กรุงเทพฯ (22 มีนาคม 2559) – วันนี้ นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เจ้าของโครงการไอคอนสยาม สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จัดงานแถลงรายละเอียดของอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคตอีกครั้งหนึ่ง โดยการปรากฏโฉมของ 2 อาณาจักรศูนย์การค้าและความบันเทิงแห่งยุค บนพื้นที่ 525,000 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นอลังการที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อการก่อสร้างเสร็จในปลายปี 2560 โดยงานนี้จัดขึ้นในบรรยากาศค่ำคืนแห่งความสง่างาม ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติมากกว่า 1,500 คน ก่อนปิดท้ายด้วยการล่องเรือบนแม่น้ำเจ้าพระยาสายน้ำแห่งเกียรติภูมิ
ไอคอนสยาม จะเป็นโครงการที่จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่แห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย มีขนาดพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย
– อภิมหาอาณาจักรศูนย์การค้าแห่งยุค ที่ล้ำเลิศที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 2 อาคาร คือ ไอคอนสยาม (Main Retail & Entertainment) พื้นที่ 500,000 ตารางเมตร และ ไอคอนลักซ์ (Luxury Wing) พื้นที่ 25,000 ตารางเมตร มีที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวกแยกจากกัน แต่เชื่อมต่อการไหลเวียนของลูกค้ากันได้อย่างทั่วถึง
– คอนโดมิเนียมที่พักอาศัยมาตรฐานระดับโลกที่หรูหราสง่างามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 2 อาคาร
แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม และ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
– สิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ทั้ง 7 ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับการขนานนามให้เป็น “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม”
ไอคอนสยาม เมืองแห่งความรุ่งโรจน์อันเป็นนิรันดร์ (The Icon of Eternal Prosperity) เป็นโครงการภายใต้การรังสรรค์ของสามพันธมิตรภาคเอกชนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของวงการธุรกิจไทย จึงเป็นหลักประกันได้ว่าโครงการจะกลายเป็นแลนด์มาร์คที่ยิ่งใหญ่ของประเทศได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยพันธมิตรทั้งสาม ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหาร Mixed-use development ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับ MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับลักชัวรี่ และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทชั้นนำของไทยที่มีการลงทุนในระดับโลก โดยในปี 2555 ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนรังสรรค์อภิมหาโครงการมูลค่า 50,000 ล้านบาท นับเป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ได้ร่วมกันดำเนินงานเนรมิตโครงการที่ยิ่งใหญ่
ปณิธานเพื่อสร้างจุดยืนที่สง่างามของประเทศไทยในเวทีโลก
นางชฎาทิพ จูตระกูล กล่าวว่า “ไอคอนสยามจะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทยในการเนรมิตโครงการที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ และตื่นตาตื่นใจที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย เพราะไอคอนสยามจะเป็นสถานที่ที่จะดึงดูดคนไทยทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชม เนื่องจากเรากำลังจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ของคำว่าล้ำเลิศในทุกมิติ ที่จะเป็นการสร้าง Paradigm ใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ รวบรวมทุกสรรพสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคต ไม่ว่าจะเป็นที่สุดแห่งการอยู่อาศัย สินค้าและบริการที่ครบครัน นวัตกรรมในการอำนวยความสะดวกสบายและการสื่อสารที่ล้ำยุคอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ไอคอนสยามจะเป็นหัวใจสำคัญที่จะจุดประกายความเรืองรองของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชาวโลกชื่นชมให้สว่างไสวไปทั่วโลกอีกครั้ง”
ไอคอนสยาม มุ่งหมายที่จะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดสายระยะทางยาว 10 กิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก (New Global Destination) ที่จะนำเสนอประสบการณ์ไร้เทียบเทียม เพราะตลอดสายน้ำเจ้าพระยาสามารถนำเสนอทุกมิติของความเป็นไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและไม่มีใครเสมอเหมือนได้ เป็นที่ตั้งของโบราณสถานแหล่งมรดกล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดกว่า 20 แห่ง โรงแรมระดับ 3-5 ดาวที่มีมากถึง 50 แห่งที่มีจำนวนห้องพักมากกว่า 10,000 ห้อง โครงการที่พักอาศัยหรูหราริมน้ำและฝั่งธนบุรีที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันกว่า 200 โครงการ รวมถึงโครงการใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมายสองฝั่งแม่น้ำทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยไอคอนสยามจะเป็นจุดเชื่อมต่อ สิ่งสำคัญทั้งปวงนี้ ตามที่ได้ประกาศ ‘แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา” ไปเมื่อ พ.ศ. 2557 ภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนผู้ประกอบการริมแม่น้ำทั้งหมดรวมถึงผู้ประกอบการเรือทุกประเภท เพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน และร่วมกันทำการตลาดในต่างประเทศ เพื่อช่วยกันจุดประกายให้คนทั้งโลกหันกลับมามองแม่น้ำสายนี้อีกครั้งหนึ่ง ในฐานะจุดศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครที่มีศักยภาพมากที่สุด เป็นการนำเสนอหลากหลายมิติของความสุนทรีย์ของกรุงเทพฯ ว่า เป็นมหานครที่ผู้คนทั่วโลกอยากมาอยู่อาศัยมากที่สุด และนักลงทุนอยากจะเข้ามาดำเนินธุรกิจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นางชฎาทิพ กล่าวว่า “โดยปกติในการทำโครงการอื่นๆ ผู้ประกอบการจะชูประเด็นว่ามีคอนเซ็ปต์ที่มีต้นแบบหรือแรงบันดาลใจจากประเทศต่างๆ แต่ไอคอนสยามมีปณิธานในการรังสรรค์โครงการที่แตกต่าง และต้องการนำเสนออัตลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของประเทศไทยให้ครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาไทย ฝีมืออันปราณีตบรรจงในการสร้างสรรค์ เส้นสายสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม ฯลฯ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย ไอคอนสยามจะเป็นสถานที่ๆบอกเล่ากว่าหนึ่งล้านเรื่องราวที่เป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทย จากระดับหมู่บ้าน ตำบล จังหวัด จนถึงระดับชาติ เป็นตัวแทนของจินตนาการแห่งยุคที่จะถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ ในสไตล์ไทยล้ำยุคสู่อนาคต คือ ‘ไทยสร้างสรรค์’ ต่อสายตาชาวโลก นับเป็นครั้งแรกของ Mega Project ของไทยที่จะนำเสนอความเป็นไทยร่วมสมัยได้ทุกมิติอย่างครบครัน”
ไอคอนสยามมุ่งหมายให้โครงการนี้เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย และจะเป็นตัวแทนของประเทศชาติ เพื่อสามารถออกไปแข่งขันได้ทัดเทียมกับโครงการใหญ่ๆ ในประเทศอื่นๆ โดยไอคอนสยามต้องอาศัยความร่วมมือของคนไทยทั้งชาติช่วยกันนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจุไว้ ณ ที่นี้ให้เป็นคุณค่าอันสำคัญของโครงการ ในขณะเดียวกันก็จะนำสิ่งที่ดีที่สุดของโลกมารวมอยู่ที่นี้ด้วย เพื่อให้ไอคอนสยามเป็นโครงการระดับโลกอย่างแท้จริง
12 องค์ประกอบที่สุดแห่งความล้ำเลิศของไอคอนสยาม
ไอคอนสยาม เปิดความวิจิตรของ 2 อาณาจักรศูนย์การค้าและความบันเทิง มีพื้นที่ถึง 525,000 ตารางเมตร มีองค์ประกอบที่สุดแห่งความล้ำเลิศดังนี้
1. ที่สุดของสถาปัตยกรรมที่จะสะกดทั้งโลก
2 อาณาจักรศูนย์การค้าแห่งยุคของไอคอนสยาม ได้แก่ ไอคอนสยาม และ ไอคอนลักซ์ ได้รับการออกแบบโดยต่อยอดแนวความคิดจากการที่มีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีแรงบันดาลใจจากการสักการะบูชาแม่น้ำของคนไทยด้วยเครื่องบรรณาการคือ กระทงและบายศรี ซึ่งเป็นเครื่องบูชาในงานมงคล แปลงเป็นรูปแบบ Abstract ร่วมสมัย โดย อาคารไอคอนสยาม จะมีเส้นสายรอบอาคารจากการพับกระทงและบายศรี ในขณะที่อาคารไอคอนลักซ์จะมีรูปทรงเสมือนกระทงแก้ว 3 อาคาร มี Façade ทอดยาวริมแม่น้ำถึง 300 เมตร ด้วยกระจกพิเศษจับจีบซ้อนในลักษณะแนวตั้งยาวตลอดซึ่งยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งส่วนนี้มีแรงบันดาลใจจาก การห่มสไบที่จีบเรียงทอดยาว เปรียบเสมือนการห่อหุ้มสิ่งที่มีค่าที่สุดของโครงการไว้ เพราะไอคอนลักซ์คือที่สุดแห่งความหรูหราสง่างามของโครงการไอคอนสยาม
2. ที่สุดของแนวความคิดการออกแบบ ICONS within ICON
ICONS within ICON คือการสร้างอาคารเล็กหลายๆ อาคารให้อยู่ภายในอาคารใหญ่ ไอคอนสยามจะนำเสนอกลุ่มอาคารเล็กที่แต่ละอาคารมี Façade 360 องศา เปรียบเสมือนคฤหาสน์ (Mansion) ที่จะนำเสนอที่สุดของแบรนด์สินค้าไทยและที่สุดของ Luxury Brands จากทั่วโลกอย่างสง่างาม นับเป็นครั้งแรกที่ไม่เคยมีใครกล้าลงทุนทำมาก่อน
3. ที่สุดของทัศนียภาพเหนือคำบรรยาย
River Park พื้นที่จัดกิจกรรมริมฝั่งแม่น้ำ เนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร จะช่วยให้ผู้มาเยือนเข้าถึงและดื่มด่ำกับความงดงามของบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยพื้นที่ส่วนนี้จะรองรับการจัดงานระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ และการแสดงโชว์ระดับโลกในสถานที่ที่สวยงามและมีเสน่ห์ที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ระบำสายน้ำผสมผสาน แสง สี เสียง ไฟ และมัลติมีเดีย (Multi-Media Water-and-Fire Feature)มูลค่า 400 ล้านบาท ที่ยิ่งใหญ่ตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 400 เมตร ยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย
4. ที่สุดของไทยสร้างสรรค์ ณ Venice of The East
ไอคอนสยามจะรวบรวมสินค้าที่เป็นสุดยอดแบรนด์ไทยในทุกประเภท ตั้งแต่แฟชั่น ศิลปหัตถกรรมต่างๆ ตลอดจนสินค้าของดีของฝากจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศมาไว้ในที่นี้ เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวทั่วไทยได้อย่างครบครันในไอคอนสยาม เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของตลาดน้ำในร่มแห่งแรก ภายใต้การบริการที่น่าประทับใจและสนุกสนานในแบบไทยๆ พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่หาชมได้ยาก บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร
5. ที่สุดของความหรูหราระดับโลก ณ ICONLUXE
‘ไอคอนลักซ์’ สัญลักษณ์แห่งความวิจิตร ศูนย์รวมความหรูหราระดับโลก จะเป็นที่สุดของการรวบรวม World Class Brands ดังระดับโลกทุกประเภททั้งสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับอัญมณี และนาฬิกาอย่างครบครันที่สุด โดยแต่ละแบรนด์จะนำเสนอร้านในรูปแบบ Global Iconic Store ที่ไม่เคยทำมาก่อนในประเทศไทย
6. ที่สุดของศูนย์กลางศิลปะวัฒนธรรมและมรดกล้ำค่า
ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม (ICONSIAM Heritage Museum) พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย 8,000 ตารางเมตร ศูนย์รวมมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทย โดยไอคอนสยามจะทำงานร่วมกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อจัดแสดงศิลปวัตถุล้ำค่าของไทยในยุคสมัยต่างๆ พร้อมทั้งมีนิทรรศการเคลื่อนที่ (Touring Exhibitions) ที่เป็นสุดยอด Masterpieces จากทั่วโลกผลัดเปลี่ยนกันไป รวมถึงผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินไทย นำเสนอด้วยเทคโนโลยีการจัดแสดงที่ทันสมัยที่สุด และได้มาตรฐานทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย และการอนุรักษ์โบราณวัตถุชิ้นสำคัญระดับโลก
การนำเสนอความเป็นไทยผ่าน Masterpiece ของศิลปินแห่งชาติและศิลปินระดับโลก
การตกแต่งภายในของอาณาจักรศูนย์การค้าไอคอนสยามแห่งนี้ จะทำงานร่วมกับศิลปินแห่งชาติและศิลปินระดับโลกหลายท่าน ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของความเป็นไทย ลงในประติมากรรมชิ้นเอก ซึ่งจะจัดแสดงอยู่ทั่วอาคาร ทั้งในรูปแบบของรูปปั้น ภาพเขียน งานแกะสลัก ประติมากรรมรูปแบบต่างๆ การสร้างโคมไฟแชนเดอเลีย ที่มีแรงบันดาลใจจากรูปแบบของการร้อยมาลัยและบายศรี รวมถึงการสร้างส่วนประกอบสำคัญขนาดใหญ่ๆ ในโครงการให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไอคอนสยามจะเป็นโครงการแรกและโครงการเดียวที่สามารถรวบรวมประติมากรรมชิ้นเอกเลอค่าอยู่เป็นจำนวนมาก
7. ที่สุดของความบันเทิงระดับโลก
ศูนย์การประชุมระดับโลก (World Class Auditorium) ที่ได้มาตรฐานระดับสากลแห่งแรกในประเทศไทย ขนาด 3,000 ที่นั่ง รองรับการจัดงานประชุมและจัดแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ล้ำยุคด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ อีกทั้งจะดึงดูดการแสดงระดับชั้นนำของโลกให้เข้ามาได้อีกด้วย
โรงภาพยนตร์ 10,000 ตารางเมตร จะเป็นปรากฏการณ์ ‘ครั้งแรก’ ด้วยโรงภาพยนตร์ที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศ ด้วยเครื่องฉายและระบบเสียงเทคโนโลยีล้ำยุครุ่นล่าสุด และคอนเซ็ปต์ที่หรูหราใหม่ล่าสุดในการวางผังและจัดที่นั่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ชมจะได้รับประสบการณ์การที่เป็นสุดยอดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
โลกแห่งความสนุกสนานของเด็กและครอบครัว 4,000 ตารางเมตร เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้รับประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจ สุดล้ำกับการแจ้งเกิดของสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเด็กๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย
8. ที่สุดของสินค้าและบริการที่ครบครัน
ไอคอนสยามรวบรวม 500 ร้านค้าประเภทต่างๆ นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในอาเซียนและจากทุกมุมโลกมาไว้ที่นี้ ซึ่งกว่า 20% ไม่เคยเปิดให้บริการในประเทศไทย
Sport Complex ขนาดใหญ่แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่บน Roof Top Garden พร้อมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคกลางแจ้งและลู่วิ่งที่เห็นวิวสองฝั่งฟ้าของกรุงเทพมหานคร
9. ที่สุดของห้างสรรพสินค้า
ทาคาชิมาย่า ห้างสรรพสินค้าระดับตำนานของญี่ปุ่น สาขาแรกในประเทศไทย 35,000 ตารางเมตร เป็นห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จำหน่ายสินค้าแบรนด์หรูหราที่ครบครันจากประเทศญี่ปุ่นและแบรนด์แชมเปี้ยนของไทย อาทิ เครื่องสำอาง เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับทั้งบุรุษและสตรี ผลิตภัณฑ์ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพพรีเมี่ยม
10. ที่สุดแห่งความสุนทรีย์แห่งอาหารเลิศรส
ไอคอนสยามจะนำเสนอสุดยอดภัตตาคารหรูระดับ 3 Michelin Stars เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และรวบรวม 100 ภัตตาคารชื่อดังของเมืองต่างๆ จากทั่วโลกที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยมาไว้ที่นี้ รวมถึงอาหารสุดยอดจากทุกภาคในประเทศไทย ภายใต้บรรยากาศที่หลากหลายทั้ง Terrace ริมน้ำ พื้นที่สวนสวรรค์ในอาคาร หรือ บน Rooftop ที่จะนำเสนอบาร์ในรูปแบบต่างๆ
11. ที่สุดแห่งนวัตกรรมการสื่อสารและการให้บริการ
การนำเสนอเทคโนโลยีด้านการสื่อสารแบบครบวงจร มี Infrastructure สุดล้ำด้วยไฟเบอร์ออฟติกที่เร็วที่สุดในประเทศไทย เป็นสุดยอดนวัตกรรมด้านการสื่อสารยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบ พบกับ Application ที่นำเสนอเรื่องราวกว่า 1 ล้านเรื่องของตำนานที่เป็นที่มาของงานศิลปะและส่วนตกแต่งภายในอาคาร แหล่งที่มาของสินค้า inspiration ของร้านค้าและบริการแก่ลูกค้าได้เข้าใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวนั้นๆ ต่อไป นวัตกรรมเหล่านี้จะทำให้เราเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และสามารถบริหารประสบการณ์ของลูกค้า เชื่อมต่อชีวิตให้ง่ายขึ้น และตอบสนองความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ตลอดเวลา
12. ที่สุดแห่งความสะดวกสบายของการสัญจรที่เชื่อมต่ออย่างครบวงจร
มหาปรากฏการณ์แห่งยุค เป็นโครงการแรกที่ให้การสนับสนุนการสร้างระบบขนส่งมวลชนรอง (Feeder Line) โครงการรถไฟฟ้าสายสีทองตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร บนถนนเจริญนคร ที่จะเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สีแดง และสีม่วง เข้าด้วยกันในอนาคต และในพื้นที่โครงการยังสร้างท่าเทียบเรือ 4 ท่า เพื่อรองรับการสัญจรทางน้ำด้วยเรือยอร์ชส่วนตัว เรือสำราญของนักท่องเที่ยว และเรือข้ามฟาก 73 ท่าเรือโดยรอบ ไอคอนสยามจึงจะเป็นจุดเชื่อมโยงการสัญจรทาง รถ ราง เรือ ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
**สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยามลำดับสุดท้าย จะเผยโฉมให้ทราบรายละเอียดภายในปีนี้**
สร้างปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จของวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
สร้างสถิติใหม่โครงการที่พักอาศัยแพงที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ไอคอนสยามประกาศเปิดตัวแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม (Magnolias Waterfront Residences at ICONSIAM) คอนโดมิเนียมที่พักอาศัยคุณภาพเหนือระดับที่หรูหราที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เทียบชั้นมาตรฐานโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในต่างประเทศ โดยเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต ผสาน 3 องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เป็นโครงการระดับโลก คือ แต่ละยูนิต ประกอบด้วยวัสดุประกอบติดตั้งที่หรูหราที่สุด, ตัวอาคารถูกออกแบบอย่างหรูหราและมีคุณภาพสูงสุด แม้แต่ในองค์ประกอบด้านวิศวกรรมหรือกลไกต่างๆ ที่มองไม่เห็น โดยภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ในปี 2557 สามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการ และยังทำลายสถิติว่าเป็นโครงการที่พักอาศัยแพงที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีราคาเทียบเทียมกับคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลทองเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ย่านสุขุมวิท พหลโยธิน และราชดำริ
ที่สุดของที่พักอาศัยระดับโลก เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
ในปี 2557 ไอคอนสยามประกาศลงนามความร่วมมือกับ แมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป เพื่อติดแบรนด์และบริหารโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ใช้ชื่อ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ” (The Residences at Mandarin Oriental Bangkok) ความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ไอคอนสยาม โดยจะเป็นโครงการที่พักอาศัยแบรนด์ ‘แมนดาริน โอเรียนเต็ล’ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 14 ของโลก ในมาตรฐานที่เทียบเท่าโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในนิวยอร์ค ลอนดอน โตเกียว หรือเซี่ยงไฮ้ ได้รับการออกแบบและก่อสร้างด้วยมาตรฐานความหรูหราระดับสูงสุด บริหารจัดการโครงการ พร้อมทั้งให้บริการและอำนวยความสะดวกกับผู้พักอาศัย และปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ไอคอนสยาม ได้เปิดให้จองซื้อโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ‘เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ’ ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยที่แพงที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจับจองเป็นเจ้าของแล้วกว่า 40 %
“การเปิดตัวของ 2 อาณาจักรศูนย์การค้าแห่งไอคอนสยามในครั้งนี้ จะเป็น Game Changing Project ที่เปลี่ยนแลนด์มาร์คของการค้าปลีกของกรุงเทพมหานคร มาสู่ทำเลใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีความ ครบครันในทุกมิติ” นางชฎาทิพ กล่าว
ไอคอนสยาม นับเป็นตัวอย่างของผู้พัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ได้แสดงให้ประจักษ์ชัดว่า เป็นโครงการที่กล้าลงทุนมากที่สุดแห่งยุค ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการพาณิชย์ พร้อมด้วย World Class Attraction 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม เพื่อให้เป็นที่สุดของโครงการระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งใน 2 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามได้พิสูจน์ผลแห่งความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมายในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัย อีกทั้งศูนย์การค้าไอคอนสยามก็ได้รับการกล่าวขวัญถึงไปทั่วโลก ถึงแม้จะยังไม่ได้เปิดให้บริการก็ตาม ไอคอนสยามได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทย สร้างภาพลักษณ์ที่มั่นคงของการกล้าลงทุนของผู้ประกอบการคนไทย ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงตลาดและศักยภาพกำลังซื้อของคนไทย ที่จะสามารถตอบรับกับโครงการขนาดใหญ่ระดับเวิล์ดคลาสนี้ได้ ไอคอนสยามจึงเป็นบทพิสูจน์ที่ช่วยยกระดับกรุงเทพมหานคร ให้เป็นมหานครที่ผู้ประกอบการจากต่างประเทศจะปรารถนามาลงทุน และคนทั่วโลกอยากมาอาศัยอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างไอคอนสยามเฟส 2 เพื่อตอบรับความต้องการที่ท่วมท้น
นางชฎาทิพ เปิดเผยว่า “ในส่วนโครงการศูนย์การค้า 1 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามได้นำเสนอคอนเซ็ปต์ของโครงการแก่ ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ๆ ทั่วโลก ล้วนให้ความมั่นใจและแสดงความจำนงค์ที่จะจับจองพื้นที่กันมากมาย เพื่อที่จะสร้าง Iconic Flagship Store ขนาดใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย
ดังนั้นล่าสุดไอคอนสยามจึงได้ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโครงการเฟส 2 เพื่อตอบรับความต้องการที่ท่วมท้น โดยเช่าที่ดินฝั่งตรงข้ามโครงการบนถนนเจริญนครเพิ่มอีก 5 ไร่ เพื่อขยายที่ดินของโครงการทั้งหมดเป็น 55 ไร่ มีการลงทุนเพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าลงทุนรวม 54,000 ล้านบาท โดยรายละเอียดจะแถลงให้ทราบต่อไปภายในปีนี้
ไอคอนสยามจะเริ่มเปิดให้เช่าพื้นที่ในโครงการ 2 อาณาจักรศูนย์การค้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ไอคอนสยามมีแผนที่จะทยอยประกาศผู้เช่าหลัก (Anchor Tenant) ภายในสามเดือนแรก
“ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจผันผวนของโลก เรายังคงเดินหน้าดำเนินโครงการอย่างไม่หยุดยั้ง อีกทั้งยังเพิ่มการลงทุน เพราะเรามีความเชื่อมั่นในประเทศไทย ไอคอนสยามจะเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง เพราะมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นโครงการนำร่องครั้งแรกในประเทศไทยของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ทำงานร่วมกับภาครัฐตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นวางแผน เพื่อให้มี Infrastructure ที่เอื้ออำนวยความสะดวกที่สุดให้แก่ผู้อยู่อาศัยและผู้อื่นที่ทำธุรกิจโดยรอบ โดยให้ความสนับสนุนการสร้างระบบขนส่งมวลชนรองควบคู่ไปกับการพัฒนาเมือง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในเมืองสำคัญๆทั่วโลก ไอคอนสยามจะเป็นโครงการที่ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนและผู้ประกอบการค้าปลีกจากต่างประเทศมากมาย ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการแล้ว จะสามารถสร้างงานให้เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 350,000 อัตรา ภายใน 5 ปีที่ดำเนินโครงการจนเปิดดำเนินการ และจะเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งและยั่งยืน อีกทั้งจะเป็นการตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย” นางชฎาทิพ กล่าวสรุป