Tag : Review

648 ผลลัพธ์
“Notting Hill Sukhumvit 105” คอนโดกลิ่นอาย British Loft ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ 24 ชั่วโมง : รีวิวคอนโด

“Notting Hill Sukhumvit 105” คอนโดกลิ่นอาย British Loft ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ 24 ชั่วโมง : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปเปิดข้อมูลโครงการ Notting Hill Sukhumvit 105 (ซอยลาซาล) คอนโด Low Rise ล่าสุดจาก “ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้” กันครับ ตัวโครงการจัดว่าอยู่ในทำเลที่อุดมสมบูรณ์มากของย่านนี้ และยังอยู่ในช่วงต้นๆ ของซอยลาซาล ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งอีกต่างหาก ซึ่งถือเป็นโซนถนัดของออริจิ้นเค้าเลยแหละ พอมีโครงการใหม่เกิดขึ้น จึงต้องขอไปเยี่ยมชมและเก็บข้อมูลมาฝากกันซักหน่อยครับ โครงการ Notting Hill Sukhumvit 105 อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งเพียง 550 เมตรเท่านั้นนะครับ ดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกมากๆ เพราะอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวถือเป็นสายหลักที่เข้าสู่ใจกลางเมืองได้ดีที่สุดในเวลานี้ และด้วยระยะห่างจากหน้าโครงการถึงตัวสถานีเพียง 550 เมตร ก็ยังถือว่าอยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ ถนนซอยลาซาล หรือซอยสุขุมวิท 105 นี้ เป็นอีกซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ รวมถึงถนนซอยย่อยยังสามารถเชื่อมไปยัง ซอยแบริ่งหรือซอยสุขุมวิท 107 และถนนบางนา-ตราดได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีด่านทางด่วนบางนาอยู่ไม่ไกล คนใช้รถส่วนตัวก็สามารถเลือกเส้นทางได้หลากหลาย รวมถึงระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ อย่างรถเมล์ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถตู้ แท็กซี่ รถสองแถว ก็มีบริการในซอยนี้อยู่แล้ว จึงจัดว่ามีการเดินทางที่สะดวกและหลากหลายมากสำหรับคนที่อาศัยในย่านนี้ สภาพแวดล้อมโดยรวมบริเวณรอบๆ โครงการต้องบอกว่า มีความอุดมสมบูรณ์มากนะครับ เริ่มตั้งแต่บริเวณปากซอยลาซาลก็มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ขนาดใหญ่ดักอยู่ก่อนเลย พอเดินเข้ามาถึงหน้าโครงการ มองไปรอบๆ ก็จะเห็นว่ามีร้านสะดวกซื้ออีก ทั้ง 7-11, Family Mart, Lotus Express, CP Fresh Mart ตรงข้ามโครงการก็เป็นตลาดนัด/ตลาดสด ซึ่งรวมร้านค้า ร้านอาหารไว้มากมาย แถมยังเปิดขายกันตั้งแต่เช้า และในซอยก็ยังมีร้านอาหารให้เลือกอีกเพียบ รับรองว่าไม่ต้องกลัวอด หิวตอนไหนก็มีของกินให้เลือกตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่น่าสนใจอีกอย่างของทำเลในย่านนี้คือ อยู่ในแหล่งที่รวบรวมทุกสิ่งไว้พร้อมมากๆ สำหรับการอยู่อาศัย เช่น โรงเรียนชั้นนำอย่าง รร.บางกอกพัฒนา, รร.ลาซาล, รร.เซนต์โยเซฟ บางนา และ รร.เซนต์แอนดรู โรงพยาบาลบางนา, โรงพยาบาลไทยนครินทร์ และโรงพยาบาลศิครินทร์ ยังไม่นับคลินิคต่างๆ ในซอยอีกนะครับ แหล่งช๊อปปิ้งใหญ่ก็มีทั้ง Central บางนา, Mega Bangna, Seacon Square, Paradise Park, Big C บางนา, Tesco Lotus หรือไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งมอลล์อย่าง The Coast Village และ APT แบริ่งมอลล์ ไปจนถึงสถานที่จัดงาน Event ใหญ่ๆ อย่าง Bitec บางนา ก็มีกิจกรรมหมุนเวียนตลอดทั้งปี แค่ที่ยกตัวอย่างมาคร่าวๆ ก็เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งทุกอย่างครบถ้วนแล้วนะครับ เปิดโครงการ Notting Hill Sukhumvit 105 พื้นที่ของโครงการ Notting Hill Sukhumvit 105 มีทั้งหมด 8 ไร่ เป็นที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่กลางแหล่งที่พักอาศัยในซอยลาซาลเลยนะครับ ปัจจุบันสำนักงานขายก็ตั้งอยู่ในบริเวณที่ดินของโครงการ​ ซึ่งในอนาคต พื้นที่โซนด้านหน้าโครงการนี้จะถูกพัฒนาให้เป็น “105 Clubhouse” สูง 3 ชั้น ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่รวมเอา Main Facility ของโครงการไว้เกือบทั้งหมด เช่น สระว่ายน้ำขนาด 6x20 เมตร พร้อมระเบียงพักผ่อนรอบสระ, Fitness, Co-Working Space, พื้นที่ Social Club, Bar, Football Table, Pool Table เป็นต้น ถัดเข้าไปในพื้นที่ด้านใน ถูกจัดสรรเป็นอาคารพักอาศัย คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร โดยพื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคาร ตั้งแต่ด้านหน้ายาวไปถึงด้านในสุด ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียวส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งมาพร้อมกับ Jogging Track ท่ามกลางสวนสวยสไตล์อังกฤษ และยังมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนกระจายอยู่รอบๆ อีกหนึ่ง Highlight ของ Facility ส่วนกลางคือ โซนด้านหลังบริเวณอาคาร E และ F พื้นที่สวนจะถูกออกแบบให้เป็น Relax Zone มีทั้งลานหินปุ่ม สำหรับเดินนวดเท้า และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลืออีกหนึ่งสระ ซึ่งจะช่วยให้ลูกบ้านในโซนด้านใน ไม่ต้องเดินไกลไปถึงด้านหน้า นอกจากพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่บริเวณชั้นล่างระหว่างอาคารแล้ว บนดาดฟ้าของแต่ละอาคารยังมี Roof Top Garden อีกด้วย ซึ่งลูกบ้านของแต่ละอาคารจะสามารถขึ้นไปรับลม ชมวิวบนดาดฟ้าได้เหมือนกันทุกอาคารครับ ในส่วนของที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป ส่วนพื้นที่ชั้น 1 ใต้อาคาร จะเป็นพื้นที่จอดรถเกือบทั้งหมด รวมถึงเป็นทางเดินรถนะครับ ในโครงการจะใช้เส้นทางเดินรถทางเดียว คือวนเข้าจากใต้อาคาร A เข้าไปด้านใน และจะมีจุดกลับรถให้ 2 จุด คือ ด้านหลังอาคาร C-D และด้านในสุด หลังอาคาร E-F ครับ เปิดห้องตัวอย่าง Notting Hill Sukhumvit 105 ทางโครงการจัดห้องตัวอย่างไว้ให้ชมด้วยกัน 3 แบบนะครับ เริ่มจากห้องแรกซึ่งมีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ นั่นคือ ห้อง 1 Bedroom Type A ขนาด 25.5 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะมีลักษณะเป็นห้องแนวลึกนะครับ การจัดแบ่งพื้นที่ไว้ก็เป็นสัดส่วนชัดเจน โดยจะแยกพื้นที่ครัวและห้องน้ำไว้ที่ด้านเดียวกัน แล้วกั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เปิดห้องเข้ามาเจอส่วนนั่งเล่นเลย ซึ่งมีที่กว้างพอให้วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังแอบเหลือพื้นที่เล็กๆ สำหรับวางโต๊ะกินข้าวได้อีกหน่อย ก่อนจะเข้าห้องนอนมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนสวยงาม ภายในห้อง  Built-in ตู้ เตียง ไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนอีกโซนของห้อง เป็นห้องน้ำและห้องครัวนะครับ ซึ่งอยู่แยกกันโดยพื้นที่ตรงกลาง Built-in ชั้นเก็บของและเว้นที่ไว้วางตู้เย็นมาให้เรียบร้อย เช่นเดียวกับในห้องครัวที่มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันแล้ว ข้อดีของห้องนี้คือ ครัวที่ได้เป็นครัวปิด ติดระเบียง ทำให้ลดปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวนระหว่างทำครัวได้ดี ห้องนี้จึงเหมาะมากกับคนที่ชอบลงครัว ทำอาหารกินเองบ่อยๆ นะครับ มาดูห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันบ้างดีกว่า เป็นห้อง 1 Bedroom Type B ห้องนี้มีพื้นที่ห้องเท่ากับห้องก่อนหน้าเลยนะครับคือ 25.50 ตร.ม. แต่เป็นห้องแบบหน้ากว้าง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส บรรยากาศโดยรวมในห้องนี้จึงให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายตามากกว่า ในขณะที่อาจจะต้องแลกกับ Layout ห้องที่เน้นการใช้งานต่างกันหน่อยนะครับ เปิดห้องมาจะเจอส่วนของครัว ห้องนี้เป็นครัวเปิดซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลย ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่ไม่เน้นทำครัวซักเท่าไหร่นะครับ แต่ก็แลกมาด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่ติดระเบียง ทำให้เปิดรับแสงสว่างได้ดีขึ้น ส่วนห้องนอนก็กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเหมือนกัน แต่สามารถเปิดออกเพื่อเชื่อมพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นให้กว้างถึงกันได้เต็มที่และมีห้องน้ำในตัว Layout ของห้องนี้จะได้เปรียบเรื่องความโล่ง โปร่ง เพราะเป็นห้องหน้ากว้าง ใครที่ได้เห็นห้องนี้ก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่ามีพื้นที่ใช้สอย 25.50 ตร.ม. เท่ากับห้อง Type A เป๊ะเลย ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายที่ทางโครงการจัดไว้ เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 29.50 ตร.ม. ห้อง Type นี้จะได้พื้นที่พิเศษขึ้นมาอีกห้อง จัดเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ ห้องแต่งตัว หรือจะใช้เป็นอีกหนึ่งห้องนอนเล็กก็ได้ตามแต่ต้องการเลยครับ ด้วย Layout ของห้อง ที่พยายามจัดสรรการใช้งานในส่วนต่างๆ ให้มีอย่างครบถ้วน ห้องนี้อาจจะเสียเปรียบในเรื่องของพื้นที่ครัวที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่เน้นทำครัวเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ เพราะแลกกับการได้ห้องอเนกประสงค์ที่ดูจะใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่า ถ้าตกแต่ง จัดพื้นที่ดีๆ ห้องนี้ก็น่าอยู่ น่าใช้งานมากเลยทีเดียว เพราะทั้งห้องนอนและห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีครับ ห้องทุกยูนิตของโครงการ Notting Hill Sukhumvit 105 ขายมาแบบ Fully Fitted นะครับ Bulit-in ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ต่างๆ และเครื่องปรับอากาศมาให้เรียบร้อยแล้ว เราแค่ตกแต่งเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาหาเฟอร์นิเจอร์มากนัก และด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในย่านที่อยู่อาศัย มีความพร้อมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ มีการเดินทางที่สะดวก เหมาะกับคนที่คุ้นชินกับย่านนี้ดีอยู่แล้ว รวมถึงคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นหลักหรือเดินทางด้วยรถส่วนตัวบ้าง ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเอง หรือซื้อไว้ลงทุนก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ ด้วยทำเลที่มีศักยภาพในราคาที่จับต้องได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว NOTTING HILL SUKHUMVIT 105 คอนโดใหม่...คุ้มที่สุดบนสุขุมวิท เพียง 400ม. จาก BTS แบริ่ง ให้คุณได้ใช้ชีวิต 24 ชั่วโมง พร้อม Clubhouse ส่วนตัว เริ่ม 1.69 ล้าน ผ่อนเริ่ม 2,990 บาท/เดือน Presales 25 Mar @ Bitec Bangna ชั้น2 ห้อง Amber ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท http://nottinghill.origin.co.th/sukhumvit105/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 061-408-0033  
The Tree Sukhumvit 71-Ekamai เดอะ ทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย : รีวิวคอนโด

The Tree Sukhumvit 71-Ekamai เดอะ ทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย : รีวิวคอนโด

The Tree สุขุมวิท 71-เอกมัย คอนโด High Rise สูง 33 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 71 ใกล้ Airport Link สถานีรามคำแหง และ BTS สถานีพระโขนง โครงการใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,900,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    883 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 313 คัน หรือคิดเป็น 36% เนื้อที่ทั้งหมด   3 - 2 - 52 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 71 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Airport Link รามคำแหง ตลาดศรีมาร์เก็ต The Nine พระราม 9 เดอะมอลล์ รามคำแหง Food Land Emporium EmQuartier โรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลเพชรเวท มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 24 - 35 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 49 - 56 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำลอยฟ้า จุดชมวิว 720 องศา ฟิตเนส สวนพักผ่อน Access Card Control กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  thetreecondo.pruksa.com/sukhumvit71-ekamai
98 WIRELESS ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส : รีวิวคอนโด

98 WIRELESS ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส : รีวิวคอนโด

98 WIRELESS คอนโดมิเนียมหรูระดับซูเปอร์ลักซ์ซัวรี่บนถนนวิทยุ ทำเลทองใจกลางเมือง หนึ่งในคอนโดหรูที่แพงที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้ ด้วยตัวโครงการที่อยู่ในแหล่งธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต เพียง 350 เมตร จึงตอบโจทย์ได้ดีกับคนที่ต้องการที่พักอาศัยที่เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง       รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    70 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 580,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 25 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    ประมาณ 2 ไร่ จำนวนห้อง     77 ยูนิต ที่จอดรถ    191 คัน หรือคิดเป็น 240% คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2560 ค่าส่วนกลาง    150 บาท/ตารางเมตร ด้วยตัวโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุฝั่งขาเข้า ติดกับบ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งจะห่างจาก BTS สถานีเพลินจิตเพียง 350 เมตร เท่านั้น จึงเรียกได้มาสะดวกมากๆ ในการเดินทาง และยังอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองอีกมากมาย   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Park Venture Complex Central Embassy BTS เพลินจิต Central ชิดลม   ลักษณะห้องและขนาดห้อง 2 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาด 119.75 - 143.50 ตารางเมตร 3 Bedrooms 4 Bathrooms ขนาด 237.75 - 366.25 ตารางเมตร 3 Bedrooms 4 Bathrooms Duplex ขนาด 231.50 - 245.50 ตารางเมตร Penthouse (4 Bedrooms 5 Bathrooms) Duplex ขนาด 553.25 ตารางเมตร The One (3 Bedrooms 4 Bathrooms) Duplex ขนาด 948 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก 1st Floor : The Wireless Hall (Entrance Hall & Grand Staircase) The Embassy Hall (Reception) Gampu Lounge (Lobby Lounge) Embassy Terrace (Garden Terrace) Bicycle Storage Room Driver's Lounge 2nd Floor : Stage Lounge (Business Lounge) Attache Suites (Private Meeting Room) Wittayu Tea Room 3rd Floor : Swimming Pool & Patumwan Jacuzzi Ploenjit Spa (Spa & Massage Room) The Parlour (Manicure Room) 98 Fitness (Fitness Studio Equipped By Technogym) The Play Room (Children's Playroom) The Studio (Multi-purpose Exercise Room) Steam Room Fundamental Services : On-site Concierge Service By Quintessentially Butler Service Bentley Limousine Service 24-hour Doorman 24-hour Valet Parking Service 24-hour Maintenance & Home Service Support 24-hour Security with Gated Control Additional Services (Free Apply) : Housekeeping Dry Cleaning & Laundry Services Grocery Shopping & Delivery Services สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-201-3198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://98wireless.com/
ARTALE พัฒนาการ-ทองหล่อ : รีวิวบ้าน

ARTALE พัฒนาการ-ทองหล่อ : รีวิวบ้าน

ARTALE พัฒนาการ-ทองหล่อ บ้านเดี่ยวระดับลักส์ชัวรี่ใหม่ล่าสุด บนทำเลศักยภาพย่านพัฒนาการ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 20 ภายใต้แนวคิดการออกแบบพื้นที่ที่ผสานกันระหว่างศิลปะและฟังก์ชั่นที่ลงตัว จาก Ananda Development     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น   28 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 49 ยูนิต พื้นที่โครงการ    13 - 0 - 73.1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ      ซอยพัฒนาการ 20 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   1.5 กิโลเมตร ถึงทางด่วนพัฒนาการ 3.5 กิโลเมตร ถึงทองหล่อ 6 กิโลเมตร ถึง BTS สถานีเอกมัย ใกล้โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ(เอกมัย) โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   MEDIO พื้นที่ใช้สอย 395 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน GRANDE พื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 4 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนส่วนกลาง CCTV กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th/house/artale/
The Politan Aqua เดอะ โพลิแทน อควา คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

The Politan Aqua เดอะ โพลิแทน อควา คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คนที่อยากจะสัมผัสวิวโค้งน้ำสวยอย่างใกล้ชิด และคงดีไม่น้อยถ้าคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำที่ว่าสามารถเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า รีวิวฉบับนี้เราเลยจะพาคุณขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง ไปชมโครงการ “The Politan Aqua” คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากบริษัท Everland กันครับ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีจากสถานีเตาปูน ถึงสถานีสะพานพระนั่งเกล้า เดินต่อมาบนถนนสนามบินน้ำอีกนิดหน่อย เราก็มาถึงที่ตั้งของโครงการกันแล้ว ตัวโครงการอยู่เข้ามาในซอยนนทบุรี 15 เล็กน้อย บนที่ดินด้านในสุดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าใครเคยมาเยี่ยมชมโครงการอื่นๆ ของ Everland ก็คงจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก เพราะตัวโครงการอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ ผืนเดียวกันกับโครงการรุ่นพี่อย่าง The Politan Rive และ The Politan Breeze ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีไปก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยศักยภาพของทำเล ซึ่งเป็นถนนสายที่เชื่อมต่อกับ ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนติวานนท์ และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก ยิ่งได้รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่อยู่ห่างออกไปเพียง 400 เมตร ก็ยิ่งทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองไม่ใช่เรื่องยากเลย รอบๆ โครงการมีทั้งกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ศูนย์ราชการ โรงพยาบาล ตลาดสด เซนทรัลรัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี โลตัส รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารอีกมากมาย เรียกได้ว่าครบครันเลยทีเดียว ส่วนเส้นทางการเดินทางหลักๆ จะใช้ได้ทั้ง 3 เส้นทางเลยนะครับ เส้นทางแรกมาจากทางแจ้งวัฒนะ สามารถใช้ถนนติวานนท์ ก่อนมาเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสนามบินน้ำ ตรงผ่านสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าซอยนนทบุรี 15 เพื่อเข้าสู่โครงการ เส้นทางที่ 2 มาจากทางแครายและงามวงศ์วาน สามารถตรงตามถนนรัตนาธิเบศร์ขาออก ผ่านแยกแครายก่อนมากลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า เพื่อเข้าถนนสนามบินน้ำ และเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ เส้นทางที่ 3 มาจากทางบางใหญ่ ก็สามารถใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ขาเข้า ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำ ชีวิตคุณภาพติดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการ The Politan Aqua เป็นคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ดังนั้นการออกแบบตัวอาคารจึงเน้นให้ทุกยูนิตสามารถเปิดรับวิวแม่น้ำได้อย่างเต็มตา อาจจะมีต่างมุม ต่างองศากันบ้างตามแต่ตำแหน่งห้องนะครับ แต่รับรองว่าเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทุกห้องจริงๆ ตัวอาคารเป็นอาคารสูง 2 ทาวเวอร์ เด่นด้วย Facility ส่วนกลางที่ใส่มาเต็มพิกัด เริ่มตั้งแต่พื้นที่สวนสีเขียวร่วม 5 ไร่ อาคาร Club House ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีทั้งสระว่ายน้ำ, ห้องสมุด, Co-working Space, Golf Simulator, Social Room และ Roof Top Garden ขึ้นไปที่ชั้น 8 ยังมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่พร้อมด้วยสวนสวยๆ และมุมพักผ่อนเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ส่วนอีกด้านของตึกบริเวณชั้น 9 จะมีสวนหย่อมออกแบบให้เป็นสวนเล่นระดับ แทรกด้วยที่นั่งพักผ่อนสำหรับนั่งรับลมชมวิวกันได้สวยๆ ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปจนถึงชั้น 59 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ขยับขึ้นไปที่ชั้น 60 ยังมี Infinity Edge Pool ที่มี Jacuzzi พร้อมวิวสวยที่มองเห็นได้เกือบ 360 องศา ส่วนด้านบนของสระว่ายน้ำเป็น Sky Lounge ผนังกรุด้วยกระจกรอบด้านสามารถชมวิวได้เต็มตา อีกด้านเป็น Duplex Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ซึ่งกินพื้นที่ 2 ชั้นกันไปเลย เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนสมาชิกในอาคารครับ นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีทั้ง Lobby โอ่งอ่าหรูหรา, Jogging Track, สนามเด็กเล่น, ร้านค้าใต้อาคาร ฯลฯ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV และ Key Card Access เปิดแบบห้อง The Politan Aqua ที่โครงการ The Politan Aqua มีแบบห้องให้เลือกด้วยกัน 4 แบบครับ แบ่งเป็น 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขายกันมาแบบ Fully Fitted มีชุดสุขภัณฑ์ เคาน์เตอร์ครัว และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งแต่ละห้องจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ตามไปชมกันเลยดีกว่าครับ ห้อง Type แรกมีขนาด 24 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยกำลังดีครับ ฟังก์ชั่นห้องก็จัดวางมาได้สัดส่วนครับ ถ้าห้องแรกยังไม่ถูกใจ ห้องต่อมามีขนาดเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย อยู่ที่ 29 ตร.ม. ห้องนี้จะได้ห้องนอนที่เป็นสัดส่วนชัดเจนขึ้น พื้นที่ห้องนอนอยู่ด้านในสุดติดกับระเบียง และมีห้องน้ำในตัวเลย ส่วนห้องขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุดของ Type 1 Bedroom จะมี Layout คล้ายกับห้อง 24 ตร.ม. แต่จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่างๆ ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งบริเวณ Living Area ที่สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้อีกชุด รวมถึงระเบียงบริเวณห้องนอนจะเป็นระเบียงยาวตลอดแนวห้องเลยครับ ห้องแบบสุดท้ายเป็น Type 2 Bedroom ขนาด 60 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องใหญ่สุดในโครงการ ห้อง Type นี้จะมีจำนวนไม่มากนะครับ เพราะเป็นตำแหน่งห้องที่อยู่ด้านริมแม่น้ำ (มีเพียงชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้น) และสามารถเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ 180 องศา ด้วยระเบียงยาวรูปตัว L ซึ่งยาวตลอดความกว้างของห้องเลยทีเดียว โดยภาพรวมของโครงการแล้ว  The Politan Aqua ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคอนโดมิเนียมน่าอยู่ และมีความเพียบพร้อมในการอยู่อาศัย ทั้งเรื่องการเดินทางที่สะดวกด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งกำลังพัฒนาให้มีการเชื่อมต่อสถานีเตาปูนและบางซื่อเข้าด้วยกัน ต่อไปก็จะทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายนี้สะดวกราบรื่นมากกว่าปัจจุบัน รวมถึงถนนหนทางที่เชื่อมต่อไปหลายเส้นทาง การเดินทางด้วยรถส่วนตัวจึงสะดวกไม่แพ้กันครับ แต่ที่น่าดึงดูดใจมากก็คือ Facility ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดไว้อย่างสวยงาม และมีการกระจายไว้ในส่วนต่างๆ ของโครงการ ลูกบ้านสามารถเลือกเปลี่ยนบรรยากาศได้ทั้งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงบนยอดตึกก็มีพื้นที่ส่วนกลางพร้อมมุมพักผ่อนหลายมุมให้เลือก ซึ่งเชื่อว่า Facility จัดเต็มแบบนี้หาได้ยากมากจากคอนโดระดับเดียวกัน สำหรับผู้สนใจโครงการ The Politan Aqua สามารถเข้าชมห้องตัวอย่าง ณ Sale Gallery ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทุกวัน โดยราคาในช่วง Presale เริ่ม 1.29 ลบ. ดาวน์เพียง 3,999 บ. พิเศษสุด! ช่วง Presale ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ รับ  Premium Package พร้อมแอร์ ครัว และวอลล์เปเปอร์ ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 40,000  : คลิก www.thepolitancondo.com  สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 002 2222
ความสุขดีไซน์ได้ที่ Areeya Como บางนา-วงแหวนฯ : รีวิวบ้าน

ความสุขดีไซน์ได้ที่ Areeya Como บางนา-วงแหวนฯ : รีวิวบ้าน

"หลายคนกำลังมองหาบ้าน.... บ้านซักหลังที่อบอุ่น มีพื้นที่สีเขียวให้มอง สามารถเป็นที่หลบหนีความวุ่นวาย แต่ในขณะเดียวกันสังคมความเจริญก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม"   บางนา-วงแหวนรอบนอก (ถ.กาญจนาภิเษก) จุดตัดของถนนสายหลักที่จะนำไปสู่ส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างต้องการ คือที่ตั้งของโครงการ Areeya Como บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความสุขของครอบครัว   “ซอยมหาชัย” คือที่ตั้งของโครงการ Areeya Como ซอยนี้มีจุดเด่นตรงที่สามารถทะลุออกไปได้หลายทาง ทั้งทางเข้าหลักจากถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้าช่วง กม.10, ทะลุไปออกกิ่งแก้ว-เทพารักษ์ หรือจะวิ่งทะลุผ่านอาณาจักรอารียา ไปออกตรงด่านวงแหวนฯ ตรงข้าม เมกาบางนา ได้พอดิบพอดี (ปากทางเป็นคอนโด A space me) เส้นทางนี้ยังนับเป็นอีกเส้นทางลัดที่เราสามารถตรงสู่แหล่งช็อปปิ้งสำคัญในย่านนี้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุดด้วยนะครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เราซูมเข้ามาดูใกล้ๆ กันอีกหน่อย จะเห็นว่าโครงการอยู่ในซอยมหาชัย (สีน้ำเงิน) ซึ่งเข้าได้จากทางถนนบางนา-ตราด หรืออีกเส้นทางที่ลัดมาจาก Mega บางนา (สีเหลือง)   ถ้าพูดถึงความเพียบพร้อมในเรื่องของไลฟ์สไตล์แล้ว ทำเลที่ตั้งโครงการ Areeya Como ยังถูกแวดล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย เช่น Ikea, Mega Bangna, Central บางนา, Homepro บางนา, Index บางนา, Tesco Lotus, Secon Square, Paradise Park, คอกม้า Phoenix, สนามกอล์ฟ, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, ร้านค้า ร้านอาหารจำนวนมาก รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ด้วยระยะทางจากในซอยเพียงนิดเดียวก็สามารถเข้าสู่ถนนบางนา-ตราด, ทางด่วนพิเศษบูรพาวิถี และถนนวงแหวนรอบนอก ก็ทำให้การเดินทางสู่ใจกลางกรุงเทพเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว   Areeya Como สังคมของชีวิตสุขนิยม   Areeya Como บางนา-วงแหวนฯ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่คุณจะมีเพื่อนบ้านร่วมแบ่งปันความสุขเพียง 128 หลังเท่านั้น จึงได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการ อุ่นในด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกล้องวงจรปิด CCTV และประตู Double Gate Security เข้าออกด้วย Key Card   บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ ประตู Double Gate Security เข้าออกด้วย Key Card ถนนเมนของโครงการกว้างประมาณ 12 เมตร ในโครงการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบตัวบ้าน เพิ่มความร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ได้บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เพียบพร้อมด้วยคลับเฮ้าส์หรู สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และพื้นที่ออกกำลังกายที่ทุกคนสามารถใช้งานได้จริง รวมถึงมุมนั่งเล่นพักผ่อนทั้งในบริเวณคลับเฮ้าส์ และในสวนสวยกลางแจ้ง พื้นที่สีเขียวภายในโครงการ คลับเฮ้าส์จะแยกอยู่คนละส่วนกับโครงการ บริเวณคลับเฮ้าส์จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมสระเด็ก พื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ มีห้องน้ำและตู้ล็อกเกอร์ไว้ให้บริการ เข้ามาด้านในคลับเฮ้าส์กันบ้าง ฟิตเนสจะอยู่ด้านในคลับเฮ้าส์ ใกล้ๆ กันจะมีพื้นที่นั่งรับรอง บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ของโครงการ Areeya Como มาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ โดยห้องนอนที่ 4 ซึ่งอยู่ในส่วนชั้นล่างสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่จะมาเติมเต็มความต้องการของคนในบ้านให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญทุกยูนิตสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เลยครับ รูปแบบบ้านจะเป็นแนว Contemporary Modern Style ประตูหน้าบ้านจะเป็นเหล็กโปร่ง บริเวณที่จอดรถหน้าบ้านจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก จอดรถได้ 2 คัน ด้านข้างที่จอดรถจะมีพื้นที่เล็กๆ ให้จัดสวนหย่อมไว้หน้าบ้าน ส่วนด้านข้างบ้านก็จะมีพื้นที่ให้จัดสวนหรือพื้นที่นั่งเล่นอีกจุดหนึ่ง แต่เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันต่อนะครับ ประตูเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทุกรายละเอียดของตัวบ้าน ทาง Areeya ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดจริงๆ ตั้งแต่ดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์ Contemporary Modern สะท้อนถึงความทันสมัย เรียบง่ายด้วยโทนสีอบอุ่น ในส่วนของพื้นที่จอดรถหน้าบ้านทางโครงการก็เทพื้นและทำหลังคามาให้เรียบร้อยทุกยูนิต เปิดประตูบ้านไปดูพื้นที่ใช้สอยภายใน ก็จะเห็นว่าพื้นที่ทั้งหมดออกแบบมาให้สามารถใช้สอยประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น และบริเวณรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างลงตัว แถมยังได้บรรยากาศโล่ง โปร่งสบายตาด้วย Bay Window ประตูกระจกขนาดใหญ่ สูงจรดเพดาน เปิดรับแสงธรรมชาติ และเชื่อมต่อกับเฉลียงข้างบ้านได้อย่างกลมกลืน บรรยากาศสวนสวยๆ พร้อมมุมพักผ่อนบริเวณข้างบ้านยิ่งช่วยเสริมให้บ้านหลังนี้อบอุ่น เหมาะกับเป็นพื้นที่ชาร์ทแบตให้พร้อมออกไปทำงานอีกครั้ง เข้ามาด้านในบ้านโครงการจะ Built in เป็นพาทิชั่นกั้นก่อนจะเข้าไปที่ Living Area ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ อยู่ติดกับส่วน Dining Area พื้นที่บริเวณ Living Area โครงการตกแต่งด้วยโซฟาขนาด 4 ที่นั่ง มีชั้นวางของ Built in อยู่ด้านข้าง อีกด้านจะ Built in เป็นจุดวางทีวี ถัดเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นส่วน Dining Area ซึ่งโครงการตกแต่งด้วยการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่ง ใกล้ๆ กันโต๊ะทานอาหาร จะเป็นส่วนครัว ส่วนครัวโครงการ Built in ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างสวยงามทีเดียวครับ ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะอยู่ใกล้ๆ กับส่วนครัว ใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมพื้นที่อาบน้ำ ข้างโต๊ะทานอาหารอีกด้านจะมีหน้าต่างแบบ Sky Bay Window เพื่อรับแสงจากสวนด้านนอก ด้านนอกโครงการตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน พร้อมมีสวนสีเขียวให้ความร่มรื่น ส่วนสำคัญอีกส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ พื้นที่ของห้องอเนกประสงค์ ซึ่งทางโครงการตั้งใจออกแบบไว้ให้พื้นที่ตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะจัดตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน หรือพื้นที่นั่งเล่น ก็ดูจะเหมาะสมและลงตัวเป็นที่สุด ในขณะเดียวกันถ้าหากต้องการจะใช้ให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ หรือห้องนอนแขก ก็สามารถกั้นประตูเพิ่มได้เช่นกันครับ พื้นที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน จัดแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอนด้วยกัน โดยที่ Master Bedroom จะมีพื้นที่กว้างขวางสามารถจัดสรรพื้นที่ให้มี walk-in closet ได้อย่างลงตัว รวมถึงห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องที่มาพร้อมกระจกกั้นพื้นที่อาบน้ำมาให้เรียบร้อย ห้องนอน Master จะได้ขนาดใหญ่เลยนะครับ สามารถเลือกว่างเตียงใหญ่ๆ ได้ตามใจชอบเลย อย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างก็วางเตียง King Size 6 ฟุตไปเลย ระเบียงในห้องนอน Master ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ปลายเตียงโครงการตกแต่งด้วยการ Built in ฉากกั้นเพื่อแยกห้องนอนกับตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ด้านในโครงการตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet แต่บ้านมาตรฐานที่ได้ จะไม่ได้กั้นให้แบบนี้นะครับ ห้องน้ำจะอยู่ติดกับ Walk-in Closet สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard Shower Box จะมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อน 3 ตอนให้เรียบร้อย ในขณะที่ห้องนอนอีก 2 ห้องในบริเวณชั้น 2 ก็มีพื้นที่ห้องกว้างไม่แพ้กัน ห้องแรกตกแต่งไว้เป็นห้องนอกเด็ก ด้วยดีไซน์น่ารักสดใส กลับกันกับอีกห้องที่ตกแต่งมาในสไตล์เข้มขรึม แต่กลับลงตัวด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ห้องแรกโครงการตกแต่งเป็นห้องนอนเด็ก ใช้โทนสีสว่างน่ารักดีทีเดียวครับ โครงการตกแต่งด้วย Built in อย่างเต็มเหนี่ยว เหมาะกันเด็กๆ เป็นที่สุด ส่วนห้องนอนอีกห้องตกแต่งเป็นแนวผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ด้วยโทนสีเข้ม เท่าที่ได้มีโอกาสเยี่ยมชมโครงการ Areeya Como ในครั้งนี้ ก็ทำให้เห็นว่าพื้นที่แห่งความสุขของทุกคนในบ้าน สามารถจัดสรรได้จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของทุกคน และพื้นที่ส่วนกลางที่เราจะได้แชร์ความสุขร่วมกันอย่างคุ้มค่า คุ้มเวลาที่สุด ตัวบ้านเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญ เพราะบ้านคือพื้นที่ที่ทุกคนในบ้านจะได้พักผ่อน แบ่งปันความสุข ความอบอุ่น เพื่อให้พร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ ภายนอก ในขณะที่ทำเลที่ตั้งก็มีส่วนเสริมให้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นได้นะครับ.... “บ้าน” Areeya Como ความสุขที่คุณออกแบบได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th หรือ โทร. 1797
THE ESSE at SINGHA COMPLEX นิยามใหม่แห่งความหรูหราบนทำเลทอง : รีวิวคอนโด

THE ESSE at SINGHA COMPLEX นิยามใหม่แห่งความหรูหราบนทำเลทอง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ “THE ESSE at SINGHA COMPLEX” คอนโดมิเนียมสุดหรูบนที่ดินผืนใหญ่ตรงหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเคยเป็นสถานฑูตญี่ปุ่นมาก่อน ปัจจุบัน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กำลังพัฒนาโครงการ “สิงห์ คอมเพล็กซ์” (SINGHA COMPLEX) โครงการ Mixed-use สุดอลังการ ที่กำลังจะเป็น Landmark สำคัญอีกแห่งของกรุงเทพมหานคร Landmark ใหม่บนทำเลทองติดถนนอโศก จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นที่น่าจับตามาก นอกเหนือจากภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อ “สิงห์” เป็นเครื่องการันตีได้ดีอยู่แล้วก็คือ “ทำเลที่ตั้ง” - ต้องบอกว่า เป็นความเพียบพร้อมของทำเลแห่งอนาคตจริงๆ เพราะเป็นแหล่งรวมทั้ง อาคารสำนักงาน, สถาบันการศึกษาชั้นนำ, ร้านอาหารชื่อดัง, แหล่งช็อปปิ้ง และอยู่ในทำเลที่เป็น Hub ของการเดินทางอย่างแท้จริง รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) จัดว่าเป็นการเดินทางหลักที่เชื่อมเข้าถึงภายในโครงการ SINGHA COMPLEX กันเลยทีเดียว ดังนั้นลูกบ้านของ THE ESSE at SINGHA COMPLEX จะได้รับความสะดวกสบายด้วยทางเชื่อมเข้าสู่สถานีเพชรบุรีที่อยู่บริเวณหน้าโครงการเลย ในขณะที่รถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเข้าสู่ใจกลางเมืองก็อยู่ห่างออกไปเพียงสถานีเดียว เช่นเดียวกับการเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ลูกบ้านสามารถเลือกขึ้นรถไฟฟ้า Airport Rail Link ได้ที่สถานีมักกะสัน ที่อยู่ใกล้แค่ข้ามไปอีกฟากของถนนเท่านั้น ด้วยระบบขนส่งมวลชนที่เพียบพร้อมขนาดนี้ การเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่สุด ขณะเดียวกันลูกบ้านที่ต้องใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ก็สะดวกด้วยเส้นทางหลักอย่างถนนอโศก และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งถนนพระราม 9, ถนนสุขุมวิท, ถนนรัชดาภิเษก ฯลฯ และถัดจากโครงการไปทางด้านพระราม 9 ก็มีทางด่วนศรีรัชเป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ สะดวกมากยิ่งขึ้น ชีวิตเหนือระดับกับ THE ESSE at SINGHA COMPLEX มาถึงในส่วนของตัวโครงการกันบ้างครับ THE ESSE at SINGHA COMPLEX แบ่งส่วนที่ดินของ SINGHA COMPLEX ออกมาประมาณ 2 ไร่ เพื่อทำคอนโดมิเนียม High Rise สูง 39 ชั้น โดดเด่นด้วยวิวทิวทัศน์ใจกลางเมือง และการออกแบบหรูหราสุดอลังการ ซึ่งเชื่อว่าโครงการ SINGHA COMPLEX จะกลายเป็น Icon เด่นบนถนนอโศก-เพชรบุรีเลยทีเดียว ด้วยความตั้งใจในการออกแบบที่อยู่อาศัยระดับ World Class ทางโครงการจึงเน้นการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย ด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพในทุกยูนิต โดยทั้ง 319 ยูนิต จะแบ่งเป็นห้อง 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Penthouse ขนาด 34.75 – 215.50 ตร.ม. จัดเต็มด้วย Facility ระดับ Premium เหนือความคาดหมาย เช่น On the Cloud Fitness, Fully-equipped gym room with rock climbing wall and Muay Thai boxing ring Sky Edge Swimming Pool Onsen, Steam Room Private Spa and Salon Private Exercise Room Private Theatre The Sky Social Lounge The Residence Lounge Library and co-working area Sky Terrace Mailbox & Private storage space for sports equipments or luggages ฯลฯ นอกจาก Facility ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นแล้ว พื้นที่ส่วนกลางที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Green Amphitheatre & Hidden Pavilion และ Sancturary Terrain Garden ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายในโครงการที่ตั้งใจออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อน หลบหนีจากความวุ่นวายภายนอก ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวแบบไม่ขาดตกบกพร่อง เชื่อได้เลยว่าแทบจะไม่มีโครงการไหนที่จัดหนักจัดเต็มขนาดนี้แน่นอน แถมนอกจาก Facility ภายในโครงการแล้วก็ยังมีพื้นที่ Retail ร้านค้าในโซน SINGHA COMPLEX ที่จะมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้นไปอีก Luxury Residence เพื่อสะท้อนคุณภาพชีวิตของคนเมือง แบบห้องของ THE ESSE at SINGHA COMPLEX ที่เราจะพาไปชมมีด้วยกัน 3 แบบ ทุกยูนิตขายมากแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาพร้อมด้วยวัสดุ สุขภัณฑ์คุณภาพซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างดี ทั้ง ชุดครัวพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน, ไมโครเวฟ, ตู้เย็นแบบ Built-in, ตู้เสื้อผ้า Built-in, โต๊ะ, ตู้, เตียง, โซฟา ฯลฯ รวมถึงผนังตกแต่งด้วยหินแท้ในบริเวณห้องนั่งเล่น!!! ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ต้องการให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ ทางโครงการจึงเพิ่ม Application ให้ลูกบ้านทุกยูนิตสามารถควบคุมไฟ เครื่องปรับอากาศ รวมถึงผ้าม่านผ่าน Smart Phone หรือ Tablet ได้ทุกที่ทุกเวลา เช่นเดียวกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างไฟอัตโนมัติบริเวณประตูทางเข้า หรือสวิตช์ไฟระบบสัมผัสในตำแหน่งที่จำเป็น เพื่อคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่คุณเลือกและควบคุมได้ เริ่มต้นกันด้วยห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.75 ตร.ม. อีกห้องเป็นห้องแบบ 1 Bedroom เช่นกัน แต่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้น โดยมีขนาด 47.75 ตร.ม. ส่วนห้องแบบสุดท้ายที่เปิดให้เยี่ยมชมกันคือ ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 77 ตร.ม. ภายในห้องมาพร้อมกับเครื่องใช้ครบครัน Up Size ทั้งตู้เย็น เตาไฟฟ้า และไมโครเวฟ+เตาอบ ถ้าจะบอกว่า THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจมากที่สุดในทำเลย่านอโศก ก็คงจะไม่เกินความเป็นจริงเลย เพราะหาได้ยากที่โครงการในระดับ Luxury บนทำเลทองที่ถือว่าเป็น Hub ของการเดินทางจะเปิดตัวกันมาด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 8.6 ล้านบาท แถมยังขายให้แบบ Fully Furnished พร้อม Facility อลังการขนาดนี้ THE ESSE at SINGHA COMPLEX พร้อมเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างได้เเล้วตั้งเเต่วันนี้ เปิดพรีเซลล์ในวันที่ 4-5 มีนาคม 2560 นี้ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษอีกมากมาย ได้ที่ http://www.singhaestate.co.th/singhacomplex/condo หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1221
THE RESERVE THONGLOR 2 เดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ 2 : รีวิวคอนโด

THE RESERVE THONGLOR 2 เดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ 2 : รีวิวคอนโด

The Reserve thonglor 2 เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ 2 คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมโครงการแรกของพฤกษา ที่จับกลุ่มตลาด High End บนทําเลที่แพงที่สุดในกรุงเทพมหานครอย่างต้นซอยทองหล่อ ด้วยคอนเซปต์ที่แตกต่าง โดยการใช้ Wolfpack (ฝูงหมาป่า) มาเป็นตัวแทนการใช้ชีวิตที่ชอบเข้าสังคม เปรียบกับ Target Group ที่ชื่นชอบ การใช้ชีวิต ในเมืองอย่างทองหล่อ ชอบ Hangout กับ กลุ่มเพื่อน แต่ในขณะเดียวกัน ก็หลงใหลความเงียบสงบในพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งเป็นที่มาของ Concept “Reserve Your Nature” ที่ออกแบบให้การใช้ชีวิตภายในโครงการมีธรรมชาติ แทรกเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของโครงการ รวมถึงทําให้ทุกห้องเป็นห้องมุม ออกแบบตัวอาคารใหม่ให้มีเส้นสายที่เป็น modern ใช้สีเทาเป็นสีอาคารและใช้วัสดุโลหะ Copper เป็นเส้นตั้งอาคาร เพื่อสร้างความหรูหรา ทันสมัย และมี character เหมาะกับคนรุ่นใหม่ วัสดุภายในห้องระดับพรีเมี่ยมที่คัดสรรมาอย่างดี เพื่อให้โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    10 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 250,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ     บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 26 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ซอยทองหล่อ 2 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    1 - 1 - 40.7 ไร่ จำนวนห้อง    110 ยูนิต ที่จอดรถ    100% ของจำนวนห้องพัก เริ่มก่อสร้าง    เริ่มกลางปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีทองหล่อ Maze Thonglor Market Place J-Avenue The Emporium The EmQuartier โครงการตั้งอยู่บนทองหล่อ ซึ่งเป็นทำเลยอดนิยมอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ ตอบโจทรย์ไลทฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ จึงทำให้ทำเลนี้เป็นที่ต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ 500 เมตร และ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 2 เป็น ซอยที่เงียบสงบเป็นส่วนตัวสูง( Luxury Neighborhood Area ) ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาดพื้นที่ประมาณ 43.94 - 58.15 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท 2 Bedroom  ขนาดพื้นที่ประมาณ 70.86 - 76.77 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท Penthouse  ขนาดพื้นที่ประมาณ 121.71 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก High Ceiling Lobby Concierge Lounge Creek Garden Marble Pool Jacuzzi Bed Kids Pool The Resevce Lounge Fitness Sky Amphitheatre Concierge by The Reserve Project Highlight มีความเป็นส่วนตัวสูง แค่เพียง 110 ยูนิต / 5 ยูนิตต่อชั้น ทุกยูนิตเป็นห้องมุม SKY Rooftop Facility บนชั้น 25 - 26 Water Channel ไหลผ่านผนัง จากตัวอาคารเชื่อมต่อมายังส่วนพื้นที่สีเขียวด้านหน้า Creek Garden ทําให้เกิดเสียงน้ำและความสดชื่น สร้างความรู้สึกถึงธรรมชาติ ที่แทรกตัวอยู่ในอาคาร ที่จอดรถ 100% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด Exclusive Finest Service: Concierge by The Reserve Premium Specification เลือกใช้ Premium Specification บรรจงปราณีตทั้งการออกแบบและดีไซน์ ความสูงฝ้า 3 เมตร, พื้นไม้จริง Engineering Wood หนา 12 mm., ใช้หินอ่อน Cheta Grey Stone ในการตกแต่งฝนังห้องน้ำ, ระบบเครื่องปรับอากาศแบบ VRV ซึ่งจะวาง Condensing Air ไว้ภายนอกห้องพักอาศัย ทำให้ระเบียงเปิดรับวิวโดยไม่มีอะไรบดบัง อุปกรณ์ชุดครัวนำเข้า สั่งพิเศษ โดยใช้ Brand จากยุโรป Gorenje By Philippe Starck - ใช้ระบบ Home Automation , Video Door Phone พร้อม Emergency Call ใช้กระจกสเปคพิเศษ Insulated Glass ที่สามารถกันความร้อนและเสียงได้มากกว่ากระจกธรรมดา ElectricCarCharger ตอบโจทย์นวัตกรรมรถยนต์ในอนาคต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : thereservecondo.com
KRAAM Sukhumvit 26 คราม สุขุมวิท 26 : รีวิวคอนโด

KRAAM Sukhumvit 26 คราม สุขุมวิท 26 : รีวิวคอนโด

KRAAM Sukhumvit 26 คอนโดหรูระดับ Super Luxury ในซอยสุขุมวิท 26 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง จาก NYE Estate รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    17 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 91 ไร่ จำนวนห้อง     126 ยูนิต ที่จอดรถ    176 คัน หรือคิดเป็น 140% เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกันยายน ปี 2562 ค่าส่วนกลาง    100 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    1,200 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Emporium Emquartier สวนเบญจศิริ Rainhill A Square K-Village BigC Extra พระรามสี่ สถานฑูตฟิลิปปินส์ 24′ Avenue อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ โรงเรียนสายน้ำผึ้งในพระอุปถัมภ์ โรงพยาบาลสมิติเวช Tesco Lotus พระรามสี่ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 61 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 102 - 122 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 177 - 180 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 229 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก ฟิตเนส Jacuzzi Yoga room Steam room Library Multi-purpose room Concierge service Laundry service Room maintenance Doorman Shuttle services สวนหย่อมรอบโครงการ Access Card ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-661-2900 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.nyeestate.co.th/kraam/
X2 Pattaya Oceanphere : รีวิวบ้าน

X2 Pattaya Oceanphere : รีวิวบ้าน

X2 Pattaya Oceanphere (ครอสทู พัทยา โอเชี่ยนเฟียร์) พูลวิลล่า ตากอากาศสุดหรูพร้อมอยู่สไตล์ โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่ รีสอร์ท จาก Habitat       รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    9,790,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ฮาบิแทท วัน จำกัด (บริษัทในเครือ ฮาบิแทท กรุ๊ป) ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยวพูล วิลล่า จำนวน 59 หลัง พื้นที่โครงการ    9 - 3 - 3 ไร่ ที่ตั้งโครงการ      ซอยนาจอมเทียน 56 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เริ่มก่อสร้าง     ไตรมาส 3 ปี พ.ศ. 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาส 4 ปี พ.ศ. 2561 ค่าส่วนกลาง    30 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    300 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง   สวนน้ำ Cartoon Network สวนนงนุช Ocean Marina สวนน้ำรามายณะ ไร่องุ่น Silver Lake แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   พูล วิลล่า แบบ 1 ห้องนอน  พื้นที่ใช้สอยประมาณ 137.68 – 193.4 ตารางเมตร พูล วิลล่า แบบ 2 ห้องนอน  พื้นที่ใช้สอยประมาณ 193.91 – 257.71 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สโมสรพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 3 ชั้น โถงต้อนรับ พนักงานต้อนรับ และอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้เอดจ์ อ่างจากุชซี่ และ Hydrotherapy ห้องออกกำลังกาย ครอสทู ยาน สปา (X2 Yan Spa) ห้องอาหาร และ บาร์ (4K restaurant and Bar) บริการทำความสะอาด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ระบบ Key card ควบคุมการเข้าออก Security Gate สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  081-451-0002 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.x2pattaya.com/
Lumpini Suite Phetchaburi-Makkasan ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน : รีวิวคอนโด

Lumpini Suite Phetchaburi-Makkasan ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน : รีวิวคอนโด

Lumpini Suite เพชรบุรี-มักกะสัน คอนโด High Rise สูง 35 ชั้น บนถนนเพชรบุรี ใกล้รถไฟฟ้า Airportlink สถานีสักกะสัน จาก LPN รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,350,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    636 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด   3 - 0 - 71.1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนเมษายน 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2561 สถานที่สำคัญใกล้เคียง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โรงเรียนเซ็นดอมินิก วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก ท่าเรือนานาเหนือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เซ็นทรัลชิดลม Terminal 21 ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio  ขนาด 23 ตารางเมตร 1 Bedroom  ขนาด 27 - 33 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 34.50 - 61 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมรอบโครงการ Co-Living Area Sauna Stream Roof Garden ระบบ CCTV Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-255-4711 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.lpn.co.th
D Mark Condo @ Sutthisan ดีมาร์ก คอนโด @ สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

D Mark Condo @ Sutthisan ดีมาร์ก คอนโด @ สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

D Mark Condo สุทธิสาร คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ใกล้แยกรัชดา-สุทธิสาร และรถไฟฟ้า MRT สถานีสุทธิสาร จาก Cosmo Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    Cosmo Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    112 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 42 คันคิดเป็น 37.5% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด    0 - 3 - 71 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    กลางปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Tesco Lotus Express ตลาดเมืองไทยภัทร ตลาดสดสุทธิสาร ตลาดห้วยขวาง Esplanade รัชดา Central พระราม 9 Fortune ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type A : 1 Bedroom ขนาด 30-31 ตารางเมตร Type B : 1 Bedroom ขนาด 28-29 ตารางเมตร Type B1 : 1 Bedroom ขนาด 28-29 ตารางเมตร Type C : Studio ขนาด 23 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ฟิตเนส สวนหย่อม ระบบ CCTV Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-274-8828, 098-995-0299 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.dmarkcondo.com
Rhythm Asoke ริทึ่ม อโศก จังหวะดีดีใกล้ MRT พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Rhythm Asoke ริทึ่ม อโศก จังหวะดีดีใกล้ MRT พระราม 9 : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปอัพเดทข้อมูลโครงการ “Rhythm อโศก” จาก AP Thailand กันครับ ล่าสุดตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว เริ่มมีลูกบ้านบางส่วนทยอยโอนห้องกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ เรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดถนนอโศก-ดินแดงฝั่งขาออก ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพียง 300 เมตรเท่านั้น ใกล้ด่านขึ้นลงทางด่วนศรีรัช พระราม9  แถมยังมีสถานี Airport Link อยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องเรื่องการเดินทางมากๆ สำหรับคนเมืองอย่างเรา และอย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่า ทำเลในแถบนี้ถือเป็น New CBD ใหม่ของกรุงเทพเลยทีเดียว พื้นที่ในย่านนี้จึงมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่ ห้องขายต่อ หรือห้องปล่อยเช่า ก็ดูจะถูกจับจองกันอย่างรวดเร็ว เพราะศักยภาพของทำเลบริเวณแยกพระราม 9 นี้ปัจจุบันมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อย่าง G Land ซึ่งอยู่ติดๆ กับ Central พระราม 9 ไหนจะอาคารตลาดหลักทรัพย์ สำนักงาน AIA, สำนักงานใหญ่ทรู, อาคารฟอร์จูนทาวน์เวอร์ ฯลฯ แค่นี้ก็พอจะเห็นแล้วว่าจะมีจำนวนประชากรชาวออฟฟิศหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างล้นหลามแน่นอน พอมีผู้คนต้องย้ายมาทำงานในย่านนี้มากขึ้น แน่นอนว่าการหาที่อยู่ใหม่ก็เป็นเรื่องที่ตามมาสำหรับใครหลายๆ คน คอนโดในย่านนี้กำลังแข่งกันขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็เริ่มทะลุเพดานจนบางโครงการก็เกินความสามารถมนุษย์เงินเดือนไปแล้วครับ แต่สำหรับ Rhythm อโศก ที่เราจะมาอัพเดทในวันนี้ ต้องบอกว่ายังมีทีเด็ดอยู่ไม่แพ้โครงการไหนเลยทีเดียว ใครที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ไม่ควรมองข้ามครับ Rhythm อโศก จังหวะของการอยู่อาศัย โครงการ Rhythm อโศก เป็นคอนโด High Rise สูง 37 ชั้น ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วนะครับ ในส่วนของการเดินทางเราขอข้ามเรื่องนี้ไปเนื่องจากทุกคนน่าจะพอคุ้นเคยกับการเดินทางในแถบนี้อยู่แล้ว แต่ถ้ายังไม่ชิน ลองไปทบทวนการเดินทางและพื้นที่รอบๆ กันได้ที่รีวิวฉบับนี้ครับ (รีวิวคอนโด Rhythm Asoke) รอบๆ โครงการมีความอุดมสมบูรณ์แบบขีดสุดครับ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า แหล่งช๊อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย รวมถึงเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ สมกับเป็น New CBD จริงๆ ครับ และเพื่อตอบโจทย์ของการใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่สมบูรณ์แบบ ภายในโครงการถูกออกแบบมาให้เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นจุดเด่นของโครงการกินพื้นที่ตั้งแต่บริเวณชั้น 7-9 เลยทีเดียว เดี๋ยวเราไปดูภาพบรรยากาศจริงของ Facility ในโครงการกันก่อนนะครับ ชั้น 7 นอกจากจะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยแล้ว ยังเป็นขั้นเริ่มต้นของ Facility หลักๆ ของโครงการด้วยนะครับ ชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และห้องซาวน่า Facility ชั้น 8 จะเป็นฟิตเนส ส่วน Facility ที่ชั้น 9 จะเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวมุมสูง เริ่มด้วยที่บริเวณชั้น 7 จะเด่นด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ทางโครงการจัดสระว่ายน้ำขนาดกว้าง 7.5 เมตร ยาว 20 เมตร ซึ่งสามารถใช้ออกกำลังกายได้จริง ไม่ใช่แค่ลอยคอเล่นน้ำสวยๆ เท่านั้น ในขณะที่บริเวณริมสระยังมีมุมพักผ่อนในบรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สบายตา พร้อมด้วยห้องอาบน้ำ แต่งตัว และห้องซาวน่าแยกชาย-หญิงไว้เป็นสัดส่วน บรรยากาศสระว่ายน้ำที่ชั้น 7 ห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ สระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำ ตู้ Locker เก็บของ ห้องซาวน่า มีทั้งในห้องน้ำชาย-หญิง ขึ้นบันไดมาที่ชั้น 8 เหนือสระว่ายน้ำก็จะเป็นพื้นที่ของห้องออกกำลังกาย ซึ่งล้อมรอบไปด้วยกระจกใสบานใหญ่ เปิดรับ City View และวิวสระว่ายน้ำได้อย่างเต็มตา ภายในห้องออกกำลังการเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทั้ง Cardio และ Weight Training เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนสามารถเลือกออกกำลังกายได้ตรงตามความต้องการ ห้องฟิตเนสบนชั้น 8 อุปกรณ์ครบครัน มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น 7 ขยับมาอีกนิดที่บริเวณชั้น 9 จะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทางโครงการจัดให้เป็นสวนหย่อม พร้อมมุมนั่งเล่นพักผ่อน เปิดโล่งรับลม และวิวเมืองได้อย่างเต็มตาอีกเช่นกันครับ ช่วงเย็นๆ รอให้แดดร่มลมตกซักหน่อยรับรองว่าบรรยากาศบนนี้จะชิลไม่แพ้ Roof Top Area ที่อื่นๆ แน่นอน นอกจากนี้ทางโครงการยังเพิ่ม “ห้องอเนกประสงค์” ในบริเวณระหว่างชั้น 8-9 ด้วยนะครับ ห้องนี้เป็นห้องกระจก มีมุมให้เลือกนั่งทั้งเคาน์เตอร์ริมกระจก และโซฟาด้านใน เหมาะที่จะใช้นั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานเงียบๆ มากครับ ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่สีเขียว บนชั้น 9 ไว้สำหรับนั่งพักผ่อน ชมวิวมุมสูง มองออกไปเห็นโครงการ Rhythm Asoke 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม นอกจาก Facility หลักๆ ในบริเวณชั้น 7-9 แล้ว ที่บริเวณชั้น 1 ก็ยังมีสวนด้านหน้าติดกับ Lobby พร้อมสถาปัตยกรรมสวยๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้บริเวณ Lobby รื่นรมมากขึ้นครับ เช่นเดียวกันกับบริเวณดาดฟ้าชั้น 37 ก็จัดเป็นสวนลอยฟ้า มีทั้ง Jogging Track และเครื่องเล่นแบบ Outdoor มาให้ด้วย ส่วนเรื่องพื้นที่จอดรถก็มีตั้งแต่ชั้นใต้ดิน (ชั้น B) ขึ้นไปถึงชั้น 6 นับจำนวนรวมแล้วก็สามารถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 178 คันเลยทีเดียว และแน่นอนกว่าระบบรักษาความปลอดภัยก็ครบครันไม่แพ้กันทั้ง รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV และการใช้ Key Card ในการเข้าออกโครงการ..... อยากเข้าอยู่แล้วใช่มั้ยครับ สวนหย่อมเล็กๆ หน้าโครงการ บรรยากาศบริเวณ Lobby 2 ห้องนอน ห้องนี้อยู่สบาย ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันในครั้งนี้ เป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 41.50 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่อยากจะแนะนำ เนื่องจากมีความเหมาะสมกับการอยู่อาศัย และมีพื้นที่ใช้สอยที่จัดสรรได้อย่างลงตัวครับ พื้นที่ในห้องแบ่งเป็น 2 ห้องนอนขนาดใหญ่พอๆ กัน ทั้ง 2 ห้องสามารถวางเตียงไซส์ 5-6 ฟุต ได้ทั้งคู่ ไม่เหมือนกับบางแห่งที่ห้องนอนเล็กจะเลือกใช้ได้แค่เตียง 3.5 ฟุตเท่านั้น จาก Layout จะเห็นว่ามีห้องน้ำกั้นกลางระหว่างห้องนอน โดยห้องนอนหลักจะมีประตูเข้าห้องน้ำได้จากด้านในห้องนอนเลย ต่างจากห้องนอนเล็กที่ต้องเดินมาเข้าจากบริเวณห้องนั่งเล่นนะครับ ในส่วนของ Living Area มีขนาดกว้างพอที่จะจัดสรรให้เป็นมุมนั่งเล่น วางโต๊ะกินข้าว ไว้ใกล้ๆ กับ Pantry ครัวได้เลยนะครับ เนื่องจากห้อง 2 Bedroom นี้จะเป็นห้องในตำแหน่งมุมอาคาร ดังนั้นห้องทุกห้องจะได้แสงธรรมชาติส่องถึงอย่างเต็มที่ จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยในหลายรูปแบบ ลองดูได้จากการตกแต่งห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเลือกจัดห้องให้ดูว่า พื้นที่แบบ 2 ห้องนอนนี้เราสามารถเลือกให้ห้องนอนที่ 2 เป็นได้ทั้ง ห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ได้ใน Space ที่ลงตัวพอดิบพอดีทีเดียวครับ เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเป็นส่วนครัววางอยู่หน้าห้องก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว Starmark ท็อปครัวจะเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ซิงค์ล้างจานแบบหลุม เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Franke มาพร้อมกันฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านล่างเป็นช่องวางไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก แบบแรกเราจะให้ดูห้องที่ตกแต่งเป็นห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต ให้ดูเป็นตัวอย่าง ปลายเตียงยังมีที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอนด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังเหมือนห้องตัวอย่างแทนนะครับ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่ มีบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นาบน Fix มองกลับมาด้านหน้าห้องจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า ส่วนห้องอีกแบบเราจะพาไปดูการตกแต่งเป็นห้องแต่งตัวพร้อมกับเป็นห้องทำงานไปด้วยในตัว ห้องนี้อาจจะเหมาะกับคู่หนุ่มสาว ที่อยู่กับ 2 คน แล้วต้องการ Space ในการใช้ชีวิตเพิ่ม ตั้งโต๊ะทำงานไว้ริมหน้าต่าง ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน คั่นกลางระหว่างส่วนครัวและ Living Area พื้นที่บริเวณ Living Area กว้างขวางพอสมควรนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอยู่ในระยะที่ดีเลย โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง เนื่องจากติดโต๊ะทานอาหารที่อยู่ข้างๆ หรืออีกหนึ่งไอเดียจะตกแต่งส่วน Living Area เป็นโซฟา Built-in ยาวไปจนติดกับส่วนครัว การตกแต่งแบบห้องนี้จะช่วยพิ่มพื้นที่ Living Area ขึ้นเยอะเลยนะครับ โดยสามารถใช้พื้นที่ Living Area และ Dining Area รวมกันได้เลย วางโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ไว้ข้างๆ ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นทที่ระเบียงกว้างประมาณ 60 เซ็นติเมตร คอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนไว้ที่ระเบียงหันหน้าเป่าลมร้อนออกด้านนอก กลับเข้ามาดูที่ด้านในกันต่อกับ 2 ห้องที่เหลือ คือห้องน้ำและห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับ ที่เราเห็นอยู่นี้จะเป็นส่วนแรก จะมีโถสุขภัณฑ์ วางอยู่คู่กับอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ขนาดพอดีกับการล้างมือ พร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว ระหว่าง 2 ส่วนจะมีประตูบานเลื่อนสีขาวกั้น ส่วนที่ 2 จะเป็น Shower Box ประตูสีน้ำตาลที่เห็นด้านขวามือ จะเป็นประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ จะมีอ่างล้างหน้าทรงกลมให้อีกจุด ซึ่งขนาดจะใหญ่กว่าในส่วนแรก กระจกเงาก็จะได้บานใหญ่กว่าเหมือนกันนะครับ Shower Box จะได้ขนาดใหญ่พอสมควรนะครับ มีกระจกเทมเปอร์กั้นให้เรียบร้อย ชุดฝักบัวมาพร้อม Rain Shower ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะพอให้วางชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ได้เลยนะครับ อีกด้านจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ เปิดห้องตัวอย่างในบรรยากาศจริงของโครงการ “Rhythm อโศก” กันไปแล้ว หลายคนอาจจะนึกสนใจขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไว้อยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่าก็ดี ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากนะครับ เพราะปัจจุบันค่าเช่าคอนโดในย่านนี้ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง เช่นเดียวกันกับราคาขายคอนโดใหม่ก็มีราคาสูงเกินพนักงานออฟฟิศแบบเราจะเอื้อมถึงไปหลายเท่าแล้ว แถมโครงการนี้ก็สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วด้วย ไม่ต้องอดทนรออีกนานกว่าจะได้อยู่จริง ใครที่กำลังมองหาคอนโดดีๆ ซักห้องใกล้แยกพระราม 9 แบบนี้ เราแนะนำให้ลองเข้ามาเยี่ยมชมที่โครงการดูบรรยากาศจริงกันก่อนเลยครับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม www.apthai.com/คอนโด/rhythm/rhythm-asoke/ โทร 1623 / 0-2261-2518
Arise Ratchada 19 คอนโดคุณภาพ เชื่อมต่อ 3 ทำเลใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

Arise Ratchada 19 คอนโดคุณภาพ เชื่อมต่อ 3 ทำเลใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปอัพเดทข้อมูลโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดในซอยรัชดา 19 ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากการเปิดจอง VIP Day ครั้งแรกไปไม่นานนี้ กับโครงการ Arise Ratchada 19 (อะไรส์ รัชดา 19) โดย บริษัท ฟอร์จูน พลัส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่เกิดจากการรวมตัวของเจ้าของพื้นที่ที่อาศัยและคุ้นชินทำเลในย่านนี้เป็นอย่างดี ทั้งยังจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างหมอ และทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบก่อสร้าง ที่มีผลงานก่อสร้างเด่นๆ หลายโครงการ เรียกได้ว่าเป็นผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ เรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ในทำเลศักยภาพ ย่าน New CBD ที่สำคัญ เชื่อมต่อ 3 ทำเล รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และวิภาวดี แถมยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี รัชดาฯ อยู่ในระยะที่เดินทางเพียง 5 นาทีเท่านั้น เรียกว่าครบเครื่องเรื่องการเดินทางมากจริงๆ ค่ะ สำหรับคนเมืองอย่างเรา และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทำเลในแถบนี้ถือเป็น New CBD ใหม่ของกรุงเทพ พื้นที่ในย่านนี้จึงมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่, ห้องปล่อยเช่า, หรือห้องขายต่อ ก็จะถูกจับจองกันอย่างรวดเร็ว เพราะศักยภาพของทำเลบริเวณรัชดาเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่กำลังได้รับความสนใจมากทีเดียวค่ะ จะเห็นได้ว่ามีคอนโดมิเนียมหลายแบรนด์เลือกปักหมุดบนทำเลนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยทำเลที่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน มีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย และยังมีความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย แถมยังเดินทางสะดวกด้วยทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถสาธารณะ และรถส่วนตัว สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเรื่องสะดวกมากค่ะ เนื่องจากที่ตั้งโครงการ Arise Ratchada 19 อยู่ในซอยรัชดา 19 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนใหญ่รัชดาภิเษก (ซอยรัชดาภิเษก 19), ถนนวิภาวดีรังสิต (ซอยวิภาวดีรังสิต 16 หรือโชคชัยร่วมมิตร) และถนนลาดพร้าว (ซอยลาดพร้าว 18) ที่เชื่อมต่อกันได้อีกด้วย ซึ่งจากโครงการออกมาถนนใหญ่รัชดาภิเษกจะอยู่ฝั่งออกเมืองมุ่งหน้าแยกรัชดา – ลาดพร้าว เข้าสู่ถนนลาดพร้าว กลับรถไปอีกฝั่งไปทางพระราม 9, อโศก, สุขุมวิท จุดกลับรถก็อยู่ไม่ไกล ซึ่งข้อดีของโซนนี้คือถนนย่อยและทางลัดเลาะเยอะค่ะ ใครอยากเลี่ยงรถติดที่ถนนรัชดาภิเษกจากแยกพระราม 9 ก็สามารถวิ่งลัดไปออกวิภาวดีหรือลาดพร้าวแทนได้สบาย นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชแถวแยกพระราม 9 ซึ่งเชื่อมต่อไปทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์และทางด่วนมหานครได้ ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ลูกบ้านใช้เข้านอกออกเมืองได้สะดวก ในส่วนของคนไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกมากขึ้นไปอีก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ไปไหนมาไหนได้ง่ายและสบายมากๆ เนื่องจากมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย รวมถึงจุดเด่นของโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษก ในระยะเพียง 5 นาที ซึ่งพอออกมาถนนใหญ่รัชดาภิเษกก็มีแท็กซี่และรถเมล์ผ่านตลอด แถมในซอยจะมีรถกะป๊อวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน และที่สำคัญตัวโครงการเองก็มีบริการรถรับส่งผ่าน Application ให้ลูกบ้านสามารถเรียกรถ รับ – ส่ง ระหว่างโครงการและ MRT สถานีรัชดาฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ถ้าใครเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ่อยก็น่าจะถูกใจ เพราะจาก MRT สถานีรัชดาภิเษก นั่งไป MRT สถานีเพชรบุรีที่เชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน เพียง 5 สถานีเท่านั้น ซึ่งสามารถนั่งไปสุวรรณภูมิได้เลย หรือนั่งไป 3 สถานีก็ถึง MRT สถานีสวนจตุจักร ที่ Interchange กับ BTS หมอชิต ไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวได้สบายๆ แถมในอนาคต จาก MRT สถานีรัชดาภิเษก นั่งไปสถานีเดียวก็ถึง MRT ลาดพร้าวที่ทำการ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว - สำโรง (สถานีรัชดา – ลาดพร้าว) แล้วค่ะ เรียกได้ว่าอดใจรอไม่นาน ลูกบ้านในโครงการก็จะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้นเยอะแน่นอน เจาะลึกโครงการ โครงการ Arise Ratchada 19 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ทางโครงการเลือกใช้คอนเซ็ปต์โมเดิร์นในการออกแบบ โดยเน้นอาคารสีน้ำเงิน, สีขาว และสีเทา ที่ดูสะดุดตาและชวนพักผ่อน ทั้งยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิสเนต, สวนสวย และ Co-Working Space แม้ทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินทางเพียง 5 นาที แต่เมื่อมาถึงที่โครงการแล้วจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวที่ไม่วุ่นวาย ในขณะที่จำนวนยูนิตรวมทั้งโครงการก็มีเพียง 132 ยูนิต จำนวนห้องต่อชั้นจึงมีไม่มากลูกบ้านจึงไม่แออัดเหมือนคอนโดทั่วไป ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ออกแบบให้เป็นสัดส่วน แถมทำเลนี้ยังได้ที่จอดรถ 40 - 45% (รวมจอดซ้อนคัน) เลยค่ะ เรียกได้ว่าราคาและความคุ้มค่าระดับนี้นับว่าใช้ได้กับทำเลรัชดาที่ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาเฉลี่ย 85,000 บาท ต่อ ตร.ม. เปิดห้องตัวอย่าง มาถึงห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโครงการ Arise Ratchada 19 มียูนิตรวมทั้งหมด 132 ยูนิต แบ่งออกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 22.70 – 32.60 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 36.80 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาด 49.51 ตารางเมตร ค่ะ ภายในห้องแต่ละยูนิตมีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน ถูกออกแบบมาเพื่อความโล่ง โปร่ง สบาย โดยแยกพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนออกจากกัน นอกจากนี้ห้องทุกยูนิตของโครงการ ยังเปิดขายมาแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้สอยของลูกบ้านได้เป็นอย่างดี และทุกยูนิตจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดแต่งครบจากแบรนด์ Modernform ที่สำคัญโครงการเน้นคุณภาพของวัสดุและทุกขั้นตอนการก่อสร้าง โดยเฉพาะห้องน้ำระบบ Modular จาก SCG ที่ผลิตสำเร็จ ควบคุมคุณภาพจากโรงงานเพื่อลดปัญหาน้ำรั่วซึม ที่เป็นปัญหาหนักใจของผู้อยู่อาศัยคอนโดทั่วไป พร้อมยังรับประกันคุณภาพไม่รั่วซึมนานถึง 5 ปีด้วยค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างใน Sale Gallery จะมีให้ชมเพียงห้องเดียวนะคะ ก็คือ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม ซึ่งเป็นขนาดที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดค่ะ ฟังก์ชั่นภายในห้องออกแบบมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว มีการกั้นแบ่งพื้นที่มาให้เรียบร้อย โดยห้องครัวและห้องน้ำจะแยกไปอยู่ทางด้านหนึ่ง เพียงแค่กันประตูกระจกเพิ่มก็จะได้ครัวแบบปิด ป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนได้มากขึ้นเพราะครัวอยู่ติดระเบียง สามารถเปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ดี ในขณะที่ Living Area และห้องนอนก็มีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีแขกมาที่ห้อง ห้องทั้งหมดของโครงการ Arise Ratchada 19 ที่เราพาไปชมในครั้งนี้ จะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ชั้นวางของ, คอนโซลทีวี, ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัว, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศที่คำนึงถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย 1 ตัว ซึ่งเรียกว่าได้ครบและคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท แถมตอนนี้ยังสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 10,000 บาท ได้ที่ https://goo.gl/NDMQrP ต้องบอกว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่ในย่านรัชดา ใกล้รถไฟฟ้าและสามารถเดินทางได้หลากหลาย ต้องบอกว่าเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดในตัดสินใจได้ไม่ยากเลยค่ะ นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบก็มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีร้านค้า, ร้านสะดวกซื้อให้เลือกมากมาย ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปชมโครงการหรือกำลังตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดฯ ในแถบนี้อยู่แนะนำให้ไปชมบรรยากาศจริงดูค่ะ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ต้องขอบอกเลยค่ะไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือลงทุนก็คุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะในอนาคตการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้มีโอกาสที่จะเติบโตสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ยิ่งไม่ควรพลาดคอนโดมิเนียมคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึงแบบนี้เลยนะคะ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.arisecondo.com  หรือโทร. 091-417-1919
Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก AP ซึ่งโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ที่เราจะพาไปเยี่ยมชมในครั้งนี้ เพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อต้นปี 59 นี้เอง ตัวโครงการอยู่ในตำแหน่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะห่างจากสถานีบางกระสอเพียง 250 เมตรเท่านั้น การเดินทางสะดวกมาก ใกล้แยกแครายที่เชื่อมต่อกับถนนติวานนท์ และมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ด้วย   Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ สูง 25 ชั้น ทางเข้าโครงการอยู่ติดริมถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก พอเลยจากแยกแครายมาประมาณ 1.4 กม. ก็จะเห็นทางเข้าได้อย่างชัดเจน หาไม่ยากเลยครับ ใกล้ๆ กับโครงการมีทั้งศูนย์ราชการนนทบุรี ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี, โลตัส, เอสพลานาดรัตนาธิเบศร์ ในขณะที่เลยไปอีกหน่อย ก็ยังมีห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของย่านนี้เลยทีเดียว   เจาะลึกโครงการ สำหรับตัวโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 จะมีพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่เศษ ซึ่งอัดแน่นไปด้วย Facility ที่ทางโครงการจัดมาแบบเต็มที่ โดย Facility หลักๆ จะอยู่บริเวณชั้นล่างระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 2 ตึก มีทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ความยาว 25 เมตร, ห้องฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ลานกิจกรรมกลางแจ้ง, สนามเด็กเล่น, สวนขนาดใหญ่, ล็อบบี้เปิดรับวิวแบบ 360 องศา, Bike Lane และ Jogging Track รอบโครงการ ในขณะที่พื้นที่จอดรถจะแยกส่วนออกมาเป็นอีกหนึ่งอาคาร สามารถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 45% เลยทีเดียว Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกายรอบโครงการ Bike Lane อยู่คนละฝั่งถนนกับ Jogging Track Main Lobby จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ใกล้ๆ กับ Lobby จะมีสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ฟิตเนสจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยนะครับ จากฟิตเนสมองออกมาเห็นสระว่ายน้ำ ใกล้ๆ กันก็จะมีห้องน้ำ พร้อมห้องซาวน่าและตู้ล็อกเกอร์ แยกชาย-หญิง ข้อดีอย่างหนึ่งของการที่มี Facility อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยคือ ลูกบ้านทุกคนสามารถลงมาใช้บริการได้สะดวกเท่าเทียมกัน แถมโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 นี้ยังเป็นอาคารสูงถึง 25 ชั้น จึงช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดีเกือบตลอดทั้งวัน บริเวณสระว่ายน้ำจึงร่มรื่น สามารถลงเล่นน้ำได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องกลัวแดดร้อนกันเลย ในส่วนของที่พักอาศัยนั้นจะเริ่มกันตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคารเลยนะครับ แต่มีจำนวนห้องไม่มากนักในบริเวณชั้นล่าง ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหาส่วนกลาง เปิดรับวิวสระว่ายน้ำ และสวนสวยๆ แบบใกล้ชิดกันไปเลย นอกจากนี้บริเวณชั้น 8 ของอาคาร A ด้านที่ติดกับอาคารจอดรถ ทางโครงการยังจัดแต่งพื้นที่ดาดฟ้าของอาคารจอดรถให้เป็นสวนลอยฟ้าขนาดย่อม สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน รับลมชมวิวได้สบายๆ ห้องพักทางด้านทิศเหนือของอาคาร A จึงได้วิวสวนสีเขียวเพิ่มขึ้นมาอีกด้านไปโดยปริยาย จากแปลนอาคารจะเห็นถนนทางเข้าโครงการด้านขวามือ ก่อนจะเข้ามาเจออาคารจอดรถเป็นอาคารแรก ทางเข้าโครงการ ถนนทางเข้าโครงการร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีทางเท้าสำหรับเดินเข้าโครงการอยู่คู่ขนานกับถนน Main ขับรถเข้ามาด้านในแล้วจะเจออาคารจอดรถอยู่ทางด้านขวามือ อาคารจอดรถสูง 8 ชั้น อยู่ติดกับอาคาร A ทางขึ้นอาคารจอดรถ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทั้ง 2 อาคารเลยนะครับ แต่อาคาร A จะมีน้อยกว่า เพราะติดกับอาคารจอดรถ ชั้น 3-7 ห้องพักอาศัยจะเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่อาคาร A ก็ยังติดอาคารจอดรถอยู่ ขึ้นมาถึงชั้น 8 จะเป็นชั้นสุดท้ายของอาคารจอดรถ ซึ่งชั้นดาดจะถูกทำเป็นสวนส่วนกลาง ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปจนถึงชั้น 25 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีประมาณ 31 ห้องต่อชั้น ห้องพักของ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีทั้งหมด 1,428 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือแบบ 1 Bedroom และ 2  Bedroom โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 24.5 ตร.ม. นะครับ เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการกันว่าจะน่าอยู่มากแค่ไหน   เปิดห้องตัวอย่าง ปัจจุบันทางโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีลูกบ้านย้ายเข้ามาพักอาศัยกันเป็นจำนวนพอสมควรแล้วนะครับ ดังนั้นใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่สามารถติดต่อเข้ามาขอชมห้องในบรรยากาศจริงได้เลย เปิดห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่ขนาด 24.5 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการเลย แต่การออกแบบ Layout ภายในห้องค่อนข้างลงตัว เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีทีเดียว หลังประตูทางเข้าห้อง จะเป็นพื้นที่ของ Living Area ติดกันเป็นบริเวณห้องนอน ซึ่งมีประตูกระจกบานใสกั้นไว้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้อง ในขณะที่ห้องครัวและมุมกินข้าวจะอยู่ถัดไปอีกด้านที่ติดกับระเบียงนะครับ บรรยากาศโดยรวมภายในห้องค่อนข้างโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ห้องเลยไม่อับทึบถึงแม้จะมีขนาดเพียง 24.5 ตร.ม. ก็ตาม เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ช่วงนี้โครงการมีโปรโมชั่นจัดเฟอร์นิเจอร์ของ SB มาให้เรียบร้อย ตรงนี้จะได้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง แต่ดูจากพื้นที่แล้วถ้าใครอยากได้ใหญ่กว่านี้ก็สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านชั้นวางทีวีโครงการก็จัดเตรียมมาให้ด้วยนะครับ ติดกับ Living Area จะเป็นห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ พร้อมฟูก ติดกับหัวเตียง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้ด้วย ปลายเตียงโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ มุมมองจากห้องนอนออกมาที่ Living Area จากห้องนอนเราไปดูกันต่อที่ห้องครัวเลยนะครับ ห้องนี้จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ไม่ได้มีประตูกระจกกั้นให้ ภายในห้องครัวโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมโต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจาน พร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ที่โครงการจัดมาให้ในช่วงโปรโมชั่น ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนครัว พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ที่เปิดให้ชมคือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้ ดูเผินๆ แล้วจะมีการจัดวาง Layout ภายในห้องใกล้เคียงกับห้องแบบแรกมากเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีมากกว่า ครัวที่ได้จึงเป็นครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเข้ามา ในขณะที่ห้องนอนก็จะเป็นผนังทึบแทนกระจกบานเลื่อน ส่วนห้องน้ำก็เปลี่ยนมาเข้าออกจากในห้องนอนแทนครับ ห้องนี้จะได้เปรียบกว่าตรงที่ได้ครัวปิด มีประตูกั้นเรียบร้อย สามารถทำอาหารจริงจังได้มากกว่าแค่จัดเตรียม อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน พื้นที่ครัวก็กว้างขึ้นอีกหน่อย วางโต๊ะกินข้าวเข้ามุมไว้ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อีกสบายๆ ครับ เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ พื้นที่บริเวณ Living Area กว้างอยู่พอสมควร โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีอยู่ติดกับตู้เก็บของ ตู้เก็บของ Built-in อยู่หน้าประตูห้อง ต่อจาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องครัว Type นี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ด้านในครัวจะคล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้ที่เราดูกันมา ตู้เย็นวางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานพร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านบนจะเป็นตู้ลอยเก็บของ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ระเบียงจะอยู่ต่อจากห้องครัว ธรณีประตูยกขึ้นมาค่อยข้างสูงทีเดียว พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร เรามาดูกันต่อที่ห้องนอนนะครับ พื้นที่ในห้องนอนกว้างพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก ถ้าอยากติดทีวีไว้ในห้องด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบติดผนัง ซึ่งโครงการก็เตรียมปลั๊กไว้ให้เรียบร้อย โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ที่ปลายเตียง หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ จะมีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน ส่วนที่เหลือจะเป็นบาน Fix ห้องตัวอย่างที่เราได้มาดูกันจะอยู่ที่ชั้น 9 มองออกไปจะเห็นสวนสีเขียวที่อยู่บนชั้น 8 อีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางของไว้หน้าห้องน้ำ การจัดวาง Layout ห้องน้ำ Type นี้จะต่างกับห้องแรกอยู่พอสมควรนะครับ เนื่องจากขนาดห้องที่ใหญ่กว่า ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard เหมือนกัน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ตรงกลางจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยนะครับ ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ ห้องแบบสุดท้ายที่เราจะเปิดชมกันก็คือ ห้อง 2 Bedroom ซึ่งมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 45.5 ตร.ม. ส่องจาก Layout ห้องก็ว่าเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีแล้ว พอเปิดห้องจริงก็ต้องบอกว่าภายในเป็นสัดส่วน เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกันมากๆ โซนกลางห้องเป็น Living Area ติดกับระเบียงซึ่งเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้ค่อนข้างเต็มที่ ในขณะที่พื้นที่ครัวก็กว้างขวาง เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ ซึ่งเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากด้าน Living Area และ Master Bedroom ห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอนนี้ จัดแบ่งห้องนอนไว้คนละด้าน นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว แต่ละห้องยังสามารถเปิดรับวิวจากกระจกบานใหญ่ได้อย่างเต็มตา ขณะเดียวกันถ้าพื้นที่ของห้องนอนเล็ก ก็สามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ อาจจะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเป็นของ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็จะช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ แต่ถ้าครอบครัวไหนมีลูกเล็กๆ ขนาดห้องนี้ก็กำลังกะทัดรัดพอดิบพอดีเลยครับ เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่ Dining Area โล่งๆ ก่อนจะเห็น Living Area ที่อยู่ด้านใน เรามาดูด้านซ้ายมือกันก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือจะห้องน้ำ การจัดวาง Layout จะแตกต่างจาก 2 ห้องที่ผ่านมาเลยนะครับ ส่วนสุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกัน เริ่มจากอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พื้นที่ใน Shower Box กว้างขวางใช้ได้เลยครับ ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ ออกจากห้องน้ำมาเราข้ามไปดูห้องครัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันต่อ ครัวของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ พื้นที่ในห้องครัวค่อนข้างกว้างเลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะได้ชุดใหญ่กว่า 2 ห้องที่ผ่านมา จะมีซิงค์ล้างจานพร้อมพื้นที่เตรียมอาหาร ซิงค์ล้างจานแบบหลุมของ Teka ด้านบนเป็นชั้นลอยเก็บของ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ห้องครัว Type จะไม่มีระเบียงให้นะครับ แต่จะมีหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมบานกระทุ้ง ไว้สำหรับระบายกลิ่นอาหารในห้องครัว กลับมาเข้าในห้อง มาดูพื้นที่ Dining Area กันต่อ ตรงนี้โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้ จะอยู่บริเวณหน้าห้องครัวเลยนะครับ เตรียมอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสิร์ฟกันได้เลย ถัดจาก Dining Area เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งก็ได้นะครับ ส่วนด้านที่วางทีวีโครงการ Built-in เป็นชั้นวางทีวีมาให้ด้วย จะวางบนชั้นวาง หรือจะใช้ทีวีแบบติดผนังเหมือนในห้องตัวอย่างก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกแบบครับ ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ธรณีประตูยกขึ้นมาสูงทีเดียวครับ เวลาก้าวข้ามก็ระวังกันนิดนึงนะครับ พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวเท่าๆ กับพื้นที่ Living Area ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกว่าไว้ที่ระเบียง หันหน้าเป่าลมร้อนออกด้านนอก เรากลับเข้ามาด้านใน ขวามือของ Living Area จะเป็นห้องนอนเล็ก ด้านในห้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียงขนาดประมาณ 3 ฟุตไว้ให้ ซึ่งขนาดเตียงจะลงล็อกพอดีเป๊ะเลยนะครับ ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังแบบนี้ก็ได้ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix และบานกระทุ้ง 1 บาน ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in โต๊ะเครื่องแป้ง วางไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า มาถึงห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของ Living Area โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่านะครับ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เป็นบาน Fix และมีบานเล็กเป็นกระทุ้ง ข้างเตียงอีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า ในห้องนอนจะมีประตูเข้าห้องน้ำอีกด้านนึงด้วยนะครับ จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย ทางเข้าห้องน้ำจากฝั่งห้องนอน ด้วยความที่โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 อยู่ติดกับถนนใหญ่เลย แถมยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย จึงค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ว่าจะด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถส่วนตัว ยิ่งถ้าใครต้องทำงานในช่วงโซนนนทบุรีอยู่แล้ว ก็ยิ่งสะดวกกว่ามากในการเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน นอกจากนี้ในอนาคต บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีจะเป็นจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯได้มากขึ้นไปอีกครับ รอบๆ โครงการถึงแม้จะไม่ได้มีร้านค้าร้านอาหารให้พึ่งพาในระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ แต่ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าถัดออกไปอีก 1 หรือ 2 สถานีก็จะมีห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้งให้พึ่งพาได้สบายๆ ทั้ง ห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และเทสโก้ โลตัส ส่วนภายในโครงการ ต้องบอกว่าทางโครงการจัด Facility มาแน่นเต็มที่มากๆ แถมห้องทุกห้องก็ขายให้แบบ Fully Fitted คือมีให้ทั้งเครื่องปรับอากาศ, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, สุขภัณฑ์และที่กั้นอาบน้ำ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็จัดมาให้คุ้มค่าคุ้มราคา ตามมาตรฐานทุกชิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ สำหรับที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากจะลองเข้าไปชมห้องตัวอย่างด้วยตัวเองก็สามารถนัดหมายกับเจ้าหน้าที่โครงการได้เลยครับ
Aspire งามวงศ์วาน…เรียบหรูอย่างมีสไตล์ บนทำเลที่ถือว่าดีที่สุดบนถนนงามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

Aspire งามวงศ์วาน…เรียบหรูอย่างมีสไตล์ บนทำเลที่ถือว่าดีที่สุดบนถนนงามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมคอนโดมิเนียมแบรนด์ “Aspire” อีกหนึ่งโครงการจาก AP ที่ยึดทำเลแยกพงษ์เพชรสร้างคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ พร้อม Facility จัดเต็ม หรูหรามีสไตล์ ในราคาโปรโมชั่นสุดคุ้มด้วยราคาเพียง 1.59 ล้านบาท* แต่ต้องบอกก่อนว่ามีจำนวนจำกัดนะครับ ใครสนใจทำเลที่มีศักยภาพคุ้มค่ากับการลงทุนแบบนี้ แนะนำว่าต้องรีบๆ กันหน่อย   โครงการ Aspire งามวงศ์วาน ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว ภาพที่เก็บมาฝากในคราวนี้จึงเป็นภาพในบรรยากาศจริงทั้งหมด รวมถึงห้องตัวอย่างก็เป็นห้องจริงบนตึกที่ทางโครงการจัดตกแต่งไว้ให้ชมครับ ที่ตั้งของโครงการ Aspire งามวงศ์วาน อยู่ติดถนนใหญ่เลยนะครับ ห่างจากแยกพงษ์เพชรมาทางฝั่งขาไปถนนวิภาวดีฯ นิดเดียวเอง การเดินทางสะดวกมาก เพราะเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง สะดวกทั้งเข้าเมือง และ ออกนอกเมือง ถึงแม้จะไม่มีรถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการก็ตาม ซอยใกล้ๆ โครงการคือ ซอยชินเขต 1 สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดไปออกถนนวิภาวดี และถนนประชาชื่นได้ แถมถนนรอบๆ ยังเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรัตนาธิเบศร์ แยกประชานุกูลได้อีกด้วย  จึงจัดได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเดินทางมากเลยทีเดียว ส่วนในอนาคตทำเลนี้ก็ยังรองรับรถไฟฟ้า ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ระหว่างสถานีบางเขน (สายสีแดง) กับสถานีศูนย์ราชการนนทบุร (สายสีม่วง)  นอกจากนี้รอบๆ โครงการยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เทสโก้โลตัส, โฮมโปร, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า, เมเจอร์รัชโยธิน, โรงพยาบาลนนทเวช, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ศูนย์ราชการ, SCG, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมไปถึงด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลครับ เพียง 3.9 กิโลเมตรเท่านั้น ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็จัดว่าสะดวกมากๆ เราซูมมาดูใกล้ๆ จะเห็นว่าโครงการจะตั้งอยู่ริมถนนงามวงศ์วานเลยจากแยกพงษ์เพชรมาประมาณ 400 เมตร ก่อนถึงซอยชินเขต 1 ซึ่งจะเป็นช่วงเชิงสะพานข้ามแยกพงษ์เพชรพอดี เพราะฉะนั้นถ้ามาจากทางแยกแครายก็ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยกพงษ์เพชรนะครับ เพราะจะเลยทางเข้าโครงการ บริเวณใกล้ๆ โครงการ Aspire งามวงศ์วาน แวดล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ และตลาดพงษ์เพชร ซึ่งต่างก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้สบายๆ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเขตชุมชนนะครับ บรรยากาศจึงคึกคักหน่อย รถราขวักไขว่ มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่ใกล้ๆ แท็กซี่ก็มากมาย การที่ไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านจึงไม่รู้สึกเป็นปัญหาเท่าไหร่ ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็แค่นั่งรถเลยไปขึ้นที่บางซื่อ หรือไปใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเลยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร โดดเด่นด้วย Facility แบบจัดเต็มจนคุณคาดไม่ถึง Aspire งามวงศ์วาน เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 28 ชั้น จำนวน 2 อาคาร โดยมี Lobby อยู่ตรงกลาง ส่วนอาคารจอดรถ 9 ชั้น แยกออกมาทางด้านหลัง และจัดพื้นที่บริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถเป็นพื้นที่ส่วนกลาง รวม Facility หลักไว้ทั้งหมด ซึ่งลูกบ้านจะต้องเดินมาใช้ร่วมกันที่บริเวณนี้ ชั้น 1 จะเป็น Lobby ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร และมีร้านค้าจำนวน 6 ร้าน อยู่ที่ตึก South ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 เลยนะครับ ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจนถึงชั้น 28 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมดเลยนะครับ มีชั้นละ 27 ยูนิต Facility หลักๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ต้องบอกว่าเต็มที่มากๆ ครับ เช่น สระว่ายน้ำขนาด 25x7 เมตร, ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์ครบครัน, ห้องอาบน้ำ, ล็อคเกอร์, ห้องอบไอน้ำ, ซาวน่า ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางที่บริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถนั้นค่อนข้างให้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวครับ เนื่องจากรอบๆ โครงการไม่มีตึกสูงอยู่ใกล้ๆ เลย (นอกจากตึกของโครงการเอง) วิวบนดาดฟ้าจึงเปิดโล่งเต็มตา ลมพัดเย็นสบายมากเลยทีเดียว ที่จอดรถในอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น บนดาดฟ้าของอาคารจอดรถจะเป็น Facility หลักของโครงการ สระว่ายน้ำขนาด 25x7 เมตร ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำจะมีสวนสีเขียว ไว้สำหรับนั่งพักผ่อน ฟิตอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ถัดมาเป็นห้องน้ำ พร้อมตู้ล็อกเกอร์ และห้อง Steam & Sauna ห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับฟิตเนส นอกจาก Facility บนดาดฟ้าอาคารจอดรถแล้ว ทางโครงการยังเพิ่มเติมพื้นที่สีเขียวไว้รอบโครงการ โดยมีพื้นที่รวมกว่า 5 ไร่เลยทีเดียว ทั้งสวนหย่อมบริเวณด้านหน้าโครงการ และด้านหลังโครงการ ซึ่งต่างก็มีมุมร่มๆ ใต้ต้นไม่ให้นั่งเล่นพักผ่อนมากมาย และที่พิเศษกว่าโครงการอื่นๆ คือ ทาง AP จัดสนามสตรีทบาสเกตบอลไว้บริเวณสวนด้านหน้าโครงการ ในขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณชั้นล่างของอาคารพักอาศัย ยังจัดแบ่งให้เป็นพื้นที่ร้านค้า และพื้นที่บริการด้วย หน้าทางเข้าโครงการ มีพื้นที่สีเขียวระหว่างทางเดินเข้าโครงการ ให้นั่งพัก หรือนั่งรอเพื่อนด้านหน้าโครงการ สนามสตรีทบาสเก็ตบอล สำหรับลูกบ้านที่ชอบเล่นกีฬา ให้ได้ยืดเส้นยืดสาย อยู่หน้าโครงการเช่นกัน เปิดห้องเพื่อการใช้ชีวิตที่หรูหราอย่างมีสไตล์ ในส่วนของที่พักอาศัยนั้น จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจนถึงชั้น 28 สำหรับโครงการ Aspire งามวงศ์วาน มียูนิตรวมทั้งหมด 1,458 ยูนิต ซึ่งโครงการนี้มีห้องชุดขนาด 28 ตร.ม. ให้เลือกเพียงขนาดเดียวนะครับ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom มีให้เลือกด้วยกัน 2 Type เปิดห้องตัวอย่างแบบแรกกันด้วยห้อง Type A เปิดห้องมาก็จะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อน โดยมี Pantry ครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง พื้นที่บริเวณนี้จะเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน ทำให้เราสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ส่วนพื้นที่ของห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานใส มีห้องน้ำในตัว ซึ่งประตูกระจกบานใหญ่ของห้องนอนสามารถเปิดออกให้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้เลย ห้อง Type นี้จะได้เปรียบเรื่องการเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวนอกอาคาร ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอนผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน ห้อง Type นี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำครัว เนื่องจาก Pantry ครัวเป็นแบบเปิด เหมาะกับการเตรียม อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเป็นส่วน Dining Area ก่อนนะครับ บริเวณนี้จะมีแอร์ให้ 1 ตัว และในห้องนอนอีก 1 ตัว ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะวางอยู่ติดกับโซฟาในพื้นที่ Living Area ถัดจาก Dining Area เข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง ฝั่งที่วางโซฟาโครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนด้านชั้นวางทีวีจะอยู่ติดกับห้องนอน ซึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน จึงอาจจะไม่สามารถ Built-in ชั้นวางทีวีได้นะครับ ระเบียงห้องจะอยู่ติดกับส่วน Living Area กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงได้เลยครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกแขวนไว้ด้านบน หันหน้าออกนอกระเบียง มาถึงห้องนอน พื้นที่กว้างขวางพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง วางเตียงลงไปแล้วยังพอมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้อีกด้วยนะครับ ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้เดินได้สะดวก หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ มีบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fix ห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องนอน จุดวางตู้เสื้อผ้าจะอยู่ที่หน้าห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานยาว โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดๆ กัน ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นให้เรียบร้อย เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ชุดฝักบัวและที่วางของใน Shower Box ส่วนห้อง Type B จะมีการจัดวาง Layout ห้องที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นมาอีกหน่อย พอเปิดประตูห้องมาแล้วก็จะเจอกับ Living Area บริเวณพื้นที่นั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นห้องนอน ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานใหญ่ ในขณะที่ห้องน้ำและ Pantry ครัว จะไปรวมกันอยู่อีกด้านที่ติดกับระเบียง ห้อง Type B นี้จะค่อนข้างได้เปรียบเรื่องสัดส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ชัดเจนกว่า คนที่ชอบเข้าครัวทำกับข้าวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน เนื่องจากสามารถเปิดประตูตรงระเบียงช่วยระบายอากาศได้ดี สำหรับห้องนี้มี Detail เพิ่มเติมเล็กๆ บริเวณมุมห้องนอน ที่ทางโครงการเลือกติดกระจกเข้ามุมมาให้แทนที่จะใช้ผนังทึบทั้งหมด ห้องนอนจึงดูโปร่งสบายตามากขึ้นอีกนิดครับ ห้องนี้เข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนนะครับ โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาใหเดูเป็นตัวอย่าง ขนาดจะเข้ากับพื้นที่ได้พอดี ด้านชั้นวางทีวีสามารถวางชั้นวางหรือจะ Built-in ก็ได้เช่นกันครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา ถัดจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูประจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องนอนโครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง วางเตียงลงไปแล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้อีก หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ ช่วยให้แสงเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ด้านปลายเตียงโครงการวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะวางของเล็กตกแต่งให้ดู จากห้องนอนเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนครัว จะสังเกตว่าผนังห้องนอนด้านที่ติดกับส่วนครัว โครงการจะทำเป็นกระจกเข้ามุมไว้ ซึ่งช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้น เคาเตอร์ครัวจะคล้ายๆ กับของห้อง Type A แต่อาจจะยาวกว่านิดหน่อย เนื่องจาก Layout ห้องที่ต่างกัน ซิงค์ล้างจานแบบหลุม พร้อมที่พัก ใกล้ๆ กันเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านบนจะเป็นตู้เก็บลอยเก็บของ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ จุดวางตู้เย็นจะอยู่ด้านใน ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ระเบียงจะอยู่ต่อจากส่วนครัว พื้นที่ระเบียงจะกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงได้ครับ ด้านบนจะเป็นจุดแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้ง 2 ตัว หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาด้านในเรามาดูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ กับส่วนครัว การจัดวาง Layout ในห้องน้ำจะเหมือนกับ Type A เลยนะครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard มาพร้อมกับกระจกเงาบานยาว ข้างๆ จะเป็นโถสุขภัณฑ์ ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ชุดฝักบัวและที่วางของใน Shower Box โครงการ Aspire งามวงศ์วาน นี้จัดว่าเหมาะมากสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่ในย่านนี้ โดยที่ไม่ค่อยสนใจหรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถไฟฟ้ามากนัก เนื่องจากการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็ถือว่ายังสะดวกดี แถมในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย โครงการนี้จัดขนาดห้องมาที่ไซส์เดียว วัสดุ อุปกรณ์ สุขภัณฑ์ต่างๆ จัดมาได้ดีตามมาตรฐาน ราคาห้องจับต้องได้ง่ายเลยทีเดียว ยิ่งมีโปรโมชั่นแรงๆ จัดมาในราคา 1.59 ล้านบาท* แบบนี้ น่าซื้อลงทุนเป็นที่สุด ไม่ว่าจะจับจองไว้อยู่อาศัยเอง หรือจะปล่อยเช่าก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจดีทีเดียว แถมทำเลในย่านนี้ยังอยู่ในแหล่งชุมชน และใกล้กับแหล่งงานทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ใครที่กำลังสนใจคอนโดน่าอยู่ในย่านนี้ อยากหาบ้านหลังแรก เพื่อการขยายครอบครัว Aspire งามวงศ์วาน น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มราคาเลยทีเดียวครับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://goo.gl/GwjzJD *ราคา 1.59 ล้านบาท เป็นราคาพิเศษตามโปรโมชั่น มีจำนวนห้องจำกัด
KHUN by YOO inspired by Starck Thong Lo Soi 12 : รีวิวคอนโด

KHUN by YOO inspired by Starck Thong Lo Soi 12 : รีวิวคอนโด

KHUN by YOO inspired by Starck Thong Lo Soi 12 คอนโด High Rise สูง 27 ชั้น จากการออกแบบของนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก Philippe Starck แห่ง YOO Design Studio โครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 12 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ โครงการใหม่ล่าสุดจาก "แสนสิริ" รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    15,000,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด     High Rise สูง 27 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    148 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     ประมาณ 1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ      ซอยทองหล่อ 12 (ถนนสุขุมวิท ซอย 55) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    มกราคม 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กรกฎาคม 2563 สถานที่สำคัญใกล้เคียง J Avenue ทองหล่อ โรงพยาบาลคามิลเลียน สน.ทองหล่อ ท็อปส์ มาร์เก็ต ทองหล่อ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท Park Lane เอกมัย เมเจอร์ เอกมัย Gateway เอกมัย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 41.50 – 49.75 ตารางเมตร จำนวน 74 ยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 53.50 ตารางเมตร จำนวน 10 ยูนิต 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  ขนาด 82.00 – 97.75 ตารางเมตร จำนวน 54 ยูนิต 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ  ขนาด 139.25 – 149.75 ตารางเมตร จำนวน 8 ยูนิต Penthouse  ขนาด 294.00 – 302.75 ตารางเมตร จำนวน 2 ยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องฉายภาพยนตร์ เกมส์รูม ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sansiri.com
Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง  คอนโด High Rise 8 อาคาร บนถนนประชาอุทิศ ใกล้ MRT ห้วยขวาง แวดล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งมากมาย และสิ่งอำนวยความสะดวก จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,990,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด     High Rise 8 อาคาร พร้อมอาคารจอดรถ 2 อาคาร จำนวนห้อง    1,907 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 700 คัน คิดเป็น 37% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด     13 - 0 - 45.5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ      ถนนประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT ห้วยขวาง The Street รัชดา Big C Extra รัชดา Esplanade รัชดา สยามนิรมิตร ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22.57 – 23.65 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 29.27 – 36.53 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก BIKE CLUB & BIKE PARK : เอาใจคนรักจักรยานด้วยจุดจอดจักรยานพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบสำหรับจักรยานขอบคุณ HOME THEATRE : ความบันเทิงสมบูรณ์แบบเอาใจคอหนังทุกคน CO-WORKING SPACE : พื้นที่สำหรับหาแรงบันดาลใจพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณ LIBRARY : ห้องสมุดสำหรับหาความรู้ใหม่ๆและแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุด FITNESS : อุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน SWIMMING POOL & POOL TERRACE : สระว่ายน้ำขนาดใหญ่และจากุซซี่ พร้อมพื้นที่เปิดโล่งเห็นวิวทิวทัศน์ STREET BASKETBALL : สนามบาสเกตบอลสำหรับออกกำลังกายอย่างเต็มที่ FARM & BBQ : พื้นที่สำหรับปลูกผักผลไม้และจัดปาร์ตี้ปิ้งย่าง สำหรับสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน PARKING BUILDING : แยกที่จอดรถออกเป็นสัดส่วน SHUTTLE BUS : รถรับส่งถึง MRT ห้วยขวาง 24 HOUR SECURITY : ระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัยพร้อมกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : chapterone.pruksa.com
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

“ทองหล่อ”  หนึ่งในย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง ซึ่งใครก็รู้กันดีว่าเป็นทำเลระดับ Premium ที่ทุกคนต่างจับตามอง เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ และที่แฮงค์เอ้าท์สุดเก๋ไม่เหมือนใคร รวมทั้งเป็นย่านที่มีที่พักอาศัยในระดับ Luxury รวมกันอยู่มากมาย ศักยภาพของทำเลจึงได้รับความสนใจทุกครั้งที่มีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมา ล่าสุด Real Asset ได้เลือกทำเลดีในซอยสุขุมวิท 57 เป็นที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ภายใต้ชื่อ “Laviq Sukhumvit 57” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยหรูหรา มีสไตล์ และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายแบบครบวงจร   Laviq Sukhumvit 57 มีข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อไม่เกิน 300 เมตร หรือเดินเพียง 3 นาที ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว จึงแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลปากซอยทองหล่อเลยล่ะ และด้วยความที่อยู่ถัดเข้ามาในซอยสุขุมวิท 57 เล็กน้อยซึ่งเป็นซอยตัน จึงช่วยเพิ่มความเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น นอกจากระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS แล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนหนทางในย่านนี้เชื่อมโยงถึงกันหลายสาย ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนพระราม 4 ทำให้มีเส้นทางให้เลือกเดินทางเข้าออกเมืองได้หลายทางมาก แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 300 เมตร ลงรถไฟฟ้าแล้วเดินเลยซอยทองหล่อมานิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 57 แล้วครับ ซอยสุขุมวิท 57 จุดสังเกตง่ายมากๆ คือจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit อยู่หน้าปากซอย บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 57 จากบอกซอยเดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ขณะเดียวกันรอบๆ โครงการก็มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ เดินเข้ามาที่ซอยทองหล่อแล้วก็เลือกได้เต็มที่ตั้งแต่ Street Food ร้านอาหารชื่อดัง ห้องอาหารในโรงแรม ร้านกาแฟสุดชิค รวมไปถึง Community Mall ที่มีให้เลือกแบบไม่ซ้ำสไตล์เลย เช่น J Avanue, Arena 10, Market Place, The Common, Maze ทองหล่อ ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมร้านแบบ Stand Alone ดังๆ อีกเพียบ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เพราะรวมไว้ครบทั้งแหล่งกิน เที่ยว ช๊อป แถมด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ แบบไม่ต้องออกไปไหนให้ไกลบ้านเลย J Avanue Market Place The Common Maze ทองหล่อ “Glamorous : Inspired by Fendi Casa” ความพิเศษสุดของ Laviq Sukhumvit 57 คือ ดีไซน์การออกแบบที่หรูหรา และความร่วมมือสร้างสรรค์โดย Fendi Casa จาก Italy ซึ่งเป็น High Brand ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Laviq จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Fendi Casa ทั้งหมด ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างส่วนหนึ่งได้จากใน Sale Office ที่จำลองการตกแต่งบริเวณ Lobby ไว้อย่างหรูหราอลังการเลยทีเดียว นอกจากนี้การดีไซน์ตกแต่งตัวอาคารทางโครงการก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน Exterior ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ กระจก Full High Glass Window รอบตัวอาคารที่นอกจากให้ความสวยงามหรูหราแล้ว ยังช่วยให้แต่ละห้องสามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรหรูหราดึงดูดสายตามากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของทองหล่อเลยก็ว่าได้ โครงการ Laviq Sukhumvit 57 เป็นอาคาร High Rise สูง 33 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมไว้ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่สวนสวยบริเวณด้านหน้าที่มีระยะกว่า 30 เมตรก่อนถึงตัวอาคารซึ่งช่วยสร้างความร่มรื่น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่พื้นที่บริเวณ Lobby มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่สวนภายนอก จัดสรรบริเวณส่วนหนึ่งเป็น Outdoor Library เพื่อเพิ่มการใช้งานพื้นที่บริเวณชั้นล่างได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน Facility ส่วนกลางก็ถูกจัดสรรไว้อย่างเต็มที่ เช่น Infinity Edge Lap Pool with Ozone System & Kids Pook, Fitness Studio & Bike Simulator, Yoga Room, Golf Simulator Room, Rock Climbing Station for Kids, Steam Room, Executive Lounge & Meeting Room, Library, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรวบรวมไว้บนชั้น 29-30 ในส่วนของพื้นที่จอดรถ ทางโครงการจัดสรรมาให้แบบเต็มพื้นที่ สามารถรองรับได้ 100% เลยที่เดียว แถมยังมี Super Car & Super Bike Parking Space และ Bicycle Garage ไว้เอาใจคนรักรถโดยเฉพาะ รวมไปถึง Electric Vehicle Charging Station เพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต และพื้นที่สำหรับคนขับรถก็มี Separated Driver Lounge มาให้พร้อมสรรพ ที่ชั้น G เมื่อเข้าสู่โครงการแล้วจะเห็นสวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าโครงการ เรียกว่า Sanctuary Hills ก่อนเข้าสู่ด้านในอาคารจะมี Lobby และ Library ที่มองออกมาเห็นสวนด้านนอก ที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-5 ในช่องจอด 204 คัน แต่ถ้ารวมจอดซ้อนคันแล้วจะได้ 235 คัน ครบ 100% พอดี ทางเข้าโครงการ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปถึงชั้น 24 เฉลี่ย 11 ยูนิตต่อชั้น สวนสีเขียวหน้าโครงการ พื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 6 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย สวนสีเขียวบนชั้น 6 ส่วนชั้น 25-28 จะมี 9 ยูนิตต่อชั้น ขึ้นมาถึง 29 จะเป็นส่วนของ Facility หลักของโครงการทั้งสระว่ายน้ำที่เป็นรูปตัว L ยาว 36 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร นอกจากนั้นยังมี Rock Climbing Station for Kids, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ชั้น 30 ก็ยังเป็นของ Facility อยู่นะครับ ที่ชั้น 30 จะมี Fitness Studio, Yoga Room, Golf Simulator Room, Executive Lounge & Meeting Room ซึ่งจะมีบรรไดเดินเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 29 ได้เลย โมเดลจำลอง Facility บนชั้น 29 บันไดเดินเชื่อมระหว่างชั้น 29-30 บรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำรูปตัว L บนชั้น 29 ชั้น 31 จะกลับมาเป็นห้องพักอาศัยอีกครั้ง จะมี 6 ยูนิต ชั้น 32 จะเป็นห้อง Penthouse ขนาด 3 ห้องนอน อยู่เพียง 2 ยูนิต ชั้นบนสุดที่ชั้น 33 จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการคือห้องขนาด 4 ห้องนอน อยู่เพียงห้องเดียวบนชั้น 33 เรื่องบริการความสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน ทางโครงการก็ให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน เช่น One-card access for all areas โดยไม่ต้องพกบัตร/กุญแจหลายอัน รวมถึงบริการ Concierge & Door Man บริการ Direct mail Delivery Service เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจองร้านอาหารต่างๆ และบริการซัก-อบ-รีด นอกจากนี้ยังมีบริการ Shuttle Service ด้วยรถหรูรับส่งในจุดที่กำหนด เพื่อวันสบายๆ ที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัว เท่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ก็เชื่อได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยได้รอบด้าน ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลแม้อยู่ในพื้นที่โครงการ “Exquisite Life Experience” ด้วยคอนเซปต์ “Exquisite Life Experience” ประสบการณ์ชีวิตที่สวยงามเหนือระดับ ทางโครงการจึงใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกเหนือจากจุดเด่นหลายๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว การเปิดประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่หรูหราให้เป็นมากกว่าบ้านทาง Real Asset และผู้ออกแบบ ได้ลงรายละเอียด ใส่ความพิถีพิถันตั้งแต่การจัดวางพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมในทุกๆ ตารางนิ้วของห้องชุดให้เป็นเหมือนงาน Master Piece เฉพาะตัว 42 ตารางเมตร คือห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องแบบ 1 Bedroom ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน บนพื้นที่ใช้สอยที่จัดสรรมาแล้วอย่างดี ความสูงแบบ Floor to Floor สูงถึง 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร กระจกทุกบานในห้องเป็นแบบ Full Height ทำให้สามารถ Take View ด้านนอกได้อย่างเต็มตา เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องชิ้นหลักๆ ทางโครงการ Built-in มาให้เสร็จสรรพ เช่น ชุดครัว Top ด้วยหิน Quartz พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง ตู้เย็น, เตาไฟฟ้า 2 หัว + เครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, ไมโครเวฟแบบ Free Stand มีตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของบริเวณประตูทางเข้าห้องมาให้ด้วย และเพิ่มความใส่ใจด้วย ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าพร้อมเก็บอุปกรณ์ซักรีดไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน ในขณะที่ภายในห้องน้ำก็จัดเต็มด้วยสุขภัณฑ์ระดับ Luxury Brand จากยุโรปนำโดย Villeroy & Boch และ Gessi เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทุกส่วนเลยทีเดียว แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 42 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ Digital Door Lock ของ Samsung ทุกห้องนะครับ เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านขวามือโครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเครื่องผ้าไว้ติดกัน หน้าบานเป็น High-Gross สีขาว ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว Built-in พร้อมโต๊ะทาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโครงการก็จัดเต็มมาให้เลยนะครับ ทั้งตู้เย็น ส่วนท็อปครัวเป็นหิน Quartz เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Küppersbusch มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดี๋ยวกัน ใกล้ๆ กันเป็นซิงค์ล้างจานแบบหลุม โต๊ะทานอาหารจะเชื่อมต่อกับเค้าเตอร์ครัว ทำให้เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเป็นรูปตัว U ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและจุดวางไมโครเวฟ เลยเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าห่างเลยนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายเลย โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝั่งชั้นวางทีวีโครงการ Built-in ชั้นวางเล็กๆ แบบใช้ทีวีติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แอร์ที่นี่จะให้แบบฝังฝ้านะครับ บริเวณ Living Area มีให้ 1 จุด ติดกับ Living Area จะมีระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน บานสูงถึงเพดาน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องลายไม้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งยังมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่สูงจรดเพดาน มีบานเล็กๆ เป็นกระทุ้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะวางทีวี หรือถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้น ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อ ด้านบนเป็นแอร์แบบฝังฝ้า เข้ามาถึงห้องน้ำ จะตกแต่งด้วย Marble Porcelain สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ท็อป ท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นหินจริง มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ กระจกเงาจะได้บานยาว เท่าเคาเตอร์อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของอยู่ด้านหลัง ติดกันเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ มีกระจกเทมเปอร์กั้นให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างเลยนะครับ ด้วยพื้นที่ที่กว้างทำให้สามารถแยกอ่างอาบน้ำกับพื้นที่ยืนอาบน้ำออกจากกันได้ ไม่ต้องยืนอาบน้ำในอ่าง ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ที่มีระบบ Thermostat ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ ขยับมาดู 2 Bedroom กับบ้างกับขนาดห้อง 86 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นอีกห้องที่น่าสนใจและมีรายละเอียดแบบจัดเต็มไม่แพ้กันเลย เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่ Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าไว้ให้เต็มความสูงฝ้าเพดาน ในขณะที่ห้องครัวก็มาพร้อมชุดครัวและสุขภัณฑ์ระดับ Hi-Brand ทุกชิ้น เช่น เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in ที่เชื่อว่าแทบจะไม่มีโครงการไหนจัดมาเต็มที่ขนาดนี้แน่นอน รวมถึง Island Counter ในห้องครัวก็ติดตั้งมาให้พร้อมเช่นกัน ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ให้มาพร้อมกับห้องทั้ง ตู้เย็นตัว Top ของ Samsung เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าของ Teka ที่จัดไว้ในตู้ Built-in มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยสบายตา เครื่องปรับอากาศภายในห้องทุกห้องของโครงการเป็นแบบ Ceiling Concealed Type โดยออกแบบให้มีการเติมอากาศ (Fresh Air Intake) ทำให้อากาศภายในมีการหมุนเวียนตลอดเวลา เรียกได้ว่าเครื่องใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่ทางโครงการก็จัดการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเตรียมไว้ให้แล้ว แปลนห้อง 2 ห้องนอน Type B1 ขนาด 86 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนจะเข้าไปส่วน Living Area ด้านใน คล้ายๆ กับห้อง Type A1 ด้านหน้าประตูห้อง โครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของกระจุกกระจิก ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของหน้าประตูห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ชุดครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โครงการจัดมาให้ครบครันเลยนะครับ ท็อปเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินอ่อนสีขาว ห้องนี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Küppersbusch Island ที่อยู่ในส่วนครัวโครงการวางเก้าอี้ไว้เหมือนเป็นโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวาง เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์ โครงการจัดมาให้อย่างครบครัน เครื่องซักผ้าจะมีตู้เก็บอย่างอย่างมิดชิด ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายในห้องกว้างขว้าง เชื่อมต่อกับบริเวณครัวได้อย่างลงตัว บริเวณนี้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดีด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงเต็มเพดาน (Full Height) 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร บริเวณระเบียงจัดแบ่งพื้นที่สำหรับแขวน Compressor แอร์ พร้อมระแนงปิดไว้อย่างสวยงามดีทีเดียว และที่สำคัญพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นไม่ได้นับรวมกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ว่ากันง่ายๆ คือ ทางโครงการไม่ได้คิดพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ขาย ซึ่งต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะนับรวมพื้นที่ทั้งหมดรวมระเบียงไว้ในราคาขายด้วย ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าอยู่ในระยะที่ดีเลยนะครับ ไม่ใกล้จนเกินไป โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านหลังโซฟาจะมีโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง โต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่หลังโซฟาของส่วน Living Area ออกจาก Living Area มาจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ คอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน ประตูกั้นระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 3 ตอน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง   Highlight ของห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom นี้เป็นห้องในตำแหน่งห้องมุม ทำให้ Master Bedroom สามารถ Take View ได้เต็มตาด้วยกระจกบาน Full Height แบบเข้ามุมภายในห้อง หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ในขนาดกำลังดี ขณะเดียวกันภายในห้องน้ำก็ตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยกระเบื้อง Marble Pocelain หรูหรา สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็น Luxury Brand จากยุโรปที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมอ่างอาบน้ำในดีไซน์เรียบหรูมีสไตล์ จาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องแรกด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำเล็ก ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน คล้ายๆ กับห้องน้ำ Type A1 สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch เช่นกันครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ เคาเตอร์อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนเล็กจะเป็นบาน Fix บานใหญ่สูงถึงเพดานเลยนะครับ ด้านปลายเตียงมีที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอนเล็กด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนครับ ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้าบานสูงมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แอร์แบบฝังฝ้าในห้องนอนเล็ก ด้านในสุดจะเป็นห้อง Master Bedroom พื้นที่ในห้อง Master Bedroom ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุต King Size มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้อีกครับ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นหน้าต่างเข้ามุมสูงถึงเพดาน ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ข้างเตียงอีกด้านโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ และชั้นวางของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ หน้าทางเข้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เข้ามาด้านในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ โครงการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Villeroy & Boch มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำให้มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกเทมเปอร์กั้น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นอ่าง อาบน้ำ วางอยู่ฝั่งซ้ายมือ บริเวณอ่างอาบน้ำและใน Shower Box จะมีหน้าต่างไว้นอนแช่น้ำชมวิวใจกลางเมือง ฝั่งตรงข้ามอ่างอาบน้ำ จะเป็น Shower Box มาพร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower     Click to play ถ้าจะพูดถึง Highlight / จุดเด่นของวัสดุ สุขภัณฑ์เครื่องใช้ในโครงการแล้ว ต้องบอกว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่บรรยายได้ไม่รู้จักจบกันแน่นอน ทั้งเรื่อง Digital Door Lock ของ Sumsung, Video Door Phone ติดต่อสื่อสารกับ Front Desk, ประตูทางเข้าห้องสูง 2.6 เมตร พร้อม Door Seal และ Rubber Door Seal เพื่อกรองฝุ่นละอองและเสียงรบกวน ฯลฯ เพราะทางโครงการตั้งใจคัดเลือกทุกรายละเอียดให้สมกับความเป็นคอนโดในระดับ Super Luxury ในขณะที่ราคาขายเปิดกันมาแบบสมน้ำสมเนื้อ คุ้มค่าการลงทุนที่สุดในทำเลทองหล่อแบบนี้ ซึ่งนอกจากแบบห้องที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกันในครั้งนี้แล้ว ทางโครงการยังมีแบบห้องให้เลือกอีกมาก ทั้งแบบ 2 Bedroom, 3 Bedroom, Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์และความต้องการที่ต่างกันของลูกค้า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ทางโครงการเปิดมาที่ 9.7 ล้านบาทนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ Spec และสิ่งที่จะได้รับ ทำให้โครงการ Laviq Sukhumvit 57 มีศักยภาพน่าสนใจทั้งในด้านการลงทุนเพื่อเกร็งกำไร และซื้อไว้สำหรับอาศัยอยู่เอง หรือปล่อยเช่า สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Sale Gallery ได้ ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะมีงาน Show Suites Preview ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน นี้ หรือต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.laviq.com
THE CITY บางใหญ่ : รีวิวบ้าน

THE CITY บางใหญ่ : รีวิวบ้าน

การจะเลือกซื้อบ้านซักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องเลือกว่าบ้านหลังไหนที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว ทำเลที่ต้องเดินทางสะดวก สภาพแวดล้อมเอื้อต่อไลฟ์สไตล์ หรือมีอะไรใกล้ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกบ้าง จึงต้องใช้เวลาเปรียบเทียบบ้านหลายๆ หลัง เพื่อให้ได้บ้านที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันมากที่สุดเท่าที่ บ้านเดี่ยวน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบความต้องการของครอบครัว ซึ่ง AP เองก็เข้าใจกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จึงเปิดโครงการใหม่ล่าสุดบนทำเลบางใหญ่ ทำเลที่มีศักยภาพเหมาะกับการอยู่อาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภายใต้แบรนด์ “The City บางใหญ่” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดหรูสำหรับไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ ศักยภาพทำเล   ความได้เปรียบเด่นๆ ของ The City บางใหญ่ คือ ทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองเป็นเรื่องง่ายดาย สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีคลองบางไผ่ ห่างจากโครงการเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น อีกทั้งสถานีนี้ยังเป็นสถานีต้นทาง มีอาคารจอดแล้วจรขนาดใหญ่ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสัญจรได้มากขึ้น ในขณะที่เส้นทางเชื่อมต่อเข้าเมืองด้วยรถส่วนตัวก็เป็นเรื่องง่ายไม่แพ้กัน เนื่องจากมีให้เลือกหลายเส้นทางทั้งถนนสายหลักอย่าง ถนนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์ไปงามวงศ์วานได้ไม่ยาก หรือจะเลือกใช้เส้นทางถนนนครอินทร์ ตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ รวมถึงเส้นทางด่วนพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกก็เป็นอีกเส้นทางใหม่ที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางเข้าเมืองได้อีกทาง ปัจจุบันย่านบางใหญ่เป็นหนึ่งในพื้นที่น่าจับตา เพราะกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางแหล่งช็อปปิ้งชื่อดัง เช่น ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central Westgate, Big C, Home Pro, Index Living Mall และกำลังจะมี Ikea เปิดให้บริการในอนาคต ขณะเดียวกันห่างออกมาทางวงเวียนพระราม 5 ก็ยังมีทั้ง The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal, Home Work  และร้านอาหารอีกเพียบให้แวะเวียนไปเปลี่ยนบรรยากาศได้ ในขณะเดียวกันในโซนบางใหญ่ก็มีตลาดขนาดใหญ่ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกพึ่งพาเป็นจำนวนมากไม่แพ้กัน จัดได้ว่าเป็นทำเลที่มีองค์ประกอบต่างๆ เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบริเวณแยกแคราย ด้านขวามือจะเป็นเอสพลานาดแคราย เลยจากแยกแครายมาเราจะเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ จะเริ่มเห็นรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงกันแล้วนะครับ ตรงนี้จะเป็นสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เราขับรถตามถนนรัตนาธิเบศร์ไปเรื่อยๆ ตรงขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าไปเลยครับ ลงจากสะพานพระนั่งเกล้ามาเราก็ยังคงตรงต่อไปเรื่อยๆ ตามป้ายถนนกาญจนาภิเษกไปเลยครับ ตรงกันไปยาวๆ พอใกล้ถึงถนนกาญจนาภิเษกให้เราชิดขวาไปทางสุพรรณบุรี เพื่อขึ้นสะพานวนเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก เมื่อเราเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกแล้วจะเห็นเซ็นทรัล เวสต์เกต อยู่ด้านขวามือ เลยมาอีกนิดหน่อยจะเห็นบิ๊กซี บางใหญ่อยู่ฝั่งซ้ายมือ เราขับเลยบิ๊กซีมานิดหน่อยจะเห็นจุดสังเกตคือโชว์รูมโตโยต้าอยู่เ้านซ้ายมือ ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยนะครับ เลยโชว์รูมโตโยต้ามาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคลองถนนได้เลยครับ จะเห็นป้ายของโครงการตั้งอยู่ริมถนนด้วย บรรยากาศบนถนนคลองถนน จะเป็นถนน 2 เลน เลียบคลองยาวตลอดแนว บรรยากาศในซอยจะมีทั้งคอนโดและโครงการหมู่บ้านขึ้นเยอะเลยครับ ร้านค้าต่างๆ ก็ตามมามากมาย จากปากซอยถนนกาญจนาภิเษกเข้ามาประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับ ปากซอยจะมีป้ายติดชื่อซอยสองพี่น้อง เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วต้องขับตรงเข้าไปอีกหน่อย ถึงโครงการแล้วครับ หน้าทางเข้าโครงการทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว สวยงามที่เดียวครับ คราวนี้เราลองมาดูการเดินทางขาออกจากโครงการหันดูบ้างนะครับ โดยนอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ใกล้ๆ โครงการยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงไว้คอยรองรับอีกด้วย สำหรับสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดจะเป็นสถานีคลองบางไผ่ ออกมาจากโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายมาเลยครับ ออกมานิดเดียวก็จะเห็นสถานีคลองบางไผ่แล้วครับ บริเวณใกล้ๆ สถานีคลองบางไผ่ซึ่งเป็นสถานีต้นทางจะมีที่จอดรถไว้สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT เรียกว่า "อาคารจอดแล้วจร" จะอยู่ตรงทางขึ้นสะพานกลับรถ แล้วมีทางแยกออกเพื่อเข้าอาคาร หน้าตาของอาคารจอดแล้วจร อยู่ใกล้กับสถานีคลองบางไผ่ หรือใครสะดวกจอดไว้ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต ก็ได้นะครับ แล้วขึ้น MRT สถานีตลาดบางใหญ่ แต่รู้สึกว่าทางเซ็นทรัล จะเริ่มเก็บค่าที่จอดรถกันแล้ว ยังไงลองเช็คกันดูอีกทีนะครับ บรรยากาศบนสถานีรถไฟฟ้ายังมีผู้ใช้บริการค่อนข้างบางตาอยู่นะครับ เลือกที่นั่งได้สบาย ไม่ได้แย่งกับใคร ฮ่าๆ The City โครงการ The City บางใหญ่ ถูกออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ “Modern Art Deco” ผสมผสานความสวยงามของงานออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มักจะเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุด ทางโครงการใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การตกแต่งหน้าทางเข้าให้สวยงามอลังการ ด้วยวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งช่วยโอบล้อมทางเข้าหมู่บ้านให้ร่มรื่นน่าอยู่ ด้านหน้าทางเข้ามีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง CCTV และ รปภ. ประตูหลักเป็นระบบ Security Gate ผ่านเข้าออกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ที่สามารถผ่านเข้าออกได้สะดวกโดยไม่ต้องจอดรถแตะบัตรให้เสียเวลา ประตูทางเข้าหลักของโครงการ Security Gate ผ่านเข้าออกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ภายในโครงการร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย ในพื้นที่ส่วนกลางจัดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมด้วย Club House หลักที่ลูกบ้านทั้งหมด 133 หลังจะได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้อย่างเต็มที่ ภายใน Club House เพียบพร้อมไปด้วย สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบมาสวยงามเหมือนได้มาพักผ่อนในรีสอร์ท พร้อมกับแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย ในขณะที่ด้านบนมีทั้ง Social Room และห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครันและวิวสนามหญ้าที่สวยงาม ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ทางโครงการจัดไว้ให้อย่างเต็มที่และใส่ใจในทุกรายละเอียดขนาดนี้ก็เพื่อความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของลูกบ้านทุกหลัง ถนน Main ของโครงการจะกว้าง ประมาณ 16 เมตร ส่วนถนนซอยจะกว้างประมาณ 9 เมตร Kathaleeya Kathaleeya เป็นบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ ที่เป็นเหมือนตัวอย่างแรกที่เราจะได้สัมผัสกับคำว่า Elegant Living ภายในพื้นที่ใช้สอยขนาด 185.92 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ บนที่ดินมากกว่า 52 ตร.ว บริเวณหน้าบ้านกว้างสามารถจอดรถได้ 2 คัน แบบบ้าน Kathaleeya ตรงนี้จะเป็นที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน บริเวณที่จอดรถจะมีประตูทางเข้าให้อีก 1 จุด ภาพนี้จะเป็นแบบบ้าน Vanda ที่เป็นตัวบ้านมาตรฐาน รั้วบานจะเป็นแบบนี้ทั้ง 2 Type เลยนะครับ ภายในตัวบ้านตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบในสไตล์ Modern ในขณะที่ก็ยังสอดแทรกรายละเอียดของดีไซน์ต่างๆ ไว้ทั่วบ้าน ชั้นล่างมี Living Area กว้างขวาง ซึ่งมีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับ Dining Area หน้าครัวได้อย่างกลมกลืน ตัวบ้านมีหน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนสวยจากภายนอกได้อย่างเต็มที่ บริเวณครัวตกแต่งใหม่ ใช้กระจกใสบานใหญ่แทนผนังทึบตามแบบบ้านมาตรฐาน ทำให้บรรยากาศในครัวดูโปร่งสบายตากว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าถ้าอยากได้ครัวสวยแบบนี้บ้างก็ต้องตกแต่งเพิ่มเติมกันไป แต่ถ้าไม่ซีเรียสมากก็จะได้ครัวปิดตามแบบบ้านมาตรฐาน ที่ก็ดูเป็นสัดส่วนเรียบร้อยไปอีกแบบ นอกจากนี้บริเวณชั้นล่างยังมี 1 ห้องนอนเล็ก ที่สามารถดัดแปลงใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานเหมือนในบ้านตัวอย่าง หรือจะยังคงใช้เป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกอาวุโสของบ้านก็ถือว่าสะดวกดีทีเดียว ประตูทางเข้าหลักของตัวบ้านจะเป็นประตูกระจกบ้านเลื่อน 2 ตอน ยกพื้นขึ้นมา 1 สเตป โครงการจะใช้บานเลื่อนของ Windsor เปิดประตูเข้ามาด้านในแล้วจะเป็นส่วน Living Area อยู่ด้านหน้าเลยนะครับ พื้นที่บริเวณ Living Area ถือว่ากว้างขวางพอสมควร ด้านที่วางโซฟาโครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่ง ได้สบายๆ ด้านชั้นวางทีวีโครงการ Built-in แบบเต็มพื้นที่มาให้ดู เลยจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Dining Area โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง พื้นที่บริเวณ Dining Area กว้างขวางพอสมควรเลยนะครับ สามารถเลือกวางโต๊ะทานอาหารใหญ่ๆ ได้ตามใจชอบเลยครับ ติดกับส่วน Dining Area จะมีระเบียงออกไปที่สวนข้างบ้าน เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน บานใหญ่ ออกมาบริเวณสวนข้างบ้านโครงการตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นเล็กๆ ไว้ข้างบ้าน กลับเข้ามาด้านใน อีกฝั่งของโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องครัว บริเวณห้องครัวโครงการตกแต่งใหม่โดยใช้กระจกใสแทนผนังทึบเหมือนในบ้านแบบมาตรฐาน จึงทำให้โปร่ง ส่วนบ้านจริงที่ได้จะเป็นผนังทึบแบบนี้นะครับ ในครัวโครงการ Built-in ชุดครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง อย่างครบครัน ส่วนห้องครัวในบ้านจริงโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ครัวแบบนี้มาให้นะครับ มีซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย อีกด้านก็จะเป็นเคาน์เตอร์โล่งๆ แบบนี้ จากห้องครัวมีประตูออกมาส่วนหลังบ้าน ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได เลยจากห้องครัวเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนเล็กอยู่ที่ชั้น 1 ก่อนจะไปดูที่ห้องนอน เรามาดูห้องน้ำที่อยู่ด้านหน้าห้องนอนกันก่อนนะครับ การจัดวาง Layout ในห้องน้ำ จะวางสุขภัณฑ์เรียงกันยาวเข้าไปด้านใน สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ มีเคาน์เตอร์วางของเล็กๆ อยู่ด้วย โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นให้นะครับ มาต่อกันที่ห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน ข้างเตียงอีกด้าน Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางชั้นวางทีวี แต่ใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากกว่าครับ   ขณะเดียวกันพื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้น 2 ก็จัดสรรแบ่งเป็น 3 ห้องนอน และยังได้ Common Area สำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่น สังสรรค์เพื่อสมาชิกของครอบครัวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน Master Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ติดกับระเบียงใหญ่ที่เปิดออกไปรับวิวได้เต็มตา ส่วนพื้นที่ภายในก็จัดการตกแต่งไว้อย่างเป็นสัดส่วนพร้อมลงรายละเอียดในดีไซน์เพิ่มความหรูหราสะดุดตา ทั้งบริเวณหัวเตียงสวยหรู และ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำที่ตกแต่งมาได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ที่ตกแต่งไว้ตามประโยชน์ใช้สอย ทั้งห้องนอนหวานแหววของลูกสาวตัวน้อย และห้องทำงานเข้มขรึมของคุณพ่อ ที่พร้อมจะจัดสรรใหม่ได้ตลอดเวลาเพื่อสมาชิกที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอ Common Area ที่โครงการจัดไว้เป็นมุมนั่งเล่นๆ เล็กๆ น่ารักๆ พื้นที่ของ Common Area สามารถวางชั้นวางทีวีเล็กๆ และเก้าอี้อาร์มแชร์ หรือโซฟาเล็กๆ ได้อยู่นะครับ จาก Common Area เราไปดูห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางขวามือกันก่อนเลย ห้อง Master Bedroom จะได้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะครับ โครงการวางเตียง King Size ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ปลายเตียงยังมีที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีหรือจะใช้ทีวีแบบแขวนผนัง ก็จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก ในห้องนอน Master จะมีระเบียงให้ด้วยนะครับ ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร มุมมองจากระเบียงเข้าไปในห้องนอน ข้ามมาอีกด้านโครงการตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ตั้งอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ การจัดวาง Layout และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะคล้ายๆ กับห้องน้ำที่ชั้น 1 เลยนะครับ แต่งต่างกันที่การตกแต่ง และขนาดของห้องนี้จะใหญ่กว่าอยู่สักหน่อย อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard พร้อมกระจกเงาบานใหญ่และเคาน์เตอร์วางของ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ ใครมาซื้อช่วงโปรโมชั่น จะได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะแบบนี้นะครับ ด้านในสุดจะเป็นส่วนเปียก ชุดฝักบัว จากห้อง Master Bedroom เราเดินข้ามมาอีกด้านจะเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ห้องแรกอยู่ด้านซ้ายมือโครงการตกแต่งด้านโทนสีชมพูหวานแหวว วางเตียง 3 ฟุตไว้กลางห้อง พร้อมโต๊ะข้างเตียงอยู่ทั้ง 2 ด้าน ห้องนี้จะไม่มีระเบียงนะครับ แต่จะได้หน้าต่างบานเลื่อน บานใหญ่เลย ปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะให้วางตู้เสื้อผ้าหรือโซฟาเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำอีก 1 ห้อง การจัดวาง Layout จะเหมือนกับ 2 ห้องแรกที่เราดูมาแล้ว อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ติดๆ กัน พื้นที่เปียกอยู่ด้านในสุด มาถึงห้องสุดท้ายจะอยู่ด้านในสุด โครงการตกแต่งเป็นห้องทำงานเล็กๆ หน้าต่างในห้องจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน     Click to play สำหรับแบบบ้านของโครงการ The City บางใหญ่ ยังมีให้เลือกอีกแบบ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใช้สอยย่อมลงมาอีกหน่อยในแบบบ้านที่ชื่อว่า Vanda แต่โดยภาพรวมของฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านมีความคล้ายคลึงกัน เพราะมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำเช่นเดียวกัน บ้านทั้งหมดทางโครงการขายมาให้เป็นแบบบ้านมาตรฐาน ติด Wallpaper ให้ทั้งหลัง พร้อมด้วยเคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินสังเคราะห์สีดำสวยงาม รวมถึงวัสดุ สุขภัณฑ์ก็จัดมาได้มาตรฐานทุกชิ้น.... เชื่อเถอะว่า บ้านดีๆ ซักหลังที่สามารถตอบโจทย์ทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยแบบที่ The City บางใหญ่ ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ถ้าอยากรู้ต้องมาสัมผัสเอง ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของชีวิตประจำวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพได้ที่ The City บางใหญ่ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้าน กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ดีไซน์หรูที่สุดในย่านบางใหญ่.... สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือลงทะเบียนรับส่วนลดได้ที่ www.apthai.com
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้มาครอบครอง ไม่ใช่เพียงเพราะความหรูหรา สะดวกสบายของตัวโครงการ แต่ยังได้วิวที่สวยที่สุดของกรุงเทพฯ อย่างแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลากี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเสน่ห์เหนือกาลเวลา ซึ่ง “Banyan Tree Residences Riverside Bangkok” โครงการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้ จาก เนอวานา ไดอิ ที่จับมือกันกับแบรนด์บันยันทรี แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกจากเนอวานา ไดอิ แต่ครั้งนี้สามารถสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ด้วยดีไซน์ของสถาปัตยกรรม โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตอยู่อาศัยจริงของลูกบ้าน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ตกแต่งห้อง การจัดการพื้นที่ภายในโครงการ ไปจนถึงเซอร์วิชระดับโรงแรมห้าดาว ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าอันเงียบสงบ ภายใต้แนวคิด The Sanctuary for your Soul แต่ขณะเดียวกันในอนาคตพื้นที่ในย่านี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ เช่นกัน Banyan Tree Residences Riverside Bangkok เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 45 ชั้น 133 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งธนบุรี) อาคารถูกออกแบบโดยบริษัทระดับโลกจาก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นทรงอาคารครึ่งวงกลม สิ่งที่โดดเด่นมากของที่นี่ คือ ทุกยูนิตหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันออก ทุกห้องจะได้ Panoramic Riverview ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน หน้ากว้างตั้งแต่ 8 เมตรขึ้นไป และเมื่อเปรียบเทียบจากขนาดที่ดินภายในโครงการทั้งหมดกับจำนวนยูนิตแล้ว ก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทางโครงการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว โดยห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็น Low zone 4 ยูนิต/ชั้น Mid zone 3 ยูนิต/ชั้น และ High zone 2 ยูนิต/ชั้น และมีให้เลือก 5 Unit Type ได้แก่ - 1 Bedroom 69.40-85.45 ตร.ม. 48 ยูนิต - 2 Bedroom 156.40-179.20 ตร.ม. 66 ยูนิต - 3 Bedroom 243.10 ตร.ม. 16 ยูนิต - 4 Bedroom 417.35-419.85 ตร.ม. 2 ยูนิต - Penthouse (Duplex) 836.70 ตร.ม. 1 ยูนิต บริเวณชั้น G - ชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panoramic ในทุกมุมมอง เช่น Residence Lobby 3 จุด, Outdoor Lounge, Riverside Lounge, Multipurpose Room, River view owners lounge, Library Lounge, Private Dining Room, Panoramic View Swimming Pool, Cabanas, Kids Room, Active Play Area, Outdoor Lounge & BBQ Area, Banyan Tree Spa Room, River Facing Jacuzzi, Fitness Center, Private Lift Lobby ฯลฯ รวมถึงเมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในช่วงปลายปีหน้าจะมีบริการ Resident Shuttle Boat เรือสุดหรูจากท่าน้ำส่วนตัวของคอนโดไว้คอยบริการรับ-ส่งลูกบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือไปหาของอร่อยทานที่เยาวราช โดยให้บริการฟรี เพียงแค่ทำการจองล่วงหน้าผ่าน Application ที่สร้างขึ้นมาเพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ ในเรื่องของพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นปัญหามากสำหรับคอนโดหลายโครงการ แต่ที่นี่หมดห่วงได้เลยเพราะมีอาคารจอดรถอยู่ทางด้านหน้าโครงการ สามารถรองรับการจอดรถได้มากถึง 260 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 200% โดยแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นโซนจอดรถซุปเปอร์คาร์ และสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอีกด้วย ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถก็ยังมีส่วนกลางเพิ่มมาให้อีก คือ สระว่ายน้ำ แยกโซนเด็กกับโซนผู้ใหญ่ พร้อมสนามเด็กเล่น และโซนสำหรับนั่งพักผ่อน โดยรวมของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มีพื้นที่ถึง 59% ของอาคาร หรือประมาณ 6,000 ตร.ม. แล้ว ถือว่าเพียงพอแน่นอนสำหรับลูกบ้านทั้งหมด     ทำเลและการเดินทาง Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ตั้งอยู่ที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ตรงเข้าไปสุดซอยก็จะพบกับพื้นที่โครงการ ซึ่งจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างบนอาคารจริงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพราะเป็นความตั้งใจของทางเนอวานา ไดอิ ที่ต้องการสร้างความมั่นใจในคุณภาพของโครงการจริงๆ ด้วยการลงมือสร้างอาคารก่อนที่จะเปิดขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความเหนือระดับนี้ด้วยตัวเอง แต่หากใครที่ต้องการจะชมห้องตัวอย่างล่วงหน้า ก็สามารถนัดหมายทางโครงการ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้นำเรือไปรับที่จุดนัดพบศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ มาชมห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery ของโครงการ การเดินทางสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวก หาที่ตั้งโครงการได้ไม่ยากเลย ถ้ามาจากถนนสาทรให้ตรงมาข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก่อนลงสะพานให้เบี่ยงออกซ้ายตามป้ายถนนเจริญนคร เมื่อลงมาถึงสามแยกกรุงธนบุรีให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญนคร แล้วตรงไปจนถึงแยกคลองสาน เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 จะอยู่ขวามือ ติดกับโรงพยาบาลตากสินเลย แม้โครงการจะตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี แต่ด้วยทำเลแล้วสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมาก จากโครงการเข้าถนนเจริญนคร เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ถึงย่านสาทรโดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีจุดขึ้น-ลง ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอีก 2 จุดด้วยกัน คือ บนถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งออกไปทางบางนา-ดาวคะนอง และถนนสุรวงศ์ เพื่อไปทางพระราม 9-แจ้งวัฒนะ ในอนาคตหากโครงการเสร็จสมบูรณ์ ลูกบ้านก็จะสามารถใช้บริการ Resident Shuttle Boat ให้ไปรับ-ส่ง ที่ท่าเรือสาทร แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ชีวิตก็ดูง่ายขึ้นอีกเยอะ สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า แน่นอนว่าย่านนี้มีร้านอาหารเจ้าเก่าแก่อยู่มากมาย คอมมูนิตี้มอลล์บนถนนเจริญนครก็มีให้เห็นอยู่หลายแห่ง เช่น Sena Fest, The Lighthouse, Vue Bangkok ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญย่านนี้ในอนาคต คือ ICONSAIM โปรเจคยักษ์ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าส่วนที่เป็นศูนย์การค้าพื้นที่ประมาณ 525,000 ตารางเมตร จะกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ติดอันดับ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว (อยู่ห่างจาก Banyan Tree Residences แค่ประมาณ 700 เมตร)   ชมห้องตัวอย่าง ปัจจุบันห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery มีให้ชมเพียง 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 69.40 ตร.ม. เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ ความสูง Floor to Ceiling 3.2 เมตร เฟอร์นิเจอร์ให้มาแบบ Fully Fitted เช่น เคานเตอร์ครัว พร้อม Hood Hob และเตาอบ ซิงค์ล้างจาน เตียง ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด พร้อมติดวอลเปเปอร์ และมีม่านโปร่ง มาให้ด้วย จุดเด่นอีกอย่างภายในห้องพักอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุนำเข้าจากอิตาลี ที่แอบกระซิบกันมาว่า CEO ลงมือเลือกวัสดุด้วยตัวเองเลยทีเดียว เพื่อให้ได้ของที่สวย และได้คุณภาพที่สุด แปลนของห้องตัวอย่างจะเห็นได้ว่า เน้นพื้นที่ Living Area ที่เชื่อมต่อกับครัวเปิดได้กว้างขวางมาก บวกกับความสูงของเพดาน ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด พื้นที่ช่วงกลางห้องกว้างมากพอที่จะสามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ ระเบียงหน้ากว้างต่ำสุด 8 เมตร เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นไปถึงห้องนอน ส่วนฝั่งห้องนอนจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่มีการแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้เป็นสัดส่วน สรุปภาพรวมแล้ว คอนโดมิเนียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สามารถดึงเอาจุดเด่น ของตัวเองออกมาได้อย่างดี ทั้งเรื่องของทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทุกยูนิตจะได้วิวแบบ Panoramic Riverview ด้วยระเบียงหน้ากว้างเหมือนกัน ต่างกันแค่วิวความสูงของชั้นที่อยู่อาศัย วิวทางขวามือจะได้เห็นเมืองอันทันสมัยในย่านสาทร-สีลม แต่ถ้ามองไปทางซ้ายจะได้วิวสุดคลาสสิกของความเป็นเมืองเก่า ภายในโครงการถูกออกแบบมาเน้นความส่วนตัว เงียบสงบเป็นพิเศษกับจำนวนยูนิตที่น้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด เพราะพื้นที่ 56% หรือ 6,000 ตร.ม. เป็น Facility  และเมื่อได้จับมือกับแบรนด์บันยันทรี สิ่งที่จะตามมาคือ เรื่องของ Service ระดับโรงแรม 5 ดาว โดยผู้ที่ซื้อโครงการนี้จะได้รับสิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิพิเศษจากแบรนด์ในเครือที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสุด Exclusive ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ โครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 330,000 บาท/ตร.ม. เปิด Pre sale 18-19 พฤศจิกายน นี้ หากสนใจก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนกันก่อนได้ที่ http://www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com/ .ricoh-theta-spherical-image{margin:0 auto !important;
Baranee Park ร่มเกล้า : รีวิวบ้าน

Baranee Park ร่มเกล้า : รีวิวบ้าน

Review Your Living ฉบับนี้ เราจะพาไปชมโครงการ Baranee Park ร่มเกล้า บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่จาก บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ที่ต้องการนำเสนอสัมผัสใหม่ของ “บ้านเงาไม้” จนมาเป็นคอนเซปต์ใหม่แห่งการอยู่อาศัยสไตล์ Courtyard ที่ผสานความร่มรื่นจากพรรณไม้หลากหลายชนิด แค่เกริ่นถึงคอนเซปต์ของโครงการก็มีความน่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ เดี๋ยวเราพาไปชมบรรยากาศโครงการและภายในบ้านตัวอย่าง ว่าจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจแค่ไหน ตัวโครงการ Baranee Park ร่มเกล้า ตั้งอยู่ริมถนนร่มเกล้าใกล้แยกเจ้าคุณทหาร ช่วงระหว่างซอยร่มเกล้า 36 และ 38 การเดินทางสะดวกสบายด้วยถนนร่มเกล้า, ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี, ถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนเจ้าคุณทหาร, ถนนอ่อนนุช และถนนสุขาภิบาล 3 รวมถึงมีรถไฟฟ้า Airport Link สถานีลาดกระบังอยู่ห่างออกไปไม่ไกล และยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ในอนาคตอีกด้วย แผนที่ของโครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มต้นบนทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก ขับยาวเลยพระราม 9 ไปจนถึงมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ตามป้ายเลยนะครับ เราขับตามถนนมอเตอร์เวย์ไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าตามป้ายสุวรรณภูมิไปเรื่อยๆ เลยครับ ขับมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายทางออกถนนร่มเกล้า ซึ่งจะออกทางเดียวกันกับสนามบินสุวรรณภูมิ ชิดซ้ายเตรียมออกได้เลยครับ ออกมาแล้วให้ชิดไว้อีกทีนะครับ เราต้องไปทางซ้ายเพื่อไปทางถนนร่มเกล้า ส่วนทางขวาจะไปสนามบินสุวรรณภูมิและถนนกิ่งแก้ว จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางถนนร่มเกล้า เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงไปอีกนิดนึงครับ พอเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนร่มเกล้า พอเข้าถนนร่มเกล้าแล้วก็สบายแล้วครับ ขับตรงยาวเลย เราตรงตามถนนร่มเกล้ามาเรื่อยๆ จนเจอสี่แยกตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร เราตรงผ่านแยกไปแล้วชิดซ้ายไว้เลยนะครับ เพราะใกล้ถึงโครงการแล้ว จากสี่แยกมาประมาณ 250 เมตรก็ถึงโครงการแล้วครับ สำนักงานขายจะตั้งอยู่หน้าโครงการด้านขวามือ “บ้านเงาไม้” สัมผัสแรกเมื่อได้เห็นบรรยากาศโครงการจริง คือความร่มรื่นจากต้นไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้ทั่วบริเวณ รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในมุมต่างๆ เพื่อให้ลูกบ้านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ วิวภายในโครงการเป็นสีเขียวจากต้นไม้สบายตา รวมถึงความโปร่งโล่งตาไร้สายไฟฟ้ารบกวน เนื่องจากทางโครงการเลือกนำระบบไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด ถนนเมนภายในโครงการกว้างมากสุดถึง 16 เมตร ซึ่งมาพร้อมเกาะกลางที่ปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนว บรรยากาศตั้งแต่หน้าทางเข้าโครงการก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ถนนเมนในโครงการโล่งกว้างไปตลอดแนว บรรยากาศภายในโครงการสะอาดตา เนื่องจากระบบไฟฟ้าฝังลงดินทั้งหมด ถึงไม่มีสายไฟระโยงระยางให้เกะกะตา ในขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการก็ถูกจัดสรรให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยดีไซน์ที่กลมกลืน ภายใน Club House ของโครงการจะมีทั้งพื้นที่เอาต์ดอร์ให้นั่งพักผ่อนชิลๆ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่น พอขึ้นมาที่บริเวณชั้น 2 ของ Club House ก็มีห้องฟิตเนสสุดเริ่ด ซึ่งแยกเป็นห้องสำหรับคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายครบครัน เวลาออกกำลังกายไปก็ได้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำสวยๆ ด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ชอบวิ่งบนลู่ จะออกไปเดินเล่นสูดอากาศที่สนามหญ้ากว้างข้างๆ Club House แวะนั่งพักใต้ต้นไม้มองดูเด็กๆ วิ่งเล่นก็ได้เช่นกัน ด้านล่างจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ติดกับสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่นั่งเล่น หรือจัดกิจกรรมเล็กๆ ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิง ภายในห้องอาบน้ำบริเวณ Club House มีพร้อมทั้ง Locker รวมถึงห้อง Steam แยกไว้ทั้งห้องน้ำชาย และห้องน้ำหญิง พื้นที่บริเวณคลับเฮ้าส์มีขนาดประมาณ 1 ไร่ ทั้งส่วนที่เป็น Outdoor มีสนามเด็กเล่น โครงการ Baranee Park ร่มเกล้า มีบ้านเพียง 86 หลังเท่านั้น ดังนั้นจะไม่มีรถเข้าออกให้วุ่นวายมากนัก การันตีเรื่องความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโครงการยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง หน้าโครงการติดตั้งประตูสไลด์อัตโนมัติ เข้า-ออกด้วยคีย์การ์ด พร้อมระบบสัญญาณกันขโมยภายในตัวบ้านทุกหลัง    บ้านสไตล์ Courtyard มาถึงตัวบ้านกันบ้าง ทางโครงการเลือกดีไซน์ให้ภายในบ้านมี Courtyard หลากหลายมุม มองไปทางไหนก็สามารถมองเห็นต้นไม้น้อยใหญ่ในบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มตา ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ ไม่ได้เปิดโล่งไปเสียทั้งหมด ทำให้ลูกบ้านสามารถทำกิจกรรมครอบครัวได้อย่างสะดวก Fespa เริ่มกันด้วยบ้าน Fespa มีพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. มาพร้อมห้องนอน 3 ห้อง, 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 55.7 ตร.วา บริเวณรอบบ้านจัดสรรเป็น Courtyard ไว้นั่งเล่นสังสรรค์ได้หลายมุม ซึ่งพื้นที่ของสนามหญ้าในบ้านเชื่อมต่อกับตัวบ้านไว้ได้อย่างลงตัว สามารถเปิดประตูเปิดรับธรรมชาติได้รอบบ้านเลยทีเดียว บรรยากาศหน้าบ้าน Fespa บริเวณที่จอดรถจะปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าสู่ตัวบ้าน ตกแต่งเป็นชานพักสามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นรอคนในบ้านได้ ด้านในบ้านจะมี Courtyard สวยๆ ไว้นั่งเล่น พักผ่อน ชมความร่มรื่นของต้นไม้ มุมนี้ไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้าคงจะเข้าท่าดี เข้ามาในบ้านตัวอย่าง จะเห็นว่าทางโครงการจัดตกแต่งไว้ให้มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นน่าอยู่ มีพื้นที่เก็บของจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย โซนกลางบ้านจัดวางโต๊ะกินข้าว ใกล้ๆ กันมี Pantry ครัวเปิดสำหรับจัดเตรียมอาหารเล็กน้อยๆ แยกจากครัวหลักที่เป็นครัวปิด ถัดเข้าไปด้านในสุดของบ้านเป็นมุมนั่งเล่น ดูทีวี หรือใช้รับแขกก็ได้ ซึ่งพื้นที่ตั้งแต่โต๊ะกินข้าวมา สามารถเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออกเพื่อรับแสง รับลม จากภายนอกได้อย่างเต็มที่ เราจึงรู้สึกได้เลยว่าบรรยากาศของบ้านจะโปร่ง โล่ง สบาย และเหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือทำกิจกรรมของครอบครัวได้เป็นอย่างดี พอเข้ามาในตัวบ้านแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Dinig Area และ Living Area จะอยู่ถัดไป ก่อนจะเข้าไปด้านใน เรามาดูห้องครัวที่อยู่ทางขวามือกันก่อนนะครับ ห้องครัวจะอยู่ในส่วนแรกของตัวบ้านเลย ครัวออกแบบให้เป็นครัวปิด ติดตั้งประตูกระจกเพิ่มเพื่อช่วยป้องกันกลิ่นรบกวน จากห้องครัวจะมีประตูออกไปที่ทิ้งขยะได้ ประตูที่อยู่ติดกับห้องครัวคือห้องน้ำเล็ก โซนกลางบ้านจัดวางให้เป็น Dining Area บริเวณนี้มีประตูอีกบ้านที่สามารถเปิดออกไปบริเวณด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งเชื่อมไปถึงที่ทิ้งขยะได้ด้วย พื้นที่ Dining Area กว้างพอจะวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ ทางโครงการตกแต่ง Pantry เล็กๆ สำหรับเตรียมอาหารบริเวณ Dinning Area ไว้ด้วย ตั้งแต่โซนกลางบ้านเข้าไป จะเชื่อมต่อกับ Courtyard ด้านนอก สามารถเปิดประตูออกหากันได้ตลอดเวลา ด้านในสุดเป็น Living Area กว้าง ทางโครงการตกแต่งด้วยโซฟายาวเข้ามุมเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว อีกด้านของ Living Area ยังมี Courtyard อีกอัน นอกจากจะทำให้บรรยากาศใน Living Area ดูโปร่งสบายแล้ว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านด้วย ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะพบกับ Common Area ซึ่งเป็นอีกโซนที่คนในบ้านจะได้ใช้ร่วมกัน ก่อนจะแยกย้ายเข้าสู่ห้องส่วนตัว แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัวเพื่อความสะดวกของสมาชิกทุกคน ในขณะที่ห้องนอนใหญ่จะพิเศษกว่าด้วยพื้นที่ของ Walk-in Closet และอ่างอาบน้ำในห้องน้ำ ซึ่งห้องแต่ละห้องสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งใช้เป็นห้องทำงาน ห้องหนังสือ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ แต่ถ้าหากมีสมาชิกครอบครัวเยอะขึ้น ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นห้องนอนรองรับสมาชิกทุกคนได้เช่นกัน Common Area บนชั้น 2 นี้จัดเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีเล็กๆ ซึ่งจะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกันมากยิ่งขึ้น ไปดู Master Bedroom / ห้องนอนใหญ่กันเลยดีกว่า ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางดีทีเดียว ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จากหน้าต่างของห้องนอนใหญ่ มองลงไปสามารถเห็นบรรยากาศร่มรื่นของ Courtyard ในบ้านได้เต็มตา บริเวณหน้าห้องน้ำกว้างพอจะทำ Walk-in Closet ได้สบายๆ ภายในห้องน้ำมีทั้ง Bath Tub และ Shower Box มาให้เรียบร้อยแล้ว สุขภัณฑ์ทุกอย่างเป็นไปตามที่เห็นในรูปเลย มาดูในห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันบ้าง ห้องแรกตกแต่งในโทนสีเข้มขรึม ภายในมีพื้นที่ใช้สอยขนาดกำลังดี แถมยังมีห้องน้ำในตัวอีกด้วย ห้องนอนเล็กอีกห้องตกแต่งมาคนละสไตล์ แต่พื้นที่ในห้องมีขนาดเท่าๆ กันเลย รวมถึงมีห้องน้ำในตัวด้วยเหมือนกัน Denfe บ้านเดี่ยวที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. มีห้องนอน 3 ห้อง, 4 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์ และที่จอดรถได้ 2 คัน บนที่ดินเริ่มต้น 65.8 ตร.วา ตัวบ้านยังคงคอนเซปต์อย่างเหนียวแน่นด้วย Courtyard กว้างบริเวณด้านหน้าตัวบ้าน มีชานพักสำหรับนั่งเล่นโดยรอบ ตามมาด้วย Courtyard ขนาดย่อมในโซนกลางด้านหลัง พื้นที่รอบตัวบ้านจึงถูกโอบล้อมด้วยสวนสีเขียวไว้ทุกด้าน มาถึงแบบบ้าน Denfe กันบ้าง ลานจอดรถหน้าบ้านปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ จอดรถได้ 2 คัน บริเวณหน้าประตูทางเข้าหลัก จัดตกแต่งเป็นชานพักนั่งเล่นร่มรื่น ประตูบานสีขาว คือประตูทางเข้าบ้านอีกบานจากทางด้านที่จอดรถ บ้าน Denfe มี Courtyard ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน บรรยากาศเป็นสีเขียวสบายตามากๆ ในขณะที่พื้นที่โซนกลางบ้านยังออกแบบให้เป็น Courtyard นั่งเล่นร่มๆ แบบส่วนตั๊วส่วนตัวอีกแห่ง ภายในตัวบ้านแบ่งพื้นที่ใช้สอยไว้เป็นสัดส่วน Living Area จัดไว้ในมุมที่สามารถเชื่อมต่อกับ Courtyard ทั้ง 2 ด้าน ในขณะที่อีกด้านของบ้านออกแบบให้มีครัวปิด ห้องน้ำ และห้องเก็บของใต้บันได แล้วใช้พื้นที่ในโซนกลางบ้านวางโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ให้สอดคล้องกลมกลืนกันมากขึ้น และด้วยความที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของตัวบ้านสามารถเปิดออกสู่ภายนอกได้เกือบทั้งหมด ตัวบ้านจึงโปร่ง สบายตาด้วยสีเขียวจากต้นไม้ใบหญ้า และร่มรื้นจากเงาไม้ใหญ่ เข้ามาในบ้านก็จะเห็น Dining Area ในโซนกลางของบ้านเลย พื้นที่บริเวณนี้เชื่อมต่อกับ Courtyard ได้ทั้ง 2 ด้าน แถมยังกว้างพอที่จะวางโต๊ะกินข้าวขนาด 8-10 ที่นั่งได้สบายๆ เลย จากบริเวณโต๊ะกินข้าว ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ได้เห็นต้นไม้เขียวๆ สบายตา เหมือนได้นั่งกินข้าวอยู่กลางสวนตลอดเวลา โซนด้านหนึ่งของตัวบ้าน จัดวางให้เป็น Living Area ตกแต่งด้วยชุดโซฟารับแขกขนาดใหญ่ สามารถรองรับการจัดปาร์ตี้ขนาดย่อมๆ ได้เลยทีเดียว จาก Living Area ยังสามารถมองเห็น Courtyard ของบ้านได้ทั้ง 2 ด้าน บรรยากาศภายในบ้านจึงโปร่งสบายไม่อึดอัด อีกฟากของตัวบ้าน มีห้องน้ำ ห้องครัว และห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งถูกจัด Layout ไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องครัวออกแบบมาให้เป็นครัวปิดครับ พื้นที่ใช้สอยในครัวก็กว้างมากพอจะลงครัวหนักๆ ได้เลย ประตูอีกด้านของห้องครัว เปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างบริเวณด้านหลังบ้าน ทางโครงการทำเป็นลานปูกระเบื้อง มีท่อระบายน้ำไว้เรียบร้อย ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีห้องใต้บันไดไว้สำหรับเก็บของใช้ ส่วนประตูอีกบ้านเป็นประตูที่เปิดออกไปสู่ด้านนอกของตัวบ้านครับ บนชั้น 2 ของบ้าน มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ที่แบ่งพื้นที่กันไปคนละมุมจึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยมีพื้นที่ Common Area บริเวณหน้าห้องเป็นเหมือนส่วนเชื่อมโยงสมาชิกทุกคนไว้ด้วยกัน โดยสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้นั่งเล่น พักผ่อน ทำกิจกรรมร่วมกันตามที่ต้องการ ซึ่งมุมนั่งเล่นที่ชั้น 2 นี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับวิวสวนหน้าบ้านได้อย่างเต็มตา ในขณะที่หน้าต่างอีกด้านก็สามารถมองเห็น Courtyard โซนหลังบ้านด้วยเช่นกัน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ร่วมถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและลงตัว โดยเฉพาะห้องนอนใหญ่ ที่กว้างพอจะมี Walk-in Closet ขนาดใหญ่เพื่อเก็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวได้จุใจเลยทีเดียว ขึ้นมาดูที่บริเวณชั้น 2 กันครับ แน่นอนว่าส่วนแรกที่เราจะเจอคือ Common Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับทุกคนในครอบครัวก่อนแยกย้ายเข้าห้องนอน ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยมากดีทีเดียวครับ วางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังเหลือที่อีกเพียบ จากหน้าต่างห้องนอนใหญ่สามารถมองเห็น Courtyard หน้าบ้านได้เต็มตา พื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำจัดเป็น Walk-in Closet ได้อย่างลงตัว ภายในห้องน้ำกั้นห้องอาบน้ำมาให้เรียบร้อย รวมถึงติดตั้งอ่างอาบน้ำมาอีกเช่นกัน ไปดูในห้องนอนเล็กกันบ้างครับ โดย 2 ห้องนี้มีโถงบันไดกั้นอยู่ตรงกลาง จึงเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องได้มากขึ้น ห้องแรกตกแต่งในสไตล์แมนๆ ด้วยโทนสีเข้มๆ มีมุมสำหรับงานอดิเรก โชว์ของรักของสะสมได้อย่างเต็มที่ ห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวเหมือนกันทุกห้อง ห้องนอนเล็กอีกห้องตกแต่งสไตล์สวยหวานเรียบง่าย ดูน่าอยู่ Liwa Liwa เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่สุดของโครงการ โดยมีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 260 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน บนที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.วา บ้านหลังนี้กว้างขวางสามารถรองรับสมาชิกของครอบครัวได้หลายคนเลยทีเดียว ซึ่งในบ้านตัวอย่างที่เราได้เข้าชมทางโครงการยังดีไซน์ให้มีสระว่ายน้ำเพิ่มเข้าไปด้วย โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของ Courtyard บริเวณด้านข้างของตัวบ้านทำสระว่ายน้ำไว้พร้อมกับชานพักผ่อนริมสระน้ำ ซึ่งเชื่อมโยงกับพื้นที่โซนกลางบ้านไว้อย่างลงตัว บ้านแบบสุดท้าย คือ Liwa เป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ลานจอดรถกว้างปูด้วยคอนกรีตสแตมป์ สามารถจอดรถได้มากถึง 3 คัน ตามแบบบ้านมาตรฐาน ตัวบ้านจะมี Courtyard ขนาดใหญ่ และมีนั่งเล่นในสวนเกือบรอบตัวบ้าน แต่บ้านตัวอย่างหลังนี้ใช้พื้นทีส่วนหนึ่งของ Courtyard ปรับให้เป็นสระว่ายน้ำแทน เปลี่ยนบรรยากาศจากมุมนั่งเล่นในสวน มาเป็นริมสระว่ายน้ำแทน บ้าน Liwa นี้ จะเพิ่มห้องนอนที่บริเวณชั้นล่างมาอีก 1 ห้อง ซึ่งห้องนี้สามารถปรับแต่งให้ใช้สอยประโยชน์อื่นๆ ได้ตามต้องการ หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือแขกผู้มาเยือนก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ในบริเวณด้านหลังของตัวบ้านยังมีห้องแม่บ้านอีก 1 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว แยกไว้เป็นสัดส่วน การออกแบบในบ้านตัวอย่างจัดแต่งครัวขนาดใหญ่ มีกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนปิด เพื่อช่วยป้องกันกลิ่นรบกวนขณะประกอบอาหารได้ด้วย ในขณะที่ห้องนั่งเล่นจัดให้อยู่ด้านเดียวกับสระว่ายน้ำ สามารถเปิดม่านออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้เลย เช่นเดียวกับโซนกลางบ้านที่วางโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง ทำให้เปิดรับวิวธรรมชาติได้ทั้งสองด้านพร้อมๆ กัน เปิดประตูเข้าบ้านมาจะเจอกับ Dining Area ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Courtyard ทั้ง 2 ด้านของตัวบ้าน ด้านหนึ่งเป็นสวนเล็กๆ ช่วยเพิ่มความร่มรื่นสบายตา ในขณะที่อีกด้าน ตกแต่งใหม่ให้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ซึ่งเราสามารถเปิดประตูออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ โซนด้านในสุดออกแบบให้เป็นห้องครัวกึ่งปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนปิดได้ตามการใช้งาน เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะกึ่ง Island ให้ความรู้สึกถึงความเชื่อมโยงถึงกันของพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างของบ้าน ประตูด้านหลังห้องครัว สามารถเปิดออกไปสู่ลานซักล้างด้านหลังบ้าน และห้องแม่บ้านที่อยู่ทางด้านหลังด้วย ใกล้ๆ กับห้องครัว มีห้องน้ำเล็กอีก 1 ห้อง Living Area ถูกออกแบบไว้ในโซนด้านในสุดของตัวบ้าน มีหน้าต่างบานใหญ๋เปิดรับแสงธรรมชาติ และเห็นวิวสระว่ายน้ำได้พร้อมๆ กัน ทางโครงการจัดวางชุดโซฟาตัวยาวตลอดแนว เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่บริเวณชั้นล่าง มีห้องนอนเล็กเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งห้อง ซึ่งสามารถปรับแต่งฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลายมาก ตามตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้ เลือกที่จะแต่งห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ เผื่อใช้เพื่อการรับแขกส่วนตัว หรือถ้าต้องการก็ยังสามารถใช้เป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย เพราะภายในมีห้องน้ำส่วนตัวมาพร้อมแล้ว บนบริเวณชั้น 2 มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนหลักจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้พื้นที่ของ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำกว้างขวางมาก พื้นที่หน้าห้องนอนชั้น 2 จัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนที่สามารถเปิดรับวิวสวนสวยได้พร้อมกัน 2 ด้านเช่นเดียวกับแบบบ้านก่อนหน้า ซึ่งทางโครงการพยายามจัดสรรให้ทุกพื้นที่สามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าที่สุด Common Area บริเวณชั้น 2 มีพื้นที่กว้างมากๆ แถมยังโปร่งโล่งสบายตา เนื่องจากมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสง รับลม และวิว Courtyard ได้ทั้ง 2 ทาง เชื่อว่ามุมนี้น่าจะเป็นโปรดของทุกคนในบ้าน ไม่ว่าจะใช้นั่งเล่นอ่านหนังสือ เล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันได้อีกหลายรูปแบบ มาดูในห้องนอนใหญ่กันครับ ภายในกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ และช่องรับแสงได้หลายทาง พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีมากพอที่จะจัดตกแต่งให้ใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ น่าจะถูกใจสาวๆ แม่บ้าน เพราะสามารถจัดเก็บข้าวของ เสื้อผ้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในห้องน้ำ จัดวางห้องอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำไว้คนละด้าน รวมถึงมุมทำธุระส่วนตัวก็จัดที่ทางไว้อย่างลงตัว มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันบ้าง แน่นอนว่าพื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขวางเหลือเฟือขนาดวางเตียงและโซฟาเบดไว้คู่กันแล้วยังเหลือพื้นที่สบายๆ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว และเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นด้วยการ Built-in ชั้นเก็บของมาเต็มพื้นที่ผนังเลยทีเดียว ในขณะที่ห้องนอนเล็กห้องที่ 2 จัดตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่าง และดูเรียบง่ายมากกว่า ภายในห้องมีหน้าต่างทั้ง 2 มุม เปิดรับแสงธรรมชาติ และวิวสวนในบ้านได้เป็นอย่างดี พื้นที่ภายในห้องกว้างมากพอที่จะออกแบบให้มี Walk-in Closet เป็นสัดส่วนในบริเวณทางเดินไปยังห้องน้ำภายในห้อง หลังจากได้เยี่ยมชมบ้านตัวอย่างครบทั้ง 3 แบบแล้ว ต้องยอมรับว่าเราแอบหลงใหลกับบ้านสไตล์ Courtyard เข้าให้แล้วเหมือนกัน บ้านทุกหลังออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับความวุ่นวายภายนอกมาทั้งวัน ซึ่งทางโครงการ Baranee Park ร่มเกล้า สามารถสอดแทรกพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นไว้ทุกซอกทุกมุมจริงๆ สมกับคำว่า “บ้านเงาไม้” ทางโครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งบ้านมาตรฐาน และบ้านตกแต่งพร้อมอยู่ตามอย่างในบ้านตัวอย่างเลยนะครับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสอบถามโปรโมชั่นได้ที่ : http://www.manapat.co.th/tha/projects/baranee-park-romklao ***พิเศษกับโปรโมชั่นล่าสุด (แนบโปรโมชั่นต่อท้าย // สามารถเปลี่ยนแปลงได้) Fespa - แอร์ห้องนอน Master ขนาด 14,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 2 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 3 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง ปูหญ้าจัดสวน 1 รายการ Shower ทุกห้องน้ำ 3 ชุด สัญญาณกันขโมย 1 ชุด ชุดครัว (เตา+เครื่องดูดควัน) 1 ชุด ประตูบานพับอัตโนมัติ พื้นลานจอดรถสแตมป์คอนกรีต Denfe - แอร์ห้องนอน Master ขนาด 14,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 2 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 3 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง ปูหญ้าจัดสวน 1 รายการ Shower ทุกห้องน้ำ 3 ชุด สัญญาณกันขโมย 1 ชุด ชุดครัว (เตา+เครื่องดูดควัน) 1 ชุด ประตูบานพับอัตโนมัติ พื้นลานจอดรถสแตมป์คอนกรีต Liwa - แอร์ห้องนอน Master ขนาด 22,500 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 2 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 3 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 4 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง ปูหญ้าจัดสวน 1 รายการ Shower ทุกห้องน้ำ 4 ชุด สัญญาณกันขโมย 1 ชุด ชุดครัว (เตา+เครื่องดูดควัน) 1 ชุด ประตูบานพับอัตโนมัติ พื้นลานจอดรถสแตมป์คอนกรีต
Brown Condo Ratchada 32 : รีวิวคอนโด

Brown Condo Ratchada 32 : รีวิวคอนโด

Brown Condo Ratchada 32 (บราวน์ คอนโด รัชดา 32) คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น ในซอยรัชดา 32 โครงการใหม่ล่าสุด จาก Asset Wise รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ   Asset Wise Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    242 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 91 คัน หรือคิดเป็น 38% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 44 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยรัชดา 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2561 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ศาลอาญา MRT ลาดพร้าว เมเจอร์ รัชโยธิน ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.96 - 25.48 ตารางเมตร จำนวน 166 ยูนิต 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29.79 - 34.78 ตารางเมตร จำนวน 52 ยูนิต 1 Bedroom Plus ขนาด 33.13 - 46.37 ตารางเมตร จำนวน 24 ยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ฟิตเนส Playroom Library Jogging Track Outdoor Exercise Yoga Deck Barbecue Party & Wine Bar Sculptural Playground Healthy Plants Garden Starlight Terrace Putting Green Access Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 081-064-3232 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.browncondo.com
Baranee Residence รังสิต-คลอง 3 : รีวิวบ้าน

Baranee Residence รังสิต-คลอง 3 : รีวิวบ้าน

ต้องยอมรับกันว่าปัจจุบันการจะหาบ้านเดี่ยวดีๆ ซักหลังเพื่อทุกคนในครอบครัวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใครๆ ก็อยากได้คุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีสังคมเพื่อนบ้านที่เอื้ออำนวยต่อความเป็นอยู่ที่สงบสุข รวมไปถึงมีพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอต่อทุกกิจกรรมของคนในครอบครัวกันแทบทั้งนั้น แถมยังต้องพิจารณาให้อในราคาที่เอื้อมถึงก็จัดว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่น้อยเลย Review Your Living ฉบับนี้จะพาไปเจาะลึก ทำความรู้จักกับโครงการบ้านเดี่ยว “Baranee Residence” บ้านคุณภาพในย่านรังสิต ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่มีครอบครัวได้อย่างแท้จริงกันแบบละเอียดยิบ ใครที่กำลังมีแผนจะซื้อบ้านเดี่ยว รีบตามมาดูกันเลย “Baranee Residence” ยึดทำเลในรังสิตคลอง 3 เป็นที่ตั้งโครงการ ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทั้งทางฝั่งรังสิต และคลองหลวง รวมถึงเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน ถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก และทางด่วนอุดรรัถยา (สายบางประอิน-ปากเกร็ด) ก็ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองมีทางเลือกหลายทาง สามารถหาทางเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดได้อีกด้วย แผนที่ของโครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราใช้ถนนวิภาวดีรังสิต เริ่มจากบริเวณสนามบินดอนเมืองกันเลยนะครับ เราขับตามถนนวิภาวดีรังสิตมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ฝั่งขวามือจะเห็นเซียร์ รังสิต สังเกตป้ายนครนายกแล้วขับตามไปเรื่อยๆ เลยครับ เบี่ยงออกซ้ายเพื่อไปทางนครนายก ตามป้าย ขึ้นสะพานข้ามคลองไปเลยครับ ฝั่งขวามือจะเป็นเมเจอร์ รังสิต แสดงว่าใกล้ถึงทางโค้งไปทางนครนายกแล้วครับ เบี่ยงซ้ายตามป้าย เพื่อขึ้นสะพานไปเข้าถนนรังสิต-นครนายก โค้งซ้ายขึ้นสะพานไปเลยครับ ขึ้นสะพานวนข้ามถนนพหลโยธินมาแล้วเราจะเข้าสู่ถนนรังสิตนครนายก ฝั่งซ้ายมือจะเป็นฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิตและ Zpell ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นเมเจอร์ รังสิต จากนั้นตรงไปตามถนนรังสิต-นครนายกเรื่อยๆ เลยครับ จาก Zpell เราขับตรงไปตามถนนรังสิต-นครนายกอีกประมาณ 4.7 กม. ก็จะถึงทางเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองสาม ตรงนี้ต้องสังเกตดีๆ นะครับ ไม่งั้นอาจจะเลยได้ ปากซอยทางเข้าคลองสาม มีอเวนิวเปิดใหม่ชื่อ ธาราอเวนิว ด้านในมีร้านอาหาร ร้านค้า ต่างอยู่ อยู่หลายร้านทีเดียวครับ จากนั้นเราขับตามถนนเลียบคลองสามต่อไปเรื่อยๆ เลยครับ ถนนเพิ่มเป็น 4 เลนแล้ว ขับสบายขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยครับ ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอบิ๊กซี คลองสาม อยู่ทางซ้ายมือ เวลาจะซื้อของเข้าบ้านตรงนี้ช่วยได้เยอะเลยครับ ไม่ต้องขับรถออกไปไกล เลยจากบิ๊กซีมาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ถ้านับจากปากซอยคลองสามเข้ามาถึงโครงการก็ประมาณ 7 กิโลเมตร พื้นที่ในย่านรังสิตคลอง 3 เป็นย่านที่มีความเป็นชุมชนสูง ตลอดเส้นทางในถนนคลอง 3 มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งร้านค้านานาชนิด ร้านอาหาร ร้านขายยา คลินิค ตลาดสด ซุปเปอร์มาร์เก็ต และโรงเรียน ในขณะเดียวกันทางด้านถนนคลองหลวงก็มีห้องโลตัส แมคโคร ห่างออกไปอีกหน่อยก็มี ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และ Zpell ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญของคนในย่านนี้ “Quality Meets Life” เริ่มต้นจากทางเข้าโครงการที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงวงเวียนน้ำพุอลังการสังเกตุเห็นได้ง่าย เรื่องความปลอดภัยก็อุ่นใจได้ด้วยระบบ Key Card, กล้องวงจรปิดบันทึกภาพบริเวณทางเข้า-ออก และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการภายในหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ด้านหน้าทางเข้าโครงการหรูหราอลังการ เข้าออกด้วยระบบ Key Card และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 มีบ้านทั้งหมด 140 หลังด้วยกัน ทุกหลังตั้งอยู่บนถนนหลักที่กว้างมากสุดถึง 16 เมตร โดยมีเกาะกลางช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้เกือบตลอดแนว บรรยากาศโดยรวมภายในโครงการมีความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ ซึ่งทางโครงการจัดสวนสวยไว้รอบโครงการ รวมถึงสวนในบ้านด้วย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ถนนเมนในโครงการกว้าง 16 เมตร พร้อมเกาะกลางร่มรื่น ถนนบางช่วงกว้าง 12-14 เมตร จึงไม่มีเกาะกลางขั้นกลาง บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นมาก เมื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ พื้นที่ (Space) จึงถูกจัดสรรเพื่อตอบทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ลูกบ้านสามารถทำกิจกรรมที่หลากหลายในบริเวณ Club House ซึ่งประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายครบครัน รวมไปถึงสวนสาธารณะขนาดกว้างที่มีพื้นที่ให้เดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่นๆ ของเด็กๆ Earl Grey Earl Grey บ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 220 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ตัวบ้านยกสูงจากถนน 90 เซนติเมตร ออกแบบให้มีชานนั่งเล่นหน้าบ้าน และสวนรอบบ้านเลยทีเดียว ลานหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าบ้านมี Digital Door Lock เพิ่มความอุ่นใจและสะดวกสบายให้กับทุกคนในครอบครัว ลานจอดรถหน้าบ้าน ปูด้วยคอนกรีตสแตมป์ ยกสูงจากถนนอีก 15 ซม. พื้นที่จอดรถกว้างขวาง สามารถจอดรถได้ 2 คัน บันไดขึ้นสู่ตัวบ้านยกขึ้นมาอีก 3 ขั้น รวมๆ แล้วตัวบ้านจะสูงกว่าถนนหลักถึง 90 ซม. เลยทีเดียว บ้านทุกหลังมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้แล้ว พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ทางโครงการจัดสรรมาให้เป็นอย่างดี โดยในบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งไว้ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้งห้องนั่งเล่นชั้นล่างและมุมรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อถึงกันกับชานนั่งเล่นหน้าบ้านได้อย่างลงตัว เพียงแค่เปิดประตูกระจกด้านหน้าออกก็สามารถเพิ่มพื้นที่ในการจัดกิจกรรมร่วมกันได้แล้ว ทางด้านชานหน้าบ้านติดกับโรงรถ ก็ยกสูงขึ้นมาเท่ากับตัวบ้าน บริเวณนี้มีพื้นที่กว้างพอที่จะจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนในบรรยากาศติดสวน ก้าวเข้ามาในบ้านจะเจอกับ Living Area ก่อน พื้นที่ใช้สอยโปร่งโล่งไม่อึดอัด ประตูกระจกบานใหญ่ ช่วยให้ตัวบ้านเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี พื้นที่ของห้องรับแขก เชื่อมต่อกับห้องกินข้าวซึ่งอยู่ติดกับประตูกระจกด้านข้างตัวบ้าน บริเวณชั้นล่างมีห้องนอนเล็กอีกหนึ่งห้องด้วยนะครับ ห้องครัวเป็นกึ่งครัวปิด มีห้องเก็บของบริเวณใต้บันไดช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น บริเวณด้านหลังบ้านมีลานซักล้าง และพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการก็จัดเตรียมระบบน้ำและไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ห้องครัวอยู่ถัดเข้าไปด้านในสุดของตัวบ้าน ในห้องครัวมีหน้าต่างช่วยให้การระบายอากาศและกลิ่นได้ดีขึ้น ลานซักล้างด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรเลยทีเดียว ห้องนอนเล็กที่ชั้นล่างมีประตูกระจกบานใหญ่สามารถเปิดออกมาที่ด้านหลังบ้านได้ด้วย มุมนั่งเล่นด้านข้างของตัวบ้าน ใช้ทำกิจกรรม จัดปาร์ตี้ หรือนั่งเล่นพักผ่อนร่วมกับสมาชิกในครอบครัวได้เลย บริเวณชั้นล่างเสริมด้วยห้องนอนเล็ก 1 ห้อง ซึ่งสามารถจัดตกแต่งใช้เป็นห้องทำงาน หรือจะให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็สะดวกดีทีเดียว ส่วนห้องน้ำของชั้นหนึ่งจะอยู่ตรงข้ามห้องครัว ทางโครงการตกแต่งห้องนอนเล็กชั้นล่างให้เป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขกส่วนตัว ห้องนอนเล็กนี้ มีประตูกระจกบานใหญ่เปิดออกไปด้านหลังตัวบ้านได้ด้วย ห้องน้ำที่ชั้นล่างอยู่ด้านตรงข้ามกับห้องครัว ขึ้นมาที่บริเวณชั้น 2 จะพบกับพื้นที่นั่งเล่นสำหรับการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นนั่งดูทีวี พูดคุยร่วมกัน หรือแม้แต่ใช้เป็นพื้นที่รับแขกคนสนิทแบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน ในขณะที่พื้นที่ของห้องนอนทั้ง 3 ห้องบนชั้น 2 ก็แบ่งพื้นที่กันไว้อย่างลงตัว ทั้งห้องนอนใหญ่ที่กว้างมากพอที่จะมีห้องอาบน้ำและ Walk-in Closet ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องก็จัดไว้ในโซนด้านเดียวกันอย่างเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่ทั้งหมดนี้เพียงพอต่อการรองรับสมาชิกของครอบครัวขนาดใหญ่ หรืออาจจัดสรรให้ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกถ้าเป็นครอบครัวขนาดเล็ก โถงนั่งเล่นที่บริเวณชั้น 2 ติดกับระเบียงด้านหน้า มีประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงได้เป็นอย่างดี จากบริเวณนี้สามารถมองลงไปเห็นบริเวณหน้าบ้านได้ชัดเจน ระเบียงกว้างพอที่จะปลูกต้นไม้เล็กๆ ได้บ้าง ไปดูห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันดีกว่า ห้องแรกตกแต่งในโทนสีเข้มเลยทีเดียว พื้นที่ใช้สอยภายในห้องขนาดกะทัดรัดกำลังดี มีพื้นที่เก็บของได้พอสมควร ห้องน้ำด้านหน้าอยู่ระหว่างห้องนอนเล็ก ซึ่งต้องใช้ร่วมกัน ส่วนห้องอีกห้อง ตกแต่งเป็นห้องทำงาน เป็นมุมเวิร์คช็อปได้น่าสนใจดีทีเดียว ส่วนอีกโซนของบ้าน เป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัวมาพร้อม พื้นที่ในห้องนอนใหญ่กว้างขวาง วางเตียงนอน 6 ฟุตแล้วยังเหลือที่อีกเหลือเฟือ ในห้องวาง Day Bed เข้ามุมไว้ติดริมหน้าต่าง เพิ่มมุมนั่งเล่นพักผ่อน อ่านหนังสือได้อีกมุม พื้นที่หน้าห้องน้ำกว้างพอที่จะจัดเป็น Walk-in Closet ได้ด้วย ในห้องน้ำจัดวางสุขภัณฑ์ไว้ได้อย่างลงตัว Darjeeling ถ้าบ้านแบบแรกยังมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เรามาดูบ้านหลังใหญ่กันบ้าง บ้าน Darjeeling เป็นบ้านเดี่ยวแบบหน้ากว้าง มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 240 ตร.ม. ส่วนพื้นที่รอบบ้านก็แล้วแต่ขนาดที่ดิน ซึ่งในบ้านตัวอย่างหลังที่เปิดให้เข้าชมเป็นแปลงมุม ทำให้มีชานนั่งเล่นบริเวณด้านข้างของตัวบ้านมากขึ้นอีกพอสมควร โดยทางโครงการจัดการตกแต่งพื้นที่ด้านข้างเป็นมุมนั่งเล่น จัดกิจกรรมปาร์ตี้ร่วมกันได้ ภายในตัวบ้านแบ่งพื้นที่ใช้สอยหลักๆ เป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ลานจอดรถปูด้วยคอนกรีตสแตมป์สวยงาม ลานจอดรถรองรับจำนวนรถได้ 2 คัน สวนหน้าบ้านตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ช่วยเพิ่มความร่มรื่นสบายตา บ้านตัวอย่างเป็นบ้านหัวมุม จึงมีพื้นที่พอสำหรับทำชานนั่งเล่นด้านข้างตัวบ้าน มุมนี้กว้างพอจะใช้จัดกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งครอบครัว พื้นที่ซักล้างที่ด้านหลังตัวบ้านกว้างขวางพอจะวางเครื่องซักผ้าได้สบายๆ ประตูทางเข้าใช้ Digital Door Lock เช่นกัน รวมถึงตัวบ้านก็อยู่สูงจากถนน 90 เซนติเมตร ก็เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ บริเวณห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นเปิดโล่งรับแสงจากภายนอกได้ดี เช่นเดียวกับพื้นที่ของโต๊ะกินข้าวที่สามารถเปิดออกไปยังบริเวณเฉลียงหน้าบ้านได้อีกเช่นกัน ซื่งพื้นที่บริเวณนี้สามารถเลือกตกแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าบ้านได้เลยว่าอยากให้อะไรอยู่มุมไหนบ้าง ชานพักนั่งเล่นด้านหน้าตัวบ้าน ยกสูงขึ้นมาเท่ากับตัวบ้าน ชานบ้านกว้างขวางมีพื้นที่เชื่อมต่อกับใสนตัวอย่างได้อย่างลงตัว ทางเดินจากลานจอดรถเข้าสู่ตัวบ้าน Living Area แบ่งโซนออกเป็นห้องนั่งเล่น วางชุดโซฟาใหญ่ไว้สำหรับนั่งดูทีวี สังสรรค์กับครอบครัว ประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และทำให้สามารถมองเห็นสวนหน้าบ้านได้อย่างชัดเจน อีกด้านของ Living Area จัดไว้เป็นมุมกินข้าว วางโต๊ะชุดใหญ่ขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ ในขณะที่ห้องครัวถูกออกแบบมาให้เป็นกึ่งครัวปิด มีหน้าต่างช่วยระบายอากาศได้ดี ถ้าเพียงติดตั้งประตูกระจกเพิ่มก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นรบกวนในบ้านระหว่างทำครัวไปได้อีกทาง นอกจากนี้ที่บริเวณชั้นล่างยังมีอีก 1 ห้องนอนเล็กพร้อมห้องน้ำในตัว ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตามความเหมาะสม โดยสามารถตกแต่งให้เป็นได้ทั้งห้องนอน ห้องทำงาน ห้องหนังสือ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ด้านในของตัวบ้านเป็นพื้นที่ของห้องครัว รวมถึงประตูทางออกไปยังด้านหลังของตัวบ้าน ห้องครัวเป็นแบบกึ่งปิด ไม่ได้มีประตูติดตั้งมาให้ แต่มีหน้าต่างสามารถเปิดออกไปทางชานนั่งเล่นข้างบ้านได้ ไปดูห้องนอนเล็กของชั้นล่างที่อีกด้านของตัวบ้านกันบ้างดีกว่า ทางโครงการตกแต่งให้ห้องนอนเล็กนี้เป็นห้องทำงาน ซึ่งภายในห้องมีห้องน้ำในตัวมาพร้อมแล้ว สามารถปรับประโยชน์ใช้สอยได้ตามใจชอบ ประตูกระจกในบานใหญ่ นอกจากจะช่วยเรื่องเปิดรับแสงแล้ว ยังสามารถเปิดออกไปยังด้านหลังของบ้านได้อีกด้วย ห้องน้ำในห้องพร้อมใช้งาน ขยับขึ้นมาดูที่บริเวณชั้น 2 กันบ้าง แน่นอนว่าทางโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับการมีคุณภาพชีวิตครอบครัวที่ดี ดังนั้นจึงเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นบริเวณชั้น 2 ขึ้นมาเพื่อให้พร้อมรองรับทุกกิจกรรมของครอบครัว ไม่ว่าจะจัดให้เป็นมุมดูทีวี มุมนั่งเล่น หรือพื้นที่จัดปาร์ตี้สังสรรค์เล็กๆ ของคนในบ้านก็ดูจะลงตัวไปเสียทุกอย่าง ในขณะที่พื้นที่ในห้องนอนทั้ง 3 ห้องก็มีความเป็นส่วนตัวมากพอสำหรับทุกคน ทั้งห้องนอนใหญ่ที่กว้างขวาง และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่ยังคงสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะพบกับ Common Area ในโซนกลางบ้าน ซึ่งจัดเป็นมุมพักผ่อนสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้าน มุมนี้ติดประตูกระจกบานเลื่อนทำให้สามารถเปิดประตูออกไปที่ระเบียงได้ โซนด้านหนึ่งของบริเวณชั้น 2 แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำบริเวณหน้าห้องทั้ง 2 ห้องแรกตกแต่งไว้สำหรับเด็กเล็ก จึงมีสีสันสดใสน่าอยู่ ห้องนอนเล็กห้องนี้อยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน จึงมีระเบียงกว้างในบริเวณห้องด้วย ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้อง ตกแต่งเป็นห้องพักผ่อน หรืออาจปรับให้เป็นห้องนอนเพื่อรองรับสมาชิกครอบครัวที่เพิ่มขึ้นก็ทำได้เช่นกัน ห้องน้ำเล็กบริเวณหน้าห้องสำหรับการใช้งานของสมาชิกนอนเล็ก ห้องสุดท้ายของตัวบ้านที่เราจะไปดูก็คือ ห้องนอนใหญ่ที่อยู่อีกด้านของตัวบ้าน ห้องนอนใหญ่กว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอที่จะตกแต่งให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย Day Bed วางไว้ริมหน้าต่างใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้าห้องน้ำก็จัดตกแต่งให้เป็น Walk-in Closet เก็บเสื้อผ้าได้เป็นระเบียบเรียบร้อย และมีหน้าต่างรับแสง ช่วยให้มุมนี้ไม่มืดจนเกินไป ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ จัดวางตำแหน่งของสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้อย่างลงตัว และติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังมาให้พร้อมแล้ว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ที่สะท้อนให้เราได้เห็นว่า โครงการบ้านที่ดีที่มีการออกแบบเพื่อให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคุณและครอบครัว มีสเปซสำหรับทุกคน และพื้นที่ที่พร้อมด้วย Facility ครบครัน ในทำเลโซนกรุงเทพฝั่งเหนือ ซึ่งพร้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีของการอยู่อาศัย จนคุณสามารถมั่นใจได้ว่าความเป็นอยู่ของทุกคนในครอบครัวจะอบอุ่นและได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าที่เคยไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อชมโครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 ได้ที่ : http://www.manapat.co.th/tha/projects/baranee_residence