Tag : PR

56 ผลลัพธ์
[PR News] เสนา ส่ง “เสนาคิทท์”บุก 4 โลเคชั่นจับตลาดลูกค้าเรียลดีมานด์

[PR News] เสนา ส่ง “เสนาคิทท์”บุก 4 โลเคชั่นจับตลาดลูกค้าเรียลดีมานด์

เสนา นำร่อง 4 โครงการ แบรนด์เสนาคิทท์ รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้าน จับกลุ่มลูกค้าจริง รายได้ไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท ชูจุดเด่นตั้งในทำเลใกล้แหล่งงาน นิคมอุตสาหกรรม ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์​ “เสนาคิทท์” นำร่องด้วยกัน 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทใน 4 ทำเล ได้แก่​ โครงการร่วมทุนเสนา ฮันคิว ฮันชิน จำนวน 2 โครงการ เสนาคิทท์ รังสิต – ติวานนท์  ,เสนาคิทท์ ศรีนครินทร์ - ศรีด่าน และภายใต้การพัฒนาของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำนวน 2 โครงการ เสนาคิทท์ เอ็มอาร์ที – บางแค (เฟส 2) และ เสนาคิทท์ รังสิต - คลอง 4   โดยปีที่ผ่านมาแบรนด์ เสนาคิทท์ เป็นภาพสะท้อนความสำเร็จของเสนามาอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญของแบรนด์ เสนาคิทท์ คือ  ตั้งอยู่ในทำเลใกล้แหล่งงาน ย่านนิคมอุตสาหกรรม เดินทางสะดวก  จับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มีฐานรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เดิมอาจจะเช่าหอพัก อพาร์ตเม้นท์เพื่ออยู่อาศัยใกล้แหล่งงาน คอนซูมเมอร์ เพนพอย์ของลูกค้าที่มีรายได้จำกัด การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยยุคนี้อาจเป็นเรื่องยากในการก่อจะก่อภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้น แบรนด์ “เสนาคิทท์” จึงเป็นการพัฒนาโปรดักส์ เพื่อให้เข้าถึงและเติมเต็มชีวิตของลูกค้าในกลุ่มนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตามพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละโลเคชัน สำหรับรายละเอียดของทั้ง 4  โครงการ มีดังนี้ 1.เสนาคิทท์ รังสิต – ติวานนท์   โครงการพัฒนาอยู่ติดถนนติวานนท์ เป็นคอนโดโลว์ไรซ์สูง 8 ชั้น บนเนื้อที่ 6 ไร่เศษ  จำนวน 3 อาคาร ทั้งหมด 735 ยูนิต มูลค่าโครงการ 661 ล้านบาท มีแบบห้องให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน 26 ตาราเมตร มี Walk-in Closet ในห้องนอน ส่วนอีกแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 899,000 บาท  เน้นห้องครัวกว้างติดระเบียง และแบบ 2 ห้องนอน 38 ตารางเมตร ทุกยูนิตถูกดีไซน์กั้นเป็นสัดส่วนทั้งฟังก์ชันและพื้นที่ส่วนกลางลงตัว ทั้งคลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ  Co-working space  และสวนส่วนกลาง ระบบ CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบควบคุมรถเข้า-ออก ,Key card Access และระบบลิฟต์ล็อคชั้น 2.เสนาคิทท์ ศรีนครินทร์ - ศรีด่าน โครงการอยู่ในซอยด่านสำโรง 9 ถนนสุขุมวิท 113 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) สถานีศรีด่าน เพียง 500 เมตร คอนโดโลว์ไรซ์สูง 8 ชั้น บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ จำนวน 3 อาคาร ทั้งหมด 645 ยูนิต มูลค่าโครงการ 708 ล้านบาท มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน 22 ตารางเมตร  แบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอนพลัส 33 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน 43 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 999,000 บาท  เฟอร์นิเจอร์ครบ และพื้นที่สวนกลาง ทั้งคลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ  Co-working space  และสวนส่วนกลาง  ระบบ CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบควบคุมรถเข้า-ออก ,Key card Access และระบบลิฟต์ล็อคชั้น 3.เสนาคิทท์ เอ็มอาร์ที – บางแค (เฟส 2) โครงการอยู่ในซอยถนนเทิดไท ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางแค พัฒนาเป็นคอนโดโลว์ไรซ์สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 378 ยูนิต บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 393 ล้านบาท มีแบบห้องให้เลือก 5 แบบ คือ แบบ A 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร แบบ B 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร แบบ C 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร  แบบ D 2 ห้องนอน 34.5 ตารางเมตร และแบบ E 2 ห้องนอน 35 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 1.05 ล้านบาท   กั้นห้องเป็นสัดส่วน  พร้อม Walk-in Closet  พื้นที่ส่วนกลางมีคลับเฮ้ส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ 4.เสนาคิทท์ รังสิต - คลอง 4 โครงการติดถนนใหญ่ลำลูกกาคลอง 4 ใกล้ Market Village คอนโด สูง 5 ชั้น จำนวน 8 อาคาร รวม 343 ยูนิต เนื้อที่โครงการ 4ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 315 ล้านบาท ขนาดเริ่มต้น 26 ตรม. 1 ห้องนอน ราคาเริ่ม 899,000 บาท  กั้นห้องเป็นสัดส่วน มีพื้นที่แต่งตัวด้วยฟังก์ชั่นใหม่ "Walk- In Closet" ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมบริการหลังการขายบนแพลตฟอร์ม "SENA 360 Application"  
[PR News] งานออกแบบฟาซาด 3 มิติ สะท้อนเสน่ห์อาคารคอนกรีตยุคก่อน จากนวัตกรรมงานก่อสร้าง “CPAC 3D PRINTING SOLUTION”  

[PR News] งานออกแบบฟาซาด 3 มิติ สะท้อนเสน่ห์อาคารคอนกรีตยุคก่อน จากนวัตกรรมงานก่อสร้าง “CPAC 3D PRINTING SOLUTION”  

 “CPAC 3D Printing Solution” นวัตกรรมการก่อสร้าง 3 มิติ จาก CPAC Green Solution เป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างสรรค์ที่ถูกนำมาร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงาน “Bangkok Design Week 2022” (BKKDW2022) ณ บริเวณที่ว่าการไปรษณีย์กลาง โซนเจริญกรุง-ตลาดน้อย ภายใต้ชื่อ “3D Concrete Printing Pavilion – Design Possibility With A Façade” โดยเป็นการพิมพ์ตัวฟาซาด 3 มิติ สะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ของอาคารคอนกรีตในสมัยก่อนได้อย่างสวยงามและมีมิติโดดเด่นด้วยเส้นสายที่เรียงเป็นแพทเทิร์นต่อกันเป็นชั้นๆ พร้อมนำเสนอออกมาในรูปแบบพาวิลเลียน ผ่านกระบวนการก่อสร้างแบบ “Turn Waste to Value” ซึ่งเป็นการผลิตก่อนนำมาติดตั้ง  โดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม เรียกว่าเป็นการสร้างผลประโยชน์คืนกลับสู่สังคม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Go Green) ตามแนวทาง ESG 4 Plus ของ SCG คือ มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ – Plus เป็นธรรม โปร่งใส ตอกย้ำแนวคิด CPAC Green Solution ได้เป็นอย่างดี!   งานออกแบบฟาซาด 3 มิติ สะท้อนเสน่ห์อาคารคอนกรีตยุคก่อน จากนวัตกรรมงานก่อสร้าง “CPAC 3D PRINTING SOLUTION”  “CPAC 3D Printing Solution” เป็นนวัตกรรมการก่อสร้าง 3 มิติ จาก CPAC Green Solution ซึ่งใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในเรื่องการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างด้วยการใช้เครื่องจักร 3D Printer สามารถปริ๊นท์ขึ้นรูปผนังอาคารพื้นที่มากกว่า 150 ตารางเมตร ในระยะเวลา 7 วัน เป็นการลดระยะเวลาก่อสร้างลง 66% ลดการใช้แรงงานน้อยลง 50% ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทย และยังนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คอนกรีตตกแต่งอื่นๆ ได้ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างสรรค์ทั้งในเรื่องของการก่อสร้าง (Construction) และการตกแต่ง (Decorate) ที่นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังตอบโจทย์เหล่าดีไซเนอร์และนักออกแบบยุคใหม่ให้สามารถสร้าง Material ของตัวเองได้แบบไร้ขีดจำกัด สำหรับ “3D Concrete Printing Pavilion – Design Possibility With A Façade” เป็นผลงานการออกแบบโดย นายพิพิธ โค้วสุวรรณ Design Director แห่ง Salt and Pepper Studio ซึ่งเผยว่า “ด้วยเจตนารมณ์แรกที่มีความสนใจในตัวนวัตกรรม CPAC 3D Printing Solution ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานของเหล่านักดีไซเนอร์อยู่แล้ว จึงมีแนวคิดที่อยากจะนำคอนกรีตของซีแพค มาออกแบบเป็นตัวฟาซาด เน้นเส้นสายที่เรียงเป็นแพทเทิร์นต่อกันเป็นชั้นๆ และนำเสนอออกมาในรูปแบบพาวิลเลียน เพื่อดึงดูดสายตาให้คนเข้ามาชมผลงาน   “ทั้งนี้ การยกนวัตกรรม “CPAC 3D Printing Solution” มาร่วมจัดแสดงในงาน งานนิทรรศการออกแบบ “Bangkok Design Week 2022” ในปีนี้ ซึ่งมาในธีม ‘Co With Creation คิด สร้าง ทางรอด’ เป็นการตอบโจทย์ทั้งในแง่ของ Co With Eco นวัตกรรมการออกแบบแห่งอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, Co With Culture สะท้อนแนวคิดการออกแบบงานสถาปัตยกรรม เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้วในกรุงเทพ แนวคิดในการใช้อาคาร การรื้อฟื้นอาคาร คอนกรีตให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งได้ และสุดท้ายคือ Co With Futureความรู้สึกว่าเราอยู่ในจุด Future is Now! เพราะโลกอนาคตก็คือปัจจุบัน การสร้างสรรค์งานออกแบบเพื่อต่อยอดวิถีชีวิตยิ่งต้องคิดให้ล้ำ” “การตีโจทย์ของการออกแบบตัวฟาซาดครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดของทางซีแพคเอง ซึ่งเป็นลักษณะของ โมดูล่าร์ นำมาต่อกันจนเกิดเป็นรูปแบบฟาซาดที่มีแพทเทิร์นหลากหลายและยังคงมีมิติและมีเสน่ห์ของชั้นคอนกรีตที่เรียงต่อกันเป็นชั้นๆ โดยลักษณะของฟาซาดคอนกรีตที่สร้างด้วย “CPAC 3D Printing Solution” เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ขนาด 4.65 x 2.6 เมตร สูง 3.50 เมตร ซึ่งเป็น Scale ที่ถูกลดลงมาเพื่อความปลอดภัยในเรื่องความสูงของโครงสร้าง เนื่องจากเป็นอาคารที่จะจัดแสดงอยู่บนโครงสร้างชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ตัวผลงานฟาซาด ได้ใช้ระยะเวลาในการพิมพ์เพียง 3 วัน เท่านั้น ก่อนนำมาติดตั้งบริเวณหน้างานโดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 วัน เป็นการลดระยะเวลาการทำงาน ลดการก่อสร้างที่ไม่เหลือ Waste ลดการใช้วัสดุและทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี CPAC 3D Printing Solution มีศักยภาพที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีรูปทรงซับซ้อน และสามารถนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนได้”    ร่วมค้นหาแรงบันดาลใจในนิทรรศการงานออกแบบ “Bangkok Design Week 2022” ระหว่างวันที่ 5- 13 ก.พ.นี้ โดย “CPAC 3D Printing Solution” จะจัดตั้งอยู่บริเวณที่ว่าการไปรษณีย์กลาง โซนเจริญกรุง-ตลาดน้อย พร้อมด้วยโปรแกรมจากนักออกแบบที่น่าสนใจอีกมากมาย กระจายตัวไปบนพื้นที่ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ถึง 5 ย่าน ได้แก่ เจริญกรุง - ตลาดน้อย, สามย่าน, อารีย์ - ประดิพัทธ์, ทองหล่อ – เอกมัย, พระนคร และสามารถรับชมผ่านช่องทางออนไลน์ได้   บทความที่เกี่ยวข้อง Bangkok Design Week 2022 กรุงเทพฯ เมืองสร้างสรรค์ ก่อผนัง.. ต้องใช้วัสดุเท่าไหร่? คำนวนได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง    
Ozone ดีๆ มีที่รังสิต คลอง3 – ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง3 [VDO]

Ozone ดีๆ มีที่รังสิต คลอง3 – ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง3 [VDO]

Ozone ดีๆ มีที่รังสิต คลอง3 - ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง3 Review Your Living ครั้งนี้ เราจะพาไปสูดโอโซนให้เต็มปอดกันที่ "ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง3" โครงการทาวน์โฮมสดใส สไตล์ Modern Botanical จาก บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมาพร้อม Ozone Garden ให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติตลอด 365 วัน เพิ่ม Flexi Function สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามใจ ตอบรับกับวิถีชีวิตใหม่ ท่ามกลางทําเลศักยภาพ ที่ตอบโจทย์ Generation-C อย่างไร้ขีดจํากัด เพียบพร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม อาทิ สโมรสร พร้อมฟิตเนส สระว่ายนํ้า , Pets Zone และสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ มั่นใจเรืองความสะอาดปลอดภัยในการใช้บริการ     แบบของบ้านโครงการ ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง3 มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ซึ่งดีไซน์มาในสไตล์ Modern Botanical พร้อมกับฟังก์ชันภายในบ้าน ที่เรียกว่า Flexi Function ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องแต่งตัว หรือแม้แต่ห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย ก็สามารถเลือกปรับได้ทุกรูปแบบ   Bloom : 2 ห้องนอน 1ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องนํ้า 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 92 ตร.ม. เริ่มต้น 17 ตร.ว.   Blossom : 3 ห้องนอน 1ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องนํ้า 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. เริ่มต้น 18.4 ตร.ว.   ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย เข้าออกได้ทั้งฝั่งถนนรังสิต-นครนายก และถนนคลองหลวง แถมยังมีทางด่วนอุตราภิมุขอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ ยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห้างสรรพสินค้า และตลาด •ตลาดพระยาสมาน 1.2 กม •Big c คลอง3 1.7 กม •ตลาดพาเจริญ 2 กม •Future Park รังสิต 8.2 กม. •Zpell 8.4 กม. •ตลาดรังสิต 8.4 กม. สถาบันการศึกษา •รร. สีวลีคลองหลวง 1.6 กม. •รร. นานาชาติสยาม 3.6 กม. •รร. สวนกุหลาบวิทยาลัย 4.9 กม. •ม.กรุงเทพ 11.1 กม. •ม.อีสเทิร์นเอเชีย 11.5 กม. •ม.ธรรมศาสตร์ 11.6 กม. •ม.ราชมงคลธัญบุรี 12.6 กม. •ม.รังสิต 14.1 กม. โรงพยาบาล •รพ. บางปะกอกรังสิต 6.4 กม. •รพ. เปาโลรังสิต 8.5 กม. •รพ. ปทุมเวช 10.3 กม. •รพ. แพทย์รังสิต 10.5 กม. •รพ. ธัญบุรี 10.6 กม. •รพ. ธรรมศาสตร์ 11.9 กม.   ทั้งหมดนี้ เปิดให้จับจองแล้วในราคาเริ่มต้น 1.99-2.69 ล้านบาท สนใจติดต่อ Tel. 086-3258839  หรือ https://www.facebook.com/MunkongFamily   โครงการอื่นที่น่าสนใจ ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง 1 ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ (ชวนชื่น) ปทุมธานี    
[PR News] “EZVIZ” รุ่น C6W คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านแห่งปี จาก  “IoT Innovator Award 2021”

[PR News] “EZVIZ” รุ่น C6W คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านแห่งปี จาก “IoT Innovator Award 2021”

ผลิตภัณฑ์กล้องสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ อีซี่วิซ  รุ่น “C6W” สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ และเป็นผู้ชนะประเภท Home Automation เพียงผู้เดียว จากเวทีการประกวด “IoT Innovator Award 2021” ที่จัดขึ้นโดย Compass Intelligence บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยด้านการตลาด IoT จากสหรัฐฯ เพื่อยกย่องให้กล้องวงจรปิดภายในบ้าน EZVIZ C6W เป็นสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฮมโซลูชั่นอัจฉริยะภายในบ้านที่ดีที่สุด   จากความโดดเด่นด้านการผสานมิติแห่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีสไตล์ เข้ากับเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดแบบฟลูฟังก์ชั่น (Full Fuction) ขับเคลื่อนด้วยระบบเอไอเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพิ่มความสามารถซูมอัตโนมัติสูงสุด 4 เท่าเมื่อตรวจพบความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ พร้อมคุณภาพวีดิโอ 2K (4 ล้านพิกเซล) ที่คมชัดทุกรายละเอียด ปรับหมุนได้ทั้งแนวตั้ง 340° และแนวนอน 75° (Pan and tilt camera) ไร้สายติดตั้งง่าย ควบคุมและสั่งผ่านได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่าน EZVIZ App และฟังก์ชั่น “การสื่อสารสองทาง” ที่ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงมาในตัว และสามารถจัดการกล้องผ่านสมาร์ทโฟน ​    
[PR News] เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม เปิดตัวแอปพลิเคชั่น HOME+ ผู้ช่วยเรื่องบ้านตัว 24 ชม.

[PR News] เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม เปิดตัวแอปพลิเคชั่น HOME+ ผู้ช่วยเรื่องบ้านตัว 24 ชม.

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม  เปิดตัว แอปพลิเคชั่น HOME+ (โฮมพลัส)  ผู้ช่วยเรื่องบ้านที่รู้ใจอยู่ใกล้ตัวตลอด 24 ชั่วโมง HOME+  ฟังก์ชั่นพิเศษสะสมคะแนน เพื่อแลกสิทธิพิเศษ ของรางวัลฟรี   นายรองฤทธิ์ ธรรมสถิต ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานสนับสนุนโครงการที่อยู่อาศัย 1 บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าได้เปิดตัว HOME+ (โฮมพลัส) แอปพลิเคชั่นใหม่ เหมือนมีผู้ช่วยเรื่องบ้านตลอด 24 ชั่วโมง  ฟังก์ชั่นพิเศษสะสมคะแนน เพื่อแลกสิทธิพิเศษ ของรางวัลฟรีและส่วนลดมากมาย  รวมถึงผู้สนใจสามารถจอกคิวนัดเข้าชมโครงการได้ เมื่อแวะชมโครงการก็ยังสะสมคะแนนได้อีก และสำหรับลูกบ้านของบริษัท แอปนี้ก็ตัวช่วยดูแลบริการหลังการขาย แจ้งซ่อม ตรวจสอบสถานะ ติดตามและประเมินผลงาน รวมถึงรับข่าวสารสิทธิพิเศษต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกด้วย โดยพร้อมเปิดตัวแอปในวันที่ ​​ 21 ธันวาคม นี้   ฟังก์ชั่นพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์ของทุกคน HELPMATE เหมือนมีผู้ช่วยที่รู้ใจ สำหรับทุกคนที่อยากมีบ้านหรือสนใจในการดูแลบ้าน เหมือนมีมืออาชีพคอยแนะนำ ในการเลือกบ้านให้ตรงตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของทุกคน PRIVILEGE สิทธิพิเศษมากมาย เป็นความพิเศษที่แตกต่างจากแอปพลิเคชั่นอื่น ช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตให้เต็มความสุขกับการสะสมคะแนนฟรีๆ เพื่อแลก สิทธิพิเศษ ของรางวัล  หรือ ส่วนลด จากสินค้าและบริการมากมาย อาทิ ร้านอร่อยจาก Oishi, Shabushi, MK, Swensen’s, After You, Auntie Anne’s, Chabuton, Krispy Kreme, Dairy Queen, Gram Café&pancakes, BAR.B.Q Plaza, GAGA, Kamu, Squeeze หรือบริการจากร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ อย่าง The Okura Prestige Bangkok, Holiday Inn Express, Marriott Executive Apartments Mayfair Bangkok, W Bangkok, Modena, Triple Y,  Melia Koh Samui, Sheraton Samui Resort ช้อปสบายกับสินค้าและบริการที่ถูกใจสบายกระเป๋า กับ Grand Home Mart, NocNoc Com, 24 Fix, อาคเนย์ประกันชีวิต และ Shopee เป็นต้น LIFESTYLE สาระน่ารู้ ใช้ชีวิตให้มีความสุข กับข้อมูลข่าวสาร สาระน่ารู้เพื่อการอยู่อาศัย ที่คัดสรรมาเพื่อทุกคน บริการพิเศษและกิจกรรมต่างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัวได้อย่างแท้จริง SERVICE บริการสำหรับลูกบ้าน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ที่เป็นตัวช่วยดูแลบริการหลังการขาย แจ้งซ่อม ตรวจสอบสถานะ ติดตามและประเมินผลงาน รวมถึงรับข่าวสารสิทธิพิเศษต่างๆ  
[PR News] LET เดินหน้าลดอาชญากรรม จับมือ บขส. ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมเทคโนโลยี AI สถานีหมอชิต

[PR News] LET เดินหน้าลดอาชญากรรม จับมือ บขส. ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมเทคโนโลยี AI สถานีหมอชิต

LET เดินหน้าลดอาชญากรรม จับมือ บขส. ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมเทคโนโลยี AI สร้างความปลอดภัยในสถานีขนส่งหมอชิต ขณะเดียวกันมอบรถโมบายศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าเคลื่อนที่ต้นแบบ ให้ตำรวจภูธรภาค 5 เสริมงประสิทธิภาพการทำงาน เติมเต็มโครงการสมาร์ท ซิตี้   นายยุทธพร จิตตเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ล็อกซเล่ย์ อีโวลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด หรือ LET เปิดเผยว่าบริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ให้นำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาใช้บูรณาการภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) จตุจักร เพื่อแก้ไขปัญหากลุ่มมิจฉาชีพก่อคดีลักทรัพย์ หลอกลวง สร้างความเดือดร้อน แก่ผู้โดยสารภายในสถานีฯ และเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมสู่การเป็น SMART Station (Modern Bus) ตามนโยบาย Smart Digital Transport ของ บขส. หัวใจหลักของระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ทันสมัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสามารถบูรณาการเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย โดยบริษัทได้ดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV คุณภาพสูงจำนวนมากภายในสถานีขนส่งหมอชิต ผสานเข้ากับเทคโนโลยี AI ระบบวิเคราะห์ใบหน้า (Face Recognition) ระบบจดจำป้ายทะเบียน และระบบตรวจนับจำนวนคน (People Counting ) ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยี AI เหล่านี้ ทางบริษัทได้นำเข้ามาบูรณาการ ได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Security ทำให้สามารถลดจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งระบบ AI ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ จะถูกส่งข้อมูลมาที่ห้องปฏิบัติการ Single Command Control Center ของ บขส. คอยดูแลและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบริหารจัดการด้านความปลอดภัยภายในสถานีขนส่งหมอชิตแบบเรียลไทม์ และสามารถทำรายงานสรุปรวมถึงแสดงผลเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้บริหารรับทราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผลงานที่ผ่านมาระบบ AI ที่บริษัทเลือกมาใช้  สามารถติดตามจับกุมมิจฉาชีพและลดปัญหาการเกิดอาชญากรรมภายในสถานีขนส่งหมอชิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ กรณีจับคนร้ายลำเลียงยาเสพติดบริเวณสถานีขนส่ง กรณีจับผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด 4 จุดระหว่างเดินทางหลบหนีที่สถานีขนส่ง กรณีจับกุมโชเฟอร์แท็กซี่ล่อลวงผู้โดยสารบริเวณลานจอดรถสถานีขนส่ง รวมถึงกรณีจับมิจฉาชีพลักทรัพย์ผู้โดยสารภายในสถานีขนส่งได้หลายราย ซึ่งสร้างความอุ่นใจด้านความปลอดภัยให้ผู้เดินทางเป็นอย่างมาก   นอกจากงานด้านความปลอดภัยในสถานีขนส่งหมอชิตแล้ว บริษัทยังได้ร่วมสนับสนุน "ระบบบูรณาการรักษาความปลอดภัยของตำรวจภูธรภาค 5" ซึ่งเป็นระบบสำคัญในโครงการสมาร์ท ซิตี้ (Smart City) ที่เป็นการบูรณาการร่วมกัน 5 หน่วยงานทางภาคเหนือ ภายใต้การนำของตำรวจภูธรภาค 5 โดยล่าสุดบริษัทได้ส่งมอบรถโมบายศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าเคลื่อนที่ต้นแบบ (Mobile Incident Command Post) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและสั่งการได้จากศูนย์ปฏิบัติการเคลื่อนที่เสมือนห้องควบคุมหลักเพื่อรับมือสถานการณ์นอกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
[PR News] AWC ทุ่มงบ 435 ล้าน ซื้อ “ดุสิต ดีทู เชียงใหม่”  ผนึกกำลัง “กลุ่มดุสิตธานี” เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือ

[PR News] AWC ทุ่มงบ 435 ล้าน ซื้อ “ดุสิต ดีทู เชียงใหม่” ผนึกกำลัง “กลุ่มดุสิตธานี” เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือ

AWC เดินหน้าเสริมพอร์ตโฟลิโอ รับการฟื้นตัวอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคเหนือ ทุ่มงบ 435 ล้านเข้าซื้อโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ จาก “ดุสิตธานี พร็อพเพอร์ตี้ส์ รีท”​​​ หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคเหนือในช่วงปลายปี วางเป้าหนึ่งจุดหมายสำคัญสำหรับนักเดินทางทั่วโลก   นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์  คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ AWC เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ทรัพย์ ทีซีซี โฮเทล เชียงใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ  AWC เข้าซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจาก บริษัท ดุสิตธานี พร็อพเพอร์ตี้ส์ รีท จำกัด ด้วยงบลงทุน 435 ล้านบาท ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ขนาด 130 ห้องพัก ตั้งอยู่บนถนนช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับ “เชียงใหม่ ไนท์บาซาร์” แหล่งช้อปปิ้ง และศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านค้าชื่อดังใจกลางเมือง ทั้งยังอยู่ใกล้กับโรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจากทาง AWC ทั้งนี้ เมื่อบวกกับศักยภาพของทำเล ที่มีทั้งศิลปะวัฒนธรรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ความบันเทิง ประวัติศาสตร์ แหล่งพบปะ การประชุมสัมมนา ที่พัก ถนนคนเดิน จะทำให้ถนนช้างคลาน กลายเป็นถนนสายท่องเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดยบริษัทมีแผนเชื่อมการให้บริการแบบไร้ขีดจำกัดเพื่อรองรับตลาดของนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยรุ่น และนักธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ AWC สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ครบทุกเซกเมนต์ เพื่อผลักดันจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญ ในการต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก   นางวัลลภา กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือกันระหว่าง AWC และกลุ่มดุสิตธานี เครือโรงแรมระดับตำนานของไทย ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานเพื่่อยกระดับการท่องเที่ยวและเสริมศักยภาพการเชื่อมต่อของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของ AWC เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว โดยหลังจากที่รัฐบาล มีนโยบายเปิดประเทศพร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการการท่องเที่ยวภายในประเทศสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ของภาคเหนือ ที่เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อ ทั้งนี้ บริษัท ดุสิตธานี พร็อพเพอร์ตี้ส์ รีท จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) ได้มีมติขายโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ (D2CM) ให้กับบริษัท ทรัพย์ ทีซีซี โฮเทล เชียงใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ  AWC มูลค่า 435 ล้านบาท โดยกองทรัสต์จะจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ เพื่อพิจารณาอนุมัติมติดังกล่าวในวันที่ 27 มกราคม 2565   โดยหลังจากดำเนินการทำสัญญาซื้อขายเรียบร้อยแล้ว กลุ่มดุสิตธานีจะยังคงบริหารงานโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ต่อเนื่องเพื่อต้อนรับการกลับของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ที่เริ่มคืนกลับสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น โดยมั่นใจว่าความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะสามารถตอบโจทย์การเดินทางของกลุ่มนักเดินทางที่ต้องการพักในทำเลย่านใจกลางเมืองที่สะดวกสบายต่อการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ หรือแหล่งธุรกิจต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ โดย AWC มีแผนจะพัฒนาโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ให้เป็นหนึ่งในพอร์ตโฟลิโอ คุณภาพที่สามารถเชื่อมโยงกับโครงการคุณภาพต่างๆ ในเชียงใหม่และในเครือทั่วประเทศต่อไป