Tag : Review

648 ผลลัพธ์
Plum Condo Central Station : รีวิวคอนโด

Plum Condo Central Station : รีวิวคอนโด

Plum Condo Central Station คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น เปิดเฟส 2 โครงการตั้งอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ติดกับเซ็นทรัล เวสต์เกต ใกล้ MRT สถานีสามแยกบางใหญ่ เพียง 400 เมตร จากพฤกษา เรียลแอสเสท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,590,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท พฤกษา เรียลเอสเสท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     1,013 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต พื้นที่โครงการ    3 - 3 - 99 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เริ่มก่อสร้าง    เดือนมกราคม 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนพฤษภาคม 2561 ค่าส่วนกลาง    40 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    400 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล เวสต์เกต MRT สถานีสามแยกบางใหญ่ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า บางใหญ่ โฮมโปร อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ ตลาดกลางบางใหญ่ โรงพยาบาล เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน  ขนาด 23.5, 24 และ 26.25 ตารางเมตร 2 ห้องชุดรวมกัน ขนาด 48 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ Jogging Track Bicycle Lane สระว่ายน้ำ Sky Lounge ฟิตเนสลอยฟ้า ห้องโยคะ ซาวน่า สวนลอยฟ้า ศาลาพักผ่อนภายในสวน Lobby 3 โซน ห้องอ่านหนังสือ พื้นที่อเนกประสงค์ ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : plum.pruksa.com
Ideo Tha Phra Interchange : รีวิวคอนโด

Ideo Tha Phra Interchange : รีวิวคอนโด

Ideo Tha Phra Interchange คอนโด High Rise สูง 22 ชั้น บนถนนเพชรเกษม ใกล้แยกท่าพระ ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีท่าพระ ประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นสถานี Interchange โครงการใหม่จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,690,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 22 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     844 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 344 คันคิดเป็น 40% พื้นที่โครงการ    4 - 1 - 96.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนกุมภาพันธ์ 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ต้นปี 2561 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT ท่าพระ Interchange โรงพยาบาลพญาไท 3 โรงพยาบาลบางไผ่ วงเวียนใหญ่ The Mall ท่าพระ ม.ราชภัฎสมเด็จเจ้าพระยา โรบินสัน ลาดหญ้า Big C อิสรภาพ ม.ราชภัฎธนบุรี โรงพยาบาลกรุงธนบุรี 1 โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลตากสิน ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio  ขนาด 27.5 - 28 ตารางเมตร 1 Bedroom  ขนาด 34.5 - 35.5 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 63 - 71 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th
The Politan Rive : รีวิวคอนโด

The Politan Rive : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เรามีคอนโดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาแนะนำกันครับ ชื่อโครงการ The Politan Rive จาก บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากันมาพอสมควรกับคอนโดภายใต้แบรนด์ My Resort ซึ่งล่าสุดนี้ได้มีการเปิดตัวโครงการ The Politan Rive คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เราจึงไม่พลาดที่จะเก็บรายละเอียดในส่วนต่างๆ มาให้ได้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิด Pre-sale กันในวันที่ 30-31 มกราคมนี้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,290,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    52,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 56 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    2,351 ยูนิต ร้านค้า 8 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 1,364 คัน หรือคิดเป็น 58% พื้นที่โครงการ    ประมาณ 9 - 3 - 37.6 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซ.นนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 1 ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ค่าส่วนกลาง    47 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร ศักยภาพทำเลของโครงการ จุดเด่นแรกของโครงการ The Politan Rive ก็คือ ศักยภาพของที่ดินที่ถูกเลือกมาใช้สร้างคอนโด High Rise สูง 56 ชั้น นี่แหละครับ ที่ดินทั้งหมดมีขนาดเกือบ 10 ไร่เลยทีเดียว ที่สำคัญคือ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกบ้านแทบทุกยูนิตของโครงการจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่ ยิ่งยูนิตที่อยู่ชั้นสูงๆ ก็ยิ่งได้วิวสวยกว้างสุดสายตา ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการในปัจจุบันเป็นวิวเปิดโล่ง แทบจะไม่มีอะไรมาบดบังสายตาเลย เนื่องจากส่วนของที่พักอาศัยนั้นเริ่มกันต้นในชั้นที่สูงพ้นแนวที่พักอาศัยรอบๆ วิวที่ได้เห็นจากในห้อง โดยเฉพาะในห้องมุมด้านทิศตะวันตกซึ่งหันหน้าเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยา จึงหาคอนโดอื่นในบริเวณนี้มาเปรียบเทียบไม่ได้เลย ตำแหน่งที่ตั้งตัวโครงการ The Politan Rive ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 หรือบนถนนสนามบินน้ำ ใกล้กับสะพานพระนั่งเกล้าเลยครับ ซึ่งทำเลที่อยู่อาศัยในแถบนี้รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ กระทรวง และสำนักงานสำคัญต่างๆ มีแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ รวมถึงตลาดสด อยู่ใกล้ๆ ศักยภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยจึงไม่เป็นรองที่ใดเลยครับ ในส่วนของการเดินทางมายังพื้นที่บริเวณนี้ ก็โดดเด่นด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ที่รับรองว่าจะได้ใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 นี้แน่นอนแล้ว ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินจากหน้าโครงการไปเพียง 200 เมตรก็โดยสารรถไฟฟ้าได้ทันที แถมในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เพิ่มมาอีกสาย การเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยรถไฟฟ้าก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นแน่นอนครับ ขณะเดียวกันการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เส้นทางหลักอย่างถนนรัตนาธิเบศร์ก็มีทั้งปรับ เพิ่ม ขยาย ช่องทางจราจรอย่างต่อเนื่อง และด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ The Politan Rive ที่อยู่ในทำเลที่ดี สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งจากฝั่งถนนงามวงศ์วานตรงมาเพื่อกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า เพียง 200 เมตรจากสี่แยกก็ถึงหน้าทางเข้าโครงการแล้ว หรือถ้ามาจากทางฝั่งถนนติวานนท์ ก็วิ่งตามถนนสนามบินน้ำ ผ่านกระทรวงพาณิชย์มาหน่อยก็เลี้ยวเข้าโครงการได้เลย ซึ่งการเดินทางในปัจจุบันยังต้องอาศัยรถส่วนตัวเป็นหลักอยู่นะครับ แต่ครึ่งปีหลังของปี 59 นี้ไป รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะได้เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกหลักในการเดินทางอย่างที่ตั้งตารอกันแล้วล่ะครับ สถานที่สำคัญใกล้เคียง รถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้า กระทรวงพาณิชย์ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์รัตนาธิเบศร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เทสโก้ โลตัส พระนั่งเกล้า โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี วิเคราะห์ตัวโครงการ The Politan Rive เป็นคอนโดมิเนียมอาคารเดี่ยวที่นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในย่านสนามบินน้ำเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ตัวอาคารหลักที่สูงถึง 56 ชั้น ออกแบบเป็นรูปตัว S ไปตามแนวของที่ดิน การจัดสรรพื้นที่ภายในโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียว เห็นว่าเตรียมจัดเต็มไว้เลยทีเดียว ซึ่งส่วนแรกที่เปิดให้เราชมบรรยากาศสดในสถานที่จริงได้แล้วก็คือ พื้นที่สวนขนาดใหญ่โซนด้านหน้าที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งสนามเด็กเล่น มุมพักผ่อน และสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าของอาคาร Facility ส่วนกลางที่ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ นอกเหนือจากอาคารเล็กด้านหน้านี้แล้ว ภายในอาคารพักอาศัยก็ยังคงมี Facility อยู่ตามชั้นต่างๆ ดังนี้ นอกจากนี้ทางโครงการ The Politan Rive ยังจัดให้มี Jogging Track, Co-Working Space, Meeting Room, ห้อง Golf Simulator, Co-Playing Space, Reading Room ฯลฯ ซึ่งทางโครงการเชื่อว่า Facility ต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้นั้นจะสามารถตอบโจทย์ของลูกบ้านได้อย่างเพียงพอและครบถ้วนที่สุด มาถึงในส่วนของที่พักอาศัยกันบ้าง ตัวอาคารหลักตั้งแต่ชั้น 1-8 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ในขณะที่ส่วนของที่พักอาศัยเริ่มต้นกันตั้งแต่ชั้น 9-55 และมีจำนวนยูนิตรวมมากถึง 2,351 ยูนิตเลยทีเดียว ห้องส่วนใหญ่จะหันไปในแนวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลักนะครับ มีข้อดีคือ ห้องจะไม่ร้อนมากเพราะไม่ค่อยได้รับแดดโดยตรง ส่วนห้องทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องที่ได้วิวดีที่สุดในโครงการนี้ เพราะหันหน้าเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ และสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดเช่นกัน สิ่งอำนวยความสะดวก Sky lounge + sky deck Fitness Swimming pool Kid pool Sky garden Boxing room Yoga room Lobby Jogging track Playground Golf simulator Co-playing space Kid room Multipurpose room Reading room Meeting room Co-working space พาชมห้องตัวอย่าง แปลนห้องของโครงการ The Politan Rive มีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.50, 29 และ 30.50 ตารางเมตร และ แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 และ 60 ตารางเมตร ซึ่งทางโครงการจัดเตรียมห้องตัวอย่างไว้ให้ชมด้วยกัน 3 แบบ เริ่มจากห้องขนาดเล็กที่สุดก่อนเลยนะครับ ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.50 ตารางเมตรนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่อยู่ในโซนด้านทิศตะวันออก ด้านที่ติดกับถนนใหญ่ด้านนอก ตัวห้องถูกวาง Layout มาให้ใช้งานได้เป็นสัดส่วนมากๆ มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยชัดเจน ทั้ง Living Area ห้องนอน และห้องครัวแบบครัวปิด โดยห้องนี้จะขายเป็นห้องเปล่านะครับ ส่วนที่โครงการมีให้จะเป็นเคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และแอร์ 2 ตัวที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน หลังจากดูส่วนต่างๆ ของห้องมาเรียบร้อยแล้ว ครวามนี้เรามาดูภาพกว้างๆ แบบ 360 องศา กันบ้างดีกว่าครับ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้องถัดมาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่ที่ 30.50 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นแบบห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดของโครงการ ห้องแบบนี้จะขยับมาอยู่ในโซนกลางๆ ของอาคารเสียเป็นส่วนใหญ่นะครับ ห้องที่หันทางไปทางทิศตะวันตกก็พอมีให้เลือกบ้าง โดยจะได้เห็นวิวแม่น้ำชัดๆ ด้วย ในขณะที่ห้องที่หันหน้าออกทางทิศเหนือ-ใต้ก็มีอีกมากที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้เหมือนกัน แต่อาจจะเป็นมุมแคบหน่อย ห้องนี้ถ้ามองดูเผินๆ แล้วการจัดวาง Layout ของห้องนี้แทบจะไม่ค่อยต่างกับห้องขนาด 24.50 ตารางเมตรมากนัก ยกเว้นตรงส่วนของระเบียงบริเวณห้องนอนที่เพิ่มเข้ามา พื้นที่ใช้สอยก็เพิ่มมากขึ้นภายในห้องจึงดูโปร่งสบายตามากกว่าครับ สเปซต่างๆ ก็เหมาะกับการใช้สอยมากขึ้นด้วยเช่นกัน Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้องตัวอย่างแบบสุดท้าย ถือว่าเป็น Highlight ของ The Politan Rive เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน และมีขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ 60 ตารางเมตร โดยห้องไซส์นี้จะอยู่ในตำแหน่งห้องมุม หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งถือเป็นมุมที่ได้วิวดีที่สุดของโครงการนั่นแหละครับ ห้องนี้จะเด่นด้วยระเบียงยาว นอกจากจะกินพื้นที่เต็มหน้ากว้างของห้องแล้ว พื้นที่ระเบียงยังเป็นระเบียงเข้ามุมตามตำแหน่งของห้องอีกด้วย ทำให้ห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กสามารถเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้สวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย การจัดวาง Layout ให้ฟังก์ชั่นในการใช้สอยที่เต็มที่ ในโซน Living Area กลางห้องเชื่อมต่อกับครัวเปิด ในขณะที่ห้องนอนทั้งสองห้องก็แยกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน และที่พิเศษจากห้องแบบอื่นๆ ของโครงการก็คือ ห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตร ทางโครงการจะขายมาให้แบบ Fully Fitted ส่วนห้องไซส์ใหญ่สุด 60 ตารางเมตร จะขายแบบ Fully Furnished เลยครับ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA   Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA   Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ถึงแม้ว่าโครงการ The Politan Rive จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ ครบถ้วนเช่นกันนะครับ ทั้งตำแหน่งที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งกำลังจะเปิดให้ใช้บริการเร็วๆ นี้แล้ว และรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่มีโครงการก่อสร้างในอนาคต อีกทั้งยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย แถมได้บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่แสนจะโรแมนติก ซึ่งหาในคอนโดเขตเมืองได้ยากมากๆ โครงการนี้จึงเป็นที่น่าจับตามองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือการซื้อหาเพื่อการลงทุน เนื่องจากมูลค่าของอสังหาฯในย่านนี้ มีแนวโน้มที่ขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความเจริญที่ขยายตามแนวรถไฟฟ้ามา และในวันที่ 30-31 มกราคม 2559 ทางโครงการจะเปิด Pre-Sale แล้ว ใครที่สนใจ หรือกำลังมองหาคอนโดดีๆ Facility เยอะๆ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย ก็เข้าไปดูกันได้ที่สำนักงานขาย ในพื้นที่ของโครงการ The Politan Rive กันได้เลยนะครับ ใครที่จองโครงการในช่วง Pre-Sale นี้ จะได้รับ Premium Package พร้อมแอร์ ครัว และวอลล์เปเปอร์ ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มเติม : คลิก สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 002 2222 หรือที่ www.thepolitancondo.com
Whizdom Essence Sukhumvit : รีวิวคอนโด

Whizdom Essence Sukhumvit : รีวิวคอนโด

Whizdom Essence Sukhumvit คอนโด High Rise สูง 50 ชั้น บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี หนึ่งในโครงการ Whizdom 101 จาก MQDC รายละเอียดโครงการ ราคาต่อตางรางเมตร    ประมาณ 140,000 บาท (เฉลี่ยทั้งโครงการ) เจ้าของโครงการ    MQDC (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 50 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    6 - 1 - 91 ไร่ จำนวนห้อง    664 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต ที่จอดรถ    471 คัน หรือคิดเป็น 71% (รวมซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    กลางปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ต้นปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ปุณณวิถี ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ไบเทค บางนา ซีคอน สแควร์ พาราไดซ์ พาร์ค เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา เทสโก้ โลตัส ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 33.71 - 44.9 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 51.9 - 83.8 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 100.2 - 101.8 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 195.9 - 209.6 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สวนบนดิน 2 ไร่ ลู่วิ่ง และเลนจักยานในสวน สระว่ายน้ำในสวน ความยาว 50 เมตร (ขนาดมาตรฐานโอลิมปิก)พร้อมสระเด็ก และบ่อน้ำร้อน ฟิตเนส / ห้องโยคะ ห้องพักผ่อนลอยฟ้า และสวนลอยฟ้า บิสซิเนส เล้าจ์ ห้องสมุดและห้องเรียนพิเศษ ห้องเด็กเล่น Digital Door Lock Key Card Access ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง Home Automation System สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-789-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.mqdc.com
Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ : รีวิวคอนโด

Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ : รีวิวคอนโด

Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลูเพียง 80 เมตร โครงการใหม่ล่าสุดจาก MQDC รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2 ล้านต้นๆ เจ้าของโครงการ    MQDC (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 37 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    690 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 295 คันคิดเป็น 43% พื้นที่โครงการ    3 ไร่ 53 ตารางวา ที่ตั้งโครงการ    ถนนรัชดาภิเษก แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2016 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2018 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ตลาดพลู BRT ราชพฤกษ์ เดอะมอลล์ ท่าพระ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า วัดปากน้ำภาษีเจริญ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 26-35 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 47-59 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 40-78 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Infinity Edge Pool Pool Lounge Fitness Glass House Sky Lounge Co-Working Space E-Library สวนและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-789-9999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.mqdc-whizdom.com
Ashton Silom : รีวิวคอนโด

Ashton Silom : รีวิวคอนโด

Ashton Silom คอนโด High Rise สูง 48 ชั้น ติดถนนสีลม ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี โครงการใหม่ล่าสุด จาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    N/A เจ้าของโครงการ    บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 48 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    428 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS ช่องนนทรี ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาล BNH อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สวนลุมพีนี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเซนต์โยเชฟคอนเวนต์ โรงเรียนอัสสัมชัญ Shrewsbury International School จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 bedroom ขนาด 31 – 48 ตารางเมตร 2 bedroom ขนาด 71 – 86 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Lounge Garden Sunken Seating Swimming Pool Kid’s Pool Jacuzzi Fitness Private Fitness Steam Room Sauna Room Massage Room Library Cinema Room Business Lounge Sky Deck Social Club & Wine Bar Outdoor Lounge with Garden Rooftop deck สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th
Mayfair Place Sukhumvit 50 : รีวิวคอนโด

Mayfair Place Sukhumvit 50 : รีวิวคอนโด

Mayfair Place Sukhumvit 50 คอนโด High Rise ในซอยสุขุมวิท 50 ใกล้ BTS สถานีอ่อนนุช โครงการใหม่จาก พีทีเอฟ เรียลตี้ (2015) เปิด Pre-Sale 30-31 มกราคม 2559 รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,800,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    ประมาณ 130,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พีทีเอฟ เรียลตี้ (2015) จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise อาคาร A สูง 14 ชั้น อาคาร B สูง 17 ชั้น และอาคาร C ส่วนกลางสูง 8 ชั้น พื้นที่โครงการ    3 - 1 - 72 ไร่ จำนวนห้อง    356 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 4 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 56% ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 50 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนพฤษภาคม 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนพฤษภาคม 2561 สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS อ่อนนุช เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 บิ๊กซี อ่อนนุช โรงเรียนนานาชาติเวลส์ Gateway เอกมัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.38 – 36.84 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 41.40 – 51 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 69.20 – 71.56 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 78.40 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-331-8999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.mayfairplace50.com
Private Nirvana Residence North ‘n East : รีวิวบ้าน

Private Nirvana Residence North ‘n East : รีวิวบ้าน

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปดูโครงการ Private Nirvana Residence North ‘n East ในย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) โซนด้านหลัง CDC เลยครับ สำหรับโครงการนี้จะแบ่งออกเป็นฝั่ง North และ East นะครับ พื้นที่โครงการอยู่ติดกัน แต่แยกส่วนการดูแลออกจากกันอย่างชัดเจน โดยที่ Private Nirvana Residence North จะมีแบบบ้านเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ในขณะที่ Private Nirvana Residence East ที่เราจะพาไปดูกันในครั้งนี้ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ซึ่งเราได้ข่าวว่าทางโครงการมีการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนวัสดุกันนิดหน่อย เดี่ยวไปดูกันครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   North เริ่มต้น 15.50 ล้านบาท , East  เริ่มต้น 23.50 ล้านบาท เจ้าของโครงการ   Private Nirvana Co., Ltd. ลักษณะโครงการ   บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 54 ยูนิต และ 3 ชั้น จำนวน 57 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ   ซอยโยธินพัฒนา 11 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เนื้อที่ทั้งหมด   โครงการ North เนื้อที่ 12 - 2 - 96 ไร่ , East เนื้อที่ 14 - 0 - 11 ไร่ ค่าส่วนกลาง   65 บาท/ตารางวา วิธีการเดินทางไปยัง Private Nirvana การเดินทางในครั้งนี้ เราเริ่มต้นจากแยกเกษตร วิ่งมาตามถนนประเสริฐมนูกิจมาเรื่อยๆ จนถึงแยกเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงแยกนี้เราเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มุ่งหน้าไปทางลาดพร้าวอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโยธินพัฒนาได้เลย ซึ่งจุดสังเกตุหลักๆ ตรง หน้าปากซอยคือ ห้าง Chic Republic จากนั้นก็ให้ชิดขวาสังเกตุป้าย “บ้านลาดพร้าว” ตรงด้านหลัง Chic Republic เลยครับ ซอยนี้ชื่อว่า “ซอยโยธินพัฒนา 11” เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ  600 เมตร จะเห็นโครงการ 15 Gates ตรงนี้ก็เลี้ยวซ้ายและข้ามสะพานข้ามคลองไปอีกนิดหน่อย ก็ถึงหน้าทางเข้าโครงการ Private Nirvana Residence North ‘n East  ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วครับ ต้องขอบอกก่อนเลยนะครับว่าพอถึงหน้าโครงการแล้วหลายคนอาจจะงงๆ หน่อย เพราะฝั่งตรงข้ามโครงการ Private Nirvana Residence North ‘n East จะเป็นโครงการรุ่นพี่ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วชื่อโครงการ Private Nirvana Residence ตั้งอยู่ฝั่งขวามือ แต่ถ้าเรามาจากทางแยกลาดพร้าว ก็วิ่งตรงมาตามถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) มาเรื่อยๆ พอเห็น The Crystal Park ทางซ้ายมือ ก็ชิดขวาเตรียมกลับรถมาที่ซอยหลัง Chic Republic เหมือนเดิม   การเดินทางในย่านนี้จะสะดวกมากกว่าถ้าใช้รถส่วนตัว ทั้งเรื่องเส้นทางถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ทั้งลาดพร้าว-รัชดา ประเสริฐมนูกิจ-พหลโยธิน-วิภาวดี เพชรบุรี-พระราม 9 หรือวงแหวนรอบนอก-มอเตอร์เวย์  ทำให้สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่ายหลากหลายทาง และยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ไม่ไกลอีกด้วย แต่สภาพการจราจรในบริเวณนี้อาจจะหนาแน่นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นของวันทำงาน ทั้งแยกลาดพร้าว และแยกเกษตรนวมินทร์ ที่มีปริมาณรถเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ในแถบนี้อาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควรครับ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยซึ่งถือว่าค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่ก็มีข้อดีในเรื่องของความเงียบสงบกว่าโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่   เราซูมลงมาใกล้ๆ จะเห็นว่าโครงการ Private Nirvana Residence North 'n East จะตั้งอยู่ภายในซอยโยธินพัฒนา 11 หรือซอยที่ติดกับ Chic Republic นั่นเอง เราเริ่มกันตรงถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนโยธินพัฒนาหรือซอยข้างๆ Chic Republic กันเลยนะครับ พอเลี้ยวซ้ายเข้าซอยโยธินพัฒนานิดเดียว ให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาเข้าซอยโยธินพัฒนา 11 เลยนะครับ ปากซอยจะมีป้ายหมู่บ้านลาดพร้าวติดอยู่ สังเกตได้ไม่ยากครับ จากนั้นตรงเข้าซอยไปเรื่อยๆ เลยครับ ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายนะครับ สังเกตุที่ป้ายบอกทางของโครงการ จะมีอยู่ตลอดทาง รับรองไม่หลงแน่นอนครับ เลี้ยวซ้ายมาแล้วตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ ถึงหน้าโครงการอาจจะสับสนสักหน่อยนะครับ เพราะจะมี Private Nirvana อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งขวาจะเป็นโครงการ Private Nirvana Residence โครงการแรก ซึ่งสร้างเสร็จ และลูกบ้านเข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการ Private Nirvana Residence North 'n East จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ทางเข้าโครงการ เข้ามาแล้วจะเห็นสำนักงานขายโครงการอยู่ทางขวามือ สถานที่สำคัญใกล้เคียง CDC Chic Republic The Crystal Central Festival East Ville Crystal Park The Walk (Index Living Mall) Festival Walk Tesco Lotus Home Pro วิเคราะห์รอบโครงการ โครงการ Private Nirvana Residence North ‘n East อยู่ในบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ในย่านที่มี Community Mall ชิคๆ อยู่ใกล้ๆ เป็นจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่ Chic Republic, CDC, Crystal Park, The Walk, Festival Walk, Navamin City Avenue และห้าง Central Festival East Ville ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีสไตล์ร้านค้า ร้านอาหารที่ค่อนข้างแตกต่างชัดเจน นับเป็นแหล่งช็อปปิ้งหลักๆ ที่คนในย่านนี้พึ่งพาอาศัยได้หายห่วง แต่ถ้าไม่อยากออกไปไหนไกล ช่วงปากทางเข้าซอยโยธินพัฒนาก็มีซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย เช่นเดียวกับร้านอาหารก็มีให้เลือกพอสมควร รวมถึงในย่านนี้ก็มีร้านอาหารดังอีกหลายร้านให้เลือกแทบไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว   ทำเลในแถบนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านเดี่ยวแทบทั้งนั้น ซึ่งแต่ละโครงการก็มีขนาดใหญ่อยู่ไม่น้อยเลย ตลอดทางเข้ามาที่โครงการมีเพื่อนบ้านให้อุ่นใจเยอะมากทั้ง 15 Gates, Town X+, บ้านลาดพร้าว และ Private Nirvana Residence แต่บรรยากาศในซอยก็ไม่ได้พลุกพล่านมากนะครับ ยิ่งเข้ามาในโครงการ Private Nirvana Residence North ‘n East ด้วยแล้ว ยิ่งเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยมากๆ ซึ่งอันนี้คือข้อดีอย่างหนึ่งของโครงการที่อยู่ลึกเข้ามาในซอยแบบนี้ครับ เดี๋ยวเราไปดูที่ตัวโครงการกันเลยดีกว่า   โครงการ Private Nirvana Residence North ‘n East จะแบ่งพื้นที่ของโครงการออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ นะครับ หลังจากผ่านประตูทางเข้าโครงการมาจะเจอกับสำนักงานขายและสะพานข้ามคลองบ้านบึง จากนั้นเราก็จะเข้าสู่พื้นที่ส่วนแรก โซนนี้ในอนาคตจะเป็นพื้นที่ของ Sport Complex ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางรวม Facility หลักๆ ของโครงการทั้ง สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิค ฟิตเนสขนาดใหญ่ สตูดิโอโยคะ ห้องแอโรบิค ห้องซาวน่า ห้องสตีม แยกชายหญิง รวมไปถึงห้องสมุด และมุมพักผ่อน โดยในส่วนของ Sport Complex ลูกบ้านทุกหลังจะได้สิทธิ์ใช้ฟรี 2 ปี หลังจากนั้นทางโครงการจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมราคาพิเศษในลักษณะ Member สำหรับลูกบ้านที่ต้องการใช้บริการต่อ ทำให้ลูกบ้านที่ไม่ต้องการ หรือไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ Sport Complex ไม่ต้องรับภาระค่าส่วนกลางตรงส่วนนี้ครับ   ถนนหลักเข้าสู่โครงการ ด้านขวามือจะเป็นสำนักงานขายโครงการ สะพานข้ามคลองบ้านบึง ก่อนเข้าสู่พื้นที่ส่วนแรกของโครงการ พอข้ามคลองบ้านบึงมา ที่เห็นพื้นที่โล่งๆ ทางขวามือจะเป็น Sport Complex ของโครงการ ถนนหลักของโครงการจะกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนย่อยจะกว้าง 10 เมตร   พื้นที่ส่วนที่ 2 และ 3 จะเป็นโซนที่พักอาศัยครับ โดยจะแบ่งเป็น Private Nirvana Residence North และ Private Nirvana Residence Eastแต่ละส่วนจะมีประตูทางเข้า-ออกของตัวเอง และมีการแยกนิติบุคคลออกจากกันด้วยเช่นกัน ในขณะที่พื้นที่และจำนวนบ้านในแต่ละโซนก็จะต่างกันออกไปด้วยนะครับ ซึ่งจะขอแยกรายละเอียดคร่าวๆ ให้ได้เห็นกันดังนี้   Private Nirvana Residence North มีพื้นที่ทั้งหมด 12.6 ไร่ โดยแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดินขนาด 52.4-82.5 ตร.วา จำนวน 54 หลัง ซึ่งเหมาะกับครอบครัวขนาดไม่ใหญ่มากครับ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 265 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องแม่บ้าน และจอดรถได้ 2 คัน ในขณะที่ Private Nirvana Residence East มีพื้นที่ 14 ไร่ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น บนที่ดินขนาด 63.6-94.2 ตร.วา จำนวน 57 หลัง โดยมีให้เลือกทั้งแบบ 3 ห้องน 5 ห้องน้ำ หรือ 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ซึ่งทั้ง 2 แบบ มาพร้อมกับห้องแม่บ้านและที่จอดรถ 3 คันเหมือนกันครับ อันนี้ก็จะเหมาะกับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ด้วยพื้นที่ใช้สอยมากถึง 430 ตร.ม. เลยทีเดียว แบบบ้านทั้งฝั่ง Private Nirvana Residence North และ Private Nirvana Residence East ดูจากภายนอกจะมีความใกล้เคียงกันมาก ด้วยคอนเซปต์ในการออกแบบ “Living Along The Trees” ให้รูปแบบบ้านอิงแอบไปกับธรรมชาติ แทรกพื้นที่สีเขียวร่มรื่นในหลายๆ ส่วนของบ้าน และพื้นที่โครงการ ดีไซน์ตัวบ้านมาในสไตล์โมเดิร์น เรียบๆ ร่วมสมัย ไม่ฉูดฉาด สวยเก๋แบบดีเทลไม่ต้องเยอะ แต่ดูสวยเนี๊ยบกันอีกนานครับ ความเนี๊ยบเรียบง่ายยังขยายรวมไปถึงระบบสายไฟลงดินที่เก็บเรียบร้อยทั้งโครงการ ช่วยเพิ่มให้ทัศนียภาพรอบๆ บ้านสบายตา ไม่มีสายไฟระโยงระยางให้เกะกะสายตาครับ พาชมบ้านตัวอย่าง Private Nirvana Residence บ้านตัวอย่างที่เราเลือกมาให้ชมกันในครั้งนี้ เป็นบ้านในโซน Private Nirvana Residence East นะครับ เพราะได้ข่าวว่าทางโครงการมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมดีไซน์ วัสดุ การตกแต่ง ให้ดูทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนไหนบ้างเดี๋ยวเราค่อยๆ ไล่ดูกันไปทีละส่วนพร้อมกันครับ   ก่อนอื่นต้องแจ้งให้ทราบก่อนนะครับว่าบ้านทุกหลังทางโครงการจะไม่ได้รวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่าง ซึ่งอันนี้ลูกบ้านสามารถตกแต่งภายในกันได้เต็มที่เลย นอกเหนือจากวัสดุ สุขภัณฑ์ สิ่งปลูกสร้างหลักๆ ที่มากับตัวบ้านแล้ว สิ่งที่ทางโครงการจะให้มาพร้อมตัวบ้านด้วยก็คือ ระบบสัญญาณกันขโมย. กล้อง CCTV 4 จุด, ประตูรั้วรีโมท, Digital Door Lock ที่ประตูหลัก, เครื่องปรับอากาศ 5 เครื่อง และเครื่องทำน้ำร้อน 3 เครื่อง ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างคร่าวๆ เท่านั้น สเปควัสดุ อุปกรณ์คุณภาพอื่นๆ ยังมีอีกหลายรายการเลยทีเดียว   บ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว ถ้าดูจากแปลนบ้านของ Private Nirvana จะสังเกตุได้ว่าส่วนใหญ่จะค่อนข้างเรียบง่าย เน้นไปในส่วนพื้นที่ใช้สอยให้คนในบ้านได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ในขณะที่พื้นที่ส่วนตัวก็ยังคงเหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ เริ่มด้วยบริเวณชั้นล่างจะให้น้ำหนักกับ Living Area ที่เชื่อมมุมนั่งเล่นกับครัวเข้าด้วยกัน ทำให้วางโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ๆ ได้สบาย ยิ่งถ้าจะจัดปาร์ตี้เชิญเพื่อนๆ ซัก 10-15 คนก็ยังรับไหวนะครับ ตรงห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปที่ส่วนของครัวไทยที่อยู่ด้านหลังบ้านด้วย เวลาคุณแม่บ้านทำกับข้าวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นจะรบกวนเข้าในบ้าน อีกจุดที่เราชอบมากคือ ประตูกระจกบานใหญ่ที่อยู่ด้านข้างของตัวบ้านทั้งสองด้าน ซึ่งทำให้ตัวบ้านดูโปร่งและกว้างมากขึ้นไปอีก แถมยังช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติ และวิวสีเขียวของสวนข้างบ้านได้อีกด้วย นอกจากนี้ทางโครงการยังมีการปรับพื้นที่ใช้สอยในชั้นนี้ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มห้องนอนเล็กอีกห้องพร้อมห้องน้ำในตัว สามารถใช้เป็นห้องรับรองแขก หรือจะเป็นห้องสำหรับสมาชิกในบ้านก็ได้เช่นกัน แปลนบ้านที่ชั้น 1 เราเริ่มจากด้านหน้าบ้านกันเลยนะครับ ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบเท่ห์ไม่เหมือนใคร พื้นที่หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน ครอบครัวไหนที่มีรถหลายคันนี่เหมาะเลยครับ จากนั้นลองมองขึ้นไปดูที่หลังคาจะเป็นหลังคา เซรามิก เอ็กเชลล่า ของ SCG ซึ่งนำความร้อนต่ำเมื่อเทียบกับกระเบื้องหลังคาคอนกรีตทั่วไป แถมยังทำความสะอาดตัวเองได้ดี จึงทำให้สีสวยตลอดอายุการใช้งาน ลานจอดรถหน้าบ้านปูด้วยกระเบื้องตามแบบที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยครับ พื้นที่กว้างขวางมากพอไม่ใช้ว่าจอด 3 คันแบบเบียดๆ นะครับ ตรงบริเวณที่จอดรถจะมีห้องเก็บของ ซึ่งเป็นแบบประตูบ้านเลื่อน สามารถเก็บเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ได้เลย ประตูห้องเก็บของเป็นบานเลื่อน พื้นที่ภายในกว้างพอที่จะเก็บข้าวของและอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ได้พอสมควร ทำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ทางเดินเข้าบ้านปูกระเบื้องบนพื้นหญ้าและโรยหิน ก่อนถึงประตูบ้านเป็นชานพักยกพื้นสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย ชานพักบริเวณนี้จะปูด้วยกระเบื้องโทนสีเทา มีที่กว้างพอใช้เป็นมุมนั่งใส่รองเท้าได้สบายๆ ประตูบานหลักจะใช้แบบ Digital Door Lock ของ Samsung ทุกหลังนะครับ อันนี้เป็นสเปคที่ทางโครงการเพิ่มเข้ามาให้ทีหลัง จากที่ก่อนหน้าจะใช้เป็นคันโยกล็อคสองชั้น ประตูหลักบานนี้วัสดุเป็นอลูมิเนียม YKK AP อย่างดี มีขอบยางปิดสนิทกันทั้งฝุ่นแมลง และเสียงรบกวนได้ดีทีเดียว ตรงด้านข้างเจาะช่องแสง ทำให้โถงทางเดินบริเวณนี้มีแสงธรรมชาติช่วยส่องสว่างมากขึ้นครับ บริเวณผนังใกล้กับประตูจะมีชุดสวิชไฟ และสัญญาณกันขโมยของ DSC ติดอยู่ สะดวกมากในการตั้งสัญญาณกันขโมยก่อนออกจากบ้าน ด้านข้างประตูจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ประตูที่อยู่ติดกันนั่นเป็นห้องใต้บันไดครับ ห้องใต้บันไดนอกจากจะเป็นห้องเก็บของแล้ว ยังเป็นห้องระบบไฟและกล้องวงจรปิดด้วย ซึ่งพื้นที่ภายในก็กว้างใช้ได้เลยทีเดียว Living Area โซนแรกเมื่อเดินเข้าบ้านมา วางชุดรับแขกไว้ชุดใหญ่ติดกับประตูกระจก ซึ่งเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทำให้มุมนี้ดูโอ่อ่าสบายตามากๆ ครับ จริงๆ พื้นที่บริเวณนี้กว้างพอจะวางชุดโซฟาขนาด 7-8 ที่ได้สบายๆ แต่ในบ้านตัวอย่างเลือกชุดที่เล็กลงมาหน่อย เพื่อให้เหมาะกับบรรยากาศสบายๆ สามารถมองเห็นสวนข้างบ้านได้ชัดเจน ส่วนพื้นบริเวณชั้นล่างจะปูด้วยกระเบื้องนำเข้าลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ทั้งหมด Living Area บริเวณชั้นล่าง จัดแบ่งเพื่อที่ใช้สอยให้มี Dining Area เชื่อมต่อถึงกัน พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสามารถจัดปาร์ตี้ได้สบาย พร้อมด้วย Pantry ครัวฝรั่งแบบครบชุด ในบ้านตัวอย่างเลือกวางมีโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ขนาด 6 ท่าน และ Built-in ตู้เก็บของเต็มผนังติดกับ Pantry เลย เคาน์เตอร์ครัว Built-in มาแบบจัดเต็ม เน้นโทนสีเทา-ขาวเรียบหรู มีพร้อมทั้งตู้แช่ไวน์ ไมโครเวฟ อีกด้านตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว Built ตู้ด้านหลังแขวนทีวี เป็นอีกมุมสังสรรค์ของครอบครัว Island Counter ทำครัวขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางข้าวของสำหรับเตรียมอาหารมากมาย ทางโครงการติด Hood ลอยดีไซน์ทันสมัย ไว้เป็นไอเดียสำหรับใครที่อยากได้ครัวเปิดกลางบ้าน ก็สามารถเก็บไว้เป็นแนวทางตกแต่งได้ Dining Area มุมนี้อยู่ติดกับประตูกระจกบานใหญ่อีกด้าน แสงธรรมชาติช่วยส่องสว่างได้เต็มที่ พื้นที่ข้างบ้านด้านที่ติดกับห้องครัว มีชานบ้านกว้างวางชุดสนามไว้นั่งเล่นจิบชาในสวนได้ หรือจะเปิดประตูกระจกออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดปาร์ตี้ให้กว้างขึ้นไปอีกก็ได้ ประตูกระจกบานใหญ่เต็มบาน กรอบอลูมิเนียม YKK AP แน่นหนามากๆ และถึงจะเป็นกระจกบานใหญ่แต่ก็เลื่อนได้สมู๊ทดีมาก พื้นชานบ้านด้านข้างต่ำกว่าพื้นบาน 2 ระดับ แต่ก็ไม่มากนะครับไม่ต้องกลัวเดินสะดุด ใน Living Area ทางโครงการ Built-in ตู้สูงเต็มเพดาน ซึ่งใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งเป็นตู้เก็บของ เก็บรองเท้า อีกด้านที่หันเข้าหาโต๊ะกินข้าวใช้แขวนทีวี และที่สำคัญยังทำหน้าที่เป็นเหมือผนังกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นด้วย ด้านหลังตู้ Built-in ถูกกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น บริเวณโถงทางเดินนี้จะมีประตูออกไปยังห้องครัวไทยด้านหลังบ้าน ห้องน้ำ และห้องนอกเล็กอีกหนึ่งห้องครับ ห้องน้ำที่ชั้นล่างนี้ภายในมีกระจกบานใหญ่ อ่างล้างมือ และชุดสุขภัณฑ์ ผนังเจาะช่องหน้าต่างบานกระทุ้งให้แสงจากด้านนอกส่องสว่างได้มากขึ้น แปลนบ้านแบบใหม่ ทางโครงการจัดเพิ่มห้องนอนเล็กมาอีกหนึ่งห้องที่บริเวณชั้นล่าง ห้องนี้สามารถใช้เป็นห้องนอกแขก หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องเอนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้นะครับ ประตูห้องนอนเป็นบานไม้ มือจับเป็นแบบคันโยกของ Hafele ภายในห้องนอนเล็กพื้นที่ค่อนข้างกะทัดรัตอยู่สักหน่อย แต่ก็มีประตูกระจกบานใหญ่ที่เปิดออกไปยังสวนข้างบ้านได้ ทำหน้าที่ให้แสงสว่าง และช่วยให้ห้องดูสบายตามากขึ้น ภายในห้องจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ได้กำลังดี ตกแต่งด้วยโทนสีอุ่นๆ ตัดกับสีเขียวจากต้นไม้ด้านนอก ทำให้ห้องน้ำน่าอยู่มากเลยทีเดียวครับ ประตูกระจกบานใหญ่สูงเต็มเพดาน เป็นบานอลูมิเนียม YKK AP เหมือนกับส่วนอื่นๆ ซึ่งเด่นในเรื่องกันน้ำ กันลม กันเสียงได้ดี ถึงจะเป็นห้องที่อยู่ด้านล่าง ก็ไม่ห้องห่วงเรื่องเสียงรบกวนครับ ด้านปลายเตียงทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ไว้ แถมมีช่องหน้าต่างเล็กเพิ่มแสงสว่างให้มุมนี้ด้วย ภายในห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ สะดวกและเป็นส่วนตัวมากๆ เลย ประตูห้องน้ำใช้เป็นกระจกบานเลื่อน พื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องสีเทาและดรอปพื้นต่ำลงมาจากห้องนอนเพื่อป้องกันปัญหาน้ำล้นเข้าห้อง พื้นที่ในห้องน้ำมีขนาดค่อนข้างจำกัดนะครับ ทำให้การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำต้องเรียงค่อนข้างชิดกันอย่างที่เห็น ห้องอาบน้ำกั้นกระจกเทมเปอร์ กั้นพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เหนืออ่างล้างหน้าก็มีกระจกให้บานใหญ่มาก พื้นด้านในห้องอาบน้ำดรอปต่ำลงไปอีกหนึ่งสเตปนะครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำจะล้นออกนอกห้องเวลาอาบน้ำ หน้าต่างบานกระทุ้งด้านในห้องน้ำทางโครงการเลือกใช้กระจกสีขุ่นบานใหญ่ นอกจากจะให้แสงสว่างภายในห้องน้ำได้ดีแล้ว ยังสามารถเปิดออกเพื่อช่วยระบายความอับชื้นได้อีกด้วย ส่วนประตูอีกบานที่อยู่ด้านหลังตู้ Built-in จะเป็นประตูเปิดออกไปที่ครัวไทยทางด้านหลังบ้านนะครับ เปิดประตูออกมาจะเห็นเป็นลานซักล้างและพื้นที่ครัวขนาดไม่กว้างมากนะครับ ในขณะที่ทางโครงการก็ปูพื้นกระเบื้องและเว้นพื้นที่มาให้เรียบร้อยแล้ว ด้านที่ติดกับหลังประตู เว้นช่องวางท่อไว้สำหรับเครื่องซักผ้าให้เรียบร้อย พื้นตรงนี้จะยกขึ้นมาอีกเล็กน้อย เผื่อไว้เวลาทำความสะอาดห้องครัว น้ำจะได้ไม่เลอะเทอะไปถึงด้านล่างเครื่อง อีกด้านเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดไม่ใหญ่มาก มาพร้อมกับซิงค์ล้างจาน ครัวบริเวณนี้เปิดโล่งถึงด้านหลังบ้านไม่มีประตูกั้นอีกชั้นนะครับ ถัดจากบริเวณครัวไทยออกมาที่ด้านหลังของตัวบ้าน จะเป็นลานซักล้าง พื้นส่วนหนึ่งปูกระเบื้องไว้และปลูกต้นไม้ได้ยาวตลอดริมรั้วเลย หันกลับมาอีกด้านของส่วนซักล้าง ตรงนี้จะเป็นทางเข้าห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำ ส่วนตรงมุมรั้วจะเป็นตำแหน่งวางแท็งค์น้ำและปั๊มน้ำ ห้องน้ำแม่บ้านจะอยู่แยกออกมาจากตัวห้องนะครับ อยู่ตรงส่วนซักล้างใกล้ๆ กันนั่นแหละครับ ภายในห้องน้ำก็จะมีอ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ และฝักบัวครบชุด แต่ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกให้เท่านั้นเอง ติดกับห้องน้ำ จะเป็นห้องแม่บ้าน ซึ่งอยู่บริเวณริมสุดของตัวบ้านด้านหลังเลยครับ พื้นที่ภายในขนาดกระทัดรัดครับ วางที่นอนและตู้เก็บของได้อีกหน่อย มีหน้าต่างบานเกล็ดอีกบาน ด้านล่างนี้เป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ 360 องศา ที่เรานำมาช่วยในการทำรีวิว ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพของส่วนต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น สามารถใช้เม้าส์หมุนที่ภาพไปทางซ้าย-ขวา หรือขึ้น-ลง ได้เลยนะครับ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA บริเวณ Living Area ที่ชั้น 1 Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA                                                                                           ห้องนอนเล็กที่ชั้น 1 ในขณะที่แปลนของชั้น 2 และ 3 จะเป็นพื้นที่พักอาศัยที่เน้นความเป็นส่วนตัวขึ้นมากอีก แต่ก็ไม่ลืมพื้นที่นั่งเล่นที่สมาชิกในบ้านจะได้มาสังสรรค์ร่วมกัน โดยทางโครงการเลือกออกแบบให้ห้องนั่งเล่นของครอบครัวบริเวณชั้น 2 เป็นแบบ Double Space ที่มาพร้อมกับระเบียงรอบด้าน ซึ่งเราสามารถปลูกต้นไม้ ทำสวนเล็กๆ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้าน แถมยังได้มุมพักผ่อนที่ผ่อนคลายและเป็นส่วนตัวกว่าการนั่งเล่นในสวนหน้าบ้านอีกนะครับ ในขณะที่พื้นที่ที่เหลืออีกกว่าครึ่งบนชั้นนี้ถูกตกแต่งเป็น Master Bedroom ที่จัดเต็มด้วยทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย ทั้งบริเวณห้องนอนขนาดใหญ่ มีมุมนั่งเล่นในห้อง Walk in Closet ขนาดใหญ่ และห้องน้ำกว้างขวางที่มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์ที่ทันสมัยมากๆ แปลนบ้านชั้น 2 ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเป็นโถงทางเดินไปยังส่วนต่างๆ ของชั้นนี้ครับ พื้นของชั้นบนจะปูด้วยไม้เอนจิเนียรมาตรฐานการส่งออกสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี บนชั้น 2 มีห้องน้ำแยกออกมาให้อีกหนึ่งห้องนะครับ อยู่ใกล้ๆ กับบันไดทางขึ้นเลย ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบให้พื้นที่ตรงนี้สามารถใช้สอยประโยชน์ได้มากขึ้น ด้วยการ Built-in Pantry เล็กๆ เพิ่มเข้ามา Pantry บริเวณหน้าห้องน้ำนี้ถูกจัดไว้เป็นอย่างดีครับ มีซิงค์ล้างจานบนเคาน์เตอร์ พร้อมด้วยตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่าง แถมเว้นช่องไว้วางตู้เย็นมาให้แล้ว เป็นอีกหนึ่งมุมสำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มและของว่างเล็กๆ น้อยๆ สำหรับสมาชิกในบ้าน โดยไม่ต้องเดินกลับลงไปถึงชั้นล่างครับ ห้องน้ำที่บริเวณชั้น 2 นี้ ยังคงมีเพียงอ่างล้างหน้าและชุดสุขภัณฑ์นะครับ ไม่ได้มีส่วนอาบน้ำ เพราะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง สำหรับสมาชิกทุกคนเวลามารวมตัวกันทำกิจกรรมที่บริเวณชั้น 2 นี้ครับ จะได้ไม่ต้องรบกวนห้องน้ำในห้องส่วนตัวของกันและกัน อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Kohler ขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางของด้านข้างมากขึ้น และบริเวณ top เหนืออ่างล้างหน้าเป็น Low Wall ทำเคาน์เตอร์เล็กๆ ใช้วางของได้เพิ่มมากขึ้น ใต้อ่างล้างหน้ามีลิ้นชักสำหรับเก็บข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งน่าจะเพียงพอและช่วยให้ภายในห้องน้ำเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วย เหนืออ่างล้างหน้าติดกระจกเงาบานใหญ่ ทำเป็น Light Box เพิ่มแสงสว่างและบรรยากาศไปอีกแบบ ในห้องน้ำมีระเบียงเล็กๆ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเต็มพื้นที่ นอกจากจะช่วยให้แสงธรรมชาติมากขึ้นแล้ว ยังสามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้ด้วยนะครับ ซึ่งทางโครงการจัดเป็นสวนเล็กๆ โรยหินกรวดสวยๆ และปลูกต้นไม้ช่วยพรางสายตาอีกชั้นหนึ่ง โซนถัดมาที่บริเวณชั้น 2 จะถูกแบ่งเป็น Living Area และ Master Bedroom ครับ ซึ่งพื้นที่สองส่วนนี้อยู่ติดกันเลย ในขณะที่ Master Bedroom ก็ยังไม่เสียความเป็นส่วนตัวไปซักนิดครับ Living Area บนชั้น 2 นี้จะกินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งเลยนะครับ ทางโครงการจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยระเบียงที่จัดเป็นสวนสวยร่มรื่น อย่างที่เห็นนะครับ Living Area ใช้ประตูกระจกบานใหญ่จรดเพดานทั้ง 2 ด้าน ทำให้บริเวณนี้ได้รับแสงธรรมชาติแบบเต็มๆ ทางโครงการเลือกตกแต่งมุมนี้เป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือ พร้อมกับมุมทำงานเล็กๆ ซึ่งสมาชิกในครอบครัวจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันได้ จึงจัดวางโชฟาไว้ชุดใหญ่ และ Built-in ชั้นวางหนังสือเต็มผนัง ซึ่งสูงขึ้นไปถึงบนชั้น 3 เลยทีเดียว ไฮไลท์ของ Living Area ที่ชั้น 2 นี้ ทางโครงการเพิ่มความหรูหราด้วยเพดานแบบ Double Space ซึ่งกินพื้นที่ขึ้นไปถึงชั้น 3 ทำให้บริเวณนี้ดูโอ่โถงสบายตาจนเกือบลืมไปว่าเรากำลังนั่งอยู่บนชั้น 2 ของตัวบ้านนะเนี่ย อีกมุมที่เห็นชัดเจนว่าเพดานสูงขึ้นไปถึงชั้น 3 เลยนะครับ ส่วนประตูกระจกรอบด้านก็เปิดได้ทุกบาน แถมยังสูงเกือบเต็มผนังอีกเช่นกัน ในโซนนี้จะได้แอร์แบบฝังช่องแบบที่เห็นด้วย ด้านหนึ่งของ Living Area จัดเป็นมุมทำงานเล็กๆ ใกล้กับประตูกระจกมีพื้นที่สีเขียวด้านนอกให้พักสายตาได้เป็นอย่างดี ประตูกระจกสามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้ทุกบาน และกรอบประตูก็เป็นอลูมิเนียมมีตัวล็อคแน่นหนา สามารถกันเสียง กันน้ำ กันลมได้เป็นอย่างดี พื้นที่ระเบียงด้านนอกค่อนข้างกว้างเลยนะครับ พื้นปูด้วยกระเบื้องสีดำกันลื่น และดรอปต่ำลงมาจากพื้นบ้านอีกประมาณ 5 ซม. ไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำจะล้นเข้าบ้านเวลาฝนตกหนักๆ นอกจากนี้ทางโครงการยังปลูกต้นไม้ไว้ให้ความร่มรื่นยาวตลอดแนวระเบียง ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวเหมือนเราได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ตามคอนเซปต์การออกแบบเลยล่ะครับ ไปดู Master Bedroom กันบ้างครับ เปิดประตูห้องตรงสุดโถงทางเดินมาก็จะเจอกับ Living Area อีกมุมที่เป็นส่วนตัวในห้องนอนใหญ่ ทางโครงการจัดแบ่งพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีภายในห้องนอน ด้วยการจัดวางชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง จะได้นั่งดูหนัง ดูทีวีกันสบายๆ และตรงผนังห้องด้านนี้ก็ Built-in เป็นชั้นหนังสือโดยแขวนทีวีไว้ตรงกลางมีบานเลื่อนเปิดปิดได้ ส่วนผนังด้านขวามือมีหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องได้อีกทาง พื้นที่ใน Master Bedroom กว้างมากขนาดที่วางเตียงขนาด King Size ลงไปแล้วยังเหลือพื้นที่ว่างอีกมาก ตำแหน่งวางเตียงทางโครงการเลือกไว้ใกล้กับหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่อีกด้านของผนังห้องด้วย ภายในห้องค่อนข้างสว่างมากเหมือนกันนะครับในช่วงกลางวัน เนื่องจากห้องนี้มีหน้าต่างใหญ่ๆ มากถึง 2 ด้านด้วยกัน แสงอาทิตย์ส่องทั่วถึงทั้งห้องแน่นอนครับ ส่วนพื้นห้องยังคงเป็นไม้เอนจิเนียร์สีเข้ม ในขณะที่ปลายเตียงก็เจาะตำแหน่งปลั๊กเผื่อไว้สำหรับแขวนทีวีได้ด้วย ถ้าใครชอบนอนดูทีวีจากบนเตียง ก็สามารถปรับเปลี่ยนบริเวณ Living Area ในห้องให้ใช้สอยประโยชน์อื่นๆ ได้นะครับ ถัดจากห้องนอนเข้าไป จะเป็นพื้นที่ของ Walk in Closet ซึ่งทางโครงการตกแต่งผนังด้านนี้ไว้ด้วยไม้ลายเดียวกันทั้งหมด บานประตูเข้าสู่ห้องแต่งตัวเป็นบ้านสวิงคู่ แต่ของจริงจะไม่มีประตูมาให้นะครับ จะเปิดโล่งเดินถึงกันได้เลย ภายในห้องแต่งตัวจะ Built-in ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของรูปตัว L ไว้เต็มผนังด้านหนึ่ง แล้วใช้บานหน้าตู้เป็นกระจกเงาทั้งหมด ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และยังใช้เป็นกระจกส่องเวลาแต่งตัวไปพร้อมๆ กัน ผนังอีกด้านก็ Built-in ตู้ไว้อีกเช่นกัน ในชณะที่ด้านตรงข้ามใกล้ๆ กับช่องหน้าต่างที่ให้แสงสว่างกำลังดี จัดไว้เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งวางกระจกบานใหญ่ไว้ให้เห็นเป็นไอเดียนะครับ ของจริงเจ้าของบ้านสามารถเลือกตกแต่งโต๊ะตู้ได้ตามใจชอบเลยครับ ด้านเดียวกับโต๊ะเครื่องแป้ง มีประตูบานสวิงเป็นกระจกใส่เปิดเข้าไปสู่ห้องน้ำของ Master Bedroom ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom ทางโครงการเลือกใช้วัสดุและการตกแต่งในโทนสีขาวสะอาดจนแสบตา ต่างจากบรรยากาศในห้องนอนและห้องแต่งตัวไปเลยทีเดียว อ่างล้างหน้าติดตั้งไว้ให้ 2 ชุด พร้อมกระจกเงาเต็มบานใหญ่ ในขณะที่ด้านล่างของอ่างล้างหน้ามีลิ้นชักเก็บของมาพร้อม และมีพื้นที่วางของเหลือเฟือเลย ด้านล่างของกระจกเป็น Low Wall ไว้ใช้วางของได้ครับ ในขณะที่ด้านหลังกระจกก็ติด Light Box ใช้ไฟสีส้มๆ ช่วยสร้างบรรยากาศอุ่นๆ ให้ในห้องน้ำ อ่างอาบน้ำแบบจากุชซี่ วางไว้ด้านที่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ด้านนอกเป็นผนังบล็อกแก้วที่ช่วยให้แสงผ่านได้ดี และทางโครงการก็เลือกปลูกต้นไม้เพิ่มไว้อีกจุด ช่วยเพิ่มบรรยากาศการอาบน้ำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อีกด้านของห้องน้ำ กั้นกระจกแยกส่วนห้องอาบน้ำ และห้องทำธุระส่วนตัวไว้อย่างเป็นสัดส่วนเรียบร้อยมากๆ ชุดสุขภัณฑ์ใน Master Bedroom จะเป็นโถอัจฉริยะของ TOTO เพียงแค่เราเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาสุขภัณฑ์ก็จะเปิดขึ้นพร้อมใช้งานทันทีครับ หน้าตาสุขภัณฑ์เลือกดีไซน์กันมาแบบเรียบหรู ซึ่งตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่ทางโครงการปรับสเปคของเข้ามาใหม่นะครับ แบบเดิมจะเป็นชุดสุขภัณฑ์แบบปกติ ชุดสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ TOTO มีเซนเซอร์และแผงควบคุมมาครบ แผงควบคุมการทำงานของชุดสุขภัณฑ์ก็มาแบบมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันตามโรงแรมและห้างใหญ่ๆ ก็นิยมใช้กันแล้ว ในส่วนของห้องอาบน้ำจะปูด้วยกระเบื้องสีดำลายหินอ่อนกันลื่น มีชุดฝักบัวพร้อมก๊อกน้ำแบบหัวผสมติดตั้งมาเรียบร้อย ผนังด้านหนึ่งเจาะช่องสำหรับวางเครื่องใช้อาบน้ำ พื้นที่ในห้องน้ำกว้างมาก อาบน้ำได้สบายเลย แถมยังก่อที่นั่งเผื่อไว้นั่งอาบน้ำขัดตัวมาให้อีก และพื้นของห้องอาบน้ำนี้ก็ดรอปลงมาจากพื้นห้องน้ำปกติอีก 5 เซนติเมตร ไม่ต้องกลัวน้ำจะล้นออกนอกบริเวณเลย เพดานด้านบนของห้องอาบน้ำมี Rain Shower มาให้ด้วย ในขณะที่อีกด้านใช้เป็นผนังบล๊อกแก้วเกือบเต็มพื้นที่ เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับห้องน้ำ นอกเหนือจากดวงไฟ Down Light แบบปกติครับ พื้นที่ในห้องน้ำกว้างขวาง สามารถใช้งานพร้อมๆ กันได้สบายหายห่วง ระหว่างอ่างอาบน้ำ และเคาน์เตอร์ล้างหน้า มีประตูกระจกบานเล็กอีกบาน ที่สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้ เปิดออกไปแล้วจะเห็นว่าเป็นตำแหน่งที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่ถ้าอ้อมไปอีกด้านจะสามารถเดินออกไปที่ระเบียงตรงอ่างอาบน้ำได้ด้วยเช่นกัน Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA Living Area บนชั้น 2 Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้อง Master Bedroom Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in Closet ภายในห้อง Master Bedroom ก่อนเข้าไปถึงห้องน้ำ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA                                                                                ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ที่ชั้น 3 ก็ต้องบอกว่ามีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยหน้ากันเลย ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว แถมด้วยมุมอ่านหนังสือ หรือจะจัดให้เป็นมุมห้องพระหน้าห้องก็ได้ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมถึงพื้นที่นั่งเล่นที่ชั้น 2 ด้วย แปลนบ้านของชั้น 3 ขึ้นมาถึงที่ชั้น 3 กันบ้าง พื้นบริเวณโถงทางเดินและในห้องนอนยังคงเป็นไม้เอนจิเนียร์สีอ่อน ภายในบ้านยังคงได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่จากหน้าต่างบานใหญ่ตามจุดต่างๆ รอบบ้าน ทางด้านซ้ายมือของบันได จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งทางโครงการจัดตกแต่งให้เป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือ จิบชาสวยๆ ตรงมุมนี้บรรยากาศจะโล่งโปร่งสบายมากๆ เลยทีเดียว เพราะเป็นจุดเชื่อมถึงโถงนั่งเล่นที่ชั้น 2 ด้วย เพดานบริเวณ Double Space ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยไม้ แขวน Chandelier สวยๆ มุมนั่งเล่นตรงนี้น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนไม่มากก็น้อย มุมด้านในสุด ทางโครงการ Built เป็นหิ้งพระเรียบๆ สไตล์โมเดิร์น เข้ากับสไตล์การตกแต่งของบ้าน จากชั้น 3 สามารถก้มลงไปดูบริเวณโถงนั่งเล่นที่ชั้น 2 ได้เลยนะครับ จะว่าไปแล้วก็ดูเหมือนจะสูงมากเหมือนกัน คนกลัวความสูงอาจมีหวิวๆ ได้ ถ้ามองจากชั้น 3 ลงมา จะสามารถมองเห็นบริเวณโถงนั่งเล่นได้ชัดเจนเกือบจะทุกส่วน รวมไปถึงที่ระเบียงด้านนอกด้วยเลยนะเนี่ย อีกมุมของโถงทางเดินบริเวณชั้น 3 ครับ ตกแต่งมาแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ครับ เรามาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันดีกว่า ห้องนี้ตกแต่งมาในสไตล์เข้มๆ เน้นโทนสีเทาดำ เฟอร์นิเจอร์เลือกใช้เป็นแบบลอยตัวเสียส่วนใหญ่ ภายในห้องเลยดูสบายๆ ไม่อึดอัด คล้ายๆ กันกับส่วนอื่นๆ ของตัวบ้านนะครับที่จะเน้นให้มีหน้าต่าง เปิดช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะๆ ภายในห้องนี้ก็เช่นกันครับ มีช่องหน้าต่างมากถึง 3 บานด้วยกัน ภายในห้องเลยสว่างได้โดยที่แทบจะไม่ต้องเปิดไฟเลยในช่วงกลางวัน ผนังอีกด้านของห้อง ทางโครงการเลือก Built-in ด้วยไม้ย้อมสีเทาดำ พร้อมจัดวางตำแหน่งสำหรับแขวนทีวีมาให้แล้ว แถมยังแอบซ่อนตู้เสื้อผ้าเอาไว้ที่ผนังด้านนี้ด้วย ถ้าดูเผินๆ ก็แทบจะมองไม่เห็นประตูตู้เสื้อผ้าเลยนะครับ ต้องสังเกตุกันดีๆ หน่อย ถัดเข้ามาด้านในสุดของห้องจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ และมุมทำธุระส่วนตัว แล้วก็มีประตูกระจกบานเล็กที่สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้อีกเช่นกัน ส่วนนี้จะวางอ่างล้างหน้าพร้อมติดตั้งกระจกให้เต็มบาน ด้านล่างมีพื้นที่วางเก้าอี้เล็กๆ หรือตะกร้าผ้าได้ อีกอย่างมุมนี้เปิดรับแสงจากภายนอกได้ดีเลยครับ เพราะกำแพงบล็อคแก้วตรงระเบียงนั่นแหละ ทางโครงการเลือกใช้ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่มีดีไซน์ทันสมัย สวยงามดีนะครับ อีกด้านของห้องน้ำ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในกั้น Shower Box ไว้เรียบร้อย ชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler ตามมาตรฐานครับ ชุดฝักบัวพร้อมก๊อกหัวผสม ถึงจะไม่มีช่องวางของ แต่ Low Wall ตรงนี้ก็วางของได้เยอะพอตัวเลยแหละ ตรง Shower Box มีประตูกึ่งหน้าต่างบานใหญ่ สามารถเปิดออกเพื่อช่วยระบายความชื้นได้ และพื้นที่ด้านนอกที่เปิดไปจะเป็นระเบียงเล็กๆ ที่ไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ครับ พื้นและผนังใน Shower Box เลือกใช้กระเบื้องสีเข้ม มี texture กันลื่นได้ดี และมีการออกแบบตำแหน่งสโลปสำหรับการระบายน้ำที่ดีด้วย พื้นของ Shower Box จะดรอปต่ำลงมาจากพื้นห้องน้ำอีกประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำล้นออกไปที่ห้องด้านนอก สุดโถงทางเดินของชั้น 3 บริเวณหน้าห้องนอนห้องสุดท้ายจะมีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ เปิดออกไปจะเห็นระเบียงเล็กๆ ซึ่งเป็นตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องนอนเล็กครับ ส่วนห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุดทางเดิน จะถูกตกแต่งในอีกสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ห้องนี้จะเลือกวางเตียงในขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ซึ่งพื้นที่ภายในห้องก็ยังเหลือให้ใช้สอยกันได้สบายๆ ทางด้านปลายเตียงทางโครงการ Built-in เป็นมุมทำงานเล็กๆ ติดกับจุดแขวนทีวีสูงเต็มผนัง ซึ่งของจริงจะไม่มีตู้ไม้ตรงนี้มาให้นะครับ อันนี้ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ดูเป็นไอเดียการจัดแบ่งพื้นที่เท่านั้น ข้างๆ ผนังด้านที่แขวนทีวีจะเป็นทางเดินไปในโซนแต่งตัว และห้องน้ำครับ ผนังด้านที่แขวนทีวี อีกด้านคือตู้และชั้นวางของนั้นเอง ซึ่งการที่ทางโครงการเลือก Built-in มาในลักษณะนี้ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้น และเป็นการแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น อีกด้านก็ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนังอีกเช่นกัน ตรงนี้เลยเหมือนเราได้ Walk in Closet ขนาดย่อมๆ เพิ่มเข้ามาในห้องนอนเล็กเลยล่ะครับ บริเวณหน้าห้องน้ำ ก็จัดโต๊ะเครื่องแป้งไว้เป็นมุมแต่งตัวเล็กๆ แล้วก็มีประตูกระจกเปิดออกไปที่ระเบียงได้เหมือนกับห้องอื่นๆ อีกเช่นกัน ห้องน้ำในห้องนอนเล็กนี้จะรวมทุกอย่างไว้ด้านใน ไม่ได้แยกอ่างล้างหน้ามาไว้นอกห้องน้ำแบบห้องก่อนหน้านะครับ ประตูห้องน้ำยังคงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบเดียวกัน Shower Box ด้านในก็มีประตูกึ่งหน้าต่างที่เปิดออกไปด้านนอกได้เหมือนกัน และกันพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้เรียบร้อย อ่างล้างหน้าของห้องนี้เป็นแบบลอยตัวนะครับ แต่เลือกเจาะช่องติดกระจกบานใหญ่ กับใช้ Low Wall เป็นที่วางของแทน ชุดฝักบัวและ Low Wall สำหรับวางของเป็นแบบเดียวกันกับห้องนอนก่อนหน้านี้เป๊ะเลยครับ เช่นเดียวกันกับการดรอปพื้นห้องน้ำ และตำแหน่งการสโลปของจุดระบายน้ำ Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA โถงทางเดินบริเวณชั้น 3 มองลงไปเห็น Living Area ที่ชั้น 2 Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้องนอนห้องแรกบนชั้น 3 Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA ห้องนี้เป็นห้องนอนที่ 2 Post from RICOH THETA. - Spherical Image - RICOH THETA โครงการตกแต่งเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk in Closet ก่อนเข้าไปยังห้องน้ำ Private Nirvana Residence North ‘n East เป็นหนึ่งในโครงการที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ ทั้งเรื่องทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ในย่านที่มีการเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง และมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ที่สำคัญทาง Developer เจ้าของโครงการก็ใส่ใจรายละเอียดต่างๆ อยู่ตลอดเวลา มีการปรับเพิ่มวัสดุ และดีไซน์พื้นที่ภายในบ้านจากแบบแรกที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ก็ได้พัฒนาให้ตอบโจทย์ลูกบ้านมากขึ้น แถมยังเลือกใช้วัสดุต่างๆ อย่างดี ได้คุณภาพเหมาะสมกับราคาบ้านมากๆ เลยทีเดียว วัสดุหลายชิ้นเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ หรือถ้าเป็นวัสดุในบ้านเราก็จะเลือกที่เป็นวัสดุที่ได้มาตรฐานการส่งออก เพื่อให้บ้านที่เราเลือกมีคุณภาพ แข็งแรง คงทนอยู่กับเราไปได้นานๆ แบบไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ..... เจ้าของโครงการดูแลเอง จัดเต็มมาให้แบบพรีเมี่ยม ใครที่กำลังมองหาบ้านคุณภาพไม่ควรพลาดโครงการนี้นะครับ โครงการบ้านอื่นๆ ที่น่าสนใจ รีวิวบ้านแฝด ใกล้เลียบด่วน “Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra” รีวิว บ้าน Nirvana BEYOND พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา รีวิวบ้าน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 “THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา”
ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE : รีวิวคอนโด

ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักเพิ่มเติมกับโครงการ The Esse Asoke คอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเทพฯ โครงการใหม่ และเป็นโครงการแรกจากกลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเบอรี่ ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ ที่หันมาจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในนาม บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือว่าเป็นคอนโดที่สูงที่สุดใจกลางอโศก ด้วยความสูงถึง 55 ชั้น พร้อมความโดดเด่นด้วยการออกแบบโดย Palmer & Turner (P&T Architects) หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านตึกสูง เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    7,890,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    ประมาณ 220,000 บาท เจ้าของโครงการ   Singha Estate Public Company Limited ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 55 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     419 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 2 - 74.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ที่จอดรถ    ประมาณ 432 คัน หรือคิดเป็น 102% พร้อมที่จอดรถซุปเปอร์คาร์และซุปเปอร์ไบค์ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาส 4 ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    80 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    800 บาท/ตารางเมตร ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE เพราะตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าทุกชนิด THE ESSE ASOKE ตั้งอยู่ ณ ใจกลางอโศก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องของการเดินทางการเดินทางที่สะดวกสบายและง่ายกว่าที่ไหนๆ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับทั้งรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท และสถานีเพรชบุรี, รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และรถไฟ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดได้แก่ รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 500 ม. เท่านั้น สถานที่สำคัญใกล้เคียง ชีวิตง่ายกว่าที่ THE ESSE ASOKE เพราะแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญมากมาย เดินไปเรียนกันง่ายๆ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ไปช้อปปิ้งกันง่ายๆ Terminal 21 The EM District เซ็นทรัลพระราม 9 ไปโรงพยาบาลกันง่ายๆ รพ. จักษุรัตนิน รพ. ผิวหนัง อโศก รพ. บํารุงราษฎร์ ใกล้ชิดธรรมชาติกันง่ายๆ สวนเบญจกิติ สวนเบญจสิริ โรงแรมหรูอยู่ใกล้ๆ The Westin Grande Sukhumvit Bangkok FuramaXclusive Asoke Hotel Bangkok The Continent Hotel Sukhumvit ไปทำงานกันง่ายๆ อาคาร GMM Grammy อาคาร Interchange 21 Tower Exchange Tower วิเคราะห์รอบโครงการ ดิ เอส อโศก (THE ESSE ASOKE) เป็นคอนโด High Rise สูง 55 ชั้น ซึ่งมาพร้อมกับแนวความคิดในการใช้ชีวิตแบบ “LIVE LIFE SIMPLY” ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ Iconic Elegance ผ่านสถาปัตยกรรมในรูปแบบ Contemporary Luxury ที่มีความโดดเด่น งดงาม  พร้อมด้วยการเลือกสรรวัสดุที่ดีที่สุด มีความสวยงามและคงทน อาทิ การเลือกใช้หินธรรมชาติ Creama Mocca ในการตกแต่งบริเวณ Podium และการเลือกใช้วัสดุตกแต่งอาคารสี Champaign Gold  ที่จะช่วยเพิ่มความหรูหราตลอดทั่วทั้งตัวอาคาร สำหรับในเรื่องของทำเลนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกคนก็คงทราบก็ดีอยู่แล้วว่า “ใจกลางอโศก” นั้นเป็นทำเลระดับ 5 ดาว (อย่างไม่ต้องสงสัย) รถไฟฟ้าก็มีครบทุกชนิด จะไปไหนก็สะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT, รถไฟ Airport Rail Link อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญๆ หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย, อาคารสำนักงานสำคัญๆ, ห้างฯ ยอดนิยม เรื่อยไปจนถึงร้านอาหารอร่อยๆ อีกนับไม่ถ้วน! และในส่วนของพื้นที่ภายในโครงการก็มีพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ ภายใต้แนวคิดแบบ Green Elegance and Luxury Space ซึ่งเน้นไปที่ความเรียบง่าย แต่หรูหรา เริ่มตั้งแต่บริเวณ The ESSE Court พื้นที่สีเขียวกว่า 1,000 ตารางเมตร ด้านหน้าโครงการ ซึ่งเกิดจากการ set back ตัวอาคารจากถนนไปถึง 40 ม.! ในขณะที่ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 33 และ 43 ในส่วนของชั้น 33 ก็จะเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำพาโนรามิคพร้อมสระเด็ก สระว่ายน้ำทวนน้ำ และจากุชชี่, ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน, กอล์ฟ ซิมูเลเตอร์ และในส่วนของชั้น 43 ก็จะเป็นที่ตั้งของดิ เอส เรสซิเดนท์ เลาจน์, ห้องสมุด, บิซิเนสเซ็นเตอร์ และห้องประชุมขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ พาชมห้องตัวอย่าง มาชมห้องตัวอย่างกันบ้างนะครับ THE ESSE ASOKE มีห้องให้เลือก 3 แบบ คือแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 37.00 – 53.00 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 75.50 – 84.00 ตร.ม. และแบบเพนท์เฮาส์ 104.50 – 195.50 ตร.ม. ซึ่งแน่นอนว่าการมีห้องให้เลือกตั้งแต่ 37-195.50 ตร.ม. ก็ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เหมาะทั้งสำหรับ อยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ ไปจนถึงแบบครอบครัว โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เป็นห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาด 75 ตารางเมตร ตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก High Level  Executive ที่ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว การตกแต่งห้องจึงแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึมด้วยโทนสีน้ำตาลและดำ เพิ่มความหรูหราด้วย Feature Wall ที่ตกแต่งด้วยหินธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ที่มีความเรียบหรู โดดเด่นด้วยพื้นที่ครัวขนาดใหญ่พร้อม Island ครัว เพื่อตอบโจทย์ฟังก์ชั้นการรับประทานอาหารของครอบครัว และในส่วนของห้องนอนเล็กก็ยังมีขนาดกว้างขว้าง พร้อมด้วยห้องน้ำในตัว นอกจากนั้นแล้วการออกแบบยังคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวด้วยการจัดวางผังอาคารแบบไม่มีห้องตรงข้าม และจำนวนห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 12 ยูนิตต่อชั้น ใครที่กำลังสนใจ THE ESSE ASOKE ตอนนี้ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้ว ซึ่งนอกเหนือจากการซื้อไว้อยู่อาศัยเองแล้ว ทำเลนี้ก็ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพน่าเก็บสะสมไว้ลงทุนด้วย เพราะศักยภาพของทำเลในย่านนี้ไม่มีวันถูกลงอยู่แล้ว!
The Lofts Asoke : รีวิวคอนโด

The Lofts Asoke : รีวิวคอนโด

The Lofts Asoke คอนโด High Rise สูง 45 ชั้น บนถนนอโศกมนตรี ใกล้แหล่งธุรกิจใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรี โครงการใหม่จาก Raimon Land รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    8,000,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท ไรมอน แลนด์ ยูนิกซ์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 45 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 2 - 65.8 ไร่ จำนวนห้อง     211 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 211 คัน ที่ตั้งโครงการ    ถนนอโศกมนตรี แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ประมาณกลางปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ประมาณปลายปี 2561 ค่าส่วนกลาง    85 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    850 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ MRT สถานีเพชรบุรี อาคาร GMM Grammy อาคาร Ocean Tower 2 Terminal 21 MRT สถานีสุขุมวิท BTS สถานีอโศก Interchange Tower Exchange Tower ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 - 49 ตารางเมตร 1 Bedroom Duplex ขนาด 76 - 77 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 74 - 87 ตารางเมตร 2 Bedroom Duplex ขนาด 120 ตารางเมตร 3 Bedroom Duplex ขนาด 127.5 - 145 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Triple Volume Ceiling Height Lobby Double Volume Ceiling Height Residential Lounge, Intelligent Workspace and Library Loft Style Fitness Center 25 meters Infinity Edge Salt Water Swimming Pool with Sun Decks Sky Garden and Sun Decks Steam Room M&F Changing Rooms 24-Hour Security with CCTV Floor Specific Access Card System High Speed elevators 100% Parking (211 Parks) Automated Parking Landscaped Gardens สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-651-9600 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.theloftsasoke.com
Ideo Mobi บางซื่อ-แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi บางซื่อ-แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

Ideo Mobi บางซื่อ-แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ คอนโด High Rise สูง 32 ชั้น บนถนนประชาราษฏร์ สาย 2 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน จุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน โครงการใหม่ล่าสุดจาก Ananda Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,000,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    2 - 3 - 46.9 ไร่ จำนวนห้อง     661 ยูนิต ร้านค้า 5 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 260 คัน ที่ตั้งโครงการ    ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สถานีเตาปูน เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น MRT สถานีบางซื่อ โรงพยาบาลบางโพ SCG บางซื่อ บิ๊กซี วงศ์สว่าง โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้อง 22 - 47.50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Natural Pathways & Stack Garden Shops Lobby Cinema Room&Co-Working Space Mail room Juristic Room Laundry Pocket Garden Green Pathway Serene Library Art Deco Sky Lounge Infinity Edge Pool Sky Fitness Sky Greenery Terrace Stardust & Yoga Area Locker Room สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-316-2222 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.ananda.co.th
Maestro 14 สยาม-ราชเทวี : รีวิวคอนโด

Maestro 14 สยาม-ราชเทวี : รีวิวคอนโด

Maestro 14 สยาม-ราชเทวี คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยเพชรบุรี 12 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี เพียง 300 เมตร จาก Major Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,000,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 1 - 59 ไร่ จำนวนห้อง     179 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ซอยเพชรบุรี 12 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้าง    ปลายปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2560 ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    650 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามสแควร์ สยามสแควร์ วัน มาบุญครอง จามจุรีสแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า เดอะ แพลทินั่ม ประตูน้ำ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬา โรงเรียนสาธิตปทุมวัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.5 - 32 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 59.5 - 64.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก จุดจอดรับส่ง ป้อมรักษาความปลอดภัย แร็คจอดจักรยาน ล็อบบี้ กล่องจดหมายส่วนตัว ห้องซักรีด สระว่ายน้ำเพื่อการผ่อนคลาย ห้องสตีม ห้องซาวน่า ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เลานจ์อ่านหนังสือ สวนลอยฟ้า ลานปาร์ตี้ ห้องฟิตเนส ห้องคาราโอเกะ สกายเลาจ์ สกายคาบาน่า ลานบาร์บีคิว ลานสัตว์เลี้ยง อินเตอร์เน็ตไร้สาย 24 ชม. ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-287-2299 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : mde.co.th
Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยรัชดา ซอย 3 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 โครงการใหม่ จาก Major Development รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,640,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 0 - 18 ไร่ จำนวนห้อง     321 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 55% รวมจอดซ้อนคัน ที่ตั้งโครงการ    ซอยรัชดาภิเษก 3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกรกฎาคม 2560 ค่าส่วนกลาง    65 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    650 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง สถานฑูตจีน เอสพลานาด รัชดา ฟอร์จูน ทาวน์เวอร์ เซ็นทรัล พระราม 9 MRT พระราม 9 เทสโก้ โลตัส Big C ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 - 41 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 50 - 74 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก จุดจอดรับส่ง ป้อมรักษาความปลอดภัย ล็อบบี้ กล่องจดหมายส่วนตัว ห้องซักรีด แร็คจอดจักรยาน ลานจอดซูเปอร์ไบค์ ฟิตเนสบนชั้นลอย ห้องสตีม ห้องซาวน่า สระว่ายน้ำกึ่งในร่ม สระว่ายน้ำสไตล์ยุโรป ที่นั่งพักผ่อนริมสระ ซุ้มอ่านหนังสือ ซุ้มทำอาหาร ลานบาร์บีคิว ซุ้มคนรักสัตว์เลี้ยง สวนหินเพื่อความผ่อนคลาย ทางวิ่งจ๊อกกิ้ง อินเตอร์เน็ตไร้สาย 24 ชม. ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. บริการรถรับส่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-246-5522 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : mde.co.th
Pause ID สุขุมวิท 107 : รีวิวคอนโด

Pause ID สุขุมวิท 107 : รีวิวคอนโด

Pause ID สุขุมวิท 107 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 103 หรือซอยอุดมสุข ใกล้รถไฟฟ้า BTS อุดมสุข จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,390,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    0 - 3 - 90 ไร่ จำนวนห้อง     201 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 30% ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 107 แบริ่ง แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา โรงเรียนนานาชาติ St.Andrew Bangkok Mall ไบเทค บางนา อิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง เซ็นทรัลบางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.40 - 23.80 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 24.80 - 25.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B1 ขนาด 28.80 ตารางเมตร 2 Bedroom Type Bplus ขนาด 34.50 ตารางเมตร 2 Bedroom Type Bplus1 ขนาด 36.60 ตารางเมตร 2 Bedroom Type Bplus2 ขนาด 33.10 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby BBQ Corner Reading Corner Serene Garden สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Jogging Track สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-399-4466 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pause.origin.co.th
Pause Sukhumvit 103 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 103 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 103 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,690,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 2 - 49 ไร่ จำนวนห้อง     268 ยูนิต ที่จอดรถ    80 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 103 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2560 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง ตลาดอุดมสุข ไบเทค บางนา เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา บิ๊กซี บางนา ซีคอน สแควร์ พาราไดซ์ พาร์ค ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.40 - 24.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 25.60 - 32.78 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus ขนาด 33.52 - 39.46 ตารางเมตร 2 Bedroom Type C ขนาด 40.97 - 43.42 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus 3 ขนาด  44.73 ตารางเมตร 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.40 - 24.30 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 25.60 - 32.78 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus ขนาด 33.52 - 39.46 ตารางเมตร 2 Bedroom Type C ขนาด 40.97 - 43.42 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B Plus 3 ขนาด 44.73 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby Infinity Edge Pool Sky Fitness Room ห้องอ่านหนังสือ BBQ Zone Rooftop Garden และสวนหย่อมรอบโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-399-4466 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pause.origin.co.th
Pause Sukhumvit 115 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 115 : รีวิวคอนโด

Pause Sukhumvit 115 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอสุขุมวิท 115 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้าสมิงพราย จาก Origin Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,390,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ    1 - 1 - 83 ไร่ จำนวนห้อง     310 ยูนิต ที่จอดรถ    93 คัน คิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35% ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2559 ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    380 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง บิ๊กซี จัมโบ้ ตลาดสำโรง อิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไบเทค บางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom Type Bs ขนาด 20.94 - 21.87 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B ขนาด 28.51 - 28.77 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B2 Plus ขนาด 28.91 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B3 ขนาด 26.65 ตารางเมตร 1 Bedroom Type B4 ขนาด  30.75 ตารางเมตร 2 Bedroom Type B5 ขนาด  35.66 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ 2 สระ ฟิตเนส ห้องอ่านหนังสือ BBQ Zone Rooftop Garden สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบ CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-399-4466 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pause.origin.co.th
The Privacy ลาดพร้าว-เสนา : รีวิวคอนโด

The Privacy ลาดพร้าว-เสนา : รีวิวคอนโด

The Privacy ลาดพร้าว-เสนา คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนถนนลาดพร้าววังหิน ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สถานีภาวนา โครงการใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,090,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 0 - 12.9 ไร่ จำนวนห้อง     376 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนลาดพร้าววังหิน ซอย 43 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้าง    เดือนมกราคม 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนธันวาคม 2559 ค่าส่วนกลาง    39 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Major รัชโยธิน Central ลาดพร้Œาว CDC The Walk The Jas Plaza Lagoon Green Plaza Lotus วังหิน Big C วังหิน โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลเมโย โรงพยาบาลวิภาวดี โรงเรียนสตรีวิทยา 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.5 - 26 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 45 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่‹ายน้ำระบบเกลือแบบน้ำลŒ้น The Roof Garden The Ground Garden The Gym ห้Œองออกกำลังกายวิวสระว่‹ายน้ำ The Sauna ห้Œองซาวน่‹า แยกหญิงชาย The Library The Lobby ล็อบบี้สุดเก๋Ž The Shop ร้Œานค้Œาในโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : theprivacy.pruksa.com
a space สุขุมวิท 77 : รีวิวคอนโด

a space สุขุมวิท 77 : รีวิวคอนโด

a space สุขุมวิท 77 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 77 ใกล้ Pickadaily Bangkok ตกแต่งครบ พร้อมเข้าอยู่ จาก Areeya Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,790,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    Low Rise สูง 7-8 ชั้น 8 อาคาร พื้นที่โครงการ    ประมาณ 19ไร่ จำนวนห้อง     1,600 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Pickadaily Bangkok Big C Extra อ่อนนุช Tesco Lotus สุขุมวิท 50 พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอนสแควร์ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 31.40 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 34.95 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมรอบโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1797 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.aspace.co.th
Life ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

Life ปิ่นเกล้า : รีวิวคอนโด

ไม่นานมานี้ เราเพิ่งจะได้ยินข่าวว่าทาง AP เตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ย่านปิ่นเกล้า ในแบรนด์ Life ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ความร่วมมือกับทาง Mitsubishi Estate แต่ยังไม่ทันไรก็มีกระแสว่าโครงการ Life ปิ่นเกล้า ได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย แค่ช่วงทดลองเปิด Pre-sale ก็มียอดจองล้นหลามแล้ว งานนี้พวกเราทีมงานเลยรีบเข้าไปเก็บข้อมูลโครงการ และภาพห้องตัวอย่างมาให้ดูกันแบบด่วนๆ เลยครับ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     3,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    803 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   4 - 3 - 86.3 ไร่ ที่จอดรถ    52% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    34 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ค่ากองทุน    450 บาท/ตารางเมตร เก็บครั้งแรกในวันโอนกรรมสิทธิ์ การเดินทาง ทำเลที่ตั้งโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้กับซอยจรัญฯ 40/1 ห่างจากแยกบรมราชชนนีประมาณ 450 เมตรเท่านั้น แต่จุดเด่นสำคัญของโครงการอยู่ที่ ห่างจากหน้าโครงการไปเพียง 40 เมตรก็จะเป็นบันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (สถานีบางยี่ขัน) ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างครับ และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานพอๆ กับที่คอนโด Life ปิ่นเกล้า เลยด้วย การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยรถไฟฟ้าสำหรับลูกบ้านของโครงการจึงนับว่าสะดวกสุดๆ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าศักยภาพของทำเลในแถบนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความสนใจมากเลยทีเดียว นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ในอนาคตอันใกล้แล้ว ปัจจุบันการเดินทางมายังโครงการ ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีเช่นกัน เหมือนที่เราลองเลือกเส้นทางถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่แยกท่าพระซึ่งเป็นต้นถนน ลองวิ่งมาเรื่อยๆ จนข้ามแยกบรมราชชนนีมาแล้วค่อยมากลับรถมายังโครงการ ตลอดเส้นทางตอนนี้อาจจะติดขัดบ้าง เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ในขณะนี้ ทำให้การจราจรไม่ค่อยคล่องตัวเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้ว การจราจรจะคล่องตัวขี้นอีกเยอะ ไหนจะรถไฟฟ้า และอุโมงค์ข้ามแยกต่างๆ อีก น่าจะช่วยลดปัญหารถติดไปได้ไม่มากก็น้อยเลยครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เราเริ่มกันบริเวณสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่เลยนะครับ เราตรงไปตามถนนจรัญสนิทวงศ์เรื่อยๆ เลยนะครับ ลงจากสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่นิดหน่อย จะเป็นแยกท่าพระ เราลงอุโมงค์ลอดใต้แยกไปเลยนะครับ พอขึ้นมาจากอุโมงค์แล้วจะเริ่มเจอกับการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ทอดยาวตลอดแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ การจราจรอาจจะหนาแน่นสักหน่อยนะครับ เพราะถนนถูกบีบลงมาเหลือ 2 เลน ตรงมาตามถนนจรัญสนิทวงศ์เรื่อยๆ จะเจอตลาดบางขุนศรี อยู่ทางซ้ายมือ เลยจากตลาดบางขุนศรีมาจะเจอแมคโคร สาขาจรัญสนิทวงศ์ ตรงมาอีกหน่อยเราจะเจออีกหนึ่งแยก คือแยกบรมราชชนนี แยกนี้เราก็ตรงลงอุโมงค์อีกเหมือนกันนะครับ พอขึ้นมาจากอุโมงค์แล้วจะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านขวามือ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือนะครับ ต้องตรงไปกลับรถอีกประมาณ 300 เมตร บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน Susco กลับรถมาแล้วเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการกันเลยครับ หน้าตาของสำนักงานขายโครงการ วิเคราะห์รอบโครงการ Life ปิ่นเกล้า เป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 4.3 ไร่ โดยทาง AP ได้เสนอคอนเซปต์แนวคิดที่ว่า “Discover The New Joy of Old Memories” ซึ่งเป็นการบอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่ ผสมผสานเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตชุมชนของย่านนี้ มาสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่พิถีพิถัน เรียบหรูและลงตัวสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่ทาง AP มุ่งเน้นให้เป็นลูกค้าหลักคือ กลุ่มคนในพื้นที่ กลุ่มพ่อค้าชาวไทยเชื้อสายจีนที่ต้องการซื้อไว้อยู่อาศัยเอง หรือส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป รวมไปถึงกลุ่มหมอ และข้าราชการระดับสูงซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และด้วยความที่คนกลุ้มนี้จะมีความคุ้นชินกับพื้นที่อยู่แล้ว จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทางโครงการได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยยอดจองถล่มทลายเหนือความคาดหมายแบบนี้ พื้นที่ฝั่งธนบุรีในย่านนี้มีความคึกคักและมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่อดีตแล้วครับ ร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด ตลาดน้ำ รวมกันอยู่หนาแน่นเข้าขั้นอุดมสมบูรณ์มาก แถมด้วยสถาบันศึกษาชื่อดัง โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง แหล่งช็อปปิ้งก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ ทุกอย่าง เป็นทั้งพื้นที่ชุมชนการค้า ศูนย์งานราชการครบถ้วน การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือข้ามเข้าสู่ฝั่งพระนครก็ทำได้หลายเส้นทาง สามารถเดินทางได้ทั้งรถ และเรือ รวมถึงรถไฟฟ้าที่จะมีในอนาคตด้วยอีกอย่าง ไม่ว่าจะมองในด้านใดพื้นที่บริเวณนี้ก็ถือว่ามีศักยภาพตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะครับ ในส่วนของพื้นที่ภายในโครงการ ก็เน้นให้มีพื้นที่สีเขียวมากถึง 3 ไร่ นับตั้งแต่ทางเข้าสู่ตัวโครงการที่มีการผสานความร่มรื่นของทิวไม้และสายน้ำ ภายใต้แนวคิด “Mura” A Village within Nature ในขณะที่ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 5 ทั้งสระว่ายน้ำในระบบน้ำเกลือแบบ Infinity Edge Pool ยาว 40 เมตร พร้อมวิวสะพานพระราม 8 ในมุมที่สวยที่สุด, ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ให้วิวแบบ Panoramic ในบรรยากาศเหมือนได้ออกกำลังกายอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และห้องซ่าวน่า สตีมแยกชายหญิง รวมถึง Casual Space พื้นที่สำหรับพักผ่อน หรือไว้พบปะพูดคุยสังสรรค์ ซึ่งทางโครงการตั้งใจจัดสรรไว้ให้ลูกบ้านของ Life ปิ่นเกล้าโดยเฉพาะ นอกจากนี้เรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ทางโครงการก็ไม่ลืมให้ความสำคัญนะครับ โดยเฉพาะยูนิตพักอาศัยที่อยู่บนชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการก็มีการออกแบบตกแต่งสวนไว้เป็นแนวยาว เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องด้านที่ติดกับสระว่ายน้ำมากขึ้นด้วย มาดูกันที่ Master Plan ของโครงการกันก่อนนะครับ ด้านหน้าโครงการจะเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนด้านในตัวอาคารด้านหน้าจะเป็น Main Lobby สำนักงานนิติบุลคล Mail Box และร้านค้า ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นที่จอดรถตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปถึง ชั้น 4 สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันของทิวไม้และเสียงน้ำ กับแนวคิด "Mura" A Village within Nature ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ บรรยากาศของโถง Lobby ที่ชั้น 1 ชั้น 5 จะเป็นชั้นที่มี Facility หลักของโครงการ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ แบบ Infinity Edge Pool ความยาวกว่า 40 เมตร พร้อมห้องฟิตเนส, Casual Space, Steam และ Sauna ส่วนพื้นที่อีกด้านจะเป็นห้องพักอาศัย บรรยากาศของสระว่ายน้ำ บนชั้น 5 ได้วิวฝั่งสะพานพระราม 8 บรรยากาศของห้องฟิตเนส บนชั้น 5 Casual Space พื้นที่สำหรับพบปะกันของลูกบ้าน ตั้งแต่ชั้น 8-23 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด พื้นที่โล่งตรงนี้จะเป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการนะครับ ด้านนี้จะเป็นทิศตะวันออกที่หันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา จะสังเกตเห็นว่ายังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิว ภาพมุมสูงในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะหันไปทางสะพานพระราม 8 ยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิว ด้านทิศเหนือที่หันไปทางบางพลัดก็เช่นกันนะครับ ยังไม่มีตึกสูงมาบังวิว ภาพมุมสูงของทิศเหนือ หันไปทางสถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขัน ด้านทิศใต้จะมีอาคารสูงขึ้นอยู่นิดหน่อย ส่วนด้านหน้าโครงการจะเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีตึกสูงเพียงตึกเดียวคือคอนโดคอมมอนเวลธ์ ปิ่นเกล้า สูง 22 ชั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้จนบังวิวซะทีเดียวนะครับ ภาพมุมสูงของทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงห้องพักอาศัยกันบ้างนะครับ Life ปิ่นเกล้า มีห้องให้เลือกหลายขนาดเช่นกัน โดยมีขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 26 ตร.ม. ไปจนถึงห้องขนาด 60.50 ตร.ม.ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุด สำหรับการอยู่อาศัยในลักษณะของครอบครัวมากยิ่งขึ้น แต่ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในครั้งนี้ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ในขนาด 35 ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็น Highlight ของโครงการเลยทีเดียวครับ โดย Layout ของห้องนี้จะถูกจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้พิเศษมากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์มากกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ของ Walk in Closet ในห้องนอนที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้าวของได้มากขึ้น และเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าเดิม แน่นอนว่าพื้นที่ในส่วนนี้เจ้าของห้องยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องนอนเล็ก หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ตามแต่ความจำเป็นใช้งานเลยครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ภายในห้องก็ถือว่าจัดสรรปันส่วนกันได้อย่างลงตัวมากๆ เลยทีเดียว เดี๋ยวไปดูตามรูปที่เก็บมาฝากกันเลยครับ แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาไม่ถือว่าใกล้กันเท่าไหร่ ด้านที่วางโซฟามีพื้นที่ให้วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้เลยนะครับ แถมยังมีที่เหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโต๊ะทำงานได้อีกด้วย ส่วนฝั่งชั้นวางทีวี เลยจาก Living Area เข้ามาด้านใน ฝั่งที่ติดกับชั้นวางทีวี จะเป็นส่วนครัวแบบเปิด พร้อมโต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L ด้านล่างจะมีช่องวางเครื่องซักผ้า และไมโครเวฟ ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยม เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควัน ต่อมาเรามาดูห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัวกันต่อนะครับ อ่างล้างหน้าวางอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม วางอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ Shower Box จะอยู่ด้านในสุด เราออกไปมาดูที่ห้องนอนด้านนอกกันต่อนะครับ ห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดของห้องนอนค่อนข้างกว้างพอสมควรนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุตลงไปแล้วยังมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือให้วางอย่างอื่นได้อีกนิดหน่อย หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่แบบนี้เลยนะครับ มีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน ที่เหลือจะเป็นบาน Fix ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอนด้วย คงต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนัง เหมือนในห้องตัวอย่างแทนนะครับ ถัดจากห้องนอนเข้าไปด้านในอีกหน่อย จะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ Walk in Closet บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งจะมีช่องกระจกมองออกไปเห็นส่วนครัว ระเบียงจะอยู่ติดกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านี้นะครับ ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียง หันหน้าออกด้านนอก ใครที่กำลังสนใจโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้วนะครับ ซึ่งนอกเหนือจากการซื้อไว้อยู่อาศัยเองแล้ว ทำเลในย่านจรัญฯ-ปิ่นเกล้า ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพน่าเก็บสะสมไว้ลงทุนด้วยนะครับ เพราะนอกจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เป็นรูปเป็นร่างให้เห็นแล้ว ก็ยังมีโครงการทางด่วนในอนาคต (ทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนสายตะวันตก) มาลงใกล้ๆ อีกด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้ศักยภาพของทำเลในย่านนี้มีความพร้อมมากขึ้น และเป็นที่ต้องการของตลาดสูงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน
a space ME บางนา : รีวิวคอนโด

a space ME บางนา : รีวิวคอนโด

a space ME บางนา คอนโด High Rise สูง 26 ชั้น ใกล้ MEGA Bangna พร้อมเข้าอยู่ จาก Areeya Property รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,290,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 26 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 1 - 17.1ไร่ จำนวนห้อง     945 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 378 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40% ที่ตั้งโครงการ    ถนนลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ ค่าส่วนกลาง    35 บาท/ตารางเมตร/เดือน ค่ากองทุน    350 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง MEGA Bangna IKEA Tesco Lotus เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอน สแควร์ ไบเทค บางนา ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 และ 32.10 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้าในโครงการ 15 ยูนิต สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อมรอบโครงการ และบนดาดฟ้า ระบบ CCTV / Access Card สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1797 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.aspace.co.th
เดอะ ไลน์ ราชเทวี : รีวิวคอนโด

เดอะ ไลน์ ราชเทวี : รีวิวคอนโด

จากความร่วมมือของ แสนสิริ กับ BTS Group ได้ปล่อยคอนโดแบรนด์ เดอะ ไลน์ ออกมาแล้ว 2 โครงการ คือ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต และ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขายหมดเกลี้ยงภายในวันเปิดตัว วันนี้เราจะพาไปชมโครงการที่ 3 อย่าง เดอะ ไลน์ ราชเทวีกันครับ โครงการนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านราชเทวีกันเลยครับ เพียง 220 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี สามารถเดินได้สบายๆ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     6,900,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร    ประมาณ 250,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    231 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 2 - 0 ไร่ ที่จอดรถ    ประมาณ 67% ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ สถานะโครงการ    EIA Approved เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกันยายน 2561 ค่าส่วนกลาง    90 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร/เดือน ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ วิธีการเดินทาง สำหรับตัวโครง เดอะ ไลน์ ราชเทวี จะตั้งอยู่ปากซอยเพชรบุรี 18 ติดถนนเพชรบุรี ก่อนถึงแยกราชเทวีนิดหน่อย การเดินทางในวันนี้เราเลือกใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS ดูจะสะดวกที่สุดในการเดินทางในย่านนี้ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างจากตัวสถานี BTS ราชเทวีประมาณ 220 เมตรเท่านั้น ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ ไม่ไกลจนเกินไป แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้เราขอให้รถไฟฟ้า BTS นะครับ เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดแล้วในย่านนี้ มาลงที่สถานีราชเทวี ตามชื่อโครงการเลยครับ เราลงทางออกที่ 4 นะครับ ไปทางพันธ์ทิพย์พลาซ่าตามป้ายเลย ลงมาจากสถานีราชเทวีแล้ว จะเจอแยกราชเทวี เราเดินเลี้ยวขวาตามทางไปถนนเพชรบุรีเลยนะครับ จากแยกราชเทวีเดินตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วละครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการ ล้อมรั้วไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถเลือกได้หลายเส้นทางเลยนะครับ แต่อาจจะต้องทำใจเรื่องการจราจรกันสักหน่อย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าในย่านนี้ การจราจรค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ทีเดียว เริ่มจากด้านหน้าโครงการคือถนนเพชรบุรี ตัวโครงการจะตั้งอยู่ปากซอยเพชรบุรี 18 ก่อนถึงแยกราชเทวี ถ้ามาจากถนนราชดำริก็สามารถเลี้ยวซ้ายที่แยกประตูน้ำเข้าถนนเพชรบุรี แล้วตรงผ่านพันธุ์ทพย์ พลาซ่า ก่อนถึงโครงการ ส่วนถ้ามาจากทางถนนพญาไทฝั่งขาเข้า สามารถมาเลี้ยวซ้ายที่แยกราชเทวี แล้วไปกลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำกลับมาที่โครงการได้เช่นกัน แต่ถ้ามาจากถนนพญาไทฝั่งขาออก จะไม่สามารถเลี้ยวขวาที่แยกราชเทวีได้นะครับ ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพญานาคที่อยู่ข้างๆ โรงแรมเอเชีย ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงถนนบรรทัดทอง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนบรรทัดทอง ตรงไปอีกนิดเดียวก็จะออกถนนเพชรบุรี พอออกมาถึงถนนเพชรบุรีแล้วให้เลี้ยวขวาอีกทีนะครับ จากนั้นก็ตรงขึ้นสะพานข้ามแยกราชเทวีได้เลย การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเหมือนจะง่ายนะครับ แต่ค่อนข้างจะซับซ้อนสักหน่อย แยกไหนเลี้ยวได้ เลี้ยวไม่ได้ ต้องดูกันดีๆ หากไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวจริงๆ เลือกใช้บริการของรถไฟฟ้า BTS จะสะดวกสบายมากขึ้นเยอะเลยครับ เพียงสถานีเดียวก็ถึงศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสยามแล้ว สถานที่สำคัญใกล้เคียง พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า แพลทินั่ม ประตูน้ำ MBK สยาม พารากอน สยาม เซ็นเตอร์ สยาม สแควร์ สยาม สแควร์ วัน จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เซ็นทรัล เวิลด์ วิเคราะห์รอบโครงการ ภาพรวมของที่ตั้งโครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี ซึ่งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตรงช่วงซอยเพชรบุรี 18 ในตำแหน่งนี้มีเพื่อนบ้านใกล้ๆ เป็นคอนโดบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน อยู่ทางทิศตะวันตก ทางทิศใต้มีคอนโด Low Rise ของ The Address ปทุมวัน แล้วก็มีอาคารของกรมการพลังงานทหารอยู่ทางทิศตะวันออกอีกตึก ส่วนในซอยเพชรบุรี 18 ก็มีอพาร์ทเม้นท์กับบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้บริเวณนี้จะค่อนข้างมีรถวิ่งผ่านไปมาพลุกพล่านตลอดทั้งวัน แต่โดยรวมแล้วบรรยากาศยังค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัยเหมือนกันนะครับ ไหนจะเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่ถือเป็นจุดเด่นที่ทางโครงการเลือกมาเป็นประเด็นชูโรง ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งสำคัญมากมายทั้งสยามสแควร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ King Power Duty Free เรียกว่าอยู่ในระยะที่เดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า 1-2 สถานีเท่านั้น  และแถมยังใกล้สถานศึกษาชื่อดังใจกลางเมืองอีก จึงทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยครับ BTS สถานีสยามจุดเชื่อมต่อของสายสุขุมวิทและสายสีลม ห่างจากสถานีราชเทวี เพียง 1 สถานี ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น เป็นอาคารเดี่ยวแต่ออกแบบมาให้ตัวอาคารเป็นทรงตัว L จนถึงชั้นที่ 31 ส่วนชั้นที่เลยขึ้นไปจะมีจำนวนห้องต่อชั้นน้อยลง และด้วยจำนวนยูนิตรวมที่มากถึง 231 ยูนิต ทางโครงการจึงใส่ใจเพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง และ Facility ต่างๆ ให้เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกบ้าน เริ่มตั้งแต่จำนวนที่จอดรถที่มากถึง 67% ซึ่งให้พื้นที่จอดตั้งแต่ชั้น 1-10 เลยทีเดียว แถมด้วยที่จอดรถอัจริยะ (Mechanical Parking) สำหรับผู้มาติดต่ออีก 16 คัน ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 11 ขึ้นไป​ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นที่ 11 จะถูกแบ่งเป็นพื้นที่ของ Facility หลัก ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ พร้อม Outdoor Theater ริมสระว่ายน้ำ ในขณะที่พื้นที่บนชั้น 31 ส่วนหนึ่งจะเป็นห้องสมุดภายในอาคาร และห้องอ่านหนังสือที่จัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วน ถือว่าเป็น Co-working Space สำหรับนั่งทำงาน ประชุมงาน หรือติวหนังสือก่อนสอบได้เลย ซึ่งพื้นที่บนชั้นนี้มาพร้อมกับสวนกลางแจ้ง และวิวสีเขียวสวยๆ สบายตา และถ้าขึ้นไปที่ชั้น 38 ก็ยังมี Rooftop Garden ที่จัดเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นจุดชมวิวและที่พักผ่อนได้ในคราวเดียวกัน โมเดลของโครงการ ดูจาก Master Plan ของโครงการ จะเห็นว่ามีทางเข้า-ออกทางเดียว ด้านหน้าจะมี Drop off สำหรับรับ-ส่งลูกบ้าน ใกล้ๆ กันจะมีจุดจอดรถอัจฉริยะอยู่ด้วย ส่วนด้านในอาคารจะมี Lobby ขนาดใหญ่ ก่อนจะถึงโถงลิฟท์ ที่มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift 1 ตัว ทางเข้าโครงการ หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G ตกแต่งได้อย่างหรูหราทีเดียวครับ จากชั้น G ขึ้นไปถึง 10 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด สามารถรองรับได้ประมาณ 67% ขึ้นมาที่ชั้น 11 จะเป็นชั้นเริ่มของห้องพักอาศัย ที่มีเพียง 5 ห้อง เนื่องจากส่วนหนึ่งจะเป็น Facility หลักของโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำและ ฟิตเนส ทำให้ห้องพักอาศัยของชั้น 11 จะมีเพดานสูงกว่าชั้นอื่นๆ อยู่ประมาณ 60 ซม. โมเดลจำลองฟิตเนสบนชั้น 11 ที่มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านนอก โมเดลจำลองของสระว่ายน้ำบนชั้น 11 ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำในเวลากลางวัน สระว่ายน้ำจะประดับด้วยสาย Fibre Optic พอถึงเวลากลางคืนจะมีแสงระยิบระยับให้บรรยากาศเหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวบนฟากฟ้า (งานมโนต้องมา ฮ่าๆๆ) นอกจากนั้นยังมี Outdoor Theater จอใหญ่ให้ได้ชมรายการต่างๆ เวลาเล่นได้อีกด้วย บรรยากาศห้องฟิตเนส ขึ้นมาที่ชั้น 13-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มีประมาณ 11 ห้องต่อชั้น พอถึงชั้นที่ 30 จำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือเพียง 6 ห้อง เนื่องจากถูก Facility บนชั้น 31 กินพื้นที่ลงมาบางส่วน ชั้น 31 ห้องพักอาศัยจะเหลือเพียง 3 ห้อง และเป็นอีกชั้นหนึ่งที่มี Facility อยู่ด้วยทั้งห้องสมุด ห้องซักผ้า พร้อมกับพื้นที่พักผ่อนที่แยกกันอย่างเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อไปออกถึงสวนสีเขียวด้านนอก Facility บนชั้น 31 ที่กินพื้นที่ลงมาที่ชั้น 30 ด้วย บรรยากาศภายในห้องสมุดบนชั้น 31 ของโครงการ โมเดลจำลองของสวนสีเขียวที่เชื่อมต่อกับห้องสมุดบนชั้น 31 ตั้งแต่ชั้น 32-37 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดอีกครั้งนะครับ แต่จำนวนห้องจะน้อยลงอีกเหลือเพียงชั้นละ 3-4 ยูนิตต่อชั้น เนื่องจากจะเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2-3 ห้องนอน และห้อง Penthouse มาถึงชั้นบนสุดของโครงการที่ชั้น 38 จะเป็น Rooftop Garden ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาชมวิวมุมสูงที่ชั้นดาดฟ้า ในส่วนของที่พักอาศัย ทางโครงการเน้นออกแบบให้เหมาะกับ Lifestyle คนเมือง ซึ่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบ Studio ห้อง 1-3 Bedroom ไปจนถึงห้องแบบ Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในลักษณะต่างๆ ทั้งแบบเดี่ยว หรืออาศัยกันทั้งครอบครัวก็สามารถเลือกแบบห้องได้ตามต้องการ แถมทางโครงการยังจัดขายห้องมาแบบ Semi Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in วัสดุคุณภาพมาให้เสร็จสรรพ ห้องที่ได้มาจึงแทบจะไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มมากนักก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ภายในห้อง เดี๋ยวเราไปดูในห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่า พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้ตอนนี้มีด้วยกัน 2 แบบ คือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.25 ตร.ม และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 59 ตร.ม. เราเริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom กันก่อนนะครับ พอเปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกับครัวและพื้นที่นั่งเล่นก่อน โดยที่พื้นที่ของห้องนอนจะแยกไว้เป็นสัดส่วน การจัดวาง Layout ของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องค่อนข้างทำได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งในห้องตัวอย่างนี้เป็นแบบห้องที่อยู่ในตำแหน่งห้องมุมของอาคาร จึงได้หน้าต่างเพิ่มขึ้นมาที่ผนังด้านข้างด้วย ทำให้ห้องนี้รับแสงและเห็นวิวได้มากขึ้น แปลนห้อง Type 1E ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.25 ตารางเมตร ที่นี่จะให้ Digital Door Lock รุ่น push and pull ของ Samsung ที่ใช้ได้ 3 ระบบทั้ง Key Card , Password และ กุญแจไข เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านหน้า มองตรงเข้าไปด้านในถึงจะเป็น Living Area พื้นที่ส่วนครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาว ส่วนพื้นที่ Living Area จะเป็น Engineering Wood สีไม้โอ๊ค ครัวที่อยู่ด้านหน้าห้องจะเป็นแบบเปิดนะครับ ตัวท็อปครัวจะเป็นกระเบื้องหินแกรนิต Black Galaxy ด้านซ้ายมือจะเป็นซิงค์ล้างจานทรงสีเหลี่ยมของ MEX ด้านขวาเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมกันฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านบนจะเป็นตู้ลอยติดผนัง ห้องจริงจะได้หน้าบานเป็นกระจกแบบนี้เลยนะครับ เปิดเข้าไปก็จะเป็นที่เก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ด้านล่างจะเป็นจุดวางไมโครเวฟและตู้เก็บของ ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีโต๊ะอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถพับเก็บได้ ใช้เป็นโต๊ะทานอาหารก็สะดวกดีนะครับ แต่เก้าอี้โครงการไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นจุดวางตู้เย็น และตู้เก็บของที่โครงการ Built in มาให้ ตู้ที่ได้มานี่สารพัดประโยชน์เลยนะครับ เก็บได้ทั้งไม้กวาด ไม้ถูพื้น รองเท้า ไปจนถึงของเล็กๆ น้อยๆ ถัดจากส่วนครัวเข้ามาด้านในจะเป็น Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา ด้านชั้นวางทีวีโครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีเล็กๆ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โซฟาที่โครงการจัดวางมาให้ดูเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ทำให้ด้านข้างมีที่ว่างเหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟ ส่วน Living Area จะให้แอร์ฝั่งฝ้าแบบนี้นะครับ ทำให้เพดานตรงส่วนครัวถูกดรอปลงมาเหลือ 2.5 เมตร ในขณะที่เพดานในส่วน Living Area จะสูง 2.75 เมตร ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน แบบ Full High Window พื้นที่บริเวณระเบียงจะกว้างประมาณ 1 เมตร ที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่นอกเบียงนี่นะครับมี Grill กั้นอย่างเป็นสัดส่วน คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบนเครื่องซักผ้าอีกที เรากลับเข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อเลยนะครับ ภายในห้องนอนสามารถเลือกวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยนะครับ เพราะมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควร ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง มีที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานเลยทีเดียว แต่โครงการวางให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ นะครับ ไม่ได้แถมให้ด้วย ส่วนหน้าต่างจะได้บานประมาณนี้นะครับ ที่เห็นเป็นกระจกข้างๆ หน้าต่างนั่นไม่ใช่ตู้เก็บของนะครับ แต่เป็นส่วนของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ยื่นเข้ามาในห้องนอน หน้าต่างจะเป็นบาน Fix บานใหญ่เลยนะครับ พื้นที่ปลายเตียงจะเหลืออยู่นิดหน่อยให้พอเดินได้ ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอน ก็คงต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนนะครับ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า และทางเข้าห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าโครงการจะ Built in มาให้ด้วยนะครับ เป็นตู้สูงถึงเพดานห้องเลย หน้าบานจะเป็นกระจกสีชาแบบที่เห็นนี่เลยครับ ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีชั้นวางของเล็กๆ พร้อมกับกระจกเงาที่สามารถปิด-เปิด ได้ ช่วยให้ดูเรียบร้อยขึ้น เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อนะครับ ภายในห้องน้ำจะปูด้วยหินแกรนิต Misty Grey ทั้งห้องเลยนะครับ ทั้งพื้นและผนัง จะมีความแตงต่างกันตรงที่ผิวของกระเบื้อง บริเวณผนังห้องจะมีผิวขรุขระให้ความรู้สึกเหมือนหินจริงๆ ส่วนที่พื้นจะเป็นผิวเรียบ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto ตัวเคาน์เตอร์จะเป็นหินแกรนิตเหมือนที่ปูผนังห้องน้ำ กระจกเงาจะได้บานสูงแบบนี้เลยนะครับ โถสุขภัณฑ์จะได้เป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ Cotto รุ่น The Tunio มีฟังก์ชัน Automatic Flushing Sensor พร้อมกันรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่ให้มาพร้อมทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ของ Cotto ชุดฝักบัวของ Cotto มาพร้อมกับ Rain Shower ของ Cotto เหมือนกัน ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้อง คือ ห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขวางมากขึ้น ด้วยลักษณะของห้องเป็นห้องหน้ากว้างนะครับ เด่นที่พื้นที่ระเบียง ที่จะติดตั้งกระจกกั้นไว้สองชั้น คือชั้นแรกเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อออกสู่ระเบียง ซึ่งกระจกชั้นที่สองจะติดตั้งเต็มพื้นที่ด้านนอก โดยติดตั้งเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อเปิดระบายอาการและรับลมจากด้านนอก ซึ่งห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปจะได้ระเบียงแบบนี้ทั้งหมดนะครับ แปลนห้อง Type 2B-1 ขนาด 59 - 59.75 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านข้างประตูห้องจะมีตู้เก็บของ เก็บรองเท้า เราไปดูด้านขวามือกันก่อนนะครับ ด้านขวามือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ซึ่งจะคล้ายๆ กับห้อง 1 ห้องนอนที่เราดูมาเมื่อกี้เลยนะครับ แต่ห้องนี้จะได้ครัวใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย พื้นบริเวณส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาว ส่วน Living Area จะเป็นพื้น Engineering Wood สีไม้โอ๊ค เหมือนห้อง 1 ห้องนอนเมื่อสักครู่ เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L ตัวท็อปจะเป็นกระเบื้องหินแกรนิต Black Galaxy เหมือนกัน ด้านบนก็จะเป็นตู้ลอยเก็บของ ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยมของ MEX เตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ พร้อมจุดวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ที่วางตู้เย็นจะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว ขยับออกมาทาง Living Area จะเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหาร ขนาด 4 ที่นั่ง อยู่ตรงกลางระหว่างครัวกับ Living Area มุมมองจาก Living Area ไปที่ส่วนครัวที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าห้อง ถัดจากส่วน Dining Area เข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area Living Area ของห้อง Type นี้ ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่ากว้างพอสมควร สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้บายๆ โครงการเลือกวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดูนะครับ แต่จริงๆ แล้วมีพื้นที่เหลือพอให้วางโซฟา 4 ที่นั่งได้เลย ด้านชั้นวางทีวี โครงการ Built in มาให้เป็นเป็นเคาน์เตอร์ยาวสีดำ ติดกับ Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นระเบียง ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงของห้องจริงจะกว้างกว่าที่เราเห็นนี้ประมาณ 15 ซม. นะครับ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องโครงสร้างทำให้โครงการทำขนาดเท่าห้องจริงไม่ได้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ระเบียงเหมือนเดิมนะครับ มี Grill กั้น ให้เรียบร้อย จะสังเกตว่าที่ระเบียงจะมีกระจกกั้นอีก 1 ชั้นนะครับ เพราะห้องแบบ 2 ห้องนอน เกือบทั้งหมดจะอยู่ทิศใต้ หันไปทางวังสระปทุม จึงต้องมีกระจกกั้นไว้อีกชั้น ซึ่งจะเป็นบานกระทุ้ง 3 บาน สามารถเปิดได้ประมาณ 30 องศา เรากลับเข้ามาดูด้านในกันต่อ จาก Living Area จะเป็นทางเดินเข้าไปที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องและห้องน้ำ ห้องแรกจะเป็นห้องนอนเล็ก พื้นที่ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้นะครับ ถ้าจะวางทีวีไว้ในห้องนอน อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน พื้นที่ในห้องนอนเล็กค่อนข้างกว้าพอสมควรนะครับ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เลย หน้าต่างภายในห้องนอนเล็กจะได้บานใหญ่เลยนะครับ แต่จะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดออกไปได้ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in บานสูงขึ้นไปจนถึงเพดาน เปิดตู้เสื้อผ้าออกมาแล้ว หน้าตาจะประมาณนี้นะครับ ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำเล็ก สุขภัณฑ์ที่ใช้และการวาง Layout ในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 ห้องนอนที่เราดูมาแล้วนะครับ แต่ห้องน้ำเล็กห้องนี้จะไม่ได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto พร้อมกับกระจกเงาบานสูง อย่างที่บอกนะครับ โถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำเล็กจะเป็นแบบธรรมดา ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ชุดฝักบัวของ Cotto พร้อมกับ Rain Shower ของ Cotto เช่นกัน จากห้องน้ำเล็ก เราเข้ามาดูที่ห้องนอน Master พื้นที่ในห้องนอน Master ค่อนข้างใหญ่เลยนะครับ วางเตียง 6 ฟุตเข้าไปแล้วยังมีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลืออีกพอสมควร ด้านปลายเตียงโครงการ Built in เป็นชั้นวางทีวีพร้อมกับที่เก็บของ หน้าต่างในห้องนอนใหญ่ก็จะเหมือนกับในห้องนอนเล็กนะครับ คือจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ไม่สามารถเปิดออกไปได้ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้า Built in อยู่มุมห้อง ติดกับทางเข้าห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าจะคล้ายๆ กับของห้อง 1 ห้องนอนนะครับ หน้าบานเป็นกระจกสีชา มีชั้นวางของอยู่ด้านข้าง สุดท้ายเราไปดูที่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ การจัดวางสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องน้ำเล็กเมื่อสักครู่นะครับ แต่ห้องนี้จะได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะด้วย โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะของ Cotto พร้อมกันรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส ติดกับโถสุขภัณฑ์จะเป็น Shower Box พร้อมชุดฝักบัวของ Cotto และ Rain Shower ยี่ห้องเดียวกัน มุมมองจากห้องนอนใหญ่ออกไปที่ Living Area สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ทางโครงการก็มีห้องแบบ 3 Bedroom และ Penthouse ให้เลือก 3 Type ด้วยกันนะครับ คือ 3 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 85 ตร.ม. 3 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาด 105 ตร.ม. Penthouse ขนาด 119.50 ตร.ม. ซึ่งการออกแบบก็ตอบโจทย์ให้พื้นที่ใช้สอยที่เป็นส่วนตัวกับสมาชิกทุกคน รวมถึงการ Upgrade วัสดุอุปกรณ์บางชิ้นให้สูงขึ้นด้วยถึงแม้ว่าโดยรวมทางโครงการจะเลือกใช้วัสดุแบรนด์คุณภาพ หรือวัสดุนำเข้าอยู่แล้วก็ตาม อย่างตัวอย่างของวัสดุอุปกรณ์ที่ถูก Upgrade ขึ้นมาก็เช่น ในส่วนครัวเตาไฟฟ้าจะได้เป็นเตา 4 หัว พร้อมฮูดดูดควันของ Küppersbusch ซึ่งเป็นแบรนด์นำเข้าจากเยอรมัน เช่นเดียวกับซิงค์ล้างจานที่เพิ่มมาเป็น 2 หลุม นอกจากนั้นจะมีตู้เย็นและไมโครเวฟ Built in ของ Foster แบรนด์จากอิตาลีเพิ่มมาให้อีกด้วย ส่วนห้องน้ำทุกห้องให้เป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะ Cotto รุ่น The Tunio ที่มีฟังก์ชันสุดล้ำ Automatic Flushing Sensor และรีโมทคอนโทรลแบบผิวสัมผัส และยังได้ความเป็น private มากขึ้น เพราะเป็น High Floor เริ่มตั้งแต่ชั้น 31 -37 มีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อย ที่สำคัญวิวที่ได้รับจะเป็นวิวเมือง เปิดโล่ง มุมสูง แปลนห้อง Type 3A 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 85 ตารางเมตร แปลนห้อง Type 3B 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 105 ตารางเมตร แปลนห้อง Penthouse (3 ห้องนอน) ขนาด 119.50 ตารางเมตร ด้วยทำเลที่จัดว่าได้เปรียบเรื่องศักยภาพในด้านต่างๆ ทั้งการเดินทางที่สะดวก แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีสาธารณูปโภคครบครัน โครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี จึงเป็นที่น่าจับตา และน่าสนใจทั้งในแง่ของการซื้อไว้อยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อการลงทุน แถมตัวโครงการเองก็ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองด้วย ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างพร้อมพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับพนักงานขายได้ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต) โดยโครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี จะเปิดจองในวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย.นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com/condominium/theline_ratchathewi หรือ โทร.1685
The Esse Asoke : รีวิวคอนโด

The Esse Asoke : รีวิวคอนโด

The Esse Asoke คอนโด High Rise หรูสูง 55 ชั้น บนถนนอโศกมนตรี ใกล้แหล่งธุรกิจใจกลางเมือง โครงการแรกจาก Singha Estate รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    7,890,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    ประมาณ 220,000 บาท เจ้าของโครงการ   Singha Estate Public Company Limited ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 55 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     419 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 2 - 74.4 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ที่จอดรถ    ประมาณ 432 คัน หรือคิดเป็น 102% พร้อมที่จอดรถซุปเปอร์คาร์และซุปเปอร์ไบค์ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาส 4 ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    80 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    800 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สุขุมวิท MRT เพชรบุรี BTS อโศก Airport Rail Link มักกะสัน ท่าเรือสะพานอโศก ตลาดรวมทรัพย์ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรจน์ประสานมิตร Terminal 21 อาคาร GMM Grammy อาคาร Exchange Tower อาคาร Interchange Tower โรงแรม The Continent Sukhumvit ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 37.00 - 53 ตารางเมตร 2 Bedrooms 2 Bathrooms  ขนาด 75.50 - 84 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 104.50 – 195.50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก The ESSE court, 1,000 sq.m. garden Locker for super bike accessories Grand lobby Mail box room Central storage for golf bag and suitcase Laundry room Driver waiting room Serenity court Sky swimming pool with kids pool , lap pool , and jacuzzi Pool terrace Steam room and plunge pool Sky gym Golf simulation The ESSE residences lounge Reading club Business center and board room (size S,M,L) Skyscraper deck สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-664-3555 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  condo.singhaestate.co.th
Chewathai Residence Bang Pho : รีวิวคอนโด

Chewathai Residence Bang Pho : รีวิวคอนโด

รีวิววันนี้ เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ความน่าสนใจของโครงการนี้นอกจากจะเป็นคอนโดที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบางโพแล้ว ยังเป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น ที่อยู่ริมถนนประชาราษฎร์สาย 2 ในช่วงที่ใกล้มากพอจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ พร้อมกับการออกแบบที่เน้นความหรูหรา ในสไตล์ Modern Contemporary และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่าคอนโดอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน ซึ่งขณะนี้โครงการได้เริ่มก่อสร้างไปแล้วนะครับ และจะเปิด Pre-Sales ในวันที่ 26-27 กันยายนนี้แล้วด้วย ใครสนใจก็อย่าลืมแวะไปชมกันนะครับ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,900,000 บาท (เฉพาะช่วง Pre-Sales เท่านั้น) ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร    ประมาณ 125,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    High Rise สูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     172 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 1 - 94.3 ไร่ ที่จอดรถ    ประมาณ 80% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ถนนประชาราษฎร์สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    เดือนกันยายน 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปลายปี 2560 วิธีการเดินทาง การเดินทางในครั้งนี้ เราเริ่มจากถนนรัชดาภิเษกก่อนถึงแยกประชานุกูล วิ่งมาตามถนนรัชดาภิเษกมาที่แยกวงศ์สว่าง จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพ-นนทบุรี วิ่งมาจนสุดที่แยกเตาปูนแล้วเลี้ยวขวา เพื่อเข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ก่อนจะถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนประชาราษฎร์สาย 1 เล็กน้อย เราก็จะเห็นที่ตั้งของโครงการชีวาทัยบางโพอยู่ทางด้านซ้ายมือ ติดกับที่ทำการไปรษณีย์ ส่วนสำนักงานขายตอนนี้จะแยกตัวไปอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้ามนะครับ ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลบางโพ รับรองว่าหาไม่ยากครับ การเดินทางวันนี้เราเริ่มต้นกันตรงถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปทางวงศ์สว่าง ข้างหน้าเราจะเป็นแยกประชานุกูล ตรงนี้มีทางเลือก 2 ทางนะครับ จะตรงไปขึ้นสะพานข้ามแยกประชานุกูล เพื่อไปทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ก็ได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายที่แยกประชานุกูล เพื่อไปทางถนนประชาชื่น ก็ได้ เราเลือกตรงขึ้นสะพานข้ามแยกประชานุกูล เพื่อไปเข้าทางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี พอลงสะพานข้ามแยกมาแล้ว ให้ค่อยๆ ชิดซ้ายไว้นะครับ ข้างหน้าจะมีอีก 1 สะพาน เป็นสะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง เราไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ เพราะเราจะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ไปทางเตาปูนตามป้าย ชิดซ้ายไว้ ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ จากนั้นเรามาเลี้ยวซ้ายที่แยกวงศ์สว่าง พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพ-นนทบุรีแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ เลยครับ ผ่านแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง ด้านขาวมือตอนเย็นๆ จะมีตลาดสยามยิปซี เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกเตาปูน ข้างหน้าจะเป็น MRT สถานีเตาปูน เป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วง ที่กำลังจเปิดให้บริการในปลายปีนี้แล้ว ตรงนี้เราต้องเลี้ยวขวาไปทางบางโพ ตามป้าย เลี้ยวขวาลอดใต้สถานีเตาปูน เข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปทางบางโพ เลี้ยวขวามาแล้วจะเห็นโครงการชีวาทัย Interchange ที่อยู่ติดกับสถานีเตาปูน จากแยกเตาปูนเราตรงมาตามถนนประชาราษฎร์สาย 2 เรื่อยๆ ตัวโครงการจะตั้งอยู่ติดกับไปรษณีย์บางโพ (ที่ไฮท์ไลท์สีเขียวไว้นะครับ) ก่อนถึงแยกบางโพนิดหน่อย ส่วนสำนักงานขาย จะไม่ได้ตั้งอยู่ที่เดียวกับสถานที่ก่อสร้างโครงการนะครับ จะอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยโรงพยาบาลบางโพไปนิดหน่อย สำหรับการเดินทางมายังโครงการ นอกจากจะใช้รถส่วนตัวแล้ว การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน ทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ก็วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวัน ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็จะเปิดให้บริการ การเดินทางมายังโครงการก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีสถานีรถไฟฟ้าบางโพอยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปเพียง 80 เมตรเท่านั้น สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สถานีบางโพ โรงพยาบาลบางโพ ตลาดบางโพ ตลาดเตาปูน เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น บิ๊กซี วงศ์สว่าง รัฐสภา แห่งใหม่ โรงเรียนโยธินบูรณะ วิเคราะห์รอบโครงการ ทำเลที่ตั้งของโครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ต้องบอกว่าอยู่ในทำเลที่น่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งเรื่องที่มีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ ห่างจากสี่แยกออกไปไม่ไกล สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้หลายเส้นทาง และยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ อีกด้วย ขณะเดียวกันบรรยากาศในบริเวณรอบๆ โครงการยังคงมีความเป็นชุมชนเก่า มีตลาดสด ร้านค้า ร้านอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล วัด และสถานที่ราชการแวดล้อมอยู่หลายแห่ง เลยไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบเหงาเลย ในขณะเดียวกันถ้าต้องการออกไปช๊อปปิ้ง ทำเลที่ตั้งของโครงการก็ไม่ได้อยู่ไกลจากแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ๆ มากนัก เช่น สวนจตุจักร เจเจกรีน ห้างเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ รวมถึงย่านฮิปๆ แถวอารีย์เลย ซึ่งสามารถเดินทางรอบเมืองได้ด้วยเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่วิ่งเป็น loop เพียงสายเดียวเท่านั้น สำหรับตัวโครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น บนพื้นที่ขนาด  1 ไร่เศษ ริมถนนประชาราษฎร์ ไม่ต้องเข้าซอยอีกให้ยุ่งยากครับ คอนเซปต์การออกแบบของโครงการนี้เน้นมาในสไตล์ Modern Contemporary ชูความต่างจากโครงการอื่นๆ ในเครือชีวาทัย ด้วยขนาดของห้องที่กว้างขวาง และเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตรวมเพียง 172 ยูนิตเท่านั้น ในแต่ละชั้นก็มีจำนวนห้องน้อยมาก แถมห้องส่วนใหญ่จะเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มๆ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้ Master Plan ของโครงการ จะเห็นว่ามีทางเข้าออกทางเดียว คือด้านถนนประชาราษฏร์สาย 2 ถนนรอบโครงการเป็นแบบ One Way ที่ชั้น 1 จะประกอบไปด้วย Main Lobby, Business Lounge, Mail Box และโถงลิฟท์ แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และ Service Lift อีก 1 ตัว ส่วนที่จอดรถก็เริ่มที่ชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้น 6 เลยนะครับ รวมแล้วจอดได้ประมาณ 80% Lobby หรูหราที่ชั้น 1 ส่วนของห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 7 ชั้น 8-15 แปลนจะคล้ายๆ กับชั้น 7 นะครับ มีห้องพักอาศัยประมาณ 12 ยูนิตต่อชั้น ชั้น 17-20 จำนวนห้องพักจะลดลงเหลือ 10 ยูนิตต่อชั้น ส่วนชั้นสูงสุดของห้องพักอาศัยที่ชั้น 21-22 จะมี 7 ยูนิตต่อชั้น และมีห้อง Penthouse อยู่ชั้นละ 2 ยูนิต หันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ทางด้านของ Facility ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ก็ต้องบอกว่าเต็มที่เลยทีเดียว ซึ่ง Facility หลักจะรวมอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า ทั้งสระว่ายน้ำแบบ River View Sky Lap Pool, Panoramic Fitness, Steam Room, Sky Garden, Business Lounge และ Pocket Garden รวมถึงเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ที่ใช้ระบบ Elevators Access Control มี Key Card ล็อคชั้น มีกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้เรื่องที่จอดรถก็จัดมาให้มากถึง 80% เลยนะครับ ถือว่าเยอะมากๆ สำหรับคอนโดที่มีทำเลติดรถไฟฟ้าแบบนี้ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้นบนสุดคือชั้น 23-24 ที่ชั้น 23 จะเป็นสระว่ายน้ำและส่วนลอยฟ้า ส่วนที่ชั้น 24 จะเป็นฟิตเนส บรรยากาศสระว่ายน้ำและฟิตเนส บนชั้นดาดฟ้าของโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวก Main Lobby Panaromic Fitness Mailbox Room Pocket Garden River View Sky Lap Pool Steam Room Business Lounge Sky Garden 24 hr. Security Guards CCTV พาชมห้องตัวอย่าง สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ชมด้วยกัน 2 แบบครับ คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 42.50 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 78.50 ตร.ม. โดยที่ห้องทั้งหมดจะขายให้แบบ Fully Furnished เลยนะครับ ชุดเฟอร์นิเจอร์จะเป็นแบบสั่งทำยี่ห้อ Starmark ทั้งหมด ทั้งหน้าตา สีสันก็สวยงาม เรียบหรูมากๆ เดี๋ยวเราไปชมในห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องกันเลยดีกว่าครับ Type B1 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 42.5 ตารางเมตร บานประตูลายไม้ ประตูจะเป็น Digital Door Lock ของ Yale เข้ามาด้านในแล้วจะเจอส่วน Dining Area ก่อนเลยนะครับ มองตรงไปด้านในถึงจะเป็น Living Area ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L เชื่อมตัวกับโต๊ะอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง หันหน้าเข้าหาครัว ซิงค์ล้างจานแบบฝัง ค่อนข้างลึกพอสมควร ตู้ด้านล่างซิงค์ล้างจาน พร้อมถังขยะ ขยับมาอีกหน่อยจะเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Take ด้านบนจะเป็นฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องวางเตาอบ ตู้ลอยเก็บของด้านบน ภาพรวมของส่วนครัวด้านหน้าห้อง ส่วนฝั่งตรงข้ามครัว จะเป็นทางเข้าห้องน้ำ และเป็นจุดที่วางตู้เย็นอยู่ข้างๆ ติดกับตู้เย็นมีตู้เก็บรองเท้าให้ด้วย ด้านในห้องน้ำส่วนแรกจะเป็นอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ จากห้องน้ำตรงนี้จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อน เพื่อเข้าไปยังห้องอาบน้ำด้านใน เลยเข้ามาด้านในอีกจะเป็นส่วนอาบน้ำ มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาให้อีก 1 จุด อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม รอบๆ ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค ติดกับอ่างล้างหน้าจะเป็นอ่างอาบน้ำ อีกฝั่งจะเป็น Shower Box ชุดฝักบัวและ Rain Shower ของ Cotto มุมมองจากห้องอาบน้ำออกไปถึงส่วนครัวด้านนอก คราวนี้เราออกมาดูที่ Living Area กันต่อ ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าห่างพอสมควรนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ได้เลย โซฟาที่โครงการวางมาให้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง อีกด้านโครงการ Built in ชั้นวางทีวี ขนาดพอดีกับผนัง Living Area จะอยู่ติดกับระเบียง ขนาดของระเบียงกว้างประมาณนี้นะครับ ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน จาก Living Area เราเข้าไปดูห้องนอนกันต่อ ห้องนอนถือว่าใหญ่พอสมควรนะครับ สามารถวางเตียง King Size ได้เลย ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้เดินได้สะดวก ถ้าอยากมีทีวีไว้ในห้องนอนด้วย แนะนำเป็นทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่าครับ ส่วนหน้าต่างด้านในจะเป็นบาน Fix บานใหญ่ และมีบานกระทุ้ง 2 บานข้างๆ ข้างเตียงอีกด้านโครงการจัดวางเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ ต่อจากโต๊ะทำงานเข้าไปจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet ข้างๆ ตู้เสื้อผ้าจะเห็นประตูบานเลื่อน เป็นทางเข้าห้องน้ำอีกด้านหนึ่ง ต่อมาเรามาดูกันที่ห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 78.5 ตารางเมตร กันต่อ เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Dining Area ก่อนเลยนะครับ การวาง Lay Out ส่วนนี้จะคล้ายๆ กับห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่เราดูมาเมื่อกี้เลย ด้านซ้ายมือจะเป็นตู้สูงไว้สำหรับเก็บรองเท้า ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L เตาไฟฟ้าจะได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกเป็นเตาแบบ 4 ตัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ขยับมาอีกจะเป็นซิงค์ล้างจาน ห้องนี้จะได้ 2 หลุมเลยนะครับ ด้านบนก็เป็นตู้ลอยเก็บของ จุดวางตู้เย็นจะอยู่ใกล้ๆ กับไมโครเวฟและเตาอบ ภาพรวมๆ ของส่วน Dining Area มีโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง เป็น Island อยู่ตรงกลาง ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่ากำลังดีเลยนะครับ สามารถเลือกวางทีวีจอใหญ่ได้เลย โซฟาที่โครงการจัดมาให้เป็นขนาด 3 ที่นั่ง และเก้าอี้อาร์มแชร์อีก 1 ตัว ด้านชั้นวางทีวีเป็นตู้ Built in ยาวไปจรดกับตู้เก็บรองเท้า ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ฝ้าบริเวณนี้โครงการจะทำเป็นร่องไว้สำหรับซ่อนรางผ้าม่านให้ด้วยนะครับ ขนาดของระเบียง จาก Living Area เราเดินเข้าไปดูห้องนอนทั้ง 2 ห้องกันต่อ ห้องนอนแรกเป็นห้องนอนเล็ก อยู่ติดกับ Living Area ขนาดของห้องนอนเเล็ก เมื่อวางเตียง 5 ฟุต ลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่รอบๆ เตียงนิดหน่อย ปลายเตียงมีที่เหลือให้เดินได้สะดวก และโครงการยังได้ Built in ชั้นวางทีวีเล็กๆ มาให้ด้วย หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ เป็นบาน Fix บานใหญ่ และมีบานกระทุ้งบานเล็ก 2 บานอยู่ข้างๆ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า หน้าบานเป็นบานกระจกแบบในรูปเลยครับ จากห้องนอนเล็กเราเดินต่อเข้าไปด้านใน ก่อนถึงห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำเล็ก 1 ห้อง สุขภัณที่ใช้จะเหมือนกับห้องน้ำของห้อง 1 ห้องนอน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมมาพร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ข้างๆ อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ขนาดของ Shower Box จะประมาณนี้นะครับ ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็กจนดูอึดอัด ชุดฝักบัวและ Rain Shower ของ Cotto เหมือนกัน ติดๆ กับห้องน้ำเล็กก็จะเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องนอนใหญ่นี่กว้างขวางดีเลยครับ โครงการจัดเตียง King Size มาให้ พื้นที่รอบๆ เตียงยังเหลืออีกเยอะพอสมควร ปลายเตียง Built in เป็นชั้นวางทีวียาวไปเป็นโต๊ะทำงานด้วย หน้าต่างในห้องนอนใหญ่จะเหมือนกับหน้าต่างในห้องนอนเล็กนะครับ ข้างเตียงอีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้า ดีไซน์จะเหมือนกับตู้เสื้อในห้องนอนเล็ก แต่ขนาดจะใหญ่กว่า ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้อง ซึ้งขนาดจะใหญ่กว่าห้องน้ำข้างนอกเยอะเลยครับ โถสุขภัณฑ์จะแยกออกมาอย่างเป็นสัดส่วน เป็นห้องเล็กๆ กั้นด้วยประตูกระจก อ่างล้างหน้าจะเป็นเคาน์เตอร์ยาวมี 2 อ่าง กระจกเงาก็ได้ 2 บาน ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็น Shower Box ขนาดของ Shower Box จะพอๆ กับห้องน้ำเล็กข้างนอก ชุดฝักบัวกับ Rain Shower ก็จะเหมือนๆ กัน ด้านในสุดจะเป็นอ่าง Jacuzzi บริเวณอ่าง Jacuzzi จะเป็นกระจกรอบด้านเลยนะครับ เวลานอนแช่น้ำในอ่างได้ชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วย ในช่วงแรกที่มีการเปิดขายนี้จะมีโปรโมชั่นพิเศษ แถม Motion Sensor, Digital Door Lock ของ Yale และ Water Heater ในห้องมาให้ด้วย อันนี้สามารถไปต่อรองและคุยกับเซลล์ที่สำนักงานขายกันได้ครับ เท่าที่รู้มาโครงการนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยนะครับ รีบเข้าไปดูห้องตัวอย่างประกอบการตัดสินใจก่อนหน่อยก็ดีครับ เพราะจำนวนห้องมีน้อย พลาดห้องสวยๆ ไปแล้วจะเสียดายครับ ราคาและเงื่อนไขในการขาย ณ วันที่ 14/08/2558 1 Bedroom จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 70,000 บาท 2 Bedroom จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 150,000 บาท ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตร ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
U Delight รัชวิภา : รีวิวคอนโด

U Delight รัชวิภา : รีวิวคอนโด

U Delight รัชวิภา คอนโด High Rise สูง 23 ชั้น บนถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า ใกล้เมเจอร์ รัชโยธินและ SCB Park Plaza โครงการใหม่จาก Grand U รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     875 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   6 - 0 - 69 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่จอดรถ    345 คัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนพฤศจิกายน 2559 ค่าส่วนกลาง    35 บาทต่อตารางเมตร ค่ากองทุน    500 บาทต่อตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง เมเจอร์ รัชโยธิน SCB Park Plaza วัดเสมียนนารี ตลาดบองมาเช่ โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ โรงพยาบาลวิภาวดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โรงเรียนหอวัง เซ็นทรัล ลาดพร้าว ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 30.4 – 52 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 51.5 – 66.5 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด สวนสีเขียว ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-652-4000 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  grandu.co.th