บจ.มานะ พัฒนาการ เครือ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เผยปิดปี ‘59 ด้วยยอดขาย 455 ล้านบาท ประกาศปี ‘60 เตรียมเปิดโครงการเพิ่มอีก 2 โครงการมูลค่ากว่า 1,600 ลบ. แบ่งเป็น แนวราบ 1 โครงการ คือ บารานี เรสซิเดนซ์ และแนวสูงอีก 1 โครงการ คือ Aspen Condo Phase B คาดปีนี้รายได้พุ่ง 6 เท่าจากปีที่แล้ว เผยปีนี้เป็นปีสำคัญในการกำหนดทิศทางของแบรนด์ของบริษัทอย่างชัดเจน ด้วยการเปิดตัว New Brand Direction : “DESIGNING LIFE’S FOUNDATION” เน้นการพัฒนาแบรนด์ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า
นายพลพัฒ กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้ในงานก่อสร้าง ปัจจุบันเนาวรัตน์พัฒนาการ มีธุรกิจหลัก 3 ส่วน ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงและผลิตภัณฑ์คอนกรีต และกลุ่มธุรกิจเหล็กแปรรูป จากประสบการณ์ในด้านการก่อสร้างที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกธุรกิจบนพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งมีการเติบโตค่อนข้างสูงและต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถสร้างรายได้และผลกำไรที่ดี ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการนำจุดแข็งของการก่อสร้างของเนาวรัตน์มาต่อยอด และสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม สำหรับบริษัทมานะพัฒนาการ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนถึง 800 ล้านบาท โดยจากนี้ไปจะเห็นว่ามานะพัฒนาการจะมีการทำงานแบบมุ่งพัฒนาทั้งด้านสินค้าและแบรนด์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด และได้แบรนด์ที่ลูกค้าต้องการอย่างลงตัว”
นายปสันน สวัสดิ์บุรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด กล่าวเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางของแบรนด์ (New Brand Direction) ของมานะพัฒนาการว่า “สำหรับปีที่ผ่านมา เราใช้เวลาทั้งปีเพื่อวางแผนและศึกษาการวางทิศทางของแบรนด์มานะพัฒนาการ ซึ่งเบื้องต้นเราตั้งคำถามกันว่า สำหรับมานะพัฒนาการแล้ว “แบรนด์” คืออะไร ซึ่งการตั้งคำถามนี้นำมาซึ่งคำตอบ ได้แก่ แบรนด์ คือการมีเพื่อน หรือคนรู้ใจ คนที่เราไว้วางใจ คุยได้ทุกเรื่อง และเราต้องการคบกับคนๆ นี้ไปอีกนานๆ ซึ่งนี่คือแก่นแท้ของแบรนด์มานะพัฒนาการ เมื่อได้คำตอบนี้ เราจึงทำการบ้านต่อเพื่อหาคำตอบอีกครั้งว่า ผู้บริโภคในวันนี้ต้องการอะไรจากที่อยู่อาศัย และเราพบว่าสิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เพราะเมื่อเราเข้าใจไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้นเท่าไร เราก็จะยิ่งเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของเรามากเท่านั้น ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า สำหรับมานะพัฒนาการแล้ว แบรนด์ คือการคิดพัฒนาเพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ตรงใจกับที่ผู้บริโภคต้องการ นอกจากนี้ เรายังต้องการสร้างสังคมที่ดีให้กับลูกบ้าน ทั้งยังรวมไปถึงการบริการหลังการขาย และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือเราต้องการเห็นลูกบ้านของเรามีความภูมิใจในแบรนด์ที่เขาเลือก รักและผูกพัน รวมถึงแนะนำให้เพื่อนเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกของมานะพัฒนาการ และนั่นคือ ผลสำเร็จของแบรนด์ที่เราตั้งไว้ โดยเรานิยาม New Brand Direction ของเราว่า “Designing Life’s Foundation” หรือ “มองรอบด้าน เพื่อชีวิต”
จากการวาง New Brand Direction ของบริษัทฯ ส่งผลถึงวิธีการพัฒนาโครงการแต่ละโครงการให้สอดรับกับ New Brand Direction ซึ่งรายละเอียดของแต่ละโครงการซึ่งสะท้อนถึงแบรนด์แต่ละแบรนด์นั้น นายอภิชาติ รักช้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด กล่าวว่า “ผมมารับช่วงต่อในการพัฒนาแบรนด์ของแต่ละโครงการ หลังจากที่บริษัทได้ New Brand Direction แล้ว โดยเรามีแบรนด์ย่อย 3 แบรนด์ โดยเป็นแนวสูง 1 แบรนด์ ได้แก่ เอสเพน คอนโด (Aspen Condo) และแนวราบ 2 แบรนด์ ได้แก่ บารานี เรสซิเดนซ์ (Baranee Residence) และแบรนด์บารานี พาร์ค (Baranee Park) ซึ่งแต่ละแบรนด์มีบุคลิกที่แตกต่างกัน และบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย และลักษณะโครงการด้วย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. แบรนด์เอสเพน คอนโด (Aspen Condo) เป็นแบรนด์สำหรับคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ คือ Aspen Condo Phase B การพัฒนาแบรนด์นี้ เราใช้หลักวิธีคิดง่าย ๆ คือ เมื่อกลุ่มเป้าหมายของเรา คือ คนรุ่น ใหม่ มองหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับชีวิต รวมถึงให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบ ซึ่งทั้งหมดเป็นที่มาของแนวความคิด “Urban One-Stop Living” ที่นี่ไม่ใช่ที่พักอาศัยอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ที่นี่คือ Community ที่ถูกออกแบบสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง อาทิ Urban Alternative Gym หรือเมื่อคุณต้องการพื้นที่ที่กว้างขึ้น นอกจากภายในห้องพักแล้วเรายังมีพื้นที่ Urban Idea Space สำหรับให้คุณได้ทำงานสไตล์คนเมืองและ Coffee Bar แบบบริการตนเอง หรือแม้แต่ถ้าคุณต้องพื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อน เราก็สร้างพื้นที่ Urban Greenscape ที่ช่วยให้คุณได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวอีกด้วย
สำหรับโครงการ ASPEN Condo Phase B เป็นโครงการอาคารชุด 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 398 ยูนิต บนที่ดิน 3-1-65.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท ตั้งอยู่บนนถนนลาซาล ห้องขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 23.64 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เสริมด้วยระบบรักษา ความปลอดภัย ด้วยระบบ Key Card กล้อง CCTV โดยรอบโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 จะมีงาน Grand Opening อย่างเป็นทางการที่สำนักงานขายโครงการ ซึ่งในวันงานผู้สนใจจะได้รับข้อเสนอพิเศษ คือ ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท* จองเพียง 5,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,900 บาท* PROMOTION CAMPAIGN เพียงจอง+ทำสัญญา เลือกPro ได้ตามสไตล์คุณ iPhone , iPad , MacBook
2. บารานี เรสซิเดนซ์ (BARANEE RESIDENCE) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ของบริษัทฯ โดย ความตั้งใจหลักในการพัฒนาคอนเซ็ปต์โครงการนี้มาจากความร่มรื่นและความรื่นรมย์ในแบบฉบับ English Garden โดยนำเอาความคิดดังกล่าวมาปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนไทย แต่ยังคงไว้ซึ่งแนวคิดแบบ “Quality Meets Life” โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเต็มพื้นที่ และมีความชื่นชอบบ้านเดี่ยวในสไตล์ Modern English
สำหรับโครงการบารานี เรสซิเดนซ์ รังสิต– คลอง 3 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่าน รังสิต-คลอง 3 บนที่ดินขนาด 34-1-34 ไร่ จำนวนทั้งสิ้น 140 ยูนิต โดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้าน , การก่อสร้าง , การเลือกวัสดุ , สิ่งแวดล้อมภายในโครงการ , ทางเข้า-ออกโครงการที่หรูหรามีสไตล์พร้อมมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมตลอด 24 ชม. ทั้งการเข้าออก และการดูแลภายในโครงการ , CCTV โดยรอบโครงการ , ประตูเข้าออกอัตโนมัติ , Double Security ควบคุมการเข้าออกด้วย Access Card และภายในตัวบ้านเราเพิ่ม Digital Door Lock และ สัญญาณกันขโมยให้กับบ้านทุกหลังเพื่อความอุ่นใจ พร้อมสิ่งอำนวย ความสะดวก สวนส่วนกลาง , คลับเฮ้าส์ , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนตและห้องสตีม เราสร้างทุกอย่างเพื่อมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าและเพื่อรองรับการสร้างครอบครัวในอนาคต พร้อมข้อเสนอพิเศษสุด ส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์พร้อมของแถมหลายรายการ ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 5.7 ล้านบาท* มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ได้แก่
แบบบ้าน Earl Grey : พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา, 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Darjeeling : พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา, 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ
3. บารานี พาร์ค (BARANEE PARK) เป็นแบรนด์สำหรับโครงการบ้านเดี่ยว โครงการนี้มีแนวคิดจากหลักสมการง่าย ๆ แต่มีความหมาย คือ “Design = Life” ทุกองค์ประกอบของชีวิตที่นี่ คือดีไซน์ โครงการนี้คือ โครงการที่จะทำให้ บ้าน l ดีไซน์ l ธรรมชาติ l ชีวิต เชื่อมถึงกัน อย่างลงตัว ทำให้ทุกมุมมองของการใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข ผสมผสานกับสไตล์ในทุกรายละเอียด ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความสะดวกสบายและรูปแบบของชีวิตที่เป็นตัวคุณ บนพื้นที่บ้านที่คิดมาครบในทุกด้าน พร้อมมุมพักผ่อน ณ Courtyard ส่วนตัว ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นวิวพาโนรามา เติมเต็มความสมบูรณ์แบบสำหรับทุกพื้นที่ความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว
สำหรับในด้านแผนการดำเนินธุรกิจของ บจ.มานะ พัฒนาการ นายอภิชาติ รักช้าง กล่าวว่า “ปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด มียอดขายรวมอยู่ที่ 455 ล้านบาท และมีรายรับจากยอดโอนกรรมสิทธิ์กว่า 100 ล้านบาท สำหรับเป้ายอดขายเราต้องการเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายรับจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2560 ต้องการให้เติบโตขึ้น 6 เท่า หรือเท่ากับ 600 ล้านบาท โดยตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ Aspen Condo Phase B มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท และ บารานี เรสซิเดนซ์ รังสิต-คลอง3 มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าโครงการใหม่กว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งนอกจากแผนในด้านการพัฒนาโครงการแล้ว ในปีนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสื่อสารการตลาดอย่างต่อเนื่องทุกช่องทาง เพื่อให้มานะ พัฒนาการ เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค และตอกย้ำภาพลักษณ์ของผู้นำไลฟ์สไตล์ด้านที่อยู่อาศัยตาม New Brand Direction ของบริษัทฯ ซึ่งในแต่ละโครงการจะมีการพัฒนา Concept ให้มีความเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของแต่ละโครงการเพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง”
เมื่อสอบถามถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 นายอภิชาติกล่าวว่า “ปี 2560 น่าจะเป็นช่วงของการฟื้นตัว โดยมุมมองของผู้ประกอบการจะเห็นว่ามีโอกาสที่ดีขึ้น และพร้อมที่จะนำเสนอสินค้าที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดาผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดตัวโครงการต่างๆ และจะกลับมาสร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง โดยรวมแล้วภาคเอกชนยังคงมีความเชื่อมั่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะอสังหาฯ จะยังคงเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ยังคาดว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปัจจัยภายในประเทศต่างๆ ที่กำลังเข้าสู่สภาวะที่มั่นคงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาไปในทางที่ดี ทิศทางของการเมืองที่จะมุ่งสู่การเลือกตั้งตามโรดแมพของรัฐบาล ส่วนด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผู้พัฒนาโครงการแต่ละรายก็จะต้องพยายามสร้างจุดขายที่แตกต่างและโดดเด่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตามสภาวะการแข่งขันที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับผู้สนใจโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมจากบริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด บริษัทในเครือของ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-730-2101 หรือ www.manapat.co.th