Tag : condo

1512 ผลลัพธ์
Le BAROQUE บางนา-สุวรรณภูมิ : รีวิวคอนโด

Le BAROQUE บางนา-สุวรรณภูมิ : รีวิวคอนโด

Le BAROQUE บางนา-สุวรรณภูมิ คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น สไตล์ European Baroque ในซอยไพโอเนีย ติดถนนบางนา-ตราด กม. 15 ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   55,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท โรแยลวิลล่า จํากัด, บริษัท โรแยลวิลล์ จํากัด, บริษัท ปาล์ม วิลล่า จํากัด ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 4 อาคาร จำนวนห้อง     76 ยูนิต/อาคาร รวมทั้งหมด 304 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนบางนา-ตราด กม.15 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2560 ค่าส่วนกลาง    35 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลเซ็นทรัล ปาร์ค โรงพยาบาลจุฬารัตน์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ  (ABAC) มหาวิทยาลัยรามคำแหง  2 AMERICAN  SCHOOL  OF  BANGKOK โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว MEGA บางนาและ IKEA  บางนา HomePro กิ่งแก้ว , Market Village TESCO LOTUS  ม.ราม 2  และ  TESCO  LOTUS  กิ่งแก้ว MAKRO KING POWER  สุวรรณภูมิ บุญถาวร INDEX LIVING MALL SB DESIGN  SQUARE  บางนา CENTRIAL บางนา Big C บางนา และ Big C  เทพารักษ์ SEACON SQUARE THE MALL  บางนา กม.1 (โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ) ไบเทค บางนา โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลบางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom สิ่งอำนวยความสะดวก ล็อบบี้แยกแต่ละอาคาร สวนขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ (ระบบเกลือ) อ่างจากุชซี่ ห้องออกกำลังกาย อาคารสโมสร ที่จอดรถรอบอาคาร ที่จอดรถใต้อาคาร คีย์การ์ด กล้องวงจรปิด รปภ. 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 082-992-2246, 094-692-2246 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.lebaroque.co.th
Pause ID สุขุมวิท 107 : รีวิวคอนโด

Pause ID สุขุมวิท 107 : รีวิวคอนโด

Pause ID สุขุมวิท 107 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 103 หรือซอยอุดมสุข ใกล้รถไฟฟ้า BTS อุดมสุข จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,390,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    0 - 3 - 90 ไร่ จำนวนห้อง     201 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 30% ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 107 แบริ่ง แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา โรงเรียนนานาชาติ St.Andrew Bangkok Mall ไบเทค บางนา อิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง เซ็นทรัลบางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.40 - 23.80 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 24.80 - 25.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B1 ขนาด 28.80 ตารางเมตร 2 Bedroom Type Bplus ขนาด 34.50 ตารางเมตร 2 Bedroom Type Bplus1 ขนาด 36.60 ตารางเมตร 2 Bedroom Type Bplus2 ขนาด 33.10 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby BBQ Corner Reading Corner Serene Garden สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Jogging Track สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-399-4466 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pause.origin.co.th
Pause Sukhumvit 103 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 103 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 103 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,690,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 2 - 49 ไร่ จำนวนห้อง     268 ยูนิต ที่จอดรถ    80 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 103 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง ตลาดอุดมสุข ไบเทค บางนา เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา บิ๊กซี บางนา ซีคอน สแควร์ พาราไดซ์ พาร์ค ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.40 - 24.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 25.60 - 32.78 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus ขนาด 33.52 - 39.46 ตารางเมตร 2 Bedroom Type C ขนาด 40.97 - 43.42 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus 3 ขนาด  44.73 ตารางเมตร 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.40 - 24.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 25.60 - 32.78 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus ขนาด 33.52 - 39.46 ตารางเมตร 2 Bedroom Type C ขนาด 40.97 - 43.42 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus 3 ขนาด 44.73 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Infinity Edge Pool Sky Fitness Room ห้องอ่านหนังสือ BBQ Zone Rooftop Garden และสวนหย่อมรอบโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-399-4466 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pause.origin.co.th
Pause Sukhumvit 115 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 115 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 115 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอสุขุมวิท 115 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้าสมิงพราย จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,390,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 1 - 83 ไร่ จำนวนห้อง     310 ยูนิต ที่จอดรถ    93 คัน คิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35% ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2559 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี จัมโบ้ ตลาดสำโรง อิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไบเทค บางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.94 - 21.87 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 28.51 - 28.77 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B2 Plus ขนาด 28.91 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B3 ขนาด 26.65 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B4 ขนาด  30.75 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B5 ขนาด  35.66 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ 2 สระ ฟิตเนส ห้องอ่านหนังสือ BBQ Zone Rooftop Garden สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบ CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-399-4466 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pause.origin.co.th
เตรียมกู้บ้านให้ผ่าน แบบเจ้าของกิจการ

เตรียมกู้บ้านให้ผ่าน แบบเจ้าของกิจการ

“เวลาเป็นเงินเป็นทอง” คำพูดนี้น่าจะเหมาะกับคนที่เป็นเจ้าของกิจการ เพราะวันไหนหยุด หรือปิดร้าน วันนั้นก็จะไม่มีรายได้เข้ามา และสำหรับกิจการเจ้าของคนเดียวที่ต้องทำทุกอย่างเองหมด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของมาขาย เปิด ปิดร้าน ทำให้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหารายได้ จนบางครั้งเผลอหรือลืมที่จะเก็บเอกสารทางการค้าเอาไว้ หรือไม่มีเวลาพอที่จะนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร สาเหตุเหล่านี้ทำให้เจ้าของกิจการหลายรายประสบปัญหาในการกู้ซื้อบ้าน เนื่องจากเอกสารต่างๆ ไม่พร้อม แล้วจะทำอย่างไรให้พร้อมยื่นกู้ เรามีคำแนะนำสำหรับเจ้าของกิจการที่กำลังมีแผนยื่นกู้ซื้อบ้านดังนี้ครับ     บอกให้ได้ว่ากิจการทำอะไร    เอกสารสำคัญที่เจ้าของกิจการจะต้องเตรียมให้กับธนาคารสำหรับการยื่นกู้ เพื่อให้ธนาคารทราบว่าประกอบกิจการอะไรนั้น ได้แก่ - ทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ ของกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งรายละเอียดในทะเบียนการค้าจะระบุว่ากิจการที่ทำอยู่นั้นคืออะไร และวันที่จดทะเบียนจะสะท้อนให้เห็นว่าประกอบกิจการมานานแค่ไหน สำหรับเจ้าของกิจการรายใหม่ที่กำลังจะมีแผนจดทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ก็สามารถยื่นเอกสารขอจดทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต หรือองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) หรือเทศบาล - สัญญาเช่า เช่น เปิดร้านค้าในห้างสรรพสินค้า เช่าร้านค้าในตึกแถว เอกสารสัญญาเช่าจะช่วยบอกได้ว่ากิจการตั้งอยู่ที่ใด ทำมาแล้วนานแค่ไหน โดยอาจใช้สัญญาเช่าที่ทำไว้ในอดีตควบคู่กัน   บอกให้ได้ว่ากิจการมีรายได้เท่าไร   สิ่งสำคัญที่จะสะท้อนรายได้ของกิจการบุคคลธรรมดานั่นก็คือ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) ซึ่งนอกจากจะช่วยประเมินให้เห็นว่ากิจการมีรายได้เท่าไรแล้ว ยังสะท้อนได้ว่ากิจการประกอบการค้าเป็นอย่างไร เช่น ได้รับเงินทุกวันอย่างการขายของชำ ขายอาหาร หรือมีรายได้เป็นรายสัปดาห์ เช่น โรงเรียนสอนพิเศษ โดยการเดินบัญชีที่ดีควรฝากเงินหรือถอนเงินตามรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และไม่ตกแต่งบัญชี โดยธนาคารจะพิจารณารายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน นอกจากรายการเดินบัญชีย้อนหลังแล้ว หากกิจการมีเอกสารเพิ่มเติมที่ช่วยสะท้อนรายได้ของกิจการก็ควรยื่นประกอบการพิจารณาสินเชื่อด้วยครับ ซึ่งได้แก่ - บิลการค้า สำหรับกิจการที่ทำการค้าแล้วมีการออกบิลหรือใบเสร็จให้กับลูกค้า หรือใบเสร็จที่ได้จากการซื้อสินค้ามาขาย -  เอกสารการเสียภาษี เช่น ภพ. 30 สำหรับกิจการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เจ้าของกิจการถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มากมายอย่างไม่จำกัด แต่ในการกู้เงินหากไม่สามารถสะท้อนให้เห็นได้ว่ากิจการมีรายได้เป็นอย่างไร หรือไม่ชัดเจนว่าประกอบกิจการอะไร โอกาสในการได้รับอนุมัติเงินกู้ก็อาจจะเป็นไปได้ยากครับ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก  K-Expert
The Privacy ลาดพร้าว-เสนา : รีวิวคอนโด

The Privacy ลาดพร้าว-เสนา : รีวิวคอนโด

The Privacy ลาดพร้าว-เสนา คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนถนนลาดพร้าววังหิน ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สถานีภาวนา โครงการใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,090,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 0 - 12.9 ไร่ จำนวนห้อง     376 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนลาดพร้าววังหิน ซอย 43 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้าง    เดือนมกราคม 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนธันวาคม 2559 ค่าส่วนกลาง    39 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Major รัชโยธิน Central ลาดพร้Œาว CDC The Walk The Jas Plaza Lagoon Green Plaza Lotus วังหิน Big C วังหิน โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลเมโย โรงพยาบาลวิภาวดี โรงเรียนสตรีวิทยา 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.5 - 26 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 45 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่‹ายน้ำระบบเกลือแบบน้ำลŒ้น The Roof Garden The Ground Garden The Gym ห้Œองออกกำลังกายวิวสระว่‹ายน้ำ The Sauna ห้Œองซาวน่‹า แยกหญิงชาย The Library The Lobby ล็อบบี้สุดเก๋Ž The Shop ร้Œานค้Œาในโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : theprivacy.pruksa.com
a space สุขุมวิท 77 : รีวิวคอนโด

a space สุขุมวิท 77 : รีวิวคอนโด

a space สุขุมวิท 77 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 77 ใกล้ Pickadaily Bangkok ตกแต่งครบ พร้อมเข้าอยู่ จาก Areeya Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,790,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7-8 ชั้น 8 อาคาร พื้นที่โครงการ    ประมาณ 19ไร่ จำนวนห้อง     1,600 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Pickadaily Bangkok Big C Extra อ่อนนุช Tesco Lotus สุขุมวิท 50 พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอนสแควร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 31.40 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 34.95 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1797 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.aspace.co.th
Life ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

Life ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

ไม่นานมานี้ เราเพิ่งจะได้ยินข่าวว่าทาง AP เตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ย่านปิ่นเกล้า ในแบรนด์ Life ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ความร่วมมือกับทาง Mitsubishi Estate แต่ยังไม่ทันไรก็มีกระแสว่าโครงการ Life ปิ่นเกล้า ได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย แค่ช่วงทดลองเปิด Pre-sale ก็มียอดจองล้นหลามแล้ว งานนี้พวกเราทีมงานเลยรีบเข้าไปเก็บข้อมูลโครงการ และภาพห้องตัวอย่างมาให้ดูกันแบบด่วนๆ เลยครับ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     3,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    803 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   4 - 3 - 86.3 ไร่ ที่จอดรถ    52% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    34 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ค่ากองทุน    450 บาท/ตารางเมตร เก็บครั้งแรกในวันโอนกรรมสิทธิ์ การเดินทาง ทำเลที่ตั้งโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้กับซอยจรัญฯ 40/1 ห่างจากแยกบรมราชชนนีประมาณ 450 เมตรเท่านั้น แต่จุดเด่นสำคัญของโครงการอยู่ที่ ห่างจากหน้าโครงการไปเพียง 40 เมตรก็จะเป็นบันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (สถานีบางยี่ขัน) ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างครับ และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานพอๆ กับที่คอนโด Life ปิ่นเกล้า เลยด้วย การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยรถไฟฟ้าสำหรับลูกบ้านของโครงการจึงนับว่าสะดวกสุดๆ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าศักยภาพของทำเลในแถบนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความสนใจมากเลยทีเดียว นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ในอนาคตอันใกล้แล้ว ปัจจุบันการเดินทางมายังโครงการ ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีเช่นกัน เหมือนที่เราลองเลือกเส้นทางถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่แยกท่าพระซึ่งเป็นต้นถนน ลองวิ่งมาเรื่อยๆ จนข้ามแยกบรมราชชนนีมาแล้วค่อยมากลับรถมายังโครงการ ตลอดเส้นทางตอนนี้อาจจะติดขัดบ้าง เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ในขณะนี้ ทำให้การจราจรไม่ค่อยคล่องตัวเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้ว การจราจรจะคล่องตัวขี้นอีกเยอะ ไหนจะรถไฟฟ้า และอุโมงค์ข้ามแยกต่างๆ อีก น่าจะช่วยลดปัญหารถติดไปได้ไม่มากก็น้อยเลยครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เราเริ่มกันบริเวณสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่เลยนะครับ เราตรงไปตามถนนจรัญสนิทวงศ์เรื่อยๆ เลยนะครับ ลงจากสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่นิดหน่อย จะเป็นแยกท่าพระ เราลงอุโมงค์ลอดใต้แยกไปเลยนะครับ พอขึ้นมาจากอุโมงค์แล้วจะเริ่มเจอกับการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ทอดยาวตลอดแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ การจราจรอาจจะหนาแน่นสักหน่อยนะครับ เพราะถนนถูกบีบลงมาเหลือ 2 เลน ตรงมาตามถนนจรัญสนิทวงศ์เรื่อยๆ จะเจอตลาดบางขุนศรี อยู่ทางซ้ายมือ เลยจากตลาดบางขุนศรีมาจะเจอแมคโคร สาขาจรัญสนิทวงศ์ ตรงมาอีกหน่อยเราจะเจออีกหนึ่งแยก คือแยกบรมราชชนนี แยกนี้เราก็ตรงลงอุโมงค์อีกเหมือนกันนะครับ พอขึ้นมาจากอุโมงค์แล้วจะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านขวามือ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือนะครับ ต้องตรงไปกลับรถอีกประมาณ 300 เมตร บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน Susco กลับรถมาแล้วเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการกันเลยครับ หน้าตาของสำนักงานขายโครงการ วิเคราะห์รอบโครงการ Life ปิ่นเกล้า เป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 4.3 ไร่ โดยทาง AP ได้เสนอคอนเซปต์แนวคิดที่ว่า “Discover The New Joy of Old Memories” ซึ่งเป็นการบอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่ ผสมผสานเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตชุมชนของย่านนี้ มาสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่พิถีพิถัน เรียบหรูและลงตัวสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่ทาง AP มุ่งเน้นให้เป็นลูกค้าหลักคือ กลุ่มคนในพื้นที่ กลุ่มพ่อค้าชาวไทยเชื้อสายจีนที่ต้องการซื้อไว้อยู่อาศัยเอง หรือส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป รวมไปถึงกลุ่มหมอ และข้าราชการระดับสูงซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และด้วยความที่คนกลุ้มนี้จะมีความคุ้นชินกับพื้นที่อยู่แล้ว จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทางโครงการได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยยอดจองถล่มทลายเหนือความคาดหมายแบบนี้ พื้นที่ฝั่งธนบุรีในย่านนี้มีความคึกคักและมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่อดีตแล้วครับ ร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด ตลาดน้ำ รวมกันอยู่หนาแน่นเข้าขั้นอุดมสมบูรณ์มาก แถมด้วยสถาบันศึกษาชื่อดัง โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง แหล่งช็อปปิ้งก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ ทุกอย่าง เป็นทั้งพื้นที่ชุมชนการค้า ศูนย์งานราชการครบถ้วน การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือข้ามเข้าสู่ฝั่งพระนครก็ทำได้หลายเส้นทาง สามารถเดินทางได้ทั้งรถ และเรือ รวมถึงรถไฟฟ้าที่จะมีในอนาคตด้วยอีกอย่าง ไม่ว่าจะมองในด้านใดพื้นที่บริเวณนี้ก็ถือว่ามีศักยภาพตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะครับ ในส่วนของพื้นที่ภายในโครงการ ก็เน้นให้มีพื้นที่สีเขียวมากถึง 3 ไร่ นับตั้งแต่ทางเข้าสู่ตัวโครงการที่มีการผสานความร่มรื่นของทิวไม้และสายน้ำ ภายใต้แนวคิด “Mura” A Village within Nature ในขณะที่ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 5 ทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือแบบ Infinity Edge Pool ยาว 40 เมตร พร้อมวิวสะพานพระราม 8 ในมุมที่สวยที่สุด, ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ให้วิวแบบ Panoramic ในบรรยากาศเหมือนได้ออกกำลังกายอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และห้องซ่าวน่า สตีมแยกชายหญิง รวมถึง Casual Space พื้นที่สำหรับพักผ่อน หรือไว้พบปะพูดคุยสังสรรค์ ซึ่งทางโครงการตั้งใจจัดสรรไว้ให้ลูกบ้านของ Life ปิ่นเกล้าโดยเฉพาะ นอกจากนี้เรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ทางโครงการก็ไม่ลืมให้ความสำคัญนะครับ โดยเฉพาะยูนิตพักอาศัยที่อยู่บนชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการก็มีการออกแบบตกแต่งสวนไว้เป็นแนวยาว เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องด้านที่ติดกับสระว่ายน้ำมากขึ้นด้วย มาดูกันที่ Master Plan ของโครงการกันก่อนนะครับ ด้านหน้าโครงการจะเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนด้านในตัวอาคารด้านหน้าจะเป็น Main Lobby สำนักงานนิติบุลคล Mail Box และร้านค้า ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นที่จอดรถตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปถึง ชั้น 4 สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันของทิวไม้และเสียงน้ำ กับแนวคิด "Mura" A Village within Nature ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ บรรยากาศของโถง Lobby ที่ชั้น 1 ชั้น 5 จะเป็นชั้นที่มี Facility หลักของโครงการ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ แบบ Infinity Edge Pool ความยาวกว่า 40 เมตร พร้อมห้องฟิตเนส, Casual Space, Steam และ Sauna ส่วนพื้นที่อีกด้านจะเป็นห้องพักอาศัย บรรยากาศของสระว่ายน้ำ บนชั้น 5 ได้วิวฝั่งสะพานพระราม 8 บรรยากาศของห้องฟิตเนส บนชั้น 5 Casual Space พื้นที่สำหรับพบปะกันของลูกบ้าน ตั้งแต่ชั้น 8-23 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด พื้นที่โล่งตรงนี้จะเป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการนะครับ ด้านนี้จะเป็นทิศตะวันออกที่หันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา จะสังเกตเห็นว่ายังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิว ภาพมุมสูงในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะหันไปทางสะพานพระราม 8 ยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิว ด้านทิศเหนือที่หันไปทางบางพลัดก็เช่นกันนะครับ ยังไม่มีตึกสูงมาบังวิว ภาพมุมสูงของทิศเหนือ หันไปทางสถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขัน ด้านทิศใต้จะมีอาคารสูงขึ้นอยู่นิดหน่อย ส่วนด้านหน้าโครงการจะเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีตึกสูงเพียงตึกเดียวคือคอนโดคอมมอนเวลธ์ ปิ่นเกล้า สูง 22 ชั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้จนบังวิวซะทีเดียวนะครับ ภาพมุมสูงของทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงห้องพักอาศัยกันบ้างนะครับ Life ปิ่นเกล้า มีห้องให้เลือกหลายขนาดเช่นกัน โดยมีขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 26 ตร.ม. ไปจนถึงห้องขนาด 60.50 ตร.ม.ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุด สำหรับการอยู่อาศัยในลักษณะของครอบครัวมากยิ่งขึ้น แต่ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในครั้งนี้ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ในขนาด 35 ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็น Highlight ของโครงการเลยทีเดียวครับ โดย Layout ของห้องนี้จะถูกจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้พิเศษมากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์มากกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ของ Walk in Closet ในห้องนอนที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้าวของได้มากขึ้น และเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าเดิม แน่นอนว่าพื้นที่ในส่วนนี้เจ้าของห้องยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องนอนเล็ก หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ตามแต่ความจำเป็นใช้งานเลยครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ภายในห้องก็ถือว่าจัดสรรปันส่วนกันได้อย่างลงตัวมากๆ เลยทีเดียว เดี๋ยวไปดูตามรูปที่เก็บมาฝากกันเลยครับ แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาไม่ถือว่าใกล้กันเท่าไหร่ ด้านที่วางโซฟามีพื้นที่ให้วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้เลยนะครับ แถมยังมีที่เหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโต๊ะทำงานได้อีกด้วย ส่วนฝั่งชั้นวางทีวี เลยจาก Living Area เข้ามาด้านใน ฝั่งที่ติดกับชั้นวางทีวี จะเป็นส่วนครัวแบบเปิด พร้อมโต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L ด้านล่างจะมีช่องวางเครื่องซักผ้า และไมโครเวฟ ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยม เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควัน ต่อมาเรามาดูห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัวกันต่อนะครับ อ่างล้างหน้าวางอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม วางอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ Shower Box จะอยู่ด้านในสุด เราออกไปมาดูที่ห้องนอนด้านนอกกันต่อนะครับ ห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดของห้องนอนค่อนข้างกว้างพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุตลงไปแล้วยังมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือให้วางอย่างอื่นได้อีกนิดหน่อย หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่แบบนี้เลยนะครับ มีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน ที่เหลือจะเป็นบาน Fix ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอนด้วย คงต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนัง เหมือนในห้องตัวอย่างแทนนะครับ ถัดจากห้องนอนเข้าไปด้านในอีกหน่อย จะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ Walk in Closet บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งจะมีช่องกระจกมองออกไปเห็นส่วนครัว ระเบียงจะอยู่ติดกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านี้นะครับ ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียง หันหน้าออกด้านนอก ใครที่กำลังสนใจโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้วนะครับ ซึ่งนอกเหนือจากการซื้อไว้อยู่อาศัยเองแล้ว ทำเลในย่านจรัญฯ-ปิ่นเกล้า ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพน่าเก็บสะสมไว้ลงทุนด้วยนะครับ เพราะนอกจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เป็นรูปเป็นร่างให้เห็นแล้ว ก็ยังมีโครงการทางด่วนในอนาคต (ทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนสายตะวันตก) มาลงใกล้ๆ อีกด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้ศักยภาพของทำเลในย่านนี้มีความพร้อมมากขึ้น และเป็นที่ต้องการของตลาดสูงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน
CHAMBERS CHAAN ลาดพร้าว-วังหิน : รีวิวคอนโด

CHAMBERS CHAAN ลาดพร้าว-วังหิน : รีวิวคอนโด

CHAMBERS CHAAN ลาดพร้าว-วังหิน คอนโดอารมณ์บ้าน บนถนนลาดพร้าววังหิน ใกล้แยกวังหิน โครงการใหม่จาก SC Asset รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 3 - 35 ไร่ จำนวนห้อง     317 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ  156 คัน หรือคิดเป็น 50% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2560 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    550 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) Tesco Lotus Green Plaza Mini Big C ลาดพร้าววังหิน ตลาดวังหินยิ่งเจริญ Plaza Lagoon วัดลาดพร้าว ม.ราชภัฎจันทรเกษม โรงพยาบาล เปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 ตลาดโชคชัย 4 ตลาดลาดพร้าวสะพาน 2 เซ็นทรัลลาดพร้าว ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 29 – 31 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 40 – 44 ตารางเมตร 1 Bedroom CHAAN ขนาด 40 – 42 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 55 – 56 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย สวนหย่อมรอบโครงการ สวนดาดฟ้า ชานพักผ่อนริมสระน้ำ ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1749 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.scasset.com
a space ME บางนา : รีวิวคอนโด

a space ME บางนา : รีวิวคอนโด

a space ME บางนา คอนโด High Rise สูง 26 ชั้น ใกล้ MEGA Bangna พร้อมเข้าอยู่ จาก Areeya Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,290,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 26 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 1 - 17.1ไร่ จำนวนห้อง     945 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 378 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40% ที่ตั้งโครงการ    ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    35 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    350 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง MEGA Bangna IKEA Tesco Lotus เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอน สแควร์ ไบเทค บางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 และ 32.10 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้าในโครงการ 15 ยูนิต สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมรอบโครงการ และบนดาดฟ้า ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1797 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.aspace.co.th
เดอะ ไลน์ ราชเทวี : รีวิวคอนโด

เดอะ ไลน์ ราชเทวี : รีวิวคอนโด

จากความร่วมมือของ แสนสิริ กับ BTS Group ได้ปล่อยคอนโดแบรนด์ เดอะ ไลน์ ออกมาแล้ว 2 โครงการ คือ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต และ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขายหมดเกลี้ยงภายในวันเปิดตัว วันนี้เราจะพาไปชมโครงการที่ 3 อย่าง เดอะ ไลน์ ราชเทวีกันครับ โครงการนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านราชเทวีกันเลยครับ เพียง 220 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี สามารถเดินได้สบายๆ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     6,900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 250,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    231 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 2 - 0 ไร่ ที่จอดรถ    ประมาณ 67% ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ สถานะโครงการ    EIA Approved เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกันยายน 2561 ค่าส่วนกลาง    90 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ วิธีการเดินทาง สำหรับตัวโครง เดอะ ไลน์ ราชเทวี จะตั้งอยู่ปากซอยเพชรบุรี 18 ติดถนนเพชรบุรี ก่อนถึงแยกราชเทวีนิดหน่อย การเดินทางในวันนี้เราเลือกใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS ดูจะสะดวกที่สุดในการเดินทางในย่านนี้ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างจากตัวสถานี BTS ราชเทวีประมาณ 220 เมตรเท่านั้น ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ ไม่ไกลจนเกินไป แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้เราขอให้รถไฟฟ้า BTS นะครับ เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดแล้วในย่านนี้ มาลงที่สถานีราชเทวี ตามชื่อโครงการเลยครับ เราลงทางออกที่ 4 นะครับ ไปทางพันธ์ทิพย์พลาซ่าตามป้ายเลย ลงมาจากสถานีราชเทวีแล้ว จะเจอแยกราชเทวี เราเดินเลี้ยวขวาตามทางไปถนนเพชรบุรีเลยนะครับ จากแยกราชเทวีเดินตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วละครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ ล้อมรั้วไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถเลือกได้หลายเส้นทางเลยนะครับ แต่อาจจะต้องทำใจเรื่องการจราจรกันสักหน่อย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าในย่านนี้ การจราจรค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ทีเดียว เริ่มจากด้านหน้าโครงการคือถนนเพชรบุรี ตัวโครงการจะตั้งอยู่ปากซอยเพชรบุรี 18 ก่อนถึงแยกราชเทวี ถ้ามาจากถนนราชดำริก็สามารถเลี้ยวซ้ายที่แยกประตูน้ำเข้าถนนเพชรบุรี แล้วตรงผ่านพันธุ์ทพย์ พลาซ่า ก่อนถึงโครงการ ส่วนถ้ามาจากทางถนนพญาไทฝั่งขาเข้า สามารถมาเลี้ยวซ้ายที่แยกราชเทวี แล้วไปกลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำกลับมาที่โครงการได้เช่นกัน แต่ถ้ามาจากถนนพญาไทฝั่งขาออก จะไม่สามารถเลี้ยวขวาที่แยกราชเทวีได้นะครับ ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพญานาคที่อยู่ข้างๆ โรงแรมเอเชีย ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงถนนบรรทัดทอง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนบรรทัดทอง ตรงไปอีกนิดเดียวก็จะออกถนนเพชรบุรี พอออกมาถึงถนนเพชรบุรีแล้วให้เลี้ยวขวาอีกทีนะครับ จากนั้นก็ตรงขึ้นสะพานข้ามแยกราชเทวีได้เลย การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเหมือนจะง่ายนะครับ แต่ค่อนข้างจะซับซ้อนสักหน่อย แยกไหนเลี้ยวได้ เลี้ยวไม่ได้ ต้องดูกันดีๆ หากไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวจริงๆ เลือกใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS จะสะดวกสบายมากขึ้นเยอะเลยครับ เพียงสถานีเดียวก็ถึงศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสยามแล้ว สถานที่สำคัญใกล้เคียง พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า แพลทินั่ม ประตูน้ำ MBK สยาม พารากอน สยาม เซ็นเตอร์ สยาม สแควร์ สยาม สแควร์ วัน จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เซ็นทรัล เวิลด์ วิเคราะห์รอบโครงการ ภาพรวมของที่ตั้งโครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี ซึ่งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตรงช่วงซอยเพชรบุรี 18 ในตำแหน่งนี้มีเพื่อนบ้านใกล้ๆ เป็นคอนโดบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน อยู่ทางทิศตะวันตก ทางทิศใต้มีคอนโด Low Rise ของ The Address ปทุมวัน แล้วก็มีอาคารของกรมการพลังงานทหารอยู่ทางทิศตะวันออกอีกตึก ส่วนในซอยเพชรบุรี 18 ก็มีอพาร์ทเม้นท์กับบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้บริเวณนี้จะค่อนข้างมีรถวิ่งผ่านไปมาพลุกพล่านตลอดทั้งวัน แต่โดยรวมแล้วบรรยากาศยังค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัยเหมือนกันนะครับ ไหนจะเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่ถือเป็นจุดเด่นที่ทางโครงการเลือกมาเป็นประเด็นชูโรง ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งสำคัญมากมายทั้งสยามสแควร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ King Power Duty Free เรียกว่าอยู่ในระยะที่เดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า 1-2 สถานีเท่านั้น  และแถมยังใกล้สถานศึกษาชื่อดังใจกลางเมืองอีก จึงทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยครับ BTS สถานีสยามจุดเชื่อมต่อของสายสุขุมวิทและสายสีลม ห่างจากสถานีราชเทวี เพียง 1 สถานี ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น เป็นอาคารเดี่ยวแต่ออกแบบมาให้ตัวอาคารเป็นทรงตัว L จนถึงชั้นที่ 31 ส่วนชั้นที่เลยขึ้นไปจะมีจำนวนห้องต่อชั้นน้อยลง และด้วยจำนวนยูนิตรวมที่มากถึง 231 ยูนิต ทางโครงการจึงใส่ใจเพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง และ Facility ต่างๆ ให้เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกบ้าน เริ่มตั้งแต่จำนวนที่จอดรถที่มากถึง 67% ซึ่งให้พื้นที่จอดตั้งแต่ชั้น 1-10 เลยทีเดียว แถมด้วยที่จอดรถอัจริยะ (Mechanical Parking) สำหรับผู้มาติดต่ออีก 16 คัน ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 11 ขึ้นไป​ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นที่ 11 จะถูกแบ่งเป็นพื้นที่ของ Facility หลัก ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ พร้อม Outdoor Theater ริมสระว่ายน้ำ ในขณะที่พื้นที่บนชั้น 31 ส่วนหนึ่งจะเป็นห้องสมุดภายในอาคาร และห้องอ่านหนังสือที่จัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วน ถือว่าเป็น Co-working Space สำหรับนั่งทำงาน ประชุมงาน หรือติวหนังสือก่อนสอบได้เลย ซึ่งพื้นที่บนชั้นนี้มาพร้อมกับสวนกลางแจ้ง และวิวสีเขียวสวยๆ สบายตา และถ้าขึ้นไปที่ชั้น 38 ก็ยังมี Rooftop Garden ที่จัดเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นจุดชมวิวและที่พักผ่อนได้ในคราวเดียวกัน โมเดลของโครงการ ดูจาก Master Plan ของโครงการ จะเห็นว่ามีทางเข้า-ออกทางเดียว ด้านหน้าจะมี Drop off สำหรับรับ-ส่งลูกบ้าน ใกล้ๆ กันจะมีจุดจอดรถอัจฉริยะอยู่ด้วย ส่วนด้านในอาคารจะมี Lobby ขนาดใหญ่ ก่อนจะถึงโถงลิฟท์ ที่มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift 1 ตัว ทางเข้าโครงการ หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G ตกแต่งได้อย่างหรูหราทีเดียวครับ จากชั้น G ขึ้นไปถึง 10 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด สามารถรองรับได้ประมาณ 67% ขึ้นมาที่ชั้น 11 จะเป็นชั้นเริ่มของห้องพักอาศัย ที่มีเพียง 5 ห้อง เนื่องจากส่วนหนึ่งจะเป็น Facility หลักของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำและ ฟิตเนส ทำให้ห้องพักอาศัยของชั้น 11 จะมีเพดานสูงกว่าชั้นอื่นๆ อยู่ประมาณ 60 ซม. โมเดลจำลองฟิตเนสบนชั้น 11 ที่มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านนอก โมเดลจำลองของสระว่ายน้ำบนชั้น 11 ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำในเวลากลางวัน สระว่ายน้ำจะประดับด้วยสาย Fibre Optic พอถึงเวลากลางคืนจะมีแสงระยิบระยับให้บรรยากาศเหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวบนฟากฟ้า (งานมโนต้องมา ฮ่าๆๆ) นอกจากนั้นยังมี Outdoor Theater จอใหญ่ให้ได้ชมรายการต่างๆ เวลาเล่นได้อีกด้วย บรรยากาศห้องฟิตเนส ขึ้นมาที่ชั้น 13-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มีประมาณ 11 ห้องต่อชั้น พอถึงชั้นที่ 30 จำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือเพียง 6 ห้อง เนื่องจากถูก Facility บนชั้น 31 กินพื้นที่ลงมาบางส่วน ชั้น 31 ห้องพักอาศัยจะเหลือเพียง 3 ห้อง และเป็นอีกชั้นหนึ่งที่มี Facility อยู่ด้วยทั้งห้องสมุด ห้องซักผ้า พร้อมกับพื้นที่พักผ่อนที่แยกกันอย่างเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อไปออกถึงสวนสีเขียวด้านนอก Facility บนชั้น 31 ที่กินพื้นที่ลงมาที่ชั้น 30 ด้วย บรรยากาศภายในห้องสมุดบนชั้น 31 ของโครงการ โมเดลจำลองของสวนสีเขียวที่เชื่อมต่อกับห้องสมุดบนชั้น 31 ตั้งแต่ชั้น 32-37 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดอีกครั้งนะครับ แต่จำนวนห้องจะน้อยลงอีกเหลือเพียงชั้นละ 3-4 ยูนิตต่อชั้น เนื่องจากจะเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2-3 ห้องนอน และห้อง Penthouse มาถึงชั้นบนสุดของโครงการที่ชั้น 38 จะเป็น Rooftop Garden ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาชมวิวมุมสูงที่ชั้นดาดฟ้า ในส่วนของที่พักอาศัย ทางโครงการเน้นออกแบบให้เหมาะกับ Lifestyle คนเมือง ซึ่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบ Studio ห้อง 1-3 Bedroom ไปจนถึงห้องแบบ Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในลักษณะต่างๆ ทั้งแบบเดี่ยว หรืออาศัยกันทั้งครอบครัวก็สามารถเลือกแบบห้องได้ตามต้องการ แถมทางโครงการยังจัดขายห้องมาแบบ Semi Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in วัสดุคุณภาพมาให้เสร็จสรรพ ห้องที่ได้มาจึงแทบจะไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มมากนักก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ภายในห้อง เดี๋ยวเราไปดูในห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่า พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้ตอนนี้มีด้วยกัน 2 แบบ คือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.25 ตร.ม และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 59 ตร.ม. เราเริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom กันก่อนนะครับ พอเปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกับครัวและพื้นที่นั่งเล่นก่อน โดยที่พื้นที่ของห้องนอนจะแยกไว้เป็นสัดส่วน การจัดวาง Layout ของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องค่อนข้างทำได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งในห้องตัวอย่างนี้เป็นแบบห้องที่อยู่ในตำแหน่งห้องมุมของอาคาร จึงได้หน้าต่างเพิ่มขึ้นมาที่ผนังด้านข้างด้วย ทำให้ห้องนี้รับแสงและเห็นวิวได้มากขึ้น แปลนห้อง Type 1E ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.25 ตารางเมตร ที่นี่จะให้ Digital Door Lock รุ่น push and pull ของ Samsung ที่ใช้ได้ 3 ระบบทั้ง Key Card , Password และ กุญแจไข เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านหน้า มองตรงเข้าไปด้านในถึงจะเป็น Living Area พื้นที่ส่วนครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาว ส่วนพื้นที่ Living Area จะเป็น Engineering Wood สีไม้โอ๊ค ครัวที่อยู่ด้านหน้าห้องจะเป็นแบบเปิดนะครับ ตัวท็อปครัวจะเป็นกระเบื้องหินแกรนิต Black Galaxy ด้านซ้ายมือจะเป็นซิงค์ล้างจานทรงสีเหลี่ยมของ MEX ด้านขวาเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมกันฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านบนจะเป็นตู้ลอยติดผนัง ห้องจริงจะได้หน้าบานเป็นกระจกแบบนี้เลยนะครับ เปิดเข้าไปก็จะเป็นที่เก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ด้านล่างจะเป็นจุดวางไมโครเวฟและตู้เก็บของ ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีโต๊ะอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถพับเก็บได้ ใช้เป็นโต๊ะทานอาหารก็สะดวกดีนะครับ แต่เก้าอี้โครงการไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นจุดวางตู้เย็น และตู้เก็บของที่โครงการ Built in มาให้ ตู้ที่ได้มานี่สารพัดประโยชน์เลยนะครับ เก็บได้ทั้งไม้กวาด ไม้ถูพื้น รองเท้า ไปจนถึงของเล็กๆ น้อยๆ ถัดจากส่วนครัวเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา ด้านชั้นวางทีวีโครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีเล็กๆ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โซฟาที่โครงการจัดวางมาให้ดูเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ทำให้ด้านข้างมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟ ส่วน Living Area จะให้แอร์ฝั่งฝ้าแบบนี้นะครับ ทำให้เพดานตรงส่วนครัวถูกดรอปลงมาเหลือ 2.5 เมตร ในขณะที่เพดานในส่วน Living Area จะสูง 2.75 เมตร ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน แบบ Full High Window พื้นที่บริเวณระเบียงจะกว้างประมาณ 1 เมตร ที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่นอกเบียงนี่นะครับมี Grill กั้นอย่างเป็นสัดส่วน คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบนเครื่องซักผ้าอีกที เรากลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อเลยนะครับ ภายในห้องนอนสามารถเลือกวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยนะครับ เพราะมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควร ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง มีที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานเลยทีเดียว แต่โครงการวางให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ นะครับ ไม่ได้แถมให้ด้วย ส่วนหน้าต่างจะได้บานประมาณนี้นะครับ ที่เห็นเป็นกระจกข้างๆ หน้าต่างนั่นไม่ใช่ตู้เก็บของนะครับ แต่เป็นส่วนของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ยื่นเข้ามาในห้องนอน หน้าต่างจะเป็นบาน Fix บานใหญ่เลยนะครับ พื้นที่ปลายเตียงจะเหลืออยู่นิดหน่อยให้พอเดินได้ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอน ก็คงต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนนะครับ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า และทางเข้าห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าโครงการจะ Built in มาให้ด้วยนะครับ เป็นตู้สูงถึงเพดานห้องเลย หน้าบานจะเป็นกระจกสีชาแบบที่เห็นนี่เลยครับ ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีชั้นวางของเล็กๆ พร้อมกับกระจกเงาที่สามารถปิด-เปิด ได้ ช่วยให้ดูเรียบร้อยขึ้น เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อนะครับ ภายในห้องน้ำจะปูด้วยหินแกรนิต Misty Grey ทั้งห้องเลยนะครับ ทั้งพื้นและผนัง จะมีความแตงต่างกันตรงที่ผิวของกระเบื้อง บริเวณผนังห้องจะมีผิวขรุขระให้ความรู้สึกเหมือนหินจริงๆ ส่วนที่พื้นจะเป็นผิวเรียบ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto ตัวเคาน์เตอร์จะเป็นหินแกรนิตเหมือนที่ปูผนังห้องน้ำ กระจกเงาจะได้บานสูงแบบนี้เลยนะครับ โถสุขภัณฑ์จะได้เป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ Cotto รุ่น The Tunio มีฟังก์ชัน Automatic Flushing Sensor พร้อมกันรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่ให้มาพร้อมทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ของ Cotto ชุดฝักบัวของ Cotto มาพร้อมกับ Rain Shower ของ Cotto เหมือนกัน ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้อง คือ ห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขวางมากขึ้น ด้วยลักษณะของห้องเป็นห้องหน้ากว้างนะครับ เด่นที่พื้นที่ระเบียง ที่จะติดตั้งกระจกกั้นไว้สองชั้น คือชั้นแรกเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อออกสู่ระเบียง ซึ่งกระจกชั้นที่สองจะติดตั้งเต็มพื้นที่ด้านนอก โดยติดตั้งเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อเปิดระบายอาการและรับลมจากด้านนอก ซึ่งห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปจะได้ระเบียงแบบนี้ทั้งหมดนะครับ แปลนห้อง Type 2B-1 ขนาด 59 - 59.75 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านข้างประตูห้องจะมีตู้เก็บของ เก็บรองเท้า เราไปดูด้านขวามือกันก่อนนะครับ ด้านขวามือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ซึ่งจะคล้ายๆ กับห้อง 1 ห้องนอนที่เราดูมาเมื่อกี้เลยนะครับ แต่ห้องนี้จะได้ครัวใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย พื้นบริเวณส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาว ส่วน Living Area จะเป็นพื้น Engineering Wood สีไม้โอ๊ค เหมือนห้อง 1 ห้องนอนเมื่อสักครู่ เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L ตัวท็อปจะเป็นกระเบื้องหินแกรนิต Black Galaxy เหมือนกัน ด้านบนก็จะเป็นตู้ลอยเก็บของ ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยมของ MEX เตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ พร้อมจุดวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ที่วางตู้เย็นจะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว ขยับออกมาทาง Living Area จะเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหาร ขนาด 4 ที่นั่ง อยู่ตรงกลางระหว่างครัวกับ Living Area มุมมองจาก Living Area ไปที่ส่วนครัวที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าห้อง ถัดจากส่วน Dining Area เข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area Living Area ของห้อง Type นี้ ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่ากว้างพอสมควร สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้บายๆ โครงการเลือกวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดูนะครับ แต่จริงๆ แล้วมีพื้นที่เหลือพอให้วางโซฟา 4 ที่นั่งได้เลย ด้านชั้นวางทีวี โครงการ Built in มาให้เป็นเป็นเคาน์เตอร์ยาวสีดำ ติดกับ Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นระเบียง ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงของห้องจริงจะกว้างกว่าที่เราเห็นนี้ประมาณ 15 ซม. นะครับ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องโครงสร้างทำให้โครงการทำขนาดเท่าห้องจริงไม่ได้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียงเหมือนเดิมนะครับ มี Grill กั้น ให้เรียบร้อย จะสังเกตว่าที่ระเบียงจะมีกระจกกั้นอีก 1 ชั้นนะครับ เพราะห้องแบบ 2 ห้องนอน เกือบทั้งหมดจะอยู่ทิศใต้ หันไปทางวังสระปทุม จึงต้องมีกระจกกั้นไว้อีกชั้น ซึ่งจะเป็นบานกระทุ้ง 3 บาน สามารถเปิดได้ประมาณ 30 องศา เรากลับเข้ามาดูด้านในกันต่อ จาก Living Area จะเป็นทางเดินเข้าไปที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องและห้องน้ำ ห้องแรกจะเป็นห้องนอนเล็ก พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้นะครับ ถ้าจะวางทีวีไว้ในห้องนอน อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน พื้นที่ในห้องนอนเล็กค่อนข้างกว้าพอสมควรนะครับ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เลย หน้าต่างภายในห้องนอนเล็กจะได้บานใหญ่เลยนะครับ แต่จะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดออกไปได้ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in บานสูงขึ้นไปจนถึงเพดาน เปิดตู้เสื้อผ้าออกมาแล้ว หน้าตาจะประมาณนี้นะครับ ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำเล็ก สุขภัณฑ์ที่ใช้และการวาง Layout ในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 ห้องนอนที่เราดูมาแล้วนะครับ แต่ห้องน้ำเล็กห้องนี้จะไม่ได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto พร้อมกับกระจกเงาบานสูง อย่างที่บอกนะครับ โถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำเล็กจะเป็นแบบธรรมดา ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ชุดฝักบัวของ Cotto พร้อมกับ Rain Shower ของ Cotto เช่นกัน จากห้องน้ำเล็ก เราเข้ามาดูที่ห้องนอน Master พื้นที่ในห้องนอน Master ค่อนข้างใหญ่เลยนะครับ วางเตียง 6 ฟุตเข้าไปแล้วยังมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลืออีกพอสมควร ด้านปลายเตียงโครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีพร้อมกับที่เก็บของ หน้าต่างในห้องนอนใหญ่ก็จะเหมือนกับในห้องนอนเล็กนะครับ คือจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดออกไปได้ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า Built in อยู่มุมห้อง ติดกับทางเข้าห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าจะคล้ายๆ กับของห้อง 1 ห้องนอนนะครับ หน้าบานเป็นกระจกสีชา มีชั้นวางของอยู่ด้านข้าง สุดท้ายเราไปดูที่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ การจัดวางสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องน้ำเล็กเมื่อสักครู่นะครับ แต่ห้องนี้จะได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะด้วย โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ Cotto พร้อมกันรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส ติดกับโถสุขภัณฑ์จะเป็น Shower Box พร้อมชุดฝักบัวของ Cotto และ Rain Shower ยี่ห้องเดียวกัน มุมมองจากห้องนอนใหญ่ออกไปที่ Living Area สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ทางโครงการก็มีห้องแบบ 3 Bedroom และ Penthouse ให้เลือก 3 Type ด้วยกันนะครับ คือ 3 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 85 ตร.ม. 3 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาด 105 ตร.ม. Penthouse ขนาด 119.50 ตร.ม. ซึ่งการออกแบบก็ตอบโจทย์ให้พื้นที่ใช้สอยที่เป็นส่วนตัวกับสมาชิกทุกคน รวมถึงการ Upgrade วัสดุอุปกรณ์บางชิ้นให้สูงขึ้นด้วยถึงแม้ว่าโดยรวมทางโครงการจะเลือกใช้วัสดุแบรนด์คุณภาพ หรือวัสดุนำเข้าอยู่แล้วก็ตาม อย่างตัวอย่างของวัสดุอุปกรณ์ที่ถูก Upgrade ขึ้นมาก็เช่น ในส่วนครัวเตาไฟฟ้าจะได้เป็นเตา 4 หัว พร้อมฮูดดูดควันของ Küppersbusch ซึ่งเป็นแบรนด์นำเข้าจากเยอรมัน เช่นเดียวกับซิงค์ล้างจานที่เพิ่มมาเป็น 2 หลุม นอกจากนั้นจะมีตู้เย็นและไมโครเวฟ Built in ของ Foster แบรนด์จากอิตาลีเพิ่มมาให้อีกด้วย ส่วนห้องน้ำทุกห้องให้เป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะ Cotto รุ่น The Tunio ที่มีฟังก์ชันสุดล้ำ Automatic Flushing Sensor และรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส และยังได้ความเป็น private มากขึ้น เพราะเป็น High Floor เริ่มตั้งแต่ชั้น 31 -37 มีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อย ที่สำคัญวิวที่ได้รับจะเป็นวิวเมือง เปิดโล่ง มุมสูง แปลนห้อง Type 3A 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 85 ตารางเมตร แปลนห้อง Type 3B 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 105 ตารางเมตร แปลนห้อง Penthouse (3 ห้องนอน) ขนาด 119.50 ตารางเมตร ด้วยทำเลที่จัดว่าได้เปรียบเรื่องศักยภาพในด้านต่างๆ ทั้งการเดินทางที่สะดวก แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีสาธารณูปโภคครบครัน โครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี จึงเป็นที่น่าจับตา และน่าสนใจทั้งในแง่ของการซื้อไว้อยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อการลงทุน แถมตัวโครงการเองก็ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองด้วย ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างพร้อมพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับพนักงานขายได้ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต) โดยโครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี จะเปิดจองในวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย.นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com/condominium/theline_ratchathewi หรือ โทร.1685
The Trust Condo@BTS Erawan : รีวิวคอนโด

The Trust Condo@BTS Erawan : รีวิวคอนโด

The Trust Condo@BTS Erawan คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น บนถนนสุขุมวิท ติด BTS พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จาก Q House รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,790,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    7 - 2 - 84.1 ไร่ จำนวนห้อง     1,570 ยูนิต ที่จอดรถ    476 คัน ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ โลตัส ศรีนครินทร์ บิ๊กซี สำโรง บิ๊กซี สมุทรปราการ อิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 23.50 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส สวนพักผ่อนธรรมชาติสไตล์รีสอร์ท ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กล้อง CCTV Access Card เข้า-ออก เฉพาะชั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1388, 02-380-6000, 087-606-4334 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.qh.co.th
ค่าใช้จ่ายที่ตามมา หากคิดว่าจะอยู่คอนโด

ค่าใช้จ่ายที่ตามมา หากคิดว่าจะอยู่คอนโด

หนุ่มสาวรุ่นใหม่วัยเริ่มต้นทำงาน เมื่อทำงานไปได้สักพัก พอมีเงินเก็บบ้างแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงมองหาคอนโดสักห้องไว้อยู่อาศัยเพื่อให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องตื่นแต่เช้า เดินทางฝ่ารถติดจากบ้านมาถึงที่ทำงาน จะไปไหนมาไหนก็ใกล้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน แต่การซื้อคอนโดสักห้องก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง พอๆ กับการซื้อบ้านสักหลังเลยทีเดียว นอกจากเงินดาวน์ เงินผ่อนต่อเดือนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมากมายเมื่อเข้าอยู่คอนโด ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ ค่าใช้จ่ายที่เลี่ยงไม่ได้หากจะใช้ชีวิตในคอนโด ค่าเฟอร์นิเจอร์ ถ้าคอนโดที่ซื้อเป็นห้องเปล่าซึ่งยังไม่ได้ตกแต่งหรือมีเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ใดๆ แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งห้องให้พร้อมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โซฟา รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่จำเป็น รวมกันแล้วเป็นค่าใช้จ่ายหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียวครับ ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คือค่าดูแลรักษาทรัพย์สินของส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น ระบบรักษาความปลอดภัย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนในโครงการ หรือที่จอดรถ ซึ่งจะเรียกเก็บจากเราล่วงหน้าเป็นรายปี โดยคิดราคาตามขนาดพื้นที่ห้อง เป็นราคาต่อตารางเมตร ทั้งนี้ อัตราค่าส่วนกลางจะแตกต่างกันไปในแต่ละโครงการ เช่น 50 บาท/เดือน/ตร.ม. สมมติเราเลือกคอนโดแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร ค่าใช้จ่ายส่วนกลางจะอยู่ที่ 15,000 บาท ต่อปีครับ ค่าประกันอัคคีภัย ค่าประกันอัคคีภัยถือเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับการกู้ซื้อคอนโด หรือนิติบุคคลเรียกเก็บจากเจ้าของร่วมทุกคน เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับคอนโด ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ปกติจะจ่ายพร้อมกับค่าผ่อนคอนโดในงวดแรก หรือถูกเรียกเก็บจากนิติบุคคลเป็นรายปี โดยค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามขนาดพื้นที่ห้อง รวมถึงชั้นของคอนโดที่อยู่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณหลักพันบาทต่อปี ค่าสาธารณูปโภค เมื่อเข้าอยู่คอนโดแล้วย่อมมีค่าสาธารณูปโภคเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือค่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ของแต่ละคน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะเห็นว่าเมื่อรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ เข้าด้วยกันแล้วจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว หากไม่เตรียมตัวเก็บเงินก้อนไว้ หรือไม่ได้วางแผนบริหารจัดการรายจ่ายในแต่ละเดือน แต่ละปีให้ดี ก็มีโอกาสที่จะกู้ซื้อคอนโดแล้วผ่อนไม่ไหว ดังนั้น ใครที่คิดว่าคอนโดสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ และสนใจอยากซื้อคอนโดสักห้อง ต้องไม่มองเพียงแค่ว่ามีเงินดาวน์ เงินผ่อนแล้วจะเข้าอยู่ได้เลย ต้องเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะตามมาด้วยครับ ทั้งนี้ แม้ว่าธนาคารจะกำหนดให้เรามีภาระผ่อนต่อเดือนได้ถึง 40% ของรายได้ แต่ทางที่ดีแนะนำว่า ไม่ควรผ่อนเกิน 30% ของรายได้ครับ เพราะต้องเผื่อเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะตามมาด้วย เพื่อไม่ให้ภาระผ่อนตึงมือจนเกินไปหรือกระทบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในแต่ละเดือนของเรา   ขอขอบคุณข้อมูลจาก : K-Expert
อยากได้เงินมาซ่อมบ้าน ต้องทำอย่างไร 

อยากได้เงินมาซ่อมบ้าน ต้องทำอย่างไร 

เชื่อว่าใครๆ ก็อยากให้บ้านแสนรักยังคงสภาพสวยงามเหมือนใหม่อยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานๆ บ้านของเราก็ย่อมที่จะทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา การซ่อมแซมบ้านเพื่อให้มีสภาพสวยงามพร้อมอยู่เหมือนเช่นเดิมจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งในการซ่อมแซมบ้านแต่ละครั้ง ต้องยอมรับว่าใช้เงินจำนวนไม่น้อย แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้มีเงินเพียงพอไว้สำหรับซ่อมแซมบ้าน ใช้เงินของตัวเอง จากการเก็บออม สำหรับใครที่ต้องการเตรียมเงินไว้ซ่อมแซมบ้านในอนาคต โดยปัจจุบันยังไม่มีเรื่องเร่งด่วนให้ต้องรีบซ่อมแซมบ้าน หรือไม่อยากเสียดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงิน แนะนำให้ใช้วิธีเก็บออมเงินเอาไว้ล่วงหน้า โดยตั้งเป้าหมายว่าจะซ่อมแซมบ้านเมื่อไหร่ และใช้งบประมาณเป็นจำนวนเงินเท่าไร เช่น จะซ่อมแซมบ้านด้วยจำนวนเงิน 100,000 บาท ในอีก 2 ปีข้างหน้า ก็เท่ากับว่าจะต้องเก็บออมเงินประมาณเดือนละ 4,100 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้แนะนำให้เก็บออมไว้ในสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝากประจำรายเดือนปลอดภาษี หรือกองทุนตลาดเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีเงินไว้ใช้ซ่อมแซมบ้านอย่างแน่นอน ขอวงเงินเพิ่ม จากสินเชื่อบ้านที่กำลังผ่อน หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินซ่อมแซมบ้านทันที หรือไม่สามารถรอเวลาให้เก็บออมเงินได้เพียงพอเสียก่อน  เราก็สามารถขอสินเชื่อเพิ่มจากธนาคารปัจจุบันที่เรากำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้านอยู่ได้ โดยธนาคารจะมีการกำหนดเงื่อนไขสำหรับการกู้เพิ่ม เช่น ต้องเป็นลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระดี ไม่มีการค้างชำระและผ่อนมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ให้วงเงินไม่เกิน 80% ของวงเงินที่ได้ผ่อนชำระไปแล้ว ทั้งนี้เงื่อนไขของแต่ละธนาคารอาจมีความแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามการขอวงเงินเพิ่มจากยอดเงินกู้ที่ผ่อนชำระไปแล้วนั้น อัตราดอกเบี้ยจ่ายอาจจะสูงกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่กำลังผ่อนอยู่ และดอกเบี้ยจ่ายสำหรับวงเงินกู้เพิ่มครั้งนี้จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เหมือนกับดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านครับ ขอสินเชื่อใหม่ จากบ้านที่ปลอดภาระ การนำบ้านที่ปลอดภาระไปใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้มีเงินมาซ่อมแซมบ้าน ซึ่งการนำบ้านที่ปลอดภาระไปใช้ขอกู้เงินกับธนาคารอีกครั้ง เงื่อนไขที่ได้รับจะแตกต่างจากการกู้ซื้อบ้านครั้งแรกครับ เช่นระยะเวลาการผ่อนชำระจะสั้นกว่า อาจผ่อนได้ไม่เกิน 15 ปี แต่สินเชื่อกู้ซื้อบ้านจะผ่อนได้สูงถึง 30 ปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยอาจจะคิดในอัตราที่สูงกว่าการกู้ซื้อบ้านใหม่ โดยสินเชื่อประเภทนี้จะไม่สามารถนำดอกเบี้ยจ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ในการขอสินเชื่อใหม่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเหมือนกับการกู้ซื้อบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ค่าจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง ค่าประเมิน ค่าประกันอัคคีภัย ค่าอากรแสตมป์ ค่าทำสัญญาวงเงินกู้ เป็นต้น การหมั่นตรวจเช็คสภาพบ้านอยู่เสมอจะทำให้พบจุดซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเราสามารถทยอยซ่อมแซมบ้านไปได้เรื่อยๆ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้บ้านคงสภาพสวยงามเช่นเดิมอยู่เสมอ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปกับการซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ครับ   ขอบคุณข้อมูลจาก  k-expert
5 วิธีเลือกซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง

5 วิธีเลือกซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง

การเลือกซื้อคอนโดนั้น มีปัจจัยหลายอย่างให้ตัดสินใจเลือก และผู้ที่จะซื้อคอนโดเองก็ต้องศึกษาหาข้อมูลเอาไว้แล้วไม่มากก็น้อย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดสักห้องเพื่ออยู่อาศัยเอง เราควรจะมีหลักเกณฑ์ในการตรวจเช็คเพื่อพิจารณาเลือกซื้อ ดังต่อไปนี้ครับ 1. เช็ครายการความต้องการ หรือเตรียมข้อมูลในการเลือกซื้อคอนโด เช่น ทำเลที่ตั้ง ระยะทาง การเดินทาง ระบบคมนาคมขนส่ง การจราจร หรือแม้กระทั้งการเช็คขนาดของห้องชุดที่อยู่ว่าเหมาะสมกับจำนวนคนที่เข้าอยู่หรือไม่ 2. เช็คพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของตัวเอง ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรเช็คว่าเรามีชีวิตประจำวันอย่างไร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ทำเลรอบข้างมีอะไรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราหรือไม่ เพื่อที่จะได้เลือกคอนโดได้เหมาะสมกับความเป็นอยู่ของเราได้มากขึ้น 3. เช็คสังคมและพฤติกรรมของเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะได้ตรวจเช็คว่าสังคมและเพื่อนบ้านของคอนโดที่เราจะเลือกอยู่นั้นเป็นอย่างไร ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงความรับผิดชอบในการดูแลรับผิดชอบอาคารนี้ เมื่อมีการจัดตั้งนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อร่วมรับผิดชอบให้คอนโดน่าอยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทีมผู้บริหารอาคารและทีมงานนิติบุคคลด้วย 4. เช็คราคาซื้อขาย ก่อนอื่นควรตั้งงบไว้ก่อนว่าจะสามารถซื้อได้ในราคาเท่าไร และควรเลือกซื้อคอนโดที่สามารถซื้อได้ โดยพิจารณาเลือกให้ดีตามความสมดุลของทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของคอนโดนั้น 5. เช็คความสามารถในการผ่อนชำระ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ควรเกินความสามารถของเรา โดยทางที่ดีคือต้องมีเงินดาวน์จำนวนมากพอเท่าที่จะทำได้ เพราะจะทำให้เราจ่ายดอกเบี้ยจำนวนน้อยๆ ด้วยครับ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก home.co.th
บ้านมีหลายหลัง ดอกเบี้ยลดหย่อนอย่างไร?

บ้านมีหลายหลัง ดอกเบี้ยลดหย่อนอย่างไร?

หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า "ดอกเบี้ยบ้าน" เป็นอีกค่าลดหย่อนหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งหากมีบ้านหลังเดียวก็คงทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ว่าสามารถนำดอกเบี้ยบ้านมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร แต่หากมีบ้านหลายหลัง บางคนอาจสับสนว่าจะนำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนอย่างไร วันนี้เรามีคำแนะนำที่เข้าใจได้ง่ายๆ สำหรับคนที่มีบ้านหลายหลังมาฝากครับ บ้านหลายหลังแบบกู้คนเดียว โดยปกติแล้วดอกเบี้ยบ้านสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทครับ หากมีบ้านหลายหลังมาจากการกู้คนเดียว สามารถนำดอกเบี้ยจ่ายของบ้านที่เราเป็นผู้กู้ มารวมกันแล้วลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท เช่น มีบ้าน 2 หลัง หลังที่ 1 มีดอกเบี้ยจ่าย 50,000 บาท หลังที่ 2 มีดอกเบี้ยจ่าย 60,000 บาท เท่ากับว่าสามารถนำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทครับ ถึงแม้ดอกเบี้ยจ่ายจริงจะอยู่ที่ 110,000 บาทก็ตาม บ้านหลายหลังแบบกู้ร่วม หากใครที่มีบ้านหลายหลังและเป็นการกู้ร่วม การนำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนให้หารเฉลี่ยเท่าๆ กันตามจำนวนผู้กู้ร่วมครับ แต่ก่อนที่จะนำดอกเบี้ยมาหารเฉลี่ย ดอกเบี้ยจ่ายของการกู้ร่วมของบ้านแต่ละหลังจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท เช่น กู้ร่วม 2 คน ดอกเบี้ยบ้านจากการกู้ร่วมทั้งปีอยู่ที่ 120,000 บาท ตามเกณฑ์ของการลดหย่อนดอกเบี้ยบ้านสามารถลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท จึงทำให้ดอกเบี้ยบ้านที่แต่ละคนนำมาลดหย่อนได้จะเท่ากับคนละ 50,000 บาทเท่านั้นครับ และหากมีบ้านหลายๆ หลัง เมื่อนำจำนวนดอกเบี้ยบ้านที่หารเฉลี่ยแล้วมารวมกัน ในหนึ่งคนจะลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทเช่นกันครับ ตัวอย่างเช่น มีบ้าน 3 หลัง กู้ร่วม 2 หลัง กู้เดี่ยว 1 หลัง สมมติว่า หลังที่ 1 กู้ร่วมหารเฉลี่ยผู้กู้ร่วมได้ดอกเบี้ยบ้านคนละ 40,000 บาท หลังที่ 2 กู้ร่วมหารเฉลี่ยผู้กู้ร่วมได้ดอกเบี้ยบ้านคนละ 30,000 บาท หลังที่ 3 กู้เดี่ยวดอกเบี้ยบ้านอยู่ที่ 50,000 บาท รวมแล้วดอกเบี้ยบาททั้งหมดเท่ากับ 120,000 บาท แต่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนดอกเบี้ยบ้านได้ไม่เกิน 100,000 บาทครับ แต่หากรวมกันแล้ว 3 หลังดอกเบี้ยตามจริงไม่ถึง 100,000 บาท ก็สามารถลดหย่อนได้ตามจริงเท่านั้น เช่น ดอกเบี้ยบ้าน 3 หลัง รวมกันแล้วอยู่ที่ 80,000 บาท สิทธิลดหย่อนจะใช้ได้ตามจริงก็คือ 80,000 บาทครับ อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยบ้านจากการกู้เงินบางประเภทไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ เช่น การกู้เพื่อตกแต่งบ้าน การนำบ้านปลอดภาระมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอกู้เงินกับธนาคาร การกู้เอนกประสงค์โดยกู้เพิ่มจากวงเงินกู้บ้านเดิม ดังนั้นก่อนการนำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนภาษีควรตรวจสอบสัญญาด้วยครับว่าเป็นเงินกู้ประเภทใด เพื่อไม่ให้ใช้สิทธิแบบผิดเงื่อนไขของกรมสรรพากร   ขอขอบคุณข้อมูลจาก K-Expert
The Residences@Mandarin Oriental Bangkok : รีวิวคอนโด

The Residences@Mandarin Oriental Bangkok : รีวิวคอนโด

The Residences@Mandarin Oriental Bangkok คอนโดหรูระดับ Super Luxury ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา  อีกหนึ่งโครงการในโปรเจค ICONSIAM ภายใต้แบรนด์ ‘แมนดาริน โอเรียนเต็ล’ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    ประมาณ 350,000 บาทต่อตารางเมตร เจ้าของโครงการ   บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 52 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     146 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 350 คัน พื้นที่โครงการ    ประมาณ 4.9 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2561 สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมเพนนินซูล่า ท่าเรือสี่พระยา โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 2 Bedroom  ขนาด 127.87 - 165.40 ตารางเมตร 3 Bedroom  ขนาด 222.21 - 228.88 ตารางเมตร Penthouse  ขนาด 380.93 - 383.98 ตารางเมตร Penthouse Duplex  ขนาด 386.12 - 707.28 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Club House Business Center Lounge Infinity-edge Lap Pool Fitness Center สนามกอล์ฟจำลอง ห้องเล่นเกม ระบบจอดรถอัตโนมัติ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-118-2211 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.iconsiam.com
ซื้อหรือเช่าคอนโดฯ ใกล้โรงเรียนของลูก แบบไหนดีกว่ากัน

ซื้อหรือเช่าคอนโดฯ ใกล้โรงเรียนของลูก แบบไหนดีกว่ากัน

เมื่อถึงเวลาที่ลูกๆ ต้องเข้าโรงเรียน มักจะมีหลายๆ เรื่องให้คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผน นอกจากเรื่องโรงเรียนที่จะให้ลูกเข้าเรียนแล้ว เรื่องการเดินทางก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าโรงเรียนของลูกอยู่ใกล้บ้านหรือที่ทำงานของคุณพ่อคุณแม่ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าโรงเรียนไม่ได้อยู่ใกล้อย่างที่บอกล่ะ? หลายๆ ท่านจึงมักจะหาทางออกด้วยการซื้อคอนโดหรือหาเช่าคอนโดใกล้ๆ โรงเรียนของลูกแทน แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ควรซื้อหรือเช่าคอนโด แบบไหนดีกว่ากัน วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝาก ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจกันดูนะครับ วางแผนเลือกโรงเรียนให้ลูกอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนให้ลูกเรียนในโรงเรียนเดิมในแต่ละระดับชั้น หรือถ้ามีการย้ายโรงเรียน ก็เป็นโรงเรียนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน หรืออยู่ใกล้เส้นรถไฟฟ้า หรือรถใต้ดิน คุณพ่อคุณแม่อาจตัดสินใจซื้อคอนโดฯ เพราะมีโอกาสที่ลูกจะได้อยู่คอนโดฯ นี้นานกว่า 10 ปี และการซื้อคอนโดฯ ก็มีข้อดีที่สำคัญคือ ทำให้มีสินทรัพย์เป็นของเราเอง และในอนาคตถ้าไม่ได้อยู่คอนโดฯ ที่ซื้อนี้แล้ว ก็มีโอกาสสร้างรายได้ด้วยการปล่อยเช่า หรือขายทำกำไรจากการปรับขึ้นของมูลค่าคอนโดฯ แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนให้ลูกเรียนในโรงเรียนที่แตกต่างกันไปในแต่ละระดับชั้น การเช่าคอนโดฯ อาจจะเหมาะกว่า เพราะเมื่อต้องการย้ายที่เรียน ก็เพียงแค่มองหาคอนโดฯ ให้เช่าแห่งใหม่ที่ใกล้โรงเรียนของลูก แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ได้ตัดสินใจซื้อคอนโดฯ ไปแล้ว เมื่อต้องย้ายคอนโดฯ อาจเกิดความยุ่งยากในการขายคอนโดฯ เดิม ซึ่งอาจขายไม่ได้ในทันที หรือต้องหาผู้มาเช่า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย มีเงินดาวน์เพียงพอหรือไม่ ส่วนใหญ่การซื้อคอนโดฯ สักห้องหนึ่งมักซื้อด้วยการขอสินเชื่อ โดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ประมาณ 80-90% ของราคาคอนโดฯ เท่ากับว่า ผู้กู้จะต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20% ของราคาคอนโดฯ เช่น คอนโดฯ ราคา 2 ล้านบาท ก็ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 2-4 แสนบาท ถ้ามีเงินก้อนสำหรับเป็นเงินดาวน์เพียงพอแล้ว ก็สามารถตัดสินใจกู้ซื้อคอนโดฯ ได้ แต่ถ้าเงินดาวน์ยังมีไม่เพียงพอ อาจต้องเช่าคอนโดฯ และระหว่างนี้ก็เก็บออมเงินดาวน์ไปก่อน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ การผ่อนดาวน์คอนโดฯ ซึ่งจะเป็นคอนโดฯ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ภาระหนี้ปัจจุบันมีมากน้อยเพียงใด ถ้าวางแผนซื้อคอนโดฯ ด้วยการขอสินเชื่อ ธนาคารจะพิจารณาว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้มากน้อยเพียงใด โดยทั่วไปภาระผ่อนหนี้ทั้งหมดต่อเดือน ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน สมมติเงินเดือน 50,000 บาท จะสามารถผ่อนชำระหนี้ได้เดือนละประมาณ 20,000 บาท ถ้าไม่มีภาระหนี้สินใด โอกาสขอสินเชื่อบ้านผ่านก็มีสูง แต่ถ้ามีภาระผ่อนหนี้อื่นอยู่ โอกาสขอสินเชื่อบ้านผ่านก็อาจเป็นไปได้ยาก หรือได้วงเงินกู้ที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งการเช่าคอนโดฯ อยู่ก็จะเหมาะกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้ามีภาระหนี้สินอยู่เยอะแล้ว ก็ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนค่าเช่าที่เพิ่มเข้ามา โดยอาจต้องปรับลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นลง เพื่อให้รายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของครอบครัว ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจซื้อหรือเช่าคอนโดฯ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความพร้อมทางการเงินของครอบครัว เพราะจะมีค่าผ่อนหรือค่าเช่าที่ต้องจ่ายทุกเดือน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องวางแผนให้ดีจะได้ไม่เกิดปัญหาการเงินตามมาในอนาคต
Supalai Loft @ สถานีแคราย : รีวิวคอนโด

Supalai Loft @ สถานีแคราย : รีวิวคอนโด

Supalai Loft @ สถานีแคราย คอนโด High Rise สูง 33 ชั้น บนถนนติวานนท์ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีแคราย โครงการใหม่จาก ศุภาลัย รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1 ล้านกว่าบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    ประมาณ  2-0-34.5 ไร่ จำนวนห้อง     422 ยูนิต / ร้านค้า 2 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนติวานนท์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี สถานที่สำคัญใกล้เคียง ไปรษณีย์นนทบุรี MRT สถานีแคราย เทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี สถาบันโรคทรวงอก กระทรวงสาธารณสุข บิ๊กซี เดอะ มอลล์ งามวงศ์วาน ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 32- 35 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 46- 49 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 56.5- 68 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Meeting Room บริเวณ lobby  ชั้น 1 สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องน้ำส่วนกลาง ชั้น8  ( สระว่ายน้ำ) พร้อมห้องออกลังกาย (Fitness) สวนชั้นล่าง, สวนชั้นสระว่ายน้ำและสวนชั้นดาดฟ้า(สวนพักผ่อน)  Roof  Garden รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720 กด 79 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.supalai.com
THAN Living รัชดา-วงศ์สว่าง : รีวิวคอนโด

THAN Living รัชดา-วงศ์สว่าง : รีวิวคอนโด

THAN Living รัชดา-วงศ์สว่าง คอนโด High Rise สูง 28 ชั้น บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ห่างจาก MRT วงศ์สว่างเพียง 200 เมตร โครงการใหม่จาก กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,200,000 บาท (เดือนสิงหาคม 2558) เจ้าของโครงการ    บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 28 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     707 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT วงศ์สว่าง บิ๊กซี วงศ์สว่าง โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom - 2 Bedroom ขนาด 28 - 80 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก สวนพักผ่อน Sky Lounge ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-275-8888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.siralai.com
สูตรเด็ดเคล็ดลับ ลงทุนคอนโด การรันตีผลตอบแทน

สูตรเด็ดเคล็ดลับ ลงทุนคอนโด การรันตีผลตอบแทน

“คอนโด การันตีผลตอบแทน” หรือที่ในต่างประเทศนิยมเรียกว่า “Sales & Leaseback Stratgies (คอนโดที่ขายโดยใช้กลยุทธ์ขายแล้วเช่ากลับคืน) ” ในแง่การลงทุนแล้วจัดว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง คอนโดแบบนี้มักพบเจอได้ไม่ยากตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต และเชียงใหม่ รวมถึงในกรุงเทพฯ ด้วย จุดน่าสนใจของคอนโดฯ ลักษณะนี้อยู่ตรงที่ผู้ลงทุนที่ซื้อเป็นเจ้าของจะมีสิทธิได้รับผลตอบแทนจากการที่โครงการรับเอาไปบริหารจัดการปล่อยเช่า โดยอาจทำเป็นโรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ให้แทน โดยผลตอบแทนนี้จะได้รับแน่ๆ ตามข้อตกลงหรือสัญญาที่การันตีเอาไว้ ซึ่งปกติมักจ่ายออกมาในรูปของค่าเช่านั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นการถือครองคอนโดฯ แบบนี้ยังช่วยให้เจ้าของไม่มีภาระจ่ายค่าส่วนกลางในระหว่างการถือครอง ขณะเดียวกันก็ยังมีโอกาสกลับมาใช้ประโยชน์คอนโดฯ เพื่อพักผ่อนในยามที่ต้องการได้ด้วย และข้อดีสุดท้ายก็คือเมื่อคิดขายเมื่อไร คอนโดฯ แบบนี้ก็มักขายได้ง่ายและได้ราคากว่าคอนโดฯ ทั่วไป แม้คอนโดฯ ประเภทนี้จะน่าจูงใจอย่างยิ่งต่อการลงทุนซื้อ แต่ความสำเร็จสำคัญในการลงทุนจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับคุณลักษณะและทำเลที่ตั้งของตัวคอนโดฯ เป็นสำคัญ ซึ่งจะต้องเหมาะกับการนำมาใช้หาผลประโยชน์ในการปล่อยเช่าด้วย หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว คนที่ลงทุนก็มีโอกาสประสบปัญหาต่างๆ ได้เช่นกัน อาทิ ทำสัญญากันแล้วไม่อาจ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว หรือบางครั้งอาจเลวร้ายถึงชั้นมีการผิดสัญญาเกขึ้นได้ ในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้ได้เคยมีผู้ทำการวิจัยและศึกษาคอนโดฯ การันตีผลตอบแทนเอาไว้ โดยพบว่าปัจจัยกำหนดความสำเร็จในการซื้อคอนโดฯ แบบขายแล้วเช่ากลับคืนมาบริหาร โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับ 7 ปัจจัยสำคัญดังนี้ วิวทิวทัศน์และบรรยากาศ เป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่จะช่วยให้คอนโดฯ ปล่อยเช่าง่าย ได้ราคาและประสบความสำเร็จ ทำเลที่ตั้ง คอนโดฯ ที่ทำเลที่ตั้งที่ดีกว่า เมื่อนำห้องชุดไปบริหารเป็นโรงแรมก็จะทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการมากกว่าตามไปด้วย การเพิ่มมูลค่าคอนโดฯ หลังลงทุนไป ต้องเน้นเลือกคอนโดฯ เฉพาะที่อยู่ในทำเลที่มีแนวโน้มเพิ่มค่าได้ดีเท่านั้น คือต้องเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มเจริญขึ้นได้เรื่อยๆ และไม่มีปัญหาการแข่งขันทั้งในปัจจุบันและในอนาคต การการันตีค่าเช่า ควรต้องมีระบุในสัญญาไว้อย่างชัดเจนเป็นลายลักษรณ์อักษร ผลตอบแทนและความคุ้มค่าในการลงทุน ต้องพิจารณาดูว่าผลตอบแทนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหนและคุ้มค่าเพียงใด ปกติเกณฑ์ที่ใช้วัดความคุ้มค่าควรต้องสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อคอนโดฯถัวเฉลี่ยอย่างน้อย 1% ความปลอดภัยในโครงการ โดยทั่วไปคอนโดฯ ที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยมักส่งผลลบตามมา ทำให้คอนโดฯนั้น มีปัญหาในการปล่อยเช่าในอนาคต การมีสิทธิได้กลับมาพักที่โครงการ ถือเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ซื้อเกิดความภาคภูมิใจและรู้สึกดีที่ได้เป็นเจ้าของคอนโดฯ เพราะมีโอกาส มาใช้พักผ่อนเมื่อต้องการได้
Plum Condo ลาดพร้าว 101 : รีวิวคอนโด

Plum Condo ลาดพร้าว 101 : รีวิวคอนโด

Plum Condo ลาดพร้าว 101 คอนโด Low Rise สูง 5 ชั้น จำนวน 12 อาคาร ราคาต่ำกว่าล้าน พร้อมเข้าอยู่ ในซอยลาดพร้าว 101 จากพฤกษา เรียลแอสเสท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    ประมาณ 950,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลแอสเสท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 5 ชั้น 12 อาคาร จำนวนห้อง     712 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   8 - 1 - 71 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ที่จอดรถ    ประมาณ 190 คัน คิดเป็น 30% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่าส่วนกลาง    29 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร ชำระครั้งเดียว สถานที่สำคัญใกล้เคียง The Mall บางกะปิ Crystal Park Crystal Design Center (CDC) Makro Mini Big C Tesco Lotus Supermarket โรงพยาบาลลาดพร้าว โรงพยาบาลเวชธานี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 22.05 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Chit – Chat Room สวนพักผ่อนแบบ Private Garden Self - Service Laundry Room มีให้บริการ 2 จุด ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ มีให้บริการ 2 จุด ที่จอดรถ Security 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  plum.pruksa.com
Menam Residences : รีวิวคอนโด

Menam Residences : รีวิวคอนโด

Menam Residences (แม่น้ำ เรสซิเดนซ์) คอนโดหรูสูง 54 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ Asiatique รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    8,100,000 บาท (เดือนสิงหาคม 2558) ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    ประมาณ 180,000 บาท เจ้าของโครงการ    Menam Residences Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 54 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     294 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   5 - 0 - 58 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2559 ที่จอดรถ    ประมาณ 350 คัน คิดเป็น 120% ค่าส่วนกลาง    60 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีสะพานตากสิน Asiatique โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน Homepro พระราม 3 Vanilla Moon โรบินสัน บางรัก เซ็นทรัล พระราม 3 เทสโก้ โลตัส พระราม 3 โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 44.5 - 60 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 63 - 99 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 120.5 - 160 ตารางเมตร Duplex Penthouse ขนาด 262 - 287 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำที่ชั้น 10 + Jacuzzi ห้องออกกำลังกาย ห้องเด็กเล่น สนามเด็กเล่น Steam / Sauna Indoor / Outdoor Onsen ห้องสมุด Reflective Pool สวนใหญ่หน้าโครงการ พร้อม Pool + Pavillion Sky Lounge ที่ชั้น 41 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-688-2002 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.menamresidences.com
ก่อสร้างหรือดัดแปลงบ้าน ต้องมีระยะร่น

ก่อสร้างหรือดัดแปลงบ้าน ต้องมีระยะร่น

กฎหมายควบคุมอาคารมีข้อกำหนดให้อาคารทุกประเภทต้อง “ร่นแนวอาคาร” จากแนวเขตที่ระบุไว้ นอกเหนือจากการต้องเว้นให้มีที่ว่างสำหรับอาคารทุกหลังที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงแล้ว กฎหมายควบคุมอาคารยังมีข้อกำหนดให้อาคารทุกประเภทต้อง ร่นแนวอาคาร  จากแนวเขตที่ระบุไว้ ไม่ว่าจะเป็นการต้องร่นแนวอาคารจากเขตถนนสาธารณะ หรือร่นจากเขตทางน้ำสาธารณะ บางข้อกำหนดให้ ผนังหรือระเบียงต้องห่าง  จากแนวเขตที่ดิน หรือต้องห่างจากผนังอาคารของผู้อื่นที่อยู่ข้างเคียง หรือต้องห่างจากผนังหรือระเบียงอาคารอื่นที่อยู่ในที่ดินเจ้าของเดียวกัน หลายคนเรียกข้อกำหนดนี้ว่า “ระยะร่น” และ “ระยะห่าง” ของอาคาร ก่อนดูในรายละเอียดของระยะร่น ท่านเจ้าของบ้านควรต้องทราบแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการร่นแนวอาคาร เพราะกฎหมายควบคุมอาคารกำหนดให้ต้อง ร่นแนวอาคาร  แต่ไม่ได้เขียนให้ชัดว่า แนวอาคาร  ที่ว่านั้นหมายถึงแนวไหนของตัวอาคาร หากไม่ใช่ข้อกำหนดที่ระบุชัดว่าเป็นผนังหรือระเบียง หลายคนเลยอาจคิดว่าแนวอาคารอาจหมายถึง แนวชายคา แนวกันสาด หรือแนวใดๆของอาคารยื่นออกไปมากที่สุด ปัจจุบันแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นโดยทั่วไปแล้วจะพิจารณาแนวอาคาร โดยถือเอาแนวผนังอาคาร หรือแนวเสาของอาคารที่อยู่ริมด้านนอกสุด แต่จะไม่รวมถึงกันสาด ชายคา หรือหลังคา  (อ้างอิงจากหนังสือตอบข้อหารือของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ มท.0710/10880 และที่ มท.0710/13604) โดยระยะร่นทั้งหลายก็ให้วัดจากแนวเขตที่กฎหมายกำหนด เช่น กึ่งกลางถนนสาธารณะไปจนถึงผนังอาคารหรือเสาที่อยู่ริมนอกสุดของอาคารที่จะ ก่อสร้างหรือดัดแปลงนั่นเอง อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเพียงแนวปฏิบัติ ดังนั้นในอนาคตก็อาจมีแนวปฏิบัติที่แตกต่างออกไป ระยะร่นอาคารจากแนวเขตที่กฎหมายกำหนดที่สำคัญ คือ ระยะร่นจากถนนสาธารณะ  เนื่อง เพราะถนนเป็นที่สาธารณะ ซึ่งอาคารส่วนใหญ่มักจะก่อสร้างใกล้ถนน และต้องก่อสร้างไม่ให้ส่วนใดของอาคารล้ำเข้าไปในที่สาธารณะ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นกรณีไป ระยะร่นจากถนนสาธารณะ กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดให้อาคารทุกประเภทที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงต้องมีระยะร่นจากถนนสาธารณะ โดยระยะที่ต้องร่นแนวอาคารขึ้นกับว่าถนนสาธารณะที่อยู่ใกล้นั้นมีความกว้างเท่าใด และขึ้นกับว่าอาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงนั้นเป็นอาคารประเภทใด โดยกฎหมายเขียนเรื่องนี้อยู่ในข้อเดียวกัน แต่เขียนเป็นสองวรรค (แต่ละวรรคก็คือแต่ละย่อหน้านั่นเอง เพียงแต่กฎหมายในระดับรอง เช่นกฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติ ใช้คำเรียกว่า “วรรค” ในที่นี้จึงขอเขียนคำว่าวรรคนำหน้าเพื่อให้อ้างอิงได้) - วรรคแรก ถนนสาธารณะที่มีความกว้างเขตทางน้อยกว่า 6 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 3 เมตร กรณีนี้ไม่ได้ระบุประเภทอาคารจึงบังคับใช้กับทุกอาคาร - วรรคสอง สำหรับอาคารที่สูงเกิน 2 ชั้นหรือเกิน 8 เมตร ห้องแถว ตึกแถว บ้านแถว อาคารพาณิชย์ โรงงาน อาคารสาธารณะ ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย หรือคลังสินค้า ที่ก่อสร้างสร้างใกล้ถนนสาธารณะที่มีความกว้างต่างๆ ให้มี ระยะร่นดังนี้ 1. ถนนสาธารณะที่มีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 6 เมตร 2. ถนนสาธารณะที่มีความกว้างตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน20 เมตร ให้ ร่นแนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของความกว้างของเขตถนนนั้นๆ เช่น ถ้าถนนกว้าง 12 เมตร แนวอาคารต้องร่นห่างจากเขตถนนเท่ากับ 1.20 เมตร 3. ถนนสาธารณะที่มีความกว้างตั้งแต่ 20 เมตรขึ้นไป ให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 2 เมตร หลายคนอ่านแล้วอาจคิดต่อว่าในวรรคสอง (1) กำหนดความกว้างของถนนสาธารณะว่ากว้างน้อยกว่า 10 เมตร แปลว่า ถ้าถนนกว้างเพียง 4 เมตร จะเข้าเกณฑ์ทั้งวรรคแรกและวรรคสอง (1) แล้วจะใช้ระยะร่นตามวรรคไหน เพราะวรรคแรกให้ร่นเพียง 3 เมตรแต่วรรคสอง (1) ให้ร่นถึง 6 เมตร แต่ให้สังเกตว่าในวรรคสองนั้นมีกำหนดประเภทของอาคารไว้ด้วย หมายความว่าอาคารตามที่ระบุเท่านั้นจึงใช้ตัวเลขระยะร่นตามวรรคสอง (1) นอกจากนั้นจึงให้ใช้ตัวเลขระยะร่นตามวรรคแรก ซึ่งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดก็มีระบุไว้แตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าสร้างบ้านใกล้ถนนสาธารณะที่กว้างน้อยกว่า 6 เมตร จะใช้ระยะร่นตามวรรคแรกก็ต่อเมื่อ บ้านนั้นสูงไม่เกิน 2 ชั้นหรือไม่เกิน 8 เมตร กรณีสร้างอยู่ต่างจังหวัด แต่หากเป็นบ้านที่สร้างในกรุงเทพฯ จะต้องเป็นบ้านที่สูงไม่เกิน 3 ชั้นหรือไม่เกิน 10 เมตร และพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร โดยบ้านที่สร้างนั้นต้องไม่ใช่ห้องแถว ตึกแถวหรือบ้านแถว นอกเหนือจากนี้ต้องใช้ตัวเลขระยะร่นตามวรรคสอง (1) ตัวอย่างเช่น ถ้าก่อสร้างบ้านพักอาศัยสูง 4 ชั้นใกล้กับถนนสาธารณะที่กว้างน้อยกว่า 6 เมตร จะต้องร่นแนวอาคารจากกึ่งกลางถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 6 เมตร ประเด็นสำคัญที่ท่านเจ้าของบ้านต้องทราบไว้ คือ หากท่านหรือใครก็ตามเป็นเจ้าของที่ดินในต่างจังหวัด แล้วยินยอมให้คนทั่วไปใช้ที่ดินนั้นเป็นทางผ่าน โดยจะเก็บค่าผ่านทางหรือไม่ก็ตาม กฎหมายควบคุมอาคารจะถือว่าที่ดินนั้นเข้าข่ายเป็น “ถนนสาธารณะ” ทันที เมื่อเป็นถนนสาธารณะ อาคารที่สร้างใกล้กับที่ดินที่ยอมให้คนทั่วไปผ่านนั้น ก็ต้องก่อสร้างให้มีระยะร่นเช่นเดียวกับที่ต้องร่นจากถนนสาธารณะ สำหรับในเขตกรุงเทพฯ ที่ดินที่ยินยอมให้คนทั่วไปใช้เป็นทางผ่าน หากมีความยาวไม่เกิน 500 เมตรหรือมีการปักป้ายหวงห้ามกรรมสิทธิ์ไว้ จะถือว่าเป็น “ทางส่วนบุคคล” ไม่ถือเป็นถนนสาธารณะ แต่หากไม่เข้าสองเงื่อนไขนี้จะเข้าข่ายเป็นถนนสาธารณะตามกฎหมายควบคุมอาคารและก็จะต้องมีระยะร่นเช่นกัน เรื่องของกฎหมายควบคุมอาคารเกี่ยวกับระยะร่นหรือระยะห่างอาคารนั้น มีข้อกำหนดอยู่ค่อนข้างมาก จะค่อยๆ นำแต่ละกรณีมาเขียนให้ทราบต่อไป หมายเหตุ : ท่านที่ต้องการอ้างอิงข้อกฎหมายในเรื่องระยะร่นจากถนนสาธารณะ หากเป็นที่ดินในต่างจังหวัดให้ดูกฎกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ข้อ 41 หากเป็นที่ดินในกรุงเทพฯ ให้ดูข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 ข้อ 50   ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก คมกฤช ชูเกียรติมั่น ผู้อำนวยการสถาบันสถาปนิกสยาม สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์