Tag : Townhome

792 ผลลัพธ์
9th Canale Rangsit-Klong 8-ไนน์ คาแนล รังสิต-คลอง 8 : รีวิวทาวน์โฮม

9th Canale Rangsit-Klong 8-ไนน์ คาแนล รังสิต-คลอง 8 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : 9th Canale Rangsit-Klong 8 (ไนน์ คาแนล รังสิต-คลอง 8) เจ้าของโครงการ : บริษัท เค ออนเนอร์กรุ๊ป จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถ.รังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ : 36-1-89.5 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 440 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน AQUA ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 16 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ที่จอดรถ - แบบบ้าน TERRA ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 18 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,590,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : ปี 2564 จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมสมัยใหม่ สไตล์ Modern Loft ผสานการออกแบบตามแนวคิด Japanese Function ให้คุณรังสรรค์พื้นที่การใช้สอยให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด พร้อมพื้นที่สวนขนาดเล็กให้คุณได้พักผ่อนไปกับความร่มรื่นในบ้านหลังนี้ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนรังสิต-นครนายก สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส รังสิต-คลอง 7, รร.สารสาสน์วิเทศรังสิต, บิ๊กซี รังสิตคลองหก, ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, ม.อีสเทิร์นเอเชีย ปทุมธานี  
Grande Pleno Suksawat-Rama 3-แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

Grande Pleno Suksawat-Rama 3-แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Grande Pleno Suksawat-Rama 3 (แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3) เจ้าของโครงการ : บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. พื้นที่โครงการ : 37-3-75 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น, บ้านแฝด 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 303 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 2 ชั้น 18 ตร.วาที่ดินเริ่มต้น  18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย  100.71 ตร.ม.  ขนาด  2 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน - บ้านแฝด 2 ชั้น 36.0 ตร.วาที่ดินเริ่มต้น 36.00 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125.35 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - ฟิตเนส - สระว่ายน้ำ - คลับเฮ้าส์ - สวนสาธารณะภายในโครงการ - พื้นที่ตั้งนิติบุคคล - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,590,000 บาท จุดเด่นโครงการ : พรีเมียมทาวน์โฮมใหม่ สังคมคุณภาพ พร้อมคลับเฮ้าส์หรู จาก เอพี ไทยแลนด์ ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนเพียง 10 นาที ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถ.พระราม 2, ถ.พระราม 3, ถ.สุขสวัสดิ์, ถ.กาญจนาภิเษก, ถ.พุทธบูชา, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ถ.วงแหวนอุตสาหกรรม สถานที่ใกล้เคียง : รร.นาหลวง, รร.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, Max Value, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส และโฮมโปรรพ.บางปะกอก, รพ.บางปะกอก 3, รพ.บางปะกอก 9, รพ.นครธน  
The Metro Chaengwattana-เดอะ เมทโทร แจ้งวัฒนะ : รีวิวทาวน์โฮม

The Metro Chaengwattana-เดอะ เมทโทร แจ้งวัฒนะ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Metro Chaengwattana (เดอะ เมทโทร แจ้งวัฒนะ) เจ้าของโครงการ : บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนหอการค้าไทย ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น   ขนาดบ้าน : - 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน   ราคา : เริ่มต้น 3,290,000 บาท จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น แห่งเดียวที่ติดถนนใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จาก พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนหอการค้าไทย, ถนนชัยพฤกษ์, ถนนราชพฤกษ์, ทางด่วนขั้นที่ 2 สถานที่ใกล้เคียง : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, ศาลปกครอง, DSI, กรมการกงสุล, The Crystal PTT, HomePro ชัยพฤกษ์, โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (ISB), เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ, เมืองทองธานี, ศูนย์แสดงสินค้า IMPACT, รพ.ปากเกร็ด, รพ.เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์, รพ.มงกุฏวัฒนะ
Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 : รีวิวทาวน์โฮม

ภาพยนตร์ภาคแรกสนุกจะมีหรือที่ไม่มีภาคต่อ บ้านก็เช่นกันผู้อยู่อาศัยมีความสุขทำไมจะไม่ส่งต่อความสุข กับโครงการ Nirvana DEFINE ศรีนครินทร์ - พระราม 9 ทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์โมเดิร์นที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว มาพร้อมกับรางวัล โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น ประจำปี 2561 ประเภททาวน์เฮาส์ราคาสูงจากศูนย์วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (AREA) จากรีวิวครั้งที่แล้วเป็นทาวน์โฮม Type C และ D การกลับมาครั้งนี้สู่ความยิ่งใหญ่ขึ้น กับบ้านอีก 2 Type คือ A และ B     แต่ก่อนที่จะไปชมบ้านแบบใหม่ดีไซน์สวยทั้งภายในและภายนอก สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมแบบแรกรับชมได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว       ทำเล   โครงการ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ตั้งอยู่บนถนน ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ เชื่อมกับถนนศรีนครินทร์แยกกรุงเทพกรีฑา – หัวหมาก ยาวไปอีกด้านเป็นถนนกาญจนาภิเษกไปสิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร ซึ่งในอนาคตจะเกิดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตัดผ่านบริเวณสี่แยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมากพอดี     ถ้าพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงถนนศรีนครินทร์และบนถนนรามคำแหง เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, ราชมังคลากีฬาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง, เดอะพาสิโอ้ทาวน์ รามคำแหง, ซีคอนสแควร์, ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, พาราไดซ์พาร์ค และยังใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 20 นาทีจะถึง เมกาบางนา และสนามบินสุวรรณภูมิ   ภาพรวมโครงการ   Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นมากกว่าบ้านเดียวที่มาให้เลือกทั้งหมด 4 Type พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 190-350 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.5 เมตร เท่ากันทุกยูนิต จุดเด่นของทาวน์โฮม ที่ไม่เหมือนใครในเรื่องของดีไซน์ที่หาไม่ได้จากทาวน์โฮมทั่วไป ซึ่งมีที่เดียวเท่านั้นมาพร้อมกับฟังก์ชันต่างๆ  ที่ตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะด้วยเรื่องของช่องแสงภายในบ้านบวกกับเพดานสูงโปร่ง ทำให้บ้านปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่มืดทึบเหมือนทาวน์โฮมทั่วไป เพราะทางโครงการใส่ใจทุกรายละเอียดให้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ และเหมาะกับทุกคนในครอบครัว    มาพร้อมกับ Facility ครบครันตอบโจทย์ผู้อาศัยไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก โซนบาร์บีคิว คลับเฮ้าส์สำหรับพักผ่อน สระว่ายน้ำ และฟิตเนส     Unit Plan   Type A พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 31.3 – 63 ตารางวา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ     Type B  พื้นที่ใช้สอย 285 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 30-34 ตารางวา 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ       ชมบ้านตัวอย่าง     ทาวน์โฮมตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปชมเป็น Type A ซึ่งจะเป็น Type ที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ และเป็น Type เดียวที่อยู่แปลนมุมเพราะจะได้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้นของผู้อยู่อาศัยครับ       ในสวนของลานหน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับจอดรถได้ถึง 3 คัน ตรงกลางมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเข้าไปในบ้านได้ และด้านขวามือเป็นประตูหลักเพื่อเข้าไปยังในตัวบ้าน     ด้านในสุดของพื้นที่จอดรถทางโครงการทำเป็นคอร์ดกลางบ้าน เพื่อให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึงไม่ทำให้บ้านมืดทึบ และยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกด้วยครับ ซึ่งโดยปกติแล้วทาวน์โฮมทั่วๆ ไปจะมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในตัวบ้านได้เฉพาะฝั่งหน้าบ้านกับหลังบ้านเท่านั้น แต่การดีไซน์มีคอร์ดให้อยู่กลางบ้านจะช่วยสร้างบรรยากาศปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น   นอกจากทำให้บ้านมีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึงแล้ว ตรงนี้ยังสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้กลางคอร์ด ทำให้บ้านดูเป็นธรรมชาติ ร่มรื่นมากขึ้นครับ ซึ่งการมีคอร์ดกลางบ้านแบบนี้ ได้รับความนิยมมากในบ้านเดียวสไตล์ Modern ในปัจจุบัน ทำให้ทาวน์โฮม Nirvana DEFINE มีความใกล้เคียงกับบ้านเดียวมากที่เดียวครับ     ด้านซ้ายมือของที่จอดรถจะมีประตูแยกซ้ายขวา เป็นพื้นที่สำหรับห้องเก็บของทั้งสองห้องครับ         ด้วยความที่ Type A ถูกวางให้อยู่แปลงมุม จึงทำให้ได้พื้นที่สนามหญ้าข้างบ้านซึ่งสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังด้านหลังบ้านได้อีกด้วยครับ       หากใครที่เคยติดตามรีวิวของเราก็คงจะได้เห็นรูปแบบบ้านเดี่ยวจากเนอวานากันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ โดยเอกลักษณ์อย่างหนึ่งนั่นคือการยกห้องรับแขกขึ้นไปไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน แล้วแยกให้ดูเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งในทาวน์โฮมโครงการนี้ก็นำเอาจุดเด่นตรงนี้มาใส่เอาไว้ด้วยเช่นเดียวกันกับบ้านเดี่ยว โดยสามารถใช้บันไดจากหน้าบ้านทางซ้ายมือนี้ขึ้นไปได้เลยครับ     กลับมาดูที่ชั้นแรกกันก่อนครับ เริ่มจากชานบ้านถูกยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองสิ่งสกปรกที่จะปลิวเข้าในตัวบ้าน ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะใช้ไม้สัก     เข้ามาภายในตัวบ้านพื้นที่แรกทางโครงการทำเป็น Drop Shoes ยกพื้นต่างระดับถึง 3 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่ให้สามารถถอดรองเท้าไว้ภายในบ้าน ไม่ต้องถอดข้างนอก โดยทางเดินมีพื้นที่สามารถทำตู้เก็บรองเท้า ก็ยังเหลือพื้นที่เดินมากพอครับ     สำหรับชั้นแรกนี้จะถูกจัดให้เป็นห้องครัวปิด พร้อมกับพื้นที่รับประทานอาหารครับ โดยพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และนอกจากนี้ทางโครงติดวอลเปเปอร์สีเรียบให้ทั้งหลัง     ทางโครงการ Built in เคาน์เตอร์บาร์ต่อด้วยโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่ง ความจริงแล้วสามารถวางเป็นโต๊ะสำหรับ 10 ที่นั่งก็ยังได้ครับ ซึ่งสามารถใช้พื้นที่ของชั้นแรกนี้สำหรับจัด Party สังสรรค์เล็กๆ กับเพื่อนได้     ในส่วนของห้องครัวเป็นครัวปิด โดยมีที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ High Ceiling ขอบ Aluminium Powder Coat ป้องกันการเกิดสนิม และยังทำให้สีติดแน่นทนนานไม่หลุดลอก       เข้ามาภายในห้องครัวมีพื้นที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนประตูตรงกลางเชื่อมออกไปในส่วนของพื้นที่ซักล้าง     และเคาน์เตอร์ครัวทางด้านขวาเป็นแบบ L-Shape ติดกับหน้าต่างและวางอ่างล่างจานเพราะช่วยระบายความชื้น ป้องกันเชื้อราได้ดีอีกด้วยครับ       ในส่วนของพื้นที่ด้านหลังบ้าน มีทางเชื่อมมาจากสนามหน้าบ้าน       กลับเข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน ก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ห้องตรงกลางส่วนนี้คือห้องน้ำกลาง     ภายในห้องน้ำส่วนกลางมีอ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่       ตรงข้ามกันเป็นโถสุขภัณฑ์ และห้องน้ำส่วนกลางจะไม่มีพื้นที่ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ     ขึ้นบันไดไปชมทาวน์โฮมกันต่อ ซึ่งบันไดระหว่างที่เดินขึ้นบันไดนั้นไม่เกิดเสียงดังขึ้นเลยครับ เพราะโครงสร้างเป็นคอนกรีตทำให้มีความแข็งแรง ส่วนหน้าบันไดนั้นกว้าง ไม่ชัน ตรงนี้โครงการทำให้สามารถวางเท้าได้เต็มเท้าทั้งชายและหญิง เป็นการเพิ่มความปลอดภัยด้วยครับ     ขึ้นมาชั้นสองด้านขวามือเป็นตู้ไฟ และซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นครับ       ในส่วนของประตูบานนี้เป็นประตูที่เชื่อมมาจากบันไดหน้าบ้านที่เราพาชมกันไปเมื่อสักครู่นีั เพื่อเข้ามาสู่ห้องนั่งเล่นของบ้านครับ     ในส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่น Floor To Ceiling 4 เมตร มีพื้นที่กว้าง ปลอดโปร่ง วางโซฟาแบบ L-Shape ก็ยังเหลือพื้นที่เหลือเฟือ และมีประตูกระจก High Ceiling เชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน           ในส่วนของระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย       อีกด้านของของห้องนั่งเล่น เป็นระเบียงข้างบ้าน       ในส่วนของระเบียงของระเบียงข้างบ้าน จะมีเฉพาะบ้าน Type A ที่มีเฉพาะแปลนมุม และสามารถมองลงมาที่โรงจอดรถได้ครับ     ทางเดินตรงข้ามเพื่อเชื่อมไปยังห้องนอนแรก ซึ่งเป็น Master Bedroom      ภายใน Master Bedroom มีพื้นที่กว้างสามารถแบ่ง Double Function ตามที่โครงการ Built in ส่วนที่วางเตียงนอน กับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี     ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นในห้อง Master Bedroom  ทางโครงการทำเพดานสูง Double Space ให้ความรู้สึกโล่งสบาย ไม่อึดอัดเหมือนบ้านทาวน์โฮมทั่วไปครับ     ในส่วนของเตียงนอนมีพื้นที่มากพอที่สามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่ครับ     พื้นที่ด้านนี้ยังลึกเข้าไปสามารถจัดเป็นส่วนของ Walk In Closet ด้านหน้าห้องน้ำ     ในส่วนของ Walk In Closet ทางด้านขวามือเป็นห้องน้ำที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนขอบ Aluminium Powder Coat     ห้องน้ำถูกปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ให้ความรู้สึกความหรูหราบวกกับ Bath Tub     อีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำเป็น Rain Shower มีพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนเปียกและแห้ง   เดินขึ้นต่อไปโดยมีทางแยกด้านซ้าย ก่อนที่จะไปยังชั้นสาม ซึ่งด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนอนแรก           แต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 แวะมาดูทางซ้ายมือในส่วนของห้องนอนแรก เมื่อเข้ามาด้านซ้ายสามารถ Built in เป็นตู้เส้อผ้าขนาดใหญ่   ในส่วนของห้องน้ำมีกระจกบานใหญ่ และพื้นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกคือพื้นที่อาบน้ำด้านในสุด ตรงกับหน้าต่างระบายอากาศ เพื่อให้อากาศถ่ายเทไม่อับชื้น     ในส่วนของเตียงนอนสามารถวางเป็นเตียงขนาด King Size หรือเล็กกว่านั้นตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ก็ยังเหลือพื้นที่     ที่ปลายเตียงทางโครงการได้ Built in ทำกำแพงยื่นออกมาแบ่งเป็น Double Function ด้านซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงานหรืออ่านหนังสือ อีกด้านเป็นโซฟานั่งเล่น ด้านบนเป็นกระจก     ขึ้นมาต่อแต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 แวะออกมาชมในส่วนของ Out Door     ในส่วนของ Out Door สำหรับรับอากาศภายนอก สามารถเป็นพื้นที่เปลี่ยนบรรยากาศพาแขกหรือคนในครอบครัวนั่งคุยนั่งเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันครับ     และยังสามารถมองลงไปเห็นระเบียงด้านข้างบ้านผ่านคอร์ดกลางบ้าน     ต่อจากส่วน Out Door ขึ้นบันไดไปชั้นที่ 3 บนสุดของบ้าน     ก่อนที่จะเข้าไปยังในห้อง มีพื้นที่ว่างสามารถทำเป็นที่บูชาพระพุทธรูปภายในบ้านได้ เพราะอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน     ห้องสุดท้ายจะแยกออกเป็นสองฝั่ง สามารถแบ่งเป็นห้องนอนได้อีกเป็นสองห้อง หรือจะทำเป็นห้องนอนเดียวทั้งชั้นก็แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่อาศัยครับ     มาเริ่มจากฝั่งซ้ายมือกันก่อนครับ     ทางโครงการ Built in ห้องนี้ให้เป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์ หรือห้องทำงาน     มีประตูกระะจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านหลังบ้าน     ระเบียงด้านหลังมีราวกันตกที่ราวเหล็กแข็งแรง ทนทาน     มองลงไปจะเห็นพื้นที่หลังบ้าน และทางโครงการนี้จะเดินท่อเครื่องปรับอากาศมาทางด้านหลังทั้งหมด เพื่อความสวยงามของระเบียงด้านหน้าบ้าน     กลับเข้ามาภายในห้องอีกด้านยังมีพื้นที่มาก กว้างขวางสามารถทำเป็น Walk In Closet      ด้านหลังมีห้องน้ำให้ในตัวครับ     ห้องน้ำแบ่งออกเป็นสองฝั่ง โดยมีกระจกบานใหญ่และอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์โดยฝั่งซ้ายเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำ     และด้านขวาเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์     มาต่อกับอีกด้านหนึ่งของห้องทางด้านขวา ทางโครงการ Built in เป็นห้องนอนที่ 2 ของบ้าน มีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน     มีห้องน้ำให้ภายในตัวปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน นอกจากดูหรูหราแล้ว ยังกว้างไม่อึดอัด     มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่กับอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาเตอร์       มุมสุดของห้องจากปลายเตียงมีห้องลับซ่อนอยู่สามารถทำเป็นมุมโปรดตามไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย และมีกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นจากทางขึ้นบันไดมายังชั้นนี้       และจากห้องนอนออกมาสู่ระเบียงหน้าบ้านบนชั้นบนสุดของบ้านเพื่อรับอากาศที่ดี เพราะที่ดินโดยรอบย่านนี้ยังไม่แออัด       ทาวน์โฮมตัวอย่างแบบต่อมาจะเป็น Type B   ก่อนเข้าไปในตัวบ้านด้านซ้ายเป็นส่วนของห้องแม่บ้านซึ่งมีห้องน้ำภายในตัว   ก่อนจะเข้าประตูบ้านทางโครงการยกพื้นต่างระดับออกมาให้อารมณ์เหมือนชานบ้าน       เปิดประตูออกมาทางโครงการทำพื้นเป็น Drop Shoes ยกพื้นต่างระดับถึง 3 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่ให้สามารถถอดรองเท้าไว้ภายในบ้าน       นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สามารถทำตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ ตอบโจทย์นักช้อปรองเท้า     มาถึงส่วนของ Common Area มีขนาดกว้างยาวจนไปถึงด้านหลัง สามารถปรับฟังก์ชันได้ตามความชอบของผู้อยู่อาศัย     พื้นที่ต่อจากประตูเข้าบ้านเข้ามา เป็นส่วนของโซน Living Room มีพื้นที่มากพอที่จะวาง L shape sofa ก็ยังเหลือพื้นที่วางโซฟาสองที่นั่งและโต๊ะกลาง       ตรงพื้นที่โซน Living Room ด้านบนทางโครงการทำ Double Space เพิ่มความโปร่ง โล่งสบาย     ทางโครงการ Built in ชั้นไม้กั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับโซนรับประทานอาหาร ความจริงยังสามารถต่อเติมทำเป็นกระจกกั้นก็ยังได้     ด้านหลังระหว่างที่กั้นแบ่งโซนห้องเป็นส่วนของห้องน้ำกลาง       ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ทางโครงการทำผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้     ต่อจากส่วนนั่งเล่นเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถวางเป็นโต๊ะสำหรับ 6 ถึง 10 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่มากพอ ตรงกับโต๊ะรับประทานอาหารเป็นส่วนของห้องครัว     กำแพงมุมห้องสามารถทำ Counter Built in ยื่นออกมาเพื่อวางหรือเก็บของได้มากขึ้น     ต่อจากโต๊ะรับประทานอาหาร มีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังสนามหญ้าด้านหลังบ้าน     ทั้งประตูกระจกและหน้าต่างทุกบานจะติดตั้งด้วยระบบล็อค TosTem คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น     ถัดไปเป็นส่วนของห้องครัวเป็นแบบ L shape ซึ่งเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน และมีประตูเชื่อมออกไปยังส่วนพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน     ด้านหลังบ้านมีสวนหย่อมให้เล็กน้อยไว้ปลูกต้นไม้ตามความชอบคนรักธรรมชาติ บวกกับพื้นที่ซักล้างให้ครับ         เดินต่อเพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินแล้วไม่เกิดเสียงดังเลยครับ         เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ของบ้านจะพบกับห้องนอนแรก     ภายในห้องกว้างขวางสามารถแบ่งฟังก์ชันตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย อย่างในห้องตัวอย่างนี้มีการกั้นแบ่งเป็น Double Function ในส่วนของเตียงนอนริมหน้าต่าง และห้องทำงานแบบเปิดโล่ง     สำหรับห้องนอนแรกนี้ ทางโครงการติดตั้งกระจก สามารถมองลงไปเห็นห้องนั่งเล่นชั้นแรกได้ครับ     ในส่วนของพื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไปจนถึง King Size ก็ยังไม่อึดอัด       ผนังด้านนี้ความจริงแล้วกำแพงยื่นออกถึงแค่สวิทช์ไฟ สามารถ Built in กั้นห้องออกมาได้ครับ     ต่อจากผนังที่ทางโครงการทำยื่นออกมาเพื่อทำเป็นส่วนของ Walk In Closet      ด้านข้างก่อนจะเข้าห้องน้ำ มีกระจกบานใหญ่สามารถทำเป็นโต๊ะเสริมสวยของสาวๆ ได้ครับ     ส่วนของห้องน้ำทางโครงการเจาะผนังเป็นช่องสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น     บนหัวของพื้นที่อาบน้ำ มีประจกบานเลื่อนเพื่อถ่ายเทอากาศไม่ให้อับชื้น     ออกมาจากห้องระหว่างทางเดินทางเชื่อมไปยังอีกห้อง ระหว่างทางเดินจะผ่านบริเวณ Double Value     ซึ่ง Double Value ทางโครงการใส่ใจรายละเอียดเน้นการสื่อสารกับคนภายในบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเดินลงมาพูดคุยที่ชั้นแรก แต่สามารถยืนคุยกันได้และไปทำกิจกรรมต่อครับ       เดินเข้ามาสู่ห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านหน้าบ้าน ภายในห้องกว้างโปร่งสบาย ไม่อึดอัด     ระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย และมีพื้นที่ยาวเข้าไปถึงด้านซ้าย       อีกด้านของระเบียงมีพื้นที่สามารถเป็นมุมโปรดไว้วางกระถางต้นไม้ได้ และยังเห็นห้องนอนผ่านกระจกเข้ามุม         ภายในห้องน้ำของห้องนอน 2 มีกระจกบานใหญ่ ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard     ในส่วนพื้นที่อาบน้ำมีกระจกบานเลื่อนเพื่อถ่ายเทอากาศ ไม่ให้อับชื้น ด้านข้างฝักบัวเจาะผนังสำหรับวางของได้ครับ     ออกจากห้องนอน 2 ขึ้นบันไดไปยังชั้น 3 จะสังเกตได้ว่าทางเดินเชื่อมระหว่างห้องมีพื้นที่กว้างขวางสามารถเดินสวนกันได้สบายครับ     ก่อนขึ้นบันไดภายใต้ประตูบานนี้จะมีตู้ไฟซ่อนอยู่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ถือว่าทางโครงการใส่ใจดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีครับ         ด้านตรงข้ามกับบันไดด้านบนมีช่องแสงจากระเบียงให้แสงสว่างส่องเขามาทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า       บนชั้น 3 เป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งชั้นมีพื้นที่กว้างมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ Penthouses ในคอนโดมิเนียมครับ มีทั้งส่วนนั่งเล่น และส่วนของวางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด King Size  ได้สบายๆ       มีกำแพงกั้นห้องแบ่ง Double Function แยกเป็นส่วนที่นอนกับ Walk In Closet     มีหน้าต่างด้านหลังห้องสามารถมองลงไปเห็นด้านหลังบ้านได้ครับ จะสังเกตได้ว่าทาวน์โฮมจากเนอวานาจะให้ความใส่ใจกับเรื่องช่องแสง ดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาอย่างทั่วถึงภายในทาวน์โฮม     ในส่วนของ Walk In Closet ยังแบ่งออกเป็นสองฝั่งแยกเสื้อผ้าชายหญิงได้อย่างลงตัว ไม่ปะปนกัน       ห้องน้ำส่วนของ Master Bedroom ทางโครงการมีอ่างอาบน้ำให้ครับ     อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์และส่วนของพื้นที่อาบน้ำ กำแพงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ยาวจนถึงพื้นที่อาบน้ำยื่นออกมาสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น มีพื้นต่างระดับแบ่งพื้นที่เปียกแห้งอย่างชัดเจนครับ     ปลายอ่างอาบน้ำด้านบนมีกระจกแบบบานกระทุ้ง เพื่อระบายอากาศไม่ทำให้ห้องน้ำอับชื้น     บนหัวเตียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้านครับ     พื้นที่ระเบียงหน้าบ้านบนชั้น 3 กว้างมากเป็นพื้นที่ Out Door ทำเป็นมุมโปรดเปลี่ยนบรรยากาศได้ครับ     มีช่องแสงที่สามารถมองทะลุเห็นจากทางขึ้นบันได     พื้นที่ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกนิรภัย และด้วยขนาดของระเบียงก็มากพอที่จะใช้งานได้จริงครับ       เป็นอย่างไรบ้างครับกับการกลับมาสู่ภาคต่อกับเฟสที่ 2 ทาวน์โฮม Type A และ B ดีไซน์ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ทั้งประโยชน์ใช้สอยภายในบ้าน การออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครมีที่เดียวเท่านั้น ทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยว เพดานที่สูงโปร่งที่หาไม่ได้จากทาวน์โฮมที่ไหน กับช่องแสงที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ดูไม่อับทึบเหมือนกับทาวน์โฮมทั่วไป การันตีผลกับรางวัล AREA กับผู้สร้าง บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ที่ให้คำนิยาม “ทาวน์โฮมที่เป็นได้…มากกว่าบ้านเดี่ยว” พบกันได้ที่ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9       ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1787 หรือทางเว็บไซต์ NIRVANA DEFINE Srinakarin - Rama 9          
Unio Town Suanluang-Phatthanakan-ยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ : รีวิวทาวน์โฮม

Unio Town Suanluang-Phatthanakan-ยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Unio Town Suanluang-Phatthanakan (ยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ) เจ้าของโครงการ :  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ :  เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 67 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น   ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะขนาดใหญ่ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,190,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ ปลายปี 2561 จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมที่เติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับการใช้ชีวิต ด้วยประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ประกอบกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เพื่อได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนพัฒนาการ, ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนนบางนา, ทางพิเศษกาญจนาภิเษก สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส, บิ๊กซี, ซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค, สวนหลวง ร.9, ม.รามคำแหง 2, รพ.สิรินธร, รพ.ไทยนครินทร์, รพ.ศิครินทร์, สำนักงานเขตประเวศ, Pan Asia International School
บ้านกลางเมือง วัชรพล ค้นพบคำตอบของบ้านที่ดี บนทำเลที่ใช่     : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง วัชรพล ค้นพบคำตอบของบ้านที่ดี บนทำเลที่ใช่     : รีวิวทาวน์โฮม

เหตุผลของการเลือกที่อยู่อาศัยแนวราบ ใครๆ ก็คงต้องบอกว่าเพราะได้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ ยิ่งถ้าได้ทำเลเดินทางสะดวก แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวก็จะยิ่งมีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยหากมีแบบบ้านที่จัดฟังก์ชั่นดีๆ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และยังยก Pocket Garden ขึ้นมาไว้บนบ้านของเรา ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติเข้าไปอีก อย่างแบบบ้านทาวน์โฮมใหม่ล่าสุดจาก AP ที่ชื่อว่า Terraria (เทอร์ราเรีย) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาได้ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวทีเดียวค่ะ แต่จะมีหน้าตาแบบไหน แล้วจะใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวอย่างไรนั้น ลองมาค้นหาคำตอบกันในรีวิวฉบับนี้ค่ะ        ทำเลที่ใช่   ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบหลายโครงการ มักจะเลือกมาปักหมุดในย่านวัชรพลกันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีทางด่วนฉลองรัชสร้างยาวมาจนถึงย่านนี้ ตรงด่านสุขาภิบาล 5 ทำให้โซนนี้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการเดินทางที่สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง ราคาที่ดินยังไม่แพง ใกล้สถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น สำนักงานที่ดินกรุงเทพ, สำนักงานพัฒนาสมรรถนะครู, สำนักงานเขต เป็นต้น ทำให้การอยู่อาศัยในละแวกนี้ยังไม่หนาแน่นมากนัก ย่านวัชรพลจึงมีความน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก     หากจะบอกเล่าให้เห็นภาพกันมากขึ้น ก็คงจะต้องเปรียบวัชรพลเป็นเหมือนวงกลมที่มีเส้นทางต่อออกไปได้เกือบรอบวง ซึ่งมีเส้นทางหลักในการเข้าสู่ใจกลางเมืองคือ ทางด่วนฉลองรัช หรือที่เรียกกันติดปากว่าเลียบด่วนรามอินทรา ที่ด่านสุขาภิบาล 5 สามารถตรงเข้าสู่พระราม 9 หรือเอกมัยได้สะดวกมาก โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะเลือกเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษกก็ใกล้นิดเดียว ส่วนถนนหลักก่อนเข้าสู่วัชรพลอย่างถนนรามอินทรา ก็เป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่ง เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่เป็นระยะตลอดเส้นทาง และในอนาคตปี 2564 จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านตลอดถนนรามอินทรา ซึ่งจะมีจุด Interchange กับสายสีม่วง สายสีแดง สายสีเขียวส่วนต่อขยาย สายสีเทา และสายสีส้ม เป็นทางเลือกการเดินทางที่หลายคนรอคอย หรือจะใช้เส้นทางด้านถนนสายไหมแล้วไปทะลุออกสี่แยกคปอ. เข้าถนนธูปะเตมีย์ ทะลุเข้าถนนวิภาวดีขาเข้าจะใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็ถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว และถนนตัดใหม่อย่างถนนเทพรักษ์ โดยเริ่มต้นจากถนนพหลโยธิน ข้างบิ๊กซีสะพานใหม่ไปเชื่อมต่อกับถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 และยังมีแผนในอนาคตจะทำถนนต่อเพิ่มไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งโครงการบ้านกลางเมืองวัชรพล จะตั้งอยู่ริมถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งขาเข้า         สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย แถมยังหลากหลายด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นจำพวกห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์(CDC) บนเลียบด่วนรามอินทรา หรือที่ถนนรามอินทราอย่างเดอะพรอมานาด, แฟชั่นไอส์แลนด์ และเซ็นทรัลรามอินทรา หรืออยากเดินตลาดในวันสบายๆ ก็อยู่ใกล้โครงการอยู่หลายแห่งทั้งตลาดออเงิน, ตลาดวงศกร, ตลาดยิ่งเจริญ, ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา และตลาดนัดหัวมุม ส่วนโรงพยาบาลก็หายห่วงค่ะ เพราะมีทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนอยู่รอบๆ เช่น รพ.สายไหม, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, รพ.สินแพทย์ และรพ.ภูมิพลอดุลยเดช เป็นต้น     ภาพรวมโครงการ   บ้านกลางเมือง วัชรพล มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 18 ไร่ แต่มีจำนวนยูนิตเพียง 192 ยูนิต ตอกย้ำความสงบเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย ซึ่งทาง AP ตั้งใจให้เกิดเป็น Peace Moment บน Concept โครงการ “Serenity within Reach” เข้าถึงความสงบอย่างเข้าใจผู้อยู่อาศัยที่ต้องการช่วงเวลาพักผ่อนที่ดีที่สุดอยู่ในบ้านของตัวเองโดยโครงการที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นรูปแบบใหม่ ได้พื้นที่ใช้สอยถึง 152 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท       Club House กลางโครงการถูกสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบ Glasshouse Resort ให้เหมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทระดับ  2 ชั้นกลางธรรมชาติ มีทั้ง Greenery Space สวนสีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เปรียบเสมือนปอดกลางโครงการ มองออกไปแล้วสบายตาเกิดความรู้สึกสงบอย่างแท้จริง สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อม Sunken นั่งเล่นมุมสระว่ายน้ำ ภายในอาคาร Club House ชั้นแรกถูกจัดพื้นที่ให้เป็น Co-Working Space ส่วนชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน          ลืมภาพเก่าๆ ของทาวน์โฮมแบบเดิมๆ ไปได้เลยค่ะ เพราะความพิเศษของดีไซน์ทาวน์โฮมใหม่ชื่อว่า Terraria ที่ให้พื้นที่ใช้สอยภายในมากพอๆ กับบ้านเดี่ยว แต่ราคาทาวน์โฮม เน้นจุดเด่นที่ Flexible Space ปล่อยพื้นที่ให้ได้ครีเอทกันอย่างเต็มที่ เพื่อตอบไลฟ์สไตล์แบบที่เป็นตัวเอง อีกทั้งย่อสวนสีเขียวให้เป็น Pocket Garden แล้วยกขึ้นมาไว้ที่ชั้น 2 และ 3 ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ท่ามกลางบรรยากาศความเป็นส่วนตัว จนสัมผัสได้ถึงความสงบที่แท้จริงในบ้านของตัวเอง     เดินชมโครงการ     เราจะพาเดินชมโครงการบ้านกลางเมือง วัชรพล กันตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า-ออกเลยค่ะ ซึ่งที่ประตูหลักนี้ จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอด 24 ชม. โดยบุคคลภายนอกจะต้องแลกบัตรเข้าไปค่ะ   ส่วนลูกบ้านจะใช้ระบบ Easy Pass ในการเข้า-ออก พร้อมกับมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ที่ประตูด้วย   กลางโครงการจะพบกับ Club House โดยจะมีทั้งส่วนที่เป็น Outdoor และภายในอาคาร 2 ชั้น     ส่วนแรกของ Facility จะเป็นลานสนามหญ้าโล่งๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่สลับกับพุ่มไม้เตี้ย สำหรับทำกิจกรรมได้หลากหลาย   ด้านข้างสนามหญ้าจะมีหลุมสำหรับนั่งพักผ่อนช่วงแดดร่มลมตกได้   อาคาร Club House ถูกดีไซน์ในลักษณะ Glass House 2 ชั้น ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือ และมีสระเด็กแยกอยู่ริมสระ    มุมด้านข้างสระว่ายน้ำมี Sunken สำหรับนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศของ Club House        ทางเดินขึ้นไปชมภายในอาคาร Club House ใช้วัสดุหินอ่อนปูผนังเพิ่มความสวยงามดูดี สลับกับใช้ Copper ตกแต่งสร้างสีสันเพิ่มเติม    ภายในชั้น 1 จัดให้เป็น Co-Working Space นั่งสบายๆ กับเซตโซฟาที่ล้อมรอบไปด้วยกระจก High Ceiling รับแสงสว่างเข้ามาได้มาก โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟก็สว่างเพียงพอเช่นกันค่ะ    ด้านหลังจะเป็นมีส่วนที่เป็นเพดานสูงๆ แบบ Double Space มองขึ้นไปเห็นชั้น 2 ของ Club House    ขึ้นบันไดด้านข้างไปที่ชั้น 2 กันค่ะ   ชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ ปูพื้นด้วยพรม ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ดูโปร่งสบาย    มีการกั้นห้องกระจกด้วยประตูกระจกบานเลื่อนจาก 2 ฝั่งมาเข้ามุมกันพอดี   ภายในห้องกระจกนี้ถูกจัดไว้สำหรับเป็นพื้นที่เล่นโยคะ ขนาดประมาณ 2 คนเล่นค่ะ   วิวจากชั้น 2 ของ Club House ค่ะ เป็นโครงการที่ดูร่มรื่นด้วยสีเขียวจากต้นไม้ เข้ากับตัวทาวน์โฮมที่มีโทนสีเทาธรรมชาติกับสี Copper ซึ่งดูทันสมัย แต่ยังคงความสอดคล้องกับธรรมชาติรอบๆ โครงการ    ชมบ้านตัวอย่าง   ต่อมาเราจะเข้าไปชมทาวน์โฮมตัวอย่างกันบ้างค่ะ ซึ่งจะเป็นแบบ Terraria ดีไซน์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นในโครงการบ้านกลางเมืองอื่นๆ ก่อนหน้านี้   เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าบ้านเลยค่ะ หากไม่มีการวางเก้าอี้นั่งเล่นแบบบ้านตัวอย่างนี้จะสามารถจอดรถได้ประมาณ 2 คัน   ทุกยูนิตจะมีการติดตั้งผ้าใบกันสาดสีน้ำตาล แบบนี้มาให้ด้วยค่ะ ซึ่งตัวผ้าใบนี้สามารถพับเก็บได้   ประตูบ้านใช้กระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat ส่วนด้านข้างจะมีประตูอลูมิเนียมบานสวิง    หลังประตูจะเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของค่ะ ซึ่งชั้นวางภายในสำหรับทาวน์โฮมจริงจะไม่มีมาให้นะคะ   ประตูจะใช้ลูกกุญแจล็อคปรกติค่ะ     ประตูด้านในจะมีตัวล็อคแบบก้นหอยให้เป็น Double Lock เพิ่มความปลอดภัยค่ะ    ภายในชั้น 1 ค่ะ Floor To Ceiling 2.8 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนผนังจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว ใช้ไฟ Downlight โดยโซนแรกจะถูกจัดให้เป็น Living Room    มีพื้นที่กว้างๆ สำหรับวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ค่ะ   ขวามือถัดจากประตูบ้านจะเป็นบันไดค่ะ และมีส่วนที่เป็นผนังตรงข้ามโซฟา สำหรับ Built In เคาน์เตอร์วางทีวี   ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ส่วนด้านขวาเป็นครัวเปิดที่จัดเอาไว้เป็นสัดส่วนจนเกือบจะเป็นห้องครัวปิดเลยทีเดียวค่ะ   ภายในห้องครัวเราจะสามารถ Built in เคาน์เตอร์ครัวได้เองตามการใช้งาน โดยจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายกลิ่นกับความชื้นให้ออกไปทางหลังบ้านได้ค่ะ   พื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ซึ่งหากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุม จะได้ประตูกระจกออกไปบริเวณข้างบ้านเพิ่มเติม แบบที่เห็นด้านหน้านี้ ส่วนด้านขวาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปทางหลังบ้านได้เช่นกันค่ะ   ถัดจากเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องน้ำของชั้นแรกค่ะ   ภายในห้องน้ำของชั้น 1 จะไม่มีส่วนเปียกค่ะ เพราะจะใช้เป็นห้องน้ำสำหรับรับแขก โดยพื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มาพร้อมกับโถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ ทั้งหมดจากแบรนด์ American Standard ค่ะ   อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง พร้อมติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้แบบนี้เลยค่ะ   ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยบันไดคอนกรีตพร้อมราวจับด้านข้าง Top ด้วยไม้ เดินแล้วไม่เกิดเสียงดังเลยค่ะ   ก่อนจะถึงชั้น 2 เราจะพบกับ Extra Space ชานพักบันไดที่มีพื้นที่กว้างกว่าปรกติ พร้อมกับติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ทางเดินบันได ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เราจะสามารถจัดเป็น Bay Window เพิ่มพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนได้อีก อย่างถ้ามีแขกผู้ใหญ่มาที่บ้านเราก็สามารถพาเด็กๆ ขึ้นมานั่งเล่นข้างบนนี้ก่อนก็ได้ค่ะ หรือใครที่มีของเยอะๆ ก็สามารถจัดหาตู้มาวางไว้สำหรับเก็บของได้เพิ่มก็ได้นะคะ   ชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนต Floor To Ceiling 2.6 เมตร ซึ่งจะมีโซน Flexible Space ห้ได้ครีเอทได้ตามสไตล์ของตัวเอง แต่สำหรับทาวน์โฮมจริงจะถูกกั้นเป็นห้องค่ะ    ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนระบบ Double Lock ซึ่งจะเป็นวิวฝั่งหลังบ้านค่ะ    ตรงข้ามกันทางฝั่งหน้าบ้าน จะเป็นห้องนอนแรกค่ะ แม้ว่าที่ห้องตัวอย่างจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้ โดยเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียง แต่ด้วยพื้นที่จริงก็กว้างพอที่จะวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ   ด้านข้างเตียงฝั่งเดียวกันกับประตูห้อง ก็สามารถ Built In ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ทางหัวเตียงได้   ข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 3 บาน ส่วนปลายเตียงจะมีพื้นที่ Pocket Garden ซึ่งเป็นจุดขายที่ทาวน์โฮมไม่มี   Pocket Garden จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสวิง ขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat โดยจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค    จะมีส่วนที่จัดเอาไว้ให้สำหรับใครที่ชอบปลูกต้นไม้ ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศตรงนี้ให้เหมือนยกสวนสีเขียวขึ้นมาไว้ในห้องนอนของตัวเอง ที่สามารถนอนมองออกมาแล้ว มองเห็นสีเขียวของต้นไม้อยู่ใกล้แค่เอื้อม ให้ความรู้สึกสงบเหมาะแก่การพักผ่อนยิ่งขึ้น   มีการต่อก๊อกน้ำเอาไว้ให้ใช้ประโยชน์ได้ด้วยนะคะ อย่างถ้าจะต่อสายยางสำหรับรดน้ำต้นไม้ส่วนนี้ก็ทำได้ง่ายเลย   ถ้าหันหลังให้ต้นไม้ ก็จะพบกับหน้าต่างกระจกบานเลื่อนทรงสูงค่ะ ซึ่งภายในเป็นห้องน้ำของชั้น 2   ห้องน้ำของชั้น 2 ที่เรามองเห็นผ่านทางหน้าต่างเมื่อสักครู่ค่ะ โดยทางซ้ายมือของภาพจะเป็นห้องนอนที่เราพาเข้าไปชมมาแล้ว ส่วนทางซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็น Flexible Space    ภายในห้องน้ำจะมีลักษณะลึกเข้าไป ซึ่งส่วนเปียกด้านในสุดจะสามารถมองออกไปเห็น Pocket Garden เปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องน้ำให้สดชื่นขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ภายในห้องจะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ โดยสุขภัณฑ์ทุกอย่างจะได้มาครบเซตตามนี้เลยค่ะ   สิ่งที่จะได้มาด้วย คือ โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง และกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ โดยจะมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่วางของได้ยาวตลอดแนวตั้งแต่หลังโถสุขภัณฑ์ไปจนถึงอ่างล้างหน้า   ขึ้นไปชมชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ โดยที่ชั้น 3 นี้จะมีเพียง 1 ห้องใหญ่ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็น Master Bedroom ค่ะ    เปิดห้อง Master Bedroom กันเลยค่ะ โดยเริ่มจากทางฝั่งซ้ายมือของประตูกันก่อน    พื้นที่ห้องกว้างๆ แบบนี้ตรงกลางห้องเราสามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ เลยค่ะ    ข้างเตียงจะมีทั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง และประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน ทำให้แสงสว่างจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มๆ ห้องจึงดูสว่างปลอดโปร่ง ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนค่ะ เพราะใช้กระจกเขียวตัดแสงช่วยลดแสงและความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในห้องมากจนเกินไป   ระเบียงพักผ่อนจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกใช้เหล็กโปร่งสีดำ พร้อมไฟส่องสว่างที่ระเบียงค่ะ   กลับเข้ามาในห้องเราจะเห็นอีกมุมหนึ่งของห้องค่ะ ซึ่งปลายเตียงเราสามารถ Built In ทั้งเคาน์เตอร์วางทีวีพร้อมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้   พื้นที่ก่อนห้องน้ำในตัวตรงนี้เราสามารถทำเป็น Walk In Closet ตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ ก็สามารถลดขนาดโต๊ะทำงานแบบตัวอย่างทางซ้ายมือ แล้วเพิ่มตู้เสื้อผ้าเข้าไปอีกก็ทำได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนค่ะ     ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom นี้จะแบ่งส่วนเปียกเอาไว้ด้านในทางซ้ายมือ และส่วนแห้งทางขวามือค่ะ    ผนังส่วนเปียกจะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคพร้อมเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ตามนี้เลยค่ะ ส่วนอ่างล้างหน้าจะได้ตู้สำหรับเก็บของด้านใต้ และกระจกเงามาด้วย   หันหลังให้อ่างล้างหน้าจะพบกับส่วนแห้งค่ะ โดยจะได้โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ พร้อมพื้นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ตามนี้เลยค่ะ   สำหรับ Pocket Garden ไม่ได้มีมาให้แค่ที่เดียวเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีมาให้สร้างบรรยากาศภายในห้องน้ำทางฝั่งหลังบ้านด้วย โดยสามารถเปิดบานกระทุ้งออกไปจัดสวนเล็กๆ ได้จากฝั่งส่วนเปียกด้านซ้ายมือค่ะ   ทาวน์โฮมจริง   หลังจากชมไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างมาแล้ว ก็ถึงเวลามาดูกันที่ทาวน์โฮมจริงที่ลูกบ้านจะได้กันบ้างค่ะ   หน้าบ้านติดผ้าใบกันสาดแบบพับได้มาให้ด้วยค่ะ เวลากางออกมาใช้จะดูสวยงามคุมโทนเป็น Pattern เดียวกัน   พื้นที่สำหรับจอดรถได้ประมาณ 2 คันค่ะ โดยทาวน์โฮมจริงจะมีการติดตั้งปลั๊กไฟ และก๊อกน้ำมาให้ตรงนี้ด้วย ประตูบ้านจะใช้กระจกบานเลื่อน 2 บาน ซึ่งจะใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมพ่น Powder Coat ส่วนข้างประตูจะเป็นประตูอลูมิเนียมบานสวิง   เปิดออกมาจะเป็นตู้เก็บของค่ะ ซึ่งเราสามารถจัดชั้นวางของไว้ภายในเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ   ภายในชั้น 1 จะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ Floor To Ceiling 2.8 เมตร ใช้ไฟ Downlight โดยพื้นที่กว้างๆ โซน Common Area แบบนี้เราสามารถแบ่งเป็น Living Room และลึกเข้าเป็นห้องครัว และห้องทานข้าวได้ค่ะ    จากทางซ้ายมือของบ้านไล่มาตั้งแต่ประตูทางเข้า-ออกก็จะเป็นบันได ห้องเก็บของใต้บันได ห้องน้ำ และห้องครัวค่ะ   ภายในห้องเก็บของใต้บันไดมีพื้นที่พอสมควรค่ะ จะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ หรือเป็นห้องเก็บรองเท้าก็ดีนะคะ   ถัดมาเป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้งค่ะ โดยปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค หลังโถสุขภัณฑ์จะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ   ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่สำหรับวางของออกมาเล็กน้อยค่ะ   ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องครัวค่ะ ซึ่งหากใครที่ชอบทำครัวบ่อยๆ แล้วอยากได้ห้องครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นก็สามารถติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนได้นะคะ จะทำให้ยิ่งดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น   ภายในห้องครัวมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งสำหรับระบายกลิ่น และความชื้นค่ะ   ด้านล่างกระจกมีการต่อท่อน้ำมาให้เรียบร้อย ซึ่งจุดนี้เหมาะสำหรับติดตั้งซิงค์ล้างจานค่ะ   ตู้ไฟของบ้านจะอยู่ที่ส่วนครัวค่ะ   ประตูกระจกบานเลื่อนทางหลังบ้านค่ะ ใช้กระจกเขียวตัดแสงป้องกันความร้อนจากภายนอก   หลังบ้านมีพื้นที่สำหรับเป็นลานซักล้างค่ะ โดยมีทั้งปลั๊กไฟและท่อน้ำติดตั้งมาให้เช่นกัน   จากหลังบ้านเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน จะเห็นว่า Condensing Unit ทุกตัวสามารถแขวนบนผนังหันหน้าออกนอกตัวบ้านได้ค่ะ     กลับเข้ามาชมภายในบ้านกันต่อค่ะ โดยจะขึ้นไปที่ชั้น 2   Extra Space ของชานพักบันได ขยายพื้นที่ให้สร้างสรรค์ได้หลากหลายตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย   มีหน้าต่างบานกระทุ้ง เพิ่มแสงสว่างทางเดินบันได ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยตามไปด้วยค่ะ   สำหรับชั้น 2 นี้จะปูพื้นด้วยลามิเนต Floor To Ceiling 2.6 เมตร โดยจะมีทั้งหมด 3 ห้อง คือ ห้องนอนทางขวากับทางซ้ายมือ และตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ    เข้ามาดูที่ห้องน้ำกันก่อนค่ะ เป็นห้องน้ำลักษณะลึกยาวเข้าไปจนถึง Pocket Garden ฝั่งหน้าบ้าน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงา ก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพิ่มพื้นที่วางของใช้   โถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ อยู่ตรงกลางห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้งค่ะ   ผนังตรงฝักบัวจะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค พร้อมเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ค่ะ   ด้านข้างส่วนเปียกจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน มองออกไปเห็น Pocket Garden ซึ่งถ้าเราเลือกปลูกต้นไม้สูงๆ เป็นพุ่มใหญ่ๆ ก็สามารถอาบน้ำไปได้บรรยากาศสีเขียวของต้นไม้ไปด้วยค่ะ แต่ถ้าต้นไม้ไม่สูงมากนักก็ติดตั้งมู่ลี่บังสายตาจากด้านนอกแทนก็ได้ค่ะ   ไปดูกันที่ห้องนอนแรกทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ   ห้องนอนแรกจะมีหน้างต่างบานเลื่อนยาวตลอดผนังค่ะ   ปรกติห้องนอนจะมีระเบียงพักผ่อนใช่ไหมคะ แต่สำหรับบ้านแบบ Terraria นั่นจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้กลายเป็น Pocket Garden   ถ้าจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอน Pocket Garden ก็จะอยู่ทางปลายเตียงค่ะ ทำให้นอนมองสวนย่อมส่วนตัวได้สบายๆ   Pocket Garden กั้นส่วนสำหรับปลูกต้นไม้เอาไว้ด้านหน้า หรือจะปลูกต้นไม้ในกระถางเล็กๆ เพิ่มเติ่มออกมาในพื้นที่ตรงกลางก็ได้นะคะ   พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกันกับระเบียงค่ะ มีการติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับใช้ประโยชน์ได้   นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศความสดชื่นมาไว้ใกล้ตัวได้มากกว่าเป็นระเบียงธรรมดาแล้ว ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างได้ทั้งภายในห้องนอน และห้องน้ำได้ด้วยนะคะ   ห้องสุดท้ายของชั้น 2 ค่ะ จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน   ห้องนี้สามารถจัดให้เป็นห้องนอนที่ 2 หรือจะดัดแปลงให้เป็นห้องทำงาน หรือห้อง Theater ก็ตามแต่ไลฟ์สไตล์แบบฉบับ Flexible Space   สุดท้ายขึ้นไปที่ชั้น 3 ค่ะ   ยังคงมีการเจาะช่องหน้าต่างสำหรับแสงส่องสว่างตรงบันได   ที่ชั้น 3 จะมีเพียงห้องเดียวเลยค่ะ ซึ่งเป็น Master Bedroom    เข้ามาในห้องจะเจอกับ Space กว้างๆ โดยมีหน้าต่างกระจกตลอดแนวผนังทางด้านหน้าบ้าน   ประตูกระจกบานเลื่อน 4 บาน กั้นระหว่าง Master Bedroom กับระเบียงหน้าบ้านเอาไว้   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ   นอกจากประตูกระจกแล้ว ยังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนด้านข้างด้วยค่ะ   ภาพรวมของ Master Bedroom ค่ะ ซึ่งข้อดีของห้องโล่งๆ แบบนี้คือการดีไซน์ห้องของเราเองได้ตามการใช้งานให้ลงตัวสำหรับเราเองได้ จะวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว หรือ Built In มุมไหนก็จะออกมาได้เป็นตัวเราเองมากที่สุด    ซ้ายมือเป็นประตูห้อง ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำในตัว ซึ่งถ้า Built In ตรงนี้ให้เป็น Walk In Closet ก็จะได้มุมเหมาะๆ พอดีเลยค่ะ    ภายในห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ โดยจะเริ่มจากส่วนแห้งก่อนส่วนเปียกด้านใน   ด้านซ้ายตรงส่วนเปียกจะตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องโมเสค พร้อมเจาะช่องวางของตรงผนัง   อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมาพร้อมกับตู้วางของด้านล่าง ซึ่งจะได้มาเฉพาะห้องน้ำใน Master Bedroom ค่ะ    หลังอ่างล้างหน้ามีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้วางของได้ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่   ถ้าใครอยากจะป้องกันน้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้งก็สามารถติดตั้งฉากกระจกกั้นเพิ่มเติมได้นะคะ   ตรงส่วนเปียกมีกระจกบานกระทุ้งขอบอลูมิเนียมที่สามารถเปิดออกได้   มีพื้นที่สามารถจัดเป็น Pocket Garden แบบเดียวกับทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ   ส่วนโถสุขภัณฑ์จะถูกแยกออกอย่างเป็นสัดส่วน เหมือนมีมุมส่วนตัวข้างหน้าต่างบานใหญ่ค่ะ   เป็นห้องน้ำที่มีแสงสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามามากกว่าห้องน้ำในโครงการอื่นๆ เยอะเลยค่ะ เพราะได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่มากมาถึง 2 บาน แถมยังสามารถสร้างเป็น Pocket Garden ได้อีก     จาก Consumer Needs อันคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริงเป็นหลัก เกิดเป็นบ้านที่ดีได้ เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างรอบด้านทั้งทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ไปจนถึงภายในโครงการเอง ความสงบเป็นส่วนตัวซึ่งสัมผัสได้จากความงดงามของธรรมชาติที่อยู่เพียงเอื้อมมือ จนเกิดเป็นสังคมคุณภาพ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างไม่สิ้นสุดในบ้านของเราเอง    
JW Urban Home Office-เจ ดับบลิว เออร์เบิน โฮมออฟฟิศ : รีวิวทาวน์โฮม

JW Urban Home Office-เจ ดับบลิว เออร์เบิน โฮมออฟฟิศ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : JW Urban Home Office (เจ ดับบลิว เออร์เบิน โฮมออฟฟิศ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เจ ดับบลิว เรียลเอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนสรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. พื้นที่โครงการ : 6-3-33 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนยูนิต : 61 ยูนิต ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 277 ตร.ม. 3 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, พื้นที่สำนักงาน, ลิฟต์โดยสาร, ที่จอดรถ 1-2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 9,900,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วนปี 2561 จุดเด่นโครงการ : โฮมออฟฟิศระดับพรีเมี่ยม บนถนนสรงประภา-ดอนเมือง ที่สุดแห่งการออกแบบ ด้านความสวยงามและสะดวกสบาย ที่จะทำให้ชีวิตของคุณลงตัว พร้อมเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยรูปแบบสไตล์โมเดิร์นสูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พร้อมลิฟท์แก้วส่วนตัวทุกยูนิต ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพียง 61 ยูนิต ผสานกันอย่างลงตัวทั้งธุรกิจและชีวิตส่วนตัว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีดอนเมือง , สนามบินดอนเมือง , ถนนสรงประภา , ถนนวิภาวดี-รังสิต , ดอนเมืองโทลล์เวย์ , ทางด่วนศรีสมาน สถานที่ใกล้เคียง : ไอทีสแควร์ , โรบินสัน ศรีสมาน , สำนักงานเขตดอนเมือง , ตลาดสี่มุมเมือง , ตลาดฝั่งโขง , ตลาดใหม่ , วัดสีกัน , วัดดอนเมือง , เทคนิคดอนเมือง
The Connect Ramintra-Minburi 2-เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2 : รีวิวทาวน์โฮม

The Connect Ramintra-Minburi 2-เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Connect Ramintra-Minburi 2 (เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2) เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนสามวา (สุวินทวงศ์) แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี  กทม. พื้นที่โครงการ : 18-0-02.0 ไร่ ลักษณะโครงการ :  ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 201 ยูนิต   ขนาดบ้าน : - แบบบ้าน HL 1  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ - แบบบ้าน HL 2  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,250,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 38 บาท/ตร.วา / เดือน จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมแบบใหม่ หน้ากว้าง 5.7 เมตร พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับคุณด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยบนทำเล รามอินทรา-มีนบุรี ทำเลที่เชื่อมต่อเมือง ความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความเป็นคุณได้อย่างลงตัวที่สุด ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส มีนบุรี , บิ๊กซี สุวินทวงศ์ , เมก้า โฮม มีนบุรี , ร.ร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ , ตลาดมาร์เก็ต พาเหรด มีนบุรี  
COTE MAISON RAMA 3 – โคเต้ เมซอง พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

COTE MAISON RAMA 3 – โคเต้ เมซอง พระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : COTE MAISON RAMA 3 (โคเต้ เมซอง พระราม 3 ) เจ้าของโครงการ : บริษัท ซิตี้ รีสอร์ท ลิฟวิ่งโฮม จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนน นนทรีฝั่งใต้ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. พื้นที่โครงการ : 8-1-6.2 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 4 ชั้น จำนวนยูนิต : 79 ยูนิต ขนาดบ้าน : - พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 230-290 ตร.ม.  เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 19.4 ตร.วา. ขึ้นไป ขนาด  3 ห้องนอน  4-5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 13,800,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 150 บาท/ตร.วา /เดือน ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วนปี 2561 จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮมออกแบบ สถาปัตยกรรมร่วมสมัยแบบ Post Modern Contemporary มีความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวบนทำเลถนนพระราม 3 ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BRT วัดด่าน , BRT นราราม 3 , ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม , ถนนพระราม 3 , ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สถานที่ใกล้เคียง : Monopoly Park , Triple i Tower , MS SIAM Tower , Supalai Grand Tower , สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงศรี , INT Intersect  
Q.District Suksawat-Wongwaen Rama 3 – คิว ดิสทริค สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

Q.District Suksawat-Wongwaen Rama 3 – คิว ดิสทริค สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Q.District Suksawat-Wongwaen Rama 3 (คิว ดิสทริค สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 ) เจ้าของโครงการ : บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขสวัสดิ์ 76 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พื้นที่โครงการ : 66-1-48.5 ไร่ ลักษณะโครงการ : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น , บ้านแฝด 2 ชั้น , ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 495 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - แบบ Maple พื้นที่ขนาด 18 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 106 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบ Hemlock พื้นที่ขนาด 21 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - แบบ Cedar พื้นที่ขนาด 35 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ - Timber พื้นที่ขนาด 50 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 148 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สนามเด็กเล่น - สวนสาธารณะ - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,450,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 33 บาท/ตร.วา / เดือน ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน ก.ค. 2563 จุดเด่นโครงการ : คิว ดิสทริค สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 เป็นทาวน์โฮม, บ้านแฝด และ บ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Chic จาก ควอลิตี้ เฮ้าส์ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ทางด่วนเฉลิมมหานคร ,  ถนนกาญจนาภิเษก , ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม , รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีครุใน สถานที่ใกล้เคียง : Lotus Express ตลาดลานทราย , ตลาดลานทราย , Mini Big C ตลาดลานทราย , รพ.บางจาก , สำนักงานเขตทุ่งครุ  
Baan Klang Muang THE ERA Pinklao-Charan – บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ : รีวิวทาวน์โฮม

Baan Klang Muang THE ERA Pinklao-Charan – บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Baan Klang Muang THE ERA Pinklao-Charan (บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ ) เจ้าของโครงการ : บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พื้นที่โครงการ : 13-2-18.2 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวนยูนิต : 119 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 3 ชั้น  พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ ที่จอดรถทั้งหมด 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - สวนสาธารณะ - สนามเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,690,000 บาท จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น ภายใต้แนวคิด ‘Terraria is kind of nature’ เชื่อมพื้นที่ส่วนกลาง สู่พื้นที่ส่วนตัว ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมพื้นที่ที่หลากหลาย ติดถนนใหญ่ ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน และรถไฟฟ้าถึง 3 สาย เริ่ม 5.69 ล้าน* ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางบำหรุ , สถานีบางกรวย-กฟผ. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัดสถานที่ใกล้เคียง : โรงเรียนเซนต์คาเบรียล , โรงเรียนศึกษาบัณฑิต , โรงเรียนบดินทรเดชานนทบุรี , โรงเรียนโยธินบูรณะ , โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ , โรงเรียนทิวไผ่งาม , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ , เมเจอร์ปิ่นเกล้า ,เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า , ตลาดวัดบางพลัด , ตลาดศรีย่าน , ตลาดเตาปูน , รพ.ยันฮี , รพ. เจ้าพระยา , รพ.ตา หู คอ จมูก  
SIRI PLACE Rangsit – สิริ เพลส รังสิต : รีวิวทาวน์โฮม

SIRI PLACE Rangsit – สิริ เพลส รังสิต : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : SIRI PLACE Rangsit (สิริ เพลส รังสิต ) เจ้าของโครงการ : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ : 38-1-87 ไร่ ลักษณะโครงการ :  ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนยูนิต : 413 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 2 ชั้น แบบ 1 จอดรถ หน้ากว้าง 5.2 ม. พื้นที่ใช้สอย 93 ตร.ม. ลงแปลงที่ดินเริ่มต้น 16 ตร.ว. ขนาด : 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ - ทาวน์โฮม 2 ชั้น แบบ 2 จอดรถ หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ลงแปลงที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. ขนาด : 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - คลับเฮ้าส์ - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,170,000 บาท ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมอยู่บางส่วนปี 2561 จุดเด่นโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น “ SIMPLY SOPHISTICATE ” แนวคิดการออกแบบโครงการเน้นที่ความเรียบง่าย แต่เป็นความเรียบง่ายที่เกิดจากการออกแบบที่สอดแทรก function การใช้งานที่ใช้ได้จริง เป็นดีไซน์ที่ไม่ล้าหลังสามารถอยู่ได้กับทุกยุคสมัย ให้คุณปรับเปลี่ยน และออกแบบพื้นที่ได้ตรงตามความชอบ ตอบความเป็นตัวคุณ ที่เป็นไปได้ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนรังสิต-ปทุมธานี , ถนนพหลโยธิน , ทางด่วนบางพูน , รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต สถานที่ใกล้เคียง : เทสโก้ โลตัส ซุปเปอร์สโตร์ , รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส , รพ.ปทุมเวช , ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต
บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เราอยากให้ทุกคนลองนึกถึงภาพครอบครัวเล็กๆ ของเรากันก่อนค่ะ เพราะเมื่อเราคิดถึงครอบครัวอันอบอุ่นแล้ว ภาพที่ตามมาก็ย่อมจะต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองสักหลังที่มีขนาดกำลังพอเหมาะพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่รอบตัว ซึ่งคำตอบของภาพที่เราเห็นนี้ก็เป็นทาวน์โฮมนี่แหละค่ะที่มีความลงตัวทั้งพื้นที่ ราคา รวมถึงทำเลที่เราจะพาไปชมกันกับหนึ่งในโครงการคุณภาพ “บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5”       ทำเล   ถ้าพูดถึง จ.นนทบุรี บางคนอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก แม้ว่าจะมีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ อย่างแยกกันแทบไม่ออก แต่ทราบไหมคะว่า ย่านนี้เป็นอีกแหล่งของอร่อยขึ้นชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารข้างทางเจ้าเก่าสูตรดั้งเดิม ร้านคาเฟ่สวยๆ ไปจนถึงร้านอาหารบรรยากาศดีหลายแห่ง โดยเฉพาะท่าน้ำนนท์, ถนนนครอินทร์, ถนนราชพฤกษ์ ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสำนักงานทางราชการ รัฐวิสาหกิจหลายแห่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายไม่ต่างจาก จ.กรุงเทพฯ มากเท่าไรนัก ย่านนี้จึงเป็นอีกทำเลที่เรามักจะได้เห็นโครงการแนวราบมาจับจองพื้นที่พัฒนาโครงการดีๆ ให้เห็นกันอยู่พอสมควร ซึ่งตัวโครงการบ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 นี้อยู่ใกล้กับสะพานพระราม 5 หากใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัช ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 15 นาทีก็จะถึงรัชดาภิเษก สามารถต่อไปยังสาทรได้ หากใช้รถสาธารณะก็สามารถเดินทางโดยข้ามสะพานพระราม 5 ไปแล้วผ่านสี่แยกติวานนท์ก็จะพบกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข และสามารถเลือกโดยสารทางเรือที่ท่าเรือบางศรีเมือง แล้วข้ามฝากไปท่าน้ำนนท์เพื่อต่อเรือด่วนเจ้าพระยาได้อย่างสะดวกสบาย     จุดเด่นของโครงการนี้อย่างหนึ่งคือ ตั้งอยู่ในซอยที่สามารถทะลุไปสู่ถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นจากถนนนครอินทร์ ถนนบางศรีเมือง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย และถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์ได้ แต่ทางเข้าหลักที่เราแนะนำ คือ หากข้ามสะพานพระราม 5 ฝั่งขาออกมาแล้วตามถนนนครอินทร์ ให้กลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางสีทอง ขับต่อไปประมาณ 500 เมตร ให้เข้าทางคู่ขนาน เมื่อผ่านหน้า Makro นนทบุรี ให้เลี้ยวซ้ายตามแนวรั้วของ Makro ตรงเข้าไปประมาณ 700 เมตร เข้าสู่ซอยบางไผ่ 21 ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ     ภาพรวมโครงการ   บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ตัวทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์ URBANIST เหมาะกับการใช้ชีวิตในแบบคนยุคปัจจุบันที่ต้องการทั้งความเป็นส่วนตัวไปพร้อมกับพื้นที่ Common Area เพื่อใช้ช่วงเวลาพักผ่อนกับครอบครัวไปด้วย โครงการมีทั้งหมด 271 ยูนิต บนพื้นที่ 22–2–10.73 ไร่ มาในคอนเซป “LIFE IN FULL BLOOM” ใช้ชีวิตบนความสมบูรณ์แบบ โอบล้อมด้วยบรรยากาศความร่มรื่นและความงดงามจากธรรมชาติ   เปิดห้องตัวอย่าง   วันนี้เราพามาเยี่ยมชมกันถึงตัวโครงการจริงเลยค่ะ ถ้าไม่คุ้นเคยเส้นทางก็แนะนำให้หาจาก Google Maps ว่าบางไผ่ซอย 21 ก็เดินทางมาได้ไม่ยากค่ะ ปัจจุบันทาวน์โฮมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้วนะคะ ลูกบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนที่ย้ายมาจากคอนโดมิเนียมกลางเมือง เพราะต้องการขยับขยายพื้นที่มากขึ้นแล้วเลือกมาอยู่ทาวน์โฮม เพราะทำเลยังไม่ออกไปไกลตัวเมืองมากแบบบ้านเดี่ยว และยังคงได้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น เกิดเป็นสังคมคุณภาพในโครงการ “บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5” เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าโครงการกันเลยค่ะ Main Gate สีขาวขนาดใหญ่ สังเกตได้ง่าย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV รั้วด้านหน้าเป็นเหล็กโปร่งสีดำ ใช้ระบบเข้า-ออก แบบ EASY CARD คือเมื่อติดตั้งระบบที่รถก็สามารถขับเข้าไปได้เลยค่ะ รั้วจะเลื่อนเองด้วยระบบไฟฟ้า ภายในโครงการถนนหลักกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนตามซอยกว้าง 8 เมตร เมื่อผ่าน Main Gate เข้าไปในตัวโครงการแล้วทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สีเขียวตลอดแนวจนไปถึงส่วนกลางอื่นๆ มีฟุตบาทที่ปูด้วยหญ้าจริงสลับกับทางเดิน โดยจะถูกออกแบบตามเส้นสายของธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลาย เป็นสิ่งที่ทางโครงการตั้งใจให้กับลูกบ้านค่ะ ตรงกลางสวนมีส่วนที่ถูกจัดให้เป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง มีทางเชื่อมต่อไปยัง Club House โดยเราจะสามารถสังเกตเห็นรั้วทึบรอบโครงการทางซ้ายมือของภาพซึ่งจะสูง 3 เมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน Club House 2 ชั้นของโครงการเน้นโทนสีขาวสบายตา ชั้นล่างจัดพื้นที่โปร่งมีลมเข้าอยู่ตลอด ส่วนชั้นบนล้อมรอบด้วยกระจกสูงดูแล้วไม่อึดอัด มองภาพรวมแล้วสวยทีเดียวค่ะ ชั้นล่างของ Club House แห่งนี้จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และระบบน้ำล้น ขนาด 6*15 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีสระเด็กแยกอยู่ข้างๆ กันด้วยนะคะ โดยสระเด็กจะมีความลึก 0.5 เมตร อยู่ใกล้กับเก้าอี้พักผ่อนที่อยู่บริเวณน้ำตื้นริมสระ ตรงนี้ผู้ปกครองสามารถดูแลบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ มีพื้นที่ล้างตัวแยกเป็นฝั่งเด็กกับฝั่งผู้ใหญ่อยู่ใกล้กับห้องน้ำแยกชาย-หญิง ด้านขวามือของภาพค่ะ ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดมีราวจับแบบกระจกนิรภัย ดูกลมกลืนกับการออกแบบโทนสีขาวดีค่ะ ที่ชั้น 2 จะมีฟิตเนสค่ะ เปิดให้ใช้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น. ฟิตเนสจะถูกล้อมรอบไปด้วยกระจกสูงสลับกับหน้าต่างเป็นบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศออกไปได้ ภายในฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกายอยู่พอสมควร มีโฟซาสำหรับนั่งพักผ่อนอยู่ภายในฟิตเนสด้วยค่ะ ภาพมุมสูงจากฟิตเนสค่ะ พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดนี้รวมแล้วประมาณ 1 ไร่ พาดูส่วนกลางกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันบ้างค่ะ โดยทาวน์โฮมจริงจะมีรั้วหน้าบ้านเป็นเหล็กโปร่งสีดำสูง กำแพงด้านข้างกั้นแต่ละหลังเป็นแบบทึบสีเทาสูง 1.5 เมตร แต่สำหรับทาวน์โฮมตัวอย่างนี้จะไม่ได้กั้นมาให้เห็นค่ะ และทาวน์โฮมที่จะได้เป็นบ้านเปล่านะคะ ซึ่งบ้านตัวอย่างนี้จะถูกตกแต่งขึ้นมาเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ ก่อนจะเข้าไปดูในตัวทาวน์โฮมเรามาดูกันที่พื้นที่ด้านข้างกันก่อนค่ะ โดยพื้นที่ด้านข้างแบบนี้จะได้เฉพาะแปลงมุมนะคะ เราสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้จัดสวนได้เพิ่มมากขึ้น พื้นที่ด้านข้างนี้จะเชื่อมกับพื้นที่หลังบ้านค่ะ มีประตูกระจกที่สามารถเดินออกจากทาวน์โฮมมาที่สวนด้านข้างนี้ได้เลย ด้านหน้าทาวน์โฮมทุกหลังทางโครงการจะติดตั้งกันสาดมาให้ด้วยนะคะ ซึ่งเป็นผ้าใบสีน้ำตาล สามารถพับเก็บได้ หน้าบ้านมีเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สำหรับวางชั้นวางรองเท้าและเก็บร่มค่ะ ประตูใช้เป็นกระจกบานเลื่อน ซึ่งทั้งประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจกจะใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมสีดำทั้งหมดค่ะ ประตูด้านหน้าใช้ระบบล็อคแบบลูกกุญแจปกติค่ะ ด้านในมีตัวจับแน่นหนาพอสมควร ระบบล็อคแบบ Double Lock ที่มีทั้งลูกกุญแจกับก้นหอยแบบนี้ค่ะ ซึ่งระบบล็อคแบบก้นหอยนี้จะใช้กับประตูและหน้าต่างบานกระจกทุกบานในบ้านค่ะ เปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะพบกับห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรกค่ะ ภายในใช้ไฟ Downlight ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.6 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60*60 พื้นที่ส่วนแรกของบ้านนี้เราสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ มีพื้นที่เหลือสบายๆ ค่ะ ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวี อยู่ระหว่างบันไดกับห้องน้ำ ต่อจากห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ห้องครัวค่ะ ห้องครัวถูกจัดให้อยู่ด้านในสุด มีพื้นที่สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวแบบ L Shape พร้อมตู้เย็นได้ และมีห้องน้ำอยู่ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น เข้าไปดูที่ห้องน้ำแรกของบ้านกันค่ะ ใช้ประตูบานเลื่อน และด้วยความที่เป็นห้องน้ำสำหรับรับแขกจึงไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ ส่วนพื้นกับผนังบางส่วนปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ห้องน้ำทุกห้องใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ค่ะ ด้านข้างเหนือโถสุขภัณฑ์จะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง สำหรับเพิ่มแสงสว่างและช่วยระบายอากาศค่ะ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมกระจกค่ะ ถัดจากโซฟาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง หากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมแบบนี้จะได้ประตูกระจกบานเลื่อนข้างโต๊ะทานอาหาร เพื่อออกไปยังพื้นที่สวนข้างบ้าน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มแสงสว่าง และรับลมจากภายนอกได้มากขึ้นด้วยค่ะ พื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัวมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ซึ่งจุดนี้เหมาะสำหรับการวางซิงค์ล้างจานตามแบบบ้านตัวอย่างเลยค่ะ เพราะตรงนี้เสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราได้ง่าย หากได้หน้าต่างจะช่วยระบายความอับชื้นที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนออกไปทางหลังบ้านค่ะ หลังบ้านมีบริเวณเหลือสำหรับเป็นลานซักล้างค่ะ หรือจะทำเป็นที่นั่งพักผ่อนรับลมนอกบ้านแบบที่บ้านตัวอย่างนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน ถัดจากประตูหลังบ้านก็จะพบกับพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า จุดนี้ทางโครงการได้ต่อท่อน้ำพร้อมรูปลั๊กไฟเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ กลับเข้ามาเดินชมในตัวบ้านกันต่อค่ะ ขึ้นไปชมชั้น 2 กันค่ะ บันไดอยู่ข้างเคาน์เตอร์ทีวี ถัดจากประตูหน้าบ้านเลยค่ะ บันไดใช้แบบโครงเหล็ก ราวจับเหล็กโปร่งสีขาว ตรงที่พักบันไดมีหน้าต่างทรงสูงเพิ่มแสงสว่างได้ดี เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนต โดยเราจะเริ่มจากห้องทางขวามือกันก่อนค่ะ ห้องนอนแรกของบ้านอยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ ห้องนี้ถูกตกแต่งให้เตียงขนาด 3.5 ฟุต อยู่ชิดกับกำแพง แล้วมีพื้นที่เหลือกลางห้อง แต่เราสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานได้อีกสบายๆ เลยค่ะ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ให้แสงสว่างเข้ามาได้อย่างเพียงพอ อีกด้านหนึ่งของห้องมีช่องที่สามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าได้พอดี ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น 2 ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของชั้นค่ะ ความสูงภายในห้องน้ำ 2.4 เมตร พื้นกับผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง มีปูนก่อออกมาเล็กน้อยเพื่อทำเป็นชั้นวางของ เหนือโถสุขภัณฑ์มีหน้างต่างบานกระทุ้งเพื่อเพิ่มแสงสว่างและระบายอากาศค่ะ แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบธรณีประตูขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำล้นออกไปส่วนพื้นแห้ง ห้องนอนที่ 2 อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องนอนทางด้านหลังบ้านขึ้นมาอีกนิด สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้ววางโต๊ะหัวเตียงของทั้งสองข้างของเตียงได้ ปลายเตียงเหลือพื้นที่สำหรับ Build In ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ข้างเตียงมีระเบียงออกไปทางหน้าบ้าน ระหว่างห้องนอนกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ และ Condensing Unit วางเอาไว้ตรงมุมระเบียงหันออกนอกตัวบ้าน ขึ้นมาดูกันที่ชั้น 3 ค่ะ ชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากท่ี่สุด เพราะมีเพียง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ เริ่มจากทางขวามือจากบันไดค่ะ ตรงนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แล้วแต่จะดีไซน์ออกมาเป็นพื้นที่ใช้สอยอะไรก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บ้านตัวอย่างจะตกแต่งพื้นที่ตรงนี้ให้เป็น Walk-In Closet หรืออาจจะตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นส่วนตัวก็ได้ค่ะ พื้นที่อเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงหลังบ้านค่ะ โดยจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเคย ระเบียงหันออกไปทางหลังบ้านค่ะ มีพื้นที่พอที่จะสามารถวางเก้าอี้พร้อมโต๊ะขนาดเล็กได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำแบบเดียวกันกับระเบียงทางหน้าบ้าน จากพื้นที่อเนกประสงค์เดินต่อตรงโถงทางเดินเพื่อเชื่อมต่อกับห้องน้ำ และ Master Bedroom ขวามือของโถ่งทางเดินเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำของชั้น 3 จะเห็นได้ว่ามีหน้าตาที่คล้ายกันกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ เพียงแค่ช่องระบายอากาศจะอยู่เหนือโซนอาบน้ำ และอ่างล้างหน้าจะมีช่องเก็บของเอาไว้ข้างใต้ด้วย จากภาพนี้จะเห็นได้ชัดขึ้นค่ะว่าห้องน้ำชั้น 3 จะเป็นประตูแบบ Double Access เชื่อมระหว่างโถงทางเดินกับ Master Bedroom สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ค่ะ มีขนาดใหญ่พอๆ กันกับห้องนอนชั้น 2 ภายในห้องสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่ใช้สอยกลางห้อง ปลายเตียงสามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือจะจัดให้เป็น Walk-In Closet ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ระเบียงชั้น 3 มีขนาดเท่ากันกับระเบียงชั้น 2 ค่ะ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ Condensing Unit วางเอาไว้ตรงมุมระเบียงหันออกนอกตัวบ้าน   17-18 พ.ย.นี้! “SPECIAL ONE PRICE!” พบแปลงสวยราคาพิเศษ ราคาปรกติ 3.79* ล้าน พิเศษ 3.59 ล้าน*! ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯ* (จำนวนจำกัด) 2 วันเท่านั้น! พิเศษยิ่งขึ้น #MillionAttack ลุ้นรับทองคำมูลค่าสูงสุด 1,000,000 บาท* พร้อมรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 2 ล้านบาท*   บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม5 ทาวน์โฮมใหญ่ 3 ชั้น พร้อมคลับเฮ้าส์หรู และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วนศรีรัช และรถไฟฟ้า เชื่อมต่อจตุจักร-บางซื่อเพียง 10 นาที* ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท* คลิก ➤ https://goo.gl/cyhKfH      
Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

ทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์โมเดิร์นโดดเด่น ทำเลดีเดินทางง่าย สิ่งเหล่านี้เราจะไม่นึกถึงเนอวานาคงไม่ได้ค่ะ รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมโครงการเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม 9 ทาวน์โฮมสวยๆ ที่อยากจะให้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง บนทำเลที่น่าสนใจบนถนนตัดใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ อย่างถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า ซึ่งในอนาคตหลายคนคาดการณ์กันว่าถนนเส้นนี้จะพัฒนากลายเป็นศูนย์กลางสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งหนึ่งตามแบบถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา       ทำเล ถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า เป็นถนนตัดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้ เพราะเหลือเพียงช่วงที่เป็นทางยกระดับข้ามถนนกาญจนาภิเษกที่ยังเร่งก่อสร้างกันอยู่ โดยถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้าเป็นถนนที่มีความยาวทั้งหมด 12 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างถนนศรีนครินทร์บริเวณแยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมาก ตรงข้ามถนนกาญจนาภิเษกแล้วไปสิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร ซึ่งถนนสายนี้เกิดขึ้นมาด้วยความคาดหวังในการลดความหนาแน่นของการจราจรในย่านนี้ลงได้ด้วยความกว้างของถนนถึง 8-10 เลน และยังเป็นที่คาดการณ์กันด้วยว่าในอนาคตถนนเส้นนี้จะพัฒนาเทียบเท่าถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราในปัจจุบัน   ย่านนี้ใกล้กับทางด่วนสายสำคัญหลายสายทำให้เชื่อมต่อการเดินทางไปได้ทั่วกรุงเทพฯ และยังออกต่างจังหวัดได้อย่างง่ายดาย โดยหากเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 ก็สามารถเดินทางได้ง่ายที่สุดด้วยถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกแล้วกลับรถลงมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าก็สามารถขึ้นทางด่วนศรีรัชได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้นก็จะถึง New CBD อย่างพระราม 9 อีกทั้งยังใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึงสนามบินสุวรรณภูมิ      ช่วงแยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมาก ในอนาคตกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ผ่านตรงบริเวณสี่แยกพอดี ซึ่งสายสีเหลืองนี้มีความสำคัญต่อโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ เพราะจากต้นสายที่เป็น Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว ตรงยาวบนถนนลาดพร้าว ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ เลี้ยวขวาเข้าสี่แยกลำสาลี ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นจุด Interchange กับสายสีส้ม สถานีลำสาลี แล้วตรงเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ผ่านอีกจุด Interchange กับแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีหัวหมาก จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกศรีเทพา ปลายสายเป็น Interchange กับ BTS สายสีเขียว สถานีสำโรงในปัจจุบัน โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ได้เริ่มการก่อสร้างได้ระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2563            นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ไม่ไกล โดยส่วนใหญ่จะอยู่แนวถนนศรีนครินทร์ และถนนรามคำแหง เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, ราชมังคลากีฬาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง, เดอะพาสิโอ้ทาวน์ รามคำแหง, ซีคอนสแควร์, ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, พาราไดซ์พาร์ค หรือจะใช้ถนนกาญจนาภิเษกตรงสู่เมกาบางนาก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที       ภาพรวมโครงการ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีแบบให้เลือกทั้งหมด 4 Type พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 190-350 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.5 เมตร เท่ากันทุกยูนิต มี Facility จัดโซนไว้ให้ทั้งสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก โซนบาร์บีคิว คลับเฮ้าส์สำหรับพักผ่อน ครบครันด้วยสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศความร่มรื่นจากสวนสีเขียวกลางโครงการ โดยทั้งโครงการจะแบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน แต่ความร้อนแรงของโครงการนี้ ทำให้ Sold Out ตั้งแต่วันเปิด Exclusive Sales ในส่วนของเฟสแรก สิ่งนี้เป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพของเนอวานาที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี   ดีไซน์สไตล์โมเดิร์นอันเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างด้วยฟังก์ชั่น Double volume space เชื่อมพื้นที่ให้ความโปร่งสบาย จัดโซน Common Area อย่างเป็นสัดส่วน ห้องนอนกว้างขวางมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง เพิ่มช่องเปิดรับแสงแดดและลมธรรมชาติให้มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ภายนอกดีไซน์สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริงได้ดีที่สุดตามแบบฉบับเนอวานา             Unit Plan Type A พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 31.3 – 63 ตารางวา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน Type B  พื้นที่ใช้สอย 258 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 30-34 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน Type C  พื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 21.1-43.7 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Type D   พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 20.8-23.7 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ   เดินชมโครงการ เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม 9 โครงการตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ทั้ง Main Gate และดีไซน์ของตัวโครงการเองแล้วทำให้สังเกตได้ง่ายมากค่ะ  ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตรค่ะ เมื่อผ่าน Main Gate มาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ โดยจะเป็นมีลานกว้างๆ สำหรับเป็นลานอเนกประสงค์ มุมสนามเด็กเล่นจะปูด้วยหญ้าเทียมค่ะ มุมสำหรับสังสรรค์จัดปาร์ตี้บาร์บีคิว แม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางแต่ก็มีต้นไม้สูงล้อมรอบให้ความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ มีเตาปิ้งย่างพร้อมซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย ถัดมาเป็นพื้นที่คลับเฮ้าส์ทั้งหมดค่ะ มีสระว่ายน้ำระบบเกลืออยู่ตรงกลาง ชั้นล่างจะมีห้องที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนอยู่ค่ะ มีมุมสำหรับล้างตัวและห้องน้ำส่วนกลาง ด้านในห้องกระจกชั้นล่าง ปัจจุบันนี้คือ Sale Gallery ค่ะ แต่ในอนาคตจะทำเป็นคลับเฮ้าส์สำหรับนั่งพักผ่อน ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันบ้างค่ะ ชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ค่ะ เป็นห้องที่ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งมาถึงตรงนี้เราเดินชมส่วนกลางของโครงการกันแล้วก็ถึงเวลาไปชมบ้านตัวอย่างกันค่ะ   เปิดทาวน์โฮมตัวอย่าง หน้าตาของทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นแบบเนอวานาค่ะ ซึ่งทางโครงการมีตัวอย่างให้ดู 2 หลัง Type C กับ Type D และจะสังเกตได้ว่าหลังคาแต่ละหลังจะไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถเดินใต้ฝ้าได้ค่ะ ทาวน์โฮมตัวอย่างหลังแรก Type D เริ่มตั้งแต่รั้วกันก่อนเลยค่ะ เป็นเหล็กโปร่งสีดำแบบพับฝั่งละ 3 ตอน สูง 1.5 เมตร หน้าทาวน์โฮมแต่ละหลังจะติดตั้ง Mail Box หน้าตาแบบนี้เอาไว้ให้ค่ะ และด้านล่างมีช่องประตูเล็กๆ ซึ่งเป็นช่องสำหรับเก็บขยะจากด้านนอกได้เลย ทุกหลังจะได้หน้ากว้าง 6.5 เมตรเท่ากัน สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน หลังรั้วหน้าบ้านจะเห็นว่ามีถังขยะพร้อมฝาปิดด้านบนให้เรียบร้อย เชื่อมต่อกับประตูสำหรับเก็บขยะด้านหน้า พร้อมก๊อกน้ำและปลั๊กไฟสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้าง ถัดเข้ามาเราจะพบประตูบานสวิงสีขาวอยู่บริเวณพื้นที่จอดรถค่ะ ส่วนเพดานบริเวณจอดรถมีการติดตั้งไฟแบบ Downlight เอาไว้ให้ด้วย หน้าบ้านมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ซึ่งกระจกทุกบานของโครงการนี้จะใช้กระจก LOW - E ที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยให้บ้านของเราไม่ร้อนจนเกินไป โดยเวลาเปิดเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้เย็นเร็วกว่าปกติ ประหยัดพลังงานได้อีกทางค่ะ ประตูหน้าบ้านใช้เป็นประตูไม้สักสวิงค่ะ ดีกว่าทาวน์โฮมทั่วไปที่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนธรรมดา เพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า มีความทนทาน และดูแน่นหนาได้ความปลอดภัยมากกว่าค่ะ เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านกันค่ะ พื้นที่แรกจะเป็นพื้นที่สำหรับห้องรับแขก ลึกเข้าไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร และห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนทางขวามือค่ะ พื้นชั้นแรกนี้จะปูด้วยแกรนิตโต้ ใช้ไฟแบบ Downlight โดยโครงการนี้เราจะได้บ้านเปล่านะคะ ซึ่งทางโครงการจะมีการติด wallpaper มีเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง Master Bedroom  ติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบอินฟาเรด ที่สำคัญติดตั้ง Wifi ให้สำหรับทุกหลังได้ใช้กันฟรีๆ เลยค่ะ ลึกเข้าไปจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง แล้วแต่เราจะจัดการพื้นที่ได้เลยค่ะ เพราะด้วยพื้นที่ใช้สอยแล้วถือว่าได้มาเยอะกว่าทาวน์โฮมทั่วไป หลังบ้านกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีดำค่ะ ทั้งประตูกระจกและหน้าต่างทุกบานจะติดตั้งระบบล็อค TosTem คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น   ตรงลานซักล้างมีกระจกบานเลื่อนตรงส่วนครัวสำหรับระบายอากาศด้วยค่ะ กลับเข้ามาดูในบ้านกันต่อค่ะ ถัดจากพื้นที่วางเคาน์เตอร์ทีวีแล้วก็จะเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนค่ะ ภายในห้องครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัว L Shape ได้ค่ะ มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศและความชื้นไปทางหลังบ้าน โดยทั่วไปแล้วทาวน์โฮมจะได้มาเป็นครัวเปิดที่มีพื้นที่เดียวกันกับห้องนั่งเล่น ซึ่งหากบ้านไหนชอบทำครัวก็คงไม่เหมาะใช่ไหมคะ แต่สำหรับเนอวานา ดีฟายน์ ให้ห้องครัวปิดที่มีพื้นที่กว้างพอสมควรมาด้วยเลยค่ะ ภายในห้องครัวมีห้องน้ำมาให้ด้วยนะคะ ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนลายเดียวกันทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างแบบนี้จะไม่มีส่วนเปียกค่ะ เพราะเน้นสำหรับรับแขกเท่านั้น ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีตู้สำหรับเก็บของไว้ด้านล่างด้วยค่ะ ได้กระจกเงาบานใหญ่แบบนี้มาด้วยค่ะ สำรวจชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ โครงสร้างของบันไดใช้แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินไม่เกิดเสียงดังแบบโครงสร้างที่ใช้เหล็กเพียงอย่างเดียวค่ะ โดยขั้นบันไดใช้ไม้เอ็นจิเนียร์ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องนอนเพียงห้องเดียวค่ะ สัญญาณกันขโมยระบบอินฟาเรด โครงการติดตั้งแบบนี้มาให้เหมือนกันทุกหลังค่ะ สไตล์ของเนอวานาอย่างหนึ่ง คือการเอา Master bedroom มาไว้ที่ชั้น 2 ของทาวน์โฮมค่ะ เพื่อผู้ใหญ่ของบ้านจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดมาก แต่จะเปลี่ยนให้ห้องนอนของเด็กๆ ขึ้นไปไว้ชั้นบนสุดแทน Master bedroom มีพื้นที่กว้างขวางมากพอให้วางเตียง king size ได้ และยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียง สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก ปลายเตียงเป็นผนังว่าง สำหรับ Built in เคาน์เตอร์วางทีวี ด้านข้างของเตียงเป็นระเบียงทางฝั่งหน้าบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ระเบียงของห้อง Master bedroom ทางฝั่งหน้าบ้าน มีพื้นที่มากพอสำหรับวางโต๊ะ-เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนรับลมด้านนอก ราวกันตกใช้กระจกนิรภัยใสรอบด้าน วิวจากระเบียงห้อง มองเห็นภาพรวมของส่วนกลางค่ะ กลับเข้ามาในห้อง ไปดูอีกฝั่งของห้องกันต่อค่ะ พื้นที่ข้างเตียงยังสามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโซฟาเพิ่มเติมก็ได้นะคะ ส่วนห้องน้ำในตัวทางขวามือจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในห้องน้ำปูพื้นเเละผนังทั้งหมดด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน และสุขภัณฑ์จาก American Standard อ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ช่วยป้องกันน้ำกระเด็กออกมาได้ส่วนหนึ่ง มาพร้อมกับพื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับวางของได้อีกมาก มีอ่างอาบน้ำถัดจากอ่างล้างหน้า อีกฝั่งของห้องน้ำเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียก มีทั้งฝักบัว และ Rain shower ติดตั้งมาให้ ขวามือด้านบนมีหน้าต่าง สำหรับเพิ่มแสงสว่างจากภายนอก และยังช่วยระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำ ออกจากห้องน้ำจะมีพื้นที่ห้องเล็กอีก 1 ห้องซ่อนอยู่ค่ะ พื้นที่ของส่วนนี้ ทางโครงการจัดมาให้เป็น Walk In Closet เราสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนวผนัง หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้นะคะ ไปดูกันที่ชั้น 3 กันต่อค่ะ บริเวณโถงบันได มีกระจกทรงสูงเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับทางเดิน และมีตู้ไฟซ่อนมาให้ในผนังเรียบร้อยค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 3 ตรงโถงบันไดก็จะมีกระจกทรงสูงติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกันค่ะ ที่ชั้น 3 จะมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง เราเข้าไปดูกันที่ห้องตรงกลางกันก่อนค่ะ ห้องนอนที่ 2 ของบ้านอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำในตัว ตามที่โครงการตกแต่งมาให้นั้นเป็นเตียง 5 ฟุต แต่ด้วยขนาดพื้นที่จริงเราสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้เลยค่ะ ด้านข้างเตียงมีระเบียงขนาดใหญ่ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ตรงระเบียงมีราวกันตกที่ทำจากเหล็กโปร่งสีดำ ระเบียงของห้องนี้จะเป็นวิวทางด้านหน้าของตัวบ้านค่ะ อีกด้านของห้องเป็นห้องน้ำในตัว พื้นที่เเรกของห้องน้ำเป็นส่วนแห้ง ในบริเวณพื้นที่ส่วนแห้งจะมีอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ถัดจากโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนเปียก ด้านข้างฝักบัวมีการเจาะผนังลึกเข้าไปสำหรับวางของ ห้องนอนสุดท้าย ของทาวน์โฮม  Type D ค่ะ ห้องนอนนี้มีขนาดเท่าๆกัน กับห้องนอนที่ 2 ค่ะ ตามห้องตัวอย่างจะวางเตียง 5 ฟุตชิดผนัง แต่ด้วยพื้นที่จริงสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้ โดยยังมีพื้นที่ข้างหน้าต่างเหลืออยู่ค่ะ หรือจะเลือกวางเตียงเอาไว้ตรงกลางห้องแล้วมีพื้นที่ทางเดินเหลือรอบเตียงก็ได้ ปลายเตียงมีห้องน้ำในตัว ภายในห้องน้ำจะพบกับส่วนแห้งอยู่ทางด้านขวาก่อน อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ทางโครงการจะให้มาทั้งหมดนี้เลยค่ะ เหนือโถสุขภัณฑ์เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งทรงสูงค่ะ หน้าต่างบานกระทุ้งก็ใช้ระบบล็อคจาก TosTem เช่นเดียวกันค่ะ ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนเปียกลึกเข้าไปค่ะ มาถึงทาวน์โฮมตัวอย่างหลังที่ 2 Type C ซึ่งเป็นหลังสุดท้ายของโครงการนี้กันค่ะ ด้วยความที่หลังตัวอย่างนี้เป็นแปลงมุมก็จะมีพื้นที่สวนข้างบ้านยาวไปจนถึงหลังบ้านเพิ่มขึ้นมาแบบนี้ค่ะ ลานซักล้างหน้าบ้าน ข้างพื้นที่จอดรถค่ะ หน้าบ้านทุกหลังจะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบนี้ และประตูไม้สัก ก่อนเข้าบ้านก็จะมีห้องเก็บของไว้ให้เหมือนกันทุกหลังค่ะ เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านกันเลยค่ะ ชั้น 1 ของ Type C นี้ จะถูกจัดให้เป็นพื้นที่โต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งเอาไว้กลางบ้าน โดยจะปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ใช้ไฟแบบ Downlight ด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวางมากคล้ายกับบ้านเดี่ยว ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวได้ ทาวน์โฮมแปลงมุมจะได้หน้าต่างข้างบ้านเพิ่มขึ้น ทำให้ดูสว่างมากขึ้นค่ะ กั้นส่วนครัวปิดเอาไว้อีกฝั่ง มองขึ้นไปจะเห็นว่า Type C มีชั้นลอยที่สามารถมองทะลุเห็นกันได้ ทำให้เพดานดูสูงโปร่งขึ้นเยอะเลยค่ะ ห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องครัวทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ เป็นห้องครัวที่เหมาะสำหรับการอยู่กับครอบครัวจริงๆ ค่ะ เพราะเป็นครัวปิดแยกเป็นสัดส่วนแบบที่หาได้ยากในโครงการทาวน์โฮม จุดที่เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน แนะนำให้วางซิงค์ล้างจานตามแบบโครงการค่ะ เพราะจะช่วยเรื่องระบายความอับชื้นได้ดี หันกลับมาดูที่ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะมีแค่ส่วนแห้งค่ะ แต่จะมีโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และอ่างล้างหน้ามาให้ครบ มีประตูกระจกออกไปทางหลังบ้านค่ะ และยังมีส่วนที่เป็นหน้าต่างกระจกด้านบนเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับส่วนชั้นลอยก็ยิ่งทำให้บ้านดูโปร่งสบายเข้าไปอีก   มุมสวนหลังบ้านที่ยาวเชื่อมต่อมาจากหน้าบ้านค่ะ ดูชั้นแรกกันเสร็จแล้วก็ขึ้นไปดูชั้นต่อไปกันเลยค่ะ โดยบันไดจะอยู่ทางซ้ายมือของประตูบ้าน โถงบันไดมีหน้าต่างกระจกทรงสูงทำให้ไม่ดูทึบจนเกินไป ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่จะถูกจัดให้เป็นเพียงชั้นลอยนะคะ ซึ่งพื้นชั้นบนจะถูกปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. พื้นที่ชั้นลอยกว้างขวางมากพอที่จะจัดให้เป็นห้องรับแขกตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ หากเราตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นก็จะสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้พร้อมโต๊ะกลาง ยังมีพื้นที่เหลือระหว่างเคาน์เตอร์วางทีวีได้สบายๆ แม้จะเป็นชั้นลอย แต่ก็มีระเบียงหน้าบ้านเอาไว้เปิดรับลมธรรมชาติได้แทนการเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ซึ่งจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกนิรภัย และด้วยขนาดของระเบียงก็มากพอที่จะใช้งานได้จริง กลับเข้ามาดูอีกส่วนหนึ่งของชั้นลอยนี้ค่ะ โดยลึกเข้าไปด้านในสุดก็จะมีที่พักบันได ซึ่งมีพื้นที่พอสมควรเหมือนเป็นห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่งให้ได้ใช้เป็นประโยชน์ ตามบ้านตัวอย่างนี้จะถูกตกแต่งให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเห็นวิวทางฝั่งหลังบ้าน ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ส่วนนี้ใช้งานได้จริง ที่ชั้นลอยนี้สามารถมองลงไปด้านล่างได้ ทำให้โซน Common Area ทั้งหมดนี้มีเพดานที่สูงโปร่ง ในสไลต์ Double volume space ที่ทางเนอวานาออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการอยู่อาศัยระยะยาว และสามารถรองรับสมาชิกใหม่ในอนาคตได้ จากชั้นโซน Double volume space ขึ้นไปดูอีกชั้นหนึ่งของบ้าน ซึ่งจะเป็นส่วน Private ชั้น 2 มีห้องนอนที่เป็น Master Bedroom อยู่ชั้นนี้เพียงห้องเดียวค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็น Master Bedroom ก็จะมีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษกว่าห้องอื่น สามารถวางเตียงขนาด 6 ตามห้องตัวอย่างนี้ได้ ไปจนถึงวางเตียง king size ได้ แถมยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นได้อีก ข้างเตียงมีประตูกระจกกั้นระหว่างห้องนอนกับระเบียงส่วนตัวค่ะ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ วิวจากระเบียงฝั่งด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือค่ะ พื้นที่แถวนี้ยังมีสิ่งปลูกสร้างขึ้นน้อยทำให้มีลมพัดผ่านได้ดีทีเดียวค่ะ กลับเข้ามาในห้องกันต่อค่ะ ยังมีพื้นที่ภายในห้องอีกฝั่งให้ชมกันอีก ถัดจากเตียงตรงนี้ยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน หรือจะวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งก็ยังได้นะคะ ห้องน้ำในตัวจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีดำเข้าชุดแบบเดียวกันทั้งหลังค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเหมือนกันทุกห้องน้ำเลยค่ะ ห้องน้ำนี้จะถูกแบ่งส่วนแห้งอยู่ก่อนส่วนเปียกด้านในสุด เริ่มจากทางขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียกที่ติดตั้งมาทั้งฝักบัวและ Rain Shower มีการเจาะช่องผนังลึกเข้าไปเพื่อเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ ซ้ายมือเป็นอ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์พร้อมกระจกเงา และอ่างอาบน้ำค่ะ ออกมาจากห้องน้ำไปดูพื้นที่ส่วนสุดท้ายของ Master Bedroom อยู่ถัดจากประตูห้องค่ะ ห้องนี้ถูกจัดให้เป็น Walk In Closet สำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะก็สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ทั้งห้องนี้เลยค่ะ หรือจะจัดเป็นห้องทำงานก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีหน้าต่างกระจกบานสไลด์ติดตั้งอยู่ทำให้ส่วนนี้ดูไม่มืดทึบจนเกินไป มองจากมุมนี้จะเห็นว่าเป็นห้องที่แม้จะเชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกันกับ Master Bedroom แต่มีการแบ่งโซนออกมาเป็นสัดส่วน ขึ้นไปดูที่ชั้นบนสุดของทาวน์โฮม Type C นี้กันค่ะ ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดจะมีมุมที่เป็นโถงบันไดอยู่ สามารถเพิ่ม Built in ตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ เพิ่มเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกค่ะ หันมาทางขวามือจะพบกับห้องนอนอีก 2 ห้อง เราเดินเข้าไปดูห้องตรงกลางกันก่อนค่ะ ห้องนอนที่ 2 นี้จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ ตามห้องตัวอย่างที่วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมวางโต๊ะทำงานเอาไว้ด้วย แต่พื้นที่จริงตรงนี้สามารถวางเตียงได้ถึง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียงเลยค่ะ ปลายเตียงเราสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เคาน์เตอร์วางทีวี หรือหากจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตในห้องนี้ เราก็สามารถย้ายโต๊ะทำงานมาไว้พื้นที่ปลายเตียงนี้ก็ได้นะคะ มีห้องน้ำในตัวถัดจากพื้นที่ปลายเตียงค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค วางพื้นที่ส่วนแห้งก่อนพื้นที่ส่วนเปียกด้านใน เริ่มจากอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และพื้นที่อาบน้ำค่ะ ส่วนเปียกมีการเจาะช่องผนังให้เป็นที่วางของได้ด้วยค่ะ ข้างเตียงมีระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยประตูกระจกลักษณะนี้จะใช้สเปคเดียวกันทั้งโครงการเลยค่ะ คือเป็นกระจกแบบ LOW - E มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนได้ดีกว่ากระจกเขียวตัดแสงทั่วไปค่ะ ระแนงไม้ตรงระเบียงที่เห็นนี้ไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยเรื่องการใช้งานจริงจากระเบียงได้ ทั้งการบังแดด เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการออกมาใช้งานที่ระเบียงชมวิวได้กว้างขึ้น วิวจากระเบียงห้องฝั่งหน้าโครงการค่ะ จะเห็นได้ชัดขึ้นว่ารอบๆ โครงการยังเป็นพื้นที่โล่งอยู่ ออกจากห้องนอนที่ 2 เข้าไปดูกันที่ห้องสุดท้ายทางซ้ายมือฝั่งหลังบ้านกันค่ะ ห้องนอนที่ 3 ค่ะ เป็นห้องสุดท้ายแล้วที่เราจะพามาชมในรีวิวฉบับนี้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวค่ะ ส่วนห้องนอนที่นอกเหนือจาก Master Bedroom ก็มีพื้นที่กว้างขวางเท่าๆ กัน สามารถวางเตียงใหญ่ได้พร้อมกับโต๊ะทำงานของตัวเอง ไม่เล็กจนดูอึดอัดค่ะ ห้องนอนที่ 3 ของ Type C นี้ จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ พื้นที่ปลายเตียงเหมาะสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ตลอดแนวผนัง เพราะมีหน้าต่างอยู่ด้านข้างถึง 2 ด้านให้แสงสว่างเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยยังเหลือพื้นที่ทางเดินอยู่ทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าชอบเตียงใหญ่ๆ ขนาด 6 ฟุต ก็สามารถวางชิดกำแพงได้เลยค่ะ ส่วนห้องน้ำในตัวของห้องนี้จะถัดจากพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งเอาไว้ด้านในสุดค่ะ ส่วนเปียกจะอยู่ทางซ้ายมือเลย และแม้จะเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนปกติก็ยังได้พื้นที่ขนาดกำลังพอดี เหนือพื้นที่ส่วนเปียกจะถูกออกแบบมาให้มีหน้าต่างสำหรับเพิ่มแสงสว่างและระบายความอับชื้นอยู่เสมอค่ะ   มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อเหลือเกินค่ะว่าคงไม่มีใครสงสัยว่าทำไมเฟสแรกของโครงการนี้ถึงได้ Sold Out ไปตั้งแต่วันแรกที่ Exclusive Sales ทั้งทำเล พื้นที่ใช้สอย สเปคที่ได้ ไปจนถึงการดีไซน์ดีเทลต่างๆ เพื่อผู้อยู่อาศัยจริงได้ความสะดวกสบายที่สุดสมกับคำว่า “ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว”   เตรียมพบกับงาน Pre-SALE วันเดียว 23 มิ.ย. 2561นี้ พร้อมรับสิทธิ์พิเศษเฉพาะในงานเท่านั้น!!  
บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง ทำเล คือปัจจัยของคนมองหาที่อยู่อาศัยจะพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว ซึ่งแน่นอนว่าทำเลที่ทั้งสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกทั้งเข้าเมืองไปทำงาน ทั้งออกนอกเมืองไปสนามบินหรือไปต่างจังหวัดไปพร้อมๆ กันนั้นหาได้ยากมากใช่ไหมคะ แต่คำว่าหายากนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่ะ   เราคงรู้จัก New CBD กันมาระยะหนึ่งแล้วใช่ไหมคะ ด้วยความเพียบพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่อยู่เกือบ 24 ชม. ทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ไฮเปอร์มาร์เก็ต ไนท์มาร์เก็ต แหล่งรวมร้านแฮงเอ้าท์ รวมถึงอาคารออฟฟิศเกรด A หลายแห่ง ส่วนทำเลที่มีทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับแอร์พอร์ตลิงค์ผ่าน สามารถใช้ทางด่วนได้หลายสายอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข ทางพิเศษศรีรัชจนไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรี) ซึ่งง่ายต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมต่อสู่ภาคตะวันออกโซน EEC ที่กำลังมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในอนาคต เรียกได้ว่าไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะก็ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้ย่านพระราม 9 แห่งนี้สมบูรณ์มากจนเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งระยะหลังเราจะเห็นชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ย่านนี้ก็ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับย่าน CBD เดิมแล้วจะพบว่าความสะดวกสบายไม่ต่างกันมาก เพียงแต่สีลม-สาทรนั้นทุกวันนี้มีความหนาแน่นอยู่มากทีเดียวค่ะ ทั้งจำนวนของผู้คนตามมาด้วยการจราจรที่ติดขัดไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนการเดินทางไปสนามบินหรือออกนอกเมืองก็ค่อนข้างไกล ที่สำคัญราคาของที่อยู่อาศัยก็ไม่เบาทีเดียว         เมื่อเอ่ยถึงสนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นสนามบินหลักของบ้านเราแล้ว ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะตั้งอยู่นอกตัวเมืองเหมือนในหลายๆ ประเทศ ซึ่งก็มักจะห่างไกลจากตัวเมืองตามไปด้วย แต่ไม่ใช่กับโซน New CDB อย่างพระราม 9 เพราะไม่ว่าจะใช้รถยนต์เดินทางด้วยถนนมอเตอร์เวย์ตรงเชื่อมต่อถนนพระราม 9 หรือจากถนนมอเตอร์เวย์แล้วขึ้นทางพิเศษศรีรัชก็เป็นเรื่องง่ายมากแถมยังใช้เวลาไม่กี่นาที ยิ่งหากเลือกใช้บริการจากแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางสำคัญของโซนที่ถือได้ว่าเป็นกึ่งกลางระหว่างตัวเมืองกับนอกเมืองแบบย่านลาดกระบัง-อ่อนนุช ก็จะยิ่งลดระยะเวลาการเดินทางได้มากขึ้นไปอีก    แหล่งออฟฟิศเกรด A สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย การเดินทางที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว   บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ทุกหลังหน้ากว้าง 5 เมตร ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป พื้นที่ใช้สอยมากถึง 146 ตร.ม. สามารถปรับเปลี่ยน Function ของทุกสัดส่วนภายในบ้านของเราได้ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ท่ามกลางพื้นที่ทั้งหมดกว่า 17 ไร่ ให้สามารถใช้ชีวิตในทุกด้านได้อย่างเต็มที่ ภายในโครงการให้ความเป็นส่วนตัว สงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้รอบโครงการ แม้ในขณะเดียวกันจะมีความวุ่นวายบนท้องถนนมอเตอร์เวย์หลังโครงการ สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือระดับของการใช้ชีวิตได้อย่างน่าหลงใหลและไร้ขีดจำกัด    ได้พื้นที่มากกว่า และยืดหยุ่นได้ตามไลฟ์สไตล์ เรียบง่าย มีความเป็นส่วนตัว   สังคมคุณภาพที่บ้านกลางเมือง Facility เพื่อการพักผ่อนในบ้านของตัวเองที่คลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะที่มีบริเวณพักผ่อน ได้ความอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรปิดทางเข้า-ออก โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ความสงบร่มรื่น คลับเฮ้าส์ที่ครบครัน   ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานวงแหวน ติดกับมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้า  ทำให้การเดินทางสะดวกสบายทั้งเข้าเมืองสู่ใจกลาง New CBD ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที และออกนอกเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที หรือจะเลือกใช้แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้างก็อยู่ห่างจากโครงการแค่ 5 นาที ซึ่งช่วงจุดกึ่งกลางระหว่างย่านพระราม 9 กับสนามบินคือช่วงอ่อนนุชปลายๆ เชื่อมต่อกับลาดกระบัง โดยมีแอร์พอร์ตลิงค์เป็นระบบขนส่งสาธารณะสำคัญของคนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้รวดเร็วที่สุด ใกล้ทั้งทางด่วนและแอร์พอร์ตลิงค์ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีถึง New CBD 5 นาที ถึงสุวรรณภูมิ   การเดินทางไปยังโครงการ    สามารถเข้าได้หลายทาง หลักๆ แล้วแนะนำ 2 เส้นทาง ได้แก่     1. หากมาจากพระราม 9 ด้วยทางพิเศษศรีรัช เมื่อข้ามถนนศรีนครินทร์แล้วให้ออกทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เพื่อกลับรถบนสะพานเกือกม้า เมื่อลงจากเกือกม้าให้รีบชิดซ้ายเพื่อกลับรถอีกครั้ง เข้าสู่ทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปทางอ่อนนุช วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ผ่านมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด  แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง และรอดใต้วงแหวนไปอีก 200 เมตร ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือ     2. หากมาจากซอยสุขุมวิท 77 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าลาดกระบัง เมื่อถึงแยกประเวศเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ผ่านสน.ประเวศ เมื่อเจอสามแยกที่มีดี คอนโด ให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อเข้าสู่คู่ขนานวงแหวนขับตามทางไปอีกเล็กน้อยก็จะพบกับโครงการ(หากเลี้ยวซ้ายจะไปออกทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์)    สำหรับโครงการบ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช ถือเป็นทาวน์โฮมในระดับ Hi-End Townhome เพราะเรื่องสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่ดี ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือเรื่องของศักยภาพเฉพาะตัวของทำเลที่ไม่ไกลจากแหล่งสำคัญ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะโดยรถยนต์ส่วนตัวเชื่อมต่อกับทางด่วนเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ที่อยู่ใกล้กับโครงการ ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างใจกลางเมืองกับชานเมืองจึงทำให้บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช กลายเป็นหนึ่งในโครงการคุณภาพจาก AP       
Premium Time Home Wongwaen – Onnut – พรีเมี่ยม ไทม์โฮม วงแหวน – อ่อนนุช : รีวิวทาวน์โฮม

Premium Time Home Wongwaen – Onnut – พรีเมี่ยม ไทม์โฮม วงแหวน – อ่อนนุช : รีวิวทาวน์โฮม

Premium Time Home Wongwaen - Onnut (พรีเมี่ยม ไทม์โฮม วงแหวน-อ่อนนุช ) - ทาวน์โฮม 2 ชั้น ทางเลือกสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ ด้วยแบบบ้านที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานได้จริง รองรับไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยที่แตกต่างกันไป   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,900,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอ็น แอล แอสเซ็ท จำกัด ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 96 ยูนิต พื้นที่โครงการ    10-0-71ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซ.กาญจนาภิเษก 44 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.   สถานที่สำคัญใกล้เคียง สนามบินสุวรรณภูมิ สวนหลวง ร.9 ร.ร.นานาชาติชาร์เตอร์ ร.ร.นานาชาติแพนเอเชีย ม.รามคำแหง 2 เมกะ บางนา เทสโก้ โลตัส The Paseo Mall ลาดกระบัง แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย แบบ CARE TYPE ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 140 ตร.ม. แบบ ZONE TYPE ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 140 ตร.ม.     สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-183-6667 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://timehome.co.th/premiumtimehome/
บ้าน Nirvana BEYOND Rama 2 ความสุขที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้าน Nirvana BEYOND Rama 2 ความสุขที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

เพราะบ้านคือสถานที่แห่งความสุขและจะอยู่คู่กับเราไปอีกหลายสิบปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนรุ่นใหม่จะเลือกบ้านที่สมบูรณ์พร้อม ทั้งเรื่องของทำเลที่ต้องเดินทางรวดเร็วเชื่อมต่อชีวิตเมืองเป็นเรื่องง่าย ความสวยงามของดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานในบ้าน ความเงียบสงบที่ชวนให้ทุกวันเป็นวันพักผ่อน หรือแม้กระทั่งสังคมเพื่อนบ้านที่เราสามารถออกแบบเองได้รวมไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายโดยรอบต้องครบครัน ซึ่งการจะหาบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการและตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามีบ้านเดี่ยว “Nirvana BEYOND Rama 2 (เนอวานา บียอนด์ พระราม 2)” โครงการระดับลักซ์ชัวรี่ของ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ที่มีสภาพแวดล้อมสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดในโซนพระราม 2 มาแนะนำในวันนี้ สำหรับโครงการ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 2” ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 2 ฝั่งขาออกเมืองที่มุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร ระหว่างทางแยกไปถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล หรือทางผ่านจากกรุงเทพไปชะอำ-หัวหิน โดยทำเลฝั่งพระราม 2 ถือว่าเป็นทำเลฝั่งธนทางตอนใต้ที่เหล่าดีเวลลอปเปอร์สนใจลงทุนพัฒนาเป็นอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมต่างๆ จุดเด่นคือมีถนนให้สามารถเลือกใช้และเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง อาทิ ถนนบางขุนเทียน, วงแหวนรอบนอก, ถนนพุทธบูชา, ถนนประชาอุทิศ, ถนนสุขสวัสดิ์ที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่าน แถมยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครด่านพระราม 2 ที่สามารถใช้วิ่งเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงไปถนนสาทร และถนนพระราม 3 ได้สะดวก ทำให้การเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กันเลยนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนพระราม 2 ที่มีหลายเลนส์ ทำให้มีรถโดยสารประจำทาง รถตู้ และรถสองแถววิ่งผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก แม้ตัวโครงการจะตั้งอยู่ฝั่งขาออกเมืองแต่บริเวณหน้าโครงการยังมีป้ายรถเมล์ และสะพานลอยให้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางคมนาคมอย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินนะคะ แต่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน – ราษฎร์บูรณะ วิ่งผ่านบนถนนสุขสวัสดิ์นี้แน่นอนค่ะ โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการคือสถานีดาวคะนอง เรียกได้ว่าถ้าก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ การเดินทางก็ยิ่งเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้นเท่านั้น ในเรื่องของอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้าการเดินทางเลยนะคะ เพราะพิกัดใกล้ๆ โครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus (ห่างจากโครงการประมาณ 900 เมตร) หรือ Big C ฝั่งตรงข้ามที่สามารถเดินได้ประมาณ 700 เมตรเท่านั้น แถมยังมี HomePro, Central พระราม 2 ที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 และห่างจากที่ตั้งโครงการในรัศมี 2 กิโลเมตร นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย อาทิ โรงพยาบาลพระราม2, โรงพยาบาลบางมด, โรงพยาบาลบางปะกอก 9 International, โรงพยาบาลบางปะกอก 1 และโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ขยับไปอีกหน่อยก็มีสถานศึกษาชั้นนำอย่างโรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี รวมไปจนถึงสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ ก็ล้วนแต่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง   ภาพรวมโครงการ โครงการ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 2” เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่คุณจะมีเพื่อนบ้านร่วมแบ่งปันความสุขเพียง 120 หลังเท่านั้น จึงได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง บนเนื้อที่โครงการประมาณ 42 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร ปัจจุบันเป็นโครงการที่แล้วเสร็จประมาณหนึ่ง และยังมียูนิตที่กำลังก่อสร้างเป็น Backlog อีกนิดหน่อยค่ะ การจัดสัดส่วนของโครงการบริเวณซุ้มทางเข้าจะมีป้อมยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก โดยอุ่นใจไปด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกล้องวงจรปิด CCTV และประตู Double Gate Security เป็นแบบ Remote access ระยะไกลแบบ Easy pass ที่จะเลื่อนประตูหน้าโครงการให้รถสามารถเข้าไปได้ ซุ้มทางเข้าโครงการจะเป็นซุ้มสไตล์โมเดิร์น ที่ดูโดดเด่นด้วยหลังคาขนาดใหญ่ปกคลุมทั้งทางเข้า-ออกเลยนะคะ ขวามือเป็นป้ายชื่อ Nirvana และซ้ายมือคือป้ายชื่อโครงการ Beyond นั่นเองค่ะ โดยป้อมรปภ.จะอยู่ทางขวาใกล้กับประตูเล็กๆ ค่ะ ผ่านซุ้มรปภ. และประตูเลื่อนหน้าโครงการเข้ามาจะเป็นถนนหลักของโครงการที่กว้างประมาณ 13 เมตร เมื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและเพียบพร้อมไปด้วยความสุขของทุกคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ทางโครงการยังจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ลูกบ้านทุกหลังจึงสามารถมาทำกิจกรรมที่หลากหลายในบริเวณ Club House 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่บริเวณขวามือติดซุ้มทางเข้าออกโครงการ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน, ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายครบครัน รวมไปถึงสวนสาธารณะขนาดกว้างที่มีพื้นที่ให้เดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่นๆ ของเด็กเล็ก ติดซุ้มโครงการฝั่งขวามือเป็น Clubhouse ภายในรองรับที่จอดรถได้ประมาณ 6 คัน ซึ่งแบ่งห้องออกเป็นห้องฟิตเนส ห้องรับรอง ห้องน้ำ และส่วนที่นั่งพักผ่อนชมสวน ส่วนชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำและ Sunken seat รวมถึงพื้นที่ล้างตัวและห้องน้ำค่ะ ภายในห้องฟิตเนสโอบล้อมด้วยกระจกใส ให้ลูกบ้านสามารถออกกำลังกายไปด้วยชมวิวไปด้วยได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากสามารถมองวิวสวนได้อย่างจุใจแล้ว ภายในห้องฟิตเนสเต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายอย่างครบครันเลยนะคะ ด้านหน้าระหว่างห้องรับรองและห้องฟิตเนสทางโครงการได้จัดเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้นั่งพักผ่อนด้วยค่ะ วิวสวนบริเวณ Clubhouse ค่ะ จากสวนมองกลับไปที่ Clubhouse ของโครงการค่ะ เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาชั้น 2 ฝั่งขวามือจะเป็นสระว่ายน้ำที่มีทั้งส่วนกลางแจ้งและในร่ม พร้อมที่นั่งพักผ่อนในร่มข้างสระ ติดกับทางขึ้นลงคลับเฮ้าส์ จะมีชุดที่นั่งแบบ Sunken Seat วิวสวนอยู่ สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือแบบน้ำล้นนะคะ แบ่งออกเป็นสะเด็กและผู้ใหญ่ ข้างสระอีกฝั่งด้านซ้ายจะมีห้องน้ำและจุดล้างตัวนะคะ บริเวณข้างสระด้านขวาจะมีที่นั่งในร่มด้วยค่ะ ที่นั่งในร่มข้างสระใช้กันแดดกันฝนได้ มีทั้งโซฟาแบบ Day bed และแบบม้านั่งยาวๆ จากที่นั่งในร่มข้างสระมองไปที่สระ จะเห็นว่ามีทั้งส่วนในร่มและกลางแจ้งแบบนี้เลยนะคะ ข้อดีคือทำให้สามารถใช้สระว่ายน้ำได้ทุกเวลา หากอากาศร้อนก็หลบเข้ามาใช้งานในส่วนร่มได้ จากสวนหย่อมตรงเข้าไปส่วนของบ้านพักอาศัยจะมีประตูเลื่อนบานที่ 2 กั้นกลางอยู่ก่อนจะแบ่งบ้านออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้  โดยมีแบบบ้านให้เลือกถึง 8 แบบทั้งบ้าน 2 ชั้นและ 3 ชั้น ตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้.. จาก Clubhouse เดินตรงมาบนถนนหลัก กว้าง 13 เมตร จะเป็นประตูเลื่อนชั้นที่ 2 ที่กั้นส่วนอาคารที่พักอาศัยไว้อีกชั้นเพื่อความปลอดภัยอีกระดับนะคะ ระบบรักษาความปลอดภัยจะเป็นแบบ Double gate secuity โดยประตูใหญ่จะถูกเลื่อนจากสัญญาณของ Remote access เหมือน Easypass ของทางด่วนเลยค่ะ ซึ่งจะเห็นว่าภายในโครงการไม่มีเสาไฟมาให้เกะกะสายตาเลย เพราะทางโครงการฝังเสาไฟฟ้าลงดินให้เรียบร้อยแล้ว แบบบ้าน Sane บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 52 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 232 ตารางเมตร แบบบ้าน Reach บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 73 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 289 ตารางเมตร แบบบ้าน Quest บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 102 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 365 ตารางเมตร แบบบ้าน Keen บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 311 ตารางเมตร แบบบ้าน Niche บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 52.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 317 ตารางเมตร แบบบ้าน Live บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 61.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 357 ตารางเมตร แบบบ้าน Most บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 71.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 418 ตารางเมตร แบบบ้าน Pride บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน มาพร้อมลิฟท์ส่วนตัว และสระว่ายน้ำ เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 89.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 550 ตารางเมตร เปิดประตูบ้านตัวอย่าง สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือแบบ Pride บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่นับว่าเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ขนาดที่ดิน 89.3 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 550 ตารางเมตร ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ มาพร้อมลิฟท์ 1 ตัว และสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยค่ะ ถ้าผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่รายล้อมอยู่รอบๆ บริเวณบ้าน ตัวบ้านถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ ลักษณะทรงกล่องที่ดูเรียบง่าย โดยเน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก และใช้วัสดุที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว กระเบื้องลายไม้และลายหินอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหราและเติมมิติให้แก่ตัวบ้านดูมีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเด่นของแบบบ้าน Pride จะมีบันไดหน้าเฉลียงติดประตูทางเข้าบ้านชั้น 1 เพื่อใช้ขึ้นไปชั้นสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 ได้ ข้อดีของการออกแบบบันไดไว้หน้าบ้านแบบนี้ ก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะคะ เพราะเวลามีแขกมาเยี่ยมเยียน สมาชิกก็สามารถเลี่ยงโดยใช้บันไดนี้เข้าสู่ตัวบ้านชั้น 2 ได้ แปลนแบบบ้าน Pride บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน มาพร้อมลิฟท์ส่วนตัว และสระว่ายน้ำ เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 89.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 550 ตารางเมตร บริเวณชั้น 1 นะคะ ตัวบ้านถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย ในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ โดยใช้รูปทรงเลขาคณิตอย่างสี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบ จุดเด่นคือมีบันไดที่สามารถขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 2 ได้ โดยมีสระว่ายน้ำกรุด้วยหินอ่อนรอบสระ ตัวอาคารตกแต่งตกแต่งด้วยสีขาวตัดด้วยสีวัสดุทั้งจากลายไม้ และหินอ่อน ทำให้ตัวบ้านดูหรูหราและสง่างาม บริเวณหน้าบ้านจะมีทางเข้าด้วยกันสองทางคือจากประตูบานไม้ และทางบันไดหินอ่อนจากหน้าบ้านขึ้นไปที่ข้างสระว่ายน้ำชั้น 2 พื้นส่วนลานจอดรถแยกโครงสร้างกับตัวบ้านนะคะ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยร้าวหรือรอยแยกออกมาจากตัวบ้านในระยะยาว ซึ่งสามารถจอดรถได้ 3 คัน สวนข้างลานจอดรถฝั่งขวามือของบ้านตัวอย่าง ทางโครงการได้ทำการปูหญ้า จัดสวน และวางแผ่นหินและรั้วพุ่มไม้เป็นทางเดินไปสวนข้างบ้านมาให้ดูเป็นไอเดีย เปิดประตูบ้านเข้ามาจะเป็นโถงทางเข้าตรงยาวเข้าไปเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ Built in ตู้เก็บของพร้อมที่นั่งใส่รองเท้ามาให้ดูเป็นตัวอย่าง มุมมองกลับมาจะเห็นว่ามือจับประตูบ้านนั้นเป็นแบบ Digital Door Lock ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกคนในบ้านได้ดีทีเดียวค่ะ สำหรับพื้นส่วนนี้จะถูกลดระดับลงมาจากพื้นบ้านชั้น 1 เพื่อช่วยกันฝุ่นเข้าสู่ตัวบ้านนะคะ จากทางเดินเข้ามาจะเป็นส่วนของโถงกลางที่มีเพดานสูงถึง 3 เมตรเลยนะคะ ทำให้ดูโปร่งโล่งสบาย ซึ่งทางโครงการตกแต่งส่วนนี้เป็นตัวอย่าง โดยจัดให้เป็นครัวแบบฝรั่ง ที่มีเคาน์เตอร์สำหรับนั่งรับประทานอาหารและไอส์แลนด์เตรียมอาคารไว้ตรงกลาง ก่อนจะต่อเนื่องไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร และส่วนของ Pantry ไอส์แลนด์จะมาพร้อมที่เก็บของด้านล่างด้วยนะคะ พื้นที่ตรงกลางมีขนาดกว้างพอสำหรับวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบโต๊ะกลมสำหรับ 8 ที่นั่ง ซึ่งสามารถเดินได้โดยรอบสบายๆ Pantry ถูกจัดฟังก์ชั่นแบบตัวแอล (L) ยาวขนานไปกับผนังฝั่งหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำกาแฟ เครื่องปิ้งขนมปัง เตรียมอาหาร หรือวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ สำหรับชุดครัวอีกฝั่งจะมีเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, อ่างล่างจาน ซึ่งสามารถประกอบอาหารได้สบายๆ ภายในครัวปิดก่อเคาน์เตอร์วางท็อปหินแกรนิตสีดำ พร้อมหน้าบานปิดช่องเก็บของมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ พื้นที่ฝั่งตรงข้ามจะโล่งๆ เหมาะแก่การวางตู้เย็น ส่วนพื้นที่ในสุดจะมีประตูเปิดออกไปลานซักล้างข้างบ้านได้ ที่ลิ้นชักมีช่องแบ่งช้อนส้อมและเก็บจานชามติดมาให้เรียบร้อย ก็อกน้ำจะเป็นโครเมียมที่นอกจากหมุนซ้ายขวาได้แล้ว ยังสามารถยกตัวก็อกน้ำออกมาได้เหมือนฝักบัวได้อีกด้วย ติดกับโต๊ะรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสงที่สามารถเปิดออกไปสวนข้างบ้าน และเปิดเพื่อรับลมเข้าสู่ตัวบ้าน ข้อดีของการมีประตูและหน้าต่างกระจกใสคือช่วยทำให้บ้านไม่ดูทึบตัน ไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน สำหรับพื้นที่ด้านนอกทางโครงการจัดตัวอย่างไว้ให้เป็นมุมรับประทานอาหารแบบ 10 ที่นั่ง พร้อมตกแต่งผนังส่วนที่ว่างเป็นสวนแนวตั้งเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่บ้าน มองขึ้นไปด้านบนก็จะเป็นทางเดินที่เชื่อมระหว่างห้องรับแขกชั้น 2 และห้องนอน Master bedroom เพื่อความเป็นส่วนตัวของห้องนอนใหญ่ ใต้สะพานจะเห็นว่ามีลำโพง Bose แบบ Bluetooth จาก Sonos ติดไว้สำหรับจัดปาร์ตี้หรือเปิดเพลงฟังเวลานั่งพักผ่อนนอกบ้านได้ ติดกับมุมรับประทานอาหาร ทางโครงการทำ Pavillion เป็นโซฟากว้างรูปตัว U พร้อมหลังคากันแดดกันฝนมาให้ดูเป็นไอเดีย กลับเข้ามาด้านใน ฝั่งตรงข้ามครัวและส่วนห้องรับประทานอาหารจะเป็นบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 และลิฟท์โดยสารในบ้าน ซึ่งจะมีเฉพาะบ้านแบบ Pride ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโครงการหลังนี้เท่านั้น พื้นที่ติดกับลิฟท์จะเป็นโถงทางเดินซึ่งมีห้องครัวแบบปิด, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่าง สำหรับครัวจะมีประตูบานเลื่อนเปิดปิดปิดด้วยนะคะ ซึ่งเหมาะกับการประกอบอาหารไทยที่มีกลิ่นแรง เปิดประตูด้านหลังออกมาจะเป็นส่วนลานหลังบ้าน ทางโครงการออกแบบพื้นเฉลียงปูกระเบื้องและลานคอนกรีตแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน ติดไฟสำหรับตอนกลางคืนและเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย กลับเข้ามาด้านใน ถัดจากครัวจะเป็นห้องน้ำชั้นล่างนะคะ ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบไม่มีส่วนอาบน้ำนั่นเองค่ะ สเป็ควัสดุห้องน้ำได้ตามนี้ค่ะ คือพื้นและผนังเป็นหินอ่อนสีครีมเทา ติดกับห้องน้ำชั้นล่าง พื้นที่ในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ของบ้านนะคะ ซึ่งเหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากไม่ต้องให้ผู้สูงอายุต้องขึ้นลงบันได แต่บางบ้านที่ไม่มีผู้สูงอายุก็อาจประยุกต์ใช้เป็นห้องนอนแขก ห้องทำงาน หรือห้องเลี้ยงเด็กก็ได้นะคะ ภายในห้องมีขนาดกว้างใหญ่เลยนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง จากรูปจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือสำหรับวางโซฟาตัวยาว และโต๊ะกลางได้อีกด้วย มุมนั่งเล่นข้างเตียงสามารถจัดวางชุดเก้าอี้และโซฟาตัวยาวได้สบายๆ ติดกันนั้นเป็นเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังสวนข้างนอกได้ การมีประตูกระจกทำให้มีแสงจากธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ดี พื้นที่ตรงข้ามกับมุมนั่งเล่นจะมีเคาน์เตอร์เล็กๆ ที่สามารถวางเครื่องทำกาแฟ รวมถึงใส่ตู้เย็นขนาดเล็กที่ใส่ใต้ล่างได้ด้วย มุมมองจากมุมนั่งเล่นกลับไปด้านในตัวห้อง พื้นที่ใต้แอร์ก็จะมีโซฟาตัวยาวแบบไม่มีพนัก เหมาะสำหรับรองรับพยาบาลประจำตัวหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ ติดกันนั้นมีพื้นที่ที่สามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวได้สบายๆ ส่วนทางขวามือ ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ติดทางเข้าห้องน้ำในตัว นอกจากจัดสรรพื้นที่ให้เป็นที่นั่งพักผ่อนแล้วยังสามารถจัดพื้นที่ด้านข้างให้เป็นโต๊ะทำงานที่เชื่อมต่อกับชั้นวางทีวีได้อีกด้วย ตู้เสื้อผ้าภายในบ้านตัวอย่างจัดมาแบบ Built in ที่เป็นบานดึงออกนะคะ ซึ่งพื้นที่ตรงกลางจัดให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านหลังกระจกเป็นหน้าต่างกระจกใสทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามา ช่วยให้ห้องสว่างและแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ซึ่งมีส่วนอาบน้ำพร้อมแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องลายหินอ่อนโทนสีครีม พื้นห้องลดระดับลงต่ำกว่าส่วนห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนพื้นห้องน้ำปูเป็นกระเบื้องโมเสกยาวชิ้นเล็กๆ ไล่สีโทนสีครีม เทา ทอง บ่งบอกถึงความหรูหรา พื้นที่ส่วนเปียกจะกั้นฉากกั้นอาบนำ้กระจกเทมเปอร์มาให้แล้วนะคะ โดยพื้นส่วนเปียกจะลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร ภายในห้องอาบน้ำมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นที่นั่งให้ผู้ใหญ่นั่งอาบน้ำได้สบายๆ มีช่องแสงด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ส่วนสำคัญอีกส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือพื้นที่ชั้นสอง ที่ทางโครงการตั้งใจออกแบบไว้ให้พื้นที่ตรงนี้ มีทางขึ้นมา 3 ทาง คือขึ้นบันไดหน้าบ้านมา, ขึ้นบันไดในบ้าน และใช้ลิฟท์ โดยชั้น 2 ส่วนหน้าบ้านเลยจะเป็นสระว่ายน้ำและระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อน ถัดเข้าบ้านมาเป็นส่วนห้องรับแขกขนาดใหญ่ ด้านหลังจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 3 และมีทางเดินเชื่อมผ่าน Court ตรงกลางบ้านไปยังห้อง Master bedroom ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ภายในจะมีพื้นที่วางเตียงนอน ชุดโซฟา มุมห้องทำงาน พื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวแบบ Full Bath ที่ให้อ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ แปลนแบบบ้าน Pride บริเวณชั้น 2 นะคะ จุดเด่นคือมีทางขึ้นได้ 3 ทาง คือขึ้นบันไดหน้าบ้าน บันไดในบ้าน และลิฟท์ โดยชั้น 2 ส่วนหน้าบ้านจะเป็นสระว่ายน้ำและระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อน ถัดเข้าบ้านมาเป็นส่วนห้องรับแขกขนาดใหญ่ ด้านหลังจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 3 และมีทางเดินเชื่อมผ่าน Court ตรงกลางบ้านไปยังห้อง Master bedroom ด้านหลัง เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาจะเจอส่วนหน้าลิฟท์ชั้น 2 ที่มี Built in ชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีทีเดียวค่ะ พื้นที่บริเวณโถงกลางของชั้น 2 จะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการตกแต่งบ้านตัวอย่างให้เป็นไอเดียโดยวางโซฟารูปตัว L ขนาด 6 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้อาร์มแชร์ และโต๊ะกลางมาให้เห็นระยะที่สามารถใช้งานได้จริงและสะดวกสบาย ระยะห่างจากโซฟาถึงคอนโซลทีวีมีระยะประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ซึ่งลูกบ้านสามารถวางทีวีจอใหญ่ขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ ติดกับบริเวณคอนโซลทีวีจะมีประตูออกไปสระว่ายน้ำชั้น 2 ซึ่งเป็นแบบก้านโยกนะคะ โดยทุกจุดของประตูและหน้าต่างในบ้านจะมีแผ่นแม่เหล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบกันขโมยแบบ Magnetic Shock Sensor ติดมาให้ เพื่อเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยอีกระดับ เปิดประตูออกมาจะเป็นระเบียงที่เชื่อมอยู่ระหว่างบันได้ทางขึ้นจากเฉลียงหน้าบ้านชั้นล่าง และสระว่ายน้ำด้านซ้ายค่ะ ทางเดินเมื่อไต่บันไดขึ้นไปบริเวณข้างสระจะปูด้วยไม้เทียม ซึ่งมีความทนทานเวลาโดนน้ำ และมีมุมให้วางชุดที่นั่งข้างสระได้ ด้านบนมีชายคาระเบียงยื่นออกมาบังแดดบังฝนให้กับทางเดินและที่นั่งพักผ่อนข้างสระ สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร พื้นสระปูกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงินฟ้า ขอบสระกรุหินอ่อนสีดำที่ดูหรูหรา กลับเข้ามาด้านใน พื้นที่ด้านหลังมุมนั่งเล่นจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 3 ส่วนทางเดินทอดยาวตรงไปนั้นจะเป็นทางเดินเชื่อมไปห้องนอนใหญ่ เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนใหญ่จะเจอมุมนั่งเล่นก่อนนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง จากภาพจะเห็นว่าเหลือพื้นที่ทางเดินได้โดยรอบสบายๆ เลยค่ะ ทางโครงการจัดมุมนั่งเล่นตัวอย่างไว้ที่พื้นที่ปลายเตียง โดยวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งมาให้พร้อม Built in ชั้นหนังสือด้านข้าง และคอนโซลวางทีวีสำหรับคนที่ชอบนอนดูหนัง หรืออ่านหนังสือก่อนนอน นอกจากจะมีมุมนั่งเล่นในตัวแล้ว พื้นที่ลึกเข้าไปยังมุมทำงาน ห้องน้ำขนาดใหญ่และ Walk-in closet ขนาดใหญ่ในตัวด้วย พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในติดกับห้องน้ำ จะเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมทำงานเหมือนห้องตัวอย่างได้เลยนะคะ กลับออกมาจะเจอกับส่วนของ Walk-in Closet ค่ะ ในส่วนของ Walk-in closet ก็เรียกว่าตกแต่งเป็นไอเดียตัวอย่างให้ลูกบ้านได้ดีเลยนะคะ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้โดนใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ต้องการตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมชั้นวางของตรงกลาง นอกจากจะออกแบบชั้นวางของ ที่แขวนเสื้อผ้ามาแบบเต็มที่แล้ว ยังจัดสรรพื้นที่ตรงกลางให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งอีกด้วย ติดกับ Walk-in closet จะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำทรงกลมสีขาวสะอาดตา ผนังข้างอ่างกรุด้วยหินอ่อนสีน้ำตาลทองที่ดูหรูหรา แถมยังทำเป็นชั้นวางของที่สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำหรือของตกแต่งได้อีกด้วย ติดกับห้องอาบน้ำจะเป็นห้องโถสุขภัณฑ์ โดยใช้แบรนด์ Kohler นะคะ ซึ่งมาพร้อมสายฉีดชำระและที่แกนใส่ทิชชู พื้นที่ส่วนเปียก ภายในห้องอาบน้ำ จะกั้นกระจกเทมเปอร์มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ภายในมีที่นั่งอาบน้ำกรุหินอ่อนมาให้ใช้วางของและนั่งขัดผิวเวลาอาบน้ำได้ โดยจะมีฝักบัวแบบ Rain Shower ติดตั้งมาให้ในตัวแล้วค่ะ อ่างล้างหน้าเป็นแบบ 2 หลุม (His & Her) เคาน์เตอร์ปูท็อปด้วยหินอ่อนสีครีมเทาเข้ากับพื้นและผนังห้องน้ำ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ขนาดไปกับความยาวของอ่าง แปลนแบบบ้าน Pride บริเวณชั้น 3 นะคะ ซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้งหมด เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาชั้น 3 จากทางบันไดก็จะเจอลิฟท์และโถงทางเดินก่อนแยกไปยังโถงกลางที่อยู่ติดระเบียง และห้องนอนทั้ง 3 ห้อง มาดูกันที่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันก่อนดีกว่าค่ะ ภายในห้องนอนมีขนาดกว้างขวางอย่างที่เห็นเลยนะคะ ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้สบายๆ ทางโครงการ Built in เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ จากภาพจะเห็นได้ว่าจัดสรรทุกอย่างได้ลงตัวมากๆ พื้นที่ข้างเตียงฝั่งหนึ่งทำ Built in ชั้นวางของติดผนังและโซฟาไว้สำหรับพักผ่อน แถมใต้โซฟามีช่องลิ้นชักเป็นที่เก็บของด้วยนะคะ พื้นที่ในสุดถูก Built in ให้เป็นมุมทำงาน, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ้งกั้นกลางพื้นที่ด้วยคอนโซลทีวี ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งไว้อย่างลงตัว พื้นที่ส่วนเปียกจะมีฉากกั้นเป็นกระจกเทมเปอร์ พร้อมมือจับอลูมิเนียมที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ซึ่งพื้นส่วนเปียกนั้นลดระดับลงไปประมาณ 3 เซนติเมตรค่ะ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของแบรนด์ Kohler หรือเทียบเท่านะคะ กลับออกมาดูที่ห้องนอนอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน ภายในห้องนอนนี้เปิดประตูเข้าไปจะเจอตู้เสื้อผ้าก่อนนะคะ ภายในห้องมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้เหมือนห้องนอนอื่นเลยนะคะ ทางโครงการ Built in เฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง หลากหลายมุมเลยนะคะ อีกฝั่งของผนังตรงข้ามเตียงทำ Built in ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนและโต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของมาให้เรียบร้อย ติดกับมุมทำงานหรือแต่งตัวจะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งเหมือนดั่งห้องอื่นๆ ในชั้น 3 ส่วนอาบน้ำพร้อมฉากกั้นมาให้ พื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องลายไม้ให้ความรู้สึกนุ่มนวลน่าใช้งาน กลับเข้ามาที่โถงกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่เอนกประสงค์อยู่ติดระเบียง ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตรงนี้ให้เป็นห้องพระ หรือเป็นพื้นที่นั่งเล่นเช่นเดียวกับในภาพก็ได้นะคะ ติดกับพื้นที่เอนกประสงค์จะเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งนะคะ ห้องนอนนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า 2 ห้องก่อนหน้านะคะ ภายในห้องสามารถจัดฟังก์ชั่นให้เป็นทั้งส่วนนั่งเล่น ทำงาน และพักผ่อน สำหรับเตียงนอนก็สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้และเหลือระยะเดินโดยรอบได้สบายเช่นเดียวกับห้องอื่นๆ ค่ะ แถมยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้ Built in โซฟา และชั้นวางของแบบแขวนผนังได้ด้วย บริเวณปลายเตียงจะเป็นระเบียงมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นให้ออกไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกยามเช้านะคะ พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในสุดจะเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ที่อยู่ติดกับห้องน้ำนะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่เปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน บริเวณโซนเปียก ทางโครงการจะติดฉากกั้นอาบน้ำด้วยประตูกระจกมาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ สุขภัณฑ์ที่ลูกบ้านจะได้รับก็ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเคาน์เตอร์ล้างหน้าสุขภัณฑ์ที่ลูกบ้านจะได้รับก็ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเคาน์เตอร์ล้างหน้าไว้ตรงกลางห้อง ก่อนจะจัดโถสุขภัณฑ์ไว้ชิดผนังฝั่งขวา   โดยรวมแล้วถือว่าการออกแบบและจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมีความลงตัวทุกตารางเมตรเลยนะคะ เพราะมีระยะเหมาะสมกับการใช้งานทั้งห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องน้ำและห้องครัวแบบปิด ซึ่งการแทรก Courtyard ข้างบ้าน ก็เปรียบเสมือนสวนสวยส่วนตัวที่เสริมให้พื้นที่ธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ทางโครงการยังใส่ใจรายละเอียดทั้งในแง่การใช้งานและลักษณะวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน อาทิ การเตรียมห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ, ระยะใช้สอยกับพื้นที่ก็เอื้อต่อการใช้รถเข็น และแบบบ้านที่ยังมีลิฟต์ในตัว เป็นต้น สำหรับบ้านที่ทางโครงการเปิดขายนั้นจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ผนังบ้านฉาบปูนเรียบทาสีขาว, ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว มาพร้อมไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง มีเพดานสูง 3 เมตร ข้อดีคือทำให้บ้านโปร่งโล่งสบายและมีพื้นที่เก็บของแนวตั้งได้เยอะ อีกทั้งยังสามารถตกแต่งเพดานได้หลากหลายรูปแบบ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพทั้งหมด พร้อมมีระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic & Motion Sensor ทุกหลังอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด ที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่าโครงการบ้านที่ดีนั้นต้องออกแบบบ้านให้ทันสมัย จัดฟังก์ชั่นการใช้งานให้คุ้มค่าทั้งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและ Facility ที่รองรับความสุขของสมาชิกครอบครัวทุก Gen ที่สำคัญพื้นที่บริเวณรอบต้องมีความอุดมสมบูรณ์ ไปไหนมาไหนสะดวก ใกล้ทางด่วน ห่างจากตัวเมืองไม่มากนัก จนคุณสามารถมั่นใจได้ว่า “เนอวานา บียอนด์ พระราม 2” เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เป็นมากกว่าบ้าน โดยเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตที่เพียบพร้อมอย่างแตกต่างและลงตัว อีกทั้งทุกฟังก์ชั่นการใช้งานตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างมีเอกลักษณ์ ในราคาเริ่มต้น 19-40 ล้าน บอกได้คำเดียวว่า “คุ้มค่า” จริงๆ ค่ะ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อชมโครงการได้ที่ www.nirvana-group.com/th/project/beyond-rama-2
Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคในปัจจุบันก็คือ “ทาวน์โฮม” จุดเริ่มต้นก็มาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนอยากขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับชีวิต จึงเริ่มมองหาที่อยู่ใหม่ให้ตอบสนองความต้องการทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง พื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หากเลือกที่อยู่เป็นคอนโดมิเนียมทำเลดีก็จะติดตรงพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนสมาชิก หรือหากจะเลือกเป็นบ้านเดี่ยวสักหลังบางทีก็มีราคาสูงเกินกว่าจะรับไหว ดังนั้นทาวน์โฮมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวยุคใหม่ในตอนนี้ค่ะ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยและเรื่องของราคา   แต่จะดีแค่ไหน..ถ้ามีทาวน์โฮมฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยว เช่นเดียวกับโครงการ “Nirvana DEFINE Srinakarin - Rama 9 (เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ - พระราม9)” ของ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช้อยส์ให้แก่คุณผู้อ่านที่กำลังคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แถมยังปักหมุดบนทำเลที่เอื้อต่อการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกันในวันนี้..     ปักหมุดทำเลศักยภาพแห่งใหม่ ใกล้ CBD พระราม 9 คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีที่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนหลายสาย และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งโครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” ก็ตอบโจทย์ทุกข้อที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดี ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของฝั่งกรุงเทพตะวันออก ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่เพิ่งเปิดใช้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ความพิเศษของถนนเส้นนี้นอกจากจะมีช่องจราจร ถึง 6-8 ช่อง ระยะทางรวมกว่า 16 กม. แล้ว ในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตเท่าถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา อีกด้วยนะคะ เพราะเป็นถนนขนาดใหญ่ มีระยะทางยาวตัดผ่านถนนเส้นหลักหลายสาย ทั้งถนนพระราม 9-ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ   นอกจากจะเป็นทำเลศักยภาพใหม่ที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นที่ดินฝั่งที่มูลค่าสูงมาก เหมาะแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งโซนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นโซนฝั่งก่อนข้ามถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก นับว่าเป็นโซนที่พักอาศัยที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะอยู่ติดย่านพระราม 9 และศรีนครินทร์ สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงใจกลาง CBD ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น จึงทำให้เหล่า Developer ต่างหมายปองครอบครองที่ดินเพื่อผุดโครงการใหม่ๆ ในย่านนี้ เนื่องจากเป็นโซนที่ถูกรายล้อมไปด้วยที่อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ที่ทำให้การเดินทางเข้านอกออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่าย นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะมีทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิ้งก์, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีครีกรีฑา (ทางฝั่งศรีนครินทร์) และสายสีส้ม (ทางฝั่งรามคำแหง) ในระยะที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการเลย   หรือถ้าลูกบ้านคนใดเป็นสายช็อป ชิม และชิลล์ก็น่าจะถูกใจที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใหม่  การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายสามารถเชื่อมผู้อยู่อาศัยไปยังสถานที่สำคัญโดยรอบได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะไปห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เดอะมอลล์บางกะปิ, ซีคอนสแควร์, เดอะไนน์ พระราม 9 หรือ พาราไดซ์ปาร์ค ที่มีร้านค้าร้านอาหารรวมถึงร้านนั่งชิลล์ให้เลือกมากมาย หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็สามารถไปโรงพยาบาลชั้นนำในพิกัดใกล้ๆ อย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง หรือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ได้สะดวก ยิ่งในเรื่องของการศึกษาก็นับว่าตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่มีสมาชิกเพิ่มได้ดี เพราะใกล้สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ, มหาวิทยาลัยเอแบค, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันนิด้า เป็นต้น   ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว   โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือพื้นที่ใช้ชีวิตที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความหรูหราเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายมาเติมเต็มชีวิต เริ่มจากการออกแบบทาวน์โฮมในสไตล์โมเดิร์นให้มีเอกลักษณ์ในรูปทรงกล่อง ผสานกับงานไม้โทนสีอบอุ่นและการจัดวางที่แสนลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรูมีระดับ แบ่งออกเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น และ 3 ชั้นครึ่ง ที่มีเพียง 173 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับบ้านมีให้เลือก 4 แบบตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้..   Type A ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 31.3-63 ตารางวา Type B ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30.9 ตารางวา Type C ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 21.1-43.7 ตารางวา Type D ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 20.8-23.7 ตารางวา   ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในก็ถูกจัดสรรให้แตกต่าง Full Function มากกว่าบ้านเดี่ยว ด้วยการใช้ช่องแสงธรรมชาติมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป โดยคำนึงถึงความโปร่งโล่ง อยู่สบาย อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่หน้าบ้านให้กว้างกว่าใครด้วยดีไซน์กว้างกว่า 6.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน ก็นับว่าตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด             เติมเต็มความสุขกับทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง อีกหนึ่งความพิเศษของ โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือการคำนึงถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกบ้าน ไม่ว่าจะวันหยุด วันธรรมดา หรือช่วงเวลาพักผ่อน เพราะทางโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยที่แตกต่างได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสวนส่วนกลาง, คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, ฟิตเนส ที่มาพร้อมกับ Public Wi-Fi และยังสร้างความอุ่นใจไปกับระบบระบบกล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.     จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” เป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบทาวน์โฮมสำหรับกลุ่มคนที่เบื่อการอยู่อาศัยแบบแนวสูง อยากมีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังอยากได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางแบบชาวคอนโดมีเนียมอยู่ จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการนั้น เป็นทำเลศักยภาพที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายจนไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเดินทางเข้านอกหรือออกเมือง เพราะใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงทางด่วนแล้ว แถมใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็ถึงใจกลาง CBD ย่านพระราม 9 ด้วยค่ะ ที่สำคัญคืออยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีเหลือง (สถานีศรีกรีฑา) เพียง 4 กม. และใกล้ Airport Link (สถานีหัวหมาก) เพียง 5.5 กม. เท่านั้น ดังนั้น Location จึงกลายเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท*   พิเศษ! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปร่วมงาน EXCLUSIVE SALES ในวันที่ 24 มีนาคม 2561 นี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษเหนือใครด้วยราคาสุดว้าวก่อน Pre-Sales ได้ที่ Sales Gallery ลงทะเบียนได้ที่ goo.gl/RfZ2Qn งานดีๆ แบบนี้บอกได้คำเดียว "ไม่ควรพลาดนะคะ"   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1787
บ้านกลางเมืองรามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมบนทำเลที่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมืองรามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมบนทำเลที่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัว : รีวิวทาวน์โฮม

ว่ากันว่าปี 2561 นี้ ทาวน์โฮมจะเป็นที่พักอาศัยที่ถูกจับตามองว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยราคาที่พอๆ กันกับคอนโดมิเนียม 1 ยูนิต แต่ข้อดีของทาวน์โฮมคือจะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าเหมาะสำหรับการอยู่กับครอบครัว หรือผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า และไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ ซึ่งหากเราพูดถึงแบรนด์ทาวน์โฮมดีๆ สักโครงการก็เชื่อว่าจะต้องมีชื่อ “บ้านกลางเมือง” ขึ้นมาในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน เพราะกว่า 20 ปีที่บ้านกลางเมืองได้สร้างสรรค์ทาวน์โฮมดีไซน์ตามยุคสมัยมาโดยตลอด จนทำให้กลายเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมกันที่โครงการล่าสุดอย่าง “บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล”   ทำเล ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับทำเลย่านนี้กันก่อนค่ะ ทำเลบริเวณนี้ส่วนมากจะแวดล้อมไปด้วยบ้านเดี่ยวที่มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวสูงมากทีเดียวค่ะ ฉะนั้นสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย แต่ยังคงเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเข้าไปใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองก็เป็นเรื่องง่าย โดยโซนนี้จะใช้เส้นทางเข้า-ออก เมืองหลักๆ คือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษศรีรีชเพื่อเข้าสู่ย่านพระราม 9 ใช้เวลาเพียง 15 นาที และสามารถต่อไปยังทางพิเศษเฉลิมมหานครไปลงสาทร-สีลมก็ได้ หรือหากจะเดินทางออกนอกเมืองไปอีกก็ไม่ไกลนะคะ แค่ขึ้นทางด่วนจากจุดเดิมก็สามารถไปลงถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออกได้เช่นกัน   ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกย่านนี้ก็มีให้เลือกไม่น้อยค่ะ ที่ใกล้ที่สุดก็มี Big C ริมถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งมีทั้งธนาคาร ร้านอาหารหลายร้าน และบริเวณนั้นยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านคาเฟ่สวยๆ ไปจนถึงร้านแฮงค์เอ้าท์ ห่างจากโครงการเพียงกิโลเมตรกว่าๆ หรือจะไปที่ถนนหลักอย่างรามอินทราก็จะมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Fashion Island, The Promenade, Central Ramintra รวมไปถึงโรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลสายไหม แต่ถ้าจะเลือกแบบเดินทางสะดวกจะขึ้นทางด่วนจุดเดิมแล้วไปที่ CDC, Crystal Park, Central Eastville และร้านอาหารชื่อดังเรียงรายอยู่ตามเส้นทางรามอินทรา-อาจณรงค์   ลูกศรสีแดง คือ ทางเข้าโครงการ ส่วนลูกศรสีน้ำเงิน คือ ออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วน ด่านสุขาภิบาล 5   หากดูจากแผนที่ชัดๆ จะเห็นว่าถนนบริเวณโครงการนั้นจะเป็นทางสำหรับขึ้น-ลงทางด่วน ด่านสุขาภิบาล 5 โดยเฉพาะ ถ้ามาจากถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งขาออกไปถนนสายไหมจะพบกับสามแยกที่เป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โครงการจะอยู่บริเวณนี้พอดีค่ะ หรือถ้าจะออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วนเพียงแค่กลับรถก่อนถึงสามแยกก็ขึ้นทางด่วนได้เลยประมาณ 800 เมตรเท่านั้นเองค่ะ แบบนี้คงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมโครงการนี้ถึงเปรียบเสมือนมีทางขึ้น-ลงทางด่วนแบบส่วนตัวอยู่หน้าบ้านของตัวเอง   ภาพรวมโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ตั้งอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลง ทางด่วน สุขาภิบาล 5 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น 145 ยูนิต บนพื้นที่ 14-0-52.60 ไร่ มาพร้อมกับคอนเซป “Connectivity of Perfect Living การเชื่อมต่อสู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ” เป็นคอนเซปที่เข้ากับตัวโครงการไม่ว่าจะในแง่ของการเดินทาง หรือการวางแปลนภายในบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว สำหรับโครงการนี้จะมีทาวน์โฮมแบบเดียวเหมือนกันหมดทุกยูนิตนะคะ คือ พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2 คัน หลังที่ลูกบ้านจะได้รับจริงๆ เป็นบ้านเปล่า แต่มีการติดตั้งสาธารณูปโภคมาให้เรียบร้อยค่ะ โดยทาง AP เรียกแบบทาวน์โฮมสไตล์นี้ว่า New Urbanist ชั้นแรก ภายในบ้านจมีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ ชั้น 2 ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ชั้น 3 ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 พื้นที่ใช้สอย Facility ของโครงการก็มีมาให้ครบค่ะ ทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนสชั้นบนที่มีกระจก High Ceiling ให้ได้ออกกำลังกายพร้อมชมวิวสวนสีเขียวสวยๆ ของโครงการ บ้านตัวอย่าง ครั้งนี้เราพามาชมกันที่ตัวโครงการเลยค่ะ ซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเห็นว่าหน้าโครงการจะติดกับทางขึ้น-ลง ทางด่วนเลย หน้าโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ประจำอยู่ที่ Gate ค่ะ โดยการเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Access Card พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยค่ะ เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วจะเห็นว่าตัวทาวน์โฮมจะใช้โทนสีขาวตัดกับสีเทา-น้ำตาล บวกกับส่วนที่เป็นเหล็กสีดำในสไตล์โมเดิร์น ด้วยหน้าบ้านกว้างถึง 5 เมตร เท่ากันทุกหลังทำให้จอดรถได้ถึง 2 คันค่ะ รั้วหน้าบ้านใช้เหล็กโปร่งสีดำ ซึ่งบริเวณลานจอดหน้าบ้านนี้ก็จะติดตั้งทั้งปลั๊กไฟ ก๊อกน้ำมาให้ พร้อมกับติดตั้งผ้าใบกันสาดสีน้ำตาลที่สามารถผับเก็บได้อย่างที่เห็นในภาพค่ะ มาชมที่บ้านตัวอย่างกันค่ะ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 145.017 ตร.ม. อย่างที่บอกกันไปค่ะว่าโครงการติดตั้งผ้าใบกันสาดหน้าบ้านเอาไว้ให้ทุกหลังด้วย ซึ่งตัวผ้าใบนี้สามารถผับเก็บได้ด้วย ประตูหน้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยกระจกที่เป็นประตู-หน้าต่างทุกบานจะใช้กระจกเขียวตัดแสงค่ะ ขอบกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำค่ะ ใช้ระบบ Double Lock คือมีทั้งการล็อคแบบกุญแจล็อคนอกบ้านกับแบบก้นหอยจากในบ้านค่ะ ภายในบ้านมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ใช้ไฟซาลาเปา Common Area ชั้นล่าง โซนแรกเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้ เหลือพื้นที่อีกเยอะมากค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามโซฟาก็มีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวีอยู่ระหว่างบันไดกับห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ ติดกับบริเวณวางเคาน์เตอร์วางทีวีเรามาดูที่ห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ โดยห้องเก็บของนี้ใช้บานประตูแบบกดตัวบานประตูเพื่อเปิด-ปิด มองผ่านๆ แล้วจะคล้ายกับเป็นกำแพงโล่งค่ะ ทำให้ดูแล้วสวยกว่าที่จะเป็นบานแบบมีลูกบิดประตู ภายในเป็นห้องใต้บันไดใช้เก็บของขนาดเล็กได้ค่ะ เช่น เก็บรองเท้า, อุปกรณ์ทำความสะอาด ถัดจากห้องใต้บันไดเป็นห้องน้ำขนาดเล็กสำหรับรับแขก ใช้ประตูบานเลื่อนค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ใช้ไฟแบบ Downlight และใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ทั้งหมดค่ะ ด้านบนข้างสุขภัณฑ์มีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาาศ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมพื้นที่วางของตรงผนังหน้ากระจก ต่อมาที่พื้นที่ครัวซึ่งจะเชื่อมต่อลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนครัวเราสามารถวางเคาน์เตอร์แบบ L Shape พร้อมกับวางตู้เย็นไว้ด้านข้างได้ค่ะ มีหน้าต่างแบบกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับระบายกลิ่นและความชื้นสำหรับห้องครัวได้อย่างลงตัวทีเดียวค่ะ ถัดจากโซฟาสามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นประตูออกไปทางหลังบ้าน ใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ใช้ระบบ Double Lock แบบล็อคตรงมือจับกับแบบก้นหอยค่ะ เดินออกมาตรงพื้นที่หลังบ้านมีบริเวณให้สำหรับเป็นลานซักล้างหรือจะดัดแปลงเป็นสวนหลังบ้าน, ครัวไทยได้ตามสะดวกค่ะ โดยมีการวางช่องลึกเข้าไปแล้วปูพื้นกระเบื้องเซรามิคพร้อมต่อระบบน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อยสำหรับวางเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ กลับเข้ามาเดินชมในบ้านที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดบ้านใช้แบบโครงเหล็กมีราวจับสีขาว มีหน้าต่างกระจกทรงสูงตรงที่พักบันไดเพื่อเพิ่มแสงสว่างค่ะ ซึ่งหน้าต่างตรงนี้จะไม่สามารถเปิดได้นะคะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีทั้งหมด 3 ห้องค่ะ เป็น 2 ห้องนอนทางซ้ายกับขวา ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง พื้นของชั้น 2 จะถูกพื้นห้องปูด้วยลามิเนต เข้าไปดูที่ห้องทางขวามือทางหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีพื้นที่มีขนาดน้อยที่สุดของบ้าน แต่ฝั่งขวามือของห้องมีพื้นที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลยนะคะ แต่ในห้องตัวอย่างนี้จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเอาไว้ชิดกำแพง แล้วเหลือพื้นที่กว้างๆ ตรงกลางห้องค่ะ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดใหญ่ตรงกลางห้อง ตรงนี้เหมาะสำหรับวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ หรือจะวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะคะ เพราะมีแสงสว่างเข้ามามากเพียงพอแน่นอน อีกด้านของห้องจะมีพื้นที่ขนาดกำลังพอดีสำหรับ Built In ตู้เสื้อผ้า ต่อไปที่ห้องน้ำด้านขวามือจากในภาพค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งพื้นและผนัง สุขภัณฑ์ทั้งหมดจากแบรนด์ American Standard แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบธรณีกั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อย อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง โดยมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นที่วางของได้ค่ะ ไปดูต่อกันที่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านของชั้น 2 ค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้โดยยังมีพื้นที่ของทั้ง 2 ข้างของเตียงเหลืออยู่ และยังสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ด้วย ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับ Built In ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ตลอดแนวผนัง ห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้านด้วยนะคะ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขึ้นไปดูที่ชั้น 3 ต่อค่ะ ชั้น 3 จะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ หันไปดูทางขวากันก่อนค่ะ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ว่างสำหรับจัดเป็นพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น ห้องนั่งเล่นส่วนตัว, ห้องทำงาน เป็นต้น ส่วนห้องตัวอย่างนี้ทางโครงการตกแต่งออกมาให้เป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องที่จะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ข้างๆ พื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ มีหน้างต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีช่องเก็บของด้านล่างพร้อมพื้นที่วางหน้ากระจก ความพิเศษของชั้นนี้คือห้องน้ำมีประตู 2 ฝั่ง เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่อเนกประสงค์ด้านนอกกับ Master Bedroom ในส่วน walk in closet ตรงนี้เหมาะมากต่อการอยู่อาศัยจริงค่ะ เราออกมาดูกันที่ห้อง Master Bedroom จากทางประตูเข้าหลักของห้องทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่กว้างขวางที่สุด สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมเหลือพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ข้าง ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถ Built In ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งไปจนถึงโซน walk in closet ได้ ใครที่มีเสื้อผ้า เครื่องประดับเยอะๆ ตรงนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ ด้านข้างเตียงมีระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำเช่นเดียวกันกับระเบียงชั้น 2 สำหรับทาวน์โฮมโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล นอกจากจะอยู่ในทำเลที่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนมาก ไม่ต้องฝ่ารถติดเพื่อไปขึ้นทางด่วน แต่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัวที่ส่งผลให้เดินทางสะดวก เชื่อมต่อเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองได้อย่างรวดเร็วแล้วยังได้พื้นที่สำหรับคนในครอบครัวทั้งในส่วนที่เป็น Common Area และพื้นที่ในห้องส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆ ของย่านนี้ที่มีความเงียบสงบไม่วุ่นวายมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็มีแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้ตัวที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของถนนสุขาภิบาล 5 อีกด้วย   Pre Sale 10-11 มีนาคม 2561 กับแคมเปญสุดร้อนแรง “ซื้อบ้านไม่มีดอกเบี้ยนาน 2 ปี” ผ่อนพิเศษ 9,999 บาท และลงทะเบียนรับเพิ่ม 50,000 บาท >>> http://www.apthai.com
LIVEVOLUTION แคมเปญใหญ่จาก AP ให้คุณจับจองทาวน์โฮมล้ำสมัย บนทำเลที่ดีที่สุดก่อนใคร

LIVEVOLUTION แคมเปญใหญ่จาก AP ให้คุณจับจองทาวน์โฮมล้ำสมัย บนทำเลที่ดีที่สุดก่อนใคร

ปฎิเสธไม่ได้ว่า “ทาวน์โฮม” คือตัวเลือกของที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมืองยุคใหม่ที่เป็นส่วนผสมลงตัวระหว่างบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว ดีไซน์และฟังก์ชั่นใช้งานภายในบ้านยังตอบสนองการพักอาศัยได้เป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการแบบครบครัน และยังเป็นอสังหาริมทรัพย์ชนิดที่ผู้ซื้อจะได้กรรมสิทธิ์ครอบครองในส่วนของที่ดินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมปัจจุบันกรุงเทพฯ จะมีทาวน์โฮมโครงการใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นตัวเลือกของผู้บริโภคมากมาย ซึ่งแบรนด์ที่สร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งทั้งหมด คงหนีไม่พ้นโครงการ “บ้านกลางเมือง” และ “PLENO” (พลีโน่) จาก AP Thai ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมืองที่มุ่งมั่นพัฒนาทาวน์โฮมจนกลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของประเทศไทย สามารถครองใจผู้บริโภคกว่า 50,000 ครอบครัว เนื่องจากมีจุดแข็งที่ได้เปรียบกว่าแบรนด์ใดๆ เพราะเข้าใจความต้องการและ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างตรงจุด ซึ่งไม่ใช่แค่ตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานเท่านั้น แต่วิธีคิดในการออกแบบสเปชของ AP นั้น คือการผสานฟังก์ชั่นเข้ากับความฝัน รสนิยม และอุดมคติในการใช้ชีวิต เพื่อประโยชน์สูงสุดและเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านด้วยแนวคิด 5 BEST TOWNHOME สร้างจุดเด่นให้แตกต่างจากโครงการทั่วไปโดยปักหมุดแต่ทำเลศักยภาพ สามารถเชื่อมต่อการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ติดถนนใหญ่แต่ต้องเชื่อมต่อทางลัด ทางด่วน หรือระบบขนส่งขนาดใหญ่ได้ด้วย ที่สำคัญดีไซน์โมเดลแบบบ้านต้องตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยทาง AP ได้นำเทคโนโลยีเข้าไปเป็นส่วนผสมกับการออกแบบพื้นที่ภายใต้แนวคิด ‘สร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต’ หรือ SMART LIVING FUNCTION ที่นอกจากการลงลึก Design Space โดยเพิ่ม Design Detail เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ครบและสมบูรณ์แบบมากขึ้นแล้ว ยังคงดีไซน์ทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของลูกบ้านทุกๆ คน เพื่อเติมเต็มความสุขแบบพร้อมอยู่ แถมยังนำเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตที่จะตอบสนอง Lifestyle การอยู่อาศัยแห่งโลกอนาคตที่ครอบคลุมทุกมิติทั้งในด้านคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่มากขึ้น ก่อนจะส่งมอบบ้านที่เพียบพร้อมและดีที่สุดให้แก่ลูกบ้านนั่นเองค่ะ ทำเลศักยภาพ สามารถเลือกเดินทางได้หลากหลาย สำหรับแบรนด์ บ้านกลางเมือง และ PLENO นั้น ได้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซน A, B, C และ D ซึ่งเป็นทำเลทองรอบกรุงเทพฯ โดยวันนี้เราขอหยิบยกทาวน์โฮม 4 โครงการ จาก 2 แบรนด์คุณภาพของ AP ประกอบด้วย "โครงการบ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช, บ้านกลางเมือง สวนหลวง, บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 - อ่อนนุช และโครงการพลีโน่ สุขุมวิท - บางนา" มาพูดถึงกันสักหน่อยค่ะ ซึ่งทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ในโซน A ที่นับว่าเป็น Urbanite Living ให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกสบายมากๆ ทั้งคนมีรถส่วนตัวและไม่มี เพราะด้วยทำเลศักยภาพที่ทาง AP เลือกให้เป็นที่ตั้งโครงการนั้นจะเชื่อมต่อทั้งทางด่วน, มอเตอร์เวย์ และกาญจนาวงแหวนรอบนอก อีกทั้งยังตั้งอยู่ในพิกัดที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าเลย ไม่ว่าจะเป็นสถานีแอร์พอร์ตลิ้งค์บ้านทับช้าง (โครงการบ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช และบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 - อ่อนนุช), BTS สถานีบางนา (โครงการพลีโน่ สุขุมวิท - บางนา) พิกัดของทั้ง 4 โครงการ นั้นเอื้อต่อการเดินทางที่ง่ายและสะดวกสบายจริงๆ ค่ะ ซึ่งลูกบ้านสามารถเลือกเส้นทางเข้าเมืองได้เยอะ ทั้งทางถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ที่สามารถวิ่งตรงไปจนถึงพระราม 9 ได้ หรือใช้ทางแยกประเวศแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนอ่อนนุชวิ่งเข้าแยกสวนหลวง แล้วตรงไปถึงถนนสุขุมวิทก็ยังได้ค่ะ แถมถนนอ่อนนุชยังเชื่อมต่อเข้าถนนพัฒนาการสามารถไปถนนเพชรบุรีได้อีกด้วย ส่วนถ้าจะออกเมืองก็ใช้ทางแยกประเวศ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดกระบัง ก็จะสามารถไปสนามบินสุวรรณภูมิ และสามารถไปถนนกิ่งแก้วไปออกถนนบางนา-ตราดได้ค่ะ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบก็มีสถานที่สำคัญมากมายทั้งห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา, สถานพยาบาล และสนามบินสุวรรณภูมิ แถมแบบบ้านทาวน์โฮมที่ถูกเลือกมาลงนั้นก็ไม่ได้มีราคาสูงมากไปกว่าคุณภาพเลย ซึ่งอยู่ในระดับราคาที่สามารถจับต้องได้ แต่จะมีรายละเอียดและจุดเด่นที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างไรบ้าง เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ.. บ้านกลางเมืองพระราม 9 - อ่อนนุช เริ่มต้นโครงการแรกกับ “บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช” ทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ที่สะท้อนถึงความเหนือระดับได้ในทุกมิติ ออกแบบภายใต้แนวคิด Free & Easy ทันสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา โดยตัวบ้านเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอยแบบ Flexible ที่สามารถออกแบบพื้นที่ส่วนตัว และปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของทุกสัดส่วนในบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ทันสมัยได้อย่างลงตัว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย กับพื้นที่ส่วนกลาง คลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน เติมเต็มแนวคิดใหม่ๆ และความสุขได้อย่างไม่รู้จบ บนทำเลใกล้มอเตอร์เวย์และวงแหวนกาญจนาภิเษก เพียง 5 นาทีถึงรถไฟฟ้า เดินทางถึงพระราม 9 ภายใน 10 นาที ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.99 ล้านบาท* พิกัดโครงการ บ้านกลางเมือง พระราม 9-อ่อนนุช:  (13.728025,100.703883) บ้านกลางเมือง สวนหลวง บ้านกลางเมือง สวนหลวง โครงการที่อยู่ทางโซนบางนา เป็นโครงการที่มี Product หลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม 2 ชั้น, 3 ชั้น และบ้านแนวคิดใหม่ X-Trend Series ในดีไซน์ Modern Contemporary Style ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในครอบครัว ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่การสร้างสรรค์พื้นที่อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบพื้นที่ที่มากขึ้น เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย ในสไตล์ Modern Contemporary ภายใต้สุนทรียะแห่งธรรมชาติ รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวที่เปี่ยมไปด้วยความร่มรื่น บนทำเลศักยภาพที่เลือกสรรมาอย่างดี พร้อมตอบรับทุกการพักผ่อนด้วย Facilities ครบครัน ทั้ง คลับเฮาส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Jogging Track สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ใกล้ทั้งทางด่วนบูรพาวิถี มอร์เตอร์เวย์ และวงแหวนรอบนอก เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช และถนนศรีนครินทร์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.69 ล้านบาท* พิกัดโครงการ บ้านกลางเมือง สวนหลวง: (13.670599,100.67296) บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9-อ่อนนุช บ้านแนวคิดใหม่ในบรรยากาศรีสอร์ท ตอบรับความสุขของทุกวิถีชีวิตได้อย่างเต็มที่ ออกแบบภายใต้แนวคิด Multiple Space ขยายพื้นที่ใช้สอยภายใน พร้อมสวนรอบบ้าน และด้วยความลงตัวของพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ด้วยนิยามการดีไซน์แบบ Maximum / More / Masterpiece ฟังก์ชั่นการใช้งานของแต่ละเสปซสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามจินตนาการ ผสานความเรียบหรูและทันสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้คุณและครอบครัวได้ผ่อนคลายไปกับ คลับเฮ้าส์ดีไซน์หรู มาพร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และสวนพักผ่อน บนทำเลเชื่อมต่อสู่พระราม 9 เพียง 10 นาที* ใกล้ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า Airport Link สถานีบ้านทับช้าง ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 ล้านบาท* พิกัดโครงการ บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9-อ่อนนุช: (13.728025,100.703883) พลีโน่ สุขุมวิท - บางนา มาถึงโครงการสุดท้ายในโซน A ที่น่าสนใจไม่แพ้บ้านกลางเมืองเลย สำหรับแบรนด์ PLENO โครงการ PLENO สุขุมวิท-บางนา ฟังก์ชั่นแบบใหม่ของทาวน์โฮม 2 ชั้น บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วน สามารถเข้าเมืองได้ง่ายและใกล้เมกะบางนา แบบบ้านมีการดีไซน์ฟังก์ชั่นภายในของพื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวใหม่ ด้วยการดีไซน์แบบ Flexible Space เพิ่มประโยชน์ของฟังก์ชั่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยตามต้องการของการใช้งานจริง ชั้นล่างจะมี Foyer ช่วยทำให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น ชั้น 2 เพิ่ม Green Space มากขึ้น โดยฟังก์ชั่นของ Double Garden ของพื้นที่ชั้น 2 ช่วยเพิ่มสีเขียวของธรรมชาติให้กับความร่มรื่นของบ้าน โครงการมี Facilities ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ พร้อม Fitness และสนามเด็กเล่น  พักผ่อนอย่างลงตัวท่ามกลางธรรมชาติที่ บนคลับเฮ้าส์ที่โดดเด่นในการออกแบบที่หรูหรา ทำให้สะท้อนทุกรายละเอียดในการอยู่อาศัย ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.49 ล้านบาท* พิกัดโครงการ PLENO สุขุมวิท-บางนา : (13.6370711286343,100.673248618841)   เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของทาวน์โฮมที่มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ชนิดที่ Sold Out ตั้งแต่วันเปิดจองในทุกๆ โครงการที่ผ่านมาทาง AP จึงไม่รอช้าที่จะกระจายความสุขให้เกิดขึ้นในวงการอสังหาฯ ของไทย ด้วยการจัดแคมเปญครั้งยิ่งใหญ่ “LIVEVOLUTION” ครั้งแรกกับนวัตกรรมทาวน์โฮมแห่งอนาคต ที่รวบรวมทาวน์โฮมสุดล้ำสมัย 2 แบรนด์ดังอย่าง “บ้านกลางเมือง” และ “Pleno” บนสุดยอดทำเลกว่า 30 โครงการ นำมาจัดโปรโมชั่นพร้อมกันทั่วกรุงเทพฯ โดยทั้ง 2 แบรนด์จะนำเสนอบ้านทาวน์โฮมแบบใหม่ พร้อมราคา Pre-sale ที่ดึงดูดใจมากๆ (เริ่มที่ 1.69-9.29 ล้านบาท*) ตามด้วยข้อเสนอแห่งปี “ซื้อบ้านไม่มีดอกเบี้ยนาน 2 ปี*” ให้คุณเป็นเจ้าของทาวน์โฮมแบรนด์อันดับหนึ่งได้ง่ายๆ ภายในงานนอกจากทุกคนจะได้พบกับการเปิดตัวครั้งแรกของ “LIVEVOLUTION HOME” นวัตกรรมทาวน์โฮมแห่งอนาคต และแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานฟังก์ชั่น LIVEVOLUTION SMART และ LIVEVOLUTION SPACE เข้าไว้ด้วยกันเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตของลูกบ้านได้ครบสมบูรณ์แบบทุกมุมมองมากยิ่งขึ้นแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษในงานที่ไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ ค่ะ สำหรับ "HALL OF FRAME” แคมเปญใหม่ที่ทาง AP จะรวบรวมที่ดินแปลงพิเศษ ทำเลพิเศษ พร้อมราคาสุดพิเศษ ทุกโครงการ ทุกทำเล จากบ้านกลางเมือง และ พลีโน่ ไปให้จับจองและเลือกสรรได้ตามความต้องการ ซึ่งข้อเสนอนี้จัดให้เฉพาะลูกค้าที่จองในงานนี้เท่านั้นนะคะ ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาดโปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ แนะนำให้ลงทะเบียน https://goo.gl/kb4ouD เพื่อลุ้นรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท*! ไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย ก่อนจะไปเจอกันที่หน้างานวันที่ 10-11 มีนาคม 2561 ที่จะถึงนี้ ซึ่งงานจะจัดเพียง 2 วันเท่านั้น!!! สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1623
The Element Rama 9 – ดิ เอเลเมนท์ พระราม 9 : รีวิวทาวน์โฮม

The Element Rama 9 – ดิ เอเลเมนท์ พระราม 9 : รีวิวทาวน์โฮม

The Element Rama 9 (ดิ เอเลเมนท์ พระราม 9) - โฮมออฟฟิศพร้อมอยู่อาศัย จำนวน 5 ชั้น พร้อมลิฟท์ส่วนตัว ใจกลางพระราม 9 เดินทางสะดวก ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนพระราม 9 เชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมือง ย่าน ซ.ทองหล่อ ถ.อโศก เพียง 15 นาที     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 26.9 ล้านบาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์มาร์ค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ลักษณะโครงการ อาคารสำนักงาน พร้อมอยู่อาศัย จำนวน 5 ชั้น จำนวน 14 ยูนิต (เฟส 1) พื้นที่โครงการ ประมาณ 2 ไร่ (เฟส 1) ที่ตั้งโครงการ ถนนพระราม 9 ตัดใหม่ ซอยพระราม9 แยก 41 (ห่างจากเดอะไนน์ 150 เมตร) จังหวัดกรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ ไตรมาสที่ 2 ปี 2561   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   The Nine พระราม 9 The Mall รามคำแหง Major รามคำแหง Big C The Mall บางกะปิ Makro ตะวันนา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ราชมังคลากีฬาสถาน โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ สนามบินสุวรรณภูมิ     แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   อาคารสำนักงาน พร้อมอยู่อาศัย 5 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม.     สิ่งอำนวยความสะดวก   Working space Meeting and manager room   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 089-504-4554 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.theelementrama9.com/home
Pleno Ramintra-Wongwaen – พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno Ramintra-Wongwaen – พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno Ramintra-Wongwaen (พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน) - ทาวน์โฮมคุณภาพ ใหม่ล่าสุด จาก AP เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ติดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก เชื่อมทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และ วงแหวนกาญนาภิเษก (บางนา-บางปะอิน) เพียง 5 นาที     รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    2,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 126 ตร.ม. จำนวน 180 ยูนิต พื้นที่โครงการ    22–3–12 ไร่  (9,112.0  ตร.วา) ที่ตั้งโครงการ    ถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก คาดว่าจะแล้วเสร็จ     ปี 2563 สถานที่สำคัญใกล้เคียง The Promenade Fashion Island Central Plaza รามอินทรา รพ.สายไหม ม. เวสเทิร์น ม. ศรีปทุม ร.ร สารสาสน์ สายไหม ร.ร สาธิต พัฒนา ซาฟารีเวิลด์ สวนสยาม แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 126 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก อาคารสโมสรพร้อมฟิตเนส และสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ กว่าครึ่งไร่ สวนหย่อมอื่นๆภายในโครงการ รวมกันมากกว่า 1.5 ไร่ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ระบบ Access Card สำหรับเข้าออกโครงการ (Easy Pass) ระบบ CCTV ทางเข้า – ออกโครงการ ป้ายเรียกบริการแท็กซี่ด้านหน้าโครงการฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
ปักหมุด “สุขสวัสดิ์” ทำเลน่าอยู่บนฝั่งธนฯ : รีวิวทาวน์โฮม

ปักหมุด “สุขสวัสดิ์” ทำเลน่าอยู่บนฝั่งธนฯ : รีวิวทาวน์โฮม

“สุขสวัสดิ์” ทำเลย่านชุมชนเก่าขนาดใหญ่ฝั่งธนฯ ที่มักเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งถือว่าเป็นย่านที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากเพราะเป็นโซนที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเขตเมืองกรุงเทพฯ ออกมาสู่รอบนอกมากขึ้น จุดเด่นของทำเลในย่านนี้คือระยะทางที่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเลย โดยเฉพาะย่านธุรกิจอย่างสาทร รวมทั้งยังมีโครงข่ายคมนาคมที่หลากหลาย ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังรองรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่จะมีขึ้นในอนาคตอีกด้วย วันนี้เราเลยเลือกปักหมุดทำเลย่าน “สุขสวัสดิ์” เพื่อจะพาทุกคนไปดูเรื่องของศักยภาพ ตลอดจนการเดินทาง รวมถึงไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกของคนในย่านนี้ว่าจะน่าอยู่ขนาดไหน ทำไมต้องเป็น “สุขสวัสดิ์” อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า “สุขสวัสดิ์” เป็นชื่อของถนนที่มีระยะทางยาวประมาณ 28 กิโลเมตร ตั้งแต่แยกจอมทองจนถึงแยกพระสมุทรเจดีย์ซึ่งถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีความเจริญเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพตอนใต้ และมีการเดินทางสะดวกสบาย ประกอบกับความเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมานาน แนวโน้มการพัฒนาทำเลดังกล่าวจึงเจิรญขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้มีแหล่งพาณิชยกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสาธารณูปการหลักรองรับการใช้ชีวิตที่เพียบพร้อม นับได้ว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพอยู่แล้วในปัจจุบัน และจะมีการพัฒนาที่ดินเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต นอกจากนี้ทำเลสุขสวัสดิ์ยังอยู่ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก หรือถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระยะทางส่วนใหญ่เป็นทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เป็นถนนสายสำคัญที่มีเส้นทางเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองกรุงเทพมหานคร และเชื่อมต่อได้ถึง 4 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็เป็นเงื่อนไขของความอุดมสมบูรณ์อันดับต้นๆ ที่ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจอยากขยับขยายครอบครัวจากถิ่นฐานเดิมมาอยู่อาศัยในย่านนี้ เดินทางสะดวกรวดเร็ว เลือกได้หลากหลายเส้นทาง เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าถนนสายหลักอย่างสุขสวัสดิ์ สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ทั้งถนนพุทธบูชา, พระราม 2, ประชาอุทิศ, จอมทอง, เอกชัย, บางขุนเทียน, สมเด็จพระเจ้าตากสิน และพระราม 3 ซึ่งเป็นถนนที่เข้านอกออกเมืองได้ง่ายมากๆ ค่ะ แถมยังมีถนนหนทางในซอกซอยต่างๆ อีกเพียบที่จะลัดเลาะหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นได้หายห่วง นอกจากนี้ยังเดินทางได้สะดวกมากขึ้นด้วยทางด่วนที่เชื่อมต่อกับถนนสุขสวัสดิ์อย่างทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยทางด่วนเส้นนี้จะเชื่อมไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพด้วย เช่น วิภาวดีรังสิต, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สะพานเหลืองหัวลำโพง, สุขุมวิท, โซนบางนา และท่าเรือคลองเตย เป็นต้น ซึ่งสามารถเดินทางไปพระราม 3 สาทร ได้อย่างรวดเร็ว เพราะใกล้จุดขึ้น-ลง ด่านดาวคะนอง และด่านสุขสวัสดิ์ ทำให้เดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจได้ภายในไม่กี่นาที และยังสามารถเลือกเดินทางด้วยถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพล 1 เพื่อเชื่อมต่อกับพระราม 3 โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าทางด่วน หรือหากข้ามสะพานภูมิพล 2 ไปก็สามารถเชื่อมต่อกับถนนปู่เจ้าสมิงพราย และถนนสุขุมวิทได้สะดวก หรือจะไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษกก็สามารถเดินทางออกต่างจังหวัดได้เช่นกัน ในส่วนของการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็ถือว่าสะดวกไม่ใช่น้อยเลยนะคะ เพราะอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า ถนนสุขสวัสดิ์จะเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ที่เป็นส่วนต่อขยายมาจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน) ซึ่งพื้นที่ย่านสุขสวัสดิ์มีสถานีที่ใกล้ๆ คือ สถานีดาวคะนอง, สถานีบางปะกอก, สถานีประชาอุทิศ โดย Interchange Station อยู่ที่สถานีวงเวียนใหญ่ เชื่อมต่อกับรถไฟสายชานเมืองสีแดงเข้มช่วงหัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย ทำให้การเดินทางในอนาคตจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้น และเชื่อมโยงไปสู่ใจกลางเมืองได้มากขึ้น และการมาถึงของรถไฟฟ้าเหล่านี้จะทำให้แนวโน้มพื้นที่สุขสวัสดิ์มีการพัฒนาและเจริญมากขึ้นอีกแน่นอนค่ะ ล้อมรอบด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน จุดเด่นของย่าน “สุขสวัสดิ์” นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายเชื่อมต่อตัวเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 และ 3, บิ๊กซี สุขสวัสดิ์, เทสโก้โลตัส สุขสวัสดิ์และโฮมโปร ไม่เพียงเท่านี้ยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์สุดชิคแห่งใหม่อย่าง The Up Rama 3 คอมมูนิตี้มอลล์ย่านพระราม 3 ที่รวมร้านอาหารพร้อมด้วยร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมายเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว หรือถ้าอยากใกล้ชิดธรรมชาติก็สามารถไปเที่ยวบางกระเจ้า สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนปอดของคนกรุงเทพได้ในพิกัดที่ง่ายต่อการไปถึง นอกจากนี้ยังมีสวนสาธาระณะขนาดใหญ่อย่างสวนสุขภาพลัดโพธิ์บริเวณใต้สะพานภูมิพลอีกด้วย เรียกว่าผู้อาศัยในย่านนี้มีตัวเลือกในเรื่องของการพักผ่อนรวมถึงอาหารการกินที่เยอะและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพทีเดียวค่ะ เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 3 เทสโก้ โลตัส พระราม 3 The Up พระราม 3 บางกระเจ้า ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง บางกระเจ้าพื้นที่ปั่นจักรยานที่เปรียบเสมือนปอดของคนกรุงเทพ บรรยากาศสบายๆ ที่บางกระเจ้า นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์ที่เรายกตัวอย่างไปแล้วนั้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลบางปะกอก 3 และ 9, โรงพยาบาลบางมด และสถานศึกษาชื่อดังตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัยเลยค่ะ เพราะมีทั้ง โรงเรียนสารสาสน์ สุขสวัสดิ์, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี, โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม, โรงเรียนเลิศหล้า และมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทำให้เป็นทำเลที่มีชีวิตและสามารถอยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากทำเลสุขสวัสดิ์มีเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อด้วยการคมนาคมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางสัญจรทางบก หรือแนวโน้มระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟฟ้า ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายรายเข้ามาปักหมุดทำเลในย่านนี้ แต่แบรนด์ที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับดีที่สุดก็คือ “บ้านกลางเมือง” ของ บริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ AP Thai ผู้นำและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ โดยชูคอนเซ็ปต์ทาวน์โฮมที่เดินทางง่ายใกล้ใจกลางเมือง ฟังก์ชั่นครบสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ถึง 2 โครงการ ได้แก่ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 และ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ค่ะ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 โครงการ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 เป็นโครงการ ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นที่เกิดขึ้นใหม่แห่งเดียวในย่านนี้ ซึ่งจุดประสงค์ของกลุ่มผู้ใช้งานคืออยู่อาศัยเป็นครอบครัว จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนเมืองที่ต้องการบ้านอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวมากกว่าการเลือกอยู่คอนโด โดยไม่ลืมใส่ความหรูหราและเลือกคุณภาพให้แก่ลูกบ้าน ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 328 หลัง ขนาดเริ่มต้นอยู่ที่  18 - 20 ตร.ว. นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สวนสาธารณะ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย มีรูปแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกัน   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น : 5.99 - 7.99 ล้านบาท เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น และทาวน์โฮม 3 จำนวน 328 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แบบบ้าน Iconic ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร แบบบ้าน Urbanist ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร แบบบ้าน Iconic ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. 3.5 ชั้น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน โดดเด่นด้วย Double Volume Space และ Sky Living Room แบบบ้าน Urbanist ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 145 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น Triple Bedroom และ Multi-purpose Room พร้อมระเบียงส่วนตัวบนชั้น 3 บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ สำหรับโครงการ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์  เป็นโครงการทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เน้นการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่อยู่อาศัย จุดเด่นอยู่ที่ทำเลศักยภาพ ทำให้เกิดความคล่องตัวสามารถเชื่อมโยงการใช้ชีวิตในเมืองได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือจับจ่ายใช้สอย ซึ่งนับว่าเป็นโครงการบ้านที่น่าสนใจที่สุดในย่านนี้ จุดประสงค์ของกลุ่มผู้ใช้งานคือ ครอบครัวที่จะขยายมาจากครอบครัวใหญ่ เป็นวัยทำงาน เนื่องจากสามารถเข้าถึงโซนออฟฟิศชั้นนำได้อย่างสะดวก และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ทาวน์โฮมแบรนด์ “บ้านกลางเมือง” ยังถูกพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งโมเดลใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาก็คือ “Terraria Model” ออกแบบภายใต้วิธีคิดนวัตกรรมดีไซน์พื้นที่แห่งอนาคต (Innovation for Future Living) โดยมีจุดเด่น คือ 1. การออกแบบพื้นที่ สีเขียว (Design for Green Living) ซึ่งนอกจากจะให้ความสำคัญกับการนำต้นไม้เข้ามาอยู่ในตัวอาคารในรูปแบบ Pocket Garden เข้ามาไว้ในทาวน์โฮมถึง 2 จุดในชั้น 2 และชั้น 3 แล้วนั้น ยังคำนึงถึงการออกแบบมุมมอง (Design Approach) ทั้งจากภายในและภายนอก 2. การออกแบบพื้นที่รองรับการปรับเปลี่ยน (Design for Flexible Living) ตามความต้องการใช้พื้นที่ที่หลากหลาก ด้วย Flexible Wall ผนังภายในแบบ พิเศษที่รองรับการปรับเปลี่ยน ขยับขยายได้จริง ยืดหยุ่นได้หลากหลายรูปแบบโดยไม่กระทบโครงสร้าง หลักของบ้าน ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้อาศัย ขณะที่ความลงตัวเชิงฟังก์ชั่นและความคุ้มค่าทุกตารางนิ้วของพื้นที่ใช้สอยภายในทั้ง 3 ชั้น ยังเชื่อมต่อการใช้งานได้อย่างไม่จำกัด อาทิ เพิ่มพื้นที่เก็บของ (ด้านหน้าและใต้บันได) การบริหารพื้นที่ครัวแบบเข้ามุม และเพิ่มพื้นที่พักผ่อนพิเศษ ที่สามารถรองรับ ทั้งการเป็นส่วนนั่งเล่นของครอบครัวหรือพื้นที่ทำงานได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยดีไซน์โมเดิร์นอย่างเป็นเอกลักษณ์ของโครงสร้างสถาปัตยกรรมดีไซน์ภายนอก ซึ่งด้วยวิธีคิดการออกแบบพื้นที่แห่งอนาคตทั้งหมดนี้ นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์การดีไซน์ ฉีกกรอบคำจำกัดความของทาวน์โฮมแบบเดิมๆ ได้อย่างโดดเด่นและน่าสนใจเป็นอย่างมาก   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น : 4.99 - 9.29 ล้านบาท เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด ลักษณะโครงการ : บ้านแฝด 3 ชั้น และ ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร จำนวน 168 ยูนิต พื้นที่โครงการ : 20-1-41.2 ไร่ ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้ทางขึ้น-ลง ทางด่วน และวงแหวนรอบนอก แบบบ้านแฝด 3 ชั้น  MAJESTIC ขนาดพื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. แบบบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น  MARQUE ขนาดพื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. แบบบ้าน MAJESTIC ขนาดพื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. เป็นบ้านแฝด 3 ชั้นแนวคิดใหม่ตอบรับทุกไอเดียสร้างสรรค์ได้ อย่างเต็มรูปแบบด้วยพื้นที่และฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้น ภาพจำลองแปลนพื้นที่ชั้น 1 ของบ้านแฝดแบบ MAJESTIC ภาพจำลองแปลนพื้นที่ชั้น 2 ของบ้านแฝดแบบ MAJESTIC ภาพจำลองแปลนพื้นที่ชั้น 3 ของบ้านแฝดแบบ MAJESTIC แบบบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น MARQUE ขนาดพื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ เติมเต็ม ความสุขให้เพิ่มขึ้นด้วย DOUBLE GARDEN, FLEXIBLE SPACE, EXTRA SPACE ภาพบรรยากาศจำลองการตกแต่งห้องนั่งเล่นที่ดูหรูหรา น่าใช้งาน ภาพบรรยากาศจำลองการตกแต่งห้องนอนที่เอื้อต่อการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณคลับเฮ้าส์ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เหตุผลที่ควรเลือกซื้อบ้านจาก AP Thai ต้องบอกเลยว่าทำเลของโครงการทั้งสองนี้มีความโดดเด่นมากๆ ค่ะทั้ง “บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39” และ “บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์” เพราะตั้งอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ส่วนต่อขยายในอนาคต เตาปูน-ราษฏร์บูรณะ) รอบๆ โครงการทั้งสองโครงการเดินทางได้สะดวกมากๆ ไม่ว่าเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรือจะเป็นการเข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยรถส่วนตัว ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร, สะพานภูมิพล รวมถึงถนนวงแหวน กาญจนา ก็ถือว่าเป็นเส้นทางสายสำคัญที่จะทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิมค่ะ แถมยังแวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งแหล่งช็อปปิ้ง สถาบันการศึกษาชั้นนำ รวมถึงสถานพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นที่สุดค่ะ ใครที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อบ้านในย่านนี้ แนะนำให้พิจารณาจาก 2 โครงการนี้เลยค่ะ ว่าโครงการไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณในกระเป๋ามากกว่ากัน ถ้างบประมาณเริ่มต้นจำกัดหน่อย “บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39” อาจจะเป็นคำตอบที่ดี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 5.89 ล้านบาทเท่านั้น กับทำเลที่เดินทางได้สะดวก มีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล แต่ถ้าอยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้มากขึ้นจะขยับมาที่ “บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์” ก็เป็นความคิดที่ดีทีเดียวค่ะ เพราะมีแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือบ้านแฝดที่เน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะสุดๆ และบ้านทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ล่าสุดของบ้านกลางเมือง ซึ่งเพิ่มฟังก์ชั่นให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ ด้วยราคาเริ่มต้น 9.29 ล้านบาท อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่า นอกจากเรื่องทำเลย่านสุขสวัสดิ์ที่น่าสนใจแล้ว หลายคนคงกำลังอยากเป็นเจ้าของบ้าน บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 และ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ แล้วใช่ไหมคะ? ลองคลิกเข้าไปดูรายละเอียดโครงการทั้งสองได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ www.apthai.com/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. Call Center 1623 ล่าสุด! ได้ยินมาว่า โครงการ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ และบ้านกลางเมือง สาทร สุขสวัสดิ์ มี campaign ร่วมกัน Smart Living @sathorn สามารถลงทะเบียน รับส่วนลดเพิ่ม 100,000 บาท โดยราคาเริ่มต้น 4.99 - 9.29 ล้านบาทเท่านั้น
The Village กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ ความสุขที่..สมบูรณ์แบบ : รีวิวทาวน์โฮม

The Village กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ ความสุขที่..สมบูรณ์แบบ : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศสไตล์โคโลเนียลกับวิลเลจทาวน์บ้านซี่รี่ย์ใหม่ในโครงการ The Village Kanjanapisek-Rachaphruk(เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์) จาก Areeya Property ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด มีความเป็นส่วนตัวทุกหลัง เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ผนังบ้านเป็นอิสระไม่ติดใคร แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน ทั้งยังมาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security ที่ลงตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน ศักยภาพและการเดินทาง โครงการ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ (ถนนบางกรวย – ไทรน้อย) โซนนนทบุรี ฝั่งถนนกาญจนาภิเษกที่ตัดกับถนนชัยพฤกษ์ค่ะ ปัจจุบันย่านนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่น่าจับตานะคะ เพราะกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีโครงการบ้านจัดสรรเริ่มทยอยเปิดตัวขึ้นหลายโครงการ ด้วยพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยและทำเกษตรกรรม แต่ก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอตัวเลยค่ะ เพราะตามเส้นถนนก็จะมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีสถานศึกษา สถานพยาบาล รวมไปจนถึงแหล่งจับจ่ายใช้สอยอย่าง Makro, ตลาดเคหะบางบัวทอง (ที่เป็นจุดรวมของคิวรถตู้และรถสองแถว) ตลาดปิยะ และตลาดไทรน้อย หรือขยับไปอีกนิดทางเส้นกาญจนาภิเษกก็จะมี เทสโก้ โลตัส บางใหญ่, บิ๊กซี บางใหญ่, Index บางใหญ่, The Crystal ราชพฤกษ์ และ Central WestGate ไม่เพียงเท่านี้ยังมี 7 – Eleven มาเปิดที่ถนนฝั่งตรงข้ามกับโครงการด้วยค่ะ และในอนาคตก็จะมี The Shopping Village คอมมิวนิตี้มอลล์สไตล์ American Cottage มาเปิดติดกับตัวโครงการเลยค่ะ ส่งผลให้ลูกบ้านสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับการการเดินทางด้วยรถยนต์นั้นสามารถเลือกได้หลายเส้นทางมากค่ะ ต้องบอกเลยว่าสะดวกสบายไม่แพ้ย่านอื่นเลยนะคะ อย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนบางกรวย – ไทรน้อย ที่ไปบรรจบกับถนนสาย 346 ซึ่งสามารถวิ่งตัดผ่านถนนสายหลักอื่นๆ ได้อีกหลายเส้น อาทิ ถนนราชพฤกษ์ที่ใช้วิ่งตรงเข้าสู่ตัวเมือง โดยจะไปเชื่อมกับถนนกรุงธนบุรี เข้าสู่ถนนสาทรเหนือและถนนสาทรใต้, ถนนรัตนาธิเบศร์ใช้วิ่งตรงเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน โดยข้ามสะพานพระนั่งเกล้า สามารถขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านงามวงศ์วานได้, ถนนกาญจนาภิเษกใช้วิ่งลงไปทางทิศใต้ถึงถนนเพชรเกษมและถนนพระราม 2 หรือขึ้นเหนือไปทางบางปะอิน ถนนชัยพฤกษ์ที่สามารถใช้วิ่งตรงเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยข้ามสะพานพระราม 4 ไปทางรามอินทราและมีนบุรี หรือไปขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านแจ้งวัฒนะ หรือจะใช้ถนน 345 (บางบัวทอง-บางพูน) เลี่ยงการจราจรติดขัดจากถนนชัยพฤกษ์ วิ่งไปทางรังสิตก็ยังได้ด้วยค่ะ ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ยังถือว่าสะดวกอยู่นะคะ เพราะบริเวณหน้าโครงการจะมีรถตู้ และรถสองแถววิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด โดยรถจะวิ่งไปทางไทรน้อย ผ่านบิ๊กซีรัตนาธิเบศร์ และผ่านหน้าตลาดเคหะบางบัวทอง ซึ่งบริเวณหน้าตลาดจะมีป้ายรถเมล์ สาย 127 (บางบัวทอง-บางลำพู)  และ 134 (บัวทองเคหะ – หมอชิต 2) คอยบริการค่ะ นอกจากนี้จุดเด่นของโครงการยังตั้งอยู่ในระยะที่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ) สถานีใกล้ที่สุดคือสถานีคลองบางไผ่ ที่ใช้เวลานั่งรถจากโครงการไปเพียง 10 นาที โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้จะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ทำให้การเดินทางเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น   พาชมโครงการ โครงการ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ เป็นแบบบ้านซีรี่ย์ใหม่ที่ทางอารียาออกแบบมาเป็นพิเศษภายใต้คอนเซปต์ Happy Colonial Living ผสมผสานความสวยงามของงานออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มักจะเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุด โดยผนังบ้านแต่ละหลังจะเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นเมื่อมองจากด้านนอกตัวบ้านจะรู้สึกเหมือนกับบ้านเดี่ยวค่ะ แถมการออกแบบสไตล์ Modern Colonial ที่มีกลิ่นอายแบบฉบับวินเทจนิดๆ ก็ชวนมองไม่เบื่อเลยค่ะ ปัจจุบันตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะ เริ่มมีลูกบ้านย้ายเข้ามาแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่อยู่ในระหว่างตกแต่งและต่อเติม ดังนั้นเราจะได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ซุ้มทางเข้าโครงการที่มีเอกลักษณ์สไตล์ Village นะคะ ซึ่งทางเข้า-ออก โครงการนั้นใช้ระบบ Key Card และมีไม้กระดกกั้นอีกชั้นหนึ่ง ถนนเมนจะกว้าง 12 เมตรเลยนะคะ ส่วนถนนในซอยจะกว้าง 8 เมตร ในบริเวณโครงการจะมีสวนหย่อมพร้อมศาลานั่งเล่นที่ลูกบ้านสามารถออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยนะคะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ในโซนด้านหน้าของโครงการนะคะ โดยทางอารียาจัดแยกส่วนไว้อีกที่หนึ่งให้เป็นคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ซึ่งลูกบ้านของ เดอะ วิลเลจ จะแบ่งกันใช้ร่วมกับ Areeya Como และ The Colors ที่อยู่ในโซนเดียวกัน โดยภายในคลับเฮ้าส์มีทั้ง Lobby, ห้องสมุด, ห้องประชุม, Game room, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, ฟิตเนส และมุมพักผ่อนอีกมากมาย ซึ่งการจะเข้าใช้ในแต่ละส่วนของคลับเฮ้าส์นั้นจะต้องมีคีย์การ์ดแตะที่หน้าประตูห้องก่อน จึงจะสามารถเปิดประตูผ่านเข้าไปได้ค่ะ ทางโครงการมีเลนสำหรับรถจักรยานด้วยนะคะ บรรยากาศด้านหน้าคลับเฮ้าส์ ที่ลูกบ้านอารียาจะแบ่งกันใช้กับ Areeya Como และ The Colors ที่อยู่ในโซนเดียวกัน ภายในห้องสมุดที่ค่อนข้างโปร่งโล่งให้ความรู้สึกสงบได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ นอกจากห้องสมุดยังมี Game room ด้วยนะคะ อุปกรณ์เครื่องเล่นในห้อง Game room ที่รองรับลูกบ้านอย่างครบครัน นอกจากห้องสมุดและ Game room ยังมีห้องนั่งเล่นพักผ่อนขนาดใหญ่รองรับลูกบ้านของอารียาด้วยนะคะ พื้นที่ด้านหลังคลับเฮ้าส์จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำนะคะ บริเวณรอบสระจะล้อมรอบด้วยไม้รั่วประดับ เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัว นอกจากมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่รองรับลูกบ้านแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กข้างๆ ด้วยค่ะ พื้นที่ตรงข้ามกับสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของฟิตเนสนะคะ ภายในห้องฟิตเนตเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยและครบครัน ห้องฟิตเนสจะโอบล้อมไปด้วยกระจกใสนะคะ ซึ่งเวลาลูกบ้านออกกำลังกายจะได้ชมวิวสระว่ายน้ำไปในตัว เปิดบ้านตัวอย่าง แบบบ้านของ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ นั้นมีเพียง Type เดียวนะคะ ซึ่งเป็นวิลเลจทาวน์ 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีขนาดพื้นที่ใช้สอยถึง 141 ตร.ม. แบ่งออกเป็น Master Bedroom 1 ห้อง และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ กับอีก 1 ห้องเอนกประสงค์ ที่อยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน โดยพื้นที่นี้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือจะตกแต่งให้เป็นห้องนอนอีกห้องก็ยังได้ค่ะ เพียงแค่กั้นประตูเพิ่มอีกนิดก็มีห้องนอนถึง 4 ห้องแล้วค่ะ นอกจากเรื่องฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในตัวบ้านแล้ว ถ้าครอบครัวไหนอยากมีพื้นที่ทำสวนในบ้าน ก็แนะนำให้เลือกแปลงหัวมุมค่ะ เพราะขนาดที่ดินจะใหญ่ขึ้น ทำให้ได้พื้นที่ข้างบ้านไว้ปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆ ค่ะ มาพูดถึงบ้านตัวอย่างกันบ้างดีกว่าค่ะ ภายในบ้านถูกจัดสรรเป็นสัดส่วนไว้อย่างลงตัว บริเวณชั้นล่างเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็น Living Room และโซน Dining Room ที่เชื่อมต่อกับ Pantry เตรียมอาหาร ที่มาพร้อมลานหลังบ้านและพื้นที่สำหรับครัวไทย เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นไปชั้นสอง ด้านหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ห้องนอนใหญ่ที่มาพร้อมระเบียง ในส่วนของห้องน้ำบนชั้น 2 ก็สามารถเข้าได้สองทางทั้งจากทางห้องนอนใหญ่และทางเดินหน้าห้องค่ะ ซึ่งห้องชั้นบนจะแชร์ห้องน้ำร่วมกัน แต่ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัวนะคะ เพราะพื้นที่ชั้นบนนั้นยังมีห้องนอนเล็กถึง 2 ห้องด้วยกัน ถ้าครอบครัวไหนมีจำนวนสมาชิกน้อยก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เป็นห้องทำงานก็ยังได้ค่ะ แปลนบ้านของ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ นะคะ ประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นสีขาวเข้ากับตัวบ้านสไตล์ Modern Colonial ขนาด 62 ตารางวา พื้นที่ความสุข 141 ตร.ม. ซึ่งลูกบ้านจะได้ทุกอย่างเหมือนในภาพเลยนะคะ หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ถึง 2 คันเลยนะคะ บริเวณหน้าบ้านนอกจากสามารถจอดรถได้ 2 คันแล้วยังมีพื้นที่เหลือสำหรับปลูกต้นไม้ ทำสวนหย่อมได้อีกด้วยค่ะ เทอเรสข้างบ้าน ที่ลูกบ้านสามารถตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้ตามใจชอบเลยค่ะ โดยโครงการได้ยกพื้นสูงขึ้นมาให้หนึ่งเสต็ปพร้อมตีหลังคาระแนงทาสีขาวไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พื้นที่หน้าบ้านต่อเนื่องจากลานจอดรถจะยกพื้นขึ้นมา 1 เสต็ปนะคะ เข้ามาในบ้านจะเจอโถงกลางก่อนเลยค่ะ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างโปร่ง โล่ง สบายทีเดียว พื้นที่โถงกลางจะอยู่ติดกับโซนครัวนะคะ ซึ่งทางจะบิลต์อินไอส์แลนด์และเคาน์เตอร์พร้อมตู้เก็บของมาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนครัวลูกบ้านจะได้เคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ และไอส์แลนด์สำหรับเตรียมอาหารวัสดุและขนาดเหมือนดั่งในภาพเลยนะคะ จะเว้นก็เพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ ซึ่งลูกบ้านต้องซื้อเข้ามาเอง อ่างล้างจานจะเป็นแบบหลุมเดียวนะคะ จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ด้านข้างเหลือสำหรับวางจานและไมโครเวฟด้วย อีกทั้งด้านล่างเคาน์เตอร์ยังเป็นตู้เก็บของด้วยค่ะ ติดกับส่วนครัวจะมีประตูเปิดมาหลังบ้านในส่วนซักล้างนะคะ ซึ่งพื้นที่หลังบ้านก็มีขนาดกว้างเพียงพอที่ลูกบ้านจะต่อเติมทำเป็นครัวไทยได้ โดยทางโครงการจะเทพื้นคอนกรีตไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ กลับเข้ามาในบ้านติดกับส่วนครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจนเลยนะคะ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างขวางกำลังดี ทางโครงการยกธรณีสูงขึ้นมานิดนึงเพื่อกันน้ำไหลย้อน ซึ่งส่วนนี้ลูกบ้านสามารถซื้อม่านอาบน้ำมาติดเพิ่ม หรือจะติดกระจกก็ยังได้ค่ะ บริเวณส่วนล้างหน้า ทางโครงการจะติดกระจกเงาขนาดใหญ่ทรงสูงมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ มาในส่วนของพื้นที่เอนกประสงค์กันบ้าง พื้นที่ส่วนนี้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจเลยนะคะ จะทำเป็นห้องนั่งเล่นเหมือนดั่งในภาพก็ได้ หรือใครอยากทำเป็นห้องทำงานก็ยังได้อีกเช่นกันค่ะ ขนาดของมุมนี้กำลังดีเลยนะคะ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป จากภาพจะเห็นได้ว่าทางโครงการได้จัดตัวอย่างให้เป็นห้องนั่งเล่น จัดวางโซฟาตัวยาวพร้อมคอนโซลทีวี โดยพื้นที่ตรงกลางเหลือที่มากพอสำหรับวางโต๊ะกลางด้วยค่ะ เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาชั้นบน จะเจอกับห้องนอนเล็ก 2 ห้องนะคะ ซึ่งจะอยู่ติดกัน ภายในห้องขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ ซึ่งก็มาพร้อมหน้าต่างบานเลื่อนกระจกใส หากใครมีจำนวนสมาชิกน้อยหน่อย ก็สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องนอนให้เป็นห้องทำงานก็ได้นะคะ เดินออกมาจากห้องนอนเล็กก่อนถึงห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึ่งด้านบนมีเพียงห้องเดียวใช้ร่วมกัน ภายในห้องก็แบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งไว้เช่นเดิม เพียงแต่ห้องน้ำของชั้นสองส่วนเปียกจะกรุกระจกกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ บริเวณล้างหน้าจะต่างจากห้องน้ำด้านล่างนะคะ ซึ่งด้านบนทางโครงการได้บิลต์อินต์เคาน์เตอร์ลอยมาให้ แต่ก็มาพร้อมกับกระจกเงาส่องหน้าขนาดเท่าด้านล่างค่ะ ขยับเข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กันบ้าง ภายในห้องดูโปร่งโล่งเอื้อต่อการพักผ่อนอย่างแท้จริงเลยค่ะ ทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้เป็นตัวอย่างนะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถวางขนาด 6 ฟุตได้ด้วยค่ะ เพราะพื้นที่โดยรอบค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถเดินรอบเตียงได้ ประตูกระจกใสที่อยู่ที่ติดกับส่วนเตียงจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกนะคะ ระเบียงบนห้องนอนใหญ่มีขนาดกำลังดีเลยนะคะ ลูกบ้านสามารถวางต้นไม้ตกแต่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ กลับเข้ามาด้านใน พื้นที่ตรงข้ามระเบียงจะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึงห้องนอนใหญ่มีประตูเชื่อมกับห้องน้ำด้านนอกด้วยค่ะ ปลายเตียงจะเป็นส่วนของคอนโซลทีวีนะคะ ติดกับคอนโซลทีวีมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับ Walk – in closet นะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถบิลต์อินตกแต่งได้ตามใจ โครงการ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจนะคะ ใครที่กำลังมองหาบ้านสักหลังสำหรับเริ่มต้นใช้ชีวิตครอบครัว บ้านซีรี่ย์ใหม่ที่ผนังบ้านเป็นอิสระ ให้ความเป็นส่วนตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีนะคะ แถมราคาก็ไม่ได้สูงจนเกินไปนัก น่าจะอยู่ในงบประมาณที่เอื้อมถึงกันด้วยค่ะ ยิ่งถ้าใครคุ้นชินกับทำเลแถวนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะเห็นถึงศักยภาพความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยได้ชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องความอุดมสมบูรณ์ สาธารณูปโภคโดยรอบโครงการก็ตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วนแบบนี้ยิ่ง “ไม่ควรพลาดเลยนะคะ” สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการและบ้านตัวอย่างได้นะคะ เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/Tnoaw6 หรือ โทร. 1797