ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้วกว่า 40 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท เตรียมรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2559 อย่างเต็มรูปแบบ วางเป้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต พร้อมขยายฐานธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมครั้งแรก ใน 2 ทำเลฮอต แจ้งวัฒนะ และสุขุมวิท มั่นใจศักยภาพของทำเลจะทำให้สามารถปิดการขายได้ภายใน 5-6 เดือน ด้านผลการดำเนินงานปี 59 ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 800 ล้านบาท เติบโต 40% จากปี 2558
นายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมากว่า 30 ปี เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เริ่มต้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 2524 ภายใต้ชื่อบริษัท ภัทรค้าที่ดิน จำกัด หลังจากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ในปี 2546 ทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท จนถึงปัจจุบัน พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้วกว่า 40 โครงการ จำนวนรวมกว่า 7,500 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท ครอบคลุมแนวราบทุกชนิด ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ บ้าน BOI ในทำเลปทุมธานี และนนทบุรี ภายใต้แบรนด์ ภัทรารมย์ (ทาวน์เฮ้าส์ ชั้นเดียว นอกเมือง) ภัทรไพรเวท (ทาวน์เฮ้าส์ ชานเมือง) ภัทรโมทาวน์ (ทาวน์โฮม ในเมือง) โมทาวน์ บริโอ ฯลฯ”
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อไปว่า “หลังจากพัฒนาโครงการในพื้นที่ปทุมธานี และประสบความสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ บริษัทฯได้ขยายพื้นที่มายังทำเลแจ้งวัฒนะ โดยพัฒนาโครงการ ภัทรโมทาวน์ (Pattra MoTown) แจ้งวัฒนะ ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น 3 ชั้น จำนวนเกือบ 300 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท โครงการนี้ประสบความความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งจากทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ รูปแบบของสินค้าที่เป็นสไตล์โมเดิร์น บ้านจัดสรรเลือกที่เลือกรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ได้ และในราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท โดยโครงการนี้สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯประมาณ 1,500 ล้านบาท”
นอกจากการพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว บริษัทฯยังขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยไปยังต่างจังหวัดได้แก่ จังหวัดภูเก็ต และชลบุรี โดยเริ่มต้นที่จังหวัดภูเก็ต พัฒนาโครงการ เดอะวิช แอท โมนูเม้นท์(อนุสาวรีย์ ท้าวเทพกระษัตรีฯ-ภูเก็ต)เมื่อปี 2554 ในรูปแบบของทาวน์โฮม บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ จำนวน 98 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 450 ล้านบาท โดยอาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการติดถนนใหญ่ ได้รับการตอบรับที่ดีและขายหมดในระยะเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ในปี 2557 ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดชลบุรีอีก 2 โครงการ เนื่องจากมองว่าทำเลในจังหวัดชลบุรีมีการเติบโตค่อนข้างดี ซึ่งหลังจากปี 2554 ที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ มีการขยายโรงงานจากอยุธยา ปทุมธานี มาลงทุนในภาคตะวันออกเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีการขยายงานมากขึ้น ทำให้ความต้องการในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วย บริษัทฯจึงได้หาที่ดินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับกลุ่มดังกล่าว โดยใช้ชื่อว่า โครงการภัทร แกรนด์ทาวน์ (ศรีราชา ชลบุรี) พัฒนาเป็นทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ชั้นเดียว ราคาเริ่มต้น 9 แสนกว่าบาท จำนวน 452 ยูนิต และอีกโครงการชื่อว่า เดอะ วิช แอท ข้าวหลาม (เมือง ชลบุรี) ในรูปแบบของบ้านแฝด ราคา 3.5 ล้านบาท จำนวน 51 ยูนิต โดยทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้
นายชาญวิทย์ กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปี 2559 ว่า “บริษัทฯมีแผนที่จะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ในปีนี้อย่างน้อย 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 3 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯและภูเก็ต โดยปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯลุกขึ้นมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม จากการศึกษาในช่วงที่ผ่านมาพบว่าผู้บริโภคบางกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการอยู่อาศัย จากที่อยู่บ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่นอกเมือง เปลี่ยนมาอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในเมืองและใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพราะสะดวกในการเดินทาง ประกอบกับบริษัทฯมีที่ดินที่ถือว่าเป็นทำเลที่ดีบนถนนแจ้งวัฒนะ เพราะตั้งอยู่กับตรงข้ามศูนย์ราชการฯ จึงได้นำมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ “MOTIVE แจ้งวัฒนะ” พัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น จำนวน 130 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 1 ไร่ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่1.57 ล้านบาท โดดเด่นด้วยห้องเพดานสูง 2.8 เมตร โปร่ง โล่ง สบายไม่แออัด และอีก 1 โครงการ “MOTIVE สุขุมวิท 115” พัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวนยูนิตเพียง 73 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 221 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 26-48.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่ในซอยห่างจากรถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้าสมิงพราย ประมาณ 300 เมตร”
ในส่วนของโครงการแนวราบปีนี้เปิด 3 โครงการ เปิดที่จังหวัดภูเก็ต 2 โครงการ และกรุงเทพอีก 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะวิช แอท ป่าคลอก จังหวัดภูเก็ต พัฒนาในรูปแบบบ้านแฝด และบ้านเดี่ยวชั้นเดียว คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือนเมษายน และอีก 1 โครงการพัฒนาในรูปแบบของที่อยู่อาศัยแนวราบ ในจังหวัดภูเก็ตเช่นกัน และเป็นโครงการแนวราบในทำเลบางบัวทองอีก 1 โครงการ
นายชาญวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ว่า “บริษัทฯวางเป้าในการพัฒนาโครงการอย่างน้อยปีละ 5 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เติบโตปีละ 5 – 10 % โดยในปี 2559 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 700 – 800 ล้านบาท เติบโตเพิ่มจากปี 2558 ประมาณ 40 % ที่มีรายได้รวมกว่า 500 ล้านบาท สำหรับมุมมองภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 มองว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังสามารถเติบโตไปได้ในกลุ่มระดับราคา 1.5 – 1.8 ล้านบาท โดยเฉพาะในทำเล ปทุมธานี นนทบุรี แจ้งวัฒนะ ทำเลดังกล่าวยังเป็นทำเลที่น่าสนใจเนื่องจากการขยายตัวของเมือง และการเริ่มเคลื่อนไหวของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูก็ยิ่งทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย และซื้อเพื่อการลงทุน”
สำหรับโครงการ MOTIVE แจ้งวัฒนะ ได้เปิดตัวรอบ VIP ไปเรียบร้อยแล้วในวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา และ MOTIVE สุขุมวิท 115 จะเปิดตัวเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม นี้ ณ สำนักงาน โดยภายในงานจะได้รับโปรโมชั่นและส่วนลดสุดพิเศษ สนใจรายละเอียดโครงการติดต่อ
MOTIVE แจ้งวัฒนะ T. 02 976 9955
MOTIVE สุขุมวิท 115 T. 02 757 9877