Awc Asiatiwue

AWC ปั้นเอเชียทีค สู่ เมกะโปรเจ็กต์ ผุดทาวเวอร์สูงสุดในไทย

เปิดแผน AWC ปั้นเมกะโปรเจ็กต์ มิกซ์ยูส “เอเชีย ทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์” เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ใหญ่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่ามากกว่า 30,000 ล้าน พร้อมจับมือ AS+GG ผู้ออกแบบตึกสูงทั่วโลก สร้าง “เอเชียทีค ทาวน์เวอร์” สูงสุดในไทย คาดใช้เวลาพัฒนาไม่ต่ำกว่า 5 ปี หวังให้เป็น World Destination

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัทในเครือทีซีซีกรุ๊ป (TCC Group) ของตระกูลสิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า ตามแผนสร้างการเติบโตของบริษัทในระยะ 5 ปีข้างหน้า จึงพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจ และแนวคิด Building a Better Future หรือ การสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า AWC  ล่าสุดได้จับมือกับ A49 และ Urban Architectures บริษัทออกแบบชั้นนำของไทย และ AS+GG บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับทั่วโลก  พัฒนาโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ในโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

 

“AWC เดินหน้าแผนการพัฒนาโครงการเอเชียทีค  เพื่อยกระดับให้ที่นี่มีความน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ระดับโลก”

Asiatique Map

ปัจจุบันโครการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 60  ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา  ซึ่งมีร้านค้าและร้านอาหารเปิดให้บริการ โดยถือว่าเป็นการพัฒนาโครงการในเฟส 1 มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการเฟส 2 ต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งเป็น 3 เฟสย่อย ประกอบด้วย

แผนพัฒนาเฟส 2.1

เตรียมพัฒนาเป็นโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ในรูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท  ประกอบด้วย พื้นที่รีเทล สำนักงาน และอาคารขนาดสูงไม่ต่ำกว่า 100 ชั้น ที่คาดว่าจะสูงสุดในประเทศไทย ภายในอาคารจะประกอบไปด้วย

-โรงแรมระดับ 5 ดาว ภายใต้แบรนด์แมริออท จำนวน 800 ห้อง

-โรงแรมระดับ 6 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกแบรนด์

-คอนโดมิเนียมพักอาศัย ในรูปแบบ แบรนด์เด็ด เรสซิเดนซ์

โดยโครงการเมกะโปรเจ็กต์ จะพัฒนาบนพื้นที่ลานจอดรถของเอเชีย ทีคในปัจจุบัน  ซึ่งมีแผนปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ ทำให้วางแผนย้าย “เอเชียทีค สกาย” ไปไว้ในพื้นที่ด้านใต้ซึ่งอยู่ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ (เฟส 2.2.1-ดูแผนที่ประกอบ)

แผนพัฒนาเฟส 2.2

แผนพัฒนาพื้นที่ 19 ไร่ เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ 100,000 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งเป็น 2 เฟสย่อย ได้แก่

พื้นที่เฟส 2.2.1 จะประกอบด้วยร้านแฟลกชิพ สโตร์ของร้านกาแฟระดับโลก คาดว่าจะเป็นแบรนด์สตาร์บัค เนื่องจากเป็นธุรกิจที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ซื้อเข้ามาอยู่ในพอร์ตธุรกิจ คาดว่าจะเป็นรูปแบบใหม่และจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันน่าจะอยู่ระหว่างการบันทึกข้อตกลงร่วมกัน  ซึ่งกลยุทธ์การนำเอาธุรกิจภายในเครือทีซีซีมาซินเนอร์จี้กัน เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ AWC ด้วยเช่นกัน  พื้นที่บริเวณเฟส 2.2.1 ยังจะถูกใช้เป็นพื้นที่ตั้งของเอเชียทีค สกาย  ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ

พื้นที่เฟส 2.2.2 จะถูกใช้เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนา และประวัติศาสตร์  ที่ตั้งเจดีย์ทางพุทธศาสนา เพื่อใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้

แผนพัฒนาเฟส 2.3 บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ บริเวณฝั่งตรงข้ามโครงการในปัจจุบัน บริษัทมีแผนพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการพัฒนาให้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนเจริญลาภ เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าการออกแบบ

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมนำเรือขนาด 50 เมตร ภายใต้ชื่อ “สิริมหรรณพ” มาเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ของปีหน้า ซึ่งภายในเรือจะเป็นพื้นที่ส่วนภัตรคาร และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ โดยจอดเรืออยู่บริเวณด้านหน้าริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยหากประเมินมูลค่าโครงการในปัจจุบัน และแผนในอนาคต คาดว่าโครงการจะมีมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาการพัฒนาโครงการอย่างเร็วที่สุดภายใน 5 ปี

จับมือ AS+GG สร้างไอคอนนิคแลนด์มาร์ค

AWC ได้ร่วมมือกับ Adrian Smith + Gordon Gill Architecture (AS+GG) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก เพื่อพัฒนาโครงการเมกะโปรเจ็กต์ริมน้ำเจ้าพระยา โดยหนึ่งในไฮไลต์ คือ “เอเชียทีค ทาวเวอร์” อาคารขนาดสูงสุดในประเทศไทย ที่เป็นผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอก สะท้อนคุณค่าความเป็นไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คอันโดดเด่นของไทยสู่ชื่อเสียงระดับโลก

Awc As Gg

โดย AS+GG คือ ผู้ออกแบบอาคารสูงระดับโลกในหลายประเทศ อาทิ JEDDAH TOWER ในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ โดยหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นอาคารสูงที่สุดในโลก ด้วยขนาดควาสูงกว่า 1,000 เมตร AS WASL PLAZA ในดูไบ  BURJ KALIFA ในดูไบ ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารสูงที่สุดในโลก และ JIN MAO TOWER ในเชียงไฮ้ ประเทศจีน

 

จากผลงานการออกแบบอาคารสูงระดับโลก ทำให้คาดว่า “เอเชียทีค ทาวเวอร์” จะมีขนาดความสูงมากที่สุดในประเทศไทย และอาจจะสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสำคัญของ AWC ไม่ได้มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการให้มีขนาดความสูงมากที่สุด แต่ต้องการเพิ่มมูคล่าที่ดินให้ได้มากที่สุด และการสร้างคุณค่า รวมถึงความยั่งยืนของธุรกิจอย่างต่อเนื่องยาวนาน

 

“เนื่องจากเป็นที่ดินฟรีโฮลด์ จึงมุ่งสร้างคุณค่าระยะยาว นอกจากพัฒนาให้โครงการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังต้องการให้เป็น World Destination ดึงดูดให้คนเข้ามาเที่ยว ตึกสูงสุดไม่ใช่จุดที่ตั้งใจให้สูงสุด แต่ทำให้เป็นไอคอนนิคแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ”

Wanlapa Awc

 

โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นแฟลกชิพในรูปแบบสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ ที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของประเทศไทย และเป็นแหล่งชอปปิงริมแม่น้ำที่มีสไตล์เฉพาะตัวเป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ มีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา อาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล และไนท์บาซาร์ที่มีเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผู้พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 50,000 คนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

 

นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานสำคัญและการแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียง  เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัล Top 10 Shopping Center ประจำปี 2560 และ Top Choice Shopping Area ประจำปี 2559 จาก People’s Choice Awards โดยกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ Best Commercial Development Thailand ประจำปี 2555 จากนิตยสาร Property Report ย่าน  เจริญกรุงซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ ยังเป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในฐานะชุมชนเก่าแก่บนถนนสายแรก  ของกรุงเทพฯ ที่สร้างเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของอาคารห้องแถวที่พักอาศัย  และร้านค้าแบบดั้งเดิมเรียงรายสองข้างทาง

 

“ต่อไปเอเชียทีค จะขยายเวลาให้บริการแบบตลอดทั้งวัน หลังจากพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการเฉพาะช่วงค่ำ”

 

Awc Asiatique 2

 

 

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด