แบรนด์เคฟ
แอสเซทไวส์ เผย 5 คีย์ซักเซสปั้นแบรนด์เคฟ โครงการแคมปัส คอนโด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Gen Z 5 ปีพัฒนาแล้ว 8 โครงการรวมมูลค่ากว่า 14,000 ล้าน สร้างพอร์ตรายได้สัดส่วน 30% ของทั้งบริษัท มั่นใจดันเป้าทะลุ 10,000 ล้านในปีนี้ เดินหน้าต่อโครงการ เคฟ ซี้ด เกษตร บุกนักศึกษาในเมือง
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่บริษัทเริ่มพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคฟ (KAVE) โครงการแรกตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ได้พัฒนาโครงการแล้วทั้งสิ้น 8 โครงการ จำนวน 7,229 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 14,100 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยโครงการแรกเคฟ คอนโด (KAVE Condo) สามารถปิดการขายได้ภายใน 3 เดือนแรกที่เปิดการขาย
สำหรับปัจจัยความสำเร็จภายใต้ แบรนด์เคฟ นั้น เกิดจากแนวคิดการพัฒนาโครงการที่จับกลุ่มตลาดแคมปัส คอนโด ที่จับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ นักศึกษาในแต่ละมหาวิทยาลัย และนักลงทุนที่ต้องการซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่าให้นักศึกษา โดยออกแบบและพัฒนาโครงการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักศึกษา หรือกลุ่ม Gen Z ที่มีคอนเซ็ปต์การพัฒนาภายใต 5 กลยุทธ์หลักที่สำคัญ ได้แก่
โครงการจะต้องตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้มหาวิทยาลัยมากที่สุด เนื่องจากนักศึกษาต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปเรียนหนังสือ
ภายในโครงการมีการออกแบบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ กลุ่ม Gen Z โดยมีพื้นที่ส่วนกลาง (Facilities) ครบทุกมิติ ทั้งติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายกับการใช้ชีวิต มอบความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับผู้พักอาศัย
คอนโดจะต้องสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Yield) ให้กลุ่มผู้ซื้อได้ เพื่อนำเอาไปปล่อยเช่าในอัตรา 8,000-10,000 บาทต่อเดือน หรือมีอัตราผลตอบแทนสูงถึง 8-10 % ขณะที่คอนโดในเมืองให้ผลตอบแทนประมาณ 4-5% เท่านั้น
การซื้อที่ดินในราคาไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางวา เพื่อพัฒนาคอนโดในระดับราคาไม่เกิน 50,000-70,000 บาทต่อตารางเมตร หรือไม่เกินยูนิตละ 1.5-1.6 ล้านบาท
ห้องพักมีหลายขนาด และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ เนื่องจากพฤติกรรมของนักศึกษา จะมีการทำกิจกรรมที่หลากหลาย และมักจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนจำนวนมาก
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอดของแบรนด์เคฟ ตั้งแต่วันที่เปิดตัวโครงการแรกจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดโครงการเคฟทาวน์ สเปซ (Kave Town Space) และเคฟทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift) ก็สามารถปิดการขาย 100% เป็นที่เรียบร้อย บริษัทจึงเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง กับโครงการเคฟ ทาวน์โคโลนี่ (Kave Town Colony) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท จำนวน 1,083 ยูนิต
โดยเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดให้จองโครงการครั้งแรกรอบ VVIP EVENT ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า สามารสร้างสถิติวันเดียวสร้างยอดขายถึง 42% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด หรือคิดเป็น 70% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายรวมทะลุ 10,000 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์เคฟมีสัดส่วนประมาณ 30% ที่เหลือเป็นแบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ) สัดส่วน 30% แบรนด์ โมดิซ (MODIZ) สัดส่วน 30% และแบรนด์อื่น ๆ อีก 10% เช่น แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR)
สำหรับโครงการเคฟทาวน์ โคโลนี่ เป็นคอนโดคโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ราคาขายเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการเคฟ ทาวน์ ที่มีขนาดพื้นที่รวมกว่า 46 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส โดยหากพัฒนาครบทั้งโครงการจะมีมูลค่ากว่า 9,500 ล้านบาท ปัจจุบันพัฒนาโครงการแล้ว 3 เฟส
นอกจากโครงการเคฟทาวน์ โคโลนี่ บริษัทยังวางแผนเปิดตัวโครงการต่อเนื่อง ที่ใกล้มหาวิทยาลัย โดยโปรเจ็กต์ต่อไปที่จะเปิดตัวเป็นโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kaset) ซึ่งเป็นโครงการแรกที่อยู่ใกล้ม.เกษตรศาสตร์ และเป็นโครงการแบรนด์เคฟที่อยู่ในเมือง มีมูลค่า 1,200 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดการขายได้ในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการใกล้ 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ม.กรุงเทพ รังสิต ม.มหิดล ศาลายา และม.เกษตรศาสตร์ บางเขน โดยวางแผนจะพัฒนาโครงการใกล้มหาวิทยาลัยอีก 2 แห่ง ซึ่งจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-แอสเซทไวส์ ดึงมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปั้นแบรนด์คอนโด
-[PR News] แอสเซทไวส์ กวาดยอดขาย Q1 กว่า 3,250 ล้าน เดินหน้าไตรมาส 2 เปิดอีก 3 โปรเจ็กต์ใหม่