ดุสิต เรสซิเดนเซส
อัปเดต ยอดขาย ดุสิต เรสซิเดนเซส ทำได้กว่า 60% คาดสิ้นปีทะลุ 70-75% หวังต่างชาติซื้อ 35% รับเทรนด์การอยู่อาศัยคำนึงถึงสุขภาวะและสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน
นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการว่า ปัจจุบันมียอดขายเกินกว่า 60% และคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2566 จะมียอดขายราว 70-75% จากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยยอดขายล่าสุด แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 85% ต่างชาติ 15% ซึ่งคาดว่าสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะขยับเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์เดิมที่ 35% เมื่อทุกประเทศเปิดให้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ กลุ่มดุสิตธานี ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์และเอเจนท์ในหลายประเทศ รวมถึงได้มีการทำโรดโชว์สำหรับกลุ่มลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธในหลายประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างมาก โดยดุสิตฯ ยังวางแผนที่จะไปเจาะตลาดสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน ไต้หวัน รวมถึงสหรัฐอเมริกาและยุโรป ภายในปีนี้อีกด้วย
สำหรับโครงการดุสิต เรสซิเดนเซส ประกอบด้วยสองลิฟวิ่งคอนเซ็ปต์ (living concept) ได้แก่ ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ ซึ่งแนวคิดการริเริ่มโครงการนี้ เริ่มต้นมาจากการที่บริษัทให้คุณค่ากับชุมชน ต้องการสร้างที่อยู่อาศัยที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบ เพื่อบาลานซ์การใช้ชีวิตของคนเมืองที่มีทุกอย่างใกล้มือ ตัวใกล้ชิดธรรมชาติ รวมถึงมีที่อยู่อาศัยที่พร้อมด้วยการบริการแบบครบวงจร ซึ่งเป็นโครงการแบรนด์เด็ดเรสซิเดนส์ (branded residence)
นางสาวละเอียด กล่าวถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยว่า ยังเป็นที่ดึงดูดทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งดูจากสถิติแล้วแนวโน้มพฤติกรรมของต่างชาติเปลี่ยนไป จากแค่การลงทุนทำธุรกิจ มาเป็นการอยู่อาศัยระยะยาว ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมหลายด้าน อาทิ ด้านการศึกษาที่มีโรงเรียนนานาชาติหลากหลาย มีเทคโนโลยีการแพทย์ที่ก้าวหน้า บุคลากรทางการแพทย์ที่มีฝีมือ และสาธารณสุขอยู่ในลำดับแนวหน้าของเอเชีย อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพถูกกว่าหลายเท่าหากเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยหลักที่สามารถโน้มน้าวให้ต่างชาติสนใจและเข้ามาอยู่อาศัย
หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยค่อนข้างให้ความสำคัญถึงการอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดีต่อกายและใจ จนเกิดเป็นเทรนด์การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงสุขภาวะและสภาพแวดล้อมที่ดีในการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการมีโซน รูฟพาร์ค (Roof Park) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวกว่า 7 ไร่ ที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของการอยู่ในเมืองที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติได้พร้อม ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของที่พักอาศัยออกแบบที่อยู่อาศัยด้วยการคำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตั้งแต่ช่วงการออกแบบก่อนการก่อสร้าง ที่ประกอบด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น การใช้คอนกรีตรีไซเคิล การใช้ปูนฉาบที่เป็นปูนขาว ที่จะช่วยเรื่องการดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในห้อง รวมถึงการทำระบบรีไซเคิลน้ำที่ใช้แล้วมารดน้ำต้นไม้และส่งต่อถึงสวนลุม เป็นต้น
ในส่วนโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ ระดับ 6 ดาว จะพร้อมเปิดให้บริการเป็นเฟสแรกในเดือนมิถุนายน ปี 2567 บนตึกความสูง 39 ชั้น ด้วยจำนวน 257 ห้องพัก ที่ออกแบบให้ทันสมัยและใหญ่ขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็น “ดุสิตธานี” แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ดีการทำโรงแรมอย่างเดียวนั้นอาจไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและผันเปลี่ยนของคนเมืองในปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการจับมือกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาร่วมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ให้ครบครันยิ่งขึ้น โดยส่วนของออฟฟิศและศูนย์การค้าที่อาศัยความเชี่ยวชาญจากเซ็นทรัลพัฒนา จะเปิดให้บริการเป็นเฟสที่สองในช่วงปลายปี 2567 และโครงการที่พักอาศัยจะทยอยเริ่มโอนในช่วงปลายปี 2568
โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมทุนระหว่างบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริมจษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการบนพื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลม ตรงข้ามสวนลุมพินี สุดยอดทำเลดีที่สุด ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร ในโครงการประกอบด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า โดยมีรูฟพาร์ค – สวนสาธารณะบนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สีเขียวพิเศษขนาดใหญ่ 7 ไร่ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการประมาณปี 2568
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
–4 ประโยชน์อยู่บ้านใกล้ธรรมชาติ ลดโรค-ลดเครียด-เสริมพัฒนาการ-เพิ่มมูลค่า