Cpn Central Village 2 Copy

เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเปิด “เซ็นทรัล วิลเลจ” เฟส 2 ต้นปี 65

เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเปิด เซ็นทรัล วิลเลจ เฟส 2 ต้นปี 65 หลังเฟสแรกทำยอดการเช่าสูง 99% พร้อมเดินหน้า 4 กลยุทธ์สร้างความสำเร็จต่อ

นายชาติ จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา  จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า ได้เตรียมเปิดโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ในเฟสที่ 2 วันที่ 28 มกราคม 2565 ตามแผนที่ได้วางเอาไว้ หลังจากโครงการได้เปิดให้บริการในเฟสแรกไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ จากการตอบรับที่ดีของทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ

 

โดยเฟสแรกมียอดทราฟฟิกที่สูงในวันเปิดตัว มีอัตราการเข้าใช้พื้นที่ (Occupancy Rate) 99% มาตลอด และหลังคลายล็อคดาวน์มียอด Transaction เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14% (เปรียบเทียบปี 2020 กับ 2021) หลายแบรนด์มียอดขายที่ดีเกินความคาดหมายหรือ Impressive Sales อาทิ JIM THOMPSON FACTORY STORE, THE COSMETICS COMPANY STORE รวมถึงแบรนด์ที่เป็น Exclusive Stores ก็มียอดขายที่ดี ได้แก่ ERMENEGILDO ZEGNA, POLO RALPH LAUREN, CALVIN KLEIN, TOMMY HILFIGER, MARIMEKKO, BATH & BODY WORKS, VICTORIA’S SECRET, OUTLET BY CLUB21, COACH, MICHAEL KORS, KATE SPADE และ ADIDAS

ในเฟส 2 มีกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้คู่ค้า ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยดึงดูดทราฟฟิก  ซึ่งเป็นความสำเร็จของเราในทุกโครงการ อย่างเซ็นทรัล ศรีราชา, เซ็นทรัล อยุธยา ที่มียอดทราฟฟิกที่ดีตั้งแต่วันแรก รวมไปถึงแผนธุรกิจที่จะช่วยให้คู่ค้าขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ กับ Flexible Leasing Programme

Cpn Central Village 3

4 กลยุทธ์สร้างการเติบโตต่อเนื่องในโครงการเฟส 2

1.การเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่

โดยเฟส 2 มีแบรนด์ใหม่ๆ หลากหลายเติมเต็มทุก lifestyle ทั้งกลุ่ม Sport & Adventure สำหรับแฟชั่นกีฬาที่เจาะลึก ทั้ง Golf, การวิ่ง กลุ่มเครื่องสำอางและแฟชั่น อย่าง Pomelo, Beautrium กลุ่มครอบครัว ทั้งร้านของเล่นแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น, ร้าน Pet N Me ครั้งแรกของเอาท์เล็ต ซึ่งเป็น Category ใหม่สำหรับเอาท์เล็ตในเมืองไทย, B2S เอาท์เล็ตครั้งแรก และแบรนด์ technology อย่าง XIAOMI BY Dimi Technology

2.ขยายฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงอย่างต่อเนื่อง

โดยขยายฐานลูกค้าทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงมีลูกค้าประจำที่อยู่รอบศูนย์ฯ มีโรงเรียนอินเตอร์, หมู่บ้านระดับกลางถึงไฮเอนด์ ซึ่งฐานลูกค้าสำคัญ ได้แก่

-กลุ่ม Family

ด้วยการเพิ่มแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ สินค้า Home & Living, เครื่องครัว, ของเล่นเด็กและเสื้อผ้า พร้อมด้วยสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่แบบ Full-scale playground, Pet-Friendly สร้างคอมมิวนิตี้คนรักสัตว์ และร้านชา-กาแฟ สไตล์ญี่ปุ่น

-กลุ่ม Wealth

เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ด้วยการจัดกิจกรรม Supercar meeting ทุกสัปดาห์ และใช้ฐานลูกค้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลในสาขาอื่น ๆ ทั่วประเทศมาต่อยอดทำ CRM Marketing

-กลุ่ม Sport Lifestyle

ด้วยการเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ อาทิ Rev-Runner ร้านรองเท้าวิ่ง และอุปกรณ์วิ่งโดยเฉพาะ, Columbia อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง, จักรยาน, กอล์ฟ, วิ่ง และลาน Skate park  ทำให้โครงการกลายเป็น Sport Destination มีกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา เล่น Skateboard

3.เพิ่มช่องทางการขาย Intensive Omnichannel ทั่วประเทศ

การเพิ่มช่องทางออนไลน์ CHAT & SHOP ทำให้สามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ รวมถึงมีแผนเจาะกลุ่มตลาดเอเชียและอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV และมาเลเซีย

4.การสร้าง Festive Vibes ตลอดทั้งปี

อาทิ การเป็น Food destination รวมร้านอาหารดังไว้มากมาย และ “ตรอกญี่ปุ่น”​ สำหรับคนชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น จุด Attraction landmark อาทิ ลานน้ำพุขนาดใหญ่  ช่วงเทศกาลปลายปีเตรียมต้นคริสต์มาสยักษ์กลางลานน้ำพุ การประดับไฟทั่วทั้งพื้นที่ จุด Instagrammable Photo Landmark สีสันสดใสทั่วทั้งศูนย์ฯ

 

สำหรับโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ​ มีมูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 36,000 ตร.ม. มีที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน เดินทางจากในเมืองประมาณ 30-45 นาที  ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซื้อสินค้าแบรนด์เนมลดสูงสุด 35-70% ช่วงแคมเปญพิเศษลดถึง 90% เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 21.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 22.00 น.

Cpn Central Village 1

โดยโครงการในเฟส 2 ยังคงมีดีไซน์ต่อเนื่องกับเฟสแรกกับเอกลักษณ์ Thai Modern พร้อมได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมไทย นำเสนอในรูปแบบหมู่บ้านไทยร่วมสมัยที่  โดยเฟส 2 ได้ขยายเพิ่มอีก 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านช่างทอ (Textile Village) โดดเด่นด้วยลายเส้นผ้าทอของไทย, หมู่บ้านช่างก่อ (Brick Village) กับการก่ออิฐเป็นแพทเทิร์นที่แปลกตา, หมู่บ้านช่างลายคราม (Porcelain Village) นำความสวยงามของเครื่องลายครามมาออกแบบให้มีลูกเล่น และหมู่บ้านช่างเงินช่างทอง (Goldsmith Village) กับลวดลายสีเงินสีทองสื่อถึงความหรูหราและความประณีตท่ามกลางบรรยากาศแบบ Outdoor Experience ที่ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียว ทางเดินมีหลังคาที่กว้างขึ้น  มีน้ำพุ, บ้านต้นไม้, ภูเขา และจุดถ่ายรูปไฮไลท์ Instagrammable Landmarks รวมถึงมีการจัดอีเว้นท์ งานอาร์ต ศิลปะร่วมสมัย ที่หมุนเวียนตลอดทั้งปี

 

นอกจากนี้ การจับมือกับพาร์ทเนอร์ มิตซูบิชิ เอสเตท (ไทยแลนด์) ​ยังเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญ โดยเซ็นทรัลพัฒนามีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่เป็น Destination Landmark มาแล้วทั่วประเทศ ตอนนี้มี 36 สาขาในประเทศไทยและต่างประเทศ สามารถเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงซึ่งเป็นฐานลูกค้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัล  ผ่านช่องทาง Intensive Omnichannel ในขณะที่มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มีประสบการณ์ในการพัฒนาเอาท์เล็ตชื่อดังของเอเชีย ทำให้เซ็นทรัล วิลเลจ เป็นลักชูรี่เอาท์เล็ต ที่มีศักยภาพและมาตรฐานไม่แพ้เอาท์เล็ตแห่งอื่นของโลก

 

ด้านนานยโทโมฮิโกะ เองูจิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ไทยแลนด์) กล่าวว่า โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เป็นหนึ่งในการบุกเบิกพอร์ตโฟลิโอใหม่ของบริษัทฯ ที่ได้รุกตลาดลักชูรี่เอาท์เล็ตครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการร่วมเป็นพันธมิตรกับเซ็นทรัลพัฒนา ในแบบ “Two Nations, One Success” ได้พิสูจน์แล้วถึงความสำเร็จของเซ็นทรัล วิลเลจ ในเฟสแรก โดยบริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตและการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมไปถึงความต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนมในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขยายโครงการเฟสสอง ทางมิตซูบิชิฯ เตรียมแผนที่จะดึงแบรนด์สินเค้าของประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเปิดตลาดในไทยมากขึ้น ​

Cpn Central Village 4

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

CPN ยืนยัน “เซ็นทรัล วิลเลจ” เปิดแน่ 31 สิงหาคมนี้ มั่นใจได้รับอนุญาตและก่อสร้างถูกต้อง

เปิดพรุ่งนี้ (วันที่ 31 สิงหาคม 2562) แน่นอน !!!  หลังศาลปกครองสั่งคุ้มครอง “เซ็นทรัล วิลเลจ”

ช้อปเลย รออะไร? เซ็นทรัล วิลเลจ เปิดวันแรก ลูกค้ารอเปิดประตูกว่า 2,000 คน

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด