Ryl Feature 211022 1200x628

7 เหตุผลที่ “ฮาบิแทท กรุ๊ป” ผนึก “เฮงตระกูล” ปั้น ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า 1,700 ล้าน

ไฮแลนด์ พาร์ค 

“ฮาบิแทท กรุ๊ป” จับมือตระกูล​ “เฮงตระกูล” พัฒนาที่ดินกว่า 51 ไร่ ขึ้นโครงการ  ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า ที่พัทยา มูลค่า 1,700 ล้าน รับเทรนด์และดีมานด์หลังโควิด-19

 

กว่า 10 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา “ฮาบิแทท กรุ๊ป” พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่เน้นโปรดักส์กลุ่มไลฟ์สไตล์ อินเวสเม้นท์ (Lifestyle Investment) รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตลาดกลุ่มนิช มาร์เก็ต (Niche Market)  ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม แต่มาวันนี้  “ฮาบิแทท กรุ๊ป” มองหาโอกาสด้านการลงทุนใหม่ ๆ ​โดยขยายไปในตลาดแนวราบเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตลาดเรียลดีมานด์ที่มีขนาดใหญ่ และมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง

 

การขยายไปสู่ตลาดแนวราบครั้งนี้ เป็นการจับมือกับกลุ่มตระกูล “เฮงตระกูล” จัดตั้งบริษัท ฮาบิแทท วิลล่า จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา”  (Highland Park Pool Villas) บ้านวิลล่า มูลค่า 1,700 ล้านบาท ซึ่ง ฮาบิแทท กรุ๊ป ถือหุ้นสัดส่วน 70% และนายรัฐกิจ เฮงตระกูล สัดส่วนอีก 30%

 

โครงการ ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า  เป็นรูปแบบบ้านพูล วิลล่า สไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 51 ไร่ ซึ่งซื้อมาจากตระกูล “เฮงตระกูล” โดยเริ่มพัฒนาเฟสแรกจำนวน 65 หลัง ประกอบด้วยบ้าน 2 แบบ ได้แก่  1.แบบโรสวูด แกรนด์ วิลล่า (Rosewood Grand Villa) บ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่จอดรถ 3 คัน ขนาดเนื้อที่เริ่มต้น 76 – 152 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 375 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านทุกหลัง ในราคา 13 – 15 ล้านบาท และ 2.แบบแคสเซีย พูล วิลล่า (Cassia Pool Villa)  บ้าน  2 ชั้น  4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พื้นที่จอดรถ 2 คัน ขนาดเนื้อที่เริ่มต้น 61 – 122 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 282 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านทุกหลัง ในราคาขายเริ่มต้นที่ 8 – 12 ล้านบาท

Highland Park 2

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด  เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุน มีมุมมองต่อการซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป โดยคาดหวังถึงที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่กว้างมากขึ้น สามารถรองรับกิจกรรมของครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นรูปแบบของการอยู่อาศัยพร้อมท่องเที่ยวและพักผ่อนที่เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตและทำงานของคนยุคใหม่ “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” หรือ Work from Anywhere จากปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่การปรับแผนธุรกิจในครั้งนี้ และเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

จากเดิมที่เราโฟกัสโครงการอสังหาฯ เพื่อลงทุน แต่วิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทำให้หันมาสนใจตลาดแนวราบ และหวังสร้างบาลานซ์ พอร์ต เพื่อจัดการบริหารความเสี่ยงอีกด้วย ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำตลาดโครงการพูล วิลล่า มาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ เดอะ วิลล์ จอมเทียน และ ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ จึงมีความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และพร้อมจะนำความแข็งแกร่งในจุดนี้ไปต่อยอดกับตลาดแนวราบต่อไป”  

ด้านนายรัฐกิจ เฮงตระกูล ผู้ร่วมทุนโครงการ  “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา” กล่าวว่า ความต้องการซื้ออสังหาฯ ในพื้นที่พัทยาเกิดขึ้นในหลายเซ็กเม้นท์ และวิลล่าซึ่งเป็นเซ็กเม้นท์ที่มีดีมานด์สูง สำหรับทั้งการท่องเที่ยวและพักผ่อน รวมทั้งซื้อไว้เพื่อการลงทุนในระยะยาว โดยมีความสนใจจากผู้ซื้อทั้งนักธุรกิจในพื้นที่ ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโซนอีอีซี เป็นระดับผู้บริหารที่ต้องการซื้อแทนเช่า และชาวไทยที่อยู่กรุงเทพฯ เพราะการเดินทางที่สะดวกและใช้เวลาในช่วงสั้น ๆ จากกรุงเทพฯ มาพัทยา และสุดท้ายกลุ่มต่างชาติ ที่นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาพบว่าแนวโน้มเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาและเปิดขายโครงการบนทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ในช่วงจังหวะนี้

7 เหตุผลที่พัฒนา ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา

สำหรับเหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่มฮาบิแทท จับมือ “เฮงตระกูล” พัฒนา ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา มาจากความพร้อมของทั้งสองฝ่าย ที่ทำเลที่ตั้งมีความเหมาะสม มีศักยภาพ และเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเกิดโควิดระบาด รวมถึงตลาดยังมีความต้องการของกลุ่มลูกค้าอยู่อย่างต่อเนื่องด้วย

1.โควิด-19 ส่งผลให้เทรนด์การอยู่อาศัยเปลี่ยนแปลง

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้พื้นที่เพื่อการอยู่อาศัย ทำให้คนที่มองหาซื้อบ้านจึงเลือกประเภทบ้านแนวราบ มากกว่าการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม เพราะมีพื้นที่การอยู่อาศัยมากกว่า ซึ่งตลาดบ้านแนวราบในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีการเติบโตได้ดี ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และในหัวเมืองต่างจังหวัดที่เป็นเมืองพักตากอากาศ ทำให้บ้านสำหรับพักตากอากาศ หรือบ้านหลังที่ 2 มีอัตราการเติบโตที่ดี

Highland Park 3

2.วิลล่าในพัทยาเหลือน้อยแต่ดีมานด์สูง

ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย วิเคราะห์ถึงตลาดพูลวิลล่าในพื้นที่พัทยา ระดับราคาขาย 8-15 ล้านบาท ว่า เป็นตลาดที่เติบโตและได้รับความสนใจทั้งจากผู้พัฒนาและกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 มีโครงการพูลวิลล่าเปิดขาย 13 โครงการ รวม 404 ยูนิต ซึ่งในจำนวนนี้ขายไปแล้ว 295 ยูนิต หรือคิดเป็น 73% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโดยผู้พัฒนารายใหญ่ในพื้นที่ และเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตขายน้อย

ตลาดวิลล่าในเมืองพัทยา จึงถือว่ามีซัพพลายน้อยแต่ความต้องการมีสูง ถือเป็นโอกาสทางการตลาดในการพัฒนาสินค้าดังกล่าวออกมารองรับ Highland Park 3 

3.Top 3 โอนที่อยู่อาศัยเยอะสุด

เมื่อพิจารณาการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ยังพบว่า จังหวัดชลบุรี มีการโอนกรรมสิทธิ์มากเป็นอันดับ 3 รองจากจังหวัดกรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 14,968 ยูนิต เพิ่มขึ้น 6.3% คิดเป็นมูลค่า 36,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1%

 

ขณะที่พื้นที่ในจังหวัดชลบุรี  ทำเลที่ตั้งของโครงการไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา คือ พื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ ยังตั้งอยู่ในอำเภอที่มีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบมากที่สุดเป็นอันดับ 2  ด้วยคือ อำเภอบางละมุง รองจากอำเภอศรีราชา ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบมากที่สุด ส่วนอำเภอที่โอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดเป็นอันดับ 3 คือ อำเภอเมืองชลบุรี

4.ศักยภาพรอบด้านของเมือง

จังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะเมืองพัทยา ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพรอบด้าน ในการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และด้านการท่องเที่ยว เพราะมีความพร้อมหลายด้าน อย่างเช่น

 

-ทำเลที่ตั้งที่ถือว่าเป็นเมืองชายทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด สามารถเดินทางได้ภายในระยะเวลาประมาณ 90 นาที และการเดินทางยังสะดวก ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน  และยังมีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ

 

-การเป็นเมืองที่มีแหล่งงานสำคัญ เพราะมีทั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มากมาย

 

-เมืองท่องเที่ยวชายทะเล ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากทั้งกลุ่มชาวไทยและต่างชาติ

Highland Park 4

5.การเดินหน้าพัฒนา 2 เมืองใหม่ใน EEC

นอกจากพื้นที่ของจังหวัดชลบุรีจะเป็นหนึ่งในเขตพื้นที่ EEC ซึ่งมีการลงทุนและพัฒนาในด้านต่าง ๆ จำนวนมาก โดยเม็ดเงินการลงทุนด้านต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในพื้นที่ EEC ในช่วง 5 ปีแรกมีมากถึง 1.5 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกัน  ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ยังมีแผนการพัฒนาเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ซึ่งจะมีการนำเอาพื้นที่ส.ป.ก. จำนวน 14,619 ไร่ ในตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง มาพัฒนาเป็นเมืองใหม่ ซึ่งที่ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินอู่ตะเภทเพียง 15 กิโลเมตร ที่จะนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้าบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเมืองและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัย และเกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

6.การลงทุนภาคเอกชนเกือบ 30,000 ล้าน

ไม่เฉพาะหน่วยงานภาครัฐเท่านั้นที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ในเขตจังหวัดชลบุรี แต่ภาคเอกชนเองก็มองเห็นโอกาสและเห็นศักยภาพของเมือง จึงเดินหน้าเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเกือบทุกเจ้าสัวของเมืองไทย พาเหรดกันเข้ามาพัฒนาโครงการในจังหวัดชลบุรีกันเป็นแถว โดยในอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการรวมมูลค่าเกือบ 30,000 ล้านบาท ดังนี้ โครงการไอคอนสยาม พัทยา บริเวณนาจอมเทียม มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ โครงการอควอทีค พัทยา บริเวณพัทยากลาง มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ของกลุ่มเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี โครงการวงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ของกลุ่มเซ็นทรัล และโครงการเทอร์มินอล 21 พัทยา มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ของกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์

7.อัตราผลตอบแทน 7%

จากประสบการณ์การพัฒนาโครงการอสังหาฯ มากว่า 10 ปี ซึ่งเน้นอสังหาฯ เพื่อการลงทุน หรือกลุ่ม Lifestyle Investment มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้ซื้อจะได้รับผลตอบแทนที่ดี จากการซื้ออสังหาฯ และนำมาปล่อยเช่า เช่น บ้านวิลล่าขนาด 3 ห้องนอน ราคาประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อนำมาปล่อยเช่าจะได้อัตราค่าเช่า​คืนละ 8,000 บาท ซึ่งเฉลี่ยต่อเดือนจะปล่อยเช่าประมาณ​ 18-20 คืน ทำให้มี​รายได้เดือนละ 140,000 หักค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร  40% จะเหลือรายได้ 80,000 บาทต่อเดือน จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 7% ถือว่าสูงกว่าการลงทุนซื้ออสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ซึ่งให้ผลตอบแทนประมาณ 4-5% เท่านั้น

การปรับแผนธุรกิจใหม่ จากโครงการคอนโดมาสู่แนวราบ เป็นอีกก้าวที่สำคัญในการยกระดับการทำงานและบาลานซ์ธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และบริหารจัดการความเสี่ยงที่นำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

Highland Park 5

ทั้งหมดนี้ คงเป็นเหตุผลสนับสนุนสำคัญที่ทำให้เกิดโครงการ ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา ที่เชื่อว่าไม่ใช่โครงการสุดท้าย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการแรกที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกัน หากประสบความสำเร็จ เชื่อว่าจะมีโครงการต่อ ๆ ไปอีกมากมาย เพราะกลุ่มเฮงตระกูลมีที่ดินอยู่ในมืออีกมากมายทั่วจังหวัดชลบุรี คงต้องติดตามว่าจะเห็นได้อีกเมื่อไร

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ฮาบิแทท กรุ๊ป” ปั้นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส 4,500 ล้าน พร้อมบุกตลาดลูกค้าต่างชาติ

ฮาบิแทท ผนึกทุนญี่ปุ่น เปิด 2 โปรเจ็กต์ มูลค่า 2.8 พันล้าน

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด