Tag : Review

648 ผลลัพธ์
Taka Haus Ekamai 12 – ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 : รีวิวคอนโด

Taka Haus Ekamai 12 – ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12 : รีวิวคอนโด

Taka Haus Ekamai 12 (ทากะ เฮาส์ เอกมัย 12) - คอนโด Low Rise ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย โครงการใหม่จากแสนสิริ และโตคิว ร่วมพัฒนาโครงการ     รายละเอียดโครงการ   ราคา เริ่มต้น 4,490,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด Low Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 7 ชั้น และอาคาร B สูง 8 ชั้น พื้นที่โครงการ 3-1-29 ไร่ จำนวนห้อง 269 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ ซอยเอกมัย 12 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   โรงพยาบาลสมิติเวช โรงเรียนนานาชาติ บางกอกเพรพ (Bangkok Prep) Nihonmura Mall Big C เอกมัย Foodland ทองหล่อ Park Lane Fifty Fifth Avenue Major เอกมัย J Avenue Gateway เอกมัย ตลาดสดเอกมัยEmporium EmQuatier โรงพยาบาลคามิลเลียน โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช   ลักษณะห้องและขนาดห้อง   1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 30.00-71.5 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 30.00-71.5 ตร.ม.   สิ่งอำนวยความสะดวก   Lobby lounge Library Co - kitchen space Entertainment room Game room Exercise room Garden with outdoor recreation area Treehouse Swimming pool Electric vehicle charging station     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.sansiri.com/condominium/taka-haus/th/
MARU Ekkamai 2 ความสุขที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ : รีวิวคอนโด

MARU Ekkamai 2 ความสุขที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ : รีวิวคอนโด

ในยุคสมัยที่ใครต่างให้ความสำคัญกับการเดินทาง คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักถ้าผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าบ้านเดี่ยวทั่วไป ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายเนื่องจากทำเลมักตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ และทำให้การใช้ชีวิตง่ายมากขึ้น เช่นเดียวกับโครงการ MARU EKKAMAI 2 (มารุ เอกมัย 2) คอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่โดดเด่นตั้งแต่การดีไซน์อาคารภายในและภายนอกอย่างพิถีพิถัน ตลอดจนจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลาง ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งแนวคิดทั้งหมดนี้ทางโครงการได้อ้างอิงมาจากผลวิจัยที่ว่า “การที่คนเรามีที่อยู่อาศัยใกล้ออฟฟิศจะทำให้มีความสุขมากขึ้น หรือการมีสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเช่นกัน” ภาพจำลองรูปแบบอาคารโครงการ MARU EKKAMAI จำนวน 1 อาคาร 32 ชั้น ในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย คุมโทนสีขาวเทา   ทำเล และการเดินทาง MARU EKKAMAI 2 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอย่างแท้จริงเลยค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่ต้นซอยสุขุมวิท 63 หรือที่เราเรียกกันคุ้นชินว่าเอกมัย ซึ่งเป็นเอกมัยตอนใต้ระหว่างเอกมัยซอย 2 และซอย 4 อยู่ตรงข้ามกับอาคาร Bangkok Business Center เลยค่ะ อย่างที่ทราบกันดีว่าเอกมัยเป็นซอยคู่ขนานที่เชื่อมต่อกันระหว่างทองหล่อ (ถนนสุขุมวิทและเพชรบุรี) แหล่งไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ฮอตฮิตอยู่เสมอ เพราะบรรยากาศโดยรอบค่อนข้างคึกคักตลอดทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ทั้งยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารชิคๆ และคาเฟ่เก๋ๆ, สถานบันเทิงชื่อดัง, คอมมูนิตี้มอล ตลอดจนออฟฟิศและคอนโดระดับลักชัวรี่ที่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เป็นย่านอุดมสมบูรณ์สะดวกสบายทั้งการใช้ชีวิตและอยู่อาศัย การเดินทางเข้าออกเมืองก็สะดวกและคล่องตัวเช่นกันค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ อย่างที่ทราบกันดีแหละค่ะว่าถนนเอกมัยนั้นเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จราจรค่อนข้างหนาแน่นด้วยปริมาณของกลุ่มคนที่อยู่อาศัยและทำงาน ที่มักสัญจรผ่านไปมาใช้ถนนเอกมัยเป็นเส้นทางสำหรับเข้า-ออกเมืองฝั่งสุขุมวิท แต่ข้อดีของโครงการ MARU EKKAMAI 2 คือตั้งอยู่บริเวณต้นซอยจึงได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ต้องฝ่าฟันการจราจรที่ติดขัด ซึ่งเส้นเอกมัยก็มีทางลัดให้เลี่ยงรถติดได้หลายทางนะคะ เช่น ซอยเอกมัย 5, 19 และ 21 ใช้เชื่อมต่อกับเส้นทองหล่อ และซอยเอกมัย 12 และ 28 ที่เชื่อมกับต่อกับเส้นปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งยังมีทางลัดที่ใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้จากซอยเอกมัย 10 (ตรง Heath Land) ซึ่งสามารถใช้วิ่งลัดมาออกซอยสุขุมวิท 65 ได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้การเดินทางมายังโครงการยังสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถวิ่งออกไปลงสีลมหรือสามย่าน หรือจะใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งไปออกเพลินจิต, ชิดลม, สยาม หรือใช้ถนนเพชรบุรีไปออกพญาไทก็ได้อีกเช่นกัน อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์, ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมือง เรียกได้ว่าสะดวกสบายอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ   สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สะดวกมากทีเดียวค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิทจึงมีรถเมล์ รถแท็กซี่ รวมไปจนถึงวินมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด หรือหากจะใช้รถไฟฟ้าก็สามารถเดินไปขึ้น BTS สถานีเอกมัยได้ในระยะเพียง 450 เมตรเท่านั้น หากใครอยากเปลี่ยนสายไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็แค่นั่ง BTS ไปลงสถานีอโศก เพราะเป็นสถานี Interchange กับสถานีสุขุมวิท ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมมา Interchange ที่สถานีทองหล่อ เรียกว่าถ้าเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่การเดินทางก็ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้นค่ะ   คอนโดไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เลี้ยงสัตว์ได้ MARU EKKAMAI 2 เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น จำนวนยูนิตไม่มาก มาพร้อมที่จอดรถถึง 165 คัน หรือคิดเป็น 44.47%  แบ่งออกเป็นที่จอดรถปกติ 131 คัน และแบบ Autoparking 34 คัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live More, Live Maru เน้นความเป็นคอนโด Pet Friendly & Wellness Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ทำงานนอกออฟฟิศหรือที่บ้าน และยังชอบพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนๆ ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ดูเรียบง่ายสะอาดตา เน้นวัสดุธรรมชาติ แต่แฝงไว้ด้วยไอเดียใหม่ๆ อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด พื้นที่ใช้สอยภายในจัดวางอย่างเป็นสัดส่วนเอื้อต่อการใช้งาน โดยคำนึงถึงการอยู่อาศัย แต่ยังคงรสยิยมการตกแต่งแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ไว้เช่นเคย ภาพจำลองภายในห้อง Duplex - 1 Bedroom ที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 41.5 - 74.5 ตร.ม. ภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วยเพดานสูงถึง 5.5 เมตร ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกลิ่นอายสไตล์เซนที่ลงตัวไปกับพื้นที่ใช้สอย เอื้อให้ใช้ประโยชน์สูงสุด สำหรับเอกลักษณ์สำคัญของคอนโดจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คือนโยบาย Pet-friendly ที่อนุญาตให้ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข นอกจากความเป็นมิตรที่ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้อย่างสบายใจแล้ว ทางโครงการยังมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำน้องหมา น้องแมว และพื้นที่สวนให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณได้วิ่งเล่นอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกด้วยค่ะ ภาพจำลองภายในห้อง Quiet room ที่มีเฉพาะโครงการ Maru Ekkamai ออกแบบมาสำหรับให้ลูกบ้านใช้อ่านหนังสือหรือทำงานภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ ภาพจำลองภายในห้อง Theater - Karaoke room รองรับการผ่อนคลายของลูกบ้าน ภาพบรรยากาศจำลองของห้อง Terrarium Workshop room ท่ามกลางสวนสวยให้ทัศนียภาพร่มรื่น แต่ยังคงรสนิยมการตกแต่งในรูปแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ในส่วนของ Facilities ต้องบอกเลยว่าทางโครงการจัดเตรียมพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางไว้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ ค่ะ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับวันพักผ่อนมากมายไม่ว่าจะเป็น ห้องฟิตเนส สระว่ายขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิกที่มาพร้อมสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณภูมิก่อนลงสระไว้ข้างๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นกิจกรรมอื่นๆ เช่น พื้นที่จอดรถจักรยาน มาพร้อมที่เติมลมยางแบบ automatic, EV Charger, Bark and Bike wash, Co-Creation Space, Co-Kitchen Space, Outdoor theater และ Quite Room ให้อ่านหนังสืออย่างสงบ ภายใต้บรรยากาศร่มรื่นใกล้ต้นไม้เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น และยังมีสวนขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการเพื่อเป็นตัวกรองมลภาวะ ทั้งอากาศ และเสียงจากภายนอก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง   เล่ารายละเอียดกันมาถึงจุดนี้แล้ว คงต้องบอกว่า MARU EKKAMAI 2 เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่น่าสนใจมากทีเดียวนะคะ ทั้งด้วยศักยภาพของทำเล และตัวโครงการเองที่มีการจัดสรรพื้นที่ในส่วนต่างๆ ไว้อย่างลงตัว ใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใกล้รถไฟฟ้า เดินทางไปมาสะดวก อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่สำคัญคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เราว่าโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แถมยังอยู่ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4.3 ล้านบาท หรือ 189,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น และจองเพียง 30,000 บาท สำหรับห้อง Studio กับ 1 Bedroom และ 60,000 บาท สำหรับห้อง 2 Bedroom บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ แถมช่วงพรีเซลวันที่ 23-24 กันยายน 2560 นี้ ณ โรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit 57 ทางโครงการยังมีโปรโมชั่นให้ส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาท* สำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ ได้ที่ http://bit.ly/2vASK2E  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 084-416-7777
Knightsbridge Prime Onnut นิยามใหม่ของการใช้ชีวิตกลางเมือง : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Prime Onnut นิยามใหม่ของการใช้ชีวิตกลางเมือง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปอัพเดทห้องตัวอย่างโครงการ Knightsbridge Prime Onnut คอนโดมิเนียมโปรเจคใหญ่จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ต้องบอกเลยว่าทำเลไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ เพราะตำแหน่งที่ตั้งเอื้อต่อการเดินทางสะดวกทั้งคนใช้รถสาธารณะและรถส่วนตัว จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบเพื่อรองรับการใช้ชีวิตที่หลากหลายของลูกบ้าน รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งของกินมากมาย ทั้งยังเน้นพื้นที่ส่วนกลางเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแท้จริง   ศักยภาพที่เพียบพร้อม อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าย่าน ‘อ่อนนุช’ เป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังคงได้รับความสนใจในด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย, คอมมูนิตี้มอล, โรงแรม และโรงเรียนนานาชาติ เพราะเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งทางด่วน รถไฟฟ้า และสาธารณูปโภคอื่นๆ รวมถึงเป็นจุดขยายตัวของทำเลสุขุมวิทตอนกลาง (Mid-Sukhumvit) ที่ข้ามจากพระโขนงมาทางอ่อนนุช ซึ่งเปรียบเสมือน HUB ย่อยของการเดินทางระหว่าง เอกมัย-ทองหล่อ-พระราม4-บางนา เนื่องจากเป็นโซนที่ชาวต่างชาติและเอเชียนิยมอยู่อาศัย เพราะมีความอุดมสมบูรณ์และศักยภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต จากรายละเอียดข้างต้นเลยทำให้ ออริจิ้น เลือกปักหมุดคอนโดใหม่ Knightsbridge Prime Onnut ไว้ที่ย่านอ่อนนุช โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ต้นซอยอ่อนนุช หรือซอยสุขุมวิท 77 ซึ่งจุดเด่นของทำเลโครงการนี้คือการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งคนมีรถและไม่มี เพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเขียว (สุขุมวิท) สถานีอ่อนนุช ที่อยู่ห่างเพียง 600 เมตร และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่จะมีขึ้นในอนาคต รวมถึง Airport Rail Link ที่อยู่ท้ายซอย ใครที่มีรถส่วนตัวก็สามารถเลือกการเดินทางได้หลายเส้น เพราะมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ทำให้การเดินทางไปสนามบิน หรือจะเข้า-ออกเมืองก็สะดวกรวดเร็ว เพราะมีทั้งเส้นทางถนนสุขุมวิท ถนนอ่อนนุช ถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ ตัดไปออกรามคำแหง ศรีนครินทร์ บางนา-ตราด ขึ้นบูรพาวิถี ออกมอเตอร์เวย์ก็สะดวกหมดเลยค่ะ ทั้งนี้ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งแหล่งอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง อย่างแท้จริง เพียงเดินออกมาหน้าโครงการก็เจอ Big C แล้วค่ะ ซึ่งค่อนข้างสะดวกในการซื้อของใช้ของกินเข้าบ้าน แถมบริเวณใกล้เคียงยังมีตลาดสด ตลอดจนร้านรวงต่างๆ ให้เลือกเต็มไปหมด ห่างไปอีกนิดฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของ Habito Mall (T77) ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันบริเวณปากซอยอ่อนนุชก็มี Tesco Lotus ตัวเลือกช้อปปิ้งในย่านนี้ค่ะ ซึ่งที่ดินบริเวณตรงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชก็กำลังก่อสร้างโครงการ Century Movie Plaza อยู่ด้วย ถ้าโครงการเสร็จเมื่อไหร่ก็จะทำให้มีตัวเลือกแหล่งไลฟ์สไตล์มากขึ้น และหากใครจะเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือแหล่งธุรกิจโซนเอกมัย-ทองหล่อ ไปนั่งชิลล์ๆ ตามร้าน Hang Out ชื่อดังมากมาย ก็สามารถไปถึงได้อย่างรวดเร็วด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียวค่ะ เพราะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงจุดหมายแล้ว   นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์ก็ยังมีสถานศึกษาในละแวกใกล้เคียงอยู่หลายแห่ง อาทิ โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep และ Saint Andrew ที่อยู่ห่างจากโครงการในระยะ 2-3 กิโลเมตร รวมถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (วิทยาเขตกล้วยน้ำไท) ที่ห่างเพียง 3 กิโลเมตร ส่วนสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท อยู่ห่างเพียง 2.5 เมตร หรือโรงพยาบาลสุขุมวิท ซึ่งห่างประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งถ้ามองศักยภาพรวมๆ แล้วก็ถือว่าตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนทำงานและนักศึกษาได้เป็นอย่างดี   ตอกย้ำความเป็นคอนโดฯ ที่ดีที่สุดในย่านอ่อนนุช ถ้าใครได้อ่านรีวิวฉบับแรกๆ https://goo.gl/A7QJX5 จะรู้ว่าทาง ออริจิ้น ตั้งใจออกแบบโครงการ Knightsbridge Prime Onnut ให้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น โดยชูคอนเซ็ปต์เก๋ๆ ว่า “PRIME OF LIVING ความเป็นที่สุดเท่านั้นที่สำคัญ” ตัวอาคารเป็นคอนโดมิเนียม High Rise 47 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ดีไซน์สไตล์โมเดิร์นเน้นความหรูหรา รวมจำนวนยูนิตอยู่ที่ 601 ยูนิต มีร้านค้า 1 ยูนิต บนพื้นที่ 2-1-72 ไร่ ซึ่งทางออริจิ้นแอบกระซิบว่าตึกนี้จะเป็นตึกที่สูงและสวยที่สุดสามารถมองทัศนียภาพได้กว้างไกลเนื่องจากไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ บดบังสายตา จนเป็น Landmark บนถนนอ่อนนุชเลยทีเดียวค่ะ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางเรียกได้ว่าจัดเต็มจริงๆ ค่ะ เริ่มตั้งแต่บริเวณชั้นล่างที่ทำเป็น Lobby สุดหรู มาพร้อมบริการ Hotel Service สำหรับลูกบ้านที่ไม่มีเวลาทำความสะอาด มี Business Lounge, Private Meeting Room นอกจากนี้ยังมี Trail running Track, Secret Garden พื้นที่สีเขียวรอบโครงการกว่า 1 ไร่ ในส่วนของชั้น 2-15 จะเป็นพื้นที่จอดรถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 65% เป็นแบบ Automatic Parking ซึ่งข้อดีคือสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอด ซึ่งมาพร้อม EV Car Charger Station ด้วยค่ะ บรรยากาศจำลอง GRAND LOBBY บรรยากาศจำลอง GRAND LOBBY   ทั้งนี้บริเวณชั้น 37-38 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าทั้งชั้นเลยค่ะ ซึ่งมาในรูปแบบ Full Floor Facility ต่อเนื่องแบบ Double Volume ประกอบด้วยสระว่ายน้ำที่หลากหลายทั้ง Horizon Edge Pool, The Dusk Relax Pool & Pool Spa, The Dawn Pool Bar, Sky Pool Garden ให้ลูกบ้านได้เลือกสรร พร้อมจุดชมวิวที่โดดเด่นด้วยพื้นที่ลอยเหนือสระว่ายน้ำ ซึ่งลูกบ้านจะได้เต็มอิ่มกับวิวสวยๆ ในมุมสูงขณะกำลังพักผ่อนอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง   นอกจากนี้ยังมี Steam Room, Dynamic Fitness ฟิตเนสขนาดใหญ่ที่มาพร้อม Boxing Gym (With boxing Ring) รวมไปจนถึง Sky Co-Working Space, Prime Executive Meeting Room, Sky Irish Social Club, Sky Co-Culinary Space, Bangkok Skyscraper Deck, Skyline Chillax Space, Sky Lounge & Garden รองรับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าทางโครงการใส่ใจทุกรายละเอียดออกแบบโดยคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก จนไม่แปลกใจเลยค่ะว่า  Knightsbridge Prime Onnut จะเป็นโครงการที่ดีที่สุดในย่านนี้จริงๆ บรรยากาศจำลอง SKY CO-CULINARY SPACE บรรยากาศจำลอง SKY IRISH SOCIAL CLUB 1 บรรยากาศจำลอง SKY IRISH SOCIAL CLUB 2 บรรยากาศจำลอง SKY PANORAMIC CO-WORKING SPACE Skyline Chillax Space สำหรับนั่งชมเส้นขอบฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน โดยมีโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นฉากหน้า บรรยากาศจำลอง Bangkok Skyscraper Deck มองออกไปเห็นวิวตึกสูงใจกลางกรุงเทพมหานคร และโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา     สัมผัสความ PRIME ในห้องตัวอย่าง สำหรับโครงการ Knightsbridge Prime Onnut มีแบบห้องหลักๆ อยู่ 3 แบบ คือ Studio ขนาด 22 – 26 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่ม 31 ตร.ม. และ 2 Bedroom  เริ่ม 55 ตร.ม. ขนาดเริ่มต้นที่มาในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัว สุขภัณฑ์ต่างๆ เครื่องปรับอากาศ และเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน ซึ่งถ้าลูกบ้านตัดสินใจซื้อจะขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าและพร็อพตกแต่งเท่านั้น แถมทุกยูนิตจะได้ Digital Door Lock ด้วยนะคะ แทบจะพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยทีเดียว   ห้องตัวอย่างห้องแรกที่เราได้ชมคือ ห้อง Studio ขนาด 22 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นแบบหน้าแคบลึก พื้นที่ใช้สอยจัดมาได้ลงตัวทีเดียวค่ะ โดยเปิดเข้ามาจะเจอส่วนครัวและห้องน้ำก่อน เพื่อให้พื้นที่ด้านในเป็นส่วนพักผ่อนอย่างเตียงนอนและโซฟานั่งเล่น ภายในห้องดูโปร่งโล่งสบาย เนื่องจากทางโครงการดีไซน์เพดานมาให้สูง 3 เมตร ซึ่งก็แตกต่างจากคอนโดฯ ทั่วไป ซึ่งในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งแบบจัดเต็มเพื่อให้เราได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องได้อย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ห้องที่ขายจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ที่ได้เพียงผนังฉาบเรียบสีขาว กับ Fully Furnished ตามมาตรฐานที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้นค่ะ แปลนห้อง Studio ขนาด 22 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นแบบหน้าแคบลึกนะคะ ซึ่งเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในส่วนพักผ่อน เปิดประตูเข้ามาในห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวนะคะ ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องน้ำ ขนาดเคาน์เตอร์ครัวที่มาพร้อมกับห้องจะเป็นแบบ One-Wall kitchen นะคะ ซึ่งทางโครงการจะเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ให้ด้วย สำหรับเคาน์เตอร์ครัวนั้นเหมาะสำหรับประกอบอาหารแบบง่ายๆ มาพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ถัดมาที่ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ห้องน้ำ ภายในแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน ในส่วนของสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะได้ตามในภาพเลยนะคะ จากรูปจะเห็นได้ว่าทางโครงการเลือกใช้กระจกเงาส่องหน้าขนาดใหญ่เพื่อช่วยสะท้อนให้ห้องดูกว้างมากขึ้น ก่อนเข้าไปสู่พื้นที่พักผ่อนด้านในจะมีประตูบานเลื่อน 3 ตอนกั้นกลางนะคะ พื้นที่ส่วนพักผ่อนด้านในจัดฟังก์ชั่นแบบ Open Plan คือหลอมหลวมระหว่างโซนนั่งเล่น และเตียงนอนไว้ด้วยกัน บริเวณโซนนั่งเล่น ทางโครงการจัดวางโซฟาตัวยาวขนาด 2 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าบริเวณตรงกลางยังมีพื้นที่เหลือมากพอให้วางโต๊ะกลางได้ด้วย ภายในห้องจะมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินตามภาพเลยนะคะ คือส่วนคอนโซลทีวีและตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดาน บิลต์อินคอนโซลทีวีจะต่อเนื่องไปยังโต๊ะเครื่องแป้งเลยนะคะ นอกจากเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน ทางโครงการยังแถมเครื่องปรับอากาศให้อีก 1 ตัวด้วยค่ะ พื้นที่ข้างตู้เสื้อผ้าจะเป็นระเบียงเล็กๆ ให้ลูกบ้านสามารถออกไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกได้ บริเวณข้างเตียงมีพื้นที่เหลือเพียงพอที่จะวางเฟอรืนิเจอร์ได้ด้วยนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ลองวางโต๊ะเก้าอี้ชุดทำงานไว้เป็นตัวอย่างดังภาพ   ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราได้ชมกันคือ 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม. ที่มาพร้อมห้องเอนกประสงค์ให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจ ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส จัดวาง Layout ไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจน เชื่อมต่อพื้นที่การใช้งานอย่างมุมนั่งเล่น มุมรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน ทางโครงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บิลต์อินเพื่อทำให้ผู้อาศัยสามารถจัดวางข้าวของเครื่องใช้ได้อย่างเป็นระเบียบและใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ภายในห้องชุดมี Fully Fitted Package ที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน ชุดครัว Pantry Set เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว ตามมาตรฐานเหมือนกับห้องแรกค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสนะคะ มาพร้อมห้องเอนกประสงค์ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจ เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนนะคะ ซึ่งทางโครงการได้จัดวางโซฟาตัวยาวพร้อมโต๊ะกลางไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าระยะห่างระหว่างคอนโซลและโซฟาจะกำลังดี สบายๆ ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด บริเวณข้างโซฟา ทางโครงการจะบิลต์อินเฟอร์นิเจอร์แบบมิลติฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารหรือพับเก็บเพื่อเป็นตู้เก็บของปกติ ซึ่งก็เว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นให้ข้างๆ ด้วย มุมมองจากบริเวณ Dining Area ที่เชื่อมต่อไปถึง Living Area จะเห็นได้ว่าบรรยากาศดูโล่งโปร่งสบาย เนื่องจากเพดานสูงถึง 3 เมตร ทางโครงการจะบิลต์อินคอนโซลและตู้เก็บของสูงจรดเพดานมาให้แบบในรูปเลยนะคะ ซึ่งข้อดีของเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินจะช่วยประหยัดพื้นที่และมีส่วนเก็บของมากขึ้นด้วยค่ะ ถัดจากโซน Dining Area จะเป็นห้องนอนนะคะ ติดกันก็เป็นห้องเอนกประสงค์ ซึ่งแบ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ห้องนอนค่อนข้างกว้างเลยนะคะ นอกจากจะบิลต์อินตู้เสื้อผ้า จัดวางเตียงแล้ว บริเวณรอบๆ ยังมีที่เหลือพอให้เดินได้สะดวกสบายอีกด้วย ภายในห้องนอนโอบล้อมไปด้วยหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ที่มาพร้อมบานกระทุ้งสามารถเปิดให้อากาศถ่ายเท เมื่อเดินออกมาจากห้องนอน ระหว่างห้องเอนกประสงค์กับห้องน้ำจะมีพื้นที่ครัวเล็กๆ สำหรับประกอบอาหารมื้อเบาๆ ง่ายๆ ซึ่งทางโครงการจะบิลต์อินมาให้เสร็จสรรพเลยนะคะ แม้ครัวจะมีขนาดกะทัดรัด แต่ก็ครบครันทุกฟังก์ชั่นนะคะ เพราะนอกจากเตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน อ่างล้างจานพร้อมที่วางจาน ยังมีตู้ลิ้นชักรวมทั้งหน้าบานแบบเปิดปิดสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ ด้วย ภายในห้องน้ำแบ่งแยกโซนเปียกและแห้งกั้นกระจกไว้เช่นเคย พื้นที่ส่วนแห้งจัดวางโถสุขภัณฑ์และบิลต์อินเคาน์เตอร์ล้างมือไว้ข้างๆ กัน ผนังด้านหลังกรุกระจกเงายาวเท่าพื้นที่ส่วนแห้งเลยค่ะ ตรงข้ามห้องน้ำจะเป้นห้องเอนกประสงค์นะคะ ซึ่งความพิเศษของห้องนี้คือลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กก็ยังได้ ทางโครงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ทำงานให้เป็นตัวอย่างนะคะ ซึ่งห้องจริงๆ ที่ได้จะมาแบบโล่งๆ ฉาบผนังเรียบสีขาวเอื้อต่อการตกแต่งที่ง่ายขึ้นค่ะ ลึกเข้าไปด้านในของห้องเอนกประสงค์เป็นระเบียงนะคะ ซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนเหมือนดั่งในห้อง พื้นที่ใช้สอยในส่วนของระเบียงก็ค่อนข้างกว้างทีเดียวนะคะ เพราะสามารถวางเครื่องซักผ้า และมีพื้นที่ตากผ้าอีกด้วย   โครงการ Knightsbridge Prime Onnut  นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหมาะสำหรับคนเมืองอย่างนักศึกษาหรือคนทำงานที่คุ้นชินในย่านนี้อยู่แล้ว หากอยากมีคอนโดดีๆ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ความรู้สึกของความเป็นที่สุดอย่างเต็มอิ่ม ทั้งยังใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายทั้งคนมีรถส่วนตัวและไม่มี แวดล้อมด้วยสาถารณูปโภคครบครัน โดยที่ราคาเอื้อมถึงได้ ไม่ว่าจะจับจองไว้อยู่อาศัยเองหรือเก็บไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ   สำหรับคนที่สนใจ Origin เตรียมจะเปิดให้จองครั้งแรกอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 16-17 กันยายน 2560 นี้ ในงาน “The Best 4 Knightsbridge of The Year” โดยจะจัดงานขึ้นที่สยามพารากอน Hall 3 ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลศักยภาพ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://goo.gl/vopbjD   หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 020 300 000 หรือ www.origin.co.th
Lumpini Park Phahol 32 – ลุมพินี พาร์ค พหล 32 : รีวิวคอนโด

Lumpini Park Phahol 32 – ลุมพินี พาร์ค พหล 32 : รีวิวคอนโด

Lumpini Park Phahol 32 (ลุมพินี พาร์ค พหล 32) - คอนโด High Rise ย่านเกษตร เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคมเพียง 200 เมตร จาก LPN   รายละเอียดโครงการ ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 135,000 บาท / ตรม. เจ้าของโครงการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ ประมาณ 4 ไร่เศษ จำนวนห้อง 546 ยูนิต ที่จอดรถ ประมาณ 204 คัน (ไม่รวมที่จอดรถซ้อนคัน) คิดเป็น 37% ที่ตั้งโครงการ ถนนพหลโยธิน (ซอย 32) แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. คาดว่าจะแล้วเสร็จ กรกฎาคม ปี 2562   สถานที่สำคัญใกล้เคียง ตลาดบางเขน เมเจอร์รัชโยธิน 600 ม. เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว Central ลาดพร้าว Union Mall บอง มาร์เช่ สวนรถไฟ. ตลาดนัดจตุจักร เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น ม.เกษตรศาสตร์ ร.ร.หอวัง ม.ราชภัฏจันทรเกษม ม.ศรีปทุม ร.ร.เซนต์จอห์น รพ.เปาโล เกษตร รพ.วิภาวดี รพ.วิภาวดี รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น รพ.เปาโล เมมโมเรียล     ลักษณะห้องและขนาดห้อง แบบ Studio ขนาด 24 – 26 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom ขนาด 28 – 32 ตร.ม. แบบ 2 Bedroom ขนาด 36 – 46 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ (Infinity Edge Pool) ห้องเอนกประสงค์ ( Co-Living Zone) ห้องคุณหนู (Kid’s Fun Zone) ห้องสตีมและซาวน่า (Steam and Sauna) ฟิตเนสโซน (Fitness Zone) ห้องเปี่ยมสุข (Happiness Zone) ลานกิจกรรม (Co-Living Zone) ลานพักผ่อน (Co-Living Area) ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม (Fit & Firm area) สนามเด็กเล่น (Playground) ห้องเรียนรู้ (Learning zone) ห้องเฮาส์เวิร์ค (Housework Zone)     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-513-8932, 02-513-8933 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.lpn.co.th/
MARU Ladprao 15 ทางเลือกใหม่ของคนเมือง : รีวิวคอนโด

MARU Ladprao 15 ทางเลือกใหม่ของคนเมือง : รีวิวคอนโด

เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้คนมีความสุขมักเกิดจากการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมสภาพแวดล้อมตามแบบที่ชอบและต้องการ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเลือกพอใจแบบไหน แต่ถ้าสองปัจจัยนี้ได้มาอยู่รวมกันแล้ว ความสุขในการดำเนินชีวิตของแต่ละวันก็คงเกิดขึ้นได้ทุกวัน จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น เชื่อไหมคะว่าจะมีอยู่ในคอนโดมิเนียมจริงๆ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบธรรมชาติ ใช้ชีวิตเรียบง่าย รักสัตว์ และกำลังมองหาคอนโดดีๆ บนทำเลศักยภาพ ไม่ควรพลาดโครงการที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ค่ะ นั่นก็คือ “MARU Ladprao (มารุ ลาดพร้าว)” คอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่อยากเลี้ยงสัตว์ไว้ในคอนโด และใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอันหาได้ยากในมหานครคอนกรีต แต่จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ   ทำเลกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย โครงการ MARU Ladprao ตั้งอยู่บนพื้นที่เก่าของปั๊ม Susco ฝั่งขาเข้า ระหว่างซอยลาดพร้าว 15 และซอยลาดพร้าว 17 ซึ่งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวทางออก 3 แค่เพียง 80 เมตรเท่านั้น จัดว่าเป็นโซนลาดพร้าวตอนต้น เพราะอยู่ในช่วงห้าแยกลาดพร้าวและแยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งทำเลบริเวณนี้ถือว่าเจริญและอุดมสมบูรณ์มากเพราะอย่างที่ทราบกันดีพื้นที่ 2 ฝั่งถนนลาดพร้าวรายล้อมไปด้วยร้านค้า, ตลาด, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านยา, คลีนิกเสริมความงาม, คลีนิกทันตกรรม, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, สวนลุมไนท์บาซ่า รัชดาภิเษก และคอนโดมิเนียมมากมาย เรื่องอาหารการกินก็เลยค่อนข้างหาง่ายและสะดวกมากๆ หากใครอยากทานร้านอาหารดีๆ ในมื้อพิเศษก็แค่มุ่งตรงไปถนนโชคชัย 4 เส้นลาดพร้าววังหินและถนนนาคนิวาสที่อยู่ไม่ไกล ก็จะเจอร้านอาหารและแหล่งแฮงก์เอ้าท์เพียบอีกเช่นกัน นอกจากร้านค้าและร้านอาหาร ถ้าจะซื้อของใช้เข้าบ้านก็สามารถมุ่งตรงไปที่ Big C Extra + Homepro (อยู่ห่างเพียง 350 เมตร) หรือขยับไปอีกนิดก็จะเป็น Union Mall (ห่างเพียง 1.1 กิโลเมตร) และ Central Plaza ลาดพร้าว (ห่างเพียง 1.6 กิโลเมตร) ด้วยระยะทางที่แสนใกล้ หากใครยังช็อปปิ้งไม่หนำใจ จะไปต่อที่ตลาดนัดสวนจตุจักร, JJ Green หรือแต่เมเจอร์รัชโยธิน ก็สามารถไปถึงง่ายในเวลารวดเร็วด้วยค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ก็ค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ซึ่งถนนลาดพร้าวสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนรัชดาภิเษกที่ตัดกับถนนลาดพร้าว ตรงแยกลาดพร้าว-รัชดา สามารถวิ่งไปพระราม 9 ได้ หรือจะกลับรถไปถนนพหลโยธินที่สามารถวิ่งออกไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิต่อไปถึงอโศก หรือจะใช้ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า การจราจรก็จะคล่องตัวกว่าค่ะ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางยกระดับอุตราภิมุข (ทางด่วนโทลล์เวย์) เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและศรีรัช ซึ่งสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก หรือจะใช้ทางลัดไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ก็ไปได้ง่ายๆ จากซอยลาดพร้าว 41 และถนนโชคชัย 4 ที่ตัดเข้าถนนลาดพร้าววังหินและถนนนาคนิวาส เชื่อมกับถนนสุคนธสวัสดิ์ก็เป็นเรื่องที่สะดวกทีเดียวค่ะ ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัว เดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นประจำก็สะดวกสบายไม่แพ้กันนะคะ เพราะบริเวณหน้าโครงการมีรถโดยสาร แท๊กซี่ และวินมอเตอร์ไซด์ผ่านไปมาอยู่ตลอด และอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าตัวโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินในระยะที่เดินเท้าได้เพียง 80 เมตร ซึ่งอนาคตสถานีลาดพร้าวจะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ส่วนสถานีพหลโยธินที่อยู่ถัดไป จะเป็นสถานี Interchange กับสายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งถ้าเรียบร้อยเมื่อไหร่ ตัวเลือกในการเดินทางก็ยิ่งสะดวกสบายและมีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ   นิยามใหม่ของการใช้ชีวิตที่ใช่กลางเมือง MARU Ladprao เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น จำนวนยูนิตไม่มาก มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “One you need less, you will have more” ที่สะท้อนภาพชีวิตของคนเมือง แฝงแนวความคิดและความหมายดีๆ “แม้จะเหนื่อยจากการทำงานภายนอก แต่เมื่อได้กลับบ้านในที่ที่ได้เป็นของตัวเอง ก็มีความสุขแล้ว” ตัวอาคารจึงดีไซน์สไตล์โมเดิร์น เรียบง่ายสะอาดตาแต่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนานรวมถึงไอเดียใหม่ๆ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด จัดวางพื้นที่ใช้สอยสะดวกต่อการใช้งาน คำนึงถึงการอยู่อาศัย แต่ยังคงรสนิยมการตกแต่งแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมสไตล์เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้เป็นอย่างดี ภาพบรรยากาศจำลองห้องขนาด 30 ตร.ม. ที่ได้รับการออกแบบเอื้อต่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายในห้องดูกว้างขวาง เนื่องจากการจัด Lay out เป็นสัดส่วน  ภาพบรรยากาศส่วนของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิก จะเห็นได้ว่าบริเวณข้างๆ มีสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณหภูมิก่อนลงสระใหญ่ด้วย สำหรับพื้นที่ส่วนกลางบอกเลยค่ะว่าจัดเต็มและฉีกรูปแบบคอนโดฯ อื่นอย่างแท้จริง เพราะทางโครงการได้นำ Facility ที่เคยอยู่ใน Indoor ออกมาใช้ใน Outdoor มากขึ้น เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ออกมาใช้ชีวิตแบบไม่ต้องไปไหนไกล เช่น Co-Working Space ในสวน, โต๊ะ Pool กลางแจ้ง, Outdoor Theater, พื้นที่เชื่อมต่อภายนอกของ Co-Creation Space ซึ่ง MARU ตั้งใจทำให้ลูกบ้านหลีกหนีจากความวุ่นวายใจกลางเมือง หยุดใช้ Computer หรือโทรศัพท์ มาอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางอันร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ โดยพยายามใช้พันธุ์ไม้ที่ให้กลิ่นหอมในโครงการ เพื่อให้ทุกคนได้ออกมาหายใจ อยู่กับธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยัง MARU ยังมีสวนขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการเพื่อเป็นตัวกรองมลภาวะทั้งอากาศและเสียงจากภายนอก และยังมี Wisdom Garden สวนที่ใช้พักผ่อนหรือสามารถใช้โต๊ะเล่นโกะเกมส์ได้ สำหรับใครที่ชอบปั่นจักรยานทางโครงการก็มีที่จอดรถจักยาน พร้อมที่เติมลมยางแบบ automatic และ Ev Charger, Bark and Bike wash คอยบริการด้วย และยังมี Trampoline ให้เด็กๆ ได้กระโดดเล่น มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึงครึ่งหนึ่งของสระโอลิมปิก ซึ่งบริเวณข้างๆ จะมีสระน้ำอุ่นให้ปรับอุณหภูมิก่อนลงสระใหญ่ด้วยค่ะ ในส่วนของความเป็น “Pet-Friendly Condominium” โครงการ MARU Ladprao อนุญาตให้ลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ได้เหมือนกับ โครงการอื่นๆ ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เลยค่ะ ซึ่งถือเป็นจุดขายอย่างหนึ่งที่สร้างความแตกต่างจากคอนโดมิเนียมอื่นในตลาด ดังนั้นภายในโครงการจึงมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง หรือ Pet Area เพื่อให้น้องหมา น้องแมว สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณได้ออกมาวิ่งเล่น ออกกำลังกายได้ แต่การจะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้นก็จะมีกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Co-Creation Space ที่ดูโปร่งโล่งสบาย ล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ มองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล ภายในห้องตกแต่งสไตล์มินิมอลกึ่งเซนที่เรียบง่ายและสงบ ภาพจำลองบริเวณ Lobby ที่มาในรูปแบบ Double Space 2 ชั้น รองรับลูกบ้านได้อย่างสบายๆ  ภาพบรรยากาศจำลองของ Star Gazing Deck ที่ทางโครงการตั้งใจออกแบบมารองรับลูกบ้านให้ขึ้นมาชมดาวในวันที่ฟ้าพราว และสามารถมองเห็นดาวบนพื้นเป็นกลุ่มดาวสิงโต (LEO)   โครงการ MARU Ladprao จัดว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่น่าจับตาและคุ้มค่าแก่การลงทุนทั้งอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางที่ทาง เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งใจคิดและออกแบบมาเพื่อผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งแนวคิดทั้งหมดนี้ก็อิงมาจากผลวิจัยที่บอกว่า “การที่คนเรามีที่อยู่อาศัยใกล้ออฟฟิศจะทำให้มีความสุขมากขึ้น หรือการมีสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเช่นกัน” เพราะองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดถูกจัดวางให้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ลูกบ้านได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับคนที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 100,000 บาท* ได้ที่ http://bit.ly/2vASK2E หรือ www.marubymajor.com โทร 084-416-7777  ซึ่งจะจัด Pre-Sale ในวันที่ 23-24 กันยายน 2560 นี้ ณ โรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit 57 ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.6 ล้าน
Supalai Premier Charoen Nakhon – ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร – : รีวิวคอนโด

Supalai Premier Charoen Nakhon – ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร – : รีวิวคอนโด

คอนโด ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร (Supalai Premier Charoen Nakhon) - คอนโด High Rise สูง 26 ชั้น วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ติดรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีคลองสาน ใกล้ถนนสายหลักอย่าง เจริญนคร สาทร กรุงธนบุรี ใกล้ทางด่วน พร้อมจุดเชื่อมต่อการคมนาคมทางเรือ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,100,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 26 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ   5-1-0.7 ไร่ จำนวนห้อง     578 ยูนิต ร้านค้า 6 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ   ถนนเจริญนคร แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง ICONSIAM The Jam Factory Asiatique The Riverside Plaza เยาวราช พาหุรัด รพ.ตากสิน คลองสาน ลักษณะห้องและขนาดห้อง แบบ 1 Bedroom ขนาด 34.5-331 ตร.ม. แบบ 2 Bedroom ขนาด 34.5-331 ตร.ม. แบบ 3 Bedroom ขนาด 34.5-331 ตร.ม. แบบ Penthouse 4 ห้องนอน ขนาด 34.5-331 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก Infinity – edge Swimming Pool Fitness Sauna Social Club Meeting Room Sky Lounge Play Ground Sky Garden จุดชมวิวเมืองแบบ Exclusive สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.supalai.com/Home  
The Reserve Phahol – Pradipat – เดอะ รีเซิร์ฟ พหล-ประดิพัทธ์ : รีวิวคอนโด

The Reserve Phahol – Pradipat – เดอะ รีเซิร์ฟ พหล-ประดิพัทธ์ : รีวิวคอนโด

The Reserve Phahol - Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหล-ประดิพัทธ์) - คอนโด High Rise สูง 29 ชั้น ติดถนนประดิพัทธ์ ใกล้ BTS สะพานควาย เพียง 500 เมตร โครงการใหม่จากพฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   5,900,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ   1 - 2 - 43 ไร่ จำนวนห้อง      298 ยูนิต ที่จอดรถ    50% ที่ตั้งโครงการ   ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. สถานที่สำคัญใกล้เคียง สวนจตุจักร รพ.เปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน สน.บางซื่อ สวนรถไฟ ลาวิลล่า อารีย์ บิ๊กซี สะพานควาย ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ลักษณะห้องและขนาดห้อง ONE BEDROOM LOFT ขนาด 28.40 – 38.95 ONE BEDROOM SIMPLEX ขนาด 29.45 – 40.40 ONE BEDROOM EXCLUSIVE ขนาด 47.30 – 48.70 สิ่งอำนวยความสะดวก Urban Forest - สวนหน้าโครงการ 24Hrs Lobby with Concierge Service by The Reserve Private Garden - สวนส่วนตัวที่ชั้น 8 พื้นที่ทำงานในรูปแบบ Co-working space All-Day Pantry - บาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม Adaptive Function Room - ห้องเอนกประสงค์ Infinity Edge Pool – สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ Skyline Lounge – มุมทำงานบนชั้นลอยเหนือสระว่ายน้ำ Sky Fitness Steam Room Party Yard – ลานโล่งบนดาดฟ้า Open Air Cinema – พื้นที่ชมภาพยนตร์ outdoor ที่ดาดฟ้า Rooftop Pantry – พื้นที่เตรียมอาหารที่ดาดฟ้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://thereservecondo.com/phahol-pradipat/index.html
Knightsbridge Kaset Society เพื่อความสุขที่เพียบพร้อม : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Kaset Society เพื่อความสุขที่เพียบพร้อม : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของคอนโดมิเนียม High Rise ใกล้รถไฟฟ้าและมหาวิทยาลัย ที่ถูกจับตามองและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในย่าน “เกษตร” จาก ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ ซึ่งเลือกปักหมุดบนทำเลศักยภาพแวดล้อมด้วยรถไฟฟ้าถึง 4 สาย ภายใต้ชื่อ Knightsbridge Kaset Society ด้วยแนวคิด The Right One ให้ลูกบ้านใช้ชีวิตอย่างที่ใช่บนพื้นที่แห่งความสุขในทุกตารางเมตร   ศักยภาพทำเลดี ติดถนนใหญ่ ต้องบอกเลยว่า Knightsbridge Kaset Society (ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้) ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินตรงร้านข้าวผัดปูเมืองทอง ฝั่งมุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าว ระหว่างซอยพหลโยธิน 34/1 และ 34/2 ใกล้ทั้งแยกเกษตรและแยกเสนานิคม อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีเสนานิคม) ที่กำลังก่อสร้างอยู่เพียงแค่ 40 เมตร สามารถเข้าออกโครงการได้หลากหลายทางทั้งซอยพหลโยธิน 34, ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตรนวมินทร์), ซอยลาดพร้าววังหิน  และยังเดินทางเข้านอกออกเมืองได้สะดวกรวดเร็วด้วยทางด่วนโทลเวย์ (ด่านบางเขน) ที่อยู่ใกล้โครงการ ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (สถานีแยกเกษตร) มาทำการเชื่อมเข้ากับสายสีเขียวอีกด้วย ทำให้การเดินทางไปเรียน ไปทำงาน หรือเข้านอกออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายสะดวกมากขึ้นทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า ทั้งนี้ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านแหล่งชุมชนทั้งคนทำงานและนักศึกษาเลยค่ะ บรรยากาศจึงค่อนข้างคึกคัก รวมทั้งมีรถสาธารณะวิ่งผ่านมากมายทั้งรถเมล์ รถตู้ แท็กซี่ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เรียกว่าตอบโจทย์คนไม่มีรถส่วนตัวได้ดี เพราะมีตัวเลือกในการเดินทางมากทีเดียว ในเรื่องของอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้า ด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชนจึงมีร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปจนถึงตลาดสดให้เลือกจับจ่ายใช้สอยตลอดเช้ายันค่ำ ขยับไปอีกหน่อยก็มีแหล่งช็อปปิ้ง สถานศึกษา สถานพยาบาลมากมาย อาทิ โรงพยาบาลเมโย (ห่างเพียง 200 เมตร), มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ห่างเพียง 400 เมตร), เมเจอร์รัชโยธิน (ห่างเพียง 1.1 กิโลเมตร), เซ็นทรัลลาดพร้าว (ห่างเพียง 2.7 กิโลเมตร) และเดอะแจ๊ส วังหิน (ห่างเพียง 3.5 กิโลเมตร) ซึ่งเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ ตัวโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธิน   ภาพรวมโครงการ โครงการ Knightsbridge Kaset Society เป็นคอนโด High Rise 3 อาคาร บนพื้นที่ 2-0-79.6 ไร่ แบ่งออกเป็นที่พักอาศัยสูง 20 ชั้น 2 อาคาร, 16 ชั้น 1 อาคาร ในความเป็นส่วนตัวเพียง 6 ยูนิตต่อชั้น และอาคารจอดรถแบบ Automatic Parking 1 อาคาร สูงไม่เกิน 8 ชั้น สามารถรองรับรถได้ประมาณ 57% (ไม่รวมซ้อนคัน) มาพร้อม EV Charger 2 จุด มียูนิตรวมทั้งหมด 333 ยูนิตค่ะ โดยพื้นที่ชั้นหนึ่งจะมีร้านค้า 1 ยูนิต ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Limitless” Connection : Explode The Passion interludw to Metropolis Being Limitless ให้ลูกบ้านใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบไม่มีขีดจำกัด หากดูจากภาพตัวอย่างแล้ว จะเห็นได้ว่าตัวอาคารทั้ง 3 ตึก เชื่อมเข้าหากันที่บริเวณชั้น 16 มีความพิเศษด้วยส่วนกลางแบบ limitless skyline ของลูกบ้านทั้ง 3 อาคาร ซึ่งทาง ออริจิ้น ตั้งใจจัดไว้ให้เต็มที่ ทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ (Sky society Swimming Pool), ฟิตเนต (Sky society Fitness) ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยลอยฟ้า (Sky society Garden) ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Social Club, Co-Working Space, Co-Kitchen ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านยุคใหม่ ทั้งนี้ภายในอาคารที่พักอาศัยทุกตึกจะมี Lobby Society Limitless ส่วนตัวแยกกันชัดเจน พร้อมลิฟท์ 2 ตัว โดยแต่ละอาคารจะมีลูกบ้านอยู่ประมาณ 100 ยูนิตกว่าๆ ซึ่งก็ให้ความรู้สึกปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น จากแปลนของโครงการจะเห็นว่าแต่ละชั้นจะมีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น ในเรื่องของวิวทิวทัศน์ก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ไม่มีคอนโดสูงตั้งอยู่ ทำให้ทุกอาคารไร้สิ่งกีดขวาง บดบังสายตา ได้วิวเปิดโล่ง โดยภาพมุมสูงที่ถ่ายมาในความสูง 100 เมตร ของโครงการจากทิศเหนือจะมองเห็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดูร่มรื่นสบายตาจากพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัย ส่วนทิศตะวันออกจะได้วิวเป็นชุมชนฝั่งลาดพร้าว ถัดมาที่ทิศใต้จะได้วิวเมืองฝั่งรัชโยธินที่มีอาคารสำนักงานมากมาย แต่ก็คงความโปร่ง สบายตาไม่มีสิ่งบดบังเช่นเดิม รวมถึงทิศตะวันตกที่หันไปทางถนนวิภาวดี ก็สามารถมองทัศนียภาพของเมืองได้ระยะไกลเช่นเดียวกับทุกทิศ ซึ่งไม่ว่าลูกบ้านจะเลือกทิศไหนก็เจอ Top View ไร้สิ่งกีดขวางแน่นอนค่ะ     ด้านทิศเหนือจะหันไปทางสี่แยกเกษตร เห็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนด้านทิศใต้จะหันไปทางรัชโยธิน เห็นเมเจอร์ รัชโยธิน อยู่ไม่ไกล ทิศตะวันออกจะได้วิวฝั่งลาดพร้าว ทิศตะวันตกที่หันไปทางถนนวิภาวดี เปิดประตูห้องตัวอย่าง Knightsbridge Kaset Society ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากๆ ดังนั้นจึงออกแบบให้มียูนิตเฉลี่ยต่อชั้นเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น โดยคำนึงถึงรายละเอียด ฟังก์ชั่นภายในห้องพักอาศัยแบบสูงสุด นอกจากการคัดสรรวัสดุระดับพรีเมี่ยมแล้ว จุดเด่นของทุกยูนิตคือฝ้าเพดานห้องสูง 3 เมตร ทำให้ดูโปร่งโล่งมากกว่าคอนโดฯ ทั่วไป โดยเริ่มต้นที่ห้อง Studio ขนาด 23.3 ตร.ม. (1 Bedroom) ไปจนถึงขนาด 34.3 ตร.ม. (1 Bedroom Plus) ซึ่งทางโครงการจะขายแบบ Fully Fitted มาพร้อม Pantry ครัว, เฟอร์นิเจอร์บิลต์อินตามห้องตัวอย่าง และวัสดุภายในห้องน้ำค่ะ   ในครั้งนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างถึง 3 ห้องด้วยกัน เริ่มกันด้วยห้อง Studio 1 Bedroom ขนาด 23.3 ตร.ม. ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าห้องมา ต้องบอกว่าภายในห้องไม่ได้รู้สึกเล็กอย่างที่คิดเลยค่ะ ด้วยการจัดวาง Layout ให้ทุกพื้นที่สามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ครบทุกฟังก์ชั่น ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัวที่จัดแบ่งพื้นที่แยกไว้อย่างสัดส่วน ทั้งยังมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอนอีกด้วย แปลนห้อง Studio ขนาด 23.3 ตร.ม. (1 Bedroom) เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัวก่อนนะคะ ด้านซ้ายเป็นเคาน์เตอร์ครัว ด้านขวาเป็นห้องน้ำ ก่อนจะมีประตูบานเลื่อนกั้นกลางระหว่างโซนนั่งเล่น เคาน์เตอร์ครัวบิลต์อินมาในขนาดพอเหมาะกับห้อง ซึ่งลูกบ้านจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามนี้เลยนะคะ เว้นเพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งทางโครงการจะเว้นตำแหน่งวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าให้ด้วยค่ะ เคาน์เตอร์ครัวไม่ได้ออกแบบเป็นหน้าบานเปิดปิดเพียงอย่างเดียวนะคะ ทางโครงการยังดีไซน์ลิ้นชักไว้สำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆ ให้ด้วย ตรงข้ามครัวจะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึ่งภายในห้องแบ่งแยกพื้นที่เปียกและแห้งอย่างชัดเจน สำหรับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จะได้ครบตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการติดกระจกเงาส่องหน้าขนาดใหญ่ไว้ก็เพื่อช่วยสะท้อนให้ห้องดูกว้างขึ้น ประตูบานเลื่อนระหว่างครัวกับพื้นที่พักผ่อนจะเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอนนะคะ ข้อดีคือทำให้มีพื้นที่กว้างกว่า พื้นที่พักผ่อนภายในห้องจะเชื่อมต่อกันระหว่างเตียงนอนกับโซนนั่งเล่น ซึ่งก็ดูกว้างขวาง ไม่อึดอัดแต่อย่างใดนะคะ เพราะเพดานสูงถึง 3 เมตร และมีระเบียงเล็กๆ ให้ออกไปสัมผัสอากาศด้านนอกด้วย แม้ตัวห้องจะมีขนาดกะทัดรัดแต่ภายในห้องก็ได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศที่เอื้อเฟื้อต่อการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ในส่วนของบริเวณเตียงนอน ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างโดยกรุหินอ่อนที่ผนังหัวเตียงสื่อให้เห็นถึงความเรียบหรู ซึ่งทางโครงการไม่ได้มีเตียงให้นะคะ ลูกบ้านต้องซื้อเพิ่มเอง ทั้งนี้จะเลือกไซส์ 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต ก็แล้วแต่สะดวก เพราะพื้นที่โดยรอบก็เหลือบริเวณให้เดินมากพอ พื้นที่เหลือข้างเตียง ทางโครงการจัดโต๊ะเก้าอี้เป็นมุมทำงานไว้ ซึ่งก็ดูโปร่งโล่งสบายด้วยหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเปิดแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวห้อง ทางโครงการบิลต์อินคอนโซลทีวียาวไปจนถึงโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าที่ผนังฝั่งหนึ่ง ข้อดีของบิลต์อินคือประหยัดพื้นที่และเพิ่มพื้นที่จัดเก็บมากขึ้นนั่นเองค่ะ ทางโครงการจัดวางโซฟาตัวยาวสำหรับ 2 ที่นั่งเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ถือว่าระยะกำลังดีเลยนะคะ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ภายในห้องนอนถูกจัดสรรมาเป็นอย่างดี นอกจากเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินที่ทางโครงการมีให้แล้วนั้น ยังมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ 1 ตัวด้วยค่ะ   ห้องตัวอย่างถัดมาที่เราได้ชมคือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.8 ตร.ม. ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ ภายในห้องแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างชัดเจน ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่กั้นพื้นที่ห้องนอนไว้ด้านในสุด ซึ่งช่วยเปิดรับแสงสว่างได้เต็มที่ ติดกับห้องนอนเป็นห้องครัวแบบปิด ภายในออกแบบเคาน์เตอร์ไว้ด้านเดียวเพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งอยู่ติดกับระเบียงสามารถเปิดประตูเพื่อช่วยระบายอากาศและกลิ่นอาหารได้ ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นก็ดูกว้างขวาง มีบิลต์อินคอนโซลทีวีพร้อมตู้เก็บของสูงจรดเพดาน ทำให้เหลือพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ได้สบาย ต้องบอกว่าการจัด Space ภายในห้องทำไว้ได้ดีมาก ถึงแม้จะเป็นห้องขนาด 25.8 ตร.ม. แต่ก็สามารถจัดมุมนั่งเล่น มุมกินข้าว พื้นที่ครัว และห้องนอนได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนดั่งคอนโดบางแห่ง แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.8 ตร.ม. แปลนห้องจะเป็นลักษณะแคบลึกนะคะ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับส่วนนั่งเล่นก่อนเลย ด้วยขนาดเพดานที่สูงถึง 3 เมตรเลยทำให้ห้องนั่งเล่นดูโปร่งโล่ง น่าพักผ่อนมากขึ้น แม้แปลนห้องจะดูเหมือนหน้าแคบ แต่เมื่อเดินเข้ามาจริงๆ ก็กว้างพอตัวนะคะ เพราะสามารถวางโซฟาตัวยาวได้อย่างสบายๆ ซึ่งทางโครงการจะบิลต์อินคอนโซลทีวีไว้ให้เหมือนห้อง Studio ค่ะ เพียงแต่เพิ่มตู้เก็บของที่สูงจรดเพดานให้ด้วย พื้นที่ข้างโซฟา มีบริเวณเหลือมากพอที่จะจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ไว้สำหรับ 2 ที่ กั้นความเป็นส่วนตัวระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ภายในห้องนอนถูกจัดสรรมาเป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าบริเวณรอบเตียงมีพื้นที่เดินเข้าออกได้สบายๆ ซึ่งถ้าใครอยากดูทีวีในห้องนอนก็สามารถติดทีวีที่ผนังเพิ่มได้เช่นกันค่ะ ทางโครงการบิลต์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ติดหน้าบานกระจกเงามาให้ด้วยนะคะ ซึ่งนอกช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวแล้ว กระจกเงายังช่วยสะท้อนสายตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย พื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำและห้องครัว ถูกดีไซน์ให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่มีช่องเก็บของมากพอ ซึ่งเป็นมาตรฐานมาพร้อมกับห้องเลยค่ะ ต่อเนื่องไปยังห้องน้ำ เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าประตูห้องน้ำมีความสูงมากกว่าคอนโดทั่วไป เพราะเป็นขนาดโอเวอร์ไซส์ ซึ่งภายในดรอปพื้นลงหนึ่งเสต็ปเพื่อกันปัญหาน้ำไหลย้อน ทั้งยังแบ่งแยกโซนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจนด้วยฉากกระจกกั้น ตรงข้ามกับห้องน้ำเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งเป็นครัวแบบปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน จัดวางเคาน์เตอร์แบบ One-Walk Kitchen ทำให้เหลือทางเดินมากขึ้น ด้านในสุดเป็นระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ข้อดีที่ระเบียงอยู่ติดครัวก็ช่วยในเรื่องระบายอากาศ ลดความอับชื้นได้ดีค่ะ ทางโครงการบิลต์อินเคาน์เตอร์มาให้กับห้อง โดยคำนึงถึงสัดส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างลงตัวพอดีเลยนะคะ ซึ่งนอกจากช่องวาง ยังมีตู้ลอย และลิ้นชักให้เก็บของมากขึ้นด้วย   และห้องตัวอย่างสุดท้ายที่เราจะพาไปดู เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.3 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับห้องเอนกประสงค์ ลักษณะเป็นห้องหน้ากว้าง รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส บรรยากาศโดยรวมในห้องนี้จึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายตา การจัดแบ่งพื้นที่ไว้ก็เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดห้องเข้ามาเจอส่วนนั่งเล่นเลย ซึ่งมีที่กว้างพอให้วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังแอบเหลือพื้นที่สำหรับบิลต์อินโต๊ะกินข้าวและตู้เย็นได้อีกหน่อย ก่อนจะเข้าห้องนอนมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนสวยงาม ภายในห้องบิลต์อิน ตู้ เตียงไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ   ติดกันกับห้องนอนจะเป็นห้องเอนกประสงค์ซึ่งลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นใช้งานได้ตามใจ ตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ซึ่งพื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำกับห้องเอนกประสงค์นั้นถูกบิลต์อินให้เป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ ที่มาพร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ซึ่งเหมาะกับนักศึกษาและคนทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาประกอบอาหารเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ก็ใช้แค่อุ่นอาหารและล้างจานเท่านั้น แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.3 ตร.ม. เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยค่ะ ซึ่งแปลนห้องจะคล้ายๆ กับห้องขนาด 25.8 ตร.ม. แต่กว้างขวางมากกว่านั่นเองค่ะ การจัดวางแปลนภายในห้อง ที่เชื่อมต่อพื้นที่การใช้งานอย่างมุมนั่งเล่น มุมรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน จากโซฟาถึงคอนโซลทีวี มีพื้นที่กว้างขวางมากพอที่จะวางโต๊ะกลางได้อย่างสบายๆ ทางโครงการจะบิลต์อินคอนโซลทีวีพร้อมกับตู้เก็บของจรดเพดานมาให้เหมือนดั่งห้องตัวอย่างเลยนะคะ นอกจากคอนโซลทีวี ยังบิลต์อินชั้นเก็บของและโต๊ะรับประทานอาหารที่สามารถพับขึ้นลงเพิ่มมัลติฟังก์ชั่นใช้งานที่มากขึ้น ทั้งยังเว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นได้อย่างพอดิบพอดี ประตูบานเลื่อน 3 ตอนกั้นกลางระหว่างโซนรับประทานอาหารกับห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัว ห้องนอนที่มีหน้าต่างบานใหญ่โอบล้อมอาคารช่วยทำให้บรรยากาศโดยรวมของห้องดูปลอดโปร่ง โล่งสบายมากขึ้น ภายในห้องนอนมาพร้อมตู้เสื้อผ้าบิลต์อินสูงจรดเพดาน 3 เมตร พื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำและห้องเอนกประสงค์ จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดเล็ก เหมาะแก่การประกอบอาหารแบบง่ายๆ ถึงเคาน์เตอร์ครัวจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งานนะคะ เพราะมีทั้งเตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควัน อ่างล้างจาน และช่องว่างสำหรับวางไมโครเวฟ ติดกับโซนครัวคือห้องเอนกประสงค์ ที่ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นใช้งานได้ตามใจ ภายในห้องเอนกประสงค์ที่ทางโครงการตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน เพื่อเป็นไอเดียให้แก่ลูกบ้าน ซึ่งหากจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนก็สามารถทำได้นะคะ ทั้งนี้ในห้องยังมีประตูบานเลื่อนอีกชั้นให้ออกไปสัมผัสอากาศด้านนอกที่ระเบียงได้ ซึ่งระเบียงก็มีขนาดกว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าได้ด้วยค่ะ ห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องอเนกประสงค์ ฟังก์ชั่นใช้งานรวมถึงสุขภัณฑ์ด้านในจะเหมือนกับห้องขนาด 23.3 ตร.ม. และ 25.8 ตร.ม. เลยนะคะ จะต่างกันแค่เพียงขนาดที่กว้างขวางกว่าเท่านั้นค่ะ   ห้องทุกยูนิตของโครงการ Knightsbridge Kaset Society ขายแบบ Fully Fitted นะคะ ภายในห้องจะบิลต์อินตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ต่างๆ และเครื่องปรับอากาศมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ลูกบ้านแค่ตกแต่งเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มมากนัก และด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในย่านชุมชน รายล้อมด้วยสาธารณูปโภคอย่างครบครัน ทั้งยังเดินทางสะดวกสบาย เหมาะกับนักศึกษาและคนวัยทำงาน รวมถึงคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นหลักหรือเดินทางด้วยรถส่วนตัวบ้าง ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเอง หรือซื้อไว้ลงทุนก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ ด้วยทำเลศักยภาพในราคาจับต้องได้ โดยเริ่มต้นที่ 2.69 ล้าน ไม่ควรมองข้ามเลยจริงๆ ค่ะ   สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้ที่ Sale Office โครงการ Knightsbridge ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ ซอย 5 (สุขุมวิท 55) หรือลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท* ได้ที่ http://knightsbridge.origin.co.th/kasetsociety/ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 020 300 000
คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย – Supalai Loft Yaek Fai Chai Station : รีวิวคอนโด

คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย – Supalai Loft Yaek Fai Chai Station : รีวิวคอนโด

ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย (Supalai Loft Yaek Fai Chai Station) - คอนโด High Rise สูง 24 ชั้น เดินทางสะดวกบนถนนพระเทพฯ ตัดใหม่ ใกล้แยกไฟฉาย ใต้แนวคิด LIGHT AND SHADOW รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,170,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Hight Rise สูง 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    ประมาณ 2 ไร่ จำนวนห้อง     ห้องพัก จำนวน 366 ยูนิต / ร้านค้า จำนวน  4 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 57 % (ไม่รวมซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ   ถนนพระเทพฯ ตัดใหม่ กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง แมคโคร จรัญ31 เดอะมอลล์ ท่าพระ Foodland เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า พาต้า ปิ่นเกล้า เทสโก้ โลตัส วังหลัง THE SENCE ตลาดปิดเงิน - ปิดทอง  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยา โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรีซอยจรัญฯ วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน วิทยาลัยพาณิชยการธนบุรี ลักษณะห้องและขนาดห้อง แบบ 1 ห้องนอน  ขนาด 35-77.5 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน  ขนาด 35-77.5 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำระบบเกลือ + Jacuzzi สระเด็ก ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า สวนสนามเด็กเล่น และเครื่องเล่นสนาม CO-LIVING SPACE CO-WORKING SPACE Roof Garden ศาลานั่งเล่น Meeting Room สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.supalai.com/
The Excel HIDEAWAY Sukhumvit 71 – ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 : รีวิวคอนโด

The Excel HIDEAWAY Sukhumvit 71 – ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 : รีวิวคอนโด

The Excel HIDEAWAY Sukhumvit 71 (ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71) - คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ BTS อ่อนนุช และ BTS พระโขนง รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,390,000 บาท เจ้าของโครงการ   All Inspire Development Public Company Limited ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร พื้นที่โครงการ    5 - 3 - 15 ไร่ จำนวนห้อง     672 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 39.5% ที่ตั้งโครงการ    ซ.ปรีดีย์พนมยงค์ 14 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้าง    เดือนกุมภาพันธ์ 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2562 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีพระโขนง W District BTS อ่อนนุช บิ๊กซี อ่อนนุช เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท Gateway เอกมัย เมเจอร์ เอกมัย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 , 30 , 41.50 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 34 - 38 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Swimming pool Co-Working Space Fitness Relax area Shuttle Services to BTS Garden สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-029-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://allbooking.allinspire.co.th/
Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คอนโดแบบญี่ปุ่น : รีวิวคอนโด

Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คอนโดแบบญี่ปุ่น : รีวิวคอนโด

ถ้ายังจำกันได้ เราเคยรีวิวโครงการ “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” ไปก่อนหน้านี้นานแล้ว ตั้งแต่โครงการยังไม่เริ่มสร้าง มาถึงตอนนี้ตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่เรียบร้อยแล้ว เราจึงจะพาไปอัพเดทที่โครงการกันซักหน่อย แวะไปสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นกันครับ อยากสัมผัสคอนโดแต่งครบสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้คุณผ่อนคลาย และใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างมีสไตล์ได้ทุกวัน รีบไปลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันเลยที่ https://goo.gl/QilXzI  1 ห้องนอน Top Floor 2.29 ล้าน* พร้อมดอกเบี้ย 2.89% นาน 3 ปี*  (ผ่อนเพียงเดือนละ 7,xxx บาท/เดือน) พิเศษ! ลุ้นรับรถยนต์ Honda Civic, Samsung Galaxy S8 และอื่นๆ อีกมากมาย ถึงกันยายน 2560 เท่านั้น!     คอนโด Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าวงศ์สว่าง (สายสีม่วง) เพียง 50 เมตรเท่านั้น ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายนี้ก็เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว การเดินทางเข้าเมืองก็จัดว่าสะดวกมากขึ้น ถึงแม้จะต้องต่อรถ Shuttle Bus บ้างก็ตาม แต่ล่าสุดก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะมีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าในส่วนที่ขาดหายไป การเดินทางทั้งไปเรียน ไปทำงาน ในทุกๆ วันก็จะเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น หรือถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัว ถนนหนทางก็เลือกใช้ได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนวงศ์สว่าง ถนนพระราม 5 ถนนติวานนท์ และถนนประชาราษฎร์สาย 2 ต่างก็เชื่อมโยงกับ “ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี” ทั้งหมด แถมยังมีทางด่วนด่านประชานุกูลอยู่ใกล้ๆ จะเดินทางเข้า-ออกเมืองก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ ถ้าใครได้อ่านรีวิวฉบับแรกๆ (ดูรีวิวAspire รัชดา-วงศ์สว่าง) จะรู้ว่า ทางบริษัท AP ได้ร่วมมือกับ Mitsubishi Estate Group ออกแบบให้โครงการ “Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” มีความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานอยู่ด้วย ทั้งเรื่องไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ให้สามารถใช้งานได้จริง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ตกแต่งดีไซน์ให้มีกลิ่นอายแบญี่ปุ่นแทรกตัวไปในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนหินแบบเซน ฉากตกแต่งบริเวณล็อบบี้ หรือลวดลายบนกระจกและฝ้าเพดานในห้องออกกำลังกายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะญี่ปุ่น ฯลฯ ในส่วนของ Facility ภายในโครงการ ทาง AP ตั้งใจจัดไว้ให้เต็มที่ ทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาด 9x30 เมตร ที่บริเวณชั้น 5 และห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครันในชั้นเดียวกัน ในขณะที่สวนลอยฟ้าและบริเวณล็อบบี้ก็เพิ่มบรรยากาศแบบญี่ปุ่นด้วย สวนหินแบบเซน รวมไปถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ในสวนหรือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งที่ให้ลูกบ้านได้สัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง จุดเด่นอันหนึ่งของโครงการที่ได้รับเสียงนิยมจากลูกบ้านแทบทุกคนเลยก็คือ พื้นที่ล็อบบี้ด้านนอกอาคาร ที่ให้บรรยากาศโล่ง โปร่งสบาย จนลูกบ้านหลายๆ คนให้เป็นมุมโปรดสำหรับผ่อนคลายความเหนื่อยล้า เนื่องด้วยพื้นที่บริเวณนี้มีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน แถมยังมีที่นั่งให้เลือกมากมายหลายมุม ยิ่งถ้าร้านสะดวกซื้อใต้อาคารเปิดให้บริการด้วยแล้ว บริเวณล็อบบี้นี้ก็คงจะกลายเป็นมุมประจำของทุกบ้านอย่างแน่นอน เปิดห้องสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยความที่ปัจจุบันโครงการ Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ได้สร้างเสร็จและมีลูกบ้านย้ายเข้าอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นอยู่จริงของลูกบ้านในโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่มีความชอบการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในตำแหน่งที่เดินทางได้สะดวกทั้งทางรถไฟฟ้า และรถส่วนตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่เราสัมผัสได้ถึงความสุขของผู้อยู่อาศัยส่วนหนึ่งขณะที่เรากลับไปเยี่ยมโครงการอีกครั้ง ในครั้งนี้เราได้ดูห้องตัวอย่างในบรรยากาศจริงถึง 2 ห้องด้วยกัน เริ่มกันด้วยห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. แว๊บแรกที่เดินเข้าห้องมา ต้องบอกว่าภายในห้องไม่ได้รู้สึกเล็กอย่างที่คิดเลย ด้วยการจัดวาง Layout ห้องให้ทุกพื้นที่ในห้องสามารถใช้สอยได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีครบทุกฟังก์ชั่น ทั้งห้องนอน และห้องครัวที่จัดแบ่งพื้นที่แยกไว้อย่างชัดเจน มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอนให้เป็นสัดส่วน และที่จะลืมไม่ได้เลยคือ "ห้องน้ำสำเร็จรูปสไตล์ญี่ปุ่น" ซึ่งในส่วนนี้เป็นหนึ่งในไอเดียที่ทาง AP ร่วมมือกันกับ Mitsubishi Estate Group โดยพื้นห้องน้ำจะเป็นโพลีเมอร์หล่อขึ้นรูปมาทั้งชิ้น มีข้อดีคือ การดูแลรักษา หรือซ่อมบำรุงทำได้ง่าย งานระบบต่างๆ จะอยู่ใต้พื้นห้องน้ำ หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ต้องทุบผนังให้วุ่นวาย ไม่ต้องกังวลจะต้องทะเลาะกันเพื่อนข้างห้องด้วยครับ บรรยากาศในห้องน้ำนี่เป็นญี่ปุ่นสุดๆ ใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นจะรู้ว่าผมไม่ได้พูดเกินจริงเลย ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราได้ชมกันคือ ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม. ห้องนี้ตกแต่งมาได้คอนเซปต์ญี่ปุ่นมาก ทั้งโซน Living Area ที่จัดให้มีมุมนั่งเล่น และมุมรับประทานอาหารไว้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่กว้างขวาง โปร่งสบายด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ห้องครัวเป็นครัวปิด ในโซนกลางของห้อง ภายในครัวออกแบบเคาน์เตอร์ไว้สองด้านเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน ขณะเดียวกันก็อยู่ติดกับระเบียงสามารถเปิดประตูเพื่อช่วยระบายอากาศ และกลิ่นอาหารได้ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องอยู่คนละด้านกันโดยมีครัวกั้นกลางนะครับ ห้องนอนเล็กมีพื้นที่ใช้สอยกำลังพอเหมาะ วางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับการตกแต่งเพิ่มเติมได้อีก ในขณะที่ห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom อยู่ด้านเดียวกับห้องน้ำ มีประตูเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องเลย ดังนั้นพื้นที่ในห้องนอนหน้าห้องน้ำสามารถจัดเป็น Walk-in Closet ได้สบายๆ เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนใหญ่กว้างขวางพอสมควรเลยทีเดียว ห้องน้ำในห้องก็เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปแบบเดียวกับห้องก่อนหน้านี้เลยนะครับ เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันก็ตรงที่ห้องนี้จะมีประตูเข้าห้องน้ำได้ 2 ทาง คือจากทางห้องนั่งเล่น และจากด้านในห้องนอนใหญ่นั่นเอง ห้องทุกยูนิตของโครงการ Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ขายมาให้แบบ Fully Furnished เลยนะครับ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในห้องก็สวย เรียบง่าย สไตล์ญี่ปุ่นเลย ดังนั้นห้องที่ได้ก็จะได้บรรยากาศญี่ปุ่นๆ ตามในห้องตัวอย่างเป๊ะเลยทีเดียว รับรองว่าคุ้มค่า คุ้มราคาทั้งซื้อหาไว้อยู่อาศัยเอง หรือซื้อไว้เพื่อการลงทุน แอบกระซิบนิดนึงว่า คนญี่ปุ่นในไทยก็ให้ความสนใจโครงการนี้ไม่น้อยเลยนะครับ มีคนญี่ปุ่นย้ายเข้ามาอยู่กันพอสมควรเลยทีเดียว... ดังนั้นใครที่กำลังอยากได้คอนโดดีๆ ติดรถไฟฟ้า ไม่ควรมองข้าม Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง นะครับ
Knightsbridge Prime Onnut คอนโดใหม่ย่านอ่อนนุช เพื่อความเป็นที่สุดของชีวิตทุกด้าน : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Prime Onnut คอนโดใหม่ย่านอ่อนนุช เพื่อความเป็นที่สุดของชีวิตทุกด้าน : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เรามีโครงการใหม่จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มาแนะนำกันค่ะ กับแบรนด์ Knightsbridge Prime Onnut ที่สุดของคอนโดใหม่ในย่านอ่อนนุชที่เป็น Top Brand เนื่องจากยึดตำแหน่งทำเลทอง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า และพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรูในราคาคุ้มค่าไม่ว่าใครก็เอื้อมถึง แต่จะน่าสนใจขนาดไหนตามไปดูรายละเอียดโครงการพร้อมกันเลยค่ะ   ศักยภาพของทำเลโครงการ สำหรับโครงการ Knightsbridge Prime Onnut ถือว่าตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพจริงๆ ค่ะ ทางออริจิ้นเลือกปักหมุดบนที่ดินติดถนนใหญ่ บริเวณต้นซอยอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชเพียง 600 เมตรเท่านั้น ในย่านนี้มีการเดินทางที่สะดวกและสามารถเลือกได้หลายเส้นทางมาก นอกจากใกล้รถไฟฟ้าแล้ว ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ จะเดินทางไปสนามบิน หรือจะเข้า-ออกเมืองก็สะดวกไปหมด เพราะมีทั้งเส้นทางถนนสุขุมวิท ถนนอ่อนนุช ถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ ตัดไปออกรามคำแหง ศรีนครินทร์ บางนา-ตราด ขึ้นบูรพาวิถี ออกมอเตอร์เวย์ก็ได้หมดเลยค่ะ ห่างออกไปไม่ไกลตรงบริเวณท้ายซอยอ่อนนุช ยังมีรถไฟฟ้า Airport Rail Link แถมในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเพิ่มขึ้นมาอีกสาย การเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ จะเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้นไปอีกแน่นอน โครงการ Knightsbridge Prime Onnut อยู่บนที่ดินแปลงที่อยู่ติดกับห้าง Big C อ่อนนุชเลยค่ะ ดังนั้นเวลาจะต้องช้อปปิ้งซื้อของใช้เข้าบ้านก็สะดวกมากทีเดียว ด้วยระยะห่างเพียง 20 เมตร เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาขับรถวนหาที่จอดรถด้วยค่ะ ถ้าใครที่คุ้นเคยกับทำเลอ่อนนุชอยู่แล้วจะรู้ดีว่า บรรยากาศบริเวณต้นซอยอ่อนนุชคึกคักมาก เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเดิม มีตลาดสด ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ เต็มไปหมด เรื่องของอาหารการกิน แหล่งช้อปปิ้งจึงสะดวกสบายมากเลยค่ะ เพราะนอกจากอยู่ใกล้ Big C และร้านค้ารายทางแล้ว ห่างไปอีก 300 เมตร ทางฝั่งตรงข้ามยังเป็นที่ตั้งของ Habito Mall (T77) ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่กำลังฮ๊อตฮิตมาก ขณะเดียวกันบริเวณปากซอยอ่อนนุชก็มี Tesco Lotus อีกหนึ่งแหล่งช็อปปิ้งสำคัญในย่านนี้ค่ะ นอกจากนี้ที่ดินบริเวณสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช กำลังก่อสร้างโครงการ Mix Use ยักษ์ใหญ่ในชื่อ Century Movie Plaza ขณะเดียวกันการจะเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือแหล่งธุรกิจก็รวดเร็วด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียวเลยค่ะ ไม่กี่สถานีก็ถึง เอกมัย และทองหล่อ แหล่งรวมร้าน Hang Out ชื่อดังมากมาย หรือถ้าอยากเดินช็อปปิ้งสวยๆ Em District ก็อยู่ถัดไปอีกนิดเดียวเอง การจะไปถึง สยาม สีลม และสาทร จึงสะดวกรวดเร็วถึงได้ในพริบตา สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้นะคะ เรื่องสถานศึกษา มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ  โรงพยาบาล สถานีตำรวจก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ แทบทั้งหมดเลยค่ะ ด้วยความเจริญที่ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่องแบบนี้  บวกกับแนวโน้มของทำเลที่จะกลายมาเป็นเมืองของ Expat ที่ชาวต่างชาติย้ายมาอยู่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อ่อนนุชจึงเป็นพื้นที่ที่กำลังถูกจับตา และเป็นที่ต้องการมากขึ้นไปอีกค่ะ   ภาพรวมโครงการ โครงการ Knightsbridge Prime Onnut เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 47 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ที่มีความต่างจากคอนโดมิเนียมโครงการอื่นๆ ที่ผ่านมาของ ออริจิ้น หลายส่วนเลยทีเดียวค่ะ เริ่มจากศักยภาพที่บอกไปแล้วว่าเป็น Expand CBD โดยชูคอนเซ็ปต์ PRIME OF LIVING การออกแบบตัวอาคารจึงเน้นความหรูหรา มีสไตล์ ซึ่งทางออริจิ้นบอกว่าตึกนี้จะเป็นตึกที่สูงและสวยที่สุด จนเป็น Landmark บนถนนอ่อนนุชเลยทีเดียว พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจัดเต็มมาแบบ Full Floor Facility เรียกว่าจัดเต็มพื้นที่รวดเดียว 2 ชั้นต่อเนื่อง โดยมีทั้งสระว่ายน้ำแบบ Skypool พร้อมจุดชมวิวที่โดดเด่นด้วยพื้นที่ลอยเหนือสระว่ายน้ำ ซึ่งลูกบ้านจะได้เต็มอิ่มกับวิวสวยๆ ในมุมสูงขณะที่พักผ่อนอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง นอกจาก Facility ในบริเวณชั้น 37-38 แล้ว บน Roof Top นอกจากนี้ยังทันสมัยด้วย Automatic Parking ที่สามารถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 65% พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวรอบโครงการกว่า 1 ไร่ ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่พรีเมี่ยมที่สุดในย่านนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ รายละเอียดโครงการ เจ้าของโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด : คอนโด High Rise 47 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง : 600 ยูนิต และร้านค้า 1 ร้าน ที่จอดรถ : ที่จอดรถอัตโนมัติ คิดเป็น 65% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ : 2-1-72 ไร่ ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุขุมวิท 77 ตำบลพระโขนงเหนือ อำเภอวัฒนา จังหวัด กรุงเทพ 10260 เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 1 ปี 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 4 ปี 2563 ในส่วนของห้องพักทางออริจิ้นก็เพิ่มความสูงของเพดานให้มากถึง 3 เมตร (New High Ceiling) ทำให้บรรยากาศการอยู่อาศัยภายในห้องโปร่ง สบาย โอ่อ่ามากยิ่งขึ้นค่ะ หน้าต่างจัดเต็มสูงทะลุฝ้า พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted กับความเป็นที่สุดของคอนโดใหม่บนทำเลอ่อนนุชที่ไม่มีตึกใดๆ มาบดบัง พูดแค่นี้อาจจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนใช่ไหมคะ วันนี้เรามีภาพ Floor Plan และภาพตัวอย่างของห้องทั้ง 3 Typeในโครงการ ซึ่งมีให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่ม 22 – 26 ตร.ม. 1 ห้องนอน Plus ขนาดเริ่ม 31 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาดเริ่ม 55 ตร.ม. แปลนห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Studio 22 ตารางเมตร แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom 26 ตารางเมตร แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตารางเมตร ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus 31 ตร.ม. ที่มาพร้อมห้องเอนกประสงค์   จะว่าไปแล้วพื้นที่ห้องไซส์เริ่มต้นของโครงการ Knightsbridge Prime Onnut ที่เปิดมาขนาดห้อง 22 ตร.ม. แบบนี้ จัดว่าลงตัวทั้ง Efficiency Space และ Lay out อย่างพอดีเลยนะคะ ทางด้านคอนเซ็ปต์ดีไซน์ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน แถมยังมี Facility ในโครงการเตรียมไว้อีกเพียบ เชื่อว่าลูกบ้านโครงการนี้น่าจะได้รับความสะดวกสบายครบถ้วนที่สุด ยิ่งตัวโครงการตั้งอยู่กลาง New CBD ขนาดนี้ ใครที่กำลังเล็งห้องในทำเลย่านนี้อยู่ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน คงไม่ต้องคิดนาน รีบตัดสินใจเลยค่ะ เพราะราคาแพจเกจสินค้าท็อปแบรนด์ที่ทาง Origin ทำมาครั้งนี้ เรียกได้ว่าเข้าถึงได้คนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้าน* สำหรับคนที่สนใจ Origin เตรียมจะเปิดให้จองครั้งแรกอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 16-17 กันยายน 2560 นี้ ในงาน “The Best 4 Knightsbridge of The Year” โดยจะจัดงานขึ้นที่สยามพารากอน Hall 3 ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลศักยภาพ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://goo.gl/vopbjD หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 020 300 000 หรือ www.origin.co.th
Pleno สุขุมวิท-บางนา ทาวน์โฮมคุณภาพบนทำเลที่ดีที่สุด ย่านบางนา : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno สุขุมวิท-บางนา ทาวน์โฮมคุณภาพบนทำเลที่ดีที่สุด ย่านบางนา : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno สุขุมวิท-บางนา พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น โครงการใหม่ล่าสุด จาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “REFLECT YOUR LIVING PRIDE” วิถีใหม่ที่สะท้อนการใช้ชีวิต ไปกับธรรมชาติที่งดงาม ความสุขที่ลงตัวของการใช้ชีวิตเหนือระดับ สะท้อนมุมมองและความภาคภูมิใจ ให้ได้สัมผัสความเป็นตัวตนของคุณ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม รื่นรมย์ ไปกับ Clubhouse ที่โดดเด่นในเรื่องของ Luxury Design พร้อมสระว่ายน้ำใหญ่และสระเด็ก , Fitness, สวนสวยที่เป็นส่วนกลางขนาดใหญ่ สร้างแรงบันดาลใจให้กับความสุขที่ถูกเติมเต็มในทุกๆ รายละเอียดของการอยู่อาศัย โดดเด่นที่สุดบนทำเลศักยภาพของ สุขุมวิท-บางนา สะดวกทุกการเดินทาง ใกล้ถนนใหญ่ เส้นบางนา-ตราด ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ใกล้ทางด่วนบูรพาวิพี และวงแหวนรอบนอก และใกล้รถไฟฟ้า ทำเลที่ดีที่สุดย่าน สุขุมวิท-บางนา! สัมผัสทำเลที่ดีที่สุด ย่านสุขุมวิท-บางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา กับโครงการใหม่ Pleno สุขุมวิท-บางนา บนทำเลศักยภาพ ซอยบางนา กม.7 ใกล้ถนนใหญ่ บางนา-ตราด เชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายและรวดเร็ว ด้วยทางด่วนบางนาฯ หรือที่เรียกว่า ทางพิเศษบูรพาวิถี สามารถใช้ทางลัดที่ออกทาง IKEA (เป็นเส้นทางลัดสู่ Mega Bangna ด้วย) ได้ หรือหากจะไปสุวรรณภูมิ ก็ใช้ทางด่วนวงแหวนกาญจนา ได้อีก นับว่าเป็นโครงการที่มีทำเล ที่สามารถตอบสนองทุกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อย่างห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งฯ อย่าง Central บางนา Mega Bangna , IKEA , และสถานศึกษาชั้นนำ เช่น ร.ร.ราชวินิต บางแก้ว, ร.ร.นานาชาติคอนคอร์เดียน เป็นต้น แถมยังมีศักยภาพต่อไปในอนาคต เนื่องจาก Mega Bangna กำลังมี Project การอัพเกรด เฟสใหญ่ และพื้นที่อีกด้านที่อยู่ตรงข้าม BITEC บางนา ก็มีการลงทุนสร้าง Bangkok Mall โครงการ Mixed-Use ขนาดมหึมา จึงเรียกได้ว่า ย่านสุขุมวิท-บางนา เป็น ทำเลศักยภาพ ที่เพรียบพร้อมและน่าจับตามองในการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ    Pleno สุขุมวิท-บางนา สถานที่ตั้ง    ถนนบัวนครินทร์ ตำบลบางพลี อำเภอบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ (เข้าซอยบางนา กม.7 หรือซอยรร.ราชวินิต) ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่โครงการ    ประมาณ 23-3-36.6  ไร่ (9,536.6 ตารางวา) จำนวน    295 ยูนิต รายละเอียดแบบบ้าน ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 106.5 ตารางเมตร คันหน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 17.5 ตารางวา จอดรถ 1 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก                                        - คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ Kids Pool ฟิตเนส สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และสนามเด็กเล็ก Gate เข้า- ออกโครงการ พร้อมป้อม รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ และถนนภายในโครงการ เส้นทางคมนาคม ถนนสุขุมวิท ถนนกาญจนาภิเษก ถนนบางนาตราด BTS บางนา ทางด่วน (บูรพาวิถี/วงแหวนรอบนอก) สถานศึกษา  โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน โรงเรียนราชวินิต บางแก้ว โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ห้างสรรพสินค้า Mega Bangna IKEA , Central บางนา Big C & Lotus (บางนา) SB DESIGN SQUARE Index Living Mall Chic Republic สถานพยาบาล รพ.ไทยนครินทร์ รพ.ปิยะมินทร์ รพ.ศิครินทร์  สถานที่สำคัญ สนามกอล์ฟเมืองแก้ว สถานีตำรวจเมืองแก้ว สนามบินสุวรรณภูมิ เว็ปไซต์    :    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :    1623 เริ่มก่อสร้าง    มกราคม 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    มิถุนายน 2562 Pleno สุขุมวิท-บางนา พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างพิถีพิถันด้วยความเข้าใจในทุกองศาของการใช้ชีวิต บนทำเลศักยภาพ ใกล้ถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนวงแหวนรอบนอก และทางพิเศษบูรพาวิถี และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา เชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย เริ่มต้น 2.99 ล้าน* เปิด PRE-SALE ให้จอง 19-20 ส.ค.60 นี้ 2 วันเท่านั้น!! รับข้อเสนอ "จ่ายน้อยคืน 100%" ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
“Knightsbridge” ขึ้นแท่น Top Form Brand แห่งปี จาก Origin Property : รีวิวคอนโด

“Knightsbridge” ขึ้นแท่น Top Form Brand แห่งปี จาก Origin Property : รีวิวคอนโด

  การที่จะเลือกเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมดีๆ ซักแห่งเรื่องทำเลที่ตั้งเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งทาง Origin เองก็รู้ใจคนเมืองและเข้าใจความสำคัญในเรื่องนี้ดี จึงเลือกปักหมุด 4 ทำเลศักยภาพที่เป็น Expand CBD อย่างในย่านเกษตร-รัชโยธิน, อ่อนนุช และรามคำแหง ซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสีต่างๆ พร้อมทั้งส่งแบรนด์ Knightsbridge ลงมาในแคมเปญ “The 4 Best Knightsbridge of The Year” มาเอาใจตลาดคนเมืองโดยเฉพาะ ถ้าใครติดตามผลงานของ Origin อยู่แล้ว จะรู้ดีว่าแบรนด์ Knightsbridge เป็น Top Brand จาก Origin ที่ยึดตำแหน่งทำเลดีใกล้สถานีรถไฟฟ้า มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรูในราคาที่คุ้มค่า สามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเลยค่ะ และเมื่อทาง Origin เปิดข้อมูล Knightsbridge มาพร้อมกันถึง 4 โครงการแบบนี้ เราเลยจะพาไปดูจุดเด่นของแต่ละทำเลกันค่ะ ใครสนใจย่านไหนลองเลือกไว้พิจารณากันได้เลย Knightsbridge Kaset Society เริ่มกันด้วยโครงการแรก Knightsbridge Kaset Society ต้องบอกว่าเป็นโครงการน้องใหม่ล่าสุดที่มาแรงมากๆ ขึ้นขนาดที่ทาง Origin ลัดคิวด่วนเปิดข้อมูลโครงการมาพร้อมกันในรอบนี้เลย ตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธินเลยค่ะ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแค่ 40 เมตร นอกจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่จ่ออยู่หน้าโครงการแล้ว รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-บึงกุ่ม) ก็อยู่ในแผนพัฒนาที่จะมาเชื่อมกับสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรในอนาคตด้วยค่ะ 1 สถานีถึง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานีแยกเกษตร 3 สถานีถึง MRT สถานีห้าแยกลาดพร้าว 3 สถานีถึง รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางเขน ถึงแม้โครงการ Knightsbridge Kaset Society และ Knightsbridge Prime Ratchayothin อยู่ในย่านเดียวกัน ห่างจากกันเพียงไม่กี่สถานี แต่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปนะคะ Knightsbridge Kaset Society จะได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งที่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีปทุมมากกว่า มีบรรยากาศการอยู่อาศัยในแหล่งชุมชนเดิมซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มากๆ ในขณะที่แหล่งงาน หรือหากต้องการไป Hangout ดูหนัง เดินห้าง ก็มีพร้อม เพราะอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่สถานีเท่านั้น ทำเลช่วงสี่แยกเกษตรสืบเนื่องจากการก่อสร้าง Mass Transit อย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่สามารถเข้าถึงสยาม โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานี ยังรวมถึงมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลมา Interchange ที่สถานีแยก ม.เกษตร นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยน LINE ไป MRT ที่สถานีพหลโยธิน ซึ่งเป็นห้างหลัก อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว และใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีบางเขน ความเป็น HUB ของ Mass Transit นี้ทำให้เกิดการพัฒนาคอนโดฯ เกิดขึ้นในทำเลนี้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งถนนเกษตร-นวมินทร์ ยังมี Mega Project โครงการนวมินทร์เฟส ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี อสังหาริมทรัพย์แนวหน้า กำลังล้อมรั้วเตรียมก่อสร้างโครงการแบบมิกซ์ยูส บนที่ดินกว่า 300 ไร่ ทำเลตรงข้ามโครงการนวมินทร์ซิตี้ อเวนิว ด้านหน้าติดถนนประเสริฐมนูกิจ และด้านข้างชนกับถนนเสนานิคม มีแผนจะพัฒนาเป็นอาคารศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม ใช้งบฯลงทุนรวม 7,000-8,000 ล้านบาท สำหรับโครงการ Knightsbridge Kaset Society เป็นคอนโดมิเนียม สูง 20 ชั้น 2 อาคาร และสูง 16 ชั้น 1 อาคาร รวมเป็น 3 อาคาร จำนวน 333 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 332 ยูนิต พร้อม Shop house 1 ร้าน) บนที่ดินขนาด 2-0-79.6 ไร่ สุดเอ็กคลูซีฟ Private ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยเพียง 6 ยูนิตต่อชั้น มาพร้อมกับ Limitless Facility พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า เชื่อม 3 อาคารที่ชั้น 16 และอาคารจอดรถ แบบ Automatic Parking 10 ชั้น ที่แยกเป็นสัดส่วน ห้องพักอาศัยแบ่งออกเป็น 2 Type 1  Bedroom Type B1 ขนาด 23.30 ตร.ม. 1 Bedroom Type B2 ขนาด 25.80 - 27.30 ตร.ม. 1 Bedroom Type B3 ขนาด 25.30 ตร.ม. 1 Bedroom Plus  Type BP1 ขนาด 29.70 - 30.10 ตร.ม.  1 Bedroom Plus Type BP2 ขนาด 34 ตร.ม. วิวมุมสูงของแต่ละทิศ   Knightsbridge Prime Onnut ต่อมาเป็นโครงการ Knightsbridge Prime Onnut ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช ซึ่งเป็นสถานีที่เปิดให้บริการกันมานานแล้ว แต่ความร้อนแรงของทำเลในย่านนี้ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนลงเลยเลยทีเดียว บนทำเลถนนสุขุมวิท มีรถไฟฟ้าพร้อมใช้งานแล้ว ห่างจากด่านทางด่วนไม่ไกล แถมยังแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยอีก จึงไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่ยังคงยกให้ทำเลนี้เป็นทำเลในดวงใจ โครงการ Knightsbridge Prime Onnut เลือกทำเลได้ว้าวมากๆ เพราะอยู่ต้นซอยอ่อนนุช เป็นที่ดินแปลงที่ติดกับห้าง Big C อ่อนนุชเลยค่ะ ดังนั้นระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชจึงอยู่ใกล้ๆ แค่ 600 เมตรเท่านั้น จะเดินทางเข้าออกเมืองก็เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ 2 สถานีก็ถึงแหล่ง Hangout อย่างเอกมัย ทองหล่อแล้วค่ะ แถมในอนาคตบริเวณท้ายซอยจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเพิ่มเข้ามาอีกด้วย ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์จะออกต่างจังหวัด หรือไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถนนหนทางในย่านนี้เชื่อมต่อถึงกัน สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทางเลยทีเดียวค่ะ ในรัศมีรอบโครงการพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ฝั่งตรงข้ามโครงการคือที่ตั้งของ โครงการ T77 ที่มี Habito Mall เป็น Community Mall ใหญ่ที่กำลังฮิตติดกระแสคนเมืองในเวลานี้ ใกล้ๆ ยังมีโรงเรียนนานาชาติ รวมถึงการมาของเมกาโปรเจคอย่าง Century Movie Plaza โครงการ Mix Use ยักษ์ใหญ่ติดรถไฟฟ้าอ่อนนุช ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ทำเลในย่านนี้เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน โครงการ Knightsbridge Prime Onnut ตั้งอยู่บนที่ดินใกล้กับโครงข่ายรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ สายสีขียว (สุขุมวิท) สถานีอ่อนนุช เชื่อมต่อใจกลาง CBD ชั้นนำของกรุงเทพ หรือออกสู่แยกบางนาเชื่อมต่อส่วนต่อขยายโซนตะวันออกสมุทรปราการ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) และ Airport Rail Link ใกล้ ทองหล่อ,เอกมัย แหล่ง Hangout ย่านดังของกรุงเทพ เพียง 10 นาที ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน 2 จุด (รามอินทรา อาจณรงค์ และ เฉลิมมหานคร 2 KM.) ห่างสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 20 นาที (18 KM.) ความสูงโครงการ อาคาร 47 ชั้น เทควิวโค้งน้ำ บางกระเจ้า ได้อารมณ์คอนโดกลางเมืองเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยา Knightsbridge Prime Ratchayothin พูดถึงทำเลย่านรัชโยธิน เชื่อว่าทุกคนคงรู้กันดีว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งรวบไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่ครบเครื่องมากๆ ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว เมเจอร์รัชโยธิน SCB Park โรงพยาบาล สถานบันศึกษา รวมถึงอาคารสำนักงานชั้นนำอีกมากมาย จึงมีศักยภาพความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยมาก แถมปัจจุบันส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวก็เป็นรูปเป็นร่างคืบหน้าไปมากแล้ว ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 50 เมตรเท่านั้น แทบจะเรียกว่าติดรถไฟฟ้ากันได้เลย แต่ความพิเศษยังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ค่ะ เพราะทำเลนี้ยังถูกล้อมไปด้วยรถไฟฟ้ามากถึง 3 สาย นั่นคือสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน และสายสีเหลือง ซึ่งต่อไปจะทำให้การเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเมืองมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้พื้นที่ใกล้เคียงกำลังจะมีแผนการพัฒนาอีกมาก ทั้งข่าวการร่วมทุนของ​ BTS กับ G Land ที่จะผุดโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่บนที่ดินริมถนนพหลโยธิน และมีแผนพัฒนาเมืองในอนาคตอีก ทำให้พื้นที่ในย่านนี้ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากค่ะ   Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng สำหรับ Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng ต้องบอกว่าเป็นอีกทำเลหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย เพราะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในขณะที่ห่างออกไปเพียง 1 สถานีก็จะสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ Airport Rail Link ได้อีกด้วย ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณปากซอยรามคำแหง 42 ย่านนี้มีความพร้อมในการอยู่อาศัยมากค่ะ รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านเก่าเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้รอบๆ นี้มีตึกสูงมาบดบังวิวเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเลยทีเดียวค่ะ มีทั้งมหาวิทยาลัย สนามกีฬา โรงพยาบาล Community Mall ห้างสรรพสินค้าอีกเพียบ ตำแหน่งโครงการบริเวณปากซอยรามคำแหง 42 สามารถเดินทางได้หลายเส้นทางเลยนะคะ ซอยข้างๆ เป็นทางลัดอย่างดีที่จะตัดไปออกถนนหัวหมาก รวมถึงถนนหนทางรอบๆ ก็เชื่อมต่อไปได้หลายทาง ทำให้การเดินทางในย่านนี้มีเส้นทางหลีกหนีการจารจรได้ดี จะเข้า-ออกเมืองก็ไม่ยากค่ะ ทั้งทางด่วนและมอเตอร์เวย์ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากโครงการ สไตล์ของการออกแบบโครงการใช้ศิลปะของการผสมผสาน และการเชื่อมต่อกันของงานดีไซน์ 2 สไตล์ที่แตกต่างกัน Classic และ Modern  ไว้ด้วยกันและอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว เป็นงานศิลปะที่เรียกว่า  Collage Art   แบรนด์ Knightsbridge ทั้ง 4 โครงการนี้เลือกใช้คอนเซปต์ใหม่ของการอยู่อาศัย ซึ่งทาง Origin ให้นิยามว่า “Another Home” เพื่อจะยกระดับคุณภาพชีวิตในคอนโดมิเนียม ให้พร้อมไปด้วยความสะดวกสบายเสมือนบ้านอีกหลังด้วย “New High Ceiling” สูง 3 เมตรทุกห้องเพื่อความโปร่ง โล่ง สบาย รวมไปถึง Facilities ที่จัดเต็มทุกโครงการจริงๆ ค่ะ ไฮท์ไล์ที่น่าสนใจและสะกดคนที่ต้องการคอนโดฯ คงเป็นเรื่องราคาที่ทาง Origin ทำแพจเกจราคาสินค้าท็อปแบรนด์มาในราคาที่เรียกได้ว่า เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มี Urban Lifestyle ทั้งกลุ่มที่ต้องการอยู่เอง หรือ Speculator ทั้งนี้ เกิดจากความสามารถจากทีมงานในการพัฒนาสินค้าหรือห้องชุดให้ใช้สอยพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสุด ทั้ง Efficiency Space และ Lay out ที่ลงตัวที่สุด .. ตอบโจทย์ กลุ่มคนที่ต้องการคอนโดฯ ราคาแพคเกจที่ตอบโจทย์ ไลฟ์สไคล์คนเมือง Knightsbridge Collage Ramkhamhaeng พิเศษ เริ่ม 1.89 ล้าน* Knightsbridge Kaset Society พิเศษ เริ่ม 2.69 ล้าน* Knightsbridge Prime Onnut พิเศษ เริ่ม 2.69 ล้าน* Knightsbridge Prime Ratchayothin พิเศษ เริ่ม 3.33 ล้าน* “The Best 4 Knightsbridge of The Year” เตรียมจะเปิดให้จองครั้งแรกอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 16-17 กันยายนนี้ โดยจะจัดงานขึ้นที่ ห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน Hall 3 ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลศักยภาพลงทะเบียนล่วงหน้ากันได้ที่ https://goo.gl/vopbjD หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ โทร. 020 300 000 หรือ www.origin.co.th
เดอะไพร์ม พระราม 9-รามคำแหง 21 โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น ที่ลงตัวทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย : รีวิวทาวน์โฮม

เดอะไพร์ม พระราม 9-รามคำแหง 21 โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น ที่ลงตัวทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปดูโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง” หนึ่งในทำเลศักยภาพที่แวดล้อมไปด้วยสังคมเมืองเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายและน่าลงทุนในขณะนี้ ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท เดอะไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นที่อยู่อาศัยกึ่งบ้านกึ่งสำนักงาน หรือที่เรียกกันว่า Home Office นั่นเองค่ะ พื้นที่ของโครงการแบ่งออกเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น ดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์นสะท้อนความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจและชีวิตส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน แต่รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ     เริ่มต้นจากรายละเอียดโครงการ “เดอะไพร์มพระราม 9 – รามคำแหง” กันก่อนเลย ราคาเริ่มต้น : 3.45 ล้านบาท เจ้าของโครงการ : บริษัท เดอะไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลักษณะโครงการ : อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น จำนวนทั้งหมด : 67 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด : 4-2-84 ไร่ รูปกรรมสิทธิ : สิทธิการเช่าที่ดินพร้อมอาคารระยะยาว 30 ปี เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน : กรมพุทธศาสนา ที่ตั้งโครงการ : ถนน นวศรี (ซอยรามคำแหง 21) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ โครงการ เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21 เป็นโครงการที่ให้กรรมสิทธิ์ในรูปแบบ การเซ้ง หรือ การเช่าที่ดินระยะยาว  นะคะ โดยมีระยะเวลาเซ้งตามสัญญาอยู่ที่ 30 ปี ส่วนใครที่ยังสงสัยว่า การเซ้ง หรือ การเช่าที่ดินระยะยาว คืออะไร สามารถคลิกอ่านได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://goo.gl/NgLZug   ศักยภาพของที่ตั้งโครงการ   แน่นอนค่ะว่าปัจจุบันย่าน “พระราม 9 – รามคำแหง” เป็นทำเลทองที่ความเจริญต่างๆ ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการเดินทาง การกินอยู่ รวมถึงศักยภาพของทำเลกลางเมืองที่พร้อมรองรับการทำธุรกิจหรือเปิดกิจการมากขึ้นเรื่อยๆ  สำหรับการเดินทางมายังโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21” ก็สามารถเลือกได้หลายเส้นทางค่ะ เพราะถนนนวศรี (ซอยรามคำแหง 21) ที่ตั้งโครงการนั้นเชื่อมโยงเข้ากับถนนศรีวราและถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วน) ต่อติดทุกเส้นทางใจกลางเมืองรวดเร็วทันใจด้วยด่านทางด่วน (รามอินทรา-อาจณรงค์) ซึ่งทางด่วนสายนี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับมอเตอร์เวย์ได้อีกด้วยค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวนั้นสามารถเดินทางมายัง โครงการ เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21 ได้โดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link (ห่างจากสถานีรามคำแหง 2 กิโลเมตร) เรือแสนแสบ ท่าเรือเดอะมอลล์ 3 (ห่างจากท่าเรือเพียง 320 เมตร) หรือรถประจำทางก็มีให้เลือกมากกว่า 10 สาย อาทิ สาย 171, 204, 168, 520, 95, 126 ทั้งนี้ในอนาคตการเดินทางมายังโครงการก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นค่ะ เพราะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม (หน้า The Mall รามคำแหง) และสายสีเทา (โครงการในอนาคตเร็วๆ นี้)  ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากขึ้นไปอีกค่ะ ส่วนบริเวณรอบโครงการก็แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษาหลายระดับชั้น, สถานพยาบาล, ศูนย์ราชการใกล้เคียง และสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินทางได้สะดวกทีเดียวค่ะ   พาชมโครงการ เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21   ปัจจุบันโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21” สร้างเสร็จพร้อมขายเกินครึ่งและมีลูกบ้านเริ่มย้ายเข้ามาอยู่แล้วนะคะ แต่ก็มีลูกบ้านบางส่วนที่รอตกแต่ง ต่อเติม โดยทางโครงการมีอาคารให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกันคือ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พร้อมชั้นลอย พื้นที่ใช้สอย 135 และ 140 ตร.ม. กับ Home Office 3 ชั้น ในพื้นที่ใช้สอย 127.50 - 150 ตรม. และ 300 ตารางเมตร ซึ่งโซนด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ของตึกแถวอาคารพาณิชย์ ส่วนด้านในจะเป็น Home Office นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ตลอดแนวถนนในซอยรามคำแหง 21 ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ มีร้านค้า ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อที่เช่าที่ดินระยะยาวอยู่มากมายค่ะ เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าควบคู่กับการทำธุรกิจ ถนนภายในโครงการกว้าง 9.45 เมตร สำหรับแบบบ้านที่เราจะพาไปดูวันนี้ คือ อาคารพาณิชย์  3 ชั้น พร้อมชั้นลอย พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. และ Home Office 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 127.50-150 ตรม. ค่ะ Shop House ดีไซน์ทันสมัย เรามาเริ่มที่อาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21”  กันก่อนเลยดีกว่าค่ะ หน้าบ้านกว้าง 4.25 เมตร ลึก 9 เมตร รูปร่างหน้าตาภายนอกอาคารดีไซน์ในรูปแบบ  Modern Tropical แต่ยังผสมผสานการออกแบบที่ใช้เส้นสายเรียบง่ายผสมความเป็นธรรมชาติ ตกแต่งด้านหน้าด้วยระแนงเหล็ก บางช่วงเจาะช่องสี่เหลี่ยมเพื่อเพิ่มความโปร่งแสงและลดทอนความแข็งของวัสดุ เน้นการใช้กระจกบานใหญ่ทำให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามามากพอไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวันนั่นเองค่ะ สำหรับการตกแต่งลูกบ้านสามารถเลือกจัดฟังก์ชั่นได้ตามใจชอบค่ะ เพราะโครงการได้เตรียมพื้นที่อย่างกว้างขวางไว้ให้แล้ว แบบบ้าน Shop House แบบบ้าน Shop House จะอยู่ติดถนนในซอยเลยนะค่ะ เหมาะกับการทำเป็นร้านค้าหรือร้านอาหารตามชื่อของแบบบ้านเลยค่ะ แปลนของชั้น 1 โครงการวางแบบแปลนมาให้ดูเป็นร้านอาหารมีโต๊ะสำหรับลูกค้าและเคาน์เตอร์ของร้านอยู่ด้านใน บริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่สำหรับค้าขาย วางสินค้าโชว์หรือเป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับลูกค้า เพดานจะสูงพอสมควรนะคะ เพราะ Type นี้จะมีชั้นลอยให้ด้วย ช่วยให้บริเวณชั้น 1 ดูโล่งโปร่งดีค่ะ แปลนของชั้นลอย พื้นที่บริเวณชั้นลอยเราสามารถเลือกใช้งานได้ตามใจชอบเลยนะค่ะ ขั้นมาที่ชั้น 2 ในแปลนโครงการจะตกแต่งเป็นส่วนของที่พักอาศัย พื้นที่บนชั้น 2 กว้างขวางดีนะคะ เราจะตกแต่งเป็นส่วนของที่พักอาศัยอย่าง Living Area เหมือนในแปลนโครงการก็ได้ หรือว่าจะเพิ่มพื้นที่ค้าขายขึ้นมาบนชั้น 2 ก็ได้นะคะ ส่วนพื้นที่ 3 จะเป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ พื้นที่บนชั้น 3 ตามแปลนโครงการตกแต่งเป็นห้องนอน อยู่ติดกับระเบียงขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนห้อง Penthouse เลยค่ะ Home Office ดีไซน์ใหม่ ลงตัวทั้งชีวิตและธุรกิจ ในส่วนของ Home Office ที่เราพามาชมครั้งนี้ จะมีพื้นที่ใช้สอย 150 ตรม. แบ่งเป็น 3 ชั้น Type นี้ หน้าบ้านจะกว้าง 5 เมตร มีพื้นที่จอดรถได้ 2 คัน รูปร่างหน้าตาอาคารภายนอกถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เน้นสีเทาและสีขาว เพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจมากขึ้นโดยปรับระดับสีให้มีความเข้มอ่อนไม่เท่ากันทำให้ภาพรวมของอาคารดูทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังจัดสรรพื้นที่ฟังก์ชั่นใช้งานในบ้านให้ลงตัวทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว โดยชั้น 3 ออกแบบให้เป็นที่พักอาศัยแบบ Exclusive Penthouse Master Bedroom ให้ความรู้สึกส่วนตัวเหมือนอยู่ Penthhouse หรูบนคอนโดฯ เลยค่ะ แบบบ้าน Home Office พื้นที่หน้าบ้านกว้างประมาณ 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน แปลนบ้านทั้ง 3 ชั้น ก่อนอื่นเรามาดูภาพ Perspective ของโครงการที่ตกแต่งมาให้ดูกันก่อนะคะ เริ่มจากชั้น 1 ที่เป็นเหมือน Lobby ของบริษัท มีพื้นที่รับรองและเคาน์เตอร์ Reception ขึ้นมาด้านบนอาจจะเป็นห้องของผู้บริหาร พร้อมพื้นที่รับรองแขก และมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานของพนักงานในบริษัท บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ พื้นที่ขนาดใหญ่ที่ชั้น 1 เหมาะสำหรับเป็น Lobby ต้อนรับแขกของบริษัท ใต้บันไดจะมีห้องเก็บของเล็กๆ ซ่อนอยู่ ที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำให้ 1 ห้องนะคะ แต่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เข้ามาด้านในสุดจะเป็นพื้นที่หลังบ้าน คราวนี้เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อดีกว่านะคะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอห้องน้ำก่อนเลยนะคะ ก่อนที่จะแยกออกเป็น 2 ห้อง ห้องน้ำที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำด้วยนะคะ ห้องแรกเหมาะจะทำเป็นห้องนอนเหมือนในแปลนของโครงการเลยนะคะ ด้วยขนาดที่กว้างขวาง และมีระเบียงขนาดใหญ่ หรือจะตกแต่งเป็นห้องทำงานของผู้บริหารก็ได้อีกแบบ ระเบียงขนาดใหญ่เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน กว้างเต็มพื้นที่ห้องเลยค่ะ อีกห้องจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ด้วยขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกัน ในแปลนโครงการทำเป็นห้องทำงานของพรักงาน ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอน Master Bedroom บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้งหมดเลยนะคะ สามารถเลือกตกแต่งกันได้ตามใจชอบเลย ระเบียงจะได้ขนาดใหญ่เหมือนชั้น 2 โครงการแบ่งพื้นที่สำหรับทำห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ไว้ให้เรียบร้อย พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าบริเวณ Walk-in Closet ค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในบริเวณเดียวกัน พร้อมพื้นที่อาบน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่หน้าบ้านของแต่ละ Type ทุกยูนิตจะมีหน้ากว้างและพื้นที่ใช้สอยไม่เท่ากันนะคะ แต่การแบ่งฟังก์ชั่นห้องและการออกแบบอาคารด้านนอกจะเป็นสไตล์เดียวกันทั้งหมด อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าเลยค่ะว่าชอบแบบไหน บ้านหลังไหนใช้พื้นที่คุ้มค่ามากกว่ากัน นอกจากเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอยแล้ว ถ้าลูกค้าคนไหนตั้งใจจะเปิดร้านทำการค้า ทำกิจการส่วนตัว เราแนะนำให้เลือกซื้ออาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการค่ะ เพราะที่ดินจะอยู่ติดถนนนวศรี (ซอยรามคำแหง 21) ทำให้มีโอกาสค้าขายได้ดีขึ้นค่ะ   โครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21” นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจนะคะ เพราะราคาไม่สูงมากถ้าเทียบกับโครงการอื่นในทำเลใกล้ๆ กัน แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของ ‘การเซ้ง’ หรือ สิทธิการเช่าที่ดินในระยะยาว 30 ปี อยู่บ้างแต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะเมื่อหมดสัญญาเราก็สามารถต่อสัญญาได้อีก และเจ้าของที่ดินไม่สามารถขอเรียกคืนก่อนหมดสัญญาเช่าได้ค่ะ ใครที่กำลังมองหาบ้านสักหลังไว้ประกอบธุรกิจ อาคารพาณิชย์และ Home Office โครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีนะคะ แถมราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ยิ่งถ้าคุ้นชินกับทำเลทองย่านนี้อยู่แล้วก็น่าจะเห็นถึงศักยภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุนได้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อทุกเส้นทางใจกลางเมือง หรือสาธารณูปโภคที่ครบครันบริเวณรอบๆ โครงการก็ล้วนแต่ตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตได้เป็นอย่างดีค่ะ แล้วถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีเทาเปิดให้บริการเมื่อไหร่ ความสะดวกสบายก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น จนถึงตอนนั้นราคาบ้านคงสูงลิ่วไปไกลเกินคว้าแล้วค่ะ สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการและบ้านตัวอย่างได้นะคะ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 088-535-5556-7 หรือ http://theprimeliving.com/
Sena Eco Town Ramindra-Wongwaen : เสนา อีโคทาวน์ รามอินทรา-วงแหวน : รีวิวคอนโด

Sena Eco Town Ramindra-Wongwaen : เสนา อีโคทาวน์ รามอินทรา-วงแหวน : รีวิวคอนโด

เสนา อีโคทาวน์ รามอินทรา - วงแหวน (Sena Eco Town Ramindra - Wongwaen) - คอนโด Low Rise สูง 5 ชั้น บนถนนรามอินทราใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา 83 โครงการใหม่ จาก SENA Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,590,000 บาท . เจ้าของโครงการ    บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด    คอนโด Low Rise สูง 5 ชั้น จำนวน 10 อาคาร ที่จอดรถ    100% ที่ตั้งโครงการ   ถ.รามอินทรา - วงแหวน กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือน ม.ค. ปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ The Promenade รถไฟฟ้ารามอินทรา 83 โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลนวมินทร์ Central East Ville ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 26.00 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก ที่จอดรถ 100 % Solar Cell ส่วนกลาง Digital Community Service Jogging Track Bike Lane 3 กิโลเมตร Pet Garden (พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง) สนามพัตต์กอล์ฟ Garden Pavilion สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร fitness ร้านสะดวกซื้อภายในโครงการ สวนสิบไร่ (Sena Park Avenue) Shuttle car รับส่งโครงการ สถานีรถไฟฟ้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://sena.co.th/th
5 เรื่องสุดว้าว ของที่พักลักชัวรี่ บนตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย

5 เรื่องสุดว้าว ของที่พักลักชัวรี่ บนตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย

เห็นตึก มหานคร ที่สูงที่สุดระดับประเทศ ในฐานะแลนด์มาร์คของกรุงเทพมหานคร สะท้อนสีฟ้าสดใส พร้อมลูกเล่น พิกเชล (pixel) อันโดดเด่นในโลเคชั่นกลางเมือง ใครจะรู้ว่านอกจากความสูงที่สุดของตึก ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนไทยทั้งประเทศแล้วภายในอาคารยังเป็นที่ตั้งคอนโดฯ ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ เดอะริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ที่พักอาศัยที่มาจากตำนานความสมบูรณ์แบบ เห็นแล้วต้องบอกว่าน่าจับตาและน่าค้นหาที่นี่มี 5 ความเป็นที่สุด แบบที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน คอนโดฯ บนฟ้า สูงสุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ ส่วนบนของอาคารที่สูงที่สุดในกรุงเทพ จึงเรียกได้ว่าเป็นที่พักอาศัยที่มีความสูงเหนือพื้นดินมากที่สุดในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน โซนสกาย เรสซิเดนซ์ ที่มีความสูงตั้งแต่ 216-300 เมตร ซึ่งนับตั้งแต่ชั้น 57 – 73 ของอาคาร เป็นโซนที่มีความสูงเหนือกว่าคอนโดที่พักอาศัยใดๆ แบบที่เคยไม่เคยมีมาในประเทศไทย วิวพาโนรามาส่วนตัว เห็นมหานครที่ไม่เคยหลับไหล ด้วยทำเลที่ตั้ง ณ ใจกลางกรุงเทพฯ และไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยา จึงได้มุมมองของกรุงเทพฯ ที่สวยงามครบทุกองค์ประกอบ ทั้งวิวเมืองและแม่น้ำ จนถึงบางกระเจ้า เมื่อผนวกกับความสูงพิเศษของตัวอาคารแล้วจึงได้มุมมองที่กว้างไกลถึงอ่าวไทยและปริมณฑล นอกจากนี้ การออกแบบพิเศษของตัวอาคารและวัสดุที่เลือกใช้ยังช่วยเพิ่มระดับการรับชมวิวที่สวยงามยิ่งขึ้น ด้วยบานกระจกที่สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน และฟีเจอร์พิเศษ ‘พิกเซล’ ที่ใช้การเล่นระดับความล้ำและเหลื่อมของพื้นที่และการจัดวางเลย์เอ้าท์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละชั้น จึงได้ออกมาเป็น สกาย บ็อกซ์ (Sky box) ที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้พักอาศัยด้วยวิวพาโนราม่า 270 องศาอย่างไม่มีอะไรบดบังเสมือนลอยอยู่บนฟ้า จากแบรนด์ระดับตำนานโลก สู่ที่พักอาศัยส่วนตัว เดอะริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก  เกิดขึ้นจากความตั้งใจและทุ่มเทในการปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน  ตอกย้ำ “ความสมบูรณ์แบบระดับ 5 ดาว” อาทิ ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับโครงสร้างเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เมื่อเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเร็วของลิฟต์โดยสาร หรือแม้กระทั่งข้อกำหนดเรื่องเวลาในการรอลิฟต์สำหรับแขกที่เข้าพัก จนถึงคุณภาพของสุดยอดการบริการและการใส่ใจในรายละเอียด จึงมั่นใจได้ว่าการใช้ชีวิตในทุกวันๆ ณ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส จึงเสมือนอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาว ห้องตัวอย่างบนตึกจริงที่ความสูงมากกว่า 216 เมตร เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ตกแต่งห้องตัวใหม่บนตึกจริงจำนวน 4 ห้อง พร้อมชูไฮไลท์ห้องตัวอย่างบน โซนสกาย เรสซิเดนซ์ ชั้น 58 ที่ความสูงมากกว่า 216 เมตรจากพื้นดิน เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับวิวระดับร้อยล้านและการตกแต่งพร้อมอยู่ที่สวยงาม นับเป็นห้องตัวอย่างที่เห็นวิวของจริงที่ทั้งสูงและสวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย มรดกอันล้ำค่าที่สามารถส่งต่อให้ลูกหลาน พื้นที่ทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อหลายปีก่อนด้วยราคาเฉลี่ย 250,000 บาท ต่อตร.ม. ขณะที่ปัจจุบันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงกว่า 400,000 บาท ต่อตร.ม. อีกทั้งยังเปิดขายด้วยกรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ การถือครองเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส จึงเป็นสินทรัพย์อันล้ำค่าที่สามารถส่งต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลานได้ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก คือคำตอบของไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบ เตรียมตัวพบกับห้องตัวอย่างใหม่พร้อมเข้าอยู่บนโซน สกาย เรสซิเดนซ์ (ชั้น 58) ได้เร็วๆ นี้ และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์ www.rcr-bangkok.com/bkk
Niche Mono Sukhumvit-Bearing : นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง : รีวิวคอนโด

Niche Mono Sukhumvit-Bearing : นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง : รีวิวคอนโด

Niche Mono Sukhumvit-Bearing (นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง) คอนโดแนวคิดใหม่กับการสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกันระหว่าง "SENA" กับ "Hankyu Realty" ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ NICHE MONO พร้อมเปิดตัวคอนเซปต์ "Geo fit+" รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,300,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    1,275 ยูนิต พื้นที่โครงการ    4-3-59.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนสุขุมวิท 70 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง ทางด่วน บางนา - ตราด ทางด่วน บางพลี สุขสวัสดิ์ อิมพีเรียล สำโรง Mega Bangna Central บางนา เทสโก้โลตัส บิ๊กซี โรงพยาบาลสำโรง โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 2 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 4 โรงพยาบาลบางนา โรงเรียนนานาชาติแอนด์ดรูว์ส โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา โรงเรียนลาซาล พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 28-31 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 39 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Infinity Edge Pool 88 M Jacuzzi Sunken Deck Fitness Room 250 Sq.m. Boxing Room Games Room Yoga Room Steam Room Sky Lounge & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง Sky Relaxing Zone Amphitheatre Sky Meeting Room Double Lobby Jogging Track Tom & Toms Coffee 7-11 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 70 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/niche-mono-sukhumvit-Bearing
“Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในย่านพหลโยธิน ตัวเลือกของครอบครัวคนเมือง : รีวิวทาวน์โฮม

“Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในย่านพหลโยธิน ตัวเลือกของครอบครัวคนเมือง : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เรากำลังพูดถึงโครงการน้องใหม่มาแรง "Pleno พหลโยธิน-วัชรพล" ทาวน์โฮมระดับพรีเมี่ยมที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในโซนนี้เลยค่ะ นอกจากบรรยากาศการอยู่อาศัยของสังคมคุณภาพที่ดีแล้ว ตัวทำเลที่ตั้งของโครงการยังมีศักยภาพสูงแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคครบครัน เพื่อให้ทุกคนเห็นสภาพแวดล้อมของสังคมที่ดีตลอดจนพื้นที่ละแวกโดยรอบซึ่งเอื้อต่อความสบายในการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เราจะมาพูดถึงความพิเศษที่ Pleno เลือกปักหมุดทำเลในย่านนี้กันค่ะ   ทุก Lifestyle คนเมืองสุดชิค อยู่ใกล้กว่าที่คิด   เริ่มตั้งแต่ตัวโครงการ Pleno พรีเมี่ยมทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ทันสมัยสไตล์ Modern Art Deco พัฒนาแปลนบ้านเพื่อรองรับสมาชิกของครอบครัวให้ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่ใช้สอยสูงสุด ตอบโจทย์รูปแบบชีวิตของครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือรองรับการขยายในอนาคตอย่างมีคุณภาพด้วยสภาพแวดล้อมและสังคมเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบถ้วนสมบูรณ์ รวมถึงบริเวณโดยรอบของ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล ก็รายล้อมไปด้วยศูนย์การค้าชั้นนำมากมายที่ขับรถไปได้โดยใช้เวลาไม่นาน ตอบโจทย์ปัจจัยสำคัญในชีวิตเรื่องของอาหารด้วย ตลาดยิ่งเจริญ ให้คนรักการทำอาหารได้จับจ่ายวัตถุดิบสดใหม่เข้าครัว รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซนทรัล พลาซ่า รามอินทรา, บิ๊กซี สะพานใหม่ และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ให้คุณสามารถจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้ได้ตามใจ หรือหากอยากชมภาพยนตร์ เมเจอร์รังสิต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบายค่ะ หากเบื่อสถานที่เดิมๆ ลองเปลี่ยนไปเดินห้างสรรพสินค้าสุดชิคเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่อย่าง เซ็นทรัลเฟลติวัล อิสต์วิลล์ พื้นที่ไลฟ์สไตล์แห่งใหม่เลียบทางด่วนรามอินทรา หรือขยับไปอีกนิดก็ยังมี CRYSTAL DESIGN CENTER (CDC) แหล่งรวมร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ แม้กระทั่งร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ก็มีให้เลือกเพียบในสถานที่เดียวเลยค่ะ ซึ่งตัวเลือกทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียงใช้จุดขึ้นลงทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา อยู่ไม่ไกลโครงการห่างเพียง 4.8 กม. ค่ะ   ทำเลโครงการที่ดี สะดวกทุกรูปแบบการเดินทาง   คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน หรือทาวน์โฮมดีๆ สักหลัง แน่นอนค่ะว่า Pleno พหลโยธิน-วัชรพล อยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์การเดินทางครบทุกข้อ เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งของโครงการที่อยู่ติดถนนเพิ่มสิน เชื่อมต่อกับถนนหลากหลายสายทำให้สามารถเข้าออกได้หลายทาง เช่น ถนนสายไหม ถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 ทั้งนี้ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนหรือถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่อยู่ไม่ไกล ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางอีกด้วยค่ะ ข้อดีของทำเลบนถนนเพิ่มสินนี้ยังมีอีกเยอะทีเดียวค่ะ แม้จะเป็นถนนสายรองแต่ก็เชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่หลายเส้นได้ง่าย ที่สำคัญคือรถไม่ติด ไม่ต้องหงุดหงิดเสียเวลาในการเดินทางไปไหน แถมยังอุ่นใจเพราะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเข้าถึงย่านธุรกิจ การค้า และแหล่งช้อปปิ้งได้แล้วค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยที่โครงการจะมีกระแสตอบรับที่ดีมากขนาดนี้ นอกจากนี้การเดินทางแสนสะดวกที่สุดของคนเมืองอย่างรถไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝันนะคะ เพราะที่ตั้งของ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล อยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และสถานีสะพานใหม่) ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2563 ยังไงในอนาคตไม่ช้าก็ต้องได้ใช้อย่างแน่นอนค่ะ และเมื่อรถไฟฟ้ามาถึง แน่นอนว่าการเดินทางก็ยิ่งสะดวกมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนการเดินทางก็เป็นเรื่องง่ายแน่นอนค่ะ แผนที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากสถานีหมอชิต ไปสิ้นสุดที่สถานีคูคต ซึ่งโครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล จะอยู่ใกล้ 2 สถานีคือสถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลเดช และสถานีสะพานใหม่ ปัจจุบันการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็รุดหน้าไปมากแล้วนะคะ มีเสามีรางขึ้นมาให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ยอมทนรถติดกันอีกหน่อยเดี๋ยวรถไฟฟ้าสร้างเสร็จก็สบายกันแล้วค่ะ ส่วนตัวสถานีก็มีโครงสร้างขึ้นมาให้เห็นรูปเป็นร่างแล้วนะคะ ตรงนี้จะเป็นสถานีสะพานใหม่ที่อยู่ด้านหน้าตลาดยิ่งเจริญ พอรวมทุกศักยภาพของทำเลที่โครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล เลือกปักหมุดในตำแหน่งนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพที่สนใจเป็นอย่างมาก ด้วยภาพลักษณ์ของสภาพแวดล้อมและสังคมเพื่อนบ้านที่ดี ปัจจัยโดยรอบโครงการก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ของครอบครัวได้เช่นกัน หากคุณกำลังมองหาทาวน์โฮมคุณภาพ สักหลังหนึ่ง เรามั่นใจว่า Pleno พหลโยธิน-วัชรพล เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดในย่านนี้สำหรับคุณแน่นอน พูดถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งกันไปแล้ว มาดูตัวโครงการ “Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในโซนนี้จาก AP Property กันบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูพร้อมกันเลย   รายละเอียดโครงการ   ที่ตั้งโครงการ : ถนนเพิ่มสิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น  จำนวน 321 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด : 30-3-79.74 ไร่   พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในโซนนี้   สำหรับทาวน์โฮม Pleno พหลโยธิน-วัชรพล มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบด้วยกัน คือ LUXE ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100.71 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ มาพร้อมที่จอดรถ 1 คัน และ METRO ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 130.55 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และสามารถจอดรถได้ 2 คัน ซึ่งแบบบ้านที่เราจะพาไปดูกันก็คือ LUXE ทาวน์โฮม 2 ชั้นค่ะ รูปร่างหน้าตาภายนอกอาคารดูหรูหราและทันสมัยตามคอนเซ็ปต์ Modern Luxury เลยค่ะ หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน สำหรับที่ดินเริ่มต้นที่ 18 ตร.วา ค่ะ ทุกรายละเอียดของตัวอาคารถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยใช้แต่วัสดุคุณภาพ ประดับตกแต่งด้วยหินธรรมชาติเล่นระดับกับแสงไฟและแสงแดดตอกย้ำความหรูหราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังดีไซน์ให้ดูโปร่งโล่งสบายด้วยการใช้กระจกใสบานใหญ่ กระจกบานกระทุ้งทรงสูง และราวกันตกแบบ Tempered Glass ที่ดูเรียบหรูแบบร่วมสมัยแต่ยังช่วยให้รับแสงภายนอกได้ดีขึ้น ซึ่งภายในบ้านตัวอย่างก็ได้ตกแต่งพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่างๆ ไว้อย่างสวยงามลงตัวและน่าสนใจทีเดียวค่ะ ประตูทางเข้าจะเป็นกระจกบานเลื่อนนะคะ ซึ่งข้อดีของประตูแบบนี้คือน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ผุกร่อน สามารถใช้งานได้ยาวนานค่ะ เมื่อเดินเข้ามาในบ้านจะเห็นว่าถูดจัดวางแปลนให้เป็นส่วนตัวกับพื้นที่ใช้สอย ภายในเน้นความโปร่งโล่งสบายสอดรับกับห้องรับแขกที่กว้างขวาง พื้นที่การใช้งานภายในบ้านตัวอย่างนั้นถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน จัดฟังก์ชั่นแบบ Open Plan หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหารและครัว ครัวออกแบบให้เป็น One-Wall Kitchen จัดชิดผนังฝั่งหนึ่ง ซึ่งข้อดีของเคาน์เตอร์ครัวแบบนี้คือช่วยประหยัดพื้นที่ ทั้งยังสามารถระบายอากาศได้ดีเนื่องจากทางโครงการได้ติดตั้งหน้าต่างบริเวณนี้ด้วย พื้นที่ส่วนครัวมีประตูเล็กๆ ให้สามารถเปิดออกไปทำกิจกรรมด้านนอกได้ บริเวณหลังบ้านมีขนาดกว้างทีเดียวค่ะ ซึ่งลูกบ้านสามารถดีไซน์พื้นที่ส่วนนี้ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะทำครัวไทยเพิ่มเติม ใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง หรือแม้แต่พื้นที่นั่งเล่นสังสรรค์ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ซึ่งทางโครงการได้เทคอนกรีตไว้ให้ค่ะ กลับเข้ามาที่ด้านใน ตรงข้ามกับส่วนครัวและพื้นที่รับประทานอาหารคือห้องเอนกประสงค์ ที่ทางโครงการออกแบบไว้ให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องนอนผู้สูงอายุก็ยังได้ค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ติดกับห้องเอนกประสงค์นะคะ ซึ่งความพิเศษของการออกแบบห้องน้ำใต้บันไดของบ้านนั้นไม่เหมือนใครแน่นอนค่ะ เพราะทางโครงการได้ออกแบบให้ลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์สูงสุด โดยการดรอปพื้นลงหนึ่งเสต็ปเพื่อให้สามารถยืนได้สะดวกสบาย เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมายังชั้น 2 ตรงกลางแปลนบ้าน มีห้องน้ำอยู่ตรงโถงกลาง ด้านหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) เหมือนเป็นเพนท์เฮ้าส์ขนาดย่อมๆ ให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่โถง เพราะมาพร้อมกับเพดานสูง 3 เมตร ทั้งนี้พื้นที่ใช้สอยยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้อง Walk in closet ได้อีกด้วยค่ะ ส่วนด้านหลังบ้านจะแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกันเลยค่ะ ซึ่งพื้นที่ห้องนอนเล็กนั้นสามารถดัดแปลงไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกเยอะนะคะ หากจำนวนสมาชิกครอบครัวน้อยจะจัดให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ ห้องนอนใหญ่ที่ดูหรูหรา โอ่โถง มาพร้อมกับเพดานสูง 3 เมตร โอบล้อมด้วยกระจกใสบานใหญ่ทำให้มองเห็นทัศนียภาพอย่างกว้างไกล จะเห็นได้ว่าภายในห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนส่วนที่ว่างเปล่าให้เป็น Walk in closet ง่ายๆ โดยไม่เปลืองเนื้อที่เลยค่ะ ห้องนอนเล็กที่เหลืออีก 2 ห้องสามารถดัดแปลงเป็นได้ทั้งห้องนอน อย่างห้องนี้ ที่โครงการตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง อีกหนึ่งห้องนอนเล็กที่ทางโครงการได้ตกแต่งไว้เป็นไอเดีย โดยเนรมิตให้เป็นห้องนอนเด็ก ก็ดูน่ารักน่าใช้งานไม่ใช่น้อย ห้องน้ำชั้น 2 ตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู ครบครันด้วยสุขภัณฑ์ทันสมัย มีหน้าต่างเล็กๆ เพื่อให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาโดยไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวันและยังระบายอากาศได้ดีอีกด้วย สุดท้ายก็คือเรื่องของ Facility ต่างๆ ภายในโครงการที่เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทีเดียวค่ะ เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ครบครันและหรูหราไม่ว่าจะเป็น คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนต สวนหย่อมอันร่มรื่นมาพร้อมสนามเด็กเล่น ยังมีพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) บริการตลอด 24 ชม. และกล้องวงจรปิด CCTV ช่วยเสริมระบบรักษาความปลอดภัยรอบโครงการ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เพื่อความสะดวกสบายและความอุ่นใจของลูกบ้านที่ทางโครงการใส่ใจลูกบ้านทุกยูนิตอย่างแท้จริง บรรยากาศทางเข้าโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เข้ามาแล้วจะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าโครงการ คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ของโครงการ มีพร้อมทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนส ฟิตเนสจะอยู่บริเวณชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์ “Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” สามารถตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาบ้านสักหลังหนึ่งที่อยู่ในย่านที่เดินทางสะดวก แวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคครบครัน พร้อมยังไม่ทิ้งไลฟ์สไตล์คนเมืองเก๋ๆ ให้สามารถออกไปพบปะเพื่อนฝูง นัดประชุม หรือแม้แต่คุยงานเพียงแค่เลือกเส้นทางคมนาคมที่ต่อติดโครงการอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันพื้นที่ภายในบ้านก็จัดวางแปลนไว้เอื้อประโยชน์สูงสุด ให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้สอยได้ตามใจชอบ นอกจากนี้การดูแลสภาพแวดล้อมและภาพลักษณ์ในโครงการยังเป็นสังคมแบบ Exclusive ทำให้มั่นใจว่า “Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” เป็นพรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในโซนนี้จริงๆ ค่ะ สำหรับโครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล พรีเมี่ยมทาวน์โฮมใหม่ใจกลางเมืองจะเปิด Grand Opening Clubhouse ในวันที่ 19-20 ส.ค.นี้ เริ่ม 2.49 ล้าน* พร้อมข้อเสนอพิเศษเฉพาะวันงานเท่านั้น! ลงทะเบียนได้ที่ https://goo.gl/339mTA หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1623
“The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” วินเทจทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

“The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” วินเทจทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

ถ้าจำกันได้เราเคยพาไปดูบ้านเดี่ยวโครงการ Areeya Como เมื่อไม่นานมานี้ คราวนี้เรากลับมาที่อาณาจักรอารียาอีกครั้ง เพื่อจะไปดูบ้านทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยวที่ชื่อ “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” กันค่ะ     ครั้งนี้เราเลือกเข้ามาทางซอยมหาชัย บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.10 ฝั่งขาเข้า เข้ามาเกือบสุดซอยที่เป็นพื้นที่ของคอกม้า Phoenix ก็จะเห็นทางเข้าหมู่บ้าน “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” ค่ะ ถึงแม้ถนนในซอยมหาชัยจะไม่ใช่ซอยใหญ่ แต่ก็มีซอยย่อยทะลุไปออกถนนกิ่งแก้ว-เทพารักษ์ได้ด้วย ในขณะเดียวกันลูกบ้านอารียา ยังสามารถขับผ่านถนนหลักที่ผ่านหน้าโครงการต่างๆ ของอารียาไปออกตรงด่านวงแหวนฯ ได้อีกด้วย ซึ่งซอยนี้คือซอยที่มีคอนโด A Space อยู่ตรงปากซอยนั่นเอง ลูกบ้านอารียาจะได้เปรียบที่สามารถใช้เส้นทางนี้ลัดไปออกถนนวงแหวนฯ ได้อย่างง่ายดาย ตรงจุดนี้เองที่เป็นจุดเชื่อมไปยังถนนมอเตอร์เวย์ ทางด่วนบูรพาวิถี รวมถึงเป็นด่านทางด่วนศรีรัชที่ข้ามไปยังฝั่งดินแดง-แจ้งวัฒนะ และทางด่วนสายเฉลิมมหานครที่เชื่อมไปยังฝั่งพระราม 3 สีลม-สาทรได้ด้วยค่ะ ในขณะเดียวกันถนนข้างๆ ยังเป็นทางกลับรถใต้สะพานไปเข้า Mega Bangna ที่สะดวกมากๆ ลูกบ้านไม่ต้องขับออกถนนใหญ่ไปทางบางนา-ตราดให้รถติดเสียเวลาเลยค่ะ บริเวณที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ๆ กับซอยที่เชื่อมไปออกถนนกิ่งแก้ว ดังนั้นบริเวณนี้จะคึกคักหน่อย มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารมากมาย ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ใช้ได้เลยทีเดียว แต่ถ้าขับรถออกไปทางถนนใหญ่ นอกจาก Mega Bangna ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ซึ่งร่วมห้างร้านต่างๆ ไว้เพียบแล้ว ทางฝั่งกิ่งแก้วยังมี Market Village ซึ่งถือว่าเป็นอีกแหล่งช็อปปิ้งหลักของคนแถบนี้เลยนะคะ เพราะที่นี่มีทั้ง HomePro, Lotus รวมถึงร้านอาหารชั้นนำอีกหลายร้านเลยค่ะ นอกจากนี้ทำเลในย่านนี้ยังพร้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาชั้นนำเช่น มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รวมถึงโรงพยาบาล, สนามกอลฟ์ และสนามบินสุวรรณภูมิ ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเลยค่ะ   บ้านทาวน์โฮมสไตล์ Modern Colonial   “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” เป็นหมู่บ้านทาวน์โฮมนะคะ แต่ตัวบ้านออกแบบมาเป็นพิเศษ ผนังบ้านแต่ละหลังเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นพอมองด้านนอกตัวบ้านแล้วจะเหมือนกับบ้านเดี่ยวค่ะ แถมด้วยการออกแบบสไตล์ Modern Colonial มีกลิ่นอายแบบวินเทจนิดๆ หลายคนน่าจะถูกใจตั้งงแต่แรกเห็นแน่นอน   พื้นที่ภายในโครงการแบ่งเป็นบ้านทั้งหมด 167 หลังค่ะ โดยที่ดินเริ่มต้นอยู่ที่ 28 ตร.ว. เว้นแต่แปลงหัวมุมที่จะได้พื้นที่สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้นมามากหน่อย และในแต่ละซอยทางโครงการยังเว้นพื้นที่ไว้เป็นระยะ เพื่อลูกบ้านจะได้ใช้กลับรถในซอยได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการด้วยค่ะ ปัจจุบันบ้านภายในโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เกินครึ่งแล้ว ดังนั้นเราจะได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงๆ ก่อนตัดสินใจค่ะ ซุ้มทางเข้าโครงการ เข้า-ออก โครงการด้วยระบบ Key Card ถนนเมนจะกว้าง 12 เมตรเลยนะคะ ส่วนถนนในซอยจะกว้าง 8 เมตร Facility หรือพื้นที่ส่วนกลางในบริเวณโครงการจะมีสวนหย่อมพร้อมศาลานั่งเล่นที่ลูกบ้านสามารถออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ค่ะ ในบริเวณสวนในโครงการนี้เองยังมีสนามบาสแบบ Haft Size เอาไว้ให้ฝึกเล่น ฝึกชู้ทอีกด้วย ส่วนตัว Club House ทางอารียาจัดแยกส่วนไว้อีกที่หนึ่งนะคะ ซึ่งพื้นที่ของ Club House ลูกบ้านอารียาจะแบ่งกันใช้กับ Areeya Como และ The Colors ที่อยู่ในโซนเดียวกัน โดยภายใน Club House จะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ระบบน้ำเกลือพร้อมสระเด็ก รวมถึงห้องออกกำลังการพร้อมอุปกรณ์หลายชนิดเลยทีเดียว บริเวณ Club House จะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อน พร้อมหนังสือดีๆ ไว้ให้ลูกบ้านหยิบไปอ่านได้ด้วยค่ะ บรรยากาศบริเวณคลับเฮ้าส์ของโครงการ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าคลับเฮ้าส์ ด้านในจะมีห้องน้ำ พร้อมห้องอาบน้ำ และตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน หรือนั่งรอเพื่อนๆ ที่มาใช้บริการคลับเฮ้าส์ พื้นที่ฟิตเนสก็จะอยู่ด้านในเหมือนกันนะคะ เปิดบ้านตัวอย่างสไตล์  Modern Colonial แบบบ้านของ“The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” มีอยู่ Type เดียวนะคะ ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ว. บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ กับอีก 1 ห้องเอนกประสงค์ ซึ่งพื้นที่ที่เรียกว่า ห้องเอนกประสงค์ จะอยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านนะคะ โดยพื้นที่นี้เราสามารถปรับแต่งประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องรับแขก หรือจะตกแต่งให้เป็นห้องนอนอีกห้องก็ยังได้ค่ะ เพียงแค่กั้นประตูเพิ่มอีกนิดก็ใช้ได้แล้ว ภายในตัวบ้านถูกจัดแบ่งพื้นที่ไว้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นบ้านทาวน์โฮมแต่ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะพื้นที่ชั้นบนมีถึง 3 ห้อง ถ้าครอบครัวไหนที่มีสมาชิกน้อยหน่อย ห้องเล็กยังสามารถใช้เป็นห้องเก็บของหรือห้องทำงานได้เหมือนกัน ส่วนห้องนอนใหญ่จะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมหันไปทางหน้าบ้านค่ะ ภายในห้องกว้างพอที่จะจัดตกแต่งให้มี Walk in Closet ได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันยังมีระเบียงเล็กๆ พอที่จะจัดตกแต่งกระถางต้นไม้ให้สวยงามได้ ห้องน้ำบนชั้น 2 ก็สามารถเข้าได้สองทางทั้งจากทางห้องนอนใหญ่ และทางเดินหน้าห้องนะคะ ซึ่งห้องชั้นบนจะแชร์ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนห้องเล็กอีก 2 ห้อง ก็อย่างที่บอกไปแล้วค่ะ ว่าไม่ได้มีฟังก์ชั่นบังคับว่าจะต้องใช้เป็นห้องนอน ดังนั้นเราสามารถเลือกตกแต่งได้ตามที่ต้องการเลย อย่างในบ้านตัวอย่างก็แต่งห้องแรกเป็นห้องนอนเด็กเล็ก ดูน่ารักน่าอยู่มากเลยค่ะ ในขณะที่อีกห้องตกแต่งให้เป็นห้องอ่านหนังสือ ดูแล้วลงตัวดีทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นครอบครัวเล็กๆ มีลูกซักคน บ้านหลังนี้ก็เหมาะเลย อยู่ได้สบายๆ กำลังดี บ้านตัวอย่างที่เราได้ดูในครั้งนี้เป็นแปลงหัวมุมนะคะ ดังนั้นจึงมีพื้นที่สวนข้างบ้านมากหน่อย ทางโครงการเลยลองตกแต่งให้บริเวณสวนมีชานนั่งเล่นเชื่อมต่อกับบริเวณรับประทานอาหาร บรรยากาศโซนนี้เลยดูผ่อนคลาย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ประตูหน้าบ้านจะเป็นสีขาวเข้ากับสไตล์ของตัวบ้านเลยนะคะ หน้าบ้านตัวอย่างโครงการตกแต่งไว้ได้น่ารักทีเดียวนะคะ บ้านตัวอย่างจะเป็นหลังมุมนะคะ จึงมีพื้นที่ข้างบ้านเหลือให้ตกแต่งเป็นสวนได้เลย พื้นที่หลังเล่นในสวนข้างบ้าน ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่ก่อนเลยนะคะ ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดไว้ให้ดูอย่างลงตัว ด้านข้างยังมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนอีกจุดหนึ่ง เพื่อเปิดออกไปที่มุมนั่งเล่นข้างบ้าน ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว พื้นที่ของห้องครัวค่อนข้างจะกว้างเลยนะคะ บ้านตัวอย่าง Built-in เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว U ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง บ้านตัวอย่างอาจจะตกแต่งเป็นครัวแบบเปิดนะคะ เพื่อให้บ้านดูโปร่งโล่ง แต่ถ้าติดกระจกกั้นเข้าไปหน่อย จะช่วยดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แถมยังกันกลิ่นอาหารเข้าไปในบ้านได้อีกด้วย ติดกับห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อออกไปที่พื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน พื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน โครงการยังตกแต่งให้เป็นพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน กลับเข้ามาด้านใน มุมมองย้อนกลับไปที่พื้นที่รับประทานอาหาร ตรงข้ามกับห้องครัว จะมีห้องน้ำเล็กสำหรับชั้น 1 อยู่ด้วยนะคะ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังของ American Standard พร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว ด้านในสุดเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ กลับมาที่ด้านหน้าบ้าน โครงการได้ตกแต่งห้องอเนกประสงค์ให้เป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งถือว่าเป็นห้องนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวมากเลยนะคะ เนื่องจากจะแยกออกมาเป็นห้องของตัวเองเลย หน้าต่างในห้องนั่งเล่น มองออกไปเห็นสวนหน้าบ้าน โถงบันไดขึ้นชั้น 2 จะสังเกตว่าใต้บันไดจะมีห้องเก็บของเล็กๆ อยู่ด้วยนะคะ โถงบันไดสูงโปร่ง ขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้วมองตรงไปด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ที่อยู่ติดกับห้องนอน Master Bedroom ส่วนด้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก และห้องอเนกประสงค์ เราเลี้ยวซ้ายมาดูที่ห้องนอน Master Bedroom กันก่อนนะคะ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างเตียงได้นิดหน่อย ทางออกไปที่ระเบียงในห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 70 ซม. กลับมาที่ด้านใน ฝั่งปลายเตียงโครงการกั้นเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ซึ่งก็สามารถใช้เป็นชั้นวางทีวีได้พอดี ด้านใน Walk-in Closet โครงการตกแต่งด้วยการวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนตรงกลางเป็น Day Beds อยู่ติดกับหน้าต่าง ห้องน้ำที่อยู่ชั้น 2 มีให้ 1 ห้องนะคะ จะสามารถเข้าได้ 2 ด้านจากห้องนอน Master และจากด้านโถงบันได การจัดวาง Layout ก็จะคล้ายๆ กับห้อ น้ำที่อยู่ชั้น 1 เลยนะคะ รวมถึงสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะคล้ายๆ กัน ยกเว้นอ่างล้างหน้าที่จะมีช่องเก็บของด้านล่างเพิ่มขึ้นมา มาพร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกัน ด้านในสุดเป็น Shower Box ที่ห้องนี้โครงการติดฉากกั้นมาให้เรียบร้อย ถัดมาด้านขวามือของโถงบันไดจะเป็นห้องนอนเล็กและห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกัน ภายในห้องนอนเล็กโครงการจะตกแต่งเป็นห้องนอนแบบเด็กๆ เลยนะคะ ห้องนี้จะ Built-in เต็มพื้นที่ โดยใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตกแต่งด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ Built-in เชื่อมต่อมาเป็นโต๊ะทำงานและเตียงนอน ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์อีกห้อง ซึ่งจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในบ้าน โครงการตกแต่งให้เป็นห้องสำหรับพักผ่อน โดย Built-in โซฟาแบบ Day Beds ไว้ติดกับผนัง ส่วนอีกด้านเป็นโต๊ะทำงานอยู่ติดกับหน้าต่าง ถ้าใครกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮม โครงการ “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เนื่องด้วยจุดเด่นที่ตัวบ้านออกแบบให้ผนังแต่ละบ้านเป็นอิสระจากกัน ไม่ต้องใช้ผนังร่วมกัน ทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อีกเยอะ แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านเดี่ยวกลายๆ สำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างครอบครัว โครงการนี้น่าจะเป็นอีกตัวเลือกในงบประมาณที่ไม่เกินกำลังจนเกินไปนัก แถมยังได้อยู่ในทำเลที่มีการเดินทางสะดวก และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเหมาะกับการอยู่อาศัย ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างที่โครงการก่อนได้ หรือจะลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.areeya.co.th/2014/singlehome_the_village.php
คอนโด “Aspire วุฒากาศ” คอนโดแต่งครบ พร้อมอยู่ ใกล้ BTS วุฒากาศ : รีวิวคอนโด

คอนโด “Aspire วุฒากาศ” คอนโดแต่งครบ พร้อมอยู่ ใกล้ BTS วุฒากาศ : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปดูคอนโดมิเนียม “Aspire วุฒากาศ” อีกโครงการที่น่าสนใจจาก AP ซึ่งเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้า BTS ย่านฝั่งธน ห่างจากสถานีวุฒากาศออกมาเพียง 200 เมตรเท่านั้น ไปดูรายละเอียดโครงการกันก่อนค่ะ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,960,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    เฉลี่ย 72,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    1-1-7.7 ไร่ จำนวนห้อง     166 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 58 คัน ไม่รวมซ้อนคัน ที่ตั้งโครงการ    ถนนวุฒกาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    350 บาท/ตารางเมตร   ทำเลที่ตั้งของโครงการ Aspire วุฒากาศ เป็นจุดหนึ่งที่มีเส้นทางการเดินทางได้หลากหลาย การเดินทางหลักคงจะเป็นรถไฟฟ้า ที่ถือว่าสะดวกและรวดเร็วที่สุดแล้วค่ะ เพราะใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็จะถึงสถานีตลาดพลู และใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็จะถึงย่านธุรกิจอย่างสีลม-สาทร  สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัว ก็มีถนนเชื่อมต่อกันหลายสาย ทั้งถนนวุฒากาศ ถนนเทอดไท ถนนรัชดา-ท่าพระ ถนนราชพฤกษ์ และถนนเพชรเกษม ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองค่อนข้างสะดวกค่ะ ถึงแม้จะถนนหนทางจะซับซ้อนมีถนนย่อยเยอะอยู่ซักหน่อย แต่ถ้าเริ่มคุ้นกับเส้นทางแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย โครงการ Aspire วุฒากาศ ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศเลยนะคะ ซึ่งย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ บรรยากาศคึกคักมากค่ะ มีรถบริการสาธารณะวิ่งผ่านเยอะ ทั้งรถเมล์ รถกะป้อ รถแท็กซี่ รวมถึงมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชน บริเวณรอบๆ จึงมีทั้งบ้าน ตึกแถวที่เปิดเป็นร้านค้าเต็มไปหมด เรื่องอาหารการกินจึงจัดว่าอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว แถมยังมี “ตลาดพลู” อยู่ใกล้ๆ มีของอร่อย ร้านดังขึ้นชื่อมากมายหลายเจ้า อิ่มอร่อยได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยค่ะ นอกจากร้านค้า ตลาดสด ตลาดพลู ที่ยกตัวอย่างกันไปแล้ว แหล่งช็อปปิ้งที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ The Mall ท่าพระ ซึ่งจัดเป็นห้างใหญ่สำหรับผู้คนในย่านนี้ เยี่ยมชมโครงการ Aspire วุฒากาศ Aspire วุฒากาศ เป็นโครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น เป็นอาคารเดี่ยว มียูนิตรวม 166 ยูนิตค่ะ โดยพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถเกือบทั้งหมด ซึ่งสามารถรองรับรถได้ประมาณ 58 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) ปัจจุบันตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วนะคะ มีลูกบ้านเข้ามาอยู่กับเยอะพอสมควรแล้ว ดังนั้นเราจึงมีโอกาสได้เห็นบรรยากาศในการอยู่อาศัยจริงๆ รูปอาคารมีลักษณะเป็นตัว U ห้องส่วนหนึ่งจึงได้รับความเป็นส่วนตัวมากกว่าด้วย Single Corridor ทำให้ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามห้องค่ะ ในส่วนของ Facility หลักจะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ค่ะ ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ (ระบบเกลือ) ขนาด 4x16 เมตร พร้อมมุมพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ และ Fitness บริเวณชั้นนี้จะมียูนิตพิเศษอยู่ 3 ยูนิตที่มีทางออกสู่สระว่ายน้ำได้เลย ส่วนห้องอื่นๆ บนชั้นนี้ ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวไปนะคะ เพราะว่าทางโครงการทำประตูเข้าออกส่วนกลางแยกกับส่วนพักอาศัยให้เรียบร้อย ลูกบ้านในชั้นนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย และยังคงได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนเดิมค่ะ นอกจากนี้ที่บริเวณดาดฟ้ายังมีสวนสวยซึ่งมาพร้อมวิว 360 องศา มองเห็นวิวได้ไกลสุดสายตาเลย Roof Top Garden นี้ยังมีมุมน่าเล่นพักผ่อน ช่วงเย็นๆ ขึ้นมารับลมชมวิวได้นะคะ รับรองว่าวิวเมืองจากบนนี้สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยแหละ เปิดห้องตัวอย่าง Aspire วุฒากาศ โครงการ Aspire วุฒากาศ มีแบบห้องหลักๆ อยู่ 3 แบบ คือ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom ค่ะ โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 22.5 ตร.ม. แต่เนื่องจากปัจจุบันจำนวนห้องที่ทางโครงการเหลืออยู่ จะมีให้เลือกแค่แบบเดียวเท่านั้น ห้องตัวอย่างที่เราได้ชมกันก็คือ ห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 30.5 ตร.ม. ในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งแบบจัดเต็มเพื่อให้เราได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องได้อย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ห้องที่ขายจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ที่ได้มาแค่ผนังฉาบเรียบสีขาว กับเครื่องสุขภัณฑ์ตามมาตรฐานเท่านั้นค่ะ ลักษณะของห้อง Type นี้จะถูกจัดวาง Layout ไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยพื้นที่ในส่วนของ Living Area กับห้องนอนจะเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น โล่งสบายตามากขึ้นค่ะ ในขณะที่พื้นที่ของห้องครัวและห้องน้ำจะถูกจัดวางไว้ในโซนเดียวกัน จากห้องตัวอย่างจะเห็นว่า ทางโครงการไม่ได้กั้นพื้นที่ของห้องนอนมาให้ด้วยนะคะ เพียงแค่ตกแต่งด้วยฉากกั้นนิดหน่อยให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น บรรยากาศใสนห้องตัวอย่างจึงดูสะอาดโล่งสบายตาด้วยแสงธรรมชาติที่ได้จากหน้าต่างบ้านใหญ่บริเวณที่นอน ส่วนพื้นที่นั่งเล่น กับมุมรับประทานอาหารก็แบ่งพื้นที่กันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว พื้นที่ครัวของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนมาให้เรียบร้อยค่ะ บริเวณครัวอยู่ติดกับระเบียงสามารถเปิดประตูเพื่อช่วยในการระบายกลิ่นขณะประกอบอาหารได้ดี สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการ Aspire วุฒากาศ หรือมองหาที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าในราคาที่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท แนะนำว่าให้ลองเข้ามาดูบรรยากาศจริงที่โครงการดูก่อนค่ะ ด้วยความที่ทำเลวุฒากาศมีความเหมาะสมกับการอยู่อาศัยมาก เพราะเป็นทั้งแหล่งชุมชน มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกมากมาย รวมถึงใกล้แหล่งช็อปปิ้ง และสามารถเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะด้วยรถไฟฟ้า หรือรถส่วนตัว ใครที่คุ้นชินกับทำเลในย่านฝั่งธนบุรีอยู่แล้ว ก็น่าจะถูกใจกับทำเลโครงการได้ไม่ยากค่ะ ด้วยราคาโดยรวมแล้วไม่ได้สูงจะเกินเอื้อม และราคาปล่อยเช่าก็ยังสูงถึง 10,000- 15,000 บาท แถมยังสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เลย ยิ่งเพิ่มความดึงดูดใจเข้าไปอีก ซื้อแล้วไม่ต้องรอโครงการสร้างเสร็จ ไม่ต้องรอแผนรถไฟฟ้าในอนาคต เพราะทุกอย่างพร้อมใช้ได้จริงแล้ววันนี้
The Privacy Thaphra Interchange – เดอะ ไพรเวชี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

The Privacy Thaphra Interchange – เดอะ ไพรเวชี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

The Privacy Thaphra Interchange - เดอะ ไพรเวชี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ คอนโด Hight Rise สูง 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร โครงการแรกบนถนนจรัญสนิทวงศ์ อยู่ใกล้สถานีท่าพระ เพียง 100 เมตร เป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมเข้าสู่ใจกลางเมือง รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,990,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    105,000 บาท/ตรม เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Hight Rise สูง 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 ไร่ 1 งาน 97.7 ตาราวา จำนวนห้อง    795 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% ที่ตั้งโครงการ    ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 1 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง    เดือนพฤศจิกายน ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์การแพทย์ธนบุรี รพ.พญาไท 3 รพ.สมิติเวช ธนบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ตลาดพลู The Mall ท่าพระ ตลาดน้ำคลองบางหลวง วัดปากน้ำภาษีเจริญ รร.วัดท่าพระ รร.วัดประดู่ในทรงธรรม วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ม.ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ม.สยาม วิทยาลัยพานิชการธนบุรี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 – 26.5  ตร.ม 1 ห้องนอน (พลัส) ขนาด 34.5 ตร.ม. 2 ห้องชุดรวมกัน (Combined) ขนาด 49.5 ตร.ม สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำแบบซีทรู ห้องออกกำลังกาย พื้นที่สวน พื้นที่พักผ่อนชมวิว Double Volume Lobby Reading Space Co-Working Space Play Space สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://theprivacy.pruksa.com/
ASHTON Asoke – Rama 9 – แอชตัน อโศก – พระราม 9 : รีวิวคอนโด

ASHTON Asoke – Rama 9 – แอชตัน อโศก – พระราม 9 : รีวิวคอนโด

ASHTON Asoke – Rama 9 (แอชตัน อโศก-พระราม 9) คอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 50 ชั้น และ 46 ชั้น Super Luxury ตัวใหม่ล่าสุดจากอนันดา บริเวณหัวมุมแยกรัชดา-พระราม 9 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    6,490,000 บาท (ราคา ณ วันเปิดตัว) ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    2xx,xxx บาทต่อตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise 2 อาคาร สูง 50 และ 46 ชั้น จำนวนห้อง    ห้องพักอาศัย 607 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต ที่จอดรถ    65% (Autonomous Parking) ที่ตั้งโครงการ    ติดแยกรัชดา-พระราม 9 ฝั่งถนนดินแดง, ถนนอโศก-ดินแดง กทม. ปีที่สร้างเสร็จ   ปี 2020 สถานที่สำคัญใกล้เคียง G Tower Unileaver HQ The Ninth Tower SET Capital Center AIA Central Rama 9 Shoppes Grand Rama 9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 2 Bedrooms สิ่งอำนวยความสะดวก โถงต้อนรับ ห้องจดหมาย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนพักผ่อน Co-Working Space ห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ร้าน DEAN & DELUCA เข้า-ออกระบบ Access Card Control กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.ananda.co.th/register/ashton-asoke-rama9/  
คอนโด The Privacy Thaphra Interchange – เดอะ ไพรเวชี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

คอนโด The Privacy Thaphra Interchange – เดอะ ไพรเวชี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

The Privacy Charan-Ratchawithi Station (เดอะ ไพรเวซี่ จรัญ - ราชวิถี สเตชั่น) คอนโด High Rise สูง 24 ชั้น ทำเลฝั่งธนติดถนนสิรินธรใกล้แยกบางพลัด เดินทางสะดวกสบายใกล้ MRT สถานีสิรินธร รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,590,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    105,000 บาทต่อตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Hight Rise สูง 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    1-2-45 ไร่ จำนวนห้อง    281 ยูนิต (ห้องชุดพักอาศัย 279 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต) ที่จอดรถ    ประมาณ 42% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เมเจอร์ ปิ่นเกล้า พาต้า เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้า ฟู้ดแลนด์ ตั้งฮั่วเส็ง เทสโก้ โลตัส รร.เขมะสิริอนุสรณ์ รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ รร.เซนต์คาเบรียล รพ.ยันฮี รพ.เจ้าพระยา รพ.ตาหูคอจมูก รพ.ศิริราช ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom-1  ขนาด 24.5 – 25 ตร.ม. 1Bedroom-2  ขนาด 26.55 ตร.ม. 1Bedroom-3  ขนาด 31.60 ตร.ม. 2Bedroom-1 (Combine)  ขนาด 34.97 ตร.ม. 2Bedroom-2 (Combine)  ขนาด 39.00 ตร.ม สิ่งอำนวยความสะดวก โถงต้อนรับ ห้องจดหมาย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนพักผ่อน ร้านค้า ประตูคีย์การ์ด กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://theprivacy.pruksa.com/