Tag : Innovation

9 ผลลัพธ์
AIS Fibre จับมือโนเกียเปิดตัวบริการ Mesh Wi-Fi สำหรับใช้ในบ้าน เป็นรายแรกในประเทศไทย

AIS Fibre จับมือโนเกียเปิดตัวบริการ Mesh Wi-Fi สำหรับใช้ในบ้าน เป็นรายแรกในประเทศไทย

AIS Fibre ผู้นำอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงของไทย จับมือโนเกีย พัฒนาบริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงระดับพรีเมี่ยมรูปแบบใหม่แก่ลูกค้า AIS Fibre ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสัญญาณ Wi-Fi broadband ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดทั่วทุกมุมของบ้าน  ลูกค้าของ AIS Fibre จะได้รับสิทธิ์ในการซื้อ Nokia WiFi Beacon 3 แบบ duo-pack ในราคาพิเศษ ซึ่งเมื่อการติดตั้งเรียบร้อยเครือข่าย Wi-Fi แบบ mesh จะมีสัญญาณกระจายทั่วทั้งบริเวณบ้าน (whole-home) อย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มพื้นที่ครอบคลุมและเสริมประสิทธิภาพของบรอดแบนด์ความเร็วสูงมาก (ultra-broadband) ได้อย่างมีนัยสำคัญ   ประสิทธิภาพของเครือข่าย Wi-Fi ที่ครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณบ้านมักจะได้รับผลกระทบเช่นความเร็วที่ลดลงหรือสัญญาณไม่เสถียร จากจำนวนของอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เครือข่ายดังกล่าวต้องบริหารจัดการและสัญญาณรบกวนที่อาจเกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตาไมโครเวฟ หรือเครือข่าย Wi-Fi จากที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง การทำให้บ้านของลูกค้ามีสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมเพียงพอเป็นเรื่องที่ท้าทายและในหลายกรณีจะต้องมีการติดตั้ง access point หลายจุดเพื่อลดจุดอับสัญญาณ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากสัญญาณขาดหายเนื่องจากมีผนังภายในกั้นหรือสัญญาณรบกวน โซลูชั่น Wi-Fi ของ Nokia ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมจาก iF Design Foundation ช่วยขจัดปัญหาของเครือข่ายเหล่านี้ที่พบโดยทั่วไปตามบ้านพักอาศัยและช่วยให้ลูกค้าของ AIS Fibre ได้ใช้เครือข่าย Wi-Fi แบบ mesh ที่เต็มประสิทธิภาพอย่างแท้จริง อีกทั้งยังติดตั้งง่าย ให้สัญญาณครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณบ้านและมีคุณสมบัติรองรับบรอดแบนด์ความเร็วสูงมากได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ Nokia WiFi Beacon 3 ถูกออกแบบมาให้สามารถตรวจจับแหล่งที่มาของสัญญาณรบกวนทั้งที่เป็นสัญญาณ Wi-Fi และไม่ใช่ Wi-Fi ได้ถึง 100% จากนั้นจึงทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับช่องสัญญาณที่แรงที่สุดโดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นการวิเคราะห์ข้อมูลที่มากับ Nokia WiFi Beacon 3 ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้เองโดยอัตโนมัติ ลดความจำเป็นที่ลูกค้าต้องจัดการเครือข่ายด้วยตนเองเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ลูกค้ามีประสบการณ์ในการใช้ Wi-Fi ในบ้านที่ดียิ่งขึ้น   หลังจากลูกค้า AIS Fibre ได้รับอุปกรณ์ Nokia WiFi Beacon 3 ลูกค้าสามารถทำการติดตั้งเองได้อย่างรวดเร็ว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นลงบนมือถือและทำตามขั้นตอนการตั้งค่าที่แนะนำ เมื่อการติดตั้งเสร็จ ลูกค้าสามารถใช้แอปพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อดูการแสดงข้อมูลภาพซึ่งแสดงความครอบคลุมของสัญญาณ  (heat map) เพื่อระบุและจัดการจุดอับสัญญาณได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถระบุจุดที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่ม access point เพื่ออุดช่องว่างความครอบคลุมของสัญญาณ นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถเข้าถึงรายการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายแยกสำหรับผู้มาเยือน (guest networks) และตั้งค่าความปลอดภัยตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว มร.เบนวา เฟลเทน หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิจัย ของ Diffraction Analysis กล่าวว่า “ผู้ให้บริการ บรอดแบรนด์ส่วนมากจะไม่ได้ให้บริการหรือจัดการเครือข่าย Wi-Fi ในบ้านของลูกค้า ทำให้ในหลายกรณีสมรรถภาพของบรอดแบนด์ความเร็วสูงที่ส่งมาถึงบ้าน อาจจะถูกลดทอนลงจากสัญญาณรบกวนต่างๆ ที่เกิดกับเครือข่าย Wi-Fi  โซลูชั่น Wi-Fi ของ Nokia ทำให้ผู้ใช้บริการมีประสบการณ์ Wi-Fi ที่ดีขึ้นโดยการสร้าง mesh network ที่กำจัดจุดอับพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพอย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บรอดแบนด์ความเร็วสูงมากจากทุกมุมของบ้านไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม”   นายศรัณย์ ผโลประการ ผู้อำนวยการธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า "AIS Fibre ในฐานะผู้นำนวัตกรรมอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ความเร็วสูงของประเทศ ที่มุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีที่แตกต่างและนำเทรนด์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมเน็ตบ้านมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผู้บุกเบิกการให้บริการอินเทอร์เน็ต ไฟเบอร์ออปติกแท้รายแรกของไทย รวมถึงให้บริการ Dual Band Router เป็นรายแรกเช่นกัน เพื่อส่งมอบบริการเน็ตบ้านที่คุณภาพดีที่สุดเสมอ ล่าสุด AIS Fibre ตอกย้ำความเป็น Innovative Leader อีกครั้ง ด้วยการจับมือกับพันธมิตรระดับโลก Nokia ทำงานร่วมกันในเชิงลึก เพื่อศึกษาและทดสอบอุปกรณ์ Mesh WiFi สำหรับตลาดในเมืองไทย เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าไปอีกขั้น โดยร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นรายแรกของโลกกับ “Nokia WiFi Beacon 3” อุปกรณ์เสริมเราเตอร์ระดับพรีเมี่ยม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ทำให้การเชื่อมต่อราบรื่น ครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้าน” มร.เฟเดอริโก้ กิวเล็น ประธานธุรกิจฟิกซ์ เน็ตเวิร์ค ของโนเกีย กล่าวว่า "โซลูชั่น Wi-Fi ของ Nokia ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเรื่องการใช้งาน Wi-Fi ที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ให้บริการมีเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและทำให้การบริการลูกค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับ AIS Fibre ในการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างด้านการบริการเครือข่าย Wi-Fi ในบ้านของลูกค้าของ AIS Fibre ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ในการใช้บรอดแบรนด์ความเร็วสูงมากที่ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย จากทุกมุมภายในบ้านอย่างแท้จริง"          
DI Wireless Switch ตัวช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้าน

DI Wireless Switch ตัวช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้าน

ปลดล็อกการใช้งานสวิตซ์ไฟรูปแบบเดิมๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเจาะผนังและเดินสายไฟให้ยุ่งยาก กับ DI Wireless Switch ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ DI (ดีไอ) Concept Store ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท จาร์เค็น ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นมาเพื่ออำนวยความสะดวก อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า ลดโลกร้อน จากการนำพลังงานในการเคลื่อนไหวของร่างกาย มาแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยสามารถนำกลับมาใช้ไหม่แบบไม่มีวันหมด สำหรับการออกแบบสินค้าชิ้นนี้เกิดจากความตั้งใจที่ว่า.. 'การออกแบบที่ดีต้องมาพร้อมกับความยั่งยืนในการใช้งานทุกๆ มิติ รวมถึงมิติของพลังงานด้วย' ดังนั้นสวิตซ์ควบคุมไฟในบ้านจึงเป็นผลงานที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยเหตุผล คุณค่า ผ่านหลักการ energy-harvesting ซึ่งเป็นแนวโน้มการพัฒนาวัสดุพลังงานที่กำลังได้รับความสนใจในยุคนี้ จากการเก็บเกี่ยวพลังงานสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ทั้งการเคลื่อนไหวของร่างกายจากแรงสั่นสะเทือน แปรให้เป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วนำกลับมาใช้ใหม่แบบที่ไม่มีวันหมดอายุ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในต่างประเทศ ทุกวันนี้สังคมเราเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เป็นสังคมแบบพลวัตที่ต้องคำนึงถึงคนรุ่นหลัง ทาง DI (ดีไอ) เลยตั้งใจออกแบบโดยทิ้งอะไรให้คนรุ่นหลังคิดได้ว่าโลกยังมีอะไรให้เรารักษา โดยที่ลงมือทำผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้จากความคิดสร้างสรรค์ คำนึงถึงผลกระทบต่ออนาคต โดยเน้นการเก็บเกี่ยวพลังงานจากสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการเก็บพลังงานขนาดเล็กทุกที่ทุกเวลา แตกต่างจากแหล่งเก็บเกี่ยวอย่างพลังงานลมและแสงอาทิตย์ที่คนส่วนใหญ่มักนึกถึง ซึ่งเจ้า DI Wireless Switch เป็นการเก็บพลังงานตรงจากแรงสั่นสะเทือนของการกดนิ้วมือลงบนสวิตซ์โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่เพียงเท่านี้ DI Wireless Switch ยังถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและใช้งานง่าย ดีไซน์สไตล์มินิมอล ทรงกลม มีให้เลือกหลากหลายสีสันตามสไตล์ของผู้ใช้งาน อาทิ สีขาว สีเขียว สีแดง และสีทอง เป็นต้น ซึ่งคลอบคลุมทุกจุดทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมไปจนถึงสำนักงาน เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ไร้สายที่มีระยะควบคุมได้ไกลถึง 170 เมตร (ภายนอก) และระยะ 30 เมตร (ภายในอาคาร) โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การติดตั้งอย่างไม่ยุ่งยากเพียงนำ receiver อุปกรณ์ที่มาพร้อมในกล่องไปติดที่สวิตซ์ไฟในบ้าน เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ผู้เขียนเชื่อว่าการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสิ่งแวดล้อมง่ายๆ เริ่มต้นได้จากการ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องมีค่าบำรุงรักษาอย่าง DI Wireless Switch ที่ออกแบบมาได้น่ารัก พกพาง่าย เหมาะสมแก่การให้เป็นของขวัญแด่คนสนิท และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งงานดีไซน์รักษ์โลกที่เราสามารถช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทาง
9 เทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำให้ชีวิตในบ้านง่ายขึ้น

9 เทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำให้ชีวิตในบ้านง่ายขึ้น

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง นั้นช่วยทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังสร้างสรรค์การทำงานบ้านที่ใครหลายคนแสนจะเบื่อหน่ายกลับกลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่รอช้าที่จะแสวงหาไอเท็มเด็ด มากระตุ้นต่อมอยากให้คุณแม่บ้านหลายครัวเรือนได้เลือกสรร 1. The smoke alarm เครื่องตรวจดักจับควันอัจริยะ ภาพ via nest.com ล่าสุดแบรนด์ Nest ต่อยอดพัฒนาความสามารถของเครื่องตรวจดักจับควันตัวนี้ให้ ทั้งสามารถพูดคุยตอบโต้ได้ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทันทีผ่านระบบ Smartphone อีกทั้งยังตรวจจับควันได้ทั้งแบบปกติและแบบชนิดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างคาร์บอนมอนอกไซด์ ได้ด้วย สนนราคาเพียง $99 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 บาท 2. Nest Thermostat ตัวช่วยเปลี่ยนอุณหภูมิในบ้านให้เหมาะสม ภาพ via nest.com อีกหนึ่งนวัตกรรมการพัฒนาอุปกรณ์ภายในบ้านของ Nest ที่จะช่วยทำให้รับรู้ถึงอุณหภูมิในบ้านอันเหมาะสมต่อสมาชิกในครอบครัว แถมยังปรับเปลี่ยนได้ตามใจต้องการ อีกทั้งยังสามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือได้อีกด้วย 3. เติมสีสันหลอดไฟในบ้าน ด้วย Philips Hue ภาพ via macrumors.com ถึงเวลาเปลี่ยนหลอดไฟ ด้วยขีดความสามารถของ Philips Hue อันช่วยสร้างสีสันภายในบ้าน เพียงเลือกเฉดสีผ่านระบบสัมผัส พร้อมเพิ่มความสว่างสดใสได้แสนง่าย โดยซิงค์กับโทรศัพท์มือถือคู่กาย พร้อมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น เท่านี้ก็สามารถควบคุมหลอดไฟในบ้านได้แล้ว แถมยังสั่งงานได้สูงสุดถึง 50 ดวง ใครสนใจสามารถไปเลือกสรรได้แล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สนนราคาประมาณ 6,000 บาท 3. บ้านปลอดภัยหายห่วง ด้วย Canary ภาพ via  canary.is ด้วยระบบเตือนภัยอัจริยะ ที่สามารถแจ้งเตือนทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอพพลิเคชั่น แถมยังติดตั้งง่าย และเป็นได้มากกว่าการส่งสัญญาณความปลอดภัย เพราะสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่กำลังเป็นอันตรายต่อสมาชิกภายในบ้าน รวมทั้งยังสามารถวัดอุณหภูมินอกบ้าน ผ่านระบบ built-in sensor สนนราคาเริ่มต้น $199 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,000 บาท 5. Belkin Wemo สวิตช์ไฟที่ช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น ภาพ via belkin.com ถือได้ว่าเป็นสวิตช์ไฟฟ้าที่มีความเรียบง่าย และสามารถเสียบใช้งานกับอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะพัดลม หรือแม้กระทั่งแอร์ โดยสั่งงานผ่านระบบอินเทอร์เนต หรือผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือ แม้ว่าจะอยู่นอกบ้านก็สามารถสั่งงานเปิด-ปิดได้ สนนราคา $49.99 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,600 บาท 6. Netatmo พยากรณ์อากาศ ภาพ via netatmo.com เครื่องนี้สามารถช่วยให้คุณรู้ และอัพเดตได้ตลอดเวลาว่า ณ ขณะนี้ เกิดอะไรขึ้นในบ้านได้อย่างแม่นยำ เช่น ลมแรง ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เป็นต้น สนนราคา $49 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 บาท 7. iKettle สุดยอดกาน้ำล้ำสมัย ภาพ via  firebox.com ความไม่ธรรมดาของกาน้ำนี้ คือสามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้ แม้หลายคนอาจจะงงว่าเพื่ออะไร แต่นี้สามารถช่วยให้คุณได้น้ำร้อน ก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัว และมันก็จะช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเรอ อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาได้อีกด้วย สนนราคา $149.99 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,000 บาท 8. Logi Circle ติดตามความเคลื่อนไหวสัตว์เลี้ยงสุดโปรด ภาพ via cnet.com เพียงวาง Logi Circle ไว้ในบ้าน ในวันที่ต้องออกไปทำกิจวัตรประจำวันข้างนอก หลังจากนั้น login live ผ่านแอพพลิเคชั่น เจ้าเครื่องนี้จะส่งภาพ ติดตามความเคลื่อนไหวสัตว์เลี้ยงจอมซนของคุณในบ้านทันที แถมยังสามารถเอ็ดเจ้าสุนัขหรือแมวตัวโปรดที่กำลังกัดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงามได้ทันที สนนราคา $169.99 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,500 บาท 9. iRobot Roomba ทำให้เรื่องดูดฝุ่น ง่ายจนคาดไม่ถึง ภาพ via irobot.com เพียงวางหุ่นยนต์ Roomba มันจะทำการเคลื่อนไหวไปรอบๆ บ้านหรือภายในห้องทันที พร้อมกับดูดจัดเก็บฝุ่น สิ่งปฏิกูลไม่ผึงประสงค์ทันที ใครสนใจสามารถไปเลือกสรรได้แล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สนนราคาเริ่มต้นประมาณ 15,000 – 30,000 บาท และนี้คือ 9 อย่างที่คุณสามารถลองหามาใช้ในบ้าน จะได้ช่วยให้เรื่องงานบ้านแสนปวดหัวของคุณหายห่วง ถึงแม้จะไม่ได้อยู่บ้านก็ตาม   ขอขอบคุณข้อมูลจาก th.theasianparent.com