Freser Property Home

ภารกิจบทใหม่ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้โฮม” กับ 4 Mission สู่ผู้นำเบอร์ 3 อสังหาฯ

ภายหลังจากที่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  หรือ “FPT” เข้าซื้อกิจการของ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GOLD” และได้ดำเนินการต่าง ๆ ตามกฎระเบียบและข้อกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยของโกลเด้นแลนด์ภายใต้ การบริหารงานของ FPT จึงได้เปลี่ยนมาเป็น “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม”

 

แม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ภารกิจและบทบาทของ  “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพเหมือนเดิม พร้อมกับการรักษาความเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน  “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” อยู่ในอันดับ Top 5 ของตลาดอสังหาฯ ไทย มีโครงการที่พักอาศัยงรวม 60 โครงการ

 

แต่ด้วยศักยภาพและขนาดของธุรกิจ ภายใต้ชายคาของ FPT  นับจากนี้ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” จึงมีพันธกิจใหม่ กับการก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ ที่มีรายได้สูงสุดอันดับ 3  ภายในระยะ 3 ปี หรือภายในปี 2566 โดยมีนายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) เป็นผู้ขับเคลื่อนที่สำคัญ กับ 4 พันธกิจ (Mission) สำคัญ เพื่อใช้เป็นแนวทางการไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้น ได้แก่

1.การสร้างรายได้มากกว่า 20,000 ล้านบาท

เป้าหมายของ  “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ในการก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของผู้นำตลาดอสังหาฯ คือการมีรายได้ มากกว่า 20,000 ล้านบาท จากปัจจุบันช่วง 9 เดือนของปีนี้ มียอดรับรู้รายได้ 10,894 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังเป็นที่น่าพอใจ สำหรับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในสถานการณ์ โควิด-19 เช่นนี้  โดยคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ในปีนี้เกือบ 15,000 ล้านบาท

Fraser Property Home Revenue

สำหรับแนวทางการสร้างรายได้ตามเป้าหมายดังกล่าว สิ่งสำคัญคือ การพัฒนาโครงการออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งในไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค. 2563)  บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 3 โครงการ เป็น นีโอ โฮม บ้านแฝด 2 โครงการ และทาวน์โฮม 1 โครงการ มูลค่ารวม 3,050 ล้านบาท  ขณะที่ปี 2564 เตรียมพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 29,800 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครบทุกเซ็กเมนต์ โดยตั้งเป้ารายได้ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีนี้

 

โดยแผนการพัฒนาโครงการในปี 2564 บริษัทได้วางแผนงบซื้อที่ดินเพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงการ  20 แปลง วงเงิน 10,720 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการต่าง ๆ ให้มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าทาวน์โฮม 42%, บ้านแฝด นีโอ โฮม 23%, บ้านเดี่ยว 21% และโครงการต่างจังหวัด 14%

2.เป็นทางเลือกอันดับที่ 1 ในใจลูกค้า สำหรับคนที่มองหาทาวน์โฮม ทําเลในเมือง

แนวทางการพัฒนาโครงการทาวน์โฮมของ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกทำเลในเมืองที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาด เช่นเดียวกับปี 2564 ที่จะพัฒนาโคงการทาวน์โฮม ไปยังทำเลใหม่ ซึ่งเน้นทําเลที่ดีกว่าคู่แข่งทั้งตลาด และรักษาคุณภาพการก่อสร้าง ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังคงเน้นด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน

Fraser Property Home App

3.เป็นอันดับที่ 1 ในการทำบ้านแฝด (นีโอ โฮม)

ขณะที่ผลิตภัณฑ์บ้านแฝด ซึ่งเป็นที่รู้จักภายใต้โครงการนีโอ โฮม ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการใน​ทำเลใกล้เมือง โดยมีฟังก์ชั่นเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยว และราคาไม่แพง

 

นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการให้ออกมาตรงกับความต้องการของลูกค้าแล้ว “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ยังมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ภายหลังจากการเข้าอยู่อาศัย โดยพัฒนาแอปพลิเคชั่น พร้อมการทำโปรแปรม   ปั้นแอป Home+ ดูแลลูกค้า และอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงก่อนซื้อ ช่วงการส่งมอบ ช่วงหลังจากรับโอนและเข้า อยู่อาศัย พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจ และตอบสนองพันธกิจองค์กรที่ ต้องการจะเป็นทางเลือกอันดับที่ 1 ในใจลูกค้า

Fraser Property Home 2

4.เป็นผู้นำตลาดต่างจังหวัดด้านยอดขายสูงสุด

นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลาดต่างจังหวัด เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สร้างรายได้ให้กับ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ซึ่งที่ผ่านมาการขยายตลาดต่างจังหวัด ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการที่นครราชสีมา เชียงใหม่ เชียงราย และพัทยา สามารถทำยอดขายในวันเปิดจองได้สูงเกินกว่า 500 ล้านบาท  เฉพาะภาพคเหนือที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายในวันพรีเซลรวมมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ภาคอีสานทำยอดขายได้มากกว่า  500 ล้านบาท ในภาคกลางและภาคตะวันออกมูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท ในอนาคตบริษัทจะขยายตลาดต่างจังหวัดเพิ่ม ในจังหวัดภูเก็ตและระยอง​

 

 

 

 

 

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด