Tag : Lifestyle

432 ผลลัพธ์
หลอดไฟ LED คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอะไร

หลอดไฟ LED คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอะไร

หลอดไฟ LED หรือที่บางคนเรียกสั้น ๆ ว่า หลอด LED เป็นประเภทหนึ่งของหลอดไฟที่ได้รับความยอดนิยมเป็นอย่างมาก หลายคนนิยมเลือกซื้อหลอดไฟ LED ไปติดตั้งภายในบ้าน ภายในอาคาร หรือภายนอกอาคาร เป็นส่วนมากเนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นข้อดีของหลอดไฟ LED     ถ้าคุณกำลังเลือกซื้อหลอดไฟ LED อยู่ คุณควรอ่านบทความนี้เพื่อที่จะทำความเข้าใจก่อนว่าหลอดไฟ LED คืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร และควรเลือกซื้อหลอดไฟแบบไหน บุญถาวรได้สรุปทุกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับหลอดไฟ LED เอาไว้ให้ทั้งหมดแล้ว   หลอด LED เป็นหลอดไฟที่ผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้ไม่มีการเผาไส้ของหลอดจนเกิดเป็นความร้อนและที่สำคัญคือ ตัวหลอดไฟไม่มีสารปรอทหรือสารฮาโดเจนหรือสารอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นผลเสียต่อผู้ใช้งานภายในบ้าน ทำให้หลอดไฟ LED มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก   มารู้จักหลอดไฟ LED ให้มากขึ้น   หลอดไฟ LED คือ หลอดไฟที่ทำขึ้นมาจากไดโอดแบบเปล่งแสง สามารถให้แสงสว่างได้เป็นอย่างดี หลอดไฟ LED นิยมใช้ทั้งภายในตัวบ้าน สำหรับการตกแต่งบ้าน และใช้ภายนอกตัวบ้านได้ด้วย นอกจากนี้หลอด LED ยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต เนื่องด้วยความที่เทคโนโลยีในการออกแบบของหลอด LED ในปัจจุบันทำให้มีความทนทานสูง พร้อมทั้งกินไฟน้อยจึงกลายเป็นหลอดไฟประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก   ลักษณะเด่นของหลอดไฟ LED คือ ตัวหลอดจะมีความร้อนน้อยหรือแทบจะไม่ร้อนเลย ทำให้เราสามารถเอามือไปสัมผัสกับหลอดไฟ LED แม้ในขณะที่กำลังเปิดอยู่ได้เลย นับเป็นข้อดีที่แตกต่างกับหลอดไฟบางประเภทที่มีความร้อนสูงมากๆ เนื่องจากการเผาไส้เพื่อให้แสงสว่าง   และด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้หลอดไฟ LED สามารถระบายความร้อนได้ดีนี้ ทำให้มันมีความร้อนน้อย ความร้อนสะสมก็น้อย จนทำให้หลอดไฟ LED สามารถใช้ได้อย่างยาวนานเมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่น ๆ และอาจจะอยู่ได้นานถึง 6 หมื่นชั่วโมงเลยทีเดียว ซื้อครั้งเดียวใช้ได้อย่างยาวนานเลยทีเดียว นับว่าคุ้มค่ามากๆ   ข้อดีของหลอดไฟ LED   ข้อดีอย่างแรกของหลอดไฟ LED เลยก็คือการที่มันมีอายุใช้งานที่ยาวนาน มีความทนทางสูงมาก สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน ทำให้ผู้ซื้อไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหลอดไฟ LED มาเปลี่ยนบ่อย ๆ และด้วยความทนทานนี้ยังทำให้ผู้ใช้สามารถนำหลอดไฟ LED ไปติดตั้งในพื้นที่ส่วนที่ยากต่อการเปลี่ยนหลอดไฟได้เพราะไม่จำเป็นต้องมาเปลี่ยนบ่อย   แสงของหลอดไฟ LED เป็นหนึ่งในแสงที่ปลอดภัยไม่มีรังสีที่อันตรายและเป็นแสงไฟที่สบายตา เหมาะกับการติดตั้งภายในบ้าน อีกหนึ่งข้อดีของหลอดไฟ LED ก็คือความประหยัดของหลอดไฟ หลอด LED นั้นไม่กินไฟมากนัก ช่วยให้เราหายกังวลกับภาระเรื่องค่าไฟที่จะต้องจ่ายลงไปได้มาก และนอกจากนี้คือหลอดไฟ LED สามารถที่จะเปิดปิดได้บ่อยโดยไม่กินไฟตามจำนวนครั้งการเปิดปิดสวิตช์ทำให้มีความประหยัดมากๆ เมื่อเทียบกับหลอดไฟในยุคก่อน หรือหลอดไฟที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเก่า   วิธีเลือกซื้อหลอดไฟ LED   มาถึงการเลือกซื้อหลอดไฟ LED กันบ้าง หลักการเลือกซื้อหลอดไฟ LED อย่างแรกเลยคือการเลือกดูจากจำนวนวัตต์ (Watt) หรือกำลังไฟที่หลอดไฟนั้นใช้เพื่อให้แสงสว่าง หลอดไฟแต่ละรุ่นจะมีจำนวนวัตต์ที่ไม่เท่ากัน หรือเรียกว่าพลังงานไฟไม่เท่ากัน ยิ่งวัตต์เยอะก็จะยิ่งทำให้กินไฟมากยิ่งขึ้นแต่ก็จะทำให้หลอดไฟมีพลังงานมากที่ยิ่งขึ้นตามไปด้วย   ข้อเสีย ของหลอดไฟ LED ก็มีเหมือนกันนั้นคือ เรื่องราคาที่ค่อนสูงกว่าหลอดไฟชนิดอื่น ๆ เนื่องจากคุณสมบัติและข้อดีต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปนั้น ทำให้หลอดไฟ LED เมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่น ๆ แล้วมักจะมีราคาที่สูงกว่า แต่เมื่อเทียบกับอายุการใช้งาน ความทนทาน และความประหยัดของหลอดไฟ LED แล้วก็ถือว่าหลอดไฟ LED มีความคุ้มค่ากับราคามากเลยทีเดียว   ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก บุญถาวร
ตำแหน่งการวางเตาครัว เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เย็น

ตำแหน่งการวางเตาครัว เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เย็น

อ.ธนากร แนะนำว่า "หลายๆ ครอบครัว คงจะมีอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องครัวมากมาย เช่นเตาครัว เตาอบ เตาไมโครเวฟ ตู้เย็น หากการวางอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่สัมพันธ์กัน ก็อาจจะเกิดสิ่งไม่ดี ความเสียหายได้ เช่น เตาครัว เตาอบ เตาไมโครเวฟ ที่เป็นเหมือนไฟ ความร้อน จะมีประตูของพวกมัน หากตรงข้ามวางตู้เย็นอยู่ ตู้เย็นเปรียบเสมือนความเย็น หากอยู่ตรงข้ามกัน เปิดตู้เย็น ไอเย็นก็จะไปปะทะกับความร้อนของพวกเตา ดังนั้น ควรจะต้องหลีกเหลี่ยงที่จะให้สองอย่างอยู่ตรงข้ามกัน อาจจะต้อง เบี่ยงตู้เย็นหลบ หรือเบี่ยงเตาอบ เตาไมโครเวฟหลบให้พ้นลักษณะแบบนี้ซะ อย่าให้ประตูเปิดอยู๋ตรงข้ามกัน"          ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
วาบิซาบิ (Wabi-Sabi) เทรนด์แต่งบ้านใหม่ 2018

วาบิซาบิ (Wabi-Sabi) เทรนด์แต่งบ้านใหม่ 2018

ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะมีเทรนด์แต่งบ้านอะไรที่น่าสนใจบ้าง แต่ในปีนี้ต้องหลีกทางให้กับเทรนด์วาบิซาบิ ซึ่งเป็นที่กำลังมาแรงสุด ๆ จนเรียกได้ว่าเป็นขวัญใจนักออกแบบกันเลยทีเดียว โดยต้องบอกว่าเทรนด์นี้เป็นทรนด์ที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเพอร์เฟค รักความเรียบง่าย และหลงใหลในความเป็นธรรมชาติเอามาก ๆ เพราะคอนเซ้ปต์หลักของวาบิซาบิคือการมองหาความสวยงามในความไม่สมบูรณ์ โดยถ้าหากอยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วประโยคนี้คืออะไร มีที่มาที่ไปแบบไหน วันนี้ได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับเทรนด์นี้มาฝากแล้วค่ะ     วาบิซาบิ คืออะไร   วาบิซาบิ เป็นเทรนด์การแต่งบ้านแบบใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุดในช่วงต้นปี 2018 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศญี่ปุ่น จึงมีกลิ่นอายความเป็นมินิมอลแฝงอยู่หน่อย ๆ แต่สำหรับวาบิซาบิจะเน้นไปที่ตัวผู้อยู่อาศัยมากกว่าสิ่งของ ส่วนคอนเซ็ปต์หลักของวาบิซาบิก็จะเน้นที่ความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ โดยมีแนวคิดสำคัญอยู่ที่การมองหาความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความไม่สมบูรณ์แบบ หรือเรียกได้ว่าเป็นการยอมรับสิ่งของต่าง ๆ ในแบบที่มันเป็น แล้วนำสิ่งของชิ้นนั้น ๆ กลับมาใช้ประโยชน์ตามจุดมุ่งหมาย โดยไม่ต้องไปหาซื้อสิ่งของชิ้นใหม่มาทดแทน โดยการแต่งบ้านแบบนี้จะไม่มีผิด ไม่มีถูก เพราะขึ้นอยู่กับประโยชน์ ความสวยงาม และประวัติของสิ่งของแต่ละชิ้นนั่นเอง   วาบิซาบิ มีที่มาอย่างไร   เดิมที วาบิซาบิ ไม่ใช่เทรนด์การตกแต่งบ้าน แต่เป็นปรัชญาของญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 โดยมีรากฐานมาจากศาสนาพุทธ ซึ่งปรัชญานี้เป็นปรัชญาที่สอนให้เรามองหาความสงบสุขบนโลกที่แสนจะวุ่นวาย การยอมรับในสิ่งที่มีหรือสิ่งที่เป็น มากกว่าเสียเวลาไปกับการหาสิ่งที่ดีกว่า หรือในการแต่งบ้านก็คือสอนให้เรามองหาความสวยงามในความไม่สมบูรณ์จากสิ่งของต่าง ๆ และมีความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัว     หลักการแต่งบ้านแบบวาบิซาบิ   คอนเซ็ปต์การแต่งบ้านแบบวาบิซาบิหลัก ๆ มีอยู่ 3 อย่าง คือ - ใช้วัสดุจากธรรมชาติ นักออกแบบส่วนใหญ่จะเลือกใช้สิ่งของที่มาจากธรรมชาติในการตกแต่งแบบวาบิซาบิ เพราะเทรนด์นี้เป็นเทรนด์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งสิ่งของที่มาจากธรรมชาติยังสามารถเข้ากันได้ดีกับการแต่งบ้านทุกสไตล์เลยด้วย แต่ไม่ว่าสิ่งของต่าง ๆ จะทำมาจากอะไร สิ่งสำคัญที่สุดก็คือมันต้องเป็นของแท้ที่ตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย - ทำทุกอย่างให้เรียบง่าย หลักสำคัญสุด ๆ อีกอย่างในวาบิซาบิก็คือความเรียบง่าย แค่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น จัดวางทุกอย่างแบบง่าย ๆ เพราะของทุกชิ้นต่างก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามในตัวเองอยู่แล้ว - เน้นความไม่เพอร์เฟค ด้วยความที่คอนเซ็ปต์ของวาบิซาบิ คือ การมองหาความสวยงามจากความไม่สมบูรณ์แบบ ฉะนั้นการตกแต่งบ้านแบบนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ใช้ข้าวของที่เก่า แตก หรือมีลักษณะไม่ปกติ มาตกแต่งบ้านได้อย่างสบายใจ รวมถึงยังเป็นการปล่อยให้ข้าวของต่าง ๆ เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งอะไรมากเลยด้วย แต่ว่ายังไงก็ต้องแยกระหว่างความไม่เพอร์เฟคกับความรกให้ออกด้วยนะคะ     เคล็ดลับแต่งบ้านแบบวาบิซาบิ   1. ซื้อแต่ของที่ใช่ ที่สวย หรือที่ชอบ มาประดับตกแต่งบ้านเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเลือกของที่เพอร์เฟค ตามเทรนด์ หรือไปหาของเก่า ๆ มาตกแต่งบ้านโดยไม่จำเป็น   2. ใช้สีแบบธรรมชาติหรือสีเอิร์ทโทนในการตกแต่ง เพราะโทนสีนี้จะให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ช่วยให้ดูกว้างข้าง และทำให้บรรยากาศดูสงบได้   3. เน้นงานแฮนด์เมดหรือเครื่องปั้นดินเผาที่ไม่ต้องเป๊ะ เพราะสิ่งของพวกนี้เป็นสิ่งของที่ไม่ค่อยสมบูรณ์แบบ แต่กลับมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เราสามารถองเห็นความสวยงามจากความไม่เพอร์เฟคเหล่านี้ได้ง่าย ซึ่งก็เข้ากับคอนเซ็ปต์ของวาบิซาบิได้ดี อีกทั้งของประเภทนี้ยังเป็นของพิเศษที่มีแค่ไม่กี่ชิ้นเองด้วย   4. ปล่อยข้าวของต่าง ๆ ไปตามธรรมชาติ เช่น รอยยับบนผ้าม่านหรือผ้าปู ไม่จำเป็นต้องดึงหรือรีดให้เรียบเนี้ยบทุกวัน ปล่อยให้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นบ้างก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องอย่าปล่อยให้รกเกินไปด้วยนะ   5. นำข้าวของเก่ากลับมาใช้ เพราะของเก่า ๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่-ยา ตา-ยาย หรือตกทอดมาจากพ่อ-แม่ หรือของเก่านั้น ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ไม่จำเป็นต้องขัดให้เงาวิ้ง ถ้าสีจะดูเก่าบ้างก็ไม่เป็นไร   6. ไม่จำเป็นต้องตกแต่งด้วยดอกไม้เสมอไป เพราะกิ่งไม้ที่ร่วงอยู่ ก็สามารถนำมารวม ๆ กันตกแต่งบ้านแบบธรรมชาติได้   7. เปลี่ยนการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย มาใช้เครื่องมือแบบธรรมชาติ แม้ว่าเครื่องมือที่ทันสมัยจะเร็วและสะดวกกว่า แต่หากอยากได้บรรยากาศแบบวาบิซาบิล่ะก็ ต้องใช้เครื่องมือที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติจะเหมาะสุด   8. ผนังแบบธรรมดา เก่า ๆ โทรม ๆ เห็นโครงสร้างเดิม เหมือนสร้างไม่เสร็จ เป็นอะไรที่ดูเข้ากันมากกับสไตล์วาบิซาบิทีเดียว   9. ลดสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้ใช้ลง เก็บไว้แต่สิ่งของที่ต้องใช้หรือสิ่งของที่ทำให้เรามีความสุขก็พอ และที่สำคัญต้องเหลือไว้ให้พอใช้ด้วย   10. ผ่อนคลาย ปล่อยวาง ไม่ต้องคำนึกถึงความเพอร์เฟคอะไรมาก แค่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น เท่านี้ก็จะทำให้เรามีความสุขกับสิ่งรอบข้างได้แล้วค่ะ   เรียกได้ว่า วาบิซาบิ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ช่วยให้ความสำคัญกับสิ่งของเดิม ๆ มากขึ้น รวมถึงยังเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับสิ่งของที่ไม่สมบูรณ์แบบต่าง ๆ ได้ด้วย จึงไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนและนักออกแบจะชอบเทรนด์นี้ เพราะถือได้ว่าเป็นเทรนด์ที่มีเสน่ห์แปลกใหม่มากจริง ๆ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kapook ภาพประกอบจาก wijzijnkees , thatkindofwoman , jutehome
เซ้งร้าน เซ้งกิจการ แบบไหนไม่ให้โดนหลอก

เซ้งร้าน เซ้งกิจการ แบบไหนไม่ให้โดนหลอก

การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ ให้ติดตลาดและเติบโตเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนนั้น มีหลายขั้นตอน อีกทั้งมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เพราะไม่รู้ว่าธุรกิจที่คิดใหม่ ลงทุนไปจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเข้าสวมสิทธิ์ในธุรกิจที่ดำเนินกิจการรุ่งเรืองอยู่แล้ว จึงเป็นการเริ่มต้นแบบก้าวกระโดด แต่ก็มีไม่น้อยที่คนอาศัยความต้องการนี้เป็นช่องทางในการหลอกเซ้งร้าน ทำให้หลายคนเสียเงินฟรี โดยไม่ได้ดำเนินธุรกิจจริง ต้องดูอะไรบ้างจึงไม่เสียเงินฟรี มาดูกัน เซ้งร้าน เซ้งกิจการคืออะไร เมื่อก่อนคนไทยรู้จักคำว่า เซ้ง ในความหมายว่า เช่าซื้อโดยมีกำหนดเวลา และเมื่อหมดสัญญาเช่า ทรัพย์สินนั้นก็จะกลับคืนสู่เจ้าของเดิม เมื่อก่อนอาจทำเพียงกรณีอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัย แต่ในปัจจุบันเป็นการเซ้งร้าน เซ้งกิจการ และอาจไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ เปิดให้เซ้ง แต่เป็นการเซ้งต่อจากผู้เซ้งเดิมที่ยังไม่หมดสัญญาเช่าซื้อ   เซ้งกิจการแบบไหนไม่ให้โดนหลอก กิจการที่นิยมเซ้งร้านกันได้แก่พวกร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงร้านคาร์แคร์ก็มีเซ้งเหมือนกัน ก่อนตัดสินใจจ่ายเงินเซ้งกิจการ สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ 1. คนที่ให้เซ้งมีสิทธิในร้านหรือกิจการนั้นจริงหรือไม่ อย่าเชื่อเพียงคำพูด ต้องดูเอกสารสิทธิ์   2. เป็นการเซ้งกิจการที่มีสัญญาเช่าเดิมอยู่หรือไม่ และต้องดูเงื่อนไขในสัญญาเดิมด้วยว่า อนุญาตให้เซ้งต่อได้หรือไม่ เพราะหากในสัญญาเดิมไม่อนุญาตให้เซ้งต่อ แต่เราไปเซ้งต่อ เจ้าของที่แท้จริงอาจบอกเลิกสัญญา และเราที่เป็นคนเซ้งต่อก็หมดสิทธิในร้านไปด้วย เพราะคนเก่าผิดสัญญา เจ้าของเลิกได้ หลายคนที่ถูกหลอกในเงื่อนไขเหล่านี้ คือ เสียเงินค่าเซ้งไปแล้ว แต่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจ เพราะคนเซ้งต่อผิดสัญญา เจ้าของเลยเลิกให้เช่า แต่เสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ (เงินกินเปล่า) ไปแล้ว   3. หากเป็นการเช่าช่วงที่สามารถทำได้ตามสัญญา ต้องประเมินในเรื่องของ เงินกินเปล่า ที่ต้องจ่ายให้ผู้เซ้งต่อ กับเงินที่ต้องจ่ายให้เจ้าของที่แท้จริง ประเมินโอกาสที่จะดำเนินธุรกิจให้ได้กำไรคุ้มทุนหรือไม่ นั่นคือ ต้องมีการเช็คให้ดีว่า ร้านค้าที่เซ้งต่อมานั้น เป็นธุรกิจที่ไปต่อได้ หรือถูกหลอกให้เซ้งแล้วรับภาระการขาดทุนต่อ ดังนั้น จึงต้องมีการลงพื้นที่จริง เพื่อประเมินสถานการณ์จริง รู้ถึงปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ นั่นคือ ต้องมีความถนัดในธุรกิจนั้นอยู่ด้วย   ความไม่รอบคอบในการเซ้งร้าน เซ้งกิจการ หรือเชื่อใจคนมากเกินไป อาจถูกหลอกให้เสียเงินเปล่า โดยไม่มีธุรกิจทำได้จริง เกี่ยวการทำธุรกิจ ประกอบกิจการ เปิดแนวคิด “บดินทร์ธร” อีก 4 ปีจะพาอสังหาฯ ตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” สู่บริษัทมหาชน สยามพิวรรธน์ ประกาศจุดยืน “ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) นำไทยยิ่งใหญ่บนเวทีโลก สิงห์ เอสเตท ปั้นแบรนด์สู่ความพรีเมียมระดับโลก เดินหน้าIPO ธุรกิจโรงแรมครั้งแรก
ฮวงจุ้ยการวางตำแหน่งเตาครัว กับอ่างล้างจาน

ฮวงจุ้ยการวางตำแหน่งเตาครัว กับอ่างล้างจาน

อ.ธนากร แนะนำว่า "หลายๆ คน มักจะมองข้ามการวางเตาครัวไว้ติดกับซิ้งค์อ่างล้างจาน ซึ่งจริงๆ แล้วหากวางติดกัน จะทำให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้าน หรือคอนโด ไม่ค่อยจะดี ผัวเมียทะเลาะกันบ่อย เหมือนน้ำกับไฟเจอกัน ดังนั้นอาจจะต้องเลือกตำแหน่งการวางเตาครัว เช่น หากเรามีซิ้งค์ล้างจานอยู่ แล้วซิ้งค์ล้างจานเป็นแบบที่มีฐานวางจาน ให้นำเตาไปวางเลยด้านที่มีฐานวางจานไป "อย่านำไปวางด้านที่เป็นอ่างเด็ดขาด" ฐานวางจานจะเป็นสิ่งที่กั้นอยู่ระหว่างอ่างล้างจานที่เป็นน้ำ กับเตาครัวที่เป็นไฟทันที สิ่งที่ไม่ดี และปัญหาก็จะหายไป หลังจากที่ทราบแล้ว ลองไปดูเตาครัวกับอ่างล้างจานที่บ้านคุณดูเลย รีบปรับเปลี่ยนให้ตรงตามฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุขเลยนะครับ" ฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข - อย่าวางเตาครัวติดกับอ่างล้างจานเด็ดขาด น้ำกับไฟปะทะกันมีแต่เสียหาย  ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
ต้องรู้อะไรบ้าง ซื้อคอนโดแล้วไม่เสียสิทธิ์

ต้องรู้อะไรบ้าง ซื้อคอนโดแล้วไม่เสียสิทธิ์

ในการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดมิเนียม หรืออาคารชุดนั้น มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ ธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเตอร์ เรียลตี้แมเนจเม้นท์ (IRM) และอดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย มีคำแนะนำในเรื่องควรรู้     ปัจจุบันที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนกรุงเทพฯ เนื่องจากการตอบรับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดอาคารใหม่ๆ โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าจำนวนมากและคอนโดเกิดใหม่เหล่านี้มั้งที่ขายได้หมดแล้ว และขายได้เพียงบางส่วน เข่น ขายได้เพียง 20% และอีก 80% เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ประกอบการซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าใช้จ่ายที่อาจทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบหากไม่ทราบว่าต้องรู้อะไรบ้างเมื่อตัดสินใจซื้อคอนโด โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่นำมาใช้ในการบริการจัดการภายในอาคาร   สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ผู้ซื้อคอนโดจะต้องเตรียมก็คือ เงินกองทุน ซึ่งกฎหมายระบุว่าเงินกองทุนมีไว้เพื่อซ่อมแซมส่วนกลางโดยเฉพาะการบำรุงรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ลิฟต์โดยสาร หรือการทาสีใหม่ทั้งอาคาร เงินกองทุนนี้จะเก็บประมาณ 10 เท่าของค่าส่วนกลาง เช่น หากต้องจ่ายค่าส่วนกลางในอัตรา 50 ต่อ ตรม.ผู้อยู่อาศัยจะต้องจ่ายค่ากองทุน 500 บาทต่อ ตรม. ซึ่งต้องจ่ายนอกเหนือจากราคาห้องที่ซื้อ เช่น ซื้อคอนโดขนาด 40 ตรม. จะต้องจ่ายค่ากองทุนจำนวน 20,000 บาท (40x500) ผู้ซื้อคอนโดจะต้องเตรียมเงินส่วนนี้ไว้ โดยทางผู้ขายจะชี้แจงเรื่องนี้อยู่แล้ว   นอกจากนี้แล้ว ยังต้องมีค่าส่วนกลางซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายและค่าบริการต่างๆ ประจำเดือน เช่น เงินเดือนพนักงาน แม่บ้านธุรการ รวมทั้งรายจ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาส่วนกลางของอาคาร ปกติแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะมีการเก็บล่วงหน้า 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับนโนบายของแต่ละอาคารสำหรับค่าส่วนกลางนั้นคำนวณจากพื้นที่ห้องแล้วคูณด้วยอัตราค่าจัดเก็บ เช่น พื้นท่ 40 ตร.ม. ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 50 บาท (40x50x12=24,000 บาท)   ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการจัดเก็บค่าส่วนกลางที่ผ่านมา ไม่สามารถเก็บจากห้องที่ยังไม่ได้ขายได้ซี่งอาจมีมากถึง 80% ของจำนวนห้องทั้งหมด ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า หลังจากที่จดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว ห้องที่ยงขายไม่หมดผู้ประกอบการในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบค่าส่วนกลาง แต่ส่วนใหญ่มักบ่ายเบี่ยงหรือมีการอนุโลมขอจ่ายเป็นรายเดือนได้ 1 ปี หลังจากนั้นจะต้องจ่ายทั้งหมดเข้าบัญชีของนิติบุคคล หรือให้นิติบุคคลคิดเบี้ยปรับการชำระค่าส่วนกลางล่าช้าส่วนเงินกองทุนนั้นจะจ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ได้แล้ว ซึ่งปัญหานี้ผู้ซื้อคอนโดส่วนใหญ่ไม่ทราบข้อมูลทำให้เสียเปรียบและเสียโอกาสที่จะได้รับดอกเบี้ยจากธนาคารเนื่องจากในช่วงแรกผู้ประกอบการมักใช้บริษัทในเครือทำหน้าที่บริหารทรัพย์สินของอาคาร ดังนั้น ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้เสียสิทธิ์ในการอยู่อาศัยในอาคารชุด   ข้อมูลจาก ศุนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ http://www.reic.or.th
SMEs จะเลือกอะไรดีระหว่างเช่า Co-working Space กับ ซื้อ Home Office

SMEs จะเลือกอะไรดีระหว่างเช่า Co-working Space กับ ซื้อ Home Office

SMEs จะเลือกอะไรดีระหว่างเช่า Co-working Space กับ ซื้อ Home Office ระยะหลังมาคนรุ่นใหม่มักจะมีความใฝ่ฝันอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เป็นนายตัวเอง มีเวลาที่เป็นอิสระมากกว่า เป็นมนุษย์เงินเดือน โดยการเปิดบริษัทเริ่มต้นจากเล็กๆ ก็ย่อมต้องมีสถานที่ ซึ่งใช้เป็นออฟฟิศหลักในการทำงาน และในบทความนี้เราจะโฟกัสกันไปที่ 2 ตัวเลือกยอดฮิตที่สุดในปัจจุบันนี้ นั่นคือ Co-working Space กับโฮมออฟฟิศ   SMEs ย่อมาจาก Small and Medium Enterprises หมายถึง *บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก มีจำนวนการจ้างงาน ไม่เกิน 50 คน ไม่ว่าจะเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หรือกิจการร่วมค้า ซึ่งการใช้สถานที่ทำเป็นออฟฟิศแล้วแต่ เงินทุนของแต่ละองค์กร เริ่มตั้งแต่ใช้บ้านเดิมของตัวเองเป็นออฟฟิศ เช่าพื้นที่ตาม Office Building เช่าพื้นที่ Co-working Space ซื้ออาคารพาณิชย์แล้วรีโนเวทใหม่ หรือซื้อ Home Office เป็นของตัวเอง ซึ่งทางเลือกในปัจจุบันนี้ก็มักจะมองไปที่ การเช่าพื้นที่ Co-working Space หรือไม่ก็ซื้อ Home Office เป็นของตัวเองไปเลย เพราะจะได้บรรยากาศการทำงาน ที่ฉีกกรอบจากห้องสี่เหลี่ยมมีคอกกั้นแต่ละโต๊ะแบบเดิมๆ ออกไปให้มีพื้นที่อิสระมากขึ้นดูแล้วไม่รู้สึกเคร่งเครียดจนเกินไป ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป โดยเราจะลองมาดูกันค่ะว่าการเลือกสถานที่ทำออฟฟิศ ของทั้งสองอย่างนี้มีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไรบ้าง     Co-working Space สถานที่ทำงานสุดฮิตของคน Gen Y ขวัญใจเหล่าฟรีแลนซ์ เพราะมีพื้นที่ทำงานให้เลือกหลายมุม ตกแต่งสวย เอื้อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มีหลากหลายราคาให้เลือกทั้งแบบคิดเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายเดือน ไปจนถึงเช่าเปิดออฟฟิศเป็นรายปี และมักจะมีอุปกรณ์สำนักงาน เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องปริ้น เครื่องแฟกซ์ มี Wifi ฯลฯ รวมถึงเครื่องดื่มกับเบเกอรี่เอาไว้คอยบริการไปด้วย โดยรูปแบบมีทั้งที่เป็นร้านคาเฟ่จัดโซนสำหรับให้นั่งทำงานด้วย หรือแบบที่เป็น Co-working Space โดยเฉพาะ แบบที่ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ที่ได้ทำการรีโนเวทใหม่ อยู่ในคอนโดมิเนียม และที่ตั้งอยู่ใน Office Building ซึ่งจะมีพื้นที่ค่อนข้างมาก สามารถเช่าเป็นสำนักงานของ SMEs ได้เลย โดยข้อดีของการ เลือกเช่าออฟฟิศอยู่ใน Co-working Space คือความหยืดหยุ่นของพื้นที่ สามารถปรับเพิ่ม-ลดได้อยู่ตลอดตาม การขยายตัวของธุรกิจ รวมไปถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายที่สามารถควบคุมได้ค่อนข้างคงที่ ราคาถูกกว่าใน Office Building ขนาดใหญ่ และช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของพนักงานไปด้วย คือแทนที่จะแบ่งโซนแต่ละแผนกออกจากกันก็ สามารถปรับพื้นที่ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น   ความโดดเด่นอย่างหนึ่งคือ ทำเลที่ตั้งของ Co-working Space นั้นมักจะเน้นการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย อยู่ในเมืองใกล้รถไฟฟ้า และยังสามารถเปลี่ยนที่นั่งทำงานได้ตามความสะดวกของแต่ละวันที่อาจแตกต่างกันไป และยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้ดูไม่ซ้ำซากจำเจอีกด้วย บางแห่งมีการจัด event จัด workshop เพิ่มทักษะให้กับผู้ที่สนใจทั่วไปได้มีโอกาศเข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน และเมื่อเราทำงานในพื้นที่เปิดเช่นนี้ก็จะมีโอกาส ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานซึ่งกันและกันจากคนที่ทำฟรีแลนซ์ ในสายงานเดียวกัน หรือสายใกล้เคียงกันจนเกิดเป็นสังคมของฟรีแลนซ์ขนาดย่อมขึ้นได้ แต่ถึงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ก็ใช่ว่าทุกคนจะต้องชอบพื้นที่ลักษณะนี้ใช่ไหมคะ เพราะการทำงานในความเงียบสงบ เป็นส่วนตัวยังคงเป็นที่ต้องการ สำหรับบางคนที่ต้องการสมาธิในการทำงานมากๆ อยู่     Home Office ทุกวันนี้มีโครงการที่สร้างมาเพื่อให้ทำโฮมออฟฟิศเกิดขึ้นมากมายหลายแบรนด์ หลายทำเล โดยจะมีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นอาคารสูงประมาณ 3 ชั้นขึ้นไป ผนังกับหลังคาแต่ละยูนิตติดกันคล้ายกับทาวน์โฮม แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชั่นภายในเอื้อต่อการออกแบบสร้างสรรค์พื้นที่ได้ตามต้องการ ไม่เน้นส่วนกลางที่สวยงามมาก แต่จะเน้นให้มีพื้นที่จอดรถมากขึ้นทั้งสำหรับพนักงานเอง และสำหรับผู้ที่มาติดต่อ กับบริษัท มีระบบรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกันกับโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทั่วไป ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า Office Building และบางโครงการก็มีโปรโมชั่นมากมายออกมาชวนให้จับจอง เช่น การผ่อนงวดราคาถูกกว่าไปเช่า พื้นที่สำนักงานแต่ละเดือนอยู่หลายหมื่นบาท เป็นต้น   บรรยากาศภายใน Home Office เหมือนนั่งทำงานอยู่ในบ้านของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริษัทที่ใช้โฮมออฟฟิศ เป็นที่ตั้งสำนักงานนั้นมักจะไม่เคร่งครัดเรื่องการแต่งตัวมากนัก ไม่ต้องใส่กางเกงสแล็ค เสื้อเชิ้ต หรือกระโปรง รองเท้าคัทชู แต่จะใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์มาทำงานก็ไม่มีกฎห้าม บางออฟฟิศก็จะมีมุมที่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น มีโซฟา ทีวีเอาไว้พักผ่อน มีห้องครัว โต๊ะทานอาหาร ให้ได้ทำอาหารเบาๆ กันเองในออฟฟิศ บางแห่งอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ โดยสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดก็เพื่อลดความเครียดจากงาน สร้างบรรยากาศให้ปลอดโปร่ง เป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มากขึ้นอีกทางหนึ่ง หรือบางแห่งก็ปรับให้ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอนของเจ้าของ SMEs ไปเลยก็ได้ ซึ่งตรงนี้สามารถลดภาระของเจ้าของธุรกิจลงได้โดยทำออฟฟิศให้เป็นบ้านของตัวเองไปด้วยเสียเลย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลางก็ถูกกว่า Office Building   แม้โครงการส่วนใหญ่จะมีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของทำเล เพราะด้วยความที่เป็นอสังหาฯ แนวราบก็ย่อมจะต้องใช้ที่ดิน มากกว่าอาคารสูงที่อยู่ใจกลางเมือง แม้ว่าหลายโครงการมักจะอยู่ใกล้กับทางด่วน ทำให้สะดวกต่อพนักงาน ที่ขับรถมาทำงาน แต่จะอยู่ไกลจากระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถไฟฟ้าในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องภาระหนี้สิน ของบริษัทที่จะมีมากกว่าการเช่า ทั้งราคาเบ็ดเสร็จของตัว Home Office รวมค่าตกแต่งภายในเพิ่มเติม ราคาอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ที่มักจะบานปลาย แถมยังมีค่าเสื่อมสภาพตามมาในอนาคตอีกด้วย   สุดท้ายแล้วตัวเลือกทั้งสองนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน แต่ที่สำคัญก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรมากที่สุด               *ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.rd.go.th/publish/38056.0.html        
ที่ดินตาบอดไม่มีทางออก โดนที่ดินคนอื่นล้อมอยู่ควรทำอย่างไร

ที่ดินตาบอดไม่มีทางออก โดนที่ดินคนอื่นล้อมอยู่ควรทำอย่างไร

เรามักจะได้ยินคนคุยกันเสมอว่า ที่ดินแปลงโน้นแปลงนี้เป็นที่ดินตาบอดอย่าไปซื้อ เป็นต้น มารู้จักกับที่ดินตาบอดกันค่ะ ที่ดินตาบอดคืออะไร ที่ดินตาบอด คือที่ดินที่ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะประโยชน์ เข้าออกที่ดินตัวเองไม่ได้ การจะเข้าออกจากที่ดินตัวเองต้องผ่านที่ดินแปลงอื่นๆ ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคลมีเจ้าของครอบครองอยู่ ทำให้เจ้าของที่ดินไม่สามารถใช้ที่ดินตนเองทำประโยชน์ได้เต็มที่ ซึ่งเรามักพบเสมอว่าที่ดินตาบอดมักจะเกิดจากการแบ่งที่ดินจากแปลงใหญ่ (แปลงแม่ หรือแปลงคง) มาแบ่งย่อยออกมาเป็นแปลงเล็กๆ เพื่อแบ่งระหว่างญาติพี่น้อง หรือลูกหลาน หรือที่ดินตาบอดจากการขอใช้ทางออกของที่ดินของผู้อื่นตั้งแต่สมัยก่อน ซึ่งอาจเป็นพี่น้องกันจึงยอมให้ใช้ทางออกได้ โดยไม่มีเอกสารทางราชการรองรับ พอเจ้าของรุ่นเดิมเสียชีวิตไป เจ้าของใหม่รุ่นถัดไปหรือทายาทไม่ยอมให้ใช้เป็นทางเข้าออกอีกต่อไปจึงมาปิดทางเข้าออกเสีย หรือที่ดินตาบอดไม่มีทางออก เพราะมีทางเข้าออกได้ลำบาก เช่น ติดแม่น้ำ ภูเขา ทะเล ทางชัน เหว เป็นต้น   ที่ดินตาบอดถูกห้อมล้อมจนกลายเป็น สามารถขอทางจำเป็นได้ โดยมีเงื่อนไขคือ 1.ต้องคำนึงถึงที่ดินที่ล้อมให้เสียหายน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของที่ดินที่ขอทางผ่าน   2.การใช้ประโยชน์ทางจำเป็นต้องจ่ายค่าทดแทนให้เจ้าของที่ดิน จะกำหนดเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้แต่หากเกิดกรณีที่เจ้าของไม่อนุญาตให้ออกสามารถร้องขอต่อศาลเพื่อขอเปิดทางจำเป็นและจ่ายค่าทดแทนแก่เจ้าของที่ดินข้างเคียงเพื่อใช้ที่ดินของเขาสู่ถนนสาธารณะ ทางที่ดีควรตรวจสอบเช็คให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อด้วยการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินดูตำแหน่งสภาพแวดล้อมโดยรอบรวมถึงตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าเป็น น.ส4 หรือไม่ เพื่อทำประโยชน์ได้เต็มที่ เพราะโฉนดประเภทอื่นๆ สามารถตกทอดแก่ทายาทได้ แต่ไม่สามารถซื้อขายได้   สามารถตรวจสอบโฉนดที่ดินได้จาก 1.สำนักงานที่ดิน เพื่อดูตำแหน่ง ชื่อเจ้าของที่ดิน รูปร่างหน้าตาที่ดิน ตรวจสอบดูว่าโฉนดมีการปลอมแปลงหรือไม่   2.ตรวจสอบจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น กรมป่าไม้หากที่ดินนั้นอยู่ในพื้นที่กรมป่าไม้ หรือหากติดทะเลก็กรมเจ้าท่า รวมถึงทางพิเศษ ว่าที่ดินแปลงนี้ถูกเวนคืนหรือไม่ หากอยู่ใกล้วิทยุสื่อสารการบินก็กรมการบินพาณิชย์ ควรเช็คประวัติผู้ถือครองที่ดินให้ดีๆพิจารณาดินให้ดีๆ พิจารณาดูว่าที่ดินแปลงนี้เคยมีปัญหากับเจ้าของที่ดินเดิมหรือไม่หรือที่ดินข้างเคียงเคยใช้ประโยชน์อะไรก่อนขายเพื่อประกอบการตัดสินใจรวมถึงคมนาคมทางเข้า–ออก สะดวกสบายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง   บทความเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน วิธีตรวจสอบที่ดิน และหาราคาประเมิน แบบง่ายๆ แค่คลิ๊กเดียว ที่ดินทรุด ปัญหาที่เช็กและแก้ได้ EIC วิเคราะห์ ใครคือผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ตำแหน่งวางเตาครัวในบ้านนั้น ต้องวางให้ดี

ตำแหน่งวางเตาครัวในบ้านนั้น ต้องวางให้ดี

อ.ธนากร แนะนำว่า "บ้าน หรือคอนโดทั่วๆไป จะมีเตาครัวประจำบ้านอยู่แล้ว แล้วแต่ว่าจะวางเตาครัวไว้ในส่วนไหนของบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องครัวที่กำหนดไว้ หากท่านเข้ามาอยู่ในบ้านนี้แล้ว เกิดเจ็บป่วย ไม่สบายบ่อย เจ็บออดๆ แอดๆ ลองมาสังเกตดูว่า เตาครัวของท่าน วางอยู่ใต้ห้องน้ำหรือเปล่า ทุกครั้งที่มีการใช้ห้องน้ำด้านบนชั้นสอง หนือเหนือเตาครัว กดชักโครกทีไร ของเสีย จะเปรียบเสมือนความชั่วร้าย ก็จะลงมาที่เตาครัว เตาจะเสียหายหมด บนเตาครัว หรือในเตาครัวจะมีเทพเจ้าอยู่ เราเรียกว่า "เจ้าเตา" ถ้าถูกทับด้วยสิ่งชั่วร้าย"          ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
เรื่องควรรู้ การตั้งศาลพระภูมิ ที่คุณอาจมองข้าม

เรื่องควรรู้ การตั้งศาลพระภูมิ ที่คุณอาจมองข้าม

สิ่งที่ต้องคำนึงในการตั้งศาลพระภูมิ คือ สถานที่ตั้ง ทิศทาง วันและฤกษ์ตั้ง ความสูงของศาลพระภูมิ และผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิ สถานที่ตั้งศาล มีหลักการพิจารณาดังนี้ 1. ที่ตั้งศาลต้องเป็นบริเวณพื้นดิน มิใช่บริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน 2. หากไม่มีพื้นที่ที่เป็นพื้นดิน สามารถทำการตั้งศาลบนชั้นดาดฟ้าได้ แต่ส่วนใหญ่ศาลที่ตั้งบนดาดฟ้าจะเป็นศาลเทพต่างๆ เช่นพระพรหม หรือ พระนารายณ์ มิใช่พระภูมิเจ้าที่ 3. จุดที่ตั้งของศาลต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้านทอดลงมาทับ 4. ที่ตั้งของศาลควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ 5. อย่าตั้งศาลให้อยู่ใกล้กับตัวบ้านมากนัก 6. อย่าหันหน้าศาลเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ 7. ไม่ควรตั้งศาลให้หันหน้าตรงกับประตูหน้าบ้าน 8. ตั้งศาลให้ห่างจากรั้วหรือกำแพงบ้านอย่างน้อย 1 เมตร 9. ถ้าสามารถยกพื้นที่ตั้งศาลให้สูงขึ้นสัก 1 คืบ จากพื้นดินได้ ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง 10. ความสูงของศาล ควรสูงเหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นไปเล็กน้อย   ทิศทางการตั้งศาลพระภูมิ หันหน้าศาลพระภูมิสู่ทิศมงคล 1. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ทิศอีสาน เป็นทิศที่ดีที่สุดหากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป 2. ทิศตะวันออก หรือ ทิศบูรพา เป็นทิศที่ดีอันดับ 2 หากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณ 100 ปี หลังจากนั้น จะมีแต่เสื่อมลงๆจนถึงขั้นหาความสุขความเจริญไม่ได้ 3. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ทิศอาคเณย์ เป็นทิศที่ดีอันดับ 3 หากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณ 50 ปี หลังจากนั้น จะมีแต่เสื่อมลงๆจนถึงขั้นหาความสุขความเจริญไม่ได้ ทิศต้องห้ามในการตั้งศาลพระภูมิ คือ ทิศตะวันตกและทิศใต้ เมื่อหาทิศทางตั้งศาลได้แล้วจะต้องพูนดินให้สูง 1 คืบ เกลี่ยดินด้วยมือและทุบให้แน่น ห้ามใช้เท้าเด็ดขาด และเตรียมน้ำมนต์ไว้พรมบริเวณพื้นดินเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ น้ำมนต์ที่ว่านี้เรียกว่า " น้ำมนต์ธรณีสาร " น้ำมนต์ธรณีสารนี้ ทำได้โดยนำน้ำธรรมดาไปให้พระท่านสวดพระพุทธมนต์ทำเหมือนน้ำมนต์ทั่วไปแต่ต่างกัน ตรงที่ให้ท่านนำใบไม้ต้นธรณีสารมาใส่ลงในน้ำที่จะทำน้ำมนต์ วันและฤกษ์การตั้งศาลพระภูมิ มีความสำคัญมาก ควรเลือกวันที่ดีและมีความเป็นสิริมงคลเพื่อให้ประสิทธิ์ผลในทางมงคล แก่ผู้อยู่อาศัยในบ้านเรือนนั้นสืบต่อไป วันต่อไปนี้ถือเป็นวันที่เป็นมงคลฤกษ์ วันข้างขึ้น วันข้างแรม ๒ ค่ำ ๒ ค่ำ ๔ ค่ำ ๔ ค่ำ ๖ ค่ำ ๖ ค่ำ ๙ ค่ำ ๙ ค่ำ ๑๑ ค่ำ ๑๑ ค่ำ   แต่ถ้าวันข้างขึ้น หรือข้างแรมดังกล่าวไปตรงกับวันต้องห้าม ของเดือนใด ให้เลี่ยงไปใช้วันอื่นเสีย เวลาฤกษ์อันเป็นมงคล ของการตั้งศาลพระภูมิ วัน เวลา วันอาทิตย์ เวลา ๖.๐๙ น. - ๘.๑๙ น. วันจันทร์ เวลา ๘.๒๙ น. - ๑๐.๓๙ น. วันอังคาร เวลา ๖.๓๙ น. - ๘.๐๙ น. วันพุธ เวลา ๘.๓๙ น. - ๑๐.๑๙ น. วันพฤหัสบดี เวลา ๑๐.๔๙ น. - ๑๑.๓๙ น. วันศุกร์ เวลา ๖.๑๙ น. - ๘.๐๙ น. วันเสาร์ เวลา ๘.๔๙ น. - ๑๐.๔๙ น. วันต้องห้ามของการตั้งศาลพระภูมิ เดือน วันต้องห้ามคือ เดือนอ้าย (ธันวาคม)  วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เดือนยี่ (มกราคม) วันพุธ และวันศุกร์ เดือน ๓ (กุมภาพันธ์ )  วันอังคาร เดือน ๔ (มีนาคม) วันจันทร์ เดือน ๕ (เมษายน)  วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เดือน ๖ (พฤษภาคม) วันพุธ และวันศุกร์ เดือน ๗ (มิถุนายน) วันอังคาร เดือน ๘ (กรกฎาคม)  วันจันทร์ เดือน ๙ (สิงหาคม) วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ เดือน ๑๐ (กันยายน ) วันพุธ และวันศุกร์ เดือน ๑๑ (ตุลาคม) วันอังคาร เดือน ๑๒ (พฤศจิกายน)  วันจันทร์   จะสังเกตได้ว่า จะไม่ปรากฏว่ามี วันอาทิตย์ เป็น ข้อห้ามเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ยึดเอาวันอาทิตย์ เป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งศาล เพราะคนโบราณถือกันว่า วันอาทิตย์นั้นแม้จะจะเป็นวันที่มีกำลังแรงดี แต่เป็นวันแรงและวันร้อน ไม่เหมาะที่จะทำการตั้งศาล เพราะบ้านอาจจะ ร้อน จรปราศจากความร่มเย็นเป็นสุข แต่ ถ้าหากผู้กระทำพิธีมีเคล็ดมีมนตร์แก้ความร้อนของวันได้ ก็สามารถคิดทำการตั้งศาลในวันนี้ได้ตามความสะดวก   ความสูงของการตั้งศาลพระภูมิ ขึ้นอยู่กับ ตัวเจ้าของบ้าน โดยให้ระดับฐานหรือชานชาลาพระภูมิอยู่เหนือระดับปาก (บางตำราว่าอยู่เหนือคิ้วพอดี ) ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าบ้าน ก็ควรจะตั้งศาลพระภูมิขึ้นใหม่ การใช้ศาลพระภูมิร่วมกัน กรณีที่เป็นหมู่บ้าน,ชุมชนหรือตึกแถว ให้ยึดเอาความสูงจาก เจ้าของผู้สร้างเริ่มแรก หรือหัวหน้าชุมชนนั้นๆ โดยให้เป็นตัวแทนเพื่อมาทำการยกศาลพระภูมิขึ้นเพื่อบอกกล่าวและสักการะ ขอให้ท่านดูแลปกปักษ์รักษาให้คุณ ให้โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัยทุกคน การปักเสาตั้งศาลพระภูมิ ต้องเตรียมหลุมให้เสร็จก่อนเริ่มพิธี ( ค่อยมีพิธีในวันรุ่งขึ้น ) โดยต้องเตรียมของดังนี้ พานครู 1 พาน ใช้สำหรับใส่ข้าว ธูป เทียนขาว ดอกไม้หรือพวงมาลัยสด เหล้า บุหรี่ ผ้าขาว เงิน 6 สลึงหรือ 99 บาท รายการของมงคลใส่หลุม (ปัจจุบันที่นิยมใช้) รายการมงคล จำนวน 1 เหรียญเงิน 9 เหรียญ 2 เหรียญทอง (เหรียญสลึงหรือ 50 สตางค์ก็ได้) 9 เหรียญ 3 ใบเงิน 9 ใบ 4 ใบทอง 9 ใบ 5 ใบนาค 9 ใบ 6 ใบรัก 9 ใบ 7 ใบมะยม 9 ใบ 8 ใบนางกวัก 9 ใบ 9 ใบนางคุ้ม 9 ใบ 10 ใบกาหลง 9 ใบ 11 ดอกบานไม่รู้โรย 9 ดอก 12 ดอกพุทธรักษา 9 ดอก 13 ไม้มงคล 9 ชนิด 14 แผ่น เงิน,ทอง,นาค 1 ชุด 15 พลอยนพเก้า 1 ชุด การกลบหลุมนั้นให้ใช้มือกด ห้ามใช้เท้าโดยเด็ดขาด   ผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิ ควรจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมมีศีลธรรม ทำบุญทำทานประจำ มีความซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม จะทำให้การตั้งศาลพระภูมิบังเกิดผลดี มีความเจริญรุ่งเรืองแก่เจ้าของบ้าน หรือเจ้าบ้านจะเป็นผู้กระทำพิธีกรรมก็ได้ โดยศึกษาขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ และให้ถือศีลกินเจ 7 วัน ( 3,5,7 วันก็ได้ หรือมากกว่านี้ก็ได้ ) ส่วนประกอบสำคัญของการตั้งศาลพระภูมิ จะเหว็ดศาลพระภูมิ จะเป็นรูปพระภูมิอยู่ในแผ่นคล้ายแผ่นเสมา มือขวาถือพระขรรค์ มือซ้ายถือถุงเงินหรือสมุด(หนังสือ) และการปลุกเสกจะเหว็ดให้เป็นองค์พระภูมิมีดังนี้ บรรจุธาตุทั้ง 6 คือ บรรจุพระพุทธคุณ,บรรจุพระธรรมคุณ,บรรจุพระสังฆคุณ ตลอดเทวคุณและวิญญาณธาตุเข้าไปในจะเหว็ดจากที่เรียกว่า จะเหว็ดเมื่อปลุกเสกแล้วก็จะเรียกว่า "พระภูมิ" บริวารของพระภูมิจะมี ตุ๊กตาชาย-หญิง อย่างละ 1 คู่ ตุ๊กตาช้าง-ม้า อย่างละ 1 คู่ ละครยก 2 โรง เครื่องประดับตกแต่งของการตั้งศาลพระภูมิ ประกอบด้วย เครื่องประดับตกแต่ง จำนวน 1 แจกัน 1 คู่ 2 เชิงเทียน 1 คู่ 3 กระถางธูป 1 ใบ 4 ผ้าผูกจะเหว็ด 1 ผืน 5 ผ้าพันศาล (ผ้าแพร 3 สี คือ สีเขียว,สีเหลืองและสีแดง) 1 ชุด 6 ฉัตรเงิน-ทอง 2 คู่ 7 ด้ายสายสิญจน์ 1 ม้วน 8 ผ้าขาว 1 ผืน 9 ทองคำเปลว - 10 แป้งเจิม 1 ถ้วย 11 ดอกบัว 9 ดอก 12 ดอกไม้ (มาลัย 7 สี ) 7 สี เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาลพระภูมิ จะประกอบด้วยอาหารคาวหวานดังนี้ เครื่องประดับตกแต่ง จำนวน 1 หัวหมู 1 หัว 2 ขนมต้มขาว 2 จาน 3 ไก่ต้ม 1 ตัว 4 ขนมถั่วงา 2 จาน 5 เป็ด 1 ตัว 6 ขนมถ้วยฟู 2 จาน 7 ปลานึ่ง 1 ตัว 8 ขนมหูช้าง 2 จาน 9 ปู หรือ กุ้ง 1 จาน 10 เผือก-มันต้ม 2 จาน 11 บายศรีปากชามยอดไข่ 1 คู่ 12 ฟักทอง 2 ผล 13 น้ำจิ้ม 2 ถ้วย 14 แตงไทย 2 ผล 15 ข้าวสวย 2 ถ้วย 16 ขนุน 2 จาน 17 เหล้า 1 ขวด 18 สับปะรด 2 ผล 19 น้ำชา 2 ถ้วย 20 กล้วย 2 หวี 21 น้ำสะอาด 2 แก้ว 22 ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน 23 มะพร้าวอ่อน 1 คู่ 24 พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่ 25 ขนมต้มแดง 2 จาน **ถ้าขนาดบ้านและศาลพระภูมิเล็ก ก็สามารถใช้สับปะรดเพียง 1 ผลได้แต่จัดแบ่งเป็น 2 จาน * เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาล (มังสวิรัติ) เครื่องประดับตกแต่ง จำนวน 1 มะพร้าวอ่อน 1 คู่ 2 ขนมถ้วยฟู 2 จาน 3 พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่ 4 ถั่วคั่ว 2 จาน 5 ฟักทอง 2 ผล 6 น้ำสะอาด 2 แก้ว 7 งาคั่ว 2 จาน 8 แตงไทย 2 ผล 9 ข้าวสวย 2 ถ้วย 10 เผือก-มันต้ม 2 จาน 11 ขนุน 2 จาน 12 น้ำชา 2 ถ้วย 13 ขนมต้มแดง 2 จาน 14 สับปะรด 2 ผล 15 นม 2 ถ้วย 16 ขนมต้มขาว 2 จาน 17 สับปะรด 2 ผล 18 เนย 2 ถ้วย 19 ขนมถั่วงา 2 จาน 20 ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน ผลไม้ที่ห้ามนำถวาย มังคุด มะเฟือง น้อยหน่า ลูกจาก มะตูม ละมุด มะไฟ กระท้อน ลูกพลับ พุทรา ระกำ น้อยโหน่ง ลูกท้อ มะขวิด ลางสาด คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าผลไม้ทั้ง 15 ชนิดนี้เป็นอัปมงคล ไม่ควรนำมาถวายเป็นเครื่องสังเวยหน้าศาลพระภูมิเป็นอันขาด ถ้าไม่มีเวลาเตรียมตัวสำหรับการตั้งศาลพระภูมิ ก็สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญได้ อาทิ รับตั้งศาลพระพรหมและพระภูมิ พราหมณ์ตั้งศาลพระภูมิ ตั้งศาลบวงสรวง เรื่องราวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดหิ้งพระในบ้าน ให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของ วางผิดชีวิตเปลี่ยน!! เผยทิศต้องห้ามวางหิ้งพระ ของแต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย ความรัก หาคู่แท้
ต้นไม้ตามริมรั้วบ้าน ควรตัด ดูแลให้ดี จะมีบริวารที่ดี โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ต้นไม้ตามริมรั้วบ้าน ควรตัด ดูแลให้ดี จะมีบริวารที่ดี โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมรั้วบ้านของเรา เปรียบเสมือนลูกน้อง บริวารของเรา ควรจะดูแล ตัดแต่ง แต่งกิ่ง ให้เป็นระเบียบ สวยงาม การที่ปล่อยให้ต้นไม้เหล่านี้ รกรุงรัง ยื่นเลย รุกล้ำไปนอกบ้าน หรือบ้านคนอื่น ลูกน้อง บริวาร กำลังแตกแยกกัน หรือนอกใจ ไม่จงรักภักดีคุณ ซึ่งเปรียบเสมือนทหาร ที่ต้องมีการฝึกระเบียบวินัยอย่างสม่ำเสมอ เช่นกัน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
วิธีการเลือกเครื่องกรองน้ำ ใช้กับบ้าน หรือคอนโดของคุณ

วิธีการเลือกเครื่องกรองน้ำ ใช้กับบ้าน หรือคอนโดของคุณ

เชื่อได้ว่า หลายๆคน หลายๆบ้าน จะต้องติดเจ้าตัวนี้ไว้ที่บ้าน หรือคอนโดแน่ๆ ตัวนี้ก็คือ "เครื่องกรองน้ำ" ที่มันมีประโยชน์มากมาย ต่อน้ำที่กรองออกมาใช้งาน มีมากมายหลายระบบ หลายแบบ วันนี้ เลยหยิบเอาข้อมูลต่างๆ ของเจ้าเครื่องกรองน้ำ (Water Filter Machine) มาฝากกัน   การเลือกเครื่องกรองน้ำสักเครื่องเพื่อนำมาใช้งาน คงต้องเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องกรองจากน้ำประปา หรือบางแห่งเป็นน้ำบ่อ แล้วต้องนำมาดื่ม บางบ้านนำมาสำหรับชงนมให้กับทารกเลยทีเดียว ดังนั้น จึงต้องพิจารณากันค่อนข้างมาก ดังนั้นเพื่อช่วยลดความกังวล และเป็นแนวทางในการเลือกเครื่องกรองน้ำ ควรต้องพิจารณาดังต่อไปนี้   1.สภาพน้ำดิบก่อนเข้าเครื่องกรองน้ำ น้ำดิบ คือ น้ำที่จะนำมาผ่านเครื่องกรอง น้ำในกรุงเทพฯ ร้อยละ 90 เป็นน้ำประปา และน้ำในต่างจังหวัด บางแห่งเป็นน้ำประปา ประปาหมู่บ้าน น้ำบาดาล น้ำบ่อ เป็นต้น – น้ำประปาในกรุงเทพฯ สามารถใช้เครื่องกรองน้ำได้แทบทุกรุ่น เพราะน้ำประปาได้รับการกรองมาชั้นหนึ่งแล้ว โดยการประปาได้แจ้งไว้ว่าสามารถดื่มได้ แต่ที่ยังเป็นปัญหาคือ กลิ่นของคลอรีน และท่อส่งที่อาจจะไม่สะอาดเพียงพอ เครื่องกรองน้ำที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้เรียงจากดีที่สุด คือ เครื่องกรองน้ำระบบ RO, เครื่องกรองน้ำระบบ Nano, เครื่องกรองน้ำระบบ UF, เครื่องกรองน้ำระบบ Micro ระบบกรองสำหรับน้ำประปาที่แนะนำ คือ ระบบ Ultrafiltration (UF) ใช้กรองแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์ และยังคงรักษาแร่ธาตุต่างๆไว้ ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า เพราะไม่ใช้ปั๊มเพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ ไม่ต้องใช้ถังเก็บน้ำ และไม่เกิดของเสียจากระบบการกรอง ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ได้ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยาและโรงพยาบาล – ถ้าเป็นน้ำในต่างจังหวัด ต้องมีการตรวจทดสอบความสะอาดของน้ำดิบก่อน เพื่อดูว่ามีความสะอาดอยู่ในระดับไหน หากไม่สกปรกมาก ก็สามารถใช้ไส้กรองเซรามิคในเครื่องกรองน้ำช่วยได้ แต่เพื่อความปลอดภัยในการดื่ม ควรใช้เครื่องกรองน้ำระบบ RO ระบบกรองน้ำ Reverse Osmosis (RO) จำเป็นต้องใช้แทงก์เก็บน้ำ เป็นสาเหตุให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ สิ้นเปลืองน้ำเนื่องจากไส้กรองขนาดเล็ก เกิดการสูญเสียแรงดันน้ำ และต้องใช้ปั๊มช่วยในการทำงาน สูญเสียแร่ธาตุภายหลังการกรองที่ควรมีในน้ำดื่ม ใช้ไฟฟ้า และมีค่าบำรุงรักษาสูง ระบบ Ultraviolet (UV) สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่กำจัดแบคทีเรียไม่ได้ แบคทีเรียจึงมีโอกาสเจริญเติบโตในน้ำได้ ไม่แนะนำสำหรับใช้กรองน้ำในบ้าน 2.งบประมาณที่เรามี เทียบกับรุ่นเครื่องกรองน้ำ โดยความเป็นจริงน่าจะเป็นเหตุผลหลักในการซื้อเครื่องกรองน้ำเลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องกรองน้ำมีหลายราคาตั้งแต่ถูกสุดหลักร้อย ไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว ซื้ออย่างไรเราจะไม่เกิดปัญหาทางการเงินในภายหลัง – หากมีงบประมาณไม่เกิน 1,500 บาท สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำ 2-3 ขั้นตอน หรือ เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน สามารถกรองได้สูงสุด 5 ไมครอน – หากมีงบประมาณ 1,500-3,000 บาท สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำไส้เซรามิค หรือ เครื่องกรองน้ำระบบ UF สามารถกรองได้สูงสุด 0.3-0.01 ไมครอน – หากมีงบประมาณ 3,000 บาท ขี้นไป สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำได้ตั้งแต่ เครื่องกรองน้ำระบบ Nano และ เครื่องกรองน้ำระบบ RO สามารถกรองได้สูงสุด 0.0001ไมครอน 3.ความต้องการใช้งานเครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองน้ำปัจจุบันได้ถูกปรับให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น โดยมีระบบการทำน้ำเย็น น้ำธรรมดา และน้ำร้อน รวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน เพื่อความสะดวกและประหยัดพื้นที่ของผู้บริโภค ซึ่งก็ทำให้ราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำ เราควรถามตัวเองก่อนว่า เราอยากได้เครื่องกรองน้ำที่มีความสามารถแบบไหน 4.ความเหมาะสมของตำแหน่งที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำ ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำต้องคำนึงว่า จุดที่จะติดตั้งมีน้ำเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่ จะต้องเดินท่อใหม่เพื่อเครื่องกรองน้ำโดยเฉพาะเลยไหม จะตั้งดีหรือจะแขวนดี สะดวกในการเสียบปลั๊กไฟไหม และที่สำคัญมีที่ทิ้งน้ำไหม สำหรับระบบ RO ซึ่งล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้น โดยส่วนมากผู้คนจะติดตั้งไว้ที่ ในครัว ใต้ซิงค์ล้างจาน หน้าห้องน้ำ ลานซักผ้า นอกบ้าน ในบ้าน เป็นต้น 5.ข้อมูลเฉพาะของเครื่องกรองน้ำแต่ละรุ่น เครื่องกรองน้ำที่เราสนใจแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ มีข้อมูลเฉพาะ หรือข้อจำกัดอะไรที่เราต้องทราบบ้าง เช่น ระบบ RO จะมีน้ำทิ้ง บางรุ่นต้องใช้ไฟฟ้า บางรุ่นผลิตน้ำช้า บางรุ่นต้องล้างไส้กรอง บางรุ่นไม่ต้องล้างไส้กรอง บางยี่ห้อไส้กรองแพงกว่าตัวเครื่อง เป็นต้น ความปลอดภัยน้ำสะอาด 3 ขั้นตอนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 1 Sediment ดักจับกรวด ทราย หิน โคลน และสารแขวนลอยขนาดใหญ่ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ เช่น เศษสนิม และผงฝุ่นจากท่อน้ำ เพื่อเตรียมน้ำสะอาดก่อนเข้าระบบกรองในขั้นตอนต่อไป ช่วยยืดอายุการใช้งานของไส้กรองอื่นๆ ขั้นตอนที่ 2 Activated Carbon Block ดักจับสารเคมี คลอรีน กลิ่น สี สารอินทรีย์ โดยวิธีการดูดซึมดูดซับ และกรองโลหะหนักต่างๆ ขั้นตอนที่ 3 Ultrafiltration กรองแบคทีเรียถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยการใช้ Membrane Hollow Fiber ขนาดรูเล็กกว่าแบคทีเรีย เล็กที่สุด 0.03 ไมครอน แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์สามารถผ่านได้ ได้ถูกเริ่มใช้ครั้งแรกในโรงพยาบาลสำหรับกรองเลือด   ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://www.999article.com บทความที่น่าสนใจอื่นๆ คิดยังไงก็คุ้ม กับ 5 วิธีเลือกแอร์สุดคูล !! 3 ตัวการหลักที่ทำให้ส้วมตันหรือกดชักโครกไม่ลง พร้อมวิธีแก้ไขแบบตรงจุด 10 วิธี เปลี่ยนบ้านจัดสรรให้สวยงาม มีสไตล์ เหมาะสมกับการใช้งาน
คู่มือเตรียมตัวย้ายบ้าน สบายใจเมื่อมีเช็คลิสต์

คู่มือเตรียมตัวย้ายบ้าน สบายใจเมื่อมีเช็คลิสต์

อยากได้เช็คลิสต์ไว้ช่วยเตือนความจำเวลาย้ายบ้านเพื่อช่วยให้คุณจัดระเบียบทุกอย่างได้ง่ายขึ้นใช่ไหม ให้การย้ายบ้านใหม่เป็นเรื่องง่ายๆ โดยเราจะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมได้ดีขึ้นกับเช็คลิสต์ของเรา       ข้อแนะนำ   การย้ายเข้าบ้านใหม่นั้นมีกระบวนการที่คุณต้องจัดการอยู่หลายขั้นตอน ตั้งแต่การทำความสะอาดบ้านที่อยู่ในขณะนี้ ไปจนถึงการเปลี่ยนที่อยู่กับธนาคารและหน่วยงานสาธารณูปโภคต่างๆ ลองเขียนรายการของทั้งหมดที่คุณต้องจัดการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่พลาดหรือหลงลืมอะไรไป ด้านล่างนี้คือรายการเบื้องต้นที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้     คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการย้ายเข้าบ้านใหม่นั้น เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นแต่ก็แสนจะวุ่นวายและน่าปวดหัวในขณะเดียวกัน การเตรียมพร้อมที่ดีนั้นจะช่วยคุณได้มาก ดังนั้นอย่าลืมจัดทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ลองเขียนรายการเช็คลิสต์ในการย้ายบ้านของคุณขึ้นมา เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสิ่งที่ต้องทำได้ทีละรายการ แล้วขีดฆ่าออกเมื่อทำเสร็จแล้ว ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลว่าจะหลงลืมอะไรไปในภายหลัง     การจัดทำเช็คลิสต์การย้ายบ้านนั้นเริ่มต้นจากการคำนึงถึงทุกสิ่งที่จะได้รับผลกระทบจากการย้ายบ้านของคุณไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ใช้ลิสต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเช็คลิสต์ของคุณโดยเฉพาะ ให้คุณสามารถย้ายเข้าบ้านใหม่ได้อย่างราบรื่นและหายห่วง   Moving House A Checklist   ยืนยันวันย้ายบ้านที่แน่นอน เพื่อให้คุณวางแผนจากวันกำหนดการย้าย ทำความสะอาดบ้านที่คุณอยู่ในปัจจุบันให้สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบ้านที่เช่าอยู่ คุณอาจจะถูกหักเงินมัดจำถ้าบ้านไม่อยู่ในสภาพสะอาดเหมือนตอนที่คุณย้ายเข้า อ่านคำแนะนำในการทำความสะอาดหลังหมดสัญญาเช่าของเราที่นี่ จัดการเรื่องกรมธรรม์ประกันภัยบ้านโดยอ้างอิงจากวันที่ย้ายเป็นหลัก เพื่อให้สัญญาเริ่มมีผลครอบคลุมทันที ตั้งแต่วันที่คุณย้ายเข้ามา นัดหมายเวลากับบริษัทขนย้ายหรือนัดเพื่อนๆ ให้มาช่วยล่วงหน้า หากคุณว่าจ้างบริษัท คุณควรอยู่คอยกำกับดูแลความเรียบร้อยทั้งในระหว่างการจัดเก็บเพื่อย้ายและการจัดส่งเพื่อคอยให้คำแนะนำและตรวจสอบความเสียหายด้วย แจ้งการประปาและการไฟฟ้าให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 6 สัปดาห์ แจ้งผู้ให้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้ทันทีที่ย้ายเข้า ตามกฎหมาย ผู้ย้ายหรือผู้ที่เจ้าของบ้านมอบอำนาจแจ้งย้ายมีหน้าที่ต้องไปแจ้งเขตที่ย้ายออกให้ทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ที่ย้ายออก และแจ้งย้ายเข้าบ้านใหม่ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ย้ายเข้าด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้อย่าลืมตรวจสอบเอกสารที่จะต้องนำไปใช้ประกอบการยื่นเรื่องให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เมื่อคุณเริ่มเก็บของใส่กล่อง คุณอาจจะแยกสิ่งของที่คุณไม่มีที่พอสำหรับเก็บอีกต่อไปแล้วหรือไม่ต้องการย้ายเข้าบ้านใหม่ โดยคุณสามารถบริจาคข้าวของที่ไม่ต้องการให้กับมูลนิธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์เก่า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อย่าลืมนัดหมายเวลาล่วงหน้าเพื่อให้ทางมูลนิธิส่งรถมารับ หรือนัดเวลาและสถานที่ที่คุณจะนำสิ่งของเหล่านั้นไปส่งมอบให้ -คุณสามารถแจ้งไปรษณีย์ในพื้นที่บ้านเก่าของคุณให้ส่งต่อจดหมายไปยังที่อยู่ใหม่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้จดหมายสำคัญตกหล่นหรือถูกตีกลับ หากคุณมีลูกหรือสัตว์เลี้ยง คุณควรจ้างหรือวานให้ใครช่วยดูแลเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงแทนในวันที่ขนย้ายเพื่อช่วยลดความวุ่นวาย นัดหมายเวลาไปรับกุญแจบ้านหลังใหม่ของคุณจากตัวแทนนายหน้า ซึ่งควรจะเป็นวันก่อนหน้าวันย้ายเพื่อให้คุณเริ่มจัดการย้ายเข้าได้ตั้งแต่เช้า ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเมื่อคุณเข้าไปในบ้าน อย่าเพิ่งรีบขนเฟอร์นิเจอร์เข้าไปทันที แต่คุณตรวจสอบสภาพของบ้านให้ละเอียดว่ามีอะไรเสียหายหรือผิดปกติหรือไม่ และอย่าลืมมองหาตำแหน่งของสิ่งสำคัญๆ เช่น กล่องฟิวส์ เผื่อกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับระหว่างการขนย้าย แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ของคุณกับทางธนาคารประมาณ 2 สัปดาห์ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าจดหมายสำคัญนั้นจะถูกจัดส่งมาที่บ้านใหม่ของคุณอย่างถูกต้อง   เมื่อคุณขนของย้ายเข้าบ้านใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดให้บ้านพร้อมอยู่อีกครั้ง โดยมีตัวช่วยดีๆ หลายตัวที่จะทำให้บ้านหลังใหม่ของคุณสะอาดได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวอเนกประสงค์อย่างเช่น ซิฟ หรือ วิม สำหรับทำความสะอาดห้องน้ำที่ช่วยขจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ อย่าลืมอ่านฉลากคำแนะนำอย่างละเอียด และทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกับพื้นที่เป็นบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริง   ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://www.cleanipedia.com/th
ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่า โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่า โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ไม่ควรเลือกซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านคร่อมถนนหนทาง หรือทางเดินเก่าเด็ดขาด ถนนหนทางคนใช้สัญจรเดินทาง ผี หรือวิญญาณก็ใช้เดินสัญจรเหมือนกับเรา เดินมาเป็นแรมปี แล้วอยู่ๆ เราจะไปสร้างบ้านคร่อม แบบนี้ เราจะรู้สึกว่าเหมือนมีคนเดินผ่านบ้านตลอดเวลา เมื่อใดดาวที่ไม่เป็นมงคลมาเกิด ปีนั้นๆ หรือวันดีคืนดี คุณจะเห็นผีมาเดินในบ้านเรา จะทำให้เรานอนหลับไม่เป็นสุข ชีวิตก็วุ่นวาย มีแต่เรื่องแต่ราว เดือดร้อนไม่สิ้นสุด ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
ที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะปฏิกูล อย่าได้เลือก โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

ที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะปฏิกูล อย่าได้เลือก โดย อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร

อ.ธนากร แนะนำว่า "ไม่ควรเลือกที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะและปฏิกูล มาสร้างบ้านเด็ดขาด สำคัญมาก เพราะที่ดินนี้ จะมีขยะ สิ่งสกปรก เต็มไปด้วยมลพิษต่างๆ ความชั่วร้ายอยู่มากมาย ทำให้เราอยู่อาศัยแล้ว จะมีแต่โรคภัยไข้เจ็บ เจ็บไข้ได้ป่วยตลอดเวลา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ก่อนเลือก ควรสอบถามบ้านใกล้เรือนเคียง บริเวณนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อที่ดิน  ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย อยู่ดีมีสุข ขอบคุณครับ"         ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสมังกร
ร้านอร่อย ย่านท่าเรือคลองสาน (ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า)

ร้านอร่อย ย่านท่าเรือคลองสาน (ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า)

คนที่อยู่ย่าน "คลองสาน" จะปฏิเสธบอกว่าไม่รู้จัก ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า ไม่ได้แน่ๆ เพราะ ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ที่มีเหล่านักช้อปทั้งหลาย อยากจะมาเดินซื้อหาเสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นอย่างมากมาย ที่นี่มีร้านค้า ร้านอาหาร ข้างทางยาวตั้งแต่ถนนเจริญนครยันท่าเรือเลย และ ที่จะพูดกัน แนะนำกันในวันนี้ คือร้านอร่อยๆ ที่พลาดไม่ได้ หลังจากเดินช้อปกันจนเหนื่อย จนเมื่อย ลองหาร้านอร่อยๆ แถวๆ นี้กินดูครับ ขอบอกเลยว่า อร่อยจริงๆ มาตามดูกันว่ามีร้านไหนกันบ้าง...       บัวลอยคลองสาน มาที่คลองสานคงจะไม่พลาดที่จะต้องกินบัวลอย เพราะเม็ดบัวลอยที่ นุ่ม ละมุนลิ้น มีทั้งบัวลอยไข่เค็ม บัวลอยไข่หวาน หวานเจ้มจ้นมากจ้ะ #บัวลอยไข่เค็ม ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ขนมเบื้องคลองสาน ขนมเบื้องชิ้นโตทำร้อนๆมารอเสิร์ฟ มีหลายแบบ หลายไส้ทั้งหวาน ทั้งเค็ม ครบรส ไส้ก็แน่นเต็มปากเต็มคำ เน้นๆ ทั้งลูกเกด ฝอยทอง มะพร้าวคั่ว ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ราชาขนมโตเกียว โตเกียวสุดครีเอท มีมากมายหลายไส้ เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินก็ยังได้ มีทั้งไส้กรอก ปูอัด ปลาชีส แป้งก็กรอบไส้ก็เต็มปาก โอ้ยย ฟินมั่กๆ ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     แม่อนงค์กล้วยปิ้ง กล้วยปิ้ง มันทิพย์ มันญี่ปุ่น ขอบอกพร้อมมากกก มันทิพย์ ก็ปั้นกลมพอดีคำ นุ่มละมุนมาก ราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋า จิ้มลิ้มมากเวอร์ ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ทาโกะยากิ ทาโกะยากิร้อนๆทำออกมามีมากมายหลายไส้ ทั้ง ปลาหมึก ทูน่า กุ้ง แซลม่อน แน่นเวอร์ผสานกับซอสราดหอมๆ กรุบกริบสุดดดด ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 ?คลองสานพลาซ่า     อิ่วก้วย ขนมที่ใครหลายๆคนอาจจะงง อิ่วก้วย เป็นขนมโบราณของจีน จะเป็นแป้งนุ่มๆ ที่ห่อด้วยไส้ มีทั้ง ไส้หน่อไม้ กู๋ไช่ เผือก เยอะมากก และก็นำมาทอดร้อนๆ กัดแล้วอิ่มเอมม๊ากมาก ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า     ไก่อบโอ่ง ไก่อบโอ่งร้อนๆ ยกขึ้นมาจากโอ่ง สับออกมาเป็นชิ้นหยิบกินง่าย คล่องมือกันเลยทีเดียว เนื้อก็นุ่มละมุนลิ้นมากเวอร์ น้ำจิ้มก็เป็นสูตรมะขามขอบอกแซ่บ! ? เปิดบริการทุกวัน ⌚ 10:00-20:00 น. ?คลองสานพลาซ่า   เป็นไงกันบ้าง เห็นแต่ละร้าน น้ำลายไหลกันเลยทีเดียว ทำเลทองบ้าน คอนโดดีๆ แถวคลองสานเพียบ อาจจะแว่บออกมาเดินชิวๆ ชิมของอร่อยๆ ตามใจปากกันเลยทีเดียว... ตามพิกัด Google Map นี้ไปเลยครับ     ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพประกอบสวยๆ จาก EventPass
สุดง่าย…วิธีไล่กิ้งกือไม่ให้เข้าบ้าน

สุดง่าย…วิธีไล่กิ้งกือไม่ให้เข้าบ้าน

"กิ้งกือ" เป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ แต่หากกิ้งกือบุกบ้านเราก็คงรำคาญใจใช่ไหมคะ? เพราะด้วยลักษณะตัวที่ค่อยๆ คืบคลานอยู่ภายในบริเวณบ้าน ซึ่งดูไม่น่ามองสักเท่าไหร่ แม้เจ้าตัวนี้จะไม่มีพิษสงร้ายแรงอะไร แต่ก็ทำให้ขนลุก สยดสยอง ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ยิ่งถ้าใกล้หน้าฝนทีไร กองทัพกิ้งกือก็จะโผล่มาบนดินทันที! แต่ไม่กังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรานำวิธีกำจัดกิ้งกือมาฝาก รับรองว่าใช้ได้ผล และสัตว์ร้อยขาชนิดนี้จะไม่มากวนใจบ้านคุณอีกต่อไป 1.ไล่กิ้งกือด้วยปูนขาว  ปูนขาวสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านวัสดุก่อสร้างแถวบ้าน นำปูนขาวไปโรยไว้รอบๆ บ้าน โดยเฉพาะตามขอบซีเมนต์หรือพื้นดินบริเวณที่กิ้งกือมักจะเดินผ่าน 2.น้ำส้มควันไม้ ใช้ไล่กิ้งกือ น้ำส้มควันไม้สามารถนำมาใช้เป็นยากำจัดแมงในบ้านได้ ผสมน้ำส้มควันไม้ 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 20 ลิตร นำไปราดบริเวณที่มีกิ้งกือ นอกจากนี้ยังสามารถไล่แมลงต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในบ้านได้อีกด้วย ปัจจุบันน้ำส้มควันไม้หาซื้อได้ง่ายตามร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านเคมีภัณฑ์ ร้านเคมีเกษตร ฯลฯ ก็จะมีน้ำส้มควันไม้ขายค่ะ 3.ไล่กิ้งกือง่ายๆ ด้วยเกลือ ใช้เกลือแกงที่ใช้ทำอาหารโรยรอบๆ บ้าน วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด หรืออาจจะใช้เกลือเม็ดที่เป็นแบบกระสอบโรยไว้ตามพื้นรอบๆ บ้าน รับรองกิ้งกือพากันย้ายหนีออกจากบ้านคุณแน่นอนค่ะ แต่ถ้าฝนตกก็ต้องหมั่นโรยบ่อยๆ แต่ระวังอย่าโรยเกลือไว้ใกล้ต้นไม้เกินไปเพราะความเค็มจะเป็นอันตรายต่อพืชค่ะ 4.ลูกเหม็นสารพัดประโยชน์ ไล่กิ้งกือได้ เพียงแค่วางลูกเหม็นไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านเท่านี้กิ้งกือก็จะพากันย้ายหนีออกไป เพราะทนกลิ่นฉุนของเจ้าลูกเหม็นนี้ไม่ไหวนั่นเอง 5.ชอล์คกันมด ก็ไล่กิ้งกือได้ ชอล์คที่เอาไว้ขีดกันมดก็สามารถเอามาขีดไล่กิ้งกือได้เช่นกัน ลองขีดไว้รอบๆ บ้านหรือขีดหนาๆ บริเวณหน้าประตูเพื่อป้องกันเจ้ากิ้งกือกระดื๊บๆ เข้ามาในบ้านของเราค่ะ 6.สมุนไพรไล่แมลงได้ ก็ไล่กิ้งกือได้ ใช้สมุนไพรไล่แมลงฉีดพ่นบริเวณที่ไม่ต้องการไม่ให้ มด แมลงและ กิ้งกือเข้าไปหลบซ่อน   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้ากิ้งกือตัวยึกยือสุดยี๊ที่เราไม่ชอบให้มาอยู่ในบ้านของเราก็มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศไม่น้อยเช่นกันนะคะ เป็นผู้ช่วยในการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในระบบนิเวศเพื่อเป็นอาหาร ทั้งซากพืช ซากสัตว์ และสิ่งเน่าเปื่อยต่างๆ แต่ถ้าใครไม่อยากให้เจ้ากิ้งกือเข้ามาในบ้าน ก็หมั่นทำความสะอาดอบ้านอย่าให้มีพื้นที่รกและชื้น (กิ้งกือชอบความชื้น) เพียงเท่านี้เจ้ากิ้งกือก็จะไม่เดินเข้ามาในบ้านของเราแล้วค่ะ ความรู้เกี่ยวกับกิ้งกือ กิ้งกือ (millipedes) ความรู้อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับบ้านของเรา วิธีกำจัดแมลงสาบ วิธีเด็ดไล่ตุ๊กแก วิธีกำจัดตะขาบ
วิธีปูกระเบื้องห้องน้ำแบบง่าย เปิดใช้งานเร็ว โดยไม่ต้องง้อช่าง

วิธีปูกระเบื้องห้องน้ำแบบง่าย เปิดใช้งานเร็ว โดยไม่ต้องง้อช่าง

วันนี้ Review Your Living มีวิธีปูกระเบื้องห้องน้ำแบบง่ายๆ มาช่วยทุ่นแรงคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่กำลังปวดหัวอยู่ว่าจะซ่อมแซมห้องน้ำด้วยวิธีใดให้เปิดใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง แล้วขั้นตอนจะเป็นแบบไหนไปชมกันค่ะ  ใครที่คิดจะทำห้องน้ำใหม่หรือซ่อมแซมห้องน้ำนั้น อย่าลืมว่าการเริ่มต้นที่ดีและถูกต้องโดยทำไปทีละขั้นตอนอย่างเป็นสเต็ป นอกจากช่วยลดปัญหาจุกจิกจิกที่อาจจะตามมาภายหลัง ยังได้ห้องน้ำสวยตรงใจ ที่สำคัญการเลือกวัสดุที่จะใช้ในการทำห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง  สุขภัณฑ์ หรือ ก๊อกน้ำ จำเป็นที่จะต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าด้วย เพราะบางครั้งห้องน้ำออกแบบมาสวยงาม แต่เลือกสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพก็จะมีผลด้วย เช่น ถ้ากระเบื้องไม่ได้ฉากหรือมุมเมื่อปูออกมาแล้วร่องยาแนวอาจจะเบี้ยวได้ นอกจากนี้การเลือกกาวปูกระเบื้องและกาวยาแนวก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป ปัจจุบันมีกาวปูกระเบื้องและกาวยาแนวสำหรับห้องน้ำโดยเฉพาะ ที่มีคุณสมบัติพิเศษพัฒนามาเพื่อใช้กับห้องน้ำเช่นเดียวกับในคลิปที่เรานำมาฝาก ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย..
การเตรียมบ้าน สำหรับคนสูงอายุ ที่ต้องให้ความสำคัญ

การเตรียมบ้าน สำหรับคนสูงอายุ ที่ต้องให้ความสำคัญ

"บ้านที่เราอยู่เมื่อวันที่เราเกิด และเราอยู่ในบ้านหลังนั้นไปอีก 40 ปี หรือมากกว่านั้น เราก็จะรู้ว่า บ้านมันก็ยังเหมือนเดิมแต่คนในบ้านแก่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันเริ่มไม่สมดุลกันละ พอมันเป็นแบบนี้ ความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายย่อมเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะ 3 จุดเสี่ยงในบ้าน     เริ่มจาก "ห้องน้ำ" เป็นจุดที่มีการเปลี่ยนระดับพื้น ลื่น แสงสว่างไม่พอ เช่นเดียวกับ "บันได" ที่มีการเปลี่ยนระดับพื้นเหมือนกัน ลื่น และค่อนข้างมืด โอกาสหกล้มย่อมเกิดได้ง่าย สุดท้ายคือ "เตียงนอน" เป็นจุดที่จะต้องเปลี่ยนท่าทางจากยืนเป็นนั่ง จากนั่งเป็นนอน หรือตอนเช้า จากนอนเป็นนั่ง จากนั่งเป็นยืน โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ หกล้มก็มีได้สูง"     ถ้าเป็นไปได้ พื้นต่างระดับต้องปรับให้ระดับน้อยที่สุดไปจนถึงไม่มีเลย ส่วนพื้นที่ลื่น ถ้าเป็นกระเบื้อง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เรามากขึ้น ง่ายสุด งบน้อยสุด ซื้อน้ำยามาเคลือบกระเบื้องให้มันมีความสากมากขึ้น แต่ถ้าไม่ไหวละ ยังไงก็ลื่นอยู่ดี อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนพื้นให้เป็นผิวหยาบ   สำหรับบันได ไม่อยากให้ชันมาก ถ้ามีความคิดจะปรับปรุงใหม่ ขนาดลูกนอนควรยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัดเพื่อให้เท้าวางได้พอดี ส่วนขนาดลูกตั้งควรอยู่ที่ประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนสีของขั้นบันไดควรใช้สีสว่าง และที่สำคัญคือต้องมีแสงสว่างอย่างเพียงพอเพื่อให้การเดินขึ้นลงอย่างปลอดภัย     ส่วนอีกเรื่องที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การเพิ่มอุปกรณ์อย่าง 'ราวจับ' เข้าไป เริ่มจากจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับพื้น จุดที่คิดว่าพื้นมันลื่น จุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอิริยาบถเยอะๆ อย่างเช่นในห้องน้ำ หรือเตียงนอน ซึ่งหลายๆ ที่เริ่มมีชุดราวจับแบบติดตั้งสำหรับเตียงนอนขายแล้ว"     อย่างแรกเลย ต้องจัดระเบียบเฟอนิเจอร์เพื่อให้โล่ง เดินได้สะดวกขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องสายตา ถ้ามีสิ่งของวางเกะกะอาจเป็นสาเหตุทำให้สะดุดล้มได้ง่าย ส่วนห้องรับประทานอาหาร เก้าอี้พลาสติกไม่แนะนำให้ใช้ เวลาค้ำเพื่อลุกเดิน อาจล้มคว่ำได้ และขอฝากไว้อีกนิดเรื่องสัตว์เลี้ยง เพราะอาจไปพันแข้งพันขาผู้สูงอายุจนเกิดอุบัติเหตุได้     นอกจากนั้น สัญญาณช่วยเหลือในบ้านก็จำเป็นเหมือนกัน หลายครั้งผู้สูงอายุล้มอยู่นาน แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเพราะไม่มีใครรู้ หรือเรียกใครไม่ได้ยิน ดังนั้น ห้องสำคัญๆ ที่ควรติดไว้เลยก็คือ ห้องน้ำ เวลาล้มอยู่ในห้องน้ำจะได้มีคนรู้ ลูกหลานจะได้เข้ามาช่วยได้ทันเวลา"     ถึงตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้น "การเตรียมบ้าน" ให้พร้อมคืออีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสิ่งที่ทุกคน ปรารถนาคือความสุขในบั้นปลายชีวิต ไม่ใช่ "พิการ" หรือนอนเป็นผักอยู่บนเตียง   ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพประกอบ จาก สสส. http://www.thaihealth.or.th ขอบคุณภาพประกอบจาก Internet, https://pixabay.com
เลือกทำเลเปิดร้าน ทำธุรกิจอย่างไรดี

เลือกทำเลเปิดร้าน ทำธุรกิจอย่างไรดี

การจะลงมือทำธุรกิจ เปิดร้านค้าอะไรสักอย่าง ทำเลนับเป็นปัจจัยต้นๆ เลยทีเดียวที่เราต้องคำนึงถึง เพราะหากไม่คิดถึงทำเล จะกลายเป็นการทำ(ทิ้งทะ)เล ประมาณว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำนะครับ     1.ทำเลกลุ่มลูกค้าต้องมีคนเดินผ่านทั้งหน้า และหลัง   ควรที่จะมองเห็นได้ในหลายมุม เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น   2.ทำเลดีโบราณว่า ควรหลีกเลี่ยงทางสามแพร่ง    เพราะเนื่องจากทางฮวงจุ้ยแล้วถือว่าไม่ดีไม่เป็นมงคลจะทำให้ค้าขายไม่ดี   3.ทำเลดีไม่เปิดร้านโดดเดี่ยว ควรมีร้านค้าอื่นๆ ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นด้วย    เป็นแหล่งที่ผู้คนเขาไปจับจ่ายซื้อของ ไม่ใช่เป็นร้านเดี่ยวๆ  ยิ่งเป็นแหล่งชุมชน เศรษฐกิจจะยิ่งดีมากยิ่งขึ้น เพราะผู้คนตั้งใจเข้ามาจับจ่ายใช้เงิน   4.ทำเลดีสามารถขยายพื้นที่ได้ในอนาคต   ต้องมองว่าธุรกิจมีโอกาสเติบโต เมื่อโตแล้วต้องขยายได้ หากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยก็จะทำให้การขยายเป็นไปได้วยความยากลำบาก   5.ทำเลดีต้องมีที่จอดรถ หรือ คมนาคมสะดวก   เป็นเรื่องใหญ่มาก หากลูกค้ามาแล้วไม่มีที่จอดรถ หรือเดินทางมาด้วยความยากลำบาก จุดนี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงในอันดับต้นๆ   6.ทำเลดีต้องมีลูกค้า หรือ กลุ่มเป้าหมาย   ต้องรู้ว่าลูกค้าเราเป็นใคร เช่น ร้านกาแฟควรเปิดใกล้ออฟฟิศ อุปกรณ์การเรียนควรเปิดใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย แต่ถ้าเป็นเครื่องสังฆภัณฑ์ ก็ควรอยู่ใกล้วัด เป็นต้น   7.ทำเลดี ต้องมีเงินทุน   ถ้าอยากได้ทำเลดีๆ ก็ต้องช้เงินเพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่กล่าวมา หากไม่มีทุนหรือกำลังทรัพย์มากพอ ก็ต้องขยับโซนออกไปย่านชานเมืองหน่อย แต่โอกาสในการสร้างรายได้ก็จะน้อยลง   8.ทำเลไม่ดีอย่าลืมใช้เทคโนโลยี การตลาดออนไลน์   หากเราอยู่ในจุดที่เสียเปรียบเรื่องทำเล ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ไปทั้งหมดนะครับ ลองนำการตลาดออนไลน์มาแทนทำเลที่ไม่สู้ดีนัก ถ้าทำดี ทำเลก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปนะครับ   8 แนวทางเบื้องต้นในการเลือกทำเลครับ แต่ใช่ว่าทำเลดีแล้วจะทำให้ธุรกิจจะรุ่งนะครับ ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า การบริหารจัดการ คู่แข่งฯ ที่เราต้องเรียนรู้และพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้ธุรกิจเราสามารถเดินหน้าสร้างกำไรได้อย่างไรก็แล้วแต่ครับ “ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” อย่างแน่นอนครับ   ขอบคุณแหล่งที่มา : https://taokaemai.com/how-to-select-location-for-business/   ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com