Tag : AP (Thailand)

รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น” พรีเมียมทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่

รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น” พรีเมียมทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่

พรีเมียมทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า ดีไซน์ใหม่ล่าสุดจาก AP (THAILAND) ดึงความโมเดิร์น เรียบง่าย ผสมผสานกับการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในขนาดใหญ่ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และยังสามารถรองรับทุกคนในครอบครัว โดดเด่นด้วยการออกแบบให้เพดานและหน้าต่างสูงขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ เพิ่มเติมความสดชื่นอย่างใกล้ชิด   สภาพแวดล้อมภายในโครงการที่เป็นธรรมชาติแตกต่างอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางสำหรับกิจกรรมอันหลากหลาย อาทิ BIOPHIILIC CITY  คลับเฮาส์ที่มีความโปร่ง สามารถเชื่อมต่อทุกกิจกรรมเข้ากับธรรมชาติรอบตัวได้อย่างลงตัว ครบทั้งฟิตเนส และสระว่ายน้ำ   NATURAL LEARNING พื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็ก "Play Area & Tree House" ส่งเสริมพัฒนาการของสมอง ความจำเรื่องสี ตัวอักษร ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี   HERB GARDEN เพื่อส่งเสริมให้เกิดคอมมูนิตี้คุณภาพภายในโครงการ ผ่านพื้นที่การทำสวน ชื่อโครงการ Pleno Ramintra Bangchan Station (พลีโน่ รามอินทรา บางชัน สเตชั่น) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ.รามอินทรา ซ.รามอินทรา 117 แขวงบางชัน เขตคลองสามสา กรุงเทพฯ 10510 พื้นที่โครงการ 26-3-15.1 ไร่ ลักษณะโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่จอดรถ 2 คัน จำนวนหลัง 252 ยูนิต ขนาดที่ดิน 17.5 ตร.ว. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะ,Security Gate , รปภ. 24 ชม., Bluetooth Card, CCTV, Katsan ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท* จุดเด่นโครงการ ทาวน์โฮมโมเดลดีที่สุด ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต      ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชัน   จุดขึ้น-ลงทางด่วน ถ.กาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก)  สถานที่ใกล้เคียง Fashion Island, The Promenade, CentralPlaza Ramindra, Amorini Mall, Ease Park, ตลาดพระยาสุเรนทร์, ตลาดกองหนุน, รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ, รร.บางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์), รร.สารสาสน์วิเทศมีนบุรี, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี, รพ.สินแพทย์, รพ.พญาไท นวมินทร์, รพ.นพรัตน์ราชธานี, รพ.นวมินทร์ ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา, สวยสยาม, ซาฟารีเวิลด์ , สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา  ภาพ "Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น" ทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า   Living Area : เพลิดเพลินกับพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่สุด สามารถรองรับการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว Luxurious Master Bedroom เหนือกว่าด้วยการดีไซน์เพดานและหน้าตาให้สูงขึ้นเพื่อเชื่อมต่อธรรมชาติ ให้ความสดชื่น เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น และ walk in closet เพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัว รายละเอียดโครงการ "Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น" ทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า เพิ่มเติม Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น โครงการอื่นจาก AP (THAILAND) Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ Pleno บางนา-อ่อนนุช Pleno บางใหญ่ 2 Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์
รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ” พรีเมี่ยมทาวน์โฮม

รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ” พรีเมี่ยมทาวน์โฮม

ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 จอดรถ ดีไซน์โมเดิร์น เรียบง่าย ตอบโจทย์รสนิยมคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี รังสรรค์ทุกฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ ภายในบ้านพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง รองรับการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว Luxurious Master Bedroom ออกแบบให้กว้างขวางและหรูหรา รองรับครอบครัวที่มีจำนวนที่มากขึ้นตั้งแต่ 2-6 คน   ส่วนกลางและ Facilities บรรยากาศไตล์รีสอร์ท ท่ามกลางสภาพแวดล้อมความเป็นส่วนตัวและความร่มรื่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของแม่น้ำและความเป็นประกายของแสงเมื่อตกกระทบ สู่ดีไซน์ใหม่เพื่อรังสรรค์ Club House 2 ชั้น ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการใช้งานได้จริง และดีไซน์ที่สวยงามให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดทั้งวัน และรองรับกิจกรรมที่มากมาย   NEW URBAN CONNECT เดินทางสะดวกเชื่อมต่อเข้าสู่แจ้งวัฒนะเพียง 10 นาที* Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ สามารถเข้า-ออกได้ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1. เดินทางจากถนนชัยพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหอการค้าไทย ระยะทาง 4 กม. ถึงโครงการ 2. เดินทางจากถนน 345 เลี้ยวซ้ายเข้าถนน อบจ.ริมคลองเกาะเกรียง ระยะทาง 1 กม. ถึงโครงการ   ชื่อโครงการ Pleno Ratchapruek-Chaengwattana (พลีโน่ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ. อบจ. ริมเกาะเกรียง ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 12000 พื้นที่โครงการ 30-1-63 ไร่ ลักษณะโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 นอน 2 น้ำ  ที่จอดรถ 2 คัน จำนวนหลัง 301 ยูนิต ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 17.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 106.85 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ACTIVE SHARING SPACE  สระว่ายน้ำ, Fitness, Kids Gym , EXCLUSIVE & GREEN SPACE, บริเวณพักผ่อน, Education Play ground, สวนสาธารณะ, Herb garden , Co-Sharing Space, Pet Park, Pavilion Panoramic Views Security Gate, รปภ. 24 ชม., Bluetooth Card, CCTV, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic, Katsan ราคาเริ่มต้น 1.99  ล้านบาท* จุดเด่นโครงการ 10 นาทีถึงแจ้งวัฒนะ ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต สถานีปากเกร็ด      ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีปากเกร็ด และรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ       จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนศรีรัช และถ.กาญจนาภิเษก สถานที่ใกล้เคียง Central แจ้งวัฒนะ, The Tree Avenue, Crystal PTT, โรบินสัน ศรีสมาน, Home pro, Chic republic, Impact อารีน่า เมืองทองธานี, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี,โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า, โรงพยาบาลปากเกร็ด, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ภาพบรรยากาศในโครงการทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า "Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ" ภาพบ้านตัวอย่าง "Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ" รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช Pleno บางใหญ่ 2 Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์
รีวิวคอนโด วิวแม่น้ำเจ้าพระยา “RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน”

รีวิวคอนโด วิวแม่น้ำเจ้าพระยา “RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน”

"RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน" แฟล็กชิพลักชัวรี่คอนโด โครงการ่วมทุนลำดับที่ 18 ระหว่างบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนท์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) ออกแบบภายใต้แนวคิด The Luxury Gated Community พร้อมคอมมิวนิตี้ที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่นให้อยู่อาศัยร่วมกันได้ด้วยการบาลานซ์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยอย่างลงตัว บนที่ดินถนนเจริญกรุง ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมต่อ CBD สาทร และห่างจากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี เพียง 100 เมตร   ในปี 2020 นี้ AP (Thailand) ได้พัฒนาแนวคิดคอนโดมิเนียมใหม่ ‘Dynamic Personalized Model’ โมเดลการออกแบบและพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบและคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น (Living Pattern) รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการเพื่อให้ได้ คอนซูเมอร์ อินไซต์ (Consumer Insight) ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละโครงการ โดยการผนวก ‘เทรนด์การใช้ชีวิตยุคใหม่’ เข้ากับกระบวนการคิดเชิงออกแบบ ภายใต้ 3 คีย์สำคัญ "เข้าใจ โดนใจ และมั่นใจ" ถ่ายทอดสู่โครงการแรกของปี "RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน"   ชื่อโครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริธึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ.เจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 พื้นที่โครงการ 4-2-76.6 ไร่  ลักษณะโครงการ High Rise  จำนวนอาคาร 1 อาคาร  จำนวนชั้น 44 ชั้น และ 1 ชั้นใต้ดิน และริธึ่ม พาวิลเลี่ยน 1 อาคาร สูง 1 ชั้น และ 2 ชั้นใต้ดิน จำนวนยูนิต 421 ยูนิต (ร้านค้า 1 ยูนิต) ขนาดห้อง  1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาด 75.5–128.5 ตร.ม. 3 Bedroom ขนาด 134–159 ตร.ม. 4 Bedroom ขนาด 184–228 ตร.ม.   ที่จอดรถ จำนวน 421 คัน (100% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง Sky Lounge, Play Space, Infinity Edge Pool ยาวกว่า 47 เมตร, Kid Pool, FOR CO-Generations Living, Fitness ปีที่สร้างเสร็จ ประมาณ Q4 ปี 2565 ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 155,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ คอนโดมิเนียมลักชัวรี่วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งแรกของคอนโดใจกลางเมืองกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่กว่า 3.5 ไร่ ที่รองรับการอยู่อาศัยร่วมกันของกลุ่มครอบครัวเมืองควบคู่ไปกับการบาลานซ์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน   จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง Asiatique The Riverfront, โรบินสัน, Makro สาทร, Central Plaza พระราม 3, Tree On 3, TTN Avenue, Market Place นางลิ้นจี่, เทสโก้ โลตัส, The Up พระราม 3, โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ (ริเวอร์ไซด์), กรุงเทพคริสเตียน, อัสสัมชัญบางรัก, อัสสัมชัญคอนแวนต์บางรัก, อัสสัมชัญคอนแวนต์สีลม, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์, โรงพยาบาล BNH ห้องตัวอย่างโครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คอนโด วิวแม่น้ำเจ้าพระยา   รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน  โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) Aspire Ngamwongwan Aspire Sukhumvit-Onnut THE SONNE Srinakarin-Bangna บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช
รีวิวคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ใช้ชีวิตแบบ Modern Lifestyle ที่ Aspire Ngamwongwan-แอสปาย งามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

รีวิวคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ใช้ชีวิตแบบ Modern Lifestyle ที่ Aspire Ngamwongwan-แอสปาย งามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

สำหรับโครงการ Aspire Ngamwongwan หลายคนคงคุ้นเคยกันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะคะ เพราะตัวโครงการเองสร้างเสร็จพร้อมอยู่มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่สำหรับใครที่เป็นลูกบ้านที่นี่อยู่แล้วก็น่าอิจฉานะคะ เพราะล่าสุดได้ทำ Lobby Space ใหม่ สวยงามหรูหรากว่าเดิม เรียกได้ว่าเพิ่มเติมสิ่งดีๆ ให้อยู่ตลอด ซึ่งล่าสุดก็เหลือยูนิตล็อตสุดท้ายแค่ 5% แล้วค่ะ ใครยังลังเลอยู่ก็ชมรีวิวฉบับนี้ก่อนรีบตัดสินใจพร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษได้เลยค่ะ  ทำเลของการใช้ชีวิตแบบ Modern Lifestyle   ในการเลือกที่อยู่อาศัยใหม่สักแห่งก็คงจะหนีไม่พ้นปัจจัยหลักที่ทุกคนต้องคำนึงถึง นั่นคือเรื่องของอาหารการกินรอบๆ กับการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะด้วยรถสาธารณะหรือรถส่วนตัวก็ตาม ยิ่งถ้าอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยเดิมอยู่แล้ว หรือแหล่งของนักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน ก็จะยิ่งเป็นการการันตีได้ในระดับหนึ่งว่า แวดล้อมโครงการนั้นจะเต็มไปด้วยของกินมากมาย รวมถึงการเดินทางก็ง่ายตามไปด้วย   หนึ่งในทำเลแบบที่ว่านี้ก็คือถ.งามวงศ์วาน เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถ.รัตนาธิเบศร์ บริเวณสี่แยกแคราย กับถ.พหลโยธิน บริเวณแยกเกษตร ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ผ่านตลอดทั้งถนน มีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปี 63 ในแง่ของการเดินทาง หากใครที่ใช้ทางด่วนบ่อยๆ ก็สะดวกเลยค่ะ เพราะจะใกล้กับทางด่วนศรีรัช โดยแนะนำให้เข้าซ.ชินเขต 1 ข้างโครงการเลยค่ะ ไปทะลุออกถ.ประชาชื่น บริเวณแยกพงษ์เพชร แล้วผ่านหน้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน แล้วขึ้นทางด่วนได้เลยค่ะ หรือจะใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลเวย์) ก็มีระยะทางเพียงกิโลกว่าๆ ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ถึงสนามบินดอนเมืองแล้วค่ะ   สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการก็มีทั้งเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, พันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน, เทสโกโลตัส, โฮมโปร, รพ.นนทเวช, รพ.วิภาวดี, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์, ม.เกษตรศาสตร์  ฯลฯ รวมถึงอาหารการกินใกล้โครงการแบบที่เดินชิวๆ ไปได้เลยก็มีให้เลือกไม่น้อย เรียกได้ว่าอยู่ย่านนี้ของกินไม่ขาดค่ะ ภาพรวมโครงการ Aspire Ngamwongwan คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่  Aspire Ngamwongwan คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 1 อาคาร จำนวน 3 ทาวเวอร์ โดยแบ่งป็น  South ทาวเวอร์ สูง 28 ชั้น (อาคารส่วนหน้าของโครงการ) ชั้น G เป็นพื้นที่ร้านค้า นิติบุคคล และพื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 2- 28 เป็นที่พักอาศัย North ทาวเวอร์ สูง 28 ชั้น (อาคารตรงกลางระหว่าง South ทาวเวอร์ กับอาคารจอดรถ) ชั้น G เป็นพื้นที่ร้านค้า นิติบุคคล และพื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 2- 28 เป็นที่พักอาศัย อาคารจอดรถ สูง 9 ชั้น (หลังสุดของที่ดินโครงการ) ชั้น 1-8 อาคารจอดรถ ชั้น 9 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่โครงการ 9-3-40 ไร่ อยู่ติดกับซ.ชินเขต 1 ใกล้กับสี่แยกพงษ์เพชร ริมถ.งามวงศ์วาน ฝั่งมุ่งหน้าถ.วิภาวดี มีห้องพักอาศัยรวม 1,458 ยูนิต โดยจะมี 2 Type ให้เลือก A และ B ขนาด 28 ตร.ม. เท่ากันทั้งหมด   Lifestyle Facilities ครบครัน ร่มรื่นด้วยพื้นที่สวนสวยขนาดใหญ่กว่า 4 ไร่ Facilities ของ Aspire Ngamwongwan จะเริ่มกันตั้งแต่พื้นที่หน้าโครงการเลยค่ะ เมื่อผ่านป้อมรักษาความปลอดภัยเข้าไปแล้วจะพบกับสวนสีเขียว มีที่นั่งเล่นพักผ่อน และ Street Playground สนามบาสเกตบอลสำหรับไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์ตรีม ก่อนจะส่งเข้าสู่ตัวอาคารที่พัก ซึ่งต้อนรับด้วย Freedom Lobby Space ที่เพิ่งจะปรับรูปแบบใหม่โดดเด่นหรูหรากว่าเดิมด้วยการตกแต่งใหม่แบบ French Country สุดหรูหราผสมผสานกับ Contemporary ความทันสมัย จะนั่งเล่นก็เพลิน จะรับแขกก็ดูดี   เดินเล่นลึกเข้าไปอีกสักนิดก็จะผ่านโถงพักผ่อนส่วนกลาง ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท ซึ่งเป็นจุดที่เป็นช่องลมพอดี จึงออกแบบมาให้เปิดโล่ง เพดานสูงโปร่งให้ลม Flow นั่งชิวๆ ได้ตลอดวัน   ส่วน Facilities หลักจะอยู่บนชั้น 9 ของอาคารจอดรถ จะมีทั้งสระว่ายน้ำที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้ ฟิตเนส ซาวน่า สตรีม ถือเป็นส่วนกลางที่มีความเป็นส่วนตัวหลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอกได้ดีทีเดียวค่ะ   Co-creation Space & Study Room  ถ้าอยากได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ก็ลองมานั่งเล่นผ่อนคลายกับกลุ่มเพื่อน จะทำงานพร้อมวิวมุมสูงโล่งๆ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรับลมที่ Rooftop Garden   แนวคิดการวางฟังก์ชั่นภายในห้องอย่างลงตัว เข้าใจทุกการใช้งานของผู้อยู่อาศัย Plan ที่ดินแนวลึกของโครงการอยู่ติดริมถ.งามวงศ์วาน ซึ่งอยู่ในทิศใต้ South ทาวเวอร์ จึงเป็นอาคารส่วนแรกจากถนนใหญ่เชื่อมต่อกับฝั่ง North ทาวเวอร์ ในลักษณะตัว L และอาคารจอดรถอยู่ด้านในสุดของที่ดิน   แปลนชั้น 9 ซึ่งเป็น Rooftop ของอาคารจอดรถ Facilities หลักของโครงการ ชมห้องตัวอย่าง สำหรับห้องตัวอย่างบนอาคารจริงจะมีทั้ง Type A และ B ขนาด 28 ตร.ม. ค่ะ ซึ่งแต่ละ Type จะวาง Layout เอาไว้ต่างกัน ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่าลงตัวที่สุด โดยโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ซึ่งสิ่งที่จะได้มาพร้อมติดตั้งให้เลยมีดังนี้ เคาน์เตอร์ครัว พร้อมซิงค์ล้างจาน และ Hob&Hood จากแบรนด์ Teka สุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบชุด ได้แก่ อ่างล้างหน้าแบบแขวน (COTTO) กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ (ENGLEFIELD) สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ราวแขวนผ้า และกระจกกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน เครื่องปรับอากาศแบบแขวนผนัง 2 ตัว วัสดุพื้นห้องใช้ลามิเนต พื้นห้องน้ำและระเบียงใช้กระเบื้องเซรามิค ผนังสีขาวฉาบเรียบ   Type A 28 ตร.ม. เป็น Layout ที่วางครัวเปิดเอาไว้ส่วนแรกของห้องค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะสามารถวางโต๊ะทานข้าวเอาไว้ แยกออกเป็นสัดส่วน แม้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งไม่ได้มีการกั้นห้องออกจาก Living แต่จะมีข้อดีตรงที่ได้ Space แนวลึก และโล่งมากกว่า   Living Room สามารถวางโซฟาได้ 2-3 ที่นั่ง พร้อมกับโต๊ะกลางขนาดเล็กค่ะ เพื่อให้เหลือพื้นที่ทางเดินที่เชื่อใต่อกับระเบียงได้โล่งขึ้น   ฟังก์ชั่นอีกด้านของห้องจะเป็น Bedroom ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังเคาน์เตอร์ทีวี ซึ่งภายใน Bedroom มีพื้นที่สำหรับวางเตียงประมาณ 5 ฟุต พร้อมกับตู้เสื้อผ้า เหลือพื้นที่กว้างรอบเตียง ส่วนหน้าต่างจะใช้แบบบานกระทุ้งเปิดออกได้ 1 บานค่ะ   Type B 28 ตร.ม. Layout จะแบ่งโซนออกเป็นสัดส่วนมากขึ้นค่ะ เริ่มด้วยพื้นที่ Living Room เป็นส่วนแรก มีพื้นที่วางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมกับวางโต๊ะทำงานได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นวางโซฟาตัวยาวไปเลยก็ได้นะคะ   ด้านในกั้นเป็น Bedroom วางเตียงขนาด 5-6 ฟุต แล้ววางตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งไว้พื้นที่ปลายเตียงได้ ซึ่งมุมห้องนอนจะเป็นกระจกใส แทนที่จะเป็นผนังทึบ ตรงนี้จะทำให้ห้องของเราดูไม่อึดอัด แต่กลับโปร่งขึ้น ได้แสงสว่างส่องเข้ามาในห้องอย่างทั่วถึงมากขึ้น ทำให้ห้องนี้มีข้อดีตรงที่ไม่มีมุมอับแสง   ฟังก์ชั่นห้องครัวจะแบ่งออกเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ ซึ่งห้องครัวจะเชื่อมต่อระหว่างห้องน้ำกับระเบียงห้อง   สุดท้ายเรานำภาพวิวจากห้องพักมาฝากกันค่ะ บรรยากาศพระอาทิตย์ตกในวิวเมืองแบบโล่งๆ ไม่มีอาคารสูงมาบดบัง เป็นวิวที่ได้จากห้องพักของเราเอง ซึ่งยูนิตที่นำมาจัดโปรโมชั่นสุดท้ายเป็นห้องชั้นสูงแบบนี้ ในราคาเริ่มต้นแค่ 1.89 ล้านบาท* โอกาสสุดท้ายสำหรับโครงการ Aspire Ngamwongwan    รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม  Aspire Ngamwongwan   โครงการอื่นจาก AP (THAILAND) Life Asoke Hype Life Asoke Hype Aspire Sukhumvit-Onnut Aspire Erawan
“พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช” พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น จากสุนทรียะแห่งธรรมชาติ…สู่วิถีชีวิตที่สะดวกสบาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว : รีวิวทาวน์โฮม

“พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช” พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น จากสุนทรียะแห่งธรรมชาติ…สู่วิถีชีวิตที่สะดวกสบาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว : รีวิวทาวน์โฮม

ให้ทุกการใช้ชีวิตของครอบครัวออกแบบเองได้ที่ "พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช" โครงการพรีเมี่ยมทาวน์โฮมคุณภาพ บนทำเลศักยภาพจาก AP THAI พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุก Lifestyle การอยู่อาศัยบนพื้นที่ส่วนตัว รวมถึงสังคมคุณภาพเหมาะแก่การเริ่มต้นครอบครัวที่ดีที่สุด พร้อมเชื่อมต่อได้ทุกทำเลด้วยการเดินทางที่หลากหลาย ทั้งถนนกิ่งแก้ว ถนนบางนา-ตราด ถนนลาดกระบังและถนนอ่อนนุช อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้า Airport Link สถานีลาดกระบัง เพียง 15 นาที อีกด้วย   ที่นี่.. เราให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่โดยผ่านการคิดและออกแบบเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างลงตัว ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นและเงียบสงบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Symbol of Luxuriant Nature สุนทรียะแห่งธรรมชาติ สู่วิถีชีวิตอันงดงาม” กับดีไซน์โดดเด่น มาพร้อมกับการออกแบบพื้นที่การใช้สอยที่รองรับการใช้งานของทุกคนภายในบ้าน กับฟังก์ชั่นพื้นที่ที่รองรับไลฟ์สไตล์ที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคตและ LIVING AREA ที่กว้างขวางมากขึ้นให้เป็นพื้นที่คุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว   นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางก็มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่มอบความร่มรื่น และ สามารถรองรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮ้าส์ ที่ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ท ระบบเกลือ รวมถึง Jogging Track ให้คุณได้ออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติ ที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการ พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช ตั้งอยู่บนซอยกิ่งแก้ว 37 หากมาจากเส้นทางถนนลาดกระบัง ให้เลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วมาประมาณ 2.8 km กลับรถบริเวณซอยกิ่งแก้ว 44 จากนั้นเลี้ยวเข้าซอย กิ่งแก้ว 37 มาประมาณ 2 km โครงการจะอยู่ด้านซ้ายมือ หากมาจากเส้นถนนบางนา สามารถเลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วมาประมาณ 6.9 km จากนั้นเลี้ยวเข้าซอย กิ่งแก้ว 37 มาประมาณ 2 km จะพบโครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ   นอกจากนี้ตัวโครงการยังตั้งอยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างง่ายดาย ใกล้ Airport Link สถานีลาดกระบัง สามารถเชื่อมต่อสู่สนามบินเพียงไม่กี่นาที พร้อมทางด่วนที่เชื่อมต่อพระราม9 - บางนา เข้าสู่ใจกลางเมืองได้รวดเร็ว   รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ:                              พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช ที่ตั้งโครงการ:                             ซอยกิ่งแก้ว 37 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ลักษณะโครงการ:                        พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา เจ้าของโครงการ:                         บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร:                                           021800316-18 จำนวนบ้าน:                               423 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย:                              106.85 ตร.ม. วันที่เริ่มก่อสร้างโครงการ:             เดือนมีนาคม  2561 วันที่คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ:   เดือนเมษายน 2566 รายละเอียดแบบบ้าน:           3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก:         สวนสาธารณะภายในโครงการ, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, คลับเฮ้าส์, Jogging Track ระบบรักษาความปลอดภัย:   รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง, ประตูรั้วเหล็กอัตโนมัติ พร้อมระบบ easy pass, กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ และถนนภายในโครงการ รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร เส้นทางคมนาคม:                 ถนนกิ่งแก้ว, ถนนบางนา, ถนนลาดกระบัง, ถนนอ่อนนุช ระบบขนส่งมวลชน:               มอเตอร์เวย์ 5.8 km, Airport Link (สถานีลาดกระบัง) 5.8 km, ถ.วงแหวน 9.1 km, ทางด่วนบูรพาวิถี 10.3, รถประจำทางสาย 553 สถานศึกษา:                           ม.ราม 2 9.9 km, รร.เทพศิรินทร์ ร่มเกล้า 10.4 km, ม.ลาดกระบัง 12.3 km, ม.หัวเฉียว 16 km, รร.เตรียมอุดมศักษาพัฒนาการ 16.9 km, รร.ราชวินิตบางแก้ว 17.6 km ห้างสรรพสินค้า:                    Paseo 6.5 km, ตลาดบางพลีใหญ่ 10 km, Makro 10 km, Homepro Village 12.2 km, Mega Bangna 15.7 km สถานพยาบาล:                      รพ.จุฬารัตน์ 9 3.7 km, รพ.สิรินธร 8.9 km, รพ.จุฬารัตน์1 10.7 km, รพ.ปิยะมินทร์ 17.4 km สถานที่อื่นๆ:                          สนามบินสุวรรณภูมิ 6.8 km     พบกันที่ พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น บนสังคมเหนือระดับ กับทำเลศักยภาพใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า Airport Link พร้อมเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้หลากหลายเส้นทาง เปิดตัวครั้งแรก! นวัตกรรมใหม่ “บ้านพูดได้” อีกขั้นของนวัตกรรมความปลอดภัย คุณภาพชีวิตที่ดี เริ่มต้นจากสังคมที่ดี Pleno บางนา-อ่อนนุช ท้าให้คุณมาสัมผัสความแตกต่าง กับพรีเมียมทาวน์โฮมพร้อมสระว่ายน้ำหรูและสวนขนาดใหญ่ ในสังคมคุณภาพจาก AP ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และแอร์พอร์ตลิงค์ลาดกระบัง   #PlenoDay #เปย์แหลกแจกไม่อั้น #เปิดเฟสใหม่ ใกล้คลับเฮ้าส์ #ลดจัดเต็ม ✓จอง 0 บาท* ✓โอน 0 บาท* ✓ลด 300,000 บาท* ✓ส่วนลด Registerx2 ✓แอร์ทั้งหลัง ✓ ฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย เริ่ม 2.49 ล้าน* >> https://bit.ly/2D3iAS4    
“บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน” ลัคชัวรี่ทาวน์โฮม 3 ชั้น พร้อมฟังก์ชั่นบ้านเหนือระดับ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการพักผ่อนเหมือนอยู่ในเรือสำราญสุดหรู : รีวิวทาวน์โฮม

“บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน” ลัคชัวรี่ทาวน์โฮม 3 ชั้น พร้อมฟังก์ชั่นบ้านเหนือระดับ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการพักผ่อนเหมือนอยู่ในเรือสำราญสุดหรู : รีวิวทาวน์โฮม

“บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน” โครงการลัคชัวรี่ทาวน์โฮมคุณภาพดีไซน์ใหม่กับแบบบ้าน TERAARIA 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2 คัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความสะดวกสบายสำหรับทุกคนในครอบครัว รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ใกล้ถนนบางนา ถนนลาดกระบัง ถนนกิ่งแก้ว ถนนศรีนครินทร์ พระราม9 – มอเตอร์เวย์ BTS อุดมสุข และสนามบินสุวรรณภูมิ   พร้อมสัมผัสกับความสุขในโลกส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BEYOND THE LEISURE EXPERIENCE” จากแรงบันดาลใจจากเรือสำราญ สู่ประสบการณ์เหนือระดับของการอยู่อาศัยใหม่ ด้วยฟังก์ชั่นและการขยายพื้นที่เพื่อตอบโจทย์บ้านในฝัน บนสังคมคุณภาพที่วางแผนมาเพื่ออนาคต ให้ทุกวันในการอยู่อาศัยเป็นเวลาที่ผ่อนคลายและมีความสุขเหมือนได้พักผ่อนอยู่ในเรือสำราญ   ที่นี่...เราให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ที่ผ่านการคิดและการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง และ เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด สามารถรองรับการใช้งานในทุกกิจกรรมและความชอบที่แตกต่าง กับคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่สุดหรูแห่งแรกที่ได้แรงบันดาลใจจากกิจกรรมที่หลากหลายในการล่องเรือสำราญ อาทิ Co-working Space ส่วนตัวในการทำงาน, Luxury water fall bar ที่รองรับกิจกรรมในรูปแบบ pool party, Resort Vista park พื้นที่สีเขียวแบบรีสอร์ทสุดหรู และ Private Lounge พื้นที่พักผ่อนส่วนตัวอย่างมีระดับ เป็นต้น   ที่ตั้งโครงการ สำหรับตัวโครงการ บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่บนเขตตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สามารถเชื่อมต่อเส้นทางหลักได้หลายสาย ได้แก่ ถนนบางนา ถนนลาดกระบัง ถนนกิ่งแก้ว ถนนศรีนครินทร์ พระราม9 – มอเตอร์เวย์ นอกจากนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข และสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย   รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน ที่ตั้งโครงการ : เขตตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จำนวนบ้าน : 217 ยูนิต รายละเอียดแบบบ้าน : แบบบ้าน TERRARIA พื้นที่ใช้สอย 152 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย : 152 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก :  คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน, สวนสาธารณะ ระบบสายไฟฟ้าปักเสาพาดสาย ตามแบบมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวง, ระบบท่อเมนประปา ตามมาตรฐานการประปานครหลวง ระบบรักษาความปลอดภัย : เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, Gate ทางเข้า-ออกโครงการ, ระบบเข้า - ออกโครงการ แบบ KATSAN พร้อมป้อมรปภ.รักษาความปลอดภัย, ระบบ CCTV ทางเข้า-ออกโครงการ และกระจายตามถนนของโครงการใช้ระบบ Ap Visitor ในการบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อโครงการ เส้นทางคมนาคม : ถนนบางนา 3.5 กม., ถนนลาดกระบัง 9 กม., ถนนกิ่งแก้ว 4.5 กม., ถนนศรีนครินทร์ 7.5กม., พระราม9–มอเตอร์เวย์ 5.5 กม., แอร์พอร์ตลิงค์ทับช้าง 6.5 กม., BTS อุดมสุข 12.0 กม., สนามบินสุวรรณภูมิ 15.0 กม. สถานศึกษา : ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เดินทาง 30 นาที, ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว เดินทาง 15 นาที, มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 เดินทาง 15 นาที, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เดินทาง 30 นาที ห้างสรรพสินค้า : Maga บางนา เดินทาง 10 นาที, Central บางนา เดินทาง 20 นาที, The Paseo Park เดินทาง 15 นาที, บุญถาวร เดินทาง 10 นาที สถานพยาบาล : ร.พ.ไทยนครินทร์ บางนา เดินทาง 30 นาที, ร.พ.ไทยศิครินทร์ บางนา เดินทาง 30 นาที, ร.พ. จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เดินทาง 10 นาที   เตรียมพบกับโครงการใหม่!!! บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน ทาวน์โฮม 3 ชั้นโมเดลใหม่กับฟังก์ชั่นบ้านเดี่ยว สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการ พร้อมพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน บนทำศักยภาพติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก พิเศษ! 24–25 สิงหาคม นี้ Pre-Sale โครงการใหม่ จาก “AP UPPER EAST STATE” เมกะโปรเจกต์แห่งใหม่ เพื่อการใช้ชีวิตเหนือระดับ ด้วยภาพลักษณ์สังคมที่อยู่อาศัยและธุรกิจระดับไฮเอนด์ มอบเอกสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว ทั้งยังรายล้อมไปด้วยพื้นที่เศรษฐกิจและคอมมูนิตี้แห่งใหม่ของโซนบางนาใกล้ Mega บางนา และทางด่วน เริ่ม 4.77 ลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิพิเศษสูงสุด 100,000 บาท* คลิก>>> https://bit.ly/2MfL2Xl    
รีวิวบ้าน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 “THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา” Luxury Duplex Home ระดับแฟล็กชิพ

รีวิวบ้าน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 “THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา” Luxury Duplex Home ระดับแฟล็กชิพ

บ้านแบรนด์ใหม่ล่าสุดจาก AP Thailand "THE SONNE Srinakarin-Bangna" (เดอะ ซอนเน่ ศรีนครินทร์-บางนา) บ้านแนวคิดใหม่ Luxury Duplex Home ระดับแฟล็กชิพลักชัวรี่ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The New Original’ เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์นิยมสินค้าหรือบริการที่สะท้อนตัวตน มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถรองรับการอยู่อาศัยร่วมกันของสมาชิกทุกวัยในครอบครัวใหญ่แบบ Cross Generations ชื่อโครงการ THE SONNE Srinakarin-Bangna (เดอะ ซอนเน่ ศรีนครินทร์-บางนา) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ 99 ซ.เฉลิมพระเกีรติ ร.9 ซอย 28 แยก 14-2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ จ.กรุงเทพฯ 10250 พื้นที่โครงการ 12-1-16 ไร่ ลักษณะโครงการ Luxury Duplex Home 3 ชั้น หน้ากว้าง 13.56 เมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องอเนกประสงค์ และ ที่จอดรถ 2 คัน จำนวนหลัง 56 ยูนิต ขนาดที่ดิน 40-73 ตร.วา  พื้นที่ใช้สอย สูงสุด 249 ตารางเมตร แบบบ้าน  TYPE A 249.14 ตร.ม. TYPE B 244.72 ตร.ม. TYPE C 245.84 ตร.ม. TYPE D 243.28 ตร.ม.     สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง พื้นที่ส่วนกลางภายใต้การออกแบบโดยยึดหลัก Universal Design เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันของสมาชิกหลากหลายช่วงวัย อาทิ คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ สวนสาธารณะขนาดใหญ่เปรียบดังโอเอซิสภายในโครงการ ราคาเริ่มต้น 12-15 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ  1.ครั้งแรกของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้บ้านทุกหลังมีเอกลักษณ์ความงามและความหรูหราที่แตกต่างด้วยกา รนำแรงบัลดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิค รังสรรค์เป็นแบบบ้านใหม่ Luxury Duplex Home ขนาดใหญ่ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง 2 ห้องอเนกประสงค์ และ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยสูงสุด 249 ตร.ม. 2.การเดินทางเข้าสู่โครงการอย่างง่ายดาย ด้วย 4 เส้นทางหลัก ได้แก่ ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ถนนศรีนครินทร์ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และ ถนนกาญจนาภิเษก 3.การเดินทางสะดวกสบายด้วยทำเลที่เข้าถึงได้ทุกการเดินทาง เชื่อมต่อสู่กลางใจเมือง ทั้งถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนา-ตราด และ ถนนอ่อนนุช ซึ่งถนนทั้ง 3 สาย เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร (CBD) ทั้งโซนสุขุมวิท และพระราม9 4.ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) (โครงการรถไฟฟ้าในอนาคต) จุดขึ้น-ลงทางด่วน ถ.กาญจนาภิเษก, บูรพาวิถี  สถานที่ใกล้เคียง เมกา บางนา, พาราไดซ์ พาร์ค, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เซ็นทรัล บางนา, สวนหลวง ร.9, สนามบินสุวรรณภูมิ ภาพบ้าน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 "THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา" รายละเอียดบ้าน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 "THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา" THE SONNE Srinakarin-Bangna โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) บ้านกลางเมือง รามอินทรา เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง CENTRO ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2  
Pleno บางใหญ่ 2 เติมเต็มทุกฟังก์ชั่นใช้งานทั่วทุกพื้นที่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno บางใหญ่ 2 เติมเต็มทุกฟังก์ชั่นใช้งานทั่วทุกพื้นที่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ : รีวิวทาวน์โฮม

พรีเมี่ยมทาวน์โฮมหรู ภายใต้คอนเซ็ปต์ RECONNECT WITH NATURE ที่รังสรรค์ทุกการออกแบบด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ผสานธรรมชาติกับพื้นที่สีเขียไว้ในที่เดียว ทั้งบ้าน คลับเฮ้าส์ และซุ้มประตูทางเข้าพร้อมพื้นที่ส่วนกลางระดับไฮเอนด์ ทั้งฟิตเนสเทควิวสวนแบบ Panorama, สระว่ายน้ำ และ Co-Living Space 2 จุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ   ชื่อโครงการ Pleno Bangyai 2 (พลีโน่ บางใหญ่ 2) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140 พื้นที่โครงการ 24-1-33.6 ไร่ ลักษณะโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 1 คัน จำนวนหลัง 270 ยูนิต ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 16.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 91.16 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ฟิตเนส, คลับเฮ้าส์, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะภายในโครงการ, พื้นที่ตั้งนิติบุคคล,สระว่ายน้ำ, กล้องวงจรปิด cctv, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, ระบบ KATSAN ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ ตอบโจทย์ชีวิตของคนเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยฟังก์ชั่นคุณภาพ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางระดับไฮเอนด์ ทั้งฟิตเนสเทควิวสวนแบบ Panorama สระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่ และ Co-Living Space 2 จุด บนทำเลศักยภาพ ใกล้ Central Westgate และรถไฟฟ้าสายสีม่วง 5 นาที* จุดขึ้น-ลงทางด่วน ถนนกาญจนาภิเษก, ทางพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ อินเตอร์  
Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์ พรีเมียมทาวน์โฮมในฝัน ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าเพียงแค่ 10นาที* : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์ พรีเมียมทาวน์โฮมในฝัน ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าเพียงแค่ 10นาที* : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์ ทาวน์โฮมฟังก์ชั่นบ้านเดี่ยว พร้อมความเป็นส่วนตัวเพียง 117 ยูนิต บนสังคมคุณภาพ พร้อมพื้นที่ Exclusive Clubhouse ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ PANORAMIC View และสนามเด็กเล่นที่มาช่วยเติมเต็มช่วงเวลาของคนในครอบครัวให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า เพียงแค่ 10 นาที ถึงสาธร   ชื่อโครงการ Pleno sathorn-suksawat (พลีโน่ สาทร-สุขสวัสดิ์) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ 55/7 ซอยสุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ จ.กรุงเทพฯ 10140 พื้นที่โครงการ 11-1-27.7 ไร่ ลักษณะโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 17.5 ตร.วา หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่จอดรถ 2 คัน จำนวนหลัง 117 ยูนิต ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105.42 ตร.ม.  สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ฟิตเนส, คลับเฮ้าส์, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะภายในโครงการ, พื้นที่ตั้งนิติบุคคล,สระว่ายน้ำ, กล้องวงจรปิด cctv, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, ระบบ KATSAN ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ สามารถเดินทางเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขสวัสดิ์, ถนนพุทธบูชา, ถนนประชาอุทิศ และ ถนนพระราม 2 และในอนาคตยังมีรถฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) ที่พร้อมเพิ่มทางเลือกให้กับการเดินทาง จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม สถานที่ใกล้เคียง Central Plaza พระราม 3,Big C บางปะกอก, Tesco Lotus บางปะกอก, Forest พระราม 2, Big C ราษฎร์บูรณะ, Makro Food Service ประชาอุทิศ, Big C ดาวคะนอง, Big C สุขสวัสดิ์, Max Valu ประชาอุทิศ, The Mall ท่าพระ,รร.สารสาสน์สุขสวัสดิ์, ม.พระจอมเกล้าฯ บางมด (KMUTT), รร.บางปะกอกวิทยาคม, รร.ดรุณสิกขาลัย, รร.จินดามณี, รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี, รพ.บางปะกอก 1, รพ.ราษฎร์บูรณะ, รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล, รพ.บางมด  
รีวิวทาวน์โฮม รามอินทรา “บ้านกลางเมือง รามอินทรา” ความสมบูรณ์แบบของการอยู่อาศัย

รีวิวทาวน์โฮม รามอินทรา “บ้านกลางเมือง รามอินทรา” ความสมบูรณ์แบบของการอยู่อาศัย

Feel @ Ramintra ถ้าจะหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวสักหลัง สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือการเดินทางไปไหนมาไหนได้ สะดวกสบายที่สุด ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นทางด่วน และรถไฟฟ้าใช่ไหมคะ? ทางด่วนใกล้บ้านเราเชื่อมต่อเข้าไปถึงในเมือง เพื่อความสะดวกเวลาทำงาน หรือไปสนามบิน ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดได้ง่าย ยิ่งถ้ามีรถไฟฟ้าผ่านด้วยแล้วล่ะก็ จะยิ่งทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่ดีเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรากำลังพูดถึงโซนรามอินทราค่ะ เพราะสามารถใช้ ทางด่วนฉลองรัช หรือกาญจนาภิเษกได้ง่าย ในอนาคตก็กำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย - มีนบุรี ผ่านตลอดทั้งถนน โดยตอนนี้กำลังก่อสร้างไปแล้วคาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณปี 2564 จะมีอะไรสะดวกสบายไปกว่านี้ล่ะคะ Fine @ Facility    สิ่งอำนวยความสะดวกก็สำคัญไม่แพ้การเดินทาง เพราะก็คงไม่มีใครอยากฝ่ารถติดขับรถออกไปไกลๆ เสียเวลาเป็นวัน เพียงเพื่อไปหาซื้อของต่างๆ หรือหาอาหารรับประทานซักมื้อ ซึ่งในโซนรามอินทราเองก็มีความสะดวกมากพอ และมีห้างร้านให้เลือกหลากหลาย ตามแต่ความต้องการ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างลองตามไปชมด้วยกันค่ะ   Fashion Island และ The Promenade Fashion Island และ The Promenade อยู่ติดกันเลยค่ะ เดินเชื่อมต่อกันได้เลย เป็นห้างสรรพสินค้าที่ครองความนิยม อย่างไม่เสื่อมคลายของชาวรามอินทรา ไม่ใช่แค่มีทุกอย่างครบครันในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต  ร้านค้า-บริการ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส นอกจากนั้นยังขยันมี Event หมุนเวียนกันมาชวนให้เดินเล่นอยู่ตลอด ซึ่งบริเวณด้านหน้าก็จะคึกคักเกือบจะตลอดเวลาเลยค่ะ มีรถสาธารณะอยู่หลากหลายเส้นทาง หรือใครที่ใช้รถยนต์ ก็สะดวกมาก เพราะสามารถเข้าสู่ถ.กาญจนาภิเษก ได้ใกล้นิดเดียว หรือจะเลือกไปทางถ.รัชดา-รามอินทรา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเดินทางแห่งหนึ่งของโซนนี้เลยค่ะ   CentralPlaza Ramindra เป็นห้างสรรพสินค้าอีกแห่งที่น่าสนใจในย่านนี้ค่ะ ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ก็การันตีอยู่แล้ว ประกอบกับทำเลที่อยู่ใกล้กับ วงเวียนหลักสี่ ซึ่งในอนาคตอีกไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นอีกจุด Interchange สำคัญ ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (ส่วนต่อขยาย) กับสายสีชมพูแคราย - มีนบุรี และจะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางจากชานเมืองเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่ายมากขึ้น     Ease Park คอมมูนิตี้มอลล์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่แค่อยากจะซื้อของในซุปเปอร์มาร์เกต หาอะไรทาน หรือแค่ Drive thru มารับกาแฟไปดื่ม ไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถนานๆ ไม่ต้องเปลืองเวลาเดินให้เมื่อย Ease Park จึงเป็นอีก หนึ่งคำตอบที่ดีของคนในย่านนี้ค่ะ   Cr.ภาพจาก FB:ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา เปลี่ยนบรรยากาศมาเดิน Night Market บนพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าเป็นตลาดนัดช่วงกลางคืน ตั้งแต่ยุคแรก ของบ้านเราที่มีมาหลายปี มีผู้คนมาเดินจับจ่ายใช้สอยเยอะแทบทุกวัน เพราะเป็นแหล่งชอปสุดชิว มีสินค้าหลากหลาย เต็มไปด้วยของกินอร่อยๆ เพียบ เปิดทุกวันตั้งแต่ช่วงเย็นเดินกันจนเมื่อยยาวไปถึงตีสอง นอกจากนี้ที่ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม หรือเรียกกัน ติดปากว่าเลียบด่วนรามอินทราแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร บรรยากาศดี คอมมูนิตี้ ห้างสรรพสินค้า อีกมากมาย หลายแห่ง แต่ก็ไม่แปลกนะคะที่ได้รับความนิยมกันมากขนาดนี้ เพราะเป็นถนนที่มีทางด่วนฉลองรัชพาดผ่านตลอดทั้งสาย การเดินทางก็ทั้งง่ายทั้งสะดวกขึ้นอีกเยอะ   Cr.ภาพจาก FB:Siamparkcity สวนสยามทะเล-กรุงเทพฯ Cr.ภาพจาก FB:Safari World Fun @ สวนสยาม และซาฟารีเวิลด์ ลองนึกดูนะคะ ในกรุงเทพฯ จะมีสักกี่แห่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนไม่ไกลจากบ้านเรา ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ส่วนมากก็จะนึกอะไรไม่ออกเลยนอกจากไปเดินห้าง แต่ถ้าลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเล่นสวนน้ำ สนุกกับเครื่องเล่น หรือโชว์ของเหล่าสัตว์แสนรู้ อย่างสวนสยาม และซาฟารีเวิลด์แล้วล่ะก็รับรองว่าจะได้อีกบรรยากาศในการพักผ่อน หย่อนใจชิวๆ แบบที่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ชั้นในไม่มีอย่างนี้แน่นอนค่ะ ยิ่งหากครอบครัวไหนมีลูกหลานแล้วล่ะก็ พาออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยตัวเอง แถมยังใกล้บ้านก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกรูปแบบหนึ่งนะคะ   ทาวน์โฮม รามอินทรา "บ้านกลางเมือง รามอินทรา" ทาวน์โฮมโมเดลใหม่ล่าสุด Luxurious Master Bedroom Multi-Functional Room 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา ฟังก์ชั่นตอบสนองความเป็นส่วนตัว ด้วยพื้นที่ชั้น 3 ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่ ภายในโครงการได้ความเงียบสงบภายในโครงการบนพื้นที่กว่า 23 ไร่ ซึ่งจะมีสวนสาธารณะ และสวนหย่อมกระจายอยู่ในโครงการรวมแล้วกว่า 1 ไร่ พร้อมมีสโมสรส่วนกลางที่มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, ระบบ Katsan และ กล้อง CCTV ตรงทางเข้า–ออกโครงการ     บ้านกลางเมือง รามอินทรา ตั้งอยู่ภายในซ.กาญจนาภิเษก 6/1 ท่ามกลางทำเลที่ตั้งแวดล้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ทางด่วน 2 สาย ทั้งถ.กาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ได้ และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (จตุโชติ) ที่จะพาเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพระราม 9 เอกมัย ทองหล่อ และถนนสุขุมวิท โดยเส้นทางหลักที่ใช้เดินทางเข้าสู่ตัวโครงการ คือ ถ.คู้บอน แล้ววิ่งเส้นคู่ขนานกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ซ.กาญจนาภิเษก 6/1 ที่สำคัญค่ะ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน อยู่ตรงปากทางเข้าถ.คู้บอนพอดี ก็จะยิ่งทำให้มีทางเลือกในการเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น   พาชมทาวน์โฮม รามอินทรา "บ้านกลางเมือง รามอินทรา" เมื่อเข้ามาในซ.กาญจนาภิเษก 6/1 ก็จะพบว่าทางเข้าโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา จะอยู่ติดกับโครงการ Pleno รามอินทรา โดยจะมี Main Gate ที่พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กล้อง CCTV ซึ่งสามารถเข้าไปชมบ้านตัวอย่างและส่วนกลางจริงภายในโครงการกันได้แล้วค่ะ    ก่อนอื่นเราจะพาไปชม Club House สีขาวโดดเด่นท่ามกลางบรรยากาศของสวนสีเขียว ใช้เส้นสายโค้งมนส่งไปถึงลายฉลุบนตัวอาคาร ซึ่งเมื่อไรที่กระทบกับแสงอาทิตย์ก็จะเกิดเป็น Shadow&Shade ผสานกันระหว่างสวนธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมกลางโครงการ เมื่อก้าวเข้าสู่ตัว Club House ชั้นล่าง เราจะถูกต้อนรับด้วยเสียงของน้ำจาก SALT SYSTEM SWIMMING POOL ริมสระใต้ร่มเงาของอาคารมี Sunbed ให้ได้นอนพักอย่างผ่อนคลาย ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกายแบบ ACTIVE ขึ้นมาอีกก็จะมีห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ เพดานสูงบวกกับกระจก Full Height ล้อมรอบให้ได้ชมวิวธรรมชาติภายนอกไปด้วยอยู่ที่ชั้น 2      ได้เวลาเข้าไปชมทาวน์โฮมตัวอย่างกันแล้วค่ะ โดยตัวทาวน์โฮมจริงที่ลูกบ้านจะได้นั้นมีกันสาดบริเวณลานจอดรถหน้าบ้านแบบพับเก็บได้ ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทุกห้อง ปั๊มน้ำ แทงค์น้ำ และเครื่องปรับอากาศ Daikin พร้อมติดตั้งมาให้ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โดยหน้าบ้านจะสามารถจอดรถยนต์ได้ 2 คัน มีเฉลียงหน้าบ้านสำหรับวางรองเท้า และใช้ประตูทางเข้าหลักเป็นกระจกบานเลื่อนพร้อมระบบ Double Lock    เข้าสู่ชั้นแรกในตัวทาวน์โฮมจะพบกับพื้นที่กว้างๆ สำหรับจัดเป็น Living Room และเชื่อมต่อลึกเข้าไปด้านในก็สามารถทำเป็น Kitchen Room ลักษณะแบบครัวเปิด พร้อมพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่งได้สบายๆ โดยจะมี Powder Room ที่ใช้ประตูเลื่อนบานทึบอยู่ระหว่าง Living Room กับ Kitchen Room เหมาะสำหรับใช้เพื่อรับแขก จึงไม่จำเป็นต้องมีส่วนเปียกค่ะ ซึ่งห้องน้ำทุกห้องจะมีหน้าต่างกระจกฝ้าบานกระทุ้งด้านบนเหนือศรีษะด้านในสุดของห้อง เพื่อเพิ่มแสงเข้ามาภายใน และยังช่วยให้เปิดระบายความอับชื้นได้ดีอีกด้วย              ด้านในสุดของชั้นแรกนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นก่อนออกไปทางหลังบ้าน แต่หากเป็นที่ดินแปลงมุมก็จะได้ประตูกระจกด้านข้างเพิ่มอีก ช่วยให้ออกไปยังพื้นที่ข้างบ้านได้สะดวกขึ้น และยังช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติเข้าสู่ด้านในให้ดูโปร่งยิ่งขึ้นด้วยนะคะ โดยสำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้พื้นที่บริเวณหลังบ้านจะถูกจัดให้เป็น Glass House ในบรรยากาศนั่งจิบชาท่ามกลางสวนส่วนตัวในบ้าน ก็เป็นอีกไอเดียแต่งทาวน์โฮมที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ทีเดียวค่ะ   ขึ้นมาบนชั้น 2 กันบ้างค่ะ ตัวพื้นจะปูด้วยลามิเนต ซึ่งประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ห้อง แยกเป็นฝั่งทางหน้าบ้านกับทางหลังบ้าน ส่วนบริเวณตรงกลางจะเป็นห้องน้ำค่ะ ก่อนอื่นเข้าไปชมที่ห้องนอนแรกทางฝั่งหลังบ้านกันก่อนค่ะ จะเป็นห้องที่มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่กลางห้อง มีมุมสำหรับ Built in ตู้เสื้อผ้าได้พอดี พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 3.5-5 ฟุตได้ พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน ถือว่าเป็นห้องนอนขนาดเริ่มต้นของบ้านที่ได้ขนาดกำลังดีเลยค่ะ   ห้องน้ำจะแยกส่วนเปียก-แห้ง ออกจากกัน โดยจะใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard ครบชุดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง ก๊อกน้ำ โถสุขภัณฑ์ แกนใส่ทิชชู่ สายชำระ ฝักบัว และยังมีกระจกเงาติดตั้งมาให้ด้วย พื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคแบบที่เห็นนี้เลยค่ะ   ห้องนอนที่ 2 ฝั่งหน้าบ้านจะได้ระเบียงส่วนตัวเพิ่มขึ้นมา โดยกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ส่วนระเบียงจะกั้นด้วยราวกันตกเป็นเหล็กโปร่ง   ขึ้นมาชั้นบนสุดของบ้านค่ะ ซึ่งที่ชั้น 3 นี้จะมีทั้งห้องอเนกประสงค์ เป็นพื้นที่เปิดโล่งอยู่ด้านนอกใกล้กับบันได ห้องน้ำ และ Master Bedroom เป็นชั้นที่เหมาะสำหรับคุณพ่อ-คุณแม่ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกหน่อย เพราะห้องอเนกประสงค์สามารถดัดแปลงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นแยกออกมาจากชั้นล่าง ห้องทำงาน ฯลฯ ซึ่งจะได้ความโปร่ง ไม่ดูทึบจนเกินไป   สำหรับห้องน้ำของชั้น 3 จะออกแบบมาให้เป็นประตูแบบ Double Access เชื่อมต่อระหว่างห้องอเนกประสงค์ด้านนอก กับส่วน Walk In Closet  ภายในห้อง Master Bedroom ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทางโครงกรจะติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานค่ะ ทั้งอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง เสริมตู้เก็บของไว้ด้านล่าง โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ส่วนเปียกด้านในสุดก็ติดตั้งฝักบัวเอาไว้ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ตลอดแนวผนังส่วนแห้ง    สุดท้ายที่ Master Bedroom ของจะมีส่วน Walk In Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ มีพื้นที่สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าได้มากขึ้นตลอดแนวผนัง และมีระเบียงส่วนตัวออกไปยังฝั่งหน้าบ้าน โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ราวกันตกเหล็กโปร่งแบบเดียวกันกับระเบียงชั้น 2 ถือเป็นชั้นที่ได้ความสะดวกสบายที่สุดค่ะ    รามอินทราเป็นย่านเดียวที่ให้ความรู้สึกครบทั้ง Feel Fun Fine มีสีสันหลากหลายครบครันสำหรับทุกคนในครอบครัว เฉกเช่นเดียวกันกับ “บ้านกลางเมือง รามอินทรา” ที่มีพื้นที่สามารถรองรับทุกคนในครอบครัวได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ทุกสิ่งก็พร้อมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.79 ล้านบาท   เปิดจองโซนใหม่ หน้าคลับเฮ้าส์ #เป็นเจ้าของบ้านได้ง่าย ผ่อนล้านละ 1,000 บาท* ส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* ฟรี เครื่องปรับอากาศ* และค่าจดจำนองการโอน* ภายใน 30มิถุนายน 62 นี้เท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) รายละเอียดโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา "บ้านกลางเมือง รามอินทรา" บ้านกลางเมือง รามอินทรา โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ  
รีวิวคอนโด Aspire : ใช้ชีวิตให้ Pop กว่าเดิม ที่ Aspire

รีวิวคอนโด Aspire : ใช้ชีวิตให้ Pop กว่าเดิม ที่ Aspire

ถ้าถามถึงชื่อของแบรนด์คอนโดมิเนียมจาก AP เชื่อว่าหลายคนก็จะนึกถึงชื่อ Aspire ด้วยแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่ดูเรียบง่ายตามสไตล์ Modern ทันสมัย แม้จะเป็นอาคารแบบ High Rise ติดถนนใหญ่ แต่ราคาไม่แรง จึงเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่าย นั่นคือภาพที่ทุกคนจดจำสำหรับแบรนด์ Aspire ค่ะ               ในปี 2019 นี้ คือปีที่ AP ตั้งใจปรับแบรนด์ Aspire เปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ Aspire แบบ New Series ซึ่งการปรับลุคครั้งใหม่นี้จะมีความหรูหรามากขึ้น ในความร่มรื่นสไตล์รีสอร์ท ดีไซน์ให้อารมณ์ของความเป็น Colonial จากฝั่งยุโรปในยุคคลาสสิก ผสมผสานกับสีสันที่สะท้อนให้เห็นถึงความสดใสมีชีวิตชีวาจากคนรุ่นใหม่ในความ Modern POP ผสมผสานกันจนเกิดเป็น “Colonial Pop” คอนเซปใหม่เฉพาะตัวของคอนโดมิเนียมแบรนด์ Aspire      โดยครั้งนี้จะเปลี่ยนตั้งแต่หน้าตาของสถาปัตยกรรม ด้วยการดึงเอาเสน่ห์ของความเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวนยูนิตแต่ละอาคารน้อยลง ผลคือการที่ได้ความเงียบสงบมากกว่า เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านของตัวเอง พร้อมกับมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบความต้องการได้ในทุกๆ วัน รวมถึง Facility ภายในโครงการจะยึดดีไซน์ให้คนกับธรรมชาติได้อยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทหรู ทุกสิ่งถูกจัดวางให้ลงตัวที่สุดใน Aspire ทั้ง 2 โครงการใหม่   นอกจากเรื่องของการดีไซน์แล้วก็ยังมีเรื่องของทำเลของแต่ละโครงการจะเน้นที่ตั้งอยู่ในโซน Prime location สามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้ง่ายมากขึ้น ทำให้ใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า   คอนโด Aspire สุขุมวิท อ่อนนุช สุขุมวิทช่วงกลางที่ได้รับความนิยมจากเหล่าคอนโดมิเนียมที่สุดก็คงจะเป็นย่านอ่อนนุชค่ะ เพราะอยู่ออกมาจากใจกลางเมืองไม่มาก แต่ยังคงอยู่ในเส้นทางสุขุมวิท ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นสายหลักของบ้านเราพาเข้าสู่ทองหล่อ-อโศก เพียงเวลาไม่เกิน 10 นาที และยังมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ไม่ไกล     Aspire Sukhumvit-Onnut เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร แบ่งเป็น  อาคาร A ใกล้กับทางเข้า-ออก ติดถนน จะกันโควต้าต่างชาติไว้ที่ชั้น  7-8  อาคาร B ทางทิศตะวันตก (ซ้ายมือของภาพ) เป็นอาคารที่กันโควต้าต่างชาติไว้ทั้งอาคาร อาคาร C ริมน้ำ จะเปิดให้จองก่อนใครรอบ Online Booking วันที่ 26 ก.พ. นี้ เวลา 19.00-21.00 น. เฉพาะชั้น 4    และแยกอาคารสันทนาการ 1 อาคาร และอาคารที่พักขยะ 1 อาคาร (1 ชั้น) บนที่ดินกว่า 6 ไร่ ที่จอดรถ 38% ขนาดห้อง 26.5-52 ตร.ม. ทั้งหมด 553 units ขายแบบ Fully Fitted ดีไซน์ภายนอกยังคงความเป็น Colonial ส่วนออกแบบภายในใช้โทนสีธรรมชาติ เพิ่มความสนุกสนานสดใสสไตล์ POP แต่จะใช้วัสดุที่ดูพรีเมี่ยมขึ้น   ที่ดินของโครงการอยู่ภายในซ.อ่อนนุช 21 ติดคลองพระโขนงอันเงียบสงบ Facility ภายในโครงการจึงถูกถอดแบบมาจากความพลิ้วไหวของสายน้ำ ไม่ว่าเป็นสระว่ายน้ำ, Backyard Garden, Signature POP Track จะสามารถมองเห็นคลองพระโขนง Lobby ทำให้รู้สึกเหมือนมี Boutique Resort ส่วนตัว     สระว่ายน้ำยามค่ำคืนจะมีแสงไฟสีชมพู เพิ่มความ Pop ที่ไม่เหมือนใคร   Signature POP Track ริมน้ำ หากสังเกตทางซ้ายมือจะเห็นยูนิตของชั้น 1 ที่สามารถเดินออกมาตรงนี้ได้เลย      เป็นครั้งแรกของ Aspire ที่เอารูปแบบ Unit Interlock มาใช้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่าที่สุด และ 99% จากทั้งหมดจะเน้นเป็นครัวปิด เพื่อให้ใช้ประโยชน์จริงได้อย่างเต็มที่ ความสูง Floor To Ceiling 2.5 เมตร แต่ยูนิตพิเศษที่อยากจะแนะนำที่สุด คือ Type B3 กับ B4 ขนาด 30.50 ตร.ม. Type C3 ขนาด 36.00 ตร.ม. Type D2 ขนาด 41.00 ตร.ม. Type E2 ขนาด 50.00 ตร.ม. Type F2 ขนาด 52 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Graden access unit สามารถเดินออกจากระเบียงไปยัง Backyard Garden เหมือนมีสวนริมน้ำส่วนตัวเลยค่ะ     สำหรับห้องตัวอย่างของ Aspire Sukhumvit-Onnut จะอยู่ที่ซ.อ่อนนุช 21 เข้ามาก็จะเห็นได้เลยทันทีค่ะ โดย Sales Gallery ออกมาตามคอนเซปของตัวคอนโดเห็นความเป็น Colonial เด่นชัด ซึ่งจะมีห้องตัวอย่างให้ชม 2 ห้องด้วยกันค่ะ   1 Bedroom 36 ตร.ม. ส่วนแรกของห้องจะป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ทุกห้องไม่ว่าจะเป็นห้องครัวทางซ้ายมือ ห้องนั่งเล่นตรงกลาง และห้องนอนทางขวามือ จะมีประตูกั้นแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งหมด โดยห้องน้ำทางขวามือของห้องจะเป็นประตูแบบ Double Access เชื่อมต่อระหว่างส่วนกลางห้องกับห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ได้แบบ Fully Fitted ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ 2 ตัว ที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ซึ่งภายในห้องนอน Type นี้ จะได้กระจกเข้ามุมตรงหัวเตียงด้วยค่ะ      2 Bedroom 50 ตร.ม. สำหรับห้องนี้จะเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ค่ะ ซึ่งก็จะได้ครัวปิดที่มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศและความชื้นเอาไว้ให้ด้วย พื้นที่วางโต๊ะทานข้าว จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นด้านใน ซึ่งเชื่อมต่อกับระเบียงอีกที ส่วนห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของห้อง ห้องนอนแรกจะอยู่หลังเคาน์เตอร์ทีวี และ Master Bedroom จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำด้วยประตู Double Access        เตรียมตัวจับจองรอบแรก Online Booking วันที่ 26 ก.พ. นี้ เวลา 19.00-21.00 น. เฉพาะอาคาร C ชั้น 4 ยูนิตสวยวิวสระว่ายน้ำหรือวิวริมน้ำ ลงทะเบียน i booking รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท และได้ Digital Door Lock >>> https://ibooking.apthai.com   PRESALE 2-3 มี.ค.นี้ ที่สำนักงานขาย ลงทะเบียนรับส่วนลด 50,000 บาท สำหรับ 1 Bed และ 100,000 บาท สำหรับ 2 Bed พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท และฟรี! เฟอร์นิเจอร์ (เฉพาะวันพรีเซลเท่านั้น) คลิก https://goo.gl/S59jz2    เริ่ม 1.89 ล้านบาท* เฉลี่ย 86,000 บาท/ตร.ม. คอนโด Aspire อโศก รัชดา Aspire Asoke-Ratchada ทำเลสุดฮอตของทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เพียงช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาคอนโดมิเนียมในย่านนี้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะได้รับความนิยมอย่างมากนี่แหละค่ะ ซึ่งตัว Aspire Asoke-Ratchada จะมีที่ดินกว่า 11 ไร่ ถือว่าเป็นขนาดที่หาได้ยากมากแล้วสำหรับโซนนี้ โดยตัวโครงการจะอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 หรือที่เรียกกันว่าซอยสถานฑูตจีน เข้าไปประมาณ 700 เมตร    Aspire Asoke-Ratchada เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร ที่จอดรถ 38% ขนาดห้อง 25-51 ตร.ม. ทั้งหมด 1,025 units+3 shop ดีไซน์โดดเด่นด้วยเส้นสายที่โค้งมน ให้ความรู้สึกหรูหรานุ่มนวล บวกกับต้นไม้ตัดแต่งที่ให้อารมณ์เน้นไปที่ความเป็น Colonial ทำให้เกิดเป็นพื้นท่ี่ transition space “Courtyard”    ที่สำคัญคือเรื่องของราคาค่ะ แม้จะอยู่ในทำเล Prime ขนาดนี้ แต่ราคาเริ่มต้นประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม. นะคะ คอยจับตากันเอาไว้ให้ดีกับ Aspire Asoke-Ratchada ที่กำลังจะเปิด Pre-sale 30-31 มี.ค. ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* จองเพียง 5,000 บาท* ฟรีค่าทำสัญญา ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท (Studio, 1 bed, 1 bed plus ลด 50,000, 2 bed ลด 100,000) พิเศษ! เปิด AP iBooking ตึก B ชั้น 7 และตึก E ชั้น 4 วันที่ 26 มี.ค. 19.00-21.00   ใครที่อยากมาชมห้องตัวอย่างหรือมาในวันงาน Pre-sale ก็สามารถจอดรถเอาไว้ที่ ลาน G Tower และตึก Unilever แล้วข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะพบกับ Sale Gallery ของโครงการค่ะ โดยจะเริ่มให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 21-24 มีค 9.00-20.00 น.   Aspire Asoke-Ratchada ลงทะเบียนที่ >>> https://bit.ly/2Uh2rPO         แต่ก่อนจะเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง เรามีภาพมาให้ชมกันก่อนค่ะ   1 Bedroom Plus 35 ตร.ม.  ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นแบบ 1 Bedroom Plus คือมี 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถดัดแปลงเป็นห้องอะไรก็ได้ตามใจ เช่น ห้องทำงาน  หรือห้องนอนที่ 2 ส่วนครัวครัวเปิดจะเชื่อมต่อกับพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวเอาไว้กลางห้องค่ะ แต่ด้วยพื้นที่แบ่งเอาไว้เป็นสัดส่วนก็จะสามารถกั้นเป็นห้องครัวปิดได้ เรียกได้ว่าจัด Space มาให้มีความยืดหยุ่นต่อการอยู่อาศัยจริงทีเดียวค่ะ   2 Bedroom Plus 49.5 ตร.ม.  สำหรับ 2 ห้องนอน จะวาง common area ไว้กลางห้อง แล้วแบ่งฝั่งซ้าย-ขวา ซึ่งจะได้ห้องครัวปิดที่มีเครื่องดูดควันต่อท่อออกไปนอกระเบียงติดตั้งมาให้เรียบร้อย ช่องว่างตู้เย็นขนาดใหญ่มากขึ้นเหมาะสำหรับครอบครัว และยังมีห้องเก็บของที่ถูกดีไซน์ไว้เพื่อวางเครื่องซักผ้า สามารถตากผ้าได้ด้วยในตัว เพราะมีหน้าต่างทรงสูงมาให้ เวลาตากผ้า แถมยังมีพื้นที่สำหรับเก็บของเพิ่ม ตรงนี้ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริงได้ดีเลยค่ะ     สำหรับ Aspire ทั้ง 2 โครงการที่เปิดตัวมาในปีนี้ มีความแตกต่างออกไปจากที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ทั้งส่วนกลางที่เพิ่มมากขึ้น ดีไซน์ทันสมัย การจัด Sapce ภายในห้องก็ตอบโจทย์การอยู่อาศัจริงได้ดียิ่งขึ้น กลายเป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามองถึงพัฒนาการที่ก้าวขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อไปค่ะ รายละเอียดคอนโด Aspire เพิ่มเติม Aspire Asoke-Ratchada Aspire Sukhumvit-Onnut โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) Aspire Erawan Aspire Ngamwongwan Life Asoke Hype RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน
บ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-พัฒนาการ แบรนด์คุณภาพ ในทำเลศักยภาพ : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-พัฒนาการ แบรนด์คุณภาพ ในทำเลศักยภาพ : รีวิวทาวน์โฮม

ระยะหลังมานี้โครงการแนวราบในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกค่อนข้างคึกคักไม่แพ้โซนอื่นทีเดียวค่ะ เพราะการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน และยังอยู่ไม่ไกลจาก New CBD รวมถึงรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็อยู่ในโซนตะวันออกอยู่หลายสายเลยค่ะ ตรงนี้ทำให้ในอนาคตของคนที่อาศัยอยู่ในทำเลนี้จะยิ่งเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายขึ้นมาก ซึ่งในรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมโครงการที่มีให้เลือกทั้งทาวน์โฮมและบ้าน ในแบรนด์ระดับตำนานอย่าง “บ้านกลางเมือง” กันค่ะ ทำเลศักยภาพที่แท้จริง อย่างที่เกริ่นกันไปค่ะว่า กรุงเทพฯ โซนตะวันออกเป็นทำเลที่น่าสนใจมากทีเดียว แถมยังถือว่ามีอนาคตสดใสทั้งเรื่องการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ใกล้ใจกลาง New CBD และสำหรับโครงการ บ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-พัฒนาการ เองก็ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าใกล้กับแยกประเวศ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องของการเดินทางที่แสนจะสะดวก เพราะอยู่ใกล้ทางด่วน อีกทั้งยังใกล้กับรถไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและที่กำลังเร่งก่อสร้างกันอยู่ด้วยค่ะ      ด้วยตัวโครงการที่ตั้งอยู่บนทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ แน่นอนค่ะว่าถ้าใครที่ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆ ก็จะยิ่งใกล้เข้าไปอีกเพียงแค่ 10 นาที ซึ่งมอเตอร์เวย์เองก็เชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชบริเวณถนนพระราม 9 ตัดกับถนนศรีนครินทร์เพื่อเข้าสู่ New CBD ได้สะดวกมาก นั่นหมายความว่าถ้าจะเลือกไปช้อปปิ้งที่เดอะไนน์หรือเซ็นทรัลพระราม 9 ก็ง่ายดายไปด้วยเช่นกัน หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินห้างยักษ์ใหญ่อย่างเมกา บางนา ดูของแต่งบ้านที่อิเกีย ก็สามารถใช้ถนนกาญจนาภิเษกขับรถสบายๆ ประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ และโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก็คือโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ไม่เกิน 10 นาทีค่ะ                ความน่าสนใจของย่านนี้อีกสิ่งหนึ่งจะอยู่ที่รถไฟฟ้าค่ะ ทั้ง Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง ที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ซึ่งเป็นสายที่เชื่อมระหว่างสนามบินหลักอย่างสุววรณภูมิเข้าสู่ตัวเมืองในปัจจุบัน และยังมีโครงการในอนาคตต่อขยายจากสายนี้ไปถึงสนามบินดอนเมือง ส่วนฝั่งสนามบินสุวรรณภูมิก็จะต่อออกไปทางภาคตะวันออกผ่านจังหวัดฉะเทริงเทรา-ชลบุรี ไปจนสิ้นสุดที่สนามบินอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร โดยจะใช้เวลาจากกรุงเทพฯ-สนามบินอู่ตะเภา เพียง 45 นาทีเท่านั้น ถือเป็น Mega Project สำหรับระบบขนส่งสาธารณะในบ้านเราเลยล่ะค่ะ สายถัดมาคือสายสีเหลืองค่ะ อยู่ใกล้โครงการที่สุดตรงสถานีพัฒนาการ บริเวณสี่แยกพัฒนาการ โดยสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2564 นี้สามารถต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้ทั้งสถานีลาดพร้าวที่เป็น Interchange กับสายสีน้ำเงิน และสถานีสำโรง Interchange กับสายสีเขียวในปัจจุบัน และจากสถานีพัฒนาการ ห่างออกไปเพียง 2 สถานี ก็จะเป็น Interchange  กับสายสีส้มตะวันออก ที่ในอนาคตหากเสร็จสมบูรณ์ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกก็จะกลายเป็นสายที่มีความสำคัญอย่างมากค่ะ เพราะเป็นสายที่มาจากชานเมืองทั้งสองฝั่งแล้วผ่านเข้าใจกลางเมืองอย่างช่วงถนนรัชดาภิเษก-ราชปรารภ-ประตูน้ำ-หลานหลวง-สนามหลวง ซึ่งสายสีส้มตะวันออกนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2566     ภาพรวมโครงการ บ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-พัฒนาการ เป็นโครงการที่มีให้เลือกทั้งทาวน์โฮมกับบ้านแนวคิดใหม่อยู่ในโครงการเดียวกันค่ะ โดยทาวน์โฮมมีชื่อแบบเรียกว่า TERRARIA 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน เน้นความใกล้ชิดธรรมชาติ ยกพื้นที่สีเขียวมาไว้บนบ้านได้มากขึ้น ส่วนบ้านแนวคิดใหม่ คือ NEW X-TREND 3 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน เน้นพื้นที่กว้างๆ สำหรับอยู่กับครอบครัว วางแนวคิดในรูปแบบ “ELEGANCE DESIGN BY SPACE I STYLE I SMART ที่ผสานเส้นสายแห่งสายลม สู่บริบทแห่งความหรูหราเหนือระดับ”   ชมโครงการ เริ่มกันตั้งแต่หน้าโครงการเลยค่ะ ลักษณะที่ดินจะหน้าแคบลึกเข้าไปกว้างด้านใน โดยลักษณะเช่นนี้จะทำให้บรรยากาศภายในโครงการเกิดความเงียบสงบมากกว่าที่ดินหน้ากว้างแล้วมีบ้านอยู่ติดริมถนนใหญ่ค่ะ ซึ่งเราจะพาไปชม Facility กันก่อนจะเข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันนะคะ Main Gate ใช้โทนสีขาวสลับอลูมิเนียมสีทองเพิ่มความโดดเด่น ซึ่งใช้ระบบ Access Card เข้า-ออกโครงการค่ะ          Facility ของโครงการจะมีสวนสาธารณะที่เน้นดีไซน์เป็นเส้นโค้งตามสายลมธรรมชาติ และแบ่งโซน PLAYGROUND กับ PET PARK เอาไว้ด้วยค่ะ ส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือก็มีการแยกสระด็กเอาไว้ด้วย       ชั้น 2 ของ Facility จะเป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ค่ะ   ได้เวลาไปชมบ้านตัวอย่างทั้งสอง 2 แบบกันแล้วค่ะ ซึ่งโครงการนี้ลูกบ้านจะได้บ้านเปล่านะคะ สามารถแต่งบ้านของเราเองได้อย่างอิสระ   บ้านตัวอย่าง NEW X-TREND เรามาเริ่มกันที่บ้านแนวคิดใหม่ก่อนเลยค่ะ ซึ่งหน้าตาของบ้านแนวคิดใหม่ที่นี่เกือบจะเหมือนบ้านเดี่ยวเลยนะคะ ทุกหลังจะให้อารมณ์เหมือนได้อยู่บ้านแปลงมุม เพราะมีพื้นที่สวนสีเขียวส่วนตัวข้างบ้านเชื่อมต่อไปหลังบ้านทุกหลัง ทำให้รู้สึกได้พื้นที่เต็มๆ จัดสวนสวยๆ ได้อย่างใจ ส่วนพื้นที่ใช้สอยทั้ง 3 ชั้นรวมกันก็มีมากถึง 222 ตร.ม. หน้ากว้าง 11 เมตร ทำให้จอดรถได้ 3 คัน ซึ่งภายในบ้านชั้งล่างนอกจากจะมีห้องนั่งนั่งเล่น ห้องครัวแล้วยังมีห้องนอน 1 ห้อง สำหรับผู้สูงอายุไม่ต้องเดินขึ้นบันไดด้วยนะคะ ชั้น 2 จะเป็น PENTHOUSE MASTER BEDROOM ห้องเดียวกว้างๆ ทั้งชั้น มีห้องน้ำในตัว และชั้น 3 จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องค่ะ เป็นบ้านที่เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัวใหญ่จริงๆ ค่ะ   หน้าบ้านจะมีหน้าต่างทรงสูง ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในบ้าน และเฉลียงก่อนถึงประตูบ้าน   Digital Door Lock จากแบรนด์ Samsung สามารถปลดล็อได้ทั้งแบบสแกนลายนิ้วมือ คีย์การ์ด และรหัสผ่านค่ะ    เข้ามาชมภายในบ้านที่ฝั่งซ้ายมือของประตูบ้านกันก่อนค่ะ ซึ่งไล่จากหน้าบ้านก็จะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ บันไดตรงกลาง และห้องครัวด้านในสุดค่ะ โดยพื้นของชั้นแรกจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังฉาบเรียบสีขาวทั้งหลัง และใช้ไฟ Downlight ทั้งหลัง    ห้องนอนชั้น 1 นี้ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลายรูปแบบ รวมถึงใช้เป็นห้องนอนชั้นล่างที่ลงเตียงขนาดใหญ่ได้ และยังมีห้องน้ำอยู่ใกล้กัน สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกค่ะ       ภายในห้องนอนชั้น 1 มีพื้นที่สำหรับวางเตียงได้ 5  ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนออกไปทางหน้าบ้าน ซึ่งหน้าต่างและประตูกระจกทุกบานจะใช้ระบบ Double Lock ทั้งการล็อคตรงมือจับ และล็อคแบบก้นหอยอีกชั้นเพื่อความแน่นหนา      ห้องน้ำทุกห้องของบ้านจะได้มาตรฐานเดียวกันค่ะ คือพื้นกับผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ได้สุขภัณฑ์มาตามที่เห็นครบชุดค่ะ ทั้งอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ราวแขวนผ้า และฝักบัว   ถ้าบ้านไหนชอบทำครัวบ่อยๆ หรือครัวที่มีกลิ่นแบบอาหารไทยก็สามารถกั้นประตูให้เป็นครัวปิดในส่วนนี้ได้นะคะ   ประตูออกไปทางหลังบ้าน       ห้องครัวเราสามารถ Built in เคาน์เตอร์ครัวลักษณะ L shape แบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ โดยจะมีหน้าต่างบานเลื่อนเอาไว้ให้สำหรับเป็นจุดวางซิงค์ล้างจาน เพื่อการระบายความชื้นได้ดีกว่าค่ะ    ห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ       จากประตูบ้าน เรามาชมทางฝั่งขวามือกันบ้างค่ะ ซึ่งบ้านจริงจะเป็นพื้นที่กว้างๆ สามารถจัดให้เป็น Living Room และโต๊ะทานข้าวสำหรับทั้งครอบครัวตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้ค่ะ โดยจะมีทั้งหน้าต่างบานเลื่อน และประตูกระจกล้อมรอบพื้นที่ ได้แสงสว่างเข้ามาเต็มๆ โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟเลยก็ได้นะคะ   ด้านข้างมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปข้างบ้าน มีชานบ้านยื่นออกไปเล็กน้อยก่อนจะเป็นสนามหญ้า         พื้นที่สีเขียวรอบบ้านจะเชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านค่ะ ซึ่งมีขนาดพอเหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการความผ่อนคลายด้วยพื้นที่สีเขียว แต่ไม่มีเวลาดูแลสวนที่มากจนเกินไป     กลับเข้ามาภายในบ้านแล้วขึ้นไปที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินไม่เกิดเสียงดังดูแข็งแรงดีค่ะ โดย Top บันไดใช้ไม้แข็งสีน้ำตาลเข้ม ราวบันไดใช้เหล็กโปร่งสีขาว ระหว่างชานพักบันไดแต่ละชั้นก็จะมีหน้าต่างช่วยเพิ่มแสงสว่างอยู่ด้วยค่ะ   ชั้น 2 จะเป็น PENTHOUSE MASTER BEDROOM ค่ะ โดยวัสดุพื้นของชั้น 2-3 จะเป็นลามิเนตค่ะ    แอบมีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้เอาไว้ จะจัดให้เป็นมุมอ่านหนังสือ มุมของเล่นสำหรับเด็กๆ หรืออื่นๆ ก็ดีไซน์ได้ตามใจเลยค่ะ               สำหรับ PENTHOUSE MASTER BEDROOM จะเป็นห้องกว้างๆ ที่มีห้องน้ำในตัวและระเบียง ซึ่งห้องตัวอย่างที่เราเห็นนี้จะมีการทำพื้นที่ให้เป็น Walk In Closet อยู่หน้าห้องน้ำพอดี ใครที่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับเยอะๆ ก็สามารถ Built in แบบนี้ได้เลยนะคะ ดูเป็นสัดส่วนแยกกัน แต่ยังคงเหลือพื้นที่กว้างๆ ตรงเตียงนอนอยู่ค่ะ        ระเบียงหน้าบ้านกั้นด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง เป็นบานเลื่อนขอบอลูมิเนยีม ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ       ภายในห้องน้ำจะแบ่งส่วนแห้งเอาไว้ทางขวามือค่ะ อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนังมีตู้เก็บของข้างใต้ ส่วนเปียกจะอยู่ทางซ้ายมือเป็น Bath Tub ที่ติดตั้งฝักบัวมาให้ด้วยค่ะ ผนังด้านข้าง Bath Tub จะมีหน้างต่างบานกระทุ้งอยู่ด้านบน ทำให้สามารถระบายอากาศและความชื้นได้ดียิ่งขึ้น ไม่ต้องอาศัยพัดลมดูดอากาศเพียงอย่างเดียวค่ะ     สุดท้ายของบ้านแนวคิดใหม่ที่ชั้น 3 ค่ะ จะมี 2 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องทางฝั่งหน้าบ้านขวามือ และห้องฝั่งหลังบ้านซ้ายมือ ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องนอนค่ะ           เข้ามาดูในห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 2  จุด กลางห้องเราสามารถวางเตียงเดี่ยวได้ 2 เตียงแยกกันตามแบบห้องตัวอย่าง หรือจะวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็ได้นะคะ แล้วยังมีมุมสำหรับ Built in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง  ไปจนถึงโต๊ะทำงานได้อีกต่างหาก     ห้องน้ำจะจัดส่วนเปียกเอาไว้ที่มุมห้องด้านในสุดค่ะ โดยจะเป็นพื้นต่างระดับลงเป็นเล็กน้อย ถ้ากลัวน้ำกระเด็นเลอะเทอะก็สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำตรงมุมนี้ได้พอดีเลยค่ะ       ห้องนอนสุดท้ายทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ พื้นที่กว้างพอที่จะวางเตียงขนาดคิงไซต์ได้เลย ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านขวามือของประตูห้องค่ะ       ห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกไว้ทางด้านซ้ายค่ะ สำหรับแบรนด์ของโถสุขภัณฑ์จะใช้ COTTO อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ และฝักบัวใช้ Prema   บ้านตัวอย่าง TERRARIA มาต่อกันที่ทาวน์โฮม 3 ชั้นค่ะ หน้ากว้าง 5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ห้องครัว ที่สามารถรองรับทุกคนในบ้านได้สบายๆ ชั้น 2 จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่ในบ้านตัวอย่างนี้แต่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้เพื่อเป็นตัวอย่าง เนื่องจากจุดเด่นของบ้านแบบนี้คือ Flexible Wall สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตได้ลงตัวมากขึ้น และชั้น 3 เป็น MASTER BEDROOM ทั้งชั้น มีห้องน้ำในตัว ถือเป็นทาวน์โฮมที่ได้พื้นที่กว้างขวาง ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ       เราไปดูกันที่ทาวน์โฮมตัวอย่างค่ะ ซึ่งหากเป็นแปลงมุมแบบนี้ก็จะได้พื้นที่ข้างบ้านยาวไปจนเชื่อมต่อกับหลังบ้านค่ะ ข้อดีของแปลงมุมแบบนี้ นอกจากจะได้พื้นที่มากกว่าแล้ว ยังได้มุมประตูกระจกด้านข้างเพิ่มขึ้น แสงสว่างก็มากตามไปด้วยค่ะ   หน้าบ้านมีเฉลียงออกมาเล็กน้อยสำหรับเป็นที่วางรองเท้า มีห้องเก็บห้องอยู่ด้านขวามือใกล้กับประตูบ้านที่เป็นประตูกระจกเขียวตัดแสงแบบบานเลื่อนค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประตูหรือหน้าต่างที่เป็นบานเลื่อนจะเป็น Double Lock ค่ะ อย่างที่ประตูหน้าบ้านนี้จะล็อคด้วยกุญแจ และมีตัวล็อคแบบก้นหอยอยู่ภายในอีกที      บริเวณแรกจะเหมาะสำหรับเป็น Living Room แบบบ้านตัวอย่างนี้ค่ะ พื้นที่มากพอที่จะวาง L shape sofa ไว้นั่งเล่น นอนเล่นได้เลย ส่วนบันไดบ้านอยู่ทางขวามือถัดจากประตูบ้านค่ะ โดยชั้น 1 จะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ    ลึกเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4-6 ที่นั่งค่ะ และยังมีห้องน้ำ ห้องครัวอยู่ทางขวามือด้วย       ห้องครัวเราสามารถ Built in เคาน์เตอร์ครัวลักษณะ L shape ซึ่งหากครอบครัวไหนที่ใช้ครัวบ่อยๆ ก็แนะนำให้ติดประตูกระจกบานเลื่อนได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน เพราะส่วนครัวเองก็แบ่งมาให้เป็นสัดส่วนอยู่แล้ว และยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งด้านในช่วยระบายกลิ่นได้อีก    ห้องน้ำชั้น 1  จะมีเฉพาะส่วนแห้ง เหมาะสำหรับไว้รับแขกค่ะ แต่จะมีสุขภัณฑ์ต่างๆ มาให้ครบตามการใช้งาน ทั้งโถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง และกระจกเงาค่ะ   แสงเข้าได้มากขึ้นแบบนี้ ทำให้สว่างได้ทั่วบริเวณชั้น 1 ทีเดียวค่ะ     บันไดโครงการคอนกรีตเสริมเหล็ก ราวบันไดเหล็กโปร่งสีดำ ใช้ Top เป็นไม้เนื้อแข็งค่ะ ระหว่างที่พักบันไดมีพื้นที่เหลือมากพอให้ได้ใช้ประโยนช์ค่ะ เช่น Built in ชั้นวางหนังสือ ชั้นโชว์ของสะสม  ตู้เก็บของ ฯลฯ แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ได้เลยค่ะ   สำหรับชั้น 2  จะประกอบไปด้วยห้องนอนทางซ้ายมือของภาพฝั่งหน้าบ้านค่ะ ห้องน้ำตรงกลางชั้น และพื้นที่อเนกประสงค์ทางขวามือ ส่วนวัสดุปูพื้นด้วยลามิเนตค่ะ       พื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นอีกหนึ่งห้องเผื่อมีแขกของคุณพ่อกับคุณลูกมาพร้อมกันก็สามารถมีพื้นที่แยกกันได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือแม้แต่จะกั้นห้องเพิ่มเติมในอนาคตก็เหมาะเช่นกันค่ะ       ห้องน้ำจะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค มีลูกเล่นตรงผนังส่วนเปียกจะใช้กระเบื้องโมเสกที่มีความมันเงา ซึ่งจะแยกส่วนแห้งเอาไว้ทางขวามือและส่วนเปียกทางซ้ายมือ โดยมีหน้าต่างกระจกทรงสูงบานเลื่อน สามารถมองออกไปเห็น Pocket Garden ส่วนตัวด้วยนะคะ       ภายในห้องนอนจะสามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ       Pocket Garden จะเชื่อมต่อกับห้องนอนของชั้น 2 ค่ะ สามารถสร้างพื้นที่สีเขียวส่วนตัวได้ใกล้แค่เอื้อมมือ ไม่ว่าจะมองจากห้องนอนหรือห้องน้ำก็ให้ความร่มรื่นได้       MASTER BEDROOM ชั้นบนสุดของบ้านค่ะ ห้องกว้างขวางมากพอที่จะวางเตียงขนาดคิงไซต์กลางห้องได้ค่ะ พื้นที่ก็ยังเหลือ Built in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ตามมุมต่างๆ ของห้อง      ระเบียงพักผ่อนของห้องทางด้านหน้าบ้านนี้จะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ มีพื้นที่พอจะวางเก้าอี้เอาไว้นั่งรับลมค่ะ   อีกด้านเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ         ความพิเศษของห้องน้ำใน MASTER BEDROOM คือมีอีกหนึ่ง Pocket Garden ส่วนตัวค่ะ จะกั้นด้วยกระจกบานสวิงทรงสูง 2 ด้าน      บ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-พัฒนาการ เป็นโครงการแนวราบที่ดูหรูหราในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Facility ที่วางเส้นโค้งมนได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆ ตัวทาวน์โฮมและบ้านแนวคิดใหม่เองก็ได้พื้นที่ใช้สอบกว้างขวางทั้ง Common area และ Private zone เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบความเงียบสงบ แต่ยังคงเดินทางได้สะดวกง่ายดายด้วยทางด่วนถึง 3 สายค่ะ   พิเศษรอบ VIP Day 18-20 พ.ค.นี้ THE STAR MILLION รับข้อเสนอรวมกว่า 10 ล้าน* จอง 8,888 บ.* ไม่ต้องดาวน์ ไม่ต้องผ่อน นาน 2 ปี พร้อมเปิดตัว The Wisdom Home บ้านอัจฉริยะ ราคาเริ่มต้นที่ 4.99-7.69 ล้าน* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://bit.ly/2WbywwJ          
The City Ratchada-Wongsawang  บ้านเดี่ยวหรูติดถนนใหญ่ : รีวิวบ้าน

The City Ratchada-Wongsawang บ้านเดี่ยวหรูติดถนนใหญ่ : รีวิวบ้าน

ความสงบที่อยู่ใกล้เมืองเพียงแค่เอื้อมกับ The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เชื่อมต่อเมืองและถนนรัชดาภิเษก รองรับครอบครัวที่กำลังขยายในอนาคต ให้บรรยากาศสังคมส่วนตัวเพียง 94 ยูนิต มาพร้อมกับส่วนกลางที่หาไม่ได้จากที่ไหนกับ The Club ตอบโจทย์คนเมืองผสมผสานเข้ากับสังคมส่วนตัว   ทำเล     The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ ซึ่งเป็นชานเมืองจังหวัดนนทบุรี โดยถนนเส้นนี้เป็นจุดเชื่อมเข้าไปในตัวเมืองอย่างกรุงเทพมหานครได้หลายเส้นทาง เริ่มต้นที่ถนนนครอินทร์เชื่อมไปยังถนนกรุงเทพ – นนทบุรียาวเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก และถนนวงศ์สว่าง หรือจะใช้ถนนติวานนท์เพื่อเชื่อมไปยังถนนงามวงศ์วาน นอกจากนี้เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางยังสามารถใช้ทางด่วนเพียง 10 นาทีเข้าสู่ตัวเมือง โดยใช้ถนนพิบูลย์สงครามไปยังทางด่วนสะพานพระราม 7 หรือกลับรถเพื่อขึ้นทางด่วนประชาชื่นและงามวงศ์วาน ห่างไม่ไกลตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงสถานีแยกติวานนท์ 1.3 กม. และสถานีกระทรวงสาธารณสุข 1.5 กม         นอกจากการเดินทางจะสะดวกสบายรอบด้านแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการครบครันทั้งร้านอาหารที่มากอย่างบนถนนวงศ์สว่างต่อไปยังบนถนนรัชดาภิเษกก็จะพบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห่างสรรพสินค้า Major Cineplex Ratchayothin หรือ Big C วงศ์สว่าง นอกจากใกล้แหล่งช็อปปิ้งและยังอุ่นใจใกล้มือหมออย่าง โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ถัดมาตั้งต้นที่ถนนติวานนท์ยาวไปถึงถนนงามวงศ์วานเป็นอีกถนนเส้นหนึ่งที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้มากอย่าง The Mall งามวงศ์วาน , Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย , โรงพยาบาล นนทเวช , โรงพยาบาลวิภาวดี , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังสามารถเดินทางไปยังเซ็นทรัลลาดพร้าว และ ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยเชื่อมผ่านเส้นทาง ถนนรัชดาภิเษก ได้อย่างสะดวกอีกด้วย       ภาพรวมโครงการ     The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ 31 ไร่ จึงทำให้มีความเป็นสังคมส่วนตัวอย่างมากเพราะทั้งโครงการมีเพียง 94 ยูนิตเท่านั้น  และสิ่งที่พิเศษไม่เหมือนใครที่ไหนกับ Facility อย่าง "The Club" ผสมผสานไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์ของครอบครัวคนเมืองให้เข้ากับสังคมส่วนตัว โดยเริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าหน้าประตูโครงการตรงเข้ามาจะเห็นซุ้มประตูมีป้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มความอุ่นใจกับระบบ Access Card สำหรับเข้าออกโครงการและ CCTV ทางเข้า – ออกโครงการ รับรองความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยอย่างแน่นอน เมื่อผ่านประตู         ถัดมาจากประตูทางเข้าโครงการก็จะพบกับ "The Club" สถานที่ให้ครอบครัวหรือเพื่อนบ้านมาร่วมทำกิจกรรม โดยชั้นแรกจะเป็น "Lounge" ไว้คอยตอนรับแขกหรือเป็นที่พบปะพูดคุย ภายในห้องตกแต่งให้บรรยากาศหรูหรา ด้านข้างเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ซึ่งด้านปลายสระมีสระเด็กไว้เป็นแบบ Jacuzzi สามารถให้ผู้ใหญ่หรือเด็กลงมาแช่ผ่อนคลายได้ครับ และด้านข้างของ "The Club" มีพื้นที่นั่งเล่นในสวนหย่อมเพื่อให้ลูกบ้านเปลี่ยนบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นครับ             ในส่วนของชั้น 2 จะเป็นห้องสำหรับนิติบุคคลให้เดินขึ้นต่อไปอีกชั้น จะพบกับ Co-working Space ให้ลูกบ้านบ้านทุกท่านเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน คิดงานไอเดียใหม่ๆ และมาคู่กับ Play Room พื้นที่จัดกิจกรรมสังสรรค์เล็กๆ อย่างเป็นส่วนตัว ลึกเข้าไปอีกห้องจะพบกับ Cinema Room ผ่อนคลายวันหยุดกับครอบครัวที่ไม่ต้องไปดูในโรงภาพยนตร์ที่ไหนทางโครงการได้ยกมาไว้ให้แล้ว อีกด้านเป็นส่วนของ Fitness สำหรับลูกบ้านที่รักสุขภาพ มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ครบครัน             Unit Plan     CITY RETREAT : พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY SPACIOUS : พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY SCENERY : พื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY MYER : พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน       CITY LUX LODGE : พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน         ชมบ้านตัวอย่าง บ้านตัวอย่างที่จะพาชมวันนี้มีสองแบบครับ ซึ่งแบบแรกที่จะพาไปชมคือ CITY SPACIOUS พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอกประสงค์  1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สำหรับที่จอดรถในร่มกว้างขวางจอดรถได้ถึง 3 คันและมีประตูเชื่อมเข้าไปยังตัวบ้าน จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือมีพื้นที่กว้าง ชั้นล่างสามารถทำห้องนั่งเล่นได้ถึงสองห้อง หรืออาจปรับเปลี่ยนฟังก์ชันสร้างห้องเพิ่มเติมเป็นห้องนอนสำหรับแขกหรือแม้แต่จะปรับเป็นห้องสูงอายุ ก็สามารถทำได้ครับ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์เป็นมุมโปรดของคนในครอบครัวได้ เหมาะกับครอบครัวที่ขยาย ซึ่งชั้นล่างทางโครงการยังมีห้องเปล่าไว้ให้อีกห้องครับ ต่อจากห้องครัวด้านหลังบ้านมีห้องแม่บ้านให้พร้อมกับห้องน้ำในตัวเชื่อมกับพื้นที่ซักล้าง     ประตูหลักของบ้านเป็นประตูไม้สักแท้สลับกับวัสดุกระจกใสทำให้บ้าน ดูโปร่งไม่ทึบ แสงแดดส่องเข้าบ้านได้     เข้ามาภายในบ้านกับส่วน Common Area ที่กว้างขวาง ซึ่งมีการจัดวางฟังก์ชั่นได้อย่างลงตัว เชื่อมต่อโซนรับประทานอาหารกับห้องนั่งเล่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของคนในครอบครัว อีกทั้งในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารสามารถวางเพิ่มเป็น 8-10 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกมาก   ในส่วนถัดมาจะเป็นส่วนของห้องน้ำกลางซึ่งแบบบ้านนี้ห้องน้ำกลางจะมีส่วนของพื้นที่อาบน้ำแบ่งส่วนพื้นที่เปียกและแห้งครับ อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศ ไม่อับชื้น ต่อจากห้องน้ำกลางเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ทางโครงการได้ Built in เป็นห้องทำงาน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามผู้อยู่อาศัยให้เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้ครับ เพราะมีพื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้หรือจะเป็นห้องดูหนัง อ่านหนังสือทำกิจกรรมภายในครอบครัวได้ครับ     ก่อนที่จะเข้าห้องครัวทางโครงการ Built in เป็นเคาน์เตอร์บาร์ ทำให้เห็นว่ามีพื้นที่กว้างมาก ซึ่งห้องครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ภายในห้องครัวทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัวเป็น L shape ซึ่งอ่างล้างจานอยู่ติดริมกระจกเพื่อให้ระบายอากาศ ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะไว้ให้ อีกด้านหนึ่งมีเครื่องดูดควันจากแบรนด์ MEX แต่ไม่ให้เตามานะครับ ก่อนออกประตูเชื่อมไปหลังบ้านด้านบนประตูติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ครับ     ในส่วนของหลังบ้านเป็นพื้นที่ซักล้าง ประตูด้านซ้ายมือเป็นห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำให้ภายในตัว     กลับเข้ามาภายในบ้านก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ประตูด้านซ้ายมือคือประตูที่เชื่อมจากที่จอดรถ ส่วนประตูกลางเป็นห้องเก็บของใต้บันไดและเป็นที่เก็บตู้ไฟภายในบ้าน       ในส่วนของชั้น 2 ขึ้นบันไดมาจะพบพื้นที่ Family area ไว้ทำกิจกรรมภายในครอบครัวบนชั้น 2 เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและสามารถมองเห็นชั้นล่างที่เป็น Double Volume ส่วนบนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนโดยแบ่งออกเป็นห้อง Master Bedroom ห้องนอน 2 และ ห้องนอน 3 ซึ่งทางโครงการเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยมีห้องน้ำในตัวสำหรับห้องนอนชั้นบนทุกห้อง ในส่วนของห้องนอน 1 ระดับพื้นจนถึงฝ้า 2.8 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด ปูพื้นด้วยปาร์เก้สำเร็จรูปไม้สัก ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ที่ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ภายในห้องมีหน้าต่าง 2 ด้านเพื่อให้แสงส่องเข้ามาในห้องทำให้ดูไม่ทึบ ทางด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำ Walk In Closet ได้ครับ     ภายในห้องน้ำพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีกระจกเงาบานใหญ่ไว้ให้ อ่างล่างหน้าแบบแขวนผนังทางโครงการ Built in ตู้เก็บของใต้อ่าง       ถัดมาเป็นห้องนอน 2 วัสดุต่างๆ ทั้งกระเบื้อง ความสูงของเพดาน ขนาดของห้องมีความใกล้เคียงกันครับ ในส่วนของห้องน้ำเข้ามาจะเจออ่างล้างหน้าที่เป็นแบบแขวนผนังลอยตัวและมีทางโครงการ Built in ตู้เก็บของเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ ถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีพื้นต่างระดับแบ่งส่วนแห้งและเปียกอย่างเป็นสัดส่วน ด้านข้างฝักบัวทางโครงการเจาะผนังไว้สามารถวางของได้เพิ่มประโยชน์ต่อการใช้งานมากขึ้น และมีหน้าต่างเป็นกระจกโปร่งแสงเพื่อให้อากาศถ่ายเททำให้ห้องน้ำไม่อับชื้นครับ     สุดท้ายเป็นส่วนของ Master Bedroom ซึ่งภายในห้องมีขนาดกว้างมากสามารถแบ่งโซนเป็น Double Function สามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงอีกมาก ทางโครงการได้กั้นห้องแบ่งโซนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ Walk In Closet หน้าห้องน้ำ   ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom มีอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวเป็นแบบอ่างล้างหน้า His & Her ด้านขวามือเป็นส่วนของอ่างอาบน้ำด้านบนของอ่างมีกระจกแบบบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ อีกด้านเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ด้านหลังโถมีผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้ครับ ข้างโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่อาบน้ำโดยกั้นด้วยกระจก Tempered Glass   สุดท้ายเป็นส่วนของระเบียงหน้าบ้านซึ่งมีเฉพาะห้อง Master Bedroom เท่านั้นราวกันตกเป็นโครงเหล็กกับกระจกนิรภัย ปลายสุดของระเบียงมีช่องระบายน้ำเพื่อเวลาฝนตกน้ำจะไม่ขังระบายออกได้ครับ       มาต่อกับบ้านตัวอย่างแบบที่ 2 คือแบบ CITY MYER พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถในร่ม 1 พื้นที่เอกประสงค์ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องแม่บ้าน จุดเด่นของบ้านที่มีหน้ากว้างมากประตูหลักทางเข้าบ้านด้านซ้ายมือเป็นกระจกทรงสูงทำให้บ้านดูโปรงโล่งสบาย อีกทั้งเป็นจุดเด่นอีกด้วย ในส่วนของที่จอดรถในร่มกว้างขวางสามารถจอดรถได้ถึง 3 คันมีประตูไม้สักแท้เชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน ด้านข้างของที่จอดรถมีห้องเก็บของไว้ให้ครับ       เข้ามาภายในบ้านชั้นแรกส่วนของ Common Area ที่มีความกว้างขวางมากจึงสามารถแบ่งออกได้หลาย Function ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยทางโครงการออกแบบได้ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกในครอบครัวด้วยห้องนั่งเล่น 2 ห้อง ที่แยกสัดส่วนเป็นส่วนของ Guest และ Family ได้อย่างชัดเจนมีพื้นที่เตรียมอาหารแยกกับห้องครัวอย่างลงตัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ครับ  ประตูกระจกบานนี้เชื่อมออกไปเป็นชานบานเชื่อมต่อกับบริเวณสวนด้านนอก สามารถปรับเป็นมุมนั่งเล่นจิบกาแฟยามเช้า ก็ทำได้ครับ ไว้เปลี่ยนบรรยากาศอยากให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับอากาศนอกบ้านครับ     โถงกลางบ้านสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารซึ่งความจริงแล้วมีพื้นที่กว้างมากสามารถวางโต๊ะสำหรับ 8-10 ที่นั่งก็ยังได้คับ ทางด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น 2 ซึ่งมีกระจกใสมุมยาวทั้ง 2 ด้านเพื่อทำให้บ้านโล่งสบาย โซนนี้จะเชื่อมต่อกับ Dining ทำให้พื้นที่พักพักผ่อนของ Family Area เชื่อมต่อกันได้อย่างชัดเจน และยังแยกเป็นสัดส่วนจากส่วนรับรองแขกด้านหน้า ทำให้บ้านดูมีการแบ่งฟังก์ชั่นที่ลงตัวทีเดียว ส่วนอีกด้านของส่วนรับประทานอาหารเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหารซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องครัวแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน     ในส่วนของ "Maid Plaza" จะแบ่งออกเป็น ห้องครัว ห้องแม่บ้าน และ ห้อง service เริ่มจากด้านซ้ายมือ มีกระจกบานเลื่อนตรงกับอ่างล้างจาน ซึ่งข้อดีของกระจากบานเลื่อนให้ตรงกับอ่างล่างจานเพื่อให้อากาศถ่ายเท ทำให้ตรงอ่างไม่อับชื้น ด้านล่างของอ่างล่างจานมีถังขยะให้ครับ ด้านข้างกระจกติดตั้งพัดลมดูดอากาศ และในส่วนของเคาน์เตอร์อีกด้านเป็นแบบ L shape มาพร้อมกับเครื่องดูดควันจากแบรนด์ MEX แต่ทางโครงการไม่ได้ให้เตานะครับ และด้านขวามมือมีประตูเชื่อมออกไปด้านหลังบ้าน     ถัดจากห้องครัวเปิดประตูออกมาจะพบกับพื้นที่ซักล้าง ด้านขวามมือเป็นห้องน้ำของแม่บ้านส่วนด้านตรงข้ามเป็นที่พักของแม่บ้าน     กลับเข้ามาภายในบ้าน แต่ก่อนจะขึ้นชั้น 2 จะมีประตูทางเข้าไม้สักที่เชื่อมต่อจากโรงจอดรถ และทางขวามือจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของห้องเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องนอนผู้สูงอายุ หรือจะจัดเป็นห้องนอนรับรองแขก ก็ทำได้เช่นกัน         ในส่วนของชั้น 2 ขึ้นบันไดมาจะพบพื้นที่ Family area สามารถมองเห็นชั้นล่างที่เป็น Double Volume ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ ส่วนบนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนโดยแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน 1 Master Bedroom  และ 1 ห้องนั่งเล่น       มาถึงส่วนของห้องนอนแรกมีพื้นที่กว้างพอสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ภายในห้องดูโปร่งสบาย เพราะมีหน้าต่างถึง 2 ฝั่ง สามารถรับลมและแสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้เป็นอย่างดี อีกด้านของห้องด้านหน้าห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้าเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว ภายในห้องน้ำตรงอ่างล้างหน้าและด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ และมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศได้ถ่ายเท อีกฝั่งเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำถูกกั้นด้วยประตูกระจกเพื่อกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาและมีที่นั่งเพื่อสะดวกต่อการใช้งานครับ       เดินออกมาจากห้องนอนแรกจะพบห้องอีก 3 ห้อง ซึ่งทางเดินยังมีพื้นที่กว้างมากไปต่อกับห้องทางขวามือก่อนครับ ในส่วนของห้องนอน 2 ซึ่งห้องนี้มีหน้าต่างบานใหญ่เพียงด้านเดียวแต่ก็ไม่ทำให้ห้องดูทึบเลย เพราะตัวห้องมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้เลยครับ อีกด้านของเตียงทางโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้า และที่ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานหรือชั้นวางโทรทัศน์ได้ครับ ส่วนพื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำสามารถ Built in เป็นพื้นที่แต่งตัวได้ครับ ภายในห้องน้ำใช้วัสดุเหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ     ตรงข้ามกับห้องนอนที่ 2 สามารถทำกำแพงกั้นเป็นห้องได้อีกหนึ่งห้อง จากตัวอย่างทางโครงการทำเป็นพื้นที่ Family area ไว้ให้ครอบครัวได้ทำกิจกรรมตอนกลางคืน ดูทีวีรวมกันก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยที่พื้นมีช่องระบายน้ำด้วยครับ หน้าต่างทุกบานเป็นระบบ Double Lock เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านครับ           และห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้กับ Master Bedroom ที่มีขนาดกว้างขวาง เทียบเท่า Penthouses ได้เลย เริ่มจากตรงกลางเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ด้านขวามือทางโครงการได้วางเตียง ซึ่งสามารถวางขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่มาก ด้านข้างริมหน้าต่างยังเหลือพื้นที่สำหรับ Bay Window Seat และกระจกเป็นแบบกระจกเข้ามุมสามารถมองเห็นระเบียงด้านข้างได้ครับ ส่วนอีกด้านของห้องสามารถ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้สองฝั่งสามารถทำ Walk in closet ก่อนเข้าห้องน้ำได้ครับ ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom ทางโครงการมีอ่างอาบน้ำให้จากแบรนด์ Cotto บนอ่างอาบน้ำมีหน้าต่างแบบบานเลื่อนไว้ระบายอากาศครับ อีกด้านเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่กั้นด้วยกระจก Tempered Glass ภายในพื้นที่อาบน้ำบนหัวมีหน้าต่างเล็กแบบบานกระทุ้งไว้ให้ครับ     ความสะดวกอยู่แค่เอื้อมกับ The City รัชดาฯ-วงศ์สว่าง บ้านเดี่ยวหลังใหญ่อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เพียงไม่กี่นาทีเข้าสู่ตัวเมือง ตัวบ้านหลังใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางตอบโจทย์ครอบครัวที่กำลังขยายในอนาคต ให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวอย่างมากกับเพื่อนบ้านทั้งหมดเพียง 94 ยูนิตเท่านั้น และสิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหนกับ The Club สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ตอบโจทย์ผสมผสานคนเมืองเข้ากับสังคมส่วนตัว ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนโดย AP (Thailand)    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1623 หรือทางเว็บไซต์ www.apthai.com    
Grande Pleno Suksawat-Rama 3-แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

Grande Pleno Suksawat-Rama 3-แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Grande Pleno Suksawat-Rama 3 (แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3) เจ้าของโครงการ : บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. พื้นที่โครงการ : 37-3-75 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น, บ้านแฝด 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 303 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 2 ชั้น 18 ตร.วาที่ดินเริ่มต้น  18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  100.71 ตร.ม.  ขนาด  2 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน - บ้านแฝด 2 ชั้น 36.0 ตร.วาที่ดินเริ่มต้น 36.00 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125.35 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - ฟิตเนส - สระว่ายน้ำ - คลับเฮ้าส์ - สวนสาธารณะภายในโครงการ - พื้นที่ตั้งนิติบุคคล - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,590,000 บาท จุดเด่นโครงการ : พรีเมียมทาวน์โฮมใหม่ สังคมคุณภาพ พร้อมคลับเฮ้าส์หรู จาก เอพี ไทยแลนด์ ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนเพียง 10 นาที ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถ.พระราม 2, ถ.พระราม 3, ถ.สุขสวัสดิ์, ถ.กาญจนาภิเษก, ถ.พุทธบูชา, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ถ.วงแหวนอุตสาหกรรม สถานที่ใกล้เคียง : รร.นาหลวง, รร.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, Max Value, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส และโฮมโปรรพ.บางปะกอก, รพ.บางปะกอก 3, รพ.บางปะกอก 9, รพ.นครธน  
Life Asoke Hype แตกต่างอย่าลงตัว รองรับทุกไลฟ์สไตล์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype แตกต่างอย่าลงตัว รองรับทุกไลฟ์สไตล์ : รีวิวคอนโด

ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมแบรนด์ Life จาก AP (THAILAND) มักจะถูกจับตามองอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้นในทำเลไหน จะมีลักษณะพิเศษอะไรออกมาอวดกันอีกบ้าง เพราะที่ผ่านมาทุกตัวนั้นได้รับกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงอยู่ไม่เบาทีเดียวค่ะ ดูได้จากวันเปิด Pre Sale ที่มาต่อคิวยาวเหยียดกันตั้งแต่ไก่โห่กันเลยทีเดียวค่ะ โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Life ตัวใหม่ล่าสุดในทำเลที่เชื่อว่าคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ “Life Asoke Hype” สำหรับตัวนี้จะทำให้เรา Hype แค่ไหนก็ต้องลองดูไปพร้อมๆ กันค่ะ ทำเลศักยภาพสุดฮอต บริเวณสี่แยกพระราม 9 ยังคงเป็นทำเลสุดฮอตที่ใครหลายคนหมายตาเอาไว้สำหรับคอนโดมิเนียมสักยูนิตไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะพักอาศัยเอง เพราะใกล้ที่ทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หรือจะลงทุนปล่อยเช่า เก็งกำไรกันต่อไปทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว จนเรียกได้ว่าใครที่ได้ครอบครองไปตั้งแต่มือแรกก็ยิ้มแก้มปริกันทุกรายค่ะ ที่แห่งนี้จึงยังคงมีความต้องการอยู่เสมอ ทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติที่ต่างก็เข้ามาจับจองอยู่ในพื้นที่นี้อยู่ในทุกโครงการก็ว่าได้ โดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น   ตัวโครงการมีความโดดเด่นอยู่ตรงที่มีทางเข้า-ออกโครงการได้ถึง 2 ทาง ซึ่งเป็นถนนสายหลักทั้งคู่ คือฝั่งถนนจตุรทิศ และฝั่งถนนอโศก-ดินแดง โดยใช้ทางเข้า-ออกเดียวกันกับโครงการ Life Asoke-Rama 9 ถนนทั้งสองมีความสำคัญสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่น้อยค่ะ เพราะถนนจตุรทิศนั้นมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชอยู่พอสมควรเลยค่ะ ไม่ว่าจะออกนอกเมืองจนเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ หรือจะไปทางบางนา-ดาวคะนอง, แจ้งวัฒนะ ก็สะดวกสบาย ส่วนถนนอโศก-ดินแดง ถือเป็นถนนที่คับคั่งด้วย Office Building มากที่สุดย่านหนึ่งในบ้านเรา และยังเป็นเส้นทางที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่าง CBD เดิม กับ NEW CBD อย่างพระราม 9 เอาไว้ด้วยกัน โดยจะผ่านถนนสายสำคัญอย่างพระราม 4-สุขุมวิท-เพชรบุรี ส่วนรถไฟฟ้าที่กลายเป็นหัวใจหลักของการเดินทางในกรุงเทพฯ นั้นอยู่ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร จาก MRT สถานีพระราม 9 และประมาณ 400 เมตร จากแอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีมักกะสัน     บริเวณสี่แยกพระราม 9 ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลทองทั้งในมุมมองของ Developer นักลงทุน และผู้อยู่อาศัยเองก็ตาม เหตุเพราะความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนส่งให้กลายเป็น NEW CBD ในปัจจุบัน ทั้งการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน  MRT มีจุดขึ้น-ลงทางด่วน และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในช่วงกลางวันไปจนถึงช่วงค่ำจึงมีความคึกคักมากทีเดียวค่ะ ซึ่งแต่ละแห่งนั้นมีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูนทาวน์, เอสพลานาด รัชดา, เดอะสตรีท, บิ๊กซี รัชดา, โชว์ดีซี ฯลฯ โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ไปจนถึงตลาดนัดรถไฟรัชดาอันเลื่องชื่อเรื่องแหล่งรวมคนสไตล์ฮิปๆ สถานบันเทิงยามค่ำคืนย่านรัชดา-อาร์ซีเอ ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้ส่งให้พระราม 9 กลายเป็นทำเลที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันจนกลายเป็นเสน่ห์ที่ยังคงไว้เสมอมา           ภาพรวมโครงการ Life Asoke Hype คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 40 ชั้น 1,253 ยูนิต+4 Shop ที่จอดรถ 530 คัน(42%) ขนาดห้อง 25.5-64 ตร.ม. บนพื้นที่ 5-0-10 ไร่ ดีไซน์บนแนวคิดที่จับเอาความแตกต่างระหว่างความหรูหราของชีวิตใจกลางเมืองแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว มาผสมผสานกับการใช้ชีวิตอันโลดแล่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มี Multi Lifestyles ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดความรู้สึกใหม่ของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม สะท้อนตัวตนในสไตล์ Young Urban Professional ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบให้กับชีวิต แต่ยังคงเดินไปตามแนวทางของตัวเอง   เริ่มตั้งแต่การวาง Exterior ให้ดูโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการเลือกใช้โทนสีแดงเข้มขึ้นมาเป็น Gimmick ตกแต่งลงบน Facade สะท้อนตัวตนที่ไม่เหมือนใคร ในมิติที่รู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์จนสะกดทุกสายตาในย่านสี่แยกพระราม 9 อย่างที่ไม่เคยเห็นจากโครงการไหนมาก่อน ซึ่งการผสานความแตกต่างมาหลอมรวมกัน เปรียบเหมือนการหยิบเอาความเป็นทำเล Multi-Culture มาไว้ในที่เดียวกันนี้ ส่งต่อมายังใงาน Interior ที่ใช้วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ในระดับพรีเมี่ยมในรูปแบบ Eclectic Style โดยเป็นงานที่ทาง AP สั่งทำ Custom Made พิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตกแต่ง โคมไฟ โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ หมอนอิง ฯลฯ จนเกิดเป็นงานที่มีความ Unique ไม่เหมือนใคร รวมถึงการสร้างบรรยากาศทั้งภายนอกและภายในโครงการที่จะช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด Supreme Privacy in Supreme Facility   Facility สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเริ่มตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ไปสู่ภายในอาคารที่ชั้น G ชั้น 7 ชั้น 40 และ Roof Top ไม่ว่าชอบใกล้ชิดธรรมชาติ ชอบปาร์ตี้กับคนรู้ใจ ชอบออกกำลังกาย ชอบเปลี่ยนบรรยากาศสถานที่นั่งทำงานหรือห้องประชุม แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีดีเทลเล็กๆ อย่างปลั๊กไฟอยู่ให้ทุกจุดที่นั่ง พร้อมฟรี Wifi และยังใส่ Smart Automation ลงไปเพื่อง่ายต่อการใช้งานยิ่งขึ้นสามารถเข้าถึงได้ทุกคน โดยสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสามารถเข้าใช้อย่างเป็นส่วนตัวผ่าน Application ทั้งหมดรวมแล้วกว่า 5 ไร่   Landscape Design ไม่ใช่แค่เพียงทำให้ดูเป็นธรรมชาติสวยงามเท่านั้น แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วยอย่างเต็มที่ ดังเช่น The Circle Running Garden นี้ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นลู่วิ่ง 2 ระดับ ให้ระยะทางที่มากกว่าการออกแบบ Landscape แบบธรรมดาทั่วไป   Scarlet Foyer โถงต้อนรับขนาดใหญ่ถูกประดับตกแต่งด้วย Premium Material สั่งทำขึ้นมาพิเศษ ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความทันสมัยไม่ตกยุค   Eclectic Lobby ออกแบบให้เกิดความสงบเป็นส่วนตัว โดยมี Private Seat ทำให้ Lobby จะไม่ใช่แค่เพียงทางเดินผ่านเลยไปเท่านั้น แต่สามารถใช้งานได้จริงหลากหลายรูปแบบ   ด้วยฟังก์ชั่นเพดานที่สูงโปร่ง จึงถูกดีไซน์ให้เกิดชั้นลอย Mezzanine เพื่อให้ได้ใช้งานแบบพื้นที่ PrivateCo-Working Space & Meeting Room   Hover Bay สระว่ายน้ำระบบน้ำล้นบริเวณชั้น 7 ยาว 30 เมตร กว้าง 6 เมตร แบ่งโซน Indoor Jacuzzi ด้วยม่านน้ำตก พร้อมที่นั่งใน Leisure Pit ริมสระให้ความรู้สึกสงบ และซุ้มที่นั่งพักผ่อน The Muted Garden ท่ามกลางสวนเขียวไล่ระดับ เพื่อให้พ้นจากสายตาของยูนิตพักอาศัยในชั้นใกล้เคียง   ชั้น 40 และ Roof Top ถูกออกแบบในลักษณะ S-Curve แปลกตากว่าที่เคยเห็น สระว่ายน้ำดีไซน์ L-Shape Sky Pool โดยแยกโซนออกเป็นส่วนของ Active เป็นสระยาว และ Passive ให้ได้นอนเตียงกลางสระชมวิวเมือง   Athletic Sky Atrium หรือฟิตเนสที่มีมาให้ถึง 2 ชั้น พร้อมเครื่องออกกำลังกายอันทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังสามารถพักสายตาด้วยวิวเมืองแบบ Panorama   Top Of Hype ดื่มด่ำบรรยากาศใจกลางเมือง ให้ความหรูหราราวกับเป็น Roof Top บนโรงแรม 5 ดาว   Floor Plan ตัวอาคารมีลักษณะคล้ายรูปตัว S นางยูนิตพักอาศัยแบบ Double Corridor มีบันไดหนีไฟ 3 จุดกระจายอยู่ทั่วอาคาร ลิฟท์โดยสารทั้งหมด 7 ตัว ลิฟท์เซอร์วิชอีก 1 ตัว แยกอยู่ 2 ปีกของอาคาร ฝั่งละ 4 ตัวค่ะ ถือว่าให้มาเยอะมากทีเดียว ทางเข้า-ออกโครงการทางถนนจตุรทิศจะอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทิศที่ได้วิวไฮไลท์ของโครงการค่ะ เพราะจะได้วิวทางมักกะสันไปจนถึงใจกลางเมือง และทิศตะวันตกที่จะได้วิวโล่ง   ทางเข้าโครงการฝั่งทิศตะวันออกมี Shop อยู่ก่อนถึง Drop Off ซึ่งเมื่อเข้าสู่ Lobby ตรงกลางแล้วจะมีประตูแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ก่อนที่จะพบกับลิฟท์และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง             Facility เต็มๆ ทั้งพื้นที่ Roof Top เชื่อมด้วยสะพานกระจกใสแบบที่ไม่เคยเห็นในโครงการไหนมาก่อน   Unit Plan สำหรับ Layout จะมาด้วยแนวคิด Supreme Space Design in Tomorrow’s Functionality จัดวางฟังก์ชั่นอย่างเป็นสัดส่วน ขนาดยูนิตของโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ STUDIO 25.50 ตร.ม. 1 Bedroom 30.00-32.00 ตร.ม. 1 Bedroom Plus 35.00-40.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom 48.50-60.00 ตร.ม. โดยนำเอาเทคนิคการวางยูนิตแบบ Interlock มาใช้กับห้องแบบ 1 Bedroom กับ 1  Bedroom Plus เพื่อให้แต่ละยูนิตมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเพิ่มมากขึ้น และยังมี Layout แบบใหม่จาก AP มาลงโครงการนี้ที่แรกด้วยค่ะ                   เทคนิคการวางยูนิตแบบ Interlock จะได้พื้นที่เพิ่มทุกยูนิต อย่างยูนิตตัวอย่างนี้จะมีห้องที่ได้พื้นที่ครัวปิดเพิ่ม และอีกห้องก็จะได้พื้นที่ห้องนอนเพิ่มไปด้วย        New Layout ล่าสุด เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยรูปแบบ Layout Multifunction Room ในห้องแบบ 1 Bedroom Plus 40.00 ตร.ม. สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทำให้ทุกตารางเมตรสามารถใช้พื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด       จาก MRT พระราม9-Life Asoke Hype ครั้งนี้เราเดินทางด้วย MRT สถานีพระราม 9 ใช้ทางออกที่ 1 ซึ่งจะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์เลยค่ะ แล้วเดินข้ามสี่แยกพระราม 9 ผ่านหน้าโครงการ Rhythm Asoke 1 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปก็จะพบกับโครงการ Life Asoke Hype รวมระยะทางเดินก็ประมาณ 300 เมตร แต่หากใครที่ใช้รถยนต์ก็สามารถเข้าจากทางถนนจตุรทิศ ฝั่งขาออก ก่อนจะถึงถนนอโศก-ดินแดง ได้เลยค่ะ     ขึ้นมาจากรถไฟฟ้าใต้ดินก็จะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์ค่ะ   ฝั่งตรงข้ามเป็นเซ็นทรัลพระราม 9 และอาคารจี ทาวเวอร์     ผ่านหน้าโครงการ Rhythm Asoke 1   Sale Gallery ใช้โทนสีแดงเป็นหลักเช่นเดียวกันกับตัวคอนโดมิเนียมค่ะ   ทางเข้า-ออก ฝั่งถนนจตุรทิศที่มาจากถนนศรีอยุธยา ชิดซ้ายมาเรื่อยๆ ก็จะพบโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ   เดินเข้าไปชมภายใน Sale Gallery กันเลยค่ะ   ชมห้องตัวอย่าง ภายใน Sale Gallery จะถูกถอดแบบออกมาให้คล้าย Lobby ของโครงการจริงเลยค่ะ ทั้งโทนสี เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุที่ใช้ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเป็นกลุ่ม หรือแบบมีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ สะท้อนตัวตนที่ไม่เหมือนใคร           1 Bedroom 32 ตร.ม. เป็นห้องที่มีลักษณะลึก โดยเริ่มจากห้องครัวปิดที่มีพื้นที่มากพอที่จะวางโต๊ะทานข้าวได้ เชื่อมต่อเข้าไปด้วย Living Room และระเบียงห้อง ประตูกระจกทั้งจากระเบียงและห้องครัวทำให้แสงธรรมชาติภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึงทำให้ดูสว่างขึ้นค่ะ ห้องน้ำอยู่ในโซนเดียวกันกับห้องครัว และห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูบานทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว สำหรับอยู่อาศัยกัน 1-2 คนก็ถือว่ากว้างขวางทีเดียวค่ะ   ส่วนแรกเลยเป็นห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ปูพื้นด้วยลามิเนตทั้งหมด   มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง       เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ ผนังด้านในกรุด้วยกระเบื้อง มาพร้อมกับซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันทั้งหมดจากแบรนด์ Franke ส่วนลิ้นชักกับบานตู้จะติดตั้ง Soft Close มาด้วยค่ะ    อีกด้านในโซนห้องครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ     ห้องน้ำใช้แบบสำเร็จรูปค่ะ ผ่านการ QC ยกมาจากโรงงานเลย หากเกิดการซ่อมแซมก็จะทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรบกวนห้องอื่นด้วย โดยสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดจากแบรนด์ Kohler จะได้มาตามนี้เลยค่ะ ยกเว้นแค่ของตกแต่งเท่านั้น     Living Room พื้นที่กว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้โดยยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะด้านข้าง และโต๊ะกลางได้อีก ต่อด้วยระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน   ระเบียงจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่ง มีก๊อกน้ำสำหรับซักล้าง และ Condensing Unit แขวนไว้ด้านบน หันออกนอกอาคาร    เครื่องปรับอากาศเครื่องแรกจะถูกแขวนไว้เหนือโซฟา   หลังเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องนอนค่ะ       ห้องนอนจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมกับตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีกข้างค่ะ ส่วนหน้าต่างจะสามารถเปิดได้แบบบานกระทุ้ง 1 บาน และเครื่องปรับอากาศถูกติดตั้งไว้ปลายเตียง   1 Bedroom Plus 35 ตร.ม. ขนาดห้องขยับขึ้นมาอีกนิดค่ะ แต่มีความโดดเด่นจนเรียกได้ว่าเป็น Type ไฮไลท์ของ Life Asoke Hype เพราะเป็นห้องหน้ากว้างเลยได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญคือความเป็น Multifunction สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ตามการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ห้องทำงาน แม้กระทั่งห้องนอนที่ 2 ก็จัดได้ตามใจเจ้าของห้องเลยค่ะ  โดยพื้นที่แรกกลางห้องตามห้องตัวอย่างจะจัดให้เป็นห้องทานข้าว เชื่อมต่อเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนฟังก์ชั่นทางขวามือจะเป็นครัวปิด และทางซ้ายเป็นห้องน้ำกับห้องนอนค่ะ   ภายในห้องจะปูพื้นด้วยลามิเนต ทางซ้ายมือคือห้องน้ำกับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานทึบ ส่วนตรงกลางจะกั้นห้องเพิ่มด้วยประตูกระจกบานเลื่อน High Ceiling ทำให้ห้องดูโปร่ง แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้มากขึ้น   ระหว่างห้องทานข้าวกับห้องนั่งเล่น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายนะคะ เช่น เปลี่ยนห้องนั่งเล่นมาไว้ที่ส่วนแรก ส่วนห้องด้านหลังปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนที่ 2 ก็ได้นะคะ   หันทางขวามือของห้อง จะพบห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ภายในครัวมีช่องสำหรับวางตู้เย็น และ Built in เคาน์เตอร์ครัวตลอดแนวผนัง ใช้ Top หินสังเคราะห์สีขาว กรุผนังด้านในด้วยกระเบื้อง มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์   ประตูห้องน้ำจะใช้แบบ Double Access เชื่อมต่อระหว่างห้องนอน และกลางห้อง    ห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ฝักบัว ทั้งหมดใช้แบรนด์ Kohler พร้อมติดกระจกเงายาวเต็มผนัง และกั้นส่วนเปียกด้วยกระจกใสประตูบานสวิง   ภานในห้องนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ริมหน้าต่าง โดยมีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงเหลือ และยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามแนวผนังฝั่งห้องน้ำค่ะ         มาถึงส่วนด้านในสุดของห้องค่ะ โดยตามห้องตัวอย่างจะทำให้ห้องนี้เป็น Living Room พื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ ค่ะ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตามการใช้งานได้อย่างหลากหลายด้วยเช่นกัน และต่อด้วยระเบียงห้องพื้นที่กว้างขวางพอจะเป็นระเบียงสำหรับซักล้างหรือพักผ่อนก็ได้   2 Bedroom 48.50 ตร.ม.  มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายแล้วนะคะ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นสำหรับ 2 Bedroom ลักษณะลึก ซึ่งจะแบ่งฟังก์ชั่นเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ค่ะ คือซ้ายมือป็นห้องน้ำและห้องนอน กลางห้องเป็น Living Room กับพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว และฝั่งขวามือเป็นห้องครัวปิด กับห้องนอน โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดพอๆ กันค่ะ แต่จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน         จากโซนแรกของห้องที่วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง หันไปทางขวามือของห้องจะพบกับห้องครัวปิด ที่มีเคาน์เตอร์ครัววางแบบ One Wall Kitchen กรุกระเบื้องผนังด้านในเพื่อให้เช็ดทำความสะอาดง่ายเมื่อเกิดคราบสกปรก วัสดุ Top มีความทนทานเหมาะกับการทำครัวหนัก ซิงค์ล้างจานออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นขณะใช้งาน มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นที่มุมห้อง และวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าใต้เคาน์เตอร์ครัวได้อีกด้วยค่ะ   หันมาที่ฝั่งซ้ายของห้องกันบ้างค่ะ ประตูห้องน้ำแบบ Double Access ระหว่างห้องนอนกับกลางห้อง ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งด้วยกระจกใสประตูบานสวิง โดยส่วนเปียกจะอยู่ด้านในสุด ส่วนแห้งจะใกล้ประตูเพื่อให้ใช้ง่ายได้สะดวกกว่าค่ะ     ห้องนอนแรกนี้จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะหัวเตียงได้อีกด้านหนึ่งค่ะ ส่วนหน้าต่างของห้องจะสามารถเปิดออกแบบบานกระทุ้งได้ 1 บาน จุดเด่นของห้องนอนนี้คือเชื่อมต่อกับห้องน้ำเสมือนเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ ใครที่ชอบเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนเลือกห้องนี้ก็จะเหมาะเลย   โซน Living Room ด้านในสุดของห้องมีพื้นที่สำหรับวางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางกับโต๊ะเล็กข้างโซฟา และยัง Built in เคาน์เตอร์วางทีวีได้ตลอดแนวผนัง เชื่อมต่อด้วยระเบียงห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงเหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้างค่ะ มีก๊อกน้ำติดตั้งมาให้ด้วยเรียบร้อย ส่วน Condensing Unit แขวนไว้หันหน้าออกนอกอาคาร มีกริลปิดเพื่อความสวยงาม และยังช่วยผลักความร้อนออกด้วยค่ะ            สุดท้ายที่ห้องนอนฝั่งขวามือของห้องค่ะ เป็นห้องที่วางเตียง 5 ฟุตไว้กลางห้อง พร้อมมีพื้นที่สำหรับ Built in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ สำหรับห้องนี้มีจุดเด่นตรงที่ได้ Space ข้างหน้าต่างกระจก Full Height มีกระจกเข้ามุม ลึกเข้าไปจากหัวเตียง ทำให้เทควิวด้านนอกได้กว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งได้มากกว่า   Life Asoke Hype เชื่อว่าจะเป็นสีสันใหม่แห่ง NEW CBD ด้วยงานดีไซน์ทั้ง Exterior และ Interior ที่เรียกได้ว่าเป็นงาน Craft ซึ่งกล้าที่จะแตกต่างผสานเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่สไตล์ Hyper Active เพราะชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง เหมือนกับ AP (THAILAND) ที่ไม่เคยหยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ลงไปในที่อยู่อาศัยเสมอ     Online Booking Sold Out ไปแล้วเรียบร้อย พบกัน Pre-Sale 6-7 ต.ค นี้ที่สำนักงานขาย โปรโมชั่นวันงาน รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท On-Top จ่ายค่าจอง + ค่าสัญญา 5% รับส่วนลดราคาหน้าสัญญา 2% (รับสิทธิเมื่อจ่ายในวันงาน)  
Aspire Erawan ก้าวเดียวจากรถไฟฟ้า ราคาแค่ล้านกว่า : รีวิวคอนโด

Aspire Erawan ก้าวเดียวจากรถไฟฟ้า ราคาแค่ล้านกว่า : รีวิวคอนโด

ราคาคอนโดมิเนียมสมัยนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิ่งติดรถไฟฟ้ามากเท่าไรราคาก็พุ่งสูงขึ้นทุกวันจนใกล้จะเอื้อมถึงยากเข้าไปทุกที โดยเฉพาะทำเลช่วงสุขุมวิทตอนต้นที่แม้จะอุดมสมบูรณ์รอบด้าน แต่ราคาคอนโดมิเนียมเฉลี่ย/ตร.ม. ก็เริ่มต้นที่แสนปลายๆ ขึ้นไปแล้ว แถมยังไม่ได้ติดรถไฟฟ้าอีกต่างหาก ซึ่งในรีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกท่านไปชมคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ติดรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ชนิดที่ห่างจากหน้าโครงการเพียงก้าวเดียว แต่ราคาเริ่มต้นแค่ 1.89 ล้านบาทเท่านั้น (เริ่ม 63,000 บาท/ตร.ม.) ทำเลดี ราคาโดนแบบนี้ ลองไปทำความรู้จักด้วยกัน พร้อมกับโปรโมชั่นที่ให้มากที่สุดแห่งปีกันค่ะ ทำเลสุขุมวิทช่วงปลาย ขึ้นชื่อว่าถนนสุขุมวิท เชื่อว่าใครๆ คงรู้จักกันดี โดยเฉพาะช่วงต้นไปจนถึงช่วงกลาง เพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญชื่อดังมากมาย เริ่มตั้งแต่ถนนพระราม 1 ที่บริเวณสยาม แหล่งรวมวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัยจนมาเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทบริเวณเพลินจิต-นานา-อโศก-พร้อมพงษ์-ทองหล่อ ที่ถือให้เป็นสุขุมวิทช่วงต้น ต่อด้วยเอกมัยไปจนถึงอุดมสุขที่เป็นช่วงกลาง และจากบางนาออกไปจึงถือเป็นสุขุมวิทช่วงปลาย ซึ่งในโซนนี้หากใครได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองก็จะรู้สึกถึงความเรียบง่าย ไมวุ่นวายมากนักเมื่อเทียบกับสุขุมวิทช่วงต้น เพราะย่านนี้ยังคงเป็นชุมชนเดิมอยู่ อาคารสูงยังน้อยมาก       สุขุมวิทช่วงปลาย แม้จะยังดูไกลออกไปอยู่พอสมควร แต่เดือนธันวาคมนี้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสถานีสำโรงในปัจจุบันก็จะเปิดให้บริการยาวไปจนถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ นี่จะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในแง่ของการเดินทางจากชานเมืองเข้าไปสู่ในเมืองนั้นสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้นั้นก็ไม่แพ้โซนอื่นๆ เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี สำโรง, โลตัส ศรีนครินทร์, ฟู๊ดแลนด์ ศรีนครินทร์  ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญก็จะมี เมกา บางนา, เซ็นทรัล บางนา ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้งรัฐและเอกชน เช่น รพ.เปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ, รพ. เอราวัณ, รพ.สำโรงการแพทย์, รพ.ศิครินทร์ ฯลฯ     Aspire Erawan ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิทขาเข้า หน้าโครงการติดกับ BTS สถานีช้างเอราวัณ อย่างที่เรียกได้ว่า 0 เมตร สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างทองหล่อ-อโศก-สยาม ได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง หากใครที่ใช้รถยนต์ก็สามารถใช้ถ.กาญจนาภิเษก เป็นหลักในการเดินทางไปไหนมาไหนได้เลยค่ะ เพราะอยู่ห่างจากโครงการไม่ถึง 1 กิโลเมตร ไม่ว่าจะออกนอกเมืองไปทางพระราม 2 หรือบางนาแล้วเชื่อมต่อกับบูรพาวิถีก็สะดวกสบาย หรือจะเข้าสู่ตัวเมืองก็ยังสามารถใช้ถ.กาญจนาภิเษก แล้วเชื่อมต่อกับวงแหวนอุตสาหกรรมไปลงที่ถ.พระราม 3 ก็จะสามารถเข้าสู่ช่วงสาทรได้ง่ายๆ ใช้เวลาเพียง 30 นาที และยังใกล้ทางด่วนบางนา เพียง 15 นาที เชื่อมต่อเข้ากรุงเทพฯ ชั้นในได้อย่างสะดวกสบายเพียง 15 นาที         ภาพรวมโครงการ Aspire Erawan คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 31 ชั้น 1,576 ยูนิต ชั้น B1-4 เป็นที่จอดรถ 553 คัน (35%) ไม่รวมซ้อนคัน ยูนิตพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 6-30 พื้นที่ทั้งหมด 6-1-89.5  ไร่ ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ดีไซน์อาคารได้แรงบันดาลใจมาจากความเป็น Modern Japanese นำมาผสมผสานกับกลิ่นอายแบบ Industrial เกิดเป็นโครงการที่ดูเรียบง่าย แต่ได้ประโยชน์ใช้สอยมาก     เดินชม Facility สิ่งอำนวยความสะดวกจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกันค่ะ เริ่มตั้งแต่บริเวณเหน้าโครงการที่มี Shop ซึ่งมีที่จอดรถด้วย ทำให้บุคคลภายนอกสามารถแวะมาใช้บริการได้ด้วยเช่นกันค่ะ ทางเดินจากหน้าโครงการก็มีการกั้นระหว่างทางเดินที่มีหลังคาไปตลอดทางกับทางรถยนต์แยกกันอย่างชัดเจน เมื่อเข้ามาถึงตัวโครงการก็จะพบ Drop Off จะเริ่มเข้าสู่ตัวอาคาร โดยจะมีทั้ง Lobby ใต้อาคารให้ได้นั่งเล่นรับลม และ Lobby ภายในอาคารที่ต้องใช้คีย์การ์ดผ่านเข้าไปเท่านั้น เชื่อมต่อไปจนโถงลิฟท์หลัก ซึ่งก็จะมีประตูคีย์การ์ดกั้นอีกชั้นหนึ่งเพิ่มความปลอดภัยแก่ลูกบ้าน   ชั้น 5 Facility หลักของโครงการ จะมีทั้ง Co-Working Space ในห้องที่มีฟรี Wifi ได้วิวรถไฟฟ้าด้านหน้าโครงการ Active Fitness พร้อมอุปกรณ์ระดับโปร และ Game Room ให้มีกิจกรรมสังสรรค์ใหม่ๆ กับเพื่อน รวมถึงห้องสตีมที่อยู่ภายในห้องน้ำส่วนกลาง และสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก มีสวนสีเขียวให้ได้นั่งพักผ่อนรอบๆ           Rooftop เปลี่ยนบรรยากาศออกกำลังกายในฟิตเนสมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบนชั้น Rooftop ไม่ว่าจะเป็น Jogging Track, Sky Yoga หรือชอบความท้าทายอย่าง Boxing Zone, Climb Zone และยังมี Bar-B-Q Zone และจุดชมวิวให้ได้นั่งพักผ่อนพร้อมชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยา แล้วทอดสายตาออกไปเป็นแนวใจกลางเมือง     ไม่ใช่แค่ติดสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้นนะคะ แต่หน้าโครงการยังเป็นบันไดเลื่อนขึ้นสถานีด้วยค่ะ   Shop หน้าโครงการมีประมาณ 3 Shop (7-11, ร้านอาหาร Time to eat และร้านการแฟ D'oro) ทางเข้ากั้นด้วย Keycard Access Control และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.    ทางเดินเข้าตัวโครงการประมาณ 150 เมตร   Drop off ก่อนจะเข้าถึงตัวอาคารค่ะ   Lobby ด้านนอกแบบ Semi ก่อนจะเข้าสู่ภายในอาคารก็ต้องผ่านด้วย Keycard Access Control เช่นกันค่ะ   Lobby ด้านใน   มีการติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED เอาไว้ตามนโยบายจาก AP (THAILAND)   ห้อง Mail Box     ขึ้นมาที่ชั้น 5 ค่ะ เป็นชั้นที่อยู่อาศัยชั้นแรก และยังเป็น Facility หลักด้วย   Co-Working Space พร้อมฟรี Wifi ค่ะ         สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 13 x 30 เมตร ลึก 1.2 เมตร และสระเด็กลึก 0.5 เมตร ค่ะ     Game Room สามารถเบิกอุปกรณ์สำหรับเล่นได้จากนิติบุคคลค่ะ    Active Fitness พร้อมอุปกรณ์   ภายในห้องน้ำทั้งชาย-หญิง จะมีล็อกเกอร์เก็บของและห้องสตีมอยู่ด้วยค่ะ   ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop ชั้น 31 โดยขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 30 แล้วเดินขึ้นบันไดมาอีก 1 ชั้นค่ะ   Jogging Track ให้ได้วิ่งสูดอากาศธรรมชาติ    Boxing Zone    Climb Zone ความท้าทายใหม่บนคอนโดฯ    หรือจะจัด Meeting เล็กๆ กับคนรู้ใจที่ Bar-B-Q Zone    Sight Seeing ก็มีอยู่หลายจุดค่ะ ไม่ว่าจะชอบวิวเมือง หรือวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบ        Foor Plan พื้นที่ตัวอาคารเข้าไปจากถนนสุขุมวิทประมาณ 150 เมตร ซึ่งอาคารจะถูกวางแนวยาวทางทิศเหนือ แล้วมีส่วนที่ต่อออกมาทางทิศใต้ 2 ส่วนขนานกัน โดยจะแบ่งลิฟท์แบบล็อคชั้นออก 2 ส่วนนี้เช่นกันค่ะ เป็นทางด้านตะวันออกจะมี 4 ตัว ลิฟท์เซอร์วิช 2 ตัว และลิฟท์ทางฝั่งตะวันตกมี 2 ตัว บันไดหนีไฟกระจายอยู่ถึง 5 จุด ยูนิตพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับ Facility สำหรับยูนิตฝั่งทิศเหนือจะได้ City View ซึ่งจะมองไปเห็นช้างสามเศียร และถนนกาญจนาภิเษก ส่วน Wing ทางขวามือด้านหน้าโครงการจะได้วิวทางถนนสุขุมวิทและสระว่ายน้ำกลางโครงการ และ Wing ทางซ้ายมือจะได้วิวสระว่ายน้ำกลางโครงการ และแม่น้ำเจ้าพระยาที่โอบล้อมด้วยพื้นที่ว่างสีเขียวขนาดใหญ่             Unit Plan ยูนิตพักอาศัยสำหรับ Aspire Erawan จะได้ห้องแบบ Fully Furnished (ช่วงโปรโมชั่น) ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built In และแบบลอยตัวค่ะ โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ STUDIO 25.50 ตร.ม. ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่สุดคือ 2 Bedroom 47 ตร.ม. (ซึ่งตอนนี้ห้องแบบ STUDIO ขายหมดแล้ว) ซึ่ง Layout สำหรับโครงการนี้จะมีลักษณะที่เน้นแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาอย่างทั่วถึงภายในห้อง และเน้นครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน แม้จะมีบางยูนิตที่เป็นครัวเปิดเพื่อทำให้มีพื้นที่โล่งขึ้น แต่ก็ยังสามารถสร้างประตูกระจกบานเลื่อนปิดได้ และห้องน้ำจะใช้แบบสำเร็จรูปยกมาจากโรงงานติดตั้งที่โครงการเรียบร้อย มีข้อดีตรงที่มีรอยต่อน้อย ดังนั้นจึงเกิดการรั่วซึมได้ยาก ทำความสะอาดก็ง่ายตามไปด้วย และเมื่อเกิดปัญหาก็สามารถเข้ามาซ่อมแซมได้เลย ไม่ต้องซ่อมจากห้องอื่นๆ อย่างห้องน้ำทั่วไป     STUDIO 25.50 ตร.ม.    1 Bedroom 29.50-30.00 ตร.ม.   1 Bedroom Plus A 35.00 ตร.ม.   1 Bedroom Plus A 35.00 ตร.ม.     2 Bedroom 47.00 ตร.ม.   ชมห้องตัวอย่าง 30.00 ตร.ม. หลังจากเดินชมส่วนกลางของโครงการกันแล้ว ก็เข้าไปชมห้องตัวอย่างกันต่อค่ะ โดยห้องตัวอย่างแรกคือ 1 Bedroom 30.00 ตร.ม. ซึ่งเป็น Layout ห้องยอดฮิตทีเดียวค่ะ เพราะแบ่งฟังก์ชั่นอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ทั้งห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อลึกเข้าไปเป็นห้องนอน แยกส่วนห้องครัวปิดกับห้องน้ำไปจนถึงระเบียงขนาดเพียงพอให้วางราวตากผ้าได้สบายๆ โดยรวมแล้วถือว่าขนาดกำลังพอดีสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 คน และสิ่งที่จะได้มากับห้องด้วย ได้แก่ โซฟา โต๊ะทานข้าว เคาน์เตอร์ทีวี เตียงขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง เครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมด เคาน์เตอร์ครัว   ประตูห้องใช้แบบกุญแจล็อคกับก้านโยกค่ะ   ทุกยูนิตมีความสูง Floor To Ceiling 2.5 เมตร ไฟห้องแบบ Downlight และพื้นห้องปูด้วยลามิเนต     เคาน์เตอร์ทีวี Built In มาให้พร้อมกับเป็นตู้เก็บของไปด้วยในตัว   ห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ส่วนรางเลื่อนจะติดซ่อนอยู่ด้านบนประตูค่ะ ทำให้เวลาเดินมีความ Smooth ยิ่งขึ้น และไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นจับด้วยค่ะ      ภายในห้องนอนค่ะ   หน้าต่างข้างเตียงนอนทุกห้องจะใช้บานกระทุ้ง ไม่รวมผ้าม่านนะคะ   เครื่องปรับอากาศติดตั้งไว้ให้ปลายเตียง หากเปิดประตูห้องนอนไว้ก็จะเย็นออกไปถึงห้องนั่งเล่นได้ค่ะ   ไปต่อกันที่ห้องน้ำ และห้องครัวปิดค่ะ   ห้องน้ำสำเร็จรูปยกพื้นสูง ภายในแยกส่วนเปียก-แห้ง โถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าใช้แบรนด์ American Standard ก๊อกน้ำและฝักบัวจากแบรนด์ Grohe        ห้องครัวปิดปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นทางขวามือของเคาน์เตอร์ครัว     ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีขาว   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ   Condensing Unit แขวนไว้เหนือศรีษะ หันออกนอกระเบียงค่ะ    ห้องตัวอย่าง 35.00 ตร.ม. ห้องตัวอย่างถัดมานั่นคือ 1 Bedroom Plus 35.00 ตร.ม. สำหรับห้องนี้แม้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้วไม่มาก แต่ด้วยการวาง Layout ที่ดี จึงทำให้ออกมาดูกว้างขวางขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ซึ่งจะได้ห้องเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานของแต่ละคนได้อย่างอิสระ เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ตอบโจทย์ที่สุด       สำหรับบางห้องจะได้โปรโมชั่นรวม Digital Door Lock จากแบรนด์ Samsung ด้วยค่ะ   ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างขวางมากขึ้น     ทั้ง 2 ห้องจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซ่อนรางไว้ด้านบนเหมือนกันค่ะ   ห้องนอนแรกค่ะ จะได้ทั้งตู้เสื้อผ้า เตียงนอน 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ไม่รวมผ้าม่านค่ะ   หากใครที่ใช้ครัวบ่อยๆ ก็สามารถกั้นประตูกระจกเพิ่มเติมให้กลายเป็นครัวปิดได้ค่ะ   สำหรับห้องตัวอย่างนี้จะตกแต่งห้องอเนกประสงค์ให้เป็นห้องนอนค่ะ แต่ก็สามารถปรับเป็นฟังก์ชั่นได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ   จากห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงโดยกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ   Condensing Unit แขวนไว้หันหน้าออกนอกระเบียง และยังมีกริลเพื่อผลักลมร้อนออก เมื่อมองจากด้านนอกอาคารก็ยังสวยงามเป็นระเบียบขึ้นด้วยค่ะ        ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียก-แห้ง พร้อมติดตั้งกระจกบานใหญ่มาให้ด้วยค่ะ   Aspire Erawan ไม่ใช่แค่ติดสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วยนะคะ เรื่องทำเลที่ตั้งจึงถือว่าหาได้ยากไม่น้อยสำหรับถนนสายสุขุมวิท แม้อาจจะยังเป็นทำเลที่ไม่มีใครเอ่ยถึงกันนัก แต่เชื่อว่าหากลองได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วก็จะค้นพบว่า ความเงียบสงบมีอยู่จริงแม้จะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าก็ตามที แล้วยิ่งติดรถไฟฟ้าขนาดนี้ถ้าทำเลขยับเข้าเมืองไปอีกไม่กี่สถานี ราคาก็พุ่งขึ้นมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ ซึ่งในราคา 1.89 ล้านบาท แบบนี้หาไม่ได้แน่นอนค่ะ       https://www.youtube.com/watch?v=E5FQnbS3Ozo
บ้านกลางเมือง วัชรพล ค้นพบคำตอบของบ้านที่ดี บนทำเลที่ใช่     : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง วัชรพล ค้นพบคำตอบของบ้านที่ดี บนทำเลที่ใช่     : รีวิวทาวน์โฮม

เหตุผลของการเลือกที่อยู่อาศัยแนวราบ ใครๆ ก็คงต้องบอกว่าเพราะได้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ ยิ่งถ้าได้ทำเลเดินทางสะดวก แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวก็จะยิ่งมีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยหากมีแบบบ้านที่จัดฟังก์ชั่นดีๆ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และยังยก Pocket Garden ขึ้นมาไว้บนบ้านของเรา ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติเข้าไปอีก อย่างแบบบ้านทาวน์โฮมใหม่ล่าสุดจาก AP ที่ชื่อว่า Terraria (เทอร์ราเรีย) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาได้ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวทีเดียวค่ะ แต่จะมีหน้าตาแบบไหน แล้วจะใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวอย่างไรนั้น ลองมาค้นหาคำตอบกันในรีวิวฉบับนี้ค่ะ        ทำเลที่ใช่   ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบหลายโครงการ มักจะเลือกมาปักหมุดในย่านวัชรพลกันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีทางด่วนฉลองรัชสร้างยาวมาจนถึงย่านนี้ ตรงด่านสุขาภิบาล 5 ทำให้โซนนี้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการเดินทางที่สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง ราคาที่ดินยังไม่แพง ใกล้สถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น สำนักงานที่ดินกรุงเทพ, สำนักงานพัฒนาสมรรถนะครู, สำนักงานเขต เป็นต้น ทำให้การอยู่อาศัยในละแวกนี้ยังไม่หนาแน่นมากนัก ย่านวัชรพลจึงมีความน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก     หากจะบอกเล่าให้เห็นภาพกันมากขึ้น ก็คงจะต้องเปรียบวัชรพลเป็นเหมือนวงกลมที่มีเส้นทางต่อออกไปได้เกือบรอบวง ซึ่งมีเส้นทางหลักในการเข้าสู่ใจกลางเมืองคือ ทางด่วนฉลองรัช หรือที่เรียกกันติดปากว่าเลียบด่วนรามอินทรา ที่ด่านสุขาภิบาล 5 สามารถตรงเข้าสู่พระราม 9 หรือเอกมัยได้สะดวกมาก โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะเลือกเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษกก็ใกล้นิดเดียว ส่วนถนนหลักก่อนเข้าสู่วัชรพลอย่างถนนรามอินทรา ก็เป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่ง เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่เป็นระยะตลอดเส้นทาง และในอนาคตปี 2564 จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านตลอดถนนรามอินทรา ซึ่งจะมีจุด Interchange กับสายสีม่วง สายสีแดง สายสีเขียวส่วนต่อขยาย สายสีเทา และสายสีส้ม เป็นทางเลือกการเดินทางที่หลายคนรอคอย หรือจะใช้เส้นทางด้านถนนสายไหมแล้วไปทะลุออกสี่แยกคปอ. เข้าถนนธูปะเตมีย์ ทะลุเข้าถนนวิภาวดีขาเข้าจะใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็ถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว และถนนตัดใหม่อย่างถนนเทพรักษ์ โดยเริ่มต้นจากถนนพหลโยธิน ข้างบิ๊กซีสะพานใหม่ไปเชื่อมต่อกับถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 และยังมีแผนในอนาคตจะทำถนนต่อเพิ่มไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งโครงการบ้านกลางเมืองวัชรพล จะตั้งอยู่ริมถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งขาเข้า         สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย แถมยังหลากหลายด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นจำพวกห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์(CDC) บนเลียบด่วนรามอินทรา หรือที่ถนนรามอินทราอย่างเดอะพรอมานาด, แฟชั่นไอส์แลนด์ และเซ็นทรัลรามอินทรา หรืออยากเดินตลาดในวันสบายๆ ก็อยู่ใกล้โครงการอยู่หลายแห่งทั้งตลาดออเงิน, ตลาดวงศกร, ตลาดยิ่งเจริญ, ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา และตลาดนัดหัวมุม ส่วนโรงพยาบาลก็หายห่วงค่ะ เพราะมีทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนอยู่รอบๆ เช่น รพ.สายไหม, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, รพ.สินแพทย์ และรพ.ภูมิพลอดุลยเดช เป็นต้น     ภาพรวมโครงการ   บ้านกลางเมือง วัชรพล มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 18 ไร่ แต่มีจำนวนยูนิตเพียง 192 ยูนิต ตอกย้ำความสงบเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย ซึ่งทาง AP ตั้งใจให้เกิดเป็น Peace Moment บน Concept โครงการ “Serenity within Reach” เข้าถึงความสงบอย่างเข้าใจผู้อยู่อาศัยที่ต้องการช่วงเวลาพักผ่อนที่ดีที่สุดอยู่ในบ้านของตัวเองโดยโครงการที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นรูปแบบใหม่ ได้พื้นที่ใช้สอยถึง 152 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท       Club House กลางโครงการถูกสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบ Glasshouse Resort ให้เหมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทระดับ  2 ชั้นกลางธรรมชาติ มีทั้ง Greenery Space สวนสีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เปรียบเสมือนปอดกลางโครงการ มองออกไปแล้วสบายตาเกิดความรู้สึกสงบอย่างแท้จริง สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อม Sunken นั่งเล่นมุมสระว่ายน้ำ ภายในอาคาร Club House ชั้นแรกถูกจัดพื้นที่ให้เป็น Co-Working Space ส่วนชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน          ลืมภาพเก่าๆ ของทาวน์โฮมแบบเดิมๆ ไปได้เลยค่ะ เพราะความพิเศษของดีไซน์ทาวน์โฮมใหม่ชื่อว่า Terraria ที่ให้พื้นที่ใช้สอยภายในมากพอๆ กับบ้านเดี่ยว แต่ราคาทาวน์โฮม เน้นจุดเด่นที่ Flexible Space ปล่อยพื้นที่ให้ได้ครีเอทกันอย่างเต็มที่ เพื่อตอบไลฟ์สไตล์แบบที่เป็นตัวเอง อีกทั้งย่อสวนสีเขียวให้เป็น Pocket Garden แล้วยกขึ้นมาไว้ที่ชั้น 2 และ 3 ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ท่ามกลางบรรยากาศความเป็นส่วนตัว จนสัมผัสได้ถึงความสงบที่แท้จริงในบ้านของตัวเอง     เดินชมโครงการ     เราจะพาเดินชมโครงการบ้านกลางเมือง วัชรพล กันตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า-ออกเลยค่ะ ซึ่งที่ประตูหลักนี้ จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอด 24 ชม. โดยบุคคลภายนอกจะต้องแลกบัตรเข้าไปค่ะ   ส่วนลูกบ้านจะใช้ระบบ Easy Pass ในการเข้า-ออก พร้อมกับมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ที่ประตูด้วย   กลางโครงการจะพบกับ Club House โดยจะมีทั้งส่วนที่เป็น Outdoor และภายในอาคาร 2 ชั้น     ส่วนแรกของ Facility จะเป็นลานสนามหญ้าโล่งๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่สลับกับพุ่มไม้เตี้ย สำหรับทำกิจกรรมได้หลากหลาย   ด้านข้างสนามหญ้าจะมีหลุมสำหรับนั่งพักผ่อนช่วงแดดร่มลมตกได้   อาคาร Club House ถูกดีไซน์ในลักษณะ Glass House 2 ชั้น ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือ และมีสระเด็กแยกอยู่ริมสระ    มุมด้านข้างสระว่ายน้ำมี Sunken สำหรับนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศของ Club House        ทางเดินขึ้นไปชมภายในอาคาร Club House ใช้วัสดุหินอ่อนปูผนังเพิ่มความสวยงามดูดี สลับกับใช้ Copper ตกแต่งสร้างสีสันเพิ่มเติม    ภายในชั้น 1 จัดให้เป็น Co-Working Space นั่งสบายๆ กับเซตโซฟาที่ล้อมรอบไปด้วยกระจก High Ceiling รับแสงสว่างเข้ามาได้มาก โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟก็สว่างเพียงพอเช่นกันค่ะ    ด้านหลังจะเป็นมีส่วนที่เป็นเพดานสูงๆ แบบ Double Space มองขึ้นไปเห็นชั้น 2 ของ Club House    ขึ้นบันไดด้านข้างไปที่ชั้น 2 กันค่ะ   ชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ ปูพื้นด้วยพรม ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ดูโปร่งสบาย    มีการกั้นห้องกระจกด้วยประตูกระจกบานเลื่อนจาก 2 ฝั่งมาเข้ามุมกันพอดี   ภายในห้องกระจกนี้ถูกจัดไว้สำหรับเป็นพื้นที่เล่นโยคะ ขนาดประมาณ 2 คนเล่นค่ะ   วิวจากชั้น 2 ของ Club House ค่ะ เป็นโครงการที่ดูร่มรื่นด้วยสีเขียวจากต้นไม้ เข้ากับตัวทาวน์โฮมที่มีโทนสีเทาธรรมชาติกับสี Copper ซึ่งดูทันสมัย แต่ยังคงความสอดคล้องกับธรรมชาติรอบๆ โครงการ    ชมบ้านตัวอย่าง   ต่อมาเราจะเข้าไปชมทาวน์โฮมตัวอย่างกันบ้างค่ะ ซึ่งจะเป็นแบบ Terraria ดีไซน์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นในโครงการบ้านกลางเมืองอื่นๆ ก่อนหน้านี้   เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าบ้านเลยค่ะ หากไม่มีการวางเก้าอี้นั่งเล่นแบบบ้านตัวอย่างนี้จะสามารถจอดรถได้ประมาณ 2 คัน   ทุกยูนิตจะมีการติดตั้งผ้าใบกันสาดสีน้ำตาล แบบนี้มาให้ด้วยค่ะ ซึ่งตัวผ้าใบนี้สามารถพับเก็บได้   ประตูบ้านใช้กระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat ส่วนด้านข้างจะมีประตูอลูมิเนียมบานสวิง    หลังประตูจะเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของค่ะ ซึ่งชั้นวางภายในสำหรับทาวน์โฮมจริงจะไม่มีมาให้นะคะ   ประตูจะใช้ลูกกุญแจล็อคปรกติค่ะ     ประตูด้านในจะมีตัวล็อคแบบก้นหอยให้เป็น Double Lock เพิ่มความปลอดภัยค่ะ    ภายในชั้น 1 ค่ะ Floor To Ceiling 2.8 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนผนังจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว ใช้ไฟ Downlight โดยโซนแรกจะถูกจัดให้เป็น Living Room    มีพื้นที่กว้างๆ สำหรับวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ค่ะ   ขวามือถัดจากประตูบ้านจะเป็นบันไดค่ะ และมีส่วนที่เป็นผนังตรงข้ามโซฟา สำหรับ Built In เคาน์เตอร์วางทีวี   ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ส่วนด้านขวาเป็นครัวเปิดที่จัดเอาไว้เป็นสัดส่วนจนเกือบจะเป็นห้องครัวปิดเลยทีเดียวค่ะ   ภายในห้องครัวเราจะสามารถ Built in เคาน์เตอร์ครัวได้เองตามการใช้งาน โดยจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายกลิ่นกับความชื้นให้ออกไปทางหลังบ้านได้ค่ะ   พื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ซึ่งหากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุม จะได้ประตูกระจกออกไปบริเวณข้างบ้านเพิ่มเติม แบบที่เห็นด้านหน้านี้ ส่วนด้านขวาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปทางหลังบ้านได้เช่นกันค่ะ   ถัดจากเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องน้ำของชั้นแรกค่ะ   ภายในห้องน้ำของชั้น 1 จะไม่มีส่วนเปียกค่ะ เพราะจะใช้เป็นห้องน้ำสำหรับรับแขก โดยพื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มาพร้อมกับโถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ทั้งหมดจากแบรนด์ American Standard ค่ะ   อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง พร้อมติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้แบบนี้เลยค่ะ   ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยบันไดคอนกรีตพร้อมราวจับด้านข้าง Top ด้วยไม้ เดินแล้วไม่เกิดเสียงดังเลยค่ะ   ก่อนจะถึงชั้น 2 เราจะพบกับ Extra Space ชานพักบันไดที่มีพื้นที่กว้างกว่าปรกติ พร้อมกับติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ทางเดินบันได ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เราจะสามารถจัดเป็น Bay Window เพิ่มพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนได้อีก อย่างถ้ามีแขกผู้ใหญ่มาที่บ้านเราก็สามารถพาเด็กๆ ขึ้นมานั่งเล่นข้างบนนี้ก่อนก็ได้ค่ะ หรือใครที่มีของเยอะๆ ก็สามารถจัดหาตู้มาวางไว้สำหรับเก็บของได้เพิ่มก็ได้นะคะ   ชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนต Floor To Ceiling 2.6 เมตร ซึ่งจะมีโซน Flexible Space ห้ได้ครีเอทได้ตามสไตล์ของตัวเอง แต่สำหรับทาวน์โฮมจริงจะถูกกั้นเป็นห้องค่ะ    ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนระบบ Double Lock ซึ่งจะเป็นวิวฝั่งหลังบ้านค่ะ    ตรงข้ามกันทางฝั่งหน้าบ้าน จะเป็นห้องนอนแรกค่ะ แม้ว่าที่ห้องตัวอย่างจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้ โดยเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียง แต่ด้วยพื้นที่จริงก็กว้างพอที่จะวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ   ด้านข้างเตียงฝั่งเดียวกันกับประตูห้อง ก็สามารถ Built In ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ทางหัวเตียงได้   ข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 3 บาน ส่วนปลายเตียงจะมีพื้นที่ Pocket Garden ซึ่งเป็นจุดขายที่ทาวน์โฮมไม่มี   Pocket Garden จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสวิง ขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat โดยจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค    จะมีส่วนที่จัดเอาไว้ให้สำหรับใครที่ชอบปลูกต้นไม้ ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศตรงนี้ให้เหมือนยกสวนสีเขียวขึ้นมาไว้ในห้องนอนของตัวเอง ที่สามารถนอนมองออกมาแล้ว มองเห็นสีเขียวของต้นไม้อยู่ใกล้แค่เอื้อม ให้ความรู้สึกสงบเหมาะแก่การพักผ่อนยิ่งขึ้น   มีการต่อก๊อกน้ำเอาไว้ให้ใช้ประโยชน์ได้ด้วยนะคะ อย่างถ้าจะต่อสายยางสำหรับรดน้ำต้นไม้ส่วนนี้ก็ทำได้ง่ายเลย   ถ้าหันหลังให้ต้นไม้ ก็จะพบกับหน้าต่างกระจกบานเลื่อนทรงสูงค่ะ ซึ่งภายในเป็นห้องน้ำของชั้น 2   ห้องน้ำของชั้น 2 ที่เรามองเห็นผ่านทางหน้าต่างเมื่อสักครู่ค่ะ โดยทางซ้ายมือของภาพจะเป็นห้องนอนที่เราพาเข้าไปชมมาแล้ว ส่วนทางซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็น Flexible Space    ภายในห้องน้ำจะมีลักษณะลึกเข้าไป ซึ่งส่วนเปียกด้านในสุดจะสามารถมองออกไปเห็น Pocket Garden เปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องน้ำให้สดชื่นขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ภายในห้องจะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ โดยสุขภัณฑ์ทุกอย่างจะได้มาครบเซตตามนี้เลยค่ะ   สิ่งที่จะได้มาด้วย คือ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง และกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ โดยจะมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่วางของได้ยาวตลอดแนวตั้งแต่หลังโถสุขภัณฑ์ไปจนถึงอ่างล้างหน้า   ขึ้นไปชมชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ โดยที่ชั้น 3 นี้จะมีเพียง 1 ห้องใหญ่ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็น Master Bedroom ค่ะ    เปิดห้อง Master Bedroom กันเลยค่ะ โดยเริ่มจากทางฝั่งซ้ายมือของประตูกันก่อน    พื้นที่ห้องกว้างๆ แบบนี้ตรงกลางห้องเราสามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ เลยค่ะ    ข้างเตียงจะมีทั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง และประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน ทำให้แสงสว่างจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มๆ ห้องจึงดูสว่างปลอดโปร่ง ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนค่ะ เพราะใช้กระจกเขียวตัดแสงช่วยลดแสงและความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในห้องมากจนเกินไป   ระเบียงพักผ่อนจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกใช้เหล็กโปร่งสีดำ พร้อมไฟส่องสว่างที่ระเบียงค่ะ   กลับเข้ามาในห้องเราจะเห็นอีกมุมหนึ่งของห้องค่ะ ซึ่งปลายเตียงเราสามารถ Built In ทั้งเคาน์เตอร์วางทีวีพร้อมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้   พื้นที่ก่อนห้องน้ำในตัวตรงนี้เราสามารถทำเป็น Walk In Closet ตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ ก็สามารถลดขนาดโต๊ะทำงานแบบตัวอย่างทางซ้ายมือ แล้วเพิ่มตู้เสื้อผ้าเข้าไปอีกก็ทำได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนค่ะ     ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom นี้จะแบ่งส่วนเปียกเอาไว้ด้านในทางซ้ายมือ และส่วนแห้งทางขวามือค่ะ    ผนังส่วนเปียกจะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคพร้อมเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ตามนี้เลยค่ะ ส่วนอ่างล้างหน้าจะได้ตู้สำหรับเก็บของด้านใต้ และกระจกเงามาด้วย   หันหลังให้อ่างล้างหน้าจะพบกับส่วนแห้งค่ะ โดยจะได้โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ พร้อมพื้นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ตามนี้เลยค่ะ   สำหรับ Pocket Garden ไม่ได้มีมาให้แค่ที่เดียวเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีมาให้สร้างบรรยากาศภายในห้องน้ำทางฝั่งหลังบ้านด้วย โดยสามารถเปิดบานกระทุ้งออกไปจัดสวนเล็กๆ ได้จากฝั่งส่วนเปียกด้านซ้ายมือค่ะ   ทาวน์โฮมจริง   หลังจากชมไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างมาแล้ว ก็ถึงเวลามาดูกันที่ทาวน์โฮมจริงที่ลูกบ้านจะได้กันบ้างค่ะ   หน้าบ้านติดผ้าใบกันสาดแบบพับได้มาให้ด้วยค่ะ เวลากางออกมาใช้จะดูสวยงามคุมโทนเป็น Pattern เดียวกัน   พื้นที่สำหรับจอดรถได้ประมาณ 2 คันค่ะ โดยทาวน์โฮมจริงจะมีการติดตั้งปลั๊กไฟ และก๊อกน้ำมาให้ตรงนี้ด้วย ประตูบ้านจะใช้กระจกบานเลื่อน 2 บาน ซึ่งจะใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat ส่วนข้างประตูจะเป็นประตูอลูมิเนียมบานสวิง   เปิดออกมาจะเป็นตู้เก็บของค่ะ ซึ่งเราสามารถจัดชั้นวางของไว้ภายในเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ   ภายในชั้น 1 จะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ Floor To Ceiling 2.8 เมตร ใช้ไฟ Downlight โดยพื้นที่กว้างๆ โซน Common Area แบบนี้เราสามารถแบ่งเป็น Living Room และลึกเข้าเป็นห้องครัว และห้องทานข้าวได้ค่ะ    จากทางซ้ายมือของบ้านไล่มาตั้งแต่ประตูทางเข้า-ออกก็จะเป็นบันได ห้องเก็บของใต้บันได ห้องน้ำ และห้องครัวค่ะ   ภายในห้องเก็บของใต้บันไดมีพื้นที่พอสมควรค่ะ จะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ หรือเป็นห้องเก็บรองเท้าก็ดีนะคะ   ถัดมาเป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้งค่ะ โดยปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค หลังโถสุขภัณฑ์จะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ   ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่สำหรับวางของออกมาเล็กน้อยค่ะ   ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องครัวค่ะ ซึ่งหากใครที่ชอบทำครัวบ่อยๆ แล้วอยากได้ห้องครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นก็สามารถติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนได้นะคะ จะทำให้ยิ่งดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น   ภายในห้องครัวมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งสำหรับระบายกลิ่น และความชื้นค่ะ   ด้านล่างกระจกมีการต่อท่อน้ำมาให้เรียบร้อย ซึ่งจุดนี้เหมาะสำหรับติดตั้งซิงค์ล้างจานค่ะ   ตู้ไฟของบ้านจะอยู่ที่ส่วนครัวค่ะ   ประตูกระจกบานเลื่อนทางหลังบ้านค่ะ ใช้กระจกเขียวตัดแสงป้องกันความร้อนจากภายนอก   หลังบ้านมีพื้นที่สำหรับเป็นลานซักล้างค่ะ โดยมีทั้งปลั๊กไฟและท่อน้ำติดตั้งมาให้เช่นกัน   จากหลังบ้านเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน จะเห็นว่า Condensing Unit ทุกตัวสามารถแขวนบนผนังหันหน้าออกนอกตัวบ้านได้ค่ะ     กลับเข้ามาชมภายในบ้านกันต่อค่ะ โดยจะขึ้นไปที่ชั้น 2   Extra Space ของชานพักบันได ขยายพื้นที่ให้สร้างสรรค์ได้หลากหลายตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย   มีหน้าต่างบานกระทุ้ง เพิ่มแสงสว่างทางเดินบันได ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยตามไปด้วยค่ะ   สำหรับชั้น 2 นี้จะปูพื้นด้วยลามิเนต Floor To Ceiling 2.6 เมตร โดยจะมีทั้งหมด 3 ห้อง คือ ห้องนอนทางขวากับทางซ้ายมือ และตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ    เข้ามาดูที่ห้องน้ำกันก่อนค่ะ เป็นห้องน้ำลักษณะลึกยาวเข้าไปจนถึง Pocket Garden ฝั่งหน้าบ้าน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงา ก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพิ่มพื้นที่วางของใช้   โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อยู่ตรงกลางห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้งค่ะ   ผนังตรงฝักบัวจะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค พร้อมเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ค่ะ   ด้านข้างส่วนเปียกจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน มองออกไปเห็น Pocket Garden ซึ่งถ้าเราเลือกปลูกต้นไม้สูงๆ เป็นพุ่มใหญ่ๆ ก็สามารถอาบน้ำไปได้บรรยากาศสีเขียวของต้นไม้ไปด้วยค่ะ แต่ถ้าต้นไม้ไม่สูงมากนักก็ติดตั้งมู่ลี่บังสายตาจากด้านนอกแทนก็ได้ค่ะ   ไปดูกันที่ห้องนอนแรกทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ   ห้องนอนแรกจะมีหน้างต่างบานเลื่อนยาวตลอดผนังค่ะ   ปรกติห้องนอนจะมีระเบียงพักผ่อนใช่ไหมคะ แต่สำหรับบ้านแบบ Terraria นั่นจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้กลายเป็น Pocket Garden   ถ้าจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอน Pocket Garden ก็จะอยู่ทางปลายเตียงค่ะ ทำให้นอนมองสวนย่อมส่วนตัวได้สบายๆ   Pocket Garden กั้นส่วนสำหรับปลูกต้นไม้เอาไว้ด้านหน้า หรือจะปลูกต้นไม้ในกระถางเล็กๆ เพิ่มเติ่มออกมาในพื้นที่ตรงกลางก็ได้นะคะ   พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกันกับระเบียงค่ะ มีการติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับใช้ประโยชน์ได้   นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศความสดชื่นมาไว้ใกล้ตัวได้มากกว่าเป็นระเบียงธรรมดาแล้ว ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างได้ทั้งภายในห้องนอน และห้องน้ำได้ด้วยนะคะ   ห้องสุดท้ายของชั้น 2 ค่ะ จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน   ห้องนี้สามารถจัดให้เป็นห้องนอนที่ 2 หรือจะดัดแปลงให้เป็นห้องทำงาน หรือห้อง Theater ก็ตามแต่ไลฟ์สไตล์แบบฉบับ Flexible Space   สุดท้ายขึ้นไปที่ชั้น 3 ค่ะ   ยังคงมีการเจาะช่องหน้าต่างสำหรับแสงส่องสว่างตรงบันได   ที่ชั้น 3 จะมีเพียงห้องเดียวเลยค่ะ ซึ่งเป็น Master Bedroom    เข้ามาในห้องจะเจอกับ Space กว้างๆ โดยมีหน้าต่างกระจกตลอดแนวผนังทางด้านหน้าบ้าน   ประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน กั้นระหว่าง Master Bedroom กับระเบียงหน้าบ้านเอาไว้   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ   นอกจากประตูกระจกแล้ว ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนด้านข้างด้วยค่ะ   ภาพรวมของ Master Bedroom ค่ะ ซึ่งข้อดีของห้องโล่งๆ แบบนี้คือการดีไซน์ห้องของเราเองได้ตามการใช้งานให้ลงตัวสำหรับเราเองได้ จะวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว หรือ Built In มุมไหนก็จะออกมาได้เป็นตัวเราเองมากที่สุด    ซ้ายมือเป็นประตูห้อง ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำในตัว ซึ่งถ้า Built In ตรงนี้ให้เป็น Walk In Closet ก็จะได้มุมเหมาะๆ พอดีเลยค่ะ    ภายในห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ โดยจะเริ่มจากส่วนแห้งก่อนส่วนเปียกด้านใน   ด้านซ้ายตรงส่วนเปียกจะตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องโมเสค พร้อมเจาะช่องวางของตรงผนัง   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมาพร้อมกับตู้วางของด้านล่าง ซึ่งจะได้มาเฉพาะห้องน้ำใน Master Bedroom ค่ะ    หลังอ่างล้างหน้ามีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้วางของได้ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่   ถ้าใครอยากจะป้องกันน้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้งก็สามารถติดตั้งฉากกระจกกั้นเพิ่มเติมได้นะคะ   ตรงส่วนเปียกมีกระจกบานกระทุ้งขอบอลูมิเนียมที่สามารถเปิดออกได้   มีพื้นที่สามารถจัดเป็น Pocket Garden แบบเดียวกับทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ   ส่วนโถสุขภัณฑ์จะถูกแยกออกอย่างเป็นสัดส่วน เหมือนมีมุมส่วนตัวข้างหน้าต่างบานใหญ่ค่ะ   เป็นห้องน้ำที่มีแสงสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามามากกว่าห้องน้ำในโครงการอื่นๆ เยอะเลยค่ะ เพราะได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่มากมาถึง 2 บาน แถมยังสามารถสร้างเป็น Pocket Garden ได้อีก     จาก Consumer Needs อันคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริงเป็นหลัก เกิดเป็นบ้านที่ดีได้ เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างรอบด้านทั้งทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ไปจนถึงภายในโครงการเอง ความสงบเป็นส่วนตัวซึ่งสัมผัสได้จากความงดงามของธรรมชาติที่อยู่เพียงเอื้อมมือ จนเกิดเป็นสังคมคุณภาพ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างไม่สิ้นสุดในบ้านของเราเอง    
Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) เจ้าของโครงการ : เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. พื้นที่โครงการ : 5-0-10 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 40 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,253 ยูนิต ที่จอดรถ : 530  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 25.5 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด  30.5 – 32 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด  35 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 48.5-64 ตร.ม. ราคา : เริ่มต้น 2,890,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า MRT เพียง 300 เมตร ผสานที่สุดของทุกไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตนที่แตกต่างด้วย THE HYPE PRIVATE FACILITY กว่า 5 ไร่ ใจกลางอโศก-พระราม 9  เริ่ม 2.89 ล้านบาท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า MRT พระราม 9, Airport Link มักกะสัน, ทางด่วนพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : ตลาดอยู่เจริญ, The Grand Rama 9,  Fortune Town, อาคารภคินท์,  True Tower    
Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ2) : รีวิวบ้าน

Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ2) : รีวิวบ้าน

บ้านเดี่ยวที่ออกแบบจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของครอบครัวเมืองกับธรรมชาติ กับโครงการ Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2)  บ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่จาก AP (Thailand)   ที่พบกับความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ และอยู่ใกล้จากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะครบครัน ใช้เวลาเพียง 10 นาทีถึงแจ้งวัฒนะ ทำเล   นนทบุรี เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ติดกับกรุงเทพฯ มีประชากรที่หนาแน่นรองจากกรุงเทพฯ แต่เสน่ห์ของนนทบุรีก็ไม่แพ้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันอย่างห้างสรรพสินค้า แหล่งสำนักงานราชการ รัฐวิสาหกิจมากมาย เปรียบเสมือนกรุงเทพฯ มีอะไร นนทบุรีก็มีเช่นกัน เพ็งสายตามาจับจ้องมาที่ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นอีกหนึ่งถนนแหล่งธุรกิจอีกเส้นหนึ่ง ถือว่าเป็นถนนสายนักทำงานทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนจึงมีความมีความสำคัญ นอกจากนี้ยังสิ่งอำนวยครบครันไม่ว่าจะเป็น เซนทรัลแจ้งวัฒนะ โรงพยาบาล World Medical Center เป็นต้น       ถอยห่างจากความวุ่นวายบนถนนแจ้งวัฒนะ ออกไปไม่ไกลจะพบกับโครงการ “Centro ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2” ตั้งอยู่บนถนน ทางหลวงชนบท นนทบุรี 2051 ซึ่งมีความเงียบสงบไม่วุ่นวาย และไม่ห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเข้าถึงอย่าง เซนทรัล พลาซ่า แจ้งวัฒนะ , The Crystal PTT , Home Pro ชัยพฤกษ์ , เมืองทองธานี , โรงพยาบาลปากเกร็ด , โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และ โรงพยาบาล World Medical Center , โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า , โรงเรียนสารสาสน์ , โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี , โรงเรียนหอวังนนทบุรี , มหาวิยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  นอกจากนี้ย้งใกล้รถไฟฟ้าสายสีมว่ง(สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ) และในอนาคตจะใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีปากเกร็ด)     ภาพรวมโครงการ     " Centro ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2 " เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ประมาณ 47 ไร่ ทำให้มีเพื่อนบ้านถึง 207 หลัง จุดเด่นของโครงการแบบบ้านที่มีหน้ากว้าง พร้อมกับมีห้องน้ำให้กับทุกห้องนอน  เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น บวกกับส่วนกลางที่ครบครันบนพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ อย่าง Fitness , Kid’s bike lane , Jogging track , Playground , สระว่ายน้ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เริ่มจากประตูหน้าโครงการเป็นแบบ Security Gate ในส่วนของทางเข้า - ออกของโครงการเป็นระบบ Access Card (Easy Pass) และมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด CCTV กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เมื่อผ่านประตูหลักมาแล้ว ตรงเข้ามาเป็นถนนเพื่อเข้าไปโครงการ โดยสองข้างทางประดับด้วยต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น เป็นธรรมชาติ สบายตา   แต่ก่อนที่จะพาไปชมบ้านตัวอย่าง มาเดินชมส่วนกลางของโครงการกันก่อนครับ และนี้คือหน้าตาภาพรวมของส่วนกลาง       พื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนของ Playground ให้เด็ก ๆ ได้มาวิ่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ   ถัดมาจาก Playground เป็น Kid's Bike Lane ให้น้อง ๆ หนู ๆ มาปั่นจักรยานออกกำลังกายครับ   สระว่ายน้ำของส่วนกลางเป็นระบบเกลือ แยกสระเด็ก - ผู้ใหญ่ ซึ่งสระเด็กความลึกอยู่ที่ 30 ซม. ส่วนผู้ใหญ่ 1.30 ซม.   และนี้คือหน้าตาของสระว่ายน้ำเด็กข้าง ๆ มีเตียงสระว่ายน้ำให้ผู้ปกครองมาดูแล เด็ก ๆ ได้อย่างใกล้ชิด   ต่อจากสระว่ายน้ำมาต่อกันที่ Co - working space สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งอ่านหนังสือ หรือตั้งกลุ่มคุยกับเพื่อนบ้าน   สำหรับคนที่รักสุขภาพต้องนี้เลย Fitness ตัวห้องรายล้อมไปด้วยกระจก ทำให้ดูโอ่โถ่งกว้างขว้าง ไม่อึดอัด   Plan   Shine  พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถในร่ม     Radiant  พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถในร่ม     Glorious  พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถในร่ม     Luminance  พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถในร่ม   ชมบ้านตัวอย่าง   วันนี้บ้านตัวอย่างที่จะพาไปชม เป็นแบบ Luminance พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถในร่ม และทางโครงการให้เป็นบ้านเปล่า แต่แถมวอลเปเปอร์ และสัญญาณกันขโมยให้กับทุกยูนิต เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านให้อุ่นใจมากขึ้น   และนี้คือหน้าตาของบ้าน Luminance ตรงตามฟังก์ชั่นแบบหน้าบ้านมีความกว้าง ตัวบ้านออกแบบสไตล์ Modern + Contemporary คือเน้นความเรียบง่าย วัสดุเน้นเป็นเหล็กหรือกระจก มีความเป็น Modern บวกเข้ากับโทนสีของบ้านเป็นสีขาว และมีไม้มาต่อเติมดูมีกลิ่นอาย Contemporary ได้อย่างลงตัว   ก่อนที่จะเข้าไปชมตัวบ้านด้านหน้าจะเห็นเป็นที่จอดรถในร่ม ที่สามารถจอดได้ถึง 3 คัน และมีประตูที่เชื่อมเข้าไปยังในบ้านอีกด้วย   และนี้คือประตูหลักเพื่อเข้าไปในบ้านเป็นประตูกระจก  ซึ่งกระจกภายในบ้านทั้งหลังเป็นกระจกลามิเนต แข็งแรง ป้องกันความร้อน และเก็บเสียงได้ดี   เข้ามาถึงห้องแรกจะพบกับ Common Area เพดานสูงถึง 2.6 เมตร มีความกว้างสบายสามารถวางโซฟาแอลเชฟ ก็ยังเหลือพื้นที่อีกมาก   ถัดมา พื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร จากภาพจะเป็นโต๊ะสำหรับหกที่นั่งและมีบาร์ แต่เปลี่ยนเป็นโต๊ะยาว 8 ถึง 10 ที่นั่งก็ยังได้สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกมาก หรือมีเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านก็ยังรับไหว   ด้านขวามือสุดจะพาไปสู่ห้องครัว   และนี้คือหน้าตาของห้องครัว ทางโครงการ Built in เน้นวัสดุด้วยไม้ แต่สามารถเปลี่ยนได้ตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัยครับ   ด้านบนเป็นตู้ไฟ ทางโครงการได้ Built in เป็นตู้ไม้ปิดไว้เพื่อความสวยงาม และประตูด้านขวามือเปิดออกไปจะเป็นส่วนด้านหลังบ้าน   ในส่วนของพื้นที่ด้านนี้ สามารถทำเป็นพื้นที่ซักล้างได้ และจะเห็นประตูอีกสองบ้านเป็นส่วนของห้องแม่บ้าน และห้องน้ำครับ   ส่วนนี้คือ หน้าตาของห้องแม่บ้าน   และห้องน้ำด้านหลังบ้าน   กลับเข้ามาในบ้าน เดินต่อจากโซนโต๊ะรับประทานอาหาร ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำกลาง   ในห้องน้ำกลางจะไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำครับ   ออกจากห้องน้ำ จะพบกับประตูไม้ที่เชื่อมกับโรงจอดรถ   ไปต่อกัน แต่ก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ยังมีห้องทางด้านซ้ายมือ   ในส่วนของห้องนี้ ทางโครงการได้ทำเป็นห้องดูหนัง หรือผู้อยู่อาศัยจะทำเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้อง เวลาแขกของคุณลูกและแขกของคุณพ่อคุณแม่มา จะได้แยกกันได้ หรือจะทำเป็นห้องอ่านหนังสือตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย   พื้นที่ในห้องนี้ กว้างพอที่สามารถทำเป็นห้องกิจกรรมต่างๆ หรือมุมโปรดได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำให้ในตัวด้วย   ภายในห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง จะมีห้องน้ำมาให้ในตัว ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม   เดินต่อเพื่อไปยังชั้น 2 ของบ้านด้วยบันไดไม้สำเร็จรูปสีธรรมชาติ   ขึ้นมาถึง จะพบกับห้องมากมายเริ่มจากซ้ายมือกันเลยครับ   ในส่วนของห้องนอน 1 ภายในห้องกว้างพอรองรับเตียง 6 ฟุตก็ยังไม่ดูอึดอัด ทางโครงการตกแต่ง Built in ให้กลิ่นอายถึงผู้หญิงดูเรียบง่าย สบาย ๆ หน้าต่างทำให้เป็นบานไม้เลื่อนขึ้นมาให้ดูเก๋ ๆ มากขึ้น   นอกจากนี้ปลายเตียง ยังพอมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือได้อีกด้วยครับ   ห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง จะมีกระจกกั้นในส่วนของพื้นที่อาบน้ำครับ   ออกมาจากห้องนอน 1 จะเห็นอีกสามห้องเริ่มจากตรงกลางกันก่อนครับ ซึ่งความจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่ทางโครงการได้ติดกระจกบานเลื่อนเพื่อสร้างเป็นอีกห้องครับ   ทางโครงการ ได้จัดทำเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 หรือเป็นห้องทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน และจะเห็นประตูกระจกเพื่อไปยังระเบียงหน้าบ้าน   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค และราวกันตกเป็นกระจกใสลามิเนต และยังสามารถเดินเชื่อมกับ Master Bedroom ได้   กลับเข้ามาด้านขวามือ จะเป็นห้องนอน 2 ทางโครงการ Built in ให้เป็นห้องนอนเด็ก สร้างลูกเล่นทำพื้นต่างระดับเพิ่มมิติมากขึ้น และยังมีพื้นที่สร้างโดมของเล่นเด็กให้หนู ๆ ได้เข้าไปเล่นได้อีกด้วย ห้องก็ยังดูกว้างไม่เล็กครับ   ห้องน้ำของห้องนอน 2 เหมือนกับห้องนอน 1 มีกระจกกั้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก และแห้งอย่างชัดเจน   และห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom กว้างขวางดูโอ่โถง มีพื้นที่มาก รองรับเตียง King Size ก็ยังมีพื้นที่เหลือ ๆ   มีกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโล่ง เพื่ออากาศถ่ายเท และยังสามารถเชื่อมไปยังห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 ได้ครับ   หันหลังกลับมาจะเป็นส่วนของ Walk In Closet และห้องน้ำครับ   สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แยกซ้ายขวาเป็นตู้ของคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างลงตัว ไม่ต้องใช้ตู้เสื้อผ้าร่วมกัน   ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำ ก็ยังมีพื้นที่พอทางโครงการ Built in เป็นตู้ใหญ่และโต๊ะเสริมสวยของคุณแม่ ก็ยังเหลือพื้นที่กว้างไม่อึดอัด   ส่วนของห้องน้ำ Master Bedroom ทางโครงการจะมีอ่างอาบน้ำให้ครับ   ภายในห้องน้ำก็มีเนื้อที่กว้างมาก นอกจากจะมีอ่างอาบน้ำ ซ้ายมือก็เป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำด้วยฝักบัว   และมีกระจกแบบบานกระทุ้งเพื่อให้อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น   และนี้คือบ้านตัวอย่างบ้านเปล่า เป็นแบบ Glorious พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม.  4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถในร่ม   สำหรับที่จอดรถเป็นแบบในร่มจอดได้ถึงสามคัน และมีประตูเชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน   ประตูหลักเข้าบ้าน ยังคงเป็นกระจกลามิเนต กันความร้อนได้เวลาแสงแดดส่องเข้ามา ไม่ทำให้ผู้อยู่อาศัยร้อนเกินไปครับ   หน้าต่างและประตูทั้งบ้าน เป็นแบบล็อคสองชั้น เหมือนกันหมดทุกยูนิตครับ   ตัวล็อคชั้นที่สองเป็นแบบก้นหอย เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน   ในส่วนของพื้นที่ด้านนี้เป็น Common Area สามารถทำเป็นห้องรับแขก และเชื่อมยาวไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร   ลึกเข้ามาด้านซ้ายมือจะนำไปสู่ห้องครัว   ภายในครัวซิงค์ล้างจาน อยู่ตรงกับหน้าต่างบ้านใหญ่ เพื่ออากาศถ่ายเท และไม่อับชื้น   อีกด้านของห้องครัวเป็นเคาน์เตอร์ และยังมีพื้นที่ไว้วางตู้เย็นได้ครับ มุมขวาบนเป็นตู้ไฟ   มีประตูเชื่อมออกไปหลังบ้าน และด้านหัวประตูมีพัดลมดูดอากาศเวลาทำอาหารไม่ให้กลิ่นอาหารกระจายเข้าสู่ตัวบ้าน   เปิดประตูออกมา เป็นส่วนของพื้นที่ซักล้าง   ด้านหลังบ้าน ยังมีพื้นที่ ทางโครงการได้ติดตั้งปั๊มน้ำ และ Condensing Unit    กลับเข้ามาด้านตรงข้ามของห้องครัว จะเป็นห้องนอนชั้นล่าง หรือทำเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้   ภายในห้องนี้ สามารถทำเป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุในบ้านได้ หรือไว้เป็นห้องนอนแขกก็ย่อมได้   ภายในห้องมีห้องน้ำให้ภายในตัวตามฟังก์ชั่นมีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว   ภายในห้องน้ำ มีแยกพื้นที่เปียกและแห้งไว้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่น     เมื่อเข้ามาสิ่งแรกจะพบกับอ่างล้างหน้าจากแบรนด์  Cotto   โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto       ด้านข้างโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่สำหรับอาบน้ำ มีฝักบัวจากแบรนด์ Cotto เช่นกัน     ตรงข้ามกับห้องจะเจอบันไดแต่ก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 ประตูขวามือเชื่อมจากที่จอดรถหน้าบ้าน และตรงกลางคือห้องน้ำกลางของบ้าน       หน้าตาของห้องน้ำกลางของบ้าน จะไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำ   ขึ้นบันไดไปต่อเพื่อไปยังชั้น 2   หน้าตาภาพรวมของชั้นสอง พื้นที่ตรงกลางสามารถกั้นเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือห้องดูทีวีชั้น 2 ก็ได้ ไว้ทำกิจกรรมภายในครอบครัวในตอนกลางคืนก่อนแยกย้ายเข้านอน   เมื่อขึ้นบันไดมา ที่กำแพงด้านข้างจะเจอสัญญาณกันขโมย   เมื่อขึ้นบันไดมาชั้นสองด้านขวามือ จะเป็นห้องนอน 1 และ 2 มาเริ่มจากห้องนอนแรก ด้านขวามือกันก่อนครับ   ภายในห้องนอนแรก มุมห้องด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ   หน้าตาของห้องน้ำ ของห้องนอน 1       ภายในห้องน้ำ มีพื้นที่ต่างระดับแยกระหว่างพื้นที่เปียกกับแห้งไว้     ถัดมาเป็นห้องนอน 2 ออกแบบมาเหมือนกับห้องนอนแรก มีความโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด   และส่วนนี้คือห้องน้ำในห้องนอน 2   และห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom รายล้อมด้วยกระจกบานใหญ่   ประตูกระจกเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงบ้าน   ถ้าสังเกตให้ดีที่ระเบียงบ้านจะมีรูระบายน้ำเวลาฝนตกน้ำฝน จะได้ไหลออกไปได้ไม่ให้เกิดน้ำขัง   มีพื้นที่ยื่นออกมาจากห้อง Master Bedroom เพื่อไว้ติดตั้ง Condensing Unit   กลับเข้ามาในส่วนของพื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็น Walk In Closet  ด้านขวามมือเป็นห้องน้ำครับ       หน้าตาของห้องน้ำในห้อง Master Bedroom   อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอย และมีตู้เก็บของด้านล่าง   สีกับธรรมชาติมีความเกี่ยวข้องสอดคล้องกับปรากฏการณ์ธรรมชาติและช่วงชีวิตของเรา จึงเกิดเป็นแนวคิดของโครงการ Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2) บ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่จาก AP (Thailand) ที่มาพร้อมกับรูปแบบบ้านใหม่ที่มีหน้ากว้าง และภายในบ้านมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว บวกกับส่วนกลางที่ครบครันบนพื้นที่ 1.5 ไร่ นอกจากนี้ตัวโครงการอยู่ห่างจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะแค่เอื้อมเพียง 10 นาทีถึง            
Centro Ratchapruek-Suanphak ขยายพื้นที่แห่งความสุข : รีวิวบ้าน

Centro Ratchapruek-Suanphak ขยายพื้นที่แห่งความสุข : รีวิวบ้าน

หากใครมองหาที่อยู่อาศัยที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ในย่านไม่ไกลจากใจกลางเมืองอย่าง "ราชพฤกษ์-สวนผัก" อันเป็นที่ตั้งของโครงการ “Centro Ratchapruek-Suanphak (เซนโทร ราชพฤกษ์-สวนผัก)” แบรนด์บ้านเดี่ยวสังคมคุณภาพดีไซน์ใหม่จาก AP Thai ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองบนพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่น อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง เพียง 5 นาที ถึงทางด่วนและรถไฟฟ้า เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกันในวันนี้..       ทำเลและการเดินทาง   ก่อนอื่นคงต้องบอกว่า โครงการ “Centro ราชพฤกษ์-สวนผัก” เลือกปักหมุดทำเลได้ดีทีเดียว เพราะย่าน "ราชพฤกษ์-สวนผัก" คือย่านที่ลงตัวในการอยู่อาศัย ทั้งความสงบ และไลฟ์สไตล์ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายบนทำเลใกล้เมือง อีกทั้งยังรายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนบางกรวย-จงถนอม ใกล้กับคลองมหาสวัสดิ์ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวจึงเป็นเรื่องที่สะดวกมากๆ ค่ะ เพราะสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนราชพฤกษ์ที่เชื่อมต่อเข้าเมืองสู่ปิ่นเกล้า, จรัญสนิทวงศ์ และสาทรได้อย่างสะดวก แถมยังเอื้อให้เดินทางไปยังถนนสายหลักได้ทั้งเส้นนครอินทร์ บรมราชชนนีและกาญจนาภิเษก นอกจากจะสามารถเลือกใช้เส้นทางหลักๆ ที่ว่าแล้วทางโครงการยังคงใส่ใจในการใช้ชีวิตจริงบนทำเลศักยภาพ ในส่วนของการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้ใช้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงท่าพระ-บางซื่อ ที่ “สถานีบางอ้อ” อย่างแน่นอน (คาดว่าจะเปิดใช้บริการในปี 2562) และรถไฟฟ้า BTS สายสีแดง ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน อย่างแน่นอน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ “สถานีบางบำหรุ” ถ้าตามแผนงานก็คาดว่าพร้อมใช้งานในช่วงปี 2564 ซึ่งสถานีและรางสร้างเสร็จหมดแล้ว รอแค่สายสีแดงเสร็จและเชื่อมต่อที่สถานีบางพลัด เรียกว่าถ้าเปิดให้ใช้บริการเมื่อไหร่ ความสะดวกสบายและตัวเลือกในการเดินทางก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น   นอกจากจะเดินทางง่ายแล้วในด้านของสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ย่านราชพฤกษ์-สวนผัก ก็มีหลายสถานที่ที่พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกเพศทุกวัย อาทิ The Walk Ratchaphruek ไลฟ์สไตล์มอลล์แนวคิดใหม่ ตอบรับทุกความสุขของทุกคนในครอบครัว, The Crystal SB Ratchapruek ช้อปปิ้งมอลล์บนถนนราชพฤกษ์ที่มีครบทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหารดัง ไปจนถึงโรงหนัง, HomePro ราชพฤกษ์ ศูนย์รวมวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้าน, Villa De Bear ร้านสุดชิคในย่านที่ตกแต่งสไตล์ฮอลแลนด์ โดยมีมาสคอตเป็นพี่หมีสุดน่ารัก บรรยากาศดีเหมาะกับการดินเนอร์, ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำใจกลางเมือง ที่ยังคงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสวนริมคลองไว้เป็นอย่างดี และแลนด์มาร์กใหม่ที่คนมีสไตล์อย่าง ช่างชุ่ย แหล่งช้อป ชิม ชิลล์ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของงานศิลปะและไอเดียเป็น Creative Space ไม่ใช่มีเยอะแค่แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่แฮงค์เอ้าท์เท่านั้นนะคะ สถานศึกษา สถานพยาบาล รวมถึงสถานที่ราชการก็มีไม่น้อยเลยค่ะ ลองไล่เรียงคร่าวๆ ก็มี โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า พระราม 5, โรงเรียนเทพศิรินทร์นนทบุรี, โรงเรียนบดินทร์เดชา นนทบุรี, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วยังมีโรงพยาบาลเจ้าพระยา, โรงพยาบาลยันฮี, โรงพยาบาลธนบุรี 2 และอีกมากมายจนบรรยายไม่หมดเลยค่ะ   ภาพรวมโครงการ   โครงการ “Centro ราชพฤกษ์-สวนผัก” เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในสังคมคุณภาพบนเนื้อที่กว่า 44 ไร่ ที่จะมีเพื่อนบ้านเพียง 176 ยูนิต เท่านั้น ตัวโครงการจึงมีความสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ภายใต้บรรยากาศของพื้นที่สีเขียวโดยรอบโครงการที่มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนพักผ่อนให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งทางโครงการก็ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การตกแต่งหน้าทางเข้าให้สวยงามตอบรับความมีระดับ เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการจะมีป้อมยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก โดยลูกบ้านจะรู้สึกอุ่นใจไปกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกล้องวงจรปิด CCTV และ รปภ. ประตูหลักเป็นระบบ Access Card ที่สามารถผ่านเข้าออกได้สะดวกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ปัจจุบันตัวโครงการสร้างเสร็จแล้วประมาณหนึ่ง แต่ยังมียูนิตที่กำลังก่อสร้างเป็น Backlog อีกนิดหน่อย วันนี้เราเลยจะพาไปชมสถานที่และบรรยากาศจริงกันค่ะ   เริ่มจากซุ้มประตูทางเข้าออกโครงการ รูปทรงกล่องสูงมีหลังคา ออกแบบให้เชื่อมกับ Club House มองข้ึนไปที่ชั้น 2 จะเห็นห้องฟิตเนส ทางเข้าออกจะแยกช่องสำหรับลูกบ้าน และผู้ที่มาติดต่อ มีไม้กระดกและประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติ 2 ตอนค่ะ   นอกจากการคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกบ้านแล้ว ทางโครงการยังมอบพื้นที่สีเขียวเพื่อเติมเต็มความสุขให้กับสมาชิกทุก Gen ด้วยสวนสาธารณะสีเขียวขนาดใหญ่ร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย ซึ่งมาพร้อม Bike Lane ความยาว 750 เมตร และสนามเด็กเล่นสำหรับสมาชิกตัวน้อยของลูกบ้าน ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนอย่างเต็มเปี่ยมใน Club House หรูสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น เพียบพร้อมไปด้วย สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบมาสวยงามเหมือนได้มาพักผ่อนในรีสอร์ท พร้อมกับแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย ในขณะที่ด้านบนมีทั้ง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครันที่มาพร้อมห้องโยคะ และ Co-Working Space รองรับการนั่งทำงานอย่างมีคุณภาพโดยไม่ต้องเดินทางออกไปไหน แถมยังมี Kids' Room รองรับความสุขหนูๆ ตัวน้อยอีกด้วย ผ่านประตูเข้ามาส่วนแรกที่ติดกับประตูทางเข้าออกโครงการจะเป็น Club House ออกแบบมา 2 ชั้น บริเวณรอบ Club House มีต้นไม้ใหญ่ และไม้พุ่มประดับประดาอยู่ ทำให้มีความร่มรื่นเย็นสบาย น่าพักผ่อน เดินขึ้นมาส่วนแรกของพื้นที่ชั้นหนึ่งจะเป็นห้องรับรอง ภายในตกแต่งสวยงาม ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้นัดเจอเพื่อนที่มาเยี่ยมเยียนโดยไม่ต้องเข้าไปที่บ้าน หรือนั่งรอสมาชิกในครอบครัวเล่นน้ำได้สบายๆ ถัดมาจากห้องรับรองจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นระบบเกลือ และแบ่งสระเด็กมาให้เรียบร้อย พื้นที่ข้างสระในร่มเป็นโถงกว้างขวาง ในส่วนนี้จะมีห้องน้ำและ Rain Shower ด้วยนะคะ เดินกลับเข้ามาไต่บันไดขึ้นไปยังพื้นที่ชั้นสองกันบ้าง เริ่มกันที่ Kids' Room ฝั่งซ้ายมือกันก่อนดีกว่าค่ะ ภายในห้องดูสูงโปร่ง กรุพื้นเป็นแผ่นโฟมกันกระแทกสีสันสดใส นอกจากการตกแต่งที่สวยงาม ทางโครงการยังจัดวางเครื่องเล่นมากมายไว้เอาใจสมาชิกตัวน้อยอีกด้วย ออกจากห้อง Kids' Room เดินขึ้นบันไดไปอีกนิด จะเป็นส่วนของฟิตเนส และห้องอเนกประสงค์ค่ะ ภายในห้องฟิตเนสเต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายอย่างครบครันเลยนะคะ ติดกับห้องฟิตเนต จะเป็นห้องอเนกประสงค์ ด้านในเป็นพื้นที่โล่ง ให้ลูกบ้านมาทำกิจกรรมได้อย่างโยคะได้ทุกวัน กลับลงมาที่ถนนหลักโครงการ กว้างประมาณ 16 เมตร ด้านซ้ายมือจะเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น Bike Lane และสนามเด็กเล่นสำหรับสมาชิกตัวน้อยของลูกบ้าน Bike Lane ความยาว 750 เมตร มาพร้อมที่ลานจอดจักรยาน เดินเข้ามาดูด้านในสวนหย่อมก็จะมีต้นไม้ใหญ่ และไม้พุ่ม บนสนามหญ้าโล่งๆ พร้อมมุมนั่งเล่นพักผ่อนหลากหลายมุม นอกจากมุมนั่งเล่นพักผ่อนแล้ว ยังมีสนามเด็กเล่นสำหรับสมาชิกตัวน้อยอีกด้วย จากสวนหย่อมตรงเข้าไปจะเป็นส่วนของบ้านพักอาศัยนะคะ โดยแบ่งบ้านออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้  โดยมีแบบบ้าน 2 ชั้นดีไซน์ใหม่ให้เลือกถึง 6 แบบ ตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้ จาก Clubhouse เดินตรงมายังส่วนอาคารที่พักอาศัย บ้านทุกหลังจะได้รั้วโปร่งพร้อมแนวพุ่มไม้ ประตูเป็นแบบเลื่อนตอนเดียวนะคะ แบบบ้าน Lunar พื้นที่ใช้สอย 342 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน แบบบ้าน Merci พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน แบบบ้าน Sunshine พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน แบบบ้าน Magnitude พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน แบบบ้าน Starry พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน แบบบ้าน Bravo-B พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน   เปิดประตูบ้านตัวอย่าง บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือแบบ Merci บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโครงการ พื้นที่ใช้สอย 262 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่ง ที่จอดรถ 3 คัน ถ้าผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่รายล้อมอยู่รอบๆ บริเวณบ้าน ตัวบ้านถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบเพื่อรองรับครอบครัวขยายด้วยห้องนั่งเล่นถึง 2 ห้อง โดยห้องนั่งเล่นแรกจะมีลักษณะ Double Volume เพดานสูงโปร่ง พร้อมห้องรับแขกและส่วนพักผ่อนที่แยกเป็นสัดส่วน อีกทั้งพื้นที่ชั้นล่างยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องอเนกประสงค์ใช้งานเพิ่มเติมได้ อาทิ ห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานโดยไม่ต้องกั้นห้องเพิ่ม ซึ่งถือว่าสะดวกดีทีเดียว แปลนแบบบ้าน Merci พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน บริเวณชั้น 1 นะคะ ตัวบ้านถูกออกแบบมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม สไตล์โมเดิร์น สีภายนอกจะใช้โทนสีแนวเอิร์ธโทน โดยใช้สีเทา ครีม และน้ำตาล เป็นหลัก ที่จอดรถในร่มพื้นเทคอนกรีต จากที่จอดรถมีประตูเข้าบ้านได้ ติดกับประตูบ้านจะมีประตูเล็กๆ สำหรับเก็บของ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าบริเวณเสาบ้านก็มีประตูสีขาวซ่อนไว้สำหรับเก็บของเช่นกัน เดินเข้ามาในบ้านจะเจอโถงกลางลักษณะ Double Volume เพดานสูงก่อนเลยค่ะ ซึ่งก็เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ครัวแบบปิด และพื้นที่อเนกประสงค์ ซ้ายมือเป็นมุมนั่งเล่น ขวามือเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานได้ เริ่มกันที่ฝั่งซ้ายมือ มุมนั่งเล่นกันก่อนเลยค่ะ มุมนั่งเล่นส่วนนี้สามารถจัดวางโซฟาตัวยาว ขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะกลางได้สบายๆ เหมาะแก่การรองรับแขกเวลามาเยี่ยมเยียนได้ มุมมองจากพื้นที่ชั้นสองลงมาส่วนนั่งเล่น จะเห็นว่าเพดานส่วนนี้จะเป็นแบบ Double Volume ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย ดูโอ่อ่าเป็นอย่างดี ระยะห่างจากโซฟาไปยังคอนโซลทีวีมีขนาดกำลังดีเลยนะคะ ทำให้นั่งพักผ่อนดูทีวีได้ในระดับสายตาที่ดี ทั้งยังสามารถเดินเข้า-ออกไปส่วนอื่นๆ ของบ้านได้สะดวกอีกด้วย กลับเข้ามาที่โถงกลาง ติดกับมุมรับประทานอาหารจะเป็นส่วนนั่งเล่นอีกมุมหนึ่งนะคะ มุมพักผ่อนส่วนนี้จะโอบล้อมไปด้วยหน้าต่างกระจกใส ข้อดีคือให้ความสว่างโดยไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน ซึ่งลูกบ้านสามารถจัดวางโซฟาตัวยาวได้สบายๆ เลยนะคะ เรียกว่าออกแบบมาเพื่อรองรับกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี พื้นที่ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาคือคอนโซลสำหรับวางทีวี โดยทางโครงการ Built in ชั้นวางของไว้ให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง มุมมองจากมุมพักผ่อนมองกลับเข้าไปในบ้าน พื้นที่ติดกันนั้นจะเป็นส่วนของมุมรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ รองรับได้ 6-8 ที่นั่ง แถมยังมีพื้นที่รอบๆ ให้เลื่อนเก้าอี้ได้อย่างสะดวก บริเวณมุมรับประทานอาหาร โปร่งโล่งสบาย เนื่องจากมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ให้ 1 บาน ซึ่งสามารถเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนข้างบ้านได้อีกด้วยค่ะ ถัดจากมุมรับประทานอาหารเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องครัวนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ Built in เคาน์เตอร์ครัวรูปทรง L-Shape เข้ามุมบ้านให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง จะเห็นว่าผนังเหนือเคาน์เตอร์ฝั่งหนึ่งมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ติดตั้งไว้ให้ เพื่อช่วยระบายอากาศเวลาประกอบอาหารได้ดี อีกทั้งช่องแสงจากหน้าต่างยังช่วยให้ครัวไม่อับชื้น มีแสงเพียงพอในตอนกลางวันอีกด้วย เปิดประตูหลังบ้านออกมาเจอกับพื้นที่ซักล้างแบบกลางแจ้ง บ้านมาตรฐานเทพื้นคอนกรีตให้แบบในภาพ พร้อมเดินงานระบบประปา-ไฟฟ้าตามจุดสำคัญต่างๆ ให้เรียบร้อย พื้นที่ติดกับส่วนซักล้างข้างบ้านจะมีขนาดกว้างขวางพอสมควรเลยนะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ ไม่ว่าจะทำเป็นสวนพักผ่อน หรือทำบ่อปลาก็สามารถทำได้ได้สบายๆ กลับเข้ามาในบ้าน พื้นที่ข้างบันไดจะเป็นส่วนของห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ ห้องน้ำชั้นล่างจะมีขนาดกะทัดรัดกำลังดีนะคะ ซึ่งจะจัดฟังก์ชั่นไว้แค่ส่วนแห้งเท่านั้น พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา ผนังตกแต่งการเบื้องเซรามิกสีขาว ลายไม้ มีหน้าต่างบานกระทุ้งใช้เปิดระบายอากาศได้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะติดตั้งให้ตำแหน่งตามภาพเลยค่ะ ถัดจากห้องน้ำชั้นล่าง ซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นห้องใช้งานเพิ่มเติม เช่นเดียวกับห้องนอนผู้สูงอายุในบ้านตัวอย่าง ภายในห้องมีขนาดกว้าง สามารถวางเตียง 6 ฟุตหรือคิงไซส์ได้แล้วยังมีที่ว่างพอวางตู้เสื้อผ้าได้อีกอย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างค่ะ โดยผนังข้างเตียงจะมีชุดหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ด้วย ภายในห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง จะมีห้องน้ำมาให้ในตัวเลยนะคะ ภายในห้องแบ่งแยกส่วนเปียก และแห้งไว้อย่างชัดเจน ผนังฝั่งหนึ่งจะเป็นส่วนล้างหน้า ซึ่งมาพร้อมอ่างล้างหน้าและกระจกทรงสูง สเป็ควัสดุห้องน้ำจะได้ตามนี้ค่ะ สำหรับพื้นที่ชั้นสอง ถูกจัดสรรให้เป็น 3 ห้องนอน โดยเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยห้องน้ำภายในห้องนอนทุกห้อง อีกทั้งยังมีโถงกลางสำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่น สังสรรค์เพื่อสมาชิกของครอบครัวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน อีกทั้งยังอยู่ติดระเบียงให้ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก ในส่วนของ Master Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ภายในก็ตกแต่งไว้เป็นตัวอย่างเป็นสัดส่วนเพิ่มความหรูหราสะดุดตาเป็นอย่างดี ซึ่งก็มาพร้อมกับ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำที่ตกแต่งมาได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ที่ตกแต่งไว้ตามประโยชน์ใช้สอย ที่พร้อมจะจัดสรรใหม่ได้ตลอดเวลาเพื่อสมาชิกที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต แปลนแบบบ้าน Merci บริเวณชั้น 2 นะคะ ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ ลูกนอนบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ขึ้นมาบริเวณชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดิน เพื่อแจกไปยังห้องต่างๆ ฟังก์ชั่นบ้านชั้น 2 จะมีทั้งหมด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่ และขวามือเป็น 2 ห้องนอนเล็กค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างขวาง รองรับเตียงนอน 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังดูโปร่งโล่งด้วยหน้าต่างที่โอบล้อมตัวห้องไว้ ทางโครงการ Built in เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ จากภาพจะเห็นได้ว่าจัดสรรทุกอย่างได้ลงตัวมากๆ ทางโครงการ Built in โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานห้องให้ดูเป็นไอเดีย พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นห้องน้ำนะคะ ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ซึ่งมีส่วนอาบน้ำพร้อมแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนแห้งจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโถสุขภัณฑ์ ระยะการติดตั้งก็กำลังดี ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนกระจกแบบขุ่นมาให้เปิดออกไปยังระเบียงเล็กๆ ซึ่งลูกบ้านสามารถปลูกต้นไม้เล็กๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามได้เลยค่ะ มองกลับมายังพื้นที่ส่วนเปียกจะกั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้แล้วนะคะ พื้นส่วนเปียกจะลดระดับลงไปเพื่อกันน้ำกระเด็นนะคะ ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวอาบน้ำสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ แถมยัง Built in ชั้นวางของมาให้ด้วย ออกจากห้องนอนใหญ่เข้ามาดูในห้องนอนเล็กกันบ้าง ภายในห้องมีขนาดกว้างขวางกำลังดีเลยคะ แถมยังมีหน้าต่างกระจกใสโอบล้อม ทำให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาเพียงพอ ซึ่งทางโครงการได้ Built in เฟอร์นิเจอร์แบบครบชุดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการ Built in เป็นตัวอย่างนั้นประกอบไปด้วย ตู้เสื้อผ้าชั้นล่าง, ห้องนอนเด็กชั้นสองที่มาพร้อมสไลเดอร์ ซึ่งก็เหลือพื้นที่ให้วางของเล่นได้อีกสบายๆ มุมมองจากพื้นที่ในสุดตรงเข้าไปจะเชื่อมกับห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งนะคะ ซึ่งทางโครงการ Built in เป็นตู้เก็บของที่สามารถหมุนเลื่อนมาปิดเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ เมื่อหมุนตู้เก็บของเข้ามาก็จะได้ความเป็นส่วนตัวประมาณนี้ค่ะ พื้นที่ติดกับตู้เก็บของจะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึ่งภายในห้องแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งไว้อย่างลงตัว โดยผนังฝั่งหนึ่งตรงด้านบนมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เพื่อเปิดรับแสง รับลม พร้อมทั้งยังช่วยระบายอากาศ ระบายความชื้น ป้องกันการเกิดเชื้อราในห้องน้ำได้ด้วยค่ะ พื้นที่ส่วนเปียกนั้นลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตรนะคะ ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ก็จะได้ตามนี้ ถ้าลูกบ้านชอบความเป็นสัดส่วน แนะนำให้ติดกระจก หรือราวแขวนม่านกั้นอาบน้ำเพิ่ม เดินต่อเนื่องมาดูห้องนอนเล็กอีกหนึ่งห้องกันดีกว่าค่ะ ภายในห้องนอนเล็กอีกหนึ่งห้องก็ถูกโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใสเช่นเดียวกันนะคะ แถมทางโครงการยัง Built in เฟอร์นิเจอร์ให้ดูเป็นไอเดียได้ลงตัวมากๆ พื้นที่ตรงข้ามเตียง 2 ชั้น ถูก Built in ให้เป็นมุมทำงาน หรือเขียนหนังสือสำหรับสองพี่น้องได้สบายๆ มุมมองกลับเข้าไปด้านใน ตรงข้ามประตูทางเข้าจะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึ่งตรงกลางนั้นก็เป็นส่วนของชั้นวางของที่ทางโครงการทำไว้เป็นตัวอย่างให้สามารถหมุนเลื่อนเปิดปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว และเชื่อมต่อกันได้ ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชั่นเช่นเดียวกับห้องน้ำในห้องนอนเล็กอีกห้องเลยค่ะ เดินเข้าไปจะเจออ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง ก่อนจะต่อเนื่องไปยังโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียก พื้นที่อีกฝั่งติดกับอ่างล้างหน้า เป็นพื้นที่ส่วนเปียก ซึ่งลูกบ้านสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้ เดินออกมาจากห้องนอนเล็ก จะมีพื้นที่โถงกลางเล็กๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมทำงาน หรือห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่งได้ ทางโครงการตกแต่งมุมทำงานไว้ให้เป็นไอเดียตัวอย่าง นอกจากจะมีพื้นที่กว้างขวางประมาณหนึ่งแล้ว ยังมีแสงสว่างมากพอโดยไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวันเพราะบริเวณนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยประตู-หน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ ประตูกระจกใสจะเป็นแบบบานเลื่อนนะคะ ซึ่งสามารถเปิดออกไปยังระเบียงเพื่อรับทัศนียภาพภายนอกได้ด้วย ระเบียงมีขนาดกว้างขวางกำลังดีเลยนะคะ สามารถจัดวางที่นั่งไว้ชมวิวเพลินๆ ได้สบาย ด้วยพื้นสีเขียวหรือสวนสาธารณะของเมืองมีจำกัด แต่โครงการ “Centro ราชพฤกษ์-สวนผัก” นับว่ามีส่วนช่วยสร้างโอกาสในการใกล้ชิดธรรมชาติให้ลูกบ้านอยู่ใกล้เพียงแค่ก้าวออกจากบ้านเท่านั้น ด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอย่างโดดเด่นให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ รองรับทั้งการพักผ่อนของครอบครัวทุกวัย และสนามเด็กเล่นสำหรับสมาชิกตัวน้อย ที่สำคัญคือมี Bike Lane ยาวกว่า 750 เมตร พร้อมคลับเฮาส์หรู ประกอบไปด้วย ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Kids' Room และ Co-Working Space ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีอยู่ในโครงการทั้งหมดเลยนะคะ แถมยังตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพไม่ว่าจะเข้าสู่ใจกลางเมืองหรือพื้นที่อื่นๆ ด้วยระบบคมนาคมที่ครอบคลุม ทั้งทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ และรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้ง MRT สายสีน้ำเงิน และ BTS สายสีแดง ที่จะเปิดใช้บริการในอนาคตอันใกล้ ส่งผลให้มูลค่าของที่ดินมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งก็เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการลงหลักปักฐานใช้ชีวิต หรือเพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ล้วนแต่ “คุ้มค่า”   สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของชีวิตประจำวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขบนสังคมคุณภาพได้ที่ “Centro ราชพฤกษ์-สวนผัก” ในราคาเริ่มต้นที่ 7.99 ล้าน กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ดีไซน์ใหม่อย่างลงตัวที่สุดในย่านนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือลงทะเบียนรับส่วนลดได้ที่ https://goo.gl/93NVV1
THE CITY Ratchada-Wongsawang – เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง : รีวิวบ้าน

THE CITY Ratchada-Wongsawang – เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : THE CITY Ratchada-Wongsawang (เดอะ ซิตี้ รัชดา-วงศ์สว่าง ) เจ้าของโครงการ : บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนนครอินทร์ หน้าบ้าน ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 31 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 94 ยูนิต     ขนาดบ้าน : -  เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 63.00 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 262-500 ตร.ม. ขนาด 4-5 ห้องนอน , 4-5 ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 15,900,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน ธ.ค. 2563 จุดเด่นโครงการ : เดอะซิตี้ บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์น ที่ใส่ใจในทุกดีเทลของการใช้ชีวิต ที่สุดด้วยทำเลคุณภาพ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย พื้นที่สีเขียวและคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ความลงตัวของชีวิตครอบครัวสมบูรณ์แบบ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนนครอินทร์ , ถนนติวานนท์ , ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก , รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ , รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข สถานที่ใกล้เคียง : The Mall งามวงศ์วาน , Central ลาดพร้าว , Central รัตนาธิเบศร์ , The Walk ราชพฤกษ์ , The Crystal ราชพฤกษ์ , รร.นานาชาติเด่นหล้า , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , รพ.ยันฮี , รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น , รพ.นนทเวช ,รพ.วิภาวดี    
Centro Chaiyaphruek – Chaengwattana 2 – เซนโทร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 : รีวิวบ้าน

Centro Chaiyaphruek – Chaengwattana 2 – เซนโทร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ : Centro  Chaiyaphruek – Chaengwattana 2 (เซนโทร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 47-2-51.1 ไร่ ลักษณะโครงการ :  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 270 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 3-5 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 175 - 255 ตร.ม. ที่ดิน 50 ตร.ว.ขึ้นไป สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์พร้อมฟิตเนส และสระว่ายน้ำพร้อมระบบเกลือ - สวนสาธารณะขนาดใหญ่ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,890,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : ธันวาคม 2563 จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวที่ออกแบบจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของครอบครัวเมืองกับธรรมชาติพร้อมตอบทุกความต้องการของลูกค้าครอบครัวเมืองรุ่นใหม่ที่มองหาบ้านเดี่ยวสำหรับการเริ่มต้นของครอบครัว ด้วยพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 154-254 ตารางเมตร ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนรัตนาธิเบศร์ , ถนนกาญจนภิเษก (วงแหวนรอบนอก) สถานที่ใกล้เคียง : The Crystal SB PTT , Homepro , Central แจ้งวัฒนะ , Pure Place , รพ.ปากเกร็ด , รพ. , World Medical Center , มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช , ร.ร.นานาชาติเด่นหล้า , ร.ร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ , ร.ร.หอวัง นนทบุรี, ร.ร.สวนกุหลาบ นนทบุรี  
Baan Klang Muang THE ERA Pinklao-Charan – บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ : รีวิวทาวน์โฮม

Baan Klang Muang THE ERA Pinklao-Charan – บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Baan Klang Muang THE ERA Pinklao-Charan (บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ ) เจ้าของโครงการ : บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 13-2-18.2 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวนยูนิต : 119 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 3 ชั้น  พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ ที่จอดรถทั้งหมด 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,690,000 บาท จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น ภายใต้แนวคิด ‘Terraria is kind of nature’ เชื่อมพื้นที่ส่วนกลาง สู่พื้นที่ส่วนตัว ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมพื้นที่ที่หลากหลาย ติดถนนใหญ่ ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน และรถไฟฟ้าถึง 3 สาย เริ่ม 5.69 ล้าน* ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางบำหรุ , สถานีบางกรวย-กฟผ. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัดสถานที่ใกล้เคียง : โรงเรียนเซนต์คาเบรียล , โรงเรียนศึกษาบัณฑิต , โรงเรียนบดินทรเดชานนทบุรี , โรงเรียนโยธินบูรณะ , โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ , โรงเรียนทิวไผ่งาม , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ , เมเจอร์ปิ่นเกล้า ,เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า , ตลาดวัดบางพลัด , ตลาดศรีย่าน , ตลาดเตาปูน , รพ.ยันฮี , รพ. เจ้าพระยา , รพ.ตา หู คอ จมูก  
LIFE Ladprao Valley-ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์ : รีวิวคอนโด

LIFE Ladprao Valley-ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : LIFE Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ : 5-2-45.5 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 44 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,140 ยูนิต จำนวนที่จอดรถ : 484 คัน (คิดเป็น 42%) ไม่รวมซ้อนคัน ขนาดห้อง : - สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 28.8 ตร.ม. -  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาดพื้นที่ใช้สอย 35-37 ตร.ม. -  2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.6ตร.ม. -  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำขนาดพื้นที่ใช้สอย 57.8-66.5ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ 3 สระ - ห้องซาวน่าและห้องสตรีม - ห้องออกกำลังกาย - ห้องโยคะ - ห้องอเนกประสงค์ - จุดจอดและทางปั่นจักรยาน - สวนพักผ่อน - หน้าผาจำลอง - พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับเล่นกีฬา - Multi Living Space - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,490,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 145,000บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : กันยายน 2564 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมที่ได้แรงบันดาลใจการดีไซน์จาก Hi-End Boutique Hotel& Resort ท่ามกลางแนวเทือกเขาสไตล์ Valley สู่การออกแบบที่โดดเด่น ตั้งแต่ทางเข้าหน้าโครงการจนถึงยอดอาคารผสมผสานเส้นสายของแนวลายเส้นโค้งและลูกเล่นมิติของ Façade ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คไอคอนแห่งใหม่บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT พหลโยธิน, รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีห้าแยกล้าดพร้าว สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว, โรงเรียนหอวัง, เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์,ตลาดนัดสวนจตุจักร, เมเจอร์ รัชโยธิน, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น