Tag : Advertorial

12 ผลลัพธ์
The Politan Rive : รีวิวคอนโด

The Politan Rive : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เรามีคอนโดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาแนะนำกันครับ ชื่อโครงการ The Politan Rive จาก บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากันมาพอสมควรกับคอนโดภายใต้แบรนด์ My Resort ซึ่งล่าสุดนี้ได้มีการเปิดตัวโครงการ The Politan Rive คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เราจึงไม่พลาดที่จะเก็บรายละเอียดในส่วนต่างๆ มาให้ได้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิด Pre-sale กันในวันที่ 30-31 มกราคมนี้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    52,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 56 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    2,351 ยูนิต ร้านค้า 8 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 1,364 คัน หรือคิดเป็น 58% พื้นที่โครงการ    ประมาณ 9 - 3 - 37.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซ.นนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 1 ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ค่าส่วนกลาง    47 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร ศักยภาพทำเลของโครงการ จุดเด่นแรกของโครงการ The Politan Rive ก็คือ ศักยภาพของที่ดินที่ถูกเลือกมาใช้สร้างคอนโด High Rise สูง 56 ชั้น นี่แหละครับ ที่ดินทั้งหมดมีขนาดเกือบ 10 ไร่เลยทีเดียว ที่สำคัญคือ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกบ้านแทบทุกยูนิตของโครงการจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่ ยิ่งยูนิตที่อยู่ชั้นสูงๆ ก็ยิ่งได้วิวสวยกว้างสุดสายตา ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการในปัจจุบันเป็นวิวเปิดโล่ง แทบจะไม่มีอะไรมาบดบังสายตาเลย เนื่องจากส่วนของที่พักอาศัยนั้นเริ่มกันต้นในชั้นที่สูงพ้นแนวที่พักอาศัยรอบๆ วิวที่ได้เห็นจากในห้อง โดยเฉพาะในห้องมุมด้านทิศตะวันตกซึ่งหันหน้าเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยา จึงหาคอนโดอื่นในบริเวณนี้มาเปรียบเทียบไม่ได้เลย ตำแหน่งที่ตั้งตัวโครงการ The Politan Rive ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 หรือบนถนนสนามบินน้ำ ใกล้กับสะพานพระนั่งเกล้าเลยครับ ซึ่งทำเลที่อยู่อาศัยในแถบนี้รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ กระทรวง และสำนักงานสำคัญต่างๆ มีแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ รวมถึงตลาดสด อยู่ใกล้ๆ ศักยภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยจึงไม่เป็นรองที่ใดเลยครับ ในส่วนของการเดินทางมายังพื้นที่บริเวณนี้ ก็โดดเด่นด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ที่รับรองว่าจะได้ใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 นี้แน่นอนแล้ว ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินจากหน้าโครงการไปเพียง 200 เมตรก็โดยสารรถไฟฟ้าได้ทันที แถมในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เพิ่มมาอีกสาย การเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยรถไฟฟ้าก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นแน่นอนครับ ขณะเดียวกันการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เส้นทางหลักอย่างถนนรัตนาธิเบศร์ก็มีทั้งปรับ เพิ่ม ขยาย ช่องทางจราจรอย่างต่อเนื่อง และด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ The Politan Rive ที่อยู่ในทำเลที่ดี สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งจากฝั่งถนนงามวงศ์วานตรงมาเพื่อกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า เพียง 200 เมตรจากสี่แยกก็ถึงหน้าทางเข้าโครงการแล้ว หรือถ้ามาจากทางฝั่งถนนติวานนท์ ก็วิ่งตามถนนสนามบินน้ำ ผ่านกระทรวงพาณิชย์มาหน่อยก็เลี้ยวเข้าโครงการได้เลย ซึ่งการเดินทางในปัจจุบันยังต้องอาศัยรถส่วนตัวเป็นหลักอยู่นะครับ แต่ครึ่งปีหลังของปี 59 นี้ไป รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะได้เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกหลักในการเดินทางอย่างที่ตั้งตารอกันแล้วล่ะครับ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้า กระทรวงพาณิชย์ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์รัตนาธิเบศร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เทสโก้ โลตัส พระนั่งเกล้า โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี วิเคราะห์ตัวโครงการ The Politan Rive เป็นคอนโดมิเนียมอาคารเดี่ยวที่นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในย่านสนามบินน้ำเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ตัวอาคารหลักที่สูงถึง 56 ชั้น ออกแบบเป็นรูปตัว S ไปตามแนวของที่ดิน การจัดสรรพื้นที่ภายในโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียว เห็นว่าเตรียมจัดเต็มไว้เลยทีเดียว ซึ่งส่วนแรกที่เปิดให้เราชมบรรยากาศสดในสถานที่จริงได้แล้วก็คือ พื้นที่สวนขนาดใหญ่โซนด้านหน้าที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งสนามเด็กเล่น มุมพักผ่อน และสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าของอาคาร Facility ส่วนกลางที่ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ นอกเหนือจากอาคารเล็กด้านหน้านี้แล้ว ภายในอาคารพักอาศัยก็ยังคงมี Facility อยู่ตามชั้นต่างๆ ดังนี้ นอกจากนี้ทางโครงการ The Politan Rive ยังจัดให้มี Jogging Track, Co-Working Space, Meeting Room, ห้อง Golf Simulator, Co-Playing Space, Reading Room ฯลฯ ซึ่งทางโครงการเชื่อว่า Facility ต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้นั้นจะสามารถตอบโจทย์ของลูกบ้านได้อย่างเพียงพอและครบถ้วนที่สุด มาถึงในส่วนของที่พักอาศัยกันบ้าง ตัวอาคารหลักตั้งแต่ชั้น 1-8 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ในขณะที่ส่วนของที่พักอาศัยเริ่มต้นกันตั้งแต่ชั้น 9-55 และมีจำนวนยูนิตรวมมากถึง 2,351 ยูนิตเลยทีเดียว ห้องส่วนใหญ่จะหันไปในแนวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลักนะครับ มีข้อดีคือ ห้องจะไม่ร้อนมากเพราะไม่ค่อยได้รับแดดโดยตรง ส่วนห้องทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องที่ได้วิวดีที่สุดในโครงการนี้ เพราะหันหน้าเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ และสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดเช่นกัน สิ่งอำนวยความสะดวก Sky lounge + sky deck Fitness Swimming pool Kid pool Sky garden Boxing room Yoga room Lobby Jogging track Playground Golf simulator Co-playing space Kid room Multipurpose room Reading room Meeting room Co-working space พาชมห้องตัวอย่าง แปลนห้องของโครงการ The Politan Rive มีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.50, 29 และ 30.50 ตารางเมตร และ แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 และ 60 ตารางเมตร ซึ่งทางโครงการจัดเตรียมห้องตัวอย่างไว้ให้ชมด้วยกัน 3 แบบ เริ่มจากห้องขนาดเล็กที่สุดก่อนเลยนะครับ ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.50 ตารางเมตรนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่อยู่ในโซนด้านทิศตะวันออก ด้านที่ติดกับถนนใหญ่ด้านนอก ตัวห้องถูกวาง Layout มาให้ใช้งานได้เป็นสัดส่วนมากๆ มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยชัดเจน ทั้ง Living Area ห้องนอน และห้องครัวแบบครัวปิด โดยห้องนี้จะขายเป็นห้องเปล่านะครับ ส่วนที่โครงการมีให้จะเป็นเคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และแอร์ 2 ตัวที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน หลังจากดูส่วนต่างๆ ของห้องมาเรียบร้อยแล้ว ครวามนี้เรามาดูภาพกว้างๆ แบบ 360 องศา กันบ้างดีกว่าครับ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้องถัดมาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่ที่ 30.50 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นแบบห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดของโครงการ ห้องแบบนี้จะขยับมาอยู่ในโซนกลางๆ ของอาคารเสียเป็นส่วนใหญ่นะครับ ห้องที่หันทางไปทางทิศตะวันตกก็พอมีให้เลือกบ้าง โดยจะได้เห็นวิวแม่น้ำชัดๆ ด้วย ในขณะที่ห้องที่หันหน้าออกทางทิศเหนือ-ใต้ก็มีอีกมากที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้เหมือนกัน แต่อาจจะเป็นมุมแคบหน่อย ห้องนี้ถ้ามองดูเผินๆ แล้วการจัดวาง Layout ของห้องนี้แทบจะไม่ค่อยต่างกับห้องขนาด 24.50 ตารางเมตรมากนัก ยกเว้นตรงส่วนของระเบียงบริเวณห้องนอนที่เพิ่มเข้ามา พื้นที่ใช้สอยก็เพิ่มมากขึ้นภายในห้องจึงดูโปร่งสบายตามากกว่าครับ สเปซต่างๆ ก็เหมาะกับการใช้สอยมากขึ้นด้วยเช่นกัน Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้องตัวอย่างแบบสุดท้าย ถือว่าเป็น Highlight ของ The Politan Rive เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน และมีขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ 60 ตารางเมตร โดยห้องไซส์นี้จะอยู่ในตำแหน่งห้องมุม หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งถือเป็นมุมที่ได้วิวดีที่สุดของโครงการนั่นแหละครับ ห้องนี้จะเด่นด้วยระเบียงยาว นอกจากจะกินพื้นที่เต็มหน้ากว้างของห้องแล้ว พื้นที่ระเบียงยังเป็นระเบียงเข้ามุมตามตำแหน่งของห้องอีกด้วย ทำให้ห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กสามารถเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้สวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย การจัดวาง Layout ให้ฟังก์ชั่นในการใช้สอยที่เต็มที่ ในโซน Living Area กลางห้องเชื่อมต่อกับครัวเปิด ในขณะที่ห้องนอนทั้งสองห้องก็แยกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน และที่พิเศษจากห้องแบบอื่นๆ ของโครงการก็คือ ห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตร ทางโครงการจะขายมาให้แบบ Fully Fitted ส่วนห้องไซส์ใหญ่สุด 60 ตารางเมตร จะขายแบบ Fully Furnished เลยครับ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA   Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA   Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ถึงแม้ว่าโครงการ The Politan Rive จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ ครบถ้วนเช่นกันนะครับ ทั้งตำแหน่งที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งกำลังจะเปิดให้ใช้บริการเร็วๆ นี้แล้ว และรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่มีโครงการก่อสร้างในอนาคต อีกทั้งยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย แถมได้บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่แสนจะโรแมนติก ซึ่งหาในคอนโดเขตเมืองได้ยากมากๆ โครงการนี้จึงเป็นที่น่าจับตามองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือการซื้อหาเพื่อการลงทุน เนื่องจากมูลค่าของอสังหาฯในย่านนี้ มีแนวโน้มที่ขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความเจริญที่ขยายตามแนวรถไฟฟ้ามา และในวันที่ 30-31 มกราคม 2559 ทางโครงการจะเปิด Pre-Sale แล้ว ใครที่สนใจ หรือกำลังมองหาคอนโดดีๆ Facility เยอะๆ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย ก็เข้าไปดูกันได้ที่สำนักงานขาย ในพื้นที่ของโครงการ The Politan Rive กันได้เลยนะครับ ใครที่จองโครงการในช่วง Pre-Sale นี้ จะได้รับ Premium Package พร้อมแอร์ ครัว และวอลล์เปเปอร์ ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มเติม : คลิก สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 002 2222 หรือที่ www.thepolitancondo.com
ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE : รีวิวคอนโด

ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักเพิ่มเติมกับโครงการ The Esse Asoke คอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเทพฯ โครงการใหม่ และเป็นโครงการแรกจากกลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเบอรี่ ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ ที่หันมาจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในนาม บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดที่สูงที่สุดใจกลางอโศก ด้วยความสูงถึง 55 ชั้น พร้อมความโดดเด่นด้วยการออกแบบโดย Palmer & Turner (P&T Architects) หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านตึกสูง เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    7,890,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    ประมาณ 220,000 บาท เจ้าของโครงการ   Singha Estate Public Company Limited ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 55 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     419 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 2 - 74.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ที่จอดรถ    ประมาณ 432 คัน หรือคิดเป็น 102% พร้อมที่จอดรถซุปเปอร์คาร์และซุปเปอร์ไบค์ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาส 4 ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    80 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    800 บาท/ตารางเมตร ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE เพราะตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าทุกชนิด THE ESSE ASOKE ตั้งอยู่ ณ ใจกลางอโศก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องของการเดินทางการเดินทางที่สะดวกสบายและง่ายกว่าที่ไหนๆ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับทั้งรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท และสถานีเพรชบุรี, รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และรถไฟ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดได้แก่ รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 500 ม. เท่านั้น สถานที่สำคัญใกล้เคียง ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE เพราะแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญมากมาย เดินไปเรียนกันง่ายๆ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ไปช้อปปิ้งกันง่ายๆ Terminal 21 The EM District เซ็นทรัลพระราม 9 ไปโรงพยาบาลกันง่ายๆ รพ. จักษุรัตนิน รพ. ผิวหนัง อโศก รพ. บํารุงราษฎร์ ใกล้ชิดธรรมชาติกันง่ายๆ สวนเบญจกิติ สวนเบญจสิริ โรงแรมหรูอยู่ใกล้ๆ The Westin Grande Sukhumvit Bangkok FuramaXclusive Asoke Hotel Bangkok The Continent Hotel Sukhumvit ไปทำงานกันง่ายๆ อาคาร GMM Grammy อาคาร Interchange 21 Tower Exchange Tower วิเคราะห์รอบโครงการ ดิ เอส อโศก (THE ESSE ASOKE) เป็นคอนโด High Rise สูง 55 ชั้น ซึ่งมาพร้อมกับแนวความคิดในการใช้ชีวิตแบบ “LIVE LIFE SIMPLY” ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ Iconic Elegance ผ่านสถาปัตยกรรมในรูปแบบ Contemporary Luxury ที่มีความโดดเด่น งดงาม  พร้อมด้วยการเลือกสรรวัสดุที่ดีที่สุด มีความสวยงามและคงทน อาทิ การเลือกใช้หินธรรมชาติ Creama Mocca ในการตกแต่งบริเวณ Podium และการเลือกใช้วัสดุตกแต่งอาคารสี Champaign Gold  ที่จะช่วยเพิ่มความหรูหราตลอดทั่วทั้งตัวอาคาร สำหรับในเรื่องของทำเลนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกคนก็คงทราบก็ดีอยู่แล้วว่า “ใจกลางอโศก” นั้นเป็นทำเลระดับ 5 ดาว (อย่างไม่ต้องสงสัย) รถไฟฟ้าก็มีครบทุกชนิด จะไปไหนก็สะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT, รถไฟ Airport Rail Link อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญๆ หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย, อาคารสำนักงานสำคัญๆ, ห้างฯ ยอดนิยม เรื่อยไปจนถึงร้านอาหารอร่อยๆ อีกนับไม่ถ้วน! และในส่วนของพื้นที่ภายในโครงการก็มีพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ ภายใต้แนวคิดแบบ Green Elegance and Luxury Space ซึ่งเน้นไปที่ความเรียบง่าย แต่หรูหรา เริ่มตั้งแต่บริเวณ The ESSE Court พื้นที่สีเขียวกว่า 1,000 ตารางเมตร ด้านหน้าโครงการ ซึ่งเกิดจากการ set back ตัวอาคารจากถนนไปถึง 40 ม.! ในขณะที่ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 33 และ 43 ในส่วนของชั้น 33 ก็จะเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำพาโนรามิคพร้อมสระเด็ก สระว่ายน้ำทวนน้ำ และจากุชชี่, ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน, กอล์ฟ ซิมูเลเตอร์ และในส่วนของชั้น 43 ก็จะเป็นที่ตั้งของดิ เอส เรสซิเดนท์ เลาจน์, ห้องสมุด, บิซิเนสเซ็นเตอร์ และห้องประชุมขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ พาชมห้องตัวอย่าง มาชมห้องตัวอย่างกันบ้างนะครับ THE ESSE ASOKE มีห้องให้เลือก 3 แบบ คือแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 37.00 – 53.00 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 75.50 – 84.00 ตร.ม. และแบบเพนท์เฮาส์ 104.50 – 195.50 ตร.ม. ซึ่งแน่นอนว่าการมีห้องให้เลือกตั้งแต่ 37-195.50 ตร.ม. ก็ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เหมาะทั้งสำหรับ อยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ ไปจนถึงแบบครอบครัว โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เป็นห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาด 75 ตารางเมตร ตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก High Level  Executive ที่ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว การตกแต่งห้องจึงแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึมด้วยโทนสีน้ำตาลและดำ เพิ่มความหรูหราด้วย Feature Wall ที่ตกแต่งด้วยหินธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ที่มีความเรียบหรู โดดเด่นด้วยพื้นที่ครัวขนาดใหญ่พร้อม Island ครัว เพื่อตอบโจทย์ฟังก์ชั้นการรับประทานอาหารของครอบครัว และในส่วนของห้องนอนเล็กก็ยังมีขนาดกว้างขว้าง พร้อมด้วยห้องน้ำในตัว นอกจากนั้นแล้วการออกแบบยังคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวด้วยการจัดวางผังอาคารแบบไม่มีห้องตรงข้าม และจำนวนห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 12 ยูนิตต่อชั้น ใครที่กำลังสนใจ THE ESSE ASOKE ตอนนี้ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้ว ซึ่งนอกเหนือจากการซื้อไว้อยู่อาศัยเองแล้ว ทำเลนี้ก็ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพน่าเก็บสะสมไว้ลงทุนด้วย เพราะศักยภาพของทำเลในย่านนี้ไม่มีวันถูกลงอยู่แล้ว!
ชีวิตมีสไตล์ เดินทางสะดวกสบาย ในใจกลางย่านรัชโยธิน : รีวิวทาวน์โฮม

ชีวิตมีสไตล์ เดินทางสะดวกสบาย ในใจกลางย่านรัชโยธิน : รีวิวทาวน์โฮม

พูดถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ในกรุงเทพฯ เวลานี้ หลายคนคงต้องการหาที่อยู่ในเมือง ไม่ไกลจากที่ทำงาน และสามารถเดินทางได้สะดวก ในขณะเดียวกันก็ยังอยากจะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างๆ มากกว่าการอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ (ถ้าทำได้) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าหากว่ามีบ้านดูเพล็กซ์ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งที่มีราคาพอๆ กัน และตั้งอยู่ในทำเลใกล้เคียง แถมมีความสะดวกสบายที่แทบไม่ต่างกัน เราคงเลือกซื้อบ้านมากกว่าห้องเดี่ยวในคอนโดตึกสูงอย่างแน่นอน วันนี้เราเลือกปักหมุดไปที่ทำเลในโซนกรุงเทพเหนือ (จตุจักร-รัชโยธิน) ย่านที่หลายคนอาจจะเคยคุ้นกับการเดินทางผ่านไปผ่านมาในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ทันได้ทำความรู้จักในแง่ความเป็นที่อยู่อาศัยมากเท่าไหร่นัก หนึ่งในโครงการที่น่าสนใจที่เราจะพาไปดูกันก็คือ “บ้านกลางเมือง รัชโยธิน” จาก AP ซึ่งมีความน่าอยู่และเชื่อว่าจะตอบโจทย์คุณภาพชีวิตแบบคนเมืองได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เดี๋ยวเราไปดูกันก่อนว่า พื้นที่รอบๆ นี้มีอะไรที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างเราบ้าง ไม่อยากใช้รถ ก็เดินทางได้สะดวก เพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าหลักทั้งรถไฟฟ้า​ BTS สถานีหมอชิต และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีจตุจักร การคมนาคมสาธารณะ มีครบทุกรูปแบบตั้งแต่ รถเมล์ รถตู้ รถสองแถว แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ และถ้ามองไปถึงแผนการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้เพิ่มเติมเข้าไปด้วย ก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ตรงปากซอยพหลโยธิน 34 พอดี ห่างจากบ้านกลางเมือง รัชโยธิน เพียง 650 เมตร ดังนั้นคำพูดที่ว่า “ไม่ต้องใช้รถก็อยู่ได้” ก็คงจะไม่เกินความจริงเลย ศูนย์รวมแหล่งช็อปปิ้ง, ย่าน Hang Out และปอดสีเขียวของคนกรุง เริ่มกันด้วยความเป็นศูนย์กลางของแหล่งช็อปปิ้งสำคัญๆ ในโซนกรุงเทพเหนือ อันประกอบไปด้วย Central Plaza Ladprao ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีทั้งร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ร้านอาหารมากมาย รวมถึง Tops Market ที่เราสามารถจับจ่ายข้าวของเข้าบ้านได้ ตรงข้ามกันมี Union Mall แหล่งรวมเสื้อผ้าราคาน่าคบหาที่มีร้านค้ามากจนเลือกแทบไม่ถูก รวมถึงตลาดนัดวันหยุดชื่อดังอย่าง ตลาดนัดสวนจตุจักร อีกแหล่งที่รวบรวมสินค้าสุดชิคที่พลาดไม่ได้ เดินได้เรื่อยๆ ไปจนถึง ตลาดต้นไม้จตุจักร, ตลาด อ.ต.ก. และตลาดนัดเจเจกรีน กันเลยทีเดียว หรือถ้าไลฟ์สไตล์ส่วนตัวชื่นชอบการ Hang Out สังสรรค์ ออกไปดูหนัง ฟังเพลง เพื่อผ่อนคลายความเครียดจากวันหนักๆ Major Cineplex รัชโยธิน อยู่ใกล้แค่อึดใจ หรือจะนัด Hang Out กับเพื่อนสนิท ใน The Avenue Ratchayothin ก็มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย เชื่อเลยว่าชีวิตธรรมดาก็มีสีสันและไม่น่าเบื่อเหมือนที่เคยได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกัน สำหรับคนที่ชื่นชอบการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกล ก็ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เกือบ 200 ไร่ บริเวณจตุจักร พื้นที่ที่รวมสวนสาธารณะขนาดใหญ่ไว้ด้วยกันถึง 3 แห่ง นั่นก็คือ สวนจตุจักร สวนรถไฟ (สวนวชิรเบญจทัศ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ถือเป็นทั้งแหล่งพักผ่อนหย่อยใจและพื้นที่ออกกำลังกายของคนทุกเพศทุกวัย โดยรวมสำหรับการอยู่อาศัยในย่านนี้ เราเชื่อว่าสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ได้รอบด้านอย่างแท้จริง ซึ่งโครงการ “บ้านกลางเมือง รัชโยธิน” ก็ได้ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 34 ห่างจาก Landmark สำคัญๆ ข้างต้นแค่เอื้อมเท่านั้น เราไปดูรายละเอียดของโครงการนี้กันเลยดีกว่า รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    7,690,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร จำนวน 92 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    9 - 0 - 94.2 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยพหลโยธิน 34 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ค่าส่วนกลาง    67 บาท/ตารางวา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ วิธีการเดินทาง อย่างที่บอกไปแล้วว่าโครงการ บ้านกลางเมือง รัชโยธิน ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 34 ห่างจากแยกรัชโยธินมาไม่ไกล ในขณะที่อยู่ใกล้กับแยกเกษตรนวมินทร์นิดเดียว และถ้าดูจากแผนที่ของโครงการก็จะเห็นว่า มีเส้นทางเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งจากฝั่งถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 34 หรือ 32 ก็ได้ ทางถนนประเสริฐมนูกิจ เข้าจากซอยประเสริฐมนูกิจ 2 หรือเลือกเข้าจากทางถนนลาดพร้าว เข้าซอยโชคชัย 4 มาแยกวังหินและผ่านมาทางซอยเสนานิคม 1 ก็สามารถมาที่โครงการได้เช่นกัน การเดินทางหลักๆ มายังโครงการ สะดวกมากๆ นะครับถ้าใช้รถส่วนตัว เพราะถนนในแถบนี้เชื่อมโยงเข้าออกได้หลายทาง ใช้เป็นเส้นทางหลีกหนีรถติดได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ถ้าวันไหนเกิดไม่อยากขับรถขึ้นมา ระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ก็มีรองรับทุกรูปแบบเลยทีเดียว สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงพยาบาลเมโย โรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย4 เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน เซ็นทรัล ลาดพร้าว โรงเรียนหอวัง โรงเรียสารวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม มหาวิทยาลัยศรีปทุม บรรยากาศรอบโครงการ พื้นที่ในซอยพหลโยธิน 34 เป็นถนน 2 เลนที่เชื่อมต่อกับซอยต่างๆ มากมาย ดังนั้นจึงมีรถราวิ่งผ่านในซอยตลอดทั้งวัน บริเวณปากซอยพหลโยธิน 34 อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเมโยเลยครับ ช่วงต้นๆ ซอยจะเป็นบ้านเดี่ยว และตึกแถวเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พอเลยเข้ามาในซอยอีกหน่อยก็จะเริ่มเห็นว่ามีโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ให้เห็นหลายโครงการ และมีแผงลอยขายของประปราย พอเลยจากหน้าโครงการไปนิดหน่อย ก็เป็นตึกแถวเรียงกันเป็นแถบ ซึ่งมีร้านค้า ร้านอาหาร คลินิค ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อเยอะเลยครับ เนื่องจากถัดไปอีกนิดก็เป็นตลาดสดศรีเสนาแล้ว ช่วงนี้ของซอยก็จะคึกคักมีบรรยากาศในแบบชุมชนมากหน่อย แค่เดินออกมาจากโครงการนิดเดียวก็มีของกินของใช้ รวมถึงร้านค้าให้พึ่งพาเยอะเลย จัดว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ ตัวโครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธิน เป็นบ้านดูเพล็กซ์ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ที่มีเพียง 92 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่รายเดียวในแถบนี้เลยก็ว่าได้ เพราะพื้นที่รอบๆ โครงการถูกพัฒนาไปเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise แล้วหลายเจ้า ทั้ง The Key ที่อยู่ติดกัน หรือจะเป็นโครงการของศุภาลัยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แถมด้วย You2 Condo อีกแห่งที่อยู่ในซอยทางด้านหลัง ดังนั้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านทางโครงการจึงเน้นเป็นพิเศษ รอบโครงการกั้นรั้วทึบสูง 3 เมตร และต่อแนวรั้วโปร่งขึ้นไปอีก 1.5 เมตร ยิ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านมากขึ้นไปอีก ในขณะที่ตัวบ้านแบบดูเพล็กซ์ทาวน์โฮมของโครงการเองก็ออกแบบให้ดูสูงโปร่งมากพอ ดูเผินๆ แล้ว บ้านสูง 3 ชั้นครึ่งนี่ก็แทบจะสูงเท่ากับคอนโดชั้นที่ 4-5 เลยทีเดียว พื้นที่ของโครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส นะครับ โดยโซนแรกจะมีจำนวนบ้านทั้งหมด 63 ยูนิต และส่วนที่ 2 ที่เป็น Private Zone มีจำนวนเพียง 29 ยูนิต ทำให้ลูกบ้านใน Private Zone นี้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะจำนวนเพื่อนบ้านในโซนนี้มีน้อยมาก ในขณะที่ Facility ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ที่โซนแรก ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย พร้อมห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แยกชายหญิง และตู้ล็อคเกอร์ นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะส่วนกลาง เป็นสนามหญ้ากว้าง พร้อมมุมนั่งเล่นพักผ่อน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการ มี CCTV รอบโครงการตลอด 24 ชั่วโมง ประตูเข้าออกหลักด้วยระบบ Key Card มีเจ้าหน้าที่ รปภ. ประจำตลอดทั้งวัน ที่ประตูเข้าออกของทั้ง 2 เฟส สิ่งอำนวยความสะดวก Access Card เข้า – ออกโครงการ พร้อมป้อมยามรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออก และภายในโครงการ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมส่วนพักผ่อน สโมสร สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และห้องสมุด ระบบสายไฟฟ้าปักเสาพาดสาย ตามแบบมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวง ระบบท่อเมนประปา ตามมาตรฐานการประปานครหลวง พาชมบ้านตัวอย่าง บ้านทาวน์โฮมของ โครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธิน มีเพียงแบบเดียวนะครับ ตัวบ้านสูง 3 ชั้นครึ่ง มีพื้นที่ใช้สอยรวม 193 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันพอดี ฟังก์ชั่นในบ้านแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ซึ่งภายในบ้านถูกออกแบบพื้นที่ใช้สอยมาได้คุ้มค่า ในขณะที่ยังคงความรู้สึกโอ่โถงอยู่สบาย ลองดูแปลนบ้านไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า โครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธิน จัดว่าค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้งนะครับ เพราะถือเป็นโครงการบ้านทาวน์โฮมที่อยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการอยู่อาศัยมากๆ แถมแผนการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีกำหนดจะเริ่มสร้างในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นอีกหลายเท่า และแน่นอนว่าด้วยศักยภาพการเติบโตของที่ดินที่อยู่ในระยะใกล้รถไฟฟ้าขนาดนี้ น้อยมากที่จะมีโครงการบ้านในแนวราบให้เห็น เมื่อเทียบเรทราคาของคอนโดในแนวรถไฟฟ้าที่อยู่ในระดับเดียวกัน ต้องบอกว่า บ้านทาวน์โฮม ยังคงได้เปรียบในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า และมีพื้นที่จอดรถแน่นอน ยิ่งแบบบ้านของ บ้านกลางเมือง ที่เป็น "ดูเพล็กซ์ทาวน์โฮม" ซึ่งให้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ในขณะที่ยังโอ่อ่าอยู่สบาย ไม่เหมือนกันทาวน์โฮมทั่วไป จึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยในรูปแบบครอบครัวได้ดีเลยทีเดียว   (Advertorial)
The Urban Attitude แบริ่ง 14 : รีวิวคอนโด

The Urban Attitude แบริ่ง 14 : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโด Low Rise ในซอยแบริ่ง ที่มีชื่อว่า The Urban Attitude แบริ่ง 14 จาก Urban Property เจ้าของเดียวกับ The Gallery ที่อยู่ตรงต้นซอยแบริ่งนั่นเอง โครงการน้องใหม่นี้อยู่ถัดเข้ามาในซอยแบริ่ง 14 นะครับ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งประมาณ 1 กิโลเมตรได้ ซึ่งถือว่าเดินทางกันได้สะดวกสบายไม่น้อยเลย สำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้รถส่วนตัว รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    The Urban Property Co., Ltd. ลักษณะโครงการ    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     137 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   0 - 3 - 62 ไร่ ที่จอดรถ    ประมาณ 30% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ซอยแบริ่ง 14 ถนนสุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง  จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 4 ปี 2015 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 2 ปี 2017 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร (ชำระครั้งเดียว) วิธีการเดินทาง การเดินทางในครั้งนี้ เรานั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีแบริ่ง แล้วต่อรถเข้าไปดูที่ตั้งโครงการในซอยแบริ่ง 14 ก่อน ซึ่งระยะทาง BTS แบริ่ง เข้ามาประมาณ 800 เมตร ก็จะเห็นซอยแบริ่ง 14 อยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้ามาอีกนิดหน่อย ตัวโครงการจะตั้งอยู่ตรงหัวมุมด้านซ้ายมือครับ ส่วนที่ตั้งของ Sale Gallery จะตั้งอยู่ช่วงปากซอยแบริ่ง ตรงข้ามกับโครงการ The Gallery เลย หาไม่ยากครับ จากรถไฟฟ้า BTS เราสามารถเดินมาขึ้นรถสองแถว หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ที่บริเวณปากซอยแบริ่งเลยนะครับ มีรถวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน ถ้าลงรถที่ปากซอยแบริ่ง 14 ก็เดินต่อเข้ามาในซอยอีกแค่ 150 เมตรเท่านั้น กำลังสบายๆ แต่ถ้าเลือกนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็เลี้ยวเข้ามาส่งที่หน้าโครงการได้เลย สะดวกมากๆ ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็สามารถเลือกเข้าได้ทั้งจากเส้นทางหลักถนนสุขุมวิททางซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) หรือทางซอยสุขุมวิท 109 ก็ได้ เนื่องจากท้ายซอยแบริ่ง 14 เชื่อมต่อกับซอยสันติคาม 13 ไปออกซอยสุขุมวิท 109 ได้ด้วย หรือจะมาทางถนนศรีนครินทร์ก็ได้อีกเช่นกัน นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เส้นทางถนนเทพารักษ์ ถนนปู่เจ้าสมิงพราย และวงแหวนรอบนอก ในการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อีกหลายเส้นทางเลยทีเดียว การเดินทางในย่านนี้ถือว่าสะดวกมากเลยทีเดียวนะครับ เสียแต่ว่าปริมาณรถหนาแน่นมากเกือบตลอดวัน แถมยังอยู่ในเส้นทางที่มีการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าอีก ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นของวันทำงาน สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีแบริ่ง ไบเทค บางนา เซ็นทรัล บางนา บิ๊กซี โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา อิมพีเรียล เวิล์ด สำโรง วิเคราะห์รอบโครงการ ถึงแม้ว่าตัวโครงการ The Urban Attitude แบริ่ง 14 จะตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่าความเจริญโดยรอบยังจัดว่าครบครันเลยทีเดียว ทั้งทางด้านถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด ก็มีห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าเล็กใหญ่ เรียงรายเต็มไปหมด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว วัดวา สถานศึกษา และโรงพยาบาล ก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ อีกหลายแห่ง ที่สำคัญรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กำลังก่อสร้างในส่วนต่อขยายอยู่ ก็ทำให้ความเจริญไล่ตามมาติดๆ จะเห็นได้จากโครงการบ้านและคอนโดใหม่ๆ ผุดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าอีกเพียบเลยครับ ส่วนในซอยแบริ่งนั้น ก็ถือว่าเป็นซอยใหญ่ มีปริมาณรถผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นถนนที่เชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์เข้าด้วยกัน ช่วงต้นซอยมีร้านค้ามากมาย มีของขายหลากหลาย รวมถึงร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารด้วย จึงเป็นที่พึ่งพาเรื่องกินข้าวของเครื่องใช้เล็กๆ น้อยได้สบาย เว้นเสียแต่ว่าต้องจ่ายตลาดซื้อของสดเป็นเรื่องเป็นราว ก็ต้องนั่งรถเลยไปอีกหน่อยที่ตลาดสำโรง ซึ่งมีข้าวของให้เลือกซื้อมากกว่ามากเลยครับ สำหรับตัวโครงการ The Urban Attitude อยู่ถัดจากปากซอยแบริ่ง 14 เข้ามาอีกประมาณ 150 เมตร บริเวณปากซอยแบริ่ง 14 มีร้านอาหารให้พึ่งพาอยู่บ้างนะครับ เลี้ยวเข้ามาในซอยแล้วจะเห็นว่า ถนนในซอยค่อนข้างแคบ ยิ่งมีรถจอดอยู่ข้างทางด้วยก็ยิ่งทำให้รู้สึกแคบเข้าไปอีก โชคดีกว่าตัวโครงการอยู่ไม่ลึกมาก จึงไม่ได้รู้สึกลำบากมากในการขับรถเข้าออก ที่ดินหัวมุมของซอยเล็กที่เชื่อมไปที่ซอยแบริ่ง 16 ได้ คือที่ตั้งของโครงการนะครับ เมื่อสร้างเสร็จแล้วทางเข้าออกหลักจะอยู่ที่ถนนด้านนี้ ดังนั้นลูกบ้านจึงเลือกเข้าได้ทั้งจากทางซอยแบริ่ง 14 และ 16 ใกล้กับโครงการมีอาคารโรงงานสูง 5 ชั้น ช่วงเช้า-เย็น รวมถึงตอนพักกลางวัน จะมีพนักงานเดินเข้าออกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตึกตรงข้ามที่ดินโครงการยังเป็นร้านขายของชำ ขายขนมเล็กๆ น้อยๆ ด้วย และช่วงกลางวันยังมีแผงลอยตั้ง ตลาดนัดขายของอยู่หลายร้าน อาจจะเป็นเพราะตอนนี้โครงการยังไม่ทำการก่อสร้าง คิดว่าถ้าสร้างเสร็จแล้ว พื้นที่หน้าโครงการคงไม่อนุญาตให้ตั้งแผงลอยแบบปัจจุบัน นอกเหนือจากนี้พื้นที่ติดกันโดยรอบก็จะเป็นบ้านพักอาศัย แนวราบ อาจจะมีคอนโดโครงการอื่นขึ้นใกล้ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับติดกัน เลยไม่ค่อยน่าเป็นห่วงว่าจะเปิดหน้าต่างมาเจอเพื่อนตึกติดกันนะครับ เพียงแต่บริเวณใกล้ๆ มีอาคารอพาร์ทเม้นท์อยู่บ้าง ผู้คนบริเวณนี้จึงคึกคักหน่อย ไม่ถึงกับเงียบสงบเลยซะทีเดียว โครงการ The Urban Attitude แบริ่ง 14 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มีจำนวนยูนิตรวม 137 ยูนิตเท่านั้น โดยส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป พื้นที่ชั้นล่างใต้อาคารจะเป็นที่จอดรถ และสวนหย่อมตรงพื้นที่ตรงกลางระหว่างรูปตัว U ของอาคาร ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมี Lobby และห้องสมุด ร่วมกับห้องพักอาศัยด้วย ส่วน Facility หลักจะอยู่ที่ชั้น 8 รวมกับห้องพักบางส่วน ซึ่ง Facility ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ก็มีทั้ง สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ สวนหย่อม และถ้าขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าก็ยังมีพื้นที่พักผ่อนเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวก ผู้ช่วยพิเศษสำหรับการบริการ ที่จอดจัรยาน ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำลอยฟ้า ลานบาบีคิวลอยฟ้า ระบบคีย์การ์ดภายในโครงการ สวนพักผ่อนภายในโครงการ ห้องอบไอน้ำ สวนลอยฟ้า โถงต้อนรับอเนกประสงค์และห้องสมุด Shutter Bus รับส่งสถานี BTS พาชมห้องตัวอย่าง มาดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการมีห้องให้เลือกชม 2 แบบด้วยกัน เริ่มกันที่ห้องแรกที่ขนาด 26.17 ตร.ม เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งเป็นห้องหน้าแคบ แต่ก็จัดวาง Layout ได้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว เปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกันพื้นที่นั่งเล่น หรือห้องรับแขก ส่วนพื้นที่โซนด้านในจะแบ่งเป็นห้องนอน และห้องครัว ซึ่งมีประตูกระจกกั้นพื้นที่ใช้สอยส่วนต่างๆ ไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ไปดูภาพบรรยากาศภายในห้องไปพร้อมกันเลยครับ ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้อง จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเช่นกัน โดยมีพื้นที่ห้องขนาด 31.67 ตร.ม. แบบห้องเป็นแบบหน้าแคบนะครับ ลักษณะห้องจะลึกกว่าห้องแรก โดยรวมแล้ว Layout ของห้องจะมีลักษณะคล้ายกันมาก แต่พื้นที่ของห้องนี้จะกว้างกว่า จึงได้พื้นที่ว่างเพิ่มบริเวณระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ บริเวณนี้ทางโครงการจึงเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยการ Built-in ตู้เก็บของมาให้ เพิ่มการใช้สอยประโยชน์ภายในห้องให้มากขึ้นอีกหน่อยครับ ห้องพักของโครงการ The Urban Attitude แบริ่ง 14 จะขายกันมาแบบ Fully Furnished เลยนะครับ แทบจะพร้อมเข้าอยู่เลยทีเดียว เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องตัวอย่างทั้งตู้ เตียง ชุดครัว รวมถึงเครื่องปรับอากาศก็จะได้ตามที่เห็นเลย เว้นแต่เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่อาจจะมีหน้าตาไม่เหมือนในห้องตัวอย่างบ้าง อันนี้แนะนำให้เช็คกับทางโครงการให้ดีก่อนนะครับ เพราะบางชิ้นเป็นการตกแต่งเพิ่งเติมเพื่อความสวยงามภายในห้องตัวอย่างเท่านั้น ด้วยความที่ห้องของโครงการขายให้แบบเกือบจะพร้อมเข้าอยู่เมื่อสร้างเสร็จเลย จึงน่าจะเหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการหาคอนโดขนาดกระทัดรัดซักห้องในย่านนี้ ยิ่งถ้าต้องทำงานอยู่ใกล้ๆ ในแถบนี้อยู่แล้ว ก็ถือว่าสะดวกมากเลยทั้งเรื่องการเดินทาง และอาหารการกิน นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกโครงการในพื้นที่แบริ่ง อีกอย่างด้วยราคาขายก็อยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่าย สบายกระเป๋า แต่ก็แลกกับที่ตั้งที่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าออกมาหน่อยก็ถือว่าคุ้มราคาอยู่นะครับ