Tag : Review

672 ผลลัพธ์
Life Asoke Hype แตกต่างอย่าลงตัว รองรับทุกไลฟ์สไตล์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype แตกต่างอย่าลงตัว รองรับทุกไลฟ์สไตล์ : รีวิวคอนโด

ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมแบรนด์ Life จาก AP (THAILAND) มักจะถูกจับตามองอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้นในทำเลไหน จะมีลักษณะพิเศษอะไรออกมาอวดกันอีกบ้าง เพราะที่ผ่านมาทุกตัวนั้นได้รับกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงอยู่ไม่เบาทีเดียวค่ะ ดูได้จากวันเปิด Pre Sale ที่มาต่อคิวยาวเหยียดกันตั้งแต่ไก่โห่กันเลยทีเดียวค่ะ โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Life ตัวใหม่ล่าสุดในทำเลที่เชื่อว่าคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ “Life Asoke Hype” สำหรับตัวนี้จะทำให้เรา Hype แค่ไหนก็ต้องลองดูไปพร้อมๆ กันค่ะ ทำเลศักยภาพสุดฮอต บริเวณสี่แยกพระราม 9 ยังคงเป็นทำเลสุดฮอตที่ใครหลายคนหมายตาเอาไว้สำหรับคอนโดมิเนียมสักยูนิตไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะพักอาศัยเอง เพราะใกล้ที่ทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หรือจะลงทุนปล่อยเช่า เก็งกำไรกันต่อไปทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว จนเรียกได้ว่าใครที่ได้ครอบครองไปตั้งแต่มือแรกก็ยิ้มแก้มปริกันทุกรายค่ะ ที่แห่งนี้จึงยังคงมีความต้องการอยู่เสมอ ทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติที่ต่างก็เข้ามาจับจองอยู่ในพื้นที่นี้อยู่ในทุกโครงการก็ว่าได้ โดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น   ตัวโครงการมีความโดดเด่นอยู่ตรงที่มีทางเข้า-ออกโครงการได้ถึง 2 ทาง ซึ่งเป็นถนนสายหลักทั้งคู่ คือฝั่งถนนจตุรทิศ และฝั่งถนนอโศก-ดินแดง โดยใช้ทางเข้า-ออกเดียวกันกับโครงการ Life Asoke-Rama 9 ถนนทั้งสองมีความสำคัญสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่น้อยค่ะ เพราะถนนจตุรทิศนั้นมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชอยู่พอสมควรเลยค่ะ ไม่ว่าจะออกนอกเมืองจนเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ หรือจะไปทางบางนา-ดาวคะนอง, แจ้งวัฒนะ ก็สะดวกสบาย ส่วนถนนอโศก-ดินแดง ถือเป็นถนนที่คับคั่งด้วย Office Building มากที่สุดย่านหนึ่งในบ้านเรา และยังเป็นเส้นทางที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่าง CBD เดิม กับ NEW CBD อย่างพระราม 9 เอาไว้ด้วยกัน โดยจะผ่านถนนสายสำคัญอย่างพระราม 4-สุขุมวิท-เพชรบุรี ส่วนรถไฟฟ้าที่กลายเป็นหัวใจหลักของการเดินทางในกรุงเทพฯ นั้นอยู่ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร จาก MRT สถานีพระราม 9 และประมาณ 400 เมตร จากแอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีมักกะสัน     บริเวณสี่แยกพระราม 9 ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลทองทั้งในมุมมองของ Developer นักลงทุน และผู้อยู่อาศัยเองก็ตาม เหตุเพราะความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนส่งให้กลายเป็น NEW CBD ในปัจจุบัน ทั้งการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน  MRT มีจุดขึ้น-ลงทางด่วน และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในช่วงกลางวันไปจนถึงช่วงค่ำจึงมีความคึกคักมากทีเดียวค่ะ ซึ่งแต่ละแห่งนั้นมีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูนทาวน์, เอสพลานาด รัชดา, เดอะสตรีท, บิ๊กซี รัชดา, โชว์ดีซี ฯลฯ โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ไปจนถึงตลาดนัดรถไฟรัชดาอันเลื่องชื่อเรื่องแหล่งรวมคนสไตล์ฮิปๆ สถานบันเทิงยามค่ำคืนย่านรัชดา-อาร์ซีเอ ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้ส่งให้พระราม 9 กลายเป็นทำเลที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันจนกลายเป็นเสน่ห์ที่ยังคงไว้เสมอมา           ภาพรวมโครงการ Life Asoke Hype คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 40 ชั้น 1,253 ยูนิต+4 Shop ที่จอดรถ 530 คัน(42%) ขนาดห้อง 25.5-64 ตร.ม. บนพื้นที่ 5-0-10 ไร่ ดีไซน์บนแนวคิดที่จับเอาความแตกต่างระหว่างความหรูหราของชีวิตใจกลางเมืองแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว มาผสมผสานกับการใช้ชีวิตอันโลดแล่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มี Multi Lifestyles ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดความรู้สึกใหม่ของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม สะท้อนตัวตนในสไตล์ Young Urban Professional ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบให้กับชีวิต แต่ยังคงเดินไปตามแนวทางของตัวเอง   เริ่มตั้งแต่การวาง Exterior ให้ดูโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการเลือกใช้โทนสีแดงเข้มขึ้นมาเป็น Gimmick ตกแต่งลงบน Facade สะท้อนตัวตนที่ไม่เหมือนใคร ในมิติที่รู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์จนสะกดทุกสายตาในย่านสี่แยกพระราม 9 อย่างที่ไม่เคยเห็นจากโครงการไหนมาก่อน ซึ่งการผสานความแตกต่างมาหลอมรวมกัน เปรียบเหมือนการหยิบเอาความเป็นทำเล Multi-Culture มาไว้ในที่เดียวกันนี้ ส่งต่อมายังใงาน Interior ที่ใช้วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ในระดับพรีเมี่ยมในรูปแบบ Eclectic Style โดยเป็นงานที่ทาง AP สั่งทำ Custom Made พิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตกแต่ง โคมไฟ โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ หมอนอิง ฯลฯ จนเกิดเป็นงานที่มีความ Unique ไม่เหมือนใคร รวมถึงการสร้างบรรยากาศทั้งภายนอกและภายในโครงการที่จะช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด Supreme Privacy in Supreme Facility   Facility สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเริ่มตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ไปสู่ภายในอาคารที่ชั้น G ชั้น 7 ชั้น 40 และ Roof Top ไม่ว่าชอบใกล้ชิดธรรมชาติ ชอบปาร์ตี้กับคนรู้ใจ ชอบออกกำลังกาย ชอบเปลี่ยนบรรยากาศสถานที่นั่งทำงานหรือห้องประชุม แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีดีเทลเล็กๆ อย่างปลั๊กไฟอยู่ให้ทุกจุดที่นั่ง พร้อมฟรี Wifi และยังใส่ Smart Automation ลงไปเพื่อง่ายต่อการใช้งานยิ่งขึ้นสามารถเข้าถึงได้ทุกคน โดยสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสามารถเข้าใช้อย่างเป็นส่วนตัวผ่าน Application ทั้งหมดรวมแล้วกว่า 5 ไร่   Landscape Design ไม่ใช่แค่เพียงทำให้ดูเป็นธรรมชาติสวยงามเท่านั้น แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วยอย่างเต็มที่ ดังเช่น The Circle Running Garden นี้ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นลู่วิ่ง 2 ระดับ ให้ระยะทางที่มากกว่าการออกแบบ Landscape แบบธรรมดาทั่วไป   Scarlet Foyer โถงต้อนรับขนาดใหญ่ถูกประดับตกแต่งด้วย Premium Material สั่งทำขึ้นมาพิเศษ ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความทันสมัยไม่ตกยุค   Eclectic Lobby ออกแบบให้เกิดความสงบเป็นส่วนตัว โดยมี Private Seat ทำให้ Lobby จะไม่ใช่แค่เพียงทางเดินผ่านเลยไปเท่านั้น แต่สามารถใช้งานได้จริงหลากหลายรูปแบบ   ด้วยฟังก์ชั่นเพดานที่สูงโปร่ง จึงถูกดีไซน์ให้เกิดชั้นลอย Mezzanine เพื่อให้ได้ใช้งานแบบพื้นที่ PrivateCo-Working Space & Meeting Room   Hover Bay สระว่ายน้ำระบบน้ำล้นบริเวณชั้น 7 ยาว 30 เมตร กว้าง 6 เมตร แบ่งโซน Indoor Jacuzzi ด้วยม่านน้ำตก พร้อมที่นั่งใน Leisure Pit ริมสระให้ความรู้สึกสงบ และซุ้มที่นั่งพักผ่อน The Muted Garden ท่ามกลางสวนเขียวไล่ระดับ เพื่อให้พ้นจากสายตาของยูนิตพักอาศัยในชั้นใกล้เคียง   ชั้น 40 และ Roof Top ถูกออกแบบในลักษณะ S-Curve แปลกตากว่าที่เคยเห็น สระว่ายน้ำดีไซน์ L-Shape Sky Pool โดยแยกโซนออกเป็นส่วนของ Active เป็นสระยาว และ Passive ให้ได้นอนเตียงกลางสระชมวิวเมือง   Athletic Sky Atrium หรือฟิตเนสที่มีมาให้ถึง 2 ชั้น พร้อมเครื่องออกกำลังกายอันทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังสามารถพักสายตาด้วยวิวเมืองแบบ Panorama   Top Of Hype ดื่มด่ำบรรยากาศใจกลางเมือง ให้ความหรูหราราวกับเป็น Roof Top บนโรงแรม 5 ดาว   Floor Plan ตัวอาคารมีลักษณะคล้ายรูปตัว S นางยูนิตพักอาศัยแบบ Double Corridor มีบันไดหนีไฟ 3 จุดกระจายอยู่ทั่วอาคาร ลิฟท์โดยสารทั้งหมด 7 ตัว ลิฟท์เซอร์วิชอีก 1 ตัว แยกอยู่ 2 ปีกของอาคาร ฝั่งละ 4 ตัวค่ะ ถือว่าให้มาเยอะมากทีเดียว ทางเข้า-ออกโครงการทางถนนจตุรทิศจะอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทิศที่ได้วิวไฮไลท์ของโครงการค่ะ เพราะจะได้วิวทางมักกะสันไปจนถึงใจกลางเมือง และทิศตะวันตกที่จะได้วิวโล่ง   ทางเข้าโครงการฝั่งทิศตะวันออกมี Shop อยู่ก่อนถึง Drop Off ซึ่งเมื่อเข้าสู่ Lobby ตรงกลางแล้วจะมีประตูแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ก่อนที่จะพบกับลิฟท์และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง             Facility เต็มๆ ทั้งพื้นที่ Roof Top เชื่อมด้วยสะพานกระจกใสแบบที่ไม่เคยเห็นในโครงการไหนมาก่อน   Unit Plan สำหรับ Layout จะมาด้วยแนวคิด Supreme Space Design in Tomorrow’s Functionality จัดวางฟังก์ชั่นอย่างเป็นสัดส่วน ขนาดยูนิตของโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ STUDIO 25.50 ตร.ม. 1 Bedroom 30.00-32.00 ตร.ม. 1 Bedroom Plus 35.00-40.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom 48.50-60.00 ตร.ม. โดยนำเอาเทคนิคการวางยูนิตแบบ Interlock มาใช้กับห้องแบบ 1 Bedroom กับ 1  Bedroom Plus เพื่อให้แต่ละยูนิตมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเพิ่มมากขึ้น และยังมี Layout แบบใหม่จาก AP มาลงโครงการนี้ที่แรกด้วยค่ะ                   เทคนิคการวางยูนิตแบบ Interlock จะได้พื้นที่เพิ่มทุกยูนิต อย่างยูนิตตัวอย่างนี้จะมีห้องที่ได้พื้นที่ครัวปิดเพิ่ม และอีกห้องก็จะได้พื้นที่ห้องนอนเพิ่มไปด้วย        New Layout ล่าสุด เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยรูปแบบ Layout Multifunction Room ในห้องแบบ 1 Bedroom Plus 40.00 ตร.ม. สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทำให้ทุกตารางเมตรสามารถใช้พื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด       จาก MRT พระราม9-Life Asoke Hype ครั้งนี้เราเดินทางด้วย MRT สถานีพระราม 9 ใช้ทางออกที่ 1 ซึ่งจะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์เลยค่ะ แล้วเดินข้ามสี่แยกพระราม 9 ผ่านหน้าโครงการ Rhythm Asoke 1 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปก็จะพบกับโครงการ Life Asoke Hype รวมระยะทางเดินก็ประมาณ 300 เมตร แต่หากใครที่ใช้รถยนต์ก็สามารถเข้าจากทางถนนจตุรทิศ ฝั่งขาออก ก่อนจะถึงถนนอโศก-ดินแดง ได้เลยค่ะ     ขึ้นมาจากรถไฟฟ้าใต้ดินก็จะอยู่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวน์ค่ะ   ฝั่งตรงข้ามเป็นเซ็นทรัลพระราม 9 และอาคารจี ทาวเวอร์     ผ่านหน้าโครงการ Rhythm Asoke 1   Sale Gallery ใช้โทนสีแดงเป็นหลักเช่นเดียวกันกับตัวคอนโดมิเนียมค่ะ   ทางเข้า-ออก ฝั่งถนนจตุรทิศที่มาจากถนนศรีอยุธยา ชิดซ้ายมาเรื่อยๆ ก็จะพบโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ   เดินเข้าไปชมภายใน Sale Gallery กันเลยค่ะ   ชมห้องตัวอย่าง ภายใน Sale Gallery จะถูกถอดแบบออกมาให้คล้าย Lobby ของโครงการจริงเลยค่ะ ทั้งโทนสี เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุที่ใช้ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเป็นกลุ่ม หรือแบบมีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ สะท้อนตัวตนที่ไม่เหมือนใคร           1 Bedroom 32 ตร.ม. เป็นห้องที่มีลักษณะลึก โดยเริ่มจากห้องครัวปิดที่มีพื้นที่มากพอที่จะวางโต๊ะทานข้าวได้ เชื่อมต่อเข้าไปด้วย Living Room และระเบียงห้อง ประตูกระจกทั้งจากระเบียงและห้องครัวทำให้แสงธรรมชาติภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึงทำให้ดูสว่างขึ้นค่ะ ห้องน้ำอยู่ในโซนเดียวกันกับห้องครัว และห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูบานทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว สำหรับอยู่อาศัยกัน 1-2 คนก็ถือว่ากว้างขวางทีเดียวค่ะ   ส่วนแรกเลยเป็นห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ปูพื้นด้วยลามิเนตทั้งหมด   มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง       เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ ผนังด้านในกรุด้วยกระเบื้อง มาพร้อมกับซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันทั้งหมดจากแบรนด์ Franke ส่วนลิ้นชักกับบานตู้จะติดตั้ง Soft Close มาด้วยค่ะ    อีกด้านในโซนห้องครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ     ห้องน้ำใช้แบบสำเร็จรูปค่ะ ผ่านการ QC ยกมาจากโรงงานเลย หากเกิดการซ่อมแซมก็จะทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรบกวนห้องอื่นด้วย โดยสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดจากแบรนด์ Kohler จะได้มาตามนี้เลยค่ะ ยกเว้นแค่ของตกแต่งเท่านั้น     Living Room พื้นที่กว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้โดยยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะด้านข้าง และโต๊ะกลางได้อีก ต่อด้วยระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน   ระเบียงจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่ง มีก๊อกน้ำสำหรับซักล้าง และ Condensing Unit แขวนไว้ด้านบน หันออกนอกอาคาร    เครื่องปรับอากาศเครื่องแรกจะถูกแขวนไว้เหนือโซฟา   หลังเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องนอนค่ะ       ห้องนอนจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมกับตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีกข้างค่ะ ส่วนหน้าต่างจะสามารถเปิดได้แบบบานกระทุ้ง 1 บาน และเครื่องปรับอากาศถูกติดตั้งไว้ปลายเตียง   1 Bedroom Plus 35 ตร.ม. ขนาดห้องขยับขึ้นมาอีกนิดค่ะ แต่มีความโดดเด่นจนเรียกได้ว่าเป็น Type ไฮไลท์ของ Life Asoke Hype เพราะเป็นห้องหน้ากว้างเลยได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญคือความเป็น Multifunction สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ตามการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ห้องทำงาน แม้กระทั่งห้องนอนที่ 2 ก็จัดได้ตามใจเจ้าของห้องเลยค่ะ  โดยพื้นที่แรกกลางห้องตามห้องตัวอย่างจะจัดให้เป็นห้องทานข้าว เชื่อมต่อเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนฟังก์ชั่นทางขวามือจะเป็นครัวปิด และทางซ้ายเป็นห้องน้ำกับห้องนอนค่ะ   ภายในห้องจะปูพื้นด้วยลามิเนต ทางซ้ายมือคือห้องน้ำกับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานทึบ ส่วนตรงกลางจะกั้นห้องเพิ่มด้วยประตูกระจกบานเลื่อน High Ceiling ทำให้ห้องดูโปร่ง แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้มากขึ้น   ระหว่างห้องทานข้าวกับห้องนั่งเล่น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายนะคะ เช่น เปลี่ยนห้องนั่งเล่นมาไว้ที่ส่วนแรก ส่วนห้องด้านหลังปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนที่ 2 ก็ได้นะคะ   หันทางขวามือของห้อง จะพบห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ภายในครัวมีช่องสำหรับวางตู้เย็น และ Built in เคาน์เตอร์ครัวตลอดแนวผนัง ใช้ Top หินสังเคราะห์สีขาว กรุผนังด้านในด้วยกระเบื้อง มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์   ประตูห้องน้ำจะใช้แบบ Double Access เชื่อมต่อระหว่างห้องนอน และกลางห้อง    ห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ฝักบัว ทั้งหมดใช้แบรนด์ Kohler พร้อมติดกระจกเงายาวเต็มผนัง และกั้นส่วนเปียกด้วยกระจกใสประตูบานสวิง   ภานในห้องนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ริมหน้าต่าง โดยมีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงเหลือ และยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามแนวผนังฝั่งห้องน้ำค่ะ         มาถึงส่วนด้านในสุดของห้องค่ะ โดยตามห้องตัวอย่างจะทำให้ห้องนี้เป็น Living Room พื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ ค่ะ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตามการใช้งานได้อย่างหลากหลายด้วยเช่นกัน และต่อด้วยระเบียงห้องพื้นที่กว้างขวางพอจะเป็นระเบียงสำหรับซักล้างหรือพักผ่อนก็ได้   2 Bedroom 48.50 ตร.ม.  มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายแล้วนะคะ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นสำหรับ 2 Bedroom ลักษณะลึก ซึ่งจะแบ่งฟังก์ชั่นเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ค่ะ คือซ้ายมือป็นห้องน้ำและห้องนอน กลางห้องเป็น Living Room กับพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว และฝั่งขวามือเป็นห้องครัวปิด กับห้องนอน โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดพอๆ กันค่ะ แต่จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน         จากโซนแรกของห้องที่วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง หันไปทางขวามือของห้องจะพบกับห้องครัวปิด ที่มีเคาน์เตอร์ครัววางแบบ One Wall Kitchen กรุกระเบื้องผนังด้านในเพื่อให้เช็ดทำความสะอาดง่ายเมื่อเกิดคราบสกปรก วัสดุ Top มีความทนทานเหมาะกับการทำครัวหนัก ซิงค์ล้างจานออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นขณะใช้งาน มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นที่มุมห้อง และวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าใต้เคาน์เตอร์ครัวได้อีกด้วยค่ะ   หันมาที่ฝั่งซ้ายของห้องกันบ้างค่ะ ประตูห้องน้ำแบบ Double Access ระหว่างห้องนอนกับกลางห้อง ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งด้วยกระจกใสประตูบานสวิง โดยส่วนเปียกจะอยู่ด้านในสุด ส่วนแห้งจะใกล้ประตูเพื่อให้ใช้ง่ายได้สะดวกกว่าค่ะ     ห้องนอนแรกนี้จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะหัวเตียงได้อีกด้านหนึ่งค่ะ ส่วนหน้าต่างของห้องจะสามารถเปิดออกแบบบานกระทุ้งได้ 1 บาน จุดเด่นของห้องนอนนี้คือเชื่อมต่อกับห้องน้ำเสมือนเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ ใครที่ชอบเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนเลือกห้องนี้ก็จะเหมาะเลย   โซน Living Room ด้านในสุดของห้องมีพื้นที่สำหรับวางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางกับโต๊ะเล็กข้างโซฟา และยัง Built in เคาน์เตอร์วางทีวีได้ตลอดแนวผนัง เชื่อมต่อด้วยระเบียงห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงเหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้างค่ะ มีก๊อกน้ำติดตั้งมาให้ด้วยเรียบร้อย ส่วน Condensing Unit แขวนไว้หันหน้าออกนอกอาคาร มีกริลปิดเพื่อความสวยงาม และยังช่วยผลักความร้อนออกด้วยค่ะ            สุดท้ายที่ห้องนอนฝั่งขวามือของห้องค่ะ เป็นห้องที่วางเตียง 5 ฟุตไว้กลางห้อง พร้อมมีพื้นที่สำหรับ Built in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ สำหรับห้องนี้มีจุดเด่นตรงที่ได้ Space ข้างหน้าต่างกระจก Full Height มีกระจกเข้ามุม ลึกเข้าไปจากหัวเตียง ทำให้เทควิวด้านนอกได้กว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งได้มากกว่า   Life Asoke Hype เชื่อว่าจะเป็นสีสันใหม่แห่ง NEW CBD ด้วยงานดีไซน์ทั้ง Exterior และ Interior ที่เรียกได้ว่าเป็นงาน Craft ซึ่งกล้าที่จะแตกต่างผสานเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่สไตล์ Hyper Active เพราะชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง เหมือนกับ AP (THAILAND) ที่ไม่เคยหยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ลงไปในที่อยู่อาศัยเสมอ     Online Booking Sold Out ไปแล้วเรียบร้อย พบกัน Pre-Sale 6-7 ต.ค นี้ที่สำนักงานขาย โปรโมชั่นวันงาน รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท On-Top จ่ายค่าจอง + ค่าสัญญา 5% รับส่วนลดราคาหน้าสัญญา 2% (รับสิทธิเมื่อจ่ายในวันงาน)  
Dolce Lasalle-โดว์เช่ ลาซาล : รีวิวคอนโด

Dolce Lasalle-โดว์เช่ ลาซาล : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Dolce Lasalle (โดว์เช่ ลาซาล) เจ้าของโครงการ : บริษัท สิรยศ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยลาซาล 7 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. พื้นที่โครงการ : 0-5-68  ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 178 ยูนิต ที่จอดรถ : คิดเป็น 50% หรือ 69 คัน   ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 24.8 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด 29.8-34.00 ตร.ม. - แบบ 2 Bedroom ขนาด 45.00-51.00 ตร.ม.   สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,690,000 บาท ราคาเฉลี่ย: 75,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม Low Rise สไตล์โมเดิร์นยุโรป จาก สิริยศ บนทำเลบางนา ห่างจาก BTS แบริ่ง 700 เมตร ระบบขนส่งสาธารณะ : รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง, ถนนสุขุมวิท, ถนนบางนา-ตราด สถานที่ใกล้เคียง : รพ.ไทยนครินทร์, รพ.ศรีนครินทร์, ไบเทคบางนา, เซ็นทรัล บางนา, รร.ลาซาล, Bangkok Pattana International School, Summer Lasalle  
Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 : รีวิวทาวน์โฮม

ภาพยนตร์ภาคแรกสนุกจะมีหรือที่ไม่มีภาคต่อ บ้านก็เช่นกันผู้อยู่อาศัยมีความสุขทำไมจะไม่ส่งต่อความสุข กับโครงการ Nirvana DEFINE ศรีนครินทร์ - พระราม 9 ทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์โมเดิร์นที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว มาพร้อมกับรางวัล โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น ประจำปี 2561 ประเภททาวน์เฮาส์ราคาสูงจากศูนย์วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (AREA) จากรีวิวครั้งที่แล้วเป็นทาวน์โฮม Type C และ D การกลับมาครั้งนี้สู่ความยิ่งใหญ่ขึ้น กับบ้านอีก 2 Type คือ A และ B     แต่ก่อนที่จะไปชมบ้านแบบใหม่ดีไซน์สวยทั้งภายในและภายนอก สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมแบบแรกรับชมได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว       ทำเล   โครงการ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ตั้งอยู่บนถนน ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ เชื่อมกับถนนศรีนครินทร์แยกกรุงเทพกรีฑา – หัวหมาก ยาวไปอีกด้านเป็นถนนกาญจนาภิเษกไปสิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร ซึ่งในอนาคตจะเกิดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตัดผ่านบริเวณสี่แยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมากพอดี     ถ้าพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงถนนศรีนครินทร์และบนถนนรามคำแหง เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, ราชมังคลากีฬาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง, เดอะพาสิโอ้ทาวน์ รามคำแหง, ซีคอนสแควร์, ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, พาราไดซ์พาร์ค และยังใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 20 นาทีจะถึง เมกาบางนา และสนามบินสุวรรณภูมิ   ภาพรวมโครงการ   Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นมากกว่าบ้านเดียวที่มาให้เลือกทั้งหมด 4 Type พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 190-350 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.5 เมตร เท่ากันทุกยูนิต จุดเด่นของทาวน์โฮม ที่ไม่เหมือนใครในเรื่องของดีไซน์ที่หาไม่ได้จากทาวน์โฮมทั่วไป ซึ่งมีที่เดียวเท่านั้นมาพร้อมกับฟังก์ชันต่างๆ  ที่ตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะด้วยเรื่องของช่องแสงภายในบ้านบวกกับเพดานสูงโปร่ง ทำให้บ้านปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่มืดทึบเหมือนทาวน์โฮมทั่วไป เพราะทางโครงการใส่ใจทุกรายละเอียดให้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ และเหมาะกับทุกคนในครอบครัว    มาพร้อมกับ Facility ครบครันตอบโจทย์ผู้อาศัยไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก โซนบาร์บีคิว คลับเฮ้าส์สำหรับพักผ่อน สระว่ายน้ำ และฟิตเนส     Unit Plan   Type A พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 31.3 – 63 ตารางวา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ     Type B  พื้นที่ใช้สอย 285 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 30-34 ตารางวา 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ       ชมบ้านตัวอย่าง     ทาวน์โฮมตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปชมเป็น Type A ซึ่งจะเป็น Type ที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ และเป็น Type เดียวที่อยู่แปลนมุมเพราะจะได้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้นของผู้อยู่อาศัยครับ       ในสวนของลานหน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับจอดรถได้ถึง 3 คัน ตรงกลางมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเข้าไปในบ้านได้ และด้านขวามือเป็นประตูหลักเพื่อเข้าไปยังในตัวบ้าน     ด้านในสุดของพื้นที่จอดรถทางโครงการทำเป็นคอร์ดกลางบ้าน เพื่อให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึงไม่ทำให้บ้านมืดทึบ และยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกด้วยครับ ซึ่งโดยปกติแล้วทาวน์โฮมทั่วๆ ไปจะมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในตัวบ้านได้เฉพาะฝั่งหน้าบ้านกับหลังบ้านเท่านั้น แต่การดีไซน์มีคอร์ดให้อยู่กลางบ้านจะช่วยสร้างบรรยากาศปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น   นอกจากทำให้บ้านมีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึงแล้ว ตรงนี้ยังสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้กลางคอร์ด ทำให้บ้านดูเป็นธรรมชาติ ร่มรื่นมากขึ้นครับ ซึ่งการมีคอร์ดกลางบ้านแบบนี้ ได้รับความนิยมมากในบ้านเดียวสไตล์ Modern ในปัจจุบัน ทำให้ทาวน์โฮม Nirvana DEFINE มีความใกล้เคียงกับบ้านเดียวมากที่เดียวครับ     ด้านซ้ายมือของที่จอดรถจะมีประตูแยกซ้ายขวา เป็นพื้นที่สำหรับห้องเก็บของทั้งสองห้องครับ         ด้วยความที่ Type A ถูกวางให้อยู่แปลงมุม จึงทำให้ได้พื้นที่สนามหญ้าข้างบ้านซึ่งสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังด้านหลังบ้านได้อีกด้วยครับ       หากใครที่เคยติดตามรีวิวของเราก็คงจะได้เห็นรูปแบบบ้านเดี่ยวจากเนอวานากันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ โดยเอกลักษณ์อย่างหนึ่งนั่นคือการยกห้องรับแขกขึ้นไปไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน แล้วแยกให้ดูเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งในทาวน์โฮมโครงการนี้ก็นำเอาจุดเด่นตรงนี้มาใส่เอาไว้ด้วยเช่นเดียวกันกับบ้านเดี่ยว โดยสามารถใช้บันไดจากหน้าบ้านทางซ้ายมือนี้ขึ้นไปได้เลยครับ     กลับมาดูที่ชั้นแรกกันก่อนครับ เริ่มจากชานบ้านถูกยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองสิ่งสกปรกที่จะปลิวเข้าในตัวบ้าน ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะใช้ไม้สัก     เข้ามาภายในตัวบ้านพื้นที่แรกทางโครงการทำเป็น Drop Shoes ยกพื้นต่างระดับถึง 3 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่ให้สามารถถอดรองเท้าไว้ภายในบ้าน ไม่ต้องถอดข้างนอก โดยทางเดินมีพื้นที่สามารถทำตู้เก็บรองเท้า ก็ยังเหลือพื้นที่เดินมากพอครับ     สำหรับชั้นแรกนี้จะถูกจัดให้เป็นห้องครัวปิด พร้อมกับพื้นที่รับประทานอาหารครับ โดยพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และนอกจากนี้ทางโครงติดวอลเปเปอร์สีเรียบให้ทั้งหลัง     ทางโครงการ Built in เคาน์เตอร์บาร์ต่อด้วยโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่ง ความจริงแล้วสามารถวางเป็นโต๊ะสำหรับ 10 ที่นั่งก็ยังได้ครับ ซึ่งสามารถใช้พื้นที่ของชั้นแรกนี้สำหรับจัด Party สังสรรค์เล็กๆ กับเพื่อนได้     ในส่วนของห้องครัวเป็นครัวปิด โดยมีที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ High Ceiling ขอบ Aluminium Powder Coat ป้องกันการเกิดสนิม และยังทำให้สีติดแน่นทนนานไม่หลุดลอก       เข้ามาภายในห้องครัวมีพื้นที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนประตูตรงกลางเชื่อมออกไปในส่วนของพื้นที่ซักล้าง     และเคาน์เตอร์ครัวทางด้านขวาเป็นแบบ L-Shape ติดกับหน้าต่างและวางอ่างล่างจานเพราะช่วยระบายความชื้น ป้องกันเชื้อราได้ดีอีกด้วยครับ       ในส่วนของพื้นที่ด้านหลังบ้าน มีทางเชื่อมมาจากสนามหน้าบ้าน       กลับเข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน ก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ห้องตรงกลางส่วนนี้คือห้องน้ำกลาง     ภายในห้องน้ำส่วนกลางมีอ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่       ตรงข้ามกันเป็นโถสุขภัณฑ์ และห้องน้ำส่วนกลางจะไม่มีพื้นที่ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ     ขึ้นบันไดไปชมทาวน์โฮมกันต่อ ซึ่งบันไดระหว่างที่เดินขึ้นบันไดนั้นไม่เกิดเสียงดังขึ้นเลยครับ เพราะโครงสร้างเป็นคอนกรีตทำให้มีความแข็งแรง ส่วนหน้าบันไดนั้นกว้าง ไม่ชัน ตรงนี้โครงการทำให้สามารถวางเท้าได้เต็มเท้าทั้งชายและหญิง เป็นการเพิ่มความปลอดภัยด้วยครับ     ขึ้นมาชั้นสองด้านขวามือเป็นตู้ไฟ และซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นครับ       ในส่วนของประตูบานนี้เป็นประตูที่เชื่อมมาจากบันไดหน้าบ้านที่เราพาชมกันไปเมื่อสักครู่นีั เพื่อเข้ามาสู่ห้องนั่งเล่นของบ้านครับ     ในส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่น Floor To Ceiling 4 เมตร มีพื้นที่กว้าง ปลอดโปร่ง วางโซฟาแบบ L-Shape ก็ยังเหลือพื้นที่เหลือเฟือ และมีประตูกระจก High Ceiling เชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน           ในส่วนของระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย       อีกด้านของของห้องนั่งเล่น เป็นระเบียงข้างบ้าน       ในส่วนของระเบียงของระเบียงข้างบ้าน จะมีเฉพาะบ้าน Type A ที่มีเฉพาะแปลนมุม และสามารถมองลงมาที่โรงจอดรถได้ครับ     ทางเดินตรงข้ามเพื่อเชื่อมไปยังห้องนอนแรก ซึ่งเป็น Master Bedroom      ภายใน Master Bedroom มีพื้นที่กว้างสามารถแบ่ง Double Function ตามที่โครงการ Built in ส่วนที่วางเตียงนอน กับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี     ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นในห้อง Master Bedroom  ทางโครงการทำเพดานสูง Double Space ให้ความรู้สึกโล่งสบาย ไม่อึดอัดเหมือนบ้านทาวน์โฮมทั่วไปครับ     ในส่วนของเตียงนอนมีพื้นที่มากพอที่สามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่ครับ     พื้นที่ด้านนี้ยังลึกเข้าไปสามารถจัดเป็นส่วนของ Walk In Closet ด้านหน้าห้องน้ำ     ในส่วนของ Walk In Closet ทางด้านขวามือเป็นห้องน้ำที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนขอบ Aluminium Powder Coat     ห้องน้ำถูกปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ให้ความรู้สึกความหรูหราบวกกับ Bath Tub     อีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำเป็น Rain Shower มีพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนเปียกและแห้ง   เดินขึ้นต่อไปโดยมีทางแยกด้านซ้าย ก่อนที่จะไปยังชั้นสาม ซึ่งด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนอนแรก           แต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 แวะมาดูทางซ้ายมือในส่วนของห้องนอนแรก เมื่อเข้ามาด้านซ้ายสามารถ Built in เป็นตู้เส้อผ้าขนาดใหญ่   ในส่วนของห้องน้ำมีกระจกบานใหญ่ และพื้นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกคือพื้นที่อาบน้ำด้านในสุด ตรงกับหน้าต่างระบายอากาศ เพื่อให้อากาศถ่ายเทไม่อับชื้น     ในส่วนของเตียงนอนสามารถวางเป็นเตียงขนาด King Size หรือเล็กกว่านั้นตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ก็ยังเหลือพื้นที่     ที่ปลายเตียงทางโครงการได้ Built in ทำกำแพงยื่นออกมาแบ่งเป็น Double Function ด้านซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงานหรืออ่านหนังสือ อีกด้านเป็นโซฟานั่งเล่น ด้านบนเป็นกระจก     ขึ้นมาต่อแต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 แวะออกมาชมในส่วนของ Out Door     ในส่วนของ Out Door สำหรับรับอากาศภายนอก สามารถเป็นพื้นที่เปลี่ยนบรรยากาศพาแขกหรือคนในครอบครัวนั่งคุยนั่งเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันครับ     และยังสามารถมองลงไปเห็นระเบียงด้านข้างบ้านผ่านคอร์ดกลางบ้าน     ต่อจากส่วน Out Door ขึ้นบันไดไปชั้นที่ 3 บนสุดของบ้าน     ก่อนที่จะเข้าไปยังในห้อง มีพื้นที่ว่างสามารถทำเป็นที่บูชาพระพุทธรูปภายในบ้านได้ เพราะอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน     ห้องสุดท้ายจะแยกออกเป็นสองฝั่ง สามารถแบ่งเป็นห้องนอนได้อีกเป็นสองห้อง หรือจะทำเป็นห้องนอนเดียวทั้งชั้นก็แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่อาศัยครับ     มาเริ่มจากฝั่งซ้ายมือกันก่อนครับ     ทางโครงการ Built in ห้องนี้ให้เป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์ หรือห้องทำงาน     มีประตูกระะจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านหลังบ้าน     ระเบียงด้านหลังมีราวกันตกที่ราวเหล็กแข็งแรง ทนทาน     มองลงไปจะเห็นพื้นที่หลังบ้าน และทางโครงการนี้จะเดินท่อเครื่องปรับอากาศมาทางด้านหลังทั้งหมด เพื่อความสวยงามของระเบียงด้านหน้าบ้าน     กลับเข้ามาภายในห้องอีกด้านยังมีพื้นที่มาก กว้างขวางสามารถทำเป็น Walk In Closet      ด้านหลังมีห้องน้ำให้ในตัวครับ     ห้องน้ำแบ่งออกเป็นสองฝั่ง โดยมีกระจกบานใหญ่และอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์โดยฝั่งซ้ายเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำ     และด้านขวาเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์     มาต่อกับอีกด้านหนึ่งของห้องทางด้านขวา ทางโครงการ Built in เป็นห้องนอนที่ 2 ของบ้าน มีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน     มีห้องน้ำให้ภายในตัวปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน นอกจากดูหรูหราแล้ว ยังกว้างไม่อึดอัด     มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่กับอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาเตอร์       มุมสุดของห้องจากปลายเตียงมีห้องลับซ่อนอยู่สามารถทำเป็นมุมโปรดตามไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย และมีกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นจากทางขึ้นบันไดมายังชั้นนี้       และจากห้องนอนออกมาสู่ระเบียงหน้าบ้านบนชั้นบนสุดของบ้านเพื่อรับอากาศที่ดี เพราะที่ดินโดยรอบย่านนี้ยังไม่แออัด       ทาวน์โฮมตัวอย่างแบบต่อมาจะเป็น Type B   ก่อนเข้าไปในตัวบ้านด้านซ้ายเป็นส่วนของห้องแม่บ้านซึ่งมีห้องน้ำภายในตัว   ก่อนจะเข้าประตูบ้านทางโครงการยกพื้นต่างระดับออกมาให้อารมณ์เหมือนชานบ้าน       เปิดประตูออกมาทางโครงการทำพื้นเป็น Drop Shoes ยกพื้นต่างระดับถึง 3 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่ให้สามารถถอดรองเท้าไว้ภายในบ้าน       นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สามารถทำตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ ตอบโจทย์นักช้อปรองเท้า     มาถึงส่วนของ Common Area มีขนาดกว้างยาวจนไปถึงด้านหลัง สามารถปรับฟังก์ชันได้ตามความชอบของผู้อยู่อาศัย     พื้นที่ต่อจากประตูเข้าบ้านเข้ามา เป็นส่วนของโซน Living Room มีพื้นที่มากพอที่จะวาง L shape sofa ก็ยังเหลือพื้นที่วางโซฟาสองที่นั่งและโต๊ะกลาง       ตรงพื้นที่โซน Living Room ด้านบนทางโครงการทำ Double Space เพิ่มความโปร่ง โล่งสบาย     ทางโครงการ Built in ชั้นไม้กั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับโซนรับประทานอาหาร ความจริงยังสามารถต่อเติมทำเป็นกระจกกั้นก็ยังได้     ด้านหลังระหว่างที่กั้นแบ่งโซนห้องเป็นส่วนของห้องน้ำกลาง       ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ทางโครงการทำผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้     ต่อจากส่วนนั่งเล่นเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถวางเป็นโต๊ะสำหรับ 6 ถึง 10 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่มากพอ ตรงกับโต๊ะรับประทานอาหารเป็นส่วนของห้องครัว     กำแพงมุมห้องสามารถทำ Counter Built in ยื่นออกมาเพื่อวางหรือเก็บของได้มากขึ้น     ต่อจากโต๊ะรับประทานอาหาร มีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังสนามหญ้าด้านหลังบ้าน     ทั้งประตูกระจกและหน้าต่างทุกบานจะติดตั้งด้วยระบบล็อค TosTem คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น     ถัดไปเป็นส่วนของห้องครัวเป็นแบบ L shape ซึ่งเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน และมีประตูเชื่อมออกไปยังส่วนพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน     ด้านหลังบ้านมีสวนหย่อมให้เล็กน้อยไว้ปลูกต้นไม้ตามความชอบคนรักธรรมชาติ บวกกับพื้นที่ซักล้างให้ครับ         เดินต่อเพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินแล้วไม่เกิดเสียงดังเลยครับ         เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ของบ้านจะพบกับห้องนอนแรก     ภายในห้องกว้างขวางสามารถแบ่งฟังก์ชันตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย อย่างในห้องตัวอย่างนี้มีการกั้นแบ่งเป็น Double Function ในส่วนของเตียงนอนริมหน้าต่าง และห้องทำงานแบบเปิดโล่ง     สำหรับห้องนอนแรกนี้ ทางโครงการติดตั้งกระจก สามารถมองลงไปเห็นห้องนั่งเล่นชั้นแรกได้ครับ     ในส่วนของพื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไปจนถึง King Size ก็ยังไม่อึดอัด       ผนังด้านนี้ความจริงแล้วกำแพงยื่นออกถึงแค่สวิทช์ไฟ สามารถ Built in กั้นห้องออกมาได้ครับ     ต่อจากผนังที่ทางโครงการทำยื่นออกมาเพื่อทำเป็นส่วนของ Walk In Closet      ด้านข้างก่อนจะเข้าห้องน้ำ มีกระจกบานใหญ่สามารถทำเป็นโต๊ะเสริมสวยของสาวๆ ได้ครับ     ส่วนของห้องน้ำทางโครงการเจาะผนังเป็นช่องสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น     บนหัวของพื้นที่อาบน้ำ มีประจกบานเลื่อนเพื่อถ่ายเทอากาศไม่ให้อับชื้น     ออกมาจากห้องระหว่างทางเดินทางเชื่อมไปยังอีกห้อง ระหว่างทางเดินจะผ่านบริเวณ Double Value     ซึ่ง Double Value ทางโครงการใส่ใจรายละเอียดเน้นการสื่อสารกับคนภายในบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเดินลงมาพูดคุยที่ชั้นแรก แต่สามารถยืนคุยกันได้และไปทำกิจกรรมต่อครับ       เดินเข้ามาสู่ห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านหน้าบ้าน ภายในห้องกว้างโปร่งสบาย ไม่อึดอัด     ระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย และมีพื้นที่ยาวเข้าไปถึงด้านซ้าย       อีกด้านของระเบียงมีพื้นที่สามารถเป็นมุมโปรดไว้วางกระถางต้นไม้ได้ และยังเห็นห้องนอนผ่านกระจกเข้ามุม         ภายในห้องน้ำของห้องนอน 2 มีกระจกบานใหญ่ ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard     ในส่วนพื้นที่อาบน้ำมีกระจกบานเลื่อนเพื่อถ่ายเทอากาศ ไม่ให้อับชื้น ด้านข้างฝักบัวเจาะผนังสำหรับวางของได้ครับ     ออกจากห้องนอน 2 ขึ้นบันไดไปยังชั้น 3 จะสังเกตได้ว่าทางเดินเชื่อมระหว่างห้องมีพื้นที่กว้างขวางสามารถเดินสวนกันได้สบายครับ     ก่อนขึ้นบันไดภายใต้ประตูบานนี้จะมีตู้ไฟซ่อนอยู่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ถือว่าทางโครงการใส่ใจดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีครับ         ด้านตรงข้ามกับบันไดด้านบนมีช่องแสงจากระเบียงให้แสงสว่างส่องเขามาทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า       บนชั้น 3 เป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งชั้นมีพื้นที่กว้างมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ Penthouses ในคอนโดมิเนียมครับ มีทั้งส่วนนั่งเล่น และส่วนของวางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด King Size  ได้สบายๆ       มีกำแพงกั้นห้องแบ่ง Double Function แยกเป็นส่วนที่นอนกับ Walk In Closet     มีหน้าต่างด้านหลังห้องสามารถมองลงไปเห็นด้านหลังบ้านได้ครับ จะสังเกตได้ว่าทาวน์โฮมจากเนอวานาจะให้ความใส่ใจกับเรื่องช่องแสง ดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาอย่างทั่วถึงภายในทาวน์โฮม     ในส่วนของ Walk In Closet ยังแบ่งออกเป็นสองฝั่งแยกเสื้อผ้าชายหญิงได้อย่างลงตัว ไม่ปะปนกัน       ห้องน้ำส่วนของ Master Bedroom ทางโครงการมีอ่างอาบน้ำให้ครับ     อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์และส่วนของพื้นที่อาบน้ำ กำแพงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ยาวจนถึงพื้นที่อาบน้ำยื่นออกมาสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น มีพื้นต่างระดับแบ่งพื้นที่เปียกแห้งอย่างชัดเจนครับ     ปลายอ่างอาบน้ำด้านบนมีกระจกแบบบานกระทุ้ง เพื่อระบายอากาศไม่ทำให้ห้องน้ำอับชื้น     บนหัวเตียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้านครับ     พื้นที่ระเบียงหน้าบ้านบนชั้น 3 กว้างมากเป็นพื้นที่ Out Door ทำเป็นมุมโปรดเปลี่ยนบรรยากาศได้ครับ     มีช่องแสงที่สามารถมองทะลุเห็นจากทางขึ้นบันได     พื้นที่ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกนิรภัย และด้วยขนาดของระเบียงก็มากพอที่จะใช้งานได้จริงครับ       เป็นอย่างไรบ้างครับกับการกลับมาสู่ภาคต่อกับเฟสที่ 2 ทาวน์โฮม Type A และ B ดีไซน์ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ทั้งประโยชน์ใช้สอยภายในบ้าน การออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครมีที่เดียวเท่านั้น ทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยว เพดานที่สูงโปร่งที่หาไม่ได้จากทาวน์โฮมที่ไหน กับช่องแสงที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ดูไม่อับทึบเหมือนกับทาวน์โฮมทั่วไป การันตีผลกับรางวัล AREA กับผู้สร้าง บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ที่ให้คำนิยาม “ทาวน์โฮมที่เป็นได้…มากกว่าบ้านเดี่ยว” พบกันได้ที่ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9       ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1787 หรือทางเว็บไซต์ NIRVANA DEFINE Srinakarin - Rama 9          
DECO @Bearing-เดคโค แอท แบริ่ง : รีวิวทาวน์โฮม

DECO @Bearing-เดคโค แอท แบริ่ง : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : DECO @Bearing (เดคโค แอท แบริ่ง) เจ้าของโครงการ : บริษัท พรไพลิน จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 70/5 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. พื้นที่โครงการ : 8 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม จำนวนยูนิต : 32 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคา : เริ่มต้น 6,500,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 31,500 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมสามชั้นครึ่ง ออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่น ด้วยการออกแบบอาคารสไตล์ ART DECO ที่ใช้งานได้หลากหลาย ห่างจาก รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเพียง 300 เมตร ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง, ถนนสุขุมวิท 300 เมตร, ทางด่วนเฉลิมมหานคร สถานที่ใกล้เคียง : รพ.ศิครินทร์, รพ.ไทยนครินทร์, บิ๊กซี บางนา, เซ็นทรัล บางนา, ไบเทค บางนา, รร.เซนต์โยเซฟ บางนา, รร.บางกอกพัฒนา    
Golden Neo Sathorn-โกลเด้น นีโอ สาทร : รีวิวบ้าน

Golden Neo Sathorn-โกลเด้น นีโอ สาทร : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Golden Neo Sathorn (โกลเด้น นีโอ สาทร) เจ้าของโครงการ : บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนกัลปพฤกษ์ ฝั่งขาออก แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Oxford พื้นที่ใช้สอยรวม 143 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ, ห้องพักผ่อน, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน London พื้นที่ใช้สอยรวม 161 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ, ห้องพักผ่อน, ห้องพระ, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน Londonพื้นที่ใช้สอยรวม 178 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ, ห้องพักผ่อนบน, ห้องพระ, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย และ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ฟิตเนส - สระว่ายน้ำ - สโมสร - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 7,490,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วน ปลายปี 2561 จุดเด่นโครงการ : บ้านทำเลสาทร บนที่ดินผืนสุดท้าย สไตล์อังกฤษ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ อลังการสโมสรและสวนสวยธรรมชาติ ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เริ่มต้นเพียง 7.49 ล้าน* สถานที่ใกล้เคียง : รพ.พญาไท 3, รร.เลิศหล้า, ซีคอน บางแค, เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ ท่าพระ, โฮมโปร กัลปพฤกษ์, แม็คโคร กัลปพฤกษ์, เทสโก้ โลตัส กัลปพฤกษ์, บิ๊กซี กัลปพฤกษ์  
Merit Grand Suvarnabhumi-เมอริทแกรนด์ สุวรรณภูมิ : รีวิวบ้าน

Merit Grand Suvarnabhumi-เมอริทแกรนด์ สุวรรณภูมิ : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Merit Grand Suvarnabhumi (เมอริทแกรนด์ สุวรรณภูมิ) เจ้าของโครงการ : บริษัท โซล่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถ.บางนา-ตราด ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พื้นที่โครงการ : 30 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 200 ยูนิต ขนาดห้อง : - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 135 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 4,290,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยว Style Modern ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ตอบโจทย์ให้ทุกคน ในครอบครัวทุกๆ ฟังค์ชั่น ด้วยราคาที่เกินคุ้มสำหรับวัสดุระดับ Premium ในทุกหลัง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนบางนา-ตราด, ถนนวงแหวนรอบนอก, สนามบินสุวรรณภูมิ สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส,โฮมโปร, บิ๊กซี, เซ็นทรัล บางนา, ม.หัวเฉียว, ม.อัสสัมชัญ, รพ.บางนา, วัดศรีวารีน้อย  
Foresta Nimitmai 40-ฟอเรสต้า นิมิตใหม่ 40 : รีวิวบ้าน

Foresta Nimitmai 40-ฟอเรสต้า นิมิตใหม่ 40 : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Foresta Nimitmai 40 (ฟอเรสต้า นิมิตใหม่ 40) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอ เบสท์ เอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนนิมิตใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. พื้นที่โครงการ : 61-1-80 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 312 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน อัลไพน์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ทีมเบอร์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ - แบบบ้าน โอลีป บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ซีด้า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ไลแลค บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ   สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,960,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวโครงการใหม่พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้คุณและครอบครัวได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกหลังสะท้อนแนวคิดแบบ MODERN MINIMAL ที่ออกแบบฟังก์ชั่นเพื่อครอบครัวรุ่นใหม่ ระบบขนส่งสาธารณะ : ถนนนิมิตใหม่, วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สถานที่ใกล้เคียง : โรงเรียนสารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา, ม. มหานคร, ม. เกษมบัณฑิต, โรงพยาบาลหนองจอก, โรงพยาบาลนพรัตน์, Tesco Lotus, Big C  
Unio Town Suanluang-Phatthanakan-ยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ : รีวิวทาวน์โฮม

Unio Town Suanluang-Phatthanakan-ยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Unio Town Suanluang-Phatthanakan (ยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ) เจ้าของโครงการ :  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ :  เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 67 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น   ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะขนาดใหญ่ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,190,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ ปลายปี 2561 จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมที่เติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับการใช้ชีวิต ด้วยประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ประกอบกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เพื่อได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนพัฒนาการ, ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนนบางนา, ทางพิเศษกาญจนาภิเษก สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส, บิ๊กซี, ซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค, สวนหลวง ร.9, ม.รามคำแหง 2, รพ.สิรินธร, รพ.ไทยนครินทร์, รพ.ศิครินทร์, สำนักงานเขตประเวศ, Pan Asia International School
Chuanchuen Prime Ville Krungthep-Pathumthani-ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

Chuanchuen Prime Ville Krungthep-Pathumthani-ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Chuanchuen Prime Ville Krungthep-Pathumthani(ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี) เจ้าของโครงการ : บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถ.กรุงเทพฯ-ปทุมฯ ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ : 33-0-69.4 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 146 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - แบบ IRIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. - แบบ MARISA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. - แบบ VANDA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 4,990,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน ธ.ค.63 จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ สไตล์ American Cottage อบอุ่นลงตัว ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานโครงการใหม่ล่าสุด บนถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี ความสุขในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติกับสังคมคุณภาพ ใกล้สนามกอล์ฟ ฟลอร่าวิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ สถานที่ใกล้เคียง : The Tree Community Mall, โรบินสัน ศรีสมาน, เมืองทอง, ศูนย์ราชการ, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, รพ.ปทุมธานี, รพ.ปากเกร็ด 2, รพ.ปากเกร็ด, รพ.เวิร์ดเมดิคอล
Aspire Erawan ก้าวเดียวจากรถไฟฟ้า ราคาแค่ล้านกว่า : รีวิวคอนโด

Aspire Erawan ก้าวเดียวจากรถไฟฟ้า ราคาแค่ล้านกว่า : รีวิวคอนโด

ราคาคอนโดมิเนียมสมัยนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิ่งติดรถไฟฟ้ามากเท่าไรราคาก็พุ่งสูงขึ้นทุกวันจนใกล้จะเอื้อมถึงยากเข้าไปทุกที โดยเฉพาะทำเลช่วงสุขุมวิทตอนต้นที่แม้จะอุดมสมบูรณ์รอบด้าน แต่ราคาคอนโดมิเนียมเฉลี่ย/ตร.ม. ก็เริ่มต้นที่แสนปลายๆ ขึ้นไปแล้ว แถมยังไม่ได้ติดรถไฟฟ้าอีกต่างหาก ซึ่งในรีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกท่านไปชมคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ติดรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ชนิดที่ห่างจากหน้าโครงการเพียงก้าวเดียว แต่ราคาเริ่มต้นแค่ 1.89 ล้านบาทเท่านั้น (เริ่ม 63,000 บาท/ตร.ม.) ทำเลดี ราคาโดนแบบนี้ ลองไปทำความรู้จักด้วยกัน พร้อมกับโปรโมชั่นที่ให้มากที่สุดแห่งปีกันค่ะ ทำเลสุขุมวิทช่วงปลาย ขึ้นชื่อว่าถนนสุขุมวิท เชื่อว่าใครๆ คงรู้จักกันดี โดยเฉพาะช่วงต้นไปจนถึงช่วงกลาง เพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญชื่อดังมากมาย เริ่มตั้งแต่ถนนพระราม 1 ที่บริเวณสยาม แหล่งรวมวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัยจนมาเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทบริเวณเพลินจิต-นานา-อโศก-พร้อมพงษ์-ทองหล่อ ที่ถือให้เป็นสุขุมวิทช่วงต้น ต่อด้วยเอกมัยไปจนถึงอุดมสุขที่เป็นช่วงกลาง และจากบางนาออกไปจึงถือเป็นสุขุมวิทช่วงปลาย ซึ่งในโซนนี้หากใครได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองก็จะรู้สึกถึงความเรียบง่าย ไมวุ่นวายมากนักเมื่อเทียบกับสุขุมวิทช่วงต้น เพราะย่านนี้ยังคงเป็นชุมชนเดิมอยู่ อาคารสูงยังน้อยมาก       สุขุมวิทช่วงปลาย แม้จะยังดูไกลออกไปอยู่พอสมควร แต่เดือนธันวาคมนี้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสถานีสำโรงในปัจจุบันก็จะเปิดให้บริการยาวไปจนถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ นี่จะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในแง่ของการเดินทางจากชานเมืองเข้าไปสู่ในเมืองนั้นสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้นั้นก็ไม่แพ้โซนอื่นๆ เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี สำโรง, โลตัส ศรีนครินทร์, ฟู๊ดแลนด์ ศรีนครินทร์  ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญก็จะมี เมกา บางนา, เซ็นทรัล บางนา ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้งรัฐและเอกชน เช่น รพ.เปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ, รพ. เอราวัณ, รพ.สำโรงการแพทย์, รพ.ศิครินทร์ ฯลฯ     Aspire Erawan ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิทขาเข้า หน้าโครงการติดกับ BTS สถานีช้างเอราวัณ อย่างที่เรียกได้ว่า 0 เมตร สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างทองหล่อ-อโศก-สยาม ได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง หากใครที่ใช้รถยนต์ก็สามารถใช้ถ.กาญจนาภิเษก เป็นหลักในการเดินทางไปไหนมาไหนได้เลยค่ะ เพราะอยู่ห่างจากโครงการไม่ถึง 1 กิโลเมตร ไม่ว่าจะออกนอกเมืองไปทางพระราม 2 หรือบางนาแล้วเชื่อมต่อกับบูรพาวิถีก็สะดวกสบาย หรือจะเข้าสู่ตัวเมืองก็ยังสามารถใช้ถ.กาญจนาภิเษก แล้วเชื่อมต่อกับวงแหวนอุตสาหกรรมไปลงที่ถ.พระราม 3 ก็จะสามารถเข้าสู่ช่วงสาทรได้ง่ายๆ ใช้เวลาเพียง 30 นาที และยังใกล้ทางด่วนบางนา เพียง 15 นาที เชื่อมต่อเข้ากรุงเทพฯ ชั้นในได้อย่างสะดวกสบายเพียง 15 นาที         ภาพรวมโครงการ Aspire Erawan คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 31 ชั้น 1,576 ยูนิต ชั้น B1-4 เป็นที่จอดรถ 553 คัน (35%) ไม่รวมซ้อนคัน ยูนิตพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 6-30 พื้นที่ทั้งหมด 6-1-89.5  ไร่ ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ดีไซน์อาคารได้แรงบันดาลใจมาจากความเป็น Modern Japanese นำมาผสมผสานกับกลิ่นอายแบบ Industrial เกิดเป็นโครงการที่ดูเรียบง่าย แต่ได้ประโยชน์ใช้สอยมาก     เดินชม Facility สิ่งอำนวยความสะดวกจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกันค่ะ เริ่มตั้งแต่บริเวณเหน้าโครงการที่มี Shop ซึ่งมีที่จอดรถด้วย ทำให้บุคคลภายนอกสามารถแวะมาใช้บริการได้ด้วยเช่นกันค่ะ ทางเดินจากหน้าโครงการก็มีการกั้นระหว่างทางเดินที่มีหลังคาไปตลอดทางกับทางรถยนต์แยกกันอย่างชัดเจน เมื่อเข้ามาถึงตัวโครงการก็จะพบ Drop Off จะเริ่มเข้าสู่ตัวอาคาร โดยจะมีทั้ง Lobby ใต้อาคารให้ได้นั่งเล่นรับลม และ Lobby ภายในอาคารที่ต้องใช้คีย์การ์ดผ่านเข้าไปเท่านั้น เชื่อมต่อไปจนโถงลิฟท์หลัก ซึ่งก็จะมีประตูคีย์การ์ดกั้นอีกชั้นหนึ่งเพิ่มความปลอดภัยแก่ลูกบ้าน   ชั้น 5 Facility หลักของโครงการ จะมีทั้ง Co-Working Space ในห้องที่มีฟรี Wifi ได้วิวรถไฟฟ้าด้านหน้าโครงการ Active Fitness พร้อมอุปกรณ์ระดับโปร และ Game Room ให้มีกิจกรรมสังสรรค์ใหม่ๆ กับเพื่อน รวมถึงห้องสตีมที่อยู่ภายในห้องน้ำส่วนกลาง และสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก มีสวนสีเขียวให้ได้นั่งพักผ่อนรอบๆ           Rooftop เปลี่ยนบรรยากาศออกกำลังกายในฟิตเนสมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบนชั้น Rooftop ไม่ว่าจะเป็น Jogging Track, Sky Yoga หรือชอบความท้าทายอย่าง Boxing Zone, Climb Zone และยังมี Bar-B-Q Zone และจุดชมวิวให้ได้นั่งพักผ่อนพร้อมชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยา แล้วทอดสายตาออกไปเป็นแนวใจกลางเมือง     ไม่ใช่แค่ติดสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้นนะคะ แต่หน้าโครงการยังเป็นบันไดเลื่อนขึ้นสถานีด้วยค่ะ   Shop หน้าโครงการมีประมาณ 3 Shop (7-11, ร้านอาหาร Time to eat และร้านการแฟ D'oro) ทางเข้ากั้นด้วย Keycard Access Control และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.    ทางเดินเข้าตัวโครงการประมาณ 150 เมตร   Drop off ก่อนจะเข้าถึงตัวอาคารค่ะ   Lobby ด้านนอกแบบ Semi ก่อนจะเข้าสู่ภายในอาคารก็ต้องผ่านด้วย Keycard Access Control เช่นกันค่ะ   Lobby ด้านใน   มีการติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED เอาไว้ตามนโยบายจาก AP (THAILAND)   ห้อง Mail Box     ขึ้นมาที่ชั้น 5 ค่ะ เป็นชั้นที่อยู่อาศัยชั้นแรก และยังเป็น Facility หลักด้วย   Co-Working Space พร้อมฟรี Wifi ค่ะ         สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 13 x 30 เมตร ลึก 1.2 เมตร และสระเด็กลึก 0.5 เมตร ค่ะ     Game Room สามารถเบิกอุปกรณ์สำหรับเล่นได้จากนิติบุคคลค่ะ    Active Fitness พร้อมอุปกรณ์   ภายในห้องน้ำทั้งชาย-หญิง จะมีล็อกเกอร์เก็บของและห้องสตีมอยู่ด้วยค่ะ   ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop ชั้น 31 โดยขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 30 แล้วเดินขึ้นบันไดมาอีก 1 ชั้นค่ะ   Jogging Track ให้ได้วิ่งสูดอากาศธรรมชาติ    Boxing Zone    Climb Zone ความท้าทายใหม่บนคอนโดฯ    หรือจะจัด Meeting เล็กๆ กับคนรู้ใจที่ Bar-B-Q Zone    Sight Seeing ก็มีอยู่หลายจุดค่ะ ไม่ว่าจะชอบวิวเมือง หรือวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบ        Foor Plan พื้นที่ตัวอาคารเข้าไปจากถนนสุขุมวิทประมาณ 150 เมตร ซึ่งอาคารจะถูกวางแนวยาวทางทิศเหนือ แล้วมีส่วนที่ต่อออกมาทางทิศใต้ 2 ส่วนขนานกัน โดยจะแบ่งลิฟท์แบบล็อคชั้นออก 2 ส่วนนี้เช่นกันค่ะ เป็นทางด้านตะวันออกจะมี 4 ตัว ลิฟท์เซอร์วิช 2 ตัว และลิฟท์ทางฝั่งตะวันตกมี 2 ตัว บันไดหนีไฟกระจายอยู่ถึง 5 จุด ยูนิตพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับ Facility สำหรับยูนิตฝั่งทิศเหนือจะได้ City View ซึ่งจะมองไปเห็นช้างสามเศียร และถนนกาญจนาภิเษก ส่วน Wing ทางขวามือด้านหน้าโครงการจะได้วิวทางถนนสุขุมวิทและสระว่ายน้ำกลางโครงการ และ Wing ทางซ้ายมือจะได้วิวสระว่ายน้ำกลางโครงการ และแม่น้ำเจ้าพระยาที่โอบล้อมด้วยพื้นที่ว่างสีเขียวขนาดใหญ่             Unit Plan ยูนิตพักอาศัยสำหรับ Aspire Erawan จะได้ห้องแบบ Fully Furnished (ช่วงโปรโมชั่น) ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built In และแบบลอยตัวค่ะ โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ STUDIO 25.50 ตร.ม. ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่สุดคือ 2 Bedroom 47 ตร.ม. (ซึ่งตอนนี้ห้องแบบ STUDIO ขายหมดแล้ว) ซึ่ง Layout สำหรับโครงการนี้จะมีลักษณะที่เน้นแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาอย่างทั่วถึงภายในห้อง และเน้นครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน แม้จะมีบางยูนิตที่เป็นครัวเปิดเพื่อทำให้มีพื้นที่โล่งขึ้น แต่ก็ยังสามารถสร้างประตูกระจกบานเลื่อนปิดได้ และห้องน้ำจะใช้แบบสำเร็จรูปยกมาจากโรงงานติดตั้งที่โครงการเรียบร้อย มีข้อดีตรงที่มีรอยต่อน้อย ดังนั้นจึงเกิดการรั่วซึมได้ยาก ทำความสะอาดก็ง่ายตามไปด้วย และเมื่อเกิดปัญหาก็สามารถเข้ามาซ่อมแซมได้เลย ไม่ต้องซ่อมจากห้องอื่นๆ อย่างห้องน้ำทั่วไป     STUDIO 25.50 ตร.ม.    1 Bedroom 29.50-30.00 ตร.ม.   1 Bedroom Plus A 35.00 ตร.ม.   1 Bedroom Plus A 35.00 ตร.ม.     2 Bedroom 47.00 ตร.ม.   ชมห้องตัวอย่าง 30.00 ตร.ม. หลังจากเดินชมส่วนกลางของโครงการกันแล้ว ก็เข้าไปชมห้องตัวอย่างกันต่อค่ะ โดยห้องตัวอย่างแรกคือ 1 Bedroom 30.00 ตร.ม. ซึ่งเป็น Layout ห้องยอดฮิตทีเดียวค่ะ เพราะแบ่งฟังก์ชั่นอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ทั้งห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อลึกเข้าไปเป็นห้องนอน แยกส่วนห้องครัวปิดกับห้องน้ำไปจนถึงระเบียงขนาดเพียงพอให้วางราวตากผ้าได้สบายๆ โดยรวมแล้วถือว่าขนาดกำลังพอดีสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 คน และสิ่งที่จะได้มากับห้องด้วย ได้แก่ โซฟา โต๊ะทานข้าว เคาน์เตอร์ทีวี เตียงขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง เครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมด เคาน์เตอร์ครัว   ประตูห้องใช้แบบกุญแจล็อคกับก้านโยกค่ะ   ทุกยูนิตมีความสูง Floor To Ceiling 2.5 เมตร ไฟห้องแบบ Downlight และพื้นห้องปูด้วยลามิเนต     เคาน์เตอร์ทีวี Built In มาให้พร้อมกับเป็นตู้เก็บของไปด้วยในตัว   ห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ส่วนรางเลื่อนจะติดซ่อนอยู่ด้านบนประตูค่ะ ทำให้เวลาเดินมีความ Smooth ยิ่งขึ้น และไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นจับด้วยค่ะ      ภายในห้องนอนค่ะ   หน้าต่างข้างเตียงนอนทุกห้องจะใช้บานกระทุ้ง ไม่รวมผ้าม่านนะคะ   เครื่องปรับอากาศติดตั้งไว้ให้ปลายเตียง หากเปิดประตูห้องนอนไว้ก็จะเย็นออกไปถึงห้องนั่งเล่นได้ค่ะ   ไปต่อกันที่ห้องน้ำ และห้องครัวปิดค่ะ   ห้องน้ำสำเร็จรูปยกพื้นสูง ภายในแยกส่วนเปียก-แห้ง โถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าใช้แบรนด์ American Standard ก๊อกน้ำและฝักบัวจากแบรนด์ Grohe        ห้องครัวปิดปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นทางขวามือของเคาน์เตอร์ครัว     ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีขาว   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ   Condensing Unit แขวนไว้เหนือศรีษะ หันออกนอกระเบียงค่ะ    ห้องตัวอย่าง 35.00 ตร.ม. ห้องตัวอย่างถัดมานั่นคือ 1 Bedroom Plus 35.00 ตร.ม. สำหรับห้องนี้แม้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้วไม่มาก แต่ด้วยการวาง Layout ที่ดี จึงทำให้ออกมาดูกว้างขวางขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ซึ่งจะได้ห้องเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานของแต่ละคนได้อย่างอิสระ เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ตอบโจทย์ที่สุด       สำหรับบางห้องจะได้โปรโมชั่นรวม Digital Door Lock จากแบรนด์ Samsung ด้วยค่ะ   ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างขวางมากขึ้น     ทั้ง 2 ห้องจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซ่อนรางไว้ด้านบนเหมือนกันค่ะ   ห้องนอนแรกค่ะ จะได้ทั้งตู้เสื้อผ้า เตียงนอน 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ไม่รวมผ้าม่านค่ะ   หากใครที่ใช้ครัวบ่อยๆ ก็สามารถกั้นประตูกระจกเพิ่มเติมให้กลายเป็นครัวปิดได้ค่ะ   สำหรับห้องตัวอย่างนี้จะตกแต่งห้องอเนกประสงค์ให้เป็นห้องนอนค่ะ แต่ก็สามารถปรับเป็นฟังก์ชั่นได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ   จากห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงโดยกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ   Condensing Unit แขวนไว้หันหน้าออกนอกระเบียง และยังมีกริลเพื่อผลักลมร้อนออก เมื่อมองจากด้านนอกอาคารก็ยังสวยงามเป็นระเบียบขึ้นด้วยค่ะ        ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียก-แห้ง พร้อมติดตั้งกระจกบานใหญ่มาให้ด้วยค่ะ   Aspire Erawan ไม่ใช่แค่ติดสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วยนะคะ เรื่องทำเลที่ตั้งจึงถือว่าหาได้ยากไม่น้อยสำหรับถนนสายสุขุมวิท แม้อาจจะยังเป็นทำเลที่ไม่มีใครเอ่ยถึงกันนัก แต่เชื่อว่าหากลองได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วก็จะค้นพบว่า ความเงียบสงบมีอยู่จริงแม้จะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าก็ตามที แล้วยิ่งติดรถไฟฟ้าขนาดนี้ถ้าทำเลขยับเข้าเมืองไปอีกไม่กี่สถานี ราคาก็พุ่งขึ้นมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ ซึ่งในราคา 1.89 ล้านบาท แบบนี้หาไม่ได้แน่นอนค่ะ       https://www.youtube.com/watch?v=E5FQnbS3Ozo
Supalai Essence Suanluang-ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง : รีวิวบ้าน

Supalai Essence Suanluang-ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Supalai Essence Suanluang (ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง) เจ้าของโครงการ :  บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซอยชุมชนมหาดไทย 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. พื้นที่โครงการ : 15 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน ศุภศิลป์ บ้านรุ่นใหม่ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ - แบบบ้าน ศุภศิริ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 321 ตร.ม. ขนาด 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สโมสร - สระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 7,300,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวจาก ศุภาลัย แนวคิด “IT’S TIMELESS LIVING IN DOWNTOWN” ที่อยู่อาศัยทำเลศักยภาพย่านบางนา-ตราด ที่คุณอาจหาความคุ้มค่าแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีก ให้คุณสะท้อนทุกด้านที่เป็นตัวคุณ สัมผัสแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่ผสานทั้งความหรูหรา คุ้มค่า ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนศรีนครินทร์, ถนนวงแหวนรอบนอก, ทางพิเศษบูรพาวิถี, สนามบินสุวรรณภูมิ, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีอุดม สถานที่ใกล้เคียง : MEGA บางนา, IKEA, เทสโก้ โลตัส, Market Village, Index Living Mall, SB Design Sqaure, Bangkok Mall, สวนหลวง ร.9, ม.รามคำแหง 2, รพ.ปิยมินทร์, รพ.จุฬารัตน์ 1  
Elio Sathorn-Wutthakat-เอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ : รีวิวคอนโด

Elio Sathorn-Wutthakat-เอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Elio Sathorn-Wutthakat (เอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ) เจ้าของโครงการ : บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. พื้นที่โครงการ : 5-1-31.9 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 2 อาคาร จำนวนชั้น : 34 ชั้น และ 41 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,161 ยูนิต ที่จอดรถ : 498 คัน ขนาดห้อง : - แบบ STUDIO ขนาด  24.5  ตร.ม. - แบบ One Bedroom ขนาด 30.5  ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - Co - Working space - Karaoke Studio - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,890,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมแนวคิด “Twist To Be Easy” ที่ให้คุณต่อติดชีวิตได้ง่ายในทุกด้านทั้ง Live-Work-Play ด้วยทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก นอกจากนั้นการออกแบบห้องพักอาศัย ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีเขียว, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานที่ใกล้เคียง : Food villa, The Circle, Metro West Town, Villa De Bear, Climb Central Bangkok, Icon siam, Sena fest, The Unity Tower, Brithish International School, Shrewsbury International School, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี, เดอะมอลล์ ท่าพระ, ตลาดพลู
Ideo Ratchada-Sutthisan-ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

Ideo Ratchada-Sutthisan-ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Ideo Ratchada-Sutthisan (ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร) เจ้าของโครงการ : บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. พื้นที่โครงการ : 1-3-97 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 24 ชั้น จำนวนยูนิต : 410 ยูนิต ที่จอดรถ : 182  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 28.00-29.00 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด 33.5-34.5 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.00-71.50 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก : - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - สวนพักผ่อน - ฟิตเนส เปิดตลอด 24 ชม. - ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,490,000 บาท ราคาเฉลี่ย : 90,000 บาท/ตร.ม จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมที่ออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้คุณใช้ชีวิตเมืองได้เต็มที่ในทุกด้านอย่างที่คุณต้องการ บนทำเลกึ่งกลางระหว่างพื้นที่ทางธุรกิจกับแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้องพักอาศัยที่ปรับตามไลฟ์สไตล์คุณ และพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับมิติ ชีวิตที่หลากหลายเพื่อวิวัฒน์ 24 ชั่วโมงของคุณ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT สุทธิสาร สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูน พระราม 9, โรงพยาบาลพระราม 9, สำนักงานเขตห้วยขวาง, สน.ห้วยขวาง, ตลาดห้วยขวาง, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน
บ้านกลางเมือง วัชรพล ค้นพบคำตอบของบ้านที่ดี บนทำเลที่ใช่     : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง วัชรพล ค้นพบคำตอบของบ้านที่ดี บนทำเลที่ใช่     : รีวิวทาวน์โฮม

เหตุผลของการเลือกที่อยู่อาศัยแนวราบ ใครๆ ก็คงต้องบอกว่าเพราะได้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ ยิ่งถ้าได้ทำเลเดินทางสะดวก แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวก็จะยิ่งมีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยหากมีแบบบ้านที่จัดฟังก์ชั่นดีๆ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และยังยก Pocket Garden ขึ้นมาไว้บนบ้านของเรา ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติเข้าไปอีก อย่างแบบบ้านทาวน์โฮมใหม่ล่าสุดจาก AP ที่ชื่อว่า Terraria (เทอร์ราเรีย) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาได้ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวทีเดียวค่ะ แต่จะมีหน้าตาแบบไหน แล้วจะใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวอย่างไรนั้น ลองมาค้นหาคำตอบกันในรีวิวฉบับนี้ค่ะ        ทำเลที่ใช่   ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบหลายโครงการ มักจะเลือกมาปักหมุดในย่านวัชรพลกันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีทางด่วนฉลองรัชสร้างยาวมาจนถึงย่านนี้ ตรงด่านสุขาภิบาล 5 ทำให้โซนนี้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการเดินทางที่สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง ราคาที่ดินยังไม่แพง ใกล้สถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น สำนักงานที่ดินกรุงเทพ, สำนักงานพัฒนาสมรรถนะครู, สำนักงานเขต เป็นต้น ทำให้การอยู่อาศัยในละแวกนี้ยังไม่หนาแน่นมากนัก ย่านวัชรพลจึงมีความน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก     หากจะบอกเล่าให้เห็นภาพกันมากขึ้น ก็คงจะต้องเปรียบวัชรพลเป็นเหมือนวงกลมที่มีเส้นทางต่อออกไปได้เกือบรอบวง ซึ่งมีเส้นทางหลักในการเข้าสู่ใจกลางเมืองคือ ทางด่วนฉลองรัช หรือที่เรียกกันติดปากว่าเลียบด่วนรามอินทรา ที่ด่านสุขาภิบาล 5 สามารถตรงเข้าสู่พระราม 9 หรือเอกมัยได้สะดวกมาก โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะเลือกเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษกก็ใกล้นิดเดียว ส่วนถนนหลักก่อนเข้าสู่วัชรพลอย่างถนนรามอินทรา ก็เป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่ง เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่เป็นระยะตลอดเส้นทาง และในอนาคตปี 2564 จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านตลอดถนนรามอินทรา ซึ่งจะมีจุด Interchange กับสายสีม่วง สายสีแดง สายสีเขียวส่วนต่อขยาย สายสีเทา และสายสีส้ม เป็นทางเลือกการเดินทางที่หลายคนรอคอย หรือจะใช้เส้นทางด้านถนนสายไหมแล้วไปทะลุออกสี่แยกคปอ. เข้าถนนธูปะเตมีย์ ทะลุเข้าถนนวิภาวดีขาเข้าจะใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็ถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว และถนนตัดใหม่อย่างถนนเทพรักษ์ โดยเริ่มต้นจากถนนพหลโยธิน ข้างบิ๊กซีสะพานใหม่ไปเชื่อมต่อกับถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 และยังมีแผนในอนาคตจะทำถนนต่อเพิ่มไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งโครงการบ้านกลางเมืองวัชรพล จะตั้งอยู่ริมถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งขาเข้า         สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย แถมยังหลากหลายด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นจำพวกห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์(CDC) บนเลียบด่วนรามอินทรา หรือที่ถนนรามอินทราอย่างเดอะพรอมานาด, แฟชั่นไอส์แลนด์ และเซ็นทรัลรามอินทรา หรืออยากเดินตลาดในวันสบายๆ ก็อยู่ใกล้โครงการอยู่หลายแห่งทั้งตลาดออเงิน, ตลาดวงศกร, ตลาดยิ่งเจริญ, ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา และตลาดนัดหัวมุม ส่วนโรงพยาบาลก็หายห่วงค่ะ เพราะมีทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนอยู่รอบๆ เช่น รพ.สายไหม, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, รพ.สินแพทย์ และรพ.ภูมิพลอดุลยเดช เป็นต้น     ภาพรวมโครงการ   บ้านกลางเมือง วัชรพล มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 18 ไร่ แต่มีจำนวนยูนิตเพียง 192 ยูนิต ตอกย้ำความสงบเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย ซึ่งทาง AP ตั้งใจให้เกิดเป็น Peace Moment บน Concept โครงการ “Serenity within Reach” เข้าถึงความสงบอย่างเข้าใจผู้อยู่อาศัยที่ต้องการช่วงเวลาพักผ่อนที่ดีที่สุดอยู่ในบ้านของตัวเองโดยโครงการที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นรูปแบบใหม่ ได้พื้นที่ใช้สอยถึง 152 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท       Club House กลางโครงการถูกสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบ Glasshouse Resort ให้เหมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทระดับ  2 ชั้นกลางธรรมชาติ มีทั้ง Greenery Space สวนสีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เปรียบเสมือนปอดกลางโครงการ มองออกไปแล้วสบายตาเกิดความรู้สึกสงบอย่างแท้จริง สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อม Sunken นั่งเล่นมุมสระว่ายน้ำ ภายในอาคาร Club House ชั้นแรกถูกจัดพื้นที่ให้เป็น Co-Working Space ส่วนชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน          ลืมภาพเก่าๆ ของทาวน์โฮมแบบเดิมๆ ไปได้เลยค่ะ เพราะความพิเศษของดีไซน์ทาวน์โฮมใหม่ชื่อว่า Terraria ที่ให้พื้นที่ใช้สอยภายในมากพอๆ กับบ้านเดี่ยว แต่ราคาทาวน์โฮม เน้นจุดเด่นที่ Flexible Space ปล่อยพื้นที่ให้ได้ครีเอทกันอย่างเต็มที่ เพื่อตอบไลฟ์สไตล์แบบที่เป็นตัวเอง อีกทั้งย่อสวนสีเขียวให้เป็น Pocket Garden แล้วยกขึ้นมาไว้ที่ชั้น 2 และ 3 ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ท่ามกลางบรรยากาศความเป็นส่วนตัว จนสัมผัสได้ถึงความสงบที่แท้จริงในบ้านของตัวเอง     เดินชมโครงการ     เราจะพาเดินชมโครงการบ้านกลางเมือง วัชรพล กันตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า-ออกเลยค่ะ ซึ่งที่ประตูหลักนี้ จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอด 24 ชม. โดยบุคคลภายนอกจะต้องแลกบัตรเข้าไปค่ะ   ส่วนลูกบ้านจะใช้ระบบ Easy Pass ในการเข้า-ออก พร้อมกับมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ที่ประตูด้วย   กลางโครงการจะพบกับ Club House โดยจะมีทั้งส่วนที่เป็น Outdoor และภายในอาคาร 2 ชั้น     ส่วนแรกของ Facility จะเป็นลานสนามหญ้าโล่งๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่สลับกับพุ่มไม้เตี้ย สำหรับทำกิจกรรมได้หลากหลาย   ด้านข้างสนามหญ้าจะมีหลุมสำหรับนั่งพักผ่อนช่วงแดดร่มลมตกได้   อาคาร Club House ถูกดีไซน์ในลักษณะ Glass House 2 ชั้น ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือ และมีสระเด็กแยกอยู่ริมสระ    มุมด้านข้างสระว่ายน้ำมี Sunken สำหรับนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศของ Club House        ทางเดินขึ้นไปชมภายในอาคาร Club House ใช้วัสดุหินอ่อนปูผนังเพิ่มความสวยงามดูดี สลับกับใช้ Copper ตกแต่งสร้างสีสันเพิ่มเติม    ภายในชั้น 1 จัดให้เป็น Co-Working Space นั่งสบายๆ กับเซตโซฟาที่ล้อมรอบไปด้วยกระจก High Ceiling รับแสงสว่างเข้ามาได้มาก โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟก็สว่างเพียงพอเช่นกันค่ะ    ด้านหลังจะเป็นมีส่วนที่เป็นเพดานสูงๆ แบบ Double Space มองขึ้นไปเห็นชั้น 2 ของ Club House    ขึ้นบันไดด้านข้างไปที่ชั้น 2 กันค่ะ   ชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ ปูพื้นด้วยพรม ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ดูโปร่งสบาย    มีการกั้นห้องกระจกด้วยประตูกระจกบานเลื่อนจาก 2 ฝั่งมาเข้ามุมกันพอดี   ภายในห้องกระจกนี้ถูกจัดไว้สำหรับเป็นพื้นที่เล่นโยคะ ขนาดประมาณ 2 คนเล่นค่ะ   วิวจากชั้น 2 ของ Club House ค่ะ เป็นโครงการที่ดูร่มรื่นด้วยสีเขียวจากต้นไม้ เข้ากับตัวทาวน์โฮมที่มีโทนสีเทาธรรมชาติกับสี Copper ซึ่งดูทันสมัย แต่ยังคงความสอดคล้องกับธรรมชาติรอบๆ โครงการ    ชมบ้านตัวอย่าง   ต่อมาเราจะเข้าไปชมทาวน์โฮมตัวอย่างกันบ้างค่ะ ซึ่งจะเป็นแบบ Terraria ดีไซน์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นในโครงการบ้านกลางเมืองอื่นๆ ก่อนหน้านี้   เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าบ้านเลยค่ะ หากไม่มีการวางเก้าอี้นั่งเล่นแบบบ้านตัวอย่างนี้จะสามารถจอดรถได้ประมาณ 2 คัน   ทุกยูนิตจะมีการติดตั้งผ้าใบกันสาดสีน้ำตาล แบบนี้มาให้ด้วยค่ะ ซึ่งตัวผ้าใบนี้สามารถพับเก็บได้   ประตูบ้านใช้กระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat ส่วนด้านข้างจะมีประตูอลูมิเนียมบานสวิง    หลังประตูจะเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของค่ะ ซึ่งชั้นวางภายในสำหรับทาวน์โฮมจริงจะไม่มีมาให้นะคะ   ประตูจะใช้ลูกกุญแจล็อคปรกติค่ะ     ประตูด้านในจะมีตัวล็อคแบบก้นหอยให้เป็น Double Lock เพิ่มความปลอดภัยค่ะ    ภายในชั้น 1 ค่ะ Floor To Ceiling 2.8 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนผนังจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว ใช้ไฟ Downlight โดยโซนแรกจะถูกจัดให้เป็น Living Room    มีพื้นที่กว้างๆ สำหรับวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ค่ะ   ขวามือถัดจากประตูบ้านจะเป็นบันไดค่ะ และมีส่วนที่เป็นผนังตรงข้ามโซฟา สำหรับ Built In เคาน์เตอร์วางทีวี   ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ส่วนด้านขวาเป็นครัวเปิดที่จัดเอาไว้เป็นสัดส่วนจนเกือบจะเป็นห้องครัวปิดเลยทีเดียวค่ะ   ภายในห้องครัวเราจะสามารถ Built in เคาน์เตอร์ครัวได้เองตามการใช้งาน โดยจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายกลิ่นกับความชื้นให้ออกไปทางหลังบ้านได้ค่ะ   พื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ซึ่งหากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุม จะได้ประตูกระจกออกไปบริเวณข้างบ้านเพิ่มเติม แบบที่เห็นด้านหน้านี้ ส่วนด้านขวาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปทางหลังบ้านได้เช่นกันค่ะ   ถัดจากเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องน้ำของชั้นแรกค่ะ   ภายในห้องน้ำของชั้น 1 จะไม่มีส่วนเปียกค่ะ เพราะจะใช้เป็นห้องน้ำสำหรับรับแขก โดยพื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มาพร้อมกับโถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ทั้งหมดจากแบรนด์ American Standard ค่ะ   อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง พร้อมติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้แบบนี้เลยค่ะ   ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยบันไดคอนกรีตพร้อมราวจับด้านข้าง Top ด้วยไม้ เดินแล้วไม่เกิดเสียงดังเลยค่ะ   ก่อนจะถึงชั้น 2 เราจะพบกับ Extra Space ชานพักบันไดที่มีพื้นที่กว้างกว่าปรกติ พร้อมกับติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ทางเดินบันได ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เราจะสามารถจัดเป็น Bay Window เพิ่มพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนได้อีก อย่างถ้ามีแขกผู้ใหญ่มาที่บ้านเราก็สามารถพาเด็กๆ ขึ้นมานั่งเล่นข้างบนนี้ก่อนก็ได้ค่ะ หรือใครที่มีของเยอะๆ ก็สามารถจัดหาตู้มาวางไว้สำหรับเก็บของได้เพิ่มก็ได้นะคะ   ชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนต Floor To Ceiling 2.6 เมตร ซึ่งจะมีโซน Flexible Space ห้ได้ครีเอทได้ตามสไตล์ของตัวเอง แต่สำหรับทาวน์โฮมจริงจะถูกกั้นเป็นห้องค่ะ    ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนระบบ Double Lock ซึ่งจะเป็นวิวฝั่งหลังบ้านค่ะ    ตรงข้ามกันทางฝั่งหน้าบ้าน จะเป็นห้องนอนแรกค่ะ แม้ว่าที่ห้องตัวอย่างจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้ โดยเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียง แต่ด้วยพื้นที่จริงก็กว้างพอที่จะวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ   ด้านข้างเตียงฝั่งเดียวกันกับประตูห้อง ก็สามารถ Built In ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ทางหัวเตียงได้   ข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 3 บาน ส่วนปลายเตียงจะมีพื้นที่ Pocket Garden ซึ่งเป็นจุดขายที่ทาวน์โฮมไม่มี   Pocket Garden จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสวิง ขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat โดยจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค    จะมีส่วนที่จัดเอาไว้ให้สำหรับใครที่ชอบปลูกต้นไม้ ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศตรงนี้ให้เหมือนยกสวนสีเขียวขึ้นมาไว้ในห้องนอนของตัวเอง ที่สามารถนอนมองออกมาแล้ว มองเห็นสีเขียวของต้นไม้อยู่ใกล้แค่เอื้อม ให้ความรู้สึกสงบเหมาะแก่การพักผ่อนยิ่งขึ้น   มีการต่อก๊อกน้ำเอาไว้ให้ใช้ประโยชน์ได้ด้วยนะคะ อย่างถ้าจะต่อสายยางสำหรับรดน้ำต้นไม้ส่วนนี้ก็ทำได้ง่ายเลย   ถ้าหันหลังให้ต้นไม้ ก็จะพบกับหน้าต่างกระจกบานเลื่อนทรงสูงค่ะ ซึ่งภายในเป็นห้องน้ำของชั้น 2   ห้องน้ำของชั้น 2 ที่เรามองเห็นผ่านทางหน้าต่างเมื่อสักครู่ค่ะ โดยทางซ้ายมือของภาพจะเป็นห้องนอนที่เราพาเข้าไปชมมาแล้ว ส่วนทางซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็น Flexible Space    ภายในห้องน้ำจะมีลักษณะลึกเข้าไป ซึ่งส่วนเปียกด้านในสุดจะสามารถมองออกไปเห็น Pocket Garden เปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องน้ำให้สดชื่นขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ภายในห้องจะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ โดยสุขภัณฑ์ทุกอย่างจะได้มาครบเซตตามนี้เลยค่ะ   สิ่งที่จะได้มาด้วย คือ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง และกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ โดยจะมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่วางของได้ยาวตลอดแนวตั้งแต่หลังโถสุขภัณฑ์ไปจนถึงอ่างล้างหน้า   ขึ้นไปชมชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ โดยที่ชั้น 3 นี้จะมีเพียง 1 ห้องใหญ่ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็น Master Bedroom ค่ะ    เปิดห้อง Master Bedroom กันเลยค่ะ โดยเริ่มจากทางฝั่งซ้ายมือของประตูกันก่อน    พื้นที่ห้องกว้างๆ แบบนี้ตรงกลางห้องเราสามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ เลยค่ะ    ข้างเตียงจะมีทั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง และประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน ทำให้แสงสว่างจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มๆ ห้องจึงดูสว่างปลอดโปร่ง ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนค่ะ เพราะใช้กระจกเขียวตัดแสงช่วยลดแสงและความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในห้องมากจนเกินไป   ระเบียงพักผ่อนจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกใช้เหล็กโปร่งสีดำ พร้อมไฟส่องสว่างที่ระเบียงค่ะ   กลับเข้ามาในห้องเราจะเห็นอีกมุมหนึ่งของห้องค่ะ ซึ่งปลายเตียงเราสามารถ Built In ทั้งเคาน์เตอร์วางทีวีพร้อมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้   พื้นที่ก่อนห้องน้ำในตัวตรงนี้เราสามารถทำเป็น Walk In Closet ตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ ก็สามารถลดขนาดโต๊ะทำงานแบบตัวอย่างทางซ้ายมือ แล้วเพิ่มตู้เสื้อผ้าเข้าไปอีกก็ทำได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนค่ะ     ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom นี้จะแบ่งส่วนเปียกเอาไว้ด้านในทางซ้ายมือ และส่วนแห้งทางขวามือค่ะ    ผนังส่วนเปียกจะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคพร้อมเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ตามนี้เลยค่ะ ส่วนอ่างล้างหน้าจะได้ตู้สำหรับเก็บของด้านใต้ และกระจกเงามาด้วย   หันหลังให้อ่างล้างหน้าจะพบกับส่วนแห้งค่ะ โดยจะได้โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ พร้อมพื้นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ตามนี้เลยค่ะ   สำหรับ Pocket Garden ไม่ได้มีมาให้แค่ที่เดียวเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีมาให้สร้างบรรยากาศภายในห้องน้ำทางฝั่งหลังบ้านด้วย โดยสามารถเปิดบานกระทุ้งออกไปจัดสวนเล็กๆ ได้จากฝั่งส่วนเปียกด้านซ้ายมือค่ะ   ทาวน์โฮมจริง   หลังจากชมไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างมาแล้ว ก็ถึงเวลามาดูกันที่ทาวน์โฮมจริงที่ลูกบ้านจะได้กันบ้างค่ะ   หน้าบ้านติดผ้าใบกันสาดแบบพับได้มาให้ด้วยค่ะ เวลากางออกมาใช้จะดูสวยงามคุมโทนเป็น Pattern เดียวกัน   พื้นที่สำหรับจอดรถได้ประมาณ 2 คันค่ะ โดยทาวน์โฮมจริงจะมีการติดตั้งปลั๊กไฟ และก๊อกน้ำมาให้ตรงนี้ด้วย ประตูบ้านจะใช้กระจกบานเลื่อน 2 บาน ซึ่งจะใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat ส่วนข้างประตูจะเป็นประตูอลูมิเนียมบานสวิง   เปิดออกมาจะเป็นตู้เก็บของค่ะ ซึ่งเราสามารถจัดชั้นวางของไว้ภายในเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ   ภายในชั้น 1 จะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ Floor To Ceiling 2.8 เมตร ใช้ไฟ Downlight โดยพื้นที่กว้างๆ โซน Common Area แบบนี้เราสามารถแบ่งเป็น Living Room และลึกเข้าเป็นห้องครัว และห้องทานข้าวได้ค่ะ    จากทางซ้ายมือของบ้านไล่มาตั้งแต่ประตูทางเข้า-ออกก็จะเป็นบันได ห้องเก็บของใต้บันได ห้องน้ำ และห้องครัวค่ะ   ภายในห้องเก็บของใต้บันไดมีพื้นที่พอสมควรค่ะ จะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ หรือเป็นห้องเก็บรองเท้าก็ดีนะคะ   ถัดมาเป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้งค่ะ โดยปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค หลังโถสุขภัณฑ์จะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ   ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่สำหรับวางของออกมาเล็กน้อยค่ะ   ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องครัวค่ะ ซึ่งหากใครที่ชอบทำครัวบ่อยๆ แล้วอยากได้ห้องครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นก็สามารถติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนได้นะคะ จะทำให้ยิ่งดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น   ภายในห้องครัวมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งสำหรับระบายกลิ่น และความชื้นค่ะ   ด้านล่างกระจกมีการต่อท่อน้ำมาให้เรียบร้อย ซึ่งจุดนี้เหมาะสำหรับติดตั้งซิงค์ล้างจานค่ะ   ตู้ไฟของบ้านจะอยู่ที่ส่วนครัวค่ะ   ประตูกระจกบานเลื่อนทางหลังบ้านค่ะ ใช้กระจกเขียวตัดแสงป้องกันความร้อนจากภายนอก   หลังบ้านมีพื้นที่สำหรับเป็นลานซักล้างค่ะ โดยมีทั้งปลั๊กไฟและท่อน้ำติดตั้งมาให้เช่นกัน   จากหลังบ้านเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน จะเห็นว่า Condensing Unit ทุกตัวสามารถแขวนบนผนังหันหน้าออกนอกตัวบ้านได้ค่ะ     กลับเข้ามาชมภายในบ้านกันต่อค่ะ โดยจะขึ้นไปที่ชั้น 2   Extra Space ของชานพักบันได ขยายพื้นที่ให้สร้างสรรค์ได้หลากหลายตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย   มีหน้าต่างบานกระทุ้ง เพิ่มแสงสว่างทางเดินบันได ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยตามไปด้วยค่ะ   สำหรับชั้น 2 นี้จะปูพื้นด้วยลามิเนต Floor To Ceiling 2.6 เมตร โดยจะมีทั้งหมด 3 ห้อง คือ ห้องนอนทางขวากับทางซ้ายมือ และตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ    เข้ามาดูที่ห้องน้ำกันก่อนค่ะ เป็นห้องน้ำลักษณะลึกยาวเข้าไปจนถึง Pocket Garden ฝั่งหน้าบ้าน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงา ก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพิ่มพื้นที่วางของใช้   โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อยู่ตรงกลางห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้งค่ะ   ผนังตรงฝักบัวจะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค พร้อมเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ค่ะ   ด้านข้างส่วนเปียกจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน มองออกไปเห็น Pocket Garden ซึ่งถ้าเราเลือกปลูกต้นไม้สูงๆ เป็นพุ่มใหญ่ๆ ก็สามารถอาบน้ำไปได้บรรยากาศสีเขียวของต้นไม้ไปด้วยค่ะ แต่ถ้าต้นไม้ไม่สูงมากนักก็ติดตั้งมู่ลี่บังสายตาจากด้านนอกแทนก็ได้ค่ะ   ไปดูกันที่ห้องนอนแรกทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ   ห้องนอนแรกจะมีหน้างต่างบานเลื่อนยาวตลอดผนังค่ะ   ปรกติห้องนอนจะมีระเบียงพักผ่อนใช่ไหมคะ แต่สำหรับบ้านแบบ Terraria นั่นจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้กลายเป็น Pocket Garden   ถ้าจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอน Pocket Garden ก็จะอยู่ทางปลายเตียงค่ะ ทำให้นอนมองสวนย่อมส่วนตัวได้สบายๆ   Pocket Garden กั้นส่วนสำหรับปลูกต้นไม้เอาไว้ด้านหน้า หรือจะปลูกต้นไม้ในกระถางเล็กๆ เพิ่มเติ่มออกมาในพื้นที่ตรงกลางก็ได้นะคะ   พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกันกับระเบียงค่ะ มีการติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับใช้ประโยชน์ได้   นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศความสดชื่นมาไว้ใกล้ตัวได้มากกว่าเป็นระเบียงธรรมดาแล้ว ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างได้ทั้งภายในห้องนอน และห้องน้ำได้ด้วยนะคะ   ห้องสุดท้ายของชั้น 2 ค่ะ จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน   ห้องนี้สามารถจัดให้เป็นห้องนอนที่ 2 หรือจะดัดแปลงให้เป็นห้องทำงาน หรือห้อง Theater ก็ตามแต่ไลฟ์สไตล์แบบฉบับ Flexible Space   สุดท้ายขึ้นไปที่ชั้น 3 ค่ะ   ยังคงมีการเจาะช่องหน้าต่างสำหรับแสงส่องสว่างตรงบันได   ที่ชั้น 3 จะมีเพียงห้องเดียวเลยค่ะ ซึ่งเป็น Master Bedroom    เข้ามาในห้องจะเจอกับ Space กว้างๆ โดยมีหน้าต่างกระจกตลอดแนวผนังทางด้านหน้าบ้าน   ประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน กั้นระหว่าง Master Bedroom กับระเบียงหน้าบ้านเอาไว้   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ   นอกจากประตูกระจกแล้ว ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนด้านข้างด้วยค่ะ   ภาพรวมของ Master Bedroom ค่ะ ซึ่งข้อดีของห้องโล่งๆ แบบนี้คือการดีไซน์ห้องของเราเองได้ตามการใช้งานให้ลงตัวสำหรับเราเองได้ จะวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว หรือ Built In มุมไหนก็จะออกมาได้เป็นตัวเราเองมากที่สุด    ซ้ายมือเป็นประตูห้อง ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำในตัว ซึ่งถ้า Built In ตรงนี้ให้เป็น Walk In Closet ก็จะได้มุมเหมาะๆ พอดีเลยค่ะ    ภายในห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ โดยจะเริ่มจากส่วนแห้งก่อนส่วนเปียกด้านใน   ด้านซ้ายตรงส่วนเปียกจะตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องโมเสค พร้อมเจาะช่องวางของตรงผนัง   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมาพร้อมกับตู้วางของด้านล่าง ซึ่งจะได้มาเฉพาะห้องน้ำใน Master Bedroom ค่ะ    หลังอ่างล้างหน้ามีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้วางของได้ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่   ถ้าใครอยากจะป้องกันน้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้งก็สามารถติดตั้งฉากกระจกกั้นเพิ่มเติมได้นะคะ   ตรงส่วนเปียกมีกระจกบานกระทุ้งขอบอลูมิเนียมที่สามารถเปิดออกได้   มีพื้นที่สามารถจัดเป็น Pocket Garden แบบเดียวกับทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ   ส่วนโถสุขภัณฑ์จะถูกแยกออกอย่างเป็นสัดส่วน เหมือนมีมุมส่วนตัวข้างหน้าต่างบานใหญ่ค่ะ   เป็นห้องน้ำที่มีแสงสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามามากกว่าห้องน้ำในโครงการอื่นๆ เยอะเลยค่ะ เพราะได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่มากมาถึง 2 บาน แถมยังสามารถสร้างเป็น Pocket Garden ได้อีก     จาก Consumer Needs อันคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริงเป็นหลัก เกิดเป็นบ้านที่ดีได้ เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างรอบด้านทั้งทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ไปจนถึงภายในโครงการเอง ความสงบเป็นส่วนตัวซึ่งสัมผัสได้จากความงดงามของธรรมชาติที่อยู่เพียงเอื้อมมือ จนเกิดเป็นสังคมคุณภาพ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างไม่สิ้นสุดในบ้านของเราเอง    
Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) เจ้าของโครงการ : เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. พื้นที่โครงการ : 5-0-10 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 40 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,253 ยูนิต ที่จอดรถ : 530  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 25.5 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด  30.5 – 32 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด  35 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 48.5-64 ตร.ม. ราคา : เริ่มต้น 2,890,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า MRT เพียง 300 เมตร ผสานที่สุดของทุกไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตนที่แตกต่างด้วย THE HYPE PRIVATE FACILITY กว่า 5 ไร่ ใจกลางอโศก-พระราม 9  เริ่ม 2.89 ล้านบาท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า MRT พระราม 9, Airport Link มักกะสัน, ทางด่วนพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : ตลาดอยู่เจริญ, The Grand Rama 9,  Fortune Town, อาคารภคินท์,  True Tower    
JW Urban Home Office-เจ ดับบลิว เออร์เบิน โฮมออฟฟิศ : รีวิวทาวน์โฮม

JW Urban Home Office-เจ ดับบลิว เออร์เบิน โฮมออฟฟิศ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : JW Urban Home Office (เจ ดับบลิว เออร์เบิน โฮมออฟฟิศ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เจ ดับบลิว เรียลเอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนสรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. พื้นที่โครงการ : 6-3-33 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนยูนิต : 61 ยูนิต ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 277 ตร.ม. 3 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, พื้นที่สำนักงาน, ลิฟต์โดยสาร, ที่จอดรถ 1-2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 9,900,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วนปี 2561 จุดเด่นโครงการ : โฮมออฟฟิศระดับพรีเมี่ยม บนถนนสรงประภา-ดอนเมือง ที่สุดแห่งการออกแบบ ด้านความสวยงามและสะดวกสบาย ที่จะทำให้ชีวิตของคุณลงตัว พร้อมเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยรูปแบบสไตล์โมเดิร์นสูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พร้อมลิฟท์แก้วส่วนตัวทุกยูนิต ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพียง 61 ยูนิต ผสานกันอย่างลงตัวทั้งธุรกิจและชีวิตส่วนตัว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีดอนเมือง , สนามบินดอนเมือง , ถนนสรงประภา , ถนนวิภาวดี-รังสิต , ดอนเมืองโทลล์เวย์ , ทางด่วนศรีสมาน สถานที่ใกล้เคียง : ไอทีสแควร์ , โรบินสัน ศรีสมาน , สำนักงานเขตดอนเมือง , ตลาดสี่มุมเมือง , ตลาดฝั่งโขง , ตลาดใหม่ , วัดสีกัน , วัดดอนเมือง , เทคนิคดอนเมือง
Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ2) : รีวิวบ้าน

Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ2) : รีวิวบ้าน

บ้านเดี่ยวที่ออกแบบจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของครอบครัวเมืองกับธรรมชาติ กับโครงการ Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2)  บ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่จาก AP (Thailand)   ที่พบกับความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ และอยู่ใกล้จากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะครบครัน ใช้เวลาเพียง 10 นาทีถึงแจ้งวัฒนะ ทำเล   นนทบุรี เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ติดกับกรุงเทพฯ มีประชากรที่หนาแน่นรองจากกรุงเทพฯ แต่เสน่ห์ของนนทบุรีก็ไม่แพ้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันอย่างห้างสรรพสินค้า แหล่งสำนักงานราชการ รัฐวิสาหกิจมากมาย เปรียบเสมือนกรุงเทพฯ มีอะไร นนทบุรีก็มีเช่นกัน เพ็งสายตามาจับจ้องมาที่ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นอีกหนึ่งถนนแหล่งธุรกิจอีกเส้นหนึ่ง ถือว่าเป็นถนนสายนักทำงานทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนจึงมีความมีความสำคัญ นอกจากนี้ยังสิ่งอำนวยครบครันไม่ว่าจะเป็น เซนทรัลแจ้งวัฒนะ โรงพยาบาล World Medical Center เป็นต้น       ถอยห่างจากความวุ่นวายบนถนนแจ้งวัฒนะ ออกไปไม่ไกลจะพบกับโครงการ “Centro ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2” ตั้งอยู่บนถนน ทางหลวงชนบท นนทบุรี 2051 ซึ่งมีความเงียบสงบไม่วุ่นวาย และไม่ห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเข้าถึงอย่าง เซนทรัล พลาซ่า แจ้งวัฒนะ , The Crystal PTT , Home Pro ชัยพฤกษ์ , เมืองทองธานี , โรงพยาบาลปากเกร็ด , โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และ โรงพยาบาล World Medical Center , โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า , โรงเรียนสารสาสน์ , โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี , โรงเรียนหอวังนนทบุรี , มหาวิยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  นอกจากนี้ย้งใกล้รถไฟฟ้าสายสีมว่ง(สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ) และในอนาคตจะใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีปากเกร็ด)     ภาพรวมโครงการ     " Centro ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2 " เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ประมาณ 47 ไร่ ทำให้มีเพื่อนบ้านถึง 207 หลัง จุดเด่นของโครงการแบบบ้านที่มีหน้ากว้าง พร้อมกับมีห้องน้ำให้กับทุกห้องนอน  เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น บวกกับส่วนกลางที่ครบครันบนพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ อย่าง Fitness , Kid’s bike lane , Jogging track , Playground , สระว่ายน้ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เริ่มจากประตูหน้าโครงการเป็นแบบ Security Gate ในส่วนของทางเข้า - ออกของโครงการเป็นระบบ Access Card (Easy Pass) และมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด CCTV กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง   เมื่อผ่านประตูหลักมาแล้ว ตรงเข้ามาเป็นถนนเพื่อเข้าไปโครงการ โดยสองข้างทางประดับด้วยต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น เป็นธรรมชาติ สบายตา   แต่ก่อนที่จะพาไปชมบ้านตัวอย่าง มาเดินชมส่วนกลางของโครงการกันก่อนครับ และนี้คือหน้าตาภาพรวมของส่วนกลาง       พื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนของ Playground ให้เด็ก ๆ ได้มาวิ่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ   ถัดมาจาก Playground เป็น Kid's Bike Lane ให้น้อง ๆ หนู ๆ มาปั่นจักรยานออกกำลังกายครับ   สระว่ายน้ำของส่วนกลางเป็นระบบเกลือ แยกสระเด็ก - ผู้ใหญ่ ซึ่งสระเด็กความลึกอยู่ที่ 30 ซม. ส่วนผู้ใหญ่ 1.30 ซม.   และนี้คือหน้าตาของสระว่ายน้ำเด็กข้าง ๆ มีเตียงสระว่ายน้ำให้ผู้ปกครองมาดูแล เด็ก ๆ ได้อย่างใกล้ชิด   ต่อจากสระว่ายน้ำมาต่อกันที่ Co - working space สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งอ่านหนังสือ หรือตั้งกลุ่มคุยกับเพื่อนบ้าน   สำหรับคนที่รักสุขภาพต้องนี้เลย Fitness ตัวห้องรายล้อมไปด้วยกระจก ทำให้ดูโอ่โถ่งกว้างขว้าง ไม่อึดอัด   Plan   Shine  พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถในร่ม     Radiant  พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถในร่ม     Glorious  พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถในร่ม     Luminance  พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถในร่ม   ชมบ้านตัวอย่าง   วันนี้บ้านตัวอย่างที่จะพาไปชม เป็นแบบ Luminance พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถในร่ม และทางโครงการให้เป็นบ้านเปล่า แต่แถมวอลเปเปอร์ และสัญญาณกันขโมยให้กับทุกยูนิต เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านให้อุ่นใจมากขึ้น   และนี้คือหน้าตาของบ้าน Luminance ตรงตามฟังก์ชั่นแบบหน้าบ้านมีความกว้าง ตัวบ้านออกแบบสไตล์ Modern + Contemporary คือเน้นความเรียบง่าย วัสดุเน้นเป็นเหล็กหรือกระจก มีความเป็น Modern บวกเข้ากับโทนสีของบ้านเป็นสีขาว และมีไม้มาต่อเติมดูมีกลิ่นอาย Contemporary ได้อย่างลงตัว   ก่อนที่จะเข้าไปชมตัวบ้านด้านหน้าจะเห็นเป็นที่จอดรถในร่ม ที่สามารถจอดได้ถึง 3 คัน และมีประตูที่เชื่อมเข้าไปยังในบ้านอีกด้วย   และนี้คือประตูหลักเพื่อเข้าไปในบ้านเป็นประตูกระจก  ซึ่งกระจกภายในบ้านทั้งหลังเป็นกระจกลามิเนต แข็งแรง ป้องกันความร้อน และเก็บเสียงได้ดี   เข้ามาถึงห้องแรกจะพบกับ Common Area เพดานสูงถึง 2.6 เมตร มีความกว้างสบายสามารถวางโซฟาแอลเชฟ ก็ยังเหลือพื้นที่อีกมาก   ถัดมา พื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร จากภาพจะเป็นโต๊ะสำหรับหกที่นั่งและมีบาร์ แต่เปลี่ยนเป็นโต๊ะยาว 8 ถึง 10 ที่นั่งก็ยังได้สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกมาก หรือมีเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านก็ยังรับไหว   ด้านขวามือสุดจะพาไปสู่ห้องครัว   และนี้คือหน้าตาของห้องครัว ทางโครงการ Built in เน้นวัสดุด้วยไม้ แต่สามารถเปลี่ยนได้ตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัยครับ   ด้านบนเป็นตู้ไฟ ทางโครงการได้ Built in เป็นตู้ไม้ปิดไว้เพื่อความสวยงาม และประตูด้านขวามือเปิดออกไปจะเป็นส่วนด้านหลังบ้าน   ในส่วนของพื้นที่ด้านนี้ สามารถทำเป็นพื้นที่ซักล้างได้ และจะเห็นประตูอีกสองบ้านเป็นส่วนของห้องแม่บ้าน และห้องน้ำครับ   ส่วนนี้คือ หน้าตาของห้องแม่บ้าน   และห้องน้ำด้านหลังบ้าน   กลับเข้ามาในบ้าน เดินต่อจากโซนโต๊ะรับประทานอาหาร ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำกลาง   ในห้องน้ำกลางจะไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำครับ   ออกจากห้องน้ำ จะพบกับประตูไม้ที่เชื่อมกับโรงจอดรถ   ไปต่อกัน แต่ก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ยังมีห้องทางด้านซ้ายมือ   ในส่วนของห้องนี้ ทางโครงการได้ทำเป็นห้องดูหนัง หรือผู้อยู่อาศัยจะทำเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้อง เวลาแขกของคุณลูกและแขกของคุณพ่อคุณแม่มา จะได้แยกกันได้ หรือจะทำเป็นห้องอ่านหนังสือตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัย   พื้นที่ในห้องนี้ กว้างพอที่สามารถทำเป็นห้องกิจกรรมต่างๆ หรือมุมโปรดได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำให้ในตัวด้วย   ภายในห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง จะมีห้องน้ำมาให้ในตัว ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม   เดินต่อเพื่อไปยังชั้น 2 ของบ้านด้วยบันไดไม้สำเร็จรูปสีธรรมชาติ   ขึ้นมาถึง จะพบกับห้องมากมายเริ่มจากซ้ายมือกันเลยครับ   ในส่วนของห้องนอน 1 ภายในห้องกว้างพอรองรับเตียง 6 ฟุตก็ยังไม่ดูอึดอัด ทางโครงการตกแต่ง Built in ให้กลิ่นอายถึงผู้หญิงดูเรียบง่าย สบาย ๆ หน้าต่างทำให้เป็นบานไม้เลื่อนขึ้นมาให้ดูเก๋ ๆ มากขึ้น   นอกจากนี้ปลายเตียง ยังพอมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือได้อีกด้วยครับ   ห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง จะมีกระจกกั้นในส่วนของพื้นที่อาบน้ำครับ   ออกมาจากห้องนอน 1 จะเห็นอีกสามห้องเริ่มจากตรงกลางกันก่อนครับ ซึ่งความจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่ทางโครงการได้ติดกระจกบานเลื่อนเพื่อสร้างเป็นอีกห้องครับ   ทางโครงการ ได้จัดทำเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 หรือเป็นห้องทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน และจะเห็นประตูกระจกเพื่อไปยังระเบียงหน้าบ้าน   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค และราวกันตกเป็นกระจกใสลามิเนต และยังสามารถเดินเชื่อมกับ Master Bedroom ได้   กลับเข้ามาด้านขวามือ จะเป็นห้องนอน 2 ทางโครงการ Built in ให้เป็นห้องนอนเด็ก สร้างลูกเล่นทำพื้นต่างระดับเพิ่มมิติมากขึ้น และยังมีพื้นที่สร้างโดมของเล่นเด็กให้หนู ๆ ได้เข้าไปเล่นได้อีกด้วย ห้องก็ยังดูกว้างไม่เล็กครับ   ห้องน้ำของห้องนอน 2 เหมือนกับห้องนอน 1 มีกระจกกั้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก และแห้งอย่างชัดเจน   และห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom กว้างขวางดูโอ่โถง มีพื้นที่มาก รองรับเตียง King Size ก็ยังมีพื้นที่เหลือ ๆ   มีกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโล่ง เพื่ออากาศถ่ายเท และยังสามารถเชื่อมไปยังห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 ได้ครับ   หันหลังกลับมาจะเป็นส่วนของ Walk In Closet และห้องน้ำครับ   สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แยกซ้ายขวาเป็นตู้ของคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างลงตัว ไม่ต้องใช้ตู้เสื้อผ้าร่วมกัน   ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำ ก็ยังมีพื้นที่พอทางโครงการ Built in เป็นตู้ใหญ่และโต๊ะเสริมสวยของคุณแม่ ก็ยังเหลือพื้นที่กว้างไม่อึดอัด   ส่วนของห้องน้ำ Master Bedroom ทางโครงการจะมีอ่างอาบน้ำให้ครับ   ภายในห้องน้ำก็มีเนื้อที่กว้างมาก นอกจากจะมีอ่างอาบน้ำ ซ้ายมือก็เป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำด้วยฝักบัว   และมีกระจกแบบบานกระทุ้งเพื่อให้อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น   และนี้คือบ้านตัวอย่างบ้านเปล่า เป็นแบบ Glorious พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม.  4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถในร่ม   สำหรับที่จอดรถเป็นแบบในร่มจอดได้ถึงสามคัน และมีประตูเชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน   ประตูหลักเข้าบ้าน ยังคงเป็นกระจกลามิเนต กันความร้อนได้เวลาแสงแดดส่องเข้ามา ไม่ทำให้ผู้อยู่อาศัยร้อนเกินไปครับ   หน้าต่างและประตูทั้งบ้าน เป็นแบบล็อคสองชั้น เหมือนกันหมดทุกยูนิตครับ   ตัวล็อคชั้นที่สองเป็นแบบก้นหอย เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน   ในส่วนของพื้นที่ด้านนี้เป็น Common Area สามารถทำเป็นห้องรับแขก และเชื่อมยาวไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร   ลึกเข้ามาด้านซ้ายมือจะนำไปสู่ห้องครัว   ภายในครัวซิงค์ล้างจาน อยู่ตรงกับหน้าต่างบ้านใหญ่ เพื่ออากาศถ่ายเท และไม่อับชื้น   อีกด้านของห้องครัวเป็นเคาน์เตอร์ และยังมีพื้นที่ไว้วางตู้เย็นได้ครับ มุมขวาบนเป็นตู้ไฟ   มีประตูเชื่อมออกไปหลังบ้าน และด้านหัวประตูมีพัดลมดูดอากาศเวลาทำอาหารไม่ให้กลิ่นอาหารกระจายเข้าสู่ตัวบ้าน   เปิดประตูออกมา เป็นส่วนของพื้นที่ซักล้าง   ด้านหลังบ้าน ยังมีพื้นที่ ทางโครงการได้ติดตั้งปั๊มน้ำ และ Condensing Unit    กลับเข้ามาด้านตรงข้ามของห้องครัว จะเป็นห้องนอนชั้นล่าง หรือทำเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้   ภายในห้องนี้ สามารถทำเป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุในบ้านได้ หรือไว้เป็นห้องนอนแขกก็ย่อมได้   ภายในห้องมีห้องน้ำให้ภายในตัวตามฟังก์ชั่นมีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว   ภายในห้องน้ำ มีแยกพื้นที่เปียกและแห้งไว้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่น     เมื่อเข้ามาสิ่งแรกจะพบกับอ่างล้างหน้าจากแบรนด์  Cotto   โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto       ด้านข้างโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่สำหรับอาบน้ำ มีฝักบัวจากแบรนด์ Cotto เช่นกัน     ตรงข้ามกับห้องจะเจอบันไดแต่ก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 ประตูขวามือเชื่อมจากที่จอดรถหน้าบ้าน และตรงกลางคือห้องน้ำกลางของบ้าน       หน้าตาของห้องน้ำกลางของบ้าน จะไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำ   ขึ้นบันไดไปต่อเพื่อไปยังชั้น 2   หน้าตาภาพรวมของชั้นสอง พื้นที่ตรงกลางสามารถกั้นเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือห้องดูทีวีชั้น 2 ก็ได้ ไว้ทำกิจกรรมภายในครอบครัวในตอนกลางคืนก่อนแยกย้ายเข้านอน   เมื่อขึ้นบันไดมา ที่กำแพงด้านข้างจะเจอสัญญาณกันขโมย   เมื่อขึ้นบันไดมาชั้นสองด้านขวามือ จะเป็นห้องนอน 1 และ 2 มาเริ่มจากห้องนอนแรก ด้านขวามือกันก่อนครับ   ภายในห้องนอนแรก มุมห้องด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ   หน้าตาของห้องน้ำ ของห้องนอน 1       ภายในห้องน้ำ มีพื้นที่ต่างระดับแยกระหว่างพื้นที่เปียกกับแห้งไว้     ถัดมาเป็นห้องนอน 2 ออกแบบมาเหมือนกับห้องนอนแรก มีความโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด   และส่วนนี้คือห้องน้ำในห้องนอน 2   และห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom รายล้อมด้วยกระจกบานใหญ่   ประตูกระจกเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงบ้าน   ถ้าสังเกตให้ดีที่ระเบียงบ้านจะมีรูระบายน้ำเวลาฝนตกน้ำฝน จะได้ไหลออกไปได้ไม่ให้เกิดน้ำขัง   มีพื้นที่ยื่นออกมาจากห้อง Master Bedroom เพื่อไว้ติดตั้ง Condensing Unit   กลับเข้ามาในส่วนของพื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็น Walk In Closet  ด้านขวามมือเป็นห้องน้ำครับ       หน้าตาของห้องน้ำในห้อง Master Bedroom   อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอย และมีตู้เก็บของด้านล่าง   สีกับธรรมชาติมีความเกี่ยวข้องสอดคล้องกับปรากฏการณ์ธรรมชาติและช่วงชีวิตของเรา จึงเกิดเป็นแนวคิดของโครงการ Centro Chaiyaphruek-Chaengwattana 2 ( เซนโทร ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ2) บ้านเดี่ยวสไตล์ใหม่เอาใจคนรุ่นใหม่จาก AP (Thailand) ที่มาพร้อมกับรูปแบบบ้านใหม่ที่มีหน้ากว้าง และภายในบ้านมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว บวกกับส่วนกลางที่ครบครันบนพื้นที่ 1.5 ไร่ นอกจากนี้ตัวโครงการอยู่ห่างจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนแจ้งวัฒนะแค่เอื้อมเพียง 10 นาทีถึง            
The Connect Ramintra-Minburi 2-เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2 : รีวิวทาวน์โฮม

The Connect Ramintra-Minburi 2-เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Connect Ramintra-Minburi 2 (เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2) เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนสามวา (สุวินทวงศ์) แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี  กทม. พื้นที่โครงการ : 18-0-02.0 ไร่ ลักษณะโครงการ :  ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 201 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน HL 1  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ - แบบบ้าน HL 2  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,250,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 38 บาท/ตร.วา / เดือน จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมแบบใหม่ หน้ากว้าง 5.7 เมตร พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับคุณด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยบนทำเล รามอินทรา-มีนบุรี ทำเลที่เชื่อมต่อเมือง ความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความเป็นคุณได้อย่างลงตัวที่สุด ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส มีนบุรี , บิ๊กซี สุวินทวงศ์ , เมก้า โฮม มีนบุรี , ร.ร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ , ตลาดมาร์เก็ต พาเหรด มีนบุรี  
Modiz Sukhumvit 50-โมดิซ สุขุมวิท 50 : รีวิวคอนโด

Modiz Sukhumvit 50-โมดิซ สุขุมวิท 50 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ : Modiz Sukhumvit 50 (โมดิซ สุขุมวิท 50) เจ้าของโครงการ :  บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ : 3-3-11.6 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนชั้น : 25 ชั้น จำนวนอาคาร : 3 อาคาร จำนวนยูนิต :   646 ยูนิต ที่จอดรถ : ที่จอดรถจำนวน 51% รวมทั้งโครงการ   ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 23.08-23.34 ตร.ม. - 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26.35-30.58 ตร.ม. - 1 Bedroom Plus ขนาด 35.10-35.88 ตร.ม. - 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite ขนาด 27.63-28.13 ตร.ม. - 1 Bedroom Plus Vertical Suite ขนาด 29.89 -30.82 ตร.ม. - 2 Bedrooms Vertical Suite ขนาด 35.35 -36.30 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - Natural Retreat - Co-Working & Co-Living Lounge - Co-Dining & Sky Bar - Playroom - Theatre - Kids Room - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,990,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม แนวคิด “Living In The Clouds” ที่จะทำให้คุณมองเห็นวิว 2 โค้งน้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า สวยและโดดเด่นที่สุดแห่งเดียวบนทำเลสุขุมวิท 50 สามารถชมทิวทัศน์และรับบรรยากาศการพักผ่อน ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าคนเมืองที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS อ่อนนุช สถานที่ใกล้เคียง : Tesco Lotus อ่อนนุช, Beacon , Phyll , Century Movie Plaza 2 , Summer Hill  
The Plant Krungthep-Pathumthani – เดอะ แพลนท์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

The Plant Krungthep-Pathumthani – เดอะ แพลนท์ กรุงเทพ-ปทุมธานี : รีวิวบ้าน

รายละเอียดโครงการ   ชื่อโครงการ : The Plant Krungthep-Pathumthani (เดอะ แพลนท์ กรุงเทพ-ปทุมธานี ) เจ้าของโครงการ :  บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ตั้งโครงการ : ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น , บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน Parodia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 35 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน Pereskia บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 40 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน Plumosa บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,000,000 บาท จุดเด่นโครงการ : บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดโครงการใหม่ สไตล์โมเดิร์น บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ นนทบุรี - ปทุมธานี รองรับทุกการเดินทาง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี , ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (345) , สะพานปทุมธานี 2 , ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) สถานที่ใกล้เคียง : สน.เทศบาลเมืองปทุมธานี ,ชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว , รพ.ปทุมธานี , ศาลากลาง จ.ปทุมธานี , เทสโก้ โลตัส , ไทวัสดุ , รร.ปทุมวิไล , รร.สาธิตปทุม , รร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ , The Tree Avenue  
COTE MAISON RAMA 3 – โคเต้ เมซอง พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

COTE MAISON RAMA 3 – โคเต้ เมซอง พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : COTE MAISON RAMA 3 (โคเต้ เมซอง พระราม 3 ) เจ้าของโครงการ : บริษัท ซิตี้ รีสอร์ท ลิฟวิ่งโฮม จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนน นนทรีฝั่งใต้ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. พื้นที่โครงการ : 8-1-6.2 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 4 ชั้น จำนวนยูนิต : 79 ยูนิต ขนาดบ้าน : - พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 230-290 ตร.ม.  เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 19.4 ตร.วา. ขึ้นไป ขนาด  3 ห้องนอน  4-5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 13,800,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 150 บาท/ตร.วา /เดือน ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วนปี 2561 จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมออกแบบ สถาปัตยกรรมร่วมสมัยแบบ Post Modern Contemporary มีความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวบนทำเลถนนพระราม 3 ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BRT วัดด่าน , BRT นราราม 3 , ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม , ถนนพระราม 3 , ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สถานที่ใกล้เคียง : Monopoly Park , Triple i Tower , MS SIAM Tower , Supalai Grand Tower , สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงศรี , INT Intersect  
เอกมัย-ทองหล่อ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

เอกมัย-ทองหล่อ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ถ้าถามถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ของในกรุงเทพฯ ยุคนี้ย่อมต้องมีองค์ประกอบเรื่องกิน-เที่ยวในตัวเองครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ตกแต่งเก๋ๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟเฉพาะตัว หรือร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ เชฟและวัตถุดิบอิมพอร์ตจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ไปจนถึงร้านที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างรอบด้าน เช่น ร้านจักรยาน ร้านแฟชั่น ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านบาร์เบอร์-ซาลอน ร้านสปา ร้านแฮงค์เอาท์ ผับบาร์ยามค่ำคืนยาวไปจนร้านข้าวต้มโต้รุ่ง เรียกได้ว่าย่านนี้ไม่เคยหลับใหล จึงไม่แปลกที่ย่านเอกมัย-ทองหล่อ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบค่ะ   หากพูดถึงในแง่ของที่อยู่อาศัยย่านนี้แล้ว เชื่อว่าคงเป็นที่อยู่อาศัยในฝันของใครหลายคน รวมไปถึงชุมชน Expat ที่กระจุกตัวกันอยู่ในย่านนี้ไม่น้อย เพราะนอกจากไลฟ์สไตล์อันเพียบพร้อมรอบด้านแล้วยังเดินทางสะดวกสบาย ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเอกมัย-ทองหล่อ และตัวถนนเองที่แม้จะเป็นเพียงถนนหรือซอยที่เป็นทางเชื่อมลัดเลาะไปสู่ถนนหลักอย่างถนนเพชรบุรีกับถนนสุขุมวิท แต่ด้วยความกว้างของถนนจึงทำให้สามารถมีอาคารสูงขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้ตามกฏหมาย อีกทั้งยังสามารถทะลุออกไปถนนพระราม 4 ที่ต่อไปยังสีลม-สาทรได้ในระยะไม่ไกลกัน จึงทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในย่านที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ              จากแผนที่จะเห็นภาพชัดขึ้นค่ะว่าช่วงซอยทองหล่อ 10  - เอกมัย 12 - ปรีดีฯ 31 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกันตรงใจกลางย่านนี้พอดี ส่วนจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็มีทั้งทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งอยู่เลยแยกพระโขนงไปเล็กน้อย และทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยอยู่บริเวณถนนพระราม 4   เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เราก็จะพาไปเดินชมทำเลเอกมัย-ทองหล่อด้วยเลยค่ะ   รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ใครๆ ต่างก็จดจำได้ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้กันทั้ง เกตเวย์ เอกมัย, เมเจอร์ สุขุมวิท และ สถานีขนส่งเอกมัย   บรรยากาศช่วงปากซอยเอกมัย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในย่านนี้คึกคักอยู่ตลอดเวลา เดินเล่นในเอกมัยก็มีความคึกคักไม่แพ้กันทั้งกลางวัน-กลางคืน ตลอดทางมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านที่น่าสนใจเรียงรายอยู่มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในปัจจุบัน ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนได้หลากหลาย หากโฟกัสกันที่จุดสำคัญของย่านเอกมัยก็คงต้องบอกว่าอยู่ตรงสี่แยกกลางซอยที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ตั้งแต่ซอยทองหล่อ 10 ต่อมาที่ซอยเอกมัย 5 ซอยเอกมัย 12 แล้วไปทะลุสุดที่ซอยสุขุมวิท 71 ตรงซอยปรีดี พนมยงค์ 31 ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น  ลองเดินทะลุมาที่ทองหล่อ ช่วงทองหล่อซอย 10 ยังเป็นแหล่งปาร์ตี้ชื่อดังอยู่หลายร้าน ใครที่ชอบชีวิต nightlife ต่างก็รู้จักแถวนี้แน่นอน      จากนั้นเราลองเดินกลับมาที่เอกมัย เข้าไปดูในซอยเอกมัย 12 กันต่อค่ะ    บรรยากาศภายในซอยเอกมัย 12 เป็นช่วงถนนที่มีความกว้างถึง 4 เลน ซึ่งเรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างทองหล่อ-เอกมัย-ซอยสุขุมวิท 71(ซอยปรีดีพนมยงค์) ภายในซอยเอกมัย 12 แห่งนี้มีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่น่าสนใจอยู่ค่ะ ชื่อว่า "The FINE Bangkok"   The FINE Bangkok คอนโดมิเนียม High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 220 ยูนิต ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ 70% บนพื้นที่ 1-1-05 ไร่ ในซอยเอกมัย 12  เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) จำกัด(บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น) กับ บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Keihan Railways  ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ในภูมิภาคคันไซ จึงเกิดเป็น The FINE Bangkok คอนโดมิเนียมสไตล์ Luxury Modern Japanese มูลค่าโครงการกว่า 1.7 พันล้านบาท และรังสรรค์งานดีไซน์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ออกแบบตกแต่งภายใน และ Landscape โดยบริษัทชื่อดังอย่าง  Architects 49     สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ได้แก่   โซน Fine Greenery แม้เป็นคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง แต่กลับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าโครงการด้วยบรรยากาศแแบบ Fine Spring Garden และสวนพักผ่อนที่ชั้น 23 และ 27 ให้ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วย City View   โซน Fine Lounge ด้วยความตั้งใจออกแบบให้เป็นพื้นที่ใช้ร่วมกัน มีส่วนรองรับสำหรับการใช้งานจากกลุ่มใหญ่ แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัว โดยดีไซน์ออกมาให้มีเอกลักษณ์ความเป็น Modern Luxury แบบญี่ปุ่นชัดเจนที่สุด ประกอบไปด้วย  Lobby, Mail Room, Co-working room และ Private Meeting room   โซน Fine Retreat พื้นที่พักผ่อนรับลมธรรมชาติพร้อมดื่มด่ำทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองไปด้วย ซึ่งทุกส่วนออกแบบให้สามารถชมวิวขอบฟ้าได้ใกล้ที่สุดอย่าง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Pool Bar, Sauna Room, Hot Pool, The Edge View Point     โซน Fine Sky พื้นที่ Roof Lounge สูงสุดของอาคาร ออกแบบมาให้สามารถชม City View ได้รอบทิศทาง 360 องศา ไปพร้อมกัน เช่น Fitness, Golf Club, Sky Seat, Karaoke room, Kid Room, Wine Lounge                          Floor Plan ชั้น 1 หน้าโครงการหันไปทางทิศใต้ จัดสวนสไตล์ Fine Spring Garden โดยต้องผ่านลำธารเล็กๆ หน้าโครงการไปก่อน ให้ความรู้สึกแบบสวนญี่ปุ่น  Floor Plan ชั้น 9-22 เป็นชั้นสำหรับยูนิตพักอาศัย ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์เซอร์วิส 1 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด วางรูปแบบ Double Corridor ฝั่งทิศตะวันออกได้วิวทางพระโขนง-อ่อนนุช ส่วนทางฝั่งตะวันตกจะได้วิวในเมืองอย่างทองหล่อ-อโศก Floor Plan ชั้น 30 เป็น Facility โซน Fine Retreat ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Pool Bar, Sauna Room, Hot Pool และ The Edge View Point       สิ่งเหล่านี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการออกแบบมาเพื่อวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในระดับพรีเมียม เพื่อสนองต่อความต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตได้ดีที่สุดบนกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอันทรงเสน่ห์   The FINE Bangkok ไม่ใช่แค่คอนโดมิเนียมสไตล์ญี่ปุ่น แต่เป็นคอนโดที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นในบ้านเราได้สัมผัสกับความแตกต่างในสไตล์ Luxury Modern Japanese เตรียมเปิดห้องตัวอย่างเร็วๆ นี้ และพร้อมเปิด Pre sale 2-3 มิ.ย. นี้   
The Politan Rive คอนโดหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า ทำไมต้องจ่ายแพง? : รีวิวคอนโด

The Politan Rive คอนโดหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า ทำไมต้องจ่ายแพง? : รีวิวคอนโด

  “ในงบเท่ากัน “บ้าน” กับ “คอนโด” จะเลือกอะไรดี?” คำถามโลกแตกที่ไม่มีคำตอบตายตัวว่าต้องเลือกอย่างไหนถึงจะดีที่สุด เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและเหตุผลส่วนบุคคลหลายอย่างมาประกอบกัน   เราอยากให้ลองโยนล้านเหตุผลที่ต้องใช้เปรียบเทียบเอาไว้ก่อน ทำสมองให้โล่งๆ แล้วเปลี่ยนบรรยากาศไปชิวริมแม่น้ำเจ้าพระยากับเราที่ “The Politan Rive” คอนโดมิเนียมหรูบนทำเลที่เป็นจุดตัดของรถไฟฟ้าและแม่น้ำเจ้าพระยา หนึ่งในคอนโดที่น่าจับจองในย่านนี้   ต้องบอกก่อนว่าทั้งหมดที่เราจะพาไปชมกันในครั้งนี้คือ “ของจริงในบรรยากาศจริงล้วนๆ” เพราะปัจจุบันโครงการ “The Politan Rive” สร้างเสร็จและเริ่มมีคนทยอยย้ายเข้าอยู่กันแล้ว ถ้ายังจำกันได้เราเคยรีวิวพูดถึงโครงการนี้กันมาแล้ว ตั้งแต่เริ่มเปิดขายและยังมีแค่ Sale Gallery ริมแม่น้ำเท่านั้น หลังจากติดตามข่าวกันมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ถึงเวลาได้ชมของจริงกันซักที     ขอพูดถึงเรื่องทำเลที่ตั้งสั้นๆ ซักหน่อยนะคะ เผื่อใครเพิ่งเข้ามาอ่านรีวิวของ “The Politan Rive” เป็นครั้งแรก โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise สูง 56 ชั้น ริมถนนสนามบินน้ำในช่วงต้นๆ จากถนนรัตนาธิเบศร์ หรือที่สังเกตุง่ายๆ คือ ด้าน “สะพานพระนั่งเกล้า” ดังนั้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าจึงอยู่ไม่ไกลเลย ระยะเดินจากหน้าโครงการไม่เกิน 350 เมตรเท่านั้น การเดินทางจึงนับว่าสะดวกสบาย สามารถนั่งรถไฟฟ้าเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายๆ ค่ะ ในขณะที่การใช้รถส่วนตัว และรถสาธารณะอื่นๆ ก็ทำได้ง่ายไม่แพ้กัน   บรรยากาศในย่านนี้ต้องบอกว่า มีความเหมาะสมกับการอยู่อาศัยไม่น้อยเลยทีเดียว รอบโครงการบนถนนสนามบินน้ำเอง มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ก็อยู่ห่างออกไปเพียงสถานีเดียว นอกจากนี้ในรอบๆ รัศมี 5 กิโลเมตรจากบริเวณนี้ยังมีทั้งสถานที่ราชการ โรงพยาบาล สถาบันศึกษา ตลาดสด เรียกว่าครบถ้วนมากๆ ค่ะ       พื้นที่ส่วนกลางอลังการ ถ้าลองได้อยู่แล้วรับรองว่าจะไม่อยากออกไปไหน สำหรับ Facility ต่างๆ ทางโครงการจัดสรรไว้อย่างทั่วถึง เรียกว่ามีครบซะยิ่งกว่าครบ เริ่มต้นกันตั้งแต่บริเวณชั้นล่างของอาคาร แค่ Lobby, Mail Box และลิฟท์โดยสารมากถึง 10 ตัว ซึ่งเป็นลิฟต์แบบล็อคชั้นก็แบ่งไว้เป็น 2 โซนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ห้องอยู่ทางปีกด้านไหนของอาคารก็เลือกใช้ลิฟท์ด้านที่ใกล้ได้เลย นอกจากนี้ยังมีลิฟต์ Service อีก 1 ตัว และลิฟต์ Sky Lounge อีก 1 ตัวที่ใช้โดยสารเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 56-57   สำหรับเรื่องพื้นที่จอดรถก็จัดสรรไว้ที่บริเวณชั้น 1-8 และมีจำนวนมากถึง 58% หรือประมาณ 1,364 คัน แถมยังมี EV Charger ไว้รองรับรถยนต์ระบบไฟฟ้าอีกด้วย ที่บริเวณชั้นล่างนั้นยังมีพื้นที่เช่าซึ่งส่วนของร้านค้า ที่ปัจจุบันมีร้านกาแฟมาเปิดแล้ว และกำลังจะมี 7-11 ตามมาในเร็วๆ นี้ จึงหมดหวงเรื่องอาหารการกินไปได้เลย ในขณะที่โซนใกล้ๆ กันตรงพื้นที่กลางแจ้ง ก็ตกแต่งเป็นสวนเล็กๆ ปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่นพร้อมด้วย Jogging Track สำหรับคนรักการออกกำลังกายด้วยการวิ่งค่ะ   สวนขนาดใหญ่บนพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 9 มีมุมนั่งเล่นให้ได้ชมวิวแม่น้ำได้ทั้งวัน Floor Plan บริเวณชั้น 9 ด้านทิศเหนือจะเป็น All Season Garden ส่วนทางทิศใต้จะเป็น Infinity Edge Pool     ในส่วนของที่พักอาศัยจะเริ่มกันที่ชั้น 9 รวมถึง Facility บนอาคารด้วยค่ะ ที่ชั้น 9 มีสวนขนาดใหญ่ “All Season Garden” พร้อมสนามเด็กเล่นอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของอาคาร ซึ่งด้านนี้จะเป็นด้านที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ก็จะได้มุมนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจเพลินๆ พร้อมรับลมเย็นๆ จากแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ในขณะที่ทางฝั่งทิศใต้จะเป็น Infinity Edge Pool ระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำสำหรับเด็กค่ะ โดยแบ่งเป็นสระเด็กขนาด 9.5x8 เมตร ลึก 0.6 เมตร ในขณะที่สระใหญ่นั้นจะมีความยาวถึง 35x7 เมตร ลึก 1.4 เมตร เหมาะกับการว่ายน้ำออกกำลังกายกันได้ยาวๆ เลยทีเดียว     บริเวณทางเชื่อมตรงชั้น 9 นั้น จะมีบันไดเชื่อมขึ้นมาที่ Facility บริเวณชั้น 10 ค่ะ โดยที่ชั้น 10 นี้จะแบ่งเป็นห้องออกกำลังกายในร่มเอาใจคนรักกีฬาที่ต้องออกหมัดเตะต่อย ภายใน Boxing Room จะมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทางโครงการเตรียมเอาไว้ให้ครบเลยนะคะ ทั้งกระสอบทราย และเวทีมวยจำลอง ในขณะที่ห้องใกล้ๆ กันจะเป็น Kids Room พื้นที่ที่เด็กๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมและของเล่นต่างๆ มากมาย     ขยับขึ้นมาที่ Facility ในโซนสูงกันบ้างค่ะ ทางโครงการได้จัดพื้นที่ชั้น 56 และ 57 ไว้สำหรับอีกหลายกิจกรรมที่จะมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้านได้อย่างครบถ้วน ซึ่ง Facility ในโซนนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight ก็ว่าได้ เพราะทุกส่วนเปิดรับวิว Skyline กว้างสุดลูกหูลูกตากันไปเลย ทั้ง Sky Garden, Sky Swimming Pool, Sky Fitness ที่ชั้น 56 และ Sky Lounge ที่ชั้น 57   วิวมุมสูงจากบนชั้น 57 เห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาสวยมากๆ      ถ้าใครเป็นคนไม่กลัวความสูง เชื่อว่าวิวยอดตึกแบบนี้คงถูกใจมากๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เปิดโล่งไม่มีอะไรมาบดบังสายตา ออกกำลังกายไปชมวิวไปด้วยเพลินดีนะคะ แล้วอุปกรณ์ในฟิตเนสเค้าก็จัดไว้ให้ครบครันไม่แพ้ฟิตเนสแบรนด์ดังๆ กลางเมืองเลยทีเดียว     ถ้าคิดว่า Facility ทั้งหมด 4 ชั้นบนอาคารพักอาศัยเรียกว่าเยอะแล้ว ขอบอกว่ายังมีอีกคร่าาาาา พื้นที่โซนริมแม่น้ำ นอกจากจะมีสวน Riverfront Garden, Politan Pond และสนามเด็กเล่นแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ Clubhouse ขนาด 3 ชั้นอีกด้วยจ้า.... อะไรจะจัดเต็มขนาดนี้       ภายใน Clubhouse ประกอบไปด้วย Co-working Space, Meeting Room, Library & Multipurpose Room ที่อยู่ในชั้น 1 ในขณะที่บริเวณชั้น 2 จะเป็น Game Room, Sports Simulator Room และ Yoga Room ที่มีอุปกรณ์ Flying Yoga & Pilates เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ ต้องบอกว่าตอบโจทย์เอาใจทุกเพศทุกวัยจริงๆ ถ้าอาศัยอยู่ที่นี่จะชวนเพื่อนมาตีกอล์ฟ, ขับรถแข่ง, เล่นเกมบอลหรือเล่นพูลก็น่าสนุกไปหมด ไม่แน่เพื่อนๆ อาจติดใจจนไม่ยอมกลับเลยก็ได้     ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของ Clubhouse ค่ะ บริเวณนี้จะเป็นดาดฟ้าซึ่งจัดเป็น Pavilion ไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย และยังมี Riverview Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำแห่งที่ 3 ในโครงการนี้!!! สระนี้เป็นระบบน้ำเกลือขนาด 20x7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ในขณะที่บริเวณน้ำตื่นก็วางเตียงผ้าใบให้นอนเล่นอาบแดดกันได้เลย   เอาจริงๆ นะ แค่เรานึกอยากจะลงว่ายน้ำก็เลือกไม่ถูกแล้วว่าจะไปว่ายที่สระไหนดี เพราะแต่ละที่ก็มีวิวมีความเก๋ไม่ซ้ำกันเลย จนแอบอิจฉาลูกบ้านโครงการนี้ขึ้นมาทันที       คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นได้มากกว่า Second Homeอย่างที่รู้กันดีว่า Highlight หลักของโครงการ “The Politan Rive” คือ ความเป็นคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแท้จริง ในราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อม และด้วยบรรยากาศริมแม่น้ำที่มีลมพัดเย็นสบายเกือบตลอดทั้งวัน บวกกับวิวสวยๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา บางคนอาจจะลืมตัวคิดว่ากำลังพักผ่อนอยู่ในคอนโดตากอากาศก็ได้ ในขณะที่บางคนอาจจะเลือกซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สอง เอาไว้หลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง แต่เราบอกเลยว่าที่ The Politan Rive เป็นได้มากกว่า....   The Politan Rive มีแบบห้องให้เลือกมากถึง 5 แบบด้วยกัน แบ่งเป็นหลักๆ คือ ห้อง 1 Bedroom กับ 2 Bedroom ซึ่งห้องแต่ละแบบก็จะต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยค่ะ ครั้งนี้เราจะพาชมห้อง 3 แบบที่จะมาตอบโจทย์การอยู่อาศัยเอาใจคนโสด และคนมีคู่ มีครอบครัวกันค่ะ…จะได้วัดกันไปเลยว่าคอนโดที่นี่น่าอยู่กว่า “บ้าน” แค่ไหน???     ห้องชุดแรกเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีให้เลือกในขนาด 29 ตร.ม. และ 30.5 ตร.ม. ค่ะ เราว่า 2 ห้องนี้เป็นขนาดกำลังดีที่จะอยู่อาศัยจริงๆ สไตล์คนโสด เพราะห้องไม่เล็กจนรู้สึกอึดอัดเกินไป ถ้าจะมีเพื่อน มีแฟนมาเยี่ยมเป็นครั้งคราวก็อยู่กันสบายๆ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องถูกจัดสรรไว้เป็นสัดส่วนลงตัวเลยทีเดียว Layout ของห้องจะเหมือนนะคะ ต่างกันนิดหน่อยตรงพื้นที่ระเบียงที่เพิ่มขึ้นมา ใครที่ชอบระเบียงกว้างหน่อย ห้องขนาด 30.5 ตร.ม. จะมีระเบียงยาวเต็มหน้ากว้างของห้องกันไปเลย   แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม.   พื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้เพียงแค่เปิดประตูกั้นบานเลื่อน ห้องครัวก็ได้เป็นครัวปิดมีประตูกั้นป้องกันกลิ่นรบกวนในห้องได้ แล้วยังมีระเบียงด้านห้องครัวที่ช่วยเรื่องระบายอากาศได้อีกทางค่ะ       ตำแหน่งของห้องที่เราได้เข้าไปชมนั้น เป็นห้องทางด้านทิศเหนือซึ่งจะได้วิวสวนที่ชั้น 9 ด้วย มองเลยไปหน่อยจะได้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาเยื้องออกไป วิวมุมนี้ตอนที่ตัวตึกยังไม่ได้สร้าง หลายคนคงลังเลและอาจจะกังวลเรื่องจะโดนตึกของ The Politan Aqua บังวิวแม่น้ำไปจนหมด เลยมองข้ามห้องด้านนี้ไป แต่พอมาเห็นของจริงแล้วต้องบอกเลยว่าไม่ใช่อย่างที่คิดนะจ๊ะ วิวแม่น้ำยังมีอยู่ ส่วนตัวตึกของ The Politan Aqua ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ขนาดบังวิว หรือสร้างความอึดอัดทางสายตาเลย (เพราะระยะห่างกันค่อนข้างไกลเลยทีเดียว) และทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปเลยแม่แต่น้อย ลองถ้า The Politan Aqua สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะได้วิวสวยไปอีกแบบแน่นอน   Floor Plan ของพื้นที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป จะเห็นได้เลยว่าห้องทางทิศเหนือเปิดรับวิวสวนส่วนกลางและวิวแม่น้ำได้เต็มที่มากๆ แปลนห้อง 2 Bedroom ขนาด 50 ตร.ม.   ห้องต่อมาเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 50 ตร.ม. อันมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางมากพอสำหรับการมี Roommate และ Soulmate แต่ถ้ายังหาไม่ได้ก็สามารถซื้อเผื่อไว้ล่วงหน้าได้เลยนะคะ เดี๋ยวเนื้อคู่ก็ตามมาเชื่อสิ   สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องนี้ตกแต่งจัดเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์ยี่ห้อ Euro Creations ที่สวยงามหรูหรา ซึ่งทางโครงการคัดสรรมาให้เป็นอย่างดี ห้องจริงจะได้เป็นแบบ Fully Furnish เฟอร์นิเจอร์ Built-in มาแบบนี้เลย       บริเวณโถงกลางห้อง เป็น Living Area จัดเป็นห้องนั่งเล่นพร้อมกับ Pantry สไตล์ครัวฝรั่งแบบเปิด ที่ทางโครงการจัดมาให้พร้อมกับตัวห้อง ทั้งเคาน์เตอร์ ชั้นเก็บของ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน บรรยากาศบริเวณโถงกลางของห้องนี้จะโล่งโปร่งสบาย มีระเบียงกว้างเปิดรับลมรับวิวได้อีก และด้วยการออกแบบห้องให้เป็นห้องแบบหน้ากว้าง ดังนั้นทุกพื้นที่ในห้องจึงเปิดรับวิวได้แบบไม่ต้องเลือกที่รักมักที่ชัง       ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ได้วิวแม่น้ำเต็มตาแบบเท่าเทียมกัน จะต่างกันนิดหน่อยที่ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว แถมยังมีพื้นที่กว้างพอให้จัดเป็น walk-in closet บริเวณด้านหน้าห้องน้ำด้วยนะคะ ส่วนห้องนอนที่ 2 ก็ไม่ได้น้อยหน้ามากนัก พื้นที่ใช้สอยกว้างพอเหมาะ ถ้ายังไม่มีครอบครัว ไม่มีคนมาอยู่ด้วย จะปรับเปลี่ยนห้องนอนเล็กนี้เป็นห้องทำงาน หรือใช้สอยประโยชน์อื่นๆ ก็เก๋ไปอีกแบบ   บอกเลยว่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ The Politan Rive เค้าเลือกใช้ก็เป็นยี่ห้อมาตรฐาน และคัดสรรมาอย่างดี ห้องชุดทุกห้องจะใช้พื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. ในบริเวณห้องนอนและห้องนั่งเล่น ส่วนบริเวณห้องครัว ระเบียง และห้องน้ำจะเป็นพื้นกระเบื้อง Ceramic และ Porcelain ในโทนสีสบายตา   ห้องน้ำก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญค่ะ เพราะทุกห้องมาพร้อมชุดสุขภัณฑ์มาตรฐาน ประกอบไปด้วย Rain Shower Set, อ่างล่างหน้า, ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย 10 มม. และ Top หินอ่อนที่หน้ากระจก และธรณีประตู รวมถึงผนังบริเวณ Shower ก็เป็นโมเสกอินอ่อนแท้ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าให้สเปคเกินราคาได้ยังไง   ยังไม่หมดนะคะ ชุดครัวทั้งหมดให้ห้อง 2 Bedroom ก็มาพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และตู้ Built-in เรียบร้อย ในขณะที่เครื่องปรับอากาศจะมีติดตั้งมาให้ด้วยทุกห้อง โดยห้องแบบ 1 Bedroom มีให้ 2 เครื่อง และห้องแบบ 2 Bedroom มีให้ 3 เครื่อง นั่นหมายถึงว่ามีเครื่องปรับอากาศครบทุกห้องแล้วนั่นเอง ไม่ว่าจะเปรียบเทียบยังไง ก็เห็นได้ชัดว่าทาง The Politan Rive มีสเปคแน่นเกินราคาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการอื่นๆ ในระดับราคาพอๆ กัน หรือแม้แต่โครงการในแนวราบในย่านเดียวกัน ก็เชื่อว่าไม่มีใครให้ได้มากขนาดนี้!!   ห้องทั้ง 3 แบบที่เราคัดสรรมาให้ดูนี้ ส่วนหนึ่งเป็นห้องที่ทางโครงการยังมีเหลือให้เลือกจับจองในราคาน่าหวั่นไหว หรือเป็นห้องที่อยู่ในทิศเหนือ ที่คนส่วนใหญ่อาจจะคิดไม่ถึงว่าพอตัวตึกสร้างเสร็จแล้ววิวจะสวยงามน่าชมขนาดนี้ บวกกับโปรโมชั่นเร้าใจทั้งลดราคา และโปรผ่อนสบายๆ เริ่มต้นที่ 4,999-5,999 บาท*ต่อเดือน จากธนาคารกรุงเทพ** (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โครงการ) ก็ยิ่งทำให้กระเป๋าสตางค์ในมือสั่นเข้าไปอีก     เลือกอยู่คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำ ดีมั้ย? อย่างที่เกริ่นกันไปตอนต้นว่า หลายคนมักจะลังเลกับการเลือกซื้อ บ้านหรือคอนโด ดีกว่ากัน? แล้วถ้าใครได้ลองตระเวนดูบ้านในโซนสะพานพระนั่งเกล้านี้ด้วยแล้ว คงยิ่งลังเลไปกันใหญ่ เพราะถนนรัตนาธิเบศร์ตั้งแต่แยกแครายมาจนถึงก่อนข้ามสะพานพระนั่งเกล้า จะมีคอนโดมิเนียมหลายเจ้าตามแนวรถไฟฟ้าให้เลือกจับจอง ในขณะที่พอข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปแล้ว โครงการที่มีให้เลือกส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยวที่อาจจะห่างจากรถไฟฟ้ามากบ้างน้อยบ้าง แถมมีราคาในระดับที่อาจจะไม่ได้ต่างกันจนมองข้ามได้อีก เลยเป็นโจทย์ที่ออกจะตัดสินใจยากซักหน่อย     แต่ลองคิดดูนะคะ โอกาสที่เราจะได้อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆ แบบที่ The Politan Rive นี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าเป็นบ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮมรับรองว่าไม่มีโครงการไหนทำได้แบบนี้ชัวร์ ไหนจะ Facility ที่มีครบครันเอาใจทุกไลฟ์สไตล์ ชนิดที่ว่าแทบจะไม่ต้องออกจากโครงการเลยก็ยังได้นะคะ จะกิน จะเล่น หรือว่าจะทำงานก็มีพื้นที่ตอบโจทย์รอบด้านสไตล์คนเมือง จนต้องแอบเทใจให้ที่นี่จริงๆ   อีกอย่างคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตใจกลางกรุงเทพ ก็แพงแสนแพงจะอาจจะเป็นได้แค่ความฝันของมนุษย์เงินเดือนแบบเรา บางทีถ้าลองเลือกขยับออกมาหน่อย แต่ความสะดวกสบายยังครบเครื่องแบบนี้ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยนะคะ   ในวันที่ 28-29 กันยายนนี้ ทางโครงการจัดโปรโมชั่นเด็ดไว้เพียบ มีห้องสวยๆ ข้อเสนอน่าสนใจรออยู่ค่ะ แถมยังมีทางเลือกให้ ผ่อนสบายๆ เริ่มต้นที่ 4,999-5,999 บาท*ต่อเดือน จากธนาคารกรุงเทพ** ราคาเริ่มต้นที่ 1.57 ล้านบาท   ใครที่สนใจสามารถเข้าไปชมห้องจริง บรรยากาศจริงได้ทุกวัน หรือสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/2kmrpjO หรือ โทร. 02-002-2222          
AESTIQ Thonglor – เอสทีค ทองหล่อ : รีวิวคอนโด

AESTIQ Thonglor – เอสทีค ทองหล่อ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : AESTIQ Thonglor (เอสทีค ทองหล่อ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ :  ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พื้นที่โครงการ :  1-3-88.9 ไร่ ลักษณะโครงการ : อัลติเมทลักชัวรี่ คอนโดมิเนียม จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 40 ชั้น จำนวนยูนิต : 203 ยูนิต ที่จอดรถ : 220 คัน   ขนาดห้อง : - 1 ห้องนอน : 33 - 52 ตร.ม. - 2 ห้องนอน : 76 - 119 ตร.ม. - 3 ห้องนอน : 131 - 158 ตร.ม. - เพนท์เฮ้าส์ : 292 - 301 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : ชั้น 1 - Hideaway Pavilion - Step Garden - Welcome Lobby - Private lobby ชั้น 2 - Main lobby - Kids Club - Golf Simulator - Private Theater - Greenery Space ชั้น 10 - Serene Garden ชั้น 30 - Reflection Pool - Upside Down Jacuzzi - Aquatic Treadmill - Sauna&Steam ชั้น 31 - Panoramic Gym - Bike Simulator - Sky Social Club - Skyline Garden ราคา : เริ่มต้น 8,990,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 280,000บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาส 4 ปี 2564 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม แบบอัลติเมทลักชัวรี่ จาก เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ด้วยแนวคิด “A Reflection of you” เน้นย้ำสุนทรียภาพในการใช้ชีวิตสำหรับคนรุ่นใหม่ในเมือง บนทำเลศักยภาพทองหล่อ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ , ถนนสุขุมวิท , ถนนเพชรบุรี , ทางพิเศษเฉลิมมหานคร , ทางพิเศษฉลองรัช สถานที่ใกล้เคียง : นั่งเล่น เอสโคบาร์ , รร.นานาชาติเอกมัย , รร.ทอสี , รพ.สุขุมวิท , Demo เดโม่ , Major เอกมัย , DND , Seen Space , The Commons , Nihonmura Mall , J Avenue , Hubba Thailand   AESTIQ Thonglor ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท Presale 15-16 กันยายนนี้ พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลและสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ www.aestiq.com หรือโทร 1232 #AESTIQ #REALASSET