พรอสเพค ดีเวลอปเมนท์
“พรอสเพค ดีเวลอปเมนท์” ประกาศเป้าหมายใหม่ เพิ่มพอร์ต พื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าสู่ 2 ล้านตร.มในปี71 ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาทต่อปี หลังประสบความสำเร็จเพิ่มพอร์ตพื้นที่เช่า1ล้านตร.ม. ก่อนเป้าหมายล่าสุดเปิดตัวโครงการใหม่BFTZ7 บนทำเลบางนา กม.19 ด้วยพื้นที่เช่า36,000ตร.ม. แจงรายใหญ่จองทำสัญญาเช่าแล้ว2รายกว่า80%ของพื้นที่โครงการ เผยครึ่งปียอดทำสัญญาพื้นที่เช่า 100,000ตร.ม. มั่นใจสิ้นปีไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนตร.ม. แจงรายได้2ไตรมาส200ล้านบาทคาดทั้งปีไม่ต่ำ350ล้านบาท
พรอสเพค ดีเวลอปเมนท์
นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท พรอสเพค ดีเวลอปเมนท์จำกัด หรือ (PD)ผู้พัฒนาและบริหารโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ) กล่าวว่า ได้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานให้เช่าจำนวน 1ล้านตารางเมตร(ตร.ม.) ก่อนระยะเวลา ซึ่งวางเป้าหมายว่าจะลุล่วงในปี 2567 และเพื่อเป็นการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องบริษัท จึงมองหาโอกาสพัฒนาโครงการใหม่โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี2571 จะขยายพอร์ตพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าให้เป็น 2ล้านตร.ม. โดยจะใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี โดยเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในการลงทุนพัฒนาพื้นที่เช่าจะมาจากการออกหุ้นกู้ การขายพื้นที่เข้ากองลีด และเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ทั้งนี้แนวโน้มความต้องการการใช้งานครั้งสินค้าและโรงงานให้เช่าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์สะท้อน ได้จากพื้นที่เช่าในโครงการ BFTZ ที่เปิดให้บริการไปแล้วนั้นมีอัตราการเช่าเฉลี่ย 85.88% ของพื้นที่โครงการ โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทสามารถปิดดีล การเช่าพื้นที่ของลูกค้าไปแล้วกว่า 100,000 ตร.ม. จากเป้าหมาย ที่วางไว้ในปีนี้ 150,000 ตร.ม. ส่งผลให้สองไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทรับรู้รายได้มาแล้วกว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะมีรายได้รับรู้จากการดำเนินงานในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท
ล่าสุดเพื่อ สร้างความต่อเนื่องในการเพิ่มพื้นที่เช่าภายในพอร์ตเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าต่างชาติที่เพิ่มขึ้นหลัง การเปิดประเทศบริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการ BFTZ 7 บนพื้นที่ 40 ไร่ในทำเลบางนาตราดกม. 19 ซึ่ง จะมีพื้นที่โกดังและคลังสินค้าให้เช่า 36,000ตร.ม. ปัจจุบันมีสองธุรกิจใหญ่เข้าทำสัญญาจองเช่าพื้นที่แล้ว 80% ส่วนที่เหลือ20% จะเปิดให้ลูกค้าจองสิทธิ์ในช่วงกลางเดือนนี้
“ สำหรับโครงการใหม่ที่จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้บริษัทไปถึงเป้าหมาย 2ล้าน ตร.ม. บริษัทจะยังคงมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการในทำเลยุทธศาสตร์โดยบริษัทมีที่ดินในพอร์ตรอการพัฒนาที่วังน้อยซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์กระจายสินค้าสู่ภูมิภาค และในทำเลแหลมฉบังซึ่งอยู่ในพื้นที่ อีอีซี ซึ่งเป็นเป้าหมายของกลุ่มทุนอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย”
ปัจจุบันสัดส่วนของผู้เช่าพื้นที่ในโครงการที่เปิดให้บริการอยู่เป็นกลุ่มธุรกิจของคนไทยประมาณ 25% ส่วนที่เหลืออีก 75% กระจายเป็นของกลุ่มนักลงทุนชาวจีน 18% กลุ่มนักลงทุนชาวญี่ปุ่น 20% ขณะที่สัดส่วนของ ของกลุ่มนักลงทุนยุโรปและอเมริกามีอัตราที่เพิ่มขึ้น
นางสาวรัชนีกล่าวว่า สำหรับ ความคาดหวังจากนโยบายรัฐบาลใหม่คือต้องการการสานต่อนโยบายที่รัฐบาลเก่าทำไว้และมีการต่อยอดส่งเสริมให้มีการลงทุนจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาเพิ่ม ซึ่งทำให้นักลงทุนเดิมและนักลงทุนรายใหม่มีความรู้สึกว่าได้รับการดูแลจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
“การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ อยู่บ่อยครั้งไม่ได้ส่งผลดีกับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นการส่งเสริมและต่อยอดนโยบายของรัฐบาลเดิมน่าจะเป็นแนวทางที่ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่”
บทความน่าสนใจ