เชื่อว่าพื้นที่ชายทะเลในโซนชะอำ-หัวหิน เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ของการเดินทางพักผ่อน สำหรับหลายครอบครัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วง Long Weekend หรือแม้แต่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะนอกจาก จะได้บรรยากาศของชายหาดอันเงียบสงบแล้ว ยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย
เพราะเสน่ห์ของพื้นที่ชะอำ-หัวหิน ส่งผลให้ดีเวลลอปเปอร์ ให้ความสนใจเข้าไปพัฒนาโครงการสารพัด ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย โรงแรม หรือพื้นที่รีเทลหลากหลายรูปแบบ โครงการ THEW TALAY ESTATE ก็คือ หนึ่งในโปรเจ็กต์ที่ดีเวลลอปเปอร์เข้าไปพัฒนา ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อบริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด พัฒนาโครงการบนพื้นที่ 110 ไร่ ซึ่งในเฟสแรกใช้พื้นที่พัฒนาไปแล้ว 50 ไร่
สำหรับโครงการต่างๆ ที่พัฒนาออกมาประกอบด้วย
โครงการบ้านทิวทะเล อความารีน (Aquamarine)
คอนโดมิเนียมติดทะเล 3 ไร่ ประกอบด้วย อาคาร 15 ชั้น 1 อาคาร และอาคาร 4 ชั้น 2 อาคาร มีขนาดห้องตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ขณะนี้ Sold out เรียบร้อยแล้ว โครงการบ้านทิวทะเล บลูแซฟไฟร์ (Blue Sapphire)
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่บนพื้นที่ 15 ไร่ ติดริมชายหาดส่วนตัว ขนาดหน้ากว้าง 20 เมตร แบ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น 2 อาคาร และอาคาร 15 ชั้น 1 อาคาร มีห้องตั้งแต่ขนาด 1-3 ห้องนอน พื้นที่ 36.6-157.98 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท ซึ่งห้อง 3 ห้องนอน ขายหมดไปแล้ว ปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้วกว่า 80% ซึ่งโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โครงการบลู (Blu)
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ เป็นอาคารสูง 21 ชั้น ห้องขนาด 1-2 ห้องนอน พื้นที่ 30-65 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้าน ปัจจุบันโครงการมียอดขาย 60% โครงการมีความโดดเด่นที่มีสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มสไตล์โอเอซิสสวยๆ พร้อมจากุชชี่ บรรยากาศโครงการใช้โทนสีฟ้า-ขาว สบายตา เหมาะกับการพักผ่อนในเมืองชายทะเลแบบนี้ Baba Beach Club Hotel&Residences Hua Hin
โครงการเรสซิเดนซ์สุดหรูในเครือศรีพันวา ติดชายหาด โดยแบ่งเป็นห้องบีชฟรอนท์จำนวน 18 ห้อง และโซนพูลวิลล่าอีก 11 หลัง ซึ่งทั้งหมดได้ปิดการขายเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทกำลังก่อสร้างพัฒนาพลูวิลล่า 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ อีก 7 หลัง บนพื้นที่รวม 3 ไร่ ราคาเริ่มต้น 33.9 ล้านบาท โดยตกแต่งแบบ Fully Furnished ทั้งหลัง พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลัง สระว่ายน้ำส่วนตัว มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มให้เข้าชมบ้านตัวอย่างได้ในช่วงต้นปีหน้า ส่วนพื้นที่ของโรงแรมบาบาบีชคลับหัวหิน จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา สวนในสไตล์ทรอปิคอล ร้านอาหาร พื้นที่สันทนาการทั้ง Indoor และ outdoor พร้อมชิลล์บาร์บริเวณสระว่ายน้ำริมหาดได้อีกด้วย
ร้านบ้านโชค
บ้านหลังเก่าของตระกูลโชควัฒนา ซึ่งปัจจุบันถูกดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร ทั้งไทย-อิตาเลียน และฟิวชั่นหลายเมนูให้ได้เลือกทาน หรือจะมานั่งจิบกาแฟ ดื่มชาแบบ Afternoon Tea ท่ามกลางบรรยากาศบ้านสีขาว มีสนามหญ้าสีเขียวกว้างๆ ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ไปจนถึงริมชายหาดส่วนตัว ดูอบอุ่น โรแมนติกขนาดนี้ แน่นอนว่าร้นาบ้านโชค ยังให้บริการรับจัดงานเลี้ยง งานอีเว้นท์ รวมถึงงานแต่งงานริมทะเลด้วย โดยร้านบ้านโชคเปิดให้บริการ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 11.00-18.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ 7.00-21.00 น. สำหรับใครที่อยากจะมานั่งพักผ่อนชิวๆ ริมทะเล พร้อมอาหารอร่อยๆ สำหรับโปรเจ็กต์ต่อเนื่องล่าสุดของ THEW TALAY ESTATE บนพื้นที่ 6 ไร่ ติดริมถนนเพชรเกษม กำลังพัฒนาให้กลายเป็น Commercial Area เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักท่องเที่ยว ซึ่งพื้นที่แห่งนี้จะถูกเนรมิตขึ้นมาให้สามารถรองรับได้ทั้งครอบครัว เพราะจะมีทั้งสนามเด็กเล่น พร้อมพื้นที่เปิดประสบการณ์การเรียนรู้, My little farm เป็นสถานที่ให้ความรู้ เกี่ยวกับผักสวนครัว, จัดกิจกรรม Food Truck หรือ Flea Market ในช่วงวันหยุดยาว, จุดถ่ายภาพต่างๆ และ Doggy Dog Park สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นสัตว์เลี้ยงให้มีพื้นที่พักผ่อน วิ่งเล่นไปด้วยกัน ไฮไลท์ของส่วน Commercial Area อยู่ที่ปั๊มน้ำมัน Shell ที่ไม่ใช่แค่ที่แวะพัก เติมน้ำมันเข้าห้องน้ำ แต่ทาง THEW TALAY ESTATE แอบแง้มมาว่าเป็นปั๊มที่สวยที่สุดในประเทศไทยแน่นอน เพราะได้บรรจงออกแบบให้แตกต่างจากปั๊มทั่วไป ซึ่งมีความทันสมัยแปลกใหม่ มีหัวจ่ายน้ำมัน 2 แท่น 4 ตู้จ่าย และยังรองรับบริการล้างรถ, EV Charger อีกด้วย นอกจากนี้ยังคัดสรรร้านต่างๆ มาเปิดให้บริการ เช่น Lowson 108 ร้านไอศครีม-เครื่องดื่ม AF-FO-GA-TO จาก Baba Beach Club จับตามองกันไว้ให้ดี เพราะ Commercial Area แห่งนี้มีแววกำลังจะกลายเป็น Landmark of Cha Am-Hua Hin ที่พลาดไม่ได้ โดยเตรียม Grand Opening กันในช่วงต้นเดือนธันวาคม นี้แล้ว ในอนาคตไม่ใช่ Commercial Area 6 ไร่ นี้เท่านั้น ยังเหลืออีกตั้ง 20 ไร่ ที่ยังจะทำการพัฒนาต่อไป ซึ่งมี Main Hotel สูง 12 ชั้น 47 ห้องพัก และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ Lobby , Lounge , All-Day Dining , Ballroom , Meeting Room , Kids Club , Main Pool , Spa , Gym คาดว่าจะเปิดให้เข้ามาใช้บริการกันได้ประมาณปลายปี 63 ทั้งหมด เดาไม่ออกเลยว่า ถ้า THEW TALAY ESTATE เสร็จสมบูรณ์ต็มพื้นที่ 100% เมื่อไหร่ อาณาจักรนี้จะยิ่งใหญ่ ครบครัน น่าอยู่ขนาดไหน เชื่อว่าใครที่ได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ อาจจะเกิดอยากมีคอนโดหรือบ้านตากอากาศ ริมทะเลที่เป็นส่วนตัวสุดๆ สักหลังแน่ๆ