Tag : คอนโด ย่านสาทร

19 ผลลัพธ์
Melanie Bangkok ถนนจันทน์-สาทร : รีวิวคอนโด

Melanie Bangkok ถนนจันทน์-สาทร : รีวิวคอนโด

Melanie Bangkok ถนนจันทน์-สาทร คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนถนนจันทน์ ใกล้ BRT สถานีถนนจันทน์ โครงการใหม่จาก ไพร์มเกท เรียลตี้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    ประมาณ 110,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    123 ยูนิต พื้นที่โครงการ    1 - 0 - 36.2 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Asiatique The Riverfront Central Plaza พระราม 3 The Up พระราม 3 Vanilla Moon Makro สาทร Top สาขาเซ็นหลุยส์ โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1-2 Bedroom ขนาด 22 - 77 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมภายในโครงการ ระบบ CCTV / Access Card Shuttle Service สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 092-925-2555 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.melaniebangkok.com/
พรีวิว Knightsbridge Prime Sathorn ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ : รีวิวคอนโด

พรีวิว Knightsbridge Prime Sathorn ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ : รีวิวคอนโด

ล่าสุด บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กำลังจะเปิดโครงการน้องใหม่ล่าสุด “Knightsbridge Prime Sathorn” บนทำเลสุดฮ็อตริมถนนนราธิวาสฯ ซึ่งถือเป็นการจับทำเลใจกลางเมืองอีกแห่งที่น่าจับตามองมากของค่ายนี้ ถ้าใครที่ติดตามข่าวอสังหาฯ อยู่เป็นประจำ จะรู้ว่าผู้พัฒนารายนี้เริ่มขยับตัวเข้ามาเล่นตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองมากขึ้น โดยโครงการล่าสุดที่เราจะนำข้อมูลมาเสนอให้รู้ก่อนใครในวันนี้จัดเป็นแบรนด์ตัวท็อปของออริจิ้นกันเลยทีเดียว รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,200,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 150,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    726 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 500 คัน (คิดเป็น 70%) เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 3 - 68.92 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 3 ปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 Knightsbridge Prime Sathorn เปิดตัวมาในราคาที่น่าตกใจมากครับ ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 130,000 บาท หรือราวๆ 3 ล้านบาทสำหรับห้องขนาดเริ่มต้น!!! ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่ที่อยู่ในย่านสาทร-สีลมจริงๆ ยังไม่มีรายไหนเปิดราคามาได้ต่ำกว่านี้ แถมทำเลที่ตั้งของโครงการก็อยู่ริมถนนใหญ่อย่าง ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ บริเวณปากซอยนราธิวาสฯ 13 ห่างจากสี่แยกสาทร-นราธิวาสที่มีรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี เพียง 650 เมตรเท่านั้น ถือว่าอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆ ครับ ปัจจุบันยังมีสถานีรถด่วน BRT (สถานีอาคารสงเคราะห์) อยู่ติดหน้าที่ตั้งโครงการเลยด้วย แต่ต่อไปในอนาคตคาดว่าจะเปลี่ยนเป็นที่ตั้งของสถานีรถ Monorail สายสีเทา ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการเดินทางของลูกบ้านให้สะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก   นอกจากนี้บริเวณที่ตั้งของโครงการ Knightsbridge Prime Sathorn ยังอยู่ในแหล่งรวมของอาคารสำนักงานเกรด A อันเป็น CBD หลักของกรุงเทพ ซึ่งมีทั้ง ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์, HSBC, Tisco, Samsung, AIA, กรุงเทพประกันภัย, CP, สถานฑูตต่างๆ และโรงแรมระดับ 5 ดาวอีกมากมาย ยังไม่นับรวมสถานศึกษา สถานพยาบาลชั้นนำอีกหลายแห่งที่รายล้อมอยู่ในย่านนี้ อาทิเช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก, โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์, เตรียมอุดมศึกษา, สาธิตจุฬาฯ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพฯ, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาลเซนหลุยส์, โรงพยาบาล BNH, โรงพยาบาลเลิดสิน, โรงพยาบาลจุฬา ฯลฯ สำหรับแหล่งช็อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหารในย่านนี้ ก็จัดว่าอุดมสมบูรณ์และมีให้เลือกมากมายในหลายระดับ เราขอยกตัวอย่างกันแบบคร่าวๆ พอนะครับ (ไม่งั้นคงต้องอาศัยพื้นที่อีกยาว) เช่น ห้างเซนทรัลพระราม 3, สีลมคอมเพล็กซ์, แมคโคร, โลตัส และแหล่งช็อปปิ้งของชาวออฟฟิศอย่าง ซอยละลายทรัพย์, ฮ่องกงพลาซ่า, ตลาดตึก ITF เป็นต้น ในขณะที่บรรดาร้านอาหารดังๆ ก็มีเยอะไม่แพ้กัน เช่น Dean & Deluca, Paul (บนตึก Empire), Rocket, Starbuck (มีสาขาแทบทุกตึกตรงแยกสาทรเลยครับ), Tenyuu Grand, Chef Man, Blue Elephent, Secret Garden, Amontre, Vertigo & Moon Bar, Nahm Restaurant, สมบูรณ์โภชนา, สามย่านซีฟู้ด, ครัวเจ๊ง้อ ฯลฯ เท่าที่ยกตัวอย่างมานี้ก็เรียกว่าครบครันมากพอที่เราแทบจะไม่ต้องขยับไปไหนไกลจากย่านนี้เลยนะครับ ทีนี้มาดูที่ตัวโครงการกันบ้างครับ Knightsbridge Prime Sathorn ออกแบบมาเป็นอาคาร High Rise 43 ชั้น แต่ความสูงเทียบเท่ากับตึกทั่วไปที่ 53 ชั้น รูปแบบอาคารถูกออกแบบมาในลักษณะตัว Z เพื่อให้ทุกห้องสามารถเปิดรับวิวได้สวยไม่แพ้กัน ทั้ง City View ด้านสาทร สีลม และวิวด้านเจริญกรุง รวมถึงวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาในบางตำแหน่งของตึก ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็จัดมาเต็มที่ครับ บนชั้นดาดฟ้าจะมีทั้ง สระว่ายน้ำที่ยาวถึง 35 เมตร แบ่งเป็น Lap Pool และ Therapy Pool, Fitness, ห้อง Metropolitan Club และห้อง Media Club ส่วนบริเวณชั้น 1 จะแบ่งเป็นพื้นที่ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านซักรีด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านของโครงการครับ และเรื่องสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ที่จอดรถ ทางโครงการจัดระบบจอดรถอัจฉริยะ (Automation Parking Lots) มาให้เลยทีเดียว นับว่าอำนวยความสะดวกสบายกันให้เต็มที่มากๆ ครับ ไม่ต้องวนจอดรถให้เสียเวลา ตอนนี้คงอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยครับว่า หน้าตาของห้องแต่ละ Type จะเป็นเช่นไรบ้าง ซึ่ง Type หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ Monoplex และ Duplex หรือก็คือห้องแบบ 1 ชั้น และ 2 ชั้นนั่นเอง รวมแล้วทั้งโครงการมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 726 ยูนิตครับ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type A : 1 Bedroom Plus Duplex ขนาด 44 ตารางเมตร ราคา 5.8 - 6.7 ล้านบาท Type B : 1 Bedroom Duplex ขนาด 37 ตารางเมตร ราคา 4.5 - 5.5 ล้านบาท Type C : 1 Bedroom Plus Monoplex ขนาด 30 ตารางเมตร ราคา 4.4 - 4.6 ล้านบาท Type D : 1 Bedroom Monoplex ขนาด 24 ตารางเมตร ราคา 3.2 - 3.5 ล้านบาท โดย Monoplex จะมีขนาด 24 ตร.ม. และ 30 ตร.ม. ความสูงของ Floor to Ceiling อยู่ที่ 2.6 เมตร โดย Layout ของห้องสัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยเอาไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยครับ สำหรับห้องขนาด 30 ตร.ม. จะพิเศษกว่าตรงที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ หรือจะจัดให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ ส่วน Duplex ซึ่งอยู่ที่ชั้น 24-42 จะมีขนาด 37 ตร.ม. และ 44 ตร.ม. ความสูง Floor to Ceiling ประมาณ 4.4 เมตร โดดเด่นด้วยห้องหน้ากว้าง 5 เมตรเลยนะครับ ส่วนการจัดวาง Layout ของห้องก็จะให้ Common Area อยู่ในโซนชั้นล่าง และจัดให้พื้นที่ของห้องนอนไว้ที่ชั้นบน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากยิ่งขึ้น โดยภาพรวมของ Knightsbridge Prime Sathorn ต้องบอกว่าเป็นโครงการเด่นของ ออริจิ้น ที่น่าจับตาเลยก็ว่าได้นะครับ ทั้งการเลือกทำเลที่ตั้ง และการกำหนดกลุ่มตลาดไว้ให้อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ดังนั้นกลุ่มคนในระดับกลาง พนักงานออฟฟิศในระดับเมเนเจอร์ก็สามารถเอื้อมถึง กลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มคนทำงานในย่าน CBD ของสาทร-สีลม ที่อยากได้ที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก และมีสาธารณูปโภคครบครัน รวมถึงกลุ่มที่ชอบลงทุนในอสังหาฯ ก็คงจะเล็งที่จะจับจองไว้ปล่อยเช่าอีกเช่นกัน เนื่องจากในย่านนี้มีบริษัทใหญ่ๆ และบริษัทต่างชาติเยอะ กลุ่มผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าจะสร้างผลตอบแทนที่เกิดจากการเช่าได้ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆ ในระแวกเดียวกันแล้ว ต้องบอกว่า Knightbridge Prime Sathorn ทำราคาได้ถูกกว่าราคาตลาดจนน่าตกใจเลยล่ะ ส่วนใครที่สนใจโครงการนี้ และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนเปิดขายจริงในช่วงต้นเดือนตุลาคม สามารถไปลงทะเบียนไว้ล่วงหน้าที่นี่ http://knightsbridge-sathorn.origin.co.th/Sathorn   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-030-0000 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : knightsbridge-sathorn.origin.co.th/Sathorn
RHYTHM Sathorn : รีวิวคอนโด

RHYTHM Sathorn : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูคอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อ Rhythm Sathorn อีกหนึ่งโครงการที่สร้างเสร็จแล้วของ AP ถ้าใครผ่านไปผ่านมาตรงสะพานตากสินบ่อยๆ น่าจะคุ้นตากับตึกนี้ดีนะครับ เพราะตำแหน่งที่ตั้งก็อยู่ฝั่งสาทรใต้ ตรงเชิงสะพานตากสินพอดิบพอดี ถึงแม้ที่ตั้งของ Rhythm Sathorn จะไม่ได้อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก็เรื่องของวิวแม่น้ำจากห้องพักที่นี่ก็สวยไม่แพ้ใครเลยนะครับ ยิ่งในเรื่องของการดีไซน์ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า W – Double of everything ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย ไปดูรายละเอียดโครงการกันดีกว่าครับ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    5,100,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise 2 อาคาร สูง 37 ชั้น และ 41 ชั้น จำนวนห้อง     910 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 4 ไร่ 1 งาน 91.6 ตารางวา (1,791.6 ตารางวา) ที่จอดรถ    ประมาณ 489 คัน ที่ตั้งโครงการ    ซอย สาทร 21 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ วิธีการเดินทาง ว่ากันด้วยเรื่องทำเลที่ตั้งของ Rhythm Sathorn แบบชัดๆ ต้องบอกว่าอยู่บนถนนสาทรใต้ค่อนไปทางถนนเจริญกรุง ตรงปากซอยสาทร 21 เชิงสะพานตากสินเลยครับ เส้นทางหลักๆ ที่จะใช้ในการเดินทางมายังโครงการ ก็คงหนีไม่พ้นถนนสาทรนะครับ เว้นแต่ว่าจะเริ่มต้นจากตรงช่วงไหน จะเริ่มกันตั้งแต่ต้นถนนสาทร แยกนราธิวาสราชนครินทร์ หรือว่าแยกสุรศักดิ์ แต่หลักๆ คือให้มุ่งหน้าไปถนนเจริญกรุง พอผ่านแยกสุรศักดิ์มาแล้ว ไม่ต้องขึ้นสะพานตากสินนะครับ ให้ชิดซ้ายวิ่งผ่านเชิงสะพานมานิดหน่อย ไม่เกิน 200 เมตร ก็จะเห็นทางเข้าโครงการแล้ว ดูแผนที่โครงการ Rhythm Sathorn 21 ก่อนจะได้เห็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการชัดเจนขึ้นครับ เราเลือกใช้เส้นทางถนนสาทรใต้มุ่งหน้าไปเจริญกรุงนะครับ ตรงนี้เป็นแยกใหญ่ ถนนสาทร ตัดกับ ถนนราธิวาสราชนครินทร์ หลายๆ คนคงคุ้นตากับ landscape ตรงนี้ดี ข้ามแยกมาแล้วก็ตรงมาเรื่อยๆ ครับ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ และโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ สถานพยาบาลเอกชนใหญ่บนถนนสาทรใต้ครับ พอเห็นสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ ก็เตรียมเข้าสองเลนซ้ายเลยครับ แยกสุรศักดิ์เป็นอีกหนึ่งแยกใหญ่นะครับก่อนขึ้นสะพานตากสิน ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์ก็จะเจอกับด่านทางด่วนเลย แต่เดี๋ยวเราตรงข้ามแยกนี่ไปนะครับ ข้ามแยกสุรศักดิ์มาแล้วก็ชิดซ้ายไปตามป้ายบอกไปเจริญกรุงเลยครับ ไม่ต้องขึ้นสะพานตากสินนะ ผ่านเชิงสะพานตากสินมานิดหน่อยก็จะเริ่มเห็นบ้านเรือนและบรรยากาศแบบ old town นิดๆ ก็ใกล้จะถึงแล้วครับ พอเห็นป้ายซอยสาทร 21 ก็ถึงหน้าโครงการ Rhythm แล้วครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปในโครงการกันได้เลย พ้นจากเส้นทางถนนสาทรแล้ว การเดินทางมายังโครงการยังสามารถเลือกได้อีกหลายเส้นทาง เพียงแต่ต้องดูเส้นทางเดินรถให้ดีก่อน เนื่องจากถนนหน้าโครงการมีเส้นทางเดินรถแค่ทางเดียว หลายๆ ครั้งเราจึงต้องขับรถเลยแยกสุรศักดิ์ไปกลับรถมายังโครงการอีกที เช่น เส้นทางจากถนนเจริญกรุง หรือจากฝั่งธนบุรี โดยการข้ามสะพานตากสินมา แต่ถ้ามาจากทางฝั่งพระราม 3 ก็ใช้เส้นทางถนนเจริญราษฎร์ เลี้ยวซ้ายที่แยกสุรศักดิ์มาอีกนิดหน่อยก็ถึงโครงการแล้ว เช่นเดียวถ้าเลือกมาจากถนนสุรศักดิ์ พอถึงแยกสุรศักดิ์ก็เลี้ยวขวามาได้เลย นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ไม่ห่างจากตัวโครงการมากนัก ทั้งด่านสาทร ตรงหัวถนนเจริญราษฎร์ และด่านสุรวงศ์ (สีลม) ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ในบริเวณนี้สะดวกขึ้น แต่อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในช่วงเช้าและเย็นของวันทำงาน ถนนในย่านนี้จะมีปริมาณรถมาก ดังนั้นอีกหนึ่งการเดินทางที่สะดวกที่สุดในการเลี่ยงปัญหารถติดก็คือ รถไฟฟ้า BTS ห่างจากหน้าโครงการออกไปเพียง 300 เมตร ก็จะเจอสถานี BTS สะพานตากสิน แถมด้านท้ายของสถานียังอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางด้วยเรือด่วนและเรือข้ามฟากเพิ่มขึ้นอีกทาง วันไหนชิวๆ อยากนั่งเรือต่อรถก็ทำได้ไม่ยาก ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ รถเมล์ รถสองแถว รถแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ครบทุกวิธีเลยทีเดียวครับ อันนี้เราจะลองเดินไปทางบางรัก ไปสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินกันบ้าง ออกจากโครงการแล้วก็เลี้ยวซ้ายเลย เดินออกมาไม่ไกลก็ใกล้จะถึงสามแยกบางรักแล้ว บริเวณนี้จะมีรถราคึกคักมากนะครับ นอกจากจะเลี้ยวเข้าถนนเจริญกรุงได้ทั้งซ้ายและขวาแล้ว แยกนี้ยังเป็นจุดกลับรถเข้าถนนสาทรเหนืออีกด้วยนะครับ แต่เดี๋ยวเราข้ามถนนไปดูฝั่งตรงข้ามกัน พอข้ามถนนมาแล้ว จะเห็นว่าบริเวณนี้มีรถเข็นแผงลอยเรียงรายเต็มเลย ได้บรรยากาศแบบวิถีชุมชนมากๆ เดินตรงไปอีกหน่อยก็จะถึงทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าแล้วครับ ถึงทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินแล้วครับ บริเวณนี้จะเป็นจุดรวมการเดินทางที่หลากหลายมากครับ มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ คิวรถสองแถวสาย 1256 (บางรัก-ช่องนนทรี) ลึกเข้าไปสุดซอยก็จะเป็นท่าน้ำสาทร จุดขึ้นเรือข้ามฟาก และเรือด่วนเจ้าพระยาครับ บริเวณตีนบันไดสถานีรถไฟฟ้านี้มีรถเข็นแผงลอยขายของกินเพียบเลย และผู้คนก็ขึ้นรถ ต่อเรือกันเยอะแยะไปหมด และในซอยนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมแชงกรีลาด้วยนะครับ เดินไปดูบรรยากาศตรงบางรักกันนิดหน่อยครับ แค่ช่วงต้นๆ ก็คึกคักผู้คนหนาแน่นเกือบทั้งวันเลยทีเดียว ร้านสะดวกซื้อ รถเข็นขายอาหาร บรรดาช่างซ่อมต่างๆ มีให้เห็นตลอดทางครับ บรรยากาศถนนเจริญกรุงบริเวณนี้เรียกกันรวมๆ ว่าย่านบางรักนะครับ ที่เห็นด้านซ้ายมือคือ ห้างโรบินสันบางรัก ห้างสรรพสินค้าหลักๆ ของย่านนี้ และตึกสีขาวใหญ่ๆ นั่นคือ The State Tower ครับ ข้างๆ โรบินสันบางรักมีตลาดนัดบางรักบาซาร์ลึกเข้าไปในซอยเจริญกรุง 50 ทั้งซอยเลยครับ เปิดตั้งแต่เย็นๆ ไปจนค่ำ สาวๆ ขาช็อปไม่ควรพลาด และในซอยบริเวณนี้มีอาหารการกินอร่อยๆ เพียบเลยนะครับทั้งซ้ายและขวา แนะนำให้เดินสำรวจทีละซอยไปเลย รับรองมีให้ชิมทั้งวันทั้งคืน วิเคราะห์รอบโครงการ ด้วยทำเลที่ตั้งของ Rhythm Sathorn ซึ่งอยู่ในย่านชุมชนเก่าที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ บางรัก บรรยากาศใกล้ๆ โครงการที่ค่อนไปทางถนนเจริญกรุงอันเป็นถนนเก่าแก่ของกรุงเทพ จึงคงเสน่ห์ของชุมชนดังเดิมไว้เต็มเปี่ยม บ้านเรือนเก่าๆ ประตูบานเฟี้ยมยังมีให้เห็น ที่สำคัญเรื่องอาหารการกินในย่านนี้จัดว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ มีร้านอร่อยเก่าแก่หลายร้าน รวมถึงร้านค้าแผงลอยแนวสตรีทฟู้ดเรียงรายเต็มไปหมด แถมยังมีขายกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ บางร้านเปิดขายกันเฉพาะกลางดึก ความอร่อยในย่านนี้จึงมีให้ฝากท้องกันได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ห้างโรบินสัน บางรัก ห้างใหญ่แห่งเดียวบนถนนสายนี้ ที่แทรกตัวอยู่กลางชุมชนอย่างกลมกลืน ผ่านจากความเจริญในแบบชุมชมเก่าไปแล้ว ถ้าข้ามมาทางฝากถนนสาทรบ้าง บนถนนสายนี้ก็จะเห็นถึงความเจริญในรูปแบบเมืองใหญ่ เพราะเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆ เบียดเสียดกันอยู่มากมาย อย่างที่หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องบรรยายให้มากความนะครับ ทีนี้มาดูเรื่องสถานที่สำคัญๆ ในย่านนี้ก็บ้าง ซึ่งมีอยู่มากมายหลายแห่งเลยครับ ตั้งแต่วัดวาอารามไปจนถึงแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ๆ ยกตัวอย่างเช่น เอเชียทีค วัดยานนาวา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตกรุงเทพใต้ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย อู่ต่อเรือกรุงเทพ สะพานปลา โรงแรมแชงกรีรา โรงพยาบาลเลิดสิน โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ สเตททาวเวอร์ ไปรษณีย์กลาง ฯลฯ สำหรับตัวโครงการ Rhythm Sathorn เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise 2 อาคาร บนที่ดินขนาด 4 ไร่ 1 งานเศษๆ โดยแบ่งเป็นตึก North สูง 37 ชั้น และตึก South สูง 41 ชั้น มียูนิดที่พักอาศัยรวม 910 ยูนิต ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้คอนเซปต์ “W – Double of everything” ซึ่งต้องการจะสื่อถึงลักษณะของตัวอาคารทั้ง 2 ตึก ที่วางตัวต่อกันเป็นรูปตัว W และยังหมายถึงการ Double Value ในหลายๆ ด้าน เช่น  Double View ซึ่งมีให้เลือกชมทั้งวิวแม่น้ำและวิวเมือง, Double Floor Sky High Facility เพิ่มพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้าของทั้ง 2 ตึก, Double Convenience ด้วยจำนวนลิฟต์โดยสารมากถึง 11 ตัว และพื้นที่จอดรถใต้ดินอีก 4 ชั้น เป็นต้น จุดหลักๆ ที่เป็นพื้นที่ที่ 2 อาคารเชื่อมต่อถึงกันได้ก็คือ บริเวณลานจอดรถ และล็อบบี้ชั้นล่างเท่านั้น ส่วนที่พักอาศัยนั้นจะแยกออกจากกัน และใช้ระบบ Key Card สำหรับการเข้าออกตึก เช่นเดียวกันกับ Facility หลัก ที่บนดาดฟ้า ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ Panoramic View พร้อมห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า และสวนหย่อมบนดาดฟ้า จะแยกเป็นตึกใครตึกมัน โดยตึก North จะอยู่ที่ชั้น 37 และตึก South จะอยู่ที่ชั้น 41 สูงกว่านิดหน่อยครับ แต่เรื่องวิวรับรองว่าสวยไม่แพ้กันเลย แปลนอาคารที่ชั้นแรกครับ จะเห็นว่าจากทางเข้าหน้าโครงการมาก็จะตรงดิ่งลงสู่ลานจอดรถใต้ดินเลยนะครับ และตัวอาคารทั้ง 2 ตึกก็เรียงตัวกันเป็นรูป W ชัดเจน ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปทั้ง 2 ตึกเลยนะครับ การจัดวางตำแหน่งห้องในแต่ละ wing จะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว จำนวนห้องจึงมีเพียง 6 ยูนิต ต่อ1 wing เท่านั้น Facility จะแยกกันในแต่ละตึกเลยนะครับ โดยตึก South จะอยู่บนชั้น 36 และตึก North อยู่บนชั้น 40 ซึ่งทุกพื้นที่การใช้งานจะมีขนาดและจำนวนเท่ากันหมด เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายของลูกบ้านแต่ละตึกครับ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโถงกลางของ Lobby ซึ่งเป็นจุดเชื่อมพื้นที่ Lobby ของทั้งตึก South และ North ไว้ก่อนจะไปขึ้นลิฟท์ของแต่ละตึก บรรยากาศโดยรวมของบริเวณ Lobby นะครับ มีชุดโซฟารับรองอยู่หลายชุดเลย ลูกบ้านสามารถลงมานั่งเล่นพักผ่อนที่ Lobby ได้สบายเลยครับ หรือเวลามีแขกมาเยี่ยมก็ใช้ตรงนี้เป็นที่นัดพบพูดคุยได้ บรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งไว้อย่างหรูหรามากๆ ทั้งเพดานสูงโปร่งประดับด้วยโคมไฟระย้า การเข้าออกจะใช้ระบบ Key Card และลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้นนะครับ บรรยากาศสบายๆ มุมนึงของสวนลอยฟ้าที่ชั้น 36 ของตึก South ครับ มีศาลานั่งเล่นให้รับลมชมวิวกันได้เพลินๆ วิวนี้จากตรงศาลานั่งเล่น มองลงมาทางแยกสุรศักดิ์ครับ ด้านนี้จะได้ City View สวยๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน จากมุมเดียวกันมองไปทางใต้หน่อยจะเห็นคุ้งน้ำเจ้าพระยาอยู่ไกล แถมยังมองเห็นได้ไกลไปถึงบางกระเจ้าและสะพานภูมิพลเลยทีเดียว ที่นอนเล่นกลางแจ้งพร้อมวิวสวยๆ สามารถมานอนเล่นได้ทั้งเช้าและเย็นเพราะสวยไปคนละแบบจริงๆ สระว่ายน้ำถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายตัว L ยาวไปตามแนวขอบอาคารเลยครับ ว่ายน้ำไปชมวิวไปได้ด้วย เพราะเป็น infitity edge pool มุมนี้มองลงไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานตากสินพอดีเลย มุมจากุชซี่แช่ตัวได้สบายเลย สระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบน้ำเกลือนะครับ ตัวสระไม่ได้กว้างมาก แต่เน้นความยาวที่เลียบไปตามแนวอาคารมากกว่า วิวมุมสูงจากบนชั้น 36 นี่กว้างสุดๆ เลยครับ ได้วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาสวยมาก City View ของย่านสาทรมุมนี้ เห็นตึกใหญ่ๆ ที่เป็น Landmark ครบเลยครับ ส่วนมุมนี้ จะเห็นบรรยากาศบริเวณบางรัก และถนนเจริญกรุงที่โค้งขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลย จุดอาบน้ำล้างตัวริมสระว่ายน้ำครับ เป็น rain shower ด้วย ในห้องฟิตเนสที่อยู่เหนือสระว่ายน้ำขึ้นมาอีกชั้น มีอุปกรณ์ครบครันเลยครับ ออกกำลังกายไปก็ชมวิวสวยๆ กันไปได้เลย อุปกรณ์รวมถึงเครื่องออกกำลังกายมีเหมือนกันทั้ง 2 ตึกเลยนะครับ สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงในส่วนของห้องพักอาศัยกันบ้าง Rhythm Sathorn นี้ จะมีห้องชุดให้เลือกหลากหลายแบบทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเริ่มตั้งแต่ 35-65.7 ตร.ม. ครับ ส่วนเรื่องการจัดวาง Layout ของแต่ละยูนิตก็จะเน้นความเป็นส่วนตัว เพราะในแต่ละ wing จะมีเพียง 5 ยูนิตเท่านั้นเอง สำหรับห้องตัวอย่างที่เราได้เข้าไปเยี่ยมชมกันในครั้งนี้ จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom นะครับ แต่มีด้วยกัน 2 Type ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Sky Living และ Sky Kitchen ภาพโดยรวมของทั้ง 2 Type จะต่างกันไม่มาก ทั้งเรื่องขนาดห้อง และฟังก์ชั่นภายใน แต่จะเน้นพื้นที่ใช้สอยตามวัตถุประสงค์ที่ต่างกันครับ เดี๋ยวไปดูตามภาพถ่ายของแต่ละห้องกันเลยดีกว่า ห้อง Type นี้มีอีกชื่อเรียกว่า Sky Kitchen ครับ เป็นห้องขนาด 45.5 ตร.ม. เปิดประตูเช้าห้องมาก็จะเป็น Living Area แบบนี้เลยครับ ด้านขวาของประตูทางเข้าห้อง จะมีห้อง Laundry Room ซ่อนเครื่องซักผ้า และมีชั้นเก็บของ Built-in มาให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นที่ภายในโซนนี้ถือว่ากว้างเลยทีเดียว ขนาดวางโซฟาชุดใหญ่ลงไปแล้วยังเหลือที่ว่างอีกเยอะเหมือนกัน ตู้เก็บรองเท้าก็ Built-in ติดมาให้ที่ผนังอีกด้านของประตูทางเข้าครับ บริเวณนั่งเล่นอยู่ติดกับห้องครัวเลยนะครับ ซึ่งภายในห้องออกแบบมาให้เปิดโล่งรับแสงธรรมชาติได้ดี ทำให้ไม่อึดอัดเลย ทีวีแขวนบนชั้นติดผนังช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้ดีเลยครับ บรรยากาศโดยรวมของห้องนั่งเล่นครับ ออกแบบมาได้ดูเรียบร้อยลงตัวทุกมุมดีนะครับ ห้อง Type นี้จะเน้นพื้นที่ในห้องครัวให้กว้างหน่อยตามชื่อเลยนะครับ ใครที่ชอบทำกับข้าวน่าจะถูกใจห้องนี้ ประตูห้องครัวเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนครับ ทำให้ได้ครัวปิดดูเป็นสัดส่วนมากๆ รางเลื่อนประตูกั้นพื่นที่ห้องให้เป็นสัดส่วนครับ พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องเพื่อการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้นครับ เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานครบชุดเลย ตำแหน่งวางตู้เย็นอยู่ติดประตูห้องครัว ด้านบนมีตู้เก็บของและชั้นวางอุปกรณ์ต่างๆ ประตูตู้ด้านบนเป็นบานพับแบบเปิดขึ้นด้านบนนะครับ ตู้ตรงเหนือตู้เย็นอาจจะหยิบของยากหน่อย ซิงค์ล้างจานเป็นแบบฝังติดกับเคาน์เตอร์ครัวตามภาพเลย เตาไฟฟ้าสองหัวยี่ห้อ Franke เครื่องดูดควันยี่ห้อ Franke เข้าชุดกันเลยครับ โต๊ะกินข้าว Built ให้เป็นเคาน์เตอร์ยาวต่อจากเคาน์เตอร์ครัวติดกับหน้าต่าง เปิดรับวิวเวลารับประทานอาหารได้เต็มตา พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้ช่วยระบายอากาศ โต๊ะกินข้าวหันหน้าออกนอกหน้าต่าง ได้มุมดีๆ ไว้นั่งเล่นดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาให้เพลินไปเลยครับ เนื่องจากบริเวณห้องครัวติดกระจกบานใหญ่เต็มผนัง แสงภายนอกจึงเพิ่มความสว่างให้กับห้องได้เยอะเลยทีเดียว มาดูในห้องนอนกันบ้างครับ ห้อง Type นึ้ ระเบียงจะอยู่ในห้องนอนนะครับ ภายในห้องพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้ว ยังเหลือที่ว่างข้างๆ เตียงอีกพอสมควรเลยครับ ปลายเตียง Built-in เป็นชั้นวางของเล็กๆ และเว้นที่ไว้แขวนทีวีติดผนัง และที่ติดกันเป็นมุมแต่งตัวครับ ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนที่หนาและหนักเอาเรื่องเลยครับ ออกแบบมาได้แน่นหนามากๆ ส่วนธรณีประตูก็กั้นไว้สูงเลยทีเดียว เวลาเดินเข้าออกต้องระวังสะดุดกันหน่อยครับ พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างมากนะครับ แต่ก็พอใช้งานได้ดี ทางโครงการติดตั้งที่แขวนผ้าแบบพับเก็บได้มาให้เรียบร้อย อีกด้านของระเบียบเป็นห้องแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ครับ มีประตูปิดเรียบร้อยเลย ภายนี้มองจากระเบียงกลับเข้าไปในห้องครับ เดี๋ยวเราไปดูในห้องน้ำกัน ห้องอาบน้ำออกแบบมาเซ็กซี่มากเลยนะครับ เพราะติดกระจกเข้ามุมตรงอ่างอาบน้ำพอดีเลย ถ้าไม่ได้เป็นคนเปิดเผยมากๆ ก็สามารถติดม่านเพิ่มได้ ส่วนห้องส้วมจะแยกออกมาต่างหากนะครับ ตู้เสื้อผ้าติดกระจกบานใหญ่เต็มผนังเลย อันนี้ทางโครงการก็ Built-in ไว้ตรงหน้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลย ธรณีประตูห้องน้ำจะกั้นสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. แทนการดร๊อปพื้นห้องน้ำครับ อ่างอาบน้ำอยู่ชิดกับกระจกเลย โซนตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าครับ อ่างล้างหน้าทรงกลม ผนังทำเป็น Low Wall เอาไว้วางของได้ครับ อีกด้านเป็นห้องอาบน้ำ ซึ่งกันกระจกเทมเปอร์ พร้อมชุดฝักบัวแบบ rain shower มาให้เรียบร้อย ในห้องน้ำซึ่งแยกออกมาจากบริเวณห้องอาบน้ำนะครับ แต่จะมีประตูทางเข้า 2 ทาง ทั้งจากฝั่งห้องนอน และห้องนั่งเล่นครับ โดยประตูทางด้านห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อน ส่วนประตูฝั่งห้องนั่งเล่นเป็นบานสวิงครับ มีอ่างล้างมือขนาดเล็กในห้องน้ำครับ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระ ห้องตัวอย่างแบบต่อไปที่เราได้ดู มีชื่อว่า Sky Living นะครับ ขนาดก็เล็กกว่าห้องก่อนหน้านิดเดียวเอง แต่ก็ยังเป็นแบบ 1 Bedroom เหมือนกัน กลอนประตูห้องเป็นแบบคันโยก และล็อคด้วยลูกบิดกุญแจ น่าเสียดายที่ไม่มีระบบ Digital Door Lock ให้ การออกแบบของห้องนี้จะเน้นประโยชน์ใช้สอยของห้องนั่งเล่นเป็นหลักนะครับ พอเปิดเข้าห้องมาจะเจอกับ Pentry ครัวเล็กๆ ก่อนเลย ห้องเก็บอุปกรณ์ซักรีดตรงด้านหลังประตูห้อง Built มาเรียบร้อยเหมือนกันทุกห้อง การใช้งานของห้องนี้ไม่ได้เน้นการเข้าครัวทำกับข้าวหนักๆ นะครับ เลยได้เป็นครัวเปิด มี island เล็กๆ เป็นส่วนเชื่อมต่อพื้นที่ให้ดูกลมกลืนกัน อ่างล้างจานจะอยู่ฝั่งเคาน์เตอร์ด้านนี้นะครับ ติดตั้งเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันไว้ในมุมเล็กๆ ติดกับตู้เย็นเลย อย่างที่บอกว่าไม่เหมาะกับการทำกับข้าวหนักๆ เลยนะครับห้องนี้ เน้นเอาไว้อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า ประตูทางเข้าห้องน้ำจากทางห้องนั่งเล่นครับ อยู่ติดกับห้องเก็บอุปกรณ์ซักรีดนั่นเลย การตกแต่งเน้นพื้นที่ใช้สอยในบริเวณนั่งเล่นมากหน่อย โต๊ะกินข้าวจึงวางติดกับเคาน์เตอร์ครัวเลย เพื่อการประหยัดพื้นที่ครับ ทำให้มีพื้นที่เหลือในห้องนั่งเล่นมากหน่อย บริเวณนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้เลย และยังอยู่ติดกับระเบียงห้องด้วย เปิดม่านตรงระเบียงออกแล้ว แสงธรรมชาติจะช่วยให้ภายในห้องสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ พื้นที่บริเวณระเบียงไม่กว้างมากครับ แต่ก็พอตากผ้าได้ แถมมีติดตั้งที่แขวนผ้ามาให้แล้วด้วย อีกด้านเป็นห้องแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ครับ มีประตูปิดมาเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เปิดประตูออกมาจะเห็นว่าใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ยังมีที่ว่างอีกนะครับ มุมนี้อาจจะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องได้บ้าง ซึ่งจะช่วยให้ภายในห้องเป็นระเบียบมากขึ้นไปอีก เดี๋ยวเข้าไปดูในห้องนอนกันครับ ตู้ที่เห็นหน้าห้องเป็นตู้เก็บรองเท้านะครับ Built-in มาไว้ตรงกลางระหว่างประตูห้องน้ำกับห้องนอนเข้ามุมพอดีเลย ภายในห้องนอนดูมีพื้นที่กว้างมากขึ้น เพราะไม่มีระเบียงในห้องนอนนะครับ พื้นที่ห้องจึงกว้างติดริมกระจกเลย การจัดวาง lay out ภายในห้องนอนก็จะคล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ บริเวณปลายเตียงแขวนทีวีติดผนังและมีมุมโต๊ะเครื่องแป้งติดกระจกมาให้เหมือนกัน ตำแหน่งโต๊ะเครื่องแป้งจะเข้ามุมชิดกำแพงห้องเลยนะครับ คนถนัดซ้ายอาจจะใช้งานลำบากนิดหน่อย แขนอาจจะชนกำแพงได้เวลาแต่งหน้าแต่งตัว หน้าต่างในห้องนอนติดเป็นกระจกบานใหญ่ มุมนี้สามารถวาง daybed ไว้นั่งเล่นชมวิวได้เต็มตามากๆ หรือจะจัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือก็ดีนะครับ เพราะเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่มากๆ พื้นที่ปลายเตียงเหลืออีกเยอะเลยนะครับ เดินได้สบายๆ ไม่ต้องเบี่ยงตัวหลบมุมเวลาเดินเลย ห้องอาบน้ำเซ็กซี่เหมือนกันครับ อ่างอาบน้ำติดกระจกเลย อาบไปดูทีวีในห้องนอนไปได้ด้วย เข้าห้องน้ำมาเจออ่างล้างหน้าทรงกลมอยู่โซนกลางห้องน้ำเลยครับ อ่างอาบน้ำก็เข้ามุมชิดผนังด้านนึง ซึ่งติดกระจกเข้ามุมไว้ตามภาพ ถ้าไม่ชอบอาบน้ำแบบเปิดโล่งก็แนะนำให้ติดม่านหรือมูลี่เพิ่มได้ครับ อีกด้านเป็นห้องอาบน้ำ ซึ่งทางโครงการติดตั้งประตูกระจกเทมเปอร์ไว้ให้เป็นสัดส่วน แถมมี Rain Shower มาให้อีก ถ้าไม่ชอบแบบ Rain Shower ก็มีชุดฝักบัวแบบมือถืออีกชุด ส่วนหัวก๊อกเป็นแบบผสมหน้าตาตามภาพเลยครับ ห้องน้ำสำหรับทำธุระส่วนตัวจะแยกออกมาจากห้องอาบน้ำนะครับ มีชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระเรียบร้อย อ่างล้างมือขนาดเล็กกระทัดรัดในห้องน้ำครับ บริเวณของห้องน้ำนี่จะมีประตูเปิดเข้าได้สองทางนะครับ ด้านนี้หันไปทางห้องนอน ประตูห้องน้ำจะเป็นกระจกขุ่นกรอบอลูมิเนียมบานเลื่อน ส่วนอันนี้จะถ่ายจากในห้องน้ำออกไปทางห้องครัวครับ ประตูด้านนี้เป็นประตูบานสวิง จากห้องตัวอย่างที่เราได้ชมกันไป หลายคนคงจะกำลังคิดถึงห้องที่ขายให้กับลูกบ้านแล้วใช่มั้ยครับ ว่าทางโครงการจะให้อะไรมาพร้อมห้องบ้าง ต้องบอกกันว่า โครงการ Rhythm Sathorn นี้ ทาง AP ขายกันให้แบบ Full Furnished เลย มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ชุดเคาน์เตอร์ครัว เตาเซรามิค เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด รวมถึงเครื่องปรับอากาศด้วย เรียกแทบจะหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามาอยู่ได้เลย ถ้าใครที่สนใจคอนโดในย่านนี้อยู่แล้ว Rhythm Sathorn น่าจะเป็นอีกโครงการที่ตอบโจทย์แบบชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี ถึงถนนสาทรจะมีปัญหารถติดหนักหน่วงหน่อย แต่ก็มีทางออกด้วยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สะดวกมากๆ รวมถึงเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟากด้วย ซึ่งเชื่อว่าลูกบ้านของโครงการน่าจะได้ใช้บริการกันบ่อยๆ แน่ ยิ่งโครงการนี้เป็นอาคารสร้างเสร็จ และมีลูกบ้านย้ายเข้ามาอยู่ได้ระยะหนึ่งแล้ว เราก็จะมีโอกาสเยี่ยมชมโครงการในบรรยากาศจริง ซึ่งทางโครงการยังมีห้องสวยๆ ให้เลือกอีกหลายตำแหน่ง อย่างไรแล้วลองแวะเข้าไปดูห้องตัวอย่างที่โครงการกันก่อน จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ ท่านใดที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนเพื่อติดต่อนัดหมายเข้าชมโครงการและรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่นี่ http://goo.gl/yKm3u5
Condolette Light Convent : รีวิวคอนโด

Condolette Light Convent : รีวิวคอนโด

Condolette Light Convent คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น พร้อมเข้าอยู่ ในซอยพิพัฒน์ 2 ใจกลางสีลม จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,480,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 0 - 45.6 ไร่ จำนวนห้อง     111 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 61 คัน หรือคิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ซอยพิพัฒน์ 2 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ BTS ช่องนนทรี โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่สีลม อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 33.19 – 47.21 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 66.88 – 72.63 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก โถงต้อนรับ ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ระบบ CCTV / Access Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : condolette.pruksa.com
THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

จากพรีวิวฉบับก่อนที่เราพาไปดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ The Bangkok สาทร กันไปแล้ว ฉบับนี้เรายังคงอยู่ในทำเลย่านสาทร แต่จะพาข้ามไปดูอีกหนึ่งโครงการในเครือ Land and House ซึ่งก็คือ The Room สาทร-ถนนปั้นนั่นเอง อีกคอนโด ​High Rise ที่ยังคงอยู่ในศูนย์กลางแหล่งธุรกิจของเมืองกรุง และเกาะติดแนวรถไฟฟ้าด้วย การเดินทาง โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่กลางๆ ซอยถนนปั้น ซอยนี้จะเชื่อมถนนสาทรและถนนสีลมไว้ด้วยกัน ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกเส้นทางเข้าออกได้สองทาง ถ้ามาจากแยกสุรศักดิ์ก็เลยมาอีก 500 เมตรโดยประมาณ ก็จะเห็นซอยถนนปั้นอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้ามาทางถนนสีลมก็ให้สังเกตุวัดพระศรีมหาอุมาเทวีหรือวัดแขกให้ดี เจอวัดแขกก็เลี้ยวเข้าซอยถนนปั้นไปได้เลยครับ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ดูจะสะดวกมาก เพราะเราสามารถเลือกใช้ถนนสายหลักได้ทั้งสองเส้นทาง ด่านทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ทั้งทางฝั่งสีลม และทางแยกสุรศักดิ์ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ยากเลย ข้ามไปฝั่งธนบุรีแค่กลับรถก็มีสะพานตากสินอยู่ใกล้ๆ หรือวิ่งตามถนนสาทรไปก็เลี้ยวไปพระราม 3 แยกไปออกพระราม 4 หรือจะตรงไปเข้าถนนวิทยุก็ได้อีก แต่ที่ต้องกังวลมากหน่อยก็คือ ปัญหารถติดบนถนนสาทรที่ติดขึ้นชื่อ โดยเฉพาะในช่วงที่เปิดเทอม เวลาเข้าเรียน และตอนเย็นๆ ใกล้เลิกเรียนที่บรรดาผู้ปกครองมาจอดรถรอรับลูกกันเป็นแถวยาว ซึ่งรถก็จะติดต่อเนื่องกันไปอีกหลายช่วงโมง เพราะไหนจะได้เวลาเลิกงานคนแย่งกันกลับบ้านอีก บนท้องถนนจึงเต็มไปด้วยปริมาณรถอันหนาแน่น จะหนีไปทางถนนสีลมก็ยังคงเจอรถติดหนักไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลย ยังไงก็ต้องเจอกับปัญหารถติดแน่ๆ สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนการเดินทางที่ง่าย สะดวก และน่าจะช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุดสำหรับคนเมืองก็คือรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ใกล้ตัวโครงการที่สุดคือ สถานีสุรศักดิ์ ลงจากตัวสถานีแล้วเดินต่อเข้ามาในซอยถนนปั้นอีกไม่เกิน 500 เมตรเท่านั้น ด้วยระยะทางขนาดนี้ยังถือว่าสะดวกมากครับ ไม่ต้องต่อรถให้ยุ่งยากอีก ถือว่าได้ออกกำลังกายอีกเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่ว่าถ้าเจอช่วงหน้าฝนคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเช่นกัน แค่เดินออกมาทางปากซอย จะเลือกทางฝั่งถนนสาทร หรือฝั่งถนนสีลมก็ได้ทั้งนั้น ถนนทั้งสองเส้นมีรถเมล์วิ่งผ่านเยอะแยะหลายสาย รถสามล้อ แท็กซี่ก็เยอะ แถมยังมีรถสองแถวแดงอีก แต่ถ้ายังสะดวกรวดเร็วไม่พอก็คงต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวๆ หน้าโครงการกันไปเลย เราเริ่มจาก BTS สุรศักดิ์ เลยนะครับ เราต้องออกมาทางที่ 3 ฝั่งเดียวกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เวลานี้ยังเงียบสงบอยู่ครับ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน จากตัวสถานี BTS เดินผ่านซอยประมวลมานิดหน่อยก็ถึงถนนปั้นแล้วล่ะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้นจะเป็นโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ บรรยากาศในช่วงปากซอยอาจจะดูไม่คึกคักเท่าไหร่นะครับ แต่พอเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ก็เริ่มจะมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น ต้นไม้ในซอยก็ให้ความร่มรื่นดี ก่อนจะถึงโครงการก็มีตึกแถวเปิดเป็นร้านอาหารอยู่ด้านล่าง ถึงแล้วครับ ที่ตั้งโครงการ The Room สาทร ด้านหน้าโครงการกว้างประมาณ 40 เมตร วันนี้เราเข้าไปทำการรีวิว ตัวโครงการก่อสร้างไปได้มากแล้วนะครับ วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ด้วยความที่โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บรรยากาศโดยรวมจะค่อนข้างพลุกพล่านในช่วงวันธรรมดา และค่อนข้างเงียบในหยุด แต่โชคดีหน่อยที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ และอาคารสำนักงานอยู่รวมกัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องอาหารการกินเท่าไหร่ เพราะช่วงกลางวันก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน รวมถึงรถเข็น แผงลอยอีกพอสมควร ยิ่งถ้าค่อนออกไปทางฝั่งถนนสีลมด้วยแล้วยิ่งหายห่วง เพราะใกล้ๆ วัดแขกก็มีร้านอาหารเจ้าดังอีกหลายร้าน โดยเฉพาะอาหารแขกก็มีให้เลือกหลายร้านแล้ว ตลาดสดก็อยู่ในซอยฝั่งตรงกันข้าม ในระยะซัก 300 เมตร จากวัดแขกก็มีทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมพลูแมน คอมมูนิตี้มอลอย่าง บ้านสีลม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสีลม และร้านอาหารนานาชาติอีกเพียบ เรียกได้ว่าฝั่งสีลมนี่คึกคักพึ่งพาได้ดีที่สุด ส่วนฝั่งถนนสาทรก็จะเน้นไปทางร้านอาหารใหญ่หน่อย ร้านฮิปๆ หรือนั่งกินกันเป็นเรื่องเป็นราว อาหารข้างทาง แผงลอยไม่ค่อยมีให้เห็น ในขณะเดียวกันในซอยถนนปั้นก็มีร้านสะดวกซื้ออยู่เยื้องๆ กับโครงการ ดังนั้นถ้าเอาสะดวกและง่ายเข้าว่า ก็มีที่ให้พึ่งพายามหิวแบบ 24 ชั่วโมง นอกเหนือจากเรื่องอาหารการกินแล้ว สาธารณูปโภคอื่นๆ ก็มีครบครันเช่นกัน โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนก็อยู่ใกล้มากๆ โรงพยาบาลเซนหลุยส์ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามซอยด้านถนนสาทรใต้ ซึ่งมีทั้งโรงเรียนและโบสถ์ สถานฑูตพม่าก็อยู่แค่ปากซอยถนนปั้น อันนี้แค่ในบริเวณรอบๆ ซอยเท่านั้นนะครับ แต่ถ้านับรัศมีให้กว้างออกไปอีก ก็ยังมีสถานที่สำคัญอีกเพียบ เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนเอกชน โรงแรมดัง ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ฯลฯ ด้วยทำเลแถบนี้ที่เป็นศูนย์กลางหลายๆ อย่าง จึงเพียบพร้อมมากๆ ในขณะที่บรรยากาศในซอยก็ค่อนข้างเงียบสงบกว่าบริเวณถนนใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนอาศัยอย่างยิ่ง ซึ่งเราก็ไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาฝาก เผื่อใครที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพื้นที่จะได้เห็นภาพได้มากขึ้นครับ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นตึกแถวมีร้านทำฟัน มีแฟมิลี่ มาร์ท อยู่ด้านล่าง เดี๋ยวเราเดินดูบรรยากาศในซอย ฝั่งที่จะทะลุออกไปทางสีลมกันต่อ เลยจากโครงการมานิดหน่อยจะมีคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ชื่อคอนโด ปภาดา สีลม เดินเข้าไปเรื่อยๆ บรรยากาศทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นตึกแถว มีร้านค้า ร้านอาหาร เยอะเลยครับ คอนโดอีกโครงการที่อยู่ในซอยนี้ โครงการ The Treasure เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ออกมาถึงปากซอยด้านถนนสีลม จะมี 7-11 อยู่ด้วย ร้านค้าช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายพวงมาลัย เพราะอยู่ใกล้วัดแขก ออกมาถึงฝั่งถนนสีลมแล้วบรรยากาศจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งฝั่งถนนปั้นและฝั่งตรงข้าม เพราะจะมีผู้คนเดินทางมาวัดแขกกันแทบจะตลอดทั้งวัน นอกจากร้านขายดอกไม้แล้ว ก็ยังมีขายอาหารด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้น คือซอยสีลม 20 จะมีตลาด มีของกินให้เลือกเยอะแยะเลยครับ ตลาดฝั่งตรงข้ามถนนปั้น มีของกินเพียบเลยครับ ทั้งอาหารคาว หวาน และผลไม้ ทางซ้ายจากถนนปั้นออกมาที่ถนนสีลมมุ่งหน้าไปทางถนนเจริญกรุง ทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร โรงแรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ อย่างบ้านสีลม ส่วนด้านขวาจะมุ่งหน้าไปทางศาลาแดง ก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมฟูราม่า และโรงแรม Pullman ภาพรวมตัวโครงการ โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น เป็นคอนโด High Rise อย่างที่บอกไปแล้ว ตัวตึกสูง 25 ชั้น มีจำนวน 219 ยูนิต แบ่งแบบห้องหลักๆ เป็น 2 Type คือ 1 Bed Room และ 2 Bed Room ซึ่งขนาดห้องเริ่มต้นประมาณ 40 ตร.ม. ไปจนถึง 85 ตร.ม. แน่นอนว่าแต่ละห้องก็มีรายละเอียดปลีกย่อยกันไป อันนี้ก็ต้องไปดูกันตามแปลน และตำแหน่งห้องกันอีกที แบบห้อง Standard 1 ห้องนอน ขนาด 46.8 ตารางเมตร แบบห้อง Extra 1 ห้องนอน ขนาด 50.1 ตารางเมตร แบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 78 ตารางเมตร หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออกนะครับ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น แล้วก็มีคอนโด / อพาร์ทเม้นท์สูง 7-8 ชั้น และสูงประมาณ 20 ชั้นอีกตึก ซึ่งอยู่เยื้องๆ ไปทางซ้ายและขวา ไม่ได้อยู่ตรงข้ามโครงการเป๊ะ ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องบังวิวในระยะประชิดเท่าไหร่ ทิศอื่นที่เหลือรอบๆ ก็ไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องถูกบล็อควิว เว้นแต่ฝั่งทิศใต้ ที่กำลังมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานอยู่ ซึ่งน่าจะสูงประมาณ 7 ชั้น ห้องพักทางฝั่งนี้ที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 8 หรือ 9 ลงมาก็คงเสียเปรียบเรื่องวิวไปเลยนะครับ เวลาเรื่องตำแหน่งห้องก็ลองพิจารณาให้รอบคอบก่อนก็ดีครับ ในส่วนของ Facilities ทางโครงการก็จัดมาสมน้ำสมเนื้อครับ ตั้งแต่เรื่องที่จอดรถที่จัดไว้ที่ชั้น 1-5 นับรวมจอดซ้อนคันแล้วก็เห็นว่าจอดได้ถึง 80% เลยทีเดียว นับว่าเยอะดีครับ พื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 23-24 ทั้งสระว่ายน้ำที่ทางโครงการว่าเป็นระบบโอโซน ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด และห้องประชุม แถมด้วยพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนในบริเวณชั้น 1 โดยภาพรวมแล้วถือว่าทางโครงการจัดมาเต็มที่เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ต้องลงไปดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องขนาดของสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ว่าจะสามารถรองรับลูกบ้านได้มากแค่ไหน นอกเหนือจากนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบมาตรฐานทั้ง Keycard Access, Digital Door Lock ฯลฯ ส่วนรายละเอียดและภาพเพิ่มเติมเราจะมีรีวิวแบบทุกซอกทุกมุมมาให้ชมกันอีกครั้งครับ ชั้น 6-21 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ชั้น 23 จะเป็นสระว่ายน้ำ และมีส่วนของห้องพักอาศัยอยู่ด้วย ประมาณ 7 ห้อง หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 23 เลื่อนขึ้นมาที่ชั้น 24 จะเป็นส่วนของ Fitness และห้องประชุม จะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย 4 ห้อง ส่วนชั้นบนสุดที่ชั้น 25 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 8 ห้อง
Maestro 01 เย็นอากาศ : รีวิวคอนโด

Maestro 01 เย็นอากาศ : รีวิวคอนโด

Maestro 01 เย็นอากาศ คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยเย็นอากาศ โครงการใหม่จาก Major Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   4,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 150,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด ลักษณะคอนโด   Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง   88 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 0 - 04 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยเย็นอากาศ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ ที่จอดรถ   ประมาณ 76% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง   50 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน   500 บาท/ตารางเมตร เริ่มก่อสร้าง   เดือนมิถุนายน 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   เดือนธันวาคม 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ เซ็นทรัล พระราม 3 ท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต เทสโก้ โลตัส วิลล่า มาร์เก็ต โรงแรมบันยันทรี โรงแรมสุโขทัย โรงแรมดับเบิ้ลยู โรงแรมเมโทรโพลิแทน โรงแรมดุสิตธานี สถานเอกอัครราชทูต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย สถานเอกอัคราชทูตออสเตรเลีย สถานเอกอัครราชทูตเบลเยียม สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 33.5 – 50.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 68 – 71 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ ขนาด 100 ตารางเมตร 3 ห้องนอน ขนาด 135 – 165 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก ชั้น 1 The Grande Lobby (ล็อบบี้) Mezzanine Exclusive Lounge (พื้นที่รับรองแขกชั้นลอย) Private Mail Box Secure Bike Rack (แร็คจอดจักรยาน) Guard House Launderette ชั้น 2 Marvelous Recreation Pool Revitalized Stream-Sauna Private Changing Room Rooftop Revived Clubroom (คลับรูมอเนกประสงค์) Exquisite Fitness Lounge Peaceful Yoga Lawn Amusing playground Enjoyable BBQ Area Tranquil Pavilion Others Shuttle Service  24/7 Wireless internet  24/7 Security service สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :   02-287-2299 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.mde.co.th
The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

ก่อนหน้านี้เราเคยรีวิวทำเล ในย่านสาทรกันมาแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าหัวมุมถนนสาทร บริเวณแยกสุรศักดิ์มีโครงการหรูอย่าง The Bangkok Sathorn แบรนด์ Hi-End ของ Land and House คราวนี้เราเลยเก็บเอาข้อมูลโครงการมาฝาก เผื่อใครที่กำลังสนใจตัวโครงการ The Bangkok Sathorn อยู่จะได้ใช้ประกอบการพิจารณาเบื้องต้นกันได้บ้าง การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการ The Bangkok Sathorn จัดว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนเมือง เพราะมีให้เลือกได้หลายวิธี ซึ่งจุดเด่นเลยก็คือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS โดยสถานีสุรศักดิ์อยู่ตรงหน้าโครงการพอดิบพอดี เดินออกจากตัวโครงการมาไม่กี่ก้าวก็ถึงบันไดทางขึ้นสถานีแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงจัดว่าเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และกำหนดเวลาได้แน่นอนที่สุด ไม่ว่าจะข้ามไปยังฝั่งธนบุรี หรือเดินทางเข้าสู่ในกลางเมืองก็ง่ายแสนง่าย แบบไม่ต้องเสียเวลาปวดตับกับปัญหารถติดให้มากความ แผนที่โครงการ การเดินทางที่สะดวกที่สุดในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นรถไฟฟ้า BTS นี่แหละครับ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีสุรศักดิ์ มองจากรถไฟฟ้าไปจะเห็นตัวโครงการ The Bangkok ที่กำลังก่อสร้างอยู่เลยครับ นี่แหละครับการจราจรด้านล่าง ดีนะเรานั่ง BTS มา โครงการจะอยู่ฝั่งเดียวกับอาคาร Thai CC ลงมาแล้วเดินมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงตัวโครงการแล้วครับ เห็นชื่อโครงการ The Room สาทร อยู่ด้วยก็อย่างเพิ่งงงนะครับ เพราะสำนักงานขายของโครงการ The Room สาทร ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย ส่วนใครที่ยังติดกับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว เส้นทางบนถนนสาทรใต้โซนนี้ก็จัดว่าเดินทางได้สะดวกไม่แพ้กัน แต่จะติดปัญหามากหน่อยก็ตรงปัญหารถติดบริเวณแยกสุรศักดิ์ที่หนักหนาเอาการ จะว่าไปแล้วตลอดทั้งถนนสาทรก็มีปัญหารถติดเป็นประจำอยู่แล้วตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าและเย็น ยิ่งในช่วงที่เปิดภาคเรียนด้วยแล้ว รับรองว่าติดตั้งแต่เช้ายันสาย และตั้งแต่บ่ายยังค่ำกันเลยทีเดียว ข้อเด่นอีกอย่างของทำเลที่ตั้งโครงการนี้ก็คือ อยู่ใกล้ด่านทางด่วน แค่คุณลูกบ้านของโครงการเลี้ยวซ้ายออกมาตรงแยกสุรศักดิ์แล้วเลี้ยวเข้าถนนเจริญราษฏร์ ก็จะเจอด่านขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านสาทร ข้ามไปฝั่งดาวคะนอง หรือบางนาได้สบายๆ สำหรับเส้นทางการเดินทางบนถนนสาทรซึ่งเป็นถนนใหญ่ การมายังหน้าโครงการทำได้หลายทาง เช่น จากฝั่งพระราม 3 สามารถใช้ถนนเจริญราษฎร์เป็นหลัก พอมาสุดที่แยกถนนสาทรแล้วก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสาทรเหนือ ผ่านไปกลับรถตรงที่กลับรถใกล้ๆ ตึกหุ่นยนต์ แล้วตรงมายังแยกสุรศักดิ์อีกครั้ง หรือถ้าข้ามมาจากสะพานตากสิน ก็ให้ตรงมาบนถนนสาทรเหนือ แล้วมากลับรถที่จุดเดียวกันนี่แหละครับ แต่ถ้ามาจากฝั่งถนนวิทยุ ก็ให้วิ่งมาตามถนนสาทรใต้ รวมถึงมาจากแยกนราธิวาสฯ-สาทร พอเลี้ยวเข้าถนนสาทรใต้แล้ว ก็ตรงมายังตัวโครงการได้เลย ทีเหลือนอกจากนี้ก็เป็นเส้นทางย่อยในซอยเล็กซอยน้อย ซึ่งถ้าพอจะคุ้นเคยกับเส้นทางในระแวกนี้อยู่แล้ว หรืออยู่ๆ ไปซักพักก็คงจะเริ่มชินเส้นทาง และหาเส้นทางเลี่ยงอื่นๆ ได้อีกหลายทาง ยกตัวอย่างเช่น ซอยเซ็นหลุยส์ (ซอยสาทร 11) ที่เชื่อมไปออกถนนจันทน์ หรือถนนปั้นที่เชื่อมถนนสาทร กับถนนสีลมเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงถนนสุรศักดิ์ที่ตรงมาจากถนนพระราม 4 ผ่านถนนสี่พระยา ถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม มาจนถึงแยกสุรศักดิ์ เป็นต้น แผนที่รอบๆ โครงการ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวผมขอเริ่มจากถนนพระราม 4 เราจะมาเลี้ยวซ้ายตรงแยกวิทยุ เพื่อเข้าถนนสาทรใต้กันเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเจอตึก Q House ลุมพินี อยู่ด้านซ้ายมือ ถา้ใครเข้าผิดช่องขึ้นสะพานข้ามแยกไป ก็จะไปทางศาลาแดงเลยครับ พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรใต้แล้ว ครวานี้ก็ตรงยาวเลยครับ ตรงมาจนถึงแยกสาทร เราก็ตรงไปอีกครับ มาจนถึง BTS สถานีสุรศักดิ์ ก็ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยครับ เลยตัวสถานีรถไฟฟ้ามานิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ นอกเหนือจากนี้ก็คือการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ซึ่งหน้าโครงการก็มีให้เลือกใช้บริการได้ตั้งแต่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสองแถว รถเมล์ รถตุ๊กตุ๊ก และรถแท็กซี่ แทบจะตลอด 24 ชั่วโมง วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บริเวณรอบๆ จะมีบรรยากาศแบบเมืองใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม และตึกสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่โชคดีที่โครงการ The Bangkok Sathorn ยึดพื้นที่หัวมุมถนน ทางด้านทิศตะวันตกซึ่งติดกับถนนเจริญราษฎร์จึงเป็นมุมที่มีวิวในมุมกว้างที่สุด ถ้าอยู่ในชั้นสูงๆ ก็อาจจะสามารถเห็นวิวไกลไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ห้องส่วนใหญ่ก็ได้วิวสวยๆ ของในเมืองกันแบบเต็มๆ ตา พื้นที่บริเวณรอบๆ โครงการบรรยากาศคึกคักมากๆ ครับ โดยเฉพาะในวันธรรมดา เนื่องจากอยู่ในย่านที่มีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังใกล้ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และมีชุมชนเก่าแก่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก รถราและผู้คนจึงขวักไขว่แทบทั้งวัน ถัดออกไปทางสถานีรถไฟฟ้าอีกนิดก็จะเป็นอาคาร Thai CC ร้านอาหารไทย Blue Elephant และโรงแรม Eastin ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีโรงแรม Mode Sathorn และอาคารสำนักงาน รวมถึงโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนด้วย ที่ว่ามาทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่ยังไม่พ้นสถานีรถไฟฟ้าดีเลยนะครับ ยังแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญๆ มากขนาดนี้ และถ้าเลยไปทางแยกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ความพรั่งพร้อม และความเจริญแบบใจกลางเมืองก็จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เอาเป็นว่าแค่ระยะห่างจากโครงการไม่เกิน 2 กิโลเมตร ก็มีทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ให้เลือกเพียบ รวมถึงอาคารสำนักงานใหญ่ๆ สถานฑูต แถมด้วยวัดวาอารามก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย ความเพียบพร้อมในเรื่องทำเลจึงหายห่วงได้เลยครับ อาคาร Thai CC เป็นอาคารสำนักงานที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ขยับออกมาอีกหน่อยก็จะเป็นโรงแรม Eastin ตึกเหลืองๆ นี่คือตึก King Royal Garden Inn มี Family Mart และร้านขายของอยู่หน้าตึกให้พอฝากท้องได้บ้าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จะอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ที่ติดกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมีโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่คือโครงการ Diplomat Sathorn ของ KPN Group แต่ถ้าใครที่ยังติดบรรยากาศแบบชุมชนอยู่หน่อยๆ เลยไปทางฝั่งบางรัก บนถนนเจริญกรุงก็ยังคงได้บรรยากาศของชุมชมดั้งเดิม มีทั้งตลาดสด และร้านอาหารเจ้าดังให้เลือกอร่อยอีกเพียบ รวมถึงฝั่งถนนจันทน์ก็ได้อารมณ์ย่านชุมชนไม่ต่างกันครับ (ดูทำเลฝั่งถนนจันทน์เพิ่มเติมได้ที่นี่ Click!!) แต่ด้วยความที่ทำเลตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นใจกลางเมืองมากๆ บรรยากาศจึงคึกคัก และรถติดหนักในวันธรรมดาแทบจะตลอดทั้งวัน กลับกันที่วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์บรรยากาศรอบๆ จะเงียบเหงาขึ้นมาทันตา อาหารการกินแบบง่ายๆ ในรูปแบบ Street Foods ร้านค้าแผงลอย อาจจะหาที่พึ่งพายากหน่อย จะซื้อกับข้าวกับปลาแบบง่ายๆ อาจจะต้องขับรถ นั่งรถไปที่บางรักน่าจะมีหวังให้ฝากท้องได้ง่ายกว่า รวมถึงราคาก็ย่อมเยากว่าฝั่งสีลมเป็นไหนๆ แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนก็อาจจะต้องคำนวนเส้นทางกันนิดหน่อย จะเลี้ยวแยกไหน กลับรถฝั่งไหน เข้าซอยไหนดี เพราะถ้าขับเลยหรือเลี้ยวผิดอาจได้กลับรถกันหลายรอบ แต่ถึงยังไงระยะทางที่ต้องไปกลับรถก็ไม่ได้ไกลมากไปกว่าต้องเจอปัญหารถติดหนักหรอกครับ ภาพรวมตัวโครงการ มาถึงตัวโครงการกันบ้าง The Bangkok Sathorn เป็นโครงการ High Rise สูง 50 ชั้น ที่ออกแบบมาให้ห้องส่วนใหญ่ของทางด้านทิศตะวันตกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ก็คงต้องเป็นชั้นที่สูงๆ ขึ้นไปหน่อยนะครับ เพราะถึงจะไม่มีตึกสูงตั้งประชิดในด้านนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตึกสูงอยู่ในระยะที่สามารถบังวิวเลยซะทีเดียว รายละเอียดของตัวโครงการแบบคร่าวๆ ตอนนี้คาดว่าโซนด้านหน้าบริเวณชั้นล่างของโครงการ ทาง Land and House จะจัดสรรให้เป็นส่วนของ Retail ซึ่งทางโครงการจะเป็นผู้บริหารเอง คาดว่าจะมีทั้ง Super Market ร้านอาหาร ร้านซักรีด หรือร้านกาแฟ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกบ้านให้มากขึ้น มาดูแปลนที่ชั้น G กันก่อน นอกจาก Lobby และก็อย่างที่บอกนะครับว่าจะมี Super Market ร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ อยู่ที่ชั้นนี้ ที่ชั้น 3-5 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด รวมแล้วจอดได้ประมาณ 120% หน้าตาของ Lobby ด้านของ  Facilities ก็จัดมาแบบเต็มที่ไม่แพ้กัน ด้วยส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบรนด์ของโครงการที่ต้องการโชว์ความหรูหรา อลังการ ส่วนกลางจึงมีทั้ง สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องซาวน่า และห้องสตรีม โดยพยายามจัดให้พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ มีน้ำล้อมรอบประหนึ่งว่าอยู่บนเกาะอย่างไงอย่างงั้น ส่วนที่จอดรถก็มีมากขึ้น 120% แบบยังไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งทางโครงการสร้างอาคารจอดรถแยกออกมาต่างหาก ในขณะที่ชั้นบนสุดของอาคารจอดรถยังทำเป็นสวนขนาดใหญ่ คุยว่าสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ๆ เพื่อให้ความร่มรื่นแก่ลูกบ้าน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของส่วนกลางในตึกพักอาศัยได้ด้วย ชั้น 6 จะเป็นชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ จะมีสวนขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องซาวน่า และห้องสตรีม อยู่ที่ชั้นนี้ สวนขนาดใหญ่ที่ทางโครงการจะวางไว้บนชั้น 6 ห้องฟิตเนสบนชั้น 6 ต่อมาที่ชั้น 7-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ขึ้นมาที่ชั้น 32-32A จะเป็นชั้นที่มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge 2 สระอยู่ขนาบทั้ง 2 ข้าง สระว่ายน้ำบนชั้น 32 วิวสระว่ายน้ำอีกสระ สูงขึ้นมาอีกที่ชั้น 34-40 ก็จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยอีกชุดนึงครับ   ส่วนความเหนือระดับในด้านอื่น ทาง The Bangkok Sathorn ก็จัดเตรียมเอาไว้เต็มพิกัดให้สมกับฐานะราคา เรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ความสะดวกสบายนับว่ามีพร้อมแทบจะทุกด้านที่สามารถนึกออกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าโครงการระดับนี้ ห้องที่เปิดมาในขนาดเริ่มต้นที่ 1 ห้องนอนก็มีขนาด เกือบ 60 ตร.ม. แล้วครับ อย่างไรแล้วลองดูรายละเอียดโครงการที่เรารวบรวมมาให้เพื่อทดสอบความสนใจในเบื้องต้นกันก่อน ส่วนบรรยากาศโครงการจริง และห้องตัวอย่าง รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไว้โอกาสหน้า ทีมงานจะรีบเข้าไปเก็บภาพทุกซอกทุกมุมมาฝากกันครับ
The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

พรีวิวคอนโดโครงการใหม่วันนี้ เราจะพาไปดูโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ อีกหนึ่งคอนโด High Rise จาก Land and House ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ที่ซอยจันทน์ 18/7 แยก 1 คนในระแวกนี้มักจะเรียกกันติดปากว่า “ซอยเซนต์หลุยส์” หรือถ้าจะให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น ก็ต้องบอกว่าอยู่ท้ายๆ ซอยสาทร 11 นั่นเอง การเดินทาง ถ้าดูจากแผนที่เราจะเห็นได้ว่า ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่สะดวกมากๆ เพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน สามารถเข้าออกโครงการได้หลายทาง และถนนรอบๆ ยังเชื่อมต่อถึงกันทำให้มีเส้นทางเลี่ยงลัดเลาะไปออกถนนสายหลักได้อีกหลายเส้นทางเช่นกัน ถ้าใครที่พอจะคุ้นเคยเส้นทางในย่านนี้อยู่แล้วก็น่าจะเข้าใจถนนหนทาง ซอกเล็ก ซอยน้อยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ที่ตั้งโครงการอยู่ถัดเข้ามาจากปากซอยจันทน์ 18/7 ประมาณ 150 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมแยก 1 พอดิบพอดี ถนนหน้าโครงการเป็นถนนในซอยเล็กๆ ซึ่งเชื่อมไปยังซอยจันทน์ 24 หรือซอยเย็นจิตได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถเลือกเข้าโครงการได้ทั้ง 2 ซอย โดยเส้นทางหลักๆ ของถนนด้านนี้ก็คือ ถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ที่ตัดผ่านย่านชุมชนที่พักอาศัยดั้งเดิม ยาวไปตั้งแต่ปากตรอกจันทน์ ตัดผ่านถนนเจริญราษฎร์ แยกสาธุประดิษฐ์ และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ไปจนถึงนางลิ้นจี่นู่นเลยครับ ส่วนทางด้านถนนสาทร เราสามารถเลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 แล้วตรงมาตามถนนในซอยอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวโครงการครับ ส่วนเส้นทางลัดเลาะออกซอยนั้นเข้าซอยนี้ ก็ยังมีอีกหลายทาง เช่น ทางซอยนราธิวาสฯ 8 และ 10 ที่ตัดมาเข้ากลางซอยได้เลย หรือจะเป็นเส้นทางในซอยเย็นจิตที่สามารถลัดไปออกถนนเจริญราษฎร์ได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าใครที่ใช้รถส่วนตัวอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ทำเลในแถบนี้ถือว่าเดินทางได้ง่ายดีครับ ใกล้ใจกลางเมืองและแหล่งชุมชน มีเส้นทางให้ซิกแซกหนีรถติดกันสนุกเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัว การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนท้องถิ่นก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะมีรถสองแถววิ่งผ่านโครงการตลอดทั้งวัน ซึ่งสายหลักๆ ที่น่าจะได้พึ่งพาอาศัยแน่ๆ เลยก็คือ สาย 1256 เพราะวิ่งผ่านโครงการไปออกถนนสาทร และสุดสายที่ท่าน้ำสะพานตากสิน ดังนั้นถ้าต้องการจะไปต่อรถไฟฟ้า BTS ก็สามารถใช้บริการรถสองแถวสายนี้ไปลงยังสถานีสุรศักดิ์ หรือสถานีตากสินก็ได้ครับ แต่ถ้ากังวลกับปัญหารถติดก็ต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างซึ่งตั้งวินอยู่หน้าโครงการเลย รับรองว่ารวดเร็วทันใจแน่ๆ ในขณะเดียวกันก็ยังมีรถตุ๊ก ตุ๊ก และแท็กซี่วิ่งผ่านไปมาขวักไขว่ หาเรียกได้ง่ายมากๆ ชนิดที่ไม่ต้องกลัวถูกโชเฟอร์ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารกันเลย เพราะพลาดคันนี้เดี๋ยวคันหลังก็มีให้โบกตามมาติดๆ หรือถ้าเดินออกมาทางปากซอยจันทน์ 18/7 อีกหน่อย ก็จะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางด้วยรถสองแถวได้มากขึ้น เพราะมีสองแถวอีกหลายสายที่วิ่งไปทั้งฝั่งพระราม 3 และฝั่งเจริญกรุง รวมถึงรถเมล์ก็มีกับเค้านะครับ ถึงแม้จะมีแค่สาย 35 วิ่งผ่านมาแค่สายเดียวก็เถอะ ลงทางด่วนถนนจันทน์มาที่ถนนเจริญราษฎร์ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจันทน์เลยครับ การเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพจัดว่าสะดวกดีเพราะด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ตรงนี้เลยครับ ถ้าจำกันได้ จากแยกนี้ถ้าตรงไปเราก็จะไปเจอกับโครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ แต่เราลองไปสำรวจทางซ้ายกันบ้างดีกว่า บนถนนจันทน์มี Community Mall เปิดใหม่ ชื่อ Vanilla Moon มีทั้งร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbuck, Max Value และร้านอาหารอีกหลายร้าน ดึกๆ ด้านบนดาดฟ้าก็มี Roof Top Bar ไว้ให้นั่งรับลมชิวๆ ได้ด้วย ซึ่งน่าจะพอให้พึ่งพา และเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ง่ายๆ ของคนในย่านนี้ครับ ทำเลแถบนี้เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ครับ บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้าจึงเต็มไปหมด แถมด้วยสถาบันการเงินที่มีให้เลือกครบทุกธนาคาร นี่แค่ถนนสายสั้นๆ สายเดียวยังมีธนาคารตั้งติดๆ กันเยอะขนาดนี้ คงไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าทำเลนี้เป็นย่านทำมาค้าขายที่คึกคักมากแค่ไหน ถ้าเราวิ่งตามถนนจันทน์มาเรื่อยๆ จะเจอกับสี่แยกไฟแดงแรกที่ซอยจันทน์ 18/7 หรือที่คนแถวนี้เค้าเรียกกันว่า ซอยเซนต์หลุยส์ แยกนี้ถ้าตรงไปจะไปตัดกับถนนสาธุประดิษฐ์และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ตามลำดับ หรือถ้าเลี้ยวไปทางขวาก็จะเข้าซอยอยู่ดี ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่เก่าแก่ที่อยู่กันมานานแล้ว ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปออกถนนสาทรได้ ซึ่งเราจะพาไปดูบรรยากาศในซอยเซนต์หลุยส์กันก่อนดีกว่า พอเลี้ยวซ้ายมาถนนจะเหลือแค่ 2 เลนเล็กๆ แต่ปริมาณรถในซอยนี้ไม่ได้เล็กตามถนนนะครับ เพราะซอยนี้ลัดไปออกถนนสาทร ถนนนราธิวาส และถนนเจริญราษฎร์ได้ รถราเลยขวักไขว่ตลอดทั้งวัน เลี้ยวเข้าซอยจันทน์ 18/7 มาประมาณ 150 เมตร จะเห็นป้ายคอนโด The Room สาทร-เซนต์หลุยส์อยู่ตรงหัวมุมจันทน์ 18/7 แยก 1 ชัดเจน ทางเข้าโครงการอยู่ในซอยจันทน์ 18/7 แยก 1 นะครับ ซึ่งซอยนี้เชื่อมต่อไปถึงซอยจันทน์ 24 หรือซอยเย็นจิตได้ด้วย ดังนั้นทางเข้าออกโครงการนี้จึงเข้าได้ทั้ง 2 ทาง ปัจจุบันตัวโครงการเริ่มทำการก่อสร้างแล้วนะครับ ส่วนสำนักงานขายนั้นจะไปอยู่ที่ถนนเจริญราษฎร์ ใช้สำนักงานขายเดียวกับ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ คือสำนักงานเขตสาทร เวลาจะติดต่องานราชการของเขตนี้ก็สะดวกเลย ถ้าใครต้องการความรวดเร็ว ใกล้ๆ คอนโดก็มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ด้วยนะครับ ราคาก็ตามป้ายนี้เลย ออกจากจันทน์ 18/7 แยก 1 แล้วเราไปดูในซอยเซนต์หลุยส์กันต่อครับ ในซอยก็เป็นถนนสองเลนตลอดสาย สองฝั่งถนนมีร้านค้า ร้านอาหารเพียบครับ จัดว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ บรรยากาศตอนเช้าๆ และช่วงเย็น การจราจรในซอยจะติดมากหน่อย เพราะในซอยนี้รวมเอาตลาดสด และโรงเรียนใหญ่ๆ ไว้ในซอยเดียวกันเลย ช่วงเช้าถ้าจะรีบไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ก็อาจจะต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซค์เพื่อทำเวลากันหน่อย ลึกเข้ามาในซอยเซนต์หลุยส์ก็จะเห็นว่ามีร้านขายของเต็มไปหมด ทั้งคลินิค ร้านขายยา ร้านขายอะไหล่รถ ร้านอาหารริมทาง รวมไปถึงธนาคารสาขาย่อยก็มีมาเปิดในซอยนี้อีกหลายเจ้า รถราในซอยจึงมีมากตลอดทั้งวัน ช่วงกลางๆ ซอยจะเป็นถนนวันเวย์นะครับ เป็นบล็อคเล็กๆ ให้เดินรถทางเดียวเพื่อแยกไปออกถนนสาทร และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้ เราเลี้ยวตามทางวันเวย์มาเรื่อยๆ จะเห็นว่าถนนจะแคบลงเล็กน้อย แถมยังมีร้านค้าที่เปิดกันมานานอีกเลยมีรถจอดริมถนนบ้าง การจราจรในซอยอาจจะติดขัดบ้างเป็นบางครั้ง ช่วงถนนวันเวย์สั้นๆ ในซอยเซนต์หลุยส์ซึ่งเต็มไปด้วยร้านเก่าแก่อย่างที่บอกนี่แหละครับ มาถึงตรงนี้ ถ้าเลี้ยวขวาตามทางวันเวย์ไปก็จะกลับไปออกถนนจันทน์เหมือนเดิม หรือแยกไปออกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซอย 10 ก็ได้เช่นกัน แต่เราจะเลี้ยวซ้ายไปออกถนนสาทรกันครับ เลี้ยวมาแล้วบรรยากาศโดยรอบก็จะคล้ายๆ กันครับ มีร้านค้าเต็มสองข้างทาง เป็นย่านชุมชนที่อยู่กันอย่างเหนียวแน่นมายาวนานมาก ช่วงปากซอยสาทร 11 จะมีคิวรถสองแถวจอดรถรับคนด้วย ซึ่งก็เป็นสายเดียวกับที่วิ่งไปรถไฟฟ้าสถานีตากสินนั่นแหละครับ เพียงแต่ขากลับมาจะมีคิวรถรอรับคนตรงนี้อีกช่วงหนึ่ง นอกจากคิวสองแถว ก็มีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วย ซึ่งหัวมุมถนนด้านนี้จะเป็นอาคารสำนักงานของ AIA นะครับ สร้างใกล้จะเสร็จแล้ว อีกหน่อยผู้คนคงมากมายขึ้นอีกหลายเท่า ออกจากซอยสาทร 11 ซึ่งถูกบังคับเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางสะพานตากสิน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรมาแล้ว บรรยากาศริมถนนช่วงนี้ยังคงคึกคักนะครับ เพราะยังใกล้โรงเรียนอยู่ และก็ยังอยู๋ติดกับโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์อีกด้วย จึงมีทั้งร้านสะดวกซื้อ และหาบเร่แผงลอยเต็มไปหมด ซ้ายมือนี่แหละครับ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ซึ่งมีวิทยาลัยการพยาบาลอยู่ด้วย บอกแล้วว่าย่านนี้โรงเรียนน้อยใหญ่เต็มไปหมด ที่เห็นถนนโล่งๆ นี่เราเดินทางมากันช่วงบ่ายนะครับ ปริมาณรถบนถนนเลยน้อยหน่อย เลยจากโรงพยาบาลมาอีกหน่อย ก็จะถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์แล้ว ซึ่งสถานีนี้ก็มีความสำคัญมากพอตัวเลย เพราะใกล้ทั้งโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และอาคารสำนักงานใหญ่ๆ อย่าง Thai CC Tower และยังเชื่อมต่อกับโรงแรม Eastin อีก รถราและผู้คนบริเวณรอบสถานีนี้จึงมากเป็นพิเศษครับ เรื่องการเดินทางของโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ จัดว่าสะดวกเข้าขั้น จะติดก็แต่ปัญหารถติดหนักๆ ตอนช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะถนนในซอยตรงช่วงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญประถมไปจนออกถนนสาทรจะถูกปรับให้เดินรถทางเดียว เนื่องจากปริมาณรถที่มารับส่งนักเรียนทั้งเช้าและเย็นมีเป็นจำนวนมาก รถเลยติดกันนานหน่อย อีกทั้งบริเวณรอบๆ นี้ก็มีโรงเรียนอยู่อีกหลายแห่ง จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถาบันการศึกษามารวมตัวกันได้มากขนาดนี้  เรื่องรถติดเลยต้องทำใจกันไว้บ้างครับยังไงก็ต้องเจอไม่มากก็น้อย วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ อย่างที่บอกไปแล้วว่า โครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเก่าแก่ของถนนจันทน์ บริเวณรอบๆ ที่ตั้งโครงการจึงเต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหารดั้งเดิมที่เปิดกิจการกันมายาวนาน กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่รวบรวมสาธารณูปโภคต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน เริ่มกันต้งแต่เรื่องปากท้อง ข้าวปลาอาหารการกินในย่านนี้รับรองว่าไม่มีขาด เพราะมีร้านค้า แผงลอยเปิดขายหมุนเวียนกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปยันค่ำมืด เอาอย่างคนขี้เกียจมากหน่อย แค่เดินออกมาหน้าโครงการก็มีให้เลือกกินได้อย่างน้อย 3-4 ร้านเข้าไปแล้ว แต่ถ้าขยันเดินอีกนิด ออกมาทางตลาดสะพาน 3 ริมถนนจันทน์ รถเข็นขายอาหารในช่วงเย็นๆ ไปจนค่ำนั้นมีมากจนเลือกกันไม่หวาดไม่ไหวกันเลย หรือถ้านึกขยันอยากลุกขึ้นมาเข้าครัวทำกับข้าวกินเอง เช้าๆ ก็มีตลาดเช้าในซอยเซนต์หลุยส์ ห่างจากตัวโครงการไปแค่ 200 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าตื่นไม่ทันตลาดเช้า ก็ยังมีตลาดเย็นตรงสี่แยกถนนจันทน์ตัดกับซอยจันทน์ 18/7 นั่นแหละครับ แถมยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตอีก แค่นี้ก็นับว่ามีทางเลือกมากเกินพอแล้ว โรงเรียนพาณิชย์อยู่ติดกับตลาดสดเลยครับ เช้าๆ นี่คึกคักจนรถติดเอาเรื่องอยู่ เพราะมีคนมาจับจ่ายซื้อของกันมากมาย ที่เดินในภาพเป็นรถสองแถวสาย 1256 ครับ วิ่งผ่านตลอดซอยแล้วไปสุดสายที่สถานีรถไฟฟ้าตากสินนู่นเลย ถ้าไม่ใช้รถส่วนตัวก็มีรถสองแถวนี่แหละครับเป็นที่พึ่งในการเดินทางที่ประหยัดมากๆ บรรยากาศตอนสายๆ ครับ จะเห็นว่ามีรถเยอะพอสมควรเลย ตลาดเช้ายังไม่วายดี ตรงนี้เป็นแหล่งซื้อหาอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของคนในย่านนี้ครับเพราะมีของอร่อยๆ เพียบ นอกจากเรื่องอาหารการกินที่หายห่วงไปได้แล้ว เรื่องแหล่งช็อปปิ้ง ที่แฮงค์เอ้าท์ก็มีอยู่ไม่ไกลเช่นกัน เริ่มจากที่ใกล้ๆ ก็ Community Mall เปิดใหม่บนถนนจันทน์ ชื่อ Vanilla Moon ที่เราสามารถพึ่งพาได้แบบไม่ต้องดั้นด้นไปไกลนัก แต่ถ้าอยากช็อปให้เป็นเรื่องเป็นราวมากหน่อย ก็มีห้างเซ็นทรัล และเทสโก้ โลตัส ให้เป็นอีกตัวเลือกที่อยู่ออกไปทางฝั่งพระราม 3 รวมถึงอีกหนึ่ง Community Mall อย่าง The Up ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้แหล่งชิวสุดฮิตของคนกรุงอย่าง Asiatique The River Front ก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินทางได้สะดวก ถ้าไม่ติดปัญหารถติดนะครับ เรื่องกินเรื่องเที่ยวในย่านนี้จึงครบเครื่องดีทีเดียว Vanilla Moon คอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งใหม่บนถนนจันทร์ Asiatique The Riverfront ที่เดินเล่นชิลๆ พร้อมร้านอาหารมากมาย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถัดจากเรื่องกินเรื่องเที่ยว สถานที่สำคัญๆ ในบริเวณรอบๆ โครงการก็มีไม่น้อยเช่นกัน เริ่มจากสถานศึกษาเผื่อไว้สำหรับคนที่มีครอบครัว และมีลูกหลานอยู่ในวัยเรียน ซึ่งก็มีตัวเลือกมากมาย ตั้งแต่ โรงเรียนอัสสัมชันแผนกประถม ที่อยู่ในซอยเดียวกัน หรือจะเป็นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนบนถนนสาทร โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ และโรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้ง แผนกสามัญ และแผนกสองภาษา ซึ่งล้วนแต่เป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังในย่านนี้ทั้งนั้น อีกทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติอย่าง Shrewbury International School และ New Sathorn Internation School ไว้เป็นอีกทางเลือก ในขณะที่โรงเรียนรัฐบาลในบริเวณรอบๆ ก็ยังมี โรงเรียนวัดสุทธิวราราม โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ไปจนถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตพระนครใต้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างโรงเรียนคร่าวๆ เท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วยังมีโรงเรียนอีกนับสิบในย่านนี้ที่เรายังไม่ได้เอ่ยถึง รวมไปถึงธนาคารที่ตั้งเรียงติดๆ กันเป็นแถว มีให้เลือกทุกสถาบัน แล้วไหนจะโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์อีกที่ตั้งอยู่ปากซอยสาทร 11 เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาก็วิ่งมาหาหมอได้ไม่ลำบากเลยครับ เอาเป็นว่าสาธยายกันมาคร่าวๆ แค่นี้ก็น่าจะพอนึกภาพรวมกันออกแล้วนะครับ เพราะรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆ อาจจะต้องลองไปสำรวจด้วยตัวเองดูซักครั้ง เผื่อจะใช้ประกอบการตัดสินใจด้วยว่าจะชอบไม่ชอบทำเลยย่านนี้มากน้อยแค่ไหน โรงเรียนอัสสัมชัญประถม อีกหนึ่งโรงเรียนใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ในซอยเซนต์หลุยส์กับเค้าด้วย ช่วงเช้าและเย็นถนนบริเวณหน้าโรงเรียนไปจนออกถนนสาทรจะถูกปรับให้เดินรถทางเดียวนะครับ ใครที่จะออกสาทรก็ต้องเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ข้างโรงเรียนไป ซึ่งมีคุณตำรวจจราจรคอยควบคุมการจราจรอยู่ทุกวัน ภาพรวมตัวโครงการ สำหรับ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ เป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ ซึ่งมียูนิตรวมทั้งหมด 376 ยูนิต จากแปลนจะเห็นว่า ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ทางฝั่งซอยจันทน์ 18/7 ติดกับธนาคาร UOB นะครับ ไม่ใช่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานเขตสาทรอย่างที่เข้าใจแต่แรก พื้นที่รอบๆ โครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 4 ชั้น จะมีตึกที่สูงหน่อยก็แค่ตึกของสำนักงานเขตสาทรเท่านั้นครับที่สูง 10 ชั้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตเรื่องทิศทางวิว เพราะไม่มีห้องพักไหนหันหน้าเข้าด้านนั้นในระยะประชิด จึงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกบังวิวสวยๆ ไป มาดูที่ชั้น G กันก่อนนะครับ ด้านหน้าโครงการจะมีสวนสีเขียวขนาดใหญ่ทางโครงการจะทำเป็นอาคารรับรอง หรือ Serene Garden ไว้สำหรับเป็นที่พักผ่อนและจุดนัดพบได้ ส่วนด้านในจะเป็น Lobby และที่จอดรถตั้งแต่ชั้น G ขึ้นไปถึงชั้น 4 รองรับรถได้ประมาณ 70% Serene Garden ด้านหน้าโครงการ Main Lobby ที่ชั้น G Facilities หลักๆ ทั้งหมดของโครงการจะรวมไว้ที่ชั้น 5 ซึ่งก็มีทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือ ห้องฟิตเนส กับห้องอบไอน้ำแยกชายหญิง โดยที่พื้นที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้นแรกมาจนถึงชั้นที่ 4 ซึ่งนับรวมแล้วทางโครงการแจ้งว่าสามารถรองรับปริมาณการจอดรถได้ถึง 70% เลยทีเดียว นับว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยถ้าเทียบกับคอนโดอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าใครที่เลือกห้องในชั้นนี้ก็อาจจะต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่ต้องสูญเสียไปบ้างจากการที่ห้องอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะห้องที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ แต่ยังไงก็แลกมาด้วยวิวที่อาจจะดูสบายตามากขึ้นมาหน่อย ที่ชั้น 5 อย่างที่บอกจะเป็นชั้นที่รวม Facility หลักของโครงการไว้ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องอบไอน้ำ รวมถึงเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วย วิวสระว่ายน้ำบนชั้น 5 ภาพอีกมุมของพื้นที่รอบๆ สระว่ายน้ำ ตั้งแต่ชั้น 7-24 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จะมีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift อีก 1 ตัว นอกเหนือจากนี้เรื่องแบบห้อง ทางโครงการก็เตรียมเอาไว้ 2 แบบ คือห้องแบบ 1 ห้องนอน และแบบ 2 ห้องนอน ขายกันมาแบบ Fully Fitted มีชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาให้ ที่เหลือก็ต้องไปตกแต่งกันเอง อ้อ! ลืมบอกไปว่า ทางโครงการจัดเตรียมสวนหย่อมเอาไว้บริเวณด้านหน้าโครงการด้วย ถือเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้ ซึ่งเราก็เอาภาพบรรยากาศจำลองจากทางโครงการมาให้ชมกันคร่าวๆ ก่อน รวมถึงแบบแปลนของห้องพักในแต่ละชั้นด้วย ส่วนห้องตัวอย่างของโครงการ The Room สาทร-เซนต์หลุยส์ ทีมงานจะรีบตามไปเก็บทุกรายละเอียดเอามาฝากกันในรีวิวฉบับต่อไป ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันให้ดีนะครับ หรือถ้าไม่อยากพลาดก็อย่าลืมไปกด Like เป็น Fanpage ของพวกเราได้ที่  www.facebook.com/reviewyourcondo Type 1A 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.90 ตารางเมตร Type 2A 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 63.80 ตารางเมตร Type 2B 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 66.70 ตารางเมตร Type 2C 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 66.70 ตารางเมตร
Rhythm สาทร – นราธิวาส : รีวิวคอนโด

Rhythm สาทร – นราธิวาส : รีวิวคอนโด

โครงการ: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 3,720,000 บาท บาท/ตารางเมตร 110,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise จาก AP ใกล้ศูนย์แหล่งธุรกิจย่านสาทร สีลม เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ปีที่สร้างเสร็จ ที่ตั้ง: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 0 - 55 ไร่ ที่ตั้ง Rhythm สาทร - นราธิวาส ซอยนราธิวาส 7 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.718809, 100.532786 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS ช่องนนทรี   สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ช่องนนทรี Empire Tower Makro โรงพยาบาล BNH   ลักษณะโครงการ: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 35 – 38.50 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 46.50 – 60.50 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 27 ชั้น จำนวนห้อง 301 ยูนิต   ส่วนกลาง: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 48.6% รวมจอดซ้อนคันได้ 59% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 55 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำชั้น 27 ห้องฟิตเนสชั้น 27 ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว มี 1 ลิฟท์บริการ สวนสาธารณะและสระน้ำเล็กๆชั้น 7 ที่จอดรถเข้าช่องจอด 48.6% รวมจอดขวางได้ 59% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Rhythm สาทร - นราธิวาส (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.apthai.com ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555
THE HUDSON SATHORN 7 : รีวิวคอนโด

THE HUDSON SATHORN 7 : รีวิวคอนโด

THE HUDSON SATHORN 7 คอนโด High Rise สูง 12 ชั้น โครงการใหม่จาก B.P. Propertyในซอยสาทร 7 คอนโดสร้างก่อนขาย ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อยเพียง 49 ยูนิต รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  5,990,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 130,000 บาท เจ้าของโครงการ  B.P. Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 12 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  49 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด  1 - 1 - 24 ไร่ ที่จอดรถ  74 คัน (หรือคิดเป็น 151 %) ที่ตั้งโครงการ  ซอยสาทร 7 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2557 (สร้างเสร็จก่อนขาย) ค่าบำรุงส่วนกลาง  90 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน  550 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Sathorn City Empire Tower Sathorn Square สถานทูตสิงคโปร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน  ขนาด 55 - 62 ตารางเมตร 2 ห้องนอน  ขนาด 74 - 147 ตารางเมตร 3 ห้องนอน  ขนาด 142 - 197 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ Fitness Access Key Card Security Guard & CCTV 24 Hour สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 098-554-5228 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.thehudsonsathorn.com
The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Bangkok Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 12,900,000 บาท บาท/ตารางเมตร 218,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโดหรูสูง 50 ชั้น ใจกลางสาทร จาก Land & House ใกล้ BTS สุรศักดิ์ และแหล่งธุรกิจกลางใจเมือง ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2560 ที่ตั้ง: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 4 - 3 - 79 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.718819,100.520391 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สุรศักดิ์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงแรม Eastin   ลักษณะโครงการ: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 59 – 67 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 106 – 152 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 50 ชั้น จำนวนห้อง 468 ยูนิต ส่วนกลาง: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 120% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 70 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 800 บาท   สาธารณูปโภค Retails ที่ชั้น G ส่วนกลางทั้งชั้น 6 และชั้น 32, 32A สระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องออกกำลังกาย ห้องโยคะ ห้องนั่งเล่น Sky Lounge Sky Deck สวนหย่อมรอบโครงการ สวนใหญ่ชั้น G, 6 ลิฟท์โดยสาร 14 ตัว อัตราส่วนประมาณ​ 33:1 ที่จอดรถ 120% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: The Bangkok Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lh.co.th/condo/TB/t ข้อมูล ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2557
Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้นประมาณ 4,510,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 125,000 บาท เจ้าของโครงการ SC Asset Public Company Limited. จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 28 ใจกลางสาทร จาก SC Asset ใกล้รถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี และ BRT สาทร ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2557 ที่ตั้ง: Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 2 - 1 - 78 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.718572,100.527037 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS ช่องนนทรี, BRT สาทร   สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ BTS สุรศักดิ์ 750 เมตร โรงพยาบาลบางรัก Health Land Double A โรงเรียนเซนต์หลุยส์   ลักษณะโครงการ: Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms 3 Bedroom Duplex ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms 3 Bedroom Duplex จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น อาคาร A สูง 28 ชั้น และ อาคาร B สูง 7 ชั้น จำนวนห้อง 364 ยูนิต ส่วนกลาง: Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด คิดเป็น 55% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 65 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 550 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 20 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 15 เครื่อง สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ : 1 อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 115:1 อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 115:1 Service Lift 1 ตัว ที่จอดรถ 55% คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 60% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1749 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.scasset.com/Condominium/Centric-Sathorn-St.-Louis ข้อมูล ณ วันที่
Condolette Pixel สาทร : รีวิวคอนโด

Condolette Pixel สาทร : รีวิวคอนโด

โครงการ: Condolette Pixel สาทร (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,110,000 บาท บาท/ตารางเมตร 94,400 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จุดเด่น สะท้อนอัตลักษณ์ใหม่กับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่พิเศษเหนือใครด้วย สาธารณูปโภคครบครันบนพื้นที่แห่งความสุขไม่มีวันสิ้นสุด จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ เดือนธันวาคม 2558 ที่ตั้ง: Condolette Pixel สาทร (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3-0-74.8 ไร่ ที่ตั้ง ซอยศรีบำเพ็ญ ถนนพระรามที่ 4 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.718887,100.549468 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ลุมพินี สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล พระราม 3 สวนลุมพินี เทสโก้ โลตัส พระราม 3 ท็อปส์ นางลิ้นจี่ โรงเรียนอนุบาลสานฝัน ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาล BNH ลักษณะโครงการ: Condolette Pixel สาทร (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 22.35 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 22.35 – 35.57 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 45.49 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 345 ยูนิต ส่วนกลาง: Condolette Pixel สาทร (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 117 คัน รวมจอดซ้อนคัน 158 คัน คิดเป็น 45% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Pixel Lobby (พื้นที่ต้อนรับดีไซน์หรู แยกอิสระจากกัน สำหรับทั้ง 2 อาคาร) Fitness Suit (ผ่อนคลายได้สุขภาพในห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน) Chill – out Garden (พักผ่อนตามมิติแห่งอารมณ์ในสไตล์บูตีค) Infinity Edge Pool (สระว่ายน้ำดีไซน์เท่เปิดรับทัศนียภาพมุมกว้าง)   เพิ่มเติม: Condolette Pixel สาทร (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.condolette.com/pixel ข้อมูล ณ วันที่
THAN Living สาทร – เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

THAN Living สาทร – เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

หลังจากที่ดูคอนโดแนวรถไฟฟ้าในแถบชานเมืองกันมาหลายโครงการแล้ว คราวนี้ขอพามาดูโครงการในเขตเมืองกันบ้างนะครับ โครงการ Than  Living สาทร-เจริญราษฏร์ คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น ริมถนนเจริญราษฏร์ ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้ใจกลางเมืองหรือถนนสาทรแค่เอื้อม   การเดินทาง โครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ช่วงระหว่างถนนจันทน์ไปยังถนนพระราม 3 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลอยู่พอสมควร ถ้าเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS พอลงจากสถานีแล้วต้องอาศัยต่อรถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อมายังโครงการแบบไม่ค่อยมีทางเลือก เพราะการเดินเท้าคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ด้วยระยะทาง 2 กิโลเมตร บนเส้นทางถนนเจริญราษฎร์ที่เป็นถนนตัดใหม่และมีบ้านเรือนหรือร้านค้าอยู่ประปรายเนื่องจากเป็นถนนใหญ่ที่อยู่ใต้ทางด่วนคงไม่ใช่เส้นทางที่น่าเดินแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินตอนกลางวันแสกๆ หรือตอนค่ำๆ ก็ตาม อีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็คือ การเดินทางด้วย BRT ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเจริญราษฏร์ แต่ก็มีระยะห่างจากโครงการมากถึง 1.7 กิโลเมตร นับว่าไม่ได้ใกล้กว่ากันเลย และก็ยังต้องต่อรถมายังโครงการเหมือนกันอีกด้วย   การเดินทางที่ดูน่าจะสะดวกที่สุดก็คือ การใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะมีจุดขึ้นลงทางด่วนถึง 2 ด่าน อยู่ใกล้ๆ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนอื่นๆ ได้หลายเส้นทาง ทั้งฝั่งบางนา รามอินทรา ดินแดง หรือแจ้งวัฒนะก็เดินทางได้สะดวกมาก ส่วนเส้นทางราบถนนเจริญราษฎร์ก็เป็นเส้นทางเชื่อมต่อถนนพระราม 3 และถนนสาทรเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังตัดผ่านถนนจันทน์ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่เลี่ยงเข้าเมืองได้ด้วยเช่นกัน ส่วนถ้าจะข้ามไปฝั่งธนบุรีก็ยังมีทางเลือกทั้งสะพานตากสินบนถนนสาทร หรือจะออกถนนพระราม 3 ไปข้ามสะพานกรุงเทพก็ได้อีกเช่นกัน ถ้าใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้ว เส้นทางเลี่ยงลัดเลาะไปยังถนนต่างๆ มีมากเลยครับ เพราะช่วงเวลาเช้าและเย็นบนถนนสาทรนั้นรถติดหนักอย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้ว นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ดูจะไม่มีตัวเลือกมากนักนอกจากบริการรถรับส่งของทางโครงการ ที่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้เพราะทางโครงการยกให้ลูกบ้านและนิติบุคคลเป็นผู้ดูแลกันเองครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้ขอเริ่มจากถนนสาทร บริเวณสถานี BTS สุรศักดิ์ นะครับ เลยจากสถานี BTS มานิดเดียว เราก็จะมาเลี้ยวซ้ายที่แยก สาทร-สรุศักดิ์ เพื่อเข้าถนนเจริญราษฎร์ เลี้ยวซ้ายมาแล้วให้วิ่งตรงยาวไปเลยนะครับ ทางซ้ายจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ฝั่งขาออกไปทางบางนา-ดาวคะนอง หรือถ้าใครสะดวกเดินทางด้วยทางด่วน ก็มาลงที่ถนนจันทร์ เลยนะครับ ลงทางด่วนมาแล้วจะเจอสี่แยกถนนเจริญราษฎร์ตัดถนนจันทร์ ให้ตรงไปทางถนนพระราม 3 ตามป้านเลยนะครับ ทางขวาจะไปถนนเจริญกรุง ส่วนทางซ้ายจะไปสาธุประดิษฐ์ ตรงจากสี่แยกมาก็จะเป็นถนนเจริญราษฎร์ ทีนี้ก็ตรงยาวเลยนะครับ ระยะทางจากจุดลงทางด่วนถึงตัวโครงการประมาณ 1 กม. ก่อนถึงโครงการจะเห็นโรงแรม Best Western Grand Howard อยู่ฝั่งขวามือ ส่วนตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่นั่นคือโครงการ Supalai Lite ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Than Living 1 ใน 3 โครงการที่อยู่ติดกัน โครงการแรก Supalai Lite โครงการต่อมา The Key สาทร-เจริญราษฎร์ จาก Land House อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ตึก ต่อจากโครงการ The Key ก็จะเป็นโครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ แล้วครับ มองจากสำนักงานขายย้อนกลับไปทางฝั่งสาทร จะเห็นโครงการ Supalai Lite กำลังก่อสร้างอยู่ ส่วนโครงการ The Key สาทร ที่อยู่ข้างๆ กันยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง สถานที่ก่อสร้างอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ เพื่อเริ่มก่อสร้างรากฐานอาคาร ตึกแถวข้างๆ โครงการเป็นร้านขายของ และโรงพยาบาลสัตว์ ส่วนการเดินทางจากโครงการไป BRT ก็ตรงไปตามถนนเจริญราษฎร์เลยนะครับ มาถึงตรงนี้จะเป็นสามแยกตัดถนนพระราม 3 เราสามารถเลือกไปได้ทั้ง 2 ทางเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายไปทางคลองเตยจะเป็น BRT สถานีพระราม 9 เลี้ยวขวาไปทางถนนตก มไหสวรรย์ จะเป็นสถานีเจริญราษฎร์ ระยะทางก็พอๆ กันนะครับ แต่ทางสถานีเจริญราษฎร์จะใกล้กว่า ประมาณ 100 เมตร ผมเลือกมาทางสถานีพระราม 9 นะครับ เพราะเลี้ยวซ้ายได้เลย จะได้ไม่ต้องไปติดไฟแดงรอเลี้ยวขวา   วิเคราะห์ตัวโครงการ สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ ต้องบอกว่าอยู่ในย่านชุมชนที่อยู่อาศัยเดิมที่มีมาก่อนจะตัดถนนเจริญราษฏร์ ความเจริญรอบๆ อาจไม่เด่นเท่าถนนนราธิวาสฯ เพราะเป็นถนนเลียบทางด่วน ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในระยะเดินถึงจึงมีให้พึ่งพาไม่มากนัก แต่ถ้าขับรถออกจากโครงการไปหน่อย รับรองว่าวิถีชีวิตแบบคนเมืองมีให้ครบเครื่องเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่แหล่งช๊อปปิ้งอย่าง เซ็นทรัล พระราม 3 โลตัส โฮมโปร โรบินสันบางรัก เอเชียทีค ไปจนถึงเซ็นทรัลสีลม คอมเพล็กซ์ ก็อยู่ไม่ไกลนัก โรงพยาบาลก็มีทั้งของรัฐฯ อย่างโรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ หรือจะเลือกโรงพยาบาลเอกชนก็เช่น โรงพยาบาลเซนหลุยส์ โรงพยาบาลไทยจักษุ ที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง รวมไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน และโรงพยาบาล BNH ที่อยู่แถบสีลมด้วย ส่วนสถานศึกษา โรงเรียนรัฐฯ โรงเรียนเอกชนเล็กใหญ่ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติก็มีอีกเพียบ ไหนจะวัดวาอาราม สุเหร่า โบสถ์ ก็ยังอยู่ในรัศมีที่เดินทางได้สบายๆ และเพราะอยู่ใกล้ย่านชุมชนเดิมบนถนนจันทน์ ร้านค้า ร้านอาหารเจ้าดังๆ เก่าแก่ และตลาดสด ก็มีให้พึ่งพาฝากท้องได้ตั้งแต่เช้ายันดึก ขอแค่ไม่ขี้เกียจขับรถออกมาเท่านั้นแหละ รับรองว่าไม่อดตายแน่นอน ขยับเข้ามาใกล้ๆ ตัวโครงการกันบ้าง ที่ดินติดกันทางด้านซ้ายล้อมรั้วเตรียมขึ้นโครงการ The Key เจริญราษฎร์ ส่วนที่ดินแปลงถัดจาก The Key ไป ที่กำลังก่อสร้างคือ ศุภาลัย ไลท์ สาทร-ถนนจันทน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นตึก High Rise ความสูงเทียบเคียงกัน เรื่องวิวของห้องในมุมด้านนี้จึงบังมุมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่ ยิ่งไปเลือกซื้อห้องขณะที่ยังไม่มีการก่อสร้างแบบนี้ เรียกว่าต้องอาศัยพลังจิต จินตนาการล้วนๆ ว่าตึกข้างๆ จะขึ้นมามุมไหน ยังดีที่มีส่วนของ Facility บนชั้น 6 ซึ่งวางไว้ด้านเดียวกับ The Key มาช่วยเพิ่มระยะห่างระหว่างตึกเข้าไปได้อีกพอสมควร ส่วนด้านอื่นๆ ของโครงการยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะติดกับย่านชุมชนเดิมในพื้นที่ จึงมีแค่บ้านเดี่ยว หรือตึกแถวสูงไม่เกิน 4-5 ชั้นเท่านั้น เท่าที่เห็นก็ยังไม่น่าจะมีโครงการอื่นๆ ที่เป็นตึกสูงขึ้นในระยะใกล้อีก วิวด้านหลังทางฝั่งทิศตะวันออก และทางทิศใต้จึงยังโอเคอยู่ครับ อ้อ! ลืมบอกไปว่าฝั่งตรงข้ามโครงการมีสถาบันเทิงชื่อ X-zyte และร้านอาหารอีสานแนวจิ้มจุ่ม ถึงจะไม่ได้มีเสียงดังรบกวนในตอนกลางคืน แต่เท่าที่รู้มาหน้าสถานบันเทิงก็มีเรื่องตีกันบ่อยเหมือนกันนะครับ กลับบ้านดึกๆ ก็ระมัดระวังกันหน่อยโดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่ต้องกลับบ้านค่ำๆ คนเดียว แบบจำลองโครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ ออกแบบอาคารในสไตล์โมเดิร์น ตัวอาคารฝั่งทิศเหนือจะเห็นว่าตำแหน่งห้องไม่ได้วางไว้ในระนาบเดียวกัน โซนด้านหน้าจะถูกเว้าเข้าไปเล็กน้อย ส่วนนึงก็เพราะเว้นตามพื้นที่ส่วนกลางของชั้น 6 นั่นเอง ที่บริเวณชั้น 6 เป็นแหล่งรวม Facility ต่างๆ ไว้ ทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือ มีสระเด็กให้ด้วย ขนาดของสระมีความยาวประมาณ 20 เมตร จึงเพียงพอที่จะว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ใกล้ๆ กันเป็นห้องโยคะ ห้องฟิตเนส ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องสมุด นอกจากนี้ยังมีสวนหย่อมกระจายอยู่ตั้งแต่ชั้นล่าง ชั้น 6 ไปจนถึงสวนบนดาดฟ้า ที่เปิดรับวิวแบบ Panorama ซึ่งสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลยทีเดียว ส่วนของห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจนถึงชั้น 36 การจัดวางแปลนห้องค่อนข้างเน้นความเป็นส่วนตัวโดยที่แต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 18 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งยูนิตรวมทั้งหมดของโครงการคือ 528 ยูนิต ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย ความหนาแน่นของลิฟท์โดยสารก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดีเหมือนกัน ด้วยจำนวนลิฟท์โดยสาร 4 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1:132 ถือว่าแน่นอยู่เหมือนกัน และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับคอนโดที่อยู่ในทำเลที่ต้องอาศัยรถส่วนตัวเป็นหลักแบบนี้ก็คือ เรื่องที่จอดรถ ซึ่งทางโครงการก็ดูเหมือนจะเข้าใจตรงจุดนี้ดีอยู่แล้ว จึงจัดที่จอดรถไว้มากถึง 68% (นับรวมจอดซ้อนคัน) นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ที่ใช้ระบบ Key Card ในการเข้าอาคาร และมี CCTV ให้อุ่นใจตามมาตรฐานครับ มาดูตัว Plan อาคารกันบ้างนะครับ ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby ร้านค้า และที่จอดรถตั้งแต่ชั้น G - ชั้น 5 ด้านหน้าทางเข้าโครงการ และที่จอดรถขึ้นไปถึงชั้น 5 แบบจำลองทางเข้าโครงการ หน้าตาของ Lobby ต่อที่ชั้น 6 จะเป็น Facility หลักของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องสมุด ส่วนพักอาศัยก็จะเริ่มต้นที่ชั้นนี้นะครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 6 แบบจำลองสระว่ายน้ำ Sky Fitness Private Library ชั้น 7 - 34 จะเป็นส่วนของที่พักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 18 ยูนิตต่อชั้น ชั้น 35 ยูนิตจะลดลงเหลือ 15 ยูนิต มีห้อง Penthouse ขนาด 265 และ 284 ตารางเมตร อยู่ที่ชั้นนี้นะครับ มุมมองจากชั้นสูงๆ ของโครงการ ชั้นสุดท้ายที่ชั้น 36 จะมีเพียง 4 ยูนิตเป็นห้องแบบ Executive ทั้ง 4 ยูนิต Roof Top Garden จุดชมวิวแบบ Panorama บนชั้นดาดฟ้าของโครงการ พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้นั้นมีด้วยกัน 3 แบบ เราเริ่มต้นกันด้วยห้อง Type A แบบ 1 ห้องนอนในขนาดพื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. ตัวห้องวาง Lay out มาเป็นแนวลึก ของที่แถมมาให้พร้อมกับห้องก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วๆ ไปครับ ชุดเครื่องครัว และสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ต้องหามาตกแต่งกันเอง ถ้าไม่ได้มีข้าวของเครื่องใช้มากมาย ห้องขนาดนี้ก็กำลังพออยู่เลย เว้นเสียแต่สมบัติบ้าจะเยอะ งานนี้อาจจัดสรรหาที่เก็บของกันยากหน่อย โชคดีที่ทางโครงการออกแบบให้ฝ้าเพดานของห้องสูงถึง 2.7 เมตร บรรยากาศโดยรวมภายในห้องจึงไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่ ถึงแม้แบบห้องจะเป็นห้องหน้าแคบก็ตาม เรื่องสเปควัสดุแนะนำว่าให้สอบถามและตรวจสอบกับทางโครงการให้ดูนะครับ ว่าชิ้นไหนแถมมาให้พร้อมห้อง หน้าตา สีสันเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่คุยๆ มาดูเหมือนห้องจริงจะไม่เป็นไปตามแบบห้องตัวอย่างหลายจุดเหมือนกัน Room Type A1 ขนาด 29 ตารางเมตร plan ห้อง ประตูจะเป็นแบบ Digital Door Lock เปิดเข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟากำลังดี ชุดสวิตช์และปลั๊กไฟใช้ของ Sierra ทั้งหมด พื้นที่ข้างโซฟาทั้ง 2 ข้าง มีที่เหลือพอให้วางโต๊ะข้างได้ครับ ชั้นวางทีวีเตี้ยๆ อยู่ในระยะสายตาพอดี ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน ซึ่งถูกกั้นพื้นที่ไว้ด้วยผนังครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ วางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังพอดีครับ เหลือพื้นที่รอบเตียงนิดหน่อย ด้านที่ติดกับหน้าต่าง ด้านปลายเตียงเหลือพื้นที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอน คงต้องแขวนอย่างเดียวเลยครับ อีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า มุมมองจากห้องนอนออกมาที่ส่วน Living Area อีกด้านของห้องจัดเป็นโซนห้องครัวและห้องน้ำ เดี๋ยวเราเลี้ยวซ้ายไปดูห้องครัวกับก่อนนะครับ เคาน์เตอร์ครัวแนวยาวไปถึงระเบียง ซิงค์ล้างจานแบบฝัง และเตาไฟฟ้า 2 หัว มาพร้อมฮูดดูดควัน มีระเบียงเล็กๆ อยู่ติดกับห้องครัว ประตูออกไปยังระเบียงเป็นบานพับเล็กๆ จากที่เห็นพื้นที่ระเบียงนั้นแคบมากจนแทบจะไม่เหลือที่ให้ยืนเลย เมื่อวางเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์ลงไปแล้ว ดังนั้นเรื่องพื้นที่ตากผ้าจึงต้องทำใจกันได้เลย เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งกันต่อนะครับ การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ด้วยประตูกระจกแทมเปอร์ ด้านล่างอ่างล้างมือไม่มีตู้ให้นะครับ เป็นพื้นที่โล่งๆ ข้างโถสุขภัณฑ์จะมีที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้ด้วย ชุดฝักบัวจะใช้ของ Sierra ต่อมาเป็น Type C แบบ 1 ห้องนอนเหมือนกัน แต่พื้นที่ใช้สอยจะเพิ่มขึ้นเป็น 41 ตร.ม. Type นี้จะย้ายส่วนครัว กับห้องน้ำมาไว้ที่หน้าห้อง เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L เชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหาร และส่วน Living Area ที่ติดกับระเบียง แต่ระเบียงจะไม่เล็กเหมือน Type A แล้วนะครับ วางเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แล้วยังไม่ที่เหลือให้ทำอย่างอื่นได้อีก ส่วนห้องนอนขนาดกำลังพอดี วางเตียงแล้วด้านที่ติดกับหน้าต่างมีที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานหรือจะเป็น Daybed เอาไว้นอนอ่านหนังสือริมหน้าต่างก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ Type C1 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 41 ตารางเมตร Plan ห้อง เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนครัวก่อนนะครับ ครัวแบบเปิดรูปตัว L แยกซิงค์ล้างจานกับเตาไฟฟ้าไว้คนละฝั่ง ซิงค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้า 2 หัวยี่ห้อ Teka มาพร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน อยู่ติดกับส่วนครัว ถัดไปด้านในเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวี จากมุมมองออกไปหน้าห้อง เราออกมาดูที่ระเบียงกันต่อนะครับ ห้องนี้ระเบียงจะดูกว้างขวางกว่า Type A เพราะจะแยกคอมเพรสเซอร์แอร์ กับจุดที่วางเครื่องซักผ้าออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ด้านซ้ายจะเป็นจุดที่วางเครื่องซักผ้า คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านขวามือ หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาดูในห้องนอนกันต่อนะครับ วางเตียงแล้วพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีพื้นที่เหลือเยอะเลยครับ ด้านที่ติดกับหน้าต่าง โครงการ Built-in โต๊ะทำงานให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้เท่านั้น ทีวีในห้องนอนต้องใช้แบบแขวน อีกด้านของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ถัดไปก็จะเป็นห้องน้ำ ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ด้านนะครับ จากทางห้องนอนและห้องครัว การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนๆ กับห้อง Type A อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ส่วนเปียกจะกั้นด้วยกระจกแทมเปอร์ ขอบปูนกันส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ชุดฝักบัว สุดท้ายเป็นห้อง Type F แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บนพื้นที่ใช้สอยขนาด 70 ตร.ม.  บรรยากาศภายในห้องดูโอ่งโถง โปร่งสบายตา พร้อมเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่ทำให้พื้นที่ในการทำครัวกว้างขึ้น ครัวเป็นแบบเปิดนะครับ เชื่อมต่อกับส่วนของพื้นที่นั่งเล่นพอดี อีกจุดเด่นหนึ่งของห้องนี้ก็คือ ระเบียงที่กว้างขวางสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ขยับเข้ามาที่โซนห้องนอน เริ่มจากห้องนอนเล็ก ที่ขนาดกำลังพอใช้งาน วางตู้เสื้อผ้าและเตียงเข้าไปแล้วยังพอเหลือที่ว่างอยู่บ้าง บรรยากาศภายในห้องจึงไม่อึดอัดจนเกินไป ต่างจากห้องนอนใหญ่ที่พื้นที่ค่อนข้างกว้างมากพอที่จะวางโต๊ะทำงานตัวยาว หรือ Daybed ไว้ที่ริมหน้าต่างได้อีกตัว ส่วนห้องน้ำทั้ง 2 ห้องก็จัดพื้นที่ได้กว้างพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเรียบร้อย โดยรวมแล้วบรรยากาศภายในห้อง Type นี้ น่าอยู่เลยทีเดียว Plan ห้อง เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็น Living Area แต่เราจะไปดูทางขวามือที่เป็นส่วนครัวก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือตรงข้ามครัว จะมีตู้เก็บของ เก็บรองเท้า Built-in ให้ดูเป็นไอเดียอยู่ด้วย มาดูที่ครัวกันเลยดีกว่าครับ ครัว Type นี้จะเป็นรูปตัว L เหมือนห้อง Type C แต่จะใหญ่กว่า มีพื้นที่ให้เตรียมอาหาร ทำอาหารได้มากกว่า และมีโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่านอยู่กลางครัวเลยครับ ทำอาหารเสร็จก็ไม่ต้องเดินไปเสิร์ฟไกล เตาไฟฟ้าจะเป็นเตา 4 หัว ของ Teka ซิงค์ล้างจานแบบฝัง มุมมองจากส่วน Living Area ออกไปที่ส่วนครัว มาดูที่ Living Area ต่อนะครับ ส่วนนี้กว้างขวางมาก สามารถวางโซฟาแบบ L Shape ได้เลย ระยะห่าวระหว่างโซฟากับทีวี สามารถตั้งทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ ระเบียงที่อยู่ติดกับ Living Area ก็ดูกว้างขวางดีนะครับ วางเครื่องซักผ้าแล้วยังมีที่เหลืออีกเยอะเลย อีกฝั่งจะเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ หันหน้าออกนอกระเบียง มีระแนงเหล็กกั้น ทางเดินต่อไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะเจอห้องนอนเล็กก่อนนะครับ แต่ขนาดก็ไม่ได้เล็กเท่าไหร่ วางเตียงแล้วยังพอมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างได้อยู่ ที่ปลายเตียงเหลือให้พอได้เดินได้สะดวก ใช้ทีวีแบบแขวนเหมือนห้องตัวอย่าง จะทำให้ห้องดูโล่งกว่าครับ อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ระยะห่างระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้า ว่างพอให้วางของตกแต่งได้อีกหน่อย ข้ามฝั่งจากห้องนอนเล็กมาอีกด้านจะเป็นห้องน้ำ การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนกันห้องที่ผ่านมา เดินตรงมาที่ห้องนอนใหญ่ จะอยู่สุดทางเดินเลยครับ ห้องนอนใหญ่นี่ก็ใหญ่สมชื่อครับ วางเตียง 6 ฟุตแล้วยังมีที่เหลือให้จัดได้อีกเพียบ ปลายเตียงวางชั้นวางทีวีได้สบายๆ ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง โครงการวาง Daybed ไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ที่ติดกับ Daybed เป็นโต๊ะทำงาน ข้างเตียงอีกฝั่งมีทีเหลือพอให้วางโคมไฟหรือจะเป็นโต๊ะข้างก็ได้ มองไปมุมนี้จะเห็นตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างเตียง ต่อด้วยห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อีกหนึ่งห้อง ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นี่จะขนาดเท่ากับห้องแรกเลยนะครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ก็เหมือนกัน ความคุ้มค่าน่าลงทุน โครงการ Than Living สาทร-เจริญราษฎร์ น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนที่ใช้รถส่วนตัว และชอบย่านที่ไม่ค่อยพลุกพล่านในขณะที่อยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองมากนัก ด้วยศักยภาพของทำเลถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง จะเดินทางไปไหนก็จัดว่าสะดวกมาก ที่สำคัญสาธารณูปโภคต่างๆ ก็แวดล้อมรอบด้านและครบครันมากๆ อีกทั้งราคาห้องเริ่มต้นในระดับไม่เกิน 3 ล้านในทำเลที่ห่างจากถนนสาทรแค่ 2 กิโลเมตร ถือว่าดึงดูดใจสุดๆ ไปเลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีด้อยอื่นๆ ที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณานะครับ เพราะที่ดินข้างๆ มีคอนโดมิเนียมของ Developer รายใหญ่ในตลาดซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างอยู่ถึง 2 โครงการ คือ ศุภาลัย ไลท์ สาทร-เจริญราษฎร์ และ The Key เจริญราษฎร์ ดังนั้นเรื่องศักยภาพความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งจึงไม่ต่างกันเลย แถมโครงการข้างๆ ดันเป็นของเจ้าตลาดระดับมหาชนด้วยแล้ว บริษัท สิราลัย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ Than Living จึงดูเสียเปรียบไปถัดตา เพราะตัวเปรียบเทียบมีความน่าเชื่อถือมากกว่า ทั้งเรื่องความเชี่ยวชาญในตลาดที่ทำมานานกว่า และจุดขายที่สร้างเสร็จก่อนขายของแบรนด์ The Key การจะตัดสินใจเลือกโครงการไหนจึงต้องทำการบ้านกางใบราคาเปรียบเทียบกันหนักหน่อย ว่าโครงการไหนจะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่ากัน ทั้งการเกร็งกำไรจากการขายต่อ และการทำกำไรในการปล่อยห้องเช่า
Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW)   ราคา 2 ล้านต้นๆ บาท/ตารางเมตร ประมาณ 60,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise โครงการใหม่จากศุภาลัย บนถนนเจริญราษฎร์ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เพรียบพร้อมด้วยระบบขนส่งสาะารณะทั้ง BRT และ BTS จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2558 ที่ตั้ง: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 4-1-20 ไร่ ที่ตั้ง ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.701594, 100.516427 ระบบขนส่งสาธารณะ BRT เจริญราษฎร์, BTS สุรศักดิ์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สุรศักดิ์ BRT เจริญราษฎร์ โรงแรม เบสเวสเทิร์น พลัส แกรนด์ ฮาเวิร์ด โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ฟิวเจอร์มาร์ท (โฮมโปร พระราม 3) เอเชียทีค โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรบินสัน บางรัก เซ็นทรัลพระราม 3 ลักษณะโครงการ: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 34.5 – 35.5 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 49 – 54 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 80 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 26 ชั้น จำนวนห้อง 565 ยูนิต ส่วนกลาง: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 68% รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 40 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 400 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำบนชั้น 5F ห้องออกกำลังกายบนชั้น 5F สวนบนชั้น 5F Lobby สวนหย่อมบนชั้น 24F Sky Lounge 26F ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 188:1 ความหนาแน่นสูงสุด 28 ห้องต่อชั้น ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: Supalai Lite สาทร-เจริญราษฎร์ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-211-2121 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.supalai.com/lite/gallery/ ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2555
The Diplomat Sathorn : รีวิวคอนโด

The Diplomat Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Diplomat Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้นประมาณ 7,900,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 200,000 บาท เจ้าของโครงการ KPN Group Co., Ltd. จุดเด่น คอนโดหรู ติดรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ใกล้แหล่งธุรกิจหลักกลางใจเมือง จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 2 - 12 ไร่ ที่ตั้ง ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.720135,100.52207 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม และ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ อาคารหอการค้าไทย-จีน (Thai CC) และ ร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ อาคาร Chartered Square อาคาร บสก. (บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด) อาคาร Jewelry Trade Center Silo Health Land สาขาสาทร (สาทร 12) สถานีตำรวจยานนาวา โรงแรมอิสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (สีลม) วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) – ถนนปั้น ลักษณะโครงการ: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms 3 Bedrooms Penthouse ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 40 – 52 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 59 – 76.5 ตารางเมตร 3 Bedrooms ขนาด 85.5 – 99.5 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 133 – 205 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 38 ชั้น จำนวนห้อง 192 ยูนิต ส่วนกลาง: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 192 คัน หรือ 100% – ไม่รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 80 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 800 บาท สาธารณูปโภค ห้องสันทนาการ ชั้น 8 (The Diplomat Club) สระว่ายน้ำสำหรับเด็กพร้อม Rain-Cloud และห้องพักผ่อนสำหรับผู้ปกครอง ชั้น 8 สวนพักผ่อนชั้น 8 และ ชั้น 35 Lap pool ชั้น 35 ห้องออกกำลังกาย ชั้น 36 สวนหย่อมรอบโครงการ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 1:64 Service Lift 1 ตัว ที่จอดรถ 192 คัน คิดเป็น 100% ระบบ CCTV / Access Card   เพิ่มเติม: The Diplomat Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-637-8788 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thediplomatcondo.com/sathorn/index.php/home ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2556
Issara Collection Sathorn : รีวิวคอนโด

Issara Collection Sathorn : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เรายังคงวนเวียนอยู่ในย่านสาทร แต่คราวนี้จะข้ามมาทางฝั่งถนนนางลิ้นจี่ เพื่อดูคอนโด Low Rise หรูให้ความเป็นส่วนตัว ด้วยยูนิตที่น้อยเพียง 33 ยูนิต ชื่อโครงการ "Issara Collection Sathorn" โครงการใหม่จาก ชาญ อิสสระ การเดินทาง โครงการ Issara Collection สาทร ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตสาทร แต่ถ้าจะให้ระบุพิกัดชัดๆ ก็ต้องบอกว่าอยู่ในซอยนางลิ้นจี่ 4 นะครับ ซึ่งการเดินทางไปยังตัวโครงการก็สามารถไปได้หลายทาง เส้นทางหลักที่เราใช้ในครั้งนี้มาจากทางถนนจันทน์ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสี่แยกที่ตัดกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์แล้ว ให้ตรงต่อมาจนถึงถนนนางลิ้นจี่ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายมาอีกประมาณ 120 เมตร ก็จะเจอซอยนางลิ้นจี่ 4 อยู่ทางซ้ายมือพอดี หรือถ้าขึ้นทางด่วนขั้นที่ 1 มาลงที่ถนนพระราม 3 (ช่องนนทรี-นางลิ้นจี่) ก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนนางลิ้นจี่ได้เลย จากแยกนี้ตรงมาอีกแค่ 1 กิโลเมตรก็จะถึงซอยนางลิ้นจี่ 4 พอดี ส่วนถ้าจะเข้ามาทางซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 17 พอตรงมาเจอสามแยกเทคนิคกรุงเทพ ก็แค่เลี้ยวขวาเข้าถนนนางลิ้นจี่มาอีก 600 เมตรเท่านั้น แล้วเตรียมเลี้ยวเข้าซอยนางลิ้นจี่ 4 ได้เลย แต่ถ้ามาจากถนนสาทรใต้ ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยสวนพลู (สาทร 3) วิ่งตามซอยสวนพลูมาเข้าถนนนางลิ้นจี่ ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพมาเล็กน้อย ซอยนางลิ้นจี่ 4 จะอยู่ทางขวามือ เยื้องกับปั้มน้ำมันบางจาก นอกจากเส้นทางที่เรายกตัวอย่างมาให้แล้ว ยังมีเส้นทางลัดอื่นๆ อีก ทั้งทางซอยเย็นอากาศที่สามารถตัดไปออกถนนพระราม 4 หรือซอยสาทร 1 ได้ เช่นเดียวกันกับถนนของกรมการบินพลเรือน ที่ตัดเข้าซอยงามดูพลี ไปออกถนนพระราม 4 และซอยสาทร 1 ได้เหมือนกัน ต้องบอกว่าทำเลของถนนนางลิ้นจี่นี่ได้เปรียบในเรื่องเส้นทางเข้าออกที่สามารถเลือกได้หลายทาง ทำให้เรามีทางหนีรถติดได้เยอะดีทีเดียวครับ และด้วยแบรนด์ของโครงการที่เป็นระดับ Hi-End กลุ่มลูกค้าของโครงการคงจะเน้นการเดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก ถึงแม้ว่าทำเลที่ตั้งโครงการจะไม่มีรถไฟฟ้าสายต่างๆ อยู่ใกล้มากพอที่จะสามารถเดินไปได้โดยสะดวก ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะเส้นทางการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกมากๆ ถ้าไม่นับเรื่องปัญหาการจราจรที่ต่างก็รู้กันดี แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากต้องการจะใช้บริการระบบขนส่งมวลชนบ้าง ก็ใช่ว่าจะไม่สะดวก เพราะแค่เดินออกมาที่ปากซอยนางลิ้นจี่ 4 ก็มีทั้งรถแท็กซี่ สามล้อ สองแถว รวมถึงรถเมล์วิ่งผ่านอีกหลายสาย หรือถ้าจะให้เร็วก็เรียกบริการวินมอเตอร์ไซค์บริเวณปากซอยได้เช่นกัน รับรองว่าพี่วินแถวนี้เค้ารู้ทางหลบรถติดดีระดับเซียน จะหนีออกบ่อนไก่ พระราม 4 สาทร พระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง คลองเตย หรือเส้นทางอื่นได้หมด เชื่อเถอะว่าตรอกซอกซอยแถวนี้โยงใยหากันได้อย่างที่คุณคิดไม่ถึงเลยทีเดียว วิเคราะห์ตัวโครงการ ในขณะที่ที่ตั้งโครงการ Issara Collection สาทร อยู่ในซอยตันที่มีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักอาศัย แต่ด้วยความที่ซอยนางลิ้นจี่ 4 อยู่ไม่ห่างจากเขตชุมชนเดิมของบริเวณนี้มากนัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงจัดว่าเพียบพร้อมมากๆ ออกมาแค่ปากซอยก็จะเจอโครงการ De For Rest ซึ่งเป็นเหมือน Community Mall เล็กๆ ที่รวบรวมร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย และบริการล้างรถไว้ด้วยกัน ฝั่งตรงข้ามซอยจะมีปั้มน้ำมันบางจาก ซึ่งก็มีร้านกาแฟ ร้านซักรีด คลินิครักษาสัตว์ และบริการล้างรถของ Maguire’s อีกเจ้า แถมปากซอยเย็นอากาศยังมี Tops Supermarket ให้เป็นที่จับจ่ายซื้อของกินของใช้เข้าครัวอีกด้วย ในขณะที่ห่างออกไปอีกหน่อยทางฝั่งนางลิ้นจี่ก็มีตลาดสด พร้อมกับของอร่อยริมทางอีกหลายเจ้า เลยไปอีกนิดยังมี T.T.N. Avenue ซึ่งมีทั้ง Tops ร้านกาแฟ และร้านอาหารให้ฝากท้องอีกหลายเจ้า หรือถ้าขยับไปทางซอยสวนพลูก็มีอีกหนึ่งตลาดสด รวมถึงแผงลอยขายอาหารอีกมากจนละลานตาไปหมด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่สามารถเดินหรือขี่จักรยานมาได้ง่ายๆ ครับ โครงการ De for-rest อันนี้อยู่ติดๆ กับปากซอยนางลิ้นจี่ 4 เลย ในโครงการนี้ก็มีร้านอาหารด้วยนะครับ เอาไว้เป็นที่ฝากท้องยามที่ขี้เกียจขับรถออกไปไกลๆ ได้ ร้านกาแฟวาวีในโครงการก็มานั่งเล่นชิวๆ ได้ บรรยากาศดีเหมือนกันนะครับ ตลาดนัดด้านหลังปั๊มน้ำมันบางจาก มีของกินหลายอย่างเหมือนกัน ของใช้กับเสื้อผ้าก็มีนะครับ เปิดทุกเย็นวันจันทร์ แวะไปเดินเล่นซ๊อปปิ้งกันได้ ฝั่งตรงข้ามเทคนิคกรุงเทพฯ มีร้านกาแฟ Think Tank เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง T.T.N. Avenue คอมมิวนิตี้มอลล์อีกแห่งที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานมาก ตั้งอยู่บนถนนนางลิ้นจี่ค่อนมาทางฝั่งพระราม 3 นะครับ ข้างในมีร้านอาหารและร้านอาหารให้เลือกฝากท้องหลายร้านเลย แถมยังมี Tops Super Market อีกด้วย นอกจากความสะดวกสบายในพื้นที่แล้ว ในรัศมีรอบที่ตั้งโครงการยังแวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคแบบคนเมืองเต็มพิกัด ทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง สถานศึกษา สถานฑูต สถานที่ราชการ แหล่งธุรกิจ สำนักงาน และสถานที่ Hang Out อีกเพียบ เพียงแค่ขยับขับรถกันซักหน่อย จะไปพระราม3 สีลม สาทร สยาม ทองหล่อ เอกมัย หรือแอบไปชิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เดินทางได้สะดวกทั้งสิ้น ผ่านจากเรื่องสภาพแวดล้อมโดยรอบไปแล้ว ที่นี้ก็มาดูที่ตัวโครงการกันบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วว่าซอยนางลิ้นจี่ 4 เป็นซอยตัน ดังนั้นบรรยากาศภายในซอยจึงเงียบสงบมาก และค่อนข้างร่มรื่นเพราะยังมีต้นไม้ใหญ่อยู่มาก อีกทั้งถนนในซอยก็กว้างแค่พอขับรถสวนกันได้เท่านั้น ผู้คนไม่พลุกพล่าน ปริมาณรถก็น้อยเลยไม่ค่อยเป็นปัญหาครับ ภายในซอยจะมีบ้านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น และคอนโด อพาร์ทเม้นท์สูงไม่เกิน 8 ชั้นอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนบ้านที่ติดกันกับที่ดินโครงการเป็นบ้านเดี่ยวนะครับ ส่วนตึกคอนโด/อพาร์ทเม้นท์จะอยู่ถัดออกไป ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตึกขนาบข้างให้น่าอึดอัด ขณะเดียวกันทางโครงการก็จัดสรรให้พื้นที่รอบๆ อาคารเป็นสวนไปซะ แล้วปลูกต้นเพื่อช่วยบังสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวเข้าไปอีก คาดว่าของจริงน่าจะร่มรื่นดีนะครับ โครงการ Issara Collection เป็นคอนโดที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งโครงการจึงมีเพียง 33 ยูนิตเท่านั้น ตัวอาคารเป็นตึกเดี่ยวสูง 7 ชั้น ภายใต้การออกแบบตกแต่งในสไตล์ไทยโมเดิร์น (Siwilai Modern Concept) ซึ่งจะเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-7 และมีชั้นจอดรถใต้ดินอีก 2 ชั้น อีกทั้งยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยลิฟท์โดยสารแบบส่วนตัวสำหรับห้อง Type 3 Bedrooms นอกเหนือจากลิฟท์ส่วนกลางมาให้ด้วย จึงให้ความรู้สึกแบบ Exclusive Luxury มากยิ่งขึ้น สำหรับ Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 6-7 และดาดฟ้านะครับ โดยที่ห้องฟิตเนส ห้องสตรีม และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งทางโครงการก็ใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยการออกแบบให้ซิลลิ่งของห้องฟิตเนสสูงไปถึงชั้น 7 เพิ่มบรรยากาศให้ปลอดโปร่งมากขึ้นเวลาออกกำลังกาย ในขณะที่สระว่ายน้ำถูกจัดวางไว้บนดาดฟ้าของอาคารนะครับ ซึ่งสระว่ายน้ำเป็นระบบน้ำเกลือ และมีแยกสระเด็กกับจากุชชี่มาให้ด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน มี Lobby ในโซนด้านหน้าโครงการ พร้อมทั้งจัดเตรียม Driver Room ห้องพักคนขับรถไว้ให้ตรงบริเวณลานจอดรถที่ชั้น 1 ด้วยเพื่อความเรียบร้อย ถ้าจะให้เห็นภาพมาขึ้นลองมาดู Floor Plan กันก่อนเลยครับ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงในส่วนของห้องตัวอย่างกันบ้าง ก่อนอื่นต้องแจ้งให้ทราบว่าสำนักงานขายของโครงการ Issara Collection ไม่ได้อยู่ที่ที่ตั้งโครงการนะครับ Sales Gallery อยู่เลยแยกที่จะไปด่านทางด่วนนางลิ้นจี่นิดนึงครับ ข้ามแยกไฟแดงใต้ทางด่วนมาก็เห็น Sales Gallery เลย ซึ่งบรรยากาศภายในก็ตกแต่งไว้ตามคอนเซปต์ของโครงการเลย เช่นเดียวกันกับในห้องตัวอย่างที่ใช้วัสดุ การตกแต่งตามจริงทั้งหมด (ยกเว้นเฟอร์นิเจอร์ของแต่งห้อง) แบบห้องของโครงการมีให้เลือกเป็นแบบ 2 Bedrooms, 3 Bedrooms และ 3 Bedrooms Duplex เท่านั้นนะครับ โดยมีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 108 ตร.ม. และมีห้องไซส์ใหญ่สุดขนาด 244.4 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างเพียงแบบเดียวที่ทางโครงการเลือกทำมาโชว์ไว้ที่ Sales Gallery แห่งนี้ ก่อนจะไปดูภาพห้องจริง เรามาดูแปลนห้องคร่าวๆ กันก่อนครับ ห้องนี้เป็นห้อง Type-3E ซึ่งมีเพียง 9 ห้องเท่านั้น โดยที่แต่ละห้องอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องสลับตำแหน่งซ้ายขวานิดหน่อย ห้องทั้งหมดของโครงการขายมาแบบ Partly Fitted คือติดตั้งและตกแต่งมาเป็นแนวทางให้แล้วพอประมาณ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้อื่นๆก็ตกแต่งเพิ่มเต็มกันตามสไตล์ไปเลย ห้องไซส์นี้เป็นแบบ 3 Bedrooms โดยแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ เมื่อออกมาจากลิฟท์ส่วนตัวก็จะเข้าสู่พื้นที่โถงหน้าห้อง ซึ่งมีห้องเก็บของอยู่ตรงนี้ด้วย ประตูบานสูงอีกฝั่งจะเป็นประตูหลักที่ใช้เข้าห้องครับ ทางโครงการเลือกออกแบบให้ประตูเข้าห้องเป็นบานสูงจรดเพดานเลย พอเปิดเข้ามาแล้วก็จะเห็นพื้นที่ในโซน Living Area ที่อยู่ส่วนกลางของห้อง ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือให้ความรู้สึกโอ่งโถงมากเป็นพิเศษ และจุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้บรรยากาศของห้องนี้แตกต่างจากคอนโดทั่วไปก็คือ พื้นที่ระเบียงที่กว้างกว่า 10 เมตร ซึ่งประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่นี้เราสามารถเลื่อนเปิดได้กว้างจนสุดเพื่อให้พื้นที่ภายในห้องและระเบียงเชื่อมต่อถึงกันโดยไม่อะไรมาเกะกะสายตา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก และได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่าคอนโดอื่นครับ อีก Area หนึ่งที่ทางโครงการตกแต่งเสนอเป็นไอเดียให้ก็คือ ห้องกระจกในบริเวณ Living Area นั่นเอง ทางโครงการเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า Collection Room ซึ่งในห้องจริงไม่มีการกั้นพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้นะครับ แต่ในห้องตัวอย่างนี่ทำไว้ให้เห็นว่าสามารถเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับห้องได้อีก ลูกค้าบางคนอาจจะชอบกับไอเดียนี้ที่สามารถทำห้องน้ำเป็นห้องทำงาน ห้องเปียโน ห้องสมุด หรือให้เป็นห้องเก็บของสะสมพร้อมตั้งโชว์ได้ด้วย แต่ถ้าการกั้นห้องแบบนี้ยังไม่โดนใจ จะปล่อยให้พื้นที่บริเวณนี้กว้างต่อจากบริเวณนั่งเล่นเลยก็ได้เช่นกัน สำหรับในส่วนของห้องนอน แต่ละห้องจัดสรรมาโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักเช่นกัน ห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว เริ่มด้วยห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ที่จัดเต็มมาให้ทั้งอ่างอาบน้ำดีไซน์หรูกลางห้องน้ำ และโซนอาบน้ำแบบ Rain Shower ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้อง Homogeneous Tile โทนสีขาว-เทา เพิ่มด้วยลูกเล่นของการจัดไฟในโทนอุ่น โดยเฉพาะบริเวณหน้ากระจกเหนืออ่างล้างหน้าที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำของ Master Bedroom แทบไม่ต่างจากโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียว ในขณะที่พื้นที่ใช้สอยภายบริเวณห้องนอนก็กว้างขวางไม่น้อยเลย เพราะบริเวณปลายเตียงสามารถวางโซฟาไว้นั่งเล่นดูทีวีได้อีกชุด แถมยังมีพื้นที่ว่างเหลืออีกเพียบ ซึ่งเราสามารถดีไซน์เพิ่มประโยชน์ให้กับพื้นที่ใช้สอยตรงจุดนี้ได้หลากหลายไอเดียเลยครับ หรือจะดูที่ทางโครงการทำไว้ในห้องตัวอย่างเผื่อเป็นไอเดียก่อนก็ได้ ส่วนในห้องนอนเล็กอีกสองห้องก็ถูกออกแบบให้มี Layout ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเน้นประโยชน์การใช้สอยพื้นที่ให้หลากหลายตามคอนเซปต์การออกแบบของโครงการ แอบใส่ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเข้าไป เช่น ชั้นเก็บของที่ด้านหลังบานกระจกเหนืออ่างล้างหน้า และตู้เก็บของในห้องน้ำ รวมถึงการดีไซน์ให้พื้นที่ที่ติดกับบริเวณห้องน้ำเป็น Walk in Closet ซึ่งเราสามารถใช้แนวคิดที่ทางโครงการตกแต่งไว้เป็น Guile Idea ไว้ให้ หรือจะดีไซน์ตกแต่งแบบอื่นให้ตรงกับการใช้งานของเราเองก็ได้ ทีนี้เรามาดูในส่วนของห้องครัวกันบ้าง พื้นที่ส่วนนี้ทางโครงการให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าส่วนอื่นเลย เพราะมีการจัดสรรพื้นที่ครัวมาให้ตามการใช้งาน โดยส่วนแรกซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Living Area ทางโครงการออกแบบให้มีครัวเปิดสไตล์ฝรั่ง ที่มาพร้อมชุดเคาน์เตอร์ครัวหรูหรา และอุปกรณ์ครบครัน แล้วยังตกแต่งเพิ่มเติมด้วยเคาน์เตอร์ลอยตัวกับโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้รวมมากับชุดครัวนะครับ แต่ทางโครงการทำไว้เป็นตัวอย่างอีกเช่นกัน ซึ่งการตกแต่งเพิ่มเติมในจุดนี้เพิ่มความน่าสนใจให้กับห้องได้ไม่น้อยเลย เพราะทำให้บรรยากาศภายในห้องดูเป็นบ้านที่อบอุ่นมากขึ้น แถมยังสามารถรองรับการจัดปาร์ตี้ย่อมๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ทางโครงการยังจัดพื้นที่สำหรับครัวไทยแยกไว้เป็นสัดส่วนในห้องใกล้ๆ กัน พร้อมกับประตูปิดมิดชิดเพื่อป้องกันปัญหากลิ่นรบกวนในห้อง อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานเล็กในห้องครัวไว้ช่วยระบายอากาศได้อีกทาง แต่เท่าที่เดินดูภายในห้องครัวไทยจะสังเกตุเห็นว่า บรรยากาศในห้องครัวค่อนข้างทึบและแคบไปหน่อย ถ้าบ้านไหนชอบลงครัวปรุงอาหารไทยบ่อยๆ อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควรมั้งครับ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นส่วนปลีกย่อยอื่นๆ ที่ทางโครงการก็คิดมาให้เสร็จสรรพ ทั้งห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว และประตูทางเข้า-ออกของแม่บ้านซึ่งแยกจากประตูหลัก ห้องเก็บของบริเวณโถงลิฟท์หน้าห้องที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้เรียบร้อยและไม่เกะกะภายในห้อง รวมถึงมุมที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์บริเวณระเบียง ที่กั้นพื้นที่ไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีทีเดียว สำหรับโครงการ Issara Collection สาทร ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายในตลาดบน ที่มีงบประมาณตั้งแต่ 15 ล้านขึ้นไป ซึ่งเน้นความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวสูง เรื่องขนาดห้องจึงออกแบบมาให้กว้างขวางตอบโจทย์การใช้งาน และให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่าคอนโด โดยน่าจะเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง ได้พักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ในขณะที่ยังอยู่ในทำเลย่านกลางเมือง เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว Issara Collection น่าจะตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ดีทีเดียวครับ
URBANO ABSOLUTE สาทร – ตากสิน : รีวิวคอนโด

URBANO ABSOLUTE สาทร – ตากสิน : รีวิวคอนโด

โครงการ: URBANO ABSOLUTE สาทร - ตากสิน (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,800,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 90,000 – 150,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 40 ชั้น จากพฤกษา บนถนนกรุงธนบุรี ใกล้รถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี และแหล่งธุรกิจย่านสาทร จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: URBANO ABSOLUTE สาทร - ตากสิน (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 4 ไร่ ที่ตั้ง ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.72086,100.506968 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS กรุงธนบุรี สถานที่สำคัญใกล้เคียง Sena Fest โรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ สะพานตากสิน ลักษณะโครงการ: URBANO ABSOLUTE สาทร - ตากสิน (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน (Duplex) ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 30 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 38 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 74.5 ตารางเมตร 3 ห้องนอน (Duplex) ขนาด 114.4 -164 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 40 ชั้น จำนวนห้อง 593 ยูนิต ส่วนกลาง: URBANO ABSOLUTE สาทร - ตากสิน (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Sky Bowling Lanes Infinity-Edged Swimming Pool Fitness Steam / Sauna Yoga Studio Living Room Meeting Room Mini Home Theatre Snack Bar สวนหย่อมรอบโครงการ Self-Service Laundry Room ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 148 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว Service Lift 1 ตัว ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคัน 40% ระบบ CCTV / Access Card แบบแบ่งตามชั้น   เพิ่มเติม: URBANO ABSOLUTE สาทร - ตากสิน (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.urbanoabsolute.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2556
The Room Sathorn : รีวิวคอนโด

The Room Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Room Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 7,590,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 155,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น บนถนนปั้น จากแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และแหล่งธุรกิจย่านสาทร ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: The Room Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 2 - 73 ไร่ ที่ตั้ง ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.722364,100.523317 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง สถานฑูตพม่า วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก Baan Silom เซ็นทรัล สีลม โรบินสัน บางรัก สีลม คอมเพล็กซ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาล BNH วัดยานนาวา ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ Empire Tower   ลักษณะโครงการ: The Room Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 45-50 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 78 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 25 ชั้น จำนวนห้อง 219 ยูนิต   ส่วนกลาง: The Room Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 87% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 55 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Main Lobby Meeting Room Ozone System Swimming Pool Fitness Sky Reading Lounge Sky Garden   เพิ่มเติม: The Room Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lh.co.th/condo/projects/207?lang=t ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2556