Tag : LivingProducts

216 ผลลัพธ์
KOHLER Design Forum 2018  ร่วมสรรค์สร้างอนาคตแห่งการอยู่อาศัย  เชื่อมสรรพสิ่งออนไลน์ภายใต้แนวคิด “ALL THINGS CONNECTED”

KOHLER Design Forum 2018 ร่วมสรรค์สร้างอนาคตแห่งการอยู่อาศัย เชื่อมสรรพสิ่งออนไลน์ภายใต้แนวคิด “ALL THINGS CONNECTED”

โคห์เลอร์ ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบนวัตกรรมและการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับห้องครัวและสุขภัณฑ์ กำหนดจัดงาน KOHLER Design Forum ณ เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชิญชวนเหล่าสถาปนิก นักออกแบบ และผู้ปฏิบัติงานในสาขาที่เกี่ยวข้องในเมืองไทยมาร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตของอุตสาหกรรมด้านการอยู่อาศัย และรับฟังองค์ความรู้เชิงลึกจากผู้บรรยายระดับโลกในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคอินเตอร์เน็ต รวมถึงแนวโน้มของระบบเมือง บ้าน และสำนักงานอัจฉริยะ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต   งาน KOHLER Design Forum จะจัดขึ้นภายใต้ธีม “All Things Connected”ถือเป็นเวทีสำหรับผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมสถาปัตย์และการออกแบบในประเทศไทย เพื่อมาร่วมพูดคุยถึงการสร้างสรรค์อนาคตของอุตสาหกรรมด้านการอยู่อาศัย ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้เชิงลึก และแนวคิดที่ให้ความสำคัญในเรื่องอนาคตของเทคโนโลยีอัจฉริยะภายในบ้าน สำนักงาน และอาคารประเภทต่าง ๆ พร้อมนำเสนอแนวโน้มและองค์ความรู้ด้านการออกแบบแนวใหม่ ซึ่งนอกเหนือจากการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ โคห์เลอร์ยังจัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “KOHLER Konnect™” ระบบบ้านอัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของห้องน้ำด้วยเสียง มอบความสะดวกสบายและการเชื่อมต่อที่ง่ายดายยิ่งขึ้น   ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โคห์เลอร์จัดการประชุมตามศูนย์กลางการออกแบบหลายแห่งทั้งในเอเชียและยุโรป และนำเสนอองค์ความรู้จากนักออกแบบและสถาปนิกที่ทรงอิทธิพลและเจ้าของรางวัลทั่วโลก สำหรับในปีนี้มีการจัดงาน KOHLER Design Forum มาแล้วทั้งในสิงคโปร์ ลอนดอน โตรอนโต และดูไบ โดยกรุงเทพฯ ถือเป็นสถานที่จัดงานแห่งสุดท้ายสำหรับปีนี้ ซึ่งกำหนดจัดภายใต้แนวคิด “All Things Connected”   KOHLER Design Forum เป็นการประชุมนำเสนอข้อมูลรอบเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นเป็นพิเศษหรับกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในวงการสถาปนิกและนักออกแบบเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างคอนเน็กชั่น พร้อมพบปะกับบรรดาผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดกับระบบ“KOHLER Konnect” ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://kohler.design/design-forum/          
ให้ห้องนอนเป็นสไตล์ที่บ่งบอกตัวตนคุณในแบบ original U

ให้ห้องนอนเป็นสไตล์ที่บ่งบอกตัวตนคุณในแบบ original U

พื้นที่ในบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว และเป็นพื้นที่ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเรามากที่สุดน่าจะหนีไม่พ้น “ห้องนอน” แล้วยิ่งถ้าคุณเป็นเจ้าของห้องที่รักการแต่งตัวด้วยแล้วล่ะก็ การมี “มุมแต่งตัว” หรือ “ห้องแต่งตัว” จัดไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เป็นระเบียบเรียบร้อยตามอย่างที่ฝันก็คงจะสร้างความสุขได้ไม่น้อยเลย     จะไปกลัวอะไรถ้าเราอยากจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ส่วนตัว ให้เป็นไปอย่างที่ใจฝัน คุณเองก็สามารถมีห้องนอนในแบบ original U ได้ไม่ยาก แค่รู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน และเป็นคนสไตล์ไหน การสะท้อนตัวตนผ่านเฟอร์นิเจอร์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป   สไตล์โมเดิร์นเรียบๆ แต่เก๋ ก็เป็นหนึ่งในสไตล์ยอดฮิตที่หลายๆ คนชื่นชอบ การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเรียบๆ ในห้องนอน จะช่วยให้บรรยากาศในห้องดูสงบเหมาะกับการพักผ่อน แต่ถ้าชอบเฟอร์นิเจอร์แบบน้อยชิ้น สไตล์มินิมอล ก็เป็นอีกสไตล์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งโทนสีที่เรียบง่าย ถึงจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม่มากแต่ทุกชิ้นต้องสามารถตอบโจทย์การใช้สอย และมีฟังก์ชั่นที่ดีพอ     นอกจากนี้การตกแต่งห้องในสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ก็ยังคงเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ เฟอร์นิเจอร์โลหะง่ายๆ มีดีเทลไม่มากในโทนสีเข้มขรึมก็เป็นอีกสไตล์ที่เลือกตกแต่งได้ไม่ยากเลยค่ะ ส่วนใหญ่แล้วห้องในสไตล์ลอฟท์จะเน้นโชว์ความดิบของวัสดุ โชว์โครงสร้าง ลายเส้นต่างๆ ให้ห้องน่าสนใจมากขึ้น คุณผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบความง่ายๆ ไม่ซับซ้อนกับการใช้งาน การวางโชว์ของสะสมไว้บนชั้นที่เปิดโล่ง หรือการแขวนเสื้อผ้าง่ายๆ ไว้บนราวเหล็ก ก็จะทำให้การเลือกหยิบเสื้อผ้าในแต่ละครั้งรวดเร็วยิ่งขึ้น     Walk-in Closet นับว่าเป็นพื้นที่ในฝันของใครหลายๆ คน ที่อยากจะมีมุมแต่งตัวเป็นสัดส่วนอยู่ในห้องนอนให้เป็น original U หากเป็นบ้านสร้างใหม่ หรือห้องชุดใหม่ที่ไม่เคยผ่านการตกแต่งมาก่อน ก็อาจจะเป็นเรื่องง่ายที่จะออกแบบตกแต่งมุมแต่งตัวให้หลากหลายได้อย่างที่ใฝ่ฝัน แต่สำหรับการปรับเปลี่ยน ซ่อมแซมจากห้องเดิมอาจจะมีข้อจำกัดมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะที่ SB Design Square มีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกมากมาย หลากหลายสไตล์ พร้อมบริการให้คำปรึกษาเพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในบ้าน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้ดีที่สุด     อีกสไตล์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยก็คือ Rustic Luxe ซึ่งเป็นการผสานความเรียบง่ายจากวัสดุธรรมชาติเข้ากับความหรูหราแวววาวของโลหะ กระจกต่างๆ การตกแต่งด้วยสไตล์นี้จะมีการเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย แต่เน้นโทนสีอบอุ่นของธรรมชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว เฟอร์นิเจอร์จากชิ้นไม่ธรรมดาๆ อาจตกแต่งด้วยโลหะสีทองเพิ่มเข้าไป ก็จะเป็นให้บรรยากาศห้องดูหรูหรามีไตล์ขึ้นทันตา     ไม่มีข้อจำกัดตายตัวหรอกค่ะว่าตู้เก็บเสื้อผ้าของคุณจะต้องเป็นแบบไหน ถ้าภาพในหัวคือ ราวแขวนโปร่งโล่งแบบโชว์รูมห้องเสื้อหรูก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร  หรือถ้าอยากจะเลือกบานประตูตู้เป็นกระจกบานใหญ่ให้สะใจก็ไม่มีกฏข้อไหนบอกว่าความต้องการของคุณเป็นเรื่องผิด ในขณะเดียวกัน ถ้าจะเพิ่มชั้นเก็บกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับไว้ใกล้ๆ มือ จะขยับซ้ายขยับขวาจัดวางไว้ในมุมใดก็ได้ตามที่เราพอใจ ในเมื่อพื้นที่ทุกส่วนภายในบ้านจะบ่งบอกความเป็นตัวเราได้ดีที่สุด จะสนุกแค่ไหน ถ้าเราได้ลองเลือก Mix&Match เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นที่ถูกใจ มาวางคู่กับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดิมที่มีอยู่ได้อย่างลงตัว หรือได้ลองผสมสไตล์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างไม่มีข้อจำกัด ได้เพิ่มเติมลูกเล่นหรือฟังก์ชั่นที่ต้องการเข้าไป ออกแบบห้องแต่งตัวใหม่ที่ใส่ความเป็นตัวเราลงไปในทุกมุม เพื่อให้เราได้เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในทุกๆ วัน   เพราะ SB Design Square รู้ดีว่า ความชื่นชอบและไลฟ์สไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน กว่าจะออกมาเป็น original U ของแต่ละคนได้ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทจึงถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์ และฟังก์ชั่นต่างกันออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้คุณเลือก Mix&Match ได้ตามสไตล์ส่วนตัว เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณอย่างแท้จริง จากพื้นที่ส่วนตัวในห้องนอนที่บ่งบอกถึงตัวตนได้อย่างชัดเจนแล้ว พื้นที่ในฝันอย่างมุมแต่งตัวหรือ Walk-in Closet ก็สำคัญไม่แพ้กันจริงมั้ยคะ เมื่อ Walk-in Closet ที่ดีที่โดนใจไม่ใช่แค่ที่เก็บเสื้อผ้าเท่านั้น SB Design Square มี SB Interior Team ผู้เชี่ยญชาญด้านการออกแบบ ที่จะแปรความชอบสไตล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มินิมอล ลอฟท์ อินดัสเทรียล หรือโมเดิร์น ถ่ายทอดออกมาเป็นความลงตัวในแบบของเรา พร้อมให้คำปรึกษาในการออกแบบตกแต่งบ้านให้เป็นสไตล์เฉพาะตัว ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ทุกส่วนภายในบ้านสามารถออกแบบได้เพื่อคุณโดยเฉพาะ     เพราะความชอบของเราไม่จำเป็นที่ต้องแคร์ใคร และความสุขแต่ละคนไม่เหมือนกัน การได้มีพื้นที่เล็กๆ ในมุมส่วนตัวที่เป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับงานหนัก หรือเรื่องเหนื่อยแค่ไหน ชีวิตก็มีความสุขได้เพราะเราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็น #originalU     
ไทวัสดุ บุกธุรกิจ ฟาสต์ฟิต (FAST FIT) เตรียมเปิดตัว ออโต้วัน (AUTO 1)

ไทวัสดุ บุกธุรกิจ ฟาสต์ฟิต (FAST FIT) เตรียมเปิดตัว ออโต้วัน (AUTO 1)

ซีอาร์ซี ไทวัสดุ สบช่องตลาดรถยนต์รุ่ง พร้อมแตกไลน์ธุรกิจเปิด ฟาสต์ ฟิต ภายใต้ชื่อ ออโต้วัน (AUTO 1) ประเดิมสาขาแรกที่ ไทวัสดุ ปทุมธานี ชูจุดแข็ง ในด้านบริการยานยนต์โดยช่างมืออาชีพ มีสินค้าให้เลือกหลากหลายทั้งจากในประเทศและสินค้านำเข้า ในทำเลที่ดีที่สุด สะดวกสบาย โดยพ่วงโปรโมชั่นสะสมและแลกคะแนนเพื่อรับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดต่างๆ ผ่านบัตรเดอะวัน (THE 1) ในกลุ่มเซ็นทรัล โดยตั้งเป้าเปิดสาขาในพื้นที่ของไทวัสดุทุกสาขา เพื่อรองรับลูกค้าผู้ใช้รถทั่วประเทศ   คุณสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2560 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 871,650 คัน และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2561 จะมียอดขายรถยนต์รวม 950,000 คัน หรือ เพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมของรถยนต์ ณ 31 ม.ค. 61 มีจำนวนทั้งสิ้น 17 ล้านคัน (ไม่รวมรถจักรยานยนต์ 20 ล้านคัน) ซึ่งเห็นได้ว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์เชิงบวก โดยเฉพาะธุรกิจบริการหลังการขายแบบ ควิกเซอร์วิส หรือ ฟาสต์ฟิต ซึ่งในปีที่ผ่านมาตลาดนี้มีมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท   “ธุรกิจศูนย์บริการประเภท ฟาสต์ ฟิต เติบโตควบคู่ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดรถยนต์ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4 -7 % ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน มีแนวโน้มนำรถยนต์เข้ารับบริการฟาสต์ฟิตเพิ่มมากขึ้น โดยมีปัจจัยมาจากอัตราค่าบริการของศูนย์บริการรถยนต์ของค่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับยังขาดความเชื่อมั่น ในมาตรฐานและการบริการของอู่ท้องถิ่นทั่วไป ซึ่งด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เรามองเห็นโอกาสทางการตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้อีก   คุณสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การก้าวเข้ามารุกธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์แบบฟาสต์ฟิตในครั้งนี้ นอกจากจะรองรับจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ไทวัสดุและธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล ที่มีสาขาของธุรกิจต่างๆในเครือกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับไทวัสดุเองที่จะไม่ได้มีแค่เพียงสินค้าและบริการเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่ครบวงจรเท่านั้น เรายังมองไปถึงธุรกิจที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าของไทวัสดุ ที่ขับรถยนต์เพื่อมาซื้อสินค้าอยู่แล้ว ดังนั้นการเพิ่มไลน์ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์แบบฟาสต์ฟิตในครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดธุรกิจที่เอื้อต่อกันได้เป็นอย่างดี”     สำหรับศูนย์บริการออโต้วัน สาขาแรก ตั้งอยู่ที่ไทวัสดุ สาขา ปทุมธานี ซึ่งเป็นสาขาที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน หมู่บ้านขนาดใหญ่ และยังเป็นถนนหลักในการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงโดยสะดวก ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการรวม 320 ตารางเมตร พร้อมด้วย 4 ช่องบริการ ใช้งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนรูปแบบการให้บริการหลักๆประกอบด้วย จำหน่ายยางรถยนต์ บริการตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ บริการเช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำมันหล่อลื่นต่างๆ เช่น เกียร์-เฟืองท้าย ซ่อมบำรุงระบบเบรค ช่วงล่าง-ระบบรองรับ บริการระบบแอร์รถยนต์ ฯลฯ   คุณสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับ ออโต้วัน จะได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า จากกลยุทธ์การตลาดที่เป็นจุดแข็ง ของออโต้วัน เช่น การร่วมโปรโมชั่นกับสมาชิกผู้ถือบัตร เดอะวัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นบัตรสมาชิกที่มีฐานลูกค้านิยมสะสมคะแนนจากยอดจับจ่ายซื้อสินค้าสูงสุดบัตรหนึ่ง โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 14 ล้านราย ซึ่งทุกการใช้บริการที่ออโต้วัน ผู้ถือบัตรเดอะวันจะสามารถเก็บคะแนนสะสมได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง และยังมีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มเซ็นทรัลอีกด้วย   ขณะที่เป้าหมายการขยายสาขา ออโต้วัน ต่อจากสาขาปทุมธานี ในปี 2561 มีเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาบางบัวทอง และบางพลี โดยตามแผนงานบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเปิดสาขาไม่น้อยกว่า 40 แห่ง ภายในปี 2563 พิเศษสุดเพื่อเป็นการฉลองเปิด ออโต้วัน สาขาปทุมธานี ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม ได้จัดโปรแรง 1 แถม 1 เมื่อซื้อยาง Toyo Tires, Hankook และ Goodride โดยลูกค้าจะต้องมาลงทะเบียนที่สาขาในช่วงเวลา 07.00-08.00 น. เพื่อลุ้นสิทธิ์รับโปรยาง 1 แถม 1 นี้ โดยต้องเปลี่ยนยาง 4 เส้นพร้อมเทิร์นยางเก่า จำกัด 30 ท่านต่อวัน เพียง 5 วันนี้เท่านั้น สำหรับสมาชิกบัตรเดอะวัน รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม อาทิ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ราคาเริ่มต้น 499 บาท เปลี่ยนแบตเตอรี่เทิร์นรุ่นเก่ารับส่วนลด 1,000 บาท คะแนนสะสมในบัตรเดอะวัน แลกรับส่วนลดสูงสุด 13% ต่อ 1 ใบเสร็จ /ครั้ง และ ทุกการใช้บริการมูลค่า 15,000 บาท รับกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิออโต้วันฟรี   “ออโต้วัน มีเป้าหมายการขยายสาขาสู่ไทวัสดุทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการสินค้าและบริการทั้งเรื่องบ้าน และเรื่องรถได้อย่างครบวงจรในที่ๆเดียว พร้อมด้วยคุณภาพ มาตรฐานการบริการ และความหลากหลายของสินค้าที่มีให้เลือกสรร ที่จะช่วยให้ลูกค้าของทั้งไทวัสดุและออโต้วันใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” คุณสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย
“ยิปซัมตราช้าง” แนะเคล็ดลับรีโนเวทบ้านสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุ

“ยิปซัมตราช้าง” แนะเคล็ดลับรีโนเวทบ้านสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุ

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 โดยจะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปในสัดส่วนสูงถึง 20%  ทำให้สัดส่วนของผู้สูงอายุต่อประชากรวัยทำงานสูงถึง 1 ต่อ 4 คน (ข้อมูลอ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนในสังคมที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการอยู่อาศัยและที่อยู่อาศัยที่ต้องสามารถตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุให้มีความเหมาะสม สะดวกสบาย และปลอดภัยมากขึ้น  “ยิปซัมตราช้าง”  ตระหนักถึงความสำคัญนี้ จึงขอนำเสนอเคล็ดลับ “การรีโนเวทบ้านเพื่อผู้สูงอายุ” เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่มาพร้อมกับมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับพื้นที่ใช้งานของผู้สูงอายุที่มีการใช้งานในชีวิตประจำวันบ่อยครั้ง เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ และพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง ควรจัดให้อยู่บริเวณชั้นล่าง เพื่อความสะดวกและปลอดภัยไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได เริ่มที่ ห้องนอน ขนาดพื้นที่ห้องนอนควรกว้างขวางพอสำหรับพักผ่อนและทำงานอดิเรก ควรอยู่ใกล้ห้องน้ำหรือมีห้องน้ำในตัว มีหน้าต่างในขนาดและระดับที่เหมาะสมให้มองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกชัดเจนและรับแสงธรรมชาติได้ เพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งไฟอัตโนมัติพร้อมเซ็นเซอร์บริเวณเตียงและตามทางเดิน เพื่อช่วยนำทางให้ผู้สูงอายุลุกเดินไปห้องน้ำในเวลากลางคืนได้สะดวกยิ่งขึ้น ห้องน้ำ ไม่ควรมีพื้นต่างระดับ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุหากเกิดอาการกล้ามเนื้อหรือแขนขาอ่อนแรง พื้นผิวกระเบื้องต้องไม่ลื่นและมีค่าความฝืดที่เหมาะสม ควรติดตั้งราวจับทรงตัวบริเวณที่นั่งอาบน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัย   นอกจากนี้ควรติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือด้วย หากเกิดการล้มและเหตุฉุกเฉินเพื่อคนในบ้านจะสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที พื้นที่ทั่วไปภายในบ้าน ควรติดตั้งราวจับทรงตัวไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยพยุงตัวระหว่างเดิน และลดความเสี่ยงในการหกล้ม   วัสดุปูพื้นควรเลือกใช้ที่พื้นผิวเรียบแต่ไม่ลื่น มีความนุ่มแต่ไม่ยวบจะช่วยลดแรงกระแทกได้ และยังช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถทรงตัวได้ดีขณะเดิน ประตูควรเป็นประตูบานเลื่อนระบบรางแขวนด้านบน เพื่อไม่ให้มีธรณีประตูหรือรางกีดขวางด้านล่าง ช่วยลดโอกาสการสะดุดหกล้มและควรมีความกว้างที่มากพอหากต้องรองรับการใช้งานของรถเข็น มือจับประตูต้องมีขนาดที่เหมาะสม ใช้แรงน้อยในการเปิดปิด ไม่ลื่นมือ และไม่มีเหลี่ยมมุมที่อาจทำให้เกิดอันตรายจากการล้มกระแทกหรือเกี่ยวเสื้อผ้า พื้นที่ภายนอก สามารถจัดสรรพื้นที่ทำสวน เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีชีวิตชีวาได้ด้วยการทำกิจกรรมเบาๆ อย่างเช่น รดน้ำต้นไม้ พื้นทางเดินภายนอกควรเป็นพื้นระดับเดียวและมีความเรียบสม่ำเสมอกันทั้งผืน ควรเลือกใช้วัสดุพื้นที่ไม่ลื่นและช่วยลดแรงกระแทก หากเกิดการล้มก็จะช่วยบรรเทาความรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังควรติดตั้งราวจับทรงตัวและเตรียมพื้นที่สำหรับนั่งพักด้วย สำหรับการปรับปรุงและขยายห้องกรณีที่ภายในบ้านมีผู้สูงอายุที่ต้องนั่งวีลแชร์ ทำให้ห้องเดิมกลายเป็นห้องที่เล็กเกินไปจะขยับไปทางไหนก็ติดและกลับตัวไม่สะดวก ในกรณีแบบนี้เราสามารถติดตั้งผนังยิปซัมเพื่อช่วยขยายพื้นที่ได้ ด้วยการรื้อผนังเดิมและขยับแนวผนังเพื่อขยายห้อง โดยควรเลือกใช้ผนังยิปซัมที่มีความหนา12มม. เพราะจะสามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี   นอกจากเคล็ดลับด้านบนแล้ว “ยิปซัมตราช้าง” ขอนำเสนอนวัตกรรมระบบปิดผิวผนังอีซี่ฟินิช ตราช้าง (EASYFINISH™ System) “นวัตกรรมเพื่อผิวผนังที่สมบูรณ์แบบ” ช่วยให้ผนังสวยเรียบเนียน ปราศจากรอยร้าว ทำให้ผนังได้ระนาบช่วยให้การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินเรียบเนียนสวยงาม ทำงานได้งานเร็วขึ้น ช่วยลดมลภาวะจากฝุ่นละออง เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยและต้องการรีโนเวทบ้านให้รองรับกับการใช้งานของผู้สูงอายุได้อย่างครบถ้วน   สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนยิปซัมตราช้าง โทร. 02-555-0000 หรือ www.siamgypsum.com หรือ facebook fanpage:@GypsumTraChangTH
โฮมโปร ชี้กลยุทธ์พัฒนาสินค้า Private Brand ชูจุดต่าง ดีไซน์ ฟีเจอร์  ฟังก์ชัน ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม Segment เชื่อสัดส่วนเพิ่ม  25% ในอนาคต

โฮมโปร ชี้กลยุทธ์พัฒนาสินค้า Private Brand ชูจุดต่าง ดีไซน์ ฟีเจอร์ ฟังก์ชัน ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม Segment เชื่อสัดส่วนเพิ่ม 25% ในอนาคต

โฮมโปร เผยกลยุทธ์การพัฒนาสินค้ากลุ่ม Private Brand หลังพบแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ 3 จุดต่างด้าน ดีไซน์ ฟีเจอร์ และฟังก์ชัน ในระดับคุณภาพดี ราคาย่อมเยา เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่ม Segment ลูกค้า ที่มีความต้องการแตกต่างกัน เชื่อมั่นจะสามารถเพิ่มสัดส่วนการเติบโตเป็น 25% ในอนาคต นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร  เปิดเผยว่า จากการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมการเลือกซื้อ เลือกใช้สินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยี และความหลากหลายของสินค้าที่มีให้เลือกเพิ่มมากขึ้น โฮมโปร ในฐานะธุรกิจ Retail ที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 22 ปี ได้ศึกษา วิจัย และนำไปสู่การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับตลาด และเข้าถึงความต้องการภายใน (Insight) ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาสินค้ากลุ่ม ไพรเวทแบรนด์ (Private Brand) ที่ปัจจุบันสามารถสร้างสัดส่วนรายได้ได้ถึง 20%   และเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โฮมโปรได้พัฒนาสินค้ากลุ่ม ไพรเวทแบรนด์ (Private Brand)  ใหม่พร้อมยกระดับสินค้าจาก Good เป็น Better  และ Best ตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า,เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน, ห้องน้ำ, ห้องครัว, เครื่องมือช่าง และอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำความสะอาด ด้วยกลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง (Differentiation) ที่ต้องมีคุณค่ากับผู้บริโภคทั้งในด้านดีไซน์ ฟีเจอร์ และฟังก์ชั่น โดยต้องคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพของสินค้าต้องดีเยี่ยม ได้มาตรฐานในราคาที่จับต้องได้ และหาซื้อได้ที่เดียวคือที่โฮมโปร หรือ Exclusive @ HomePro เท่านั้น   เนื่องจากผู้บริโภคในยุคนี้จะเลือกสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด บวกกับการฉีกกฎแบบแผนทางการตลาดด้วยวิธีการนำเสนอผ่านช่องต่างๆ ผ่านการสร้างประสบการณ์ในรูปแบบ Inspiration video content เพื่อเข้าถึงปัญหา และการแก้ไขได้จริงในเรื่องบ้านด้วยวิธีง่ายๆ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจมากยิ่งขึ้นขึ้น อีกทั้งยังเลือกใช้กลยุทธ์ในการเข้าถึงง่ายในตัวผลิตภัณฑ์  ด้วยวิธีการกระจายสินค้าให้มากที่สุดทั้งทางหน้าร้านในประเทศ และสาขาต่างประเทศ และบนแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือ อีคอมเมิร์ซ ที่สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทั้งทาง Website และ Line ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันสินค้ากลุ่มไพรเวทแบรนด์ (Private Brand) ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในอนาคต “การให้ความสำคัญกับการเดินหน้าสร้างสินค้าไพรเวทแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมของโฮมโปรนั้น ใช้เวลาและทุ่มเทกันหนักมาก โดยชิ้นงานแต่ละชิ้นที่จะออกสู่ตลาดและวางจำหน่ายได้นั้น ต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก  โดยมีเกณฑ์ชี้วัดที่สำคัญคือในเรื่องงบประมาณและคุณภาพที่เท่าเทียมกัน   ลูกค้าเห็นสินค้าแล้วตัดสินใจเลือกซื้อกลับบ้าน ที่สำคัญที่สุดเมื่อใช้แล้วมีการบอกต่อและมีการซื้อซ้ำ นั่นสะท้อนให้เห็นว่าไพรเวทแบรนด์ของเราได้เข้าไปครองใจผู้บริโภค และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่อยู่ในบ้านของลูกค้าอีกด้วย”  นางสาวสิริวรรณ กล่าวเพิ่มเติม   สำหรับกลุ่มสินค้า ไพรเวทแบรนด์ (Private Brand)  ที่มีอัตราการเติบโตเป็นอันดับหนึ่ง คือกลุ่ม Home Textile ภายใต้แบรนด์ HLS – Home Living Style เน้นกลุ่มผ้าเป็นหลักทั้ง ผ้าม่าน หมอน พรม ผ้าปูที่นอน Wallpaper  และของตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ให้กับคนรักบ้านที่มีความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นในด้านความละเอียดอ่อนของกระบวนการผลิต ออกแบบ และสำคัญที่สุดคือนวัตกรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก โดย Product Line ในกลุ่มของ HLS เกือบทั้งหมดได้ผ่านรับการรับรอง หรือ Certificate จากหลากหลายสถาบัน ที่สามารถเชื่อมั่นได้ว่าปลอดภัยกับผู้ใช้งาน การันตีว่าสินค้ามีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ อาทิเช่น ผ้าม่าน HLS ถูกคัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่มีความกังวลเรื่องแสงแดด และสุขภาพผิว โดยได้แบ่งผ้าม่านออกเป็น 2 ชนิด คือ ผ้าม่าน Black out ช่วยป้องกันแสง ป้องกันรังสี UVA/UVB ได้ถึง 99% ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงาน และลดอุณหภูมิภายในห้องได้ประมาณ 3-5 องศา และผ้าม่าน Dim out มีคุณสมบัติช่วยลดแสงเพียงอย่างเดียว  แสงแดดบางส่วนสามารถลอดเข้ามาได้บ้าง ซึ่งผ้าม่านทั้ง 2 ชนิด มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ผ่านการรับรองระดับประเทศ ในด้านความปลอดภัยในการใช้งาน และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การันตีด้วยฉลาก  Smart Fabric UV Protection หรือ เนื้อผ้าอัจฉริยะ จากสถาบันอุตสาหกรรมพัฒนาสิ่งทอ (THTI) เพื่อการันตีในเรื่องมาตรฐานและทำความสะอาดง่าย และที่สำคัญใช้การวิธีการย้อมสีที่ปลอดสารก่อมะเร็ง พรม HLS ไม่ได้เน้นแค่ฟังก์ชัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัย (Safety) ได้รับการรับรองว่าการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือ Confidence in Textile สามารถซักทำความสะอาดได้  กันลื่นได้ดี ด้วย Thermoplastic rubber ที่จะช่วยเรื่องความปลอดภัย Microfiber เส้นใยอ่อนนุ่ม ซับน้ำได้ดี และ Antibacterial ป้องกันเชื้อโรคเกาะบนเส้นใยของพรม และไม่มีผลต่อสุขภาพซึ่งผ่านการทดสอบแล้ว จากสถาบันอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) หมอน HLS มีหลากหลายฟังก์ชั่น ที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของลูกค้าที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุขภาพ ปวดต้นคอ ภูมิแพ้  หรือเป็นหวัด เพราะใช้วัสดุผ้าหุ้มที่ป้องกันแบคทีเรีย รวมถึงไลฟ์สไตล์การนอนที่แตกต่างกัน ซึ่งได้นำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการผลิต เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม เช่น  หมอนขนเป็น ขนห่าน , หมอนชาโคล , หมอนยางพารา , หมอนสำหรับเด็ก และหมอนเมมโมรี่โฟม   นอกเหนือจากกลุ่มสินค้า Home Textile แล้ว ยังมีแบรนด์อื่นๆที่ได้รับความนิยมภายใต้ Private Brand ของโฮมโปร อาทิ Furdini (กลุ่มเฟอร์นิเจอร์) , Moya  และ TARA (กลุ่มห้องน้ำและกระเบื้อง) , Carini และ Elektra (โคมไฟ) , Cabin (เคาน์เตอร์ครัว) เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์ทุกๆพื้นที่ภายในบ้านให้ครบจบในที่เดียว ที่โฮมโปรเท่านั้น นางสาวสิริวรรณ กล่าวปิดท้าย
จิม ทอมป์สัน เปิดตัว เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นใหม่ ออกแบบโดย Ed Tuttle

จิม ทอมป์สัน เปิดตัว เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นใหม่ ออกแบบโดย Ed Tuttle

จิม ทอมป์สัน ร่วมกับมิสเตอร์ เอ็ด ทัตเทิล สถาปนิกชื่อดังระดับโลกจากกรุงปารีส เปิดตัว “จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle” (Ed Tuttle Furniture Collection) อย่างเป็นทางการ   มิสเตอร์เอ็ด ทัตเทิล (Ed Tuttle) คือสถาปนิกที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายถึงการเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานระดับลักชัวรี่ให้กับโรงแรมและที่พักอาศัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก โดยผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้แก่ ผลงานการออกแบบให้กับโรงแรมพาร์คไฮแอท ปารีส – วองโดม (Park Hyatt Paris-Vendome) โรงแรม พาร์ค ไฮแอท มิลาน (Park Hyatt Milan) และโครงการต่างๆ ของเครืออมัน (Aman Resorts Hotel) ที่ไว้วางใจให้เขาเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบโรงแรมและรีสอร์ทสุดลักชัวรี่ที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วโลก โดยในหลายต่อหลายโครงการ เขาได้เจาะจงเลือกใช้ผ้าของจิม ทอมป์สัน ในการสร้างสรรค์ผลงานแสนสง่างามมากมาย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีและแน่นแฟ้นระหว่าง จิม ทอมป์สัน และ เอ็ด ทัตเทิล ที่มีมาอย่างยาวนาน และได้ถูกสานต่อจนเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์สุดพิเศษร่วมกันในครั้งนี้     สำหรับ จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle นี้นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่เก้าอี้แบบมีที่เท้าแขนดีไซน์โก้หรู (Armchair) ไปจนถึงโซฟารูปทรงโดดเด่นตามสไตล์ของศิลปะเชิงนามธรรม และโต๊ะโมเสคฝังประดับพลอยเนื้ออ่อน โดยทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพเงา (Silhouettes) ที่มีรูปทรงแปลกตาเกินคาดเดา ผสานกับความดูดีในแบบมินิมัลลิสต์ ที่ดูภูมิฐานและทันสมัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรมและออกแบบภายในของเอ็ด นอกจากนี้ยังมีผลงานไอคอนนิคพีซอย่าง เก้าอี้ผ้าใบ “พัฒศรี” (Patsri) ที่โดดเด่นด้วยโครงเก้าอี้เนื้อไม้สักแท้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากงานดีไซน์ต้นฉบับที่เขาเคยสร้างสรรค์ไว้ให้กับเรือมหาเภตรา เรือยอชท์ของครอบครัวเพื่อนรักอย่างคุณพัฒศรี บุนนาค อดีตนางแบบและสไตล์ไอคอนผู้มีชื่อเสียงของเมืองไทย   นอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่กล่าวมาแล้ว สินค้าอื่นๆ ทุกชิ้นในคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นของประดับบ้านชิ้นเล็กอย่าง โต๊ะข้าง (Side Table) และโคมไฟ ก็ล้วนแต่เลือกใช้วัสดุชั้นเลิศและมีความโดดเด่นด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะข้างอย่าง “ออร์แกนิก แพร์ เทเบิ้ล” (Organic Pair Table) ที่เป็นโต๊ะหินแกรนิตแอฟริกันตกแต่งผิวด้วยโลหะทองแดงในลุคแอนทีคอย่างมีรสนิยม ในขณะที่โต๊ะ “เกอริดอน” (Geuridon) ได้นำไม้มะฮอกกานีของไทยมาทำเป็นส่วนขาโต๊ะผสานเข้ากับหน้าโต๊ะที่ทำจากกระจกนิรภัย (Tempered Glass) สีดำตกแต่งรายละเอียดด้วยสแตนเลสสตีล สำหรับโคมไฟแบบต่างๆ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากผ้าไหมไทยทอมือสุดประณีตในเฉดสีที่แตกต่างกัน โดยตั้งอยู่บนฐานไม้มะฮอกกานีตกแต่งขอบด้วยทองแดงอย่างบรรจง และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนถึงการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ จาก จิม ทอมป์สัน   เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle มากยิ่งขึ้น เอ็ดยังได้ออกแบบและจัดแสดงสไตล์การใช้งานไว้ 4 รูปแบบ ณ โชว์รูมสินค้าตกแต่งบ้าน จิม ทอมป์สัน บนถนนสุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร (Jim Thompson Home Furnishings Showroom) โดยนำเสนอทุกผลงานที่เขาได้ออกแบบให้กับ จิม ทอมป์สัน ครบทั้งคอลเลคชั่น โดยได้จัดวางอย่างลงตัวกับผ้าตกแต่งผนังและบานกรุสิ่งทอ ตลอดจนผลงานศิลปะร่วมสมัยจากภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ที่เขาเป็นผู้เลือกสรรมาด้วยตนเอง ซึ่งผลงานศิลปะเหล่านี้ล้วนเป็นของหายาก ทรงคุณค่า และเป็นของสะสมของครอบครัวของคุณเอริค บุนนาค บู๊ทซ์ รวมถึงมาจากแกลเลอรี่ส่วนตัวของบุคคลท่านอื่นๆ ในประเทศไทย ที่ได้อนุญาตให้ จิม ทอมป์สัน ยืมใช้จัดแสดงในครั้งนี้ อาทิ ‘Offering Vessel’ โดย คุณพินรี สัณฑ์พิทักษ์ ‘Already There’ โดย คุณคามิน เลิศชัยประเสริฐ และ ‘Untitled’ โดยนักออกแบบระดับไอคอนของเมืองไทยอย่าง คุณนคร สัมพันธารักษ์ ซึ่งเอ็ด ได้บอกเล่าความรู้สึกที่ได้จัดแสดงครั้งนี้ว่า “งานศิลปะเหล่านี้ช่วยส่งเสริมและเติมเต็ม ทำให้ห้องดูมีชีวิตอย่างแท้จริง” นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ในคอลเลคชั่นนี้ จิม ทอมป์สัน ยังได้เปิดตัวผ้าตกแต่งบ้านดีไซน์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ไรซ์ (Rice)” ซึ่งมีให้เลือกถึง 22 เฉดสี โดย คุณเอ็ด ทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดแนวคิด และ จิม ทอมป์สัน ได้บรรจงถักทอขึ้นเป็นผ้าไหมทอมือเนื้อผสม ซึ่งผ้าผืนนี้ได้ทำหน้าที่เพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับเฟอร์นิเจอร์ในคอลเลคชั่น จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle โดยเฉพาะ ด้วยผิวสัมผัสสวยงามสว่างสุกใสและลักษณะของผ้าที่ดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรสนิยม รวมถึงเส้นใยธรรมชาติที่ใช้เป็นด้ายยืนและด้ายพุ่ง จนทำให้ “ไรซ์” เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เกิดโครงสร้างอันซับซ้อนสวยงามเหนือคำบรรยาย ที่ปรากฏอยู่ในงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ   ความผูกพันกันระหว่าง เอ็ด ทัทเทิล และ แบรนด์สินค้าตกแต่งบ้าน จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson Home Furnishings) ก่อตัวขึ้นจากความชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน คือวัสดุธรรมชาติที่แสนหรูหรา จนทำให้วันนี้ ความรักความหลงใหลดังกล่าวได้นำมาซึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญครั้งใหม่ ที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง   ผู้ที่สนใจสามารถเลือกชม “จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle (Ed Tuttle Furniture Collection)” ได้ที่โชว์รูมผ้าตกแต่งบ้าน จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson Home Furnishings Showroom) ชั้น 3 ร้านจิม ทอมป์สัน สาขาสุรวงศ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-632-8110 และอีเมล: showroom@jimthompson.com
โฮมโปร เปิด “HomePro S” สาขา “Market Place นางลิ้นจี่ สโตร์แนวคิดใหม่ สาขา 3 ปลายปี 61 5 ตุลาคมนี้ !!! ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองแบบ Urban Life และ Condo Living

โฮมโปร เปิด “HomePro S” สาขา “Market Place นางลิ้นจี่ สโตร์แนวคิดใหม่ สาขา 3 ปลายปี 61 5 ตุลาคมนี้ !!! ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองแบบ Urban Life และ Condo Living

โฮมโปร ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองแบบ Urban Life และ Condo Living เปิดสโตร์แนวคิดใหม่ สาขา 3 ปี 2561 “HomePro S สาขา Market Place นางลิ้นจี่ ” ชูจุดเด่น 3S ‘Smart Select Service’ พบสินค้าเรื่องบ้านแบบครบครัน เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน เข้าถึงได้หลายช่องทาง พร้อมบริการครอบคลุมทุกความสะดวกสบาย ด้วยช่องทางการช้อปออนไลน์รูปแบบใหม่ Click & Collect บริการเลือกกำหนดช่วงเวลารับสินค้า และสาขาได้ด้วยตนเอง ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมเสิร์ฟความสุขด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคาสูงสุด 60%!! ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าคนเมือง มุ่งกวาดรายได้กว่า 10 ล้านบาท นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยว่า การขยายสาขาของ ‘HomePro S’ เป็นอีกหนึ่งการตอบสนองแนวคิด เรื่องการใช้ชีวิตของคนเมือง ที่เน้นเปิดรับการช้อปสินค้าที่สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์แนวทางแต่งบ้านที่สร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเพื่อซ่อมแซม ต่อเติม ตกแต่งบ้าน อุปกรณ์จัดเก็บ และ DIY ซึ่ง HomePro S จะใช้จุดเด่นในเรื่อง 3S มาตอบโจทย์ทุกทางเลือกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น “SMART” สะดวก ช้อปง่าย สบาย ใกล้บ้าน ในศูนย์การค้าใจกลางเมืองเข้าถึงง่าย “SELECT” คัดสรรสินค้าเพื่อคุณ ตรงทุกความต้องการเรื่องบ้าน ทั้งซ่อมแซม ต่อเติม ตกแต่ง และ DIY “SERVICE” ครบครันทุกบริการเพื่อคนรักบ้าน สะดวกสบายเหมือนสโตร์ใหญ่ โฮมโปรเดินหน้าตอบสนองความต้องการของคนรักบ้านอย่างต่อเนื่อง สำหรับ HomePro S สาขา ‘Market Place นางลิ้นจี่’ เป็นสาขาที่ 3 ของปี 2561 ต่อจากสาขา ‘The Paseo Park’ กาญจนาภิเษก และสาขาบิ๊กซี บางนา และจะยังเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการที่สะดวกสบาย และครบครันไปด้วยสินค้าเรื่องบ้าน ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น   HomePro S สาขา Market Place นางลิ้นจี่ ตั้งอยู่ที่ชั้น B1 ในคอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางเมือง ทำเลทองที่รายล้อมด้วยที่อยู่อาศัยใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา และยังเดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน เข้าถึงได้หลายช่องทาง ท่ามกลางแสงสีและความเจริญของเมืองกรุง เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งกลุ่มบ้าน รวมไปถึงคอนโดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการตอบสนองแนวการใช้ชีวิต Urban Life และ Condo Living ได้ครอบคลุม พร้อมตอกย้ำความสะดวกสบายได้ทุกไลฟ์สไตล์ เข้าถึงได้ง่ายด้วยประสบการณ์การช้อปรูปแบบใหม่ อย่าง Shop Online , Click & Collect ช้อปของตกแต่งบ้านออนไลน์ สามารถเลือกกำหนดช่วงเวลารับสินค้าและสาขาที่สะดวกใกล้บ้านได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือบริการจัดส่งถึงบ้านแบบ Delivery   นอกเหนือจากประสบการณ์ช้อปรูปแบบใหม่แล้ว โฮมโปรยังเสิร์ฟความสุขที่ HomePro S สาขา Market Place นางลิ้นจี่ ผ่านกองทัพโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาใหม่ สุดโดนใจอีกมากมาย ด้วยสินค้าเรื่องบ้านลดราคาสูงสุดกว่า 60% สุขใจรับวันหยุดในวันเสาร์ที่ 6 ต.ค. วันเดียวเท่านั้น!!! สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรโฮมการ์ด ที่ลงทะเบียนกับ HomePro Line Connect 300 ท่านแรก รับสิทธิ์เล่นเกมหมุนวงล้อ ลุ้นซื้อสินค้า Special list จำนวนจำกัด ลดราคาสูงสุดถึง 65% ทั้ง SAMSUNG LED TV 43”, ไมโครเวฟ SAMSUNG, เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง NESCO, เตาบาร์บีคิว พร้อมหม้อสุกี้ SMART HOME, ปิ่นโตเก็บอาหาร 3 ชั้น และลุ้นรับคูปองส่วนลดมูลค่า 100 บาท จำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย!!   นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรโฮมการ์ด ช้อปครบ...รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่าสูงสุด 24,000 บาท เมื่อช้อปครบ 400,000 บาทขึ้นไป ช้อปครบ 200,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญ โฮมโปร 10,000 บาท ช้อปครบ 100,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 4,000 บาท ช้อปครบ 40,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปรมูลค่า 1,000 บาท ช้อปครบ 20,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญ    โฮมโปรมูลค่า 400 บาท  และพิเศษยิ่งขึ้น เมื่อช้อปสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับเพิ่มทันที คูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ มูลค่า 100 บาท   และเพื่อเป็นการฉลองเปิดสาขาใหม่ มอบสิทธิพิเศษมากยิ่งขึ้น ให้กับลูกค้าบัตรโฮมการ์ด รับสิทธิ์สมัครบัตรโฮมการ์ดฟรี พร้อมรับฟรี 100 คะแนน SHOP WEEKDAY FIN VERR เมื่อช้อปวันธรรมดา รับเลยคะแนน X3* เท่า เมื่อช้อปสินค้าครบ 1,500 บาท และช้อปสนุกทุกเสาร์ – อาทิตย์ ลุ้นรับของรางวัลมากมายเพียงช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท  และ Happy Point เพียงแลกคะแนนสะสมโฮมการ์ดเท่ายอดซื้อ ลดเพิ่มสูงสุด 15% ยิ้มรับความฟินต่อเนื่อง กับสิทธิพิเศษที่ส่งตรงมาจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมาย อาทิ ลูกค้าบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม จัดเต็มคอมโบ 3 คุ้ม คุ้มที่ 1 ลดราคาทันที 3% คุ้มที่ 2 แลกคะแนนเท่ายอดชำระ ลดเพิ่มสูงสุดอีก 13% หรือแลกส่วนลด 100 บาทต่อ 1,000 คะแนน คุ้มที่ 3 รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 2% เมื่อรูดเต็มจำนวน  และสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 40,000 บาท เมื่อชำระเต็มจำนวนและผ่อนชำระ และเติมเต็มความสุขยิ่งขึ้น กับสิทธิพิเศษผ่อน 0% ทุกชิ้น ทั้งร้าน กับบัตรเครดิตชั้นนำมากมาย   สำหรับการขยายสาขา HomePro S ที่ “Market Place นางลิ้นจี่”  โฮมโปรมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าและกลุ่มคนรักบ้าน ให้พบกับความสุข Style ใหม่ สะดวกสบาย ใกล้บ้านคุณ ในรูปแบบ Urban Life และ Condo Living พร้อมเสิร์ฟความฟินกับประสบการณ์การช้อปสินค้าเรื่องบ้าน และกองทัพโปรโมชั่นจัดเต็มในที่เดียว  ตั้งเป้ายอดขายกว่า10 ล้านบาท เตรียมพบกันได้ตั้งแต่วันที่ 5 - 31 ตุลาคม 2561 พร้อมเปิดบริการทุกวัน 10.00 - 22.00 น โทร. 02-079-5448 หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center หมายเลข 1284 และ www.homepro.co.th  FB : homeprothailand นางสาวสิริวรรณ กล่าวปิดท้าย
อิเกียส่งคอลเล็คชั่น GRATULERA รวมสุดยอดเฟอร์นิเจอร์ระดับตำนาน ฉลองครบรอบ 75 ปี

อิเกียส่งคอลเล็คชั่น GRATULERA รวมสุดยอดเฟอร์นิเจอร์ระดับตำนาน ฉลองครบรอบ 75 ปี

อิเกียจัดเซอร์ไพรส์สุดพิเศษแทนคำขอบคุณลูกค้าในโอกาสครบรอบ 75 ปี คัดสรรเฟอร์นิเจอร์ยอดนิยมแห่งยุค 50-60s, 70-80s และ 90s กลับมาวางจำหน่ายให้แฟนอิเกียได้เป็นเจ้าของอีกครั้ง ในคอลเล็คชั่นวินเทจ GRATULERA/กราทูเลรา เก็บรักษาเอกลักษณ์งานดีไซน์สุดคลาสสิกที่ทุกคนรักไว้อย่างครบถ้วน พร้อมเพิ่มเติมลูกเล่นให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยจะทยอยเปิดตัวที่สโตร์อิเกียทั่วโลกตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม     คาริน กุสตาฟสัน (Karin Gustavsson) หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของอิเกีย สวีเดน กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสำหรับอิเกีย เราอยากชวนแฟนๆ มาร่วมเฉลิมฉลองจุดเริ่มต้นความสำเร็จของวิสัยทัศน์อิเกียที่ต้องการสรรค์สร้างชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น และหวนรำลึกถึงความทรงจำวันวานผ่านเฟอร์นิเจอร์ระดับตำนานที่สะท้อนเอกลักษณ์และสไตล์ของงานออกแบบใน 3 ยุคที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้แก่ ยุค 1950-1960 โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มสะท้อนกลิ่นอายคลาสสิก, ยุค 1970-1980 ดีไซน์ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นและสีสันสดใส และยุค 1990-2000 ที่เน้นรูปลักษณ์เรียบง่ายสไตล์มินิมัลด้วยไม้สีอ่อนธรรมชาติและลายกราฟิก เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่เราคัดสรรมาในคอลเล็คชั่น GRATULERA/กราทูเลรา เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดที่เราคิดถึง และหวังว่าลูกค้าก็คงจะคิดถึงเช่นกัน”   คอลเล็คชั่นวินเทจ GRATULERA/กราทูเลรา แบ่งออกเป็น 3 ยุค 3 แนวคิดการออกแบบ ซึ่งจะพาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักเฟอร์นิเจอร์ระดับตำนานของอิเกีย ทุกชิ้นล้วนมีเรื่องราวและเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์อันน่าประทับใจ       CLASSIC COMEBACKS อิเกีย พาแฟนๆ ย้อนกลับไปสู่ยุค 1950-1960 ช่วงเวลาแรกๆ ที่อิเกียเริ่มสร้างชื่อเสียงด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไอคอนกับงานออกแบบที่สะท้อนความเคร่งขรึม ด้วยวัสดุไม้สีเข้มและลายเส้นคลาสสิก     โต๊ะข้าง รุ่น LÖVBACKEN/เลิฟบัคเก้น เป็นเฟอร์นิเจอร์ฮิตชิ้นแรกของอิเกีย และเป็นต้นกำเนิดของการบรรจุสินค้าในกล่องแบนหรือ Flatpack เมื่อเพื่อนร่วมงานของเราตัดสินใจถอดขาโต๊ะออกเพื่อให้สามารถใส่โต๊ะเข้าไปในรถคันเล็กของเขาได้ ปัจจุบัน สินค้าเกือบทั้งหมดของอิเกียบรรจุในกล่องแบน ทำให้ขนส่งได้ง่ายขึ้น ประหยัดพื้นที่ และลดอัตราการชำรุดเสียหายของสินค้า   อาร์มแชร์ รุ่น GAGNET/กังเนต อีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นพระเอกในยุคนี้ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1958 พร้อมกับสโตร์อิเกียแห่งแรกในเมืองอัมฮุล์ท ประเทศสวีเดน อาร์มแชร์ตัวนี้นำมาให้สื่อมวลชนได้ทดลองนั่งในงานแถลงข่าว ดีไซน์ที่โค้งมนของอาร์มแชร์เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวสู่อนาคตที่สดใสของเรา     FUN FAVOURITES 1970-1980 เป็นช่วงเวลาแห่งรอยยิ้ม และการออกแบบที่เต็มไปด้วยสีสันจัดจ้าน ร่าเริงสดใส     เมื่อพูดถึงยุคนี้ แฟนอิเกียจะนึกถึงโซฟา รุ่น KLIPPAN/คลิปปัน หนึ่งในโซฟารุ่นแรกๆ ที่จำหน่ายในราคาย่อมเยาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ขึ้นแท่นสินค้าที่เป็นไอคอนตลอดกาล เป็นงานศิลปะชั้นเลิศประดับห้องนั่งเล่นในหลายๆ บ้าน เพราะตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัวได้อย่างแท้จริง ครั้งนี้ โซฟา รุ่น KLIPPAN/คลิปปัน กลับมาพร้อมกับ 3 สีที่โดดเด่นสะดุดตา ได้แก่ สีเหลืองสด สีแดง และสีน้ำเงินโคบอลต์       อาร์มแชร์ รุ่น RÅANE/รัวอาเน เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1983 โดยใช้ชื่อ JÄRPEN/แยร์เปน เป็นการปฏิวัติการออกแบบอาร์มแชร์ ด้วยโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้นั่งสบายโดยไม่ใช้ผ้าหรือยัดนุ่น จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอาร์มแชร์ตัวนี้ที่ใช้ตาข่ายแทน เป็นงานออกแบบที่ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ   MINIMAL MUST-HAVES ยุค 1990 เกิดกระแสนิยมงานดีไซน์เรียบง่าย สไตล์มินิมัลที่ผสมผสานระหว่างสีธรรมชาติของไม้สแกนดิเนเวียกับลวดลายกราฟิก เมื่อปี 1995 อิเกียได้แนะนำคอลเล็คชั่นที่กลายเป็นไอคอนของเฟอร์นิเจอร์อิเกียและสามารถครองใจแฟนๆ มาจนถึงปัจจุบันนั่นคือ คอลเล็คชั่น IKEA PS/อิเกีย พีเอส ตัวอักษร ‘PS’ ย่อมาจาก ‘Post Scriptum’ หรือ ปล. ที่ใช้เวลาเขียนเพิ่มเติมข้อความในจดหมายนั่นเอง สื่อถึงการที่อิเกียเพิ่มฟังก์ชั่นใช้งานเติมเข้าไปในสินค้าของเรา เพื่อท้าทายและสำรวจว่างานดีไซน์แบบ Scandinavian Modern ควรจะเป็นอย่างไรและมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน     ม้านั่งเก็บของ รุ่น IKEA PS 1995/อิเกีย พีเอส 1995 เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นประติมากรรม เป็นงานออกแบบที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ม้านั่งเก็บของที่มีล้อด้านหนึ่งและขาอีกด้านหนึ่งกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ผู้คนมากมายชื่นชอบ เพราะครบถ้วนทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่นการจัดเก็บ ลงตัวกับทุกห้องในบ้าน   เก้าอี้ รุ่น BJURÅN/บยูรวน หรือชื่อเดิม ÖGLA/เอิกล่า เปิดตัวครั้งแรกในปี 1961 และผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันโดยโรงงานในโปแลนด์ เป็นงานไม้รูปทรงโค้งมนที่เปรียบเสมือนงานฝีมือชั้นเยี่ยม ถูกนำกลับมาแต่งแต้มด้วยสีสันสดใส วางตกแต่งเป็นชิ้นเดี่ยวหรือใช้วางคู่กับโต๊ะอาหาร   แวะมาเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์วินเทจระดับตำนานที่อิเกียตั้งใจรังสรรค์ในคอลเล็คชั่นสุดพิเศษ GRATULERA/กราทูเลรา ฉลองอิเกียครบรอบ 75 ปี พร้อมพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการตกแต่งบ้านได้ที่อิเกีย เมกาบางนา และ อิเกีย บางใหญ่ ที่เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ IKEA.co.th
“ลัคกี้เฟลม” ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม Innovation และ Design ที่ทันสมัย พร้อมผุดโชว์รูมสาขา 2 ในรอบ 43 ปี

“ลัคกี้เฟลม” ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม Innovation และ Design ที่ทันสมัย พร้อมผุดโชว์รูมสาขา 2 ในรอบ 43 ปี

“ลัคกี้เฟลม” ชื่อแบรนด์เตาแก๊สที่อยู่คู่ครัวคนไทยมากว่า 43 ปี สวนกระแสเศรษฐกิจหด เนรมิตโชว์รูมสาขา 2 ที่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เดินหน้าครองแชมป์ครัวไทย สู่ทศวรรษที่ 4 มุ่งแตกไลน์สินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Built-in ตลาดใหม่ อาทิ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างซิงค์ เจาะกลุ่มคอนโด และหมู่บ้านในเมือง โชว์ความเหนือชั้นเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่รับประกันแก๊สวาล์วถึง 5 ปี พร้อมเสริมทีมบริการหลังการขายที่เป็นพันธมิตรตัวแทนที่มีอยู่ทั่วประเทศ และเจาะตลาดออนไลน์สร้าง Branding ชูจุดแข็งคุณภาพสินค้า ส่วนตลาด CLMV ยังเติบโตอย่างโดดเด่นและต่อเนื่อง   นายเชาว์เลิศ ลีลาศวัฒนกุล กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ลัคกี้ เฟลม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เตาแก๊ส และอุปกรณ์ภายในครัวเรือน แบรนด์ “ลัคกี้ เฟลม” เผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่คู่คนไทยมาเป็นเวลากว่า 43 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะรู้จักในนาม “เตาแก๊สลัคกี้เฟลม” ซึ่งปัจจุบันเราเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายเตาแก๊ส เครื่องปรับความดันก๊าซ เครื่องดูดควัน เตาอบแก๊ส หม้อหุงข้าวแก๊ส เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า วาล์วก๊าซ ปืนจุดแก๊ส และเครื่องใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ด้วยคุณภาพของสินค้าที่รักษามาตรฐานได้อย่างดีเยี่ยม ประกอบกับความเข้าใจ ความจริงใจ รวมถึงการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าที่เปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน ทำให้เตาแก๊สลัคกี้เฟลมยังยืนเคียงคู่สังคมไทย มาเป็นเวลากว่า 43 ปี     เรามีความเชื่อว่า สิ่งที่บ่งบอกถึงเสน่ห์ของอาหารไทย ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในเรื่องวัตถุดิบหรือฝีมือคนปรุงเท่านั้น แต่ครัวไทยก็ช่วยเสริมความมีเสน่ห์ของอาหารไทยได้เหมือนกัน เมื่อก่อนเราใช้แค่เตาถ่านก็ทำอาหารที่อร่อยได้ ต่อมาเมื่อเรามีเตาแก๊ส การทำอาหารก็กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ซึ่งจุดเริ่มต้นของ “ลัคกี้เฟลม” ก็มาจากความชื่นชอบในเสน่ห์ของครัวไทยนั่นเอง จากตอนแรกที่ทำกันแค่ธุรกิจครอบครัว ก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีลัคกี้เฟลมก็มีอายุ 43 ปีแล้ว สิ่งที่เราได้พัฒนามาตลอดก็คือเรื่องคุณภาพของสินค้า นวัตกรรมใหม่ๆ ในครัว แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย คือการจุดประกายความสุขควบคู่ครัวเรือนไทย ไม่ว่าจะกี่รุ่น คนไทยแทบจะทุกคนก็รู้จัก “เตาแก๊สลัคกี้เฟลม”   สิ่งที่เป็นจุดแข็งและสร้างความโดดเด่นให้ลัคกี้เฟลมมาตลอด ก็คือคุณภาพของสินค้าที่คงทนแข็งแรง มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง รวมถึงได้พัฒนาให้สินค้ามีความหลากหลาย มีฟังก์ชั่นมากขึ้น มีรูปแบบทันสมัย ทำงานง่าย สะดวกและปลอดภัย รวมถึงเรายังสร้างความเชื่อใจให้ลูกค้าจากการรับรอง ISO 9001:2015 ซึ่งเป็นเหมือนใบรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และเรายังเป็นผู้ผลิตเตาแก๊สที่ติดตรา มอก. และ Thailand Trusted Mark บทนิยามที่บ่งบอกถึงมาตรฐานและคุณภาพ ของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย นอกจากนี้สินค้าทุกชิ้นของลัคกี้เฟลมยังได้รับการพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน นับเป็นหนึ่งในการดูแลสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อม ที่เราได้ให้ความสำคัญเสมอมา   นายเชาว์เลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเรามีการพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดควัน เตาอบแก๊ส หม้อหุงข้าวแก๊ส ปืนจุดแก๊ส หรือเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า และยังรวมไปถึงการแตกไลน์ผลิตอุปกรณ์ครัวแบบ Built-in ที่เริ่มมีบทบาทในครัวของคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำอาหารในคอนโด หรือหมู่บ้านในเมือง โดยเปิดโชว์รูมลัคกี้เฟลม สาขา 2 ณ ฟิวส์เจอร์ปาร์ค รังสิต บนเนื้อที่กว่า 122 ตรม. มีสินค้าของลัคกี้เฟลมมากกว่า 100 SKU พร้อมทั้งมีการจัดแสดง Display Product เพื่อเป็นตัวอย่างในการสร้างไอเดียหรือแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าที่พบเห็น เพื่อเป็นแนวทางในการตกแต่งห้องครัวไทยอีกด้วย ซึ่งขณะนี้เรามีโชว์รูมสาขาแรกในเซ็นทรัล บางนา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เราจึงได้มีการขยายสาขาเพิ่มอีกเป็นแห่งที่ 2 และมีแผนที่จะขยายแห่งที่ 3 เร็วๆ นี้   ปัจจุบัน “ลัคกี้เฟลม” มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่าน โฮมโปร, ไทวัสดุ, เทสโก้โลตัส, บิ๊กซี, โฮมเวิล์ค, บุญถาวร และโกเบิลเฮ้าส์ นอกจากนี้เรายังมีช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย รวมถึงมีบริการหลังการขายที่คอยดูแลลูกค้าได้ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ และเราเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่รับประกันแก๊สวาล์วถึง 5 ปี, มอเตอร์เครื่องดูดควันถึง 10 ปี ซึ่งมองว่า จุดนี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้ “ลัคกี้เฟลม” มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายที่ชัดเจนในการสร้าง Lucky Flame ให้เป็นสินค้าที่ครองใจผู้บริโภคเน้น Innovation และ Design ที่สวยทันสมัยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมุ่งเน้นสินค้าที่ดีด้วยปณิธาน “Quality is our destiny” คุณภาพคือจิตวิญญาณของเรา     ปัจจุบัน “ลัคกี้เฟลม” มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่าน โฮมโปร, ไทวัสดุ, เทสโก้โลตัส, บิ๊กซี, โฮมเวิล์ค, บุญถาวร และโกเบิลเฮ้าส์ นอกจากนี้เรายังมีช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย รวมถึงมีบริการหลังการขายที่คอยดูแลลูกค้าได้ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ และเราเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่รับประกันแก๊สวาล์วถึง 5 ปี, มอเตอร์เครื่องดูดควันถึง 10 ปี ซึ่งมองว่า จุดนี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้ “ลัคกี้เฟลม” มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายที่ชัดเจนในการสร้าง Lucky Flame ให้เป็นสินค้าที่ครองใจผู้บริโภคเน้น Innovation และ Design ที่สวยทันสมัยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมุ่งเน้นสินค้าที่ดีด้วยปณิธาน “Quality is our destiny” คุณภาพคือจิตวิญญาณของเรา     พร้อมกันนี้ยังมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยมุ่งเน้นเพื่อการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ในต่างประเทศ อาทิ ดูไบ แอฟริกา บังกลาเทศ และฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV จะมีการเติบโตโดดเด่นเป็นพิเศษ นายเชาว์เลิศ กล่าวทิ้งท้าย   ผู้ที่สนใจเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ โชว์รูมลัคกี้เฟลม สาขา 2 ณ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทร. 02-150-9258 หรือ ลัคกี้เฟลม Call Center โทร. 02-312-4330
“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ลุยเปิดสาขาใหม่ แห่งที่ 29  รับกำลังซื้อเฟอร์ฯ และการขยายตัวภาคอสังหาฯ หัวเมืองหลัก

“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ลุยเปิดสาขาใหม่ แห่งที่ 29 รับกำลังซื้อเฟอร์ฯ และการขยายตัวภาคอสังหาฯ หัวเมืองหลัก

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) บุกตลาดย่านบางกรวย-ไทรน้อย ปักธงสโตร์ที่ 29 อัดงบหนักขยายโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก หวังกระตุ้นยอดไตรมาส 4 รองรับความต้องการสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านของลูกค้า ตอกย้ำแนวคิด “มาที่เดียวครบ จบ คุ้ม”   นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้เราได้เปิดสาขาใหม่ บางกรวย-ไทรน้อย ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นสาขาลำดับที่ 29 ด้วยงบลงทุน 480 ลบ. บนพื้นที่ร่วม 7,000 ตร.ม. ภายในเทสโก้ โลตัส ซึ่งสาขานี้นับเป็นแห่งที่ 4 ที่ร่วมกับ เทสโก้ โลตัส หลังจากเปิดที่ มหาชัย, นครสวรรค์ และแจ้งวัฒนะ   สำหรับนนทบุรีนับเป็นเมืองธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูง มีการขยายตัวอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร แบ่งเป็น คอนโดฯ 397 โครงการ 142,686 ห้องชุด และบ้านจัดสรร 1,406 โครงการ 290,127 หลัง และยังมีโครงการใหม่ทุกเดือน เดือนละ 5-6 โครงการ และรัฐบาลได้มีการลงทุนสาธารณูปโภคหลายด้าน ทั้งทางหลวงพิเศษ ทางหลวงตัดใหม่ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รถไฟฟ้าสายสีม่วง ขณะเดียวกันรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ระหว่างดำเนินการ มีเรือด่วนที่สามารถสัญจรไปยังกรุงเทพฯ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงโครงการมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี   บริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ และเชื่อว่าสาขาใหม่นี้จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้ง บ้าน-คอนโด ลูกค้าบริษัท และกลุ่มนักธุรกิจ รวมถึงผู้ที่ย้ายเข้ามาทำงานในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาขาบางกรวย-ไทรน้อย มีจุดเด่นทำเลที่ตั้งอยู่บนจุดตัดถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก และ ถนนบางกรวย- ไทรน้อย ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่ครบครันที่สุด (Transportation Hub) สามารถเชื่อมต่อทุกเส้นทาง เข้าด้วยกัน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วง, ถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก, ท่าเรือ, ทางด่วน และระบบขนส่งมวลชน เดินทางสะดวกเข้าออกได้หลายเส้นทาง”       อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาบางกรวย-ไทรน้อย เปิดบริการอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิดจุดหมายใหม่แห่งเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ที่ครบครันใหม่ที่สุดในย่านนี้ ด้วยสินค้าที่ครบครันทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ของใช้ภายในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า หลากฟังก์ชันหลายดีไซน์ กว่า 10,000 รายการ บนพื้นที่ขนาด 7,000 ตร.ม. แบ่งเป็น 2 ชั้น ซึ่งชั้น 1 ประกอบด้วยสินค้าของแต่งบ้าน-ของใช้ภายในบ้าน, เฟอร์นิเจอร์-อุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บภายในบ้าน (Storage Solutions & Home Organization), “Baby Journey” เฟอร์นิเจอร์-อุปกรณ์และของใช้สำหรับเด็ก, เครื่องใช้ไฟฟ้า “POWER ONE” และโซนที่นอน “MATTRESS”   ส่วนชั้น 2 ประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ อินเด็กซ์ เฟอร์นิเจอร์ (Index Furniture), วินเนอร์ เฟอร์นิเจอร์ (Winner Furniture), ชุดครัว (Kitchen), ทีมดีไซน์เนอร์ (Designer Specialist) บริการออกแบบห้องด้วยโปรแกรม 3D, Home Service ครบทุกบริการสำหรับคนรักบ้าน และ ยูนีค (Younique) เฟอร์นิเจอร์ สั่งตัด 4.0 ซึ่งทำให้อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เป็น One Stop Shopping เรื่องบ้านอย่างครบวงจร สามารถตอบโจทย์สูงสุดทุกความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน มั่นใจจะสามารถทำยอดขายได้เฉลี่ย 17 ลบ. ต่อเดือน สำหรับรายได้รวมของกลุ่มอินเด็กซ์ ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 เท่ากับ 4,889.53 ลบ. หรือเพิ่มขึ้น +4.19% เทียบกับช่วง 6 เดือนของปี 2560 สัดส่วนยอดขายหลักมาจากการค้าปลีก 80% และจากสาขาใน หัวเมืองหลัก อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา เพราะเป็นสาขาที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด มียอดบิลเฉลี่ยสูงถึง 18,000 บาทต่อบิล ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑลยอดขายยังไปได้ดี เพราะรองรับกลุ่มลูกค้ามีรายได้ประจำ ขณะที่มีจำนวนสมาชิกบัตร JOY CARD ของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในไทยกว่า 1.1 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง   “นอกจากแผนการขยายสาขาใหม่แล้ว กลยุทธ์ด้านสินค้าและบริการ รวมถึงแคมเปญทางการตลาดจะยังคงมีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีทั้งด้านสินค้าและบริการนั้น ปีนี้ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้เปิด “ยูนีค” (Younique) เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดตามใจ Customized Furniture 4.0 เพิ่มเติมในสาขาใหม่ บางกรวย-ไทรน้อย เป็นสาขาที่ 6 จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้วที่สาขาพระราม 2, บางนา, เกษตร-นวมินทร์, ราชพฤกษ์ และรังสิต โดยมีแฟล็กชิพสโตร์ ที่ใหญ่ที่สุด คือ สาขาบางนา ด้วยพื้นที่ 900 ตร.ม. พร้อมเตรียมเปิดสาขาเพิ่มเติมในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักอีก 2 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสังคม 4.0 รวมทั้งมีแผนผนึกพันธมิตรอสังหาฯ ชั้นนำของไทยเสริมแกร่งต่อยอดธุรกิจ ชูจุดขายคุณค่าที่มากกว่าแค่ Personalize เพราะ Customize ปรับพื้นที่จาก 35 ตร.ม. เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเทียบเท่า 53 ตร.ม. จัดสรรพื้นที่ได้ทั้งแนวราบ แนวดิ่ง ด้วยการยืด ย่อ หด ขยาย ผ่านเทคโนโลยที่ละเอียดขั้นมิลลิเมตร รายเดียวในไทย ยืนยันจากเสียงลูกค้าจริงค่ะ”  
TFIC Furniture Outlet 2018 งานเฟอร์นิเจอร์ส่งออกลดราคาสูงที่สุดแห่งปี  ห้ามพลาด 26-30 ก.ย.นี้ ส่วนลดราคาสูงสุดถึง 80%

TFIC Furniture Outlet 2018 งานเฟอร์นิเจอร์ส่งออกลดราคาสูงที่สุดแห่งปี ห้ามพลาด 26-30 ก.ย.นี้ ส่วนลดราคาสูงสุดถึง 80%

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ร่วมประชาสัมพันธ์ TFIC Furniture Outlet 2018 งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ส่งออกครั้งที่ 14 ชูผลงานการออกแบบและผลิตโดยคนไทย ในคุณภาพระดับพรีเมียม พร้อมส่วนลดราคาสูงสุดถึง 80% โดยปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 26-30 กันยายน 2561 เวลา 10:30 – 21:00 น. ณ อาคาร 2-4 ศูนย์แสดงสินค้าและประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี   นายมานะผล ภู่สมบูญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ มีความภูมิใจที่จะเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของไทย เรามุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทย อีกทั้งสนับสนุนผลงานการออกแบบและการผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่งออกของคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์มากขึ้นในประเทศ เพราะเราคนไทยควรได้รับโอกาสที่จะเลือกใช้สินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุด   ที่ผลิตด้วยคนไทยกันเอง ไม่น้อยไปกว่าตลาดต่างประเทศอื่นๆ จึงได้มีแนวคิดจัดงานแสดงสินค้า ภายใต้ชื่องาน TFIC Furniture Outlet ซึ่งจัดขึ้นเพียงปีละครั้ง เพื่อส่งเสริมสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไทย คุณภาพระดับโลก ในราคาที่ดีที่สุด แก่ผู้บริโภคในประเทศ เพราะสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้วยบทบาทนี้ เราจึงสามารถส่งเสริมสินค้าเฟอร์นิเจอร์ส่งออกในราคาโรงงาน ซึ่งผู้บริโภคทุกท่านมั่นใจได้ว่ามีคุณภาพระดับพรีเมียมจริง”   นายพิชัย พินิตกาญจนพันธุ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า งาน TFIC Furniture Outlet เกิดจากกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นำบริษัทสมาชิก ผู้ส่งออกและผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ตัวจริง มาจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์คุณภาพที่ได้มาตรฐานการส่งออก คุณภาพระดับโลก ในราคาที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคในประเทศ ซึ่งต่างก็เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ส่งตรงจากโรงงานมาให้เลือกสรรหลากหลายสไตล์ “กว่า 13 ปีที่ผ่านมากลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ประสบความสำเร็จในการจัดงาน TFIC Furniture Outlet เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยในประเทศให้พัฒนาและขยายตัว อีกทั้งส่งเสริมการเพิ่มตัวเลือกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพโดยฝีมือคนไทยแก่คนไทยในประเทศที่ใส่ใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดให้แก่ที่อยู่อาศัยหรือธุรกิจของตนเอง โดยในปี 2560 มียอดผู้เข้าชมงานถึง 30,000 คน สร้างเงินสะพัดสู่เศรษฐกิจไทยกว่า 90 ล้านบาท จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา อีกทั้งสภาพตลาดที่อยู่อาศัยและเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวในทิศทางบวก”   นายธนทัต ชวาลดิฐ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ประธานคณะจัดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ TFIC Furniture Outlet 2018 กล่าวปิดท้ายว่า “TFIC Furniture Outlet 2018 ปีที่ 14 คืองานเกิดจากการรวมตัวของสมาชิกของกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อยกทัพเหล่าผู้ส่งออกและผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แถวหน้าของประเทศไทย มามอบข้อเสนอที่ดีที่สุดแก่ผู้ซื้อคนไทย ด้วยสินค้าคุณภาพระดับโลกหลากหลายสไตล์ ทั้งเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์ไม้ เฟอร์นิเจอร์โซฟา เฟอร์นิเจอร์หวาย เฟอร์นิเจอร์อลูมิเนียม และสินค้าตกแต่งบ้านอื่นๆ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยงานในปี 2561 นี้มีบริษัทตอบรับเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 100 บริษัท ซึ่งครอบคลุมสินค้าเฟอร์นิเจอร์คุณภาพส่งออก ที่มีความหลากหลาย อาทิ เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน จากร้อกเวิธ, เฟอร์นิเจอร์ไม้ จาก โอ.เค. วู้ด โปรดั๊ค, พิโคที, ชำนิเฟอร์นิเจอร์, ส. กิจชัย, โพเดียม และเฟอร์นิสท์, เฟอร์นิเจอร์โซฟา จากเลซีบอย, อีลิทดีไซน์ และโซฟาเมคเกอร์, เฟอร์นิเจอร์หวาย จากฮาวายไทยเฟอร์นิเจอร์ และเฟอร์นิเจอร์อลูมิเนียม จากคุณากิจอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ โดยในปีนี้เราคาดว่าจะมียอดผู้เข้าชมงานกว่า 35,000 คน เป็นยอดขายกว่า 110 ล้านบาท”   สำหรับ TFIC Furniture Outlet 2018 มีความพิเศษกว่าทุกงานเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ในประเทศเพราะมีส่วนลดราคาสูงสุดถึง 80% อีกทั้งยังมีกิจกรรมทาง Facebook ให้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับบัตรกำนัลแทนเงินสดสำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ในงานสูงสุดถึง 5,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 30,000 บาท   นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษจากธนาคารกรุงศรี ได้แก่ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี โดยสามารถแบ่งจ่าย 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 25,500 บาท ต่อหมายเลขบัญชี ตลอดรายการ ซึ่งลูกค้าสามารถรวมบิลยอดผ่อนชำระได้ตลอดทั้งงาน สำหรับลูกค้าที่ชำระสินค้าเต็มจำนวนจะได้รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 2,980 บาท ทำให้เราเชื่อมั่นว่างาน TFIC Furniture Outlet 2018 ในปีนี้จะได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในประเทศ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่หลงใหลในเฟอร์นิเจอร์คุณภาพระดับโลก”   ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นของงาน TFIC Furniture Outlet 2018 ได้ที่ www.facebook.com/TFICFurnitureOutlet    
“วิลเลรอย แอนด์ บอค” จับมือ “สายการบิน “Lufthansa”  ชวนคุณสัมผัสพิเศษกับ “ห้องน้ำหรู”  ณ สนามบิน Milan Malpensa ประเทศอิตาลี

“วิลเลรอย แอนด์ บอค” จับมือ “สายการบิน “Lufthansa” ชวนคุณสัมผัสพิเศษกับ “ห้องน้ำหรู” ณ สนามบิน Milan Malpensa ประเทศอิตาลี

บริษัท วิลเลรอย แอนด์ บอค จำกัด ผู้นำด้าน Total Bathroom Solution ระดับโลก จากประเทศเยอรมนี ภายใต้แบรนด์ “Villeroy & Boch” ที่มากประสบการณ์ในเรื่องของการออกแบบสุขภัณฑ์ฉลองครบรอบ 270 ปี ด้วยการจับมือกับ “Lufthansa” สายการบินยักษ์ใหญ่จากประเทศเยอรมนี ผนึกกำลังร่วมเนรมิต “ห้องน้ำสุดหรู” ภายในห้องรับรองโฉมใหม่ของสายการบิน Lufthansa ณ สนามบิน Milan Malpensa ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 สนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีตอนเหนือ คอนเซ็ปต์การออกแบบเน้นที่ความทันสมัยของผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำและกระเบื้องคุณภาพชั้นเยี่ยม ผสานกับกลิ่นอายประวัติศาสตร์ของเมืองมิลานด้วยแผนที่เมืองเก่าและตึกที่มีรูปแบบและสไตล์แบบดั้งเดิม   ทั้งนี้ ห้องรับรองของสายการบิน Lufthansa ถูกจัดไว้สำหรับให้ผู้โดยสารของสายการบินได้หลีกหนีจากการเดินทางที่แสนวุ่นวาย และได้พักผ่อนเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า ด้วยพื้นที่ขนาด 550 ตารางเมตร และพิเศษด้วยวิวลานจอดเครื่องบินที่พร้อมให้บริการแบบ first-class และห้องรับรองแบบส่วนตัวในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเงียบสงบเป็นส่วนตัว   ด้วยประสบการณ์ในเรื่องการออกแบบและในเรื่องของสุขภัณฑ์ที่มีมากกว่า 270 ปี ทางวิลเลรอย แอนด์ บอค จึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่มาใช้บริการ ห้องน้ำสุดหรูแห่งนี้ จะได้รับประสบการณ์ใหม่และความประทับใจมิรู้ลืม     ติดตามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมของ Villeroy & Boch ได้ที่ www.villeroy-boch.comhttp://www.villeroy-boch.com และ โทร. 02206-3400      
TIF กระจกอัจฉริยะมีดีกว่าที่คุณคิด

TIF กระจกอัจฉริยะมีดีกว่าที่คุณคิด

Thai Intelligent Film Glass กระจกอัจฉริยะ ฟิล์มอัจฉริยะ กระจกเปลี่ยนสี ฟิล์มเปลี่ยนสี Smart Glass ,Smart Film          มีปัญหาหรือไม่ อยากได้ห้องส่วนตัวบังเอิญที่กั้นห้องไม่ใช่กำแพงแต่ดันเป็นกระจกใส หรือบ้าน ออฟฟิศใครที่มีกระจกรายล้อม และต้องเผชิญกับแสงแดดยามบ่ายที่ร้อนระอุ ต้องการที่บังแดด โดยไม่ต้องง้อม่านอีกต่อไป ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพียงแค่มีกระจกอัจฉริยะง่ายต่อการใช้งานเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ก็สามารถเปลี่ยนจากกระจกใสเป็นทึบได้     แต่ตอนนี้มีนวัตกรรมใหม่นั้นก็คือกระจกอัจฉริยะหรือฟิล์มอัจฉริยะ เพียงสัมผัสแค่ปลายนิ้วก็สามารถทำให้กระจกทึบจากฟิล์มกลายเป็นกระจกใสได้ บอกลาม่าน ไม่ต้องง้ออีกต่อไป   กระจกอัจฉริยะ หรือฟิล์มอัจฉริยะเป็นนวัตกรรมทางเลือกใหม่ เป็นฟิล์มกระจกที่ไม่เหมือนใครเพียงแค่กดปุ่มจากรีโมท ก็เปลี่ยนบ้าน หรือออฟฟิศ กระจกใสที่ปรอดโปร่ง โล่งสบายให้กลายเป็นห้องทึบ เพิ่มพื้นที่ส่วนตัวในการทำกิจกรรมสำคัญ โดยไม่ถูกรบกวนทางสายตาจากผู้คนภายนอก ฟิล์มชนิดพิเศษ ไม่มีขายตามท้องตลาด มีลักษณะที่เบามาก ประกอบไปด้วยหยดของเหลวคริสตัล ที่เรียงตัวแบบกระจายตัว ในรูปแบบที่ถ่ายเทได้ ทำงานโดยใช้หลักการกระจายตัวของหยดของเหลวคริสตัล ในลักษณะที่ห่อหุ้มโดยโพลีเมอร์ โดยมีแผ่นฟิล์มประกบอยู่ 2 ด้าน ขณะที่ไม่มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไป (ปิดสวิตช์) ของเหลวคริสตัลเรียงตัวกันอยู่กระจัดกระจาย ทำให้เกิดสภาวะ ทึบในขณะที่มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไป (เปิดสวิตช์) ของเหลวคริสตัลจะเกิดการเรียงตัวกันเป็นแนวขนานกับแนวกระแสไฟฟ้า ทำให้แสงผ่านได้ เกิดสภาวะใสขึ้น   แล้วถ้าที่บ้าน หรือออฟฟิศมีกระจกต้องซื้อมาเปลี่ยนใหม่หมดหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลไป หมดห่วงกับการเปลี่ยนกระจกใหม่ นอกจากจะมีกระจกอัจฉริยะแล้วยังมีฟิล์มอัจฉริยะ เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้ที่มีกระจกอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีให้เลือกหลายสี ตัวกระจกหรือฟิล์มยังสามารถออกแบบได้หลายรูปทรงตามความต้องการ การทำงานของกระจกอัจฉริยะเป็นระบบไฟฟ้าไม่ต้องกังวลเรื่องไฟฟ้าจะรั่ว เพราะมีวัสดุที่ทนทานกันไฟฟ้ารั่ว ติดตั้งใช้งานง่ายหมดปัญหาเรื่องช่าง ให้ความรู้สึกเหมือนติดฟิล์มโทรศัพท์มือถือ   สิ่งดีๆ ที่อยากบอกต่อของกระจกอัจฉริยะที่คุณยังไม่รู้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวแล้ว ตัวกระจกหรือฟิล์มติดตั้งง่าย รวดเร็ว มีความแน่นหนา ทนทาน (กันไฟฟ้ารั่ว) อายุการใช้งานที่ยาวนาน ที่สำคัญลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ป้องกัน UV โดยไม่ต้อง้อม่านอีกต่อไปแล้ว ตัวกระจก และฟิล์มเข้าได้กับทุกขนาด รูปทรงตามต้องการลูกค้า มีสีให้เลือกมากมายอีกด้วย     กระจกอัจฉริยะ ใช้งานได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงานได้ทุกที่ตามต้องการ ยกตัวอย่างเช่น คอนโดในปัจจุบันห้องรับแขกกับห้องนอนจะกั้นด้วยกระจกใสซึ่งเวลาแขกมาก็อยากปิดห้องนอนไม่ให้ใครเห็น เพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัว หรือห้องประชุมในออฟฟิศเป็นกระจกใส พอมีแขกคนสำคัญหรือประชุมลับไม่อยากให้ใครเห็นเพียงแค่สัมผัสที่ปล่อยนิ้วโดยใช้รีโมทก็เปลี่ยนจากกระใสเป็นกระทึบได้ตามที่ใจเราต้องการ   กระจกอัจฉริยะ มีดีกว่าที่คุณคิด เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็เปลี่ยนจากห้องกระจกใสกลายเป็นห้องทึบสร้างความเป็นส่วนตัว ติดตั้งง่าย ทนทาน อายุการใช่งานที่ยาวนาน กันแสงแดด ป้องกัน UV ไม่ต้องง้อม่านอีกต่อไป มีหลายรูปทรง หลากสีให้เลือกตามความต้องการ โดยทีมงานติดตั้งที่มีคุณภาพ มาพร้อมกับการรับประกันตัวสินค้า    Condominium   Sea Life Water World Shark Tank   Hotel Bangkok Theptarin Hospital EastWater Industrial   สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.tifglass.com หรือเบอร์โทรศัพท์ 02-727-5274  
แสนสิริ จับมือฮาบิแททเอาใจคนรุ่นใหม่ เผยเทรนด์การตกแต่งบ้านคอนเซ็ปท์ ‘A REFLECTION OF LIVING IN STYLE’

แสนสิริ จับมือฮาบิแททเอาใจคนรุ่นใหม่ เผยเทรนด์การตกแต่งบ้านคอนเซ็ปท์ ‘A REFLECTION OF LIVING IN STYLE’

เมื่อ Design Matters เรื่องของดีไซน์ไม่เคยอยู่ไกลตัวเรา ทุกสิ่งประดิษฐ์ที่เราใช้ในชีวิต ประจำวัน ล้วนเป็นผลผลิตมาจากการออกแบบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะสร้างสรรค์มาเพื่อตอบโจทย์ ความสะดวกสบาย หรือเติมเต็มการใช้ชีวิต ดีไซน์ที่ดี พร้อมทั้งรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอย นอกจากจะทำให้เราใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น ยังสะท้อนตัวตนของเราอีกด้วย   แสนสิริจึงร่วมกับฮาบิแทท เปิดคอลเลคชั่นเฟอร์นิเจอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากฮาบิแทท ดีไซน์ สตูดิโอระดับโลก ที่มาพร้อมกับแนวคิด “A REFLECTION OF LIVING IN STYLE” ผลงานออกแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ยึดถือความงามอันเรียบง่าย ละทิ้งการตกแต่งประดับประดาที่มากเกินไป เกิดเป็นความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม สะท้อนแนวคิดการใช้ชีวิต และตัวตนของ คนรุ่นใหม่     คุณชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นเรื่องเทรนด์ของงานดีไซน์สถาปัตยกรรมและการตกแต่งในปัจจุบันว่าความซับซ้อน ของสภาพสังคม และเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนแสวงหาความเป็นธรรมชาติ ความเรียบง่าย ที่จะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ปราศจากความวุ่นวาย จะเห็นว่ากระแสมินิมอล สโลว์ไลฟ์ เรียบแต่โก้ กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และถูกนำมาใช้ในวงการออกแบบ ทั้งงานสถาปัตยกรรม งานออกแบบตกแต่งภายใน งานแฟชั่น และงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสไตล์ออกแบบบ้าน ที่สะท้อนการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันจะออกมาในรูปทรงโมเดิร์น ที่ลดทอนรายละเอียดลงไป เน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิต ทรงเหลี่ยมเพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอย โทนสีก็จะเรียบง่ายสบายตา ส่วนอีกสไตล์หนึ่งที่นิยมกันก็จะเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ตที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง”   สำหรับงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอล หลายคนจะนึกถึงแบรนด์ฮาบิแทท ที่เรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยวัสดุ และประโยชน์ใช้สอยที่ใช้งานได้จริง มาครั้งนี้ แสนสิริและฮาบิแททเลือกที่ จะนำเสนอผลงานใน 3 คอลเลคชั่น ที่ถ่ายทอดความหมายของ Less is More และ Simplicity มาเป็นงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์แบบครบองค์ประกอบของการอยู่อาศัย ตั้งแต่ คอร์เนอร์โซฟา ที่จัดเจนในด้านฟังก์ชั่นใช้สอยและความประณีต หรือจะเป็น Dining set ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากเส้นสายความอ่อนช้อยตามธรรมชาติของอาร์ต นูโว ไปจนถึงชุดโต๊ะ ตู้ เตียง เฟอร์นิเจอร์ ที่แฟนพันธุ์แท้ มินิมอลลิส รักความเป็นธรรมชาติ ต้องสรรหามาใส่ในบ้าน และห้องนอน     มร.วินเซนต์ เดตาเยอร์ CEO ของฮาบิแทท กล่าวว่า ฮาบิแททคือ ความลงตัวของ Minimal กับ Space งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 3 คอลเลคชั่นนี้ เป็นงานออกแบบที่แสดงชัดถึงการ ลดทอนเส้นสาย สิ่งไม่จำเป็นต่างๆ ออก คงเหลือแต่ ความเรียบ เท่ จะเน้น ไปที่สีเอิร์ธโทน เป็นหลัก เช่นสีน้ำตาล โทนต่างๆ ของไม้ สีเทา สีขาว สีน้ำเงิน จะจัดวางตรงไหน ก็ลงตัว สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ ได้ง่าย กลมกลืนไปกับพื้นที่ที่ล้อมรอบ (Space) ให้ความสุนทรีย์และ ความปลอดโปร่ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมด้วยฟังก์ชั่น ใช้การออกแบบเพื่อซ่อนการจัดเก็บ สิ่งของอย่างมีดีไซน์ ตลอดจนมีความประณีตในการผลิต คัดเลือกผ้าทอชั้นดี ให้สัมผัสที่ อ่อนโยนต่อทั้งสายตาและการใช้งาน     “ฮาบิแททเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลกมายาวนานกว่า 50 ปี ในกลุ่มลูกค้าที่ชอบงานดีไซน์ ที่สวย เรียบง่ายสไตล์มินิมอล เน้นการโชว์พื้นผิวของไม้จริงจากยุโรป เช่นไม้โอ๊ค ไม้บีช และไม้แอช ขณะเดียวกันก็มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย คัดสรรค์วัสดุคุณภาพดี มีความคงทน ซึ่งทั้ง 3 คอลเลคชั่นนี้ เป็นคอลเลคชั่นที่ดีไซน์ เฉพาะสำหรับแสนสิริเท่านั้น” มร.วินเซนท์ สรุป   สำหรับลูกบ้านและผู้สนใจในโครงการ บุราสิริ และเศรษฐสิริ สามารถเยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง และพบกับคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากฮาบิแททใน 6 โครงการนำร่อง ได้แก่ บุราสิริ วงแหวน-อ่อนนุช บุราสิริ ราชพฤกษ์ 345 เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา และ เศรษฐสิริ วงแหวน ลำลูกกา พร้อมเงื่อนไขพิเศษแพคเกจ เฟอร์นิเจอร์ราคาเริ่มต้น 650,000 บาท หรือสามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com โทร. 1685
“บ้านแอนด์บียอนด์” ตั้งเป้า 5 ปี กวาดรายได้ 50,000 ล้านบาท

“บ้านแอนด์บียอนด์” ตั้งเป้า 5 ปี กวาดรายได้ 50,000 ล้านบาท

บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล ประกาศรีแบรนด์ “โฮมเวิร์ค” 3 สาขาสู่แบรนด์ใหม่ “บ้านแอนด์บียอนด์” โมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านแนวใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค 4.0 หลังทดลองเปิด สาขาเชียงใหม่ ขอนแก่น และพัทยา ประสบผลสำเร็จยอดขายเพิ่ม 20 % พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 สาขา ในอีก 5 ปี รับตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้านที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าปีนี้โต 3.6% มีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท ชูจุดแข็งเป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ที่ให้ทุกอย่างมากกว่าแค่เรื่องบ้าน “BEYOND EXPECTATION” ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยสินค้าคุณภาพดี หลากหลาย ราคาคุ้มค่า พร้อมโซลูชั่นที่ช่วยแก้ทุกปัญหาเรื่องบ้านและบริการที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล กับบริการ vFIX ปรับปรุงซ่อมแซมบ้านผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ Contact Center 1308 พร้อมบริการช็อปออนไลน์ผ่านเว็บ 24 ชม. ไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงช่องทางหน้าร้าน กับออนไลน์ตามแนวคิด OMNI Channel     นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการเปิด “บ้านแอนด์บียอนด์” ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านรูปแบบใหม่ จำนวน 3 สาขา ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น และพัทยา ซึ่งสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจทำรีแบรนด์ดิ้ง (Re-Branding) “โฮมเวิร์ค” เป็น “บ้านแอนด์บียอนด์” โดยตั้งเป้าปรับเปลี่ยนหน้าร้านอีก 3 แห่ง ที่สาขาราชพฤกษ์ สาขารัตนาธิเบศร์ และสาขาภูเก็ต ให้เป็น “บ้านแอนด์บียอนด์” เพื่อให้มีสาขา “บ้านแอนด์บียอนด์” รวมจำนวนทั้งสิ้น 6 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ครบทุกภาคทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ทั้งนี้ จะขยายสาขา “บ้านแอนด์บียอนด์” เพิ่มเป็น 20 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขายรวมของกลุ่มเซ็มทรัลโฮม กรุ๊ป 50,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี “การรีแบรนด์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่มูลค่าตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เป็นโอกาสที่ดีหากบริษัทฯ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ตลาดได้ โดยในปี 2561 พบว่า ตลาดมีแนวโน้มเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.6% หรือมูลค่าตลาดคาดการณ์ประมาณ 200,000 ล้านบาท ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดมาจากปัจจัยหนุนหลายประการ อาทิ การคาดการณ์ GDP ในปีนี้จะโต 4.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ได้รับการกระตุ้นจากโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานเมกะโปรเจคต่าง ๆ การขยายตัวของสังคมเมือง ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ต่อครัวเรือน และจำนวนที่อยู่อาศัยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นใน 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดมีอายุน้อยลง และมีขนาดครอบครัวที่เล็กลง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร เมืองธุรกิจ เมืองท่องเที่ยว และเมืองอุตสาหกรรมโดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งปัจจัยด้านพฤติกรรมการซื้อของตกแต่งบ้านมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคมีความความต้องการที่หลากหลายเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงประเทศไทยกำลังย่างเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้า บริการ และข้อมูลที่รวดเร็ว ตอบสนองได้อย่างฉับไว ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีช่องทางของ Social Media ที่เป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า     อย่างไรก็ดีปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสรีแบรนด์ “โฮมเวิร์ค” เป็น “บ้านแอนด์บียอนด์” Home Improvement Store ที่เป็นโมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านเทรนด์ใหม่ โดยวางตำแหน่งของแบรนด์ให้เป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ที่ให้ทุกอย่างมากกว่าแค่เรื่องบ้าน “BEYOND EXPECTATION” ด้วย 4 หัวใจหลัก คือ สินค้าที่มีสไตล์พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ราคาคุ้มค่าจับต้องได้ มีโซลูชั่นที่ช่วยแก้ทุกปัญหา ทั้งการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้าน และบริการที่ครบทุกความต้องการ ตอบโจทย์ลูกค้าในยุค 4.0 ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม./สาขา พร้อมด้วยสินค้าคุณภาพกว่า 20,000 รายการ โดยมีรูปแบบการจัดเรียงสินค้าที่ต่อเนื่องกัน ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น” นายสุทธิสารกล่าว     นายสุทธิสารกล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งใน Pain point ของลูกค้า คือ เรื่องการซ่อมแซมบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ “บ้านแอนด์บียอนด์” จึงเปิดบริการ vFIX บริการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ติดตั้ง เปลี่ยนหรือย้ายจุดอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน จากช่างผู้เชี่ยวชาญผ่านการทดสอบตามมาตรฐานกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมรับประกันผลงานนานสูงสุด 180 วัน ในราคาที่จับต้องได้ ผ่าน Contact Center 1308 เพื่อบริการลูกค้าฉับไว โดยจะเริ่มให้บริการ vFIX ภายใน 31 สิงหาคม 2561 และ vFIX Application ในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.baanandbeyond.com เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงช่องทางหน้าร้าน กับออนไลน์ ตามแนวคิด OMNI Channel ภายในเดือนกันยายน 2561   นายสุทธิสารกล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และเป็นการฉลองเปิดตัว “บ้านแอนด์บียอนด์” อย่างเป็นทางการ บริษัทฯ กำหนดจัดงาน baan & BEYOND Expo 2018 งานมหกรรมสินค้าตกแต่ง ซ่อมแซมบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี พร้อมสินค้าราคาลดสูงสุด 80% จากกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ รวมทั้งกิจกรรมและรายการส่งเสริมการขายพิเศษมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 7 ตุลาคม 2561 ณ ไบเทค บางนา Hall 101-104
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ผนึก “แสนสิริ”  เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ XT Flexible Furniture ครั้งแรกในไทย

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ผนึก “แสนสิริ” เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ XT Flexible Furniture ครั้งแรกในไทย

  บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด นำโดย นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ จับมือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ ซึ่งแสนสิริได้เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ XT Flexible Furniture ครั้งแรกในไทย ในงาน “XT DIMENSION” งานพรีเซลล์แนวใหม่ เปิดตัวโครงการ XT New Lifestyle Condominium นิยามใหม่ของไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมที่มาพร้อมกับประสบการณ์การอยู่อาศัยแนวใหม่แห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Extend Your Style” พร้อมนำเสนออิสระในการใช้ชีวิตของชาวมิลเลนเนียล ให้สามารถใช้ชีวิตแบบสมาร์ท ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำในทุกโครงการ XT ได้แก่ XT เอกมัย, XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท ผ่านการจัดแสดง XT Flexible Furniture ที่ผลิตและพัฒนาร่วมกับทาง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เหนือชั้นกับจุดเด่นของ XT Flexible Furniture ที่สามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ให้กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันด้วยปลายนิ้วสัมผัส ผ่านการควบคุมของ Home Service Application ของแสนสิริ ให้คุณนำเทรนด์กว่าใครกับการแปลงโฉมรองรับการใช้งานแบบกั้นห้องแต่งตัวเสมือน Walk-in Closet ขยายพื้นที่รองรับการจัดปาร์ตี้ เปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้เป็น Sofa Bed ในวันที่เพื่อนมาค้างที่บ้าน รวมทั้งยังสามารถปรับเตียงให้เป็น Super Sofa สุดสบายในวันพักผ่อน และแพทเทิร์นอื่นๆ มากมาย
ซีคอนโฮมจับมือ แกรนด์โฮมมาร์ท เลือกวัสดุตามฮวงจุ้ย

ซีคอนโฮมจับมือ แกรนด์โฮมมาร์ท เลือกวัสดุตามฮวงจุ้ย

บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านรายแรกในประเทศไทย จับมือร่วมกับพันธมิตร บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด จัดกิจกรรม “รู้จริง เห็นจริง ก่อนสร้างบ้าน” ที่เดียวจบ ครบทุกเรื่องสร้างบ้าน ให้กับผู้ที่กำลังสร้างบ้านและเลือกสรรของตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเลือกใช้วัสดุต่างๆ สำหรับใช้ในบ้าน และพาชมสินค้าต่างๆ พร้อมบรรยายเรื่อง ฮวงจุ้ยกับการสร้างบ้าน โดยมี คุณมนู ตระกูลวัฒนะกิจ (ยืนกลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด และนางประไพ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด(ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมให้การต้อนรับ ณ Grand Home Mart ถนนบางนา-ตราด
ฉลอง “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” บางกรวย-ไทรน้อย  สาขาใหม่ล่าสุด แห่งที่ 29 เปิด 9 ส.ค.นี้

ฉลอง “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” บางกรวย-ไทรน้อย สาขาใหม่ล่าสุด แห่งที่ 29 เปิด 9 ส.ค.นี้

เตรียมพบกับสาขาใหม่ล่าสุด ของ “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” (Index Living Mall) ผู้นำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านคุณภาพมาตรฐานโลก กับการฉลองยิ่งใหญ่สาขาที่ 29 “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” สาขาบางกรวย-ไทรน้อย (ในเทสโก้ โลตัส) จุดหมายใหม่แห่งเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน พบโปรโมชั่นสุดพิเศษคุ้มกว่าใคร เฟอร์นิเจอร์ของใช้ของแต่งบ้าน ที่นำมาลดสูงสุด 50%, ใบเสร็จเทสโก้ โลตัส (Tesco Lotus) 500.- ขึ้นไป ฟรีคูปองส่วนลด 100.-, สินค้าซื้อ 1 แถม 1, สินค้าสุดฮอตทีเด็ดรายสัปดาห์, แลกซื้อสินค้าราคาสุดคุ้ม ตลอดจนพบสินค้าราคาพิเศษมากมาย เริ่มต้น 129.- ระหว่างวันที่ 9-13 สิงหาคมศกนี้ เพียง 5 วันเท่านั้น พิเศษดีลประจำวันกับสินค้าราคาสุดว้าว!! ราคา 29.- (รับสิทธิ์ซื้อสินค้า 1 ชิ้น/ท่าน/วัน/รายการ) นอกจากนี้ สำหรับสมาชิก Joy Card รับสิทธิพิเศษเมื่อช้อปสินค้าครบ 1,000.-ขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรี พรีม่า อาร์ต คูปองส่วนลด 800.- ยังไม่หมดเท่านี้!! ว้าว!! กับโบนัส 5 ต่อ โบนัสแรก ช้อปครบ 500.- ฟรีคูปองส่วนลด 500.-, โบนัสต่อที่ 2 ช้อปครบ 10,000.- คืน 1,000.-, โบนัสต่อที่ 3 ช้อปครบ…รับฟรี ช้อปครบ/ใบเสร็จ 2,000.- ขึ้นไป รับฟรีร่ม Index มูลค่า 350.- ช้อปครบ/ใบเสร็จ 3,000.- ขึ้นไป รับฟรี Power Bank 5,000Amh มูลค่า 890.- ช้อปครบ/ใบเสร็จ 20,000.- ขึ้นไป รับฟรี กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว มูลค่า 3,500.-, โบนัสต่อที่ 4 สุดยอดนักช้อป รับฟรี พรีม่า อาร์ต (Prima Art) แผ่นภาพฉลุทองคำ 99.9% ปลาคาร์ฟแห่งโชคลาภ จำนวน 2 รางวัลๆ ละ 13,500.- และโบนัสต่อที่ 5 สมัครสมาชิก Joy Card ฟรี พร้อมรับคะแนน 10,000.- คะแนน ตลอดจนสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ   แล้วไปช้อปสุดมันส์พร้อมโปรโมชั่นดีๆ พร้อมกันที่ “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” สาขาบางกรวย-ไทรน้อย (ในเทสโก้ โลตัส) เปิด 9 สิงหาคมนี้!! สอบถามเพิ่มเติมโทร.0-2059-7130
สยามไฟเบอร์กลาสเปิดตัวแผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด ขั้นกว่าของนวัตกรรมแผ่นโปร่งแสงเคลือบยูวี 2 ด้าน เอาใจคนรักบ้าน แต่งบ้านรับฝนแบบรักษ์ธรรมชาติ

สยามไฟเบอร์กลาสเปิดตัวแผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด ขั้นกว่าของนวัตกรรมแผ่นโปร่งแสงเคลือบยูวี 2 ด้าน เอาใจคนรักบ้าน แต่งบ้านรับฝนแบบรักษ์ธรรมชาติ

บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (SCG Cement-Building Materials) ผู้ผลิต แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด ผลิตจากโพลิเอสเตอร์เรซินชนิดพิเศษ และไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ทนทานต่อสภาพทุกอากาศเหมาะสำหรับการต่อเติม หรือเพิ่มพื้นที่ทั้งในส่วนหลังคา หรือผนังห้อง ที่ต้องการใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย หรืออาคารสถานที่ต่างๆที่ให้ความสวยงาม มีสไตล์ ใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยสีสันที่มีให้เลือกถึง 9 เฉดสี ช่วยกระจายแสงจากธรรมชาติให้เข้ามาในอาคารโดยไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน ด้วยขั้นกว่าของนวัตกรรมการผลิต UV Shield ที่เคลือบฟิล์มประสิทธิภาพสูง 2 ด้าน ทำหน้าที่เป็นชั้นเคลือบเสมือนเกราะป้องกันรังสียูวีอันเป็นสาเหตุที่ทำให้แผ่นเสื่อมสภาพได้ถึง 99% จึงทำให้แผ่นมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้นเป็นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเติมสาร UV Pigment-shield ที่เป็นสารช่วยเพิ่มการยึดเกาะของโมเลกุลได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สีของแผ่นสวยงามและกระจายตัวกันอย่างสม่ำเสมอเพิ่มพลังการยึดเกาะของชั้นสีให้มากกว่าวัสดุทั่วไป   โดยผู้ที่สนใจ สามารถเลือกชมสินค้าตัวอย่างหรือขอรายละเอียดสินค้า และคำปรึกษาเพิ่มเติม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ได้ที่ SCG Experience และ SCG Contact Center 02-586-2222
ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน

ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน

เราทุกคนใช้เวลาอยู่บนที่นอนเป็นเวลา 1 ใน 3 ของวันเพื่อการพักผ่อน แต่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่า ภัยเงียบที่เราต้องเผชิญตลอดเวลาที่อยู่    บนที่นอนเป็นสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหืด ผื่นผิวหนังอักเสบ หรือโรคแพ้อากาศ ฯลฯ ซึ่งกว่า 70% มี “ไรฝุ่น” เป็นตัวการสำคัญ   ปัญหาไรฝุ่น มักจะหลุดรอดจากการกำจัดเกือบทุกครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะตั้งใจทำความสะอาดเช็ดถูทุกซอกอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม เพราะฝุ่นละอองขนาดจิ๋วและไรฝุ่นพวกนี้มีขนาดเพียง 0.1-0.3 มิลลิเมตรเท่านั้น!! แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรบ้างถ้าจะกำจัดไรฝุ่นให้หมดไป?     เคล็ดลับทั่วไปที่เราต่างก็คุ้นเคยกันอยู่แล้วคือ หมั่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ ซักผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนด้วยน้ำอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส ตากให้แห้งสนิทและเก็บไว้ในถุงที่มิดชิด หมั่นทำความสะอาดห้องนอน ดูดฝุ่น และเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณ ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าในห้องนอน   จริงๆ เราก็พยายามทำตามวิธีเหล่านี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ล่าสุดเราเพิ่งเจอตัวช่วยสุดเจ๋ง ที่ทำให้เจ้าไรฝุ่นตัวจิ๋วพวกนี้แทบจะหายไปในพริบตา    นั่นก็คือ “เครื่อง  ดูดฝุ่น Dyson V8 Carbon Fibre” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก Dyson ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จุดเด่นของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวนี้คือ พลังการดูดทำความสะอาดที่เพิ่มขึ้นอีก 30% แถมยังพัฒนาเทคโนโลยีไซโคลนการกรองอากาศแบบทั้งเครื่องอีก เลยจัดมาลองด้วยตัวเองซักหน่อยค่ะ     แกะกล่องมาก็เจอกับอุปกรณ์ต่างๆ มากมายชวนให้งง แต่หลังจากอ่านคู่มือแล้วเรารีบหยิบ “หัวดูดฝุ่นที่นอน” มาก่อนเลย และที่ Dyson มีหัวต่อในเซ็ตมากมายแบบนี้ก็เพราะว่าหัวต่อแต่ละชิ้นถูกออกแบบมาเฉพาะการใช้งาน ให้เราสามารถเลือกใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นละอองได้มากยิ่งขึ้นด้วย       ต้องบอกก่อนว่า “Dyson V8 Carbon Fibre” ตัวนี้ ทางบริษัทเค้าเคลมไว้ว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีความแรงถึง 155 AW (น่าจะแรงที่สุดในไลน์เครื่องดูดแบบไร้สายละ) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีชุดไซโคลน 2 Tier Radial™ (เรเดียล 2 ชั้น) ที่ทำงานคู่ขนานกันในการช่วยเพิ่มกระแสลม และ  การดักจับฝุ่นละออกขนาดเล็กจากแรงเหวี่ยงของกระแสลมเข้าสู่ถังเก็บฝุ่น แถมระบบที่ว่านี้ยังถูกผนึกอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการเล็ดลอดของละอองฝุ่นต่างๆ ออกจากตัวเครื่องด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าระหว่างที่เรากำลังตั้งใจดูดฝุ่นทำความสะอาดให้หมดจดอยู่นั้น ลมที่ระบายผ่านฟิลเตอร์ออกมาขณะที่เครื่องทำงานก็จะยังสะอาด และไม่มีพวกสารก่อภูมิแพ้ที่เรามองไม่เห็นออกมาปะปนในอากาศอีก     หลังจากที่เราบ้าพลังเลือกโหมด MAX พลังดูดเบอร์แรงสุดจัดการกับที่นอนไป 5 นาที ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นในถังเก็บฝุ่น จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไงล่ะคะ ทั้งๆ ที่เราเพิ่งทำความสะอาดที่นอนและเปลี่ยนผ้าปูเตียงไปเมื่อ 2-3 วันก่อน เรายังนอนจมอยู่บนกองไรฝุ่นเยอะขนาดนี้เลยหรอ? เห็นแล้วก็รู้สึกสยองหน่อยๆ ....ตอนนี้เชื่อเลยค่ะว่าเครื่องดูดฝุ่น Dyson สามารถจัดการกับไรฝุ่นที่ฝังตัวอยู่บนที่นอนได้เกือบ 100% นั้นไม่ใช่แค่ราคาคุย  แล้วล่ะ   นอกจากหัวดูดฝุ่นที่นอนที่เราได้ทดสอบประสิทธิภาพกันแล้ว Dyson V8 Carbon Fibre ยังมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือ หัวแปรงดูด Carbon Fibre ที่มีทั้งแบบหัวลูกกลิ้งขนนุ่ม (Fluffy) ซึ่งหุ้มด้วยผ้าไนลอนทำหน้าที่กักเก็บสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ ในขณะที่ขนแปรงคาร์บอนไฟเบอร์ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ จะดูดฝุ่นผงขนาดเล็กสกปรกขนาดใหญ่และฝุ่นละอองขนาดเล็กออกจากพื้นแข็งไปพร้อมๆ กัน ส่วนหัวดูดแบบ Direct Drive จะมี    ขนแปรงยาวพร้อมเส้นคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับทำความสะอาดพื้นแข็งและพรม     ความเจ๋งของ Dyson V8 Carbon Fibre นี้ไม่ได้มีดีแค่พลังดูดแบบไซโคลนเท่านั้นนะคะ การดีไซน์ตัวเครื่องก็รู้สึกได้เลยว่าทีมพัฒนาเข้าใจถึงการใช้งาน และใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ทั้งแทนแขวนที่ทำให้จัดเก็บได้ง่ายและเป็นระเบียบไปพร้อมกับการชาร์จแบตเตอรี่, ด้ามจับที่ถนัดมือไม่ว่าจะถือใช้งานในที่สูงหรือถือในลักษณะปกติ, ตำแหน่งของปุ่มเปิดปิดที่อยู่ใกล้นิ้วตรงด้ามจับทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายในมือเดียว, วิธีการเปิดถังเก็บฝุ่นที่ทำได้ง่ายในขั้นตอนเดียว แค่ดึงตัวล็อคที่ด้านบนฝาถังด้านล่างก็เปิดออก เศษฝุ่นก็ตกลงถังขยะหรือภาชนะรองรับได้เลย ไม่ต้องยกถุงฝุ่น    ไปเทแบบเดิมๆ และไม่ต้องกลัวเรื่องฝุ่นคลุ้งกระจายอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญ Dyson V8 Carbon Fibre เครื่องนี้ ยังพัฒนาความสามารถของแบตเตอรี่ให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องนานถึง 40 นาที (ในโหมดปกติ) ซึ่งก็เพียงพอต่อการทำความสะอาดห้องนอน หรือคอนโดในแต่ละครั้ง    แล้วค่ะ หรือถ้าใครไม่สะใจอยากใช้โหมด MAX ด้วยพลังดูดแบบจัดเต็มก็จะใช้งานต่อเนื่องได้แค่ 5 นาทีนะคะ แต่เอาเข้าจริงโหมดปกติก็มีพลังดูดแรงกว่าเครื่องอื่นๆ และเพียงพอต่อการใช้งานแล้วค่ะ     หลังจากที่เราได้ใช้งานจริงมาเกือบเดือน ต้องบอกว่า Dyson V8 Carbon Fibre  ตัวนี้กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญประจำบ้านไปแล้วค่ะ อุปกรณ์แต่ละชิ้นไม่ว่าจะถอดจะต่อก็ทำได้รวดเร็ว การทำความสะอาดบ้านแต่ละครั้งไม่ว่าจะซอกมุมไหนของบ้านก็มั่นใจได้ว่าสะอาดเอี่ยมแน่นอน ถึงแม้แรกๆ       จะแอบงงบ้างว่าจะใช้หัวต่อไหนกับงานประเภทไหนดี แต่ใช้ไปซักพักก็เริ่มชินและจะมีหัวต่อไม่กี่ชิ้นหรอกที่เรามักจะหยิบใช้กันบ่อยๆ ซึ่งหัวที่ใช้บ่อยก็สามารถนำมาเก็บไว้แท่นแขวนได้อีกเช่นกันค่ะ   ถึงแม้ราคาค่างวดของตัวเครื่องจะค่อนข้างสูง ทำให้หลายคนอดตกใจและลังเลในการตัดสินใจซื้ออยู่ไม่น้อย แต่เชื่อเถอะว่านี่คือ เครื่องดูดฝุ่น      ไร้สายที่คุณพ่อบ้านแม่บ้านน่าจะมีไว้ในครอบครองจริงๆ ค่ะ.... แล้วภาระกิจกำจัดผู้ร้ายบนที่นอน รวมถึงฝุ่นละอองตัวจิ๋วตามจุดต่างๆ จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดาย และไม่มีวายร้ายตัวไหนหลุดลอดสายตาไปอีกแน่นอน   **สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าและร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ  
นวัตกรรมแผ่นยิปซัมรุ่นใหม่ที่ทลายข้อจำกัดแบบเดิมๆ!

นวัตกรรมแผ่นยิปซัมรุ่นใหม่ที่ทลายข้อจำกัดแบบเดิมๆ!

โซลูชั่นส์ระบบผนังยิปซัมรุ่นใหม่สำหรับใช้ในพื้นที่เปียกชื้นสูง มอบประสิทธิภาพทนความชื้นดีเยี่ยม ถูกสุขอนามัย และให้ความทนทานที่คุณคาดไม่ถึง! สำหรับวงการก่อสร้าง เป็นที่รู้กันดีว่าระบบผนังยิปซัมนั้นเป็นโซลูชั่นส์ที่มีความคุ้มค่าในเรื่องของราคา ติดตั้งได้ง่ายและให้งานผนังที่สวยเนี้ยบตามมาตรฐาน อีกทั้งเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งในการก่อสร้างบ้านพักอาศัยหรือสำนักงานตลอดช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ระบบผนังยิปซัมยังมีขั้นตอนการทำงานที่ไม่ซับซ้อนรวดเร็ว และให้ความยืดหยุ่นในการสร้างผนังเพื่อกั้นห้อง หรือแบ่งพื้นที่ได้สะดวก นอกจากการติดตั้งง่าย ระบบผนังยิปซัมยังมีคุณสมบัติกันไฟลุกลามภายในอาคาร ทั้งยังสามารถติดตั้งได้ในอาคารทั่วไปโดยเสียค่าแรงต่ำกว่าผนังระบบอื่นมาก อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าระบบผนังยิปซัมมีข้อดีมากมาย แต่เมื่อพูดถึงพื้นที่เปียก บรรดาช่างก่อสร้างกลับปฏิเสธระบบผนังยิปซัมกันทั้งสิ้น     เนื่องจากระบบผนังยิปซัมที่เสียหายเพราะความชื้นถือเป็นฝันร้ายที่ยากเกินจะเยียวยา ซึ่งเกิดจากแผ่นยิปซัมมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้เป็นอย่างดีนั่นเอง และแน่นอนว่าพื้นผิวกระดาษปิดแผ่นยิปซัมทั่วไปนั้นยังเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราเป็นอย่างมากอีกด้วย ซึ่งเชื้อรามักเติบโตได้ดีในพื้นที่อาคารที่มีความชื้นและอากาศไม่ถ่ายเท อีกทั้งการสูดกลิ่นเชื้อราหรือสปอร์ของรายังทำให้เกิดการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดอาการคัดจมูก จาม แน่นหน้าอก ไอและการระคายเคืองในลำคอ   เท่าที่ผ่านมา ระบบผนังยิปซัมจึงไม่ใช่โซลูชั่นส์ที่เหมาะสำหรับพื้นที่เปียกชื้นเลย พื้นที่เปียกชื้นนั้นมีการจัดประเภทตามระดับความเสี่ยงและยังมีการกำหนดว่าผนัง พื้น ทางแยก และการซึมผ่านแบบใดจะต้องเป็นประเภทกันน้ำ (waterproof) หรือทนน้ำ (water-resistant) พื้นที่เปียกชื้นที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่ห้องอาบน้ำและห้องซักรีดที่จำเป็นต้องมีตะแกรงระบายน้ำและพื้นที่ฝักบัวอาบน้ำ พื้นที่เปียกชื้นที่มีความเสี่ยงปานกลางคือพื้นที่ในห้องน้ำนอกห้องฝักบัวและพื้นที่ใกล้ห้องอาบน้ำและสปา พื้นที่เปียกชื้นที่มีความเสี่ยงต่ำคือห้องใช้งานทั่วไปและห้องส้วมแบบแห้ง รวมไปถึงผนังใกล้อ่างล้างจานและอ่างอาบน้ำ (แม้จะมีข้อโต้แย้งในเรื่องนี้จากบรรดาช่างติดตั้งอยู่บ้างก็ตาม)   ปัจจุบัน เทคโนโลยีการผลิตแผ่นยิปซัมได้พัฒนาไปไกลมาก จนสามารถผลิตแผ่นยิปซัมรุ่นใหม่ที่ลบข้อจำกัดการใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นสูง และสามารถเปลี่ยนความคิดที่มีต่อผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมและระบบผนังยิปซัมเดิม ๆ ให้หมดไป แม้ผนังก่ออิฐฉาบปูนจะเป็นตัวเลือกมาตรฐานมาเป็นเวลานานสำหรับช่างก่อสร้าง แต่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ทำให้ในวันนี้ ยิปรอคขอเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ผู้บริโภคในประเทศไทยที่จะพลิกโฉมการก่อสร้างระบบผนังยิปซัมภายในบ้านไปตลอดกาล ด้วยประสิทธิภาพการกันน้ำสำหรับพื้นที่เปียกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน   และที่สำคัญ โซลูชั่นส์ระบบผนังยิปซัมต่อต้านความชื้นสูงของยิปรอคยังคงข้อดีของผนังยิปซัมแบบเดิมไว้อย่างครบถ้วน ทั้งการติดตั้งง่ายรวดเร็วและประหยัดงบประมาณ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของยิปรอค ในฐานะผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างชั้นนำมาตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา   ยิปรอคนำเสนอผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นหลายประเภทพร้อมระบบการติดตั้งที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานเฉพาะตัวหรือการใช้งานทั้งระบบ ก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ ด้วยคุณสมบัติทนความชื้น ติดตั้งง่าย ต่อต้านการเกิดเชื้อรา หน่วงการติดไฟ มีอายุการใช้งานยาวนานและง่ายต่อการทำความเข้าใจและติดตั้งหน้าไซต์งาน ทั้งหมดนี้ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อการบรรลุเป้าหมายสูงสุด นั่นคือการสร้างสรรค์โซลูชั่นส์ก่อสร้างระบบผนังยิปซัมภายใต้แนวคิด Multi-Comfort เพื่อยกระดับความสะดวกสบาย สุขอนามัย และความสุขของผู้พักอาศัยภายในบ้าน ผ่านการมอบสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างที่ดีเยี่ยม     โซลูชั่นส์ระบบผนังยิปซัมทนชื้นสูงของยิปรอคมอบคุณสมบัติที่ทุกคนปรารถนา โดยสามารถลบข้อเสียของระบบผนังยิปซัมรูปแบบเดิมให้หมดไปได้ และมอบประสิทธิภาพสูงสุดแก่เจ้าของบ้าน พร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งกว่า ผนังยิปซัมรุ่นใหม่จากยิปรอคมอบการปกป้องที่ดีเยี่ยมด้วยคุณสมบัติต่อต้านการดูดซึมน้ำและป้องกันการซึมผ่านของความชื้น และต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อราและเห็ดราได้เป็นอย่างดี   ยิปรอค กลาสรอค  เอช โอเชียน (Gyproc® Glasroc® H OCEAN) เป็นโซลูชั่นส์ระบบผนังยิปซัมจาก ยิปรอคที่เหมาะสำหรับการก่อสร้างผนังภายในบนพื้นที่เปียกชื้นสูงซึ่งสัมผัสกับน้ำในระดับปกติ มอบความแข็งแกร่งทนทาน โดยสามารถปูกระเบื้องทับได้เหมือนผนังทั่วไปหรือทาสีเพื่อใช้งานได้โดยไม่ต้องปูกระเบื้อง ด้วยองค์ประกอบของแผ่นยิปซัมซึ่งเป็นสารอนินทรีย์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถทนความชื้นและเชื้อราได้เป็นอย่างดี จึงมอบสุขอนามัยที่ดีกว่าแผ่นยิปซัมแบบเดิมๆ  นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ Glassfiber Reinforced Gypsum (GRG) โดยใช้ชั้นไฟเบอร์กลาสเคลือบแทนการปิดผิวด้วยกระดาษ อีกทั้งวัสดุแกนกลางของแผ่นยิปซัมยังมีคุณสมบัติการดูดซึมน้ำ ผสานกับชั้นสีรองพื้นสีฟ้าที่ช่วยลดการซึมน้ำจากพื้นผิวผนังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งพื้นผิวของแผ่นยิปซัมรุ่นนี้ยังมีคุณภาพสูง พร้อมสำหรับการปูกระเบื้องทับได้ทันที หรือทาสีได้อย่างเรียบเนียน   ยิปรอค กลาสรอค  เอช โอเชียน มอบพื้นผิวผนังที่เหมาะสำหรับการปูกระเบื้องเพื่อพื้นที่เปียกชื้นสูงที่สัมผัสกับน้ำหรือความชื้นบ่อยครั้ง อาทิ ห้องฝักบัว ห้องอาบน้ำ ห้องโถงสระว่ายน้ำที่อยู่ในสภาพแวดล้อมควบคุมที่มีการระบายอากาศ หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง     3 ผลิตภัณฑ์เพื่อการสร้างสรรค์ระบบผนังยิปซัมที่เต็มประสิทธิภาพ ได้แก่ ยิปรอค กลาสรอค เอช โอเชียน (Gyproc® Glasroc® H Ocean) แผ่นยิปซัมอัจฉริยะที่มีคุณสมบัติทนความชื้นสูงและเชื้อรา พร้อมมอบความแข็งแรง ทนทานด้วยความหนาถึง 12.5 มม. ยิปรอค ไฟเบอร์ เทป ไฮโดร (Gyproc®Fibre Tape HYDRO) เทปตาข่ายใยแก้วทนชื้นเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงของรอยต่อของแผ่นยิปซัม ช่วยป้องกันการแตกร้าวและมอบคุณสมบัติในการทนความชื้นและต่อต้านการเติบโตของเชื้อรา เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่เปียกหรือสัมผัสน้ำและความชื้นตลอดเวลา  และ ยิปรอค ยิปฟิลล์ จอยท์ ไฮโดร (Gyproc® Gypfilltm JOINT HYDRO) ปูนฉาบรอยต่อที่มีคุณสมบัติทนชื้น ช่วยให้งานฉาบรอยต่อเรียบเนียน อีกทั้งใช้ตกแต่งพื้นผิวได้โดยตรง เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่เปียกชื้นสูงหรือสัมผัสน้ำและความชื้นตลอดเวลา กรุณาดูข้อมูลที่เว็บไซต์ http://www.gyproc.co.th/ หรือhttps://www.facebook.com/GyprocTH/  
“โฮมโปร” สร้างปรากฏการณ์ความคึกคัก  จัดงาน “โฮมโปร แฟร์” ช้อป กิน บิน เที่ยว งานแฟร์เรื่องบ้านที่ทุกคนต้องมา

“โฮมโปร” สร้างปรากฏการณ์ความคึกคัก จัดงาน “โฮมโปร แฟร์” ช้อป กิน บิน เที่ยว งานแฟร์เรื่องบ้านที่ทุกคนต้องมา

นายวีรพันธ์  อังสุมาลี  รองกรรมการผู้จัดการ  บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร”  เป็นประธานเปิดงานเรื่องบ้านสุดยิ่งใหญ่ “โฮมโปร แฟร์” “ช้อป กิน บิน เที่ยว” งานแฟร์เรื่องบ้าน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว ยกขบวนสินค้าแบรนด์ชั้นนำมามอบส่วนลดสูงสุดกว่า 70% พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษมากมาย พบไฮไลท์เด็ดภายในงานกับร้านอาหารต้นตำรับกว่า 150 ร้านค้าทั่วกรุง พร้อมชมโชว์ และการละเล่นสนุกๆ ในบรรยากาศสุดคลาสสิค ตลอด 10 วัน พบกับมหกรรมความสนุก ครบ คุ้ม พร้อมโปรโมชั่น ราคาพิเศษ รับประกันความสุขล้นมือตลอดทั้งงาน ตั้งแต่ 20-29 กรกฎาคม 2561 ณ ฮอลล์ 5-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ไอเดียตกแต่งคอนโดลุคใหม่ เรียบหรูมีสไตล์ด้วยลายหินอ่อน

ไอเดียตกแต่งคอนโดลุคใหม่ เรียบหรูมีสไตล์ด้วยลายหินอ่อน

เคยได้ยินกันไหมคะ ว่าที่อยู่อาศัยของเรานั้นสามารถสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์เจ้าของได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากใครที่อยู่คอนโดมิเนียมแล้วล่ะก็ จะยิ่งมีพื้นที่ส่วนตัวให้ใส่ความเป็นตัวเองลงไปได้อย่างเต็มที่มากที่สุด ตั้งแต่โซฟา เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม โต๊ะ ตู้ หรือของตกแต่งภายในห้อง ทุกอย่างเราดีไซน์ได้ด้วยตัวเองง่ายๆ     เฟอร์นิเจอร์ สำหรับยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงเครื่องใช้สำหรับอำนวยความสะดวกภายในบ้านของเราเท่านั้น แต่ด้วย เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นใหม่ๆ มาให้เลือกมากมายจนตาลายไปหมด ซึ่งทำออกมาทั้งดีไซน์สวยงาม ฟังก์ชั่นมีสไตล์ เฉพาะตัว แถมยังขยันใส่นวัตกรรมลงไปบนวัสดุ เพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้คุ้มค่ามากที่สุด ทำให้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นนั้น เปรียบเสมือนเครื่องประดับภายในบ้านของเราที่สำคัญไม่ใช่เค่รูปลักษณ์ที่ต้องดูสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสามารถ ใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ได้ด้วย ยิ่งในคอนโดมิเนียมก็ยิ่งต้องเลือกเป็นพิเศษ เพราะพื้นที่อันจำกัดจึงต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่ลงตัวกับทุกมุมห้อง แล้วเฟอร์นิเจอร์แบบไหนล่ะคะ ที่จะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งสวยงามโดนใจ ใช้งานได้สะดวก และมีความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน   ก่อนหน้านี้เทรนด์การตกแต่งสไตล์ Modernloft เป็นกระแสมาแรงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม หรือแม้แต่เหล่าร้านกาแฟที่ต่างก็ใช้คอนเซปนี้กันถ้วนหน้า ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากผนังปูนเปลือย ขัดมัน หรืออิฐมอญผสมคอนกรีต ประกอบกับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้วัสดุไม้กับเหล็กสีดำเป็นหลัก เน้นพื้นที่โปร่งโล่ง เผยให้เห็นวัสดุดิบๆ ทำให้สื่อถึงความเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด แฝงความเท่แบบมีสไตล์ แต่สำหรับเทรนด์ล่าสุดที่กำลังได้รับ ความนิยมไม่น้อยเช่นกัน กลับมีความแตกต่างจากสไตล์โมเดิร์นแบบที่เห็นกันทั่วไป เพราะต่างก็หันมาคำนึงถึงเรื่อง Timeless คุณค่าความงดงามเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปีก็ทรงเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ซึ่งจะมาในรูปแบบของผนัง ของตกแต่งต่างๆ และเฟอร์นิเจอร์   เดี๋ยวนี้คอนโดมิเนียมหลายแห่งที่ถูกดีไซน์ทั้งสถาปัตยกรรมภายนอกและตกแต่งภายในเอาไว้อย่างหรูหราสวยงามน่าอยู่ มากเลยใช่ไหมคะ ยิ่งถ้าใครที่เคยเข้าไปดูห้องตัวอย่างของแต่ละโครงการที่มีเฟอร์นิเจอร์สวยๆ มีฟังก์ชั่นการใช้งานได้ หลากหลายจะทำให้ห้องดูดีขึ้นในทันตา โดยระยะหลังมานี้จะสังเกตได้ว่าหลายแห่งก็มักนิยมนำลายหินอ่อน มาประดับตกแต่ง ไว้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของห้อง จนเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ล่าสุดสำหรับการตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทานข้าว ผนังห้อง หรือ Top ผิวต่างๆ เพิ่มความสวยงามเรียบหรูที่สามารถเข้ากับการตกแต่งห้องได้ทุกแนว    ส่งให้ห้องของเราออกมาดูหรูหราอย่างมีสไตล์เฉพาะตัว แต่การที่จะตกแต่งคอนโดมิเนียมให้ออกมาดูเรียบโก้หรูหรานั้น ก็ดูจะต้องใช้งบประมาณ  ไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ โดยเฉพาะกับลายหินอ่อนสวยๆ สร้างบรรยากาศคลาสสิคไม่ตกยุค แต่วันนี้เรามีไอเดียแต่งคอนโดมิเนียมแนวหรูหรา ดูดี      มีระดับด้วยลายหินอ่อนผสมผสานกับความเรียบง่าย มาฝากคนที่กำลังอยากจัดห้องลุคใหม่ ที่สำคัญใช้งบประมาณเริ่มต้นแค่หลักพันค่ะ   ห้องที่ดูเรียบง่ายบนความโมเดิร์น สื่อถึงบุคลิคที่เป็นผู้ใหญ่ ดูอบอุ่นด้วยวัสดุไม้ที่นำมาสลับกับลูกเล่นลายหินอ่อน เพิ่มความหรูหรา มีชีวิตชีวา      ไม่เรียบจนจืดชืดเกินไป   ลายหินอ่อนก็นำมามิกซ์แอนด์แมทซ์กับผนังสีสันจัดจ้านได้ดีเหมือนกันนะคะ สามารถสะท้อนบุคลิกสนุกสนานขี้เล่นแต่ยังคงความมีสไตล์ตามแบบฉบับคนเจน Y     KONCEPT เอาใจคนที่อยากตกแต่งคอนโดมิเนียมให้หรูหรากับชุดห้องนอน “Marzera” (มาร์เซร่า) ที่นำเอาความโดดเด่นของลายหินอ่อนโทนสีขาว โดยใช้วัสดุ Short Cycle ลายหินอ่อน, สีขาว ร่วมกับวัสดุ Poly High Gloss(PHG) มาปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ ให้เรียบเนียน และยังได้ความมันวาวที่จะช่วยเพิ่มมูลค่า ให้ความรู้สึกสวยหรู ดูแพงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ทนทานต่อรอยขูดขีดได้เป็นอย่างดี ซึ่งดีไซน์ตัดกับวัสดุ Foil ลายไม้ที่มีให้เลือก 2 โทนสี คือ สีลินด์เบิร์กโอ๊ค โทนไม้สว่างๆ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และสีเวงเก้ ทำให้ห้องดูขรึม ให้สไตล์มาดเท่ ดูมีเอกลักษณ์ ชัดเจนขึ้น สร้างบรรยากาศให้ห้องของเรามีกลิ่นอายของธรรมชาติ ตัดขอบด้วยวัสดุ Aluminium Edge ปิดรอยต่อให้ดูสวยงาม และกระจกเงาช่วยดึงเฟอร์นิเจอร์ให้ยิ่งดูโดดเด่นขึ้นไปอีก ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างที่เรียกว่า Timeless ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงดูดีอยู่เสมอ โดย        เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อยกเซตนะคะ แต่สามารถซื้อแยกชิ้นแล้วนำมามิกซ์กันตามความชอบได้ ซึ่งจะมีมาให้เลือกหลายหลาย เช่น   หัวเตียงทรงสูง ดีไซน์ตัดขอบคิ้ว Aluminium Edge ที่อวดลวดลายหินอ่อนตรงหัวเตียง ให้สัมผัสเงางาม เพิ่มความหรูระดับสิบ พร้อมฟังก์ชั่นช่องเก็บของ ซึ่งเจาะพื้นที่ภายในเป็นกระจกเงาให้ห้องสวยดูมีมิติยิ่งขึ้น ประกอบกับ Foil ลายไม้ ตรงฐานเตียง โดยตามภาพจะเป็นสีลินด์เบิร์กโอ๊ค       ดูสว่างแฝงด้วยความอบอุ่น   โต๊ะเครื่องแป้งแบบยืนช่วยลดพื้นที่ในการวางให้สามารถเข้ามุมได้อย่างพอดีแถมไม่เปลืองพื้นที่ ทำให้คุณได้โพสต์ท่าเก๋ๆ พร้อมกระจกเงาบานยาวเต็มตัว เสริมความมั่นใจในการแต่งตัว เพิ่มฟังก์ชั่นตะขอแขวนและชั้นวางของอเนกประสงค์ ด้านข้าง ช่วยให้การแต่งตัวของคุณสะดวกสบายและ  ง่ายขึ้น     ไม่ว่าคุณจะชอบแบบไหน Marzera ก็สามารถเข้าไปเพิ่มความมีระดับให้กับทุกห้องได้อย่างลงตัว ลองแวะไปสัมผัสด้วยตัวเองที่ SB Design Square หรือทางออนไลน์ที่ www.konceptfurniture.com เท่านั้น หากคุณอยากจะรู้ว่าลายหินอ่อนนั้นจะส่งให้มีความหรูหราอย่างมีสไตล์อย่างไรได้บ้างลองไปชมวิดีโอตัวนี้ได้เลยค่ะ https://www.konceptfurniture.com/th/media-center/events/VDOwelcometomyhome  
โฮมโปร ทุ่ม 550 ล้านบาท สร้างแลนมาร์ค เอาใจฝั่งธนบุรี  เปิด “โฮมโปร กัลปพฤกษ์”

โฮมโปร ทุ่ม 550 ล้านบาท สร้างแลนมาร์ค เอาใจฝั่งธนบุรี เปิด “โฮมโปร กัลปพฤกษ์”

โฮมโปร ทุ่มกว่า 550 ล้านบาท เดินหน้าขยายสาขาใหญ่ สาขาแรกในปี 2018 เป็นสาขาที่ 82 บนทำเลทองฝั่งธนบุรี เปิด “โฮมโปร สาขากัลปพฤกษ์” บนถนนสายกัลปพฤกษ์ บริเวณแยกกำนันแม้น รองรับพื้นที่แห่งอนาคต ตอบโจทย์คนรักบ้าน ครบครันด้วยสินค้า และบริการเรื่องบ้านที่ทันสมัย เดินทางง่าย สะดวกสบายด้วยที่จอดรถกว่า 400 คัน และร้านค้าชั้นนำอีกมากมาย อาทิ Starbuck , A&W และ miss mamon บนพื้นที่กว่า 8,200 ตารางเมตร พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การช้อปออนไลน์ ด้วยบริการ Click & Collect และคุ้มค่าไปกับโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 70% ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพียงวันเดียวเท่านั้น สำหรับ 500 ท่านแรกร่วมสนุกลุ้นจับคูปองซื้อสินค้าราคาพิเศษ แถมช้อปครบรับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปรมูลค่าสูงสุด 22,000 บาท และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งเป้ายอดขายกว่า 80 ล้านบาทต่อเดือน   นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เผยว่า “โฮมโปร ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตอบรับความต้องการของคนรักบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจมีแนวโน้มการปรับตัวในทิศทางที่เป็นบวก ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทำเลต่างๆ โดยเฉพาะทำเลทองในกรุงเทพฝั่งธนบุรี บนถนนกัลปพฤกษ์ (แยกกำนันแม้น) ที่มีอัตราการขยายตัวของที่อยู่อาศัย คอมมูนิตี้มอลล์เพิ่มขึ้น อีกทั้งทำเลดังกล่าวยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆได้อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯจึงลงทุนขยายสาขา “โฮมโปร กัลปพฤกษ์” สาขาที่ 82 เพื่อรองรับ และตอบโจทย์ลูกค้าบริเวณรอบนอก โดยเน้นสินค้า และบริการที่มีให้เลือกช้อปทุกความต้องการ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และสุขภัณฑ์ พร้อมมอบความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยพื้นที่บริการจอดรถกว่า 400 คัน รวมถึงบริการ Click & Collect ที่สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ พร้อมเลือกเวลา และสถานที่รับของได้ด้วยตัวเอง นอกจากความครบครันของสินค้า และบริการที่จะตอบโจทย์ลูกค้าแล้ว ภายในยังมีร้านค้าเช่าชั้นนำที่พร้อมให้บริการ และมอบสิทธิพิเศษฉลองเปิดสาขาใหม่ อีกมากมาย อาทิ Starbucks , A&W Restaurants , miss mammon , The Delihouse ,CocoBee , Mee Ok ,ร้านเฟอร์นิเจอร์ LINDA , Forty CM , ร้านนวดชีวารมย์ และ KERRY   และเพื่อเป็นการฉลองเปิดสาขา 29 มิถุนายนนี้ เวลา 09.00 น. วันเดียวเท่านั้น สำหรับ 500 ท่านแรก ร่วมสนุกจับคูปองซื้อสินค้าราคาพิเศษ อาทิ โทรศัพท์มือถือซัมซุง Galaxy S9 ราคา 19,000 บาท จำนวน 10 เครื่อง , Samsung LED Smart TV 43 นิ้ว ราคา 9,900 บาท จำนวน 20 เครื่อง ,ไมโครเวฟ Samsung ราคา 1,290 บาท จำนวน 30 เครื่อง , พัดลมไอเย็น Thomas ราคา 1,990 บาท จำนวน 30 เครื่อง, จักรยานพับได้ 20 นิ้ว ราคา 1,890 บาท จำนวน 30 คัน และชุดกล่องแก้ว 5 ใบพร้อมฝาคลิปล็อค ราคา 190 บาท จำนวน 100 ชุด   ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 3 วันเท่านั้น สำหรับ 5,000 ท่าน เฉพาะสมาชิกโฮมการ์ดที่สมัครใหม่ และลงทะเบียนผูกไลน์โฮมโปร หรือสมาชิกที่ไม่เคยลงทะเบียนผูกไลน์โฮมโปร รับฟรี คูปองส่วนลด 100 บาท เมื่อช้อป 1,000 บาทขึ้นไป ต่อใบเสร็จ ทั้งนี้ ช้อปครบรับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร สูงสุด 22,000 บาท ช้อปครบ 40,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร 1,000 บาท ช้อปครอบ 80,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร 2,500 บาท ช้อปครบ 120,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร 5,000 บาท ช้อปครบ 200,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปร 10,000 บาท และช้อปครบ 400,000 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโฮมโปรมูลค่า 22,000 บาท พร้อมรับเพิ่มคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จมูลค่า 200 บาท เมื่อช้อปครบ 1,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ ในวันพฤหัสบดี-อาทิตย์   สิทธิพิเศษสุดคุ้มกว่าใคร สำหรับบัตรโฮมการ์ด สมัครบัตรสมาชิกฟรี พิเศษ! เฉพาะสมาชิกใหม่ รับฟรีถุงผ้า และรับคะแนน 500 คะแนน ช้อปฟินเวอร์ ช้อปทุกวันรับคะแนนทุกวัน X3 เท่า เมื่อช้อปสินค้าทุก 20,000 บาท จำกัดยอดสูงสุด 50,000 บาทต่อวัน และ Happy Point เมื่อใช้คะแนนโฮมการ์ดเท่ากับยอดซื้อลดเพิ่มสูงสุด 20% พร้อมรับสิทธิพิเศษจากสถาบันการเงินชั้นนำอีกมากมาย   นางสาวสิริวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า โฮมโปร สาขากัลปพฤกษ์ จะเป็นแลนมาร์คใหม่ในย่านกัลปพฤกษ์ ที่จะรวบรวมสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักบ้านได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเดินทางสะดวก และมีโปรโมชั่นสุดพิเศอีกมากมาย ร่วมฉลองเปิดสาขาใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. - 1 ส.ค. 61 พร้อมเปิดบริการทุกวัน 9.00 - 21.00 น. โทร 02-029-7660 หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center หมายเลข 1284 และ www.homepro.co.th FB : homeprothailand