Tag : preview condo

336 ผลลัพธ์
Orchid Park Condo : รีวิวคอนโด

Orchid Park Condo : รีวิวคอนโด

Orchid Park Condominium คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่จาก เรวดี เรสซิด้นซ์  บนถนนเรวดี รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   1.4 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 52,0000 บาท เจ้าของโครงการ  บริษัท เรวดี เรสซิด้นซ์ จำกัด ลักษณะคอนโด  Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง  158 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   3 - 0 - 66.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ปีที่สร้างเสร็จ  ปี 2558 สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central รัตนาธิเบศร์ The Mall งามวงศ์วาน Big C ติวานนท์ Lotus แคราย ลักษณะห้องและขนาดห้อง แวนด้า  ขนาด 27 - 33 ตารางเมตร แคทลียา  ขนาด 33 - 40 ตารางเมตร ฟาแลนอปซิส  ขนาด 41 - 45 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ล็อบบี้ รปภ. 24 ชั่วโมง Free Wi-Fi สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-526-2992, 092-703-4477 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.orchidcondo.com
บรรยากาศงาน Pre-sale “The Saint Residences” คอนโดหรูบนทำเลห้าแยกลาดพร้าว : รีวิวคอนโด

บรรยากาศงาน Pre-sale “The Saint Residences” คอนโดหรูบนทำเลห้าแยกลาดพร้าว : รีวิวคอนโด

บริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดโครงการคอนโดหรูทำเลทองใกล้ห้าแยกลาดพร้าวภายใต้แบรนด์ The Saint Residences  ณ ห้องกรุงเทพ 2 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว  พร้อมให้มีการ Pre-sale ไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากตั้งแต่เปิดให้มีการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ และผู้ที่เข้ามาชมรายละเอียดโครงการภายในงาน ดร.ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย ประธานกรรมการ บริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด สำหรับโครงการ The Saint Residences เป็นคอนโดมิเนียม สูง 41 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนที่ดิน 7 ไร่ โดยมีราคาเริ่มต้นที่อยู่ที่ 3.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแตกไลน์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มมหาวิทยาลัยเซนจอห์น โดยใช้ที่ดินที่เป็นส่วนของโรงเรียนเซนต์จอห์นเดิม บนทำเลทองห้าแยกลาดพร้าว มาพัฒนาให้เป็นคอนโดมิเนียมหรู ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินและรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีเขียวเข้ม สถานีห้าแยกลาดพร้าว ในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ Life Style ของคนเมือง ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยวิวสวนสาธารณะใหญ่ 3 แห่ง ทั้งสวนจตุจักร, สวนรถไฟ และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ (ความยาวสระ 50 เมตร และ 25 เมตร) 2 สระ, ห้องฟิตเนส และห้องแอโรบิก (พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานสากล), ห้องซาวน่า และห้องสตรีม, ทางเดิน - วิ่ง เพื่อสุขภาพ, สวนหย่อมลอยฟ้า (Sky Park), สนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นพัฒนาทักษะ และ Pocket Garden, ล็อบบี้ทั้ง 3 อาคาร พร้อมล็อบบี้อเนกประสงค์ ขนาดใหญ่ สูง 15 เมตร, คลับเฮ้าล์ และ ห้องสมุด 2 ห้อง อีกทั้ง ร้านค้า จำนวน 4 ร้านด้วยกัน พร้อมกันนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, CCTV - DVR ระบบกล้องวงจรปิด ที่ครอบคลุม พื้นที่ทุกตารางนิ้ว และคีย์การ์ด ที่เจาะจงเฉพาะชั้นที่อยู่อาศัย คุณภาพเดียวกับโรงแรม 5 ดาว  เพื่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัย ที่ทาง เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส (The Saint Residences)  ให้ความสำคัญมาเป็นที่หนึ่งเสมอ Sky Park บนชั้นดาดฟ้า วิว 3 สวนสาธารณะใกล้โครงการ ทั้งสวนจตุจักร สวนรถไฟ และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มุมมองจากสวนสาธารณะใกล้ๆ โครงการ คอนเซิร์ปโดยรวมของ โครงการ เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส (The Saint Residences) กำหนดให้อยู่ภายใต้ ความเป็น โมเดิร์นไนซ์ อีโค่และสังคมสีเขียว โดยเน้นพื้นที่สวนหย่อมลอยฟ้า และพื้นที่สันทนาการมากถึงกว่า 5,000 ตารางเมตร ซึ่งจำลองบรรยากาศสวนที่ร่มรื่น เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึก ได้ผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้า ตัวอาคาร เน้นความโปร่งสบาย เรียบหรู ส่วนในด้านของฟังก์ชั่น ภายในแต่ละห้อง ยังคงคอนเซิร์ปความเป็น ECO เช่นกัน เพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด โดยเฉพาะวัสดุตกแต่ง ที่มาพร้อมกับห้อง เป็นวัสดุที่คัดสรรมาในระดับเวิลด์คลาส เสมือนโรงแรมระดับ 5 ดาว อาทิ พื้นห้อง Engineering Wood, ห้องน้ำ ปูด้วย Compressed Marble, กระจก Tempered Glass, อ่างล้างหน้า Build In, ก๊อกน้ำแบบฝั่งผนัง, ชุดครัว Top หินสังเคราะห์ หน้าบาน  ปิดผิว Hi Gloss พร้อมอุปกรณ์ชุดครัว เหนือมาตรฐาน เช่น ไมโครเวฟโอเว่น, ตู้เสื้อผ้ากับชั้นวางทีวี ที่ดีไซน์มา อย่างกลมกลืนกับผนัง บรรยากาศการลงทะเบียนก่อนเข้างาน บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก ดร.ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย ถ่ายภาพร่วมกับ นายชนะ นันทจันทูล (คนที่ 2 นับจากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ The Saint Residences เพิ่มเติมสามารถคลิ๊กอ่านได้ที่ www.reviewyourliving.com หรือ www.thesaint-residences.com หรือโทร 081-554-7575 , 081-554-3030
Sindhorn Residence : รีวิวคอนโด

Sindhorn Residence : รีวิวคอนโด

Sindhorn Residence (สินธร เรสซิเดนซ์) คอนโดหรูระดับไฮเอนด์ สูง 35 ชั้น ใจกลางเมืองโครงการใหม่จาก สยามสินธร  ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง มอลล์ ย่านชิดลม เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   14,700,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 210,0000 บาท เจ้าของโครงการ  บริษัท สยามสินธร จำกัด ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 35 ชั้น 1 อาคาร และ 10 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  200 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   ประมาณ 4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ปีที่สร้างเสร็จ  ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง สวนลุมพินี Central ชิดลม Central World Central Embassy BTS ชิดลม Mercury Tower Amarin Plaza ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio  ขนาด 35 ตารางเมตร 1 ห้องนอน  ขนาด 68 - 76 ตารางเมตร 2 ห้องนอน  ขนาด 112 - 147 ตารางเมตร 3 ห้องนอน  ขนาด 145 - 297 ตารางเมตร Studio ขนาด 35 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 76 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 146 ตารางเมตร 3 ห้องนอน ขนาด 345 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก 25-meter swimming pool with salt-water chlorination system Covered kids’ pool Large pool deck with embassy-view seating area Fully equipped fitness centre with exercise area Sport Club style changing and locker rooms with sauna and steam rooms Multi-purpose rooms สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-650-9595 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sindhornresidence.com
THE RICH @ สาทร – ตากสิน : รีวิวคอนโด

THE RICH @ สาทร – ตากสิน : รีวิวคอนโด

THE RICH @ สาทร - ตากสิน คอนโด High Rise สูง 23 ชั้น โครงการใหม่จาก  Richy Place ในสไตล์  Modern English บนถนนกรุงธนบุรี ใกล้รถไฟฟ้า วงเวียนใหญ่  รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   2,630,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 93,0000 บาท เจ้าของโครงการ  Richy Place 2002 Co., Ltd. ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  511 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 3 - 39 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ที่จอดรถ  ประมาณ 40% ค่าส่วนกลาง  55 บาท/ตารางเมตร เริ่มก่อสร้าง  ปี 2558 ปีที่สร้างเสร็จ  ปี 2560 Facility หลักของโครงการอยู่ที่ชั้น 11 ชั้นสูงสุดของโครงการ ชั้น 23 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีวงเวียนใหญ่ Asia Tique The River Front ICONSIAM The Landmark Waterfront ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type A (1 ห้องนอน)  ขนาด 38.55 - 39.90 ตารางเมตร Type B (1 ห้องนอน)  ขนาด 29.30 - 36.20 ตารางเมตร Type C (Studio)  ขนาด 26.60 - 27.10 ตารางเมตร Type D (1 ห้องนอน)  ขนาด 39.30 ตารางเมตร Type A 1 ห้องนอน ขนาด 39.90 ตารางเมตร Type B 1 ห้องนอน ขนาด 29.50 ตารางเมตร Type C Studio ขนาด 27.10 ตารางเมตร Type D 1 ห้องนอน ขนาด 39.30 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ลิฟท์ 3 ตัว ลิฟท์ Services 1 ตัว ห้องฟิสเนส ผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ key card access สวนหย่อมรอบโครงการ ที่จอดรถ 40% กล้องวงจรปิด อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนอัตโนมัติภายในห้อง ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-886-1817, 061-559-9011 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  rp.co.th
Supalai Veranda รัตนาธิเบศร์ : รีวิวคอนโด

Supalai Veranda รัตนาธิเบศร์ : รีวิวคอนโด

Supalai Veranda รัตนาธิเบศร์ คอนโด High Rise สูง 33 ชั้น โครงการใหม่จากศุภาลัย ติดถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สถานีศรีพรสวรรค์ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   1,630,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 55,0000 บาท เจ้าของโครงการ  บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  1,054 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   5 - 3 - 1.7 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี นนทบุรี สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศาลากลาง จ.นนทบุรี กระทรวงสาธารณสุข Big C เซ็นทรัล พลาซ่า รัตนาธิเบศร์ กระทรวงพาณิชย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio  ขนาด 30 - 31.50 ตารางเมตร 1 ห้องนอน  ขนาด 45 - 47.50 ตารางเมตร 2 ห้องนอน  ขนาด 62 - 74 ตารางเมตร Studio ขนาด 30 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 69.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ Fitness สวนส่วนกลาง Sauna Sky Lounge เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-526-7888 / 1720 กด 93 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.supalai.com
Zelle รัตนาธิเบศร์ : รีวิวคอนโด

Zelle รัตนาธิเบศร์ : รีวิวคอนโด

Zelle รัตนาธิเบศร์ คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น แต่งครบพร้อมอยู่ จาก ปริญสิริ บนถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สถานีสะพานพระนั่งเกล้า รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  1,590,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 53,000 บาท เจ้าของโครงการ  บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด  Low Rise สูง 8 ชั้น 8 อาคาร จำนวนห้อง  570 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   5 - 0 - 35.1 ไร่ ที่จอดรถ   245 คันคิดเป็น  43 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ  ถนนรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จ   กลางปี 2558 (ปัจจุบัน อาคาร 1,2 สร้างเสร็จแล้ว พร้อมเข้าอยู่) สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สะพานพระนั่งเกล้า MRT แยกนนทบุรี 1 เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด งามวงศ์วาน – แคราย เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โรงพยาบาลนนทเวช ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 30 - 32 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 51 - 53 ตารางเมตร Duplex 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 49 - 52 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Digital Door LockVideo Door Phone ระบบ Key Card Access ควบคุมทางเข้า – ออกอาคาร ระบบกล้องวงจรปิด CCTV ในอาคาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เครื่องดักจับยุง Mosquito Magnet ภายนอกอาคาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1753 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.zellecondo.com
THAN Living รัชดา – ประชาอุทิศ : รีวิวคอนโด

THAN Living รัชดา – ประชาอุทิศ : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ จาก Siralai (สิราลัย) คอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ซึ่งรวมทั้งตึก High Rise และ Low Rise ไว้ในพื้นที่เดียวกันบนถนนประชาอุทิศ ทำเลที่ตั้งของโครงการค่อนไปทางถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดังนั้นการเดินทางมายังตัวโครงการจึงค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของตัวโครงการเราก็เก็บมาฝากกันครบถ้วนเช่นเคย ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่า   การเดินทาง อย่างที่บอกว่าด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่มาทางด้านถนนประดิษฐ์มนูธรรม ลองดูจากแผนที่จะเห็นว่าระยะห่างจากสี่แยกแค่ 300 เมตรเท่านั้น เส้นทางนี้ถ้าวิ่งตามถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปเรื่อยๆ ผ่านแยกพระราม 9 แยกเพชรบุรี แล้วก็จะเข้าสุขุมวิท 63 และไปบรรจบกับถนนสุขุมวิท เส้นทางนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าออกเมืองได้ดีทีเดียวนะครับ กลับกันถ้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปก็จะเจอแยกลาดพร้าว แยกเกษตร-ประดิษฐ์ฯ และไปสุดที่ถนนรามอินทรา เส้นทางที่ตัดเชื่อมกับถนนเลียบทางด่วน หรือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มีอยู่ด้วยกันหลายเส้น ทำให้การเลือกเส้นทางเลี่ยงการจราจรมีตัวเลือกมากขึ้น แม้แต่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ใกล้นิดเดียวเองด้วย การเดินทางจากทางฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรมจึงสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ระยะทางจากถนนสุขุมวิท ถึงโครงการประมาณ 6 กม. หรือถ้าใครสะดวกเดินทางด้วยทางด่วน ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก ต่อทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา มาลงที่ลาดพร้าว เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม จะเลยถนนประชาอุทิศมานิดหน่อย ต้องกลับรถ แล้วไปเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อเข้าถนนประชาอุทิศไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก็จะมาเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม ตามป้ายที่บอกว่าไปทางถนนรัชดาภิเษกนะครับ จากสี่แยกนี้ไปนิดเดียวก็จะเจอสำนักงานขายที่อยู่ด้านซ้ายมือแล้วครับ ส่วนตัวโครงการต้องตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้การเดินทางมายังตัวโครงการจากทางฝั่งถนนรัชดา ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ เข้าทางแยกห้วยขวาง แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เพื่อมายังถนนประชาอุทิศ วิ่งมาตามถนนเส้นนี้เรื่อยๆ ก็จะถึงตัวโครงการเลย เสียแต่ถนนเส้นนี้ค่อนข้างแคบ ผ่านแหล่งชุมชนและมีรถรามากหน่อย บางครั้งการจราจรอาจจะไม่คล่องตัวนะครับ ส่วนอีกเส้นทางคือเข้ามาทางแยกศูนย์วัฒนธรรม เข้าถนนเทียมร่วมมิตร แล้ววิ่งมาตามถนนเลียบรั้ว รฟม. มาต่อที่ถนนประชาอุทิศอีกนิดเดียวก็เจอตัวโครงการเลย เส้นทางนี้มีระยะทางที่ใกล้กว่า และการจราจรสะดวกกว่ามากครับ แต่ช่วงดึกๆ อาจจะเปลี่ยวมากหน่อย คุณสาวๆ เดินทางด้วยรถรับจ้างดึกๆ คนเดียวถ้าเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ก็ดีครับ นอกจากเส้นทางหลักๆ ที่เราแนะนำกันไปแล้ว ถนนประชาอุทิศก็ยังมีซอยเล็กซอยน้อยเลี่ยงไปออกถนนพระราม 9 ลาดพร้าว หรือรามคำแหงได้อีกหลายทาง ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการศึกษาเส้นทางกันสักหน่อยครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกห้วยขวาง จะเจอป้ายให้เลี้ยวขวาไปประชาอุทิศ ถึงตรงนี้ให้ชิดซ้ายไว้ อย่าลงอุโมงนะครับ ถ้าพลาดลงอุโมงไปแล้วต้องไปกลับรถยาวเลยล่ะครับ ถึงแยกห้วยขวางแล้วก็รอสัญญาณไฟเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT พอลงรถไฟฟ้าสถานีห้วยขวางที่อยู่ปากซอยแล้ว ก็จะมีพี่วินคอยให้บริการด้วยนะครับ แต่ก็อาจจะไกลอยู่สักหน่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ก็มีรถตุ๊กตุ๊กไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เข้ามาในซอยแล้วก็อย่างที่เห็นนะครับ ถนนค่อนข้างจะแคบ การจราจรในซอยนี้จึงค่อนข้างจะติดขัด ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอสามแยกนี้ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาอุทิศนะครับ เลี้ยวขวามาปุ๊บก็จะเจอกับสำนักงานเขตห้วยขวางเลยนะครับ เผื่อใครต้องมาติดต่อทำธุระที่นี่ เข้ามาเรื่อยๆ ถนนจาก 3 เลน ก็จะเหลือ 2 เลน ถึงสี่แยกถนนประชาอุทิศตัดซอยรัชดานิเวศน์ 24 ก็ตรงไปเลยนะครับ ถึงตรงนี้ถนนจะขยายเป็น 4 เลนแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลย รถจอดสองข้างทางก็กินไปเลนนึงแล้ว ถนนเส้นนี้โรงเรียนจะเยอะหน่อยนะครับ ทั้งโรงเรียนไทย และโรงเรียนนานาชาติ เวลาเลิกเรียนรถจะเยอะมาก ข้ามสะพานข้ามคลองลาดพร้าวไปก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ จะอยู่ติดกับซอยจําเนียรเสริม แต่สำนักงานขายตรงขับตรงเลยโครงการไปอีกหน่อยนะครับ โครงสร้างของอาคาร High Rise ก่อสร้างไปได้กว่า 80% แล้วนะครับ เลยสถานที่ก่อสร้างโครงการมาอีกนิดก็จะเจอสำนักงานขายอยู่ด้านขวามือ สำนักงานขายโครงการ ร้านโฮคิทเช่น ซีฟู๊ด มีทั้งอาหารจีน และซีฟู๊ดให้เลือก อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ เลยมาอีกหน่อยก็จะมีร้านเฉลียง ร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ มีดนตรีสด ปั๊มใกล้ๆ มีทั้งปั๊มน้ำมัน ทั้งปั๊มแก๊ส สำหรับใครที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางโครงการก็มีบริการ Shuttle Service รับส่งมายังสถานีรถไฟฟ้าทุกๆ ครึ่งชั่วโมง จากที่สอบถามมาก็น่าจะเป็นสถานีศูนย์วัฒนธรรมนะครับ เพราะระยะทางใกล้กว่าสถานีห้วยขวางนิดหน่อย แต่ถ้ารอบริการจาก Shuttle Bus ไม่ไหว ก็คงต้องเลือกต่อรถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อมาที่โครงการอีกที ต้องพึ่งพารถรับจ้างเยอะค่าใช้จ่ายก็จะเยอะตามไปด้วย ถ้าไม่มีรถส่วนตัวใช้อาจจะเดินทางไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ เป็นโครงการที่มีทั้งตึก High Rise และ Low Rise อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบไปด้วย 6 อาคาร แบ่งเป็นตึกสูง (Smart Building)  3 ตึก และตึกเตี้ย 8 ชั้น อีก 3 ตึก ถ้าเอาตามคอนเซปต์ที่ทางโครงการว่าไว้ ในแต่ละตึกก็จะมีคอนเซปต์ไม่เหมือนกัน คือ ตึก B – B Healthy เป็นตึกที่เน้นสุขภาพ มีห้องออกกำลังกายและสระว่ายน้ำ ในขณะที่ตึก C – C Curity จะเน้นเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มเป็นพิเศษ และส่วนของตึก D - Smart Building ที่เป็นตึกสูง โดยจะเน้นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการออกแบบให้มี Double Space นั่นเอง  ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นคอนเซปต์ที่ทางโครงการเค้าวางเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจมากๆ ครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความเป็นไปได้ยาก อย่างเรื่องตึก C ที่จำกัดให้เฉพาะผู้หญิงเข้าอยู่เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจควบคุมได้ยาก เพราะคงไม่สามารถกำหนดให้ผู้หญิงโสดเท่านั้นที่จะซื้อห้องได้ เช่นเดียวกับตึก A ที่จะเปิดให้ผู้อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ในอาคารได้ ซึ่งล่าสุดที่สอบถามกับเจ้าหน้าที่มาก็เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์แล้วนะครับ นี่แหละครับข้อจำกัดในหลายๆ เรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วระหว่างที่ยังทำการก่อสร้างโครงการอยู่ กลับมาดูที่ Facilities ส่วนกลางของโครงการกันบ้าง อย่างที่บอกแล้วว่าแต่ละตึกมีคอนเซปต์ที่ต่างกัน ทางโครงการจึงมีการจัดสรร Facilities ให้กระจายกันออกไป ซึ่งลูกบ้านในแต่ละตึกจะต้องเดินลงมาใช้ส่วนกลางตามจุดที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น บริเวณชั้นล่างของ Smart Building 1 จะมี Coffee Shop ส่วน Smart Building 2 เป็นพื้นที่ห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ในขณะที่ Smart Building 3 ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ห้องสมุด และบริเวณชั้น 2 ของอาคาร Low Rise ก็มีส่วนหย่อมที่ตึก A เพราะจากคอนเซปต์แรกที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนตึก B จะมีสระว่ายน้ำใหญ่ขนาด 17 เมตร ลึก 1.2 เมตร ในระบบน้ำเกลือ และห้องออกกำลังกายแบบ Function Room และที่ตึก C จะมีสระว่ายน้ำเล็กขนาด 3.7 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนครับ ข้อดีของการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้คือ ทำให้ภายในโครงการมี Facilitiesที่หลากหลาย รวมถึงมีพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อรองรับลูกบ้านเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสียคือ ลูกบ้านจะต้องเดินเข้าออกตึกนั้นที ตึกนี้ทีให้วุ่นวาย อย่างถ้าออกกำลังกายในห้อง Fitness แล้วต่อด้วยว่ายน้ำ ก็ต้องเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เว้นแต่ว่าจะเลือกออกกำลังกายที่ห้องข้างๆ สระว่ายน้ำ ก็ค่อยสะดวกหน่อยครับ สำหรับเรื่องพื้นที่จอดรถทั้งโครงการจัดไว้ทั้งหมด 60% จากจำนวนห้องทั้งหมด 823 ยูนิต ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการ และการใช้งานจริง เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนพอสมควร ทำให้แนวโน้มที่ลูกบ้านส่วนใหญ่จะต้องใช้รถส่วนตัวมีมาก ถ้าลูกบ้านเกิน 60% มีรถส่วนตัวก็คงเกิดปัญหาเรื่องแย่งที่จอดรถแน่นอน ทางด้านลิฟท์โดยสาร ในแต่ละตึกจะมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว และไม่มีลิฟท์เซอร์วิส ถ้าอาศัยอยู่ในตึก Low Rise ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ในตึก High Rise ก็คงลำบากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าๆ ที่อาจต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย ทีนี้ขยับมาดูตัวอาคารและพื้นที่รอบๆ กันบ้างนะครับ ตัวอาคารนั้นออกแบบมาวันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ จาก Siralai (สิราลัย) คอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ซึ่งรวมทั้งตึก High Rise และ Low Rise ไว้ในพื้นที่เดียวกันบนถนนประชาอุทิศ ทำเลที่ตั้งของโครงการค่อนไปทางถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดังนั้นการเดินทางมายังตัวโครงการจึงค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของตัวโครงการเราก็เก็บมาฝากกันครบถ้วนเช่นเคย ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่า การเดินทาง อย่างที่บอกว่าด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่มาทางด้านถนนประดิษฐ์มนูธรรม ลองดูจากแผนที่จะเห็นว่าระยะห่างจากสี่แยกแค่ 300 เมตรเท่านั้น เส้นทางนี้ถ้าวิ่งตามถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปเรื่อยๆ ผ่านแยกพระราม 9 แยกเพชรบุรี แล้วก็จะเข้าสุขุมวิท 63 และไปบรรจบกับถนนสุขุมวิท เส้นทางนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าออกเมืองได้ดีทีเดียวนะครับ กลับกันถ้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปก็จะเจอแยกลาดพร้าว แยกเกษตร-ประดิษฐ์ฯ และไปสุดที่ถนนรามอินทรา เส้นทางที่ตัดเชื่อมกับถนนเลียบทางด่วน หรือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มีอยู่ด้วยกันหลายเส้น ทำให้การเลือกเส้นทางเลี่ยงการจราจรมีตัวเลือกมากขึ้น แม้แต่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ใกล้นิดเดียวเองด้วย การเดินทางจากทางฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรมจึงสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ระยะทางจากถนนสุขุมวิท ถึงโครงการประมาณ 6 กม. หรือถ้าใครสะดวกเดินทางด้วยทางด่วน ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก ต่อทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา มาลงที่ลาดพร้าว เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม จะเลยถนนประชาอุทิศมานิดหน่อย ต้องกลับรถ แล้วไปเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อเข้าถนนประชาอุทิศไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก็จะมาเลี้ยวขวาที่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูธรรม ตามป้ายที่บอกว่าไปทางถนนรัชดาภิเษกนะครับ จากสี่แยกนี้ไปนิดเดียวก็จะเจอสำนักงานขายที่อยู่ด้านซ้ายมือแล้วครับ ส่วนตัวโครงการต้องตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้การเดินทางมายังตัวโครงการจากทางฝั่งถนนรัชดา ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ เข้าทางแยกห้วยขวาง แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เพื่อมายังถนนประชาอุทิศ วิ่งมาตามถนนเส้นนี้เรื่อยๆ ก็จะถึงตัวโครงการเลย เสียแต่ถนนเส้นนี้ค่อนข้างแคบ ผ่านแหล่งชุมชนและมีรถรามากหน่อย บางครั้งการจราจรอาจจะไม่คล่องตัวนะครับ ส่วนอีกเส้นทางคือเข้ามาทางแยกศูนย์วัฒนธรรม เข้าถนนเทียมร่วมมิตร แล้ววิ่งมาตามถนนเลียบรั้ว รฟม. มาต่อที่ถนนประชาอุทิศอีกนิดเดียวก็เจอตัวโครงการเลย เส้นทางนี้มีระยะทางที่ใกล้กว่า และการจราจรสะดวกกว่ามากครับ แต่ช่วงดึกๆ อาจจะเปลี่ยวมากหน่อย คุณสาวๆ เดินทางด้วยรถรับจ้างดึกๆ คนเดียวถ้าเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ก็ดีครับ นอกจากเส้นทางหลักๆ ที่เราแนะนำกันไปแล้ว ถนนประชาอุทิศก็ยังมีซอยเล็กซอยน้อยเลี่ยงไปออกถนนพระราม 9 ลาดพร้าว หรือรามคำแหงได้อีกหลายทาง ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการศึกษาเส้นทางกันสักหน่อยครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกห้วยขวาง จะเจอป้ายให้เลี้ยวขวาไปประชาอุทิศ ถึงตรงนี้ให้ชิดซ้ายไว้ อย่าลงอุโมงนะครับ ถ้าพลาดลงอุโมงไปแล้วต้องไปกลับรถยาวเลยล่ะครับ ถึงแยกห้วยขวางแล้วก็รอสัญญาณไฟเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT พอลงรถไฟฟ้าสถานีห้วยขวางที่อยู่ปากซอยแล้ว ก็จะมีพี่วินคอยให้บริการด้วยนะครับ แต่ก็อาจจะไกลอยู่สักหน่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ก็มีรถตุ๊กตุ๊กไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เข้ามาในซอยแล้วก็อย่างที่เห็นนะครับ ถนนค่อนข้างจะแคบ การจราจรในซอยนี้จึงค่อนข้างจะติดขัด ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอสามแยกนี้ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาอุทิศนะครับ เลี้ยวขวามาปุ๊บก็จะเจอกับสำนักงานเขตห้วยขวางเลยนะครับ เผื่อใครต้องมาติดต่อทำธุระที่นี่ เข้ามาเรื่อยๆ ถนนจาก 3 เลน ก็จะเหลือ 2 เลน ถึงสี่แยกถนนประชาอุทิศตัดซอยรัชดานิเวศน์ 24 ก็ตรงไปเลยนะครับ ถึงตรงนี้ถนนจะขยายเป็น 4 เลนแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลย รถจอดสองข้างทางก็กินไปเลนนึงแล้ว ถนนเส้นนี้โรงเรียนจะเยอะหน่อยนะครับ ทั้งโรงเรียนไทย และโรงเรียนนานาชาติ เวลาเลิกเรียนรถจะเยอะมาก ข้ามสะพานข้ามคลองลาดพร้าวไปก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ จะอยู่ติดกับซอยจําเนียรเสริม แต่สำนักงานขายตรงขับตรงเลยโครงการไปอีกหน่อยนะครับ โครงสร้างของอาคาร High Rise ก่อสร้างไปได้กว่า 80% แล้วนะครับ เลยสถานที่ก่อสร้างโครงการมาอีกนิดก็จะเจอสำนักงานขายอยู่ด้านขวามือ สำนักงานขายโครงการ ร้านโฮคิทเช่น ซีฟู๊ด มีทั้งอาหารจีน และซีฟู๊ดให้เลือก อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ เลยมาอีกหน่อยก็จะมีร้านเฉลียง ร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ มีดนตรีสด ปั๊มใกล้ๆ มีทั้งปั๊มน้ำมัน ทั้งปั๊มแก๊ส สำหรับใครที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางโครงการก็มีบริการ Shuttle Service รับส่งมายังสถานีรถไฟฟ้าทุกๆ ครึ่งชั่วโมง จากที่สอบถามมาก็น่าจะเป็นสถานีศูนย์วัฒนธรรมนะครับ เพราะระยะทางใกล้กว่าสถานีห้วยขวางนิดหน่อย แต่ถ้ารอบริการจาก Shuttle Bus ไม่ไหว ก็คงต้องเลือกต่อรถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อมาที่โครงการอีกที ต้องพึ่งพารถรับจ้างเยอะค่าใช้จ่ายก็จะเยอะตามไปด้วย ถ้าไม่มีรถส่วนตัวใช้อาจจะเดินทางไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ   วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ เป็นโครงการที่มีทั้งตึก High Rise และ Low Rise อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบไปด้วย 6 อาคาร แบ่งเป็นตึกสูง (Smart Building)  3 ตึก และตึกเตี้ย 8 ชั้น อีก 3 ตึก ถ้าเอาตามคอนเซปต์ที่ทางโครงการว่าไว้ ในแต่ละตึกก็จะมีคอนเซปต์ไม่เหมือนกัน คือ ตึก B – B Healthy เป็นตึกที่เน้นสุขภาพ มีห้องออกกำลังกายและสระว่ายน้ำ ในขณะที่ตึก C – C Curity จะเน้นเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มเป็นพิเศษ และส่วนของตึก D - Smart Building ที่เป็นตึกสูง โดยจะเน้นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการออกแบบให้มี Double Space นั่นเอง  ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นคอนเซปต์ที่ทางโครงการเค้าวางเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจมากๆ ครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความเป็นไปได้ยาก อย่างเรื่องตึก C ที่จำกัดให้เฉพาะผู้หญิงเข้าอยู่เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจควบคุมได้ยาก เพราะคงไม่สามารถกำหนดให้ผู้หญิงโสดเท่านั้นที่จะซื้อห้องได้ เช่นเดียวกับตึก A ที่จะเปิดให้ผู้อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ในอาคารได้ ซึ่งล่าสุดที่สอบถามกับเจ้าหน้าที่มาก็เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์แล้วนะครับ นี่แหละครับข้อจำกัดในหลายๆ เรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วระหว่างที่ยังทำการก่อสร้างโครงการอยู่ กลับมาดูที่ Facilities ส่วนกลางของโครงการกันบ้าง อย่างที่บอกแล้วว่าแต่ละตึกมีคอนเซปต์ที่ต่างกัน ทางโครงการจึงมีการจัดสรร Facilities ให้กระจายกันออกไป ซึ่งลูกบ้านในแต่ละตึกจะต้องเดินลงมาใช้ส่วนกลางตามจุดที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น บริเวณชั้นล่างของ Smart Building 1 จะมี Coffee Shop ส่วน Smart Building 2 เป็นพื้นที่ห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ในขณะที่ Smart Building 3 ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ห้องสมุด และบริเวณชั้น 2 ของอาคาร Low Rise ก็มีส่วนหย่อมที่ตึก A เพราะจากคอนเซปต์แรกที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนตึก B จะมีสระว่ายน้ำใหญ่ขนาด 17 เมตร ลึก 1.2 เมตร ในระบบน้ำเกลือ และห้องออกกำลังกายแบบ Function Room และที่ตึก C จะมีสระว่ายน้ำเล็กขนาด 3.7 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนครับ ข้อดีของการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้คือ ทำให้ภายในโครงการมี Facilitiesที่หลากหลาย รวมถึงมีพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อรองรับลูกบ้านเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสียคือ ลูกบ้านจะต้องเดินเข้าออกตึกนั้นที ตึกนี้ทีให้วุ่นวาย อย่างถ้าออกกำลังกายในห้อง Fitness แล้วต่อด้วยว่ายน้ำ ก็ต้องเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เว้นแต่ว่าจะเลือกออกกำลังกายที่ห้องข้างๆ สระว่ายน้ำ ก็ค่อยสะดวกหน่อยครับ สำหรับเรื่องพื้นที่จอดรถทั้งโครงการจัดไว้ทั้งหมด 60% จากจำนวนห้องทั้งหมด 823 ยูนิต ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการ และการใช้งานจริง เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนพอสมควร ทำให้แนวโน้มที่ลูกบ้านส่วนใหญ่จะต้องใช้รถส่วนตัวมีมาก ถ้าลูกบ้านเกิน 60% มีรถส่วนตัวก็คงเกิดปัญหาเรื่องแย่งที่จอดรถแน่นอน ทางด้านลิฟท์โดยสาร ในแต่ละตึกจะมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว และไม่มีลิฟท์เซอร์วิส ถ้าอาศัยอยู่ในตึก Low Rise ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ในตึก High Rise ก็คงลำบากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าๆ ที่อาจต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย ทีนี้ขยับมาดูตัวอาคารและพื้นที่รอบๆ กันบ้างนะครับ ตัวอาคารนั้นออกแบบมาได้สะดุดตามากๆ ดูจากโมเดลจะเห็นลูกเล่นของเส้นสายกราฟฟิกของตัวตึก High Rise อันเนื่องมาจากตำแหน่งของห้องในแต่ละแบบที่วางสลับกันไปมานั่นเอง สำหรับเรื่องทิศทางของแดดและลม ก็ต้องมาดูที่ตัวที่ดินของโครงการซึ่งวางอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้  ดังนั้นตัวอาคารจึงต้องหันหน้าเผชิญกับทิศตะวันออกและตะวันตกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ห้องในตึก High Riseด้านที่หันหน้าไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมคงจะร้อนน้อยหน่อย เพราะเป็นทิศตะวันออก ส่วนอีกด้านทางทิศตะวันตก ก็โดนแดดกันไปเต็มๆ ครับ เลี่ยงได้ยากจริงๆ หรือถ้าใครเลือกที่จะอยู่ในตึก Low Rise อาจจะเสียเปรียบเรื่องวิวบ้าง แต่ก็แลกกับร่มเงาที่ได้ตึก High Rise ที่ช่วยผ่อนความร้อนจากแดดเช้าไปได้มากพอสมควร ในขณะที่แดดบ่ายก็ไร้ทางหลบเลี่ยงได้เช่นกัน ออกมาดูรอบๆ โครงการก็ต้องบอกว่า บนถนนประชาอุทิศคึกคักไม่น้อยเลย เพราะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย และปั้มน้ำมันพร้อมมินิมาร์ทที่อยู่ภายในให้เราได้พึ่งพาได้ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้ๆ กับโครงการอีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนนานาชาติคิซ (KIS International School) โรงเรียนนานาชาติรีเจนท์ (Regent International School) เป็นต้น หรือถ้าออกจากถนนประชาอุทิศไปอีกหน่อย บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งช๊อปปิ้งดังๆ มากมาย ถ้ามีรถส่วนตัวไว้ใช้หน่อยการไปไหนมาไหนรอบๆ โครงการก็จัดว่าสะดวกและครบครันมากๆ ครับ ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งก็คือด้านถนนประชาอุทิศ ผืนที่ดินบังคับให้อาคารต้องหันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูที่อาคาร Low Rise กันก่อนนะครับ ชั้น G ของทั้ง 3 อาคารจะคล้ายๆ กัน ซึ่งจะเป็นที่จอดรถอยู่ใต้อาคาร ผังอาคาร Low Rise จะเห็นว่า มีที่จอดรถ 3 ชั้น อยู่ใต้อาคาร ทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน มาดูที่ชั้น 2 กันต่อนะครับ ชั้น 2 ของอาคาร A จะเน้นไปที่สวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร B สำหรับคนรักสุขภาพ ก็จะมี Gym และสระว่ายน้ำ สระใหญ่ อยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร C จะมีสระว่ายน้ำ สระเล็ก ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่ง มาดูที่กันที่อาคาร High Rise บ้างนะครับ ที่ชั้น G ของแต่ละอาคารก็จะคล้ายๆ กัน เป็นที่จอดรถใต้อาคารส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็น Facility อย่าง Lobby, Mailbox, Shop, Gym แตกต่างกันไปในแต่ละอาคาร เรามาเริ่มจากอาคาร Smart 1 ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดกันก่อนนะครับ ที่ตึก Smart 1 นอกจากจะมี Lobby และ Mailbox ก็จะมี Coffee Shop อยู่ด้วย อาคาร Smart 2 เป็นอาคารที่อยู่ตรงข้ามกับอาคาร B (B Healthy) ที่จะเน้น Facility อย่างสระว่ายน้ำ และ Gym ที่ใต้อาคาร Smart 2 นี้จึงมา Gym ให้อีกหนึ่งห้องครับ ซึ่งใหญ่กว่าที่อาคาร B ด้วย หน้าตาของ Gym ใต้อาคาร Smart 2 อาคาร Smart 3 จะมีห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ นั่งติวหนังสือ หรือทำการบ้านได้ ครับ บรรยากาศของห้องสมุดใต้อาคาร Smart 3 ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไปนะครับ เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10 ยูนิตต่อชั้น การวาง Layout ของทั้ง 3 อาคารก็จะคล้ายๆ กัน ที่ชั้น 18-19 อาคาร Smart 2 และ ชั้น 19-20 อาคาร Smart 3 จะเป็นห้อง Duplex ส่วนที่ชั้นบนสุดของอาคาร High Rise ของทั้ง 3 อาคาร จะเป็นห้อง Penthouse พาชมห้องตัวอย่าง ถึงคราวของห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างให้เราได้ชมด้วยกัน 4  แบบ เริ่มต้นกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ที่ขนาด 32 ตร.ม. โดยประมาณ เปิดประตู้ห้องนี้เข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องครัวก่อนเลยครับ พื้นที่ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเว้นเป็นที่วางตู้เย็นได้ ส่วนตู้ Built-in ในห้องตัวอย่างจะมีไว้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น ของจริงไม่ได้มาพร้อมกับห้องนะครับ ถัดเข้าไปด้านในเป็น Living Area ที่จัดสรรพื้นที่ให้โต๊ะกินข้าวชุดเล็กๆ อยู่รวมกับชุดโซฟานั่งเล่นได้พอดี ระยะห่างระหว่างโซฟากับผนังห้องที่ใช้แขวนทีวีมีขนาดกำลังพอเหมาะ ประกอบกับอยู่ติดระเบียงจึงช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูสบายตามากขึ้น ภายในห้องนอน ทางโครงการมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พื้นที่ที่เหลือพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เกือบจะเต็มห้องพอดี จะมีพื้นที่ติดหน้าต่างเหลือไว้นิดหน่อย พอจะวางโต๊ะทำงาน หรือใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ได้บ้าง ส่วนห้องน้ำของห้องนี้อยู่ในห้องนอนนะครับ ซึ่งด้านในห้องน้ำก็แบ่งโซนแห้งโซนเปียกไว้ชัดเจน มีกระจกเทมเปอร์กั้นห้องอาบน้ำไว้ กระจกเหนืออ่างล้างหน้าก็เป็นบานใหญ่แบบในห้องตัวอย่างเลย ฟังก์ชั่นเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้องน้ำถือว่าทางโครงการค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียด ทั้งชั้นวางของที่ยาวเต็มพื้นที่ ทำให้วางของได้มากขึ้น และที่วางกระดาษทิชชู่ด้านข้างอ่างล้างหน้า ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเห็นแล้วขัดตาขัดใจบ้าง อย่างเช่น หัวก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า ที่ถูกชั้นวางของด้านบนติดตั้งในตำแหน่งเกือบชิดติดกัน คือเวลาใช้งานก็ปกติแหละครับไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเกิดต้องซ่อมแซมหัวก๊อกขึ้นมาคงวุ่นวายกันน่าดู จุดที่สองที่ขัดใจก็คือ พื้นตรงส่วนห้องอาบน้ำไม่มีการดร๊อปให้ต่ำลงไป หรือไม่ได้มีการก่อธรณีให้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลมาที่ส่วนแห้ง เวลาใช้งานจริงๆ เชื่อว่าน้ำซึมออกมาได้แน่นอน แถมตรงประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ก่อธรณีกั้นไว้อีก ถ้าเกิดท่อตัน หรือน้ำระบายไม่ทัน มีโอกาสที่จะไหลเข้าห้องนอนได้นะครับ ตรงจุดนี้ถ้าแก้ไขได้อีกนิดหน่อยคงจะดีกว่านี้เยอะครับ สำหรับพื้นที่ระเบียงของห้อง ต้องขอยกให้เป็นจุดเด่นข้อหนึ่งเลย ด้วยพื้นที่ระเบียงที่จัดว่ากว้างพอให้ใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังจัดสรรพื้นที่ไว้แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางเครื่องซักผ้าไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ทำให้พื้นที่ตรงระเบียงเหลือมากพอให้ใช้ตากผ้า หรือจัดสวนเล็กๆ ได้เลย มาดูแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ขนาด 32 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ Plan ห้อง ที่นี่จะใช้ประตู Digital Door Lock แบบนี้นะครับ สวิตช์และปลั๊กไฟทั้งหมดของที่นี่จะใช้ยี่ห้อ Sierra เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว จะเจอกับส่วนครัวที่ตั้งอยู่หน้าห้องก่อนเลยนะครับ ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนด้านซ้ายจะเป็นตู้ที่ Built-in ขึ้นมาเป็นตู้เก็บของ และช่องใส่ตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัว จะวางเตาไฟฟ้าไว้ด้านขวา ซิ้งค์ล้างจานอยู่ด้านซ้าย ตัวท็อปจะเป็นหินควอทซ์ มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง ตัวก็อกจะใช้ยี่ห้อ Sierra เหมือนกันครับ เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX มาพร้อมฮูดดูดควัน ยี่ห้อเดียวกัน ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆ กับครัว จะเป็นโต๊ะทานอาคารสำหรับ 2 ท่าน เลยเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ออกมาดูที่ระเบียงกันต่อเลยนะครับ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่ระเบียง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันออกนอกระเบียง แล้วก็จะมีประตูเหล็กปิดกั้นอย่างเป็นสัดส่วนให้ด้วยนะครับ รางประตูกระจกบานสไลด์ ทำมาเนียบใช้ได้เลยครับ มาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ วางเตียง 5 ฟุตกำลังพอดีครับ มีพื้นที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้บ้าง พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้นิดหน่อย แต่ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนก็จะมีที่วางของเพิ่มขึ้นอีกครับ ด้านข้างเตียงที่ติดกันหน้าต่างมีที่เหลือเยอะพอสมควร ห้องตัวอย่างจะ Built-in เป็นเหมือนโต๊ะนั่งทำงาน แต่ห้องจริงไม่ได้แบบนี้นะครับ หน้าต่างจะเป็นบาน fix นะครับ และมีบานกระทุ้ง 1 บาน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นตู้เสื้อผ้า มุมมองจาก Living Area เข้าไปในห้องนอน ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะครับ เดี๋ยวไปดูห้องน้ำกันต่อเลย ธรณีประตูเตี้ยๆ กั้นระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Sierra ข้างๆ อ่างล้างหน้า เว้าเข้าไปให้มีที่แขวนกระดาษทิชชู่ และวางของได้ด้วย โถสุขภัณฑ์ อยู่ข้างๆ ห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำจะกั้นด้วยประตูกระจก Temper ชุดฝักบัวของ Sierra เหมือนกันครับ ห้องต่อไปคือเป็นห้อง Type 1B ซึ่งยังคงเป็นแบบ 1 ห้องนอน ในขนาดห้องที่ใกล้เคียงกับห้องแรก คือ 33 ตร.ม. โดย Layout ของห้องนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ภายในห้องไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดเข้าห้องมาจะเจอ Living Area ก่อนเป็นอันดับแรก ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นครัวแบบปิดพร้อมประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวนภายในห้องระหว่างทำครัวได้ดี พื้นที่ครัวของห้องนี้กว้างขวางติดกับระเบียง ซึ่งก็กว้างขนาดที่วันไหนเกิดอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศย้ายโต๊ะออกไปนั่งกินข้าวชมวิวที่ระเบียงก็สามารถย้ายโต๊ะไปตั้งได้เลยครับ ส่วนอีกโซนของห้อง จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็กำลังพอเหมาะแบบคนที่ข้าวของไม่เยอะมาก เพราะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เท่านั้น ส่วนชั้นเก็บของอื่นๆ คงต้องเฟ้นหาเพิ่มเติมกันเอง ในขณะที่ห้องน้ำก็มี Layout เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ ทั้งวัสดุสุขภัณฑ์และตำแหน่งที่ติดตั้ง สำหรับห้องตัวอย่างห้องนี้ถ้าใครได้เห็นคงรู้สึกถูกใจกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่จัดไว้ได้ลงตัวมากๆ อีกทั้งยังให้บรรยากาศที่โล่งโปร่งสบายด้วย เห็นห้องตัวอย่างแล้วก็อย่าลืมว่า ของจริงทางโครงการขายให้มาเป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ พวกลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ตามมุมต่างๆ ที่เห็นในห้องตัวอย่างเป็นแค่ไอเดียการตกแต่งเท่านั้นครับ ต่อไปเป็นห้อง 1 ห้องนอน Type 1B ขนาด 33 ตารางเมตรนะครับ Plan ห้อง Type นี้เข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมมองจากในห้อง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ถ้าวางโซฟาขนาดเท่านี้ ด้านข้างจะมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะข้างได้อีกนะครับ ชั้นวางของเหนือโซฟา โต๊ะข้างโซฟา ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องครัว ครัวของ Type นี้จะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นระหว่างครัวกับ Living Area ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ข้างบนทางเข้าห้องครัว มีการทำชั้นวางของหลบอยู่ด้วย เก๋ไปอีกแบบ แต่ห้องจริงไม่มีให้แบบนี้นะครับ เคาน์เตอร์ครัวก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A เลยครับ มุมมองจากระเบียงเข้ามาในห้อง จะเห็นโต๊ะทานอาคารขนาด 2 ท่าน อยู่ตรงข้ามกับครัว ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างระเบียงกับครัว ระเบียงของ Type 1B จะไม่เหมือนกับ 1A นะครับ ของ Type นี้ระเบียงจะเป็นทรงสามเหลี่ยม เลยดูเหมือนจะกว้างกว่า ส่วนที่วางเครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับ Type 1A ครับ กลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังเหมาะครับ จะได้มีที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้ด้วย ปลายเตียงมีที่เหลือให้พอเดินได้ แต่วางชั้นวางทีวีไม่ได้ ต้องแขวนอย่างเดียวครับ อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่จะอยู่ติดกับห้องน้ำเลยครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ติดกับห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยนะครับ ซึ่งชุดสุขภัณฑ์และการจัดวางก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ ทีนี้มาดูห้อง Type 1C กันบ้างครับ ห้องนี้นับว่าโดดเด่นมากเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบให้เพดานห้องเป็นแบบ Double Volume สูงถึง 5.5 เมตรและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา ทำให้ห้องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น จากประตูทางเข้าห้อง ขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดเชื่อมต่อกับ Living Area ด้วยโต๊ะกินข้าวเล็กๆ อีกชุด ถัดเข้ามาจากห้องครัวเป็นห้องน้ำและห้องนอนนะครับ รูปแบบและการจัดวางพื้นที่ในห้องน้ำคล้ายกับห้องก่อนหน้าเลย แต่ห้องนอนของห้องนี้รู้สึกว่าจะมีพื้นที่ค่อนข้างเล็กกว่าห้องอื่นๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะครับ แต่เท่าที่เห็นในห้องพอวางเตียงขนาด 5 ฟุต และใส่ตู้เสื้อผ้า Built-in เข้าไปแล้ว ก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่างเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าห้องแบบนี้มีพื้นที่ชั้นลอยมาให้ใช้เพิ่มเติมแล้วมั้งครับ ในห้องนอนจึงไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นอะไรมาก บริเวณชั้นลอยก็สามารถจัดเป็นมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือใช้เก็บของก็ได้ ถึงแม้ห้องแบบนี้จะมีการออกแบบที่แปลกและเก๋ไก๋ แต่ก็มีข้อจำกัดบ้างในบางเรื่อง เช่น ตำแหน่งที่แขวนทีวี ที่ต้องแขวนไว้ตรงชานพักบันไดเลย ซึ่งดูไม่ชินตาซักเท่าไหร่ แต่ด้วยพื้นที่ของ Living Area ที่มีบันไดเพิ่มเข้ามา การจะจัดห้องให้เป็นรูปแบบที่ต่างออกไปคงยากหน่อยครับ อ้อ ข้อเสียอีกอย่างของห้องแบบนี้คือ ใช้แอร์เปลืองมากหน่อย เพราะต้องติดแอร์ถึง 3 จุด ทั้งในห้องนอน โซนนั่งเล่น และชั้นลอยที่ต้องติดแยกกัน ไม่อย่างนั้นเพดานสูงๆ แบบนี้เย็นไม่ทั่วแน่ๆ ต่อมาเป็น Type 1C แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร ที่โดดเด่นด้วยการทำห้องแบบDouble Volume เพดานสูง 5.5 เมตร และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา Plan ห้อง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว มองตรงไปก็จะเป็นส่วน Living Area แต่เราจะมาดูทางขวามือที่เป็นส่วนครัวกันก่อนนะครับ ส่วนครัวจะเป็นแบบเปิดตั้งอยู่หน้าห้อง ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ใต้บันไดก็จะเป็นจุดวางตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัวก็จะคล้ายๆ กับ Type ที่ผ่านมานะครับ แต่จะต่างกันตรงที่ห้องนี้จะย้ายเครื่องซักผ้ามาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวแทน ส่วนวัสดุที่ใช้ และเครื่องครัวก็เหมือนเดิมหมด ส่วนไมโครเวฟ ก็อาจจะต้องเอาไปไว้ที่ชั้นลอยด้านบน เดินเลยผ่านครัวเข้ามาก็จะเป็นห้องน้ำกับห้องนอน เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนกันก่อนนะครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่หน้าห้องนอน ห้องนอน Type นี้ ค่อนข้างจะเล็กอยู่สักหน่อยนะครับ วางเตียง 5 ฟุตแล้ว ทางด้านซ้ายของเตียงจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้ ส่วนด้านขวาที่ติดกับหน้าต่างบานกระทุ้ง จะมีที่เหลือพอให้ผ้าม่านเท่านั้น ออกมาดูที่ห้องน้ำกันต่อนะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางก็จะเหมือนกับห้องที่ผ่านๆ มา ห้องอาบน้ำ กลับมาที่ส่วน Living Area โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับครัว ข้างๆ โซฟา ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นจุดที่วางทีวี บวกกับบันไดขึ้นชันลอย เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วน Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเหมือนห้องที่ผ่านมา จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะอยู่ตรงนี้นะครับ หันหน้าออกนอกระเบียง มุมมองจากระเบียง บันไดขึ้นชั้นลอยจะเป็นบันไดเหล็กนะครับ ดูแล้วอาจจะแคบและชันอยู่สักหน่อย เวลาเดินชึ้น เดินลง ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ โต๊ะทำงานที่ชั้นลอย ชั้นวางของ Built-in ด้านหลังโต๊ะทำงาน มุมมองจากโต๊ะทำงาน ติดโคมไฟเก๋ๆ เพิ่มบรรยากาศในการนั่งทำงาน มุมมองจากชั้นลอยลงมาที่ Living Area แล้วก็มาถึงห้องแบบสุดท้ายคือ Type 2A เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดพื้นที่ 56 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้จะเป็นห้องหน้ากว้างและอยู่ในตำแหน่งมุมของอาคารHigh Rise เท่านั้นนะครับ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเห็นพื้นที่ครัวอยู่ตรงหน้าพอดี ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะแยกออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา โดยที่ด้านขวาจะเป็น Living Area ติดกับระเบียงและได้กระจกแบบเข้ามุม ซึ่งจะช่วยให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น และรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย แต่พอต้องวางทีวีไว้ที่ตำแหน่งหน้ากระจกใสบานใหญ่ ก็ทำให้เกิดปัญหาแสงสะท้อนเข้าตาขณะดูทีวีอีก ดังนั้นผ้าม่านที่มุมนี้คงได้ใช้งานเปิดๆ ปิดๆ บ่อยแน่นอน ด้านที่ติดกันกับชุดโซฟาใน Living Area จะเป็นห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ครับ พื้นที่ในห้องนอนไม่ได้กว้างมาก วางเตียง และตู้เสื้อผ้า Built-in ไปแล้วก็เหลือที่แค่พอเดินได้เท่านั้น ส่วนบริเวณหน้าต่างของห้องนี้ก็อาจจะวาง Day Bed หรือโต๊ะสูงตามแบบห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกัน ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมาก คล้ายๆ กับห้องที่ผ่านมานั่นแหละ ข้ามไปที่โซนทางด้านซ้ายของห้องบ้าง ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำอยู่หน้าห้องนอนเล็กเลย ส่วนพื้นที่ในห้องนอนก็กำลังกระทัดรัด วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็เหลือที่ว่างให้ตั้งโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีกหน่อย ถ้าเป็นห้องของเด็กๆ ก็ดูลงตัวน่ารักดีครับ ห้องสุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน Type 2A ขนาด 56 ตารางเมตร Plan ห้อง เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวที่อยู่ตรงกับประตูห้องก่อนเลยนะครับ ครัว Type นี้ จะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง หน้าตาครัวจะได้แบบนี้นะครับ ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งเดียวกับเตาไฟฟ้า ส่วนอีกฝั่งจะเป็นซิ้งค์ล้างจานพร้อมที่เตรียมอาหาร ที่มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์ยาว เตาไฟฟ้าก็จะต่างกับห้อง 1 ห้องนอนนะครับ Type นี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัว ของ MEX เจ้าเก่า ฮูดดูดควัน ซิ้งค์ล้างจาน พร้อมที่เตรียมอาหาร ก็อกน้ำ Sierra เครื่องซักผ้าจะวางอยู่ใต้เคาน์เตอร์ซิ้งค์ล้างจาน โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน จะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร กั้นกลางระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่นนะครับ เลยจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ผนังด้านหลังทีวีทำเป็นกระจกเข้ามุมเชื่อมต่อกับส่วนของระเบียง สามารถเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้านเลยล่ะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ระเบียงก็จะเหมือนกับ Type ที่ผ่านมานะครับ ตำแห่งการวางคอมเพรสเซอร์แอรืก็จะเหมือนกัน จาก Living Area มาดู Master Bedroom ที่อยู่ใกล้ๆ กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้กว้างมาก วางเตียง 5 ฟุตแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงนิดหน่อย ปลายเตียงก็จะเหลือพื้นที่ประมาณนี้นะครับ ใช้ทีวีแบบแขวนจะเหมาะกว่า ถ้า Built-in ชั้นวางไปแล้วแทบไม่เหลือที่ให้เดินเลย ริมหน้าต่างมีที่ว่างเหลือพอให้วางโต๊ะสูงนั่งทำงาน หรือจะวาง Daybed เก๋ๆ ไว้นอนอ่านหนังสือริมหน้าต่างก็ไม่ว่ากัน ตู้เสื้อผ้า Built-in วางอยู่ข้างเตียง ใกล้ๆ ห้องน้ำ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เหมือน Type ก่อนๆ นะครับ ห้องอาบน้ำ จากห้องนอนใหญ่เราข้ามฟากไปดูห้องนอนเล็กกันบ้างนะครับ ก่อนถึงห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำอีกห้องนึงนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องเหมืองห้องนอนใหญ่นะครับ ห่้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียง 3 ฟุตนะครับ ทำให้ข้างเตียงมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะทำงาน ทำการบ้านได้ โต๊ะทำงานข้างเตียง ปลายเตียงมีที่เหลือเล็กน้อยให้ Built-in ชั้นวางของ ส่วนทีวีใช้แบบแขวนน่าจะเหมาะกว่าครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่ค่อนมาทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก และไม่หวังพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนมากนัก รวมถึงต้องการที่อยู่อาศัยในย่านประชาอุทิศ เนื่องจากทำเลย่านนี้มีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง อีกทั้งยังใกล้ด่านขึ้นลงทางด่วนด้วย ถึงจะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นหลายจุด แต่ก็ยังถือว่าเดินทางด้วยรถส่วนตัวได้สะดวกดี ผิดกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่อยู่ห่างออกไปมาก คนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ด้วย โครงการนี้คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ส่วนศักยภาพทางด้านการเติบโตของย่านนี้ คงไม่ได้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงซักเท่าไหร่ ถึงต่อให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-สุวินทวงศ์) สร้างเสร็จใช้งานได้ ตัวโครงการก็คงไม่ได้รับอานิสงค์มากนัก เพราะยังไงสถานีที่ใกล้ที่สุดก็ยังคงมีระยะห่างมากกว่าจะใช้คำว่าเดินทางสะดวกได้ พื้นที่รอบๆ โครงการมีความพร้อมค่อนข้างสูงสำหรับการอยู่อาศัย เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ ที่พอจะพึ่งพิงได้หลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในรัศมีที่ต้องเดินทางด้วยรถส่วนตัวถึงจะสะดวก ส่วนแหล่งพึ่งพิงในระยะเดินถึงก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บริเวณรอบๆ ไม่ค่อยมีสำนักงาน หน่วยงานราชการใหญ่ๆ เท่าไหร่นัก ดังนั้นคนทำงานกลุ่มนี้จึงไม่ใช่เป้าหมายหลักสำหรับการปล่อยห้องเช่า จากที่ลองสำรวจดู ตัวโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติถึง 2 แห่ง ซึ่งกลุ่มครอบครัวที่มีลูกๆ วัยเรียน และครูอาจารย์ในโรงเรียนนานาชาติเหล่านี้น่าจะพอหวังให้มาเช่าห้องได้บ้าง แต่ทั้งนี้ก็คงต้องทำการตกแต่งเชิญชวนกันหนักหน่อย นอกจากนี้เรื่องความคุ้มค่าจากราคาห้องก็ถือว่า สมน้ำสมเนื้อพอสมควร เพราะวัสดุ สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ที่ให้มากับห้องจัดเป็นเกรดพรีเมี่ยมดี รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ทางโครงการเน้นจัดให้กว้างขวาง มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน และมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการใช้งานได้จริง รวมถึงเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัย จึงน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบรูปลักษณ์ทันสมัยได้สะดุดตามากๆ ดูจากโมเดลจะเห็นลูกเล่นของเส้นสายกราฟฟิกของตัวตึก High Rise อันเนื่องมาจากตำแหน่งของห้องในแต่ละแบบที่วางสลับกันไปมานั่นเอง สำหรับเรื่องทิศทางของแดดและลม ก็ต้องมาดูที่ตัวที่ดินของโครงการซึ่งวางอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้  ดังนั้นตัวอาคารจึงต้องหันหน้าเผชิญกับทิศตะวันออกและตะวันตกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ห้องในตึก High Riseด้านที่หันหน้าไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมคงจะร้อนน้อยหน่อย เพราะเป็นทิศตะวันออก ส่วนอีกด้านทางทิศตะวันตก ก็โดนแดดกันไปเต็มๆ ครับ เลี่ยงได้ยากจริงๆ หรือถ้าใครเลือกที่จะอยู่ในตึก Low Rise อาจจะเสียเปรียบเรื่องวิวบ้าง แต่ก็แลกกับร่มเงาที่ได้ตึก High Rise ที่ช่วยผ่อนความร้อนจากแดดเช้าไปได้มากพอสมควร ในขณะที่แดดบ่ายก็ไร้ทางหลบเลี่ยงได้เช่นกัน ออกมาดูรอบๆ โครงการก็ต้องบอกว่า บนถนนประชาอุทิศคึกคักไม่น้อยเลย เพราะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย และปั้มน้ำมันพร้อมมินิมาร์ทที่อยู่ภายในให้เราได้พึ่งพาได้ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้ๆ กับโครงการอีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนนานาชาติคิซ (KIS International School) โรงเรียนนานาชาติรีเจนท์ (Regent International School) เป็นต้น หรือถ้าออกจากถนนประชาอุทิศไปอีกหน่อย บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งช๊อปปิ้งดังๆ มากมาย ถ้ามีรถส่วนตัวไว้ใช้หน่อยการไปไหนมาไหนรอบๆ โครงการก็จัดว่าสะดวกและครบครันมากๆ ครับ ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งก็คือด้านถนนประชาอุทิศ ผืนที่ดินบังคับให้อาคารต้องหันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูที่อาคาร Low Rise กันก่อนนะครับ ชั้น G ของทั้ง 3 อาคารจะคล้ายๆ กัน ซึ่งจะเป็นที่จอดรถอยู่ใต้อาคาร ผังอาคาร Low Rise จะเห็นว่า มีที่จอดรถ 3 ชั้น อยู่ใต้อาคาร ทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน มาดูที่ชั้น 2 กันต่อนะครับ ชั้น 2 ของอาคาร A จะเน้นไปที่สวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร B สำหรับคนรักสุขภาพ ก็จะมี Gym และสระว่ายน้ำ สระใหญ่ อยู่ด้านหน้าอาคาร อาคาร C จะมีสระว่ายน้ำ สระเล็ก ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่ง มาดูที่กันที่อาคาร High Rise บ้างนะครับ ที่ชั้น G ของแต่ละอาคารก็จะคล้ายๆ กัน เป็นที่จอดรถใต้อาคารส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็น Facility อย่าง Lobby, Mailbox, Shop, Gym แตกต่างกันไปในแต่ละอาคาร เรามาเริ่มจากอาคาร Smart 1 ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดกันก่อนนะครับ ที่ตึก Smart 1 นอกจากจะมี Lobby และ Mailbox ก็จะมี Coffee Shop อยู่ด้วย อาคาร Smart 2 เป็นอาคารที่อยู่ตรงข้ามกับอาคาร B (B Healthy) ที่จะเน้น Facility อย่างสระว่ายน้ำ และ Gym ที่ใต้อาคาร Smart 2 นี้จึงมา Gym ให้อีกหนึ่งห้องครับ ซึ่งใหญ่กว่าที่อาคาร B ด้วย หน้าตาของ Gym ใต้อาคาร Smart 2 อาคาร Smart 3 จะมีห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ นั่งติวหนังสือ หรือทำการบ้านได้ ครับ บรรยากาศของห้องสมุดใต้อาคาร Smart 3 ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไปนะครับ เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10 ยูนิตต่อชั้น การวาง Layout ของทั้ง 3 อาคารก็จะคล้ายๆ กัน ที่ชั้น 18-19 อาคาร Smart 2 และ ชั้น 19-20 อาคาร Smart 3 จะเป็นห้อง Duplex ส่วนที่ชั้นบนสุดของอาคาร High Rise ของทั้ง 3 อาคาร จะเป็นห้อง Penthouse พาชมห้องตัวอย่าง ถึงคราวของห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างให้เราได้ชมด้วยกัน 4  แบบ เริ่มต้นกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ที่ขนาด 32 ตร.ม. โดยประมาณ เปิดประตู้ห้องนี้เข้ามาก็จะเจอส่วนของห้องครัวก่อนเลยครับ พื้นที่ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเว้นเป็นที่วางตู้เย็นได้ ส่วนตู้ Built-in ในห้องตัวอย่างจะมีไว้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น ของจริงไม่ได้มาพร้อมกับห้องนะครับ ถัดเข้าไปด้านในเป็น Living Area ที่จัดสรรพื้นที่ให้โต๊ะกินข้าวชุดเล็กๆ อยู่รวมกับชุดโซฟานั่งเล่นได้พอดี ระยะห่างระหว่างโซฟากับผนังห้องที่ใช้แขวนทีวีมีขนาดกำลังพอเหมาะ ประกอบกับอยู่ติดระเบียงจึงช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูสบายตามากขึ้น ภายในห้องนอน ทางโครงการมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พื้นที่ที่เหลือพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เกือบจะเต็มห้องพอดี จะมีพื้นที่ติดหน้าต่างเหลือไว้นิดหน่อย พอจะวางโต๊ะทำงาน หรือใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ได้บ้าง ส่วนห้องน้ำของห้องนี้อยู่ในห้องนอนนะครับ ซึ่งด้านในห้องน้ำก็แบ่งโซนแห้งโซนเปียกไว้ชัดเจน มีกระจกเทมเปอร์กั้นห้องอาบน้ำไว้ กระจกเหนืออ่างล้างหน้าก็เป็นบานใหญ่แบบในห้องตัวอย่างเลย ฟังก์ชั่นเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้องน้ำถือว่าทางโครงการค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียด ทั้งชั้นวางของที่ยาวเต็มพื้นที่ ทำให้วางของได้มากขึ้น และที่วางกระดาษทิชชู่ด้านข้างอ่างล้างหน้า ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเห็นแล้วขัดตาขัดใจบ้าง อย่างเช่น หัวก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า ที่ถูกชั้นวางของด้านบนติดตั้งในตำแหน่งเกือบชิดติดกัน คือเวลาใช้งานก็ปกติแหละครับไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเกิดต้องซ่อมแซมหัวก๊อกขึ้นมาคงวุ่นวายกันน่าดู จุดที่สองที่ขัดใจก็คือ พื้นตรงส่วนห้องอาบน้ำไม่มีการดร๊อปให้ต่ำลงไป หรือไม่ได้มีการก่อธรณีให้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลมาที่ส่วนแห้ง เวลาใช้งานจริงๆ เชื่อว่าน้ำซึมออกมาได้แน่นอน แถมตรงประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ก่อธรณีกั้นไว้อีก ถ้าเกิดท่อตัน หรือน้ำระบายไม่ทัน มีโอกาสที่จะไหลเข้าห้องนอนได้นะครับ ตรงจุดนี้ถ้าแก้ไขได้อีกนิดหน่อยคงจะดีกว่านี้เยอะครับ สำหรับพื้นที่ระเบียงของห้อง ต้องขอยกให้เป็นจุดเด่นข้อหนึ่งเลย ด้วยพื้นที่ระเบียงที่จัดว่ากว้างพอให้ใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังจัดสรรพื้นที่ไว้แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางเครื่องซักผ้าไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ทำให้พื้นที่ตรงระเบียงเหลือมากพอให้ใช้ตากผ้า หรือจัดสวนเล็กๆ ได้เลย มาดูแบบ 1 ห้องนอน Type 1A ขนาด 32 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ Plan ห้อง ที่นี่จะใช้ประตู Digital Door Lock แบบนี้นะครับ สวิตช์และปลั๊กไฟทั้งหมดของที่นี่จะใช้ยี่ห้อ Sierra เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว จะเจอกับส่วนครัวที่ตั้งอยู่หน้าห้องก่อนเลยนะครับ ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนด้านซ้ายจะเป็นตู้ที่ Built-in ขึ้นมาเป็นตู้เก็บของ และช่องใส่ตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัว จะวางเตาไฟฟ้าไว้ด้านขวา ซิ้งค์ล้างจานอยู่ด้านซ้าย ตัวท็อปจะเป็นหินควอทซ์ มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง ตัวก็อกจะใช้ยี่ห้อ Sierra เหมือนกันครับ เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX มาพร้อมฮูดดูดควัน ยี่ห้อเดียวกัน ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆ กับครัว จะเป็นโต๊ะทานอาคารสำหรับ 2 ท่าน เลยเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ออกมาดูที่ระเบียงกันต่อเลยนะครับ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่ระเบียง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันออกนอกระเบียง แล้วก็จะมีประตูเหล็กปิดกั้นอย่างเป็นสัดส่วนให้ด้วยนะครับ รางประตูกระจกบานสไลด์ ทำมาเนียบใช้ได้เลยครับ มาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ วางเตียง 5 ฟุตกำลังพอดีครับ มีพื้นที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้บ้าง พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้นิดหน่อย แต่ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนก็จะมีที่วางของเพิ่มขึ้นอีกครับ ด้านข้างเตียงที่ติดกันหน้าต่างมีที่เหลือเยอะพอสมควร ห้องตัวอย่างจะ Built-in เป็นเหมือนโต๊ะนั่งทำงาน แต่ห้องจริงไม่ได้แบบนี้นะครับ หน้าต่างจะเป็นบาน fix นะครับ และมีบานกระทุ้ง 1 บาน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นตู้เสื้อผ้า มุมมองจาก Living Area เข้าไปในห้องนอน ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะครับ เดี๋ยวไปดูห้องน้ำกันต่อเลย ธรณีประตูเตี้ยๆ กั้นระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Sierra ข้างๆ อ่างล้างหน้า เว้าเข้าไปให้มีที่แขวนกระดาษทิชชู่ และวางของได้ด้วย โถสุขภัณฑ์ อยู่ข้างๆ ห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำจะกั้นด้วยประตูกระจก Temper ชุดฝักบัวของ Sierra เหมือนกันครับ ห้องต่อไปคือเป็นห้อง Type 1B ซึ่งยังคงเป็นแบบ 1 ห้องนอน ในขนาดห้องที่ใกล้เคียงกับห้องแรก คือ 33 ตร.ม. โดย Layout ของห้องนี้จะจัดแบ่งพื้นที่ภายในห้องไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดเข้าห้องมาจะเจอ Living Area ก่อนเป็นอันดับแรก ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นครัวแบบปิดพร้อมประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวนภายในห้องระหว่างทำครัวได้ดี พื้นที่ครัวของห้องนี้กว้างขวางติดกับระเบียง ซึ่งก็กว้างขนาดที่วันไหนเกิดอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศย้ายโต๊ะออกไปนั่งกินข้าวชมวิวที่ระเบียงก็สามารถย้ายโต๊ะไปตั้งได้เลยครับ ส่วนอีกโซนของห้อง จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็กำลังพอเหมาะแบบคนที่ข้าวของไม่เยอะมาก เพราะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เท่านั้น ส่วนชั้นเก็บของอื่นๆ คงต้องเฟ้นหาเพิ่มเติมกันเอง ในขณะที่ห้องน้ำก็มี Layout เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ ทั้งวัสดุสุขภัณฑ์และตำแหน่งที่ติดตั้ง สำหรับห้องตัวอย่างห้องนี้ถ้าใครได้เห็นคงรู้สึกถูกใจกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่จัดไว้ได้ลงตัวมากๆ อีกทั้งยังให้บรรยากาศที่โล่งโปร่งสบายด้วย เห็นห้องตัวอย่างแล้วก็อย่าลืมว่า ของจริงทางโครงการขายให้มาเป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ พวกลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ตามมุมต่างๆ ที่เห็นในห้องตัวอย่างเป็นแค่ไอเดียการตกแต่งเท่านั้นครับ ต่อไปเป็นห้อง 1 ห้องนอน Type 1B ขนาด 33 ตารางเมตรนะครับ Plan ห้อง Type นี้เข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ มุมมองจากในห้อง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ถ้าวางโซฟาขนาดเท่านี้ ด้านข้างจะมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะข้างได้อีกนะครับ ชั้นวางของเหนือโซฟา โต๊ะข้างโซฟา ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องครัว ครัวของ Type นี้จะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นระหว่างครัวกับ Living Area ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ข้างบนทางเข้าห้องครัว มีการทำชั้นวางของหลบอยู่ด้วย เก๋ไปอีกแบบ แต่ห้องจริงไม่มีให้แบบนี้นะครับ เคาน์เตอร์ครัวก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A เลยครับ มุมมองจากระเบียงเข้ามาในห้อง จะเห็นโต๊ะทานอาคารขนาด 2 ท่าน อยู่ตรงข้ามกับครัว ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างระเบียงกับครัว ระเบียงของ Type 1B จะไม่เหมือนกับ 1A นะครับ ของ Type นี้ระเบียงจะเป็นทรงสามเหลี่ยม เลยดูเหมือนจะกว้างกว่า ส่วนที่วางเครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับ Type 1A ครับ กลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังเหมาะครับ จะได้มีที่เหลือให้วางอย่างอื่นได้ด้วย ปลายเตียงมีที่เหลือให้พอเดินได้ แต่วางชั้นวางทีวีไม่ได้ ต้องแขวนอย่างเดียวครับ อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่จะอยู่ติดกับห้องน้ำเลยครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ติดกับห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยนะครับ ซึ่งชุดสุขภัณฑ์และการจัดวางก็จะเหมือนๆ กับ Type 1A อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ ทีนี้มาดูห้อง Type 1C กันบ้างครับ ห้องนี้นับว่าโดดเด่นมากเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบให้เพดานห้องเป็นแบบ Double Volume สูงถึง 5.5 เมตรและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา ทำให้ห้องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น จากประตูทางเข้าห้อง ขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดเชื่อมต่อกับ Living Area ด้วยโต๊ะกินข้าวเล็กๆ อีกชุด ถัดเข้ามาจากห้องครัวเป็นห้องน้ำและห้องนอนนะครับ รูปแบบและการจัดวางพื้นที่ในห้องน้ำคล้ายกับห้องก่อนหน้าเลย แต่ห้องนอนของห้องนี้รู้สึกว่าจะมีพื้นที่ค่อนข้างเล็กกว่าห้องอื่นๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะครับ แต่เท่าที่เห็นในห้องพอวางเตียงขนาด 5 ฟุต และใส่ตู้เสื้อผ้า Built-in เข้าไปแล้ว ก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่างเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าห้องแบบนี้มีพื้นที่ชั้นลอยมาให้ใช้เพิ่มเติมแล้วมั้งครับ ในห้องนอนจึงไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นอะไรมาก บริเวณชั้นลอยก็สามารถจัดเป็นมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือใช้เก็บของก็ได้ ถึงแม้ห้องแบบนี้จะมีการออกแบบที่แปลกและเก๋ไก๋ แต่ก็มีข้อจำกัดบ้างในบางเรื่อง เช่น ตำแหน่งที่แขวนทีวี ที่ต้องแขวนไว้ตรงชานพักบันไดเลย ซึ่งดูไม่ชินตาซักเท่าไหร่ แต่ด้วยพื้นที่ของ Living Area ที่มีบันไดเพิ่มเข้ามา การจะจัดห้องให้เป็นรูปแบบที่ต่างออกไปคงยากหน่อยครับ อ้อ ข้อเสียอีกอย่างของห้องแบบนี้คือ ใช้แอร์เปลืองมากหน่อย เพราะต้องติดแอร์ถึง 3 จุด ทั้งในห้องนอน โซนนั่งเล่น และชั้นลอยที่ต้องติดแยกกัน ไม่อย่างนั้นเพดานสูงๆ แบบนี้เย็นไม่ทั่วแน่ๆ ต่อมาเป็น Type 1C แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร ที่โดดเด่นด้วยการทำห้องแบบDouble Volume เพดานสูง 5.5 เมตร และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยเข้ามา Plan ห้อง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว มองตรงไปก็จะเป็นส่วน Living Area แต่เราจะมาดูทางขวามือที่เป็นส่วนครัวกันก่อนนะครับ ส่วนครัวจะเป็นแบบเปิดตั้งอยู่หน้าห้อง ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ใต้บันไดก็จะเป็นจุดวางตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัวก็จะคล้ายๆ กับ Type ที่ผ่านมานะครับ แต่จะต่างกันตรงที่ห้องนี้จะย้ายเครื่องซักผ้ามาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวแทน ส่วนวัสดุที่ใช้ และเครื่องครัวก็เหมือนเดิมหมด ส่วนไมโครเวฟ ก็อาจจะต้องเอาไปไว้ที่ชั้นลอยด้านบน เดินเลยผ่านครัวเข้ามาก็จะเป็นห้องน้ำกับห้องนอน เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนกันก่อนนะครับ ตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่หน้าห้องนอน ห้องนอน Type นี้ ค่อนข้างจะเล็กอยู่สักหน่อยนะครับ วางเตียง 5 ฟุตแล้ว ทางด้านซ้ายของเตียงจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้ ส่วนด้านขวาที่ติดกับหน้าต่างบานกระทุ้ง จะมีที่เหลือพอให้ผ้าม่านเท่านั้น ออกมาดูที่ห้องน้ำกันต่อนะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางก็จะเหมือนกับห้องที่ผ่านๆ มา ห้องอาบน้ำ กลับมาที่ส่วน Living Area โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับครัว ข้างๆ โซฟา ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นจุดที่วางทีวี บวกกับบันไดขึ้นชันลอย เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วน Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเหมือนห้องที่ผ่านมา จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะอยู่ตรงนี้นะครับ หันหน้าออกนอกระเบียง มุมมองจากระเบียง บันไดขึ้นชั้นลอยจะเป็นบันไดเหล็กนะครับ ดูแล้วอาจจะแคบและชันอยู่สักหน่อย เวลาเดินชึ้น เดินลง ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ โต๊ะทำงานที่ชั้นลอย ชั้นวางของ Built-in ด้านหลังโต๊ะทำงาน มุมมองจากโต๊ะทำงาน ติดโคมไฟเก๋ๆ เพิ่มบรรยากาศในการนั่งทำงาน มุมมองจากชั้นลอยลงมาที่ Living Area แล้วก็มาถึงห้องแบบสุดท้ายคือ Type 2A เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดพื้นที่ 56 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้จะเป็นห้องหน้ากว้างและอยู่ในตำแหน่งมุมของอาคารHigh Rise เท่านั้นนะครับ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเห็นพื้นที่ครัวอยู่ตรงหน้าพอดี ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะแยกออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา โดยที่ด้านขวาจะเป็น Living Area ติดกับระเบียงและได้กระจกแบบเข้ามุม ซึ่งจะช่วยให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น และรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย แต่พอต้องวางทีวีไว้ที่ตำแหน่งหน้ากระจกใสบานใหญ่ ก็ทำให้เกิดปัญหาแสงสะท้อนเข้าตาขณะดูทีวีอีก ดังนั้นผ้าม่านที่มุมนี้คงได้ใช้งานเปิดๆ ปิดๆ บ่อยแน่นอน ด้านที่ติดกันกับชุดโซฟาใน Living Area จะเป็นห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ครับ พื้นที่ในห้องนอนไม่ได้กว้างมาก วางเตียง และตู้เสื้อผ้า Built-in ไปแล้วก็เหลือที่แค่พอเดินได้เท่านั้น ส่วนบริเวณหน้าต่างของห้องนี้ก็อาจจะวาง Day Bed หรือโต๊ะสูงตามแบบห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกัน ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมาก คล้ายๆ กับห้องที่ผ่านมานั่นแหละ ข้ามไปที่โซนทางด้านซ้ายของห้องบ้าง ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำอยู่หน้าห้องนอนเล็กเลย ส่วนพื้นที่ในห้องนอนก็กำลังกระทัดรัด วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็เหลือที่ว่างให้ตั้งโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีกหน่อย ถ้าเป็นห้องของเด็กๆ ก็ดูลงตัวน่ารักดีครับ ห้องสุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน Type 2A ขนาด 56 ตารางเมตร Plan ห้อง เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวที่อยู่ตรงกับประตูห้องก่อนเลยนะครับ ครัว Type นี้ จะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง หน้าตาครัวจะได้แบบนี้นะครับ ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งเดียวกับเตาไฟฟ้า ส่วนอีกฝั่งจะเป็นซิ้งค์ล้างจานพร้อมที่เตรียมอาหาร ที่มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์ยาว เตาไฟฟ้าก็จะต่างกับห้อง 1 ห้องนอนนะครับ Type นี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัว ของ MEX เจ้าเก่า ฮูดดูดควัน ซิ้งค์ล้างจาน พร้อมที่เตรียมอาหาร ก็อกน้ำ Sierra เครื่องซักผ้าจะวางอยู่ใต้เคาน์เตอร์ซิ้งค์ล้างจาน โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน จะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร กั้นกลางระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่นนะครับ เลยจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ผนังด้านหลังทีวีทำเป็นกระจกเข้ามุมเชื่อมต่อกับส่วนของระเบียง สามารถเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้านเลยล่ะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ระเบียงก็จะเหมือนกับ Type ที่ผ่านมานะครับ ตำแห่งการวางคอมเพรสเซอร์แอรืก็จะเหมือนกัน จาก Living Area มาดู Master Bedroom ที่อยู่ใกล้ๆ กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้กว้างมาก วางเตียง 5 ฟุตแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงนิดหน่อย ปลายเตียงก็จะเหลือพื้นที่ประมาณนี้นะครับ ใช้ทีวีแบบแขวนจะเหมาะกว่า ถ้า Built-in ชั้นวางไปแล้วแทบไม่เหลือที่ให้เดินเลย ริมหน้าต่างมีที่ว่างเหลือพอให้วางโต๊ะสูงนั่งทำงาน หรือจะวาง Daybed เก๋ๆ ไว้นอนอ่านหนังสือริมหน้าต่างก็ไม่ว่ากัน ตู้เสื้อผ้า Built-in วางอยู่ข้างเตียง ใกล้ๆ ห้องน้ำ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เหมือน Type ก่อนๆ นะครับ ห้องอาบน้ำ จากห้องนอนใหญ่เราข้ามฟากไปดูห้องนอนเล็กกันบ้างนะครับ ก่อนถึงห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำอีกห้องนึงนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องเหมืองห้องนอนใหญ่นะครับ ห่้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียง 3 ฟุตนะครับ ทำให้ข้างเตียงมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะทำงาน ทำการบ้านได้ โต๊ะทำงานข้างเตียง ปลายเตียงมีที่เหลือเล็กน้อยให้ Built-in ชั้นวางของ ส่วนทีวีใช้แบบแขวนน่าจะเหมาะกว่าครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ที่อยู่ค่อนมาทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก และไม่หวังพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนมากนัก รวมถึงต้องการที่อยู่อาศัยในย่านประชาอุทิศ เนื่องจากทำเลย่านนี้มีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง อีกทั้งยังใกล้ด่านขึ้นลงทางด่วนด้วย ถึงจะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นหลายจุด แต่ก็ยังถือว่าเดินทางด้วยรถส่วนตัวได้สะดวกดี ผิดกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่อยู่ห่างออกไปมาก คนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ด้วย โครงการนี้คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ส่วนศักยภาพทางด้านการเติบโตของย่านนี้ คงไม่ได้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงซักเท่าไหร่ ถึงต่อให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-สุวินทวงศ์) สร้างเสร็จใช้งานได้ ตัวโครงการก็คงไม่ได้รับอานิสงค์มากนัก เพราะยังไงสถานีที่ใกล้ที่สุดก็ยังคงมีระยะห่างมากกว่าจะใช้คำว่าเดินทางสะดวกได้ พื้นที่รอบๆ โครงการมีความพร้อมค่อนข้างสูงสำหรับการอยู่อาศัย เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ ที่พอจะพึ่งพิงได้หลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในรัศมีที่ต้องเดินทางด้วยรถส่วนตัวถึงจะสะดวก ส่วนแหล่งพึ่งพิงในระยะเดินถึงก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บริเวณรอบๆ ไม่ค่อยมีสำนักงาน หน่วยงานราชการใหญ่ๆ เท่าไหร่นัก ดังนั้นคนทำงานกลุ่มนี้จึงไม่ใช่เป้าหมายหลักสำหรับการปล่อยห้องเช่า จากที่ลองสำรวจดู ตัวโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติถึง 2 แห่ง ซึ่งกลุ่มครอบครัวที่มีลูกๆ วัยเรียน และครูอาจารย์ในโรงเรียนนานาชาติเหล่านี้น่าจะพอหวังให้มาเช่าห้องได้บ้าง แต่ทั้งนี้ก็คงต้องทำการตกแต่งเชิญชวนกันหนักหน่อย นอกจากนี้เรื่องความคุ้มค่าจากราคาห้องก็ถือว่า สมน้ำสมเนื้อพอสมควร เพราะวัสดุ สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ที่ให้มากับห้องจัดเป็นเกรดพรีเมี่ยมดี รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ทางโครงการเน้นจัดให้กว้างขวาง มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน และมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการใช้งานได้จริง รวมถึงเรื่องดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัย จึงน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบรูปลักษณ์ทันสมัย
The Room BTS วงเวียนใหญ่ : รีวิวคอนโด

The Room BTS วงเวียนใหญ่ : รีวิวคอนโด

The Room BTS วงเวียนใหญ่  คอนโด High Rise สูง 29 ชั้น จาก Land & House บนถนนกรุงธนบุรี ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  5,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 120,000 บาท เจ้าของโครงการ  บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  201 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 0 - 42.8 ไร่ ที่จอดรถ  ประมาณ 84% ที่ตั้งโครงการ  ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ   เดือนสิงหาคม 2557 ค่าบำรุงส่วนกลาง  45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน  500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลกรุงธน เดอะมอลล์ท่าพระ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 43 - 57.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 73 - 92.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ ระบบโอโซน ห้องออกกำลังกาย Sauna ห้องอ่านหนังสือ ห้องประชุม สวนหย่อมรอบโครงการ และชั้น 29 ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว  อัตราส่วนลิฟท์  100:1 ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.lh.co.th
The Series II อุดมสุข 29 : รีวิวคอนโด

The Series II อุดมสุข 29 : รีวิวคอนโด

The Series II อุดมสุข 29  คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น คอนโดเฟสใหม่จาก BTY Asset ในซอยอุดมสุข ใกล้รถไฟฟ้า BTS  รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  1,390,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 69,000 บาท เจ้าของโครงการ  BTY Asset Co., Ltd. ลักษณะคอนโด  Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  228 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 2 - 11 ไร่ ที่จอดรถ  ประมาณ 47% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ  ซอยอุดมสุข 29 ถนนสุขุมวิท 103 (ซอยอุดมสุข) เขตบางนา กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ   เดือนมิถุนายน 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central Bangna Bitec Bangna Paradise Park Seacon Square ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 21.30 - 23.40 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 - 28.45 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 38.50 ตารางเมตร Studio ขนาด 21.30 - 23.40 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 - 28.45 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 38.50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Fitness สระว่ายน้ำ Roof Garden Home Automation Free Wifi Video Door Phone Digital Door Lock Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 083-832-7744 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.theseriescondo.com
THE HUDSON SATHORN 7 : รีวิวคอนโด

THE HUDSON SATHORN 7 : รีวิวคอนโด

THE HUDSON SATHORN 7 คอนโด High Rise สูง 12 ชั้น โครงการใหม่จาก B.P. Propertyในซอยสาทร 7 คอนโดสร้างก่อนขาย ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อยเพียง 49 ยูนิต รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  5,990,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 130,000 บาท เจ้าของโครงการ  B.P. Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด  High Rise สูง 12 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  49 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด  1 - 1 - 24 ไร่ ที่จอดรถ  74 คัน (หรือคิดเป็น 151 %) ที่ตั้งโครงการ  ซอยสาทร 7 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2557 (สร้างเสร็จก่อนขาย) ค่าบำรุงส่วนกลาง  90 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน  550 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Sathorn City Empire Tower Sathorn Square สถานทูตสิงคโปร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน  ขนาด 55 - 62 ตารางเมตร 2 ห้องนอน  ขนาด 74 - 147 ตารางเมตร 3 ห้องนอน  ขนาด 142 - 197 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ Fitness Access Key Card Security Guard & CCTV 24 Hour สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 098-554-5228 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.thehudsonsathorn.com
Supalai Wellington II : รีวิวคอนโด

Supalai Wellington II : รีวิวคอนโด

Supalai Wellington II คอนโด High Rise สูง 14 ชั้น โครงการใหม่จาก ศุภาลัย บนถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้ศูนย์วัฒนธรรมฯ และแหล่งธุรกิจบนนถนนรัชดาภิเษก เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท ราคาต่อตารางเมตร  60,000 - 70,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 14 ชั้น 7 อาคาร จำนวนห้อง 1,092 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 12 - 2 - 90.7 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ คาดว่าจะสร้างเสร็จ : ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สยามนิรมิตร Cyber World Tower Esplanade Big C AIA Capital Center ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 42 - 45 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 66.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำระบบเกลือ Infinity Edge ซาวน่า Fitness Internet Wifi ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720 กด 89 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.supalai.com
THE ROOM เจริญกรุง 30 : รีวิวคอนโด

THE ROOM เจริญกรุง 30 : รีวิวคอนโด

The Room เจริญกรุง 30 คอนโด High Rise สูง 23 ชั้น โครงการใหม่จาก Land & Houseบนถนนเจริญกรุง วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สถานทูตโปรตุเกส   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 9,000,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 167,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 211 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 3 - 89 ไร่ ที่จอดรถ  ประมาณ 80% ที่ตั้งโครงการ ซอยเจริญกรุง 30 ถนนเจริญกรุง บางรัก กรุงเทพฯ ค่าบำรุงส่วนกลาง 55 บาท สถานที่สำคัญใกล้เคียง สถานทูตโปรตุเกส โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ซิตี้ ชอปปิ้ง คอมเพล็กซ์ โรงเรียนอัญสัมชัญ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type 1 C,D แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 54.3 - 56 ตารางเมตร Type 1 G แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 54 - 55.5 ตารางเมตร Type 2B แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  ขนาด 85.5 ตารางเมตร Type 2C แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  ขนาด 76.7 - 77 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Salt system infinity edge Swimming Pool jacuzzi Fitness indoor & outdoor Reading Lounge Meeting Room Digital Door Lock Key Card Access 24 Hours Sercurity Guard, CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.lh.co.th
THE ROOM สาทร – เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

THE ROOM สาทร – เซนต์หลุยส์ : รีวิวคอนโด

The Room สาทร - เซนต์หลุยส์ คอนโด High Rise สูง 24 ชั้น โครงการใหม่จาก Land & House บนทำเลใจกลางสาทร เดินทางสะดวกด้วยหลากหลายเส้นทางทั้ง สาทร,จันทน์,นราธิวาส และใกล้ทางด่วนถึง 3 จุด  รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 4,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 132,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 376 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 3 - 30 ไร่ ที่จอดรถ  ประมาณ 70% ที่ตั้งโครงการ ถนนจันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ ค่าบำรุงส่วนกลาง 50 บาท สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา BTS สุรศักดิ์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type 1A - 1D แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 34.2 - 34.9 ตารางเมตร Type 2A - 2D แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  ขนาด 63.8 - 64.3 ตารางเมตร Type 2B แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  ขนาด 66.7 ตารางเมตร Type 2C แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  ขนาด 66.7 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Lounge Serene Garden Garden Pavilion Swimming pool Fitness Separated male and female Steam room ระบบKey Card ในการเข้าออกทุกทางเข้าและออก พนักงานรักษาความปลอดภัย และ CCTV 24 ชั่วโมง Digital door lock Magnetic door sensor ไฟสว่างเมื่อเปิดประตูเข้าห้อง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.lh.co.th
The President สาทร-ราชพฤกษ์ 3  : รีวิวคอนโด

The President สาทร-ราชพฤกษ์ 3  : รีวิวคอนโด

The President สาทร-ราชพฤกษ์ 3 คอนโด High Rise สูง 34 ชั้น คอนโดใหม่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางหว้า เปิดจองแล้ววันนี้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 1,800,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 76,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชัยพัฒนาที่ดิน จํากัด ลักษณะคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 799 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 4 - 0 - 76 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ถนนราชพฤกษ์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ (บางจากฝั่งใต้) เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2560 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ซีคอนบางแค เดอะ มอลล์ บางแค มหาวิทยาลัยสยาม โรงพยาบาลบางไผ่ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 25, 30 และ 34.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ Fitness Sauna Home Theater Multi-Purpose Room with Wi-Fi Internet Wi-Fi พื้นที่ส่วนกลาง Key card access พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอดและกล้องวงจรปิด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-457-2836, 092-267-0800, 085-956-3333 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.thepresidentcondo.com
Issara Collection Sathorn : รีวิวคอนโด

Issara Collection Sathorn : รีวิวคอนโด

Issara Collection Sathorn (อิสสระ คอลเลกชั่น สาทร) คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น คอนโดหรูระดับพรีเมี่ยม โครงการใหม่จาก ชาญอิสสระ  บนทำเลถนนนางลิ้นจี่  ออกแบบโดย A49 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 15,900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 155,000 บาท เจ้าของโครงการ Charn Issara Viphapol Co., Ltd. ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 33 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 0 - 1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถ.นางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ ปีที่สร้างเสร็จ ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ค่าบำรุงส่วนกลาง 70 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน 700 บาท/ตารางเมตร ลักษณะห้องและขนาดห้อง 2 Bedrooms   ขนาด 108-126 ตารางเมตร 3 Bedrooms ขนาด 151-244 ตารางเมตร Duplex 3 Bedrooms ขนาด  170-201 ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ตลาดนางลิ้นจี่ T.T.N. Avenue ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร BRT ถนนจันทน์ BTS ช่องนนทรี เซนทรัลพระราม 3 The Up สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Swiming Pool Fitness Room Steam Room Indoor Parking 24hrs Security Service   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 081-234-3752 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.issaracollection.com
The Cabana Condo : รีวิวคอนโด

The Cabana Condo : รีวิวคอนโด

The Cabana Condo คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่จาก Origin Property ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนทางรถไฟสายเก่า ใกล้รถไฟฟ้า BTS สำโรง รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวนห้อง 719 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 3 - 54 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนทางรถไฟสายเก่า ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ปีที่สร้างเสร็จ ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ห้างสรรพสินค้า Imperial สำโรง 100 ม. โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ 300 ม. โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ 1.5 กม. BITEC Bangna 2.5 กม. โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา 2.8 กม. Bangkok Mall 3 กม. โรงเรียนนานาชาติเบิคเลย์ 3.5 กม.   ลักษณะห้องและขนาดห้อง   Type Bs : 1 ห้องนอน ขนาด 22.8 - 23.5 ตารางเมตร Type B   : 1 ห้องนอน ขนาด 27.3 - 33.7 ตารางเมตร Type B Plus : 1 ห้องนอน พร้อมห้องอเนกประสงค์ ขนาด 34 - 35.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก   Beach Sense Lobby Greenery Fitness Laguna Bay Bali Pool Spa Bali Pool Terrace Reading Court Lawn Bowl Serenity Garden Sky Yoga Lawn Sky Jogging Track Floating Playground Rooftop BBQ Lounge Sunset Terrace Horizon Lounge   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 092-450-1100, 084-902-0009 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  thecabanacondo.com ,  www.facebook.com/thecabanacondo LINE ID : thecabanacondo
WIRE RATCHADA 19  : รีวิวคอนโด

WIRE RATCHADA 19  : รีวิวคอนโด

WIRE RATCHADA 19 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โครงการใหม่ใจกลางรัชดา ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อย เพียง 46 ยูนิต ใกล้ MRT รัชดาภิเษกเพียง 300 เมตร รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 92,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท พีดับบลิวเค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 46 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 0 - 1 - 49 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ซอยรัชดาภิเษก 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ AIA Capital Market Center เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ สวนจตุจักร ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 27.19 - 30.78 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 31.22 - 48.22 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 48.66 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง Shutter Bus Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 094-589-5959 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.wirecondo.com
Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์  ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย  รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 106,511 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 559 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 2 - 22.5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 201 คัน แผนที่โครงการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สายสีม่วง สถานีบางซ่อน รถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สายสีแดง สถานีบางซ่อน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 21.5 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 24.5 - 30 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Social Club สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th
THE UNIQUE สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

THE UNIQUE สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

อีกหนึ่งโครงการบนทำเลสุขุมวิทที่เราเก็บมาฝากกันก็คือ The Unique สุขุมวิท 62/1 คอนโด Low Rise ของ Ten Thai Development ที่ตั้งโครงการอยู่กลางๆ ซอย สุขุมวิท 62/1 ซึ่งมีคอนโดอีก 2-3 รายอยู่ในซอยนี้เหมือนกัน คิดว่าคงไม่ต้องเกริ่นกันให้มากความไปดูรายละเอียดโครงการกันเลยดีกว่า การเดินทาง สำหรับ The Unique สุขุมวิท 62/1 การเดินทางไปมาจัดว่าสะดวกดี เพราะทำเลที่ตั้งโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าอยู่เนืองๆ อาศัยเดินเอาหน่อยก็เจอรถไฟฟ้า BTS สถานีบางจากแล้ว ในระยะทางไม่เกิน 750 เมตร หรือถ้าเลือกลงที่สถานีปุณวิถีก็ไกลกว่าอีกแค่ 100 เมตรเอง ไม่ว่าจะเลือกสถานีไหนก็แทบไม่ต่างกันในเรื่องระยะทางที่ต้องเดิน เพราะเดินเหนื่อยเหมือนกัน แต่การที่ที่ตั้งโครงการอยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 สถานีก็ทำให้ได้เปรียบในเรื่องการเลือกลงรถไฟฟ้าได้ทั้ง 2 สถานี แล้วอาศัยนั่งรถต่อตามเส้นทางเดินรถเอา ก็ช่วยประหยัดเวลาและระยะมิเตอร์แท็กซี่ได้ในวันที่ขี้เกียจเดิน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ต้องบอกว่าสะดวกมากเลยทีเดียว เพราะท้ายซอยสุขุมวิท 62/1 สามารถลัดไปขึ้นทางด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 ได้เลย โดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลารถติดบนถนนสุขุมวิทให้หงุดหงิดใจ ในขณะที่การเดินทางบนถนนสุขุมวิทก็เป็นเส้นทางหลักที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว จะเข้าจะออกเมืองก็เดินทางได้ไม่ยาก จุดกลับรถก็อยู่ห่างจากปากซอยไปนิดเดียว ถ้ามาจากในเมืองพอกลับรถมาแล้ว ตรงมาอีกนิดหน่อยก็เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62/1 ได้ไม่ยาก ใครที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักถือว่าเดินทางสะดวกดีทีเดียว ถ้าไม่นับเรื่องการจราจรบนถนนสุขุมวิทที่ติดขัดหนักหนาจนเป็นกิจวัตรทั้งช่วงเช้าและเย็น ส่วนใครที่ไม่มีรถ ก็คงต้องพึ่งพารถสาธารณะกันล่ะครับ แต่ความสะดวกก็จะลดลงมาตามลำดับ เพราะยังไงๆ ก็ต้องเดินมาเรียกรถกันที่ปากซอย ทั้งแท็กซี่ รถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็หาได้จากบริเวณปากซอยนี่แหละครับ ระยะเดินจากหน้าโครงการมาที่ปากซอยก็แค่ 420 เมตร เดินได้สบายๆ ถ้าแดดไม่ร้อน ฝนไม่ตก ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ครับ เส้นทางรอบๆ โครงการครับ วันนี้ขอเริ่มต้นจากทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปทางบางนานะครับ ตามป้ายบางนามาเรื่อยๆ จนมาถึงทางออกถนนสุขุมวิท 62 ให้เบี่ยงซ้ายออกมาเลยครับ จากนั้นก็ตามทางโค้งซ้ายไป เพื่อเข้าถนนสุขุมวิท 62 ครับ เส้นทางนี้คือเส้นที่เราจะพาไปสำนักงานขายที่ตั้งอยู่ติดกับ BTS บางจากนะครับ แต่ถ้าหากจะไปที่ตั้งโครงการจากจุดนี้สามารถขับตรงไปเข้าด้านหลังซอยสุขุมวิท 62/1 ได้เลย เดี๋ยวเราจะพาไปดูกัน จากตรงนี้ วิ่งเลียบทางด่วนไปประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการ ซึ่งจะใกล้กว่าไปเข้าทางถนนสุขุมวิท เป็นการหนีรถติดไปในตัวด้วย แต่ถนนเส้นนี้จะค่อนข้างแคบหน่อยนะครับ และในช่วงกลางคืนอาจจะมืดสักหน่อย เพราะสองข้างทางไม่มีไฟส่องสว่าง อาจจะต้องอาศัยไฟส่องสว่างจากทางด่วนแทน ขับมาเรื่อยๆ ก็จะถึงซอยสุขุมวิท 62/1 แล้วล่ะครับ ก่อนถึงซอยจะมีป้ายบอกทางลัดไปถนนสุขุมวิทของ กทม. แอบอยู่ ไม่สังเกตดีๆ อาจจะเลยได้นะครับ จากตรงนี้เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร ก็ถึงโครงการแล้วครับ กลับมาที่ถนนสุขุมวิท 62 หลังจากลงทางด่วนมาแล้วก็ตรงยาวมาเลยครับ เมื่อออกมาเจอสายแยกแล้ว ด้านหน้าคือถนนสุขุมวิท ด้านบนคือรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสายแบริ่ง ให้เราเลี้ยวซ้ายไปทางพระโขนงนะครับ ตรงนี้ถ้าเราจะไปที่ตั้งโครงการให้เลี้ยวขวาไปได้เลยนะครับ เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว จะเจอกับ BTS สถานีบางจากทันทีครับ สำนักงานขายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามติดกับตัวสถานีเลย ต้องตรงไปกลับรถอีกหน่อยครับ ตรงมาอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะเจอที่กลับรถ เมื่อกลับรถมาประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอสำนักงานขายแล้วล่ะครับ ที่จอดรถจะอยู่ด้านหลัง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 97/1 ที่อยู่ข้างๆ สำนักงานขายนี่แหละครับ ที่จอดรถด้านหลังสำนักงานขาย สำหรับการเดินทางไปยังที่ตั้งของโครงการจะอยู่ห่างจากสถานี BTS บางจาก ประมาณ 750 เมตร ออกจากสำนักงานขายมาแล้ว ตรงไปทางบางนาเลยครับ ซอยสุขุมวิท 62/1 จะอยู่ฝั่งขวามือ เราจะต้องมากลับรถตรงนี้ครับ ระยะทางจากสำนักงานขายถึงตรงนี้ประมาณ 500 เมตร เมื่อกลับรถมาแล้วให้ชิดซ้ายเลยนะครับ เพราะอีกนิดเดียวก็จะถึงซอยสุขุมวิท 62/1 แล้วล่ะครับ ก่อนถึงซอยจะมีปั๊มน้ำมัน ปตท. เป็นจุดสังเกตที่เด่นชัด ทางเข้าซอยจะเล็กนิดนึงนะครับ จะอยู่ระหว่างปั๊มน้ำมัน ปตท. กับเต็นท์ขายรถมือสอง เข้ามาในซอยจะเป็นถนน 2 เลน วิ่งสวนกันแบบนี้นะครับ เนื่องจากเป็นซอยเล็กๆ ผู้คนจึงไม่พลุกพล่านเหมือนซอยในระแวงใกล้เคียง เข้ามาประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วล่ะครับ โครงการยังไม่เริ่มก่อสร้างนะครับ มีเพียงป้ายของโครงการติดไว้ด้านหน้า มองตรงออกจากก็จะเห็นถนนเลียบทางด่วนแล้วนะครับ ซึ่งเป็นเส้นทางลัดขึ้น-ลงทางด่วน สุขุมวิท 62 อย่างที่ได้บอกไว้ในตอนแรก   วิเคราะห์ตัวโครงการ ทำเลรอบโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 ค่อนข้างเงียบสงบดีทีเดียว เพราะในซอยยังเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบสูง2-3 ชั้น เสียเกือบทั้งหมด จะมีตึกสูง 8 ชั้นอยู่บ้างก็แค่ตึกของโครงการ Chateau in Town เท่านั้น ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ดังนั้นทิศทางรอบๆ โครงการ The Unique จึงยังโล่งโปร่ง ได้วิวสบายตาดีอยู่ ส่วนในอนาคตจะมีตึกของโครงการอื่นๆ ขึ้นอีกหรือไม่อันนี้ก็ต้องไปรอลุ้นเอาครับ  ในระแวกใกล้ๆ โครงการขาดความอุดมสมบูรณ์อย่างชัดเจน แทบจะไม่มีร้านค้า ร้านอาหารให้เราพึ่งพาได้เลย ที่ใกล้ที่สุดก็ต้องเดินออกมาทางปากซอยที่ยังพอมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ในปั๊มน้ำมัน รวมถึงร้านอาหารอีกร้านที่พอจะฝากท้องได้บ้างในช่วงกลางวันไปจนถึงเวลาค่ำๆ  นอกเหนือจากนี้ก็ต้องตั้งใจนั่งรถไฟฟ้า หรือขับรถออกไปแบบเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย การออกแบบตัวอาคารเป็นทรงโมเดิร์นสูง 8 ชั้น ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงด้วยยูนิตรวมแค่ 116 ห้องเท่านั้น ซึ่งทางโครงการเน้นน้ำหนักให้กับห้องแบบ Tri-Plex ที่มีจำนวนมากถึง 25 ห้อง ห้องส่วนใหญ่ของ Tri-Plex จะให้บรรยากาศแบบทาวน์โฮมมากกว่าคอนโด เพราะห้องฟังก์ชั่นห้องที่จัดสรรพื้นที่ในแนวดิ่ง ให้เหมือนบ้าน 3 ชั้นนั่นเอง บริเวณชั้น G จะเป็นพื้นที่ของ Lobby และ Fitness นะครับ พื้นที่อีกส่วนหนึ่งของชั้น G จะเป็นที่จอดรถส่วนกลาง และที่จอดรถของห้อง Tri-Plex แบบพิเศษที่คิดรวมที่จอดรถไว้ในโฉนดห้องด้วย ซึ่งห้องแบบนี้จะมีเพียง 7 ห้องเท่านั้นและลูกบ้านสามารถเดินขึ้นห้องตัวเองได้จากบันไดส่วนตัวตรงที่จอดรถเลย ห้องแบบนี้จึงได้อารมณ์เหมือนอยู่ทาวน์โฮมไปเต็มๆ นอกจากที่จอดรถบริเวณชั้น G แล้ว ทางโครงการยังเตรียมที่จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดินด้วย ซึ่งคิดรวมแล้วสามารถรองรับรถได้ทั้งหมด 72 คัน หรือคิดเป็น 62% โดยที่ยังไม่รวมการจอดซ้อนคันนะครับ ถัดขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเริ่มเป็นพื้นที่อยู่อาศัย โดยมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางตึก แต่ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะอยู่ต่ำกว่าพื้นชั้น 2 เล็กน้อยครับ นอกจาก Facility  ที่ทางโครงการจัดสรรสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายไว้ให้ที่ชั้นG-2 แล้ว บริเวณรอบๆ และพื้นที่นั่งเล่นที่ชั้น 6 ก็ยังมีสวนหย่อมเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สบายตามากยิ่งขึ้น เนื่องจากปริมาณห้องในแต่ละชั้นจะค่อนข้างน้อย จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมาก เรื่องลิฟท์โดยสารทางโครงการก็จัดเตรียมไว้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 58:1 ถือว่าอยู่ในระดับที่กำลังใช้ได้สบายๆ เรื่องวิวทิวทัศน์รอบๆ โครงการก็จะติดบ้านพักในบริเวณนี้เสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะให้ดีก็ต้องเลือกห้องตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป ก็จะพอพ้นหลังคาบ้านข้างเคียงและทำให้ได้วิวที่กว้างขึ้น ส่วนคนที่ไม่แคร์เรื่องวิวมากนักห้องในชั้น 2 และ 3 ก็จัดว่าสะดวกดีเช่นกัน จะขึ้นลงห้องก็ไม่ต้องง้อลิฟท์มากนัก โมเดลฝั่งที่เป็นสระว่ายน้ำนะครับ ลักษณะตัวอาคารจะเป็นรูปตัว U มีสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวอยู่ตรงกลาง มุมมองจากด้านบนครับ ทางเข้าของของรถด้านหน้าอาคารครับ มุมอีกด้านหนึ่งของอาคารครับ ที่จอดรถที่ชั้น G จะมีบันไดเดินขึ้นห้อง Tri-Plex ที่ชั้น 2 ได้เลยครับ ที่จอดรถชั้นใต้ดิน จะจอดได้ทั้งหมด 35 คันในช่องจอดครับ ชั้น G จะเป็นที่จอดรถใต้ตึกอีก 35 คันในช่องจอด (ไม่รวมที่จอดรถส่วนตัวของห้อง Tri-Plex ที่เป็นสีเทาเข้มนะครับ) และเป็นส่วนของ Lobby และฟิตเนส หน้าตาของ Lobby ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา หน้าตาของฟิตเนสที่อยู่ชั้น G จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำที่ถูกยกสูงขึ้นมาอยู่ที่ชั้น 2 ด้านในฟิตเนส ชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของที่พักอาศัยแล้วนะครับ โดยจะมีห้องแบบ Tri-Plex โอบล้อมสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางตึก สระว่ายน้ำบริเวณชั้น 2 ห้องแบบ Tri-Plex ที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ให้บรรยากาศเหมือนห้องแบบ Pool Villa ตามโรงแรมต่างๆ ชั้น 3 และชั้น 4 จะจัดผังคล้ายๆ กับชั้น 2 นะครับ โดยจะมีทั้งหมด 25 ยูนิต เป็นห้องแบบ Tri-Plex จำนวน 9 ยูนิต ชั้น 5 จะลดห้อง Tri-Plex ลงเหลือ 2 ห้อง ชั้น 6 มีห้อง Tri-Plex 10 ห้อง ที่เหลือเป็นแบบ 1 ห้องนอน พาชมห้องตัวอย่าง   ห้องทุกห้องทางโครงการขายกันมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์เสร็จสรรพ แถมด้วยระบบ Smart Home ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้เราสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟในห้องผ่านระบบมือถือได้ด้วย ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่ชอบอะไรไฮเทคหน่อย รวมถึงระบบ Digital Door Lock ก็มีมาให้ทุกห้องด้วยเช่นกัน ทีนี้มาเปิดดูห้องตัวอย่างกันบ้างดีกว่า เริ่มกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาด 33 ตร.ม. เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับ Living Area ซึ่งทางโครงการจัดแต่งไว้ด้วยโต๊ะกินข้าวชุดเล็ก ตรงข้ามกับห้องครัวแบบปิดที่อยู่ทางด้านขวามือของประตูห้อง ถัดเข้าไปเป็นโซนนั่งเล่น วางชุดโซฟาดูทีวีได้ในระยะสบายๆ แถมยังเปิดรับแสงสว่างได้เต็มที่เพราะอยู่ติดกับประตูกระจกบานใหญ่ของระเบียง ซึ่งพื้นที่ระเบียงก็จัดว่ากว้างพอใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว ภายในห้อง Built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และโต๊ะเครื่องแป้งมาพร้อมแล้ว โดยรวมพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็พออยู่พอใช้ครับ ข้าวของไม่ต้องสะสมกันเยอะมากไม่งั้นห้องจะรกเอาง่ายๆ หน้าตาของห้องนอนค่อนข้างใหญ่และสูงเกือบเต็มผนังเลยทีเดียว ทำให้เปิดรับแสงได้ดี ส่วนในห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตรฐานครับ มีการแบ่งพื้นที่อาบน้ำไว้ด้วยประตูกระจกเทมเปอร์ และชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ ของ American Standard ในห้องน้ำมีพื้นที่วางข้าวของเครื่องใช้น้อยไปหน่อย แถมอ่างล้างหน้าก็ยังติดตั้งไว้ชิดกำแพงเสียจนใช้งานยากไปหน่อย ถ้าเลื่อนตำแหน่งที่ติดตั้งอย่างล้างหน้าให้ห่างจากผนังอีกหน่อยน่าจะดีกว่า แล้วกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้า ทางโครงการติดตั้งเป็นแบบธรรมดาให้นะครับ ไม่มีกล่องไฟด้านหลังแบบในห้องตัวอย่างนะ ถ้าให้ดีผมว่าสอบถามกันให้ละเอียดหน่อยว่าอะไรชิ้นไหนแถม หรือหน้าตาของจริงจะเป็นอย่างไร ทีนี้มาดูห้องแบบ Tri-Plex กันบ้าง ซึ่งห้องแบบนี้ทางโครงการชูเป็นจุดเด่นเลยทีเดียว เพราะมีน้อยโครงการที่จะจัดทำห้องแบบนี้ พื้นที่ใช้สอยของห้อง Tri-Plex มีขนาดเริ่มต้นที่ 90 ตร.ม. โดยประมาณ ในขณะที่ห้องใหญ่สุดจะมีขนาด 106 ตร.ม. แน่นอนว่าเรื่องราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ เปิดห้องมาแน่นอนว่าชั้นล่างสุดจะต้องเป็นพื้นที่ของ Living Area โดยที่แบ่งการใช้งานเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัวแบบปิด และพื้นที่รับประทานอาหาร รวมทั้งห้องน้ำเล็กอีก 1 ห้องบริเวณบันไดทางขึ้นด้านบน พอขึ้นไปที่ชั้นสองก็จะเป็นส่วนของ  Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องใหญ่สุด และมีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำในตัว บรรยากาศของห้องนอนใหญ่ให้ความรู้สึกหรูหราดีทีเดียว ถัดขึ้นไปที่ชั้น 3 จะแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้องที่อยู่ด้านนอก ซึ่งสองห้องนี้จะใช้ร่วมกัน หน้าตาห้องนอนของทั้ง 2 ห้องเหมือนกันเป๊ะแบบคู่แฝด แค่สลับฝั่งซ้ายขวาเท่านั้น พื้นที่ใช้สอยภายในห้องก็แค่พอใช้งานนะครับ ไม่ได้กว้างขวางเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ห้องนอนมากถึง 3 ห้อง อาจจะปรับเปลี่ยนให้อีกห้องเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์แทนก็ได้นะครับ อาจจะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ตรงตามความต้องการได้มากขึ้น แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร ห้องตัวอย่างจะมีใหเดู 2 แบบนะครับ คือแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร กับแบบ Tri-Plex เรามาดูแบบ 1 ห้องนอนกันก่อนดีกว่านะครับ ทุกห้องจะได้ประตูแบบ Digital Door Lock แบบนี้นะครับ หากเปิดประตูห้องมาจนสุดจะติดกับประตูกระจกบานเลื่อนของห้องครัว แบบนี้นะครับ กันกระแทกที่ประตูห้องหน้าห้องครับ พื้นห้องจะเป็นพื้นลามิเนตนะครับ อุปกรณ์ Smart Home ที่แถมมาให้ทุกห้องนะครับ สามารถสั่งเปิด-ปิดไฟ Application บนมือถือได้เลยครับ แต่จะมีลูกเล่นน้อยกว่าแบบที่แถมให้ห้องแบบ Tri-Plex ที่จะสามารถสั่งให้เปิด-ปิด ผ้าม่าน แอร์ ได้ แต่ถ้าหากอยากได้ลูกเล่นเยอะๆ ทางโครงการก็จัดให้ได้ครับ แต่ก็ต้องเพิ่มเงินอีกครับ หน้าตามของสวิทช์ไฟที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home ครับ ระบบไฟที่ประตูหน้าห้องก็ เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอโต๊ะทานอาหารตั้งอยู่เป็นด่านแรกเลยนะครับ ต่อด้วยส่วนของห้องนั่งเล่นที่ถัดเข้ามาด้านในที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ที่ตั้งอยู่หน้าประตูห้องเลยครับ ส่วนของห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงห้องเลยนะครับ โซฟาจะอยู่ห่างก ชั้นวางทีวีพร้อมชั้นลอยวางของด้านบน ขนาดของระเบียงกว้าง 2 เมตร ยาว 2.4 เมตร มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นครับ มาดูห้องครัวกันบ้างนะครับ ห้องครัวจะอยู่ด้านหน้าห้องเลยนะครับ เป็นครัวแบบปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนปิดกันกลิ่นอาหารเข้ามาในห้อง หน้าตาของครัวก็จะได้แบบนี้เลยนะครับ มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง และชั้นลอยเก็บของไว้ด้านบน อุปกรณ์ภายในครัวจะเป็นของ Teka นะครับ เริ่มจากซิงค์ล้างจาน สังเกตที่ผนังนะครับ ผนังด้านบนจะเป็นกระจก เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเวลาทำอาหารแล้วมันกระเด็นไปติดผนัง เพราะเตาไฟฟ้าจะอยู่ค่อนข้างใกล้กับผนังนะครับ Hood ดูดควันก็ของ Teka เหมือนกันครับ มาดูที่ห้องนอนกันต่อนะครับ หน้าห้องนอนจะมีชั้นวางของ Built in อยู่ด้วยนะครับ ด้านในห้องนอนครับ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานสูงเลยนะครับ อีกมุมของห้องนอนครับ มองออกมาจะเห็นตู้เสื้ออยู่ติดกับหัวเตียง อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าห้องน้ำเลยนะครับ งั้นเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่านะ ที่ปลายเตียงจะ Built in ชั้นแขวนทีวีมาให้ด้วยนะครับ ตำแหน่งของแอร์ในห้องนอนก็อยู่ปลายเตียงนี่แหละครับ ในห้องน้ำนะครับ ส่วนอาบน้ำจะทำกระจกกั้นให้เรียบร้อย ฝักบัวที่ได้ครับ โถสุขภัณฑ์ของ American Standard อ่างล้างหน้าก็ของ American Standard เช่นกันครับ มีช่องเก็บของเล็กๆ อยู่ข้างล่างด้วย มาต่อกันที่ห้องแบบ Tri-Plex นะครับ ห้องจะถูกแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นนี้คือล่างสุดจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องครัว และมีห้องน้ำ 1 ห้องครับ ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Master Room ทั้งหมด และมีห้องน้ำใหญ่ในตัวอีก 1 ห้อง ห้องน้ำที่ห้อง Master Room นี้จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยนะครับ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home สามารถสั่งเปิด-ปิดน้ำ จาก Smartphone ของเราได้เลย ส่วนชั้นบนสุดที่ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องนะครับ และมีห้องน้ำด้านนอกอีก 1 ห้อง มาดูข้างในกันเลยดีกว่านะครับ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วก็จะเจอส่วนของ Living Area ก่อนเลยนะครับ Living Area ค่อนข้างจะกว้างขวางโอ่อ่าให้บรรยากาศเหมือนทาวน์โฮมอย่างไงอย่างงั้น โต๊ะทานอาหารจะอยู่ด้านหน้าห้องเลยนะครับ แอร์ที่ติดมาให้ที่ชั้นล่างจะเป็นแอร์ฝังแบบนี้นะครับ โต๊ะทานอาหารขนาด 6 ท่านครับ มองย้อนออกไปที่หน้าห้อง ด้านหลังโต๊ะทานอาหารจะมี Built in ตู้โชว์มาให้ด้วยนะครับ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องครัวนะครับ อยู่ด้านห้นาห้อง คนละฝั่งกับโต๊ะทานอาหารครับ ครัวจะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนเปิด-ปิด ตัวท็อปครัวก็จะคล้ายๆ กับครัวของแบบ 1 ห้องนอนนะครับ แต่จะสลับกันตรงที่เตาไฟฟ้าจะไม่อยู่ชิดผนังเหมือนเดิม แต่จะมาอยู่ติดตู้เย็นแทน มีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านล่างนะครับ มาพร้อมฮูดดูดครัวและชั้นลอยเก็บของ ส่วนของระเบียงครับ ออกมาด้านนอกส่วนของ Living Area ชั้นวางทีวีที่ Built in มาให้จะโชว์ทีวีแบบแขวน แต่ถ้าไม่ชอบแขวนก็มีชั้นเล็กๆ ให้วางได้เหมือนกันครับ ชุดโซฟา ส่วนห้องน้ำจะแอบอยู่ด้านหลังทีวีนะครับ ห้องน้ำที่ชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำเล็กๆ นะครับ ไม่มีส่วนอาบน้ำ หน้าห้องน้ำจะเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ที่ว่างใต้บันไดสามารถดัดแปลงเป็นที่เก็บของเล็กๆ ได้ครับ ไฟที่บันไดจะเป็นระบบเซ็นเซอร์นะครับ เมื่อเราก้าวขึ้นบันไดไฟถึงจะติด อันนี้ทางโครงการติดมาให้ดูเฉยๆ นะครับ ไม่ได้แถมให้ด้วย เดี๋ยวเราเดินขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อเลยนะครับ ชั้น 2 เป็น Master Room นะครับ เตียงจะถูกวางไว้ติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่หัวเตียงทั้ง 2 ด้าน จะติดโคมไฟอ่านหนังสือดีไซน์เก๋มาให้ด้วยนะครับ ด้านปลายเตียงจะมีพื้นที่เหลือพอให้ Built in ชั้นวางทีวีได้ครับ ตำแหน่งของแอร์ก็จะอยู่ที่ปลายเตียงครับ ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งนะครับ เป็นตู้ Built in แบบเต็มผนัง ด้านข้างก็จะเป็นห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ ด้านในห้องน้ำครับ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบถังพักน้ำซ่อนผนัง อ่างล้างหน้า มีช่องเก็บของด้านล่างด้วยนะครับ กระจกส่องหน้าบานใหญ่ใช้ได้เลยครับ ส่วนอาบน้ำจะมีประตูกระจกกั้นนะครับ มีอ่างอาบน้ำอย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่าสามารถควบคุมได้ด้วยระบบ Smart Home ติดตั้งให้ด้วย หรือจะยืนอาบก้มีชุดฝักบัวให้นะครับ ชุดฝักบัวที่ได้ครับ เราขึ้นไปต่อกันที่ชั้น 3 เลยดีกว่าครับ มองมุมกลับลงมา บันไดจะค่อนข้างแคบนะครับ เดินสวนกันอาจจะลำบากหน่อย เมื่อขึ้นมาแล้วจะมีโถงเล็กๆ ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องนะครับ โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่ชั้น 3 นี้ จะวาง Lay Out เหมือนกันเป๊ะเลยนะครับ จะแตกต่างกันที่โทนสีเท่านั้น ว่าแล้วเราไปดูห้องแรกกันก่อนเลยดีกว่าครับ ห้องนอนแรก โทนสีจะออก Soft หน่อยนะครับ มี Built in ทีวีแบบแขวนไว้ที่ปลายเตียง เตียงจะติดกับหน้าต่างเลยนะครับ จะมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือเพียงเล็กน้อย หน้าต่างจะเป็นบานสูงตั้งแต่พื้นจะเกือบถึงฝ้าด้านบนเลยครับ พื้นที่ปลายเตียงเหลือเล็กน้อย ตู้เสื้อผ้าจะถูกวางไว้ด้านหน้าประตูห้องแบบนี้ครับ มาดูอีกห้องนะครับ อย่างที่บอกว่าการวาง Lay Out จะเหมือนกันเป๊ะๆ เลยครับ โดยหันหัวเตียงเข้าหาผนังเดียวกัน ตู้เสื้อผ้าก็วางไว้ตำแหน่งเดียวกันครับ มองออกไปก็จะเป็นห้องน้ำ โดยทั้ง 2 ห้องนี้จะมีห้องน้ำร่วมกัน 1 ห้อง เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำกันเลยครับ ห้องสุดท้ายแล้ว ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ห้องเลยนะครับ เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบว่าใครจะเดินไกลกว่ากัน เค้าเตอร์อ่างล้างหน้าครับ เค้าเตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นรูปตัว L นะครับ ทำให้มีพื่นที่วางเครื่องสำอางของคุณผู้หญิงได้เยอะหน่อย แถมมีตู้ลอยติดให้อีกด้วย โถสุขภัณฑ์ค่อนข้างจะกว้างนะครับ ห้องอาบน้ำที่ชั้นนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำให้นะครับ แต่จะมี Rain Shower แทนครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า และมีการเดินทางที่สะดวก ใกล้ทั้งทางด่วน และถนนสายหลักๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในทำเลที่ค่อนไปทางสุขุมวิทตอนปลายแล้วก็ตาม แต่ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทั้งในแง่ของการเดินทางด้วยรถส่วนตัว และการพึ่งพารถไฟฟ้าบ้างเป็นครั้งคราว เพราะที่ตั้งโครงการเองก็ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก บรรยากาศโดยรอบโครงการเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ก็ต้องแลกกับความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบาย เนื่องจากไม่มีค่อยมีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาในระยะใกล้ๆ เท่าไหร่ ยิ่งทางโครงการพยายามชุดจุดขายด้วยห้องแบบ Tri-Plex ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยในระดับ 100 ตร.ม. โดยประมาณ จึงทำให้กลุ่มคนที่ต้องการห้องเล็กๆ หรือมองหาช่องทางไว้ลงทุนมีโอกาสค่อนข้างน้อย เพราะในซอยเดียวกันก็ยังมีคอนโดรายอื่นๆ อย่าง Chateau in town ที่เน้นขายห้องขนาดเล็กในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าอยู่ด้วย ดังนั้นถ้าจะหาห้องไว้ลงทุนปล่อยเช่น โครงการอื่นจึงเป็นตัวเปรียบเทียบที่อาจทำให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่า แต่ถ้าใครที่ชอบที่อยู่อาศัยแบบมีไลฟ์สไตล์หน่อย และอยากได้ความสะดวกสบายด้านเทคโนโลยีภายในห้อง ห้องของโครงการThe Unique ก็อาจจะสะดุดตา สะดุดใจมากหน่อย แต่ยังไงก็แนะนำให้มาดูห้องตัวอย่างและทำเลที่จะสร้างจริงด้วยตัวเองดีกว่าครับ ของแบบนี้ต้องเลือกกันมากหน่อย เพื่อให้ได้ห้องที่ถูกใจและคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด
Circle Rein สุขุมวิท 12 : รีวิวคอนโด

Circle Rein สุขุมวิท 12 : รีวิวคอนโด

Circle Rein สุขุมวิท 12 คอนโด Low Rise 8 ชั้น โครงการใหม่จาก Fragrant Property บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เปิด Pre-Sale วันที่ 18 ตุลาคม 2557 นี้ บรรยากาศโครงการในยามค่ำคืน ภาพมุมสุงจะเห็นสวนสีเขียวและสระว่ายน้ำที่อยู่บนดาดฟ้า รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 4,400,000 บาท (ราคา ณ วัน Pre-Sale) ราคาต่อตารางเมตร 160,000 บาท เจ้าของโครงการ Fragrant Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 122 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 0 - 28 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท 12 (ซอยสุขใจ) แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 70 คัน ค่าบำรุงส่วนกลาง 60 บาท/ตารางเมตร Floor Plan ชั้น 1 Floor Plan ชั้น 4-6 Floor Plan ชั้น 8 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีอโศก BTS สถานีนานา Terminal 21 Interchange Tower Time Square Tower Korean Town สวนสาธารณะ ชูวิทย์ แผนที่โครงการ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 30.73 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 47.03 - 56.73 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 70 - 89.67 ตารางเมตร 3 ห้องนอน ขนาด 155.37 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Shutter Bus สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า สวนสีเขียวสำหรับรับลม ชมวิว บนชั้นดาดฟ้า Fitness หน้าตาของห้องสมุดครับ Lobby   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-652-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.fragrantgroup.com
Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์  เพียง 150 เมตรจากรถไฟฟ้า BTS บางนา รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 2,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 109,047 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 849 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 844 ยูนิต, ร้านค้า 5 ยูนิต) เนื้อที่ทั้งหมด 4 - 0 - 18 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ ที่จอดรถ ประมาณ 270 คัน หรือประมาณ 47% สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีบางนา BITEC บางนา โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 21 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการ Social Club สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge Sky Deck Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th
ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

ชีวาทัย Interchange : รีวิวคอนโด

โครงการ: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 2,790,000 บาท บาท/ตารางเมตร 108,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด จุดเด่น คอนโดหรูจากชีวาทัย เดินทางสะดวกใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สาย สถานีเตาปูน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2558 ที่ตั้ง: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-3 -12.5 ไร่ ที่ตั้ง ถนนประชาราษฎ์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พิกัดโครงการ 13.806380,100.529826 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT Interchange สถานีเตาปูน   สถานที่สำคัญใกล้เคียง จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCG) รัฐสภาแห่งใหม่   ลักษณะโครงการ: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 26 – 40.5 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 51.6 – 67.4 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 87 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 26 ชั้น จำนวนห้อง 279 ยูนิต ส่วนกลาง: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 170 รวมจอดซ้อนคัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 50 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกายมุมมอง 360 องศา สวนลอยฟ้า สวนสีเขียวภายในโครงการ กล้อง CCTV ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm   เพิ่มเติม: ชีวาทัย Interchange (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-910-5655 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.chewathaiinterchange.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2557
คอนโด CIRCLE สุขุมวิท 31 : รีวิวคอนโด

คอนโด CIRCLE สุขุมวิท 31 : รีวิวคอนโด

โครงการ: CIRCLE สุขุมวิท 31 (PREVIEW) ราคา เริ่มต้น 6,300,000 บาท บาท/ตารางเมตร 137,000 บาท เจ้าของโครงการ Fragrant Property Ltd. จุดเด่น คอนโดหรูระดับพรีเมียมใจกลางเมือง มาพร้อมระบบจอดรถอัจฉริยะ เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน   ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: CIRCLE สุขุมวิท 31 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1-1-37 ไร่ ที่ตั้ง ซ.สุขุมวิท 31 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.738943,100.566442 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS พร้อมพงษ์ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Terminal 21 วิลล่า มาร์เก็ต Emporium Emquatier (เอ็มโพเรี่ยม 2) Emsphere (เอ็มโพเรี่ยม 3) สวนเบญจสิริ   ลักษณะโครงการ: CIRCLE สุขุมวิท 31 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom Penthouse ขนาดห้องที่มี ขนาดตั้งแต่ 46 – 239 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 30 ชั้น จำนวนห้อง 139 ยูนิต   ส่วนกลาง: CIRCLE สุขุมวิท 31 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 132 คัน ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 75 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) -   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ พร้อมลำโพงใต้นำอะควาโซนิค ฟิตเนส ห้องโยคะ สปา สวนเด็กเล่น เข้าออก ด้วยระบบคีย์การ์ด รปภ. และ CCTV 24 ชม.   เพิ่มเติม: CIRCLE สุขุมวิท 31 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-652-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.fragrantgroup.com/circle/sukhumvit31 ข้อมูล ณ วันที่ 29 มีนาคม 2557
Tulip Square @ Omnoi : รีวิวคอนโด

Tulip Square @ Omnoi : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมโครงการ Tulip Square @ Omnoi หนึ่งในโครงการใหญ่จาก บริษัท J.S.P. Property จำกัด (มหาชน) ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมขาเข้า ใกล้กับแยกพุทธมณฑลสาย 4 ในที่ผ่านไปผ่านมาช่วงนี้อาจจะเริ่มสะดุดตากับโครงการนี้กันบ้าง ทั้งการออกแบบตัวอาคารด้วยสไตล์ Modern European และขนาดของโครงการที่ใหญ่มากๆ เพราะรวมเอา คอนโดมิเนียม Low Rise, อาคารพาณิชย์ และ Shopping Mall เอาไว้ด้วยกัน ทำให้โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่น่าจับตาของทำเลในย่านอ้อมน้อยเลยทีเดียว รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,100,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    Low Rise 6 อาคาร จำนวนห้อง     1,030 ยูนิต ร้านค้า 94 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    31 - 3 - 72 ไร่ ที่จอดรถ    Tulip Grand 40% / Tulip Lite 35% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนธันวาคม 2558 ค่าส่วนกลาง    Tulip Grand 35 บาท , Tulip Lite 30 บาท/ตารางเมตร ชำระล่วงหน้า 1 ปี ค่ากองทุน    Tulip Grand 500 บาท , Tulip Lite 400 บาท/ตารางเมตร ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการก็ไม่ยากเลยครับ เพราะถนนหนทางในย่านนี้ไม่ได้ซับซ้อน เพียงแค่วิ่งมาตามถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าไปนครปฐม พอมาถึงแยกใหญ่ช่วงที่ถนนเพชรเกษมตัดกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ก็ให้ข้ามแยกแล้วชิดขวาเตรียมกลับรถกลับมาที่ตัวโครงการได้เลยครับ หรือถ้าจะวิ่งมาทางถนนบรมราชชนนี ก็สามารถเลี้ยวเข้าตัดมาทางถนนพุทธมณฑลสาย 4 หรือสาย 5 ก็ได้ครับ เพราะถนนสองเส้นนี้วิ่งคู่ขนานกันมา โดยมีถนนพุทธมณฑลสายต่างๆ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เราเลือกใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมนะครับ โดยเริ่มต้นจากหน้าเดอะ มอลล์ บางแค มุ่งหน้าตรงมาตามถนนอย่างเดียวเลยครับ นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดแล้ว ระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็มีให้เลือกใช้ได้อีกพอสมควรเลย เช่น รถเมล์ รถสองแถว ส่วนรถแท็กซี่ก็มีให้เห็นบ้างประปราย ส่วนใครที่คาดหวังว่าจะใช้รถไฟฟ้า ที่มีปักหมุดไว้แล้วว่าจะมีตัวสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาถึงที่พุทธมณฑลสาย 4 ต้องบอกว่าคงต้องรอกันอีกนานเลย อย่างน้อยๆ ต้องมีเฉียด 10 ปีเลยทีเดียวถึงจะพอเห็นความเป็นจริงบ้าง เพราะถ้าดูตามกำหนดการก็ปี 2572 นั่นเลย วิเคราะห์รอบโครงการ ทำเลที่ตั้งของโครงการ Tulip Square @ Omnoi นั้น ออกนอกเขตกรุงเทพไปแล้ว ซึ่งตำบลอ้อมน้อยอยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน ขึ้นกับจังหวัดสมุทรสาครนะครับ ยังไม่ถึงจังหวัดนครปฐมดี ทำเลในย่านนนี้เป็นเขตชานเมือง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย มีทั้งโรงงานขนาดเล็กไปถึงโรงงานขนาดใหญ่กันเลย ในขณะที่บริเวณพุทธมณฑลสาย 4 ก็เป็นช่วงที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ค่อนข้างเจริญมาก แต่ก็เป็นความเจริญในแบบชานเมืองนะครับ ถนนหลักเป็นถนนสายใหญ่ มีรถผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถเชื่อมต่อไปออกถนนบรมราชชนนี โซนศาลายา มีมหาวิทยาลัยมหิดล พุทธมณฑล รวมถึงห้างเซ็นทรัลศาลายา เป็นสถานที่สำคัญๆ ของย่านนี้ หรือถ้าวิ่งไปทางใต้ก็ยังสามารถวิ่งออกไปทางกระทุ่มแบน ออกถนนพระราม 2 ได้ด้วย ดังนั้นถ้าใช้รถส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้วก็ถือว่ามีเส้นทางให้เลือกเดินทางได้หลายเส้นทางเลยครับ สะดวกดีทีเดียว สำหรับตัวโครงการ Tulip Square @ Omnoi ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รวบรวมเอา Shopping Mall, Biz Town และ Condominium เอาไว้ด้วยกัน ถ้าดูจากผังของที่ดินที่จะเห็นว่า แต่ละส่วนจะแยกกันเป็นโซนๆ โดยที่มีส่วนของ Shopping Mall อยู่ตรงกลาง เชื่อมส่วนของ คอนโดมิเนียม และ Biz Town (ตึกแถว) ซึ่งอยู่คนละด้านเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งโซนแรกที่อยู่ทางด้านขวาของโครงการ เรียกว่า Biz Town เป็นโซนของอาคารพาณิชย์ที่สามารถเปิดเป็นร้านค้าที่บริเวณชั้นล่างได้ด้วย ส่วนโซนตรงกลาง เรียกว่า Shopping Mall เป็นเหมือน Community Mall กลางแจ้ง ซึ่งรวบรวมร้านค้าร้านอาหารเอาไว้หลากหลายแบรนด์ ส่วนโซนสุดท้ายทางด้านซ้ายคือ Condominium โดยจะแยกออกมาเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยการกั้นรั้วรอบขอบชิด มีทางเข้าออกอีกทีครับ ที่เราจะพาไปดูกันในครั้งนี้ คือ คอนโดมิเนียมของโครงการ Tulip Square ซึ่งจะเป็นตึก Low Rise สูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 7 ตึกด้วยกัน โดยจะแยกออกเป็น 2 เฟส โดยที่เฟสแรกจะมี 2 ตึกแยกรั้วออกมาอย่างชัดเจน โดยจะเรียกว่าแบบ Grand ในเฟสนี้จะมี Facility แยกออกมาสำหรับผู้อาศัยใน 2 ตึกแรกโดยเฉพาะ ส่วนในเฟสที่ 2 จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 ตึก เรียกว่าแบบ Lite ในเฟสนี้ก็จะมี Facility ให้ครบถ้วนเหมือนกัน โดยจะแบ่งกันใช้สำหรับผู้อยู่อาศัยทั้ง 5 ตึก โดยภาพรวมแล้วทั้ง 2 เฟสนี้จะมีความเหมือนกันทั้งรูปแบบตึก ห้องพักอาศัย จำนวนยูนิตต่อชั้น และจำนวนของ Facility ส่วนกลาง แต่ผู้อยู่อาศัยในเฟสแรกจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะมีจำนวนยูนิตรวมน้อยกว่าอีกเฟสครึ่งหนึ่งนั่นเองครับ Facility ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ก็มีทั้ง สระว่ายน้ำระบบคลอรีน ขนาด 8x25 เมตร, ห้องออกกำลังกาย, สวนหย่อมรอบโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกล้อง CCTV, Key Card Access ในขณะที่ที่จอดรถจะใช้พื้นที่บริเวณใต้อาคาร และพื้นที่กลางแจ้งรอบโครงการ ซึ่งเฟสแรกจะมีที่จอดรถจำนวน 170 คัน คิดเป็น 50% (รวมจอดซ้อนคัน) และเฟส 2 จอดได้ 230 คัน คิดเป็น 33% (รวมจอดซ้อนคัน) ดังนั้นจะเห็นได้ชัดเลยว่า ถ้าเลือกอยู่อาศัยในเฟสแรกก็จะได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า และสัดส่วนความหนาแน่นของการใช้สอย Facility ต่างๆ ก็ไม่อึดอัดจนเกินไปด้วย ส่วนผู้อยู่อาศัยในเฟส 2 ก็จะต้องแชร์กับคนจำนวนที่เยอะกว่าครับ สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ ขนาด 8x25 เมตร Fitness Sport Club Key Card Access CCTV ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พาชมห้องตัวอย่าง สำหรับห้องพักของโครงการ Tulip Square จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 43 ตร.ม. ซึ่งห้องตัวอย่างที่เรามีโอกาสได้ชมกันในครั้งนี้จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่มีจำนวนเยอะที่สุด ถ้าดูตามแปลนห้องแล้วจะเห็นว่า  Layout ของห้องออกแบบมาคล้ายคลึงกับห้องของ LPN เลย แต่ต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยห้องทั้งหมดขายมาให้แบบ Full Furnished ขาดแค่เครื่องใช้อีกไม่กี่ชิ้นเท่านั้น แทบจะพร้อมเข้าอยู่อาศัยโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมเลยทีเดียว เราไปดูกันเลยดีกว่าครับว่าภายในห้องมีการตกแต่ง จัดสรรพื้นที่ใช้สอยไว้เป็นสัดส่วน และลงตัวมาแค่ไหน ข้อดีของโครงการคอนโดมิเนียมที่มี Shopping Mall อยู่ในพื้นที่โครงการด้วยก็คือ ความสะดวกสบายในการหาของกินของใช้ สามารถเดินออกมาหน้าโครงการก็เริ่มช็อปปิ้งได้เลย ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางไปได้มาก พื้นฐานการใช้ชีวิตเบื้องต้นจึงสะดวกสบายดี แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะต้องเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง เพราะจะมีคนทั่วไปเดินทางมาใช้พื้นที่ Shopping Mall กันมาก ทำให้ความเงียบสงบลดลงอย่างทันตา ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาล มีงานอีเว้นท์ เรื่องเสียงดังรบกวนก็อาจจะตามมาได้เช่นกัน สำหรับโครงการ Tulip Square น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยู่อาศัย หรือทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว เพราะราคาหยิบจับได้ไม่ยากเกินไป แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ไม่ต้องเดินทางออกไปไหนไกลก็สามารถเดินเล่น พักผ่อน ช็อปปิ้งที่ Shopping Mall หน้าโครงการได้เลย น่าจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยในย่านชานเมืองได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมไม่มากก็น้อย ราคาและเงื่อนไขในการขาย ณ วันที่ 19/08/2558 เฟส 1-2 ขนาดห้อง 28 ตารางเมตร ราคาขาย 1.34 - 1.39 ล้านบาท จอง+ทำสัญญา 3,900 บาท ผ่อนดาวน์ 5,900 บาท 4 งวด งวดสุดท้ายเทดาวน์ เฟส 1-2 ขนาดห้อง 43 ตารางเมตร ราคาขาย 2.07 - 2.11 ล้านบาท จอง+ทำสัญญา 3,900 บาท ผ่อนดาวน์ 8,900 บาท 4 งวด งวดสุดท้ายเทดาวน์ เฟส 4-5 ขนาดห้อง 28 ตารางเมตร ราคาขาย 1.16 - 1.21 ล้านบาท จอง+ทำสัญญา 3,900 บาท ผ่อนดาวน์ 4,900 บาท 4 งวด งวดสุดท้ายเทดาวน์ เฟส 4-5 ขนาดห้อง 43 ตารางเมตร ราคาขาย 1.81 - 1.82 ล้านบาท จอง+ทำสัญญา 3,900 บาท ผ่อนดาวน์ 7,900 บาท 4 งวด งวดสุดท้ายเทดาวน์ เฟส 6 A ขนาดห้อง 28 ตารางเมตร ราคาขาย 1.12 - 1.17 ล้านบาท จอง+ทำสัญญา 3,900 บาท ผ่อนดาวน์ 4,900 บาท 4 งวด งวดสุดท้ายเทดาวน์ เฟส 6 A ขนาดห้อง 43 ตารางเมตร ราคาขาย 1.72 - 1.77 ล้านบาท จอง+ทำสัญญา 3,900 บาท ผ่อนดาวน์ 7,900 บาท 4 งวด งวดสุดท้ายเทดาวน์