เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) ปรับโฉมแบรนด์ใหม่ตามบริษัทแม่ Century 21 สหรัฐอเมริกา รับมือธุรกิจแข่งเดือด-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ทั้งยังให้ความสำคัญกับเครือข่ายแฟรนไชส์ ที่เป็น Core Competency ของธุรกิจ Century 21 ทั่วโลกพร้อมประกาศทิศทางธุรกิจใหม่ Focus จุดเด่นเติบโตแบบ Organic Growth ร่วมมือกับ Startup จากนิวซีแลนด์ พัฒนา Back Office ซัพพอร์ตเอเจนท์ตามนโยบาย Agent Centric ไปพร้อมๆ กับ Customer Centric
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า เทคโนโลยี โดยอินเตอร์เน็ต (IoT: Internet Of Things) จะเข้ามามีบทบาทในการทำงานให้อยู่บนโลกออนไลน์ ประกอบกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายในปัจจุบันนั้นคือกลุ่ม Millennials (อายุ 22-37 ปี) ที่เติบโตมากับโลกไร้สาย ดังนั้นนักการตลาดจะต้องปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และการตัดสินใจของคนกลุ่มนี้ต้องอาศัยข้อมูลเป็นจำนวนมากจากหลายแหล่ง อีกทั้งมีผลสำรวจพบว่าคนกลุ่มนี้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นและมากที่สุดในโลกไปอีก 10 – 20 ปี
เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด การทำงานของทุกธุรกิจต้องปรับตัว เช่นเดียวกันกับวงการอสังหาริมทรัพย์ จำต้องปรับตัว รวมถึงการคิดค้น Model ธุรกิจใหม่ที่เชื่อมโยงความเป็น Lifestyle ผ่านการทำธุรกรรมโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่มหาศาล
โดยในส่วนของแบรนด์ Century 21 อยู่มานานกว่า 48 ปี และในประเทศไทยได้เปิดดำเนินการมา 10 ปีสำนักงานใหญ่ Century 21 สหรัฐอเมริกาถือโอกาสนี้ปรับรูปโฉมแบรนด์ใหม่ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย นอกจากจะปรับรูปโฉมแบรนด์ใหม่แล้ว ยังปรับโครงสร้างการบริหารโดย คุณกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ เป็น President & Regional Owner หรือประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) จำกัด และยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ Century 21 Laos อีกด้วย
และในการนี้ยังได้แต่งตั้ง นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ขึ้นบริหารงานในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการ พร้อมทีมงานบริหารที่เสริมทัพแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
Focus จุดเด่นเติบโตแบบ Organic Growth
ด้านนายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางของบริษัทฯ จากระยะเวลาที่ได้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยกว่า 10 ปี ว่า Century 21 ยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคง นั่นคือ “เราจะเติบโตในรูปแบบ Organic Growth โดยจะมองในแบบ Strategic Direction จะเป็นแบบ Focus จุดเด่นของ Century 21 ซึ่งยังคงมุ่งเน้นในสิ่งที่เราชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การทำการซื้อ-ขาย และเป็นที่ปรึกษาเรื่องที่ดินเพื่อการลงทุน ปัจจุบันบริษัทฯ มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญที่สามารถตอบสนองให้กับนักลงทุน และนักพัฒนาโครงการฯ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับเครือข่ายแฟรนไชส์ ที่เป็น Core Competency ของธุรกิจ Century 21 ทั่วโลก”
การเข้ามาของผู้สนใจทำธุรกิจ แฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์รายใหม่ๆ ในปีนี้บริษัทฯ อาจไม่ได้ต้องการจำนวนสาขาที่เพิ่มมากขึ้น แต่จะเป็นการพัฒนาเครื่องมือเพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการทำงานของสาขาที่มีอยู่ และการรักษามาตรฐาน การบริการของสาขาปัจจุบันที่เป็นเครือข่ายของบริษัทฯ รวมถึงทิศทางต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างชุมชน เครือข่ายของที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือเอเจนท์ให้เกิดขึ้น โดยจะสนับสนุนเรื่อง เครื่องมือทางการตลาด เพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน โดยเฉพาะเอเจนท์ในระบบของบริษัท และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจใหม่ๆ ที่เรียกว่า New Comer ได้เข้ามาในระบบมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีแฟรนไชส์สาขาทั้งสิ้น 30 ราย
“เมื่อเราโฟกัส ไปยังสิ่งที่เราชำนาญ และสนับสนุนส่วนต่างๆ ของบริษัทฯ ในเชิงนโยบายก็จะสอดคล้องกัน โดยบริษัทฯ จะมีนโยบายในการเสริมเรื่องเทคโนโลยีในการทำงานมากขึ้น คือ Technology Driven มีนโยบายให้หาเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะมาสนับสนุนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพทั้งของบริษัทและ Stakeholder ของเรา” นายธิติวัฒน์ กล่าวย้ำ พร้อมขยายความต่อด้วยว่า การกำหนดนโยบายในเรื่อง Knowledge Management การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้ทั้งบริษัทฯ และผู้ที่สนใจในด้านอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้วยองค์ความรู้ใหม่ ๆ อีกสิ่งที่บริษัทได้กำหนดไว้ คือ Customer Centric ไปพร้อมกับคำว่า Agent Centric โดยทั้งสองส่วนมีส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ หรือถ้าใช้คำสั้น ๆ ก็คือ ความใส่ใจ ให้ความสำคัญ นั่นเอง
ปรับตัวรับการแข่งขัน/ ร่วมมือกับ Startup จากนิวซีแลนด์
จากทิศทางที่ปรับเปลี่ยนทั้งด้านเทคโนโลยี ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเราเองก็ต้องวาง Policy และปรับตัวเพื่อให้สามารถสร้างสรรค์และแข่งขันได้ ซึ่งต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีและโลกดิจิทัลเป็นสิ่งที่ต้องคิดอยู่เสมอ เพราะส่งผลหลายๆ ด้าน ทั้งวิธีการทำงาน พฤติกรรมของผู้ซื้อ ผู้ขาย ซึ่ง Century 21 ได้มองหาพาร์ทเนอร์ และเครื่องมือที่มีศักยภาพ ดังนี้
● บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท Startup ด้าน การพัฒนา Digital Platform จากนิวซีแลนด์ ในการพัฒนา
เว็บไซต์ใหม่ และระบบ Back Office ต่างๆ ที่จะช่วยซัพพอร์ต ในการทำงานและสะดวกต่อการใช้งาน ให้กับเอเจนท์ของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งตามนโยบาย Agent Centric
● มีการพัฒนา Web Application นำระบบ GIS มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการด้านที่ดิน Land & Investment โดยมีการทำงานร่วมกับ Prop Tech เพื่อพัฒนาเครื่องมือให้เหมาะสมกับวิธีการทำงานของบริษัท
● การปรับตัวให้เอเจนท์เป็นศูนย์กลาง (Agent Centric) โดยได้มีการจัดทำ Co-Working Spark ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ทางเอเจนท์ และคนทำงานในเครือข่ายของบริษัทฯ สามารถมาใช้ทำงาน เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดแรงบันดาลใจในการต่อยอด การทำงาน และเชิงธุรกิจได้
ศูนย์วิจัยข้อมูลอสังหาฯ “C21 Poll”
อีกหนึ่งนโยบายที่ Century 21 ให้ความสำคัญเสมอมาและจะมีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น คือ การสร้างองค์ความรู้ การนำข้อมูลจากการสำรวจวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ นอกเหนือจากข้อมูลเชิงสถิติที่มีอยู่ในตลาด แต่ที่กำลังทำ เป็นข้อมูลที่เป็นมุมมองเชิงนโยบาย สังคม กระแส หรือความคิดเห็นจากผู้บริโภค และผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยได้จัดตั้ง ศูนย์วิจัยข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ “C21 Poll” ซึ่งเป็นไปตามนโยบายบริษัทฯ ที่ต้องการสร้างองค์ความรู้และมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการทำสำรวจวิจัยการตลาดมากว่า 20 ปี ในการดำเนินการทำผลสำรวจด้านอสังหาฯ (Poll) ซึ่งเชื่อว่า จะเกิดประโยชน์ในเชิงการทำนโยบาย ทั้งภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติด้านที่อยู่อาศัย รวมทั้งเอกชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ และผู้บริโภค (End User) ขณะนี้การทำโพลชิ้นแรก ได้จัดทำไปแล้วกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ คาดว่า ประมาณเดือนสิงหาคมน่าจะเสร็จสมบูรณ์
พร้อมกันนี้นายธิติวัฒน์ ยังกล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ ยังมีความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ บริษัทที่เป็น สตาร์ทอัพ สถาบันการศึกษา จนถึง บริษัทด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศในการคิดโมเดลธุรกิจด้านอสังหาฯ ใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวและก้าวไปต่อในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา