Tag : review condo

336 ผลลัพธ์
Silk Phaholyothin 9 : รีวิวคอนโด

Silk Phaholyothin 9 : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปดูโครงการ Silk Phaholyothin 9 คอนโดมิเนียม Low Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในซอยพหลโยธิน 9 หนึ่งในทำเลที่อยู่ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ และสะพานควาย และมีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนอาศัยด้วย   การเดินทาง ตัวโครงการ Silk Phaholyothin 9 ตั้งอยู่ลึกเข้ามาในซอยพหลโยธิน 9 อีกประมาณ 400 เมตร และถ้านับจากปากซอยไปยังสถานีรถไฟฟ้า ก็อยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้าอารีย​์และสะพานควายพอดี เพียงแต่ถ้าเลือกลงที่สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ แล้วขึ้นรถต่อมายังโครงการก็จะสะดวกและง่ายกว่า เพราะเลือกได้ทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้ ถ้าอยากออกกำลังกายก็ออกแรงเดินกันได้เลยครับ ระยะเดินเรียกเหงื่อได้กำลังดี เพราะอากาศบ้านเราแดดร้อนได้ที่ แต่จริงๆ แล้วทางเดินในซอยพหลโยธิน 9 ก็ร่มรื่นดีนะครับ ถนนในซอยมีรถผ่านเข้าออกมากหน่อยเนื่องจากเป็นซอยที่เชื่อมต่อไปได้ทั้งซอยพหลโยธิน11 ถนนประดิพัทธ์ ซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) หรือจะออกพระราม 6 หนีไปขึ้นทางด่วนก็ได้เช่นกัน และถ้าออกไปตรงแยกสะพานควาย ก็เลี้ยวไปสุทธิสาร ออกถนนวิภาวดีรังสิตได้ด้วย ดังนั้นถ้าใครที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลักก็ถือว่าสะดวกดีใช้ได้เลยทีเดียว เว้นเสียแต่ปัญหารถติดบนถนนรอบๆ บริเวณนี้ที่ติดหนักเอาเรื่อง ยิ่งในช่วงเช้าและเย็นนี่ปริมาณรถแน่นขนัดติดยาวหายห่วงไปเลย ดังนั้นเส้นทางลัดเลาะในซอยแถบนี้จึงค่อนข้างจำเป็นครับ เอาไว้หนีช่วงเวลารถติดหนัก ส่วนถ้าใครเลือกจะใช้บริการรถสาธารณะ ระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็มีรถเมล์ผ่านบนถนนพหลโยธินหลายสายมากๆ ป้ายรถเมล์ก็อยู่ถัดไปตรงหน้าตึกชินวัตร 2 เลยปากซอยพหลโยธิน 9 ไปนิดเดียวเอง แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS นะครับ มาลงที่สถานีอารีย์ ถึงอารีย์แล้ว ถ้าหันหน้าไปทางสะพานควาย ด้านขวามือจะเห็น La Villa อารีย์ คอมมูนิตี้ มอลล์ เล็กๆ ที่รวมร้านอาหาร ร้านค้า ต่างๆ เราจะลงทางออกที่ 3 ฝั่งซอยอารีย์นะครับ ทางออกที่ 4 จะลงฝั่ง La Villa อารีย์ จากนั้นเราเดินต่อไปทางสะพานควาย ผ่านซอยอารีย์ ถ้าเดินไม่ไหว จะมีวินมอไซค์ไว้คอยให้บริการอยู่ตรงปากซอยอารีย์เพียบเลยครับ ฟุตบาททางเดินกว้างขวางเดินได้สะดวกดีครับ แถวนี้จะมีอาคารสำนักงานและหน่วยงานราชการอยู่หลายที่เลยนะครับ เลยจาก BTS มานิดเดียวจะเห็นอาคาร IBM อยู่ฝั่งตรงข้าม ติดกับอาคาร IBM จะเป็นธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน เดินมาอีกจะเจอกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อาคารพหลโยธิน เพลส และอาคารชินวัตร 1 อยู่หน้าปากซอยพหลโยธิน 8 2 ข้างทางมีต้นไม้เขียวขจีดูร่มรื่นดีครับ ถ้าอากาศไม่ร้อนจนละลายก็น่าเดินอยู่นะ ถัดมาอีกหน่อยจะเจอโรงพยาบาลประสานมิตร หรือโรงพยาบาลปอดกรุงเทพ เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วล่ะครับซอยพหลโยธิน 9 มี 7-11 อยู่ปากซอยให้ได้ฝากท้องกันด้วย อีกฝั่งจะเป็นอาคารชินวัตร 2 ตอนเราไปทำการรีวิวเป็นช่วงบ่ายๆ รถก็เริ่มติดกันแล้วนะครับ อาคาร EVS อยู่ตรงข้ามกับอาคารชินวัตร 2 มีร้านขายอาหารสำหรับชาวออฟฟิศแอบอยู่ข้างๆ ตึก ภายในซอยเงียบสงบดีครับ รถราไม่ค่อยมีวิ่งพลุกพล่านเท่าไหร่ เนื่องจากซอยนี้เป็นซอยตัน ซอยชำนาญอักษร ซอยนี้สามารถลัดเลาะไปเข้าซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ เพื่อไปออกซอยพหลโยธิน 7 หรือซอยอารีย์ได้ ถึงแล้วครับ Silk Condo อยู่ด้านซ้ายมือ พอเรามาถึงคอนโด ฝนก็เทลงมาพอดี ที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคารเลยนะครับ วิเคราะห์รอบโครงการ เรามาดูบรรยากาศพื้นที่รอบๆ โครงการกันดูบ้าง เริ่มจากทางฝั่งอารีย์ พอลงสถานีรถไฟฟ้ามาก็จะพบกับความอุดมสมบูรณ์ขั้นสุด เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต แหล่งช๊อปปิ้ง ตั้งแต่ร้านแบกะดิน ร้านฮิปๆ อินเทรนด์ ไปจนถึงร้านหรูหราไฮโซ (คลิกไปดูรีวิวทำเลแถบซอยอารีย์ได้ที่นี่ครับ) เลือกเอาได้ตามสไตล์เลยครับ เช่นเดียวกันกับทางฝั่งสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย ความอุดมสมบูรณ์ก็ไม่แพ้กันเลย ด้วยความเป็นย่านชุมชนเก่าด้วย ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดกิจการกันมานานก็เยอะ ร้านใหม่ๆ ไม่น้อย อยู่ย่านนี้ไม่ต้องกลัวอดครับ นอกเหนือจากเรื่องอาหารการกินที่เราสามารถฝากท้องไว้ได้แล้ว เรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ ก็ครับครันไม่แพ้กัน บริเวณนี้มีโรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลเฉพาะทาง รวมถึงหน่วยงานราชการ อาคารสำนักงานใหญ่ๆ สถาบันการเงิน และสถาบันศึกษาก็รายล้อมอยู่รอบๆ บริเวณนี้ด้วย ยิ่งถ้าใครที่ต้องทำงานในย่านนี้อยู่แล้วก็ยิ่งเหมาะมากๆ เพราะคงคุ้นชินกับพื้นที่ดีว่าอะไรอยู่ตรงไหน ต้องหาเส้นทางเลี่ยงรถติดยังไง เป็นต้น พอขยับเข้ามาใกล้ที่ตั้งโครงการอีกหน่อย ก็จะเห็นว่าบริเวณปากซอยพหลโยธิน 9 มีบรรยากาศคึกคักมากๆ โดยเฉพาะในช่วงกลางวันของวันทำงาน เพราะตรงปากซอยมีอาคารชินวัตร 2 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ตอนพักกลางวันคนจะเยอะมากๆ ร้านอาหารรถเข็นแผงลอยจึงมีให้เห็นเพียบ โดยเฉพาะช่วงปากซอยจะมีรถเข็นขายอาหารเรียงรายกันยาวเหยียด แต่พอช่วงบ่ายแก่ๆ ก็จะเริ่มทยอยเก็บร้านกันแล้ว เหลือก็แต่ร้านสะดวกซื้อตรงปากซอยที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นทีพึ่งพายามฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี บรรยากาศในซอยพหลโยธิน 9 โดยรวมแล้วค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยดีที่เดียว เพราะท้ายซอยนี้เป็นซอยตัน แต่ช่วงกลางๆ ซอยจะมีซอยแยกเชื่อมไปออกซอยอารีย์ ซอยพหลโยธิน 11 และถนนประดิพัทธ์ได้ครับ พอเลยช่วงนี้ไปแล้วในซอยก็จะเงียบขึ้นมาทันตา ซึ่งโชคดีที่ Silk Phaholyothin 9 ตั้งอยู่ค่อนไปทางท้ายซอย ลูกบ้านจึงวางใจได้ว่าจะไม่ค่อยมีเสียงรถราดังรบกวนเวลาพักผ่อน อีกทั้งรอบๆ โครงการก็ยังเป็นบ้านเดี่ยวเก่าแก่เกือบทั้งหมด เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการบังวิวห้องพัก เว้นแต่ห้องบนชั้น 2-3 เท่านั้นที่อาจจะถูกบ้านติดๆ โครงการบังวิวมากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ตำแหน่งห้องที่ต้องไปลองเลือกจากห้องจริงกันอีกทีครับ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการก็จัดสรรมาให้ครบถ้วนทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสตรีมแยกชายหญิง และสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนในบริเวณชั้น 1 โซนด้านหลังของโครงการ โดยที่เวลาใช้งานลูกบ้านจะต้องลงจากลิฟท์ เดินผ่านล็อบบี้ก่อนมาออกประตูอีกด้าน จึงอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร แต่ในขณะเดียวกันขนาดของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางก็ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป น่าจะพอเหมาะกับการใช้งานของลูกบ้านทั้งหมด เหมือนกันกับพื้นที่จอดรถภายในอาคาร ที่ทางโครงการแจ้งไว้ว่าสามารถจอดได้มากถึง 60% ของจำนวนห้องเลยทีเดียว รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานตลอด 24 ชั้วโมง ทั้งกล้อง CCTV และ ระบบ Key Card Access มาเราดูที่แปลนอาคารกันต่อ เริ่มจากชั้น 1 Facility ของโครงการจะรวมกันอยู่ชั้น 1 ทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และห้องสตรีม โดยส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถและ Lobby ที่จอดรถจะมี 2 ชั้นนะครับ คือที่ชั้น 1 และชั้นใต้ดิน ส่วนของห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไป มีทั้งหมด 13 ยูนิต โดยชั้น 2 จะถูกส่วนของ Facility กินพื้นที่ขึ้นมาถึงชั้น 2 ด้วย แต่ไม่สามารถเข้าจากชั้น 2 ได้นะครับ ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ชั้นละประมาณ 16 ยูนิต เรามาดูสถานที่จริงกันเลยดีกว่าครับ ว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง ตรงนี้จะเป็นที่จอดรถบริเวณชั้น 1 จากลานจอดรถจะมีประตูเข้าตัวอาคาร ต้องใช้คีย์การ์ดด้วยนะครับ จะมีลิฟท์ไว้ให้บริการ 2 ตัว ทางเข้าอีกทางจะผ่านทาง Lobby Mailbox จะอยู่ที่บริเวณ Lobby ติดกับ Mailbox จะเป็นประตูทางเข้า ตรงนี้ต้องใช้คีย์การ์ดเข้าด้วยนะครับ มองตรงผ่าน Lobby ไปด้านหลัง จะเป็น Facility ของโครงการ ใครจะไปใช้ Facility ก็ต้องลงมาที่ชั้น 1 ก่อนนะครับ ประตูทางออกไป Facility ขึ้นบันไดมาแล้วจะเจอกับสระว่ายน้ำ มีสวนหย่อมเล็กๆ อยู่ต่อจากสระว่ายน้ำ ข้างๆ สระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำชาย หญิง ด้านในจะมีห้องอาบน้ำให้ด้วยนะครับ ห้องสตรีมจะอยู่ในห้องน้ำ มีเหมือนกันทั้งห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิง ใกล้ๆ กันจะเป็นห้องฟิตเนส ซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดเข้าเหมือนกัน บรรยากาศในห้องฟิตเนส มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำ พาชมห้องตัวอย่าง อย่างที่บอกไปแล้วว่า Silk Phaholyothin 9 สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว เราจึงมีโอกาสได้ชมห้องตัวอย่างในอาคารจริง ทำให้เห็นบรรยากาศต่างๆ ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่ง Layout ของห้อง 1 Bedroom ก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับห้องครัวเปิดที่มาพร้อมกับชุดเคาน์เตอร์ครัว ถัดเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นพื้นที่ของ Living Area ติดกับระเบียง พื้นที่ตรงส่วนนี้สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกตามสไตล์ของเจ้าของห้องเลย ซึ่งคนที่มีสไตล์การตกแต่งในใจอยู่แล้ว พื้นที่ตรงนี้ก็จัดได้อย่างเต็มที่เลยครับ ส่วนของห้องนอนจะแยกออกไปเป็นสัดส่วน ใช้ผนังกั้นห้องพร้อมประตูบานสวิงเรียบร้อย ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าประตูกระจกบานเลื่อน พื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนก็กระทัดรัดกำลังดี วางเตียง 5 ฟุตลงไปแล้วก็เหลือที่พอสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าอีกด้วย เช่นเดียวกันกับห้องน้ำที่มีชุดสุขภัณฑ์มาพร้อม ลองไปดูรูปภายในห้องแบบใกล้ๆ กันเลย ช่วงนี้ทางโครงการจัดโปรโมชั่นพิเศษ แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อีก 4 รายการ ประกอบด้วย ทีวี, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า สเปคตามที่โชว์ในห้องตัวอย่างเลยนะครับ เพื่อคนที่กำลังลังเลจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือลงทุนปล่อยเช่าก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะทำเลแถบนี้ยังเป็นที่ต้องการอีกมาก โอกาสที่จะทำกำไรก็ยังมีอยู่ครับ เราเริ่มตั้งแต่หน้าลิฟท์กันเลยนะครับ ที่ทิ้งขยะจะอยู่ที่หน้าลิฟท์ โถงทางเดินไปสู่ห้องพัก เมื่อเข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area เมื่อมองมาด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของครัวแบบเปิด อยู่ด้านหน้าห้องเลยนะครับ ตัวท็อปครัวจะเป็นรูปตัว L มีชั้นลอย และตู้เก็บของด้านล่าง อ่างล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมฮูดดูดควันของ MEX ช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ด้านล่าง เยี่ยงๆ กับครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร พื้นที่ในส่วนของ Living Area ค่อนข้างกระทัตรัตอยู่สักหน่อย ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาไม่มากนัก ระยะห่างของชั้นวางทีวีจากโซฟา โครงการจะแถมแอร์ให้ 2 เครื่องนะครับ ที่ Living Area กับห้องนอน ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ความกว้างของระเบียง คอมเพรสเซอร์แอร์จะติดตั้งไว้ที่ระเบียง มีประตูเหล็กกั้นอย่างมิดชิด มาต่อกันที่ห้องนอน จุดเชื่อมต่อของทั้ง 3 ห้อง จะใช้วัสดุปูพื้นคนละแบบกันเลยนะครับ ในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังดีครับ มีพื้นที่รอบเตียงนิดหน่อยดูไม่อึดอัด แต่ถ้าใครชอบนอนเตียง King Size ก็มีพื้นที่พอให้วางได้นะครับ ปลายเตียงเหลือพื้นที่พอให้เดินได้ ถ้าอยากจะดูทีวีในห้องนอน ก็ต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแล้วล่ะครับ ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบานเปิด 2 บาน อยู่ด้านซ้าย-ขวา ส่วนที่เหลือเป็นบาน Fix อีกด้านจะเป็นจุดที่วางตู้เสื้อผ้า ที่มีให้วางโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ หน้าตู้เสื้อผ้า ออกจากห้องนอนมาดูห้องน้ำเป็นห้องสุดท้ายครับ กระจกเงายาวจากอ่างล้างหน้าไปถึงโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มีตู้เก็บของด้านล่าง ของ American Standard โถสุขภัณฑ์ของ American Standard อยู่ตรงกลางระหว่างอ่างล้างหน้ากับ Shower Box จุดที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่อีกด้านติดกับ Shower Box ออกแบบมาได้พอดีกับเครื่องซักผ้ามั่กๆ ด้านในสุดจะเป็น Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวของ American Standard
Silk Phaholyothin 9 : รีวิวคอนโด

Silk Phaholyothin 9 : รีวิวคอนโด

Silk Phaholyothin 9 คอนโด Low Rise พร้อมเข้าอยู่ ในซอยพหลโยธิน 9 ใกล้ BTS อารีย์ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 96,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เคเอสเอเอส ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด    Low Rise  สูง 8 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     109 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    1 ไร่ 4 ตารางวา ที่ตั้งโครงการ    ซอยพหลโยธิน 9 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS อารีย์ BTS สะพานควาย La Villa อารีย์ บิ๊กซี สะพานควาย โรงพยาบาลเปาโล สะพานควาย อาคารชินวัตร ทาวน์เวอร์ 1 อาคารชินวัตร ทาวน์เวอร์ 2 อาคารพหลโยธิน เพลส ตลาดนัดสวนจตุจักร ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1-2 ห้องนอน ขนาด 36.5 – 77 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบคีย์การ์ดเข้าออก ห้องสตรีม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด CCTV ตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    02-615-1708 - 9 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.silkphaholyothin9.com
Aspire Wutthakat : รีวิวคอนโด

Aspire Wutthakat : รีวิวคอนโด

Aspire วุฒากาศ คอนโด Low Rise ใกล้ BTS วุฒากาศ โครงการใหม่จาก AP รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise  สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     166 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ     ถนนวุฒกาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS วุฒากาศ เดอะ มอลล์ ท่าพระ โรงพยาบาลบางไผ่ เทสโก้ โลตัส ม.สยาม ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22.5 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 30-30.50 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 42.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนบนชั้นดาดฟ้า สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.apthai.com
The Monument สนามเป้า : รีวิวคอนโด

The Monument สนามเป้า : รีวิวคอนโด

The Monument สนามเป้า คอนโด High Rise สูง 24 ชั้น ติด BTS สนามเป้า โครงการใหม่จาก แสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    N/A เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     86 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 102% สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สนามเป้า ททบ.5 อนุเสาวรีย์ชัย สมรภูมิ โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลราชวิถี Fashion Mall ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom  ขนาด 46.25 – 57.50 ตารางเมตร 2 Bedrooms 2 Bathrooms  ขนาด 73.50 – 89.25 ตารางเมตร Penthouse (3 Bedrooms 3 Bathrooms) ขนาด  138.25 – 140.25 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby lounge Social Lounge Floating Fitness Roof top Swimming pool Yoka Room Social club & Wine Cellar Library Tea Room Theatre Room Private Massage room & Steam room สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
Regent Home @ Bangson Station : รีวิวคอนโด

Regent Home @ Bangson Station : รีวิวคอนโด

Regent Home@Bangson Station คอนโด High Rise แบนด์ Regent Home บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางซ่อน รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    999,900 บาท เจ้าของโครงการ    Regent Green Power Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 24 ชั้น 4 อาคาร จำนวนห้อง     ประมาณ 4,000 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    15 - 1 - 0 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    กลางปี 2558 คาดว่าจะสร้างเสร็จ    ปลายปี 2560 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ตลาดนัดชุมทาง สยามยิปซี บิ๊กซี วงศ์สว่าง เทสโก้ โลตัส SCG โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โรงพยาบาลบางโพ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ใช้ระบบ key-card ควบคุมการเข้า-ออกโครงการ มีระบบกล้องวงจรปิด CCTV โดยรอบภายในอาคาร พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่จอดรถ 3 ชั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    02-551-4162-4 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.rgphome.com
Lumpini Ville นครอินทร์-ริเวอร์วิว : รีวิวคอนโด

Lumpini Ville นครอินทร์-ริเวอร์วิว : รีวิวคอนโด

Lumpini Ville นครอินทร์-ริเวอร์วิว คอนโด High Rise จาก LPN บนถนนนครอินทร์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 26 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง     1,544 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 8 ไร่เศษ ที่ตั้งโครงการ    ถนนนครอินทร์ ตำบลตลาดขวัญ นนทบุรี ที่จอดรถ    ประมาณ 520 คัน คันคิดเป็น 33 % (รวมจอดซ้อนคัน) สถานที่สำคัญใกล้เคียง กระทรวงสาธารณะสุข มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ BigC ติวานนท์ BigC วงศ์สว่าง Tesco Lotus นครอินทร์ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เอสพลานาด แคราย Central รัตนาธิเบศร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.50 และ 26 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 45 ตารางเมตร (ห้องขนาด 22.50 ตาราเมตรรวมกัน 2 ห้อง) สิ่งอำนวยความสะดวก สวนรวมใจ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุดมีชีวิต, สนามสตรีทบาส, ห้องเด็กเล็ก สนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ร้านค้า อาทิ 7-Eleven, ร้านเสริมสวย, ร้านซักรีดและร้านอาหาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    02-527-8333 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.lpn.co.th
D’Mura รัชโยธิน : รีวิวคอนโด

D’Mura รัชโยธิน : รีวิวคอนโด

D’Mura รัชโยธิน คอนโด Low Rise โครงการใหม่จาก D'Well Grand Asset ใกล้ ม.เกษตร เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษแล้ววันนี้.. รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,590,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 70,000 บาท เจ้าของโครงการ    D Well Grand Asset  Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise  สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     216 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 0 - 41.7 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยพหลโยธิน 34 ถนนพหลดยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ต้นปี 2560 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน เมเจอร์ รัชโยธิน ม.ศรีปทุม โรงพยาบาลวิภาวดี เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ เซ็นทรัล รามอินทรา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.03 - 32.77  ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 49.09 - 53.61 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    082-843-3434 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.dwell-group.com
Condolette Light Convent : รีวิวคอนโด

Condolette Light Convent : รีวิวคอนโด

Condolette Light Convent คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น พร้อมเข้าอยู่ ในซอยพิพัฒน์ 2 ใจกลางสีลม จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,480,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 0 - 45.6 ไร่ จำนวนห้อง     111 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 61 คัน หรือคิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ซอยพิพัฒน์ 2 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ BTS ช่องนนทรี โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่สีลม อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 33.19 – 47.21 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 66.88 – 72.63 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก โถงต้อนรับ ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ระบบ CCTV / Access Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : condolette.pruksa.com
KnightsBridge Skycity สะพานใหม่ : รีวิวคอนโด

KnightsBridge Skycity สะพานใหม่ : รีวิวคอนโด

KnightsBridge Skycity สะพานใหม่ คอนโด High Rise โครงการใหม่จากออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บนถนนพหลโยธิน ใกล้ BTS ส่วนต่อขยาย สถานีสายหยุด รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,990,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 88,500 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 15 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     490 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 3 - 56 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพหลโยธิน แขวงอนุเสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 245 คัน คิดเป็น 50% (รวมจอดซ้อนคัน) เริ่มก่อสร้าง    เดือนมิถุนายน 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2560 สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี สะพานใหม่ ตลาดยิ่งเจริญ เทสโก้ โลตัส โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล โรงพยาบาลภูมิพล เซ็นทรัล รามอินทรา ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน เมเจอร์ รัชโยธิน เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.5 – 34.9 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 40.8 – 48.4 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Double Volume Lobby BusinessLounge EnglishGarden Infinity lap pool with Bangkok view – Hydro spa pavilion Free form jogging track BBQ Pavilion Floating private cabana Putting green The sky fitness สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    092-716-7070 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  knbcondo.origin.co.th
Grene Condo ดอนเมือง-สรงประภา คอนโดใหม่สไตล์รีสอร์ท ติดถนนสรงประภา : รีวิวคอนโด

Grene Condo ดอนเมือง-สรงประภา คอนโดใหม่สไตล์รีสอร์ท ติดถนนสรงประภา : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมโครงการ “Grene Condo ดอนเมือง-สรงประภา” คอนโดน้องใหม่จาก บริษัท ปรีดา เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งมีความน่าสนใจมากๆ เพราะเปิดมาด้วยราคาเริ่มต้นแค่ 1.2 ล้านบาท* เท่านั้น แถมยังอยู่ในทำเลที่ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (โครงการอนาคต) ใกล้สนามบินดอนเมือง ใกล้ทางด่วนศรีรัช และยังใกล้แยกศรีสมาน แถมมีห้างโรบินสัน ศรีสมาน เป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญที่อยู่ห่างออกไปแค่แยกเดียวเท่านั้น เป็นไงครับ.... แค่ข้อมูลเบื้องต้นก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ ตามไปดูรายเอียดเพิ่มเติมกันเลยดีกว่า     แผนที่โครงการ   แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ สำนักงานขายของโครงการ เห็นเด่ดชัดอยู่ติดถนนสรงประภา ตัวโครงการ Grene Condo ตั้งอยู่ริมถนนสรงประภา มุ่งหน้าสู่แยกศรีสมาน หรือห่างจากปากทางฝั่งถนนวิภาวดีเข้ามาเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งศักยภาพของทำเลในย่านนี้มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยมากเลยทีเดียว เนื่องจากแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ตลาดสดวัฒนานันท์ วัดดอนเมือง ตลาดนัดบุญอนันต์ โรงเรียนพระหฤทัย ดอนเมือง โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง สถานีรถไฟดอนเมือง สนามบินดอนเมือง โรบินสัน ศรีสมาน รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (โครงการอนาคต / กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง) ฯลฯ ซึ่งที่ว่าข้างต้น เป็นเพียงจุดใหญ่ๆ ที่จะทำให้เรานึกภาพตามออกได้ง่ายว่ารอบๆ โครงการมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง แต่ถ้าหากได้มีโอกาสมาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการด้วยตัวเอง จะเห็นว่านอกจากที่ต่างๆ ที่เรายกตัวอย่างมานั้น ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน รวมถึงร้านปลีกย่อยอีกเพียบ จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ ในส่วนของการเดินทางนั้น ตัวโครงการก็อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ทั้งด่านทางด่วนศรีรัช (ด่านศรีสมาน) ถนนวิภาวดี-รังสิต ดอนเมืองโทลเวย์ ขับรถเข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากๆ แถมหน้าโครงการยังมีทั้งรถสองแถว รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ ให้เลือกออกไปต่อรถเมล์ รถตู้ รถไฟ หรือรถไฟฟ้า (ในอนาคต) ได้ง่ายๆ อีก การเดินทางมายังโครงการจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่ว่าจะมีรถส่วนตัวหรือไม่ก็ตาม คอนโด สไตล์ รีสอร์ท โครงการ Grene Condo ดอนเมือง-สรงประภา เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 6 ตึกด้วยกัน โดยมีคอนเซปต์การออกแบบให้เป็นคอนโดมิเนียม สไตล์ รีสอร์ท เปิดขายพื้นที่ด้านในก่อน และเพื่อให้แต่ละเฟสได้บรรยากาศผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ทกันอย่างเต็มที่ จึงมีการวางแปลนของอาคารแบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยแต่ละเฟสจะมี 3 ตึก วางตัวโอบล้อมพื้นที่สีเขียวส่วนกลางไว้ ซึ่งแต่ละเฟสก็จะมี Main Facility เป็นของตัวเองกันไปเลย แยกการใช้งาน รวมถึงแยกนิติฯ ดูแลออกจากกันด้วยครับ ทางเข้าโครงการ ใต้อาคารและรอบๆ โครงการจะเป็นที่จอดรถ Facility หลักๆ ของโครงการจะอยู่ตรงกลางระหว่างอาคารต่างๆ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่รอบๆ ที่อาคาร A1 ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2ขึ้นไปจนถึงชั้น 8 อาคาร B1 ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถส่วนหนึ่ง ส่วนอีกด้านจะเป็นห้องพักอาศัย เป็นห้อง Type B ขนาด 30 ตารางเมตร จำนวน 9 ยูนิต ที่ติดกับสวนส่วนกลาง สามารถเดินออกมาที่สวนได้เลย ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปถึงชั้น 8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดครับ พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัย จะเป็นส่วนที่รวม Main Facility ทั้งหมดเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ พร้อมศาลานั่งเล่นริมน้ำ สวนรอบสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น จุดชมวิว ลานบาสเกตบอล และลู่วิ่งรอบโครงการ ส่วนห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ห้องสมุด และ Co-Working Space ก็จะอยู่ในบริเวณชั้น 1 ของอาคาร B1 และ B2 ซึ่งนบเป็นพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 8 ไร่ 1 งาน 93 ตารางวา พื้นที่สีเขียวรอบๆ สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งเล่นรอบๆ ฟิตเนสขนาดใหญ่ที่ชั้น 1 ของอาคาร B1 อีกจุดเด่นหนึ่งของโครงการคือ ห้องพักส่วนหนึ่งในบริเวณชั้น 1 ของอาคาร B1 และ B2 จะหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำ ทำให้ได้บรรยากาศการพักผ่อนสไตล์รีสอร์ทอย่างแท้จริง ซึ่งห้อง Type นี้มีจำนวนจำกัดนะครับ และได้ข่าวว่ามักจะได้รับความสนใจในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เผลอๆ จะถูกจับจองหมดก่อนห้อง Type อื่นแน่ๆ เดี๋ยวเราไปดูกันเลย ว่าทางโครงการมีห้อง Type ไหนให้เลือกกันบ้าง เปิดห้องตัวอย่าง ที่ Sale Gallery ของโครงการ Grene ดอนเมือง-สรงประภา มีห้องตัวอย่างให้ชมด้วยกัน 2 ห้อง แต่แบ่งเป็น 3 Type นะครับ.... ห้องตัวอย่างห้องแรก จะเป็นห้องตัวอย่างของห้อง 2 Type ด้วยกัน นั่นคือ ห้องขนาด 25 ตร.ม. และห้องขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งห้องทั้ง 2 Type นี้มี Layout ภายในห้องเหมือนกันเป๊ะทุกอย่างเลย แต่ต่างกันกันที่พื้นที่ระเบียงที่เพิ่มขึ้นมา โดยห้องขนาด 30 ตร.ม. จะเป็นห้องที่อยู่บริเวณชั้น 1 ที่เราบอกว่าหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำนั่นเอง ห้อง Type นี้จะได้ระเบียงยาวเต็มหน้ากว้างของห้องเพิ่มขึ้นมา พร้อมกับมีประตูออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางได้เลย......  ก่อนจะงงไปมากกว่านี้ เรามาดูแปลนห้องเพื่อเปรียบเทียบกันดีกว่าครับ แปลนห้อง Type B ขนาด 25 ตารางเมตร แปลนห้อง Type B ขนาด 30 ตารางเมตร ดูภาพแปลนห้องกันไปแล้ว ทีนี้มาดูบรรยากาศภายในห้องกันครับ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องก็ขนาด 25 ตร.ม. เลยครับ เปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกับส่วนนั่งเล่นเลย ในขณะที่พื้นที่ของห้องนอนก็เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้ให้เรียบร้อยครับ พื้นที่ครัวเป็นครัวเปิดอยู่ติดกับระเบียง ทำให้ช่วยในการระบายกลิ่นจากการทำอาหารได้ดีขึ้น ส่วนห้องน้ำก็อยู่อีกด้านของครัวครับ ถือว่าเป็นการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในห้องไว้อย่างลงตัวดีทีเดียว เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ด้านที่วางโซฟาโครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ ติดกับโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัด ด้านที่วางทีวีโครงการวางชั้นวางเล็กมาให้ เข้ากับพื้นที่ได้พอดี ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน ซึ่งโครงการกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนมาให้เรียบร้อย ภายในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ จะเห็นว่ามีพื้นที่ข้างเตียงเหลืออยู่ทั้ง 2 ด้าน ช่วยให้ไม่รู้สึกอึกอัด หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่ เป็นบาน Fix และมีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน จะมีตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ปลายเตียง ปลายเตียงโครงการยังเตรียมพื้นที่และปลั๊กให้ด้วย เผื่ออยากมีทีวีไว้ในห้องอีกสักเครื่อง ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้องเป็นห้องขนาด 34 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สุดและจะเป็นห้องในตำแหน่งมุมตึกนะครับ ห้อง Type นี้จะได้เปรียบที่สามารถเปิดรับวิว รับแสง รับลมได้หลายด้าน ทั้งในส่วนของห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว แปลนห้อง Type C ขนาด 34 ตารางเมตร พื้นที่ห้องนอนถูกกั้นไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย ไม่ใช่ประตูกระจกบานเลื่อนแบบห้องก่อนหน้า จึงให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าเวลามีเพื่อนมาเยี่ยมห้อง ในขณะที่พื้นที่ครัวก็ได้เป็นครัวปิด ทางโครงการกั้นประตูกระจกบานเลื่อนมาให้เสร็จสรรพ ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำครัว ทำกับข้าวจริงจังขึ้นมาอีกหน่อยครับ บานประตูห้องจะได้แบบที่เห็นนี้เลยนะครับ เปิดประตูเข้าห้องมาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อน ข้างๆ ประตูโครงการวางตู้เก็บรองเท้ามาให้ด้วย ห้อง Type นี้จะได้พื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่เลยนะครับ โครงการวางโซฟายาว 4 ที่นั่ง มาให้ ด้านชั้นวางทีวีโครงการก็จัดชั้นมาให้เรียบร้อยเลยครับ โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง วางอยู่ใกล้ๆ กับโซฟา ติดกับโต๊ะทานอาหารจะได้หน้าต่างบานใหญ่เป็นบานเลื่อน 2 ตอน ด้านหลังโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องครัวแบบปิด มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ด้านในโครงการจัดชุดครัวมาให้เต็มสูบเลยนะครับ แยกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งนี้จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวยาว พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ Teka ส่วนด้านบนจะเป็นชั้นลอยเก็บของ และฮูดดูดควันของ Teka เหมือนกันครับ และด้านล่างเป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ อีกฝั่งจะเป็นเคาน์เตอร์ซิงค์ล้างจานและจุดวางตู้เย็น ด้านบนมีชั้นลอยวางของให้ด้วย ระเบียงจะอยู่ต่อจากห้องครัว กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1.2 เมตร คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกแขวนไว้ด้านบน หันหน้าเข้าหาระเบียง มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในครัว กลับเข้ามาด้านใน ห้องน้ำจะอยู่ติดกับ Living Area ด้านหน้าห้องนอน สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ Mogen เหมือนห้อง Type B กระจกเงาจะได้ขนาดพอดีตัว ฝั่งตรงข้ามมีชั้นวางของ ด้านในสุดจะเป็นส่วนเปียกอาบน้ำ แต่โครงการไม่ได้กั้นฉากอาบน้ำมาให้นะครับ อาจจะต้องกั้นเพิ่มกันเอง ห้องนอนจะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน ภายในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต มาให้ วางเตียงลงไปแล้วยังพอมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือ ช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่ เป็นบานสไลด์ 2 ตอน ด้านปลายเตียงโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้านบานใหญ่ วางอยู่ติดกับโต๊ะทำงาน นอกจากห้องตัวอย่างที่มีให้ชมแล้ว ทางโครงการยังห้องแบบสตูดิโอ ขนาด 22 ตร.ม. ให้เลือกจับจองกันด้วยนะครับ ซึ่งห้องที่ทางโครงการจัดไว้ ทุกยูนิตก็ขายมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ทั้งโต๊ะ ตู้ เตียง เคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ เสร็จสรรพเกือบจะพร้อมเข้าอยู่ได้เลยทีเดียว แบบนี้ไม่ว่าจะซื้ออยู่เอง หรือซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่าก็คุ้มค่าน่าลงทุนมากๆ เพราะราคาเปิดตัวมาไม่แรงเลย อยู่ในเรทที่จับจองกันได้ง่ายๆ คนที่ผ่านไปผ่านมาในย่านนี้ก็ให้ความสนใจกันเยอะ ได้ข่าวว่าถูกจับจองกันไปพอสมควรแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเลยด้วยนะเนี่ย ใครที่สนใจสามารถแวะไปชมห้องตัวอย่างกันได้ที่ Sale Gallery ก่อนได้ หรือไปลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันได้ที่ http://www.grenecondo.com/donmuang/th/register.php หรือ โทร. 02-055-9224
THAN LIVING พระราม 9 – Airport Link : รีวิวคอนโด

THAN LIVING พระราม 9 – Airport Link : รีวิวคอนโด

THAN LIVING พระราม 9 - Airport Link คอนโด High Rise โครงการใหม่จาก กีธา พร็อพเพอร์ตี้ บนถนนศรีนครินทร์ ใกล้ Airport Link หัวหมาก รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,190,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 92,000 บาท เจ้าของโครงการ    Kitha Properties Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    530 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    3 - 0 - 27.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 48% รวมจอดซ้อนคันประมาณ 308 คันคิดเป็น 58% เริ่มก่อสร้าง    เดือนสิงหาคม 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมีนาคม 2561 ค่าส่วนกลาง    50 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง สถานีรถไฟหัวหมาก Max Value พัฒนาการ สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก Tesco Lotus พัฒนาการ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ สวนปิยะภิรมย์ โรงแรม The Grand Four Wings โรงพยาบาลวิภาราม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สำนักงานเขตสวนหลวง สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น Stamford International University มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) สนามราชมังคลากีฬาสถาน The Nine พระราม9 ซีคอนสแควร์ สวนหลวง ร.9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 24 – 32 ตารางเมตร ราคา 2.19 – 3.2 ลบ. 2 Bedrooms ขนาด 48 – 67 ตารางเมตร  ราคา 4.2 – 5.9 ลบ. Duplex ขนาด 97 ตารางเมตร  (Sold Out) Penthouse ขนาด 97 – 123 ตารางเมตร ราคา 10.1 – 13.2 ลบ. Type B1-M แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตร Type E4 แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby มี Internet Wi-fi Kids’ pool ระบบเกลือ ขนาด 9.5 x 3.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร บนชั้น 7 Library Pocket Garden สระว่ายน้ำผู้ใหญ่กลางแจ้ง Infinite Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 23.5 x 5.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร บนชั้น 32 ห้องออกกำลังกาย Sky Garden กลางแจ้ง Sky Lounge แบบ Double Ceiling Height Yoga Room ขึ้นจากบันไดวนข้างห้องฟิตเนส สวนหย่อมรอบโครงการ และท้ายโครงการ ระบบ CCTV / Access Card Kid's Pool บนชั้น 7 สระว่ายน้ำผู้ใหญ่กลางแจ้ง Infinite Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 23.5 x 5.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร บนชั้น 32 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    02-322-2488 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.siralai.com
Supalai City Resort แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

Supalai City Resort แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

Supalai City Resort แจ้งวัฒนะ คอนโด High Rise สูง 24 ชั้น ติดถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูและทางด่วน โครงการใหม่จากศุภาลัย รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   1,850,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 53,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด   High Rise  สูง 24 ชั้น  1 อาคาร จำนวนห้อง   752 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   ประมาณ 5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เซ็นทรัล พลาซ่า แจ้งวัฒนะ แม็คโคร แจ้งวัฒนะ โลตัส แจ้งวัฒนะ บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค  เมืองทองธานี ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่  33.5 – 72.0 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Library Swimming Pool Fitness Sky Lounge ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงด้วยระบบ Finger Scan ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :   02-575-3322 หรือ 1720 กด 80 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.supalai.com
Le Crique Sukhumvit 64/2 : รีวิวคอนโด

Le Crique Sukhumvit 64/2 : รีวิวคอนโด

Le Crique Sukhumvit 64/2 คอนโด Low Rise โครงการใหม่ในซอยสุขุมวิท 64/2 ใกล้ BTS ปุณณวิถี จาก Rich Land Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   ประมาณ 2,400,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 85,000 บาท เจ้าของโครงการ   Rich Land Property Co., Ltd. ลักษณะคอนโด   Low Rise  สูง 8 ชั้น  1 อาคาร จำนวนห้อง   169 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 1 - 39.60 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยสุขุมวิท 64/2 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง   ปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีปุณณวิถี ซีคอน สแควร์ พาราไดซ์ ปาร์ค โลตัส โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom (s) ขนาด 30.44 - 31.50 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 41.31 - 51.59 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด  61.08 - 61.36 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ Fitness Library สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :   02-744-8688, 089-308-6888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   lecriquecondo.com
BRIX Condominium : รีวิวคอนโด

BRIX Condominium : รีวิวคอนโด

BRIX Condominium คอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้าสิรินธร พร้อมวิวแม่น้ำบนถนนจรัญสนิทวงศ์ 64 จากมีสไตล์ เอสเตท เปิด Pre-Sale วันที่ 24-30 มีนาคมนี้ ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   1,550,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 70,500 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท มีสไตล์ เอสเตท จำกัด ลักษณะคอนโด   High Rise 1 อาคาร สูง 32 ชั้น จำนวนห้อง   560 ยูนิต , ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 8 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   3 - 0 - 68 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   สี่แยกบางพลัด (ซังฮี้) ติดรถไฟฟ้าสถานีสิรินธร ซอยจรัญสนิทวงศ์ 64 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ที่จอดรถ   272 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง   50 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน   500 บาท/ตารางเมตร เริ่มก่อสร้าง   ต้นปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปลายปี 2561 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ตั้งฮั่วเส็ง เมเจอร์ปิ่นเกล้า เซนทรัลปิ่นเกล้า พาต้าปิ่นเกล้า โลตัส รพ.ยันฮี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ลักษณะห้องและขนาดห้อง สตูดิโอ, 1 ห้องนอน ขนาด 22 - 40 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 42 - 96 ตารางเมตร Duplex ขนาด 114 - 123 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Outdoor Library Adventure Playground Bar B.Q. Terrace Steam Room Sauna Room Swimming Pool Fitness Roof Garden ลิฟท์โดยสารอาคาร 4 ชุด, ลิฟท์ขนของ 1 ตัว, ลิฟท์ที่จอดรถ 1 ตัว Access Control Card , CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :   098-254-8888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.brixcondo.com
THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

จากพรีวิวฉบับก่อนที่เราพาไปดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ The Bangkok สาทร กันไปแล้ว ฉบับนี้เรายังคงอยู่ในทำเลย่านสาทร แต่จะพาข้ามไปดูอีกหนึ่งโครงการในเครือ Land and House ซึ่งก็คือ The Room สาทร-ถนนปั้นนั่นเอง อีกคอนโด ​High Rise ที่ยังคงอยู่ในศูนย์กลางแหล่งธุรกิจของเมืองกรุง และเกาะติดแนวรถไฟฟ้าด้วย การเดินทาง โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่กลางๆ ซอยถนนปั้น ซอยนี้จะเชื่อมถนนสาทรและถนนสีลมไว้ด้วยกัน ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกเส้นทางเข้าออกได้สองทาง ถ้ามาจากแยกสุรศักดิ์ก็เลยมาอีก 500 เมตรโดยประมาณ ก็จะเห็นซอยถนนปั้นอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้ามาทางถนนสีลมก็ให้สังเกตุวัดพระศรีมหาอุมาเทวีหรือวัดแขกให้ดี เจอวัดแขกก็เลี้ยวเข้าซอยถนนปั้นไปได้เลยครับ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ดูจะสะดวกมาก เพราะเราสามารถเลือกใช้ถนนสายหลักได้ทั้งสองเส้นทาง ด่านทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ทั้งทางฝั่งสีลม และทางแยกสุรศักดิ์ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ยากเลย ข้ามไปฝั่งธนบุรีแค่กลับรถก็มีสะพานตากสินอยู่ใกล้ๆ หรือวิ่งตามถนนสาทรไปก็เลี้ยวไปพระราม 3 แยกไปออกพระราม 4 หรือจะตรงไปเข้าถนนวิทยุก็ได้อีก แต่ที่ต้องกังวลมากหน่อยก็คือ ปัญหารถติดบนถนนสาทรที่ติดขึ้นชื่อ โดยเฉพาะในช่วงที่เปิดเทอม เวลาเข้าเรียน และตอนเย็นๆ ใกล้เลิกเรียนที่บรรดาผู้ปกครองมาจอดรถรอรับลูกกันเป็นแถวยาว ซึ่งรถก็จะติดต่อเนื่องกันไปอีกหลายช่วงโมง เพราะไหนจะได้เวลาเลิกงานคนแย่งกันกลับบ้านอีก บนท้องถนนจึงเต็มไปด้วยปริมาณรถอันหนาแน่น จะหนีไปทางถนนสีลมก็ยังคงเจอรถติดหนักไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลย ยังไงก็ต้องเจอกับปัญหารถติดแน่ๆ สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนการเดินทางที่ง่าย สะดวก และน่าจะช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุดสำหรับคนเมืองก็คือรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ใกล้ตัวโครงการที่สุดคือ สถานีสุรศักดิ์ ลงจากตัวสถานีแล้วเดินต่อเข้ามาในซอยถนนปั้นอีกไม่เกิน 500 เมตรเท่านั้น ด้วยระยะทางขนาดนี้ยังถือว่าสะดวกมากครับ ไม่ต้องต่อรถให้ยุ่งยากอีก ถือว่าได้ออกกำลังกายอีกเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่ว่าถ้าเจอช่วงหน้าฝนคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเช่นกัน แค่เดินออกมาทางปากซอย จะเลือกทางฝั่งถนนสาทร หรือฝั่งถนนสีลมก็ได้ทั้งนั้น ถนนทั้งสองเส้นมีรถเมล์วิ่งผ่านเยอะแยะหลายสาย รถสามล้อ แท็กซี่ก็เยอะ แถมยังมีรถสองแถวแดงอีก แต่ถ้ายังสะดวกรวดเร็วไม่พอก็คงต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวๆ หน้าโครงการกันไปเลย เราเริ่มจาก BTS สุรศักดิ์ เลยนะครับ เราต้องออกมาทางที่ 3 ฝั่งเดียวกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เวลานี้ยังเงียบสงบอยู่ครับ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน จากตัวสถานี BTS เดินผ่านซอยประมวลมานิดหน่อยก็ถึงถนนปั้นแล้วล่ะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้นจะเป็นโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ บรรยากาศในช่วงปากซอยอาจจะดูไม่คึกคักเท่าไหร่นะครับ แต่พอเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ก็เริ่มจะมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น ต้นไม้ในซอยก็ให้ความร่มรื่นดี ก่อนจะถึงโครงการก็มีตึกแถวเปิดเป็นร้านอาหารอยู่ด้านล่าง ถึงแล้วครับ ที่ตั้งโครงการ The Room สาทร ด้านหน้าโครงการกว้างประมาณ 40 เมตร วันนี้เราเข้าไปทำการรีวิว ตัวโครงการก่อสร้างไปได้มากแล้วนะครับ วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ด้วยความที่โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บรรยากาศโดยรวมจะค่อนข้างพลุกพล่านในช่วงวันธรรมดา และค่อนข้างเงียบในหยุด แต่โชคดีหน่อยที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ และอาคารสำนักงานอยู่รวมกัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องอาหารการกินเท่าไหร่ เพราะช่วงกลางวันก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน รวมถึงรถเข็น แผงลอยอีกพอสมควร ยิ่งถ้าค่อนออกไปทางฝั่งถนนสีลมด้วยแล้วยิ่งหายห่วง เพราะใกล้ๆ วัดแขกก็มีร้านอาหารเจ้าดังอีกหลายร้าน โดยเฉพาะอาหารแขกก็มีให้เลือกหลายร้านแล้ว ตลาดสดก็อยู่ในซอยฝั่งตรงกันข้าม ในระยะซัก 300 เมตร จากวัดแขกก็มีทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมพลูแมน คอมมูนิตี้มอลอย่าง บ้านสีลม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสีลม และร้านอาหารนานาชาติอีกเพียบ เรียกได้ว่าฝั่งสีลมนี่คึกคักพึ่งพาได้ดีที่สุด ส่วนฝั่งถนนสาทรก็จะเน้นไปทางร้านอาหารใหญ่หน่อย ร้านฮิปๆ หรือนั่งกินกันเป็นเรื่องเป็นราว อาหารข้างทาง แผงลอยไม่ค่อยมีให้เห็น ในขณะเดียวกันในซอยถนนปั้นก็มีร้านสะดวกซื้ออยู่เยื้องๆ กับโครงการ ดังนั้นถ้าเอาสะดวกและง่ายเข้าว่า ก็มีที่ให้พึ่งพายามหิวแบบ 24 ชั่วโมง นอกเหนือจากเรื่องอาหารการกินแล้ว สาธารณูปโภคอื่นๆ ก็มีครบครันเช่นกัน โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนก็อยู่ใกล้มากๆ โรงพยาบาลเซนหลุยส์ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามซอยด้านถนนสาทรใต้ ซึ่งมีทั้งโรงเรียนและโบสถ์ สถานฑูตพม่าก็อยู่แค่ปากซอยถนนปั้น อันนี้แค่ในบริเวณรอบๆ ซอยเท่านั้นนะครับ แต่ถ้านับรัศมีให้กว้างออกไปอีก ก็ยังมีสถานที่สำคัญอีกเพียบ เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนเอกชน โรงแรมดัง ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ฯลฯ ด้วยทำเลแถบนี้ที่เป็นศูนย์กลางหลายๆ อย่าง จึงเพียบพร้อมมากๆ ในขณะที่บรรยากาศในซอยก็ค่อนข้างเงียบสงบกว่าบริเวณถนนใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนอาศัยอย่างยิ่ง ซึ่งเราก็ไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาฝาก เผื่อใครที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพื้นที่จะได้เห็นภาพได้มากขึ้นครับ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นตึกแถวมีร้านทำฟัน มีแฟมิลี่ มาร์ท อยู่ด้านล่าง เดี๋ยวเราเดินดูบรรยากาศในซอย ฝั่งที่จะทะลุออกไปทางสีลมกันต่อ เลยจากโครงการมานิดหน่อยจะมีคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ชื่อคอนโด ปภาดา สีลม เดินเข้าไปเรื่อยๆ บรรยากาศทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นตึกแถว มีร้านค้า ร้านอาหาร เยอะเลยครับ คอนโดอีกโครงการที่อยู่ในซอยนี้ โครงการ The Treasure เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ออกมาถึงปากซอยด้านถนนสีลม จะมี 7-11 อยู่ด้วย ร้านค้าช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายพวงมาลัย เพราะอยู่ใกล้วัดแขก ออกมาถึงฝั่งถนนสีลมแล้วบรรยากาศจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งฝั่งถนนปั้นและฝั่งตรงข้าม เพราะจะมีผู้คนเดินทางมาวัดแขกกันแทบจะตลอดทั้งวัน นอกจากร้านขายดอกไม้แล้ว ก็ยังมีขายอาหารด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้น คือซอยสีลม 20 จะมีตลาด มีของกินให้เลือกเยอะแยะเลยครับ ตลาดฝั่งตรงข้ามถนนปั้น มีของกินเพียบเลยครับ ทั้งอาหารคาว หวาน และผลไม้ ทางซ้ายจากถนนปั้นออกมาที่ถนนสีลมมุ่งหน้าไปทางถนนเจริญกรุง ทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร โรงแรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ อย่างบ้านสีลม ส่วนด้านขวาจะมุ่งหน้าไปทางศาลาแดง ก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมฟูราม่า และโรงแรม Pullman ภาพรวมตัวโครงการ โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น เป็นคอนโด High Rise อย่างที่บอกไปแล้ว ตัวตึกสูง 25 ชั้น มีจำนวน 219 ยูนิต แบ่งแบบห้องหลักๆ เป็น 2 Type คือ 1 Bed Room และ 2 Bed Room ซึ่งขนาดห้องเริ่มต้นประมาณ 40 ตร.ม. ไปจนถึง 85 ตร.ม. แน่นอนว่าแต่ละห้องก็มีรายละเอียดปลีกย่อยกันไป อันนี้ก็ต้องไปดูกันตามแปลน และตำแหน่งห้องกันอีกที แบบห้อง Standard 1 ห้องนอน ขนาด 46.8 ตารางเมตร แบบห้อง Extra 1 ห้องนอน ขนาด 50.1 ตารางเมตร แบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 78 ตารางเมตร หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออกนะครับ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น แล้วก็มีคอนโด / อพาร์ทเม้นท์สูง 7-8 ชั้น และสูงประมาณ 20 ชั้นอีกตึก ซึ่งอยู่เยื้องๆ ไปทางซ้ายและขวา ไม่ได้อยู่ตรงข้ามโครงการเป๊ะ ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องบังวิวในระยะประชิดเท่าไหร่ ทิศอื่นที่เหลือรอบๆ ก็ไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องถูกบล็อควิว เว้นแต่ฝั่งทิศใต้ ที่กำลังมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานอยู่ ซึ่งน่าจะสูงประมาณ 7 ชั้น ห้องพักทางฝั่งนี้ที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 8 หรือ 9 ลงมาก็คงเสียเปรียบเรื่องวิวไปเลยนะครับ เวลาเรื่องตำแหน่งห้องก็ลองพิจารณาให้รอบคอบก่อนก็ดีครับ ในส่วนของ Facilities ทางโครงการก็จัดมาสมน้ำสมเนื้อครับ ตั้งแต่เรื่องที่จอดรถที่จัดไว้ที่ชั้น 1-5 นับรวมจอดซ้อนคันแล้วก็เห็นว่าจอดได้ถึง 80% เลยทีเดียว นับว่าเยอะดีครับ พื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 23-24 ทั้งสระว่ายน้ำที่ทางโครงการว่าเป็นระบบโอโซน ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด และห้องประชุม แถมด้วยพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนในบริเวณชั้น 1 โดยภาพรวมแล้วถือว่าทางโครงการจัดมาเต็มที่เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ต้องลงไปดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องขนาดของสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ว่าจะสามารถรองรับลูกบ้านได้มากแค่ไหน นอกเหนือจากนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบมาตรฐานทั้ง Keycard Access, Digital Door Lock ฯลฯ ส่วนรายละเอียดและภาพเพิ่มเติมเราจะมีรีวิวแบบทุกซอกทุกมุมมาให้ชมกันอีกครั้งครับ ชั้น 6-21 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ชั้น 23 จะเป็นสระว่ายน้ำ และมีส่วนของห้องพักอาศัยอยู่ด้วย ประมาณ 7 ห้อง หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 23 เลื่อนขึ้นมาที่ชั้น 24 จะเป็นส่วนของ Fitness และห้องประชุม จะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย 4 ห้อง ส่วนชั้นบนสุดที่ชั้น 25 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 8 ห้อง
Ashton Chula – Silom : รีวิวคอนโด

Ashton Chula – Silom : รีวิวคอนโด

Ashton Chula - Silom คอนโดหรู สูง 56 ชั้น โครงการใหม่ล่าสุดจากอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ บนถนนพระราม 4 ใกล้ MRT สามย่าน รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   5,900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 250,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด   High Rise สูง 56 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง   1,182 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   4 - 3 - 66.90 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนพระราม 4 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สามย่าน จามจุรี แสควร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา วัดหัวลำโพง มาบุญครอง เซ็นเตอร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 24.5 - 34.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 55 - 65 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนภายในโครงการกว่า 1 ไร่ Social Club สระว่ายน้ำ Fitness Sky Lounge Access Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th
The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

The Bangkok Sathorn : รีวิวคอนโด

ก่อนหน้านี้เราเคยรีวิวทำเล ในย่านสาทรกันมาแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าหัวมุมถนนสาทร บริเวณแยกสุรศักดิ์มีโครงการหรูอย่าง The Bangkok Sathorn แบรนด์ Hi-End ของ Land and House คราวนี้เราเลยเก็บเอาข้อมูลโครงการมาฝาก เผื่อใครที่กำลังสนใจตัวโครงการ The Bangkok Sathorn อยู่จะได้ใช้ประกอบการพิจารณาเบื้องต้นกันได้บ้าง การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการ The Bangkok Sathorn จัดว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนเมือง เพราะมีให้เลือกได้หลายวิธี ซึ่งจุดเด่นเลยก็คือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS โดยสถานีสุรศักดิ์อยู่ตรงหน้าโครงการพอดิบพอดี เดินออกจากตัวโครงการมาไม่กี่ก้าวก็ถึงบันไดทางขึ้นสถานีแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงจัดว่าเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และกำหนดเวลาได้แน่นอนที่สุด ไม่ว่าจะข้ามไปยังฝั่งธนบุรี หรือเดินทางเข้าสู่ในกลางเมืองก็ง่ายแสนง่าย แบบไม่ต้องเสียเวลาปวดตับกับปัญหารถติดให้มากความ แผนที่โครงการ การเดินทางที่สะดวกที่สุดในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นรถไฟฟ้า BTS นี่แหละครับ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีสุรศักดิ์ มองจากรถไฟฟ้าไปจะเห็นตัวโครงการ The Bangkok ที่กำลังก่อสร้างอยู่เลยครับ นี่แหละครับการจราจรด้านล่าง ดีนะเรานั่ง BTS มา โครงการจะอยู่ฝั่งเดียวกับอาคาร Thai CC ลงมาแล้วเดินมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงตัวโครงการแล้วครับ เห็นชื่อโครงการ The Room สาทร อยู่ด้วยก็อย่างเพิ่งงงนะครับ เพราะสำนักงานขายของโครงการ The Room สาทร ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย ส่วนใครที่ยังติดกับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว เส้นทางบนถนนสาทรใต้โซนนี้ก็จัดว่าเดินทางได้สะดวกไม่แพ้กัน แต่จะติดปัญหามากหน่อยก็ตรงปัญหารถติดบริเวณแยกสุรศักดิ์ที่หนักหนาเอาการ จะว่าไปแล้วตลอดทั้งถนนสาทรก็มีปัญหารถติดเป็นประจำอยู่แล้วตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าและเย็น ยิ่งในช่วงที่เปิดภาคเรียนด้วยแล้ว รับรองว่าติดตั้งแต่เช้ายันสาย และตั้งแต่บ่ายยังค่ำกันเลยทีเดียว ข้อเด่นอีกอย่างของทำเลที่ตั้งโครงการนี้ก็คือ อยู่ใกล้ด่านทางด่วน แค่คุณลูกบ้านของโครงการเลี้ยวซ้ายออกมาตรงแยกสุรศักดิ์แล้วเลี้ยวเข้าถนนเจริญราษฏร์ ก็จะเจอด่านขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านสาทร ข้ามไปฝั่งดาวคะนอง หรือบางนาได้สบายๆ สำหรับเส้นทางการเดินทางบนถนนสาทรซึ่งเป็นถนนใหญ่ การมายังหน้าโครงการทำได้หลายทาง เช่น จากฝั่งพระราม 3 สามารถใช้ถนนเจริญราษฎร์เป็นหลัก พอมาสุดที่แยกถนนสาทรแล้วก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสาทรเหนือ ผ่านไปกลับรถตรงที่กลับรถใกล้ๆ ตึกหุ่นยนต์ แล้วตรงมายังแยกสุรศักดิ์อีกครั้ง หรือถ้าข้ามมาจากสะพานตากสิน ก็ให้ตรงมาบนถนนสาทรเหนือ แล้วมากลับรถที่จุดเดียวกันนี่แหละครับ แต่ถ้ามาจากฝั่งถนนวิทยุ ก็ให้วิ่งมาตามถนนสาทรใต้ รวมถึงมาจากแยกนราธิวาสฯ-สาทร พอเลี้ยวเข้าถนนสาทรใต้แล้ว ก็ตรงมายังตัวโครงการได้เลย ทีเหลือนอกจากนี้ก็เป็นเส้นทางย่อยในซอยเล็กซอยน้อย ซึ่งถ้าพอจะคุ้นเคยกับเส้นทางในระแวกนี้อยู่แล้ว หรืออยู่ๆ ไปซักพักก็คงจะเริ่มชินเส้นทาง และหาเส้นทางเลี่ยงอื่นๆ ได้อีกหลายทาง ยกตัวอย่างเช่น ซอยเซ็นหลุยส์ (ซอยสาทร 11) ที่เชื่อมไปออกถนนจันทน์ หรือถนนปั้นที่เชื่อมถนนสาทร กับถนนสีลมเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงถนนสุรศักดิ์ที่ตรงมาจากถนนพระราม 4 ผ่านถนนสี่พระยา ถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม มาจนถึงแยกสุรศักดิ์ เป็นต้น แผนที่รอบๆ โครงการ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวผมขอเริ่มจากถนนพระราม 4 เราจะมาเลี้ยวซ้ายตรงแยกวิทยุ เพื่อเข้าถนนสาทรใต้กันเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเจอตึก Q House ลุมพินี อยู่ด้านซ้ายมือ ถา้ใครเข้าผิดช่องขึ้นสะพานข้ามแยกไป ก็จะไปทางศาลาแดงเลยครับ พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรใต้แล้ว ครวานี้ก็ตรงยาวเลยครับ ตรงมาจนถึงแยกสาทร เราก็ตรงไปอีกครับ มาจนถึง BTS สถานีสุรศักดิ์ ก็ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยครับ เลยตัวสถานีรถไฟฟ้ามานิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ นอกเหนือจากนี้ก็คือการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ซึ่งหน้าโครงการก็มีให้เลือกใช้บริการได้ตั้งแต่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสองแถว รถเมล์ รถตุ๊กตุ๊ก และรถแท็กซี่ แทบจะตลอด 24 ชั่วโมง วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บริเวณรอบๆ จะมีบรรยากาศแบบเมืองใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม และตึกสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่โชคดีที่โครงการ The Bangkok Sathorn ยึดพื้นที่หัวมุมถนน ทางด้านทิศตะวันตกซึ่งติดกับถนนเจริญราษฎร์จึงเป็นมุมที่มีวิวในมุมกว้างที่สุด ถ้าอยู่ในชั้นสูงๆ ก็อาจจะสามารถเห็นวิวไกลไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ห้องส่วนใหญ่ก็ได้วิวสวยๆ ของในเมืองกันแบบเต็มๆ ตา พื้นที่บริเวณรอบๆ โครงการบรรยากาศคึกคักมากๆ ครับ โดยเฉพาะในวันธรรมดา เนื่องจากอยู่ในย่านที่มีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังใกล้ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และมีชุมชนเก่าแก่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก รถราและผู้คนจึงขวักไขว่แทบทั้งวัน ถัดออกไปทางสถานีรถไฟฟ้าอีกนิดก็จะเป็นอาคาร Thai CC ร้านอาหารไทย Blue Elephant และโรงแรม Eastin ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีโรงแรม Mode Sathorn และอาคารสำนักงาน รวมถึงโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนด้วย ที่ว่ามาทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่ยังไม่พ้นสถานีรถไฟฟ้าดีเลยนะครับ ยังแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญๆ มากขนาดนี้ และถ้าเลยไปทางแยกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ความพรั่งพร้อม และความเจริญแบบใจกลางเมืองก็จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เอาเป็นว่าแค่ระยะห่างจากโครงการไม่เกิน 2 กิโลเมตร ก็มีทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ให้เลือกเพียบ รวมถึงอาคารสำนักงานใหญ่ๆ สถานฑูต แถมด้วยวัดวาอารามก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย ความเพียบพร้อมในเรื่องทำเลจึงหายห่วงได้เลยครับ อาคาร Thai CC เป็นอาคารสำนักงานที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ขยับออกมาอีกหน่อยก็จะเป็นโรงแรม Eastin ตึกเหลืองๆ นี่คือตึก King Royal Garden Inn มี Family Mart และร้านขายของอยู่หน้าตึกให้พอฝากท้องได้บ้าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จะอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ที่ติดกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมีโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่คือโครงการ Diplomat Sathorn ของ KPN Group แต่ถ้าใครที่ยังติดบรรยากาศแบบชุมชนอยู่หน่อยๆ เลยไปทางฝั่งบางรัก บนถนนเจริญกรุงก็ยังคงได้บรรยากาศของชุมชมดั้งเดิม มีทั้งตลาดสด และร้านอาหารเจ้าดังให้เลือกอร่อยอีกเพียบ รวมถึงฝั่งถนนจันทน์ก็ได้อารมณ์ย่านชุมชนไม่ต่างกันครับ (ดูทำเลฝั่งถนนจันทน์เพิ่มเติมได้ที่นี่ Click!!) แต่ด้วยความที่ทำเลตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นใจกลางเมืองมากๆ บรรยากาศจึงคึกคัก และรถติดหนักในวันธรรมดาแทบจะตลอดทั้งวัน กลับกันที่วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์บรรยากาศรอบๆ จะเงียบเหงาขึ้นมาทันตา อาหารการกินแบบง่ายๆ ในรูปแบบ Street Foods ร้านค้าแผงลอย อาจจะหาที่พึ่งพายากหน่อย จะซื้อกับข้าวกับปลาแบบง่ายๆ อาจจะต้องขับรถ นั่งรถไปที่บางรักน่าจะมีหวังให้ฝากท้องได้ง่ายกว่า รวมถึงราคาก็ย่อมเยากว่าฝั่งสีลมเป็นไหนๆ แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนก็อาจจะต้องคำนวนเส้นทางกันนิดหน่อย จะเลี้ยวแยกไหน กลับรถฝั่งไหน เข้าซอยไหนดี เพราะถ้าขับเลยหรือเลี้ยวผิดอาจได้กลับรถกันหลายรอบ แต่ถึงยังไงระยะทางที่ต้องไปกลับรถก็ไม่ได้ไกลมากไปกว่าต้องเจอปัญหารถติดหนักหรอกครับ ภาพรวมตัวโครงการ มาถึงตัวโครงการกันบ้าง The Bangkok Sathorn เป็นโครงการ High Rise สูง 50 ชั้น ที่ออกแบบมาให้ห้องส่วนใหญ่ของทางด้านทิศตะวันตกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ก็คงต้องเป็นชั้นที่สูงๆ ขึ้นไปหน่อยนะครับ เพราะถึงจะไม่มีตึกสูงตั้งประชิดในด้านนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตึกสูงอยู่ในระยะที่สามารถบังวิวเลยซะทีเดียว รายละเอียดของตัวโครงการแบบคร่าวๆ ตอนนี้คาดว่าโซนด้านหน้าบริเวณชั้นล่างของโครงการ ทาง Land and House จะจัดสรรให้เป็นส่วนของ Retail ซึ่งทางโครงการจะเป็นผู้บริหารเอง คาดว่าจะมีทั้ง Super Market ร้านอาหาร ร้านซักรีด หรือร้านกาแฟ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกบ้านให้มากขึ้น มาดูแปลนที่ชั้น G กันก่อน นอกจาก Lobby และก็อย่างที่บอกนะครับว่าจะมี Super Market ร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ อยู่ที่ชั้นนี้ ที่ชั้น 3-5 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด รวมแล้วจอดได้ประมาณ 120% หน้าตาของ Lobby ด้านของ  Facilities ก็จัดมาแบบเต็มที่ไม่แพ้กัน ด้วยส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบรนด์ของโครงการที่ต้องการโชว์ความหรูหรา อลังการ ส่วนกลางจึงมีทั้ง สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องซาวน่า และห้องสตรีม โดยพยายามจัดให้พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ มีน้ำล้อมรอบประหนึ่งว่าอยู่บนเกาะอย่างไงอย่างงั้น ส่วนที่จอดรถก็มีมากขึ้น 120% แบบยังไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งทางโครงการสร้างอาคารจอดรถแยกออกมาต่างหาก ในขณะที่ชั้นบนสุดของอาคารจอดรถยังทำเป็นสวนขนาดใหญ่ คุยว่าสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ๆ เพื่อให้ความร่มรื่นแก่ลูกบ้าน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของส่วนกลางในตึกพักอาศัยได้ด้วย ชั้น 6 จะเป็นชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ จะมีสวนขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องซาวน่า และห้องสตรีม อยู่ที่ชั้นนี้ สวนขนาดใหญ่ที่ทางโครงการจะวางไว้บนชั้น 6 ห้องฟิตเนสบนชั้น 6 ต่อมาที่ชั้น 7-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ขึ้นมาที่ชั้น 32-32A จะเป็นชั้นที่มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge 2 สระอยู่ขนาบทั้ง 2 ข้าง สระว่ายน้ำบนชั้น 32 วิวสระว่ายน้ำอีกสระ สูงขึ้นมาอีกที่ชั้น 34-40 ก็จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยอีกชุดนึงครับ   ส่วนความเหนือระดับในด้านอื่น ทาง The Bangkok Sathorn ก็จัดเตรียมเอาไว้เต็มพิกัดให้สมกับฐานะราคา เรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ความสะดวกสบายนับว่ามีพร้อมแทบจะทุกด้านที่สามารถนึกออกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าโครงการระดับนี้ ห้องที่เปิดมาในขนาดเริ่มต้นที่ 1 ห้องนอนก็มีขนาด เกือบ 60 ตร.ม. แล้วครับ อย่างไรแล้วลองดูรายละเอียดโครงการที่เรารวบรวมมาให้เพื่อทดสอบความสนใจในเบื้องต้นกันก่อน ส่วนบรรยากาศโครงการจริง และห้องตัวอย่าง รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไว้โอกาสหน้า ทีมงานจะรีบเข้าไปเก็บภาพทุกซอกทุกมุมมาฝากกันครับ
บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ.

บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ.

บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ. หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากโครงการบูทีค รัชดา เมื่อหลายปีก่อน ชูจุดขายราคาต้นเพียง 2 ลบ.  เด่นด้วยศักยภาพทำเล 600 ม. จาก BTS อุดมสุข, Fully Furnished บจ.สิรยศ เตรียมส่งโลว์ไลส์คอนโดแบรนด์ “โดว์เช่ อุดมสุข” (Dolce Udomsuk) ลงตลาดอสังหาฯ บนทำเลศักยภาพสูงใกล้บีทีเอสอุดมสุข ประกาศชูจุดขายความเป็นส่วนตัวสูงเพียง 79 ยูนิต ให้ความรู้สึกหรูหราด้วยความสูงจากพื้นถึงเพดานถึง 2.85 เมตร พร้อม Fully Furnished และ Fully built in มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท สนนราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท มั่นใจเข้าใจลูกค้าทำให้พัฒนาสินค้าดีมีคุณภาพรองรับความต้องการของตลาดได้อย่างแน่นอน เผยใช้ประสบการณ์ความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการบูทีค รัชดา ทั้ง 2 โครงการ ที่สามารถปิดการขายได้ภายใน 30 วัน มาเป็นต้นทุนต่อยอดพัฒนาโครงการใหม่   นายวิจาร คุปติพงศ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิรยศ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งใส่ใจด้านการออกแบบ และความเป็นอยู่ของลูกค้าเป็นสำคัญ กล่าวถึงการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ภายใต้แบรนด์ “โดว์เช่ อุดมสุข” (Dolce Udomsuk) ว่า “โครงการโดว์เช่ อุดมสุข เป็นโลว์ไลส์คอนโดฯ 7 ชั้น 79 ยูนิต มีมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเส้นสุขุมวิท 103/2 ห่างจากถนนสุขุมวิทสายหลักเพียง 400 เมตร เดินทางสะดวกสามารถทะลุออก บางนาตราด ซอย 1 อุดมสุข 18 และ ถนน ศรีนครินทร์ได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเราแน่นอนว่าเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการความเป็นเมืองในราคาที่สามารถจับต้องได้ เพื่อหาพื้นที่ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ตัวเองเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงราคาก็จะขยับลงมาสบายกระเป๋ามากกว่าอยู่บนเส้นสุขุมวิทหลัก และอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เรามองไว้ คือ กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น เนื่องจากเมื่อเราวิเคราะห์ทำเลแล้วจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้เริ่มมีร้านสะดวกซื้อของคนญี่ปุ่น หรือ Lawson ซึ่งสามารถเป็นจุดชี้วัดได้ว่ากลุ่มคนญี่ปุ่นเริ่มมีการขยายตัวจากใจกลางสุขุมวิท 49 ออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น กลุ่มญี่ปุ่นเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่เราจะไม่ทิ้งกลุ่มเป้าหมายของโครงการ สำหรับโครงการนี้เราได้ออกแบบให้เหมาะกับผู้ที่รักความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย ไม่พลุกพล่านเมื่อเข้าอยู่อาศัยจริง ทั้งยังให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่ไม่อึดอัด เนื่องจากเราออกแบบให้อาคารมีเพียง 7 ชั้น เพื่อที่จะสามารถขยับความสูงของพื้นจรดฝ้าเพดานได้ถึง 2.85 เมตร ซึ่งโดยปกติโครงการทั่วไป อาจจะสูงเพียงแค่ 2.6 เมตรเท่านั้น” สำหรับโครงการโดว์เช่ อุดมสุข เป็นอสังหาริมทรัพย์โครงการที่ 4 ของบริษัท สิรยศ จำกัด โดย 3 โครงการที่ผ่านมา คือ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบูทีค รัชดา และโครงการบูทีค รัชดา 2 ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้เปิดขายเมื่อปี  2549 และสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดยโครงการแรกใช้เวลาเพียง 1 เดือน ส่วนโครงการที่ 2 ใช้เวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้นก็สามารถปิดการขายได้แล้ว ส่วนอีก 1 โครงการ เป็นโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการวิลล่าเจ้าพระยา ใกล้ทางด่วนบางพูน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้เกือบ 100% แล้ว สำหรับโครงการที่พัฒนาโดยสิรยศนั้น เราใช้ประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการคือ การเลือกทำเลที่ดี และพัฒนาสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งที่เรามั่นใจด้านการออกแบบเป็นอย่างมากเนื่องจาก ทางเราเองเป็นกลุ่มบริษัทที่รวมเอาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับบริษัทอินทีเรียร์ คอนแทร็คแอนด์ดีไซน์เข้าด้วยกัน คือ บริษัท อาร์ทิซติค ฮาร์โมนี จำกัด ตั้งมานานกว่า 15 ปี ทำงานด้านอินทีเรียร์ และบริษัท สิรยศ จำกัด ทำงานด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น เมื่อเรามีบริษัทออกแบบของเราเอง ทั้งยังมีทีมงานการตลาดที่สามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้ เราจึงมั่นใจในการออกแบบ และพัฒนาโครงการเป็นอย่างดี “อันที่จริงส่วนตัวผมเองทำงานในวงการอสังหาฯ มาโดยตลอด เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะมาเปิดบริษัท สิรยศ จำกัด ผมได้ดำเนินการภายใต้บริษัท สเต็ปออฟโมเดิร์น จำกัด มีผลงานการพัฒนาโครงการร่มรื่นการ์เด้น - วังน้อย จ.อยุธยา ระหว่างปี 2537 - 2545 โครงการเป็นบ้านจัดสรรและที่ดินเปล่า ซึ่งเราสามารถพาบริษัทให้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ได้โดยไม่เป็น NPL และจากนั้นเราได้พัฒนาอีก 1 โครงการ คือ โครงการร่มรื่นการ์เด้น – บางปะอิน จ.อยุธยา ระหว่างปี 2547 – 2548 โครงการมียอดขาย 100% ภายใน 2 ปี มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งแนวราบทั้ง 2 โครงการนี้ เราพัฒนาในนามของ บริษัท สเต็ปออฟโมเดิร์น จำกัด แต่เมื่อราขยับเข้ามาในกรุงเทพ เราพัฒนาในนามของ บริษัท สิรยศ จำกัด โดยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ และแนวราบ 1 โครงการ คือ บูทีครัชดา, บูทีครัชดา 2  และโครงการวิลล่าเจ้าพระยา ใกล้ทางด่วนบางพูน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้เกือบ 100% แล้ว” นายวิจาร กล่าว   สำหรับโครงการโดว์เช่ อุดมสุข เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการประมาณ 0-3-11 ไร่ มีแบบห้องให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาด 1 ห้องนอน 31 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน 67 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องนั่งเล่น และห้องสมุด (Library room)  ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพกลางสุขุมวิท สามารถเดินทางเข้าสู่ CBD หรือใจกลางเมืองเพียง 20 นาที หรือเดินทางไปทองหล่อเพียง 10 นาที ด้วย BTS เส้นหลัก ทั้งยังใกล้กับ Bangkok Mall ทั้งยังสามารถเดินทางไปยังเส้นทางสายตะวันออกได้ด้วย Monorail บางนา – สุวรรณภูมิ อีกด้วย โดยโครงการโดว์เช่ อุดมสุข พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2558 ราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท สำหรับผู้สนใจจองในวันงานจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ คือ. จองเท่าไหร่ ลดเท่านั้น มูลค่าสูงสุดถึง 100,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-399-2220-1 หรือ www.dolcecondo.com อ่านพรีวิวโครงการ Dolce Udomsuk ได้ที่นี่..
THE NICHE MONO รัชวิภา : รีวิวคอนโด

THE NICHE MONO รัชวิภา : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้จะพาไปดูโครงการ The Niche Mono รัชวิภา คอนโด High Rise สูง 27 ชั้น 2 อาคาร จาก เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ติดถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกประชานุกูลตรงข้ามโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ที่เริ่มก่อสร้างไปได้สักระยะแล้วนะครับ การเดินทาง การเดินทางไปยังโครงการสามารถใช้ได้หลายเส้นทางเลยนะครับ เพราะตัวโครงจะตั้งอยู่ตรงสี่แยกประชานุกูล ติดกับสะพานข้ามแยก ฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปรัชโยธิน และยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชทั้งขาเข้าและขาออก จึงค่อนข้างสะดวกสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวทางโครงการก็จะมีรถ Shuttle Van รับส่งที่ MRT บางซื่อและ BTS หมอชิต ไว้ให้บริการ รถออกทุก 30 นาที ค่าบริการจะฟรีในปีแรก ส่วนปีต่อๆ ไปจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือเปล่า ตรงนี้ต้องสอบถามจากทางโครงการอีกทีนะครับ ต่อไปผมจะพาไปดูรอบๆ โครงการ การเดินทางไปยังจุดขึ้นทางด่วนทั้ง 2 ฝั่ง และที่สำคัญเรื่องอาหารการกิน จากที่ตั้งของโครงการถือว่าหาของกินได้ยากสักหน่อย ในระยะที่สามารถเดินได้ ถ้าหากไม่มีร้านค้าใต้คอนโด แต่ถ้าขยับออกมาอีกนิดบนถนนประชาชื่นฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปงามวงศ์วาน ตลอดแนวจะมีร้านอาหารเจ้าดัง เจ้าอร่อยอยู่เยอะที่เดียวครับ และอีกที่ก็จะเป็นถนนเทศบาลสงเคราะห์หรือประชานิเวศน์ 1 ย่านวัดเสมียนนารี ตรงนี้ก็มีร้านอาหารอยู่เยอะเหมือนกันครับ ตลาดบองมาเช่ ก็จะอยู่ตรงนี้ด้วย ตามผมมาเลยครับ.. แหล่งรวมของกินอีกแหล่งซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ คือถนนเทศบาลสงเคราะห์หรือประชานิเวศน์ 1 ที่จะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด ให้เลือกเยอะแยะเลยครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ ตัวโครงการเป็นอาคาร High Rise สูง 27 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกห่างจากแยกประชานุกูลเพียงไม่กี่เมตร พาชมห้องตัวอย่าง จริงๆ ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 4 ห้องนะครับ แต่เราขอยกตัวอย่างให้ชม 1 ห้อง คือ Type A1 ขนาด 30 ตารางเมตร เพราะว่าเป็นแบบที่มีเยอะที่สุด โครงการจะขายแบบ Fully Fitted นะครับ เฟอร์นิเจอร์จะได้เฉพาะส่วนครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ส่วนแอร์ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะได้ 2 ตัวที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนจะได้แอร์ 3 ตัวที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องนั่งเล่นอีก 1 ตัว ส่วนแปลนห้องแบบอื่นๆ มีแบบไหนบ้าง มาดูกันครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ใกล้สี่แยกและจุดขึ้นลงทางด่วน ถือสะดวกในเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าหากต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร เนื่องจากรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ถือว่าอยู่ห่างจากโครงการพอสมควร แต่ในจุดนี้ทางโครงการจะมี Shuttle Van ไว้ให้บริการรับส่งลูกบ้านที่ BTS หมอชิตและ MRT บางซื่อ ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องสาธารณูปโภครอบๆ โครงการถือว่าดีเลยที่เดียวครับ เนื่องจากใกล้แหล่งชุมชน เรื่องของกินของใช้นั้นหาได้ไม่ยาก ทั้งตลาด ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า สำหรับเรื่องการลงทุน อาจจะต้องศึกษากันหนักหน่อยครับ เพราะถึงแม้ว่าโครงการจะได้รับอานิสงค์จากรถไฟฟ้าหลายสาย แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่จะเดินได้ อีกทั้งตัวโครงการอยู่ห่างจากแหล่งธุรกิจ ออฟฟิศ และสำนักงานต่างๆ ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็มีเพียงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ การหาผู้เช่าจึงอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย (คลิกดูบทวิเคราะห์การลงทุน)
Lumpini Park รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

Lumpini Park รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน : รีวิวคอนโด

Lumpini Park รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน คอนโด High Rise 5 อาคาร บนถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางกระสอ พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้ จาก LPN รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,330,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 29 ชั้น 2 อาคาร และสูง 30 ชั้น 3 อาคาร จำนวนห้อง    2,824 ยูนิต ร้านค้า 5 ยูนิต ที่จอดรถ    1,080 คัน หรือคิดเป็น 38% (รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    ประมาณ 14 ไร่เศษ ที่ตั้งโครงการ    ถนนรัตนาธิเบศร์ (รัตนาธิเบศร์ 26) ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    30 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    300 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Big C รัตนาธิเบศร์ 2 เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ Index Living Mall รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย เทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ พันธ์ทิยพ์ งามวงศ์วาน The Mall งามวงศ์วาน โรงพยาบาลนนทเวช มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 และ 26 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร (ห้อง 22.50 รวมกัน 2 ห้อง) สิ่งอำนวยความสะดวก สวนรวมใจ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ลู่วิ่งออกกำลังกาย ร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวก สนามเด็กเล่น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-689-6888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.lpn.co.th
333 Riverside : รีวิวคอนโด

333 Riverside : รีวิวคอนโด

วันนี้เรายังคงวนเวียนอยู่ในย่านเตาปูน บางโพ เพราะแถวนี้มีคอนโดโครงการใหม่ผุดขึ้นหลายโครงการเลยครับ คราวนี้จะพาไปดูโครงการ 333 Riverside คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก Land & House โครงการนี้น่าสนใจทีเดียวครับ นอกจากจะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้วิวสวยๆ แล้ว ยังอยู่ติดกับตัวสถานี MRT บางโพอีกต่างหาก   การเดินทาง สำหรับการเดินทางสามารถมาได้จากหลายเส้นทางนะครับ ไม่ว่าจะมาจากทางพระราม 5 เข้าถนนพิบูลย์สงคราม ก่อนจะมาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 1 หรือจะมาจากทางประชาชื่น วงศ์สว่าง ก่อนจะเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตรงเข้าบางโพ อีกฝั่งก็จะมาจากทางด้านสามเสน ผ่านแยกเกียกกาย เข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ไปเลี้ยวซ้ายที่แยกบางโพ ก็ถึงตัวโครงการแล้วครับ   แต่เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเมื่อไหร่ การเดินทางจะสะดวกขึ้นอีกเยอะเลยครับ เพราะทางขึ้นสถานีบางโพจะตั้งอยู่หน้าโครงการเลย สามารถเดินออกจากโครงการแล้วขึ้นรถไฟฟ้าได้ทันที ไม่ต้องต่อรถให้เสียเวลา โครงการจะตั้งอยู่สุดถนนประชาราษฎร์สาย 2 ใกล้ๆ กับท่าเรือบางโพ (แต่ตอนนี้ปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า) เลยแยกบางโพมานิดหน่อย ตัวสถานีรถไฟฟ้าบางโพจะตั้งอยู่เยื้องๆ กับโครงการนะครับ ไม่ได้ตั้งอยู่หน้าโครงการเลย แต่บันไดขึ้นลงสถานีจะมาอยู่หน้าทางเข้าโครงการพอดี ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว วันนี้เราขอเริ่มต้นจากถนนพิบูลย์สงคราม บริเวณใกล้ๆ โรงเรียนสตรีนนทบุรี เลยมาจะเจอมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เลยจากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มาจะเจอแยก ให้เลี้ยวขวาไปทางบางโพ ตามป้ายเลยครับ จากนั้นขับตรงไปทางบางโพ มาจนถึงแยก ให้เลี้ยวขาวอีกครั้งเพื่อเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 1 จากนั้นตรงมาจนถึงแยกบางโพ จะสังเกตเห็นรางรถไฟฟ้าอยู่ข้างหน้า ตรงนั้นแหละครับคือรถไฟฟ้าสถานีบางโพ ให้ไปเลี้ยวขวาที่แยกบางโพได้เลยครับ เลี้ยวขวาเข้ามาแล้ว จะเห็นสถานีบางโพกำลังก่อสร้างอยู่ข้างบน ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับ เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลยยย ทางเข้าสำนักงานขายดู Luxury สมกับเป็นคอนโดหรู วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากสำนักงานขาย ท่าเรือบางโพที่อยู่ใกล้โครงการ แต่ตอนนี้ปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อหลีกทางให้การก่อสร้างรถไฟฟ้า และอีกหนึ่งเส้นที่คือจากถนนประชาชื่น บริเวณแยกประชานุกูล หน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น มุ่งหน้าไปทางเตาปูน แล้วไปเลี้ยวขวาที่แยกประชาชื่น หน้าโลตัส เตาปูน เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตรงไปผ่านแยกบางโพก็ถึงโครงการ หรือใครมาทางด่วนศรีรัช ฝั่งขาออก มาลงรัชดาภิเษก ลงมาแล้วมาเลี้ยวซ้ายที่แยกประชานุกูล เข้าถนนประชาชื่น ก็มาเส้นทางนี้ได้เหมือนกันนะครับ เริ่มจากแยกประชานุกูล ตรงหน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เลยนะครับ จากนั้นขับตรงไปตามถนนประชาชื่น ขับมาจนถึงแยกประชาชื่น ก่อนจะถึงแยกจะเห็นโลตัส ประชาชื่น หรือที่คนแถวนี้เรียกว่าโลตัส เตาปูน อยู่ด้านซ้ายมือ ถึงแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปทางบางโพ ตามป้ายเลยครับ เลี้ยวขวามานิดหน่อย ก็จะเจอ MRT สถานีเตาปูน Interchange จากนั้นขับตรงไปตามถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ไปจนถึงแยกบางโพ ใกล้ถึงแยกบางโพแล้วให้ชิดขวาไว้นะครับ เพราะทางที่เราจะตรงไปจะเบี่ยงออกไปทางขวาหน่อย เพื่อหลบการก่อสร้างรถไฟฟ้า ไฟเขียวแล้วก็ตรงเข้าไปเลยครับ ทางอาจจะแคบหน่อย เพราะติดงานก่อสร้างรถไฟฟ้า วิเคราะห์ตัวโครงการ โครงการ 333 Riverside เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 41 ชั้น อาคาร B สูง 42 ชั้น และอาคาร Low Rise สูง 4 ชั้น อีก 1 อาคาร ตัวโครงการจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาคารที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมากที่สุดคืออาคาร Low Rise 4 ชั้น หรือที่เรียกว่า Villa ส่วนอาคาร High Rise ทั้ง 2 อาคารจะล่นระยะเข้ามาอีก โดยอาคาร A ห้องฝั่งทิศตะวันตกจะหันหน้าไปทางถนนจรัญสนิทวงศ์ได้วิวแม่น้ำเต็มๆ แต่ก็จะได้รับแดดในตอนบ่ายเต็มๆ เหมือนกัน ส่วนอีกฝั่งทิศตะวันตกเป็น City View หันไปทางบางโพ เตาปูน ฝั่งนี้จะได้รับแดดตอนเช้า ส่วนอาคาร B แยกออกไป 2 ฝั่งมีช่องตรงกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ห้องฝั่งที่ได้วิวแม่น้ำจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หันไปทางเกียกกาย โรงพยาบาลยันฮี ฝั่งจรัญฯ ส่วนห้องอีกฝั่งจะหันไปทางทิศเหนือ ทางวงศ์สว่าง สะพานพระราม 7 เรื่องสภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการยังคงเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านอาหารเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะมีโรงเรียนทหารพลาธิการ และมีโรงพยาบาลบางโพอยู่ใกล้ๆ ส่วนซูปเปอร์มาร์เก็ตก็จะมีโลตัส เตาปูนและบิ๊กซี วงศ์สว่าง ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่อาจจะไม่ต้องไปไกลถึงโลตัส บิ๊กซีก็ได้นะครับ เพราะพื้นที่ว่างหน้าโครงการอาจจะเปลี่ยนคอมมูนิตี้ มอลล์ ในอนาคต บันไดทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าทอดมาถึงหน้าโครงการ ที่ชั้น 1 จะเป็น Lobby แยกของแต่ละอาคาร มีลิฟท์โดยสารอาคารละ 3 ตัว และที่จอดรถใต้อาคารตั้งแต่ชั้น 1-4 ประมาณ 800 คัน Facility หลักของโครงการจะอยู่ชั้น 5 ทั้งสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก ที่อยู่เยื้องๆ มาทางอาคาร A ฟิตเนส สวนสีเขียวที่อยู่หน้าอาคาร B และเป็นชั้นที่เริ่มมีห้องพักอาศัย บริเวณ Facility บนชั้น 5 ฟิตเนส หันหน้าออกไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา Reading Room วิวแม่น้ำ Villa สูง 4 ชั้น จำนวน 16 ยูนิต จะเป็นส่วนที่อยู่ใกล้แม่น้ำมากที่สุด แต่นี้ขายหมดไปเรียบร้อยแล้วครับ อาคาร A ชั้น 5 นอกจากจะเป็นชั้นที่มี Facility แล้วยังเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 12 ยูนิต ส่วนชั้นที่ 6 - 41 เฉลี่ย 13 ยูนิตต่อชั้น อาคาร B ชั้น 5-6 มี 11 ยูนิตต่อชั้น ส่วนชั้น 7 - 42 เฉลี่ย 12 ยูนิตต่อชั้น พาชมห้องตัวอย่าง แบบห้องของโครงการจะมีทั้งหมด 3 แบบ คือ 1 ห้องนอน ขนาด 45.50 – 51.10 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 83.20 – 94.10 ตารางเมตร และแบบ Villa ขนาด 141.70 – 192.70 ตารางเมตร แต่ห้องตัวอย่างที่โครงการเตรียมไว้ให้ดูจะมี 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน ขนาด 45.8 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 85.7 ตารางเมตร เรามาดูแบบ 1 ห้องนอนกันก่อนนะครับ เนื่องจากวันที่เราเข้าไปทำการรีวิว มีผู้สนใจมาชมห้องตัวอย่างอยู่หลายคน เราเลยไม่ได้ภาพแบบ 1 ห้องนอนมาด้วย เลยจะขอใช้ภาพของโครงการอธิบายแทนนะครับ เมื่อเข้าไปในห้องแล้วจะเจอกับส่วนของครัวและโต๊ะทานอาหารที่อยู่หน้าห้องก่อนเลย ถัดเข้าไปจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับระเบียง ส่วนห้องนอนจะได้ห้องนอนขนาดใหญ่เลยครับ วางเตียง 5-6 ฟุต ได้สบายๆ ห้องน้ำทางโครงการตกแต่งให้สวยงามด้วยกระเบื้องโมเสค แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 45.8 ตารางเมตร เข้าไปในห้องจะเห็นส่วนของครัวอยู่ทางขวามือก่อนนะครับ เลยจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ห้องนอน แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดห้องจะกระโดดมาเป็น 85.7 ตารางเมตร เข้าห้องมาแล้วจะเจอกับโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งก่อนเลย ส่วนครัวจะเป็นแบบปิดอยู่ด้านขวาสุดของห้อง ส่วน Living Area จะอยู่เลยมาจากโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะอยู่ติดกับระเบียงขนาดใหญ่ ทางเดินเข้าไปที่ห้องนอนจะผ่านห้องนอนเล็กก่อนนะครับ ห้องนอนเล็กนี่สามารถวางเตียงได้ขนาดประมาณ 3 ฟุตเห็นจะได้ ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำห้องแรก มาถึงสุดทางเดินจะเป็นห้องนอนใหญ่ ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำอีก 1 ห้อง แบบห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 85.7 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ระบบ Digital Door Lock นะครับ ที่หน้าห้องจะมี Mail Box ติดอยู่ด้วย ไม่ต้องคอยลงไปเปิดดู Mail Box ข้างล่างอีกแล้ว ตู้เก็บของขนาดใหญ่อยู่หน้าประตู เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน อยู่ที่หน้าห้องก่อนนะครับ ส่วนด้านขวาสุดเป็นห้องครัว เดี๋ยวไปดูในครัวกันต่อเลย ครัวจะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นด้วยประตูประจกบานเลื่อน ด้านที่ติดกับโต๊ะทานอาหารจะทำเป็นกระจกมองจากครัวออกไปด้านนอก ทำให้ในครัวดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นเคาน์เตอร์ยาวมีพื้นที่ทำอาหาร เตรียมอาหาร ได้เยอะทีเดียว ด้านล่างจะเป็นช่องลิ้นชักเก็บของ ที่วางไมโคเวฟ และที่เห็นแวบๆ มุมซ้ายสุดคือเครื่องซักผ้า ต่อออกมาจากครัวจะเป็นที่ว่างแบบนี้อยู่ จริงๆ แล้วถ้าเอาเครื่องซักผ้ามาวางตรงนี้น่าจะใช้งานได้สะดวกกว่านะครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะวางอยู่ด้านนอก หันหน้าออกนอกห้องแบบนี้ ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างครัวกับระเบียงเล็กๆ ที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์เมื่อกี้ เข้ามาดูด้านในกันต่อนะครับ ต่อไปเป็นส่วนของ Living Area ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็ประมาณนี้นะครับ ซึ่งจะอยู่ติดกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ระเบียงที่ได้ก็ใหญ่สมควรนะครับ ที่สำคัญระเบียงจะโล่งไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์วางเกะกะอยู่ด้วย ทางเดินเข้าไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง เจอชั้นวางของหน้าห้องก่อนเลย เราแวะมาดูที่ห้องนอนเล็กกันก่อนนะครับ เตียงของห้องตัวอย่างที่โครงการทำไว้ให้ดูจะเป็นเตียง Built-in ขนาดจึงพอดีกับตัวห้องแบบที่เห็น ขนาดก็จะพอๆ กับเตียง 3 ฟุต โต๊ะนั่งทำงานข้างๆ เตียง นั่งกับพื้นเลย ดีไซด์น่ารักดีนะครับ ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก จะเป็นห้องน้ำห้องแรก อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มีตู้เก็บของอยู่ข้างๆ ให้ด้วย ผนังห้องน้ำด้านที่ติดอ่างล่างหน้าจะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค เพิ่มความหรูหราขึ้นไปอีก กระจกเงาขนาดพอดีกับอ่างล่างหน้า โถสุขภัณฑ์ Shower Box จะกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ มี Rain Shower ให้ด้วยนะครับ มาดูที่ห้องนอนใหญ่ต่อนะครับ ห้องนอนใหญ่วางเตียง 5-6 ฟุตแล้วยังมีที่ว่างรอบๆ เตียงเหลือให้ทำอย่างอื่นอีกเยอะเลย ชั้นวางทีวีที่ปลายเตียง หรือใช่ทีวีแบบแขวนก็ได้เช่นกัน ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง ทางโครงการ Built-in Daybed ไว้นั่งชมวิวที่ริมหน้าต่าง ให้ดูเป็นไอเดียด้วย หน้าต่างจะเป็นบานฟิก และมีบานกระทุ้งให้ 1 บาน ข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นโต๊ะข้างเตียงวางติดอยู่กับตู้เสื้อผ้า ต่อไปจะเป็นห้องน้ำอีกห้องที่อยู่ในห้องนอนใหญ่ การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ห้องน้ำห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องแรกนะครับ อ่างล้างหน้าและตู้เก็บของ ขนาดของ Shower Box ถือว่ากว้างพอสมควร อาบพร้อมกัน 2 คนได้สบายเลยครับ อิอิ ^_^ ห้องนี้ก็มี Rain Shower ให้เหมือนกันนะครับ ความคุ้มค่าน่าลงทุน ที่ตั้งของโครงการ 333 Riverside ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีเลยทีเดียวครับ เพราะตัวโครงการที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและรถไฟฟ้าสถานีบางโพ แถมยังอยู่ในย่านชุมชน ใกล้ตลาดสด โรงพยาบาล และโรงเรียน ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยเกาะแนวรถไฟฟ้า และอยู่ไม่ห่างจากความเจริญมากนัก ซึ่งในอนาคตทำเลย่านนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะนอกจากรถไฟฟ้าที่เข้ามาในย่านนี้แล้ว ยังมีรัฐสภาแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ก่อสร้างอยู่อีกด้วย ส่วนการซื้อเพื่อลงทุนสำหรับการปล่อยเช่า อาจจะต้องคิดกันหนักหน่อยนะครับ เนื่องจากห้องมีขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 45 ตารางเมตร ราคาต้นทุนจึงอาจจะสูงตามไปด้วย แถมตัวโครงการยังอยู่ห่างไกลจากแหล่งธุรกิจใจกลางเมือง ขณะที่การซื้อเพื่อขายต่อในอนาคตอาจจะมีโอกาสที่ดีกว่า เพราะอย่างที่บอกนะครับว่าศักยภาพของทำเลในย่านนี้มีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต แต่อย่างไรก็ดีผู้ลงทุนควรศึกษาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ให้รอบคอบก่อนการลงทุนด้วยนะครับ
The Lumpini 24 : รีวิวคอนโด

The Lumpini 24 : รีวิวคอนโด

The Lumpini 24 เป็นคอนโดระดับ High End   ในเครือ LPN ซึ่งยึดทำเลสุดฮ็อตย่านสุขุมวิท โดยชื่อ The Lumpini 24 ก็มาจากที่ตั้งโครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 24 นั่นเอง แค่เริ่มเปิดตัวโครงการมาก็มียอดจองล้นหลามจะเกือบจะเต็มทุกยูนิตแล้ว เราจึงเข้าไปเก็บข้อมูลทั้งเรื่องทำเล และตัวโครงการมาฝากกันครับ   การเดินทาง   การเดินทางมายังโครงการ The Lumpini 24 ก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเลือกเดินทางได้ทั้งทางรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วตรงเข้าซอยสุขุมวิท 24 ไปยาวๆ ซัก 1 กิโลเมตรก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ตรงสี่แยกตัดกับถนนเรารักในหลวงพอดี การเดินทางเข้าออกซอย นอกจากจะเดินด้วยสองเท้า (ซึ่งปกติคนไทยแบบเราๆ ไม่เลือกเดินอยู่แล้วมั้งครับสำหรับระยะทางประมาณนี้) ก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วสุดๆ ซึ่งก็มีทั้งวินที่อยู่หน้าโครงการ และหน้าปากซอยสุขุมวิท 24 พอดีลงรถไฟฟ้าปุ๊ปก็ต่อรถได้ปั๊ปเลยไม่ต้องเสียเวลา   ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในทำเลแถบนี้ต้องทำใจกับปัญหารถติดไว้เลยครับ เพราะถนนสุขุมวิทตรงช่วงซอย 20 ต้นๆ นี้การจราจรหนาแน่นเกือบตลอดเวลาเลยทีเดียว แม้แต่ภายในซอยเล็กซอยน้อยที่เชื่อมโยงถึงกันด้วย เส้นทางหลีกเลี่ยงไปออกถนนพระราม 4 ก็แทบไม่ต่างกัน เพราะอยู่ในช่วงถนนที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนพระราม 4 ไปยังถนนสุขุมวิท รวมถึงเส้นทางเชื่อมจากซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ก็ไปออกถนนเพชรบุรีได้อีก รถราบริเวณนี้เลยขวักไขว่มากมายจนเป็นเรื่องปกติไปเลยครับ เส้นทางหลักๆ ที่ใช้เข้าออกโครงการก็น่าจะเป็นทางฝั่งสุขุมวิท 24 และซอยอรรถกวีจากทางฝั่งพระราม 4 ส่วนเส้นทางในซอยก็สามารถลัดไปออกได้ทั้งซอยสุขุมวิท 16, 22, 26 และ 36 ตรงทองหล่อได้ด้วย ถ้าชำนาญเส้นทางแถวนี้หน่อยก็สบายไปเลยครับ ซอยเล็กซอยน้อยเชื่อมต่อกันเพียบ   ข้อเสียอีกอย่างสำหรับคนใช้รถส่วนตัวเป็นหลักก็คือ ทำเลของโครงการอยู่ไกลจากด่านขึ้นลงทางด่วน ถึงแม้จะมีด่านทางด่วนอยู่รอบๆ ทั้งด่าน พระราม 4 เอกมัย-รามอินทรา, ด่านสุขุมวิท 50 หรือด่านตรงเพลินจิตก็ตาม ยังไงก็ต้องฝ่าการจราจรออกมาอีกพอสมควร แต่โดยรอบพื้นที่รอบๆ โครงการก็มีสาธารณูปโภคครบครันมากๆ อยู่แล้ว ถ้าหากไม่ได้จำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ระแวกนี้ ทำเลของโคงการ The Lumpini 24 ก็จัดว่าสะดวกมาก แผนที่โครงการ แผนที่รอบๆ โครงการ สำหรับการเดินทางที่สะดวกที่สุดในย่านนี้ก็ต้องยกให้รถไฟฟ้า BTS นี่แหละครับ สถานีที่อยู่หน้าปากซอยเลยก็คือสถานีพร้อมพงษ์ ถ้าพูดถึง BTS พร้อมพงษ์หลายคนก็ต้องนึกถึง Emporium ที่อยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 24 ข้างๆ กันก็จะเป็นสวนเบญจสิริ สวนสาะารณะแห่งเดียวในย่านนี้ ที่ถือว่าเป็นปอดของคนในย่านนี้เลยก็ว่าได้นะครับ ส่วนการเดินทางเข้าซอยเมื่อลง BTS มาแล้วก็มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ครับ บรรยากาศที่หน้าปากซอยก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร คอยให้ฝากท้องอยู่หลายร้านเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายข้าวแกง ร้านขายข้าวมันไก่จะซื้อกลับหรือนั่งทานที่ร้านก็ได้ ร้านค้ารถเข็นริมฟุตบาท ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ง่ายๆ เลยครับ วิ่งถนนสุขุมวิทมาเรื่อยๆ จนถึงพร้อมพงษ์แล้วก็เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 24 จุดสังเกตเด่นที่สุดก็คงจะเป็นสถานีรถไฟฟ้านี่แหละครับ เดี๋ยวเราเข้าไปดูบรรยากาศในซอยกันเลยนะครับ การจราจรบริเวณปากซอยจะติดขัดนิดนึงนะครับ เพราะมีรถเข้าออกซอยค่อนข้างมาก เลยจากปากซอยมานิดหน่อยก็จะเจอโรงแรม Hilton Sukhumvit บรรยากาศในซอยจะคึกคักมากเลยนะครับ เพราะมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร คอนโด ขึ้นเยอะมาก วิเคราะห์ตัวโครงการ ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการที่ค่อนข้างได้เปรียบมากๆ เพราะอยู่ในตำแหน่ง CBD ของกรุงเทพ ถนนสายหลักๆ คือถนนสุขุมวิท ย่านใจกลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพ แวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าร้านอาหารชื่อดัง อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงเรียน และสวนสาธารณะใหญ่ เรียกว่าครบถ้วนพร้อมสรรพไปทุกด้าน ยกตัวอย่างเด่นๆ ที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตรรอบโครงการก็ได้แก่ ห้าง Emporium, Emquartier ที่กำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ โครงการK Village, ห้าง Big C, Tesco Lotus, โครงการ Nihonmachi  และ โครงการ A Square อันนี้คือตัวอย่างแค่คร่าวๆ เท่านั้น ยังไม่นับรวมถึงร้านอาหารยอดฮิต โรงเรียนสถานศึกษาชื่อดัง โรงแรมใหญ่ๆ หรือ Residence หรูในซอยระแวกนี้อีกมากมาย หรือถ้าออกไปทางฝั่งถนนรัชดาภิเษก ก็มีสวนสาธารณะเบญจกิตติ และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีก ถึงได้บอกว่าทำเลย่านนี้เป็นทำเลทองจริงๆ ครับ มาถึงตัวโครงการ The Lumpini 24 กันบ้าง ถึงแม้จะอยู่ภายใต้แบรนด์ LPN ที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคอนโด High Rise โครงการนี้ต้องบอกว่าต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งหน้าตาของอาคาร และแนวทางการออกแบบที่ทำออกมาได้หรูหรา โดดเด่นมาเลยทีเดียว เน้นความเป็นส่วนตัวโดยแบ่งจำนวนยูนิตในแต่ละชั้นไว้น้อย ซึ่งจำกัดสูงสุดที่ 12 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น การวางตำแหน่งห้องเป็นไปตามรูปแบบตึกที่ฉีกออกไปเป็น 2 ฝั่ง หันหน้าออกไปแนวทิศตะวันออกและตะวันตก  โดยมีโถงลิฟท์โดยสารอยู่ตรงกลาง ซึ่งทางโครงการก็จัดลิฟท์โดยสารมาให้ 4 ตัว และลิฟท์ขนของแยกออกมาอีก 1 ตัว เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตรวมที่ 400 นิดๆ ก็ต้องบอกว่าอัตราส่วนในการใช้ลิฟต์เพียงพอต่อการใช้งานสบายๆ เลย เมื่อเราเลือกดูคอนโดสูงๆ แบบนี้ เรื่องวิวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้ประกอบการเลือกแน่นอน ซึ่งพื้นที่รอบๆ โครงการก็มีคอนโดโครงการอื่นๆ ขึ้นอยู่บ้าง แต่ทางโครงการก็พยายามออกแบบตัวอาคารและรูปแบบการวางตัวให้เลี่ยงปัญหาการถูกบังวิวไว้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นเรื่องวิวที่แต่ละห้องจะได้จึงค่อนข้างเปิดกว้างพอสมควร บางมุมก็ถูกอาคารที่อยู่มาก่อนหน้าบังวิวไปบ้าง ยังไงก็ต้องเล็งมุมกันให้ดีๆ หน่อยครับ แต่ถ้าไม่ได้หวังผลกับเรื่องวิวมากนักก็ตัดความกังวลตรงนี้ไปได้มากหน่อย พื้นที่ Facilities อย่างสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 41 เรียกว่า Sky Pool สามารถคาดเดาได้ว่า เราจะมองเห็นวิวสวยๆ ยามเย็น บรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกคงจะโรแมนติกมากแน่ๆ เพราะตัวสระว่ายน้ำยาวตลอดแนวอาคารเลย นอกจากนี้ที่ชั้น 41 ยังมี Sky Lounge ไว้ให้นั่งเล่นพักผ่อน ถัดขึ้นไปที่ชั้น 42จะเป็น Fitness ที่เปิดรับวิวมุมสูงได้เต็มๆ เช่นกัน สาธารณูปโภคส่วนใหญ่ก็จะรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น 41-42 นี่แหละครับ ทั้ง Kid Club, ห้องสมุด และสวนพักผ่อน ฯลฯ ในส่วนของที่จอดรถจะแยกเป็นอาคารออกไปต่างหาก จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1-6 จากที่สอบถามแล้วทางโครงการแจ้งว่าสามารถรองรับรถได้มากถึง 70% เลยทีเดียว  ซึ่งเป็นจำนวนที่สมเหตุสมผลกับคอนโดระดับนี้ที่ลูกบ้านส่วนใหญ่คงจะมีรถส่วนตัวกันอยู่แล้ว เรื่องที่จอดรถจึงต้องจัดมามากหน่อยเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แบบจำลองโครงการ ด้านหน้าโครงการฝั่งที่ติดกับถนนสุขุมวิท 24 ด้านหน้าโครงการถือว่าร่มรื่นดีทีเดียวครับ มีทั้งน้ำตก และสวนสีเขียว เริ่มที่ชั้น G นะครับ ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby , Mail Box, Reception และส่วนของนิติบุคคล หน้าตาของ Lobby เมื่อมองจากด้านนอก ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีลักษณะเป็นเหมือนชั้นลอยนะครับ เป็นที่ตั้งของ Business Center และ Rental Space ที่น่าจะเป็นร้านค้าต่างๆ ชั้น 3-33 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัยแล้วนะครับ เฉลี่ยแล้วจะมียูนิตอยู่ที่ 12 ยูนิตต่อชั้น โดยแกนกลางของอาคารจะเป็นลิฟท์และบันได ถัดขึ้นมาที่ชั้น 34-39 ยูนิตจะน้อยลงนะครับ จะเหลือประมาณ 8 ยูนิตต่อชั้น เนื่องจากที่ชั้นนี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่ ชั้น 41 จะเป็น Facility หลักของโครงการ อย่างสระว่ายน้ำ, Sky Lounges และ Kid Club หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 41 Sky Lounges วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา บนชั้น 41 ส่วน Facility หลักอีกอย่าง คือฟิตเนส จะอยู่ที่ชั้น 42 หน้าตาของฟิตเนส บนชั้น 42 พาชมห้องตัวอย่าง เนื่องจากวันที่เราเข้าไปเยี่ยมชม ทางโครงการไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูกันแล้ว ดังนั้นจึงขอยกเอาภาพจำลองห้องของทางโครงการมาให้ดูประกอบกันไปก่อนนะครับ ห้องทั้งหมดทางโครงการขายมาให้แบบ Fully Fitted มีทั้งชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และตู้เสื้อผ้ามาให้ เท่าที่สอบถามก็เห็นว่าเลือกวัสดุอุปกรณ์มาได้มาตรฐานสมกับตัวห้องนะครับ จากแบบก็ดูสวยงามดี ที่เหลือก็ต้องรอดูของจริงกันอีกทีครับ แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนของครัวก่อนนะครับ โครงการจะขายแบบ Fully Fitted จะมีชุดครัวแบบนี้มาให้ เลยเข้าไปข้างในจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ที่อยู่ติดกับ Living Area จาก Living Area มองตรงไปจะเจอห้องนอน ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังดีครับ อยู่ติดกับหน้าต่างที่สูงจรดเพดานห้องเลย ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ภายในห้องนอน สุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard แบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 53.50 - 54.00 ตารางเมตร Type นี้เข้ามาแล้วก็จะเจอกับส่วนของครัวที่อยู่หน้าห้องก่อน เหมือนกันนะครับ เลยเข้ามาด้านในจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ที่จะอยู่ภายในส่วน Living Area ห้องนอนเล็ก ห้องนอนใหญ่ ห้องนอนใหญ่อีกมุมครับ
Dolce Udomsuk : รีวิวคอนโด

Dolce Udomsuk : รีวิวคอนโด

Dolce Udomsuk คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น โครงการใหม่จาก SIRAYOS GROUP บนถนนสุขุมวิท 103/2 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข  รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   ประมาณ  2 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร  ประมาณ 85,000 บาท เจ้าของโครงการ  Sirayos Co., Ltd. ลักษณะคอนโด  Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง  79 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   0-3-11 ไร่ ที่จอดรถทั้งหมด  ประมาณ 30 คัน ในช่องจอด (คิดเป็น 40%) ที่ตั้งโครงการ  ซอยสุขุมวิท 103/2 ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง  ปี 2558 ปีที่สร้างเสร็จ  ปี 2559 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BI-TEC บางนา เซ็นทรัล บางนา บิ๊กซี Berkeley international school โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น  31 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น  67 ตารางเมตร Type A1-1 ขนาด 31.21 ตารางเมตร Type A1-2 ขนาด 30.59 ตารางเมตร Type A1-3 ขนาด 31.10 ตารางเมตร Type A1-4 ขนาด 31.08 ตารางเมตร Type A1-5 ขนาด 31.90 ตารางเมตร Type A1-6 ขนาด 31.10 ตารางเมตร Type A2 ขนาด 30.67 ตารางเมตร Type A3 ขนาด 33.55 ตารางเมตร Type A4 ขนาด 66.76 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ความยาว 13 เมตร Fitness ห้องนั่งเล่น (ล็อบบี้และห้องสมุด) ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง CCTV Key card access control สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-399-2220-1 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.dolcecondo.com
The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ จะพาทุกคนไปชมเยี่ยมโครงการ The Stage Taopoon Interchange ในเครือของ Real Asset อีกหนึ่งโครงการที่เกาะติดแนวรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน แถมพ่วงด้วยสายสีม่วงเข้าไปอีก เพราะจุดนี้เป็นสถานีเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายพอดี ทำเลนี้เลยเพิ่มระดับความน่าสนใจขึ้นมาได้อีกเยอะเลยทีเดียว   การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการ The Stage Taopoon Interchange ของเราในครั้งนี้ เริ่มต้นกันจากถนนประชาชื่นครับ มุ่งหน้ามาทางเตาปูนจนสุดถนน ซึ่งจะตัดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 พอดี ตรงนี้เราจะเริ่มเห็นรางรถไฟฟ้ากันแล้ว จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 กันเลย วิ่งตรงข้ามแยกเตาปูนมาอีกหน่อยก็จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือแล้วครับ การเดินทางด้วยรถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ เพราะสามารถเลือกลงทางด่วนรัชดาภิเษก ตรงแยกประชานุกูลแล้ววิ่งมาตามถนนประชาชื่นก็ได้ หรือจะเลือกข้ามสะพานพระราม 7 มาจากฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้เช่นกัน แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็จะเป็นการเดินทางที่พึ่งพาเป็นหลักได้ เพราะช่วยประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้มาก แถมตัวสถานีรถไฟฟ้าก็อยู่ห่างจากหน้าโครงการไปไม่เกิน 400 เมตร เรียกว่ากำลังเดินได้สบายๆ ครับ แต่ถ้าขี้เกียจเดินหน่อย บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าก็มีวินมอเตอร์ไซค์พร้อมให้บริการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเดินทางด้วยรถบริการสาธารณะอื่นๆ ก็ค่อนข้างสะดวกเช่นกัน ทั้งรถเมล์ และรถแท็กซี่ เนื่องจากบริเวณแถบนี้มีทั้งโรงเรียน และโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ รถราจึงมีวิ่งบริการเป็นจำนวนมากอยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนประชาชื่น บริเวณแยกประชานุกูล หน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น นะครับ ให้ตรงผ่านแยกประชานุกูลไปทางบางซื่อเลยครับ โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ ประชาชื่น อีกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โครงการ จากนั้นขับตรงไปตามถนนประชาชื่น ขับมาจนถึงแยกประชาชื่น ก่อนจะถึงแยกจะเห็นโลตัส ประชาชื่น หรือที่คนแถวนี้เรียกว่าโลตัส เตาปูน อยู่ด้านซ้ายมือ ถึงแยกแล้วให้เลี้ยวขวา เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปทางเตาปูน ตามป้าย เลี้ยวขวามานิดหน่อย ก็จะเจอ MRT สถานีเตาปูน Interchange บรรยากาศบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 จะมีคอนโด ขึ้นมาหลายโครงการ ทั้ง Rich Park ที่สร้างเสร็จแล้ว โครงการ ชีวาทัย Interchange และ The Tree Interchange ที่กำลังก่อสร้างอยู่ การเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนการจราจรอาจจะติดขัดสักหน่อยนะครับ จากสถานี MRT เตาปูนมาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงสำนักงานขายโครงการแล้วครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ โครงการ The Stage Taopoon Interchange เป็นคอนโด High Rise ตั้งอยู่บนประชาราษฎร์สาย 2 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนมาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงหน้าทางเข้าโครงการ ถ้าดูตามรูปที่ดินของโครงการแล้ว จะเห็นว่าตัวที่ตั้งโครงการจริงๆ จะอยู่ด้านในถัดจากถนนเข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร ซึ่งเดิมบริเวณนี้เป็นที่ดินของโรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา ถ้าหากใครที่คุ้นเคยกับทำเลแถบนี้อยู่แล้วก็คงจะนึกภาพตามได้ไม่ยากครับ ด้วยความที่ตัวที่ดินอยู่ถัดเข้ามาด้านใน จึงค่อนข้างลดปัญหาเรื่องมลภาวะทางเสียงไปได้พอสมควรเลยนะครับ เพราะถ้าตัวอาคารที่พักอาศัยอยู่ติดถนนใหญ่ และใกล้กับรางรถไฟฟ้ามากกว่านี้ คงหลีกเลี่ยงเรื่องเสียงรบกวนได้ยาก ในขณะที่พื้นที่รอบๆ โครงการยังเป็นที่พักอาศัยทั้งอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีเพื่อนบ้านเป็นตึกสูงของโครงการ The Tree Interchange ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้นที่อยู่ในระยะประชิด ยังดีหน่อยที่ลักษณะของที่ดินโครงการบังคับให้ตัวอาคารที่พักอาศัยหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ เลยหมดปัญหากังวลเรื่องตำแหน่งห้องที่จะถูกตึกข้างๆ บดบังวิวไปได้เยอะเลย อย่างที่บอกไปแล้วว่าพื้นที่โดยรอบยังเป็นบ้านพักอาศัยที่อยู่มาก่อนนานแล้ว สภาพแวดล้อมโดยรอบจึงยังคงความเป็นชุมชนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วก็ตาม อาคารพาณิชย์ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหาร และธนาคารพาณิชย์ ที่ให้ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้ตามสมควร รวมถึงโรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยาที่ยังคงอยู่ทางด้านหลังโครงการ และโรงพยาบาลบางโพที่อยู่ห่างออกไปเพียง 300 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ถัดออกไปทางแยกเตาปูนก็มีตลาดสด และห้างโลตัสเตาปูนที่สามารถเป็นที่พึ่งพาให้จับจ่ายซื้อหาข้าวของที่จำเป็นได้ไม่ยาก ทำเลในย่านนี้จึงถือว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยพอสมควรเลยทีเดียว บรรยากาศ 2 ข้างทางบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง จะมีร้านอาหารอยู่ประปราย อย่างที่เห็นนี่คือร้านข้าวมันไก่ ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ฝั่งตรงข้ามก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายใบ้ ร้านอร่อยที่อยู้ใกล้ๆ คอนโด เดินเลยมาอีกหน่อยก็จะถึงทางขึ้นรถไฟฟ้า ระยะทางจากโครงการถึง MRT ประมาณ 350 เมตร ถ้ารถไฟฟ้าเปิดใช้บริการแล้ว น่าจะเพิ่มความสะดวกสบายให้คนในย่านนี้ขึ้นเยอะเลยครับ สำหรับตัวโครงการเป็นคอนโดอาคารเดี่ยวสูง 36 ชั้น มียูนิตรวมทั้งหมด 773 ยูนิต โดยส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป  ในขณะที่พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1-6 จะถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถรองรับปริมาณรถได้ถึง 447 คันเลยทีเดียว  ถือว่าทางโครงการจัดมาให้เต็มที่มากๆ เมื่อเทียบกับคอนโดแนวรถไฟฟ้าในระดับเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 6-7 มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาด 25 x 8 เมตร พื้นที่พักผ่อน รวมถึงห้องสมุด และ Play Room ด้วย ซึ่งจะอยู่รวมกันกับพื้นที่พักอาศัยบนชั้น 7 นั่นเอง ห้องพักบนชั้นนี้จะสะดวกเวลาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางในการออกกำลังกาย แต่ก็ต้องแลกกับเป็นส่วนตัวที่เสียไปบ้างครับ นอกจากนี้ที่พื้นที่บนดาดฟ้าชั้น 36 ยังมีสวนหย่อม และมุมพักผ่อนไว้ให้รับลมชมวิวได้อีกด้วย แต่จะว่าไปแล้วพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดสรรมาให้นั้น ออกจะกระทัดรัดไปซักหน่อย ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตรวมแล้ว สัดส่วนของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดไว้ให้ 4  ตัว เฉลี่ยออกมาแล้ว ลิฟต์ 1 ตัว ต่อ 194 ยูนิต นับว่าหนาแน่นเอาเรื่องถึงแม้จะมีลิฟต์ขนของแยกมาต่างหากแต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้นะครับ เพราะอย่างไรการใช้งานก็แยกส่วนกันอยู่ดี ถึงเวลาใช้งานจริง ช่วงเช้าๆ ที่ทุกคนรีบจะออกไปทำงานพร้อมๆ กัน คงต้องรอลิฟต์กันนานหน่อย พ้นจากเรื่องส่วนกลางไปแล้ว เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการก็เป็นไปตามมาตรฐานเลยครับ ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการใช้ Key Card ในการเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานที่เราพอจะคาดเดากันได้ไม่ยาก ภาพมุมกว้าง เมื่อมองจากโค้งน้ำเจ้าพระยา แบบจำลองโครงการ จะเห็นระยะทางที่ตัวโครงการร่นจากถนนเข้าไปประมาณ 100 เมตร ทางเข้าโครงการ ชั้น G จะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับ Shop อีก 4 Shop และมีที่จอดรถอีกบางส่วน ส่วนที่จอดรถหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1-6 หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 7 ทั้งสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก Reading Room และ Play Room นอกจาก Facility แล้ว ชั้น 7 ก็จะเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วยนะครับ ห้องสมุดที่ชั้น 7 สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8x25 เมตร พร้อมแยกสระเด็ก แบบจำลองบนชั้น 7 ส่วน Fitness จะอยู่ที่ชั้น 8 เป็นชั้นลอยขึ้นมาจาก Facility ที่ชั้น 7 ชั้น 9 - 36 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยประมาณ 26 ยูนิตต่อชั้น Roof Garden บนชั้นดาดฟ้า พาชมห้องตัวอย่าง แบบห้องหลักๆ ของโครงการ The Stage Taopoon Interchange มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นกันที่ 26 ตร.ม. โดยประมาณ ถึงจะเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ แต่ก็มีการจัดวาง Layout ไว้เป็นสัดส่วน เปิดประตูห้องมาก็จะเจอในส่วนของ Living Area ก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งทางโครงการกั้นประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ไว้ให้เป็นสัดส่วน ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว และห้องน้ำ  แน่นอนว่าในโซนนี้ก็มีประตูกระจกบานเลื่อนแยกไว้ชัดเจนอีกเหมือนกัน แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องครัวก่อนทุกครั้ง ในขณะที่ระเบียงด้านนอกก็มีพื้นที่กระทัดรัด เพียงแค่พอวางเครื่องซักผ้า กับแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ชมกัน จะเป็นห้องขนาด 33.2 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Layout ของห้องนี้จัดมาได้ค่อนข้างน่าสนใจแปลกตา เปิดห้องมาเราจะเจอ Living Area ที่ค่อนข้างกว้างขวางดีทีเดียว พอวางชุดโซฟาไปแล้ว ก็ยังมีที่เหลือสำหรับโต๊ะกินข้าวได้อีกชุด ในห้องตัวอย่างจึงจัดวางโต๊ะกินข้าวไว้ชิดผนังด้านที่ติดกับห้องครัวให้เห็นเป็นไอเดียด้วย การกั้นห้องจะมีลักษณะเป็นผนังทึบ ไม่ใช่ประตูกระจกบานเลื่อนอย่างห้องแบบแรก ซึ่งข้อดีของการกั้นห้องแบบนี้คือ ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ผนังของห้องครัวด้านที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ถูกเจาะช่องติดกระจกบานใสไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเปิดรับแสงจากธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะให้ความรู้สึกขาดๆ เกินๆ ไปบ้างเพราะโดยส่วนตัวไม่ค่อยชินกับการออกแบบลักษณะนี้จริงๆ ครับ พื้นที่ห้องครัวจัดไว้เป็นสัดส่วนดี ทั้งประตูบานเลื่อนที่ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวน และประตูระเบียงที่ติดกับห้องครัวก็ช่วยในเรื่องการระบายกลิ่นได้อีกทาง ในขณะที่พื้นที่ของห้องนอนจะจัดสรรพื้นที่ใช้สอยมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว เปิดประตูบานสวิงเข้าไป เตียงนอนจะอยู่ใกล้หน้าต่างที่เป็นกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่มากๆ อีกด้านเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ และโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำที่ดูแล้วลงตัวดีครับ แบบห้อง Type A 1 ห้องนอน ขนาด 33.20 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ อย่างที่บอกว่า Living Area ที่นี่ค่อนข้างจะกว้างทีเดียว ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอยู่ราวๆ 3 เมตร สามารถตั้งทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ เลยครับ โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ทางโครงการจัดวางไว้ข้างๆ โซฟา ในส่วน Living Area ติดกับผนังครัวที่ทำเป็นช่องกระจกมองเข้าไปเห็นในครัวได้ วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง อาจจะดูเล็กไปหน่อยนะครับ เพราะต้องเผื่อพื้นที่ให้ดต๊ะทานอาหาร ชั้นวางทีวีที่โครงการ Built-in มาให้ดู ดูจากระยะห่างแล้ว คงจะต้องใช้ทีวีจอใหญ่หน่อยครับถึงจะได้อรรถรส เลยเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วนครัว ครัวจะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เคาน์เตอร์ครัวจะหน้าตาแบบนี้นะครับ มีช่องวางไมโครเวฟด้านล่าง แต่จะไม่ได้กระจกติดผนังกันเปื้อนแบบในภาพนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานแบบฝังอยู่ทางขวามือ ทางซ้ายจะเป็นเตาไฟฟ้า ด้านล่างจะเป็นช่องวางไมโครเวฟและตู้เก็บของ ซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ Teka มารพ้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ระเบียงจะอยู่ติดกับครัวเลยนะครับ จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน รางและขอบประตูกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำ ขนาดของระเบียงก็จะกว้างประมาณนี้นะครับ จุดที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ที่ระเบียง คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาข้างใน เราจะไปดูที่ห้องนอนกันต่อ ในห้องตัวอย่างกับแปลนห้องหัวเตียงจะสลับด้านกันนะครับ เข้าห้องนอนมาแล้วประตูจะอยู่ด้านปลายเตียง ไม่ใช่หัวเตียงเหมือนในแปลนห้อง ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังดีเลยนะครับ มีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือให้ทำอย่างอื่นได้อีก ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก แต่จะวางชั้นวางทีวีก็จะดูแคบไป ควรจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่าครับ หน้าต่างในห้องนอนด้านปลายเตียงจะทำกระจกเข้ามุมไว้ด้วย จะมีบานกระทุ้ง 1 บาน ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างเว้นที่ไว้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟสวยๆ ก็โอเคนะครับ ข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่วางอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ติดกับตู้เสื้อผ้า การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าของ MOGEN มีมาเฉพาะตัวอ่างนะครับ ไม่มีเคาน์เตอร์และตู้เก็บของด้านล่างให้ ทำให้แทบจะไม่มีที่วางของเลย โถสุขภัณฑ์ก็ของ MOGEN เหมือนกันครับ มีที่แขวนทิชชู่อยู่ด้านข้าง ส่วน Shower Box จะกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวที่ได้ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ทางโครงการทำห้องตัวอย่างไว้คือ ห้องขนาด 56.1 ตร.ม. ห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวางให้ใช้สอยได้ค่อนข้างเหลือเฟือ เปิดประตูเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่โซนกลางห้องที่จัดสรรเป็นส่วนพักผ่อน และมุมรับประทานอาหาร โถงกลางห้องนี้จะโล่งโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะมีระเบียงอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นนั่นเอง ส่วนห้องนอนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยห้องนอนใหญ่จะใช้พื้นที่ด้านหนึ่งไปเต็มๆ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ พร้อมมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำที่สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ได้อย่างลงตัว ในขณะที่อีกฟากของห้องจะเป็นห้องนอนเล็กขนาดกระทัดรัดกำลังดี อยู่ติดกับห้องน้ำเล็กที่ต้องเดินออกมาเข้าจากทางห้องนั่งเล่น ส่วนห้องครัวก็อยู่ถัดจากห้องน้ำมาทางด้านหน้าห้องครับ แน่นอนว่าห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนเช่นกัน ห้องแบบนี้ค่อนข้างเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก เพราะมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ทำให้ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวเพียงพอ ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางห้องก็กว้างพอที่จะให้สมาชิกทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้อีกด้วย Type B 2 ห้องนอน ขนาด 56.10 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนนะครับ แต่ก่อนจะเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นเรามาดูส่วนที่อยู่ด้านหน้าห้องกันก่อน ด้านซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน ตู้เก็บของที่ทางโครงการ Built-in มาให้ดูอยู่หน้าห้องใกล้กับโต๊ะทานอาหาร ถัดจากโต๊ะทานอาหารเข้าไปข้างในจะเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง ห้องนั่งเล่นจะไม่ใหญ่มากนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีประมาณ 2 เมตร วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง จะพอดีกับผนังห้อง ชั้นวางทีวี Built-in เล็กๆ หรือว่าจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็ได้ครับ พื้นที่ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน คอมเพรสเซอร์แอร์หันหน้าออกนอกระเบียง ฝั่งขวาจะเรียงกัน 3 ห้องนะครับ คือ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเล็ก เริ่มจากครัวก่อน ครัวจะอยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโต๊ะทานอาหารจะเป็นครัวแบบปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ในครัวอาจจะดูอึดอัดไปสักหน่อยนะครับ เพราะไม่ได้อยู่ติดระเบียงเหมือน Type A ตัวท็อปเป็นลามิเนตสีขาว ซิงค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka ฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ด้านล่าง ตู้เก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ด้านล่าง ชั้นลอยเก็บของด้านบน มาต่อที่ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางจะเหมือนกับ Type A Shower Box มาดูที่ห้องนอนเล็กต่อนะครับ ทางโครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตให้ดู ทำให้พื้นที่รอบๆ เตียงเหลืออยู่พอสมควร ปลายเตียงมีเหลือให้เดินได้สบายๆ หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบานฟิกและมีบานกระทุ้ง 1 บาน อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า เราข้ามฝั่งมาดูที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ห้องนอนใหญ่วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยครับ ปลายเตียงมีที่เหลือให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้เลย หน้าต่างด้านหัวเตียงทำเป็นกระจกเข้ามุมให้ด้วยนะครับ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าจะมีอยู่ 2 ฝั่ง หน้าห้องน้ำ ภาพมุมกว้างของห้องนอนใหญ่ มองไปที่ห้องน้ำ การวางสุขภัณฑ์จะคล้ายๆ ห้องน้ำห้องแรกนะครับ แต่ห้องนี้จะได้อ่างล้างหน้าที่มีที่วางของได้เยอะขึ้นหน่อย อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ MOGEN มีที่วางของรอบๆ และใต้อ่าง ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะเหมือนเดิมครับ Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวที่ได้ ห้องทั้งหมดที่ทางโครงการขายมาให้เป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์แถมมาให้ด้วย เว้นแต่ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น นอกจากนี้ห้องจริงที่ได้ฝ้าเพดานก็สูง 2.6 เมตร แตกต่างจากระยะที่เห็นในห้องตัวอย่างนิดหน่อยครับ ใครรักชอบแบบไหนก็เลือกกันได้ตามสะดวก Type A1L 1 ห้องนอน ขนาด 26.3 ตารางเมตร Type A1R 1 ห้องนอน ขนาด 26.3 ตารางเมตร Type A2R 1 ห้องนอน ขนาด 33.2 ตารางเมตร Type B1L1 2 ห้องนอน ขนาด 56.1 ตารางเมตร Type B1L2 2 ห้องนอน ขนาด 56.1 ตารางเมตร Type B2 2 ห้องนอน ขนาด 61.4 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน ทำเลที่ตั้งของโครงการ The Stage Taopoon Interchange อยู่ในย่านที่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะค่อนข้างสงบ ในขณะที่ยังอยู่ในย่านชุมชน ใกล้ตลาดสด โรงพยาบาล และโรงเรียน ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยเกาะแนวรถไฟฟ้า และอยู่ไม่ห่างจากความเจริญมากนัก นอกจากนี้พื้นที่บริเวณนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมี โอกาศเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากห่างออกไปทางด้านเกียกกาย กำลังมีการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการก็เป็นสถานี Interchange ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงไว้ด้วยกัน ทำให้การเดินทางในอนาคตค่อนข้างสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่การซื้อหาห้องเพื่อการลงทุนในย่านนี้ อาจจะต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพราะทำเลในแถบนี้ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ให้เปรียบเทียบอีกมาก จึงอาจจะทำให้การปล่อยเช่าห้องมีคู่แข่งในด้านราคาเป็นจำนวนมาก ผลตอบแทนที่ได้ก็อาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ