ราคาเริ่มต้น | เริ่มต้น 9.9 ล้านบาท |
รายละเอียดพิเศษ | เจ้าของโครงการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่ตั้งโครงการ ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 พื้นที่โครงการ 2-2-1.2 ไร่ ลักษณะโครงการ High Rise จำนวนอาคาร 1 อาคาร จำนวนชั้น 37 ชั้น จำนวนยูนิต 287 ยูนิต ขนาดห้อง 1 Bedroom 47-56.5 ตร.ม. (144 ยูนิต) 2 Bedroom 87-135 ตร.ม. (136 ยูนิต) 3 Bedroom 165 ตร.ม. (2 ยูนิต) Duplex Penthouse 216.5 ตร.ม. (1 ยูนิต) Penthouse 180-245.5 ตร.ม. (4 ยูนิต) ที่จอดรถ 100% (Auto Parking+Conventional Parking) สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท* ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 250,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ Mulls Greeting Gallery, Care Givers Office, Gourmet Courtyalcnglish Courtyard Intergeneration Courtyard, EV Charger Driver’s Lounge, Private Study Studio, The Mulberry’s Library, Children’s Room, Infinity Sky Pool, Thermal Pool, Hydrotherapy Pool Children’s Pool, Sky-high Gym Studio, Private Spa. Private Style Atelier, Private Sky-high Onsen, Sauna Yoga Suite, Ballet Suite, Patio Gym, Golf Simulator & Entertainment Room, Grand Private Living & Dining Room, BBQ Garden, Residence Lounge, Family Living Room, Game Room & Pool Table Children’s Play Room ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเอกมัย (250 เมตร) สถานที่ใกล้เคียง Big C เอกมัย, Major เอกมัย, Rain Hill, Gateway เอกมัย, J Avenue ทองหล่อ, Tops ทองหล่อ, โรงพยาบาลสุขุมวิท, โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews, โรงเรียนนานาชาติ Kids Academy, โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep, โรงเรียนนานาชาติเวลล์ส, โรงเรียนนานาชาติ OISCA |
สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน เห็นได้จากหลายครอบครัวเริ่มใช้ชีวิตอยู่แบบครอบครัวเล็ก บ้างก็อยู่เป็นโสดกันมากขึ้น สังคมไทยใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ขึ้นทุกขณะ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม แม้กระทั่งอากาศที่ทุกชีวิตต้องหายใจเข้าไปยังไม่บริสุทธิ์เหมือนเดิมอีกแล้ว วิถีชีวิตในการอยู่อาศัยจึงต้องเริ่มหาอะไรที่เข้ามาสร้างคุณภาพชีวิตได้ดีกว่าที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์สุดแสนท้าทายของเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ออกมานำเสนอ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย เพราะหลายโครงการใหม่ๆ ไม่ได้ขายแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีนวัตกรรมทั้งในเรื่องของการดีไซน์ วัสดุที่นำมาใช้ เทคโนโลยี ความปลอดภัย ตลอดจนเซอร์วิสที่จะมาอำนวยความสะดวกเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในโครงการ สิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสิ่งดีๆ เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัว
เมื่อพูดถึงเรื่องการทำโครงการที่อยู่อาศัยให้สนองความต้องการของตลาดยุคปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 หลักเกณฑ์ใหญ่ๆ ตามกลุ่มผู้บริโภค นั่นคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับกลุ่มครอบครัวไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งจากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีตัวเลขประมาณการณ์ออกมาว่าในปี 2563 จะมีผู้สูงอายุทั่วประเทศ 12,620,340 คน คิดเป็น 113.89% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในปี 2573 จะมีผู้สูงอายุทั่วประเทศอยู่ที่ 17,581,000 คน คิดเป็น 179.38% ประเทศไทยก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ในระยะ 2-3 ปีหลัง เราจึงได้เห็นการพัฒนาโครงการสำหรับกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุมากขึ้น
แน่นอนค่ะว่ารีวิวคอนโดฉบับนี้จะพาไปชมโครงการสำหรับกลุ่มครอบครัว ซึ่งทั่วไปแล้วเรามักจะเห็นโครงการลักษณะนี้เป็นบ้านเดี่ยวกันมากกว่า เพราะมีพื้นที่มากพอสำหรับการอยู่อาศัยร่วมกันในทุกช่วงวัย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยทำเลที่ออกไปโซนชานเมือง แล้วทำไมการอยู่อาศัยแบบครอบครัวจะอยู่ใจกลางเมืองไม่ได้ล่ะ จริงไหมคะ? การเดินทางสะดวกกว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ตัวมากมาย ที่สำคัญคือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถไปโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้การออกแบบภายในยูนิต รวมถึง Facilities ต่างๆ ก็เอื้อต่อความปลอดภัย สร้างสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีได้
หากเดินทางมาจากใจกลางเมือง บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก ผ่าน BTS สถานีเอกมัย (ทางออก 3) ประมาณ 250 เมตร ถัดจากโรงพยาบาลสุขุมวิทมานิดเดียวก็จะพบกับโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ที่เราจะมีรีวิวให้ชมกันค่ะ
ผ่านมาแถวเอกมัย สิ่งแรกที่จะนึกถึงคงหนีไม่พ้นร้านอาหารอร่อย คาเฟ่สวย มากมายเปิดกันตั้งแต่ช่วงสายจรดเย็น แล้วแวะดูหนังกันที่เมเจอร์ สุขุมวิท ช้อปปิ้งที่เกตเวย์ เอกมัย หรือบิ๊กซี เอกมัย ยาวกันจนถึงยามค่ำคืนที่เป็นแหล่งของร้านแฮงค์เอาท์ชื่อดังหลายร้าน และยังมีทั้งโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง โรงพยาบาลคุณภาพ คงไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วล่ะค่ะว่าเอกมัยนั้นครบจริงๆ
โครงการคอนโด ริมถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าสำหรับทุก Generation อย่าง “Mulberry Grove Sukhumvit” จาก MQDC เป็นหนึ่งในผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการงานวิจัยที่ร่วมกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และจากการศึกษางานวิจัยจากทั่วโลกพบว่า ความสุขที่แท้จริงของคนไทยคือการได้อยู่กันเป็นครอบครัว โดยมีกิจกรรมที่เกิดการแลกเปลี่ยนร่วมกัน มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ให้กับเด็ก เกิดการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้สูงอายุที่ได้อยู่ร่วมกับลูกหลานอย่างปลอดภัย มีสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกันก็ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวตามความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยด้วย จึงกลายเป็นคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกในประเทศไทยที่ออกแบบมาจนทำให้เกิดเทรนด์การอยู่อาศัยในนิยามใหม่ที่เรียกว่า “Intergeneration” ภายใต้แนวคิดโครงการ “Design for the finest intergeneration living คอนโดที่ออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชั่น” โดยมีรายละเอียดโครงการตามนี้ค่ะ
1 Bedroom 47-56.5 ตร.ม. (144 ยูนิต)
2 Bedroom 87-135 ตร.ม. (136 ยูนิต)
3 Bedroom 165 ตร.ม. (2 ยูนิต)
Duplex Penthouse 216.5 ตร.ม. (1 ยูนิต)
Penthouse 180-245.5 ตร.ม. (4 ยูนิต)
นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมคุณภาพที่ส่งให้โครงการมีความน่าสนใจ โดดเด่น และแตกต่างไปจากโครงการทั่วไป ตั้งแต่เริ่มวางคอนเซป การออกแบบทั้งส่วนกลาง-ยูนิตพักอาศัย การก่อสร้าง การใช้วัสดุ เทคโนโลยี ตลอดจนเซอร์วิสต่างๆ ดังนี้
Mulberry Grove Sukhumvit คอนโดมิเนียมระดับที่จะมารองรับทุก Generation ในครอบครัว ทั้งส่วนกลางโครงการและภายในยูนิต หลายดีเทลจึงถูกออกแบบมาแตกต่างจากโครงการอื่น เรียกได้ว่าใส่ใจกันทุกตารางเมตรเลยทีเดียว เรามาชมกันที่ Facilities ก่อนค่ะ
หน้าอาคารตกแต่งสวนสไตล์อังกฤษ ด้านหลังอาคารจัดโซน Gourmet Courtyard ผักสวนครัวที่ปลูกดูแลกันเอง ปลอดภัยไร้สารพิษส่งตรงถึงลูกบ้าน
ชั้น 1 เข้าสู่ตัวอาคาร ต้อนรับด้วย Mulberry Greeting Gallery ล็อบบี้ Double Floor สูงโปร่ง เทควิวสวนสีเขียวรอบอาคารผ่านกระจก Full Height เชื่อมต่อถึงชั้นลอยที่จัด The Mulberry’s Library ไว้สำหรับมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ สามารถเลือกห้อง Private Study Studio สำหรับติวหนังสือหรือจัดประชุมได้ และแยก Children’s room สำหรับเด็กเล็ก
โถงลิฟต์วางกลางอาคาร แบ่งเป็นโซนยูนิตทิศเหนือ 2 ตัว ทิศใต้ 2 ตัว และลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว
ชั้น 32 Facilities หลักของโครงการ ซึ่งวางให้ทุกวัยสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ตามคอนเซป intergenerational wellness ที่เฉพาะสระว่ายน้ำก็แบ่งออกเป็น 4 สระ รองรับสำหรับทุกช่วงวัย ได้แก่ Infinity sky pool สระว่ายน้ำหลัก พื้นหินอ่อนสวยๆ ยาว 25 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายไปเทควิวเมืองไป Thermal pool สระปรับอุณภูมิได้ เหมาะสำหรับลงไปแช่กระตุ้นการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย Hydrotherapy pool ผ่อนคลายท่ามกลางสระน้ำบำบัดด้วยหัว Jet นวดตัว และ Children’s Pool สระเด็กที่มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับผู้ปกครองนั่งรอ เพื่อดูแลความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมี Sky-High Gym Studio, Private Spa, Private Sky-high, Onsen Private, Style Atelier และ Golf Simulator & Entertainment Room
ชั้น 33 ครึ่งหนึ่งเป็นโซนพักอาศัย อีกครึ่งเป็น Facilities ที่มีบันไดเชื่อมต่อมาจากชั้น 32 โดยจะมี Patio Gym สำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง ห้อง Ballet suite และ Yoga suite
ชั้น 37 ชั้นสูงสุดของโครงการ บรรยากาศเทียบเท่าโรงแรมหรู โดยลูกบ้านจะได้รับ Complimentary Afternoon Tea ฟรี! ทุกวัน เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยชั้นนี้ได้แบ่งโซนหลากหลายตามการใช้สอย อาทิ Family Living Room, BBQ Garden, Game Room & Pool Table, Children’s Play Room, Grand Private Living room, Grand Private Dining Room และ Kitchen พร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบเซต
ทั้งหมดนี้สามารถเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งทำออกมาได้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัยเป็นอย่างดี
สำหรับยูนิตพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 7-18 และ 19-30 จำนวน 12 ยูนิต/ชั้น แต่จะแบ่งเป็นโซนเหนือ (วิวฝั่งเอกมัย) และโซนใต้ (วิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิท) ทำให้แต่ละชั้นเหลือเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น มีความเป็นส่วนตัวมากสมกับเป็นคอนโดระดับ Super-Luxury ยิ่งหากบางครอบครัวต้องการ Combine ห้อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็สามารถทำได้ โดยทางโครงการได้กำหนดยูนิตที่สามารถทำได้ไว้ในกรอบสีแดงตามรูปเลยค่ะ
ขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ทางโครงการให้มาด้วยมีดังนี้
เครื่องปรับอากาศ ระบบ VRV จาก Daikin ติดตั้งมาให้ทั้งห้อง ส่วนตัว Condensing Units จะถูกจัดไว้นอกอาคารรวมกันทุกยูนิต ไม่ส่งเสียงดังรบกวนในห้องพัก
ห้องครัว จะได้ชุดครัวทั้งหมด ทั้งซิงค์ล้างจาน จาก Panasonic พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า คือ ตู้เย็น แบบ Built-in แบรนด์ Liebherr มีจุดเด่นตรงไม่เกิดความชื้นจนทำให้หน้าบานเสียหาย ส่วนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ และไมโครเวฟ จากแบรนด์ Kuppersbusch
Common Area จะได้ Furniture Built-in ตู้เก็บรองเท้า ตู้เก็บของหน้าห้อง
ห้องนอน ตู้เสื้อผ้า Built-in ในส่วนของ walk in closet
ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ครบชุด ได้แก่ โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ จาก TOTO อ่างล้างหน้า แบรนด์ Duravit ตัวก๊อก จาก Hansgrohe พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงาที่เป็นตู้เก็บของได้ด้วย ฉากกั้นอาบน้ำ ฝักบัว Rain Shower จาก Hansgrohe และอ่างอาบน้ำ
มาเปิดห้องตัวอย่างที่ขายดีที่สุดของโครงการกันก่อนเลยค่ะ สำหรับ Type 2 Bedroom
หน้าประตูทุกห้องจะ Built-in ตู้เก็บของทรงสูง แบ่งเป็น 3 ตอน ซึ่งช่องตรงกลางจะเป็น Mailbox ส่งจดหมาย หรือพัสดุที่ไม่ใหญ่มากให้กับลูกบ้านถึงหน้าประตูห้อง
สำหรับบานประตูห้อง Type 2 Bedroom จะแบ่งเป็น 2 บาน ถ้าเปิดออกทั้งหมดจะกว้างมาก เพื่อรองรับครอบครัวที่ต้องใช้ Wheelchair
Digital door lock ใช้แบรนด์ Philips มีความพิเศษตรงแกนล็อค 3 แกนด้วยกัน เป็นแกนล็อคที่แน่นหนาที่สุดในบรรดาโครงการคอนโดมิเนียมปัจจุบันนี้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความแข็งแรงเลยค่ะ โดยรุ่นที่นำมาใช้นี้รองรับการล็อคได้ถึง 5 ระบบ คือ คีย์การ์ด สแกนนิ้ว พาสเวิร์ด One Time Password และกุญแจ
ห้องหน้ากว้าง บวกกับ Floor To Ceiling 3 เมตร ทำให้รู้สึกโอ่โถ่ง โปร่งสบายดีนะคะ ส่วนแรกของห้องที่จะพาไปชมนั่นคือห้องครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ได้กระจกเข้ามุมทำให้ห้องครัวไม่ทึบ มีแสงสว่างมากเพียงพอที่จะไม่เกิดอันตรายเวลาใช้งาน สามารถมองเห็น Living Room ทั้งหมด ให้อารมณ์คล้ายกับเป็นครัวเปิดค่ะ
ภายในห้องครัวปูพื้นกระเบื้อง Porcelain หน้าบานตู้ทั้งหมดเป็นลามิเนตที่ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเมื่อจับใช้งาน Top ครัวเป็นหิน QUARTZ ส่วนการติดตั้งไฟเหนือเคาน์เตอร์ อุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีมาให้ตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะ
อีกด้านหนึ่งของบริเวณส่วนหน้าห้องจะ Built-in ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของอื่นๆ ได้ด้วย Powder Room ห้องน้ำสำหรับรักแขก ฉะนั้นจะไม่มีพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ และห้อง Laundry ที่สามารถวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าวางซ้อนกันได้ โดยโครงการได้เดินท่อน้ำเตรียมเอาไว้ให้แล้ว และยังสามารถใช้เป็นห้องเก็บห้อง อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมิดชิด โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความอับชื้น เพราะมีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศเอาไว้เรียบร้อย
Living Room ทางโครงการตั้งใจให้เป็น Space กว้างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ โต๊ะทานข้าว ได้อย่างมีพื้นที่ว่างอีกเหลือเฟือ มีการ Drop ฝ้าเพื่อซ่อนรางผ้าม่านในทุกหน้าต่างห้อง
สำหรับวัสดุพื้นใช้ Synthetic marble กระจกหน้าต่าง Laminate IGU มีคุณสมบัติช่วยกันความร้อนจากภายนอก และลดเสียงรบกวน ขอบอลูมิเนียมสีน้ำตาลแน่นหนาแข็งแรงมาก และมีบานกระทุ้งเปิดรับลมด้านนอกได้
สำหรับ Mulberry Grove Sukhumvit จะไม่มียูนิตไหนที่มีระเบียงห้องนะคะ แต่จะได้พื้นที่ Nook Multi-Purpose Spaces มาแทน อย่างห้อง Type นี้ จะเป็นพื้นที่มุมหนึ่งของ Living Room ซึ่งติดตั้งกระจกบานเฟี้ยมเข้ามุมเอาไว้ให้ด้วย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน
ห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งแยกจากกัน มี Living Room เชื่อมตรงกลาง ซึ่งจะมีข้อดีตรงได้ความเป็นส่วนตัว และทุกห้องจะได้วิวเมืองเช่นกัน
ห้องนอนแรก ก็มีพื้นที่มากพอที่จะวางเตียงขนาด 6 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อีก โดยมีส่วน Walk In Closet กั้นด้วยประตูบานเลื่อนที่มีช่องระบายอากาศป้องกันความชื้นไว้ให้
Walk In Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งานจริง ซึ่ง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบไม่มีบานประตูหน้าตามแบบห้องตัวอย่างนี้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆ ได้ดีมากกว่า เช่น กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ถุงกอล์ฟ ฯลฯ
ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน แยกส่วนเปียก-แห้ง ติดตั้งทุกอย่างมาพร้อมใช้งาน ตามห้องตัวอย่างที่เห็นค่ะ
Master Bedroom ที่มีขนาดไม่หนีกันมากกับห้องนอนแรก โดยห้องนอนทุกห้องปูพื้นด้วย Engineered Teak Wood ผิวไม้สัก วางลายมาสวยมาก ทำให้ห้องดูอบอุ่นเมือนอยู่บ้านเดี่ยวเลยนะคะ
Walk In Closet จะได้พื้นที่กว้างกว่าห้องนอนแรกขึ้นมาอีกค่ะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ตามแบบเช่นเดียวกัน เพียงแต่ทุกห้องจะไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เท่านั้น
ห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom ถูกออกแบบมารองรับการอยู่แบบ 2 คนในห้องค่ะ ตั้งแต่พื้นที่ห้องน้ำกว้างมากขึ้น อ่างล้างหน้าแยก His & Her อ่างอาบน้ำ Custom Made และมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากขึ้น
ห้องวางโถสุขภัณฑ์กับห้องอาบน้ำแบบ Shower แยกห้องออกจากกันชัดเจนค่ะ มีข้อดีตรงที่สามารถใช้ห้องน้ำพร้อมกัน 2 คนได้ ซึ่งในส่วนของห้อง Shower จะมีทำที่นั่งเอาไว้ให้สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องนั่งอาบน้ำ
ห้องตัวอย่างสุดท้ายค่ะ สำหรับ Type 1 Bedroom
หลังบานประตูห้องไม่เพียงแค่ Built-in ตู้เก็บของมาให้เท่านั้นนะคะ แต่มีการติดตั้งแท่น Wireless Charger เอาไว้ให้
บริเวณประตูห้องมี Master Switch สำหรับปิด-เปิด ไฟทั้งห้อง สำหรับเวลาไม่มีใครอยู่ห้องก็สามารถปิดตรงนี้จุดเดียวได้เลย ไม่ต้องเช็คกันหลายจุด หากไฟดับจะมีไฟเหนือประตูที่จะะส่องสว่างทันที ไม่ให้ห้องมืดจนเกินไป
ห้องครัวปิดสำหรับ 1 Bedroom จะมีขนาดย่อลงมาจาก Type 2 Bedroom เล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน โดยเคาน์เตอร์ครัว L shape พร้อมอุปกรณ์ครบเซต ซึ่งไมโครเวฟจะเป็นแบบ 2 ฟังก์ชั่น ใช้ได้ทั้งแบบไมโครเวฟและเตาอบ
ซิงค์ล้างจาน จาก Panasonic ขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อการใช้งานได้หลากหลายขึ้น ผิวสเตนเลสออกแบบมาให้ความความสะอาดง่าย แห้งเร็ว ปากฝาท่อป้องกันกลิ่นและแมลงได้ดี ส่วนก๊อกน้ำสามารถถอดหัวออกมาเป็นสาย เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดยิ่งขึ้น และรองรับระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นได้
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันพร้อมใช้งาน
สำหรับห้อง 1 Bedroom จะได้ตู้เย็นแบบบานเดียวแยกช่องฟรีซด้านล่าง แต่สเปคและยี่ห้อเดียวกันกับห้อง 2 Bedroom ค่ะ ติดกันจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าและตู้อบได้ค่ะ
Living Room เชื่อมต่อกับพื้นที่ Nook Multi-Purpose Spaces ริมหน้าต่างกระจก แนวยาวคล้ายกับเป็นระเบียงของห้อง แต่สามารถใช้เป็นห้องทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ห้องนอนขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง King Size เอาไว้กลางห้อง แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงอยู่
ทุกห้องจะได้ Walk In Closet กั้นปิดได้ด้วยประตูบานเลื่อนที่มีช่องระบายอากาศ เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
โถสุขภัณฑ์ที่ใช้ทุกยูนิตจะใช้แบบชิ้นเดียว เป็นระบบอัตโนมัติ สะดวกต่อการใช้งาน แยกส่วนเปียก-แห้ง ซึ่งพื้นระหว่างห้องจะมีความต่างระดับกันเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยเวลาเดินของผู้สูงอายุ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องใช้ Wheelchair
ทุกดีเทลของ Mulberry Grove Sukhumvit ถูกคิดขึ้นมา ไม่ใช่แค่ทุก Generation อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายในปัจจุบัน แต่ยังคิดเผื่อไปถึงอนาคต เพราะ “บ้าน” จะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี ที่สำคัญคือต้องเอื้อต่อสุขภาพที่ดี และมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทุกคนในครอบครัว