Tag : Lifestyle

408 ผลลัพธ์
ตำแหน่งวางเตาครัวในบ้านนั้น ต้องวางให้ดี

ตำแหน่งวางเตาครัวในบ้านนั้น ต้องวางให้ดี

อ.ธนากร แนะนำว่า "บ้าน หรือคอนโดทั่วๆไป จะมีเตาครัวประจำบ้านอยู่แล้ว แล้วแต่ว่าจะวางเตาครัวไว้ในส่วนไหนของบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องครัวที่กำหนดไว้ หากท่านเข้ามาอยู่ในบ้านนี้แล้ว เกิดเจ็บป่วย ไม่สบายบ่อย เจ็บออดๆ แอดๆ ลองมาสังเกตดูว่า เตาครัวของท่าน วางอยู่ใต้ห้องน้ำหรือเปล่า ทุกครั้งที่มีการใช้ห้องน้ำด้านบนชั้นสอง หนือเหนือเตาครัว กดชักโครกทีไร ของเสีย จะเปรียบเสมือนความชั่วร้าย ก็จะลงมาที่เตาครัว เตาจะเสียหายหมด บนเตาครัว หรือในเตาครัวจะมีเทพเจ้าอยู่ เราเรียกว่า "เจ้าเตา" ถ้าถูกทับด้วยสิ่งชั่วร้าย"          ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
เรื่องควรรู้ การตั้งศาลพระภูมิ ที่คุณอาจมองข้าม

เรื่องควรรู้ การตั้งศาลพระภูมิ ที่คุณอาจมองข้าม

สิ่งที่ต้องคำนึงในการตั้งศาลพระภูมิ คือ สถานที่ตั้ง ทิศทาง วันและฤกษ์ตั้ง ความสูงของศาลพระภูมิ และผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิ สถานที่ตั้งศาล มีหลักการพิจารณาดังนี้ 1. ที่ตั้งศาลต้องเป็นบริเวณพื้นดิน มิใช่บริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน 2. หากไม่มีพื้นที่ที่เป็นพื้นดิน สามารถทำการตั้งศาลบนชั้นดาดฟ้าได้ แต่ส่วนใหญ่ศาลที่ตั้งบนดาดฟ้าจะเป็นศาลเทพต่างๆ เช่นพระพรหม หรือ พระนารายณ์ มิใช่พระภูมิเจ้าที่ 3. จุดที่ตั้งของศาลต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้านทอดลงมาทับ 4. ที่ตั้งของศาลควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ 5. อย่าตั้งศาลให้อยู่ใกล้กับตัวบ้านมากนัก 6. อย่าหันหน้าศาลเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ 7. ไม่ควรตั้งศาลให้หันหน้าตรงกับประตูหน้าบ้าน 8. ตั้งศาลให้ห่างจากรั้วหรือกำแพงบ้านอย่างน้อย 1 เมตร 9. ถ้าสามารถยกพื้นที่ตั้งศาลให้สูงขึ้นสัก 1 คืบ จากพื้นดินได้ ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง 10. ความสูงของศาล ควรสูงเหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นไปเล็กน้อย   ทิศทางการตั้งศาลพระภูมิ หันหน้าศาลพระภูมิสู่ทิศมงคล 1. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ทิศอีสาน เป็นทิศที่ดีที่สุดหากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป 2. ทิศตะวันออก หรือ ทิศบูรพา เป็นทิศที่ดีอันดับ 2 หากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณ 100 ปี หลังจากนั้น จะมีแต่เสื่อมลงๆจนถึงขั้นหาความสุขความเจริญไม่ได้ 3. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ทิศอาคเณย์ เป็นทิศที่ดีอันดับ 3 หากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณ 50 ปี หลังจากนั้น จะมีแต่เสื่อมลงๆจนถึงขั้นหาความสุขความเจริญไม่ได้ ทิศต้องห้ามในการตั้งศาลพระภูมิ คือ ทิศตะวันตกและทิศใต้ เมื่อหาทิศทางตั้งศาลได้แล้วจะต้องพูนดินให้สูง 1 คืบ เกลี่ยดินด้วยมือและทุบให้แน่น ห้ามใช้เท้าเด็ดขาด และเตรียมน้ำมนต์ไว้พรมบริเวณพื้นดินเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ น้ำมนต์ที่ว่านี้เรียกว่า " น้ำมนต์ธรณีสาร " น้ำมนต์ธรณีสารนี้ ทำได้โดยนำน้ำธรรมดาไปให้พระท่านสวดพระพุทธมนต์ทำเหมือนน้ำมนต์ทั่วไปแต่ต่างกัน ตรงที่ให้ท่านนำใบไม้ต้นธรณีสารมาใส่ลงในน้ำที่จะทำน้ำมนต์ วันและฤกษ์การตั้งศาลพระภูมิ มีความสำคัญมาก ควรเลือกวันที่ดีและมีความเป็นสิริมงคลเพื่อให้ประสิทธิ์ผลในทางมงคล แก่ผู้อยู่อาศัยในบ้านเรือนนั้นสืบต่อไป วันต่อไปนี้ถือเป็นวันที่เป็นมงคลฤกษ์ วันข้างขึ้น วันข้างแรม ๒ ค่ำ ๒ ค่ำ ๔ ค่ำ ๔ ค่ำ ๖ ค่ำ ๖ ค่ำ ๙ ค่ำ ๙ ค่ำ ๑๑ ค่ำ ๑๑ ค่ำ   แต่ถ้าวันข้างขึ้น หรือข้างแรมดังกล่าวไปตรงกับวันต้องห้าม ของเดือนใด ให้เลี่ยงไปใช้วันอื่นเสีย เวลาฤกษ์อันเป็นมงคล ของการตั้งศาลพระภูมิ วัน เวลา วันอาทิตย์ เวลา ๖.๐๙ น. - ๘.๑๙ น. วันจันทร์ เวลา ๘.๒๙ น. - ๑๐.๓๙ น. วันอังคาร เวลา ๖.๓๙ น. - ๘.๐๙ น. วันพุธ เวลา ๘.๓๙ น. - ๑๐.๑๙ น. วันพฤหัสบดี เวลา ๑๐.๔๙ น. - ๑๑.๓๙ น. วันศุกร์ เวลา ๖.๑๙ น. - ๘.๐๙ น. วันเสาร์ เวลา ๘.๔๙ น. - ๑๐.๔๙ น. วันต้องห้ามของการตั้งศาลพระภูมิ เดือน วันต้องห้ามคือ เดือนอ้าย (ธันวาคม)  วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เดือนยี่ (มกราคม) วันพุธ และวันศุกร์ เดือน ๓ (กุมภาพันธ์ )  วันอังคาร เดือน ๔ (มีนาคม) วันจันทร์ เดือน ๕ (เมษายน)  วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เดือน ๖ (พฤษภาคม) วันพุธ และวันศุกร์ เดือน ๗ (มิถุนายน) วันอังคาร เดือน ๘ (กรกฎาคม)  วันจันทร์ เดือน ๙ (สิงหาคม) วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เดือน ๑๐ (กันยายน ) วันพุธ และวันศุกร์ เดือน ๑๑ (ตุลาคม) วันอังคาร เดือน ๑๒ (พฤศจิกายน)  วันจันทร์   จะสังเกตได้ว่า จะไม่ปรากฏว่ามี วันอาทิตย์ เป็น ข้อห้ามเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ยึดเอาวันอาทิตย์ เป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งศาล เพราะคนโบราณถือกันว่า วันอาทิตย์นั้นแม้จะจะเป็นวันที่มีกำลังแรงดี แต่เป็นวันแรงและวันร้อน ไม่เหมาะที่จะทำการตั้งศาล เพราะบ้านอาจจะ ร้อน จรปราศจากความร่มเย็นเป็นสุข แต่ ถ้าหากผู้กระทำพิธีมีเคล็ดมีมนตร์แก้ความร้อนของวันได้ ก็สามารถคิดทำการตั้งศาลในวันนี้ได้ตามความสะดวก   ความสูงของการตั้งศาลพระภูมิ ขึ้นอยู่กับ ตัวเจ้าของบ้าน โดยให้ระดับฐานหรือชานชาลาพระภูมิอยู่เหนือระดับปาก (บางตำราว่าอยู่เหนือคิ้วพอดี ) ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าบ้าน ก็ควรจะตั้งศาลพระภูมิขึ้นใหม่ การใช้ศาลพระภูมิร่วมกัน กรณีที่เป็นหมู่บ้าน,ชุมชนหรือตึกแถว ให้ยึดเอาความสูงจาก เจ้าของผู้สร้างเริ่มแรก หรือหัวหน้าชุมชนนั้นๆ โดยให้เป็นตัวแทนเพื่อมาทำการยกศาลพระภูมิขึ้นเพื่อบอกกล่าวและสักการะ ขอให้ท่านดูแลปกปักษ์รักษาให้คุณ ให้โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัยทุกคน การปักเสาตั้งศาลพระภูมิ ต้องเตรียมหลุมให้เสร็จก่อนเริ่มพิธี ( ค่อยมีพิธีในวันรุ่งขึ้น ) โดยต้องเตรียมของดังนี้ พานครู 1 พาน ใช้สำหรับใส่ข้าว ธูป เทียนขาว ดอกไม้หรือพวงมาลัยสด เหล้า บุหรี่ ผ้าขาว เงิน 6 สลึงหรือ 99 บาท รายการของมงคลใส่หลุม (ปัจจุบันที่นิยมใช้) รายการมงคล จำนวน 1 เหรียญเงิน 9 เหรียญ 2 เหรียญทอง (เหรียญสลึงหรือ 50 สตางค์ก็ได้) 9 เหรียญ 3 ใบเงิน 9 ใบ 4 ใบทอง 9 ใบ 5 ใบนาค 9 ใบ 6 ใบรัก 9 ใบ 7 ใบมะยม 9 ใบ 8 ใบนางกวัก 9 ใบ 9 ใบนางคุ้ม 9 ใบ 10 ใบกาหลง 9 ใบ 11 ดอกบานไม่รู้โรย 9 ดอก 12 ดอกพุทธรักษา 9 ดอก 13 ไม้มงคล 9 ชนิด 14 แผ่น เงิน,ทอง,นาค 1 ชุด 15 พลอยนพเก้า 1 ชุด การกลบหลุมนั้นให้ใช้มือกด ห้ามใช้เท้าโดยเด็ดขาด   ผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิ ควรจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมมีศีลธรรม ทำบุญทำทานประจำ มีความซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม จะทำให้การตั้งศาลพระภูมิบังเกิดผลดี มีความเจริญรุ่งเรืองแก่เจ้าของบ้าน หรือเจ้าบ้านจะเป็นผู้กระทำพิธีกรรมก็ได้ โดยศึกษาขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ และให้ถือศีลกินเจ 7 วัน ( 3,5,7 วันก็ได้ หรือมากกว่านี้ก็ได้ ) ส่วนประกอบสำคัญของการตั้งศาลพระภูมิ จะเหว็ดศาลพระภูมิ จะเป็นรูปพระภูมิอยู่ในแผ่นคล้ายแผ่นเสมา มือขวาถือพระขรรค์ มือซ้ายถือถุงเงินหรือสมุด(หนังสือ) และการปลุกเสกจะเหว็ดให้เป็นองค์พระภูมิมีดังนี้ บรรจุธาตุทั้ง 6 คือ บรรจุพระพุทธคุณ,บรรจุพระธรรมคุณ,บรรจุพระสังฆคุณ ตลอดเทวคุณและวิญญาณธาตุเข้าไปในจะเหว็ดจากที่เรียกว่า จะเหว็ดเมื่อปลุกเสกแล้วก็จะเรียกว่า "พระภูมิ" บริวารของพระภูมิจะมี ตุ๊กตาชาย-หญิง อย่างละ 1 คู่ ตุ๊กตาช้าง-ม้า อย่างละ 1 คู่ ละครยก 2 โรง เครื่องประดับตกแต่งของการตั้งศาลพระภูมิ ประกอบด้วย เครื่องประดับตกแต่ง จำนวน 1 แจกัน 1 คู่ 2 เชิงเทียน 1 คู่ 3 กระถางธูป 1 ใบ 4 ผ้าผูกจะเหว็ด 1 ผืน 5 ผ้าพันศาล (ผ้าแพร 3 สี คือ สีเขียว,สีเหลืองและสีแดง) 1 ชุด 6 ฉัตรเงิน-ทอง 2 คู่ 7 ด้ายสายสิญจน์ 1 ม้วน 8 ผ้าขาว 1 ผืน 9 ทองคำเปลว - 10 แป้งเจิม 1 ถ้วย 11 ดอกบัว 9 ดอก 12 ดอกไม้ (มาลัย 7 สี ) 7 สี เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาลพระภูมิ จะประกอบด้วยอาหารคาวหวานดังนี้ เครื่องประดับตกแต่ง จำนวน 1 หัวหมู 1 หัว 2 ขนมต้มขาว 2 จาน 3 ไก่ต้ม 1 ตัว 4 ขนมถั่วงา 2 จาน 5 เป็ด 1 ตัว 6 ขนมถ้วยฟู 2 จาน 7 ปลานึ่ง 1 ตัว 8 ขนมหูช้าง 2 จาน 9 ปู หรือ กุ้ง 1 จาน 10 เผือก-มันต้ม 2 จาน 11 บายศรีปากชามยอดไข่ 1 คู่ 12 ฟักทอง 2 ผล 13 น้ำจิ้ม 2 ถ้วย 14 แตงไทย 2 ผล 15 ข้าวสวย 2 ถ้วย 16 ขนุน 2 จาน 17 เหล้า 1 ขวด 18 สับปะรด 2 ผล 19 น้ำชา 2 ถ้วย 20 กล้วย 2 หวี 21 น้ำสะอาด 2 แก้ว 22 ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน 23 มะพร้าวอ่อน 1 คู่ 24 พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่ 25 ขนมต้มแดง 2 จาน **ถ้าขนาดบ้านและศาลพระภูมิเล็ก ก็สามารถใช้สับปะรดเพียง 1 ผลได้แต่จัดแบ่งเป็น 2 จาน * เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาล (มังสวิรัติ) เครื่องประดับตกแต่ง จำนวน 1 มะพร้าวอ่อน 1 คู่ 2 ขนมถ้วยฟู 2 จาน 3 พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่ 4 ถั่วคั่ว 2 จาน 5 ฟักทอง 2 ผล 6 น้ำสะอาด 2 แก้ว 7 งาคั่ว 2 จาน 8 แตงไทย 2 ผล 9 ข้าวสวย 2 ถ้วย 10 เผือก-มันต้ม 2 จาน 11 ขนุน 2 จาน 12 น้ำชา 2 ถ้วย 13 ขนมต้มแดง 2 จาน 14 สับปะรด 2 ผล 15 นม 2 ถ้วย 16 ขนมต้มขาว 2 จาน 17 สับปะรด 2 ผล 18 เนย 2 ถ้วย 19 ขนมถั่วงา 2 จาน 20 ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน ผลไม้ที่ห้ามนำถวาย มังคุด มะเฟือง น้อยหน่า ลูกจาก มะตูม ละมุด มะไฟ กระท้อน ลูกพลับ พุทรา ระกำ น้อยโหน่ง ลูกท้อ มะขวิด ลางสาด คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าผลไม้ทั้ง 15 ชนิดนี้เป็นอัปมงคล ไม่ควรนำมาถวายเป็นเครื่องสังเวยหน้าศาลพระภูมิเป็นอันขาด ถ้าไม่มีเวลาเตรียมตัวสำหรับการตั้งศาลพระภูมิ ก็สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญได้ อาทิ รับตั้งศาลพระพรหมและพระภูมิ พราหมณ์ตั้งศาลพระภูมิ ตั้งศาลบวงสรวง เรื่องราวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดหิ้งพระในบ้าน ให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของ วางผิดชีวิตเปลี่ยน!! เผยทิศต้องห้ามวางหิ้งพระ ของแต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย ความรัก หาคู่แท้
ต้นไม้ตามริมรั้วบ้าน ควรตัด ดูแลให้ดี จะมีบริวารที่ดี โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ต้นไม้ตามริมรั้วบ้าน ควรตัด ดูแลให้ดี จะมีบริวารที่ดี โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมรั้วบ้านของเรา เปรียบเสมือนลูกน้อง บริวารของเรา ควรจะดูแล ตัดแต่ง แต่งกิ่ง ให้เป็นระเบียบ สวยงาม การที่ปล่อยให้ต้นไม้เหล่านี้ รกรุงรัง ยื่นเลย รุกล้ำไปนอกบ้าน หรือบ้านคนอื่น ลูกน้อง บริวาร กำลังแตกแยกกัน หรือนอกใจ ไม่จงรักภักดีคุณ ซึ่งเปรียบเสมือนทหาร ที่ต้องมีการฝึกระเบียบวินัยอย่างสม่ำเสมอ เช่นกัน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
วิธีการเลือกเครื่องกรองน้ำ ใช้กับบ้าน หรือคอนโดของคุณ

วิธีการเลือกเครื่องกรองน้ำ ใช้กับบ้าน หรือคอนโดของคุณ

เชื่อได้ว่า หลายๆคน หลายๆบ้าน จะต้องติดเจ้าตัวนี้ไว้ที่บ้าน หรือคอนโดแน่ๆ ตัวนี้ก็คือ "เครื่องกรองน้ำ" ที่มันมีประโยชน์มากมาย ต่อน้ำที่กรองออกมาใช้งาน มีมากมายหลายระบบ หลายแบบ วันนี้ เลยหยิบเอาข้อมูลต่างๆ ของเจ้าเครื่องกรองน้ำ (Water Filter Machine) มาฝากกัน   การเลือกเครื่องกรองน้ำสักเครื่องเพื่อนำมาใช้งาน คงต้องเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องกรองจากน้ำประปา หรือบางแห่งเป็นน้ำบ่อ แล้วต้องนำมาดื่ม บางบ้านนำมาสำหรับชงนมให้กับทารกเลยทีเดียว ดังนั้น จึงต้องพิจารณากันค่อนข้างมาก ดังนั้นเพื่อช่วยลดความกังวล และเป็นแนวทางในการเลือกเครื่องกรองน้ำ ควรต้องพิจารณาดังต่อไปนี้   1.สภาพน้ำดิบก่อนเข้าเครื่องกรองน้ำ น้ำดิบ คือ น้ำที่จะนำมาผ่านเครื่องกรอง น้ำในกรุงเทพฯ ร้อยละ 90 เป็นน้ำประปา และน้ำในต่างจังหวัด บางแห่งเป็นน้ำประปา ประปาหมู่บ้าน น้ำบาดาล น้ำบ่อ เป็นต้น – น้ำประปาในกรุงเทพฯ สามารถใช้เครื่องกรองน้ำได้แทบทุกรุ่น เพราะน้ำประปาได้รับการกรองมาชั้นหนึ่งแล้ว โดยการประปาได้แจ้งไว้ว่าสามารถดื่มได้ แต่ที่ยังเป็นปัญหาคือ กลิ่นของคลอรีน และท่อส่งที่อาจจะไม่สะอาดเพียงพอ เครื่องกรองน้ำที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้เรียงจากดีที่สุด คือ เครื่องกรองน้ำระบบ RO, เครื่องกรองน้ำระบบ Nano, เครื่องกรองน้ำระบบ UF, เครื่องกรองน้ำระบบ Micro ระบบกรองสำหรับน้ำประปาที่แนะนำ คือ ระบบ Ultrafiltration (UF) ใช้กรองแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์ และยังคงรักษาแร่ธาตุต่างๆไว้ ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า เพราะไม่ใช้ปั๊มเพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ ไม่ต้องใช้ถังเก็บน้ำ และไม่เกิดของเสียจากระบบการกรอง ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ได้ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยาและโรงพยาบาล – ถ้าเป็นน้ำในต่างจังหวัด ต้องมีการตรวจทดสอบความสะอาดของน้ำดิบก่อน เพื่อดูว่ามีความสะอาดอยู่ในระดับไหน หากไม่สกปรกมาก ก็สามารถใช้ไส้กรองเซรามิคในเครื่องกรองน้ำช่วยได้ แต่เพื่อความปลอดภัยในการดื่ม ควรใช้เครื่องกรองน้ำระบบ RO ระบบกรองน้ำ Reverse Osmosis (RO) จำเป็นต้องใช้แทงก์เก็บน้ำ เป็นสาเหตุให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ สิ้นเปลืองน้ำเนื่องจากไส้กรองขนาดเล็ก เกิดการสูญเสียแรงดันน้ำ และต้องใช้ปั๊มช่วยในการทำงาน สูญเสียแร่ธาตุภายหลังการกรองที่ควรมีในน้ำดื่ม ใช้ไฟฟ้า และมีค่าบำรุงรักษาสูง ระบบ Ultraviolet (UV) สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่กำจัดแบคทีเรียไม่ได้ แบคทีเรียจึงมีโอกาสเจริญเติบโตในน้ำได้ ไม่แนะนำสำหรับใช้กรองน้ำในบ้าน 2.งบประมาณที่เรามี เทียบกับรุ่นเครื่องกรองน้ำ โดยความเป็นจริงน่าจะเป็นเหตุผลหลักในการซื้อเครื่องกรองน้ำเลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องกรองน้ำมีหลายราคาตั้งแต่ถูกสุดหลักร้อย ไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว ซื้ออย่างไรเราจะไม่เกิดปัญหาทางการเงินในภายหลัง – หากมีงบประมาณไม่เกิน 1,500 บาท สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำ 2-3 ขั้นตอน หรือ เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน สามารถกรองได้สูงสุด 5 ไมครอน – หากมีงบประมาณ 1,500-3,000 บาท สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำไส้เซรามิค หรือ เครื่องกรองน้ำระบบ UF สามารถกรองได้สูงสุด 0.3-0.01 ไมครอน – หากมีงบประมาณ 3,000 บาท ขี้นไป สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำได้ตั้งแต่ เครื่องกรองน้ำระบบ Nano และ เครื่องกรองน้ำระบบ RO สามารถกรองได้สูงสุด 0.0001ไมครอน 3.ความต้องการใช้งานเครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองน้ำปัจจุบันได้ถูกปรับให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น โดยมีระบบการทำน้ำเย็น น้ำธรรมดา และน้ำร้อน รวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน เพื่อความสะดวกและประหยัดพื้นที่ของผู้บริโภค ซึ่งก็ทำให้ราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำ เราควรถามตัวเองก่อนว่า เราอยากได้เครื่องกรองน้ำที่มีความสามารถแบบไหน 4.ความเหมาะสมของตำแหน่งที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำ ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำต้องคำนึงว่า จุดที่จะติดตั้งมีน้ำเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่ จะต้องเดินท่อใหม่เพื่อเครื่องกรองน้ำโดยเฉพาะเลยไหม จะตั้งดีหรือจะแขวนดี สะดวกในการเสียบปลั๊กไฟไหม และที่สำคัญมีที่ทิ้งน้ำไหม สำหรับระบบ RO ซึ่งล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้น โดยส่วนมากผู้คนจะติดตั้งไว้ที่ ในครัว ใต้ซิงค์ล้างจาน หน้าห้องน้ำ ลานซักผ้า นอกบ้าน ในบ้าน เป็นต้น 5.ข้อมูลเฉพาะของเครื่องกรองน้ำแต่ละรุ่น เครื่องกรองน้ำที่เราสนใจแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ มีข้อมูลเฉพาะ หรือข้อจำกัดอะไรที่เราต้องทราบบ้าง เช่น ระบบ RO จะมีน้ำทิ้ง บางรุ่นต้องใช้ไฟฟ้า บางรุ่นผลิตน้ำช้า บางรุ่นต้องล้างไส้กรอง บางรุ่นไม่ต้องล้างไส้กรอง บางยี่ห้อไส้กรองแพงกว่าตัวเครื่อง เป็นต้น ความปลอดภัยน้ำสะอาด 3 ขั้นตอนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 1 Sediment ดักจับกรวด ทราย หิน โคลน และสารแขวนลอยขนาดใหญ่ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ เช่น เศษสนิม และผงฝุ่นจากท่อน้ำ เพื่อเตรียมน้ำสะอาดก่อนเข้าระบบกรองในขั้นตอนต่อไป ช่วยยืดอายุการใช้งานของไส้กรองอื่นๆ ขั้นตอนที่ 2 Activated Carbon Block ดักจับสารเคมี คลอรีน กลิ่น สี สารอินทรีย์ โดยวิธีการดูดซึมดูดซับ และกรองโลหะหนักต่างๆ ขั้นตอนที่ 3 Ultrafiltration กรองแบคทีเรียถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยการใช้ Membrane Hollow Fiber ขนาดรูเล็กกว่าแบคทีเรีย เล็กที่สุด 0.03 ไมครอน แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์สามารถผ่านได้ ได้ถูกเริ่มใช้ครั้งแรกในโรงพยาบาลสำหรับกรองเลือด   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://www.999article.com บทความที่น่าสนใจอื่นๆ คิดยังไงก็คุ้ม กับ 5 วิธีเลือกแอร์สุดคูล !! 3 ตัวการหลักที่ทำให้ส้วมตันหรือกดชักโครกไม่ลง พร้อมวิธีแก้ไขแบบตรงจุด 10 วิธี เปลี่ยนบ้านจัดสรรให้สวยงาม มีสไตล์ เหมาะสมกับการใช้งาน
คู่มือเตรียมตัวย้ายบ้าน สบายใจเมื่อมีเช็คลิสต์

คู่มือเตรียมตัวย้ายบ้าน สบายใจเมื่อมีเช็คลิสต์

อยากได้เช็คลิสต์ไว้ช่วยเตือนความจำเวลาย้ายบ้านเพื่อช่วยให้คุณจัดระเบียบทุกอย่างได้ง่ายขึ้นใช่ไหม ให้การย้ายบ้านใหม่เป็นเรื่องง่ายๆ โดยเราจะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมได้ดีขึ้นกับเช็คลิสต์ของเรา       ข้อแนะนำ   การย้ายเข้าบ้านใหม่นั้นมีกระบวนการที่คุณต้องจัดการอยู่หลายขั้นตอน ตั้งแต่การทำความสะอาดบ้านที่อยู่ในขณะนี้ ไปจนถึงการเปลี่ยนที่อยู่กับธนาคารและหน่วยงานสาธารณูปโภคต่างๆ ลองเขียนรายการของทั้งหมดที่คุณต้องจัดการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่พลาดหรือหลงลืมอะไรไป ด้านล่างนี้คือรายการเบื้องต้นที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้     คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการย้ายเข้าบ้านใหม่นั้น เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นแต่ก็แสนจะวุ่นวายและน่าปวดหัวในขณะเดียวกัน การเตรียมพร้อมที่ดีนั้นจะช่วยคุณได้มาก ดังนั้นอย่าลืมจัดทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ลองเขียนรายการเช็คลิสต์ในการย้ายบ้านของคุณขึ้นมา เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสิ่งที่ต้องทำได้ทีละรายการ แล้วขีดฆ่าออกเมื่อทำเสร็จแล้ว ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลว่าจะหลงลืมอะไรไปในภายหลัง     การจัดทำเช็คลิสต์การย้ายบ้านนั้นเริ่มต้นจากการคำนึงถึงทุกสิ่งที่จะได้รับผลกระทบจากการย้ายบ้านของคุณไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ใช้ลิสต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเช็คลิสต์ของคุณโดยเฉพาะ ให้คุณสามารถย้ายเข้าบ้านใหม่ได้อย่างราบรื่นและหายห่วง   Moving House A Checklist   ยืนยันวันย้ายบ้านที่แน่นอน เพื่อให้คุณวางแผนจากวันกำหนดการย้าย ทำความสะอาดบ้านที่คุณอยู่ในปัจจุบันให้สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบ้านที่เช่าอยู่ คุณอาจจะถูกหักเงินมัดจำถ้าบ้านไม่อยู่ในสภาพสะอาดเหมือนตอนที่คุณย้ายเข้า อ่านคำแนะนำในการทำความสะอาดหลังหมดสัญญาเช่าของเราที่นี่ จัดการเรื่องกรมธรรม์ประกันภัยบ้านโดยอ้างอิงจากวันที่ย้ายเป็นหลัก เพื่อให้สัญญาเริ่มมีผลครอบคลุมทันที ตั้งแต่วันที่คุณย้ายเข้ามา นัดหมายเวลากับบริษัทขนย้ายหรือนัดเพื่อนๆ ให้มาช่วยล่วงหน้า หากคุณว่าจ้างบริษัท คุณควรอยู่คอยกำกับดูแลความเรียบร้อยทั้งในระหว่างการจัดเก็บเพื่อย้ายและการจัดส่งเพื่อคอยให้คำแนะนำและตรวจสอบความเสียหายด้วย แจ้งการประปาและการไฟฟ้าให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 6 สัปดาห์ แจ้งผู้ให้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้ทันทีที่ย้ายเข้า ตามกฎหมาย ผู้ย้ายหรือผู้ที่เจ้าของบ้านมอบอำนาจแจ้งย้ายมีหน้าที่ต้องไปแจ้งเขตที่ย้ายออกให้ทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ที่ย้ายออก และแจ้งย้ายเข้าบ้านใหม่ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ย้ายเข้าด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้อย่าลืมตรวจสอบเอกสารที่จะต้องนำไปใช้ประกอบการยื่นเรื่องให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เมื่อคุณเริ่มเก็บของใส่กล่อง คุณอาจจะแยกสิ่งของที่คุณไม่มีที่พอสำหรับเก็บอีกต่อไปแล้วหรือไม่ต้องการย้ายเข้าบ้านใหม่ โดยคุณสามารถบริจาคข้าวของที่ไม่ต้องการให้กับมูลนิธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์เก่า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อย่าลืมนัดหมายเวลาล่วงหน้าเพื่อให้ทางมูลนิธิส่งรถมารับ หรือนัดเวลาและสถานที่ที่คุณจะนำสิ่งของเหล่านั้นไปส่งมอบให้ -คุณสามารถแจ้งไปรษณีย์ในพื้นที่บ้านเก่าของคุณให้ส่งต่อจดหมายไปยังที่อยู่ใหม่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้จดหมายสำคัญตกหล่นหรือถูกตีกลับ หากคุณมีลูกหรือสัตว์เลี้ยง คุณควรจ้างหรือวานให้ใครช่วยดูแลเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงแทนในวันที่ขนย้ายเพื่อช่วยลดความวุ่นวาย นัดหมายเวลาไปรับกุญแจบ้านหลังใหม่ของคุณจากตัวแทนนายหน้า ซึ่งควรจะเป็นวันก่อนหน้าวันย้ายเพื่อให้คุณเริ่มจัดการย้ายเข้าได้ตั้งแต่เช้า ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเมื่อคุณเข้าไปในบ้าน อย่าเพิ่งรีบขนเฟอร์นิเจอร์เข้าไปทันที แต่คุณตรวจสอบสภาพของบ้านให้ละเอียดว่ามีอะไรเสียหายหรือผิดปกติหรือไม่ และอย่าลืมมองหาตำแหน่งของสิ่งสำคัญๆ เช่น กล่องฟิวส์ เผื่อกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับระหว่างการขนย้าย แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ของคุณกับทางธนาคารประมาณ 2 สัปดาห์ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าจดหมายสำคัญนั้นจะถูกจัดส่งมาที่บ้านใหม่ของคุณอย่างถูกต้อง   เมื่อคุณขนของย้ายเข้าบ้านใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดให้บ้านพร้อมอยู่อีกครั้ง โดยมีตัวช่วยดีๆ หลายตัวที่จะทำให้บ้านหลังใหม่ของคุณสะอาดได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวอเนกประสงค์อย่างเช่น ซิฟ หรือ วิม สำหรับทำความสะอาดห้องน้ำที่ช่วยขจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ อย่าลืมอ่านฉลากคำแนะนำอย่างละเอียด และทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกับพื้นที่เป็นบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริง   ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://www.cleanipedia.com/th
ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่า โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่า โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ไม่ควรเลือกซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่าเด็ดขาด ถนนหนทางคนใช้สัญจรเดินทาง ผี หรือวิญญาณก็ใช้เดินสัญจรเหมือนกับเรา เดินมาเป็นแรมปี แล้วอยู่ๆ เราจะไปสร้างบ้านคร่อม แบบนี้ เราจะรู้สึกว่าเหมือนมีคนเดินผ่านบ้านตลอดเวลา เมื่อใดดาวที่ไม่เป็นมงคลมาเกิด ปีนั้นๆ หรือวันดีคืนดี คุณจะเห็นผีมาเดินในบ้านเรา จะทำให้เรานอนหลับไม่เป็นสุข ชีวิตก็วุ่นวาย มีแต่เรื่องแต่ราว เดือดร้อนไม่สิ้นสุด ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
ที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะปฏิกูล อย่าได้เลือก โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะปฏิกูล อย่าได้เลือก โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ไม่ควรเลือกที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะและปฏิกูล มาสร้างบ้านเด็ดขาด สำคัญมาก เพราะที่ดินนี้ จะมีขยะ สิ่งสกปรก เต็มไปด้วยมลพิษต่างๆ ความชั่วร้ายอยู่มากมาย ทำให้เราอยู่อาศัยแล้ว จะมีแต่โรคภัยไข้เจ็บ เจ็บไข้ได้ป่วยตลอดเวลา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ก่อนเลือก ควรสอบถามบ้านใกล้เรือนเคียง บริเวณนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อที่ดิน  ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
ร้านอร่อย ย่านท่าเรือคลองสาน (ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า)

ร้านอร่อย ย่านท่าเรือคลองสาน (ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า)

คนที่อยู่ย่าน "คลองสาน" จะปฏิเสธบอกว่าไม่รู้จัก ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า ไม่ได้แน่ๆ เพราะ ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ที่มีเหล่านักช้อปทั้งหลาย อยากจะมาเดินซื้อหาเสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นอย่างมากมาย ที่นี่มีร้านค้า ร้านอาหาร ข้างทางยาวตั้งแต่ถนนเจริญนครยันท่าเรือเลย และ ที่จะพูดกัน แนะนำกันในวันนี้ คือร้านอร่อยๆ ที่พลาดไม่ได้ หลังจากเดินช้อปกันจนเหนื่อย จนเมื่อย ลองหาร้านอร่อยๆ แถวๆ นี้กินดูครับ ขอบอกเลยว่า อร่อยจริงๆ มาตามดูกันว่ามีร้านไหนกันบ้าง...       บัวลอยคลองสาน มาที่คลองสานคงจะไม่พลาดที่จะต้องกินบัวลอย เพราะเม็ดบัวลอยที่ นุ่ม ละมุนลิ้น มีทั้งบัวลอยไข่เค็ม บัวลอยไข่หวาน หวานเจ้มจ้นมากจ้ะ #บัวลอยไข่เค็ม ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ขนมเบื้องคลองสาน ขนมเบื้องชิ้นโตทำร้อนๆมารอเสิร์ฟ มีหลายแบบ หลายไส้ทั้งหวาน ทั้งเค็ม ครบรส ไส้ก็แน่นเต็มปากเต็มคำ เน้นๆ ทั้งลูกเกด ฝอยทอง มะพร้าวคั่ว ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ราชาขนมโตเกียว โตเกียวสุดครีเอท มีมากมายหลายไส้ เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินก็ยังได้ มีทั้งไส้กรอก ปูอัด ปลาชีส แป้งก็กรอบไส้ก็เต็มปาก โอ้ยย ฟินมั่กๆ ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     แม่อนงค์กล้วยปิ้ง กล้วยปิ้ง มันทิพย์ มันญี่ปุ่น ขอบอกพร้อมมากกก มันทิพย์ ก็ปั้นกลมพอดีคำ นุ่มละมุนมาก ราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋า จิ้มลิ้มมากเวอร์ ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ทาโกะยากิ ทาโกะยากิร้อนๆทำออกมามีมากมายหลายไส้ ทั้ง ปลาหมึก ทูน่า กุ้ง แซลม่อน แน่นเวอร์ผสานกับซอสราดหอมๆ กรุบกริบสุดดดด ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 ?คลองสานพลาซ่า     อิ่วก้วย ขนมที่ใครหลายๆคนอาจจะงง อิ่วก้วย เป็นขนมโบราณของจีน จะเป็นแป้งนุ่มๆ ที่ห่อด้วยไส้ มีทั้ง ไส้หน่อไม้ กู๋ไช่ เผือก เยอะมากก และก็นำมาทอดร้อนๆ กัดแล้วอิ่มเอมม๊ากมาก ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ไก่อบโอ่ง ไก่อบโอ่งร้อนๆ ยกขึ้นมาจากโอ่ง สับออกมาเป็นชิ้นหยิบกินง่าย คล่องมือกันเลยทีเดียว เนื้อก็นุ่มละมุนลิ้นมากเวอร์ น้ำจิ้มก็เป็นสูตรมะขามขอบอกแซ่บ! ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า   เป็นไงกันบ้าง เห็นแต่ละร้าน น้ำลายไหลกันเลยทีเดียว ทำเลทองบ้าน คอนโดดีๆ แถวคลองสานเพียบ อาจจะแว่บออกมาเดินชิวๆ ชิมของอร่อยๆ ตามใจปากกันเลยทีเดียว... ตามพิกัด Google Map นี้ไปเลยครับ     ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพประกอบสวยๆ จาก EventPass
สุดง่าย…วิธีไล่กิ้งกือไม่ให้เข้าบ้าน

สุดง่าย…วิธีไล่กิ้งกือไม่ให้เข้าบ้าน

"กิ้งกือ" เป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ แต่หากกิ้งกือบุกบ้านเราก็คงรำคาญใจใช่ไหมคะ? เพราะด้วยลักษณะตัวที่ค่อยๆ คืบคลานอยู่ภายในบริเวณบ้าน ซึ่งดูไม่น่ามองสักเท่าไหร่ แม้เจ้าตัวนี้จะไม่มีพิษสงร้ายแรงอะไร แต่ก็ทำให้ขนลุก สยดสยอง ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ยิ่งถ้าใกล้หน้าฝนทีไร กองทัพกิ้งกือก็จะโผล่มาบนดินทันที! แต่ไม่กังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรานำวิธีกำจัดกิ้งกือมาฝาก รับรองว่าใช้ได้ผล และสัตว์ร้อยขาชนิดนี้จะไม่มากวนใจบ้านคุณอีกต่อไป 1.ไล่กิ้งกือด้วยปูนขาว  ปูนขาวสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านวัสดุก่อสร้างแถวบ้าน นำปูนขาวไปโรยไว้รอบๆ บ้าน โดยเฉพาะตามขอบซีเมนต์หรือพื้นดินบริเวณที่กิ้งกือมักจะเดินผ่าน 2.น้ำส้มควันไม้ ใช้ไล่กิ้งกือ น้ำส้มควันไม้สามารถนำมาใช้เป็นยากำจัดแมงในบ้านได้ ผสมน้ำส้มควันไม้ 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 20 ลิตร นำไปราดบริเวณที่มีกิ้งกือ นอกจากนี้ยังสามารถไล่แมลงต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในบ้านได้อีกด้วย ปัจจุบันน้ำส้มควันไม้หาซื้อได้ง่ายตามร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านเคมีภัณฑ์ ร้านเคมีเกษตร ฯลฯ ก็จะมีน้ำส้มควันไม้ขายค่ะ 3.ไล่กิ้งกือง่ายๆ ด้วยเกลือ ใช้เกลือแกงที่ใช้ทำอาหารโรยรอบๆ บ้าน วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด หรืออาจจะใช้เกลือเม็ดที่เป็นแบบกระสอบโรยไว้ตามพื้นรอบๆ บ้าน รับรองกิ้งกือพากันย้ายหนีออกจากบ้านคุณแน่นอนค่ะ แต่ถ้าฝนตกก็ต้องหมั่นโรยบ่อยๆ แต่ระวังอย่าโรยเกลือไว้ใกล้ต้นไม้เกินไปเพราะความเค็มจะเป็นอันตรายต่อพืชค่ะ 4.ลูกเหม็นสารพัดประโยชน์ ไล่กิ้งกือได้ เพียงแค่วางลูกเหม็นไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านเท่านี้กิ้งกือก็จะพากันย้ายหนีออกไป เพราะทนกลิ่นฉุนของเจ้าลูกเหม็นนี้ไม่ไหวนั่นเอง 5.ชอล์คกันมด ก็ไล่กิ้งกือได้ ชอล์คที่เอาไว้ขีดกันมดก็สามารถเอามาขีดไล่กิ้งกือได้เช่นกัน ลองขีดไว้รอบๆ บ้านหรือขีดหนาๆ บริเวณหน้าประตูเพื่อป้องกันเจ้ากิ้งกือกระดื๊บๆ เข้ามาในบ้านของเราค่ะ 6.สมุนไพรไล่แมลงได้ ก็ไล่กิ้งกือได้ ใช้สมุนไพรไล่แมลงฉีดพ่นบริเวณที่ไม่ต้องการไม่ให้ มด แมลงและ กิ้งกือเข้าไปหลบซ่อน   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้ากิ้งกือตัวยึกยือสุดยี๊ที่เราไม่ชอบให้มาอยู่ในบ้านของเราก็มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศไม่น้อยเช่นกันนะคะ เป็นผู้ช่วยในการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในระบบนิเวศเพื่อเป็นอาหาร ทั้งซากพืช ซากสัตว์ และสิ่งเน่าเปื่อยต่างๆ แต่ถ้าใครไม่อยากให้เจ้ากิ้งกือเข้ามาในบ้าน ก็หมั่นทำความสะอาดอบ้านอย่าให้มีพื้นที่รกและชื้น (กิ้งกือชอบความชื้น) เพียงเท่านี้เจ้ากิ้งกือก็จะไม่เดินเข้ามาในบ้านของเราแล้วค่ะ ความรู้เกี่ยวกับกิ้งกือ กิ้งกือ (millipedes) ความรู้อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับบ้านของเรา วิธีกำจัดแมลงสาบ วิธีเด็ดไล่ตุ๊กแก วิธีกำจัดตะขาบ
วิธีปูกระเบื้องห้องน้ำแบบง่าย เปิดใช้งานเร็ว โดยไม่ต้องง้อช่าง

วิธีปูกระเบื้องห้องน้ำแบบง่าย เปิดใช้งานเร็ว โดยไม่ต้องง้อช่าง

วันนี้ Review Your Living มีวิธีปูกระเบื้องห้องน้ำแบบง่ายๆ มาช่วยทุ่นแรงคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่กำลังปวดหัวอยู่ว่าจะซ่อมแซมห้องน้ำด้วยวิธีใดให้เปิดใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง แล้วขั้นตอนจะเป็นแบบไหนไปชมกันค่ะ  ใครที่คิดจะทำห้องน้ำใหม่หรือซ่อมแซมห้องน้ำนั้น อย่าลืมว่าการเริ่มต้นที่ดีและถูกต้องโดยทำไปทีละขั้นตอนอย่างเป็นสเต็ป นอกจากช่วยลดปัญหาจุกจิกจิกที่อาจจะตามมาภายหลัง ยังได้ห้องน้ำสวยตรงใจ ที่สำคัญการเลือกวัสดุที่จะใช้ในการทำห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง  สุขภัณฑ์ หรือ ก๊อกน้ำ จำเป็นที่จะต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าด้วย เพราะบางครั้งห้องน้ำออกแบบมาสวยงาม แต่เลือกสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพก็จะมีผลด้วย เช่น ถ้ากระเบื้องไม่ได้ฉากหรือมุมเมื่อปูออกมาแล้วร่องยาแนวอาจจะเบี้ยวได้ นอกจากนี้การเลือกกาวปูกระเบื้องและกาวยาแนวก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป ปัจจุบันมีกาวปูกระเบื้องและกาวยาแนวสำหรับห้องน้ำโดยเฉพาะ ที่มีคุณสมบัติพิเศษพัฒนามาเพื่อใช้กับห้องน้ำเช่นเดียวกับในคลิปที่เรานำมาฝาก ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย..
การเตรียมบ้าน สำหรับคนสูงอายุ ที่ต้องให้ความสำคัญ

การเตรียมบ้าน สำหรับคนสูงอายุ ที่ต้องให้ความสำคัญ

"บ้านที่เราอยู่เมื่อวันที่เราเกิด และเราอยู่ในบ้านหลังนั้นไปอีก 40 ปี หรือมากกว่านั้น เราก็จะรู้ว่า บ้านมันก็ยังเหมือนเดิมแต่คนในบ้านแก่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันเริ่มไม่สมดุลกันละ พอมันเป็นแบบนี้ ความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายย่อมเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะ 3 จุดเสี่ยงในบ้าน     เริ่มจาก "ห้องน้ำ" เป็นจุดที่มีการเปลี่ยนระดับพื้น ลื่น แสงสว่างไม่พอ เช่นเดียวกับ "บันได" ที่มีการเปลี่ยนระดับพื้นเหมือนกัน ลื่น และค่อนข้างมืด โอกาสหกล้มย่อมเกิดได้ง่าย สุดท้ายคือ "เตียงนอน" เป็นจุดที่จะต้องเปลี่ยนท่าทางจากยืนเป็นนั่ง จากนั่งเป็นนอน หรือตอนเช้า จากนอนเป็นนั่ง จากนั่งเป็นยืน โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ หกล้มก็มีได้สูง"     ถ้าเป็นไปได้ พื้นต่างระดับต้องปรับให้ระดับน้อยที่สุดไปจนถึงไม่มีเลย ส่วนพื้นที่ลื่น ถ้าเป็นกระเบื้อง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เรามากขึ้น ง่ายสุด งบน้อยสุด ซื้อน้ำยามาเคลือบกระเบื้องให้มันมีความสากมากขึ้น แต่ถ้าไม่ไหวละ ยังไงก็ลื่นอยู่ดี อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนพื้นให้เป็นผิวหยาบ   สำหรับบันได ไม่อยากให้ชันมาก ถ้ามีความคิดจะปรับปรุงใหม่ ขนาดลูกนอนควรยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัดเพื่อให้เท้าวางได้พอดี ส่วนขนาดลูกตั้งควรอยู่ที่ประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนสีของขั้นบันไดควรใช้สีสว่าง และที่สำคัญคือต้องมีแสงสว่างอย่างเพียงพอเพื่อให้การเดินขึ้นลงอย่างปลอดภัย     ส่วนอีกเรื่องที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การเพิ่มอุปกรณ์อย่าง 'ราวจับ' เข้าไป เริ่มจากจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับพื้น จุดที่คิดว่าพื้นมันลื่น จุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอิริยาบถเยอะๆ อย่างเช่นในห้องน้ำ หรือเตียงนอน ซึ่งหลายๆ ที่เริ่มมีชุดราวจับแบบติดตั้งสำหรับเตียงนอนขายแล้ว"     อย่างแรกเลย ต้องจัดระเบียบเฟอนิเจอร์เพื่อให้โล่ง เดินได้สะดวกขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องสายตา ถ้ามีสิ่งของวางเกะกะอาจเป็นสาเหตุทำให้สะดุดล้มได้ง่าย ส่วนห้องรับประทานอาหาร เก้าอี้พลาสติกไม่แนะนำให้ใช้ เวลาค้ำเพื่อลุกเดิน อาจล้มคว่ำได้ และขอฝากไว้อีกนิดเรื่องสัตว์เลี้ยง เพราะอาจไปพันแข้งพันขาผู้สูงอายุจนเกิดอุบัติเหตุได้     นอกจากนั้น สัญญาณช่วยเหลือในบ้านก็จำเป็นเหมือนกัน หลายครั้งผู้สูงอายุล้มอยู่นาน แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเพราะไม่มีใครรู้ หรือเรียกใครไม่ได้ยิน ดังนั้น ห้องสำคัญๆ ที่ควรติดไว้เลยก็คือ ห้องน้ำ เวลาล้มอยู่ในห้องน้ำจะได้มีคนรู้ ลูกหลานจะได้เข้ามาช่วยได้ทันเวลา"     ถึงตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้น "การเตรียมบ้าน" ให้พร้อมคืออีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสิ่งที่ทุกคน ปรารถนาคือความสุขในบั้นปลายชีวิต ไม่ใช่ "พิการ" หรือนอนเป็นผักอยู่บนเตียง   ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพประกอบ จาก สสส. http://www.thaihealth.or.th ขอบคุณภาพประกอบจาก Internet, https://pixabay.com
เลือกทำเลเปิดร้าน ทำธุรกิจอย่างไรดี

เลือกทำเลเปิดร้าน ทำธุรกิจอย่างไรดี

การจะลงมือทำธุรกิจ เปิดร้านค้าอะไรสักอย่าง ทำเลนับเป็นปัจจัยต้นๆ เลยทีเดียวที่เราต้องคำนึงถึง เพราะหากไม่คิดถึงทำเล จะกลายเป็นการทำ(ทิ้งทะ)เล ประมาณว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำนะครับ     1.ทำเลกลุ่มลูกค้าต้องมีคนเดินผ่านทั้งหน้า และหลัง   ควรที่จะมองเห็นได้ในหลายมุม เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น   2.ทำเลดีโบราณว่า ควรหลีกเลี่ยงทางสามแพร่ง    เพราะเนื่องจากทางฮวงจุ้ยแล้วถือว่าไม่ดีไม่เป็นมงคลจะทำให้ค้าขายไม่ดี   3.ทำเลดีไม่เปิดร้านโดดเดี่ยว ควรมีร้านค้าอื่นๆ ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นด้วย    เป็นแหล่งที่ผู้คนเขาไปจับจ่ายซื้อของ ไม่ใช่เป็นร้านเดี่ยวๆ  ยิ่งเป็นแหล่งชุมชน เศรษฐกิจจะยิ่งดีมากยิ่งขึ้น เพราะผู้คนตั้งใจเข้ามาจับจ่ายใช้เงิน   4.ทำเลดีสามารถขยายพื้นที่ได้ในอนาคต   ต้องมองว่าธุรกิจมีโอกาสเติบโต เมื่อโตแล้วต้องขยายได้ หากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยก็จะทำให้การขยายเป็นไปได้วยความยากลำบาก   5.ทำเลดีต้องมีที่จอดรถ หรือ คมนาคมสะดวก   เป็นเรื่องใหญ่มาก หากลูกค้ามาแล้วไม่มีที่จอดรถ หรือเดินทางมาด้วยความยากลำบาก จุดนี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงในอันดับต้นๆ   6.ทำเลดีต้องมีลูกค้า หรือ กลุ่มเป้าหมาย   ต้องรู้ว่าลูกค้าเราเป็นใคร เช่น ร้านกาแฟควรเปิดใกล้ออฟฟิศ อุปกรณ์การเรียนควรเปิดใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย แต่ถ้าเป็นเครื่องสังฆภัณฑ์ ก็ควรอยู่ใกล้วัด เป็นต้น   7.ทำเลดี ต้องมีเงินทุน   ถ้าอยากได้ทำเลดีๆ ก็ต้องช้เงินเพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่กล่าวมา หากไม่มีทุนหรือกำลังทรัพย์มากพอ ก็ต้องขยับโซนออกไปย่านชานเมืองหน่อย แต่โอกาสในการสร้างรายได้ก็จะน้อยลง   8.ทำเลไม่ดีอย่าลืมใช้เทคโนโลยี การตลาดออนไลน์   หากเราอยู่ในจุดที่เสียเปรียบเรื่องทำเล ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ไปทั้งหมดนะครับ ลองนำการตลาดออนไลน์มาแทนทำเลที่ไม่สู้ดีนัก ถ้าทำดี ทำเลก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปนะครับ   8 แนวทางเบื้องต้นในการเลือกทำเลครับ แต่ใช่ว่าทำเลดีแล้วจะทำให้ธุรกิจจะรุ่งนะครับ ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า การบริหารจัดการ คู่แข่งฯ ที่เราต้องเรียนรู้และพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้ธุรกิจเราสามารถเดินหน้าสร้างกำไรได้อย่างไรก็แล้วแต่ครับ “ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” อย่างแน่นอนครับ   ขอบคุณแหล่งที่มา : https://taokaemai.com/how-to-select-location-for-business/   ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com
Vertical House บ้านเดี่ยวทำเลคอนโด

Vertical House บ้านเดี่ยวทำเลคอนโด

ทุกวันนี้ทำเลโครงการบ้านเดี่ยวอยู่ห่างออกไปไกลจากตัวเมืองไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ หลายโครงการต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักเวลาเดินทางเข้า-ออก เพราะเรื่องของที่ดินที่ต้องมีพื้นที่ใหญ่มากพอที่จะสามารถนำมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวนั้นนับวันก็ยิ่งหายากกันเหลือเกินโดยเฉพาะทำเลกลางเมือง แต่ทุกวันนี้ยังมีโครงการบ้านเดี่ยวแบบที่เรียกกันว่า Vertical House เป็นโครงการที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีทั้งเรื่องทำเล และยังเหมาะสำหรับคนที่ชอบอยู่บ้านเดี่ยวได้พื้นที่ใช้สอยเยอะๆ ด้วยค่ะ   Vertical House เป็นคำนิยามสำหรับบ้านเดี่ยวในลักษณะทรงสูงขึ้นไป เพราะอยู่ในที่ดินขนาดจำกัด จึงต้องขยายพื้นที่ใช้สอยด้วยการเพิ่มพื้นที่ในแนวสูงแทน ซึ่งโครงการประเภทนี้ในบ้านเรามักจะตั้งอยู่ในทำเลย่านกลางเมืองที่มีราคาที่ดินสูงทีเดียว และยังมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดจึงทำให้ต้องพัฒนาเป็นโครงการระดับลักชัวรี่ขึ้นไป โดยจะเห็นได้จากโครงการที่เรายกตัวอย่างมาให้ดูกันในบทความนี้ค่ะ   D8 จากบริษัท เดวา เรียลเอสเตท เดวา เรียลเอสเตท เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่ประเดิมโครงการแรกด้วยโครงการระดับ "Luxury Vertical House" ชื่อโครงการ D8 เป็นบ้านเดี่ยว 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 700 ตร.ม. 4 ห้องนอน 9 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 6 คัน มีทั้งลิฟท์, สระว่ายน้ำ และสวนย่อมส่วนตัวในบ้าน ทั้งหมด 6 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 88 ติดกับทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งมีการออกแบบมาสำหรับครอบครัวใหญ่ทั้ง 3 เจนเนอเรชั่น ให้ทุกคนในครอบครัวได้อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ราคาประมาณ 39.9 ล้านบาท   LEROY Ruamrudee จากฮาบิแททกรุ๊ป ปกติแล้วฮาบิแททกรุ๊ปคือ Developer ที่พัฒนาโครงการอยู่ในพัทยา แต่ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่มาชิมลางลงโครงการในกรุงเทพฯ กันบ้าง เริ่มด้วยโครงการบนทำเลสุดพรีเมี่ยมภายในซอยร่วมฤดี อย่าง LEROY Ruamrudee บ้านเดี่ยว 7 ชั้น 6 ห้องนอน ทั้งหมด 2 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยกว่า 2,160 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 108 ล้านบาท   zilhouette ทองหล่อ 25  จากบริษัทเปี่ยมสุข พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บ้านเดี่ยว 7 ชั้น ทั้งหมด 3 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 608 ตร.ม. 4-5 ห้องนอน 7-8 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4-6 คัน ตัวอาคารล้อมรอบด้วยกระจก เน้นความโปร่งโล่ง สไตล์ Sophisticated Modern Luxury เน้นความเรียบหรู โมเดิร์น ใส่นวัตกรรมต่างๆ ลงไปมากมาย ที่ตั้งอยู่ซอยทองหล่อ 25 ราคาประมาณ 70 ล้านบาท   Arna Ekamai จากบริษัทดีเวล แกรนด์แอสเสท จำกัด บ้านเดี่ยว 3-4 ชั้น ทั้งหมด 11 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 390 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3-4 คัน โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 65 ซึ่งสามารถทะลุออกไปยังเอกมัยและซอยสุขุมวิท 71 ได้ ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์นเล่นกับแสงเงา ให้ได้รับแสงธรรมชาติ และความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ราคาเริ่มต้น 32 ล้านบาท   เราจะสังเกตได้ว่า โครงการสไตล์ Vertical House มักจะถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายในทุกช่วงวัยของครอบครัว ตามมาด้วยที่จอดรถไม่ต่ำกว่า 3 คัน ซึ่งดูสมเหตุสมผลกับการอาศัยอยู่กันหลายคน โดยแต่ละยูนิตจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ในบ้านของตัวเองเลย เช่น ลิฟท์โดยสาร, สวนสีเขียว, สระว่ายน้ำ และห้องนอนก็มีห้องน้ำในตัวมาให้ทุกห้อง รวมถึงห้องนอน ห้องน้ำสำหรับแม่บ้านโดยเฉพาะจึงไม่จำเป็นจะต้องมีพื้นที่ส่วนกลางเหมือนโครงการบ้านเดี่ยวทั่วไป มาพร้อมดีไซน์อันเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น โดดเด่นที่ฟังก์ชั่นครบครัน   แม้ว่าโครงการลักษณะนี้จะยังถือว่ามีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในทำเล และราคาใน Segment เดียวกัน แต่เชื่อค่ะว่าจะทยอยเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ดีทั้งเรื่องของพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชั่น พื้นที่จอดรถ ความเป็นส่วนตัว และทำเล เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนกระเป๋าหนักค่ะ
เลือกคอนโดชั้นไหนดี ให้ถูกโฉลกผู้อยู่อาศัย

เลือกคอนโดชั้นไหนดี ให้ถูกโฉลกผู้อยู่อาศัย

การเลือกห้องชุด คอนโดมิเนียม มีหลักในการเลือกให้เหมาะสมกับตัวคุณเอง โดยยึดหลักฮวงจุ้ยได้ เลือกดีมีผลต่อการอยู่อาศัย อยู่ดีมีสุข ร่มเย็น เรามาลองดูว่า เลือกคอนโดชั้นไหนดี จึงถูกโฉลกผู้อยู่ ในการเลือกซื้อคอนโดนั้นตามศาสตร์ฮวงจุ้ย ยังสามารถตัดสินใจซื้อได้ตามระบบธาตุ ธาตุดิน คือคอนโดที่เป็นสี่เหลี่ยม ควรซื้อชั้นที่ 5, 10, 15, 25 ธาตุไม้ คือคอนโดที่เป็นลักษณะสูง เป็นแท่งขึ้นไป ควรซื้อชั้นที่ 3, 8, 16, 38, 61 ธาตุทอง คือคอนโดทรงกลม ควรซื้อชั้นที่ 10, 15, 49, 94 อีกทั้งคอนโดที่มีการก่อสร้างเป็นลักษณะตัว U จะถูกตามหลักฮวงจุ้ย คือมีรูปลักษณะที่ดีเหมือนปากโอ่ง รับซ้ายขวามาเก็บไว้ ส่วนคนที่เกิดนักษัตรใด ควรเลือกคอนโดชั้นไหนดี จึงจะส่งผลดีต่อการอยู่อาศัย ปีชวด มะโรง วอก อยู่ในกลุ่มธาตุน้ำ ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 1 กับ 6 ทั้งหมด ปีฉลู ระกา มะเส็ง อยู่ในกลุ่มธาตุทอง ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 9 กับ 4 ทั้งหมด ปีขาล มะเมีย จอ อยู่ในกลุ่มธาตุไฟ ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 2 กับ 7 ทั้งหมด ปีเถาะ มะแม กุน อยู่ในกลุ่มธาตุไม้ ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 3, 8, 1 และ 6 ทั้งหมด   รวมทั้งในตัวคนเราจะมีกลุ่มถ่อฮวย คือ จุดเสน่ห์ ซึ่งคือทิศทางที่ทำให้นักษัตรเรามีพลัง ปีชวด มะโรง วอก มุมเสน่ห์ คือทิศตะวันตก ปีฉลู ระกา มะเส็ง มุมเสน่ห์ คือทิศใต้ ปีขาล มะเมีย จอ มุมเสน่ห์ คือทิศตะวันออก ปีเถาะ มะแม กุน มุมเสน่ห์ คือทิศเหนือ   ในทิศที่เป็นมุมเสน่ห์ต้องไม่ให้มีห้องน้ำ ถังขยะหรือสิ่งสกปรก ควรทำให้มีสิ่งเคลื่อนไหว มีสิ่งสวยงาม สดชื่นเช่นดอกไม้ เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา ถ้าแก้ไม่ได้เช่นเป็นห้องน้ำ ต้องรักษาความสะอาด ฝาห้องน้ำต้องทำให้สวยงาม หาต้นไม้ ดอกไม้สวยๆ มาวางไว้ ไม่ใช้ต้นไม้แห้ง ต้นไม้ตายแล้ว คนจีนอาจจะใช้เป็นต้นกวนอิม คนอยากมีคู่อาจจะเป็นกุหลาบ หรือคนทำการค้า ต้องมองทิศนี้เป็นทิศพลังเพื่อเรียกลูกค้า วางสินค้าโชว์ มีของหอม มีดิสเพลย์สวยๆ รับลูกค้า เป็นต้น ขอขอบคุณข้อมูลฮวงจุ้ยดีๆ จาก อาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร การเลือกซื้อคอนโดให้ได้ราคาดี เลือกซื้อห้องคอนโดอย่างไรให้ได้ห้องดี ราคาไม่ตก เกี่ยวกับการเลื้อซื้อคอนโดอื่นๆ ต้องรู้อะไรบ้าง ซื้อคอนโดแล้วไม่เสียสิทธิ์ 5 ทำเลเลี่ยงได้ให้เลี่ยงเมื่อซื้อคอนโด ข้อดีของการซื้อคอนโด ซื้อบ้าน หลุดดาวน์    
คู่มือเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับหน้าฝน

คู่มือเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับหน้าฝน

  ฝนที่ตกลงมานอกจากก่อความรำคาญใจให้กับเราแล้ว จะเป็นส่วนที่ทำร้ายบ้านของเราอีกด้วย การหมั่นตรวจเช็คสิ่งต่างๆ ของบ้านทั้งภายในและภายนอกให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ จะช่วยให้เราพร้อมรับแรงปะทะจากพายุฝนที่กำลังจะมาได้เป็นอย่างดี โดยควรต้องตรวจเช็คทั้งตัวบ้าน สิ่งแวดล้อมละแวกบ้านอย่างละเอียด โดยสิ่งที่จำเป็นต้องตรวจเช็คมีดังต่อไปนี้..   1. ตรวจสอบหลังคา ฝ้า เพดาน ให้ดี ปัญหากวนใจเกี่ยวกับบ้านในช่วงหน้าฝน คงหนีไม่พ้นปัญหาน้ำรั่วซึมเพดานอย่างแน่นอน ซึ่งทางเราขอแนะนำให้เจ้าของบ้านหรือคอนโดมิเนียมหมั่นตรวจดูรอยรั่วซึมของหลังคา ตรวจดูผนังห้องไม่ให้มีรอยแตกร้าว ไม่มีรอยรั่วซึมของน้ำบน ฝ้าเพดาน โดยดูสังเกตุได้หากฝ้าเพดานมีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาลแสดงว่ามีรอยน้ำรั่ว หากพบสัญญาณบอกเหตุว่ามีการรั่วไหล ให้รีบทำการซ่อมแซมทั้นที   2. รางน้ำฝน และรางระบายน้ำ ก็อย่าละเลย สำหรับรางน้ำฝนและรางระบายน้ำนั้น คงเป็นจุดที่เจ้าของบ้านหลายคนมักไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ แต่ขอบอกเลยว่ามีความสำคัญมากนะ ดังนั้นแนะนำให้ทำความสะอาดรางระบายน้ำรอบบริเวณบ้าน ทั้งบนหลังคาและบนพื้นดินอย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้มีสิ่งอุดตันจากเศษดินหรือเศษใบไม้มาขวางทางระบายของน้ำ เพื่อให้น้ำฝนที่ไหลลงมาจากหลังคา หรือไหลตามรางระบายน้ำสามารถระบายน้ำออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณบ้านจนทำให้น้ำท่วมเข้าบ้านนั่นเอง   3. ระเบียงหรือนอกชาน เราก็ต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดฯ เราเชื่อว่ายังก็ต้องมีระเบียงกลางแจ้ง ซึ่งเราแนะนำให้ตรวจสอบดูว่ามีคราบน้ำ คราบตะไคร่น้ำหรือเชื้อราอยู่บริเวณพื้นหรือไม่ ถ้ามีให้รีบดำเนินการทำความสะอาดขัดล้างออก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม อีกทั้งยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย และหากทิ้งไว้นานก็จะทำให้ทำความสะอาดได้ยากขึ้น ต้องรับกำจัดตั้งแต่เนิ่นๆ นะ   4. มีปลั๊กไฟ โคมไฟ อยู่กลางแจ้งหรือเปล่า? สำหรับข้อนี้ถือว่าสำคัญนะคะ เพราะบ้านใครที่มีบริเวณส่วนใหญ่มักต่อปลั๊กไฟไว้ใช้งานในสวน จึงควรตรวจเช็คระบบไฟฟ้าหรือบริเวณปลั๊กไฟที่อยู่ในจุดเสี่ยง อาทิ โคมไฟหน้าบ้านที่ไม่มีหลังคาคลุม, กระดิ่งไฟหน้าบ้าน, ปลั๊กไฟที่อยู่นอกบ้าน ก็ควรต้องมีฝาปิดครอบให้แน่นหนาเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นถึง เป็นต้น   5. ต้นไม้ใหญ่ใกล้บ้าน ระวังไว้หน่อยก็ดี แน่นอนว่าหากบริเวณบ้านพักที่อยู่อาศัยของเรา มีต้นไม้สูงอยู่ใกล้เคียง สิ่งที่เจ้าของบ้านควรทำเสมอคือแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ห่างจากเสาไฟ และไม่ให้เกะกะสายไฟรอบตัวบ้าน เพราะนี่อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ แถมถ้ามีฝนฟ้าคะนองหรือลมกรรโชกแรงในหน้ามรสุมก็จะยิ่งเสี่ยงให้เกิดอันตรายได้นะคะ ดังนั้นป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ดีจ๊ะ   6. ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวนให้พร้อมรับหน้าฝน เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องจัดเก็บเฟอร์นิเจอร์สนามประเภทผ้าเข้ากรุ และเตรียมการให้พร้อมรับฤดูที่เต็มไปด้วยความชื้น โดยการทาน้ำยาป้องกันแมลง หรือน้ำยาเคลือบเงาบนเฟอร์นิเจอร์ไม้และทาน้ำยากันสนิมพร้อมกับเคลือบสีใหม่ให้เฟอร์นิเจอร์เหล็ก จะได้สวยงามคงทนสู้แดดและฝน   7. ป้องกันลานลื่นในสวน ถ้าฝนตกชุก พื้นทางเดินก็มักจะมีตะไคร่น้ำเกาะ ซึ่งเจ้าของบ้านควรใช้น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำบนพื้นลาน แล้วจึงติดแถบหรือเคลือบน้ำยากันลื่นหรือปูพื้นด้วยแผ่นพื้นไม้สำเร็จรูปกันลื่นที่ถอดประกอบได้และมีน้ำหนักเบา โดยเลือกชนิดที่มีโครงรองพื้นเป็นพลาสติกก็จะสามารถระบายน้ำและความชื้นได้ดี   สุดท้ายอย่าลืมว่าเราไม่สามารถควบคุม บังคับธรรมชาติได้ แต่เราสามารถปรับตัว เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเตรียมบ้านให้พร้อมรับกับหน้าฝนที่กำลังจะมากันดีกว่าค่ะ เพราะถ้าบ้านปลอดภัยเราก็สบายกายและสบายใจ :)
วิธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็น ให้สดอร่อยและอยู่นานมากขึ้น

วิธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็น ให้สดอร่อยและอยู่นานมากขึ้น

บ่อยครั้งที่เราไปตลาดหรือซุปเปอร์มาเก็ตแล้วมักหยิบจับผักผลไม้ลงใส่ตระกร้าเป็นจำนวนมาก ครั้นเมื่อพอถึงบ้านก็ยัดทุกสิ่งอย่างที่เลือกซื้อมาเข้าไปในตู้เย็น จนเกิดปัญหาตู้เย็นสูญเสียความเย็นและทำงานหนัก ส่งผลให้ผักและผลไม้อยู่ได้ไม่นาน ไม่สดเหมือนเดิมอีกต่อไป พอถึงเวลาจะนำมาใช้ก็เหี่ยวเน่าไปซะก่อน ถ้าใครกำลังหาวิธียืดอายุผักให้สดได้นานขึ้น วันนี้ Review Your Living  มีวิธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็นที่ถูกต้องและอยู่ได้นานมาฝากกัน   แต่ก่อนที่ทุกคนจะรู้วิธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็น ต้องรู้เรื่องนี้ก่อนนะ! 1. ไม่ควรเก็บผักไว้รวมกัน เพราะจะทำให้เกิดการเน่าเสียและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น 2. การเก็บผักด้วยวิธีแช่น้ำ ไม่ควรแช่ผักลงในน้ำทั้งตัน เพราะจะทำให้วิตามินละลายน้ำเสียไป 3. การเก็บผักเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในครัวและเก็บในตู้เย็นนั้น ควรล้างผักให้สะอาดก่อนเพราะผักที่ซื้อจากตลาดขายปลีกมักไม่สะอาด หากยังไม่ได้ใช้ทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำจริงๆ ค่อยเอาเข้าเก็บ เมื่อรู้วิธีก่อนนำผักผลไม้ไปเก็บในตู้เย็นที่ถูกต้องแล้ว เรามาดูวิธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็น ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้นกันดีกว่า 1.วิธีเก็บผักผลไม้ ด้วยกระดาษห่อผัก จริงๆ แล้วผักสดควรจะต้องทานภายใน 1-2 วัน เพื่อให้ได้สารอาหารสูงสุด แต่ถ้าต้องการแช่ผักในตู้เย็น หลังจากล้างผักเสร็จแล้ว ให้ห่อผักด้วยกระดาษเช็ดมือแผ่นใหญ่ แล้วค่อยนำไปแช่ตู้เย็น ซึ่งกระดาษจะช่วยกักเก็บความชื้นไม่ให้ระเหยออกไป และช่วยคงความสดให้นานขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมเด็ดผักใบที่ช้ำหรือเน่าทิ้งก่อนด้วยนะ 2.วิธีเก็บผักผลไม้ โดยแยกกลุ่มผักให้ชัดเจนก่อน ก่อนจะนำผักสดเข้าตู้เย็นนั้น แนะนำให้แยกกลุ่มผักออกจากกัน โดยจำแนกเป็น 3 ชนิด คือผักที่เน่าเสียง่ายอย่าง เห็ด, ผักชี, ผักกาดหอม, ถั่วงอก, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้ง และชะอม ต่อมาคือกลุ่มผักที่เก็บได้ในระยะเวลาจำกัด ก็จะมีผักกาด, ผักคะน้า, มะเขือเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผักที่เก็บไว้ได้นานกว่าผักอื่นๆ เช่น ฟัก, แฟง, เผือก, มัน และฟักทอง ซึ่งผักเหล่านี้แม้จะเก็บในตู้เย็นก็ยืดเวลาได้ไม่นานนัก แต่การเก็บที่ดีที่สุดคือใส่ถุงพลาสติกที่สะอาดและแห้ง จะช่วยเก็บความสดไว้ได้นานขึ้น 5-7 วัน 3.วิธีเก็บผักผลไม้สุกง่าย จับใส่ถุงสูญญากาศซะ! ขึ้นชื่อว่าผลไม้ ก็มีให้เลือกมายมายนับไม่ถ้วนเลยใช่ไหมล่ะ แต่ผลไม้ต่างๆ ที่สุกง่าย อย่าง มะม่วง, แอปเปิ้ล, อะโวคาโด, องุ่น, ลูกแพร รวมไปจนถึงผักอย่างพริกไทยสด และเห็ดทุกชนิด ถ้าอยากให้คงความสดและเก็บได้นานล่ะก็แนะนำให้ใส่ถุงพลาสติกสูญญากาศ และพยายามอย่าให้ผิวของผลไม้แต่ละลูกสัมผัสกัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยเก็บความสดไว้ได้นานขึ้นแล้ว 4.วิธีเก็บผักผลไม้ดิบ ควรใส่ถุงกระดาษเจาะรู มาต่อกันที่ผลไม้ดิบ ที่ยังมีผลเป็นสีเขียว ถ้าแม่บ้านหรือพ่อบ้านคนไหนอยากให้มันยังคงความสดอยู่ล่ะก็ แนะนำให้นำผลไม้ใส่ถุงกระดาษที่เจาะรู อากาศที่ไหลเวียนจะช่วยคงความสดได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้ก๊าซเอธิลีนหรือก๊าซที่ทำให้ผลไม้สุกยังคงอยู่ในถุง ไม่ไปรบกวนผลไม้ชนิดอื่น 5.ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ กับวิธีเก็บผักผลไม้ ผลไม้จำพวกตระกูลเบอร์รี่มักไม่ถูกกับความร้อนของประเทศไทยเท่าไหร่นัก เพราะสภาพอากาศร้อนชื้นส่งผลให้ผลไม้เสียง่ายมาก ดังนั้นข้อแนะนำของเราคือให้นำผลไม้อย่าง เชอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่, หรือบลูเบอร์รี่ ใส่ตระกร้าแล้วล้างผ่านน้ำร้อนแบบรวดเร็วประมาณ 30 วินาที หลังจากนั้นให้เทลงบนผ้า เพื่อคลายความร้อน แล้วค่อยนำไปแช่ในตู้เย็น ความร้อนจะฆ่าสปอร์แบคทีเรีย ทำให้เบอร์รี่คงความสดได้นานขึ้นนั่นเอง 6.อย่าใช้วิธีเก็บผักผลไม้ ด้วยการแช่รวมกัน สำหรับข้อนี้ขอขีดเส้นใต้รัวๆ เลย สำหรับผักผลไม้ที่ซื้อมาจากตลาดหรือซุปเปอร์มาเก็ตนั้น คุณพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายไม่ควรนำมาแช่น้ำรวมกัน เพราะผลไม้สุกจะปล่อยก๊าซเอธิลีนออกมา ทำให้ผักที่ว่างอยู่ใกล้ๆ เสียเร็ว ทางที่ดีเราแนะนำให้ควรเก็บผักและผลไม้แยกถุงหรือ แยกชั้นกัน ยิ่งแช่ห่างกันมากเท่าไรผักและผลไม้ก็จะช่วยยืดอายุได้นานขึ้น เชื่อสิ! 7. วิธีเก็บผักผลไม้ สำหรับเห็ดควรใส่ไว้ในกล่องพลาสติก เห็ดเป็นผักอีกหนึ่งประเภทที่เสียค่อนข้างเร็ว ดังนั้นแนะนำให้ล้างให้สะอาดแล้วตากลมให้แห้ง จากนั้นเก็บใส่กล่องพลาสติก แล้วปิดฝาไม่ต้องสนิท ให้ลมเข้าไปเล็กน้อย หรืออาจใช้แผ่นพลาสติกใส ห่อแล้วเจาะรูเล็กๆ ที่ด้านบนเพื่อป้องกันความชื่น ซึ่งเป็นตัวการสำคัญทำให้เห็ดเน่าเสียนั่นเอง 8.เก็บไข่ไว้ในชั้นวางตู้เย็น หนึ่งในวิธีเก็บผักผลไม้ วัตุดิบอย่าง "ไข่สด" ควรเก็บไว้ในกล่องไข่หรือชั้นวางไข่ในตู้เย็น เพื่อกันการกระแทกและป้องกันการระเหยของน้ำออกจากไข่ที่สำคัญไม่ควรล้างไข่ก่อนเก็บเข้าตู้เย็น เพราะจะทำให้อากาศ สิ่งสกปรก และกลิ่นต่างๆ ในตู้เย็น ซึมเข้าภายในฟองไข่ได้ไว ทำให้ไข่ไก่เสียง่าย นอกจากนี้ก็ควรวางไข่ให้ด้านแหลมลง ให้ด้านป้านหงายขึ้น วิธีนี้จะทำให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางฟองพอดี   เพียงแค่ทุกคนลองทำตามวิธีที่เรานำมาฝาก รับรองว่าผักผลไม้ที่ซื้อมาจากตลาดหรือซุปเปอร์มาเก็ตนั้นจะอยู่กับเรานานขึ้นแน่นอน แต่ทางทีดี  ‘ผักสด’ ควรจะกินภายใน 1-2 วัน เพื่อให้ได้สารอาหารสูงสุด แต่ถ้าต้องการแช่ผักในตู้เย็น หลังจากล้างผักและเสร็จแล้ว ให้ห่อผักด้วยกระดาษเช็ดมือแผ่นใหญ่ แล้วค่อยนำไปแช่ตู้เย็น กระดาษจะช่วยเก็บความชื้นไม่ให้ระเหยออกไป ซึ่งจะช่วยคงความสดให้นานขึ้น และอย่าลืมเด็ดผักใบที่ช้ำหรือเน่าทิ้งไปก่อนด้วยนะคะ เมื่อทราบวิธีเก็บผักผลไม้ในตู้เย็นแล้ว ก็ควรต้องทำความสะอาดตู้เย็นด้วย ทำตู้เย็นของคุณให้สะอาดและดูใหม่อยู่เสมอ นอกจากวิธีเก็บผักผลไม้ ก็มีเคล็ดลับอื่นๆ มาฝากด้วย 5 วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นและคราบสกปรกในตู้ไมโครเวฟได้อยู่หมัด 4 วิธีกำจัดสิ่งสกปรกในเครื่องซักผ้า “ฮาวทูเคลียร์..ตู้เย็น” ไม่ให้เหลือทิ้ง ลดปริมาณขยะตามแบบฉบับของเบโค
7 เคล็ดลับการเลือกตึกแถวเพื่อการลงทุน

7 เคล็ดลับการเลือกตึกแถวเพื่อการลงทุน

1.เลือกลงทุนในตึกแถวที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีคนสัญจรอย่างพลุกพล่าน เนื่องจากตึกแถวที่มีกลุ่มคนเดินผ่านหรือสัญจรผ่านหน้าร้านเป็นจำนวนมาก คือกลุ่มคนที่มีโอกาสกลายมาเป็นผู้อยู่อาศัยในตึกแถว หรือ กลายมาเป็นลูกค้าของกิจการต่างๆ ในตึกแถวหลังนั้นได้ในอนาคต   2.เลือกลงทุนในตึกแถวห้องริมสุด เพราะเป็นบริเวณที่น่าลงทุนมากกว่าตึกแถวห้องกลาง เนื่องจากสามารถเปิดหน้าร้านได้ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ทำให้มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้มากกว่า สามารถเพิ่มมูลค่าให้ สูงขึ้นได้ และนักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นทั้งในลักษณะซื้อมาขายไปหรือการลงทุนใน ลักษณะปล่อยเช่า   3.ต้องลงทุนในตึกแถวที่สามารถหาที่จอดรถได้สะดวก เพราะที่จอดรถเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความคล่องตัว ทั้งในแง่ของการอยู่อาศัยและการลงทุนทำธุรกิจ   4.ตรวจสอบโครงสร้างและสภาพตึกเพื่อประเมินราคาก่อนลงทุนเสมอ เนื่องจากมูลค่าของตึกจะมาจากสิ่งปลูกสร้างเป็นสำคัญ ส่วนที่ดินมักเป็นมูลค่าส่วนน้อย การตรวจสอบวัดพื้นที่และตรวจสอบสภาพตึกช่วยให้สามารถประมาณการราคาของตึกแถวได้อย่างถูกต้องเหมาะสมสำหรับการลงทุน   5.เลือกลงทุนในตึกแถวที่มองจากถนนได้อย่างเด่นชัด ซึ่งสามารถสร้างป้ายโฆษณาบนดาดฟ้าให้เช่าได้ ลักษณะตึกแถวประเภทนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าตึกแถวให้กับนักลงทุนได้มาก เพราะสามารถเก็บค่าเช่าป้ายโฆษณาได้มากกว่าค่าเช่าบ้านหลายเท่าตัว   6.ลงทุนในตึกแถวที่มีทำเลถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย เช่น เป็นตึกแถวที่อยู่ในซอยซึ่งต้องตั้งอยู่ในฝั่งที่มีรถยนต์วิ่งเข้า หรือเป็นตึกแถวที่ถนนโอบรอบ ลักษณะของตึกแถวประเภทนี้มักได้รับความสนใจทั้งจากผู้ซื้อและผู้เช่า   7.ลงทุนซื้อตึกแถวเป็นห้องคู่ การเลือกตึกแถวแบบห้องคู่ดีกว่าตึกแถวห้องเดี่ยว เพราะมีความยืดหยุ่นในการใช้ประโยชน์ได้มากกว่า เนื่องจากธุรกิจทั่วไปนิยมเปิดธุรกิจในตึกแถวสองห้องมากกว่าห้องเดี่ยว   อย่างไรก็ดีการลงทุนตึกแถวให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนเป็นอย่างดี  เพราะนอกจากการวิเคราะห์และวางแผนในการลงทุนแล้วที่ต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ยังต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์เข้ามาใช้ในเวลาเดียวกันด้วย   ขอบคุณแหล่งที่มา www.landinvestingthai.com/การเลือกตึกแถว/ ภาพประกอบจาก https://pixabay.com https://www.pexels.com
คนมีบ้าน-คอนโดเตรียมตัว ค่าส่วนกลางจะขึ้นราคา!

คนมีบ้าน-คอนโดเตรียมตัว ค่าส่วนกลางจะขึ้นราคา!

บทความนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องค่าส่วนกลางค่ะซึ่งงค่าส่วนกลางนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าใครที่ซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม-ทาวน์โฮม-บ้านเดี่ยวกับโครงการต่างๆ ก็จะต้องเสียค่าส่วนกลางล่วงหน้ากันส่วนใหญ่ประมาณ 1-2 ปี ตั้งแต่วันโอนกรรมสิทธิ์กันเลย โดยมีการคิดเป็นบาท/ตร.ม. หรือบาท/ตร.ว. เพื่อนำไปดูแลทรัพย์ส่วนกลาง ภายในโครงการ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีต้นทุนอยู่ และหากต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นแน่นอนว่าค่าส่วนกลางก็จะถูกขึ้นราคาตามไปด้วย   ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะว่า ค่าส่วนกลางที่เราจ่ายไปนั้นจะถูกนำไปบริหารจัดการโดยนิติบุคคล ของโครงการ ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกนำมาดูแลส่วนกลางทั้งหมด เช่น ค่าซ่อมบำรุงลิฟต์ ค่าพนักงานรักษาความปลอดภัย ค่าแม่บ้านทำความสะอาด ค่าดูแลสวน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคส่วนกลางต่างๆ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ก็ย่อมมีต้นทุนอย่างที่เกริ่นกันไปแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่เรากำลังจะมาบอกถึงสาเหตุของการขึ้นราคา ค่าส่วนกลางในอนาคตนั้นหลักๆ แล้วก็เป็นผลพวงมาจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากเดิมในกรุงเทพฯ วันละ 300 บาท เป็นวันละ 325 บาท ซึ่งมีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ฉะนั้นค่าจ้างพนักงานนิติบุคคล ค่าจ้างรปภ. ค่าจ้างแม่บ้านก็จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงส่วนกลางที่แต่ละโครงการต่างก็แข่งขันกันทำให้สวยยิ่งขึ้น มีพื้นที่เพิ่มขึ้น ตรงนี้ก็กลายเป็นว่าต้องมีต้นทุนในการดูแลรักษากันมากขึ้นตามไปด้วย หลาย Developer จึงผลักต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 1-2% ไปที่ค่าส่วนกลาง โดยจะเริ่มมีผลกันตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป   สุดท้ายอาจมีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้วแบบนี้ไม่จ่ายค่าส่วนกลางได้ไหม ซึ่งเราขอแนะนำว่าจ่ายเถอะค่ะ แม้ว่าราคาต่อปีจะอยู่ที่หลายหมื่นบาทก็ตาม เพราะค่าใช้จ่ายนี้ก็นำไปปรับปรุงให้โครงการที่เราอยู่นั้นมีสภาพแวดล้อมสวยงามอยู่เสมอ ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกให้ รวมถึงยังช่วยเรื่องความปลอดภัยของเราด้วย ซึ่งการอาศัยอยู่ร่วมกันก็ต้องทำตามกฎเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งผลให้บ้านของเราน่าอยู่อาศัยไปด้วย เพราะหากลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางก็จะมีการกำหนดโทษปรับ ไปจนถึงฟ้องศาลได้ตามกฎหมาย
5 เทคนิค เพิ่มโอกาสอนุมัติรีไฟแนนซ์บ้าน/คอนโด

5 เทคนิค เพิ่มโอกาสอนุมัติรีไฟแนนซ์บ้าน/คอนโด

สำหรับคนที่เคยกู้สินเชื่อบ้านหรือคอนโดจากธนาคารมาก่อน คงรู้กันดีธนาคารมีสิทธิ์ตอบรับหรือปฏิเสธการขอสินเชื่อ ถ้าเลือกได้เราก็คงอยากเป็นคนที่ได้รับการอนุมัติ คงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้มีโอกาสเตรียมตัวก่อนจะถึงเวลารีไฟแนนซ์ เพื่อเพิ่มโอกาสการอนุมัติเวลาเราไปขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน/รีไฟแนนซ์คอนโดกับธนาคาร เทคนิคที่ 1 ชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ทุกครั้งที่มีการขอสินเชื่อ เจ้าหน้าที่ของธนาคารที่จะไปตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ของเราจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ซึ่งเก็บรวบรวมประวัติการขอสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ของเราไว้ เพื่อเอามาประเมินว่าเรามีนิสัยการชำระหนี้เป็นอย่างไร (ทั้งหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต) ทางที่ดีคือไม่ควรมีการชำระล่าช้า เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ก็จะทำให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติมากขึ้นครับ เทคนิคที่ 2 ปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้ หลายคนอาจยังไม่รู้จักคำว่า “ความสามารถในการก่อหนี้” ซึ่งดูง่ายๆ จากวงเงินสินเชื่อที่เราสามารถทำการเบิกกู้ได้ ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ บัตรเครดิตนี่แหละครับ สมมติเราเงินเดือน 50,000 บาท แต่มีบัตรเครดิต 3 ใบ วงเงินใบละ 200,000 บาท ถ้าวันดีคืนดี เราดันไปรูดจนเต็มวงเงินทุกใบ กลายเป็นว่ามีหนี้ 600,000 บาททันที แบบนี้ธนาคารก็อาจมองว่าจะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนบ้าน จึงเป็นที่มาของคำแนะนำในข้อนี้ว่าถ้าหากมีบัตรเครดิตหลายใบ และมีใบที่ไม่ได้ใช้จริงๆ ก็ปิดไปดีกว่าครับ เทคนิคที่ 3 เดินบัญชีธนาคาร (Statement) อย่างสม่ำเสมอ หนึ่งในรายการเอกสารที่ทุกธนาคารขอเวลาเรายื่นใบสมัครรีไฟแนนซ์บ้าน/รีไฟแนนซ์คอนโด ก็คือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง เพื่อนำมาดูว่าเรามีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอหรือไม่ และแต่ละเดือนมีเงินเข้า/ออกอย่างไรบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ธนาคารว่าจะดูย้อนหลังกี่เดือน บางธนาคารก็ 6 เดือน หรือบางธนาคารอาจขอดูยาวถึง 2 ปีเลยก็มี เทคนิคที่ 4 สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน บางคนอาจเคยได้ยินว่า สลิปเงินเดือนต้องใช้สลิปคาร์บอนเท่านั้น แต่หลายๆบริษัทสมัยนี้ไม่ใช้กระดาษคาร์บอนในการพิมพ์สลิปเงินเดือนแล้ว จึงสงสัยกันว่าถ้าสลิปเงินเดือนไม่ใช่กระดาษคาร์บอน จะกู้ผ่านไหม ก็ขอตอบกันตรงนี้ให้หายข้อข้องใจเลยแล้วกันครับว่า “ได้เหมือนกัน” เพียงแต่สลิปคาร์บอนจะดูน่าเชื่อถือกว่าเล็กน้อยเท่านั้นเอง แต่เราก็สามารถขอใบรับรองเงินเดือนจากบริษัทมาประกอบ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือได้เช่นกันครับ เทคนิคที่ 5 ลายเซ็นต้องเหมือนกันทุกแผ่น คุณรู้หรือไม่ว่าเอกสารทุกใบที่ส่งไปธนาคารจะพูดตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพมาแอบอ้างขอสินเชื่อ ดังนั้นการเซ็นรับรองในเอกสารทุกใบควรเซ็นให้เหมือนกัน เพราะแต่ละวันมีเอกสารจำนวนมากถูกปฏิเสธเพราะลายเซ็นไม่ตรงกัน ทำให้ต้องเสียเวลาไปเซ็นใหม่อีกรอบ ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.refinn.com/เพิ่มโอกาสอนุมัติรีไฟแนนซ์บ้าน
5 ทำเลเลี่ยงได้ให้เลี่ยงเมื่อซื้อคอนโด

5 ทำเลเลี่ยงได้ให้เลี่ยงเมื่อซื้อคอนโด

การเลือกที่อยู่อาศัยก็เหมือนเลือกทำเลให้กับร้านค้า หากได้พักอาศัยในทำเลที่ดีก็จะช่วยให้คุณสะดวกสบายและช่วยให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าองค์ประกอบรอบๆ ข้างแย่ เราก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน 1. ไม่ควรซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้แนวสายไฟฟ้าไฟแรงสูงถ้าให้ดีควรเลือกคอนโดหรือห้องที่อยู่ห่างเสาไฟฟ้าหรือสิ่งที่จะทำให้เกิดอันตรายได้ อย่างน้อย 300 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้ยังสามารถประเมินความปลอดภัยเรื่องอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น อยู่ใกล้กับอาคารที่ง่ายต่อการลุกลามของเชื้อเพลิงหรือไม่ 2.ลองสังเกตถึงหม้อแปลงกระแสไฟฟ้าให้ดี ในพื้นที่ชุมชนเรามักจะเห็นหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ดีแน่ถ้าสิ่งนี้จะอยู่ละแวกเดียวกับที่อยู่อาศัยของเราควรเลือกห้องที่อยู่ไกลหม้อแปลง ออกมาหน่อยอย่างน้อย 100 เมตร หรือในระยะที่ประเมินได้ว่าการระเบิดของมันจะไม่ส่งผลกระทบกับห้องของเรา 3.ถอยให้ห่างเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่มีใครที่อยากเข้าใกล้เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ แต่นั่นก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ลองสำรวจและเลือกคอนโดที่อยู่ไกลจากแหล่งส่งสัญญาณโทรศัพท์ 300 เมตรเป็นอย่างน้อย เพราะนั่นจะดีกับตัวคุณ 4.ไม่ใกล้วัดและเมรุเผาศพข้อนี้คงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้เราก็ขอแนะนำว่าคงไม่ดีแน่ถ้าห้องของเราหันหน้าไปทางวัด หรือต้องเห็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตลอดเวลา โดยเฉพาะเมรุเผาศพ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงดีกว่า 5.อยู่ห่างกองขยะเข้าไว้เพราะนอกจากจะไม่อยู่ในรัศมีของกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว กองขยะยังเป็นสัญลักษณ์ของเชื้อโรค ฝุ่นละออง ที่ปลิวมากับอากาศ มันคงไม่ดีแน่ถ้าคุณต้องสูดดมมันทุกวัน เพราะนั่นเป็นบ่อเกิดของโรค ซึ่งทำให้คุณต้องเจ็บป่วย ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.plus.co.th/condo-for-sale/condo-checklist
เลือกซื้อแอร์อย่างไรให้คุ้มค่า เข้ากับทุกขนาดและสไตล์การแต่งห้อง

เลือกซื้อแอร์อย่างไรให้คุ้มค่า เข้ากับทุกขนาดและสไตล์การแต่งห้อง

ย่างเข้าสู่  “ฤดูร้อน” กันแล้ว อย่างที่ทราบกันดีว่าสภาพอากาศช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยนั้นทวีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา กันเลยทีเดียว วิธีรับมือส่วนใหญ่ของใครหลายๆ คนคงเป็นการมองหาเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่เพื่อมาคลายร้อนให้กับตัวเอง แต่ปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศโดยคำนึงเพียงแค่ขนาด BTU และราคานั้นไม่ได้แล้วนะคะ เพราะด้วยสภาวะแวดล้อม คุณภาพของอากาศ หรือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เราต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น   ซึ่งจะดีแค่ไหนถ้ามีเครื่องปรับอากาศสักตัวที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความเย็น ดีไซน์ คุณภาพ และราคา ที่สำคัญต้องประหยัดไฟฟ้า แน่นอนว่าผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty จึงได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ที่หลายครอบครัวกำลังมองหานั่นคือให้ทั้งความคุ้มค่า ที่มาพร้อมประสิทธิภาพทรงพลัง ด้วยนวัตกรรมการผลิตที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพของผู้ใช้ และความสะดวกสบายจากการใช้งาน วันนี้เราจึงมีข้อแนะนำในการเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง ที่จะทำให้วันสบายๆ ของคุณหมดกังวลเรื่องความร้อน แถมยังประหยัดและดีต่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ..   ถ้ารู้ขนาดห้องที่ชัดเจน ก็จะเลือกเครื่องปรับอากาศง่าย!   สิ่งแรกต้องรู้ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ คือจะใช้แอร์กี่ บีทียู (BTU) โดยค่า BTU คือหน่วยบอกความสามารถในการถ่ายเทหรือดึงความร้อนออกจากห้อง และทำความเย็นภายในห้อง ซึ่งคิดหน่วยต่อชั่วโมง (BTU/h) เราจึงต้องเลือก BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง ในการซื้อแอร์มาติดตั้ง ซึ่งสูตรสำเร็จง่ายๆ ที่เราอยากแนะนำ คือโดยทั่วไปแล้ว เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง หรือเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก จะมีมาตรฐานเริ่มต้นที่ 9000-24,000 บีทียู ขนาด 9,000 BTU จะเหมาะกับห้องขนาด 9-12 ตารางเมตร หรือห้องนอนขนาดเล็ก 12,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 12-16 ตารางเมตร หรือห้องนอนมาตรฐานของคอนโดฯ ทั่วไป ถ้าเป็นขนาด 18,000 BTU จะเหมาะกับห้องขนาด 16-24 ตารางเมตร ซึ่งสามารถเป็นเครื่องปรับอากาศตัวเดียวของห้องสตูดิโอในคอนโดได้ และ 24,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 24-32 ตารางเมตร ใช้กับขนาดของห้องโถงในบ้าน หรือสตูดิโอขนาดใหญ่นั่นเองค่ะ   ถ้าเน้นประหยัดไฟ ต้องเลือกเครื่องปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน   การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีระบบ Inverter จะช่วยประหยัดไฟได้จริงนะคะ เพราะระบบนี้จะเน้นสร้างความเย็นคงที่ อุณหภูมิจะไม่สวิงไปมา จึงมีความเงียบในการใช้งาน เนื่องจากคอมเพรสเซอร์ในระบบนี้ทำงานต่อเนื่องแบบลดรอบ ซึ่งต่างจากคอมเพรสเซอร์ธรรมดาที่ทำความเย็นถึงจุดหนึ่งแล้วตัด แล้วก็เริ่มทำความเย็นใหม่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เครื่องปรับอากาศที่มีระบบ Inverter อาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่ลงทุนระยาวถือว่าคุ้ม น่าสนใจไม่น้อย แต่เครื่องปรับอากาศ ระบบ inverter ในท้องตลาดนั้นมีมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อเลยะคะ แถมยังมีราคาที่สูงกว่าระบบธรรมดาอีกด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ ที่สำคัญควรคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงาน และชิ้นส่วนประกอบภายในของเครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องที่เรียกว่า ระบบ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) เพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดไฟที่มากกว่า คุ้มค่ากว่าในระยะยาว   ถ้าเครื่องปรับอากาศมันเก่ากินไฟ ก็อย่าฝืนใช้ต่อเลย..   หลายๆ คนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องปรับรุ่นเก่า หรือเครื่องที่ใช้งานมาอย่างหนักหน่วงยาวนานนั้นกินไฟมาก ดังนั้นแนะนำให้ตัดใจเลือกซื้อใหม่ดีกว่าค่ะ เพราะเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่นั้นมีความสามารถในการทำความเย็นได้ดี ในขณะที่กินไฟน้อย ทั้งยังมีระบบทำความเย็นต่างๆ ที่เราสามารถเลือก หรือปรับใช้ให้เหมาะกับพื้นที่ พร้อมสู้หน้าร้อนได้สบาย แถมยังมีคุณสมบัติพิเศษรวมอยู่ในตัวด้วยเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าแก่ผู้ใช้มากที่สุด เช่น SENSOR ที่จะคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของเราและเลือกโหมดการทำงาน, อุณหภูมิ หรือระดับพัดลมโดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับจำนวนคนและจำนวนคนและการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในห้อง, โหมดประหยัดพลังงาน หลีกเลี่ยงการทำให้อากาศภายในห้องเย็นจนเกินไป ด้วยการเพิ่มอุณหภูมิและลดระดับพัดลมให้ต่ำลง เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมากที่สุด, ระบบเร่งทำความเย็น ที่จะเร่งการทำงานเมื่อเปิดเครื่องให้อุณหภูมิห้องลดลงอย่างรวดเร็ว และลมแรงทำให้เรารู้สึกเย็นสบายขึ้นเมื่อเข้าในห้อง, ฟังก์ชั่นที่ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องเป็นเวลานาน หรือโหมดอัจฉริยะต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนการทำงานตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใหม่ทุกข้อเลยนะคะ   Mitsubishi Heavy Duty 5 ทศวรรษในประเทศไทย 5 ปีรับประกันทุกชิ้น และเย็นเร็วทันใจ   Mitsubishi Heavy Duty คือเครื่องปรับอากาศแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีจุดแข็งในการผลิตเครื่องจักรกล เครื่องยนต์กลไก เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องปรับอากาศของแบรนด์นี้ ขึ้นชื่อด้านประสิทธิภาพ มาตรฐานการผลิต ความทนทาน ตลอดจนมีตัวแทนจำหน่าย และบริการหลังการขายที่ครองใจและเคียงคู่คนไทยมากว่า 5 ทศวรรษ ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยีวิศวกรรมระดับโลกที่มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังคงจุดเด่น “ประหยัดทนทานทุกงานหนัก” ไม่ว่าจะเป็นขนาด หรือฟังก์ชั่นการใช้งานแบบใด เครื่องปรับอากาศแบรนด์นี้ทุกรุ่น ล้วนมีประสิทธิภาพ ประหยัด ทนทานสมชื่อ Heavy Duty ที่เป็นจุดขายอย่างยาวนาน     ความคุ้มค่าของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ ยังมีระบบ Jet Flow ที่ทำให้เครื่องปรับอากาศ ลมแรงเย็นเร็วทันใจ แถมยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า ด้วย Inverter แท้ทั้งระบบ  และยังคงใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยงดใช้สารทำความเย็นที่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศโอโซน ตามนโยบายของบริษัท “Move the world forward” มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่ออนาคต ทั้งสังคม อุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน ที่สดใสยิ่งขึ้น     Mitsubishi Heavy Duty ช่วยประหยัดและทนทานทุกงานหนัก   เมื่อเครื่องปรับอากาศ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น Mitsubishi Heavy Duty จึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่มาช่วยให้อากาศเย็นขึ้น ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย และมาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่น โดยล่าสุดปี 2561 นี้ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) รุ่น SRK-ZSXS SERIES ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศระดับลักชัวรี่ จุดเด่นอยู่ที่ทุกรุ่นทุกขนาดครอบคลุมทุกความต้องการการใช้งาน ตั้งแต่ 9,000, 12,000, 18,000 และ 24,000 BTU ที่เหนือกว่าด้วยดีไซน์สวยงาม เหมาะแก่การติดตั้งเข้ากับขนาดและสไตล์การแต่งห้อง แถมยังได้รับรางวัล A’ Design award 2017 มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอันสะดวกสบายและทันสมัย เช่น Motion Sensor ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของมนุษย์อยู่ภายในห้อง, ECO OPERATION ที่ทำงานร่วมกับ Motion Sensor โดยการปรับความเหมาะสมของอุณหภูมิและระดับพัดลมให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่อยู่ในห้อง, AUTO OFF ฟังก์ชั่นที่ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องนานกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป, PRESET OPERATION ให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานล่วงหน้าได้, LED BRIGHTNESS ADJUSTMENT ให้ผู้ใช้งานสามารถหรี่ไฟ LED หน้า Panel แอร์โดยเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน เป็นต้น   เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นล่าสุดปี 2561 SRK-ZSXS SERIES ที่มี inverter แท้ทั้งระบบ  (100% Real Inverter) Design : Italian Designได้รับรางวัล A’ Design award   Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK-ZSXS SERIES ดีต่อสุขภาพมากกว่า   นอกจาก Mitsubishi Heavy Duty inverter รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง SRK-ZSXS SERIES จะมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอันสะดวกสบายและทันสมัยแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นเอาใจคนรักสุขภาพ โดยการใช้ Filter ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ ตามฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น Natural Enzyme Filter ที่มีส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติ สามารถป้องกันและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ, Natural Solar Filter ช่วยกรองอากาศกำจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทำให้อากาศในห้องมีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น, Anti-allergy & Activated carbon filter ช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตรายและฝุ่นละอองในอากาศ, Vitamin C Filter ช่วยทำให้อากาศที่ออกมามีวิตามิน C ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK-ZSXS SERIES ขนาด 9,000 BTU ที่ออกแบบให้มีหน้าตาเหมือนกันทุกขนาด Btu เหมาะกับห้องขนาด 9-12 ตารางเมตร ซึ่งเมื่อนำไปติดตั้งบริเวณห้องนั่งเล่นของคอนโดมิเนียมก็มีความลงตัว ทั้งขนาดของพื้นที่ และดีไซน์ที่เข้ากับทุกการตกแต่งห้องทุกๆ สไตล์   สุดท้ายนี้ คงไม่มีใครไม่อยากหายใจเอาอากาศดีๆ เข้าปอดหรอกใช่ไหมคะ ดังนั้นการเลือกเครื่องปรับอากาศสักเครื่องหนึ่งก็ถือว่าเป็นตัวช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้นได้เยอะเลยนะคะ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใหม่ SRK-ZSXS SERIES ที่มาพร้อมระบบ inverter แท้ทั้งระบบ เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่งทั้งหมด อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการทำงานแบบครบครันทันสมัย ที่สำคัญตัวแบรนด์ยังความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการผลิตที่ดีเยี่ยม โดยทุกเครื่องที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทยนั้นได้ผ่านการตรวจรับรองคุณภาพตามมาตรฐานโลกเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่ QC กันทุกชิ้นส่วนตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการ Packaging สินค้าลงกล่อง ทำให้กล้ารับประกันทุกชิ้นส่วนเป็นระยะเวลา 5 ปี แถมดีไซน์ก็ยังสวยงามเข้ากับทุกสไตล์ห้อง ในขณะที่ขนาด BTU ก็มีให้เลือกมากมาย จึงมั่นใจในคุณภาพได้ว่า Mitsubishi Heavy Duty เป็นเครื่องปรับอากาศที่จะช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวคุณเสมอ   และอีกหนึ่งโปรโมชั่นสุดคุ้มเพียงซื้อเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK10CRV และ SRK13CRV รับไปเลย ลำโพง JBL Go สุดคุ้ม 1 เครื่อง ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค. 2561 เท่านั้น   ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2561 เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศซีรี่ย์ SRK-CVV ทุกรุ่น รับไปเลยเสื้อยืดสุดเท่ห์จาก MITSUBISHI HEAVY DUTY   หน้าร้อนนี้ไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหน รับรองได้เลยว่าคุ้ม!!!   หมายเหตุ : เฉพาะสินค้ารุ่นที่ร่วมรายการ และห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น โปรดสอบถามข้อมูล ณ จุดขาย ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.mitsuheavythai.com     #หนีร้อนมาพึ่งโอ้ #HeavyDutyชื่อนี้ไม่ได้มีไว้เล่นๆ #MitsubishiHeavyDuty #เย็นเร็วทนทานประหยัดไฟ