Tag : Review

672 ผลลัพธ์
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

“ทองหล่อ”  หนึ่งในย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง ซึ่งใครก็รู้กันดีว่าเป็นทำเลระดับ Premium ที่ทุกคนต่างจับตามอง เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ และที่แฮงค์เอ้าท์สุดเก๋ไม่เหมือนใคร รวมทั้งเป็นย่านที่มีที่พักอาศัยในระดับ Luxury รวมกันอยู่มากมาย ศักยภาพของทำเลจึงได้รับความสนใจทุกครั้งที่มีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมา ล่าสุด Real Asset ได้เลือกทำเลดีในซอยสุขุมวิท 57 เป็นที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ภายใต้ชื่อ “Laviq Sukhumvit 57” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยหรูหรา มีสไตล์ และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายแบบครบวงจร   Laviq Sukhumvit 57 มีข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อไม่เกิน 300 เมตร หรือเดินเพียง 3 นาที ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว จึงแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลปากซอยทองหล่อเลยล่ะ และด้วยความที่อยู่ถัดเข้ามาในซอยสุขุมวิท 57 เล็กน้อยซึ่งเป็นซอยตัน จึงช่วยเพิ่มความเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น นอกจากระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS แล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนหนทางในย่านนี้เชื่อมโยงถึงกันหลายสาย ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนพระราม 4 ทำให้มีเส้นทางให้เลือกเดินทางเข้าออกเมืองได้หลายทางมาก แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 300 เมตร ลงรถไฟฟ้าแล้วเดินเลยซอยทองหล่อมานิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 57 แล้วครับ ซอยสุขุมวิท 57 จุดสังเกตง่ายมากๆ คือจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit อยู่หน้าปากซอย บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 57 จากบอกซอยเดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ขณะเดียวกันรอบๆ โครงการก็มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ เดินเข้ามาที่ซอยทองหล่อแล้วก็เลือกได้เต็มที่ตั้งแต่ Street Food ร้านอาหารชื่อดัง ห้องอาหารในโรงแรม ร้านกาแฟสุดชิค รวมไปถึง Community Mall ที่มีให้เลือกแบบไม่ซ้ำสไตล์เลย เช่น J Avanue, Arena 10, Market Place, The Common, Maze ทองหล่อ ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมร้านแบบ Stand Alone ดังๆ อีกเพียบ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เพราะรวมไว้ครบทั้งแหล่งกิน เที่ยว ช๊อป แถมด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ แบบไม่ต้องออกไปไหนให้ไกลบ้านเลย J Avanue Market Place The Common Maze ทองหล่อ “Glamorous : Inspired by Fendi Casa” ความพิเศษสุดของ Laviq Sukhumvit 57 คือ ดีไซน์การออกแบบที่หรูหรา และความร่วมมือสร้างสรรค์โดย Fendi Casa จาก Italy ซึ่งเป็น High Brand ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Laviq จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Fendi Casa ทั้งหมด ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างส่วนหนึ่งได้จากใน Sale Office ที่จำลองการตกแต่งบริเวณ Lobby ไว้อย่างหรูหราอลังการเลยทีเดียว นอกจากนี้การดีไซน์ตกแต่งตัวอาคารทางโครงการก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน Exterior ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ กระจก Full High Glass Window รอบตัวอาคารที่นอกจากให้ความสวยงามหรูหราแล้ว ยังช่วยให้แต่ละห้องสามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรหรูหราดึงดูดสายตามากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของทองหล่อเลยก็ว่าได้ โครงการ Laviq Sukhumvit 57 เป็นอาคาร High Rise สูง 33 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมไว้ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่สวนสวยบริเวณด้านหน้าที่มีระยะกว่า 30 เมตรก่อนถึงตัวอาคารซึ่งช่วยสร้างความร่มรื่น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่พื้นที่บริเวณ Lobby มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่สวนภายนอก จัดสรรบริเวณส่วนหนึ่งเป็น Outdoor Library เพื่อเพิ่มการใช้งานพื้นที่บริเวณชั้นล่างได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน Facility ส่วนกลางก็ถูกจัดสรรไว้อย่างเต็มที่ เช่น Infinity Edge Lap Pool with Ozone System & Kids Pook, Fitness Studio & Bike Simulator, Yoga Room, Golf Simulator Room, Rock Climbing Station for Kids, Steam Room, Executive Lounge & Meeting Room, Library, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรวบรวมไว้บนชั้น 29-30 ในส่วนของพื้นที่จอดรถ ทางโครงการจัดสรรมาให้แบบเต็มพื้นที่ สามารถรองรับได้ 100% เลยที่เดียว แถมยังมี Super Car & Super Bike Parking Space และ Bicycle Garage ไว้เอาใจคนรักรถโดยเฉพาะ รวมไปถึง Electric Vehicle Charging Station เพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต และพื้นที่สำหรับคนขับรถก็มี Separated Driver Lounge มาให้พร้อมสรรพ ที่ชั้น G เมื่อเข้าสู่โครงการแล้วจะเห็นสวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าโครงการ เรียกว่า Sanctuary Hills ก่อนเข้าสู่ด้านในอาคารจะมี Lobby และ Library ที่มองออกมาเห็นสวนด้านนอก ที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-5 ในช่องจอด 204 คัน แต่ถ้ารวมจอดซ้อนคันแล้วจะได้ 235 คัน ครบ 100% พอดี ทางเข้าโครงการ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปถึงชั้น 24 เฉลี่ย 11 ยูนิตต่อชั้น สวนสีเขียวหน้าโครงการ พื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 6 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย สวนสีเขียวบนชั้น 6 ส่วนชั้น 25-28 จะมี 9 ยูนิตต่อชั้น ขึ้นมาถึง 29 จะเป็นส่วนของ Facility หลักของโครงการทั้งสระว่ายน้ำที่เป็นรูปตัว L ยาว 36 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร นอกจากนั้นยังมี Rock Climbing Station for Kids, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ชั้น 30 ก็ยังเป็นของ Facility อยู่นะครับ ที่ชั้น 30 จะมี Fitness Studio, Yoga Room, Golf Simulator Room, Executive Lounge & Meeting Room ซึ่งจะมีบรรไดเดินเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 29 ได้เลย โมเดลจำลอง Facility บนชั้น 29 บันไดเดินเชื่อมระหว่างชั้น 29-30 บรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำรูปตัว L บนชั้น 29 ชั้น 31 จะกลับมาเป็นห้องพักอาศัยอีกครั้ง จะมี 6 ยูนิต ชั้น 32 จะเป็นห้อง Penthouse ขนาด 3 ห้องนอน อยู่เพียง 2 ยูนิต ชั้นบนสุดที่ชั้น 33 จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการคือห้องขนาด 4 ห้องนอน อยู่เพียงห้องเดียวบนชั้น 33 เรื่องบริการความสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน ทางโครงการก็ให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน เช่น One-card access for all areas โดยไม่ต้องพกบัตร/กุญแจหลายอัน รวมถึงบริการ Concierge & Door Man บริการ Direct mail Delivery Service เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจองร้านอาหารต่างๆ และบริการซัก-อบ-รีด นอกจากนี้ยังมีบริการ Shuttle Service ด้วยรถหรูรับส่งในจุดที่กำหนด เพื่อวันสบายๆ ที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัว เท่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ก็เชื่อได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยได้รอบด้าน ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลแม้อยู่ในพื้นที่โครงการ “Exquisite Life Experience” ด้วยคอนเซปต์ “Exquisite Life Experience” ประสบการณ์ชีวิตที่สวยงามเหนือระดับ ทางโครงการจึงใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกเหนือจากจุดเด่นหลายๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว การเปิดประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่หรูหราให้เป็นมากกว่าบ้านทาง Real Asset และผู้ออกแบบ ได้ลงรายละเอียด ใส่ความพิถีพิถันตั้งแต่การจัดวางพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมในทุกๆ ตารางนิ้วของห้องชุดให้เป็นเหมือนงาน Master Piece เฉพาะตัว 42 ตารางเมตร คือห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องแบบ 1 Bedroom ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน บนพื้นที่ใช้สอยที่จัดสรรมาแล้วอย่างดี ความสูงแบบ Floor to Floor สูงถึง 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร กระจกทุกบานในห้องเป็นแบบ Full Height ทำให้สามารถ Take View ด้านนอกได้อย่างเต็มตา เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องชิ้นหลักๆ ทางโครงการ Built-in มาให้เสร็จสรรพ เช่น ชุดครัว Top ด้วยหิน Quartz พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง ตู้เย็น, เตาไฟฟ้า 2 หัว + เครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, ไมโครเวฟแบบ Free Stand มีตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของบริเวณประตูทางเข้าห้องมาให้ด้วย และเพิ่มความใส่ใจด้วย ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าพร้อมเก็บอุปกรณ์ซักรีดไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน ในขณะที่ภายในห้องน้ำก็จัดเต็มด้วยสุขภัณฑ์ระดับ Luxury Brand จากยุโรปนำโดย Villeroy & Boch และ Gessi เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทุกส่วนเลยทีเดียว แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 42 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ Digital Door Lock ของ Samsung ทุกห้องนะครับ เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านขวามือโครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเครื่องผ้าไว้ติดกัน หน้าบานเป็น High-Gross สีขาว ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว Built-in พร้อมโต๊ะทาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโครงการก็จัดเต็มมาให้เลยนะครับ ทั้งตู้เย็น ส่วนท็อปครัวเป็นหิน Quartz เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Küppersbusch มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดี๋ยวกัน ใกล้ๆ กันเป็นซิงค์ล้างจานแบบหลุม โต๊ะทานอาหารจะเชื่อมต่อกับเค้าเตอร์ครัว ทำให้เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเป็นรูปตัว U ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและจุดวางไมโครเวฟ เลยเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าห่างเลยนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายเลย โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝั่งชั้นวางทีวีโครงการ Built-in ชั้นวางเล็กๆ แบบใช้ทีวีติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แอร์ที่นี่จะให้แบบฝังฝ้านะครับ บริเวณ Living Area มีให้ 1 จุด ติดกับ Living Area จะมีระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน บานสูงถึงเพดาน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องลายไม้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งยังมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่สูงจรดเพดาน มีบานเล็กๆ เป็นกระทุ้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะวางทีวี หรือถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้น ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อ ด้านบนเป็นแอร์แบบฝังฝ้า เข้ามาถึงห้องน้ำ จะตกแต่งด้วย Marble Porcelain สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ท็อป ท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นหินจริง มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ กระจกเงาจะได้บานยาว เท่าเคาเตอร์อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของอยู่ด้านหลัง ติดกันเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ มีกระจกเทมเปอร์กั้นให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างเลยนะครับ ด้วยพื้นที่ที่กว้างทำให้สามารถแยกอ่างอาบน้ำกับพื้นที่ยืนอาบน้ำออกจากกันได้ ไม่ต้องยืนอาบน้ำในอ่าง ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ที่มีระบบ Thermostat ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ ขยับมาดู 2 Bedroom กับบ้างกับขนาดห้อง 86 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นอีกห้องที่น่าสนใจและมีรายละเอียดแบบจัดเต็มไม่แพ้กันเลย เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่ Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าไว้ให้เต็มความสูงฝ้าเพดาน ในขณะที่ห้องครัวก็มาพร้อมชุดครัวและสุขภัณฑ์ระดับ Hi-Brand ทุกชิ้น เช่น เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in ที่เชื่อว่าแทบจะไม่มีโครงการไหนจัดมาเต็มที่ขนาดนี้แน่นอน รวมถึง Island Counter ในห้องครัวก็ติดตั้งมาให้พร้อมเช่นกัน ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ให้มาพร้อมกับห้องทั้ง ตู้เย็นตัว Top ของ Samsung เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าของ Teka ที่จัดไว้ในตู้ Built-in มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยสบายตา เครื่องปรับอากาศภายในห้องทุกห้องของโครงการเป็นแบบ Ceiling Concealed Type โดยออกแบบให้มีการเติมอากาศ (Fresh Air Intake) ทำให้อากาศภายในมีการหมุนเวียนตลอดเวลา เรียกได้ว่าเครื่องใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่ทางโครงการก็จัดการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเตรียมไว้ให้แล้ว แปลนห้อง 2 ห้องนอน Type B1 ขนาด 86 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนจะเข้าไปส่วน Living Area ด้านใน คล้ายๆ กับห้อง Type A1 ด้านหน้าประตูห้อง โครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของกระจุกกระจิก ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของหน้าประตูห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ชุดครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โครงการจัดมาให้ครบครันเลยนะครับ ท็อปเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินอ่อนสีขาว ห้องนี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Küppersbusch Island ที่อยู่ในส่วนครัวโครงการวางเก้าอี้ไว้เหมือนเป็นโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวาง เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์ โครงการจัดมาให้อย่างครบครัน เครื่องซักผ้าจะมีตู้เก็บอย่างอย่างมิดชิด ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายในห้องกว้างขว้าง เชื่อมต่อกับบริเวณครัวได้อย่างลงตัว บริเวณนี้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดีด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงเต็มเพดาน (Full Height) 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร บริเวณระเบียงจัดแบ่งพื้นที่สำหรับแขวน Compressor แอร์ พร้อมระแนงปิดไว้อย่างสวยงามดีทีเดียว และที่สำคัญพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นไม่ได้นับรวมกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ว่ากันง่ายๆ คือ ทางโครงการไม่ได้คิดพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ขาย ซึ่งต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะนับรวมพื้นที่ทั้งหมดรวมระเบียงไว้ในราคาขายด้วย ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าอยู่ในระยะที่ดีเลยนะครับ ไม่ใกล้จนเกินไป โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านหลังโซฟาจะมีโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง โต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่หลังโซฟาของส่วน Living Area ออกจาก Living Area มาจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ คอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน ประตูกั้นระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 3 ตอน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง   Highlight ของห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom นี้เป็นห้องในตำแหน่งห้องมุม ทำให้ Master Bedroom สามารถ Take View ได้เต็มตาด้วยกระจกบาน Full Height แบบเข้ามุมภายในห้อง หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ในขนาดกำลังดี ขณะเดียวกันภายในห้องน้ำก็ตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยกระเบื้อง Marble Pocelain หรูหรา สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็น Luxury Brand จากยุโรปที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมอ่างอาบน้ำในดีไซน์เรียบหรูมีสไตล์ จาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องแรกด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำเล็ก ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน คล้ายๆ กับห้องน้ำ Type A1 สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch เช่นกันครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ เคาเตอร์อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนเล็กจะเป็นบาน Fix บานใหญ่สูงถึงเพดานเลยนะครับ ด้านปลายเตียงมีที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอนเล็กด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนครับ ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้าบานสูงมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แอร์แบบฝังฝ้าในห้องนอนเล็ก ด้านในสุดจะเป็นห้อง Master Bedroom พื้นที่ในห้อง Master Bedroom ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุต King Size มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้อีกครับ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นหน้าต่างเข้ามุมสูงถึงเพดาน ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ข้างเตียงอีกด้านโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ และชั้นวางของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ หน้าทางเข้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เข้ามาด้านในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ โครงการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Villeroy & Boch มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำให้มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกเทมเปอร์กั้น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นอ่าง อาบน้ำ วางอยู่ฝั่งซ้ายมือ บริเวณอ่างอาบน้ำและใน Shower Box จะมีหน้าต่างไว้นอนแช่น้ำชมวิวใจกลางเมือง ฝั่งตรงข้ามอ่างอาบน้ำ จะเป็น Shower Box มาพร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower     Click to play ถ้าจะพูดถึง Highlight / จุดเด่นของวัสดุ สุขภัณฑ์เครื่องใช้ในโครงการแล้ว ต้องบอกว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่บรรยายได้ไม่รู้จักจบกันแน่นอน ทั้งเรื่อง Digital Door Lock ของ Sumsung, Video Door Phone ติดต่อสื่อสารกับ Front Desk, ประตูทางเข้าห้องสูง 2.6 เมตร พร้อม Door Seal และ Rubber Door Seal เพื่อกรองฝุ่นละอองและเสียงรบกวน ฯลฯ เพราะทางโครงการตั้งใจคัดเลือกทุกรายละเอียดให้สมกับความเป็นคอนโดในระดับ Super Luxury ในขณะที่ราคาขายเปิดกันมาแบบสมน้ำสมเนื้อ คุ้มค่าการลงทุนที่สุดในทำเลทองหล่อแบบนี้ ซึ่งนอกจากแบบห้องที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกันในครั้งนี้แล้ว ทางโครงการยังมีแบบห้องให้เลือกอีกมาก ทั้งแบบ 2 Bedroom, 3 Bedroom, Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์และความต้องการที่ต่างกันของลูกค้า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ทางโครงการเปิดมาที่ 9.7 ล้านบาทนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ Spec และสิ่งที่จะได้รับ ทำให้โครงการ Laviq Sukhumvit 57 มีศักยภาพน่าสนใจทั้งในด้านการลงทุนเพื่อเกร็งกำไร และซื้อไว้สำหรับอาศัยอยู่เอง หรือปล่อยเช่า สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Sale Gallery ได้ ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะมีงาน Show Suites Preview ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน นี้ หรือต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.laviq.com
THE CITY บางใหญ่ : รีวิวบ้าน

THE CITY บางใหญ่ : รีวิวบ้าน

การจะเลือกซื้อบ้านซักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องเลือกว่าบ้านหลังไหนที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว ทำเลที่ต้องเดินทางสะดวก สภาพแวดล้อมเอื้อต่อไลฟ์สไตล์ หรือมีอะไรใกล้ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกบ้าง จึงต้องใช้เวลาเปรียบเทียบบ้านหลายๆ หลัง เพื่อให้ได้บ้านที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันมากที่สุดเท่าที่ บ้านเดี่ยวน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบความต้องการของครอบครัว ซึ่ง AP เองก็เข้าใจกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จึงเปิดโครงการใหม่ล่าสุดบนทำเลบางใหญ่ ทำเลที่มีศักยภาพเหมาะกับการอยู่อาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภายใต้แบรนด์ “The City บางใหญ่” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดหรูสำหรับไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ ศักยภาพทำเล   ความได้เปรียบเด่นๆ ของ The City บางใหญ่ คือ ทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองเป็นเรื่องง่ายดาย สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีคลองบางไผ่ ห่างจากโครงการเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น อีกทั้งสถานีนี้ยังเป็นสถานีต้นทาง มีอาคารจอดแล้วจรขนาดใหญ่ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสัญจรได้มากขึ้น ในขณะที่เส้นทางเชื่อมต่อเข้าเมืองด้วยรถส่วนตัวก็เป็นเรื่องง่ายไม่แพ้กัน เนื่องจากมีให้เลือกหลายเส้นทางทั้งถนนสายหลักอย่าง ถนนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์ไปงามวงศ์วานได้ไม่ยาก หรือจะเลือกใช้เส้นทางถนนนครอินทร์ ตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ รวมถึงเส้นทางด่วนพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกก็เป็นอีกเส้นทางใหม่ที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางเข้าเมืองได้อีกทาง ปัจจุบันย่านบางใหญ่เป็นหนึ่งในพื้นที่น่าจับตา เพราะกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางแหล่งช็อปปิ้งชื่อดัง เช่น ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central Westgate, Big C, Home Pro, Index Living Mall และกำลังจะมี Ikea เปิดให้บริการในอนาคต ขณะเดียวกันห่างออกมาทางวงเวียนพระราม 5 ก็ยังมีทั้ง The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal, Home Work  และร้านอาหารอีกเพียบให้แวะเวียนไปเปลี่ยนบรรยากาศได้ ในขณะเดียวกันในโซนบางใหญ่ก็มีตลาดขนาดใหญ่ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกพึ่งพาเป็นจำนวนมากไม่แพ้กัน จัดได้ว่าเป็นทำเลที่มีองค์ประกอบต่างๆ เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบริเวณแยกแคราย ด้านขวามือจะเป็นเอสพลานาดแคราย เลยจากแยกแครายมาเราจะเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ จะเริ่มเห็นรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงกันแล้วนะครับ ตรงนี้จะเป็นสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เราขับรถตามถนนรัตนาธิเบศร์ไปเรื่อยๆ ตรงขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าไปเลยครับ ลงจากสะพานพระนั่งเกล้ามาเราก็ยังคงตรงต่อไปเรื่อยๆ ตามป้ายถนนกาญจนาภิเษกไปเลยครับ ตรงกันไปยาวๆ พอใกล้ถึงถนนกาญจนาภิเษกให้เราชิดขวาไปทางสุพรรณบุรี เพื่อขึ้นสะพานวนเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก เมื่อเราเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกแล้วจะเห็นเซ็นทรัล เวสต์เกต อยู่ด้านขวามือ เลยมาอีกนิดหน่อยจะเห็นบิ๊กซี บางใหญ่อยู่ฝั่งซ้ายมือ เราขับเลยบิ๊กซีมานิดหน่อยจะเห็นจุดสังเกตคือโชว์รูมโตโยต้าอยู่เ้านซ้ายมือ ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยนะครับ เลยโชว์รูมโตโยต้ามาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคลองถนนได้เลยครับ จะเห็นป้ายของโครงการตั้งอยู่ริมถนนด้วย บรรยากาศบนถนนคลองถนน จะเป็นถนน 2 เลน เลียบคลองยาวตลอดแนว บรรยากาศในซอยจะมีทั้งคอนโดและโครงการหมู่บ้านขึ้นเยอะเลยครับ ร้านค้าต่างๆ ก็ตามมามากมาย จากปากซอยถนนกาญจนาภิเษกเข้ามาประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับ ปากซอยจะมีป้ายติดชื่อซอยสองพี่น้อง เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วต้องขับตรงเข้าไปอีกหน่อย ถึงโครงการแล้วครับ หน้าทางเข้าโครงการทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว สวยงามที่เดียวครับ คราวนี้เราลองมาดูการเดินทางขาออกจากโครงการหันดูบ้างนะครับ โดยนอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ใกล้ๆ โครงการยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงไว้คอยรองรับอีกด้วย สำหรับสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดจะเป็นสถานีคลองบางไผ่ ออกมาจากโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายมาเลยครับ ออกมานิดเดียวก็จะเห็นสถานีคลองบางไผ่แล้วครับ บริเวณใกล้ๆ สถานีคลองบางไผ่ซึ่งเป็นสถานีต้นทางจะมีที่จอดรถไว้สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT เรียกว่า "อาคารจอดแล้วจร" จะอยู่ตรงทางขึ้นสะพานกลับรถ แล้วมีทางแยกออกเพื่อเข้าอาคาร หน้าตาของอาคารจอดแล้วจร อยู่ใกล้กับสถานีคลองบางไผ่ หรือใครสะดวกจอดไว้ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต ก็ได้นะครับ แล้วขึ้น MRT สถานีตลาดบางใหญ่ แต่รู้สึกว่าทางเซ็นทรัล จะเริ่มเก็บค่าที่จอดรถกันแล้ว ยังไงลองเช็คกันดูอีกทีนะครับ บรรยากาศบนสถานีรถไฟฟ้ายังมีผู้ใช้บริการค่อนข้างบางตาอยู่นะครับ เลือกที่นั่งได้สบาย ไม่ได้แย่งกับใคร ฮ่าๆ The City โครงการ The City บางใหญ่ ถูกออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ “Modern Art Deco” ผสมผสานความสวยงามของงานออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มักจะเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุด ทางโครงการใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การตกแต่งหน้าทางเข้าให้สวยงามอลังการ ด้วยวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งช่วยโอบล้อมทางเข้าหมู่บ้านให้ร่มรื่นน่าอยู่ ด้านหน้าทางเข้ามีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง CCTV และ รปภ. ประตูหลักเป็นระบบ Security Gate ผ่านเข้าออกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ที่สามารถผ่านเข้าออกได้สะดวกโดยไม่ต้องจอดรถแตะบัตรให้เสียเวลา ประตูทางเข้าหลักของโครงการ Security Gate ผ่านเข้าออกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ภายในโครงการร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย ในพื้นที่ส่วนกลางจัดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมด้วย Club House หลักที่ลูกบ้านทั้งหมด 133 หลังจะได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้อย่างเต็มที่ ภายใน Club House เพียบพร้อมไปด้วย สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบมาสวยงามเหมือนได้มาพักผ่อนในรีสอร์ท พร้อมกับแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย ในขณะที่ด้านบนมีทั้ง Social Room และห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครันและวิวสนามหญ้าที่สวยงาม ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ทางโครงการจัดไว้ให้อย่างเต็มที่และใส่ใจในทุกรายละเอียดขนาดนี้ก็เพื่อความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของลูกบ้านทุกหลัง ถนน Main ของโครงการจะกว้าง ประมาณ 16 เมตร ส่วนถนนซอยจะกว้างประมาณ 9 เมตร Kathaleeya Kathaleeya เป็นบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ ที่เป็นเหมือนตัวอย่างแรกที่เราจะได้สัมผัสกับคำว่า Elegant Living ภายในพื้นที่ใช้สอยขนาด 185.92 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ บนที่ดินมากกว่า 52 ตร.ว บริเวณหน้าบ้านกว้างสามารถจอดรถได้ 2 คัน แบบบ้าน Kathaleeya ตรงนี้จะเป็นที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน บริเวณที่จอดรถจะมีประตูทางเข้าให้อีก 1 จุด ภาพนี้จะเป็นแบบบ้าน Vanda ที่เป็นตัวบ้านมาตรฐาน รั้วบานจะเป็นแบบนี้ทั้ง 2 Type เลยนะครับ ภายในตัวบ้านตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบในสไตล์ Modern ในขณะที่ก็ยังสอดแทรกรายละเอียดของดีไซน์ต่างๆ ไว้ทั่วบ้าน ชั้นล่างมี Living Area กว้างขวาง ซึ่งมีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับ Dining Area หน้าครัวได้อย่างกลมกลืน ตัวบ้านมีหน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนสวยจากภายนอกได้อย่างเต็มที่ บริเวณครัวตกแต่งใหม่ ใช้กระจกใสบานใหญ่แทนผนังทึบตามแบบบ้านมาตรฐาน ทำให้บรรยากาศในครัวดูโปร่งสบายตากว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าถ้าอยากได้ครัวสวยแบบนี้บ้างก็ต้องตกแต่งเพิ่มเติมกันไป แต่ถ้าไม่ซีเรียสมากก็จะได้ครัวปิดตามแบบบ้านมาตรฐาน ที่ก็ดูเป็นสัดส่วนเรียบร้อยไปอีกแบบ นอกจากนี้บริเวณชั้นล่างยังมี 1 ห้องนอนเล็ก ที่สามารถดัดแปลงใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานเหมือนในบ้านตัวอย่าง หรือจะยังคงใช้เป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกอาวุโสของบ้านก็ถือว่าสะดวกดีทีเดียว ประตูทางเข้าหลักของตัวบ้านจะเป็นประตูกระจกบ้านเลื่อน 2 ตอน ยกพื้นขึ้นมา 1 สเตป โครงการจะใช้บานเลื่อนของ Windsor เปิดประตูเข้ามาด้านในแล้วจะเป็นส่วน Living Area อยู่ด้านหน้าเลยนะครับ พื้นที่บริเวณ Living Area ถือว่ากว้างขวางพอสมควร ด้านที่วางโซฟาโครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่ง ได้สบายๆ ด้านชั้นวางทีวีโครงการ Built-in แบบเต็มพื้นที่มาให้ดู เลยจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Dining Area โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง พื้นที่บริเวณ Dining Area กว้างขวางพอสมควรเลยนะครับ สามารถเลือกวางโต๊ะทานอาหารใหญ่ๆ ได้ตามใจชอบเลยครับ ติดกับส่วน Dining Area จะมีระเบียงออกไปที่สวนข้างบ้าน เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน บานใหญ่ ออกมาบริเวณสวนข้างบ้านโครงการตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นเล็กๆ ไว้ข้างบ้าน กลับเข้ามาด้านใน อีกฝั่งของโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องครัว บริเวณห้องครัวโครงการตกแต่งใหม่โดยใช้กระจกใสแทนผนังทึบเหมือนในบ้านแบบมาตรฐาน จึงทำให้โปร่ง ส่วนบ้านจริงที่ได้จะเป็นผนังทึบแบบนี้นะครับ ในครัวโครงการ Built-in ชุดครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง อย่างครบครัน ส่วนห้องครัวในบ้านจริงโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ครัวแบบนี้มาให้นะครับ มีซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย อีกด้านก็จะเป็นเคาน์เตอร์โล่งๆ แบบนี้ จากห้องครัวมีประตูออกมาส่วนหลังบ้าน ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได เลยจากห้องครัวเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนเล็กอยู่ที่ชั้น 1 ก่อนจะไปดูที่ห้องนอน เรามาดูห้องน้ำที่อยู่ด้านหน้าห้องนอนกันก่อนนะครับ การจัดวาง Layout ในห้องน้ำ จะวางสุขภัณฑ์เรียงกันยาวเข้าไปด้านใน สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ มีเคาน์เตอร์วางของเล็กๆ อยู่ด้วย โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นให้นะครับ มาต่อกันที่ห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน ข้างเตียงอีกด้าน Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางชั้นวางทีวี แต่ใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากกว่าครับ   ขณะเดียวกันพื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้น 2 ก็จัดสรรแบ่งเป็น 3 ห้องนอน และยังได้ Common Area สำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่น สังสรรค์เพื่อสมาชิกของครอบครัวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน Master Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ติดกับระเบียงใหญ่ที่เปิดออกไปรับวิวได้เต็มตา ส่วนพื้นที่ภายในก็จัดการตกแต่งไว้อย่างเป็นสัดส่วนพร้อมลงรายละเอียดในดีไซน์เพิ่มความหรูหราสะดุดตา ทั้งบริเวณหัวเตียงสวยหรู และ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำที่ตกแต่งมาได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ที่ตกแต่งไว้ตามประโยชน์ใช้สอย ทั้งห้องนอนหวานแหววของลูกสาวตัวน้อย และห้องทำงานเข้มขรึมของคุณพ่อ ที่พร้อมจะจัดสรรใหม่ได้ตลอดเวลาเพื่อสมาชิกที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอ Common Area ที่โครงการจัดไว้เป็นมุมนั่งเล่นๆ เล็กๆ น่ารักๆ พื้นที่ของ Common Area สามารถวางชั้นวางทีวีเล็กๆ และเก้าอี้อาร์มแชร์ หรือโซฟาเล็กๆ ได้อยู่นะครับ จาก Common Area เราไปดูห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางขวามือกันก่อนเลย ห้อง Master Bedroom จะได้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะครับ โครงการวางเตียง King Size ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ปลายเตียงยังมีที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีหรือจะใช้ทีวีแบบแขวนผนัง ก็จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก ในห้องนอน Master จะมีระเบียงให้ด้วยนะครับ ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร มุมมองจากระเบียงเข้าไปในห้องนอน ข้ามมาอีกด้านโครงการตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ตั้งอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ การจัดวาง Layout และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะคล้ายๆ กับห้องน้ำที่ชั้น 1 เลยนะครับ แต่งต่างกันที่การตกแต่ง และขนาดของห้องนี้จะใหญ่กว่าอยู่สักหน่อย อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard พร้อมกระจกเงาบานใหญ่และเคาน์เตอร์วางของ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ ใครมาซื้อช่วงโปรโมชั่น จะได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะแบบนี้นะครับ ด้านในสุดจะเป็นส่วนเปียก ชุดฝักบัว จากห้อง Master Bedroom เราเดินข้ามมาอีกด้านจะเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ห้องแรกอยู่ด้านซ้ายมือโครงการตกแต่งด้านโทนสีชมพูหวานแหวว วางเตียง 3 ฟุตไว้กลางห้อง พร้อมโต๊ะข้างเตียงอยู่ทั้ง 2 ด้าน ห้องนี้จะไม่มีระเบียงนะครับ แต่จะได้หน้าต่างบานเลื่อน บานใหญ่เลย ปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะให้วางตู้เสื้อผ้าหรือโซฟาเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำอีก 1 ห้อง การจัดวาง Layout จะเหมือนกับ 2 ห้องแรกที่เราดูมาแล้ว อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ติดๆ กัน พื้นที่เปียกอยู่ด้านในสุด มาถึงห้องสุดท้ายจะอยู่ด้านในสุด โครงการตกแต่งเป็นห้องทำงานเล็กๆ หน้าต่างในห้องจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน     Click to play สำหรับแบบบ้านของโครงการ The City บางใหญ่ ยังมีให้เลือกอีกแบบ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใช้สอยย่อมลงมาอีกหน่อยในแบบบ้านที่ชื่อว่า Vanda แต่โดยภาพรวมของฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านมีความคล้ายคลึงกัน เพราะมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำเช่นเดียวกัน บ้านทั้งหมดทางโครงการขายมาให้เป็นแบบบ้านมาตรฐาน ติด Wallpaper ให้ทั้งหลัง พร้อมด้วยเคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินสังเคราะห์สีดำสวยงาม รวมถึงวัสดุ สุขภัณฑ์ก็จัดมาได้มาตรฐานทุกชิ้น.... เชื่อเถอะว่า บ้านดีๆ ซักหลังที่สามารถตอบโจทย์ทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยแบบที่ The City บางใหญ่ ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ถ้าอยากรู้ต้องมาสัมผัสเอง ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของชีวิตประจำวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพได้ที่ The City บางใหญ่ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้าน กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ดีไซน์หรูที่สุดในย่านบางใหญ่.... สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือลงทะเบียนรับส่วนลดได้ที่ www.apthai.com
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้มาครอบครอง ไม่ใช่เพียงเพราะความหรูหรา สะดวกสบายของตัวโครงการ แต่ยังได้วิวที่สวยที่สุดของกรุงเทพฯ อย่างแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลากี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเสน่ห์เหนือกาลเวลา ซึ่ง “Banyan Tree Residences Riverside Bangkok” โครงการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้ จาก เนอวานา ไดอิ ที่จับมือกันกับแบรนด์บันยันทรี แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกจากเนอวานา ไดอิ แต่ครั้งนี้สามารถสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ด้วยดีไซน์ของสถาปัตยกรรม โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตอยู่อาศัยจริงของลูกบ้าน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ตกแต่งห้อง การจัดการพื้นที่ภายในโครงการ ไปจนถึงเซอร์วิชระดับโรงแรมห้าดาว ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าอันเงียบสงบ ภายใต้แนวคิด The Sanctuary for your Soul แต่ขณะเดียวกันในอนาคตพื้นที่ในย่านี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ เช่นกัน Banyan Tree Residences Riverside Bangkok เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 45 ชั้น 133 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งธนบุรี) อาคารถูกออกแบบโดยบริษัทระดับโลกจาก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นทรงอาคารครึ่งวงกลม สิ่งที่โดดเด่นมากของที่นี่ คือ ทุกยูนิตหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันออก ทุกห้องจะได้ Panoramic Riverview ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน หน้ากว้างตั้งแต่ 8 เมตรขึ้นไป และเมื่อเปรียบเทียบจากขนาดที่ดินภายในโครงการทั้งหมดกับจำนวนยูนิตแล้ว ก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทางโครงการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว โดยห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็น Low zone 4 ยูนิต/ชั้น Mid zone 3 ยูนิต/ชั้น และ High zone 2 ยูนิต/ชั้น และมีให้เลือก 5 Unit Type ได้แก่ - 1 Bedroom 69.40-85.45 ตร.ม. 48 ยูนิต - 2 Bedroom 156.40-179.20 ตร.ม. 66 ยูนิต - 3 Bedroom 243.10 ตร.ม. 16 ยูนิต - 4 Bedroom 417.35-419.85 ตร.ม. 2 ยูนิต - Penthouse (Duplex) 836.70 ตร.ม. 1 ยูนิต บริเวณชั้น G - ชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panoramic ในทุกมุมมอง เช่น Residence Lobby 3 จุด, Outdoor Lounge, Riverside Lounge, Multipurpose Room, River view owners lounge, Library Lounge, Private Dining Room, Panoramic View Swimming Pool, Cabanas, Kids Room, Active Play Area, Outdoor Lounge & BBQ Area, Banyan Tree Spa Room, River Facing Jacuzzi, Fitness Center, Private Lift Lobby ฯลฯ รวมถึงเมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในช่วงปลายปีหน้าจะมีบริการ Resident Shuttle Boat เรือสุดหรูจากท่าน้ำส่วนตัวของคอนโดไว้คอยบริการรับ-ส่งลูกบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือไปหาของอร่อยทานที่เยาวราช โดยให้บริการฟรี เพียงแค่ทำการจองล่วงหน้าผ่าน Application ที่สร้างขึ้นมาเพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ ในเรื่องของพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นปัญหามากสำหรับคอนโดหลายโครงการ แต่ที่นี่หมดห่วงได้เลยเพราะมีอาคารจอดรถอยู่ทางด้านหน้าโครงการ สามารถรองรับการจอดรถได้มากถึง 260 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 200% โดยแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นโซนจอดรถซุปเปอร์คาร์ และสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอีกด้วย ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถก็ยังมีส่วนกลางเพิ่มมาให้อีก คือ สระว่ายน้ำ แยกโซนเด็กกับโซนผู้ใหญ่ พร้อมสนามเด็กเล่น และโซนสำหรับนั่งพักผ่อน โดยรวมของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มีพื้นที่ถึง 59% ของอาคาร หรือประมาณ 6,000 ตร.ม. แล้ว ถือว่าเพียงพอแน่นอนสำหรับลูกบ้านทั้งหมด     ทำเลและการเดินทาง Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ตั้งอยู่ที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ตรงเข้าไปสุดซอยก็จะพบกับพื้นที่โครงการ ซึ่งจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างบนอาคารจริงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพราะเป็นความตั้งใจของทางเนอวานา ไดอิ ที่ต้องการสร้างความมั่นใจในคุณภาพของโครงการจริงๆ ด้วยการลงมือสร้างอาคารก่อนที่จะเปิดขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความเหนือระดับนี้ด้วยตัวเอง แต่หากใครที่ต้องการจะชมห้องตัวอย่างล่วงหน้า ก็สามารถนัดหมายทางโครงการ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้นำเรือไปรับที่จุดนัดพบศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ มาชมห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery ของโครงการ การเดินทางสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวก หาที่ตั้งโครงการได้ไม่ยากเลย ถ้ามาจากถนนสาทรให้ตรงมาข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก่อนลงสะพานให้เบี่ยงออกซ้ายตามป้ายถนนเจริญนคร เมื่อลงมาถึงสามแยกกรุงธนบุรีให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญนคร แล้วตรงไปจนถึงแยกคลองสาน เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 จะอยู่ขวามือ ติดกับโรงพยาบาลตากสินเลย แม้โครงการจะตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี แต่ด้วยทำเลแล้วสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมาก จากโครงการเข้าถนนเจริญนคร เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ถึงย่านสาทรโดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีจุดขึ้น-ลง ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอีก 2 จุดด้วยกัน คือ บนถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งออกไปทางบางนา-ดาวคะนอง และถนนสุรวงศ์ เพื่อไปทางพระราม 9-แจ้งวัฒนะ ในอนาคตหากโครงการเสร็จสมบูรณ์ ลูกบ้านก็จะสามารถใช้บริการ Resident Shuttle Boat ให้ไปรับ-ส่ง ที่ท่าเรือสาทร แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ชีวิตก็ดูง่ายขึ้นอีกเยอะ สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า แน่นอนว่าย่านนี้มีร้านอาหารเจ้าเก่าแก่อยู่มากมาย คอมมูนิตี้มอลล์บนถนนเจริญนครก็มีให้เห็นอยู่หลายแห่ง เช่น Sena Fest, The Lighthouse, Vue Bangkok ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญย่านนี้ในอนาคต คือ ICONSAIM โปรเจคยักษ์ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าส่วนที่เป็นศูนย์การค้าพื้นที่ประมาณ 525,000 ตารางเมตร จะกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ติดอันดับ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว (อยู่ห่างจาก Banyan Tree Residences แค่ประมาณ 700 เมตร)   ชมห้องตัวอย่าง ปัจจุบันห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery มีให้ชมเพียง 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 69.40 ตร.ม. เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ ความสูง Floor to Ceiling 3.2 เมตร เฟอร์นิเจอร์ให้มาแบบ Fully Fitted เช่น เคานเตอร์ครัว พร้อม Hood Hob และเตาอบ ซิงค์ล้างจาน เตียง ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด พร้อมติดวอลเปเปอร์ และมีม่านโปร่ง มาให้ด้วย จุดเด่นอีกอย่างภายในห้องพักอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุนำเข้าจากอิตาลี ที่แอบกระซิบกันมาว่า CEO ลงมือเลือกวัสดุด้วยตัวเองเลยทีเดียว เพื่อให้ได้ของที่สวย และได้คุณภาพที่สุด แปลนของห้องตัวอย่างจะเห็นได้ว่า เน้นพื้นที่ Living Area ที่เชื่อมต่อกับครัวเปิดได้กว้างขวางมาก บวกกับความสูงของเพดาน ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด พื้นที่ช่วงกลางห้องกว้างมากพอที่จะสามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ ระเบียงหน้ากว้างต่ำสุด 8 เมตร เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นไปถึงห้องนอน ส่วนฝั่งห้องนอนจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่มีการแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้เป็นสัดส่วน สรุปภาพรวมแล้ว คอนโดมิเนียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สามารถดึงเอาจุดเด่น ของตัวเองออกมาได้อย่างดี ทั้งเรื่องของทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทุกยูนิตจะได้วิวแบบ Panoramic Riverview ด้วยระเบียงหน้ากว้างเหมือนกัน ต่างกันแค่วิวความสูงของชั้นที่อยู่อาศัย วิวทางขวามือจะได้เห็นเมืองอันทันสมัยในย่านสาทร-สีลม แต่ถ้ามองไปทางซ้ายจะได้วิวสุดคลาสสิกของความเป็นเมืองเก่า ภายในโครงการถูกออกแบบมาเน้นความส่วนตัว เงียบสงบเป็นพิเศษกับจำนวนยูนิตที่น้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด เพราะพื้นที่ 56% หรือ 6,000 ตร.ม. เป็น Facility  และเมื่อได้จับมือกับแบรนด์บันยันทรี สิ่งที่จะตามมาคือ เรื่องของ Service ระดับโรงแรม 5 ดาว โดยผู้ที่ซื้อโครงการนี้จะได้รับสิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิพิเศษจากแบรนด์ในเครือที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสุด Exclusive ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ โครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 330,000 บาท/ตร.ม. เปิด Pre sale 18-19 พฤศจิกายน นี้ หากสนใจก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนกันก่อนได้ที่ http://www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com/ .ricoh-theta-spherical-image{margin:0 auto !important;
Baranee Park ร่มเกล้า : รีวิวบ้าน

Baranee Park ร่มเกล้า : รีวิวบ้าน

Review Your Living ฉบับนี้ เราจะพาไปชมโครงการ Baranee Park ร่มเกล้า บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่จาก บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ที่ต้องการนำเสนอสัมผัสใหม่ของ “บ้านเงาไม้” จนมาเป็นคอนเซปต์ใหม่แห่งการอยู่อาศัยสไตล์ Courtyard ที่ผสานความร่มรื่นจากพรรณไม้หลากหลายชนิด แค่เกริ่นถึงคอนเซปต์ของโครงการก็มีความน่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ เดี๋ยวเราพาไปชมบรรยากาศโครงการและภายในบ้านตัวอย่าง ว่าจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจแค่ไหน ตัวโครงการ Baranee Park ร่มเกล้า ตั้งอยู่ริมถนนร่มเกล้าใกล้แยกเจ้าคุณทหาร ช่วงระหว่างซอยร่มเกล้า 36 และ 38 การเดินทางสะดวกสบายด้วยถนนร่มเกล้า, ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี, ถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนเจ้าคุณทหาร, ถนนอ่อนนุช และถนนสุขาภิบาล 3 รวมถึงมีรถไฟฟ้า Airport Link สถานีลาดกระบังอยู่ห่างออกไปไม่ไกล และยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ในอนาคตอีกด้วย แผนที่ของโครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มต้นบนทางด่วนศรีรัชฝั่งขาออก ขับยาวเลยพระราม 9 ไปจนถึงมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ตามป้ายเลยนะครับ เราขับตามถนนมอเตอร์เวย์ไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าตามป้ายสุวรรณภูมิไปเรื่อยๆ เลยครับ ขับมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายทางออกถนนร่มเกล้า ซึ่งจะออกทางเดียวกันกับสนามบินสุวรรณภูมิ ชิดซ้ายเตรียมออกได้เลยครับ ออกมาแล้วให้ชิดไว้อีกทีนะครับ เราต้องไปทางซ้ายเพื่อไปทางถนนร่มเกล้า ส่วนทางขวาจะไปสนามบินสุวรรณภูมิและถนนกิ่งแก้ว จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางถนนร่มเกล้า เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงไปอีกนิดนึงครับ พอเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนร่มเกล้า พอเข้าถนนร่มเกล้าแล้วก็สบายแล้วครับ ขับตรงยาวเลย เราตรงตามถนนร่มเกล้ามาเรื่อยๆ จนเจอสี่แยกตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร เราตรงผ่านแยกไปแล้วชิดซ้ายไว้เลยนะครับ เพราะใกล้ถึงโครงการแล้ว จากสี่แยกมาประมาณ 250 เมตรก็ถึงโครงการแล้วครับ สำนักงานขายจะตั้งอยู่หน้าโครงการด้านขวามือ “บ้านเงาไม้” สัมผัสแรกเมื่อได้เห็นบรรยากาศโครงการจริง คือความร่มรื่นจากต้นไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้ทั่วบริเวณ รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในมุมต่างๆ เพื่อให้ลูกบ้านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ วิวภายในโครงการเป็นสีเขียวจากต้นไม้สบายตา รวมถึงความโปร่งโล่งตาไร้สายไฟฟ้ารบกวน เนื่องจากทางโครงการเลือกนำระบบไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด ถนนเมนภายในโครงการกว้างมากสุดถึง 16 เมตร ซึ่งมาพร้อมเกาะกลางที่ปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนว บรรยากาศตั้งแต่หน้าทางเข้าโครงการก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ถนนเมนในโครงการโล่งกว้างไปตลอดแนว บรรยากาศภายในโครงการสะอาดตา เนื่องจากระบบไฟฟ้าฝังลงดินทั้งหมด ถึงไม่มีสายไฟระโยงระยางให้เกะกะตา ในขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการก็ถูกจัดสรรให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยดีไซน์ที่กลมกลืน ภายใน Club House ของโครงการจะมีทั้งพื้นที่เอาต์ดอร์ให้นั่งพักผ่อนชิลๆ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่น พอขึ้นมาที่บริเวณชั้น 2 ของ Club House ก็มีห้องฟิตเนสสุดเริ่ด ซึ่งแยกเป็นห้องสำหรับคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายครบครัน เวลาออกกำลังกายไปก็ได้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำสวยๆ ด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ชอบวิ่งบนลู่ จะออกไปเดินเล่นสูดอากาศที่สนามหญ้ากว้างข้างๆ Club House แวะนั่งพักใต้ต้นไม้มองดูเด็กๆ วิ่งเล่นก็ได้เช่นกัน ด้านล่างจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ติดกับสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่นั่งเล่น หรือจัดกิจกรรมเล็กๆ ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิง ภายในห้องอาบน้ำบริเวณ Club House มีพร้อมทั้ง Locker รวมถึงห้อง Steam แยกไว้ทั้งห้องน้ำชาย และห้องน้ำหญิง พื้นที่บริเวณคลับเฮ้าส์มีขนาดประมาณ 1 ไร่ ทั้งส่วนที่เป็น Outdoor มีสนามเด็กเล่น โครงการ Baranee Park ร่มเกล้า มีบ้านเพียง 86 หลังเท่านั้น ดังนั้นจะไม่มีรถเข้าออกให้วุ่นวายมากนัก การันตีเรื่องความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโครงการยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง หน้าโครงการติดตั้งประตูสไลด์อัตโนมัติ เข้า-ออกด้วยคีย์การ์ด พร้อมระบบสัญญาณกันขโมยภายในตัวบ้านทุกหลัง    บ้านสไตล์ Courtyard มาถึงตัวบ้านกันบ้าง ทางโครงการเลือกดีไซน์ให้ภายในบ้านมี Courtyard หลากหลายมุม มองไปทางไหนก็สามารถมองเห็นต้นไม้น้อยใหญ่ในบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มตา ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ ไม่ได้เปิดโล่งไปเสียทั้งหมด ทำให้ลูกบ้านสามารถทำกิจกรรมครอบครัวได้อย่างสะดวก Fespa เริ่มกันด้วยบ้าน Fespa มีพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. มาพร้อมห้องนอน 3 ห้อง, 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 55.7 ตร.วา บริเวณรอบบ้านจัดสรรเป็น Courtyard ไว้นั่งเล่นสังสรรค์ได้หลายมุม ซึ่งพื้นที่ของสนามหญ้าในบ้านเชื่อมต่อกับตัวบ้านไว้ได้อย่างลงตัว สามารถเปิดประตูเปิดรับธรรมชาติได้รอบบ้านเลยทีเดียว บรรยากาศหน้าบ้าน Fespa บริเวณที่จอดรถจะปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าสู่ตัวบ้าน ตกแต่งเป็นชานพักสามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นรอคนในบ้านได้ ด้านในบ้านจะมี Courtyard สวยๆ ไว้นั่งเล่น พักผ่อน ชมความร่มรื่นของต้นไม้ มุมนี้ไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้าคงจะเข้าท่าดี เข้ามาในบ้านตัวอย่าง จะเห็นว่าทางโครงการจัดตกแต่งไว้ให้มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นน่าอยู่ มีพื้นที่เก็บของจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย โซนกลางบ้านจัดวางโต๊ะกินข้าว ใกล้ๆ กันมี Pantry ครัวเปิดสำหรับจัดเตรียมอาหารเล็กน้อยๆ แยกจากครัวหลักที่เป็นครัวปิด ถัดเข้าไปด้านในสุดของบ้านเป็นมุมนั่งเล่น ดูทีวี หรือใช้รับแขกก็ได้ ซึ่งพื้นที่ตั้งแต่โต๊ะกินข้าวมา สามารถเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออกเพื่อรับแสง รับลม จากภายนอกได้อย่างเต็มที่ เราจึงรู้สึกได้เลยว่าบรรยากาศของบ้านจะโปร่ง โล่ง สบาย และเหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือทำกิจกรรมของครอบครัวได้เป็นอย่างดี พอเข้ามาในตัวบ้านแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Dinig Area และ Living Area จะอยู่ถัดไป ก่อนจะเข้าไปด้านใน เรามาดูห้องครัวที่อยู่ทางขวามือกันก่อนนะครับ ห้องครัวจะอยู่ในส่วนแรกของตัวบ้านเลย ครัวออกแบบให้เป็นครัวปิด ติดตั้งประตูกระจกเพิ่มเพื่อช่วยป้องกันกลิ่นรบกวน จากห้องครัวจะมีประตูออกไปที่ทิ้งขยะได้ ประตูที่อยู่ติดกับห้องครัวคือห้องน้ำเล็ก โซนกลางบ้านจัดวางให้เป็น Dining Area บริเวณนี้มีประตูอีกบ้านที่สามารถเปิดออกไปบริเวณด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งเชื่อมไปถึงที่ทิ้งขยะได้ด้วย พื้นที่ Dining Area กว้างพอจะวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ ทางโครงการตกแต่ง Pantry เล็กๆ สำหรับเตรียมอาหารบริเวณ Dinning Area ไว้ด้วย ตั้งแต่โซนกลางบ้านเข้าไป จะเชื่อมต่อกับ Courtyard ด้านนอก สามารถเปิดประตูออกหากันได้ตลอดเวลา ด้านในสุดเป็น Living Area กว้าง ทางโครงการตกแต่งด้วยโซฟายาวเข้ามุมเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว อีกด้านของ Living Area ยังมี Courtyard อีกอัน นอกจากจะทำให้บรรยากาศใน Living Area ดูโปร่งสบายแล้ว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านด้วย ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะพบกับ Common Area ซึ่งเป็นอีกโซนที่คนในบ้านจะได้ใช้ร่วมกัน ก่อนจะแยกย้ายเข้าสู่ห้องส่วนตัว แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัวเพื่อความสะดวกของสมาชิกทุกคน ในขณะที่ห้องนอนใหญ่จะพิเศษกว่าด้วยพื้นที่ของ Walk-in Closet และอ่างอาบน้ำในห้องน้ำ ซึ่งห้องแต่ละห้องสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งใช้เป็นห้องทำงาน ห้องหนังสือ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ แต่ถ้าหากมีสมาชิกครอบครัวเยอะขึ้น ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นห้องนอนรองรับสมาชิกทุกคนได้เช่นกัน Common Area บนชั้น 2 นี้จัดเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีเล็กๆ ซึ่งจะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกันมากยิ่งขึ้น ไปดู Master Bedroom / ห้องนอนใหญ่กันเลยดีกว่า ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางดีทีเดียว ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จากหน้าต่างของห้องนอนใหญ่ มองลงไปสามารถเห็นบรรยากาศร่มรื่นของ Courtyard ในบ้านได้เต็มตา บริเวณหน้าห้องน้ำกว้างพอจะทำ Walk-in Closet ได้สบายๆ ภายในห้องน้ำมีทั้ง Bath Tub และ Shower Box มาให้เรียบร้อยแล้ว สุขภัณฑ์ทุกอย่างเป็นไปตามที่เห็นในรูปเลย มาดูในห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันบ้าง ห้องแรกตกแต่งในโทนสีเข้มขรึม ภายในมีพื้นที่ใช้สอยขนาดกำลังดี แถมยังมีห้องน้ำในตัวอีกด้วย ห้องนอนเล็กอีกห้องตกแต่งมาคนละสไตล์ แต่พื้นที่ในห้องมีขนาดเท่าๆ กันเลย รวมถึงมีห้องน้ำในตัวด้วยเหมือนกัน Denfe บ้านเดี่ยวที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. มีห้องนอน 3 ห้อง, 4 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์ และที่จอดรถได้ 2 คัน บนที่ดินเริ่มต้น 65.8 ตร.วา ตัวบ้านยังคงคอนเซปต์อย่างเหนียวแน่นด้วย Courtyard กว้างบริเวณด้านหน้าตัวบ้าน มีชานพักสำหรับนั่งเล่นโดยรอบ ตามมาด้วย Courtyard ขนาดย่อมในโซนกลางด้านหลัง พื้นที่รอบตัวบ้านจึงถูกโอบล้อมด้วยสวนสีเขียวไว้ทุกด้าน มาถึงแบบบ้าน Denfe กันบ้าง ลานจอดรถหน้าบ้านปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ จอดรถได้ 2 คัน บริเวณหน้าประตูทางเข้าหลัก จัดตกแต่งเป็นชานพักนั่งเล่นร่มรื่น ประตูบานสีขาว คือประตูทางเข้าบ้านอีกบานจากทางด้านที่จอดรถ บ้าน Denfe มี Courtyard ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน บรรยากาศเป็นสีเขียวสบายตามากๆ ในขณะที่พื้นที่โซนกลางบ้านยังออกแบบให้เป็น Courtyard นั่งเล่นร่มๆ แบบส่วนตั๊วส่วนตัวอีกแห่ง ภายในตัวบ้านแบ่งพื้นที่ใช้สอยไว้เป็นสัดส่วน Living Area จัดไว้ในมุมที่สามารถเชื่อมต่อกับ Courtyard ทั้ง 2 ด้าน ในขณะที่อีกด้านของบ้านออกแบบให้มีครัวปิด ห้องน้ำ และห้องเก็บของใต้บันได แล้วใช้พื้นที่ในโซนกลางบ้านวางโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ให้สอดคล้องกลมกลืนกันมากขึ้น และด้วยความที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของตัวบ้านสามารถเปิดออกสู่ภายนอกได้เกือบทั้งหมด ตัวบ้านจึงโปร่ง สบายตาด้วยสีเขียวจากต้นไม้ใบหญ้า และร่มรื้นจากเงาไม้ใหญ่ เข้ามาในบ้านก็จะเห็น Dining Area ในโซนกลางของบ้านเลย พื้นที่บริเวณนี้เชื่อมต่อกับ Courtyard ได้ทั้ง 2 ด้าน แถมยังกว้างพอที่จะวางโต๊ะกินข้าวขนาด 8-10 ที่นั่งได้สบายๆ เลย จากบริเวณโต๊ะกินข้าว ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ได้เห็นต้นไม้เขียวๆ สบายตา เหมือนได้นั่งกินข้าวอยู่กลางสวนตลอดเวลา โซนด้านหนึ่งของตัวบ้าน จัดวางให้เป็น Living Area ตกแต่งด้วยชุดโซฟารับแขกขนาดใหญ่ สามารถรองรับการจัดปาร์ตี้ขนาดย่อมๆ ได้เลยทีเดียว จาก Living Area ยังสามารถมองเห็น Courtyard ของบ้านได้ทั้ง 2 ด้าน บรรยากาศภายในบ้านจึงโปร่งสบายไม่อึดอัด อีกฟากของตัวบ้าน มีห้องน้ำ ห้องครัว และห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งถูกจัด Layout ไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องครัวออกแบบมาให้เป็นครัวปิดครับ พื้นที่ใช้สอยในครัวก็กว้างมากพอจะลงครัวหนักๆ ได้เลย ประตูอีกด้านของห้องครัว เปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างบริเวณด้านหลังบ้าน ทางโครงการทำเป็นลานปูกระเบื้อง มีท่อระบายน้ำไว้เรียบร้อย ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีห้องใต้บันไดไว้สำหรับเก็บของใช้ ส่วนประตูอีกบ้านเป็นประตูที่เปิดออกไปสู่ด้านนอกของตัวบ้านครับ บนชั้น 2 ของบ้าน มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ที่แบ่งพื้นที่กันไปคนละมุมจึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยมีพื้นที่ Common Area บริเวณหน้าห้องเป็นเหมือนส่วนเชื่อมโยงสมาชิกทุกคนไว้ด้วยกัน โดยสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้นั่งเล่น พักผ่อน ทำกิจกรรมร่วมกันตามที่ต้องการ ซึ่งมุมนั่งเล่นที่ชั้น 2 นี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับวิวสวนหน้าบ้านได้อย่างเต็มตา ในขณะที่หน้าต่างอีกด้านก็สามารถมองเห็น Courtyard โซนหลังบ้านด้วยเช่นกัน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ร่วมถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและลงตัว โดยเฉพาะห้องนอนใหญ่ ที่กว้างพอจะมี Walk-in Closet ขนาดใหญ่เพื่อเก็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวได้จุใจเลยทีเดียว ขึ้นมาดูที่บริเวณชั้น 2 กันครับ แน่นอนว่าส่วนแรกที่เราจะเจอคือ Common Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับทุกคนในครอบครัวก่อนแยกย้ายเข้าห้องนอน ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยมากดีทีเดียวครับ วางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังเหลือที่อีกเพียบ จากหน้าต่างห้องนอนใหญ่สามารถมองเห็น Courtyard หน้าบ้านได้เต็มตา พื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำจัดเป็น Walk-in Closet ได้อย่างลงตัว ภายในห้องน้ำกั้นห้องอาบน้ำมาให้เรียบร้อย รวมถึงติดตั้งอ่างอาบน้ำมาอีกเช่นกัน ไปดูในห้องนอนเล็กกันบ้างครับ โดย 2 ห้องนี้มีโถงบันไดกั้นอยู่ตรงกลาง จึงเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องได้มากขึ้น ห้องแรกตกแต่งในสไตล์แมนๆ ด้วยโทนสีเข้มๆ มีมุมสำหรับงานอดิเรก โชว์ของรักของสะสมได้อย่างเต็มที่ ห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวเหมือนกันทุกห้อง ห้องนอนเล็กอีกห้องตกแต่งสไตล์สวยหวานเรียบง่าย ดูน่าอยู่ Liwa Liwa เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่สุดของโครงการ โดยมีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 260 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน บนที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.วา บ้านหลังนี้กว้างขวางสามารถรองรับสมาชิกของครอบครัวได้หลายคนเลยทีเดียว ซึ่งในบ้านตัวอย่างที่เราได้เข้าชมทางโครงการยังดีไซน์ให้มีสระว่ายน้ำเพิ่มเข้าไปด้วย โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของ Courtyard บริเวณด้านข้างของตัวบ้านทำสระว่ายน้ำไว้พร้อมกับชานพักผ่อนริมสระน้ำ ซึ่งเชื่อมโยงกับพื้นที่โซนกลางบ้านไว้อย่างลงตัว บ้านแบบสุดท้าย คือ Liwa เป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ลานจอดรถกว้างปูด้วยคอนกรีตสแตมป์ สามารถจอดรถได้มากถึง 3 คัน ตามแบบบ้านมาตรฐาน ตัวบ้านจะมี Courtyard ขนาดใหญ่ และมีนั่งเล่นในสวนเกือบรอบตัวบ้าน แต่บ้านตัวอย่างหลังนี้ใช้พื้นทีส่วนหนึ่งของ Courtyard ปรับให้เป็นสระว่ายน้ำแทน เปลี่ยนบรรยากาศจากมุมนั่งเล่นในสวน มาเป็นริมสระว่ายน้ำแทน บ้าน Liwa นี้ จะเพิ่มห้องนอนที่บริเวณชั้นล่างมาอีก 1 ห้อง ซึ่งห้องนี้สามารถปรับแต่งให้ใช้สอยประโยชน์อื่นๆ ได้ตามต้องการ หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือแขกผู้มาเยือนก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ในบริเวณด้านหลังของตัวบ้านยังมีห้องแม่บ้านอีก 1 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว แยกไว้เป็นสัดส่วน การออกแบบในบ้านตัวอย่างจัดแต่งครัวขนาดใหญ่ มีกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนปิด เพื่อช่วยป้องกันกลิ่นรบกวนขณะประกอบอาหารได้ด้วย ในขณะที่ห้องนั่งเล่นจัดให้อยู่ด้านเดียวกับสระว่ายน้ำ สามารถเปิดม่านออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้เลย เช่นเดียวกับโซนกลางบ้านที่วางโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง ทำให้เปิดรับวิวธรรมชาติได้ทั้งสองด้านพร้อมๆ กัน เปิดประตูเข้าบ้านมาจะเจอกับ Dining Area ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Courtyard ทั้ง 2 ด้านของตัวบ้าน ด้านหนึ่งเป็นสวนเล็กๆ ช่วยเพิ่มความร่มรื่นสบายตา ในขณะที่อีกด้าน ตกแต่งใหม่ให้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ซึ่งเราสามารถเปิดประตูออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ โซนด้านในสุดออกแบบให้เป็นห้องครัวกึ่งปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนปิดได้ตามการใช้งาน เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะกึ่ง Island ให้ความรู้สึกถึงความเชื่อมโยงถึงกันของพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างของบ้าน ประตูด้านหลังห้องครัว สามารถเปิดออกไปสู่ลานซักล้างด้านหลังบ้าน และห้องแม่บ้านที่อยู่ทางด้านหลังด้วย ใกล้ๆ กับห้องครัว มีห้องน้ำเล็กอีก 1 ห้อง Living Area ถูกออกแบบไว้ในโซนด้านในสุดของตัวบ้าน มีหน้าต่างบานใหญ๋เปิดรับแสงธรรมชาติ และเห็นวิวสระว่ายน้ำได้พร้อมๆ กัน ทางโครงการจัดวางชุดโซฟาตัวยาวตลอดแนว เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่บริเวณชั้นล่าง มีห้องนอนเล็กเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งห้อง ซึ่งสามารถปรับแต่งฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลายมาก ตามตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้ เลือกที่จะแต่งห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ เผื่อใช้เพื่อการรับแขกส่วนตัว หรือถ้าต้องการก็ยังสามารถใช้เป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย เพราะภายในมีห้องน้ำส่วนตัวมาพร้อมแล้ว บนบริเวณชั้น 2 มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนหลักจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้พื้นที่ของ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำกว้างขวางมาก พื้นที่หน้าห้องนอนชั้น 2 จัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนที่สามารถเปิดรับวิวสวนสวยได้พร้อมกัน 2 ด้านเช่นเดียวกับแบบบ้านก่อนหน้า ซึ่งทางโครงการพยายามจัดสรรให้ทุกพื้นที่สามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าที่สุด Common Area บริเวณชั้น 2 มีพื้นที่กว้างมากๆ แถมยังโปร่งโล่งสบายตา เนื่องจากมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสง รับลม และวิว Courtyard ได้ทั้ง 2 ทาง เชื่อว่ามุมนี้น่าจะเป็นโปรดของทุกคนในบ้าน ไม่ว่าจะใช้นั่งเล่นอ่านหนังสือ เล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันได้อีกหลายรูปแบบ มาดูในห้องนอนใหญ่กันครับ ภายในกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่ และช่องรับแสงได้หลายทาง พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีมากพอที่จะจัดตกแต่งให้ใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ น่าจะถูกใจสาวๆ แม่บ้าน เพราะสามารถจัดเก็บข้าวของ เสื้อผ้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในห้องน้ำ จัดวางห้องอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำไว้คนละด้าน รวมถึงมุมทำธุระส่วนตัวก็จัดที่ทางไว้อย่างลงตัว มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันบ้าง แน่นอนว่าพื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขวางเหลือเฟือขนาดวางเตียงและโซฟาเบดไว้คู่กันแล้วยังเหลือพื้นที่สบายๆ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว และเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นด้วยการ Built-in ชั้นเก็บของมาเต็มพื้นที่ผนังเลยทีเดียว ในขณะที่ห้องนอนเล็กห้องที่ 2 จัดตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่าง และดูเรียบง่ายมากกว่า ภายในห้องมีหน้าต่างทั้ง 2 มุม เปิดรับแสงธรรมชาติ และวิวสวนในบ้านได้เป็นอย่างดี พื้นที่ภายในห้องกว้างมากพอที่จะออกแบบให้มี Walk-in Closet เป็นสัดส่วนในบริเวณทางเดินไปยังห้องน้ำภายในห้อง หลังจากได้เยี่ยมชมบ้านตัวอย่างครบทั้ง 3 แบบแล้ว ต้องยอมรับว่าเราแอบหลงใหลกับบ้านสไตล์ Courtyard เข้าให้แล้วเหมือนกัน บ้านทุกหลังออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับความวุ่นวายภายนอกมาทั้งวัน ซึ่งทางโครงการ Baranee Park ร่มเกล้า สามารถสอดแทรกพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นไว้ทุกซอกทุกมุมจริงๆ สมกับคำว่า “บ้านเงาไม้” ทางโครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งบ้านมาตรฐาน และบ้านตกแต่งพร้อมอยู่ตามอย่างในบ้านตัวอย่างเลยนะครับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสอบถามโปรโมชั่นได้ที่ : http://www.manapat.co.th/tha/projects/baranee-park-romklao ***พิเศษกับโปรโมชั่นล่าสุด (แนบโปรโมชั่นต่อท้าย // สามารถเปลี่ยนแปลงได้) Fespa - แอร์ห้องนอน Master ขนาด 14,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 2 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 3 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง ปูหญ้าจัดสวน 1 รายการ Shower ทุกห้องน้ำ 3 ชุด สัญญาณกันขโมย 1 ชุด ชุดครัว (เตา+เครื่องดูดควัน) 1 ชุด ประตูบานพับอัตโนมัติ พื้นลานจอดรถสแตมป์คอนกรีต Denfe - แอร์ห้องนอน Master ขนาด 14,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 2 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 3 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง ปูหญ้าจัดสวน 1 รายการ Shower ทุกห้องน้ำ 3 ชุด สัญญาณกันขโมย 1 ชุด ชุดครัว (เตา+เครื่องดูดควัน) 1 ชุด ประตูบานพับอัตโนมัติ พื้นลานจอดรถสแตมป์คอนกรีต Liwa - แอร์ห้องนอน Master ขนาด 22,500 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 2 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 3 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง แอร์ห้องนอน 4 ขนาด 12,300 BTU 1 เครื่อง ปูหญ้าจัดสวน 1 รายการ Shower ทุกห้องน้ำ 4 ชุด สัญญาณกันขโมย 1 ชุด ชุดครัว (เตา+เครื่องดูดควัน) 1 ชุด ประตูบานพับอัตโนมัติ พื้นลานจอดรถสแตมป์คอนกรีต
Brown Condo Ratchada 32 : รีวิวคอนโด

Brown Condo Ratchada 32 : รีวิวคอนโด

Brown Condo Ratchada 32 (บราวน์ คอนโด รัชดา 32) คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น ในซอยรัชดา 32 โครงการใหม่ล่าสุด จาก Asset Wise รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ   Asset Wise Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    242 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 91 คัน หรือคิดเป็น 38% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 44 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ซอยรัชดา 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2561 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ศาลอาญา MRT ลาดพร้าว เมเจอร์ รัชโยธิน ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.96 - 25.48 ตารางเมตร จำนวน 166 ยูนิต 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29.79 - 34.78 ตารางเมตร จำนวน 52 ยูนิต 1 Bedroom Plus ขนาด 33.13 - 46.37 ตารางเมตร จำนวน 24 ยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ฟิตเนส Playroom Library Jogging Track Outdoor Exercise Yoga Deck Barbecue Party & Wine Bar Sculptural Playground Healthy Plants Garden Starlight Terrace Putting Green Access Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 081-064-3232 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.browncondo.com
Baranee Residence รังสิต-คลอง 3 : รีวิวบ้าน

Baranee Residence รังสิต-คลอง 3 : รีวิวบ้าน

ต้องยอมรับกันว่าปัจจุบันการจะหาบ้านเดี่ยวดีๆ ซักหลังเพื่อทุกคนในครอบครัวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใครๆ ก็อยากได้คุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีสังคมเพื่อนบ้านที่เอื้ออำนวยต่อความเป็นอยู่ที่สงบสุข รวมไปถึงมีพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอต่อทุกกิจกรรมของคนในครอบครัวกันแทบทั้งนั้น แถมยังต้องพิจารณาให้อในราคาที่เอื้อมถึงก็จัดว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่น้อยเลย Review Your Living ฉบับนี้จะพาไปเจาะลึก ทำความรู้จักกับโครงการบ้านเดี่ยว “Baranee Residence” บ้านคุณภาพในย่านรังสิต ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่มีครอบครัวได้อย่างแท้จริงกันแบบละเอียดยิบ ใครที่กำลังมีแผนจะซื้อบ้านเดี่ยว รีบตามมาดูกันเลย “Baranee Residence” ยึดทำเลในรังสิตคลอง 3 เป็นที่ตั้งโครงการ ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทั้งทางฝั่งรังสิต และคลองหลวง รวมถึงเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน ถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก และทางด่วนอุดรรัถยา (สายบางประอิน-ปากเกร็ด) ก็ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองมีทางเลือกหลายทาง สามารถหาทางเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดได้อีกด้วย แผนที่ของโครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราใช้ถนนวิภาวดีรังสิต เริ่มจากบริเวณสนามบินดอนเมืองกันเลยนะครับ เราขับตามถนนวิภาวดีรังสิตมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ฝั่งขวามือจะเห็นเซียร์ รังสิต สังเกตป้ายนครนายกแล้วขับตามไปเรื่อยๆ เลยครับ เบี่ยงออกซ้ายเพื่อไปทางนครนายก ตามป้าย ขึ้นสะพานข้ามคลองไปเลยครับ ฝั่งขวามือจะเป็นเมเจอร์ รังสิต แสดงว่าใกล้ถึงทางโค้งไปทางนครนายกแล้วครับ เบี่ยงซ้ายตามป้าย เพื่อขึ้นสะพานไปเข้าถนนรังสิต-นครนายก โค้งซ้ายขึ้นสะพานไปเลยครับ ขึ้นสะพานวนข้ามถนนพหลโยธินมาแล้วเราจะเข้าสู่ถนนรังสิตนครนายก ฝั่งซ้ายมือจะเป็นฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิตและ Zpell ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นเมเจอร์ รังสิต จากนั้นตรงไปตามถนนรังสิต-นครนายกเรื่อยๆ เลยครับ จาก Zpell เราขับตรงไปตามถนนรังสิต-นครนายกอีกประมาณ 4.7 กม. ก็จะถึงทางเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองสาม ตรงนี้ต้องสังเกตดีๆ นะครับ ไม่งั้นอาจจะเลยได้ ปากซอยทางเข้าคลองสาม มีอเวนิวเปิดใหม่ชื่อ ธาราอเวนิว ด้านในมีร้านอาหาร ร้านค้า ต่างอยู่ อยู่หลายร้านทีเดียวครับ จากนั้นเราขับตามถนนเลียบคลองสามต่อไปเรื่อยๆ เลยครับ ถนนเพิ่มเป็น 4 เลนแล้ว ขับสบายขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยครับ ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอบิ๊กซี คลองสาม อยู่ทางซ้ายมือ เวลาจะซื้อของเข้าบ้านตรงนี้ช่วยได้เยอะเลยครับ ไม่ต้องขับรถออกไปไกล เลยจากบิ๊กซีมาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ถ้านับจากปากซอยคลองสามเข้ามาถึงโครงการก็ประมาณ 7 กิโลเมตร พื้นที่ในย่านรังสิตคลอง 3 เป็นย่านที่มีความเป็นชุมชนสูง ตลอดเส้นทางในถนนคลอง 3 มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งร้านค้านานาชนิด ร้านอาหาร ร้านขายยา คลินิค ตลาดสด ซุปเปอร์มาร์เก็ต และโรงเรียน ในขณะเดียวกันทางด้านถนนคลองหลวงก็มีห้องโลตัส แมคโคร ห่างออกไปอีกหน่อยก็มี ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และ Zpell ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญของคนในย่านนี้ “Quality Meets Life” เริ่มต้นจากทางเข้าโครงการที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงวงเวียนน้ำพุอลังการสังเกตุเห็นได้ง่าย เรื่องความปลอดภัยก็อุ่นใจได้ด้วยระบบ Key Card, กล้องวงจรปิดบันทึกภาพบริเวณทางเข้า-ออก และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการภายในหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ด้านหน้าทางเข้าโครงการหรูหราอลังการ เข้าออกด้วยระบบ Key Card และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 มีบ้านทั้งหมด 140 หลังด้วยกัน ทุกหลังตั้งอยู่บนถนนหลักที่กว้างมากสุดถึง 16 เมตร โดยมีเกาะกลางช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้เกือบตลอดแนว บรรยากาศโดยรวมภายในโครงการมีความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ ซึ่งทางโครงการจัดสวนสวยไว้รอบโครงการ รวมถึงสวนในบ้านด้วย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ถนนเมนในโครงการกว้าง 16 เมตร พร้อมเกาะกลางร่มรื่น ถนนบางช่วงกว้าง 12-14 เมตร จึงไม่มีเกาะกลางขั้นกลาง บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นมาก เมื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ พื้นที่ (Space) จึงถูกจัดสรรเพื่อตอบทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ลูกบ้านสามารถทำกิจกรรมที่หลากหลายในบริเวณ Club House ซึ่งประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายครบครัน รวมไปถึงสวนสาธารณะขนาดกว้างที่มีพื้นที่ให้เดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่นๆ ของเด็กๆ Earl Grey Earl Grey บ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 220 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ตัวบ้านยกสูงจากถนน 90 เซนติเมตร ออกแบบให้มีชานนั่งเล่นหน้าบ้าน และสวนรอบบ้านเลยทีเดียว ลานหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าบ้านมี Digital Door Lock เพิ่มความอุ่นใจและสะดวกสบายให้กับทุกคนในครอบครัว ลานจอดรถหน้าบ้าน ปูด้วยคอนกรีตสแตมป์ ยกสูงจากถนนอีก 15 ซม. พื้นที่จอดรถกว้างขวาง สามารถจอดรถได้ 2 คัน บันไดขึ้นสู่ตัวบ้านยกขึ้นมาอีก 3 ขั้น รวมๆ แล้วตัวบ้านจะสูงกว่าถนนหลักถึง 90 ซม. เลยทีเดียว บ้านทุกหลังมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้แล้ว พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ทางโครงการจัดสรรมาให้เป็นอย่างดี โดยในบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งไว้ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้งห้องนั่งเล่นชั้นล่างและมุมรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อถึงกันกับชานนั่งเล่นหน้าบ้านได้อย่างลงตัว เพียงแค่เปิดประตูกระจกด้านหน้าออกก็สามารถเพิ่มพื้นที่ในการจัดกิจกรรมร่วมกันได้แล้ว ทางด้านชานหน้าบ้านติดกับโรงรถ ก็ยกสูงขึ้นมาเท่ากับตัวบ้าน บริเวณนี้มีพื้นที่กว้างพอที่จะจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนในบรรยากาศติดสวน ก้าวเข้ามาในบ้านจะเจอกับ Living Area ก่อน พื้นที่ใช้สอยโปร่งโล่งไม่อึดอัด ประตูกระจกบานใหญ่ ช่วยให้ตัวบ้านเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี พื้นที่ของห้องรับแขก เชื่อมต่อกับห้องกินข้าวซึ่งอยู่ติดกับประตูกระจกด้านข้างตัวบ้าน บริเวณชั้นล่างมีห้องนอนเล็กอีกหนึ่งห้องด้วยนะครับ ห้องครัวเป็นกึ่งครัวปิด มีห้องเก็บของบริเวณใต้บันไดช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น บริเวณด้านหลังบ้านมีลานซักล้าง และพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการก็จัดเตรียมระบบน้ำและไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ห้องครัวอยู่ถัดเข้าไปด้านในสุดของตัวบ้าน ในห้องครัวมีหน้าต่างช่วยให้การระบายอากาศและกลิ่นได้ดีขึ้น ลานซักล้างด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรเลยทีเดียว ห้องนอนเล็กที่ชั้นล่างมีประตูกระจกบานใหญ่สามารถเปิดออกมาที่ด้านหลังบ้านได้ด้วย มุมนั่งเล่นด้านข้างของตัวบ้าน ใช้ทำกิจกรรม จัดปาร์ตี้ หรือนั่งเล่นพักผ่อนร่วมกับสมาชิกในครอบครัวได้เลย บริเวณชั้นล่างเสริมด้วยห้องนอนเล็ก 1 ห้อง ซึ่งสามารถจัดตกแต่งใช้เป็นห้องทำงาน หรือจะให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็สะดวกดีทีเดียว ส่วนห้องน้ำของชั้นหนึ่งจะอยู่ตรงข้ามห้องครัว ทางโครงการตกแต่งห้องนอนเล็กชั้นล่างให้เป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขกส่วนตัว ห้องนอนเล็กนี้ มีประตูกระจกบานใหญ่เปิดออกไปด้านหลังตัวบ้านได้ด้วย ห้องน้ำที่ชั้นล่างอยู่ด้านตรงข้ามกับห้องครัว ขึ้นมาที่บริเวณชั้น 2 จะพบกับพื้นที่นั่งเล่นสำหรับการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นนั่งดูทีวี พูดคุยร่วมกัน หรือแม้แต่ใช้เป็นพื้นที่รับแขกคนสนิทแบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน ในขณะที่พื้นที่ของห้องนอนทั้ง 3 ห้องบนชั้น 2 ก็แบ่งพื้นที่กันไว้อย่างลงตัว ทั้งห้องนอนใหญ่ที่กว้างมากพอที่จะมีห้องอาบน้ำและ Walk-in Closet ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องก็จัดไว้ในโซนด้านเดียวกันอย่างเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่ทั้งหมดนี้เพียงพอต่อการรองรับสมาชิกของครอบครัวขนาดใหญ่ หรืออาจจัดสรรให้ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกถ้าเป็นครอบครัวขนาดเล็ก โถงนั่งเล่นที่บริเวณชั้น 2 ติดกับระเบียงด้านหน้า มีประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงได้เป็นอย่างดี จากบริเวณนี้สามารถมองลงไปเห็นบริเวณหน้าบ้านได้ชัดเจน ระเบียงกว้างพอที่จะปลูกต้นไม้เล็กๆ ได้บ้าง ไปดูห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันดีกว่า ห้องแรกตกแต่งในโทนสีเข้มเลยทีเดียว พื้นที่ใช้สอยภายในห้องขนาดกะทัดรัดกำลังดี มีพื้นที่เก็บของได้พอสมควร ห้องน้ำด้านหน้าอยู่ระหว่างห้องนอนเล็ก ซึ่งต้องใช้ร่วมกัน ส่วนห้องอีกห้อง ตกแต่งเป็นห้องทำงาน เป็นมุมเวิร์คช็อปได้น่าสนใจดีทีเดียว ส่วนอีกโซนของบ้าน เป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัวมาพร้อม พื้นที่ในห้องนอนใหญ่กว้างขวาง วางเตียงนอน 6 ฟุตแล้วยังเหลือที่อีกเหลือเฟือ ในห้องวาง Day Bed เข้ามุมไว้ติดริมหน้าต่าง เพิ่มมุมนั่งเล่นพักผ่อน อ่านหนังสือได้อีกมุม พื้นที่หน้าห้องน้ำกว้างพอที่จะจัดเป็น Walk-in Closet ได้ด้วย ในห้องน้ำจัดวางสุขภัณฑ์ไว้ได้อย่างลงตัว Darjeeling ถ้าบ้านแบบแรกยังมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เรามาดูบ้านหลังใหญ่กันบ้าง บ้าน Darjeeling เป็นบ้านเดี่ยวแบบหน้ากว้าง มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 240 ตร.ม. ส่วนพื้นที่รอบบ้านก็แล้วแต่ขนาดที่ดิน ซึ่งในบ้านตัวอย่างหลังที่เปิดให้เข้าชมเป็นแปลงมุม ทำให้มีชานนั่งเล่นบริเวณด้านข้างของตัวบ้านมากขึ้นอีกพอสมควร โดยทางโครงการจัดการตกแต่งพื้นที่ด้านข้างเป็นมุมนั่งเล่น จัดกิจกรรมปาร์ตี้ร่วมกันได้ ภายในตัวบ้านแบ่งพื้นที่ใช้สอยหลักๆ เป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ลานจอดรถปูด้วยคอนกรีตสแตมป์สวยงาม ลานจอดรถรองรับจำนวนรถได้ 2 คัน สวนหน้าบ้านตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ช่วยเพิ่มความร่มรื่นสบายตา บ้านตัวอย่างเป็นบ้านหัวมุม จึงมีพื้นที่พอสำหรับทำชานนั่งเล่นด้านข้างตัวบ้าน มุมนี้กว้างพอจะใช้จัดกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งครอบครัว พื้นที่ซักล้างที่ด้านหลังตัวบ้านกว้างขวางพอจะวางเครื่องซักผ้าได้สบายๆ ประตูทางเข้าใช้ Digital Door Lock เช่นกัน รวมถึงตัวบ้านก็อยู่สูงจากถนน 90 เซนติเมตร ก็เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ บริเวณห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นเปิดโล่งรับแสงจากภายนอกได้ดี เช่นเดียวกับพื้นที่ของโต๊ะกินข้าวที่สามารถเปิดออกไปยังบริเวณเฉลียงหน้าบ้านได้อีกเช่นกัน ซื่งพื้นที่บริเวณนี้สามารถเลือกตกแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าบ้านได้เลยว่าอยากให้อะไรอยู่มุมไหนบ้าง ชานพักนั่งเล่นด้านหน้าตัวบ้าน ยกสูงขึ้นมาเท่ากับตัวบ้าน ชานบ้านกว้างขวางมีพื้นที่เชื่อมต่อกับใสนตัวอย่างได้อย่างลงตัว ทางเดินจากลานจอดรถเข้าสู่ตัวบ้าน Living Area แบ่งโซนออกเป็นห้องนั่งเล่น วางชุดโซฟาใหญ่ไว้สำหรับนั่งดูทีวี สังสรรค์กับครอบครัว ประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และทำให้สามารถมองเห็นสวนหน้าบ้านได้อย่างชัดเจน อีกด้านของ Living Area จัดไว้เป็นมุมกินข้าว วางโต๊ะชุดใหญ่ขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ ในขณะที่ห้องครัวถูกออกแบบมาให้เป็นกึ่งครัวปิด มีหน้าต่างช่วยระบายอากาศได้ดี ถ้าเพียงติดตั้งประตูกระจกเพิ่มก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นรบกวนในบ้านระหว่างทำครัวไปได้อีกทาง นอกจากนี้ที่บริเวณชั้นล่างยังมีอีก 1 ห้องนอนเล็กพร้อมห้องน้ำในตัว ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตามความเหมาะสม โดยสามารถตกแต่งให้เป็นได้ทั้งห้องนอน ห้องทำงาน ห้องหนังสือ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ด้านในของตัวบ้านเป็นพื้นที่ของห้องครัว รวมถึงประตูทางออกไปยังด้านหลังของตัวบ้าน ห้องครัวเป็นแบบกึ่งปิด ไม่ได้มีประตูติดตั้งมาให้ แต่มีหน้าต่างสามารถเปิดออกไปทางชานนั่งเล่นข้างบ้านได้ ไปดูห้องนอนเล็กของชั้นล่างที่อีกด้านของตัวบ้านกันบ้างดีกว่า ทางโครงการตกแต่งให้ห้องนอนเล็กนี้เป็นห้องทำงาน ซึ่งภายในห้องมีห้องน้ำในตัวมาพร้อมแล้ว สามารถปรับประโยชน์ใช้สอยได้ตามใจชอบ ประตูกระจกในบานใหญ่ นอกจากจะช่วยเรื่องเปิดรับแสงแล้ว ยังสามารถเปิดออกไปยังด้านหลังของบ้านได้อีกด้วย ห้องน้ำในห้องพร้อมใช้งาน ขยับขึ้นมาดูที่บริเวณชั้น 2 กันบ้าง แน่นอนว่าทางโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับการมีคุณภาพชีวิตครอบครัวที่ดี ดังนั้นจึงเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นบริเวณชั้น 2 ขึ้นมาเพื่อให้พร้อมรองรับทุกกิจกรรมของครอบครัว ไม่ว่าจะจัดให้เป็นมุมดูทีวี มุมนั่งเล่น หรือพื้นที่จัดปาร์ตี้สังสรรค์เล็กๆ ของคนในบ้านก็ดูจะลงตัวไปเสียทุกอย่าง ในขณะที่พื้นที่ในห้องนอนทั้ง 3 ห้องก็มีความเป็นส่วนตัวมากพอสำหรับทุกคน ทั้งห้องนอนใหญ่ที่กว้างขวาง และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่ยังคงสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะพบกับ Common Area ในโซนกลางบ้าน ซึ่งจัดเป็นมุมพักผ่อนสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้าน มุมนี้ติดประตูกระจกบานเลื่อนทำให้สามารถเปิดประตูออกไปที่ระเบียงได้ โซนด้านหนึ่งของบริเวณชั้น 2 แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำบริเวณหน้าห้องทั้ง 2 ห้องแรกตกแต่งไว้สำหรับเด็กเล็ก จึงมีสีสันสดใสน่าอยู่ ห้องนอนเล็กห้องนี้อยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน จึงมีระเบียงกว้างในบริเวณห้องด้วย ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้อง ตกแต่งเป็นห้องพักผ่อน หรืออาจปรับให้เป็นห้องนอนเพื่อรองรับสมาชิกครอบครัวที่เพิ่มขึ้นก็ทำได้เช่นกัน ห้องน้ำเล็กบริเวณหน้าห้องสำหรับการใช้งานของสมาชิกนอนเล็ก ห้องสุดท้ายของตัวบ้านที่เราจะไปดูก็คือ ห้องนอนใหญ่ที่อยู่อีกด้านของตัวบ้าน ห้องนอนใหญ่กว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอที่จะตกแต่งให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย Day Bed วางไว้ริมหน้าต่างใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้าห้องน้ำก็จัดตกแต่งให้เป็น Walk-in Closet เก็บเสื้อผ้าได้เป็นระเบียบเรียบร้อย และมีหน้าต่างรับแสง ช่วยให้มุมนี้ไม่มืดจนเกินไป ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ จัดวางตำแหน่งของสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้อย่างลงตัว และติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังมาให้พร้อมแล้ว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ที่สะท้อนให้เราได้เห็นว่า โครงการบ้านที่ดีที่มีการออกแบบเพื่อให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคุณและครอบครัว มีสเปซสำหรับทุกคน และพื้นที่ที่พร้อมด้วย Facility ครบครัน ในทำเลโซนกรุงเทพฝั่งเหนือ ซึ่งพร้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีของการอยู่อาศัย จนคุณสามารถมั่นใจได้ว่าความเป็นอยู่ของทุกคนในครอบครัวจะอบอุ่นและได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าที่เคยไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อชมโครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 ได้ที่ : http://www.manapat.co.th/tha/projects/baranee_residence
The Line Phahon-Pradipat : รีวิวคอนโด

The Line Phahon-Pradipat : รีวิวคอนโด

The Line Phahon-Pradipat (เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธิ์) คอนโด High Rise สูง 46 ชั้น พร้อมคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น อีก 1 อาคาร บนถนนประดิพัทธิ์ ใกล้ BTS สะพานควาย โครงการใหม่จาก แสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,550,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 155,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 46 ชั้น 1 อาคาร คลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     981 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนประดิพัทธิ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เริ่มก่อสร้าง    เดือนมกราคมปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2020 ค่าส่วนกลาง    52 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สะพานควาย บิ๊กซี สะพานควาย โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ BTS อารีย์ La Villa อารีย์ ตลาดนัดสวนจตุจักร เซ็นทรัล ลาดพร้าว ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 1 Bath ขนาด 26.25 - 40.75 ตารางเมตร 2 Bedrooms 1 Bath ขนาด 51.50 - 51.75 ตารางเมตร 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 54 - 67 ตารางเมตร 3 Bedroom 2 Bath ขนาด 79 - 111.50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่ และสระเด็ก ฟิตเนส สวนส่วนกลาง ห้องสมุด ห้องซักผ้า สนามเด็กเล่น บนชั้น 35 ห้องพักผ่อนเอนกประสงค์ ชั้น 46 Free Wi-Fi ที่คลับเฮ้าส์, Lobby และส่วนสันทนาการ จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Access Card ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
The Line Sukhumvit 101 : รีวิวคอนโด

The Line Sukhumvit 101 : รีวิวคอนโด

The Line Sukhumvit 101 คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น อีกหนึ่งโครงการในตระกูล The Line ที่ยังเน้นเกาะติดแนวรถไฟฟ้า ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 101 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี โครงการใหม่จาก แสนสิริ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,550,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 150,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise  สูง 37 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     778 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    ประมาณ 321 คัน คิดเป็น 41% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เริ่มก่อสร้าง    เดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนมกราคม 2020 ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ปุณณวิถี โรงเรียนนานาชาติแองโกล สิงคโปร์ โรงเรียนนานาชาติเวลส์ เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 บิ๊กซี อ่อนนุช ไบเทค บางนา เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอน สแควร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 1 Bath ขนาด 26.75 - 33.25 ตารางเมตร 2 Bedrooms 1 Bath ขนาด 47.50 - 48 ตารางเมตร 1 Bedroom 1 Bath (Duplex) ขนาด 41.25 - 44.75 ตารางเมตร 2 Bedroom 2 Bath (Duplex) ขนาด 61.50 - 62.75 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Co-working space Game Room Laundry Fitness Co-Kitchen Lawn Pavilion สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ (โอลิมปิคไซส์) แยกสระเด็ก Jogging Track LED Multi Sports Court สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัยและ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :    1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sansiri.com
The Kith Lite บางกะดี-ติวานนท์ เฟส 2 : รีวิวคอนโด

The Kith Lite บางกะดี-ติวานนท์ เฟส 2 : รีวิวคอนโด

The Kith Lite บางกะดี-ติวานนท์ เฟส 2 คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น จำนวน 2 เฟส เฟสละ 2 อาคาร รวม 4 อาคาร บนถนนติวานนท์ ใกล้สวนอุตสาหกรรมบางกะดี เดินทางสะดวกสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน จาก SENA Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    799,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 4 อาคาร จำนวนห้อง    696 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   8 - 1 - 24.9 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนติวานนท์ ต.บางกะดี อ.เมือง ปทุมธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง สวนอุตสาหกรรมบางกะดี 600 เมตร ตลาดน้ำวัดมะขาม 3 กิโลเมตร ทางด่วนอุดรรัถยา 3.4 กิโลเมตร มหาวิทยาลัยปทุมธานี 3.2 กิโลเมตร Riverdale golf club  1.3 กิโลเมตร ตลาดพูนทรัพย์ 2 กิโลเมตร ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตร.ม. Type A 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตร.ม. Type B สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนรอบโครงการ และ Solar Bench Free wifi 1 ปี* ที่จอดรถยนต์และจักรยานยนต์ รปภ. ตลอด 24 ชม. CCTV Keycard สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1775 กด 27 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.sena.co.th/register/thekith-lite-bangkadi-tiwanon
Modiz Interchange : รีวิวคอนโด

Modiz Interchange : รีวิวคอนโด

Modiz Interchange คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนถนนรามอินทรา ใกล้วงเวียนหลักสี่และเซ็นทรัล รามอินทรา พร้อมรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีชมพู โครงการใหม่จาก Asset Wise รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,790,000 บาท เจ้าของโครงการ    Asset Wise Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    217 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 86 คัน หรือคิดเป็น 40% เนื้อที่ทั้งหมด    1 - 1 - 55 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนรามอินทรา แขวงอนุเสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนเมษายน ปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกรกฎาคม ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง วงเวียนหลักสี่ มหาวิทยาลัยเกริก เซ็นทรัล รามอินทรา วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน เทสโก้ โลตัส หลักสี่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 22.70 - 24.37 ตารางเมตร 1 Bedroom Extra  ขนาด 28.04 - 28.29 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus  ขนาด 38 - 42.94 ตารางเมตร Duplex  ขนาด 63.22 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Duplex Lobby Lounge สระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก ฟิตเนส ห้องสมุด Meeting room Poolside terrace Rooftop Co-working space Moonlight garden Sky pavilion สวนหย่อมรอบโครงการ 24 hour security ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  089-3311-777 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  modizcondo.com/interchange/
Maestro 07 Victory Monument : รีวิวคอนโด

Maestro 07 Victory Monument : รีวิวคอนโด

Maestro 07 Victory Monument คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยราชวิถี 7 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอนุเสาวรีชัยสมรภูมิ เพียง 300 เมตร โครงการใหม่ จาก Major Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,800,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    171 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 0 - 41.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยราชวิถี 7 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2561 ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    650 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS อนุเสาวรีชัยสมรภูมิ เซ็นเตอร์วัน เซ็นจูรี่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คิงพาวเวอร์ ซอยรางน้ำ โรงพยาบาลรามาธิบดี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 27 - 28.50 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 45.50 - 68 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสตีม, ห้องซาวน่า เบิร์ดเคจ คาบาน่า ลานบาร์บีคิว เอ็กซ์เซคคูทีฟ เลาจน์ ห้องเด็กเล่น ลานวิ่งจ๊อกกิ้ง ลานโยคะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. อินเตอร์เน็ตไร้สาย 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-116-1111 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  mde.co.th/th/event/met07presales
ARNA Ekamai : รีวิวบ้าน

ARNA Ekamai : รีวิวบ้าน

ARNA Ekamai บ้านเดี่ยวหรูระดับ Super Luxury ในซอยสุขุมวิท 65 หรือซอยชัยพฤกษ์ ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อยเพียง 11 ยูนิต เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย บ้านเดี่ยวโครงการแรกจาก  D'Well Grand Asset     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    32,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    D'Well Grand Asset Co., Ltd. ลักษณะโครงการ   บ้านเดี่ยว 3-4 ชั้น จำนวน 11 หลัง เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 3 - 74 ไร่ ที่ตั้งโครงการ  ซอยสุขุมวิท 65 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 4 ปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 1 ปี 2018   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   BTS เอกมัย โรงพยาบาลสุขุมวิท Gateway เอกมัย เมเจอร์เอกมัย ท้องฟ้าจำลอง โรงเรียนปทุมคงคา W District Rain Hill Park Lane เอกมัย J Avenue โรงพยาบาลสมิติเวช แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   Type A ที่ดิน 36-39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 345 - 358 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 32 ล้านบาท Type B ที่ดิน 45 - 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 407.23 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาท Type C ที่ดิน 57-69 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 - 401 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 53 ล้านบาท แบบบ้าน Type A ที่ดิน 36-39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 345 - 358 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 32 ล้านบาท แปลนบ้าน Type A แบบบ้าน Type B ที่ดิน 45 - 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 407.23 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาท แปลนบ้าน Type B แบบบ้าน Type C ที่ดิน 57-69 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 - 401 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 53 ล้านบาท แปลนบ้าน Type C สิ่งอำนวยความสะดวก   รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร Key Card Access เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV 24 ชั่วโมง   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  061-662-6565 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.arna-ekamai.com
Rise Rama 9 : รีวิวคอนโด

Rise Rama 9 : รีวิวคอนโด

Rise Rama 9 (ไรซ์ พระราม 9) คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร บนถนนพระราม 9 ใกล้ทั้ง MRT และ Airport Link โครงการใหม่จาก All Inspire Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,690,000 บาท เจ้าของโครงการ    All Inspire Development Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวนห้อง    ประมาณ 600 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   6 - 0 - 92 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง เดอะมอลล์ รามคำแหง 2 เดอะมอลล์ รามคำแหง 3 เมเจอร์ รามคำแหง เสรี มาร์เก็ต เดอะ ไนน์ พระราม 9 โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลปิยะเวท โรงพยาบาลพระราม 9 เซ็นทรัล พระราม 9 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 25 – 33 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 61 ตารางเมตร Duplex  ขนาด 70 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Futuristic Lobby โถงต้อนรับ พร้อม Super Hi-speed Internet Infinity Lap Pool Jacuzzi Lap pool Gym and Boxing Glass Meeting Box Sky Working Space 24 Hours พร้อม Super Hi-speed Internet Convenience Store and Coffee gallery RFID Car Access ระบบเข้าอาคารจอดรถโดยไม่ต้องใช้บัตรจอดรถ (ระบบ Easy pass) ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  092-743-7772 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  riseestate.co.th
Knightsbridge Sky-River-Ocean : รีวิวคอนโด

Knightsbridge Sky-River-Ocean : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปดูโครงการ Knightsbridge Sky River Ocean ของ Origin Property ในทำเลสมุทรปราการกันครับ ซึ่งเราจะพามาอัพเดทความคืบหน้าของโครงการก่อนจะเริ่มให้ทยอยโอนห้องกันในเร็วๆ นี้แล้ว ดังนั้นภาพที่เห็นทั้งหมดก็จะเป็นภาพห้องในบรรยากาศจริงทั้งหมดเลยนะครับ   ทำเลและการเดินทาง ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวในส่วนต่อขยาย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีสมุทรปราการ ซึ่งห่างออกไปเพียง 200 เมตรเท่านั้น ความโดดเด่นของทำเลนี้คือ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในบริเวณปากแม่น้ำ ถัดออกไปก็เป็นทะเลพอดี แถมถ้าวันไหนอากาศดีๆ ก็ยังสามารถมองเห็นวิวไกลไปถึงแนวเขาในชลบุรีเลยทีเดียวนะครับ และด้วยจุดเด่นของวิวสวยๆ นี่เอง จึงทำให้การออกแบบตัวอาคารเน้นให้เปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ทั้งหมด อาจจะต่างกันตามองศาของตำแหน่งห้องบ้าง แต่ก็รับรองได้ว่าเห็นวิวแม่น้ำแน่นอนครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบริเวณ BTS สถานีแบริ่งกันเลยนะครับ เราขับตรงตามถนนสุขุมวิทไปเรื่อยๆ เลยครับ จะเห็นอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง อยู่ฝั่งขวามือ เลยอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง มานิดหน่อย จะเจอ BTS สถานีสำโรง เป็นสถานีแรกของส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่ง เรายังคงขับตรงตามถนนสุขุมวิทไปทางสมุทรปราการไปเรื่อยๆ นะครับ แล้วก็เจออีก 1 สถานีคือสถานีปู่เจ้าสมิงพราย เลยจากสถานีปู่เจ้าสมิงพรายมาสักหน่อย จะเห็นพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ หรือช้างสามเศียร อยู่ทางซ้ายมือ ขยับมาอีกหน่อยก็จะเป็น BTS สถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เราก็ยังตรงต่อไปอีกนะครับ สถานีต่อมาคือสถานีโรงเรียนนายเรือ จะตั้งอยู่หน้าโรงเรียนนายเรือที่อยู่ฝั่งขวามือพอดี เลยจาก BTS สถานีโรงเรียนนายเรือมานิดเดียวก็จะถึงโครงการแล้วครับ ตึกสูงๆ ที่เห็นอยู่ข้างหน้านั่นแหละครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปโลดดด.. นอกจากเรื่องวิวแม่น้ำแล้ว ที่ตั้งของโครงการยังอยู่บนถนนสุขุมวิท ไม่ต้องเข้าซอยอีกให้เสียเวลา สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งทางรถไฟฟ้า และรถยนต์ส่วนตัว สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ทางด่วนกาญจนาภิเษก หรือถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ยิ่งถ้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ถนนหนทางก็น่าจะคล่องตัวมากขึ้น ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัว การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็น่าจะเป็นตัวเลือกหลักที่ดีเลยทีเดียว ในขณะที่รถเมล์ หรือแท็กซี่ก็หาง่ายไม่แพ้กันนะครับ   ภาพรวมโครงการ โครงการ Knightsbridge Sky River Ocean เป็น High Rise สูง 32 ชั้น ซึ่งถือว่าเป็นโครงการ High Rise เดียวที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุดของย่านนี้ ปัจจุบันบริเวณรอบๆ ยังไม่มีอาคารสูงขึ้นมาบดบังสายตาเลยนะครับ วิวทางด้านหน้าโครงการ แน่นอนว่ารับวิวแม่น้ำไปแบบเต็มๆ ตากันเลย ส่วนทางด้านทิศใต้เป็นวิวปากแม่น้ำ สามารถเห็นหอชมเมืองสมุทรปราการได้อย่างชัดเจน ซึ่งทั้ง 2 ทิศนี้เป็นทิศที่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอาคารสูงใดๆ ขึ้นมาบังวิวได้อีก เนื่องจากฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่ดินติดริมแม่น้ำที่เหลือพื้นที่แคบมากๆ จนไม่สามารถขึ้นอาคารสูงได้อย่างแน่นอน ในขณะที่ทางทิศใต้ในรัศมี 500 เมตรรอบๆ หอชมเมืองสมุทรปราการ ก็ไม่สามารถสร้างอาคารสูงได้อีกเช่นกันครับ หันกลับมาทางทิศเหนือกับทิศตะวันออกบ้าง ก็จะเป็น City View มองเห็นพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ และส่วนมากยังเป็นอาคารเตี้ยๆ รวมถึงที่โล่งว่างของสมุทรปราการนั่นแหละครับ ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการต้องบอกว่า เค้าจัดมากให้แบบเต็มๆ เลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น G ที่มีทั้ง Lobby, Meeting Room, สวน และร้านค้าอีก 2 ร้าน บริเวณรอบๆ อาคารสามารถจอดรถได้ด้วยนะครับ แต่หลักๆ แล้วจะมีพื้นที่จอดรถที่ชั้น 2-7 ซึ่งทางโครงการเลือกใช้ระบบจอดรถแบบอัตโนมัติ หรือ Robot Parking เพื่อประหยัดเวลาในการวนหาที่จอดรถนะครับ โดยลูกบ้านเพียงแค่ขับรถเข้ามาจอดในลิฟท์จอดรถ แล้วแตะบัตร ระบบก็จะทำการหาที่จอดรถให้เรียบร้อย ทั้งสะดวกและทันสมัยมากๆ เลยครับ ชั้น G จะที่มีทั้ง Lobby, Meeting Room, สวนสไตล์อังกฤษ และร้านค้าอีก 2 ร้าน ห้องสมุดที่อยู่ในส่วนเดียวกันกับ Lobby ที่ชั้น G ห้อง Mail Box อยู่ที่ชั้น G นะครับ ชั้น 2 ถึงชั้น 6 จะเป็นที่จอดรถระบบอัตโนมัติ ทางเข้า-ออก สำหรับระบบจอดรถอัตโนมัติ หรือ Robot Parking ส่วนพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของที่พักอาศัย โดยแบ่งออกเป็นแบบ 1 Bedroom, 2 Bedroom, Duplex และ Penthouse ในขณะที่ Facility หลักๆ ทั้งหมดจะรวบรวมไว้ที่ชั้น 27 ได้แก่ สระว่ายน้ำ, Jacuzzi, Stream และ Fitness ในขณะที่ห้อง Yoga Room จะขยับไปอยู่ที่ชั้น 28 เหนือ Fitness โดยสามารถเดินขึ้นบันไดจากบริเวณนี้ได้เลย ชั้น 8-26 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมดนะครับ มี 22 ห้องต่อชั้น ชั้น 27 ห้องพักอาศัยจะน้อยลง เพราะพื้นที่ครึ่งหนึ่งจะเป็น Facility หลักๆ ของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำ, Jacuzzi, Stream และฟิตเนส บรรยากาศสระว่ายน้ำบนชั้น 27 อ่าง Jacuzzi ชมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาและหอชมเมืองสมุทรปราการ บรรยากาศในห้องฟิตเนส เล่นฟิตเนสไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไป บรรยากาศดีสุดๆ ห้องโยคะจะอยู่ที่ชั้น 28 เหนือห้องฟิตเนส ชั้น 29-30 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดอีกครั้ง พอขึ้นไปที่ชั้น 31 บริเวณนี้จะเป็น Sky Garden ขนาดกว้างเกือบเต็มพื้นที่ ซึ่งจะมีมุมนั่งเล่น บาร์ชมวิวกลางแจ้ง รวมถึง Sky Putting Green ที่จัดแยกไว้บนชั้น 32 นะครับ ถ้าใครได้มีโอกาสขึ้นมาชมวิวบนนี้คงจะติดใจอยากนั่งเล่นพักผ่อนนานๆ จนไม่อยากจะลงไปไหนเลยล่ะครับ ชั้น 31 จะมีห้อง Penthouse อยู่ 2 ห้อง ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็น Sky Garden เต็มพื้นที่ บรรยากาศ Sky Garden บนชั้น 31 เป็นพื้นที่เปิดโล่งให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาเทควิวสวยๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และตัวเมืองสมุทรปราการ ชั้น 32 จะเป็น Sky Putting Green ไว้สำหรับโปรกอล์ฟมาประลองความแม่นกันบนชั้นสูงสุดของโครงการ   พาชมห้องตัวอย่าง ทีนี้มาดูห้องตัวอย่างกันบ้างดีกว่า ตอนนี้ทางโครงการเปิดห้องตัวอย่างตกแต่งใหม่เอี่ยมให้ชมทั้งหมด 3 Type ครับ เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 25 ตร.ม. ซึ่งเป็นไซส์เริ่มต้นกันก่อน ห้องนี้จัดวาง Layout ไว้อย่างเรียบง่าย แต่ก็ลงตัวนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนแบ่งพื้นที่ห้องนอนให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น ในขณะที่ Living Area ก็ยังมีพื้นที่มากพอให้ใช้สอยประโยชน์ได้อย่างเต็มพื้นที่ ทั้งวางชุดโซฟานั่งเล่น ชมทีวี หรือวางโต๊ะกินข้าวไว้ใกล้ๆ กับ Pantry ครัว ห้อง Type นี้จะเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 คน มีข้าวของเครื่องใช้พอจำเป็น ไม่ได้มีพื้นที่เก็บของมากมายเท่าไหร่ ยิ่งเป็นคนโสดอยู่คนเดียวก็คงกำลังพอดีเลย แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ประตู Digital Door Lock ของ Samsung ทุกยูนิตเลยครับ เค้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวที่ตั้งอยู่หน้าห้องก่อนเลยนะครับ เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการจัดไว้ให้จะได้ประมาณนี้นะครับ สิ่งที่โครงการให้มาด้วยจะสังเกตได้จากสติ๊กเกอร์ที่สีดำๆ ที่แปะไว้นะครับ ท็อปครัวจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ซิงค์ล้างจานแบบหลุมของ Teka เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka เช่นเดียวกัน ด้านบนจะเป็นฮู้ดดูดควันของ Teka และเป็นตู้ลอยสำหรับเก็บของ ด้านล่างเป็นจุดวางไมโครเวฟ พร้อมลิ้นชักเก็บของ ฝั่งตรงข้ามกับครัวจะเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard เป็นหลักนะครับ ทั้งอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ไม่มีที่วางของด้านข้างให้ อาจจะต้องติดตั้งเพิ่มเอาหน่อยนะครับ สำหรับสาวๆ ที่ของใช้เยอะๆ โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นเดียวกัน Shower Box จะเข้ามุมอยู่ด้านใน มีฉากกั้นให้เรียบร้อย เข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area อยู่ต่อจากส่วนครัวเมื่อสักครู่ ด้านซ้ายมือจะเป็นจุดวางโซฟา โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้แถมให้ด้วยนะครับ ขนาดจะพอดีเป๊ะเลย ด้านชั้นวางทีวีโครงการจะ Built-in ชั้นวางทีวีแบบนี้มาให้ด้วยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา ถือว่าอยู่ในระยะที่พอดีเลย ไม่ใกล้จนเกินไป ถัดจาก Living Area เข้ามาด้านในอีกจะเป็นส่วนของห้องนอน จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นให้ด้วยนะครับ โครงการจะให้เตียงมาด้วยนะครับ แต่ไม่ได้ให้ฟูก เตียงที่โครงการให้มาจะขนาด 5 ฟุต แต่ดูจากพื้นที่แล้ว ใครชอบเตียงใหญ่ๆ ก็สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้เลยนะครับ ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือพอโครงการเลยจัดโต๊ะทำงานไว้ริมหน้าต่างให้ดูเป็นไอเดีย ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ มองออกไปเห็นหอชมเมืองสมุทรปราการและโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ปลายเตียงโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เรียบร้อย ติดกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นทางออกไปที่ระเบียง พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงได้เลย เหนือเครื่องซักผ้าจะเป็นจะแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ หันหน้าเข้าหาระเบียง ห้อง Type ที่ 2 ยังคงเป็นแบบ 1 Bedroom นะครับ แต่ขยับไซส์ขึ้นมาอีกนิดที่ 30 ตร.ม. โดยประมาณ แน่นอนว่าขนาดห้องจะกว้างขึ้นกว่า Type แรก และมีการกั้นพื้นที่ห้องนอนด้วยผนังทึบเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในขณะที่ห้องครัวก็จะได้เป็นครัวปิดติดระเบียงแทน ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเล็กๆ มากขึ้นครับ Living Area ก็กว้างพอที่จะมีมุมสำหรับโต๊ะทำงานเพิ่มมาอีกหน่อย หรือจะจัดการตกแต่งเพื่อการใช้งานในด้านอื่นๆ ก็ตามแต่ความต้องการได้อีกเช่นกัน แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ห้อง Type นี้ Living Area จะตั้งอยู่หน้าห้องเลย โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนชั้นวางทีวีก็ Built-in มาให้เหมือนเดิมครับ ถัดเข้าไปด้านในจะแยกออกเป็น 2 ด้าน ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องครัว ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ หน้าห้องครัวโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ให้ดูเป็นตัวอย่าง Type นี้จะได้ครัวแบบปิด มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ชุดครัวก็จะคล้ายๆ กัน ขนาดใกล้เคียงกันกับ Type แรกนะครับ แต่ขนาดจะใหญ่ขึ้นมานิดหน่อย ท็อปหินสังเคราะห์สีขาวเหมือนเดิม ซิงค์ล้างจานของ Teka อยู่ติดกับเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka มาพร้อมกับฮู้ดดูดครวัยี่ห้อเดียวกัน จุดวางไมโครเวฟจะอยู่ด้านบน พร้อมตู้ลอยเก็บของ ด้านล่างเป็นเก็บของพร้อมลิ้นชัก ถัดไปด้านในจะเป็นระเบียง พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ด้านบนเป็นจุดแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ วิวที่ระเบียงมองออกไปเห็นโค้งแม่น้ำ กลับเข้ามาดูที่ด้านในกันต่อ พื้นที่ว่างตรงกลางระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำโครงการ Built-in เป็นโต๊ะทำงานไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ชั้นลอยด้านบนโครงการ Built-in มาให้นะครับ แต่โต๊ะทำงานไม่ได้ให้ด้วย ห้องน้ำจะใหญ่กว่าห้อง Type แรกอยู่สักหน่อยนะครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard เหมือนเดิม อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มีที่วางของเป็นแนวยาวให้ด้วย กระจกเงาขนาดพอดีตัว ติดกันจะเป็นโถสุขภัณฑ์ Shower Box จะกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ใน Shower Box ถือว่ากว้างขวางดีนะครับ ยืนอาบน้ำได้ถนัดหน่อย มาถึงห้องนอน โครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้เหมือนเดิมนะครับ แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ King Size ก็มีที่เหลือพอให้วางได้ หน้าต่างที่ข้างเตียงจะเป็นบานกระทุ้ง 2 บานอยู่ด้านข้าง ส่วนตรงกลางและด้านล่างจะเป็นบาน Fix ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ มาถึงห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายซึ่งเป็น Type ใหญ่สุดที่เปิดให้เข้าชม ห้อง 2 Bedroom ขนาดประมาณ 61.50 ตร.ม. ห้อง Type นี้จะอยู่ในตำแหน่งห้องมุมโซนด้านหน้าโครงการ ซึ่งสามารถเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มตาทั้ง 2 ห้องนอน เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Living Area ก่อน โดยพื้นที่บริเวณนี้จะยาวไปจนติดกับระเบียงขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ นะครับ ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิด มีประตูกระจกมาให้เรียบร้อย และมีพื้นที่ซักล้างตรงระเบียงห้องครัวมาอีกนิดหน่อย ขยับมาอีกโซนจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งแบ่งเป็น Master Bedrroom มีห้องน้ำในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำ และห้องนอนเล็กอีกห้องที่เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานให้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ได้อีกเช่นกัน แปลนห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 61.50 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเป็นโถงกว้างเลยนะครับ มองตรงไปจะเจอส่วน Dining Area ยาวไปถึงส่วน Living Area ทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำห้องแรก การจัดวาง Layout ในห้องน้ำ สุขภัณฑ์ก็จะใช้ของ American Standard เหมือนกันนะครับ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า พื้นที่อาบน้ำค่อยข้างกว้างเลยนะครับ แต่จะไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย กลับมาดูที่ส่วน Dining Area กันต่อ ก่อนจะเข้าไปที่โซน Living Area โครงการจัดวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ติดกันจะเป็นส่วน Living Area โครงการวางโซฟา 3 ที่นั่ง ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝั่งชั้นวางทีวีโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีมาให้เรียบร้อย พร้อมชั้นวางของเล็กๆ น้อยๆ ด้านบน ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอยู่ในระยะที่พอดีเลยนะครับ ไม่ใกล้จนเกินไป ระเบียงจะอยู่ต่อจาก Living Area กว้างประมาณ 1 เมตร มองออกไปเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ฝั่งโรงเรียนนายเรือ กลับเข้ามาในห้องโครงการ Built-in โต๊ะทำงานไว้ให้ตรงมุมห้องโถง โต๊ะทำงานที่โครงการ Built-in มาให้ ครัวของห้อง Type นี้จะเป็นแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้นอยู่ เคาน์เตอร์ครัวที่จะเหมือน Type 30 ตารางเมตร ที่เราดูมาเมื่อกี้เลยนะครับ ด้านบนมีชั้นลอยเก็บของ พร้อมช่องวางไมโครเวฟ ในห้องครัวจะมีระเบียงให้อีกจุดนะครับ เป็นที่วางเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์ จากห้องครัวมาจะแยกออกเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง เรามาดูห้องนอนเล็ก ที่อยู่ทางซ้ายกันก่อนนะครับ ในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาดประมาณ 3.5 ฟุตมาให้ ข้างเตียง Built-in ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เรียบร้อย ส่วนในห้องนอนใหญ่โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ มีช่องหน้าต่างอยู่ตรงหัวเตียง บานใหญ่จะเป็นบาน Fix มีบานกระทุ้งเล็กๆ อยู่ทั้ง 2 ด้าน ข้างเตียงมีหน้าต่างให้อีกหนึ่งบาน ข้างเตียงอีกด้าน Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาด 4 บาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ ปลายเตียงโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีมาให้ด้วย ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ก็จะอยู่ทด้านปลายเตียงเหมือนกันครับ การจัดวางสุขภัณฑ์จะต่างกับห้องน้ำจะต่างจาก Type อื่นๆ ที่เราดูมานะครับ ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย แต่จะไม่ได้แยกกับ Shower Box นะครับ ต้องยืนอาบในอ่างอาบน้ำเลย ห้องทุกห้องของโครงการขายกับมาแบบ Fully Furnished เลยนะครับ มีเฟอร์นิเจอร์ Built in มาให้เรียบร้อย ประตูห้องทุกห้องก็เป็นแบบ Digital Door Lock วัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างก็เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งจัดได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคากันเลยทีเดียว ตัว Facility เองถึงแม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอลังการ แต่ก็จัดว่ามีครบครันมากกว่าหลายๆ โครงการที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอาเทคโนโลยีการจอดรถอัตโนมัติมาใช้ ก็ถือได้ว่าเป็นคอนโดที่ทันสมัยมากๆ ในย่านนี้ โครงการ Knightsbridge Sky River Ocean นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหมาะสำหรับคนในย่านสมุทรปราการ หรือคนที่ทำงานหลักในย่านนี้อยู่แล้ว และอยากมีบ้านหรือคอนโดใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย โดยที่ยังอยู่ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก สามารถจับจองไว้อยู่อาศัยเอง และเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
The Bangkok Thonglor : รีวิวคอนโด

The Bangkok Thonglor : รีวิวคอนโด

The Bangkok Thonglor คอนโดหรูระดับ Super Luxury ในซอยทองหล่อ ห่างจาก BTS ทองหล่อเพียง 350 เมตร จาก Land & Houses รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    18 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    Land and Houses Public Company Limited ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ซอยทองหล่อ 1 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    1 - 2 - 94 ไร่ จำนวนห้อง     148 ยูนิต ค่าส่วนกลาง    95 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    900 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ทองหล่อ โรงพยาบาลสมิติเวช ห้าง EM District สวนเบญจสิริ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 53 - 63 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 82 - 94 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Lounge Board Room Pocket Garden Sky Terrace Upper Sky Terrace Reading Lounge Sky Fitness Seperated male/ female Sky Japanese Onsen and 360 Degree Rooftop Swimming Pool Access Card Control Security 24 hour สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.lh.co.th/
Ideo Mobi Sukhumvit 66 : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Sukhumvit 66 : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi Sukhumvit 66 คอนโด High Rise สูง 28 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 66 เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้ BTS สถานีอุดมสุข เพียง 50 เมตร โครงการใหม่จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    5,190,000 บาท เจ้าของโครงการ    Ananda Development PLC. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 28 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    298 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2-0-64 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 66 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Big C Market อุดมสุข ไบเทค บางนา เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา ซีคอนสแควร์ ตลาดนัดรถไฟ พาราไดซ์ พาร์ค One Udomsuk ตลาดอุดมสุข (ติดสถานี) ตลาดอุดมสุขพัฒนา โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงพยาบาลกล้วยน้้ำไท 2 โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ โรงพยาบาลนานาชาติ Berkeley โรงเรียนลาซาล วิทยาลัยดุสิตธานี ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 34.80 - 41.00 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus  ขนาด 52.50 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 80.50 - 86.00 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Horizon Lap Pool Sky Lounge Changing Rooms Steam room and Sauna Beyond clouds pool Gym at the Peak Garden in the clouds สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th/condo/projects/mobi-sukhumvit66/  
Ideo Sukhumvit 93 : รีวิวคอนโด

Ideo Sukhumvit 93 : รีวิวคอนโด

Ideo Sukhumvit 93 คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 93 เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้ BTS สถานีบางจาก เพียง 15 เมตร โครงการใหม่จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    Ananda Development PLC. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    1,332 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   8 - 3 - 59.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนนานาชาติเวลล์ โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 บิ๊กซี อ่อนนุช ไบเทค บางนา ซีคอน สแควร์ พาราไดซ์ พาร์ค ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 25 - 28 ตารางเมตร 1 Bedroom  ขนาด 31 -47 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 51 -69 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ํา ห้องซาวน่‹า ห้Œองออกกําลังกายพร้Œอมอุปกรณ์ ห้องเด็กเล่น โถงต้อนรับ สวนส่วนกลาง ลานเอนกประสงค์ Co-working space ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.ananda.co.th/condo/projects/ideo-sukhumvit-93  
C Ekkamai : รีวิวคอนโด

C Ekkamai : รีวิวคอนโด

C Ekkamai (ซี เอกมัย) คอนโด High Rise สูง 44 ชั้น คอนโดใหม่ที่สูงที่สุดในซอยเอกมัย ใกล้รถ BTS เอกมัย โครงการใหม่จาก The Choice Property Development ลงทะเบียรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ www.cekkamai.com รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    The Choice Property Development Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 44 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    729 ยูนิต ร้านค้า 7 ยูนิต รวม 736 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 56% เนื้อที่ทั้งหมด   3 - 3 - 0 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 1 ปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงพยาบาลคามิลเลียน โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลกรุงเทพ Health land Ekkamai Market Place Thonglor Big C Ekkamai Parklane Ekkamai Gateway Ekkamai Seenspace Thonglor J-Avenue Thonglor Arena 10 Thonglor The Commons Thonglor 72 Courtyard Thonglor ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 27 – 52 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 51 – 65 ตารางเมตร Penthouse  ขนาด 82 – 126 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Luxurious High Ceiling Lobby Jogging Track Swimming Pool Sky Lounge Jacuzzi Sky Garden Fitness 24-hour security by guards’ service Library / Working Space 24-hour CCTV cameras Meditation Zone / Outdoor Yoga Bicycle and Motorcycle parking Playground Shuttle Bus Service สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  098-268-5588 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.cekkamai.com  
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 (ลาวีค สุขุมวิท 57) คอนโด High Rise ระดับ Luxury สูง 33 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 57 ใกล้รถ BTS ทองหล่อ และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง โครงการใหม่จาก Real Asset รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    9,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    Real Asset Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    235 ยูนิต ที่จอดรถ    235 คัน (ที่จอดซุปเปอร์คาร์ 8 คัน) คิดเป็น 100% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 1 - 65 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit Parklane Ekkamai J Avenue The Commons Rain Hill Camillian Hospital Samitivej Hospital Emquartier ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 42 – 45 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 79 - 91 ตารางเมตร 3 Bedroom  ขนาด 115 - 144 ตารางเมตร Duplex  ขนาด 92 ตารางเมตร Penthouse  ขนาด 244 - 357 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สนามเด็กเล่น ห้องสมุด และห้องประชุม สระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge Rock-Climbing สำหรับเด็ก ระเบียง Sky Deck ระเบียงจัดปาร์ตี้ ห้องสังสรรค์ Executive Lounge และห้องประชุม Simulator เล่นกอล์ฟ Simulator ปั่นจักรยาน สตูดิโอ ฟิตเนส ห้องโยคะ บริการ Front Desk Service และพนักงานต้อนรับ ที่จอดรถซุปเปอร์คาร์ และซุปเปอร์ไบค์ โรงจอดรถจักรยาน จุดชาร์จพลังงานยานยนต์ไฟฟ้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1232 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.laviq.com  
‘Premio Quinto’ (พริมิโอ ควินโต) คอนโดใหม่ย่านพหลโยธิน ใกล้ ม.เกษตร ติด BTS สถานีเสนานิคม : รีวิวคอนโด

‘Premio Quinto’ (พริมิโอ ควินโต) คอนโดใหม่ย่านพหลโยธิน ใกล้ ม.เกษตร ติด BTS สถานีเสนานิคม : รีวิวคอนโด

“Premio Quinto” (พริมิโอ ควินโต) คอนโดหรูใจกลางเมือง เพื่อคำตอบที่มากกว่าคำว่า “สมบูรณ์แบบ” โครงการใหม่ล่าสุดจาก บริษัท พรรุ่งเรือง ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ปักหมุดบนถนนพหลโยธิน เนรมิตคอนโดสวยหรูด้วยดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Modern Classic พร้อมความหรูหราในทุกรายละเอียดที่สัมผัสได้ เพื่อสะท้อนรสนิยมผ่านที่อยู่อาศัยใน Liftstyle ที่คุณต้องการ   ตอบโจทย์ด้วยการเดินทางที่สะดวก บนทำเลใจกลางเมือง โครงการ “Premio Quinto” (พริมิโอ ควินโต) อยู่ติดถนนพหลโยธิน ระหว่างซอยพหลฯ 32 และ 34 แวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน ติดทางขึ้นลง BTS สถานีเสนานิคม ห่างจากสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพียง 3-4 สถานี (ห้าแยกลาดพร้าว-พหลโยนธิน)   ด้วยทำเลติดถนนใหญ่ ทำให้การเดินทางสะดวกทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัว และการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน มีถนนสายหลักเพื่อการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้หลายเส้นทาง ถนนในซอยพหลฯ 30 และ 32 เชื่อมถึงกัน สามารถลัดไปออกลาดพร้าว, เกษตร นวมินทร์ แถมยังมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย นอกจากนี้สภาพแวดล้อมรอบๆ ก็ตอบโจทย์ของการอยู่อาศัย เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ทั้งตลาดบางเขน, โรงพยาบาลเปาโล เกษตร (รพ.เมโยเดิม), มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สถานศึกษาชั้นนำ และ Community Mall แหล่งบันเทิง แหล่งช็อปปิ้ง ชื่อดังประจำย่าน ฯลฯ โครงการ “Premio Quinto” (พรีมิโอ ควินโต) เลือกปักหมุดบนทำเลที่สามารถตอบโจทย์ Lifestyle คนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยแบบครบวงจรได้อย่างแท้จริง   คอนโดที่ตอบโจทย์ ครบครัน ในราคาสุดคุ้ม โครงการ “Premio Quinto” (พรีมิโอ ควินโต) เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มียูนิตรวม 439 ยูนิต หรืออาคารละประมาณ 109 ยูนิต เฉลี่ยต่อชั้นมีเพียง 13 ยูนิตเท่านั้น!!! ซึ่งจัดว่ามีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ แถมยังเพียบพร้อมไปด้วย Facilities อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่รอบโครงการ และ Co-Working Space ที่จัดมาให้เพื่อรองรับ Lifestyle คนรุ่นใหม่ที่ไม่จำกัดแค่การทำงานในออฟฟิศเท่านั้น นอกจากนี้ยังเติมเต็มการอยู่อาศัยด้วย ฟังก์ชั่นภายในห้องที่จัดมาแบบ Fully Furnished แต่งครบจบในตัว สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที โดยมี Type ห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio 22 ตร.ม., 1 Bedroom 25-33 ตร.ม. และ 2 Bedroom ในขนาดสูงสุด 42 ตร.ม. Premio Quinto เป็นคอนโดมิเนียมติด BTS น้องใหม่ที่เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัยใจกลางเมือง ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่คุณออกแบบเองได้ ท่ามกลางความร่มรื่นจากพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง รวมถึงวัสดุที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีเพื่อบ่งบอกถึงความหรูหราไม่ซ้ำใคร ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท* ด้วยทำเลศักยภาพที่สามารถตอบโจทย์คนเมืองได้อย่างแท้จริง เป็นที่หมายตาของเหล่านักลงทุน (Invester) และผู้อยู่อาศัยจริง (Real Demand) สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ http://www.premioquinto.com/ ด่วน!! โทรจองสิทธิ์ได้ที่ 02-579-2255, 086-301-8899 พิเศษ!!! ส่วนลดสูงสุด 120,000 บาท** สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ล่วงหน้า รับสิทธิ์จองห้องสวยก่อน ในวันที่ 23-24 กันยายน นี้ และทางโครงการจะเปิด Pre-Sale วันที่ 30 กันยายน - 1 ตุลาคมนี้ ณ Sale Gallery
VENiO Sukhumvit 10 : รีวิวคอนโด

VENiO Sukhumvit 10 : รีวิวคอนโด

VENiO Sukhumvit 10 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 10 ห่างจากรถ BTS นานา เพียง 650 เมตร แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งช้อปปิ้ง ใจกลางเมือง โครงการใหม่จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    162 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 68 คัน คิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 0 - 53 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 10 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ต้นปี 2561 สถานที่สำคัญใกล้เคียง สวนเบญจกิติ Korean Town สวนชูวิทย์ โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit โรงแรม Sofitel Sukhumvit Robinson Sukhumvit โรงแรม The Westin Grande Sukhumvit Bangkok Terminal 21 Exchange Tower Lake Ratchada โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio  ขนาด 23.20 - 25.75 ตารางเมตร 1 Bedroom  ขนาด 27.75 - 40.56 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 49.30 - 71.30 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ สวน พื้นที่รับแขก กล่องรับจดหมาย โถงลิฟท์ ห้องน้ำส่วนกลาง ห้องซักรีด ระบบรักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th/condo/projects/venio-sukhumvit-10/  
พรีวิว Knightsbridge Prime Sathorn ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ : รีวิวคอนโด

พรีวิว Knightsbridge Prime Sathorn ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ : รีวิวคอนโด

ล่าสุด บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กำลังจะเปิดโครงการน้องใหม่ล่าสุด “Knightsbridge Prime Sathorn” บนทำเลสุดฮ็อตริมถนนนราธิวาสฯ ซึ่งถือเป็นการจับทำเลใจกลางเมืองอีกแห่งที่น่าจับตามองมากของค่ายนี้ ถ้าใครที่ติดตามข่าวอสังหาฯ อยู่เป็นประจำ จะรู้ว่าผู้พัฒนารายนี้เริ่มขยับตัวเข้ามาเล่นตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองมากขึ้น โดยโครงการล่าสุดที่เราจะนำข้อมูลมาเสนอให้รู้ก่อนใครในวันนี้จัดเป็นแบรนด์ตัวท็อปของออริจิ้นกันเลยทีเดียว รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,200,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 150,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    726 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 500 คัน (คิดเป็น 70%) เนื้อที่ทั้งหมด    2 - 3 - 68.92 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 3 ปี 2017 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 Knightsbridge Prime Sathorn เปิดตัวมาในราคาที่น่าตกใจมากครับ ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 130,000 บาท หรือราวๆ 3 ล้านบาทสำหรับห้องขนาดเริ่มต้น!!! ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่ที่อยู่ในย่านสาทร-สีลมจริงๆ ยังไม่มีรายไหนเปิดราคามาได้ต่ำกว่านี้ แถมทำเลที่ตั้งของโครงการก็อยู่ริมถนนใหญ่อย่าง ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ บริเวณปากซอยนราธิวาสฯ 13 ห่างจากสี่แยกสาทร-นราธิวาสที่มีรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี เพียง 650 เมตรเท่านั้น ถือว่าอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆ ครับ ปัจจุบันยังมีสถานีรถด่วน BRT (สถานีอาคารสงเคราะห์) อยู่ติดหน้าที่ตั้งโครงการเลยด้วย แต่ต่อไปในอนาคตคาดว่าจะเปลี่ยนเป็นที่ตั้งของสถานีรถ Monorail สายสีเทา ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการเดินทางของลูกบ้านให้สะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก   นอกจากนี้บริเวณที่ตั้งของโครงการ Knightsbridge Prime Sathorn ยังอยู่ในแหล่งรวมของอาคารสำนักงานเกรด A อันเป็น CBD หลักของกรุงเทพ ซึ่งมีทั้ง ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์, HSBC, Tisco, Samsung, AIA, กรุงเทพประกันภัย, CP, สถานฑูตต่างๆ และโรงแรมระดับ 5 ดาวอีกมากมาย ยังไม่นับรวมสถานศึกษา สถานพยาบาลชั้นนำอีกหลายแห่งที่รายล้อมอยู่ในย่านนี้ อาทิเช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก, โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์, เตรียมอุดมศึกษา, สาธิตจุฬาฯ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพฯ, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาลเซนหลุยส์, โรงพยาบาล BNH, โรงพยาบาลเลิดสิน, โรงพยาบาลจุฬา ฯลฯ สำหรับแหล่งช็อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหารในย่านนี้ ก็จัดว่าอุดมสมบูรณ์และมีให้เลือกมากมายในหลายระดับ เราขอยกตัวอย่างกันแบบคร่าวๆ พอนะครับ (ไม่งั้นคงต้องอาศัยพื้นที่อีกยาว) เช่น ห้างเซนทรัลพระราม 3, สีลมคอมเพล็กซ์, แมคโคร, โลตัส และแหล่งช็อปปิ้งของชาวออฟฟิศอย่าง ซอยละลายทรัพย์, ฮ่องกงพลาซ่า, ตลาดตึก ITF เป็นต้น ในขณะที่บรรดาร้านอาหารดังๆ ก็มีเยอะไม่แพ้กัน เช่น Dean & Deluca, Paul (บนตึก Empire), Rocket, Starbuck (มีสาขาแทบทุกตึกตรงแยกสาทรเลยครับ), Tenyuu Grand, Chef Man, Blue Elephent, Secret Garden, Amontre, Vertigo & Moon Bar, Nahm Restaurant, สมบูรณ์โภชนา, สามย่านซีฟู้ด, ครัวเจ๊ง้อ ฯลฯ เท่าที่ยกตัวอย่างมานี้ก็เรียกว่าครบครันมากพอที่เราแทบจะไม่ต้องขยับไปไหนไกลจากย่านนี้เลยนะครับ ทีนี้มาดูที่ตัวโครงการกันบ้างครับ Knightsbridge Prime Sathorn ออกแบบมาเป็นอาคาร High Rise 43 ชั้น แต่ความสูงเทียบเท่ากับตึกทั่วไปที่ 53 ชั้น รูปแบบอาคารถูกออกแบบมาในลักษณะตัว Z เพื่อให้ทุกห้องสามารถเปิดรับวิวได้สวยไม่แพ้กัน ทั้ง City View ด้านสาทร สีลม และวิวด้านเจริญกรุง รวมถึงวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาในบางตำแหน่งของตึก ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็จัดมาเต็มที่ครับ บนชั้นดาดฟ้าจะมีทั้ง สระว่ายน้ำที่ยาวถึง 35 เมตร แบ่งเป็น Lap Pool และ Therapy Pool, Fitness, ห้อง Metropolitan Club และห้อง Media Club ส่วนบริเวณชั้น 1 จะแบ่งเป็นพื้นที่ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านซักรีด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านของโครงการครับ และเรื่องสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ที่จอดรถ ทางโครงการจัดระบบจอดรถอัจฉริยะ (Automation Parking Lots) มาให้เลยทีเดียว นับว่าอำนวยความสะดวกสบายกันให้เต็มที่มากๆ ครับ ไม่ต้องวนจอดรถให้เสียเวลา ตอนนี้คงอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยครับว่า หน้าตาของห้องแต่ละ Type จะเป็นเช่นไรบ้าง ซึ่ง Type หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ Monoplex และ Duplex หรือก็คือห้องแบบ 1 ชั้น และ 2 ชั้นนั่นเอง รวมแล้วทั้งโครงการมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 726 ยูนิตครับ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Type A : 1 Bedroom Plus Duplex ขนาด 44 ตารางเมตร ราคา 5.8 - 6.7 ล้านบาท Type B : 1 Bedroom Duplex ขนาด 37 ตารางเมตร ราคา 4.5 - 5.5 ล้านบาท Type C : 1 Bedroom Plus Monoplex ขนาด 30 ตารางเมตร ราคา 4.4 - 4.6 ล้านบาท Type D : 1 Bedroom Monoplex ขนาด 24 ตารางเมตร ราคา 3.2 - 3.5 ล้านบาท โดย Monoplex จะมีขนาด 24 ตร.ม. และ 30 ตร.ม. ความสูงของ Floor to Ceiling อยู่ที่ 2.6 เมตร โดย Layout ของห้องสัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยเอาไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยครับ สำหรับห้องขนาด 30 ตร.ม. จะพิเศษกว่าตรงที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ หรือจะจัดให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ ส่วน Duplex ซึ่งอยู่ที่ชั้น 24-42 จะมีขนาด 37 ตร.ม. และ 44 ตร.ม. ความสูง Floor to Ceiling ประมาณ 4.4 เมตร โดดเด่นด้วยห้องหน้ากว้าง 5 เมตรเลยนะครับ ส่วนการจัดวาง Layout ของห้องก็จะให้ Common Area อยู่ในโซนชั้นล่าง และจัดให้พื้นที่ของห้องนอนไว้ที่ชั้นบน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากยิ่งขึ้น โดยภาพรวมของ Knightsbridge Prime Sathorn ต้องบอกว่าเป็นโครงการเด่นของ ออริจิ้น ที่น่าจับตาเลยก็ว่าได้นะครับ ทั้งการเลือกทำเลที่ตั้ง และการกำหนดกลุ่มตลาดไว้ให้อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ดังนั้นกลุ่มคนในระดับกลาง พนักงานออฟฟิศในระดับเมเนเจอร์ก็สามารถเอื้อมถึง กลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มคนทำงานในย่าน CBD ของสาทร-สีลม ที่อยากได้ที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก และมีสาธารณูปโภคครบครัน รวมถึงกลุ่มที่ชอบลงทุนในอสังหาฯ ก็คงจะเล็งที่จะจับจองไว้ปล่อยเช่าอีกเช่นกัน เนื่องจากในย่านนี้มีบริษัทใหญ่ๆ และบริษัทต่างชาติเยอะ กลุ่มผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าจะสร้างผลตอบแทนที่เกิดจากการเช่าได้ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆ ในระแวกเดียวกันแล้ว ต้องบอกว่า Knightbridge Prime Sathorn ทำราคาได้ถูกกว่าราคาตลาดจนน่าตกใจเลยล่ะ ส่วนใครที่สนใจโครงการนี้ และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนเปิดขายจริงในช่วงต้นเดือนตุลาคม สามารถไปลงทะเบียนไว้ล่วงหน้าที่นี่ http://knightsbridge-sathorn.origin.co.th/Sathorn   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-030-0000 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : knightsbridge-sathorn.origin.co.th/Sathorn
mori HAUS ชีวิตดีดี ที่เลือกได้ : รีวิวคอนโด

mori HAUS ชีวิตดีดี ที่เลือกได้ : รีวิวคอนโด

“สุขุมวิท” ทำเลที่ใครต่อใครต่างก็อยากจับจองมีที่พักอาศัยอยู่ในย่านนี้กับเค้าบ้าง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาห้องชุดใจกลางเมืองซักแห่ง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาที่เอื้อมถึง วันนี้เราจึงมีคอนโดมิเนียมดีๆ ในย่านอ่อนนุช-พระโขนงมาแนะนำ ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ mori HAUS ตั้งอยู่ในพื้นที่ T77 Community ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในบริเวณระหว่างซอยสุขุมวิท 71 และซอยสุขุมวิท 77 ที่ตอนนี้หลายคนอาจจะรู้จักกันดีว่า T77 Community เปรียบเสมือนเมืองขนาดเล็กที่รวบรวมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ ทั้งโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ที่จะเปิดแคมปัสสำหรับชั้นมัธยมศึกษาในเดือนสิงหาคมปี 2560 และ Community Mall สุดชิคอย่าง HABITO ก็เข้ามาช่วยเติมเต็มให้การใช้ชีวิตของครอบครัวมีสีสันและมีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม พื้นที่ T77 Community โรงเรียนนานาชาติ Bangkok International Preparatory and Secondary School (Bangkok Prep) HABITO Winter Market Fest ถ้าพูดถึงการเดินทางมายัง mori HAUS ก็จัดว่าสะดวกมากๆ เพราะเลือกเข้าได้ทั้งจากทางฝั่งซอยสุขุมวิท 71 และซอยสุขุมวิท 77 เช่นเดียวกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่เลือกขึ้นได้ทั้งสถานีอ่อนนุช และสถานีพระโขนง ในขณะที่ด่านขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอีกเช่นกัน mori HAUS มีความโดดเด่นที่เราต้องพูดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ การออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “Trees of  Life” ซึ่งให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กลางโครงการ มีการจัดวางพืชพรรณนานาชนิดให้คล้ายกับสวนป่าขนาดย่อม รอบสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ในรูปแบบทะเลสาบจำลอง ในขณะที่อาคารพักอาศัยทั้ง 2 อาคารถูกวางแบบตัว L ให้โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ทุกห้องพักได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และได้ใช้ชีวิตแบบ “Urban Slow Living” ผสานทั้งชีวิตแบบคนเมือง กับการพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ไว้อย่างลงตัว โดยพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น สระว่ายน้ำแบบลากูนพร้อมจากุชชี่ สระเด็ก ห้องฟิตเนส และล็อบบี้แบบ The Glass Haus เปิดรับวิวสวนสวยเต็มตา สวนขนาดใหญ่ ห้องซักผ้า ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาที่ไม่ได้เกินเอื้อมเลยล่ะครับ แถมทาง mori HAUS ยังมีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ในขนาด 35-117.5 ตร.ม. สามารถรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้น ถ้าหากสนใจโครงการดีๆ แบบนี้ คงต้องรีบกันหน่อยนะครับ เพราะชีวิตคุณภาพบนทำเลสุขุมวิทไม่ได้หากันง่ายๆ แล้ว สนใจอ่านอ่านรายละเอียดโครงการได้ที่นี่เลยครับ http://www.homenayoo.com/mori-haus-sukhumvit-77/
The Niche Mono Peak Bangna : รีวิวคอนโด

The Niche Mono Peak Bangna : รีวิวคอนโด

The Niche Mono Peak Bangna (เดอะ นิช โมโน พีค บางนา) คอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.3 ให้ตวามเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่น้อย ทั้งโครงการเพียง 42 ยูนิต พร้อมที่จอดรถที่มากถึง 200% และนวัตกรรม Solar Cell ที่นำพลังงานจากแสงอาทิตย์ มาผลิตไฟส่องสว่างส่วนกลางฟรี 24 ชม. โครงการใหม่จาก SENA Development ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่ www.sena.co.th รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,500,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 70,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    42 ยูนิต ( 7 ยูนิต/ชั้น) ที่จอดรถ     200% พร้อมโฉนดที่จอดรถ 1 คัน/ห้อง พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 14 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนบางนา-ตราด (ก.ม.3 ฝั่งขาเข้า) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2560 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา บิ๊กซี บางนา โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ไบเทค บางนา BTS สถานีบางนา โรงพยาบาลปิยะมินทร์ เมกา บางนา อิเกีย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท 2 Bedroom ขนาด 62 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก Jogging Track พื้นที่สังสรรค์ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น Lobby แผงพลังงานแสงอาทิตย์ กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1775 กด 28 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sena.co.th/th/condominium/thenichemono-bangna