Tag : Review

672 ผลลัพธ์
The Base Garden-Rama 9 : รีวิวคอนโด

The Base Garden-Rama 9 : รีวิวคอนโด

The Base Garden-Rama 9 (เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9) คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น บนถนนพระราม 9 ภายใต้แนวคิด Garden of Creation ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายในพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ โครงการใหม่จากการรว่มทุนของ แสนสิริ และ BTS Group เปิด Pre-Sale 10-11 กันยายน 2559 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,190,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    639 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด    3 - 2 - 39 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนกันยายน ปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมิถุนายน ปี 2019 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Airport Link สถานีรามคำแหง ตลาดเสรี มาร์เก็ต เดอะ ไนน์ พระราม 9 ฟู้ดแลนด์ เดอะ มอลล์ รามคำแหง 2 เดอะ มอลล์ รามคำแหง 3 บิ๊กซี รามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง เซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9 MRT สถานีพระราม 9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 26.5 – 34.75 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 49.75 – 55.0 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว‹่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่‹วนกลางและพื้นที่สันทนาการ อินเตอร์เน็ตไร้Œสายสำหรับลอบบี้และพื้นที่ส‹่วนกลาง เจ้Œาหน้Œาที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sansiri.com
Knightsbridge Duplex Tiwanon : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Duplex Tiwanon : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Duplex Tiwanon (ไนท์บริดจ์ ดูเพล็กซ์ ติวานนท์) คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น บนถนนติวานนท์ ระหว่างซอยติวานนท์ 8 และซอยติวานนท์ 10 ห่างรถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 70 เมตร โครงการใหม่จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,200,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    373 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 45% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 1 - 2 - 46 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สถานีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข บิ๊กซี ติวานนท์ โรงพยาบาลศรีธัญญา ท่าน้ำนนท์ เอสพลานาด งามวงศ์วาน เทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.90 - 33 ตารางเมตร 1 Bedroom Duplex ขนาด 25.90 - 33 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 43 - 58 ตารางเมตร 2 Bedroom Duplex ขนาด 43 - 58 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV ระบบผ่านเข้า-ออกโครงการ Key card access สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 061-414-7711 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : knightsbridge.origin.co.th/tiwanon/
Rhythm Ekkamai : รีวิวคอนโด

Rhythm Ekkamai : รีวิวคอนโด

Rhythm Ekkamai คอนโด High Rise บนถนนเอกมัย ใกล้ BTS สถานีเอกมัย พร้อมแหล่งช้อปปิ้ง ยอดฮิดใจกลางเมือง โครงการใหม่ล่าสุดจาก AP Thai เปิด Pre-Sale 8-11 กันยายน นี้ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ www.apthai.com รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    5,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     326 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    1 - 3 - 44.3 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนเอกมัย แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS เอกมัย Park Lane เอกมัย Gateway เอกมัย Major Cineplex เอกมัย ท้องฟ้าจำลอง โรงเรียนปุทมคงคา ลักษณะห้องและขนาดห้อง รอข้อมูลจากโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวก Onyx atrium Infinity edge pool Steam room  Sauna room Panoramic fitness Yoga court Rhythm social club Rhythm panoramic lounge Rhythm observatorium Roof top garden สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.apthai.com
UNiO พระราม 2-ท่าข้าม : รีวิวคอนโด

UNiO พระราม 2-ท่าข้าม : รีวิวคอนโด

NiO พระราม 2-ท่าข้าม คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร ในซอยท่าข้าม ตรงข้ามเซ็นทรัล พระราม 2 โครงการใหม่จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    950,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวนห้อง    728 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 220 คัน พื้นที่โครงการ    6 - 2 - 45 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Central Plaza พระราม 2 Big C พระราม 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธรบุรี โรงเรียนบางมดวิทยา โรงเรียนวรรณสว่างจิต โรงเรียนดรุณสิกขาลัย  โรงพยาบาลบางมด โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22.50 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 26.06 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ สวนส่วนกลาง ลานโยคะ ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ระบบผ่านเข้า-ออกโครงการ Key card access สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th/condo/projects/unio-rama-2/
UNiO Sukhumvit 72 : รีวิวคอนโด

UNiO Sukhumvit 72 : รีวิวคอนโด

UNiO Sukhumvit 72 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 5 อาคาร ในซอยสุขุมวิท 72 ห่างจาก BTS สถานีแบริ่ง เพียง 600 เมตร โครงการใหม่จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    950,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 5 อาคาร จำนวนห้อง    987 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต ที่จอดรถ    รถยนต์ 303 คัน / จักรยานยนต์ 50 คัน / จักรยาน 90 คัน พื้นที่โครงการ    11 - 0 - 1.9 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 72 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีแบริ่ง อิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง โรงเรียนนานาชาติ St.Andrews โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ไบเทคบางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22.44 - 27.30 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 31.62 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 40.81 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ ห้องนั่งเล่นและพื้นที่พักผ่อนดาดฟ้า ห้องสันทนาการ ทางสำหรับวิ่งออกกำลังกาย สวนส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ระบบผ่านเข้า-ออกโครงการ Key card access รถรับส่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th/condo/projects/unio-sukhumvit-72/
Ideo Mobi Wong Sawang Interchange คอนโดเอาใจวัยฮิปกับชีวิตติดรถไฟฟ้า : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Wong Sawang Interchange คอนโดเอาใจวัยฮิปกับชีวิตติดรถไฟฟ้า : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปชมโครงการ Ideo Mobi วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีบางซ่อน) และอยู่ใกล้รถไฟชานเมืองสายสีแดงเพียงแค่ 400 เมตร ซึ่งตอนนี้สร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจึงมีโอกาสเข้าไปชมตัวโครงการและห้องตัวอย่างในบรรยากาศจริง รวมถึงเก็บภาพมาฝากกันด้วยครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,890,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด     High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     559 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     2 - 2 - 22.5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ที่จอดรถ     ประมาณ 201 คัน ทำเลที่ตั้งและการเดินทาง โครงการ Ideo Mobi วงศ์สว่าง ตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เลยนะครับ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าโครงการอยู่ห่างจากทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางซ่อน แค่ 10 เมตรเท่านั้น ใกล้จนเรียกว่า “ติดรถไฟฟ้า” ได้อย่างเต็มปากจริงๆ ซึ่งการเดินทางมายังโครงการก็ง่ายแสนง่าย ทั้งรถไฟฟ้า รถส่วนตัว และรถสาธารณะ ถนนหนทางรอบๆ ก็สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง จากแยกวงศ์สว่างมาเพียง 1 กิโลเมตรก็ถึงโครงการแล้ว หรือจะมาทางถนนประชาชื่น แล้วเข้าซอยเชื่อมมาออกถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรีก็ได้เหมือนกัน เดี๋ยวนี้การเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็สะดวกขึ้น เพราะการก่อสร้างรถไฟฟ้าเสร็จเกือบพร้อมใช้งานแล้ว เส้นทางเดินรถจึงคล่องตัวขึ้นมาก สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นหลัก ห่างออกไปเพียงสถานีเดียวก็จะเป็นสถานีเตาปูน สถานีใหญ่ซึ่งเป็น Interchange เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เป็นสายที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ในขณะที่สถานีบางซ่อน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการเองก็มี Sky Walk ไปถึงสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง จะว่าไปแล้วรถไฟสายชานเมืองนี้ก็มีความสำคัญไม่น้อยเลยนะครับ มีแนววิ่งจากบางซื่อไปสุดที่ตลิ่งชัน โดนถ้ามีการเปิดให้บริการเมื่อไหร่เส้นทางนี้ก็จะเป็นอีกเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปได้อีกหลายเส้นทาง คนที่ไม่ต้องการใช้รถก็สามารถเดินทางได้สะดวกดีทีเดียว รถไฟฟ้าสายสีม่วงเริ่มวิ่งทดสอบกันแล้วนะครับ มาพูดถึงตำแหน่งที่ตั้งของ Ideo Mobi กันบ้างดีกว่า บริเวณรอบๆ โครงการยังเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และอาคารสำนักงานอีกจำนวนหนึ่ง เช่น สำนักงานสรรพากร สถานีตำรวจเตาปูน ที่ทำการไปรษณีย์ ฯลฯ ทำให้ตลอดเส้นถนนมีร้านค้า ร้านอาหาร รถเข็นขายอาหารเกือบตลอดทั้งวัน ยังมีบรรยากาศความเป็นชุมชนเก่าแก่อยู่มาก เลยขึ้นไปทางหน่อยก็มีตลาดบางซ่อน สามารถเดินมาได้หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์มาก็ใกล้นิดเดียวเองครับ ในขณะที่ห้างที่ใกล้ที่สุดคงเป็น Big C วงศ์สว่างตรงหัวมุมแยกวงศ์สว่างนั่นแหละครับ แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้งในห้างดังก็อาจจะต้องออกไปยัง เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ หรือ อเวนิวรัชโยธิน ไปเลยครับ รอบๆ โครงการยังไม่มีตึกสูงอยู่ติดๆ กันเลยนะครับ ที่สูงที่สุดน่าจะเป็นอาคารสูง 8 ชั้นของสำนักงานสรรพากรพื้นที่ แต่ก็อยู่ห่างออกไปอีก 200 เมตร จึงไม่ค่อยถูกบังวิวเท่าไหร่ นอกนั้นก็เป็นบ้านสูง 3-4 ชั้นเท่านั้น วิวจากขึ้นที่ 5 ขึ้นไปก็ค่อนข้างเคลียร์แล้วครับ เว้นแต่มุมด้านหน้าโครงการที่ยังติดรางรถไฟฟ้าอยู่ ถ้าจะเอาแบบเซฟ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสียงก็แนะนำตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปเลยครับ แต่ถ้าอยากได้วิวแม่น้ำด้วยต้องชั้น 20 ขึ้นไปในด้านทิศตะวันตกครับ แลกกับแดดร้อนๆ ตอนบ่ายนิดหน่อย จริงๆ ภาพรวมของโครงการค่อนข้างได้เปรียบเรื่องวิวนะครับ เพราะไม่ว่าจะมุมไหนก็เปิดโล่ง มองได้ไกลสุดสายตาเลยทีเดียว เจาะโครงการ Ideo Mobi วงศ์สว่าง - อินเตอร์เชนจ์ Ideo Mobi วงศ์สว่าง - อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 29 ชั้น ตัวอาคารมีการออกแบบให้ร่นระยะ เล่นระดับในโซนด้านหน้าอาคารตั้งแต่ชั้น 22 ขึ้นไปนะครับ ทำให้รูปลักษณ์ของอาคารดูโดดเด่น ส่วนพื้นที่ที่ร่นระยะเข้าไปทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติม นอกเหนือจากสวน Garden Park ขนาด 700 ตร.ม. ในโซนชั้นล่างด้านหลังโครงการครับ Facility หลักๆ ของโครงการนี้จะรวมไว้ที่ชั้น 28-29 จึงได้เปรียบเรื่องวิวมุมสูง และความเป็นส่วนตัวขณะใช้พื้นที่ส่วนกลางครับ โดยชั้นที่ 28 จะเป็นพื้นที่ของ ห้องสมุด ห้องโซเชียล และห้องซักรีด ส่วนชั้นที่ 29 จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25x4 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมสระเด็ก ห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ รวมถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แถมยังมีพื้นที่ห้องสมุดกลางแจ้งที่มีทางเข้าออกเชื่อมกับห้องสมุดที่ชั้น 28 ด้วย ในขณะที่ Roof Floor จะเป็นสวนลอยฟ้า หรือ Sky Garden เต็มพื้นที่เลยครับ ในส่วนของพื้นที่จอดรถ ทางโครงการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ตั้งแต่ชั้น 2-5 สามารถรองรับได้ 201 คัน แบบยังไม่นับจอดซ้อนคันนะครับ จัดว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับโครงการที่อยู่ติดรถไฟฟ้าแบบนี้ พอขึ้นมาที่ชั้น 6 ก็จะเริ่มเป็นพื้นที่พักอาศัยครับ จำนวนยูนิตต่อชั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ยูนิต ไม่อึดอัดเท่าไหร่ครับ อาจจะมีบางชั้นที่มีจำนวนยูนิตมากน้อยกว่านี้บ้างนิดหน่อย แล้วแต่ Layout ของชั้นนั้นๆ เช่น ถ้าชั้นนั้นมีพื้นที่สวน หรือมีพื้นที่ส่วนกลางจำนวนห้องก็จะน้อยลงครับ จำนวนยูนิตรวมทั้งโครงการก็ 559 ยูนิต มีร้านค้าที่ชั้น 1 อีก 2 ยูนิต มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ถือว่าอยู่ในอัตราส่วน 280:1 จัดว่าค่อนข้างแน่นเหมือนกัน นอกเหนือจากนี้ก็เป็นไปตามมาตรฐานเลย เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, กล้อง CCTV, Key Card Access และLobby ชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่เราเก็บภาพมาฝากมีด้วยกัน 3 แบบนะครับ ห้องทั้งหมดของ Ideo Mobi วงศ์สว่าง - อินเตอร์เชนจ์ ขายมาแบบ Fully Fitted คือ มีชุดครัว สุขภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock มาให้ ส่วนที่เหลือก็ต้องตกแต่งกันเองนะครับ ห้องแรกเป็นแบบ Studio ขนาด 21.5 ตร.ม. ภายในห้องถูกจัด Layout ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบทุกส่วน เปิดเข้าห้องมาก็เจอ Pantry ครัวขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับงานครัวเล็กๆ จัดเตรียม อุ่นอาหารมากกว่าการทำครัวหนัก ตรงข้ามกับครัวเป็นห้องน้ำครับ ซึ่งทางโครงการก็จัดการตกแต่ง และเลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างดี กั้นกระจกแยกพื้นที่อาบน้ำไว้ให้ พร้อมกับชั้นวางของเป็นระเบียบสวยงาม ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของ Living Area และห้องนอน ซึ่งไม่มีการกั้นแบ่งพื้นที่ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ โดยส่วนนี้ค่อนข้างเปิดโล่งไปจนสุดระเบียง เราสามารถจัดสรร ตกแต่งได้อย่างอิสระตามความต้องการเลยครับ ห้องที่ 2 ที่เราได้ชมกัน เป็นห้องขนาด 24.5 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายในห้องนี้จะค่อนข้างชัดเจนขึ้นนะครับ มีการกั้นแบ่งพื้นที่มาให้เรียบร้อย โดยห้องครัวและห้องน้ำจะแยกไปอยู่ทางด้านหนึ่ง เพียงแค่กันประตูกระจกเพิ่มก็จะได้ครัวแบบปิด ป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนได้มากขึ้นเพราะครัวอยู่ติดระเบียง สามารถเปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ดี ในขณะที่ Living Area และห้องนอนก็มีประตูกระจกบานเลื่อนมาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีเพื่อนๆ มาเยี่ยมเยียนที่ห้อง ห้องแบบสุดท้ายที่เราได้ชมกันก็คือ ห้อง 1 Bedroom ในขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้จะต่างจากห้อง 1 Bedroom แบบแรกทั้งเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอย และ Layout ของห้องครับ ห้องนี้จะจัดให้ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ในขณะที่ห้องครัวและห้องนั่งเล่นอยู่ในโซนด้านเดียวกัน ส่วนที่พิเศษและสะดุดตาเรามากก็คือ พื้นที่ระเบียงที่กว้างขึ้นอย่างชัดเจน สามารถตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นได้เลยทีเดียว แถมทางโครงการยังกั้นกระจกหน้าต่างตรงระเบียงด้านนอกให้อีกชั้น พื้นที่ระเบียงจึงสามารถใช้สอยประโยชน์ได้หลากหลายมากขึ้น สำหรับโครงการ Ideo Mobi วงศ์สว่าง - อินเตอร์เชนจ์ ที่เราพาไปชมในครั้งนี้ ต้องบอกว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่ในย่านบางซ่อน-เตาปูน ใกล้รถไฟฟ้าและสามารถเดินทางได้สะดวก ตัวโครงการสร้างเสร็จเกือบ 100% แล้ว พร้อมเข้าอยู่ได้ในเร็วๆ นี้แน่นอน ซึ่งทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบางซ่อนนี่ต้องบอกว่าเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดในตัดสินใจได้ไม่ยากเลย อีกทั้งภายในโครงการเองก็จัดเตรียม Facility ไว้อย่างหรูหราครบครันมากๆ ในขณะที่พื้นที่รอบๆ ก็ยังคงความเป็นชุมชนเก่า มีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารให้พึ่งพาฝากท้องได้มากมาย ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปชมโครงการ หรือกำลังตัดสินใจเลือกห้องพักอาศัยในแถบนี้อยู่ แนะนำให้ไปลองชมห้องจริง บรรยากาศของสถานที่จริงในโครงการกันก่อน อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ  
blu Cha Am-Hua Hin : รีวิวคอนโด

blu Cha Am-Hua Hin : รีวิวคอนโด

blu Cha Am-Hua Hin (บลู ชะอำ-หัวหิน) คอนโดตากอากาศริมทะเลชะอำ 1 ใน 3 โครงการบ้านทิวทะเลต่อจาก บ้านทิวทะเล Aqua Marine และ บ้านทิวทะเล Blue Sapphire จาก Issara United ในเครือ Charn Issara รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,890,000 บาท เจ้าของโครงการ   Issara United Co., Ltd. (ในเครือ บริษัท ชาญ อิสสระ จำกัด (มหาชน)) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 21 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    491 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 30% พื้นที่โครงการ    7 - 3 - 34 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนเพชรเกษม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 4 ปี 2016 ค่าส่วนกลาง    40 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Baan Thew Talay Cha Am-Hua Hin Aqua Marine Baba Beach Club Hotel Baan Thew Talay Cha Am-Hua Hin Blue Sapphire อัลปาก้า ชะอํา Veranda Resort and Spa Hua Hin บ้านชานทะเล ชะอำ-หัวหิน Springfield@Sea Resort and Spa ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 - 34 ตารางเมตร จำนวน 324 ยูนิต 2 Bedroom ขนาด 60 - 65 ตารางเมตร จำนวน 167 ยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก Steam Room BBQ Zone Fitness Room Free-Form Pools Kid's Pool Grand Lobby Pool Sunken Lounge Lush Gardens Jacuzzi Jogging Track 24-Hour Security Service สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 095-991-5086-7 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : bluhuahin.com
The Politan Breeze ชีวิต..ชิดลมหายใจแม่น้ำ : รีวิวคอนโด

The Politan Breeze ชีวิต..ชิดลมหายใจแม่น้ำ : รีวิวคอนโด

  ถ้ายังจำกันได้ เราเคยรีวิวโครงการ The Politan Rive ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งล่าสุดได้ข่าวว่าขายหมดปิดแผงกันไปเรียบร้อยละครับ คราวนี้เราจะมารีวิวอีกโครงการจาก Everland ในแบรนด์ The Politan Breeze ที่คลอดตามกันมาติดๆ บนทำเลเดียวกันเลยครับ แต่มาในรูปแบบคอนโด Low Rise ติดริมเจ้าพระยาเหมือนเดิม ซึ่งแทบจะไม่มี Supply ในตลาด ทำให้เป็นเหมือน Rare Item ที่หาไม่ได้ง่ายๆ และยังเป็นส่วนตัวกว่าเพราะมีนวนยูนิตเพียง 500 กว่าครอบครัว บนพื้นที่โครงการกว่า 7 ไร่ครึ่ง และ Facilities ที่จัดมาให้เต็มพื้นที่มากกว่า 3 ไร่ ทั้งสระว่ายน้ำเกลือ ริมน้ำ สวน ห้องสมุด จะน่าสนใจขนาดไหน ตามไปดูรายละเอียดโครงการกันครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,650,000 บาท ตารางต่อตารางเมตร    57,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร และ อาคารจอดรถ สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    587 ยูนิต และร้านค้า 3 ร้าน ที่จอดรถ    343 คัน หรือคิดเป็น 58% (รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    ประมาณ 7-2-85 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซ.นนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาส 1 ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาส 3 ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    60 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    520 บาท/ตารางเมตร ทำเลโครงการและการเดินทาง The Politan Breeze ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 (ถนนสนามบินน้ำ) ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งเท่ากับว่าที่ตั้งโครงการก็อยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สถานีพระนั่งเกล้าด้วยเช่นกัน การเดินทางมายังโครงการ The Politan Breeze สะดวกด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง ลงที่สถานีพระนั่งเกล้า แล้วเดินต่อมาเพียง 200 เมตรก็ถึงหน้าทางเข้าโครงการแล้วครับ แถมทางโครงการยังมีบริการ Shuttle Bus ให้อีก จึงสะดวกมากสำหรับคนที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัว สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวกไม่แพ้กันเลยครับ เพราะสามารถเดินทางมาได้หลายทาง ทั้งจากฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนติวานนท์ เข้าถนนสนามบินน้ำ หรือจะลงทางด่วนศรีรัชมาลงที่ถนนงามวงศ์วานก็ได้อีกเช่นกัน เพียงแค่ตั้งเป้าหมายมุ่งหน้าสู่สะพานพระนั่งเกล้ารับรองว่าหาไม่ยากเลยครับ ทั้งนี้ในส่วนของศักยภาพทำเล และภาพการเดินทางแบบละเอียดๆ สามารถไปตามอ่านได้ที่ตัว รีวิว The Politan Rive นะครับ เผื่อจะได้เห็นภาพประกอบที่ชัดเจนมากขึ้น ภาพรวมโครงการ The Politan Breeze ตำแหน่งที่ดินโครงการ The Politan Breeze จะอยู่ถัดจาก The Politan Rive ไปจนสุดที่คลองบางสร้อยทอง ลักษณะของที่ดินจะเป็นแนวลึก ด้านที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาคือ ทิศตะวันตก วิวทางด้านนี้จะสวยสุดๆ ตอนช่วงพระอาทิตย์ตก บรรยากาศโรแมนติกมากครับ ส่วนที่ดินด้านทิศใต้จะติดกับโครงการ The Politan Rive ระยะห่าง 30 เมตร มีรั้วกั้นตลอดแนว แยกพื้นที่ออกจากกันอย่างชัดเจนนะครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องขาดความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ทางทิศเหนือติดกับคลองบางสร้อยทองยาวตามแนวที่ดินเลย ระยะห่างประมาณ 50 เมตร ส่วนที่ดินที่อยู่ถัดจากคลองไปก็เป็นของ Everland เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้มีการก่อสร้างโครงการอะไร ปัจจุบันยังเป็นที่ว่างรอการพัฒนาอยู่ ภาพรวมเรื่องวิวโดยรอบโครงการถือว่าสวยงามดีทีเดียวครับ The Politan Breeze เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น อาคารพักอาศัยจำนวน 4 อาคาร กับอีก 1 อาคารจอดรถในโซนด้านหน้าถัดจากทางเข้าโครงการ ส่วนอาคารพักอาศัยทั้ง 4 อาคารจะล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้ โดยบริเวณคอร์ทใหญ่ระหว่างอาคารจะมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาว 30 เมตร แถมแยกสระเด็กมาให้เรียบร้อย สวนหย่อมพร้อมที่นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ และพื้นที่พักผ่อนริมน้ำ ส่วนฟิตเนส ห้องสมุด และห้องอเนกประสงค์ จะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร B เท่านั้นนะครับ เรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการใช้ Key Card สำหรับการเข้าออกโครงการ มี CCTV และรปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง เรื่องที่จอดรถที่หลายคนกังวล ก็ต้องบอกว่าทางโครงการเตรียมตัวมาดีครับ มีอาคารจอดรถสูง 7 ชั้นแยกมาโดยเฉพาะ รวมกับพื้นที่จอดรถใต้อาคารแล้ว สามารถรองรับได้มากถึง 58% หรือ 343 คันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากพอสมควรเลยนะครับ สำหรับคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้ แต่ละอาคารจะมีห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยนะครับ ยกเว้นอาคาร C อาคารเดียวที่พื้นที่ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด และเริ่มส่วนห้องพักอาศัยที่ชั้น 2 แทน จุดเด่นอย่างหนึ่งของการที่มีห้องพักในชั้น 1 ก็คือ ห้องพักทั้งหมดจะหันหน้าเข้าหาคอร์ทส่วนกลาง เหมือนได้สวน หรือสระว่ายน้ำอยู่หน้าห้องเลย แถมยังเป็น Single Corridor ไม่มีห้องฝั่งตรงข้ามแบบชั้นอื่นๆ ซึ่งข้อดีอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ อาจจะสะดวกที่ไม่ต้องขึ้นบันได ขึ้นลิฟท์ แต่ก็อาจจะเสี่ยงกับเสียงรบกวนจากส่วนกลางมากกว่าหน่อยเท่านั้นเองครับ เปิดห้องตัวอย่าง โครงการ The Politan  Breeze มีแบบห้องหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ซึ่งแน่นอนว่าห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. จะมีจำนวนเยอะที่สุดนะครับ ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom จะแบ่งย่อยลงไปอีก 2 แบบ คือ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยขนาดห้องจะเริ่มตั้งแต่ 43 ตร.ม. ไปจนถึงห้องขนาด 60 ตร.ม. กันเลยทีเดียว ห้องตัวอย่างที่เราได้เข้าไปชมในครั้งนี้ ห้องแรกคือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. ซึ่งจะมีอยู่ในอาคาร C และ D เท่านั้นนะครับ Layout ห้องจัดมาค่อนข้างเป็นสัดส่วนดีเลย โดย Living Area จะอยู่ในโซนหน้าห้อง พื้นที่ใช้สอยในส่วนนี้ก็กว้างพอให้มีระยะดูทีวีที่ไม่อึดอัดจนเกินไป ครัวในห้องก็ได้เป็นครัวปิดติดกับระเบียง และมีประตูกระจกกั้นให้เรียบร้อย ถึงจะไม่กว้างมาก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานเหมือนกันนะครับ ส่วนพื้นที่ของห้องนอนก็จัดไว้เป็นสัดส่วน มีห้องน้ำในตัว และแอบมีระเบียงเล็กๆ ในห้องนอนมาให้ด้วย สามารถเปิดออกไปรับลม หรือช่วยในเรื่องระบายอากาศได้ดีครับ ทีนี้มาดูห้องขนาด 43 ตร.ม. กันบ้างครับ ห้องนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยห้องนี้จะมี Layout เดียวกับห้องขนาด 48 ตร.ม. เลยนะครับ เพียงแต่มีขยายพื้นที่ในส่วนต่างๆ ตามสัดส่วนของขนาดห้องที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นครับ การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง จะให้ Living Area อยู่ตรงกลางห้องติดกับระเบียง และแยกห้องนอนทั้ง 2 ห้องไว้คนละด้าน โดยห้อง Master Bedroom จะพิเศษกว่าตรงที่ มีประตูเปิดออกไปที่ระเบียงได้ด้วยครับ สำหรับ Pantry ครัวของห้องนี้จะเป็นครัวเปิดอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย ครัวลักษณะนี้เหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าจะลงครัวหนักๆ นะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวนได้ นอกจากห้องตัวอย่างที่เราได้พามาชมในครั้งนี้แล้ว ทางโครงการยังมีห้องขนาด 50 ตร.ม. และ 60 ตร.ม. ในรูปแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ให้เลือกด้วยนะครับ โดยห้องแบบ 2 Bedroom จะมีอยู่อาคาร A และ B เท่านั้น ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างได้เปรียบเรื่องวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องที่อยู่ในตำแหน่งมุมตึกทางด้านทิศตะวันตก จะเปิดรับวิวแม่น้ำไปแบบเต็มๆ เลย ส่วนห้องที่อยู่ถัดเข้ามาก็จะเห็นวิวแม่น้ำน้อยกว่าและถูกบังมุมบ้างตามลำดับครับ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เห็นภายในห้องตัวอย่าง จะเป็นเพียงการตกแต่งเป็นไอเดียเท่านั้นนะครับ ห้องจริงจะขายมาแบบห้องเปล่า มีเพียงชุดครัว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ Wallpaper สีมาตรฐานโครงการ และเครื่องปรับอากาศให้เท่านั้น ซึ่งรายละเอียดตรงนี้สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานขายได้เลย จะสังเกตเห็นว่า Layout ห้องขนาด 50 กับ 60 จะไม่ต่างกันเลยนะครับ จะมีจุดที่ต่างกันคือที่ระเบียง ห้องไซส์ 60 ระเบียงจะเชื่อมต่อกันยาวเป็นรูปตัว L เนื่องจากไซส์ 60 จะเป็นห้องมุมทั้งหมด ทางโครงการมีห้องตัวอย่างของห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ไว้ให้ดูด้วยนะครับ แต่จะเป็นห้องตัวอย่างเดิมของโครงการ The Politan Rive ที่มีขนาดและ Layout ใกล้เคียงกัน ซึ่งเราได้เก็บภาพมาให้ชมบางส่วนด้วยนะครับ เล่ารายละเอียดกันมาถึงจุดนี้แล้ว คงต้องบอกว่า The Politan Breeze เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก Everland ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวนะครับ ทั้งด้วยศักยภาพของทำเล และตัวโครงการเองที่มีการจัดสรรพื้นที่ในส่วนต่างๆ ไว้อย่างลงตัว รวมถึงเลือกใช้วัสดุที่คุ้มค่าเกินราคาห้อง ใครที่พลาดจากโครงการแรกไป หรือกำลังมองหาที่พักอาศัยวิวสวย ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางไปมาสะดวก เราว่าโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แถมยังอยู่ในเรทราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยากด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียง 1.65 ล้านบาท หรือ 57,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น ยังไงก็เก็บไว้พิจารณากันดู หรือจะลองเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขายก่อน ก็น่าจะช่วยให้เห็นบรรยากาศได้ชัดเจนขึ้นอีกนิดครับ แถมช่วงพรีเซลโครงการยังมีโปรโมชั่นรับส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับใครที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียน เพื่อนรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ ได้ที่ www.thepolitancondo.com นะครับ
RePlay Condominium, Koh Samui : รีวิวคอนโด

RePlay Condominium, Koh Samui : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เรามีคอนโด ตากอากาศที่น่าสนใจบนเกาะสมุยมาฝากกันครับ โครงการนี้มีชื่อว่า “RePlay Samui” เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ที่ตั้งอยู่ถัดจากหาดบ่อผุดมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ ซึ่งทั้งโครงการประกอบไปด้วย 9 ตึกพักอาศัย และ Facility อีกเพียบ ตามไปดูกันเลยดีกว่าครับว่า RePlay Samui มีอะไรน่าสนใจบ้าง ที่ตั้งและการเดินทาง ถ้าพูดถึงเกาะสมุย คงไม่มีใครไม่รู้จักเกาะใหญ่ในทะเลอ่าวไทย ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติต่างก็นิยมชมชอบมาเที่ยวพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันการเดินทางมายังเกาะสมุยทำได้ง่ายมากๆ ทั้งการนั่งเครื่องบินตรงมายังเกาะสมุยเลย ซึ่งอาจจะมีสายการบินให้เลือกค่อนข้างจำกัดรวมถึงมีราคาสูงซักหน่อย แต่ก็จัดว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดแล้ว หรือจะเลือกวิธีการเดินทางโดยนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามมาจากท่าเรือดอนสัก ฝั่งสุราษฎร์ธานี มาลงที่ท่าเรือหน้าทอนบนเกาะสมุยก็สะดวกไม่แพ้กันนะครับ ส่วนการเดินทางบนเกาะสมุยนั้น ปัจจุบันนี้สะดวกสบายมากๆ มีถนนยาวรอบเกาะ แถมด้วยรถสองแถวบริการวิ่งรอบเกาะกันเลยทีเดียว รวมถึงรถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สามารถเรียกใช้บริการได้ ส่วนราคาก็ตามแต่จะตกลงกันเองครับ ในขณะที่บริการรถเช่าก็มีให้เลือกอีกเช่นกัน ถนนสายหลักบนเกาะยาวประมาณ 50 กิโลเมตรได้ครับ วิ่งวนกันได้แบบไม่ต้องกลัวหลงเลย ในขณะที่ก็มีแยกและตรอกซอกซอยตัดไปยังส่วนต่างๆ ได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ครับ ที่ตั้งโครงการ RePlay Samui นั้นหาไม่ยากเลยครับเพราะอยู่ริมถนน เลยจาก Fisherman’s Village หาดบ่อผุด มาประมาณ 1.3 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งบริเวณที่ตั้งโครงการนี้มีความน่าสนใจอยู่หลายจุดทีเดียวครับ นอกจากที่ที่ตั้งจะอยู่บริเวณหาดบางรักแล้ว ยังอยู่ใกล้จุดสนใจและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญบนเกาะสมุยอีกหลายแห่ง สามารถเดินทางไปมาได้สะดวก ข้ามถนนมาก็เดินลงชายหาดได้เลย ในระแวกนี้เป็นอีกแห่งที่มีชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก แต่อาจจะไม่หนาแน่นเท่าบริเวณบ่อผุด หรือหาดเฉวงนะครับ เนื่องจากที่ตั้งของโครงการไม่ได้อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวซะทีเดียว จึงค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยและพักผ่อนสบายๆ มากกว่า ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการก็ยังมีครบครัน ทั้งโรงเรียน อนามัย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ จุดเด่นแรกของทำเลคือ สนามบินสมุยอยู่ห่างจากโครงการไปเพียง 10 นาที ในขณะที่ ถนนคนเดินบ่อผุด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Fisherman’s Village ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ที่ Hangout และโรงแรมไว้มากมาย ก็อยู่ห่างแค่อึดใจเท่านั้น ที่สำคัญพื้นที่ในโซนหาดบางรักนี้ยังเป็นจุดรวมท่าเรือเล็กๆ ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีเส้นทางไปยังเกาะต่างๆ ข้างเคียง รวมถึงเป็นท่าเรือประมงด้วย บริเวณนี้จึงมีทั้งตลาดขายของทะเลสดของชาวบ้าน ร้านค้าท้องถิ่น รวมถึงวัดพระใหญ่ก็ตั้งอยู่บริเวณนี้ ถือเป็นอีกจุดที่คึกคักในแบบชุมชนท้องถิ่น และมีความอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งของเกาะสมุยครับ เนื่องจากเกาะสมุยเป็นเกาะใหญ่ที่เจริญมากๆ แล้ว ดังนั้นจึงมีพร้อมไปด้วยสาธารณูปโภคมากมายจนแทบจะไม่ขาดอะไรเลยทีเดียว   ภาพรวมโครงการ RePlay Samui มาพูดถึงตัวโครงการกันบ้างครับ RePlay Samui สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว ทั้งโครงการจะประกอบไปด้วยอาคารพักอาศัยแบบ Low Rise สูง 4 ชั้น จำนวน 9 ตึก นะครับ ซึ่งมาพร้อมกับ Facility มากมายชนิดเกินคาดเลยทีเดียว อาคารส่วนใหญ่อยู่ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางไว้ ห้องพักเกือบทั้งหมดจึงได้วิวสวยๆ ของสระว่ายน้ำฟรีฟอร์ม และสนามเทนนิสไปแบบเต็มๆ แต่จะว่าไปแล้วที่ตั้งของโครงการนี้ก็ถือว่ามีวิวที่ดีในตัวอยู่แล้วนะครับ เพราะที่ดินบริเวณนี้อยู่ตรงช่วงโค้งบนเนิน วิวรอบๆ จะได้ทั้งบรรยากาศเขียวๆ ของภูเขาที่อยู่ทางด้านหลัง ทิวมะพร้าว และอาจจะเห็นทะเลด้วยในบางห้อง ผังแสดงพื้นที่ของโครงการ จะเห็นว่าอาคารพักอาศัยทั้งหมดอยู่ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งทางโครงการได้ให้ความสำคัญกับส่วนนี้ จึงจัดสรรไว้ใหญ่ และครบทุกกิจกรรมเลยทีเดียว ภาพบรรยากาศสวยๆ ของส่วนกลางในโครงการ สระว่ายน้ำ free form ออกแบบมาให้มีส่วนโค้งเว้าเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้ไม่ภาพโดยรวมไม่แข็งจนเกินไป Facility ทั้งหมดที่มีในโครงการเรียกว่าเอื้ออำนวยต่อการพักอาศัยมากๆ ครับ ทั้งการพักตากอากาศ และการอยู่แบบถาวรกันไปเลย เพราะมีตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อบริเวณหน้าโครงการตลอด 24 ชั่วโมง และร้านอาหารของโครงการก็เปิดขายตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย ระบบรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดนะครับ บริเวณด้านหน้าโครงการ มีร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง บรรยากาศภายในร้านอาหารของโครงการ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนค่ำเลยทีเดียว Lobby ของโครงการในบรรยากาศเปิดโล่งรับลมเย็นสบาย ขยับเข้ามาในโครงการจะเจอ Lobby โอ่โถงแบบ Open Air ตรงจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ เพื่อให้บริการในด้านต่างๆ กับลูกบ้าน และผู้ที่มาพักหรือใช้บริการในคอนโดครับ จุดเด่นแรกที่เจอเลยก็คือ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อม Pool Bar และเตียงอาบแดด ใกล้ๆ กันก็มีสนามเทนนิส สนามซ้อมบาสเกตบอล รวมถึงสนามเด็กเล่นด้วยนะครับ แทบจะรวมทุกกิจกรรมกลางแจ้งไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะสระว่ายน้ำของโครงการก็มีมากถึง 2 สระเลยทีเดียว ในขณะที่กิจกรรมในร่มอย่าง ห้องออกกำลังกาย ฟิตเนส เวทเทรนนิ่ง รวมถึงห้องโยคะ ทางโครงการก็จัดเตรียมไว้รองรับทุกความต้องการจริงๆ สระว่ายน้ำใหญ่ มี Pool Bar บริการเครื่องดื่มเย็นๆ ด้วย สระว่ายน้ำ Free Form ยาวตลอดแนวอาคารเลย ทำให้ห้องพักเกือบทั้งหมดได้วิวสระว่ายน้ำสวยๆ ไปในตัว ริมสระว่ายน้ำมีเตียงอาบแดดเรียงรายตลอดแนว แถมด้วยมุมนั่งเล่นชิวๆ ริมสระด้วย สนามเทนนิสมาตรฐานบริเวณใจกลางโครงการ พร้อมด้วยอัฒจรรย์นั่งชมได้อย่างใกล้ชิด น้อยโครงการนะครับ ที่จะจัดสนามเทนนิสไว้ในโครงการด้วย เพราะต้องมีพื้นที่มากพอจริงๆ แถมยังต้องเป็นสนามกลางแจ้งอีกด้วย รับรองว่าคนที่ชอบกีฬากลางแจ้งต้องถูกใจแน่นอน มุมเด็กเล่นร่มรื่น จะหลบมุมเข้ามาในบริเวณระหว่างอาคารนิดหน่อยนะครับ จะได้มีตัวอาคารช่วยบังแดดไปบ้าง ในขณะเดียวกันทางโครงการก็ปลูกต้นไม้ไว้รอบเลย เครื่องเล่นก็มีเยอะพอสมควรเลยครับ อาคารปูนตรงกลางระหว่างสระว่ายน้ำ กับสนามเทนนิส ภายในจะเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมในร่มครับ ทั้งฟิตเนส ที่มีอุปกรณ์เวทเทรนนิ่งครับเครื่อง ห้องโยคะ ห้องแอโรบิค รวมถึงห้องซาวน่า อบไอน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิง ต้องบอกว่าครบเครื่องจริงจังมาก กิจกรรมในห้องโยคะ มีเจ้าหน้าที่ฝึกสอนดูแลอย่างใกล้ชิดเลยนะครับ บรรยากาศของสระว่ายน้ำในโซนอาคาร H กับ J ซึ่งจะมีจุดเด่นที่ห้องพักบริเวณชั้น 2 ของโซนนี้ จะสามารถเปิดออกไปยังสระว่ายน้ำได้เลย เปิดห้องตัวอย่าง ห้องชุดของ RePlay Samui จะเป็นลักษณะ 1 Bedroom ทั้งหมดเลยครับ แต่จะต่างกันที่ขนาดและ Layout ห้อง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการที่ต่างกัน โดยห้องทั้งหมด จะขายให้แบบ Full Furnished ชนิดที่จัดเต็ม แค่หิ้วกระเป๋ามาก็พร้อมอยู่ได้เลย เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันครับว่าห้องแต่ละแบบของ RePlay Samui หน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง ห้องแรกเป็นห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม. แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชั่นครบ ทั้งชุดครัว สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in ซึ่งห้องไซส์นี้มีขนาดกระทัดรัดกำลังดี เปิดห้องเข้ามาก็จะเจอ Pantry ครัวอยู่ทางด้านซ้าย ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามจะเว้นที่ไว้วางตู้เย็น และเครื่องซักผ้าได้แบบพอดิบพอดี พื้นที่ใช้สอยภายในห้องจัดสรรไว้ค่อนข้างดีเลยนะครับ พอวางเฟอร์นิเจอร์ลงไปครบๆ ก็ยังเหลือที่ว่างอีกพอสมควรเลย เช่นเดียวกันกับระเบียงที่มีพื้นที่กว้างมากพอจะวางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งเล่นชมวิวยามเย็นได้อีกด้วย แปลนห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม. นะครับ จะเห็นว่าตัวห้องมีพื้นที่ลักษณะเป็นแนวลึก ซึ่งทางโครงการก็จัด Layout ห้องไว้ค่อนข้างลงตัว เต็มพื้นที่ใช้สอยเลยทีเดียว เปิดเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนของ Pantry ครัวก่อนนะครับ โดยจะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ ในส่วนนี้ทางโครงการจัดการ Built-in เครื่องครัวมาให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ห้องน้ำจะค่อนข้างเซ็กซี่นิดนึงนะครับ เพราะทางโครงการเลือกใช้เป็นประตูกระจกใสบานเลื่อนแทนการใช้ประตูทึบแบบที่เราคุ้นเคย สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตรฐานเลยครับ ภายในก็แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้แล้วด้วย ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวีภายในห้องก็ Built-in มาด้วยเช่นกันครับ วางเตียงลงไปแล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบเตียงอีกพอสมควรครับ ไม่ได้คับแคบจนเกินไป มีมุมนั่งเล่นเล็กๆ และโต๊ะทำงานริมระเบียงด้วยนะครับ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกัน ถ้าห้องแบบแรกยังไม่ถูกใจ เราว่าห้องแบบ Classy ในขนาด 34.3 ตร.ม. น่าจะทำให้ถูกใจได้ทันทีตั้งแต่แว๊บแรกที่เห็นกันเลยทีเดียว ถึงจะลักษณะห้องจะเป็นแนวลึก แต่การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน่าสนใจทีเดียวครับ โซนหน้าห้องยังคงเป็นส่วนของ Pantry ครัว และห้องน้ำที่ Built-in มาให้เสร็จสรรพ ส่วนโซนกลางห้องแต่งเป็น Living Area วางชุดโซฟา ชั้นวางทีวี และโต๊ะกินข้าวเข้ามุมไว้อย่างลงตัว แล้วส่วนสุดท้ายติดกับระเบียงจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนครับ ซึ่งทางโครงการเลือกใช้ชุดรางผ้าม่านมาเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอน แทนการใช้ประตูกระจกบานเลื่อนแบบหลายๆ ที่ ถ้าลองเปิดผ้าม่านออกหมด เราก็จะได้ห้องโล่งโปร่งสบายตามากขึ้น เรารู้สึกว่าการเลือกใช้ผ้าม่านมากั้นห้องแบบนี้ค่อนข้างยืดหยุน และน่าสนใจดีทีเดียวครับ แปลนห้องแบบที่ 2 จะใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย อยู่ที่ขนาด 34 ตร.ม. โดยประมาณ ซึ่งห้องนี้มีการจัดวาง Layout ไว้ได้น่าสนใจทีเดียวครับ เปิดห้องเข้ามาจะเจอกับ Pantry ครัวอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำเหมือนกับห้องแรกนะครับ โดยทางโครงการก็ Built-in ชุดครัวมาให้เรียบร้อยเช่นกัน มีเว้นพื้นที่หน้าห้องน้ำสำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้ามาแล้วด้วย พื้นที่ใช้สอยภายในห้องแบบนี้จะกว้างขึ้นอีกพอสมควรเลย และค่อนข้างให้ความสำคัญกับ Living Area ในโซนกลางห้อง พื้นที่ใน Living Area กว้างพอจะวางชุดโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ มุมนั่งเล่น และรับแขกมุมนี้สบายตาด้วยแสงไฟนวลๆ ทำให้ห้องนี้ดูอบอุ่นมากขึ้น มุมห้องนอนจัดไว้ใกล้กับระเบียงนะครับ ตกแต่งด้วยลายกราฟฟิกเท่ๆ ช่วยให้ห้องนี้มีจุดดึงดูดสายตามากขึ้น ปลายเตียง Built-in โต๊ะทำงาน หรือชั้นวางทีวีไว้ให้เรียบร้อย ในห้องตัวอย่างทางโครงการจัดวางทีวีไว้ที่ปลายเตียงด้วย เพื่อต้องการให้เห็นว่า พื้นที่โต๊ะปลายเตียงกว้างพอที่จะใช้สอยประโยชน์ได้หลากหลายตามความต้องการครับ พื้นที่ห้องนอนจะถูกแบ่งให้เป็นสัดส่วนได้มากขึ้น ด้วยรางผ้าม่านโค้งตามแนวทแยงของห้อง ซึ่งไอเดียนี้น่าสนใจดีนะครับ มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยในห้องได้ตามต้องการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด เราสามารถเลื่อนเปิดผ้าม่านออกทั้งหมด บรรยากาศภายในห้องก็โล่งสบายตาแล้วครับ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะ Built-in มาให้ครบเลยนะครับ มีชั้นเก็บของ ชั้นวางทีวี และเพิ่มมุมรับประทานอาหารมาให้เสร็จสรรพ โต๊ะกินข้าววางเข้ามุมไว้พอดี พื้นที่เลยดูเป็นสัดส่วนค่อนข้างชัดเจน ส่วนช่องหน้าต่างเล็กๆ ที่เห็น จะเป็นช่องเพิ่มแสงให้กับห้องน้ำนะครับ บรรยากาศโดยรวมของห้องนี้ อบอุ่นน่าอยู่อาศัยเลยครับ ขนาดห้องกำลังดีสำหรับคอนโดพักตากอากาศ มาถึงห้องแบบสุดท้ายที่เราเอามาฝากกันครับ ห้องนี้จะเป็นห้องไซส์ใหญ่สุดในชื่อ Impassion มีขนาด 68.6 ตร.ม. โดยจะแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน ซึ่งโซนแรกหลังจากเข้าห้องมาจะเป็น ครัวและ​ Living Area ตกแต่งครบเหมือนเดิม ในขณะที่ห้องนอนจะแยกออกไปอีกโซนให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น ห้องน้ำจะอยู่โซนเดียวกับห้องนอนนะครับ แถมยังมีมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำ พร้อมด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้อีก ลงตัวมากๆ ครับ แปลนห้อง 1 Bedroom จะเป็นของขนาดใหญ่สุดที่ 68.6 ตร.ม. ลักษณะห้องคล้ายกับการน้ำห้องขนาด 34 ตร.ม. มา combine เข้าด้วยกัน Layout ภายในห้องจึงแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 2 โซนอย่างชัดเจนเลยครับ เหมือนเดิมเลยที่พอเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับ Pantry ครัวก่อนเป็นอันดับแรก ขนาดของครัวจะดูกว้างกว่าห้องอื่นๆ พอสมควรเลยครับ ทางโครงการเว้นที่ไว้วางตู้เย็น เครื่องซักผ้ามาให้พร้อมเช่นกัน โซนแรกของห้องจะเป็น Living Area ที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก ซึ่งกินพื้นที่ยาวไปจนสุดระเบียงเลยทีเดียว ด้วยความที่ในโซนนี้มีพื้นที่ค่อนข้างมาก จึงสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะกินข้าวชุดเล็กๆ ได้อีกชุดด้วยครับ ด้านตรงข้ามกับโซฟา จะ Built-in ชั้นวางทีวีมาให้ติดกับผนังเลยครับ โดยที่ผนังด้านนี้จะมีประตูเข้าออกห้องนอนได้ 2 ด้านด้วยกัน ส่วนหน้าต่างเล็กๆ ที่เห็นทางด้านซ้าย จะเป็นหน้าต่างของห้องน้ำนะครับ ซึ่งสามารถเปิดออกเพื่อช่วยในการระบายอากาศได้ จากห้องนั่งเล่นเข้ามาอีกโซนจะเป็นห้องนอนครับ ซึ่งห้องนี้จะมีพื้นที่ห้องนอนค่อนข้างส่วนตัวและแบ่งชัดเจนกว่าห้องอื่นๆ พื้นที่ในห้องนอนค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว วางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้ว ยังเหลือพื้นที่รอบเตียงอีกมาก และในห้องนอนก็มีประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียงได้เช่นเดียวกับที่ห้องนั่งเล่นเลยครับ ภาพนี้ถ่ายในห้องนอนนะครับ จะเห็นว่าปลายเตียงมีชั้นวางทีวี Built-in มาอีกชุด อยู่ตรงข้ามกับฝั่งห้องนั่งเล่นพอดี แล้วก็จะเห็นว่ามีประตูทางเข้าออกห้องนอนได้ 2 ทางนะครับ ระเบียงของห้องนี้นอกจากจะกว้างพอที่จะวางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งเล่นแล้ว ยังยาวตลอดแนวห้องเลยด้วย เปิดรับวิวสวยๆ ของพื้นที่ส่วนกลางโครงการได้แบบเต็มที่เลย จากระเบียงมองกลับเข้าไปที่ห้องนอนจะเห็นว่า พื้นที่ภายในห้องกว้างนะครับ ผนังด้านหัวเตียงยังสามารถ Built-in เป็นโต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของเพิ่มได้อีก ห้อง 1 Bedroom นี้เพิ่มพื้นที่สำหรับ Walk in Closet มาด้วย บริเวณหน้าทางเข้าห้องน้ำจึงเป็นมุมแต่งตัวที่ลงตัวมากทั้งดีไซน์ และขนาดพื้นที่ใช้สอย ภายในห้องน้ำจะออกแบบมาในสไตล์ปูนเปลือยครับ โดยห้องน้ำของห้อง Type นี้จะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยพร้อมกับส่วนของ Shower จากที่เห็นนะครับ ตรงอ่างอาบน้ำมีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ด้วย ซึ่งเปิดออกไปจะมองเห็นห้องนั่งเล่นเลยครับ อย่างที่บอกไปแล้วนะครับว่า ห้องพักทั้งหมดของ RePlay Samui ขายกันมาแบบตกแต่งเสร็จ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เราจะได้อย่างที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยนะครับ ซึ่งนอกจากจะเหมาะกับการจับจองไว้เป็นที่พักตากอากาศแล้ว ยังสามารถซื้อไว้เพื่อการลงทุนได้อีกด้วย เนื่องจากสมุยยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก ถ้าคิดจะลงทุนไว้เพื่อปล่อยห้องเช่าก็น่าจะมีโอกาสทำเงินได้ไม่ยากครับ ยิ่งห้องก็ตกแต่งเสร็จตามแบบของโครงการ ทางโครงการก็มีบริการช่วยหาคนเช่าให้ด้วยนะครับ โครงการดีๆ Facility จัดหนักแบบนี้ เชื่อว่าใครๆ ก็ให้ความสนใจ อยากได้เป็นเจ้าของครับ
Notting Hill Hyde Park-สะพานใหม่ : รีวิวคอนโด

Notting Hill Hyde Park-สะพานใหม่ : รีวิวคอนโด

Notting Hill Hyde Park-สะพานใหม่ คอนโด High Rise สูง 14 ชั้น บนถนนรัตนโกสินทร์สมโภช ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสายหยุด จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,590,000 บาท เจ้าของโครงการ   Origin Property Public Company Limited ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 14 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    536 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 49% (รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    3 - 3 - 60.7 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 4 ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ค่าส่วนกลาง    35 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    350 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี สะพานใหม่ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ตลาดยิ่งเจริญ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เทสโก้ โลตัส เซ็นทรัล รามอินทรา วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร มหาวิทยาลัยศรีปทุม ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Superior ขนาด 23.20 - 24.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Deluxe (S-M) ขนาด 26.10 -29.70 ตารางเมตร 1 Bedroom Deluxe (L) ขนาด 30 - 31.10 ตารางเมตร 1 Bedroom Suite Duplex ขนาด 29.90 -30.40 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus Suite ขนาด 34.10 -34.40 ตารางเมตร 1 Bedroom Suite Terrace ขนาด 33.60 -34 ตารางเมตร 2 Bedrooms Penthouse ขนาด 41.40 -48.50 ตารางเมตร 2 Bedrooms Penthouse Duplex ขนาด 48.50 ตารางเมตร 2 Bedrooms Penthouse Terrace ขนาด 65.10 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Infinity garden Pavilion garden Garden pool Fitness garden Sunken pool Sky lounge Sky garden CCTV และ Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 092-716-7070 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : nottinghill.origin.co.th/saphanmai
District เอกมัย-รามอินทรา บ้านใหม่สไตล์โฮมออฟฟิศ เพื่อชีวิตที่ลงตัว : รีวิวทาวน์โฮม

District เอกมัย-รามอินทรา บ้านใหม่สไตล์โฮมออฟฟิศ เพื่อชีวิตที่ลงตัว : รีวิวทาวน์โฮม

จากที่ก่อนหน้านี้เราได้ไปสำรวจดูทำเลในย่านนวลจันทร์กันไปแล้ว รีวิวฉบับนี้เราจะเข้าไปดูที่ตัวโครงการ “District เอกมัย-รามอินทรา” กันบ้างครับ โครงการนี้เป็นที่อยู่อาศัยกึ่งบ้านกึ่งสำนักงาน หรือที่เรียกกันติดปากว่า Home Office นั่นแหละครับ ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดจาก AP Property แถมยังเป็นรูปแบบดีไซน์ใหม่ล่าสุดภายใต้คอนเซปต์ Modern Luxury ที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนอย่างมีสไตล์ เพื่อให้มุมมองธุรกิจและชีวิตส่วนตัวสอดคล้องไปได้อย่างกลมกลืน รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ       รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     15,900,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น และ 4 ชั้น จำนวน 36 หลัง เนื้อที่ทั้งหมด    6 - 0 - 9.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยรามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ   ศักยภาพของที่ตั้งโครงการ   ถ้าพูดถึงย่าน “นวลจันทร์” ในปัจจุบัน จะเห็นว่าไม่ใช่พื้นที่ห่างไกลที่จะใช้คำว่าชานเมืองแบบเมื่อก่อนได้อีกแล้วนะครับ เพราะความเจริญต่างๆ ก็ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทั้งการเดินทาง การกินอยู่ รวมถึงศักยภาพของทำเลในย่านนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ย่านนี้มีความเป็นเมืองที่พร้อมในการรองรับการทำธุรกิจ หรือเปิดกิจการมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ   ในเรื่องของรายละเอียดเกี่ยวกับ Life Style ความน่าสนใจของทำเลที่ทำให้โครงการ District เลือกปักหมุดในย่านนี้ สามารถตามไปอ่านตัวรีวิวทำเลอย่างละเอียดได้ที่นี่ครับ "สำรวจทำเล โฮมออฟฟิศ โครงการใหม่ล่าสุด ย่านเอกมัย-รามอินทรา เพื่อชีวิตและธุรกิจที่ลงตัว"   ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ District เอกมัย-รามอินทรา ต้องบอกว่า เด่นในเรื่องของการเดินทางมากนะครับ ข้อแรกซอยรามอินทรา 40 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ เชื่อมต่อกับถนนนวลจันทร์ ที่สามารถทะลุไปออกถนนเกษตรนวมินทร์ได้ แถมห่างออกไปเพียงแค่ 1 นาที ก็มีจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และถนนสายสำคัญของย่านนี้อย่าง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกติดปากกันว่าถนนเลียบด่วนฯ ก็เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมถนนสำคัญอีกหลายๆ สาย เข้าไว้ด้วยกันตั้งแต่หัวจรดท้ายถนน ดังนั้นไม่ว่าจะต้องการเดินทางไปยังมุมไหนของกรุงเทพก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร   เส้นทางเข้าออกโครงการหลักๆ ก็คือทางด้านถนนนวลจันทร์ พอเลี้ยวจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมเข้ามาเล็กน้อย ก็จะเห็นป้ายซอยรามอินทรา 40 อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้ามาอีกไม่เกิน 200 เมตร จะเห็นโครงการอยู่ขวามือ หรือถ้าเลือกเดินทางมาจากถนนรามอินทรา ก็ให้สังเกตุป้ายซอยรามอินทรา 40 เอาไว้ให้ดี เลี้ยวเข้าซอยมาประมาณ 1.5 กม. ก็ถึงโครงการแล้วครับ การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากถนนเกษร-นวมินทร์ กันเลยนะครับ เราตรงตามถนนเกษตร-นวมินทร์ มาเรื่อยๆ จะถึงแยกที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายถนนรามอินทราไปเลยนะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางด่วน จากนั้นขับตรงต่อไปอีกเรื่อยๆ นะครับ ถึงตรงนี้จะตัดกับถนนรามอินทรา ฝั่งขวาจะเป็นสะพานข้ามถนนรามอินทรา เราชิดซ้ายไว้ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ เดี๋ยวเราไปตรงไปกลับรถใต้สะพาน กลับรถใต้สะพานตรงนี้เลยนะครับ กลับรถมาแล้ว เราตรงกลับไปตามถนนเลียบทางด่วนเหมือนเดิม ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นตลาดนัดเลียบทางด่วน อยู่ทางซ้ายมือ เลยมาอีกนิดหน่อยก็จะถึงถนนนวลจันทร์ สังเกตป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนวลจันทร์ไปเลยครับ เข้าถนนนวลจันทร์มาแล้วก็ตรงไปอีกนะครับ ตรงเข้ามานิดเดียวจะเจอสามแยก เลี้ยวซ้ายไปออกถนนรามอินทราตามป้าย เดี๋ยวเราเลี้ยวซ้ายที่สามแยกนี้เลยนะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 40 มีป้ายโฆษณาของโครงการติดบอกทางอยู่ที่ปากซอยด้วย จากนั้นตรงเข้าไปในซอยรามอินทรา 40 อีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วหล่ะครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ District เอกมัย-รามอินทรา อยู่ฝั่งขวามือ ทางเข้าโครงการ   แต่ในอนาคตการเดินทางมายังโครงการจะสะดวกกว่านี้อีก ด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่คาดว่าจะมีสถานีใกล้กับปากซอยรามอินทรา 40 เลยทีเดียว ถ้าหากอนุมัติการก่อสร้างเมื่อไหร่ ก็เชื่อได้ว่าความเจริญต่างๆ จะยิ่งแผ่ขยายมาเร็วกว่านี้อีกแน่นอน   Home Office รูปแบบใหม่ ดีไซน์ทันสมัย   Home Office ของ District เอกมัย-รามอินทรา มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบด้วยกัน คือ Home Office 4 ชั้น ที่มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยประมาณ 360 ตร.ม. และ Home Office 3.5 ชั้น กับพื้นที่ใช้สอยประมาณ 173 ตร.ม. ซึ่งแบบบ้านที่เราจะพาไปดูกันก็คือ Home Office 4 ชั้นครับ   รูปร่างหน้าตาภายนอกอาคารถูกออกแบบมาเป็นคู่ หรือที่เรียกว่าบ้านแฝดนั่นแหละครับ ดูหรูหราทันสมัย ตามคอนเซปต์ Modern Luxury เลย หน้าบ้านกว้างถึง 8 เมตร สามารถจอดรถได้มากถึง 6 คันเลยทีเดียว ตัวอาคารเน้นใช้กระจกบานใหญ่ เพื่อให้ดูโปร่งสบายตา ไม่อึดอัด แล้วก็ช่วยให้รับแสงภายนอกได้ดีขึ้น ซึ่งภายในบ้านตัวอย่างก็มีการตกแต่งพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ   ทางโครงการลองตกแต่ง Home Office หลังนี้ให้เป็นห้องเสื้อหรูสำหรับสาวๆ โดยพื้นที่ชั้นล่างหน้าร้านจัดเป็นรับรองลูกค้า และมุมโชว์สินค้า ตกแต่งด้วยพื้นเล่นระดับในโทนสีขาวสบายตา ในขณะที่ชั้น 2 เป็นโถงขนาดใหญ่เพื่อโชว์เสื้อผ้าสวยๆ ได้มากขึ้น มีห้องลองเสื้อ วางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ไว้ด้วย นับว่าเป็นไอเดียในการตกแต่งไม่เลวเลยครับ ดูเรียบๆ แต่แฝงไว้ด้วยความโก้หรู หน้าทางเข้าเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ด้านหน้าโครงการตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ Reception ด้านขวามมือเป็นพื้นที่ว่างสามารถจัดเป็นพื้นที่รับรองลูกค้า หรือโชว์สินค้าก็ได้ครับ เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อ ห้องแรกจะเป็นห้องน้ำ อยู่ทางด้านขวามือ ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำหรับลูกค้าที่มาติดต่องานจึงมีเพียงอ่างล้างหน้ากับโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าทรงกลม พร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์วางอยู่ใกล้ๆ กัน ถัดจากห้องน้ำเป็นห้องครัวแอบอยู่ด้านในสุด พื้นที่บริเวณห้องครัวถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ ตรงข้ามห้องครัวเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 สังเกตว่าจะมีห้องใต้บันไดไว้สำหรับทำเป็นห้องเก็บของได้ด้วย ขึ้นมาถึงชั้น 2 ตรงกับบันไดมีห้องน้ำอีก 1 ห้อง ห้องน้ำบนชั้น 2 จะคล้ายๆ กับที่ชั้น 1 ขึ้นมาบนชั้น 2 โครงการยังตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับโชว์สินค้า และมีพื้นที่สำหรับพบปะลูกค้า ที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้น 1 บันไดขึ้นไปที่ชั้น 3 พอขึ้นมาที่ชั้น 3 ทางโครงการตกแต่งให้เป็นออฟฟิศ จัดห้องทำงานให้ดูโล่งๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียงานกันได้สะดวก นอกจากนี้ยังเพิ่มมุมหนังสือ และ Pantry ครัวเล็กๆ เอาไว้เตรียมเครื่องดื่มและของว่าง ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการทำงานให้ไม่น่าเบื่อ และมีอิสระทางความคิดมากขึ้นด้วย ขึ้นมาถึงชั้น 3 จะเริ่มเป็นโซนออฟฟิศแล้วนะครับ ตรงกับบันไดโครงการทำเป็น Pantry เล็กๆ สำหรับพนักงานในออฟฟิศ ด้านหลัง Pantry จะเป็นห้องน้ำอีก 1 ห้อง การจัดวางและสุขภัณฑ์ที่ใช้จะคล้ายๆ กับห้องน้ำที่เราดูมาแล้วนะครับ แต่ห้องนี้จะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำมาให้ด้วย พื้นที่บนชั้น 3 โครงการตกแต่งเป็นโซนออฟฟิศสำหรับนั่งทำงาน ด้านขวามือตกแต่งเป็นที่นั่งสำหรับผู้บริหาร มีฉากบางๆ กั้น เนื่องจากเป็นออฟฟิศแฟชั่น การตกแต่งการจึงดูออกแนวแฟชั่นอย่างที่เห็น ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับพนักงาน โครงการวางโต๊ะแนวยาวจัดเป็นโต๊ะทำงาน ได้หลายที่เลยนะครับ ประหยัดพื้นที่ไปอีกแบบ ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย พ้นบันไดมาก็จะเป็นห้องนั่งเล่นเลย พื้นที่ติดกันจะเป็นครัวเล็กๆ สำหรับทำอาหาร อาจจะไม่ได้เป็นครัวจริงจังมาก แต่ก็พร้อมใช้งานเลยนะครับ มีหน้าต่างระบายอาหารเรียบร้อย ในขณะที่พื้นที่อีกโซนจะแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน คือ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวอยู่ในโซนหน้าบ้าน และห้องนอนเล็กอยู่โซนกลางของชั้น จริงๆ ห้องนอนเล็กนี้สามารถดัดแปลงไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกเยอะนะครับ ถ้าสมาชิกในครอบครัวมีไม่เยอะ จะจัดให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ ห้องเก็บของ หรือห้องอเนกประสงค์อีกล้านไอเดียเลย ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเป็นชั้นสำหรับพักอาศัย ตรงหน้าบันไดโครงการตกแต่งเป็นส่วนครัวไว้ให้ดูเป็นไอเดีย Built in เป็นเคาน์เตอร์แนวยาว มี Island เล็กๆ เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร ฝั่งตรงข้ามเป็น Living Area พื้นที่บริเวณ Living Area สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีอยู่ในระยะที่ถือว่าไม่ใกล้เกินไป มุมมองจาก Living Area ไปที่ส่วนครัว จะเห็นทางออกไปบันไดหนีไฟอยู่ทางซ้ายมือ จาก Living Area จะเป็นทางเดินเข้าไปด้านใน ห้องแรกด้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย อีกด้านโครงการ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าบานสูงถึงเพดาน ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำ พร้อมพื้นที่อาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นให้นะครับ แต่จะดรอปพื้นลงไปเล็กน้อย ตรงเข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอน Master โครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ปลายเตียง Built in เป็นกระจกกั้น พร้อมติดทีวีแบบแขวน เดี๋ยวไปดูที่ห้องน้ำกันต่อ หน้าทางเข้าห้องน้ำโครงการจะ Built in ตู้เสื้อเป็นแบบ Walk in Closet ตู้เสื้อผ้าอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ที่โครงการ Built in ไว้ให้ดูเป็นไอเดีย มาถึงห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำในห้องนอน Master จะใช้สุขภัณฑ์ต่างจากห้องน้ำที่เราดูมาแล้วทั้งหมดนะครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมกับกระจกเงา ฝั่งตรงข้ามเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย อย่างที่บอกไปแล้วนะครับว่าตัวอาคารเน้นใช้กระจกเพื่อช่วยในการรับแสง พื้นที่แทบจะทุกส่วนของบ้านสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่โถงบันได ซึ่งจะมีหน้าต่างกระจกใหญ่ ทำให้ทางเดินบริเวณบันไดดูโล่งสบายตามากขึ้น และด้วยความที่ตัวอาคารถูกใช้งานให้เป็นออฟฟิศด้วย เรื่องความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ทางโครงการออกแบบให้มีบันไดหนีไฟอยู่ทางด้านหลังอาคาร และมีประตูทางออกในทุกๆ ชั้น ช่องแสงที่โถงบันได บันไดหนีไฟบนชั้น 2 จะสังเกตเห็นทางด้านซ้ายมือ บันไดหนีไฟบริเวณครัวบนชั้น 4 และสุดท้ายก็คือเรื่องของ Facility ต่างๆ ภายในโครงการ ซึ่งทางโครงการก็จัดไว้ให้ค่อนข้างครบเลยครับ ทั้งสโมสร ฟิตเนส สวนสาธารณะ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และกล้อง CCTV รอบโครงการ เพื่อความสะดวกสบาย และความอุ่นใจของลูกบ้านทางโครงการก็ไม่ลืมให้ความใส่ใจทุกจุดอย่างเต็มที่นะครับ District เอกมัย-รามอินทรา สามารถตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาบ้านแบบ Home Office ที่อยู่ในย่านที่เดินทางสะดวก แวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคครบครัน และเอื้อประโยชน์ทั้งในแง่ของการประกอบกิจการธุรกิจต่างๆ พร้อมทั้งไม่ทิ้ง Life Style แบบคนเมืองที่สามารถออกไปพบปะลูกค้า หรือสังสรรค์หลังเลิกงานได้สบายๆ ในขณะเดียวกันพื้นที่ภายในบ้านก็กว้างมากพอให้สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้สอยได้ตามลักษณะธุรกิจ เติมเต็มทุกจินตนาการ ต่อยอดกิจการใหม่ได้อย่างไม่สิ้นสุด และยังมีพื้นที่อยู่อาศัยสบายๆ ที่คุณจะพบจังหวะใหม่ในการทำงานที่สอดคล้องไปกับชีวิตส่วนตัวได้อย่างกลมกลืนเลยทีเดียว
บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9 – อ่อนนุช : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9 – อ่อนนุช : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9 - อ่อนนุช โครงการบ้านแฝด 2-3 ชั้นแนวคิดใหม่ บนถนนมอเตอร์เวย์ ใกล้ สน.ประเวศ และจุดขึ้น-ลง มอเตอร์เวย์ และ วงแหวนรอบนอก ห่างจาก Airport Link สถานีบ้านทับช้าง ประมาณ 2 กิโลเมตร จาก AP     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    3,990,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    บ้านแฝด 2-3 ชั้น จำนวน 98 หลัง พื้นที่โครงการ    16 - 1 - 33.9 ไร่ ที่ตั้งโครงการ     ถนนมอเตอร์เวย์ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ โรงเรียนนานาชาติ Pan Asia International School โรงเรียนนานาชาติ Charters International School ห้างสรรพสินค้า พาราไดซ์ พาร์ค ห้างสรรพสินค้า ซีคอน สแควร์ ห้างสรรพสินค้า เมกา บางนา ห้างสรรพสินค้า อิเกีย บางนา ห้างสรรพสินค้า เดอะ พาซิโอ้ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลวิภาราม โรงพยาบาลสิรินธร แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   Xtra  บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 125 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน X-Trend  บ้านแฝด 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 222 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน แบบบ้าน Xtra บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 125 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน แบบบ้าน X-Trend บ้านแฝด 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 222 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก   คลับเฮาส์หรู พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน สวนสาธารณะ Access Card เข้า - ออกโครงการ พร้อมป้อมยามรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ ระบบสายไฟฟ้าปักเสาพาดสาย ตามแบบมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวง ระบบท่อเมนประปา ตามมาตรฐานการประปานครหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.apthai.com
The Line Asoke-Ratchada : รีวิวคอนโด

The Line Asoke-Ratchada : รีวิวคอนโด

The Line Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา) คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น บนถนนดินแดง ใกล้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 โครงการใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,990,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 170,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     473 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 2 - 0 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 226 คัน หรือคิดเป็น  48% เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมิถุนายน 2019 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ฟอร์จูนทาวน์ MRT พระราม 9 เซ็นทรัลพระราม 9 เอสพลานาด True Tower AIA Capital Center ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บิ๊กซี รัชดา The Street รัชดา Cyber World Tower ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย Airport Link มักกะสัน ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 27.50 - 36 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 46.25 - 50.25 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่โถงต้อนรับ สวนส่วนกลาง พร้อมพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่และสระเด็ก ฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ ห้องพักผ่อนอเนกประสงค์ ห้องซักผ้า สวนชั้นดาดฟ้า Free Wifi สำหรับโถงต้อนรับ ฟิตเนส และห้องสมุด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
a space I.D. Asoke-Ratchada คอนโดแนวคิดใหม่ ที่ให้คุณเป็นตัวเองได้มากกว่า : รีวิวคอนโด

a space I.D. Asoke-Ratchada คอนโดแนวคิดใหม่ ที่ให้คุณเป็นตัวเองได้มากกว่า : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปอัพเดทความคืบหน้าล่าสุดของคอนโดมิเนียมใกล้เขต New CBD ของกรุงเทพ ซึ่งเคยเปิดตัวกันไปอย่างฮือฮามากๆ กับระบบจอดรถอัจฉริยะที่ล้ำที่สุดแห่งยุค บอกแค่นี้หลายคนก็คงจะจำกันได้กับโครงการ a space I.D. อโศก-รัชดา คอนโดคุณภาพในเครือ Areeya Property นั่นเองครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,690,000 บาท เจ้าของโครงการ    Areeya Property PLC. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    2 - 1 - 83.7 ไร่ จำนวนห้อง     543 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 218 คัน หรือคิดเป็น 40% ที่ตั้งโครงการ    ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2559 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    450 บาท/ตารางเมตร   เรื่องทำเลที่ตั้งหลายคนคงจะรู้จัก และทราบกันดีอยู่แล้วว่า a space I.D. อโศก-รัชดา ตั้งอยู่ริมถนนอโศก-ดินแดงเลย ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ไม่มากครับ ซึ่งพื้นที่บริเวณแยกพระราม 9 นี้เป็นทำเลที่มีศักยภาพน่าจับตามากแห่งหนึ่งในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นทั้งแหล่งรวมธุรกิจที่สำคัญมากๆ ทั้งสำนักงานใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ (SET), AIA Capital Center, G Land Tower, True Tower, Cyber World Tower รวมถึงหน้าสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Plaza พระราม9, Fortune Town, Esplanade, ตลาดนัดรถไฟ,สถานฑูตจีน, ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานศึกษา และโรงพยาบาลอีกมากมายเลยทีเดียว แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ ในส่วนของทำเลที่ตั้งนั้นเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ a space I.D. ได้รับความสนใจและถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ในขณะที่คอนเซปต์การออกแบบของตัวโครงการเองก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยความที่นิยามให้เป็นคอนโดมินเนียมเจเนอเรชั่นใหม่ มีความล้ำนำสมัยและให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่แตกต่าง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน กับสเปซส่วนตัว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้คุณเป็นตัวเองได้มากกว่า มากกว่าในด้านไหนบ้าง นี่เลยครับ พูดแค่นี้อาจจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนเท่าไหร่ใช่มั้ยครับ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปดูห้องจริง บรรยากาศจริงในโครงการ ซึ่งสร้างเสร็จเตรียมพร้อมเปิดรับลูกบ้านกันแล้ว เริ่มจากด้านหน้าอาคาร จะเป็น Facility หลักอย่างสระว่ายน้ำ พร้อมพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ และเทอเรซพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ส่วนภายในอาคารที่ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby และที่ทางเข้าที่จอดรถอัตโนมัติ Mechanical Parking ที่อยู่ด้านหลังอาคาร สระว่ายน้ำแบบ Freeform และ Jacuzzi ตั้งอยู่หน้าโครงการ Pool Seat และ Pool Bed บนเทอเรซพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ระบบจอดรถอัตโนมัติ Mechanical Parking นำเข้าจากบริษัท IHI Transport Machinery ผู้นำนวัตกรรมด้านนี้ในประเทศญี่ปุ่น Exclusive Volume Space Lobby สูงถึง 7.65 เมตร ชั้นลอย A จะเป็นพื้นที่ของฟิตเนส พร้อมห้องน้ำ และห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้นลอย B จะเป็นพื้นที่ของห้องซักรีด พร้อมกับห้อง Stream และ Sauna แยกชาย-หญิง ส่วนพื้นที่ว่างๆ ที่เห็นด้านขวามือจะเป็นพื้นที่จอดรถอัตโนมัติ ภาพ Perspective แสดงให้เห็นพื้นที่บนชั้นลอย A-B ภาพฟิตเนสบนชั้นลอย A ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป แต่ชั้น 2 ของโครงการนี้น่าจะสูงประมาณชั้น 11 ถ้าเทียบกับโครงการทั่วๆ ไป เนื่องจากโครงการนับพื้นที่จอดรถอัตโนมัติตั้งแต่ด้านล่างขึ้นมาถึงประมาณชั้น 10 ให้เป็นชั้น 1 นอกจากด้านล่างแล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวด้านบนอาคารด้วยนะครับ ภายนอกอาคารนี่เรียกว่าเกือบจะสมบูรณ์ 100% แล้ว เหลือในส่วนของการเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยเองครับ เช่นเดียวกับในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งสระว่ายน้ำแบบ Freeform สวนริมสระกับกรีนซ้อมพัตต์กอล์ฟ ห้องฟิสเนส ห้องสมุด ฯลฯ ในขณะที่ห้องชุดของคุณลูกค้าก็กำลังเก็บรายละเอียดเตรียมทยอยส่งมอบแล้วเช่นกันครับ ครั้งนี้เราจึงได้เห็นบรรยากาศจริงภายในอาคาร และห้องพักไปพร้อมๆ กันแบบไม่ต้องลุ้นไม่ต้องเดาอีกให้เสียเวลา ขึ้นมาถึงในโซนห้องพักของ a space I.D. ก็สะดุดกับบรรยากาศบริเวณโถงทางเดินหน้าห้องก่อนเลยครับ ผมเชื่อว่าแทบจะไม่มีคอนโดมิเนียมเจ้าไหนเลยมั้งที่ตั้งใจออกแบบให้โถงทางเดินมีบรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในสวนแบบนี้ หน้าห้องแต่ละห้องตกแต่งด้วยสวนแนวตั้ง ให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตา (ถึงแม้จะตกแต่งด้วยต้นไม้ประดิษฐ์แทนต้นไม้จริงเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลของนิติฯ ก็ตาม) ชานหน้าห้องก็เพิ่มประตูรั้วเล็กๆ แทรกด้วยกล่องรับจดหมาย ต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะรวมตู้จดหมายไว้ในห้องด้านล่างนะครับ ตรงจุดนี้จะให้บรรยากาศในการอยู่อาศัยเหมือนอยู่บ้านมาขึ้นด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่เราสัมผัสได้เมื่อมาได้มาดูบนอาคารจริงก็คือ ตัวอาคารออกแบบมาให้อากาศถ่ายเทได้ดีมากๆ มีช่องลมเพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านได้สะดวก บริเวณโถงทางเดินหน้าห้องนี้ลมพัดดีจริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่เรายืนอยู่ที่ชั้น 4 เอง ยังไม่ต้องขึ้นไปชั้นสูงๆ เลย ทีนี้มาดูภายในห้องจริงดีกว่าครับ ซึ่งทางโครงการได้ตกแต่งเอาไว้สวยงาม เพื่อที่ลูกบ้านจะได้มีไอเดียในการตกแต่งห้องตัวเอง หรือจะได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานภายในห้องชัดเจนขึ้นด้วย เพราะห้องที่โครงการขายจริงจะเป็นแบบ Fully Fitted คือลูกค้าจะได้ Built in ตู้เสื้อผ้า ส่วนครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ ห้องที่เราเลือกมาให้ชมกันมี 2 ห้องนะครับ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ทั้ง 2 ห้องเลยครับ แต่มี Layout ที่ต่างกัน เพื่อความต่างของไลฟ์สไตล์แตกต่าง ห้องแรกมีชื่อว่า Idealist ตกแต่งมาในสไตล์หวานๆ ฟังก์ชั่นของห้องนี้ โดดเด่นด้วยการเลือกว่าตำแหน่งของห้องน้ำไว้ระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน เพิ่มความเป็นสัดส่วนในการใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ก็อาจจะมีเพื่อนๆ มาเยี่ยมที่ห้องบ่อย ห้องนี้จะช่วยแบ่งพื้นที่ห้องนอนให้เป็นสัดส่วนชัดเจนแยกออกจากห้องรับแขก ประตูห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง จากทั้งห้องนอนด้านใน และห้องรับแขกด้านหน้า เวลาต้อนรับแขกประตูกั้นบริเวณห้องน้ำนี่ช่วยได้เยอะเลยนะครับ ห้องน้ำก็เป็นสัดส่วน เข้าจากทางห้องรับแขกได้เลยด้วย อีกส่วนที่เป็นจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ Pantry ครัวเปิดบริเวณโซนหน้าห้องครับ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเพิ่มมาให้ ช่วยทั้งเรื่องระบายกลิ่นจากการทำครัว และเพิ่มความโปร่งสบายตามากขึ้นอีกด้วย ไอเดียในห้องตัวอย่างนี้ช่วยให้เราเข้าใจฟังก์ชั่นของห้องได้ชัดเจนขึ้นเหมือนกันนะครับ ถึงจะไม่ได้แต่งห้องให้มุ้งมิ้งเท่าห้องตัวอย่าง แต่ก็สามารถนำไอเดียไปดัดแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวได้ครับ แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร แปลนห้องแบบ 3 มิติ ช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อย เริ่มจากตรงชานหน้าห้องกันเลยนะครับ มีตู้เล็กๆ สำหรับเก็บรองเท้าและเป็นที่นั่งใส่รองเท้าในตัว อีกด้านเป็นหน้าต่างจากห้องครัวออกมาด้านนอก เพื่อช่วยให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น ตรงนี้จะเป็นช่องลมสำหรับระบายอากาศอยู่หน้าหน้าต่าง ประตูที่ได้จะเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Samsung เปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วจะเจอ Living Area อยู่ตรงหน้าเลยนะครับ แต่เราจะไปดูส่วนครัวที่อยู่ด้านขวามือกันก่อน ส่วนครัวจะเป็นแบบเปิดตั้งอยู่หน้าห้อง แต่มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศออกด้านนอก และมีช่องลมรับช่วงต่ออีกที สำหรับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นท็อปสีขาวของ Lixil แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น ด้านซ้ายมีเตาไฟฟ้า พร้อมฮูดควันของ Teka ด้านล่างเป็นที่วางเครื่องซักผ้า ส่วนด้านขวาที่ติดกับประตูห้องจะเป็นซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยม ของ American Standard คราวนี้หันกลับมาดูที่ Living Area โครงการตกแต่งเป็นโซฟา Built in ขนาด 3 ที่นั่ง ส่วนฝั่งชั้นวางทีวีก็ Built in มาอย่างสวยงาม ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาประมาณ 3.5 ม. ถือว่าห่างกันพอสมควรเลยนะครับ สามารถเลือกวางทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ ตู้เย็นๆ จะอยู่ฝั่งเดียวกับชั้นวางทีวี อยู่ติดกันเลยครับ ถัดจาก Living Area จะเป็นห้องน้ำที่ตั้งอยู่ก่อนถึงส่วนของห้องนอน สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard อย่างอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมอันนี้ มีที่วางของรอบๆ อ่างให้ด้วย วัสดุ waterproof ครับ มาพร้อมกับกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างหน้า ตรงกลางจะเป็น Shower Box ที่สามารถเข้าออกจากทางห้องนอนได้ด้วย สังเกตด้านบนจะมี Rain Shower แบบฝังฝ้าให้ด้วย คราวนี้เรามาดูที่ห้องนอนกันบ้าง อย่างที่บอกนะครับห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด แยกออกมาอย่างเป็นสัดส่วน และมีความเป็นส่วนตัวทีเดียว ในห้องนอนโครงการวางเตียง 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งขนาด 5 ฟุตน่าจะเหมาะกับห้องนี้ที่สุด เพราะจะได้มีพื้นที่ข้างๆ เตียงเหลืออยู่นิดหน่อย ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป ปลายเตียงตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ยาวสีชมพูหวานแหวว พร้อมตู้เก็บของกระจุกกระจิก ให้ดูเป็นไอเดีย เหมาะกับคุณผู้หญิงสุดๆ ทางเดินจากห้องนอนออกไปที่ Living Area จะเห็นตู้เสื้อผ้า Built in ของ Lixil วางอยู่หน้าห้องนอน ขนาดสูงจากพื้นจรดเพดาน หน้าบานเป็นแบบ Hi-gross ทางโครงการจัดมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะครับ ข้างเตียงอีกด้านเป็นระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน คอมเพรสเซอร์แอร์จะตั้งอยู่ด้านนอกระเบียง วิวด้านถนนดินแดง ซึ่งก็คือฝั่งทิศใต้ของอาคาร มองออกไปเห็นสถานี Airport Link มักกะสัน ด้านล่างมองลงมาเป็นพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำ Free from ของโครงการ ทีนี้เรามาดูห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันบ้าง ห้องนี้มีชื่อว่า Identity ดีไซน์ตกแต่งแบบแมนๆ เข้มขรึมต่างจากห้องแรกไปโดยสิ้นเชิง อย่าลืมว่าขนาดห้องเท่ากันกับห้องก่อนหน้าเป๊ะเลยนะครับ แต่จะต่างกันที่ Layout ห้อง ซึ่งปรับเปลี่ยนตำแหน่งห้องน้ำให้มาอยู่ในโซนหน้าห้องใกล้ๆ กับ Pantry ครัว จัดให้โซนกลางห้องเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน และกั้นพื้นที่ห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ บรรยากาศของห้องนี้โดยรวมจะดูเชื่อมต่อถึงกันได้ดีนะครับ มีความโล่งโปร่งไปอีกแบบ เพราะถ้าเปิดประตูกระจกออกหมด เราก็จะรู้สึกว่าพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกว้างมากขึ้น โดยภาพรวมแล้ว Layout ของห้องนี้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่มาก และน่าจะเป็นแบบห้องที่เราเห็นกันมาจนชินตามากที่สุดแบบหนึ่งเลยทีเดียว  แต่โดยส่วนตัวเรากลับชอบไอเดียในการตกแต่งของห้องนี้มากนะครับ มีการเพิ่มลูกเล่นลงไปในเฟอร์นิเจอร์ Built-in ในหลายๆ ส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้หลายประโยชน์ และมีพื้นที่ในการเก็บของให้เป็นระเบียบไปพร้อมๆ กัน แปลนห้อง แปลนห้องแบบ 3 มิติ เข้ามาในห้องแล้วจะแยกออกเป็น 2 ฝั่งนะครับ มุมนี้เราถ่ายย้อนกลับไปหน้าห้อง ซึ่งส่วนนี้มีการปูกระเบื้องไว้ด้วย ด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแนวยาว เคาน์เตอร์ครัวจะเหมือนกับห้องแรกเลยนะครับ ต่างกันตรงที่จะมีชั้นลอยเก็บของเพิ่มขึ้นมา ซิงค์ล้างจานของ American Standard เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ฝั่งขวามือจะเป็นห้องน้ำ โครงการตกแต่งเป็นกระจกบานเลื่อนสีชา พร้อมชั้นวางขอเก๋ๆ ให้ดูเป็นไอเดีย เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องแรกเลยนะครับ แต่การจัดวาง Layout จะต่างกันอย่างที่เห็น ห้องนี้จะได้กระจกเงาบานใหญ่ ยาวตั้งแต่อ่างล้างหน้าไปจนถึงโถสุขภัณฑ์ อีกด้านจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นให้เรียบร้อย บริเวณกำแพงในส่วนของที่อาบน้ำเพิ่มลูกเล่นตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคจากพื้นจรดเพดาน มุมมองจาก Living Area ย้อนกลับไปที่หน้าห้อง Living Area โครงการตกแต่งด้วยโซฟาหนังสีน้ำตาล 2 ที่นั่ง แต่จริงๆ แล้วด้วยพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งก็ได้นะครับ แต่ที่โครงการเลือกใช้โซฟา 2 ที่นั่งเพราะต้องการพื้นที่เพื่อ Built in โต๊ะทำงานไว้ข้างๆ โซฟาแบบนี้ โต๊ะทำงานเล็กๆ ที่โครงการ Built in ไว้ข้างโซฟา ให้ดูเป็นอีกหนึ่งไอเดีย ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาก็ถือว่าห่างอีกเหมือนกันนะครับ ดูจากระยะแล้ววางทีวีจอใหญ่ซะใจได้เลย พร้อมลูกเล่น Built in บานเลื่อนที่เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ครีเอทีฟไปอีกแบบ ต่อจาก Living Area จะเป็นห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด ระหว่างห้องนอนกับ Living Area จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ด้านปลายเตียงโครงการ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าบานสูงถึงเพดาน ข้างเตียงอีกด้านเป็นระเบียงห้อง ประตูเป็นกระบานเลื่อน 3 ตอนเหมือนห้องแรก คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ที่ด้านนอกระเบียง มุมมองจากห้องนอนย้อนออกไปที่หน้าห้อง จะว่าไปแล้วพื้นที่ห้องไซส์เริ่มต้นของ a space I.D. ที่เปิดมาที่ขนาดห้อง 33 ตร.ม. แบบนี้ จัดว่ากว้างพอสมควรเลย เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนได้อย่างสบายๆ ทางด้านคอนเซปต์ดีไซน์ก็โดนเด่นด้วยการจัดให้มี Exclusive Foyer อยู่หน้าห้อง พร้อมสวน Vertical garden และตู้จดหมายส่วนตัว ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว แถมยังมี Facility ในโครงการเตรียมไว้อีกเพียบ พร้อมนวัตกรรมที่จอดรถอัตโนมัติจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราเชื่อว่าลูกบ้านโครงการนี้น่าจะได้รับความสะดวกสบายครบถ้วนที่สุดอย่างแน่นอน ยิ่งตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แบบนี้ด้วยแล้ว ใครที่กำลังเล็งห้องในทำเลย่านนี้อยู่ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเอง หรือเพื่อการลงทุน ขอกระซิบว่าต้องรีบเลยนะครับ ปัจจุบันห้องแบบ one bedroom ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้าน เท่ากับว่าสนนราคาเริ่มเพียง 111,xxx บาทต่อ ตร.ม. เท่านั้น ห้องไซส์นี้ ทำเลกลาง New CBD ขนาดนี้ หาไม่ง่ายแล้วนะครับ.... รีบๆ กันหน่อย โดยในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โครงการเตรียมจัดปาร์ตี้ Be “MORE” YOU ที่คุณจะเป็นตัวเองได้มากกว่า ที่ เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา เปิดโครงการให้ลูกค้าได้สัมผัสห้องจริง บรรยากาศจริงในโครงการ และที่สำคัญ ทางโครงการมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ในราคาโดนๆ รออยู่ สำหรับผู้ที่จองในงาน ฟรี! เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนฯ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษและลุ้นรับของรางวัลตลอดงาน และพลาดไม่ได้!! กับศิลปินเสียงคุณภาพ วง The Parkinson และ อิมเมจ The Voice ที่จะมาร่วมแสดงพลังเสียงกันให้คุณสนุกอย่างเต็มที่ สำหรับลูกค้าที่สนใจ ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ http://www.areeya.co.th/aspaceid รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 100,000 บาท* ทันที หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางโครงการได้ที่ 1797 ครับ
Supalai Elite สี่พระยา : รีวิวคอนโด

Supalai Elite สี่พระยา : รีวิวคอนโด

Supalai Elite สี่พระยา คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น และอาคารจอดรถพร้อมสโมสรสูง 8 ชั้น บนถนนสี่พระยา ใกล้ MRT สามย่าน โครงการใหม่จากศุภาลัย รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,100,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร, อาคารจอดรถพร้อมสโมสรสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    384 ยูนิต พื้นที่โครงการ     2 - 2 - 97 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพระราม 9 ซอย 5 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2563 สถานที่สำคัญใกล้เคียง สำนักงานเขตบางรัก AIA สำนักงานใหญ่ วัดหัวลำโพง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สยามสแควร์ มาบุญครอง จามจุรีแสควร์ ตลาดสีลม วัดพระศรีมหาอุมาเทวี โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน Empire Tower สวนลุมพินี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  41.5 – 55 ตารางเมตร 2 Bedroom  73 – 85 ตารางเมตร 3 Bedroom  129 – 139 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6.90x25.50 เมตร ลึก1.10 เมตร สระเด็ก Sky Lounge บนดาดฟ้า ซาวน่า Roof Garden ห้องอเนกประสงค์ และห้องสมุด ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ Access Card กล้อง CCTV ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720 กด 95 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.supalai.com
Noble Revolve Ratchada 2 อัพเดทห้องดีไซน์ใหม่กับโปรฯแรงๆ : รีวิวคอนโด

Noble Revolve Ratchada 2 อัพเดทห้องดีไซน์ใหม่กับโปรฯแรงๆ : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะมาพูดถึงโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 กันอีกครั้ง ซึ่งมีความคืบหน้าในเรื่อง EIA ที่ผ่าน Approved เรียบร้อย รวมถึงได้เริ่มก่อสร้างกันไปพอสมควรแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนรีวิวถึง Noble Revolve รัชดา 2 ไปแล้วตั้งแต่เพิ่งเริ่มเปิดโครงการเลยก็ว่าได้  ดังนั้นเรื่องทำเลที่ตั้งและการเดินทางคงไม่ขออธิบายอะไรให้มากความ ขอพูดกันแค่คร่าวๆ นะครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,800,000 บาท เจ้าของโครงการ    Noble Development PLC. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 42 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 1 - 66 ไร่ จำนวนห้อง     755 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% ที่ตั้งโครงการ    รัชดา ซอย 6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนสิงหาคม ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร   ทำเลที่ตั้ง และการเดินทาง จุดเด่นหลักๆ ของ Noble Revolve รัชดา 2 คืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมมากๆ นับจากหน้าโครงการไปก็เพียง 80 เมตรเท่านั้น บวกระยะเดินเข้าตึกอีกนิดหน่อย บวกลบแล้วก็ไม่น่าเกิน 100 เมตร การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกมากถึงมากที่สุดครับ ส่วนเรื่องรถส่วนตัวก็สะดวกไม่แพ้กันถ้ารถไม่ติด จะเข้าออกเมืองก็สามารถเลือกได้หลายเส้นทาง ด่านทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วย คนที่คุ้นเคยเส้นทางในย่านนี้คงจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ ซูมลงมาดูกันใกล้ๆ อีกหน่อย จะเห็นว่าโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 จะอยู่ติดกับโครงการ Noble Revolve รัชดา 1 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในซอยรัชดา ซอย 6 การเดินทางวันนี้เราเลือกใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่แยกประชานุกูลยาวไปเรื่อยๆ เลยนะครับ ขึ้นสะพานข้ามถนนวิภาวดีไปฝั่งรัชโยธิน ตามป้าย ลงจากสะพานมาแล้ว จะเห็น สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB Park อยู่ด้านขวามือ เลยจาก SCB Park มาจะเจออีกหนึ่งสะพานข้ามถนนพหลโยธิน จะเห็นเมเจอร์ รัชโยธิน อยู่ทางซ้ายมือ ตึกช้างอยู่ฝั่งขวามือ ลงจากสะพานมาแล้วเราตรงอย่างเดียวเลยนะครับ ตรงนี้จะเห็นศาลาอาญา รัชดา อยู่ทางขวามือ ตรงมาอีกหน่อยจะเจออีกหนึ่งสะพานตรงนี้จะข้ามถนนลาดพร้าว ขึ้นสะพานไปเลยครับ ข้ามสะพานมาเยอะแล้ว มาลงอุโมงค์กันบ้าง ตรงนี้เราลงอุโมงค์ลอดใต้แยกสุทธิสาร ขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ใกล้ถึงแล้วหล่ะครับ เลยจากอุโมงค์มานิดหน่อยจะเจอแยกเทียใร่วมมิตร ด้านซ้ายมือจะเป็นอาคาร Cyber World Tower ส่วนด้านขวาจะเป็น The Street รัชดา เราตรงผ่านแยกไปเลยนะครับ ด้านขวามือจะเห็นบิ๊กซี รัชดา เลยจากแยกเทียมร่วมมิตรมาให้ชิดซ้ายเตรียมตัวเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยนะครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการในซอยรัชดา ซอย 6 เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยยย หน้าทางเข้าซอยมีป้ายบอกชัดเจน เลี้ยวเข้ามาแล้วจะเห็นโครงการที่กำลังสร้างอยู่เป็นโครงการ Noble Revolve รัชดา 1 นะครับ ส่วนโครงการ 2 ก็กำลังก่อสร้างอยู่ข้างๆ กัน จอดรถหน้าสำนักงานขายได้เลยครับ ความได้เปรียบต่อมาของ Noble Revolve รัชดา 2 เห็นจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลาง New CBD ของกรุงเทพฯ ใกล้ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ที่แฮงค์เอ้าท์ และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ๆ อีกเพียบ ลองยกตัวอย่างกันคร่าวๆ ก็มีตั้งแต่ The Esplanade, Central พระราม 9, Fortune Town เป็นต้น ในขณะที่ตึก Grand G ก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว อีกหน่อยสำนักงานต่างๆ ก็คงจะเปิดกันเต็มพื้นที่ บรรยากาศก็จะยิ่งคึกคักมากขึ้นไปอีกแน่นอน จากที่ตั้งโครงการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาแค่สถานีเดียว แหล่งบันเทิง ช็อปปิ้งก็พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ ตัวโครงการ และห้องตัวอย่าง ตัวอาคารของ Noble Revolve 2 อยู่ถัดจาก Noble Revolve 1 เข้ามาอีกเล็กน้อย แต่ใช้ทางเข้าออกจากซอยรัชดา 6 เหมือนกัน ตัวอาคารมีความแตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น แค่เรื่องลักษณะการวางตัวอาคาร โทนสี แต่ภาพรวมแล้วก็แทบจะเป็นตึกคู่แฝดกันเลย เรื่อง Facility หลักๆ แล้วจะรวมอยู่ที่ชั้น 6 นะครับ จะมีเพิ่มเติมขึ้นมาก็เป็นสวนบนชั้นดาดฟ้า สามารถรับวิวมุมสูงบนยอดตึกได้ดีอีกมุมนึงเลยทีเดียว โมเดลจำลองของโครงการตั้งอยู่ติดกับโครงการ Noble Revolve รัชดา 1 บริเวณทางเข้าด้านหน้าโครงการ สระว่ายน้ำจะอยู่ด้านหลังโครงการ สระว่ายน้ำบนชั้น 6 ของโครงการ คราวนี้มาดูแปลนของโครงการกันบ้างนะครับ โดยเริ่มที่ชั้น G กันเลย ที่ชั้น G จะมี Lobby และเป็นที่จอดรถรอบๆ อาคาร ขึ้นไปจนถึงชั้น 5 ลิฟท์จะมีทั้งหมด 4 ตัวเป็นแบบล็อกชั้น พร้อมลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ที่ชั้น 6 จะเป็นชั้นที่เริ่มที่ห้องพักอาศัย และ Facility หลักของโครงการอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส ก็จะอยู่ที่ชั้น 6 เช่นกัน ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยแล้วมีชั้นละ 21 ยูนิต สวนสีเขียวบนชั้น 6 ของโครงการ ฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำบนชั้น 6 บรรยากาศสวนสีเขียวบนชั้นดาดฟ้าของโครงการ แต่ประเด็นหลักๆ ที่เราจะพามาอัพเดทกันครั้งนี้คือ ห้องตัวอย่างที่มีการตกแต่งใหม่หมด แถมเปิดมาพร้อมโปรโมชั่น Fully Furnished ได้ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องกันไปเลย เรียกได้ว่าจัดเต็มสุดๆ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าหน้าตาห้องดีไซน์ใหม่จะสวยงามน่าอยู่ขนาดไหน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่านะครับว่ามีอะไรที่โครงการเค้าจัดมาให้บ้าง จะได้เห็นภาพชัดๆ กันไปเลย ส่วนครัว เคาน์เตอร์ครัว Built in เตาไฟฟ้า 2 หัว ฮูดดูดควัน ตู้เย็น 8.5 คิว ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบอบได้ โต๊ะทานอาหาร+เก้าอี้ Living Area ชั้นวางทีวี LED TV ขนาด 40 นิ้ว โซฟา โต๊ะกลาง แอร์ ห้องนอน เตียงนอน 5 ฟุต+ฟูก โต๊ะข้างเตียง โต๊ะทำงาน Built in ตู้เสื้อผ้า Built in แอร์ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.24 ตร.ม. ห้องนี้มีการออกแบบตกแต่งภายในใหม่ทั้งหมด เน้นโทนสีเข้มขรึมขึ้นมาอีกหน่อย มีการจัดวาง Layout ภายในห้องให้ดูโอ่โถงสบายตามากขึ้น ในห้องตัวอย่างเลือกแต่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแทนผนังทึบที่ใช้กั้นพื้นที่ห้องนอน ทำให้ภายในห้องดูโล่งมากกว่าเดิม แถมยังให้ความรู้สึกว่าพื้นที่ใช้สอยเชื่อมต่อถึงกันได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ ในส่วนของพื้นที่ครัว ยังคงเป็นครัวแบบเปิดอยู่บริเวณประตูทางเข้าแบ่งเคาน์เตอร์ Pantry ไว้สองฝั่งเหมือนเดิมนะครับ แล้วแทรกด้วยโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ไว้อย่างลงตัวมากๆ พื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่ในมุมติดระเบียงเหมือนเดิม เลยเปิดรับแสงสว่างได้ดี ยิ่งผนังกั้นห้องนอนที่เปลี่ยนมาเป็นกระจกใสด้วยแล้ว พื้นที่นั่งเล่นเลยสามารถเปิดกว้างให้ต่อกับห้องนอนได้เลย แบบนี้ก็สามารถเลือกใช้ทีวีแขวนผนังในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้นะครับ ผมว่าไอเดียที่เลือกกระจกบานเลื่อนมากั้นห้องนี่ดีนะครับ ทั้งในแง่การเพิ่มพื้นที่ห้องและประหยัดกว่าด้วย ไม่ต้องซื้อทีวีสองตัว แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 25.24 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านหน้าเลยนะครับ ครัวจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหาร แล้วซิงค์ล้างจาน ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ และเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า พร้อมอบแห้งในตัว ที่โครงการให้มาด้วย ด้านบนเป็นตู้เก็บของ และช่องวางไมโครเวฟ ส่วนด้านซ็ายมือเป็นจุดวางตู้เย็น 8.5 คิว วางติดกับเคาน์เตอร์ครัว มีเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex ด้านบนเป็นฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ติดกันมีโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านวางมาให้ด้วย เลยจากส่วนครัวเข้ามาเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอาจจะดูไม่กว้างมาก แต่ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่กำลังดีเลยครับ โครงการ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ตามแบบที่เห็นนี่เลยนะครับ พร้อมกับทีวี LED ขนาด 40 นิ้ว โซฟาจะได้ขนาด 3 ที่นั่ง ระเบียงจะอยู่ต่อจากส่วน Living Area นะครับ ผ้านม่านที่ระเบียงตรงนี้โครงการก็ติดมาให้ด้วยนะครับ ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงจะกว้างประมาณนี้นะครับ ตามสไตล์ของโนเบิล ห้องนอนจะอยู่ต่อจาก Living Area เข้าไปด้านใน ในห้องตัวอย่างจะกั้นด้วยประจกใส อย่างที่เห็นนะครับ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังทึบทาสีขาว มีประตูปิดกั้นระหว่างห้องนอนกับ Living Area ภายในห้องนอนโครงการวางเตียง 5 ฟุต พร้อมฟูกไว้ให้เรียบร้อย เตรียมมาแค่หมอนกับผ้าห่มก็อยู่ได้เลย ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างโครงการ Built in โต๊ะทำงานแนวยาวมาให้ด้วย นั่งทำงานพร้อมชมวิวที่หน้าต่างข้างเตียงได้เลย โต๊ะทำงานริมหน้าต่าง หน้าต่างจะมีบานกระทุ้งบานเล็ก 1 บาน ที่เหลือจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ผ้านม่านที่หน้าต่างโครงการก็ติดมาให้ด้วยเรียบร้อย ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ วางอยู่หน้าห้องน้ำ การจัดวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Grohe มีเคาน์เตอร์วางของข้างๆ และตู้เก็บของด้านล่าง โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า กระจกเงาจะได้บานใหญ่เต็มบานเลยนะครับ จะมีช่องวางของกระจุกกระจิกอยู่เหนือโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ชุดฝักบัวของ Grohe ปกติแล้วห้องของโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 จะขายกันมาแบบห้องเปล่านะครับ มีให้แค่ชุดครัวและสุขภัณฑ์เท่านั้น แต่อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ทางโครงการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เปิดข้อเสนอกันมาแบบจัดเต็ม ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะได้มาพร้อมกับห้อง และส่วนลดเพิ่มเติม ซึ่งหาข้อเสนอที่ดึงดูดในแบบนี้ได้ยากมากในราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาทเท่านั้น แต่ถ้าใครคิดว่าห้องแบบ 1 Bedroom นี้ออกจะกระทัดรัดเกินไป และอยากได้ห้องใหญ่ขึ้น ทางโครงการก็ยังคงมีห้องแบบ 2 Bedroom ให้เลือกอยู่เหมือนเดิมนะครับ ซึ่งหน้าตาห้องยังคงน่าสนใจเหมือนเดิม แต่ในส่วนของข้อเสนอเพิ่มเติมอันนี้แนะนำให้ลองนัดเวลาเข้าไปคุยกับเซลที่สำนักงานขายดูครับ แถมยังได้เห็นต้องตัวอย่างด้วยตาตัวเองด้วย ปัจจุบันโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 เปิดขายไปได้มากกว่า 75% แล้วนะครับ ห้องในบางตำแหน่งก็ถูกจับจองกันไปเกือบหมดแล้ว ก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่า ด้วยศักยภาพของทำเลที่อยู่ใจกลาง New CBD ขนาดนี้ แถมยังเปิดมาด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ แล้วยังกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นเด็ดเพิ่มขึ้นไปอีก งานนี้ใครที่ยังลังเลคงต้องรีบตัดสินใจแล้วล่ะครับ ไม่งั้นจะพลาดห้องดีๆ ไปซะก่อนนะครับ สำหรับโปรโมชั่นในงาน Noble D:Day ในวันที่ 18-30 มิถุนายนนี้ ที่สำนักงานขาย มีอะไรพิเศษบ้าง มาดูกันครับ คอนโดใหม่ แต่งครบ 80 เมตร จาก MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เริ่ม 3.8 ล้านบาท* ส่วนลดเงินสดวันโอนกรรมสิทธิ์* ส่วนลดลงทะเบียนออนไลน์ 10,000 บาท* ฟรี ค่ากองทุนและค่าส่วนกลาง 2 ปี* ผ่อน 0% นาน 3 เดือน*
The Kith Plus Sukhumvit 113 : รีวิวคอนโด

The Kith Plus Sukhumvit 113 : รีวิวคอนโด

The Kith Plus Sukhumvit 113 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ในซอยสุขุมวิท 113 ใกล้ BTS ส่วนต่อขยายสถานีสำโรง และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน จาก SENA Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    990,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    35,000 บาท - 54,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง    อาคาร A 195 ยูนิต  อาคาร B 230 ยูนิต พื้นที่โครงการ     5 - 1 - 29 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท 113 (ใกล้รถไฟฟ้า 400 เมตร) ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนตุลาคม 2560 ค่าส่วนกลาง    37 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Imperial World Samrong Central City Bangna Bangkok Mall โรงเรียนนานาชาติ Berkeley โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา โรงเรียนลาซาล โรงเรียนวัดด่านสำโรง โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ โรงพยาบาลเมืองสมุทร ปู่เจ้าสมิงพราย โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนลอยฟ้าติดห้องพักกว่าร้อยตารางเมตร Lobby สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนรอบโครงการ Free wifi  และโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าส่องสว่างส่วนกลาง รปภ. ตลอด 24 ชม., CCTV, Keycard สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 37, thekith.s113@gmail.com ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th
Le BAROQUE บางนา-สุวรรณภูมิ : รีวิวคอนโด

Le BAROQUE บางนา-สุวรรณภูมิ : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับโครงการ Le Baroque คอนโดมิเนียม Low Rise โครงการใหม่ติดถนนบางนา-ตราด กม.15 ซึ่งดำเนินงานก่อสร้างโดยบริษัทในเครือสี่พระยาก่อสร้างกรุ๊ป ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในวงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 65 ปี เริ่มน่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ ไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    60,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท โรแยลวิลล่า จํากัด, บริษัท โรแยลวิลล์ จํากัด, บริษัท ปาล์ม วิลล่า จํากัด ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 5 อาคาร จำนวนห้อง     76 ยูนิต/อาคาร รวมทั้งหมด 380 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนบางนา-ตราด กม.15 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2560 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Le Baroque ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ช่วง กม.15 ฝั่งขาเข้า เยื้องกับทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเลยครับ เข้าซอยไพโอเนียร์มานิดเดียวก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการแล้ว การเดินทางที่สะดวกที่สุดตอนนี้ก็เห็นจะเป็นเส้นทางถนนสายหลักอย่าง ถนนบางนา-ตราด หรือจะมาจากเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก และถนนวงแหวนรอบนอกมาเข้าถนนบางนา-ตราดก็ได้เช่นกันครับ เพียงแค่วิ่งมาตามถนนบางนา-ตราด ผ่านแยกที่จะเลี้ยวไปสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้ว อีกซักพักก็จะข้ามคลองบางโฉลง จากนั้นให้เตรียมออกทางคู่ขนานเพื่อขึ้นเกือกม้ากลับรถได้เลย หรือจะลองสังเกตุป้ายโรงพยาบาลเซ็นทรัลปาร์คทางด้านขวามือดูครับ จะได้ไม่พลาดขับรถเลยทางกลับรถไปไกล แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มต้นกันที่ถนนบางนา-ตราด ขาออกเลยนะครับ มุ่งหน้าตามป้ายสนามบินสุวรรณภูมิไปเรื่อยๆ เลยครับ ตรงนี้ป้ายบอกไปออกซ้ายเพื่อไปถนนกาญจนาภิเษกหรือถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งสามารถไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เหมือนกัน แต่เราตรงต่อไปก่อนนะครับ ตรงนี้เป็นสะพานข้ามแยกของถนนกิ่งแก้ว แสดงว่าใกล้ถึงทางออกแล้วล่ะครับ เลยถนนกิ่งแก้วมานิดหน่อย ก็จะเจอป้ายให้ชิดซ้ายเพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ ให้เตรียมตัวชิดซ้ายไว้ แต่ยังไม่ต้องออกตรงนี้นะครับ ก่อนถึงทางออกคู่ขนานจะเจอสนามกอล์ฟ ธนา ซิตี้ ถือว่าเป็นจุดสังเกตที่ดีเลย เตรียมตัวออกทางคู่ขนานได้เลยครับ ถึงล่ะครับทางออก ออกมาแล้วก็ขึ้นสะพานกลับรถได้เลยนะครับ กลับรถมาฝั่งขาเข้าแล้วไม่ต้องไปสนใจป้ายสุวรรณภูมิแล้วนะครับ ตรงมาอีกหน่อยจะเจอตลาดบางโฉลง ค่อนข้างคึกคักทีเดียว เลยจากตลาดบางโฉลงมาก็ใกล้ถึงซอยไพโอเนีย ทางเข้าโครงการแล้วนะครับ สังเกตข้างทางจะมีป้ายบอกอยู่ ถึงแล้วครับซอยไพโอเนีย มีป้ายโครงการบอกอยู่ชัดเจน รับรองไม่ผิดซอยแน่นอน เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ บรรยากาศภายในซอย จากปากซอยเข้ามาประมาณ 200 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ ตัวสำนักงานขายจะตั้งอยู่ที่หน้าสถานที่ก่อสร้างโครงการเลยนะครับ บริเวณหน้าปากซอยไพโอเนียร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ Le Baroque อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มด้วยนะครับ ในอนาคตถ้ามีการก่อสร้างรถไฟฟ้าขึ้น สถานีที่คาดว่าน่าจะใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดก็คือ สถานีบางโฉลง โดยทางโครงการก็เตรียมให้บริการรถรับส่งแบบมีค่าใช้จ่ายไว้ล่วงหน้าแล้วครับ ซึ่งลูกบ้านของโครงการก็จะเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยช่วงแรกให้บริการจากโครงการไปถึง BTS สถานีบางนา ถ้าหากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาถึงก็จะขยายบริการไปด้วย ส่วนในปัจจุบันนอกจากการเดินทางด้วยรถส่วนตัวแล้ว ก็มีรถประจำทาง รถตู้วิ่งผ่านบริเวณปากซอยหลายสาย โดยเฉพาะบริเวณตลาดบางโฉลงก็จะเป็นจุดจอดรถ และเป็นคิวรถหลายสายเหมือนกันครับ ถือว่ายังสามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวกถึงแม้จะไม่มีรถส่วนตัวก็ตาม วิเคราะห์รอบโครงการ ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งของโครงการ Le Baroque อยู่บนถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้านะครับ และในบริเวณนี้ก็ใกล้กับแหล่งชุมชมพอสมควรเลยเลยทีเดียว อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อยู่ใกล้ทั้ง ตลาดบางโฉลง ซึ่งน่าจะเป็นที่พึ่งหลักๆ ในการจับจ่ายอาหารสด มีโรงพยาบาลเซ็นทรัลปาร์คอยู่ในบริเวณเดียวกัน นอกจากนี้พื้นที่รอบๆ ก็ยังมีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่าง Mega บางนา, IKEA, Big C หรือถ้าใกล้เข้ามาหน่อยก็จะมี Market Village, Home Pro, Tesco Lotus บริเวณใกล้แยกกิ่งแก้วซึ่งรวมร้านค้า ร้านอาหารดังๆ ไว้เยอะไม่แพ้ห้างในเมืองเลยครับ และบริเวณนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีร้านรวงเยอะแยะบรรยากาศจึงคึกคักมากๆ ในขณะที่ถนนด้านขาออกฝั่งตรงข้ามยังมี Macro บางพลี อีกแห่งที่สามารถไปจับจ่ายซื้อของได้ เรียกได้ว่าถ้าไม่อยากออกไปไหนไกลๆ จากที่พัก ก็ไม่ต้องกลัวอดครับ นอกจากนี้ ในรัศมีรอบๆ โครงการยังมีสถาบันการศึกษาชื่อดังแวดล้อมอีกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยหัวเฉียว มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา และ American School of Bangkok ครอบครัวไหนที่มีลูกๆ อยู่ในวัยเรียนก็หายห่วงเรื่องต้องเรียนไกลบ้านไปได้หน่อย โครงการ Le Baroque ประกอบไปด้วยอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น ทั้งหมด 5 ตึกด้วยกัน แต่ละตึกจะมีห้องชุดจำนวน 76 ยูนิต รวม 380 ยูนิต โดยที่อาคารพักอาศัยทั้ง 5 ตึกนึ้ จะล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ซึ่งประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาว 70 เมตร, สระจากุชซี่, ห้องออกกำลังกาย, อาคารสโมสร และสวนขนาดใหญ่ระหว่างอาคารพร้อมลู่วิ่ง ยังมีที่จอดรถบริเวณชั้นใต้ดินที่ขายกรรมสิทธิ์ตามเงื่อนไขการซื้อขายห้องชุด คีย์การ์ด ระบบรักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการ Shuttle Bus แบบมีค่าใช้จ่ายที่จะมีตามมาในอนาคต เรียกว่าทางโครงการมีการจัดเตรียม Facility ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านครบครันเลยทีเดียว โมเดลจำลองของอาคาร B ซึ่งเป็น 1 ใน 2 อาคาร ที่เริ่มก่อสร้างก่อนอาคารอื่นๆ และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้ง 2 อาคารในปลายปี 59 นี้ อาคาร B จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ที่อยู่ตรงกลางโครงการ สระว่ายน้ำความยาว 70 เมตร ที่วางอยู่ตรงกลางโครงการ เชื่อมต่อตั้งแต่หน้าโครงการยาวเข้าไปด้านใน ภาพ Perspective ของสระว่ายน้ำความยาว 70 เมตร ที่วางอยู่กลางโครงการ สวนสีเขียวที่มีขนาดเท่าๆ กับสระว่ายน้ำ จะเชื่อมต่อจากสระว่ายน้ำ ยาวเข้าไปจนถึงท้ายโครงการ ชั้นใต้ดินจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไป แต่ละขั้นจะมีห้องพักอาศัย 11 ยูนิต รวมทั้งอาคารจะมีทั้งหมด 76 ยูนิต ไซต์ก่อสร้างอยู่ด้านหลังสำนักงานขาย เริ่มก่อสร้างแล้ว 2 อาคาร กำหนดการแล้วเสร็จสิ้นปี 59 นี้ นอกเหนือจาก Facility ที่จัดเต็มมาแล้ว ในส่วนของการออกแบบตัวอาคารรวมถึงการตกแต่งส่วนต่างๆ ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากพระราชวังแวร์ซาย การตกแต่งภายนอกจึงดูหรูหราคลาสสิคในสไตล์บารอค (Baroque) พิเศษด้วยระบบการก่อสร้างแบบ Precast Concrete Panel ผนังคอนกรีตหล่อสำเร็จซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของสี่พระยากรุ๊ป ที่มีการออกแบบให้ผนังมีลวดลายสวยงามในตัว มีความแข็งแรง ทนทาน ปราศจากปัญหาผนังร้าว และรั่วซึม ที่สำคัญตัวผนัง Precast แบบใหม่นี้ ยังสามารถผ่านการทดสอบการทนไฟได้นานกว่าที่มาตรฐานกำหนด (2 ชั่วโมง) อีกทั้งปิดทับผิวหนังภายในด้วยแผ่นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบเพิ่มความเรียบเนียนสวยงามให้กับผนังและยังช่วยในเรื่องการเก็บเสียงจากภายในห้อง และลดเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าสำคัญมากๆ ยิ่งตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิไม่ไกล จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อาจได้ยินเสียงรบกวนจากเครื่องบินที่ขึ้นลงวันละหลายเที่ยว ในช่วงที่ผมเข้าไปดูห้องตัวอย่างที่โครงการ ต้องขอชมเลยครับว่าภายในห้องเงียบกว่าที่คิดไว้มากๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องบิน หรือเสียงก่อสร้างจากภายนอกเลย ข้อดีของผนัง Precast ตัวใหม่จากสี่พระยากรุ๊ปตัวนี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้นจริงๆ ครับ และด้วยความที่เจ้าของโครงการมีโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง เป็นเจ้าของนวัตกรรมใหม่ๆ อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างมาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้จึงถูกคัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นผนัง Precast ตัวใหม่ล่าสุดที่เราได้กล่าวถึงไปแล้ว ประตูห้องพักที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ มีความแน่นหนา ช่วยเก็บเสียง รวมถึงตัวห้องน้ำภายในห้องที่ใช้ห้องน้ำสำเร็จรูปมาตรฐานเดียวกับคอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ๆ ในตลาด และวัสดุตัวอื่นๆ ที่ใช้แต่ของดีระดับท็อปเกรดแทบทั้งสิ้น นับว่าเป็นโครงการที่รวมของที่ดีที่สุดที่ทางสี่พระยากรุ๊ปมีมาไว้ที่นี่ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงห้องตัวอย่างของโครงการ Le Baroque กันแล้วครับ ทางโครงการมีห้องแบบ 1 Bedroom เท่านั้นนะครับ แต่จะต่างกันที่ขนาดห้อง และ Layout ที่ต่างกันไปตามตำแหน่งของห้อง ซึ่งห้องทั้งหมดจะขายแบบ Fully Furnished ซึ่งหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้ก็เหมือนแบบในห้องตัวอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นชุดโซฟา ชั้นวางทีวี เตียง ตู้เสื้อผ้า ชุดครัว พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้เรียบร้อย ฯลฯ เจ้าของห้องแค่หาซื้อข้าวของจำเป็นอีกนิดหน่อยเท่านั้น เราไปดูห้องตัวอย่างกันดีกว่าครับ เริ่มต้นที่ห้องแรก เป็นห้องขนาดประมาณ 30.70 ตารางเมตร มีการจัดวาง Layout ไว้ค่อนข้างดีเลยนะครับ แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.70 ตารางเมตร เริ่มต้นกันที่ประตูห้องก่อนเลยนะครับ ประตูห้องของที่นี่จะได้เป็นบานทึบ วงกบประตูจะเป็นอลูมิเนียมซึ่งจะช่วยใช้ปิดได้สนิทมายิ่งขึ้น และยังช่วยเก็บเสียงได้ดีด้วยครับ เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนนะครับ ฝ้าเพดานเล่นระดับส่วนสูงสุดฝ้าสูงถึง 2.65 เมตร โซฟาที่โครงการวางมาให้จะเป็นแบบ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง แต่จริงๆ แล้วจะวางโซฟาใหญ่กว่านี้ก็ได้นะครับ เพราะยังมีที่เหลืออีกพอสมควร ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีถือว่ากว้างเลยนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ ชั้นวางทีวีโครงการการก็จัดมาให้เรียบร้อย ถัดจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน ซึ่งจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน ซึ่งทุกบานสามารถเลื่อนได้ จึงเลือกที่จะเลื่อนเปิดปิดได้ทุกทางเลยครับ โครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้นะครับ ทำให้พื้นที่รอบๆ เตียงยังเหลือให้วางโต๊ะข้างได้ หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ ด้านปลายเตียงเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า 2 บาน ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอนด้วย อาจจะต้องใช้แบบแขวนผนังแทน จากห้องนอนข้ามมาอีกฝั่งมาดูห้องน้ำกับห้องครัวที่อยู่เชื่อมต่อกัน ตรงนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้ด้วยนะครับ เพื่อไม่ให้กลิ่นจากการปรุงอาหารลอยเข้าไปในห้องนอน และ Living Area เรามาดูห้องครัวที่อยู่ทางซ้ายกันก่อน เคาน์เตอร์ครัวจะได้ขนาดประมาณนี้นะครับ ท็อปเป็นลามิเนตสีขาว ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ ซิงค์ล่างจานทรงสีเหลี่ยมอยู่ติดกับตู้เย็น เตาไฟฟ้า 2 หัวของ MEX หรือเทียบเท่า มาพร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านบนเป็นตู้เก็บของ พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ด้านหลังเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ต่อจากครัวออกไปด้านนอกจะเป็นระเบียงเล็กๆ มีคอมเพรสเซอร์แอร์แขวนอยู่ด้านนอก พื้นที่ระเบียงจะไม่ใหญ่มากนะครับ แต่ก็พอจะมีพื้นที่ให้ใช้งานได้ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่ระเบียงใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ตรงนี้นะครับ ราวกันตกจะเป็นคอนกรีตปั้มลายแบบนี้มาจากโรงงานเลยนะครับ ซึ่งความแข็งแรงทนทานนั้นถือว่าหายห่วง กลับมาดูฝั่งห้องน้ำกันต่อ สุขภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำจะเป็นของ American Standard หรือเทียบเท่า อ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยม เนื่องจากอ่างล้างหน้าขนาดไม่ใหญ่มาก และมีที่วางของได้ไม่มาก โครงการจึง Built ที่วางของมาให้รอบๆ อ่างล้างหน้าเรียบร้อย พร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว ใกล้ๆ กันจะเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Room ที่มีกระจกเทมเปอร์กั้นมาให้อย่างเป็นสัดส่วน พื้นที่ในส่วน Shower Room ถือว่ากว้างขวางยืนอาบน้ำได้สะดวกดีนะครับ ชุดฝักบัวของ American Standard หรือเทียบเท่า หลังจากชมภาพนิ่งกันมาแล้ว เรามาดูภาพ 360 องศากันบ้างนะครับ จะได้เห็นภาพกว้างๆ ได้ชัดเจนขึ้น ส่วนห้องที่สองจะมีขนาดกว้างขึ้น โดยจะมีขนาดห้องอยู่ที่ประมาณ 41 ตารางเมตร ห้อง Type นี้ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันครับ แปลนห้อง Type A ขนาดประมาณ 41 ตารางเมตร ห้องนี้ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยนะครับ เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วมองตรงไปจะเห็น Living Area เรามาดูด้านขวามือกันก่อน ตรงนี้จะเป็นห้องครัวแบบปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นอยู่ เข้ามาแล้วจะเจอเคาน์เตอร์ครัวแนวยาว คล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้นะครับ แต่ขนาดจะยาวกว่า ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ ช่องวางตู้เย็นจะอยู่ติดกับประตูกระจก ใกล้กับซิงค์ล้างจาน ขยับมาอีกฝั่งจะเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ MEX หรือเทียบเท่า พร้อมกับฮูดดูดควันของ MEX หรือเทียบเท่าเหมือนกันครับ ด้านบนเป็นตู้เก็บของ พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ระเบียงจะอยู่ด้านในติดต่อจากส่วนครัว พื้นที่ระเบียงจะได้ประมาณนี้นะครับ จุดวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่นอกระเบียงตรงนี้ ราวกันตกจะเป็นคอนกรีตปั้มลายเหมือนกันครับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่ด้านบน หัวหน้าเข้าหาระเบียง ออกมาจากห้องครัวจะเจอโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน วางอยู่หน้าห้องครัวพอดี ทำอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสิร์ฟได้เลย ขยับเข้ามาข้างในสุดจะเป็นส่วน Living Area โซฟาที่โครงการวางมาให้จะได้แบบ 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง ติดกับโซฟาจะได้หน้าต่างบานใหญ่เลยนะครับ หน้าต่างส่วนบนจะเป็นบานเลื่อน ส่วนล่างจะเป็นบาน Fix ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กันหน่อยจะเป็นชั้นวางทีวี ชั้นวางทีวีที่โครงการวางมาให้จะได้แบบนี้เลยนะครับ มุมมองจาก Living Area ย้อนกลับออกไปทางประตูห้อง จะเห็นว่าฝ้าเพดานเล่นระดับโดยรอบ ส่วนสูงฝ้าจะสูงถึง 2.65 เมตร จาก Living Area คราวนี้เราเข้าไปดูในห้องนอนกันต่อ ประตูห้องนอนจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้นะครับ เตียงที่โครงการวางมาให้จะได้ขนาด 6 ฟุต เต็มพื้นที่เลยนะครับ แต่ก็ยังพอมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างได้อยู่ ห้อง Type นี้จะเป็นห้องมุมนะครับ จึงมีหน้าต่างที่หัวเตียงให้ด้วย ด้วยความที่เป็นห้องมุมหน้าต่างจึงได้ 2 ด้านแบบนี้ ช่วยให้แสงเข้ามาได้มาก ช่วยประหยัดไฟในตอนกลางวันได้อีกทางนึงด้วยนะครับ หน้าต่างฝั่งข้างเตียงจะได้บานใหญ่เหมือนใน Living Area อีกด้านนึงจะเป็นห้องน้ำ มีตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ด้านหน้าห้องน้ำด้วย ตู้เสื้อผ้าจะได้แบบ 2 บาน เลี้ยวเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อ การจัดวาง Layout และสุขภัณฑ์ที่ใช้จะคล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้ที่เราดูมานะครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard หรือเทียบเท่า กระจกเงาอยู่ที่วางของเหนืออ่างล้างหน้า ตรงมุมห้องใกล้ๆ กับอ่างล้างหน้าจะมีชั้นวางของกระจุกกระจิกให้ด้วย ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ Shower Room จะอยู่ด้านในสุดกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ พร้อมที่แขวนผ้าขนหนู พื้นที่ Shower Room จะไม่ได้เต็มพื้นที่เหมือนห้องเมื่อกี้นะครับ เนื่องจากติดโครงสร้าง ชุดฝักบัวของ American Standard หรือเทียบเท่าเช่นกันครับ   ห้องชุดของ  Le Baroque เหมาะกับอยู่อาศัยกัน 1-2 คน เน้นไปที่กลุ่มคนที่ทำงานในย่านนี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยรอบๆ หรือครอบครัวเล็กมากกว่าการอยู่กันหลายๆ คนนะครับ เพราะห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดเลย ถ้าใครที่กำลังมองหาคอนโดซักห้องไว้อยู่เอง หรือจะไว้ลงทุนก็ดี โครงการนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย ทั้งเรื่องทำเลที่ตั้งที่ยังคงเดินทางได้สะดวกแม้ไม่มีรถส่วนตัว และยังเตรียมพร้อมรอรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในอนาคตได้อีก รวมถึงวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการก็เลือกเกรดเดียวกับคอนโดโครงการใหญ่ๆ ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าเกินราคามากทีเดียวครับ
Life Sukhumvit 48 : รีวิวคอนโด

Life Sukhumvit 48 : รีวิวคอนโด

Life Sukhumvit 48 คอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 19 ชั้นและ 31 ชั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Connect to the next step of Life บนถนนสุขุมวิท 48 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนงเพียง 600 เมตร โครงการใหม่จาก AP รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,490,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    เริ่มต้น 83,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise 2 อาคาร สูง 19 ชั้น และ 31 ชั้น จำนวนห้อง    612 ยูนิต + 1 ร้านค้า (กรรมสิทธิ์ของทาง AP) ที่จอดรถ    ที่จอดรถบนอาคารสูง 9 ชั้น (มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น) พื้นที่โครงการ    3 - 2 - 99 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 48  แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีพระโขนง W District โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท Gateway เอกมัย Major Cineplex เอกมัย Tesco Lotus สุขุมวิท 50 Big C อ่อนนุช ลักษณะห้องและขนาดห้อง เริ่มต้น 1 Bedroom ขนาด 30 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก โถงล็อบบี้ Co Working Space สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้อง Sauna/ห้อง Steam เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV) บริเวณทางเข้า-ออกอาคาร ,ทางเข้า-ออก Lobby ระบบ Card Reader บริเวณประตูเข้า-ออกโถงลิฟท์ Lobby สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.apthai.com
Tropicana@BTS Erawan : รีวิวคอนโด

Tropicana@BTS Erawan : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปดูคอนโด Tropicana Eco Green Condo ในเครือ Origin Property กันครับ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ และจับกลุ่มเป้าหมายหลักไปที่คนในย่านนิคมอุสาหกรรม ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอราวัณ ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวนั่นเอง ขณะนี้ตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนเข้าอยู่ได้แล้ว ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรที่น่าสนใจบ้าง เดี๋ยวเราไปดูพร้อมกันเลยครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ   Origin Property Public Company Limited ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง    363 ยูนิต (อาคาร A มี 197 ยูนิต อาคาร B มี 166 ยูนิต) ที่จอดรถ    ประมาณ 109 คันคิดเป็น 30% (รวมซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    2 - 0 - 57 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนรางรถไฟเก่า ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร การเดินทาง จากแผนที่ของโครงการ Tropicana เราก็จะเห็นได้ว่าตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ตรงข้ามกับแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง “ช้างสามเศียร” เลยนะครับ พอจะทำความเข้าใจเรื่องทำเลได้ไม่ยากครับ แต่การเดินทางจริงในปัจจุบันอาจจะต้องช่างสังเกตุมากหน่อยนะครับ เพราะถนนในบริเวณนี้กำลังปรับปรุง และมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่เป็นส่วนต่อขยายอยู่ ทำให้อาจมีเส้นทางเบี่ยง หรือจุดเลี้ยวกลับรถเปลี่ยนไปมาบ้าง คนที่ไม่ค่อยคุ้นเส้นทางอาจจะงงนิดหน่อยครับ แต่ในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว ชีวิตก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะแน่นอน ถนนสุขุมวิทบริเวณช่วงตั้งแต่ปู่เจ้าสมิงพรายมา จะเป็นแหล่งรวมของโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกที่ถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยรถบรรทุกเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่ที่เราลงทางด่วนบางนาตรงผ่านแบริ่ง แยกเทพารักษ์ และแยกปู่เจ้าฯมาเรื่อยๆ ก็เจอกับรถบรรทุก รถพ่วงมากมายเป็นเรื่องปกติครับ พอมาถึงบริเวณแยกตัดกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ก็เตรียมกลับรถมาที่โครงการ Tropicana ได้เลย จากที่ตั้งของโครงการ ถ้าเราจะเดินทางเข้าเมืองก็จัดว่าสะดวกมากครับ โดยเฉพาะคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จะมีทั้งถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนปู่เจ้าสมิงพรายที่เชื่อมกับสะพานภูมิพล ข้ามมาทางฝั่งพระราม 3 ได้ง่ายๆ รวมถึงถนนเทพารักษ์ ถนนศรีนครินทร์ ก็สามารถเลือกใช้นอกเหนือจากถนนสุขุมวิทที่เป็นถนนสายหลักได้ครับ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ คงจะสามารถใช้รถไฟฟ้า BTS ได้ ซึ่งสถานีเอราวัณก็อยู่ใกล้ๆ โครงการเลยทีเดียว วิเคราะห์รอบโครงการ อย่างที่บอกไปแล้วครับว่า ย่านนี้เป็นเขตอุสาหกรรม โรงงานใหญ่ๆ ทั้งนั้น ที่ใกล้โครงการที่สุดก็โรงงาน Honda และToyota เป็นโรงงานขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว บริเวณโดยรอบจึงไม่ค่อยมีบรรยากาศแบบชุมชนที่อยู่อาศัยซักเท่าไหร่นะครับ ถ้าจะจ่ายตลาด ซื้อข้าวของเครื่องใช้ ก็ต้องเลยไปทางสำโรง หรือไปทางปากน้ำไปเลย จึงจะเป็นย่านชุมชนเก่ามีร้านค้าเยอะหน่อย ถ้าจะหาร้านค้าใกล้ๆ โครงการในระยะเดินสะดวกนี่แทบจะไม่มีเลยนะครับ คุณลูกบ้านโครงการนี้อาจจะต้องมีการเตรียมตัว เตรียมพร้อมเรื่องเสบียงไว้บ้างในบางโอกาส สำหรับโครงการ Tropicana นี้ จะมีความต่างจากคอนโดมิเนียมโครงการอื่นๆ ที่ผ่านมาของ Origin Property หลายส่วนเลยทีเดียว เริ่มจากการชูคอนเซปต์ความเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Eco Green เน้นบรรยากาศธรรมชาติ และความเรียบง่ายแบบ Zen เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุเพื่อลดการใช้พลังงานในอาคาร เช่น การติดตั้ง Solar Cell เลือกใช้หลอดไฟ LED รวมถึงเลือกใช้สีกันความร้อนทาภายนอกอาคาร เป็นต้น เป็นอย่างไรล่ะครับ น่าสนใจขึ้นอีกเยอะเลยใช่มั้ยครับ แต่ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะทางโครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวทั้งบริเวณชั้นล่างรอบโครงการ และพื้นที่เปิดโล่งภายในด้วย โดยจะเน้นบรรยากาศแบบป่า Tropicana ไว้ นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยภายในห้องที่ทางโครงการใส่ใจเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เพื่อการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง เรามาดูที่ผังของโครงการกันบ้างครับ ลักษณะที่ดินของโครงการ Tropicana เป็นแนวลึก มีด้วยกันทั้งหมด 2 อาคาร Low Rise โดยจะให้บริเวณดาดฟ้าชั้น 8 เป็นพื้นที่ Facility ส่วนกลาง ทั้ง สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องฟิตเนส สวนหย่อม และมุมนั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งจะแบ่งกันไว้ในแต่ละอาคารครับ ลูกบ้านทั้งสองอาคารสามารถใช้ร่วมกันได้ ในขณะที่พื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดจะเป็นที่จอดรถ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงตามมาตรฐาน เดี๋ยวเราไปดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยดีกว่า เพราะว่ามีรายละเอียดที่น่าสนใจไม่แพ้กัน พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้ให้ชมมีด้วยกัน 3 แบบนะครับ Type แรกจะเป็นห้องขนาดเล็กสุดคือ 24 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่กระทัดรัด เหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่า Lay out ของห้องจัดไว้ได้ดีเหมือนกัน มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนครับ โดยทางโครงการจะขายห้องมาแบบ Fully Furnished แทบจะพร้อมเข้าอยู่ได้เลย ห้องที่ 2 คือ Type B จะมีขนาดประมาณ 29 ตร.ม. ด้วยขนาดห้องที่เพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในสามารถแบ่งแยกกันได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย ห้อง Type นี้คุณจะได้ห้องครัวแบบครัวปิด ในขณะที่ Living Area และห้องนอนยังคงมีประตูกระจกกั้นพื้นที่ออกจากกันเรียบร้อยครับ ความพิเศษอย่างหนึ่งของห้อง Type นี้คือ ระเบียงและหน้าต่าง Bay Window บริเวณห้องนอนครับ บานกระจกเข้ามุมทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น และช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายตาอีกด้วย แถมด้วยระเบียงกว้างเชื่อมต่อกับฝั่งห้องครัวเลยทีเดียว คราวนี้เรามาดูภาพ 360 องศาของห้องนี้กันบ้างนะครับ จะได้เห็นภาพรวมของห้องได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA มาถึงห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายแล้วครับ ซึ่งทางโครงการตั้งชื่อเป็น Type B Plus มีขนาดห้องที่ 36 ตร.ม. ห้องนี้จะมีความโดดเด่นกว่าห้องอื่นๆ ตรงที่ Layout ภายในถูกเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้สอยให้มากขึ้นด้วยห้องเอนกประสงค์ ที่สามารถจัดสรรให้เป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว ห้องเก็บของ หรือแม้กระทั้งเป็นห้องนอนเล็กอีกห้อง ได้ตามแต่ความต้องการเลยครับ Pentry ครัวเปิดบริเวณหน้าห้องน้ำอาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับคนชอบทำอาหาร แถมยังเป็นครัวเปิดอีกด้วย แต่พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของห้องเอนกประสงค์ดูจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่านะครับ จากไอเดียที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ดูนั้น ถ้าไม่ได้เห็นเองใครจะเชื่อครับว่าห้องขนาด 36 ตร.ม. จะสามารถเป็นแบ่งเป็น 2 ห้องนอน และยังมีพื้นที่โถงกลางเหลืออีกด้วย ห้องทุกห้องของโครงการ Tropicana มีประตู Digital Door Lock ของ Yale ให้ด้วย และขายมาแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in ในโทนสีไม้อบอุ่น รวมถึงเครื่องปรับอากาศครบ ปัจจุบันตัวโครงการก็สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยได้เลยนะครับ อันนี้เป็นข้อดีมากๆ สำหรับคนที่กำลังหาที่อยู่อาศัยที่พร้อมอยู่เลย ยิ่งถ้าต้องทำงานในนิคม หรือโรงงานอุตสาหกรรมแถบนี้อยู่แล้วด้วยก็ยิ่งสะดวกมากๆ ครับ เข้าออกเมืองถ้าไม่อยากใช้รถส่วนตัว รถไฟฟ้า BTS ก็ขึ้นมาเห็นๆ แล้วว่าจะได้ใช้ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน ติดนิดหน่อยแค่เรื่องความอุดมสมบูรณ์ อาหารการกิน ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ขยับห่างออกไปจากตัวโครงการอยู่ซักหน่อยเท่านั้นเอง Tropicana นี้ค่อนข้างตอบโจทย์คนทำงานในย่านนี้ดีทีเดียว ซึ่งอาจจะไม่ใช้ห้องพักอาศัยที่เป็นที่อยู่หลัก แต่จับจองไว้เพื่อความสะดวกสำหรับวันทำงานที่ไม่อยากเสียเวลาเดินทางฝ่าการจราจรไกลๆ รวมถึงการลงทุนไว้เพื่อปล่อยเช่าให้กับคนทำงานในย่านนี้ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยนะครับ ส่วนจะเลือกจับจองห้องแบบไหน อันนี้น่าจะลองเข้าไปสัมผัสห้องตัวอย่างและบรรยากาศจริงด้วยตัวเองซักนิดก็ดี จะได้ได้ห้องที่ถูกใจที่สุดครับ
Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา : รีวิวคอนโด

Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา : รีวิวคอนโด

Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา คอนโดมิเนียม สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 534 ยูนิต คอนโดที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ป Modern Luxury ผสมผสานความทันสมัยกับความหรูหราอย่างลงตัว พร้อมแต่งแต้มลายเส้นสถาปัตยกรรมให้ได้กลิ่นอาย Vintage ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Notting Hill งานออกแบบตกแต่งภายใน รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ เลือกใช้โทนสีน้ำตาล ดำ เทา มาเป็นธีมหลักในการตกแต่งเพื่อถ่ายทอดบรรยากาศแห่งความหรูหราทันสมัย รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,790,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 70,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    534 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 37.3% เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 0 - 67 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ถ.สุขุมวิท ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230 (ตรงข้าม ม. เกษตร) เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 3 ปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 4 ปี 2018 สถานที่สำคัญใกล้เคียง Robinson Sriracha ตึกคอม Habour Mall J-Park Leam Cha Bang Industrial Estate SAHA Group Kasetsart University Sriracha Campus Assumption College Sriracha Campus ลักษณะห้องและขนาดห้อง B1  1 Bedroom ขนาด 26.50 ตารางเมตร B1 - 02  1 Bedroom ขนาด 26.60 ตารางเมตร B2  1 Bedroom (studio) ขนาด 25.70 ตารางเมตร BP1 - 01  1 Bedroom Plus ขนาด 32.20 ตารางเมตร BP1 - 02  1 Bedroom Plus ขนาด 32.60 ตารางเมตร BP2  1 Bedroom Plus ขนาด 45.00 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby lounge Meeting room / Laundry Service Sky lounge Fitness Swimming Pool Garden / Roof Garden สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 084-902-0009, email : thanwalai.k@origin.co.th ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  nottinghill.origin.co.th  
รีวิวคอนโด ริมแม่น้ําเจ้าพระยา “The Residences@Mandarin Oriental, Bangkok”

รีวิวคอนโด ริมแม่น้ําเจ้าพระยา “The Residences@Mandarin Oriental, Bangkok”

หนึ่งในอภิมหาโปรเจคย่านฝั่งธนฯที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยก็คือ ICONSIAM ซึ่งโครงการ Magnolias Waterfront Residence ที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ได้ถูกจับจองหมดไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงตึกริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกโครงการที่อยู่ในพื้นที่โครงการ ICONSIAM เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ภายใต้ชื่อ “The Residences@Mandarin Oriental, Bangkok” อีกหนึ่งโครงการที่นับว่ามีราคาแพงที่สุดในตอนนี้ก็กว่าได้ เดี๋ยวเราจะพาไปชมบรรยากาศอันหรูหราของห้องตัวอย่างกันครับ รายละเอียดโครงการคอนโด ริมแม่น้ําเจ้าพระยา ราคาเริ่มต้น    ประมาณ 350,000 บาทต่อตารางเมตร เจ้าของโครงการ   บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 52 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     146 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมมาณ 350 คัน พื้นที่โครงการ    ประมาณ 4.9 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2561 ค่าส่วนกลาง    160 บาท/ตารางเมตร ทำเลที่ตั้งโครงการคอนโด ริมแม่น้ําเจ้าพระยา The Residences @ Mandarin Oriental, Bangkok ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการ ICONSIAM เลยนะครับ หลายคนคงจะเริ่มคุ้นหูคุ้นตากับ ICONSIAM กันบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ถ้าบอกว่าอยู่ตรงย่านคลองสานคงร้องอ๋อกันทุกคนแน่นอน พื้นที่ของโครงการกินบริเวณกว้างจากริมถนนเจริญนคร ลึกไปถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว กินอาณาบริเวณทั้งหมดก็ 50 ไร่ โดยโครงการ The Residences @ Mandarin Oriental, Bangkok จะเป็นอาคารสูง 52 ชั้น อยู่ในโซนริมแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ สามารถเดินทางเข้าออกได้จากทางฝั่งถนนเจริญนคร จะข้ามมาจากสะพานตากสิน สะพานกรุงเทพ หรือจะเดินทางทางเรือก็ได้เช่นกัน แผนที่ของโครงการคอนโด ริมแม่น้ําเจ้าพระยา แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางในวันนี้เราเริ่มบริเวณถนนสาทรกันเลยนะครับ จากถนนสาทรเราตรงไปขึ้นสะพานตากสินตามป้าย ตรงขึ้นสะพานตากสินไปเลยครับ จะเห็นสถานี BTS สะพานตากสินอยู่ทางขวามือ พอถึงทางลงสะพานให้ชิดซ้ายไปทางถนนเจริญนครตามป้ายนะครับ ลงสะพานมาแล้วตรงไปอีกหน่อยจะเจอสามแยกตัดถนนเจริญนคร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ถนนเจริญนคร เลี้ยวซ้ายมาแล้วคราวนี้ตรงยาวเลยครับ ตรงมาเรื่องๆ จะเห็นสถานที่ก่อสร้างโครงการ ICONSIAM อยู่ฝั่งขวามือ เตรียมตัวเลี้ยวได้เลยครับ ทางเข้าสำนักงานขายจะมีป้ายโครงการบอกอย่างชัดเจน ทางเข้าสำนักงานขาย บรรยากาศรอบๆ สำนักงานขายจะอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร CAT Tower   ภาพรวมโครงการ The Residences @ Mandarin Oriental, Bangkok เป็นโครงการที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ “แมนดาริน โอเรียนเต็ล” โครงการแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยยกเอามาตรฐานความหรูหราของแบรนด์ระดับโลกมาไว้ในโครงการด้วย เริ่มต้นจากการออกแบบตกแต่งภายในด้วยฝีมือของดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Joyce Wang ทำให้ได้กลิ่นอายหรูหราในสไตล์ “แมนดาริน โอเรียลเต็ล” ในทุกๆ ตารางนิ้วของห้อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ พรมปูพื้น การจัดไฟภายในห้อง ฯลฯ อย่างที่บอกไปแล้วว่าโครงการ The Residences @ Mandarin Oriental, Bangkok เป็นอาคารสูง 52 ชั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ มียูนิตรวมทั้งหมดเพียง146 ยูนิตเท่านั้น โดยจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น และทุกยูนิตจะมีลิฟท์ส่วนตัวจอดถึงหน้าห้อง เน้นถึงความเป็นส่วนตัวสูง โครงการนี้ทาง Mandarin Oriental ชูจุดเด่นด้วยบรรยากาศการพักอาศัยแบบ Super Luxury ที่เจ้าบ้านทุกยูนิตจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ตามแบบมาตรฐาน Mandarin Oriental ไม่ว่าจะเป็น 24 hour Concierge Services, 24 hour Doorman, 24 hour Car Valet, 24 hour Security รวมถึงบริการอื่นๆ เช่น สิทธิประโยชน์พิเศษจากการได้เป็นสมาชิก Residences Elite Programme ของ Mandarin Oriental ซึ่งครอบคลุมทั่วโลก และสิทธิพิเศษสำหรับการช้อปกับร้านค้าภายในโครงการ ICONSIAM ฯลฯ นอกจากนี้ ภายในโครงการ The Residences @ Mandarin Oriental, Bangkok ยังจัดเตรียม Facility ต่างๆ ที่จะตอบสนองการอยู่อาศัยในรูปแบบที่หรูหราเหนือระดับไว้อีกมากมาย เช่น The Chao Phraya Lounge  The Mandarin Gallery  River Terrace  Outdoor Infinity Swimming Pool & Jacuzzi  Poolside Barbecue Terrace  Garden Loft  Golf Simulator & Virtual Game Room  Game Room  Private Fitness & Wellness Studio  Stream Room & Sauna  Separate Female and Male Changing Rooms  Children's Pool  Children's Playroom  Playground  Garden Loft พวก Facility เด่นๆ จะถูกรวมไว้ที่บริเวณชั้น 4-5 นะครับ ส่วนที่ชั้น 36 จะเป็น Sky Pavillion ซึ่งประกอบไปด้วย The Oriental Salon  Siam Salon  Lotus Business Suite  The Library และที่ลืมพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ บริการจอดรถด้วยระบบอัตโนมัติ ที่เราสามารถจอดรถทิ้งไว้ที่ล็อบบี้ทางเข้าได้เลย แล้วจะมีลิฟท์อัจฉริยะช่วยอำนวยความสะดวกในการนำรถไปจอดให้ ซึ่งสามารถรองรับได้มากถึง 350 คันเลยทีเดียว โมเดลจำลองของโครงการ ICONSIAM ทั้งโครงการ ด้านซ้ายมือตึกสูงจะเป็นโครงการ Magnolias Waterfront Residences ส่วนตึกด้านขวามือคือโครงการ The Residences@Mandarin Oriental, Bangkok โมเดลจำลองสระว่ายน้ำของโครงการ ระบบจอดรถอัจฉริยะช่วยจัดการให้จอดรถได้ทั้งหมด 100% ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปนะครับ ที่ชั้น 6-42 จะมีชั้นละ 4 ห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขึ้นมาที่ชั้น 43-47 จำนวนห้องจะเหลือ 3 ห้องต่อชั้น แบ่งเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องและแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้อง ชั้น 48-49 จะเหลือ 2 ห้องเป็นห้องแบบ Penthouse ขนาด 380 ตารางเมตร ชั้น 50 จะเหลือห้องเดียวเป็นห้อง Penthouse ขนาด 383 ตารางเมตร ห้องพักอาศัยที่อยู่ชั้นบนสุดที่ชั้น 51 และเป็นห้องไซส์ใหญ่สุดของโครงการเป็น Penthouse ขนาด 707.28 ตารางเมตร ในส่วนนี้เป็นเพียงภาพรวมโดยคราวๆ ของตัวโครงการเท่านั้นนะครับ แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายหลักที่รักชอบในแบรนด์ Mandarin Oriental อยู่แล้ว คงจะเชื่อมั่นในการบริหารจัดการต่างๆ ที่จะเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง และคงตัดสินใจได้ไม่ยากเลยในการจับจองเป็นเจ้าของที่พักอาศัยหรูหราซักห้อง จริงมั้ยครับ บรรยากาศภายในห้องชุด เรามาพูดถึงภายในห้องพักอาศัยกันบ้างครับ ขนาดห้องเริ่มต้นของโครงการคือ 128.87 ตารางเมตร ไล่เรียงไปตั้งแต่ห้องแบบ 2 Bedroom, 3 Bedroom, Penthouse ไปจนถึงห้องแบบ Penthouse Duplex ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ 707.28 ตารางเมตร โดยลูกค้าทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อแบบ Fully Fitted หรือจะเป็นแบบ Fully Furnished ครับ ตัวอย่างหน้าตาของวัสดุคุณภาพสูงตามมาตรฐานโครงการ ซึ่งใช้กับห้องทุกยูนิต และสิ่งที่จะได้มาพร้อมห้องก็คือ Private Lift Lobby Custom-design Flooring 2 meters Ceiling Height Floor To Ceiling Window Unparalleled View Walk-in Closet Bespoke Specifications Storage & Wash Area World Class Infrastructure System สำหรับ Option ในการเลือกซื้อห้องแบบ Fully Furnished จะมีความพิเศษอยู่ที่ การตกแต่งภายในทั้งหมดจะถูกออกแบบโดย Joyce Wang นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อก้องโลก ซึ่งเป็นผู้ที่มีผลงานออกแบบดังๆ มากมาย เช่น The Landmark Mandarin Oriental Hotel ในฮ่องกง, Mandarin Oriental London, Xintaindi Penthouse และสำนักงานใหญ่ KHH และยังเพิ่มความพิเศษเฉพาะตัวให้กับเจ้าของห้องด้วยการเพิ่ม Option ในการเลือกชุดสีของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้ด้วยนะครับ  โดยสิ่งที่จะได้เพิ่มเติมมีดังนี้ Loose Furniture Carpets Curtains Wallpaper Tailor-mad Headboards by Fromental of London Lighting Fixtures บริเวณนี้เป็นโถง Private Lift ก่อนจะเข้าไปสู่ห้องพักนะครับ ด้านหน้า Private Lift จะมีตู้สำหรับวางของและเป็นตู้จดหมายไปในตัวด้วย ประตูเข้าห้องพักดีไซน์ไว้ตามแบบฉบับของโรงแรม Mandarin Oriental ประตูจะเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Yale ทุกห้องนะครับ พอเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วจะเจอกับห้องโถงเล็กๆ อีกห้องก่อนเข้าสู่ห้องนอนด้านใน จากห้องโถงบริเวณหน้าประตูจะเป็นทางเดินยาวเข้าไปถึง Living Area ด้านใน แต่ก่อนเข้าไปด้านในเราเข้าไปดูห้องนอนเล็กที่อยู่ห้องแรกด้านขวามือกันก่อนนะครับ ห้องแรกเป็นห้องนอนเล็ก แต่ขนาดก็ไม่ได้เล็กเลยนะครับ เข้ามาในห้องนอนเล็กแล้วจะมีตู้เสื้อผ้า Built in อยู่ด้านซ้ายมือ ตู้เสื้อผ้าที่ Built in ไว้จะเป็นตู้ 3 บาน สูงถึงเพดาน ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้า การตกแต่งห้องน้ำโครงการใช้โทนสีขาวดูสะอาดตา ผนังปูด้วยหินอ่อนสีขาว ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องโมเสค อ่างล้างหน้าหินแท้สีดำทรงสี่เหลี่ยม วางอยู่บนท็อปหินอ่อนสีขาว พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โถสุขภัณฑ์จะใช้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ TOTO Shower Box จะอยู่ด้านในสุด กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์สูงถึงฝ้าเพดาน ที่นั่งสำหรับอาบน้ำใน Shower Box ชุดฝักบัวของ Waterworks พร้อม Rain Shower ที่ติดอยู่ด้านบน ใน Shower Box จะมีหน้าต่างอยู่ด้วยนะครับ ทางโครงการก็ติดม่านกั้นมาให้เรียบร้อย เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อ พื้นที่ในห้องนอนถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ โครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้ ทำให้พื้นที่รอบๆ เหลือเยอะพอสมควร แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ๆ ก็สามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ ด้านบนโครงการดรอปฝ้ามาให้แบบนี้เลยนะครับ ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีเล็กๆ ได้ พร้อมยังมีที่เหลือให้เดินได้สบายๆ หน้าต่างในห้องนอนเล็กจะเป็นบานสูงจากพื้นจนถึงฝ้าเพดาน แต่ไม่สามารถเปิดออกไปด้านนอกได้นะครับ อีกด้านโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ ไว้ติดกับผนังห้อง มุมมองย้อนกลับไปที่หน้าห้อง เดี๋ยวเราไปดูห้องอื่นๆ กันต่อ ออกมาจากห้องนอนเล็กก็จะเจอกับห้องน้ำด้านนอก สุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเหมือนกันห้องน้ำในห้องนอนเล็กเลยนะครับ โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ TOTO แต่จะต่างกันตรงที่การตกแต่ง โดยห้องนี้ผนังจะเป็นภาพวาดแทนหินอ่อนเหมือนห้องน้ำในห้องนอนเล็ก ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะเป็นห้องเก็บเครื่องซักผ้าที่แยกไว้อย่างเป็นสัดส่วน ขยับเข้ามาด้านในอีกหน่อยจะเป็นส่วน Dining Area มีโต๊ะทานอาหารทรงกลมขนาด 4 ที่นั่ง วางอยู่หน้าห้องครัว ห้องครัวจะเป็นแบบปิดนะครับ มีกระจกกั้นอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อไม่ให้กลิ่นจากกระทำอาหารฟุ้งเข้าไปในตัวห้อง ชุดครัวจะใช้แบรนด์ระดับท็อปอย่าง Bulthaup ที่ Built in มาให้เรียบร้อย ภายในตู้เย็นที่โครงการ Built in มาให้ เคาน์เตอร์ครัวเป็นท็อปหิน มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบเซท เตาไฟฟ้าของ Gaggenau ด้านบนเป็นฮูดดูดควันยี่ห้องเดียวกัน ส่วนด้านล่างเป็น Microwave Oven ของ Gaggenau เช่นกัน ฝั่งตรงข้ามจะเป็นเคาน์เตอร์ซิงค์ล้างจานแนวยาว มองออกไปเห็น Living Area ที่อยู่ด้านนอก ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ พร้อมเครื่องล้างจานของ Siemens ต่อจากห้องครัวไปจะเข้าสู่ส่วน Living Area ส่วน Living Area ถือว่าขนาดใหญ่เลยนะครับ อยู่ติดกับระเบียงมองออกไปเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา การตกแต่งหรูหราตามสไตล์ Mandarin Oriental โซฟา L-Shape สีครีมวางอยู่กลางห้องนั่งเล่น ฝั่งชั้นวางทีวี Built in มาให้เรียบร้อย จะใช้ทีวีแบบแขวนผนังหรือตั้งพื้นสามารถเลือกได้ตามใจชอบ พื้นที่ระเบียงบริเวณ Living Area จะกว้างพอสมควรเลยนะครับ สามารถวางเก้าอี้ไว้นั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลย มุมมองย้อนกลับเข้าไปในห้อง จาก Living Area เราเข้าไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อเลยครับ ภายในห้อง Master Bedroom ถือว่ากว้างเลยนะครับ เตียงที่โครงการวางมาให้จะเป็นเตียง King Size พร้อมหัวเตียงแบบในห้องตัวอย่างเลยนะครับ ออปชั่นพิเศษในห้อง Master Bedroom คือภาพหัวเตียงที่สั่งทำพิเศษโดย Fromental of London ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ ตามตัวอย่างข้างต้น ปลายเตียงโครงการวางชั้นวางทีวีเล็กๆ มาให้ พร้อมเก้าอี้อาร์มแชร์ที่สามารถเลือกสีได้ 3 แบบ ระเบียงภายในห้องจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงถึงฝ้าเพดาน พื้นที่ระเบียงจะเชื่อมต่อไปถึง Living Area ราวกันตกจะเป็นกระจกเทมเปอร์ใส กลับมาดูด้านในห้องต่อ ข้างเตียงอีกด้าน โครงการจัดเป็นโต๊ะทำงาน พร้อมชั่นวางของ Built in ติดกันเป็น Walk in Closet ก่อนเข้าไปที่ห้องน้ำ ที่ผนังจะ Built in เป็นตู้เสื้อผ้ายาวไปจนถึงห้องน้ำ พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ตรงหน้าห้องน้ำพอดี ประตูทางเข้าห้องน้ำจะเป็นบานเลื่อนสีทองขนาดใหญ่ 2 บาน เลื่อนเข้าหากัน ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom จะได้ขนาดใหญ่เลยนะครับ แยกออกเป็น 2 ฝั่ง ตกแต่งด้วยหินอ่อนทั้งที่พื้นและผนัง มีอ่าง Jacuzzi วางอยู่ตรงกลาง โถสุขภัณฑ์และ Shower Box จะแยกกันอยู่คนละฝั่ง ด้านหน้าห้องน้ำทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มุมมองจากห้องน้ำย้อนกลับออกไปด้านนอก จะเห็นอ่างล้างหน้าอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง เลยเข้ามาด้านในจะเป็นอ่าง Jacuzzi วางอยู่ตรงกลาง ติดกับหน้าต่าง ติดกับ Jacuzzi มีหน้าต่างให้ชมวิวระหว่างนอนแช่น้ำสบายๆ โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ TOTO จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ แยกไว้เป็นสัดส่วน มีประตูกระจกกั้น ส่วน Shower Box จะอยู่ฝั่งขวามือ พื้นที่ Shower Box จะใกล้เคียงกับของห้องนอนเล็ก ชุดฝักบัวของ Waterworks เหมือนเดิมครับ ด้านบนเป็น Rain Shower คราวนี้เรามาดูภาพแบบ 360 องศาของส่วนต่างๆ ภายในห้องกันบ้างนะครับ จะได้เห็นภาพของห้องแบบชัดๆ Click to play Click to play Click to play   ถึงแม้ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรของโครงการ The Residences @ Mandarin Oriental, Bangkok จะสูงถึง 350,000 บาท แต่ก็เชื่อได้ว่า ความพิเศษของโครงการที่โดดเด่นทั้งทำเลที่ตั้ง และชื่อเสียงของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่าง Mandarin Oriental  คงจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าเจ้าบ้านทุกยูนิตจะได้รับการบริการที่หรูหราขั้นสุด สมกับความเป็นคอนโดระดับ Super Luxury อย่างแน่นอน และคงหาโครงการอื่นมาเทียบได้ยากมากนะครับ สามารถติดต่อนัดหมายเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่ 02-118-2211 คอนโด ริมแม่น้ําเจ้าพระยา โครงการอื่นๆ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน The Politan Rive The Politan Breeze
Wynn Condo พหลโยธิน 52 : รีวิวคอนโด

Wynn Condo พหลโยธิน 52 : รีวิวคอนโด

Wynn Condo พหลโยธิน 52 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร ในซอยพหลโยธิน 52 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวสถานีสะพานใหม่เพียง 300 เมตร โครงการใหม่จาก Asset Wise รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ   Asset Wise Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวนห้อง    275 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 115 คัน คิดเป็น 42% (รวมจอดซ้อน) พื้นที่โครงการ    2 - 0 - 16 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาส 3 ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาส 3 ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้าสถานีสะพานใหม่ 300 เมตร Big C สะพานใหม่ Central รามอินทรา ตลาดสะพานใหม่ โรงพยาบาล เซ็นทรัล เยนเนอรัล มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22.83 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 23.47 - 26.50 ตารางเมตร 1 Bedroom Extra ขนาด 24.89 - 33.79 ตารางเมตร 1 Bedroom Exclusive ขนาด 27.26 - 34.92 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 33.86 - 49.14 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 50.31 - 54.49 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Double Volume Lobby Library Swimming Pool Grill Bar Chill Out Area Loft Landscape Co-Working Space Pool-Viewed Fitness Starlight Terrace Greenery Zone Sky Yoga Deck ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 087-414-5252 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.wynn-condo.com
Noble BE19 : รีวิวคอนโด

Noble BE19 : รีวิวคอนโด

หลังจากที่พาไปดูบรรยากาศบริเวณรอบๆ โครงการ Noble BE19 กันไปในรีวิวทำเลฉบับก่อนหน้าแล้ว รีวิววันนี้เราจะมาเปิดห้องตัวอย่าง โชว์รายละเอียดของโครงการ Noble BE19 กันครับ เพราะเพิ่งจะเปิดตัวโครงการอย่างเต็มรูปแบบกันไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง เราเลยเก็บภาพห้องตัวอย่างมาให้ได้ชมกันอย่างจุใจ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     6,200,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise 2 อาคาร สูง 27 ชั้นและ 48 ชั้น จำนวนห้อง    586 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    3 - 2 - 95 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ   ทำเลและการเดินทาง ทางทีมงานได้ทำรีวิวทำเลของโครงการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว สามารถดูการเดินทางอย่างละเอียดได้จากลิ้งค์นี้นะครับ สำรวจทำเล Noble BE19 ขอเกริ่นเรื่องทำเลที่ตั้งกันแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับ ตัวโครงการ Noble BE19 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19 บนที่ดินเดียวกันกับโครงการ Noble Recole นั่นแหละ แต่ Noble BE19 จะพิเศษกว่าตรงที่มีทางเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งสุขุมวิท 19 และสุขุมวิท 15 ซึ่งนับระยะห่างจากปากซอยมาถึงทางเข้าโครงการก็มีระยะพอๆ กันที่ 500 เมตรเท่านั้น จุดเด่นสำคัญของถนนในซอยสุขุมวิทย่านนี้คือ มีเส้นทางลัดเลาะไปมาได้หลายเส้น จะทะลุออกถนนสายหลักๆ ได้หลายทาง ทั้งถนนเพชรบุรี อโศก นานา ทองหล่อ เอกมัย สามารถศึกษาเส้นทางเพิ่มเติมกันได้นะครับ แต่ถ้าไม่อยากใช้รถส่วนตัว บริเวณปากซอยสุขุมวิท 19 ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง Interchange ที่สำคัญของระบบรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT หรือถ้าขยับขึ้นไปอีกนิด ก็ยังมี Airport Rail Link สถานีมักกะสันอีกด้วย การเดินทางในแถบนี้จึงแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวให้ต้องเสียเวลากับรถติดเลย ทางเข้าสำนักงานขายโครงการ นอกจากเรื่องการเดินทางแล้ว บรรยากาศของย่านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งใน CBD ที่สำคัญ บนถนนสุขุมวิทเรียงรายไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรมระดับ 5 ดาว และแน่นไปด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Terminal 21, Robinson, Emporium, Em Quartier, Emsphere แถมด้วยห้างในเครือ Central ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วย ทั้ง Central Embassy, Central ชิดลม ในขณะที่สถานศึกษาใหญ่ๆ ก็รายล้อมอยู่รอบๆ โครงการ Noble BE19 อีกเพียบ เช่น โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, โรงเรียนนานาชาติ NIST หรือแม้แต่โรงเรียนสายน้ำผึ้งเองก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเช่นกัน และที่ลืมพูดถึงไม่ได้ก็คือ เรื่องของพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้โครงการ Noble BE19 มากถึง 3 แห่งด้วยกันคือ สวนเบญจสิริ, สวนเบญจกิตติ และสวนชูวิทย์ เช่นเดียวกันกับโรงพยาบาลเอกชนระดับมาตรฐานก็มาเต็มทั้ง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลสมิตเวช, โรงพยาบาลคามิลเลี่ยน และโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น สรุปสั้นๆ ได้ว่า ศักยภาพของทำเลในย่านนี้มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะระยะหลังมานี้ โครงการคอนโดใหม่ๆ ในโซนสุขุมวิทตอนต้นก็เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้น ในขณะที่ที่ดินทำเลดีๆ ก็เหลือน้อยเต็มที พอมีโครงการเด่นๆ หน่อยจึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกจับจองกันหมดอย่างรวดเร็ว ภาพรวมของโครงการ ทีนี้เรามาดูรายละเอียดของโครงการ Noble BE19 กันบ้างดีกว่าครับ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร แบ่งเป็น Tower A สูง 48 ชั้น และ Tower B สูง 27 ชั้น ตำแหน่งห้องส่วนใหญ่จะหันไปทางแนวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก ซึ่งวิวทั้งสองด้านก็จะแตกต่างกันออกไปครับ ทางด้านทิศเหนือจะเด่นด้วยวิวพื้นที่สีเขียวสบายตากว่า ด้วยพื้นที่ของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ส่วนด้านทิศใต้ก็จะเป็นวิวแบบ City View มีแสงสีสวยกว่าในช่วงค่ำๆ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะครับ ภาพมุมสูงของโครงการจากชั้นที่ 27 ด้านทิศเหนือจะหันไปทางโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ซึ่งจะเทควิวได้กว้างกว่าด้านอื่นๆ เนื่องจากไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิว ขยับมาทางด้านทิศตะวันออกจะหันไปทางซอยสุขุมวิท 19 ได้วิวทางฝั่งถนนอโศกมนตรี ด้านทิศใต้จะได้วิวฝั่งถนนสุขุมวิท จะสังเกตเห็น Terminal 21 จะไม่ไกล ส่วนทิศตะวันตกจะหันไปทางซอยสุขุมวิท 15 ได้วิวฝั่งนานาไปจนถึงเพลินจิต เรื่อง Facility ทางโครงการ Noble BE19 จัดมาแบบเต็มที่เลยทีเดียว ตัวโครงการมี 2 อาคาร ดังนั้นตัว Facility จึงมีอยู่ทั้ง 2 อาคาร ทั้งนี้ลูกบ้านสามารถใช้งานร่วมกันได้ English Contemporary Lobby Semi Outdoor Lobby Lobby Lounge Swimming Pool (Lap Pool) Sky Jacuzzi and Reclining Pool Recreation Area Sauna Steam Fitness + Sky Fitness Sky Lounge Sky Game Room Laundry Room BBQ Are Playground Meeting Room กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง ระบบ Access Control ด้วย Key Card เข้า-ออกอาคาร และพื้นที่จอดรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โมเดลจำลองของโครงการ ภาพ Perspective ของ Lobby โมเดลจำลองให้เห็นภาพสระว่ายน้ำ และลานบาร์บีคิว ที่อาคาร A กันแบบชัดๆ ภาพ Perspective สระว่ายน้ำที่อาคาร A Sky Fitness บนชั้น 44 พาชมห้องตัวอย่าง ถึงเวลาเปิดห้องตัวอย่างกันแล้วครับ โดยเราขอเปิดกันด้วยห้อง Highlight ของโครงการ Noble BE19 กันเลย นั่นก็คือห้องแบบ 1 Bedroom ที่ขนาด 50.21 ตารางเมตร ซึ่งห้องมีขนาดกว้างขว้างกว่าห้องแบบ 1 Bedroom ทั่วไปในท้องตลาด และยังโปร่งสบายตาด้วยฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ทางโครงการขายมาให้แบบ Fully Fitted มีชุดครัว Built-in พร้อม Microwave Oven, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาเรียบร้อยครับ พอเปิดประตูเข้ามาก็จะเห็นบรรยากาศห้องที่โล่งโปร่งสบายตามากๆ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยภาพในห้องที่กว้างมากๆ แถมยังมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงจรดเพดาน ที่สูงถึง 3.20 เมตร ทำให้ห้องนี้เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ด้วย แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 50.21 ตารางเมตร ประตูห้องจะใช้ Digital Door Lock ของ Hafele เข้ามาในห้องแล้ว มองตรงผ่านโต๊ะทานอาหารไปจะเป็นส่วน Living Area พอหันมาด้านซ้าย จะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ที่โครงการจัดชุดครัวมาให้แบบนี้เลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูป L ออกมาด้านนอก มีซิงค์ล้างจาน 1 หลุม พร้อมกันพื้นที่จัดเตรียมอาหารข้างๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวางเครื่องซักผ้า และตู้เก็บของ ขยับมาอีกด้านจะเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex ด้านบนเป็นฮูดดูดควันของ best ส่วนด้านล่างเตาไฟฟ้าโครงการจะ Built-in Microwave Oven ของ Smeg มาให้ด้วย ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัว โครงการจะเว้นเป็นช่องวางตู้เย็นไว้ให้นะครับ พร้อมกันตู้เก็บของรอบๆ ตู้เย็นด้วย จากครัวเข้าไปด้านใน จะมีโต๊ะทานอาหารวางคั่นอยู่ก่อนถึง Living Area ตรงนี้โครงการไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ วางให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ บริเวณ Living Area ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ นอกจากจะวางโซฟาและชั้นวางทีวีแล้ว ด้านหลังยังมีที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานได้อีกด้วย ระเบียงบริเวณ Living Area จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน อีก 1 บานจะเป็นบาน Fix สูง 3.20 เมตร สูงกว่าเพดานห้องนิดหน่อย เพราะเพดานห้องจะดรอปลงมาประมาณ 20 ซม. เพื่อซ่อนรางม่าน พื้นที่ระเบียงจะกว้างประมาณ 55 ซม. คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียงนี่แหละครับ หันออกนอกอาคาร มี Gill เหล็กกั้นอย่างเป็นสัดส่วน เรากลับเข้ามาที่ด้านใน เดี๋ยวเข้าไปดูในห้องนอนกันต่อครับ ภายในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดู ถือว่ากำลังพอดีเลยนะครับ แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่จะจัดเตียง King Size เลยก็ยังได้นะครับ เพราะขนาดห้องค่อนข้างกว้างพอสมควร ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ส่วนระเบียงในห้องนอนขนาดจะเท่่าๆ กับระเบียงที่ Living Area เลยนะครับ อีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าไว้หน้าทางเข้าห้องน้ำ ภายในห้องน้ำจะปูกระเบื้องลายหินอ่อน ทั้งพื้นและผนังห้อง โถสุขภัณฑ์ของ Kasch วางอยู่ทางซ้ายมือ อ่างล้างหน้าจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่สูงถึงเพดาน และมีเคาน์เตอร์วางของข้างๆ อ่างล้างหน้าด้วย ส่วน Shower Box จะอยู่ทางขวามือ แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ชุดฝักบัวของ Grohe ที่มีฟังก์ชั่นปรับระดับสายน้ำได้หลายระดับ ในห้องน้ำจะมีระเบียงให้ด้วยนะครับ พื้นที่กะทัดรัดเหมาะกับการจัดสวนเล็กๆ ไว้ชมเวลาอาบน้ำ หลังจากดูส่วนต่างๆ ของห้องมาเรียบร้อยแล้ว ครวามนี้เรามาดูภาพกว้างๆ แบบ 360 องศา กันบ้างดีกว่าครับ จะได้เห็นภาพห้องที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น   ส่วนห้องถัดมาจะเป็นของแบบ 2 Bedroom ขนาด 73.15 ตารางเมตร เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย โดยภายในห้องยังคงมีชุดครัว และสุขภัณฑ์ Built-in มาให้เช่นกัน จุดเด่นของห้อง Type นี้ก็คือจะเป็นห้องในตำแหน่งมุมของอาคาร ห้องทุกห้องจะมีระเบียงเล็กๆ สามารถเปิดประตู หน้าต่างรับลมได้ ช่วยให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น การจัดวาง Layout แบ่งพื้นที่ห้องออกเป็น 2 โซนชัดเจนคือ Living Area จะอยู่คนละด้านกับห้องนอน จึงทำให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและเป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยครับ แปลนห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 73.15 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเป็น Corridor ทางเดินยาวก่อนถึงทางแยกไปที่ Living Area และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ทาง 2 ด้านของทางเดินโครงการ Built-in เป็นชั้นตู้เก็บของ และชั้นวางรองเท้า โครงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียสวยๆ เมื่อเข้ามาถึงด้านในเราจะมาดูที่ส่วน Dining Area ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือกันก่อน บริเวณ Dining Area จะมีโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง ด้านติดผนังจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแนวยาว ด้านล่างเป็นจุดวาง Microwave Oven ที่โครงการ Built-in มาให้ พร้อมกับตู้เก็บของ และช่องวางเครื่องซักผ้า ขึ้นมาดูข้างบนจะเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex พร้อมฮูดดูดควันของ best ส่วนซิงค์ล้างจานจะได้แบบ 2 หลุม ด้านบนจะเป็นตู้ลอยติดผนัง บริเวณ Dining Area ที่เชื่อมต่อไปถึง Living Area จะมีระเบียงให้ 2 จุดนะครับ อย่างที่เห็นเมื่อเปิดผ้าม่านออกทั้ง 2 ด้าน จะช่วยให้บริเวณนี้สว่างมากๆ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟได้อีกทางนึงครับ จาก Dining Area เข้ามาด้านในสุด จะเป็น Living Area ขนาดใหญ่ สามารถวางโซฟา L Shape ได้สบายๆ จากฝั่งซ้ายที่เป็น Dining Area และ Living Area เราข้ามมาดูที่ฝั่งขวาซึ่งจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง เริ่มต้นจากห้องน้ำห้องแรกกันก่อน การตกแต่งจะคล้ายๆ กับห้องน้ำของห้อง 1 ห้องนอน ที่เราดูมาก่อนหน้านี้นะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้ และการจัดวาง Layout ก็จะเหมือนๆ กัน เลยจากห้องน้ำเข้ามาด้านใน จะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต มาให้ดูเหมือนเดิม ด้านปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้ แต่ไม่พอที่จะวางชั้นวางทีวีนะครับ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอน คงจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน ระเบียงในห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ความกว้างของระเบียงประมาณ 55 ซม. จากห้องนอนเล็ก เราไปดูกันต่อที่ห้อง Master Bedroom เปิดเข้ามาแล้วจะเจอห้องน้ำก่อนนะครับ โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ที่หน้าห้องน้ำให้ดูเป็นไอเดีย ภายในห้องน้ำก็จะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน เหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆ ชุดฝักบัวของ Grohe พร้อมฟังก์ชั่นปรับระดับสายน้ำ จุดวางโต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนเข้าไปที่เตียงนอน ขนาดห้อง Master Bedroom จะพอๆ กับห้องนอนเล็กเลยนะครับ อาจจะเพราะมีห้องน้ำในตัว จึงทำให้ถูกลดขนาดลงมา เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไป จะมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือนิดหน่อย ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้ ต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน ด้านหัวเตียงทั้ง 2 ข้าง มีที่เหลือนิดหน่อย พอให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ ระเบียงที่ห้องนี้ก็จะมีขนาดพอๆ กับห้องนอนเล็กเลยครับ นอกเหนือจากห้องตัวอย่างสวยๆ ที่เราเก็บภาพมาฝากทั้ง 2 ห้องนี้แล้ว ทางโครงการ Noble BE19 ยังมีห้องขนาด 35 ตารางเมตรให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็มีภาพมาให้ดูกันคร่าวๆ ด้วยนะครับ แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 34.96 ตารางเมตร ใครที่กำลังมองหาคอนโดในย่านใจกลางเมืองอย่าง สุขุมวิท-อโศก เชื่อว่าโครงการ Noble BE19 น่าจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ดีทีเดียวเลยนะครับ เพราะมีครบครันทั้ง Facility ภายในโครงการ และแวดล้อมไปด้วยแหล่งช็อปปิ้ง ใกล้แหล่งออฟฟิศที่ทำงาน เป็นแหล่งธุรกิจสำคัญ และมีการเดินทางที่สะดวกสบายหลากหลายเส้นทาง ซึ่งเป็นที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการซื้อไว้อยู่อาศัยเองก็ดี หรือจะซื้อหาเพื่อการลงทุนก็ดีนะครับ ถ้าสนใจก็อย่างช้านะครับ ผมได้ข่าวว่าทางโครงการมียอดจองไปเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ถ้าต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็คลิกไปดูในเว็บของทางโครงการก่อนได้นะครับ.....​ส่วนใครที่จับจองกันไปแล้ว หรือมีความคิดเห็นอื่นๆ ก็คอมเม้นท์มาพูดคุยกันบ้างนะครับ