คุณแน่ใจแล้วหรือยังว่าวัสดุปูพื้นที่คุณเลือกใช้นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี เพราะห้องแต่ละห้องมีการใช้งานที่แตกต่างกัน วัสดุปูพื้นที่จะนำมาใช้จึงควรผ่านการพิจารณาก่อนนำมาติดตั้งเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ การเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ง่ายต่อการดูแลรักษา และปลอดภัยสำหรับสมาชิกในบ้าน
1. ห้องโถงและทางเดิน – เป็นบริเวณที่ใช้สัญจรเข้าออกตั้งแต่เช้าจรดเย็นตลอดเวลา และยังเป็นพื้นที่ที่ต้องการโชว์ความสวยงามสำหรับแขกผู้มาเยือน ดังนั้น นอกจากความสวยงามที่แสดงออกถึงสไตล์การตกแต่งแล้ว พื้นที่ส่วนนี้จึงควรมีความทนทานแข็งแรง ไม่ลื่นจนเกินไป และทนต่อการขีดข่วนโดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน วัสดุปูพื้นสามารถเลือกใช้เป็นหินแกรนิต หินขัด (Terrazzo) ที่มีทั้งความสวยงาม ความแข็งแกร่ง และความทนทานสูง หรือหากไม่ชอบอะไรที่จำเจ สามารถเลือกเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความหลากหลายทั้งโทนสี และผิวสัมผัสก็ได้ หรือหากต้องการให้บ้านดูอบอุ่นขึ้นมาหน่อยอาจเลือกใช้ไม้ลามิเนตแทนการใช้ไม้จริง เนื่องจากทนต่อการขีดข่วนได้ดี และยังดูเป็นธรรมชาติ
ภาพ: ห้องโถง (ซ้าย) ปูด้วยกระเบื้อง Cotto Italia / (ขวา)พื้นไม้ลามิเนต
2. ห้องรับแขก และห้องนั่งเล่น – นับเป็นอีกห้องที่ใช้งานหนัก ไหนจะมีเครื่องเรือนทั้งโต๊ะ โซฟา เคาน์เตอร์วางทีวี ตู้โชว์ ตู้ปลา หรือตู้หนังสือจัดวาง วัสดุปูพื้นสำหรับห้องนี้คล้ายห้องโถงและทางเดิน คือควรมีลักษณะทนทาน ไม่เป็นรอยง่ายอย่าง หินแกรนิต ไม้ลามิเนต หินขัด หรือกระเบื้องเซรามิก นอกจากนี้ การปูพรมเสริมภายในห้อง ก็ช่วยให้ห้องดูอบอุ่นสบายตายิ่งขึ้น
ภาพ: ห้องรับแขกปูด้วยกระเบื้อง Cotto Italia
3. ห้องครัว และห้องทานอาหาร – ห้องครัว หรือห้องทานอาหารมักอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน เป็นห้องที่บางบ้านอาจใช้งานบ่อย หรือบางบ้านอาจใช้ไม่บ่อยนัก แต่ด้วยการใช้งานมีไว้สำหรับไว้ทำอาหาร จึงมีโอกาสเกิดคราบสกปรกที่พื้นและผนังได้ง่าย ทั้งเศษอาหาร ไขมัน น้ำ และกลิ่น ทั้งนี้ วัสดุปูพื้นจึงควรเลือกเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมเศษสกปรกหรือกลิ่น เช่น กระเบื้องเซรามิก กระเบื้อง PVC เป็นต้น ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงพื้นหินอ่อน ไม้จริง กระเบื้องดินเผา และพรม เพราะจะสกปรกง่าย และทำความสะอาดยาก
ภาพ: ห้องทานอาหารพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก
4. ห้องน้ำ – เป็นพื้นที่ต้องรองรับความเปียกชื้น รวมถึงน้ำยา และสารเคมีต่างๆ เช่น สบู่ แชมพู และน้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งส่งผลต่อพื้นผิววัสดุปูพื้นโดยตรง ดังนั้นควรเลือกวัสดุปูพื้นที่มีคุณสมบัติกันน้ำ กันลื่น ไม่ขึ้นรา ทำความสะอาดง่ายอย่างกระเบื้องเซรามิก โดยเลือกเป็นประเภทที่มีค่าดูดซึมน้ำต่ำ รวมถึงควรมีค่า R (ค่ากันลื่น) ที่ 10 ขึ้นไป หรือหากต้องการตกแต่งห้องน้ำสไตล์ธรรมชาติ สามารถใช้กรวดล้างทรายล้าง หรือใช้พื้นไม้สังเคราะห์ประเภทไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือไวนิลสลับกับการโรยด้วยกรวดหินก็เป็นอีกวิธีที่นิยม นอกจากนี้ ต้องยาแนวกระเบื้องอย่างถูกวิธี และอย่าลืมทำระบบกันซึมบนพื้นคอนกรีตโครงสร้าง เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม
ภาพ: ห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิก
5. ห้องนอน – เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวที่ควรมีบรรยากาศผ่อนคลาย สามารถเลือกวัสดุปูพื้นได้หลายประเภทตามแต่เจ้าของห้องต้องการ เพราะเป็นบริเวณที่ไม่ได้ใช้งานหนัก โดยมากจะเลือกเป็นพื้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้จริงหรือไม้เทียมต่าง ๆ เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่เย็นเท้า หรือสามารถเลือกเป็นกระเบื้องเซรามิก หินขัด และปูพรมบางส่วน โดยเฉพาะบริเวณรอบเตียง เพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มนวล และลดความแข็งกระด้าง
ภาพ: ห้องนอนปูด้วยพื้นไม้
6. ชาน และระเบียงบ้าน – ชาน และพื้นระเบียงที่อยู่ชั้นบนหรือชั้นล่าง มีโอกาสเจอทั้งแดดและฝน ดังนั้น ควรพิจารณาเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง อายุการใช้งานยาวนานอย่างไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือไวนิล สำหรับเจ้าของบ้านที่ชอบสไตล์ธรรมชาติ หรือเลือกใช้เป็นกระเบื้องเซรามิกที่ทำความสะอาดง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
ภาพ: ระเบียงนอกบ้านปูด้วยไม้สมาร์ทวูด Floor Plank
7. บันได – สำหรับบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่จะเลือกใช้วัสดุประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียงกับวัสดุปูพื้นชั้นล่าง หรือวัสดุปูพื้นชั้นบน อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้กลมกลืนต่อเนื่องกัน และควรมีจมูกบันไดที่เป็นวัสดุกันลื่น เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ หากมีงบประมาณสามารถปูพรมเพื่อความปลอดภัย และลดเสียงเวลาใช้งานได้ด้วย
ภาพ: (ซ้าย) บันไดปูไม้บันไดสมาร์ทวูด/ (ขวา) บันไดปูกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน
อย่างไรก็ตาม การเลือกวัสดุปูพื้นในแต่ละห้องต้องไม่ลืมนึกถึงสมาชิกในบ้านด้วย เช่น หากมีเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ ควรเลือกวัสดุปูพื้นที่มีคุณสมบัติกันลื่น หรือเลือกใช้สีพื้นต่างกันในพื้นที่ต่างระดับ เป็นต้น ทราบอย่างนี้แล้ว อย่าลืมศึกษาทั้งคุณสมบัติและการติดตั้งก่อนตัดสินใจ และหมั่นทำความสะอาด บำรุงรักษาวัสดุปูพื้นเพื่อยืดอายุการใช้งานให้สวยงามอยู่เสมอ
ขอขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลจาก www.scgbuildingmaterials.com