Tag : แสนสิริ

48 ผลลัพธ์
98 WIRELESS ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส : รีวิวคอนโด

98 WIRELESS ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส : รีวิวคอนโด

98 WIRELESS คอนโดมิเนียมหรูระดับซูเปอร์ลักซ์ซัวรี่บนถนนวิทยุ ทำเลทองใจกลางเมือง หนึ่งในคอนโดหรูที่แพงที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้ ด้วยตัวโครงการที่อยู่ในแหล่งธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต เพียง 350 เมตร จึงตอบโจทย์ได้ดีกับคนที่ต้องการที่พักอาศัยที่เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง       รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    70 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 580,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 25 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    ประมาณ 2 ไร่ จำนวนห้อง     77 ยูนิต ที่จอดรถ    191 คัน หรือคิดเป็น 240% คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2560 ค่าส่วนกลาง    150 บาท/ตารางเมตร ด้วยตัวโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุฝั่งขาเข้า ติดกับบ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งจะห่างจาก BTS สถานีเพลินจิตเพียง 350 เมตร เท่านั้น จึงเรียกได้มาสะดวกมากๆ ในการเดินทาง และยังอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองอีกมากมาย   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Park Venture Complex Central Embassy BTS เพลินจิต Central ชิดลม   ลักษณะห้องและขนาดห้อง 2 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาด 119.75 - 143.50 ตารางเมตร 3 Bedrooms 4 Bathrooms ขนาด 237.75 - 366.25 ตารางเมตร 3 Bedrooms 4 Bathrooms Duplex ขนาด 231.50 - 245.50 ตารางเมตร Penthouse (4 Bedrooms 5 Bathrooms) Duplex ขนาด 553.25 ตารางเมตร The One (3 Bedrooms 4 Bathrooms) Duplex ขนาด 948 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก 1st Floor : The Wireless Hall (Entrance Hall & Grand Staircase) The Embassy Hall (Reception) Gampu Lounge (Lobby Lounge) Embassy Terrace (Garden Terrace) Bicycle Storage Room Driver's Lounge 2nd Floor : Stage Lounge (Business Lounge) Attache Suites (Private Meeting Room) Wittayu Tea Room 3rd Floor : Swimming Pool & Patumwan Jacuzzi Ploenjit Spa (Spa & Massage Room) The Parlour (Manicure Room) 98 Fitness (Fitness Studio Equipped By Technogym) The Play Room (Children's Playroom) The Studio (Multi-purpose Exercise Room) Steam Room Fundamental Services : On-site Concierge Service By Quintessentially Butler Service Bentley Limousine Service 24-hour Doorman 24-hour Valet Parking Service 24-hour Maintenance & Home Service Support 24-hour Security with Gated Control Additional Services (Free Apply) : Housekeeping Dry Cleaning & Laundry Services Grocery Shopping & Delivery Services สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-201-3198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://98wireless.com/
SIRI โชว์ผลประกอบการปี 59 โดดเด่น กำไรไตรมาสสุดท้ายโตทะลุ 167% รายได้รวมเติบโตพุ่ง 72%

SIRI โชว์ผลประกอบการปี 59 โดดเด่น กำไรไตรมาสสุดท้ายโตทะลุ 167% รายได้รวมเติบโตพุ่ง 72%

SIRI โชว์ผลประกอบการปี 59 โดดเด่น กำไรไตรมาสสุดท้ายโตทะลุ 167% รายได้รวมเติบโตพุ่ง 72% ขณะที่ผลประกอบการรวมปี 59 บริษัทมียอดขายกว่า 31,139 ล้านบาท โตจากปีก่อนประมาณ 10% รายได้รวม 34,395 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,380 ล้านบาท แสนสิริสรุปผลการดำเนินงานปี 2559 โชว์ผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายเติบโตโดดเด่น กำไรรวม 1,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 167% รายได้รวมไตรมาส 4/59 11,700 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 72% ขณะที่ผลประกอบการรวมในปี 2559 บริษัทมียอดขายกว่า 31,139 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10% มีรายได้รวม 34,395 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,380 ล้านบาท เผยอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้ดีขึ้นเป็น 9.8% และปลายปี 2560 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสเป็นครั้งแรก เผยแผนเดือนมีนาคม เตรียมเปิดตัว “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,700 ล้านบาท บนทำเลที่พักอาศัยระดับเอ็กซ์คลูซีฟบนถนนวิทยุอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มี.ค.นี้ นายเศรษฐา  ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในปี 2559 ที่ผ่านมานับว่าบริษัทประสบความสำเร็จมีผลประกอบการที่โดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ซึ่งบริษัทสามารถทำกำไรได้ถึง 1,600 ล้านบาทเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งมีกำไร 600 ล้านบาท สูงถึง 167% นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้รวม 11,700 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 72% จากช่วงไตรมาสก่อนที่มีรายได้ 6,784 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการรวมปี 2559 บริษัทมียอดขายกว่า 31,139 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อนที่มียอดขายรวมประมาณ 28,512 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้รวม 34,395 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ โครงการ เดอะ เบส เซ็นทรัล – พัทยา ซึ่งมียอดโอนไปแล้วถึง 95%, โครงการคอนโดมิเนียม The XXXIX (เดอะ เทอร์ทีไนน์) ซึ่งสามารถปิดการโอนได้เต็ม 100% อย่างรวดเร็ว โครงการคอนโดมิเนียม เอดจ์ สุขุมวิท 23 (EDGE Sukhumvit 23) ซึ่งทยอยโอนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา “บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,380 ล้านบาทจากผลการดำเนินงานที่สะท้อนถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้แผนงาน “Engineer For Growth” หรือ EFG โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทยังสามารถลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อยอดขายลงเหลือ 16.9% ของรายได้ รวมถึงสามารถเพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้ในปี 59 ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาเป็น 9.8% จากปีก่อนที่มีอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้ประมาณ 9.1% ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2560 บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสเป็นครั้งแรก จากที่เริ่มทยอยโอน เดอะ ไลน์ สุขุมวิท71 ไปแล้วถึง 80% นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมโอนโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ซึ่งนับเป็นเดอะ ไลน์ โครงการแรกภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสที่เปิดการขาย มูลค่าประมาณ 5,700 ล้านบาทในเดือนกันยายน 2560 นี้อีกด้วย” นายเศรษฐา กล่าว สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกหลังจากนี้ บริษัทได้เตรียม Grand Opening อีกหนึ่งโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส คือ โครงการ เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ แบบ Global launch เต็มรูปแบบใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน ในวันที่ 11 – 12 มีนาคม รวมทั้งเตรียมเปิดตัว โครงการ“98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,700 ล้านบาท บนทำเลที่พักอาศัยระดับเอ็กซ์คลูซีฟบนถนนวิทยุอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มีนาคมนี้
แสนสิริ ชวนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในงาน “KHUN’s DNA Exploratorium by Bompas & Parr”

แสนสิริ ชวนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในงาน “KHUN’s DNA Exploratorium by Bompas & Parr”

ในงาน 'KHUN's DNA Exploratorium by Bompas & Parr' ชวนคนรุ่นใหม่สัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แนวใหม่ เหล่าเทรนด์เซ็ตเตอร์ ตบเท้าร่วมงานคับคั่ง แสนสิริ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เขี่ยวชาญด้านไลฟ์สไตล์ ดีไซน์และเทรนด์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนยุคใหม่ และ บีทีเอส กรุ๊ปฯ จัดงาน "KHUN's DNA Exploratorium by Bompas & Parr" (คุณ ดีเอ็นเอ เอ็กซ์พลอราทอเรียม บาย บอมพาส์ แอนด์ พาร์) สุดยอดครีเอทีฟอีเวนท์แนวใหม่แห่งปีที่มอบประสบการณ์สนุกสุดันส์สะท้อนตัวตนลึกถึงดีเอ็นเอ สร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ในวงการอสังหาฯไทย โดยคว้า "บอมพาส์ แอนด์ พาร์" (Bompas & Parr) นักจัดงานปาร์ตี้หรืออีเว้นท์ครีเอเตอร์มือทองจากลอนดอนมาเนรมิตงานสุดล้ำเหนือจินตนาการครั้งแรกในประเทศไทย! โดยมีเหล่าเทรนด์เซ็ตเตอร์และเซเลบริตี้ ตบเท้าร่วมงานคับคั่ง อาทิ ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก, วุฒิธร มิลินทจินดา, คล้ายเดือน-พิมพ์ดาว-มทินา สุขะหุต, กรกนก ยงสกุล, ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล, ปาวา นาคาศัย, ขนิษฐา ดรุณเนตร และ กลุพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ที่ควอเทียร์ แกลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ งาน 'KHUN's DNA Exploratorium by Bumpas & Parr' เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2560 โดยในงานประกอบด้วย 4 โซน กับการดีไซน์พื้นที่ในลักษณะทรงกล่องสีคอปเปอร์ทองแดง สัมผัสประสบการณ์กับไลฟ์สไตล์ในแบบ KHUN กับคอนโดมิเนียมระดับเวิล์ดคลาสใจกลางทองหล่อ KHUN by YOO inspired by Starck ผ่านประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเปิดประสาทสัมผัสของคุณให้พร้อม ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในงาน สำหรับผู้ที่สนใจร่วมงาน สัมผัสประสบการณ์สุดยอดครีเอทีฟปาร์ตี้แห่งปี ต้อนรับปี 2017 ที่คุณไม่ควรพลาด!  วันเสาร์ที่ 25 - วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ ควอเทียร์ แกลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ตั้งแต่เวลา 10:00-21:30 น. ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/sansirifamily
แสนสิริเปิดตัว KHUN by YOO inspired by Starck บนใจกลางทองหล่อ จับมือนักออกแบบชื่อก้องโลก YOO design studio และ Starck ฉีกกฎอสังหาฯไทยปั้นคอนโดมิเนียมให้เป็นงานอาร์ตระดับโลก

แสนสิริเปิดตัว KHUN by YOO inspired by Starck บนใจกลางทองหล่อ จับมือนักออกแบบชื่อก้องโลก YOO design studio และ Starck ฉีกกฎอสังหาฯไทยปั้นคอนโดมิเนียมให้เป็นงานอาร์ตระดับโลก

แสนสิริ ปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย จับมือ YOO Design Studio บริษัทดีไซน์ระดับโลก และ Philippe Starck รังสรรค์ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค)    โครงการ Branded Condominium แห่งแรกของแสนสิริ มูลค่า 4,000 ล้านบาท บนสุดยอดทำเลใจกลางทองหล่อ ภายใต้แนวความคิด Industrial Heritage ผสมผสานไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับการออกแบบโดยใช้วัสดุที่หรูหราและ    แปลกใหม่ พร้อมรังสรรค์ Sales Gallery ในรูปแบบ Material Exhibition สร้างแรงบันดาลใจแห่งการพักอาศัยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในเมืองไทย  มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในงานดีไซน์ที่ผสมผสานงานศิลปะ เชื่อมั่นดีมานด์คอนโดระดับบนโตดันยอดขายตามเป้าแน่ พร้อมเตรียมเปิดพรีเซลส์โครงการอย่างเป็นทางการในมีนาคมปีหน้า   นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “โครงการ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) คือโครงการ Branded Condominium แห่งแรกของเราซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และบริษัทออกแบบระดับโลกอย่าง YOO Design Studio (ยู ดีไซน์ สตูดิโอ) รวมถึง Philippe Starck (ฟิลิปป์ สตาร์ค) นักออกแบบอัจฉริยะชื่อดังของโลก เพื่อสร้างผลงานระดับ Iconic Piece ที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพมาตรฐานระดับโลก บนสุดยอดทำเลแห่งการพักอาศัยใจกลางเมืองซึ่งหาได้ยากและเป็นที่ต้องการมากที่สุด ภายใต้แนวคิดการออกแบบที่สะท้อนบุคลิกอันเด่นชัดของพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการใช้ชิวิตและสีสันของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่ครบวงจร และสมบูรณ์แบบที่สุดของกรุงเทพฯ”   ทำเลทองหล่อเป็นทำเลศักยภาพที่เป็นที่นิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะตั้งอยู่ใจกลางถนนสุขุมวิท รวมทั้งแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียน คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ตลอดจนยังใกล้สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีเทาที่จะมีการให้บริการในอนาคตอีกด้วย จึงทำให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับบนในทำเลนี้เป็นจำนวนมาก โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 300,000 บาทต่อตารางเมตร  เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาที่ดินในทำเลทองหล่อถีบตัวไปถึงราคาตารางวาละ 1,000,000 – 2,000,000 บาทในปัจจุบัน โดยในอนาคตคาดว่าราคาที่ดินและคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้จะยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมาจากความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ที่ยังเติบโตทั้งจากคน   รุ่นใหม่ที่ขยายครอบครัวออกจากครอบครัวเดิมที่อยู่ในทำเลนี้ รวมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลไลฟ์สไตล์ของทองหล่อ   “ที่ผ่านมาแสนสิริมีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับการพัฒนาและบริหารโครงการในทำเลทองหล่อ ซึ่งราคาของโครงการต่าง ๆ ในทองหล่อจะเพิ่มขึ้นทุกโครงการ และจากผลวิจัยของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เห็นได้ชัดว่าโครงการของแสนสิริมีเปอร์เซนต์การเติบโตในมูลค่าสูงที่สุดในทำเลทองหล่อเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นเพราะแบรนด์ ทำเล บริการ และการดูแลบริหารจัดการโครงการให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ อีกทั้งโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) ยังถือเป็น Collectible Item (คอลเล็คทิเบิล ไอเท็ม) ที่คนรักงานดีไซน์และเป็นแฟนของ Philippe Starck (ฟิลิปป์ สตาร์ค) ต้องเก็บสะสมไว้ เพราะเป็นเพียง 1 ใน 35 โครงการของ Starck ในโลกที่เปรียบเหมือนงานอาร์ตจากดีไซน์เนอร์ระดับโลกที่มูลค่าโครงการจะสูงขึ้นตามกาลเวลา ดังนั้น แสนสิริจึงเชื่อมั่นว่าโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) จะเป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีซซึ่งเป็นทั้งความภาคภูมิใจของผู้พักอาศัยและการลงทุนที่มีศักยภาพอันโดดเด่นอย่างหาได้ยากในปัจจุบัน” นายอุทัยกล่าวต่อ     โครงการ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ ใจกลางซอยทองหล่อ 12 เป็นอาคารคอนโดมิเนียมสูง 27 ชั้น จำนวน 148 ยูนิต ประกอบด้วยยูนิต 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ตั้งแต่ 41.50 - 302.75 ตารางเมตร มูลค่ารวม  4,000 ล้านบาท ราคายูนิตเริ่มต้น 15 ล้านบาท     จุดเด่นของโครงการนี้คือการออกแบบที่โดดเด่นโดยทีม YOO Design Studio (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) ภายใต้แนวคิด “Industrial Heritage” เพื่อสะท้อนความทันสมัยของย่านทองหล่อ ทำเลที่พักอาศัยคุณภาพใจกลางเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของกรุงเทพฯ  ผสานความหรูหรา ทันสมัย กับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยเส้นสายที่สร้างลวดลายสมมาตรทำให้เกิดจังหวะที่ต่อเนื่อง การเลือกใช้วัสดุที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราอย่างหินอ่อน และความแปลกใหม่ อย่างปูนเปลือย ทองแดง หินขัด ฯลฯ  การออกแบบภายในมีการเล่นสีสันที่ตัดกันและใช้เฟอร์นิเจอร์รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (Oversize) อันเป็นเอกลักษณ์ของ Philippe Starck โดยให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้สอยอย่างครบถ้วนลงตัว   โครงการยังพรั่งพร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวอันกว้างขวางเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความเป็นความเป็นธรรมชาติกลางเมือง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำ บนชั้นบนสุดของอาคาร พร้อมตกแต่งด้วยระบบไฟแบบ Fiber Optic ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศา และที่จอดรถแบบอัตโนมัติ (Automatic Parking) นับว่าเป็นครั้งแรกที่แสนสิรินำระบบที่จอดรถแบบนี้เข้ามาใช้ในโครงการ สามารถรองรับจำนวนรถได้ถึง 100% ของจำนวนยูนิต     นอกจากการโดดเด่นของตัวโครงการแล้ว KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) ยังฉีกกรอบเดิมของการทำ Sales Gallery ด้วยการไม่จัดแสดงห้องตัวอย่าง แต่ใช้คอนเซ็ปต์การนำเสนอโครงการผ่านการสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration) ในรูปแบบ Material Exhibition ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในแนวคิด “The Industrial Heritage” ซึ่งสื่อออกมาผ่านการใช้วัสดุที่มีสีสันตัดกัน อย่างทองแดงผสมผสานกับคอนกรีตเปลือย และสถาปัตยกรรมภายนอกรูปทรงแปลกตาเพื่อสร้างความดึงดูด พร้อมการประดับไฟเพื่อสร้างความโดดเด่นในยามค่ำคืน ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ของ Starck และใช้วัสดุแบบเดียวกับที่ตกแต่งในล็อบบี้ของโครงการจริง   ทั้งนี้ หลังเปิด Sales Gallery บนที่ตั้งโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) ณ ซอยทองหล่อ 12 เพื่อให้ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมได้ไม่นาน ขณะนี้โครงการสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 60% แล้วทั้งจากลูกค้าปัจจุบันของแสนสิริ ลูกค้าทั่วไป และลูกค้าที่เป็นแฟนผลงานของฟิลิปป์ สตาร์ค โครงการ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) จะเปิดทำการขายอย่างเป็นทางการหรือพรีเซลส์ในเดือนมีนาคม 2560 โดยโครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2563 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมโครงการ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sansiri.com/condominium/khunbyyoo/th/ หรือโทร 1685
“คีรี” เจ้าพ่อบีทีเอส เฉือน 10 ไร่เยื้องแดนเนรมิต ทุ่ม200ล้าน ตัดถนน 8 เลน แก้รถติดรัชโยธิน

“คีรี” เจ้าพ่อบีทีเอส เฉือน 10 ไร่เยื้องแดนเนรมิต ทุ่ม200ล้าน ตัดถนน 8 เลน แก้รถติดรัชโยธิน

"คีรี กาญจนพาสน์" เจ้าพ่อบีทีเอส เฉือน 10 ไร่เยื้องแดนเนรมิต ทุ่ม 200 ล้านตัดถนน 8 เลน เชื่อมพหลโยธินทะลุวิภาวดีฯ แก้รถติดแยกรัชโยธิน เปิดใช้ฟรี ปีหน้าขึ้นโครงการอสังหาฯ 2 หมื่นล้าน ดึง "จีแลนด์-แสนสิริ" ร่วมทุน ผุดห้าง คอนโดฯหรู รับรถไฟฟ้าสีเขียว "หมอชิต-คูคต" ลุยต่อคอมเพล็กซ์หมื่นล้านอีก 2 ทำเล "พญาไท-จตุจักร" นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังได้ร่วมทุนกับ บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (จีแลนด์) สัดส่วน 50 : 50 จัดตั้งบริษัท เบย์วอเตอร์ จำกัด ประมูลซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดี 48 ไร่ ที่เคยเป็นที่ตั้งโครงการบางกอกโดม ตรงข้ามแดนเนรมิตเดิม ด้วยวงเงิน 7,350 ล้านบาท เมื่อปี 2557 เฉือนที่ 10 ไร่ทำทางลัด ล่าสุด ได้เริ่มพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในโครงการแล้ว พร้อมนำที่ดิน 10 ไร่ ช่วงระหว่างกลางก่อสร้างเป็นถนนขนาด 30 เมตร ประมาณ 7-8 ช่องจราจร เชื่อมการเดินทางจากถนนพหลโยธินซอย 19/1 ทะลุถนนวิภาวดีรังสิต ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 200 ล้านบาท ส่วนนี้จะเปิดให้ประชาชนใช้โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่อเป็นเส้นทางลัด เลี่ยงรถติดบริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะปิดการจราจร เพื่อรื้อสะพานสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) วันที่ 22 พ.ย.นี้เป็นต้นไป "เรากำลังเร่งสร้างถนนให้เสร็จก่อน ให้คนได้ใช้ก่อนปีใหม่ ช่วยรัฐแก้ปัญหารถติด ส่วนการพัฒนาอสังหาฯจะเริ่มได้หลังจากนี้ มีแผนจะทำโครงการมิกซ์ยูส ทั้งห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศและคอนโดมิเนียมเกรดเอ มูลค่าลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท" นายคีรีกล่าว ผนึกแสนสิริ-จีแลนด์ นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง กล่าวเพิ่มว่า เมื่อตัดที่ดิน 10 ไร่สร้างถนนในโครงการไปแล้ว ที่ดินทำเลนี้จะเหลืออีก 38 ไร่ เพื่อเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ ร่วมทุนกับกลุ่มจีแลนด์ และอาจมีผู้ประกอบการรายอื่นสนใจเข้าร่วมด้วย อาทิ บมจ.แสนสิริ ที่ร่วมทุนกับบีทีเอส พัฒนาคอนโดฯ "เดอะไลน์" ตามแนวรถไฟฟ้าไปแล้ว ก็สนใจจะร่วมพัฒนาที่แปลงนี้ด้วย เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพติดถนนพหลโยธิน และห่างจากสถานีพหลโยธิน 24 ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 200 เมตร "ที่มีขนาดใหญ่มาก ต้องทำแบบมิกซ์ยูสแน่นอน เราเปิดกว้างหากใครสนใจจะร่วมพัฒนา ไม่ว่าผู้ประกอบการด้านโรงแรม ออฟฟิศ หรือที่อยู่อาศัย ซึ่งแสนสิริก็สนใจ ตอนนี้ก็ร่วมกันลงทุนไปแล้ว 16 โครงการจาก 25 โครงการ มูลค่า 100,000 ล้านบาท" เนรมิต 38 ไร่สู่มิกซ์ยูส ด้านแหล่งข่าวใน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง กล่าวว่า การที่บริษัทยอมเฉือนที่ 10 ไร่สร้างถนนขนาดใหญ่เป็นทางลัดการเดินทางนั้น เพราะต้องการเพิ่มมูลค่าที่ดิน หลังจากภาครัฐไม่มีแผนลงทุนในย่านนี้ ซึ่งในอนาคตทางกลุ่มบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการดังกล่าวในรูปแบบมิกซ์ยูส เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีทุกอย่างครบ ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งงาน ร้านอาหาร ที่อยู่อาศัย มีถนนให้สัญจร และทางเชื่อมรถไฟฟ้า "ถนนจะสร้างใหญ่เท่ากับถนนพหลโยธิน จะเปิดให้ประชาชนใช้ก่อน ส่วนจะยกให้รัฐหรือเก็บค่าใช้ทางหรือไม่ อยู่ที่นโยบายผู้บริหาร ตอนนี้คุณคีรีคิดคอนเซ็ปต์กว้าง ๆ ไว้แบบนี้ เหมือนเมืองทองธานีที่ตัดถนนและพัฒนาเป็นเมืองขึ้นมา" ได้ฤกษ์ลุย 2 ทำเลทอง นอกจากนี้ นายกวินเปิดเผยอีกว่า ในเร็ว ๆ นี้จะลงทุนพัฒนา 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท แปลงแรกเป็นที่ดินพญาไทติดรถไฟฟ้าบีทีเอส พื้นที่ 6 ไร่เศษ จะร่วมกับ บมจ.ยู ซิตี้ (บมจ.แนเชอรัลพาร์คเดิม) พัฒนาเป็นมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ สูง 50 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100,000 ตารางเมตร มีร้านค้า สำนักงานเกรดเอ โรงแรม อาคารจอดรถ มูลค่า 6,000 ล้านบาท อีก 3 เดือนจะเริ่มตอกเสาเข็ม ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี กำหนดเสร็จปลายปี 2563 แปลงที่ 2 เป็นที่ดินจตุจักร-หมอชิต ยังเหลือ 11 ไร่เศษ จากการพัฒนาคอนโดฯเดอะไลน์ บริษัทจะลงทุนเองทำเป็นอาคารประเภทมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ สูง 40-50 ชั้น เท่ากับตึกทหารไทย จำนวน 2 อาคาร พื้นที่ใช้สอยรวม 100,000 ตร.ม. ที่นี่จะมีทุกอย่าง ระหว่างนี้รอการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2560 ใช้เวลา 42-48 เดือน ตามแผนจะแล้วเสร็จปลายปี 2564 ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
The Line Phahon-Pradipat : รีวิวคอนโด

The Line Phahon-Pradipat : รีวิวคอนโด

The Line Phahon-Pradipat (เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธิ์) คอนโด High Rise สูง 46 ชั้น พร้อมคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น อีก 1 อาคาร บนถนนประดิพัทธิ์ ใกล้ BTS สะพานควาย โครงการใหม่จาก แสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,550,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 155,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 46 ชั้น 1 อาคาร คลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     981 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนประดิพัทธิ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เริ่มก่อสร้าง    เดือนมกราคมปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2020 ค่าส่วนกลาง    52 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สะพานควาย บิ๊กซี สะพานควาย โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ BTS อารีย์ La Villa อารีย์ ตลาดนัดสวนจตุจักร เซ็นทรัล ลาดพร้าว ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 1 Bath ขนาด 26.25 - 40.75 ตารางเมตร 2 Bedrooms 1 Bath ขนาด 51.50 - 51.75 ตารางเมตร 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 54 - 67 ตารางเมตร 3 Bedroom 2 Bath ขนาด 79 - 111.50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่ และสระเด็ก ฟิตเนส สวนส่วนกลาง ห้องสมุด ห้องซักผ้า สนามเด็กเล่น บนชั้น 35 ห้องพักผ่อนเอนกประสงค์ ชั้น 46 Free Wi-Fi ที่คลับเฮ้าส์, Lobby และส่วนสันทนาการ จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Access Card ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
The Line Sukhumvit 101 : รีวิวคอนโด

The Line Sukhumvit 101 : รีวิวคอนโด

The Line Sukhumvit 101 คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น อีกหนึ่งโครงการในตระกูล The Line ที่ยังเน้นเกาะติดแนวรถไฟฟ้า ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 101 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี โครงการใหม่จาก แสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,550,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 150,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 37 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     778 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 321 คัน คิดเป็น 41% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เริ่มก่อสร้าง    เดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2020 ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ปุณณวิถี โรงเรียนนานาชาติแองโกล สิงคโปร์ โรงเรียนนานาชาติเวลส์ เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 บิ๊กซี อ่อนนุช ไบเทค บางนา เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอน สแควร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 1 Bath ขนาด 26.75 - 33.25 ตารางเมตร 2 Bedrooms 1 Bath ขนาด 47.50 - 48 ตารางเมตร 1 Bedroom 1 Bath (Duplex) ขนาด 41.25 - 44.75 ตารางเมตร 2 Bedroom 2 Bath (Duplex) ขนาด 61.50 - 62.75 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Co-working space Game Room Laundry Fitness Co-Kitchen Lawn Pavilion สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ (โอลิมปิคไซส์) แยกสระเด็ก Jogging Track LED Multi Sports Court สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัยและ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
mori HAUS ชีวิตดีดี ที่เลือกได้ : รีวิวคอนโด

mori HAUS ชีวิตดีดี ที่เลือกได้ : รีวิวคอนโด

“สุขุมวิท” ทำเลที่ใครต่อใครต่างก็อยากจับจองมีที่พักอาศัยอยู่ในย่านนี้กับเค้าบ้าง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาห้องชุดใจกลางเมืองซักแห่ง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาที่เอื้อมถึง วันนี้เราจึงมีคอนโดมิเนียมดีๆ ในย่านอ่อนนุช-พระโขนงมาแนะนำ ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ mori HAUS ตั้งอยู่ในพื้นที่ T77 Community ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในบริเวณระหว่างซอยสุขุมวิท 71 และซอยสุขุมวิท 77 ที่ตอนนี้หลายคนอาจจะรู้จักกันดีว่า T77 Community เปรียบเสมือนเมืองขนาดเล็กที่รวบรวมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ ทั้งโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ที่จะเปิดแคมปัสสำหรับชั้นมัธยมศึกษาในเดือนสิงหาคมปี 2560 และ Community Mall สุดชิคอย่าง HABITO ก็เข้ามาช่วยเติมเต็มให้การใช้ชีวิตของครอบครัวมีสีสันและมีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม พื้นที่ T77 Community โรงเรียนนานาชาติ Bangkok International Preparatory and Secondary School (Bangkok Prep) HABITO Winter Market Fest ถ้าพูดถึงการเดินทางมายัง mori HAUS ก็จัดว่าสะดวกมากๆ เพราะเลือกเข้าได้ทั้งจากทางฝั่งซอยสุขุมวิท 71 และซอยสุขุมวิท 77 เช่นเดียวกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่เลือกขึ้นได้ทั้งสถานีอ่อนนุช และสถานีพระโขนง ในขณะที่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอีกเช่นกัน mori HAUS มีความโดดเด่นที่เราต้องพูดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ การออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “Trees of  Life” ซึ่งให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กลางโครงการ มีการจัดวางพืชพรรณนานาชนิดให้คล้ายกับสวนป่าขนาดย่อม รอบสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ในรูปแบบทะเลสาบจำลอง ในขณะที่อาคารพักอาศัยทั้ง 2 อาคารถูกวางแบบตัว L ให้โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ทุกห้องพักได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และได้ใช้ชีวิตแบบ “Urban Slow Living” ผสานทั้งชีวิตแบบคนเมือง กับการพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ไว้อย่างลงตัว โดยพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น สระว่ายน้ำแบบลากูนพร้อมจากุชชี่ สระเด็ก ห้องฟิตเนส และล็อบบี้แบบ The Glass Haus เปิดรับวิวสวนสวยเต็มตา สวนขนาดใหญ่ ห้องซักผ้า ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาที่ไม่ได้เกินเอื้อมเลยล่ะครับ แถมทาง mori HAUS ยังมีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ในขนาด 35-117.5 ตร.ม. สามารถรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้น ถ้าหากสนใจโครงการดีๆ แบบนี้ คงต้องรีบกันหน่อยนะครับ เพราะชีวิตคุณภาพบนทำเลสุขุมวิทไม่ได้หากันง่ายๆ แล้ว สนใจอ่านอ่านรายละเอียดโครงการได้ที่นี่เลยครับ http://www.homenayoo.com/mori-haus-sukhumvit-77/
The Base Garden-Rama 9 : รีวิวคอนโด

The Base Garden-Rama 9 : รีวิวคอนโด

The Base Garden-Rama 9 (เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9) คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น บนถนนพระราม 9 ภายใต้แนวคิด Garden of Creation ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายในพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ โครงการใหม่จากการรว่มทุนของ แสนสิริ และ BTS Group เปิด Pre-Sale 10-11 กันยายน 2559 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,190,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    639 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด    3 - 2 - 39 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนกันยายน ปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมิถุนายน ปี 2019 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Airport Link สถานีรามคำแหง ตลาดเสรี มาร์เก็ต เดอะ ไนน์ พระราม 9 ฟู้ดแลนด์ เดอะ มอลล์ รามคำแหง 2 เดอะ มอลล์ รามคำแหง 3 บิ๊กซี รามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง เซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9 MRT สถานีพระราม 9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 26.5 – 34.75 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 49.75 – 55.0 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว‹่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่‹วนกลางและพื้นที่สันทนาการ อินเตอร์เน็ตไร้Œสายสำหรับลอบบี้และพื้นที่ส‹่วนกลาง เจ้Œาหน้Œาที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sansiri.com
The Line Asoke-Ratchada : รีวิวคอนโด

The Line Asoke-Ratchada : รีวิวคอนโด

The Line Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา) คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น บนถนนดินแดง ใกล้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 โครงการใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,990,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 170,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     473 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 2 - 0 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 226 คัน หรือคิดเป็น  48% เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมิถุนายน 2019 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ฟอร์จูนทาวน์ MRT พระราม 9 เซ็นทรัลพระราม 9 เอสพลานาด True Tower AIA Capital Center ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บิ๊กซี รัชดา The Street รัชดา Cyber World Tower ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย Airport Link มักกะสัน ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 27.50 - 36 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 46.25 - 50.25 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่โถงต้อนรับ สวนส่วนกลาง พร้อมพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่และสระเด็ก ฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ ห้องพักผ่อนอเนกประสงค์ ห้องซักผ้า สวนชั้นดาดฟ้า Free Wifi สำหรับโถงต้อนรับ ฟิตเนส และห้องสมุด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
เดอะ ไลน์ ราชเทวี : รีวิวคอนโด

เดอะ ไลน์ ราชเทวี : รีวิวคอนโด

จากความร่วมมือของ แสนสิริ กับ BTS Group ได้ปล่อยคอนโดแบรนด์ เดอะ ไลน์ ออกมาแล้ว 2 โครงการ คือ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต และ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขายหมดเกลี้ยงภายในวันเปิดตัว วันนี้เราจะพาไปชมโครงการที่ 3 อย่าง เดอะ ไลน์ ราชเทวีกันครับ โครงการนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านราชเทวีกันเลยครับ เพียง 220 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี สามารถเดินได้สบายๆ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     6,900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 250,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    231 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 2 - 0 ไร่ ที่จอดรถ    ประมาณ 67% ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ สถานะโครงการ    EIA Approved เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกันยายน 2561 ค่าส่วนกลาง    90 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ วิธีการเดินทาง สำหรับตัวโครง เดอะ ไลน์ ราชเทวี จะตั้งอยู่ปากซอยเพชรบุรี 18 ติดถนนเพชรบุรี ก่อนถึงแยกราชเทวีนิดหน่อย การเดินทางในวันนี้เราเลือกใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS ดูจะสะดวกที่สุดในการเดินทางในย่านนี้ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างจากตัวสถานี BTS ราชเทวีประมาณ 220 เมตรเท่านั้น ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ ไม่ไกลจนเกินไป แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้เราขอให้รถไฟฟ้า BTS นะครับ เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดแล้วในย่านนี้ มาลงที่สถานีราชเทวี ตามชื่อโครงการเลยครับ เราลงทางออกที่ 4 นะครับ ไปทางพันธ์ทิพย์พลาซ่าตามป้ายเลย ลงมาจากสถานีราชเทวีแล้ว จะเจอแยกราชเทวี เราเดินเลี้ยวขวาตามทางไปถนนเพชรบุรีเลยนะครับ จากแยกราชเทวีเดินตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วละครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ ล้อมรั้วไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถเลือกได้หลายเส้นทางเลยนะครับ แต่อาจจะต้องทำใจเรื่องการจราจรกันสักหน่อย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าในย่านนี้ การจราจรค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ทีเดียว เริ่มจากด้านหน้าโครงการคือถนนเพชรบุรี ตัวโครงการจะตั้งอยู่ปากซอยเพชรบุรี 18 ก่อนถึงแยกราชเทวี ถ้ามาจากถนนราชดำริก็สามารถเลี้ยวซ้ายที่แยกประตูน้ำเข้าถนนเพชรบุรี แล้วตรงผ่านพันธุ์ทพย์ พลาซ่า ก่อนถึงโครงการ ส่วนถ้ามาจากทางถนนพญาไทฝั่งขาเข้า สามารถมาเลี้ยวซ้ายที่แยกราชเทวี แล้วไปกลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำกลับมาที่โครงการได้เช่นกัน แต่ถ้ามาจากถนนพญาไทฝั่งขาออก จะไม่สามารถเลี้ยวขวาที่แยกราชเทวีได้นะครับ ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพญานาคที่อยู่ข้างๆ โรงแรมเอเชีย ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงถนนบรรทัดทอง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนบรรทัดทอง ตรงไปอีกนิดเดียวก็จะออกถนนเพชรบุรี พอออกมาถึงถนนเพชรบุรีแล้วให้เลี้ยวขวาอีกทีนะครับ จากนั้นก็ตรงขึ้นสะพานข้ามแยกราชเทวีได้เลย การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเหมือนจะง่ายนะครับ แต่ค่อนข้างจะซับซ้อนสักหน่อย แยกไหนเลี้ยวได้ เลี้ยวไม่ได้ ต้องดูกันดีๆ หากไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวจริงๆ เลือกใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS จะสะดวกสบายมากขึ้นเยอะเลยครับ เพียงสถานีเดียวก็ถึงศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสยามแล้ว สถานที่สำคัญใกล้เคียง พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า แพลทินั่ม ประตูน้ำ MBK สยาม พารากอน สยาม เซ็นเตอร์ สยาม สแควร์ สยาม สแควร์ วัน จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เซ็นทรัล เวิลด์ วิเคราะห์รอบโครงการ ภาพรวมของที่ตั้งโครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี ซึ่งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตรงช่วงซอยเพชรบุรี 18 ในตำแหน่งนี้มีเพื่อนบ้านใกล้ๆ เป็นคอนโดบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน อยู่ทางทิศตะวันตก ทางทิศใต้มีคอนโด Low Rise ของ The Address ปทุมวัน แล้วก็มีอาคารของกรมการพลังงานทหารอยู่ทางทิศตะวันออกอีกตึก ส่วนในซอยเพชรบุรี 18 ก็มีอพาร์ทเม้นท์กับบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้บริเวณนี้จะค่อนข้างมีรถวิ่งผ่านไปมาพลุกพล่านตลอดทั้งวัน แต่โดยรวมแล้วบรรยากาศยังค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัยเหมือนกันนะครับ ไหนจะเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่ถือเป็นจุดเด่นที่ทางโครงการเลือกมาเป็นประเด็นชูโรง ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งสำคัญมากมายทั้งสยามสแควร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ King Power Duty Free เรียกว่าอยู่ในระยะที่เดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า 1-2 สถานีเท่านั้น  และแถมยังใกล้สถานศึกษาชื่อดังใจกลางเมืองอีก จึงทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยครับ BTS สถานีสยามจุดเชื่อมต่อของสายสุขุมวิทและสายสีลม ห่างจากสถานีราชเทวี เพียง 1 สถานี ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น เป็นอาคารเดี่ยวแต่ออกแบบมาให้ตัวอาคารเป็นทรงตัว L จนถึงชั้นที่ 31 ส่วนชั้นที่เลยขึ้นไปจะมีจำนวนห้องต่อชั้นน้อยลง และด้วยจำนวนยูนิตรวมที่มากถึง 231 ยูนิต ทางโครงการจึงใส่ใจเพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง และ Facility ต่างๆ ให้เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกบ้าน เริ่มตั้งแต่จำนวนที่จอดรถที่มากถึง 67% ซึ่งให้พื้นที่จอดตั้งแต่ชั้น 1-10 เลยทีเดียว แถมด้วยที่จอดรถอัจริยะ (Mechanical Parking) สำหรับผู้มาติดต่ออีก 16 คัน ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 11 ขึ้นไป​ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นที่ 11 จะถูกแบ่งเป็นพื้นที่ของ Facility หลัก ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ พร้อม Outdoor Theater ริมสระว่ายน้ำ ในขณะที่พื้นที่บนชั้น 31 ส่วนหนึ่งจะเป็นห้องสมุดภายในอาคาร และห้องอ่านหนังสือที่จัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วน ถือว่าเป็น Co-working Space สำหรับนั่งทำงาน ประชุมงาน หรือติวหนังสือก่อนสอบได้เลย ซึ่งพื้นที่บนชั้นนี้มาพร้อมกับสวนกลางแจ้ง และวิวสีเขียวสวยๆ สบายตา และถ้าขึ้นไปที่ชั้น 38 ก็ยังมี Rooftop Garden ที่จัดเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นจุดชมวิวและที่พักผ่อนได้ในคราวเดียวกัน โมเดลของโครงการ ดูจาก Master Plan ของโครงการ จะเห็นว่ามีทางเข้า-ออกทางเดียว ด้านหน้าจะมี Drop off สำหรับรับ-ส่งลูกบ้าน ใกล้ๆ กันจะมีจุดจอดรถอัจฉริยะอยู่ด้วย ส่วนด้านในอาคารจะมี Lobby ขนาดใหญ่ ก่อนจะถึงโถงลิฟท์ ที่มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift 1 ตัว ทางเข้าโครงการ หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G ตกแต่งได้อย่างหรูหราทีเดียวครับ จากชั้น G ขึ้นไปถึง 10 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด สามารถรองรับได้ประมาณ 67% ขึ้นมาที่ชั้น 11 จะเป็นชั้นเริ่มของห้องพักอาศัย ที่มีเพียง 5 ห้อง เนื่องจากส่วนหนึ่งจะเป็น Facility หลักของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำและ ฟิตเนส ทำให้ห้องพักอาศัยของชั้น 11 จะมีเพดานสูงกว่าชั้นอื่นๆ อยู่ประมาณ 60 ซม. โมเดลจำลองฟิตเนสบนชั้น 11 ที่มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านนอก โมเดลจำลองของสระว่ายน้ำบนชั้น 11 ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำในเวลากลางวัน สระว่ายน้ำจะประดับด้วยสาย Fibre Optic พอถึงเวลากลางคืนจะมีแสงระยิบระยับให้บรรยากาศเหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวบนฟากฟ้า (งานมโนต้องมา ฮ่าๆๆ) นอกจากนั้นยังมี Outdoor Theater จอใหญ่ให้ได้ชมรายการต่างๆ เวลาเล่นได้อีกด้วย บรรยากาศห้องฟิตเนส ขึ้นมาที่ชั้น 13-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มีประมาณ 11 ห้องต่อชั้น พอถึงชั้นที่ 30 จำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือเพียง 6 ห้อง เนื่องจากถูก Facility บนชั้น 31 กินพื้นที่ลงมาบางส่วน ชั้น 31 ห้องพักอาศัยจะเหลือเพียง 3 ห้อง และเป็นอีกชั้นหนึ่งที่มี Facility อยู่ด้วยทั้งห้องสมุด ห้องซักผ้า พร้อมกับพื้นที่พักผ่อนที่แยกกันอย่างเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อไปออกถึงสวนสีเขียวด้านนอก Facility บนชั้น 31 ที่กินพื้นที่ลงมาที่ชั้น 30 ด้วย บรรยากาศภายในห้องสมุดบนชั้น 31 ของโครงการ โมเดลจำลองของสวนสีเขียวที่เชื่อมต่อกับห้องสมุดบนชั้น 31 ตั้งแต่ชั้น 32-37 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดอีกครั้งนะครับ แต่จำนวนห้องจะน้อยลงอีกเหลือเพียงชั้นละ 3-4 ยูนิตต่อชั้น เนื่องจากจะเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2-3 ห้องนอน และห้อง Penthouse มาถึงชั้นบนสุดของโครงการที่ชั้น 38 จะเป็น Rooftop Garden ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาชมวิวมุมสูงที่ชั้นดาดฟ้า ในส่วนของที่พักอาศัย ทางโครงการเน้นออกแบบให้เหมาะกับ Lifestyle คนเมือง ซึ่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบ Studio ห้อง 1-3 Bedroom ไปจนถึงห้องแบบ Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในลักษณะต่างๆ ทั้งแบบเดี่ยว หรืออาศัยกันทั้งครอบครัวก็สามารถเลือกแบบห้องได้ตามต้องการ แถมทางโครงการยังจัดขายห้องมาแบบ Semi Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in วัสดุคุณภาพมาให้เสร็จสรรพ ห้องที่ได้มาจึงแทบจะไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มมากนักก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ภายในห้อง เดี๋ยวเราไปดูในห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่า พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้ตอนนี้มีด้วยกัน 2 แบบ คือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.25 ตร.ม และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 59 ตร.ม. เราเริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom กันก่อนนะครับ พอเปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกับครัวและพื้นที่นั่งเล่นก่อน โดยที่พื้นที่ของห้องนอนจะแยกไว้เป็นสัดส่วน การจัดวาง Layout ของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องค่อนข้างทำได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งในห้องตัวอย่างนี้เป็นแบบห้องที่อยู่ในตำแหน่งห้องมุมของอาคาร จึงได้หน้าต่างเพิ่มขึ้นมาที่ผนังด้านข้างด้วย ทำให้ห้องนี้รับแสงและเห็นวิวได้มากขึ้น แปลนห้อง Type 1E ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.25 ตารางเมตร ที่นี่จะให้ Digital Door Lock รุ่น push and pull ของ Samsung ที่ใช้ได้ 3 ระบบทั้ง Key Card , Password และ กุญแจไข เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านหน้า มองตรงเข้าไปด้านในถึงจะเป็น Living Area พื้นที่ส่วนครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาว ส่วนพื้นที่ Living Area จะเป็น Engineering Wood สีไม้โอ๊ค ครัวที่อยู่ด้านหน้าห้องจะเป็นแบบเปิดนะครับ ตัวท็อปครัวจะเป็นกระเบื้องหินแกรนิต Black Galaxy ด้านซ้ายมือจะเป็นซิงค์ล้างจานทรงสีเหลี่ยมของ MEX ด้านขวาเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมกันฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านบนจะเป็นตู้ลอยติดผนัง ห้องจริงจะได้หน้าบานเป็นกระจกแบบนี้เลยนะครับ เปิดเข้าไปก็จะเป็นที่เก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ด้านล่างจะเป็นจุดวางไมโครเวฟและตู้เก็บของ ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีโต๊ะอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถพับเก็บได้ ใช้เป็นโต๊ะทานอาหารก็สะดวกดีนะครับ แต่เก้าอี้โครงการไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นจุดวางตู้เย็น และตู้เก็บของที่โครงการ Built in มาให้ ตู้ที่ได้มานี่สารพัดประโยชน์เลยนะครับ เก็บได้ทั้งไม้กวาด ไม้ถูพื้น รองเท้า ไปจนถึงของเล็กๆ น้อยๆ ถัดจากส่วนครัวเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา ด้านชั้นวางทีวีโครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีเล็กๆ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โซฟาที่โครงการจัดวางมาให้ดูเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ทำให้ด้านข้างมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟ ส่วน Living Area จะให้แอร์ฝั่งฝ้าแบบนี้นะครับ ทำให้เพดานตรงส่วนครัวถูกดรอปลงมาเหลือ 2.5 เมตร ในขณะที่เพดานในส่วน Living Area จะสูง 2.75 เมตร ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน แบบ Full High Window พื้นที่บริเวณระเบียงจะกว้างประมาณ 1 เมตร ที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่นอกเบียงนี่นะครับมี Grill กั้นอย่างเป็นสัดส่วน คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบนเครื่องซักผ้าอีกที เรากลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อเลยนะครับ ภายในห้องนอนสามารถเลือกวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยนะครับ เพราะมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควร ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง มีที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานเลยทีเดียว แต่โครงการวางให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ นะครับ ไม่ได้แถมให้ด้วย ส่วนหน้าต่างจะได้บานประมาณนี้นะครับ ที่เห็นเป็นกระจกข้างๆ หน้าต่างนั่นไม่ใช่ตู้เก็บของนะครับ แต่เป็นส่วนของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ยื่นเข้ามาในห้องนอน หน้าต่างจะเป็นบาน Fix บานใหญ่เลยนะครับ พื้นที่ปลายเตียงจะเหลืออยู่นิดหน่อยให้พอเดินได้ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอน ก็คงต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนนะครับ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า และทางเข้าห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าโครงการจะ Built in มาให้ด้วยนะครับ เป็นตู้สูงถึงเพดานห้องเลย หน้าบานจะเป็นกระจกสีชาแบบที่เห็นนี่เลยครับ ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีชั้นวางของเล็กๆ พร้อมกับกระจกเงาที่สามารถปิด-เปิด ได้ ช่วยให้ดูเรียบร้อยขึ้น เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อนะครับ ภายในห้องน้ำจะปูด้วยหินแกรนิต Misty Grey ทั้งห้องเลยนะครับ ทั้งพื้นและผนัง จะมีความแตงต่างกันตรงที่ผิวของกระเบื้อง บริเวณผนังห้องจะมีผิวขรุขระให้ความรู้สึกเหมือนหินจริงๆ ส่วนที่พื้นจะเป็นผิวเรียบ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto ตัวเคาน์เตอร์จะเป็นหินแกรนิตเหมือนที่ปูผนังห้องน้ำ กระจกเงาจะได้บานสูงแบบนี้เลยนะครับ โถสุขภัณฑ์จะได้เป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ Cotto รุ่น The Tunio มีฟังก์ชัน Automatic Flushing Sensor พร้อมกันรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่ให้มาพร้อมทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ของ Cotto ชุดฝักบัวของ Cotto มาพร้อมกับ Rain Shower ของ Cotto เหมือนกัน ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้อง คือ ห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขวางมากขึ้น ด้วยลักษณะของห้องเป็นห้องหน้ากว้างนะครับ เด่นที่พื้นที่ระเบียง ที่จะติดตั้งกระจกกั้นไว้สองชั้น คือชั้นแรกเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อออกสู่ระเบียง ซึ่งกระจกชั้นที่สองจะติดตั้งเต็มพื้นที่ด้านนอก โดยติดตั้งเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อเปิดระบายอาการและรับลมจากด้านนอก ซึ่งห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปจะได้ระเบียงแบบนี้ทั้งหมดนะครับ แปลนห้อง Type 2B-1 ขนาด 59 - 59.75 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านข้างประตูห้องจะมีตู้เก็บของ เก็บรองเท้า เราไปดูด้านขวามือกันก่อนนะครับ ด้านขวามือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ซึ่งจะคล้ายๆ กับห้อง 1 ห้องนอนที่เราดูมาเมื่อกี้เลยนะครับ แต่ห้องนี้จะได้ครัวใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย พื้นบริเวณส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาว ส่วน Living Area จะเป็นพื้น Engineering Wood สีไม้โอ๊ค เหมือนห้อง 1 ห้องนอนเมื่อสักครู่ เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L ตัวท็อปจะเป็นกระเบื้องหินแกรนิต Black Galaxy เหมือนกัน ด้านบนก็จะเป็นตู้ลอยเก็บของ ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยมของ MEX เตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ พร้อมจุดวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ที่วางตู้เย็นจะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว ขยับออกมาทาง Living Area จะเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหาร ขนาด 4 ที่นั่ง อยู่ตรงกลางระหว่างครัวกับ Living Area มุมมองจาก Living Area ไปที่ส่วนครัวที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าห้อง ถัดจากส่วน Dining Area เข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area Living Area ของห้อง Type นี้ ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่ากว้างพอสมควร สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้บายๆ โครงการเลือกวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดูนะครับ แต่จริงๆ แล้วมีพื้นที่เหลือพอให้วางโซฟา 4 ที่นั่งได้เลย ด้านชั้นวางทีวี โครงการ Built in มาให้เป็นเป็นเคาน์เตอร์ยาวสีดำ ติดกับ Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นระเบียง ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงของห้องจริงจะกว้างกว่าที่เราเห็นนี้ประมาณ 15 ซม. นะครับ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องโครงสร้างทำให้โครงการทำขนาดเท่าห้องจริงไม่ได้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียงเหมือนเดิมนะครับ มี Grill กั้น ให้เรียบร้อย จะสังเกตว่าที่ระเบียงจะมีกระจกกั้นอีก 1 ชั้นนะครับ เพราะห้องแบบ 2 ห้องนอน เกือบทั้งหมดจะอยู่ทิศใต้ หันไปทางวังสระปทุม จึงต้องมีกระจกกั้นไว้อีกชั้น ซึ่งจะเป็นบานกระทุ้ง 3 บาน สามารถเปิดได้ประมาณ 30 องศา เรากลับเข้ามาดูด้านในกันต่อ จาก Living Area จะเป็นทางเดินเข้าไปที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องและห้องน้ำ ห้องแรกจะเป็นห้องนอนเล็ก พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้นะครับ ถ้าจะวางทีวีไว้ในห้องนอน อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน พื้นที่ในห้องนอนเล็กค่อนข้างกว้าพอสมควรนะครับ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เลย หน้าต่างภายในห้องนอนเล็กจะได้บานใหญ่เลยนะครับ แต่จะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดออกไปได้ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in บานสูงขึ้นไปจนถึงเพดาน เปิดตู้เสื้อผ้าออกมาแล้ว หน้าตาจะประมาณนี้นะครับ ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำเล็ก สุขภัณฑ์ที่ใช้และการวาง Layout ในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 ห้องนอนที่เราดูมาแล้วนะครับ แต่ห้องน้ำเล็กห้องนี้จะไม่ได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto พร้อมกับกระจกเงาบานสูง อย่างที่บอกนะครับ โถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำเล็กจะเป็นแบบธรรมดา ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ชุดฝักบัวของ Cotto พร้อมกับ Rain Shower ของ Cotto เช่นกัน จากห้องน้ำเล็ก เราเข้ามาดูที่ห้องนอน Master พื้นที่ในห้องนอน Master ค่อนข้างใหญ่เลยนะครับ วางเตียง 6 ฟุตเข้าไปแล้วยังมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลืออีกพอสมควร ด้านปลายเตียงโครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีพร้อมกับที่เก็บของ หน้าต่างในห้องนอนใหญ่ก็จะเหมือนกับในห้องนอนเล็กนะครับ คือจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดออกไปได้ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า Built in อยู่มุมห้อง ติดกับทางเข้าห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าจะคล้ายๆ กับของห้อง 1 ห้องนอนนะครับ หน้าบานเป็นกระจกสีชา มีชั้นวางของอยู่ด้านข้าง สุดท้ายเราไปดูที่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ การจัดวางสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องน้ำเล็กเมื่อสักครู่นะครับ แต่ห้องนี้จะได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะด้วย โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ Cotto พร้อมกันรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส ติดกับโถสุขภัณฑ์จะเป็น Shower Box พร้อมชุดฝักบัวของ Cotto และ Rain Shower ยี่ห้องเดียวกัน มุมมองจากห้องนอนใหญ่ออกไปที่ Living Area สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ทางโครงการก็มีห้องแบบ 3 Bedroom และ Penthouse ให้เลือก 3 Type ด้วยกันนะครับ คือ 3 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 85 ตร.ม. 3 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาด 105 ตร.ม. Penthouse ขนาด 119.50 ตร.ม. ซึ่งการออกแบบก็ตอบโจทย์ให้พื้นที่ใช้สอยที่เป็นส่วนตัวกับสมาชิกทุกคน รวมถึงการ Upgrade วัสดุอุปกรณ์บางชิ้นให้สูงขึ้นด้วยถึงแม้ว่าโดยรวมทางโครงการจะเลือกใช้วัสดุแบรนด์คุณภาพ หรือวัสดุนำเข้าอยู่แล้วก็ตาม อย่างตัวอย่างของวัสดุอุปกรณ์ที่ถูก Upgrade ขึ้นมาก็เช่น ในส่วนครัวเตาไฟฟ้าจะได้เป็นเตา 4 หัว พร้อมฮูดดูดควันของ Küppersbusch ซึ่งเป็นแบรนด์นำเข้าจากเยอรมัน เช่นเดียวกับซิงค์ล้างจานที่เพิ่มมาเป็น 2 หลุม นอกจากนั้นจะมีตู้เย็นและไมโครเวฟ Built in ของ Foster แบรนด์จากอิตาลีเพิ่มมาให้อีกด้วย ส่วนห้องน้ำทุกห้องให้เป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะ Cotto รุ่น The Tunio ที่มีฟังก์ชันสุดล้ำ Automatic Flushing Sensor และรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส และยังได้ความเป็น private มากขึ้น เพราะเป็น High Floor เริ่มตั้งแต่ชั้น 31 -37 มีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อย ที่สำคัญวิวที่ได้รับจะเป็นวิวเมือง เปิดโล่ง มุมสูง แปลนห้อง Type 3A 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 85 ตารางเมตร แปลนห้อง Type 3B 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 105 ตารางเมตร แปลนห้อง Penthouse (3 ห้องนอน) ขนาด 119.50 ตารางเมตร ด้วยทำเลที่จัดว่าได้เปรียบเรื่องศักยภาพในด้านต่างๆ ทั้งการเดินทางที่สะดวก แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีสาธารณูปโภคครบครัน โครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี จึงเป็นที่น่าจับตา และน่าสนใจทั้งในแง่ของการซื้อไว้อยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อการลงทุน แถมตัวโครงการเองก็ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองด้วย ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างพร้อมพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับพนักงานขายได้ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต) โดยโครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี จะเปิดจองในวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย.นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com/condominium/theline_ratchathewi หรือ โทร.1685
รีวิวทำเล The Line Sukhumvit 71 : รีวิวคอนโด

รีวิวทำเล The Line Sukhumvit 71 : รีวิวคอนโด

แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลหลัก ในการมองหาคอนโดสักแห่ง คือ ทำเลที่ตั้งของโครงการ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย อาหารการกินที่มีให้เลือกหลากหลาย และอยู่ไม่ไกลจากแหล่งธุรกิจหรือออฟฟิศต่างๆ ย่อมนำมาซึ่งความได้เปรียบในการใช้ชีวิตประจำวัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปสำรวจทำเลของคอนโดโครงการใหม่อีกหนึ่งโครงการจากแสนสิริ ชื่อโครงการ The Line Sukhumvit 71 ตัวโครงการตั้งอยู่ในถนนสุขุมวิท 71 ใกล้ BTS สถานีพระโขนง เราไปดูกันดีกว่าครับ ว่ารอบๆ โครงการจะเป็นยังไงกันบ้าง นอกจากทำเลที่อยู่ใก้รถไฟฟ้าแล้ว ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ตามผมมาเลยครับ สำหรับตัวโครงการ The Line Sukhumvit 71 จะตั้งอยู่ในถนนสุขุมวิท 71 ตามชื่อโครงการ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงประมาณ 500 เมตร หรือ 400 เมตร หากเดินลัดเลาะเข้าไปทาง W District ซึ่งอยู่ในระยะทางที่ถือว่าเดินได้นะครับ ไม่ไกลจนเกินไป แต่ถ้าใครขี้เกียจเดิน ใต้สถานีรถไฟฟ้าจะมีรถสองแถวเล็กคอยให้บริกาอยู่ หรือเดินมาอีกนิดเดียวก็มีพี่วินรอให้บริการอยู่หน้าไปรษณีย์พระโขนง เราลองไปดูรอบๆ โครงการกันก่อนดีกว่า เราเริ่มกันที่รถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงกันเลยนะครับ ลงมาจากรถไฟฟ้าก็เจอเลยครับ โฆษณาของ The Line Sukhumvit 71 เต็มไปหมด ทางออกที่จะไปฝั่งโครงการจะต้องออกทางออกที่ 3 นะครับ สภาพการจราจรบนถนนสุขุมวิท ช่วงเที่ยงๆ อาจจะยังไม่เห็นบรรยากาศเท่าไหร่ เราย้อนมาดูร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ รถไฟฟ้ากันก่อนนะครับ ในอาคาร Taisin Square มีร้านชาบูญี่ปุ่นอันแสนอร่อยอย่างร้าน Akiyoshi เลยจากอาคาร Taisin จะเจอโรงแรม Jasmine ติดกับโรงแรม Jasmine และสถานีรถไฟฟ้าจะมี Max Valu อยู่ด้วย ลงจากสถานีรถไฟฟ้ามานิดเดียว จะเจอซอยสุขุมวิท 69 มีไปรษณีย์พระโขนง ตั้งอยู่อยู่หน้าปากซอย และมีร้านขายอาหารอยู่ด้วยนะครับ ซอยนี้สามารถเดินทะลุไปออกซอยปรีดี พนมยงค์ 3 ที่อยู่ใกล้ๆ โครงการได้นะครับ หรือนั่งวินมอไซค์ที่อยู่ปากซอยนี้ไปก็ได้ ใครขายของออนไลน์ก็สะดวกหน่อยนะครับ มีไปรษณีย์อยู่ใกล้ๆ เลย ไปรษณีย์พระโขนง จะตั้งอยู่ตรงสามแยกถนนสุขุมวิทตัดกับถนนพระราม 4 เลยจากสามแยกมานิดเดียวจะเจอคอมมูนิตี้ มอลล์ ชื่อ W District ด้านในจะมีโรงแรม Beat Hotel และร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อต่างๆ เลยจาก W District มาก็จะมีธนาคารให้เลือกใช้บริการ เราเดินตามถนนสุขุมวิทไปเรื่อยๆ ตามข้างทางก็จะมีทั้งร้านขายของ ร้านสปา และร้านอาหารเล็กๆ เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงถนนสุขุมวิท 71 หรือซอยปรีดี พนมยงค์ ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงมาถึงตรงนี้ประมาณ 300 เมตร บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 71 ฝั่งขาออกจากซอยรถจะมาหนาแน่นในช่วงปากซอยเพราะติดไฟแดง เลี้ยวเข้ามาปุ๊บในซอยก็เจอร้านพิซซ่าทันที ฟุตบาทกว้างขวางเดินได้สะดวกปลอดภัยดีครับ เดินมาอีกหน่อยก็เจอทางเข้า W Market เป็นส่วนหนึ่งของ W District ที่รวบรวมร้านอาหารหลากหลายสไตล์ และแหล่ง Hang Out สุดชิค ใกล้ๆ โครงการ ฝั่งตรงข้ามจะเห็นพระโขนงพลาซ่า แหล่งค้าขายเก่าแก่ในย่านนี้ เดินต่อมาอีกจะเจอร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ซอยปรีดี พนมยงค์ 3 ที่บอกไว้ตอนแรกว่าเดินทะลุมาทางซอยสุขุมวิท 69 ได้ ในซอยก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของอยู่ด้วยเหมือนกัน เลยจากซอยปรีดี พนมยงค์ 3 มานิดเดียวก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ ทางเข้าสถานที่ก่อสร้างโครงการ มีป้ายบอกชัดเจน การก่อสร้างก็เริ่มไปได้สักพักแล้วนะครับ เลยจากโครงการไปก็เป็นตึกแถว มีร้านขายของอยู่ชั้นล่าง การจราจรบริเวณหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามโครงการมีร้าน Family Mart อยู่ติดกับซอยปรีดี พนมยงค์ 2 เดี๋ยวเราข้ามไปดูฝั่งตรงข้ามกันต่อ ในซอยปรีดี พนมยงค์ ถือว่าเป็นแหล่งฝากท้องได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ เพราะในซอยมีร้านขายอาหาร ผลไม้ ต่างๆ เยอะมาก ยาวตลอดแนวเข้าไปในซอย แถมอยู่ใกล้โครงการ เพียงแค่ข้ามถนนมาเท่านั้น ตลอดทั้ง 2 ฝั่งในซอยสุขุมวิท 71 นี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นชุมชน มีตึกแถวขึ้นอยู่ทั้ง 2 ข้างทาง มองไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเห็นโครงการ วายน์ บาย แสนสิริ ที่มาบุกเบิกทำเลนี้เมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น ชั้น 1 ของตึกแถวจะเป็นเป็นร้านขายของ ขายอาหาร ร้านทองก็มีอยู่หลายร้านเลยนะครับ ไม่เพียงแค่อยู่ริมถนนสุขุมวิท 71 เท่านั้น ตามตรอกซอกซอยก็มีร้านขายของยาวเข้าไปในซอย สามารถเดินทะลุไปถึงตลาดสดพระโขนงที่อยู่ข้างในได้เลย บรรยากาศบนถนนสุขุมวิทฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปทางอ่อนนุช จะเป็นตึกแถว และมีร้านขายของยาวไปตลอดแนวจนถึงสะพานข้ามคลองพระโขนง ส่วนฝั่งตรงข้าม เป็นฝั่งซอยสุขุมวิท 48 ก็เป็นตึกแถว มีร้านขายของเหมือนกันนะครับ แต่จะไม่คึกคักเท่าฝั่งซอยสุขุมวิท 71 ทำเลในย่านพระโขนงนี้เป็นทำเลที่ดีพอสมควรเลยนะครับ ด้วยทำเลในย่านนี้ที่ถือว่ายังอยู่ในเมืองและสามารถเดินทางออกนอกเมืองได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS อยู่ใกล้ๆ โครงการ ที่ใช้ได้ทั้งเข้าเมืองและออกนอกเมือง เพียงไม่กี่นาทีก็ถึงใจกลางเมือง อย่างทองหล่อ พร้อมพงศ์ หรืออโศกแล้ว เรียกได้ว่าสะดวกสบายไม่ต่างกับอยู่ใจกลางเมืองเลยทีเดียว หรือจะใช้เส้นทางถนนพระราม 4 ผ่านกล้วยน้ำไท ไปถึงสีลม สาทร แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันนะครับว่าการจราจรบนถนนพระราม 4 ติดขัดขนาดไหน โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน อีกทางจะใช้ถนนสุขุมวิท 71 นี่แหละครับวิ่งตรงไปตัดถนนเพชรบุรี เลือกไปทางพระราม 9 หรือรามคำแหงได้ไม่ยาก ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองก็ง่ายพอๆ กัน สามารถใช้รถไฟฟ้าได้เหมือนกันนะครับ หรือถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวก็วิ่งตรงตามถนนสุขุมวิทไปเรื่อยๆ ก็ออกไปถึงอุดมสุข ตัดสี่แยกบางนา เลือกไปทางบางนา บางพลี หรือสำโรง เทพารักษ์ได้เลย หรือจะขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงสะพานข้ามคลองพระโขนง ไปทางพระราม 9 รามอินทรา หรือจะออกต่างจังหวัดไปวนลงถนน Motorway กรุงเพท-ชลบรีสยาใหม่ ก็ยังได้ เรื่องการเดินทางถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยนะครับ สำหรับทำเลในย่านนี้ ไม่ว่าจะเข้าเมือง หรือออกนอกเมือง แต่อาจจะต้องทำใจกับเรื่องการจราจรอยู่สักหน่อยสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง ส่วนใครที่ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นประจำ ถือว่าได้เปรียบอยู่พอสมควร คราวนี้เรามาดูเรื่องอาหารการกิน และคอมมูนิตี้ มอลล์ กันบ้าง ถ้าเรื่องการเดินทางถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เรื่องอาหารการกินต้องเรียกอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเลยหล่ะครับ ตั้งแต่ลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง เรื่อยไปจนถึงตัวโครงการ และเลยไปในซอยสุขุมวิท 71 ก็ยังมีร้านอาหาร หรือตลาดในเลือกซื้อเลือกหามากมาย ทั้งของกินของใช้ เดี๋ยวผมจะพาไปดูครับ ว่ามีที่ไหนกันบ้าง เราซูมแผนที่ลงมาดูใกล้ๆ กันอีกหน่อย ร้านอาหารที่อยู่รอบๆ โครงการถือว่าเยอะเลยนะครับ สังเกตหมุดที่ปักอยู่ในแผนที่ คือร้านอาหารที่เราจะพาไปชมกัน สังเกตหมุดตัวที่ใหญ่ที่สุดนะครับ เริ่มจากร้านชาบูญี่ปุ่นชื่อดังอย่างร้าน Akiyoshi ที่อยู่ในอาคาร Taisin Square ใกล้ๆ สถานี BTS พระโขนง ขยับมาทางซอยสุขุมวิท 69 จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้าน ชื่อร้าน Okinawa Kinjo HOF Art Space พื้นที่ศิลปะแห่งใหม่ในกรุงเทพ HOF Art Residency อีกหนึ่งพื้นที่ศิลปะใกล้ๆ โครงการ ขยับเข้ามาใกล้ๆ โครงการเป็นร้านอาหารเกาหลีชื่อร้าน Mapo Galbi ฝั่งตรงข้ามโครงการมีร้านอาหารมังสวิรัติ ชื่อร้านครัวสวนผัก เหมาะกับคนรักสุขภาพ Cielo Sky Bar เป็น Bar & Restaurant ได้ทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมบรรยากาศมุมสูงของกรุงเทพมหานคร เราขยับเข้าไปในซอยสุขุมวิท 71 อีกหน่อย มีร้านก๋วยเตี๋ยวปลาเจ้าดัง อย่างร้านง้วนหลังวัง เลยเข้าไปอีกมีร้านข้าวต้มกระดูกหมู สุขุมวิท 71 เปิดขายมายาวนานกว่า 40 ปี ด้วยความอร่อยที่ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เมนูเจ้าประจำที่ลูกค้าชื่นชอบ ข้าวต้มกระดูกหมู, ข้าวต้มปลา, ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา และหมูสะเต๊ะ หิวกันรึยังครับ ^__^ เปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารหนักๆ มาใช้ชีวิต Slow Life กันบ้าง ในซอยปรีดี พนมยงค์ 31 หรือซอยเอกมัย 12 มีร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่น ชื่อร้าน Nikko Cafe ให้ได้นั่งชิวหลีกหนีความวุ่นวาย ใกล้ๆ กับร้าน Nikko Cafe มีร้านชาบูนางใน ชาบูสไตล์ไทย ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วกรุงเทพ ลึกเข้าไปในซอยสุขุมวิท 71 อีกหน่อย ก็ยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา และร้านผัดไทเสวย ให้เลือกชิมกันอีก เรามาไกลสุดถึงแยกคลองตัน มีร้านอาหารจีนเก่าแก่ ชื่อร้านฉั่วคิมเฮง ที่คนแน่นร้านทุกวัน เมนูห้ามพลาดของร้านคือห่านพะโล้รสเด็ด เนื้อหนุ่ม หนังหนุบ น้ำพะโล้เข้มข้นหวานเค็มกำลังดี อาจจะอยู่ไกลโครงการสักหน่อย แต่บอกคำเดียวครับว่ามาแล้ว คุ้ม!! นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับ ที่เรานำมาให้ชมกัน ยังมีร้านอาหารแอบอยู่อีกหลายร้าน ใครเป็นคนในพื้นที่มีร้านอาหารเด็ดๆ ในย่านนี้ ก็ส่งกันเข้ามามาแนะนำกันได้เลยนะครับ โดยสรุปแล้วที่ตั้งของโครงการ The Line Sukhumvit 71 ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีเลยนะครับ ด้วยที่ตั้งโครงการอยู่ไม่ไกลจากแหล่งธุรกิจใจกลางเมืองมากนัก สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ใกล้ๆ โครงการ อีกทั้งเรื่องอาหารการกิน ที่รายล้อมอยู่รอบๆ โครงการ ก็มีให้เลือกมากมาย หลากหลายสไตล์ ทั้งร้านเล็ก ร้านใหญ่ และยังมีคอมมูนิตี้ มอลล์ ที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ สำหรับข้อเสียก็อาจจะมีเรื่องการจราจร แต่ก็เป็นที่สิ่งที่หลีกเลี่ยงกันไม่ได้อยู่แล้วนะครับสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่สำหรับใครที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นประจำ เรื่องนี้ก็หายห่วงเลยครับ ส่วนเรื่องการลงทุน ทำเลในย่านนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียวเลยนะครับ เนื่องจากอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และราคาของคอนโดในย่านพระโขนงนี้ก็ขยับขึ้นถึง 24% ต่อปี และมีแนวโน้มจะที่ดีในอนาคต แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีนะครับ ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนกันด้วยนะครับ
The Line Jatujak-Mochit – เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต : รีวิวคอนโด

The Line Jatujak-Mochit – เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต : รีวิวคอนโด

THE LINE จตุจักร-หมอชิต คอนโด High Rise โครงการใหม่จากแสนสิริ ตรงข้ามสวนจตุจักร ใกล้ BTS หมอชิตและ MRT สวนจตุจักร พร้อมวิวสวนจตุจักรขนาด 700 ไร่และวิวเมืองที่โดดเด่นยามค่ำคืน   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,000,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 159,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     841 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    4 - 2 - 95 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 420 คัน หรือคิดเป็น  50% คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ต้นปี 2561 Master Plan โครงการ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 7-9 ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมขนาดใหญ่ และ Jogging Track ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย   สถานที่สำคัญใกล้เคียง สวนจตุจักร ตลาดอ.ต.ก. JJ Green JJ Mall เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ สวนสิริกิติ์ สวนรถไฟ โรงเรียนหอวัง โรงเรียนเซนต์จอนห์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.25 – 26.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท 668 ยูนิต 2 Bedroom ขนาด 53.5 – 66 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท 134 ยูนิต 3 Bedroom ขนาด 77.75 – 85.25 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท 34 ยูนิต Duplex ขนาด 102.5 – 105.75 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.5 ล้านบาท 5 ยูนิต Type 1A แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.75 - 26.50 ตารางเมตร Type 2A แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.75 ตารางเมตร Type 2B แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 53.5 ตารางเมตร Type 3A แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 77.75 ตารางเมตร Type 3A-1 แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 85.25 ตารางเมตร   Type 3DP แบบ 3 ห้องนอน Duplex ขนาด 105.75 ตารางเมตร   สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 40 x 6.4 ม. ห้องออกกำลังกาย แบบ Double Space Kids Room แบบ Triple Space Library Meeting Room Business Lounge Game Room Sky Pavilion พร้อมจากุชชี่ สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  https://www.sansiri.com/condominium/theline_jatujak_mochit/th/
NYE By Sansiri : รีวิวคอนโด

NYE By Sansiri : รีวิวคอนโด

โครงการ: NYE By Sansiri (PREVIEW) ราคา เริ่มต้น 2,990,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 100,000 – 130,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น ทำเลเด่นอยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ ทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จุดด้อย โปรโมชั่น ปีที่สร้างเสร็จ เดือนตุลาคม 2558 ที่ตั้ง: NYE By Sansiri (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3-2-62 ไร่ ที่ตั้ง ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.722014,100.497756 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS วงเวียนใหญ่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ สะพานตากสิน วงเวียนใหญ่ โรงพยาบาลกรุงธน ลักษณะโครงการ: NYE By Sansiri (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms 2 Bedrooms (Duplex) ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 30.00 – 43.5 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 59.50 – 68.00 ตารางเมตร 2 Bedrooms (Duplex) ขนาด 63.00 – 64.00 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 30 ชั้น จำนวนห้อง 636 ยูนิต ส่วนกลาง: NYE By Sansiri (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด องจอดประมาณ 52% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 50 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Lobby ห้องสมุด สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนหย่อมและพื้นที่นั่งเล่น ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ประมาณ 106:1 ที่จอดรถในช่องจอด ไม่รวมจอดซ้อนคัน ประมาณ 52% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: NYE By Sansiri (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.sansiri.com/condominium/nye_sathorn_taksin ข้อมูล ณ วันที่
แสนสิริหั่นเป้ายอดขายหมื่นล้าน ศก.ไม่เอื้อ

แสนสิริหั่นเป้ายอดขายหมื่นล้าน ศก.ไม่เอื้อ

บริษัท แสนสิริ มีแผนจะทบทวนเป้ายอดขายในปี 2557 ลงเหลือเพียง 3.6-3.7 หมื่นล้านบาท จากเป้ายอดขายในปีนี้อยู่ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บอกว่า เป็นเพราะการเร่งทำยอดขายสูงมากเกินไป เฉพาะ 9 เดือนของปีนี้ ทำยอดขายแล้ว 4.5 หมื่นล้านบาท จึงมีต้นทุนดำเนินงานบริหารจัดการสูงตามไปด้วย ทั้งงบประมาณในการทำตลาด และโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ทำให้มีกำไรลดลง โดยไตรมาสแรกขาดทุน 80 ล้านบาท เพราะเป็นไตรมาสที่เปิดโครงการมาก และมียอดขายสูงถึง 2.8 หมื่นล้านบาท   ส่วนไตรมาส 2 และ 3 คาดว่าจะมีกำไรไตรมาสละ 500 ล้านบาท และไตรมาส 4 คาดจะมีกำไรกว่า 1,000 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้พยายามปรับให้ยอดขายมีความสมดุลอยู่ที่ไตรมาสละกว่า 1 หมื่นล้านบาท   "ปีนี้เราตั้งเป้ากำไรไว้ที่ 3,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ดูแล้วน่าจะทำได้ต่ำกว่าเป้า เพราะการขายคอนโดต้องใช้เวลาโอน 18-24 เดือน"   ที่ผ่านมา การก่อสร้างยังดำเนินการไม่ทันยอดขายที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) กว่า 6 หมื่นล้านบาท ไม่เฉพาะงานก่อสร้างที่ตึงมือ ผู้รับเหมายังหายาก หากยอดขายโตไปมากกว่านี้ จะทำให้การก่อสร้างล่าช้าส่งมอบไม่ทันกำหนด   ขณะที่ แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจเติบโตน้อย ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตน้อยตามไปด้วย เพราะว่าการเติบโตของอสังหาฯ จะล้อไปกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกก็ไม่ค่อยดีมากนัก ทำให้บริษัทไม่มีนโยบายที่จะไปลงทุนต่างประเทศในระยะสั้นนี้   รุกธุรกิจโรงแรมเมืองท่องเที่ยว   บริษัทได้รุกขยายฐานการลงทุนมาในธุรกิจโรงแรม โดยเน้นทำเลในหัวเมืองท่องเที่ยว เพราะเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของไทยสูงมากในปีนี้และปีหน้า จากมาตรการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงมาตรการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐบาล ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขของนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาสูงถึง 22 ล้านคนแล้ว จากเป้าทั้งปีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วางไว้ 22 ล้านคน เช่นเดียวกับในจังหวัดภูเก็ต ยอดนักท่องเที่ยว 9 เดือนพุ่งไปถึง 9 ล้านคน จากเป้าทั้งปี 9 ล้านคน อีกทั้งไทยเริ่มเป็น "ฮับเดสซิเนชั่น" ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเที่ยวมากที่สุด ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง   ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจ และการสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว บริษัทได้เปิดตัวโรงแรม ภายใต้แบรนด์ "เอสเคปแสนสิริ โฮเทล คอลเลคชั่น” หลังจากเปิดให้บริการโรงแรม "คาซ่า เดล มาเร่" ที่หัวหินมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว โดยนำโครงการดังกล่าวมาปรับปรุงใหม่ 46 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบ 3 สไตล์ ในรูปแบบ Sea, Sand และ Sun ราคาพักคืนละตั้งแต่ 3,500-4,500 บาท หากเป็นช่วงไฮซีซัน ราคาจะอยู่ที่ 5,000-6,000 บาทต่อคืน เน้นลูกค้ากลุ่มคนไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% โดยจะเปิดให้บริการวันที่ 16 ต.ค. นี้   ส่วนอีกหนึ่งทำเล คือ ที่เขาใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ไร่ จากทั้งหมด 50 ไร่ ซึ่งอยู่บนพื้นที่เดียวกับโครงการ 23 Degree เป็นอาคารสูง 3 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักแบบดีลักซ์ 48 ห้อง และห้องพักในแบบ พูล วิลล่า อีก 6 ห้อง รวมทั้ง เอสเคป พูล วิลล่า อีก 1 หลัง ภายใต้ 4 ธีมให้เลือกพักผ่อน ได้แก่ Wood, Earth, Floral และ Forest โดยราคาห้องพักจะใกล้เคียงกับที่หัวหิน มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคนไทย 80% และชาวต่างชาติ 20% โดยจะเปิดตัวในต้นปี 2557   "ธุรกิจโรงแรมต้องใช้เวลาคืนทุนนาน 12 ปี ไม่ได้มองเรื่องตัวเลขรายได้ แต่การดำเนินธุรกิจโรงแรมของบริษัท จะเสริมหรือเกื้อหนุนธุรกิจอสังหาฯ โดยผู้ที่อยู่คอนโด สามารถมาใช้บริการที่โรงแรมได้คิดค่าบริการส่วนลด"   จ่อเปิดเพิ่ม3เมืองท่องเที่ยว   ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัทแสนสิริกล่าวว่า แผนการพัฒนาโรงแรมภายใต้แบรนด์เอสเคป, แสนสิริ โฮเทล คอลเลคชัน ในอนาคต บริษัทอาจเปิดตัวเพิ่มในเมืองเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอื่นๆ อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และ พัทยา เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาในจังหวัดที่แสนสิริ จะเปิดตัวโครงการ และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ดี ซึ่งมองจังหวัดภูเก็ต เป็นลำดับแรก คาดเข้าดำเนินการปีหน้า โดยเป็นโรงแรมสูงไม่เกิน 7 ชั้น ไม่เกิน 50 ห้องพัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดิน   ทั้งนี้ คาดว่าหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะมีกลุ่มลูกค้าจากอาเซียนรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจโรงแรมคึกคักขึ้นอีก และเป็นโอกาสดีในการขยายธุรกิจต่อไป   แอล.พี.เอ็น.-เสนาฯยังมั่นใจโตต่อเนื่อง   ด้านผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่มียอดขายรองลงมาอย่าง บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นความต้องการตลาดอสังหาฯ ในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางลงล่างว่า ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะแหล่งที่อยู่อาศัย ตามแนวเส้นทางคมนาคม รถไฟฟ้าสายใหม่ ที่กำลังดำเนินการในปัจจุบัน โดยเฉพาะรถไฟชานเมือง เส้นทางสายสีแดงที่วิ่งจากรังสิตเข้าสู่เมืองชั้นใน จะกระตุ้นให้ความต้องการที่อยู่อาศัย ในรอยต่อเมืองเหล่านี้เติบโตสูง   แอล.พี.เอ็น. จึงได้ตัดสินใจ เปิดโครงการคอนโดโครงการใหญ่ ระดับชุมชนเมืองย่อมๆ อย่าง โครงการ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต คลอง1" จำนวนถึง 10,000 ยูนิต เป็นการพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ถึง 100 ไร่ ขึ้นเป็นอาคารชุด 8 ชั้น จำนวน 50 อาคาร   ส่วนสถานการณ์ปีหน้า ต้องรอดูภาพรวมเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และการเติบโตของบริษัท จะขยายไปตามทำเลใหม่ๆ อาจจะเป็นในกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองต่างจังหวัด ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง และเตรียมแผนพัฒนาโครงการใหญ่ระดับ 10,000 ยูนิต ในทำเลอื่นๆ ของกรุงเทพฯ ด้วย เป็นการรองรับเมืองที่ขยายตัวตามเส้นทางคมนาคมขนส่งใหม่ๆ   ขณะที่ นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ไม่ได้เลวร้าย แต่มีปัญหาลูกค้าติดเครดิตบูโร จึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่ปีหน้าเมื่อภาครัฐมีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาในระบบมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อภาพรวมดีขึ้น  
dbura พรานนก : รีวิวคอนโด

dbura พรานนก : รีวิวคอนโด

โครงการ: dbura พรานนก (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,000,000 บาท (ราคา ณ วันเปิดตัว) บาท/ตารางเมตร ประมาณ 69,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น – จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: dbura พรานนก (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 3 ไร่ ที่ตั้ง ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.756740, 100.477693 ระบบขนส่งสาธารณะ - สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ เทสโก้ โลตัส พาต้า ปิ่นเกล้า ฟู้ดแลนด์ บิ๊กซี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จ รพ.ศิริราช สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ พระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว ลักษณะโครงการ: dbura พรานนก (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี Studio ขนาดประมาณ 29 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 37 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 13 ชั้น จำนวนห้อง 416 ยูนิต ส่วนกลาง: dbura พรานนก (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 181 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card สวนหย่อม (รอบสระว่ายน้ำ) อื่นๆ (พื้นที่เอนกประสงค์ ศาลาบริเวณสระว่ายน้ำ)   เพิ่มเติม: dbura พรานนก (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.sansiri.com/condominium/dbura_prannok/th/ ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2556