีเหลือง ออกแบบโดย Marcus Arvonen, Lisa Hilland และ Bea Szenfeld โคมแขวนเพดาน ขนาด 55 ซม. ราคา 1,390 บาท   คอลเล็คชั่น RABBLA/รับบลา เนรมิตให้การจัดเก็บเป็นเรื่องง่ายๆ ครบทั้งเรื่องความสวยงามและความยั่งยืน ปรับใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น ใช้เป็นอุปกรณ์จัดเก็บเสริมในตู้เสื้อผ้าได้อย่างลงตัว หรือจะใช้จัดเก็บในพื้นที่เปิดก็ได้ สามารถใช้เก็บของในห้องน้ำได้ เพราะทนความชื้นได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกหลายขนาด มาพร้อมช่องเล็กๆ ที่ใช้เก็บของชิ้นเล็กอย่างถุงเท้า เครื่องประดับ ฯลฯ ทำจากไม้ไผ่และผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล แข็งแรงทนทาน และแน่นอนว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กล่องแบ่งช่อง ยาว 25 x กว้าง 35 x สูง 10 ซม. ราคา 499 บาท กล่องผ้าพร้อมฝาปิด กว้าง 25 x ลึก 35 x สูง 20 ซม. ราคา 590 บาท กล่องผ้าพร้อมฝาปิด กว้าง 35 x ลึก 50 x สูง 30 ซม. ราคา 790 บาท   คอลเล็คชั่น KNALLGUL/คนัลล์กุล แปลงโฉมโต๊ะทำงานให้สดใสไฉไลกว่าเดิมด้วยสีสันจากชุดเครื่องเขียน ซีรีส์ KNALLGUL/คนัลล์กุล ประกอบด้วย แผ่นรองเขียน สมุดโน้ต แพลนเนอร์ กล่องใส่เครื่องเขียน ฯลฯ แถมยังช่วยให้โต๊ะทำงานเป็นระเบียบ เปิดรับความคิดสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ เหมาะกับคนรักษ์โลก เพราะกระดาษทั้งหมดได้มาจากแหล่งผลิตอย่างยั่งยืนหรือไม้ในพื้นที่ป่าที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล รีไซเคิลได้ 100% และใยกระดาษผ่านกระบวนการรีไซเคิลซ้ำได้ถึง 7 ครั้ง   พบคอลเล็คชั่นใหม่ๆ อีกมากมาย ได้ที่อิเกีย เมกาบางนา อิเกีย บางใหญ่ ที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย จังหวัดภูเก็ต หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ IKEA.co.th        
“อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์” เฟอร์นิเจอร์สัญชาติอังกฤษ เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ใจกลางกรุง

“อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์” เฟอร์นิเจอร์สัญชาติอังกฤษ เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ใจกลางกรุง

บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สบช่องว่างตลาดเซกเม้นต์ Accessible Luxury เดินหน้าเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์น้องใหม่สไตล์อิเคล็กทิกภายใต้แบรนด์ “อเล็กซานเดอร์แอนด์เจมส์” (Alexander & James) แบรนด์ดังสัญชาติอังกฤษ พร้อมสยายปีกบุกตลาดเอเชียเต็มสูบ เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ใจกลางกรุงรองรับลูกค้ากำลังซื้อสูงทั่วเอเชีย เชื่อปัจจัยหนุนรอบด้านเอื้อโอกาสทองอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์มั่นใจแบรนด์ติดลมบนครองใจมหาชนภายใน 1 ปี   คุณพิมล ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  “อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ เป็นแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์สูง มีกลิ่นอายของความเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด ตลาดส่งออกมีกลุ่มลูกค้าที่มองหาเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้อยู่มาก ซึ่งมีความโดดเด่นแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เดิมทีเราได้วางกลยุทธ์ไว้ด้วยการไปออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศจีนและประเทศสิงคโปร์ปีละครั้ง ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น ไทย เกาหลี ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแม้กระทั่งในประเทศจีนเองก็ตาม เพราะตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียยังคงเป็นประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อ  สูงมากอย่างต่อเนื่องและมีความเคลื่อนไหวของเทรนใหม่ๆ หมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นระดับพรีเมี่ยมถึงไฮเอนด์เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของแบรนด์ อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ เราวางแผนเพื่อรองรับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและจากทั่วภูมิภาคเอเชียที่สนใจผลงานสามารถมาเยี่ยมชมโชว์รูมของเราได้สะดวก โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงที่ประเทศอังกฤษ ด้วยการสร้างแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกบริเวณใจกลางกรุงเทพฯ และที่นี่จะเป็นต้นแบบของโชว์รูม และแกลลอรี่สำหรับโชว์สินค้ารุ่นใหม่ๆ ของอเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ตลอดทั้งปี เนื่องด้วยประเทศไทย มีจุดแข็งหลายประการ ทั้งด้านทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพในการส่งออกไปทั่วภูมิภาค และทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในการออกงานแสดงที่จีนและสิงคโปร์ได้อีกด้วย สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบแม้มีแนวโน้มการซื้อขายในอัตราชะลอตัวต่ำกว่าปีก่อนๆ แต่สิ่งที่เติบโตและมีแนวโน้มที่ดี คือ โครงการมิกซ์ยูสและธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีโครงการใหญ่ๆ เกิดขึ้นใหม่ในหลายพื้นที่ นอกจากการใช้งานภายในที่อยู่อาศัยแล้ว โซฟาของอเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ก็ยังเหมาะสำหรับใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งออฟฟิศหรือโรงแรมได้อีกด้วย โดยการออกแบบของเราเน้นความคิดสร้างสรรค์และแปลกใหม่ รวมถึงความยืดหยุ่นในการเลือกวัสดุและสีให้เข้ากับอาคารได้หลากหลายสไตล์ เป้าหมาย  ในปีนี้เราอยากให้แบรนด์อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์เป็นที่จดจำอย่างกว้างขวางในตลาด เมื่อภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น กลุ่มลูกค้าที่ได้รู้จักเราแล้วเมื่อถึงเวลาที่พร้อมก็จะกลับมาซื้อของเราแน่นอน”     คุณมาร์ค อเล็กซานเดอร์ สมิทธ์ (Mark Alexander Smith) ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์ เปิดเผยว่า “แบรนด์อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส เปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.2013 ณ ประเทศอังกฤษ เมื่อเริ่มก่อตั้งเราเน้นขายสินค้าในประเทศอังกฤษ  ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีอัตราการเติบโตของธุรกิจอย่างรวดเร็ว โดยในปีนี้ ก็มีถึง 50 ร้านที่มีการจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ของอเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์อยู่ทั่วอังกฤษ เราวางตำแหน่งให้ แบรนด์เป็น Accessible Luxury คือ ความโก้หรูที่ทุกคนเข้าถึงได้ จุดแข็งของเรา คือ ดีไซน์และสีที่โดดเด่นเป็น        เอกลักษณ์ ผ่านการออกแบบจากประเทศอังกฤษ มีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างเด่นชัด รวมถึงการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นหนังวัวแท้จากบราซิล ผ้าจากอิตาลีและฝรั่งเศส กำมะหยี่จากแบรนด์วิลเลียม มอร์ริส (William Morris) กระทั่งโครงสร้างที่เป็นไม้ยางพาราจากป่าที่ปลูกในประเทศไทยซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งต้นกำเนิดยางพาราที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สำหรับในประเทศไทยเองก็มีจุดแข็งหลายประการ ทางด้านโลเคชั่นที่มีศักยภาพในการส่งออกไปทั่วภูมิภาค มีช่องว่างทางตลาดและอัตราการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชียที่สูงขึ้น การมีฮับใหญ่ในประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตที่มีคุณภาพจะทำให้เราได้เปรียบในเรื่องของความเป็นเจ้าถิ่น ผนวกกับฝีมือของคนไทยที่มีความปราณีตอ่อนช้อยที่สำคัญเราสามารถควบคุมเรื่องต้นทุนของสินค้าได้ ทำให้ลูกค้าสามารถได้รับสินค้าที่มีคุณภาพสูงแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของเรา”   “สำหรับภาพรวมตลาดและอัตราการเติบโตของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี เนื่องจากไม่ว่าเศรษฐกิจ หรือสภาพดินฟ้าอากาศจะเป็นอย่างไร ผู้คนก็ยังคงต้องใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะมีชะลอตัวบ้าง เมื่อมีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นแต่ไม่นานตลาดจะฟื้นตัวกลับมา สำหรับประเทศไทย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีความไม่แน่นอนสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ด้านการค้ากับประเทศจีน ทำให้ลูกค้าต่างประเทศที่เคยใช้สินค้านำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก หันมาหาซัพพลายเออร์จากประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียแทน และจะเป็นการเปิดโอกาสให้ อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย มีโอกาสขยายตัวในตลาดส่งออกมากขึ้น สำหรับตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับล่างอาจจะเผชิญกับเศรษฐกิจในประเทศอยู่บ้างที่อาจจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัว แต่ตลาดเฟอร์นิเจอร์เซกเมนต์ระดับบน การเลือกซื้อสินค้าจะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจเป็นหลัก ดังนั้น เราจึงมีความมั่นใจว่าเฟอร์นิเจอร์ของเราจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้”      คุณพิมล ศรีวิกรม์ กล่าวทิ้งท้าย     เชิญสัมผัสบริบทใหม่แห่งการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษที่สะท้อนรสนิยมแห่งการอยู่อาศัยอย่างมีระดับ ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่น ชวนหลงใหล พร้อมด้วยบริการสุดพิเศษแบบออนดีมานด์ เฟอร์นิเจอร์ (On-Demand Furniture) ที่สามารถเลือกสรรและปรับให้เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่และความชอบของผู้อยู่อาศัย เพลิดเพลินกับการเลือกสีที่ใช่ วัสดุที่ชอบ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบชั้นเลิศหนึ่งเดียวในโลกในสไตล์ที่เป็นคุณได้แล้ววันนี้ที่แฟลกชิปสโตร์ อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์  สุขุมวิท 39        
ควอตโตร ดีไซน์ ครบรอบ 12 ปี ชูกลยุทธ์การบริการรูปแบบครบวงจร 360 องศา

ควอตโตร ดีไซน์ ครบรอบ 12 ปี ชูกลยุทธ์การบริการรูปแบบครบวงจร 360 องศา

ควอตโตร ดีไซน์ ครบรอบ 12 ปี ลุยลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัยเต็มสูบ ชูกลยุทธ์การบริการรูปแบบครบวงจร 360 องศา หนุนยอดโตทะลุ 50%   บริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับพรีเมียม เตรียมเสริมความแข็งแกร่ง ลุยกลุ่มลูกค้าโครงการบิ๊กสเกล ชูความเป็นวันสต็อปเซอร์วิส เลือกควอตโตรที่เดียวจบ ครบตอบได้ทุกความต้องการ ดันรายได้เติบโต 50%   นางพราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับลักชัวรี่ เปิดเผยว่า บริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 12 ปี โดยในเวลานั้นเริ่มมองเห็นช่องว่างของตลาดที่ยังไม่มีคนรับตกแต่งหรือจัดบ้านตัวอย่างเดิมจะมีแค่ผู้ที่ออกแบบเท่านั้น แต่ไม่ได้ผลิต หรือจัดหาสินค้าให้ บริษัทจึงได้เปิดให้บริการตกแต่งแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์, ของประดับตกแต่ง หรือแม้กระทั่งการทำสไตล์ลิ่ง ขณะเดียวกันเพื่อทำให้ควอตโตรเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น จึงได้เปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ควอตโตร ดีไซน์ เพื่อเสริมงานโครงการและหน้าร้าน ที่เริ่มจากการขายของตกแต่งก่อน จนขยายไลน์สินค้าที่หลากหลาย อาทิ เฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่ง ไฟ พรม จะเห็นได้ว่าในพื้นที่หนึ่งของห้องหรือที่พัก บริษัทสามารถซัพพลายได้หมด อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีเอ็กคลูซีฟแบรนด์ด้วยกัน 4 แบรนด์ ประกอบด้วย   1.ไอค์โฮล์ท (EICHHOLTZ) อยู่ในตลาดลักชัวรี่ นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ โดยแบรนด์ดังกล่าวมีสินค้ามากกว่า 4,000 รายการครอบคลุมทุกหมวด   2. พริสมิค แอนด์ บริล (PRIZMIC & BRILL) ที่เกิดขึ้นพร้อมกับควอตโตรเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ เน้นงานหนัง มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร นับว่าเป็นแบรนด์ขายดีที่สุด   3. เคเนท โคบุนพวย (KENNETH COBONPUE) เป็นสินค้าเอาท์ดอร์มาจากฟิลิปปินส์ และ   4. อินดัสเทรีย เอดิชั่น (INDUSTRIA EDITION) อีกหนึ่งแบรนด์สัญชาติฟิลิปปินส์ เน้นงานโลหะที่ออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ด้วยความสวยงามของยุคโมเดิร์น และแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และปัจจุบันบริษัทมีร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน “ควอตโตร ดีไซน์” อยู่ 2 สาขา ได้แก่ สาขาทองหล่อ ขนาดพื้นที่ 300 ตารางเมตร และสาขาภูเก็ต ขนาดพื้นที่ 800 ตารางเมตร เพราะมองเห็นว่าตลาดภูเก็ต มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย ยุโรป ขณะเดียวกันภูเก็ตยังไม่มีร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมัลติแบรนด์ จึงได้เลือกทำเลดังกล่าวเพื่อตอบสนองความต้องการคนในจังหวัดภูเก็ต หรือผู้อยู่อาศัยในจังหวัดใกล้เคียง และชาวต่างชาติ     “สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะเพิ่มสินค้าและเพิ่มกลยุทธ์การบริการ รูปแบบครบวงจร 360 องศา เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาบริษัทจะเน้นรับตกแต่งบ้านตัวอย่างควบคู่ไปกับการมีร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศส่งผลให้สร้างการเติบโตที่ดีมาตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละ 35%”   “และในช่วงที่ผ่านมาสัดส่วนลูกค้าค้าปลีกคิดเป็น 50% และกลุ่มลูกค้าโครงการอีก 50% แต่หลังจากได้ขยายงานในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นแล้ว ทำให้สัดส่วนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเป็น 60% ที่เหลืออีก 40% มาจากหน้าร้านค้าปลีก ซึ่งบริษัทฯ มีแนวทางสร้างธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการขยายขอบเขตการให้บริการแก่ลูกค้ามากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัยและธุรกิจโรงแรมที่จะสามารถนำเสนอสินค้าให้กับโครงการระดับ 200 ห้องขึ้นไปได้มากขึ้น จากก่อนหน้าให้บริการกลุ่มโครงการได้เพียงระดับหลักสิบห้อง เนื่องด้วยความสัมพันธ์อันดีกับผู้ผลิตทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป ทำให้มีความคุ้นเคยกับโรงงานผู้ผลิตมากพอสมควร จากการดำเนินธุรกิจมา 12 ปี จึงได้ร่วมมือกับโรงงานบางแห่งเพื่อขยายการผลิต อาทิ จีน อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ และควบคุมการผลิตแบบมาตรฐานยุโรป จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้สามารถผลิตสินค้าในสเกลที่มากขึ้น รองรับลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ และทำราคาที่กลุ่มดังกล่าวเข้าถึงได้อีกด้วย”   หลังจากที่บริษัทได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศ เพื่อบุกตลาดลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นแล้ว มีเป้าหมายว่าในปี 2562-2563 จะเติบโตมากขึ้นเป็น 50% มีผลมาจากการได้เซ็นสัญญากับโครงการระดับ 100 กว่ายูนิตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ที่เซ็นสัญญาไปแล้วประมาณ 270 ยูนิต และอีกโครงการจำนวน 70 ห้องและ 105 ห้องทำเสร็จไปแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีความไว้วางใจการให้บริการของควอตโตรเป็นอย่างมาก หากลูกค้าอยากได้ผู้ที่ตอบโจทย์แบบวันสต็อปเซอร์วิส ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านส่วนตัว โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่ต้องการประหยัดเวลา บวกกับได้รับสินค้าระดับลักชัวรี่ในราคาจับต้องได้ อยากให้ทุกคนนึกถึงควอตโตร ดีไซน์ที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านั้น นางพราวพรรณ กล่าว   “สำหรับจุดเด่นของ “ควอตโตร ดีไซน์” จากความเป็นมืออาชีพด้านการจัดสรรสินค้าทั่วทุกมุมโลก ซึ่งผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และนำเสนอการตกแต่งที่ไม่ซ้ำใครในตลาดเมืองไทย ทำให้บริษัทจะกลายเป็น วันสต็อปเซอร์วิสนับตั้งแต่จัดหาสินค้าตามความต้องการ ออกแบบ ติดตั้ง ตกแต่งรับเหมาก่อสร้างครอบคลุมไปยังการบริการก่อนและหลังการขาย ทั้งยังเป็นเป็นตัวกลางขับเคลื่อนให้กลุ่มลูกค้าโครงการ สามารถกระชับเวลาการทำงานได้มากขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัทให้บริการครบวงจรหรือวันสต็อปเซอร์วิส จึงสามารถดูแลลูกค้าได้ที่เดียวจบ ครบครัน นับเป็นผลดีต่อผู้พัฒนาโครงการที่ปิดการขายได้ง่ายและเร็วขึ้นด้วยศักยภาพที่มีของบริษัท ทั้งในส่วนของบุคคลากรทุกแผนก การออกแบบ ฟาซิลิตี้คอนโทรล การตรวจสอบคุณภาพสินค้า”   “ขณะเดียวกันในส่วนของหน้าร้านค้าปลีกจะมีบริการเข้าไปเพิ่ม ไม่ใช่แค่เข้ามาเลือกสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีบริการครบวงจรที่จำนำเสนอกับลูกค้าเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ตกแต่ง และก่อสร้าง ทั้งยังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการจำหน่ายและออกแบบตู้เสื้อผ้า ชุดครัว ซึ่งได้เริ่มมาเป็นระยะเวลา 2 ปี มีผลตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยการทำตลาดในส่วนของสาขาจะเน้นโซเชียลมีเดียมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจะลงทุนด้านการตลาดถึง 15% ทุกปี โดยจะเน้นทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน”   สำหรับความพิเศษในโอกาสครบรอบ 12 ปี ได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษมอบให้แก่คุณลูกค้า อาทิ แคมเปญ “12 YEARS ANNIVERSARY - 12 SURPRISE GIFTS – 12 MONTHS” และแคมเปญ “MAKE OVER YOUR PLACE WITH QUATTRO DESIGN“ นางพราวพรรณ กล่าวทิ้งท้าย พบกับ “ควอตโตร ดีไซน์” ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาทองหล่อ โทร.02 712 7806 และสาขาภูเก็ต โทร. 076-325-141 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.Quattro-design.com IG : @quattro_design
ห้องแต่งตัวในฝันทำได้จริง อยากแต่งแบบไหนก็ได้แบบนั้น

ห้องแต่งตัวในฝันทำได้จริง อยากแต่งแบบไหนก็ได้แบบนั้น

  ปัจจุบันห้องแต่งตัวไม่ได้เป็นแค่พื้นที่เก็บเสื้อผ้าเท่านั้น ด้วยตำแหน่งที่มักจัดไว้ใกล้ห้องน้ำและห้องนอน หลายคนจึงปรับพื้นที่นี้เป็นที่เก็บของใช้ต่างๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องนอน, กระเป๋าเดินทาง หรือเครื่องประดับ โดยการออกแบบและจัดแบ่งหมวดหมู่ที่ดีจะทำให้ห้องนี้ใช้งานได้สะดวกและเป็นระเบียบมากขึ้น ทว่าห้องแต่งตัวในฝันของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนฝันอยากได้ห้องแต่งตัวสไตล์เจ้าหญิงที่มี Walk-in Closet ดินแดนส่วนตัวแบบฟูลออฟชั่น หรือบางคนฝันอยากมีห้องแต่งตัวแบบสไตล์ลอฟท์เท่ๆ ตามฉบับชายหนุ่มมาดแมนที่มีตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปมาพร้อมมัลติฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับพื้นที่ทุกรูปแบบ ทั้งนี้ไม่ว่าคุณมีฝันอย่างไร อยากได้ห้องแต่งตัวรูปแบบไหน? "ห้องแต่งตัว" ก็คือพื้นที่ส่วนตัวที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณ ดังนั้นในบทความนี้เราขอยกตัวอย่างห้องแต่งตัวรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียให้กับห้องแต่งตัวในฝัน โดยที่คุณสามารถทำได้จริง แถมยังสนุกกับการตกแต่งมากขึ้น   ห้องแต่งตัวในฝันสไตล์ Modern Luxury สุดหรู หรูหราสง่างามและทันสมัยในตัวเอง คือหัวใจสำคัญของสไตล์ Modern Luxury ใครที่ฝันอยากมีห้องแต่งตัวเหมือนเจ้าหญิงแบบ Walk-in Closet สุดหรูที่เอื้อประโยชน์ได้ทั้งหยิบใช้และโชว์ แถมยังมีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ตู้, ช่องเก็บของ, ราวแขวน, ชั้น, หรือลิ้นชักต่างๆ โดยที่เจ้าของบ้านสามารถกำหนดรูปแบบได้ตามความพอใจเพื่อให้สอดรับกับความต้องการนั้นบอกได้เลยว่าไม่ยาก เทคนิคง่ายๆ คือเลือกเฟอร์นิเจอร์ หรือวัสดุสุดเก๋ตามเทรนด์ปัจจุบันที่ให้ทั้งลุคหรูหราพร้อมดูทันสมัยมาตกแต่ง ซึ่งควรเลือกชิ้นเด่นๆ หรือคลุมโทนสีไปในทิศทางเดียวกันก็จะช่วยทำให้ห้องแต่งตัวชวนมองมากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมเพิ่มมิติจากความวิบวับจากแสงไฟ และวัสดุตกแต่งที่มีความมันวาวอย่างเมทัลลิก เช่นเดียวกับมือจับประดับเพชรขอบทอง เฟอร์นิเจอร์จาก SB Design Square เหมือนในภาพตัวอย่างด้านบนที่สะกดทุกสายตา และสะท้อนความโก้ได้ดีทีเดียว   ห้องแต่งตัวในฝันสวยงาม สดใส สไตล์ Modern Chic  ใครที่เบื่อห้องแต่งตัวรูปแบบเดิมๆ ลองมาดูเทรนด์ใหม่มาแรงอย่างสไตล์ Modern Chic ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ซ่อนความเก๋ของงาน Design ไว้อย่างลงตัว ซึ่งทริคในการเนรมิตห้องแต่งตัวในฝันสไตล์นี้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใสจาก SB Design Square เหมือนดั่งภาพตัวอย่างด้านบนที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานตามแบบฉบับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่ชอบอะไรแบบเรียบเก๋ จัดวางตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวให้เต็มผนังด้านใดด้านหนึ่ง เน้นฟังก์ชั่นหลักที่ต้องการมีเพียงตู้เสื้อผ้า โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ทำบานปิดแต่ติดราวเลียนแบบห้องลองชุดตามร้าน ให้สามารถเลือกเสื้อผ้าและเปลี่ยนได้ทันที พร้อมติดตั้งลิ้นชักสำหรับเก็บเสื้อไว้ตรงกลาง แถมบริเวณใต้ลิ้นชักยังใช้เป็นส่วนจัดเก็บเพิ่มเติมที่น่าจะงอกเงยเพิ่มพูนอย่างมากมายในอนาคตได้อีกด้วย   ห้องแต่งตัวในฝันสไตล์ Minimal ตกแต่งน้อย แต่มากฟังก์ชั่น มาต่อกันที่สไตล์มินิมอลของสายคลีนกันบ้าง กับไอเดียการแต่งห้องแต่งตัวในฝันด้วยไม้สีอ่อน ดูอบอุ่น เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ ซึ่งเราแนะนำให้เลือกฟังก์ชั่นของตู้ให้ครบกับความต้องการในการใช้งาน ด้วยตู้เสื้อผ้าแนวคิดใหม่รุ่น Wardrobe จาก SB Design Square ที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวมินิมอลได้ดี เพราะสามารถเลือกตู้เสื้อผ้าบานเปิดในห้องนอนให้ลงตัวกับพื้นที่ได้ทั้งแบบลอยตัว และแบบบิลต์อิน ด้วยขั้นตอนง่ายๆ กับการออกแบบตู้เสื้อผ้าในสไตล์ของคุณเอง แถมยังดีไซน์หน้าบาน มีให้เลือกหลากหลายวัสดุทีเดียว อาทิ บานไม้, บานกระจก, บานม่าน มีฟังก์ชั่นให้ทุกการเปิดปิดตู้เสื้อผ้า เงียบสนิท นุ่มนวล ลดแรงกระแทก ออปชั่นภายในตู้เสื้อผ้า ปรับเปลี่ยนตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง คุ้มค้าในทุกพื้นที่จัดเก็บ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องแต่งตัวในฝันที่ไม่กินพื้นที่ของห้องมากเกินไปแล้วล่ะ   ห้องแต่งตัวในฝันสไตล์ Modern Loft  คงปฏิเสธได้ยากจริงๆ สำหรับกระแสเทรนด์การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ที่ยังได้รับความนิยมอยู่มากในปัจจุบัน กับการโชว์ให้เห็นเนื้อแท้สัจจะวัสดุในการตกแต่ง สร้างอารมณ์ดิบเท่ที่ไม่ต้องปรุงแต่งให้ผิดแปลกไปจากวัสดุดั้งเดิมมากนัก ซึ่งหากคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ตกหลุมรักเสน่ห์ของความดิบเท่สไตล์นี้ และฝันอยากมีห้องแต่งตัวที่บ่งบอกตัวตน แนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ลอฟท์จาก SB Design Square ที่ใช้ท่อเหล็ก มาสร้างโครงสร้างของห้องแต่งตัว นอกจากความแข็งแรงของวัสดุประเภทท่อ การเลือกทำ Walk-in Closet สไตล์นี้ ยังทำให้ห้องที่ดูแคบโล่งโปร่งขึ้นได้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องทำลิ้นชักแบบยึดติดผนัง สามารถเพิ่มเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เข้ามาเป็นพื้นที่เก็บของได้อย่างกลมกลืนเช่นเดียวกับภาพตัวอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถให้ทีม SB Interior Team ช่วยออกแบบโดยสร้างความเท่กว่าเดิมด้วยการทำเป็นประตูไม้บานเลื่อน ติดรางเพิ่มเติมสำหรับเข้าออก เป็นการสร้างกิมมิกที่ดูสะดุดตาให้กับห้องได้ดีทีเดียว   "ห้องแต่งตัว" ก็เปรียบเสมือนกับการจัดดิสเพลย์ให้กับบ้าน ดังนั้นถ้าใครคิดจะทำห้องแต่งตัวในฝันตามสไตล์ที่เราชอบ อย่าลืมคำนึงถึงความสะอาดและการจัดระเบียบเป็นสำคัญ เพราะนอกจากได้ห้องแต่งตัวที่สวยงามน่าใช้งาน ยังสะท้อนตัวตนความเป็นคุณได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การจัดเรียงเสื้อผ้าตามโทนสี ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการหยิบใช้มากขึ้นด้วยนะ แต่..ถ้าคุณกำลังมองหาไอเดียแต่งห้องแต่งตัวในฝันแต่ยังไม่รู้จะแต่งแบบไหน เราขอแนะนำให้คุณพุ่งตัวไปปรึกษาเรื่องการออกแบบ กับทีม SB Interior Team ได้ที่ SB Design Square ทุกสาขา เพราะนอกจากจะมีฝีมือระดับเทพและประสบการณ์ออกแบบห้องสวยได้อย่างใจลูกค้ามานับไม่ถ้วน ทางมัณฑนากรยังเลือกใช้แต่เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ SB โดยที่เราสามารถกำหนดงบประมาณได้อีกด้วย จนเรากล้าการันตีเลยว่า "ไม่ว่าคุณจะอยากอยู่แบบไหน...ก็ได้อยู่แบบนั้น" สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสนใจนัดหมายออนไลน์ได้ที่ https://www.sbdesignsquare.com/th/interior-solution/free-interior-design-service 
ชี้เป้าเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านสไตล์อินดัสเทรียล

ชี้เป้าเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านสไตล์อินดัสเทรียล

หลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากับคำว่า “ลอฟต์” ใช่ไหมคะ? เพราะเป็นกระแสฮิตที่ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องหาทางฉาบปูนเปลือยให้สวยกันอยู่พักใหญ่ แต่สไตล์ลอฟต์และอินดัสเทรียลมีส่วนคล้ายกันในเรื่องการใช้งานสถาปัตยกรรมให้เป็นประโยชน์ ซึ่งมีความต่างในรายละเอียดบางอย่าง สไตล์อินดัสเทรียลต้องมีโครงสร้างของสถาปัตยกรรมที่เก็บไว้ในรูปแบบเดิม เช่น โกดังเก่า หรืออาคารที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ มีการตกแต่งเลียนแบบโรงงานเก่า ใช้วัสดุขึ้นสนิมที่ดูผ่านกาลเวลามานาน และเฟอร์นิเจอร์ที่ย้อนยุคไปช่วงปี 1950 ซึ่งถือเป็นการตกแต่งที่ทันสมัย และเก๋ที่สุดในยุคนั้น ให้ความรู้สึกขัดแย้งกับความเก่าของตัวอาคาร ส่วนสไตล์ลอฟต์ต้องมีฝ้าเพดานสูง ดูเท่ นิ่ง และเรียบง่าย มีรายละเอียดการตกแต่งของสไตล์โมเดิร์นมาประกอบมากกว่า   วันนี้เราเลยขอเอาใจคนชอบแต่งบ้านแนวเข้มๆ เท่ๆ กับสไตล์ อินดัสเทรียล ที่โชว์ความดิบของพื้นผิววัสดุที่แท้จริง โดยเน้นการใช้วัสดุอย่าง ปูน อิฐ และเหล็กเป็นหลัก ให้บรรยากาศเหมือนโรงงานเก่า เปิดให้เห็นการเดินท่อ และเส้นสายไฟอย่างไม่มีอะไรมาบดบัง ถือเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจของการตกแต่งสไตล์นี้ ซึ่งการตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลนี้ถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากการตกแต่ง พื้น ผนังและฝ้าให้ดูดิบแบบอินดัสเทรียลแล้ว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ก็มีส่วนช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สมจริงมากขึ้นอีกด้วย เราจึงมีเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านสวยๆ จาก คลีเช โฮม (Cliché Home) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์แนวไลฟ์สไตล์นำเข้าจากต่างประเทศโดย SB Design Square โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านแบบอเมริกันสไตล์ ซึ่งเป็นงานดีไซน์ลูกผสมระหว่างอินดัสเทรียลและเรโทร เน้นการใช้วัสดุที่โชว์ผิวสัมผัสแท้ เช่น ไม้จริง เหล็กสีสนิม และงานโลหะต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้จริงในสีเอิร์ธโทน สะท้อนความแข็งแกร่งแฝงความอบอุ่น เหมาะสำหรับนำไปตกแต่งบ้าน หรือออฟฟิศเพื่อจะได้มีที่ทำงานดีไซน์เท่ไม่เหมือนใครมาแนะนำกันค่ะ.. 1. โซฟาหนัง เริ่มต้นกันที่โซฟาหนังแท้ตัวยาว 3 ที่นั่ง รุ่น Alger สไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ ที่ผสมผสานระหว่างอเมริกันเรโทรกับอินดัสเทรียล มีกลิ่นอายความเก่าแต่เก๋า พร้อมอายุการใช้งานยาวนาน ข้อดีคือดูแลรักษาง่ายไม่เก็บฝุ่นและไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ โดดเด่นด้วยลายธงชาติอังกฤษผลิตจากหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง ใครอยากแต่งบ้านสไตล์นี้ รับรองว่าแค่จับโซฟาตัวนี้เข้าไปวางไว้กลางห้องนั่งเล่น ก็ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใครแล้วค่ะ   2. ชั้นวางของ ให้ห้องนั่งเล่นสวยจนใครๆ ก็รู้สึก...ต้องมีชั้นวางของรุ่น Alarico ไปจัดวางในห้องนั่งเล่นสักชิ้น เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้งานตกแต่ง ให้คุณได้มีพื้นที่จัดเก็บเพิ่มมากขึ้น ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้เป็นตู้เก็บหนังสือ ตู้เก็บของทั่วไป เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้บ้านของคุณดูมีระเบียบมากขึ้น แถมมีเสน่ห์สวยงามในสไตล์อินดัสเทรียลด้วย 3. โต๊ะกลาง เสริมเสน่ห์ให้มุมนั่งเล่นง่ายๆ ด้วยกล่องอเนกประสงค์ (หีบเก็บของ) รุ่น KC-FU-1700 ที่มีกลิ่นอายสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ ผสมผสานระหว่างอเมริกันเรโทรกับอินดัสเทรียล ใช้เก็บของทั่วไป ใช้งานได้สะดวกสบาย เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้มีระเบียบมากขึ้น แถมยังสะดุดตาด้วยนะเออ 4. โต๊ะทานอาหาร เติมบรรยากาศอบอุ่นให้มุมทานข้าว เริ่มต้นง่ายๆ โดยลองใช้สีเอิร์ทโทนเป็นสีหลักของห้อง เสริมโต๊ะรับประทานอาหารท๊อปไม้ Cleaf ขนาด 6-8 ที่นั่ง รุ่น Marc นำเข้าจากประเทศอิตาลี ให้ผิวสัมผัสดุจไม้จริง แข็งแรง ทนทาน สะท้อนความโอ่อ่า แล้วจัดวางเก้าอี้รับประทานอาหารโครงเหล็กสีสนิมล้อมรอบ ก็ช่วยเสริมความดิบเท่แบบอินดัสเทรียลมากขึ้นไปอีก 5. เตียงนอน แต่งห้องนอนให้สวยเท่ไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสไตล์อเมริกัน ช่วยเพิ่มอุณหภูมิความอบอุ่นให้หลับฝันดีตลอดคืน กับเตียงนอน 6 ฟุต รุ่น Woodwild  นำเข้าจากประเทศอิตาลี ให้ผิวสัมผัสดุจไม้จริง แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัย ระบบโครงสร้างเตียง Firm Structure System ที่ยึดโครงสร้างเตียง 12 จุด ไม่เกิดเสียงดังรบกวนเวลานอน รองรับน้ำหนักได้ 800 ถึง 1000 กิโลกรัม แถมยังป้องกันฝุ่นใต้เตียงได้อีกด้วย ใครที่ชอบสไตล์อินดัสเทรียลเป็นทุนเดิมแต่เป็นภูมิแพ้ กลัวระคายเคืองจากวัสดุ คงต้องเปลี่ยนใจแล้วล่ะ สำหรับใครที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน ที่เน้นโชว์ผิวสัมผัสของวัสดุที่ปราศจากการปรุงแต่งอย่าง ไม้จริง ผ้ากระสอบ หนังแท้ ฯลฯ การแต่งบ้านสไตล์เท่ๆ ที่ให้ลุคอบอุ่นในสีเอิร์ธโทน น่าจะเป็นอีกหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่น่าสนใจ และสะท้อนไลฟ์สไตล์ของคุณได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านดีไซน์สวยสไตล์อินดัสเทรียล ไปแต่งบ้านได้ที่ร้าน คลีเช โฮม (Cliché Home) By SB Design Square ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-115-0555 หรือ www.sbdesignsquare.com/
3 เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทย แต่งบ้านเก๋ แถมรักษ์โลกด้วย

3 เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทย แต่งบ้านเก๋ แถมรักษ์โลกด้วย

เพราะหัวใจของการอยู่อาศัยอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นอยู่ที่ความพอดี ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคพลังงาน การไม่ก่อมลพิษที่จะทำร้ายทำลายตนเองและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความพอดีในการลงทุนเพื่อทำให้บ้านของคุณ "เขียว" ขึ้น ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ที่เรียกเก็บอยู่ทุกเดือน สารเคมีที่คุณใช้ หรือปริมาณขยะในถังที่คุณต้องเททิ้งอยู่ทุกวันนั่นเอง ซึ่งความจริงอีกประการหนึ่งที่เราต้องยอมรับก็คือ บนโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ การที่บ้านจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้นั้น ย่อมจะต้องอาศัยการลงทุนลงแรงเช่นกัน แนวคิดพื้นฐานในการปรับปรุงบ้านให้เป็นมิตรต่อผู้อยู่และไม่ทำร้ายสภาพแวดล้อมนั้น คือการหาจุดสมดุลระหว่างความสามารถในการลดการบริโภคพลังงาน ลดมลพิษ ไม่ขัดกับวิถีชีวิต และเป็นมิตรต่อเงินในกระเป๋าด้วย โดยเรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เราสามารถบริหารจัดการได้ หากเราวางแผนตั้งแต่ต้น คิดทุกอย่างตั้งแต่การออกแบบ การกำหนดทิศทางของบ้าน การคัดสรรวัสดุ และการเลือกซื้อของมาใช้สอยในบ้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น เริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่เลือกเฟอร์นิเจอร์ หากเอ่ยคำว่า ‘เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลก’ คุณคิดถึงอะไร? ภาพแรกที่คุณคิดคือโต๊ะหรือเก้าอี้จากเศษวัสดุเหลือใช้ ดีไซน์ในรูปแบบเดิมๆ กันอยู่หรือเปล่า? วันนี้เราจะทำให้คุณลบภาพเหล่านั้นทิ้งไป เพราะปัจจุบันมีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ในคอนเซ็ปต์รักษ์โลกมากมาย ที่สำคัญคือเป็นฝีมือดีไซเนอร์ไทย ที่ไม่เพียงแต่ออกแบบเพื่อความสวยงามเท่านั้นแต่ยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่ามีแบรนด์อะไรกันบ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ 1. Many go Round เฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์น่ารัก ขนาดเล็กกะทัดรัดที่เกิดจากความคุ้นเคยในสิ่งรอบๆ ตัว ของเจ้าของแบรนด์และพาร์ทเนอร์อีก 2 คน ที่หยิบยกแม่พิมพ์พลาสติกซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากในโรงงาน มาออกแบบให้เป็นเฟอร์นิเจอร์โดยผ่านกระบวนการรีไซเคิล ผสมผสานกับการใช้เยื่อไม้ซึ่งเป็นขี้เลื่อยมาผสมผสานกับพลาสติกประมาณ 30% เพื่อลดปริมาณการใช้ปิโตเลียม ผ่านกระบวนการรีไซเคิลจนออกมาเป็น ชิ้นส่วนรูปทรงคล้ายถาด และกล่อง แล้วจึงเติมสีสันให้ดูน่าสนใจ เมื่อผ่านขั้นตอนรีไซเคิลจนได้ชิ้นส่วนหลักของผลิตภัณฑ์แล้ว ดีไซเนอร์จึงนำความแข็งแรงของแม่พิมพ์เก่า ที่มีอยู่เดิมมาผสมผสานปรับปรุงโดยใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกผสมเยื่อไม้มาประกอบกับโครงสร้างไม้ยางพารา ซึ่ง ปลูกภายในประเทศและมีราคาย่อมเยาว์ ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ดีไซน์สไตล์มินิมอลที่เรียบง่าย แฝงไปด้วยฟังก์ชั่นเก็บของเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบัน มีให้เลือก 2 แบบ คือ เก้าอี้สตูล และโต๊ะข้าง 2 ขนาด โดยมีเอกลักษณ์ที่ลวดลายไม้และผิวสัมผัสของวัสดุหลักอย่าง Wood composite plastic เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ลงตัวระหว่างฟังก์ชั่นความแข็งแรง ความสวยงามของผงไม้และเยื่อไม้ที่ผสมอยู่กับพลาสติก และยังสามารถรีไซเคิลได้ 100% อีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  www.manygoround.com  หรือโทร. 086-365-9716 2. THAS ผลิตภัณฑ์ Eco จากไม้คอร์กที่ใช้ไอเดียจากหลายเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับการออกแบบมาปรุงรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ในเรื่องของแรงโน้มถ่วง หรือกฎของนิวตันมาเป็นตัวแปรสำคัญ ในการนำไม้คอร์กที่มีความอ่อนตัวมาบิดดัดให้อยู่ตัวและคงรูป โดยใช้กระบวนการ อัพไซเคิล (Upcycle) ซึ่งเป็นคำประสมของคำว่าอัพเกรด (upgrade) รวมกับคำว่า รีไซคลิ่ง (Recycling) เข้ามาข้องเกี่ยวในส่วนของการผลิต ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์เราคือกระบวนการอัพไซเคิล โดยนำเศษวัสดุเหลือใช้ กลับมาทำเป็นของใช้ใหม่ให้มีมูลค่ามากขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานและกระบวนการทางเคมีใดๆ ซึ่งจะแตกต่างจากการรีไซเคิล ที่นำสิ่งที่ไม่สามารถใช้ซ้ำได้แล้วไปเข้ากระบวนการแปรรูปให้เป็นวัตถุดิบ โดยใช้วิธีหลอมรวมกันเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ จึงทำให้คุณภาพหรือมูลค่าของสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ด้อยกว่าของเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยังคิดต่อยอดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดูน่าสนใจ ด้วยการเติมคุณสมบัติให้กับไม้ชนิดนี้ โดยออกแบบให้เป็นบอร์ดแปะข้อความต่างๆ ซึ่งออกแบบลวดลายโดยสร้างบล็อกพิมพ์ขึ้นมาเองจากนั้นจึงกดพิมพ์ลงไปด้วยมือ แทนการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทเพราะต้องการคงพื้นผิวของเนื้อไม้เอาไว้ และยังช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.facebook.com/thasofficial/ หรือโทร. 088-293-9646 3. e-LITE solar jar ขวดโหลโคมไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เกิดจากความมุ่งมั่นของ เจ้าของแบรนด์และพาร์ทเนอร์ชาวแอฟริกาอีกหนึ่งคน ซึ่งต้องการฉีกรูปดีไซน์โคมไฟตั้งโต๊ะรูปแบบเดิมๆ ผ่านนำเสนอความคิดแปลกใหม่ในแบบฉบับของตนเอง  โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและยังสร้างความสวยงามให้กับบ้านดีไซน์แสนน่ารัก เหมาะการนำไปตกแต่งในมุมต่างๆ ซึ่งทำงานด้วยระบบ Solar Cell แผ่นเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า การใช้งานของ e-Lite Solar jar นั้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแค่ในช่วงเวลากลางวันที่แดดร้อนจัดก็นำขวดโหลออกมาให้สัมผัสกับแสงแดดเพื่อเป็นการชาร์จพลังงาน โดยไม่ต้องเปิด Magnet Switch ปิดการทำงานของวงจรไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่เข้าสู่แบตเตอรี่แบบ Rechargable ที่ใต้ฝาขวด โดยต้องสัมผัสกับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ในวันที่แดดแรงจัด หรือวางกลางแจ้งทิ้งไว้ 10-12 ชั่วโมง ในกรณีที่แดดไม่แรงมากนัก เพียงเท่านี้ก็สามารถให้แสงสว่างต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้งแล้วค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.facebook.com/eLitesolarjar/ เมื่อทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรา วิธีรักษาสิ่งแวดล้อมง่ายๆ นอกจากลดการใช้พลังงานไฟฟ้า นั่นก็คือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลกมาแต่งบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยดูแลรักษาโลกของเราไปในตัวพร้อมๆ กับฟังก์ชั่นใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์มากที่สุด แถมบ้านยังสวย เก๋ ไม่เหมือนใครอีกด้วย  :)
แต่งห้องไซส์เล็กให้เป็นห้องใหญ่ง่ายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน!

แต่งห้องไซส์เล็กให้เป็นห้องใหญ่ง่ายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน!

  พูดถึงขนาดห้อง Studio ของคอนโดมิเนียม หลายคนคงนึกถึงภาพห้องที่โล่งเปล่าไม่แบ่งกั้นสัดส่วน มีเพียงห้องน้ำและเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ มากกว่าห้องขนาด 1 Bedroom ที่ใหญ่กว่าและยังแบ่งกั้นพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอนให้เสร็จสรรพ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าราคาของไทป์แต่ละห้องย่อมต่างกัน ใครสะดวกใจและมีกำลังซื้อห้องขนาดไหนก็เลือกตามใจชอบได้เลยค่ะ แต่สำหรับคนงบน้อยที่ตัดสินใจซื้อห้อง Studio ขนาดเล็กและไม่รู้จะแต่งห้องยังไง? วันนี้ทีมงาน Review Your Living มีทางออกให้คุณแล้วค่ะ เพราะเราได้นำตัวอย่างการแต่งห้องเล็กให้ดูใหญ่ง่ายๆ ด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินให้เหมาะสมพื้นที่จากแบรนด์ Poom มาให้ดู เผื่อใครจะนำไอเดียไปปรับใช้ให้เข้ากับห้องของตัวเอง ไปดูกันเลย... และนี่คือ Reference : IDEO Q Chula – Samyan ห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ที่ทางแบรนด์ Poom เป็นคนออกแบบให้ค่ะ เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะเห็นได้ว่าแปลนห้องก็คล้ายกับคอนโดฯ ทั่วไป คือมีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ อยู่ด้านซ้ายตรงข้ามกันก็คือห้องน้ำนั่งเอง ห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ที่ได้รับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและเก็บของได้อย่างเพียงพอ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดและรู้สึกโปร่งโล่งสบายในสไตล์เฟอร์นิเจอร์ไม้ของแบรนด์ Poom ที่ดูเรียบง่าย อบอุ่น น่ารักเหมาะห้องขนาดเล็ก ออกแบบผนังที่ว่างเปล่าอีกฝั่งหนึ่งให้เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันด้วยชั้นวางของ โต๊ะทำงานหรือเขียนหนังสือโดยไม่ไม่เปลืองเนื้อที่ นอกจากนี้ยังดูน่ารัก น่าใช้ อบอุ่นเข้ากับสไตล์และบรรยากาศห้องได้เป็นอย่างดี   และหากใครสงสัยว่างานบิลต์อินนั้นว่ามีข้อดีและเสียยังไง ทีมงานเราก็รวบรวมคำตอบมาให้คุณเช่นกันค่ะ... ข้อดี สามารถออกแบบและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า จึงมีประโยชน์ในเรื่องของความสามารถในการจัดเก็บข้าวของได้มากขึ้น มีความแข็งแรง เพราะเป็นการติดตั้งโดยการยึดติดอยู่กับโครงสร้างอาคารหรือพื้นที่นั้นๆ สามารถออกแบบได้ตามใจเพียงแค่บอกความต้องการกับสถาปนิกหรือเจ้าของแบรนด์นั้นๆ อีกทั้งยังสามารถปรับแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ตรงตามความต้องการได้อีกด้วย ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีค่าออกแบบและต้องใช้ช่างที่ชำนาญเป็นคนติดตั้งให้ค่ะ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากเป็นการติดตั้งยึดติดกับพื้นที่นั้นๆ ระหว่างการติดตั้งอาจจะมีฝุ่น เศษไม้ กลิ่นทินเนอร์รบกวน ทำให้ใช้พื้นที่บริเวณนั้นไม่ได้   เป็นยังไงกันบ้างคะเมื่อได้ดูไอเดียตัวอย่างการแต่งห้องเล็ก รวมถึงข้อดีข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินกันไปแล้ว สำหรับใครที่คิดว่า “ราคาแพงแน่เลย แต่งเองดีกว่า” ขอแนะนำว่าให้ลองปรึกษาทางสถาปนิกหรือแบรนด์ Poom ดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะทางแบรนด์แอบกระซิบว่าไม่ได้คิดค่าออกแบบเพียงแต่ใช้มัดจำตามขนาดพื้นที่ของห้อง และจึงหักลบกับยอดซื้อภายหลัง ที่สำคัญคือลูกค้าสามารถแจ้งกำหนดงบประมาณที่มีเพื่อการออกแบบที่เหมาะสมได้ด้วยค่า สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ทาง https://www.facebook.com/Poom.living Line: @poomdesign   ขอขอบคุณรูปภาพจากแบรนด์  Poom design