News ผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยภาคใต้ และภาคตะวันตก ครึ่งหลังปี 2561 1

ผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยภาคใต้ และภาคตะวันตก ครึ่งหลังปี 2561

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันตก ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 ยูนิต

 

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดภูเก็ต มีจำนวน 210 โครงการ มียูนิตในผังของทุกโครงการรวมกัน 30,416 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 176,366 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 7,698 ยูนิต (25.3 % ของยูนิตในผังโครงการทั้งหมด) คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 41,925 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 84 โครงการ มีจำนวนยูนิต 12,682 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 56,417 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 3,513 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 15,096 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 87 โครงการ มีจำนวนหน่วย 17,025 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 85,239 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 4,029 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 20,608 ล้านบาท และมีโครงการวิลล่าจำนวน 39 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 709 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 34,710 ล้านบาท หน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 156 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 6,220 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ หน่วยเหลือขายโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด จำนวน 7,542 หน่วย เป็นอาคารชุดมากที่สุด 53.4% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3–5  ล้านบาท รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 21.5 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท เป็นบ้านแฝด 12.7% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3–5 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 10.7% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 5–7.5 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่า ตามลำดับ

 

News ผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยภาคใต้ และภาคตะวันตก ครึ่งหลังปี 2561 3

ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดภูเก็ตที่ขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการได้แก่

1)ทำเลฉลอง-วิชิต ขายได้ 89.3% มูลค่าขายได้ 10,865 ล้านบาท

2)ทำเลหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ ขายได้ 89.3%  มูลค่าที่ขายได้ 1,681 ล้านบาท

3)ทำเลตลาดใหญ่-ตลาดเหนือ ขายได้ 80.2%  มูลค่าที่ขายได้ 481 ล้านบาท

4)ทำเลในเมืองกะทู้ ขายได้ 78.1% มูลค่าที่ขายได้ 3,415 ล้านบาท

5)ทำเลหาดกะรน-หาดกะตะ ขายได้ 75.0% มูลค่าที่ขายได้ 160 ล้านบาท

 

ส่วนทำเลคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตที่ขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อยูนิตทั้งหมดในโครงการ ได้แก่

1)ทำเลตลาดใหญ่-ตลาดเหนือ ขายได้ 96.1% มูลค่าที่ขายได้ 3,674 ล้านบาท

2)ทำเลหาดป่าตอง ขายได้ 85.1% มูลค่าที่ขายได้ 4,548 ล้านบาท

3)ทำเลหาดในยาง-หาดไม้ขาว ขายได้ 84.1% มูลค่าที่ขายได้ 6,268 ล้านบาท

4) ทำเลหาดราไวย์ ขายได้ 81.7% มูลค่าที่ขายได้ 9,117 ล้านบาท

5)ทำเลหาดกะรน-หาดกะตะ ขายได้ 80.7% มูลค่าที่ขายได้ 10,908 ล้านบาท

 

โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีจำนวน 108 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน8,555 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 43,458 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,266 หน่วย (26.5% ของยูนิตในผังโครงการทั้งหมด) คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 12,096 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 83 โครงการ มีจำนวนยูนิต 4,345 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 18,470 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,724 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 7,591 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนยีมจำนวน 17 โครงการ มีจำนวนยูนิต  4,021 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 18,808 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 485 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 2,657 ล้านบาท และมีโครงการวิลล่าจำนวน 8 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 189 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 6,180 ล้านบาท ยูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 57 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 1,848 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ยูนิตเหลือขายโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 2,209 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด 50.9% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2–3 ล้านบาท รองลงมาเป็นอาคารชุด 22.0% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา  2–3 ล้านบาท เป็นบ้านแฝด 11.8% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2–3 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮ้าส์ 10.0% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1–1.5 ล้านบาท ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าและอาคารพาณิชย์ ตามลำดับ

 

News ผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยภาคใต้ และภาคตะวันตก ครึ่งหลังปี 2561 2

ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลเขาตะเกียบ ขายได้ 67.9% มูลค่าขายได้ 1,982 ล้านบาท  ทำเลทับใต้ ขายได้ 64.4% มูลค่าที่ขายได้ 3,213 ล้านบาท ทำเลปราณบุรี ขายได้ 60.2% มูลค่าที่ขายได้ 1,233 ล้านบาท  ทำเลเขาหินเหล็กไฟ ขายได้ 56.8% มูลค่าที่ขายได้ 3,821 ล้านบาท และ ทำเลหัวหิน ขายได้ 51.3% มูลค่าที่ขายได้ 630 ล้านบาท ตามลำดับ

 

ส่วนทำเลคอนโดมิเนียมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลหัวหิน ขายได้ 93.4% มูลค่าที่ขายได้ 7,183 ล้านบาท ทำเลเขาตะเกียบ ขายได้ 82.1% มูลค่าที่ขายได้ 6,945 ล้านบาท  ทำเลปราณบุรี ขายได้ 81.8% มูลค่าที่ขายได้ 1,596 ล้านบาท  และทำเลเขาหินเหล็กไฟ ขายได้ 74.4% มูลค่าที่ขายได้ 427 ล้านบาท ตามลำดับ

 

โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดเพชรบุรีมีจำนวน 63 โครงการ มียูนิตในผังของทุกโครงการรวมกัน 14,418 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 59,985 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 3,101 ยูนิต (21.5% ของยูนิตในผังโครงการทั้งหมด) คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 11,604 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 46 โครงการ มีจำนวนหน่วย 2,733 ยูนิต

 

มูลค่าโครงการรวม 13,838 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 990 หน่วย คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 4,101 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 14 โครงการ มีจำนวนยูนิต 11,631 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 43,967 ล้านบาท มียูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,105 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 7,244 ล้านบาท และมีโครงการวิลล่าจำนวน 3 โครงการ มียูนิตในผังจำนวน 54 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,180 ล้านบาท ยูนิตเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 6 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ายูนิตเหลือขาย 260 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ยูนิตเหลือขายโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมจำนวน 3,095 ยูนิต เป็นคอนโดมิเนียมมากที่สุด 68.0% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5  ล้านบาท รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 23.1% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2–3 ล้านบาท เป็นที่ดินเปล่า 4.1% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1–1.5 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3.2% ส่วนใหญ่เป็นอยู่ในระดับราคา 5 – 7.5  ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ ตามลำดับ

 

ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดเพชรบุรีที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลหาดเจ้าสำราญ ขายได้ 77.7%  มูลค่าขายได้ 239 ล้านบาท  ทำเลชะอำตอนเหนือ ขายได้ 71.1% มูลค่าที่ขายได้ 4,686 ล้านบาท  ทำเลในเมืองเพชรบุรี ขายได้ 66.3% มูลค่าที่ขายได้ 1,061 ล้านบาท  และทำเลชะอำตอนใต้ ขายได้ 55.6% มูลค่าที่ขายได้ 3,752 ล้านบาท ตามลำดับ

 

ส่วนทำเลคอนโดมิเนียมในจังหวัดเพชรบุรีที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลชะอำตอนใต้ ขายได้ 88.1% มูลค่าที่ขายได้ 6,718 ล้านบาท ทำเลชะอำตอนเหนือ ขายได้ 81.5% มูลค่าที่ขายได้ 29,956 ล้านบาท และทำเลในเมืองเพชรบุรี ขายได้ 52.1% มูลค่าที่ขายได้ 50 ล้านบาท ตามลำดับ

 

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด