บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ของประเทศไทย แสดงวิสัยทัศน์ “เชื่อมั่นตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง” โดยเอพีพร้อมเดินหน้ารับเทรนด์ตลาด ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท ด้วยการรุกตลาดเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 49,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ผ่าน 5 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ 1) สานต่อความสำเร็จกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท 2) เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury 3) รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม 4) ขยายพอร์ตตลาดต่างประเทศ 5) พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี หลังปีที่ผ่านมา (2560) กวาดยอดขายรวมได้กว่า 42,900 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2560 คือ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% หากเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับทิศการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการนำพาเอพีก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริม และยกระดับ รูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์สู่วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 34 โครงการมูลค่า 49,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท ผ่านแผนการดำเนินงานใน 5 มิติสู่ความสำเร็จ 1) สานต่อความสำเร็จกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท 2) เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury 3) รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม 4) ขยายพอร์ตตลาดต่างประเทศ 5) พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานบมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ในปี 2561 ประกอบด้วย
“ด้วยความพร้อมด้านทีมงานคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ และพันธมิตรคุณภาพภายใต้ passion เดียวกันที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยคุณภาพ ผมเชื่อว่า เอพี ไทยแลนด์จะสามารถสร้างความแตกต่างและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และยังคงเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยจะนำเสนอ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ผ่านการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เท่าทันต่อโลกในอนาคต เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมไทยให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” คุณอนุพงษ์กล่าวสรุป
ทั้งนี้ สรุปสำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปี 2561 นี้บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนทั้งสิ้น 34 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 49,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 14,900 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 โครงการ และทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,900 ล้านบาท และ 2 คอนโดมิเนียมใหม่ คือ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น จำนวน 1,049 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดดเด่นด้วย 1 ก้าวจากสถานีบางหว้า สถานีเชื่อมต่อขนาดใหญ่ระหว่าง BTS และ MRT ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท พร้อมเปิดขายในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ และ LIFE สุขุมวิท 62 คอนโดมิเนียมร่วมทุน สูง 24 ชั้น จำนวน 438 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เพียง 200 เมตรจาก BTS บางจาก ซึ่งเตรียมเปิดขายผ่านระบบออนไลน์ บุคกิ้งในวันที่ 27 มีนาคมนี้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา (2560) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของสินค้าทั้งกลุ่มคอนโด และแนวราบได้มากถึง 42,900 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2560 คือ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% หากเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้นั้น นอกจากจะมาจากการเปิดตัวสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 22 โครงการใหม่ ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางยอดขายอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมาจากการประสบความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว LIFE วิทยุ และ LIFE อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ประมาณ 90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects) อีกกว่า 90 โครงการ ที่มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้