เดอะ ฟอเรสเทียส์ เผยโฉม ‘แฮปปี้แทท’ – Themed Destination of Happiness จุดหมายแห่งใหม่ของความสุขเหนือจินตนาการ ตอบโจทย์หลายเจเนอเรชั่น ด้วยหลากหลายกิจกรรม เชื่อมประสบการณ์โลกจริง และโลกเสมือนเข้าด้วยกันในที่เดียว
“เรากำลังยกระดับการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายขึ้นไปอีกขั้น และกำลังสร้างสรรค์ประสบการณ์โลกจริงกับโลกเสมือนที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน”
“เราอยากให้แฮปปี้แทท ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นที่ที่อยู่ในใจของผู้คน – เป็นที่ที่จะสร้างความทรงจำดีๆ ไม่รู้ลืมให้กับผู้คน และกลับมาเยือนเรื่อยๆ มากี่ครั้ง ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับครั้งแรกที่มา”
“แฮปปี้แททจะเป็นที่ที่มีมนต์เสน่ห์ เต็มไปด้วยช่วงเวลาเซอร์ไพรส์ เป็นที่ที่สร้างความสุขให้กับคนทุกวัย”
นางสาวอรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ Storied Place, MQDC
MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ผู้พัฒนาโครงการเมือง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ซึ่งมีพื้นที่ 398 ไร่ เปิดเผยว่า เตรียมสร้างสรรค์ Themed Destination of Happiness ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ เพื่อเป็นจุดหมายแห่งความสุขแห่งใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ‘แฮปปี้แทท’ ซึ่งจะเป็นจุดหมายแห่งแรกที่เชื่อมประสบการณ์บนโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างใหญ่ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสกับมิติใหม่ของประสบการณ์ในเดอะ ฟอเรสเทียส์
นางสาวอรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ Storied Place, MQDC เปิดเผยว่า “เรากำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่แฮปปี้แทท เป็นปรากฏการณ์ที่ยกระดับการพัฒนาจุดหมาย หรือ Destinationไปอีกขั้น แฮปปี้แททจะเป็นที่ที่ผู้คนอยากกลับมาเที่ยวอยู่เรื่อยๆ เพราะทุกครั้งที่มา จะได้เจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอ จากกิจกรรมในร่มและกลางแจ้งที่มีตลอดทั้งปี และกิจกรรมรองรับไลฟ์สไตล์หลากหลาย ซึ่งในอนาคต หลายๆ มิติของแฮปปี้แททจะผสมผสานเชื่อมโยงกับโลกเสมือน โดยเป้าหมายของเราคือการทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข กับทุกสิ่งอย่างที่ได้สัมผัส ในทุกครั้งที่มาเยือน เหมือนกับความรู้สึกครั้งแรกที่ได้มา ไม่ว่าจะมาทำกิจกรรมอะไร แต่ขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกอบอุ่น สบายใจ และคุ้นเคยด้วย”
“นั่นคือเหตุผลที่เราเรียกที่นี่ว่า แฮปปี้แทท ซึ่งมาจากคำว่า Habitat กับ Happiness ประกอบเข้าด้วยกัน” นางสาวอรดา กล่าว
ในพื้นที่เกือบ 60 ไร่ของแฮปปี้แทท ประกอบไปด้วยพื้นที่ป่า ที่อยู่ใจกลางเดอะ ฟอเรสเทียส์ พื้นที่สวนต่างๆ และโถงทางเดินสำหรับขบวนพาเหรด ร้านค้า ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านให้บริการต่างๆ สารพัดนับร้อยๆ ร้าน ศูนย์การเรียนรู้ ความบันเทิง สถานที่ทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคม มาร์เก็ตต่างๆ และพิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงพื้นที่สำนักงาน โดยแฮปปี้แททประกอบไปด้วย 3 อาคาร พื้นที่ใช้สอยรวมกันประมาณ 211,000 ตารางเมตร
นางสาวอรดากล่าวว่า MQDC ทำงานกับผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดระดับโลกในด้านการวางแผนพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายแห่งความสุข และด้านความบันเทิง เพื่อร่วมกันทำมาสเตอร์แพลนของ แฮปปี้แทท “มาสเตอร์แพลนของแฮปปี้แทท จะนำพาผู้มาเยือนให้เคลื่อนจากถนนใหญ่ เข้าสู่ทางเข้าของเดอะ ฟอเรสเทียส์ จากภูมิทัศน์เมืองและวิถีชีวิตแบบในเมือง ค่อยๆ ผ่านเข้าไปพบกับความเงียบสงบของธรรมชาติ ณ ป่าขนาด 30 ไร่ เป็นการเดินทางที่เติมเต็มชีวิต จาก ‘เมืองใหญ่ที่พลุกพล่าน’ ไปสู่ ‘ธรรมชาติที่เหนือธรรมดา’”
นางสาวอรดากล่าวว่า การเดินเคลื่อนจากชีวิตในเมือง เข้าไปกลางผืนป่าใหญ่ จะผ่านเส้นทางที่มีประสบการณ์มหัศจรรย์มากมายรอรับตลอดเส้นทาง ผู้มาเยือนสามารถเลือกที่จะเพลิดเพลินแบบอิ่มเอมเดินรวดเดียวต้นจนจบ หรือจะปล่อยใจค่อยๆ แวะพัก เพลิดเพลินตามจุดต่างๆ ตลอดเส้นทางก็ทำได้ รวมทั้งสามารถเข้าออกจากการเดินแวะพักที่จุดต่างๆ จากจุดใดก็ได้ นอกจากนั้น ในอนาคตยังจะเสริมด้วยประสบการณ์อันหลากหลายของโลกเสมือน เพื่อทำให้การเดินทางนอกจากจะมีความสนุกสนานแล้ว ยังได้ความรู้ ตลอดจนสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ร่วมรังสรรค์แฮปปี้แทท ให้สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้นด้วย”
หนึ่งในบทบาทสำคัญที่สุดของแฮปปี้แทท คือเป็นศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นพื้นที่เชื่อมโยงความสุขของคนทุกเจนเนอเรชั่น ทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในโครงการที่พักอาศัยหลากหลายที่อยู่ในพื้นที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ รวมไปถึงผู้คนทั่วไปจากภายนอกโครงการที่มาเยือนที่นี่ มีพื้นที่ทำกิจกรรม 4,000 ตารางเมตรที่จัดสรรให้เป็นโรงละคร หรือพื้นที่กิจกรรมและการแสดง สำหรับสมาชิกหรือลูกบ้านของเดอะ ฟอเรสเทียส์ กลุ่มวัฒนธรรมและนักแสดงอาชีพ ทั้งหลายเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายที่จะช่วยสร้างความรู้สึกผูกพันภายในชุมชนและช่วยเปลี่ยนสถานที่ที่ธรรมดาทั่วไป ให้กลายเป็นชุมชนที่คึกคักมีชีวิตชีวา
“เราอยากให้ครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ เราต้องทำให้สมาชิกทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเจเนอเรชั่นไหน สามารถค้นพบกิจกรรมที่ทำได้อย่างมีความสุข สร้างสรรค์และมีประโยชน์แบบไม่จำกัด ทั้งกิจกรรมที่ทำคนเดียว หรือทำด้วยกันกับคนอื่น รวมถึงกิจกรรมที่ทำกับสัตว์เลี้ยงของครอบครัวด้วย”
ไฮไลต์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของแฮปปี้แทท คือ พื้นที่กิจกรรมที่สามารถรองรับขบวนพาเหรดและกิจกรรมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งถือเป็นประสบการณ์เฉพาะตัวของแฮปปี้แทท ที่หาไม่ได้จากที่ไหน โดยหลายกิจกรรมในจำนวนนี้จะสร้างสรรค์ให้เด็กๆ ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับมนต์เสน่ห์ของงาน จากการได้พบปะและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครแฟนตาซีต่างๆ รวมทั้งการได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
นางสาวอรดากล่าวว่า แฮปปี้แททจะเป็นจุดหมายแห่งแรกในโลกที่รวม 3 องค์ประกอบสำคัญไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างโครงการจุดหมายที่ล้ำที่สุด ซึ่ง 3 องค์ประกอบดังกล่าวคือ พื้นที่ อีเวนท์และกิจกรรม และโลกเสมือน
“องค์ประกอบแรก คือการมีพื้นที่สวยๆ ให้คนทุกเจเนอเรชั่นและทั้งครอบครัวได้ทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน ทุกวัน ไม่ว่าจะทานอาหาร พักผ่อน ใช้ชีวิต ดูแลสุขภาพสุขภาวะ หรือทำกิจกรรมบันเทิง เรียนรู้ หรือกิจกรรมด้านวัฒนธรรม โดยที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ”
“เราผสานสิ่งต่างๆ เข้าไปในกิจกรรมที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่อยครั้งและเป็นประจำ โชว์และขบวนพาเหรดต่างๆ ที่มุ่งให้คนทุกวัยรู้สึกทึ่ง ตื่นตาตื่นใจ โดยมีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนสร้างโอกาสให้ผู้คน เป็นได้มากกว่าผู้ชมกิจกรรม แต่ไปเป็นผู้จัดกิจกรรมเองได้ด้วย หรือมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในสิ่งที่คอมมูนิตี้ช่วยกันคิดสร้างสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดง เล่นดนตรี หรือกิจกรรมการโชว์สัตว์เลี้ยง เป็นต้น
“และองค์ประกอบอย่างที่สามก็คือโลกเสมือน ที่คนทุกวัยสามารถสนุกและเรียนรู้จากประสบการณ์อันหลากหลายของโลกเสมือน หรือแม้กระทั่งการเข้าไปในโลกเสมือนแบบเต็มตัว เพื่อทำกิจกรรม เล่นเกมสันทนาการ ทั้งแบบทำคนเดียว ทำกับสมาชิกทั้งครอบครัว หรือกับสมาชิกคนอื่นๆ ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน ประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งในอนาคตจะถูกผสมผสานเข้าไปกับหลายๆ จุดในแฮปปี้แทท รวมเข้าไปถึงในพื้นที่ป่า เพื่อให้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และมีปฏิสัมพันธ์กับสรรพสัตว์ต่างๆ ได้ด้วย AR สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีใครทำในสเกลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ซึ่งเราลงทุนไม่น้อยเพื่อที่จะทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น”
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ประธานผู้อำนวยการโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC เปิดเผยว่า โครงการแฮปปี้แททเฟสแรก ใช้เงินลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาท
“ที่เราลงทุนขนาดนี้ เพราะแฮปปี้แททเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เดอะ ฟอเรสเทียส์ บรรลุเป้าหมายตามคำมั่นของการเป็นเมืองที่สร้างขึ้นอย่างมุ่งเน้นส่งเสริมการมีชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี แฮปปี้แททถือเป็นองค์ประกอบหลักที่จะช่วยเชื่อมชุมชนเดอะ ฟอเรสเทียส์ และทำให้ครอบครัวใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายของเราที่จะสร้างชุมชน ที่ไม่ใช่แค่สะอาด ร่มรื่น เป็นระเบียบเรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นชุมชนที่มีความสุข สนุกสนานและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา”
นายกิตติพันธุ์กล่าวว่า การก่อสร้างและเตรียมการอื่นๆ สำหรับแฮปปี้แททคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70% คาดว่าผู้เข้าอยู่อาศัยกลุ่มแรกของการเดอะ ฟอเรสเทียส์ จะสามารถย้ายเข้าไปอยู่อาศัยได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567
โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 398 ไร่ บริเวณถนนบางนา–ตราด ก.ม.7 นอกจากพื้นที่แฮปปี้แทท ซึ่งเป็น Themed Destination of Happiness แล้ว เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายโครงการ โรงแรม 2 แห่ง ศูนย์สุขภาพ และผืนป่าเนื้อที่ 30 ไร่ ณ ใจกลางโครงการ รังสรรค์ 56% ของโครงการให้เป็นพื้นที่สีเขียว โดยพื้นที่ประมาณ 70% ก็ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ก็ประกอบไปด้วยโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์แห่งแรกที่สร้างในประเทศไทย, มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านคลัสเตอร์โฮมเชื่อมต่อกัน ที่เปิดโอกาสให้คนต่างเจเนอเรชั่นของครอบครัวเดียวกันได้อาศัยอยู่ใกล้ชิดกัน ในบ้านคนละหลังอย่างเป็นส่วนตัว มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม ซึ่งการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ที่คล้ายกันกับวิลล่า คอนโดมิเนียมแบรนด์ วิสซ์ดอม ที่ประกอบด้วยอาคารสูง 3 อาคาร ออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนวัยเริ่มทำงาน คู่ชีวิตที่สร้างครอบครัวใหม่ และมีหนึ่งอาคารที่ออกแบบสำหรับคนรักสัตว์โดยเฉพาะ ที่อยู่อาศัย ดิ แอสเพน ทรี คอนโดมิเนียมและสกายวิลล่า ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การส่งมอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการดูแลผู้พักอาศัยอย่างครบวงจรตลอดชีวิต
เมื่อเร็วๆ นี้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ได้เปิดตัวที่พักอาศัยใหม่ ชื่อ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ออกแบบสำหรับคนที่ชื่นชอบอยู่อาศัยในคอนโดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในเมือง ขณะเดียวกันก็ต้องการอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยโครงการมีทั้งหมด 122 ยูนิต ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวป่าได้แบบพาโนรามา