Tag : Review

672 ผลลัพธ์
PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง ท่ามกลางสายน้ำและธรรมชาติ ในสังคมคุณภาพ T77

PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง ท่ามกลางสายน้ำและธรรมชาติ ในสังคมคุณภาพ T77

PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูใจกลางเมือง ในสังคมคุณภาพT77 ด้วยวิถีชีวิตการอาศัยขอคนไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ใครๆ ก็อยากมีบ้านอยู่ริมน้ำ ยิ่งในปัจจุบันที่ดินริมแม่น้ำ หรือติดแหล่งน้ำสวยๆ ก็ยิ่งหายากและมีราคาแพงขึ้นทุกวัน แต่นอกเหนือจากการได้อยู่ติดริมน้ำแล้ว จะมีสักกี่ที่ที่เพียบพร้อมไปด้วยศักยภาพการอยู่อาศัยครบรอบด้าน ทั้งทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง ความสะดวกสบายที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกการเดินทาง และยังสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในอุดมคติท่ามกลางธรรมชาติที่ผสานกันได้อย่างลงตัว   “PARK COURT Sukhumvit 77” คอนโดมิเนียมสุดหรูจาก บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK Real Estate ปักหมุดบนทำเลทองของกรุงเทพฯ ใจกลางสุขุมวิท ออกแบบตัวโครงการให้มีสไตล์เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสะดวกสบายมากที่สุด ด้วยบรรยากาศของชุมชนอันเรียบง่ายและเงียบสงบ หลบหลีกจากความวุ่นวายต่างๆ ของเมืองหลวงได้อย่างไม่น่าเชื่อ บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวยขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ให้ผ่อนคลายสูดหายใจได้เต็มปอด   PARK COURT Sukhumvit 77 ตั้งอยู่ใจกลาง T77 Lifestyle Community ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างมีสไตล์เหนือระดับ ภายใน T77 นอกจากจะประกอบไปด้วยบ้านและโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ แล้ว ยังมีทั้งโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอย่าง Bangkok Prep, Habit Mall ซึ่งเป็น Community ที่มีสินค้าและร้านค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียว และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อีกด้วย ทำให้บรรยากาศภายใน T77 นี้ครบถ้วนไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจนแทบจะไม่ต้องออกไปผจญภัยนอกพื้นที่เลย   ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ของโครงการ PARK COURT เองก็เรียกได้ว่าอยู่ในบริเวณที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แต่ละยูนิตเปิดรับวิวพื้นที่สีเขียว และบรรยากาศริมคลองพระโขนงอันเรียบง่ายได้อย่างเต็มตา ด้วยจำนวนยูนิตรวมเพียง 70 ห้อง ยิ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัยมากขึ้นไปอีกขั้น   ภายในโครงการ PARK COURT Sukhumvit 77 แบ่งออกเป็น 5 อาคาร โดยแต่ละอาคารมีเพียง 14 ยูนิตเท่านั้น นั่นหมายความว่า ในหนึ่งชั้นจะมีเพียง 2 ยูนิต!! จึงนับว่าเป็นโครงการที่มีขนาดห้องที่ใหญ่มากในปัจจุบัน สำหรับแบบห้องจะมีอยู่เพียงแบบเดียวคือ 3 Bedrooms + 1 Multi-purpose Room โดยมีพื้นที่ใช้สอยไม่ต่ำกว่า 280 ตร.ม. ซึ่งแต่ละห้องอาจจะมีขนาดแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย (ไม่เกิน 5 ตร.ม.) แต่ฟังก์ชั่นรวมๆ แล้วเหมือนกันเกือบทั้งหมด   ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาก จึงให้บรรยากาศเหมือนกับการอยู่บ้านมากกว่าคอนโดมิเนียม การออกแบบผังห้องที่คำนึงถึงการใช้งาน การผสมผสานกันอย่างลงตัวกับวิวทิวทัศน์ และสภาพแวดล้อม ที่นอกจากเรื่องความสวยงามแล้วผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ Condominium Lifestyle ที่ไม่เหมือนใคร   จากจุดเด่นที่ PARK COURT เป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมที่มียูนิตขนาดใหญ่มากที่สุดโครงการหนึ่ง จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น มีพื้นที่สามารถรองรับการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวในบริเวณ “ห้องนั่งเล่น” หรือ “ห้องรับแขก” ขนาดใหญ่ รวมถึง “ห้องครัว” ที่กว้างขวาง และหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพ จัดสรรพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน สามารถทำครัวหนักๆ จริงจังโดยที่ไม่มีปัญหากลิ่นรบกวน พร้อมด้วยมุม Pantry พร้อม Counter Bar ที่เชื่อมต่อกับ Dining Area ซึ่งน่าจะเป็นอีกมุมโปรดของคนในบ้านเมื่อได้ใช้เวลาสังสรรค์ร่วมกัน     ขณะเดียวกัน หากต้องการมุมสงบสำหรับอ่านหนังสือ ทางโครงการก็ได้ออกแบบให้มีมุมส่วนตัว ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับหนังสือเล่มโปรดได้ในบรรยากาศสบายๆ และไม่ถูกรบกวนจนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามต้องการ หากต้องใช้เป็นห้องรับแขกแบบส่วนตัวก็แค่เลื่อนฉากกั้นก็ได้พื้นที่ที่ส่วนตัวขึ้นอย่างทันตา     ในส่วนของห้องนอน เริ่มกันที่ Master Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสมกับความหรูหราอลังการของโครงการ นอกจากจะว่าเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ king size ได้อย่างสบายๆ แล้ว ยังมีที่เหลือพอสำหรับมุมพักผ่อนที่จะเลือกว่าเป็น Day Bed หรือชุดเก้าอี้สำหรับนั่งอ่านหนังสือก็ทำได้สบายๆ  แถมยังมีที่มากพอจะจัดเป็นมุมนั่งทำงานก็ยังไหวนะคะ     อ้อ ลืมบอกไปว่าระเบียงของโครงการนี้กว้างขวางเกินเรื่องมากๆ เพราะนอกจากจะมีพื้นที่เป็นความยาวตลอดหน้ากว้างของคอนโดแล้ว ยังกว้างมากพอที่จะสามารถวางชุดเก้าอี้ไว้จิบชา กาแฟ ชมวิวกันได้สวยๆ อีกด้วย   นอกจากนี้พื้นที่ห้องน้ำของ Master Bedroom ก็กว้างขวางมากพอที่จะมี Walk-in Closet ใหญ่ๆ เอาใจสายสาวๆ สายแฟชั่นได้อย่างเต็มที่ ด้วยพื้นที่เก็บของ และตู้เสื้อผ้า Bulid-in อีกเพียบ ขณะเดียวกัน Layout ของห้องน้ำก็แยกสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน บริเวณอ่างล้างหน้าจัดมาให้ 2 อ่างแบบ His&Her ทำให้ช่วงเวลาเร่งรีบของแต่ละวันสามารถใช้งานห้องน้ำได้โดยที่คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายไม่ต้องแย่งกันเลยค่ะ และอีก Highlight เด่นของห้องน้ำก็คือ อ่างอาบน้ำ ที่ตั้งไว้ที่บริเวณเดียวกับกระจกเข้ามุมพอดิบพอดี จึงเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้การอาบน้ำรื่นรมย์ยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดรับวิวสวยๆ ได้อย่างเต็มที่   ถัดมาที่ห้องนอนห้องที่ 2 ซึ่งมีขนาดเล็กลงมาจาก Master Bedroom แต่ก็ยังกว้างมากพอที่จะวาง Single Bed พร้อมๆ กันได้ 2 หลังเลยค่ะ หรือจะเปลี่ยนเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังเหลือที่ใช้สอยอีกเยอะ ในขณะที่ห้องนอนเล็กก็ไม่ได้เล็กตามชื่อเลยนะ อาจจะมีพื้นที่ใหญ่กว่าห้องทั้งห้องของบางโครงการซะอีก   ในห้องนอนทั้ง 2 ห้องนี้ มีห้องน้ำในตัว และมีเฟอร์นิเจอร์ Build-in มาให้เรียบร้อย แถมยังมีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีก เรียกว่าครบถ้วนเรื่องการใช้สอยประโยชน์มากเลยทีเดียว แถมทุกห้องยังมีกระจกบานใหญ่สามารถเปิดรับวิว และแสงสว่างได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสามารถเปิดออกไปที่ระเบียงที่เชื่อมต่อถึงกันโดยรอบได้อีกด้วย     หากใครสนใจโครงการ PARK COURT Sukhumvit 77 ก็สามารถเข้ามาจับจองเป็นเจ้าของได้นะคะ ทางโครงการยังมีห้องเหลือให้เลือกอยู่ แต่ก็ไม่มากแล้ว เพราะในส่วนที่จัดสรรให้เป็นคอนโดมิเนียม จะมีแค่อาคาร A และ D เท่านั้น ส่วนอาคารอื่นๆ ที่เหลือกจะถูกจัดสรรให้เป็น Service Apartment ในรูปแบบการเช่าค่ะ ซึ่งก็แว่วว่าห้องในส่วนนี้มักจะถูกเช่าเต็มเกือบตลอดเวลา นั่นทำให้เห็นว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ในทำเลใจกลางเมืองแบบนี้ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกมาก อาจจะด้วยความเพียบพร้อมรอบด้าน แถม Facility ก็แน่นสมราคา ถึงจะมีราคาเช่าที่จัดว่าสูง แต่ตลาดเช่าทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยเองก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว   ใครที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมโครงการก่อน สามารถติดต่อไปที่ทาง PARK COURT หรือที่ทาง มั่นคง การเคหะได้เลยนะคะ รับรองกว่ายิ่งได้เห็นบรรยากาศจริงของโครงการ ได้สัมผัสความเงียบสงบเป็นส่วนตัวด้วยตัวเองแล้ว ต้องยิ่งอยากได้เป็นเจ้าของคอนโดหรูริมน้ำ บนทำเลใจกลางสุขุมวิทแบบนี้อย่างแน่นอน บทความที่เกี่ยวข้องกับมั่นคง การเคหะ มั่นคง เดินแผนธุรกิจ 5 ปี รักษาธุรกิจให้โตในภาวะผลกระทบ Covid-19 “ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ (ชวนชื่น) ปทุมธานี” สนามกอล์ฟที่เหล่านักกอล์ฟต้องมาเยือน ชวนชื่น แกรนด์ เอกชัย บางบอน : รีวิวบ้าน Chuanchuen Town Rangsit-Klong 1-ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง 1 : รีวิวทาวน์โฮม      
รีวิวคอนโด สุขุมวิท “Mulberry Grove Sukhumvit” ใส่ใจเพื่อทุกคนในครอบครัว

รีวิวคอนโด สุขุมวิท “Mulberry Grove Sukhumvit” ใส่ใจเพื่อทุกคนในครอบครัว

สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน เห็นได้จากหลายครอบครัวเริ่มใช้ชีวิตอยู่แบบครอบครัวเล็ก บ้างก็อยู่เป็นโสดกันมากขึ้น สังคมไทยใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ขึ้นทุกขณะ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม แม้กระทั่งอากาศที่ทุกชีวิตต้องหายใจเข้าไปยังไม่บริสุทธิ์เหมือนเดิมอีกแล้ว วิถีชีวิตในการอยู่อาศัยจึงต้องเริ่มหาอะไรที่เข้ามาสร้างคุณภาพชีวิตได้ดีกว่าที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์สุดแสนท้าทายของเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ออกมานำเสนอ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย เพราะหลายโครงการใหม่ๆ ไม่ได้ขายแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีนวัตกรรมทั้งในเรื่องของการดีไซน์ วัสดุที่นำมาใช้ เทคโนโลยี ความปลอดภัย ตลอดจนเซอร์วิสที่จะมาอำนวยความสะดวกเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในโครงการ สิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสิ่งดีๆ เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัว   เมื่อพูดถึงเรื่องการทำโครงการที่อยู่อาศัยให้สนองความต้องการของตลาดยุคปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 หลักเกณฑ์ใหญ่ๆ ตามกลุ่มผู้บริโภค นั่นคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับกลุ่มครอบครัวไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งจากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีตัวเลขประมาณการณ์ออกมาว่าในปี 2563 จะมีผู้สูงอายุทั่วประเทศ 12,620,340 คน คิดเป็น 113.89% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในปี 2573 จะมีผู้สูงอายุทั่วประเทศอยู่ที่ 17,581,000 คน คิดเป็น 179.38% ประเทศไทยก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ในระยะ 2-3 ปีหลัง เราจึงได้เห็นการพัฒนาโครงการสำหรับกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุมากขึ้น   แน่นอนค่ะว่ารีวิวคอนโดฉบับนี้จะพาไปชมโครงการสำหรับกลุ่มครอบครัว ซึ่งทั่วไปแล้วเรามักจะเห็นโครงการลักษณะนี้เป็นบ้านเดี่ยวกันมากกว่า เพราะมีพื้นที่มากพอสำหรับการอยู่อาศัยร่วมกันในทุกช่วงวัย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยทำเลที่ออกไปโซนชานเมือง แล้วทำไมการอยู่อาศัยแบบครอบครัวจะอยู่ใจกลางเมืองไม่ได้ล่ะ จริงไหมคะ? การเดินทางสะดวกกว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ตัวมากมาย ที่สำคัญคือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถไปโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้การออกแบบภายในยูนิต รวมถึง Facilities ต่างๆ ก็เอื้อต่อความปลอดภัย สร้างสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีได้ On the way to “Mulberry Grove Sukhumvit” หากเดินทางมาจากใจกลางเมือง บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก ผ่าน BTS สถานีเอกมัย (ทางออก 3) ประมาณ 250 เมตร ถัดจากโรงพยาบาลสุขุมวิทมานิดเดียวก็จะพบกับโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ที่เราจะมีรีวิวให้ชมกันค่ะ ผ่านมาแถวเอกมัย สิ่งแรกที่จะนึกถึงคงหนีไม่พ้นร้านอาหารอร่อย คาเฟ่สวย มากมายเปิดกันตั้งแต่ช่วงสายจรดเย็น แล้วแวะดูหนังกันที่เมเจอร์ สุขุมวิท ช้อปปิ้งที่เกตเวย์ เอกมัย หรือบิ๊กซี เอกมัย ยาวกันจนถึงยามค่ำคืนที่เป็นแหล่งของร้านแฮงค์เอาท์ชื่อดังหลายร้าน และยังมีทั้งโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง โรงพยาบาลคุณภาพ คงไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วล่ะค่ะว่าเอกมัยนั้นครบจริงๆ “Mulberry Grove Sukhumvit” by MQDC      โครงการคอนโด ริมถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าสำหรับทุก Generation อย่าง “Mulberry Grove Sukhumvit” จาก MQDC เป็นหนึ่งในผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการงานวิจัยที่ร่วมกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และจากการศึกษางานวิจัยจากทั่วโลกพบว่า ความสุขที่แท้จริงของคนไทยคือการได้อยู่กันเป็นครอบครัว โดยมีกิจกรรมที่เกิดการแลกเปลี่ยนร่วมกัน มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ให้กับเด็ก เกิดการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้สูงอายุที่ได้อยู่ร่วมกับลูกหลานอย่างปลอดภัย มีสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกันก็ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวตามความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยด้วย จึงกลายเป็นคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกในประเทศไทยที่ออกแบบมาจนทำให้เกิดเทรนด์การอยู่อาศัยในนิยามใหม่ที่เรียกว่า “Intergeneration” ภายใต้แนวคิดโครงการ “Design for the finest intergeneration living คอนโดที่ออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชั่น” โดยมีรายละเอียดโครงการตามนี้ค่ะ Super-Luxury High Rise 37 ชั้น 287 ยูนิต ที่ดิน 2-2-01.2 ไร่ Auto Parking-Conventional Parking 100 % (ชั้น 1-6) ขนาดห้อง 1 Bedroom 47-56.5 ตร.ม. (144 ยูนิต) 2 Bedroom 87-135 ตร.ม. (136 ยูนิต) 3 Bedroom 165 ตร.ม. (2 ยูนิต) Duplex Penthouse 216.5 ตร.ม. (1 ยูนิต) Penthouse 180-245.5 ตร.ม. (4 ยูนิต) Floor to Ceiling 3 เมตร คาดว่าแล้วเสร็จ Q4 2566 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 250,000 บาท/ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมคุณภาพที่ส่งให้โครงการมีความน่าสนใจ โดดเด่น และแตกต่างไปจากโครงการทั่วไป ตั้งแต่เริ่มวางคอนเซป การออกแบบทั้งส่วนกลาง-ยูนิตพักอาศัย การก่อสร้าง การใช้วัสดุ เทคโนโลยี ตลอดจนเซอร์วิสต่างๆ ดังนี้ รับประกัน 30 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ โครงสร้าง หลังคา ประตู หน้าต่าง ระบบสุขาภิบาล ระบบไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในที่พักอาศัย Combine Unit บางยูนิตที่กำหนดไว้ สามารถ Combine กันได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ หากต้องการขยายครอบครัวในอนาคต Energy Recovery Ventilation (ERV) ระบบแลกเปลี่ยนอากาศ โดยจะเติมอากาศบริสุทธิ์นอกอาคารเข้ามา ขณะเดียวกันก็ถ่ายเทความร้อน ความชื้นภายในห้องกลับออกไปภายนอก และยังช่วยเรื่องการควบคุมอุณภูมิภายในห้อง ช่วยการทำงานของเครื่องปรับอากาศไม่ให้หนักเกินไปอีกด้วย ทุกพื้นที่รองรับทุกช่วงวัย ทุกพื้นที่คำนึงถึงการใช้  Wheelchair จึงให้ให้มีขนาดกว้างกว่าทั่วไป Nook Multi-Purpose Spaces พื้นที่อเนกประสงค์ภายในทุกยูนิต ซึ่งจะกั้นเป็นห้องสำหรับใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป หรือจะเปิดโล่งเพิ่มพื้นที่ของ Living Room ให้ยิ่งกว้างขึ้นไปอีกได้ วัสดุคุณภาพ สเปคห้องของที่นี่ก็โดดเด่น คำนึงถึงการใช้งานจริงได้ดี หลายชิ้นเป็นสินค้านำเข้า บางชิ้นก็เป็นงาน Custom Made Mulberry Special Services เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน อาทิ Caregiver ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องของสุขภาพและอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง Wellness Manager ผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษา คอยดูแลด้านการออกกำลังกาย ดูแลความปลอดภัยบริเวณสระว่ายน้ำ Concierge Service เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านต่างๆ และ บริการ Afternoon Tea ฟรี 2 ปี ภาพรวมโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit Mulberry Grove Sukhumvit คอนโดมิเนียมระดับที่จะมารองรับทุก Generation ในครอบครัว ทั้งส่วนกลางโครงการและภายในยูนิต หลายดีเทลจึงถูกออกแบบมาแตกต่างจากโครงการอื่น เรียกได้ว่าใส่ใจกันทุกตารางเมตรเลยทีเดียว เรามาชมกันที่ Facilities ก่อนค่ะ หน้าอาคารตกแต่งสวนสไตล์อังกฤษ ด้านหลังอาคารจัดโซน Gourmet Courtyard ผักสวนครัวที่ปลูกดูแลกันเอง ปลอดภัยไร้สารพิษส่งตรงถึงลูกบ้าน ชั้น 1 เข้าสู่ตัวอาคาร ต้อนรับด้วย Mulberry Greeting Gallery ล็อบบี้ Double Floor สูงโปร่ง เทควิวสวนสีเขียวรอบอาคารผ่านกระจก Full Height เชื่อมต่อถึงชั้นลอยที่จัด The Mulberry’s Library ไว้สำหรับมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ สามารถเลือกห้อง Private Study Studio สำหรับติวหนังสือหรือจัดประชุมได้ และแยก Children’s room สำหรับเด็กเล็ก   โถงลิฟต์วางกลางอาคาร แบ่งเป็นโซนยูนิตทิศเหนือ 2 ตัว ทิศใต้ 2 ตัว และลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว ชั้น 32 Facilities หลักของโครงการ ซึ่งวางให้ทุกวัยสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ตามคอนเซป intergenerational wellness ที่เฉพาะสระว่ายน้ำก็แบ่งออกเป็น 4 สระ รองรับสำหรับทุกช่วงวัย ได้แก่ Infinity sky pool สระว่ายน้ำหลัก พื้นหินอ่อนสวยๆ ยาว 25 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายไปเทควิวเมืองไป Thermal pool​ สระปรับอุณภูมิได้ เหมาะสำหรับลงไปแช่กระตุ้นการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย Hydrotherapy pool ผ่อนคลายท่ามกลางสระน้ำบำบัดด้วยหัว Jet นวดตัว และ Children’s Pool สระเด็กที่มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับผู้ปกครองนั่งรอ เพื่อดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี Sky-High Gym Studio, Private Spa, Private Sky-high, Onsen Private, Style Atelier และ Golf Simulator & Entertainment Room ชั้น 33 ครึ่งหนึ่งเป็นโซนพักอาศัย อีกครึ่งเป็น Facilities ที่มีบันไดเชื่อมต่อมาจากชั้น 32 โดยจะมี Patio Gym​ สำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง ห้อง Ballet suite​ และ Yoga suite​ ชั้น 37 ชั้นสูงสุดของโครงการ บรรยากาศเทียบเท่าโรงแรมหรู โดยลูกบ้านจะได้รับ Complimentary Afternoon Tea ฟรี! ทุกวัน เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยชั้นนี้ได้แบ่งโซนหลากหลายตามการใช้สอย อาทิ Family Living Room,​ BBQ Garden, Game Room & Pool Table,​ Children’s Play Room, Grand Private Living room, Grand Private Dining Room และ Kitchen พร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบเซต ทั้งหมดนี้สามารถเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งทำออกมาได้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัยเป็นอย่างดี สำหรับยูนิตพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 7-18 และ 19-30 จำนวน 12 ยูนิต/ชั้น แต่จะแบ่งเป็นโซนเหนือ (วิวฝั่งเอกมัย) และโซนใต้ (วิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิท) ทำให้แต่ละชั้นเหลือเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น มีความเป็นส่วนตัวมากสมกับเป็นคอนโดระดับ Super-Luxury ยิ่งหากบางครอบครัวต้องการ Combine ห้อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็สามารถทำได้ โดยทางโครงการได้กำหนดยูนิตที่สามารถทำได้ไว้ในกรอบสีแดงตามรูปเลยค่ะ เปิดห้องตัวอย่าง Mulberry Grove Sukhumvit โครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ทางโครงการให้มาด้วยมีดังนี้ เครื่องปรับอากาศ ระบบ VRV จาก Daikin ติดตั้งมาให้ทั้งห้อง ส่วนตัว Condensing Units จะถูกจัดไว้นอกอาคารรวมกันทุกยูนิต ไม่ส่งเสียงดังรบกวนในห้องพัก ห้องครัว จะได้ชุดครัวทั้งหมด ทั้งซิงค์ล้างจาน จาก Panasonic พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า คือ ตู้เย็น แบบ Built-in แบรนด์ Liebherr มีจุดเด่นตรงไม่เกิดความชื้นจนทำให้หน้าบานเสียหาย ส่วนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ และไมโครเวฟ จากแบรนด์ Kuppersbusch Common Area จะได้ Furniture Built-in ตู้เก็บรองเท้า ตู้เก็บของหน้าห้อง ห้องนอน ตู้เสื้อผ้า Built-in ในส่วนของ walk in closet ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ครบชุด ได้แก่ โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ จาก TOTO อ่างล้างหน้า แบรนด์ Duravit ตัวก๊อก จาก Hansgrohe พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงาที่เป็นตู้เก็บของได้ด้วย ฉากกั้นอาบน้ำ ฝักบัว Rain Shower จาก Hansgrohe และอ่างอาบน้ำ 2 Bedroom 114 ตร.ม. มาเปิดห้องตัวอย่างที่ขายดีที่สุดของโครงการกันก่อนเลยค่ะ สำหรับ Type 2  Bedroom หน้าประตูทุกห้องจะ Built-in ตู้เก็บของทรงสูง แบ่งเป็น 3 ตอน ซึ่งช่องตรงกลางจะเป็น Mailbox ส่งจดหมาย หรือพัสดุที่ไม่ใหญ่มากให้กับลูกบ้านถึงหน้าประตูห้อง  สำหรับบานประตูห้อง Type 2 Bedroom จะแบ่งเป็น 2 บาน ถ้าเปิดออกทั้งหมดจะกว้างมาก เพื่อรองรับครอบครัวที่ต้องใช้ Wheelchair Digital door lock ใช้แบรนด์ Philips มีความพิเศษตรงแกนล็อค 3 แกนด้วยกัน เป็นแกนล็อคที่แน่นหนาที่สุดในบรรดาโครงการคอนโดมิเนียมปัจจุบันนี้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความแข็งแรงเลยค่ะ โดยรุ่นที่นำมาใช้นี้รองรับการล็อคได้ถึง  5 ระบบ คือ คีย์การ์ด สแกนนิ้ว พาสเวิร์ด One Time Password และกุญแจ ห้องหน้ากว้าง บวกกับ Floor To Ceiling 3 เมตร ทำให้รู้สึกโอ่โถ่ง โปร่งสบายดีนะคะ ส่วนแรกของห้องที่จะพาไปชมนั่นคือห้องครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ได้กระจกเข้ามุมทำให้ห้องครัวไม่ทึบ มีแสงสว่างมากเพียงพอที่จะไม่เกิดอันตรายเวลาใช้งาน สามารถมองเห็น Living Room ทั้งหมด ให้อารมณ์คล้ายกับเป็นครัวเปิดค่ะ    ภายในห้องครัวปูพื้นกระเบื้อง Porcelain หน้าบานตู้ทั้งหมดเป็นลามิเนตที่ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเมื่อจับใช้งาน Top ครัวเป็นหิน QUARTZ ส่วนการติดตั้งไฟเหนือเคาน์เตอร์ อุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีมาให้ตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะ อีกด้านหนึ่งของบริเวณส่วนหน้าห้องจะ Built-in ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของอื่นๆ ได้ด้วย Powder Room ห้องน้ำสำหรับรักแขก ฉะนั้นจะไม่มีพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ และห้อง Laundry ที่สามารถวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าวางซ้อนกันได้ โดยโครงการได้เดินท่อน้ำเตรียมเอาไว้ให้แล้ว และยังสามารถใช้เป็นห้องเก็บห้อง อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมิดชิด โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความอับชื้น เพราะมีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศเอาไว้เรียบร้อย Living Room ทางโครงการตั้งใจให้เป็น Space กว้างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ โต๊ะทานข้าว ได้อย่างมีพื้นที่ว่างอีกเหลือเฟือ มีการ Drop ฝ้าเพื่อซ่อนรางผ้าม่านในทุกหน้าต่างห้อง สำหรับวัสดุพื้นใช้ Synthetic marble กระจกหน้าต่าง Laminate IGU มีคุณสมบัติช่วยกันความร้อนจากภายนอก และลดเสียงรบกวน ขอบอลูมิเนียมสีน้ำตาลแน่นหนาแข็งแรงมาก และมีบานกระทุ้งเปิดรับลมด้านนอกได้ สำหรับ Mulberry Grove Sukhumvit จะไม่มียูนิตไหนที่มีระเบียงห้องนะคะ แต่จะได้พื้นที่ Nook Multi-Purpose Spaces มาแทน อย่างห้อง Type นี้ จะเป็นพื้นที่มุมหนึ่งของ Living Room ซึ่งติดตั้งกระจกบานเฟี้ยมเข้ามุมเอาไว้ให้ด้วย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งแยกจากกัน มี Living Room เชื่อมตรงกลาง ซึ่งจะมีข้อดีตรงได้ความเป็นส่วนตัว และทุกห้องจะได้วิวเมืองเช่นกัน ห้องนอนแรก ก็มีพื้นที่มากพอที่จะวางเตียงขนาด 6 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อีก โดยมีส่วน Walk In Closet กั้นด้วยประตูบานเลื่อนที่มีช่องระบายอากาศป้องกันความชื้นไว้ให้  Walk In Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งานจริง ซึ่ง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบไม่มีบานประตูหน้าตามแบบห้องตัวอย่างนี้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆ ได้ดีมากกว่า เช่น กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ถุงกอล์ฟ ฯลฯ  ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน แยกส่วนเปียก-แห้ง ติดตั้งทุกอย่างมาพร้อมใช้งาน ตามห้องตัวอย่างที่เห็นค่ะ   Master Bedroom ที่มีขนาดไม่หนีกันมากกับห้องนอนแรก โดยห้องนอนทุกห้องปูพื้นด้วย Engineered Teak Wood ผิวไม้สัก วางลายมาสวยมาก ทำให้ห้องดูอบอุ่นเมือนอยู่บ้านเดี่ยวเลยนะคะ Walk In Closet จะได้พื้นที่กว้างกว่าห้องนอนแรกขึ้นมาอีกค่ะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ตามแบบเช่นเดียวกัน เพียงแต่ทุกห้องจะไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เท่านั้น  ห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom ถูกออกแบบมารองรับการอยู่แบบ 2 คนในห้องค่ะ ตั้งแต่พื้นที่ห้องน้ำกว้างมากขึ้น อ่างล้างหน้าแยก His & Her อ่างอาบน้ำ Custom Made และมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากขึ้น ห้องวางโถสุขภัณฑ์กับห้องอาบน้ำแบบ Shower แยกห้องออกจากกันชัดเจนค่ะ มีข้อดีตรงที่สามารถใช้ห้องน้ำพร้อมกัน 2 คนได้ ซึ่งในส่วนของห้อง Shower จะมีทำที่นั่งเอาไว้ให้สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องนั่งอาบน้ำ 1 Bedroom 56.50 ตร.ม. ห้องตัวอย่างสุดท้ายค่ะ สำหรับ Type 1 Bedroom หลังบานประตูห้องไม่เพียงแค่ Built-in ตู้เก็บของมาให้เท่านั้นนะคะ แต่มีการติดตั้งแท่น Wireless Charger เอาไว้ให้  บริเวณประตูห้องมี Master Switch สำหรับปิด-เปิด ไฟทั้งห้อง สำหรับเวลาไม่มีใครอยู่ห้องก็สามารถปิดตรงนี้จุดเดียวได้เลย ไม่ต้องเช็คกันหลายจุด หากไฟดับจะมีไฟเหนือประตูที่จะะส่องสว่างทันที ไม่ให้ห้องมืดจนเกินไป ห้องครัวปิดสำหรับ 1 Bedroom จะมีขนาดย่อลงมาจาก Type 2 Bedroom เล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน โดยเคาน์เตอร์ครัว L shape พร้อมอุปกรณ์ครบเซต ซึ่งไมโครเวฟจะเป็นแบบ 2 ฟังก์ชั่น ใช้ได้ทั้งแบบไมโครเวฟและเตาอบ  ซิงค์ล้างจาน จาก Panasonic ขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อการใช้งานได้หลากหลายขึ้น ผิวสเตนเลสออกแบบมาให้ความความสะอาดง่าย แห้งเร็ว ปากฝาท่อป้องกันกลิ่นและแมลงได้ดี ส่วนก๊อกน้ำสามารถถอดหัวออกมาเป็นสาย เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดยิ่งขึ้น และรองรับระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นได้ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันพร้อมใช้งาน สำหรับห้อง 1 Bedroom จะได้ตู้เย็นแบบบานเดียวแยกช่องฟรีซด้านล่าง แต่สเปคและยี่ห้อเดียวกันกับห้อง 2 Bedroom ค่ะ ติดกันจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าและตู้อบได้ค่ะ Living Room เชื่อมต่อกับพื้นที่ Nook Multi-Purpose Spaces ริมหน้าต่างกระจก แนวยาวคล้ายกับเป็นระเบียงของห้อง แต่สามารถใช้เป็นห้องทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนอนขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง King Size เอาไว้กลางห้อง แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงอยู่ ทุกห้องจะได้ Walk In Closet กั้นปิดได้ด้วยประตูบานเลื่อนที่มีช่องระบายอากาศ เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว  โถสุขภัณฑ์ที่ใช้ทุกยูนิตจะใช้แบบชิ้นเดียว เป็นระบบอัตโนมัติ สะดวกต่อการใช้งาน แยกส่วนเปียก-แห้ง ซึ่งพื้นระหว่างห้องจะมีความต่างระดับกันเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยเวลาเดินของผู้สูงอายุ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องใช้ Wheelchair   ทุกดีเทลของ Mulberry Grove Sukhumvit ถูกคิดขึ้นมา ไม่ใช่แค่ทุก Generation อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายในปัจจุบัน แต่ยังคิดเผื่อไปถึงอนาคต เพราะ "บ้าน" จะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี ที่สำคัญคือต้องเอื้อต่อสุขภาพที่ดี และมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทุกคนในครอบครัว โครงการอื่นๆ จาก MQDC Whizdom Asoke-Sukhumvit Whizdom Station Ratchada–Thapra THE FORESTIAS by MQDC
รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ

รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ

รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ เอาล่ะ ถ้าคุณมีความคิดว่าการทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย ยุ่งยาก แล้วก็ไม่สนุกเลยซักนิด ที่ต้องกลายร่างมาเป็นนางแจ๋วหน้ามัน หัวกระเซิงเพื่อกำจัดฝุ่นภายในบ้านให้หมดเกลี้ยง.... เราขอให้คุณเปลี่ยนความคิดซะใหม่ แล้วตามเราไปดูกันว่า เราจะช่วยให้ “งานทำความสะอาดบ้าน” เป็นเรื่องสวยๆ ชวนพิสมัยได้อย่างไร   เกิดเป็นผู้หญิงในยุคนี้ งานนอกบ้านก็ต้องเริ่ด งานในบ้านก็ต้องให้เป๊ะ ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านสำหรับแม่บ้านยุคใหม่แบบเราที่เวลาก็รีบเร่ง จะต้องบริหารเวลาสำหรับงานบ้านให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ เริ่มจากหาผู้ช่วยคนสำคัญ อย่าง “Dyson V11 Absolute” เพื่อให้งานทุกอย่างสะดวกรวดเร็ว ได้บ้านสะอาดเอี่ยมในพริบตา     ด้วยประสิทธิภาพพลังดูดของ Dyson V11 Absolute ตัวล่าสุดนี้ บวกกับขนาดของแบตเตอรี่ที่ทรงพลังที่สุดที่ Dyson เคยมีมา ทำให้ระยะเวลาในการทำงานสูงสุด 60 นาทีนี้ เป็น 60 นาทีที่คุ้มค่าที่สุดในการทำความสะอาดบ้านสำหรับเรา ยิ่งเป็นคอนโดมิเนียมขนาดไม่เกิน 300 ตร.ม. แบบที่เราอยู่ด้วยแล้ว รับรองว่าสบายหายห่วงได้เลย   เริ่มต้นการทำความสะอาดบ้านวันนี้ด้วย การจิบกาแฟนิดๆ เช็คเมลซักหน่อย พร้อมกับดูดฝุ่นไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะว่า Dyson V11 Absolute เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีน้ำหนักกำลังพอดี สามารถถือและทำงานสะดวกได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว     เมื่อเป็นแม่บ้านในยุคดิจิตอลแล้ว ทุกอย่างก็ต้องดูทันสมัยจริงมั้ยคะ แน่นอนว่า Dyson V11 Absolute นี้ทำงานเต็มกำลังได้แรงสุดๆ แบบไม่เคยงอแง เพราะ Dyson ดิจิตอลมอเตอร์ V11 มีพลังดูดที่เพิ่มกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 20% แถมยังมีหน้าจอ LCD เพิ่มความไฮโซเข้าไปอีก ซึ่งหน้าจอ LCD นี้จะแสดงโหมดการทำความสะอาดให้เห็นอย่างชัดเจน แล้วก็ยังง่ายต่อการสลับโหมดด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Eco แบบประหยัดพลังงาน, โหมด Auto แบบสวยๆ และ Boost ที่พลังดูดแรงสะใจ   เอาจริงๆ แล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แค่โหมด Eco หรือ Auto ก็ทำให้บ้านเราสะอาดเรียบร้อยได้แล้วค่ะ แต่บางพื้นผิว หรือพื้นที่ที่ต้องการแรงดูดอันทรงพลังมากๆ อย่างพื้นพรมหนาๆ หรือต้องการกำจัดไรฝุ่นบนที่นอนและโซฟา โหมด Boost ก็พร้อมจะเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งได้อย่างไม่มีเกี่ยงงอนเลยทีเดียว     ความไฮเทค ไฮโซของการมีหน้าจอ LCD ไม่ได้มีดีแค่การบอกโหมดการใช้งานเท่านั้นนะจ๊ะ เพราะหน้าจอเล็กๆ นี้ยังสามารถแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานปัจจุบัน พลังงาน และเวลาที่คงเหลือ เพื่อให้เราวางแผนการทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องทำความสะอาดตัวกรองให้อีกด้วย   คุยเรื่องสเปคต่างๆ ของตัวเครื่องอย่างเดียวเดี๋ยวจะหาว่าโม้ งานนี้บอกเลยว่า เราได้ทดลองใช้จริงไรจริงไม่พึ่งสแตนอินนะจ๊ะ เรียกว่าแกะกล่องแล้วก็เอามาดูดๆๆๆๆ กันให้ครบทุกซอกทุกมุมในบ้านให้รู้กันไปเลย ก็ Dyson เค้าเป็นตัวจริงเรื่องเครื่องดูดฝุ่นที่หมกมุ่นพัฒนามานานกว่า 25 ปีเลยนี่นา แล้วจะต้องไปง้อยัยแจ๋วจอมอู้อีกทำไม   "รีวิว Dyson V11 Absolute จากเรื่องจริงที่ใช้แล้วฟินเลยต้องบอกต่อ" จากประสบการณ์ใช้จริง ข้อแรกเราเห็นว่า Dyson V11 Absolute ตัวนี้ จับได้ถนัดมือขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ควบคุมทิศทางได้ง่าย ถึงแม้น้ำหนักของตัวเครื่องจะไม่ได้เบาหวิวจนสามารถยกดูดฝุ่นบนที่สูงๆ ได้คราวละนานๆ แต่ชะนีออกกำลังกายแบบเราก็สามารถอยู่ค่ะ ถือว่าเป็นการเวทเทรนนิ่งเบาๆ ซึ่งในชีวิตจริงแล้ว เราก็ไม่ได้จับเครื่องดูดฝุ่นมายกดูดผ้าม่านกันทุกวันหรอกจริงมั้ย     จุดเด่นต่อมาของ Dyson V11 Absolute คือ หัวแปรงดูด และอุปกรณ์เสริมที่ให้มาเยอะแยะมากมายจนบางทีก็แอบงงว่าตัวเองเลือกใช้ถูกประเภทอยู่รึเปล่า ซึ่ง Highlight ของรุ่นนี้คือ หัวดูดแบบ High Torque ที่เป็นหัวแปรงแรงบิดสูงพร้อมเซ็นเซอร์โหลดแบบไดนามิก (Dynamic Load Sensor - DLS) โดยระบบนี้จะช่วยตรวจจับแรงต้านของพื้นผิว เพื่อทำการเปลี่ยนโหมดพลังดูดให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ทำให้แม่บ้านสมัยใหม่อย่างเราไม่ต้องคอยกังวลว่าจะกดโหมดถูกๆ ผิดๆ จนทำให้การทำความสะอาดบ้านขาดความเนี้ยบแล้วต้องเหนื่อยทำซ้ำอีกรอบ     ส่วนหัวดูดแบบอื่นๆ ก็คล้ายกับรุ่นก่อนเลยค่ะ มีทั้งหัวดูดลูกกลิ้งนุ่ม, หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก, หัวดูดปากแคบ, หัวดูด 2 in 1, และแปรงปัดฝุ่นขนนุ่ม ซึ่งหัวดูดแต่ละอันก็มีคุณสมบัติเฉพาะที่ต่างกันออกไป ทำให้ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผงขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ เศษขนม เส้นผม ขนสัตว์เลี้ยง ฝุ่นฝังแน่น หรือแม้แต่สารก่อภูมิแพ้อย่างไรฝุ่นตัวจิ๋ว ก็เก็บได้เรียบโดยไม่ทำลายพื้นผิวแต่อย่างใด ที่สำคัญหัวดูดทุกตัว ข้อต่อทุกชิ้นสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกเดียว ทำให้แม่บ้านสวยๆ แบบเราไม่ต้องออกแรงเยอะเลยค่ะ     พูดถึงฝุ่นผงขนาดเล็ก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้แล้ว หลายคนอาจจะกลัวว่า มอเตอร์ที่ดูดแรงทรงพลังอย่างนี้ แรงลมที่ออกมาทางท้ายเครื่องจะพาอะไรต่อมิอะไรฟุ้งกระจายเต็มอากาศในห้องมั้ย เรื่องนี้ทาง Dyson เค้าเคลมว่า Dyson V11 Absolute มีระบบการกรองที่ปิดผนึกอย่างแน่นสนิท สามารถดักจับอนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กระดับ 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97% เลยทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ หรือแบคทีเรียต่างๆ ที่ว่าอนุภาคเล็กจนต้องมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ ก็จะถูกเก็บเข้าไปในถังฝุ่นจนหมดเกลี้ยง   แล้วถ้าถังฝุ่นเต็มล่ะ? เราต้องสัมผัสกับถังเก็บฝุ่น ต้องกลั้นหายใจใส่หน้ากากสิบชั้นอีกรึเปล่า? ลืมภาพถุงเก็บฝุ่นที่มีแต่ฝุ่นผงนานาชนิดจนเกรอะกรังเทเท่าไหร่ก็หลุดไม่หมดไปได้เลย เพราะ Dyson มีการออกแบบวิธีการเทถังฝุ่นแบบที่เราไม่ต้องสัมผัสโดนฝุ่นเลยยยยยย ซึ่งในรุ่น V11 Absolute นี้พัฒนามาดีกว่ารุ่นเก่าเยอะ ด้วยระบบ Point and Shoot แค่เรายื่นฝาถังเก็บฝุ่นลงไปในถุงขยะ แล้วก็ปลดสลักตัวล็อค ฝุ่นทั้งหมดก็จะลงไปกองอยู่ในถุงขยะแล้ว เหลือแค่ผูกปากถุงให้เรียบร้อย แล้วก็ปิดฝาถังเก็บฝุ่นแค่นี้พร้อมใช้งานครั้งต่อไปได้สวยๆ     เรื่องการจัดเก็บเครื่องก็เป็นอีกเรื่องที่มักจะกวนใจแม่บ้านสายเนี้ยบอย่างเรา เพราะหลายครั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ก็ไม่ได้สวยงามชวนให้เอามาอวดโชว์ซักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหากับ Dyson ไหนๆ ก็ซื้อมาตั้งแพงแล้ว ถ้าอยากจะแอบวางไว้อวดเบาๆ ก็ไม่น่าจะแปลกเกินไปหรอกเนอะ ก็ในกล่องเค้ามีตัวแขวนยึดกับผนังพร้อมแท่นชาร์จมาให้ด้วยค่ะ ทำให้การจัดเก็บเครื่องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยจนอยากจะอวดชาวโลกให้รับทราบโดยทั่วกัน นอกจากจะทำให้หยิบใช้งานได้ง่าย พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ขัดตาอะไรถ้าจะมีเครื่องดูดฝุ่นอย่าง Dyson แขวนไว้ในห้องกับเค้าด้วย     เชื่อว่าเครื่องดูดฝุ่น Dyson น่าจะเป็นไอเทมในฝันของแม่บ้านยุคใหม่หลายๆ คนเลยแหละ ยิ่งโดนเราป้ายยาแบบนี้คงต้องอยากได้กันบ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าลังเลยังไม่ปักใจเชื่อรีวิวของเรา ลองไปทดลองเล่นเครื่องจริงกันได้ที่ร้าน Dyson Demo สยามพารากอน และไอคอนสยามก่อนได้นะคะ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีหลายแห่งเลยจ้า แต่ถ้าการป้ายยาของเราได้ผล นอกจากการเดินไปช็อปปิ้งด้วยตัวเอง ยื่นบัตรให้พนักงานรูดปรื้ดๆ แล้ว เรายังสามารถเข้าไปคลิกสั่งซื้อแบบออนไลน์ให้สมกับเป็นแม่บ้านยุคใหม่กันได้ที่ เว็บไซต์ https://www.dyson.co.th/ เชื่อเถอะว่า มันจะเป็นการลงทุนเงินหมื่น ที่คุ้มแสนคุ้มเลยทีเดียว   แล้วถ้าอยากได้ห้องชุดสวยๆ อยู่ใจกลางเมือง มีวิวดีๆ ติดริมน้ำ หรืออยากมาเป็นเพื่อนบ้านกับเรา เชิญชมห้องตัวอย่างได้ที่ Park Court Sukhumvit 77 เลยจ้า   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไรฝุ่น ผู้ร้ายบนที่นอน (Dyson V8) รีวิว PARK COURT สุขุมวิท 77 คอนโดหรูห้องใหญ่ใจกลางเมือง เทคนิคทำความสะอาดบ้านแบบง๊ายง่าย ห่างไกล “ภูมิแพ้” บ้านสะอาดไร้ฝุ่นด้วย BOSCH Flexxo Serie 4  
รีวิวบ้านเดี่ยว THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรูริมถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย)

รีวิวบ้านเดี่ยว THE MARQ Exquisite ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรูริมถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย)

  รีวิวบ้านเดี่ยว The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ บ้านหรู ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ครั้งแรกของเมืองไทยกับความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง “เอ็นริช” กับตัวแทนที่ปรึกษา KonMari Consultant  ระดับมาสเตอร์  ผสานแนวคิดการจัดบ้านในสไตล์ “มาริเอะ คอนโดะ” 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกที่ได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์ในปี 2014 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการจัดบ้านระดับโลก  มอบความเหนือระดับด้วยฟังก์ชันที่ผสานแนวคิดการออกแบบสไตล์โมเดิร์น จัดสรรพื้นที่ภายในบ้านทุกห้องทุกพื้นที่ใช้สอยเพื่อประโยชน์การใช้งานสูงสุดเพราะที่นี่คือ  “บ้านที่ถูกคิดและออกแบบไว้แล้วเพื่อเป็นบ้านที่ไม่มีวันรก”   The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์ บ้านเดี่ยวดีไซน์เก๋ ไอเดียดีที่ใครเห็นก็ต้องว้าว ภายในบ้านตัวอย่างถูกออกแบบและตกแต่งเป็นอย่างดี สะท้อนการอยู่อาศัยที่ผสานไปกับธรรมชาติ และพื้นที่ใช้สอยสำหรับทุกคนในครอบครัว พร้อมรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal แนวคิดการออกแบบ โครงการ The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ - จรัญสนิทวงศ์ ให้ความสำคัญกับการออกแบบ ซึ่ง บริษัท สถาปนิก ไอดิน ออกแบบโดยคำนึงถึงบริบทสภาพแวดล้อมรอบพื้นที่ เชื่อว่าทุกปัจจัยแวดล้อมย่อมมีผลต่อการอยู่อาศัยทั้งเรื่องทิศทางแสงแดด ลม ฝน และวิถีการใช้ชีวิตยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับบ้านมากขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปลอดภัย และทุกพื้นที่ภายในบ้านสามารถตอบสนองทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายตามความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัวทุกเพศทุกวัย ออกแบบบ้านอย่างสร้างสรรค์ในลักษณะ C-Shape ทำให้เกิดความโปร่งโล่งของพื้นที่ ใช้การไหลเวียนของอากาศ ทิศทางแสงแดดและสายลมในแต่ละช่วงเวลาตลอดวัน ส่งเสริมให้บ้านเป็นบ้านที่อยู่สบายและเป็นสถานที่ชาร์จพลังชีวิตดีๆ ได้ทุกวัน บ้านรูปทรง C-Shape ออกแบบให้มีคอร์ทภายในบ้าน แทนที่จะทำเป็นสี่เหลี่ยมเต็มพื้นที่ การวางผังอาคารแบบนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าต่างให้สามารถรับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านได้มากขึ้น บริเวณคอร์ทหันไปเจอด้านที่เป็นผนังทึบของบ้านอีกฝั่ง ทำให้คอร์ทภายในบ้านมีความเป็นส่วนตัวมาก แต่ไม่รู้สึกอึดอัด อีกทั้งเปิดมุมมองธรรมชาติได้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน การใช้พื้นที่ตรงกลางของรูปทรงตัว C ออกแบบเป็นสวนสวยบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่เอ้าท์ดอร์เชื่อมต่อรูปทรงบ้านเพื่อให้ทุกส่วนภายในบ้านเข้าถึงความเป็นธรรมชาติ และทำให้สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีความสุข การตกแต่งเน้นความเรียบแต่หรู และจัดวางพื้นที่ให้สะดวกต่อการใช้งาน ทั้งพื้นที่จอดรถที่มีขนาดกว้างกว่าปกติ รองรับการจอดรถ super car ได้ทุกช่องจอด พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 กับฝ้าเพดานสูง โล่งโปร่ง มองเห็นสวนที่ชั้น 2 และต่อเนื่องไปยังชั้นลอย ที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ห้องนอนใหญ่ master bedroom ได้โดยตรง เป็นดีไซน์ภายในที่สร้างความต่อเนื่องในการใช้งานให้แก่เจ้าของบ้านในทุกช่วงเวลา พื้นที่ชั้น 1 มีความเด่นของดีไซน์ที่เป็น Duo-Leisure Space ใช้เป็นส่วนต้อนรับเพื่อนบ้านหรือแขกพิเศษ สามารถจัดเลี้ยง ในบรรยากาศเป็นกันเองระหว่างกลุ่มเพื่อนหรือจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวเล็กๆ เรียบง่าย ขณะเดียวกันในบริเวณชั้น 2 พื้นที่เชื่อมต่อยังใช้เป็นส่วนพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวด้วย มีพื้นที่สีเขียวรายรอบบ้านเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด สนามหญ้าและสวนสวยลอยฟ้า การออกแบบฟังก์ชันการใช้สอยถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้การทำงานร่วมกันกับตัวแทนที่ปรึกษา KonMari Consultant ระดับมาสเตอร์ ในทุกพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก  ห้องพักผ่อน  ห้องครัว  (ออกแบบส่วนห้องครัวแยกพื้นที่ระหว่างครัวไทยและครัวแพนทรี ) ห้องนอนและห้องน้ำ ล้วนได้รับการใส่ใจอย่างละเอียดประณีตและการจัดระเบียบบ้านโดยคำนึงถึงประโยชน์การใช้สอยสูงสุด  แสดงให้เห็นจุดเด่นของการผสมผสานงานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นโดยมีเทคโนโลยีโฮมออโตเมชันและแนวคิด “คอนมาริ” ที่ทำให้เกิดรูปแบบฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหมาะกับวิถีชีวิตใหม่ New Normal ภายในบ้าน นวัตกรรมการอยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่การใช้ชีวิตสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี นี่คือยุคของ IoT หรือ Internet of Things ที่ก่อเกิดเครื่องมืออุปกรณ์ในกลุ่มที่เรียกว่า Life Solution ซึ่งกลุ่มบริษัทเอ็นริช ให้ความสำคัญมากในการนำมาใช้พัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Guiding You to Practical Living ผ่านรายละเอียดของการใช้พื้นที่และฟังก์ชันต่างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว บ้านทุกหลังติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านเพื่อความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย Home Automation ใช้ระบบการสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านด้วยเสียง นวัตกรรม เทคโนโลยีที่บ้านยุคใหม่ต้องมีเพื่อการเริ่มต้นสังคมไร้สัมผัส (Touchless Society) Smart Kitchen โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับพานาโซนิค ซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทคิทเช่น ต้นแบบแนวความคิดแบบญี่ปุ่น (JAPAN SOLUTION) ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ครัวอัจฉริยะจากพานาโซนิค ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์เรื่องการจัดเก็บของให้ดูสะอาด เรียบร้อย ไม่รกสายตา รูปลักษณ์สวยงาม  ทั้งสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่เก็บของถูกออกแบบให้เก็บเครื่องใช้ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน และหยิบของใช้ได้อย่างง่ายดาย เป็นไปตามแนวคิดการจัดบ้านสไตล์ “คอนมาริ” โดยแท้ ระบบความปลอดภัยมาตรฐานตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มระดับความมั่นใจอีกขั้นด้วยนวัตกรรม Visitor GPS access control   สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ระดับลักซ์ชัวรี  ดีไซน์พื้นที่ใช้สอยตอบสนองความต้องการอย่างครบครัน  ฟังก์ชั่นภายในอาคารมีทั้งพื้นที่เป็นส่วนตัวและพื้นที่สำหรับรองรับบุคคลภายนอก ชั้น 1 เป็นส่วนล็อบบี้ดีไซน์ทันสมัย พื้นที่โปร่งโล่ง ใช้เป็นส่วนพักผ่อน หรือคุยงานกลุ่มย่อยแบบสบายๆ มี Exclusive Kitchen & Bar เป็นห้องครัวส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบครันสำหรับประกอบอาหาร และจัดปาร์ตี้ส่วนตัว ทั้งสามารถใช้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อกิจกรรมการเรียน สาธิตการทำอาหาร  ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์งานอดิเรกใหม่ของคนยุคนี้ ชั้น 2 เป็นส่วนสระว่ายน้ำ ห้องประชุม ซึ่งเป็นฟังก์ชันกึ่งสาธารณะ สามารถใช้รับรองแขกเป็นส่วนตัวหากไม่สะดวกจัดประชุมที่บ้าน ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ มีห้องเล่นเด็ก ห้องสปา ห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ครบครันทันสมัย  และมีส่วนที่ออกแบบไว้เป็นพรีเมียม ไพรเวท คลาส The MARQ Exquisite  อยู่ในพื้นที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบทำเลเด่นและมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นชุมชนเมืองคุณภาพของทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก (ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์) การคมนาคมสะดวก ใช้เวลาเดินทางน้อยเพราะใกล้เส้นทางเชื่อมต่อถนนสายสำคัญหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะระบบราง (MRT และ BTS)  ล้วนให้ความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร 15 นาทีจากโครงการถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 เข้าสู่ย่านธุรกิจสาทร-สีลม 10 นาทีจากโครงการถึงจุดขึ้น - ลงทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก (จตุจักร-ฉิมพลี) ทางด่วนสายใหม่เชื่อมการเดินทางฝั่งธนบุรี - พระนคร 10 นาทีจากโครงการสู่สถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งเป็นสถานีร่วมของรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ท่าพระ - เตาปูน) และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิท-สีลม) 5 นาทีจากโครงการถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4  สู่สถานี  MRT  สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย) สนใจข้อมูลโครงการเพิ่มเติม คลิก https://www.en.co.th/project/themarq-ratchaphruek-charansanitwong/ โครงการอื่นๆ ของ ENRICH - https://www.en.co.th/ โทร. 02-422-4222   ข่าวเกี่ยวกับ ENRICH Enrich คว้ารางวัล Special Recognition for Design & Construction Enrich รุกหน้าตลาดอสังหาฯ  
รีวิวทาวน์โฮม 3 ชั้น “Supalai Urbana แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด” สไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นดี

รีวิวทาวน์โฮม 3 ชั้น “Supalai Urbana แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด” สไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นดี

2563 เป็นปีที่ทุก Developer หันมาบุกตลาดแนวราบกันอย่างเต็มกำลัง แม้แต่ค่ายใหญ่ที่ทำแนวราบอย่างต่อเนื่องในทำเลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศมาตลอดอย่าง Supalai ที่ยังคงขยันทำการบ้านหาช่องว่างของตลาด เพื่อเติมโครงการให้เต็มทุก Segment และล่าสุดกับแบรนด์ทาวน์โฮมน้องใหม่ "Supalai Urbana" ซึ่งตั้งใจวางทำเลในชุมชนเมือง เน้นความสะดวกของการเดินทาง ดีไซน์เรียบงง่าย แต่แฝงไปด้วยฟังก์ชั่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เองตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวัย 28-38 ปี โดยประเดิมทำเลแรกย่านปากเกร็ด ใกล้กับถนนแจ้งวัฒนะ   Supalai Urbana แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด โครงการแรกภายใต้แบรนด์ Urbana เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ดีไซน์ใหม่เน้นความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างอิสระ เปิดรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น โดยไฮไลท์จะอยู่ที่พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณชานพักบันได และส่วนอื่นของบ้านที่มีขนาดใหญ่พิเศษ สามารถปรับให้มีประโยชน์ใช้สอยได้เพิ่มมากขึ้น และพื้นที่ Open Plan บริเวณพื้นที่รับแขกและส่วนรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีระบบ Home Automation ควบคุมระบบไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านอีกด้วย   เรียกได้ว่าเป็น Flexible Townhome สไตล์โมเดิร์น ที่ชูคอนเซป "สวิทช์ชีวิตให้สนุกทุกวัน ทาวน์โฮมที่ต่อติดทุกไลฟ์สไตล์" ซึ่งจะมี 2 Type ได้แก่ ศุภนรา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 19.6 ตร.ว. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 พื้นที่อเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน หน้าบ้านกว้าง 5.7 เมตร ศุภธรา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 17.2 ตร.ว. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 พื้นที่อเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน โครงการตั้งอยู่ถายในซอยสุขาสวรรค์ 3 สามารถเข้า-ออก ได้ทั้งจากถนนติวานนท์ และถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้กับห้าแยกปากเกร็ด ซึ่งบริเวณนี้เป็นถือชุมชนที่มีความคึกคักอยู่ตลอด เพราะใกล้กับสถานที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะแหล่งงาน อาทิ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ, บิ๊กซี, โฮมโปร, โรบินสัน ศรีสมาน, โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล และสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจอีกหลายหน่วยงาน ภาพทาวน์โฮม 3 ชั้น "Supalai Urbana แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด" ภาพทาวน์โฮม 3 ชั้น Type ศุภนรา ชานพักบันไดขนาดกว้างเป็นพิเศษ สามารถจัดให้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเพิ่มได้ ด้วยกระจกสูงโปร่งทำให้ไม่เป็นมุมอับทึบที่อันตรายเหมือนกับบันไดทั่วไป ชั้น 3 เป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่เพียงห้องเดียว สามารถกั้นห้องเป็น Walk In Closet ตามแบบห้องตัวอย่างได้ ซึ่งหน้าต่างจะได้กระจกขนาดใหญ่กว่าทาวน์โฮมทั่วไป ทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาในห้องได้อย่างทั่วถึง ชานพักบันไดบนชั้น 3 ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่า และเป็นส่วนตัวมากกว่าชานพักบันไดชั้น 2 สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามไลฟ์สไตล์ ภาพทาวน์โฮม 3 ชั้น Type ศุภธรา พื้นที่ Open Plan ชั้นแรกของบ้าน ส่วนมาแล้วจะเป็นห้องรับแขกและโต๊ะทานข้าว ซึ่งดีไซน์แบบเปิดโล่งนี้สามารถปรับได้ตามการใช้งานของแต่ละครอบครัว พื้นที่อเนกประสงค์ชั้น 2 เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามความต้องการ โครงการอื่นจาก Supalai Supalai Lite Tha Phra-Wongwian Yai Supalai City Resort Sukhumvit 107 Supalai Bella Rama 2-Phanthai Norasing  
รีวิวคอนโด อ่อนนุช “Chambers อ่อนนุช สเตชั่น” คอนโดอารมณ์บ้าน ติดรถไฟฟ้า

รีวิวคอนโด อ่อนนุช “Chambers อ่อนนุช สเตชั่น” คอนโดอารมณ์บ้าน ติดรถไฟฟ้า

SC asset หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใครหลายคนหมายปองอยากจะเป็นเจ้าของให้ได้สักโครงการ เพราะชื่อเสียงด้านคุณภาพงานก่อสร้างที่ออกมาประณีตเรียบร้อยในทุกมุมตารางเมตร การใช้วัสดุที่ดี งานดีไซน์สวย ไปจนถึงการดูแลลูกบ้านในทุกโครงการภายใต้แบรนด์มากมายทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการหล่อหลอมทุกดีเทลจนเกิดเป็นความเชื่อมั่นของลูกค้า   Chambers (แชมเบอร์ส) แบรนด์คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แบบ Low Rise ที่ชูคอนเซป "คอนโดอารมณ์บ้าน" เมื่อลอดผ่านอาคาร A เข้าสู่โครงการเข้าไปก็ให้ความรู้สึกเหมือนเดินผ่านสวนสีเขียว มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนท่ามกลางความเงียบสงบก่อนเข้าถึงตัวอาคารผ่าน Double Space Lobby ที่ได้แสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ดูโปร่งโล่ง สร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นด้วยโทนสีเบจ ใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อนสลับด้วยสีเข้มแบบเอิร์ธโทน ประดับตกแต่งด้วยไม้ประดับต้นเล็กกระจายอยู่ทั่วทั้งล็อบบี้ ภาพรวมทั้งภายในและนอกอาคารออกมาโทนเดียวกันอย่างกลมกลืน ไม่มีอะไรที่ดูฉูดฉาดหวือหวาแต่คงคอนเซปของอารมณ์เหมือนอยู่บ้านได้อย่างดีทีเดียว   ส่วนกลางหลักจะอยู่ที่อาคาร C ด้านในสุดของพื้นที่โครงการ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของฟิตเนสและสระว่ายน้ำระบบเกลือลักษณะ L shape มีมุม Jacuzzi ให้ได้นั่งแช่ผ่อนคลายใต้ร่มไม้ใหญ่ริมสระ และ Sunken ให้ได้นั่งเล่นกลางสระว่ายน้ำ ทำเลคอนโด อ่อนนุช Chambers อ่อนนุช สเตชั่น โครงการนี้ SC asset เลือกปักหมุดย่านอ่อนนุช ในซอยสุขุมวิท 81 ถือเป็นสุขุมวิทช่วงกลางที่ถูกจับตามองในแง่ของการพัฒนารอบด้านมาได้สักระยะ เห็นได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจากหลาย Developer ค่ายใหญ่ในบ้านเรามาร่วมกันสร้างอ่อนนุชให้คึกคัก ประกอบกับสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โลตัส อ่อนนุช เซ็นจูรี่ บิ๊กซี อ่อนนุช เดอะฟิล รวมถึงสถานีรถไฟฟ้า สถานีอ่อนนุช ในระยะเดินได้ แค่ 230 เมตร และยังใกล้กับทางด่วนถึง 3 สาย ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี ไม่ว่าจะเดินทางเข้าใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองโซนบางนา-สุวรรณภูมิ ก็สะดวก ภาพโครงการ "Chambers อ่อนนุช สเตชั่น" Facilities "Chambers อ่อนนุช สเตชั่น" ห้องตัวอย่าง รายละเอียดคอนโดเพิ่มเติม Chambers อ่อนนุช สเตชั่น โครงการอื่นจาก SC asset CENTRIC RATCHAYOTHIN Bangkok Boulevard Rama 9 Grand Bangkok Boulevard Ramintra-Seritha    
รีวิวคอนโด ส่องทำเลเตาปูน-บางโพ ฉบับอัปเดต 2563

รีวิวคอนโด ส่องทำเลเตาปูน-บางโพ ฉบับอัปเดต 2563

ย้อนเวลากลับไปกว่า 10 ปีที่แล้ว ในบ้านเราเริ่มเข้าสู่ยุคคอนโด Fever วิถีของคนเมืองเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง ด้วยการหันมาใช้ชีวิตในแนวสูงกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า หรือแม้แต่ทำเลนอกเมือง แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สังเกตกันบ้างไหมคะ? ว่าในทุกทำเลที่เหล่าผู้พัฒนาสังหาฯ ไปทำโครงการในแต่ละพื้นที่จะต้องมีองค์ประกอบที่ดีอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะด้วยสิ่งที่มีอยู่เดิมหรือการพัฒนาในอนาคต อาทิ ศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาด โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา สถานที่สำคัญต่างๆ การเดินทางก็ต้องสะดวกทั้งการใช้รถส่วนตัวและสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่ยังคงเป็นปัจจัยหลักของการเดินทางอันสะดวกสบายมากที่สุดในบ้านเรา ซึ่งตามแผนทั้งหมด 13 สาย ครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ทำให้สถานี Interchange กลายเป็นอีกจุดขายสำคัญของคอนโดมิเนียม เมื่อเอ่ยถึงสถานี Interchange ทุกวันนี้ก็เริ่มมีมากขึ้นตามรถไฟฟ้าที่ขยายตัวอยู่ทั่วทุกมุมเมือง หลายจุดมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป แต่จุดที่เป็น Interchange ล่าสุด ณ เวลานี้ นั่นคือ สถานีเตาปูน ที่กำลังจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่ทำให้วงแหวนสายสีน้ำเงินสมบูรณ์ในอีกไม่ช้า สำหรับ Update Status คอนโดในครั้งนี้ เราจะประเดิมย่านแรกกันที่ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ซึ่งเป็นถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าที่เป็น Interchange ของสายสีน้ำเงินเองกับสายสีม่วง และสถานีบางโพ ที่เป็นสถานีก่อนจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งธนบุรี แล้วเหล่าคอนโดฯ ทั้ง 8 โครงการบนถนนเส้นนี้จะมีความคืบหน้าอะไรบ้าง เราไปอัปเดตพร้อมๆ กันค่ะ ไอดีโอ โมบิ บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ ถ้าดูจากที่ตั้งของโครงการ แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าอยู่บนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แต่ทางเข้า - ออก จะอยู่ทางฝั่งถนนประชาชื่นค่ะ โดยที่ดินจะอยู่หัวมุมสี่แยกประชาชื่นพอดี โดยโครงการนี้สร้างเสร็จช่วงปลายปี 2560 ปัจจุบันยังคงมียูนิตเหลือขายอยู่ ในราคาเริ่มต้นที่ 2.68 ล้านบาท มีห้องปล่อยเช่าในช่วงราคา 9,500 - 35,000 บาทต่อเดือน นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ในบรรดาโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ทั้งหมด “นิช ไพรด์ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์” จาก Sena ถือว่าติดกับสถานีรถไฟฟ้ามากที่สุดเลยค่ะ คือลงมาจากสถานี ทางออก 4 ไม่กี่ก้าว ไม่ต้องข้ามถนน ก็ถึงตัวโครงการเลยค่ะ โดยเตรียมจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์กันในเดือนเมษายน 2563 นี้แล้ว ซึ่งช่วงก่อนเปิดอาคารมีโปรโมชั่นราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 100 กว่ายูนิตค่ะ     ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ถ้าเดินลงมาจากสถานี ทางออกที่ 1 เราจะพบกับ “ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์” ก่อนเป็นโครงการแรก สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2558 แน่นอนว่า sold out ไปแล้ว แต่ยังคงทำราคาค่าเช่าได้ดีไม่แพ้โครงการรุ่นน้องในย่านเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันราคาค่าเช่าอยู่ที่ 10,000 – 32,000 บาทต่อเดือน ริชพาร์ค 2 @เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ ถือเป็นคอนโดฯ โครงการแรกๆ ของย่านนี้ โดยสร้างเสร็จตั้งแต่ปลายปี 2557 ซึ่งเป็นโครงการที่ทำราคามาถูกที่สุดในปัจจุบันของถนนเส้นนี้ โดยราคาตอนเปิดตัวอยู่ที่ 1.88 ล้านบาท ส่วนราคาโปรโมชั่นปัจจุบัน 1.99 ล้านบาท ส่วนค่าเช่าประมาณ 8,000 - 12,000 บาทต่อเดือน เดอะ สเตจ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ 1 ใน 3 โครงการคอนโดมิเนียมจาก Real Asset (แอบกระซิบกันนิดนึงค่ะว่า กำลังจะเป็นทั้งหมด 4 โครงการแล้ว) สำหรับโครงการนี้สร้างเสร็จปลายปี 2560 ราคาตอนเปิดตัวอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท ปัจจุบันมีโปรโมชั่นก่อนปิดโครงการช็อค One price ผ่อนล้านละ 1,500 บาท* อยู่ฟรี 2 ปี* เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท สำหรับห้องขนาด 33.20 ตร.ม. ค่าเช่าปัจจุบันประมาณ 9,000 - 15,000 บาทต่อเดือน ด้วยตัวโครงการที่ทำออกมาได้สวยทีเดียว ใครที่ได้มือแรกๆ ไปก็ถือว่าคุ้มค่ะ เดอะ ทรี อินเตอร์เชนจ์ โครงการนี้เห็นยูนิตเพียบ แต่หมดเรียบแล้วนะคะ สำหรับ “เดอะ ทรี อินเตอร์เชนจ์” จากค่ายใหญ่ Pruksa ที่นับว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในละแวกนี้ถึง 1,734 ยูนิต และยังตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อ มากที่สุด ประมาณ 60 เมตรเท่านั้น เรียกว่าแทบจะเดินไปได้ทุกวันแบบไม่ต้องเสียเวลาขับรถวนให้เวียนหัว ปัจจุบันทำราคาค่าเช่าที่ 8,000 - 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งตัวอาคารสร้างเสร็จประมาณปี 2557 ใกล้เคียงกับ ริชพาร์ค 2 ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ถ้านับจากสี่แยกบางโพ โครงการนี้ถือว่าอยู่ใกล้ที่สุดเลยค่ะ นั่นหมายความว่าก็จะใกล้กับรถไฟฟ้า สถานีบางโพ ประมาณ 80 เมตร และยังห่างจากศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อ ประมาณ 100 เมตรเท่านั้น แต่สำหรับ “ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ” จะมีความแตกต่างจากโครงการก่อนหน้านี้ เพราะคอนโดฯ ถูกวางให้อยู่ใน High End Segment ซึ่งราคาเปิดตัวอยู่ที่ 3.9 ล้านบาท และแม้ว่าอาคารจะสร้างเสร็จเมื่อปี 2560 แต่ปัจจุบันทำราคาค่าเช่าได้ถึง 12,000 - 45,000 บาทต่อเดือน 333 Riverside ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นคอนโดจาก Land & House แต่เมื่อไรที่เราได้เห็นคอนโดจาก Developer เจ้านี้ ก็มักจะไม่ทำให้เราผิดหวังค่ะ ซึ่ง “333 Riverside” เป็นโครงการหรูที่สุดบนถนนเส้นนี้ แถมยังอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนด้านหน้าก็เงียบสงบมาก มีบันไดสถานีบางโพมาเกยถึงหน้าโครงการอีกต่างหาก แม้ว่าโครงการแห่งนี้จะสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2560 มีราคาเปิดตัวที่ 5 ล้านบาท แต่ทุกวันนี้โครงการยังคงสวยงามโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำ ประกอบกับบรรยากาศภายในโครงการแล้ว ทำให้ 333 Riverside กลายเป็นคอนโดฯ ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหัวหินหรือพัทยาเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งปัจจุบันทำราคาค่าเช่าที่ 18,000 -150,000 บาทต่อเดือน   นี่คือ Update Status สำหรับคอนโดฯ ทั้งหมด 8 โครงการ บนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ที่เชื่อว่าในอนาคตอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าทุกวันนี้ขึ้นไปอีก ด้วยองค์ประกอบแวดล้อมใกล้เคียงที่กำลังจะขยายตัว อาทิ สถานีกลางบางซื่อ รัฐสภาแห่งใหม่ และท่าเรือบางโพที่เตรียมปรับปรุงใหม่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักสำคัญทำให้ทำเลโซนนี้เติบโตอย่างแทบจะพลิกโฉมต่อไป และสำหรับคอลัมน์ของเราในครั้งถัดไปจะพาไปอัปเดตกันในทำเลไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ รายละเอียดโครงการและสิ่งที่น่าสนใจในย่านเตาปูน-บางโพ รีวิวคอนโด The Stage Taopoon Interchange  รีวิวคอนโด 333 Riverside รีวิวคอนโด Ideo Mobi บางซื่อ-แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ รีวิว Gateway Bangsue ปลุกบางซื่อให้มีชีวิตชีวา
ORI สร้างยอดขายปี 2562 เติบโตกว่า 29,000 ล้านบาท

ORI สร้างยอดขายปี 2562 เติบโตกว่า 29,000 ล้านบาท

ออริจิ้น สร้างผลงานปี 62 คว้ากำไรสุทธิ 3,027 ล้านบาท หลังเปิดโครงการไป 20 โครงการ มูลค่ากว่า 24,200 ล้านบาท พร้อมกวาดยอดขายกว่า 29,000 ล้าน สูงกว่าเป้าหมาย ตุนแบ็คล็อกกว่า 41,000 ล้านสร้างรายได้ต่อเนื่องใน 3 ปี    นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI   เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 จะถือเป็นช่วงปรับฐาน แต่บริษัทยังคงความสามารถในการรักษาระดับกำไรและอัตราการทำกำไรไว้ได้ดี โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,027 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนความสามารถในการบริหารต้นทุนขายได้ดี ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 43.5% รวมถึงการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จนสามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้ถึง 21.4% ซึ่งถือเป็นอัตรากำไรที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับภาพรวมของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญมรสุมสงครามราคาในภาวะตลาดอสังหาฯหดตัว   ด้วยความตั้งใจของทีมงาน ผนวกกับการปรับกลยุทธ์และการวางแผนงาน เลือกเจาะตลาดลูกค้าได้ถูกกลุ่ม ทำให้บริษัทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาขายไม่แพง มีความสามารถสู้กับตลาดในภาวการณ์แข่งขันที่สูง จนทำให้สร้างยอดขายในโครงการที่เปิดใหม่ในปีที่ผ่านมาเฉลี่ยสูงถึงกว่า 76% ขณะเดียวกัน ด้วยคุณภาพของโครงการภายใต้แบรนด์ต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ และยังคงทยอยโอนกรรมสิทธิ์ สร้างทั้งรายได้และกำไรกลับเข้าสู่บริษัทอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลการขยายธุรกิจใหม่ในส่วนรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรรที่เติบโตจากปี 2561 กว่า 200% ทำให้มี Contribution ในผลประกอบการ ปี 2562 ราว 1,500 ล้านบาท หรือ 11% ของรายได้รวม   รวมถึงการกระจายความเสี่ยงในการสร้างธุรกิจบริการในกลุ่มบริษัท พรีโม ที่เติบโตกว่า 30% และรุกคืบขยายไปสู่ธุรกิจสร้างรายได้ประจำ หรือ Recurring income ที่สามารถสร้างโรงแรมใหม่ ในทำเลทองอย่าง ทองหล่อ และ ศรีราชา เสร็จก่อนกำหนดในปี 2562 ที่ผ่านมา และจะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 ปีนี้   ทั้งนี้ ในปี 2562 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 24,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้าน 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 16 โครงการ มูลค่ารวม 18,200 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 28,942 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 14,122 ล้านบาท ตุนแบ็คล็อก 3 ปี 41,000 ล้านสร้างรายได้ นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2563 บริษัทมั่นใจว่าจะยังคงสามารถรักษาประสิทธิภาพของอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิได้ในระดับเดิม โดยในปี 2563 บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่หลายโครงการที่มีแผนรับรู้รายได้ต่อเนื่อง และที่จะทยอยสร้างเสร็จและรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ สาทร มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท โครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน มูลค่าโครงการ 1,680 ล้านบาท โครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ อ่อนนุช มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท โครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง มูลค่าโครงการกว่า 2,054 ล้านบาท โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน มูลค่าโครงการกว่า 2,700 ล้านบาท และโครงการไนท์บริดจ์ เกษตรโซไซตี้ มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีแบ็คล็อกพร้อมทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องกว่า 3 ปีสูงถึงกว่า 41,000 ล้านบาท   นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงแรมที่เปิดให้บริการในปี 2563 จำนวน 2 โรงแรมได้แก่ ได้แก่ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง รวม 650 ห้องพัก ซึ่งจะช่วยเพิ่มพอร์ตการรับรู้รายได้ให้แก่บริษัท ผนึกพันธมิตรสร้างรายได้และโอกาสทางธุรกิจ ขณะที่ไตรมาส 4 ปี 2562 กลุ่มธุรกิจโรงแรมได้จับมือกับพันธมิตรใหม่ โดย บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ได้เข้าร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่ชื่อ CI:Z Limited Liability Partnership ซึ่งเป็นนักลงทุนสัญชาติญี่ปุ่น โดยการขายหุ้น บริษัท วัน สุขุมวิท 59 จำกัด ซึ่งจะพัฒนาโครงการ Intercontinental Bangkok Thonglor ร่วมกันต่อไป   ทั้งนี้บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจหลัก รวมทั้งในธุรกิจใหม่ๆ และยังเปิดรับพันธมิตรใหม่ๆ มาร่วมทุนและร่วมขับเคลื่อนแพลทฟอร์มในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทจะเปิดเผยแผนธุรกิจประจำปี 2563 ของทุกกลุ่มบริษัทในเครือในวันที่ 4 มี.ค.นี้   ในปี 2562 บริษัท มีการร่วมทุนกับพันธมิตรเดิม และ พันธมิตรใหม่เพิ่มเติม อันได้แก่  1.บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จํากัด เพื่อพัฒนาโครงการ “พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน” 2.บริษัท เอสคอน เจแปน (ประเทศไทย) จํากัด เพื่อพัฒนาโครงการ “ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์” 3.บริษัท ดุสิตธานี จํากัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาโครงการ “เดอะ แฮมป์ตัน ศรีราชา บาย ออริจิ้น แอนด์ ดุสิต” และ 4.CI:Z Limited Liability Partnership จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโรงแรมระดับไฮเอนด์ต่อไป ทุกกลุ่มบริษัทในเครือจะยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในปีนี้ ทั้งกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมอย่างธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย ไปจนถึงธุรกิจใหม่ๆ อย่างธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ธุรกิจบริการ เพื่อสร้างความยั่งยืนกลับมาสู่บริษัท   นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทรอบหกเดือนหลัง ของปี 2562 ในอัตรา 0.29 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็น Dividend Yield กว่า 9% จากราคาปิดเมื่อวานนี้ เป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 711.33 ล้านบาท โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด โดยกำหนดในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 29 พฤษภาคม​ 2563  
รีวิวคอนโด ปุณณวิถี ติดรถไฟฟ้า “Whizdom Inspire Sukhumvit” บนอาณาจักรมิกซ์ยูส จาก MQDC

รีวิวคอนโด ปุณณวิถี ติดรถไฟฟ้า “Whizdom Inspire Sukhumvit” บนอาณาจักรมิกซ์ยูส จาก MQDC

MQDC ถือเป็น Developer รายแรกๆ ที่ลุยทำอาณาจักรมิกซ์ยูสเป็นของตัวเองอย่างจริงจัง ซึ่งมีคอนเซปที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน นั่นคือการเนรมิตที่ดินติดริมถนนสุขุมวิท บนพื้นที่กว่า 43 ไร่ ที่ใช้ชื่อว่า "101 True Digital Park at True Digital Park" ให้กลายเป็นอาณาจักรที่รวมเอานวัตกรรม และธรรมชาติเข้ามารวมไว้ภายในโครงการอย่างลงตัว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง ตั้งแต่การวางผังออกแบบทุกอาคารให้ลดการใช้พลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคำนึงถึงการใช้ชีวิตจริงของผู้คนทุกช่วงวัยภายในอาคาร จนได้รับรางวัลบนเวทีทั้งในประเทศไทยและระดับโลกมาแล้ว   Whizdom Inspire Sukhumvit คือหนึ่งในสามคอนโดมิเนียมที่อยู่ภายในโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ ซึ่งสองโครงการก่อนหน้านี้ได้ Sold Out ไปเรียบร้อย โดยได้ Capital Gain ไปประมาณ 5% สำหรับ Whizdom Inspire Sukhumvit คอนโดมิเนียมโครงการสุดท้ายภายในมิกซ์ยูสแห่งนี้ ได้วางแนวคิดให้เป็นที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องมีความสะดวกสบายรอบด้าน มีเทคโนโลยีรองรับการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น ได้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพื่อเอื้อต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นท่ามกลางสังคมเมืองในยุคปัจจุบัน อาทิ ใกล้ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ ที่เข้ามาปลุกย่านปุณณวิถีให้คึกคักกว่าที่เคยอย่าง 101 True Digital Park ด้วยพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ครบทุกสิ่งอำนวยความสะดวกในแห่งเดียว ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร บริการต่างๆ Co-Working Space ฟิตเนสระดับโลก พื้นที่จัดกิจกรรมที่น่าสนใจ รองรับได้ทั้งครอบครัว พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 5,000 ตารางเมตร   เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ส่วนตัว ซึ่ง Whizdom Inspire Sukhumvit ไม่ใช่แค่ใกล้กับบีทีเอสปุณณวิถีเพียง 300 เมตร แต่ยังเชื่อมต่อบน Sky Walk ถึงตัวโครงการ ทำให้สะดวก ปลอดภัยมากกว่า อีกทั้งยังใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านสุขุมวิท 62 กับด่านบางนา และทางด่วนบูรพาวิถีอีกด้วย   นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่จะทำให้ลูกบ้านใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและปลอดภัย อาทิ เซนเซอร์จับความเคลื่อนไหว ควบคุมการเปิด-ไฟได้เองอัตโนมัติ, ระบบ Energy Measurement ตรวจสอบสถานะการใช้ไฟของห้อง ทำให้ประหยัดไฟมากกว่า, สามารถวัดค่าฝุ่น อุณหภูมิ ความชื้น ให้ทราบได้อยู่ตลอด, ระบบ Smart Contact เช็คสถานะของประตูห้อง และประตูระเบียงได้ เป็นต้น ภาพ Facilities คอนโด ปุณณวิถี Whizdom Inspire Sukhumvit ส่วนกลางเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ที่สามารถใช้เป็นสถานที่รับแขกหรือนัดประชุมใน Private Meeting Room, Co-Working Space ได้ ส่วนกลางหลักอยู่ชั้น 6 ซึ่งจะเป็นโซนที่มีทั้งสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แบ่งโซนที่สามารถว่ายออกกำลังกาย และโซนสำหรับนั่งแช่น้ำพักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศสวนสีเขียวรอบสระ และฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ ชั้น 31 เป็น Skycamp Lounge นั่งชมวิวเมืองโล่งๆ พร้อมเสียงน้ำไหลที่ล้อมรอบ Sunken Seat   ห้องตัวอย่าง คอนโด ปุณณวิถี Whizdom Inspire Sukhumvit รายละเอียดคอนโด ปุณณวิถี ติดรถไฟฟ้าเพิ่มเติม Whizdom Inspire Sukhumvit รีวิวโครงการอื่นๆ จาก MQDC รีวิวคอนโด เอกมัย “Mulberry Grove Sukhumvit” รีวิวคอนโด อโศก “Whizdom Asoke-Sukhumvit” รีวิวคอนโด ท่าพระ "Whizdom Station Ratchada–Thapra"
รีวิวคอนโด หัวหิน “Carapace Huahin-Khaotao” ติดหาดเขาเต่า

รีวิวคอนโด หัวหิน “Carapace Huahin-Khaotao” ติดหาดเขาเต่า

หัวหิน เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาลของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ต้องการแวะมาพักผ่อนสูดอากาศริมทะเล เดินเล่นบนหาดทรายอันเงียบสงบ ทานอาหารทะเลอร่อยๆ แต่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก จนเชื่อว่าใครหลายคนอยากจะมีคอนโดมิเนียมริมทะเลสักห้อง ซึ่ง "หัวหิน" คือคำตอบของจุดหมายปลายทางนี้ ที่สำคัญคือราคาในแบบมนุษย์เงินเดือนก็สามารถเป็นเจ้าของได้ เพียง 2 ล้านต้นๆ เท่านั้น   ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าอยากหาสถานที่พักผ่อนริมชายหาดที่ผู้คนไม่พลุ่กพล่านมากนัก ก็คงต้องขับรถออกไปจากตัวเมืองกันสักนิด แต่ยังไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างที่หัวหินก็คงจะชวนให้นึกถึงหาดเขาเต่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "Carapace Huahin-Khaotao" โครงการติดชายหาดที่เป็นทั้ง Hotel Commercial 1 อาคาร 8 ชั้น อีก 2 อาคาร สูง 7 ชั้น และ Condominium Residential 3 อาคาร สูง 4 ชั้น แยกอาคารฟิตเนสอีก 1 อาคาร โดยจะแบ่งเป็น 2 เฟส แยกอาคารกันชัดเจน จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่จะยังอยู่ในพื้นที่โครงการเดียวกัน สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ไปจนถึงริมหาดส่วนตัว ดีไซน์สไตล์คอนโด หัวหิน ริมทะเล หน้าตาของอาคารทั้ง 2 เฟส ใช้การออกแบบตามแนวคิด Modern Contemporary Concept มีทั้งความทันสมัยไปพร้อมกับการใช้ Texture และเส้นสายของ Facade ที่โค้งพริ้วรับกับ Landscape รอบอาคารส่งไปถึงริมทะเลอย่างสอดคล้องกัน ประกอบกับการวางตัวอาคารให้เปิดมุมมองเห็นพื้นที่สวนและทะเล แทรก Court ลงตรงพื้นที่กลางโครงการเพิ่มความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี Facilities คอนโด หัวหิน เหมาะกับการพาครอบครัวมาพักผ่อน บรรยากาศริมชายหาด Interior คอนโด หัวหินก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ขึ้นชื่อว่าเป็นโครงการริมชายหาดเขาเต่าแห่งเมืองหัวหินอันเลื่องชื่อ บรรยากาศภายในห้องพักก็ต้องให้อารมณ์เหมือนอยู่ริมทะเลด้วยเช่นกัน "Carapace Huahin-Khaotao" จึงได้หยิบเอาเปลือยหอยที่ถูกคลื่นซัดอยู่บนผืนทรายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบภายในห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้องลายไม้ วัสดุหัวเตียงที่มีลายเปลือกหอยมาเป็น Signature รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้วัสดุและโทนสีออกมาเป็นสไตล์ Sapphire Earth Tone รายละเอียดคอนโด หัวหิน Carapace Huahin-Khaotao โครงการคอนโด หัวหิน อื่นๆ ที่น่าสนใจ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน THEW TALAY ESTATE Blu ชะอำ-หัวหิน  
1 ใน ลูกค้าบ้านเอสซีจี ไฮม์กว่าพันครอบครัว กับความประทับใจใน 4 ฟังก์ชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัย

1 ใน ลูกค้าบ้านเอสซีจี ไฮม์กว่าพันครอบครัว กับความประทับใจใน 4 ฟังก์ชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัย

เหตุผลสำคัญของคนที่เลือกจะปลูกบ้านเอง ไม่ซื้อบ้านในโครงการจัดสรรทั่วไป คือ ความต้องการบ้านในรูปแบบเฉพาะที่ตนเองใฝ่ฝัน แต่ปัญหาใหญ่ที่มักจะพบ คือ ปัญหาผู้รับเหมา ซึ่งนอกจากจะหาได้ยากแล้ว ยังมีปัญหาใหญ่อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพงาน ประสบการณ์การทำงาน การทำตามเงื่อนไขสัญญา และอีกสารพัดที่เกิดขึ้นตามมา เจ้าของบ้านหลายรายจึงมักเลือกการสร้างบ้าน จากบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เพื่อความมั่นใจและคุณภาพของงานก่อสร้างที่ดีกว่า   ถ้าพูดถึงบริษัท “เอสซีจี” ไม่มีใครไม่มั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการ ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะ “เอสซีจี” อยู่คู่คนไทยมานับ 100 ปีแล้ว และ “เอสซีจี” ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรับสร้างบ้าน โดยเป็นรูปแบบการสร้างบ้านระบบโมดูล่าร์ ที่มีพันธมิตรร่วมธุรกิจอย่าง “เซกิซุย เคมิคอล” ผู้ชำนาญด้านเทคโนโลยีการสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท เอสซีจี-เซกิซุยเซลส์ จำกัด ให้บริการสร้างบ้าน SCG HEIM (เอสซีจี ไฮม์) บ้านเอสซีจี ไฮม์ คือ การสร้างบ้านด้วยระบบการผลิตชิ้นส่วนจากโรงงานผลิต โดยใช้หุ่นยนต์ควบคุม ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้าน ทั้งประตู หน้าต่าง ผนัง และโครงสร้าง มีการตรวจสอบคุณภาพทุกชิ้น แล้วนำมาประกอบติดตั้งบนพื้นที่จริงของลูกค้า ด้วยระบบโมดูล่าร์ทุกชิ้นส่วนของบ้านจึงมีคุณภาพสูง มีระบบโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน สามารถรองรับแผ่นดินไหวได้เป็นอย่างดี ตามมาตรฐานการผลิตของประเทศญี่ปุ่น   ไม่เพียงแต่ระบบโครงสร้างที่แข็งแรง แต่ภายในบ้านยังมีเทคโนโลยีจากเอสซีจี ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายอากาศที่ดี เย็นสบาย ปราศจากฝุ่นและเชื้อโรค เพราะใช้ระบบการ Air Factory  นอกจากนี้ การดูแลบ้านยังทำได้ง่าย แม้ว่าความเป็นจริงแล้วบ้านเอสซีจี ไฮม์ จะมีความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งแทบจะไม่ต้องดูแลรักษาอะไรมาก และเจ้าของบ้านสามารถทำได้เอง และบ้านเอสซีจี ไฮม์ ยังมีบริการตรวจเช็คสภาพบ้านฟรี ตามเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดระยะเวลา 20 ปีอีกด้วย “บ้านเอสซีจี ไฮม์” โดดเด่นด้วย 4 ฟังก์ชั่น หากจะบอกถึงจุดโดดเด่นของบ้านเอสซีจี ไฮม์ ซึ่งได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้ามาอย่างยาวนาน คงมีบทสรุปกับ 4 ฟังก์ชั่น ที่ตรงใจลูกค้า ดังนี้  1.การก่อสร้างรวดเร็ว ระยะเวลาการก่อสร้างบ้านเอสซีจี ไฮม์ ถือว่าใช้ระยะเวลาที่รวดเร็วและมีกำหนดชัดเจน เพราะโครงสร้างและชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้านกว่า 80% ถูกสร้างสำเร็จมาจากโรงงาน แล้วนำมาประกอบด้วยระบบโมดูล่าร์ ที่หน้างาน บนที่ดินของลูกค้า หมดปัญหาเรื่องการก่อสร้างล่าช้า บานปลาย และงานไม่เสร็จตามกำหนดเวลา  2.สร้างอากาศบริสุทธิ์ด้วย ระบบ Air Factory การใช้ระบบ Air Factory ที่เป็นระบบควบคุมอากาศภายในบ้านเอสซีจี ไฮม์ นับเป็นจุดเด่นและที่ชื่นชอบของลูกค้า เพราะบ้านทั้งหลังเป็นแบบระบบปิด สามารถป้องกันลมร้อนจากภายนอกเข้าบ้าน ทั้งประตูและหน้าต่าง ถูกซีลสนิทด้วยระบบ Air Tightness System แถมด้วยการกรองอากาศด้วยเครื่องกรองของระบบ Air Factory ทำให้อากาศทั้งสะอาด และเย็นสบายเพราะปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสม ประมาณ 25-29 องศาเซลเซียส  3.อายุบ้านยาวนาน เพราะโครงสร้างที่แข็งแรง ด้วยเทคโนโลยีการผลิตโครงสร้างและชิ้นส่วน จากโรงงาน ด้วยการใช้หุ่นยนต์ควบคุมการผลิต และมีการตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนและชิ้นส่วน ประกอบกับการใช้ระบบโมดูล่าร์ทำการติดตั้งหน้างาน ภายใต้มาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาแผ่นดินไหวอยู่เสมอ บ้านเอสซีจี ไฮม์ จึงมั่นคงแข็งแรง และอายุการใช้งานยาวนาน ไม่จำเป็นต้องซ่อมบำรุง หมดปัญหาการแตกร้าว หรือปัญหาโครงสร้างต่างๆ 4. “อุ่นใจ ด้วยบริหารหลังการขายนาน 20 ปี แม้ว่าบ้านเอสซีจี ไฮม์ จะมีมาตรฐานการผลิต ที่ทำให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ถึงคุณภาพการใช้งาน แต่เพื่อสร้างความมั่นใจ เพื่อทำให้ลูกบ้าน “อุ่นใจ” เมื่อใช้บริการจากบ้านเอสซีจี ไฮม์ จึงได้มีบริการตรวจเช็คสภาพบ้านฟรี ตามเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดระยะเวลา 20 ปี แถมด้วยการรับประกันโครงสร้างและฐานรากยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว  3 ฟังก์ชั่นสุดประทับใจ จากผู้อยู่อาศัยจริง ถ้าจะวัดความสำเร็จของบ้านเอสซีจี ไฮม์ ว่ากลุ่มลูกค้าให้การตอบรับมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่วัดได้อย่างชัดเจน คงเป็นการใช้บริการบ้านเอสซีจี ไฮม์ กว่าพันหลัง ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี  ซึ่งลูกค้าทุกรายต่างพึงพอใจและชื่นชอบบ้านเอสซีจี ไฮม์ จากคุณสมบัติและฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขาได้อย่างตรงใจ และนี่คือหนึ่งเสียงสำคัญของลูกค้า ซึ่งมาตอกย้ำให้เห็นถึง ความพึงพอใจต่อการอยู่อาศัยในบ้านเอสซีจี ไฮม์ คุณประพจน์และคุณจันทร์พิมพ์ คล้ายสุบรรณ ลูกค้า SCG HEIM  ซึ่งได้ใช้บริการสร้างบ้านเอสซีจี ไฮม์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2554 ปัจจุบันถือว่าอยู่อาศัยมาครบ 10 ปี จากจุดเริ่มต้นที่รู้จักบ้านเอสซีจี ไฮม์ เพราะเพื่อนในวงการก่อสร้างเป็นผู้แนะนำให้ไปชมบ้านตัวอย่าง ที่บางซื่อ  ซึ่งเมื่อเห็นบ้านครั้งแรกก็ประทับใจ เพราะเคยมีประสบการณ์การพักอาศัยบ้านในประเทศญี่ปุ่นอยู่หลายเดือน จากการเดินทางไปอบรมที่ประเทศญี่ปุ่น “เคยพักบ้านที่ญี่ปุ่น พบว่าแข็งแรงมีคุณภาพ ถูกใจ เลยชวนภรรยาไปชม ทันทีที่เห็นก็ชอบทันที เพราะมีความเงียบ เก็บเสียงดีมาก และมีความเย็น ดูผนังภายนอกด้วย มันเป็นโครงสร้างถาวร ไม่ต้องมีการทาสีตลอด และกระจกค่อนข้างจะหนา เดินชมจนรอบบ้านเลย คิดว่าบ้านหลังนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษาในระยะยาว ก็เลยตัดสินใจทันที”คุณประพจน์ เล่าประสบการณ์ที่ตัดสินใจใช้บริการบ้านเอสซีจี ไฮม์ สำหรับความชื่นชอบและประทับใจจากการอยู่อาศัยภายในบ้านเอสซีจี ไฮม์ ของครอบครัว “คล้ายสุบรรณ”  คงมี 3 ฟังก์ชันสำคัญ ได้แก่ 1.โครงสร้างบ้านที่แข็งแรง พิสูจน์ได้จากระยะเวลาการอยู่อาศัยนานนับ 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบปัญหาการแตกร้าวของคอนกรีต ระบบผนังบ้านภายนอกที่มีความแข็งแรง และสวยงามทำให้ไม่ต้องทาสี หมดปัญหาการซีดจาง ต้องซ่อมบำรุงหรือต้องทาสีซ้ำเหมือนกับ  ทำให้ตลอดระยะเวลาการอยู่อาศัยกว่า 10 ปี เจ้าของบ้านไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมบำรุง เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปในครั้งแรก 2.ระบบการสร้างบ้านที่ทำให้บ้านเงียบ ด้วยการก่อสร้างประตู และหน้าต่าง ซึ่งใช้ระบบโมดูล่าร์ ที่ให้ทั้งความเงียบและความแข็งแรง ทำให้สามารถกันเสียงจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน และยังมีความคงทนแข็งแรง สามารถกันการทุบ กันเสียง และความร้อน จากการใช้กระจกหนาถึง 3 ชั้น “ตอนแรกคิดว่า หน้าต่างจะแข็งแรงพอไหม พออยู่มา 10 ปีก็เห็นแล้วว่ามีความแข็งแรงจริง อย่างกระจกมีความหนา นอกจากกันขโมย กันการทุบ ยังสามารถกันเสียง กันความร้อน ครบในหนึ่งเดียว ตอนแรกคิดว่าจะเสริมด้วยการติดเหล็กดัด แต่พออยู่จริงแล้ว คิดว่าไม่มีความจำเป็น” คุณจันทร์พิมพ์ เล่าถึงประสบการณ์การอยู่อาศัยบ้านเอสซีจี ไฮม์ 3.ระบบอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน จาการใช้ระบบ Air Factory ด้วยระบบ Air Factory มีชั้นฟิวเตอร์กรองอากาศ ทำให้อากาศภายในบริสุทธิ์ ซึ่งสามารถกรองอากาศได้ถึงระดับ PM 2.5   คุณจันทร์พิมพ์ เล่าว่า  ด้วยความที่ตนเองเป็นหมอ ทำให้คำนึงถึงเรื่องความสะอาดของบ้าน นอกจากระบบ Air Factory จะกรองฝุ่นหยาบ กรองกลิ่นได้ ยังสามารถกรองฝุ่นในระดับ PM 2.5 ทำให้ในช่วงที่มีปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 จึงมั่นใจว่าจะไม่เจอวิกฤตแน่นอนเมื่ออยู่ภายในบ้าน เพราะมีระบบการกรองอากาศก่อนจะเข้าสู่ตัวบ้าน   อีกเสียงหนึ่งที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจน คือ ลูกสาวที่เป็นโรคภูมิแพ้ ในอดีตที่พักอาศัยอยู่บ้านหลักเดิม ทุกเช้าจะตื่นมาพร้อมกับอาการของโรคภูมิแพ้ มีอาการจามบ่อยมาก แต่เมื่ออยู่ในบ้านเอสซีจี ไฮม์ อาการเหล่านั้นลดน้อยลงไปมาก   ระบบ Air Factory ไม่เพียงแต่ช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์แล้ว ประโยชน์สำคัญยังช่วยในเรื่องอุณหภูมิภายในบ้าน ที่เย็นสบายไม่ร้อน แม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีแอร์ถึง 4 เครื่อง แต่เปิดเพียงเครื่องเดียว ก็ทำให้บ้านในทุกตารางเมตรเย็นสบาย ซึ่งส่งผลดีในเรื่องของการประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกด้วย คุณประพจน์ เล่าประสบการณ์ในเรื่องประหยัดค่าไฟว่า บ้านเอสซีจี ไฮม์ เมื่อเทียบกับบ้านประเภทอื่นในขนาดใกล้เคียงกัน จากการสอบถามเพื่อนๆ พบว่าค่าไฟของบ้านเอสซีจี ไฮม์ถูกกว่า โดยหากบ้านหลังอื่นเสียค่าไฟเดือนละ 4,000 บาท บ้านเอสซีจี ไฮม์หลังนี้เสียค่าไฟสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทเท่านั้น “ช่วงก่อนเข้าอยู่บ้านเอสซีจี ไฮม์ ก็กังวลใจเหมือนกัน ว่าเรื่องการเซอร์วิสเป็นเทคนิคเฉพาะ พออยู่ไปนานๆ เรื่องที่เราเซอร์วิสเองได้ อย่างเรื่องแอร์ เราก็ไปถอดมาแล้วเป่า และเปลี่ยนไส้กรองทุก 5 ปีตามอายุการใช้งาน ส่วนผนังและสีเราไม่ต้องไปแตะต้องเลย  ก็ไม่มีอะไรดูแลเป็นพิเศษ” คุณประพจน์ เล่าถึงความประทับใจนอกจากนี้ ยังเล่าต่ออีกว่า ถ้าจะแนะนำคนปลูกบ้านหลังใหม่ ประเด็นที่หนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ผู้รับเหมาก่อสร้างมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน จากประสบการณ์ที่พบ เพื่อนที่ปลูกบ้านหลังแรก 80% จะพบปัญหาผู้รับเหมาตลอด ไม่ว่าเรื่องทิ้งงาน คุณภาพไม่ได้ตามที่ตกลงกัน ฟ้องร้องกันเยอะแยะเลย ถึงขนาดลงทุนไป 7-8 ล้านบาท ยังไม่สามารถเข้าไปอยู่บ้านได้เลยก็มี “บ้านเอสซีจี ไฮม์ สามารถสร้างเสร็จได้ภายใน 60 วัน เราเห็นบ้านขึ้นมาเป็นหลังแล้ว บ้านของเพื่อน 6 ปีแล้ว เดียวทุบเดี๋ยวรื้อ ปัญหามีไม่จบ งบบานปลาย ถ้าหากอยากได้รับความเชื่อมั่น ใช้บริการบริษัทใหญ่ๆ ดีกว่าค่ะ” คุณจันทร์พิมพ์ ยืนยันในตอนท้าย https://www.youtube.com/watch?v=PAvoFCvVhJQ&feature=youtu.be เกี่ยวกับ "เอสซีจี ไฮม์" เพิ่มเติม เอสซีจี ไฮม์ บทความอื่นๆ เกี่ยวกับ SCG 10 ลำดับขั้นตอนการก่อสร้างบ้าน เอสซีจี แนะนำ 4 เรื่อง ระบบท่อที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนลงมือสร้างบ้าน COTTO LIFE โลกของกระเบื้องที่ไม่ใช่แค่เรื่องพื้นๆ
รีวิวคอนโด จรัญ ใกล้รถไฟฟ้า “Supalai City Resort Charan 91”

รีวิวคอนโด จรัญ ใกล้รถไฟฟ้า “Supalai City Resort Charan 91”

ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท จรัญฯ 91 คอนโด จรัญ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางอ้อ เพียง 190 เมตร 2 สถานีถึงจุด Interchange สายสีม่วง สถานีเตาปูน ได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบสถาปัตยกรรม โดยการดึงเอาเสน่ห์ของชุมชนและวิถีชีวิตดั่งเดิมของคนฝั่งธนบุรี มาใช้เป็นเส้นสายของเกษตรกรรม หัตถกรรมเครื่องสาน ทั้งในงานออกแบบตกแต่งอาคารทั้งภายนอก-ภายใน และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่วางเอาตรงกลางพื้นที่ แล้วล้อมรอบด้วยตัวอาคารพักอาศัยในสไตล์รีสอร์ท เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยภายในโครงการ ตามคอนเซ็ปต์ "ทิ้งตัวได้ทุกวันกับจรัญฯ ที่คุ้นเคย"   Green Concept Design บรรยากาศรอบโครงการตกแต่งด้วยพรรณไม้กลมกลืมไปกับตัวอาคาร วางรูปแบบอาคารและห้องนอนภายในยูนิตให้อยู่ในทิศทางที่ดี ใช้วัสดุที่จะช่วยลดความร้อนเข้าสู่ห้องพักอาศัย เช่น ใช้กระจกเขียวตัดแสง ลดเสียงรบกวนจากภายนอก      ชื่อโครงการ Supalai City Resort Charan 91 (ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท จรัญฯ 91)  เจ้าของโครงการ บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 91 แขวงบางอ้อ บางอ้อ กรุงเทพฯ 10700 พื้นที่โครงการ ประมาณ 11 ไร่กว่า ลักษณะโครงการ Low Rise  จำนวนอาคาร 5 อาคาร  จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนยูนิต 1,036 ยูนิต ร้านค้าจำนวน 4 ยูนิต ขนาดห้อง 1 BEDROOM-2 BEDROOM 27.00–57.00 ตร.ม. ที่จอดรถ 62% สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ล็อบบี้, อาคารสโมสร, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, พื้นที่สีเขียว, Co-Living Space, Library,Metting Room,​ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.  ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท  จุดเด่นโครงการ โครงการดีไซน์ให้มีความเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ภายในซ.จรัญสนิทวงศ์ 91 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรพ.ยันฮี ห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 190 เมตร   ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางอ้อ, ท่าเรือข้ามฟากวัดอาวุธวิกสิตาราม  จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง แมคโคร จรัญฯ 31, เซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า, พาต้า ปิ่นเกล้า, เทสโก้ โลตัส, The sense ปิ่นเกล้า,  Major Cineplex ปิ่นเกล้า, ช่างชุ่ย, ตลาดอินดี้ ปิ่นเกล้า,รพ.ยันฮี,รพ.ศิริราช,รพ.เจ้าพระยา, รพ.ตา หู คอ จมูก, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ,​ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, โรงเรียนโยธินบูรณ, โรงเรียนทิวไผ่งาม, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, โรงเรียนราชวินิต ภาพ Exterior คอนโด จรัญ ใกล้รถไฟฟ้า "Supalai City Resort Charan 91" ภายในอาคารของ "Supalai City Resort Charan 91" คอนโด จรัญ ภาพภายในยูนิต คอนโด "Supalai City Resort Charan 91"   รายละเอียดโครงการ Supalai City Resort Charan 91 เพิ่มเติม ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท จรัญฯ 91 โครงการอื่นจาก Supalai ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สุขุมวิท 107 ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2–พันท้ายนรสิงห์  
รีวิวคอนโด อนุสาวรีย์ชัย ติดสวนสันติภาพ “THE EXTRO Phayathai-Rangnam”

รีวิวคอนโด อนุสาวรีย์ชัย ติดสวนสันติภาพ “THE EXTRO Phayathai-Rangnam”

Singha Estate เปิดตัวต้นปี 2020 ด้วยคอนโดแบรนด์ใหม่ “ดิ เอ็กซ์โทร” (The EXTRO) ใจกลางรางน้ำ ติดสวนสันติภาพ ห่างจากรถไฟฟ้า สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ประมาณ 400 เมตร นับว่าเป็นทำเลที่หาที่ดินได้ค่อนข้างยากทีเดียว   THE EXTRO Phayathai-Rangnam ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ ตามแนวคิด “Extraordinary Living” ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหลับใหลของคนรุ่นใหม่บวกกับทำเลที่คึกคักอยู่ตลอดเวลา  จึงได้ออกแบบ Facilities ให้รองรับกิจกรรมได้หลากหลาย อาทิ ฟิตเนส 3 ชั้น สนามซ้อมวิ่ง สวนลอยฟ้า Social Lounge และยังมีพื้นที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ที่ Co-Working Space และ Co-Social space ชื่อโครงการ THE EXTRO Phayathai-Rangnam (ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ)  เจ้าของโครงการ บริษัท สิงห์ เอสเตท จํากัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ.รางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 พื้นที่โครงการ 2-0-71 ไร่  ลักษณะโครงการ High Rise  จำนวนอาคาร 1 อาคาร  จำนวนชั้น 33 ชั้น จำนวนยูนิต 411 ยูนิต  ขนาดห้อง  1 BEDROOM 31.25-35 ตร.ม. 2 BEDROOM 48.25-71.00 ตร.ม. (Floor To Ceiling 2.85 เมตร)  Duplex 82.5-111.75 ตร.ม. (Floor To Ceiling 6.15 เมตร)  สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง  ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 235,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ อาคารออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ พร้อมระบบหน้าต่างแบบจรดพื้นถึงฝ้า หรือระบบโครงสร้างผนังกระจก curtain wall ที่นิยมใช้กับอาคาร Hi-End ขนาดใหญ่ ให้แสงธรรมชาติเข้าถึงพื้นที่ภายในได้อย่างเต็มที่ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก  จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนศรีรัช ด่านพหลโยธิน 2 สถานที่ใกล้เคียง King Power, สวนสันติภาพ, Century Mall, Center One, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า, โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน, โรงพยาบาลเด็ก, โรงพยาบาลทหารผ่านศึก, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลวิชัยยุทธ THE EXTRO Phayathai-Rangnam คอนโด อนุสาวรีย์ชัย ติดสวนสันติภาพ Facilities   ห้องตัวอย่าง "THE EXTRO Phayathai-Rangnam" คอนโด อนุสาวรีย์ชัย รายละเอียดคอนโด อนุสาวรีย์ชัย  "THE EXTRO Phayathai-Rangnam" เพิ่มเติม THE EXTRO Phayathai-Rangnam ข่าวอื่นๆ จาก Singha Estate “สิงห์ เอสเตท” ลุยตลาดอสังหาฯ 63 เปิดคอนโดฯ รางน้ำ จับตลาดหมอ-นักลงทุน สิงห์ เอสเตท ส่ง SHR ระดมทุน หาเงินเพิ่มโรงแรม 2 เท่าตัว สิงห์ เอสเตท เริ่มเก็บเกี่ยวรายได้-จ่ายปันผล ปีหน้ามั่นใจกวาด 20,000 ล้าน
รีวิวคอนโด เอกมัย “Mulberry Grove Sukhumvit” Super Luxury Residence เพื่อทุกคนในครอบครัว

รีวิวคอนโด เอกมัย “Mulberry Grove Sukhumvit” Super Luxury Residence เพื่อทุกคนในครอบครัว

Mulberry Grove แบรนด์ที่ทำออกมาเพื่อคนทุก Generation ในครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายในพื้นที่ซึ่งเป็น Super Luxury Residence โดยถูกออกแบบและพัฒนามาจากงานวิจัยร่วมกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรม รวมถึงงานวิจัยจากทั่วโลก ทุกรายละเอียดในโครงการจึงเต็มไปด้วยสิ่งที่ถูกคิดขึ้นมา เพื่อความเป็นอยู่ที่ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตดี ผสานกับเทคโนโลยี บริการเสริมที่จะช่วยทำให้เกิดความสะดวกสบายในชีวิตแบบฉบับ Luxury ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Intergeneration ตอบรับการอยู่อาศัยในทุกช่วงวัย" ชื่อโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit (มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท)  เจ้าของโครงการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่ตั้งโครงการ  ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110  พื้นที่โครงการ  2-2-1.2 ไร่  ลักษณะโครงการ High Rise  จำนวนอาคาร 1 อาคาร  จำนวนชั้น  37 ชั้น จำนวนยูนิต 287 ยูนิต  ขนาดห้อง  1 BEDROOM 47.00-56.50 ตร.ม. 2 BEDROOM  87.00-114.00 ตร.ม. ที่จอดรถ 100% (Auto Parking+Conventional Parking) สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง   ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท* ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร เริ่มต้นประมาณ 175,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ Mulls Greeting Gallery, Care Givers Office, Gourmet Courtyalcnglish Courtyard Intergeneration Courtyard, EV Charger Driver's Lounge, Private Study Studio, The Mulberry's Library, Children's Room, Infinity Sky Pool, Thermal Pool, Hydrotherapy Pool Children's Pool, Sky-high Gym Studio, Private Spa. Private Style Atelier, Private Sky-high Onsen, Sauna Yoga Suite, Ballet Suite, Patio Gym, Golf Simulator & Entertainment Room, ​Grand Private Living & Dining Room, BBQ Garden, Residence Lounge, Family Living Room, Game Room & Pool Table Children's Play Room ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเอกมัย (250 เมตร) สถานที่ใกล้เคียง Big C เอกมัย, Major เอกมัย,​ Rain Hill, Gateway เอกมัย, J Avenue ทองหล่อ, Tops ทองหล่อ, โรงพยาบาลสุขุมวิท, โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews, โรงเรียนนานาชาติ Kids Academy, โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep, โรงเรียนนานาชาติเวลล์ส, โรงเรียนนานาชาติ OISCA   ที่สุดของ Facilities ของคอนโดย่านเอกมัย   ห้องตัวอย่าง Mulberry Grove Sukhumvit รายละเอียดคอนโด เอกมัย โครงการ Mulberry Grove Sukhumvit เพิ่มเติม Mulberry Grove Sukhumvit โครงการอื่นๆ จาก MQDC Whizdom Asoke-Sukhumvit Whizdom Station Ratchada–Thapra THE FORESTIAS by MQDC  
รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น” พรีเมียมทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่

รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น” พรีเมียมทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่

พรีเมียมทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า ดีไซน์ใหม่ล่าสุดจาก AP (THAILAND) ดึงความโมเดิร์น เรียบง่าย ผสมผสานกับการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในขนาดใหญ่ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และยังสามารถรองรับทุกคนในครอบครัว โดดเด่นด้วยการออกแบบให้เพดานและหน้าต่างสูงขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ เพิ่มเติมความสดชื่นอย่างใกล้ชิด   สภาพแวดล้อมภายในโครงการที่เป็นธรรมชาติแตกต่างอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางสำหรับกิจกรรมอันหลากหลาย อาทิ BIOPHIILIC CITY  คลับเฮาส์ที่มีความโปร่ง สามารถเชื่อมต่อทุกกิจกรรมเข้ากับธรรมชาติรอบตัวได้อย่างลงตัว ครบทั้งฟิตเนส และสระว่ายน้ำ   NATURAL LEARNING พื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็ก "Play Area & Tree House" ส่งเสริมพัฒนาการของสมอง ความจำเรื่องสี ตัวอักษร ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี   HERB GARDEN เพื่อส่งเสริมให้เกิดคอมมูนิตี้คุณภาพภายในโครงการ ผ่านพื้นที่การทำสวน ชื่อโครงการ Pleno Ramintra Bangchan Station (พลีโน่ รามอินทรา บางชัน สเตชั่น) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ.รามอินทรา ซ.รามอินทรา 117 แขวงบางชัน เขตคลองสามสา กรุงเทพฯ 10510 พื้นที่โครงการ 26-3-15.1 ไร่ ลักษณะโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่จอดรถ 2 คัน จำนวนหลัง 252 ยูนิต ขนาดที่ดิน 17.5 ตร.ว. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะ,Security Gate , รปภ. 24 ชม., Bluetooth Card, CCTV, Katsan ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท* จุดเด่นโครงการ ทาวน์โฮมโมเดลดีที่สุด ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต      ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชัน   จุดขึ้น-ลงทางด่วน ถ.กาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก)  สถานที่ใกล้เคียง Fashion Island, The Promenade, CentralPlaza Ramindra, Amorini Mall, Ease Park, ตลาดพระยาสุเรนทร์, ตลาดกองหนุน, รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ, รร.บางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์), รร.สารสาสน์วิเทศมีนบุรี, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี, รพ.สินแพทย์, รพ.พญาไท นวมินทร์, รพ.นพรัตน์ราชธานี, รพ.นวมินทร์ ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา, สวยสยาม, ซาฟารีเวิลด์ , สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา  ภาพ "Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น" ทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า   Living Area : เพลิดเพลินกับพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่สุด สามารถรองรับการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว Luxurious Master Bedroom เหนือกว่าด้วยการดีไซน์เพดานและหน้าตาให้สูงขึ้นเพื่อเชื่อมต่อธรรมชาติ ให้ความสดชื่น เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น และ walk in closet เพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัว รายละเอียดโครงการ "Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น" ทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า เพิ่มเติม Pleno รามอินทรา บางชัน สเตชั่น โครงการอื่นจาก AP (THAILAND) Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ Pleno บางนา-อ่อนนุช Pleno บางใหญ่ 2 Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์
รีวิวคอนโด บางแสน “The Centro Condo Bangsaen” ใกล้ม.บูรพา

รีวิวคอนโด บางแสน “The Centro Condo Bangsaen” ใกล้ม.บูรพา

The Centro Condo Bangsaen คอนโดใกล้มหาวิทยาลับบูรพา จากการร่วมทุนไทย-สิงคโปร์ ที่มองเห็นศักยภาพการเติบโตในเขตพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีไม่มีอุปทานใหม่เกิดขึ้นเลย เดอะเซนโทร คอนโด บางแสน จึงเหมาะกับทั้งอยู่อาศัยเอง เพราะอยู่ในแหล่งที่เป็นศูนย์กลางของสิ่งอำนวยตวามสะดวกในบางแสน ติดกับตลาดพาร์คอิน ใกล้ห้างแหลมทอง และยังใกล้กับมหาวิทยาลัยบูรพา สามารถลงทุนปล่อยเช่าได้ โดยอัตราผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ 5-8%    เดอะเซนโทร คอนโด บางแสน ดึงเอาการออกแบบอาคารสไตล์ Modern Nature Living ผสมผสานความทันสมัยร่วมกับธรรมชาติ โดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร และหันทิศรับลมและหลบแดด เพื่อให้อากาศถ่ายเท ได้สะดวก ชื่อโครงการ The Centro Condo Bangsaen (เดอะเซนโทร คอนโด บางแสน)  เจ้าของโครงการ บริษัท เวนเจอร์ โกลบอล โฮลดิ้ง จำกัด  ที่ตั้งโครงการ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี  พื้นที่โครงการ  2-0-82.4 ไร่  ลักษณะโครงการ Low Rise  จำนวนอาคาร 2 อาคาร  จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนยูนิต 304 ยูนิต  ขนาดห้อง  1 BEDROOM 28.00-28.15 ตร.ม. 1 BEDROOM 28.2 ตร.ม. 2 BEDROOM  58.27 ตร.ม.   ที่จอดรถ 79 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เข้า-ออก อาคารด้วย  key card access, Digital Door Lock, ล็อบบี้, สระว่ายน้ำ ระบบน้ำล้น,​ฟิตเนส, สวนส่วนกลาง, Co-Working Space, ระบบรักษาความปลอดภัย รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 50,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางสิ่งอำนวยความสะดวกของบางแสน ใกล้ห้างแหลมทอง 200 เมตร และมหาวิทยาลัยบูรพา เพียง 400 เมตร  สถานที่ใกล้เคียง ตลาดพาร์คอิน, ห้างแหลมทอง, แม็คโคร ชลบุรี, บิ๊กซี เอ็กตร้า ชลบุรี, เซ็นทรัล ชลบุรี, โลตัส ชลบุรี, มหาวิทยาลัยบูรพา, โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ, หาดบางแสน ภาพบรรยากาศ คอนโด บางแสน "The Centro Condo Bangsaen" Facilities "The Centro Condo Bangsaen" ห้องตัวอย่าง "The Centro Condo Bangsaen"   รายละเอียดคอนโด The Centro Condo Bangsaen เพิ่มเติม The Centro Condo Bangsaen   บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทุนสิงคโปร์จับมือไทยลุยตลาดอสังหาฯ EEC ปักหมุดโปรเจ็กต์แรกที่บางแสน The Blu X Bangsaen โครงการคอนโดฯ ริมหาดบางแสนจาก “บางแสนบุรี” ส่องภาวะตลาดอสังหาฯ ภาคตะวันออก 5.61 แสนล้าน พร้อม 5 ทำเลทองขายดี  
รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ” พรีเมี่ยมทาวน์โฮม

รีวิวทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า “Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ” พรีเมี่ยมทาวน์โฮม

ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 จอดรถ ดีไซน์โมเดิร์น เรียบง่าย ตอบโจทย์รสนิยมคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี รังสรรค์ทุกฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ ภายในบ้านพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง รองรับการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว Luxurious Master Bedroom ออกแบบให้กว้างขวางและหรูหรา รองรับครอบครัวที่มีจำนวนที่มากขึ้นตั้งแต่ 2-6 คน   ส่วนกลางและ Facilities บรรยากาศไตล์รีสอร์ท ท่ามกลางสภาพแวดล้อมความเป็นส่วนตัวและความร่มรื่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของแม่น้ำและความเป็นประกายของแสงเมื่อตกกระทบ สู่ดีไซน์ใหม่เพื่อรังสรรค์ Club House 2 ชั้น ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการใช้งานได้จริง และดีไซน์ที่สวยงามให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดทั้งวัน และรองรับกิจกรรมที่มากมาย   NEW URBAN CONNECT เดินทางสะดวกเชื่อมต่อเข้าสู่แจ้งวัฒนะเพียง 10 นาที* Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ สามารถเข้า-ออกได้ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1. เดินทางจากถนนชัยพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหอการค้าไทย ระยะทาง 4 กม. ถึงโครงการ 2. เดินทางจากถนน 345 เลี้ยวซ้ายเข้าถนน อบจ.ริมคลองเกาะเกรียง ระยะทาง 1 กม. ถึงโครงการ   ชื่อโครงการ Pleno Ratchapruek-Chaengwattana (พลีโน่ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ. อบจ. ริมเกาะเกรียง ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 12000 พื้นที่โครงการ 30-1-63 ไร่ ลักษณะโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 นอน 2 น้ำ  ที่จอดรถ 2 คัน จำนวนหลัง 301 ยูนิต ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 17.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 106.85 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ACTIVE SHARING SPACE  สระว่ายน้ำ, Fitness, Kids Gym , EXCLUSIVE & GREEN SPACE, บริเวณพักผ่อน, Education Play ground, สวนสาธารณะ, Herb garden , Co-Sharing Space, Pet Park, Pavilion Panoramic Views Security Gate, รปภ. 24 ชม., Bluetooth Card, CCTV, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic, Katsan ราคาเริ่มต้น 1.99  ล้านบาท* จุดเด่นโครงการ 10 นาทีถึงแจ้งวัฒนะ ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต สถานีปากเกร็ด      ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีปากเกร็ด และรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ       จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนศรีรัช และถ.กาญจนาภิเษก สถานที่ใกล้เคียง Central แจ้งวัฒนะ, The Tree Avenue, Crystal PTT, โรบินสัน ศรีสมาน, Home pro, Chic republic, Impact อารีน่า เมืองทองธานี, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี,โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า, โรงพยาบาลปากเกร็ด, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ภาพบรรยากาศในโครงการทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้า "Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ" ภาพบ้านตัวอย่าง "Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ" รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช Pleno บางใหญ่ 2 Pleno สาทร-สุขสวัสดิ์
รีวิวคอนโด วิวแม่น้ำเจ้าพระยา “RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน”

รีวิวคอนโด วิวแม่น้ำเจ้าพระยา “RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน”

"RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน" แฟล็กชิพลักชัวรี่คอนโด โครงการ่วมทุนลำดับที่ 18 ระหว่างบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนท์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) ออกแบบภายใต้แนวคิด The Luxury Gated Community พร้อมคอมมิวนิตี้ที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่นให้อยู่อาศัยร่วมกันได้ด้วยการบาลานซ์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยอย่างลงตัว บนที่ดินถนนเจริญกรุง ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมต่อ CBD สาทร และห่างจากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี เพียง 100 เมตร   ในปี 2020 นี้ AP (Thailand) ได้พัฒนาแนวคิดคอนโดมิเนียมใหม่ ‘Dynamic Personalized Model’ โมเดลการออกแบบและพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบและคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น (Living Pattern) รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการเพื่อให้ได้ คอนซูเมอร์ อินไซต์ (Consumer Insight) ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละโครงการ โดยการผนวก ‘เทรนด์การใช้ชีวิตยุคใหม่’ เข้ากับกระบวนการคิดเชิงออกแบบ ภายใต้ 3 คีย์สำคัญ "เข้าใจ โดนใจ และมั่นใจ" ถ่ายทอดสู่โครงการแรกของปี "RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน"   ชื่อโครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริธึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ถ.เจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 พื้นที่โครงการ 4-2-76.6 ไร่  ลักษณะโครงการ High Rise  จำนวนอาคาร 1 อาคาร  จำนวนชั้น 44 ชั้น และ 1 ชั้นใต้ดิน และริธึ่ม พาวิลเลี่ยน 1 อาคาร สูง 1 ชั้น และ 2 ชั้นใต้ดิน จำนวนยูนิต 421 ยูนิต (ร้านค้า 1 ยูนิต) ขนาดห้อง  1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาด 75.5–128.5 ตร.ม. 3 Bedroom ขนาด 134–159 ตร.ม. 4 Bedroom ขนาด 184–228 ตร.ม.   ที่จอดรถ จำนวน 421 คัน (100% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง Sky Lounge, Play Space, Infinity Edge Pool ยาวกว่า 47 เมตร, Kid Pool, FOR CO-Generations Living, Fitness ปีที่สร้างเสร็จ ประมาณ Q4 ปี 2565 ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 155,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ คอนโดมิเนียมลักชัวรี่วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งแรกของคอนโดใจกลางเมืองกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่กว่า 3.5 ไร่ ที่รองรับการอยู่อาศัยร่วมกันของกลุ่มครอบครัวเมืองควบคู่ไปกับการบาลานซ์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน   จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง Asiatique The Riverfront, โรบินสัน, Makro สาทร, Central Plaza พระราม 3, Tree On 3, TTN Avenue, Market Place นางลิ้นจี่, เทสโก้ โลตัส, The Up พระราม 3, โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ (ริเวอร์ไซด์), กรุงเทพคริสเตียน, อัสสัมชัญบางรัก, อัสสัมชัญคอนแวนต์บางรัก, อัสสัมชัญคอนแวนต์สีลม, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์, โรงพยาบาล BNH ห้องตัวอย่างโครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คอนโด วิวแม่น้ำเจ้าพระยา   รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน  โครงการอื่นๆ จาก AP (Thailand) Aspire Ngamwongwan Aspire Sukhumvit-Onnut THE SONNE Srinakarin-Bangna บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช
รีวิวคอนโด ใกล้รถไฟฟ้า MRT อิสรภาพ “นิช โมโน อิสรภาพ”

รีวิวคอนโด ใกล้รถไฟฟ้า MRT อิสรภาพ “นิช โมโน อิสรภาพ”

คอนโดมิเนียมตัวแรกของปี 2563 จาก SENA ตั้งอยู่บนถนนอิสรภาพ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีอิสรภาพ เพียง 200 เมตร ใกล้โรงพยาบาลศิริราช ออกแบบอาคารจากสภาพแวดล้อมรอบโครงการที่มีความเป็นเมืองเก่า ผสมผสานกับยุคสมัยใหม่ จนออกมาเป็นดีไซน์ที่เรียกว่า Modern Colonial โอบล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบครัน มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์แบบ Contemporary Style ภายในยูนิตออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Geo fit+ SMART DESIGN CONCEPT เพื่อการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ชื่อโครงการ Niche MONO Itsaraphap (นิช โมโน อิสรภาพ)  เจ้าของโครงการ บริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด ที่ตั้งโครงการ ถ.อิสรภาพ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ  2-2-23.7  ไร่  ลักษณะโครงการ Low Rise  จำนวนอาคาร 2 อาคาร  จำนวนชั้น  จำนวนยูนิต 259 ยูนิต  ขนาดห้อง  1 Bedroom ขนาด 27.50–33 ตร.ม. 1 Bedroom  Plus ขนาด  35.50–36.50 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาด 50 ตร.ม.   ที่จอดรถ 109 คัน (รวมซ้อนคัน) สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง  Stylish Lobby, Co-Living Space, Active Gym พร้อมเครื่องเล่น Weight Training และ Cardio Zone, Yoga & Meditation Zone, Sky Infinity Edge Pool, Cozy Kid’s Pool, Pavilion Pool Area, ปีที่สร้างเสร็จ 2564 ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท*  ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม./เดือน (จัดเก็บล่วงหน้า 12 เดือน ณ วันโอน) ค่ากองทุน 570 บาท/ตร.ม. (จัดเก็บครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)  จุดเด่นโครงการ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีอิสรภาพ เพียง 200 เมตร เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพักออกแบบตามแนวคิด Geo fit+ SMART DESIGN CONCEPT เน้นการพักผ่อน ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีอิสรภาพ  สถานที่ใกล้เคียง แม็คโคร, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, ตลาดพรานนก, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า,โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก, โรงพยาบาลธนบุรี, โรงพยาบาลเจ้าพระยา   ภาพโครงการ นิช โมโน อิสรภาพ คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า รายละเอียดโครงการ นิช โมโน อิสรภาพ เพิ่มเติม Niche MONO Itsaraphap คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า โครงการอื่นๆ จาก SENA Sena-Azu Rama 9 PITI SUKHUMVIT 101 Niche MONO Sukhumvit-Puchao    
รีวิวบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน พร้อมนวัตกรรม บ้านอัจฉริยะ “เดอะรูท จตุจักร–รัชดา”

รีวิวบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน พร้อมนวัตกรรม บ้านอัจฉริยะ “เดอะรูท จตุจักร–รัชดา”

รีวิวบ้านเดี่ยว สุดหรู 4 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ ดีไซน์ใหม่ Modern Luxury Style ที่มีให้ครบทุกฟังก์ชั่น ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัย 4 ระดับ และ Application บนสมาร์ทโฟน ที่จะมาควบคุมระบบภายในบ้าน อาทิ ระบบไฟ สั่งการเปิด/ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า วัดปริมาณการใช้ไฟ ตรวจสอบ และรายงานความปลอดภัยทุกความเคลื่อนไหวภายในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง และระบบรดน้ำต้นไม้อัจฉริยะ รวมถึงดูแลหลังการขาย 24 ชม. ชื่อโครงการ The Root Chatuchak-Ratchada (เดอะรูท จตุจักร–รัชดา) เจ้าของโครงการ บริษัท จี แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ตั้งโครงการ 230/145 ลาดพร้าว แยก 31 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 พื้นที่โครงการ 0-1-2.355 ไร่ ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยว 4 ชั้น  จำนวนหลัง 2 ยูนิต  ขนาดที่ดิน 50.9 ตร.วา  พื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม. แบบบ้าน 4 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 5 ที่จอดรถ ห้องรับรองแขก ครัวไทย ห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว Pantry และ บันไดหนีไฟ สิ่งอำนวยความสะดวก มีลิฟท์ สระว่ายน้ำส่วนตัว มีระบบความปลอดภัยถึง 4 ระดับ Outdoor Camera กล้องวงจรปิดรอบตัวบ้าน 5 ตัว Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวรอบทิศทาง Door / Windows Sensor เมื่อมีผู้บุกรุกพยายามเข้ามาในตัวบ้าน Siren จะดังแจ้งเตือนทันที Indoor Camera Motion Snapshot ทุกชั้นภายในบ้านถ่ายรูปทันทีเมื่อมีความเคลื่อนไหว ราคาเริ่มต้น 25.9 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ บ้านเดี่ยวทำเลใจกลางเมือง ในดีไซน์ใหม่ Modern Luxury Style ที่มีให้ครบทุกฟังก์ชั่น พร้อมนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ สามารถเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งจากถ.รัชดาภิเษก ถ.พหลโยธิน และถ.ลาดพร้าว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีพหลโยธิน 24 และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) ทางด่วนศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง Big C, Tesco Lotus, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์, เมเจอร์รัชโยธิน, ตลาด อตก., สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ, สวนจตุจักร, สวนรถไฟ รีวิวบ้านเดี่ยว "เดอะรูท จตุจักร–รัชดา" 4 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ ภาพรีวิวบ้านเดี่ยว โครงการ "เดอะรูท จตุจักร–รัชดา" สระว่ายน้ำส่วนตัว ภายในบ้าน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ The Root Chatuchak-Ratchada อ่านรีวิวบ้านเดี่ยว โครงการอื่นๆ Atelier Residence รีวิวบ้านเดี่ยว ทาวน์อินทาวน์  IDEN Sukhumvit 101 บ้านแฝด สุขุมวิท Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra รีวิวบ้าน เลียบด่วนรามอินทรา The Glamor Ekkamai-Pradit Manutham รีวิวบ้านเดี่ยว ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม  
รีวิวบ้านเดี่ยว ลำลูกกา “เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” ฟรี โซล่าเซลล์  พลังงานแสงอาทิตย์

รีวิวบ้านเดี่ยว ลำลูกกา “เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” ฟรี โซล่าเซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์

บ้านเดี่ยว ลำลูกกา จาก Sena ตามแนวคิด "ความสุขครบทุกองศา ด้วยบ้านพลังงานโซลาร์" ใช้วัสดุคุณภาพเทียบเท่าบ้านระดับราคาหลักสิบล้านบาท อาทิ ใช้พื้นไม้ปาร์เก้ทั้งหลัง บ้านก่อด้วยอิฐแดงทั้งหลัง ติดตั้งโซลาร์ให้ทุกหลัง เพื่อประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว ส่วนกลางออกแบบมารองรับได้ทั้ง 3 Generation ทั้งสวนสีเขียว Club House สระว่ายน้ำ และฟิตเนส และยังติดตั้งโซลาร์สำหรับส่วนกลาง ทำให้ค่าส่วนกลางลดลงกว่าปกติ อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 4 ชั้น พร้อมปุ่มฉุกเฉิน SOS ตลอด 24 ชม. ชื่อโครงการ Sena Ville Lamlukka Klong 6 (เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6) เจ้าของโครงการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ ซ.บึงคำพรอย ต.บึงคำพรอย อ.ลำลูกกา ปทุมธานี พื้นที่โครงการ 32-0-85 ไร่ ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  จำนวนหลัง 202 ยูนิต ขนาดที่ดิน 36 ตร.วา  พื้นที่ใช้สอย 138 - 190 ตร.ม. แบบบ้าน  Type A บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. Type B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. Type C บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.   OZONE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.   ORIGIN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.   ORIANA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม.   สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง Club House, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวน, โซลาร์, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม., CCTV ปีที่สร้างเสร็จ 2563 ราคาเริ่มต้น 4-6 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ บ้านก่อด้วยอิฐแดงทั้งหลัง พื้นไม้ปาร์เก้ จุดขึ้น-ลงทางด่วน ถ.กาญจนาภิเษก, ทางด่วนฉลองรัช  สถานที่ใกล้เคียง บิ๊กซี ลำลูกกา-คลอง 5, โฮมโปร ลำลูกกา-คลอง 5, โลตัส, โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา, โรงเรียนไตรพัฒน์ ภาพบ้านเดี่ยว ลำลูกกา โครงการ "เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6" Type A Type B Type C OZONE ORIGIN ORIANA ข้อมูลเพิ่มเติม บ้านเดี่ยว ลำลูกกา "เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6" เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6 โครงการอื่นๆ จาก SENA เสนา แกรนด์โฮม รังสิต-ติวานนท์ เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา เสนา อีโคทาวน์ รามอินทรา-วงแหวน
รีวิวคอนโด ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ The Tree Victory Monument ยูนิตน้อย เพดานสูง

รีวิวคอนโด ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ The Tree Victory Monument ยูนิตน้อย เพดานสูง

The Tree Victory Monument ถือเป็นคอนโดฯ แบรนด์ The Tree จาก Pruksa ตัวท็อปที่สุดในขณะนี้ เพราะทำเลที่ตั้ง สเปควัสดุ การวางผังออกมาทำได้ดี สวยงามลงตัวมากจนเกือบจะอยู่ในระดับลักชัวรี่เลยทีเดียว   ตัวโครงการตั้งอยู่ริมถ.ดินแดง ฝั่งขาออก ใกล้กับสามเหลี่ยมดินแดง ใกล้กับทางด่วนรถสาธารณะหลายเส้นทาง โดยความโดดเด่นของ The Tree Victory Monument อยู่ที่การวาง Floor Plan เป็นลักษณะวงกลม ตรงกลางวางลิฟท์โดยสารและบันไดหนีไฟ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีห้องไหนที่ประตูชนกับห้องฝั่งตรงข้ามเลย ขณะเดียวกันจำนวนยูนิตต่อชั้น ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ ซึ่งโครงการนี้จะอยู่ที่แต่ละยูนิตจะได้ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 4.4 เมตร ส่วนห้องแบบ Duplex ฝ้าเพดานจะสูง 4.9 เมตร และ Facilities บนชั้น Rooftop Skyline ต่อเนื่องกันถึง 6 ชั้น ชื่อโครงการ The Tree Victory Monument (เดอะ ทรี อนุสาวรีย์ฯ)  เจ้าของโครงการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)  ที่ตั้งโครงการ 29 ถ.อโศก-ดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 พื้นที่โครงการ  1-0-81 ไร่  ลักษณะโครงการ High Rise  จำนวนอาคาร 1 อาคาร  จำนวนชั้น 31 ชั้น จำนวนยูนิต 253 ยูนิต  ขนาดห้อง  Heighten I Bedroom 22.75-31.75 ตร.ม. Heighten I Bedroom Plus 29.70-34.35 ตร.ม. Duplex I Bedroom 38.10-39.95 ตร.ม. Duplex I Bedroom Plus 50.05 ตร.ม.   เฟอร์นิเจอร์ Fully Fitted  ที่จอดรถ 41% Auto Parking สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง Elite Lobby, Serene Front Yard, Serene Backyard, Sky Lounge, Garden, Relaxing Jacuzzi, Track, Working Space, Terrace, Fitness, Bar, Scenic Pool, Top Garden ปีที่สร้างเสร็จ ประมาณเดือนธันวาคม 2565 ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. เงินจอง 10,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท ค่าส่วนกลาง 82 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ  ทำเลที่ตั้งสะดวกต่อการเดินทางทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ จำนวนยูนิตน้อย การวาง Floor Plan ที่ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง  ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีรางน้ำ (สถานีในอนาคต)  จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางยกระดับอุตราภิมุข, ทางด่วนศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง Century Mall, Center One, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า, โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน, โรงพยาบาลเด็ก, โรงพยาบาลทหารผ่านศึก, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลวิชัยยุทธ, โรงเรียนพระแม่ฟาติมา, โรงเรียนพิบูลประชาสรรค์   ภาพ Exterior ภาพ Interior   ข้อมูลเพิ่มเติม The Tree Victory Monument ข่าวอื่นๆ จากพฤกษา พฤกษา ยกขบวนบ้านและคอนโด ร่วมโครงการ ‘บ้านในฝัน รับปีใหม่’ กับธอส. ถอดกลยุทธ์ “พฤกษา” เติบโต 5% “พฤกษา” ยังท็อปฟอร์ม โชว์ผลงาน Q3 ครองแชมป์เบอร์ 1
รีวิวคอนโด ประเทศอังกฤษ ใจกลางกรุงลอนดอน “8 Casson Square”

รีวิวคอนโด ประเทศอังกฤษ ใจกลางกรุงลอนดอน “8 Casson Square”

8 Casson Square หนึ่งในห้าอาคารพักอาศัยของ Southbank Place โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ใจกลางย่านเซาธ์แบงค์ ในทำเลที่เป็นที่ต้องการในย่านริมแม่น้ำเธมส์ ตั้งอยู่ใจกลางเขตสำคัญทางวัฒนธรรมของลอนดอน โดยมอบไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยแหล่งรวมสีสัน ศิลปะ ความบันเทิง พื้นที่กลางแจ้งและร้านอาหารต่างๆ ที่อยู่ถัดออกไปแค่บันไดประตูเท่านั้น สามารถเดินถึงเวสต์มินสเตอร์ ลอนดอนซิตี้และเวสต์เอนด์ได้ไม่ยาก มีสถานีวอเตอร์ลูที่เชื่อมการเดินทางสู่โซนต่างๆ ของลอนดอน ผู้พักอาศัยสามารถเดินไปยังสถานีวอเตอร์ลูได้โดยไม่ต้องออกจากอาคาร โดยเดินผ่านโถงทางเข้าสถานีที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่เอี่ยมภายในอาคารได้ทันที ชั้นล่างของ Southbank Place มี Health Club ส่วนตัว โดยแวดล้อมไปด้วยความหรูหราสะดวกสบาย กระตุ้นความสดชื่นในสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ สนุกกับการออกกำลังกายในยิมสุดทันสมัยพร้อมอุปกรณ์การออกกำลังกาย และเทรนเนอร์ส่วนตัว รวมถึงห้องโยคะ ห้องปั่นจักรยานและห้องสำหรับกิจกรรมแบบกลุ่ม ฟื้นฟูสภาพร่างกายด้วยการนวดหรือทรีตเมนต์ในสปา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และยังมี Residents’ Club Lounge ตกแต่งอย่างทันสมัย หรือนั่งเล่นใน Wintergarden ที่มีเพดานสูงสองเท่าในบรรยากาศแห่งการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะส่งของหรือทำการจองสินค้าและบริการต่างๆ   ผังห้องขนาดกว้างเป็นพิเศษได้รับการออกแบบให้เพิ่มแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในห้อง บางห้องที่ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างสองฝั่ง และมีห้องฝั่งสวน Wintergarden ที่เห็นวิวแม่น้ำเธมส์ ทุกห้องมีชุดควบคุมระบบส่องสว่างที่มาพร้อมปุ่มกดที่เลือกระดับความสว่างได้ แผงควบคุมที่ยูนิตแบบสองและสามห้องนอนเป็นระบบสัมผัส มีการติดตั้งท่อเมนน้ำเย็นและน้ำร้อนผ่านมิเตอร์ที่ต่อจากส่วนกลางไว้ พร้อมระบบทำความร้อนใต้พื้นเป็นโซนเชื่อมสู่พื้นที่ภายในห้อง ภายในห้องน้ำสั่งทำชุดอุปกรณ์ทองเหลืองพิเศษ ประกอบด้วย ชุดก็อกน้ำฝักบัวแบบเทอร์โมสตัด หัวฝักบัว ก็อกน้ำผสม และที่แขวนกระดาษชำระ ผลิตโดย Grohe หรือแบรนด์คุณภาพเทียบเคียง ชุดเคาน์เตอร์ห้องน้ำทำจากหินเทียมอคริลิกสีขาวสั่งทำพิเศษพร้อมอ่างล้างมือและชั้นวาง ส่วนผนังทำความร้อนสำหรับอุ่นผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมอาบน้ำติดตั้งด้านหลังราวแขวนแบบอุ่นที่สั่งทำพิเศษ ห้องครัวสำหรับ Studio มาพร้อมกับอุปกรณ์และเครื่องครัวไฟฟ้าของ Miele และ Siemens ก๊อกน้ำผสมและก๊อกน้ำร้อนของ Grohe ห้องครัวสำหรับ 1 Bedroom ชุดตู้ครัวสำเร็จรูปสั่งทำพิเศษด้วยวัสดุคุณภาพ มาพร้อมชุดเครื่องครัวไฟฟ้าคุณภาพสูง อาทิ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว ของ Miele, เตาอบแบบบิ้วท์อินของ Miele, ตู้เย็นขนาดใหญ่ของ Siemens, เครื่องล้างจานชุดใหญ่ของ Miele, เครื่องดูดควันพร้อมท่อระบายควันที่ต่อออกด้านนอก (แบบไม่มีระบบหมุนเวียน)     ข้อมูลเพิ่มเติม 8 Casson Square    
รีวิวบ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน กลางเมือง “Atelier Residence” ส่วนตัวเพียง 8 ยูนิต

รีวิวบ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน กลางเมือง “Atelier Residence” ส่วนตัวเพียง 8 ยูนิต

บ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน ทำเลกลางเมือง ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่จาก Aland Development ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยการนำแนวคิด Oval Design ดีไซน์เพื่อความเป็นส่วนตัวที่สุด ไม่ถูกรบกวนจากภายนอกในแบบฉบับ Private Residence เพียง 8 ยูนิต แต่อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกในซ.สหการประมูล สี่แยกทาวน์อินทาวน์ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์   ตัวบ้านสะท้อนความเรียบหรูแบบคลาสสิก เพิ่มสเปซคอร์ตยาร์ดกลางบ้านที่มีทั้งสวนหย่อม สระว่ายน้ำส่วนตัวยาว 20 เมตร ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศภายในให้ดูโล่งสบาย แฝงกลิ่นอายของความเป็นรีสอร์ท ทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นของบ้าน เช่น ดินเผาสีเทาที่นำมาเป็นอิฐคุณภาพสูงทุกก้อน คอร์คยาร์คนำต้นไม้มงคล ซึ่งไม่ทำให้บ้านเสียหายในอนาคตมาวางเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน ชื่อโครงการ Atelier Residence (อเทลิเยร์ เรสซิเด้นซ์) เจ้าของโครงการ บริษัท เอแลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ 588 ซ.สหการประมูล แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง จ.กรุงเทพฯ 10310 พื้นที่โครงการ 7-0-23 ไร่ ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น 5 ห้องนอน มีลิฟต์ส่วนตัว จำนวนหลัง 8 ยูนิต ขนาดที่ดิน 182 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 1,150 ตร.ม. แบบบ้าน Type A Zen style Type B Roman style ที่จอดรถ 6 คัน ราคาเริ่มต้น 138 ล้านบาท จุดเด่นโครงการ มีความเป็นส่วนตัวสูงทั้งจำนวนยูนิต และการดีไซน์ตัวบ้านที่ไม่เหมือนใคร ใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยม ทำเลใกล้สี่แยกเหม่งจ๋าย และทางด่วนฉลองรัช จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนฉลองรัช สถานที่ใกล้เคียง CrystalPark, CentralFestival Eastville, Central Plaza Grand Rama 9, เอสพลานาด รัชดาภิเษก, เดอะ สตรีท รัชดา, คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลสมิติเวช ภาพบ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน "Atelier Residence" ภาพ Interior บ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน "Atelier Residence" รายละเอียดโครงการ "อเทลิเยร์ เรสซิเด้นซ์" บ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน Atelier Residence โครงการบ้านเดี่ยว ใกล้ทางด่วน อื่นๆ The Palm Krungthep kritha-Wongwaen Nirvana BEYOND Rama9-Krungthepkreetha Private Nirvana THROUGH Ekamai-Raminthra