Jorakay

สีจระเข้ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 20 ปี ปูทางสร้างยอดขาย 300 ล้าน

สีจระเข้

จระเข้ ลุยตลาดสีอีกครั้ง รีแบรนด์ใหม่ในรอบเกือบ 20 ปี ปูทางสร้างยอดขาย 300 ล้าน จับตลาดนิชมาร์เกต ชูนวัตกรรมสีธรรมชาติรายแรกและรายเดียวในไทย พร้อมเดินหน้าบุกตลาดงานเมกะโปรเจ็กต์ 800,000 ล้าน  

 

ถ้าพูดถึงสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง แบรนด์จระเข้ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงสินค้ากลุ่มยาแนว กลุ่มกันรั่วซึม เพราะว่าเป็นสินค้าที่ทำตลาดและสร้างแบรนด์จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์จระเข้นั้น มีอยู่จำนวนมากและหลายกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง กลุ่มคอนกรีตคุณสมบัติพิเศษ รวมถึงกลุ่มสี ที่เคยเปิดตัวและทำตลาดมาแล้วตั้งแต่ปี 2546 ภายใต้แบรนด์สีจระเข้ แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ทำตลาดสินค้ากลุ่มสีมากนัก

 

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทได้รีแบรนด์สินค้ากลุ่มสีใหม่ ทั้งภาพลักษณ์และโลโก้สินค้า  เนื่องจากไม่ได้ทำตลาดมานาน ประกอบกับทิศทางการดำเนินธุรกิจ ได้วางกลยุทธ์การทำตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ “ใช้จระเข้ร่วมกัน ปกป้องบ้านทั้งหลัง” จึงขยายตลาดผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากที่สุด

 

โดยผลิตภัณฑ์สีจระเข้ (SEE JORAKAY) เป็นกลุ่มตลาดสีพรีเมียม ที่ต้องการใช้งานมีลักษณะเฉพาะ สามารถใช้งานลักษณะเดียวกับคัลเลอร์ซีเมนต์ สามารถพ่นหรือฉาบได้ ซึ่งจุดเด่นและจุดขายหลักของสีจระเข้ คือการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% จากประเทศสเปน ถือเป็นผู้ทำตลาดรายแรกและรายเดียวในปัจจุบัน ซึ่งหากใช้ผลิตภัณฑ์สีจระเข้ จะสามารถเพิ่มคะแนนกับอาคารที่ยื่นขอรับรองคุณภาพอาคารฉลากเขียว และ LEED ได้ด้วย ปัจจุบันสีจระเข้เป็นกลุ่มสินค้า Green กว่า 90%

Jorakay 1

ด้านแนวทางการทำตลาดสีจระเข้ บริษัทจะใช้ช่องทางการทำตลาดหลักผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งด้านการสื่อสารการตลาด และช่องทางจัดจำหน่าย โดยแยกการทำตลาดและสร้างแบรนด์ ให้ชัดเจนจากผลิตภัณฑ์จระเข้อื่น ๆ นอกจากนี้ ยังจัดทีมช่างไว้ใบริการให้คำปรึกษา และบริการงานสี โดยบริษัทคาดว่าในปีแรกจะสามารถทำยอดขายได้ 50 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายภายใน 2-3 ปีน่าจะทำยอดขายได้ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10% จากยอดขายรวมที่น่าจะทำได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท

 

นายศุภพงษ์ กล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวม 2,800 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในอัตราใกล้เคียงกับก่อนที่จะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนปีนี้คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

นอกเหนือจากการออกผลิตภัณฑ์สีแล้ว บริษัทยังวางแนวทางการตลาด ด้วยการเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐ เนื่องจากปัจจุบันโครงการภาครัฐ ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจหลักของประเทศ เพราะภาคเอกชนมีการลงทุนน้อย โดยมูลค่างานเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐมีมูลค่ากว่า 800,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ในงานภาครัฐเป็นจำนวนมาก เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีอุตสาหกรรม และกลุ่มคอนกรีตคุณสมบัติพิเศษ โดยเฉพาะโครงการของหน่วยงานภายใต้กระทรวงคมนาคม อาทิ กรมเจ้าท่า

 

ทั้งนี้ การขยายสู่การ ปกป้องงานโครงสร้างพื้นฐาน  Infrastructure เป็นการต่อยอดจากงานโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ โดยจระเข้ได้พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์เคมีหลากหลายที่ตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและช่วยให้การทำงานโดยรวมได้รวดเร็วขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดยครอบคลุมการใช้งานตั้งแต่งานโครงสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทางยกระดับต่าง ๆ ไปจนถึงงานท่าเทียบเรือ

เป้าหมายในการทำการตลาดสำหรับปี 2565 จระเข้มีความมุ่งหวังว่าเจ้าของบ้าน สถาปนิก นักออกแบบและตกแต่งภายใน และโครงการขนาดใหญ่ จะได้มุมมองใหม่จากกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์จากจระเข้ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี  

 

นายศุภพงษ์ กล่าวเสริมว่า  ปัจจุบันจระเข้” มีสินค้านวัตกรรมเพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งแบบครบวงจร และเป็นแบรนด์ไทยที่เข้าใจความต้องการของคนในภูมิภาค รวมทั้งยังพร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ควบคู่กับมุมมองในการเลือกใช้วัสดุรักษ์โลกที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ โดยทุกกลุ่มสินค้าของจระเข้ เป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล

 

อ่านบทความที่น่าสนใจ

-ถอดรหัสเทรนด์สีใหม่ ปี 64 เพื่อที่อยู่อาศัยในยุค New Normal

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด