Tag : Townhome

792 ผลลัพธ์
The Village กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ ความสุขที่..สมบูรณ์แบบ : รีวิวทาวน์โฮม

The Village กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ ความสุขที่..สมบูรณ์แบบ : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศสไตล์โคโลเนียลกับวิลเลจทาวน์บ้านซี่รี่ย์ใหม่ในโครงการ The Village Kanjanapisek-Rachaphruk(เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์) จาก Areeya Property ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด มีความเป็นส่วนตัวทุกหลัง เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ผนังบ้านเป็นอิสระไม่ติดใคร แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน ทั้งยังมาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security ที่ลงตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน ศักยภาพและการเดินทาง โครงการ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ (ถนนบางกรวย – ไทรน้อย) โซนนนทบุรี ฝั่งถนนกาญจนาภิเษกที่ตัดกับถนนชัยพฤกษ์ค่ะ ปัจจุบันย่านนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่น่าจับตานะคะ เพราะกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีโครงการบ้านจัดสรรเริ่มทยอยเปิดตัวขึ้นหลายโครงการ ด้วยพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยและทำเกษตรกรรม แต่ก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอตัวเลยค่ะ เพราะตามเส้นถนนก็จะมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีสถานศึกษา สถานพยาบาล รวมไปจนถึงแหล่งจับจ่ายใช้สอยอย่าง Makro, ตลาดเคหะบางบัวทอง (ที่เป็นจุดรวมของคิวรถตู้และรถสองแถว) ตลาดปิยะ และตลาดไทรน้อย หรือขยับไปอีกนิดทางเส้นกาญจนาภิเษกก็จะมี เทสโก้ โลตัส บางใหญ่, บิ๊กซี บางใหญ่, Index บางใหญ่, The Crystal ราชพฤกษ์ และ Central WestGate ไม่เพียงเท่านี้ยังมี 7 – Eleven มาเปิดที่ถนนฝั่งตรงข้ามกับโครงการด้วยค่ะ และในอนาคตก็จะมี The Shopping Village คอมมิวนิตี้มอลล์สไตล์ American Cottage มาเปิดติดกับตัวโครงการเลยค่ะ ส่งผลให้ลูกบ้านสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับการการเดินทางด้วยรถยนต์นั้นสามารถเลือกได้หลายเส้นทางมากค่ะ ต้องบอกเลยว่าสะดวกสบายไม่แพ้ย่านอื่นเลยนะคะ อย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนบางกรวย – ไทรน้อย ที่ไปบรรจบกับถนนสาย 346 ซึ่งสามารถวิ่งตัดผ่านถนนสายหลักอื่นๆ ได้อีกหลายเส้น อาทิ ถนนราชพฤกษ์ที่ใช้วิ่งตรงเข้าสู่ตัวเมือง โดยจะไปเชื่อมกับถนนกรุงธนบุรี เข้าสู่ถนนสาทรเหนือและถนนสาทรใต้, ถนนรัตนาธิเบศร์ใช้วิ่งตรงเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน โดยข้ามสะพานพระนั่งเกล้า สามารถขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านงามวงศ์วานได้, ถนนกาญจนาภิเษกใช้วิ่งลงไปทางทิศใต้ถึงถนนเพชรเกษมและถนนพระราม 2 หรือขึ้นเหนือไปทางบางปะอิน ถนนชัยพฤกษ์ที่สามารถใช้วิ่งตรงเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยข้ามสะพานพระราม 4 ไปทางรามอินทราและมีนบุรี หรือไปขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านแจ้งวัฒนะ หรือจะใช้ถนน 345 (บางบัวทอง-บางพูน) เลี่ยงการจราจรติดขัดจากถนนชัยพฤกษ์ วิ่งไปทางรังสิตก็ยังได้ด้วยค่ะ ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ยังถือว่าสะดวกอยู่นะคะ เพราะบริเวณหน้าโครงการจะมีรถตู้ และรถสองแถววิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด โดยรถจะวิ่งไปทางไทรน้อย ผ่านบิ๊กซีรัตนาธิเบศร์ และผ่านหน้าตลาดเคหะบางบัวทอง ซึ่งบริเวณหน้าตลาดจะมีป้ายรถเมล์ สาย 127 (บางบัวทอง-บางลำพู)  และ 134 (บัวทองเคหะ – หมอชิต 2) คอยบริการค่ะ นอกจากนี้จุดเด่นของโครงการยังตั้งอยู่ในระยะที่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ) สถานีใกล้ที่สุดคือสถานีคลองบางไผ่ ที่ใช้เวลานั่งรถจากโครงการไปเพียง 10 นาที โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้จะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ทำให้การเดินทางเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น   พาชมโครงการ โครงการ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ เป็นแบบบ้านซีรี่ย์ใหม่ที่ทางอารียาออกแบบมาเป็นพิเศษภายใต้คอนเซปต์ Happy Colonial Living ผสมผสานความสวยงามของงานออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มักจะเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุด โดยผนังบ้านแต่ละหลังจะเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นเมื่อมองจากด้านนอกตัวบ้านจะรู้สึกเหมือนกับบ้านเดี่ยวค่ะ แถมการออกแบบสไตล์ Modern Colonial ที่มีกลิ่นอายแบบฉบับวินเทจนิดๆ ก็ชวนมองไม่เบื่อเลยค่ะ ปัจจุบันตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะ เริ่มมีลูกบ้านย้ายเข้ามาแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่อยู่ในระหว่างตกแต่งและต่อเติม ดังนั้นเราจะได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ซุ้มทางเข้าโครงการที่มีเอกลักษณ์สไตล์ Village นะคะ ซึ่งทางเข้า-ออก โครงการนั้นใช้ระบบ Key Card และมีไม้กระดกกั้นอีกชั้นหนึ่ง ถนนเมนจะกว้าง 12 เมตรเลยนะคะ ส่วนถนนในซอยจะกว้าง 8 เมตร ในบริเวณโครงการจะมีสวนหย่อมพร้อมศาลานั่งเล่นที่ลูกบ้านสามารถออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยนะคะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ในโซนด้านหน้าของโครงการนะคะ โดยทางอารียาจัดแยกส่วนไว้อีกที่หนึ่งให้เป็นคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ซึ่งลูกบ้านของ เดอะ วิลเลจ จะแบ่งกันใช้ร่วมกับ Areeya Como และ The Colors ที่อยู่ในโซนเดียวกัน โดยภายในคลับเฮ้าส์มีทั้ง Lobby, ห้องสมุด, ห้องประชุม, Game room, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, ฟิตเนส และมุมพักผ่อนอีกมากมาย ซึ่งการจะเข้าใช้ในแต่ละส่วนของคลับเฮ้าส์นั้นจะต้องมีคีย์การ์ดแตะที่หน้าประตูห้องก่อน จึงจะสามารถเปิดประตูผ่านเข้าไปได้ค่ะ ทางโครงการมีเลนสำหรับรถจักรยานด้วยนะคะ บรรยากาศด้านหน้าคลับเฮ้าส์ ที่ลูกบ้านอารียาจะแบ่งกันใช้กับ Areeya Como และ The Colors ที่อยู่ในโซนเดียวกัน ภายในห้องสมุดที่ค่อนข้างโปร่งโล่งให้ความรู้สึกสงบได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ นอกจากห้องสมุดยังมี Game room ด้วยนะคะ อุปกรณ์เครื่องเล่นในห้อง Game room ที่รองรับลูกบ้านอย่างครบครัน นอกจากห้องสมุดและ Game room ยังมีห้องนั่งเล่นพักผ่อนขนาดใหญ่รองรับลูกบ้านของอารียาด้วยนะคะ พื้นที่ด้านหลังคลับเฮ้าส์จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำนะคะ บริเวณรอบสระจะล้อมรอบด้วยไม้รั่วประดับ เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัว นอกจากมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่รองรับลูกบ้านแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กข้างๆ ด้วยค่ะ พื้นที่ตรงข้ามกับสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของฟิตเนสนะคะ ภายในห้องฟิตเนตเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยและครบครัน ห้องฟิตเนสจะโอบล้อมไปด้วยกระจกใสนะคะ ซึ่งเวลาลูกบ้านออกกำลังกายจะได้ชมวิวสระว่ายน้ำไปในตัว เปิดบ้านตัวอย่าง แบบบ้านของ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ นั้นมีเพียง Type เดียวนะคะ ซึ่งเป็นวิลเลจทาวน์ 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีขนาดพื้นที่ใช้สอยถึง 141 ตร.ม. แบ่งออกเป็น Master Bedroom 1 ห้อง และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ กับอีก 1 ห้องเอนกประสงค์ ที่อยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน โดยพื้นที่นี้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือจะตกแต่งให้เป็นห้องนอนอีกห้องก็ยังได้ค่ะ เพียงแค่กั้นประตูเพิ่มอีกนิดก็มีห้องนอนถึง 4 ห้องแล้วค่ะ นอกจากเรื่องฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในตัวบ้านแล้ว ถ้าครอบครัวไหนอยากมีพื้นที่ทำสวนในบ้าน ก็แนะนำให้เลือกแปลงหัวมุมค่ะ เพราะขนาดที่ดินจะใหญ่ขึ้น ทำให้ได้พื้นที่ข้างบ้านไว้ปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆ ค่ะ มาพูดถึงบ้านตัวอย่างกันบ้างดีกว่าค่ะ ภายในบ้านถูกจัดสรรเป็นสัดส่วนไว้อย่างลงตัว บริเวณชั้นล่างเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็น Living Room และโซน Dining Room ที่เชื่อมต่อกับ Pantry เตรียมอาหาร ที่มาพร้อมลานหลังบ้านและพื้นที่สำหรับครัวไทย เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นไปชั้นสอง ด้านหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ห้องนอนใหญ่ที่มาพร้อมระเบียง ในส่วนของห้องน้ำบนชั้น 2 ก็สามารถเข้าได้สองทางทั้งจากทางห้องนอนใหญ่และทางเดินหน้าห้องค่ะ ซึ่งห้องชั้นบนจะแชร์ห้องน้ำร่วมกัน แต่ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัวนะคะ เพราะพื้นที่ชั้นบนนั้นยังมีห้องนอนเล็กถึง 2 ห้องด้วยกัน ถ้าครอบครัวไหนมีจำนวนสมาชิกน้อยก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เป็นห้องทำงานก็ยังได้ค่ะ แปลนบ้านของ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ นะคะ ประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นสีขาวเข้ากับตัวบ้านสไตล์ Modern Colonial ขนาด 62 ตารางวา พื้นที่ความสุข 141 ตร.ม. ซึ่งลูกบ้านจะได้ทุกอย่างเหมือนในภาพเลยนะคะ หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ถึง 2 คันเลยนะคะ บริเวณหน้าบ้านนอกจากสามารถจอดรถได้ 2 คันแล้วยังมีพื้นที่เหลือสำหรับปลูกต้นไม้ ทำสวนหย่อมได้อีกด้วยค่ะ เทอเรสข้างบ้าน ที่ลูกบ้านสามารถตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้ตามใจชอบเลยค่ะ โดยโครงการได้ยกพื้นสูงขึ้นมาให้หนึ่งเสต็ปพร้อมตีหลังคาระแนงทาสีขาวไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พื้นที่หน้าบ้านต่อเนื่องจากลานจอดรถจะยกพื้นขึ้นมา 1 เสต็ปนะคะ เข้ามาในบ้านจะเจอโถงกลางก่อนเลยค่ะ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างโปร่ง โล่ง สบายทีเดียว พื้นที่โถงกลางจะอยู่ติดกับโซนครัวนะคะ ซึ่งทางจะบิลต์อินไอส์แลนด์และเคาน์เตอร์พร้อมตู้เก็บของมาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนครัวลูกบ้านจะได้เคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ และไอส์แลนด์สำหรับเตรียมอาหารวัสดุและขนาดเหมือนดั่งในภาพเลยนะคะ จะเว้นก็เพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ ซึ่งลูกบ้านต้องซื้อเข้ามาเอง อ่างล้างจานจะเป็นแบบหลุมเดียวนะคะ จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ด้านข้างเหลือสำหรับวางจานและไมโครเวฟด้วย อีกทั้งด้านล่างเคาน์เตอร์ยังเป็นตู้เก็บของด้วยค่ะ ติดกับส่วนครัวจะมีประตูเปิดมาหลังบ้านในส่วนซักล้างนะคะ ซึ่งพื้นที่หลังบ้านก็มีขนาดกว้างเพียงพอที่ลูกบ้านจะต่อเติมทำเป็นครัวไทยได้ โดยทางโครงการจะเทพื้นคอนกรีตไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ กลับเข้ามาในบ้านติดกับส่วนครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจนเลยนะคะ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างขวางกำลังดี ทางโครงการยกธรณีสูงขึ้นมานิดนึงเพื่อกันน้ำไหลย้อน ซึ่งส่วนนี้ลูกบ้านสามารถซื้อม่านอาบน้ำมาติดเพิ่ม หรือจะติดกระจกก็ยังได้ค่ะ บริเวณส่วนล้างหน้า ทางโครงการจะติดกระจกเงาขนาดใหญ่ทรงสูงมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ มาในส่วนของพื้นที่เอนกประสงค์กันบ้าง พื้นที่ส่วนนี้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจเลยนะคะ จะทำเป็นห้องนั่งเล่นเหมือนดั่งในภาพก็ได้ หรือใครอยากทำเป็นห้องทำงานก็ยังได้อีกเช่นกันค่ะ ขนาดของมุมนี้กำลังดีเลยนะคะ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป จากภาพจะเห็นได้ว่าทางโครงการได้จัดตัวอย่างให้เป็นห้องนั่งเล่น จัดวางโซฟาตัวยาวพร้อมคอนโซลทีวี โดยพื้นที่ตรงกลางเหลือที่มากพอสำหรับวางโต๊ะกลางด้วยค่ะ เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาชั้นบน จะเจอกับห้องนอนเล็ก 2 ห้องนะคะ ซึ่งจะอยู่ติดกัน ภายในห้องขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ ซึ่งก็มาพร้อมหน้าต่างบานเลื่อนกระจกใส หากใครมีจำนวนสมาชิกน้อยหน่อย ก็สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องนอนให้เป็นห้องทำงานก็ได้นะคะ เดินออกมาจากห้องนอนเล็กก่อนถึงห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึ่งด้านบนมีเพียงห้องเดียวใช้ร่วมกัน ภายในห้องก็แบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งไว้เช่นเดิม เพียงแต่ห้องน้ำของชั้นสองส่วนเปียกจะกรุกระจกกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ บริเวณล้างหน้าจะต่างจากห้องน้ำด้านล่างนะคะ ซึ่งด้านบนทางโครงการได้บิลต์อินต์เคาน์เตอร์ลอยมาให้ แต่ก็มาพร้อมกับกระจกเงาส่องหน้าขนาดเท่าด้านล่างค่ะ ขยับเข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กันบ้าง ภายในห้องดูโปร่งโล่งเอื้อต่อการพักผ่อนอย่างแท้จริงเลยค่ะ ทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้เป็นตัวอย่างนะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถวางขนาด 6 ฟุตได้ด้วยค่ะ เพราะพื้นที่โดยรอบค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถเดินรอบเตียงได้ ประตูกระจกใสที่อยู่ที่ติดกับส่วนเตียงจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกนะคะ ระเบียงบนห้องนอนใหญ่มีขนาดกำลังดีเลยนะคะ ลูกบ้านสามารถวางต้นไม้ตกแต่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ กลับเข้ามาด้านใน พื้นที่ตรงข้ามระเบียงจะเป็นห้องน้ำนะคะ ซึงห้องนอนใหญ่มีประตูเชื่อมกับห้องน้ำด้านนอกด้วยค่ะ ปลายเตียงจะเป็นส่วนของคอนโซลทีวีนะคะ ติดกับคอนโซลทีวีมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับ Walk – in closet นะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถบิลต์อินตกแต่งได้ตามใจ โครงการ เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก – ราชพฤกษ์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจนะคะ ใครที่กำลังมองหาบ้านสักหลังสำหรับเริ่มต้นใช้ชีวิตครอบครัว บ้านซีรี่ย์ใหม่ที่ผนังบ้านเป็นอิสระ ให้ความเป็นส่วนตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีนะคะ แถมราคาก็ไม่ได้สูงจนเกินไปนัก น่าจะอยู่ในงบประมาณที่เอื้อมถึงกันด้วยค่ะ ยิ่งถ้าใครคุ้นชินกับทำเลแถวนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะเห็นถึงศักยภาพความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยได้ชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องความอุดมสมบูรณ์ สาธารณูปโภคโดยรอบโครงการก็ตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วนแบบนี้ยิ่ง “ไม่ควรพลาดเลยนะคะ” สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการและบ้านตัวอย่างได้นะคะ เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/Tnoaw6 หรือ โทร. 1797
21 DESTINYทาวน์โฮมใหม่ 21 โครงการบนทำเลทอง

21 DESTINYทาวน์โฮมใหม่ 21 โครงการบนทำเลทอง

ในชีวิตของทุกคนจะให้ความสำคัญอยู่เพียงไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นคือ “ที่อยู่อาศัย” การจะเลือกบ้านสักหลัง ที่จะทำให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีความสุขนั้น มีปัจจัยในการตัดสินใจอยู่ไม่กี่อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเล ที่จะปรับเปลี่ยนการเดินทางให้สะดวกสบายขึ้นเช่น ใกล้ทางด่วน ติดถนนใหญ่ ขยับเข้ามาใกล้ที่ทำงานใกล้ครอบครัวเพื่อรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ง่ายขึ้นมีเวลาให้กับตัวเอง มีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นทุกโครงการของเอพี จึงถูกกระจายตัวไปอยู่ในทุกโซนของกรุงเทพที่เต็มไปด้วยการเดินทางที่สะดวก เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตในทุกๆ ด้าน       AP เปิดจองทาวน์โฮมใหม่ 21 โครงการ จากบ้านกลางเมือง และ Pleno พร้อมกันทั่วกรุงเทพฯ!! นับเป็นปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี 2018 เมื่อเอพีฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ “บ้านกลางเมือง” และ “Pleno” พร้อมกันถึง 21 โครงการ!! การันตีว่าทุกโครงการมีความแตกต่างและโดดเด่น จากแนวคิดการพัฒนาโครงการที่เริ่มต้นมาจากความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง เป็นโอกาสดีๆที่ผู้กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหลังใหม่จะได้เลือกรูปแบบชีวิตในฝัน พร้อมๆกันทั่วกรุงเทพฯ   5 BEST TOWNHOME ตอบโจทย์แนวคิดการหาทำเลที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย 1.BEST LOCATION ทำเลที่ถูกคัดสรรมาให้ครบทั้ง 5 รัศมีสะดวกสบายครบครันใกล้ตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง โรงพยาบาล สถานศึกษา และสวนสาธารณะต่างๆที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตตามสไตล์คนเมือง 2.BEST PRODUCT QUALITY การพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา ผ่านการค้ยนคว้าและวิจัยทั้งในแง่เทรนด์การออกแบบในแต่ละปี และที่สำคัญความพึงพอใจของลูกค้าที่นำมาต่อยอดการออกแบบอยู่เสมอ 3.BEST SOCIETY + USER EXPERIENCEเพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตในสังคมที่เต็มไปด้วยความสุขที่น่าค้นหาและพบกับกิจกรรมดีๆ สร้างประสบการณ์ใหม่ได้ในทุกวัน 4.BEST AFTER SERVICE ใส่ใจในทุกรายละเอียด ยกระดับคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมของโครงการที่ร่มรื่นน่าอยู่เสมอ รวมไปถึงสร้างความพึงพอใจให้กับทุกปัญหาของลูกบ้านที่ทำให้การอยู่อาศัยนั้นมั่นใจได้ว่าเหนือระดับอยู่เสมอ 5.BEST INNOVATION นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม             ปักหมุดความสุขแบบครบวงจร บนทำเล "ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์" ทำเลศักยภาพมาแรง สำหรับคนที่มองเห็นอนาคต ราชพฤกษ์ถือว่าเป็นทำเลทองทางโซนกรุงเทพตะวันตก เป็นถนนเส้นเศรษฐกิจซึ่งหลายคนอาจจะค้นหูเพราะเป็นทำเลยอดนิยมมานาน เป็นถนนที่มีหมู่บ้านเป็นจำนวนไม่น้อยซึ่งอยู่ในระดับกลางจนถึงระดับสูง ประกอบกับการมี Community Mall หรือร้านอาหารดังเป็นจำนวนมากตลอดทั้งสาย จึงทำให้บรรยากาศบนถนนเส้นนี้คึกคัก และเพียบพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยมากขึ้นไปอีก   ถ้าจะพูดถึง "ถนนราชพฤกษ์" เรารู้กันดีว่า ถนนเส้นนี้เชื่อมกับถนนชัยพฤกษ์ ต่อไปยังนนทบุรีได้ง่าย ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้หลายเส้นทางทั้ง ถนนนครอินทร์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ หรือถ้าจะไปโซนจตุจักร พระราม9 ก็ยิ่งง่าย เพราะมีทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกย่นระยะทางเข้ามาได้เยอะเลย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ถนนวงแหวนรอบนอก (กาญจนาภิเษก) กับวงแหวนชั้นใน (ถนนจรัญฯ) ที่สามารถเชื่อมเข้าสาทรแหล่ง CBD ได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีตัวเลือกอื่นนอกจากการใช้รถยนตร์ส่วนตัวอีกหลายอย่าง เช่น รถไฟฟ้า BTS (สถานีบางหว้า) รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการเลี่ยงเข้าเมืองด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ทำเลโซนราชพฤกษ์มีความสะดวกสบายคล่องตัวเป็นอย่างมากในการเดินทาง   ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนเส้นนี้ ก็มีตัวเลือกมากมาย สามารถตอบโจทย์ครบทุก Lifestyle ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Westgate, IKEA บางใหญ่ หรือใครที่ชอบ Community Mall ก็มีให้เหล่านักช็อปได้เลือกอีกหลายแห่ง เช่น  The Crystal, The Walk, The Circle, Chic Republic เป็นต้น สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกอยู่ในวัยเรียน ก็ต้องบอกว่า ในย่านนี้ยังมีสถานศึกษาครบทุกระดับ เช่น โรงเรียนนานาชาติ ISB, โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี, โรงเรียนหอวัง, รวมถึงมหาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือก็อยู่ใกล้นิดเดียว ส่วนสถานพยาบาล โรงพยาบาลต่างๆ ก็มีทั้งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ ทำให้เห็นได้ชัดเจนเลบครับว่า พื้นที่ย่านฝั่งธนบุรีโซนนี้สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างดีไม่แพ้ย่านอื่นๆ เลยทีเดียว   สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่ใหม่บนทำเลแถวราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากมายขนาดนี้ ต้องลองไปเลือกโครงการจากทาง AP THAILAND ทั้ง 8 โครงการ ซึ่งเป็นทาวน์โฮมแบบใหม่ที่มีให้เลือกได้ตามความชอบ และตาม Lifestyle ของทุกคน     เริ่มต้นด้วย PLENO ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ทาวน์โฮมใหม่ที่ผสานธรรมชาติ และความทันสมัยอย่างลงตัว บนทำเลที่เชื่อมต่อทั้งถนนราชพฤกษ์ และถนนแจ้งวัฒนะ เดินทางสะดวกตอบรับสุนทรียภาพของการใช้ชีวิต ราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้าน*       PLENO ชัยพฤกษ์ เป็นอีกโครงการเพื่อการอยู่อาศัยในสังคมเหนือระดับ ด้วยทำเลติดถนนใหญ่ ตอบรับคุณภาพชีวิตใกล้รถไฟฟ้าเพียง 10 นาที พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  พิเศษ! ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้าน*       PLENO เวสต์เกต พรีเมียมทาวน์โฮม พร้อมคลับเฮ้าส์หรู ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทั้งรถไฟฟ้า และทางด่วน เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น เริ่ม 1.99 ล้าน*       PLENO ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ พรีเมียมทาวน์โฮมรองรับทุก lifestyle บนสังคมส่วนตัวพร้อมคลับเฮ้าส์หรู ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วนเพียง 10 นาที ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่บนทำเลศักยภาพ เริ่ม 2.39 ล้าน*       บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮมโมเดลใหม่ใจกลางราชพฤกษ์ ในบรรยากาศ Luxury Resort พร้อมพื้นที่ส่วนกลางครบครัน ติดคลับเฮ้าส์ ใกล้คอมมูนิตี้ The Walk และ Circle เดินทางสะดวกสบายเชื่อมสาทรและทางด่วนศรีรัช เพียง 10 นาที เริ่ม 5.19 ล้าน*       บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ทาวน์โฮมพรีเมียมที่จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางทั้งคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic ให้คุณออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า เพียง 500 เมตร* เริ่ม 3.79 ล้าน*         บ้านกลางเมือง The Era ปิ่นเกล้า-จรัญฯ ทาวน์โฮมโมเดลใหม่ "Terraria" เอกสิทธิ์เพียง 119 ครอบครัวบนสังคมพร้อมคลับเฮ้าส์หรูสไตล์ Modern Classic ใกล้ Central ปิ่นเกล้าฯ พร้อมการเดินทางสะดวกสบายติดถนนใหญ่ ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน และรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ให้คุณใช้ชีวิตแบบลงตัวในทุกๆวัน เริ่ม 5.69 ล้านบาท*       PLENO ปิ่นเกล้า-จรัญ สัมผัสชีวิตที่สมบูรณ์แบบ กับพรีเมียมทาวน์โฮมพร้อมคลับเฮ้าส์หรู สระว่ายน้ำแบบ PANORAMIC DESIGN ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกครบครันในสังคมคุณภาพที่เหนือระดับยิ่งกว่าและตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ DESIGN ใกล้เซ็นทรัลและทางด่วน เริ่ม 2.89 ล้าน*     ปักหมุดความสุขแบบครบวงจร บนทำเล "รามอินทรา-วัชรพล" ทำเลศักยภาพมาแรง ให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นเรื่องจิ๊บๆ วัชรพลในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเกิดโครงการแนวราบขึ้นเยอะเพราะยังเป็นย่านที่ไม่แออัดอยู่กันแบบกระจายตัว จึงมีความเป็นส่วนตัวมาก และนอกจากนี้ย่านวัชพลถือว่าเป็นย่านที่การเดินสะดวกอยู่ใกล้ทางขึ้นทางด่วนฉลองรัช หรือที่เรียกกันติดปากว่าเลียบด่วนรามอินทรา ตรงเข้าสู่เมืองย่านพระราม 9 เอกมัยเพียง 20 นาที ในขณะที่ถนนสายไหมก็ตัดไปออกดอนเมือง พหลโยธินได้ง่ายๆ แถมยังมีรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายเพิ่มเข้ามาอีก จึงนับว่ามีความเพียบพร้อมมากๆ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้ก็มีมากมายทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ แหล่งช็อปปิ้ง แฮงค์เอ้าท์ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งโรงพยาบาล สถานศึกษาในทุกระดับชั้น พร้อมตอบโจทย์ให้คุณเลือกบ้านได้อย่างลงตัว ด้วยทาวน์โฮม 4 โครงการในโซนวัชรพล       PLENO พหลโยธิน-วัชรพล 2 บ้านแนวคิดใหม่ในบรรยากาศร่มรื่น พบมนต์เสน่ห์แห่งโลกตะวันออก สู่สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์จาก Marrakesh ตอบรับความสุขของทุกคนในครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนส่วนกลาง เดินทางสะดวกสบายติดถนนใหญ่และใกล้ทางด่วน เริ่ม 3.59 ล้าน*       PLENO รามอินทรา อีกหนึ่งโครงการที่พร้อมตอบสนองทุกความสุขของครอบครัว สะท้อนดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ รองรับทุกการพักผ่อนทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและพื้นที่ส่วนกลางสีเขียว ใกล้แฟชั่นไอส์แลนด์ & ทางด่วน เริ่ม 2.59 ล้าน*         บ้านกลางเมือง วัชรพล ทาวน์โฮมโมเดลใหม่ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากถึง 152 ตร.ม บนทำเลที่ดีที่สุด ติดถนนใหญ่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว เริ่ม 4.69 ล้าน*       PLENO พลีโน่ รังสิตคลอง4 – วงแหวน ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะโครงการ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามการใช้งาน พร้อมคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวน เดินทางสะดวกสบายใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเพียง 2 นาที เริ่ม 1.89 ล้าน*       ปักหมุดความสุขแบบครบวงจร บนทำเล "สุขสวัสดิ์" ทำเลศักยภาพมาแรงบนพื้นที่ปอดของกรุงเทพฯ สุขสวัสดิ์ ถือว่าเป็นโซนที่มีอากาศดีที่สุดของกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ ด้วยทำเลอยู่ติดริมแม่น้ำและท่ามกลางธรรมชาติผสมผสานความเป็นเมือง ถ้าพูดถึงเรื่องการเดินทางก็แสนจะสะดวกเพียง 15 นาทีก็สามารถเข้าถึงสาทรได้แล้ว ใกล้ทางด่วน และตอบโจทย์ทุกการเดินทางด้วยถนนหลายสาย รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฏร์บูรณะ) ซึ่งเป็นแผนอนาคตที่น่าสนใจมาก ถึงจะบอกว่าเป็นโซนที่มีแหล่งที่มีพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติมากกว่าโซนอื่นๆ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครันไม่แพ้ที่ไหนนะครับ ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Community Mall รวมถึงสถานศึกษา และสถานพยาบาลก็มีหลากหลายแห่งเลยทีเดียว ในโซนนี้ ทาง AP THAILAND มีทาวน์โฮมมาเสนอ 2 โครงการให้ได้เลือกจับจองกัน       GRAND PLENO สุขสวัสดิ์-พระราม 3 พรีเมียมทาวน์โฮมบนทำเลศักยภาพที่แท้จริง กับดีไซน์ที่ดึงเอาเสน่ห์ของความเรียบง่ายทันสมัย ผสานความงดงามด้วยเส้นสายสไตล์คลาสสิค พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของครอบครัวยุคใหม่ เริ่ม 4.29 ล้าน*       PLENO สุขสวัสดิ์ 70 โครงการที่อยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อความสุขของครอบครัวคนเมือง พร้อมคลับเฮ้าส์หรู สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ใกล้ทางด่วนเพียง 10 นาที เริ่ม 3.39 ล้าน*       ปักหมุดความสุขแบบครบวงจร บนทำเล ”พระราม9-กรุงเทพกรีฑา-บางนา” ทำเลศักยภาพมาแรง ดินแดนแห่ง NEW CBD พูดถึงโซนพระราม 9 NEW CBD ซึ่งเป็นย่านมาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมีการเติบโตที่รวดเร็วจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีตึกสูงขึ้นมากมายทั้ง ห้างสรรพสินค้า โรงแรมหรือแม้กระทั้ง Office Building ทำให้มีความคึกคักมาก การเดินทางก็ง่ายสะดวกสบายสามารถขึ้นทางด่วนได้หลายเส้นทาง เช่น ทางพิเศษศรีรัชจนไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี) เพื่อเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือรถไฟก็มีทั้ง Airport Rail Link และ MRT ให้เลือกใช้บริการ นอกจากนี้ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าส่วนขยายสายสีเขียวจากอ่อนนุชมายังบางนาและสายสีเหลืองมาเปิดให้ใช้บริการยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น โซนพระราม9-กรุงเทพกรีฑา-บางนา มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้ เช่น Mega City, Bangkok Mall, Whizdom 101, Forestias และศูนย์นิทรรศการ Bitec เฟส 2 ทำให้เพิ่มศักยภาพทำเลในย่านนี้ดีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับโซนนี้ทาง AP THAILAND มีโครงการทาวน์โฮม 7 โครงการมานำเสนอครับ       บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา บ้านแนวคิดใหม่ พร้อม Grand Master Bedroom ท่ามกลางบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว เต็มอิ่มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และสวนสีเขียวขนาดใหญ่ กว่า 4 ไร่ บนทำเลศักยภาพพราม9-กรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่) ติดถนนใหญ่ ใกล้พระราม9 เริ่ม 7.99 ล้าน*         บ้านกลางเมือง พระราม 9-กรุงเทพกรีฑาทาวน์โฮมโมเดลใหม่ในบรรยากาศร่มรื่น ผสานแรงบันดาลใจจากธรรมชาติภายนอกสู่ภายใน บนทำเลกรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่) ใกล้พระราม9 พักผ่อน ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งคลับเฮ้าส์ สะว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนส่วนกลาง เดินทางสะดวกสบายติดถนนใหญ่ และใกล้ทางด่วน เริ่ม 4.79 ล้าน*         บ้านกลางเมือง The Edition บางนา - วงแหวน นิยามใหม่ของการอยู่อาศัยเหนือระดับ PRIVACY IS THE ULTIMATE LUXURY เอกสิทธิ์เฉพาะเพียง 50 ครอบครัว รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวเปี่ยมไปด้วยความร่มรื่นบนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ เริ่ม 9.89 ล้าน*       บ้านกลางเมือง The Edition บางนา - วงแหวน (BUSINESS DISTRICT) ขยายทุกความเป็นไปได้.... สู่ความสำเร็จของธุรกิจแห่งอนาคต บนทำเลศักยภาพแห่งการลงทุน ติดถนนใหญ่ ใกล้เมกา บางนา ทางด่วนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ บ้านกลางเมือง THE EDITION บางนา-วงแหวน (BUSINESS DISTRICT) ติดถนนใหญ่ ใกล้เมกา บางนา ทางด่วนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ เริ่ม 9.89 ล้าน*         บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9-พัฒนาการ ทาวน์โฮมโมเดลใหม่บนทำเลศักยภาพ รองรับทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว ครบครันกับพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนสาธารณะบนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เดินทางสะดวกสบายติดถนนกรุงเทพกรีฑา สามารถเชื่อมต่อ พระราม9-พัฒนาการ ใกล้รถไฟฟ้า และทางด่วน เริ่ม 4.79 ล้าน*          PLENO บางนา-อ่อนนุช พรีเมียมทาวน์โฮม บนสังคมคุณภาพ ดีไซน์สวนสะท้อนถึงความเหนือระดับในทุกมิติ พร้อมปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามการใช้งานในทุกสัดส่วนของบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยได้อย่างลงตัว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายกับพื้นที่ส่วนกลาง คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำและฟิตเนส เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมือง และสุวรรณภูมิ เริ่ม 1.99 ล้าน*         PLENO พระราม9-กรุงเทพกรีฑา พรีเมียมทาวน์โฮมฟังก์ชั่นใหม่ บนทำเลพระราม9-กรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่) ใกล้พระราม9, ใกล้แอร์พอร์ตลิ้งค์,ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้า สายสีส้ม พร้อมประสบการณ์ใหม่การอยู่อาศัยใหม่ระดับ first class Living เริ่ม 3.29 ล้าน*           21 DESTINY จินตนาการรูปแบบชีวิตในฝันที่จะเปลี่ยนคุณ...สู่ชีวิตเหนือระดับ ------------------------------------------------------------------------------------------- 27-28 ต.ค.นี้ เปิดจองทาวน์โฮม 21 ทำเลใหม่ จาก บ้านกลางเมือง และ Pleno ร่วมเป็นเจ้าของสังคมคุณภาพ พร้อมข้อเสนอส่วนลด 21 เท่า* ราคาพรีเซล เริ่ม 1.99-9 ล้าน* พบกันที่ Sales Gallery ------------------------------------------------------------------------------------------- ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท คลิก https://goo.gl/GeKUYh  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.1623  
รอยร้าวของผนัง สัญญาณอันตราย…หรือแค่เรื่องธรรมชาติ

รอยร้าวของผนัง สัญญาณอันตราย…หรือแค่เรื่องธรรมชาติ

เคยมองไปบนผนังบ้านของตัวเองแล้วสังเกตเห็นรอยร้าวกันบ้างมั้ย รอยร้าวเหล่านั้นเป็นแค่เรื่องธรรมชาติหรืออันตรายต่อบ้านขนาดไหน ลองมาดูกันครับ เคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่าทำไมอาคารบ้านเรือนเราอยู่ๆก็เกิดมีรอยร้าวทั้งๆที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆ แบบบ้านบางหลังสร้างมาตั้งหลายปีก็ไม่เห็นว่าจะร้าวเลย แล้วรอยร้าวพวกนี้ส่งสัญญาณอะไรให้เราบ้าง อันตรายแค่ไหน แบบบ้านจะพังไหม หรือ แค่เราคิดมากไปเอง ไม่แน่อาจจะแค่เรื่องธรรมชาติหรือเปล่าไปถามบางคนก็ว่าแค่ปูนร้าวไม่มีอะไรหรอก แต่อีกคนมาบอกว่าต้องแก้นะเดี๋ยวบ้านพัง แล้วตกลงเราจะรู้ได้อย่างไร ว่ารอยร้าวที่เกิดกับบ้านเรานั้นอันไหนต้องแก้ไข หรืออันไหนปล่อยไว้ก็ได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับรอยร้าวที่ทั้งทำให้เราร้าวรานและร้อนใจนั้นมีแบบไหนกันบ้าง และจะแก้ไขอย่างไร ลองมาดูกันครับ 1.รอยร้าวที่เกิดบนผนัง รอยร้าวประเภทนี้ส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตรายถึงขั้นบ้านถล่มดินทลาย แต่มักจะมาในรูปแบบของความน่ารำคาญ คือจะทำให้ดูรกหูรกตา ไม่น่ามอง แต่ในกรณีนี้ไม่สามารถทำให้บ้านพังได้ครับ เช่น 1.1 รอยร้าวแบบแตกลายงา มักจะเกิดจากปูนฉาบขาดน้ำ คือ ผนังก่ออิฐแห้งเกินไปทำให้เมื่อเราเริ่มงานฉาบปูน น้ำที่ผสมในปูนฉาบที่ได้สัดส่วนดีงามแล้ว โดนผนังด้านในดูดเอาน้ำไปทำให้ปูนฉาบผิดสัดส่วนและแห้งเกินไป เมื่อใช้อาคารไปซักพักจึงเกิดเป็นรอยดังกล่าว หรืออาจจะโดนเร่งงานจากเจ้าของบ้านหรือรีบเก็บงวดงาน ทำให้เมื่อก่อผนังอิฐเสร็จก็ฉาบเลยไม่รอให้ผนังอิฐเซ็ทตัวนั่นเอง การแก้ไข : A - ก่อนงานฉาบปูนให้เรารดน้ำผนังก่ออิฐให้ชุ่มก่อนเพื่อไม่ให้ผนังขาดน้ำ แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าไม่ขาดน้ำ สังเกตง่ายๆก่อนจะเริ่มงานฉาบลองเอาฝ่ามือไปนาบผนังถ้ารู้สึกว่าเย็นๆชื้นๆก็แสดงว่าใช้ได้แล้วนั่นเอง B - ถ้าสายไปเสียแล้ว เพราะแตกไปเรียบร้อยก็แก้ไขได้ไม่ยาก ให้ใช้สีที่มีความยืดหยุ่นสูง หาได้หลากหลายยี่ห้อในท้องตลาดมาทาทับให้เรียบร้อย และมักจะแก้ได้อย่างชะงัดทีเดียวครับ 1.2 รอยแตกของผนังตามริมขอบวงกบ อันนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความมักง่ายของช่างก่อสร้าง ที่ไม่ยอมทำเสาเอ็น เสาเอ็นก็คือเสา คสล.ขนาดประมาณ 7 x 7 cm ที่ทำเป็นกรอบครอบวงกบประตูไว้นั่นเอง เพื่อป้องกันปูนฉาบแตกจากการเปิดปิดประตู ฉะนั้นในระหว่างการก่อสร้างเจ้าของบ้านก็ควรตรวจสอบให้รอบคอบก่อนจะที่ช่างจะฉาบปูนครับ 1.3 รอยแตกแนวทแยงบนผนังกว้างประมาณ1-2 มม.อันนี้เริ่มจะน่ากังวลขึ้นมาหน่อยครับ รอยร้าวประเภทนี้มักจะเกิดหลังจากอาคารสร้างเสร็จไปแล้วซักพัก หากเราเจอให้ลองเอาดินสอขีดตรงปลายรอยแตกแล้วสังเกตว่าร้าวต่อหรือไม่ ถ้าไม่ก็ถือว่าไม่อันตรายอาจจะแค่เกิดการบิดของผนังหรือเวลาสิบล้อขับผ่านหน้าบ้านบ่อยๆเกิดการสะเทือนมากเป็นต้น แต่ถ้ารอยร้าวกว้างและยาวมากขึ้นอาจจะสันนิษฐานได้ว่า โครงสร้างอาคารอาจจะกำลังทรุดตัว ควรปรึกษาวิศวกรเป็นการด่วน 2.รอยร้าวที่เกิดบนคาน รอยร้าวบริเวณนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือเยอะ ให้คิดไว้ก่อนว่านั่นคือเรื่องอันตราย ให้รีบหาสาเหตุและแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด เพราะไม่ใช่เรื่องปกติแล้วครับ โดยเราอาจสังเกตได้ดังนี้ 2.1รอยร้าวแบบแตกลายงาแต่ไม่ปริออกมา อันนี้น่าจะเกิดจากปูนฉาบขาดน้ำเช่นเดียวกับข้อ 1.1 หรืออาจจะเป็นช่างฉาบปูนคนเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ 2.2 รอยร้าวเป็นเส้นตรงแนวตั้งตรงกลางคานและปริจนเห็นเนื้อปูนหรือเหล็กเสริมด้านใน อาการนี้แสดงว่าคานรับน้ำหนักเกินกว่าที่วิศวกรกำหนดไว้ เรามักจะเจอกรณีแบบนี้ในอาคารประเภทโกดังที่มีการกองเก็บสินค้าเกินกำลัง ให้ลองเอาของที่ตั้งอยู่บนเหนือคานออกแล้วสังเกตดูว่ารอยร้าวมันหยุดหรือไม่ ถ้าหยุดก็แสดงว่าเราเจอสาเหตุ ขั้นตอนต่อไปก็ให้กระจายการวางน้ำหนักให้สมดุลกันทั้งอาคาร แต่ถ้ายังคงร้าวต่ออันนี้ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าอาคารของเราก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ก็รีบอพยพชั่วคราวกันก่อนครับ แล้วรีบติดต่อวิศวกรมาดูโดยเร็วที่สุด เพราะอาจจะทำให้อาคารพังได้ 3.รอยร้าวที่เกิดบนเสา รอยร้าวที่เกิดกับเสาก็เป็นอีกตำแหน่งที่ถือว่าอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย ถ้าไม่นับรอยแตกลายงา รอยร้าวของเสามักจะเกิดที่หัวเสา อาจจะฉีกออกแค่เสาหรือทั้งคานและเสาก็ได้ อันนี้รีบย้ายออกจากบ้านก่อนเลยครับ แล้วติดต่อวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ เพราะเกิดจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน เกิดแรงเฉือนอย่างรุนแรงที่ตำแหน่งหัวเสาเชื่อมกับคานและจะทำให้อาคารทรุดลงมาได้ การแก้ไขมีตั้งแต่เสริมเหล็กรับแรงให้กับเสา ไปจนถึงทุบอาคารทิ้งกันเลย ฉะนั้นถ้าเจอรอยร้าวแบบนี้อย่านิ่งนอนใจอย่างเด็ดขาดครับ 4.รอยร้าวที่เกิดบนพื้น รอยร้าวบนพื้นมักจะมีให้เห็นบริเวณพื้นชั้นล่าง และเป็นพื้นที่วางบนดินหรือที่เรียกว่าพื้นหล่อในที่ โดยสาเหตุเกิดจากการทรุดตัวของดินถมบดอัดที่อยู่ใต้พื้น พอดินที่รับน้ำหนักพื้นทรุดลงก็จะทำให้พื้นทรุดตาม ทำให้เห็นรอยร้าวตามขอบพื้นที่ติดกับคาน การแก้ไข หากกำลังเริ่มทำแบบบ้านให้พยายามทำพื้นแบบวางบนคานไม่ว่าจะเป็นพื้นหล่อหรือพื้นสำเร็จรูปก็ตาม ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดกับบ้านเราอย่างแน่นอน ส่วนคนที่อยู่แบบบ้านเดิมมานานและพื้นทรุดตัวแล้ว อันนี้แก้ยากครับ ง่ายสุดคือทุบพื้นเดิมทิ้งแล้วหล่อใหม่ดีกว่า เป็นยังไงบ้างครับได้รับรู้กันไปพอสมควรสำหรับเรื่องรอยร้าวในตำแหน่งต่างๆ ทั้งที่อันตรายและไม่อันตราย วันไหนว่างๆลองเดินสำรวจรอบบ้านกันดู หรือว่าใครกำลังเจอปัญหานี้พอดีก็จะได้มีแนวทางในการแก้ไขเบื้องต้นได้ครับ ขอบคุณแหล่งที่มา http://www.forfur.com/%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4
ซื้อบ้านมือสอง มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

ซื้อบ้านมือสอง มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

เป็นเรื่องปกติที่เวลาเราซื้อบ้านมือสองจะมี “ความเสี่ยง” มากกว่าบ้านใหม่ เพราะถ้าเราซื้อบ้านใหม่ ก็สามารถเลือกได้เลยว่าจะเอาโครงการไหน รู้ประวัติที่มาของโครงการ ความน่าเชื่อถือ เเต่บ้านมือสองนั้นเเตกต่างกัน เพราะอย่างๆน้อยบ้านต้องมีเจ้าของมาก่อนแล้วเเน่นอน แล้วถ้าเราจะเลือกซื้อบ้านมือสองสักหลัง เราเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงเรื่องอะไรบ้าง?    1.เเน่ใจได้ยังไงว่าคนที่อยู่บ้านหลังนั้นเป็นเจ้าของบ้าน? อย่างเเรกสุดที่เราต้องเจอเลย เพราะเราไม่อาจเเน่ใจได้เลยว่าเขาใช่เจ้าของบ้านตัวจริงหรือเปล่า? หรือเพียงเเค่ผู้อยู่อาศัย ผู้เช่าบ้าน ก่อนจะตกลงซื้อขายเบื้องต้นต้องตรวจสอบให้ดีก่อน วิธีตรวจสอบคือการเอาโฉนดไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินว่าเจ้าของชื่ออะไร พอถึงวันนัดวางเงินก็เอาเอกสารมาเทียบกัน ถ้าตรงกันก็ถือว่าถูกต้อง เเต่ถ้าซื้อบ้านเอง เเนะนำให้สำนักกฎหมายเข้ามาดูเเล จะปลอดภัยกว่า     2.บ้านมีทางออกมั้ย? ความเสี่ยงต่อมาคือเรื่องทางออก ถ้าเป็นบ้านที่อยู่นอกโครงการหมู่บ้านจัดสรร และมีถนนตัดผ่านหน้าบ้าน ต้องตรวจสอบก่อนว่าถนนเส้นนั้นเป็นถนนส่วนบุคคลหรือเป็นถนนภาระจำยอมที่ให้บ้านอื่นสามารถใช้ได้ร่วมกัน เเต่ถ้าใครเลือกขอสินเชื่อธนาคารก็ไม่ต้องกังวล เพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารจะส่งฝ่ายประเมินเอกสารไปตรวจสอบให้เรา สบายใจไร้กังวล   3.เรื่องราคาจะเป็นกลางมั้ย? เรื่องสำคัญที่หลายคนกังวลคือเรื่องราคา หลายคนอาจไม่มีประสบการณ์ซื้อขายบ้านมาก่อน ดังนั้นต้องตรวจสอบราคาให้ดีก่อนว่าเป็นราคาตลาดหรือมั้ย? ถ้าเก็บข้อมูลได้เยอะเเล้วเจอหลังที่ใช่ ก็ซื้อได้เลย เเต่ถ้าเพิ่งดูครั้งเเรกแล้วชอบ ก็อย่าพึ่งรีบตัดสินใจ เราอาจจะลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เเล้วเปรียบเทียบราคาบ้านในละเเวกเดียวกัน เเต่ก็ต้องเช็คข้อมูลให้ถูกต้องด้วย อย่าเชื่อหมดทุกอย่าง ได้ข้อมูลที่พอใจเเล้วเราก็ลงพื้นที่จริงได้เลย อย่าลืมอีกเรื่องคือ เมื่อตกลงราคากันได้เรียบร้อย ต้องคุยกันให้เด็ดขาดว่าฝ่ายไหนจะจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง?   4.บ้านถูกอายัดอยู่หรือเปล่า? การอายัดเกิดจากการเอาบ้านไปติดจำนองเเล้วไม่ผ่อนเจ้าหนี้ เจ้าหนี้จึงไปขออำนาจศาลอายัดบ้านไว้ก่อน เหตุการณ์แบบนี้มักเกิดกับการซื้อขายบ้านในเมือง หลายคนเลยที่ดูบ้านเรียบร้อย ตกลงจะซื้อพร้อมวางเงิน เเต่บ้านกลับถูกอายัด วิธีแก้ไขคือเราสามารถไปขอดูโฉนดที่กรมที่ดินก่อนได้ เเจ้งว่าอยากจะตรวจสอบเพราะต้องการจะซื้อบ้านหลังนี้ ส่วนเรื่องการติดจำนอง ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะว่าคนที่ติดจำนองต้องมาไถ่ถอนไปก่อนถึงจะซื้อขายได้   5.ถ้าเอกสารสิทธิที่ครอบครองไม่ใช่โฉนดที่ดินล่ะ? กรณีเป็นพื้นที่ต่างจังหวัด เอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 และ น.ส.3ก สามารถซื้อได้ทั้งหมด เเต่ถ้าเป็น ภบท. หรือซื้อใบรับรองจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ยืนยันว่าใช้เป็นที่ทำมาหากิน พวกนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง   6.ถ้าซื้อไปแล้วถูกเวนคืน? ก่อนจะเลือกซื้อบ้าน ควรตรวจสอบว่าเเถวนั้นมีโครงการทำทางด่วน รถไฟฟ้า ถนนตัดผ่านใหม่หรือเปล่า? ถ้าอยู้ในช่วงสำรวจก็ถือเป็นความเสี่ยงส่วนหนึ่ง เเต่ถ้าการเวนคืนที่ดินเเถวนั้นออกเป็นกฤษฎีกาแล้วก็สบายใจได้ เพราะถือว่าที่ดินเเถวนั้นห้ามทำการซื้อขายเด็ดขาด     7.แล้วถ้าโฉนดบ้านมีชื่อมากกว่า 1 คน ทำไงดี? เรื่องนี้เวลาวางเงินซื้อขายทุกคนต้องเซ็นยินยอม ถ้าเกิดเหตุการณ์มีคนใดคนหนึ่งไม่ยินยอมในวันโอน เราอาจโดนยึดมัดจำไปฟรีๆ เเล้วต้องมาเสียเวลามาฟ้องร้องเรียกมัดจำคืน     8.ถ้าเกิดสิ่งปลูกสร้างที่ดินไม่มาพร้อมกัน ถ้าที่ดินเป็นชื่อคนละคนกับบ้าน จะซื้อขายต้องมีประกาศจากสำนักงานที่ดินว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมก่อน จะต้องเสียเวลาอีก 1 เดือน และถ้าหากไม่ประกาศก็โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้   9.ถ้ามีปัญหา มีผู้จัดการมรดกจัดการหรือเปล่า? ถ้าคนถือครองเสียชีวิต ก็ต้องดูว่ามีใครเป็นผู้จัดการมรดก ทำเรื่องเรียบร้อยเเล้วหรือยัง? เเต่ถ้าเกิดวางเงินไปแล้ว เเต่กลัวว่าจะโอนไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วสามารถโอนได้ โดยขออำนาจศาลเเต่งตั้งผู้จัดการมรดกก็สามารถทำเรื่องซื้อขายกันต่อได้เเล้ว ตอนนี้เรารู้เเล้วว่าความเสี่ยงที่จะเจอเวลาเราจะซื้อบ้านมือสองนั้นมีอะไรบ้าง ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองสักหลังต้องคิดให้ดีๆ เก็บข้อมูลให้มากๆก่อนซื้อ   ขอบคุณแหล่งที่มา  :  https://www.home2nd.com/blog/87690  
ผ่อนไหวใช่ว่าดี คำนวณก่อน ดอกเบี้ยบ้าน คุ้มค่าจริงเปล่า?

ผ่อนไหวใช่ว่าดี คำนวณก่อน ดอกเบี้ยบ้าน คุ้มค่าจริงเปล่า?

การมีทรัพย์สินติดตัวไว้ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ยิ่งเมื่อการได้มาเป็นภาระเกินความจำเป็น ยิ่งมีมูลค่ามาก การได้มากก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น และผู้ให้บริการทางการเงินส่วนมากก็มอบช่องทางสบายๆให้กับคนใจร้อน คนที่มีความต้องการมากเสียจนลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดีซะก่อน หากคุณไม่อยากเสียผลประโยชน์จากการไม่วางแผน ลองอ่านบทความนี้ให้จบ แล้วคุณจะพบว่า ดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้าน หากไม่บริหารให้ดี จะเจ็บหนักขนาดไหน   อันดับแรกคือหาเจ้าที่ประหยัดที่สุด เวลาเราไปดูตารางดอกเบี้ยของผู้ให้บริการทางการเงินหลายๆเจ้า เรามักจะเห็นคำว่า MRR นำอยู่ข้างหน้าเสมอ ตามด้วย สามปีแรกดอกเบี้ยกี่ % แล้วหลังจากนั้นเป็น MRR ลบเท่าไหร่ เช่น MRR = 7.25% สามปีแรก ดอกเบี้ย 3.75% ปีที่เหลือ ดอกเบี้ย MRR-2% เมื่อเห็นแบบนี้ก็เข้าใจง่ายๆว่าคุณจะต้องโดนดอกเบี้ยปีละกี่ % แต่ค่า MRR จะเปลี่ยนไปทุกปีตามกำหนดการของธนาคาร เป็นเหตุผลที่มีการรีไฟแนนซ์ ทำให้การตัดสินใจเลือกผู้บริการธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ยังไม่รวมไปถึงปริมาณการผ่อนชำระ   หลักการผ่อนไม่ให้ขาดทุน จุดสำคัญที่อยากให้ทุกคนเข้าใจกันคือปริมาณก่อนผ่อนชำระของคุณ เพราะคนส่วนมากมักจะเลือกผ่อนทีละน้อย เพื่อไม่ให้เดือดร้อนทรัพย์สินส่วนอื่น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกไปซะหมด โดยเฉพาะกับคนที่สามารถรับผิดชอบผ่อนชำระได้มาก บางคนมีรายได้พอจะผ่อนให้เสร็จในสิบปีได้ แต่เลือกจะผ่อน 20 ปีเพื่อจะเอาเงินไปใช้ทำส่วนอื่น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดเต็มๆ ธนาคารมักจะมีการผ่อนชำระขั้นต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 1ล้านต่อ 7พันบาท จะผ่อนหมดในเวลาประมาณ 142 สัปดาห์หรือ 20 ปี ซึ่งใช้เวลานานมาก ในขณะที่ปริมาณดอกเบี้ยไม่ได้ลดลงเลย คุณอาจจะมีรายได้อยู่ที่ 30,000 บาทต่อเดือน ผ่อน 15,000 บาทต่อเดือนต่อเงินต้นสองล้านบาท คุณคิดว่าคุณจะโดนดอกเบี้ยเท่าไหร่? ดอกเบี้ยหรือค่า MRR อาจจะคงที่ในทุกทุกปีที่คุณผ่อน แต่ดอกเบี้ยจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเงินต้นว่าคุณผ่อนไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ซึ่งดอกเบี้ยนั้นจะคำนวณตามเงินต้นและต้องรับผิดชอบทุกเดือน หมายความว่ายิ่งคุณจ่ายทีละน้อย เงินต้นก็จะลดลงช้าลงเท่านั้น เท่ากับว่าดอกเบี้ยก็จะลดลงช้าด้วยเช่นกัน จากล้านละเจ็ดพัน เปลี่ยนมาเป็นล้านละหมื่น จะย่นระยะเวลาการผ่อนชำระลงได้มากกว่าที่คุณคิด ยอมลงทุนผ่อนทีละมากๆต่อทรัพย์สินทีละชิ้น ดีกว่ามานั่งผ่อนยาวๆแต่เมื่อคำนวณออกมาแล้ว ดอกเบี้ยสูงเท่าเงินต้นนะครับ   รายได้ไม่พอ จะแก้ปัญหาอย่างไร? สำหรับคนที่มีความจำเป็นที่จะต้องผ่อนบ้าน หรือคนที่ผ่อนชำระไปแล้วพึ่งพบว่าตนเองกำลังขาดทุนอยู่จะแก้ปัญหาได้ทางไหนบ้าง? จริงๆแล้วหากไม่มีรายได้เพิ่ม ก็อาจจะเป็นทางออกที่ยาก แต่ก็มีทางเลือกง่ายๆดังนี้ โปะก้อนใหญ่ วิธีการแก้ปัญหาเงินต้นลดช้า แก้ได้ด้วยการโปะเงินก้อนเข้าไปในทุกทุกปีหรือทุกทุกเดือน เพื่อเป็นการลดเงินต้นอีกรูปแบบหนึ่ง แม้จะต้องใช้เงินเยอะเหมือนเดิม แต่ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารเงินของท่านว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน รีไฟแนนซ์ การรีไฟแนนซ์นั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเสมอ หากคำนวณไม่ดี จะกลายเป็นขาดทุนไปด้วย แต่หากทำถูกวิธี จะสามารถลดดอกเบี้ยลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อเสนอปัจจุบัน ดอกเบี้ยกำไรผู้ซื้อมีเป็นช่วงระยะเวลา 3 ปีแรก หลังจากนั้นไปการรีไฟแนนซ์จึงกลายมาเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง หาผู้กู้ร่วม ในเมื่อไม่สามารถรับผิดชอบด้วยตัวเองได้ ก็ต้องหาคนมาช่วยรับผิดชอบ อาจจะไม่ใช่รูปแบบของการ กู้ร่วมทั้งหมด แต่ก็สามารถหารายได้เพิ่มจากที่พักที่คุณมีนี่แหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเช่าที่ หรือเปลี่ยนเป็นหอพักก็ดีทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ที่ปลายทางได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ วิธีการหลีกหนีดอกเบี้ยบ้านที่สูงเกินไป อยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มขอสินเชื่อ ตั้งแต่ตอนคำนวณฐานรายได้และรูปแบบการชำระที่คุณต้องการ หากเตรียมพร้อมไว้ก่อน ก็จะไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่มีทางเลือกก็จำเป็นต้องพยายามให้หนักกว่าคนอื่น หากต้องการจะออกจากวังวนนี้ แม้ว่าการผ่อนระยะเวลานานจะเป็นทางเลือกที่คุณสบายใจที่สุด แต่การผ่อนเงินเพียงสองล้านบาทอาจกลายเป็นดอกเบี้ยร่วมหนึ่งล้านบาทได้เลย มากพอที่จะคุณถอยรถยนต์อีกคันได้สบายๆ ดังนั้นก่อนจะทำการใหญ่ การศึกษาข้อมูลทางการเงินมีความจำเป็นมากกว่าที่คุณคิด อย่ารีบร้อน วางแผนให้ดีก่อน ขอบคุณข้อมูลจาก : https://finance.rabbit.co.th/blog/minimum-house-installment        
เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บ้าน

เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บ้าน

เรื่องของสินเชื่ออาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจยากซักหน่อย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องที่เราต้องรู้ไว้ ไม่ว่าคุณจะกำลังผ่อนบ้านอยู่ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อบ้านซักหลังเป็นของตัวเอง เรื่องสินเชื่อบ้าน ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยค่ะ     รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การขอกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เรามีสัญญาการผ่อนชำระอยู่เดิม หรือ จะทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ มาโปะหนี้จากธนาคารเดิมก็สามารถทำได้ การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการขอกู้เงินจากธนาคารเดิม หรือธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ ต่างมีจุดประสงค์เพื่อขยายระยะเวลาการผ่อนที่เหลือให้นานขึ้น และมีค่างวดน้อยลง หรือ เพื่อให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น     คนส่วนใหญ่มักจะนิยมรีไฟแนนซ์บ้าน หรือ คอนโดมิเนียม กันทุกๆ 3  ปี หรือ เมื่อเริ่มที่จะรู้สึกว่าผ่อนไม่ไหว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่จำเป็นต้องรอให้เรารู้สึกว่าผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ไหวถึงจะยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ เพราะ ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ มีกำหนดให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้เรื่อยๆ (ทุกรอบ 3ปี) ทั้งนี้เพราะธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่งล้วนมีแรงจูงใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงนั่นเอง เพราะอัตราดอกเบี้ยในการกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดของทุกธนาคารจะถูกแค่ในช่วง 3 ปีแรกเท่านั้น และหลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น หมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่างวดและดอกเบี้ยการผ่อนบ้านในอัตราปกติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าหลายๆคนจึงเลือกทำการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่นั่นเอง       1.เงื่อนไขการรีไฟแนนซ์ของธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ปัจจัยหลักๆของการกู้สินเชื่อบ้านคือดอกเบี้ย ดังนั้นหากคุณต้องการจะรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยคือสิ่งที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างแรก อัตราดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์ที่เหมาะสม คือ อัตราดอกเบี้ยจะต้องต่ำกว่าดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน รวมทั้งเงื่อนไขเรื่องจำนวนเงินผ่อนต่องวดที่ต้องลดลงและ ระยะการผ่อนที่นานขึ้นเพราะธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ย่อมมีเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์ที่ต่างกัน หากคุณรู้เงื่อนไขของธนาคารแต่ละแห่ง จะทำให้เราสามารถคำนวนได้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านแต่ละครั้งมีส่วนช่วยในการลดดอกเบี้ยได้มากน้อยแค่ไหน     2.ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมด อัตราดอกเบี้ย ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าธรรมเนียมการปล่อยกู้ ค่าอากรแสตมป์ ค่าจำนองที่ดิน ค่าทำประกัน หรือค่าบริการอื่นๆ (ค่าประกันอัคคีภัย) ส่วนมากค่าใช้จ่ายโดยรวมนี้คุณสามารถคำนวนได้จากเว็บไซต์ของธนาคารและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เพราะในปัจจุบันธนาคารและสถาบันการเงินที่มีการให้บริการรีไฟแนนซ์ จะมีบริการคำนวนค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการรีไฟแนนซ์อยู่แล้ว     3.ต้องรู้ว่าใช้เอกสารอะไรในการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าง สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมฉบับจริง ใบรับรองเงินเดือน (ย้อนหลัง 3เดือน) หรือ หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการข้อตกลง ฉบับจริง ใบเสร็จการผ่อนชำระย้อนหลัง 24 เดือน (ในกรณีรีไฟแนนซ์บ้านแบบไถ่ถอน) สำเนาบัญชีเงินฝากแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน และหลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ พร้อมฉบับจริง หรือ Statement พร้อมเซ็นต์รับรอง หากผู้ยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ ประกอบอาชีพส่วนตัว ให้นำสำเนาใบประกอบวิชาชีพ หรือ ใบอนุญาตประกอบการ มาแสดงด้วย แต่หากประกอบธุรกิจให้นำสำเนาทะเบียนการค้า ทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนห้างหุ้นส่วนฯ พร้อมยื่นหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ แนบใบเสร็จตัวจริงจากกรมสรรพากร ย้อนหลัง 6 เดือน มาด้วย (รูปถ่ายกิจการ จำนวน 3-4 รูป) สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก/หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด/อช.2(2ชุด) พร้อมรับรองจาก สนง.ที่ดิน     4.ศึกษาขั้นตอนการรีไฟแนนซ์เบื้องต้น การศึกษาขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้คุณประหยัดเวลาในการดำเนินการได้มากขึ้น รวมถึงคุณสามารถเตรียมเอกสารและดำเนินการยื่นเอกสารได้ทันเวลาอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การติดต่อขอสำเนาสรุปยอดหนี้เงินกู้กับธนาคารเก่า ยื่นเอกสารสรุปยอดหนี้ที่ได้จากธนาคารแห่งเก่าไปขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ เจ้าหน้าที่ธนาคารมาประเมินทรัพย์สิน การนัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดินธนาคารเดิม การนัดวันทำสัญญากับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ ดำเนินการเรื่องโอนที่ที่ดินในเขตที่ของเราตั้งอยู่   แม้ว่าข้อมูลต่างๆจะสำคัญต่อการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่การศึกษาข้อมูลอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่ทางออกทั้งหมด คุณควรดูปัจจัยจากตัวคุณเพิ่มเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายได้ประจำ เงินเก็บ กำลังทรัพย์ แนวมโน้มทางการเงิน แนวโน้มหน้าที่การงาน รวมถึงการคำนวนความสามารถในการผ่อนค่างวด ดอกเบี้ย รวมถึงระยะเวลาในการผ่อนด้วย  ขอบคุณข้อมูลจาก : https://finance.rabbit.co.th/blog/re-finance-101        
Pleno สุขุมวิท-บางนา ทาวน์โฮมคุณภาพบนทำเลที่ดีที่สุด ย่านบางนา : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno สุขุมวิท-บางนา ทาวน์โฮมคุณภาพบนทำเลที่ดีที่สุด ย่านบางนา : รีวิวทาวน์โฮม

Pleno สุขุมวิท-บางนา พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น โครงการใหม่ล่าสุด จาก AP ภายใต้คอนเซ็ปต์ “REFLECT YOUR LIVING PRIDE” วิถีใหม่ที่สะท้อนการใช้ชีวิต ไปกับธรรมชาติที่งดงาม ความสุขที่ลงตัวของการใช้ชีวิตเหนือระดับ สะท้อนมุมมองและความภาคภูมิใจ ให้ได้สัมผัสความเป็นตัวตนของคุณ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม รื่นรมย์ ไปกับ Clubhouse ที่โดดเด่นในเรื่องของ Luxury Design พร้อมสระว่ายน้ำใหญ่และสระเด็ก , Fitness, สวนสวยที่เป็นส่วนกลางขนาดใหญ่ สร้างแรงบันดาลใจให้กับความสุขที่ถูกเติมเต็มในทุกๆ รายละเอียดของการอยู่อาศัย โดดเด่นที่สุดบนทำเลศักยภาพของ สุขุมวิท-บางนา สะดวกทุกการเดินทาง ใกล้ถนนใหญ่ เส้นบางนา-ตราด ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ใกล้ทางด่วนบูรพาวิพี และวงแหวนรอบนอก และใกล้รถไฟฟ้า ทำเลที่ดีที่สุดย่าน สุขุมวิท-บางนา! สัมผัสทำเลที่ดีที่สุด ย่านสุขุมวิท-บางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา กับโครงการใหม่ Pleno สุขุมวิท-บางนา บนทำเลศักยภาพ ซอยบางนา กม.7 ใกล้ถนนใหญ่ บางนา-ตราด เชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายและรวดเร็ว ด้วยทางด่วนบางนาฯ หรือที่เรียกว่า ทางพิเศษบูรพาวิถี สามารถใช้ทางลัดที่ออกทาง IKEA (เป็นเส้นทางลัดสู่ Mega Bangna ด้วย) ได้ หรือหากจะไปสุวรรณภูมิ ก็ใช้ทางด่วนวงแหวนกาญจนา ได้อีก นับว่าเป็นโครงการที่มีทำเล ที่สามารถตอบสนองทุกการเดินทางอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว อีกทั้งยังใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อย่างห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งฯ อย่าง Central บางนา Mega Bangna , IKEA , และสถานศึกษาชั้นนำ เช่น ร.ร.ราชวินิต บางแก้ว, ร.ร.นานาชาติคอนคอร์เดียน เป็นต้น แถมยังมีศักยภาพต่อไปในอนาคต เนื่องจาก Mega Bangna กำลังมี Project การอัพเกรด เฟสใหญ่ และพื้นที่อีกด้านที่อยู่ตรงข้าม BITEC บางนา ก็มีการลงทุนสร้าง Bangkok Mall โครงการ Mixed-Use ขนาดมหึมา จึงเรียกได้ว่า ย่านสุขุมวิท-บางนา เป็น ทำเลศักยภาพ ที่เพรียบพร้อมและน่าจับตามองในการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ    Pleno สุขุมวิท-บางนา สถานที่ตั้ง    ถนนบัวนครินทร์ ตำบลบางพลี อำเภอบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ (เข้าซอยบางนา กม.7 หรือซอยรร.ราชวินิต) ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่โครงการ    ประมาณ 23-3-36.6  ไร่ (9,536.6 ตารางวา) จำนวน    295 ยูนิต รายละเอียดแบบบ้าน ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 106.5 ตารางเมตร คันหน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 17.5 ตารางวา จอดรถ 1 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก                                        - คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ Kids Pool ฟิตเนส สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และสนามเด็กเล็ก Gate เข้า- ออกโครงการ พร้อมป้อม รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ และถนนภายในโครงการ เส้นทางคมนาคม ถนนสุขุมวิท ถนนกาญจนาภิเษก ถนนบางนาตราด BTS บางนา ทางด่วน (บูรพาวิถี/วงแหวนรอบนอก) สถานศึกษา  โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน โรงเรียนราชวินิต บางแก้ว โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ห้างสรรพสินค้า Mega Bangna IKEA , Central บางนา Big C & Lotus (บางนา) SB DESIGN SQUARE Index Living Mall Chic Republic สถานพยาบาล รพ.ไทยนครินทร์ รพ.ปิยะมินทร์ รพ.ศิครินทร์  สถานที่สำคัญ สนามกอล์ฟเมืองแก้ว สถานีตำรวจเมืองแก้ว สนามบินสุวรรณภูมิ เว็ปไซต์    :    http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/ เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โทร    :    1623 เริ่มก่อสร้าง    มกราคม 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    มิถุนายน 2562 Pleno สุขุมวิท-บางนา พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างพิถีพิถันด้วยความเข้าใจในทุกองศาของการใช้ชีวิต บนทำเลศักยภาพ ใกล้ถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนวงแหวนรอบนอก และทางพิเศษบูรพาวิถี และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา เชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย เริ่มต้น 2.99 ล้าน* เปิด PRE-SALE ให้จอง 19-20 ส.ค.60 นี้ 2 วันเท่านั้น!! รับข้อเสนอ "จ่ายน้อยคืน 100%" ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >>> http://www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/the-phenomenal-10/
เดอะไพร์ม พระราม 9-รามคำแหง 21 โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น ที่ลงตัวทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย : รีวิวทาวน์โฮม

เดอะไพร์ม พระราม 9-รามคำแหง 21 โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น ที่ลงตัวทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปดูโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง” หนึ่งในทำเลศักยภาพที่แวดล้อมไปด้วยสังคมเมืองเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายและน่าลงทุนในขณะนี้ ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท เดอะไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นที่อยู่อาศัยกึ่งบ้านกึ่งสำนักงาน หรือที่เรียกกันว่า Home Office นั่นเองค่ะ พื้นที่ของโครงการแบ่งออกเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น ดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์นสะท้อนความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจและชีวิตส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน แต่รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ     เริ่มต้นจากรายละเอียดโครงการ “เดอะไพร์มพระราม 9 – รามคำแหง” กันก่อนเลย ราคาเริ่มต้น : 3.45 ล้านบาท เจ้าของโครงการ : บริษัท เดอะไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลักษณะโครงการ : อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น จำนวนทั้งหมด : 67 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด : 4-2-84 ไร่ รูปกรรมสิทธิ : สิทธิการเช่าที่ดินพร้อมอาคารระยะยาว 30 ปี เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน : กรมพุทธศาสนา ที่ตั้งโครงการ : ถนน นวศรี (ซอยรามคำแหง 21) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ โครงการ เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21 เป็นโครงการที่ให้กรรมสิทธิ์ในรูปแบบ การเซ้ง หรือ การเช่าที่ดินระยะยาว  นะคะ โดยมีระยะเวลาเซ้งตามสัญญาอยู่ที่ 30 ปี ส่วนใครที่ยังสงสัยว่า การเซ้ง หรือ การเช่าที่ดินระยะยาว คืออะไร สามารถคลิกอ่านได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://goo.gl/NgLZug   ศักยภาพของที่ตั้งโครงการ   แน่นอนค่ะว่าปัจจุบันย่าน “พระราม 9 – รามคำแหง” เป็นทำเลทองที่ความเจริญต่างๆ ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการเดินทาง การกินอยู่ รวมถึงศักยภาพของทำเลกลางเมืองที่พร้อมรองรับการทำธุรกิจหรือเปิดกิจการมากขึ้นเรื่อยๆ  สำหรับการเดินทางมายังโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21” ก็สามารถเลือกได้หลายเส้นทางค่ะ เพราะถนนนวศรี (ซอยรามคำแหง 21) ที่ตั้งโครงการนั้นเชื่อมโยงเข้ากับถนนศรีวราและถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วน) ต่อติดทุกเส้นทางใจกลางเมืองรวดเร็วทันใจด้วยด่านทางด่วน (รามอินทรา-อาจณรงค์) ซึ่งทางด่วนสายนี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับมอเตอร์เวย์ได้อีกด้วยค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวนั้นสามารถเดินทางมายัง โครงการ เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21 ได้โดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link (ห่างจากสถานีรามคำแหง 2 กิโลเมตร) เรือแสนแสบ ท่าเรือเดอะมอลล์ 3 (ห่างจากท่าเรือเพียง 320 เมตร) หรือรถประจำทางก็มีให้เลือกมากกว่า 10 สาย อาทิ สาย 171, 204, 168, 520, 95, 126 ทั้งนี้ในอนาคตการเดินทางมายังโครงการก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นค่ะ เพราะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม (หน้า The Mall รามคำแหง) และสายสีเทา (โครงการในอนาคตเร็วๆ นี้)  ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากขึ้นไปอีกค่ะ ส่วนบริเวณรอบโครงการก็แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษาหลายระดับชั้น, สถานพยาบาล, ศูนย์ราชการใกล้เคียง และสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินทางได้สะดวกทีเดียวค่ะ   พาชมโครงการ เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21   ปัจจุบันโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21” สร้างเสร็จพร้อมขายเกินครึ่งและมีลูกบ้านเริ่มย้ายเข้ามาอยู่แล้วนะคะ แต่ก็มีลูกบ้านบางส่วนที่รอตกแต่ง ต่อเติม โดยทางโครงการมีอาคารให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกันคือ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พร้อมชั้นลอย พื้นที่ใช้สอย 135 และ 140 ตร.ม. กับ Home Office 3 ชั้น ในพื้นที่ใช้สอย 127.50 - 150 ตรม. และ 300 ตารางเมตร ซึ่งโซนด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ของตึกแถวอาคารพาณิชย์ ส่วนด้านในจะเป็น Home Office นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ตลอดแนวถนนในซอยรามคำแหง 21 ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ มีร้านค้า ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อที่เช่าที่ดินระยะยาวอยู่มากมายค่ะ เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าควบคู่กับการทำธุรกิจ ถนนภายในโครงการกว้าง 9.45 เมตร สำหรับแบบบ้านที่เราจะพาไปดูวันนี้ คือ อาคารพาณิชย์  3 ชั้น พร้อมชั้นลอย พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. และ Home Office 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 127.50-150 ตรม. ค่ะ Shop House ดีไซน์ทันสมัย เรามาเริ่มที่อาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21”  กันก่อนเลยดีกว่าค่ะ หน้าบ้านกว้าง 4.25 เมตร ลึก 9 เมตร รูปร่างหน้าตาภายนอกอาคารดีไซน์ในรูปแบบ  Modern Tropical แต่ยังผสมผสานการออกแบบที่ใช้เส้นสายเรียบง่ายผสมความเป็นธรรมชาติ ตกแต่งด้านหน้าด้วยระแนงเหล็ก บางช่วงเจาะช่องสี่เหลี่ยมเพื่อเพิ่มความโปร่งแสงและลดทอนความแข็งของวัสดุ เน้นการใช้กระจกบานใหญ่ทำให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามามากพอไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวันนั่นเองค่ะ สำหรับการตกแต่งลูกบ้านสามารถเลือกจัดฟังก์ชั่นได้ตามใจชอบค่ะ เพราะโครงการได้เตรียมพื้นที่อย่างกว้างขวางไว้ให้แล้ว แบบบ้าน Shop House แบบบ้าน Shop House จะอยู่ติดถนนในซอยเลยนะค่ะ เหมาะกับการทำเป็นร้านค้าหรือร้านอาหารตามชื่อของแบบบ้านเลยค่ะ แปลนของชั้น 1 โครงการวางแบบแปลนมาให้ดูเป็นร้านอาหารมีโต๊ะสำหรับลูกค้าและเคาน์เตอร์ของร้านอยู่ด้านใน บริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่สำหรับค้าขาย วางสินค้าโชว์หรือเป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับลูกค้า เพดานจะสูงพอสมควรนะคะ เพราะ Type นี้จะมีชั้นลอยให้ด้วย ช่วยให้บริเวณชั้น 1 ดูโล่งโปร่งดีค่ะ แปลนของชั้นลอย พื้นที่บริเวณชั้นลอยเราสามารถเลือกใช้งานได้ตามใจชอบเลยนะค่ะ ขั้นมาที่ชั้น 2 ในแปลนโครงการจะตกแต่งเป็นส่วนของที่พักอาศัย พื้นที่บนชั้น 2 กว้างขวางดีนะคะ เราจะตกแต่งเป็นส่วนของที่พักอาศัยอย่าง Living Area เหมือนในแปลนโครงการก็ได้ หรือว่าจะเพิ่มพื้นที่ค้าขายขึ้นมาบนชั้น 2 ก็ได้นะคะ ส่วนพื้นที่ 3 จะเป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ พื้นที่บนชั้น 3 ตามแปลนโครงการตกแต่งเป็นห้องนอน อยู่ติดกับระเบียงขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนห้อง Penthouse เลยค่ะ Home Office ดีไซน์ใหม่ ลงตัวทั้งชีวิตและธุรกิจ ในส่วนของ Home Office ที่เราพามาชมครั้งนี้ จะมีพื้นที่ใช้สอย 150 ตรม. แบ่งเป็น 3 ชั้น Type นี้ หน้าบ้านจะกว้าง 5 เมตร มีพื้นที่จอดรถได้ 2 คัน รูปร่างหน้าตาอาคารภายนอกถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เน้นสีเทาและสีขาว เพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจมากขึ้นโดยปรับระดับสีให้มีความเข้มอ่อนไม่เท่ากันทำให้ภาพรวมของอาคารดูทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังจัดสรรพื้นที่ฟังก์ชั่นใช้งานในบ้านให้ลงตัวทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว โดยชั้น 3 ออกแบบให้เป็นที่พักอาศัยแบบ Exclusive Penthouse Master Bedroom ให้ความรู้สึกส่วนตัวเหมือนอยู่ Penthhouse หรูบนคอนโดฯ เลยค่ะ แบบบ้าน Home Office พื้นที่หน้าบ้านกว้างประมาณ 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน แปลนบ้านทั้ง 3 ชั้น ก่อนอื่นเรามาดูภาพ Perspective ของโครงการที่ตกแต่งมาให้ดูกันก่อนะคะ เริ่มจากชั้น 1 ที่เป็นเหมือน Lobby ของบริษัท มีพื้นที่รับรองและเคาน์เตอร์ Reception ขึ้นมาด้านบนอาจจะเป็นห้องของผู้บริหาร พร้อมพื้นที่รับรองแขก และมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานของพนักงานในบริษัท บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ พื้นที่ขนาดใหญ่ที่ชั้น 1 เหมาะสำหรับเป็น Lobby ต้อนรับแขกของบริษัท ใต้บันไดจะมีห้องเก็บของเล็กๆ ซ่อนอยู่ ที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำให้ 1 ห้องนะคะ แต่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เข้ามาด้านในสุดจะเป็นพื้นที่หลังบ้าน คราวนี้เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อดีกว่านะคะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอห้องน้ำก่อนเลยนะคะ ก่อนที่จะแยกออกเป็น 2 ห้อง ห้องน้ำที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำด้วยนะคะ ห้องแรกเหมาะจะทำเป็นห้องนอนเหมือนในแปลนของโครงการเลยนะคะ ด้วยขนาดที่กว้างขวาง และมีระเบียงขนาดใหญ่ หรือจะตกแต่งเป็นห้องทำงานของผู้บริหารก็ได้อีกแบบ ระเบียงขนาดใหญ่เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน กว้างเต็มพื้นที่ห้องเลยค่ะ อีกห้องจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ด้วยขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกัน ในแปลนโครงการทำเป็นห้องทำงานของพรักงาน ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอน Master Bedroom บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้งหมดเลยนะคะ สามารถเลือกตกแต่งกันได้ตามใจชอบเลย ระเบียงจะได้ขนาดใหญ่เหมือนชั้น 2 โครงการแบ่งพื้นที่สำหรับทำห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ไว้ให้เรียบร้อย พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าบริเวณ Walk-in Closet ค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในบริเวณเดียวกัน พร้อมพื้นที่อาบน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่หน้าบ้านของแต่ละ Type ทุกยูนิตจะมีหน้ากว้างและพื้นที่ใช้สอยไม่เท่ากันนะคะ แต่การแบ่งฟังก์ชั่นห้องและการออกแบบอาคารด้านนอกจะเป็นสไตล์เดียวกันทั้งหมด อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าเลยค่ะว่าชอบแบบไหน บ้านหลังไหนใช้พื้นที่คุ้มค่ามากกว่ากัน นอกจากเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอยแล้ว ถ้าลูกค้าคนไหนตั้งใจจะเปิดร้านทำการค้า ทำกิจการส่วนตัว เราแนะนำให้เลือกซื้ออาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการค่ะ เพราะที่ดินจะอยู่ติดถนนนวศรี (ซอยรามคำแหง 21) ทำให้มีโอกาสค้าขายได้ดีขึ้นค่ะ   โครงการ “เดอะไพร์ม พระราม 9 – รามคำแหง 21” นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจนะคะ เพราะราคาไม่สูงมากถ้าเทียบกับโครงการอื่นในทำเลใกล้ๆ กัน แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของ ‘การเซ้ง’ หรือ สิทธิการเช่าที่ดินในระยะยาว 30 ปี อยู่บ้างแต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะเมื่อหมดสัญญาเราก็สามารถต่อสัญญาได้อีก และเจ้าของที่ดินไม่สามารถขอเรียกคืนก่อนหมดสัญญาเช่าได้ค่ะ ใครที่กำลังมองหาบ้านสักหลังไว้ประกอบธุรกิจ อาคารพาณิชย์และ Home Office โครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีนะคะ แถมราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ยิ่งถ้าคุ้นชินกับทำเลทองย่านนี้อยู่แล้วก็น่าจะเห็นถึงศักยภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุนได้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อทุกเส้นทางใจกลางเมือง หรือสาธารณูปโภคที่ครบครันบริเวณรอบๆ โครงการก็ล้วนแต่ตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตได้เป็นอย่างดีค่ะ แล้วถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีเทาเปิดให้บริการเมื่อไหร่ ความสะดวกสบายก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น จนถึงตอนนั้นราคาบ้านคงสูงลิ่วไปไกลเกินคว้าแล้วค่ะ สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการและบ้านตัวอย่างได้นะคะ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 088-535-5556-7 หรือ http://theprimeliving.com/
“Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในย่านพหลโยธิน ตัวเลือกของครอบครัวคนเมือง : รีวิวทาวน์โฮม

“Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในย่านพหลโยธิน ตัวเลือกของครอบครัวคนเมือง : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เรากำลังพูดถึงโครงการน้องใหม่มาแรง "Pleno พหลโยธิน-วัชรพล" ทาวน์โฮมระดับพรีเมี่ยมที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในโซนนี้เลยค่ะ นอกจากบรรยากาศการอยู่อาศัยของสังคมคุณภาพที่ดีแล้ว ตัวทำเลที่ตั้งของโครงการยังมีศักยภาพสูงแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคครบครัน เพื่อให้ทุกคนเห็นสภาพแวดล้อมของสังคมที่ดีตลอดจนพื้นที่ละแวกโดยรอบซึ่งเอื้อต่อความสบายในการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เราจะมาพูดถึงความพิเศษที่ Pleno เลือกปักหมุดทำเลในย่านนี้กันค่ะ   ทุก Lifestyle คนเมืองสุดชิค อยู่ใกล้กว่าที่คิด   เริ่มตั้งแต่ตัวโครงการ Pleno พรีเมี่ยมทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ทันสมัยสไตล์ Modern Art Deco พัฒนาแปลนบ้านเพื่อรองรับสมาชิกของครอบครัวให้ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่ใช้สอยสูงสุด ตอบโจทย์รูปแบบชีวิตของครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือรองรับการขยายในอนาคตอย่างมีคุณภาพด้วยสภาพแวดล้อมและสังคมเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบถ้วนสมบูรณ์ รวมถึงบริเวณโดยรอบของ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล ก็รายล้อมไปด้วยศูนย์การค้าชั้นนำมากมายที่ขับรถไปได้โดยใช้เวลาไม่นาน ตอบโจทย์ปัจจัยสำคัญในชีวิตเรื่องของอาหารด้วย ตลาดยิ่งเจริญ ให้คนรักการทำอาหารได้จับจ่ายวัตถุดิบสดใหม่เข้าครัว รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซนทรัล พลาซ่า รามอินทรา, บิ๊กซี สะพานใหม่ และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ให้คุณสามารถจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้ได้ตามใจ หรือหากอยากชมภาพยนตร์ เมเจอร์รังสิต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบายค่ะ หากเบื่อสถานที่เดิมๆ ลองเปลี่ยนไปเดินห้างสรรพสินค้าสุดชิคเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่อย่าง เซ็นทรัลเฟลติวัล อิสต์วิลล์ พื้นที่ไลฟ์สไตล์แห่งใหม่เลียบทางด่วนรามอินทรา หรือขยับไปอีกนิดก็ยังมี CRYSTAL DESIGN CENTER (CDC) แหล่งรวมร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ แม้กระทั่งร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ก็มีให้เลือกเพียบในสถานที่เดียวเลยค่ะ ซึ่งตัวเลือกทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียงใช้จุดขึ้นลงทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา อยู่ไม่ไกลโครงการห่างเพียง 4.8 กม. ค่ะ   ทำเลโครงการที่ดี สะดวกทุกรูปแบบการเดินทาง   คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน หรือทาวน์โฮมดีๆ สักหลัง แน่นอนค่ะว่า Pleno พหลโยธิน-วัชรพล อยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์การเดินทางครบทุกข้อ เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งของโครงการที่อยู่ติดถนนเพิ่มสิน เชื่อมต่อกับถนนหลากหลายสายทำให้สามารถเข้าออกได้หลายทาง เช่น ถนนสายไหม ถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 ทั้งนี้ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนหรือถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่อยู่ไม่ไกล ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางอีกด้วยค่ะ ข้อดีของทำเลบนถนนเพิ่มสินนี้ยังมีอีกเยอะทีเดียวค่ะ แม้จะเป็นถนนสายรองแต่ก็เชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่หลายเส้นได้ง่าย ที่สำคัญคือรถไม่ติด ไม่ต้องหงุดหงิดเสียเวลาในการเดินทางไปไหน แถมยังอุ่นใจเพราะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเข้าถึงย่านธุรกิจ การค้า และแหล่งช้อปปิ้งได้แล้วค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยที่โครงการจะมีกระแสตอบรับที่ดีมากขนาดนี้ นอกจากนี้การเดินทางแสนสะดวกที่สุดของคนเมืองอย่างรถไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝันนะคะ เพราะที่ตั้งของ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล อยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และสถานีสะพานใหม่) ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2563 ยังไงในอนาคตไม่ช้าก็ต้องได้ใช้อย่างแน่นอนค่ะ และเมื่อรถไฟฟ้ามาถึง แน่นอนว่าการเดินทางก็ยิ่งสะดวกมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนการเดินทางก็เป็นเรื่องง่ายแน่นอนค่ะ แผนที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากสถานีหมอชิต ไปสิ้นสุดที่สถานีคูคต ซึ่งโครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล จะอยู่ใกล้ 2 สถานีคือสถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลเดช และสถานีสะพานใหม่ ปัจจุบันการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็รุดหน้าไปมากแล้วนะคะ มีเสามีรางขึ้นมาให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ยอมทนรถติดกันอีกหน่อยเดี๋ยวรถไฟฟ้าสร้างเสร็จก็สบายกันแล้วค่ะ ส่วนตัวสถานีก็มีโครงสร้างขึ้นมาให้เห็นรูปเป็นร่างแล้วนะคะ ตรงนี้จะเป็นสถานีสะพานใหม่ที่อยู่ด้านหน้าตลาดยิ่งเจริญ พอรวมทุกศักยภาพของทำเลที่โครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล เลือกปักหมุดในตำแหน่งนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพที่สนใจเป็นอย่างมาก ด้วยภาพลักษณ์ของสภาพแวดล้อมและสังคมเพื่อนบ้านที่ดี ปัจจัยโดยรอบโครงการก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ของครอบครัวได้เช่นกัน หากคุณกำลังมองหาทาวน์โฮมคุณภาพ สักหลังหนึ่ง เรามั่นใจว่า Pleno พหลโยธิน-วัชรพล เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดในย่านนี้สำหรับคุณแน่นอน พูดถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งกันไปแล้ว มาดูตัวโครงการ “Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในโซนนี้จาก AP Property กันบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูพร้อมกันเลย   รายละเอียดโครงการ   ที่ตั้งโครงการ : ถนนเพิ่มสิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น  จำนวน 321 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด : 30-3-79.74 ไร่   พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในโซนนี้   สำหรับทาวน์โฮม Pleno พหลโยธิน-วัชรพล มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบด้วยกัน คือ LUXE ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100.71 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ มาพร้อมที่จอดรถ 1 คัน และ METRO ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 130.55 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และสามารถจอดรถได้ 2 คัน ซึ่งแบบบ้านที่เราจะพาไปดูกันก็คือ LUXE ทาวน์โฮม 2 ชั้นค่ะ รูปร่างหน้าตาภายนอกอาคารดูหรูหราและทันสมัยตามคอนเซ็ปต์ Modern Luxury เลยค่ะ หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน สำหรับที่ดินเริ่มต้นที่ 18 ตร.วา ค่ะ ทุกรายละเอียดของตัวอาคารถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยใช้แต่วัสดุคุณภาพ ประดับตกแต่งด้วยหินธรรมชาติเล่นระดับกับแสงไฟและแสงแดดตอกย้ำความหรูหราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังดีไซน์ให้ดูโปร่งโล่งสบายด้วยการใช้กระจกใสบานใหญ่ กระจกบานกระทุ้งทรงสูง และราวกันตกแบบ Tempered Glass ที่ดูเรียบหรูแบบร่วมสมัยแต่ยังช่วยให้รับแสงภายนอกได้ดีขึ้น ซึ่งภายในบ้านตัวอย่างก็ได้ตกแต่งพื้นที่ใช้สอยในส่วนต่างๆ ไว้อย่างสวยงามลงตัวและน่าสนใจทีเดียวค่ะ ประตูทางเข้าจะเป็นกระจกบานเลื่อนนะคะ ซึ่งข้อดีของประตูแบบนี้คือน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ผุกร่อน สามารถใช้งานได้ยาวนานค่ะ เมื่อเดินเข้ามาในบ้านจะเห็นว่าถูดจัดวางแปลนให้เป็นส่วนตัวกับพื้นที่ใช้สอย ภายในเน้นความโปร่งโล่งสบายสอดรับกับห้องรับแขกที่กว้างขวาง พื้นที่การใช้งานภายในบ้านตัวอย่างนั้นถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน จัดฟังก์ชั่นแบบ Open Plan หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหารและครัว ครัวออกแบบให้เป็น One-Wall Kitchen จัดชิดผนังฝั่งหนึ่ง ซึ่งข้อดีของเคาน์เตอร์ครัวแบบนี้คือช่วยประหยัดพื้นที่ ทั้งยังสามารถระบายอากาศได้ดีเนื่องจากทางโครงการได้ติดตั้งหน้าต่างบริเวณนี้ด้วย พื้นที่ส่วนครัวมีประตูเล็กๆ ให้สามารถเปิดออกไปทำกิจกรรมด้านนอกได้ บริเวณหลังบ้านมีขนาดกว้างทีเดียวค่ะ ซึ่งลูกบ้านสามารถดีไซน์พื้นที่ส่วนนี้ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะทำครัวไทยเพิ่มเติม ใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง หรือแม้แต่พื้นที่นั่งเล่นสังสรรค์ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ซึ่งทางโครงการได้เทคอนกรีตไว้ให้ค่ะ กลับเข้ามาที่ด้านใน ตรงข้ามกับส่วนครัวและพื้นที่รับประทานอาหารคือห้องเอนกประสงค์ ที่ทางโครงการออกแบบไว้ให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องนอนผู้สูงอายุก็ยังได้ค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ติดกับห้องเอนกประสงค์นะคะ ซึ่งความพิเศษของการออกแบบห้องน้ำใต้บันไดของบ้านนั้นไม่เหมือนใครแน่นอนค่ะ เพราะทางโครงการได้ออกแบบให้ลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์สูงสุด โดยการดรอปพื้นลงหนึ่งเสต็ปเพื่อให้สามารถยืนได้สะดวกสบาย เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมายังชั้น 2 ตรงกลางแปลนบ้าน มีห้องน้ำอยู่ตรงโถงกลาง ด้านหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) เหมือนเป็นเพนท์เฮ้าส์ขนาดย่อมๆ ให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่โถง เพราะมาพร้อมกับเพดานสูง 3 เมตร ทั้งนี้พื้นที่ใช้สอยยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้อง Walk in closet ได้อีกด้วยค่ะ ส่วนด้านหลังบ้านจะแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกันเลยค่ะ ซึ่งพื้นที่ห้องนอนเล็กนั้นสามารถดัดแปลงไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกเยอะนะคะ หากจำนวนสมาชิกครอบครัวน้อยจะจัดให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ ห้องนอนใหญ่ที่ดูหรูหรา โอ่โถง มาพร้อมกับเพดานสูง 3 เมตร โอบล้อมด้วยกระจกใสบานใหญ่ทำให้มองเห็นทัศนียภาพอย่างกว้างไกล จะเห็นได้ว่าภายในห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนส่วนที่ว่างเปล่าให้เป็น Walk in closet ง่ายๆ โดยไม่เปลืองเนื้อที่เลยค่ะ ห้องนอนเล็กที่เหลืออีก 2 ห้องสามารถดัดแปลงเป็นได้ทั้งห้องนอน อย่างห้องนี้ ที่โครงการตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง อีกหนึ่งห้องนอนเล็กที่ทางโครงการได้ตกแต่งไว้เป็นไอเดีย โดยเนรมิตให้เป็นห้องนอนเด็ก ก็ดูน่ารักน่าใช้งานไม่ใช่น้อย ห้องน้ำชั้น 2 ตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู ครบครันด้วยสุขภัณฑ์ทันสมัย มีหน้าต่างเล็กๆ เพื่อให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาโดยไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวันและยังระบายอากาศได้ดีอีกด้วย สุดท้ายก็คือเรื่องของ Facility ต่างๆ ภายในโครงการที่เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทีเดียวค่ะ เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ครบครันและหรูหราไม่ว่าจะเป็น คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนต สวนหย่อมอันร่มรื่นมาพร้อมสนามเด็กเล่น ยังมีพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) บริการตลอด 24 ชม. และกล้องวงจรปิด CCTV ช่วยเสริมระบบรักษาความปลอดภัยรอบโครงการ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เพื่อความสะดวกสบายและความอุ่นใจของลูกบ้านที่ทางโครงการใส่ใจลูกบ้านทุกยูนิตอย่างแท้จริง บรรยากาศทางเข้าโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เข้ามาแล้วจะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าโครงการ คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ของโครงการ มีพร้อมทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนส ฟิตเนสจะอยู่บริเวณชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์ “Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” สามารถตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาบ้านสักหลังหนึ่งที่อยู่ในย่านที่เดินทางสะดวก แวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคครบครัน พร้อมยังไม่ทิ้งไลฟ์สไตล์คนเมืองเก๋ๆ ให้สามารถออกไปพบปะเพื่อนฝูง นัดประชุม หรือแม้แต่คุยงานเพียงแค่เลือกเส้นทางคมนาคมที่ต่อติดโครงการอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันพื้นที่ภายในบ้านก็จัดวางแปลนไว้เอื้อประโยชน์สูงสุด ให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้สอยได้ตามใจชอบ นอกจากนี้การดูแลสภาพแวดล้อมและภาพลักษณ์ในโครงการยังเป็นสังคมแบบ Exclusive ทำให้มั่นใจว่า “Pleno พหลโยธิน-วัชรพล” เป็นพรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ดีที่สุดในโซนนี้จริงๆ ค่ะ สำหรับโครงการ Pleno พหลโยธิน-วัชรพล พรีเมี่ยมทาวน์โฮมใหม่ใจกลางเมืองจะเปิด Grand Opening Clubhouse ในวันที่ 19-20 ส.ค.นี้ เริ่ม 2.49 ล้าน* พร้อมข้อเสนอพิเศษเฉพาะวันงานเท่านั้น! ลงทะเบียนได้ที่ https://goo.gl/339mTA หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1623
ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย

ข้อคำนึงถึงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย

เมื่อที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้นการคิดเลือกซื้อคอนโดมิเนียมหรือบ้านสักหลังก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งเลยใช่ไหมคะ? ครั้นจะเลือกซื้อเพราะถูกใจในทำเล แนวคิดโครงการ ขนาดพื้นที่ใช้สอย หรือชื่อเสียงจากผลงานที่ผ่านมาของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ อีกหนึ่งข้อสำคัญที่พวกเราทีมงาน Review Your Living อยากให้คุณผู้อ่านพิจารณาให้ดีในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยนั่นก็คือ ‘ความปลอดภัย’ ทั้งในด้านของชีวิตและทรัพย์สินค่ะ เพราะถ้าลำดับเหตุการณ์จากข่าวโจรกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศจะเห็นได้ว่ามีบ้านในโครงการหรือแม้กระทั่งคอนโดมิเนียมส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนปลอดภัยดี แต่ก็ยังไม่วายที่จะโดนยกเค้า! วันนี้เราจึงรวบรวม 3 ข้อมูลโดยเน้นในเรื่องความปลอดภัยของที่อยู่อาศัยมาฝากค่ะ เพื่อให้ทุกคนได้คำนึงและนำไปตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อพร้อมย้ายเข้าอยู่อย่างสบายใจ บทความโดย Review Your Living 1. ความปลอดภัยในการวางแผนออกแบบโครงการ ข้อนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเลยล่ะค่ะ เพราะการออกแบบถนนและจัดวางตำแหน่งอาคารให้มีความเป็นอยู่ปลอดภัย การจัดแบ่งโซนนิ่งหรือการสัญจรในโครงการ รวมไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ดี การจัดระบบรักษาความปลอดภัยและระเบียบการบริหารของหมู่บ้าน/คอนโดฯ  ก็ล้วนแต่มีความสำคัญที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยสบายและปลอดภัยมากขึ้น 2. ระบบป้องกันภัยของโครงการ เป็นอีกเรื่องที่ถือว่ามีความสำคัญต่อความสุขและความสบายใจของครอบครัวไม่ใช่น้อยจริงๆ ค่ะ สำหรับระบบป้องกันภัยของโครงการ ฉะนั้นการเลือกระบบป้องกันภัยที่เราสามารถตรวจสอบได้หลักๆ เลยก็คือ ความสูงของรั้วโครงการควรสูงเกิน 3 เมตรขึ้นไป ระบบควบคุมการเข้าออกโครงการควรมีพนักงานรักษาความปลอดภัย ควมคุมการเข้าออกยานพาหนะด้วยระบบอิเล็คโทรนิกส์ เซ็นเตอร์ คอนโทรล แทนการติกสติ๊กเกอร์หน้ากระจก มีระบบประตูทางเข้า 2 ชั้น กล้องวงจรปิด CCTV ที่คอยบันทึกเทปตลอด 24 ชั่วโมง การควบคุมด้วยระบบ Key Card ทั้งการเข้าออกและการใช้ลิฟต์ การออกแบบโครงการให้ดูโปร่งโล่ง ง่ายต่อการมองเห็นหรือตรวจสอบลาดตระเวน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจราจร 3. การจัดการและออกกฎระเบียบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง อย่างที่ทราบกันดีแหละค่ะว่าทุกๆ โครงการบ้านหรือคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่นั้นจะมีนิติบุคคลคอยดูแลทั้งในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางและระบบรักษาความปลอดภัย แต่ถ้าจะให้มั่นใจก็ควรตรวจสอบถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้รอบคอบกันสักนิดนะคะ อาทิ บุคคลภายนอกที่จะเข้ามาในโครงการนั้นต้องแลกบัตรทุกครั้ง หรือถ้าเป็นคอนโดฯ ก็ควรมีบริเวณพื้นที่ล็อบบี้รองรับไม่ให้เข้าไปสู่ด้านบนได้ทันที การตรวจสอบช่วงเวลาลาดตระเวนของรปภ. ที่ควรมีทุกชั่วโมง และการจัดยามรักษาการณ์ประจำบริเวณแยกแต่ละโซนนอกเหนือจากจุดผ่านเข้าออกโครงการ เป็นต้น ข้อมูลข้างต้นที่เรานำมาฝากนั้นก็เป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งในการคำนึงถึงความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย แต่ถ้าคุณผู้อ่านกำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดฯ พวกเราทีมงาน Review Your Living แนะนำให้ลองศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของด้านอื่นๆ ด้วยนะคะ จะได้มีที่อยู่อาศัยที่ใช่และตรงใจที่สุดนั่นเอง เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับบทความดีๆ ที่เราเอามาฝาก ยังมีบทความน่ารู้อีกมากมายให้ได้ติดตามกันได้ที่นะคะ https://goo.gl/dwpzgr  
PLEX BANGNA – เพล็กซ์ บางนา : รีวิวทาวน์โฮม

PLEX BANGNA – เพล็กซ์ บางนา : รีวิวทาวน์โฮม

PLEX BANGNA (เพล็กซ์ บางนา) - ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น พิถีพิถันทุกรายละเอียดการออกแบบในสไตล์ Multi-Texture เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    5,590,ooo บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 22 ตร.วา จำนวน 238 ยูนิต พื้นที่โครงการ    23-3-91.1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถ.บางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ปีที่สร้างเสร็จ    ปี 2557 ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง    60 บาท/ตร.ว./เดือน   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   MEGA บางนา IKEA Index Living Mall Central บางนา Paradise park Tesco Lotus โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลปิยะมินทร์ โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาดหน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถส่วนตัว 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รปภ. CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  089-000-9922 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://www.plextownhome.com/bangna
“The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” วินเทจทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

“The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” วินเทจทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

ถ้าจำกันได้เราเคยพาไปดูบ้านเดี่ยวโครงการ Areeya Como เมื่อไม่นานมานี้ คราวนี้เรากลับมาที่อาณาจักรอารียาอีกครั้ง เพื่อจะไปดูบ้านทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยวที่ชื่อ “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” กันค่ะ     ครั้งนี้เราเลือกเข้ามาทางซอยมหาชัย บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.10 ฝั่งขาเข้า เข้ามาเกือบสุดซอยที่เป็นพื้นที่ของคอกม้า Phoenix ก็จะเห็นทางเข้าหมู่บ้าน “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” ค่ะ ถึงแม้ถนนในซอยมหาชัยจะไม่ใช่ซอยใหญ่ แต่ก็มีซอยย่อยทะลุไปออกถนนกิ่งแก้ว-เทพารักษ์ได้ด้วย ในขณะเดียวกันลูกบ้านอารียา ยังสามารถขับผ่านถนนหลักที่ผ่านหน้าโครงการต่างๆ ของอารียาไปออกตรงด่านวงแหวนฯ ได้อีกด้วย ซึ่งซอยนี้คือซอยที่มีคอนโด A Space อยู่ตรงปากซอยนั่นเอง ลูกบ้านอารียาจะได้เปรียบที่สามารถใช้เส้นทางนี้ลัดไปออกถนนวงแหวนฯ ได้อย่างง่ายดาย ตรงจุดนี้เองที่เป็นจุดเชื่อมไปยังถนนมอเตอร์เวย์ ทางด่วนบูรพาวิถี รวมถึงเป็นด่านทางด่วนศรีรัชที่ข้ามไปยังฝั่งดินแดง-แจ้งวัฒนะ และทางด่วนสายเฉลิมมหานครที่เชื่อมไปยังฝั่งพระราม 3 สีลม-สาทรได้ด้วยค่ะ ในขณะเดียวกันถนนข้างๆ ยังเป็นทางกลับรถใต้สะพานไปเข้า Mega Bangna ที่สะดวกมากๆ ลูกบ้านไม่ต้องขับออกถนนใหญ่ไปทางบางนา-ตราดให้รถติดเสียเวลาเลยค่ะ บริเวณที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ๆ กับซอยที่เชื่อมไปออกถนนกิ่งแก้ว ดังนั้นบริเวณนี้จะคึกคักหน่อย มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารมากมาย ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ใช้ได้เลยทีเดียว แต่ถ้าขับรถออกไปทางถนนใหญ่ นอกจาก Mega Bangna ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ซึ่งร่วมห้างร้านต่างๆ ไว้เพียบแล้ว ทางฝั่งกิ่งแก้วยังมี Market Village ซึ่งถือว่าเป็นอีกแหล่งช็อปปิ้งหลักของคนแถบนี้เลยนะคะ เพราะที่นี่มีทั้ง HomePro, Lotus รวมถึงร้านอาหารชั้นนำอีกหลายร้านเลยค่ะ นอกจากนี้ทำเลในย่านนี้ยังพร้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาชั้นนำเช่น มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รวมถึงโรงพยาบาล, สนามกอลฟ์ และสนามบินสุวรรณภูมิ ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเลยค่ะ   บ้านทาวน์โฮมสไตล์ Modern Colonial   “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” เป็นหมู่บ้านทาวน์โฮมนะคะ แต่ตัวบ้านออกแบบมาเป็นพิเศษ ผนังบ้านแต่ละหลังเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นพอมองด้านนอกตัวบ้านแล้วจะเหมือนกับบ้านเดี่ยวค่ะ แถมด้วยการออกแบบสไตล์ Modern Colonial มีกลิ่นอายแบบวินเทจนิดๆ หลายคนน่าจะถูกใจตั้งงแต่แรกเห็นแน่นอน   พื้นที่ภายในโครงการแบ่งเป็นบ้านทั้งหมด 167 หลังค่ะ โดยที่ดินเริ่มต้นอยู่ที่ 28 ตร.ว. เว้นแต่แปลงหัวมุมที่จะได้พื้นที่สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้นมามากหน่อย และในแต่ละซอยทางโครงการยังเว้นพื้นที่ไว้เป็นระยะ เพื่อลูกบ้านจะได้ใช้กลับรถในซอยได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการด้วยค่ะ ปัจจุบันบ้านภายในโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เกินครึ่งแล้ว ดังนั้นเราจะได้เห็นบรรยากาศภายในโครงการจริงๆ ก่อนตัดสินใจค่ะ ซุ้มทางเข้าโครงการ เข้า-ออก โครงการด้วยระบบ Key Card ถนนเมนจะกว้าง 12 เมตรเลยนะคะ ส่วนถนนในซอยจะกว้าง 8 เมตร Facility หรือพื้นที่ส่วนกลางในบริเวณโครงการจะมีสวนหย่อมพร้อมศาลานั่งเล่นที่ลูกบ้านสามารถออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ค่ะ ในบริเวณสวนในโครงการนี้เองยังมีสนามบาสแบบ Haft Size เอาไว้ให้ฝึกเล่น ฝึกชู้ทอีกด้วย ส่วนตัว Club House ทางอารียาจัดแยกส่วนไว้อีกที่หนึ่งนะคะ ซึ่งพื้นที่ของ Club House ลูกบ้านอารียาจะแบ่งกันใช้กับ Areeya Como และ The Colors ที่อยู่ในโซนเดียวกัน โดยภายใน Club House จะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ระบบน้ำเกลือพร้อมสระเด็ก รวมถึงห้องออกกำลังการพร้อมอุปกรณ์หลายชนิดเลยทีเดียว บริเวณ Club House จะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อน พร้อมหนังสือดีๆ ไว้ให้ลูกบ้านหยิบไปอ่านได้ด้วยค่ะ บรรยากาศบริเวณคลับเฮ้าส์ของโครงการ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าคลับเฮ้าส์ ด้านในจะมีห้องน้ำ พร้อมห้องอาบน้ำ และตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน หรือนั่งรอเพื่อนๆ ที่มาใช้บริการคลับเฮ้าส์ พื้นที่ฟิตเนสก็จะอยู่ด้านในเหมือนกันนะคะ เปิดบ้านตัวอย่างสไตล์  Modern Colonial แบบบ้านของ“The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” มีอยู่ Type เดียวนะคะ ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ว. บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ กับอีก 1 ห้องเอนกประสงค์ ซึ่งพื้นที่ที่เรียกว่า ห้องเอนกประสงค์ จะอยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านนะคะ โดยพื้นที่นี้เราสามารถปรับแต่งประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องรับแขก หรือจะตกแต่งให้เป็นห้องนอนอีกห้องก็ยังได้ค่ะ เพียงแค่กั้นประตูเพิ่มอีกนิดก็ใช้ได้แล้ว ภายในตัวบ้านถูกจัดแบ่งพื้นที่ไว้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นบ้านทาวน์โฮมแต่ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะพื้นที่ชั้นบนมีถึง 3 ห้อง ถ้าครอบครัวไหนที่มีสมาชิกน้อยหน่อย ห้องเล็กยังสามารถใช้เป็นห้องเก็บของหรือห้องทำงานได้เหมือนกัน ส่วนห้องนอนใหญ่จะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมหันไปทางหน้าบ้านค่ะ ภายในห้องกว้างพอที่จะจัดตกแต่งให้มี Walk in Closet ได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันยังมีระเบียงเล็กๆ พอที่จะจัดตกแต่งกระถางต้นไม้ให้สวยงามได้ ห้องน้ำบนชั้น 2 ก็สามารถเข้าได้สองทางทั้งจากทางห้องนอนใหญ่ และทางเดินหน้าห้องนะคะ ซึ่งห้องชั้นบนจะแชร์ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนห้องเล็กอีก 2 ห้อง ก็อย่างที่บอกไปแล้วค่ะ ว่าไม่ได้มีฟังก์ชั่นบังคับว่าจะต้องใช้เป็นห้องนอน ดังนั้นเราสามารถเลือกตกแต่งได้ตามที่ต้องการเลย อย่างในบ้านตัวอย่างก็แต่งห้องแรกเป็นห้องนอนเด็กเล็ก ดูน่ารักน่าอยู่มากเลยค่ะ ในขณะที่อีกห้องตกแต่งให้เป็นห้องอ่านหนังสือ ดูแล้วลงตัวดีทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นครอบครัวเล็กๆ มีลูกซักคน บ้านหลังนี้ก็เหมาะเลย อยู่ได้สบายๆ กำลังดี บ้านตัวอย่างที่เราได้ดูในครั้งนี้เป็นแปลงหัวมุมนะคะ ดังนั้นจึงมีพื้นที่สวนข้างบ้านมากหน่อย ทางโครงการเลยลองตกแต่งให้บริเวณสวนมีชานนั่งเล่นเชื่อมต่อกับบริเวณรับประทานอาหาร บรรยากาศโซนนี้เลยดูผ่อนคลาย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ประตูหน้าบ้านจะเป็นสีขาวเข้ากับสไตล์ของตัวบ้านเลยนะคะ หน้าบ้านตัวอย่างโครงการตกแต่งไว้ได้น่ารักทีเดียวนะคะ บ้านตัวอย่างจะเป็นหลังมุมนะคะ จึงมีพื้นที่ข้างบ้านเหลือให้ตกแต่งเป็นสวนได้เลย พื้นที่หลังเล่นในสวนข้างบ้าน ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่ก่อนเลยนะคะ ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดไว้ให้ดูอย่างลงตัว ด้านข้างยังมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนอีกจุดหนึ่ง เพื่อเปิดออกไปที่มุมนั่งเล่นข้างบ้าน ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว พื้นที่ของห้องครัวค่อนข้างจะกว้างเลยนะคะ บ้านตัวอย่าง Built-in เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว U ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง บ้านตัวอย่างอาจจะตกแต่งเป็นครัวแบบเปิดนะคะ เพื่อให้บ้านดูโปร่งโล่ง แต่ถ้าติดกระจกกั้นเข้าไปหน่อย จะช่วยดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แถมยังกันกลิ่นอาหารเข้าไปในบ้านได้อีกด้วย ติดกับห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อออกไปที่พื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน พื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน โครงการยังตกแต่งให้เป็นพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน กลับเข้ามาด้านใน มุมมองย้อนกลับไปที่พื้นที่รับประทานอาหาร ตรงข้ามกับห้องครัว จะมีห้องน้ำเล็กสำหรับชั้น 1 อยู่ด้วยนะคะ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังของ American Standard พร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว ด้านในสุดเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ กลับมาที่ด้านหน้าบ้าน โครงการได้ตกแต่งห้องอเนกประสงค์ให้เป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งถือว่าเป็นห้องนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวมากเลยนะคะ เนื่องจากจะแยกออกมาเป็นห้องของตัวเองเลย หน้าต่างในห้องนั่งเล่น มองออกไปเห็นสวนหน้าบ้าน โถงบันไดขึ้นชั้น 2 จะสังเกตว่าใต้บันไดจะมีห้องเก็บของเล็กๆ อยู่ด้วยนะคะ โถงบันไดสูงโปร่ง ขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้วมองตรงไปด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ที่อยู่ติดกับห้องนอน Master Bedroom ส่วนด้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก และห้องอเนกประสงค์ เราเลี้ยวซ้ายมาดูที่ห้องนอน Master Bedroom กันก่อนนะคะ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างเตียงได้นิดหน่อย ทางออกไปที่ระเบียงในห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 70 ซม. กลับมาที่ด้านใน ฝั่งปลายเตียงโครงการกั้นเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ซึ่งก็สามารถใช้เป็นชั้นวางทีวีได้พอดี ด้านใน Walk-in Closet โครงการตกแต่งด้วยการวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนตรงกลางเป็น Day Beds อยู่ติดกับหน้าต่าง ห้องน้ำที่อยู่ชั้น 2 มีให้ 1 ห้องนะคะ จะสามารถเข้าได้ 2 ด้านจากห้องนอน Master และจากด้านโถงบันได การจัดวาง Layout ก็จะคล้ายๆ กับห้อ น้ำที่อยู่ชั้น 1 เลยนะคะ รวมถึงสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็จะคล้ายๆ กัน ยกเว้นอ่างล้างหน้าที่จะมีช่องเก็บของด้านล่างเพิ่มขึ้นมา มาพร้อมกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกัน ด้านในสุดเป็น Shower Box ที่ห้องนี้โครงการติดฉากกั้นมาให้เรียบร้อย ถัดมาด้านขวามือของโถงบันไดจะเป็นห้องนอนเล็กและห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกัน ภายในห้องนอนเล็กโครงการจะตกแต่งเป็นห้องนอนแบบเด็กๆ เลยนะคะ ห้องนี้จะ Built-in เต็มพื้นที่ โดยใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตกแต่งด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ Built-in เชื่อมต่อมาเป็นโต๊ะทำงานและเตียงนอน ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์อีกห้อง ซึ่งจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในบ้าน โครงการตกแต่งให้เป็นห้องสำหรับพักผ่อน โดย Built-in โซฟาแบบ Day Beds ไว้ติดกับผนัง ส่วนอีกด้านเป็นโต๊ะทำงานอยู่ติดกับหน้าต่าง ถ้าใครกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮม โครงการ “The Village บางนา-วงแหวนฯ 2” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เนื่องด้วยจุดเด่นที่ตัวบ้านออกแบบให้ผนังแต่ละบ้านเป็นอิสระจากกัน ไม่ต้องใช้ผนังร่วมกัน ทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อีกเยอะ แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านเดี่ยวกลายๆ สำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างครอบครัว โครงการนี้น่าจะเป็นอีกตัวเลือกในงบประมาณที่ไม่เกินกำลังจนเกินไปนัก แถมยังได้อยู่ในทำเลที่มีการเดินทางสะดวก และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเหมาะกับการอยู่อาศัย ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างที่โครงการก่อนได้ หรือจะลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.areeya.co.th/2014/singlehome_the_village.php
Ashi Prachauthit 54 – อะชิ ประชาอุทิศ 54 : รีวิวทาวน์โฮม

Ashi Prachauthit 54 – อะชิ ประชาอุทิศ 54 : รีวิวทาวน์โฮม

Ashi Prachauthit 54 (อะชิ ประชาอุทิศ 54) - ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์ Modern Loft ที่ผสานนวัตกรรมการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่น เน้นความสงบ เป็นส่วนตัว ในซอยประชาอุทิศ 54   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    3,990,000 บาท เจ้าของโครงการ   บริษัท ธีเอ็นพี เอสเตท จำกัด ลักษณะโครงการ   ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 35 ยูนิต พื้นที่โครงการ    3-1-52 ไร่ ที่ตั้งโครงการ   ถนนประชาอุทิศ 54 บางมด (ราษฎร์บูรณะ) ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2560   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   MaxValue Big C extra มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี Central พระราม 3 แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ขนาดหน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 175 ตรม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อม Pantry และพื้นที่ครัว ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สวนพักผ่อน กล้องวงจรปิด รปภ. 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-426-2678 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://www.tnp.co.th/ashi/home/
HEADQUARTERS Ekkamai-Lad Phrao – เฮดควอเทอร์ส เอกมัย-ลาดพร้าว : รีวิวทาวน์โฮม

HEADQUARTERS Ekkamai-Lad Phrao – เฮดควอเทอร์ส เอกมัย-ลาดพร้าว : รีวิวทาวน์โฮม

HEADQUARTERS Ekkamai-Lad Phrao (เฮดควอเทอร์ส เอกมัย-ลาดพร้าว) - ทาวน์โฮม 5 ชั้น พร้อมลิฟต์ส่วนตัว รูปแบบใหม่ในย่านทาวน์อินทาวน์ สไตล์ Modern Classic รองรับทั้งออฟฟิศ สามารถปรับพื้นที่ได้ตามความต้องการ     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    29 ล้านบาท (เฉพาะยูนิตราคาพิเศษ) เจ้าของโครงการ   บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 5 ชั้น จำนวน 29 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    6-2-41 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนอินทราภรณ์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ปี 2561   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   อเวนิว BIG C ลาดพร้าว CENTRAL EASTVILLE THE CRYSTAL CDC โรงเรียนอุดมศึกษา โรงเรียนบดินทร์เดชา ม.รามคำแหง โรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ โรงเรียนนานาชาติ KIS ม.อัสสัมชัญ (ABAC) โรงพยาบาลลาดพร้าว โรงพยาบาลพระราม9 โรงพยาบาลปิยเวช แบบบ้านและพื้นที่ใช้สอย President ขนาด 44.5-57.2 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 479 ตร.ม. President (s) ขนาด 63-72ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 576 ตร.ม. Chairman ขนาด 67.7-106.7ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 693 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนส่วนกลางขนาด 150 ตร.วา ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 089-203-2233 , 02-539-6306 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.scasset.com/en/house/headquarters-ekkamai-lad-phrao
เดอะ วิลเลจ บางนา-วงแหวนฯ 2 – The Village Bangna Wongwaen 2 : รีวิวทาวน์โฮม

เดอะ วิลเลจ บางนา-วงแหวนฯ 2 – The Village Bangna Wongwaen 2 : รีวิวทาวน์โฮม

เดอะ วิลเลจ บางนา-วงแหวนฯ 2  (The Village Bangna Wongwaen 2) ทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ สไตล์ Modern Colonial เป็นส่วนตัวกับดีไซน์ที่ผนังบ้านเป็นอิสระไม่ติดใคร อยู่ใกล้แหล่ง Shopping ชั้นนำขนาดใหญ่อย่าง Mega บางนา และ IKEA บางนา     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    3,690,000 บาท ราคาเฉลี่ย    ประมาณ 135,000 บาท/ตร.ว. เจ้าของโครงการ    บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด มหาชน ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 167 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    21–1–46 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยมหาชัย ถ.บางนาตราด กม.10 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ค่าส่วนกลาง    38 บาท/ตร.ว. (ชำระเป็นยอดล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์) เงินกองทุนสะสม    500 บาท/ตร.ว. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์) ปีที่สร้างเสร็จ    ปี 2560   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   Mega บางนา Lotus บางพลี Ikea บางนา Makro บางพลี Big C บางพลี ตลาดกุนธร ตลาดสุธาวี Parkland Index บางนา Foodland เซ็นทรัลบางนา Lotus ศรีนครินทร์ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย แบบบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 134 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย คลับเฮ้าส์ สนามบาสเก็ตบอล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 064-971-0995 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://quarter-collection.com/quarter-39-th/
Quarter 39 – ควอร์เตอร์ เธอร์ตี้นายน์ : รีวิวทาวน์โฮม

Quarter 39 – ควอร์เตอร์ เธอร์ตี้นายน์ : รีวิวทาวน์โฮม

Quarter 39 (ควอร์เตอร์ เธอร์ตี้นายน์) ทาวน์โฮมหรู 4 ชั้นครึ่ง ในซอยสุขุมวิท 39 ท่ามกลางบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถันและคำนึงถึงความจำเป็นในอนาคต     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    46.9 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด และบริษัท คุน แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น จำนวน 15 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    2 ไร่ 33 ตารางวา ที่ตั้งโครงการ   ถนนสุขุมวิท 39 ซอยทวีสุข กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ห้างสรรพสินค้า เทอร์มินัล 21 สวนสาธารณะ เบญจกิตติ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็ม ดิสทริค โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนสาธิตประสานมิตร โรงเรียนนานาชาติใหม่แห่งประเทศไทย โรงเรียนนานาชาติอเมริกันกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย Type A (จำนวน 7 ยูนิต) เนื้อที่ 28-43 ตร.วา และ พท.ใช้สอย 380 ตร.ม. หน้ากว้าง 7 เมตร (4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ) Type B (จำนวน 3 ยูนิต) เนื้อที่ 34-46 ตร.วา และ พท.ใช้สอย 459 ตร.ม. หน้ากว้าง 7.4 เมตร (4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ) Type C (จำนวน 5 ยูนิต) เนื้อที่ 33-45 ตร.วา และ พท.ใช้สอย 438 ตร.ม. หน้ากว้าง 8 เมตร (4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ) สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำยาว 20 เมตร สวนขนาด 1 ไร่ ที่จอดรถ Visitor ยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 064-971-0995 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://quarter-collection.com/quarter-39-th/
จะกู้บ้านทั้งที ต้องทำประกันด้วยหรือ?

จะกู้บ้านทั้งที ต้องทำประกันด้วยหรือ?

เมื่อความฝันในการมีบ้านหลังแรกหรือคอนโดมิเนียมในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องยากอยู่ไกลเกินเอื้อมสักเท่าไหร่  เพราะเพียงแค่คุณวางเงินจองหรือดาวน์ตามสัญญาข้อกำหนดของโครงการที่ถูกใจ จากนั้นก็ดำเนินตามขั้นตอนคือยื่นกู้ธนาคาร รอผลอนุมัติ เพียงเท่านี้ความฝันของคุณก็เป็นจริงขึ้นมาแล้วแล้วค่ะ แต่การทำเรื่องขอเงินกู้เพื่อซื้อบ้านกับธนาคารนั้นส่วนใหญ่มักจะมีเรื่องของข้อเสนอขายกรมธรรม์พ่วงเข้ามาเกี่ยวข้องให้เราทำด้วย เพื่อได้อัตราดอกเบี้ยในการกู้สินเชื่อที่ถูกกว่าการไม่ทำประกัน บางคนอาจจะสงสัยว่าเราต้องทำด้วยไหม? ทำไปแล้วได้อะไร? วันนี้ทีมงาน Review Your Living จึงได้รวบรวมข้อมูลคลายข้อสงสัยมาฝากค่ะ เรียบเรียงโดย Review Your Living   สำหรับประกันสินเชื่อบ้านนั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ   1. ประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ เป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้านที่เราได้รับอนุมัติจากธนาคารนั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีระยะเวลาคุ้มครองให้คุณเลือกตั้งแต่ 5 – 30 ปี อัตราค่าเบี้ยประกันนั้นก็ขึ้นอยู่กับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ ส่วนวิธีการชำระค่าดอกเบี้ยก็มักจะรวมอยู่ในวงเงินสินเชื่อแล้วค่ะ สังเกตได้ว่าทุกๆ ธนาคารมักจะใช้อัตราดอกเบี้ยมาเป็นสิ่งจูงใจเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกโปรแกรมสินเชื่อที่มีประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้านด้วย โดยทางเลือกนี้อัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าสินเชื่อธรรมดาประมาณ 0.5% ค่ะ   ทั้งนี้ประโยชน์ของประกันชนิดนี้ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่คุณกำลังผ่อนบ้านอยู่กับธนาคารและเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเสียชีวิตหรือทุพลภาพถาวรตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ บริษัทจะเป็นผู้จ่ายเงินกู้ที่เหลืออยู่ทั้งหมดกับธนาคารให้ หากคำนวณแล้วทุนประกันสูงกว่าจำนวนหนี้ที่เหลืออยู่นั้นครอบครัวก็มีสิทธิ์ได้ส่วนต่างคืน รวมถึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกยึดบ้านอีกด้วย และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้นะคะ   2. ประกันอัคคีภัย เป็นประกันคุ้มครองบ้านระยะเวลาสั้นๆ แต่ต้องทำเป็นประจำทุกปีหรือ 2-3 ปีตามข้อตกลง กรณีที่เกิดอัคคีภัยซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะตัวบ้านไม่รวมที่ดินนะคะ  หากเกิดอัคคีภัยขึ้นบ้านที่ไม่มีภาระหนี้ผลประโยชน์ก็จะเป็นของเจ้าของบ้านโดยตรง แต่ถ้าตัวบ้านติดจำนองกับธนาคาร ผู้รับประโยชน์คือธนาคารซึ่งจะหักไปกับหนี้ที่เหลืออยู่ ทำให้เจ้าของบ้านมีหนี้น้อยลงหรือหมดไปแล้วแต่กรณีข้อตกลง โดยประกันชนิดนี้จะคลอบคลุมความเสียหายของบ้านจาหเหตุการณ์อาทิ ไฟไหม้ ฟ้าผ้า แก๊สจากการทำแสงสว่าง แต่ไม่รวมการระเบิดดนื่องจากแผ่นดินไหว เป็นต้น   pinterest 3. ประกันภัยพิบัติ ประกันที่คุ้มครองบ้านจากภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิ น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุเข้า เป็นต้น ซึ่งจะมีเงื่อนไขตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคารและเสียเบี้ยประกัน 0.5% ของราคาบ้านต่อปี โดยที่รัฐบาลไม่ได้บังคับ จะทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองค่ะ แต่ประกันชนิดนี้จะไม่คลอบคลุมบ้านในพื้นที่ที่ถูกกำหนดว่าเป็นพื้นที่รองรับน้ำ กักเก็บน้ำ ทางผ่านน้ำนะคะ ดังนั้นถ้าจะซื้อบ้านอยู่ตรงไหนก็ควรศึกษาพื้นที่ให้ดีก่อนแล้วกันนะจ๊ะ     "สรุป" การทำประกันทุกๆ ชนิดที่มาพร้อมกับวงเงินกู้ซื้อบ้านนั้น ส่วนใหญ่ต่างก็มีข้อเสนอที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ? เพราะฉะนั้นถ้าใครกำลังจะตกลงปลงใจซื้อบ้านและยื่นกู้ธนาคาร ทีมงาน Review Your Living ก็อยากให้คุณศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ ข้อแนะนำง่ายๆ คือลองปรึกษาเจ้าหน้าที่สินเชื่อขอคำอธิบายเงื่อนไขต่างๆ ให้เข้าใจทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อน เพื่อลดความเสี่ยงและความสบายใจของครอบครัวคุณเอง       ขอขอบคุณภาพจาก www.toonpool.com/cartoons/Fire_7295            
11 ปัญหาสุดเบสิกของสนามหญ้า จัดการได้อยู่หมัด

11 ปัญหาสุดเบสิกของสนามหญ้า จัดการได้อยู่หมัด

สนามหญ้าสวย ๆ ต้องเป็นสนามหญ้าที่เขียวชอุ่ม ต้นหญ้าทุกต้น รวมถึงดินก็ต้องดูสุขภาพดี ซึ่งถ้าคุณเป็นอีกคนที่เลือกจะปลูกสนามหญ้าเอาไว้ที่บ้าน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและบรรยากาศสวย ๆ แต่จัดการดูแลแค่ไหนสนามหญ้าก็ยังมีปัญหาจุกจิกกวนใจอยู่ตลอด ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีจัดการปัญหาสุดเบสิกของสนามหญ้าตามนี้กันดีกว่า เผื่อจะช่วยให้คุณแก้ปัญหาสนามหญ้าที่ไม่ได้ดั่งใจได้บ้างนะคะ   1. หญ้าไม่ขึ้นแถวโคนต้นไม้ สำหรับปัญหาพื้นที่สนามหญ้าเป็นช่องโหว่ เพราะปลูกหญ้าไม่ขึ้นบริเวณใต้โคนต้นไม้ แนะนำให้เลือกปลูกหญ้าให้ถูกทิศทาง ในพื้นที่ด้านทิศเหนือ ควรเลือกปลูกต้นหญ้าพันธุ์ที่ไม่ชอบแดดเท่าไร ส่วนพื้นที่ด้านทิศใต้ ให้เลือกปลูกหญ้าพันธุ์ที่มีลำต้นสูงสักนิด เพื่อให้เขาชูต้นมารับแดดได้สะดวก จะช่วยลดปัญหาหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ ได้ค่ะ   2. หญ้าเฉาตรงที่เป็นเนิน ในพื้นที่ที่เป็นเนินสูง อาจจะเจอปัญหาต้นหญ้าแห้งตาย หรือไม่เจริญเติบโตบ้าง ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็เกิดจากพื้นที่ที่เป็นเนินสูง จะมีโอกาสได้รับแสงแดดดีกว่าปกติ ทำให้ดินแห้งได้ง่าย ต้นหญ้าก็เลยไม่ได้รับน้ำที่พอเพียงสำหรับการเจริญเติบโต วิธีแก้ปัญหาก็ง่าย ๆ เลย แค่จัดการระบบน้ำในส่วนนี้เพิ่มเข้าไปอีกหน่อย หรือเพื่อความยั่งยืน จะให้ผู้เชี่ยวชาญเลือกพันธุ์หญ้า และจัดการระบบรดน้ำให้ก็ได้   3. วัชพืชก่อกวนสนามหญ้า ถ้าสนามหญ้าของคุณเต็มไปด้วยวัชพืชที่ขึ้นแซมไม่หยุดหย่อน ให้จัดการวัชพืชเหล่านี้ด้วยยากำจัดวัชพืชไปเลย แต่ก็ควรเลือกสูตรที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด และต้องฉีดกำจัดวัชพืช 2 ช่วง คือ ช่วงฤดูฝน และช่วงฤดูหนาว เนื่องจากวัชพืชในแต่ละฤดูก็เป็นวัชพืชต่างชนิดกัน อาจต้องใช้วิธีการกำจัดที่แตกต่างกันไปด้วย   4. สนามหญ้าโหว่เป็นช่วง ๆ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้สนามหญ้าไม่สวยเพอร์เฟคท์ คงหนีไม่พ้นสนามหญ้าเว้าแหว่งเป็นหย่อม ๆ ไม่เขียวชอุ่มทั่วกันทั้งผืน ซึ่งถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นกับสนามหญ้าของคุณ ให้จัดการถอนเศษหญ้า ปรับหน้าดินในบริเวณนั้นให้เรียบร้อย จากนั้นปลูกพันธุ์หญ้าลงไปใหม่รดน้ำให้ชุ่ม และหาพืชมาปกคลุมดินบริเวณนั้นให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดด้วย ปล่อยทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ หมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อนุบาลจนหญ้าค่อย ๆ เติบโตอย่างแข็งแรง หรือจะเลือกใช้หญ้าแผ่นสำเร็จรูปมาปูเสริมพื้นที่ก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องดูเรื่องพันธุ์หญ้า สี และขนาดของต้นหญ้าให้ใกล้เคียงที่สุด เพื่อเลี่ยงปัญหาผืนหญ้ามีสีไม่สม่ำเสมอกันด้วย   5. ต้นหญ้ากลายเป็นสีน้ำตาล หญ้าที่กลายเป็นสีน้ำตาลเป็นหย่อม ๆ มีสาเหตุมาจากเชื้อราฟูซาเรียม (Fusarium) ที่มาพร้อมกับความชื้นที่มากเกินไป จนทำให้ต้นหญ้ากลายเป็นสีน้ำตาลในบริเวณกว้าง ซึ่งเราก็ควรแก้ปัญหาด้วยการใส่ปุ๋ยบำรุง และพยายามลดความชื้นด้วยการหาทางระบายน้ำให้ดินมากขึ้น อีกทั้งควรจะหายาฆ่าเชื้อรามาจัดการเสริมด้วยอีกแรง   6. มีใยสีเทาปกคลุมต้นหญ้า ในตอนเช้าหลังน้ำค้างตก อาจจะมีโอกาสได้เห็นทั้งหยดน้ำค้าง และใยสีเทาจาง ๆ บนยอดหญ้าพร้อม ๆ กัน แต่ใยที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีกับสุขภาพของสนามหญ้านัก เพราะถ้าปล่อยไว้ไม่รีบจัดการ ใยบาง ๆ สีเทาที่เป็นเชื้อรา ก็อาจจะลุกลามปกคลุมต้นหญ้าในบริเวณกว้างกว่านี้ ฉะนั้นจึงต้องรีบหายาฆ่าเชื้อรามาฉีดพ่น เพื่อกำจัดเชื้อราทั้งหมดให้เกลี้ยง   7. โคนต้นหญ้าเป็นสีส้มสนิม ต้นหญ้าที่มีสุขภาพไม่ดี มักจะดูออกได้ง่าย ๆ ที่โคนต้น หากลำต้นของต้นหญ้าแห้งเหี่ยว แถมที่โคนต้นยังมีสีส้มคล้าย ๆ สีสนิมเกาะอยู่ด้วย ก็แปลได้ว่า สนามหญ้าของคุณขาดน้ำในปริมาณที่พอเพียงแล้วล่ะ รวมทั้งปุ๋ยและสารอาหารก็มีไม่พอเช่นกัน ดังนั้นก็ควรรีบหาปุ๋ยมาใส่ และบำรุงดูแลด้วยการรดน้ำให้ชุ่มชื้นเสมอ นอกจากนี้ก็ควรตัดหญ้าบ่อย ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ต้นหญ้าได้ผลัดใบด้วย   8. หญ้าขึ้นเขียวชอุ่มล้อมต้นหญ้าที่ตายแล้ว หากเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นกับสนามหญ้าของคุณ ก็แสดงว่าพื้นดินบริเวณนั้นมีความชื้นมากเกินไป จนอาจจะมีเห็ดเติบโตขึ้นได้ และเราก็ควรปรับปรุงพื้นดินตรงนั้นให้อุดมสมบูรณ์ และร่วนซุยขึ้นอีกนิด ด้วยการใส่ปุ๋ยบำรุงลงไป จากนั้นก็ควบคุมความชื้นให้สม่ำเสมอประมาณ 3-5 วัน   9. สนามหญ้าแห้งตายขยายวงกว้าง ถ้าจู่ ๆ สนามหญ้าของคุณเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลมากขึ้นทุกที และขยายวงกว้างจนความสวยงามหายไปไม่มีเหลือ ให้ขุดดินตรงบริเวณที่เป็นปัญหาขึ้นมาสำรวจดูว่ามีเชื้อรา หรือแมลงอะไรมาก่อกวนสนามหญ้าของคุณหรือเปล่า ถ้ามีก็จัดการกำจัดให้สิ้นซาก โดยใช้ยากำจัดศัตรูพืชจำพวก Diazinon, Isofenphos หรือ Chlorpyrifos ซึ่งก่อนใช้ควรจะเช็กเรื่องความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง เด็ก และคนชราก่อนด้วย หรือทางที่ดีแจ้งหน่วยงานหรือผู้เชี่ยวชาญมาทำให้ดีกว่าค่ะ   10. มีเห็ดขึ้นหลากหลายชนิด หลายคนอาจจะกุมขมับหากจะบอกว่าเห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่กำจัดออกยากที่สุดในบรรดาวัชพืชที่ขึ้นแซมมาในสนามหญ้า เพราะต้องใช้วิธีการดึงออกเท่านั้นจึงจะกำจัดได้ แต่นี่ก็เป็นเพียงวิธีการแก้ปัญหาชั่วคราว ดังนั้นทางที่ดีควรจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการจัดการระบบระบายน้ำให้ดี เพื่อเลี่ยงการสะสมความชื้น ต้นเหตุของเชื้อรา รวมทั้งกำจัดสารอินทรีย์ที่เน่าเปื่อย และตอไม้ออกจากสนามหญ้าด้วยค่ะ   11. น้ำท่วมขังในสนามหญ้า สาเหตุของการที่มีน้ำขังท่วมสนามหญ้ามีอยู่หลายปัจจัย ทั้งพื้นที่ต่ำเกินไป หรือฝนตามฤดูที่ตกชุก แต่ปัญหานี้ก็แก้ไม่ยาก แค่คุณลองหาไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นมาปลูกในสนามหญ้า เลือกเอาพันธุ์ที่ทนทานต่อสภาพน้ำท่วมขัง และดินที่แห้งแล้งด้วยก็ดี เช่น ต้นจั๋ง ต้นจันทร์ผา หรือหมากเหลือง เป็นต้น ปลูกต้นไม้เอาไว้แบบนี้ ก็จะช่วยให้น้ำที่ท่วมขังอยูในสนามหญ้า ค่อย ๆ ถูกดูดซึมจนหมดไปได้เองจ้า   จะว่าไปปัญหาสนามหญ้าก็จุกจิกพอตัวเลยนะคะ แต่ถ้าเรามีวิธีจัดการดูแลอย่างดีจะกี่ปัญหาก็เหมือนจะไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นแค่อุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราต้องปัดเป่าให้หมดไป เพื่อที่สนามหญ้าของเราจะได้เขียวชอุ่มสุดเพอร์เฟคท์อย่างที่ตั้งใจไว้จ้า   ขอขอบคุณข้อมูลจาก  home.kapook.com
9 วิธีแต่งบ้านคลายร้อน ช่วยให้บ้านเย็นน่าอยู่ อากาศสบายไม่อบอ้าว

9 วิธีแต่งบ้านคลายร้อน ช่วยให้บ้านเย็นน่าอยู่ อากาศสบายไม่อบอ้าว

บ้านร้อนอบอ้าวทำไงดี แก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วย 9 ไอเดียแต่งบ้านรับซัมเมอร์ ที่จะทำให้บ้านเย็นสดชื่น ไม่อบอ้าว อยู่ในบ้านได้สบาย ๆ ไม่ต้องหาเรื่องออกไปเที่ยข้างนอก อย่างที่รู้ ๆ กันว่าประเทศของเราเป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว พอย่างก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนทีไรอากาศก็จะยิ่งทวีความร้อนให้เพิ่มพูนขึ้นไปอีก วันนี้เราเลยขอนำ 9 ไอเดียแต่งบ้านหน้าร้อนที่จะช่วยลดอุณหภูมิภายในและทำให้บ้านเย็นสบายขึ้นไม่ต้องหนีบ้านร้อน ๆ เพื่อดอดไปตากแอร์เย็น ๆ ที่ห้างอีกต่อไป แล้วจะมีวิธีไหนที่น่าสนใจนำมาใช้กับที่บ้านได้บ้างนั้นก็ตามไปไปดูกันเลยยย.. 1. ติดกันสาดกันแดด ในเมื่อเราไม่สามารถหลบเลี่ยงบ้านจากแสงแดดได้ การติดตั้งกันสาดช่วยลดความร้อนได้ โดยควรจะติดไว้บริเวณทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และทิศใต้ เนื่องจากทั้ง 3 ทิศที่ว่ามานี้เป็นทิศที่มักจะมีแสงส่องเข้ามาเลยทำให้บ้านยิ่งร้อนหนักหากไม่มีอะไรมาบัง ถ้าจะให้ดีควรเลือกกันสาดชนิดโพลีไวนิลคลอไรด์และแบบวัสดุสังเคราะห์ เพราะจะทนทานสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ และช่วยให้บ้านเย็นได้มากกว่า 2. ใช้หลังคาป้องกันความร้อน การเลือกหลังคาก็เป็นสิ่งสำคัญ หากไม่อยากให้บ้านร้อนระอุในหน้าร้อน ควรเลือกหลังคาที่มีสารเคลือบเซรามิคโค้ทติ้ง ซึ่งจะช่วยปกป้องและสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ดี หรืออีกหนึ่งวิธีก็คือใช้สีขาวทาหลังคาบ้าน เพราะสีขาวจะช่วยสะท้อนความร้อนและไม่อมความร้อนไว้เหมือนหลังคาสีเข้ม 3. ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา สังเกตไหมว่าต่อให้แดดจะร้อนแรงสักแค่ไหน แต่ถ้ามีต้นไม้ช่วยบังแสงไว้ก็จะทำให้บริเวณนั้นเย็นขึ้นมาทันที ดังนั้นเพื่อช่วยในการบังแสงและให้ร่มเงาแก่บ้าน ควรเลือกต้นไม้ที่สูงสักประมาณ 12 เมตร มาปลูกไว้ทางทิศใต้ และนำต้นไม้สูง 18 เมตรมาปลูกไว้ทางทิศตะวันตก นอกจากจะบังแสงได้แล้ว วิธีนี้ยังช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ต้องทำงานหนัก เพราะอุณหภูมิภายในลดลงนั่นเอง 4. เปิดหน้าต่างระบายอากาศ ถ้าอากาศในภายบ้านแลดูร้อนอบอ้าวไปซะทุกพื้นที่ ให้เปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้ให้ลมโกรก เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก โดยเมื่ออากาศจากด้านนอกจะเข้ามาภายในบ้าน มันก็จะดันอากาศร้อนที่อยู่ภายในบ้านให้ลอยตัวสูงและไหลออกไป ช่วยระบายความร้อนอบอ้าว ทำให้บ้านเย็นสบายไม่อึดอัด 5. ติดพัดลมเพดาน หลายคนอาจจะคิดว่าพัดลมเพดานนั้นไล่ความร้อนได้ช้า ไหนจะอยู่ไกลตัวจนไม่สามารถนำมาเปิดจ่อลมได้โดยตรงอย่างพัดลมตั้งพื้นทั่วไปอีก แต่ที่จริงแล้วพัดลมเพดานนี่แหละที่เหมาะกับการใช้งานในฤดูร้อนมากที่สุด เพราะมันจะดูดเอาความร้อนจากพื้นให้ลอยตัวสูงขึ้นและปล่อยให้อากาศเย็นสบายไหลเข้ามาแทนที่ ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นเย็นสบายยังไงล่ะ 6. เลี่ยงการปูพรม พรมนี่แหละที่เป็นตัวการกักเก็บความร้อนเอาไว้ในบ้าน หากไม่อยากให้บ้านยิ่งร้อนหนัก เลือกปูด้วยไม้หรือกระเบื้องจะทำให้บ้านเย็นกว่า เพราะเป็นวัสดุที่ไม่อมความร้อน แต่ถ้ายังตัดใจจากพื้นพรมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เลือกพรมที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น คอตตอนหรือขนสัตว์ เพราะทั้ง 2 วัสดุนี้จะช่วยกักเก็บความชื้นในอากาศไว้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ทำให้บ้านร้อนและชื้นแต่อย่างใด 7. เลือกใช้หลอด LED หลอดไฟที่ติดตั้งอยู่ภายในบ้านก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้บ้านร้อนจากภายใน ดังนั้นควรจะหันมาใช้หลอดแอลอีดี (LED) เพราะหลอดไฟชนิดนี้จะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาน้อยกว่าหลอดชนิดอื่น ๆ แสงก็ดูเย็นสบายตา ไม่ทำให้รู้สึกร้อนเหมือนหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป แถมคุณภาพของแสงสว่างก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอีกด้วยล่ะ 8. ทาผนังด้วยสีโทนเย็น โทนสีที่ใช้ตกแต่งภายในบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรจะเลือกโทนสีสว่าง ๆ ที่ดูเย็นสบายตา อย่าง สีขาว สีมุก สีครีม และสีฟ้า หรือใช้ของตกแต่งที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ก็จะช่วยปรับอากาศในบ้านให้เย็นสบาย ไม่ร้อนตามอากาศภายนอก 9. ติดพัดลมอากาศในห้องน้ำ หากทำตามมาทุกวิธีแล้วสังเกตว่าบ้านยังร้อนอยู่เลย ให้ติดตั้งพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำเพิ่มไปอีกตัว และเปิดพัดลมดูดอากาศพร้อมกับเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ หรือจะเปิดพัดลมเพดานที่ห้องข้าง ๆ ไว้ด้วยก็ได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยดูดให้ความร้อนออกไปได้เร็วกว่าเดิม ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้นเยอะเลย ต่อให้อากาศจะร้อนกว่านี้อีกสักเท่าไร แต่ถ้านำไอเดียแต่งบ้านในหน้าร้อนที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปใช้ รับรองได้เลยว่าอุณหภูมิในบ้านจะลดลงไปได้เยอะเลย ไม่ต้องทนร้อน นอนทรมานอยู่กับความอบอ้าวอีกต่อไป   ขอขอบคุณข้อมูลจาก  https://home.kapook.com/view168042.html
“The Ricco Town วัชรพล” โมเดิร์นทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ ใจกลางวัชรพล : รีวิวทาวน์โฮม

“The Ricco Town วัชรพล” โมเดิร์นทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ ใจกลางวัชรพล : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปดูโครงการ “The Ricco Town วัชรพล” โครงการบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ในทำเลใกล้แยกวัชรพล ซึ่งทางโครงการทำราคามาได้ดึงดูดใจเลยทีเดียวค่ะ ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 170 ตร.ม. จอดรถได้ 2 คัน แบ่งเป็นบ้านแบบ 3 ห้องนอน และ 4 ห้องนอน เปิดราคาเริ่มต้นมา 3.19 ล้านบาท ถือว่าราคาต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ในทำเลเดียวกันเลยนะคะ สำหรับการเดินทางมายังโครงการ  “The Ricco Town วัชรพล” สามารถเลือกได้หลายเส้นทางมากค่ะ เพราะถนนวัชรพล เชื่อมโยงเข้ากับถนนอีกหลายสายเลย ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขาภิบาล 5, ถนนรามอินทรา, ถนนสายไหม, ถนนออเงิน, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา), ถนนเพิ่มสิน แถมด้วยด่านทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็อยู่ห่างออกไปแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ที่สำคัญทางด่วนสายนี้ยังเชื่อมเข้ากับมอเตอร์เวย์อีก การจะเข้าหรือออกเมืองจึงสะดวกมากๆ ค่ะ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แผนที่โครงการ โครงการจะอยู่ในซอยร่วมมิตรพัฒนา มาได้จากทั้งทางถนนสุขาภิบาล 5 และถนนวัชรพล ในอนาคตการเดินทางมายังโครงการ The Ricco Town วัชรพล จะสะดวกมายิ่งขึ้น เพราะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากโครงการ (บริเวณถนนรามอินทรา) ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากขึ้นไปอีกค่ะ บริเวณใกล้ๆ โครงการยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ทั้งห้างสรรพสินค้า, Community Mall, ร้านอาหารชื่อดัง, แหล่งชุมชน, แหล่งช๊อปปิ้ง, ตลาดสด รวมไปถึงสถานศึกษา และสถานพยาบาล ก็อยู่ในระยะที่เดินทางได้สะดวกเลยทีเดียว   พาชมโครงการ The Ricco Town วัชรพล   ปัจจุบันโครงการ “The Ricco Town วัชรพล” มีลูกบ้านย้ายเข้ามาอยู่เกือบเต็มเฟสแรกแล้วนะคะ ส่วนบ้านในเฟสที่ 2 ที่ถัดเข้ามาด้านในก็สร้างเสร็จพร้อมขายเกินครึ่งแล้ว บางส่วนก็มีลูกบ้านย้ายเข้าเรียบร้อย บางส่วนก็กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง ต่อเติม ดังนั้นบรรยากาศภายในโครงการที่เราพาไปดูจึงเป็นบรรยากาศในสถานที่จริงทั้งหมดค่ะ   บ้านในเฟสที่ 2 มีการปรับโทนสีตัวบ้านนิดหน่อยค่ะ ทำให้ดูโมเดิร์นขึ้นกว่าด้วยสีโทนดำ-เทา แต่เรื่อง Layout ภายในยังคงพื้นที่ใช้สอยไว้กว้างขวางเหมือนเดิม เท่าที่เราได้เข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งโครงการที่เรารู้สึกได้ว่ามีพื้นที่สีเขียวร่มรื่นมากค่ะ สวนหย่อม มุมพักผ่อนส่วนใหญ่มีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาเยอะเลย แถมทางโครงการยังจัดมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนได้หลายมุม บรรยากาศโดยรวมจึงน่าอยู่เลยทีเดียวค่ะ พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ในโซนกลางของโครงการนะคะ มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ พร้อมคอร์ทบาสเก็ตบอล และมุมพักผ่อน ช่วงเย็นๆ น่าจะมีลูกบ้านออกมาเดินเล่น ออกกำลังกายกันเยอะเลย ในขณะที่พื้นที่ใกล้ๆ กันก็มี Club House ซึ่งมีทั้งห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำขนาด 7x20 เมตร กำลังน่าเล่นเลยล่ะ เปิดบ้านตัวอย่าง “The Ricco Town วัชรพล” เป็นบ้านทาวน์โฮมภายใต้คอนเซปต์ “Modern Lifestyle in The City” ดังนั้นการออกแบบตัวบ้านจึงเน้นความโปร่ง อยู่สบาย และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ และเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ทางโครงการจึงมีแบบบ้านให้เลือกด้วยกัน 2 แบบค่ะ โดยทั้ง 2 แบบมีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเท่ากัน แต่ต่างกันด้วยฟังก์ชั่นนิดหน่อย บ้านแบบแรกมีชื่อเรียกว่า “Penthouse Style” บ้าน Type นี้จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ นะคะ สาเหตุที่มีชื่อเรียกแบบนี้ก็เพราะว่า จุดเด่นของตัวบ้านอยู่ที่ห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom บนชั้น 3 ที่ใช้พื้นที่เต็ม จัดตกแต่งให้ความรู้สึกส่วนตัวเหมือนอยู่ Penthouse หรูบนคอนโดเลยค่ะ แปลนบ้าน PENTHOUSE FUNCTION 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้าบ้านกว้าง 5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน เข้ามาในบ้านแล้วจะเป็นพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ โครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง แต่จริงๆ แล้วมีพื้นที่ให้วางโซฟาขนาดใหญ่ได้เลย ส่วนด้านชั้นวางทีวีมีพื้นที่เยอะพอให้ Built-in วางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายๆ มุมมองออกไปที่ Living Area ด้านหน้าบ้าน เลยจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Dining Area โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ด้านหลังโต๊ะทานอาหารจะเป็นทางออกไปหลังบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่หลังบ้านกว้างประมาณ 3 เมตร ด้านข้างโต๊ะทานอาหารจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว ห้องครัวโครงการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะคะ โครงการ Built-in เป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ตรงบริเวณซิงค์ล้างจานมีช่องแสงเป็นบานสไลด์ เพื่อช่วยในการระบายความชื้น ใกล้ๆ กันพื้นที่ใต้บันไดจะเป็นห้องเก็บของและห้องน้ำ ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องเก็บของ ส่วนด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ Nahm ห้องนี้จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำให้นะคะ คราวนี้เราจะขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ ขึ้นมาที่ขั้น 2 จะแบ่งออกไป 2 ห้องนอน ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการตกแต่งเป็นห้องนอนเด็กๆ วางเตียง 3.5 ฟุต พร้อมด้วย Built-in เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ห้องน้ำจะอยู่ด้านปลายเตียง สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้เหมือนกับห้องน้ำที่ชั้น 1 เลยนะคะ พื้นที่อาบน้ำจะค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ ติดฉากกั้นเพิ่มสักหน่อยจะดีเลย เราเข้ามาดูอีกห้องจะเป็นห้องนอนที่ใหญ่ขึ้นมาอีกพอสมควร ประตูที่เห็นด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเดินไปที่ห้องนอน เราเลี้ยวซ้ายเข้ามาดูในห้องน้ำกันก่อน สุขภัณฑ์จะใช้เหมือนเดิมเลยนะคะ พื้นที่อาบน้ำขนาดใกล้เคียงกับของห้องนอนเล็ก คราวนี้เราเดินเข้ามาดูด้านในกันบ้าง พื้นที่ห้องนอนค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ๆ จัด 6 ฟุตไปเลยก็ได้นะคะ วางได้สบายๆ ส่วนด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเยอะมาก โครงการ Built-in เป็นโต๊ะทำงานยาวหรือจะวางทีวีก็ได้ เชื่อมต่อไปจนถึงตู้เสื้อผ้าที่วางอยู่หน้าห้องน้ำ คราวนี้เราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 3 กันบ้างนะคะ ด้านซ้ายมือจะเป็นประตูของห้องนอนที่เราดูเมื่อกี้ ส่วนด้านขวาจะเป็นประตูของห้อง Master Bedroom ที่อยู่บนชั้น 3 เข้าประตูมาแล้วจะเป็นบันไดขึ้นที่ไปชั้น 3 ขึ้นมาแล้วชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของห้องนอน Master ทั้งหมด ให้อารมณ์เหมือนเป็นห้อง Penthouse ผนังจะโล่งแบบนี้เลยนะคะ ช่วยให้ห้องยิ่งดูใหญ่ขึ้นมาอีก โครงการจัดห้องมาให้ดูอย่างสวยงามเลยค่ะ ปลายเตียงมีพื้นที่ให้ Built-in ชั้นวางทีวี เลยจากเตียงนอนเข้ามา จะมีพื้นที่ Living Area เล็กๆ เป็นของตัวเอง วางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ ถัดออกมาจะเป็นระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างเลยนะคะ จัดวางเก้าอี้ไว้นั่งเล่นชมวิวยามเย็นได้เลย มุมมองย้อนกลับเข้าไปด้านในห้อง อีกด้านโครงการตกแต่งเป็นพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ พื้นที่ในห้องน้ำจะใหญ่กว่าห้องน้ำห้องอื่นๆ อยู่สักหน่อยนะคะ พื้นที่อาบน้ำโครงการกั้นกระจกมาให้ด้วย บ้านอีก Type มีชื่อเรียกว่า “Full Space Multi-Function Area” บ้านหลังนี้จะเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะหน่อย เพราะแบ่งเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำค่ะ พื้นที่ชั้น 2 และ 3 จะมีชั้นละ 2 ห้องนอน โดยห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom จะขยับลงมาอยู่ที่ชั้น 2 แทนนะคะ ห้องนี้จะเป็นห้องเดียวในบ้านที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ต่างจากแบบแรกที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง แปลนบ้านแบบ FULLSPACE FUNCTION 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านก็จะเหมือนกับ Type A ที่เราดูมาเมื่อกี้เลยนะคะ หน้าบ้านกว้าง 5 เมตร จอดรถได้ 2 คันเหมือนกัน บ้านนี้เป็นหลังมุมเลยมีพื้นที่ข้างบ้านเหลืออยู่พอสมควร อย่างที่บอกนะคะว่า Layout บ้านจะเหมือนกันแทบทุกอย่าง เข้าบ้านแล้วจะเจอส่วน Living Area ขนาดใหญ่ก่อนเลยค่ะ พื้นที่ Living Area กว้างขวาง Built-in ชั้นวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายๆ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Dining Area มีโต๊ะทานอาหาร วางอยู่ใกล้ๆ กับห้องครัว ห้องครัว Type นี้โครงการติดตั้งกระจกกั้นเลยดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น และยังช่วยไม่ให้กลิ่นอาหารเข้ามาในบ้านอีกด้วย ภายในห้องครัวที่โครงการ Built-in มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดเหมือนเดิมนะคะ บันไดขึ้นชั้น 2 ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอนเหมือนเดิมนะคะ ห้องแรกจะเป็นห้อง Master Bedroom ขนาดจะใหญ่พอสมควร วางเตียง 6 ฟุตลงไปได้สบายๆ ฝั่งปลายเตียงโครงการ Built-in เป็นโต๊ะทำงานยาว หรือจะทำเป็นชั้นวางทีวีไว้ในห้องนอนด้วยก็ได้นะคะ ต่อจากโต๊ะทำงานโครงการตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ไว้หน้าห้องน้ำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ Nahm เหมือนเดิมนะคะ การจัดวาง Layout ก็จะคล้ายๆ กันค่ะ พื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ส่วนห้องเล็กโครงการตกแต่งเป็นห้องพักผ่อน และห้องทำงาน วางโซฟา L-Shape ไว้นั่งพักผ่อนชิวๆ มีโต๊ะทำงานเล็กๆ วางไว้ริมหน้าต่าง ห้องน้ำในห้องนอนเล็ก ขึ้นมาถึงชั้น 3 Type นี้จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน ห้องแรกจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตลงไปพอดีเป๊ะ เหมาะกับทำเป็นห้องนอนให้เด็กๆ ปลายเตียง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าและพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ เหมาะกับเด็กน้อยเป็นที่สุด บนชั้น 3 จะมีห้องน้ำห้องเดียวนะคะ ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง อาจจะต้องใช้ร่วมกัน มาที่ห้องนอนอีกห้องขนาดจะใหญ่ขึ้นมาหน่อย ห้องนี้วางเตียง 5 ฟุตกำลังดีเลยค่ะ ยังมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะข้างเตียง และโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีก พื้นที่หน้าบ้านของบ้านทุกยูนิต มีหน้ากว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ซึ่งบ้านทั้ง 2 Type มีพื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. เท่ากันเลยนะคะ แค่แบ่งฟังก์ชั่นห้องไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของลูกบ้านเลยค่ะ ว่าบ้านแบบไหนเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวมากกว่ากัน นอกจากเรื่องฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในตัวบ้านแล้ว ถ้าครอบครัวไหนอยากมีพื้นที่ทำสวนในบ้าน ก็แนะนำให้เลือกแปลงหัวมุมค่ะ เพราะขนาดที่ดินจะใหญ่ขึ้น ทำให้ได้พื้นที่ข้างบ้านไว้ปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆ ค่ะ โครงการ “The Ricco Town วัชรพล” นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจนะคะ ราคาบ้านเปิดมาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในทำเลเดียวกัน ใครที่กำลังมองหาบ้านซักหลังสำหรับสมาชิกในครอบครัว บ้านทาวน์โฮมโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีนะคะ แถมราคาก็ไม่ได้สูงจนเกินไป น่าจะอยู่ในงบประมาณที่เอื้อมถึงค่ะ ยิ่งถ้าคุ้นชินกับทำเลแถวนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะเห็นถึงศักยภาพความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยได้ชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องความเป็นแหล่งชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์ สาธารณูปโภครอบๆ โครงการก็สามารถตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วนค่ะ ยิ่งถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการได้เมื่อไหร่ ชีวิตประจำวันก็จะสะดวกมากขึ้น ถึงตอนนั้นจะหาบ้านดีๆ ในราคาไม่เกิน 5 ล้านคงยากแล้วล่ะ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ และบ้านตัวอย่างได้ เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน ก็สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02 519 9511 หรือ นัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการ คลิก https://goo.gl/isp7G4
เทคนิคใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ปลอดภัยในหน้าฝน

เทคนิคใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ปลอดภัยในหน้าฝน

เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากฝนตกฟ้าคะนองจะทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนลำบากแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนคำนึงถึงนั่นคือ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าฝน หรือฝนตกหนัก เพราะฤดูฝนแบบนี้มักเกิดเหตุไฟดูด ไฟช็อตได้บ่อยครั้ง มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ควรระมัดระวัง 1.ระมัดระวังเวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางไว้ในที่ชื้น มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทมักตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นเช่นปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า ดังนั้นเวลาใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ควรเพิ่มความระมัดระวัง สวมรองเท้าก่อนเข้าไปสัมผัสหรือใช้งานเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว 2.ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะตัวเปียก เรื่องนี้เรารู้กันอยู่แล้ว แต่บางครั้งอาจหลงลืม หลายๆ คนพอตัวเปียกฝน หรือชื้นๆ มาจากนอกบ้าน พอเข้ามาในบ้านอาจเผลอตัวไปสัมผัสปลั๊กไฟ หรือบางคนชอบใช้ไดรฟ์เป่าผมหลังสระผมใหม่ๆ ซึ่ง ไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น เนื่องจากหากเกิดไฟรั่วกระแสไฟจะผ่านร่างกายได้สะดวกขึ้น และเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าช็อตเราควรทำอย่างไร 1.ห้ามเข้าไปช่วยผู้ถูกไฟฟ้าช็อต จนกว่าจะแน่ใจว่าผู้บาดเจ็บไม่ได้สัมผัสกับสายไฟฟ้าหรือตัวนำไฟฟ้าใดๆ ถ้าจำเป็นต้องหาวัสดุที่เป็นฉนวนไม่นำกระแสไฟฟ้า เช่นไม้ หรือผ้ามาเขี่ยสายไฟออกจากผู้บาดเจ็บก่อน 2.ถ้าผิวหนังผู้ที่จะช่วยเปียกชื้น ห้ามเข้าไปช่วยเพราะยิ่งเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและอาจถูกไฟฟ้าดูดได้ วิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์และสายไฟ และควรซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด บริเวณที่วางสายไฟไม่ควรให้สิ่งของที่หนักไปทับ และวางให้พ้นทางเดิน เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ควรเปียกน้ำ ห้ามซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเองโดยที่ไม่มีความรู้ ไม่ควรใช้ไฟฟ้าหลายอย่างกับปลั๊กไฟตัวเดียว ต่อสายดินเพื่อให้ไฟลงดิน และควรติดตั้งเครื่องตัดไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยและเป็นการป้องกันที่ดี สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง   ขอขอบคุณข้อมูลจาก คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล home.sanook.com
Neo Space Sukhonthasawat 3 – นีโอ สเปซ สุคนธสวัสดิ์ 3 : รีวิวทาวน์โฮม

Neo Space Sukhonthasawat 3 – นีโอ สเปซ สุคนธสวัสดิ์ 3 : รีวิวทาวน์โฮม

Neo Space Sukhonthasawat 3 (นีโอ สเปซ สุคนธสวัสดิ์ 3) ทาวน์โฮม 3 ชั้น แนวคิดใหม่กับ Space ที่มากขึ้น ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ โครงการตั้งอยู่ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 3 แยก 1 จาก NEO Group     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     4,390,000 บาท เจ้าของโครงการ     Neo Group ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 14 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    309 ตารางวา ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุคนธสวัสดิ์ 3 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   โรงเรียนสตรีวิทยา 2 The Walk เกษตร นวมินทร์ นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว Crystal Park CDC Chic Republic Central East Ville แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 17.5 - 31 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 170 - 205 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  097-946-7995
Pruksa Ville Phaholyothin-Klongluang – พฤกษาวิลล์ พหลโยธิน-คลองหลวง : รีวิวทาวน์โฮม

Pruksa Ville Phaholyothin-Klongluang – พฤกษาวิลล์ พหลโยธิน-คลองหลวง : รีวิวทาวน์โฮม

Pruksa Ville Phaholyothin-Klongluang (พฤกษาวิลล์ พหลโยธิน-คลองหลวง) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ดีไซน์ใหม่ 4 ห้องนอน เดินทางสะดวกเพียง 150 ม. จากแยกคลองสอง ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต จาก พฤกษา เรียลเอสเตท     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     1,590,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ตั้งโครงการ    ซอยรังสิต-นครนายก 31 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง ปทุมธานี   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ตลาดไท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต Zpell บิ๊กซี รังสิต เทสโก้โลตัส รังสิต เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต สวนสนุกดรีมเวิลด์ โรงพยาบาลเอกปทุม โรงพยาบาลเปาโล มหาวิทยาลัยรังสิต โรงเรียนนานาชาติสยาม คลองสาม แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย Crystal  พื้นที่ใช้สอยประมาณ 86 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ Sapphire พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก เข้า-ออก โครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card และระบบประตูล็อก 2 ชั้น Check Point ด้วยระบบ Card Scan กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก (Main Gate) Security Guard พร้อมตรวจตราและรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง Strip Park และสวนส่วนกลางพื้นที่สีเขียว ลู่วิ่งรอบสวนส่วนกลาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pruksaville.pruksa.com/13309/พฤกษาวิลล์-พหลโยธิน-คลองหลวง
Pruksa Lite Lox Westgate – พฤกษาไลท์ ล็อกซ์ เวสต์เกต : รีวิวทาวน์โฮม

Pruksa Lite Lox Westgate – พฤกษาไลท์ ล็อกซ์ เวสต์เกต : รีวิวทาวน์โฮม

Pruksa Lite Lox Westgate (พฤกษาไลท์ ล็อกซ์ เวสต์เกต) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร สไตล์โมเดิร์น ในซอยซอยวัดเสาธงหิน ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต จาก พฤกษา เรียลเอสเตท     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     1,890,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่โครงการ    12 ไร่ 89.8 ตร.วา. ที่ตั้งโครงการ    ซอยวัดเสาธงหิน ต.บางใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   เซ็นทรัล เวสต์เกต เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เทสโก้ โลตัส บางใหญ่ เดอะวอลค์ ราชพฤกษ์ รร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี รร.อนุบาลเด่นหล้า รพ.นนทเวช รพ.พระนั่งเกล้า รพ.เกษมราษฎร์ กระทรวงพาณิชย์ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย LX 02 พื้นที่ 20.9 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 119 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ Glory พื้นที่ 17.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ เข้า-ออกระบบ Auto Access Card กล้องวงจรปิด รปภ. 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : pruksalite.pruksa.com/1287/พฤกษาไลท์-ล็อกซ์-เวสต์เกต