Tag : Review

648 ผลลัพธ์
[Preview] แกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู)

[Preview] แกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู)

โครงการแกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู) บ้านเดี่ยวดีไซน์หรูจาก บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) สะดวกทุกการเดินทาง พร้อมแนวคิดของการออกแบบบ้านที่ตอบสนอง Life Style ของคนยุคใหม่ ตอบโจทย์การทำงานแบบ Work From Home และมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสำหรับทุกคนในครอบครัว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยให้ได้บรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง   เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนหลายสาย การเดินทางเข้าออกโครงการ "แกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู)" สะดวกสบาย มีเส้นทางเชื่อมต่อสู่ถนนสายหลักหลายสาย อาทิ ถนนสุขุมวิท, ถนนเทพารักษ์, ถนนบางนา, ถนนตำหรุ-กิ่งแก้ว ซึ่งมุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ จะเดินทางออกไปในโซนตะวันออกเช่น จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง ก็สะดวกเช่นกัน     นอกจากนี้ที่ตั้งโครงการยังอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงแหล่งงาน และสาธารณูปโภคต่างๆ มากมาย อาทิ โรบินสัน สมุทรปราการ, บิ๊กซี สมุทรปราการ, โลตัส บางปู, สถานตากอากาศบางปู, นิคมอุตสาหกรรมบางปู, นิคมอุตสาหกรรม บางพลี, โรงพยาบาลรัทรินทร์, โรงพยาบาลรามา สมุทรปราการ, มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ แบบบ้านสวยสไตล์ English Cottage Layout บ้านใหม่มีให้เลือกมากถึง 3 Type ตอบโจทย์ด้วยฟังก์ชั่นที่ลงตัว 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดดเด่นด้วยห้องนอน Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว ในขณะที่ห้องนอนล่าง ก็สามารถใช้รองรับสำหรับผู้สูงอายุ หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้ตามความต้องการ แบบบ้านของโครงการ "แกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู)" Simon  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. บนที่ดิน 50 ตร.ว. Marble บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. บนที่ดิน 50 ตร.ว. Luther บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 214 ตร.ม. บนที่ดิน 50 ตร.ว. สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อลังการสโมสรสุดหรู สไตล์อิงลิช คอทเทจ พร้อม Facility มากมาย พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง และเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ Play Ground Pets Zone Exercise Outdoor Jogging Lane Colosseum zone Street Basketball Street soccer Co – Working space   ทำเลดีใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โลตัสบางปู โรบินสัน สมุทรปราการ บิ๊กซี สมุทรปราการ บิ๊กซี บางพลี โฮมโปร สุวรรณภูมิ แม็คโคร บางพลี เมกา บางนา ใกล้โรงพยาบาล รพ. รามาฯ สมุทรปราการ รพ.รัทรินทร์ บางปู รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บางปูใหม่ ใกล้สถานศึกษา รร.สวนกุหลาบ สมุทรปราการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ   บทความที่เกี่ยวข้อง สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ “สิวารมณ์” ขน 7 โครงการ อัดแคมเปญ ดันยอดขาย  
สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ทาวน์โฮมดีใกล้รถไฟฟ้า

สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ทาวน์โฮมดีใกล้รถไฟฟ้า

สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ทาวน์โฮมดีใกล้รถไฟฟ้า สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านใหม่เพื่อขยับขยายที่อยู่ของครอบครัว หรือสร้างครอบครัวใหม่ บ้านทาวน์โฮมก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายครอบครัว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไปในทำเลใกล้เมือง เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมแล้ว จึงได้เปรียบทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอย และอีกหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว รีวิวฉบับนี้เรามีโครงการใหม่จาก บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด มาแนะนำให้รู้จักกัน โดยเฉพาะคนที่กำลังหาบ้านในโซนสุขุมวิท เทพารักษ์ สำโรง สมุทรปราการใกล้รถไฟฟ้ากันอยู่ กับโครงการ “สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์”   ปักหมุด สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ทาวน์โฮมดีใกล้รถไฟฟ้า ที่ตั้งของโครงการ “สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์” อยู่ในซอยศรีบุญเรือง 1 ห่างจากถนนเทพารักษ์ประมาณ 800 เมตร ซึ่งสามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองได้สะดวกหลายเส้นทาง เพราะอยู่ใกล้ทางพิเศษวงแหวนตะวันออก-กาญจนาภิเษก มีถนนสายหลักให้เลือกในการเดินทางเข้าออกเมืองทั้ง ถนนเทพารักษ์ ถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด นอกจากนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีเหลือง-สถานีทิพวัล ซึ่งอยู่ฝั่งถนนเทพารักษ์ (ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง) และสายสีเขียวอ่อน-สถานีสำโรง (สถานีอินเตอร์เชนจ์) และสถานีช้างเอราวัณ ซึ่งอยู่ทางด้านถนนสุขุมวิท โดยสถานีทั้งหมดนี้อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถต่อรถสาธารณะอื่นๆ ไปยังโครงการได้ง่าย หากไม่ต้องการใช้รถส่วนตัวในการเดินทางก็ถือเป็นทางเลือกที่คล่องตัวมากเช่นกัน     นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว รอบๆ โครงการก็พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายอย่าง เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา, บิ๊กซี สำโรง, อิมพีเรียลเวิลด์, ลาซาลอเวนิว, ไบเทค บางนา, โรบินสัน สมุทรปราการ, โฮมโปร ศรีนครินทร์, แมคโคร ศรีนครินทร์, ฟูดแลนด์ ศรีนครินทร์ เป็นต้น รวมถึงโรงพยาบาลชั้นนำ และโรงเรียนชื่อดังอีกหลายแห่งเพื่อรองรับครอบครัวที่มีเด็กในวัยเรียน เช่น โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ, โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล, โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ ฯลฯ     ด้วยที่ตั้งของโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ที่อยู่ถัดจากถนนใหญ่เข้ามาในซอยศรีบุญเรือง 1 พอสมควร จึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องห่างไกลความวุ่นวายจากถนนใหญ่ มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก ในขณะที่บริเวณรอบๆ โครงการในซอยศรีบุญเรืองมีความเป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์เดิมที่อยู่กันมานาน มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงอพาร์ทเม้นต์เป็นจำนวนมากตามซอยที่แยกย่อยออกไป และยังมีพื้นที่โรงงานเดิมอยู่ด้วย ทำในบรรยากาศในซอยมีความคึกคักพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นน่าจะเป็นเวลาที่รถเข้าออกค่อนข้างมาก   อีกทั้งโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ได้รับความสนใจจากคนในพื้นที่ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีความคุ้นชินกับทำเลมากอยู่แล้ว ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับครอบครัว อีกทั้งความต้องการพื้นที่ทำงานในบ้านที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นในภาวะที่ต้อง Work From Home หรือการขยายพื้นที่สำหรับครอบครัวใหม่เพื่อลดความแออัดจากที่อยู่เดิม จึงไม่น่าแปลกใจเพียงแค่เปิดตัวโครงการก็มียอดจองเป็นจำนวนมากจนแทบจะปิดเฟสกันไปเลย   ทาวน์โฮมสไตล์ Modern English Victorian สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ มีคอนเซปต์การออกแบบตัวบ้านมาในสไตล์ Modern English Victorian ที่เน้นความหรูหราอยู่สบาย พร้อมเพิ่มฟังก์ชันภายในบ้านเพื่อการอยู่อาศัยที่ลงตัวมากขึ้น ด้วยทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.4 เมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 18.9 ตารางวา   ภายในพื้นที่โครงการกว่า 10 ไร่ มีพร้อมทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ฟิตเนส สวน และสนามเด็กเล่น เพื่อลูกบ้านเพียง 107 ยูนิตเท่านั้นที่จะได้บรรยากาศเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากนี้เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ทางโครงการให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งการเข้า-ออกโครงการด้วย Easy Pass, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, กล้อง CCTV รวมถึงการติดตั้ง Smart Security System ภายในตัวบ้านทุกหลังให้อุ่นใจได้ตลอดการอยู่อาศัย     แบบบ้านของโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ มีชื่อว่า “Winston” มีพื้นที่ใช้สอยภายในขนาด 124 ตารางเมตร ซึ่งการจัดสรรพื้นที่ภายในทำออกมาได้ดีและลงตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บริเวณหน้าบ้านที่มีหน้ากว้างถึง 5.4 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบสบายๆ ในขณะที่พื้นที่ชั้น 1 ของตัวบ้านจัดไว้เป็นสัดส่วน เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเห็นโซน Living Area ที่เปิดโล่งยาวไปถึงด้านหลังของตัวบ้าน ซึ่งเราสามารถจัดเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหารและห้องครัว ที่เชื่อมต่อถึงกันเพื่อที่สมาชิกในครอบครัวจะได้ใช้พื้นที่ร่วมกัน ในขณะที่อีกด้านแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก หรือห้องเอนกประสงค์ ที่เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุซึ่งก็สะดวกดีเพราะอยู่ติดกับห้องน้ำที่ชั้นล่าง หรือจะใช้เป็นห้องทำงานก็เป็นอีกไอเดียที่เหมาะกับการ Work From Home ในปัจจุบัน     โซนทางด้านหลังบ้าน บริเวณพื้นที่ซักล้างสามารถต่อเติมเพิ่มให้เป็นครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน หรือให้เป็นห้องซักผ้าก็ถือเป็นไอเดียทางเลือกที่ทำให้เราใช้สอยพื้นที่ภายในบ้านได้เป็นสัดส่วนและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทางโครงการก็ได้นำเสนอไว้ให้เห็นในบ้านตัวอย่างแล้ว     ขึ้นมาที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ด้านบนจะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยที่ห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ในขณะที่อีกด้านแบ่งเป็น 2 ห้องเล็กซึ่งมีขนาดกว้างกำลังดี สามารถใช้เป็นห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องก็ได้ หรือจะจัดสรรเพื่อการใช้สอยประโยชน์อื่นๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว   ทาวน์โฮมใส่ใจทุกรายละเอียด บ้านทุกหลังของโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ มาพร้อมกับรายละเอียดของการออกแบบที่ผ่านการคิดและคัดสรรมาอย่างดี เพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและปลอดภัย บ้านทุกหลังติดตั้งสัญญาณกันขโมย (Smart Security System) มาให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มความอุ่นใจให้กับลูกบ้านที่นอกเหนือจากระบบรักษาความปลอดภัยจากส่วนกลาง นอกจากนี้การเลือกใช้วัสดุและออกแบบฟังก์ชั่นในจุดต่างๆ ของตัวบ้านก็สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของทีมงาน โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย การใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า สะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด เช่น การออกแบบให้บ้านหน้ากว้าง 5.4 เมตร สามารถรองรับการจอดรถได้ 2 คัน, ห้องเก็บของบริเวณด้านหน้า, ตำแหน่งปลั๊กสำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิด, ตำแหน่งปลั๊กไฟฟ้าภายในบ้าน และเพิ่ม Charging Port Built-in, จุดติดตั้งระบบต่างๆ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุเพื่อช่วยลดความร้อนของตัวบ้าน ฯลฯ     หลังจากได้เห็นตัวบ้านของจริง พร้อมรายละเอียดต่างๆ แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้ราคาขายพร้อมโปรโมชั่นกันบ้างแล้ว บ้านทาวน์โฮม สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท* และหากใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศจริง สามารถแวะไปชมบ้านตัวอย่างได้ที่โครงการ พร้อมข้อเสนอที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้พิเศษ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.065-5201222 หรือ Sivarom Real Estate   บทความที่เกี่ยวข้อง [Preview] สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท – เทพารักษ์ “สิวารมณ์” ขน 7 โครงการ อัดแคมเปญ ดันยอดขาย  
THE UNIQUE VILLAGE บ้านเดี่ยวสไตล์มินิมอล

THE UNIQUE VILLAGE บ้านเดี่ยวสไตล์มินิมอล

THE UNIQUE VILLAGE บ้านเดี่ยวสไตล์มินิมอล โครงการ THE UNIQUE VILLAGE By KTN ASSET THE UNIQUE VILLAGE บ้านเดี่ยวสไตล์มินิมอล บนทำเลศาลายา-คลองโยง ที่น่ารักน่าอยู่แบบสุดๆ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ด้วยบ้านขนาด 4 ห้องนอน4  4 ห้องน้ำ บนที่ดินขนาด 49 ตารางวา แถมราคาช่วง Presale ก็โดนใจ เปิดตัวในงบ 2.99 ล้านบาท* เท่านั้น พร้อมความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ เพียงแค่ 4 ยูนิต     THE UNIQUE VILLAGE บ้านเดี่ยวสไตล์มินิมอล โครงการ THE UNIQUE VILLAGE By KTN ASSETเป็นโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ "มินิมอล" ตามคอนเซปต์ของแบรนด์ "Less Speaking, More Creating" ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบตัวบ้านให้มีความเรียบง่าย แต่ยังคงไว้ด้วยฟังก์ชันครบครัน ตอบสนองทุกความต้องการ ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยของทุกคนในครอบครัว จากแนวคิด Organic Living ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ บนทำเลในย่าน ศาลายา-คลองโยง จังหวัดนครปฐม ใกล้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (กำลังก่อสร้าง) สามารถเดินทางได้ง่าย ไม่ว่าจะเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือเดินทางออกต่างจังหวัด ก็ใช้เวลาเดินทางไม่มาก ตัวบ้านอยู่บนที่ดินขนาด 49 ตารางวา ออกแบบเป็นหน้าจั่ว 2 ชั้น ภายในแบ่งเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 132 ตารางเมตร ที่เพิ่มพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ใกล้ทั้งแหล่งช็อปปิ้งอย่าง Central ศาลายา และมหาวิทยาลัยมหิดล แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่เก๋ๆ อีกเพียบ ทำให้ทุกวันของคุณเป็นวันพักผ่อนได้พิเศษกว่าใคร ด้วยยูนิตจำนวนจำกัดเพียง 4 หลังเท่านั้น!! ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้าน* เฉพาะช่วง PRESALE เท่านั้น *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด KTN ASSET โทรสอบถามรายละเอียดโครงการ • โทรสอบถามเพิ่มเติม : 099-607-6116 • Line : @KTNASSET ( มี @ นำหน้า ) • Facebook : KTN ASSET บทความที่น่าสนใจ ‘ศาลายา – พุทธมณฑลสาย 5’ แลนด์มาร์กใหม่อสังหาฯ ทุ่ม 9 พันล้านขยายถนนนครอินทร์เชื่อมศาลายา
[Preview] Villaggio สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ ราคา 2.3 – 6 ล้านบาท

[Preview] Villaggio สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ ราคา 2.3 – 6 ล้านบาท

Villaggio สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ ราคา 2.3 - 6 ล้านบาท เตรียมพบโครงการใหม่ Villaggio สุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ จาก แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยแนวคิด SCANDINAVIAN HARBOUR CHARM ความสุขเทียบท่า.. ในบรรยากาศสแกนดิเนเวีย   ครั้งแรกบนทำเลสุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ ใกล้สาทร กับแบบบ้านซีรีส์ใหม่ พร้อมนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โครงการมีพื้นที่ 73 ไร่ จำนวนแปลงขาย 482 แปลง มีที่อยู่อาศัยทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ในราคา 2.3 - 6 ล้านบาท บ้านเดี่ยว มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 137 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 50 ตารางวา ขึ้นไป ทาวน์โฮม มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 89 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 18 ตารางวา ขึ้นไป ออกแบบสำหรับครอบครัวเริ่มต้น ที่คิดทุกรายละเอียด เพื่อก้าวแรกที่ไกลกว่า บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย จัดสวนสวยภายในบ้าน ร่มรื่นด้วยสวนสาธารณะในบรรยากาศ SCANDINAVIAN พร้อมสนามเด็กเล่นดีไซน์ใหม่ และสโมสรขนาดใหญ่ รองรับทุกช่วงวัย พร้อมสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ แยกสระเด็ก ผู้ใหญ่ ฟิตเนสเปิดรับวิวสวน พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกาย ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Action ดูแลตั้งแต่ทางเข้าโครงการด้วยระบบ Key Card Access, CCTV และรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.   สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ (ระยะทางโดยประมาณ) ทางด่วนกาญจนาภิเษก ด่านทุ่งครุ 8 กม. รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (โครงการอนาคต) - สถานีครุใน 7 กม. MAXVALU ประชาอุทิศ 11 กม. ทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านสุขสวัสดิ์ 13 กม. Big C ประชาอุทิศ 90 4 กม. Homepro สุขสวัสดิ์ 11 กม.     ผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ และเลือกตำแหน่งแปลงสวย เฟสหน้าโครงการก่อนใคร เพียงคลิกลิงค์ https://bit.ly/2U3H3CN   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1198   บทความน่าสนใจ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เดินหน้าลงทุน 11,000 ล.พร้อมระดมทุนผ่านหุ้นกู้ 12,000 ล.​ Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์ พรีเมียมทาวน์โฮมในฝัน    
[Preview] The Eight (จตุจักร-รัชดา) บ้านสไตล์โมเดิร์น เพียง 8 หลัง จาก G-Land Property

[Preview] The Eight (จตุจักร-รัชดา) บ้านสไตล์โมเดิร์น เพียง 8 หลัง จาก G-Land Property

The Eight (จตุจักร-รัชดา) บ้านสไตล์โมเดิร์น 3.5 ชั้น สไตล์โมเดิร์น Privacy Residence เอกสิทธิ์เพียง 8 ครอบครัว โครงการใหม่จาก G-Land Property บริษัท จี แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด แนะนำโครงการใหม่ THE EIGHT (Chatuchak - Ratchada) (ดิ เอท จตุจักร – รัชดา) บ้าน 3.5 ชั้น สไตล์โมเดิร์น Privacy Residence เอกสิทธิ์เพียง 8 ครอบครัว บนทำเล  Extremely Rare ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ (Perfectionist Living) กับงานออกแบบที่ชาญฉลาด และประณีต ในทุกรายละเอียด ลงตัวกับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นภายในบ้านได้อย่าง ‘อิสระ’ พร้อมพื้นที่พักผ่อนที่คุณจะค้นพบคำตอบของคำว่า ‘ชีวิตส่วนตัว’ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร  Pantry และ Flexible Space บนชั้นลอย พื้นที่สำหรับเติมเต็มและต่อยอดงานอดิเรกทุกไลฟ์สไตล์   อีกทั้งยัง ผสานนวัตกรรม เข้ากับการออกแบบ เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นของคุณในวันนี้และอนาคต SMART SECURITY : พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยควบคู่กับเทคโนโลยีอันทันสมัย ผ่านการควบคุมโดยใช้ Application ตรวจสอบและรายงานความปลอดภัยทุกความเคลื่อนไหว ตลอด 24 ชั่วโมง SMART EMERGENCY : ระบบตรวจจับกลุ่มควันและแก๊ซ (Smoke & Gas Sensor) บริเวณห้องครัว และ Elderly Care ปุ่มฉุกเฉินในห้องน้ำ พร้อมระบบแจ้งเตือน ส่งสัญญาณผ่าน Application SMART ENTERTAINMENT : ปรับเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านด้วย Scene ได้ตามอารมณ์ให้ ทุกความต้องการสั่งได้ใน Application เดียว SMART ENERGY : การออกแบบที่ทำให้แสงธรรมชาติ สามารถสอดส่องเข้ามาได้ตลอดวัน รวมถึงติดตั้ง Solar Cell ในบริเวณบ้านเพื่อประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น     นอกจากความโดนเด่นในเรื่องของฟังก์ชั่นแล้ว ทำเลโครงการ THE EIGHT (Chatuchak - Ratchada) ถือเป็นทำเลที่น่าจับตามอง เพราะเชื่อมต่อย่านธุรกิจ ที่ถือได้ว่าเป็น North CBD ของกรุงเทพมหานคร ใกล้กับ Asian Transportation Hub อย่างสถานีกลางบางซื่อ และล้อมรอบไปด้วยถนนสายหลัก 3 สาย ได้แก่ ถนนลาดพร้าว, ถนนนพหลโยธิน และถนนรัชดาภิเษก ยกระดับการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยขนส่งมวลชนระบบราง ได้แก่  รถไฟใต้ดิน (สายสีน้ำเงิน แนวถนนลาดพร้าว), รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แนวถนนพหลโยธิน), ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตอันใกล้นี้ (ในแนวถนนรัชดาภิเษก) เรียกได้ว่าเป็น ที่ ที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างไร้ขีดจำกัด   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-989-8881 ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.g-landproperty.com/the-eight/   บทความที่น่าสนใจ รีวิวบ้านเดี่ยวพร้อมนวัตกรรม บ้านอัจฉริยะ “เดอะรูท จตุจักร–รัชดา” รีวิวคอนโด Denim Jatujak ดีไซน์ที่สุดของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  “มิกซ์ จตุจักร” แหล่งช้อปปิ้งที่ไม่มีวันหยุด  
คลิปรีวิว Dyson V12 Detect Slim แกะกล่องเทคโนโลยีตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์รุ่นแรก!!

คลิปรีวิว Dyson V12 Detect Slim แกะกล่องเทคโนโลยีตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์รุ่นแรก!!

Dyson V12 Detect Slim Dyson V12 Detect Slim เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นแรก ที่ใช้เทคโนโลยีการตรวจจับด้วยเลเซอร์ เผยให้เห็นฝุ่นที่ซ่อนอยู่ตามบ้านของคุณ!! เครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดกะทัดรัดที่ทรงพลังที่สุดของ Dyson สามารถตรวจจับ ดูดฝุ่น ปรับโหมดได้อัตโนมัติ และยังสามารถนับจำนวนฝุ่นด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก   การตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์ เผยให้เห็นอนุภาคฝุ่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เลเซอร์สีเขียวจะติดตั้งอยู่ในหัวดูดทำความสะอาด Fluffy ช่วยตรวจจับฝุ่นได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยี Acoustic Dust Sensing จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณได้ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก หน้าจอ LCD จะแสดงขนาดและจำนวนของอนุภาคให้ผู้ใช้ได้เห็น ซึ่งเป็นการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ของการทำความสะอาดแบบเรียลไทม์โดยการนับและวัดอนุภาคของฝุ่นด้วยกล้องจุลทรรศน์ นอกจากนี้ piezo เซ็นเซอร์จะช่วยปรับพลังดูดและเปลี่ยนโหมดตามประเภทของพื้นต่าง ๆ และปริมาณฝุ่นได้โดยอัตโนมัติ หัวแปรงทำความสะอาด anti-tangle hair screw แบบใหม่ สามารถดูดเส้นผมที่หลุดร่วงตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แถบแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกันของเส้นผมจะดูดเส้นผมเข้าไปในถังฝุ่นได้ง่ายดายและน่าทึ่ง เป็นการทำความสะอาดด้วยมอเตอร์สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก     การสร้างบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีและถูกสุขลักษณะสามารถทำได้ง่ายขึ้น วันนี้ Dyson ได้เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ Dyson V12 Detect Slim ออกแบบมาเพื่อตรวจจับฝุ่นที่ซ่อนอยู่ตามบ้านและมีขนาดเล็กเท่า 10 ไมครอน ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ Piezo จึงทำให้เครื่องสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ถูกดูดเข้าไป   เครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดนี้พัฒนาโดยทีมนักวิศวกรกว่า 370 คนทั่วโลก โดยขับเคลื่อนด้วยพลังของมอเตอร์ Dyson Hyperdymium ที่สามารถสร้างกำลังดูดอากาศได้สูงถึง 150 วัตต์ นอกจากนี้ ระบบการกรอง 5 ขั้นตอนจะช่วยดักจับอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.99% เพื่อการทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก Dyson V12 Detect Slim จึงเป็นตัวช่วยในการสร้างบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีและถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ ผู้คนกว่า 60% หันมาทำความสะอาดบ้านบ่อยมากกว่าที่เคย     “ในฐานะนักวิศวกร งานของเราคือการหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่เราพบเจอ และตลอด 12 เดือนที่ผ่านมานี้ เราได้พบกับปัญหาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายเนื่องจากเราได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น” James Dyson หัวหน้าวิศวกรและผู้ก่อตั้งกล่าว “เราหลายคนได้หันมาใส่ใจในการทำความสะอาดมากขึ้น พยายามกำจัดฝุ่นและทำให้บ้านสะอาด แต่เราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบ้านของเราสะอาดอย่างแท้จริง   เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ถูกพัฒนามาใช้กับเครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดของเราจะช่วยเผยให้เห็นถึงฝุ่นที่ซ่อนอยู่ตามบ้านโดยการติดตั้ง diode เลเซอร์เข้ากับหัวทำความสะอาดในตำแหน่งที่แม่นยำในมุม 1.5 องศา ห่างจากพื้น 7.3 มม. เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกระหว่างฝุ่นตามพื้นและพื้นบ้าน นอกจากนี้ เครื่องยังสามารถคัดแยกขนาดและนับจำนวนอนุภาคอย่างพิถีพิถันถึง 15,000 ครั้งต่อวินาทีโดยใช้ acoustic piezo เซ็นเซอร์ซึ่งแปลงการสั่นให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า และแสดงขนาดและจำนวนของอนุภาคที่ถูกดูดเข้าไปบนหน้าจอ LCD ได้อย่างแม่นยำ   Dyson V12 Detect จึงเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ทรงพลังและชาญฉลาดด้วยการแสดงให้เห็นถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการทำความสะอาดบ้านของคุณ”   การตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์ Dyson ได้ออกแบบเทคโนโลยีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่นเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เลเซอร์ Dust Detection เผยให้เห็นอนุภาคขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เลเซอร์ที่ทำมุมได้อย่างแม่นยำถูกติดตั้งอยู่ในส่วนหัวแปรงทำความสะอาด     แนวคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อนักวิศวกรของ Dyson ได้สังเกตเห็นอนุภาคฝุ่นในอากาศภายในบ้านเมื่อมีแสงแดดเปล่งประกาย พวกเขาเริ่มคิดค้นว่าจะนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับฝุ่นผงที่เรามองไม่เห็นในบ้านได้อย่างไร ทีมงานจึงได้ทดลองกับแสงเลเซอร์ในห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบว่าวิธีนี้จะสามารถทำได้หรือไม่ จึงทำให้เกิดโซลูชันใหม่ขึ้น   นักวิศวกรของ Dyson ได้พัฒนา diode เลเซอร์สีเขียวซึ่งมีความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างได้ที่ดีที่สุด และติดตั้งเข้ากับหัวแปรงทำความสะอาด Slim Fluffy โดยจัดตำแหน่งได้อย่างแม่นยำที่มุม 1.5 องศา ห่างจากพื้น 7.3 มม. ทำให้สามารถดักจับฝุ่นที่ซ่อนอยู่บนพื้นผิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและดูดฝุ่นให้หมดออกได้   เซ็นเซอร์ Piezo นักวิศวกรของ Dyson เข้าใจดีว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนต้องการมีบ้านที่ถูกสุขลักษณะมากขึ้น Dyson จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ใช้ตรวจวัดฝุ่นที่ตรวจพบเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสะอาดเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์แบบเรียลไทม์   Acoustic Piezo เซ็นเซอร์ถูกติดตั้งในหัวแปรงทำความสะอาด ตัวเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ในหัวแปรงจะดูดอนุภาคขนาดเล็กเข้าไป และคำนวณจำนวนอนุภาคได้สูงถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที นอกจากนี้ เมื่อฝุ่นถูกดูดเข้าไปและผ่านตัว Piezo เซ็นเซอร์สู่ถังฝุ่น ตัวเครื่องจะสามารถแสดงขนาดและปริมาณฝุ่นบนจอ LCD ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถเห็นได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นได้ดูดฝุ่นไปแล้วมากน้อยเพียงใด ตลอดจนขนาดของอนุภาคต่าง ๆ ที่ดูดได้     นอกจากนี้ เครื่องดูดฝุ่นยังได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับเปลี่ยนโหมดพลังดูดได้โดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องตรวจพบฝุ่นจำนวนมากขึ้นในขณะที่กำลังใช้งานในโหมดอัตโนมัติ และจะปรับสู่โหมดพลังดูดแบบปกติเมื่อตรวจพบฝุ่นที่มีปริมาณน้อยลง   เทคโนโลยี Anti-Tangle หัวแปรงทำความสะอาด anti-tangle Hair screw ใหม่ได้ถูกพัฒนาแถบแปรงเป็นทรงกรวย ป้องกันการพันกันของเส้นผมกับตามแถบหัวแปรงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งหัวแปรงนี้จะดูดเส้นผมของมนุษย์และขนสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้อย่างง่ายดายและน่าทึ่ง ลดปัญหาเส้นผมพันติดแกนหัวดูด และลดปัญหาการทำความสะอาดหัวแปรงได้อีกด้วย   ระบบการกรอง เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim มาพร้อมกับเทคโนโลยีการกรองขั้นสูงของ Dyson 5 ขั้นตอน ซึ่งดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.99% และปล่อยอากาศที่ผ่านการกรองให้สะอาดขึ้นออกมาเท่านั้น เทคโนโลยีไซโคลนของ Dyson มีประสิทธิภาพในการแยกฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพื้น และปิดผนึกไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลกลับออกมาในบ้านของคุณ   การวางจำหน่าย เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ในราคา 21,900 บาท สำหรับรุ่น Fluffy และราคา 25,900 บาท สำหรับรุ่น Total Clean หากสนใจซื้อสามารถเข้าไปได้ที่ Dyson.co.th หรือร้าน Dyson Demo สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม     บทความที่เกี่ยวข้อง รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน (Dyson V8 Carbon Fibre)    
[Preview] สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท – เทพารักษ์

[Preview] สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท – เทพารักษ์

สิวารมณ์ วิลเลจ สุขุมวิท – เทพารักษ์ ทาวน์โฮมหรูจาก บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด ตามแนวคิด Modern English Victorian  ฟังก์ชันภายในบ้านรูปแบบใหม่ เพียบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บนที่ดิน 18.9 ตารางวา บ้านสไตล์วิคตอเรียน (Victorian style) ชื่อบ้านสไตล์วิคตอเรียนมาจากช่วงเวลาของการพัฒนาบ้านแบบนี้ขึ้นมาอยู่ในยุควิคตอเรียน (Victorianera, 1837-1901) ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศอังกฤษปกครองโดยราชินีวิคตอเรีย (QueenVictoria) โดยในยุคนี้ประเทศอังกฤษค่อนข้างสงบสุข มีการขยายอาณานิคมออกไปกว้างขวางและมั่นคง จึงส่งผลทำให้สภาพเศรษฐกิจที่ดี การผลิตเริ่มเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการอพยพเข้าเมืองมาก จึงทำให้เกิดชนชั้นกลางที่มีฐานะดีขึ้นและต้องการบ้านอยู่อาศัยในเมือง ประกอบกับภาษีด้านวัสดุก่อสร้าง ประเภทอิฐและกระจกลดลง ทำให้ราคาวัสดุเหล่านี้ถูกลงและมีมาตรฐานทางอุตสาหกรรม จึงทำให้บ้านยุคนี้ใช้วัสดุอิฐก่อมาก   จุดเด่นโครงการ เป็นโครงการทำเลศักยภาพ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย (สายเขียวสถานีช้างเอราวัณ/สายสีเหลือง สถานีทิพวัล) เพียง 10 นาทีถึงทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) ใกล้ห้างสรรพสินค้าอาทิ เช่น อิมพิเรียลเวิลด์, บิ๊กซี สำโรง2, โลตัส พลัสมอลล์ ศรีนครินทร์ ใกล้สถานศึกษา อาทิ เช่น โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ, โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล แบบบ้านสวยสไตล์ Modern English Victorian และฟังก์ชั่นที่ลงตัว อลังการสโมสรสุดหรู Modern English Victorian พร้อมสระว่ายน้าระบบเกลือ และฟิตเนส ทาวน์โฮมฟังก์ชั่นอารมณ์บ้านเดี่ยว ที่ให้มากถึง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2ที่จอดรถ มีฟังก์ชั่นพิเศษ ที่ให้มากกว่าคู่แข่ง - ห้องนอน Master Bedroom พร้อมห้องนำ้ในตัว - ห้องรับร้องพิเศษ Lounge Room เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass สถานที่ใกล้เคียงกับโครงการ ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ • อิมพิเรียลเวิลด์ (3.5 กม.) • บิ๊กซี สำโรง 2 (4.1 กม.) • โลตัส พลัสมอลล์ ศรีนครินทร์ (6.2 กม.) ใกล้โรงพยาบาล • ร.พ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลนครทอง (3.0 กม.) • ร.พ.ส้าโรงการแพทย์ (5.4 กม.) ใกล้สถานศึกษา • โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ (3.6 กม.) • โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล (3.6 กม.) รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนจะต่อขยาย) • สถานีช้างเอราวัณ (2.0 กม.) • สถานีทิพวัล (2.5 กม.)   แบบบ้าน Winston ทาวน์โฮม 2 ชั้น  จุดเด่นของตัวบ้าน 1. ห้องนอน Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว 2. ห้องนอนล่าง รองรับสำหรับผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นห้องทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ Club House สระว่ายน้ำ ( ระบบเกลือ ) ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ( พร้อมกล้อง CCTP )   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ข่าวแคมเปญพิเศษจากสิวารมณ์    
รวมคลาส Live สด จากฟิตเนสดังให้หุ่นปังได้ฟรี

รวมคลาส Live สด จากฟิตเนสดังให้หุ่นปังได้ฟรี

รวมคลาส Live สด จากฟิตเนสดังให้หุ่นปังได้ฟรี COVID-19 ยังคงระบาดไม่หยุดหย่อน คนส่วนใหญ่ยังคงทำงานแบบ Work From Home อยู่ แถมยิมหรือฟิตเนสก็เป็นสถานที่แรกๆ ที่ต้องปิดอย่างไม่มีกำหนดเปิด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ในขณะที่หลายๆ คนก็มีวิถีชีวิตผูกติดกับการออกกำลังกายซะด้วยสิ วันไหนไม่ได้ออกแรง เหงื่อไม่ออก พาลให้หงุดหงิดเหมือนชีวิตขาดอะไรไป ถ้าโหลดแอพ เปิดยูทูปทำท่าบริหารตามในคลิปอยู่คนเดียวเหงาๆ จนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาดูคลาส Live สด จากฟิตเนสดังกันบ้างมั้ยคะ มีหลายค่ายที่เปิดคลาสออกกำลังกายในรูปแบบ Live Streaming สอนกันแบบฟรีๆ ผ่านทาง Facebook Fanpage ชอบสไตล์ไหนก็เลือกสรรค์กันได้หลากหลายคลาสเลยทีเดียว หรือว่าถ้าลองแล้วติดใจก็มีคอร์สออนไลน์ให้สมัครบริการกันด้วยนะ ซึ่งจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง เรารวมมาให้แล้วตามไปดูกันได้เลย รวมคลาส Live สด จากฟิตเนสดังให้หุ่นปังได้ฟรี Fitness First Fitness First น่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่เปิดคลาสที่เรียกว่า “Group Fitness At Home For Free” บน Facebook เลยก็ว่าได้ ซึ่งคลาสการออกกำลังกายต่างๆ ก็มีให้เลือกหลายช่วงเวลาประมาณ 4-5 คลาส/วัน สลับหมุนเวียนโปรแกรมกันไปเพื่อความไม่จำเจ เริ่มตั้งแต่เช้า กลางวัน เย็น ไปจนถึงช่วงหัวค่ำ โดยที่แต่ละสัปดาห์ก็จะมีตารางแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อที่เราจะได้จัดสรรเวลาและเตรียมตัวเปิด Live ออกกำลังกายไปได้พร้อมๆ กัน   แต่ถ้าหากคลาสแบบฟรี ยังตอบโจทย์ได้ไม่ดีพอ Fitness First ก็พัฒนารูปแบบนำเสนอให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์แต่ละคนมากขึ้นด้วย “Virtual Studio” ซึ่งมีค่าสมัครเริ่มต้นเดือนละ 59 บาท ทีนี้เราก็สามารถเลือกเข้าคลาสได้จากทุกที่ ทุกเวลาผ่านแอพพลิเคชันของ Fitness First ทางค่ายเคลมว่ามีคลาสออกกำลังกายที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จากทีมผู้สอนชื่อดัง แถมยังเลือกได้ทั้งคลาสที่เป็นแบบ Live และแบบ Re-run อีกด้วย   ติดตาม Live Streaming ของ Fitnesst First ได้ที่ https://www.facebook.com/FitnessFirstThailand/   Virgin Active Virgin Active เป็นอีกค่ายฟิตเนสที่มีคลาสให้เลือกทั้งแบบ Live Class และแบบ On-Demand ที่คุณสามารถเลือกคลาสแล้วออกกำลังกายได้ฟรีผ่านช่องทาง Facebook โดยจะมีตารางคลาสต่างๆ อัพเดททุกสัปดาห์ ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนกันไป และมีให้เลือกมากกว่า 5 คลาส / วัน เช่น Yoga, Zumba, Fat Burn, Pilates เป็นต้น รวมถึงคลิป VA Talk ที่พูดคุยเกี่ยวกับการออกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันในหัวข้อที่น่าสนใจด้วย   แน่นอนว่าคลาสฟรีอาจจะไม่ได้มีให้เลือกมากนัก และถ้ายังไม่อยากสมัครสมาชิก ทาง Virgin Active มีให้ลงทะเบียนรับโค้ดสำหรับทดลองเล่นฟรี 14 วัน พอเปิดแอปพลิเคชันเข้าไปแล้วอยากเล่นคลาสไหนก็เลือกได้เต็มที่ เพราะจำนวนคลาสในแต่ละวันถือว่ามีความหลากหลายดีทีเดียว รับรองว่าได้หุ่นต้องฟิตแน่ๆ ถึงแม้จะต้อง WFH   ติดตาม Streaming Live ของ Virgin Active  ได้ที่ https://www.facebook.com/VirginActiveThailand/ รับ Access ดู Online Workout ฟรี 14 วัน*  https://www.virginactive.co.th/home/book_a_tour/freeonlineworkout.aspx   Jetts Jetts Fitness เป็นฟิตเนสที่เอาใจคนที่มีกิจวัตรชีวิตไม่ค่อยเป็นเวลามากนัก เพราะเปิดให้บริการกันแบบ 24 ชั่วโมง สะดวกเวลาไหนก็เดินเข้ายิมกันได้เลย แต่สถานการณ์แบบนี้ก็ต้องปิดกันไปตามระเบียบ แต่คลาสออกกำลังกายของ Jetts Fitness ไม่ได้หยุดไปด้วยนะ ยังคงมีคลาสเด็ดๆ มาให้เลือกขยับร่างกายกันได้ ผ่านทาง Facebook Live โดยจะมีเฉพาะช่วงเย็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็นไปจนถึงทุ่มกว่า เรียกว่าจัดกันไปทีเดียว 2 คลาสรวดได้เลย ซึ่งจะแบ่งเป็นคลาสสร้างความฟิต เช่น พวก HIIT รูปแบบต่างๆ, Body Jam, Body Combat, Body Pump รวมไปถึงคลาส Yoga และ Pilates เพื่อช่วยยืดเหยียดร่างกายให้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าระหว่างวันได้เป็นอย่างดี   ในแต่ละสัปดาห์คลาสต่างๆ รวมถึงเทรนเนอร์ที่ประจำคลาสก็หมุนเวียนกันไปไม่มีซ้ำ ถึงแม้ในแต่ละวัน Jetts จะไม่ได้มีคลาส Live สดให้เลือกมากนัก แต่ถ้าพลาดไปก็สามารถไปดูย้อนหลังได้ทุกอัน รับรองว่าคุณจะสามารถเสียเหงื่อได้ทุกวัน และทุกเวลาที่ต้องการเลยทีเดียว   ติดตาม Streaming Live ของ Jetts Fitness ได้ที่ https://www.facebook.com/JettsThailand/   Absolute You พอพูดถึง Absolute You เรามักจะนึกถึงคลาสโยคะเป็นอันดับแรกๆ เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟิตเนสที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากๆ แต่ก็ไม่ใช่จะมีแต่โยคะเท่านั้นนะ ในช่วงที่ล็อกดาวน์แบบนี้ Online Class ของ Absolute You มีให้เลือกทั้ง Yoga, Pilates รวมไปถึงคลาส Cardio หรือคลาสดูแลสัดส่วนก็มีให้เลือกครบ   ถึงแม้ช่วงนี้ Absolute You จะไม่ได้ Live สด ผ่าน Facebook แล้ว แต่ก็คลิปที่ผ่านมายังคงติดตามดูย้อนหลังได้ทุกคลิป แต่ถ้าใครเป็นสายโยคะ ต้องการฝึกแบบเน้นๆ ก็มี “Group Yoga Class at Home” ซึ่งเป็นการฝึกรูปแบบใหม่ผ่าน Zoom และจะมีครูฝึกคอยช่วยดูแลตลอดระยะเวลา 60 นาที โดยมีค่าใช้จ่าย 169 บาท/คน/คลาส แล้วแต่ละคลาสก็จำกัดจำนวนคนแค่ 20 คนเท่านั้น ถ้าได้เล่นโยคะผ่าน Zoom พร้อมคนอื่นๆ ด้วย ต่อให้ต้องเล่นอยู่ในบ้านก็คงจะไม่เหงาเกินไปแล้ว   ติดตาม คลาสออกกำลังกายของ Absolute You ได้ที่ https://www.facebook.com/AbsoluteYouStudio/     การออกกำลังกายแบบ Live Streaming ไม่ใช่แค่ค่ายฟิตเนสที่เรารวบรวมมาเท่านั้น ยังมีอีกหลายแห่งที่นำเสนอการออกกำลังกายในรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน เช่น การให้เช่ายืมอุปกรณ์ พร้อมแพคเกจคลาสออกกำลังกาย หรือการปรับรูปแบบ Personal Trainer ให้สามารถฝึกสอนผ่านทาง Online ได้ด้วย ที่นี้สายฟิตที่ชีวิตติดการออกกำลังกายก็ไม่ต้องกังวลเรื่องยิมปิดอีกต่อไป เพราะอยู่บ้านก็สามารถสร้างหุ่นให้ปังได้ฟรี     บทความที่น่าสนใจ 6 สิ่งต้องมี ในห้องนอน เพื่อการหลับอย่างมีคุณภาพ 10 เทรนด์สังคมไทยที่จะเปลี่ยนไปหลังพ้นวิกฤติ COVID-19  
The Forestias – เมืองต้นแบบกลางป่าใหญ่ในกรุงเทพฯ

The Forestias – เมืองต้นแบบกลางป่าใหญ่ในกรุงเทพฯ

The Forestias - เมืองต้นแบบกลางป่าใหญ่ในกรุงเทพฯ เมื่อ trend การเลือกที่อยู่อาศัยของคนปัจจุบันมีความโหยหาธรรมชาติมากขึ้น บางคนเลือกที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน ในขณะที่บางคนกลับเลือกที่ย้ายตัวเองเข้าไปอาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จะได้สัมผัสวิถีอันเรียบง่ายอย่างใกล้ชิด จะดีแค่ไหน ถ้ามีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และสร้างระบบนิเวศอย่างเข้าใจ ที่ไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้      “The Forestias” เมืองต้นแบบโครงการแรกของโลก ที่จะนำมนุษย์กลับมาอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน บนผืนป่าขนาด 30 ไร่ โอเอซิสแห่งเดียวในกรุงเทพ ผ่านการศึกษาและออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นับจากการปรับปรุงดิน สร้าง Landscape ไปจนถึงการจัดสรรแหล่งน้ำอย่างเหมาะสม เพื่อให้เมล็ดทุกเมล็ดเติบโต พึ่งพาอาศัยกันได้อย่างแท้จริง ดึงดูดสัตว์น้อยใหญ่ให้กลับเข้ามาอาศัยในป่า จนเกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ให้ทุกชีวิตอาศัยร่วมกันอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ “The Forestias” ยังต้องการให้ที่ดินขนาด 398 ไร่แห่งนี้ เป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลก ที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิต ที่จะมอบความสุขและสุขภาพที่ดีได้อย่างรอบด้าน     โดยการจัดวางที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ บนพื้นที่ที่เหมาะสมและกลมกลืนไปกับผืนป่า เพื่อสร้างสังคมเมืองที่มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้อาศัยอย่างแท้จริง ผ่านแบบบ้านหลากหลายแบรนด์ อาทิ “Whizdom” คอนโดมิเนียมเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในทุก passion ทั้งวันนี้และอนาคต “Mulberry Grove” Low-Rise Condo ที่ออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ใกล้ชิดธรรมชาติ “Mulberry Grove Villa” บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่มุ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หลากหลายgenerations “Six Senses” อีกรูปแบบของที่อยู่อาศัยบริหารโดยซิกส์เซนส์ แบรนด์เซอร์วิสระดับโลก และ “The Aspen Tree”  Wellness Condominium สังคมแห่งการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพสำหรับผู้สูงอายุ ที่ครบวงจรที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพื้นที่ทั้งหมดในโครงการ จะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่าน “ทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร” ซึ่งทอดตัวเหนือผืนป่า ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์   “Forest Pavilion” อาคารศูนย์การเรียนรู้สุดอลังการ มิติใหม่ของการจัดแสดงห้องตัวอย่างของโครงการต่างๆ ใน The Forestias  ที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ในทุกมิติเสมือนการอยู่อาศัยจริง ผ่านการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำ ซึ่งคุณจะได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และแนวคิดสำคัญในการพัฒนาโครงการอย่างครบถ้วน  เตรียมเปิดให้เข้าชม และพร้อมเปิดการขายอย่างเป็นทางการ 8 พฤษภาคมนี้  ลงทะเบียนได้ที่ Call Center 1265 หรือ www.MQDC.com   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง MQDC เตรียมเปิด “เดอะ ฟอเรสเทียร์” เมกะโปรเจกต์ 2.5 แสนล้าน ต้นปี 2564 MQDC x THE FORESTIAS ช่วยชีวิตต้นไม้กว่า 500 ต้น สร้างกำแพงธรรมชาติดักฝุ่น PM 2.5 ครั้งแรกของโลกที่ป่าธรรมชาติและสังคมอยู่รวมกันในเมือง THE FORESTIA  
รีวิวพาทัวร์เลาะรั้วรอบบ้าน “ถนนจันทน์”

รีวิวพาทัวร์เลาะรั้วรอบบ้าน “ถนนจันทน์”

รีวิวพาทัวร์เลาะรั้วรอบบ้าน "ถนนจันทน์" ช่วงนี้อากาศกำลังดีค่ะ วันนี้เลยจะพาทุกคนไปเดินเล่นแถวๆ "ถนนจันทน์" กันซักหน่อย ด้วยความที่เป็นพื้นที่คุ้นเคยเพราะเกิดและโตในย่านนี้จนคุ้นชินกับบรรยากาศของชุมชนในระแวก และเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ก็ตั้งแต่ยังไม่ตัดถนนนราธิวาสฯ นั่นแหละ คงไม่ต้องสืบแล้วนะว่าเกิดมานานขนาดไหน อิอิ   ย่านถนนจันทน์เป็นย่านของชุมชนเก่าค่ะ บรรยากาศคึกคักพลุกพล่านตลอดทั้งวัน ที่สำคัญ.. เป็นแหล่งที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินอยู่พอตัว เรียกว่ามีร้านเก่าแก่ ร้านอร่อย ร้านดัง พ่วงด้วยร้านใหม่ๆ ตามสมัยนิยมมาเปิดกันมากมายเลยทีเดียว รอบนี้เราเลือกปักหมุดในโซนหัวถนนที่เชื่อมต่อกับถนนนางลิ้นจี่ ลัดเลาะไปตามถนนจันทน์เก่า แล้วก็วนมาที่ถนนจันทน์ตัดใหม่ (ซื่งไม่ใหม่แล้ว) เพราะเราเห็นว่าโซนนี้มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก มีความร่วมสมัยมากขึ้น มีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่เยอะ คอนโดใหม่ก็แยะ พอๆ กับที่มีร้านชิคๆ คูลๆ อีกหลายร้านจนเราอยากจะขออวดซะหน่อย   เลาะรั้วรอบ "ถนนจันทน์" เริ่มต้นด้วยไลฟ์สไตล์แบบสายเฮลท์ตี้ ต้องไม่พลาดร้าน “Snooze Atlas” ร้านสีเขียวขนาดกะทัดรัดริมถนนนางลิ้นจี่ ที่มี Smoothies Blows คุณภาพไม่กะทัดรัดเลยนะจ๊ะ แต่ละถ้วยอัดแน่นไปด้วยผักผลไม้สดแช่แข็ง อุดมไปด้วยวิตามินธรรมชาติ เราแนะนำให้บูสเช้าวันใหม่กันด้วย “Acai Sunset” เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระจาก Super Fruit ให้เต็มคำกันก่อน แถมยังอิ่มท้องด้วย Topping ที่คัดแล้วว่าดีต่อสุขภาพอีกเพียบ ทั้งเมล็ดเจีย งาขี้ม่อน เกสรผึ้ง โกจิเบอร์รี่ มะพร้าวคั่ว กราโนล่า และผลไม้สด Smoothies ถ้วยนี้ได้รสเปรี้ยวๆ หวานๆ แถมยังเย็นฟรีซสุดๆ กันไปเลย กินแล้วรับรองว่าสดชื่นตลอดทั้งวันแน่นอน   นอกจาก Acai Sunset ที่เราเลือกแล้ว ที่ร้านก็ยังมี Smoothies Blows ให้เลือกอีกหลายแบบ ซึ่งอ่านชื่อเมนูและส่วนผสมแล้วก็อยากลองไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Afternoon Delight, Green Twelve หรือแม้แต่เมนูง่ายๆ อย่าง Strawberry Milkshake ก็เหมาะกับการ take away ในวันที่เร่งรีบ แต่ต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพนะจ๊ะ     บรรยากาศในร้านเล็กๆ แห่งนี้ อัดแน่นไปด้วยต้นไม้สวยๆ แบบทุกซอกทุกมุมคือพื้นที่สีเขียว เหมาะกับสายเช็คอินขยันโพส รับรองว่าคุณจะได้รูปสวยไปลง IG เพียบแน่ๆ  ต้นไม้ที่เห็นในร้านไม่ได้ตั้งโชว์เฉยๆ นะคะ ใครอยากได้เค้าก็ขายจ้า เพราะใกล้ๆ กันมีร้านชื่อ “Garden Atlas” ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน ในร้าน Garden Atlas จะเต็มไปด้วยต้นไม้ยอดฮิตหลายหลายชนิด พร้อมอุปกรณ์เพาะปลูกกะจุ๊กกะจิ๊กอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดปลูก หรือเป็นสายสะสมไม้แปลก เชิญไปเลือกดูที่ร้านนี้ได้เลยค่ะ ร้านน่ารักจนเราขอยกตำแหน่งให้เป็นร้านรวมต้นไม้ที่ชิคที่สุดของย่านนี้ไปเลย     ถ้าไม่ค่อยถูกจริตกับสายเฮลท์ตี้ แต่เป็นสาวกสายแป้งที่อินกับกลิ่นเนย เราแนะนำให้ไปโดน “Amantee The Bakery” ร้านอบขนมปังสัญชาติฝรั่งเศสเจ้าดังที่ฮิตติดท็อปชาร์ตในเวลานี้  ยิ่งถ้าเป็นคนรัก “ครัวซอง” ตัวยงยิ่งห้ามพลาด!!  หลายคนอาจจะเคยกินขนมปังฝรั่งเศสนานาชนิดของร้านนี้มาบ้างแล้วจากสาขาใน Emquartier ซึ่งจุดกำเนิดของขนมปังหอมๆ ในแต่ละวันซ่อนตัวอยู่ในร้านขนาด 2 คูหาบนถนนจันทน์เก่าแห่งนี้นี่แหละ ที่บอกว่าซ่อนตัวนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยนะ เพราะหลายคนคิดไม่ถึงว่า บนถนนจันทน์เก่าที่เป็นถนนเล็กๆ ที่เกือบจะถูกลืมไปแล้วจะมีร้านขนมอบดีๆ มาเปิดกับเค้าด้วย!!     ถ้าใครอยากกินขนมปังอุ่นๆ จากเตา เราแนะนำให้ไปกันแต่เช้า ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะเมนูเด็ดๆ หลายตัวหมดเกลี้ยงตั้งแต่ยังไม่ทันเที่ยงเลยจ้า กลิ่นหอมๆ ของขนมปังอบใหม่มักจะทำให้เราขาดสติ แล้ววัตถุดิบหลักในร้านรวมถึงตัวเชฟก็นำเข้ามาจากฝรั่งเศสทั้งหมด ไม่อร่อยแบบต้นตำรับก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว   สำหรับ Croissant Lover ที่ชื่นชอบเนื้อสัมผัสแบบผิวนอกกรอบนิด เนื้อในนุ่มหนึบ ชุ่มเนยหน่อย ให้รีบไปเก็บแต้มบุญสะสมความอร่อยไว้ได้เลย (แต่สำหรับเราแล้วยังมีร้านอื่นที่มีครัวซองโดนใจกว่านี้ค่ะ) ส่วนขนมปังตัวอื่นๆ ก็อร่อยไม่น้อยหน้ากันนะคะ ระหว่างที่กำลังเลือกขนมอยู่ในร้านเราก็เห็นลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติมาซื้อกลับไปรัวๆ เลยทีเดียวจ้า แล้วจะไม่ให้แนะนำว่าเป็นร้านอร่อยประจำย่านได้อย่างไร     อย่างที่บอกว่าในย่านถนนจันทน์นี้มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ที่ชัดเจนเลยก็คือบริเวณปากซอยเย็นอากาศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “Market Place นางลิ้นจี่” คอมมิวนิตี้มอลล์ ที่มี Tops Market เป็นตัวชูโรง มีผัก ผลไม้ วัตถุดิบทำอาหาร แล้วก็สินค้านำเข้าให้เลือกเยอะเลยค่ะ คงเพราะมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในย่านนี้มากขึ้นด้วยแหละ เลยได้อัพเกรดจากที่เคยเป็นแค่ Tops Supermarket อย่างเดียวก็ขยายพื้นที่มาเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์แทน นอกจากนี้ก็ยังมี ร้านกาแฟ ร้านอาหารชื่อเพิ่มขึ้นมาอีกหลายร้าน รวมถึง Home Pro S ก็มาเปิดที่ชั้นใต้ดินด้วย     สำรวจแหล่งช้อปปิ้งกันเบาๆ แล้ว เรายังมีร้านอาหารมาแนะนำอีก 2 ร้าน 2 สไตล์ เป็นร้านเก่าแก่พอๆ กันทั้งคู่ เริ่มจากมื้อกลางวันแบบง่ายๆ ที่ “ร้านมานี หมูสเต๊ะ” แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าต้องกิน “หมูสเต๊ะ” ซึ่งเป็นเจ้าเก่าจากท่าดินแดง จึงรับประกันเรื่องรสชาติที่ได้มาตรฐาน ทางร้านเลือกใช้หมูอนามัยจากเบทาโกร นำมาหมักเครื่องเทศอย่างดีกินคู่กับน้ำจิ้มหมูสเต๊ะ และเพิ่มรสชาติด้วยอาจาดอีกคำถึงจะครบเครื่อง แต่ถ้าอยากได้อาหารที่หนักท้องมากขึ้น อยากให้ลองสั่งข้าวราดแกง หรือแยกเป็นกับข้าวก็ได้นะคะ พวกเมนูแกงต่างๆ จัดว่าดี เลยอยากแนะนำให้ได้ลองชิมดูค่ะ กับข้าวในร้านก็จะหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน แวะไปกินได้บ่อยๆ เลย     ไปต่อกันที่ร้าน “ครัวสาธร” ร้านเก่าแก่ที่ย้ายมาจากย่านสาทร อาหารในร้านเน้นอาหารไทยสไตล์ครอบครัวค่ะ เพราะมีเมนูให้เลือกมากมาย รสชาติเหมาะกับทุกวัย เมนูที่อยากแนะนำให้ลองคือ 2 เมนูในสไตล์กุ๊กช็อป อาหารฝรั่งสไตล์จีนที่หากินได้ยากอย่าง “สลัดเนื้อสัน” สลัดผักน้ำใส เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อสันในชิ้นหนาที่กริลมาอย่างพอดิบพอดี และ “ซี่โครงหมูอบ” ที่ใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คช้อปคลุกเกล็ดขนมปังทอด แล้วราดด้วยน้ำสตูข้นๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ถือว่าเป็นเมนูเก่าแก่ตัวชูโรงกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมี ปลาช่อนแป๊ะซะ, ถุงทอง, ห่อหมกขนมครก และเมนูตามฤดูกาลอีกหลายจานเลยค่ะที่เห็นชื่อเมนูก็ชวนให้หิวแล้ว     มาถึงร้านสุดท้ายที่ขอเอาใจคนชอบงานคราฟ เราขอจับมือพาไปเที่ยวร้าน “YARNNAKARN x AGO” บริเวณปากซอยนางลิ้นจี่ 4  ร้านขายสินค้าเซรามิกทำมือที่ชิคสุดๆ งานทุกชิ้นเกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้จากธรรมชาติรอบตัว รวมถึงวัตถุดิบที่นำมาใช้ก็ล้วนแต่หาได้ในประเทศไทยทั้งหมดเลยนะคะ พอมาผสมผสานกันแล้วชิ้นงานแต่ละชิ้นก็จะมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน มีความเป็น Master Piece ในตัวเอง ถ้าอยากได้ของแต่งบ้านเก๋ๆ ไม่ซ้ำใครเราแนะนำว่าห้ามพลาดร้านนี้ค่ะ พื้นที่ชั้น 2 ของร้านเปิดโชว์ผลงานเป็นแกลลอลี่เล็กที่มักจะมีงานดีๆ มาจัดแสดงอยู่เรื่อยๆ เช่นกันค่ะ ส่วนพื้นที่ชั้น 3 เป็นร้าน AGO คาเฟ่สุดชิคที่แอบซ่อนตัวอยู่บนดาดฟ้านี่เอง ชั้นบนนี้มีเสื้อผ้าและข้าวของสไตล์วินเทจให้เลือกช้อปกันด้วยนะคะ     เดินดูของกันพอหอมปากหอมคอแล้ว แนะนำให้ลองเลือกเครื่องดื่มซักแก้วจาก AGO Cafe มาดับกระหายสักหน่อยค่ะ นอกจากกาแฟเมนูต่างๆ แล้ว ห้ามพลาด “AGO Special Craft Drink” เครื่องดื่มสุดเก๋ที่รังสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากชื่อถนนนางลิ้นจี่อันเป็นที่ตั้งของร้าน โดยเมนูต่างๆ ของ Craft Drink นี้จะมีส่วนผสมหลักคือ “น้ำลิ้นจี่” แล้วนำมาผสมกับไซรัปที่ทางร้านปรุงขึ้นเอง ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 8 ชนิด แล้วไซรัปแต่ละตัวก็จะให้กลิ่นและรสชาติที่พิเศษแตกต่างกันออกไปนะคะ กลายเป็นเรื่องสนุกเล็กๆ ที่เราได้ลองดมกลิ่นไซรัป แถมยังสนุกกับการชิมเครื่องดื่มในแก้วสวย พร้อมบรรยากาศสบายๆ ของสวนบนดาดฟ้า ที่คล้ายว่าเราได้ปลีกตัวมานั่งพักระหว่างวัน ให้หยุดนิ่งเงียบๆ ซักหน่อยแล้วค่อยไปต่อค่ะ     เสน่ห์ของถนนจันทน์ไม่ได้หมดแต่เพียงแค่นี้นะคะ ถนนสายนี้ยังมีทั้งเรื่องราวที่น่าสนใจและของอร่อยๆ รออยู่อีกมากมาย ไว้เราจะหาโอกาสพาทุกคนมาเที่ยวเล่นแถวบ้านเราอีก แต่ถ้าใครอยากย้ายมาเป็นชาวถนนจันทน์ มาเป็นเพื่อนบ้านในระแวกเดียวกับเรา ลองแวะไปเยี่ยม Sale Gallery โครงการ The ISSARA Sathorn กันได้นะคะ     ตอนนี้เค้ามีโปรโมชันพิเศษ “ISSARA DAY Yes ทุกดีล” 14 - 15 พ.ย.นี้ พบกันได้ที่สำนักงานขายทุกโครงการ เพื่อเลือกข้อเสนอที่ "YES" ตามใจคุณ กับ 9 ทำเลคุณภาพจากชาญอิสสระ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก : https://bit.ly/38pMb8Q วันนี้ - 15 พ.ย. นี้เท่านั้น #IssaraDayYesทุกดีล #Charnissara คลิกเข้าไปดูข้อมูลโครงการกันก่อนที่ The ISSARA Sathorn  
LAKE LEGEND แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ บรรยากาศริมทะเลสาบ

LAKE LEGEND แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ บรรยากาศริมทะเลสาบ

LAKE LEGEND แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ บรรยากาศริมทะเลสาบ LAKE LEGEND แจ้งวัฒนะ ปรากฏการณ์ความร่วมมือระหว่าง พร๊อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (Property Perfect) ผู้นำในการพัฒนาบ้านหรูบรรยากาศทะเลสาบ และฮ่องกง แลนด์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่จากฮ่องกง ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 125 ปี ร่วมรังสรรค์โครงการคฤหาสน์หรูระดับไฮเอนด์แห่งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์   A Waterfront Legacy เปิดบทใหม่แห่งตำนานที่จะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่ LAKE LEGEND ที่ซึ่งคำว่า "บ้าน" ถ่ายทอดความหมายมากกว่าการเป็นแค่พื้นที่พักอาศัย แต่เป็นการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ สร้างความภาคภูมิใจ และแบ่งปันสู่คนที่คุณรัก พร้อมความทรงจำอันแสนล้ำค่าที่ LAKE LEGEND คฤหาสน์ติดทะเลสาบสุดหรู แห่งเดียวบนทำเลศักยภาพ "แจ้งวัฒนะ"   The Artistry of Luxury โครงการคฤหาสน์หรูติดทะเลสาบ ระดับ Super Luxury ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของ "Chateau" ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูง หรือตระกูลเก่าแก่ในฝรั่งเศส อันสง่างามเคียงคู่กับทะเลสาบ มาสู่การออกแบบภายใต้คอนเซปต์ More Than French บนที่ดินผืนพิเศษติดทะเลสาบ 25 ไร่ พร้อมคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ติดทะเลสาบ ศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์และการพักผ่อน ด้วยดีไซน์ยิ่งใหญ่ดุจปราสาท French Castle ต้อนรับที่ด้านหน้าโครงการ พร้อมบริการห้องออกกำลังกาย ฟิตเสน เล้าจ์ และสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ต่อเนื่องสู่ทะเลสาบขนาดใหญ่     ที่นี่รังสรรค์คฤหาสน์ 5 แบบ ออกแบบในสไตล์ Modern French หลังคาทรงสูง เรียบหรู พร้อมฟังก์ชั่นครบครันแบบ Luxury House ที่มีความพิเศษหรูหรา ตั้งแต่ Foyer ทางเข้าหลัก ห้องรับแขกเพดานสูง Double Volume และห้องนอน Master Bedroom ที่เปิดรับวิวทะเลสาบกว้าง รวมถึงรายละเอียดการตกแต่งงานปูนปั้นที่ได้แรงบันดาลใจจากชาโตว์ฝรั่งเศส ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 57 ครอบครัวเท่านั้น   Prime Location เพียง 5 นาที สู่แจ้งวัฒนะ ศูนย์กลางการบริหารราชการและธุรกิจ ของกรุงเทพฯ ทางตอนเหนือ ศูนย์ราชการ าล และองค์กรของรัฐ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่บริษัทชั้นนำ อาคารสำนักงาน ศูนย์กลางการเดินทาง ทางด่วนขั้นที่ 2 รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แล้วเสร็จปี 2565) ใกล้สนามบินนานาชาติ ดอนเมือง ศูนย์กลางการศึกษา มหาวิทยาลัยชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ISSB ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ฯลฯ LAKE LEGEND แจ้งวัฒนะ มีแบบบ้านให้เลือก 5 แบบ Margaret พื้นที่ใช้สอย 346 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Lorraine พื้นที่ใช้สอย 407 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Corsica พื้นที่ใช้สอย 464 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Brittany พื้นที่ใช้สอย 522 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน พร้อม Lake Balcony ติดริมทะเลสาบ Avignon พื้นที่ใช้สอย 570 ตร.ม. ขนาด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 4 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน พร้อม Lake Balcony ติดริมทะเลสาบ   สอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1375  หรือ คลิก Lake Legend   บทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Property Perfect พร็อพเพอร์ตี้ฯ เปิดตัวบ้าน 4 แบบใหม่ รับชีวิต New Normal 7 ไฮไลท์แผนธุรกิจ PF-GRAND สู่เป้าหมายรายได้ 22,000 ล้าน    
ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน คอนโดใกล้จุฬาฯ เพื่อไลฟ์สไตล์ใจกลางเมือง

ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน คอนโดใกล้จุฬาฯ เพื่อไลฟ์สไตล์ใจกลางเมือง

ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน คอนโดใกล้จุฬาฯ เพื่อไลฟ์สไตล์ใจกลางเมือง ลูกสอบติดจุฬาฯ!! แต่บ้านไกล..ทำไงดี? เดี๋ยวนี้ผู้ปกครองจำนวนหนึ่งมีความคิดว่า การเลือกหาที่อยู่อาศัย หรือคอนโดใกล้ๆ โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเผื่อไว้ก็เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไว้เพื่อให้ลูกอยู่อาศัยเอง หรือเผื่อไว้ปล่อยเช่าก็เห็นกันชัดเจนว่าตลาดนี้มี demand อยู่เรื่อยๆ เพราะแต่ละปีมีนิสิต นักศึกษาใหม่เป็นจำนวนหลักหมื่น ยังไม่นับรวมบุคลากรทางการศึกษาอีก ที่ต่างก็ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ๆ ที่ทำงานเช่นกัน   ในขณะที่บางครอบครัวก็วางแผนการศึกษาให้ลูกได้เรียนในสถาบันที่มีชื่อเสียง เป็นเครือเดียวกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ แล้วถ้าเรียนได้เรียนกันแบบยาวๆ ตั้งแต่อนุบาล จนจบปริญญาตรีได้โดยไม่ต้องย้ายโรงเรียน ไม่ต้องเปลี่ยน location เลยยิ่งดี   ครั้นจะรอจนลูกสอบติดเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วค่อยมาหาคอนโดฯ ราคาก็อาจจะแพงจนเกินกำลัง หรือโครงการที่เล็งไว้ก็ยังไม่เริ่มสร้าง กว่าจะรอจนสร้างเสร็จลูกคงเรียนจบก่อน ผิดความตั้งใจในการซื้อกันไปอีก แต่ถ้าลูกยังเล็ก เป็นเด็กประถม หรือมัธยม ก็พอจะมีเวลาให้ค่อยๆ เลือกเปรียบเทียบทำเลโครงการนั้นนี้ได้นานหน่อย เพราะเรื่องความเป็นอยู่ ความสะดวกสบายในด้านต่างๆ ควรจะมีพร้อมรองรับการอยู่อาศัยจริง   ลองไปดูกันหน่อยมั้ย ว่าวัยรุ่นวัยเรียนเค้ามี lifestyle แบบไหนกันบ้าง เค้าฮิต เค้าชอบอะไร แต่ถ้าวัยทำงาน วัยโก๋จะตามไปแฮงค์เอ้าท์ด้วยกันก็ได้อยู่นะ   One day with a girl เช้าๆ ถ้าไม่ต้องเหนื่อยกับการจราจรบนถนนในกรุงเทพฯ นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ เลยทีเดียวสำหรับการเริ่มต้นวันที่สดใส โดยเฉพาะน้องๆ ในวัยเรียนก็จะได้พักผ่อนอย่างเต็มตื่น มีแรงไปลุยกับการเรียน พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ อย่างที่บอกไปแล้วว่าการเลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานที่เรียนเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนสนใจ ครั้งนี้เราเลยจะขอตามติดชีวิตดีๆ ที่ได้อยู่ใกล้ที่เรียน สไตล์สาวจุฬาฯ กันดูค่ะ อยากรู้ว่าในหนึ่งวันที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน     ถึงจะเป็นวันที่มีเรียนคลาสเช้า แต่ก็ไม่ต้องรีบตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพราะ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” อยู่ห่างออกไปไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น เลยพอมีเวลาแต่งตัวให้เรียบร้อยสวยงาม แถมยังไปทันเข้าคลาสแบบไม่รีบจนหัวฟู หลังเรียนก็สามารถใช้เวลาทบทวนบทเรียน ทำรายงานกับเพื่อนก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน เพราะยังไงก็ไม่ต้องรีบร้อนกลัวเวลารถติดแบบที่เคย ส่วนเย็นวันไหนถ้ามีนัดแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ต่อตอนเย็น ยิ่งสะดวกเลยทีเดียว เพราะสามารถกลับไปเก็บข้าวของ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ เผลอๆ บางทีอาจจะยังมีเวลาเหลือให้ได้พักอ่านหนังสือ ทำงานอดิเรกอื่นๆ ก่อนจะถึงเวลานัดอีกด้วยนะ นี่แหละข้อดีของการเลือกอยู่ในทำเลดีๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตได้ครบถ้วน   Old Town New Time นับจากบริเวณ MRT สามย่าน ห่างมาแค่ 750 เมตร น้องนักศึกษาคนสวยของเราสามารถเดินอย่างชิวๆ ผ่านตึกรามบ้านช่อง และซึมซับบรรยากาศย่านชุมชนเก่าบนถนนสี่พระยามาได้เรื่อยๆ แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็ถึงคอนโดแล้ว   ถึงแม้จะเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ยังคงบรรยากาศของชุมชนเก่าแก่ที่มีพร้อมแทบจะทุกอย่างในตัวเอง ร้านค้าร้านอาหารอร่อยๆ ระดับตำนานที่อยู่คู่ชุมชนมายาวนานก็มีให้เลือกเยอะแยะ แถมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมายพร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสามย่านมิตรทาวน์ จามจุรีสแควร์ หรือแหล่งช้อปปิ้งของวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัยอย่าง สยามสแควร์ ก็อยู่ใกล้ๆ ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรเท่านั้น เลยไม่ต้องแปลกใจถ้าทำเลในย่านนี้จะถูกใจคนหลากหลายช่วงวัย เพราะรูปแบบการใช้ชีวิตบนคอนโดมิเนียมแบบคนรุ่นใหม่ ก็สามารถผสานเข้ากับเสน่ห์ของชุมชนเดิมได้อย่างลงตัว   Bichaya (พิจัย) คาเฟ่น้องใหม่ล่าสุดของย่านนี้ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการผสมผสาน lifestyle ใหม่ๆ ในบรรยากาศเก่าไว้อย่างเนียนๆ ถ้าวันไหนมีเวลาว่างมากหน่อย การเปลี่ยนฟิวมานั่งดื่มกาแฟ หรือกินขนมอร่อยในร้านเก๋ๆ แบบนี้ ก็เป็น lifestyle ที่คนยุคนี้นิยมกันมาก   ร้านพิจัย มีกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ ให้เลือกหลายเมนูเลยทีเดียว แต่ที่ออกจะดึงดูดเราได้มากก็คือ Bakery ต่างๆ ที่น่ากินเป็นที่สุด ซึ่งกลิ่นกาแฟ พร้อมขนมอบหอมๆ ที่ตลบอบอวลอยู่ในร้านก็เรียกความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี  แล้วที่เด่นมากๆ ก็คือ บรรยากาศภายในร้าน ที่ตกแต่งในสไตล์ลอฟท์นิดๆ โชว์โครงสร้างอิฐเดิมไว้ มีกระจกบานใสเปิดรับแสงธรรมชาติได้เกือบรอบด้าน แถมภายในร้านยังปลูกต้นไม้ตกแต่งไว้เยอะเลยแหละ เห็นเป็นร้านขนาดกะทัดรัดแบบนี้ แต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้เยอะมากเลยทีเดียว   สวนหลวงสแควร์ ถ้าเบื่อบรรยากาศ ร้านรวงเดิมๆ ในสยามสแควร์แล้ว “สวนหลวงสแควร์” ก็เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ที่กำลังฮิตไม่น้อยในหมู่น้องๆ ชาวจุฬาฯ เพราะมีร้านอาหารให้เลือกมากมายหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะสายแซ่บ สายคาว สายหวาน มีครบจบในทีเดียว สังเกตง่ายๆ ร้านไหนโดนใจวัยรุ่นมากหน่อยเราก็จะเห็นน้องๆ ยืนเข้าแถวต่อจองคิวกันให้แน่นร้าน   แต่ในสวนหลวงสแควร์ก็ไม่ได้มีดีแค่เรื่องกินอย่างเดียวนะ บริเวณนี้ยังมี street art อีกเพียบเลย ลองได้มีเวลาเดินเล่นซักนิด ชวนก๊วนเพื่อนมาอีกซักหน่อยรับรองว่าได้รูปเท่ห์ไว้ลงอวดเพื่อนได้อีกนานแน่นอน ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน ถ้าคอนโดมิเนียมใกล้สถานศึกษาเป็นโจทย์หลักที่กำลังต้องตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย “ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน” น่าจะเป็นหนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะทำเลที่ตั้งของโครงการนี้ไม่ได้มีดีแค่ใกล้สถานศึกษาทั้งรัฐฯ และเอกชนชื่อดังระดับท็อปของประเทศเท่านั้น แต่ยังเพียบพร้อมด้วยบรรยากาศความเป็นชุมชนเก่าผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งงาน แหล่งช็อปปิ้งยอดฮิตตามสมัยนิยมได้อย่างลงตัวจนแทบจะแยกจากกันไม่ได้   การเลือกปักหมุดบนถนนสี่พระยา ในตำแหน่งที่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่านเพียง 750 เมตร แต่อยู่ท่ามกลางชุมชนเดิมที่เต็มไปด้วยประวัติอันยาวนาน กลับทำให้ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน มีจุดเด่นที่น่าสนใจจนไม่อาจมองข้ามได้เลยทีเดียว     บริเวณรอบๆ นี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารเก่าแก่หลายเจ้า อาคารสำนักงานเอกชนก็มีให้เห็นหลายตึก รวมถีงสำนักงานเขตบางรัก และสถานีตำรวจก็อยู่ห่างออกไปแค่มุมถนนเท่านั้น ตลอดสองข้างทางถนนยังมีต้นไม้ให้ความร่มรื่นเยอะพอตัวเนื่องจากเป็นถนนสายเก่า จึงลดทอนความวุ่นวายของการจราจรหนักๆ แบบถนนใหญ่ไปได้เยอะพอตัว จนเราแอบคิดว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่เหมาะกับการอยู่อาศัยได้จริงของย่านนี้ แถมทางศุภาลัยเองก็เลือกใช้แบรนด์ Premier มาจับกลุ่มตลาดที่ต้องการห้องชุดขนาดใหญ่แบบอยู่กันได้เป็นครอบครัวในราคาจับต้องได้มากกว่าจะเลือกขายห้องขนาดเล็กในจำนวนยูนิตเยอะๆ แบบโครงการอื่นริมถนนพระราม 4 ที่ราคาสูงลิบ   ด้วยขนาดห้องเริ่มต้น 41.50 - 55 ตร.ม. สำหรับ 1 Bedroom ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางไม่น้อยเลยสำหรับคอนโดใจกลางเมือง ยิ่งได้เห็นราคาโปรโมชั่นเริ่มต้นเพียง 3.69 ล้านบาท ก็ยิ่งเชื่อได้เลยว่าจะขายหมดเกลี้ยงด้วยความรวดเร็วอีกเช่นเดิม เพราะคอนโดจากศุภาลัยโครงการนี้จะไม่ต้องเป็นแค่ที่พักอาศัยชั่วคราวในวันที่เด็กๆ มีเรียนเท่านั้น คนในวัยทำงาน หรือครอบครัวขยายก็เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ควรพลาดมาจับจองเป็นเจ้าของ   ห้องตัวอย่าง Type 1 Bedroom ในขนาด 55 ตร.ม. ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง บรรยากาศโปร่งสบายด้วยฝ้าเพดานที่สูงถึง 2.8 เมตร พื้นที่ใช้สอยกว้างมาก ทำให้มีพื้นที่ในการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ได้เป็นอย่างดี แถมยังมี walk-in closet ได้สบายๆ พื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียงกว้างด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ บริเวณระเบียงสามารถใช้งานได้จริง ทางโครงการออกแบบห้องครัวเป็นแบบครัวปิด พร้อมออฟชั่นการจัดเก็บเครื่องครัวให้เป็นระเบียบ และชุดครัวแบบ Build-in ที่ให้มาพร้อมห้อง การออกแบบห้องน้ำสไตล์ใหม่ที่ใส่ใจการใช้งานอย่างแท้จริง ทั้งกระจกนิรภัยแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียก พร้อมชุดฝักบัว และเครื่องทำน้ำอุ่นที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อย ห้อง Type 2 bedroom ขนาด 80 ตร.ม. สำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว ห้องชุดแบบ 2 Bedroom ก็มีพื้นที่กว้างขวางมากพอที่จะให้ทุกคนในครอบครัวได้มีพื้นที่ส่วนตัว จุดเด่นของของแบบ 2 Bedroom  ที่เป็นห้องมุม ทำให้ห้อง master bedroom มีกระจกเข้ามุมสามารถเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ห้องนอนที่ 2 หรือห้องนอนเล็ก สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตามความต้องการ จะใช้เป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้ พื้นที่ครัวปิดเป็นสัดส่วนพร้อมชุดครัว ทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เคาน์เตอร์ครัวที่มาพร้อมฟังก์ชั่นในการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม บ.ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บทความอื่นๆ เกี่ยวกับศุภาลัย ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต ทาวน์โฮม    
Malton Private Residences สุขุมวิท 31 บ้านหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่

Malton Private Residences สุขุมวิท 31 บ้านหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่

Malton Private Residences สุขุมวิท 31 บ้านหรู เพียง 7 ยูนิตใจกลางสุขุมวิท MALTON บ้านที่บรรจงสร้างขึ้นด้วยความเคารพในคุณค่าของชีวิต ที่สอดประสานกันอย่างสวยงามและท่วงทำนองของความสุขที่กลมกลืน บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดตัวบ้านหรูระดับ Super Luxury ภายใต้แบรนด์ “Malton Private Residences” ชูจุดเด่น Prime-Pride-Privacy ควบคู่ดีไซน์ร่วมสมัยเหนือกาลเวลา ตัวบ้านดีไซน์ในรูปแบบ Contemporary Classic ผสานกับการตกแต่งภายในที่มีให้เลือกทั้งแบบ Modern Classic และ Modern Loft บนทำเลที่ดีที่สุด และหายากอย่างสุขุมวิท ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพใจกลางเมือง   PRIME ● PRIDE ● PRIVACY เพื่อสรรค์สร้างความสุขที่กลมกลืนและเป็นส่วนตัวสูงสุด ในบ้านเพียง 7 หลัง บนพื้นที่กลางใจเมืองที่หาได้ยากที่ สุขุมวิท 31 แหล่งรวมทุกไลฟ์สไตล์แต่ไม่ห่างไกลความสงบร่มรื่นเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ แบรนด์ Malton Private Residences จึงถูกพัฒนาภายใต้ 3 องค์ประกอบหลัก คือ   1.Prime คือ การเลือกสรรทำเลที่ดีที่สุด ที่เรียกได้ว่าเป็น Rare item มาใช้ในการพัฒนาโครงการ 2.Pride คือความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ ซึ่งส่งผ่านรูปแบบการดีไซน์ที่ทรงคุณค่าเหนือการเวลา (Timeless Design) และวัสดุระดับท็อปที่ถูกเลือกสรรมาด้วยความตั้งใจ 3.Privacy ความเป็นส่วนตัว ซึ่งถึงแม้โครงการจะอยู่ใจกลางเมือง แต่ทำเลก็ต้องตอบโจทย์เรื่องความสงบ รวมถึงมีจำนวนยูนิตไม่มากนักเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุดของผู้อยู่อาศัย   Neo-classical architecture exudes timeless elegance สถาปัตยกรรม Neo Classical ผสานสัมผัสร่วมสมัยที่เรียบง่าย สร้างบนที่ดินผืนใหญ่ โดยจัดวางตำแหน่งบ้าน เพื่อให้มุมมองที่โอ่อ่า และพื้นที่แวดล้อมที่กว้างขวาง ผสานกลิ่นอายของสถาปัตยกรรม Londonesque ในแบบบ้าน Modern Classic และ Modern Loft การออกแบบภูมิสถาปัตย์ให้สอดรับกับความงดงามของสถาปัตยกรรม ให้ธรรมชาติโอบกอดคุณ ด้วยการเชื่อมต่อพื้นที่สวนภายนอกกับภายในบ้านนำความเขียวชอุ่มชุ่มชื่นของสวนมาสู่ตัวบ้าน จัดสรร Central Courtyard ให้คุณ บนพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ที่ตัดแต่งเป็นกำแพงธรรมชาติ พื้นที่สวนจะโอบล้อมคุณไว้ในความสงบส่วนตัว   โครงการ “Malton Private Residences Sukhumvit 31” เลือกใช้วัสดุตกแต่งจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ ชุดครัวจาก Poggenpohl, Dorn Bracht, Franke ชุดสุขภัณฑ์และอ่างอาบน้ำจาก Axor, Kohler, Hansgrohe ยังมาพร้อมกับการตกแต่งภายในที่เหนือระดับด้วย Furniture Built-in ครบทั้งหลัง โดยมีรูปแบบการตกแต่งภายในให้เลือกได้ถึง 2 สไตล์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน ได้แก่   1.Modern Classic Style ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัย หรูหราเหนือระดับ ออกแบบและตกแต่งสถาปัตยกรรมภายใน (Interior Design) โดย DWP บริษัทออกแบบภายในพร้อมรางวัลการันตีระดับโลก 2.Loft Style ที่เน้นการตกแต่งให้ดู ทันสมัย เรียบหรู สะท้อนถึงความสงบนิ่งและความสุขุมเยือกเย็น ออกแบบและตกแต่งภายในโดย Begray Bangkok บริษัทออกแบบภายในชั้นนำ     บทความเกี่ยวกับ Malton Private Residences MJD ลุยตลาดบ้านซูเปอร์ลักชัวรี่รอบ 20 ปี ปักหมุด 2 ทำเลสุขุมวิท-อารีย์ Malton Private Residences Ari  
เตาปูน ของเราน่าอยู่ [VDO Review Around]

เตาปูน ของเราน่าอยู่ [VDO Review Around]

เตาปูน ของเราน่าอยู่ สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยู่กันที่สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน จุดที่เป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง วันนี้เราจะพาไปสำรวจทำเลรอบๆ นี้นะคะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง รวมไปจนถึงถนนประชาราษฎร์สาย 2 ถนนสายหลักว่ามีอะไรอัพเดทและน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ   สาเหตุที่เราเลือกทำเลเตาปูนมาพาชมกันในครั้งนี้นะคะ ก็เพราะว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย มาพร้อมๆ กับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงนะคะ ทำให้บริเวณรอบๆ นี้มีปัจจัยสนับสนุนหลายข้อเลยค่ะ ที่ทำให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย   ข้อแรกเลยค่ะ การเป็นศูนย์กลางของการเดินทาง บริเวณเตาปูนนอกจากจะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้ามากถึง 3 สายแล้ว ยังมี “สถานีกลางบางซื่อ” ศูนย์กลางการคมนาคมระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!!  ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเองค่ะ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางที่จะเชื่อมโยงรถไฟทางไกล รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าไปทางสุวรรณภูมิ รวมไปถึงรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมไปสู่สนามบินทั้ง 3 แห่งอีกด้วย ไม่เพียงแต่การเดินทางด้วยระบบรางเท่านั้น การเดินทางต่อด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ หรือแม้แต่การต่อเรือด่วนเจ้าพระยา ก็มีการเดินทางเชื่อมโยงถึงกันครบถ้วนเลยทีเดียวค่ะ   แล้วถ้าใครที่คุ้นเคยกับทำเลในเตาปูนอยู่พอสมควรแล้วนะคะ คงจะทราบกันดีว่า บริเวณนี้เป็นย่านการค้าเก่าแก่ ที่ดำเนินธุรกิจกันมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นแหล่งชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยกันมานานแล้ว ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทำเลเตาปูนมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก และด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชน ดังนั้นในย่านนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควรเลยทีเดียวค่ะ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านดังๆ เก่าแก่อยู่เยอะแยะเต็มไปหมดเลย แค่ลงจากสถานีเตาปูนก็จะเจอกับตลาดเตาปูนเลย พื้นที่บริเวณนี้ก็จะมีร้านค้าเยอะ ก็สามารถจับจ่ายซื้ออะไรก็มีครบแทบทุกอย่างเลยค่ะ ถัดไปอีกหน่อยก็มี gateway @บางซื่อ ห้างใหญ่ประจำย่าน ที่ใครๆ ก็รู้กันดีว่า เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ที่แฮงค์เอ้าท์ มีร้านอาหารเยอะ แล้วก็มีความบันเทิงรวมอยู่อีกมากมาย ทำให้บริเวณในรอบๆ นี้ คึกคักขึ้นมาทันตา   สำหรับข้อสุดท้ายที่อาจจะไม่ท้ายสุด ที่ทำให้เตาปูนมีแรงดึงดูดมากก็คือ "ศักยภาพในด้านธุรกิจ" อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นย่านการค้าที่เก่าแก่ อย่างถนนสายไม้ที่หลายคนรู้จักกันดีใน "ซอยประชานฤมิตร" ก็จัดเป็นศูนย์กลางของสินค้าประเภทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพเลยแหละ ในขณะเดียวกันบริเวณรอบๆ ก็ยังมีแหล่งงานขนาดใหญ่ทั้งของรัฐและเอกชน มีโรงพยาบาล สถานศึกษา และในอนาคตอันใกล้ยังจะมีพื้นที่ช็อปปิ้งขนาดใหญ่เพิ่มเติมในบริเวณสถานีกลางบางซื่ออีกด้วย!!   เตาปูน ของเราน่าอยู่ ด้วยปัจจัยที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เลยไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบริเวณเตาปูน และ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 มีโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ ผุดขึ้นมากมายเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละโครงการก็มีจุดเด่น จุดขายที่งัดออกมาเอาใจ target ของตลาดแบบไม่ยอมน้อยหน้ากันเลย....  ครั้งนี้เราจะพาไปเดินสำรวจในบริเวณรอบๆ นี้ว่า แต่ละโครงการบนทำเลนี้มีอะไรน่าสนใจ และอัพเดทไปถึงไหนกันบ้างแล้ว Niche pride เตาปูน interchange เริ่มกันที่โครงการแรกกันเลยค่ะ  Niche pride เตาปูน interchange โครงการจากเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่จัดว่าใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากที่สุด เพราะแค่ลงบันไดจากสถานีที่ทางออกที่ 4 บันไดสถานีก็แทบจะจ่ออยู่ที่หน้าโครงการแล้ว  ปัจจุบันตัวโครงการใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วนะคะ  จุดเด่นของเสนาก็คงเป็นเรื่องการใช้ solar cells ในส่วนกลาง ที่จะช่วยลดภาระค่าส่วนกลางได้ในระยะยาว และมี facility ส่วนกลางครบสุดๆ ไปเลยจ้า ตอนนี้มียูนิตเหลืออีกไม่มาก แถมยังมีโปรโมชั่นล่าสุดในราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาทอีกด้วย Chewathai interchange ถ้า Niche Pride ติดทางออกที่ 4 นะคะ Chewathai Interchange ก็เป็นอีกโครงการที่บันไดทางออกที่ 1 ติดหน้าโครงการเลยเช่นกันค่ะ คอนโดนี้จะนับเป็นโครงการแรกๆ ของเตาปูนก็ได้นะ เพราะสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 58 แล้ว แน่นอนว่า sold out กันไปเรียบร้อย ถ้าใครสนใจอาจจะต้องไปดูว่ามีเจ้าของห้องคนไหนประกาศขายอยู่รึเปล่า ถึงจะมาก่อนใคร แต่แว่วว่า การปล่อยเช่าก็ทำราคาได้ดีไม่แพ้โครงการอื่นๆ เลยนะคะ Ideo mobi บางซื่อ grand interchange ยังอยู่กันที่รอบๆ สถานีเตาปูนนะคะ แค่ข้ามมาอีกฝั่งนึงเท่านั้นเอง ขยับมาทางถนนประชาชื่น ก็จะเจอกับ Ideo mobi บางซื่อ grand interchange  อีกโครงการที่สร้างเสร็จไปตั้งแต่ปี 60 แต่ยังคงมียูนิตเหลือขายอยู่ค่ะ โครงการนี้ชูจุดเด่นในเรื่องความใกล้รถไฟฟ้าถึง 3 สาย แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้อยู่ติดสถานีนะจ๊ะ แค่อยู่ในระยะ 300 เมตร ที่เดินได้กำลังดี มี facility ชุดใหญ่บนชั้นสูงๆ ที่วิวสวยใช้ได้เลยแหละ ถ้าสนใจตอนนี้มีโปร เฟอร์ครบ ลดแรง เริ่มที่ 3.35 ล้านบาท ถ้าใครสนใจก็เข้ามาดูกันได้ค่ะ Lumpini place เตาปูน interchange ที่นี้ขยับมาดูอีกฝั่งหนึ่ง มาที่ทางออกที่ 2 ของสถานีเตาปูนบ้างค่ะ ห่างออกไปประมาณ 120 เมตร จะเจอกับโครงการใหม่ล่าสุดของย่านนี้ Lumpini place เตาปูน interchange โครงการนี้อยู่ริมถนนกรุงเทพ-นนทบุรี  ใกล้กับตลาดสดเตาปูนมากๆ ขึ้นขึ้นชื่อว่าลุมพินี แค่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ยอดขายก็พุ่งไปที่ 50% แล้วค่ะ ก็ราคาขายเปิดเริ่มต้นมาที่ 1.99 ล้านบาทเท่านั้น แต่ facility ส่วนกลางไม่ได้เยอะมากตามสไตล์เค้าล่ะ กับขนาดห้องเริ่มต้นที่ 22.5 ตร.ม. เท่านั้นนะคะ ตอนนี้มีโปรน่าสนใจอยู่เข้าไปดูกันได้ และตัวโครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 65 ค่ะ Rich park 2 @เตาปูน interchange กลับมาที่ถนนประชาราษฏร์สาย 2 กันค่ะ ถนนเส้นหลักที่เราพามาดูในครั้งนี้กันค่ะ อีกหนึ่งโครงการที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้เปิดตลาดย่านเตาปูนก็คือ Rich park 2 @เตาปูน interchange โครงการนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 57 แล้ว แต่ยังคงมียูนิตเหลืออยู่อีกนิดหน่อย ความน่าสนใจคือ ขนาดห้องค่ะ เป็นแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดเลยนะคะ โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 28 ตร.ม. และโปรโมชั่นตอนนี้เปิดมาที่ราคา 1.99 ล้านบาทเท่านั้น  เป็นราคาโปรนี้เลยเร้าใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ The stage @เตาปูน ขยับกันมาที่โครงการต่อไปคือ The stage @เตาปูน อีกหนึ่งโครงการที่ยังมียูนิตเหลือขาย ที่ทางโครงการกำลังเร่งทำโปรเพื่อปิดการขายให้ได้ สำหรับห้องขนาดเริ่มต้นที่ 33.2 ตร.ม. นะคะ ด้วยราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาทเท่านั้น ภายในโครงการก็มี facility ครบเลยนะ แถมส่วนกลางก็ได้วิวดีด้วยแหละ The Tree Interchange ในบรรดาโครงการทั้งหมดบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ต้องยกให้กับโครงการ The Tree Interchange เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุด เพราะมียูนิตรวมมากกว่า 1,700 ยูนิตเลยทีเดียว เหตุผลนึงที่ทำให้โครงการนี้เป็นที่น่าสนใจและขายหมดเร็วกว่าโครงการอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันก็อาจจะเป็นเพราะว่า เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Gateway @บางซื่อ มากๆ เลยค่ะ ชนิดที่ว่าใช้รั้วติดกันเลยทีเดียว Chewathai Residence บางโพ อีกหนึ่งโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Gateway @บางซื่อ ก็คือ โครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ โครงการนี้ขยับไปทางสถานีบางโพนะคะ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวสถานีเพียง 80 เมตรเท่านั้นค่ะ อาจจะเป็นโครงการที่ไม่ใกล้สถานีเตาปูนนะคะ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าไม่ต่างกันเลยค่ะ   เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับบรรยากาศในย่านเตาปูน ที่เราไล่เรียงกันมาตั้งแต่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน ถึงสถานีบางโพ รวมถึงบริเวณท่าน้ำบางโพแห่งนี้ คงได้เห็นกันแล้วว่าทำเลในย่านเตาปูนนี้มีความพร้อมและเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยมาก และในอนาคตอันใกล้นี้ โครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชนจะพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ ทั้งรัฐสภาแห่งใหม่ที่เห็นทางด้านหลังนี้ รวมถึงสถานีกลางบางซื่อด้วยค่ะ พอทุกอย่างเสร็จสมบูรณแล้ว บริเวณในย่านเตาปูนและทำเลใกล้เคียง ก็น่าจะเป็นแหล่งงาน แหล่งธุรกิจ ไปจนถึงที่อยู่อาศัยที่น่าจับตามองเลยทีเดียวค่ะ   บทความอื่นๆ เกี่ยวกับเตาปูน 5 ปัจจัยหนุนทำเลเตาปูน สู่ย่านใจกลางธุรกิจแห่งใหม่ รีวิวคอนโด ส่องทำเลเตาปูน-บางโพ ฉบับอัปเดต 2563  
ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน : Preview โครงการใหม่ใกล้ จุฬาฯ

ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน : Preview โครงการใหม่ใกล้ จุฬาฯ

ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน : Preview โครงการใหม่ใกล้ จุฬาฯ คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ล่าสุดจาก บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ปักหมุดทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ริมถนนสี่พระยา เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าทั้ง MRT และ BTS แถมยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างอย่างครบครัน ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน (Supalai Premier สี่พระยา-สามย่าน) เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น มียูนิตรวม 384 ยูนิต ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “Old Town New Time” โดยการนำเครื่องประดับที่มีคุณค่าอย่าง “ไข่มุก” มาเป็นแนวคิดประยุกต์ใช้ในการออกแบบโครงการ  ด้วยรูปทรงธรรมชาติของไข่มุก ที่มีลักษณะเส้นสายโค้งมน นำมาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมชุมชนในสมัยอดีต เพื่อออกแบบโครงสร้างอาคาร  อีกทั้งยังนำรูปแบบของเส้นเปลือกหอยไข่มุกที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้งเว้าวนรอบที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวแบบอิสระไม่มีที่สิ้นสุด มาประยุกต์ใช้ในงานสถาปัตยกรรม เพื่อผสมผสานให้เกิด มิติสัมพันธ์  มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น โดยสร้างความต่อเนื่องของเส้นสายและการหักมุมโค้งเพื่อให้เกิดความลื่นไหล รวมทั้งการสร้างความกลมกลืนด้วยเส้นโค้งที่เชื่อมต่อกัน จนเป็นรูปแบบที่ทันสมัยตอบสนอง  LIFESTYLE ของคนรุ่นใหม่ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ อยู่ริมถนนสี่พระยา ซึ่งเป็น ทำเลศักยภาพสูง ใจกลางเมือง เชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามย่าน เพียง 750 เมตร ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนด่านพระราม 4 อีกทั้งยังสามารถเดินทางเข้าสู่ถนนสายสำคัญต่างๆ อาทิ ถนนสาทร, สีลม, สุรวงศ์, พระราม 3, พระราม 4, วิทยุ, สุขุมวิท, อโศก เป็นต้น   นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับ ศูนย์กลางย่านธุรกิจ (Central Business Districts - CBD Area) และ สถานศึกษาชั้นนำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ตึก Empire Tower, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สาธิตจุฬาฯ, อัสสัมชัญ คอนเวนต์, กรุงเทพคริสเตียน, เตรียมอุดมศึกษา, เซนต์โยเซฟคอนเวนต์, สาธิต มศว.ปทุมวัน เป็นต้น   อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า, Shopping Mall, ร้านอาหาร, โรงแรม,โรงพยาบาล ชื่อดังมากมาย อาทิ สามย่านมิตรทาวน์, สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, มาบุญครอง, สยามเซ็นเตอร์, สีลมคอมเพล็กซ์, จามจุรี สแควร์, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, Pullman Bangkok Hotel G, โรงแรม เลอ เมอริเดียน, โรงแรมมณเฑียร  สุรวงศ์, เป็นต้น   ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน : Preview โครงการใหม่ใกล้ จุฬาฯ ภายในโครงการ ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน (Supalai Premier สี่พระยา-สามย่าน) เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือกว่าด้วยสระว่ายน้ำที่ชั้น 8 พร้อมห้องออกลังกาย (Fitness) , ซาวน่า และ สวนลอยฟ้า (Roof Garden) และพื้นที่พักผ่อนบนชั้นดาดฟ้า (Sky Bar) เพื่อการพักผ่อนที่แท้จริง สามารถสัมผัสทิวทัศน์ใจกลางเมืองบรรยากาศโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางโครงการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัย โดยตั้งใจมอบความสงบ และความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนอย่างแท้จริง มั่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่เหนือกว่าด้วยระบบกล้อง CCTV, ระบบป้องกัอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm, Video Door Phone พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.   Type ห้องแบบต่างๆ สำหรับ Type ห้องของโครงการ ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน (Supalai Premier สี่พระยา-สามย่าน) มี 3 แบบหลัก 1 Bedroom ขนาด 41.50 - 55.00 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาด 73.0 - 85.0 ตร.ม. 3 Bedroom ขนาด 129.5 - 139.00 ตร.ม.     สำหรับราคาเริ่มต้นของโครงการนี้ เปิดมาที่ 3.69 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 85,000 บาท/ตารางเมตร โดยกำหนดวันเปิดขายรอบ Pre-sale วันที่ 26-27 ก.ย. 63  สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  โทร. 1720   โครงการอื่นๆ ของ ศุภาลัย คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต คอนโด ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่    
รีวิว The Lofts สีลม คอนโดพร้อมอยู่บนถนนสีลม ใกล้ BTS พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

รีวิว The Lofts สีลม คอนโดพร้อมอยู่บนถนนสีลม ใกล้ BTS พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

The Lofts สีลม คอนโดพร้อมอยู่บนถนนสีลม ใกล้ BTS พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการ The Lofts สีลม คอนโดมิเนียมจาก บริษัท ไรมอน แลนด์ สีลม จำกัด ตั้งอยู่ในซอยประมวญ ถนนสีลม ซึ่งนับเป็นทำเลธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ด้วยเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำมากมาย รวมไปถึงแหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหารมีระดับ, สถานศึกษาและสถานพยาบาลต่างๆ อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเดินทางที่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสุรศักดิ์, ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย อย่าง สีลม, สาทร ฯลฯ จึงเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมือง ทั้งที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัย (Real Demand) และผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุน (Investor)   จุดเด่น โครงการนี้นอกจากทำเลที่ตั้งบนถนนสีลมอันเป็น Prime Location ของกรุงเทพฯ แล้ว ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการตกแต่ง “สไตล์ลอฟท์” ภายใต้แนวคิด “Symphony of life” และเป็น “อาคารหายใจได้” เนื่องจากตัวอาคารได้รับการออกแบบให้มีช่องลมทั้งแนวขวางและแนวตั้งตามตัวอาคาร ที่ช่วยให้ลมวิ่งลอดทะลุแต่ละห้องชุด รวมถึงใจกลางอาคาร ซึ่งจะช่วยลดการสะสมความร้อนภายในอาคาร และสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายใจสบายกายและผ่อนคลายไปกับการอยู่อาศัย จึงเรียกได้ว่า เดอะ ลอฟท์ สีลม เป็นคอนโดมิเนียมสไตล์ลอฟท์หายใจได้เพียงแห่งเดียวบนทำเลทองแห่งนี้ ตัวห้องพักอาศัยโดดเด่นด้วยเพดานสูง ตั้งแต่ 3 – 5.6 เมตร พร้อมสไตล์การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละห้อง เน้นเจาะกลุ่มทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และซื้อเพื่อการลงทุน (Investor) ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 8.96 ล้านบาท   เดอะ ลอฟท์ สีลม คอนโดมิเนียม High Rise ระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ สูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ยูนิตรวม 268 ยูนิต มูลค่ารวมโครงการทั้งหมด 3,500 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 230,000 บาท/ตารางเมตร ตัวอาคารตั้งอยู่ในซอยประมวญ ถนนสีลม บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 2-0-10 ไร่ (3,240 ตารางเมตร) ซึ่งห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสุรศักดิ์เพียง 430 เมตร, ใกล้ MRT สีลม และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชเพียง 600 เมตร รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญอย่าง โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์, โรงเรียนกรุงเทพ คริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม, โรงพยาบาลเลิดสิน, เอ็มไพร์ ทาวเวอร์, อาคารสาทรธานี, สาทร ซิตี้ ทาวเวอร์, เอไอเอทาวเวอร์, ตึกมหานคร, อาคาร ITF, ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เป็นต้น     ด้านการตกแต่งทั้งหมดถูกออกแบบเป็น “สไตล์ลอฟท์” ที่มีความเท่ เรียบหรู ทันสมัย สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้พักอาศัย แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่น ตัวอาคารภายนอกประดับด้วยกระจกสีเขียวตัดแสงเพื่อช่วยลดความร้อนจาก ภายนอก ส่วนภายในอาคารมีการเว้นช่องระบายอากาศทั้งแนวตั้งและแนวขวางไปตามตัวอาคาร เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของลมธรรมชาติ และช่วยระบายความร้อนจากภายใน Room Type ห้องพักอาศัยทุกแบบเป็นเพดานสูงทั้งหมด โดยแต่ละแบบจะมีความสูงจากพื้นถึงเพดานที่ต่างกัน เริ่มจาก ห้อง High Ceiling Hybrid ชั้น 9 -18 เพดานสูง 4.7 เมตร แบบสตูดิโอและ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32 – 58.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.96 ล้านบาท ห้อง Simplex ชั้น 19 -28 เพดานสูง 3 เมตร แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 45.5 – 84.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.85 ล้านบาท ห้อง Duplex ชั้น 29 - 33 เพดานสูง 5.6 เมตร แบบ 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 108.5 – 113.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 27.9 ล้านบาท ห้อง Penthouse ชั้น 35 – 37 เพดานสูง 5 เมตร มี 4 ห้องนอน   The Lofts สีลม คอนโดพร้อมอยู่บนถนนสีลม ใกล้ BTS พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเดียวกัน โครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม ยังพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเต็มในพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ สวนและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่, สนามเด็กเล่น, Lobby เพดานสูง, ห้องอ่านหนังสือ ที่บริเวณชั้น 1, Herb Garden สวนไม้หอมและสวนสมุนไพรที่บริเวณชั้น 9, ห้องออกกำลังกายเพดานสูง, ห้องอบไอน้ำแยกชาย/หญิง สกายเดค และสกายเลาจน์ อีกทั้งสระว่ายน้ำเด็ก, สระจากุซซี่ และสระว่ายน้ำไร้ขอบ 25 เมตร บนชั้น 34 ที่จะทำให้ผู้พักอาศัยได้ทำกิจกรรมยามว่างท่ามกลางวิวสวยๆ ของโค้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และแสงสุดท้าย ของพระอาทิตย์ตกในยามเย็น     ที่โครงการเตรียมพื้นที่ขนาดกว้างสามารถรองรับที่จอดรถได้ถึง 204 คัน ซึ่งคิดเป็น 76% ของจำนวนยูนิตในโครงการ (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ณ บริเวณชั้น 2 – 8 มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, ระบบกล้องวงจรปิด, คีย์การ์ดเพื่อเข้าออกโครงการและคีย์การ์ดเฉพาะชั้น ไม่เพียงเท่านั้นโครงการนี้ยังมีพนักงานต้อนรับสำหรับบริการลูกบ้าน เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยดูแลและช่วยเหลือทุกความต้องการของลูกบ้านในทุกมิติ   บทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Raimon Land เปิดแผนธุรกิจ ไรมอน แลนด์ ลุยตลาดเชิงรุก สู้วิกฤตโควิด-19 พรีวิวThe Lofts Silom – เดอะ ลอท์ฟ สีลม Mews Yen Akat By Raimon Land  
รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต ทาวน์โฮมใหม่จากศุภาลัย ราคาเริ่ม 2 ล้านกว่า

รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต ทาวน์โฮมใหม่จากศุภาลัย ราคาเริ่ม 2 ล้านกว่า

ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต ทาวน์โฮมใหม่จากศุภาลัย ราคาเริ่ม 2 ล้านกว่า ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต / Supalai Primo Rangsit โครงการใหม่ล่าสุดจากศุภาลัย ปักหมุดบนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ด้วยแนวคิด "ทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชั่นใหม่ ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจที่แตกต่าง กับทาวน์โฮมมิติใหม่ มุมมองใหม่ สร้างจุดเด่นและความแตกต่างและลงตัวมากขิ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แบบ New Normal   Create your inspiration... with a new path of living.. สร้างแรงบันดาลใจที่แตกต่าง กับทาวน์โฮมมิติใหม่   ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต ทาวน์โฮมใหม่จากศุภาลัย ราคาเริ่ม 2 ล้านกว่า จุดเด่นโครงการ 1.ทาวน์โฮม 2 ชั้นใหม่สไตล์ Modern พื้นที่ใช้สอยครบถ้วนสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ โดยห้องมุมมีหน้ากว้างพิเศษ (6.25เมตร) 2.ฟังก์ชั่นบ้าน ตอบโจทย์ คนรุ่นใหม่ สไตล์ New normal พื้นที่ห้องครัวเป็นครัวปิดขนาดใหญ่เป็นสัดส่วน ป้องกันกลิ่นและระบายอากาศสู่ภายนอกได้โดยตรง 3.จุดเด่นเรื่องการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน โดยเพิ่มช่องแสง Skylight บริเวณโถงบันไดกลางบ้าน นำแสงสว่างกลับมาสู่บ้าน เพื่อสุขอนามัยและประหยัดค่าไฟเพิ่มขึ้น รวมถึงเลือกสรรวัสดุประหยัดพลังงาน อาทิ ประตูหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง หลังคากระเบื้องคอนกรีตลดความร้อน 4.จุดเด่นเรื่องพื้นที่ช้สอยหลังบ้านสามารถจัดสวนได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลกับงานระบบสุขาภิบาลหลังบ้านอีกต่อไป 5.ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว แวดล้อมด้วยสิ่งอำนายความสะดวกมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต & SPELL 6.ตอบโจทย์ชีวิตทันสมัย ด้วย ระบบบ้านอัจฉริยะ HOME AUTOMATION   สอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม https://lin.ee/JuPQAaY โครงการอื่นๆ ของ ศุภาลัย ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ Supalai Urbana แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด Supalai City Resort Charan 91  
Dolce Lasalle รีวิวคอนโดพร้อมอยู่ – Update บรรยากาศจริง

Dolce Lasalle รีวิวคอนโดพร้อมอยู่ – Update บรรยากาศจริง

Dolce Lasalle คอนโด Low Rise พร้อมอยู่ในซอยลาซาล ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง โดว์เช่ ลาซาล อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ด้วยการคัดสรรทำเล อันเป็นหัวใจสำคัญของโครงการฯ ซึ่งห่างจาก BTS สถานีแบริ่งเพียง 700 เมตร สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงได้อย่างสะดวกสบาย   ซึ่งโครงการนี้เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนวัยทำงานในเมืองอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตที่จำกัดเพียง 178 ยูนิตเท่านั้น และหากผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุนก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะอยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ อาทิ St. Andrews International School, Bangkok Patana School, Berkeley International School ฯลฯ และด้วยศักยภาพทำเลของเขตบางนาที่มีการปรับราคาที่ดิน 7-10% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมานั้น ผนวกกับเมกะโปรเจคอย่าง Bangkok Mall มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ที่จะเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จึงส่งผลให้ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้เหมาะกับการลงทุนในระยะยาวอย่างแท้จริง     สำหรับโครงการ โดว์เช่ ลาซาล (DOLCE LASALLE) เป็นโครงการบูทีคคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ สไตล์ยูโรเปียน โมเดิร์น ขนาด 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการทั้งหมด 0-5-68 ไร่ (2,272 ตารางเมตร) จำนวนยูนิต 178 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 75,000 บาทต่อตารางเมตร ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยลาซาล 7 (สุขุมวิท 105) เขตบางนา กทม. ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งเพียง 700 เมตร สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย เพราะห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกเพียง 20 นาที และสถานีสยามเพียง 25 นาที การออกแบบโครงการฯ เป็นการต่อยอดมาจาก “โดว์เช่ อุดมสุข” ที่เน้นในเรื่องคุณภาพวัสดุ และคุณภาพชีวิต ผู้พักอาศัยในคอนโดให้มีความสุข และสามารถอยู่ได้จริงในชีวิตประจำวัน   นับเป็นโครงการเดียวที่ได้รับรางวัล การันตีถึง 2 รางวัลจาก PEAT AWARDS 2018 (Property Export Awards Thailand 2018 by NIDA) คือ Best Luxury Low Rise Condominium และ Best Boutique Low Rise Condominium ซึ่งความแตกต่าง คือ โดว์เช่ อุดมสุข เป็นสไตล์ “อิตาเลี่ยน โมเดิร์น” แต่สำหรับ โดว์เช่ ลาซาล จะมาในสไตล์ของสถาปัตยกรรม French Classical เข้ามาผสม เพื่อให้เข้ากับย่านลาซาล พร้อมใส่รายละเอียดของหลายๆ ส่วนให้โมเดิร์นมากขึ้น ด้วยวัสดุคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น อาทิ หินธรรมชาติบน top ครัว หรือ top ในห้องน้ำ ฯลฯ Dolce Lasalle คอนโด Low Rise พร้อมอยู่ในซอยลาซาล ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง การวางผังอาคาร ออกแบบเป็นรูปตัวยู (U)  ซึ่งหากมองจากหน้าถนนก็จะเห็นว่าตัวอาคารมีความสง่างาม แต่จุดเด่นเบื้องลึกเบื้องหลังจริงๆ คือ ต้องการให้เกิดความลงตัวในส่วนของ Facilities เพื่อให้ผู้อยู่อาศัย ได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ไม่มีใครมองเห็นได้จากภายนอก ขณะเดียวกันเมื่ออยู่ภายในยังให้ความรู้สึก โอ่โถง มีความผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้การวางผังเป็น Shape ตัวยู (U) ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องที่มองเห็น วิวสวยที่สุดในโครงการ ซึ่งจะมองเห็นทั้งสระว่ายน้ำและสวน โดยโครงการฯ ได้ยกระดับ สวนชั้น 1 ขึ้นมาอีกระดับ เพื่อให้เชื่อมต่อกับ Facilities ระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 ให้ดูใหญ่และสวยงามขึ้น   การออกแบบภายใน พื้นที่ใช้สอยต้องใช้งานได้ 100% โจทย์ของงานดีไซน์จึงต้องใช้ตำแหน่งเสา ขนาดเสา เรื่องของการวางห้องน้ำ ระยะของเสาที่วางเฟอร์นิเจอร์ได้ สามารถตกแต่งให้สวยงามและใช้เป็นฟังก์ชั่นได้ทั้งหมด ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ดูสวยงามและจุได้เยอะ เพื่อประหยัดพื้นที่ ให้การใช้สอยพื้นที่ในทุกตารางนิ้ว เกิดประโยชน์สูงสุด   การดีไซน์ฝ้าเพดานทุกห้องที่สูง 2.5 เมตร ซึ่งห้องตัวอย่างถูกจำลองมาจากไซส์จริง ไม่มีการลดขนาดตู้เพื่อให้ห้องกว้างขึ้น เพดานเท่าของจริง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพจริง หรือถ้าชื่นชอบสไตล์การตกแต่งห้องเหมือนห้องตัวอย่าง ก็สามารถนำไปตกแต่งได้เองจริงๆ การให้ความสำคัญกับรายละเอียดเหล่านี้ นับเป็น อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการฯ Room Type ขนาดห้องของโครงการฯ มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ เพื่อตอบสนองทุกๆ ความต้องการของลูกค้า ซึ่งรองรับได้ทั้งกลุ่มคนโสดและกลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัว โดยแบ่งเป็น   แบบสตูดิโอ (Studio) ขนาดพื้นที่ 24.6 และ 24.8 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท เหมาะสำหรับ คนโสด หรือคนวัยทำงานที่รักความสงบ บนพื้นที่ใช้สอยของห้องที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป แต่ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายครบครัน แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 30.4 - 34 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท เหมาะสำหรับคนที่กำลังขยับขยายครอบครัว เริ่มใช้ชีวิตหลังแต่งงาน หรือคนโสดขี้เหงา อยากพาเพื่อนมา แฮงค์เอ้าท์ปาร์ตี้ที่ห้องก็สะดวก พร้อมมุมผ่อนคลาย วิวสวยสบายอารมณ์ และแบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 45 - 51 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท ห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก มีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้เป็นห้องนั่งเล่น หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ในวันหยุด อาทิ ทำกับข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ รวมถึงมุมวิวสวยที่วันไหนอยากจะฉีกไปปล่อยอารมณ์ชิลล์ๆ ลำพังก็ยังได้   Facilities Facilities คือจุดขายที่โดดเด่นของโครงการนี้ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางได้อย่าง มีความสุขในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็น Lobby & Library เปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนหย่อนใจไปกับหนังสือเล่มโปรดในห้องล็อบบี้ที่ ดีไซน์ความลักซัวรี่ โดดเด่นไม่แพ้ห้องอื่นๆ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ 20 เมตร Workplace พื้นที่สำหรับการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ของคนทำงาน Fitness เอาใจคนรักสุขภาพด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายได้มาตรฐานที่ครบครัน   นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Game Room, Garden, Fiber Optic System, ลิฟต์ 2 ตัว, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., ระบบกล้องวงจรปิด CCTV, ระบบคีย์การ์ด, Laundry และ ที่จอดรถ 50% (ประมาณ 69 คัน)   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ บจ.สิริยศ Dolce Lasalle-โดว์เช่ ลาซาล : รีวิวคอนโด ปักหมุด “โดว์เช่ ลาซาล” คอนโด Low Rise ใกล้ BTS แบริ่ง คอนโดสวย ทำเลเด่น ราคาดี บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ.  
Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใกล้รถไฟฟ้าสีชมพู พร้อมอยู่แล้วในราคาเริ่ม 1.39 ลบ.

Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใกล้รถไฟฟ้าสีชมพู พร้อมอยู่แล้วในราคาเริ่ม 1.39 ลบ.

Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใกล้รถไฟฟ้าสีชมพู "Atmoz แจ้งวัฒนะ" อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมน่าอยู่จาก AssetWise ที่สร้างเสร็จพร้อมโอนได้แล้ว ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท* ตัวโครงการออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ "Urban Refresh" บรรยากาศดีๆ เพื่อชีวิตคนเมือง โดยเน้นการนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตเพื่อคืนความสดชื่น มีชีวิตชีวาให้กับไลฟ์สไตล์คนเมือง กับทำเลเด่นที่สะดวกรอบด้าน ทั้งใกล้แหล่งงาน ศูนย์ราชการ ท่าอากาศยานดอนเมือง และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย อีกทั้งยังเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นเส้นทางลัดต่างๆ และทางด่วนที่อยู่ใกล้ ใช้ชีวิตปฏิเสธความธรรมดา ที่ Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโดสไตล์รีสอร์ท เพราะ “ที่อยู่” ไม่ใช่แค่เพียงที่พักผ่อน แต่คือที่ๆ คุณจะเติมเต็มแรงบันดาลใจใหม่ๆ ทุกรายละเอียด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในโมเมนต์ไหน ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง จาก Facilities ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ ดีไซน์ทุกตารางนิ้วด้วยรูปทรงเลขาคณิต และ Freeform ที่ให้คุณปลดปล่อยจินตนาการได้ทุกครั้งที่มอง ผสานความร่มรื่นของธรรมชาติเข้ากับเส้นสายและแสงเงา ที่พร้อมกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพลังในตัวคุณไปพร้อมๆ กัน มีสไตล์ด้วยสีสันที่เรียบง่าย ความสุข…ที่ออกแบบทุกรายละเอียด ให้การพักผ่อนของคุณไม่ธรรมดา Facilities เพราะแต่ละคนมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ทางโครงการจึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางถึง 3 ชั้น แบ่งเป็นทั้ง Indoor และ Outdoor เพื่อให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อเป็นตัวเองให้มากที่สุด และตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ว่าคุณจะนั่งทำงานคนเดียว หรือจัดประชุม รวมไปถึงการนัดเดอะแก็งค์วางแผนเที่ยวสุดสัปดาห์ หรือจะปาร์ตี้เฮฮากับเพื่อนๆ แม้กระทั่งจัดดินเนอร์โรแมนติกกับแฟน ทุกอย่างก็ลงตัวได้เสมอ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่มีพร้อมทุกด้านเช่น   Lifebrary - พื้นที่เรียนรู้ ที่มีมุมโปรดให้ได้นั่งพักผ่อนกับหนังสือเล่มโปรดได้ทุกเวลาที่ต้องการ Co-Creative Space - พื้นที่ทำงานที่คุณสามารถแชร์ความคิดสร้างสรรค์ได้เสมอ Adaptable Meeting Room - ห้องประชุมที่ยืดหยุ่น ลงตัวทุกรูปแบบไม่ว่าจะจัดประชุมเล็ก ประชุมใหญ่ แบบคู่ หรือแบบเดี่ยว Tasty2Party Space - ครัวส่วนกลางที่เป็นทั้งพื้นที่รับประทานอาหาร และมุมจัดปาร์ตี้สังสรรค์ได้อย่างลงตัว   นอกจากนี้สระว่ายน้ำแบบ Free Form ดีไซน์แหวกแนว ไม่ยึดติดกับรูปทรงเหลี่ยมแบบเดิมๆ ก็ทำให้คุณสามารถแหวกว่ายไปพร้อมจินตนาการใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ต้องการ และเป็นครั้งแรกของโครงการคอนโดมิเนียมกับ "Health Station" ที่จับมือกับโรงพยาบาลชั้นนำอย่างโรงพยาบาลเปาโล ด้วยมุมตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ผ่านอุปกรณ์ที่ทันสมัย และแอพพลิเคชั่นจาก AssetWise ที่มี  Virtual Health แพลตฟอร์มการให้บริการสุขภาพออนไลน์ ที่เราสามารถคุยปรึกษาปัญหาสุขภาพ และขอคำแนะนำเบื้องต้นกับคุณหมอที่โรงพยาบาลชั้นนำทั้ง โรงพยาบาลเปาโล และโรงพยาบาลสมิติเวชได้ตลอดเวลา พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับผู้ถือบัตรของ AssetWise Club อีกมากมายเมื่อต้องใช้บริการต่างๆ กับโรงพยาบาลที่ร่วมโปรแกรม   Unit Specification ภายในห้องพักอาศัยตอบโจทย์การอยู่อาศัยด้วยพื้นที่การใช้สอยที่มีให้เลือกหลากหลาย ตามความต้องการของแต่ละไลฟ์สไตล์ ห้องพักตกแต่งครบแบบ Fully Furnished พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ที่จะมาช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกง่ายดายมายิ่งขึ้น Studio ขนาด 20.10-21.56 ตร.ม. ห้องขนาดเริ่มต้นที่มีพื้นที่ใช้สอยกำลังดี เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบเดี่ยวๆ เป็นส่วนตัว ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ลงตัว 1 Bedroom ขนาด 22.38-25.89 ตร.ม.  อีกห้องพักอาศัยที่เหมาะกับสไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ขนาดกำลังดีในบรรยากาศแบบรีสอร์ท 1 Bedroom Plus ขนาด 33.12-34.99 ตร.ม. ด้วยฟังก์ชั่นห้องที่มีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เป็นได้ทั้งห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องเก็บของ ขณะเดียวกันสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักก็ไม่น้อยเลยทีเดียว ภายในห้องทุกห้องของโครงการ จัดเต็มด้วยรายละเอียดต่างๆ มากมาย ซึ่งบ่งบอกถึงความใส่ใจในการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เช่น   Rescue Alarm ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วยระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุภายในห้องที่ติดตั้งไว้ในห้องน้ำ เมื่อต้องการขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน   ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว LED Lighting Motion Sensor ที่ติดตั้งบริเวณปลายเตียง เพื่อช่วยเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติเมื่อต้องลุกไปห้องน้ำในตอนกลางคืน สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องคลำหาสวิตช์ไฟอีกต่อไป   ผ่อนคลายด้วย Bluetooth Sound System ที่ติดตั้งมาพร้อมภายในห้อง ให้คุณสามารถเชื่อมต่อระบบเสียงจาก Mobile Device กับลำโพง Bluetooth ในห้อง เพื่อการฟังเพลงเพื่อความผ่อนคลายได้ตลอดเวลา สนใจโครงการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://assetwise.co.th/condominium/atmozchw/   ลิงก์อื่นๆ เกี่ยวกับ AssetWise และแบรนด์ Atmoz แอสเซทไวส์ รุกเจาะทำเลทองย่านแจ้งวัฒนะ เปิดตัว “แอทโมซ แจ้งวัฒนะ” Atmoz Ratchada-Huaikwang-แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด รวมบทความโครงการ ATMOZ จาก AssetWise  
ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดเพื่อชีวิตติดเมือง ใกล้รถไฟฟ้า แค่ 10 นาทีก็ถึงสาทร

ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดเพื่อชีวิตติดเมือง ใกล้รถไฟฟ้า แค่ 10 นาทีก็ถึงสาทร

“คุณคะ.... ทำงานที่สาทรรึเปล่าคะ?” ถ้าคำตอบคือใช่ เชื่อว่าคุณคงคุ้นชินกับชีวิตเร่งรีบ แยกไฟแดงรถเยอะๆ และบรรยากาศที่ผู้คนขวักไขว่เกือบตลอดทั้งวันเช้าจรดค่ำ ตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ ก็เพราะเป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ มีบริษัทใหญ่ๆ และอาคารสำนักงานเรียงรายเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ของคนเมือง ซึ่งมีความหลากหลายและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว   พอพูดถึง “สาทร” ใครๆ ก็คงนึกถึงชีวิตพนักงานออฟฟิศที่ต้องแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา และเราก็เป็นคนนึงที่ใช้ชีวิตอยู่ในสาทรเสียเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าในวันทำงานที่ยุ่งแสนยุ่งจะกินจะดื่มอะไรก็ต้องทำเวลาไปหมด แต่ถึงจะรีบแค่ไหนก็ยัง Keep Cool ได้นะจ๊ะ   ชีวิตสนิทกับสาทร เอาล่ะ เริ่มกันตั้งแต่เช้าก่อนเริ่มงานก็ต้องปลุกตัวเองกันนิดนึง กาแฟดีๆ ซักแก้วต้องมีนะคะ และถ้ารีบๆ กลัวแตะนิ้วเข้างานไม่ทันก็ต้องสไตล์ Grab&Go เลยจ้า “Mouthfeel x Warm Batch Roasters” สาขานี้เค้าเป็น Speed Bar ร้านเล็กขนาดกระทัดรัดแทบไม่มีที่ให้ยืนรอในช่วงเช้าและพักกลางวัน แต่เค้าก็ชงกาแฟได้รวดเร็วทันใจ รสชาติดี แถมราคาไม่แรงได้ใจชาวออฟฟิศไปเต็มๆ เลย     มีกาแฟติดมือแล้วก็รีบไปทำงานที่เรารักได้แล้วค่ะ     ช่วงพักกลางวันเป็นอีกเวลาที่เร่งรีบไม่แพ้กันเลยค่ะ อย่างที่รู้ว่าถนนสาทรเป็นแหล่งรวมบริษัทใหญ่ๆ ไว้มากมาย ดังนั้นปริมาณพนักงานออฟฟิศก็ล้นหลามไม่แพ้กันเลยทีเดียว มีเวลาพักกลางวัน 1 ชั่วโมงเท่ากัน ต้องใช้ให้คุ้มกันหน่อยค่ะ ขอหลบไปนั่งกินข้าวให้ผ่อนคลาย พักสายตากับสีเขียวๆ ซักหน่อย “GLOWFISH DINNING HALL” เป็นฟู้ดคอร์ทที่มีบรรยากาศสบายๆ ด้านข้างริมกระจกมีวิวสวนให้พักสายตาได้ดี แล้วก็มีอาหารให้เลือกหลากหลายพอสมควร นอกจากจะเป็นฟู้ดคอร์ทที่เก๋ไม่เบาแล้ว บางทีก็เป็นอีกที่ที่เหมาะจะนั่งคุยงานด้วยนะคะ (ถ้างานด่วนจนเบียดเวลาพักอะนะ) จริงๆ แล้ว GLOWFISH มีพื้นที่ Co-Working Space ด้วย หลายครั้งเวลาที่เราอยากหาที่หลบมานั่งทำงานเงียบๆ ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกแห่งเลยแหละ แต่ต้องเลยเวลาพักกลางวันไปแล้วนะ     หลังจากยุ่งวุ่นวายกันมาทั้งสัปดาห์ เย็นวันศุกร์ไหนที่ไม่ได้มีนัดแฮงค์เอ้าท์ การเปลี่ยนบรรยากาศไปออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ในสวนบ้างก็นับว่าเป็น “วิถีชีวิตคุณภาพ” เลยนะคะ เพราะปกติเราได้แต่ออกกำลังกาย วิ่งบนลู่วิ่งแห้งๆ ในฟิตเนสเท่านั้น แน่นอนว่าชาวสาทรและคนเมืองในย่านนี้ก็มี “สวนลุมพินี” นี่แหละที่เป็นปอดขนาดใหญ่ให้เราได้แวะไปฟอกปอดซักหน่อย ในสวนลุมมีกิจกรรมเยอะเลยค่ะ ใครใคร่วิ่งก็วิ่ง อยากจะแอโรบิคก็ได้ หรือที่ศูนย์กีฬาฯ ก็มีกีฬาหลายประเภทให้เลือกเล่นเลยนะ แต่ถ้าหมดแรงแล้วจะแค่แวะมาเดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย ชมนก ชมวรนุช ก็ดีนะ   ชีวิตสนิทกับราชพฤกษ์ ถึงวันหยุด ได้หยุดพักจากงาน มีเวลาได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเค้าบ้าง ในวันสบายๆ แบบนี้เราเลือกไปโซนราชพฤกษ์ค่ะ เพราะเป็นพื้นที่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลใจกลางเมืองและยังมีที่ให้แวะเที่ยว แวะพักผ่อน ทำกิจกรรมในวันหยุดได้หลายอย่างเลยทีเดียว แถมยังมีคอมมิวนิตี้มอลล์ให้เลือกเยอะเลย ร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ๆ ก็เยอะ เรียกได้ว่าตลอดเส้นทางบนถนนราชพฤกษ์มีร้านใหม่ๆ ให้ไปเช็คอินกันไม่ซ้ำตลอดทั้งปีแน่นอน     เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง “Food Villa ราชพฤกษ์” ก็จัดว่าขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดอร่อยๆ เอาไว้เพียบ แล้วก็ยังมีโซนขายอาหารซีฟู้ด กุ้ง หอย ปู ปลาสดๆ แล้วก็ขนมนมเนย อาหารขึ้นชื่อจากหลากหลายจังหวัดมากมาย เราว่าที่นี่เหมาะกับวันว่างๆ ที่ยังนึกไม่ออกว่าอยากกินอะไรดี ลองไปเดินเล่นเลือกดูที่หน้างานเลย เผลอแป๊บเดียวได้หิ้วกันพะรุงพะรังเต็มสองมือค่ะ (เชื่อเถอะ... เราโดนมาแล้ว)     มีแรงแล้วทีนี้จะเดินช็อปปิ้งซื้อของใช้เข้าบ้าน หรือเดินเลือกต้นไม้ไปปลูกให้อินเทรนด์ ก็จัดมาให้ครบไปเลยจ้า // ไหนๆ ใครปลูกต้นไม้ตามกระแสกับเค้าบ้าง? มาแนะนำมือใหม่แบบเราหน่อยว่าต้องเริ่มจากต้นอะไรดี     ถ้ามาถึงราชพฤกษ์แล้วไม่ได้เช็คอินคาเฟ่เก๋ๆ กับเค้าซักร้านเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ครั้งนี้เราเลือก “2D Eye Candy” คาเฟ่ล่าสุดที่มาในธีม 2D สีขาวดำ ซึ่งน่าจะได้ไอเดียมาจากคาเฟ่ในเกาหลีที่เป็นที่นิยมกันมากในช่วงนึง แต่ที่ไทยเพิ่งจะมีร้านนี้และมั้งที่เป็นคาเฟ่ 2D ร้านแรกในกรุงเทพฯ     เข้าไปในร้านแล้วเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังสือการ์ตูนเลย ทุกอย่างถูกทำให้เหมือนกับภาพวาด 2 มิติจากหมึกสีดำ มองเผินๆ คิดว่าโต๊ะ เก้าอี้ เค้าน์เตอร์บาร์ในร้านดูแบนราบเรียบเป็นระนาบเดียวกันไปหมด ถ้าใครชอบถ่ายรูปนะ บอกเลยว่าสนุกแน่ๆ เพราะมองไปมุมไหนก็น่าถ่ายรูปลง IG ไปหมด   ชีวิตติดเมือง ถ้าชีวิตดีๆ ที่ลงตัว หมายถึง การใช้ชีวิตที่เราคิดและออกแบบได้เอง มีอิสระแบบคนเมืองในการเลือกอาศัยในทำเลที่ดีและตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากที่สุด “ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์” น่าจะเป็นคำตอบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ที่เราเล่ามาทั้งหมด   ด้วยทำเลที่ติดถนนใหญ่ เดินทางได้สะดวกสุดๆ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางหว้าเพียง 450 เมตร นั่งไปแค่ 6 สถานีก็ถึงสาทร หรือถ้าใช้รถส่วนตัวเดินทางมาที่สาทรก็ใช้เวลา 10 นาทีเท่านั้น.... อันนี้เรื่องจริงเลยนะ เพราะเราลองจับเวลาจริงด้วยตัวเอง อาจจะบวกลบนิดหน่อยถ้าเจอการจราจรหนาแน่นบ้าง แต่ก็ยังจัดว่าเร็วอยู่ดี จะเข้าจะออกเมืองจึงสะดวกจริงไม่มีโม้ คนทำงานสาทรแบบเราเลยไม่ต้องห่วงว่าจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่และเสียเวลาเดินทางบนถนนนานๆ วันไหนไม่อยากใช้รถส่วนตัวก็มีรถไฟฟ้า จะไปไหนมาไหนก็ง่าย อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากตึกสูงๆ ก็แค่ขยับไปทางราชพฤกษ์เท่านั้นเอง ไลฟ์สไตล์ชิคแอนด์คูลก็รอให้เช็คอินอยู่เพียบ   ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดติดเมืองใกล้รถไฟฟ้า 10 นาทีถึงสาทร   โครงการศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์นี้ เป็นคอนโดมิเนียมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ หรือที่ตอนนี้เรียกกันว่า New Normal กันเลยนะ เริ่มตั้งแต่ฟังก์ขั่นการออกแบบ ทั้งส่วนกลางไปจนถึงภานในห้องพัก ซึ่งทุกอย่างถูกคิดมาอย่างละเอียดรอบด้าน เช่น การเพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง และจัดแยกส่วนเพื่อลดความแออัด หรือการจัดผังอาคารให้มีการถ่ายเทอากาศจากธรรมชาติได้ดีขึ้น การมีจุดพักรับ-ส่งของ หรือ Delivery Drop Off เพราะปัจจุบันเราใช้บริการสั่งอาหารให้มาส่งกันมากขึ้นเลยจัดแยกส่วนไว้ให้สะดวกขึ้นซะเลย หรือแม้แต่การเข้าออกตัวอาคารที่เปลี่ยนมาใช้ระบบ Touchless ด้วยประตูอัตโนมัติ และการใช้ Face Scan เพื่อลดการสัมผัส แค่ตัวอย่างที่ว่ามานี้ก็ทำให้เราร้อง “ว้าว” ออกมาดังๆ ได้เลย     แล้วยิ่งได้เห็นห้องตัวอย่างของ ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ ก็ยิ่งตาลุกวาวไปอีก เพราะศุภาลัยเดี๋ยวนี้เค้าไม่เหมือนเดิมแล้วนะคะ ไม่มีแล้วห้องแบบเชยๆ ที่เคยโดนปรามาสไว้ เพราะห้องรูปแบบใหม่ สวย ทันสมัย ฟังก์ชั่นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่สุดๆ   ที่ Sale Gallery มีห้องตัวอย่างให้ชมกัน 2 แบบ 2 สไตล์ ตัวโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตรวมไม่เยอะมาก เน้นห้องกว้างและเพดานสูง 2.7 เมตร แถมภายในห้องยังคิดเผื่อรูปแบบการทำงานที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต จึงเน้นให้ห้องอยู่สบาย มีการเปิดรับแสงและระบายอากาศได้ดี เพิ่มมุมเพื่อรองรับการทำงานแบบ work from home แถมยังคิดเผื่อระบบ Fiber Optic ไว้ให้อีกด้วย ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้ทันเหตุการณ์มากๆ   ห้องตัวอย่างขนาด 35 ตร.ม. หรือ 1 Bedroom ออกแบบมาในสไตล์หวานๆ โทนสีพาสเทลนิดๆ ที่น่าจะโดนใจสาวๆ ได้เป็นอย่างดี แถมพิเศษด้วยพื้นที่ Favorite Coner มุมแต่งตัวสวยๆ ที่ทำเป็น Walk-in Closet ได้อย่างลงตัว จริงๆ แล้วพื้นที่ในส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการเลยนะคะ ไม่ได้จำกัดตายตัวเพราะชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นมุมโปรดนี่นา แถมห้อง Typeนี้ยังเป็น Layout แบบใหม่ของศุภาลัยที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้องมาในโทนขรึมๆ กับขนาด 44.5 ตร.ม. หรือ 1 Bedroom Plus ซึ่ง Layout ห้องนี้ลงตัวมากๆ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้น มีมุมโปรดได้หลายมุมเลยค่ะ แถมการตกแต่งห้องตัวอย่างนี้ยังมาในสไตล์ Cafe ชวนให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในร้านกาแฟตลอดเวลา พร้อมด้วยห้องอเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องทำงาน และพื้นที่ปลูกต้นไม้ให้อินเทรนกับเค้าด้วย เลยทำให้บรรยากาศสไตล์ลอฟท์ไม่รู้สึกแข็งที่อจนเกินไป เชื่อว่าใครเห็นก็ต้องถูกใจห้องสไตล์นี้แน่ๆ   เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครอยากมีชีวิตสนิทกับสาทรแบบเรา ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ น่าจะเป็นคอนโดที่จะทำให้ชีวิตคุณลงตัวในทุกจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นแบบแอคทีฟสุดๆ หรือแบบสโลว์ไลฟ์ตามสไตล์สายชิว.....ลองไปค้นพบความหมายของการใช้ชีวิตที่เราคิดและออกแบบได้เองที่ “ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์” กันดูมั้ยคะ   รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม : Supalai Loft สาทร-ราชพฤกษ์  หรือโทร. 1720   บทความอื่นๆ เกี่ยวกับศุภาลัย ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สุขุมวิท 107 ศุภาลัย บุกตลาดอสังหาฯ แนวราบ ประเดิมโครงการแรกย่านพระราม 2  
PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง ท่ามกลางสายน้ำและธรรมชาติ ในสังคมคุณภาพ T77

PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง ท่ามกลางสายน้ำและธรรมชาติ ในสังคมคุณภาพ T77

PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูใจกลางเมือง ในสังคมคุณภาพT77 ด้วยวิถีชีวิตการอาศัยขอคนไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ใครๆ ก็อยากมีบ้านอยู่ริมน้ำ ยิ่งในปัจจุบันที่ดินริมแม่น้ำ หรือติดแหล่งน้ำสวยๆ ก็ยิ่งหายากและมีราคาแพงขึ้นทุกวัน แต่นอกเหนือจากการได้อยู่ติดริมน้ำแล้ว จะมีสักกี่ที่ที่เพียบพร้อมไปด้วยศักยภาพการอยู่อาศัยครบรอบด้าน ทั้งทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง ความสะดวกสบายที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกการเดินทาง และยังสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในอุดมคติท่ามกลางธรรมชาติที่ผสานกันได้อย่างลงตัว   “PARK COURT Sukhumvit 77” คอนโดมิเนียมสุดหรูจาก บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK Real Estate ปักหมุดบนทำเลทองของกรุงเทพฯ ใจกลางสุขุมวิท ออกแบบตัวโครงการให้มีสไตล์เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสะดวกสบายมากที่สุด ด้วยบรรยากาศของชุมชนอันเรียบง่ายและเงียบสงบ หลบหลีกจากความวุ่นวายต่างๆ ของเมืองหลวงได้อย่างไม่น่าเชื่อ บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวยขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ให้ผ่อนคลายสูดหายใจได้เต็มปอด   PARK COURT Sukhumvit 77 ตั้งอยู่ใจกลาง T77 Lifestyle Community ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างมีสไตล์เหนือระดับ ภายใน T77 นอกจากจะประกอบไปด้วยบ้านและโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ แล้ว ยังมีทั้งโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอย่าง Bangkok Prep, Habit Mall ซึ่งเป็น Community ที่มีสินค้าและร้านค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียว และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อีกด้วย ทำให้บรรยากาศภายใน T77 นี้ครบถ้วนไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจนแทบจะไม่ต้องออกไปผจญภัยนอกพื้นที่เลย   ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ของโครงการ PARK COURT เองก็เรียกได้ว่าอยู่ในบริเวณที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แต่ละยูนิตเปิดรับวิวพื้นที่สีเขียว และบรรยากาศริมคลองพระโขนงอันเรียบง่ายได้อย่างเต็มตา ด้วยจำนวนยูนิตรวมเพียง 70 ห้อง ยิ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัยมากขึ้นไปอีกขั้น   ภายในโครงการ PARK COURT Sukhumvit 77 แบ่งออกเป็น 5 อาคาร โดยแต่ละอาคารมีเพียง 14 ยูนิตเท่านั้น นั่นหมายความว่า ในหนึ่งชั้นจะมีเพียง 2 ยูนิต!! จึงนับว่าเป็นโครงการที่มีขนาดห้องที่ใหญ่มากในปัจจุบัน สำหรับแบบห้องจะมีอยู่เพียงแบบเดียวคือ 3 Bedrooms + 1 Multi-purpose Room โดยมีพื้นที่ใช้สอยไม่ต่ำกว่า 280 ตร.ม. ซึ่งแต่ละห้องอาจจะมีขนาดแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย (ไม่เกิน 5 ตร.ม.) แต่ฟังก์ชั่นรวมๆ แล้วเหมือนกันเกือบทั้งหมด   ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาก จึงให้บรรยากาศเหมือนกับการอยู่บ้านมากกว่าคอนโดมิเนียม การออกแบบผังห้องที่คำนึงถึงการใช้งาน การผสมผสานกันอย่างลงตัวกับวิวทิวทัศน์ และสภาพแวดล้อม ที่นอกจากเรื่องความสวยงามแล้วผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ Condominium Lifestyle ที่ไม่เหมือนใคร   จากจุดเด่นที่ PARK COURT เป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมที่มียูนิตขนาดใหญ่มากที่สุดโครงการหนึ่ง จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น มีพื้นที่สามารถรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวในบริเวณ “ห้องนั่งเล่น” หรือ “ห้องรับแขก” ขนาดใหญ่ รวมถึง “ห้องครัว” ที่กว้างขวาง และหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพ จัดสรรพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน สามารถทำครัวหนักๆ จริงจังโดยที่ไม่มีปัญหากลิ่นรบกวน พร้อมด้วยมุม Pantry พร้อม Counter Bar ที่เชื่อมต่อกับ Dining Area ซึ่งน่าจะเป็นอีกมุมโปรดของคนในบ้านเมื่อได้ใช้เวลาสังสรรค์ร่วมกัน     ขณะเดียวกัน หากต้องการมุมสงบสำหรับอ่านหนังสือ ทางโครงการก็ได้ออกแบบให้มีมุมส่วนตัว ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับหนังสือเล่มโปรดได้ในบรรยากาศสบายๆ และไม่ถูกรบกวนจนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามต้องการ หากต้องใช้เป็นห้องรับแขกแบบส่วนตัวก็แค่เลื่อนฉากกั้นก็ได้พื้นที่ที่ส่วนตัวขึ้นอย่างทันตา     ในส่วนของห้องนอน เริ่มกันที่ Master Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสมกับความหรูหราอลังการของโครงการ นอกจากจะว่าเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ king size ได้อย่างสบายๆ แล้ว ยังมีที่เหลือพอสำหรับมุมพักผ่อนที่จะเลือกว่าเป็น Day Bed หรือชุดเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านหนังสือก็ทำได้สบายๆ  แถมยังมีที่มากพอจะจัดเป็นมุมนั่งทำงานก็ยังไหวนะคะ     อ้อ ลืมบอกไปว่าระเบียงของโครงการนี้กว้างขวางเกินเรื่องมากๆ เพราะนอกจากจะมีพื้นที่เป็นความยาวตลอดหน้ากว้างของคอนโดแล้ว ยังกว้างมากพอที่จะสามารถวางชุดเก้าอี้ไว้จิบชา กาแฟ ชมวิวกันได้สวยๆ อีกด้วย   นอกจากนี้พื้นที่ห้องน้ำของ Master Bedroom ก็กว้างขวางมากพอที่จะมี Walk-in Closet ใหญ่ๆ เอาใจสายสาวๆ สายแฟชั่นได้อย่างเต็มที่ ด้วยพื้นที่เก็บของ และตู้เสื้อผ้า Bulid-in อีกเพียบ ขณะเดียวกัน Layout ของห้องน้ำก็แยกสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน บริเวณอ่างล้างหน้าจัดมาให้ 2 อ่างแบบ His&Her ทำให้ช่วงเวลาเร่งรีบของแต่ละวันสามารถใช้งานห้องน้ำได้โดยที่คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายไม่ต้องแย่งกันเลยค่ะ และอีก Highlight เด่นของห้องน้ำก็คือ อ่างอาบน้ำ ที่ตั้งไว้ที่บริเวณเดียวกับกระจกเข้ามุมพอดิบพอดี จึงเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้การอาบน้ำรื่นรมย์ยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดรับวิวสวยๆ ได้อย่างเต็มที่   ถัดมาที่ห้องนอนห้องที่ 2 ซึ่งมีขนาดเล็กลงมาจาก Master Bedroom แต่ก็ยังกว้างมากพอที่จะวาง Single Bed พร้อมๆ กันได้ 2 หลังเลยค่ะ หรือจะเปลี่ยนเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังเหลือที่ใช้สอยอีกเยอะ ในขณะที่ห้องนอนเล็กก็ไม่ได้เล็กตามชื่อเลยนะ อาจจะมีพื้นที่ใหญ่กว่าห้องทั้งห้องของบางโครงการซะอีก   ในห้องนอนทั้ง 2 ห้องนี้ มีห้องน้ำในตัว และมีเฟอร์นิเจอร์ Build-in มาให้เรียบร้อย แถมยังมีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีก เรียกว่าครบถ้วนเรื่องการใช้สอยประโยชน์มากเลยทีเดียว แถมทุกห้องยังมีกระจกบานใหญ่สามารถเปิดรับวิว และแสงสว่างได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสามารถเปิดออกไปที่ระเบียงที่เชื่อมต่อถึงกันโดยรอบได้อีกด้วย     หากใครสนใจโครงการ PARK COURT Sukhumvit 77 ก็สามารถเข้ามาจับจองเป็นเจ้าของได้นะคะ ทางโครงการยังมีห้องเหลือให้เลือกอยู่ แต่ก็ไม่มากแล้ว เพราะในส่วนที่จัดสรรให้เป็นคอนโดมิเนียม จะมีแค่อาคาร A และ D เท่านั้น ส่วนอาคารอื่นๆ ที่เหลือกจะถูกจัดสรรให้เป็น Service Apartment ในรูปแบบการเช่าค่ะ ซึ่งก็แว่วว่าห้องในส่วนนี้มักจะถูกเช่าเต็มเกือบตลอดเวลา นั่นทำให้เห็นว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ในทำเลใจกลางเมืองแบบนี้ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกมาก อาจจะด้วยความเพียบพร้อมรอบด้าน แถม Facility ก็แน่นสมราคา ถึงจะมีราคาเช่าที่จัดว่าสูง แต่ตลาดเช่าทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยเองก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว   ใครที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมโครงการก่อน สามารถติดต่อไปที่ทาง PARK COURT หรือที่ทาง มั่นคง การเคหะได้เลยนะคะ รับรองกว่ายิ่งได้เห็นบรรยากาศจริงของโครงการ ได้สัมผัสความเงียบสงบเป็นส่วนตัวด้วยตัวเองแล้ว ต้องยิ่งอยากได้เป็นเจ้าของคอนโดหรูริมน้ำ บนทำเลใจกลางสุขุมวิทแบบนี้อย่างแน่นอน บทความที่เกี่ยวข้องกับมั่นคง การเคหะ มั่นคง เดินแผนธุรกิจ 5 ปี รักษาธุรกิจให้โตในภาวะผลกระทบ Covid-19 “ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ (ชวนชื่น) ปทุมธานี” สนามกอล์ฟที่เหล่านักกอล์ฟต้องมาเยือน ชวนชื่น แกรนด์ เอกชัย บางบอน : รีวิวบ้าน Chuanchuen Town Rangsit-Klong 1-ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง 1 : รีวิวทาวน์โฮม      
รีวิวคอนโด สุขุมวิท “Mulberry Grove Sukhumvit” ใส่ใจเพื่อทุกคนในครอบครัว

รีวิวคอนโด สุขุมวิท “Mulberry Grove Sukhumvit” ใส่ใจเพื่อทุกคนในครอบครัว

สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน เห็นได้จากหลายครอบครัวเริ่มใช้ชีวิตอยู่แบบครอบครัวเล็ก บ้างก็อยู่เป็นโสดกันมากขึ้น สังคมไทยใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ขึ้นทุกขณะ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม แม้กระทั่งอากาศที่ทุกชีวิตต้องหายใจเข้าไปยังไม่บริสุทธิ์เหมือนเดิมอีกแล้ว วิถีชีวิตในการอยู่อาศัยจึงต้องเริ่มหาอะไรที่เข้ามาสร้างคุณภาพชีวิตได้ดีกว่าที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์สุดแสนท้าทายของเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ออกมานำเสนอ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย เพราะหลายโครงการใหม่ๆ ไม่ได้ขายแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีนวัตกรรมทั้งในเรื่องของการดีไซน์ วัสดุที่นำมาใช้ เทคโนโลยี ความปลอดภัย ตลอดจนเซอร์วิสที่จะมาอำนวยความสะดวกเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในโครงการ สิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสิ่งดีๆ เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัว   เมื่อพูดถึงเรื่องการทำโครงการที่อยู่อาศัยให้สนองความต้องการของตลาดยุคปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 หลักเกณฑ์ใหญ่ๆ ตามกลุ่มผู้บริโภค นั่นคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับกลุ่มครอบครัวไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งจากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีตัวเลขประมาณการณ์ออกมาว่าในปี 2563 จะมีผู้สูงอายุทั่วประเทศ 12,620,340 คน คิดเป็น 113.89% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในปี 2573 จะมีผู้สูงอายุทั่วประเทศอยู่ที่ 17,581,000 คน คิดเป็น 179.38% ประเทศไทยก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ในระยะ 2-3 ปีหลัง เราจึงได้เห็นการพัฒนาโครงการสำหรับกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุมากขึ้น   แน่นอนค่ะว่ารีวิวคอนโดฉบับนี้จะพาไปชมโครงการสำหรับกลุ่มครอบครัว ซึ่งทั่วไปแล้วเรามักจะเห็นโครงการลักษณะนี้เป็นบ้านเดี่ยวกันมากกว่า เพราะมีพื้นที่มากพอสำหรับการอยู่อาศัยร่วมกันในทุกช่วงวัย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยทำเลที่ออกไปโซนชานเมือง แล้วทำไมการอยู่อาศัยแบบครอบครัวจะอยู่ใจกลางเมืองไม่ได้ล่ะ จริงไหมคะ? การเดินทางสะดวกกว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ตัวมากมาย ที่สำคัญคือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถไปโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้การออกแบบภายในยูนิต รวมถึง Facilities ต่างๆ ก็เอื้อต่อความปลอดภัย สร้างสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีได้ On the way to “Mulberry Grove Sukhumvit” หากเดินทางมาจากใจกลางเมือง บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก ผ่าน BTS สถานีเอกมัย (ทางออก 3) ประมาณ 250 เมตร ถัดจากโรงพยาบาลสุขุมวิทมานิดเดียวก็จะพบกับโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ที่เราจะมีรีวิวให้ชมกันค่ะ ผ่านมาแถวเอกมัย สิ่งแรกที่จะนึกถึงคงหนีไม่พ้นร้านอาหารอร่อย คาเฟ่สวย มากมายเปิดกันตั้งแต่ช่วงสายจรดเย็น แล้วแวะดูหนังกันที่เมเจอร์ สุขุมวิท ช้อปปิ้งที่เกตเวย์ เอกมัย หรือบิ๊กซี เอกมัย ยาวกันจนถึงยามค่ำคืนที่เป็นแหล่งของร้านแฮงค์เอาท์ชื่อดังหลายร้าน และยังมีทั้งโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง โรงพยาบาลคุณภาพ คงไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วล่ะค่ะว่าเอกมัยนั้นครบจริงๆ “Mulberry Grove Sukhumvit” by MQDC      โครงการคอนโด ริมถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าสำหรับทุก Generation อย่าง “Mulberry Grove Sukhumvit” จาก MQDC เป็นหนึ่งในผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการงานวิจัยที่ร่วมกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และจากการศึกษางานวิจัยจากทั่วโลกพบว่า ความสุขที่แท้จริงของคนไทยคือการได้อยู่กันเป็นครอบครัว โดยมีกิจกรรมที่เกิดการแลกเปลี่ยนร่วมกัน มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ให้กับเด็ก เกิดการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้สูงอายุที่ได้อยู่ร่วมกับลูกหลานอย่างปลอดภัย มีสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกันก็ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวตามความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยด้วย จึงกลายเป็นคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกในประเทศไทยที่ออกแบบมาจนทำให้เกิดเทรนด์การอยู่อาศัยในนิยามใหม่ที่เรียกว่า “Intergeneration” ภายใต้แนวคิดโครงการ “Design for the finest intergeneration living คอนโดที่ออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชั่น” โดยมีรายละเอียดโครงการตามนี้ค่ะ Super-Luxury High Rise 37 ชั้น 287 ยูนิต ที่ดิน 2-2-01.2 ไร่ Auto Parking-Conventional Parking 100 % (ชั้น 1-6) ขนาดห้อง 1 Bedroom 47-56.5 ตร.ม. (144 ยูนิต) 2 Bedroom 87-135 ตร.ม. (136 ยูนิต) 3 Bedroom 165 ตร.ม. (2 ยูนิต) Duplex Penthouse 216.5 ตร.ม. (1 ยูนิต) Penthouse 180-245.5 ตร.ม. (4 ยูนิต) Floor to Ceiling 3 เมตร คาดว่าแล้วเสร็จ Q4 2566 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 250,000 บาท/ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมคุณภาพที่ส่งให้โครงการมีความน่าสนใจ โดดเด่น และแตกต่างไปจากโครงการทั่วไป ตั้งแต่เริ่มวางคอนเซป การออกแบบทั้งส่วนกลาง-ยูนิตพักอาศัย การก่อสร้าง การใช้วัสดุ เทคโนโลยี ตลอดจนเซอร์วิสต่างๆ ดังนี้ รับประกัน 30 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ โครงสร้าง หลังคา ประตู หน้าต่าง ระบบสุขาภิบาล ระบบไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในที่พักอาศัย Combine Unit บางยูนิตที่กำหนดไว้ สามารถ Combine กันได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ หากต้องการขยายครอบครัวในอนาคต Energy Recovery Ventilation (ERV) ระบบแลกเปลี่ยนอากาศ โดยจะเติมอากาศบริสุทธิ์นอกอาคารเข้ามา ขณะเดียวกันก็ถ่ายเทความร้อน ความชื้นภายในห้องกลับออกไปภายนอก และยังช่วยเรื่องการควบคุมอุณภูมิภายในห้อง ช่วยการทำงานของเครื่องปรับอากาศไม่ให้หนักเกินไปอีกด้วย ทุกพื้นที่รองรับทุกช่วงวัย ทุกพื้นที่คำนึงถึงการใช้  Wheelchair จึงให้ให้มีขนาดกว้างกว่าทั่วไป Nook Multi-Purpose Spaces พื้นที่อเนกประสงค์ภายในทุกยูนิต ซึ่งจะกั้นเป็นห้องสำหรับใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป หรือจะเปิดโล่งเพิ่มพื้นที่ของ Living Room ให้ยิ่งกว้างขึ้นไปอีกได้ วัสดุคุณภาพ สเปคห้องของที่นี่ก็โดดเด่น คำนึงถึงการใช้งานจริงได้ดี หลายชิ้นเป็นสินค้านำเข้า บางชิ้นก็เป็นงาน Custom Made Mulberry Special Services เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน อาทิ Caregiver ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องของสุขภาพและอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง Wellness Manager ผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษา คอยดูแลด้านการออกกำลังกาย ดูแลความปลอดภัยบริเวณสระว่ายน้ำ Concierge Service เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านต่างๆ และ บริการ Afternoon Tea ฟรี 2 ปี ภาพรวมโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit Mulberry Grove Sukhumvit คอนโดมิเนียมระดับที่จะมารองรับทุก Generation ในครอบครัว ทั้งส่วนกลางโครงการและภายในยูนิต หลายดีเทลจึงถูกออกแบบมาแตกต่างจากโครงการอื่น เรียกได้ว่าใส่ใจกันทุกตารางเมตรเลยทีเดียว เรามาชมกันที่ Facilities ก่อนค่ะ หน้าอาคารตกแต่งสวนสไตล์อังกฤษ ด้านหลังอาคารจัดโซน Gourmet Courtyard ผักสวนครัวที่ปลูกดูแลกันเอง ปลอดภัยไร้สารพิษส่งตรงถึงลูกบ้าน ชั้น 1 เข้าสู่ตัวอาคาร ต้อนรับด้วย Mulberry Greeting Gallery ล็อบบี้ Double Floor สูงโปร่ง เทควิวสวนสีเขียวรอบอาคารผ่านกระจก Full Height เชื่อมต่อถึงชั้นลอยที่จัด The Mulberry’s Library ไว้สำหรับมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ สามารถเลือกห้อง Private Study Studio สำหรับติวหนังสือหรือจัดประชุมได้ และแยก Children’s room สำหรับเด็กเล็ก   โถงลิฟต์วางกลางอาคาร แบ่งเป็นโซนยูนิตทิศเหนือ 2 ตัว ทิศใต้ 2 ตัว และลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว ชั้น 32 Facilities หลักของโครงการ ซึ่งวางให้ทุกวัยสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ตามคอนเซป intergenerational wellness ที่เฉพาะสระว่ายน้ำก็แบ่งออกเป็น 4 สระ รองรับสำหรับทุกช่วงวัย ได้แก่ Infinity sky pool สระว่ายน้ำหลัก พื้นหินอ่อนสวยๆ ยาว 25 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายไปเทควิวเมืองไป Thermal pool​ สระปรับอุณภูมิได้ เหมาะสำหรับลงไปแช่กระตุ้นการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย Hydrotherapy pool ผ่อนคลายท่ามกลางสระน้ำบำบัดด้วยหัว Jet นวดตัว และ Children’s Pool สระเด็กที่มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับผู้ปกครองนั่งรอ เพื่อดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี Sky-High Gym Studio, Private Spa, Private Sky-high, Onsen Private, Style Atelier และ Golf Simulator & Entertainment Room ชั้น 33 ครึ่งหนึ่งเป็นโซนพักอาศัย อีกครึ่งเป็น Facilities ที่มีบันไดเชื่อมต่อมาจากชั้น 32 โดยจะมี Patio Gym​ สำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง ห้อง Ballet suite​ และ Yoga suite​ ชั้น 37 ชั้นสูงสุดของโครงการ บรรยากาศเทียบเท่าโรงแรมหรู โดยลูกบ้านจะได้รับ Complimentary Afternoon Tea ฟรี! ทุกวัน เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยชั้นนี้ได้แบ่งโซนหลากหลายตามการใช้สอย อาทิ Family Living Room,​ BBQ Garden, Game Room & Pool Table,​ Children’s Play Room, Grand Private Living room, Grand Private Dining Room และ Kitchen พร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบเซต ทั้งหมดนี้สามารถเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งทำออกมาได้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัยเป็นอย่างดี สำหรับยูนิตพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 7-18 และ 19-30 จำนวน 12 ยูนิต/ชั้น แต่จะแบ่งเป็นโซนเหนือ (วิวฝั่งเอกมัย) และโซนใต้ (วิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิท) ทำให้แต่ละชั้นเหลือเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น มีความเป็นส่วนตัวมากสมกับเป็นคอนโดระดับ Super-Luxury ยิ่งหากบางครอบครัวต้องการ Combine ห้อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็สามารถทำได้ โดยทางโครงการได้กำหนดยูนิตที่สามารถทำได้ไว้ในกรอบสีแดงตามรูปเลยค่ะ เปิดห้องตัวอย่าง Mulberry Grove Sukhumvit โครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ทางโครงการให้มาด้วยมีดังนี้ เครื่องปรับอากาศ ระบบ VRV จาก Daikin ติดตั้งมาให้ทั้งห้อง ส่วนตัว Condensing Units จะถูกจัดไว้นอกอาคารรวมกันทุกยูนิต ไม่ส่งเสียงดังรบกวนในห้องพัก ห้องครัว จะได้ชุดครัวทั้งหมด ทั้งซิงค์ล้างจาน จาก Panasonic พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า คือ ตู้เย็น แบบ Built-in แบรนด์ Liebherr มีจุดเด่นตรงไม่เกิดความชื้นจนทำให้หน้าบานเสียหาย ส่วนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ และไมโครเวฟ จากแบรนด์ Kuppersbusch Common Area จะได้ Furniture Built-in ตู้เก็บรองเท้า ตู้เก็บของหน้าห้อง ห้องนอน ตู้เสื้อผ้า Built-in ในส่วนของ walk in closet ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ครบชุด ได้แก่ โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ จาก TOTO อ่างล้างหน้า แบรนด์ Duravit ตัวก๊อก จาก Hansgrohe พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงาที่เป็นตู้เก็บของได้ด้วย ฉากกั้นอาบน้ำ ฝักบัว Rain Shower จาก Hansgrohe และอ่างอาบน้ำ 2 Bedroom 114 ตร.ม. มาเปิดห้องตัวอย่างที่ขายดีที่สุดของโครงการกันก่อนเลยค่ะ สำหรับ Type 2  Bedroom หน้าประตูทุกห้องจะ Built-in ตู้เก็บของทรงสูง แบ่งเป็น 3 ตอน ซึ่งช่องตรงกลางจะเป็น Mailbox ส่งจดหมาย หรือพัสดุที่ไม่ใหญ่มากให้กับลูกบ้านถึงหน้าประตูห้อง  สำหรับบานประตูห้อง Type 2 Bedroom จะแบ่งเป็น 2 บาน ถ้าเปิดออกทั้งหมดจะกว้างมาก เพื่อรองรับครอบครัวที่ต้องใช้ Wheelchair Digital door lock ใช้แบรนด์ Philips มีความพิเศษตรงแกนล็อค 3 แกนด้วยกัน เป็นแกนล็อคที่แน่นหนาที่สุดในบรรดาโครงการคอนโดมิเนียมปัจจุบันนี้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความแข็งแรงเลยค่ะ โดยรุ่นที่นำมาใช้นี้รองรับการล็อคได้ถึง  5 ระบบ คือ คีย์การ์ด สแกนนิ้ว พาสเวิร์ด One Time Password และกุญแจ ห้องหน้ากว้าง บวกกับ Floor To Ceiling 3 เมตร ทำให้รู้สึกโอ่โถ่ง โปร่งสบายดีนะคะ ส่วนแรกของห้องที่จะพาไปชมนั่นคือห้องครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ได้กระจกเข้ามุมทำให้ห้องครัวไม่ทึบ มีแสงสว่างมากเพียงพอที่จะไม่เกิดอันตรายเวลาใช้งาน สามารถมองเห็น Living Room ทั้งหมด ให้อารมณ์คล้ายกับเป็นครัวเปิดค่ะ    ภายในห้องครัวปูพื้นกระเบื้อง Porcelain หน้าบานตู้ทั้งหมดเป็นลามิเนตที่ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเมื่อจับใช้งาน Top ครัวเป็นหิน QUARTZ ส่วนการติดตั้งไฟเหนือเคาน์เตอร์ อุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีมาให้ตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะ อีกด้านหนึ่งของบริเวณส่วนหน้าห้องจะ Built-in ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของอื่นๆ ได้ด้วย Powder Room ห้องน้ำสำหรับรักแขก ฉะนั้นจะไม่มีพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ และห้อง Laundry ที่สามารถวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าวางซ้อนกันได้ โดยโครงการได้เดินท่อน้ำเตรียมเอาไว้ให้แล้ว และยังสามารถใช้เป็นห้องเก็บห้อง อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมิดชิด โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความอับชื้น เพราะมีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศเอาไว้เรียบร้อย Living Room ทางโครงการตั้งใจให้เป็น Space กว้างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ โต๊ะทานข้าว ได้อย่างมีพื้นที่ว่างอีกเหลือเฟือ มีการ Drop ฝ้าเพื่อซ่อนรางผ้าม่านในทุกหน้าต่างห้อง สำหรับวัสดุพื้นใช้ Synthetic marble กระจกหน้าต่าง Laminate IGU มีคุณสมบัติช่วยกันความร้อนจากภายนอก และลดเสียงรบกวน ขอบอลูมิเนียมสีน้ำตาลแน่นหนาแข็งแรงมาก และมีบานกระทุ้งเปิดรับลมด้านนอกได้ สำหรับ Mulberry Grove Sukhumvit จะไม่มียูนิตไหนที่มีระเบียงห้องนะคะ แต่จะได้พื้นที่ Nook Multi-Purpose Spaces มาแทน อย่างห้อง Type นี้ จะเป็นพื้นที่มุมหนึ่งของ Living Room ซึ่งติดตั้งกระจกบานเฟี้ยมเข้ามุมเอาไว้ให้ด้วย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งแยกจากกัน มี Living Room เชื่อมตรงกลาง ซึ่งจะมีข้อดีตรงได้ความเป็นส่วนตัว และทุกห้องจะได้วิวเมืองเช่นกัน ห้องนอนแรก ก็มีพื้นที่มากพอที่จะวางเตียงขนาด 6 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อีก โดยมีส่วน Walk In Closet กั้นด้วยประตูบานเลื่อนที่มีช่องระบายอากาศป้องกันความชื้นไว้ให้  Walk In Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งานจริง ซึ่ง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบไม่มีบานประตูหน้าตามแบบห้องตัวอย่างนี้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆ ได้ดีมากกว่า เช่น กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ถุงกอล์ฟ ฯลฯ  ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน แยกส่วนเปียก-แห้ง ติดตั้งทุกอย่างมาพร้อมใช้งาน ตามห้องตัวอย่างที่เห็นค่ะ   Master Bedroom ที่มีขนาดไม่หนีกันมากกับห้องนอนแรก โดยห้องนอนทุกห้องปูพื้นด้วย Engineered Teak Wood ผิวไม้สัก วางลายมาสวยมาก ทำให้ห้องดูอบอุ่นเมือนอยู่บ้านเดี่ยวเลยนะคะ Walk In Closet จะได้พื้นที่กว้างกว่าห้องนอนแรกขึ้นมาอีกค่ะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ตามแบบเช่นเดียวกัน เพียงแต่ทุกห้องจะไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เท่านั้น  ห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom ถูกออกแบบมารองรับการอยู่แบบ 2 คนในห้องค่ะ ตั้งแต่พื้นที่ห้องน้ำกว้างมากขึ้น อ่างล้างหน้าแยก His & Her อ่างอาบน้ำ Custom Made และมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากขึ้น ห้องวางโถสุขภัณฑ์กับห้องอาบน้ำแบบ Shower แยกห้องออกจากกันชัดเจนค่ะ มีข้อดีตรงที่สามารถใช้ห้องน้ำพร้อมกัน 2 คนได้ ซึ่งในส่วนของห้อง Shower จะมีทำที่นั่งเอาไว้ให้สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องนั่งอาบน้ำ 1 Bedroom 56.50 ตร.ม. ห้องตัวอย่างสุดท้ายค่ะ สำหรับ Type 1 Bedroom หลังบานประตูห้องไม่เพียงแค่ Built-in ตู้เก็บของมาให้เท่านั้นนะคะ แต่มีการติดตั้งแท่น Wireless Charger เอาไว้ให้  บริเวณประตูห้องมี Master Switch สำหรับปิด-เปิด ไฟทั้งห้อง สำหรับเวลาไม่มีใครอยู่ห้องก็สามารถปิดตรงนี้จุดเดียวได้เลย ไม่ต้องเช็คกันหลายจุด หากไฟดับจะมีไฟเหนือประตูที่จะะส่องสว่างทันที ไม่ให้ห้องมืดจนเกินไป ห้องครัวปิดสำหรับ 1 Bedroom จะมีขนาดย่อลงมาจาก Type 2 Bedroom เล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน โดยเคาน์เตอร์ครัว L shape พร้อมอุปกรณ์ครบเซต ซึ่งไมโครเวฟจะเป็นแบบ 2 ฟังก์ชั่น ใช้ได้ทั้งแบบไมโครเวฟและเตาอบ  ซิงค์ล้างจาน จาก Panasonic ขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อการใช้งานได้หลากหลายขึ้น ผิวสเตนเลสออกแบบมาให้ความความสะอาดง่าย แห้งเร็ว ปากฝาท่อป้องกันกลิ่นและแมลงได้ดี ส่วนก๊อกน้ำสามารถถอดหัวออกมาเป็นสาย เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดยิ่งขึ้น และรองรับระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นได้ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันพร้อมใช้งาน สำหรับห้อง 1 Bedroom จะได้ตู้เย็นแบบบานเดียวแยกช่องฟรีซด้านล่าง แต่สเปคและยี่ห้อเดียวกันกับห้อง 2 Bedroom ค่ะ ติดกันจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าและตู้อบได้ค่ะ Living Room เชื่อมต่อกับพื้นที่ Nook Multi-Purpose Spaces ริมหน้าต่างกระจก แนวยาวคล้ายกับเป็นระเบียงของห้อง แต่สามารถใช้เป็นห้องทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนอนขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง King Size เอาไว้กลางห้อง แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงอยู่ ทุกห้องจะได้ Walk In Closet กั้นปิดได้ด้วยประตูบานเลื่อนที่มีช่องระบายอากาศ เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว  โถสุขภัณฑ์ที่ใช้ทุกยูนิตจะใช้แบบชิ้นเดียว เป็นระบบอัตโนมัติ สะดวกต่อการใช้งาน แยกส่วนเปียก-แห้ง ซึ่งพื้นระหว่างห้องจะมีความต่างระดับกันเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยเวลาเดินของผู้สูงอายุ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องใช้ Wheelchair   ทุกดีเทลของ Mulberry Grove Sukhumvit ถูกคิดขึ้นมา ไม่ใช่แค่ทุก Generation อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายในปัจจุบัน แต่ยังคิดเผื่อไปถึงอนาคต เพราะ "บ้าน" จะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี ที่สำคัญคือต้องเอื้อต่อสุขภาพที่ดี และมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทุกคนในครอบครัว โครงการอื่นๆ จาก MQDC Whizdom Asoke-Sukhumvit Whizdom Station Ratchada–Thapra THE FORESTIAS by MQDC
รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ

รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ

รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ เอาล่ะ ถ้าคุณมีความคิดว่าการทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย ยุ่งยาก แล้วก็ไม่สนุกเลยซักนิด ที่ต้องกลายร่างมาเป็นนางแจ๋วหน้ามัน หัวกระเซิงเพื่อกำจัดฝุ่นภายในบ้านให้หมดเกลี้ยง.... เราขอให้คุณเปลี่ยนความคิดซะใหม่ แล้วตามเราไปดูกันว่า เราจะช่วยให้ “งานทำความสะอาดบ้าน” เป็นเรื่องสวยๆ ชวนพิสมัยได้อย่างไร   เกิดเป็นผู้หญิงในยุคนี้ งานนอกบ้านก็ต้องเริ่ด งานในบ้านก็ต้องให้เป๊ะ ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านสำหรับแม่บ้านยุคใหม่แบบเราที่เวลาก็รีบเร่ง จะต้องบริหารเวลาสำหรับงานบ้านให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ เริ่มจากหาผู้ช่วยคนสำคัญ อย่าง “Dyson V11 Absolute” เพื่อให้งานทุกอย่างสะดวกรวดเร็ว ได้บ้านสะอาดเอี่ยมในพริบตา     ด้วยประสิทธิภาพพลังดูดของ Dyson V11 Absolute ตัวล่าสุดนี้ บวกกับขนาดของแบตเตอรี่ที่ทรงพลังที่สุดที่ Dyson เคยมีมา ทำให้ระยะเวลาในการทำงานสูงสุด 60 นาทีนี้ เป็น 60 นาทีที่คุ้มค่าที่สุดในการทำความสะอาดบ้านสำหรับเรา ยิ่งเป็นคอนโดมิเนียมขนาดไม่เกิน 300 ตร.ม. แบบที่เราอยู่ด้วยแล้ว รับรองว่าสบายหายห่วงได้เลย   เริ่มต้นการทำความสะอาดบ้านวันนี้ด้วย การจิบกาแฟนิดๆ เช็คเมลซักหน่อย พร้อมกับดูดฝุ่นไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะว่า Dyson V11 Absolute เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีน้ำหนักกำลังพอดี สามารถถือและทำงานสะดวกได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว     เมื่อเป็นแม่บ้านในยุคดิจิตอลแล้ว ทุกอย่างก็ต้องดูทันสมัยจริงมั้ยคะ แน่นอนว่า Dyson V11 Absolute นี้ทำงานเต็มกำลังได้แรงสุดๆ แบบไม่เคยงอแง เพราะ Dyson ดิจิตอลมอเตอร์ V11 มีพลังดูดที่เพิ่มกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 20% แถมยังมีหน้าจอ LCD เพิ่มความไฮโซเข้าไปอีก ซึ่งหน้าจอ LCD นี้จะแสดงโหมดการทำความสะอาดให้เห็นอย่างชัดเจน แล้วก็ยังง่ายต่อการสลับโหมดด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Eco แบบประหยัดพลังงาน, โหมด Auto แบบสวยๆ และ Boost ที่พลังดูดแรงสะใจ   เอาจริงๆ แล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แค่โหมด Eco หรือ Auto ก็ทำให้บ้านเราสะอาดเรียบร้อยได้แล้วค่ะ แต่บางพื้นผิว หรือพื้นที่ที่ต้องการแรงดูดอันทรงพลังมากๆ อย่างพื้นพรมหนาๆ หรือต้องการกำจัดไรฝุ่นบนที่นอนและโซฟา โหมด Boost ก็พร้อมจะเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งได้อย่างไม่มีเกี่ยงงอนเลยทีเดียว     ความไฮเทค ไฮโซของการมีหน้าจอ LCD ไม่ได้มีดีแค่การบอกโหมดการใช้งานเท่านั้นนะจ๊ะ เพราะหน้าจอเล็กๆ นี้ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานปัจจุบัน พลังงาน และเวลาที่คงเหลือ เพื่อให้เราวางแผนการทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องทำความสะอาดตัวกรองให้อีกด้วย   คุยเรื่องสเปคต่างๆ ของตัวเครื่องอย่างเดียวเดี๋ยวจะหาว่าโม้ งานนี้บอกเลยว่า เราได้ทดลองใช้จริงไรจริงไม่พึ่งสแตนอินนะจ๊ะ เรียกว่าแกะกล่องแล้วก็เอามาดูดๆๆๆๆ กันให้ครบทุกซอกทุกมุมในบ้านให้รู้กันไปเลย ก็ Dyson เค้าเป็นตัวจริงเรื่องเครื่องดูดฝุ่นที่หมกมุ่นพัฒนามานานกว่า 25 ปีเลยนี่นา แล้วจะต้องไปง้อยัยแจ๋วจอมอู้อีกทำไม   "รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ" จากประสบการณ์ใช้จริง ข้อแรกเราเห็นว่า Dyson V11 Absolute ตัวนี้ จับได้ถนัดมือขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ควบคุมทิศทางได้ง่าย ถึงแม้น้ำหนักของตัวเครื่องจะไม่ได้เบาหวิวจนสามารถยกดูดฝุ่นบนที่สูงๆ ได้คราวละนานๆ แต่ชะนีออกกำลังกายแบบเราก็สามารถอยู่ค่ะ ถือว่าเป็นการเวทเทรนนิ่งเบาๆ ซึ่งในชีวิตจริงแล้ว เราก็ไม่ได้จับเครื่องดูดฝุ่นมายกดูดผ้าม่านกันทุกวันหรอกจริงมั้ย     จุดเด่นต่อมาของ Dyson V11 Absolute คือ หัวแปรงดูด และอุปกรณ์เสริมที่ให้มาเยอะแยะมากมายจนบางทีก็แอบงงว่าตัวเองเลือกใช้ถูกประเภทอยู่รึเปล่า ซึ่ง Highlight ของรุ่นนี้คือ หัวดูดแบบ High Torque ที่เป็นหัวแปรงแรงบิดสูงพร้อมเซ็นเซอร์โหลดแบบไดนามิก (Dynamic Load Sensor - DLS) โดยระบบนี้จะช่วยตรวจจับแรงต้านของพื้นผิว เพื่อทำการเปลี่ยนโหมดพลังดูดให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ทำให้แม่บ้านสมัยใหม่อย่างเราไม่ต้องคอยกังวลว่าจะกดโหมดถูกๆ ผิดๆ จนทำให้การทำความสะอาดบ้านขาดความเนี้ยบแล้วต้องเหนื่อยทำซ้ำอีกรอบ     ส่วนหัวดูดแบบอื่นๆ ก็คล้ายกับรุ่นก่อนเลยค่ะ มีทั้งหัวดูดลูกกลิ้งนุ่ม, หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก, หัวดูดปากแคบ, หัวดูด 2 in 1, และแปรงปัดฝุ่นขนนุ่ม ซึ่งหัวดูดแต่ละอันก็มีคุณสมบัติเฉพาะที่ต่างกันออกไป ทำให้ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผงขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ เศษขนม เส้นผม ขนสัตว์เลี้ยง ฝุ่นฝังแน่น หรือแม้แต่สารก่อภูมิแพ้อย่างไรฝุ่นตัวจิ๋ว ก็เก็บได้เรียบโดยไม่ทำลายพื้นผิวแต่อย่างใด ที่สำคัญหัวดูดทุกตัว ข้อต่อทุกชิ้นสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกเดียว ทำให้แม่บ้านสวยๆ แบบเราไม่ต้องออกแรงเยอะเลยค่ะ     พูดถึงฝุ่นผงขนาดเล็ก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้แล้ว หลายคนอาจจะกลัวว่า มอเตอร์ที่ดูดแรงทรงพลังอย่างนี้ แรงลมที่ออกมาทางท้ายเครื่องจะพาอะไรต่อมิอะไรฟุ้งกระจายเต็มอากาศในห้องมั้ย เรื่องนี้ทาง Dyson เค้าเคลมว่า Dyson V11 Absolute มีระบบการกรองที่ปิดผนึกอย่างแน่นสนิท สามารถดักจับอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กระดับ 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97% เลยทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ หรือแบคทีเรียต่างๆ ที่ว่าอนุภาคเล็กจนต้องมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ ก็จะถูกเก็บเข้าไปในถังฝุ่นจนหมดเกลี้ยง   แล้วถ้าถังฝุ่นเต็มล่ะ? เราต้องสัมผัสกับถังเก็บฝุ่น ต้องกลั้นหายใจใส่หน้ากากสิบชั้นอีกรึเปล่า? ลืมภาพถุงเก็บฝุ่นที่มีแต่ฝุ่นผงนานาชนิดจนเกรอะกรังเทเท่าไหร่ก็หลุดไม่หมดไปได้เลย เพราะ Dyson มีการออกแบบวิธีการเทถังฝุ่นแบบที่เราไม่ต้องสัมผัสโดนฝุ่นเลยยยยยย ซึ่งในรุ่น V11 Absolute นี้พัฒนามาดีกว่ารุ่นเก่าเยอะ ด้วยระบบ Point and Shoot แค่เรายื่นฝาถังเก็บฝุ่นลงไปในถุงขยะ แล้วก็ปลดสลักตัวล็อค ฝุ่นทั้งหมดก็จะลงไปกองอยู่ในถุงขยะแล้ว เหลือแค่ผูกปากถุงให้เรียบร้อย แล้วก็ปิดฝาถังเก็บฝุ่นแค่นี้พร้อมใช้งานครั้งต่อไปได้สวยๆ     เรื่องการจัดเก็บเครื่องก็เป็นอีกเรื่องที่มักจะกวนใจแม่บ้านสายเนี้ยบอย่างเรา เพราะหลายครั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ก็ไม่ได้สวยงามชวนให้เอามาอวดโชว์ซักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหากับ Dyson ไหนๆ ก็ซื้อมาตั้งแพงแล้ว ถ้าอยากจะแอบวางไว้อวดเบาๆ ก็ไม่น่าจะแปลกเกินไปหรอกเนอะ ก็ในกล่องเค้ามีตัวแขวนยึดกับผนังพร้อมแท่นชาร์จมาให้ด้วยค่ะ ทำให้การจัดเก็บเครื่องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยจนอยากจะอวดชาวโลกให้รับทราบโดยทั่วกัน นอกจากจะทำให้หยิบใช้งานได้ง่าย พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ขัดตาอะไรถ้าจะมีเครื่องดูดฝุ่นอย่าง Dyson แขวนไว้ในห้องกับเค้าด้วย     เชื่อว่าเครื่องดูดฝุ่น Dyson น่าจะเป็นไอเทมในฝันของแม่บ้านยุคใหม่หลายๆ คนเลยแหละ ยิ่งโดนเราป้ายยาแบบนี้คงต้องอยากได้กันบ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าลังเลยังไม่ปักใจเชื่อรีวิวของเรา ลองไปทดลองเล่นเครื่องจริงกันได้ที่ร้าน Dyson Demo สยามพารากอน และไอคอนสยามก่อนได้นะคะ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีหลายแห่งเลยจ้า แต่ถ้าการป้ายยาของเราได้ผล นอกจากการเดินไปช็อปปิ้งด้วยตัวเอง ยื่นบัตรให้พนักงานรูดปรื้ดๆ แล้ว เรายังสามารถเข้าไปคลิกสั่งซื้อแบบออนไลน์ให้สมกับเป็นแม่บ้านยุคใหม่กันได้ที่ เว็บไซต์ https://www.dyson.co.th/ เชื่อเถอะว่า มันจะเป็นการลงทุนเงินหมื่น ที่คุ้มแสนคุ้มเลยทีเดียว   แล้วถ้าอยากได้ห้องชุดสวยๆ อยู่ใจกลางเมือง มีวิวดีๆ ติดริมน้ำ หรืออยากมาเป็นเพื่อนบ้านกับเรา เชิญชมห้องตัวอย่างได้ที่ Park Court Sukhumvit 77 เลยจ้า   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน (Dyson V8) รีวิว PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง เทคนิคทำความสะอาดบ้านแบบง๊ายง่าย ห่างไกล “ภูมิแพ้” บ้านสะอาดไร้ฝุ่นด้วย BOSCH Flexxo Serie 4  
รีวิวบ้านเดี่ยว THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรูริมถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย)

รีวิวบ้านเดี่ยว THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรูริมถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย)

  รีวิวบ้านเดี่ยว The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรู ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ครั้งแรกของเมืองไทยกับความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง “เอ็นริช” กับตัวแทนที่ปรึกษา KonMari Consultant  ระดับมาสเตอร์  ผสานแนวคิดการจัดบ้านในสไตล์ “มาริเอะ คอนโดะ” 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกที่ได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์ในปี 2014 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการจัดบ้านระดับโลก  มอบความเหนือระดับด้วยฟังก์ชันที่ผสานแนวคิดการออกแบบสไตล์โมเดิร์น จัดสรรพื้นที่ภายในบ้านทุกห้องทุกพื้นที่ใช้สอยเพื่อประโยชน์การใช้งานสูงสุดเพราะที่นี่คือ  “บ้านที่ถูกคิดและออกแบบไว้แล้วเพื่อเป็นบ้านที่ไม่มีวันรก”   The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ บ้านเดี่ยวดีไซน์เก๋ ไอเดียดีที่ใครเห็นก็ต้องว้าว ภายในบ้านตัวอย่างถูกออกแบบและตกแต่งเป็นอย่างดี สะท้อนการอยู่อาศัยที่ผสานไปกับธรรมชาติ และพื้นที่ใช้สอยสำหรับทุกคนในครอบครัว พร้อมรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal แนวคิดการออกแบบ โครงการ The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ - จรัญสนิทวงศ์ ให้ความสำคัญกับการออกแบบ ซึ่ง บริษัท สถาปนิก ไอดิน ออกแบบโดยคำนึงถึงบริบทสภาพแวดล้อมรอบพื้นที่ เชื่อว่าทุกปัจจัยแวดล้อมย่อมมีผลต่อการอยู่อาศัยทั้งเรื่องทิศทางแสงแดด ลม ฝน และวิถีการใช้ชีวิตยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับบ้านมากขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปลอดภัย และทุกพื้นที่ภายในบ้านสามารถตอบสนองทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายตามความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัวทุกเพศทุกวัย ออกแบบบ้านอย่างสร้างสรรค์ในลักษณะ C-Shape ทำให้เกิดความโปร่งโล่งของพื้นที่ ใช้การไหลเวียนของอากาศ ทิศทางแสงแดดและสายลมในแต่ละช่วงเวลาตลอดวัน ส่งเสริมให้บ้านเป็นบ้านที่อยู่สบายและเป็นสถานที่ชาร์จพลังชีวิตดีๆ ได้ทุกวัน บ้านรูปทรง C-Shape ออกแบบให้มีคอร์ทภายในบ้าน แทนที่จะทำเป็นสี่เหลี่ยมเต็มพื้นที่ การวางผังอาคารแบบนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าต่างให้สามารถรับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านได้มากขึ้น บริเวณคอร์ทหันไปเจอด้านที่เป็นผนังทึบของบ้านอีกฝั่ง ทำให้คอร์ทภายในบ้านมีความเป็นส่วนตัวมาก แต่ไม่รู้สึกอึดอัด อีกทั้งเปิดมุมมองธรรมชาติได้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน การใช้พื้นที่ตรงกลางของรูปทรงตัว C ออกแบบเป็นสวนสวยบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่เอ้าท์ดอร์เชื่อมต่อรูปทรงบ้านเพื่อให้ทุกส่วนภายในบ้านเข้าถึงความเป็นธรรมชาติ และทำให้สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีความสุข การตกแต่งเน้นความเรียบแต่หรู และจัดวางพื้นที่ให้สะดวกต่อการใช้งาน ทั้งพื้นที่จอดรถที่มีขนาดกว้างกว่าปกติ รองรับการจอดรถ super car ได้ทุกช่องจอด พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 กับฝ้าเพดานสูง โล่งโปร่ง มองเห็นสวนที่ชั้น 2 และต่อเนื่องไปยังชั้นลอย ที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ห้องนอนใหญ่ master bedroom ได้โดยตรง เป็นดีไซน์ภายในที่สร้างความต่อเนื่องในการใช้งานให้แก่เจ้าของบ้านในทุกช่วงเวลา พื้นที่ชั้น 1 มีความเด่นของดีไซน์ที่เป็น Duo-Leisure Space ใช้เป็นส่วนต้อนรับเพื่อนบ้านหรือแขกพิเศษ สามารถจัดเลี้ยง ในบรรยากาศเป็นกันเองระหว่างกลุ่มเพื่อนหรือจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวเล็กๆ เรียบง่าย ขณะเดียวกันในบริเวณชั้น 2 พื้นที่เชื่อมต่อยังใช้เป็นส่วนพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวด้วย มีพื้นที่สีเขียวรายรอบบ้านเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด สนามหญ้าและสวนสวยลอยฟ้า การออกแบบฟังก์ชันการใช้สอยถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้การทำงานร่วมกันกับตัวแทนที่ปรึกษา KonMari Consultant ระดับมาสเตอร์ ในทุกพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก  ห้องพักผ่อน  ห้องครัว  (ออกแบบส่วนห้องครัวแยกพื้นที่ระหว่างครัวไทยและครัวแพนทรี ) ห้องนอนและห้องน้ำ ล้วนได้รับการใส่ใจอย่างละเอียดประณีตและการจัดระเบียบบ้านโดยคำนึงถึงประโยชน์การใช้สอยสูงสุด  แสดงให้เห็นจุดเด่นของการผสมผสานงานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นโดยมีเทคโนโลยีโฮมออโตเมชันและแนวคิด “คอนมาริ” ที่ทำให้เกิดรูปแบบฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหมาะกับวิถีชีวิตใหม่ New Normal ภายในบ้าน นวัตกรรมการอยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่การใช้ชีวิตสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี นี่คือยุคของ IoT หรือ Internet of Things ที่ก่อเกิดเครื่องมืออุปกรณ์ในกลุ่มที่เรียกว่า Life Solution ซึ่งกลุ่มบริษัทเอ็นริช ให้ความสำคัญมากในการนำมาใช้พัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Guiding You to Practical Living ผ่านรายละเอียดของการใช้พื้นที่และฟังก์ชันต่างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว บ้านทุกหลังติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านเพื่อความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย Home Automation ใช้ระบบการสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านด้วยเสียง นวัตกรรม เทคโนโลยีที่บ้านยุคใหม่ต้องมีเพื่อการเริ่มต้นสังคมไร้สัมผัส (Touchless Society) Smart Kitchen โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับพานาโซนิค ซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทคิทเช่น ต้นแบบแนวความคิดแบบญี่ปุ่น (JAPAN SOLUTION) ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ครัวอัจฉริยะจากพานาโซนิค ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์เรื่องการจัดเก็บของให้ดูสะอาด เรียบร้อย ไม่รกสายตา รูปลักษณ์สวยงาม  ทั้งสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่เก็บของถูกออกแบบให้เก็บเครื่องใช้ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน และหยิบของใช้ได้อย่างง่ายดาย เป็นไปตามแนวคิดการจัดบ้านสไตล์ “คอนมาริ” โดยแท้ ระบบความปลอดภัยมาตรฐานตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มระดับความมั่นใจอีกขั้นด้วยนวัตกรรม Visitor GPS access control   สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ระดับลักซ์ชัวรี  ดีไซน์พื้นที่ใช้สอยตอบสนองความต้องการอย่างครบครัน  ฟังก์ชั่นภายในอาคารมีทั้งพื้นที่เป็นส่วนตัวและพื้นที่สำหรับรองรับบุคคลภายนอก ชั้น 1 เป็นส่วนล็อบบี้ดีไซน์ทันสมัย พื้นที่โปร่งโล่ง ใช้เป็นส่วนพักผ่อน หรือคุยงานกลุ่มย่อยแบบสบายๆ มี Exclusive Kitchen & Bar เป็นห้องครัวส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบครันสำหรับประกอบอาหาร และจัดปาร์ตี้ส่วนตัว ทั้งสามารถใช้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อกิจกรรมการเรียน สาธิตการทำอาหาร  ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์งานอดิเรกใหม่ของคนยุคนี้ ชั้น 2 เป็นส่วนสระว่ายน้ำ ห้องประชุม ซึ่งเป็นฟังก์ชันกึ่งสาธารณะ สามารถใช้รับรองแขกเป็นส่วนตัวหากไม่สะดวกจัดประชุมที่บ้าน ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ มีห้องเล่นเด็ก ห้องสปา ห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ครบครันทันสมัย  และมีส่วนที่ออกแบบไว้เป็นพรีเมียม ไพรเวท คลาส The MARQ Exquisite  อยู่ในพื้นที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบทำเลเด่นและมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นชุมชนเมืองคุณภาพของทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก (ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์) การคมนาคมสะดวก ใช้เวลาเดินทางน้อยเพราะใกล้เส้นทางเชื่อมต่อถนนสายสำคัญหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะระบบราง (MRT และ BTS)  ล้วนให้ความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร 15 นาทีจากโครงการถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 เข้าสู่ย่านธุรกิจสาทร-สีลม 10 นาทีจากโครงการถึงจุดขึ้น - ลงทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก (จตุจักร-ฉิมพลี) ทางด่วนสายใหม่เชื่อมการเดินทางฝั่งธนบุรี - พระนคร 10 นาทีจากโครงการสู่สถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งเป็นสถานีร่วมของรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ท่าพระ - เตาปูน) และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิท-สีลม) 5 นาทีจากโครงการถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4  สู่สถานี  MRT  สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย) สนใจข้อมูลโครงการเพิ่มเติม คลิก https://www.en.co.th/project/themarq-ratchaphruek-charansanitwong/ โครงการอื่นๆ ของ ENRICH - https://www.en.co.th/ โทร. 02-422-4222   ข่าวเกี่ยวกับ ENRICH Enrich คว้ารางวัล Special Recognition for Design & Construction Enrich รุกหน้าตลาดอสังหาฯ